[เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You are what you eat
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] You are what you eat  (อ่าน 2266 ครั้ง)

ออฟไลน์ steppenwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

.....................................................................................



เรื่องสั้นเรื่องนี้ เเต่งขึ้นมาเนื่องจากได้ฟังเพลง Mein Teil ของวง Rammstein ค่ะ
เป็นเพลงเมทัลภาษาเยอรมันที่ค่อนข้างจะหนักหน่วง เนื้อเพลงค่อนข้างจะเรทในด้านความหมายเเฝงที่น่ากลัว
เเต่ถ้าหากอ่านเรื่องนี้จบเเล้วไปฟัง ก็จะดีใจมากค่ะ (มาโปรโมตวงที่ชอบ ฮา)
เเละถ้าชอบเรื่องราวของสองคนนี้ เราก็จะดีใจมากๆ เช่นกันค่ะ
เเนวคิดของเนื้อเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ตรงตามประเด็นของชื่อเรื่องอย่างชัดเจนค่ะ
เราคิดว่า สัตว์กินเนื้อจะดุร้ายก็ไม่เเปลก เพราะกินเนื้อนี่นะ หรือสัตว์กินซากจะดูน่ารังเกียจก็ไม่เเปลก เพราะกินซากศพนี่นะ
ก็เลยคิดว่า บางทีการที่มนุษย์ได้กินอะไรหลายๆ อย่างที่เเตกต่างกันไปนี้ ก็น่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความหลากหลายของมนุษย์ขึ้นมาค่ะ
เกริ่นมานาน55  ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
<3
Steppenwolf

Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ steppenwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
[You are what you eat!]





   อิ่ม…


   ตอนนี้กังวานอิ่มมากๆ  อิ่มจนเพียงแค่มองภาพอาหารก็อาจอาเจียนออกมาได้เลยทีเดียว

   สาเหตุที่ทำให้เขาอิ่มจนจุกขนาดนี้ เห็นทีคงหนีไม่พ้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า… อาหารอร่อย วัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วทุกสารทิศประกอบเรียงกันอยู่บนจาน ทั้งยังดูดีเสียจนเขาไม่กล้าละสายตาไปมองอาหารร้านไหน


   อาหารจานนั้นเหลือบสายตาขึ้นมามองเขา  สายตาที่สามารถคร่าชีวิตคนได้เพียงแค่ตวัดมอง …และแน่นอนว่านั่นยิ่งทำให้เขาอิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก

   “มองอะไร”

   กังวานไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มหวานแล้วตอบกลับไป “มองคนหล่อ”

   “จะอ้วก”


   ใจจริงเขาอยากตอบกลับไปว่า เอาเลยสิ เขาเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าอาเจียนของอีกฝ่ายจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้วถ้าตอบกลับไปแบบนั้นอาหารจานโปรดของเขาก็คงจะหวาดกลัวจนถอยหลังวิ่งหนีไปเลยก็ได้ กังวานเลยได้แต่นั่งยิ้มอยู่เงียบๆ  เฝ้ามองเมนูหลักของเขากินข้าวผัดกะเพราจานใหญ่อยู่อย่างนั้น


   ทยุตหรือที่เพื่อนๆ เรียกกันว่าไทเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่  ด้วยส่วนสูงราวๆ หนึ่งร้อยแปดสิบหกเซนติเมตรและกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันเป็นลอนอย่างสวยงามในแต่ละทุกตารางนิ้วของร่างกาย แถมยังมีใบหน้าที่หล่อเหลา คมกรามชัดเข้ม จมูกเรียงโด่งที่งดงาม บวกกับดวงตาชั้นเดียวที่สะกดได้ทุกการเคลื่อนไหวของความคิด  ทยุตจึงกลายเป็นที่นิยมในเวลาไม่นานนักหลังจากเข้าเรียนมหาวิทยาลัย  ตำแหน่งเดือนของคณะแพทย์จึงตกมาเป็นของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ดีไม่ดีตำแหน่งเดือนของมหาวิทยาลัยก็คงจะตกเป็นของเขาไปด้วยอีกแน่นอน ถ้าไม่ติดว่าเจ้าตัวเคยประกาศกร้าวกลางเวทีงานดาวเดือนมาก่อนว่า…

    ‘ผมถูกบังคับมาลงประกวด คิดว่าแค่เห็นหน้าผมทุกคนก็คงจะรู้อยู่แล้ว สำหรับผมงานนี้เองก็ไม่ต่างอะไรจากการใช้ประโยชน์จากรูปลักษณ์ภายนอกเพื่อสนองความต้องการของเพศตรงข้าม ซึ่งก็คงถือว่าเป็นสิ่งที่ยังจำเป็นในสังคมของมนุษย์ที่ยังต้องการการสืบพันธุ์อยู่…  สุดท้ายนี้ความสามารถพิเศษที่ผมจะนำมาลงประกวดให้ทุกท่านได้เห็นก็คือนี่ครับ’  ว่าแล้วทยุตก็วางไมค์ลงกับพื้น ก่อนจะใช้มือข้างถนัดของตัวเองยกขึ้นชูนิ้วกลางอย่างสง่างามแล้วเดินลงจากเวทีไป

   แน่นอนว่าจากเหตุการณ์นั้น ทยุตกลายเป็นคนดังไปในชั่วข้ามคืน… ก่อนหน้านี้ก็ดังอยู่แล้วแหละนะ แต่เพราะทำตัวแบบนี้ด้วยก็เลยกลายเป็นว่าดังขึ้นกว่าเดิมอีก  พวกผู้หญิงบางคนก็ชอบในความตรงและห่ามของเขา ส่วนพวกผู้ชายก็หมั่นไส้ไปตามระเบียบ ด้วยว่าหน้าตาดีอยู่แล้ว ทำอย่างนั้นก็ยิ่งดูเหมือนพวกเรียกร้องความสนใจเข้าไปกันใหญ่



   แต่คนอย่างทยุตก็ยังทยุตอยู่เหมือนเดิม จนตอนนี้อยู่ปีสามแล้วก็ยังคงเป็นทยุตคนเดิม มีแค่รอยคล้ำใต้ตาที่ดูจะเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปีตามสไตล์ของนักศึกษาแพทย์  ซึ่งนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งเช่นกันที่กังวานชอบเกี่ยวกับคนตัวสูงคนนี้

   จะให้เรียกว่าชอบก็คงไม่ถูก เพราะถ้าจะลงลึกถึงรายละเอียดจริงๆ ก็คงบอกได้แค่ว่า กังวาน ‘หมกมุ่น’ อยู่กับชายหนุ่มอายุเท่ากันที่ชื่อว่าทยุตนี้เสียจริงๆ

   อาหารที่ถูกปากขนาดนี้ ยิ่งได้กินก็ยิ่งหยุดไม่ได้


   “อีกนิดกูจะเก็บเงินค่ามึงมองแล้วนะ”

   ทยุตเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่ากังวานยังคงมองอยู่ตั้งแต่ข้าวพัดกะเพรายังเต็มจาน จนตอนนี้เหลือเพียงแค่ส้อมวางคู่กับช้อนอยู่เคียงกันเท่านั้น


   “เงินค่ามองแถวบ้านกูเขาเรียกว่าสินสอดนะไท”

   “แม่กูหน้าเลือดนะ คงต้องแปดหลักแล้วล่ะ”

   “กูแถมทองกับโฉนดไปด้วยเลย”

   “อ้วก”  ทยุตทำท่าเหมือนกับจะขย้อนอาหารออกมา  แต่ก็แค่แกล้งทำเล่นๆ เท่านั้น กังวานอดที่จะเซ็งในใจไม่ได้ “แล้วนี่มึงมีเรียนกี่โมง”


   “บ่ายสอง” กังวานเรียนคณะกายภาพบำบัด  ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนหัวไม่ค่อยดีนัก สอบทีไรคะแนนก็คาบเส้นตลอด ไม่คาบเลยขึ้นไปนิดหน่อยก็ตกลงจากเส้นนิดหน่อย  ยังดีที่ทยุตคอยช่วยติวให้ตลอดตั้งแต่ขึ้นม.หกมา ทำให้ถึงแม้ว่าจะสอบไม่ติดแพทย์พร้อมกันอย่างที่หวัง แต่สายอาชีพและมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้หลุดห่างจากกันมากนักเท่าที่กลัว


   “กูมีบ่ายโมง ไปก่อนล่ะ”

   ร่างสูงลุกขึ้นยืน ไม่ลืมที่จะเก็บจานข้าวตัวเองไป กังวานมองตามบั้นท้ายแน่นที่เกิดจากการออกกำลังกายเป็นอย่างหนักอาทิตย์ละสามครั้งของทยุตแล้วก็อดหิวขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็รู้สึกอิ่มจนกลืนน้ำลายไม่ไหว แต่พอห่างกันได้ไม่ทันไรท้องก็หิวเสียจนเหมือนเด็กขาดสารอาหารอีกอย่างไรอย่างนั้น

   ไม่หรอก เขาไม่ได้หิวเพราะขาดสารอาหาร แต่เขาหิวเพราะขาดทยุตไปต่างหาก


   กังวานนึกในใจ ดูดน้ำเปล่าในขวดจนหมดเพราะลำคอเริ่มแห้งผาก อีกหนึ่งชั่วโมงก่อนเรียนต่อจากนี้เขาว่าง และจะใช้เวลานี้ช่วยตัวเองในห้องน้ำเสียให้เกินพอ  เพราะยิ่งทิ้งช่วงเวลานานเท่าไหร่ ภาพและกลิ่นของทยุตจะยิ่งจางลงเรื่อยๆ จนเหลืออยู่แค่เพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำ

   เขาไม่ชอบความทรงจำเท่าไหร่นัก เพราะมันกินไม่ได้ดื่มไม่ได้ แถมยังไม่ได้กลิ่นหอมจากตัวของทยุตอย่างที่เขาชอบอีก ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ต้องทำเวลาให้เร็ว ต้องรีบเข้าห้องน้ำให้เร็วที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะจางไปมากกว่านี้ คิดแล้วกังวานก็เดินออกจากโรงอาหารไปทั้งๆ ที่จานอาหารของตัวเองก็ยังวางอยู่บนโต๊ะตรงนั้น 


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


   กังวานหอบชีทเรียนที่ดูจะเยอะเกินควรกลับหอมา  ปึกกระดาษพวกนั้นขาวสะอาดเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจที่จะเรียนเท่าไหร่ เวลาส่วนมากในห้องนั้นหมดไปกับการคิดถึงเรื่องราวของทยุตอย่างไม่หยุดหย่อน และถึงแม้จะเรียนไม่เข้าใจก็ยังได้ประโยชน์อีกหนึ่งต่อ ด้วยว่าเดือนคณะแพทย์จะเข้ามาติวให้ทุกครั้งก่อนมีสอบ เขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งใจเรียนมากนัก

   เมื่อไขกุญแจเข้ามาในห้องได้สำเร็จ เขาก็วางของทั้งหมดของตัวเองลงที่อย่างเป็นระเบียบ ส่วนของชีทเรียนจะถูกเก็บไว้ในแฟ้มหนาใต้โต๊ะ กระเป๋าและข้าวของอื่นๆ จะกองอยู่บนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงของเขา   กังวานเดินโซเซไปเปิดหน้าต่าง รับลมเย็นจากภายนอกเข้ามาได้สักพักก็กลับมาเก็บของที่วางกองอยู่ต่อ

   มื้อเย็นวันนี้เป็นแค่โจ๊กหมูธรรมดาๆ  บวกกับส้มอีกหนึ่งกิโลที่เขาซื้อมาจากหน้ามหาวิทยาลัย กังวานอาศัยอยู่ในห้องพักนี้พร้อมกับทยุต… อาหารมื้อโปรดของเขา เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะกินอะไรลงไปก็คงจะอร่อยลิ้นเหมือนเดิม ถ้าเพียงแต่ได้มองหน้าคนหน้าบึ้งไปพร้อมๆ กัน


   กังวานเข้าไปอาบน้ำทำธุระให้เสร็จ ออกมาจัดเตรียมภาชนะสำหรับอุ่นโจ๊กได้ไม่นานนักเสียงกุกกักก็ดังมาจากหน้าประตู  ร่างสูงของอาหารรสเลิศก้าวเข้ามาในห้อง มือปล่อยข้าวของที่ถือติดมาลงพื้นในแทบจะทันที จากนั้นก็ใช้นิ้วยาวเรียวสวยนั่นปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกสองสามเม็ด “ทำไมไม่เปิดแอร์”

   ก็เพราะอยากได้กลิ่นเหงื่อของนายไงเล่า “เพิ่งเข้ามาเอง”

   “ร้อน”


   ทยุตคว้าหมับเข้าที่รีโมตแอร์ กดเปิดและเร่งอุณหภูมิลงเยอะๆ เพื่อให้ความร้อนที่ถูกขังอยู่ในห้องระบายออกไป  กังวานมองใบหน้าชุ่มเหงื่อของอีกฝ่ายแล้วก็อดอมยิ้มระหว่างเทโจ๊กเป็นไม่ได้ วันนี้เขากะจะชิมเม็ดใสๆ ที่ผุดพราวอยู่เต็มใบหน้านั่นสักคำก่อนนอน ดังนั้นเขาจะต้องบอกกับอีกฝ่ายว่ามีงานชิ้นใหญ่ เพื่อให้คนตัวสูงผล็อยหลับไปก่อน การกระทำอุกอาจจึงจะเริ่มต้นขึ้นได้

   ทั้งคู่สาละวนอยู่กับธุระส่วนตัวอยู่สักพักก็มานั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ทยุตกับเขาอาศัยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ขึ้นปีหนึ่งแล้ว หลังจากตัดขาดทางด้านความสัมพันธุ์กับครอบครัวมาโดยสิ้นเชิง กังวานก็เริ่มเรียนรู้ที่จะใช้เงินเก็บตั้งแต่สมัยม.ต้นมาลงทุนไปกับการเล่นหุ้น ตอนนี้เขาอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากที่บ้านแล้ว แม้ว่าฝั่งนั้นจะส่งเงินมาไม่ขาดไม่เกินทุกๆ เดือนก็เถอะ แต่เมื่อได้มาจากคนที่เคยซ้อมกันปางตายแล้วไล่ออกไปนอนนอกบ้านทั้งอย่างนั้นแล้ว กังวานเองก็ไม่ใคร่จะอยากใช้เงินก้อนนี้เท่าไหร่นัก


   เอาเป็นว่า แค่ที่เป็นอยู่นี่ก็พอเลี้ยงทั้งเขาและทยุตอย่างสบายๆ ไปแล้ว เรื่องนอกเหนือจากนี้เขาจะไม่เก็บมาคิดให้รกหัวอีก


   ร่างสูงแน่นของทยุตตักโจ๊กในชามเข้าปาก อีกฝ่ายยังคงทิ้งไข่แดงสีส้มสวยไว้โดยไม่แตะต้อง คงเก็บไว้กินภายหลังเหมือนอย่างเคย

   “เมื่อกี้นี้แม่กูโทรมา”

   ทยุตเปิดเรื่องผ่ากลางปล้องขึ้นมา เขาไม่ได้พูดอะไรเพราะรู้ว่าประโยคที่อีกฝ่ายต้องการจะเล่ายังไม่จบ “ปิดเทอมนี้กูต้องกลับบ้าน”


   กลับ?  กลับไปได้ซะที่ไหน  เคยไล่กันออกมาอย่างกับหมูกับหมา อีกฝ่ายจะจำได้หรือเปล่ากังวานไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาเก็บมันไว้ ณ ส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำ ไม่เคยมีวันไหนที่ตื่นมาแล้วจะลืมความเคียดแค้นในวันนั้นออกไปได้ “มึงจะกลับไปโดนเขาซ้อมอีกรอบหรือไง”


   “ถ้าไม่จำเป็นกูก็ไม่กลับหรอก”

   “แล้วนี่อะไรจำเป็น”
   
   “พ่อกูอัมพาตแดก”

   กังวานเงียบ ภาพสุดท้ายของอีกฝ่ายคือฝ่าเท้าเบอร์สี่สิบห้าที่ประเคนเข้ามากลางหลัง เจ็บเสียจนจุกไปเป็นเดือน “ก็ดี”


   “ไม่ดี เพราะนั่นหมายความว่ากูต้องกลับไปที่บ้าน”


   เขาเข้าใจ เมื่อได้มองใบหน้าหล่อเหลานั่นก็เข้าใจได้ดีขึ้นอีกครั้ง  บ้านของทยุตแม้จะมีพี่น้องอยู่ห้าคน แต่ทยุตเองก็เป็นเพียงลูกชายคนเดียว ไม่แปลกที่ทั้งบ้านจะรอคอยการกลับไปของเรี่ยวแรงคนสำคัญของบ้าน …กังวานนั่งนิ่ง มองโจ๊กสีส้มที่ตัวเองคนให้ไข่แดงแตกเละไปแล้วจากนั้นจึงพูดขึ้นมา “มึงไม่จำเป็นต้องกลับไป”

   “กูก็อยากทำอย่างนั้น”



   มื้ออาหารต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างเขาเองก็ไม่อาจทราบได้ รู้เพียงแต่ว่าบรรยากาศช่างน่าอึดอัดเสียเต็มทน  เหมือนนั่งกินหม้อไฟท่ามกลางแสงแดดในทะเลทรายอันแสนร้อนระอุ มองไปทางไหนก็เจอแต่สีแดงและภาพลวงตาของอุณหภูมิที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกชีวิตที่เข้าใกล้




   ก่อนเข้านอน กังวานไม่ลืมที่จะบอกอีกฝ่ายว่าเขามีการบ้านต้องทำ  ทยุตพยักหน้ารับเหมือนไม่สนใจอะไรนักก่อนคว้าหมอนผ้าห่มใบเล็กกลับเข้าห้องนอนไป  ผ่านไปสักพักหลังจากไฟในห้องดับลง ร่างสูงของกังวานก็เปิดประตูตามเข้าไปพร้อมกับคว้ารีโมตแอร์ลงมาปิดการทำงานของเครื่องอย่างเงียบเชียบ

   เนื้อแดงอันโอชะของเขาวางอยู่บนจาน ย่างด้วยระดับมีเดียมแรร์อันแสนจะถูกปาก กังวานสงใสว่าถ้าได้ฝังคมเขี้ยวลงไปบนเนื้อสันในชั้นดีชิ้นนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ความฉ่ำลิ้นทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะถูกส่งต่อมายังต่อมรับรสทั้งหมดของเขาหรือไม่
   
   ใบหน้ายามนอนหลับของทยุตไร้พิษภัย หากแต่ก็ดูเหนื่อยล้าไปเพราะไร้ชีวิตชีวาจากการตื่นนอน  มือหนาของเขาลูบเอาผมเส้นที่ปรกจมูกอีกฝ่ายออก  อากาศในห้องนอนเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ได้เปิดหน้าต่างเหมือนข้างนอก กังวานยืนอยู่นิ่งๆ อย่างนั้น รอจนกระทั่งอุณหภูมิในห้องต่ำกว่าปกติ เหงื่อเม็ดใสก็ผุดขึ้นมาตามไรผมด้วยกลไกธรรมชาติของมนุษย์
   
        เขาก้มตัวลงไป จุมพิตแผ่วเบาตามไรที่ชื้นเหงื่อเหล่านั้น ลิ้นสากยื่นออกมาสัมผัสตั้งแต่กลางหน้าผากไปจนถึงเหนือโคนหู กลิ่นกายของทยุตไม่เข้มเท่ากับช่วงระหว่างวัน แต่ก็กรุ่นไปด้วยกลิ่นสบู่ที่พวกเขาสองคนเลือกร่วมกัน แชมพูแบบออแกนิคที่หลงเหลือกลิ่นอ่อนๆ บนเส้นผมสีดำขลับของทยุตมันส่งผลต่อรสชาติของเหงื่อเล็กน้อย


   กังวานนั่งนิ่ง รอจนกระทั่งกระบวนการสร้างเหงื่อของทยุตเริ่มใหม่ จากนั้นเขาก็เริ่มทำอย่างเดิมซ้ำๆ …และซ้ำๆ จนกระทั่งอีกฝ่ายเบิกตาโพลงขึ้นมาท่ามกลางความมืดและความร้อนระอุจากกายของกังวาน


   “…”


   เดือนคณะแพทย์ผุดลุกขึ้นนั่ง ดวงตายังคงเบิกกว้างเช่นเคย เหงื่อเม็ดใหญ่กำลังเกาะอยู่บนท้ายทอยของเขา …กังวานรอ รอให้มันหยดลงมาตามลำคอระหงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของทยุต จากนั้นก็พุ่งฉกเข้าไปชิมน้ำหวานจากเกสรของคนรัก ไล้เลียลิ้นไปตามแนวโค้งของกล้ามเนื้อ


   “หยุด”

   สิ้นเสียงคำสั่งที่ทำให้คอของทยุตเกร็งขึ้นมานั้น ทุกอย่างก็ถูกวนย้อนกลับไปเหมือนเดิม  ร่างสูงลุกขึ้นไปกดเปิดแอร์ ย้ำปุ่มอุณหภูมิให้มันลดลงมาซ้ำๆ จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้งทั้งๆ ที่กังวานยังคงนั่งนิ่งอยู่


   รสชาติของอีกฝ่ายยังคงแผ่ซ่านอยู่ทั่วทั้งปาก ทั้งหัวใจก็ยังเต้นแรงเพราะถูกทยุตจับได้
   แต่กระนั้นช่วงเวลาก่อนที่อุณหภูมิในห้องกำลังจะเย็นลงจนถึงจุดที่เหงื่อของทยุตจะไม่ไหลออกมา กังวานก็ยังคงนั่งจุมพิตที่ไรผมของอีกฝ่ายซ้ำๆ   กลืนกลิ่นของคนตัวสูงอย่างตะกละตะกราม จนกระทั่งผล็อยหลับไปบนเตียงนั้นด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ



.
.
.   




   เวลาผ่านไปเร็วจนเขาอยากจะทึ้งหัวตัวเอง  วันนี้เขาจะต้องไปส่งทยุตที่สถานีรถไฟฟ้า   แม้อีกฝ่ายจะยืนกรานว่าไปเองคนเดียวได้ แต่เขาก็ยังคงพาตัวเองมายืนโบกมือยิ้มให้จนกระทั่งประตูรถไฟฟ้าปิดไปเหมือนเดิมอยู่ดี

   ห้องที่ไม่มีทยุตก็ไม่มีค่าอะไรนอกจากเป็นที่ซุกหัวนอน เขาไม่ได้กลับบ้านช่วงปิดเทอม แต่กลับเลือกที่จะเปิดคอมพิวเตอร์ เทรดหุ้นหาเงินเข้าครอบครัวมากกว่าที่จะออกไปเที่ยว กังวานไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยนัก แต่ก็พร้อมจะจ่ายได้ทุกอย่างหากทยุตร้องขอ เขามองนาฬิกาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์สักพัก กากบาทหวังไว้ในใจว่าถ้าหากตัวเลขนั้นถึงเลขยี่สิบเอ็ดแล้วเมื่อไหร่ มือของเขาจะยกหูโทรศัพท์เพื่อโทรหาอีกฝ่ายที่อยู่ห่างออกไปอีกหกสิบกิโลทันที


   การเล่นหุ้นเป็นเรื่องยาก กังวานไม่ใช่คนเก่ง แต่ก็ค่อนข้างมีไหวพริบและดวงถ้าเทียบกับคนทั่วไป  …นั่งเฝ้าตัวเลขอยู่จนกระทั่งนาฬิกาในหัวเตือนให้เห็นถึงเวลา  เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มากดหมายเลขสิบหลักที่จำได้ขึ้นใจแล้วโทรหาอีกฝ่ายทันที


   ตู๊ดดดดดดดด…ตู๊ดดดดดดดด…

ตู๊ดดดดดดดด…

ตู๊ดดดดดดดด…

ตู๊ดดดด…


   ทยุตไม่รับสาย



   เหมือนจะปกติแต่ก็ไม่ปกติ  คืนนั้นกังวานนอนไม่หลับทั้งคืน ลืมตาโพลงนึกถึงอาหารจานโปรดของตน คาดคิดเรื่องร้ายๆ ได้หลายอย่างแต่ก็ไม่กล้าฟังธงเสียที เมื่อโทรไปครั้งที่สองร้อยแล้วเขาก็เริ่มหมดความอดทน เขวี้ยงโทรศัพท์มือถือเข้าผนังจนกระทั่งมันแหลกกระจุกกระจาย ไม่เหลือแม้แต่ซากเดิมที่เคยเป็น

   กังวานหอบหายใจหนัก ยืนนิ่งมองซากโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งความร้อนเข้ามาแทนที่ภายในห้อง แสงแดดสีส้มของพระอาทิตย์ตอนตกดินทำให้เขาเริ่มมีสติขึ้นมา… ถ้าหากว่าทยุตโทรกลับมาหาเขาในตอนนี้ เขาก็ไม่อาจรู้ได้ พอคิดได้แบบนี้แล้วร่างโปร่งก็รีบวิ่งออกไปนอกห้อง  จุดหมายอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ หอที่มีโทรศัพท์มือถือราคาถูกขาย   ระหว่างนั้นเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้สติอีกครั้งก็พบตัวเองกำลังกดโทรศัพท์เพื่อโทรออกหาคนที่เป็นที่รักแล้ว

   เสียงรอสายยังคงยาวนานเหมือนเดิม …นานแทบขายใจ

   ทยุตไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน อีกฝ่ายจะรับสายเขาแม้ว่าเขาจะโทรไปตอนดึกดื่นแค่ไหน หรือแม้แต่กระทั่งตอนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยกัน กังวานเคยกดโทรหาอีกฝ่ายให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่ตายังปิดอยู่เพื่อรับสาย เขาชอบเวลาที่ทยุตพูดคำว่า ‘สวัสดีครับ’ ด้วยน้ำเสียงที่ใช้สำหรับคนแปลกหน้า มันทั้งสุภาพ นิ่มนวล และแฝงไว้ด้วยรสชาติของพริกไทยสดชั้นดี

   ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก กรุณา…






   ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก…


   จนถึงวันที่สิบสามของการปิดเทอมที่ไร้การติดต่อจากคนรัก กังวานก็ตั้งใจจะไปตามอีกฝ่ายที่บ้านหลังนั้น

   ครอบครัวคนจีนที่มีพี่น้องห้าคน น้องสาวทั้งสี่นั่นดูจะมีงานอดิเรกเป็นการจิกกัดคนอื่น ส่วนคนแม่ก็คงจะเป็นการพูดนินทาคนอื่นลับหลัง แน่นอนว่าคนพ่อที่เพิ่งเป็นอัมพาตไปนั้นก็คงจะมีการกระทืบเพื่อนของลูกชายตัวเองเป็นงานประจำ

   ตลอดวันเวลาที่ทยุตไม่อยู่ เขาหิวจนกินอะไรไม่ลง ไม่แปลกที่แค่ขึ้นรถไฟฟ้าไม่กี่สถานี ตามด้วยต่อแท็กซี่อีกครั้งจะทำให้เขาเวียนหัวจนเกือบจะล้มพับไปได้ ริมฝีปากแห้งผากและดวงตาอันไร้ชีวิตมองไปยังรั้วบ้านที่กว้างใหญ่สุดสายตา รั้วบ้านสีขาวที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราคาหลายสิบล้านนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาณาเขตของครอบครัวทยุต… เป็นอาณาเขตที่เขาเองก็เคยเข้าไปอยู่มาก่อน


   “กรี๊ด!!!”


   ไม่ทันจะได้กดกริ่งหน้าบ้าน  คนรับใช้ที่บังเอิญมานั่งก้อร้อก้อติกกับยามหน้าประตูในเวลางานก็กรีดร้องขึ้นมา  ดวงตาของหล่อนเบิกกว้างด้วยว่าจดจำใบหน้าของเขาได้   กังวานส่งเสียงไปทันที “ไปเรียกไทมา”


   “ยศ! ไล่มันออกไป! อย่าให้มันเข้ามาในบ้านเรานะ!”

   ยามที่ชื่อยศนั่นดูเหมือนจะเพิ่งเข้ามาใหม่ ดูไม่รู้จักเขาเท่าที่นังคนรับใช้คนนี้รู้  กังวานบีบประตูรั้วแน่นจนข้อมือปูดโปน… เขาหิว และเขาต้องการจะกินแค่อาหารที่เขาชอบเท่านั้น! “เรียกไทมา!”


   “เอามันออกไป!”

   ไม่มีทางเลือก  ยามที่แสนจะเก้งก้างด้วยว่าตัวเล็กกว่าเขาอยู่หลายส่วนก้าวออกมาจากประตูรั้ว มือยกกระบองสีดำประจำตัวขึ้นมาทำท่าจะฟาดมาที่เขา

   กังวานหัวเราะให้กับความโง่ของทั้งคู่  จากนั้นจึงหลบอาวุธของอีกฝ่ายแล้ววิ่งฝ่าเข้าไปในประตูรั้วของบ้านหลังนั้นแทน เสียงเอะอะโวยวายของทั้งสองคนนั้นดังอยู่ไล่หลังเพียงชั่วครู กังวานก็สามารถวิ่งเขามาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินชุ่มน้ำและหญ้าสีเขียวแห่งนี้ได้แล้ว


   เมื่อหลายปีก่อน ที่นี่มีแต่คนรับใช้ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนปรนนิบัติพัดวี  ผลหมากรากไม้ตามหรือไม่ตามแต่ฤดูกาลก็มีให้กินตลอดทั้งปีที่นี่ ความร่ำรวยของครอบครัวทยุตดังไปทั่วจนกระทั่งได้ออกหน้าหนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าวในวันนั้นกระชากหัวใจของเขาได้ทุกครั้งที่นึกถึง แต่กังวานเองก็ยังเก็บหนังสือพิมพ์เล่มนั้นไว้ใต้หมอน เก็บไว้เตือนสติของตัวเองจนถึงทุกวันนี้


   “…”


   เสียงติดจะโวยวายดังออกมาจากภายใน  กังวานก้าวไปข้างในอย่างช้าๆ และระมัดระวัง… อย่างที่เขาจำได้ บ้านหลังนี้คนใช้เยอะมาก และถ้าเขาถูกเจอแม้แต่คนเดียวนั่นก็อาจหมายถึงการถูกรุมซ้อมอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้… กังวานกวาดสายตาไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ  ไม่มีคนใช้ ไม่มีแล้วแม้แต่กรอบรูปเลี่ยมทองสีสวยและภาพวาดราคาเหยียบล้านที่คุณหญิงเขาภูมิใจนักหนา


   ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เขาก็ถูกบังคับให้จำรูปภาพและชื่อศิลปินแต่ละคน รวมถึงตำแหน่งและความสำคัญของรูปพวกนั้นอยู่ตลอด  คงเพราะถ้าหากมีงานเลี้ยงเกิดขึ้น แล้วลูกบุญธรรมเพียงคนเดียวที่รับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซอมซ่อนั่นไม่รู้เรื่องราวอะไรเอาไว้อวดแขกเหรื่อ มันคงจะเสียหน้าน่าดูในความคิดของคนที่นี่


   “แม่จะเอาเท่าไหร่”


   เสียงของทยุต… เหมือนน้ำผึ้งที่ราดลงบนกรวดทรายแห้งๆ ไร้รสชาติ  คราวนี้มันหวานฉ่ำเสียจนเขาอดจะกลืนน้ำลายด้วยความอยากอาหารเป็นไม่ได้

   “ร้อยล้าน”

   “มากขนาดนั้นเขาหาไม่ทันหรอก”

   ภาพตรงหน้าที่ปรากฏคือสองแม่ลูก  คุณหญิงที่เคยไปพาตัวเขามาจากบ้านเด็กกำพร้าและลูกชายของหล่อน ทยุตนั่งตัวตรงอยู่บนโซฟาเพียงชุดเดียวที่วางอยู่ ด้านหน้านั้นมีโต๊ะกระจกตัวเล็กๆ เอาไว้วางของว่าง… ที่มีเพียงแค่คุ้กกี้จากห้างราคาไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น 


   นี่ไม่เหมือนกับที่กังวานเคยเห็น เขารู้ว่าคนเราเรียกสภาพของบ้านหลังนี้ว่าอะไร

   จะเรียกได้ว่าใกล้ล้มละลาย ติดหนี้สินท่วมหัวก็คงไม่ผิดนัก

   “จะไปยากอะไร แกก็ยอมๆ ให้มันเอาสักทีสิ”


   คำพูดที่ออกจากปากคุณหญิงไม่ได้เรียบร้อยและสงบเสงี่ยมเหมือนตอนอยู่หน้ากล้องเท่าไหร่ เธอจีบปากจีบคอที่ไม่ได้เต็มไปด้วยสร้อยเพชรเหมือนเดิมแล้วพูด “วางเงื่อนไขไป ร้อยล้าน จากนั้นก็แก้ผ้ายั่ว”

   ร่างสูงของทยุตยังดูสงบนิ่งเหมือนเดิม …เหมือนกับว่าเรื่องสกปรกที่คนเป็นแม่นั้นพูดไว้เป็นแค่เพียงดินฟ้าอากาศ  เขามองตามลำคอเพรียวระหงนั่นแล้วนึกอยากจะขบฟันลงไปให้แน่น กระชากเนื้อและเส้นเลือดทั้งหมดออกมาเคี้ยว หล่อเลี้ยงชีวิตด้วยตัวตนของอีกฝ่ายต่อไป


   หากแต่คำพูดของอีกฝ่ายกลับทำให้เขาหน้าชา ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนคนเสียสติไปจนกระทั่งคนรับใช้ที่ส่งเสียงโหวกและเจ้ายามโง่เง่านั่นกลับเข้ามาถึงในบ้าน

   “คุณผู้หญิงคะ!! ไอ้คนโรคจิตนี่มันแอบเข้ามาค่ะ! นุชพยายามห้ามแล้วนะคะ แต่มันก็ยังดื้อด้านวิ่งเข้ามา ทำร้ายน้ายศจนเจ็บไปหมดแล้วด้วยค่ะ!”

   ที่เห็นว่าเจ็บนั่นน่าจะเป็นเพราะรีบวิ่งตามเขามาจนหกล้มจับกบเสียมากกว่า แต่กังวานก็ไม่ได้พูดอะไร  ปล่อยให้มือสกปรกของไอ้ยามนั่นรวบสองแขนของตัวเองไว้แล้วพาเข้าไปยืนยังหน้าของสองแม่ลูก

   คุณหญิงทันธกรยังคงเป็นคนที่สวยไม่สร่างเหมือนเดิม …อย่างน้อยก็เป็นเพราะอำนาจของมีดหมอต่างๆ และเสื้อผ้าที่ดูราคาแพงเกินวัตถุดิบจริงนั่น  ทั้งๆ ที่บ้านแทบจะไม่เหลืออะไรนอกจากกำแพงแล้วก็บันไดแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังคงถือยศคุณหญิงจากภายนอกไว้อย่างเหนียวแน่น… ไม่อยากจะคิดเลยว่าหากวันหนึ่งที่แม้แต่บ้านหลังนี้ก็ยังจะไม่เหลือ คุณหญิงจะยังคงนั่งเชิดคออวดผ้าแพรไหมจากตุรกีผืนนี้อยู่หรือเปล่า

   เขาหันไปมองอาหารเลิศรส… อาหารที่ถูกปรุงขึ้นมาจากเชพอันดับหนึ่งของโลก ด้วยวัตถุดิบอันดับหนึ่งของโลก อาหารที่เขารัก… และอยากจะกลืนกินไปชั่วชีวิต

   ทยุตมองเขาด้วยสายตานิ่งสงบ แต่เขาเห็นคลื่นลูกเล็กๆ ซ่อนอยู่ภายใต้แก้วตาคมกริบนั่น


   “ร้อยล้านใช่ไหม”

   “…”   

   สองแม่ลูกนิ่งเงียบ คนรับใช้ทั้งสองที่ไม่รู้อะไรก็ได้แต่ทำหน้าประหลาด



   กลืนไม่เข้าคายไม่ออก



   ไม่ใช่กับสถานการณ์ แต่เป็นกับตัวของอาหารอย่างทยุตต่างหาก

   …ไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาก็ไม่เคยได้กลืนกินมันจริงๆ สักครั้งเลย

   “เดี๋ยวเอาให้เอง”

   กังวานสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมอย่างง่ายดาย เดินออกจากบ้านหลังนั้นไปโดยไม่มีแม้แต่เสียงเรียกไล่ตามให้กลับไปในฐานะของลูกบุญธรรม


   “วางเงื่อนไขไป ร้อยล้าน จากนั้นก็แก้ผ้ายั่ว”

   ทยุตนั่งนิ่ง คล้ายคิดอะไรไปบางอย่างก่อนตอบกลับไปว่า “ได้”

   “บ้านเราต้องการเงิน แกรู้ดีใช่ไหม อย่าทำเสียแผนซะล่ะ ที่ผ่านมาจะได้ไม่เสียไปเปล่าๆ”

   “ครับ”
   







   แล้วก็อีกครั้ง กังวานไม่รู้ว่าเขากลับถึงบ้านมาได้ยังไง รู้แต่เพียงว่าตอนนี้นอนแผ่หลาอยู่กลางห้องแล้ว… ถ้าจะพูดให้ถูกเลยก็คือนอนกลางพื้นเลยมากกว่า แต่ตอนนี้เขาไม่มีใจจะมาแก้ไขอะไรแล้ว นอกเหนือจากนอนเฉยๆ  หยิบโน๊ตบุ๊กคู่ใจออกมา
ทำธุระกรรมธนาคารทางอินเตอร์เน็ต คุยโทรศัพท์เรื่องหุ้นอีกไม่กี่สายก็ได้เงินร้อยล้านมาไว้ในมือ


   ขายหมด เขาขายหมดทุกอย่างที่ถือมา

   ให้ครบตามจำนวนที่อีกฝ่ายต้องการ

   ก่อนหน้านี้ เขาทำได้เพียงแค่กินอาหารเหลือๆ จากคนบ้านใหญ่  นอนที่นอนเหลือๆ จากครอบครัวใหญ่ ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างตกทอดมาจากลูกชายคนเดียวในบ้าน… น้องไท หรือทยุตที่เติบใหญ่ขึ้นทุกๆ วัน ทั้งเก่ง ฉลาด เป็นความหวังของครอบครัว


   ต่างจากเขาที่ได้มาอยู่ที่นี่ เพียงเพราะตอนที่คุณหญิงไปทำบุญที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น เขาเผลอทำจานข้าวหกเสียจนไม่เหลือสักคำ ร้อนให้คุณหญิงต้องวิ่งเข้ามาช่วยเหลือเพราะจุดที่เขาล้มหัวทิ่มนั้นอยู่หน้ากล้องถ่ายทอดสดพอดี

   นั่นแหละ เหตุผลที่กังวานได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น

   กังวานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทยุตกับเขา แต่เขาหยุดไม่ได้… เหมือนคนหิวก็ต้องกิน ทยุตคือหนึ่งในสิ่งจำเป็นในชีวิตของเขา

   เพราะอย่างนั้น มากเท่าไหร่เขาก็จะยอมจ่าย…

   คืนวันนั้นร่างสูงของคนที่เรียนแพทย์กลับมาที่ห้อง  สังเกตเห็นรอยเลือดที่หยดไปตามทางจนกระทั่งถึงระเบียงแล้วก็รีบทิ้งของทุกอย่างลงพื้นทันที  วิ่งตรงไปยังประตูระเบียงที่ปิดล็อกอย่างแน่นหนาอยู่  ด้วยสติที่ไม่ค่อยจะเหลืออยู่เต็มร้อยนัก ทยุตจึงได้กุญแจประตูบานนั้นหลังจากที่วิ่งวุ่นไปอีกสิบนาที   


   เมื่อเปิดออกมา… ไม่รู้ว่าควรจะโล่งอกหรือไม่ แต่เขาก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เมื่อไม่เห็นใคร


   แต่เสียงโหวกเหวกที่ดังมาจากด้านล่างนั้นกลับทำให้เขารีบเปลี่ยนความคิด ชะโงกหน้าลงไปดูพื้นข้างล่างที่อยู่ห่างออกไปอีกหกชั้น




   เพียงแค่นั้น คนไร้จิตใจก็เป็นลมล้มพับไป

ออฟไลน์ steppenwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
.
.
.
.
.


        ข่าวการฆ่าตัวตายของกังวานไม่ได้ดังไปไกลนักเพราะเจ้าของหอกลัวนักศึกษาจะไม่กล้าเข้ามาเช่าพักต่อ โชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้ถึงกับเสียชีวิตอย่างที่หลายๆ ฝ่ายกลัว  แต่นั่นก็ทำให้ชื่อเสียงของระแวกโดยรอบมีจุดด่างพร้อยไปอยู่ดี ค่าห้องถูกลงกว่ายี่สิบเปอร์เซ็นต์อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรเสียทยุตก็ยังยืนยันที่จะย้ายออกอยู่ดี


   นั่นก็เพราะมันเหลือแค่เขาเพียงคนเดียวแล้ว จำเป็นจะต้องใช้ห้องที่สะดวกครบครันขนาดนี้ทำไม

   หลังจากวันที่กังวานฟื้น  อาการบาดเจ็บจากกระดูกหักหลายที่และการกระทบกระเทือนทางสมองทำให้อีกฝ่าย ต้องนอนในโรงพยาบาลอยู่เกือบครึ่งปี  หมอว่าว่าเขาเสียประสาทด้านการพูดไปด้วย ทั้งยังแก้ไขได้ลำบากเพราะแรงกระแทก จนทำให้กังวานต้องลาออกจากทางมหาวิทยาลัยทั้งๆ ที่เหลือเพียงแค่ปีสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดาย


   แน่นอนว่า อาหารเลิศรสที่เต็มไปด้วยยาพิษอย่างเขานั้น กังวานไม่แม้แต่จะหันมาเหลือบมอง ไม่แม้แต่ช่วงสุดท้ายก่อนที่อีกฝ่ายจะหนีไปที่ไหนสักแห่ง   


   เงินร้อยล้านช่วยที่บ้านเขาไว้ได้ ทั้งยังมีไว้ถลุงเล่นอย่างเหลือเฟืออีกสองสามปี  พ่อของเขาไม่ได้เป็นอัมพาต แต่ก็แค่ติดเหล้าเมาจนกลายเป็นตับแข็ง ทำงานทำการไม่ได้ ต้องคอยเทียวเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ตลอด ทรัพย์สินในบ้านที่มีก็เริ่มหดหายไปเพราะรายจ่ายที่มากกว่ารายรับ… ความช่วยเหลือที่ได้มาจากเด็กกำพร้าตาดำๆ คนนั้นคือท่อน้ำเลี้ยงชั้นดีของบ้านที่เน่าโสมมหลังนี้




   ทยุตเป็นอาหารที่เคลือบด้วยยาพิษ


   แต่กังวานบอกเขาผ่านสายตาว่า ไม่ ไม่ใช่ มึงไม่ใช่อาหารอีกแล้วไท มึงมันคือยาพิษขนานแท้เลยล่ะ



   เขาน้อมรับมันไว้ หากแต่ในใจก็ยังคิดถึงสัมผัสของลิ้นสากที่ไรผมตอนก่อนนอนอยู่เสมอ


   
.
.
.
.
.
.
.


   แรกเริ่มเดิมทีนั้น พ่อแม่ของทยุตไม่ชอบแนวคิดในการเรียนแพทย์ของเขานัก ด้วยว่าคนในครอบครัวหลายต่อหลายรุ่นประกอบแต่ธุรกิจจนมีชื่อเสียงและรากฐานมาอย่างยาวนานแล้ว การเบนทายาทอย่างลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลเข้าสู่งานราชการจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่นัก  ทว่าเมื่อกลิ่นอายของความล้มเหลวทางธุรกิจเริ่มกำจายไปทั่ว คุณหญิงจึงยอมส่งลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเข้าเรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยรัฐบาลตามที่เขาหวัง  แม้เรื่องราวก่อนหน้านั้นจะกำกวมเสียจนเขาไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร  แต่ในวันนั้น เขาก็ออกมาจากบ้านพร้อมกับคนที่เคยเป็นพี่น้องทางกฎหมายของเขา  ออกมาพร้อมกับสถานะใหม่อย่าง ‘คนรัก’ นั่นเอง



   เขารู้มาตลอดว่ากังวานผิดปกติ  แต่ก็คิดมาตลอดเช่นกันว่าคนที่เติบโตมากับการคุ้ยหาอาหารจากกองขยะจนถึงหกขวบคงไม่มีทางปกติไปได้  ทยุตเองก็นึกสงสารคนรักมาตลอด 


   แต่ความสงสารกับภารกิจทางครอบครัวมันไม่เหมือนกัน เขาจำเป็นต้องหาเงินเข้าครอบครัว และแน่นอนว่าบ่อเงินอย่างกังวานเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยม  การตัดขาดกับครอบครัวครั้งนั้นเกิดขึ้นจริง แต่ก็ไม่ได้ลงรอยร้าวฉานลึกเท่าที่กังวานเข้าใจ  ทยุตติดต่อกับที่บ้านหลังเกิดเรื่องได้เพียงไม่กี่อาทิตย์ และเขาก็ได้รับภารกิจไถ่โทษภายในช่วงนั้นนั่นเอง


   คนเราต้องมีความรักในการงาน ทยุตเองก็รักที่จะทำงานนี้ …มันผิดหรือที่จะรักกังวานและหาประโยชน์จากความรักครั้งนี้ไปด้วย  หากต้องการให้เขาหยุดหาเงินจากอีกฝ่าย แล้วทำไมคนเราถึงจะต้องมีเงินเดือนในงานที่รักกันล่ะ หรือเพียงแค่ได้ทำงานที่ชอบก็ไม่จำเป็นจะต้องรับเงินเดือน  ถ้าอย่างนั้นแล้วทยุตต่างอะไรกับคนเหล่านั้นกัน


   ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร เขาก็หาความผิดพลาดของเรื่องราวเหล่านี้ไม่เจอ เพียงแต่ว่าดูจะมีสิ่งเดียวที่รบกวนเขามากๆ  นั่นก็คือการหายตัวไปของกังวาน


   ทยุตเรียนแพทย์จบแล้ว หลายปีมานี้เหล่าพี่สาวของเขาพยายามกู้ธุรกิจที่บ้านขึ้นมาจนกลับมาสมบูรณ์แบบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าแม่พยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาลาออกจากอาชีพหมอแล้วกลับมาช่วยที่บ้านซะ แต่ทยุตก็ยังยืนกรานที่จะปฏิเสธเพราะเสียดายความรู้ทั้งหมดที่ได้เล่าเรียนมา รวมถึงการได้ทำงานที่ต้องอยู่ห่างไกลบ้านหลายร้อยกิโลยังเป็นข้ออ้างชั้นเยี่ยมสำหรับเวลาหยุดที่ไม่ค่อยตรงกันกับทางบ้านเท่าไหร่นักได้ด้วย  เขาใช้เวลาเหล่านั้นไปกับการตาม หาอดีตน้องบุญธรรมอย่างไร้จุดหมาย เท่าที่ได้รู้มาก่อนหน้าที่กังวานจะหายตัวไป เจ้าตัวมีปัญหาในการสื่อสารอันเนื่องมาจากแรงกระทบกระเทือนของสมอง อย่างน้อยถ้าอยากจะกลับมาหายดีได้ดังเดิมก็จะต้องมีประวัติการฟื้นฟูที่ไหนสักแห่งบ้าง 



   ผ่านไปเจ็ดปี… หลังจากที่เรียนจบ ในที่สุดความพยายามในการตามหากังวานก็สัมฤทธิ์ผล


   ทยุตเจอเขาอีกครั้งที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง  คนรู้จักแบบห่างๆ ที่แทบจะห่างเกินไปทักบอกเขามาว่า เห็นคนที่ทยุตเคยลงประกาศตามหาในโซเชียลเน็ตเวิร์กบ่อยครั้งที่ร้านแห่งนี้   ร่างสูงมักจะมาพร้อมกับโน๊ตบุ๊กบางๆ หนึ่งเครื่อง สั่งกาแฟดำมาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว…  จากนั้นก็ดื่มเพียงแค่น้ำเปล่าจนหมด ทิ้งไว้เพียงกาแฟดำที่หายร้อนไปเมื่อกาลเวลาผ่าน


   “หวัดดี”


   แววตาของกังวานที่มองมาที่เขามันตลกเสียจนทยุตเผลอขำออกมา  ร่างสูงตรงหน้ายังคงเหมือนเดิม ยกเว้นส่วนสูงที่ดูจะเพิ่มมากขึ้นและรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดที่เหลือร่องรอยไว้บนหัว แผลตรงส่วนนั้นไม่มีผมขึ้น มันเลยทำให้ใบหน้าของกังวานดูคล้ายกับผีดิบในนิยายสยองขวัญอย่างไรอย่างนั้น


   “หนีมาไกลน่าดูเลยนะ” มิน่าล่ะถึงหาไม่เจอสักที


   “….” ยังคงไม่มีคำตอบ  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความผิดปกติทางการสื่อสารหรือว่าแค่ไม่อยากพูดกันแน่

   ทยุตในวัยสามสิบสองปียังคงเหมือนเดิมเช่นกัน กล้ามเนื้อสมสัดส่วนถูกแสดงออกให้เห็นผ่านทางเสื้อเชิ้ตตัวบางสีฟ้าอ่อนที่เขาใส่มา กางเกงผ้าสีน้ำตาลเข้มลู่ไปกับต้นขาแข็งแกร่งเมื่อยามลมทะเลพัดผ่าน กลิ่นเกลือผสานกับกลิ่นกาแฟดำจากแก้วทำให้ทยุตนึกหิว เขาจึงยกมือขึ้นเรียกพนักงานเสิร์ฟสาวสวยที่นุ่งบิกินี่มารับออเดอร์ไป 


   “Do you want some drink?”


   “Nah, I already have this.”  ทยุตตอบกลับไปด้วยสำเนียงที่ดูดีไม่แพ้กับคนท้องถิ่น  กาแฟดำในแก้วของกังวานเย็นชืดไปแล้ว แต่เขาก็ยังยกมันขึ้นมาสูดดมกลิ่นของเมล็ดกาแฟที่ถูกคั่วบดและชงมาอย่างดี “สบายดีไหม ไม่ได้เจอกันเสียนาน”


   “…”

   “จริงๆ ก็อยากกลับไปพูดกูมึงเหมือนเดิมนะ แต่พอดีว่าโตแล้ว ไม่ค่อยอยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนตอนนั้นสักเท่าไหร่”

   เสียงครางอืออาจากริมฝีปากคู่นั้นราวกับเห็นด้วยกับคำพูดของทยุต   “นายก็ไม่อยากเหมือนกันงั้นเหรอ?”


   กังวานไม่ตอบคำถามนั้น… เช่นเคย  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความผิดปกติที่ได้รับมาเมื่อตอนที่พยายามฆ่าตัวตาย หรือว่าเป็นเพราะเพียงว่าไม่อยากจะพูดกันแน่


   “ฉันมารับนายกลับ”

   “...”

   “นายไม่เหมาะกับที่นี่หรอกกังวาน อาหารการกินคงไม่ถูกปากเท่ากับที่นายโตมาถูกไหม”

   “…”

   “กาแฟที่นี่มันจะไปอร่อยเท่าที่เราเคยกินด้วยกันเหรอ…”


   ทยุตว่าพลางจิบกาแฟในมือ  รสชาติขมปนฝาดของมันซึมซาบเข้ามาผ่านต่อมรับรส  เย็นชืด แต่ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นหอมของบุรุษเพศ


   กังวานผุดลุกขึ้น ฉุดกระชากร่างของคนที่ส่วนสูงไม่ต่างกันนักให้ตามไปยังทางที่ตนบังคับ  ทยุตกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อบริการสาวคนนั้นมองพวกเขาด้วยสายตาส่งคำถามพร้อมกับเมนูที่เขาเพิ่งสั่งไปอยู่ในมือ แต่เธอคงจะสงสัยได้ไม่นานนักเพราะกังวานทิ้งโน๊ตบุ๊กไว้ตรงนั้น เธอคงจะเอาอาหารไปวางไว้ข้างๆ กันพร้อมหวังให้พวกเรากลับไปนั่นแหละ


   แต่ไม่ ไม่หรอก   เขากับกังวานคงยังจะไม่กลับไปเร็วๆ นี้  เพราะดูท่าว่าอีกฝ่ายจะอยากดื่มกาแฟมากเหลือเกิน จึงได้แต่ตักตวงเอาซ้ำๆ จากเขา  ไม่ยอมปล่อยให้แม้แต่หยาดหยดเดียวของเครื่องดื่มนั้นตกลงบนพื้นห้องน้ำสาธารณะ ซ้ำยังเรียกร้องจะกินมากขึ้นอีกราวกับเด็กทารกหิวนมที่ร้องไห้หามารดาของตนยามค่ำคืน


   กังวานซูบผอม ไม่ผอมถึงขั้นเห็นกระดูกปูดโปน แต่ก็ชัดเจนมากพอว่าอาหารที่นี่คงจะไม่ถูกปากเท่าไหร่ แหงล่ะ ก็อาหารจากโปรดของเขาคือทยุตนี่นา หากไม่ใช่เขาเสียแล้ว กังวานจะกินอิ่มนอนหลับได้อย่างไร

   ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาจะต้องพากังวานกลับไทยไปให้ได้  ครั้งนี้อาจจะต้องหลบหลีกจากสายตาของพ่อแม่สักหน่อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับทยุต  เขามีงานที่มั่นคง เงินเดือนที่มากพอ และมั่นใจว่ากังวานเองต้องมีมากกว่าเขาหลายเท่าตัวถ้าเทียบกับความสามารถในการหาเงินของอีกฝ่ายตั้งแต่สมัยเรียน  ทยุตปีกกล้าขาแข็งแล้ว และจะไม่มองย้อนกลับไปในอดีตที่ตนยังอยู่ในปกครองของแม่และพ่ออยู่ …ตัวกังวานเองถ้าหากก้าวข้ามความกลัวเหล่านั้นไปได้ ทยุตก็คงจะดีใจมาก  และต่อจากนี้ไป เขาจะกลับไปเป็นอาหารจานหลักจานเดิมของกังวาน มันอาจจะเคลือบไว้ซึ่งยาพิษอยู่บ้าง… แต่ทยุตก็มั่นใจ วิธีนี้ใช้กันมาตั้งแต่ยุคโบราณ  หากว่าร่างกายได้รับสารพิษแต่ละเล็กละน้อยมาตั้งแต่เด็กแล้ว เมื่อโตขึ้นในร่างกายก็จะเต็มไปด้วยภูมิคุ้มกันต่อพิษนั้นๆ  ต่อจากนี้แม้ว่าพิษจากตัวเขาจะร้ายแรงแค่ไหน กังวานก็จะรับมันได้ กลืนกินมันเข้าไปจนสุดหนทาง ขบกัดและเคี้ยวด้วยเขี้ยวจากความหิวกระหาย ฉีกกระชาก… ฉีกกระชากหัวใจของเขาออกไปไว้ในกำมือ จากนั้นก็จะไล้เลียมันด้วยความรักใคร่ ทะนุถนอมอาหารอย่างเขาด้วยความรักจากสัญชาตญาณของมนุษย์ที่แท้จริง จากนั้นก็จะเผยรอยยิ้มจากความอิ่มหนำให้เขาได้เห็นในอีกเร็ววัน





[END]

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เอิ่ม..มมม รักในรอย dark   :hao4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ในหัวมีแต่คำว่า "อะไรวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"  :a5: ดาร์กมากๆๆ ห่ะๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
อยากเห็นฉาก....จัง

โดยส่วนตัวเร่ชอบแบบนี้นะ

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ้วววววววว มันดาร์ก ใจนึงก็อยากให้หาเจอแล้วกลับมาเป็นแบบนี้ แต่อีกใจก็อยากให้กังวานหนีไป อยู่รอดเจอคนใหม่มีความสุขกับเขาซักที สนุกอ่ะ ชอบ

ออฟไลน์ FaisonSiu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • ดรดฟ55
น่าจะมีต่ออีกนะครับ แบ่งเป็นตอนสั้นๆ ก็ยังดี

ออฟไลน์ ellaella13699

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • แหล่งรวมประวัตินักกีฬาทุกประเภท

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด