{Shall I be your husband?} พี่ครับผมขอเป็นสามีพี่ได้มั้ย? Special:ตอนท้าย(18+) จบย้ายได้ค่า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {Shall I be your husband?} พี่ครับผมขอเป็นสามีพี่ได้มั้ย? Special:ตอนท้าย(18+) จบย้ายได้ค่า  (อ่าน 3217 ครั้ง)

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เรื่องของตอนหลักค่า

ส่วนด้านล่างเป็นตอนพิเศษนะคะ

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2018 21:08:38 โดย sakutaka »

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
{Shall I be your husband?} พี่ครับผมขอเป็นสามีพี่ได้มั้ย?


เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือ...อะไรครับ?

“โอ๊ยๆๆๆๆ เบาดิเบา” เสียงร้องโหยหวนชวนสยิวกิ้วดังสะท้อนก้องไปทั่วห้องน้ำแล้วดูเหมือนว่าจะทะลุตามช่องประตูไปสู่ด้านนอก แต่ ณ จุดๆนี้ให้มาเอามือปิดปากแล้วกลั้นเสียงน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ! ชลธีจะไม่ทน ผมเอามือขยุ้มกลุ่มผมของคนที่อยู่เบื้องล่าง คนที่ยองๆจัดการกับของบางอย่างเบื้องล่างอย่างใจจดใจจ่อ

“เสียงดังไปถึงข้างห้องแล้วพี่ เดี๋ยวคนเขาก็แตกตื่นกันหมดหรอก” ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมาเอ็ดเสร็จก็กลับไปสานต่อสิ่งที่ตนเองทำอยู่

“ก็มึงทำกูเจ็บอ่ะ”

“ก็ผมบอกให้พี่อยู่นิ่งๆไง ขยับตัวยุกยิก มือผมไปโดนทีมันก็เจ็บดิวะ” อ้าวมีขึ้นเสียงใส่กูอีก นี่กูคนเจ็บนะ ถนอมกูหน่อย ผมไม่กล้าเถียงต่อ กลัวมันทำแรงๆแบบไม่แคร์ใจ เลยได้แต่กัดปากน้ำตาซึมมันต่อไป

“จะเอาออกแล้วนะ”

“ฮือออ ค่อยๆนะ” เสียงอ่อยเลยกู

“หนึ่ง ส่อง...”

“ดะ เดี๋ยวๆ” ยกมือขึ้นห้ามทัพแทบไม่ทันเกือบโดนซั่มแล้วไง

“อะไร”

“มะ...มึงไม่ต้องนับได้มั้ยอ่ะ”

“หา?”

“ถ้าจะถอนก็ถอนออกมาเลย ไม่ต้องให้จังหวะ ไม่ต้องนับ กูไม่อยากรับรู้ กูไม่อยากจินตการถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้า”

“แต่พี่ต้องยอมรับความจริงนะ ว่ามันปักอยู่ในตัวพี่อยู่” โง้ย ก็นั่นแหละที่กูไม่อยากรับรู้ ความเจ็บนี้กูพอจะจินตนาการได้ว่ามันลึกสุดใจ กูทรมานเกินไป กูไม่ไหวแล้ว

ฉึ่บ!!

“เชี่ย!!!” เต็มๆเลยครับงานนี้ มันมาแบบทีเผลอ ความเจ็บแม่งส่งตรงมาแบบผ่านเส้นใยไฟเบอร์นำแสง แล่นริ้วจากช่วงล่างกระจายไปทั่วทั้งสรรพางค์ “ฮือออออ เชี่ยแทน กูเจ็บ ทำไมไม่บอกก่อนวะ สัด โอ๊ย เจ็บโว้ยยยย”

“ล้างน้ำก่อนเถอะ” ร่างสูงจับทั้งฝ่าเท้ากระเตงๆไปจนถึงก๊อกน้ำปล่อยให้สายธารชำระล้างสิ่งสกปรกที่ออกมาพร้อมกับของเหลวสีแดงฉาด

“ฮืออออ เลือด เลือด”

“เมื่อกี้พอจะนับก็ว่า พอดึงเลยก็โดนด่าอีก แล้วนี่เห็นเลือดแล้วเป็นอะไร อย่าแปลงร่างเป็นเอ็ดเวิร์ดในทไวไลท์นะ ผมไม่ยอมเป็นเบลล่าให้พี่ด้วย”

“กูก็ไม่ยอมเป็นพี่โป๊บให้มึงหรอก”

“คนละเบลล่าแล้วพี่” เชี่ยมันขำ เสียงดังซะด้วย ดังยิ่งกว่าที่กูร้องครวญครางในห้องน้ำเมื่อกี้อีก “เอาล่ะครับเบลล่า ชลธี ได้เวลาไปทำแผลต่อที่ข้างนอกแล้วครับ” มันจับเอาผ้าขนหนูผืนเล็กใกล้มือมาพันแผลอย่างลวกๆ สัดนั่นมันผ้าเช็ดหน้ากู มึงเอามาพันตีนได้ไง นึกด่าในใจแต่เถียงไปก็เท่านั้น เพราะแผลตรงหน้าผมสำคัญกว่า


อย่าถามหาฉากวาบหวิวชวนคิดลึกกับคนที่พึ่งจะมานึกคบกันเมื่อสองสัปดาห์ก่อนเลยครับ ทุกอย่างที่บรรยายมาข้างต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความซุ่มซ่ามของผมล้วนๆไม่มีวัวมาผสม เออกูควายเองแหละ ควายที่ระริกระรี้ดีใจกับผลสอบปลายภาคและการกลับมาของวันหยุดที่สุดแสนจะสั้น...วันหยุดหลังสอบไฟนอลสามสัปดาห์

หลังจากที่ไปห้างหาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำสุกี้แดกฉลองรับวันสุดท้ายแห่งการเรียนร่วมกันกับไอ้แทน...แฟนอย่างเป็นทางการของผม พวกเราก็ตรงดิ่งมาที่หอ มาคุ้ยหม้อสุกี้ที่เก็บอยู่ในดินแดนลับแลหลังกำแพงที่แขวนรูปโมนาลิซซ่า พอเปิดออกมาโดยการพลิกรูปไปสี่สิบห้าองศาสัญญาณเตือนภัยก็มาเลยจ้า ไม่ใช่เตือนว่ามีขโมยเข้ามาโจรกรรมรูปไป แต่เป็นเพราะกูไม่ใส่ใจเลยเผลอทำรูปตกใส่ขา เศษกระจกแม่งแตกกระจายห่าไปตามพื้น แล้วด้วยความโง่ไม่มีที่สิ้นสุดกูจึงขยับขาไปเหยียบเข้าให้จนเศษบาดลึกลงไปที่ฝ่าเท้า ทั้งๆที่ไอ้แทนมันร้องห้ามว่าอย่าขยับแต่กูก็ยังจะเสือกสร้างแผลให้ตัวเองอีก แม่จ๋าหนูจิร้อง

พวกเราสองคนเลยต้องมาจมอยู่ในห้องน้ำจนถึงเมื่อสักครู่นี้ไง

“กดแผลไว้ก่อน” พอไอ้คุณสุรบถมันลากผมมาถึงปลายเตียงก็จัดแจงท่านั่งแถมเน้นยำให้กดผ้าขนหนูไว้ สัดกูเจ็บ แล้วให้กูกดแผลตัวเองเนี่ยนะ ใครมันจะไปกล้าวะ “กดให้มันมีแรงดิพี่ เดี๋ยวเลือดก็ไม่หยุดไหลหรอก” เออเว้ยดีแต่สั่ง แล้วมึงนั่งทำอะไร หยิบมือถือขึ้นมากดเล่นเนี่ยนะ มันใช่เวลาป่ะ เป็นห่วงกันรึเปล่าเนี่ยยย

“ไอ้แทนมึงเนี่ยนะ...”

“ประคบไว้สิบห้านาที หรืออาจทำให้เลือดไหลช้าลงด้วยการยกบาดแผลขึ้นเหนือหัวใจ” อ้าวเฮ้ย ผิดคาด มันกำลังหาวิธีทำแผลให้ผมอยู่ แต่จู่ๆมันก็ย่อตัวคุกเข่าข้างหนึ่งลงต่อหน้าผม สภาพตอนนี้ทำเอาใจสั่น เพราะเหมือนมันกำลังจะขอความรัก สงสัยกูดูหนังโรแมนติกมากไปช่วงนี้ จะคิดจะจินตนาการแต่ละทีเล่นเอามโนถึงขั้นแต่งงาน

“เลือดไหลช้าลงรึยังครับ”

“เอ๊ะ? เมื่อกี้มึงทำอะไรให้กูรึยัง ไหนบอกจะต้องยกบาดแผลขึ้นเหนือหัวใจ” แต่นี่มึงยังไม่ทำอะไรให้กูเลยนี่หว่า

“ก็ใจของพี่อยู่ที่ผมแล้ว ตอนนี้พี่อยู่เหนือผม เลือดไหลช้าลงรึยังครับ”

เฟี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

“เวรเอ๊ยยยยย เล่นอะไรไม่รู้จักเวล่ำเวลา เลือดกูจะไหลหมดตัวอยู่แล้วนะเว้ย เชี่ยแทน” เอาอีก เอากับมันดิ มันกลั้นขำใส่ผม

“พี่ก็เว่อร์ไปแผลไม่ลึกหรอก ผมดูแล้ว อยากมากก็แค่...”

พรึ่บ!!

เกร๊ซซซซซซซซซซซซซซ เกือบสาวแตก แม่งแหกขากูไม่ดูสถานที่ ข้างที่มีบาดแผลแม่งลอยหวือขึ้นสูงกว่าหนังศีรษะ นี่มึงจะปรับพื้นฐานให้กูไปเล่นบัลเล่ย์ หรือเข้าคณะลิเกละครสัตว์เหรอวะ!!

“ทะ...ทำอะไรของมึงวะ!!”

“ยกแผลขึ้นเหนือหัวใจ” มันไม่เหนือมากไปเหรอมึ๊งงงงง “เอาขาพาดไว้ที่ไหล่ผมก่อนละกัน แถวนี้ไม่มีราวตากผ้าซะด้วยสิ”

“ถึงมีมึงก็อย่าคิดว่ากูจะพาด ขากูขึ้นถึงมั้ย ฮะ ถามจริง ขากูพาดขึ้นมั้ย ถามใจมึงดู!!”

“งั้นก็พาดไหล่ผมไปก่อนเนี่ยแหละ”

“ก่อนที่มึงจะตัดสินใจมึงช่วยนั่งก่อนได้มั้ยไอ้คุณชาย!!” มึงสูงเท่าไรมึงคิดดู แล้วให้กูเอาขาพาดกับส่วนสูงเกินร้อยแปดสิบอย่างมึงเนี่ยนะ กายกรรมเปียนยางแล้วมึงเอ๊ยยย

สภาพผมตอนนี้แม่งยิ่งกว่าเล่นกล้ามเนื้อท้องทำท่าวีเชฟอีก กูตึงไปหมดแล้ว เกร็งไปทั้งตัว แผลกูจะปริก็คราวนี้ ในที่สุดไอ้แทนมันก็ยอมเป็นสายย่อชันเข่าข้างหนึ่งกับขอบเตียง แปลงร่างเป็นที่รองรับตีนกูชั้นดี

“เหงื่อออกเยอะจังเลยนะพี่” มันยื่นมือมาซับเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าผม “หรือเลือดออกเยอะไป ทำไมหน้าดูซีดๆ”

“ก็มึงนั่นแหละ ให้กูเกร็งท้องอยู่ตั้งนาน ทำร้ายกูชัดๆ”

“ถ้าผมขยับเข้าใกล้พี่ตอนนี้ น่าจะเป็นการทำร้ายพี่มากกว่านะ” หา? ผมลืมสังเกตไปว่าท่าทางไอ้แทนแม่งโคตรหมิ่นเหม่ อาจจะเพราะท่าขาชี้ฟ้าของผม และเข่ายันขอบเตียงของมัน เลยทำให้ส่วนที่เป็นอะไรๆมันช่างเหมาะเหม่ง ลงตำแหน่งพอดิบพอดี ....จะอะไรซะอีก ก็เป้ามันกับประตูหลังผมไงครับ...สึดดดดดด

“อย่าให้กูต้องรู้สึกไปมากกว่านี้ได้มั้ยวะ เพราะมึงพูดเนี่ยแหละ มันจะทำให้กูเอาแต่จ้องเป้ามึงอ่ะ”

“พี่อ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ผมเขินนะ”

“กระเดะแล้ว อย่าทุบน่องกู มันสะเทือนแผล” ดีดดิ้นทำท่าอย่างกับสาววัยแรกแย้มกูขนลุก

“เออ...ลืมไปเลย” มันประคองน่องผมด้วยมือสองข้าง แล้วสืบเท้าถอยหลังออกไปจนหน้าหล่อๆเสมอตีนผม

“อย่าบอกนะ ว่ามึงลืมแผลกู” ไอ้แทนค่อยๆขยับผ้าเช็ดหน้าที่ตอนนี้กลายมาเป็นผ้าเช็ดตีนออก แล้วมองฝ่าเท้าผมเป็นการใหญ่ แม่งทำท่าอย่างกับจะดูดวงให้กูอีกรอบ “ไม่มีไฝ มึงไม่ต้องจ้อง”

“ฮ่าๆ พี่ยังจำที่ผมพูดได้อีกเหรอ แต่คราวนี้คนโสดมีคู่แล้วนะ” มันยิ้ม

“จ้า ดูดวงโคตรแม่น แต่ก่อนจะเป็นหมอดูมึงช่วยมาเป็นหมอทำแผลให้กูก่อนเถอะ บาดทะยักจะกินแผลแล้ว”

“สงสารโมนาลิซซ่าเนอะ สละชีพแต่ทำให้พี่มีแผลแค่เนี้ย”

“สัด สงสารกูก่อนเถอะ กูเจ็บ” คราวนี้เริ่มรู้สึกแล้ว ตอนแรกยังแค่ชาๆแท้ๆเลย

“เลือดหยุดแล้ว แต่ไม่มีขี้ผึ้ง”

“เอามาทำอะไร”

“ทาแผล เมื่อกี้ในเว็บมันบอกไว้”

“กูมีทิงเจอร์ อยู่ในกล่องบนโต๊ะ”

“ทิงเจอร์? จะไม่แสบเหรอ”

“กูทนได้ เอามาเถอะ”

“เห็นพี่อึดขนาดนี้ผมก็วางใจ”

“ผู้ชายครับ ยังไงก็อึดกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว”

“หึ ไว้รอดูบนเตียงทีเดียวเลยละกัน”

“สัดแทน กูหมายถึงแผลเว้ย แผลอ่ะ เข้าใจป่ะ ไม่ได้เรื่องอย่างว่า!” มันปล่อยคาร์บอมเอาไว้แล้วจากผมไปหยิบทิงเจอร์ไอโอดีน ทันทีที่เห็นเจ้าขวดทรงหกเหลี่ยมสีเหลืองเข้มดูเข้ากั๊นเข้ากันกับการเอาไปทำบุญห่อสังฆทานมาวางตรงหน้า ผมก็เผลอหลับตากลืนน้ำลายหนึ่งอึกเข้าคอ

“เป็นไร ป๊อดขึ้นมาเหรอ” โดนยิ้มล้อเลียนโคตรเสียเชิงชาย ทนไม่ได้เลยยกขาข้างที่เจ็บขึ้นมาจนเกือบฟาดหน้าผู้หวังดี

“จัดมาอย่าให้เสีย” พยักหน้าท้าทายไปอีกหลายยก ส่วนในใจน่ะเหรอร้องเพลงบรรจงร้อยเป็นมาลัย สนุกสุขใจหนักหนากับชะตาชีวิตของตัวเองไปล้านรอบแล้ว








“อึก...ฟืด!!” ผมน้ำตาซึม สูดน้ำมูกนั่งดูคนที่บรรจงพันผ้าก๊อซกับเท้าข้างขวาอย่างประณีต ปกติผมทนความเจ็บได้มากกว่านี้นะ แต่คราวนี้มันแสบแบบไร้ความปรานี แบบต้องหันไปดูหลังขวดอีกทีว่าทิงเจอร์ไอโอดีนแม่งมีวันหมดอายุรึเปล่าวะ “กูจะพิการมั้ย”

ไอ้คนตั้งใจทำหน้าที่คุณหมอเฉพาะกิจถึงกับเงยหน้าพลางยิ้มราวกับเอ็นดู

“จะบ้าเหรอพี่ แผลโดนกระจกบาดนะ ไม่ใช่งูฉก”

“ถ้างูฉก มึงก็ต้องขันชะเนาะให้กูดิวะ”

“บางทีผมอาจจะดูดพิษออกมาจากตัวพี่ให้ด้วยก็ได้” ไม่ว่าเปล่ามันยกเท้าผมขึ้นแบบกะทันหัน ก่อนแนบริมฝีปากจูบซับไปตามข้อเท้าจนเกิดเสียงจุ๊บดังขึ้นให้ได้ยิน

“เชี่ยแทน ทำบ้าอะไรวะ สกปรก”

“ไม่สกปรกหรอก เท้าพี่พึ่งล้าง”

“กูหมายปากมึงต่างหาก จูบมาได้ไงวะ”

“หึ ช่วยทำแผลให้แล้วยังมากวนตีนอีกนะ” ด่าว่าปากสกปรก ลมหายใจไม่หอมสดชื่นแค่นั้นแหละแม่งเกรี้ยวกราดกระโดดขึ้นเตียง แล้วผลักกูที่เอียงเสียศูนย์ลงไปนอนแอ้งแม๊งเลยจ้า

“โอ๊ย เจ็บๆๆๆ”

“ตอแหลแล้ว เมื่อกี้ยังไม่โดนเท้าเลย” เออกูตอแหลจริง ส่วนมึงก็ปีนเกลียวขึ้นทุกวัน ตั้งแต่คบกันมันก็ทำตัวกร่างไม่เห็นหัวผมว่าเป็นรุ่นพี่เลยซักนิด แต่ทำไมผมกลับรู้สึกดีใจที่ได้สนิทกับไอ้หนุ่มวิศวะอุตสาหการคนนี้มากขึ้นวะ “พี่หิวข้าวรึเปล่า” จู่ๆมันก็ถามเปลี่ยนเรื่อง

“ก็ไม่ได้หิวอะไรขนาดนั้น”

“แล้วทำไมตอนกลับมาถึงทำท่าอย่างกับว่าหิวซะเต็มประดา รีบไปคว้าภาพโมนาลิซซ่าจนเกิดเรื่องเลยมั้ย” มันที่อยู่เหนือตัวผมขยับมือมาปาดเหงื่อที่ผุดพรายตามหน้าผากให้อีกครั้ง ผมจ้องมองตาคมๆของมันก่อนพูดออกไป

“กูก็แค่ดีใจ”

“ดีใจ? ดีใจเรื่องอะไร?”

“เรื่องที่ได้ใช้วันหยุดร่วมกับมึงซะที”

“...” จบประโยคเท่านั้นแหละไอ้แทนหน้าแม่งแดงแข่งเสื้อทีมลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเลยครับ กะจะล้อเล่นซะหน่อยไหงได้ผลเกินคาด ส่วนผมน่ะเหรอ...ก็แดงตามมันไปดิ ถามได้

“อะ เอาเถอะ ลุกไปแดกข้าวได้แล้ว” ไม่หิวแต่ก็ถึงเวลาหลีกหนีจากห่าความอาย ผมพยายามดันตัวลุกแต่ไอ้คุณชายสุรบถก็ยังไม่ยอมหลบไปไหน แถมยังมองมาทางผมเนี่ยตาเยิ้มเชียว

“พี่รู้มั้ย ว่าผมดีใจขนาดไหนที่ใจตรงกับพี่” ประโยคเดียวมันทำผมถึงกับสตั๊นเอนตัวกลับไปนอนยังท่าเก่า ทางนี้ต่างหากที่ควรพูด กับคนที่ไม่รู้เลยว่าคิดยังไงกับเรา แถมแฟนเก่าเขายังเป็นผู้หญิง ให้มองยังไงกูก็ดูจะไม่มีหวังซักนิด แต่จู่ๆกลับมีวันนึงที่เขาบอกชอบเรา แล้วไม่ให้ผมดีใจแทบตายได้ยังไง

“กูไม่รู้ แต่ที่แน่ๆกูรู้ตัวเองดีว่า กูตกหลุมรักไอ้เด็กม.ห้าที่ให้กูยืมยางลบคนนั้น”

“งั้นแสดงว่าใจเราก็ตรงกันนานแล้วสินะ” มีใครเคยบอกมั้ยว่าไอ้แทนเป็นเมดูซ่า อย่าจ้องตามันเกินสามวิไม่งั้นคุณจะเขินจนไปต่อไปไหว สายตาซุกซนของคนตรงหน้าทำให้ผมต้องเสตาไปทางอื่น

“กะ...กูชอบมึงก่อนเหอะ” แม้แต่เรื่องนี้ผมก็ยังไม่ยอมแพ้อีก...ให้ตายเถอะ

“ชอบตอนไหนครับ”

“ตอนที่มึงบอกกูว่าหกสิบบาท” กูจะจำฉากนั้นไปจนวันตายเลยล่ะ ไอ้เลว ไอ้ขี้งก
ไอ้แทนมันหัวเราะน้อยๆ อย่างอดไม่ได้แล้วเลื่อนสายตามาสบอีกรอบ

“งั้นผมก็ชนะพี่แล้วล่ะ”

“...”

“ผมหลงรักตั้งแต่เห็นรอยยิ้มนั้นของพี่แล้ว”






สุดท้ายมื้อเย็นของเราก็เป็นหม้อไฟเกาหลีอย่างง่าย เพราะคุณชายได้ตัดสินใจเลิกใช้ของสดเนื่องจากกลัวคนเจ็บอดตายร้องโวยวายว่าหิวข้าว ไอ้แทนมันจัดการทุกอย่างตั้งแต่เตรียมอาหารยันไปถึงยกหม้อขึ้นเตาแก๊สกระป๋อง ปล่อยให้ผมเป็นง่อยนั่งกระดิกตีนที่เจ็บดูคนวิ่งวุ่นฉีกซองผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆหั่นจัดวางเรียงใส่หม้อโยนคนอร์เพิ่มความเป็นน้ำซุปกระดูกหมู แล้วนั่งดูมันเดือดพร้อมแดก

“คนเจ็บกินเยอะๆนะครับ จะได้หายไวไว”

“แต่มึงกำลังจะให้กูแดกมาม่า” ฮ่าฮ่าขำแป๊บ

“เล่นมุกได้ คงไม่ตายแล้วมั้ง” อ้าวเฮ้ย เดี๋ยว เมื่อกี้ยังทำท่าจะตักลูกชิ้นลาวาให้ แล้วนี่อะไรไหงวนกลับไปใส่จานตัวเองวะ นี่มึงกะไม่ตักให้กูจริงๆเหรอเนี่ย

แต่ให้งองแงไปก็สมเพชตัวเองแค่เจ็บขาจะมาทำตัวสำออยก็ใช่ที่ ผมเลยขยับตูดดุ๊กดิ๊กกะลุกขึ้นตั้งท่าจะคีบต็อกบ็อกกีที่นอนแช่น้ำสีแดงแรงฤทธิ์ของโคชูจัง แต่ยังไม่ทันเอื้อมถึงก็โดนดึงแขนไว้เสียก่อน

“ทำเชี่ยไรวะ กูหิว” อีกนิดก็จะพิชิตแป้งต็อกได้แล้วแท้ๆ

“นั่งอยู่เฉยๆนั่นแหละ” ปรามไม่พอยังเอามือมารั้งแขนให้ผมทนแรงไม่ไหวต้องกลับลงไปนั่งอย่างเก่า

“ไอ้แทนอย่าเล่นอย่างนี้ได้มั้ยวะ กูก็แค่เล่นมุกปลวกไปหน่อยไม่เห็นจะต้องถึงกับขั้นทรมานกูด้วยการให้ดูแต่ไม่ให้แดกเลยนี่หว่า”

“เปล่าซะหน่อย มากินนี่ผมเป่าไว้ให้แล้ว ทานร้อนๆลวกปากพอดี” จังหวะที่ตะเกียบหนีบลูกชิ้นลาวามาจ่อปาก ผมก็เผลอรับคำป้อนนั้นเข้าไปอย่างว่าง่าย รู้สึกกระดากอายอย่างแปลกๆ เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครมานั่งเอาใจอย่างนี้เลยนี่หว่า

“อร่อย” โอ้ยผมเผลอหลุดอุทานอะไรออกไปวะ น่าอายฉิบเป๋ง คิดแล้วก็ยกมือขึ้นป้องปากปิดบังครึ่งใบหน้าซ่อนความหน้าบางของตนเอง

“ใช่มั้ยล่ะ ฝีมือผมเลยนะ” ฉีกยิ้มยาวเกือบถึงใบหู ได้ข่าวลูกชิ้นก็ซื้อเขา มาม่าก็เอาจากเซเว่น แล้วมึงทำอะไรเป็นนอกจากโยนคนอร์ใส่น้ำฮะไอ้แทน

“มา เดี๋ยวผมหนีบ ‘มาม่า’ ให้” ได้ทีเอาใหญ่ มันเล่นเน้นคำมุกแป้กของผมให้ฟังอีกรอบ

“ครับๆ ผมจะได้หาย ‘ไวไว’ สินะ”

“หึ...” ทิ้งยิ้มหล่อๆไว้แล้วหันไปหนีบเส้นขึ้นใส่ชามมาวางตรงหน้าผม

“กูขอโบโลน่าด้วย” ขอปั๊บหนีบให้ปุ๊บ โคตรเอาใจ ผมจับตะเกียบขึ้นมาหนีบเข้ากับแผ่นสีชมพูอ่อนม้วนเป็นทรงกระบอกพอดีคำเป่าลมลงไปเบาๆพอให้คลายความร้อน ก่อนยื่นให้เจ้าพ่อเซอร์วิสมายด์ที่ตูดยังไม่ประทับลงเก้าอี้เพราะมัวแต่เอานั่นเอานี่มาประเคนผม

“อะไรครับ” แหนะ มีเลิกคิ้วทำหน้าประหลาดใจอีก

“ไม่ต้องมาทำซื่อ กูป้อน จะแดกไม่แดก ถ้าไม่แดก...” ความเขินกูมีจำกัด อย่าให้นานนักกูชักมือกลับนะเว้ย

“กินครับกิน!!” มือใหญ่ขยับมาล็อคข้อมือผมไว้ทัน ก่อนที่มันจะขยับมาเข้าใส่ปากผม คุณสุรบถมองหน้าผมนิ่งก่อนเอียงหัวให้ตรงกับองศาท้องม้วนโบโลน่าแล้วงับเข้าปากไป ผมได้แต่มองปฏิกิริยาเคี้ยวหงับๆนั้นอยู่นาน

“มึงเนี่ยนะ”

“ครับ”

“ทำไมถึงหล่อได้ขนาดนี้วะ” สภาพคนตรงหน้าราวกับโบโลน่าติดคอ ไอ้แทนมันรีบกลืนสิ่งที่ผมป้อนแล้วทิ้งตัวลงนั่ง

“ทำไมจู่ๆ...” มันวางกระบวยตักน้ำซุปลงแล้วเอื้อมมือสัมผัสหน้าผม “ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่หว่า หรือว่าบาดทะยักขึ้นสมอง”

“กูก็แค่อยากพูดความจริง” ผมอ้อมแอ้ม ปากแข็งมาตลอดทั้งเรื่องแล้วขอชมมันบ้างสักครั้งเถอะครับ

“พี่กำลังจะทำให้ผมไม่อยากกินข้าวนะ”

“อ้าวทำไมวะ แค่กูชมแค่นี้ มันรู้สึกแย่จนทำให้มึงไม่อยากอาหารเลยเหรอ”

“ผมอยากกินพี่ต่างหาก” สายตาเจ้าชู้ ซุกซนจ้องมองที่หน้าผม ก่อนเจ้าตัวจะขยับนิ้วโป้งมาเขี่ยที่มุมปาก ลุกจากเก้าอี้เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้าใส่ผม

“...!”

“แล้วใกล้ขนาดนี้ ยังหล่ออยู่รึเปล่าครับ”

“ละ..หล่อ” ไม่กล้าสบตาแม่งแล้ว

“แล้วเท่านี้ล่ะ” ขยับจมูกมาชนกัน ระยะขนาดนี้กูมองออกก็บ้าแล้ว แต่ผมก็ยังจะ...

“หล่อดิ หล่อกว่าใครๆอยู่แล้ว แฟนกูทั้งคน” ผมรู้ว่ามันจะทำอะไรต่อแต่อย่าหวังเลยว่าผมจะยอม มือสองข้างของผมยกขึ้นประคองแก้มของร่างสูงแล้วยืดตัวขึ้นจูบแบบไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว ริมฝีปากของเราแนบบดเบียดกันอยู่ตรงนั้น จนผมรู้สึกว่ากำลังจะหน้ามืด

“ผมบอกแล้วไงว่าให้หายใจทางจมูก” อ้าวอีกแล้วเหรอ กูลืมตัวทุกทีเวลาจะมีคิสกับมึง ผมถอนหน้าออกมาเล็กน้อยก่อนอ้าปากสูดหายใจเข้าปอดยกใหญ่ “หึ จะจูบผมหรือจะดำน้ำกันเนี่ย”

“จูบมึงดิ...อื้ออออ” จากจุมพิตเบาๆไอ้แทนพรวดพราดเข้ามาใส่ แนบกลีบปากที่เต็มไปด้วยรสชาติโคชูจังผสานกำลังกับโบโลน่าหมู ก่อนแทรกลิ้นร้อนๆเข้ามาระหว่างที่ผมเผลอเผยอปากหายใจ คราวนี้คงต้องอาศัยผิวหนังเท่านั้นล่ะมั้งผมถึงจะมีกำลังต่อต้านออกซิเจนที่กำลังจะหมดจากร่างนี้ได้ ลิ้นสากกำลังกวาดไปทั่วโพรงปากให้ความรู้สึกที่โคตรแปลกประหลาดเหมือนได้ทานอะไรหยุ่นๆนุ่มลิ้น แต่หวานรำพันจนอดไม่ได้ที่จะตอบกลับการเกี่ยวกระหวัดพันของกันและกันไป ไอ้แทนถอนเรียวลิ้นกัดริมฝีปากบนล่างที่เผยอเปิดอย่างหยอกเหย้า ดูดขบราวกับว่ามันเป็นอาหารรสชาติโอชะที่ไม่อยากละจาก แต่มันก็ฝืนดันตัวออกห่างผม แล้วหมุนตัวเอื้อมแขนยาวๆไปปิดเตาแก๊สกระป๋องที่กำลังต้มน้ำซุปจนเดือดพล่านไม่ต่างอะไรกับอารมณ์ของพวกเรา

“อ้าวปิดทำไม ไม่กินต่อเหรอ” ผมท้วง น้ำแม่งกำลังเดือดได้ที่เลย ทันทีที่ผมแย้งมันก็หันมาทำหน้าเครียดมองผม

“พี่กำลังโคม่านะ”

“หา?” โคม่า? โคม่าอะไรวะ กูเห็นแต่มาม่าเปียกโคชูจังเนี่ยแหละที่กำลังจะอืดคาหม้อ

“ผมต้องพาพี่ไปฉีดยากันบาดทะยักเดี๋ยวนี้” ว่าจบตัวผมก็ถูกยกลอยหวือ มาถึงจุดนี้กูรู้เลยครับว่ากำลังจะโดนทำอะไร

“ฉะ...ฉีดยา มึงจะฉีดเข้าตรงไหน แล้วใช้อะไรฉีดกู” เชื้อซื่อบื้อเข้าแทรกสมองกูเลยครับ

“ขนาดเข็มพี่เคยเห็นแล้ว คิดว่าไม่น่ากลัวอะไรแล้วนะครับ”

“ตะ...แต่มันจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอ่ะดิ” ฮือออ กูร้องไห้ในใจ

“ไม่เป็นไร ผมจะค่อยๆหาจุดแล้วแทงเข้าไปให้พี่รู้สึกดีแบบลืมความเจ็บไปเลย” ผมกำลังถูกอุ้มเข้าสู่ลานประหาร โดยมีเพชฌฆาตหน้าหล่ออย่างไอ้แทนเดินปร๋อไปส่งถึงที่



จบตอนต้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 17:41:39 โดย sakutaka »

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
{Shall I be your husband?} พี่ครับผมขอเป็นสามีพี่ได้มั้ย? Special:ตอนท้าย


[แทน สุรบถ]

ขอแก้ข่าวหน่อยละกัน ใครที่คิดว่าผมกับพี่ไทม์มีอะไรกันตอนหลังกลับจากร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดวันนั้นคิดผิดคิดใหม่ได้ครับ

ใครๆก็รู้ว่าการเป็นฝ่ายรับมันจะเจ็บมากหากไม่มีการเตรียมความพร้อมหลายๆอย่างให้ดี

แต่วันนี้บอกได้เลยว่า


ผม...


พร้อม...


แล้ว...


ทุกวันนี้ที่ไปๆมาๆห้องพี่ไทม์ก็เพื่อสั่งสมของจำเป็นไว้ที่ใต้ลิ้นชักหัวเตียงนั่นแหละครับ หัวเตียงที่ร้างลาการเก็บของเพราะทุกวันนี้ก็เห็นแต่พี่ไทม์ไว้ใช้วางมือถือ บัดนี้มันได้กลายเป็นคลังแสงขนาดย่อมของผมไปแล้ว โดยเจ้าของห้องไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมเก็บซ่อนอะไรไว้

ผมค่อยๆวางพี่ไทม์ลงเตียง บอกเลยว่ารู้สึกลิงโลดยิ่งกว่าอุ้มเจ้าสาวเข้าหอเสียอีก แต่เดี๋ยวก่อน...ก่อนที่ผมจะทำอะไรกับพี่ไทม์...

ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกเบอร์ที่ตั้งไว้ให้เป็นเบอร์สำคัญก่อนแนบหูฟังเสียงรอสายอยู่นาน จนได้ยินเสียงตอบรับจากปลายทาง

“สวัสดีครับ ผมแทนนะครับ”

“ไอ้แทน มึงโทรหาใครวะ” ได้ยินเสียงพี่ไทม์ดังมาแว่วๆ แต่ผมต้องสนใจกับเรื่องตรงหน้าก่อน

“สบายดีครับ คือผมโทรมามีเรื่องจะบอกคุณแม่เรื่องนึง”

“คุณแม่?”

“วันนี้ผมขอลูกชายคุณแม่นะครับ! จากนี้ไปผมสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณครับ!” กดวางสายแล้วหนีหายตามระเบียบ โอเคหมดไปหนึ่งภารกิจ ถอนหายใจหนึ่งวืบ ก่อนเหลียวมาเจอสายตาตื่นๆของแฟนผม

“มึง...”

“ครับ”

“มึงโทรหาแม่กูเหรอไอ้เชี่ยแทน!!” มาเลยครับทั้งตีนทั้งหมัด พี่ไทม์โวยวายอาละวาดทันทีที่รู้ว่าผมโทรหาคุณนายศศิประภาตามที่คนตรงหน้าชอบเรียกนั่นแหละ เบอร์นี้คุณแม่ยายเขาให้ผมไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน แล้วผมก็เห็นสมควรแล้วว่าผมควรโทรบอกผู้ปกครองพี่ไทม์ว่า ผมกำลังจะได้อีกฝ่ายมาเป็นเมียแล้วนะ แต่ที่รีบวางก็มีสาเหตุเดียวนั่นแหละคือผมกลัวคุณชลาศัยมาได้ยินเสียก่อนจนสติหลุดบุกมาถึงหอ เพราะฉะนั้นผมไม่ควรจะรีรอแล้วล่ะ

“พี่ไทม์ใจเย็นก่อนสิครับ ถ้าไม่รีบทำตอนนี้เดี๋ยวพ่อพี่ไทม์โผล่มาจะแย่เอานะครับ” เฮ้ย!ตีน เหวี่ยงมาเกือบหน้าแหก ผมอาศัยความไวกว่าคว้าแล้วตรึงไว้กับเตียงก่อนเหวี่ยงทั้งตัวขึ้นทับท้องพี่ไทม์แล้วล็อคแขนทั้งสองข้างเอาไว้ ทำไมท่านี้แม่งเหมือนตอนที่ปราบพยศแฟนผมตอนที่เดินตากลมใส่ขาสั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดเฮียเม้งวันนั้นเลยวะ

“เชี่ยแทน ไอ้บ้า ทำอะไรไม่ปรึกษา มีอย่างที่ไหนโทรไปบอกพ่อแม่กูว่าจะมีอะไรกันวันนี้ ไอ้สัด ไอ้เวรเอ๊ย” อย่าคิดว่าผมจะสะทกสะท้าน กับไอ้หน้าหวานๆที่หลุดคำหยาบออกมา เจอตั้งครึ่งปีกว่าไม่ชินก็บ้าแล้วแหละ

“แล้วทำไมผมต้องคิดมากด้วยวะ กับแค่โทรหาพ่อแม่พี่”

“กะแค่โทรหาพ่อแม่กูบ้าบออะไรวะ นี่มันเรื่อง เรื่อง โว้ยยย” ไอ้หน้าที่ว่าแดงเนี่ยไม่รู้โกรธ อาย หรือเป็นลมแดดกะทันหัน พี่มันหันหน้าไปทางอื่นแบบเบื่อจะมอง แล้วทุบเตียงระบายอารมณ์เป็นการใหญ่

“ทำไมผมจะโทรหาพ่อแม่พี่ไม่ได้ ในเมื่อผมจริงจังกับพี่น่ะ” เกือบจะประท้วงแทนสิทธิ์ของเตียงนอนที่มันทำหน้าที่เสียสละรับน้ำหนักเราทุกวันแถมยังจะต้องมารองมือรองตีนพี่ไทม์ซะแล้ว ถ้าแฟนผมไม่ถ่านหมดไปเสียก่อน มือที่ตีเตาะแตะอยู่เมื่อครู่ทิ้งตัวลงไปวางข้างกายแต่ยังไม่คลายหมัดออก พี่มันยังหันค้างทำท่าทางเหมือนนอนตกหมอน ส่วนลมแดดก็ลามมาตรงคอจนถึงใบหู

“ไอ้เชี่ยแทน” อ่าวโดนด่าอีก มีวันไหนที่พี่ไทม์จะเรียกผมด้วย ‘แทน’ ‘น้องแทน’ ‘ดาร์ลิ้ง’ ‘ฮันนี่’ บ้างมั้ยครับ วันนั้นผมจะ...เอิ่ม ไม่ได้รีบไปทำบุญนะ แต่จะพาพี่มันไปโรงพยาบาล

“สุภาพกับผมหน่อยสิ” เป็นห่วงอาการฉิบเป๋ง ไอ้ที่ไม่ยอมมองหน้าผมช่างมันเถอะ แต่ไม่ที่นิ่งไปเหมือนไหลตายเนี่ย ต้องขยับเข้าไปดูอาการซะหน่อยแล้ว ขณะที่ผมคืบคลานจนมือเกือบจะเอื้อมไปถึงใบหน้าขาว เสียงแผ่วๆของแฟนก็ทำผมชะงัก

“มึงทำกูเขิน” พี่ไทม์ยกมือขึ้นมาปิดปากเก็บอาการไว้สุดกำลัง เฮ้ยอย่างนี้มันยิ่งปล่อยผ่านไม่ได้ ให้ตายผมก็ขอเห็นเป็นบุญตาซักครั้งนึงในชีวิตเถอะ การกระทำไปไวกว่าความคิดเสมอ ผมเอื้อมมือไปจับแขนผอมพยายามจะดึงให้หลุดออก แต่แล้วคนข้างหน้ากลับเสริมกำลังด้วยมืออีกข้าง คราวนี้มาแบบปิดหน้าไม่เหลืออะไรไว้กูมองเลย ผมยื้อพี่ไทม์ยุดฉุดกระชากจนร่างเสียการทรงตัวจากที่นั่งอยู่เลยหงายตึงลงเตียงไปทั้งคู่ แล้วจู่ๆจังหวะนี้แหละที่ผมใช้แรงดึงมือออกจากหน้าพี่มันได้

...เชี่ยเว้ย หน้าแดงเป็นขบวนการห้าสีเลย แถมยังมีน้ำตาคลอเบ้าให้ใจกูสั่นเล่นอีก

“ไอ้สัด อย่ามองดิวะ” พี่ไทม์หันหน้าหลบ แม้แต่คำหยาบตอนนี้แม่งยังรื่นหูสำหรับกูเพราะหน้าหวานๆของพี่มันเลย

“ให้ผมมองเถอะ”

“หน้าตากูตอนนี้น่าเกลียดเถอะ”

“พี่เอาอะไรมาพูด” น่ารักฉิบหายต่างหากล่ะ

“ไอ้เดย์มันเคยบอก ตอนกูโดนเพื่อนที่คณะมันแกล้ง กูแม่งทำหน้าแบบเนี้ยะ อารมณ์แบบเนี้ยะออกไป เสือกโดนไอ้เดย์แม่งด่าว่าหน้าตาเหมือนหมาออกลูก หลังจากนั้นกูแม่งก็พยายามไม่ให้เจอสถานการณ์แบบนี้อีก กูกลัวหมดหล่อว่ะ” ไม่มีความหล่อเลยเหอะมีแต่ความน่ารัก น่ารักแบบยกกำลังล้าน เชี่ยลูกเสี่ยอู๊ดโคตรกู๊ดจ๊อบ พี่มันรู้ว่าพี่ไทม์ทำหน้ายังไงถึงได้กันหมาไว้ไม่ให้เข้ามาใกล้แรงดึงดูดนี้อ่ะดิ กูพึ่งรู้สึกขอบคุณพี่มันก็วันนี้

“เพื่อนพี่แกล้งอะไรพี่” นี่แหละคือประเด็น กูหึงอดีตพี่มัน ทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นไปวะ ถ้ากูรู้ กูจะไม่เว้นเลย

“มันจี้เอวกู”

“พี่ไทม์บ้าจี้”

“เออดิวะ เชี่ย!!” กูทดลองเลยครับ เอานิ้วจิ้มเอวแม่งเลย สะดุ้งโหยงยิ่งกว่ากิ้งกือโดนไม้เขี่ยอีก

“หึ บ้าจี้จริงๆด้วย”

“สัดแทน มึง” มือขาวกระชากคอเสื้อผมอย่างมีน้ำโห แต่มีเหรอที่ผมจะยอมเลิกหยอกพี่มันง่ายๆ มือผมกลายร่างเป็นปูไต่ไปทั่วเอว รักแร้ ท้องแขน และลำตัวจนพี่ไทม์ชักดิ้นชักงอไปมา “เชี่ยแทน ปะ ปล่อย โอ๊ย ฮ่ะฮะ ปล่อยกู พอดิวะ แฮ่ก กูจั๊กจี้ อะโอ๊ยยๆๆๆ” ท้ายประโยคมาแบบเจ็บปวดจนผมต้องหยุดมือทันควัน เฮ้ยนี่กูไปจี้แผลร้อนในพี่มันเข้าให้หรือวะ แต่เปล่าเลยขาที่โดนแก้วบาดต่างหาก มันขยับจนไปกระแทกกับพื้นเตียง ต่อให้นุ่มขนาดไหน แผลสดใหม่กระแทกอะไรก็เจ็บอยู่ดี

“เฮ้ยพี่เป็นไรมากเปล่า” ถอยกรูดมาดูอาการเท้าแทบไม่ทัน คราวนี้น้ำตาที่ปริ่มคงไม่ใช่มาจากอายแล้วล่ะ มาจากความเจ็บตรงตีนพี่มันเนี่ยแหละ

“เจ็บเชี่ย พึ่งมาเป็นห่วงกูเหรอ ตอนเล่นเสือกไม่คิดนะ”

“ก็ผมอยากเห็นหน้าพี่อย่างที่พี่เดย์ว่า”

“มึงกำลังล้อหน้ากูใช่มั้ย” โหย โกรธระดับสิบห้าคือการหยามขี้หน้าว่าไม่หล่อเนี่ยแหละครับ

“เปล่าซะหน่อย แค่อยากเห็นหน้าหมาออกลูกซักครั้ง ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีประสบการณ์เลย”

“ไอ้เชี่ยแทน ไอ้เด็กปีนเกลียว โอ๊ยๆๆๆ” ปราบม้าพยศต้องเอาแซ่ฟาด ส่วนปราบพี่ไทม์ก็ต้องซ้ำลงที่แผลนั่นแหละเห็นจะได้ผลที่สุด คนเราจะทำการใหญ่ใจต้องเหี้ย...เอ๊ย เหี้ยม ถ้าไม่ซาดิสม์วันนี้แล้วจะได้เป็นผู้ใหญ่อีกทีวันไหน คติพจน์ประจำใจผม “มึงกดแผลกูทำไม!”

“อ้าว มือผมไปโดนเหรอ” ตอแหลสัดเลยกู

“ก็เออดิวะ ไอ้เดือนวิศวะหน้าหมา” ทำไมคราวนี้ความหมาเสือกมาตกที่ผมล่ะ

“ขอโทษครับ ไหนมาดูหน่อยซิ โถโถคงเจ็บหน้าดู”

“ไม่ต้องแล้วเว้ย” พี่ไทม์ชักเท้ากลับ แต่มีเหรอว่าผมจะปล่อย หลังจากที่เท้าน้อยๆหลุดออกไปผมก็พุ่งตัวเข้าใส่คนตรงหน้า อาการสาวแตกแม่งมาเลยครับ อกผมโดนทั้งดันและทุบส่วนตัวพี่ไทม์ก็ลงไปนอนจุ้มปุ๊กกับเตียงโดยมีผมตามไปร่วมเคียงเรียงหมอน จมูกพวกเรากระทบกัน โชคยังดีที่ฟันไม่พุ่งใส่ไม่งั้นคงได้มีบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นเป็นแน่ ตอนนี้ร่างข้างใต้แน่นิ่งมองผมตาแป๋ว อาการพี่มันเหมือนคนกลั้นหายใจ คงจะตื่นกลัวพอสมควรกับการจู่โจมแบบกะทันหัน

“เมื่อกี้พี่บอกว่าผมเป็นพ่อหมา”

“กะ...กูบอกว่าเป็นหมาเฉยๆ”

“ส่วนตอนนี้ผมแม่งอยากจะเห็นหน้าหมาออกลูกแล้วว่ะ ผมทำพี่ท้องได้เปล่าวะ”

“ไอ้เชี่ยแทน มึง”

“แต่ก่อนทำหมาท้องต้องขอขังหมาไว้ในปากพี่ซักระยะนึงก่อนนะ” ตะกร้อครอบปากไม่ต้อง ระดับนี้แล้วมันต้องใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันมันถึงจะหนำใจ ผมเอียงศีรษะออกด้านข้างแล้วประกบกลีบปากบางอย่างจัง องศาเป๊ะเว่อร์ แบบแนบกับความนิ่มอิ่มนุ่มทุกตารางนิ้ว คงมีคนคิดว่าผมกลัวไซบีเรียนฮัสกี้ กับยอร์คเชียร์เทอร์เรียของพี่ไทม์จะหาย แต่เปล่าเลยความละมุนของริมฝีปากบางที่อยู่ตรงหน้าต่างหาก มันทำให้ผมหลงมัวเมาจนเรียกร้องจะเอาอีกแทบทุกครั้ง

“อื้อออ” เสียงร้องประท้วงพลางทุบตุบๆที่ต้นแขนรู้เลยว่าพี่ไทม์มันเอาอีกแล้ว ผมเลยต้องจำยอมถอนหน้าออกมา

“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้หายใจทางจมูก”

“ก็มันชินนี่หน่า” ร่างข้างใต้หอบแฮ่ก หน้าเนี่ยรื้นแดงน่ามองแถมมีน้ำตาคลอเล็กๆ

“ถ้ายังทำไม่ได้ซักที ผมคงต้องฝึกพี่ทุกวัน วันละสามเวลา”

“ไอ้ห่านแทน แค่ทุกวันนี้มึงก็จูบกูมากพอแล้วนะ ตื่นเช้ามาก็ทำ ก่อนนอนมึงก็จัด จะเอาให้กูปากเปื่อยเลยมั้ย”

“ก็ยังไม่เห็นเปื่อยอะไรเลยนี่” มือผมยกขึ้นประคองแก้มใส ส่วนนิ้วโป้งก็ยกขึ้นเกลี่ยกลีบปากคนตรงหน้าเล่นอย่างชินมือ รู้เลยว่าเจ้าตัวหายใจติดขัดทันทีที่เจอการกระทำนี้ แม่งโคตรน่ารัก

“กูไม่ชิน”

“ไม่ต้องชินก็ดี”

“มึงจะเอายังไงกันแน่วะ”

“ผมจะได้รู้สึกว่าพี่ตื่นเต้นทุกครั้งที่ทำกับผม” ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งชันเข่าพลางดึงร่างที่นอนราบให้ตามขึ้นมาด้วย คนที่ถูกแรงดึงกะทันหันเสียศูนย์จนเอนมาซบอกผม คราวนี้ร่างกายของพวกเราแนบชิดกันยิ่งกว่าตอนเมื่อครู่ จนผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้มโครมครามแต่ผมเดาไม่ได้ว่ามาจากใครเลยก้มลงไปมองคนที่งุดหน้านิ่ง “พี่ไทม์” ร่างในอ้อมอกกระตุกเล็กน้อยก่อนเงยขึ้นมาช้าๆ ผมถึงกับละสายตาไม่ได้ แม่เจ้าโว้ยมีใครจะอายได้น่ารักเหี้ยๆขนาดนี้อีกวะ ผมบอกเลยว่าไม่!

“กูตื่นเต้นจริงๆแล้วนะ”

“ไม่ใช่แค่พี่หรอก พวกเราทั้งคู่ต่างหาก”

“กูต้องทำยังไง” พี่ไทม์ถามอ้อมแอ้ม แก้มแดงๆกับการหลบสายตาทำให้น่าฟัดเพิ่มขึ้นอีกเป็นล้านเท่า

“เชื่อใจผม ทำตามที่ผมบอก” ร่างบางพยักหน้าน้อยๆ ก่อนทำใจกล้าช้อนสายตามองผมอีกครั้ง “อ้าปากครับ ให้หมอดูหมาหน่อย”

“ไอ้บ้า” พี่ไทม์ยิ้มจนแก้มยกหันหลบสายตาแล้วเวียนกลับมามองผมใหม่ เจ้าตัวดูลังเลแต่ก็ยอมขยับริมฝีปากอ้าน้อยๆ เสียงอาในลำคอให้อารมณ์เหมือนมาหาหมอตรวจคอเพราะเป็นหวัด

“คราวนี้หายใจทางจมูกนะอย่าลืม” เมื่อได้รับสัญญาณเป็นการพยักหน้า ผมก็ไม่รอช้าใช้มือบรรจงช้อนคางพลางแนบกลีบปากลงไป รสจูบพี่ไทม์ยังคงหวานละมุนละไมและเติมเต็มจิตใจผมได้เสมอ จุมพิตแบบเนิบนาบไม่เร่งร้อนสร้างความโล่งใจให้อีกฝ่าย พอพี่ไทม์ผ่อนคลายลงผมจึงเริ่มขยับมือช้อนสันกรามใช้นิ้วโป้งเกลี่ยแก้มใส ควบคุมองศาการจูบให้แม่นเหมาะมากขึ้นเพื่อเร่งระดับความเร่าร้อนของพวกเราให้เท่าทวี บดเบียดช่องว่างทุกพื้นที่ไม่ให้มีความห่างเหิน พลางเติมเต็มด้วยการขบเม้มดูดดึงริมฝีปากบนล่างของร่างบางอย่างหมั่นเขี้ยว

“อื้อ” เสียงฮืมฮัมอยู่ในลำคอขาวทำให้ผมแอบเปิดตามองพี่ไทม์โดยเจ้าตัวไม่นึกรู้

อย่างนี้ล่ะนะ เข้าถึงว่าหล่อหวานสังหารใจชาย ผิวขาวละมุนของพี่ไทม์กอปรกับเปลือกตาบางที่หลับพริ้มบดบังแก้วสีน้ำตาลเข้มที่ผมเคยเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไหนจะยังแพขนตายาวกับคิ้วที่ขมวดมุ่นราวกับตั้งใจในการจูบครั้งนี้มากกว่าครั้งไหนๆ เห็นอย่างนี้แล้วใครว่าพี่มันหน้าตาอัปลักษณ์ หรือเป็นหมาคลอดลูก ผมให้โอกาสคิดใหม่หรือไม่ก็ให้ตังค์กูไปตัดแว่นเลยเอา

พวกเราจูบกันยาวนานได้มากกว่าเก่าเพราะเหมือนพี่ไทม์จะเริ่มชำนาญการหายใจทางจมูกมากขึ้น ปากที่เผยอเปิดอย่าเงอะงะทำให้ความชุ่มชื้นของต่างฝ่ายต่างถ่ายทอดถึงกัน เสียงความเหนอะหนะของน้ำลายจุดชนวนอารมณ์ลามกเล็กๆ จนอยากจะสัมผัสลงลึกให้มากกว่านี้เลยขยับความอ่อนนุ่มที่อยู่ด้านในไล้เลียข้ามไปยังกลีบปากบางที่อ้าเผยอลอดผ่านแนวฟันจนเชื่อมต่อถึงกันในที่สุด

“ฮื้อออ” มีเพียงช่วงสั้นๆที่พี่ไทม์เปิดเปลือกตาขึ้นมาทำท่าจะถอยหลังต่อต้าน แต่ผมกลับรวบข้อมือบางไว้เสมออก ขยับมืออีกข้างไปรองท้ายทอยขาวดันใบหน้าหวานให้ตามติดจังหวะดีปคิสของผมได้มากขึ้น ความอ่อนละมุนเหมือนพยายามหลบลิ้นสากอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ต้องคลายทิฐิด้วยการยอมสัมผัสเกี่ยวกระหวัดกันและกัน และในบางจังหวะนั้นที่ผมถอยห่างร่างบางกลับเป็นฝ่ายตามติดรูดเรียวลิ้นอย่างดึงดันจนทำผมแปลกใจ

พี่ไทม์แม่งน่ารักชะมัด ใครจะไปรู้ว่าเรื่องบนเตียงนั้นมีส่วนสำคัญที่อาจทำให้ชีวิตคู่เลิกลากันหรืออาจทำให้อยู่ติดกันได้อีกยาว จังหวะรับและรุกของพวกเราเข้ากันอย่างมากมายเกินกว่าที่ผมเคยจินตนาการไว้ ยามที่ผมถอยอีกฝ่ายจะพยายามเข้ามารุกไล่ ส่วนยามใดที่อีกฝ่ายละห่างผมก็จะตามไปเก็บทุกหยาดหยด ความผสมปนเปของรสชาติรักสร้างสายธารความชื้นให้รินไหลมาตามมุมปาก ผมจูบซับตามพลางถอนเรียวลิ้นกดแนบกลีบปากลงไปเบาๆอีกครั้ง ก่อนถอยหน้ามามองคนในอ้อมกอดระยะประชิดที่บัดนี้ตาหวานเยิ้มเกินคำบรรยาย ริมฝีปากสีอ่อนที่ต่างฝ่ายต่างตะโบมจูบใส่กันกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงสดน่าขบกัดอีกรอบฉิบหาย

พี่ไทม์หายใจหอบ ใบหน้ายังกรุ่นไปด้วยอารมณ์โหยหาปรือตาทอดมองมาทางผม

“อกข้างซ้ายกูเจ็บ” เสียงเครือเบาราวกับจะขาดใจ สื่อไปถึงข้อมือเล็กที่ถูกผมรวบไว้ แรงกระทุ้งบางอย่างส่งผ่านมาตามสัญญาณชีพ จากอกข้างซ้ายของพี่ไทม์

“มากมั้ย”

“มาก” ผมปล่อยข้อมือทั้งสองให้เป็นอิสระ รวบเอวคอดเข้าหาตัว แล้วเริ่มสัมผัสบทรักร้อนแรงผ่านริมฝีปากที่พึ่งละห่างไป ใบหน้าหวานแหงนเงยจนสุดตามจุดที่ผมประคองตัวอยู่ เสียงหัวใจเต้นรัวผลักดันให้มือผมไล้เรื่อยไปแนบสัมผัสอกข้างซ้ายที่อีกฝ่ายบอกว่าเจ็บนักหนา

...ใจพี่ไทม์เต้นแรงราวกับจะหลุดออกมา...

หลังจากที่กดแนบแทรกลิ้น ตะโบมจูบดูดซับความหวานของกันและกันซ้ำๆ จนร่างทั้งร่างอ่อนระทวย ผมก็ฉวยข้อมือเล็กขึ้นมาจูบแนบชิดลงแอ่งชีพจรก่อนไล่มาประทับความอุ่นร้อนใต้คาง หอมที่ข้างแก้ม แล้วดูดกัดจนแดงที่สันกราม พลางกระซิบที่ข้างหู

“ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องกลัว”

“ไอ้แทน” แต่จู่ๆ มือเล็กก็ยกขึ้นขยำอกเสื้อเชิ้ตสีดำของผมราวกับจะหาเรื่อง หากการที่เชิดคางยื่นริมฝีปากบางเข้ามาใกล้มีแต่จะทำให้เข้าใจว่าอีกฝ่ายโหยหาในรสจูบของผม “มึงรู้ใช่มั้ย ว่ากูเป็นอะไร”

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอก”

“แต่...”

“พี่แค่กำลัง...มีความรัก” ถึงไม่ใช่หมอ แต่ผมก็พอวินิจฉัยได้ ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ตอนนี้ผมก็เป็นเหมือนพี่ไทม์โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ ใจผมเต้นโคตรรัวเวลาอีกฝ่ายตอบสนอง หรือทำตัวน่ารักจนแทบทนไม่ได้ “ขอผมรักพี่นะ”


มีต่อด้านล่างนะคะ

ออฟไลน์ sakutaka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ผมจัดการปลดกระดุมเสื้อคนตรงหน้าทีละเม็ดสองเม็ด มือผมสั่น โคตรกลัวว่าจะทำอะไรเงอะงะใส่พี่ไทม์เลยกัดฟันพยายามจนถึงเม็ดสุดท้าย ค่อยๆขยับสอดมือเข้าในสาบเสื้อเลื่อนผืนผ้าให้ตกจากไหล่ผอมๆมากรอมตรงข้อศอก ผิวขาวบนแผ่นอกเนียนละเอียดถูกเผยให้เห็นเต็มตาจนใจสั่น พี่ไทม์หายใจหอบกระชั้นหลุบสายตาก่อนเหลือบมองมาทางผม

“กูจะถอดให้มึงด้วย”

...เออ เอาไงเอากันวะ...

มือขาวเอื้อมมาจับกระดุมอย่างกล้าๆกลัวๆ บอกเลยว่าพี่ไทม์อาการหนักกว่าผมอีก ท่าทีแบบนี้มันทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมาน้อยๆ จนไปขัดใจใครบางคนเข้าให้

“หัวเราะอะไรวะ” เอาแล้ว ไม่น่าเลยกู งานนี้ได้มีฉุนผมหนักแน่

“เปล่าครับ ผมแค่นึกถึงคำพูดพ่อขึ้นมา”

“คุณมาณพพูดอะไร”

“พ่อชอบบอกว่าพี่ไทม์เป็นสันนิบาตทุกครั้งที่เล่นหมากรุกกับพ่อ คราวนี้เห็นจะไม่ ขนาดตอนรุกผมยังเป็นเลย ดูสิมือสั่นเชียว”

“ไอ้เชี่ยแทน มึงนี่!” ผมคว้ามือพี่ไทม์ไว้ได้ทันก่อนที่มันจะมาโดนหน้า แล้วบรรจงจับย้ายไปวางที่เดิม

“มา ผมช่วย” มือสองคนที่กอบกุมกันทำให้การถอดเสื้อเป็นงานที่ยากขึ้น หากแต่ช่วยบรรเทาความประหม่าไปได้โข จนในที่สุดกระดุมทุกเม็ดก็หลุดจากรัง ผมยืดตัวขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกจากร่างกายท่อนบนแล้วเหวี่ยงลงไปตรงพื้น พอหันมาอีกทีก็รู้สึกได้ถึงสายตาเป็นประกายจากคนตรงหน้า

“หุ่นน่าอิจฉาฉิบหายเลย” พี่มันบ่น

“ต่อไปนี้มันก็จะได้มาเป็นของพี่แล้ว” ผมกระซิบ เลื่อนมือไปโอบเอวบางสัมผัสเนื้อแท้แบบไม่ผ่านผืนผ้า เริ่มจูบไล่ตั้งต้นคอลงมาใหม่ ดูดพลางขบกัดสร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของทั่วทุกพื้นที่

“อะ ไอ้แทนมึง...อย่าดูดดิวะ เดี๋ยวเป็นรอย” ช้าไปแล้วครับ พี่มีรอยห่ายุงกัดรอบคอเลยล่ะตอนนี้

“ไม่เป็นไร ปิดเทอมแล้ว” ผมพูดปลอบใจ แต่ที่ไหนได้พี่ไทม์กลับโอบรอบคอแล้วโหนขึ้นตัวผม คราวนี้มาทั้งกัดทั้งจูบทั้งดูดทั้งกลืนอย่างกับลูกลิงหิวกล้วย ก่อนถอนหน้าออกมาทำปากงุ้มอย่างน่าเอ็นดู

“เอาคืนมึงมั่ง”

“เอาเยอะๆเลยก็ได้นะ” ยิ่งท้าก็เหมือนยิ่งกล้ามากขึ้น คนตัวเล็กกว่าขดขาเปลี่ยนท่ามานั่งพับเพียบแล้วใช้แรงสุดกำลังดันผมจนหงายหลังลงเตียง หลังจากนั้นก็เกิดเสียงก๊องแก๊งอยู่พักใหญ่กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเข็มขัดและกระดุมกางเกงผมก็ถูกปลด ซิบถูดร่นลงมาถึงครึ่ง โว้โว้โว้ ใจเย็นๆนะครับ

“หึ แล้วอย่าหาว่ากูไม่เตือน” จบประโยคมือบางเข้าตะโบมลูบไล้ส่วนอ่อนไหวใต้ผืนผ้าตัวจ้อยของผม เชี่ยเอ้ย นี่มันเหนือความคาดหมายไปเยอะเลยนะเนี่ย จากที่เคยมีอารมณ์จนก่อเป็นรูปร่างเล็กน้อยเลยกลายเป็นแข็งขึงต้านสัมผัสมือพี่ไทม์อย่างเต็มที่ ความจริงเจ้าตัวก็ไม่ได้มีท่าทีเชี่ยวชาญอะไร ออกจะเงอะๆงะๆไปเสียหน่อยด้วยซ้ำ แต่มันทำผมใจสั่นพร้อมทะยานไอ้แทนน้อยให้พรั่งพรูอารมณ์ออกมา แต่ทว่าผมไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้น คราวนี้ผมต้องได้เป็นผู้นำ ผมเลยสั่งการให้ขาสองข้างหนีบตัวพี่ไทม์ไว้แล้วกลิ้งตัวพลิกเกมส์กลับมาเป็นผู้นำใหม่อีกรอบ

ช่วงจังหวะที่ร่างข้างใต้ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ผมก็รูดกางเกงยางยืดพร้อมชั้นในให้เลื่อนลงต่ำจนความต้องการของพี่ไทม์ผงาดล้ำออกมา

“ฮืออเชี่ยแทน” พี่ไทม์ยกแขนขึ้นปิดหน้า ร้องโวยวายเป็นลูกแมวหย่านม เออ...มันจะเขินฉิบหายวายป่วงก็คราวนี้ ก็ดูสภาพพี่ไทม์มันดิแม่งโคตรเซ็กซี่ขยี้ใจ เสื้อเชิ้ตขาวที่หลุดรุ่ยมาถึงแขนแถมยังโชว์แผ่นอกที่เปิดให้เห็นแบบครบร้อยแปดสิบองศา ความขาวโคตรทำร้ายสายตาผมเลยกะว่าจะเปลี่ยนจุดมอง แต่พอขยับสายตาลงไปใจแม่งเสือกเต้นระรัวหนักกว่าเก่าเพราะเจ้าส่วนอ่อนไหว แกนกายของพี่ไทม์ที่ตั้งขึ้นมาแบบดูก็รู้ว่าอารมณ์ของคนตรงหน้ามาเต็มเปี่ยม

ผมไหวตัวทันก่อนที่คนใต้ร่างจะขยับขาเพื่อปกปิด เอาตัวเข้าสอดแทรก เลยทำให้ระยะของผมกับส่วนที่เอ่อล้นด้วยอารมณ์ของเจ้าตัวใกล้กันมากยิ่งขึ้น

“เชี่ยแทน มึงทำกูอาย” พี่ไทม์ร้องโวยวาย

“ไม่เห็นมีอะไรต้องน่าอาย ผู้ชายเหมือนกัน และอีกอย่างตอนก่อนหน้านั้นผมกับพี่ก็เคยเห็นของกันและกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ประโยคชวนให้คิดถึงอดีตในห้องเดียวกัน ณ คอนโดฟ้า มันเรียกเลือดขึ้นหน้าพี่ไทม์ได้ดีเชียวล่ะ

“ตอนนั้นกูไม่มีสติ!”

“แต่สมาธิ ปัญญา พี่มีเพียบเลยล่ะ ถึงว่ากว่าจะนอนหลับได้ช่วยกันทำให้อุ่นแทบตาย” เสร็จด้วยมือสาม เสร็จด้วยปากผมสอง แถมยังนอนกอดกันจนถึงเช้า แต่พี่มันไม่รู้หรอกเพราะผมตื่นก่อนแล้วตาลีตาเหลือกไปซื้อกับข้าวให้พี่มันไง

“ตะ แต่ตอนนั้นห้องมันมืดมั้ยล่ะ”

“ครับ มืดมาก” มืดแบบจะบอกว่า ‘แต่เราคลำหากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยไฟมา’ ก็ใช่ที่ ถ้าผมไม่เห็นขนาดนั้นแล้วมันจะมีปัญญาที่ไหนไปตะโบมจูบ ดูดจนพี่ไทม์แดงไปทั้งตัวได้ล่ะ

“จะอะไรก็ช่างเหอะ แต่ตั้งแต่เกิดมากูยังไม่เคยให้ใครดูยกเว้นพ่อกับแม่กูตอนเด็กๆเลยนะเว่ย”

“แต่ตอนโตคนที่จะได้ดูและถูของๆพี่ก็คือผมคนนี้เท่านั้นจำไว้เลยนะครับ”

“...!”

“จากนี้ไป เราสองคน คงได้ทำความรู้จักกันในแง่มุมนี้มากยิ่งขึ้น” มีใครบอกมั้ยว่าระหว่างที่พี่ไทม์คิดสมองมันจะปิดการรับรู้ทั้งหมด ผมทิ้งทั้งร่างลงไปในขณะที่อีกฝ่ายชันขา เริ่มรุกรานแผ่นอกขาวที่ยังไร้การแตะต้องตามที่ตั้งใจไว้ จูบซับความละเอียด ลูบไล้ความเนียนมือ สร้างความเปียกชื้นและรอยช้ำด้วยลิ้นและแนวฟันอย่างเหิมเกริม ป่ายปัดสัมผัสหยอกส่วนนูน...

“เชี่ยแทนมึงจับตรงไหนวะ!” ร่างกึ่งเปลือยตะโกนแย้งแต่ผมปล่อยผ่าน แล้วหันมาลูบไล้ตรงติ่งไตบนเนินไปมาซ้ำๆ “เชี่ย กูถามไม่ได้ยินหรือไง มึงจับตรงไหน ตรงนั้นผู้ชายเขาไม่รู้สึก..อ๊ะ!!” เอาดิ ไม่รู้สึกอีกก็ให้มันรู้ไป ผมก้มลงไปจัดการกับส่วนที่เล่นจนชินมือทั้งเลียและงับเบาๆอย่างหยอกเย้า ส่วนอีกข้างก็แกล้งทำทีเป็นป่ายปัดโดนไปมาจนร่างข้างใต้สะดุ้งขนลุกเกรียวไปทั้งตัว

“ยังไม่รู้สึก...อีกเหรอครับ” ผมถามทั้งที่ยังกระทำวนเวียนกับส่วนนั้น ซ้ำยังทำรอยประพรมไปทั่วตัวตามที่สัญญาในใจ จนร่างบางหอบแฮ่ก แผ่นอกขาวเนียนสั่นสะท้านตามรสสัมผัสและการป่ายปัดของมือผม

“ฮือ...รู้สึกแล้ว พอ พอที” ไม่ใช่ไม่อยากขัดใจอีกฝ่าย แต่สัมผัสเนียนละเอียดมันเรียกร้องให้ผมขยับกายไปจูบซับกระทำกับส่วนอื่น ประพรมไล่ลงมาตั้งแต่ใต้ราวนม หน้าท้องแบนราบ รอบสะดือและเหนือส่วนที่อ่อนไหว ก่อนจะกอบกำไว้ทั้งมือ ส่วนแข็งขึงของพี่ไทม์ต้านสัมผัสราวกับกำลังตื่นเต้น ผมเริ่มฟอนเฟ้นขยับขึ้นลงพร้อมก้มหน้าเข้าไปใช้ความหยุ่นนุ่มจากลิ้นสัมผัสส่วนปลายที่เริ่มปริ่มน้ำ เสียงหอบฮั่กของพี่ไทม์สร้างบรรยากาศให้ดูหวามไหว จนแกนกายกลางลำตัวผมไม่อาจต้านทานความรู้สึกเรียกร้องโหยหา มันเริ่มตึงและแสดงรูปร่างออกมาตามผ้าผืนน้อย

ผมจะบ้าตาย จะตายมันตรงนี้ ตายคาอกพี่ไทม์อยู่รอมร่อแล้ว

โพรงปากอุ่นร้อนเริ่มเข้าครอบครองส่วนแข็งขึงของคนขาว ร่างกายพี่ไทม์บิดเร้าราวกับโหยหาสัมผัสที่เคยเจอมาในอดีต มือเล็กที่กำผ้าปูที่นอนแล้วยังกรอมด้วยเสื้อเชิ้ตของตนถูกย้ายมาจับเส้นผมของผม

ยามที่ดูดดุนอย่างรุนแรงนิ้วเล็กจะออกแรงขยำ ส่วนยามที่เล้าโลมอย่างทะนุถนอมร่างบางจะลูบไล้ไปตามศีรษะและเส้นผมอย่างอ่อนโยน พอรู้ว่าคลื่นอารมณ์ของคนข้างใต้ถูกบังคับได้ด้วยสัมผัสของผมมันก็แอบลิงโลดในใจ อยากจะปรนเปรอให้อีกฝ่ายมีความสุขที่สุด

“อะ...ไอ้แทน” เสียงอ่อนระทวยเรียกให้ผมแหงนเงยขึ้นไปมองใบหน้าชื้นเหงื่อกับดวงตาฉ่ำรื้นที่แสนเสน่หา หากไม่ลืมทำหน้าที่ตรงหน้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “ปะ...ปล่อยก่อน...กูจะออก” แค่นั้นแหละ ผมถอนออกจากปากตามคำสั่ง ปล่อยให้คนใกล้ออกทำท่าเจียนคลั่งเหมือนใกล้ตาย ก่อนขยับกายไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง

ถุงยางมีเป็นโหลส่วนเจลมีให้เลือกเป็นสิบๆกลิ่นปรากฏสู่สายตา คิดไปก็ให้อายตัวเอง ผมวิ่งเข้าวิ่งออกร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ในละแวกนี้เป็นว่าเล่น ด้วยเหตุที่ว่าผมไม่รู้พี่ไทม์ชอบกลิ่นไหน แบบบาง หรือมีตะปุ่มตะปั่มยังไง ผมกลัวพี่ไทม์จะไม่ชอบ เลือกไม่ถูกเลยซื้อมาเกือบหมด

“พี่ไทม์คือ...” จะหันไปถาม แต่พอเห็นอาการร่างบางเท่านั้นแหละผมเลยคว้าแบบสุ่มมั่วขึ้นมาไม่ละล้าละลัง แล้วรีบกลับไปยังที่เดิม

“กูจะออก” เสียงหอบหายใจ ดวงตาอาบน้ำจนรื้นใส ใบหน้าชื้นเหงื่อที่พาลให้เส้นผมสีน้ำตาลมาติดหน้าผาก ริมฝีปากล่างที่โดนกัดจนสีซีด และขาขาวที่ยกเข่าขึ้นเสียดสีบิดไปมา “เสียวท้องไปหมดแล้ว”

เชี่ยเอ๊ย แบบนี้มันเกินพิกัดความหวามแล้ว ผมคิดว่าผมคงทนได้อีกไม่นานหากยังเห็นสภาพแบบนี้ของพี่ไทม์อยู่เรื่อยๆ แต่ใจเย็นไว้ ผมต้องไม่รีบร้อน หากเจ็บครั้งนึงพี่ไทม์อาจจะจำไปจนวันตายและไม่ยอมให้ผมกอดอีกก็ได้ หายใจเข้าหายใจออกยุบหนอพองหนอ พองจัง พองแล้วโว้ยยย

“เอาออกไปก่อนครั้งนึงก็ได้หนิครับ” ผมขยับนิ้วไปเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากของอีกฝ่ายเบาๆ พลางทอดสายตามองอย่างอ่อนโยน ตอนนี้ผมมองต่ำไม่ได้ครับ มันจะทำให้ผมอารมณ์ขึ้น

“ก็มึงไม่ยอมทำให้กู จู่ๆก็ผละออกไป ละแล้ว...จะให้กูกล้าทำได้ยังไงล่ะ” ที่แท้ก็กั๊กไว้เพราะกลัวผมไม่พอใจนี่เอง ทีตอนนี้ล่ะเชื่อฟังซะ ผมเลยขยับไปจับเข่าอีกฝ่ายให้แยกออก ช่วงจังหวะนั้นพี่ไทม์ถึงกับหันหน้าหนี เจ้าตัวคงอายที่ต้องเปิดให้คนอย่างผมเห็น แต่ก็ทรมานเกินกว่าจะทนให้ร่างกายสั่นไหวต่อไปได้

“ผมขอโทษนะครับ” จบคำขออนุญาตผมก้มลงไปจัดการให้เสร็จ เล้าโลมไล้เลียดูดุนส่วนอ่อนไหวอย่างเร่าร้อน ร่างพี่ไทม์บิดเร้าอยู่ซักระยะก่อนกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาในที่สุด เสียงหอบหายใจของคนๆนึงดังก้องไปทั่วห้อง ส่วนผมได้แต่ปล่อยให้คราบน้ำรักไหลออกจากปากเตรียมพร้อมกระทำการขั้นตอนถัดไป โดยการคว้าขวดรูปยาวที่หยิบสุ่มมาจากลิ้นชักเปิดฝาเทของเหลวในนั้นออกมาใส่มืออย่างไม่นึกเสียดาย

ของเหลวขาวขุ่นปะปนกับกลิ่นอ่อนๆของสตอเบอร์รี่ให้อารมณ์โคตรฟรุตตี้สดใส แต่ผมไม่มีเวลาจะมาสนใจเรื่องอะไรแบบนี้หรอก ตอนนี้เรื่องของพี่ไทม์สำคัญที่สุดผมขยับตัวไปข้างหน้า เริ่มจับต้องขาขาวๆ ลูบไล้ผิวเนียนเคล้นคลึงสร้างความคุ้นเคยก่อนเลื่อนไปตามแนวจนถึงบั้นท้ายของอีกฝ่าย สอดแขนลอดใต้ขาช้อนกายขาวขึ้นพาดบ่าทั้งสองข้างจนร่างพี่ไทม์ลอยขึ้นเล็กน้อย

“อึก...” เหมือนเจ้าตัวจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง จึงกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางผินหน้าไปทางอื่น

“ถ้าไม่ไหวบอกผมนะ” น่าสงสารนะ แต่ผมก็สงสารตัวเองเหมือนกัน และก็ไม่อยากทำให้ร่างตรงหน้าต้องบาดเจ็บหรือหวาดกลัว ความคิดในหัวตีกันให้ยุ่ง ความย้อนแย้งนี้สั่งการให้ผมตัดทุกอย่างทิ้งแล้วก้าวต่อไปข้างหน้า เอาวะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

ผมเริ่มลูบไล้ฝ่ามือและปลายนิ้วลงไปยังผิวเนื้อส่วนที่ใกล้ช่องทางคับแคบ คลึงวนกระตุ้นให้ผ่อนคลายพลางปาดสิ่งหล่อลื่นซึ่งปะปนกับน้ำอารมณ์ของร่างข้างใต้ให้ไหลเลอะจนชุ่มชื้น ก่อนขยับสอดนิ้วมือที่เปรอะเปื้อนกลิ่นหอมหวานรุกล้ำเข้าสู่ภายในช้าๆ ขาที่พาดอยู่บนบ่าผมกระตุกช่องทางรักหดตัวบีบรัดราวกับนึกรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมกำลังล่วงล้ำอธิปไตยของตนจนผมไปต่อไม่ได้

“พี่ไทม์อย่าเกร็ง ผ่อนคลายนะครับ” เห็นทีจะไม่ไหว ร่างข้างหน้าไม่มีท่าทีว่าจะคลายความตึงเครียดนี้เลยสักนิด ผมพยายามนึกหาคำปลอบใจอยู่หลายนาที จนกระทั่งคิดไปถึงคราวก่อน คราวที่เราอยู่กันลำพังในห้องคอนโดฟ้า ครั้งที่แล้วมีแต่การปลุกเร้าส่วนอ่อนไหวไม่มีการสอดใส่ก็จริง แต่ผมก็ชำแรกแทรกเข้าตัวพี่ไทม์ไปได้ถึงสามนิ้ว แล้วทำไมคราวนี้... “เหมือนครั้งที่แล้วที่พวกเราทำกันไงครับ พี่ไทม์ยังทำได้เลย” ปลุกปลอบใจราวเก็บเด็กเล็กที่กลัวการกระโดดลงสระน้ำ แต่ร่างบางกลับส่ายหน้าอย่างแรง

“มันไม่เหมือนกัน”

“ทำไมครับ พี่อายผมเหรอ หรือไฟห้องสว่างไปผมจะได้...”

“เพราะครั้งนี้มึงเป็นแฟนกูแล้ว”

“...”

“ครั้งที่แล้ว กูยังนึกว่ามึงเป็นแฟนมายด์ นึกน้อยใจที่ไม่ได้เป็นคนที่มึงรัก กูเลยหึง...อยากจะทำให้มึงเป็นของกู” ร่างกายเลยปรับตัวยอมพร้อมทุกอย่าง หรือความจริงแล้วอาจจะเจ็บแต่ก็ยอมทนไม่บ่นออกมาเพราะกลัวว่าผมจะไม่พอใจ พี่ไทม์ของกูทำไมน่ารักขนาดนี้วะ! พึ่งรู้นะครับว่าอาการผิดปกติตอนนั้นเกิดจากสาเหตุที่ยัยฟ้าไปวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ทำให้พี่ไทม์เข้าใจผิดคิดว่าผมยังคบกับมายด์อยู่ ถ้ารู้อย่างนี้ทำให้หึงมากๆไปเลยก็คงดี

“แล้วคราวนี้ไม่อยากให้ผมเป็นของพี่แล้วเหรอครับ” แต่ผมอยากให้พี่เป็นของผมนะ อยากเจียนคลั่งแล้ว

“ความรู้สึกตอนนี้ของกู...มันเอ่อล้นจนกูกลัว พอมารู้ตัวว่าได้เป็นแฟนมึง มันกลับรู้สึก...มากขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนจะทนไม่ได้” ปากหมาๆมีน้ำตาลซ่อนอยู่ ความรู้สึกรักในแฟนจากที่มากอยู่แล้วกลับทวีพรั่งพรูจนผมต้องถอนนิ้วออกมาโถมตัวไปกอดคนข้างหน้า “อื้อ ไอ้แทน”

ผิวกายเราสัมผัสกัน เสียงหัวใจดังประสานก้อง “ผมรักพี่นะ รักจริงๆ” ไม่งั้นคงไม่ยึดติดกับคนตรงหน้ามานานถึงสองปีทั้งๆที่ไม่รู้จักอะไรเขาสักอย่างหรอก

พี่ไทม์สบสายตากับผมยกมือขึ้นประคองใบหน้าก่อนแนบจูบลงมาเบาๆ รอให้ผมสนองตอบด้วยการกดกลีบปากลงไปเน้นๆ ความรู้สึกอิ่มเอมใจจากรสจูบเปิดฉากให้ผมขยับมือลูบไล้ฟอนเฟ้นจากบนลงล่าง ลากผ่านแกนกายกอบกุมแล้วกระตุ้นอารมณ์พี่ไทม์อีกครั้ง ทันทีที่ความแข็งขึงเริ่มปรากฏจึงเลื่อนมือมาสลับเปลี่ยนกิจกรรมกับมือซ้ายสร้างความผ่อนคลายให้ช่องทางด้านหลังแล้วปรนเปรอความสุขสมให้ตรงแกนกายของคนข้างหน้า

“ฮะ อื้ออออ” สีหน้าและอารมณ์ของพี่ไทม์เปลี่ยนไป การสร้างความสุขให้พร้อมกับแทรกนิ้วมันได้ผล จนนิ้วผมหลุบหายเข้าไปด้านในได้ถึงสอง ผนังนุ่มหยุ่นตอดรัดสิ่งแปลกปลอมที่ควานหาจุดเร้ารัญจวนใจ จุดกระสันที่อยู่ในตัวพี่ไทม์

“อ๊ะ ฮือออตรงนั้น” เอาล่ะครับ ผมเจอขุมทรัพย์แห่งโอเอซิสแล้ว ผมกดซ้ำจุดที่ใครๆเขาว่ากันว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี ร่างข้างใต้บิดเร้าร้องครวญครางเสียงหวาน ก่อนผมจะถอนมือออกมาทั้งหมดเติมความชุ่มชื้นแล้วสอดแทรกเข้าไปอีกรอบ “ฮึก...อย่าตรงนั้นกู”

“ทำไมครับ”

“...” ร่างปากนอนนิ่งกัดปากไม่ยอมตอบ

“เสียวเหรอ”

“ฮือออ” โอ๊ย ไม่ได้อยากแกล้งให้ร้องไห้เลย แต่ดูเหมือนพี่มันอาย อายมาก จนร้องไห้ออกมา

การสอดแทรกด้วยนิ้วกอปรกับเล้าโลมส่วนหน้ากินระยะเวลาพอสมควร จนพี่ไทม์จวนจะออกอีกรอบ แต่คราวนี้ผมคิดว่าผมอยากจะไปพร้อมๆกันกับคนข้างหน้า จึงจัดการถอนมือลุกขึ้นมานั่งชันเข่า ปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ติดตัวแล้วกลับไปประจำยังตำแหน่งเดิมแบบไม่ต้องให้อีกฝ่ายรอ

ไม่น่าเชื่อว่าการแค่ได้ดูหุ่นขาวๆของพี่ไทม์ที่บิดเร้าครวญครางเพียงอย่างเดียวจะทำให้ร่างกายผมเป็นไปได้ขนาดนี้ ถุงยางที่วางกองอยู่ข้างกายถูกหยิบขึ้นมาสวมใส่ ผมลืมถามความสมัครใจของพี่ไทม์ว่าชอบแบบไหน แต่มาถึงขั้นนี้แล้วทดลองใช้จริงเลยดีกว่า เมื่อชโลมเจลจนชุ่มเสร็จจึงขยับกายเข้าหาอีกฝ่ายที่ยังนอนร้องไห้น้ำตาคลอ

“พี่ไทม์ พร้อมมั้ยครับ”

“มึงจะทำอะไรก็ทำมาเถอะ” เหมือนโดนผมทำร้ายเลยว่ะ แต่สิ้นเสียงคำอนุญาตผมกวาดเท้าพี่ไทม์ขึ้นพาดหัวไหล่พาสิ่งที่เป็นเปี่ยมด้วยอารมณ์ไปจดจ่อที่ปากทาง สิ่งป้องกันขนาดศูนย์จุดศูนย์สามเปรียบเหมือนผนังกั้นบางๆระหว่างเราทั้งคู่ไว้ ผมเริ่มดันตัวเข้าไปในร่างอีกฝ่ายเบาๆ ต้านทานใจอ่อนยวบเมื่อได้ยินเสียงร้องครวญครางอย่างหนักหน่วง

แรงต่อต้านตอดรัดมาทันทีที่ส่วนปลายเริ่มเข้าไปสัมผัส นี่แค่เริ่มต้นยังคับได้ขนาดนี้ แล้วสุดปลายทางผมไม่คลั่งตายเลยเหรอ มือที่ว่างอีกข้างของผมเหมือนรู้งานเลยขยับขึ้นไปเร้าอารมณ์พี่ไทม์ใหม่ ร่างข้างใต้หอบหายใจจนแผ่นอกขาวกระเพื่อม

“เชี่ยแทน...กูเจ็บ” เสียงโอดครวญเล่นเอาความต้านทานทลายลงไม่เป็นท่า นี่พึ่งผ่านมาได้ครึ่งทางเองนะ แล้วอีกครึ่งทางของผมล่ะต้องทำยังไง สุดท้ายผมเลยต้องกลับหันไปหาตัวช่วยที่ทำให้อะไรๆมันลื่นไหลได้ดีขึ้น

“พี่ไทม์ อย่าเกร็ง ค่อยๆผ่อนแรง เชื่อผม” ร่างข้างใต้พยายามทำตามสิ่งที่ผมนำอย่างเชื่อฟัง มันทำให้ผมอารมณ์ขึ้นอีกรอบ คนอะไรวะน่ารักชะมัด เชี่ยกูชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย

“เชี่ยแทนมึง...อึก...” อ้าวเฮ้ย ผมยังไม่ได้ขยับเลยนะ มันเกิดอะไรขึ้นวะ “อย่าใหญ่ไปกว่านี้จะได้มั้ยวะ”

...พี่ไทม์ก็อย่าน่ารักไปมากกว่านี้ได้มั้ยครับ...ของๆผมมันแปรผันตรงกับความน่ารักของพี่

“โอ๊ยๆๆ” คราวนี้เป็นเสียงผมเองครับ เพราะร่างข้างใต้เล่นเอื้อมมือมาหยิกบนต้นแขนของผมอย่างไม่ออมมือ

“กูบอกอย่าใหญ่ อื้อ!!” ชโลมชะเลิมอย่างมีศิลปะอะไรไม่ทำแล้ว ผมราดมันเลยครับ ก่อนที่ต้นแขนผมจะโดนจิกเละไปมากกว่านี้ ตอนนี้ผมเองก็แทบหายใจไม่เป็นจังหวะ ส่วนคนข้างล่างก็เริ่มพูดไม่เป็นภาษา ได้แต่ตะโกนบอกว่าช้าๆเตือนสติผม

“อึก...อือ” เสียงครวญครางทรมานเหมือนจะเบาลงเมื่อผมอาศัยจังหวะเนิบนาบเริ่มฝังร่างเข้าไปอีกครั้ง หากต้องแลกมากับการกัดริมฝีปากตัวเองจนช้ำอดกลั้นอารมณ์ที่เจียนคลั่งไว้

“อีกนิด จะสุดแล้ว” ผมหอบหายใจถี่หนัก เหงื่อหยดเป็นเม็ด ไม่น่าเชื่อว่าการกระทำนี้มันเหนื่อยเสียยิ่งกว่าวิ่งมาราธอน เพราะใจผมแม่งอยากจะให้ถึงเส้นชัย แต่ฝืนวิ่งเร็วต่อไปคงไม่พ้นขาแพลงจนล้มลงกลางทาง

“สะ...สุดยัง” ร่างบางครวญครางร้องถาม เอิ่ม...เมื่อกี้ได้ข่าวว่าขยับไปได้แค่สองมิลเองครับ

“ยังครับ...อีกนิดนะ อีกประมาณเซนต์ครึ่ง”

“แทน ถ้ามึงมีเวลาเอาไม้บรรทัดมาวัด มึงก็รีบขยับเข้าให้สุดได้มั้ย กูอึดอัดจะตาย...อะอ๊า!!” เดี๋ยวขอเร็ว เดี๋ยวขอช้าจนผมจะเอาใจไม่ถูกแล้วนะ แต่ถ้าให้ใส่หนักๆโอเคผมจัดให้

“สุดแล้วครับ” ตามที่ขอ หากแต่ร่างข้างใต้นิ่งไปจนผมใจเสียต้องรีบโน้มตัวลงต่ำไปประคองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนน้ำตาเป็นการใหญ่ “พี่ไทม์” อย่าเป็นอะไรไปนะผมขอ ร่างโปร่งปรือตาขึ้นมามองต่ำลงไปยังส่วนที่เชื่อมต่อกันของพวกเรา

“ฮือ” เอ๊า ร้องไห้อีกแล้ว

“เป็นอะไรครับ เจ็บเหรอ เจ็บมากมั้ย ผมยังไม่ขยับนะ ไม่ต้องกลัว”

“เปล่า กูแค่ดีใจ”

“...”

“มึงเป็นของกูแล้ว” โอ๊ยให้ตายเถอะ เกินเยียวยาแล้วว่ะใจผม

“ใช่ครับผมเป็นของพี่แล้ว แล้วตอนนี้ผมก็จะทำให้พี่เป็นของผม ทำให้พี่รู้สึกดีมากขึ้นกว่านี้” ผมก้มลงไปกดจูบริมฝีปากสีสดบดเบียดแลกลิ้นและชิมความหวานอีกครั้ง ประคองใบหน้าประทับรอยแห่งความรักที่เปลือกตาบาง ก่อนจับมือทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนไหล่

“จับไหล่ผมไว้ ถ้าเจ็บก็จิกลงมาเลยไม่ต้องเกรงใจ” พี่ไทม์พยักหน้าน้อยๆเหมือนเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ก็แน่ล่ะ ความบางของสิ่งที่กั้นระหว่างผนังนุ่มหยุ่นกับตัวตนผมมันมีน้อยเสียจนเหมือนไม่ได้ใส่อะไร ภายในพี่ไทม์ร้อนระอุบีบรัดจนพาลคิดไปว่าถ้าไม่ขยับ ผมอาจจะตายในไม่ช้า

ผมเริ่มจังหวะถอนกายออกมาจนเสียงร้องครวญครางดังขึ้น ชโลมเจลหล่อลื่นซ้ำ ก่อนขยับเข้าไปใหม่อย่างใจเย็นเพื่อกันช่องทางด้านหลังฉีกขาด ปลายทางข้างหน้าแอบคับแคบไปนิดจนผมเริ่มเจ็บ

“พี่ไทม์ อย่าเกร็งนะครับ ผมไปต่อไม่ได้” มือผมพยายามเคล้นคลึงสะโพกอีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง คิดหาจุดที่ทำให้รู้สึกแล้วกระแทกกระทั้นลงไปจนเสียงครางเหมือนขาดใจดังขึ้น

“อ๊าอ๊า” หยาดน้ำเริ่มปริ่มส่วนปลายอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าตนเองกลับมาทำให้อีกฝ่ายมีความสุขได้ จึงเริ่มจังหวะรักสอดใส่เข้าไปอย่างคงที่ เล้าโลมร่างข้างใต้ด้วยทุกกระบวนท่าที่มี จนร่างกายอีกฝ่ายเคยชิน ก่อนเปลี่ยนเป็นเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงเฉอะแฉะเหนอะหนะของแรงกระแทกที่วนเวียนในโสต สร้างความรู้สึกให้พุ่งทะยานถึงขีดสุด แรงจิกเล็บบนแผ่นหลังไม่ใช่มาจากความเจ็บ เพราะสีหน้าของพี่ไทม์ดูเสียวซ่านพึงพอใจในรสสัมผัสอย่างเต็มที่ ผมลูบไล้ตัวตนของคนตรงหน้าขยับขึ้นลงไปมาซ้ำๆตามจังหวะส่งของช่วงล่าง

“ฮึ่ก...แทน แทน” เสียงหวานครางชื่อผม กระตุ้นอารมณ์ได้ดีทีเดียว ช่วงล่างรู้สึกมีแรงมหาศาลพอที่จะขับเคลื่อนไปให้โดนจุดเร้าซ้ำๆ สร้างความสุขสมให้อีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่ ผนังด้านในยังตอดรัดผมถี่ๆ เลยอาศัยช่วงจังหวะนี้เพิ่มความเร็วในการกระแทกเข้าสัมผัสให้ลึกสุดใจ ส่วนมือก็ขยับอย่างไวเร่งเร้าจนร่างบางบิดครางเกร็งตัว ช่องทางคับแน่นเข้าหยอกเย้าแกนกายที่ขูดครืดกับผนังอ่อนด้านในดันอารมณ์มาถึงปลายทาง จนในที่สุดเสียงครางหวานก็ดังเข้าสู่โสตประสาทแกนกายคนตรงหน้าปลดปล่อยหยาดอารมณ์พวยพุ่งออกมาเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าท้องขาว พร้อมกับตัวผมก็ปะทุความร้อนรุ่มในกายออกจนหมดตัว

ผมรีบถอนกายถอดส่วนป้องกันมัดปากถุงทิ้งลงถัง แล้วขยับเข้าไปตระกองกอดร่างที่พึ่งเสร็จกิจพร้อมกันไปหมาดๆ ร่างพี่ไทม์ดูอ่อนล้าจนยากเกินกว่าที่จะมีรอบถัดไป ถึงจะบอกว่าเสียดายแต่ก็ช่วยไม่ได้ ครั้งแรกผมควรจะถนอมคนตรงหน้าเอาไว้ ยกหลังจากนี้ไปคงต้องโลกสวยด้วยมือเราล่ะนะ อาจเพราะผมจ้องใบหน้าหวานอยู่เนิ่นนานพี่ไทม์เลยปรือตาขึ้นมามองพลางยิ้มอ่อน มันเป็นรอยยิ้มที่สวยและสดใสเหมือนตอนครั้งแรกที่เราได้เจอกัน เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ใจผมสั่นอีกระลอก

“แทน” เสียงหวานแหบแห้งลงไปหลายขั้น คงเป็นผลจากการร้องครวญครางเมื่อสักครู่ล่ะมั้ง

“ครับ” ผมขยับมือไปปัดเส้นผมที่ระแก้มด้านข้างก่อนลูบไล้ไปมาอย่างทะนุถนอม

“มึงรู้สึกดีมั้ย” คำถามคนตรงหน้าทำให้ผมตกใจ นี่พี่มันเป็นห่วงผมใช่มั้ยเนี่ย

“คะ..ครับ รู้สึกดี รู้สึกรัก รู้สึกสุข รู้สึกทุกอย่าง” แค่ผมมีพี่ไทม์อยู่เคียงข้าง คนที่เป็นทุกอย่างสำหรับผม

“ดีแล้วล่ะ” ร่างบางปิดตาลงอีกครั้ง “กูเหนื่อยจัง”

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกให้รู้ว่าร่างตรงหน้าได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว แต่ไม่วายยังอ้อมมือมาสวมกอดผมก่อนซุกลงในอ้อมอก ผมเลยก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากชื้นเหงื่อเบาๆ

“พักนะครับ”

“...”

“รักนะครับ”

END
++++++++++++++

ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์คุณ กาแฟมั้ยฮะจ้าว ด้วยค่า
แล้วก็ขอบคุณคนที่ไปตามอ่าน Will you ที่จบไป

ตอนนี้ปวดหัวมากหลังจากที่นั่งจ้องตัวอักษรในฉาก NC
ครั้งแรกในการแต่งฉากก็ปาไปเก้าหน้า แทบปาดเหงื่อ
อ่านแล้วคอมเมนต์ได้นะคะ ยินดีรับทุกความคิดเห็นเสมอ
อาจจะมีพลาดเรื่องคำบ้าง แจ้งได้เลยนะคะ

ขอบคุณทุกกำลังใจค่า


ในที่สุดพวกเขาก็ได้กัน!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2018 22:13:46 โดย sakutaka »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lostinthelight

  • 엑소엘
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นncที่ดีมากแงงง เขินไปหมดไม่ไหวแล้ว :z3: :sad4: :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด