ตอนที่ 10 : คนดูแลออกมาหน่อย !!!
ผมเผ่นพรวดเดียวออกมายืนเอ๋ออยู่หน้าห้องพักเพื่อพบกับความว่างเปล่า โง่จริง! ตฤนจะมาห้องผมได้ยังไง
สิบโมงจะไปรับที่ร้านหนังสือผมมองข้อความที่ส่งผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ อ๋อ~ ให้ไปเจอที่ร้านหนังสือนี่เอง
ถ้าว่างยังดีนะที่ถามว่าว่างไหมแต่แค่สองประโยคแรกผมก็ไปแล้ว ไม่ใช่สิ ผมมองไปรอบๆ หัวเราะขำตัวเองเบาๆ ประโยคแรกก็ตื่นเต้นจนขาดสติแล้วมากกว่า ว่าแต่ผมจะมายืนโต้ตอบกับข้อความโดยไม่ส่งทำไม สงสัยจะเอ๋อจริงเสียแล้วมั้งเรา ผมยกมือเกาหัวก่อนเดินกลับเข้าห้อง ว่าแต่ตฤนจะนัดผมออกไปทำไม
มีอะไรหรือเปล่า ไม่ได้สิ เกิดตฤนคิดว่าผมไม่ว่าง หรืออ่านแล้วคล้ายไม่อยากไปขึ้นมาจะยุ่ง ขานั้นยิ่งใจร้อนไม่ค่อยฟังอะไรเสียด้วย
ทำไมถึงชวน ไม่ดีมั้ง เดี๋ยวจะหาว่าเรื่องมาก
ชวนไปไหนอันนี้เข้าท่า แต่จะห้วนไปหรือเปล่า เอาไงดีวะ
ไม่ว่างใช่ไหม ไม่เป็นไร
ว่าง ไป สุดท้ายผมก็จบลงด้วยคำสั้นๆ แค่นี้ ชีวิตติ่งอย่างผมมีทางเลือกไหม ไม่มีหรอกมั้งเพราะใจมันจะไปอย่างเดียว
• • • • • • • •
ผมก้าวขึ้นรถหรูที่ขับเข้ามาเทียบริมฟุตบาท เริ่มกังวลนิดๆ ว่าเสื้อผ้าที่ใส่มามันดูเข้าท่าไหม อยากจะถามเหลือเกินว่าแค่บอกว่าจะไปไหนมันยากตรงไหน แต่ถ้าจะต่อว่ากันจริงๆ ผมควรว่าตัวเองมากกว่า ที่ปากหนักไม่ไม่ยอมโทรหรือส่งข้อความไปถามให้รู้เรื่อง
“จะไปไหนเหรอ”
“ถามช้าไปไหม”
“อ้าววว” ผมเบิกตากว้าง ก็รู้นี่ว่าควรบอก
“หึๆ ไปทำงาน”
“ไปทำงาน!” ผมตาตั้ง เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ที่ผมใส่มามันจะไปด้วยได้ไหม
“จะเสียงดังทำไมรถแคบแค่นี้ แสบหู”
“ขอโทษ” ผมพูดเสียงอ่อย “ตกลงไปทำงานจริงเหรอ”
“อืม”
“แล้วชวนผมออกมาทำไม”
“ผู้จัดการฉันไม่ว่าง ไม่มีคนช่วยถือของ”
อ๋อ~ เข้าใจแล้ว” ผมพยักหน้า สีหน้าไม่แปลกใจสักนิดจนคนชวนขมวดคิ้ว เหลือบสายตามามอง
“แค่นี้? ไม่แปลกใจเหรอ”
“ไม่นี่ ถ้าตฤนบอกว่าชวนออกมาเที่ยวด้วยกันสองคนยังแปลกใจกว่า อาจจะตาค้างไปเลยก็ได้ แต่พอบอกแบบนี้ค่อยรู้สึกว่าเออมันเข้าใจได้ มีเหตุผล มิน่าถึงไม่ยอมบอกก่อนว่าชวนมาทำไม สงสัยกลัวผมไม่เอาด้วย เห็นไหม มันอธิบายได้ตั้งหลายอย่าง”
“นายนี่มันคิดไม่เหมือนใครจริงๆ ไม่คิดเหรอว่าฉันทำแบบนี้มันไม่ถูก”
“ถ้ารู้ว่าไม่ถูกแล้วตฤนจะทำทำไม”
“....”
“ฮ่าๆ เอาในมุมผมดีกว่านะ ไม่มีแฟนคลับคนไหนที่ไม่อยากใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองชื่นชอบหรอก ให้ไปทำอะไรก็อยากไปทั้งนั้นแหละ”
“ที่ให้มาเพราะไม่มีคนดูแล”
แค่นี้หน้าผมก็บานเป็นจานเชิงแล้วครับ ชอบคำว่าคนดูแลมากจริงๆ “ผมชอบคำนี้ คนดูแล ต้องทำอะไรบ้างก็บอกมาได้เลยนะ ผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้สมกับที่ไว้ใจ”
“หึๆ”
“อ๋อ ผมหยุดงานทุกวันพฤหัสกับวันอาทิตย์ ถ้าผู้จัดการตฤนไม่ว่างอีกเรียกใช้ได้เลยไม่คิดเงิน”
“นายนี่มัน” ตฤนส่ายหัวแต่น่าจะขำผมเสียมากกว่า “ว่าแต่นายได้หยุดงานสองวันเลยเหรอ”
“ใช่ ถ้าเป็นที่เก่าได้หยุดอาทิตย์ละวัน แต่พี่ซินใจดีมากให้หยุดสองวัน บอกผมว่าหนุ่มๆ ควรมีชีวิตส่วนตัวบ้าง”
“นายโชคดีที่มีเจ้านายที่ดี”
“อืม มานึกดูแล้วมีคนตั้งมากมายที่ผมรู้สึกว่าโชคดีจังที่ได้เจอ ตฤนก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ เป็นคนที่ผมรู้สึกว่าโชคดีจริงๆ ที่ได้เจอ”
ตฤนหันมามองหน้าผม เราสบตากันเสี้ยววินาทีก่อนใบหน้านั้นจะเบือนกลับไป
“ขอบคุณ” เสียงทุ้มต่ำลอยตามลมมาแผ่วเบา เราต่างมองตรงไปข้างหน้าเหมือนไม่ได้สนทนากัน หากแต่คำพูดสั้นๆ ของตฤนมีผลกับหัวใจของผมมาก มันเต้นตึกตักพองโตจนคับอก ใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม ความสุขฉายชัดอยู่ในแววตา การนั่งเงียบๆ ไม่อึดอัดอีกต่อไป ผมว่ามันมีความอบอุ่นลอยอยู่รอบตัวเรา
• • • • • • • •
“กว่าจะโคจรมาถ่ายด้วยกันได้นะมึง” เสียงทักอย่างสนิทสนมดังมาจากผู้ชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา นายแบบที่ผมรู้จักชื่อเป็นอย่างดี
“คงไม่มีใครอยากจ้างมึงกับกูพร้อมกันมั้ง” ตฤนตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ พอกัน ผมฟังการสนทนาด้วยความสนใจ ตฤนในมุมนี้แปลกไปอีกแบบ
“ใครวะ” เกนพยักพเยิดหน้ามาทางผม
“เพื่อนกูชื่อว่าน ส่วนนี้เกน”
“ดีใจที่ได้เจอตัวเป็นๆ ครับเคยเห็นแต่ในรูป” ผมทักทายเกนก่อนด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องพูดสุภาพก็ได้ ตามสบายเลย เพื่อนตฤนก็เหมือนเพื่อนผม”
“งั้นพูดกูมึงเลยนะครับ”
“ฮ่าๆ กูชอบว่ะ” เกนหันไปหัวเราะกับตฤนก่อนหันมาส่งยิ้มแรงดึงดูดระดับสิบริกเตอร์ให้ผม “ได้เลยว่าน เอาที่ถนัดปาก”
“ใครจะกล้าครับ แต่ก็ขอบคุณที่อนุญาต”
“อืม เป็นคนที่น่าสนใจดี” สายตาที่มองผมดูวาววับแปลกๆ ผมไม่รู้จะตอบอะไรเลยส่งยิ้มไปให้แทน เมื่อสายตาสบเข้ากับตฤนถึงเห็นว่าอีกฝ่ายสีหน้าบึ้งตึง เป็นอะไรของเขาหว่าเมื่อกี้กฌยังดีๆ อยู่เลย
“เกนจะเริ่มถ่ายแล้ว เตรียมตัวเถอะ” เสียงเรียกดังมาจากผู้ชายตัวเล็กใส่แว่น
“เดี๋ยวเสร็จงานไปไหนกันหรือเปล่า” แต่ดูเหมือนคนถูกเรียกจะทำเฉยเมย ไม่ใส่ใจ
“มึงชอบแกล้งคนที่ชอบมากเหรอวะ” ผมเผลอเบิกตากว้างก่อนจะรีบเก็บอาการ เมื่อกี้หูผมฝาดหรือเปล่า!
ดวงตาของเกนที่มองตฤนเป็นประกาย ผมไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่มันคล้ายสายตาของคนที่รู้ทันและกำลังขำกับอะไรบางอย่าง ผมมองตฤนกับเกนสลับกันไปมา ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหมอนทั้งสองคนกำลังคุยกันผ่านสายตา
“ใช่กูชอบ ว่านสนใจมาเป็นแฟนผมชั่วคราวไหม อยากแกล้งคนบางคน”
ผมอ้าปากกว้าง งงพอๆ กับตกใจ ตกลงเป็นจริงๆ ใช่ไหม เพื่อนผมต้องหัวใจสลายกันหลายคนแน่ๆ เกนชอบผู้ชาย!
“ว่าไง สนใจไหม” ร่างสูงก้มหน้าเข้ามาใกล้ ผมเผลอผละหน้าหนี ก่อนคิดได้รีบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขอโทษ
“เกน ได้เวลาแล้วมาสักทีเถอะ” เสียงเล็กๆ เรียกราวกับต้องสกัดกั้นความอดทน ร่างสูงจึงยืดตัวขึ้น หัวเราะราวกับถูกใจเสียเหลือเกิน
“ตฤนไม่ต้องไปเหรอ” ผมหันไปมองคนที่ยืนหน้าถมึงทึงอยู่ข้างๆ ดวงตาที่ตวัดมองมาเล่นเอาผมสะดุ้งโหยง
“กำลังจะไป นั่งอยู่ตรงนี้อย่าไปไหน เฝ้าของด้วย”
“อืม” ผมรับกระเป๋าใส่ของใบย่อมมาจากตฤน ต่อด้วยกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ สองอย่างหลังเล่นเอาผมตาโต
“ฝากผมไว้จะดีเหรอ”
“ถ้าไม่ดีจะพามาด้วยทำไม”
“อ๋อ..อืมม ได้ๆ” ผมรีบรับทุกอย่างมาถือ นี่คือหน้าที่ของคนติดตามสินะ
เวลาผ่านไปเร็วมากสำหรับผม ทุกอย่างดูตื่นตาตื่นใจ เกนกับตฤนสมกับเป็นนายแบบมืออาชีพ แม้แต่ช่างภาพยังชมไม่ขาดปาก ผมมองเพลินจนเผลอยื่นมือออกไปข้างหน้า นี่เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าตฤนอยู่ไกลเกินเอื้อม
“พักเปลี่ยนเซ็ตสิบห้านาที” เสียงทีมงานตะโกนบอก ผมรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นตฤนเดินมา เพื่อคืนเก้าอี้ให้กับเจ้าของ ก็ที่นั่งตรงนี้เขาเตรียมไว้ให้นายแบบนั่ง
“ขอน้ำ”
“ได้” ผมรีบเดินไปหยิบขวดน้ำที่แช่อยู่ในถังเย็นเจี๊ยบมาเปิดฝาส่งให้ตฤน เกนกับชายหนุ่มใส่แว่นเดินตรงเข้ามาหา
“ผมขอบ้างสิว่าน” เกนวางมือลงบนไหล่ผม สายตากรุ่มกริ่ม
“เกน” เสียงเล็กๆ ปราม ผมเริ่มนึกเห็นใจร่างเล็ก การดูแลเกนต้องยากมากแน่ๆ
“ว่าแต่ยังไม่เห็นตอบเลยว่าจีบได้ไหม”
“พอเถอะ” เสียงห้วนของตฤนขัดขึ้น “ว่านไม่รู้ว่ามึงแหย่เล่น เดี๋ยวจะพาลมองหน้ากันไม่ติด”
“โทษทีว่ะ อย่าถือสาผมนะว่าน”
“ไม่หรอกครับ” ผมรีบส่ายหน้า “ผมพอเดาได้ว่าน่าจะแหย่เล่นมากกว่า”
“แน่ใจ?”
“เกน!” ร่างเล็กคงใกล้หมดความอดทน เกนจึงยอมถอยห่างจากผม “ขอโทษด้วยนะครับ อย่าถือสาเลย” คนตัวเล็กก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อขอโทษผม
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรจริงๆ” ผมส่งยิ้มให้ อยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าผมเป็นกำลังใจให้นะ เพราะท่าทางเกนจะจัดการยากน่าดู
“สงสัยว่าเย็นนี้คงไม่มีใครว่างไปต่อ แว่นเย็นนี้หาซื้ออะไรไปกินที่คอนโดด้วย”
“ทำไมผมต้องไป งานเสร็จแล้ว”
“นั่นก็งาน”
เสียงเถียงกันค่อยๆ ดังห่างออกไป ผมหันไปยิ้มให้ตฤนอย่างเอาใจ ดูเหมือนวันนี้ตฤนจะมีเรื่องไม่สบอารมณ์เพราะหน้าหงิกทั้งวัน
“เหนื่อยไหม”
“ไม่”
“อย่าโมโหเลย ผมเข้าใจว่าเกนแหย่เล่น ไม่ได้คิดมาก”
“ดีแล้ว” สีหน้าของตฤนดีขึ้นบ้าง ผมยิ้มเมื่อเห็นอย่างนั้น ดูเหมือนว่ารอยยิ้มกว้างจนตาหยีของผมจะทำให้ตฤนเผลอหัวเราะออกมาเบาๆ
“ยิ้มโคตรน่าเกลียด”
หุบฉับสิครับจะรออะไร แต่ได้แป๊บเดียวผมก็ยิ้มออกมาใหม่เพราะขำตัวเอง “คิดอยู่เหมือนกันว่าสักวันต้องหน้าแก่กว่าวัย ยิ้มทีตีนกาขึ้นครบทุกเส้นเลย”
“หึ”
“ตฤน”
“หือ”
ผมสบตากับตฤนด้วยรอยยิ้ม จ้องตาอีกฝ่ายอยู่ชั่วครู่ ก่อนยกมือขึ้นช้าๆ แตะลงบนบ่าของตฤนเบาๆ
“อะไร” เสียงคนถามนุ่มหุ สีหน้าเหมือนขำผมเสียมากกว่า ดูอารมณ์ดีขึ้นมาก
“ก็ไมได้ไกลกันสักหน่อยนี่เนอะ” ผมยิ้มกว้าง ตฤนเลิกคิ้วแต่ผมไม่บอกหรอก มาคิดดูดีๆ ผมว่าผมกับตฤนไม่ไกลกันหรอก นี่ไงแค่นี้ผมก็แตะถึงแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่าเราคาดหวังมากแค่ไหน ถ้าฝันเกินตัวมันก็ไปไม่ถึงอยู่แล้ว แต่ถ้าแค่นี้ผมก็แตะได้สบาย
“ก็ใครว่าไกล”
ผมมองหน้าตฤนด้วยความประหลาดใจ ผมคิดจริงๆ ว่าเดี๋ยวตฤนต้องพูดว่าพูดอะไรของนาย หรือไม่ก็ต้องว่าผมพูดจาประหลาด ฟังไม่รู้เรื่อง แต่สิ่งที่ได้ยินกลับต่างออกไป
“เริ่มได้แล้วครับ” เสียงทีมงานดังแทรกขึ้นมา
“ครับ” ตฤนตอบรับพร้อมกับลุกขึ้นยืน สายตาที่มองมาดูไม่เหมือนตฤนที่ผมคุ้นเคย มันดูอ่อนโยนกว่าที่เคย
“นั่งเล่นไปก่อนเดี๋ยวก็เสร็จ”
“นานๆ ก็ได้ผมอยากดู”
“หึๆ”
ผมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว ถึงจะไม่ได้หยุดพักผ่อนให้สมกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมา แต่การได้ฟื้นฟูจิตใจแบบนี้กลับทำให้มีพลังมากกว่าเป็นไหนๆ ขอบคุณนะครับคุณผู้จัดการที่วันนี้ติดธุระผมถึงโชคดี
• • • • • • • •
“ว่าน”
“ครับ” ผมขานรับ ตฤนกำลังขับรถไปส่งผมที่หอ หลังจากไปทานข้าวกับทีมงานที่สนิทกันรวมทั้งเกนและแว่นด้วย
“นายพูดครับทีไรฉันสะดุดทุกที”
“ฮ่าๆ เดี๋ยวก็ชิน” ผมยังยืนยันว่าจะพูดครับกับตฤนต่อไป
“เรื่องนี้ช่างเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“คุยมาสิรอฟังอยู่”
“ฉันคิดว่า....”
????
“หึๆ”
“โห~แบบนี้มันตั้งใจแกล้งกันนี่นา บอกมาเร็วๆ ครับผมอยากรู้” พอเริ่มคุ้นเคยกันผมก็เริ่มกล้าที่จะโวยวาย
“ฉันคิดว่า..”
“ไม่พูดคราวนี้ผมไม่ฟังแล้วนะเอ้า” ผมขู่คนพูด
“หึๆ”
“เร็วเลยครับ”
“ฉันคิดว่า..ฉันชอบหวานเข้าให้แล้ว”
!!!
“นายคิดว่าฉันจะหาทางจีบติดไหม”
“จะ..จะดีเหรอ หน้าก็ยังไม่เคยเห็นไม่ใช่เหรอ เผื่อไม่ใช่อย่างที่คิด” เหงื่อของผมแตกพลั่ก ข้างในปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันไม่มีปัญหากับหน้าตา ขอแค่ตัวตนเหมือนที่ฉันคิดก็พอ”
“เอางั้นเหรอ” ผมส่งยิ้มแหยๆ ไปให้เมื่อตฤนหันหน้ามามอง
“อวยพรหน่อยสิ”
“....”
“เร็ว”
“อื้อ ขอให้จีบติด”
“ขอบคุณ” ตฤนยิ้มแบบที่ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก ดวงตาเป็นประกายวาววับ ริมฝีปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ดูมีร้ายกาจแต่ก็มีเสน่ห์มาก ผมละสายตาจากใบหน้าของตฤนไม่ได้เลย ว่าแต่ผมจะดีใจหรือเสียใจดี แล้วผมจะทำยังไงก็ชีวิตตัวเองละนี่
“นายว่าครั้งหน้าฉันดักรอเจอดีไหม”
!!!
“ฮ่าๆ”
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin