xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 6 P.3 [23/06/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 6 P.3 [23/06/19]  (อ่าน 13841 ครั้ง)

ออฟไลน์ meeyeon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 3 [31/07/18]
«ตอบ #30 เมื่อ18-08-2018 23:43:01 »

รออยู่นะคะ  o13

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 3 [31/07/18]
«ตอบ #31 เมื่อ22-08-2018 23:52:16 »

มาเฝ้ากระทู้รอเรื่องนี้อัพ  :katai5:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 3 [31/07/18]
«ตอบ #32 เมื่อ23-08-2018 01:30:53 »

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 3 [31/07/18]
«ตอบ #33 เมื่อ23-08-2018 11:58:15 »

 :z3: รออยู่นะคะ  :ling3:

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 4 [29/08/18]
«ตอบ #34 เมื่อ29-08-2018 15:07:00 »

คนไม่มีสิทธิ์

ตอนที่ 4





‘น้ำครับ’
‘ทำไมของผมเป็นนมเย็นละครับ’
‘ทำไม? ไม่ชอบเหรอ’
‘เปล่าครับ แค่เห็นว่าคนอื่นได้น้ำเปล่า’
‘ก็อยากให้ชีนเป็นคนพิเศษนี่’








“จะว่ายังไง ถ้าผมจะบอกว่าผมสนใจคุณ”


นั่นคือประโยคถัดมาหลังจากที่เขายืนยันหนักแน่นว่าพูดจริง


“คุณไม่ได้เป็นเกย์”


“แต่คุณเป็น”


คนเด็กกว่าชักสีหน้า เหลืออดจะทนเก็บเอาไว้แล้ว “ผมเคยบอกอย่างนั้นเหรอครับ”


“ความสนิทสนมของคุณกับผู้ชายสองคนนั้นบอกผม”


“ไร้สาระ”


“หรือคุณจะบอกว่าคุณไม่มีใคร”


“ไม่สำคัญว่าผมมีใครรึเปล่า แต่คุณต่างหากที่มีเจ้าของอยู่แล้วและไม่ควรมาพูดแบบนี้กับผม”


“หมายความว่าถ้าจะคบกับคุณได้ก็ต้องเลิกกับคนอื่นก่อนอย่างนั้นใช่ไหม”


“ผมไม่ได้ชอบคุณ” ชิโนรสกดเสียงต่ำเมื่อระลึกได้ว่าตอนนี้พวกเขายังนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ซึ่งก่อนหน้านี้คงเผลอเสียงดังไปบ้างจนหลายคนหันมามอง


เท่าฟ้ายิ้มมุมปาก ไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายก่อนยื่นหน้าข้ามโต๊ะมาใกล้ “เดี๋ยวผมจะทำให้ชอบเอง”


“คุณ!” กว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้ก็ช้ากว่าเท่าฟ้าไปหลายก้าว เพราะอีกฝ่ายเดินนำออกจากร้านไปก่อนแล้ว


“คุณต้องการอะไรกันแน่” เข้ามานั่งข้างกันในรถได้ก็ระเบิดเสียงถามทันที ไม่มีความจำเป็นต้องถนอมน้ำใจกันอีกต่อไป แตกเป็นแตก ต่อให้ต้องฉีกสัญญาจ้างเขาก็ยอม


“จะให้ไปส่งที่ไหนล่ะคุณ ถ้าไม่บอก ผมพากลับบ้านผมจริง ๆ ด้วยนะ”


ชิโนรสยิ่งหงุดหงิดเมื่อเท่าฟ้ายังหน้าระรื่นอยู่ได้ทั้งที่ใจเขาร้อนรนจนไม่อาจอยู่นิ่งได้อีกต่อไป “ห้องเสื้อกีรติ”


ได้ยินเสียงร้องหึดังมาจากคนขับก็ยิ่งหงุดหงิดจนแทบบ้า “บอกทางด้วยล่ะ”


ชิโนรสฟึดฟัด ถ้าให้เขาคอยบอกทางนั่นเท่ากับปิดโอกาสที่จะพูดกันให้รู้เรื่องชัด ๆ


แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ พอจะเอ่ยปากพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ทีไรก็ถูกถามย้ำเรื่องเส้นทางอยู่ตลอด ทั้งที่บอกไปหลายรอบแล้ว ครั้นจะรั้นต่อไปก็หน่ายเกินกว่าจะเถียงด้วยจึงจำต้องสงบปากสงบคำแล้วคอยบอกแค่เส้นทางเพียงอย่างเดียวจนกระทั่งรถมาจอดหน้าห้องเสื้อจุดหมาย


ชิโนรสเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงที่ใกล้เคียงกับคำว่ากระแทกก่อนคว้าสัมภาระตัวเองแล้วรีบออกจากรถโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าอีกฝ่าย





ห้องเสื้อกีรติเป็นห้องเสื้อชื่อดังและเป็นที่นิยมในหมู่ดาราเซเลป ชิโนรสคิดว่านอกจากแบบเสื้อผ้าจะสวยนำสมัยและเป็นเอกลักษณ์แล้ว ส่วนสำคัญที่ทำให้ดังขึ้นมาได้น่าจะเป็นเพราะเจ้าของเป็นราชนิกูลชื่อดังในบ้านเรา


ที่นี่มีดีไซเนอร์มากหน้าหลายตา หนึ่งในนั้นคือเปรม เพื่อนสนิทของเขาที่ทำให้เขาสามารถเข้านอกออกในห้องเสื้อนี้ได้อย่างสะดวกราวกับเป็นคนใน เพราะนอกจากจะสนิทกับทุกคนในที่นี้แล้ว ราชนิกูลสาวเจ้าของห้องเสื้อแห่งนี้ยังเอ็นดูเขาเป็นพิเศษอีกด้วย


“มาได้ไงวะ” เปรมเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อยทว่ามือยังจัดกลีบกระโปรงที่หุ่นโชว์ตัวที่ใกล้ประตูร้านต่อ ห้องเสื้อแห่งนี้มีสามชั้น ชั้นบนเป็นห้องพักดีไซเนอร์กับห้องทำงานส่วนตัวของเจ้านาย และตอนนี้ชั้นหนึ่งก็เงียบมาก ไม่มีใครนอกจากเพื่อนของเขา


“ให้ลูกค้าแวะมาส่ง”


เปรมหันมองเพื่อนเต็มตา สงสัยใคร่รู้มากกว่านั้น แต่เมื่อสายตาสบกับสิ่งที่เพื่อนถืออยู่ ประเด็นที่พูดออกมาจึงเปลี่ยนไป “เอากล้องมาด้วยเหรอ พอดีเลย แบตฯหมดยัง”


“ยัง จะใช้เหรอ” ที่หยิบกล้องมาด้วยเพราะหลงคิดว่าเท่าฟ้าจะพาออกไปหาไอเดียนอกสถานที่ เผื่อเจออะไรเข้าท่าจะได้ถ่ายไว้ แต่ความจริงแล้วแบตฯกล้องยังเต็มร้อยเปอร์เซ็นอยู่เลย “แล้วคนอื่นอ่ะ”


“รับแขกอยู่ข้างบน แล้วก็ใช้ทั้งกล้องทั้งคนนั่นแหละ”


ชิโนรสไม่ใช่คนเล่นกล้องหรือถ่ายรูปเก่งอะไรมากนัก ทุกวันนี้ถ่ายได้เพราะเป็นหนึ่งในทักษะที่นักออกแบบควรทำได้ก็เท่านั้น แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ดี อย่างเช่นเปรมเป็นต้น


คนตัวเล็กกว่าไม่ปฏิเสธว่าที่ตัวเองถ่ายรูปได้ดีกว่าเพื่อนสนิทเพราะได้ครูดีอย่างเท่าฟ้า เด็กสถาปัตย์เก่งเรื่ององค์ประกอบภาพเสียยิ่งกว่าอะไร ยิ่งคนที่เรียนออกแบบภายในก็ยิ่งมีมุมมองที่ถ่ายออกมาสวยสะดุดตา


หน้าที่ของชิโนรสในวันนี้คือถ่ายรูปบรรดาชุดที่อยู่บนหุ่นหน้าร้านสำหรับนำลงโปรโมทในเวบไซต์ของห้องเสื้อ


“ปกติจ้างช่างมาถ่ายให้ไม่ใช่เหรอวะ ทำไมครั้งนี้ใช้กู” ช่างภาพจำเป็นถามทั้งที่ยังมองภาพตรงหน้าผ่านวิวไฟน์เดอร์


“ยังไม่ได้นัด ไหน ๆ มึงก็มาแล้ว ถ่ายให้หน่อย เดี๋ยวเจ้เขาพาไปเลี้ยงตอบแทนชุดใหญ่”


คนตัวขาวจนเกือบซีดลดกล้องในมือลงมามองหน้าเพื่อน เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องค่าจ้างเลยสักนิด แต่พอได้ยินเพื่อนพูดอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเบะปากใส่ “มึงเห็นกูถือกล้องเข้ามาก็ใช้งานเลย ไม่ทันเข้าไปขออนุญาตเจ้เลยด้วยซ้ำ”


เปรมหัวเราะขณะเดินเข้ามากอดคอ “ถ่ายไปเถอะ รับรองว่าเจ้ชอบ ถ้าเจ้ไม่เลี้ยง เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ว่าจบก็ขยี้ผมเพื่อนตัวเล็กแรง ๆ ก่อนผละออกจนได้ยินคำสรรเสริญตามหลังไปอย่างแสนรัก








“น้องชีนของเจ้” เจ้าของเสียงที่เรียกมาตั้งแต่ชั้นสองคือหม่อมหลวงกีรติ เจ้าของห้องเสื้อกีรติ เธอเป็นสาวใหญ่วันสี่สิบทว่ายังมีหุ่นเพรียวบางเพราะดูแลรูปร่างเป็นอย่างดีจนพวกสาว ๆ เห็นแล้วยังอิจฉา “มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ มาหาเจ้เร็วหนู”


คนถูกเรียกวางกล้องในมือลงบนโต๊ะหลังจากนั่งเช็ครูปอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบเดินขึ้นไปหาเธอ


“ขอรูปนะ” เปรมตะโกนตามหลัง


“กดส่งเอาเลย”


เมื่อได้รับอนุญาตเปรมก็เปิดแลปท็อปตัวเองที่หยิบมารอไว้แล้ว โปรแกรมที่ใช้แชร์รูปจากกล้องลงแลปท็อปเป็นการเลือกทีละหลายรูปแล้วส่งพร้อมกันได้ เปรมจึงไล่ดูและเลือกไปทีละรูปจนกระทั่งเจอรูปสุดท้ายจากงานครั้งก่อนของเจ้าของกล้อง รูปที่ชิโนรสไม่ควรกดชัตเตอร์เพื่อเก็บความทรงจำส่วนนี้ไว้เลยด้วยซ้ำ





เปรมปล่อยให้ชิโนรสอยู่กับเจ้าของห้องเสื้อสาวเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเขาก็เข้าไปตามตัวถึงห้องพักดีไซเนอร์เพราะถึงเวลาเลิกงานแล้ว


“ขอเพื่อนผมคืนนะเจ้” ไม่ว่าเปล่าแต่เปรมยังเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนดึงออกจากวงล้อมของเพื่อนร่วมงานที่มีทั้งสาวแท้และสาวเทียม ส่วนหนุ่มแท้อีกสองคนนั่งมองอยู่มุมห้อง


“ฉันจะหักโบนัสเธอสิ้นปี” สาวใหญ่วัยสี่สิบว่า


เปรมหัวเราะลั่น “เจ้ต้องเพิ่มโบนัสให้ผมสิไม่ว่า นี่ผมให้ไอ้ชีนมันถ่ายรูปโปรโมทชุดให้ด้วยนะ รับรองว่าพรุ่งนี้เจ้ต้องได้เห็นรูปคอลเลคชั่นล่าสุดบนเวบห้องเสื้อแน่นอน เห็นอยู่ว่าผมทำงานเร็วขนาดนี้เจ้จะหักเงินได้ไง จริงไหมละครับ”


“หักเงินเธอไปให้ชีน” เธอว่าแล้วหันไปยิ้มหวานให้ชิโนรส


“ได้ไงละครับ”


“ก็ค่าจ้างไงยะ เธอจะใช้งานเขาฟรี ๆ ได้ไง” 


“ใช้ฟรีที่ไหน กำลังจะพาไปเลี้ยงตอบแทนอยู่นี่ไงครับ ไปแล้วนะครับ เดี๋ยวรถติด” เปรมพูดรัวเร็วทีเดียวก่อนถือโอกาสยกมือไหว้เจ้านายสาวและบอกลาเพื่อนร่วมงานแล้วรีบพาเพื่อนตัวเล็กออกมา


“ไปเอารถที่คอนโดกูก่อนนะ เดี๋ยวพาไปส่งบ้าน” เปรมว่าตอนเดินออกจากร้าน


“เห้ย! ไม่ต้อง จะวกไปวกมาทำไม ต่างคนต่างกลับบีทีเอสก็ได้”


“มึงกลับบีทีเอสก็ยังต้องต่อรถอีกอยู่ดีป่ะวะ ไปกับกูเนี่ยแหละ โทรบอกแม่ด้วยว่าจะวันนี้จะไปกินข้าวกับกู” เปรมว่าก่อนหันกลับมามองเหมือนนึกบางอย่างได้ “หรือมึงไม่สะดวก งั้นบอกแม่ว่ากูจะไปฝากท้องที่บ้านด้วยแล้วกัน”


“ไปกินข้างนอกเนี่ยแหละ”


เปรมมองหน้าเพื่อนนิ่ง “ข้าวหรือเหล้า”


“ข้าวโว้ย”



นั่งรถไฟฟ้าออกจากที่ตั้งของห้องเสื้อมาเพียงแค่สองสถานีก็ถึงคอนโดของเปรมแล้ว ชิโนรสตามเจ้าของห้องขึ้นไปบนห้องด้วยเพราะอยากล้างตาล้างตาเล็กน้อยก่อนพากันออกจากห้องในเวลาหลังจากนั้นไม่นานพร้อมเสียงถกเถียงกันว่าวันนี้ควรจะไปไหนกันบ้างก่อนจะไปส่งเขาที่บ้าน


“คิดมากอย่างกับเดท” ชิโนรสบ่น


“อยากให้เป็นเดทก็ได้นะ เราไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ นี่หว่า มึงทำตัวอย่างกับเด็กประถม เลิกงานก็กลับไปกินข้าวบ้าน มาหากูทีถ้าไม่ชวนไปเมาก็มานอนร้อง...”


“พอ ๆ พูดมากจริง อยากพาไปไหนก็ไปเลย”


“ดูหนังกันสักเรื่องไหม”


“ดึกไป เดี๋ยวแม่ห่วง”


“ก็บอกสิวะว่ากลับดึก ไม่ได้จะไปเมากันสักหน่อย มึงก็ไม่ใช่เด็กแล้วแม่มึงไม่ได้ห่วงขนาดนั้นหรอกหน่า”


“เออ ๆ เอาแต่ใจจริง ๆ เลยนะมึงน่ะ”


“งอนเหรอ กล้างอนกูเหรอไอ้เปี๊ยก” เปรมเดินตามไปรั้งคออีกฝ่ายมากอดไว้แล้วใช้มืออีกข้างบีบแก้มเพื่อนตัวเล็กไม่เบาไม่แรงนักจนเจ้าของหน้าบู้ร้องท้วงจะให้ปล่อยท่าเดียว ไม่ทันสังเกตว่ามีใครยืนรอลิฟต์อยู่ก่อนแล้วจนกระทั่งได้ยินเสียงทักทายสดใสของหนึ่งในสองคนนั้นดังขึ้น


“คุณชีนคะ”


เจ้าของชื่อเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มองหญิงสาวตรงหน้าที่ส่งยิ้มเกรงใจมาให้ เจ้าหล่อนคงลำบากใจไม่น้อยที่ต้องเอ่ยทักทายขัดการเล่นกันของพวกเขา


ชิโนรสเบี่ยงตัวเองออกจากอ้อมแขนของเพื่อนสนิทก่อนทักทายกลับ “สวัสดีครับคุณพลอย...คุณฟ้า” รวมไปถึงคนที่ยืนถัดจากเธอไปด้านหลังด้วย


ที่วันนั้นเจอกันที่นี่ก็คงเพราะมาส่งคุณพลอยถึงห้องเองหรอกหรือ


ชิโนรสคิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มสมเพชตัวเองออกมา พวกเขาไปมาหาสู่กันบ่อยขนาดนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าความสัมพันธ์จริงจังระดับไหน แล้วยังมีหน้าไปหวั่นไหนกับคำที่เขาบอกว่าสนใจอีกหรือ


“ลิฟต์มาแล้วครับ” เท่าฟ้าตัดบทสนทนาโดยการแตะเอวหญิงสาวแล้วก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกัน ถ้าใครไม่สังเกตคงไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้เสียงของชายหนุ่มแข็งขึ้นเช่นเดียวกับดวงตาที่วาวโรจน์ขึ้นอย่างขุ่นเคือง


แต่คนที่อยู่ด้วยกันมาเกินกว่าห้าปีอย่างชิโนรสรู้ดี และเขาก็รู้สึกอยากหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้โดยสารลิฟต์ตัวเดียวกันเสียจริง แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนรักรับรู้ถึงความต้องการของเขาดีหรือไม่รู้อะไรเลยกันแน่ถึงได้ดันหลังเขาตามสองคนนั้นเข้าไปโดยเร็ว


ชิโนรสอยากขอบคุณที่ลิฟต์คอนโดนี้เคลื่อนด้วยความเร็วที่ทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดนานนัก ยิ่งลงมาถึงลานจอดรถแล้วพบว่าจอดอยู่คนละโซนเขาก็ยิ่งโล่งใจ....ถ้าเปรมไม่ถามถึงผู้ชายคนนั้นขึ้นมาน่ะนะ


“ลูกค้าที่มึงไปด้วยวันนี้คือเขาเหรอ”


“อือ” เงียบไปก็ไม่มีประโยชน์ ชิโนรสจึงเลือกที่จะยอมรับออกไปตรง ๆ


“ไม่เป็นไรใช่ไหม”


“จะเป็นไรได้วะ บอกไปแล้วไงว่าจะตัดใจ”


เปรมหยุดเดิน มองเพื่อนตัวเล็กกว่าที่เดินนำไปหลายก้าวแล้ว “คนที่กำลังจะตัดใจ เขาไม่แอบถ่ายรูปคนเคยรักไว้หรอกนะ”


“ค...แค่โฟโตบอมพ์”


“ถึงฝีมือกูจะไม่ดีเท่ามึงแต่กูก็ดูรู้นะว่าอันไหนตั้งใจอันไหนแค่ถ่ายติดมา”


ชิโนรสหันหลังกลับไปมองเพื่อน ระยะห่างสามก้าวไม่มากเกินที่อีกฝ่ายจะมองไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร แววตาของชิโนรสฟ้องทุกอย่างที่เจ้าตัวคิดอยู่เสมอ เพราะมันไม่เคยปกปิดใครได้เลยจริง ๆ


เปรมมองแล้วถอนหายใจ สาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วกอดอีกฝ่ายจนจมอก “ไปเรียนแอคติ้งกัน สายตามึงยังซ่อนความรู้สึกไม่เก่งเท่าไหร่ อันตรายเกินไป” แม้ชิโนรสคนใหม่จะแข็งแกร่งกว่าเดิมสักเท่าไหร่แต่ดวงตาคู่นี้ก็ยังซื่อตรงกับความรู้สึกเกินไปเหมือนเดิม ยิ่งมีผู้ชายคนนั้นเข้ามาวนเวียนใกล้ ๆ ด้วยแล้วยิ่งไม่ปลอดภัย จุดประสงค์คืออะไรก็ยังไม่แน่ชัด เขาเป็นห่วงเหลือเกิน


ชิโนรสยิ้มให้กับความคิดของเพื่อน นี่แค่เปรมเห็นรูปที่เขาแอบถ่ายอีกฝ่ายยังเป็นห่วงขนาดนี้ จะเป็นอย่างไรถ้าเปรมได้รู้สิ่งที่เท่าฟ้าพูดกับเขาเมื่อบ่ายนี้


ชิโนรสผละออก ส่งสัญญาณให้ออกเดินไปพร้อมกัน “จริง ๆ แล้วตอนนั้นกูน่าจะออกจากวงการตกแต่งบ้านแล้วมาอยู่เสื้อผ้าเหมือนมึง” ชิโนรสพูดขึ้นลอย ๆ “จะได้ไม่ต้องมีโอกาสมาเจอเขาอีก”


เปรมตบบ่าปลอบใจ ไม่อยากจะพูดความในใจว่าดีแค่ไหนแล้วที่เขาให้ช่วยแต่งบ้าน ไม่ใช่ออกแบบชุดแต่งงานให้เจ้าสาวของเขา






กว่าจะกลับถึงบ้านโดยการมาส่งของเปรมก็เกือบเที่ยงคืน หากไม่มีฮิโรชิมานอนที่บ้านเป็นเพื่อนแม่ เขาคงไม่สบายใจนัก และเพราะว่าจอดรถไว้ที่บริษัท เช้าวันนี้จึงเป็นอีกวันที่พี่ชายคนสนิทอาสาไปส่งทั้งที่มีตารางงานในช่วงบ่าย


“พี่ชิน่าจะนอนต่อ ไม่เห็นต้องรีบตื่นเลย ชีนไปบีทีเอสเองก็ได้” คนเป็นน้องว่าขณะรอขนมปังเด้งตัวจากเครื่องปิ้ง


“นั่นสิชิ น้องโตแล้ว ไม่ต้องตามดูแลขนาดนี้หรอก” ลินดาเสริมลูกชาย


“ก็ลูกชายคุณแม่น่าห่วงนี่ครับ”


เธอยิ้ม ไม่ว่าจะโตแค่ไหน ผ่านเรื่องร้ายมาจนแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไหร่ ลูกชายบุญธรรมของเธอก็ยัง ‘น่าเป็นห่วง’ เสมอในสายตาของฮิโรชิอยู่ดี


ปี๊น ปี๊น~~~~


เสียงแตรรถดังขึ้นขัดเวลาอาหารเช้าวันนี้ ลินดาหันมองออกไปนอกบ้านเห็นรถสปอร์ตหรูจอดอยู่ก็นึกสงสัย คนที่จะมาหาลูกชายเธอถึงบ้านก็เห็นจะมีแค่เปรม และเจ้าตัวเองก็ไม่ได้ขับรถแบบนี้ด้วย อีกทั้งยังติดฟิล์มดำเสียจนมองไม่เห็นผู้โดยสารข้างในอีก เธอจึงคิดว่าบางทีอาจจะเป็นแขกของเธอเองก็ได้ ทว่าชิโนรสที่หันมองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าคือใครก็รีบชิงออกตัวโดยเร็วว่าเป็นแขกของตนและจะออกไปดูเอง ไม่ลืมกำชับให้คนเป็นแม่นั่งรออยู่แต่ในบ้านและรับประทานอาหารต่อไปด้วย




มุมปากหยักได้รูปของคนในรถยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นคนตัวขาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งหน้าตื่นออกมาหา รอจนกระทั่งอีกฝ่ายมายืนเคาะกระจกสองสามครั้งด้วยความร้อนรนจึงค่อยเปิดประตู ทว่ากลับถูกดันกลับให้ปิดดังเดิมพร้อมเสียงที่ลอดเข้ามาในเสี้ยววินาทีนั้นว่าให้ลดกระจกลงเพียงเล็กน้อยก็พอ


เท่าฟ้าหลุดหัวเราะออกมาทีหนึ่งก่อนทำตาม


“คุณมาที่นี่ได้ยังไง” น้ำเสียงติดเหวี่ยงเล็กน้อยนั่นทำให้คนฟังดีใจอยู่ลึก ๆ ที่ไม่ต้องทนฟังน้ำเสียงและถ้อยคำแสดงความห่างเหินกันอีกแล้ว


“ที่อยู่บ้านคุณเป็นความลับเหรอ”


“ฮึ่ย แล้วมาทำไมละครับ”


“มารับไปทำงานไง วันนี้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ เดี๋ยวตอนเย็นผมจะมาส่ง”


ชิโนรสนับหนึ่งถึงสิบในใจไม่รู้กี่รอบกว่าจะดับความโมโหของตัวเองได้ แม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตามที “ไม่จำเป็นครับ ผมไปเองและกลับเองได้ แค่คุณนัดสถานที่มา”


เท่าฟ้ายืดคอมองเลยคนตัวเล็กไปไม่เห็นรถของเจ้าตัวจอดอยู่ก็ยกยิ้ม ทว่าท่าทีของเท่าฟ้ากลับทำให้ชิโนรสตื่นตกใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยกลัวว่าแม่จะมองออกมาแล้วเห็นว่าคนที่มาหาเขาถึงบ้านคือใคร “มองอะไรคุณ”


“รถคุณยังจอดที่ออฟฟิศสินะ ถ้าอย่างนั้นเช้านี้ไปกับผมก็ถูกแล้ว ไปเอาของมาสิ เราจะได้ไปกันเลย”


เจ้าของบ้านตัวขาวยืนฟึดฟัดในใจอยู่ไม่นานก็จำต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือก “รออยู่ในนี้และไม่ต้องลงมาจากรถ แล้วก็ปิดกระจกด้วย!”


“ใจร้ายจัง ไม่คิดจะชวนเข้าบ้านหน่อยเหรอ”


ชิโนรสมองสบแววตาแพรวพราวคู่นั้น “เป็นแค่ลูกค้า อย่าคิดล้ำเส้นเลยครับ”




ชิโนรสกลับเข้ามาคว้ากระเป๋าและสัมภาระจำเป็นที่วางเตรียมไว้แล้วพร้อมรีบบอกลาทุกคน


“รีบไปไหนลูก ไม่ชวนเพื่อนเข้ามาทานอาหารเช้าด้วยกันก่อนล่ะ”


“ไม่เป็นไรครับแม่ ผมไปเลยดีกว่า ขอโทษพี่ชิด้วยนะครับ”


คนที่กำลังรีบไปถึงรถคันหรูได้ช้าลงเพราะฮิโรชิตามมาคว้าแขนไว้ได้ทันตรงรั้วบ้าน “ไหนบอกว่าติดต่อกันแค่เรื่องงานเท่าที่จำเป็น แล้วทำไมเขาถึงมารับถึงบ้าน”


“เขามาของเขาเองนะพี่ชิ ชีนไม่รู้เรื่อง ปล่อยชีนก่อนเถอะ ช้ากว่านี้ถ้าแม่เห็นว่าเขาเป็นใครต้องเรื่องใหญ่แน่ ๆ”


“ไปบอกเขาว่าพี่จะไปส่งเอง” ฮิโรชิออกคำสั่งเด็ดขาด


คนน้องเบ้หน้าจนเกือบจะร้องไห้ “ชีนต้องไปทำงานกับเขา ปล่อยก่อนเถอะพี่ชิ นะครับ”


“ชีน...”



เท่าฟ้าขมวดคิ้ว มองออกไปนอกรถแล้วนึกอยากจะบีบแตรดัง ๆ สักทีสองทีแต่ก็กลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ให้ผู้ใหญ่ในบ้านตกใจไปด้วย ความขุ่นมัวที่เกิดขึ้นในใจไม่ใช่เรื่องแปลกและเขาคิดว่าตัวเองก็มีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจกับการที่ดาราดังคว้าแขนของคนที่เขากำลังจะจีบไว้อย่างนั้น


“อ้อยอิ่งเหลือเกินนะคุณ” เท่าฟ้าค่อนแคะแต่อีกฝ่ายไม่ตอบโต้ ชิโนรสเลือกจะนั่งไปเงียบ ๆ ซึ่งหลังจากนั้นเท่าฟ้าก็ไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากเปิดเพลงจากซีดีแผ่นเดิมเช่นทุกครั้ง





ความจริงแล้วชิโนรสน่าจะจำเป็นบทเรียนได้ว่าเท่าฟ้ามักจะรับประทานอาหารเช้านอกบ้าน เพราะแทนที่เขาจะได้ไปยังสถานที่ที่ใกล้เคียงกับคำว่า ‘ทำงาน’ แต่กลับต้องมานั่งอยู่ในร้านอาหารอีกตามเคย


“คุณทำผมเสียเวลาอีกแล้ว” ชิโนรสว่าอย่างไม่เกรงใจ นึกหงุดหงิดตั้งแต่เรื่องที่อีกฝ่ายบุกไปถึงบ้านจนถึงเรื่องนี้


เท่าฟ้ายิ้มอย่างคนไม่รู้ร้อนรู้หนาว “ผมจีบคุณอยู่ก็ต้องอยากเจอหน้าอยากทานข้าวด้วยกันเป็นเรื่องปกตินี่คุณ ยอมเสียเวลาเพื่อผมหน่อยไม่ได้้เหรอ”


ชิโนรสถอนหายใจ เหนื่อยจะต่อปากต่อคำด้วยมากกว่านี้เพราะคาดว่าคงหนีไม่พ้นคำพูดประโยคเดิม ๆ ที่อีกฝ่ายขยันย้ำเสียเหลือเกิน และเพราะว่ารีบออกจากบ้านมาทั้งที่ยังไม่ทันได้รับประทานอาหารเช้า วันนี้ชิโนรสจึงตอบรับคำชวนของอีกฝ่ายอย่างว่าง่ายกว่าทุกที


ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงชิโนรสก็ต้องหัวเสียจนคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไปเมื่อได้ยินสิ่งที่เท่าฟ้าพูดออกมาทันทีที่กลับเข้ามานั่งในรถอีกครั้ง


“โทษที ลืมไปว่าวันนี้ผมไม่ว่าง เดี๋ยวจะไปส่งคุณที่ออฟฟิศแล้วกัน”


ชิโนรสมองหน้าคนพูดนิ่ง อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองกำลังถูกก่อกวน หากอีกฝ่ายไม่ว่างจริงมีหรือที่จะลืมแล้วนึกขึ้นได้กันดื้อ ๆ แบบนี้ “คุณตั้งใจก่อกวนผม”


“ผมไม่ว่างหน่าคุณ บอกแล้วไงว่าขอโทษ”


“คุณไม่ได้อยากไปรับผมมาทำงานตั้งแต่แรก แต่คุณจงใจไปหาผมที่บ้านใช่ไหม คุณต้องการอะไรกันแน่”


รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อดูใจดี ทว่าชิโนรสไม่รู้สึกถึงความเป็นมิตรนั้นเลยสักนิด “เคยบอกแล้วนี่ว่าสนใจ....”


“...”


“...คนจีบกันก็ต้องอยากจะไปรับไปส่งกันเป็นธรรมดา”


“พอเถอะครับ หยุดทำอะไรแบบนี้สักที”


“มันเพิ่งเริ่มเองนะคุณ”


“คุณต้องการอะไร!”


“ใจของคุณไง”


“...”


เท่าฟ้าวางมือบนศีรษะคนที่นิ่งเงียบไปแล้วลูบเบา ๆ “กลับไปทำงานนะครับ อย่าคิดมาก”






ไม่ได้อีกแล้ว


เขาอยู่ใกล้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้อีกแล้ว!


ชิโนรสกำลังสับสนว่าเท่าฟ้าจำเขาไม่ได้จริง ๆ หรือกำลังเริ่มจะจำได้ หรือว่าจำได้มาตั้งแต่ต้นแล้วกันแน่ แต่นั่นก็ไม่เท่ากับว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกลับมาทำแบบนี้ทั้งที่หายไปจากชีวิตเขานานถึงสี่ปี


เพื่ออะไรกันแน่!?


ชิโนรสนั่งครุ่นคิดอยู่ลำพังนานหลายนาทีจวนจนปอที่มองอยู่ตั้งแต่แรกอยากจะเอ่ยถามแต่หนุ่มรุ่นน้องกลับลุกขึ้นเสียก่อนแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของเจ้านายด้วยสีหน้าที่อมทุกข์ขั้นสุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา


“อ้าว วันนี้ไม่ไปกับคุณเท่าฟ้าเขาเหรอวะ”


ชิโนรสค้ำมือลงกับโต๊ะพร้อมเอ่ยวาจาเด็ดขาดออกมา “บอสครับ ผมขอถอนตัว”


“มึงล้อกูเล่นใช่ไหม”


“ผมเคยล้อเล่นเรื่องงานเหรอครับบอส” คนเป็นลูกน้องนั่งลงฝั่งตรงข้ามให้รู้ว่าจริงจังกับเรื่องที่พูดมากแค่ไหน


“เหตุผล”


ชิโนรสเงียบ ไม่รู้จะบอกอย่างไรให้เรื่องมันง่ายและจบเร็วที่สุด


“ว่าไง กูขอเหตุผลดี ๆ สักข้อในการถอนตัวแลกกับการต้องเสียค่าปรับให้เขามากกว่าโบนัสทั้งปีหน่อยสิ”


“มากขนาดนั้นเลยเหรอบอส!”


“กูเคยล้อเล่นเรื่องงานเหรอไอ้ชีน”


ชิโนรสกลืนน้ำลายอึกหนึ่งเมื่อถูกเจ้านายย้อนคำพูดเข้าให้


“ว่ายังไง มีเหตุผลดี ๆ สักข้อไหม”


ถ้าบอกว่าเขาถูกลูกค้ากระเป๋าหนักคนนั้นคุกคามจะมีน้ำหนักพอไหม หรือต้องอธิบายรายละเอียดจนสุดท้ายกลายเป็นประจานตัวหรือเปล่า เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว จึงช่วยไม่ได้ที่ชิโนรสจำต้องบอกเหตุผลรองออกไปแทน “ผมไม่อยากผลักภาระตัวเองให้คนอื่นแล้วไปรับงานที่ได้เปอร์เซ็นต์เยอะกว่าครับ”


“อย่ามาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้นะชีน ไม่สมกับที่ทำงานกับกูมาสี่ปีเลย มึงก็รู้ว่าลูกค้าเป็นคนเลือกมึงเอง เปอร์เซ็นต์ที่ได้ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะมีคำว่าฝีมือไว้ทำไมถ้าไม่ใช่เพื่อแบ่งเกรดรายได้ของคนทำงาน”


ศุภกิจมองรุ่นน้องที่ตนเอ็นดูไม่ต่างจากที่ภรรยารู้สึกนักเดินคอตกออกไปหลังจากยอมรับเรื่องที่คุยกันได้แล้วนึกเป็นห่วง ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าชิโนรสคิดอะไรที่มากกว่าที่พูดออกมา เพียงแต่เมื่อเจ้าตัวไม่ยอมบอก เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์จะไปคาดคั้นมากกว่านี้


เจ้านายหนุ่มตัดสินใจกดโทรศัพท์ต่อสายถึงลูกค้าคนดังกล่าวทันที


“คุณเท่าฟ้าใช่ไหมครับ...ทำงานกับลูกน้องผมราบรื่นดีไหมครับ”






ก่อนช่วงเวลาพักกลางวันครึ่งชั่วโมง ชิโนรสก็เจอเรื่องให้ตกใจอีกครั้งเมื่อมีพิซซ่าถาดกลางมากมายถูกนำมาส่งพร้อมกาแฟแบรนด์ดังปริมาณเท่าจำนวนคนในแผนกออกแบบอีกด้วย เจ้านายของเขารีบออกมาประกาศว่าทั้งหมดนี้เป็นอภินันทนาการจากลูกค้าคนดังที่ขยันสร้างเรื่องวุ่นวายให้ชีวิตเขามากมายเสียเหลือเกิน และตอกย้ำความแปลกแยกจากเพื่อนฝูงให้เขาด้วยการแปะโน้ตมาบนกล่องถาดเล็กที่มีอยู่เพียงถาดเดียวว่าเป็นของเขาเพียงคนเดียวอีกด้วย


ทุกคนต่างร้องแซวกันเป็นเสียงเดียวว่าความสัมพันธ์ของเขากับเท่าฟ้าชักจะไม่ธรรมดาเสียแล้วก่อนจะถูกเบรกเมื่อหัวหน้าให้เหตุผลว่าคุณเท่าฟ้าสั่งมาเลี้ยงเพื่อต้องการตอบแทนที่ทุกคนยอมรับงานค้างของชิโนรสไปทำต่อเพื่อให้คนตัวขาวได้ทำงานให้เขาอย่างเต็มที่ก็เท่านั้น


แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ยังมามุงดูกล่องพิเศษที่ถูกสั่งมาสำหรับชิโนรสเพียงคนเดียวอยู่ดี หากไม่ได้ศุภกิจช่วยกันไว้อีกครั้ง ชิโนรสก็คงไม่กล้าเปิดมันออกมาต่อหน้าทุกคน


น่าแปลก...ทั้งที่สั่งถาดเล็กแยกมาให้ชิโนรสคนเดียวเป็นพิเศษ ศุภกิจนึกว่าตนจะได้เห็นหน้าพิซซ่าที่พิเศษกว่าคนอื่นไปด้วย แต่นี่กลับเป็นแค่หน้าฮาวาเอี้ยนที่ดูธรรมดากว่าซีฟู้ดหรือหน้าอื่น ๆ ที่ลูกน้องเขากำลังกัดเข้าปากอยู่มาก


ทว่าไม่มีใครล่วงรู้ว่าพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนนี้พิเศษมาก ๆ แล้วสำหรับคนได้รับ พิเศษเสียจนชิโนรสไม่รู้ว่าเขาควรดีใจหรือเสียใจกันแน่ เพราะมันเป็นเพียงหน้าเดียวที่เขารับประทานได้


แน่นอนว่า ‘คุณฟ้า’ ไม่รู้


แต่ ‘พี่ฟ้า’ รู้


ก้อนเนื้อตรงอกซ้ายเต้นแรงจนรู้สึกแน่นในอกไปหมด คำถามที่ยังสงสัยและคาใจเพียงเรื่องเดียวได้รับคำตอบแล้วในตอนนี้


มันเป็นคำตอบที่ทำให้เขายิ่งสับสนว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้? ดีใจอย่างนั้นหรือ?



ควรจะดีใจที่พี่ฟ้าจำเขาได้



...หรือควรจะเสียใจกันแน่









TBC.
----------------------------------------------------------------
เพิ่งเห็นว่าหายไปเกือบ 1 เดือนเต็มพอดี
ขอโทษที่ให้รอนะคะ แหะๆ

#ฟ้าชีนไม่มีสิทธิ

ด้วยรักและขอบคุณ

ธัญญ์

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใครหนอที่ไม่มีสิทธิ์?

เท่าฟ้าจำได้จริง ๆ ใช่ไหม?

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
สงสารน้องซีนจังเลยนะ คุณฟ้าก็อย่าแกล้งมากนัก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 มันต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ คุณฟ้ารู้ได้ยังไง

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตกลงจำได้หรือไม่ คิดว่าน่าจะจำได้แต่ไม่หมด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 4 P.2 [29/08/18]
« ตอบ #39 เมื่อ: 31-08-2018 12:00:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :z3:
เดาว่าพี่ฟ้าจำได้ เลิกกันเพราะอะไรรรรรรรรรรร

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ยิ่งค้างคาใจว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้น  :katai1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew6:  :mew6: สงสารใครดี

ออฟไลน์ กฤตย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
รอครับ รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
คิดว่าเท่าฟ้าจำได้แน่ ไม่งั้นคงไม่ปั่นแบบนี้หรอก

แต่แค่แกล้งทำจำไม่ได้ หึ

ออฟไลน์ coraline

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ติดตามคะๆ แบบลุ้นๆว่าต้องมีเรื่องปวดตับแน่ๆ เราเดาว่าคิดว่านางจำได้คะแต่ต้องที่เกิดเรื่องต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้นางกลับมาแบบบนี้ สู้ๆคะเป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ

ป.ล. แบบว่าให้น้องชีนเอาคืนแบบเจ็บๆบ้างนะคะ ไม่อยากเห็นน้องเจ็บแบบนี้

ออฟไลน์ fsbeentaken

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เราคิดว่าเกิดจากพ่อแม่ของพี่ฟ้านั่นแหละที่ทำให้เรื่องทุกอย่างยุ่งเหยิง

ชีนก็ยอมไปหมดซะทุกคน อิพี่ฟ้าก็ไม่คิดถึงใจน้อง น้องเจ็บมากเลยนะ

ปล. รอออ ร้ออออ รอออ อัพเดทตอนต่อไปนะค้าาาาา

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เกิดอะไรขึ้นที่ทำให้ฟ้าโกรธชีน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: xx คนไม่มี 'สิทธิ' xx ตอนที่ 4 P.2 [29/08/18]
« ตอบ #49 เมื่อ: 15-11-2018 23:14:48 »





ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
นี่เท่าฟ้าแกจำได้แล้วใช่ไหมเนี่ยยย

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0
 :L2:

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ค้างงงงงงง

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
รอ ฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด คิดถึงงง :ling1: :ling1: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ดูแล้วเท่าฟ้าน่าจะจำชีนได้ รู้สึกอึดอัดแทนชีนเลย เพราะไม่รู้เท่าฟ้าต้องการอะไร

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
คนไม่มี ‘สิทธิ’

ตอนที่ 5





‘ขอเบอร์ได้ไหมครับ’
‘หือ ทำไมต้องขอละครับ ในใบสมัครก็มีนี่’
‘ถ้าอยากติดต่อเรื่องงานพี่คงไปหาจากใบสมัครแล้ว...ไม่มาขอเองแบบนี้หรอก’
‘ละ แล้ว...ขอไปทำไมละครับ’
‘อยากคุยด้วย เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับละครเวที’
‘เช่นเรื่องอะไรเหรอครับ’
‘ก็เรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป เรียนเป็นไงบ้าง เมื่อเช้าทานอะไรมา แล้วเย็นนี้เราจะทานอะไรกันดี หรือแม้แต่…’
‘โอเคครับ!’
‘ชีนหมายถึง?’
‘ผม...อยากให้พี่ฟ้าช่วยคิดเมนูอาหารมื้อเย็น...และมื้ออื่น ๆ ของเราครับ’







ชิโนรสถอนหายใจทิ้งเป็นรอบที่สามในช่วงเช้า


คุณเท่าฟ้าหายไปสามวันแล้วหลังจากส่งพิซซ่ามื้อนั้นมาให้โดยทิ้งดอกซ่อนกลิ่นเอาไว้ให้ดูต่างหน้าในเช้าวันนี้พร้อมคำอธิบายที่บอกให้เขาทำงานล่วงหน้าไปก่อนโดยใช้แรงบันดาลใจจากมันซึ่งเป็นดอกไม้ที่คุณพลอยเธอชอบ


ความฉงนที่ตกค้างจากพิซซ่าถาดนั้นกำลังตีกันยุ่งเหยิงกับดอกไม้ช่อนี้ ถ้าการสั่งพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนมาให้เขาคือความตั้งใจ นั่นเท่ากับว่าเท่าฟ้าจำเขาได้อย่างแน่นอน และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง การส่งดอกซ่อนกลิ่นมาให้ถึงโต๊ะคงเป็นเพราะอยากฆ่าเขาให้ตายอย่างเลือดเย็นที่สุด


ใช่...เขาแพ้เกสรดอกไม้ชนิดนี้


แต่เท่าฟ้าจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้เชียวหรือ?


หรือแท้จริงแล้วพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนนั่นก็แค่ความธรรมดาที่อีกฝ่ายต้องการแกล้งเขาให้ได้รับสิ่งที่ด้อยกว่าคนอื่น ๆ ก็เท่านั้น...ไม่ได้เป็นความพิเศษอย่างที่หลงคิดไปเอง


“เห้ยพี่! จะทำอะไร” ชิโนรสร้องเสียงหลงเมื่อปอถือช่อดอกไม้เดินออกไปจากโต๊ะหลังจากที่สละเวลามาถ่ายรูปและวิดีโอดอกไม้ช่อนั้นแบบทุกซอกทุกมุมตามที่เขาร้องขอความช่วยเหลือแล้ว


“ทิ้งดิ ก็มึงแพ้อ่ะ จะให้วางไว้ทำซากอะไร”


“มะ…ไม่ต้องพี่ วางไว้แถว ๆ นี้ก่อนก็ได้”


ปอหันมองรอบตัวก่อนหันกลับมามองช่อดอกไม้ในมือ นิ่งคิดพิจารณาไม่กี่วินาทีก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า “รกเปล่า ๆ”


“วางไว้เถอะหน่าพี่” ถ้าไม่ติดว่าเข้าใกล้แล้วอาจถึงตายได้เขาก็คงจะเข้าไปยื้อมันไว้ด้วยตัวเองแล้วเพราะกลัวอีกฝ่ายจะใจเร็วรีบทิ้งเสียก่อน


“วางไว้ทำไม แค่นี้ละอองมันก็ลอยฟุ้งในอากาศพอละ ไหนจะแอร์นี่อีก เดี๋ยวมึงก็หายใจเข้าไปอยู่ดี”


“ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้งพี่ วางไว้เถอะ เผื่อผมดูรูปแล้วคิดงานไม่ออก หันไปมองของจริงคงคิดได้มากกว่า”


ปอนิ่งคิด


“วางไว้เถอะพี่ เผื่อผมอยากใช้ประโยชน์จากมันเพิ่ม” หนุ่มรุ่นน้องย้ำอีกครั้ง


ปอมองหน้าคนพูดสลับกับช่อดอกไม้ในมืออย่างพิจารณาอีกครั้ง “งั้นกูวางไว้ข้างนอก เกสรมันจะได้ไม่คละคลุ้งอยู่ในนี้”


ชิโนรสไม่รู้ว่าเกสรแกน ๆ ของดอกไม้ชนิดนี้จะฟุ้งกระจายในอากาศได้มากอย่างที่ปอกล่าวหรือไม่แต่เขาก็เออออตามใจอีกฝ่ายเพราะไม่อยากเซ้าซี้มาก


ดีไซน์เนอร์หนุ่มร่างเล็กนั่งมองดอกไม้ช่อนั้นจากระยะไกล รูปลักษณ์นั้นก็สวยบอบบางด้วยกลีบสีขาวราวน้ำนมเจือสีชมพูอ่อน ๆ ตรงปลายกลีบ ดูคล้ายผิวเนื้อนวลปลั่งของหญิงสาว กลิ่นหอมรัญจวนอันเป็นเอกลักษณ์ที่ดูเหมือนว่ายิ่งห่างต้นจะยิ่งส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว


ทว่ามันคือดอกไม้งานศพ!


ผู้หญิงแบบไหนกันที่ชอบดอกไม้ชนิดนี้ ดอกไม้ที่เป็นเครื่องหมายของความโศกเศร้าและการพลัดพราก


หรือจะเล่นนัยยะกับชื่อดอก…


ซ่อนกลิ่นอย่างนั้นหรือ?


ชิโนรสนิ่งคิด สองจิตสองใจกับทางเลือกที่ต่างกัน หนึ่งคือจะออกแบบตามความหมายของมันซึ่งคงต้องใช้เวลาในการหาข้อมูลอีกเล็กน้อย หรือออกแบบโดยอ้างอิงแค่รูปลักษณ์ภายนอกกับตัวตนของคุณพลอยที่เขามีโอกาสได้รู้จัก ซึ่งก็สัมผัสเจ้าหล่อนมาน้อยเหลือเกิน


เคาะปลายปากกากับพื้นโต๊ะอยู่สี่ถึงห้าครั้งอย่างใช้ความคิดก็ตัดสินใจได้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ดีไซน์เนอร์หนุ่มต่อสายโทรศัพท์ภายในถึงหัวหน้าทันทีเพื่อขอช่องทางการติดต่อหญิงสาวที่เกี่ยวข้องกับงานนี้โดยตรง


[ไม่มีให้หรอกว่ะ เราดีลงานกับคุณเท่าฟ้า จะมีเบอร์คุณพลอยได้ยังไง มึงจะเอาไปทำไมวะ]


“ก็งานที่ทำอยู่มันเกี่ยวกับเธอโดยตรงอ่ะดิ ทำไงดีล่ะครับบอส...ถ้าขอเบอร์เธอจากเจ๊จะน่าเกลียดไหมอ่ะ เธอจะโอเคไหมวะ” ชิโนรสหมายถึงภรรยาคนสวยของเจ้านายที่สนิทสนมกับพลอยอยู่พอสมควร


[ไม่น่ามีปัญหาอะไรป่ะวะ เราติดต่อเรื่องงานนี่หว่า มึงไม่ได้โทรไปจีบเขาสักหน่อย]


ชิโนรสหัวเราะแห้ง


[แต่เขาอาจจะยุ่งกับการเตรียมงานรึเปล่า คุณเท่าฟ้าเองก็หายไปหลายวันไม่ใช่เหรอ]


“งานอะไรครับ”


[งานแต่งไงวะ เขากำลังจะแต่งกันอยู่แล้ว อะไรวะ ทำงานใกล้ชิดคุณเท่าฟ้ายังไงไม่รู้เรื่องเลย]


งานแต่ง…


‘จะว่ายังไง ถ้าผมจะบอกว่าผมสนใจคุณ’


“ผ ผมเป็นใครกันล่ะ ทำไมเขาต้องมาบอกเรื่องส่วนตัวด้วย”


[แล้วเขาไม่บอกมึงเหรอว่าเขาเร่งให้บ้านเสร็จเร็วทำไม]


“เกี่ยวไรกัน...เดี๋ยวนะ”


[สกิลเสือกมึงต่ำมากนะไอ้ชีน ถ้าเป็นไอ้ปอนี่รู้นานละว่าเขาตั้งใจจะให้บ้านเสร็จก่อนงานแต่ง]


“ถ้าอย่างนั้น ผมยิ่งต้องรีบติดต่อคุณพลอยเลยใช่ไหมล่ะครับ เอาเป็นว่าผมฝากบอสด้วยแล้วกันนะครับ” แจ้งความจำนงให้คนฟังสับสนว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายออกคำสั่งได้แล้วก็รีบวางสายทันที นัยน์ตาคู่สวยกลับมาสนใจรูปดอกซ่อนกลิ่นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้งทว่าคราวนี้ความคิดไม่ได้จดจ่อกับมันอีกต่อไป แต่กลับนึกถึงเรื่องที่ศุภกิจพูดทิ้งท้ายเอาไว้


‘เดี๋ยวผมจะทำให้ชอบเอง’


คนที่เขากำลังจะแต่งงานเขาพูดแบบนี้กับคนอื่นอย่างนั้นหรือ เห็นแก่ตัวที่สุด ผู้ชายคนนั้นช่างเห็นแก่ตัวเสียจริง ทำให้คนหลงรักแล้วพรากความหวังไปพร้อมความสุขในชีวิตได้อย่างเลือดเย็นเสมอ


ชิโนรสหลับตาพ่นลมหายใจยาว รู้ตัวว่าอีกไม่นานความทุกข์จะถูกคน ๆ เดิมยัดเยียดเข้ามาในชีวิตตนอีกครั้ง ได้แต่หวังว่าครั้งนี้จะไม่สาหัสเท่าครั้งก่อน ไม่ทันรู้ตัวก็เผลอยกมือลูบแผลเป็นตรงโคนผมข้างขวาซึ่งถูกทิ้งไว้ให้เขาระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอยู่เสมอ เพียงแต่ไม่มีใครได้เห็นเพราะเขาจงใจใช้ผมหน้าม้าบดบังเอาไว้


ไม่อยากให้ใครเห็น รวมถึงตัวเองด้วย


“ชีน ไอ้ชีน!” ปอเรียกอยู่หลายครั้งทีเดียวกว่าชิโนรสจะรู้สึกตัว “เป็นไรวะ งานนี้ยากขนาดนั้นเลยเหรอ”


“อื้อ นิดหน่อยว่ะพี่”


กริ๊ง กริ๊ง


ไม่ทันได้ปรับทุกข์อะไรกับหนุ่มรุ่นน้อง โทรศัพท์ภายในของเจ้าตัวก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน ปอได้ยินชิโนรสตอบรับแค่ไม่กี่คำก็วางสายด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเดิมจึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง “มีไรวะ”


“งานผมแม่งยากจริง ๆ ด้วยว่ะ เจ้าของงานเธอไม่ว่างมาเจอผม”


“เห้ย ก็ออกแบบให้เขาไปก่อน ไม่ยากหรอก” ปอตบบ่าให้กำลังใจรุ่นน้อง “แค่เยอะ”


ชิโนรสหัวเราะแห้ง เห็นด้วยที่ว่าตนคงต้องออกแบบหลาย ๆ คอนเซ็ปท์ไปขาย “ก็คงงั้นแหละพี่”


“อย่าเพิ่งเครียดดิ เดี๋ยวเที่ยงนี้ไปกินข้าวข้างนอกกัน กูเลี้ยงเอง”


ชิโนรสยิ้ม พี่ชายร่วมงานคนนี้ใจดีกับเขาเสมอ “ไว้วันหลังนะพี่ เที่ยงนี้พี่ชิจะมารับอ่ะ”


ปอสั่นตัวสั่นศีรษะอย่างเข็ดขยาดเมื่อได้ยินชื่อนั้น เหตุการณ์ที่สร้างความรำคาญให้เขาในเย็นวันนั้นยังเป็นที่น่าจดจำจนไม่อยากจะเจอกันอีกเลย “โอเค ๆ ถ้าเขามาแล้วมึงรีบลงไปเลยนะ อย่าให้เขาขึ้นมา”


ชิโนรสหัวเราะร่วน ไม่เคยเห็นปอกลัวใครแบบนี้มาก่อนแม้กระทั่งกับเจ้านายเองก็ตาม “ขอโทษแทนพี่ชิอีกครั้งนะครับ”


“เออ ๆ”




เมื่อได้รับข้อความจากฮิโรชิว่าอีกห้านาทีจะถึงบริษัทแล้วชิโนรสก็รีบทำตามคำแนะนำของปอทันทีโดยไม่ลืมแกล้งอีกฝ่ายด้วยการรายงานเรื่องนี้ให้ทราบด้วยรอยยิ้มทะเล้นจนเกือบจะโดนเตะให้ก้นช้ำเสียแล้ว


ทั้งที่มีเวลาพักจากการถ่ายละครน้อยนิดแต่ฮิโรชิก็ยังเลือกภัตตราคารในโรงแรมหรูแทนที่จะเป็นร้านอาหารข้างนอกเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง


“ดีจังที่วันนี้ชีนว่างมากับพี่” ฮิโรชิพูดระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟแต่ชิโนรสรู้ว่าพี่ชายหมายถึงอะไรกันแน่


“ก็บอกแล้วว่าแค่งาน เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาหรือทุกวันหรอกครับ”


“ชีนรู้ใช่ไหมว่าพี่เป็นห่วงมาก”


“ครับ”


“แล้วรู้ใช่ไหมว่าถ้าแม่รู้แม่จะเป็นห่วงมากแค่ไหน”


“รู้ครับ”


“พี่ว่าครั้งนี้แม่อาจจะพาเราหนีไปไกลจากเขาเลยนะ”


ชิโนรสรู้...และเพราะรู้อย่างนั้นถึงยอมให้คุณแม่ลินดารู้เรื่องนี้ไม่ได้ เขายังอยากเจอ ‘พี่ฟ้า’ ยังอยากอยู่ใกล้แม้ไม่มีสิทธิ์ได้ใกล้แล้วก็ตาม


ฮิโรชิไม่อยากใจร้ายพูดให้น้องไม่สบายใจ แต่เพราะเขาเป็นห่วงจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดเตือนให้ตระหนักรู้สถานะที่แท้จริงของตน แม้ปากชิโนรสจะยืนยันว่าไม่มีทางกลับไปรู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้นอีก แต่ก็ประมาทไม่ได้ ในเมื่อสี่ปีที่ไม่เจอกัน ผู้ชายที่ชื่อเท่าฟ้าคนนั้นก็ยังไม่หายไปจากใจของน้องเขาเสียที







“ขอบคุณคุณประสิทธิ์อีกครั้งนะครับที่วางใจให้ทางเราออกแบบเพนท์เฮ้าส์ให้ ผม…” เท่าฟ้าชะงักไปเล็กน้อยเมื่อบังเอิญหันไปเห็นใครบางคนเดินออกมาจากห้องอาหารของโรงแรมพร้อมกับพี่ชายคนสนิทที่ดูเหมือนจะกำลังตรงไปยังห้องน้ำ “...ผมขอลาตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ สวัสดีครับ”


บอกลาลูกค้าเรียบร้อยแล้วก็ปลีกตัวออกไปยังห้องน้ำตามสองคนนั้นทันที เพียงแต่เขาเลือกที่จะยืนรอข้างนอกแทนการตามเข้าไปข้างในด้วย


เท่าฟ้ายืนพิงแผ่นหลังกับผนังทางเข้าด้วยท่าทีสบาย ยกสมาร์ทโฟนขึ้นต่ำกว่าระดับสายตาเล็กน้อยเพื่อมองให้เห็นเงาสะท้อนของคนที่จะเดินออกมา เพราะอย่างนั้น ในตอนที่คนคู่นั้นเดินออกมา เขาจึงทำให้การพบกันหน้าห้องน้ำของพวกเขาเป็นเรื่องบังเอิญได้อย่างแนบเนียนทีเดียว


“อ้าวคุณ มาพักกลางวันถึงที่นี่เลยเหรอครับ แต่ดีจริง ๆ ที่เจอคุณที่นี่ ผมจะได้ไม่ต้องวกเข้าไปที่ออฟฟิศคุณอีก” เท่าฟ้าว่าด้วยสีหน้ายินดีเสียเต็มประดา ทว่าสีหน้าแววตาที่ดูดีใจเกินสมควรมันผิดปกติจนฮิโรชิคิดในแง่ดีไม่ได้เลยสักนิด


ชิโนรสเกลียดตัวเองที่ยอมรับว่ารู้สึกดีใจที่ได้เจอเขาหลังจากไม่เห็นหน้าเกือบสามวันเต็มแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเก็บอาการไม่แสดงให้รู้และกลบมันเอาไว้ด้วยสีหน้าไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ “ผมยังทำงานให้คุณไม่เสร็จหรอกนะครับ”


“อ้อ” ฮิโรชิเกลียดท่าทีเกินจริงของอีกฝ่าย มันทำให้เขาไม่อาจไว้วางใจอะไรผู้ชายคนนี้ได้เลย “ถ้าเสร็จแล้วก็อัจฉริยะเกินไปแล้วครับ”


“พวกเราขอตัวก่อนนะครับ” ฮิโรชิยอมเสียมารยาทเอ่ยขัดเพื่อให้ได้พาคนน้องออกจากที่ตรงนี้ และเท่าฟ้าคงยอมปล่อยให้ไปง่าย ๆ หากอีกฝ่ายไม่โอบเอวบางด้วยท่าทีเคยชินจนชวนหมั่นไส้แบบนั้น


“เกรงว่าคุณจะต้องกลับไปคนเดียวแล้วล่ะครับ คุณฮิโรชิ”


“อะไรของคุณ” เป็นชิโนรสที่ชิงถามขึ้นก่อนที่พี่ชายคนสนิทจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้


“คุณต้องไปทำงานกับผม ลืมไปแล้วเหรอว่าเวลาทั้งหมดของคุณเป็นของผม...ผมหมายถึงเวลางานน่ะครับ” เท่าฟ้าแก้คำด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรเมื่อเห็นสีหน้าของคนฟังเริ่มเปลี่ยน


“...”


“เชิญครับ” เท่าฟ้าผายมือนำทางให้ชิโนรส คนตัวเล็กฟึดฟัดที่จำต้องยอมแต่ก็ไม่ขัดความต้องการทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่เงินกับโทรศัพท์มือถือติดตัวอยู่เท่านั้น ต่างกับคนพี่ที่รั้งไว้ด้วยสายตาที่สื่อความหมายมากมายทว่าก็ไม่อาจฉุดอีกฝ่ายไว้กับตนได้


เท่าฟ้ายิ้มบาง ๆ ให้กับชัยชนะเล็ก ๆ ของตัวเองก่อนเดินตามคนตัวเล็กไปโดยไม่ลืมบอกลาฮิโรชิด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


“คุณจะพาผมไปไหนครับ” คนที่ยอมขึ้นมานั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถคนอื่นเอ่ยปากถามเมื่อรถเคลื่อนออกจากโรงแรมแล้ว


“บริษัทของผม”


ใบหน้าที่ขาวซีดอยู่แล้วยิ่งซีดเผือดเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะพาตนไปที่ไหน ถ้าบริษัทที่หมายถึงคือบริษัทที่พวกเขาร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา คนเก่าคนแก่ที่นั่นจะต้องทำให้ความแตกอย่างแน่นอน และเขาไม่มีทางยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่ “แต่ผมไม่มีอุปกรณ์สำหรับทำงานเลยนะครับ”


“ไม่ต้องห่วง บริษัทผมมีครบทุกอย่าง”


“แต่...”


“ดอกไม้ที่ผมส่งไปให้เป็นยังไงบ้างครับ” แม้หงุดหงิดกับการเปลี่ยนเรื่องกะทันหันของอีกฝ่ายแต่เมื่อพูดถึงดอกไม้ ชิโนรสก็นึกสงสัยขึ้นมาทันทีว่าเขาหมายถึงอะไรกันแน่ ผู้ชายคนนี้เคยนึกสงสัยบ้างไหมว่าเขารอดจากการแพ้มันมาได้อย่างไร หรือห่วงกันบ้างหรือเปล่าว่าเขาอาจจะล้มป่วยเพราะมัน...หรือแท้ที่จริงแล้ว ลึก ๆ กำลังคิดว่าทำไมเขาถึงยังไม่ตาย


ชิโนรสรู้ว่าถึงแม้ตนจะคิดอย่างนั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วเขาหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้กังวลถึงดอกซ่อนกลิ่นนั่นอย่างที่ตนกำลังคิด หวังให้เท่าฟ้าเพียงแค่ถามถึงงานของตนเท่านั้น


“ยากพอสมควรครับ ผมอยากรู้จักคุณพลอยให้มากกว่านี้ จะได้รู้ว่าควรเรฟฯ จากการลักษณะของดอกไม้หรือชื่อของมันกันแน่”


“ใช้ลักษณะ”


“หืม”


“สวย บอบบาง หอม อยู่ใกล้แล้วทำให้ทั้งชื่นใจและผ่อนคลาย แต่ก็แกร่ง...เธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นแหละ”


ชิโนรสมองใบหน้าของคนที่กำลังบรรยายลักษณะของผู้หญิงที่ตนกำลังจะแต่งงานด้วย เขาสัมผัสได้ว่าเท่าฟ้ารักเธอมากจริง ๆ เพราะทั้งสีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชมและสิเน่หาอย่างชัดเจน “เพราะอย่างนั้นคุณถึงรักเธอสินะครับ” กว่จะรู้ตัวว่าถามในสิ่งที่ไม่ควรออกไปก็งับปากตัวเองไว้ไม่ทันเสียแล้ว


เท่าฟ้าเหยียดยิ้ม “ไม่ใช่แค่รักหรอก หาคู่ชีวิตนะครับ ไม่ใช่แค่คู่ขาร่วมเตียง”


...คู่ชีวิต…


ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นคู่ชีวิต คู่ชีวิตที่ไม่มี ‘สิทธิ’ อะไรเลย


โชคดีแล้ว...ที่เขาไม่ต้องตกอยู่ในสถานะนั้นอีก


...แม้จะยังต้องการอยู่ก็ตาม


ชิโนรสไม่ถามอะไรต่อและเท่าฟ้าเองก็ไม่ต่อความอะไร ทั้งสองต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองเงียบ ๆ โดยลำพัง ห้วงความคิดที่ทำให้ชิโนรสลืมไปเสียสนิทว่าตนกำลังกังวลกับจุดหมายปลายทางของรถคันนี้อยู่


กว่าจะรู้ตัวว่าติดอยู่ในอดีตเก่า ๆ นานแค่ไหนก็ตอนที่รถหรูเลี้ยวเข้าอาคารแห่งหนึ่งซึ่งต่างไปจากที่คิดไว้เสียแล้ว


ที่นี่ไม่ใช่บริษัทที่พวกเขาร่วมกันสร้างขึ้นมาด้วยสองแรง เขาจำได้ ที่นี่คือตึกรัชกิจประการ บริษัทของตระกูล ตึกที่แสดงความโอ่อ่าของฐานะผู้ชายคนนี้ที่ทำให้รู้สึกว่าชื่อของเขาไม่ได้ใหญ่โตเกินไปเลยสักนิด


“คุณพาผมมาที่นี่ทำไม” ชิโนรสถามในตอนที่รถจอดสนิทเรียบร้อยแล้ว


“ไม่คิดจะถามก่อนเหรอครับว่าที่นี่ที่ไหน” เท่าฟ้าเลิกคิ้วมอง


“รัชกิจประการไม่ได้โนเนมในวงการออกแบบ” หรือจะให้จำเพาะกว่านั้นคงต้องบอกว่าออกแบบอาคารสถานที่


เท่าฟ้ายิ้ม ไม่ได้ว่าอะไรต่อ เพียงแค่เดินนำทางอีกฝ่ายเข้าลิฟต์โดยสารเพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดเท่านั้น


ชิโนรสเดินตามร่างสูงสง่าไปตามโถงทางเดินมุ่งสู่ห้องทำงานของเจ้าตัวด้วยท่าทีหวาดกลัวอย่างคนที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ใช่เพราะคนที่พาตนมา แต่เพราะความทรงจำในวันวานต่างหากที่ทำให้เขาไม่อยากย่างกรายเข้ามาที่นี่อีก


เท่าฟ้าหยุดยืนหน้าโต๊ะเลขาฯคนสวย ชิโนรสทักทายเล็กน้อยเพราะจำได้ว่าเธอคือคนที่ตามเท่าฟ้าไปคุยงานที่บริษัทเมื่อครั้งก่อนด้วย


“ผมรบกวนคุณยุ้ยจัดโต๊ะทำงานและของอื่น ๆ ที่คุณชิโนรสต้องการให้ด้วยนะครับ” สั่งงานเรียบร้อยแล้วคนเป็นผู้บริหารระดับสูงก็เดินเข้าห้องทำงานตัวเองไปโดยไม่สนใจคนที่พามาด้วยเลยสักนิด


คล้อยหลังประตูห้องปิดลง รอยยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อ ที่พามาด้วยใช่ว่าอยากอยู่ด้วยเสียที่ไหน เขาแค่หมั่นไส้พ่อพระเอกนั่นต่างหากเลยแกล้งจับแยกเสียนี่ แค่นึกถึงสีหน้าของคนแพ้แล้วก็ยิ่งทำให้รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างขึ้นกว่าเดิมเสียอีก


ชิโนรสยิ้มแห้ง ไม่รู้จะขอโทษหญิงสาวอย่างไรกับความเดือดร้อนที่ตนนำมาให้ เพราะว่ากันตามตรงแล้วงานของเขาสามารถทำที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใกล้มือใกล้เท้าผู้ชายคนนั้นเลยสักนิด แต่เธอก็ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนในการจัดการหาของทุกอย่างที่คาดว่าเขาต้องใช้ทำงานที่เจ้านายเธออ้างในการพาเขามาที่นี่


หนุ่มร่างเล็กใช้เวลาในการหาข้อมูลเกี่ยวกับดอกซ่อนกลิ่นเพิ่มเติมเพื่อฆ่าเวลาเพราะไอเดียเกี่ยวกับงานยังไม่เกิดด้วยเพราะอารมณ์หงุดหงิดในตัวเท่าฟ้ามีมากกว่าอารมณ์สุนทรีที่เหมาะแก่การทำงานศิลปะ  ครั้นเมื่อได้ลงมือร่างแบบคร่าว ๆ จริง ๆ ก็ขีด ๆ ลบ ๆ อยู่หลายครั้งเพราะไม่มีสมาธิ เนื่องจากได้ยินเสียงของเท่าฟ้าที่ขยันออกจากห้องมาคุยงานกับเลขาฯ คนสวยอยู่หลายครั้ง


เลขานุการสาวเริ่มรู้สึกว่าเจ้านายของเธอแปลกไป นับเป็นครั้งที่สามในหนึ่งชั่วโมงนี้แล้วที่เขาเดินออกมาหาเธอด้วยเรื่องงานทั้งที่ปกติแล้วแค่โทรฯ ออกมาเท่านั้น แต่ช่วงบ่ายวันนี้กลับเดินออกมาหาเธอเองถึงโต๊ะ ไม่ว่าจะขอดูงานหรือสั่งงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม ทว่าสิ่งที่เธอไม่ทันสังเกตคือสายตาของเจ้านายที่มักจะมองเลยเธอไปยังดีไซน์เนอร์หนุ่มโต๊ะข้าง ๆ เสียมากกว่า


“คุณเท่าฟ้ามีอะไรก็โทรให้ดิฉันเข้าไปหาเองเถอะค่ะ” หญิงสาวชิงพูดขึ้นก่อนเมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มเดินออกมาจากห้องอีกครั้ง


เท่าฟ้าปั้นสีหน้าไม่ถูกเมื่อไม่รู้จะอธิบายกับเธออย่างไร ทำได้แค่บอกปัดว่าไม่มีงานอะไรแล้วก่อนจะหันไปหาดีไซน์เนอร์หนุ่มแทน “เชิญคุณชีนเก็บของเข้ามาทำงานในห้องผมด้วยครับ”


“ห๊ะ!” ชิโนรสมองหน้าตาตื่น


ทว่าเท่าฟ้าไม่พูดซ้ำ “รบกวนคุณยุ้ยช่วยเขาย้ายของด้วยนะครับ”


“บ้าอำนาจ” คนตัวเล็กบ่นพึมพำตามหลังคนที่ออกคำสั่งเสร็จแล้วก็กลับเข้าห้องไปทันที ก่อนจะยิ้มแห้งเมื่อเห็นสายตาที่มองมาของหญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นี้ “ผมหมายความว่าสั่งเก่งน่ะครับ”


เธอคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “อย่าถือสาเธอเลยค่ะ”


โต๊ะทำงานของชิโนรสในห้องของเท่าฟ้าคือโซฟารับรองแขกตัวใหญ่ที่มีพื้นที่มากมายแต่ไม่สบายสำหรับลักษณะงานของเขาเลยสักนิด หนุ่มร่างเล็กเลิกสนใจข้อความมากมายที่ฮิโรชิส่งมาหาแล้ววางสมาร์ทโฟนไว้บนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ ใช้เวลาก่อนเริ่มงานมองสำรวจไปทั่วห้องนี้ ชักจะรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็ก ๆ เพราะทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของชายผู้เคยเป็นที่รัก แต่ถึงอย่างนั้นก็สำรวจอย่างถ้วนทั่วเกือบทุกมุมก่อนที่สายตาจะสบเข้ากับเจ้าของห้องที่มองมายังตนอยู่พอดี


“อะเอ่อ...” ชิโนรสตะกุกตะกัก ทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจับได้ว่าแอบสำรวจห้องคนอื่น “คุณบอกว่าพาผมมาเพราะมีงานต้องทำด้วยกัน”


“ก็งานที่คุณมีอยู่ไง ทำไปสิ”


“ถ้าอย่างนั้นผมจะกลับไปทำที่ออฟฟิศ”


เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกว่าปิดหน้าจอแล็ปท็อปทันทีโดยไม่ลังเลเท่าฟ้าก็รีบกลับคำพูดตัวเองทันที “ผมมีงานให้คุณทำ” และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังมีสีหน้าไม่เชื่อกันจึงย้ำความตั้งใจอีกครั้งด้วยการบอกให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้


“ผมอยากให้คุณช่วยงานนี้”


ดีไซน์เนอร์หนุ่มชะโงกหน้าข้ามโต๊ะไปมองหน้าจอ เมื่อเห็นว่าเป็นโมเดลสามมิติของเพนท์เฮาส์ไม่ใช่บ้านไม้ริมทะเลที่เป็นงานของตนโดยตรงก็รู้สึกฉุนขึ้นมา “นั่นใช่งานที่ผมต้องทำเหรอ ผมไม่ใช่อินทีเรียนะ”


“ช่วยผมออกแบบอย่างที่คุณถนัดก็ได้ ผมจ้างคุณโดยตรงเลย ไม่ผ่านบริษัท”


“ขอโทษด้วยครับ แต่ผมไม่รับงานเอง”


เท่าฟ้านิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแต่ไม่ละสายตาไปจากคนตัวเล็กกว่าเลยสักนิด “มาทำงานกับผมไหม”


“...” ชิโนรสพูดไม่ออก ไม่แม้กระทั่งจะโวยวายถึงความบ้าบอในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา เพราะอดคิดถึงช่วงเวลาที่ทำงานด้วยกันไม่ได้


...บรรยากาศการทำงานที่อบอวลไปด้วยความสุขและความรักของเราสองคน...


“ผมพูดจริงนะ”


คล้ายเป็นถ้อยคำกระชากสติ ชิโนรสจุดยิ้มมุมปากก่อนย้อนกลับ “ที่นี่น่ะเหรอครับ” ไม่มีทางแน่ ต่อให้คิดจะแกล้งกัน เท่าฟ้าก็ไม่มีทางชวนเขามาทำงานที่นี่แน่


“หึ ผมไม่ค่อยได้ทำงานที่นี่นักหรอกครับ ที่ผมอยากให้คุณมาอยู่ด้วย ผมหมายถึงบริษัทรัชชิน”


รัชชิน...บริษัทที่พวกเขาตั้งขึ้นมาด้วยกัน


“ผมไม่ทำ” น้ำเสียงแน่วแน่และมั่นคงเกินกำลังตนยิ่งทำให้คนฟังอยากเอาชนะ “ผมจะกลับแล้ว”


เท่าฟ้ารีบลุกขึ้นยืนคว้าแขนคนที่หันหลังให้ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับอยากจากกันไปนัก “คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”


ชิโนรสเลิกคิ้วมองแทนคำถาม


“ผมขอเบอร์คุณไว้ได้ไหม”


“ถ้าเป็นเรื่องงาน คุณติดต่อผ่านส่วนกลางของบริษัทหรืออีเมลได้เลยครับ”


“ถ้าอยากคุยนอกเรื่องล่ะ...เช่นเย็นนี้เราจะทานอะไรกันดี” ใบหน้าหล่อแต้มยิ้มสนเท่ห์ชวนให้ใจเต้นแรงเหมือนในวันวาน ทว่าชิโนรสมีสติพอที่จะไม่ลุ่มหลงมันง่าย ๆ


“พอดีว่าผมไม่ต้องคิดเองครับ คุณแม่ผมจะดูแลเรื่องนี้ให้”


“...”


“อีกอย่าง ส่วนใหญ่แล้วเราก็ทำงานอยู่ด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องโทรนี่ครับ”


เท่าฟ้ากระตุกยิ้ม “หมายความว่าคุณยินดีที่จะอยู่กับผมตลอดเวลา”


คนเด็กกว่าสูดหายใจ เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ผมยังไม่เห็นถึงความจำเป็นนั้นนะครับ”


“จำเป็นสิครับ...เพราะถ้าผมไม่เห็นหน้าคุณ ผมก็อยากจะรู้ว่าคุณเป็นยังไง ทำอะไรอยู่ ผมถึงได้ขอเบอร์คุณไว้ไงครับ”


สองหนุ่มจ้องประสานตากันอย่างท้าทายก่อนที่คนน้องจะเป็นฝ่ายหลบ “ผมจะลงไปซื้อกาแฟข้างล่าง คุณอยากได้อะไรไหมครับ”


รอยยิ้มเล็ก ๆ จุดขึ้นมุมปากของร่างสูงเมื่อสัมผัสได้ถึงชัยชนะในครั้งนี้แต่ก็ยังอยากให้สุดกว่านี้จึงย้ำความต้องการเดิมอีกครั้ง “เบอร์คุณไง บอกไปแล้วนี่ว่าอยากได้เบอร์คุณ”


“ไม่มีให้ครับ” ชิโนรสพูดเสียงหนักแน่นที่ไม่ต่างจากแมวขู่ฝ่อ เท่าฟ้าเรียนรู้ว่าชิโนรสคนที่ยังยอมต่อปากต่อคำด้วยไม่ใช่ชิโนรสคนที่โกรธเป็นจริงเป็นจังอย่างที่แสดงออก


เท่าฟ้ายอมปล่อยให้ชิโนรสทำตามต้องการได้เมื่อเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น เสียงเลขาฯ สาวดังเข้ามาแจ้งว่าเพื่อนที่เขานัดไว้มาถึงแล้วเขาจึงอนุญาตอัตโนมัติ กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนคนนั้นคือใครก็โทรฯ กลับไปห้ามไว้ไม่ทันเสียแล้ว


“ชีน น้องชีนใช่ไหม” คนมาใหม่ทักทายคนที่เจอทันทีเมื่อเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าอีกฝ่ายเลยสักนิด


“พี่ศร!”


“รู้จักกันด้วยเหรอ”


“มึงว่าอะไรนะ?” ธรรมศรหันมองหน้าเพื่อนและหนุ่มรุ่นน้องสลับกันไปมาด้วยความงงงวย “ทำไมจะไม่รู้จักวะ ก็--”


“เรารู้จักกันเพราะเคยเล่นละครเวทีด้วยกันครับ” ชิโนรสชิงตอบขึ้นเสียก่อนที่ธรรมศรจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรออกมา เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาตื้นลึกหนาบางขนาดไหน เพียงแต่ตนต้องป้องกันเอาไว้ก่อน


“ละครเวที?...เรื่องไหน”


“ยังมีเรื่องไหนอีกละวะ ทั้งชีวิตมหา’ลัยกูก็เล่นให้คณะมึงแค่เรื่องเดียวเนี่ย”


“คุณก็เล่นด้วย?”


“...” ชิโนรสพูดไม่ออก ถ้าเป็นเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่เกิดเรื่องใหม่ ๆ เขาคงปล่อยโฮออกมาแล้วเมื่อถูกกดดันแบบนี้


“แล้วทำไมเราไม่รู้จักกัน”


“...”


“ไม่สิ ผมความจำเสื่อมไปพักหนึ่ง ต้องถามว่าคุณไม่รู้จักผมเหรอ”


ชิโนรสกลืนน้ำลายหนืดลงคอ เกิดอาการน้ำท่วมปากไม่รู้จะพูดออย่างไรหรือควรเลือกทางไหน


“เอ่อ...ผมกำลังจะลงไปซื้อกาแฟข้างล่าง พี่ศรอยากได้อะไรไหมครับ” คนถามส่งสายตาร้องขอด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจและให้ความช่วยเหลือ


“ขอบคุณครับ แต่พี่ว่าพี่ลงไปซื้อเองดีกว่า...เดี๋ยวกูมานะ” ธรรมศรว่าในขณะที่วาดแขนขึ้นกอดคอหนุ่มรุ่นน้องอย่างสนิทสนม


“ไอ้ศร!” เจ้าของชื่อทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจน้ำเสียงกดต่ำที่ดังตามหลังแม้ว่าฟังจากน้ำเสียงก็รู้ในทันทีว่าเพื่อนกำลังรู้สึกแบบไหนอยู่ก็ตาม เขารู้ว่าที่เท่าฟ้าเป็นแบบนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขาให้ความช่วยเหลือหนุ่มรุ่นน้อง แต่เป็นเพราะแขนที่โอบกอดร่างเล็กนี้อย่างถือวิสาสะต่างหาก








TBC.
----------------------------------------------------
หายไปนานถึง 9 เดือน
ยังมีใครอยากอ่านไหมคะ
อ่านเถอะค่ะ ยังอยากแต่งงงงงง
ฝากด้วยนะคะ
#ฟ้าชีนไม่มีสิทธิ

ด้วยรักและขอบคุณ
ธัญญ์

ออฟไลน์ kingkongkaew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ดีใจที่กลับมาเขียนต่อนะคะ

อ่านตอนนี้แล้วคิดว่าเท่าฟ้าคงจำน้องชีนได้แล้วแน่ๆ ดูหวงน้องกับทุกคนขนาดนี้

รออ่านตอนต่อไปนะคะ อยากรู้ว่าศรจะคุยอะไรกับชีนบ้าง

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :3123: :3123: :3123:
 :pig4:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ขอบคุณที่กลับมาค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด