S-E-A-L <<รัก>> ลับๆ = เผยความลับครั้งที่ END [20/7/18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S-E-A-L <<รัก>> ลับๆ = เผยความลับครั้งที่ END [20/7/18]  (อ่าน 29793 ครั้ง)

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ปั้นจั่นไร้สาระมากๆ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อ้างจาก: Leenboy
link=topic=66562.msg3810585#msg3810585 date=1522259067
กำจัดปั้นจั่นยังไงดีอ่ะไรท์ นางชักจะวุ่นวายเยอะไปละ :angry2:
เด๋วนางจะโดนจัดแน่ๆ คับ

จัดการนังปั้นจั่นเลยไรท์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอบหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเนี่ย  :ling3:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อาจารย์แซ่บมาก  :hao6:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ยังไม่จบง่ายๆ ต้องมีอะๆร ต้องมีอะไรรรร

13
“พี่วิน?” ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงมือถือดัง เลยงัวเงียตื่นขึ้นมาดู เห็นพี่วินนั่งอยู่ปลายเตียง “ใครโทรมารึเปล่าครับ”

“ไม่มีนี่ กรนอนเถอะ” พี่วินหันมาลูบแขนผม โน้มตัวลงข้างๆ เอาศอกยันเตียงไว้และนอนตะแคงมองหน้าผม

“อือ พี่ก็นอนกับผมสิ” ผมอ้อนด้วยการคว้าตัวเขามากอดไว้แนบอก เอาคางวางเกยบนกลุ่มผมหอมนุ่ม กลิ่นที่ผมชอบและทำให้รู้สึกสบายใจ ได้ยินเสียงเขาหัวเราะคิกคักพลางกอดตอบผมและซุกหน้าเข้าหาอกผมมากขึ้น

“อ้อนเป็นเด็กเลย”

“กินเด็กแล้วเป็นอมตะนะพี่ ไม่ชอบเหรอ” ผมแกล้งกระเซ้า กดจูบที่หน้าผากมนแผ่วเบา

“แล้วถ้ากรอยากเป็นอมตะ ไม่ต้องไปหาเด็กที่อื่นมากินรึไง” เขาสะบัดเสียงใส่

ผมอมยิ้ม เหมือนเขาหึงผมเลย “สำหรับผม กินพี่แค่คนเดียวก็เป็นอมตะแล้ว”

“ทำเป็นพูดดี อีกหน่อยอาจจะเบื่อก็ได้ พี่แก่กว่ากรตั้งเป็นสิบปี” ท่าทางเขาจะเป็นคนคิดมากอยู่เหมือนกันนะ ปกตินักจิตวิทยาน่าจะจัดการอารมณ์กับความรู้สึกของตัวเองได้ดี แต่การที่เขาพูดและแสดงอารมณ์แบบตรงไปตรงมากับผม ผมก็ชอบนะ

“ผมก็จะแก่ตามพี่ให้ทัน แล้วเราก็จะแก่ไปด้วยกัน”

“พูดจริงเหรอ” เขาเงยหน้าขึ้น ช้อนสายตามองผม ผมเองก็ก้มมองเขา ก่อนจะจูบเบาๆ ที่ปลายจมูก

“ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ ให้เวลามันพิสูจน์ตัวมันเองดีกว่า นอนเถอะครับ” แล้วผมก็หลับตาลง เข้าสู่ห้วงนิทรา

******

เช้าวันต่อมา พี่วินพาผมไปส่งที่หอ แล้วก็แยกไปทำงานก่อน ส่วนผมต้องขึ้นห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมของไปเรียน

“เมื่อคืนไปไหนมา ค้างที่บ้านเหรอ” พอเข้าไปในห้องปุ๊ป ก็เจอปั้นจั่นนั่งรออยู่ที่โซฟา

“อือ” ผมรับคำสั้นๆ เดินผ่านเลยไปหยิบผ้าเช็ดตัว จริงๆ ก็อาบน้ำมาแล้วแหละ แต่อยากอาบอีกที

“ทำไมไม่โทรมาบอก เรารอกรทั้งคืนเลยนะ โทรไปก็ไม่รับ แล้วยังปิดเครื่องหนีอีก” ปั้นจั่นลุกขึ้นเดินตามผม แสดงว่าเมื่อคืนพี่วินเป็นคนตื่นมาเจอและกดปิดเครื่องไป

“ก็นอนอยู่ มันรบกวน” ผมว่าพลางก้าวเท้าเข้าไปในห้องน้ำ “ขอกูอาบน้ำก่อน แล้วค่อยคุยกัน”

อาบน้ำเสร็จ เดินออกมาแต่งตัว ปั้นจั่นก็ยังคงนั่งรออยู่ที่โซฟา พอเห็นผม ก็รีบลุกมาหา

“กร ถามจริงๆ เมื่อคืนไปไหนมา”

“ก็บ้านไง” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ หยิบเสื้อนักศึกษามาสวมพร้อมกางเกง กำลังจะสวมเข็มขัดต่อ ปั้นจั่นก็โผเข้ามากอดจากด้านหลัง “จะแต่งตัว มันเกะกะ”

“เรารักกรนะ ไม่ว่ากรจะมีใครอีกกี่คน เราก็ไม่ว่า ขอแค่กรอยู่กับเรา อย่าทิ้งเราก็พอ” เสียงของมันสั่นเครือ ผมสงสารมันนะบอกตรงๆ เข้าใจว่ามันเจ็บปวด ยากที่จะทำใจ เพราะผมก็มีอะไรกับมันไปแล้ว ถ้าแค่มันชอบผมเฉยๆ อาจจะยังคุยกันรู้เรื่องกว่านี้ แต่ผมก็พลาดเองที่คืนนั้นไม่ยับยั้งชั่งใจ พอโดนมันทำแบบนั้นก็ตามน้ำจนกู่ไม่กลับ มันเป็นความรับผิดชอบของผม ที่คงต้องทนจนกว่าปั้นจั่นจะตัดใจได้เอง

“ยังไงก็เพื่อนกัน กูไม่ทิ้งมึงหรอก” ผมตัดบทด้วยการดึงมือมันออกและใส่เข็มขัดจนเสร็จ พยายามไม่มองหน้าปั้นจั่นที่น่าจะร้องไห้อยู่ ผมไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจใคร ถ้าผมไม่มีใครเลย ผมอาจจะรักมันได้ แต่ผมรักพี่วินไปแล้ว รักตั้งแต่ยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร

แต่สิ่งที่ผมกับปั้นจั่นเป็นอยู่ตอนนี้มันไม่ต่างกันเท่าไหร่ ผมรักพี่วิน ปั้นจั่นก็รักผม ส่วนพี่วินก็มีภรรยาอีกคน ผมไม่รู้ว่าเขาแต่งงานกันเพราะความรักหรือเปล่า ในเมื่อพี่วินบอกเองว่าเป็นเกย์ แต่ยังไงสถานะของพวกเราตอนนี้ก็คล้ายๆ กัน ผมเลยไม่อยากให้ปั้นจั่นต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้

“เพื่อนเหรอ? กรคิดว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้อีกเหรอ เราทำขนาดนี้แล้ว ทำไมกรไม่สนใจเราบ้าง ทำไมรักเราไม่ได้” มันร้องไห้ฟูมฟายเสียงดัง “ไม่รักเราแล้วทำไมตอนนั้นไม่โวยวายด่าทอเรา ผลักไสเราออกไปให้พ้นๆ ทำไมต้องทำแบบนั้นกับเรา” ปั้นจั่นเหมือนจะขาดสติ มันเข้ามาทุบหลังผมรัวๆ จนผมต้องหันไปคว้าแขนมันไว้ให้หยุด

“กูขอโทษ”

“ไม่เอา! เราไม่เอาคำขอโทษ เราต้องการแค่กรอยู่กับเรา” มันดิ้นไปมา ผมพยายามจับไว้ให้อยู่นิ่งๆ เห็นปั้นจั่นเป็นแบบนี้แล้วผมเสียใจจริงๆ ผมไม่ได้อยากทำร้ายใคร ตอนที่ทำแบบนั้นกับพี่กานต์ ผมก็รู้สึกผิดแทบตาย ถึงได้ยอมให้มันกระทืบเอาฝ่ายเดียว คนที่ผมต้องสู้ด้วยมีแค่ไอ้พีทคนเดียวก็พอ

“เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเหอะปั้น กูมีคนที่ชอบแล้ว และกูจะคบกับเขา”

“ไม่เอา!” มันโวยวายกอดเอวผมแน่นไม่ยอมปล่อย ผมแกะมือนั้นออก แต่ปั้นจั่นก็ยังเข้ามากอดอีก ถ้าพี่วินเป็นผม และผมเป็นปั้นจั่น เราก็คงทำเหมือนกัน

“ถ้ายังพูดไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องเจอกันอีก” ผมขู่เสียงแข็ง มันชะงักไปแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือ

“กร...ให้เราอยู่ข้างๆ กรไม่ได้เหรอ” มันร้องไห้ฟูมฟาย ทรุดตัวลงกอดขาผม

“ปั้น กลับมาเป็นเพื่อนกันเหอะ กูรักมึงไม่ได้ มึงเองก็ทนอยู่แบบนี้ไม่ไหวหรอก ตัดใจซะ” ผมพยายามโน้มน้าว นั่งยองๆ ลงตรงหน้ามัน “นะปั้น เป็นเพื่อนกันก็ดีแล้ว กูจะเป็นเพื่อนที่ดีของมึงให้ได้”

“ฮือออ กร...กร...” ปั้นจั่นปล่อยโฮออกมาเสียงดังแล้วโผเข้ากอดผมอีกครั้ง และครั้งนี้ผมก็ยอมให้มันกอดและร้องไห้จนพอใจ

ผมคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว เลยพาปั้นจั่นไปกินข้าวเช้าและเข้าเรียนตามปกติ ผมส่งไลน์ไปบอกพี่วินด้วยว่าเคลียร์กับคนที่อ้างว่าเป็นแฟนผมเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากให้พี่เขากังวล

ส่วนเรื่องภรรยาของพี่วิน ผมไม่คิดจะเข้าไปยุ่มย่าม ถ้าเขาไม่เอ่ยปากพูดอะไรออกมา เพราะยังไงเขาก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นโดยไม่ได้เต็มใจอยู่แล้ว เขาเป็นคนบอกผมเอง ว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลา แล้วยังมีเรื่องพ่อแม่ของพี่เขาอีก

การเป็นผู้ใหญ่ บางทีก็ยุ่งยากกว่าที่คิด ตัวผมตอนเด็กๆ ที่โดนกลั่นแกล้งจนกลายเป็นโรคนอนไม่หลับหรือฝันร้าย ดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่พี่วินต้องอดทนและพบเจอมาตลอดชีวิตของเขา

พี่วินไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของตัวเองกับใครได้เลย เขาปกปิดมันมาตลอด คบกับใครก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ และไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทนไหว สุดท้ายก็เลิกรา เขาเลยเลือกคบผ่านเนตแบบไม่เห็นหน้าตา เพื่อตัดปัญหา แค่คุยกันผ่านๆ ไม่ต้องผูกพัน แต่แล้วก็มาเจอกับผม เขาบอกว่าแรกๆ แค่เห็นใจ และตัวเขาก็เป็นนักจิตวิทยา เลยอยากลองคุยกับผมไปเรื่อยๆ จนมันเกินเลยกว่านั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันรู้ตัว

******

“เลิกเรียนแล้วครับ เดี๋ยวเจอกันครับ” ผมกดวางสายหลังจากตกลงเรื่องสถานที่นัดกันในเย็นนี้ได้แล้ว ความรักแบบลับๆ ของผมกับพี่วิน ไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดใจเลยสักนิด ผมไม่ต้องการเรียกร้อง ไม่ได้ต้องการให้เขาเปิดเผย เพราะผมเป็นคนยังไงก็ได้อยู่แล้ว แค่ได้อยู่ด้วยกัน ในที่ของเราก็พอ

“แหมๆ นี่มึงมีแฟนแล้วจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย ก่อนหน้านี้ทำตัวขวางโลกโครตๆ สาวคนไหนมาตกหลุมวะ” เสียงไอ้แฟ้มแซว ปั้นจั่นหันมามองหน้าผม แล้วก็หันกลับไปทำงานของมันต่อ ผมรู้ว่าปั้นจั่นยังเสียใจกับเรื่องของผมอยู่ แม้เราจะพยายามทำตัวเหมือนปกติก็ตาม

“ไม่ใช่สาวที่ไหนหรอก” อยากจะบอกว่าเป็นหนุ่มต่างหาก แถมหนุ่มใหญ่ด้วย

“แล้วมึงไม่เครียดจนนอนไม่หลับแล้วใช่มั้ย” เวสป้าที่ตอนแรกเหมือนไม่ชอบหน้าผม ไปๆ มาๆ ก็เหมือนจะเข้ากันได้ดี มันเป็นห่วงคอยถามไถ่เรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ส่วนตัวมัน มันบอกว่าหายดีแล้ว เพราะพอการเรียนเข้าที่เข้าทาง พ่อแม่มันก็พอจะยอมรับได้ ไม่มากดดันอะไรมาก

“อืม ขอบใจมึงมากนะที่ช่วยแนะนำหลายเรื่อง” ผมยิ้มสดใส ที่ผมนอนหลับสนิท ไร้เรื่องกังวลใจได้ เพราะมีพี่วินอยู่ข้างๆ ไม่ใช่เพราะยา แค่ได้พูดคุยกับพี่เขา ผมก็หายเครียดแล้ว และผมก็อยากให้พี่วินสบายใจเวลาอยู่กับผม ถึงได้ไม่เซ้าซี้เรื่องส่วนตัวของเขา ปล่อยให้มันเป็นไปตามเวลา

แต่เรื่องที่ผมยังค้างคาในใจ คงเป็นเรื่องไอ้พีท ที่พักนี้หายหน้าหายตา ตั้งแต่เกิดเรื่องที่ผมทำร้ายมันปางตาย และมันก็พาพวกมารุมผม ผมคิดว่ามันอาจจะเลิกยุ่งกับผมไปเลย เพราะก็ได้แก้แค้นกันไปแล้ว ทั้งที่คิดแบบนั้น แต่ใจผมมันยังไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ เหมือนกับว่าจะต้องเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้นอีกเพราะมัน

“งั้นกูไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้” ผมเลิกคิดมากแล้วหันไปบอกลาเพื่อนๆ ทุกคนโบกมือส่งยิ้มให้ ยกเว้นปั้นจั่นที่หน้าตึงๆ ใส่นิดหน่อย แต่ก็ยกมือโบกลามาให้ ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น

สาวเท้าเดินอย่างเร่งรีบไปที่มอเตอร์ไซค์ เพื่อจะไปตามนัดกับพี่วิน วันนี้พี่เขาบอกว่าอยากกินอาหารไทย เลยนัดกันที่ร้านอาหารทรงไทยแถวริมน้ำ ห่างจากมหาลัยไปไกลอยู่ เพื่อจะได้ไม่มีใครมาพบเจอ จริงๆ ผมอยากจะไปกินข้าวที่ห้องของพี่วินมากกว่า แต่มันยังไม่ค่ำมาก คนในมหาลัยก็เยอะ ถ้าผมเข้าหอพักอาจารย์เวลานี้ต้องมีคนเห็นแน่นอน โดยเฉพาะบรรดาอาจารย์ที่พักอยู่ด้วย

อีกไม่กี่ก้าว ก็จะถึงมอเตอร์ไซค์ของผมแล้ว แต่จู่ๆ ก็มีคนมายืนขวางหน้า มันอีกแล้ว

“มีอะไร” ผมถอนหายใจแรงพลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าหงุดหงิด

ไอ้พีทยืนกอดอกจ้องหน้าผมเหมือนจะเอาเรื่อง แต่มันไม่กล้าลงมือตรงนี้หรอก คงไม่พ้นลากผมไปที่ลับสายตาคนอีก

“ถ้าไม่พูด กูไปนะ รีบ” ผมเดินเลี่ยงไหล่มันไปอีกทาง ไอ้พีทกระชากแขนผม เลยต้องหันไปมองมันอีกที

“คราวที่แล้ว...” มันเอ่ยขึ้นเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

ผมขมวดคิ้ว มองหน้ามันอย่างงุนงง

“คือ แผลมึง เป็นไงมั่ง” มันทำหน้าเจื่อนๆ แก้มแดงนิดๆ

“หายดีแล้ว” อะไรของมัน ผมชักสีหน้า ทำผมขนาดนั้น แล้วยังมีหน้ามาทำเหมือนเป็นห่วง? หรือรู้สึกผิด?

“เหรอ งั้นก็ดีแล้ว” มันปล่อยมือจากแขนผม ยืนเช็ดจมูกตัวเองท่าทางเก้อเขิน “ขอโทษนะ”

“ห๊ะ” ผมยิ่งมุ่นคิ้วหนัก เมื่อกี้หูฝาดหรือผมประสาทแดก?

“กูบอกว่าขอโทษ” มันตะโกนหน้าแดงก่ำ แล้วก็รีบวิ่งหนีไป ทิ้งให้ผมมองตามไปด้วยความเอ๋อแดกแบบสุดตีน

ไอ้พีทมันไปกินยาอะไรผิดมารึเปล่า จู่ๆ ก็มาขอโทษ ทั้งที่ตีกันตั้งขนาดนั้น

ท่าจะบ้าแล้ว

หรือผมอาจจะฝันกลางวัน

คิดแบบนั้นสบายใจกว่าเยอะ ช่างมันแล้วกัน

ไปหาพี่วินดีกว่า

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ปั้นจั่นไร้สาระมากๆ
ปั้นก็รักของปั้นนนน

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อ้างจาก: Leenboy
link=topic=66562.msg3810585#msg3810585 date=1522259067
กำจัดปั้นจั่นยังไงดีอ่ะไรท์ นางชักจะวุ่นวายเยอะไปละ :angry2:
เด๋วนางจะโดนจัดแน่ๆ คับ


จัดการนังปั้นจั่นเลยไรท์


มีคนอื่นจัดแทนแน่นอน

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
รอบหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเนี่ย  :ling3:

พายุยังสงบ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อะไรของนังพีทฟ่ะ  :ruready

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายใช่ไหม

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ตอนของพีทแบบเต็มๆ

14
“พอใจแล้วใช่มั้ย”

มันนั่งพิงกำแพงพลางหอบหายใจ สายตาที่มองมาไม่มีความหวาดกลัวเหมือนตอนม.ต้นอยู่เลยแม้แต่น้อย มันจ้องมองผมนิ่งๆ ตอนที่ให้ไอ้พวกนั้นรุมมัน มันไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ ยอมให้เตะต่อยเงียบๆ จนพวกที่ผมจ้างมาเริ่มหวั่นเสียเอง เลยวิ่งหนีกันไปหมด

ผมรู้ว่ามันโตขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เด็กตัวผอมแห้งใส่แว่นตาหนาเตอะคนนั้น ที่ผมจะรุมรังแกยังไงก็ได้ แต่ผมก็แค่อยากระบายอารมณ์ อยากได้ใครสักคนที่จะรองมือรองตีนเท่านั้นแหละ พอเจอมันก็เลยคิดว่าจะข่มมันได้เหมือนเดิม แต่ไม่ใช่เลย

ทั้งรูปร่างและแรงกายผมต่างเสียเปรียบมันหมด มันตัวโตกว่าผมแล้ว แรงก็เยอะกว่า ผมพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้วเมื่อครั้งก่อน ที่ห้องของมัน

ผมพยายามทำตัวเป็นเด็กดีต่อหน้าพ่อแม่ ตั้งใจเรียนอย่างหนักกว่าจะสอบเข้าที่นี่ได้ ต้องอดทนทำเรื่องที่ตัวเองไม่ต้องการมาเป็นสิบปี ความกดดันและความเครียดที่ผมแบกรับ สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ผมต้องทนมาตลอด ถ้าทำไม่ดีก็ไม่มีใครสนใจ พ่อแม่เสียหน้า และพวกเขาก็จะมาด่าว่าผม

ความเครียดทั้งหมดของผมเลยไปลงที่มัน ไอ้เด็กอัจฉริยะที่ไม่ต้องทำอะไรก็เก่งแม่งทุกอย่าง ตอนเจอมันครั้งแรก ผมโครตเกลียดคนแบบมัน ก็เลยหาเรื่องแกล้งมันแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสะใจและคลายเครียด

ทำไมผมไม่เกิดมาอัจฉริยะแบบมัน ไม่ต้องพยายามเหี้ยอะไรเลยก็เก่ง มีแต่คนรัก คนชม ผมเกลียดมันๆๆๆๆๆ ผมตอกย้ำตัวเองอยู่ทุกวันด้วยคำคำนั้น

แต่แววตาของมันตอนนี้ ทำให้ผมรู้สึกกลัว

ผมไม่ตอบคำถามของมัน ไม่กล้าสบตา ทั้งที่ผมทำร้ายมัน แต่ผมกลับเป็นคนที่ต้องวิ่งหนีมัน โครตน่าสมเพช

“ไอ้พีท!” จู่ๆ ก็มีมือใครไม่รู้มารั้งแขนผมไว้ ร่างผมเซตามแรงดึง ปะทะกับคนคนนั้น ผมเงยหน้ามองเขา

“พะ พี่...พี่กานต์...”

“รีบไปไหนของมึง” พี่กานต์ รุ่นพี่ของไอ้กร มองหน้าผมเหมือนจะสำรวจอะไรสักอย่าง “หนีอะไรมา อย่าบอกนะว่ามีเรื่องกับกรอีกแล้ว”

“ไม่มี! ผมไม่ได้หนี! ปล่อย!” ผมพยายามสะบัดข้อมือออก

“อย่าดิ้นดิ ไม่เจ็บรึไง” พี่มันตัวใหญ่พอๆ กับไอ้กร นั่นหมายความว่าผมสู้คนคนนี้ไม่ได้เช่นกัน ทำไมผมถึงกลายเป็นคนอ่อนแอแบบนี้ เพราะแม่บอกให้ลดน้ำหนัก ผมเลยตัวเล็กลง หุ่นดีมีสาวๆ ชอบก็ดีหรอก แต่แรงแม่งก็ไม่มีไปด้วย

พี่กานต์กระชากแขนผมให้เดินตามไปที่รถ เขารู้ว่ารถของผมคันไหน เขาเป็นคนช่วยผมไว้คราวก่อน ที่ผมบาดเจ็บแทบคลานออกจากห้องไอ้กร มันจับผมกดชักโครกเกือบตาย หัวก็โขกโถจนแตกต้องเย็บไปหลายเข็ม ผมลากสังขารหนีออกจากห้องมันตอนมันคลุ้มคลั่งวิ่งหนีไป แล้วก็เจอพี่กานต์ที่ใต้ตึกหอพักของมัน เขาคงมาหามันพอดี เลยพาผมไปส่งโรงพยาบาล ผมเลยต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังอย่างช่วยไม่ได้ ผมเป็นคนผิดเอง ผมยอมรับ ผมไม่คิดว่ากรจะคลั่งแบบนั้น

ผมกดรีโมทเปิดประตูรถ พี่กานต์จับผมยัดเข้าไปในรถแล้วรัดเข็มขัดให้ ยังไงก็รถของผมเอง เลยไม่รู้จะหนีทำไม แล้วผมก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกับเขาด้วย จะมีก็แค่...ตอนที่เขาช่วยผมและให้ผมนอนที่ห้องคืนนั้นแหละ

เขาสตาร์ทรถ และหันมาขยี้หัวผม “บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่งกับกร”

รถเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ผมนั่งเงียบ ก็ผมแค้นมัน ถ้าไม่ทำให้มันสะบักสะบอมเหมือนผมตอนนั้นบ้าง มันไม่หายแค้น

“เลิกแล้วต่อกันสักที กรมันไม่อยากยุ่งกับมึงแล้ว สำนึกมั่งนะ” พี่มันบ่นตลอดทาง ผมนั่งหันหน้าหนีไปอีกทาง มองวิวข้างทางที่ผ่านเลยไปเรื่อยๆ อย่างเซ็งๆ โดนคนแก่บ่นจนได้ เบื่อว่ะ

เอี๊ยด!

“พูดนี่ฟังมั้ย? พีท” จู่ๆ มันก็เบรกรถจอดข้างทาง ผมหน้าเกือบกระแทกคอนโซล เลยหันไปมองมันเคืองๆ

“จะฆ่าผมรึไง!”

พี่กานต์ปลดเข็มขัดนิรภัยออกแล้วโน้มตัวมาคร่อมผม แววตามันน่ากลัว พอๆ กับไอ้กร “กูมีวิธีฆ่ามึงที่ดีกว่านี้ ถ้าไม่อยากลองก็ฟังที่กูพูดได้แล้ว”

“ผมก็ฟังอยู่นี่ไง” ไม่รู้ทำไมผมถึงได้แพ้มันทุกที เพราะมันช่วยผมไว้ครั้งนั้นงั้นเหรอ ไม่ใช่หรอก ผมรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา เขาดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ มองโลกในแง่ดี แต่คนแบบนี้แหละ ที่แม่งโครตน่ากลัว

“ไปขอโทษกรด้วย อย่าให้กูต้องพูดซ้ำ”

“อือ” ผมพยักหน้าส่งๆ พี่กานต์คว้าแก้มผมหมับ จับให้เงยขึ้นสบตากับเขา ผมจะแกะมือเขาออก ก็ทำไม่ได้

“รับคำให้มันดีๆ อย่าให้กูรู้ว่ามึงหาเรื่องอีก ไอ้กรไม่ฆ่ามึง แต่กูจะทำให้มึงเห็นนรกบนดินแน่” มันจ้องตาผม จนผมเสียววาบ ต้องกะพริบตาหนี

“พีท”

“อะไรเล่า”

“ตอบพี่รึยังครับ”

“...” มันใช้เสียงอ่อนเสียงหวานแบบนี้ ผมรู้เลยว่ามันกำลังของขึ้นสุดขีดแล้ว ถ้าผมยังกวนตีนมันอยู่ คงโดนดีแน่ “ครับ พี่กานต์”

“เด็กดี” มันคลี่ยิ้มอ่อนโยนทั้งที่มือบีบแก้มผมสองข้างจนเจ็บไปหมด ก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ และ...

“ไม่เอา!” ผมรีบผลักอกมัน แต่สุดท้ายก็โดนมันจูบอยู่ดี

คืนนั้นก็เหมือนกัน ไม่รู้เพราะอะไร อารมณ์พาไป ก็ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน มันถึงได้จูบผม และผมก็เสือกจูบตอบมันด้วย อาจจะเพราะผมกำลังหวาดกลัว พอเห็นมันใจดีด้วยก็เลยเคลิ้ม กลิ่นตัวของพี่กานต์หอมอ่อนๆ รู้สึกดีเวลาที่กอด แต่ผมไม่รู้หรอกว่าพี่มันทำเพราะอะไร แค่เปลี่ยว? เงี่ยน? จะอะไรก็ช่าง ผมไม่อยากคิดถึงมันแล้ว

“พอแล้ว...เดี๋ยวมีคนเห็น” ผมทุบอกมันเมื่อมันผละริมฝีปากออก มันยังไม่วายเอาลิ้นมาเลียอีก “พี่!”

“คืนนี้ค้างห้องกู” มันคลายมือที่บีบแก้มผมออกและลูบหัวให้เบาๆ พลางไซร้ที่คอไปด้วย จะปลอบหรือจะเอา ยังไงกันแน่วะเนี่ย “พีท?”

“เออๆ ขนาดนี้แล้วจะให้กลับบ้านรึไงล่ะ” ผมโวยวายหน้าร้อนผ่าวๆ มือก็ดันตัวมันออกห่าง “ขับรถดิ! ไซร้อยู่ได้”

“หึหึ โอเคๆ จุ๊บ” มันหอมแก้มผมแรงๆ อีกทีก่อนจะยอมกลับไปนั่งที่และขับรถต่อ ส่วนผมต้องนั่งขดตัวซุกหน้ากับคอเสื้อเพราะอายมันเนี่ย!

******

เพราะพี่กานต์บอกให้ไปขอโทษไอ้กร ผมก็เลยต้องกลั้นใจอยู่นานกว่าจะกล้าโผล่หน้าไปเจอ มันเกลียดผมมาก ผมรู้ ผมเองก็เกลียดมัน แต่ถ้าผมไม่ทำตามที่พี่กานต์สั่ง มีหวังได้โดนพี่มันจัดหนักแน่

ไม่ชอบความรู้สึกที่เหมือนเป็นเบี้ยล่างแบบนี้เลยจริงๆ

“เป็นไรพีท” วันนี้ก็เจอมันอีกแล้ว เรียนปี 3 แล้วว่างเนอะ มีเวลามานั่งเจ๋อที่คณะผมทุกวัน

“เบื่อ” ผมตอบตามตรง พี่กานต์ทำหน้างง

“พูดแบบนี้ อยากให้พี่ทำให้หายเบื่อเหรอ” มันยิ้มหวานจนผมขนลุก หน้าร้อนวูบขึ้นมาเลย

“เบื่อพี่นั่นแหละ มาเฝ้าอยู่ได้ ไม่มีไรทำรึไง” ผมกัดปากอย่าหงุดหงิด

“ไม่เอา อย่ากัด” มันยื่นมือมาเกลี่ยปากผม “ถ้ากูไม่มาเฝ้า เกิดมึงไปหาเรื่องกรอีกล่ะ กูต้องเฝ้าแหละถูกแล้ว”

“พี่จะอะไรนักหนา ผมไปขอโทษมันแล้วไง จะไม่ยุ่งแล้วจริงๆ” โครตเสียศักดิ์ศรีเลยด้วย ตอนที่ต้องโผล่หน้าไปเพื่อขอโทษไอ้กรอ่ะ

“คราวนี้จบจริงๆ แน่นะ?” มันจ้องหน้าผมเขม็ง ผมก็พยักหน้ารับ “คำตอบล่ะ? พีท”

“ครับ!” ผมกระแทกเสียงใส่ แต่มันดันยิ้มพอใจ น่าโมโหที่สุดเลย อะไรๆ ก็ไอ้กรๆๆๆๆ มีแต่คนชอบมัน รักมัน น่าเบื่อที่สุด!

“คิดอะไรพีท ทำหน้ามุ่ยแบบนั้น” พี่กานต์หยิบทิชชู่มาเช็ดปาก ดูผู้ดีขัดกับสันดานมาก

“เปล่า” ผมรู้ตัวว่ากำลังขมวดคิ้ว เลยพยายามปั้นหน้าปกติ แต่แม่งก็ไม่ได้ว่ะ

“ขี้อิจฉานะ เด็กน้อย” มันหัวเราะแล้วก็ลูบหัวผมเหมือนเคย ผมอายเพื่อนในคณะเลยต้องปัดมือมันออก

“ผมไม่ใช่เด็ก!”

“ที่ทำอยู่เนี่ยแหละเด็ก” มันยิ้มบางๆ ปลายนิ้วไล้ลงมาที่แก้มผม

“พี่กานต์ คนมอง” ผมดึงมือมันไว้ แต่มันไม่ยอมละมือออก ยังลูบที่แก้มผมเบาๆ สีหน้าเหมือนกำลังเอ็นดูเด็กเล็กจริงๆ คือกูอายยยย

“สนใจทำไม” มันยักคิ้วใส่

“พี่หน้าด้านไปคนเดียวเหอะ” ผมว่าพลางปัดมือมันอย่างแรง มันหัวเราะอารมณ์ดี

“กรมันมีแฟนแล้ว”

“หา?” ผมทำหน้ายุ่ง จู่ๆ ก็พูดอะไร บอกทำไม

“ไม่ต้องหึงนะ กูไม่ได้ชอบกรแบบนั้น แค่เห็นมันเหมือนน้องชาย”

“ใครหึง! พูดอะไรของพี่เนี่ย” ได้เวลาเรียนแล้ว ผมทำท่าจะลุกไป พี่กานต์ก็คว้ามือไว้ก่อน “อะไร? จะไปเรียนแล้ว”

มันยิ้มตาหยี ลูบมือผมไปมา “ตั้งใจเรียนนะครับ ที่รัก”

“ไอ้พี่กานต์ พูดเชี่ยไร!” ผมรีบดึงมือออกแล้ววิ่งหนีไปขึ้นลิฟท์ มันยังมองตามพร้อมเสียงหัวเราะ แม่งงง คนมองเต็มเลย! สัสพี่กานต์ จำไว้เลยมึง!



ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อะไรของนังพีทฟ่ะ  :ruready
นางโดนของมา

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลายใช่ไหม
ค่อยๆ ไปทีละนิด

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พีทโดนของ น่าจะของแรงซะด้วย5555 :-[

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พี่กานต์เป็นไส้เดือนหรอ โดนกรกด พอย้ายไปที่พีทกลับจับพีทกดซะงั้น แหล่มจริง ๆ เลยพี่กานต์เนี่ย  o13

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
​คู่นี้อาจจะไม่หวานแหววหวือหวา เอาจริงๆ เรื่องนี้แทบไม่มีคู่ไหนหวานใส่กันมั้ย มีแต่หื่น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

15
ครั้งแรกที่เจอพีท คือตอนที่มันกำลังทำท่าทางเหมือนข่มขู่อะไรสักอย่างกับกร ในร้านคาเฟ่แถวหอพักพวกเรา ผมไม่รู้ว่ามันคุยอะไรกัน แม้พีทจะยิ้ม แต่สีหน้าของกรไม่ได้รู้สึกดี ผมก็เลยตัดสินใจเข้าไปทัก

พีทเป็นผู้ชายผิวขาว หน้าตาดี ตัวเล็กกว่าผม แต่ก็เป็นไซส์มาตรฐานของผู้ชายทั่วไป มันส่งยิ้มกวนๆ ดูร้ายไม่เบา สำหรับผม มันน่าสนใจมากกว่าคนเงียบๆ ไม่แสดงออกอย่างกรเป็นไหนๆ กับกร ผมเคยมีเรื่องที่ทำให้เกือบเข้าหน้ากันไม่ติด แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยคิดมาก ไม่อยากใส่ใจกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ผมรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจ ฟังจากเวสป้า เหมือนมันจะเป็นโรคทางจิตอะไรเนี่ยแหละ หลังๆ ผมก็เลยไม่ค่อยกวนมันเท่าไหร่ ไม่อยากทำให้มันเครียด ยังไงมันก็เป็นน้องชายที่น่ารัก

กรน่าจะเคยมีเรื่องราวกับพีทมาก่อน คงเป็นเรื่องสมัยเด็ก วัยรุ่นก็อย่างนั้นแหละ แต่ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลวร้ายมากขนาดถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจนเลือดตกยางออก ถึงผมจะชอบทำตัวกร่างๆ ใส่รุ่นน้อง แต่ผมก็เป็นประธานรุ่น ที่เขม่นหน้ากรตอนแรก เพราะมันไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรม ทำให้ผมต้องคอยไล่ล่าจนเหนื่อย แต่ผมไม่เคยเอาเรื่องมันจริงจัง แค่ขู่ไปงั้นแหละ ที่ทนไม่ไหวจนลงมือกับมันก็เพราะเรื่องนั้นเรื่องเดียว และสาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก บางทีหมั่นไส้มันก็แค่ตบหัวไป ก็ดูไอ้กรมันทำตัว ตอนเอาผมนี่โครตหื่นโครตร้าย ทีเวลาปกติแม่งเสือกติ๋มซะ ผมก็หมั่นไส้ดิ มันเหมือนคนสองบุคลิก ผมก็เลยไม่อยากใส่ใจกับความผิดพลาดในคืนนั้น

แต่ตอนที่เจอพีทเดินอาบเลือดออกมาจากหอมัน ผมโครตช็อค นาทีนั้นคือ ไอ้พีทรอดออกมา แล้วกรล่ะ กรบาดเจ็บขนาดไหน พวกมันทะเลาะเหี้ยอะไรกัน ถึงต้องตีกันเลือดอาบ ผมอยากกระชากคอไอ้พีท แต่มันก็บาดเจ็บอยู่ ขึ้นไปบนห้อง ปรากฏว่ากรหนีออกไปแล้ว และพีทนี่แหละที่อาการสาหัส ผมก็เลยพาพีทไปโรงพยาบาล

โดนเย็บไป 5 เข็มที่หัว อยากจะสมน้ำหน้ามันนะ แต่เห็นหน้ามันแล้วสงสาร เลยไม่กล้าพูดอะไร ผมแค่ช่วยพยุงร่างที่บอบช้ำอ่อนแรงของพีทกลับหอ เพราะมันคงขับรถไม่ไหว และผมไม่อยากให้คนเจ็บเดินทางกลับบ้านไกลๆ

“ทำไมมึงไม่อยู่หอวะ” ผมโยนขวดน้ำให้พีทที่นั่งอยู่บนเตียง มันยังปวดหัวอยู่ เลยต้องกินยาพารา

“มีรถ” มันตอบสั้นๆ กระดกน้ำใส่คออึกใหญ่ กลืนยาลงไปแล้วก็โยนขวดทิ้งลงพื้น ผมมองมันเคืองๆ ที่ต้องตามเก็บขวดน้ำให้มัน

“นี่กูช่วยมึง เพราะถือว่ารุ่นน้องกูทำร้ายมึง เลยไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่โตหรอกนะ ไม่ได้จะพามึงมาเป็นราชา ใช้งานกูเหมือนทาส”

“ขอโทษ ผมไม่มีแรงลุกแล้ว” มันเสียงอ่อยลง ยังไงผมก็เป็นรุ่นพี่ มันคงเกรงใจบ้าง

ผมนั่งลงข้างๆ มัน “จะให้กูทำอะไรก็บอกดีๆ”

“ครับ” มันก้มหน้านิ่ง แปลก มันในมุมนี้ก็น่ารักดี ไม่เหมือนตอนที่ทำหน้าหยิ่งๆ ยิ้มยียวนกวนตีนตอนนั้นเลยสักนิด ดูหงอยๆ ซึมๆ อาจจะเจ็บแผลและหวาดกลัวที่โดนกรทำร้ายล่ะมั้ง

“เด็กน้อย” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมลูบแก้มมันเบาๆ คือที่หัวมันเจ็บอยู่ เลยไม่กล้าแตะโดน มันเงยหน้ามองผมตื่นๆ แต่ไม่ได้ถอยหนี คงไม่มีแรงแล้วจริงๆ แก้มมันนิ่มมาก เหมือนมาชเมลโล

“พี่...อ่ะ...” มันหดคอหนีมือผมที่ลูบลงมาตรงคอ แก้มมันเริ่มอมชมพู น่ารักจนผมอดใจไม่ไหว ยื่นหน้าไปหอมแก้มมันทีหนึ่ง มันสะดุ้งโหยง มือที่ดันอกผมสั่นน้อยๆ “พี่กานต์...”

“อาบน้ำมั้ย?” ผมผละออกมาแล้วลุกขึ้นยืนเก้ๆ กังๆ พีทหน้าแดงระเรื่อหันหน้าหนีผม

“อือ”

“ลุกไหวยัง”

“ไม่ไหว” มันยืดขาสองข้างลงข้างเตียง สังเกตดีๆ จะเห็นเลยว่าขามันสั่น ตอนผมพาไปโรงพยาบาลยังไม่สั่นขนาดนี้ เพราะตอนนั้นสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของมันยังทำงานอยู่ แต่ตอนนี้เหลือเพียงอาการแพนิคเล็กๆ ของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ไม่เคยโดนทำร้าย

ผมยืนนิ่งมองดูมันที่ช้อนสายตาขึ้นมองเหมือนลูกหมาตัวน้อยที่โดนทิ้ง ก่อนจะตัดสินใจ

“อ๊ะ! พี่! เหวอออ” มันร้องลั่นเมื่อผมช้อนร่างมันขึ้นอุ้ม ตัวมันเบากว่าที่คิดมาก เบาจนนึกว่าเป็นแค่ตุ๊กตายัดนุ่น มันกอดคอผมหลับตาปี๋ ไม่ได้ดิ้นรนหนีแต่อย่างใด ปล่อยให้ผมอุ้มพาไปห้องน้ำ

“อาบเองได้ใช่มั้ย?”

ผมถอนหายใจแรงเมื่อมันส่ายหน้า มือมันก็สั่น ถูกอุ้มเมื่อกี้เลยสั่นแม่งทั้งตัวแล้ว เด็กเอ๊ยเด็ก เวลาทำอะไรไม่ค่อยยั้งคิด พอโดนอีกฝ่ายกระทำกลับก็กลัวจนขี้ขึ้นสมอง

“ทีหลังก็อย่าทำเก่งไปยุ่งกับไอ้กรมัน ตัวมันใหญ่อย่างกับหมี” ผมว่าขำๆ กรมันตัวไม่ได้ใหญ่มากหรอก ก็เท่าๆ ผมนี่แหละ แถมผอมกว่าผมอีก ไม่คิดเหมือนกันว่าเวลาดับเครื่องชน มันจะแรงควายจับไอ้พีทหัวโขกชักโครกจนแตกยับได้

“พี่! ผมกลัว...กลัวไอ้นั่น...” ไอ้เด็กน้อยโวยวายกอดแขนผมพลางชี้ไปที่ชักโครก สงสัยจะอาการหนัก แบบนี้จะเข้าห้องน้ำยังไงวะ ผมส่ายหน้าแล้วหาผ้ามาคลุมชักโครกไว้

“เอ้า ไม่เห็นแล้ว อาบน้ำได้” พีทนั่งนิ่งทันที ชูแขนสองข้างให้ผมถอดเสื้อ ยืดขาออกให้ผมดึงกางเกงลง แม่งเหมือนเด็กประถม เห็นว่าบาดเจ็บหรอกนะ เลยยอมทำให้ขนาดนี้

ถอดเสื้อผ้าจนหมด ผมก็ถือฝักบัวราดน้ำบนตัวมัน พีทมันก็ไม่อายเลยสักนิด นั่งนิ่งให้ผมอาบน้ำจนเสร็จเรียบร้อย มันคงทำเองไม่ไหวจริงๆ จะมัวมาอายอยู่ก็ไม่ได้อาบสักที แล้วก็ผู้ชายเหมือนกัน จะกระมิดกระเมี้ยนอยู่ก็ใช่ที่

อาบเสร็จ ผมก็เอาผ้าเช็ดตัวห่อตัวมันไว้แล้วอุ้มออกไปใส่เสื้อผ้าด้านนอก ไอ้ตอนแต่งตัวเสร็จนี่แหละ ที่แม่งเกินอายขึ้นมา แหกปากลั่นว่าพอแล้วและกลิ้งตัวหันหลังหนีผม คือก็แต่งตัวเสร็จแล้ว แต่ผมกะจะทาแป้งให้มัน เลยเทแป้งใส่ฝ่ามือล้วงไปในเสื้อมัน เลยออกมาอย่างที่เห็น

“เขินอะไรป่านนี้วะ มึงนี่ประหลาด” ผมเลยต้องเอาแป้งแปะๆ ที่ขาตัวเองแทน เพราะยังไม่ได้อาบน้ำ ไม่รู้จะเอาไปทาตรงไหน พีทมันนอนหันหลังนิ่งไปแล้ว ผมเลยไม่สนใจ ปล่อยมันนอนไป แล้วลุกไปอาบน้ำบ้าง เมื่อกี้อาบให้มัน เสื้อผ้าก็เปียกไปหมดแล้ว

พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมก็นั่งข้างเตียงเตรียมตัวนอน พีทหลับไปแล้ว มันพลิกตัวนอนตะแคงหันมาทางผม ปากอ้าเผยอน้อยๆ เหมือนหายใจอึดอัดไม่สบายตัวเท่าไหร่

แต่จังหวะที่ผมกำลังจะทิ้งตัวลงนอนเท่านั้นแหละ จู่ๆ ไอ้เด็กน้อยก็ร้องลั่นสะดุ้งตื่นขึ้นมานั่งหอบแฮ่ก เล่นเอาผมตกใจเกือบหัวใจวาย

“ฮือออ” มันร้องไห้จ้า ผมรีบเข้าไปกอดปลอบขวัญ สงสัยจะฝันร้าย

“ไม่ร้องๆ ไม่มีอะไรแล้ว นอนเถอะ” ผมอาจจะเคยชินกับการเลี้ยงเด็ก เพราะมีน้องเล็กๆ ที่บ้าน เลยทำเหมือนมันเป็นเด็กเล็ก มันเองก็กอดผมแน่น ไอ้พีทเวลานี้ไม่เหลือเค้าความกวนตีนและนิสัยกร่างๆ ชอบข่มขู่ไอ้กรเหลืออยู่เลย

ผมลูบหลังมันอยู่สักพักจนมันหยุดร้อง ลมหายใจของมันเริ่มกลับมาเป็นปกติ ผมผละออกมา มองหน้ามันที่ตอนนี้ก็ยังมีคราบน้ำตา

“พี่ใจดีจัง” มันกะพริบตาปริบๆ อย่างน่ารัก

“ถ้ามึงเป็นเด็กดี กูจะใจดีกว่านี้อีก” ผมคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดู

“ผมไม่ใช่เด็กสักหน่อย” มันหน้ามุ่ย

“ก็เถียงแบบนี้แหละเด็ก” ผมจิ้มหน้าผากมันเบาๆ พลางหัวเราะ ดวงตาของมันเป็นประกายสะท้อนแสงในความมืดสลัว แก้มขาวๆ แดงระเรื่อ กลิ่นสบู่หอมจางๆ จากตัวมันทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ

“ไม่เถียงด้วยก็ได้ นอนดีกว่า” มันทำท่าจะทิ้งตัวลงนอน แต่ผมคว้าเอวมันไว้ เราสบตากันในความมืด ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ปลายจมูกของเราชนกันเบาๆ ก่อนที่มันจะหลับตาลงเมื่อผมประกบริมฝีปาก พีทโอบกอดรอบลำคอ ดึงรั้งหัวผมให้ประกบจูบแนบแน่นขึ้นอีก มันจูบเก่ง ผมเดาว่ามันต้องเคยมีแฟนมาก่อน หรืออาจจะยังคบอยู่ก็ได้ พอคิดแบบนั้นผมก็ชักไม่อยากยอมแพ้ อยากให้จูบของผมดีกว่าแฟนของมัน

