ตอนที่6
ผิดแผน
ผมช่วยป๊ากับน้ารินขนกระเป๋าใส่หลังรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข นี่ถ้าเป็นลูกบ้านอื่นคงงอแงอยากไปด้วยแต่กับบ้านนี้ไม่ครับ ยิ่งป๊าไม่อยู่ทางก็ยิ่งสะดวก
"ทำหน้าทำตาเหมือนมีแผน"
เนี่ย!ถ้าป๊าอยู่ก็จะรู้ทันผมแบบนี้ไง
"ไรป๊าหาเรื่องอ่ะ ซีนก็หน้าปกติดี" กลบเกลื่อนด้วยการหันซ้ายหันขวาหาน้าริน "ซีนไปตามน้ารินมาให้นะ" จบท้ายด้วยการเดินหนีป๊าซะเลยเดี๋ยวจะรู้หมดว่าผมคิดอะไรอยู่
ผมเดินเข้ามาในครัวเห็นน้ารินกำลังทำแซนวิชไว้กินระหว่างเดินทาง ผมชะโงกหน้าไปดูน้ารินก็หันมายิ้มให้แวบนึงก็หันกลับไปทำอาหารต่อ
“น้าทำกับข้าวไว้ให้ซีนแล้วนะอยู่ในหม้อนั่นแหละ มื้ออื่นๆน้ากิมบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ไปกินกับน้ากิมไม่ก็ให้เฮียพาไปกิน”
น้ารินพูดสั่งผมเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แต่ผมก็รู้แหละว่าน้ารินเป็นห่วงเลยพูดย้ำๆ ผมเดินเข้าไปหาน้ารินใกล้ๆก่อนจะสวมกอดน้ารินแน่น ซบหน้าไว้ตรงไหล่น้ารินพูดเสียงอ้อนออกมา
“ซีนต้องคิดถึงน้ารินแน่ๆเลย”
“คิดถึงก็ไปด้วยกันสิ”
“ซีนต้องทำงานกับเพื่อนนี่นา” เอาเข้าตรงๆแล้วคืออยากอยู่กับเฮียที่บ้านมากกว่าน่ะครับ
“งั้นก็ตั้งใจทำงานครับ กลับมาจะเอาของอร่อยๆจากที่นู่นมาฝาก”
“ฮื่อ น้ารินใจดีที่สุดในโลกเลยย”
น้ารินยิ้มขำไม่ได้กอดผมตอบเพราะมือเลอะอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ก้มลงมาหอมหัวผมด้วยทีนึงก่อนจะผละออก
“ไหนบอกมาตามน้ารินแล้วนี่อะไรมากอดทำไม”
กอดกันอยู่ดีๆคนขี้อิจฉาอย่างป๊าก็เข้ามาในครัวจับผมกับน้ารินแยกออกจากกัน คือป๊าแบบขี้หวงจังอ่ะแค่กอดน้ารินก็ไม่ได้ โธ่เอ๊ย..นี่ผมลูกป๊านะส่วนน้ารินก็เหมือนเป็นแม่ผมนั่นแหละจะหวงไปทำไมก็ไม่รู้
“ก็กอดเฉยๆไม่ได้เหรอป๊า”
“แล้วจะกอดทำไม”
“ล่ำลากันไง”
“มากอดป๊านี่”
ผมส่ายหน้ารัวๆเพื่อแกล้งป๊าจนป๊าเท้าสะเอวเบะปากใส่ผม ผมเห็นก็ขำก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดป๊าจนป๊าถอยหลังเซเพราะทรงตัวไม่อยู่
“อย่าน้อยใจน่า ซีนแกล้งเล่นเอง”
“เหอะ! ใครบอกว่าป๊าน้อยใจ”
“ดูหน้าป๊าก็รู้แล้ว คนปากแข็ง”
ป๊าผมอ่ะชอบเก๊กชอบทำฟอร์มจนบางทีผมก็ชอบแกล้งป๊าและก็ได้ผลทุกครั้งเลย พอแกล้งเสร็จก็ต้องเข้าไปอ้อนป๊าก็จะหายงอนไปเอง
“รู้มากรู้ดีตลอด แล้วนี่แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าจะไม่ไปด้วยกันกับป๊าน่ะ”
ผมรู้แหละว่าป๊าอยากให้ไปด้วยแต่ผมก็ติดงานจริงๆนะไม่ใช่ว่าอยากอยู่กับเฮียเลยไม่ใช่จริงๆ ถ้าไม่มีงานผมก็คงจะรีบแจ้นไปกับป๊าเลยแต่นี่ไม่ว่างไง เฮ้อ..พูดแล้วก็เศร้า
“ซีนไปไม่ได้ง่ะ”
“ถ้างั้นอยู่บ้านก็ดูแลตัวเองดีๆ ก่อนออกจากบ้านหรือก่อนนอนก็ปิดบ้าน ปิดไฟให้เรียบร้อยเช็คให้ดีๆด้วยเข้าใจมั้ย?”
“เข้าใจครับ ก่อนจะนอนซีนจะคอลไปหาป๊ากับน้ารินจนกว่าจะถึงวันกลับเลย” เอาเข้าจริงแล้วแม้ว่าป๊ากับน้ารินจะไปกันไม่กี่วันแต่ผมก็อดคิดถึงไม่ได้อยู่ดี อย่าว่าผมเว่อร์เลยครับผมก็ยังเป็นเด็กมอห้าที่ติดพ่อกับแม่อยู่นั่นแหละ
“ทำหน้าจะร้องไห้อีก” ป๊าว่าอย่างนั้นแต่ก็ลูบหัวผมเป็นการปลอบเบาๆ
“อือ ซีนไม่ร้อง” ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาตัวเองป้อยๆซุกหน้าเข้าหาไออุ่นจากอกป๊า
“ป๊าไม่อยู่ก็อย่าดื้ออย่าซน ทำตัวดีๆกับทั้งเฮียแล้วก็น้ากิมเขาด้วย ส่วนเงินป๊าจะฝากไว้กับเฮียให้เฮียเอาให้ซีนเป็นวันๆไป”
“อือ” ผมพยักหน้าหงึกหงักฟังป๊าพูดอย่างตั้งใจ
“ไม่ต้องร้องน่า ป๊าไปแค่ห้าวันเดี๋ยวก็กลับแล้ว”
“ซีนไม่ร้อง ไม่ได้ร้องเลยจริงๆ ฮึก..” พูดทั้งที่น้ำตากำลังไหลลงเรื่อยๆได้ยินเสียงป๊ากับน้ารินหัวเราะก่อนจะรู้สึกถึงมือของป๊าที่ลูบปลอบผม
“ขี้แยจริงๆเลย” ป๊าว่าตอนที่ผมผละออกมาจากอกป๊า ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆแล้วเงยหน้ามองป๊าทั้งปากเบะๆที่เหมือนจะร้องไห้อีกรอบ “ไปๆเดินไปส่งป๊ากับน้ารินที่หน้าบ้าน”
“อือ”
ผมเดินจูงมือป๊ากับน้ารินมาหน้าบ้าน ตอนออกไปก็เห็นเฮียยืนยิ้มอยู่ข้างๆรถป๊าก่อนเฮียจะยกมือพุ่มไหว้สวัสดี
“ลุงฝากซีนมันด้วยนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาลุงได้ตลอดแล้วก็ไม่ต้องตามใจมันมากล่ะเดี๋ยวจะเหลิงเอา” ไม่วายป๊าก็หันมาหรี่ตาใส่ผมอีก
“ครับ ผมจะดูแลให้ครับ ลุงไม่ต้องห่วง” เฮียก็ตอบรับอย่างยินดี
“ส่วนซีนก็อย่าไปดื้อกับเฮียเขามากรู้มั้ย จะไปไหนทำอะไรก็บอกเฮียก่อนด้วย”
“รู้แล้วป๊า”
“อืม งั้นป๊ากับน้ารินไปแล้วนะเดี๋ยวจะรีบกลับมา เป็นเด็กดีรู้มั้ย?”
“อือ” พยักหน้าหงึกหงักก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดป๊ากับน้ารินอีกครั้ง
“เดินทางปลอดภัยนะครับ ป๊าขับรถดีๆล่ะ น้ารินก็ชวนป๊าคุยอย่าให้ป๊าหลับในนะครับถ้าเหนื่อยก็แวะพักกันก่อนแล้วก็ถึงแล้วโทรมาบอกซีนด้วยนะ”
ป๊ากับน้ารินตอบรับผมด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเฮียก็พูดคุยกับป๊าอีกนิดหน่อยก็โบกมือลาแล้วขึ้นรถขับออกไป ผมมองรถป๊าที่ค่อยๆขับห่างออกไปจากสายตาเรื่อยๆกระทั่งผมไม่เห็นรถป๊าแล้วจึงถอนหายใจออกมา
ความรู้สึกมันโหวงๆผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีผมก็คิดถึงป๊ากับน้ารินมากๆเลย
“เด็กขี้แยมานี่มา” เฮียอ้าแขนทั้งสองข้างออกกว้างก่อนผมจะพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเฮียเต็มแรงจากนั้นก็ปล่อยโฮออกมาแบบไม่อายใคร มีเฮียคอยลูบหัวลูบหลังปลอบยิ่งทำให้ผมสะอื้นหนัก
“ฮึก..ซีนไม่ได้ร้องนะ” ผมยังคงไม่ยอมรับว่าตัวเองร้องไห้
“ครับๆไม่ร้องก็ไม่ร้อง” เฮียโยกตัวผมเหมือนกล่อมเด็ก “เข้าบ้านก่อนเร็ว เดี๋ยวเฮียนั่งกินข้าวด้วย”
ความเศร้าความคิดถึงอยู่กับผมได้ไม่นานหรอกครับเพราะตอนนี้นั้นผมนั่งกินข้าวไปยิ้มไปจนเหมือนคนบ้ามากๆแล้ว ผมบอกแล้วไงว่าถ้าป๊าไม่อยู่ทำอะไรก็ง่ายขึ้นเยอะเรียกว่าทางสะดวกสุดๆไปเลย
“เมื่อกี้ยังร้องไห้อยู่เลย ตอนนี้ยิ้มแล้วเหรอ?”
“ซีนไม่ได้ร้องสักหน่อย”
“โอเคๆไม่ร้องเนอะ” เฮียอือออตามผมแล้วตักผัดผักใส่จาน ผมเป็นเด็กที่ชอบกินผักมากซึ่งข้อนี้เฮียก็รู้ “แล้วจะไปทำงานกับเพื่อนกี่โมงเดี๋ยวเฮียไปส่ง”
อ่า...ลืมไปเลยว่าต้องไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนที่โรงเรียน
“ประมาณบ่ายๆครับแต่เฮียไม่ต้องไปส่งก็ได้เดี๋ยวซีนให้เพื่อนมารับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ป๊าซีนฝากเฮียดูแลซีนเฮียก็ต้องดูแลสิ”
“โห งี้ก็ดูแลตลอดชีวิตได้ป่ะเฮีย”
“หึ! จะอยู่กับเฮียนานแค่ไหนกันเชียว”
“โธ่! เฮียอ่ะ”
พูดแล้วก็เซ็ง เฮียไม่เคยเชื่อในตัวผมเลยว่าผมจะรักเฮียไปตลอดชีวิตอ่ะ เฮียก็เอาแต่พูดว่าเดี๋ยวผมก็ไปเจอคนเยอะแยะมากมาย ได้รู้จักโลกภายนอกที่ไม่เคยเห็น ถึงตอนนั้นเฮียก็อาจจะไม่ใช่คนที่ซีนชอบที่สุดแล้วก็ได้ ผมไม่เข้าใจเลยแบบเฮียก็ควรเชื่อในคำพูดผมป่ะ ผมบอกว่าจะไม่มีใครก็ต้องไม่มีใครสิ
“หน้าบึ้งอีกแล้ว งอนอะไรเฮียอีก”
“ก็เฮียชอบพูดปัดให้ซีนไปชอบคนอื่นตลอดเลย”
“เฮียไม่ได้ให้ซีนไปชอบคนอื่นแต่เฮียแค่จะบอกกับซีนว่าวันหนึ่งที่ซีนได้ออกไปเจอโลกภายนอกนั่นน่ะซีนก็อาจจะเจอคนที่ซีนถูกใจมากกว่าเฮียก็ได้”
“ซีนบอกแล้วไงว่าไม่มีทาง”
“เอาเถอะ เฮียพูดไปซีนก็ไม่เข้าใจเดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ”
โหยย...การที่เฮียพูดมาแบบนั้นทำให้เราไม่ทะเลาะกันเลยมั้ง ชอบผลักไสให้ผมไปชอบคนอื่นอยู่เรื่อยเลยเดี๋ยวถ้าเกิดผมทำขึ้นมาจริงๆแล้วจะพูดไม่ออก
ผมกับเฮียนั่งเงียบระหว่างมื้ออาหาร ผมรู้สึกขี้เกียจคุยกับเฮียแล้วพูดไปก็วกเข้าแต่อะไรเดิมๆส่วนเฮียเขาก็คงจะไม่อยากคุยกับผมล่ะมั้ง ผมมันเข้าใจยากไงอธิบายยังไงก็ไม่ยอมเข้าใจเฮียสักที ช่างเถอะให้เป็นแบบนี้ผมจะทำอะไรได้
พอกินข้าวเสร็จผมก็เก็บจานเก็บชามไปไว้ที่ซิงค์ล้างจานเงียบๆโดยมีเฮียที่เก็บแก้วช่วยผมแค่สองใบนั่นแหละเดินตามมาต้อยๆ พอเก็บเสร็จผมทำท่าจะเดินออกจากห้องครัวแต่เฮียดันเอามือกักตัวผมไว้กับซิงค์ล้างจานผมจึงเดินไปไหนไม่ได้
“อะไรของเฮียอ่ะ” ผมไม่รู้ว่าเสียงตัวเองสะบัดแค่ไหนแต่รู้ว่าตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมองหน้าเฮียเลย
“งอนเฮียอีกแล้ว”
“ซีนไม่ได้งอน”
“แล้วเป็นอะไรทำไมไม่คุยกับเฮียครับ”
แล้วทำไมเฮียต้องเอาจมูกมาคลอเคลียที่หน้าผมด้วยอ่ะ รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่อารมณ์ที่จะมาคลอเคลียกันยังจะไม่ยอมหยุดทำอีก
“ฮื่อ...มันจั๊กจี้” ผมบ่นตอนที่เฮียก้มลงมาเลียงตรงซอกคอผม มันรู้สึกจี๊กจี้แล้วก็ขนลุกอีกด้วย “เฮียหยุดเลยซีนไม่ให้หอม อ๊ะ! เฮียเปิดเสื้อซีนทำไม”
“ก็เด็กมันดื้อ เฮียก็ทำให้หายดื้อ”
“ซีนไม่ดื้อ”
ผมใช้มือปัดๆทั้งหน้าทั้งมือเฮียที่เอาแต่คลอเคลียผมออก เฮียนี่ก็แปลกแต่ก่อนผมเปิดเสื้อให้ดูนมก็ด่าผมจะตายแต่มาตอนนี้ดันมาเปิดเสื้อผมซะเองแล้วหน้านี่จะซุกผมไปทุกซอกทุกมุมเลยมั้ย ป๊ายังออกจากบ้านไปไม่ถึงชั่วโมงเลยเฮียก็เริ่มมาลวนลามผมอีกแล้ว
“เฮียแค่อยากให้ซีนเข้าใจ” เฮียหยุดการกระทำทุกอย่างลง ผละออกมามองหน้าผมแล้วพูดประโยคที่ผมไม่เข้าใจขึ้นมาดื้อๆ
“เข้าใจอะไร?”
“เรื่องของเรา”
แค่คำว่าเรื่องของเราทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกดีขนาดนี้กันนะ เมื่อกี้โกรธเฮียจะเป็นจะตายตัดภาพมาที่ตอนนี้คือต้องอมยิ้มแก้มอูมไว้เลย
“ไม่ใช่ว่าเฮียไม่ได้รู้สึกอะไรแต่เฮียแค่ไม่มั่นใจว่าวันข้างหน้าเราจะอยู่กันแบบนี้ไปตลอด ตอนนี้ซีนก็ยังเรียนมัธยมปลาย พอขึ้นมหา’ลัยซีนก็ต้องเจอคนเยอะแยะมากมายส่วนเฮียก็อายุมากขึ้นทุกวันๆและถึงในจุดหนึ่งเฮียก็คงอยากจะหยุดที่ใครสักคน อยากใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกัน เฮียยอมรับว่าเฮียไม่มั่นใจจริงๆว่าซีนจะอยู่ไปถึงตอนนั้นหรือเปล่า”
“แล้วทำไมเฮียถึงไม่เชื่อใจซีนบ้างล่ะหรือเพราะว่าซีนเป็นเด็กใช่มั้ย เฮียเลยคิดว่าคำพูดที่ออกมาจากปากซีนเป็นความคิดของเด็กมัธยมคนนึง เฮียไม่คิดเหรอว่าซีนอาจจะคิดอะไรได้มากกว่าเฮียอ่ะ”
“ตอนนี้สังคมที่ซีนอยู่มันก็เล็กแค่นี้ ซีนเลยไม่ได้คิดว่าจะไปเจอใครใหม่แต่เมื่อซีนโตจนขึ้นมหา’ลัยสังคมของซีนก็จะกว้างขึ้น ซีนจะได้ออกไปเห็นสิ่งที่ทำให้ซีนตื่นตาตื่นใจ มันอาจจะเป็นสิ่งที่ซีนชอบมากกว่าการอยู่กับเฮียก็ได้”
“เฮ้อ...ซีนเหนื่อยจะพูดเรื่องนี้แล้ว” ผมถอนหายใจก่อนจะเงยหน้ามองเฮีย “ซีนรู้ว่าถึงซีนพูดไปเฮียก็ยังไม่เชื่อแต่ซีนก็จะพิสูจน์ให้เฮียดูว่าตอนที่ซีนโตขึ้นได้เจอคนใหม่ๆมากขึ้นซีนก็ยังจะมีแต่เฮียคนเดียว”
เฮียทำแค่เพียงพยักหน้าก่อนจะก้มลงมาคลอเคลียกับร่างกายผมอีกครั้ง ผมก็ปล่อยให้เฮียทำตามใจ เฮียจับไปวางตรงไหนหรือท่าไหนผมก็ทำตามเฮียแบบไม่ขัด จนกระทั่งได้ปลดปล่อยกันไปสองรอบเฮียก็บอกให้ผมรออยู่ที่บ้านส่วนเฮียจะไปทำงานก่อน ตอนบ่ายก็จะมารับผมไปส่งที่โรงเรียน
◐ ◑
ตกเย็นเฮียมารับผมกลับบ้านแต่ผมบอกให้เฮียแวะที่ร้านเฮียก่อนเดี๋ยวค่อยกลับบ้านพร้อมกันก็ได้ เฮียก็ตกลงส่วนผมก็ขอเฮียไปนอนอยู่ชั้นสอง คือง่วงมากครับงานกลุ่มเหมือนนั่งทำคนเดียวเลย ไม่ใช่ว่าเพื่อนมันไม่ช่วยทำแต่บางคนมันทำไม่เป็นไงก็แค่ช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆที่พอจะช่วยได้ส่วนผมก็ความสามารถเยอะเหลือเกินเรียกง่ายๆว่าเก่งนั่นแหละเลยต้องทำเยอะหน่อย
“ถ้าจะกลับแล้วเดี๋ยวเฮียมาเรียก”
เฮียก้มลงหอมหน้าผากผมก่อนจะเดินออกไปเหลือเพียงผมที่นอนมองเพดานไปเรื่อยๆกระทั่งนึกถึงป๊ากับน้ารินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ป่านนี้ไม่รู้ไปถึงไหนกันแล้ว ตั้งแต่ออกจากบ้านก็เงียบหายกันไปเลย ผมเป็นห่วงเวลาป๊ากับน้ารินขับรถไปต่างจังหวัดมากไม่รู้สิครับผมอาจจะดูข่าวพวกอุบัติเหตุเยอะมั้งก็เลยเป็นห่วงต่างๆนาๆ คิดไปคิดมาสุดท้ายผมก็ตัดสินใจกดโทรออกหาน้าริน
(ว่าไงครับซีน)
เสียงสัญญาณดังขึ้นไม่นานน้ารินก็กดรับ
“น้ารินถึงไหนกันแล้วครับ”
(อีกไม่กี่กิโลจะถึงแล้วล่ะ แล้วนี่มีอะไรหรือเปล่าหืม?)
“เปล่าครับผมเป็นห่วงเห็นเงียบกันเลยโทรไปถามดู”
(ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ป๊าเราน่ะแวะพักทุกปั๊มเลย)
“ครับ ดีแล้วล่ะ”
(แล้วนี่ซีนอยู่ไหนครับ ทำงานกับเพื่อนเสร็จหรือยัง?)
“ซีนอยู่ที่ร้านเฮียแล้วครับ เฮียพึ่งไปรับซีนมาจากโรงเรียน”
(อืม ซีนก็อย่าลืมกินข้าวนะดูแลตัวเองด้วย) น้ารินเงียบไปสักพักก็ถามต่อ (คุยกับป๊ามั้ยครับ?)
“อื้อ คุยครับ” ผมตอบไปอย่างไม่ลังเล
ได้ยินเสียงกุกกักๆสักพักเสียงของป๊าก็ดังลอดออกมาจากปลายสาย
(ว่าไง)
“ป๊า ขับรถดีๆนะ ถึงแล้วก็โทรมาบอกซีนอีกครั้งนึงด้วย”
(รู้แล้วน่า)
“ซีนรักป๊านะ”
(อืม..ป๊าก็รักซีน ดูแลตัวเองด้วยเดี๋ยวป๊าก็กลับแล้ว เข้าใจมั้ย)
“เข้าใจครับ แค่นี้แหละป๊าขับรถต่อเถอะ” ผมรีบกดวางสายก่อนที่ป๊าจะรู้ว่าผมร้องไห้อีกแล้ว
เฮ้อ...ตอนป๊ากับน้ารินอยู่ก็ทำปากดี พอทั้งสองคนไม่อยู่ด้วยจริงๆก็คิดถึงแทบบ้าเลย ผมไม่อยากคิดภาพตอนที่ต้องไปเรียนมหา’ลัยเลยจริงๆยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโหวงๆในอก
คิดอะไรเพลินๆผมก็ผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็เห็นเฮียเดินออกมาจากห้องน้ำ เฮียเดินยิ้มเข้ามาตอนที่เห็นว่าผมตื่นเต็มตาแล้ว
“เฮียว่าจะเข้าห้องน้ำก่อนแล้วออกมาปลุกแต่ซีนตื่นพอดี”
“อือ เฮียปิดร้านแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแต่พาซีนกลับบ้านนี่แหละ”
ผมพยุงตัวขึ้นยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองหน่อยๆก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก ยื่นแขนให้เฮียช่วยดึงผมให้ลุกขึ้นจากที่นอน
“ซีนขอไปล้างหน้าก่อนนะ”
หลังจากจัดการปิดร้านจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเฮียก็ขับรถพาผมกลับบ้าน วันนี้เฮียต้องมานอนเป็นเพื่อนผมเพราะป๊ากับน้ารินไม่อยู่ เออ...จริงด้วยผมลืมดีใจเรื่องนี้ไปเลยอ่ะมัวแต่คิดถึงป๊ากับน้ารินแล้วก็น้อยใจเฮียจนไม่ได้คิดว่าวันนี้ผมจะได้นอนกอดเฮีย ฮือ..แค่คิดก็รู้สึกฟินมากๆแล้ว
ผมบอกให้เฮียเหยียบคันเร่งให้ไปถึงบ้านเร็วๆได้มั้ยอ่ะ อยากนอนกับเฮียจะแย่แล้วถ้าถึงตอนนอนจะต้องทำอะไรกันบ้างอ่ะแบบจะได้ทำอะไรที่มันมากกว่านี้ป่ะแล้วผมจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจยังไงดี แบบว่าตื่นเต้นไปหมดเลย
“เป็นอะไรซีน?”
ผมสะดุ้งตอนเฮียเอ่ยทัก มัวแต่คิดอะไรเพลินเลยไม่ทันได้สนใจอะไร
“เปล่าครับ”
“ถึงบ้านแล้ว”
ผมหันไปมองก็เห็นว่าถึงบ้านแล้วจริงๆแต่เดี๋ยวนะผมว่ามันแปลกๆอ่ะ
“ทำไมในบ้านเปิดไฟไว้ล่ะ เฮียมาเปิดไว้เหรอ?” ผมหันไปถามเฮียที่ทำหน้าสงสัยไม่ต่างจากผม
“ไม่นะ เฮียก็พึ่งกลับบ้านมาพร้อมซีนนี่แหละ”
“แล้วทำไม...” ยังไม่ทันจะถามบุคคลที่พวกผมไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วบ้านให้ ใบหน้าเต็มไปด้วยแป้งที่คงโปะตอนหน้าเปียกๆส่วนบนตัวก็สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงเจเจซึ่งซื้อได้ตามตลาดนัดทั่วไป
“หวัดดีเฮีย” เขาคนนั้นยกมือไหว้เฮียก่อนจะหันมามองผม “ลงมาดิซีน”
ผมทำหน้าหน่ายนึกไปถึงป๊าตัวเองทันที
“ไอ้พี่ปิง!”
“จ้า”
ผมละเซ็งจริงๆเลย แผนที่คิดว่าจะทำอะไรๆกับเฮียเป็นอันพังเพราะไอ้พี่ปิงชุบแป้งทอดนี่ ป๊านี่ตัวการแน่ๆต้องเคลียร์หน่อยละทำแผนผมล่มไม่เป็นท่าเลย
◐ ◑
สงสารซีนเบาๆแต่วงวารพี่ปิงมาก ฮ่าๆ ตอนที่แล้วคือบางคนพึ่งรู้ว่าน้ารินเป็นผู้ชายคือแบบวงวารมากก น้ารินเป็นผู้ชายนะคะย้ำอีกที อิอิ
ฝากคอมเม้นให้กันด้วยเน่อออ ขอบคุณมากๆค่า
เล่นแท็ก #น้ำเต้าหู้ของเฮีย ในทวิตเตอร์ได้เด้ออ
ติดตามข่าวสารได้ที่
twitterfacebook