{END} ☼ เ จ้ า จั ก ร ว า ล ☼ | EP.20 + บทส่งท้าย (30/07/61) [หน้า 5]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {END} ☼ เ จ้ า จั ก ร ว า ล ☼ | EP.20 + บทส่งท้าย (30/07/61) [หน้า 5]  (อ่าน 85981 ครั้ง)

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



เ จ้ า จั ก ร ว า ล

By theneoclassic





*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*






"สำหรับผม น้องเขาก็เปรียบเสมือนกับจักรวาลดวงน้อยๆ
ที่ทั้งเปราะบาง ขาว... ใส... นุ่มนิ่ม... แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก"

กระผม... ดิวอี้
ผู้ได้รับว่าจ้างจากชายผู้หนึ่ง
ให้ไปทวงหนี้ที่ค้างไว้จากรักเก่า
ซึ่งเป็นเด็กชายวัยม.ปลาย
ที่น่ารักมากกกกก จนกลายเป็นว่าผมดันชอบน้องซะนี่
แต่ไหงกลายเป็นว่าไอ้แก่นั้นยังจะกลับไปยุ่งกับน้องอีกล่ะ
จ้างนักทวงหนี้อย่างผมแล้วยังจะยุ่มย่ามกับเด็กมันอีกทำไม!!

แบบนี้กลายเป็นว่าผมต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับหัวใจซินะ

ง่ายมากครับ... ผมเลือกหัวใจน่ะสิ
หึ ปีใหม่... พี่จะพาน้องออกมาจากไอ้แก่นั้นเอง!





------------------------------ เดี๋ยวววววววว เอาใหม่ๆ ขอถอนคำพูดดด
ครับ... ตอนแรกก็คิดว่าน้องเป็นเด็กเสี่ย
เลยทำแมนจะเข้าไปช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้น
... แต่ใครจะไปรู้ล่ะครับว่าน้องแม่งจะเป็นหนักถึงขนาดนี้!!
ซวย! - แล้ว! - ไง! - กู!



*นิยายเรื่องนี้มีตัวละครจาก #อย่ามาอยู่กับกุ้ง แต่ไม่เคยอ่านก็สามารถอินได้เพราะเนื้อเรื่องเป็นเอกเทศครับ*
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2018 19:24:54 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
Re: ☼ เ จ้ า จั ก ร ว า ล ☼
«ตอบ #1 เมื่อ14-04-2018 19:47:08 »

ส า ร บั ญ



บทนำ : อะไรในซอง?
EP.1 : ห้องปกครองแอร์เย็นมาก
EP.2 : สุดจะทนคนอย่างเธอ
EP.3 : แหย่อยู่นั่นแหละ
EP.4 : เรื่องนี้มีเงื่อนงำ
EP.5 : ฝนตก ยังไม่ชุ่มฉ่ำเท่าเห็นเธอ
EP.6 : ยูตะ ยามาโนะ
EP.7 : ขู่เก่งนะเรา
EP.8 : กลับบ้านไปหาแม่แก
EP.7 : ขู่เก่งนะเรา
EP.9 : ผมเท่ที่สุดได้เท่านี้
EP.10 : ขอน้องซ้อนหน่อย
EP.11 : พาตัวอะไรมาวะ
EP.12 : พี่ชายที่แสนดี
EP.13 : ของฝากจากบ้านยามาโนะ
EP.14 : เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น
EP.15 : คนนอก
EP.16 : เจ้าจักรวาล
EP.17 : แพ้คาบ้าน
EP.18 : แผนการสุดท้าย
EP.19 : ละมุนละม่อม
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66907.msg3867837#msg3867837]EP.20 : ให้ทั้งจักรวาล[/url]
[https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66907.msg3867876#msg3867876]บทส่งท้าย : ใครคือจักรวาลของคุณ[/url]


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2018 19:27:35 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
เจ้าจักรวาล
By theneoclassic





ไม่ว่าเธอจะยืนอยู่ข้างใคร...



ผมนั่งแล้วกันเนอะ





บทนำ
อะไรในซอง?



   “สัสดิว รถที่บ้านมึงปะน่ะ   !?”

   ผมเงยหน้าขึ้นมาจากจอโทรศัพท์ตอนที่ได้ยินไอ้เอิร์ลพูดแบบนั้น แล้วก็เห็นรถครอบครัวสีครีมกำลังแล่นเข้ามาจอดเทียบริมฟุตบาธไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ผมหรี่ตามองป้ายทะเบียนเพื่อความแน่ใจ พบว่าใช่อย่างที่มันสันนิษฐานจริงๆ ด้วย

   “เร็วมึง กูอยากกลับกรุงเทพจนตัวสั่นแล้ว” ไอ้ทิม เพื่อนอีกคนในกลุ่มยกกระเป๋าใบโตขึ้นมาแบก เดี๋ยวก่อนๆ อะไรมันจะพร้อมขนาดนั้น รถบ้านกูนะเฮ้ย

   ผมพับซองสีน้ำตาลในมือยัดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะยืนขึ้นเตรียมขนของตัวเองบ้าง

   ถึงเวลากลับไปเรียนต่อที่กรุงเทพแล้วครับ จบกันทีกับชีวิตปีหนึ่งที่ต้องมาเรียนต่างจังหวัด ผมกำลังจะเป็นหมอฟันปีสองเต็มตัว และนั่นหมายความว่าผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตในเมืองทักที ลาก่อนนครนายก ข้าจะคิดถึงเอ็ง /ตบหน้าอกแบบชาววากานดา

   แต่แก๊งของเราต้องชะงัก เมื่อคนที่ลงมาจากรถคนแรกไม่ใช่พี่แช่มคนขับเจ้าประจำ แต่เป็นร่างเล็กๆ ที่สูงเพรียวพร้อมกับใบหน้าอันคุ้นเคย

   “ไอ้ปู๊น?” ผมเอียงคอมอง เจ้าของชื่อที่โดนเรียกถอนหายใจจนปอยผมเป็นช่อเหนือแว่นกรอบดำกระพือพรืดเพราะแรงลม

   “อะไรมึง”

   “…”

   สัส สมัยนี้เขาคุยกับพี่แท้ๆ กันอย่างนี้เหรอวะ

   “โหววววววว” เอิร์ลเอนตัวมากระซิบข้างหูผมอย่างไว “นี่อะนะปู๊นปู๊นน้องชายมึง!?”

   “เออ”

   “แฮ่กดีว่ะ”

   “ไอ้ควาย เลิกคิดได้เลย กูไม่อยากมีมึงเป็นน้องเขย”

   และดูไอ้เพื่อนรักแม่งมอง ห้ามจ้องใต้กางเกงน้องกูอย่างนั้นสิวะ!

   “ทำไมใส่ชุดนักเรียน” ผมถามน้องชายทันที ดูดิ ยูนิฟอร์มของมันทำเพื่อนๆ ผมไม่เป็นอันหายใจแล้ว แฮ่กแม่งอย่างเดียว

   “พอดีมีสอบเช้า พ่อก็เลยให้ตีรถมารับมึงเลยจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน” มันว่า “ไหนอะ?”

   ผมขมวดคิ้ว ไอ้น้องผมมันมองหาอะไรวะ หัวแทบจะหมุนได้ร้อยแปดสิบองศาแล้วน่ะ

   “ไหนอะไรวะ?”

   ไอ้ปู๊นทำเป็นดันแว่นให้เข้าที่ “พี่กุ้ง”

   “…”

   “ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว กูจะเซลฟี่กับพี่เขาเอง ใช้มึงไม่เคยได้เรื่อง”

   โว๊ะ กูก็นึกว่าเรื่องอะไร คืองี้ครับ น้องผมมันเป็นแฟนตัวยงของกุ้งดาวเด่นสินกำ มันเคยรบเร้าให้ถ่ายคลิปกุ้งอวยพรวันเกิดไปให้ แต่พอดีผมมัวแต่ยุ่งก็เลยไม่ได้ทำตามที่มันหวังก็เลยด่าผมชุดใหญ่ มันคงอิจฉาที่กุ้งเคยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ผมละมั้ง

   “เสียใจ เขากลับไปกรุงเทพตั้งแต่เช้าแล้ว”

   “อ้าว โห่ไรวะ พี่กุ้งแม่งทำอกหัก” ไอ้น้องชายทำหน้าเง้าหน้างอ เห็นแล้วอยากจะตะปบหน้าแม่งสักที “กูมาทำไมเนี่ย เสียเวลา!”

   “ใจคอมึงจะมาหากูไม่ได้เลยว่างั้น”

   “กูไม่อยากเสียเวลาชีวิตไปกับมึง ยังมีหลายอย่างที่ต้องทำ”

   “เช่นอะไร!?”

   “เรียนวาดรูป!”

   ผมคงเป็นพี่ที่หัวเน่า ขนาดน้องแม่งยังสนใจจะวาดภาพมากกว่าเจอหน้าผมเลย เซ็งว่ะ

   “น้องมึงโหดดีว่ะ” ไอ้เอิร์ลเอนตัวมากระซิบอีกแล้ว “อยากได้อะ จีบได้ปะ?”

   “มึงอาจจะผิดหวังนะ น้องกูไม่ใช่แนวมึงหรอก แม่งชอบอยู่ข้างบน”

   “ไม่เป็นร้ายยยย กูโอเค มีท่าทางมากมายที่กูสามารถให้น้องมึงอยู่ข้างบนได้ ไว้ใจกูเหอะ”

   “สัส อยากติดคุกเรอะ!” ผมตบหัวเพื่อนไปดังป้าบ

   ถึงจะดูเป็นพี่ที่ตีกับน้องไม่ยั้ง แต่ยังไงๆ ผมก็หวงมันเหมือนกันนะโว้ยยยย (แม้แม่งจะไม่เคยคิดสนใจผมเลยก็เหอะ)

   “จะกลับกันได้ยัง” ไอ้ปู๊นกอดอกเร่ง ดูท่าทางแม่งดิ บางทีผมก็นะคงว่าใครเป็นพี่กันแน่ “ตอนเย็นมีเรียนพิเศษ GAT PAT ไม่อยากเสียเวลา”

   “น้องดูตั้งใจจังเลยนะคร้าบ” ไอ้เอิร์ลเสนอหน้าเข้าไปใกล้ๆ คนใส่ชุดนักเรียน

   “ใช่ๆ” แหนะ ไอ้สัดทิมเริ่มเอากับเขาแล้วเหมือนกัน “ตั้งใจแบบนี้ต้องสอบติดคณะที่หวังแน่ๆ เลยนะคร้าบ”

   ทว่าไอ้ตัวดีกลับทำเป็นยกไหล่ “อืม ก็ว่างั้นแหละฮะ”

   ตอนแรกผมก็กังวลนะว่าน้องชายตัวเองจะก้าวร้าวเกินไปหรือเปล่า แต่พอสังเกตปฏิกริยาไอ้เพื่อนรักสองตัวที่อยู่ข้างๆ แล้วเท่านั้นแหละ... ไอ้ห่าเอ๊ย มีประกายปิ๊งๆ อย่างกับทะเลอันดามันกระทบแสงแดด

   “เชี่ยยยย เขาพูดกับกูว่ะ” ไอ้เอิร์ลตัวสั่น

   “อย่าซุย! น้องพูดกับกู” ไอ้ทิมหน้าแดง

   เฮ้อออ กูล่ะเหนื่อยกับพวกมึงสองคนจริงๆ “ไปๆ ขึ้นรถเลยสัด เห็นอยากกลับกรุงเทพนักไม่ใช่เหรอพวกมึงสองตัวอะ”

   เราโยนกระเป๋าใบโตไว้ท้ายรถ โชคดีที่ผมเอาของใช้บางส่วนส่วนกลับไปกรุงเทพบ้างแล้ว วันสุดท้ายแบบนี้เลยไม่ต้องมีภาระมากมายเท่าไหร่ จากนั้นเราก็กระโดดเข้าประจำที่ ไอ้เอิร์ลกับไอ้ทิมเข้าไปก่อน ส่วนผมกับน้องชายตามไปสมทบทีหลัง พอประตูปิด รถเราก็แล่นออกจากมหาลัย

   ลาก่อนนะ ที่ๆ กูใช้ชีวิตเพื่อเรียนอย่างเดียว ไม่เคยจะส่งเมียมาตกถึงท้องให้สักคน ฮึ่มมมมม เส็งเคร็ง

   “เฮ้ย!” ไอ้ปู๊นร้องลั่นรถเล่นเอาซะผมต้องหันไปมองเพราะความเป็นห่วง ไอ้เราก็นึกว่าโดนอะไรแทง แต่เปล่าครับ มันแค่ตกใจเพราะไอ้เอิร์ลเท้าเบาะด้านหลังของมันอยู่ แถมจ้องยังกะหมา น้ำลายนี่แทบจะหยดใส่หนังกำมะหยี่

   “แฮะๆ” ไอ้เอิร์ลยิ้มแป้น พร้อมถวายตัวเป็นแฟนบอยน้องชายผมเต็มที่ “กลิ่นของน้องหอมจัง”

   “หะ…หา!?”

   “พี่หมายถึง ตัวน้องหอม... ใช่น้ำหอมยี่ห้ออะไรน้า”

   กูล่ะเซ็งจริง... เพื่อนผมแม่งทำให้ขายหน้าได้ทุกทีสิน่า

   น้องชายผมไม่ตอบ มันแค่ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเขยิบมาใกล้คนเป็นพี่

   “มึงไปหาเพื่อนเพี้ยนๆ แบบนี้มาจากที่ไหน? งานสอยดาววัดอ้อมน้อยเรอะ?”

   “ทำไม ชอบเหรอ” ผมแกล้งแหย่ “สนใจมั้ยล่ะ ดูมันถูกใจมึงอย่างแรงเลยนะ”

   “เฮอะ อย่าหวัง ตัวก็ใหญ่อย่างกับหมีควาย”

   “เขาเรียกหุ่นดี ดูตัวมึงซะก่อน แห้งอย่างกับน้าผีในละครจักร์ๆ วงศ์ๆ”

   “มันคืออะไรอะ?”

   จะอธิบายยังไงดีวะ ช่างเหอะ... ลืมไปว่าผมกับมันเกิดคนละเจเนอเรชั่น

   “มันหุ่นดีสมชายชาตรีกว่ามึงแล้วกัน” ผมยักคิ้วกวนๆ

   “ไอ้พวกนี้อะ คงเข้าแต่ยิมเอาแต่ยกเหล็กตัวเปียกเหงื่อจนมันเลื่อม”

   “ก็ดีกว่าเอาแต่แต่งตัวเนีี๊ยบๆ ทำเป็นภูมิฐานกลบความปวกเปียกแบบมึง”

   “หรือกูต้องปล่อยให้ตัวเองเซอร์แบบมึงฮะ เป็นหมอฟันแต่ภาพลักษณ์ไม่ได้น่าเชื่อถือเล้ยยยย”

   “มึงก็คุณชายเกินกว่าที่จะอยากเรียนวิจิตรศิลป์เหมือนกัน!!”

   กรอดๆๆๆๆ เอาสิ จะมองตากันเป็นหมาเตรียมไฟท์ก็เอาเลย ไอ้น้องเวร

   แต่ก่อนสงครามประสาทของเราจะเริ่มต่ออีกยก อยู่ๆ ซองสีน้ำตาลที่ผมเหน็บไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ร่วงออกมา

   แหมะ!

   สัสเอ๊ย!! กระจัดกระจายซะนึกว่าเทศกาลเทกระจาด ไอ้พวกนี้มันจะเห็นความลับของผมกันมั้ยฮะ!

   “อะไรอะ”

   ผมมองตามมือเล็กๆ ของน้องชาย เฮ้ยยย อย่านะ มึงอย่าหยิบขึ้นมาอ่านเด็ดขาด ในซองนี้มีแต่ความลับทั้งนั้น  บอสอุตส่าห์ส่งข้อมูลเป้าหมายรายใหม่ที่ผมต้องรับผิดชอบมาให้ ถ้ามันรู้ว่าผมทำงานเสริมอะไรรับรองว่าความแตกแน่ ปู๊นรู้โลกรู้ ไม่ใช่ฉายาที่ได้มาเล่นๆ!

   แล้วนั่น! มันเสือกหยิบแผ่นที่มีรูปภาพขึ้นมาซะด้วย!!

   “…”

   เวรละ เอากระเป๋าตังค์หนีบจมูกตัวเองชิงตายตอนนี้ดีมั้ยวะ

   “อี๋! มึงแม่งโรคจิต!!”

   ตายแน่ ผมตายแน่!

   ไอ้ปู๊นยื่นกระดาษแผ่นนั้นเข้ามาใกล้หน้า แทบจะแปะติดหน้าผากเหมือนผมเป็นผีกองกอยอยู่แล้วเชียว ผมรับมันมาจากมือน้องชาย มองคนที่หน้ามึนๆ ง่วงๆ ตลอดเวลาในภาพนั้นสลับกับมันอย่างงุนงง

   “…”

   น้องผมเบะปากเหมือนผมเป็นผู้ชายแสนโสโครก “มึงพกรูปพี่ปีใหม่ไว้กับตัว โอตะว่ะ!”

   ผมที่หลับตาปี่๋ค่อยๆ ค่อยๆ ลืมมองมัน อ้าว แบบนี้ก็หมายความว่า...

   “มึงรู้จักคนในรูปเหรอ?”

   “รู้จักดิ ใครไม่รู้จักพี่ปีใหม่ก็บ้าละ”

   ผมหยิบรูปขึ้นมาดูอีกที...

   ใครวะ ทำไมน้องผมรู้จักแต่ผมกลับไม่รู้ นักร้องกามิกาเซ่หรือเปล่าเนี่ย

   “พี่เขาเป็นรุ่นพี่กู ป็อบปูล่าจะตาย”

   อ๋อ ทีหลังก็บอกก่อนสิว่าเป็นเครือญาติของมึง กูก็พินิจพิเคราะห์เอาตาย จ้องน้องในรูปจนเลขจะขึ้นแล้วสัส

   เฮ้ย! เดี๋ยวนะ

   “งี้ก็หมายความว่าคนนี้อยู่โรงเรียนเดียวกับมึงเหรอ!” ผมชี้คนในภาพ

   “นี่แหละเหตุผลที่กูต้องติว GAT เพราะกลัวจะบื้อแบบมึง” ไอ้ปู๊นกอดอกถอยหายใจอย่างเอือมระอา ดูมันทำท่า ไอ้เด็กเปรต “ก็บอกอยู่ว่าเป็นรุ่นพี่”

   “อ่อ”

   “แล้วอีกอย่าง” ผมเห็นว่าแก้มใต้แว่นแดงก่ำ “กูเคยจีบเขา”

   แค่กๆ ถึงกับสำลักน้ำลายเลยกู “ตะกี้มึงว่าเคยไรนะ”

   “เคยจีบ” มีการทำหน้าเหยอซะด้วย

   “โถไอ้ควาย ตัวก็เท่าเม็ดกระเทียม ริอ่านจะจีบรุ่นพี่!!” ขนาดผมหล่อกว่ามัน ผมยังคิดเลยว่าคนในรูปดีเกินกว่าจะคู่ควรกับผมด้วยซ้ำ นี่อะไร ไอ้ปู๊นหน้าเหมือนดินแดงที่โดนรถแทรคเตอร์ทับ เขาเล่นด้วยก็แปลกแล้ว

   พอและ ผมจะไม่ต่อล้อต่อเลียงกับมันดีกว่า เดี๋ยวมันด่าผมเสียหมาอีก ผมเหนื่อย

   และที่สำคัญ ผมมีงานที่ต้องทำ! ซึ่งตอนนี้ผมมีแผนแล้วด้วย

   “มึงสอบอีกทีวันไหนนะ”

   “สอบตัวสุดท้ายอาทิตย์หน้า” ไอ้เด็กเปรตย่นคิ้ว “ทำไมวะ?”

   หึหึ อะไรมันจะเข้าทางขนาดเน้!

   “สอบเสร็จไปเดินสยามกันมั้ย” ผมยิ้มหวาน

   ไอ้ปู๊นถึงกับอึ้ง “เมื่อกี้พี่แช่มขับรถตกหลุมเปล่าวะ หัวมึงกระแทกหรือไงอยู่ดีๆ ก็จะชวนกูไปเที่ยว”

   “คิดถึงมึงไง”

   “…” ไอ้ปู๊นทำเป็นลอยหน้าลอยตาทั้งๆ ที่กอดอก ดูก็รู้ครับว่าแม่งใจอ่อน ก็นี่น้องชายผมนะ เดาทางง่ายจะตาย ลึกๆ แล้วมันรักผมแหละ “เลี้ยงเรดซันกูด้วย อยากกินมานานแล้ว”

   “ไม่มีปัญหาเลยน้องปู๊นปู๊น”

   “เออทีงี้ก็เงียบซะ จะฟังเพลง” พูดจบคนในชุดนักเรียนก็หยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋า อิ๊กนอร์พี่ชายอย่างผมไปเรียบร้อย

   ผมเหลือบไปเห็นไอ้สองตัวด้านหลังคอพับคออ่อนคาเบาะ โถถถถถ กูก็นึกว่าทำไมเงียบๆ ที่แท้ไปเฝ้าพระอินทร์กันหมด เหลือแต่ผมนี่คนเดียวแล้วสินะ ทีนี้จะหยิบกระดาษในซองขึ้นมาอ่านอีกทีก็คงไม่มีใครสนใจแน่นอน



   เป้าหมาย :

   จักรวาล พันธะพิสัย (ปีใหม่)

   อายุ : 18 ปี

   การศึกษา มัธยม : โรงเรียนXXX

               มหาลัย : เพิ่งสอบติดคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง

   อัตราหนี้ : 150,000 บาท

   ผู้ว่าจ้าง : คุณกำพล -สงวนนามสกุล- (ฐานะ : คู่รัก)

   สาเหตุที่เลิก : (ไม่ระบุ)

   ระยะเวลาที่ผู้ว่าจ้างพอใจ : ก่อนเป้าหมายจะขึ้นเรียนมหาวิทยาลัย



   
   โห่ไรวะ ไหนๆ ก็ให้ข้อมูลมาเยอะขนาดนี้แล้ว จะบอกไซส์รองเท้าหน่อยไม่ได้หรือยังไง จะเอามาจิ้นต่ออะ

   แต่ไม่เป็นไรครับ แค่เห็นหน้าในรูปที่บอสให้มาผมก็จำได้ขึ้นใจ

   เฮ้ออออ ไอ้น้องเอ๊ย หน้าตาก็น่ารักดันไปคบเสี่ยแก่ๆ แถมยังไปทำแสบติดหนี้เขาเป็นแสนอีก เอาเงินไปทำอะไรเยอะขนาดนั้นวะ ไหนลองบอกพี่สิครับ

   “…”

   แต่ขณะที่ผมกำลังจ้องหน้าใสๆ ในรูปนั้น อยู่ๆ แก้มผมก็กระตุก

   เฮ้ย ผมยิ้มว่ะ

   ยิ้มทำไมวะเนี่ยยยยย

   เวรแล้วครับ จู่ๆ ผมก็เห็นคนในรูปน่ารักขึ้นมาเฉย... หน้าที่เคยมองว่าดูมึนๆ ง่วงๆ กลับกลายเป็นเสน่ห์ชวนให้หลง เพิ่งสังเกตหน้าว่าความขาวนวลของผิวน้องทะลุออกมาจากแผ่นกระดาษเฉยเลย

   ฮึ่มมม แฮ่กเหมือนกันนะเรา

   แต่ไม่ได้ครับ ผมเคยปฏิญาณกับตัวเองไว้แล้วว่าไม่ว่าเป้าหมายจะน่ารักขนาดไหน งานก็คืองาน ห้ามตกบ่วงภาพลวงตาที่จะทำให้เราโลเลเด็ดขาด

   หึ งั้นยิ้มเบาๆ แบบกระตุกมุมปากให้ดูคูลๆ หน่อยแล้วกัน

   น้องปีใหม่ครับ บอกก่อนเลยนะว่าพี่ไม่ใจอ่อนกับน้องหรอก ยังไงซะน้องก็ต้องโดนพี่เช็กบิลแน่นอน หึๆ

   “น้องดิวอี้ครับ!”

   “ฮะ!? ว่าไงครับ” ผมสะดุ้งโหยงเพราะเสียงพี่แช่ม

   “น้องเป็นอะไรหรือเปล่า พี่เห็นยิ้มน้อยยิ้มอยู่คนเดียว”

   เวร เห็นด้วยเหรอฟะ

   “แฮะๆ เปล่าครับ พอดีคิดอะไรเพลินๆ”

   “เฮ้อ ตกใจหมด พี่นึกว่าน้องเห็นผี” คนหลังพวงมาลัยกุมอกถอนหายใจแบบเกินจริง แหมพี่ พี่ก็เวอร์ ไม่มีผีอะไรทั้งนั้นแหละครับพี่แช่ม มีแต่น้องปีใหม่อะไรในรูปนี่ต่างหาก!

   ว่าแล้วก็หยิบภาพน้องเขาขึ้นมาดูอีกทีดิ๊...

   ฮึ่มมมม เจอกันแน่น้อง น้องคือบ่อเงินบ่อทองของพี่ ปิดเทอมนี้น่าจะรวยว่ะ

   “เห็นผีอีกแล้ว”

   “พอครับพี่!!”



TBC*



 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ดิวอี้มาแล้วคร้าบบบบบบ โอ๊ยยยย ตื่นเต้น ไม่เคยเขียนผู้ชายเนิร์ดๆ แบบนี้
เป็นกำลังใจให้ผมด้วยน้าาาาาาา

ลงไปอ่านตอนที่ 1 ต่อได้เลยครับ

พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #เจ้าจักรวาล ก็ได้นะฮัพ

ถ้าถูกใจ ฝากคอมเม้นท์ แชร์ บวกเป็ดให้ผมหน่อยนะคร้าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2018 22:59:34 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
UPDATE*
16/04/61
รีไรท์อีเว้นท์นิดหน่อย แต่เนื้อหายังเหมือนเดิม
เพื่อลดอาการงง และอธิบายาการกระทำของตัวละครให้ชัดขึ้น
เพราะมีนักอ่านบางท่านค่อนข้างงงกับบางชอง
รวมถึงแก้คำผิด และเกลาคำบางประโยคครับ



1
ห้องปกครองแอร์เย็นมาก


   ผมชื่อดิวอี้

   ภายนอกคุณอาจจะเห็นผมเป็นผู้ชายรสจืด หน้าตาเหมือนชิปมั้งค์ ผมหนาๆ ไม่ชอบจัดแต่งจนมันเป็นทรงแสกกลางธรรมชาติ ชอบสวมเสื้อยืดกับกางยีนเชยๆ ดูไม่มีพิษมีภัย แต่จริงๆ แล้วผมน่ะเป็นผู้ชายอันตรายของแท้เลย!

   ล้อเล่นครับ อันตรงอันตรายที่ไหนล่ะ ไม่ได้ทำงานที่เตาปฏิกรนิวเคลียร์ ที่จริงผมเป็นพวกเด็กเนิร์ดครับ เป็นนิสิตหมอฟันผู้จิตใจดี ใครๆ ก็บอกอย่างนั้น... ไม่เชื่อเรอะ งั้นเรามีตัวอย่างให้ดูกัน



   “คุณยายจะไปฝั่งนู้นเหรอครับ”

   “ปะ…”

   “มาครับ ผมไปส่งเอง!”

   ว่าแล้วผมก็พาหญิงชราที่ยืนอยู่ริมฟุตบาธข้ามฝั่งไปอีกฟากถนนอย่างปลอดภัย

   “ไอ้หนุ่ม...”

   “ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมเต็มใจ”

   “ไม่ใช่อย่างนั้นพ่อคู๊ณณณณ คือ...”

   ปรี๊น ปรี๊น

   ผมกับคุณยายหันไปทางรถกระบะที่บีบแตรลั่น มันอยู่อีกฟากของถนนตรงจุดที่ผมเจอคุณยายก่อนจูงข้ามมา

   “เฮ้ย! มึงจะพาแม่กูไปไหน!!”


   เอ๊า อะไรวะเนี่ย

   ผมหันไปมองคุณยาย “นั่นลูกยายเหรอ”

   “เออ! ข้ามายืนรอมันซื้อของที่ตลาด”

   “ทำไมคุณยายไม่บอกผมล่ะ”

   “เอ็งได้ปล่อยให้ข้าพูดบ้างม้ายยยย!!”





   หรือจะอีกกรณีนึง




   เมี๊ยว เมี๊ยวววว

   หืม? ขาผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงครางของลูกแมว มาจากไหนวะ ข้างถังขยะนี่ก็ไม่มี หรือว่า...

   เฮ้ย ไอ้น้อง!! มึงขึ้นไปอยู่บนเสาไฟฟ้าได้ยังไงวะ

   เมี๊ยว เมี๊ยวววว

   ยัง... ยังไม่เลิกร้อง ทำไงดีวะเนี่ย กลัวมันตกลงมาตายอะ

   ผมมองก้อนสีส้มที่ขดตัวกลมอยู่บนยอดเสา จิตใต้สำนึกของการเป็นผู้ชายรักสัตว์ทำงานทันที เอาล่ะผมต้องช่วยมันลงมาให้ได้

   ฮึบ! ผมเริ่มต้นปีน พยายามไม่หันไปมองด้านหลัง ยอมรับครับว่าค่อนข้างไม่โอเคกับความสูงเท่าไหร่

   เมีี๊ยว เมี๊ยววววว

   รู้แล้วครับลูก รู้แล้ววววว พี่กำลังไปช่วยหนูนี่ไง

   เมี๊ยววววว

   มามะ มาอยู่อ้อมกอดของพี่ซะดีๆ

   แกร๊ซซซซซซซ

   แต่ขณะที่ผมกำลังเอื้อมมือไปหยิบมันเท่านั้นแหละ อยู่ๆ ไอ้แมวบ้าก็ขู่ผมฟ่อๆ แถมยังกระโดดหนี ปีนป่ายเสาลงไปที่พื้นด้านหลังได้อย่างรวดเร็วจนต้องขยี้ตาว่ามันเป็นลิงหรือแมวกันแน่

   ไอ้บ้าเอ๊ยยยย มึงลงได้เรอะ! แล้วกูจะมาช่วยทำไมวะะะะะ สุดท้ายต้องมาค้างเติ่งคาเสาอยู่แบบเนี้ยยยย

   “เพ่ชัยๆ ขึ้นปัยตะมัยบนนั้นอ่า” (พี่ชายขึ้นไปทำไมบนนั้น)

   หืม ผมก้มมองลงไปที่พื้น พบว่ามีเด็กผู้ชายคนนึงยืนเท้าเอวจ้องผมอยู่

   “พอดีพี่มาช่วยแมว!”

   “อ๋อ ไอ้ฉ้มอะเหยอ มันขึ้นไปบนนั้นตุ๊กวัน มันลงมาเองด้าย”

   อ้าว ใครจะไปรู้วะเนี่ยย ทีหลังเขียนป้ายติดไว้หน่อย คนที่ไม่ใช่เจ้าถิ่นอย่างผมจะได้ไม่หลงกลมันแบบนี้!!

   แต่ตอนนี้ผมต้องลงไปจากเสาบ้านี่สักที

   หูยยยย สูงว่ะ

   “น้องๆ ไปตามใครก็ได้มาที พี่ลงไม่ได้”

   “โหย ขึ้นได้ตะลงมะได้ อาไยของพี่เนี่ย!”

   เออเอาเลย ด่าพี่เลยครับน้อง น้องชายพี่ที่บ้านก็ด่าทุกวัน พี่ชินแล้วววววว





   นั่นแหละครับ เห็นมั้ยล่ะว่าผมเป็นคนจิตใจดี

   แต่... ด้วยความที่เป็นคนจิตใจดีมุ่งมั่นจะช่วยเหลือผู้คนนี่แหละ ทำให้ผมเริ่มเข้าสู่วงการอาชีพที่โคตรอันตราย

   ความจืดของผมคงไปเตะตาโมเดลลิ่งเข้า ทำให้ผมได้เป็นนายแบบ คงฮิตคนหน้าตาแบบนี้ล่ะมั้ง เคยทั้งเดินแบบและถ่ายแบบมาหลายครั้งตั้งแต่ยังไม่จบมัธยม แต่ผมกลับหารู้ไม่ว่า โมเดลลิ่งที่ผมได้เซ็นต์สัญญาเข้าเป็นแค่ฉากบังหน้า เจ้าของโมเดลลิ่งที่ผมเรียกเขาว่า ‘บอส’ มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น!

   นายแบบในสังกัดนอกจากต้องทำงานตามอาชีพตัวเองแล้ว เรายังต้องรับจ็อบพิเศษด้วยนั่นก็คือ ‘รับจ้างทวงหนี้จากแฟนเก่า’ ตามที่ได้รับมอบหมายจากบอส!

   ตอนแรกผมก็งงนะ ประมาณว่า ‘เฮ้ย ได้ไงวะ ในสัญญาไม่ได้มีบอกนี่หว่า’ แต่พอผมท้วงติงทางต้นสังกัดไป เขาก็แค่ส่งข้อความมาว่าลองอ่านสัญญาดีๆ แล้วผมก็พบว่ามันอยู่ด้านหลัง แถมฟ้อนก็ยังเล็กอย่างกับให้แอ๊นท์แมนอ่าน สุดท้ายก็ต้องเลยตามเลยครับ เพราะเอาเข้าจริง รายได้แม่งดีกว่าการเป็นนายแบบมากโขเลยทีเดียว

   ผมต้องการเงิน ผมอยากไปหาแม่ที่ไอซ์แลนด์ อยากเห็นแสงเหนือ นั่นคือสาเหตุที่ผมทำงานเก็บเงินแทบตายทั้งๆ ที่แบมือขอเงินพ่อได้ง่ายๆ ก็ตาม ผมไม่อยากรบกวนเขา ปล่อยให้เขามีความสุขอยู่กับเมียใหม่ไปเถอะ แค่อย่าละเลยไอ้ปู๊นปู๊นก็พอ

   หลักการทำงานของนักทวงหนี้ก็ง่ายๆ ครับ เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินจากลูกหนี้ของผู้ว่าจ้างเรา โดยไม่จำกัดวิธี คุณอาจจะจับเขามามัดไว้ในห้อง ทรมานด้วยการอดอาหาร เปิดละครจำเลยรักเคล้าคลอไปด้วยเพื่อเพิ่มความกดดัน จนที่สุดท้ายเขาอาจจะร้องห่มร้องไห้สำนึกผิด ยอมคืนเงินมา เราก็เอาไปคืนผู้ว่าจ้าง เป็นอันปิดดีล

   แต่นั่นไม่ใช่วิธีของผม!

   ยอมรับครับว่าผมก็อยากทำวิธีแบบนั้นนะ เป็นหนุ่มโหดๆ คงได้เงินง่ายน่าดู แต่อย่าลืมว่าแต่ละเคสมีลูกหนี้ที่ต่างกัน บางคนอาจจะมีแต่ไม่คืน บางก็คนอยากคืนแต่ไม่มีจริงๆ ผมเลยต้องสรรค์หาวิธีทวงหนี้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่เขียนข้อความคุกคามแปะหน้ารถ ไหว้วานให้ยามหน้าตึกคณะหรือที่ทำงานทวงว่าอย่าลืมคืนเงินเจ้าหนี้ให้ขายหน้าเพื่อน  หรือตามเก็บรูปภาพเด็ดๆ ที่สามารถส่งให้แอดมินเพจฮูไลค์เพื่อแบล็คเมล อะไรทำนองนี้แหละ ส่วนมากไม่มีวิธีไหนที่ถึงเนื้อถึงตัวหรอกครับ เพราะมีกฏอยู่ว่าห้ามเปิดเผยตัวให้เป้าหมายรู้จักตัวตนของเราเด็ดขาดไง!!

   และวันนี้เป็นวันดี หลังจากที่มุ่งมั่นตามทวงนี้เคสนี้มานาน ถึงเวลาปิดดิลแล้ว

   ผมนั่งกระดิกเท้ารออยู่ลูกหนี้อยู่ที่โต๊ะม้าหินหน้าห้องสมุด ตาก็ชื่นมื่นไปกับการได้มองเด็กต่างมหาลัยน่ารักๆ เฮ้ออออ สดชื่นนนนน ทำไมไม่มาเรียนที่นี่ตั้งแต่แรกวะ คณะทันตะก็มี

   “คุณคะ”

   เสียงใสๆ เรียกผมให้เงยหน้าขึ้นไป พบว่ามีสาวหน้าม้ากำลังกอดซองสีน้ำตาลอยู่ด้วยอาคารสั่นระริก... เฮ้ย แผ่นดินไหวโดยที่กูไม่รู้สึกหรือเปล่าวะ

   “สวัสดีครับ” ผมยกยิ้ม “เอาของมาหรือเปล่า”

   สาวหน้าม้าพยักหน้า โห... ยาวปรกลูกตาเห็นแล้วรำคาญแทน จับไปส่งพี่ก้อง ไฮฟ์ซาลอนดีมั้ยวะ

   “เอามาค่ะ” มือเล็กๆ ของเธอยื่นซองตุงๆ มาให้ “ขอแลกกับหลักฐานด้วย”

   แหม่ ผมไม่เบี้ยวหรอกน่า

   ผมยื่นแฟ้มสีฟ้าของตัวเองไป “นี่ครับ”

   “…”

   “ในนี้มีหลักฐานต่างๆ ที่คุณเคยกระทำผิดทั้งหมด” ผมว่า “ขับรถผ่าไฟแดงสิบสองครั้ง อ้วกในที่สาธารณะยี่สิบครั้ง ไปเดทกับคนที่มีแฟนอยู่แล้วสิบห้าครั้ง ตกปลาในเขตอภัยทานกับกิ๊กที่เป็นนักซิ่งห้าครั้ง หยิบเหรียญในช่องเงินทอนของคนอื่นที่ตู้ซื้อบัตรบีทีเอสสิบครั้ง”

   เธออึ้ง “ถ่ายเองทั้งหมดเลยเหรอคะ”

   “ครับ”

   “ว่างดีนะคะ”
   

“ขอบคุณครับ” ผมพยักหน้า “ทีนี้ผมขอตรวจของในซองนี้ก่อนนะ”
   ผมหยิบเงินในสองออกมานับ อ่า... ห้าพันบาทครบถ้วน ถือว่าไม่โกงกัน

   “เรียบร้อย”

   “คุณไม่ได้ก๊อปปี้ไว้แน่นะ” เธอชูแฟ้มในมือ สีหน้าดูกังวล

   “ไม่แน่นอนครับ ผมไม่คิดทำร้ายใครหรอก”

   “ค่ะ”

   ผมหยิบสมุดโน้ตเล่มๆ เล็กในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากาง จัดการขีดรายชื่อเคสล่าสุดซึ่งเพิ่งปิดดีลไปสดๆ ร้อนๆ

   ผมเหลือบมองคนตรงหน้า อ้าว ยังยืนอยู่เรอะ “มีอะไรอีกหรือเปล่าครับ?”

   “ไอ้เกรียงมันจ้างนายมาใช่มั้ย?”
   
“...”

   “ไอ้สัด!!”

   อ้าว ด่าผมทำไมอะ!?

   “ฝากบอกมันด้วยนะคะ” แล้วเธอก็เดินไป

   ปัดโธ่ ก็นึกว่าด่าใคร ที่แท้ฝากด่าแฟนเก่าคนที่เป็นผู้ว่าจ้างผมนี่เอง

   ผมส่ายหัวด้วยประสาทแดก เอาเถอะ ถือว่าได้เงินแล้ว จะตีกันก็เรื่องของพวกเขาผมไม่เกี่ยว

   ผมรีบต่อสายหาผู้จัดการทันที

   [ว่าไงจ๊ะดิว] เสียงเจื้อยแจ้วดังทักทายมาจากปลายสาย

   “พี่หนูอิมครับ” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ปิดเคสคุณเกรียงเรียบร้อยแล้วครับ เดี่๋ยวยังไงผมจะเข้าเงินไปให้ในออฟฟิสนะครับ”

   [ว๊ายยยย เริ่ดมากก] ผู้จัดการผมดีใจออกนอกหน้า [แล้วงี้พร้อมรับงานต่อไปหรือยังเอ่ย]

   “ได้เลยครับ” แหม่ พร้อมสิ ปิดเทอมแบบนี้แหละช่วงเวลาหาเงิน “เคสต่อไปเคสใครนะ”

   [คุณกำพลจ้ะ เป้าหมายชื่อน้อง...]

   “ปีใหม่”

   [แหม พอเห็นว่าเป็นเงินแสนเนี่ยจำได้แม่นเลยนะ]

   เปล่าครับน้องเขาน่ารักติดตาต่างหาก

   [เคสนี้บอสฝากถามด้วยจ้ะว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่]

   “ทันทีเลยครับ” ผมว่า “น้องเขาเรียนที่เดียวกับน้องชายผม เดี๋ยวจะแวะไปดูลาดเลาที่โรงเรียนสักหน่อย”

   [โอเคจ้ะ เออ! เกือบลืมแหนะ จดไว้ด้วยนะว่าสุดสัปดาห์มีแคสติ้งแฟชั่นโชว์แบรนด์เอาสิว่า]

   “อ่า…” จดยิกเลยครับ อะไรที่ได้เงินเนี่ยไม่มีทางลืมหรอก “เรียบร้อยครับ แค่นี้ก่อนนะครับพี่หนูอิม”

   ผมกดวางสาย ในขณะที่ใจก็กำลังพองโต

   นอกจากจะได้เงินแสน ผมยังจะได้ตามติดชีวิตน้องมัธยมน่ารักๆ อีกตะหาก เคสนี้ลูกหนี้เด็กสุดตั้งแต่รับงานมาเลยมั้งเนี่ย อดตื่นเต้นที่จะได้เจอกับความสดใสวัยกางเกงน้ำเงินไม่ได้เลยจริงๆ

   เคสนี้น่าจะสนุกว่ะ!



*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



ปัก!

   ไอ้ทิมกระแทกลังสีน้ำตาลลงกับพื้น “กล่องสุดท้ายแล้วโว้ย”

   “ทีงี้ก็ซื้อเบียร์ ฉลองห้องใหม่กันหน่อยยยย” หน้าตาไอ้เอิร์ลโคตรเริงร่า

   พวกเราสามคนผม ไอ้เอิร์ล ไอ้ทิมตัดสินใจย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกันครับ โชคดีที่มีโปรโมชั่นสำหรับห้องชุดสามห้องนอนอยู่พอดี เซ็นต์สัญญาอยู่หนึ่งปีลดทันทียี่สิบเปอร์เซ็นต์ ข้อเสนอดีแบบนี้ถ้าชักช้าคงโง่เต็มทน

   “ไม่ได้โว้ย กูต้องไปรับน้องรัก” ผมบอกพวกมัน

   ไอ้เอิร์ลตาลุกวาว เด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาที่เพิ่งติดตั้งเสร็จไม่นาน

   “กูไปด้วยดิ!”

   “ไม่ได้! ช่วงเวลาแห่งครอบครัวมึงเสือกอะไรฮะ”

   “โธ่ มึงแม่งชอบกันท่าว่ะ”

   ผมไม่ได้สนใจไอ้เอิร์ลต่อ เพราะตาดันไปเห็นไอ้ทิมหยิบแผ่นไม้มันเลื่อมขึ้นมาจากกล่องที่มันเพิ่งวางลงตะกี้

   “อะไรวะ”

   “ป้ายแขวนหน้าห้อง” มันตอบผม

   โอ้โห... แม่งลงทุนอะไรขนาดน้านนนน

   ผมแย่งป้ายในมือมันมาดู ข้อความกระแทกป้าบเข้าตา

   สามแยกปากอุ๋ง

   “มึงเอางี้เลยเหรอ” ผมถามมันด้วยความไม่แน่ใจ คนห่าอะไรวะจะแขวนชื่อแก๊งไว้หน้าห้อง ไม่ดูเนิร์ดไปหน่อยรึไง

   “เออดิวะ หรือมึงลืมความศักดิ์สิทธิ์ของแก๊งเราไปแล้ว”

   “ถ้ามีแขกมาห้องแล้วเห็นเข้า มึงจะไม่อายใช่มั้ย”

   “พวกเขาจะได้รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเราไง”

   อืม... เข้าใจยังว่าไมสาวๆ ถึงกลัวพวกมึง ก็เล่นโอตะกันซะขนาดเนี้ย ถ้าเขาวิ่งหนีก็อย่ามาบ่นทีหลังแล้วกัน

   “กูไปก่อนนะ” ผมโบกมือให้พวกมันทั้งสองตัว จัดการคว้ากระเป๋ากล้องขึ้นมาสะพาย เอาล่ะ นอกจากที่จะไปรับน้องชายที่น่ารักแล้ว อย่าลืมว่าเรามีงานที่ต้องทำ!


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



โรงเรียนXX

   ผมไม่เคยเยือนโรงเรียนน้องชายมาก่อน แถมยังจบมัธยมมาเป็นปีแล้ว บรรยากาศที่คึกคักแบบนี้เลยทำให้ผมไม่ชินอย่างแรง สาวๆ บางคนเห็นผมกระพริบตาปริบๆ พวกน้องผู้ชายขาโจ๋ก็จ้องหน้าอย่างกับต้องการหาเรื่อง นี่มันโรงเรียนหรือฮังเกอร์เกมส์วะ อะไรมันจะพร้อมบวกกันขนาดนี้ ขอทางให้พี่เดินหน่อยคร้าบ

   ดูเหมือนชั้นม.4 ของน้องชายตัวดีจะยังสอบไม่เสร็จ ผมเลยมีเวลาทำหยิบรูปเป้าหมายในซองขึ้นมาดูอีกครั้ง อืม... หน้าตาแบบนี้ท่าจะหาไม่ยาก ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนนะน้องปีใหม่ ออกมาให้พี่เจอซะดีๆ

   เคสนี้ผมจึงตั้งใจเป็นพิเศษครับ เพราะหนี้ที่น้องปีใหม่ติดผู้ว่าจ้างเป็นเงินถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท เงินแสนเชียวนะคร้าบบบ! ตาผมนี่เด้งดึ๋งๆ เป็นแบบนี้เลยทีเดียว $_$

   และตามข้อตกลง ผมต้องได้เงินค่าตอบแทนเป็นอีกหนึ่งเท่าของหนี้ที่ติดไว้ ถึงจะต้องหักแบ่งโมเดลลิ่งก็เหอะ ยังไงแม่งก็ยังเยอะอยู่ดี ถ้าทำงานนี้สำเร็จ บอกเลยว่ารวย! รวย!! ร๊วยยยยย!!

   แต่ตอนนี้ผมต้องหาที่ปลอดภัยหลบก่อนนะแฮะ น้องม.6 ที่กำลังเขียนเสื้อเซ็นต์เฟรนชิพต์มองผมกันยังกะจะจับแดกลงท้องเลยอะ สงสัยเป็นเพราะเสื้อแขนยาวสีแดงแปร๋นที่ผมใส่อยู่แน่ๆ สะดุดจริงๆ

   เฮ้ย!? เจอห้องน้ำพอดี เอาไงดีวะ เข้าไปหลบในนี้ก่อนแล้วกัน

   ดูเหมือนในนี้จะปลอดผู้คนแฮะ เด็กมัธยมไม่ขี้ไม่เยี่ยวเรอะ เงียบเป็นป่าช้าเชียว

   “สวัสดีครับป๋า”

   ผมสะดุดกึกตอนที่ได้ยินเสียงเล็กๆ ดังขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย สรุปว่ามีคนเหรอวะ

   ผมค่อยๆ หมุนตัวไปทางต้นตอของเสียง พบว่ามันมาจากโซนโถฉี่ของผู้ชาย ผมเผยอปากเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กมัธยมยืนหันหลังให้อยู่ ดูเหมือนกับว่า...

   ฉี่....

   ครับ เสียงดังฟังชัดแบบนี้ ยิงเสือดำอยู่นี่หว่า

   แม่งเอ๊ย นี่กูพาตัวเองมาอยู่ในโลกไหนวะเนี่ยยย

   ผมตั้งใจจะกลับหลังหันเพราะคิดว่ายืนมองแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่ ถึงอีกฝ่ายจะยังไม่รู้ตัวก็เหอะ แต่จังหวะที่กำลังจะหมุนตัวนั่นเอง สายตาเจ้ากรรมของผมก็ไปสะดุดอยู่ที่ความขาวเปล่งประกายเข้า

   ขา

   โอ้โห กูจะบ้า อะไรมันจะเนียนกริ๊บเป็นกระดาษแบบนั้นวะ!!!

   เอาไงดี เอาไงดี ผมควรแฮ่กต่อไปหรือควรหันหลังกลับ น้องครับ ขาน้องที่โผล่ออกมาจากกางเกงสั้นๆ กำลังทำพี่แย่แล้ว ไม่ดีแน่ โคตรไม่ดีเลย!!

   “ป๋าจะโทรมาเรื่องนี้อีกแล้วเหรอ” คนที่หันหลังอยู่หนีบโทรศัพท์ไว้ข้างหู คงเป็นเพราะมือไม่ว่างซะดี น่าจะจับของสำคัญอยู่ “ใหม่บอกหลายรอบแล้วนะครับ ว่าถ้าใหม่มีใหม่จะรีบคืน”

   ผมหูผึ่ง... ใหม่งั้นเหรอ?

   ใช่น้องปีใหม่เป้าหมายของผมหรือเปล่าวะ เวรเอ๊ย จะชะโงกเข้าไปดูหน้าก็ไม่ได้ คงเห็นอวัยวะอย่างอื่นก่อนแน่ๆ ทางที่ดีคงต้องยืนนิ่งๆอยู่ตรงนี้ต่อไป

   แล้วนี่น้องกินน้ำมาทั้งเขื่อนหรือไงวะ ยืนนานจัง!

   “ชิท” ผมถึงกับหลุดปากตอนที่เห็นน้องล้วงกระเป๋ากางเกง ก็แม่งดันทำให้เนื้อผ้าตึงเปรี๊ยะเห็นความกลมกลึงของบั้นท้ายเข้าจังๆ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก โอยยยย นี่เลือดกำเดาผมไหลออกมาหรือยัง

   ของที่ติดมือน้องออกมาจากกระเป๋าคือจูปาจุ๊บรสสตรอเบอร์รี่ น้องแกะมันอย่างทุลักทุเลเห็นแล้วอยากจะเข้าไปยืนกระซิบด้านหลังว่า ‘ช่วยแกะให้มั้ยครับ’ ฉี่ให้เสร็จก่อนสิน้อง ทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันมันได้ที่ไหนวะ

   “ผมขี้เกียจพูดเรื่องนี้แล้วครับ” เฮ้ย น้องรูดซิปแล้ว! “ถ้าป๋าอยากได้ ป๋าก็มาเอาที่ใหม่เองแล้วกัน”

   จังหวะนั้นเองที่น้องเขาหันหน้ามา ผมจึงรู้ว่า... ใช่น้องปีใหม่เป้าหมายของผมจริงด้วยโว๊ย!!!

   แม่งงงง ตัวจริงดีกว่าในรูปล้าน ล้าน ล้านนนนเท่า นอกจากผิวขาวทีบอกไปแล้ว ความแน่นของเสื้อทำให้ผมรู้ว่าน้องเขาผอมขนาดไหน เอวนี่คอดกิ่ว ไหปลาร้าชัดซะจนอยากถามว่าเคยกินอาหารที่ทำมาจากแป้งบ้างหรือเปล่า ไม่ต้องพูดถึงหน้าตา อย่างที่เคยบอกว่าในรูปหน้าน้องเขาเหมือนคนง่วงพร้อมจะหลับตลอดเวลา แต่พอเห็นเต็มสองตาแบบนี้แม่งไม่ได้น่าเกลียดเลย มันคือเสน่ห์เฉพาะตัวของน้องเขา อย่างกับโคอาล่าตัวน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ยังไงยังงั้น ปากนิด จมูกหน่อย ใต้แก้มใสๆ มีระเรือสีแดงๆ ส้มๆ ซึ่งน่าจะเกิดจากแสงแดดและอากาศที่ค่อนข้างอบอ้าว

   โอย... ไม่ใช่แค่อากาศนะที่อบอ้าว ผมเนี่ยร้อนรุ่มจนอยากจะถอดเสื้อ

   “ถ้างั้นก็...” เสียงน้องขาดช่วงไป เลยทำให้ผมได้สติ เวรละ น้องแม่งเห็นผมจนได้ ลืมไปเลยว่าที่อ่างล้างมือมีกระจก! เส็งเคร็ง!! “สักครู่นะครับป๋า”

   ทำไงดีครับ น้องหันมาเผชิญหน้ากับผมแล้วววว

   ใจผมเต้นระส่ำตอนที่น้องปีใหม่เปลี่ยนใบหน้าบึ้งตึงของตัวเองให้เป็นรอยยิ้มเจือความขบขัน คิ้วที่เคยชนกันตอนนี้ข้างหนึ่งถูกเลิกขึ้นประมาณว่ากำลังสงสัย ดวงตาดำสนิทคู่นั้นจ้องผม เล่นเอาแข็งเป็นหิน เอื้อออออออ นี่มันเมดูซ่าบอยหรือเปล่าคร้าบ

   “แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าพร้อมผมจะโทรไปใหม่” น้องตรงหน้ากดวางสาย แถมมีการเดินเข้ามาใกล้ผมซะด้วย “พี่คือใครครับ?”

   กลิ่นสตรอเบอร์รี่ออกมาจากปากน้อง!! โอยยยย อมแต่จูปาจุ๊บรสนี้ตลอดชีวิตเลยได้มั้ยคร้าบบบบบ

   เฮ้ย โฟกัสที่คำถามของน้องสิวะ!!

   “เอ่อ...” ชิบหายละ แก้ตัวยังไงดี “พี่มารับน้องชายอะครับ แต่ยังไม่เลิกก็เลย... แวะมาเข้าห้องน้ำหน่อย”

   ฟังดูโรคจิตปะวะ เนียนมั้ย มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า!!

   “อ๋อ” น้องปีใหม่พยักหน้า โอยยยย ยิ่งใกล้ยิ่งได้กลิ่นจูปาจุ๊บ “น้องพี่ชื่ออะไรครับ”

   “เอ่อ ปู๊นปู๊นครับ”

   ขออ้างชื่อมึงหน่อยนะไอ้เด็กเปรต

   น้องปีใหม่เลิกคิ้วอีกรอบ “หา!? น้องปู๊นปู๊นม.4 หรือเปล่าครับ ไม่ยักรู้ว่าน้องเขามีพี่ชายด้วยแฮะ หน้าตาดีเหมือนกันเลย”

   อั่ก!!

   จะล้ม ดีนะข้างหลังมีกำแพงเลยพยุงตัวไว้ได้ ถึงจะเจ็บหน่อยก็เถอะครับ

   “ทำไมไม่ไปรอที่ห้องรับรองผู้ปกครองล่ะครับ?”

   ฮึ!? มีห้องแบบนั้นด้วยเหรอวะ

   “ยะ...อยู่ตรงไหนล่ะครับ” โอยยยย พูดติดๆ ขัดๆ เป็นรถแถวอโศกเลยกู

   อยู่ๆ น้องเขาก็ยิ้ม เฮ้ย ขยี้ตาแป๊บ... ยิ้มจริงด้วย!! โอยยยย สวรรค์รำไร แฮ่ก แฮ่ก

   “ตามผมมาสิครับ”

   “จะ จะดีเหรอ คะ...ครับ”

   “ดีสิฮะ” น้องปีใหม่เอียงคอ “เดี๋ยวผมพาไปเอง”

   “งั้นนำไปเลยคร้าบ”

   แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

   จมูกผมอิ่มเอมไปด้วยกลิ่นแห่งความโมเอะตอนที่น้องเขาเดินผ่าน ชีวิตนี้กูคุ้มค่าแล้ว อีกสักสองปีเตรียมลาออกจากมหาลัยรอความตายตอนชราได้เลย

   “ตามมานะครับ”

   แหนะ มีการหันมายิ้มเชิญชวน “คร้าบบบบบ”

   ก็ตามอยู่นี่ไงน้องงงง ต้อยๆ เลยเนี่ย แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

   “อ่า…” ผมอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเริ่มไม่ชอบมาพากล ทำไมห้องรับรองผู้ปกครองอะไรนี่ถึงติดฟิมล์ดำซะมืดตึ๊ดตื๋อขนาดนี้

   “เข้าไปพร้อมกับผมนะ” น้องปีใหม่ยิ้มอีกครั้งตอนจับประตูเลื่อน

   ช่างแม่ง! ถึงจะงงๆ แต่ผมก็พร้อมจะตามน้องไป ตอนนี้ผมหลุดแล้ว ผมกำลังติดบ่วง ถ้าน้องบอกให้ทำอะไร แม้จะโดนสั่งให้กระโดดคลองจนโดนปลาสวายตอด ผมก็จะทำ!!

   “ถึงแล้วคร้าบ!”

   จะเอ๋!!

   สัด!!

   นี่มันใช่ห้องรับรองผู้ปกครองที่ไหนกันเล่า!!! มีแต่ชายในชุดกากีหน้าดุหนวดเฟ้มอย่างกับนายทองเหม็นทำหน้าโคตรเบื่ออยู่หลังโต๊ะที่บันนั้นมีไม้เรียวอันเบ้อเร้อ

   ผมถอยออกมานอกห้องแล้วเงยหน้ามองด้านบน

   ‘ห้องปกครอง’



[อ่านต่อด้านล่าง]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2018 20:45:18 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
[ต่อ]

ชิบหายละ มัวแต่หลงน้องจนลืมดู กรรมของกูแท้ๆ

   “มีอะไรเรอะจักรวาล” เสียงดุๆ ออกจากปากใต้หนวดเฟิ้มนั้น

   “อาจารย์ช่วยด้วยครับ!”

   หมับ!

   เฮ้ย น้องจับแขนผม!

   น้องจับแขนผม!!!

   น้องจับแขนโผมมมมมมม

   “ผมเจอคนนี้ในห้องน้ำชาย ทำลับๆ ล่อๆ เหมือนเป็นโรคจิตครับ”

   “เฮ้ยผมไม่ใช่โรคจิตนะครับ!!” ผมพยายามดีเฟนตัวเองเต็มที่ “ผมแค่เข้าไป...”

   “อย่ามาปฏิเสธนะพี่”

   “จริงๆ ครับน้อง!”

   “แล้วเมื่อกี้พี่ทำอะไร!”

   ชิท... กลิ่นสตรอเบอร์รี่

   แม่งเอ๊ย ผมโดนล้างสมองไปอีกรอบแล้วคร้าบบบ “พะ พี่ - มอง - น้อง”

   “…”

   “น้องน่ารัก...”

   “เห็นมั้ยครับ’จารย์!!” น้องทำหน้าหยี สะบัดมือผมออกแบบขยะแขยง

   โธ่น้อง จับต่ออีกหน่อยเด่ะ

   “ผมต้องขอกักตัวคุณมาสอบสวนหน่อย เชิญเข้ามาในนี้ด้วยครับ”

   เวรแท้ๆ ผมไม่มีทางเลือกแล้วครับ ทางเดียวที่ทำได้คือถอดรองเท้าไว้หน้าห้องและเดินเข้าไปเจอแอร์เย็นๆ ชวนขนลุกในห้องนั้นอย่างจำใจ

   ผมหน้าเสีย อะไรกันวะ เรียนมหาลัยกูยังต้องเข้าห้องปกครองอีกเหรอเนี่ย

   ผมมองน้องปีใหม่ที่ยังยืนอยู่ด้วยสายตาละห้อย หึ จะโกรธก็โกรธนะ แต่เห็นใบหน้าเอ็นดูแบบนั้นแล้วเลยตัดสินใจยกมือขึ้นมาโบกดีกว่า

   บ๊ายบาย

   “เอ๊อะ!!” น้องปีใหม่ผงะ อ้าปากค้างเหมือนเห็นผีก่อนจะวิ่งหนีไป

   ฮึ่่ยยย เป็นอะไรของกูวะเนี่ยยยยย เนิร์ดจนหาเรื่องใส่ตัว เส็งเคร็งสัด!!



*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*


[นายคงไว้ ซึ่งสิ่งดีช่วยมายืนยันตัวผู้หาที่อ้างว่าเป็นพี่ชายคุณที่ห้องปกครองด้วยครับ]

   หลังจากที่อาจารย์สุดโหดประกาศออกไมค์ ประตูของห้องปกครองก็เลื่อนเปิดออกพร้อมกับมีใบหน้าตื่นๆ พุ่งเข้ามาอย่างลนลาน

   “ไอ้พี่บื้อ มึงมาทำอะไรในนี้ฮ้า!”

   เอาเลยไอ้ปู๊น มึงจะด่ากูแบบเมกะคิลก็ได้ แต่เอากูออกไปจากตรงนี้ที!!

   “ช่วยกูด้วย” ผมกระซิบผ่านรอดไรฟัน มือที่กุมกันสั่นตลอดเวลาขณะที่นั่งที่อยู่บนโซฟาสุดสยอง ทำไมห้องปกครองทุกโรงเรียนบรรยากาศถึงน่ากลัวแบบนี้วะเนี่ย

   “นายคงไว้ นี่คือพี่ชายคุณหรือเปล่า” อาจารย์หน้าโหดชี้มาทางผม

   “ครับ นี่พี่ชายผมเอง”

   “ผมไม่เชื่อ” อ้าวจานนนนนนนน “ไหนยืนยันซิ ชื่อจริงของพี่ชายคุณคืออะไร”

   “คัดไว้ ซึ่งสิ่งดีครับ”

   มันต้องอย่างนี้น้องรัก อยากจะหอมเหม่งแม่งสักฟอด

   “เกิดวันที่เท่าไหร่”

   “เอ่อ...” มันหันมาทางผม “มึงเกิดเดือนไรนะ สิงหาปะ?”

   นี่ล้อกันเล่นใช่มั้ย ไอ้เส็งเคร็ง!

   “มึงจำวันเกิดกูไม่ได้เหรอ...”

   “จำได้แต่วันที่ แต่กูลืมเดือน!!” ไอ้ปู๊นเหงื่อแตก แต่ก็ยอมตอบครูมันอยู่ดี “น่าจะสิบสิงหาครับ”

   “ถูกต้อง!”

   จารย์นี่ก็ทำอย่างกับเล่นเกมเศรษฐีเลยนะฮะ โว้ย!!

   แต่สุดท้ายอาจารย์ก็คืนบัตรประชาชนของผมมา แล้วก็คุยกับน้องชายผมต่อ

   “เธอรู้มั้ยว่าพี่ชายของเธอก่อเรื่องอะไร”

   “ไม่รู้ครับ”

   “พี่เธอเป็นถ้ำมองในห้องน้ำ!”

   “หา!!” ไอ้ปู๊นทำท่าจะร้องไห้ “ไอ้พี่บ้า ทำไมมึงทำแบบนี้วะ กูอายเขา!!”

   “กูไม่ได้ทำโว้ยยยย” ผมรีบโบกมือ “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”

   “แล้วมึงไปแอบดูใคร!?”

   “นายจักรวาลน่ะสิ พี่ม.6 ของเธอน่ะ” อาจารย์ฝ่ายปกครองใจดีตอบแทน

   แต่นั่นคือปัญหาครับ พอมันได้ยินว่าเป็นใครถึงกับอึ้ง

   “กูว่าแล้วววว”

   “ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดน่า!” พอกันสักที ผมต้องออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว “ผมจะไปได้ยังครับ?”

   “ต้องดูก่อนว่าคู่กรณีของคุณจะเอาเรื่องหรือเปล่า”

   “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาพี่ชายไปขอโทษพี่ปีใหม่เอง!” ไอ้ปู๊นฉุดแขนเสื้อผม “เร็วๆ ก่อนที่เรื่องมันจะแดงไปทั้งโรงเรียน”

   หน้าบางจังนะน้องผมเนี่ย อนาคตมึงจะลงสมัครส.ส.หรือไง

   “ลาล่ะครับจารย์” ผมยกมือไหว้ รีบใช้จังหวะชุลมุนจ้ำอ้าวออกจากห้องปกครอง

   “มึงนี่น้าาาาาาา” ยับครับยับ! พอออกมาเจออากาศร้อนๆ ปุ๊บน้องชายของผมก็สวดทันที “ไปทำอะไรให้พี่ปีใหม่คิดว่ามึงไปแอบมองเขาฮะ!”

   “อ้าว มึงไม่ได้คิดว่ากูทำจริงเหรอ”

   “กูรู้จักมึงดี คนใจฟ่อแบบมึงไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก”

   เอ... นี่มึงแอบหลอกด่ากูหรือเปล่าเอ่ย

   “เฮ้ย!” อยู่ๆ น้องผมก็ร้องลั่น “นั่นพี่ปีใหม่ ไปๆๆ เข้าไปขอโทษเขา!”

   ขวับ! ผมรีบหันไปทางที่น้องผมชี้ เด็กคนนั้นนั่งอยู่บนโต๊ะเป็นศูนย์กลางจักรวาลสมชื่อ เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ม้าหินซึ่งต่ำกว่าไม่ต่างอะไรจากบริวารของดาวเคราะห์น้อยเลย

   ไม่เอา! พอแล้วครับกับคนใจร้าย

   ผมรีบสะบัดมือไอ้ปู๊นออก “ไม่ไป!”

   “ไปปปปปป” อย่าดึงแขนเสื้อกูเซ่! ยืดหมดแล้วห่า! “ขอโทษซะจะได้จบๆ”

   “กูไม่ได้ทำนะ น้องเขาเข้าใจผิดไปเอง”

   “แต่ยังไงก็ต้องขอโทษ!” มันผลักหลังผม “ไปปปปปปป”

   เฮ้อ คงต้องไปแล้วล่ะวะ ไม่มีทางเลือกแล้วนี่

   “พี่ปีใหม่ครับ!”

   พอโดนน้องผมเรียก เจ้าของชื่อก็หันขวับมา สำหรับคนอื่นคงปกติ แต่กับผม มันเหมือนกับภาพช้า ที่ใบหน้าสวยๆ นั้นค่อยๆ หมุนมาอย่างสโลโมชั่น ผมเผิมนี่ค่อยๆ กระดิก กลิ่นความสดใสของวัยมัธยมพร้อมกับกลิ่นสตรอเบอร์รี่เตะเข้าจมูก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก นี่น้องเขายังอมจูปาจุ๊บไม่หมดอีกเหรอวะ!

   "ว่าไงปู๊นปู๊น” ดูจากสายตาเอ็นดูของน้องปีใหม่ มันทำให้ผมรู้ทันทีครับว่าน้องชายตัวเองต้องโกหกเรื่องที่เคยจีบเขาแน่ๆ หวายยย ไอ้อ่อน แววตาเอ็นดูเหมือนเป็นน้องชายแบบนี้ เขาไม่ได้คิดอะไรกับมึงทั้งนั้นแหละ หวายๆๆ

   แต่ยังไม่ทันไร พอฝ่ายน้องที่สร้างเรื่องเห็นผมเท่านั้นแหละถึงกับขมวดคิ้ว

   โห่ สดใสเหมือนตอนที่ยิ้มให้น้องพี่เมื่อกี้สิ

   “ปู๊นรู้จักคนนี้เหรอ”

   “รู้จักครับ พี่ชายผมเอง!”

   “พี่ชาย...”

   พอเห็นว่ารุ่นพี่ของมันทำหน้าเกร็งๆ น้องผมก็รีบโบกมือให้ยุ่ง “เฮ้ยพี่ แต่มันไม่ได้มีเจตนาแอบดูพี่ในห้องน้ำนะ มันมารอรับผม! พี่เชื่อผมเถอะ พี่ชายผมมันออกจะเพี้ยนๆ แต่ไม่ทำงั้นแน่นอน!!”

   เยี่ยม ไหนมึงบอกไม่อยากให้เรื่องแดงถึงคนอื่นๆ ไง พูดโพล่งออกมามึงเห็นมั้ยน่ะว่าตรงนี้มีเพื่อนๆ เขานั่งหน้าสลอนกันอยู่

   “เอ่อ...”

   “ขอโทษเขาสิ”

   ไอ้นี่ก็อยากให้ผมสำนึกผิดจัง!

   “ขอโทษนะน้อง พอดีพี่แค่หลบความวุ่นวายในห้องน้ำ ไม่คิดว่าน้องจะมองพี่เป็นพวก...”

   ไม่ทันได้พูดคำว่า ‘โรคจิต’ สายตาเจ้ากรรมก็เริ่มซุกซนอีกครั้ง... ตายโหง ทำไมปลดกระดุมเสื้อตั้งสามเม็ดขนาดนั้นว่ะน่ะ!!!

   ตอนแรกตั้งใจจะแฮ่กกับสีชมพูที่โผล่ออกมาจากเสื้อแบบวับๆ แวมๆ แต่ทว่าลมที่พัดแรงทำให้ผมมองเห็นอะไรที่อยู่ลึกมากกว่านั้น...

   รอยช้ำ!?

   ผมขมวดคิ้วกับบริเวณที่เป็นสีชมพูเข้มๆ ค่อนข้างออกไปทางม่วง จากการที่เคยมีเรื่องชกต่อยมาบ้างทำให้รู้ว่าน่าจะเป็นรอยที่เกิดจากกำปั้น ที่คงโดนชกเข้าอย่างจังจนห้อเลือด

   ไปทำมาอะไรวะน้อง เจ็บมั้ยน่ะ

   “เอ๋?” น้องปีใหม่คงงงว่าทำไมผมถึงเงียบไปดื้อๆ สุดท้ายก็รู้ตัวว่ากำลังโดนถ้ำมองอยู่ “อ้าวพี่!”

   ป้าบ!

   “ยังจะไปลวนลามเขาทางสายตาอีกไอ้พี่บ้า! อุตส่าห์พามาแก้ตัว!”
   
ถึงจะโดนตบหลังแอ่น ก็ไม่ได้ทำผมละสายตาจากแผลตรงหน้าอกนั้นได้เลย นึกเจ็บใจใครก็ตามที่ทำให้น้องต้องมีริ้วรอย ดูดิเนี่ย ของสวยๆ งามๆ มีตำหนิหมดแล้ว

   น้องปีใหม่กระแอมไอก่อนจะติดกระดุมถึงเม็ดแรก มีการกอดอกทำหน้าหงุดหงิดซะด้วย นั่นแหละถึงทำให้สติสตางค์ผมกลับมา

   “ไม่เป็นไร” น้องที่นั่งอยู่ว่า “ถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”

   โอยน้อง ฟังน้องพูดครับกี่ทีก็ใจเต้นรัว

   “ผมขอโทษอีกคนด้วยนะพี่” ไอ้ปู๊นยกมือไหว้ “ขอโทษคร้าบบบบ”

   “ไม่เป็นไรๆ บอกแล้วว่าพี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ” น้องปีใหม่เหล่มองมาทางผม ชั่งใจอยู่สักพักก็ยกมือขึ้นมาพนม “ขอโทษนะครับพี่”

   อ่าาาาา มากราบที่อกพี่ได้เลยครับน้อง

   “ไม่เป็นไรครับ” แฮ่กอยู่ในใจเท่านั้นแหละครับ แค่นี้ชีวิตผมก็พังไม่เป็นท่าแล้ว จะไม่ยอมให้น้องมองว่าเป็นไอ้โรคจิตเด็ดขาด สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ยิ้มรับรู้ไป

   แต่ใจยังกังวลเรื่องแผลของน้องเขาอยู่เลยว่ะ...

   “ทีนี้มึงรีบออกไปจากโรงเรียนกูได้แล้ว” ไอ้เด็กเปรตดันหลังผมให้เดินไปทางประตูรั้ว “กูอยากกินเรดซัน!!”

   โหยยย เดี๋ยวดิ ขอเป็นห่วงน้องปีใหม่อีกสักพักไม่ได้หรือไง

   “แป๊บนะ” ผมบอกไอ้ปู๊น พอแม่งเห็นว่าผมวกกลับไปที่โต๊ะม้าหินนั่นอีกครั้งถึงกับอ้าปากค้างแต่ไม่ได้เดินตามมา ถือว่าเป็นเรื่องดี

   เพราะผมมีอะไรจะพูดกับน้องปีใหม่สักหน่อย

   “น้องครับ”

   “หืม?” คนที่โดนผมเรียกหันมามอง โอ้ววว มันเป็นภาพช้าอีกแล้ว! “เอ่อ... มีอะไรอีกเหรอครับ”

   ผมสูดหายใจรวบรวมความกล้า เปิดกระเป๋าควานหาของต้องการขึ้นมาในมือ

   “นี่ครับ”

   น้องปีใหม่ขมวดคิ้วใส่ยาแก้ฟกช้ำที่อยู่ในมือผม “ให้ผม?”

   “ครับ” ผมพยักหน้า “พี่พกไว้ติดตัวตลอดเพราะพี่เล่นบอลบ่อย เตะทีนี่ได้หลายแผล มันช่วยได้”

   “…”

   เวรละ น้องเขากลัวกูอีกจนได้ ต้องรีบออกไปจากตรงนี้

   “ก็ถือว่าเอาไว้ทาตรงนั้นนะ” ผมไม่กล้าชี้ตรงหน้าอกน้องเขาเลยอะ ให้ตายดิ

   “คิกๆๆๆ”

   โอ๊ย เพื่อนน้องแม่งขำกูอี้กกก ชีวิตไอ้ดิวอี้จบลงแล้วววว

   “ชู่ว!” น้องปีใหม่หันไปดุเพื่อนๆ แต่ดูแล้วจะกลั้นขำกันไม่ได้ค่อยได้เลยอะ “อย่าหัวเราะสิ!”

   “…”

   “เอ่อ...” น้องเขาหันมาอีกรอบ สีหน้าเหมือนรู้สึกผิดที่เพื่อนๆ หัวเราะเยาะผม “ขอบคุณนะครับ”

   เปรี๊ยะๆๆๆ

   กระแสไฟฟ้าแทบจะกระจัดกระจายรอบตัวผมตอนที่นิ้วของน้องโดนมือ เย่ส! น้องเขารับไป น้องเขายอมรับยาของผมไป!!

   “มันช่วยเรื่องแผลฟกช้ำได้นะ” เสียงผมแหบแทบจะกลายเป็นกระซิบ

   น้องปีใหม่ระบายยิ้ม “ขอบคุณครับ”

   เอื้อออออออ กูตายหรือยัง

   “ไม่เป็นไรครับ”

   “พี่ครับ!”

   ผมทำท่าจะหันหลังกลับอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมน้องเขาถึงเรียกผมไว้อีก

   ปีใหม่เอียงคอ ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาแบบที่เราได้ยินกันสองคน “อย่าบอกใครนะ”

   คงหมายถึงเรื่องแผลสินะ

   “ไม่บอกใครแน่นอน”

   “ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

   ผมเก็บความรู้สึกไว้เต็มกำลังตอนที่น้องโบกมือให้ แต่พอหันหลังเท่านั้นแหละ ใจผมนี่ร้องกรี๊ดๆๆๆๆ มีเสียงปุ๊งป้างดังสนั่นหวั่นไหวอย่างกับมีใครมาจุดพลุอยู่ข้างหู

   เรื่องงานเอาไว้ก่อน วันนี้ขอเป็นแฟนบอยหนึ่งวัน แต่ถึงยังไงน้องจะต้องโดนพี่จัดการทีหลังแน่นอนครับ!



TBC*



 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

UPDATE*
16/04/61
รีไรท์อีเว้นท์นิดหน่อย แต่เนื้อหายังเหมือนเดิม
เพื่อลดอาการงง และอธิบายาการกระทำของตัวละครให้ชัดขึ้น
เพราะมีนักอ่านบางท่านค่อนข้างงงกับบางชอง
รวมถึงแก้คำผิด และเกลาคำบางประโยคครับ



มาลงตอนที่ 1 ต่อนะคร้าบบบบ คิดเห็นยังไงก็ฝากคอมเม้นท์ได้นะคร้าบบบ

พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #เจ้าจักรวาล ก็ได้นะฮัพ

ถ้าถูกใจ ฝากคอมเม้นท์ แชร์ บวกเป็ดให้ผมหน่อยนะคร้าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2018 20:50:08 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เกลียดความแฮ่กของดิวอี้และผองเพื่อนนนน ติดตามนะคะ
น้องกุ้งจะมาโผล่มั้ยคะ นุคิดถึงน้องง 555555555555
จะว่าไปดิวอี้เค้าดูเด๋อๆดีนะคะ 5555555555555
ปล.นุเม้นได้รึยังคะ เมื่อกี้เด๋อแบบดิว ไม่เห็นว่าจะลงตอน1ต่อ
 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เพื่อนน้องกุ้งๆๆๆๆๆๆๆ ฮื้อออ ทำไมปีใหม่ดูแซ่บอ่ะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เรื่องที่แล้วทักก็ชอบงี๊ดๆ เรื่องนี้ดิวอี้ชอบแฮ่กๆ อีก โอ้ย แต่ละคนก็นะ 5555555

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
น้องปีใหม่มีความแฮ่กเหลือเกินนนนนนนน ดิวอี้เก็บอาการหน่อย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดิวเอ่ย อารมณ์หนูใกล้กับคำว่า "หื่น" มาก ๆ เลย ไม่น่ารอดอ้อมกอดน้องกุ้งเลยนะเนี่ย  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รู้สึกเหมือนจะเห็นจมูกบานๆหุบเข้าหุบออกเลย

ออฟไลน์ holy_angel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
#ดิวอี้สายแฮ่ก ต้องมา โอ้ยยยปีใหม่ลูกทำไมหนูแซ่บอย่างงี้ ดีต่อใจอีกแล้วววว ><

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องปีใหม่ก็แฮ่กจริงๆแหล่ะค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้ยยยยนี่คิดมาตลอดนะว่าดิวอี้เป็นรูมเมทกับทักรี่ก็น่าจะซึมซาบความกวนเข้ามาบ้าง แต่ที่ไหนได้นอกจากความหื่นแล้วก็ไม่ได้อะไรมาบ้างเล้ยยยยยย ดูท่าเรื่องนี้พี่ดิวจะโดนน้องปีใหม่ปั่นหัวซะแล้วละมั้ง ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
ไอ้ดิวอี้ ไอ้คนบ้า ไอ้คนโรคจิต!
นี่สรุปว่าปีใหม่เป็นเด็กเสี่ยจริงๆ หรอเนี่ย
โอ๊ยยยยยย จะเป็นยังไงต่อออออ ขอบทสองค่ะ!

ออฟไลน์ Emmaline

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยย ทำไมดิวอี้กากแบบนี้
 :katai4:

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
UPDATE*
16/04/61

จะแจ้งให้นักอ่านทุกท่านทราบว่า
ผมได้ทำการรีไรท์ตอนที่ 1 ใหม่ ปรับเพิ่มอะไรหลายๆ อย่าง
 เพื่ออธิบายสิ่งที่นักอ่านยังไม่เข้าใจ
ยังไงลองกลับไปอ่านบทนำกับบทที่ 1 ย้อนใหม่ได้น้า
ไม่ยาวมาก คราวนี้ลื่นปรื้ด สนุกสนานแน่นอนนน





2
สุดจะทนคนอย่างเธอ



   โครม!

   ผมโยนหนังสือลงบนโต๊ะ จ้องมองมันด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่

   ‘คู่มือเสริมสร้างบุคลิกภาพให้น่าเชื่อถือ (ฉบับผู้ชาย)’

   หึ บอกเลยครับ การที่น้องปีใหม่มองผมเป็นไอ้โรคจิตแม่งทำให้โคตรเฟล!

   อย่างที่บอก จริงๆ กฏของการเป็นนักทวงหนี้ คือห้ามเจอหรือสร้างสัมพันธ์กับเป้าหมายเด็ดขาด นั่นหมายความว่าการที่ผมได้ปะทะกับน้องปีใหม่เข้าอย่างจังเป็นเรื่องที่โคตรเหนือความคาดหมาย ทำให้ปฏิบัติการของผมจะยากมากขึ้น ต่อจากนี้อาจจะต้องระมัดระวังมากกว่าเดิมซะแล้ว

   แต่ไหนๆ น้องแม่งก็เห็นหน้าคาดตาผมแล้ว ผมคงต้องเป็นเปลี่ยนแผน ตามถ่ายรูปแบล็คเมล์อย่างที่เคยทำคงไม่ได้ ถ้าเกิดวันไหนเจอน้องแล้วอยากยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูทำทีจะแอบถ่ายน้องแบบเนียนๆ แล้วอีกฝ่ายดันรู้ตัวจำผมได้ขึ้นมา คราวนี้ไม่ใช่แค่ห้องปกครองครับ ชีวิตไอ้ดิวเป็นอันต้องจบในคุกแหงๆ กินข้าวแดงกันสุขภาพดีเลยทีเดียว

   ปึก! ผมกางหนังสือไปที่หน้าแรก
   

   ข้อ.1

   จงสำรวจตัวเองว่าตอนนี้คุณดูดีพอแล้วหรือยัง



   “ไอ้เอิร์ล” ผมเอี้ยวตัวไปเรียกเพื่อน

   “ว่า”

   “กูหล่อป่ะ”

   “-_-“ ไอ้เพื่อนรักที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์ถึงขั้นเอ๋อแดก “ถามทำห่าอะไรวะ”

   “ตอบมา!”

   “ไอ้ทิม!” มันหันไปเรียกคนข้างๆ “ตอบคำถามเพื่อนเราหน่อยดิ๊”

   “กังวลไรวะไอ้ดิว มึงหล่อที่สุดในกลุ่มอยู่แล้วปะ”

   “จริงอะ” ไอ้สัดเขิน

   “มึงลืมตำแหน่งเดือนทันตะไปแล้วเหรอ?”

   “แต่กูไม่ติดท็อปห้าเดือนมหาลัยนะ”

   “ไอ้ควายเอ๊ย” ไอ้เอิร์ลทำหน้าเป็นตูด “เดือนก็คือเดือน เป็นเดือนคณะก็ถือว่าการันตีได้ระดับหนึ่งแล้วปะ”

   ผมพยักหน้าหลังจากที่ขบคิดตาม จริงของมันว่ะ ชนะชายหนุ่มทั้งคณะได้ก็ถือว่าเกินความคาดหมายแล้ว

   อ่ะ งั้นข้อนี้ติ๊กถูก


   ข้อ.2

   มั่นใจอยู่เสมอว่าสะอาดสะอ้านพร้อมเจอคนรอบข้าง




   ข้อนี้ผ่านได้เลย ใครไม่อาบน้ำแปรงฟันก็เกินไป จะบ้าเรอะไม่ได้อยู่ยุคหิน!



   ข้อ.3

   สร้างความน่าเชื่อถือด้วยบุคลิกภาพที่ดี




   สัด ข้อนี้แหละหนัก เพิ่งทำให้คนอ่ื่นคิดว่าเป็นโรคจิตมาหมาดๆ งี้แปลว่าผมต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเองซะใหม่ คงต้องหยิบปากกามาจดว่าต้องแก้ไขอะไรบ้างสินะ


   - ห้ามมองคนอื่นด้วยแววตาน่ากลัว

   - อย่ามองต่ำกว่าใต้เข็มขัด

   - เจอคนโมเอะให้กรี๊ดในใจ (หรือหยิกแขน, ไขว้นิ้วชี้กับนิ้วกลาง, โทรไปให้ไอ้ปู๊นด่า)

   - หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องมังงะ, แอนิเมะอย่างออกรสในที่สาธารณะ

   - ศึกษาธรรมะ ละเว้นการแฮ่ก****




   ประมาณนี้น่าจะได้แฮะ คิดอะไรออกก็ค่อยเขียนเพิ่มเติมไปแล้วกัน

   ไหนดูข้อต่อไปซิ



   ข้อ.4

หมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ




   อะไรวะ... แล้วมันต้องพัฒนายังไงกูจะรู้มั้ยเนี่ย ลงเรียนพิเศษดาว้องเหรอ จะได้ไลน์บอกน้องให้ไปเอาใบสมัครให้เดี๋ยวนี้เลย

   อ้าว มีดอกจันทร์ตัวเล็กๆ อยู่ด้านล่างด้วยว่ะ



   *อย่าเพิ่งฉุนเฉียว



   แหนะ รู้อีก


   พัฒนาตัวเองในที่นี้หมายถึง ลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำมาก่อน

   อาจจะเป็นการออกกำลังกาย ฟังเพลงแนวอื่น วาดรูป หรือเจอใครใหม่ๆ




   เออ ทีหลังก็บอกตัวโตๆ สิ จะไปเห็นได้ยังไง!

   อืม... พัฒนาอะไรดีวะ อาจจะลองเปลี่ยนการแต่งตัว ใส่ใจความเท่ละเว้นความเซอร์ ไอ้เรื่องออกกำลังกายก็ฟังดูน่าสนใจ ถึงยังไงผมก็เป็นนายแบบอยู่แล้ว หันมาดูแลรูปร่างตัวเองก็เข้าท่าดีเหมือนกัน

   ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รีบหาคอนแทคของเพื่อนที่รู้จักคนนึงซึ่งเราเคยเป็นรูมเมทกันตอนอยู่ปีหนึ่ง มันเรียนวิทย์กีฯ ครับ ดูท่าจะช่วยผมได้ กล้ามงี้บะเอ้ก



   DEW : ไอ้ทัก

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : มีอะไรรึออเจ้า



   ชื่อไลน์ยาวเป็นรถไฟสายไซบีเรียเลยสัด


   DEW : รับเทรนปะ

   DEW : อยากออกกำลังกายอะ

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : ใจเย็นไอ้หมอ

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : ช่วงนี้ไม่ว่างเลยว่ะ

   DEW : อ้าว เคๆ

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : ไมวะ จะจีบหญิงเหรอ

   DEW : อยากออกกำลังกายเกี่ยวอะไรกับจีบหญิง

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : คนเรามักจะหันมาดูแลตัวเองเพื่อให้ใครสักคนประทับใจ




   คมจนบาด เล่นเอาจุก... พูดไม่ออกครับ เหมือนโดนเตะป้าบเข้าซี่โครง

   เออว่ะ นี่ผมทำเพื่อตัวเอง หรือเพราะอยากล้างมนทิลที่น้องปีใหม่เข้าใจผิดไปกันแน่วะ


   
Tak_ไม่_Empty_แล้ว : เอางี้ เดี๋ยวกูทำตาราง Work Out กับตารางคุมอาหารให้

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : มึงเป็นนายแบบใช่ปะ ลีนๆ ไรงี้?

   Tak_ไม่_Empty_แล้ว : นมมึงสวยอยู่แล้ว ขยันคาดิโออีกนิดคือแจ่ม

   DEW : เออ ขอบใจมาก

   DEW : เท่านี้แหละ


   ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม กลับมาอ่านข้อต่อไปอย่างมีสมาธิ

   ข้อ.5 ตั้งเป้าหมายในชีวิต เพื่อใช้ชีวิตอย่างมีจุดหมาย

   หึ ง่ายมาก เป้าหมายของผมจะเป็นอะไรได้นอกจาก...


   น้องปีให-


   เฮ้ยยยยย!! สัดๆๆๆ เบลออีกแล้วกู จะเขียนชื่อน้องเขาทำไม!! น้องเขาใช่สิ่งที่มึงอยากได้ที่สุดซะที่ไหน! ไอ้ดิวเอ๊ย รีบขีดทิ้งให้ไวเลย ดีนะเหลือม.ม้ากับไม้เอก รอดตายหวุดหวิด

   ตืดดด ตืดดดดด

   แต่ยังไม่ทันจะลบข้อความนั้นทิ้ง อยู่ๆ โทรศัพท์ของผมซะก่อน ตอนแรกนึกว่าไอ้ทักมันส่งตารางมาให้เร็วจัง แต่พอหยิบขึ้นมาดู อ้าว... ไม่ใช่นี่หว่า


   *เงินถูกโอนเข้าบัญชีของคุณ 35,000 บาท*


   เฮ้ย เงินค่าจ้างจากงานคราวก่อนเข้าแล้ว!! ครั้งนี้บอสให้ตรงเวลาไม่เบี้ยวว่ะ งี้สิวะถึงน่าจะร่วมงานด้วยหน่อย

   อืม... ผมมองตัวเลขยอดรวมในบัญชีแล้วขนลุก จำนวนไม่ใช่น้อยๆ เลยแฮะ ผมเก็บเงินได้เยอะขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย แล้วนี่ถ้าได้ค่าจ้างจากงานของน้องปีใหม่ตามไปสมทบ โอ้โห ไม่ต้องเดาเลยว่ากลิ่นเงินมันต้องคละคลุ้งขนาดไหน!!

   ใช่!! นี่แหละคือสิ่งที่ผมต้องการ เขียนลงไปเลย!


   - เงิน 150,000 บาท*


   นี่! มันต้องอย่างนี้!! ใส่แม่งทั้งดอกดาวทั้งตัวเอียงทั้งขีดเส้นใต้ อยากจะขีดไฮไลท์ทับด้วยนะแต่หมึกเสือกหมด แต่แค่นี้ก็ลืมไม่ลงแล้ว

   ใช่ไอ้ดิว มึงเป็นนักทวงหนี้ เงินต้องสำคัญที่สุด

   น้องปีใหม่ครับ ถึงพี่จะเดินเกมผิดตั้งแต่เริ่ม แต่ครั้งนี้พี่เอาจริงแน่!!

   เตรียมตัวโดนเก็บได้เลย!


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*


“นางเอกแม่งโคตรเท่ งี้สิวะพลังของอัศวิน” ไอ้ทิมเริ่มชวนวิเคราะห์หลังจากที่พวกเราสามคนเดินออกมาจากโรงหนัง และการที่ตะบี้ตะบันดูดน้ำอัดลมจนหมดแก้วทำให้เราต้องรีบพุ่งไปยังห้องน้ำทันทีที่หนังจบ

   “กูว่าภาคที่แล้วสนุกกว่า ภาคนี้อะไรไม่รู้มีเวทมนตร์ด้วย งี้มันจะเรียกว่าหนังไซไฟได้ไง” ไอ้เอิร์ลทำหน้าเหม็นเบื่อ

   “แต่ดาวที่ยานนางเอกไปตกโคตรตระการตาเลยว่ะ อยากยืมขุมพลังของนักรบดาวนั้นมาใช้ฉิบหาย”

   “เออแต่พวกนักรบเท่จริง กูโคตรชอบอาวุธของพวกแม่งเลย”

   ครับ นี่แหละเพื่อนผม เนิร์ดกันมั้ยล่ะ ทุกครั้งที่ดูหนังมันส์ๆ จบก็จะออกมาโฟ่แตกหน้าโรงกันแบบนี้เสมอ

   “มึงล่ะว่าไงไอ้ดิว?” ไอ้เอิร์ลหันมาถามผมบ้าง

   “ก็สนุกดี”

   “โห่ไรวะ แค่นี้เอง มึงไม่ขบคิดอะไรหน่อยหรือไง”

   “เฮ้อ” ผมถอนหายใจ พยายามมองซ้ายมองขวา ตั้งใจแล้วนี่ครับว่าจะไม่ทำตัวเนิร์ดต่อหน้าคนอื่น พอเห็นว่าไม่มีใครนอกจากเราก็เริ่มพล่ามทันที “กูคิดว่าถ้านางเอกไม่หาเรื่อง อาจารย์แม่งก็คงไม่ตาย แล้วจะบอกให้นะว่าถ้าตัวร้ายไม่ออมมือตอนปะทะกันแม่งเละแน่ โชคดีที่พระเอกเข้ามาช่วยทัน ไม่งั้นแม่งจะโง่มาก และดาบนั่นอะก็บอกอยู่ว่าจะเหมาะกับคนที่คู่ควร กูมองว่ายังไงๆ นางเอกก็ไม่ใช่ผู้ถูกเลือกว่ะ พระเอกตะหาก”

   “…”

   อ้าว มองหน้ากันทำไม อยากถามความเห็นกูเองไม่ใช่เรอะ

   “แหม่ ตั้งแต่มันเปลี่ยนลุคเป็นโอป้าแล้วแม่งเนิร์ดไม่เข้าเลยว่ะ”

   “นั่นดิ” ไอ้ทิมเห็นด้วยกับไอ้เอิร์ล แถมทำแซวด้วยการกระทุ้งสีข้างเล่นเอาผมจุก “เดี๋ยวนี้หัดมาแต่งตงแต่งตัว ได้ข่าวว่าเข้าออกฟิตเนสเป็นบ้าเป็นหลังเลยหนิ”

   “พวกมึงพล่ามอะไรกันวะ” ผมทำเป็นเฉไฉทั้งๆ ที่ในใจยิ้ม หึ แปลว่าบุคคลิกภาพของผมดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด สงสัยต้องเอาหนังสือเล่มนั้นไปรีวิวลงพันดริฟต์ซะหน่อยแล้ว ถือว่าเป็นการส่งต่อกุศลที่ยิ่งใหญ่

   “เฮ้ยมึง” ไอ้ทิมเบิกตากว้าง ตีไหล่ผมป้าบๆ เนื้อแทบบุบ “ดูนั่นๆ ความอุ๋งที่บ่ายสามโมง”

   ผมกับไอ้เอิร์ลหันไปตามนิ้วที่เพื่อนชี้ แล้วก็เห็นร่างผอมๆ ของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง กำลังเดินออกมาจากโรงหนังด้วยท่าทีหัวเสีย คิ้วบางๆ ขมวดเข้าหากันแทบจะผูกเป็นโบว์ ปากนี่เม้มปิดสนิทแทบเป็นเส้นตรง โอ้โห... ใบหน้าโคตรมุ่ยจนอยากจะสกิดถามว่ามีอะไรให้พี่ช่วยแบ่งเบาภาระหรือเปล่าครับน้อง

   แต่เดี๋ยวนะ หน้าตาน้องคนนั้นแม่งคุ้นจังวะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนเลย

   ชิท! จะไม่ให้คุ้นได้ยังไง นี่มันน้องปีใหม่ลูกหนี้ของผมนี่หว่า!!

   สัดดดด ทำไมต้องมาเจอที่นี่ด้วยเนี่ยยยย

   เราสามคนยืนแข็งทื่อเป็นท่อพีวีซีตอนที่น้องเดินเข้ามาใกล้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ขยับตัวเลยนะ แต่กลายเป็นว่าสายตาของน้องกวาดขึ้นมาเจอพวกเราซะเอง และที่สำคัญ ตอนที่น้องจ้องผม คิ้วที่เคยขมวดเป็นปมก่อนหน้ามีทีท่าคลายลง ขาที่กำลังก้าวฉับๆ หยุดกึกห่างจากกลุ่มผมไม่ถึงเมตร ดวงตากลมโตมีทีท่าชั่งใจ คงกำลังสงสัยว่าเคยเห็นผมที่ไหนเหมือนกันล่ะสิ

   “โทษนะครับ” น้องปีใหม่เอียงคอ ทักทายผมอย่างลังเล “ใช่พี่ของน้องปู๊นปู๊นหรือเปล่า?”

   “เฮ้ย!” ไอ้เอิร์ลกระโดดมาหลบหลังผม “มึงรู้จักเขาด้วยเรอะ!”

   ไอ้สัดเงียบๆ เดี๋ยวไก่ตื่น พวกมึงแม่งลุกลนจัง!

   ผมไม่สนใจเพื่อน แต่ตอบน้องเขาแทน พยายามซ่อนรอยยิ้มไว้ภายใต้หน้านิ่งๆ ผมเป็นคนใหม่ครับ เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น สปอร์ต ใจดี กทม. โอตะคนเดิมตายไปแล้ว

   “ใช่ครับ” ผมแยกเขี้ยว

   “โอ้โห! พี่หล่อขึ้นมาก ผมจำแทบไม่ได้เลย”

   สัดดดด จับกูไว้! ใครก็ได้จับแขนกูไว้ กูจะลอย!!

   “อืม” ผมแสร้งทำเป็นเฉยเมย “คนที่น้องเคยด่าว่าเป็นโรคจิตไงล่ะ”

   น้องปีใหม่อ้าปากค้างอย่างรู้สึกผิด หึ พี่แกล้งน้อง พี่แกล้งเอง

   “ผมขอโทษอีกครั้งนะครับ” เชี่ย... น้องไหว้ผมอีกแล้วว่ะ

   “ไม่เป็นไร” ผมกอดอก “จะไปไหนล่ะถึงดูรีบๆ หนังไม่สนุกเหรอ”

   “อ๋อ” ร่างเล็กๆ หันไปมองประตูโรงหนังที่เพิ่งเดินออกมาอย่างหวาดระแวง “พอดีผมมีธุระน่ะครับ”

   “อืม”

   “…”

   ดูเย็นชาไปปะวะ... ไม่น่านะ พระเอกในมังงะเขาก็ซึนแบบนี้กันหมดไม่ใช่หรือไง

   “งั้นผมไปนะครับ”

   เส็งเคร็ง อย่าเพิ่งสิ พี่ไม่ได้มีเจตนาจะผลักไสน้องนะ แค่อยากล้างภาพจากคราวก่อนเท่านั้นเอง

   แต่ถ้าน้องจะไป ผมเป็นใครถึงจะห้ามเขาได้ “โชคดีครับ”

   “…”

   ปีใหม่ยังรู้สึกผิดไม่เลิก น้องยิ้มอายๆ เดินหลบไปอีกทางเพื่อหนีพวกเรา แม้ใจจะอยากมองตามน้องถึงลิฟต์ แต่ผมก็ต้องพยายามทำเป็นยืนนิ่งไม่แสดงท่าทีสนใจ ผมไม่อยากให้น้องมองว่าผมเป็นโรคจิตอีกแล้วล่ะ

   ว่าแต่น้องเขามากับใครวะ

   “โห…” ไอ้สัดเอิร์ลเขาไม่เคยมีฟอร์มครับ ไอ้ห่า มองตามน้องจนคอจะหมุนอยู่แล้ว “นางฟ้ามีจริง”

   “แหม เก็บเงียบเลยนะพ่อ ไม่เล่าให้ฟังเลยว่ารู้จักน้องน่ารักๆ แบบนี้ด้วย” ไอ้ทิมกระทุ้งสีข้าง

   อย่าแซว ไอ้สัดกูเขิน

   “ไปๆ ไปเข้าห้องน้ำ บ่นปวดฉี่กันไม่ใช่เรอะ”

   ผมดันหลังไอ้โอตะสองคนให้เดินไปข้างหน้า เลิกมองตามน้องได้แล้วไอ้พวกบ้า กูยิ่งมีกรณีกับเขาอยู่นะสัด

   จึก จึก

   ผมหยุดเดินตอนที่รู้สึกว่าโดนสกิด ไอ้เพื่อนสองตัวที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเดินนำหน้าไปไกลแล้ว แม่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกมันทิ้งให้ผมจะต้องเจอกับอะไร

   น้องปีใหม่กลับมาทำไมวะเนี่ย!

   “พี่ครับ” สีหน้าของน้องแน่วแน่มาก อยากผลักดันให้ไปแข่งโอลิมปิก

   ผมเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง ยังคงไว้ซึ่งท่าทีเย็นชา “มีอะไรเหรอ?”

   “ผมรู้นะว่าพี่โกรธ แต่ผมนึกว่าพี่จะให้อภัยผมตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว” น้องปีใหม่ว่า ส่วนผมก็จ้องดวงตามึนๆ โปนๆ เหมือนโดนป้ายด้วยพิมเสนอย่างกับคนตกบ่วงแต่ไม่ได้แสดงท่าทีออกมา “ถ้ายังไงผมขอโทษพี่อีกทีนะ”

   “…”

   “จริงๆ ผมอยากได้เบอร์พี่ แต่ผมต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวจะขอมาจากปู๊นปู๊นแล้วกัน”

   “…”

   “ให้ผมเลี้ยงข้าวพี่ไถ่โทษนะ”

   “…”

   “อ้อ แล้วผมจะบอกว่า...” คนตัวเล็กกว่าจ้องผ่านแพขนตางอน “ผมชอบพี่ลุคนี้แหละ”

   ผมมัวแต่อึ้ง ยืนเกร็งจนปากไม่สามารถขยับได้ เลยทำได้แค่ยืนมองหลังเล็กๆ นั้นจากไปอย่างเร่งรีบโดยไม่เอ่ยได้ร่ำลาสักคำ

   ฟู่ว! รอดไป ตกบ่วงอีกแล้วกู ดีนะควบคุมตัวเองได้ค่อนข้างดี แม่งน้องจ้องทีถึงกับต้องกลืนน้ำลายอึกๆ เลยว่ะ

   ชิบหายละ ไม่ได้ตั้งใจให้น้องเขารู้สึกผิดนะ ผมแค่ไม่อยากทำให้ตัวเองน่าสมเพชเกินไป มันจะกระทบกับงานเสริมที่รับมอบหมายมาเท่านั้นเอง

   แต่ผมได้ยินถูกต้องใช่มั้ย น้องเขาจะเลี้ยงข้าวผมงั้นเรอะ!! ที่สำคัญ... ยังบอกอีกว่าชอบลุคนี้ซะด้วย

   ยะฮู้ ถือว่าในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีล่ะวะ ฝันดีแน่กู

   “มึง!”

   ผมเงยหน้าขึ้นมาเมื่อรู้ตัวว่าโดนเรียก จากที่เคยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนหน้านี้เป็นอันต้องสลายทันทีเมื่อเห็นผู้ชายน่าจะอยู่ในวัยมหาลัยทำท่าฟึดฟัดตรงมาทางนี้

   “เห็นคนตัวเล็กๆ มาทางนี้มั้ย!!”

   สัด เขาคุยกับคนแปลกหน้าแบบนี้เหรอ

   แม่งโคตรน่ากลัวอะ “หน้าตาเป็นยังไงครับ”

   “จิ๊!” อ้าว มีสิทธิ์อะไรมาจิ๊ปากใส่กูฮึ “ผอมๆ ตาโปนๆ อ้อนแอ้นปวกเปียก”

   เอ... ทำไมคุณสมบัติคุ้นจังวะ

   น้องปีใหม่หรือเปล่า... งั้นแปลว่าน้องมากับไอ้หน้าปลาจวดนี่เหรอ

   “ไม่เห็นครับ” ปากไวกว่าความคิดครับ ไม่มีทาง ผมจะไม่บอกมันหรอก ไม่รู้ว่าแม่งเป็นคนที่ทำร้ายน้องปีใหม่จนเป็นแผลหรือเปล่า รอยช้ำสีม่วงห้อเลือดยังติดตายากจะลืม

   “เสียเวลาว่ะ!”

   อ้าวไอ้ควาย! ตกแรงค์ ROV มาหรือเรอะถึงหัวร้อนขนาดนี้ น่าจับไปขังรวมกับไอ้ปู๊นปู๊น ฉุนเฉียวแม่งพอกันทั้งคู่

   “ขอโทษด้วยครับ”

   “เฮอะ”

   พ่นลมขนาดนี้ มึงถุยน้ำลายใส่หน้าผากกูเลยสิ! ไอ้เส็งเคร็ง

   ไอ้ปลาริวกิวฟึดฟัดเดินออกไปตามหาสุดที่รักของตัวเอง ตอนที่มันจากไปนั่นเองอยู่ๆ ผมก็มีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาเฉย

   หึ น้องปีใหม่ เพิ่งเลิกกับเสี่ยกำพลอะไรนั่นไม่ทันไร ยืมเงินเขามาก็ยังไม่ได้ใช่ คิดจะมีหนุ่มใหม่อีกเหรอครับ เราแม่งซนใช้ได้เลยทีเดียว เจอกันครั้งหน้าจับเขย่าแม่งให้เข็ด

   เดี๋ยวดิ ผมจะโมโหทำไมวะ เขาจะมากับใครอยู่กับใครก็เรื่องของเขาดิ ท่าจะบ้า พอๆ เลิกคิดเลย

   ว่าแล้วผมก็จัดการล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออกทันที

   “ฮัลโหลไอ้ปู๊น ได้มีคนขอเบอร์กูจากมึงยัง”


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*


ช่วงเวลาปิดเทอมของใครหลายๆ คนอาจจะคือสวรรค์ เราว่างจนสามารถทำอะไรได้เต็มที่ แต่สำหรับคนอยากรวยอย่างผม เวลานี้คือบ่อเงินบ่อทองดีๆ นี่เอง

   ทุกๆ ซัมเมอร์ แบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ จะร่วมกันจัดสัปดาห์แฟชั่นโชว์ แปลว่าจะมีนายแบบนางแบบมากมายตระเวณแคสติ้งกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อจะได้เดินแสดงผลงานของพวกเขา ถ้าคุณเป็นตัวท็อปคุณอาจจะได้ร่วมงานกับทุกแบรนด์ก็ได้ ปีที่แล้วผมได้เดินตั้งห้าแบรนด์ เดินแม่งจนขาโก่งเป็นตัวโอ แต่ถ้าเทียบเงินเม็ดเงินที่ได้ถือคุ้มค่าอยู่

   “โอ้โห น้องดิวน่ารักมากกกก” พี่ช่างแต่งหน้าร้องออกมาตอนทำหน้าที่เสร็จ ก่อนจะลุกออกไปพัก

   ผมเหล่มองกระจก เชี่ยยยย หล่อว่ะ เอาจริงนะ มันคือเรื่องมหัศจรรย์มาก ปกติผมอาจจะเป็นคนจืดๆ แต่พอได้แต่งหน้าแต่ตัวตอนเดินแบบหรือถ่ายแบบเท่านั้นแหละ ไม่รู้ทำไมถึงดูดีขึ้นอย่างกับเป็นคนละคน

   “ไงมึง นมแน่นเชียว” บรู๊ซ เพื่อนจากโมเดลลิ่งเดียวกันเข้ามาทิ้งตัวบนเก้าอี้ข้างๆ แถมมองหน้าอกผมตาเป็นมัน

   “ชอบปะ” ผมยิ้มกวนๆ

   “เป็นสายล่ำแล้วเหรอ”

   “ช่วงนี้เข้าฟิตเนสบ่อย” ผมว่า

   “อืม…” บรู๊ซทำเป็นมองซ้ายมองขวา พอเห็นว่ารอบข้างไม่มีใครจึงพูดต่อ “งานไปถึงไหนแล้ว”


   ผมเลิกคิ้ว “น้องปีใหม่น่ะเหรอ อยากรู้ไปทำไม”

   “เงินตั้งเป็นแสนนะดิว น่าตื่นเต้นจะตาย”

   ผมขำเมื่อเห็นดวงตาที่เป็นประกายของคนข้างๆ “ว่าแต่บรู๊ซเถอะ งานของตัวเองเป็นไงบ้าง”

   อีกฝ่ายคงรู้ว่าผมพยายามเปลี่ยนเรื่องก็เลยเบ้ปาก “เพิ่งปิดจ๊อบไปเมื่อวาน ค่าตอบแทนตั้งเจ็ดหมื่น”

   ผมใจแป้วทันที อย่าพูดถึงเรื่องเงินเซ่ พอคิดได้ว่างานตัวเองยังไม่ไปถึงไหนแล้วแม่งเจ็บใจสัดๆ เอาวะ ต้องเดินหน้าสักที อยากจับเงินแสนใจจะขาดแล้ว

   “น้องจักรวาลนายแบบใหม่มาแล้วค่า!!” พี่สต๊าฟคนหนึ่งตะโกนลั่นห้อง จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงใสๆ พร่ำขอโทษขอโพย

   “มาแล้วครับ มาแล้วครับ มาแล้วครับ” บุคคลปริศนาวิ่งเข้า “ขอโทษทุกคนที่ช้านะครับ!”

   น้องคนนั้นยกมือไหว้ตลอดทาง รวมถึงผมกับบรู๊ซที่นั่งอยู่ด้วย ผมยกมือรับไหว้แบบเก้ๆ กังๆ แต่ก็ต้องงะจังงังเมื่อเห็นหน้าน้องคนนั้นชัดๆ เต็มสองตา

   “อ้าว” ผมอ้าปากค้าง

   น้องปีใหม่! มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงวะ!!

   สัด แล้วมีคนมาคุมซะด้วยนะ ไอ้หัวร้อนที่เจอในโรงหนังคราวก่อนไงล่ะ เดาไม่ผิดจริงๆ

   “เฮ้ยพี่” น้องเขาดูตกใจไม่แพ้กัน แต่พอเห็นหน้าบรู๊ซเท่านั้นแหละถึงกับเจื่อน “สวัสดีครับพี่”

   “วันนี้มีรับน้องไม่ใช่เหรอ” คนข้างๆ ผมตีหน้านิ่ง

   “พอดีผมขออนุญาตออกมาครับ ถ้าแคสติ้งเสร็จผมจะกลับไปมหาลัยแน่นอน”

   บรู๊ซพยักหน้าเป็นอันรับรู้ เออว่ะ ลืมไปว่่าเขาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน เคยเห็นแวบๆ ในข้อมูลที่บอสส่งมาให้ว่าเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์

   “บังเอิญจังเลยนะครับ”

   ผมหันซ้ายหันขวา พูดกับพี่?

   “เอ่อ...” ผมอ้ำอึ้งตอนที่เห็นบรู๊ซหรี่ตามองอย่างสงสัย คงงงอะดิว่าน้องปีใหม่รู้จักผมได้ยังไง “มาแคสติ้งเหมือนกันสินะ”

   “ครับ ผมอาจจะใหม่ในวงการนี้ ฝากตัวด้วยนะครับ”

   ไม่ต้องไหว้ บอกกี่ทีแล้วว่าให้มากราบที่อก

   แฮ่กได้แค่ในความคิดเท่านั้นแหละครับ ผมทำเป็นพยักหน้ารับรู้ไปเท่านั้นเอง เราจะต้องไม่แสดงความโอตะที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้อีก เสียงานหมด

   “ไปรอข้างนอกก่อน” โอ้โห ้น้องหันไปสั่งไอ้หมาที่ด้วยด้วยน้ำเสียงที่โคตรวางมาด ดูเด่ะ ไอ้นั่นได้แค่ยอมทำตามแม้จะดูไม่ค่อยพอใจอยู่หน่อยๆ

   “น้องจักรวาลมาแต่งหน้าทางนี้จ้า”

   พอฝ่ายน้องเดินไป บรู๊ซก็ซักถามผมทันที “ไปรู้จักกันได้ยังไงอะ?”

   “เรื่องมันยาว ไว้อธิบายทีหลังได้มั้ย”

   “แบบนี้มันจะไม่เสียงานเหรอ?”

   “ใจเย็นน่าบรู๊ซ เรารู้ตัวว่ากำลังจะทำอะไร”

   คนข้างๆ นิ่งไปถนัด ทำท่าทีเย่อหยิ่งเหมือนที่เป็นมาตลอด “ก็ตามใจ ระวังจะชวดเงินแสนนะ ไม่งั้นเราเสียบแทนแน่”

   แล้วร่างสูงๆ ก็เดินออกไปจากห้อง

   แหม่ มีขู่ด้วยว่ะ มันน่าจับนอนราบตีก้นด้วยฟุตเหล็กให้ร้องโอดโอย

   “ดิวอี้เนอะ”

   “ครับ!”

   ไอ้เราก็นึกว่าใครเรียกรีบสะบัดหน้าหันไปหาให้ไว สุดท้ายเห็นแต่พี่ช่างแต่งหน้ากับน้องปีใหม่หัวเราะคิกคักกันอยู่หน้ากระจก

   น้องปีใหม่เม้มปากเหมือนพยายามห้ามรอยยิ้ม “มันคือการแต่งหน้าครับ หน้ามันๆ แบบเกาหลีอะ”

   “อ้อ”

   สัด โชว์โง่ให้เขาหัวเราะเยาะ เส็งเคร็งเอ๊ย

   “ดิวอี้ เดี๋ยวเรามาแต่งตัวตรงนี้หน่อยนะ”

   “ครับ”

   ผมลุกขึ้นไปยืนหน้าเซ็ต ตรงนั้นมีเสื้อของแบรนด์แขนเรียงเป็นตับ พี่สไตลิสสำรวจรูปร่างผมอย่างพินิจพิเคราะห์ว่าเหมาะกับสินค้าชิ้นไหน

   “อ่ะ” พี่คนสวยยื่นกางเกงมาให้ “ลองใส่ตัวนี้ซิ”

   ในฐานะนายแบบเราต้องห้ามอายครับ เพราะว่าเวลาฟิตติ้ง ถ้าเขาสั่งให้ลองเสื้อผ้าหมายความว่าเราต้องทำกันสดๆ ตรงนั้นเลย ผมเลยปลดเข็มขัด รูดซิปกางเกงยีน จัดการถอดมันไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม

   “ไม่เอาๆ หาตัวใหม่ดีกว่า”

   อ้าวพี่ ยังไม่ทันหยิบก็เปลี่ยนใจซะแล้ว อะไรของพี่เนี่ย ผมค้างเติ่งมีแค่กางเกงในปกปิดร่างกายอยู่ตัวเดียวเห็นมั้ยคร้าบบบบ

   “พี่ไม่รู้ว่าน้องจะเหมาะกับตัวไหนมากกว่ากันว่ะ” พี่คนสวยเกาคาง “สงสัยต้องหานายแบบอีกคนมาลอง”

   แล้วจะหาที่ไหนได้ล่ะครับ ในนี้มีผู้ชายอีกที่ไหนนอกจาก...

   เวรแล้วไง!

   ผมกับพี่สไตลิสหันไปทางน้องปีใหม่พร้อมกัน

   “น้องจักรวาล” พี่สไตลิสกวักมือเรียกคนที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จพอดี “มาตรงนี้หน่อยสิ”

   เอ่อพี่... จะเรียกน้องเขามาจริงอะ ชิท ชิท ชิท

   น้องปีใหม่ยิ้มมาแต่ไกล ผมได้แต่ถอยติดผนังตอนที่น้องก้าวเข้ามาในเซ็ต

   แล้วทำไมคนอื่นเรียกน้องว่าจักรวาลวะ เต็มยศเชียว สงสัยตั้งแต่ตอนเดินเข้ามาแล้ว

   ทำขรึมถามหน่อยก็ได้ “ทำไมไม่ให้พี่ๆ เขาเรียกชื่อเล่น”

   คนตัวเล็กหันมายิ้ม “โมเดลลิ่งบอกว่าชื่อปีใหม่มันโหล เลยใช้ชื่อจริงไปเลยอะครับ”

   “แล้วพี่ต้องเรียกว่าอะไร”

   “ตามใจพี่เลยครับ”

   “อ่อ”

   “แต่...” สาบานเลยว่าผมโคตรเกลียดการปรายตาของน้องเขามาก

   “…”

   “พี่จะเรียกว่าที่รักก็ได้นะฮะ”

   !!!

   
[อ่านต่อด้านล่าง]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2018 21:26:50 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
[อ่านต่อด้านล่าง]

“ฮ่าๆๆ” คนหน้าใสเอียงคอหัวเราะคิกคัก “ผมแหย่เล่นนะพี่”

   “…”

   “พี่เรียกผมว่าปีใหม่แหละ”

   ฮึ่มมมม แหย่เหรอ หนูแหย่พี่ได้แสบมาก ระวังโดนแหย่กลับนะน้อง จะเอาให้จุกเลย

   “อ่ะได้ละ เดี๋ยวดิวอี้ใส่ตัวนี้นะ ส่วนจักรวาลตัวนี้จ้ะ” พี่สไตล์ลิสยื่นกางเกงให้พวกเราทั้งสองคน

   “ผมต้องถอดตรงนี้เลยใช่มั้ยครับ”

   “ใช่จ้ะ”

   ขวับ! ผมสะบัดหัว ฉิบหายละไงกู ไม่ได้!!!

   ไม่นะน้อง ไม่ๆๆๆ ไปถอดในห้องน้ำโน่น เชื่อพี่

   พรึ่บ!

   ผ่าง... โอ้ววววว แสงสีขาวทำลายโสตประสาทผมแล้วเรียบร้อย

   “ดิวอี้... ยืนตัวงออยู่ทำไม ไม่ใส่กางเกงล่ะจ๊ะ?”

   “แฮะๆ” ผมยิ้มแห้งๆ ในขณะที่เอากางเกงปกปิดความโค้งมนของมะม่วงอกร่องทองแสนหวาน “ปะ... ปวดท้องครับ”

   “ไหวมั้ยพี่”

   สัด! อย่าแตะตัวกู๊วววววววว

   “ไหวๆ” ผมเหงื่อตก พยายามเดินหนีให้พ้นมือน้อง “รอแป๊บนึง น่าจะไหว”

   “เอาดีๆ พี่”

   โอ๊ย ไม่ต้องแตะท้องกูก็ได้!!

   ฮึ่ยยย แล้วมือแม่งก็นิ่มจังไอ้ชิบหาย

   ผมหายใจเข้าออก พยายามนึกถึงศีลธรรมจรรยาเพื่อลดไฟราคะในจิตใจ พออะไรๆ เริ่มเข้าที่เข้าทางผมจึงหันหลังแล้วใส่กางเกงที่ถืออยู่มานานได้สักที

   “โอเค สวยเลย พี่ชอบหุ่นเรานะ ดีกว่าแต่ก่อนเยอะ” พี่สไตล์ลิสยกนิ้ว “เดี๋ยวดิวออกไปก่อน เดี๋ยวรอพวกเสื้อทีเดียว พี่ขอหากางเกงเหมาะๆ ให้น้องจักรวาลก่อนนะจ๊ะ”

   “ครับ” ฮู่ว รอดแล้วกู

   “ตายแล้ว รอยอะไรน่ะจักรวาล!”

   ยังเดินไปไม่ทันไรก็สะดุดกึก จริงสิ เมื่อกี้แอบดูแต่ต้นขา ไม่ได้มองท่อนบนเล้ยยย รอยแผลนั้นยังไม่หายสินะ

   ผมแอบมองน้องปีใหม่อยู่หลังเสา เห็นน้องทำหน้าขืนๆ ตอนที่พี่สไตลิสลูบรอยม่วงๆ ใต้หน้าอกข้างซ้ายด้วยความเป็นห่วง โว๊ะ อย่ากดแรงนะครับ น้องเขาคงเจ็บ

   เดี๋ยวดิไอ้ดิว มึงเลิกแฮ่กได้แล้ว นี่แหละคือหลักฐานที่มึงสามารถเก็บไว้แบล็คเมล์ได้

   ผมคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา จัดการซูมไปยังจุดเด่นหราที่ปรากฏอยู่บนเนื้อหนังอันขาวบริสุทธิ์

   หวืบบบบ แชะ~

   สัด! ใช่ที่ไหนล่ะนี่มันนม รีบลบแล้วถ่ายใหม่ให้ไวเลย หัวมึงนี่คิดดีไม่ได้จริงๆ

   หวืบบบบ แชะ~

   หึๆ เรียบร้อย...

   ร่องรอยการโดนทำร้ายอยู่บนร่างกายเด็กหนุ่มหน้าใส ถ้าขู่ว่าจะปล่อยลงโซเชียล ยังไงก็ต้องคืนเงิน!

   บอกแล้วไง พี่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่ออีกแล้วครับน้อง



*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



   การแคสติ้งผ่านไปได้ด้วยดี ผมบอกลาบรู๊ซแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกับคอนโด แต่พอคว้ากระเป๋าทำท่าจะท่าออกจากห้องเท่านั้นแหละ สายตาผมดันไปเห็นความขาวสะดุดตาเข้า

   น้องปีใหม่ยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ร่างบางๆ นั้นยังคงสวมแค่กางเกงในกับถุงเท้ายาวถึงเข่า มีกิ๊ฟสีชมพูดสามตัวติดอยู่บนหัวซะด้วย ยอมรับครับว่าเห็นแล้วอ้าปากค้าง ไหนจะท่าทางเงอะงะในการกินโดนัทแบบไม่ให้มันหกนั่นอีก สดใสจังนะมึง เห็นมั้ยเนี่ยว่าคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ ไม่อายบ้างหรือไง

   ตอนแรกว่าจะไม่ยุ่งแล้วนะ งอนที่ทำให้ตัวงอไปต่อไม่ถูก แต่ถ้าจะไม่พูดแม่งก็เกินไป ยืนโทงๆ ให้คนอื่นแทะโลมทางสายตาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกันเล่า

   “รีบใส่เสื้อผ้าดีมั้ย?” ผมยืนกอดอกประจันหน้ากับคนที่เตี้ยกว่า

   ปีใหม่อ้าปากค้าง จังหวะที่กำลังจะงับโดนัทในมือพอดิบพอดี “หืม?”

   “ใส่เสื้อผ้าเถอะ”

   “ผมกลัวไอซิ่งมันเลอะเสื้อ”

   “ก็เลยยืนแก้ผ้า?”

   “พี่ดุจัง” คิ้วสวยๆ นั้นย่นเข้าหากันนิดหน่อย แต่รอยยิ้มก็ยังปรากฏอยู่ที่ปากอยู่ดี “ก็ได้ครับ เดี๋ยวผม... เฮ้ย!

   แหมะ!

   ไส้ครีมในโดนัทหยดลงมากลางหน้าอกที่ผอมกะหร่อง เวรเอ๊ย แล้วตาผมก็มองตามด้วยนะ มันหยดแหมะลงเหนือจุดสีชมพูสวยๆ นั้นพอดิบพอดี

   “เห็นมั้ยล่ะพี่” ปีใหม่ทำสายตาดุๆ “ดีนะยังไม่ใส่เสื้อผ้า”

   เฮ้ยแล้วนั่นจะทำอะไร

   เดี๋ยวปีใหม่ น้องทำแบบนี้ต่อหน้าพี่ไม่ได้!!

   น้องเอานิ้วเรียวๆ ปาดครีมขึ้นมาดูดต่อ!!

   “จ๊วบ”

   “…”

   “แฮะๆ” ยิ้ม ยิ้มอีกแล้ว! “เสียดายอะ”

   เอื้ออออออ มันจะเกิดลิมิตพี่แล้วนะน้อง นี่กูกำลังมองอะไรอยู่ หนังเอวีงั้นเรอะ สงสัยต้องให้ดุแล้วล่ะมั้งเนี่ย ไม่เคยเชื่อฟังกันเล้ย

   “ใส่เสื้อผ้า!”

   “…”

   “แล้วกลับบ้านซะ” ผมกระซิบปิดท้าย

   ตาโปนๆ นั้นทำงงอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายน้องปีใหม่ก็ยอมวางขนมที่ยังกินไม่หมดไว้บนโต๊ะ จัดการคว้าเสื้อผ้าของตัวเองและรีบวิ่งเข้าห้องแต่งตัวทันที

   “พี่ครับ!” เสียงนั้นดังมาจากหลังผ้าม่าน

   “อะไร!?”

   “พี่รอผมก่อนนะ”

   จะให้รอทำไมวะ

   ผ่านไปไม่นาน น้องปีใหม่ในสภาพที่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด น้องหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นบ่า เดินตรงรี่มายิ้มกว้างตรงหน้าผมทันที

   “อะไร”

   คนตัวเล็กกระตุกยิ้ม “อะไรเนี่ย ทำไมวันนี้ดูเย็นชาจัง”

   “ก็ปกติ”

   “น่ารักให้เหมือนตอนที่เจอกันครั้งแรกสิครับ”

   “ที่น้องหาว่าพี่โรคจิตอะนะ”

   “ไม่ช่ายยยย” น้องโบกมือให้ยุ่ง “หมายถึงพี่อะ คุยกับผมแบบคนรู้จักกันหน่อยสิ นี่อะไร ทำอย่างกับเจอกันครั้งแรกไปได้ จะตีเบลอว่าไม่เคยคุยกับผมเหรอ ไม่ทันแล้วมั้ยล่ะพี่ ฮ่าๆ”

   “…”

   ผมได้แต่ยืดกอดอกนิ่ง ตกตะลึงกับความสดใสตรงหน้าไปแล้วเรียบร้อย

   เชี่ยยยย คนอะไรวะหัวเราะพร้อมๆ กับพูดได้ ความสามารถพิเศษที่น่ายกย่องจนอยากซื้อบัตรจับมือเพื่อซับพอร์ต

   “จะกลับได้หรือยัง” ผมทำท่าจะเดินหนี

   “เดี๋ยวดิพี่” เฮ้ย มีการจับแขนผมด้วยว่ะ “ผมเคยบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพี่ไม่ใช่หรือไงเล่า”

   ใช่จ้า แล้วใครบอกกันน้าว่าจะขอเบอร์มาจากไอ้ปู๊น ป่าวนี้ยังไม่มีใครโทรมาเล้ย

   “อืม นึกว่าลืมซะแล้ว”

   “คิกๆ ดูทำท่าทาง เปลี่ยนลุคนิดหน่อยก็ทำขรึมเลยนะ” น้องปีใหม่ส่ายหัว “แต่ผมยังเลี้ยงพี่ไม่ได้หรอกน้า พอดีวันนี้ต้องกลับไปรับน้องที่ม.ต่ออะ”

   “ไม่เป็นไร ถ้าลำบากไม่ต้องก็ได้นะ”

   ปฏิเสธสิ ปฏิเสธ ปฏิเสธ!

   “ไม่ได้หรอก ผมสัญญากับพี่ไว้แล้ว”

   เย่ส!! ดีมากลูกที่รักษาสัญญา คนอย่างน้องมีแต่เจริญๆ

   “อืม ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย ไว้เจอกันนะ”

   “โอ๊ยพี่! ผมซื้อได้มั้ยคำว่าอืมอะ เก็บไว้ใช้ในไลน์เถอะ” ผมแอบขำในใจตอนที่น้องบุ้ยปาก นี่โกรธแล้วใช่มั้ยฮะ! “ถ้างั้นก็สวัสดีนะครับ”

   พอน้องยกมือไหว้ ผมก็รีบกระชับกระเป๋าให้มั่นทันที เอาล่ะถึงเวลากลับไปนอน เดี๋ยวเปิดเทอมจะไม่ได้นอนเอา

   “พี่ครับ!”

   “…”

   อะไรอีกล่ะวะ

   น้องปีใหม่ทำหน้ารู้สึกผิด ยอมรับครับว่าเห็นแล้วโกรธไม่ลง “หืม?”

   “เอ่อ... ที่นี่มีทางออกไหนอีกมั้ยที่ไม่ใช่ประตูข้างหน้า”

   “ทำไมอะ มีคนรอรับอยู่ไม่ใช่เหรอ”

   “ก็ใช่ครับ แต่ว่าผมไม่อยากเจอเขาแล้ว” น้องก้มหน้า ไม่รู้ว่ากังวลผมจะโกรธเอาหรือเปล่า “พี่ช่วยผมหน่อยได้มั้ย”

   “…”

   สัดเอ๊ย คนอะไรทำหน้าเศร้าได้ขนาดนี้วะ ยิ่งดวงตาโปนๆ เหมือนโดนป้ายพิมเสณแบบนี้ แม่งอย่างกับโลกกำลังจะแตกอยู่รอมร่อ

   “มีอีกทาง แต่ต้องผ่านทางระเบียงข้างหลัง” ผมกอดอก “คิดว่ากระโดดจากชั้นสองไหวมั้ย?”

   น้องปีใหม่ระบายยิ้ม “ไหวครับ สบายมาก!”

   “งั้นไปกับพี่ รถพี่จอดอยู่ตรงนั้นพอดี”

   “เฮ้ย พี่แค่พาผมออกไปก็พอ เดี่๋ยวผมหาทางกลับเอง”

   “จะกลับม.ไม่ใช่หรือไง คอนโดพี่อยู่ใกล้ๆ กัน ต้องไปทางนั้นอยู่แล้ว”

   “จะดีเหรอครับ”

   “แล้วแต่นะ เห็นจะหนี พี่ก็แค่ยื่นมือช่วย”

   น้องปีใหม่ชั่งใจอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายแล้วก็พยักหน้าซ้ำๆ จนผมเผลอยิ้ม “ก็ได้ครับ”

   “ตามมา”

   ผมหันหลังเดินนำ พอพ้นสายตาน้องเขาเท่านั้นแหละ แก้มระเบิดตู้มมมม ยิ้มแบบไม่กลัวใครหาว่าบ้าเลยครับ

   เห็นดื้อๆ จริงๆ ก็เป็นเด็กดีเหมือนกันนี่หว่า


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



“ตรงไหน”

   “เฮ้ยพี่ จอดหน้าม.นี่ก็ได้ ไม่ต้องเลี้ยวเข้ามาหรอก”

   “ไม่ทันแล้ว” หักพวงมาลัยขนาดนี้ดื้อไม่ได้แล้วนะน้อง “สรุปจะลงที่ไหน หน้าตึกสินกำ?”

   “ครับ รบกวนด้วยนะพี่”

   หึ มารยาทงามยกมือไหว้แล้วยกมือไหว้อีก อยากมีลูกน่ารักแบบนี้ว่ะ

   ผมชะลอจอดที่ลานกว้างๆ ใกล้ๆ ตึกที่ว่านั้น ไม่ใกล้ไม่ไกลมีน้องๆ ว่าที่ปีหนึ่งนั่งเข้าระเบียบโดนพี่ว้ากตะโกนด่าจนตัวสั่น ถ้ามองไม่ผิดน่าจะนำทีมโดยไอ้อู๋ประธานรุ่นสินกำผู้เคยอยู่ชมรมแอนิเมะคลับกับผมตอนปีหนึ่ง ใกล้ๆ กันมีสาวผมสั้นย้อมสีแดงยืนเท้าเอวบนส้นสูงที่สูงอย่างกับยืนเขย่ง ส่วนด้านหลังน้องๆ มีก้อนสีเหลืองๆ นั่งแหมะดมยาดมอยู่ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ผู้ใส่เสื้อยืดสีมัสตาร์ดคนนี้คือกุ้งสินกำคนที่ไอ้ปู๊นน้องชายผมอยากถ่ายรูปด้วยจนตัวสั่นนั่นเอง

   “ดูน่าสนุกดีนิ” ผมพูดออกมา เห็นบรรยากาศแล้วคิดถึงสมัยเรียนปีหนึ่ง ตอนนั้นทุกคนต่างตกใจกับวัฒนธรรมบ้ำระห่ำของคณะนี้

   “สนุกดีนะพี่ แต่เหนื่อยโคตรเลยว่ะ” คนข้างๆ ผมทำหน้ามุ่ย “เออ! พี่รุ่นเดียวกับพวกพี่ๆ เขานี่หว่า สืบให้หน่อยสิว่าพี่เทคผมคือใคร”

   “ชื่ออะไรล่ะ”

   “พี่เจี๊ยบ”

   “เออ ไว้ถามให้” ผมพยักหน้า “แต่อย่าไปอยากรู้เลย พี่เทคคือเสน่ห์ของการรับน้อง เก็บไว้เป็นเซอร์ไพร์สดีกว่า”

   “นั่นสินะครับ” สุดท้ายก็ยอมพยักหน้าเห็นด้วย “ผมไปแล้วนะ”

   “เดี๋ยว” ผมรั้งน้องเขาไว้ ว่าจะพูดอะไรหน่อย เห็นมานานแล้วรู้สึกอึดอัด

   ตึก ตึก

   ผมเคาะไปที่ก้านจูปาจุ๊บที่โผล่ออกมาจากช่องปากของน้องปีใหม่ซึ่งเจ้าตัวดูดแจ๊บๆ โชยกลิ่นสตรอเบอร์รี่มาตลอดทาง ถึงจะดูน่ารัก ในฐานะหมอฟันเห็นแล้วมันอึดอัด

   “อย่าอมมันบ่อยรู้มั้ย” ผมขมวดคิ้ว “ชอบกินของหวานหรือไง ก่อนนี้ก็โดนัท นี่ก็จูปาจุ๊บ เดี่๋ยวฟันผุกันพอดี”

   “ผมตรวจฟันตลอดๆ แหละพี่”

   “นั่นไง ทำเก่ง”

   “อ้าว” จู่ๆ น้องเขาก็ขยับตัวหันเข้าหาผม “นี่พี่คิดจะดุผมอีกแล้วเหรอ?”

   “…”

   เชี่ย ทำไมกูรู้สึกแปลกๆ วะ เหมือนกับโดนข่ม

   “อย่ามาทำเหมือนกับว่าผมเป็นหมาของพี่น้า”

   “…”

   “อ้าปาก”

   “ฮะ!?” อะไรวะ อยู่ดีๆ ก็มาสั่ง

   “อ้า - ปาก”

   “…”

   อยู่ๆ ตาน้องปีใหม่ก็แข็งซะจนผมใจสั่น จะว่ากลัวก็ไม่ใช่ ออกแนวหวั่นๆ มากกว่า แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามอย่างที่อีกฝ่ายว่าโดยดีครับ

   “กินแทนผมหน่อย”

   “เฮ้ย อุบ OxO

   ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จูปาจุ๊บที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่ในปากน้องปีใหม่ บัดนี้มันย้ายมาในปากของผมเรียบร้อย ด้วยการป้อนของเจ้าตัวเอง!

   อะไรกันวะเนี่ย อ้ากกกกกกกกกก

   “คิกๆๆ”

   หัวเราะอะไรวะไอ้เด็กบ้า!

   “…”

   “ผมเสียดายอะ พี่คงไม่รังเกียจเนอะ”

   อืม... แจ้บๆๆ ก็หวานดีหนิ ไม่รู้ว่าหวานที่รสสตรอเบอร์รี่หรือหวานที่รสปากน้อง

   “ผมไปแล้วนะครับ ขอบคุณนะ”

   อ้าว แล้วคิดจะหนีลงจากรถไปง่ายๆ ทั้งๆ ที่พี่กำลังอึ้งอยู่แบบนี้อะเหรอไอ้หนู!

   “โอ๊ย เกือบลืม” น้องปีใหม่กระชากประตูออกอีกครั้ง “ขอบคุณนะครับที่พาผมหนีออกมา ไม่ได้พี่ผมแย่เลย”

   อยู่ๆ ก็ทำหน้าจริงจัง อะไรของเขาวะ เดายากจริงๆ

   “ไม่เป็นไร”

   “พี่อิวอี้ครับ”

   “ว่าไง”

   น้องปีใหม่เอียงคอพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส “ไม่มีอะไรครับ แค่อยากทดสอบว่าพี่ชื่อดิวอี้จริงๆ หรือเปล่า”

   “…”

   “ผมรู้ชื่อพี่ตั้งแต่ที่ห้องแต่งหน้าแล้ว” โว้ยยย เลิกยิ้มแบบนี้ซะที มัน... แฮ่ก แฮ่กจนคุมไม่อยู่แล้ว “ส่วนผมปีใหม่นะ”

   “อืม รู้”

   “แต่ยังไงผมก็ยังรอให้พี่เรียกว่าที่รักอยู่จริงๆ นะ”

   “…”

   “คิกๆ ไปแล้วครับ!”

   ปึก!

   พอประตูกระแทกปิดเท่านั้นแหละครับ มือไม้ผมอ่อนทิ้งลงข้างตัวทันที ตูดนี่แทบจะพาตัวไหลไปกองรวมกันอยู่ที่คันเร่ง สัดเอ๊ยยยย เก็บอารมณ์ต่อหน้าน้องแม่งไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วดูที่มันทำ อย่างนี้เขาเรียกว่าอ่อยหรือยั่วยวนโดยธรรมชาติวะ!!

   แต่ถึงยังไงก็เถอะครับ วันนี้น้องแม่งแฮ่กชิบหาย

   เวรเอ๊ย สงสัยคืนนี้ต้องแวะซื้อบรีส


TBC*



 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


มาอ่านตอนที่ 2 ต่อกันเลย
กับการทำขรึมของหนุ่มโอตะสุดหล่อดิวอี้นะฮะ
ไม่รู้ว่าเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวปนเปกันไปหมด จะรอดรึเปล่าาาาา

ขอให้พรุ่งนี้เป็นวันทำงานที่สดใสนะครับ จุ้บบๆๆๆ

พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #เจ้าจักรวาล ก็ได้นะฮัพ

ถ้าถูกใจ ฝากคอมเม้นท์ บวกเป็ด เป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะคร้าบ

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
โอ๊ยยยยยยยย จริงๆ ตัวละครก็ห่างกันไม่มากนะ แต่อ่านแล้วได้กลิ่นโชตะมากๆ 5555
ตอนแรกนี่แอบคิดว่า อุ๊ย น้องปีใหม่ต้องเป็นร่างอวตารแทนน้องกุ้งน่ารักแน่ๆ
ที่ไหนได้! นังเด็กนี่มันร้าย! ในความซื่อมีความอ่อย มีความพูดไปหัวเราะไป นายเอก AV นิปปอน
จะเสร็จเขาไหมหนอดิวอี้ เจอน้ำถอดทีก็ลืมการลืมงานตัวงอเป็นกุ้งแล้ว สงสารรรร 555

 :a5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดิวอี้เอย  ตามหนี้ให้ได้นะ เอาใจช่วยจ้า  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สติสตังค์เตลิดหมดแล้วดิวอี้

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารดิวอี้เค้านะคะ 55555555

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หนี้ที่ให้ทวงคงไม่ได้แล้วแหละ คุณกำพล

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ตอนดิวอี้บรรยายว่าน้องใส่กางเกงในถุงเท้ายาวนี่มัน แฮ่กจริงๆ :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฮ่าๆๆเรื่องนี้ถ้าให้เทียบก็เหมือนน้องกุ้งเวอร์ชั่นอัพเกรดคือเพิ่มความอ่อยความมีมารยาเข้ามา พี่ดิวอี้โดนน้องอ่อยขนาดนี้ไม่รอดแน่ นี่ขนาดเจอแค่นี้ยังมือไม้อ่อนตัวเหลวเป็นน้ำเลย นี่เดาว่าเป้าหมายเงินแสนห้าของดิวอี้อีกคงได้เอาไปใช้หนี้แทนน้องปีใหม่แน่ๆอะ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3

3


แหย่อยู่นั่นแหละ



   แม้จะปิดเทอม แต่อย่าลืมว่าเราอยู่ปีสองครับ และหน้าที่สำคัญมากๆ ของปีสองอย่างเราก็คือการรับน้องปีหนึ่ง แก๊งสามแยกปากอุ๋งของเราจึงต้องพาร่างกายอันขี้เกียจๆ ออกจากคอนโดมาที่หน้าตึกคณะทันตะแพทย์ศาสตร์อย่างจำใจ ถึงจะไม่ค่อยอยากยุ่งกับระบบรับน้องแค่ไหน แต่พวกผมก็สุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่เอาเปรียบเพื่อนครับ

   “ปีนี้น้องๆ ไม่มีใครแฮ่กๆ เลยว่ะ”

   “มึงไปหาหมอดีมั้ยฮึ อะไรมันจะหมกมุ่นขนาดนั้นวะ” ผมที่นั่งกระดิกเท้าอยู่ถึงกับทำหน้าเอือมใส่เอิร์ลเพื่อนรัก ไอ้ห่านี่แม่งก็พูดไม่เคยพ้นเรื่องอะไรพวกนี้เลยไอ้ห่า สู้ผมก็ไม่ได้ ขรึมๆ คูลๆ (แบบเสแสร้งแกล้งทำ)

   “ไอ้ควาย อย่าให้พวกกูรู้ความลับมึงนะ”

   “ฮะ” ผมนิ่วหน้า “ความลับอะไรวะ?”

   “กูกับไอ้เอิร์ลกำลังคิดว่ามึงเปลี่ยนไป” ไอ้ทิมหรี่ตาทำเป็นจับผิด “น่าจะมีเมียหรืออะไรสักอย่าง”

   “เพ้อเจ้อว่ะ” แล้วทำไมผมต้องทำเป็นเบนหน้าไปทางอื่นด้วยวะ

   “มึงทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่หันมาดูแลตัวเองแล้ว” ไอ้ทิมยังคงคาดคั้นไม่เลิก “จะยอมรับมาดีๆ หรือให้พวกกูจับมึงไปเค้น”

   “เค้นเหี้ยไร”

   “เค้นนมมั้งสัด! เค้นความลับจากมึงอะ”

   ผมยิ้มกวนตีน “อย่าสาระแนจ้า”

   แต่ขณะที่พวกเรากำลังพูดคุยกันอย่างออกรสอยู่นั้นก็มีน้องคณะกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ผมสำรวจป้ายชื่อเห็นว่าหนึ่งในนั้นมีน้องรหัสผมอยู่ด้วย ‘สมาย 0734’ เด็กหนุ่มจากเหนือหน้าตาบ้านๆ ขี้เก๊กนิดๆ แต่พอดูรวมๆ แล้วก็เป็นคนสัปปะรังเคที่น่าคบดี ดูจริงใจ

   “ไรครับ” ไอ้เอิร์ลกอดอก “เรียงหน้ากระดานเป็นขบวนการห้าสีเลย”

   “พวกหนูอยากได้ลายเซ็นต์พี่อะค่ะ” น้องผู้หญิงรูปร่างท้วมๆ ซึ่งดูท่าแล้วจะเป็นแกนนำของกลุ่มนี้กล่าว

   “โห่ ขอกันง่ายๆ งี้เลยอะนะ?”

   “พอๆ อย่าไปกวนตีนน้องไอ้ทิม” ผมทำท่าจะหยิบสมุดน้องๆ มา แต่ไอ้ห่าเอิร์ลที่นั่งข้างๆ ปัดแขนผมออกซะก่อน

   “อย่าเพิ่งดิว้า มึงลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนเราขอลายเซ็นต์รุ่นพี่แม่งลำบากขนาดไหน”

   ผมพยายามนึกตามว่ามีอะไรบ้างนะที่ตัวเองโดนรุ่นพี่สั่งให้ทำ... ถอดเสื้ออวดพี่ปีสี่ เดินเท้าชี้ฟ้ารอบคณะ ร้องเพลงบอดี้สแลมในห้องสมุด

   เออว่ะ ลำบากจริง กูไม่ให้ละ ขอโทษทีนะน้องๆ ใกล้ๆ เปิดเทอมค่อยมาขอใหม่ละกัน

   “เอางี้” หัวไอ้เอิร์ลคิดแผนได้ “น้องๆ ช่วยหาเมียให้เพื่อนพี่หน่อย ถ้าทำสำเร็จได้ลายเซ็นต์จากพวกพี่ทั้งกลุ่มเลย”

   “เพื่อนพี่คนไหนคะ” น้องคนเดิมถามกลับ

   “คนนี้” ไอ้เอิร์ลชี้ที่ผม

   “โอเคค่ะ ตอนแรกหนูก็นึกว่าคนนี้” น้องชี้ไปทางไอ้ทิมแบบเกร็งๆ “ยากไป”

   “อ้าวน้อง!”

   “ฮ่าๆๆ พอๆๆ” ไอ้เอิร์ลกดตัวเพื่อนไว้กับเก้าอี้ได้ทัน “น้องไปเอาใครก็ได้มาให้เพื่อนพี่ เดี๋ยวจะให้มันตัดสินเองว่าอยากได้เป็นเมียหรือเปล่า”

   “รับทราบค่ะ”

   “เร็ว! ให้เวลาห้านาที!”

   แล้วน้องๆ ก็วิ่งกันออกไป

   “ไอ้เหี้ย ไปแกล้งน้อง” ผมส่ายหัวให้กับความปัญญาอ่อนของมัน

   “เออน่า เผื่อมึงเจอคนเด็ดๆ ก็ใช้สอยต่อได้เลยไง”

   “พูดไปเรื่อยคนอย่างมึงอะ”

   “พี่คะ!”

   ผมแทบจะอ้าปากค้างตอนน้องๆ กลุ่มนั้นเดินกลับมา อะไรมันจะเร็วขนาดนี้วะ!! อาบน้ำยังไม่ทันทั่วตัวเลยมั้งเฮ้ย

   “เร็วชิบหาย” ไอ้เอิร์ลก็อึ้งไม่แพ้กัน “อ่ะ ไหนดูซิว่าพาใครมา”

   พรึ่บ!

   แล้วกลุ่มน้องๆ ก็แหวกทางออก ผมแทบจะสำลักน้ำลายเมื่อเห็นใครบางที่ยืนเกาแก้มเขินๆ อยู่ด้านหลัง

   น้องปีใหม่!!

   เจอกันอีกแล้วเหรอวะ!

   “แฮะๆ หวัดดีพี่” น้องโบกมือ และดูเหมือนว่าตั้งใจจะโบกให้ผมคนเดียวซะด้วย แต่เผอิญว่าไอ้เอิร์ลกับไอ้ทิมหันมามองผมหวังจะจับผิดอยู่ ผมเลยทำเป็นตีเบลอเก๊กหน้าแข็งรอดตายได้หงุดหวิด

   น้องปีใหม่เห็นผมทำเฉยเมยก็ลดมือลงพร้อมกับเกิดความงงบนใบหน้า เออ อยากโบกมือให้เหมือนกันแหละ แต่ตรงนี้ไม่ได้โว้ยน้อง

   “อย่าลืมทำอย่างที่บอกนะ” น้องผู้หญิงคณะผมเดินเข้าไปกระซิบ แถมยังมีการผลักหลังน้องปีใหม่ให้เดินมายืนอยู่ตรงหน้าผมซะด้วย

   ชักไม่ดีละ

   น้องปีใหม่ยิ้มจนตาหยี “พี่ชอบผมมั้ยครับ”

   แหนะ มีการเอียงคงเอียงคอ

   “อ้าวสัดดิว มึงตอบน้องเขาไปดิ” ไอ้เอิร์ลตีไหล่ผมดังป้าบ

   เวรเอ๊ยยย รู้แหละว่าโดนเสี้ยม แต่น้องจะมาพูดแบบนี้กับพี่ไม่ได้นะ

   ผมทำเป็นชมนกชมไม้ “ก็ดี้”

   “โห... ใจแข็งว่ะ” ไอ้ทิมทำเป็นเกาคางชื่นชมแบบเฟคๆ “แต่งี้ก็แปลว่าไม่ผ่านอะดิ”

   “ก็น่ารักดี” ผมยักไหล่ “แต่ก็งั้นๆ อะ”

   ผมแอบเห็นหน้าน้องปีใหม่บึ้งตึงขึ้นมาทันที แถมทำเป็นกอดอกดูไม่ค่อยพอใจ

   “งั้นยังไม่ได้ลายเซ็นต์นะครับน้องๆ พี่เสียใจด้วย”

   พอสิ้นเสียงไอ้เอิร์ล น้องๆ คอตกสีหน้าผิดหวังทันที ทำเป็นจะเดินไปหาเหยื่อรายใหม่แล้วนะ แต่น้องต่างคณะที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมนี้ดั้นนนนโพล่งขึ้นซะก่อน

   “เดี๋ยวครับ”

   “…”

   ผมจ้องใบหน้ามึนๆ ที่ตอนนี้เรียบเฉยอย่างสำรวจท่าที แบบนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่เลยแฮะ

   “ผมให้โอกาสพี่อีกที” น้องปีใหม่ยิ้มมุมปาก การยิ้มครั้งนี้ต่างจากที่เคยเห็น รู้สึกว่าเหมือนน้องกำลังเย้ยหยันผมยังไงก็ไม่รู้ “พี่ชอบผมมั้ยครับ”

   “…”

   “พี่ดิว”

   “เฮ้ย!” ไอ้เอิร์ลกับไอ้ทิมร้องลั่นออกมาพร้อมกันตอนน้องปีน้องปีใหม่ปีนขึ้นมานั่งคร่อมบนตักผมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

   ส่วนผมอะเหรอ... ก็อึ้งแดกสิครับ

   น้องแม่งกล้าทำงี้ได้ไงวะ คนเยอะแยะเห็นมั้ยเนี่ยโว้ยยยยย!!!

   “พี่ดิว พี่ดิว...” แขนเล็กๆ อย่างกับตะเกียบตวัดเกี่ยวไว้รอบคอ “เร็วๆ ผมให้โอกาสพี่พูดอีกที”

   “อ๊ะ” ผมเผลอร้องออกมาเบาๆ ตอนที่สะโพกเล็กๆ นั้นทำทีบดลงมาแบบหยอกล้อ

   แต่ผมไม่ได้ล้อเล่นด้วยนะ!!

   “ทำแบบนี้ทำไม” ผมจ้องเข้าไปในดวงตาคนบนตัก

   “ก็ผมไม่อยากให้พี่เป็นเด็กโกหกอะ”

   “แต่แบบนี้มัน...” อั่กกกก เบียดอีกแล้ว โอ๊ย ไอ้หนู!!

   “แค่พูดออกมาก็พอ แบบที่พี่รู้สึกจริงๆ อะ”

   เบียดอีกแล้ว

   ถึงร่างกายจะคุมไม่ค่อยไหว แต่ในใจกระซิบมาว่า ‘อย่าให้ความมืดครอบงำเจ้า’

   “ไม่” ผมตอบชัดถ้อยชัดคำ ใช้แรงเฮือกใหญ่คุมเสียงไม่ให้เฮนไตแบบผู้แพ้

   “ขนาดนี้แล้วพี่ยังปากแข็งอีกเหรอเนี่ย ใช้ไม่ได้เลย”

   “…” ผมหดคอหนีตอนที่น้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ชิท จมูกสูดกลิ่นหมากฝรั่งสตรอเบอรี่เข้าปอดจังๆ ทำไมชอบเคี้ยวชอบอมอะไรที่ทำให้ฟันผุตลอดเลยวะ

   เดี๋ยวไอ้ห่า มึงกำลังจะตายอยู่รอมร่อเสือกยังมีหน้าตรวจสุขภาพช่องฟันของเขาอีก สู้สิวะ!!

   “ลุก”

   “ไม่” ยัง ยังจะเขยิบเข้ามาใกล้อีก

   กูทนไม่ไหวแล้วนะ

   ผมตั้งท่าจะจู่โจมเด็กดื้อตรงหน้าที่ซอกคอขาวๆ ด้วยความหน้ามืด แต่ทว่าจังหวะที่กำลังจะโน้มตัวไปหาอีกฝ่ายนั้นเอง น้องปีใหม่กลับผลักผมจนเกือบหงายหลังซะก่อน

   “แบบนี้ถือว่าเป็นคำตอบได้ปะครับ?”

   ผมมองตามนิ้วเรียวๆ ที่กำลังชี้...

   สัด! นี่ผมจบเอวน้องอยู่เรอะ!

   แถมไม่ได้จบนอกผ้า แต่กลับล้วงเข้าไปใต้เสื้อโดนเนื้อเต็มๆ เลยด้วย!

   บ้าเอ๊ยก็ว่าทำไมนิ่มมือจัง แฮ่กกกกกก

   “เอ่อ...” ไอ้เอิร์ลกับไอ้ทิมอ้ำอึ้ง มองมือผมที่กดลงบนเอวจนเนื้อบุ๋ม ก่อนจะเป็นคนแรกที่พยักหน้าออกมา “ดะ...ได้ครับๆ”

   น้องปีใหม่ยิ้มแป้น เอี้ยวตัวไปหากลุ่มน้องคณะผมอย่างดีอกดีใจอย่างกับจะได้ลายเซ็นต์ซะเอง

   “ดีใจด้วยน้า”

   เดี๋ยว สนใจกูก่อนเฮ้ย ยังค้างเติ่งอยู่แบบเนี้ยเห็นมั้ย

   “เฮ้อ ตอบมาตรงๆ ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง” ปากสีชมพูสดนั้นขยับมุบมิบ น้องปีใหม่กระโดดออกจากตักไปแล้ว มีแต่ผมที่มองเอวบางๆ นั้นด้วยความเสียดาย

   “ขอบใจมากนะคะ/ครับ” น้องๆ คณะผมแทบจะยกมือไหว้เด็กสินกำ

   “เฮ้ย ไม่เป็นไรเลย คณะเราก็รับน้อง เข้าใจเลยอยากช่วย” หลังจากตอบ น้องปีใหม่ก็พลันมองมาทางผม “พี่ๆ”

   “…”

   มือสวยๆ เคาะ ที่คางตัวเอง “เก็บอาการหน่อยพี่”

   ฮะ!?

   “เฮ้ย ไอ้ดิวแม่งน้ำลายหก!!!”

   “ฮ่าๆๆๆ อ้าปากหวอเลยไอ้สัดเอ๊ยยยย”


   “น้ำลายเหี้ยไร!” ผมลองปาดคางแล้วไม่เห็นเจอน้ำอะไรสักหยด กูแค่อ้าปากค้างโว้ยยยย

   “ไปละนะครับ สินกำสวัสดีครับ” น้องปีใหม่ยิ้มหวานก่อนจะยกมือไหว้ลา ตายังคงจ้องผมไม่เลิก จ้องแบบสะใจซะด้วย!!

   ผมมองหลังเล็กๆ นั้นเดินจากไปอย่างโกรธแค้น มือไม้นี่สั่นไปหมด อย่างอื่นก็สั่นจนต้องนั่งไขว่ห้าง

   หึ แสบนักนะน้อง เดี๋ยวเราได้เห็นดีกัน

   “ขอลายเซ็นต์หน่อยค่ะพี่”

   “เดินเข้ามาใกล้ๆ พี่ลุกไม่ได้!”


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



RRRRRRRR

   ผมสะดุ้งตื่นเพราะรู้สึกตัวว่าโทรศัพท์กำลังสั่น พอดูเวลาหัวเตียงเท่านั้นแหละ หงุดหงิดเลยครับ! นี่มันสิบโมงเช้าเองนะโว้ย ปิดเทอมทั้งทีขอกูนอนนานๆ หน่อยไม่ได้รึไงวะ เมื่อวานก็ไปช่วยดูน้องแล้วไงจะเอาอะไรกับผมอี้กกก

   ห่า แล้วเบอร์ก็ไม่คุ้นด้วยไง ถ้าสรุปโทรผิดกูจะด่าให้ครางหงิงๆ เลยสัด

   “โมชิ โมชิ”

   [เอ่อ ขอโทษนะครับ] เสียงนั้นดูเก้อๆ เขินๆ [ใช่พี่ดิวอี้หรือเปล่า]

   “…”

   [ผมปีใหม่เองนะ]

   RRRRRRRRR

   “ถือสายรอก่อน แป็บนะ” ใครมันโทรซ้อนเข้ามาวะ ไอ้บ้าเอ๊ย ตาผมก็ปรือๆ พร้อมจะปิดอยู่รอมร่อ “โมชิ โมชิ”

   [ไอ้พี่บ้า! ไอ้มหาเฮนไต!! มึงไปทำอีท่าไหนให้พี่ปีใหม่มาขอเบอร์มึงจากกูฮ้า!!! ไอ้...]

   “หมดเวลา ค่อยโทรมาด่าใหม่นะ”

   [อ้าว ไอ้!!]

   ตื๊ด!

   กลับมาที่สายหลักของเช้านี้ครับ เมื่อกี้ค่อนข้างเบลอๆ ไหนขอทบทวนอีกครั้งให้ชื่นใจ “อืม ใครนะครับ”

   มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวแทรกมาจากปลายสาย น้องมันอยู่ที่ไหนวะเนี่ย สนามเด็กเล่นโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้ารึไง

   [ผมปีใหม่เองพี่]

   “…”

   ผมลูบหน้าลูบตาตัวเองให้สดชื่น พร้อมกับพาร่างเปลือยท่อนบนนั่งพิงกับหัวเตียง นี่มันห้องนอนของผม ในเมื่อมันไม่มีใครอยู่แถวนี้ จะผิดอะไรกันเล่าหากเราจะยิ้ม
   
โว้ยยยยย น้อง น้อมมมมม!! น้องโทรมา น้องต๋า ไอ้ลูกหนี้ที่รัก!!

   “อืม” ผมทำหยิ่ง แต่มือนี่จิกหมอนจนนุ่นจะระเบิดอยู่แล้ว “เอาเบอร์มาจากไหนครับ”

   [ผมเคยบอกพี่แล้วน้าว่าจะขอเบอร์มาจากปู๊นปู๊น]

   น้องแม่งคงไม่เก็ตกับคำว่าหาเรื่องคุยแน่ๆ พี่รู้แต่พี่อยากถามอะ อยากได้ยินเสียงนุ่มนิ่มปนความดุแบบนี้อะผิดเหรอ

   “อืม”

   [บอกว่าให้เก็บคำว่าอืมไว้ใช้ในไลน์! เดี๋ยวตีซะเลย]

   ตีตรงไหนดีหนู พี่จะได้ยื่นให้ถูก แต่พี่จะตีหนูก่อนนะ เมื่อวันก่อนเล่นซะพี่ยืนไม่ตรงเลย

   ผมลุกพรวดจากผ้าห่มลายเบ็นเท็นแสนอบอุ่น พร้อมกับพาร่างที่สติสตางค์เริ่มเข้าที่ออกไปยังระเบียง คว้าเอาซองบุหรี่ส่วนกลางที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเคาะ พอมวนยาสูบโผล่ออกมา ผมก็คาบก้นสีน้ำตาลของมันไว้ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งซึมซับบรรยากาศยามเช้าพร้อมกับควันสีเทา

   [พี่สูบบุหรี่เหรอ?]

   “เออ”

   ผมทำแบบนี้ทุกเช้าแหละ มันช่วยให้ถ่ายได้ดี แต่ไม่ได้ดูดมันทั้งวันทั้งคืนนะครับ ไม่ได้ติดขนาดนั้น ก็มีบางตอนปาร์ตี้ แต่
ไม่ถึงกับควักมาจุดไฟแช็คทุกชั่วโมง แถมยังไม่ได้พกอีกต่างหาก

   [ไม่ดีเลยน้า]

   “รู้”

   [,,,]

   สัด คงเย็นชาไป ดึงสติหน่อยน่าดิว “พยายามเลิกอยู่”

   [ทำให้ได้นะ สู้ๆ]

   “สรุปโทรมาแต่เช้าแบบนี้มีเรื่องอะไรสำคัญหรือเปล่า” ต้องเข้าเรื่องสักที ก่อนที่ผมจะงุดเงี้ยวไปมากกว่านี้ น้ำเสียงของน้องแม่งโคตรสะเนาะหู

   [ผมจะชวนพี่ไปกินข้าวฮะ พอดีวันนี้ผมว่าง เลยอยากจะเช็คว่าพี่ว่างเหมือนกันหรือเปล่า]

   “ว่าง”

   [อ้อ…] เสียงใสๆ นั้นดูตกใจเล็กน้อยที่ผมตอบแบบไม่คิด ซึ่งก็ไม่คิดจริงๆ ครับ [งั้นเรามาเจอกันในมอได้มั้ยครับ พอดีผมแวะมาประชุมรุ่น แต่จะเสร็จแล้ว]

   “ได้ หน้าตึกสินกำใช่มั้ย”

   ขอถอนคำพูดเรื่องที่วันนี้ขี้เกียจนะครับ ที่จริงแล้วค่อนข้างกระปรี้กระเปร่ามากเลยล่ะ

   [ครับพี่]

   “ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเจอกัน”

   [พี่ดิวอี้]

   “หืม”

   [แต่งตัวเท่ๆ นะ]

   “…”

   [ผมอยากเดินกับคนหล่ออะ]

   จริงอะ งั้นเตรียมตัวเจอจัสติน บีเบอร์ได้เลยน้อง

   แต่คิดได้แค่ในใจครับ เพราะสุดท้ายผมก็กลับไปวางฟอร์ม “ไร้สาระ”

   [แหม ผมล้อเล่นน่ะพี่ แต่งมาธรรมดาๆ แหละครับ วันนี้ผมก็ชิลๆ]

   แหมะ ไอ้เด็กนี่... “แค่นี้แหละ จะไปอาบน้ำ”

   [อย่าเพิ่งกินอะไรมาก่อนนะ ผมจะเลี้ยงชุดใหญ่ เอาให้พุงแตกเลย]

   ผมกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น อะไรมันจะสดใสขนาดนี้วะ พาให้ใจฟุ้งซ่านอยู่เรื่อย

   “แค่นี้แหละ”

   ผมดับบุหรี่ตอนกดวางสายพอดี แอบลอบยิ้มกับอุปกรณ์อีเล็กโทรนิคในมืออย่างกับคนบ้า พอนั่งไปซักพักก็คิดได้ว่า เออ กูมีงานที่ต้องทำนี่หว่า

   หวังว่าวันนี้จะได้อะไรดีๆ มาใช้ทวงหนี้บ้างนะ


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



หลังจากยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านานเกือบทศวรรษ (อะไรนะ นานไปเหรอ) ผมก็ออกมาจากห้องด้วยลุคสบายๆ เสื้อแขนกุดสีขาวกับกางเกงขาสั้น เพิ่มความแสวกให้ดูน่ามองด้วยการผูกผ้าเช็ดหน้าสีแดงไว้บนคอ เพิ่งมาคิดได้ว่ามหาลัยอยู่ใกล้แค่นี้เองไม่รู้จะแต่งตัวจัดเต็มไปทำไม และเดาได้เลยว่าน้องคงเลี้ยงข้าวผมที่ร้านอาหารแถวๆ นี้แหละ เด็กยังไม่จบมัธยมดีแถมมีหนี้ก้อนใหญ่อย่างปีใหม่จะมีเงินให้ใจป๋าขนาดไหนเชียว ถ้าฟุ้มเฟือยเดี๋ยวจะตีเนื้ออ่อนให้แดงก่ำเลย

   ผมชะงักขาตัวเองตอนที่กำลังเลี้ยวเข้าซอกตึกที่สามารถทะลุไปยังคณะศิลปกรรมศาสตร์ได้ ผมเห็นเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังสามัคคียืนพ่นควันกันคละคลุ้งนึกว่ามีใครมาวางระเบิด ผมตั้งใจจะเดินไปอีกทางอยู่แล้วเชียว ถ้าสายตาไม่ไปเห็นคนที่เด่นที่สุดในกลุ่มคนโฉดนั้นซะก่อน

   ปีใหม่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมทั้งระเบิดหัวเราะกับมุกตลกของเพื่อนๆ ที่อยู่รอบกาย ยอมรับนะครับว่าตอนแรกโมโหมากที่ไอ้หนูมันอยู่ในก๊วนเด็กเกเรแบบนี้ แต่พอได้เห็นว่าในมือเล็กๆ นั้นไม่ได้มีบุหรี่เหมือนคนอื่นก็เลยใจเย็นลง ไม่ดูดแล้วจะมานั่งดมควันพิษทำไมวะ ตัวเองก็เพิ่งเตือนคนอื่นเรื่องสูบบุหรี่มาไม่ใช่หรือไง โคตรหงุดหงิดสัดอะ!

   เชี่ย... แต่ภาพนี้โคตรได้ หนุ่มน้อยหน้ามนกำลังมัวเมาอบายมุข ถึงจะไม่ได้ร่วมวงเผาปอดอะไรกับเขา แต่ถ้าผมแอบถ่ายน้องจากมุมนี้ องศาจะทำให้ได้ภาพที่โคตรใช่ หึ ได้วัตถุดิบให้แบล็กเมล์เพิ่มอีกอันแล้ว

   ผมรีบคว้ามือถือขึ้นมาเก็บหลักฐานทันที

   หวืบ~ แชะ!

   อ่ะ แต่ปัญหาคือ กูจะต้องไปไหนต่อวะ คนที่นัดมายังอยู่ในดงเพื่อนๆ อยู่เลย จะให้โผล่โพล่งเข้าไปก็เด๋อตายดิ

   ผมหยิบมือถือขึ้นมาโทรออก แล้วจัดการหามุมเหมาะๆ เพื่อหลบภัย

   ไม่นานนักน้องปีใหม่ก็รับทันที [ฮัลโหลพี่ ถึงแล้วเหรอ]

   “อืม กำลังจะเลี้ยวไปตึกสินกำ”

   [เฮ้ย หยุดเดินเลยๆ อยู่ตรงไหนเดี๋ยวออกไปหา]

   “จะออกมาหาทำไม พี่กำลังถึงแล้ว”

   [เราจะได้เดินเข้ามาพร้อมกัน พี่จะได้ไม่เก้อเขินตอนเจอเพื่อนผมไงเล่า]

   “…”

   [เร็วครับ] ไอ้หนูเร่ง [อยู่ตรงไหน บอกผมสิ]

   “อยู่...” แถวนี้มันมีแลนด์มาร์กอะไรที่ใช้อ้างได้บ้างวะ “สนามบาสหน้าเบเกอรี่”

   [อ๋อ ผมอยู่ใกล้ๆ นี่เลย พี่อยู่ตรงนั้นแหละผมกำลังเดินออกไปหา]

   ฉิบหายละ ถ้าน้องออกมาจากซอกเมื่อไหร่ มีหวังได้เห็นผมที่ยืนพรางตัวเป็นตุ๊กแกอยู่ตรงรางน้ำเก่าๆ นี้แน่นอน

   วิ่งดิ รอไรล่ะคร้าบบบบ!

   พอวางสายปุ๊บ ผมก็รีบสาวเท้าวิ่งอ้อมโลกทันที อ้อมไกลแทบจะไปปัตตานีแล้วนะโว้ย ทำไมไม่บอกว่าอยู่ใกล้ๆ หน่อยวะกู

   แต่สุดท้ายผมก็ทำเป็นยืนขรึมๆ ริมสนามบาสได้ตามแผนครับ แต่กว่าจะถึงก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ฮู้ว!

   “พี่ดิวอี้” เสียงใสๆ โพล่งมาจากทางด้านหลัง น้องปีใหม่ยืนยิ้มแป้นโชว์ฟันกระต่ายน้อยๆ สีขาวจั๊ว แต่ถึงใบหน้าจะน่ามองขนาดไหน มันก็ไม่สามารถดึงผมไม่ให้มองต่ำลงกว่านั้นได้เลย

   ลมหายใจผมติดขัดตอนที่เห็นว่าแสงแดดที่เจิดจ้าของวันนี้ทะลุเข้าไปยังเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่โคตรจะบางเฉียบยังกะลอริเอะ จนผิวเนื้อใต้ร่มผ้าโผล่ออกมาเป็นเงาทักทาย ผมกลืนน้ำหลายอึกตอนได้รับรู้ว่าเอวของน้องนั้นคอดแค่นั้น คอดจนผมอยากจะป้อนข้าวและให้กินน้ำมันตับปลาปิดท้ายสักมื้อ คนผอมขนาดนี้ถ้าล้มขึ้นมาแขนขาหักได้เลยนะเนี่ย คิดไว้อยู่แหละว่าต้องขี้ก้างเพราะไหปลาร้าชัดขนาดนั้น แต่ไม่คิดว่าจะซูบขนาดนี้

   แต่ทั้งหมดทั้งมวล บ่นไปงั้นแหละครับ ผมชอบ

   แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

   “หิวหรือยัง” น้องเห็นผมเงียบก็เลยถามต่อ

   “นิดหน่อย” ผมพูดตรงๆ เอาจริงตั้งแต่ตื่นยังไม่ได้เอาอะไรเข้าปากเลย ตอนนี้ท้องเริ่มร้องละ

   “เดี๋ยวกลับไปเอาของกับผมก่อน แล้วเดี๋ยวเราไปกันนะ” ไอ้หนูเอียงคอ “เอ... ชวนปู๊นปู๊นด้วยดีมั้ยหว่า”

   ฟ้าถล่มต่อหน้าผมทันทีเมื่อได้ยินชื่อนั้น “จะเอามันมาด้วยทำไม”

   “ก็น้องมันไลน์มาถามใหญ่เลยว่าทำไมผมถึงขอเบอร์พี่อะ พอผมบอกว่าจะเลี้ยงข้าว ก็งอแงใหญ่เลย ไม่รู้ทำไม”

   “มันคงหึง”

   “หา!? ปู๊นปู๊นเนี่ยนะ?” ใบหน้าขาวใสนั้นออกจะขำๆ

   “อืม เห็นมันชอบโม้ว่าเคยจีบ”

   หึ โดนกูเผานั่งยางแล้วไอ้น้องเวร

   ปีใหม่ถึงกับหน้าเหวอ “บ้าแล้วพี่! ผมไม่เคยคิดอะไรกับน้องเลยนะ”

   “จริงอะ?” ผมเลิกคิ้วทั้งสองข้าง ทำเป็นแหย่คนตรงหน้า ที่ตอนนี้เขินหูเหอแดงไปหมด

   “จริงครับ”

   “เออ”

   “จริงนะพี่”

   หมับ!

   หืม... จับแขนว่ะ “เชื่อผมนะพี่!”

   “เอ่อ” อะไรวะ ทำไมดูร้อนลนจัง แค่แซวเล่นเองเฮ้ย “ไม่ได้เป็นก็ไม่ได้เป็น ไม่ต้องซีเรียส”

   “ผมกลัวพี่เข้าใจผิดอะ”

   “…”

   “กลัวว่าพี่จะเกลียดผมถ้าพี่เข้าใจว่าผมกับน้องชายพี่เคยเป็นอะไรกัน”

   “ถึงจริงก็ไม่เห็นเป็นอะไร” ผมกอดอก “ทำไมถึงซีเรียสนักฮึ?”

   “ใครๆ ก็ทำแบบนั้นทั้งนั้นแหละ”
น้องปีใหม่ก้มหน้างุด ยังกับว่ากำลังบ่นเรื่องที่สะสมในอกออกมาเพื่อระบาย “พอผมยุ่งกับใคร ทั้งพ่อแม่ ทั้งพี่น้อง เพื่อนๆ เขาเกลียดผมกันหมดเลย”

   ผมได้ยินประโยคนั้นถึงกับผงะ ทำไมวะ ทำไมพวกนั้นแม่งใจร้ายกับเด็กคนนี้ได้ลงคอ

   “แล้วไปทำอีท่าไหนให้พวกเขาเกลียด”

   “ผมคงอัธยาศัยดีเกินไปมั้ง”

   “หืม?”

   “ช่างเหอะพี่” น้องโบกมือเหมือนต้องการให้ลืมเรื่องที่คุยกันหน้านี้ไปซะ “พี่เหอะ เกลียดผมหรือเปล่า?”

   ผมจ้องไปในใบหน้าที่อยู่ๆ ก็กลับมายิ้มแย้มด้วยความงง ไอ้เด็กคนนี้มันยังไงของมัน รู้สึกตะหงิดๆ เหมือนมีอะไรอีกร้อยอย่างพันอย่างซ่อนอยู่ในดวงตาที่ทำเป็นร่าเริงนั้นงั้นแหละ

   แต่ถ้าถามว่าผมเกลียดน้องหรือเปล่า...

   ไม่ ไม่เกลียด แถมถ้าท่าทำได้จะเอาไปเลี้ยงที่บ้านด้วย

   แต่นี่คือสิ่งที่ผมพูดออกไป “ตอนนี้ยัง”

   “คิกๆ ผมรู้แหละว่าพี่ไม่มีทางเกลียดผมหรอก” ร่างบางๆ นั้นโน้มตัวมากระซิบ เรือนผมสีน้ำตาลดูยุ่งๆ นั้นขยับเขยื้อนตามการเคลื่อนไหว “พี่ชอบผม”

   “ให้มันน้อยๆ หน่อย” ผมแยกเขี้ยว ถึงแม้ที่สิ่งที่น้องแหย่จะเป็นเรื่องจริงอยู่หน่อยนึง

   ชอบ แต่ไม่ได้คิดจะทำอะไรนะโว้ย เก็บไว้รู้สึกในใจแค่นี้ก็มีความสุขละ เคยฟังเปล่าเพลงชู้กะชู้ของพี่เอ๊ะ ซินโดรมอะ?

   ฉันคิดแค่นั้น ฉันไม่บอกใคร รดความรักให้ชื้นขึ้นในใจ ให้มันมีความหมาย ชู้ก็ชู้ในใจก็พอ

   “ไปสิครับ” ปีใหม่ทำท่าจะเดินนำ แต่อยู่ๆ น้องก็เอี้ยวตัวมาให้ผมเห็นเพียงเสี้ยวหน้า “นี่พี่ไปตึกสินกำถูกใช่ปะ?”

   “ถูก”

   “ครับ” ใบหน้าสวยๆ พยักหน้า “ก็นึกว่าไม่ถูก”

   “…”

   “จะได้ยื่นมือให้จับ”

   แหนะ ไอ้เด็กนี่แม่ง “หยุดแหย่แล้วเดินนำไปซะที”

   “แฮะๆ รู้อีกว่าแหย่”

   “พี่ฉลาดพอ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”

   “ซีเรียสทำไมพี่ ขำๆ น่า”

   ผมโน้มตัวไปหาอีกฝ่ายบ้าง “อยากเจอของจริงมั้ยล่ะ”

   หมับ!

   “เฮ้ย!” น้องปีใหม่ตาโตตอนที่ผมพุ่งเข้าไปโอบเอวบางๆ นั้นแบบไม่ทันให้ตั้งตัว “พี่...”

   “ทีนี้จะเดินออกไปได้หรือยัง หรือต้องให้ควงไปแบบนี้ตลอดทาง”




[อ่านต่อด้านล่าง]

   

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
 :m15:[ต่อ]


คนตัวเล็กกว่าผมหูแดง “ไม่ดีกว่าครับ”

   หึ ผมล่ะสะใจกับหน้าเหวอๆ ของน้องนัก ไงล่ะน้อง เจอของจริงเข้าไปถึงกับกระอักไปต่อไม่ถูก ทีหลังอย่ามาล้อเล่นให้ตะบะแตกอีกนะ นี่คือการเตือน

   โห... แต่เมื่อกี้ถือว่าเกี้ยวกาดใช้ได้ว่ะ แหม่ ภูมิใจในผลงานตัวเองสัดๆ

   น้องจักรวาลเดินนำผมไปยังลานกว้างของคณะสินกำ เด็กๆ ผู้มีสไตล์การแต่งตัวที่จัดจ้านจนคล้ายคนบ้านั่งจับกลุ่มกันอยู่มุมหนึ่งของสนาม จากที่ตอนแรกทุกคนคุยกันเซ็งแซ่กลับเงียบกริบเมื่อเห็นผมเดินตามคนตัวเล็กๆ ตรงหน้านี้มา ใจเย็นๆ น้อง มองกันขนาดนี้ถ้าเป็นกระสุนร่างพี่คงซันสวีทพรุนแน่นอน อะไรมันจะจับจ้องกันขนาดนี้วะ

   “ไหนล่ะของ” ผมถามหลังจากที่ทนสายตานับสิบไม่ไหวแล้ว

   “ตรงนี้ๆ ผมล่ามไว้ตรงนี้” ปีใหม่ชี้ไปยังม้าหินตัวสุดท้าย

   หืม? ของอะไรวะถึงต้องผูกไว้ด้วย รถจักรยาน?

   “โฮ่ง!”

   ฮะ... O_O

   ชิบเป๋งละ ไม่ใช่จักรยานครับ มันคือหมา! คอร์กี้ขนสีส้มพุงขาวขาสั้นๆ แลบสิ้นต้อนรับผมทันทีเมื่อเดินไปถึงโต๊ะม้าหินตัวสุดท้าย สายจูงสีแดงของมันถูกผูกอยู่ที่ขาเก้าอี้ มันเลยได้แต่ลุกลี้ลุกลนอยากจะหลุดไปจากเชือกเพื่อจะมาเล่นกับคนมาใหม่อย่างผม

   “ลูฟี่”

   ขวับ! ผมนี่สะบัดหน้ามองน้องอย่างไวเลยครับ โว้ยยยย เอาชื่อมหาเทพโจรสลัดมาตั้งเป็นชื่อหมาได้ยังไงวะ บอกเลยไม่พอใจ!

   “พี่ดิวอี้นั่งรอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”

   “…”

   “ลูฟี่ นั่งตักพี่สุดหล่อคนนี้ไปก่อนนะ” น้องปีใหม่ปลดสายจูงแล้วอุ้มเจ้าหมาที่ชื่อเหมือนตัวละครในแอนิเมะวางแหมะบนตักผม

   และพอเจ้าวิ่งปราดไปห้องน้ำเท่านั้นแหละ กลุ่มเพื่อนที่เฝ้าดูลาดเลาอยู่นานก็เริ่มซุบซิบ ผมทำเป็นไถมือถืออัปเดตโมเดลกันดั้มรุ่นใหม่ๆ เพื่อหลบหลีกสายตาที่จับจ้อง แต่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามีน้องๆ กลุ่มหนึ่งถือวิสาสะนั่งม้าหินฝั่งตรงข้ามโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ

   แถมจ้องอย่างกับจะแดกผมแม่งตรงนี้!

   “พี่เป็นใคร” น้องผู้หญิงคนที่หนึ่งยิงคำถาม

   “แฟนไอ้ใหม่เหรอ” น้องตุ๊ดหน้าตาจิ้มลิ้มเลิกคิ้ว

   “คิดจะงาบเพื่อนผมใช่มั้ย” ไอ้คนหัวสกินเฮดคนนี้ดูเอาเรื่อง มาดดูคล้ายกับหัวหน้ากลุ่ม

   ถามมาพร้อมกันงี้จะให้ตอบใครก่อนวะ เขียนคำถามใส่กระดาษได้มั้ยเดี๋ยวกูสุ่มจับขึ้นมาเอง

   “เปล่า” ผมส่งเสียง มือก็พยายามจับลูฟี่ไม่ให้มันดิ้นบนไข่ผมมากมายนัก

   “พี่รู้มั้ยคะ ไอ้ใหม่ไม่เคยพาใครเข้ามานั่งตรงนี้”​ น้องผู้หญิงว่า

   “ใช่ เวลาใครมามันจะให้รอตรงนั้น” น้องตุ๊ดชี้ไปยังม้าหินอีกฟากของสนาม โห... ไกลว่ะ

   “ซึ่งนั่นแปลว่าพี่พิเศษกว่าคนอื่น” ไอ้หัวสกินเฮดทำเป็นเกาคาง อะไรฮึ คิดว่าเป็นโคนันเหรอไก่อ่อน “บอกมาตรงๆ เลยครับว่าพี่เป็นอะไรกับมัน”

   “ก็บอกว่าไม่ได้เป็น”

   “แล้วพี่ชอบมันหรือเปล่า?”

   ถามตรงอะไรขนาดนี้วะ กูนึกว่าสะพานสาธร “ไม่ได้ชอบ”

   “พี่จะจีบมันหรือเปล่าคะ”

   “ไม่ได้ชอบแล้วจะจีบได้ไง”

   “แล้วพี่มากับมันได้ยังไง”

   โว้ยยย ซักเก่งกันจังวะ นี่ถ้าเป็นกางเกงกูขาดเป็นริ้วๆ แล้ว ปั่นกันเอาเป็นเอาตายแบบนี้

   “น้องเขาจะเลี้ยงข้าว”

   “ว๊าย” น้องผู้หญิงถึงกับเอามือทาบอก รีบปรึกษาเพื่อนๆ ทันที “คนนี้แอดว้านซ์ว่ะ”

   “หึ แม่งดูไม่ชอบมาพากลว่ะ”

   “กูก็ว่างั้น”

   น้องๆ ครับ คือพี่ยังอยู่ตรงนี้ไง พูดอะไรไม่สนว่าพี่จะได้ยินเลยเรอะ

   “กูรู้แล้ว!”

   สัด ผมนี่สะดุ้งพร้อมกับน้องทั้งสามคนเลย

   น้องผู้หญิงชี้นิ้ว “ไอ้ใหม่ต้องชอบพี่แน่”

   “…”

   “มันจีบพี่หรือเปล่าคะ”

   “เปล่า”

   “มันแสดงท่าทีสนอกสนใจพี่หรือเปล่าครับ”

   “พี่จะไปรู้มั้ย” ผมโบกมือ “พี่ว่าน้องๆ อย่าคิดไปเองดีกว่า ไม่มีอะไรคือไม่มีอะไรจริงๆ”

   “แต่ยังไงก็น่าสงสัยอยู่ดี”

   เฮ้อ งั้นแล้วแต่น้องเหอะ พี่เหนื่อย

   “โฮ่ง!” ลูฟี่ส่งเสียงเห่าเพราะเห็นเจ้านายของมันกำลังเดินมาจากอีกฟากของลานกว้าง

   “ว๊าย” น้องผู้หญิงสะกิดเพื่อนชายทั้งสองคน “กลับที่ค่ะ มันมาแล้ว!”

   แล้วพนักงานสอบสวนทั้งสามคนก็แตกฮือไปคนละทิศละทาง ทำเป็นนั่งนิ่งอยู่กับที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   ปีใหม่ที่เดินมาถึงโต๊ะพอดิบพอดีส่งสายตาขำๆ มาให้ผม

   “เพื่อนๆ ผมมันมาคุยอะไรกับพี่อะ”

   ผมเหล่มองน้องผู้หญิงคนนั้น แต่เธอทำเป็นชูนิ้วชี้ชู่วปากให้ผมเงียบๆ

   “เปล่า แค่มาทักทาย”

   “อ๋อเหรอ” สายตาดุๆ ของปีใหม่จับจ้องไปยังกลุ่มเพื่อน “อย่าให้รู้ทีหลังนะ”

   “โฮ่ง!”

   “รู้แล้วๆ ลูฟี่ จะพาไปกินข้าวเดี๋ยวนี้แหละ” น้องรับหมาจากมือผมไป “ไปเลยมั้ยพี่ นี่ก็จะเที่ยวแล้วพี่คงหิว”

   “ไปสิ” อยากออกไปจากตรงนี้จะแย่แล้วด้วยคร้าบบบ ตรงนี้มีแต่คนเพี้ยนๆ พี่กลัว พี่ขวัญอ่อน

   “กูไปก่อนนะพวกมึง เดี๋ยวยังไงเจอกันพรุ่งนี้”

   “บายยยยยย”

   ทุกคนในรุ่นโบกไม้โบกมือร่ำลาปีใหม่แทบจะพร้อมกัน โอ้โห คงเป็นที่รักน่าดูเลยแฮะ แต่น่ารักขนาดนี้เพื่อนๆ จะไม่เอ็นดูก็แปลก

   “ไปกันเถอะครับพี่”

   “อืม” ผมกำลังจะเดินตามหลังเล็กๆ นั้นไปอยู่แล้ว ถ้าไม่ดันไปเห็นเด็กสามคนก่อนหน้านี้รุมจ้องผมอีกครั้ง

   “พี่คะ”

   ผมจ้องแววตาจับผิดเกินเหตุสามคู่นั้นด้วยใบหน้านิ่งๆ

   น้องผู้หญิงชูนิ้วชี้กับนิ้วกลางขึ้นมา ทำเป็นชี้ที่ตาตัวเองก่อนจะหันมาทางผม

   “…”

   “พวกหนูจับตามองพี่อยู่นะ”

   อะไรวะ พี่แค่มากินข้าวกับเพื่อนน้องเท่านั้นเอง แถมพี่ยังมีงานจะต้องทำ น้องไม่เข้าใจหรอก!

   บอกไว้เลยนะ ที่คิดในใจว่าชอบเนี่ยคือน้องน่ารักไง ถ้าจะงาบ ไม่ปล่อยให้มาถึงวันนี้หรอก ลักพาตัวตั้งแต่วันสองวันแรกที่เจอกันแล้วจ้า


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



“ไม่ได้ใช้ยาที่ให้ไปหรือไง”

   “ครับ?” น้องปีใหม่ค่อนข้างประหลาดใจอยู่ๆ ผมก็ถามพรวดพราด ไม่ได้เกริ่นอะไรให้รู้เรื่องหน้าเลย

   “นั่นน่ะ” ผมชี้รอยช้ำบนเนื้อที่มองเห็นได้ผ่านเนื้อผ้าบางๆ “ดูไม่ได้มีทีท่าว่าจะหายเลย”

   “อ๋อ…”

   อย่าหาว่าผมหื่นนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจับจดอยู่กับเนื้อตัวของน้องนะเฟ้ย พอดีตามันไปเห็นเองอะ ก็เวลากินข้าวหน้าอกน้องมันแนบอยู่กับโต๊ะ แถมเสื้อบางแบบนั้นมันก็ต้องเห็นทะลุปรุโปร่งอยู่ดี แล้วอีกอย่าง ดูเหมือนรอยนั้นจะช้ำมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โมโหว่ะ ถ้าไม่ใช้ยาก็บอกมาตั้งแต่แรกสิว่าไม่ต้องการ ไม่น่าให้ไปเล้ย

   “ทาแล้วมันไม่หายอะดิพี่” น้องปีใหม่ก้มลงมองตัวเอง มีการแหวกกระดุมเสื้อเผื่อโชว์รอยช้ำให้เห็นชัดๆ อีก

   สัด อึ้งเลยกู

   “เจ็บสินะ”

   “หืม?”

   ผมทำเป็นคีบปลาดิบเข้าปาก “โดนเต็มๆ แบบนั้นคงเจ็บน่าดู”

   “อะไรนะ?” ปีใหม่ขมวดคิ้ว “โดนอะไรพี่”

   “รอยกระแทกใช่มั้ยล่ะ พี่ดูออก” ขอถือโอกาสนี้ถามสาเหตุของรอยนั้นเลยแล้วกัน สงสัยมานานแล้ว “ซุ่มซ่ามหรือว่ามีเรื่องชกต่อยเข้าสินะ”

   “เดี๋ยวๆ พี่” น้องปีใหม่ยิ้มจนตาหยี “พี่คิดว่ามันเป็นรอยชกเหรอ?”

   “แล้วใช่มั้ยล่ะ”

   น้องปีใหม่อมยิ้ม ทำไมวะ มีอะไรน่าขำเหรอ อุตส่าห์ถามไถ่ไล่จี้เพราะเป็นห่วงกลัวจะเจ็บ ยาแม่งก็ไม่ทา แถมยังมายอกย้อนทำเหมือนผมโง่อีก ใครมันจะไม่รู้วะว่ารอยนั้นมันคืออะไร

   “โอเคพี่” ปีใหม่พยักหน้า “รอยชกก็รอยชก”

   “ทายาซะ จะได้หาย”

   “ไปห้องน้ำด้วยกันสิ ผมอยากให้พี่ช่วยทาให้”

   “ไม่ตลก”

   พอเห็นหน้าดุๆ ของผมเด็กมันก็รีบเจื่อน “ครับ ผมจะทายา แต่ไม่รู้จะหายหรือเปล่านะ คิกๆ”

   เออ พูดอะไรให้มันฟังหน่อย ไอ้เด็กดื้อ

   เรานิ่งกันอยู่นาน ต่างคนต่างหยิบอาหารลงท้อง ผมเหลือบไปเห็นว่าปีใหม่เอาซาซิมิป้อนไอ้ลูฟี่ที่นอนรออยู่ใต้โต๊ะซะด้วย อะไรมันจะกินดีอยู่ดีขนาดน้านนน เห็นแล้วหมั่นไส้ อยากเตะให้ร้องเอ๋ง

   “กินเสร็จแล้วพี่จะไปไหนต่อ” ปีใหม่เท้าคางมองผม

   “กลับห้องนอน”

   “โห่อะไรอะพี่ นานๆ ผมจะมีเวลาว่าง ไปทำอะไรสนุกๆ กันเถอะ”

   ผมเลิกคิ้ว “ก็ไปสนุกคนเดียวสิ จะมาชวนทำไม”

   “วันนี้ผมอยากอยู่กับพี่”

   “…”

   ดาเมจใส่พี่อีกแล้วหนู เดี๋ยวปั๊ด!

   “ถ้างั้นผมไปห้องพี่ด้วยสิ”

   “จะไปทำบ้าอะไร”

   “นอนเล่นก็ได้”

   ผมส่ายหัว “บ้านช่องไม่มีกลับหรือไงหนู”

   “หนู?”

   “…”

   “พี่เรียกผมว่าหนูเหรอ โคตรละมุนอะ”

   แววตาดีอกดีใจเกินเหตุนั้นทำให้ผมต้องเฉไฉทำเป็นมองไปทางอื่น อืม... โคมไฟร้านนี้สวยดีว่ะ

   ชิทททท หลุดปากจนได้จวยเอ๊ย

   น้องปีใหม่เห็นว่าผมพยายามตีเบลอก็ยิ้มสิทีนี้ “ผมไม่อยากกลับบ้านหรอก”

   ฮะ? “ใครมันจะไม่อยากกลับบ้านกัน”

   “อยู่บ้านแล้วมันอึดอัด เหมือนเป็นส่วนเกินยังไงก็ไม่รู้” ร่างบางๆ เอนตัวติดเก้าอี้ “ลูกคนกลางก็เงี้ยแหละพี่ ใครๆ ก็คุยกับน้องคุยกับพี่มากกว่า”

   โห... เอาจริงถ้าอ้างประเด็นนี้คือเข้าใจเลย ผมก็มักจะครั่นเนื้อครั่นตัวเสมอๆ เวลาเข้าบ้านไปเจอพ่อกับเมียใหม่ ถ้าให้เลือกได้ผมยอมนอนอ่านการ์ตูนอยู่ที่คอนโดดีกว่า ถ้าไม่ติดว่าน้องชายผมยังอยู่ในบ้านหลังนั้นนะ ไม่มีทางที่ผมจะย่างกรายไปเยือนแน่

   “แล้วเวลากลับบ้านหลังเลิกเรียนล่ะทำไง คุยกับคุณพ่อคุณแม่บ้างมั้ย”

   “คุยนะพี่ กับแม่ผมอะปกติ แต่ว่าพ่อ...” ดวงตาโปนๆ นั้นทำเลื่อนลอย “ผมสนิทกับเพื่อนพ่อมากกว่าอีกมั้ง”

   “อะไรนะ!?”

   “ช่างเหอะครับ” ไอ้ตัวเล็กรีบโบกไม้โบกมือให้ยุ่ง และพอผมเห็นฟันกระต่ายคู่นั้น ความสงสัยตะกี้หายไปทันทีเลย “ไปเดินเล่นกันมั้ยพี่”

   “ไม่มีเพื่อนหรือไง”

   “มี แต่บอกแล้วไงว่าวันนี้ผมอยากอยู่กับพี่อะ”

   “พี่โรคจิตนะ” ผมทำเป็นแหย่

   “โอ๊ยยย เลิกล้อเรื่องนี้ได้แล้ว ผมอาย!” ไอ้หนูมุ่ยหน้า เห็นแล้วแม่งอยากจะหยิก “ผมขอโทษ ตอนนี้ผมรู้แล้วไงว่าพี่ไม่ได้โรคจิต วันนั้นผมแม่งขี้เว่อร์จริงๆ แหละ”

   “อ่อเหรอ” ผมทำเป็นลอยหน้าลอยตา

   “พี่กวนตีนนะรู้ตัวปะ”

   “โอเค จะจดไว้” ผมแบมือขึ้นมาจินตนาการว่ามันเป็นกระดาษ “หนึ่งโรคจิต สองกวนตีน”

   “เนี่ย กวนตีนจริงๆ”

   “หึๆ” ผมกลับมากอดอก “งั้นไปรอคอนโด พี่จะไปเอารถ จะแวะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อด้วย”

   “เอารถอะโอเค แต่ผมไม่อยากให้พี่เปลี่ยนเสื้ออะ” แววตาซุกซนทำเป็นโลมเลียแขนแน่นๆ ของผมทั้งสองข้าง “แบบนี้โคตรโดนใจ”

   “ใครกันแน่วะที่โรคจิต”

   “สงสัยเราโรคจิตกันแม่งทั้งสองคนเลยว่ะพี่ ฮ่าๆๆ”

   “เออ ก็ว่างั้น”

   พอผมเห็นอีกฝ่ายหัวเราะ ไม่รู้ทำไมถึงไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มของตัวเองได้ เหมือนรอบตัวน้องเต็มไปด้วยพลังงานอันสดใส และผมก็โดนมันเข้าให้เต็มๆ ไม่ไหวๆ สงสัยต้องเรียกพนักงานมาเก็บตังค์จะได้ออกไปจากตรงนี้สักที แค่นั่นกินข้าวตรงข้ามโต๊ะกันก็คือว่าได้ทดสอบความอดทนผมเป็นอย่างมากแล้ว

   “พี่ดิวอี้” น้องเรียกผมตอนที่เราลุกจากที่นั่ง

   “ครับ”

   ยิ้มทำไมฮะ ดูแม่งจะชอบใจที่ผมพูดครับใส่ เอาจริงเพราะชินแหละ กับคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนผมชอบขานรับด้วยคำนี้ตลอด เคยชินแล้วล่ะครับ

   “เลิกพูดเรื่องโรคจิตได้แล้วนะ โอเค้?”

   “…” ผมมองไปที่สัญญาณ OK บนมืออีกฝ่าย “อ่า”

   “พี่ไม่ได้โรคจิตหรอกน่า ” แก้มใสๆ นั้นโชว์สีแดงระเรื่อ “ผมสบายใจเวลาที่อยู่กับพี่จะตาย”

   โอย... รู้สึกอยากนั่งไขว่ห้าง

   RRRRRRRRR

   แรงสั่นบนโต๊ะทำให้ผมเหลือบไปมองหน้าจอไอโฟนรุ่นใหม่ของคนตรงข้ามที่จอใหญ่อย่างกับโรงหนังไอแมกซ์ ทำให้ผมเห็นชื่อคนที่โทรเข้าเต็มๆ ตา

   ‘คุณกำพล’

   นี่มัน...

   “ฮัลโหล” ปีใหม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับแทบจะในทันที นัยตาที่ร่าเริงตอนนี้กลับกลายเป็นเศร้า แต่พอรู้ตัวว่าโดนผมจ้องอยู่ น้องก็ฝืนยิ้มขึ้นมา “ผมต้องคุยสายนี้อะ ขอออกไปนอกร้านแป็บนะครับ”

   “แล้วแต่สิ ได้เลย” ผมจะไปห้ามได้ยังไงวะ

   คนตัวเล็กผงกหัวผมเป็นเชิงขอโทษขอโพย แล้วก็เดินหายแนบออกไปริมฟุตบาธหน้าร้าน ผมตั้งใจจะชะเง้อตามไปดูสถานการณ์นะ แต่ไอ้ป่วนใต้โต๊ะดันเกาะขาผมซะก่อน เล่นเอาตกอกตกใจจนตาหลุดโฟกัส รู้ตัวอีกทีปีใหม่ก็หายลับไปซะแล้ว

   ไอ้หมาเวรเอ๊ย

   “โฮ่ง!”

   “อะไรมึงเนี่ย” ผมย่นคิ้วใส่ไอ้ลูฟี่ที่กระดิกหางดิ๊กๆ ทำท่าจะเล่นกับผมซะให้ได้

   “โฮ่ง”

   ก็พูดภาษาคนสิวะ จะรู้กับมึงมั้ยว่าต้องการอะไร

   ผมมองหน้าลูฟี่ที่บัดนี้แลบลิ้นห้อยๆ เกาะขาผมเป็นเด็กอ้อนแม่ ตาละห้อยนั้นมองอยู่ที่บริเวณคอของผมจนต้องมองตาม

   “อยากได้เหรอ” ผมชี้ไปที่ผ้าเช็ดหน้าสีแดงเหนือหน้าอก

   “โฮ่ง!”

   “กูไม่ให้”

   “แง่งงง! แกร๊ซซซซ!!”

   สัด... มีแยกเขี้ยวขู่ด้วยว่ะ

   “อยากหล่อเหมือนกูอะดิ”

   “โฮ่ง!”

   “เฮ้อ ก็ได้ มาๆ” ผมยอมแพ้ อยากได้นักก็เอาไปวะ เห่าเสียงดังแบบนี้เดี๋ยวโต๊ะข้างๆ จะรำคาญเราสองคนเอาได้

   ผมนั่งยองๆ ข้างๆ ตัวเจ้าลูฟี่ ยอมสละผ้าพันคอสีแดงให้กับไอ้แคระนี่ไป มันดีใจจนเดินหมุนไปมา พยายามจะงับผ้าที่คอตัวเองมาเล่นแต่มันคงโง่จนไม่รู้ว่าตัวเองคอสั้น เออว่ะ เห็นแล้วก็น่ารักดี ผมไม่เคยมีหมา นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้ใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงสี่ขาสายพันธุ์นี้

   “มาให้กูอุ้มหน่อย”

   “โฮ่ง!” ไอ้ลูฟี่กระดิกหากยอมให้ผมแตะเนื้อต้องตัวแต่โดยดี แหม่ อยู่เป็นนักนะมึง

   “พี่ดิว”

   แชะ!

   หือออ อะไรวะ

   ความปุบปับทำให้ผมทำตัวไม่ถูก เพราะอยู่ๆ น้องปีใหม่กลับเข้ามาในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมมือก็ยังถือโทรศัพท์ค้างไว้เพื่อจะเก็บภาพผมตอนปัญญาอ่อนเอาไว้อีก

   สัด เสียภาพเลยกู เส็งเคร็ง!

   “ถ่ายทำบ้าอะไร”

   “น่ารักดีออก”

   ใจจริงก็อยากจะถามว่าคนหรือหมา แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่าแฮะ

   “พี่ให้มันเหรอ” น้องปีใหม่ชี้ไปยังผ้าพันคอสีแดง

   “มันเซ้าซี้ก็เลยให้ไป”

   “โหย ใช้ไม่ได้เลยแฮะ” มือเล็กๆ นั้นเข้ามาขยุ้มแก้มอ้วนๆ ของไอ้หน้าขนที่ผมอุ้มอยู่ เห็นแล้วใจมันนึกอิจฉาหมายังไงก็ไม่รู้แฮะ “พี่ดิวครับ”

   “ว่าไง” ผมเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าน้องทำหน้านิ่งๆ มีอะไรหรือเปล่าวะ

   “ผมฝากลูฟี่หน่อยได้มั้ย พอดีจะไปหาเพื่อน แล้วเขาไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่”

   แน่ใจนะว่าเพื่อน รู้นะว่าใครโทรมา “นานมั้ย?”

   “น่าจะไม่นานครับ” น้องบอกพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าเสร็จธุระแล้วผมจะโทรหาพี่นะ”

   “ได้เลย” พอผมพยักหน้ารับปาก น้องก็หันไปเรียกพนักงานเพื่อเรียกเก็บเงินทันที

   แต่ผมนี่ดิ ไม่รู้ทำไมใจถึงหวั่นๆ แปลกๆ ความรู้สึกเหมือนเป็นผู้ปกครองกังวลว่าลูกจะทำอะไรไม่ถูกไม่ควรยังไงยังงั้น

   คุณกำพลอะไรนี่จะยังติดต่อน้องอยู่อีกทำไมวะ เลิกรากันไปไม่ใช่หรือไงฮึ แล้วแบบนี้จะจ้างนักทวงหนี้อย่างผมไปเพื่ออะไรวะ

   แม่งเอ๊ย อยู่ดีๆ ก็หงุดหงิด

   “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

   ผมพยายามสายตาสงสัยนั้น “เปล่า”

   “เมื่อกี้พี่ขมวดคิ้วใส่ผมนะ”

   สังเกตนักนะ นึกว่าจะเป็นผมคนเดียวที่เอาแต่มองน้องมันซะอีก “ก็บอกว่าไม่มีอะไร”

   “อ่า... โอเคครับ”

   โว้ย ช่างแม่งละ

   หมับ!

   น้องปีใหม่หยุดเดินเมื่อรู้ตัวว่าโดนดึงแขนไว้ “ครับ?”

   “ไม่ไปไม่ได้เหรอ”

   สัด พูดออกไปจนได้

   คนตัวเล็กกว่าระบายยิ้มบางๆ “ผมต้องไปจริงๆ พี่”

   “…”

   “ไม่มีอะไร ผมสบายมาก” แล้วน้องก็ลูบหัวสัตว์เลี้ยงที่ผมเป็นคนอุ้มอยู่ “ผมฝากลูฟี่ด้วยนะ”

   “รีบกลับมา”

   ปีใหม่ชะงัก “คะ... ครับๆ”

   “ลูฟี่รออยู่”

   รวมถึงกูด้วย


*.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:**.:。*゚‘゚・.。.:* *.:。*゚’゚・.。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:* *.:。*゚¨゚・ .。.:*



“โฮ่ง!”

   “เงียบๆ ดิวะ เดี๋ยวข้างห้องก็มาด่าหรอก”

   “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!”

   “โอ๊ยยยย ไอ้สัดดิว” ไอ้เอิร์ลที่ทนไม่ไหวลุกขึ้นจากโซฟา “กูดูการ์ตูนไม่รู้เรื่องเพราะหมาของมึงเนี่ย!!”

   “หมาเพื่อนกู”

   “จะหมามึงหมาเพื่อนหรือหมาวัดก็ช่วยสั่งให้มันหุบปากทีดิ๊ กูไม่มีสมาธิแล้วสัด” ไอ้เอิร์ลคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นพาดบ่า “ไม่ดูแม่งและสัด”

   ไอ้ทิมหันมาคุยกับผมบ้าง “เพื่อนมึงจะมาเอาหมาเมื่อไหร่”

   “เขาบอกว่าจะโทรมาว่ะ”

   “นี่จะตีหนึ่งแล้วนะสัด ไม่ใช่ว่าทิ้งไว้กับมึงนะ กูไม่เลี้ยงด้วยหรอกนะกูแพ้ขนหมา”

   ไอ้พวกนี้แม่งไก่อ่อนสัดๆ หมาตัวแค่นี้ยังไปจะไปรำคาญมัน พวกมึงไม่มีจิตวิญญาณของบุรษผู้อ่อนโยนต่อทุกสรรพสิ่งแบบกูเล้ย แล้วจะให้กูทำไงได้วะ ก็ปีใหม่ยังไม่โทรมาหาเลยเนี่ย พอจะเป็นฝ่ายโทรไปก็เสือกไม่ติดอีก ไม่รู้ไปดื้ออยู่ที่ไหน น่าเหลาไม้เรียวรอจริงๆ

   ว่าแล้วก็ขอโทรอีกทีซิ

   ‘หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้’

   นั่นไง ตั้งแต่เย็นมาผมฟังเจ๊คนนี้มาเป็นร้อยรอบแล้วมั้ง

   ผมอุ้มไอ้ลูฟี่ขึ้นมามอง “สงสัยมึงได้เป็นหมาของแก๊งพวกกูแล้วล่ะว่ะ”

   “โฮ่ง!”

   แหนะ รีบปฏิเสธเชียวนะสัด

   เดี๋ยวก่อน แล้วกูฟังภาษาหมารู้เรื่องได้ไง

   RRRRRRRRRR

   ผมกับไอ้ทิมหันมานิ่วหน้าใส่กันตอนที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะใกล้ๆ จอทีวี... เฮ้ย ไอ้เครื่องนี้ยังไม่เคยมีใครโทรเข้ามาเลยนะตั้งแต่ย้ายห้องมา เวรละ ไอ้ข้างห้องแม่งฟ้องส่วนกลางแหง

   ผมตัดสินใจว่าจะเป็นคนรับเอง พอยกหูผมก็กรอกลงไปด้วยความนุ่มนวลที่สุด

   “สวัสดีครับ”

   [โทรจากส่วนกลางนะครับ] นั่นไงล่ะ เดาไว้ไม่เคยผิดเลยกู [มีแขกขอพบครับ]

   “หืม? ใครเหรอครับ”

   [เห็นบอกว่าชื่อปีใหม่] คนปลายสายว่า [จะให้ผมเปิดประตูให้หรือคุณจะลงมาที่นี่เองครับ]

   “เดี๋ยวผมลงไปเอง ขอบคุณครับ”

   อะไรของน้องเขาวะ หายไปทั้งวันแล้วอยู่ดีๆ มาโผล่หน้าคอนโดเฉ้ย

   “เพื่อนมาแล้วเหรอ” ไอ้ทิมถามขึ้นมา

   “เออ” ผมอุ้มเจ้าลูฟี่ไว้แนบอก “เดี๋ยวกูขึ้นมานะ”

   ผมกับไอ้ตัวป่วนลงจากลิฟต์มาด้วยกัน ประตูเปิดอีกครั้งที่ชั้นล็อบบี้ ผมแตะบัตรออกมาเพื่อมองหาคนที่ส่วนกลางบอกว่ากำลังรอผมอยู่

   นั่นไง น้องปีใหม่นั่งอยู่ตรงโซฟารับรองแขก ผมนึกแปลกใจนิดหน่อยตอนที่เห็นน้องคลุมฮู้ดสีเทา เท่าทีจำไม่ผิดตอนเช้าน้องใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ใช่เหรอวะ แล้วไหนจะผ้าปิดปากสีดำนั่นอีก จะใส่ทำไม? อยู่ดีๆ ก็เป็นหวัดขึ้นมางี้?

   “ปีใหม่” ผมส่งเสียงจนอีกฝ่ายตัวกระตุกเล็กน้อย คงเพราะกำลังเหม่อเลยตกใจล่ะสิท่า “กว่าจะมา”

   ดวงตานั้นเศร้าสร้อยกว่าทุกครั้งที่เจอ ทว่าน้ำเสียงติดตลกอยู่ “คิดถึงอะดี้”

   แหม่ ถ้าบอกว่าใช่เดี๋ยวหน้าสั่นเป็นระฆังไม่รู้ด้วยนะ

   แต่ว่า... ทำไมเสียงสั่นๆ สรุปว่าไม่สบายจริงๆ เหรอ

   “ใส่ผ้าปิดปากทำไม”

   “แบบนักร้องเกาหลีไง” เสียงใสๆ นั้นสวนทันควัน

   “ไม่ใช่ไม่สบายนะ?” ผมถามด้วยความเป็นห่วง เอาจริง ตัวแค่นี้เป็นอะไรขึ้นมารักษาลำบากแน่ แถมยังดูขี้โรคจะตาย

   “ผมสะบายดีพี่ๆ ฮ่าๆๆ” น้องโบกมือ “ฮรึกกก ..ก”

   เฮ้ย!? เมื่อกี้เสียงสะอื้นใช่มั้ย

   น้องคงสังเกตได้ว่าผมกำลังจับผิด “ขอลูฟี่คืนด้วยครับ”

   “เป็นอะไร”

   “ไม่ได้เป็นอะไรเลยพี่” สองแขนที่ยื่นมานั้นดูสั่นๆ “ขอลูฟี่คืนเถอะนะ ฮรึกกก”

   “ปีใหม่”

   “นะครับ!”

   “…”
   ความจริงจังของอีกฝ่ายทำให้ผมยอมแพ้ ไม่เค้นก็ได้วะ ไม่ชอบเลยคนปิดบัง มีอะไรก็บอกสิ ไอ้เราก็นึกว่าสนิทกันมาระดับหนึ่งแล้วซะอีก

   ปีใหม่ตระกองกอดสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่พอได้หมาไปกอดเท่านั้นแหละหลุดโฮออกมาเลย

   “ฮืออออออ”

   ชิท ผมแพ้น้ำตา... จริงๆ นะ อันนี้ไม่ได้หื่นหรือว่าอะไร มันเป็นธรรมชาติของผู้ชายที่รู้สึกแย่มากๆ ที่เห็นใครสักคนอ่อนแอกว่า แล้วตอนนี้คนอ่อนแอที่ว่านั้นก็ดันยืนอยู่ตรงหน้าผมซะด้วย มันจะผิดอะไรหากผมจะเข้าไปถามไถ่ตามประสาเพื่อนร่วมโลก

   “ปีใหม่...”

   “ฮรึกกก ไม่เป็นไรๆ” น้องพยายามกลั้นสะอื้น “ผมแค่...”

   โธ่ จะพูดก็ยังลำบาก มีอะไรก็บอกสิ

   หรือน้องจะเห็นผมว่าเป็นคนนอกวะ...

   ช่างแม่ง พูดตามที่รู้สึกแล้วกัน “พี่เป็นห่วงหนู”

   อีกฝ่ายนิ่งไปเลย “จริงเหรอ...”

   ผมเดินเข้าไปสองก้าว “เป็นอะไรก็บอกมา”

   น้องปีใหม่ดูชั่งอกชั่งใจกับตัวเองสักพัก สุดท้ายก็จำใจปล่อยเลยตามเลย นิ้วเรียวๆ ของน้องปลดผ้าปิดปากสีดำนั้นจนหลุด และทันทีที่ไม่มีอะไรปกปิดหน้าน้องอีกต่อไป สายตาของผมรีบจับไปที่ริมฝีปากของน้องเป็นที่แรก

   “สัด…" ผมถึงกับหลุดพูดออกมา “ใครทำอะไรน้อง”

   แต่น้องเลือกที่จะปฏิเสธผม “ฮรึก... โคตรเจ็บเลย”

   น้องโดนต่อย

   ต่อยแบบต่อยของแท้โดยไม่ต้องวินิจฉัยให้มากความ ปากที่เคยชมพูจัดตอนนี้เจ่อแถมยังม่วงเพราะห้อเลือด ที่มุมปากด้านขวาเกิดแผลขนาดนั้นที่เลือดยังไหลไม่หยุดอย่างกับมันเพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ และไหนจะรอยช้ำม่วงๆ ใต้คางและใกล้ๆ กรามนั่นอีก

   ไปทำอะไรมาวะน้อง!

   “ปีใหม่” แขนผมไวกว่าความคิด รีบพุ่งเข้าไปประคองหน้าเล็กๆ นั้นไว้ตามสัญชาตญาณลูกผู้ชาย “ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

   แต่ทว่าน้องก็ยังส่ายหน้า

   ใจคอน้องแม่งไม่คิดจะตอบผมจริงๆ สินะ

   “พี่ดิว...”

   “…”

   “คืนนี้ผมอยู่กับพี่ได้มั้ย” แววตานั้นเหมือนกำลังขอร้องให้ผมเห็นใจ ซึ่งผมทำอยู่ “ผม... ไม่มีที่ไป”

   “อืม”

   “ขอบคุณจริงๆ นะพี่”

   นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันวะ




TBC*



 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


อยากรู้จังว่าน้องใหม่ของเราไปดื้อที่ไหนมา
สงสัยต้องมาติดตามกันตอนหน้าซะแล้วนะคร้าบบบ

ขอให้สนุกกับการทำงาน/เรียนในสัปดาห์ต่อไปนะครับ อิอิ

พูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic
หรือ #เจ้าจักรวาล ก็ได้นะฮัพ

ถ้าถูกใจ ฝากคอมเม้นท์ บวกเป็ด เป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะคร้าบ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ฮืออ คุณกำพลนั่นทำน้องเหรอ  :hao5:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
สงสารน้องงงงงงงงง โอ๊ยยยยยยยย ใครทำอะไรน้อง เสี่ยหรอ? แล้วถ้าน้องรู้ว่าดิวอี้ทำงานให้เสี่ยอะ? แล้วน้องก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่มีใครรักอยู่ โอ๊ยยยยยยย อินอะ กอดดดดดดด กอดน้องปีใหม่ /ตบหัวไอ้ดิวอี้ขี้เก๊ก!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด