★C H O R A K A★ #จรกาคนงาม - ★★Special C H 02★ทายาทอสูร[02.07.61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★C H O R A K A★ #จรกาคนงาม - ★★Special C H 02★ทายาทอสูร[02.07.61]  (อ่าน 144912 ครั้ง)

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
:hao5:  สงสารจิ

ถ้าพี่อินทร์เลือกที่จะเปิดใจ นั่งคุยกับน้องตรงๆ มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่ารึเปล่า
อย่างน้อยจิจะได้รู้ว่าที่มา ที่ไปคืออะไร ทำไมต้องทำแบบนี้
มันทำให้ได้ทั้งคำตอบจากจิณห์ และ น้องกับพี่ก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจด้วย
ยิ่งทำแบบนี้เหมือนซ้ำเติมจิทางอ้อมเลย จิตใจก็กังวลเรื่องร่างกายแล้ว กำลังใจที่พอจะช่วยได้ก็เหมือนมาซ้ำเติมให้แย่ลงอีก
รอดูว่าเมื่อความจริงเปิดเผย น้องจะเข้าใจพี่อินทร์มั้ย หรือว่าจะยิ่งฝั่งใจมากกว่าเดิม

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ทำไมไม่คุยกันดี ๆ ช่วยกันแก้ปัญหา ทำไมๆๆๆๆๆ :katai1:

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
แล้วอีพี่อินทร์ก็พึ่งสัญญากับน้องไปว่าจะรักจะดูแลตลอดชีวิต สุดท้ายคือก็ต้องติดโรคไปอีกคน? คำสาบานบางทีถ้ามันทำไม่ได้มันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยนะ ความเชื่อใจมันจะไร้ค่าไปเลย ถ้าไม่พูดกันให้เข้าใจตั้งแต่ปมชาติที่แล้วแต่เลือกที่จะให้น้องรับรู้ความรู้สึกด้วยตัวเองแค่นี้ก็ไม่แมนพอแล้วนะพี่อินทร์ นี่ยังผิดคำสาบานง่ายๆแบบนี้ขอให้เลิกกันยาวๆแล้วกันนะ จนกว่าจะไปรีเซ็ตความคิดตัวเอง

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
สงสารน้องจิ :mew6:เป็นแฟนกันก็น่าจะคุยปรึกษากันนะทั้งอินทร์กับจิทั้งคู่ไม่น่าปิดความลับต่างคนต่างแก้ปัญหาแบบนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2018 22:45:09 โดย Chompoo reangkarn »

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
จริงๆเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความเป็นความตาย น้องจิกับพี่อินทร์น่าจะเปิดใจคุยกัน เฮ้อ สองคนนี้ทำให้เรื่องทุกอย่างมันยากเอง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้ยยยยอิพี่อินทร์โว้ยยยยยมันมีวิธีมากกว่านี้นะที่จะช่วยจิน่ะ ทำไมไม่บอกจิไปละหาว่ารู้ความจริงแล้วจะได้มาคุยกันเพื่อหาทางออก เหอะๆแล้วมาบอกเลิกจิแบบนี้เตรียมตัวโดนจิเกลียดอีกได้เลย ยิ่งถ้าต้องมาทำให้จิณห์เชื่ออีกว่าเลิกแล้วจริงๆน่ะ จิคงหมดใจแล้วเกลียดเข้าให้แน่ๆ รอสมน้ำหน้าดีกว่า

ออฟไลน์ Aeflizm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถ้าจิไม่โกธรนี้จะโกธรมาก การที่พี่อินคิดว่าบอกเลิกแค่ชั่วคราวแม่งเป็นการแก้ปัญหาโครตเห็นแก่ตัวเลย คนโดนบอกเลิกไม่รู้อะไรเลยซักนิด คาวมรู้สึกตอนโดนบอกเลิก ความรักที่มี มันเหมือนหัวใจมันแตกสลายไปแล้ว พี่อินพูดออกมาแบบนั้นได้คงเพราะคิดว่าเออ ไม่เป็นไร เลิกแปปเดี๋ยวหาทางแก้ได้ค่อยกลับมาง้อ แล้วความรู้สึกของจิที่เสียไปตอนนั้นละ พี่อินจะรับผิดชอบยังไง เรามองว่าการหาทางแก้ปัญหากับการทำร้ายจิตใจแม่งเอามาเจ๊ากันไม่ได้อ่ะ ถ้าจิไม่โกธรแล้วหายโกธรง่ายไๆ จะโกธรจิมาก ฮือ ชั้นอิน ชั้นร้องไห้

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :pig4:

 โอ้ความดรามม่า  อิเหนา ระตูจรกาลำไยไฉน

  อีกทั้งบุษบา(ไม่เกี่ยว?) จินดาส่าหรีขิงข่าร่ำไร   

   ขอวานคุณwriterนั้นไซร้รีบไขข้อข้องใจwildridereaderเอย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
บ้านจิณห์อยู่แถวไหน ขอพิกัดด่วน  :pigangry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อยากโดดถีบหน้าจิณห์  ท่ามากนัก

แค่เฉลยง่ายๆออกไปก็ไม่ทำ   วางฟอร์มขนาด

ถึงพี่อินทร์จะทิ้ง แต่ถ้าจิเลิกรักพี่อินทร์ไม่ได้ คำสาบานไม่หายนะ   
ดีไม่ดีจิคิดสั้นไปฆ่าตัวตายขึ้นมา จะทำไง

ที่จริงแค่ถามจิว่าตอนเป็นจรกาสาบานอะไรไว้  แล้วไปถอนสาบานจะง่ายกว่าไหม

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ทำไมไม่พูดกันตรงๆ น้องจิก็บอกพี่อินไปสิว่าเป็นนี่นะ พี่อินก็บอกจิไปสิว่าพี่รู้แล้ว ทำไมไม่พูดกันนนนนน เดี๋ยวเจอดีเหม่งเรียกสติทั้งคู่เลย :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เลิกกับน้องเฉย
อิเหนาาาาาาาา ทำไมทำงี้
รอยแดงคือคำทวงจากสัตย์สาบานเมื่อชาติก่อน ชีวิตน้องจิเชียว
แฟนกันทำไมไม่เฉลยซะ จะได้หาทางช่วยเหลือกัน
 :hao5:
เป็นตอนที่อยาก  :z6: จินตะหรามาก เยอะเกิ๊น

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
โว้ย อ่านตอนนี้ละหงุดหงิด บอกน้องไปสิ

บอกความจริงไป ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา

พี่อินทร์ของนว้องจิ แค่นี้คิดไม่ได้รึไง !!! :hao7:

ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
Chapter 26: คำสาบานมีไว้ให้รักษา[1]

ผมนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมมานานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ น้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว แต่ผมยังคงงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่

พี่อินทร์...บอกเลิกผม?

เรื่องอะไร ผมก็ไม่แน่ใจนัก เป็นเพราะช่วงนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเหรอ? หรือเป็นเพราะผมปิดบังเรื่องรอยบนร่างกายตัวเองกับเขา? หรือเป็นเพราะว่าเขาจะกลับไปหาแฟนเก่า?

คิดถึงตรงนี้ ผมก็จุกขึ้นมาในอก แต่น้ำตากลับไม่ไหลออกมาอีกแล้ว รู้แต่ว่าชีวิตผมเคว้งคว้างขึ้นมาทันตาเห็น

ไหนเขาบอกว่าจะรักผมคนเดียวตลอดไปไง แล้วทำไม...

ก๊อกๆๆ

คิดยังไม่ทันจะจบ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมมองไปยังต้นเสียงครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงนั้นจะดังขึ้นมาอีก

ก๊อกๆๆ

หรือพี่อินทร์จะกลับมา?

ผมรีบลุกพรวดไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ความดีใจพร่างพรายขึ้นมาฉับพลัน แต่แล้วมันก็ต้องมลายหายไปเมื่อเห็นคนที่มาเคาะเรียก

“พี่...บุศย์...”

ผมครางชื่อเขาออกมา พี่บุศย์หอบหายใจน้อยๆ เสื้อที่สวมเปียกชื้นด้วยเหงื่อ เดาว่าเขาคงรีบวิ่งมาจากที่ไหนสักที่ พอเขาเห็นหน้าผม ความกังวลใจก็ปรากฏให้เห็นบนสีหน้าอย่างไม่ปกปิด

“จิ... ไหวไหม”

คำถามที่เขาถามออกมา ไม่ต้องให้ผมถามเขาหรอกว่าหมายความว่าอะไร แค่มองหน้าเขา ผมก็รู้แล้วว่าเขารู้เรื่องระหว่างผมกับพี่อินทร์เป็นที่เรียบร้อย ผมเลยส่ายหน้าช้าๆ ให้เขาเป็นคำตอบ พี่บุศย์ถอนหายใจออกมา ก่อนถามเสียงเบา

“พี่เข้าไปข้างในได้ไหม”

ผมพยักหน้า ถอยให้เขาได้เดินเข้ามา ทันทีที่ประตูปิด ความเงียบก็เข้าเกาะกุมเราทั้งสองคน เขาเอาแต่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าคล้ายกับว่าพินิจอะไรบางอย่าง สีหน้าก็ไม่ได้ดูดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งความอึดอัดนั้นทำให้เขาทนไม่ไหว ทำลายความเงียบขึ้นมาจนได้

“พี่รู้เรื่องของเรากับไอ้อินทร์แล้วนะ”

ผมพยักหน้าไปอีกที เหมือนเป็นการตอกย้ำให้ผมรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงยังไงก็ไม่รู้ น้ำตาก็พานจะไหลออกมาอีกครั้ง เท่านั้นเขาก็เดินเข้ามาคว้ามือผมไปแล้วจูงไปนั่งที่ปลายเตียง

“จิ ไม่ต้องร้อง”

คำว่า ‘ไม่ต้องร้อง’ นี่แหละที่ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ร้องไห้ออกมาอีกจนได้ ในอกข้างซ้ายก็ปวดหนึบเสียจนชาไปหมดทั้งตัว พลันผมก็มองหน้าพี่บุศย์อย่างไม่เข้าใจ

“จิไม่เข้าใจ จิทำอะไรผิด ทำไมพี่อินทร์ถึงต้องเลิก ฮึก...จิ...จิไม่เข้าใจ...”

แล้วก็พูดอะไรต่อไม่ออก ได้แต่สะอึกสะอื้น พี่บุศย์ก็ลูบหลังลูบหัวผมเป็นการใหญ่

“ชู่ว์ จิ ใจเย็นๆ ไม่ต้องร้อง พี่รู้แล้ว ไม่ต้องพูดแล้วนะ”

ผมโผเข้ากอดเขา ระบายความอัดอั้นออกมาราวกับสติแตก ใช้เวลานานพอควรเลยทีเดียวกว่าที่ผมจะสงบลงได้ ตอนนั้นเองที่พี่บุศย์เริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้อินทร์โทรมาบอกพี่หมดแล้ว พี่เลยรีบมาจากหอเพื่อนมาดูจินี่แหละ”

ได้คำตอบแล้วว่าทำไมเขาถึงได้หายใจหอบน้อยๆ และเสื้อที่สวมก็เปียกชื้น ผมได้แต่พึมพำเสียงเบา

“ขอโทษครับ”

“เฮ้ย ขอโทษทำไม ไม่ต้อง เราเป็นน้องรหัสพี่ พี่ก็ต้องดูแลสิถูกแล้ว”

เขาว่ายิ้มๆ พยายามทำให้ผมสบายใจ แต่ผมไม่ได้สบายใจขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงจะหยุดร้องไห้แล้ว ในหัวก็ยังคิดวกวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่อินทร์ก่อนหน้า คาดว่าพี่บุศย์น่าจะดูออกว่าผมคิดอะไรหลังจากเห็นผมนิ่งไป เขาจึงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“จิ จำได้ไหมว่าครั้งนึงพี่เคยบอกอะไรจิ” ผมหันไปมอง เขาก็ยิ้มให้ก่อนพูดต่อ “พี่เคยบอกจิว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้เชื่อใจไอ้อินทร์ เพราะไม่มีใครหวังดีและรักจิได้เท่ามันอีกแล้ว จำได้หรือเปล่า”

ผมพยักหน้า คำพูดที่เขาเคยบอกตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้เจอพี่จิณห์ผุดพรายขึ้นมาในหัว พี่บุศย์ยิ้มตอบ ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ

“ครั้งนี้...พี่ก็อยากให้จิเชื่อใจมันเหมือนกัน ถึงการกระทำของมันจะดูโคตรโง่เลย แต่พี่เชื่อว่ามันมีเหตุผล จิจะโกรธมันยังไงก็ได้ แต่จิช่วยอดทนหน่อยได้ไหม”

พอเขาพูดมาอย่างนี้ ผมก็ยิ่งไม่เข้าใจ

“พี่บุศย์หมายความว่าอะไรครับ”

“พี่ก็อยากจะบอก แต่...” เขาทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรไปบางอย่าง ผมก็รอฟัง สุดท้ายก็ไม่พูดออกมา ได้แต่เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น “เอาเป็นว่าอดทนรอมันหน่อยนะ ขอเวลาให้มันหน่อย ถือซะว่าพี่ขอ”

“แต่...พี่อินทร์บอกเลิกจิแล้ว”

พี่บุศย์พยักหน้า เขาลูบหัวผมโดยไม่พูดอะไรออกมา ผมก็ไม่เข้าใจว่าตกลงมันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ในใจสับสนวุ่นวายไปหมด

พี่อินทร์บอกเลิกผม แต่ก็โทรเล่าให้พี่บุศย์ฟัง แล้วก็ให้เพื่อนตัวเองมานั่งปลอบผม มิหนำซ้ำพี่บุศย์ยังมาบอกให้ผมอดทนแล้วรอพี่อินทร์อีก

รอทำไม รออะไร... ผมไม่เข้าใจเลย

“จะต้องให้จิอดทนรออะไร ในเมื่อพี่อินทร์บอกเลิกจิแล้ว จิก็แค่อยากได้คำตอบว่าเลิกเพราะอะไร มีเหตุผลอะไรถึงไม่รักกันแล้วแบบนี้”

ผมเริ่มโวยวาย ความเจ็บปวดมันทำให้ผมกลายเป็นคนนิสัยไม่ดีสักเท่าไร เริ่มพาลพี่บุศย์ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย พี่บุศย์ก็ได้แต่มองผมด้วยสายตา...สงสาร?

เขาบอกให้ผมอดทนรอ แต่แค่คิดว่าพี่อินทร์ไม่รักผมแล้ว ผมก็เจ็บเสียจนปวดร้าวไปหมดทั้งร่าง

ทำไมล่ะพี่อินทร์ ทำไมความรักที่พี่อินทร์มีให้จิมันถึงได้หมดไวขนาดนี้...

ผมตัดพ้อเขาอยู่ในใจ น้ำตาก็ค่อยๆ ไหลออกมาอีกครั้ง และดูท่าว่ามันจะไม่มีสิ้นสุดด้วย

แต่แล้ว...ผมก็ต้องชะงักงันไปเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังก้องเข้ามาในหัว

‘ขอเทพยาดาผู้รักษาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์จงรับรู้การกราบสักการะของข้าพเจ้า...นายอินทรา ในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลที่ได้สร้างสมข้ามภพข้ามชาติมาแด่ทวยเทพเทวาผู้รักษา ผู้สถิต ผู้ดูแล พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เพื่อให้เป็นประจักษ์พยานแก่คำสัตย์สาบานของข้าพเจ้า...’

‘...ข้าพเจ้าขอสาบานได้ด้วยชีวิตว่าจะรักและภักดีกับนายจิระ ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างข้าพเจ้าในขณะนี้ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ จะปกป้อง จะดูแล จะทำทุกอย่างเพื่อให้จิระมีความสุขไปชั่วชีวิต หากผิดคำสาบาน ขอให้ข้าพเจ้ามีอันเป็นไป ขอให้ท้าวเวสสุวรรณลงทัณฑ์ให้ตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป’

‘ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงเป็นพยาน...’

เสียงนั้น...เป็นคำสัตย์สาบานต่อหน้าองค์พระประธานของพี่อินทร์ที่มีให้ผม

ไม่รู้ทำไมจู่ๆ ถึงได้คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แล้วก็ไม่ได้คิดถึงในอารมณ์ตัดพ้อด้วย แต่...มันเหมือนมีใครบางคนกำลังย้ำเตือนให้ผมจำเหตุการณ์นี้อยู่

พี่อินทร์สาบานว่าจะปกป้อง จะดูแล และทำทุกอย่างเพื่อให้ผมมีความสุข...

แล้วที่เขาทำอยู่ตอนนี้ล่ะ มันคือ...

“จิ”

ผมได้สติกลับมาในคราวนี้ หันไปมองพี่บุศย์ที่บีบมือผมแน่น

“ต่อให้เกิดอะไรขึ้น ขอร้อง เชื่อใจไอ้อินทร์นะ พี่เองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะคอยดูแลจิแทนมันอย่างนี้ อดทนหน่อย ไม่นานหรอก พี่สัญญา”

“อดทนเรื่องอะไรครับ”

ในที่สุดผมก็ถามออกไปจนได้ พี่บุศย์ย้ำคำนี้บ่อยเสียจนผมเริ่มเอะใจ ก่อนที่พี่บุศย์จะว่าออกมา

“อดทน...อย่าเพิ่งเกลียดไอ้อินทร์มันเลยนะ”

สิ้นเสียงก็ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากของเขาและผมมาอีก ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำเราทั้งสองพร้อมกับความสับสนในใจผมอีกครั้ง

 

พี่บุศย์บอกให้ผมอดทนและรอ...

ประโยคนี้ผมตีความเอาเองเลยว่าพี่อินทร์จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน แต่มันก็เป็นความหวังลมๆ แล้งๆ ของผมเท่านั้น เพราะหลังจากที่พี่อินทร์ออกจากห้องไปวันนั้น วันนี้ก็เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วที่ไม่เห็นเขาโผล่มาให้เห็นแม้แต่เงา

เสื้อผ้าก็ไม่เอาไป อุปกรณ์การเรียนทุกอย่างก็ยังคงอยู่ที่เดิม...

เขาไม่อยากเจอหน้าผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

ผมพยายามจะทำความเข้าใจเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมาเลยเพราะผมไม่เข้าใจการกระทำของเขา รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นด้วย และก็ไม่เข้าใจพี่บุศย์เช่นกันว่าทำไมต้องมาบอกให้ผมรอ

รออะไร! ต้องให้ผมรออะไรอีก! ผมเจ็บจนทนไม่ไหวแล้วนะ!

วันหนึ่งๆ ต้องเสียน้ำตากี่ครั้ง ผมยังไม่รู้เลย รู้แต่ว่าทุกครั้งที่กลับเข้าห้องมาแล้วเห็นทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่ต่างจากตอนที่พี่อินทร์ยังอยู่ ผมก็น้ำตาไหลอย่างอดไม่ได้ทุกที

จะต้องให้ผมใช้ชีวิตเหมือนหายใจทิ้งไปวันๆ ไปถึงไหน อย่างน้อยถ้าจะเลิกกันก็บอกเหตุผลหน่อยได้ไหมว่าผมทำอะไรผิด ผมไม่น่ารัก ไม่น่าดึงดูดเหมือนช่วงแรกๆ แล้วเหรอ เขาถึงทิ้งกันไปง่ายๆ แบบนี้!?

ทั้งโกรธทั้งเสียใจในคราวเดียว ใจก็อยากจะเกลียดเขาเหมือนกัน แต่ผมก็ทำไม่ได้ทุกที

เหมือนเป็นสิ่งเดียวที่ผมทำกับอิเหนาในชาตินี้ไม่ได้...

ทำยังไงผมก็เกลียดเขาไม่ได้...

เกลียดไม่ลงไม่พอ ผมยังจะอดรนทนไม่ไหว ไปแอบลอบมองหาเขาที่หน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์บ่อยๆ อีก ผมรู้ว่าเขาเรียนวิชาอะไรที่ไหนบ้างเพราะเราเคยแลกตารางเรียนกัน เป็นข้อตกลงกันว่าจะได้หาเวลามาเจอกันในมหาวิทยาลัยตอนว่างๆ ได้ถ้ารู้ว่าใครว่างเมื่อไร

ที่ต้องไปแอบมองเขาทุกวันก็เพราะ...อย่างน้อยผมจะได้ไม่ฟุ้งซ่านที่ไม่เห็นหน้าเขา อีกเหตุผลก็คือถ้ามีโอกาส ผมก็อยากคุย...อยากรู้ว่าทำไมเขาถึงต้องเลิกกับผมด้วย

ผมไปยืนด้อมๆ มองๆ อยู่หลายวันแล้ว บางวันก็เห็น...บางวันก็ไม่เห็น วันที่ไม่เห็นก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน เดาเอาว่าคงไปกับพี่จิณห์ แต่ก็ถือว่ายังโชคดีที่ผมไม่เห็นภาพนั้นตำตาอีกเป็นครั้งที่สอง

วันนี้...ก็เป็นอีกวันที่ผมมาแอบลอบมองเขา ผมเลิกเรียนเร็วกว่าปกติ เลยรีบมาด้วยกะว่าจะไปจองที่แอบอย่างเคย รวบรวมแรงฮึดด้วยว่าถ้าวันนี้เจอพี่อินทร์ ผมจะเข้าไปถามเขาถึงเหตุผลที่เราเลิกกัน ผมรู้สึกว่าตัวเองทนอยู่กับความเคว้งคว้างแบบนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถ้าจะเลิกกัน อย่างน้อยก็ช่วยทำให้ผมเข้าใจอะไรๆ หน่อยเถอะ

แต่ทว่าสวรรค์ดูเหมือนอยากให้ผมเคลียร์กับเขาเร็วเกินไปหน่อย เพราะทันทีที่ผมไปถึงหน้าคณะ ผมก็เจอเข้ากับเขาที่เดินออกมาจากอาคารพอดี

ร่างสูงในชุดนักศึกษานั่นมองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่าคือพี่อินทร์ เขาเดินออกมากับกลุ่มเพื่อน สีหน้าดูเคร่งเครียดเหมือนทุกวัน... ทุกวันในช่วงนี้ เขาไม่ยิ้มเลยแม้แต่น้อยถึงพวกเพื่อนๆ เขาจะชวนคุยตลกโปกฮาก็ตาม

ทว่านั่นไม่สำคัญเท่ากับที่ผมเห็นเขาแล้วก็สะดุ้งโหยง จะหนีไปไหนก็ไม่ทันเมื่อเพื่อนเขาที่เดินมาด้วยกันร้องทักขึ้นมาพอดี

“นั่นน้องจิแฟนมึงหรือเปล่าวะ”

พี่อินทร์มองมายังผมทันควัน ผมก็ชะงักกึกราวกับถูกสั่งให้หยุด

“แฟนมาหาแล้ว ไปกับแฟนไปมึงอะ ไว้เจอกันที่หอ”

ได้ยินอย่างนั้นผมก็รู้เลยว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมาที่เขาไม่อยู่หอนั้น เขาไปนอนที่ไหน

หอเพื่อนในคณะ... มิน่าล่ะ ทำไมผมถึงไม่รู้ ก็เพื่อนของเขาคนนั้นผมไม่รู้จักสนิทสนมนี่ รู้จักแค่ผ่านๆ ว่าเป็นเพื่อนในคณะของเขาก็เท่านั้น

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการที่พี่อินทร์ไปนอนหอเพื่อนในคณะก็คือตอนนี้เขากับผมกำลังยืนประจันหน้ากัน สายตาของเขาที่มองมายังผมมันเย็นชา

เย็นชา...จนผมรู้สึกราวกับว่าผมกลายเป็นคนอื่นสำหรับเขาไปแล้ว

ผมเห็นแล้วก็ใจหายวาบ แรงฮึดอันน้อยนิดที่รวบรวมมาก่อนหน้านี้ที่ตั้งใจว่ายังไงวันนี้ก็ต้องคุยกับเขาให้ได้อันตรธานหายไปหมด เหลือแต่ความท้อใจผสมปนเปกับความอิหลักอิเหลื่อที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ชวนให้อึดอัด ดูจากท่าทางเขาแล้ว เขาคงไม่อยากเห็นหน้าผมหรอก ถ้าอยากเห็น เขาคงไม่หนีหายไปแบบนี้ ผมมันดันทุรังเองแหละที่คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขายังรักผมอยู่และเชื่อพี่บุศย์ที่บอกให้อดทนรอ

รออะไรกันล่ะ เขาไม่ได้เป็นคนพูดเองสักหน่อยว่าให้ผมรอ แล้วจะให้ผมรออะไร...

ผมยืนนิ่งราวกับเป็นซากสัตว์ถูกสตัฟฟ์ ในใจภาวนาขอให้พี่อินทร์เมินแล้วเดินหนีไปทางอื่นหรืออะไรก็ได้ ไม่ต้องสนใจผมเลยจะดีกว่า เพราะวินาทีนี้ผมรู้ตัวแล้วว่ายังไม่พร้อมที่จะรับมือกับความเจ็บปวดอีกระลอกถ้าหากว่าเขาพูดอะไรทำร้ายจิตใจผมอีก

แต่พี่อินทร์กลับเดินเข้ามาใกล้จนมาหยุดอยู่ตรงหน้า ระหว่างห่างระหว่างเขากับผมมีเพียงหนึ่งช่วงแขนเท่านั้น ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้ามองปลายเท้า ก่อนว่าเร็วๆ เพื่อกลบเกลื่อนความน่าอึดอัดนี้

"จะ...จิบังเอิญผ่านมาน่ะครับ ก็เลยแวะมาดูว่าพี่อินทร์เป็นยังไงบ้าง เห็นพี่อินทร์ไม่กลับไปเอาของพี่ห้องเลย จิก็เลยมาดู เผื่อว่าพี่อินทร์อยากจะกลับไปเอาอะไร"

เป็นข้ออ้างโง่ๆ ที่แม้แต่เด็กอนุบาลก็ไม่เชื่อ รอยยิ้มที่ฝืนยิ้มอยู่นี่ก็ดูโง่ เพราะยิ่งฝืนเท่าไร ขอบตาผมก็ร้อนผะผ่าวมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งพอเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่าย ความอัดอั้นที่กักเก็บไว้มานานก็ถูกระบายออกมาเป็นหยาดน้ำตา
ผมไม่สามารถเก็บงำความเจ็บปวดนี้ไว้ได้อีกแล้ว สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาต่อหน้าเขา พร้อมกับพูดในสิ่งที่คิดอย่างไม่อาจหักห้ามไหว
"พะ...พี่อินทร์... ทำไมทำกับจิแบบนี้...ฮึก...”

“...”

“จิทำอะไรผิด ทำกับจิแบบนี้ทำไม ฮึก... ขอร้องล่ะ อย่าทำกับจิแบบนี้..."

พี่อินทร์ยังคงนิ่ง เขามองผมด้วยสายตาที่ยากจะอ่าน แต่ผมไม่อยากรู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ คงจะรำคาญ หรือไม่ก็สมเพชที่ผมยังเฝ้าตามตื๊อเขา

ทั้งๆ ที่รู้ว่าร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ผมก็หยุดตัวเองไม่ได้

หยุดไม่ได้แล้ว... มันเจ็บปวดเกินไป ผมรับไม่ไหวแล้ว

"อย่าใจร้ายกับจิแบบนี้สิครับ จิทนไม่ไหวแล้วนะ..."

ผมยังคงร้องไห้และตัดพ้อพร้อมๆ กัน แล้วก็เป็นอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง กระทั่งเริ่มได้สติสัมปชัญญะ ผมก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา พลางว่าเสียงแผ่ว

"จิขอโทษ..."

ขอโทษที่รบกวน ขอโทษที่มาทำให้รำคาญใจ...

“จิขอโทษ...ฮือ...จิขอโทษ...”

ผมพูดประโยคเดิมวกไปวนมาเหมือนคนบ้า รู้ตัวว่าบ้าแต่หยุดการกระทำของตัวเองไม่ได้เลย ยิ่งมาอยู่ต่อหน้าเขา ผมก็เหมือนจะสูญเสียความควบคุมไปหมด

ผมรักเขา... ผมไม่อยากให้เขาทิ้งผมไปแบบนี้...

พี่อินทร์...จิต้องทำยังไง พี่อินทร์ถึงจะรักจิเหมือนเดิม

ผมสะอึกสะอื้นเป็นบ้าเป็นหลัง พักหนึ่งก็ได้สติว่าไม่ควรมากวนใจเขาอยู่ตรงนี้ พลันก็จะหันหลังกลับไปตามทางที่ผมมา พร้อมกับสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มารบกวนให้เขาลำบากใจอีก การที่เขานิ่งเฉย ไม่พูดอะไรออกมาสักคำมันก็ชัดแล้วว่าผมกำลังทำให้เขาอึดอัด

ผมรักเขา ผมไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดี ต่อให้เขาไม่รักผมแล้ว ผมก็ยังอยากให้เขารู้สึกดีๆ กับผม...

บางทีการปล่อยวางอาจจะดีกว่า...

ทว่ายังไม่ทันจะได้ขยับ พี่อินทร์ก็เปล่งเสียงขึ้นมาเสียก่อน

"จิระ"

น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง แต่ก็ทำให้ผมเงยขึ้นมองหน้าเขาผ่านม่านน้ำตาได้ แวบหนึ่งเห็นแววตาปวดร้าวของเขา ผมไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเขาถึงมองผมด้วยสายตาแบบนี้ รู้ตัวอีกทีก็ถูกพี่อินทร์ถลาเข้ามาดึงร่างผมไปกอดไว้แน่นแล้ว

"พี่ก็ทนไม่ไหวแล้วจิ...ให้เป็นแบบนี้ต่อไป พี่ทนไม่ไหวแล้ว"

เขาพูดอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ และผมก็ไม่พร้อมที่จะเข้าใจอะไรด้วยเมื่อเขาพูดประโยคต่อมา

"พี่เลิกกับจิไม่ได้ จิระ... พี่ไม่เลิก... ไม่เลิก...พี่ขอโทษ...”

ของเหลวอุ่นร้อนหล่นเผาะลงบนหัวไหล่ผม ผมรับรู้ได้ทันทีว่าคนที่โอบกอดผมอยู่ก็ร้องไห้ แต่ชั่ววินาทีนั้นมันก็มีความยินดีบางอย่างผุดพรายขึ้นมา

พี่อินทร์ยังรักผมอยู่ใช่ไหม

ใช่หรือไม่ก็ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าตอนนี้ผมปล่อยโฮลั่นเป็นเด็กเล็กๆ เรียบร้อยแล้ว

“พี่ขอโทษนะจิ... พี่ขอโทษ...”

ยิ่งผมร้องไห้ เขาก็ยิ่งพูดพร่ำขอโทษไม่เลิก กระซิบอยู่ข้างๆ หูผมวนไปมาไม่หยุด ตอนนี้ทั้งผมและเขาต่างไม่อายสายตาของคนอื่นที่มองมาแล้ว ผมรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างที่แบกรับอยู่บนบ่าถูกปลดเปลื้องลงในวินาทีนี้ ก่อนจะปล่อยโฮออกมาลั่น

"พี่อินทร์อย่าทิ้งจิไปแบบนี้อีกนะ ฮือ... อย่าทำแบบนี้อีก! อย่าทำแบบนี้! ได้ยินไหมว่าอย่าทำแบบนี้!"

ผมทั้งกอดเขาแน่น ทั้งทุบหลังเขาด้วยความโกรธ ทุบย้ำๆ ซ้ำๆ จนรู้สึกว่าแขนตัวเองเริ่มไม่มีแรง ขณะที่เขาเองก็กอดผมแน่นมากกว่าเดิมเช่นกัน

"พี่ขอโทษนะจิ... พี่ขอโทษ"

ผมจะให้อภัยหมดทุกอย่าง...ทุกอย่างเลย ขอแค่กลับมา

กลับมาหาจินะพี่อินทร์...

กลับมา...

กลับมารักจิอย่างเดิมนะ...

 


ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
★C H 26★คำสาบานมีไว้ให้รักษา[2]


ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนผมสับสนไปหมด เขาเลิกกับผมไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่กลับมาที่ห้องให้เห็นหน้าเลยแม้แต่วันเดียว ข้อความหรือโทรศัพท์อะไรก็ไม่โทรมาหา ให้แค่พี่บุศย์มาคุยและคอยดูแลผมอย่างเดียวเท่านั้น แต่วันนี้...เรากลับมานั่งมองหน้ากันอยู่บนเตียง

หลังจากที่ผมร้องไห้โวยวายหน้าตึกคณะเขาไปเป็นที่เรียบร้อย พี่อินทร์ก็ปลอบผมให้สงบลงแล้วรีบพาผมกลับมาที่หอ พร้อมกับบอกว่า...

“พี่มีเรื่องจะสารภาพ”

...และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรานั่งนิ่งกันอยู่อย่างนี้

ผมรอเขาพูดอยู่พักหนึ่งแล้ว เขาก็ไม่พูดอะไรออกมาสักทีจนบรรยากาศที่รายล้อมรอบตัวเราดูน่าอึดอัด กระทั่งผมเรียกเขา

“พี่อินทร์...”

เขาก็สวนขึ้นมา “จิจำได้ไหมว่าจิเคยถามพี่ว่าเชื่อเรื่องระลึกชาติหรือเปล่า”

ผมงุนงงไปเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้า จำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยถามเรื่องนั้นกับผม และพอผมพยักหน้า เขาก็ถอนหายใจออกมา เอื้อมมือมาจับมือผมไว้แน่น

“ก่อนที่พี่จะบอกอะไรจิ พี่ขออะไรอย่างนึงได้ไหม”

“ครับ?”

“จิจะโกรธพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าเกลียดพี่เลยนะ”

แววตาที่เขามองมาเต็มไปด้วยความหวั่นใจ เขาดูไม่มั่นคง ดูระแวง ดูอะไรก็แล้วแต่ที่เหมือนกันว่ากลัวผม ผมก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเขากลัวอะไร ก่อนเขาจะพูดขึ้นมาอีก

“โกรธพี่มากแค่ไหนก็ได้ จะตีพี่ยังไงก็ได้ แต่พี่ขอร้อง...ถ้าพี่พูดอะไรออกไป จิอย่าเกลียดพี่...”

น้ำเสียงของเขาสั่นเครือในตอนท้าย ไม่รู้ทำไมผมสัมผัสได้ถึงความปวดแปลบจากเขา และสิ่งนั้นก็ทำให้ผมพยักหน้า

“จิจะไม่เกลียดพี่อินทร์ครับ”

ตอบรับไปอย่างนั้น เขาก็ยิ้มขึ้นมาบางๆ พลันเม้มริมฝีปากไปครู่ แล้วว่าเสียงแผ่ว

“ที่จิเคยถามว่าพี่เชื่อเรื่องการระลึกชาติหรือเปล่า คำตอบของพี่คือเชื่อ แล้วพี่ก็รู้...”

“...”

“...ว่าจิระลึกชาติได้”

ได้ยินเท่านั้น ผมก็ชาวาบไปทั้งสันหลัง พอสบตาเขาก็รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นแน่ สายตาที่เขามองมามันจริงจังเสียจนผมเรียบเรียงความคิดไม่ถูก

พี่อินทร์บอกว่าเขารู้ว่าผมระลึกชาติได้ งั้นก็แสดงว่า...

“พะ...พี่อินทร์...”

“พี่ก็ระลึกชาติได้เหมือนกัน...ระตูจรกา”

สิ้นเสียง ผมก็เบิกตาโต

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขารู้มาตลอดเลยเหรอว่าผมคือจรกากลับชาติมาเกิด!?

ต้องรู้แน่ล่ะ เพราะคิดดูดีๆ แล้ว การกระทำบางอย่างของเขาก็ทำให้ผมคิดถึงอิเหนาในชาติก่อนเหมือนกัน เช่นการเอาดอกชบามาทัดหูให้ผม ส่วนตอนนี้ ผมไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่แล่นพล่านขึ้นมาถึงหน้าอกนั้นเป็นความยินดีหรือความตกใจกันแน่ แต่มันทำให้ผมนิ่งงันไปเลย จะมีก็แต่พี่อินทร์เท่านั้นที่ถามผมเสียงแผ่ว

“จิเกลียดพี่หรือเปล่า”

ผมได้สติในตอนนี้ เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวั่นใจนั่นแล้วก็รีบตอบออกไป

“จิไม่เกลียด ชาตินี้จิไม่เกลียดอิเหนาแล้ว” สิ้นเสียง พี่อินทร์ก็ยิ้มออกมา แต่แล้วก็กลายเป็นรอยยิ้มเจื่อนๆ เมื่อผมพูดไปอีก “แต่จิโกรธมาก ทำไมถึงต้องทำจิเสียใจขนาดนี้ด้วย พี่อินทร์เป็นบ้าเหรอ ทำบ้าอะไรอยู่!”

ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ พี่อินทร์ก็ไม่เถียงอะไร ได้แต่ถามเท่านั้น

“อยากตีพี่ไหม”

ผมก็เลยง้างมือขึ้นมา ทำท่าเหมือนจะตบหน้าเขา เขาก็ไม่หนี มองหน้าผมนิ่งเหมือนกับกำลังบอกว่าเขายอมรับโทษทุกอย่าง ซึ่งนั่นทำให้ผมต้องนิ่งค้าง แล้วลดมือลง

“จิทำพี่อินทร์ไม่ลงหรอก”

จะโกรธแค่ไหน ผมก็ไม่กล้าตบหรือตีเขาอีกแล้ว ในเมื่อผมรักเขา ทำไมผมจะต้องทำให้เขาเจ็บกัน

“พี่ขอโทษ” พี่อินทร์ก็พึมพำออกมา แล้วก็ดึงผมเข้าไปกอดแน่น พูดพร่ำไม่หยุด “พี่ขอโทษนะจิ...ขอโทษ ชาตินี้พี่ก็ทำให้จิต้องเสียใจอีกแล้ว พี่ขอโทษ...”

ผมกอดเขาตอบนิ่ง เขาก็ดูอึดอัดมากเหมือนกันที่ต้องเก็บงำเรื่องที่เขาเป็นอิเหนาและระลึกชาติได้มาตลอด ผมพอจะเข้าใจเขาอยู่หรอกว่าทำไม

ก็ชาติก่อนผมเกลียดเขาเสียขนาดนั้น ถ้าเขารักผมมาตั้งแต่ชาติก่อน ชาตินี้พอมารักกัน ก็ไม่แปลกหรอกถ้าเขาจะกลัวผมเกลียดถ้าผมรู้ว่าเขาคือใคร

“จิไม่เกลียดพี่อินทร์หรอกครับ ชาตินี้ไม่เคยเกลียดเลย”

พอบอกไปอย่างนั้น พี่อินทร์ก็ตั้งสติขึ้นมาได้ เขาหยุดพูดขอโทษแล้ว แต่ก็ยังไม่ปล่อยผมออกจากอ้อมแขน ได้ทีผมเลยถามต่อ

“แต่ถ้าไม่บอกจิว่าทำไมถึงบอกเลิกจิ จิเกลียดแน่ๆ”

พี่อินทร์ผละออกมา เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของผมแล้วยิ้มเศร้าๆ

“พี่มีเหตุผล”

“อะไรล่ะครับ บอกจิสิ มีเหตุผลอะไรถึงต้องทำให้จิเสียใจแบบนี้”

เขาไม่พูดในทันที ปรายตามองมาที่ผมแล้วถอนหายใจ

“พูดมาสิครับ”

น้ำเสียงของผมออกจะรำคาญนิดๆ ที่เขาเอาแต่อมพะนำ พี่อินทร์เลยยอมปริปาก

“วันนี้จิแต่งตัวถูกระเบียบอีกแล้วนะ”

แทนที่จะบอก แต่กลับพูดถึงเรื่องชุดนักศึกษาที่ผมใส่เสียอย่างนั้น พอผมขมวดคิ้ว เขาก็ว่าออกมาอีก

“ช่วงนี้มีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงชอบใส่เสื้อกับกางเกงขายาว”

เป็นคำถามที่...ผมก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองก็มีเรื่องปิดบังเขาอยู่เหมือนกัน พลันรีบเฉไฉไปเป็นเรื่องอื่น

“ไม่มีอะไรหรอกครับ จิแค่อยากแต่งตัวถูกระเบียบ”

ดวงตาก็เผลอทำหลุกหลิกไปด้วย แน่นอนว่าพี่อินทร์จับพิรุธได้

“พี่จะไม่ปิดบังจิอีกต่อไปแล้ว แต่จิก็อย่าปิดบังพี่ด้วยได้ไหม เรื่องอะไรที่ทำให้ทุกข์ใจอยู่ บอกพี่เถอะ ให้พี่ช่วยเถอะนะ”

ผมนิ่ง... ทำไมเขาถึงพูดเหมือนรู้ล่ะ ก็ผมไม่เคยให้เขาเห็นรอยบนตัวพวกนั้น แล้วทำไมถึง...

จู่ๆ ก็นึกถึงวันที่ผมตบหน้าเขาได้ขึ้นมา

หรือว่า...จะเห็นเมื่อวันนั้น!?

คงเป็นอย่างนั้นแหละ คิดอย่างนั้นแล้วผมก็ใจไม่ดีเลย ความกังวลที่ลืมไปชั่วขณะหนึ่งผุดพรายขึ้นมาเกาะกุมจิตใจอีกครั้ง ผมส่ายหน้า ไม่อยากให้เขาเห็นว่าบนเนื้อตัวผมเกิดอะไรขึ้น แต่พี่อินทร์ก็จับมือผมไว้แน่น

“พี่จะบอกจิทุกอย่างว่าทำไมพี่ถึงใจร้ายกับจิแบบนี้ แต่จิก็ต้องบอกพี่ด้วยนะว่าปิดอะไรพี่ไว้อยู่”

“...”

“ตกลงนะครับ”

ผมไม่พูดอะไรต่อจากนั้น ไม่ได้ให้คำตอบเขา แต่พี่อินทร์ก็ถือเอาเองว่าผมตอบรับไปแล้ว เขาค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อผมออกทีละเม็ด พอแกะกระดุมเม็ดที่สอง ผมก็รีบตะครุบสาบเสื้อเอาไว้ก่อนที่มันจะแยกออกจากกันด้วยเกิดกลัวขึ้นมา

กลัว...

กลัวว่าถ้าเขาเห็นว่าผมไม่ได้มีผิวพรรณสวยงาม แต่มีรอยอะไรก็ไม่รู้เต็มไปทั้งตัวอย่างนั้น เขาจะหาว่าผมรูปชั่วเหมือนที่ใครต่อใครปรามาสไว้ในชาติก่อนอีก

ชาติก่อนเขาจะเห็นผมเป็นยังไงก็ช่าง แต่ชาตินี้... ถ้าชาตินี้เขารังเกียจผม ผมคงเป็นบ้าตายแน่

ทว่าเขาก็ไม่หยุด เริ่มแกะกระดุมอีกครั้ง ทำให้ผมต้องออกปากห้าม

“พะ...พี่อินทร์อย่า...”

พี่อินทร์ชะงักมือไว้ เหลือบมองหน้าผมด้วยสายตาปลอบประโลม

“ไม่เป็นไรนะจิ ไม่ต้องกลัว” ราวกับเขารับรู้ว่าผมกังวลอะไรอยู่ ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากสาบเสื้อกระทั่งเขาพูดขึ้นอีกครั้ง “ไม่เป็นไรจริงๆ เชื่อใจพี่นะ พี่ไม่ทำให้จิเสียใจแน่ๆ เชื่อพี่...”

เขาดึงมือผมให้พ้นทางอย่างช้าๆ ก่อนจะแกะกระดุมเสื้อผมทีละเม็ดอีกครั้งจนมาถึงเม็ดสุดท้าย พี่อินทร์ค่อยๆ ดึงเสื้อออกจากหัวไหล่ผม พลันรอยแดงๆ เป็นลายรากต้นไม้ก็ปรากฏให้เห็น เขามองรอยนั้นนิ่ง ผมเองก็อับอายที่ต้องมาเปิดเผยรอยพวกนี้ให้เห็นเช่นกันเลยเบือนหน้าไปทางอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องเหลือบกลับมามองจนได้เมื่อเห็นว่าพี่อินทร์มองนานเกินไป

นานไม่พอ ดวงตาทั้งสองข้างของเขายังแดงก่ำ ก่อนที่หยาดน้ำตาสีใสจะเอ่อท้นและทะลักไหลอาบใบหน้าคร้ามออกมา พี่อินทร์ส่งเสียงสะอื้นไห้อย่างไม่ปกปิด

“จิ...ฮึก...”

แล้วเขาก็ดึงผมไปกอดแน่น จากที่ผมกลัวว่าเขาเห็นแล้วจะไม่รักผมเหมือนเดิม กลายเป็นว่าผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ตอนที่เขากอดผมหน้าคณะแล้วร้องไห้นั่น ผมก็ใจไม่ค่อยดีแล้ว มาเห็นเขาร้องไห้ต่อหน้าอย่างนี้ ผมยิ่งใจไม่ดีไปกันใหญ่

“พี่อินทร์ร้องไห้ทำไม” และมันก็คือคำถามในใจผม เขาไม่ยอมเขยื้อนเลยสักนิด เอาแต่กอดผมแน่นจนผมต้องดึงเขาออก “พี่อินทร์...ร้องทำไมครับ”

ผมก็รู้สึกร้อนผะผ่าวที่ดวงตาเหมือนกันเมื่อเห็นเขาร้องไห้ไม่หยุดสักที พี่อินทร์ยอมผละออกมา แต่ดวงตาก็ยังมีน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เขาพยายามกลั้นก้อนสะอื้น ถามผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“จิรู้ไหมว่ารอยนี้มันคือรอยอะไร” ผมส่ายหน้า พลันพี่อินทร์ก็ว่าออกมา “มันเป็นรอยฟ้าผ่าเพราะจิผิดคำสาบาน”

ผมนิ่งงันไปทันที ขณะที่เขาสูดหายใจเข้าปอด พยายามจะหยุดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่เลิก

“ไปสาบานอะไรไว้เมื่อชาติก่อน จำได้หรือเปล่า”

คำถามนั้นทำให้ผมฉุกใจคิดถึงเรื่องในอดีตชาติขึ้นมาฉับพลัน

‘อิเหนา... ข้าขอสาบาน... ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ข้าก็จะไม่มีวันญาติดีกับเจ้า หากข้าผิดคำพูดแล้วไซร้ ขอให้องค์เทพเทวาลงทัณฑ์ด้วยอสุนีบาตจนสิ้นใจ ขอสาบานด้วยชีวิตของข้า ขอสาบาน!’

ยะ...อย่าบอกนะว่ารอยนี้คือผลของการที่ผมสาบานไว้ในตอนนั้น!?

เป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นรอยพวกนี้คงไม่ปรากฏขึ้นมาเอง ผมผิดคำสาบานที่ว่าจะไม่ญาติดีกับอิเหนา แต่ชาตินี้ผมกลับรักเขาสุดหัวใจ

ผิดคำสาบานก็ต้องแลกด้วยชีวิต... มันจะเป็นอย่างนั้นใช่ไหม

“สาบานอะไรไว้ จำได้หรือยัง”

ผมไม่แน่ใจว่าควรจะบอกเขาดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ยอมพูดออกไปเมื่อเห็นว่าแววตาที่เขามองมามันเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“จิสาบานว่า...ชาตินี้หรือชาติไหนก็จะไม่มีวันญาติดีกับอิเหนา หากผิดคำสาบาน...ขอให้ฟ้าผ่าตาย”

สิ้นเสียง พี่อินทร์ก็มีสีหน้าเศร้า “ชาติก่อนเกลียดพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ”

ผมไม่ตอบ ไม่อยากทำร้ายจิตใจเขา แต่ถึงจะไม่บอก พี่อินทร์ก็คงรู้เพราะเขาเอ่ยขอโทษออกมาแล้ว

“พี่ขอโทษนะ แต่จิรู้ไหมว่าทุกการกระทำที่พี่ทำในชาติก่อนมันเป็นเพราะอะไร”

ผมรอฟัง เขาก็คว้ามือผมข้างที่สวมแหวนที่เขาให้ขึ้นมา

“ตอนนี้ยังฝันอะไรแปลกๆ อยู่อีกไหม ฝันแปลกๆ...ว่าอิเหนาหลงรักจรกา” ผมเบิกตาโตขึ้น เขาก็ยิ้มออกมา  “แหวนนี้ทำให้จิฝันอย่างนั้น”

คำตอบของเขาทำให้ผมแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

เดี๋ยวนะ แหวนนี้ทำให้ผมฝันถึงอดีตชาติเหรอ งั้นก็แสดงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันมันคือเรื่องจริง!?

อิเหนารักจรกา...รักมาตลอด มันคือเรื่องจริง ผมไม่ได้คิดไปเอง!

ผมไม่รู้จะแสดงความรู้สึกออกมายังไงดี จะดีใจ ตกใจ หรือประหลาดใจ ผมไม่รู้เลย ได้แต่ปล่อยให้พี่อินทร์ใช้ฝ่ามือลูบที่หัวไหล่ผม

“พี่ขอโทษ...”

เขาดูเศร้ามาก ถ้าชาติก่อนเขารักผมจริง แต่ผมเกลียดเขาทั้งชาติ ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าผมเกลียดเขามากแค่ไหน ยิ่งมารู้ว่าผมเกลียดถึงขนาดสาบานว่าจะไม่ญาติดีด้วย ยอมแลกทั้งชีวิต เขาคงจะทรมานมาก...

“พี่อินทร์... ไม่เป็นไรนะครับ ชาตินี้จิไม่ได้เกลียดพี่อินทร์แล้ว จิรักพี่อินทร์นะ”

ผมก็เลยปลอบเขาออกไป แต่ดูท่าทางจะไม่ช่วยสักเท่าไร เขายังมีสีหน้าไม่ดีขึ้น แถมยังพูดว่า...

“ถ้าชาตินี้จิจะเกลียดพี่อีก พี่ก็จะไม่ว่า เพราะพี่ทำให้จิเสียใจ”

ผมเลยฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าจริงๆ แล้วกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่

“แล้วพี่อินทร์จะบอกจิได้หรือยังว่าเลิกกับจิทำไม”

เขาพยักหน้าพลันว่า “มันเป็นเพราะคำสาบานของจิ วันนั้นพี่เห็นรอยนี้บนตัวจิ ก็เลยเอาไปปรึกษากับไอ้บุศย์แล้วก็สรัล แต่ก็เจอเข้ากับไอ้จิณห์พอดี มันบอกกับพี่ว่ารอยนี้คือรอยฟ้าผ่าที่ผิดคำสาบาน ที่มันรู้ก็เพราะว่ามันเองก็เคยมี แต่ของมันไปถอนคำสาบานแล้วหาย”

“งั้นจิจะไปถอนคำสาบานบ้าง”

ผมรีบบอก ทว่าพี่อินทร์กลับส่ายหน้าน้อยๆ

“ถ้ามันถอนคำสาบานแบบปกติแล้วหาย พี่จะไม่ใจร้ายกับจิแบบนี้เลย”

“พี่อินทร์หมายความว่าไง”

“ที่พี่เลิกกับจิ...” เขาเว้นจังหวะไปเล็กน้อย บีบมือผมแน่นกว่าเดิม “เป็นเพราะพี่ต้องการคำตอบจากไอ้จิณห์ว่ามันทำยังไงถึงหาย มันอยากให้พี่เลิกกับจิ ตอนแรกพี่ไม่ยอมเลิก มันเลยให้ไปเอาใจมัน แต่พอจิไปเห็นพี่กับมันวันนั้น พี่เลยตัดสินใจว่าจะรีบจบเกมเพราะไม่อยากให้จิอึดอัดใจ”

“ก็เลยวานให้พี่บุศย์มาบอกให้จิอดทนรอจนกว่าพี่จิณห์จะยอมบอกวิธีถอนคำสาบานเหรอ”

เขาพยักหน้า เท่านั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะว่าเขา

“ทำไมพี่อินทร์โง่แบบนี้ มาตัดสินใจแทนจิทำไม ทำไมทำอะไรไม่ถามจิก่อน”

“พี่แค่อยากช่วยจิ ไม่งั้นจิต้องแย่แน่ พี่ทนไม่ได้ถ้าต้องเสียจิไป”

“แล้วจิทนได้เหรอ จิไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้นนะ จู่ๆ พี่อินทร์ก็มาบอกเลิกอย่างนั้นน่ะ ถามจิก่อนสิว่าอยากให้พี่อินทร์เลิกกับจิไหม ทำไมไม่ถาม ชาติก่อนตอนเป็นอิเหนาก็ทำอะไรไม่เคยถามจิ แล้วก็ให้ไอ้แหวนนี่มาบอกว่าทำไปเพราะรักอย่างนั้นอย่างนี้ มันใช่เหรอพี่อินทร์ เห็นความรู้สึกจิเป็นอะไร ทำไมมีอะไรถึงไม่พูด!”

“พี่คิดว่าการกระทำมันน่าจะพิสูจน์ได้ว่าพี่รักจิ...”

“การกระทำพิสูจน์ได้ แต่มันไม่ใช่ทั้งหมดไหมพี่อินทร์ ใครจะไปตรัสรู้กับพี่วะว่ารักจิน่ะ ทำให้จิเสียใจแบบนี้เรียกว่ารักเหรอ! ชาติก่อนก็ทำแบบนี้ ชาตินี้ก็ยังทำแบบนี้อีก คิดแทนจิอยู่ได้ เป็นบ้าหรือไง!”

ยิ่งพูด ผมก็ยิ่งเสียงดัง ชักจะโกรธขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว เหมือนเป็นไบโพลาร์ยังไงก็ไม่รู้ ก็รู้แหละว่าเขาทำไปก็เพราะรัก แต่เรื่องแบบนี้มันควรเป็นเรื่องของคนสองคนไม่ใช่เหรอ เขาไม่ควรตัดสินใจคนเดียวแบบนี้ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่า ‘คู่’ ทำไม ในเมื่อคิดเองอยู่ฝ่ายเดียว

พี่อินทร์ยอมจำนนทุกอย่าง เขาพยักหน้ายอมรับความผิด พึมพำเบาๆ

“พี่ขอโทษ พี่แค่ไม่อยากเสียจิไปอีก”

ประโยคนี้ทำให้ผมใจเย็นลง เขาดูน่าสงสารมาก เอาจริงๆ แล้วชาติก่อนเขาก็น่าสงสาร รู้ทั้งรู้ว่าผมเกลียดเข้าไส้ตั้งแต่แรกทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขาก็ไม่ยอมตัดใจจากผมจนทำเรื่องบ้าๆ สารพัดอย่างนั้น มาชาตินี้เขาก็ยังทำเรื่องบ้าๆ เพราะรักผมอีก

ผมควรให้อภัยเขา...

คิดได้ ผมก็ใจเย็นลง บอกกับเขาเสียงอ่อน

“ทีหลังถ้าคิดจะทำอะไรที่เกี่ยวกับจิ บอกจิก่อนได้ไหม อย่าตัดสินใจคนเดียวอีก”

“แล้วจิก็อย่าเก็บเรื่องทุกข์ใจไว้คนเดียวเหมือนกันนะ มีอะไรก็ขอให้บอกพี่ จะหนักหนาแค่ไหนก็บอกพี่เถอะ อย่าให้พี่รู้เองแบบนี้เลย เพราะพี่ก็ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับจิ พี่ก็ทำอะไรโง่ๆ ตลอด”

ผมรู้ตัวในตอนนี้ว่าผมเองก็ผิดเหมือนกัน ผมเลยพยักหน้ารับ เท่านั้นเขาก็รวบผมไปกอดแน่นอีกครั้ง

“แต่ครั้งนี้ที่พี่ทำแบบนี้ พี่อยากให้จิเข้าใจว่าพี่กำลังรักษาคำสาบานของพี่อยู่” เขาเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะว่าต่อ “พี่สัญญาว่าจะปกป้อง จะดูแลและรักจิตลอดไป ครั้งนี้พี่ปกป้องแต่ไม่ได้คิดถึงใจจิ แต่วันนี้พี่จะขอสาบานเพิ่มอีกอย่าง...”

“อะไรเหรอครับ”

“พี่ขอสาบาน...” พลันเขาก็ผละอ้อมกอดออกมามองหน้าผม “พี่จะไม่ทำให้จิเสียใจอีก จะไม่มีวันทำให้จิร้องไห้เพราะการกระทำโง่ๆ ของพี่อีก ขอสัญญาไว้ด้วยชีวิต...”

“จิไม่อยากให้พี่อินทร์สาบานแบบนี้เลย”

แต่เขากลับไม่ยี่หระ ยิ้มออกมา

“คำสาบานมีไว้ให้รักษา... พี่จะรักษาคำมั่นสัญญาของพี่” จากนั้นก็ว่าติดขำๆ “แต่คำสาบานของจิ ไม่ต้องรักษาแล้วนะ พี่ไม่อยากให้จิเกลียดพี่แล้ว”

ผมหัวเราะน้อยๆ เห็นพี่อินทร์แบบนี้ก็เอ็นดูเขาขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้นต้องช่วยให้จิหายด้วย”

เขาพยักหน้าหงึกหงัก รวบผมไปกอดอีกครั้ง

“เราจะหาวิธีด้วยกัน แต่อันดับแรก...กลับมารักพี่เหมือนเดิมก่อนนะ พี่ไม่อยากเลิกแล้ว”

เอาแต่ใจเหมือนเด็กเล็กๆ เลย แต่ผมก็...

“อื้ม จิก็ไม่อยากเลิก ห้ามบอกเลิกจิอีกเข้าใจไหม”

พี่อินทร์ครางรับว่า ‘ครับ’ เบาๆ เพียงแค่นี้ความขุ่นเคืองและความสับสนก่อนหน้าก็มลายหายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น

ผมจะไม่ถือโทษโกรธเขาแล้ว จะถือว่าเขารักษาสัญญา...

อย่าทิ้งจิไปไหนอีกนะพี่อินทร์...

----------------------------

หลังจากที่ลงตัวอย่างไป ปี้อินทร์ก็เละเป็นอิเหนากวน 555555

เป็นเรื่องที่เขียนแล้วสนุกมากค่ะ สนุกอ่านคอมเมนต์ ทุกคนคือแม่ๆ นว้องจิตัวเย็กๆ ปกป้องลูกสุดไรสุด ฮา

ตอนหน้าก็จะกลับมาเฮฮาปาจิงโกะเหมือนเดิมแล้วค่ะ เหลือเคลียร์ปมสุดท้ายของเรื่องก็จะจบละ คิดว่าน่าจะมีประมาณ 35 ตอนจบนะ แอบยาวเหมือนกัน ส่วนใครคิดว่าปี้อินทร์จะต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสมนั้นนนนนน...ให้คนเขียนทำนายกันนนน (เอาอีกแล้ว XD)

ไว้มาลงตัวอย่างตอนหน้าให้ค่ะ ฝากกำลังใจไว้ด้วยเน้อ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ A_bookworm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :katai2-1: มาม่าหมดหมดถ้วยหล่ะเย้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ขอให้หาวิธีถอนคำสาบานได้เร็วๆนะจิระ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รีบ ๆ ไปหาวิธีถอนคำสาบานเร็ว ๆ นะ ก่อนตัวหนูจิจะเป็นลายแทงไปเสียก่อน  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5

ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
นึกว่าจะได้ดีดเหม่งเรียกสติซะแล้ว นี่มันยำยำช้างน้อยห่อเล็กๆ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เราจะสู้ไปด้วยกัลลล
 :mew1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
หมดมาม่าแล้ว


 :L2: :L2:

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ถ้าตอนนี้ยังไม่ดีกันจะเอาสากไปฟาดพี่อินทร์แล้วนะเนี่ย มาทำลูกของเดี๊ยนได้5555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด