https://www.youtube.com/watch?v=ALHKh-XxWEoมีเพลงประกอบมาให้ฟังเพลินๆ
18
เรื่องราวของทั้งสองคนในระหว่างที่ไม่ได้เจอกัน อัครไม่รู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และพรีมก็ไม่ได้เล่าไปมากกว่านั้น เหมือนอยากจะเลี่ยงเรื่องของซุป และชวนคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยเปื่อย จนอัครโดนตามตัวไปเข้าประชุม
หลังจากทำงานหนักมาเกือบสามอาทิตย์เต็มๆ ทั้งบินไปอเมริกาและยุโรป อัครก็ได้วันหยุดพักยาวๆ อีกสองอาทิตย์ เพื่อจะได้อยู่กับคนรักที่ห้องพักสุดหรู บนคอนโดเกรดพรีเมี่ยมใกล้สถานีรถไฟฟ้า ที่อัครผ่อนไปได้เกินครึ่งทางแล้ว และให้แน็กย้ายมาอยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน เพราะใกล้ที่ทำงาน โดยแน็กคอยดูแลทำความสะอาดห้องให้ระหว่างที่อัครต้องบินไปต่างประเทศบ่อยๆ
พอกลับมาถึงห้องแสนสงบสุข และเจอหน้าแน็ก อัครก็โผเข้ากอดคนที่อ้าแขนรอรับ ทิ้งตัวลงให้แน็กอุ้มเหมือนเด็กเล็กๆ บดบี้ใบหน้ากับจมูกบนไหล่เล็กด้วยความคิดถึง
แน็กหัวเราะคิกคัก จั๊กจี้บนหัวไหล่พลางเอามือดันหน้าอัครออก “พอแล้วๆ ไปอาบน้ำ จะได้กินสเต๊ก”
“กินไปอาบไปได้มั้ย” เขาหอมแก้มแฟนแรงๆ ไปทีแล้วจูบปากรัวๆ แรกๆ ที่คบกัน อัครไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย จนเมื่อแน่ใจในความรู้สึกแล้วจึงค่อยๆ พัฒนามาทีละขั้น ตั้งแต่จับมือ นอนกอดกัน จูบแบบดูดดื่ม และเพิ่งกล้าทำเรื่องลามกกับแน็กเมื่อปีที่แล้วนี่เอง หลังจากนั้น ก็ตามปกติของผู้ชาย ไม่เจอหน้ากันนานๆ พอมาเจอที ก็อยากจะฟัดนานๆ
“มันจะทำได้ยังไงล่ะวะ” แน็กว่าหน้างอนิดๆ แก้มย้อมสีชมพูเข้มจัดน่าหยิก อัครอมยิ้มกับความน่ารักน่าชังนั้น หอมแก้มไปอีกฟอดใหญ่ แล้วอุ้มคนตัวเล็กเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกันโดยไม่พูดไม่จา แน็กที่อึ้งตั้งแต่ถูกอุ้มพาดบ่า ได้สติอีกทีก็ตอนที่ถูกวางลงบนขอบอ่างล้างหน้า แต่พอจะอ้าปากท้วง ก็โดนประกบจูบเร่าร้อนจนหายใจหายคอไม่ทัน
แน็กยังจำจูบครั้งแรกของอัครได้ไม่มีวันลืม ตอนนั้นต่างคนก็ต่างไม่ประสีประสา แม้แน็กจะเคยจูบผู้หญิงมาบ้าง แต่ก็แค่ผิวเผิน ตอนที่อัครกล้าๆ กลัวๆ ลองสอดลิ้นเข้ามา แน็กสะดุ้ง ตัวเกร็งจนสั่น แล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลซึมตอนที่อัครเริ่มรู้ทาง เลียไล้ไปทั่วโพรงปาก แถมยังดูดเสียงดังเหมือนจะกลืนกินกันเข้าไปให้ได้
ครั้งนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ อัครจูบคล่องขึ้นผิดหูผิดตาจากตอนนั้นลิบลับ แถมมีเทคนิคและชั้นเชิงมากขึ้นหลายเท่า ไม่รู้ไปจำมาจากไหน ทั้งที่ก็จูบกับแน็กแค่คนเดียว
เอ๊ะ? หรือไม่ใช่
“อื้อ” ร่างเล็กร้องอู้อี้ในคอพลางขืนตัวออกจากอ้อมกอด เอามือทาบอกของอัครแล้วผลักออก ทำให้อัครต้องยอมละริมฝีปากทั้งที่ยังไม่เต็มอิ่ม เขามองหน้าแน็กอย่างไม่เข้าใจ ปลายลิ้นยังติดที่ปลายคางของร่างเล็ก พอสบตากัน แน็กก็ใจสั่นขึ้นมา
“เป็นอะไร?”
“เปล่า...” แน็กก้มหน้างุด หงุดหงิดนิดหน่อย เพราะในหัวดันคิดไปว่าอัครอาจจะจูบกับคนอื่นมาเยอะ ก็เป็นสจ๊วตมาตั้งสองปีแล้ว เจอทั้งแอร์ฯ สวยๆ ไหนจะพวกสจีหล่อๆ อีกล่ะ แน็กรู้ว่าอาจจะคิดมากไปเอง แต่พอคิดแล้วมันก็หมดอารมณ์เอาดื้อๆ อัครไปทำงานทีเป็นเดือนแบบนี้ ถึงจะพยายามวิดีโอคอลหาเกือบทุกวันก็เถอะ
“อย่าทำหน้าแบบนี้สิ” อัครปล่อยมือพลางถอนหายใจ แน็กเหยียดเท้าลงมายืนที่พื้น เอาศอกดันร่างของอัครให้หลบแล้วเดินหนีออกจากห้องน้ำไป
เห็นท่าไม่ดีแบบนี้ อัครก็ไม่รู้จะทำยังไง ปล่อยไว้คงมีปัญหากันแน่ๆ เขาเลยเลือกที่จะเดินตามแน็กออกไป เห็นคนตัวเล็กยืนหันหลังให้อยู่ข้างโซฟา จึงเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังเพื่อเอาใจ
“เป็นอะไรครับ? โกรธอะไรเรารึเปล่า” เสียงหวานๆ ของอัครทำให้อารมณ์คุกรุ่น เพราะการคิดไปเองของแน็กค่อยๆ สงบลง แน็กเอี้ยวตัวไปมอง สีหน้าดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว ก่อนจะส่ายหน้ายิกๆ ให้อัครจับพลิกหันกลับไปแล้วก้มลงมาจูบเบาๆ คล้ายกับการคลึงริมฝีปาก
“ไปทำงานนานๆ อือ...อย่าเพิ่ง” แน็กกำลังจะพูดเรื่องที่ติดค้างในใจ แต่อัครดันจะดุนลิ้นเข้ามา เลยต้องผลักหน้าออกแล้วพูดต่อ “แอบมีกิ๊กรึเปล่าเนี่ย!? ทำไมถึงได้...”
อัครเลิกคิ้ว มองแก้มแดงระเรื่อของแน็ก “ได้? ได้อะไรครับ?” ถามไปก็เอาปลายจมูกถูไถกับแก้มแดงๆ ไป
“ก็...อัครดูเชี่ยวเรื่องพวกนี้มากกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อนขี้อายจะตาย”
อ้อ อัครเลิกคิ้วอีกครั้งพร้อมเสียงหัวเราะในคอเบาๆ กอดรัดคนตัวเล็กจนจมอกด้วยความหมั่นเขี้ยว จนแน็กต้องร้องประท้วงเพราะอึดอัดหายใจไม่ออก
“ที่แท้ก็หึงเหรอ? คิดว่าเรามีคนอื่น ไปทำแบบนี้กับคนอื่นเหรอ?”
“ใครหึง มั่วแล้ว ปล่อยดิ อ๊า” จู่ๆ ก็โดนอุ้มตัวลอยอีกรอบ แน็กหวีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ อัครจับร่างเล็กวางลงบนโซฟาแล้วโถมตัวลงกดไว้ เมื่อก่อนตอนตัวเท่าๆ กัน ไม่เคยคิดว่าการที่อุ้มใครสักคนตัวลอย แล้วกอดรัดได้ทั้งตัวแบบนี้จะมีความสุขจนหุบยิ้มไม่ลงได้เท่านี้เลยจริงๆ
ตอนตัวเล็ก มีแต่โดนพวกตัวโตๆ กว่าไล่ต้อนจนมุม อย่างตอนที่เจอซุปหรือพรีมเป็นต้น ความรู้สึกตอนนั้นมันกดดันแปลกๆ เขินก็จริง แต่อัครไม่ค่อยชอบเป็นฝ่ายโดนไล่ต้อนสักเท่าไหร่
“หื่นกับแฟน ไม่เห็นแปลกเลย เราแค่ศึกษามาเยอะ เพราะอยากให้แน็กมีความสุขไง ไม่ชอบเหรอ” อัครถามพลางไซร้จมูกที่ซอกคอหอมๆ แน็กคงเพิ่งอาบน้ำตอนก่อนเขาจะมาถึงห้องพอดี
“ศึกษาจากอะไร” แน็กว่าหน้างอ อัครเลยหัวเราะเบาๆ แล้วฟัดแก้มแรงๆ ไปหลายที จนแน็กโวยวายให้หยุด เพราะจั๊กจี้และเจ็บแก้มไปหมดแล้ว
“ก็หลายๆ อย่าง” อัครยิ้มกริ่มพลางเลียริมฝีปาก ทำเอาแน็กแทบไม่กล้าสบตา ทั้งที่เคยถูกอัครกอดมาหลายครั้งแล้ว แต่ทำยังไงก็ไม่ชินกับบุคลิกนี้ของอัครเสียที ยิ่งคิดถึงสีหน้าของอัครตอนทำอย่างว่ายิ่งเขินจนตัวจะแตก
“แน็กคงไม่อยากรู้หรอกเนอะ”
แน็กไม่ตอบ แต่ขมวดคิ้วมองหน้าอัคร ทำไมจะไม่รู้ว่าอัครหมายถึงอะไร แต่ไม่คิดว่าคนที่เคยขี้อาย แถมเรียบร้อยมาดสุภาพบุรุษอย่างอัครจะดูอะไรพวกนั้น
“ไม่เอา ไม่หน้างอครับ เรามีแค่แน็กคนเดียว ขอฟัดให้หายคิดถึงหน่อยได้มั้ย”
“ไม่อาบน้ำกินข้าวแล้วรึไง”
“งั้นไปอาบด้วยกัน” พูดจบก็ทำท่าจะอุ้มร่างเล็กขึ้น จนแน็กต้องร้องบอกว่าจะเดินเอง มีบ่นนิดหน่อยว่าเพิ่งอาบไป แต่ก็ยอมตามใจคนรักอยู่ดี อัครเลยยิ้มหน้าบานไปยาวๆ จนกระทั่งกินมื้อเย็นเสร็จ
******
“ครับ น่าจะถึงสักสองสามทุ่ม ถ้ารถไม่ติดมาก แต่เย็นวันศุกร์น่ะนะ คงยากหน่อย” เคนเอียงคอหนีบสมาร์ทโฟนไว้ข้างหนึ่ง สองมือกำลังง่วนกับงานหน้าคอมฯ เพราะต้องคีย์ข้อมูลให้เสร็จภายในวันนี้ โอทีลากยาวมาสามวันติดแล้ว และพรุ่งนี้วันศุกร์แห่งชาติ ซึ่งเขารับปากไดซ์ไว้ว่าจะกลับกรุงเทพฯ
[ไม่เป็นไรค่ะ ขับรถระวังๆ ด้วย ไม่ต้องรีบนะ วันเสาร์อาทิตย์ค่อยออกมาเจอกันก็ได้] เสียงหญิงสาวดังอยู่ข้างหู และเคนก็อมยิ้มมีความสุขกับการได้ฟังเสียงหวานๆ ของเธอเป็นกำลังใจในยามทำงานหนัก
“งั้นผมจะไลน์ไปบอกอีกทีนะครับ โอเคครับไดซ์” เคนละมือมากดวางสาย ก่อนจะสนใจงานตรงหน้าต่อ สักพักก็มีเสียงไลน์เด้งมา เป็นไลน์กลุ่มของพวกอัคร ที่เอาไว้ติดต่อไปเที่ยวกันเวลาที่เคนกลับกรุงเทพฯ
รู้ว่าเขาจะกลับทีไร เป็นต้องไลน์มาชวนกันไปดื่มทุกที ทั้งที่แต่ก่อนอัครไม่ค่อยชอบดื่ม เดี๋ยวนี้ก็ยังเหมือนเดิม เพียงแค่ชอบไปนั่งชิวๆ กับเพื่อน จิบนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ แถมมีเมียไปคุมตลอด ก็จะใครอีกล่ะ แน็กนั่นแหละ ไปด้วยประจำ แถมดื่มเยอะกว่าอัครอีก ที่อัครต้องดื่มน้อย เพราะต้องคอยขับรถพาคนเมากลับห้องตลอด คิดแล้วเคนก็อดขำกับตัวเองไม่ได้ อัครเปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ ดูมีมาดขึ้นเยอะ แถมดูแลแฟนดี๊ดี
คิดถึงสมัยเรียนที่เจอกันตอนไปหัวหิน อัครเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเรียบร้อย สุภาพมากจนหงุดหงิด เลยต้องบอกให้คุยกันแบบกันเอง จริงๆ คงเพราะไม่สนิท อัครถึงได้วางตัวแบบนั้น แต่พอสนิทกัน ก็คุยกันได้สะดวกคอขึ้นเยอะ ยกเว้นเวลาได้ยินอัครคุยกับแน็ก มันจั๊กจี้ใจแปลกๆ เหมือนกัน ดูๆ ไปสองคนนั้นก็น่ารักดี
ถ้าเรากับพรีมเป็นแบบนั้นก็คงดี
พลันที่คิดอย่างนั้น เคนก็ต้องขมวดคิ้ว เรื่องพวกนั้นมันผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่เจอทั้งพรีมและซุปเลย แล้วตอนนี้เขาก็กำลังมีความรักครั้งใหม่กับผู้หญิงน่ารักๆ ที่พ่อกับแม่ก็ชอบ
แล้วทำไม...ใจมันยังต้องวนเวียนคิดถึงไอ้คนทรยศนั่น
เคนเกลียดพรีมมาก เกลียดจนไม่อยากมองหน้า เกลียดที่พรีมเห็นเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่ง
แต่ที่เกลียดมากที่สุดก็คือตัวเอง
เกลียดที่ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี ก็ยังคิดถึงคนพรรค์นั้น
“บ้าเอ๊ย...” เคนสบถกับตัวเองอย่างหงุดหงิด แล้วพยายามเพ่งสมาธิที่งานตรงหน้าอีกครั้ง
******
เย็นวันศุกร์ อัครขับรถไปรับแน็กที่บริษัทตอนเลิกงาน เพื่อนร่วมงานของแน็กบางคนรู้เรื่องของพวกเขา เลยมีแซวกันบ้างนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ เพราะวันแรกที่อัครมารับแน็กที่นี่ เขามาทั้งชุดพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าจนสาวกรี้ด แต่พอรู้ว่าเป็นแฟนของแน็ก ก็บ่นเสียดายกันเป็นแถว
“แหม มีสะมีมารับถึงหน้าตึกอีกแล้ว รอบนี้อยู่กี่วันล่ะยะคุณแน็กศรี”
“พี่ต้อยอ่ะ อย่าไปแซวน้องมันดิวะ อายหน้าแดงเป็นตูดลิงหมดแล้วน่ะ”
เสียงพี่ๆ ในแผนกแซวกันเบาๆ ในกลุ่มตอนออกจากตึกแล้วเห็นรถยนต์คันสีเงินคุ้นตาของอัครจอดรออยู่ แน็กโบกมือให้อัครที่รออยู่ในรถพลางหันไปตอบพวกพี่ๆ
“เห็นว่าหยุดสองอาทิตย์อ่ะพี่”
“แบบนี้ก็...ตรั่บๆ ฟินๆ กันไปยาวๆ เลยสิแก” พี่หัวหน้าแผนกที่เป็นสาวใหญ่มีลูกมีสามีแล้วแซวแรงจนเด็กหนุ่มหน้าใสอายหน้าม้าน ส่ายหน้ารัวๆ
“บ้าเหรอพี่ พูดอะไรเนี่ย”
“อย่ามาทอแรร์ให้ยาก เมื่อเช้าฉันเห็นนะยะ ขับรถมาส่งกัน แล้วต้องมีจุ๊บๆ ก่อนลงรถ แถมที่คอแกก็มีรอย ดูสิ!” หัวหน้าตัวดีวี้ดว้ายหันไปบอกพี่ๆ เพื่อนๆ คนอื่นๆ เลยทำให้แน็กยิ่งโดนแซวหนักขึ้นอีก เลยต้องรีบบอกลาแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถ
“โดนแซวอีกแล้วสิ แดงไปถึงคอเลย”
“ก็อัครนั่นแหละ มาทำรอยไว้ตอนไหน แล้วไม่บอกด้วยนะ พวกพี่ก็เห็นตั้งแต่เช้า ไม่มีใครบอกสักคน” แน็กร่ายยาวด้วยความหงุดหงิดบวกอาย มือก็มัวแต่ดึงคอเสื้อมาติดกระดุมเม็ดบนสุด จนอัครต้องโน้มตัวไปช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้พร้อมหอมแก้มเบาๆ เป็นการขอโทษ
“ไม่โมโหนะ เดี๋ยวเราพาไปกินของอร่อยๆ ก่อนไปเจอไอ้พวกนั้น” อัครขยิบตาให้ทีหนึ่ง ก่อนจะขับรถออกไปจากบริเวณนั้นด้วยรอยยิ้ม “แล้วจะแต่งตัวแบบนั้นเหรอ ติดกระดุมถึงคอขนาดนั้น เอาเสื้อเราไปใส่ก่อนมั้ย อยู่เบาะหลัง”
แน็กหันไปมองที่เบาะหลังตามที่บอก ก็เห็นเสื้อแจ็คเกตสีเทาเข้มแบบปิดคอวางพาดอยู่ เลยนิ่วหน้าหันกลับไปมองคนที่กำลังขับรถ นึกอยากจะทุบสักที แต่ก็กลัวรถจะเสียหลักเปล่าๆ ก่อนจะคว้าเสื้อแจ็คเกตตัวใหญ่มาใส่คลุมแล้วรูดซิปปิดคอไป มันน่าหงุดหงิดตรงที่รู้ทั้งรู้ ก็ยังปล่อยให้เปิดคอโชว์มาทั้งวันเนี่ยแหละ
“แล้ววันนี้เคนมาด้วยใช่มั้ย”
“อืม เห็นมันบอกน่าจะถึงสองสามทุ่ม คงไปเจอที่ร้านพี่โอ๊ตเลย” อัครตอบพลางเลี้ยวรถเข้าไปหาที่จอดในห้างฯ ก่อนจะพากันลงจากรถและแวะหาข้าวเย็นกินกันก่อนไปดื่ม “คืนนี้อย่าดื่มเยอะล่ะ เราไม่ชอบทำกับคนเมา”
“พูดมากว่ะ ใจคอจะทำแบบนั้นกันทุกคืนรึไง” แน็กว่าหน้ามุ่ย
อัครหัวเราะเบาๆ แล้วโอบบ่าคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้ ตามด้วยประโยคที่ทำให้แน็กต้องกำมือไปทุบอกด้วยความหมั่นไส้ ส่วนคนพูดก็เอาแต่หัวเราะมีความสุขจนน่าทุบอีกหลายๆ ที
“นานๆ ได้อยู่ด้วยกันนี่ครับ ก็อยากกอดเยอะๆ ตุนไว้”
“ของแบบนี้มันตุนกันได้รึไงวะ”
tbc
ดูเปลี่ยนไปเยอะมากอ่ะน้องอัครของเรา เพิ่มความแมนและเลเวลความหลัวรัวๆ
ก็ผ่านมาตั้งหลายปี มันก็ต้องโตกันบ้างไรบ้างอ่ะน้า
เราเป็นพวกชอบแต่งแบบเรื่อยๆ ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่ชอบให้มันหยุดแค่อายุเท่านี้ รักกันไม่กี่วันจบเลยไรงี้
เรื่องมันก็เลยจะเรื่อยเปื่อยหน่อย ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อนอ่ะน้า