ผมแทรกลิ้นเข้าไปภายในอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังหยั่งเชิง พีทไม่ต่อต้านแม้แต่น้อย ลิ้นของมันเข้าโรมรันพันตูกับลิ้นของผมทันที ผมดันร่างของมันลงนอนราบบนเตียง โน้มตัวลงคร่อมไว้ แต่พยายามไม่ให้กดทับตัวมัน เพราะกลัวว่ามันจะยังเจ็บอยู่ พีทแยกขาออกให้ผมแทรกตัวตรงกลาง เอาขาเกี่ยวเอวผมแน่น ผมเอามือยันเตียงไว้และบดจูบขยี้ริมฝีปากสีสดของมันจนเริ่มบวมเจ่อ

“เดี๋ยวพี่จะช่วยให้หลับสนิททั้งคืนเอง” ผมกระซิบเสียงพร่าข้างหูที่แดงก่ำนั้นพร้อมขบกัดแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว พีทสะดุ้งน้อยๆ ขาที่เกี่ยวเอวผมรัดแน่นขึ้นอีก จนไอ้ที่เริ่มมีปฏิกิริยาข้างล่างถูไปกับร่องก้นของมัน ผมเหมือนคนควบคุมสติอารมณ์ไม่อยู่ คงคล้ายๆ ไอ้กรตอนนั้นล่ะมั้ง

“อือ...” ผมจะถือว่านี่คือคำตอบรับจากมัน พีทหลับตาแน่นจนขนตาสั่นระริก ผมไซร้ไปตามใบหน้าและซอกคอของมันช้าๆ สูดดมกลิ่นหอมหวานจากร่างบาง มือนวดเค้นคลึงตามร่างกายแผ่วผิวและสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด เคลื่อนผ่านหน้าท้องไปยังเนินอกเนียนเรียบ ขยำหนักมือ บีบบี้ที่ยอดอกเม็ดเล็กจนพีทแอ่นอกร้องครางกระเส่า

แม่งโครตน่าฟัด!

แต่มันบาดเจ็บ ผมเลยไม่กล้าทำรุนแรงมาก แม้จะอยากขยี้ขยำไปทุกสัดส่วน ผมผ่อนลมหายใจลงและค่อยๆ จูบไซร้ไปเรื่อยๆ ถกเสื้อมันขึ้นและเลียหัวนมมันทั้งสองข้าง พีทยิ่งครางเสียงหวาน ขยับสะโพกเสียดสีกับน้องชายผม ทำไมมันรู้งานจังวะ อย่างกับ...เคยมาก่อน

“ไม่ใช่ครั้งแรก?” ผมขมวดคิ้วจ้องหน้ามันที่แสดงอารมณ์ออกมาเต็มที่ ตาหวานเยิ้ม ปากอ้าเผยอครางเสียงแผ่ว พีทส่ายหน้ารัว “ครั้งแรก แต่มึงโครตยั่ว”

“พูดมาก” มันเบะปาก จนผมนึกขำ “ปฏิกิริยาปกติป่ะวะ”

ผมนิ่งนึก ครั้งแรกที่ผมโดนไอ้กรทำ ไม่เห็นเป็นแบบมันเลย หรือเพราะผมไม่มีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ แม้จะเสียวนิดหน่อย เพราะกรแม่งโครตเก่ง แต่ก็แค่นั้นแหละ ผมไม่ได้ชอบมัน และที่สำคัญ ผมไม่ได้อยากเป็นฝ่ายโดนกระทำ

“มึงน่ารักว่ะ” ผมยิ้มกว้าง ก้มลงจูบปากมันเบาๆ “โครตน่ารัก”

“มึงเล่นคร่อมกูขนาดนี้ จะให้เอาแรงที่ไหนจับมึงกดกลับ”

“ขึ้นมึงกูไม่น่ารักแล้ว” ผมถอนหายใจแล้วทำท่าจะลุกหนี

“พี่กานต์!” มันตะโกนลั่น หน้างอหงิก

“อย่าใช้กูมึงกับพี่” ผมแกล้งยั่วมันเล่น มันกัดปากอย่างหัวเสีย ตวัดขารัดเอวผมจนเสียหลักล้มลงทับมันทั้งตัว เจ็บมั้ยล่ะมึง

“ก็ได้ ทำต่อเลยนะ อย่าให้ผมค้าง” ปากเล็กๆ นั่นขยับยู่ยี่ น่าบดขยี้ยิ่งนัก

ผมแค่นยิ้ม “อย่าร้องให้พี่หยุดแล้วกัน คุณหนูพีท”

******

“อ๊า~อ๊ะ...พี่กานต์...” เสียงร้องของมันน่ารักเหมือนเคย ตั้งแต่คืนแรกที่ผมเปิดซิงมัน หลังจากนั้นเราก็มีอะไรกันเกือบทุกคืน จนแผลบนหัวมันหายแล้ว มันก็ยังมานอนที่ห้องผมตลอด แทบไม่ขับรถกลับบ้านแล้ว

ไม่รู้เหมือนกันว่าเราคบกันในสถานะไหน แต่ผมก็พอใจที่ได้กอดมัน มันเองก็ดูจะชอบบทรักของผมด้วย

“ร้องดังๆ เลย พี่ชอบฟังเสียงของพีท อืม...” ผมรั้งเอวมันขึ้นจนเข่ามันแทบไม่ติดเตียง โน้มตัวลงโอบกอดร่างบางจูบไซร้ไปทั่วแผ่นหลังพลางร่อนเอวใส่ พีทมันชอบให้ผมควงสว่านและทะลวงแรงๆ ตอนใกล้จะเสร็จ

“อ๊า~” มันร้องครางเสียงดังขึ้น ผมก็ยิ่งกระแทกแรงขึ้นอีก ผนังอ่อนนุ่มด้านในเริ่มบีบรัดถี่รัว เกือบแล้ว อีกนิด ผมอุ้มพีทขึ้นนั่งทับต้นขา จับขาสองข้างของมันแยกออกและยกสะโพกบางขึ้นลงรับการสวนเอวของผม ตัวมันโครตเบา จะจับอุ้มยกท่าไหนก็สบาย ผมเอื้อมมือไปกุมแกนกายของมันที่ใกล้จะปะทุเต็มที มันกรีดร้องน้ำตาไหลพรากก่อนจะปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือของผม ส่วนผมก็รีดน้ำตามมันไปติดๆ ของเหลวสีขุ่นไหลเยิ้มออกมาจากช่องทางแดงจัดของพีทตอนที่ผมถอนตัวออกช้าๆ ในทุกจังหวะนั้น ร่างของพีทกระตุกสั่น มันครางในคอเหมือนเสียงร้องไห้ ผมเลยกอดและจูบเบาๆ ที่หลังคอเพื่อปลอบโยน

“พรุ่งนี้อย่าลืมไปขอโทษกรล่ะ แล้วพี่จะให้รางวัล” ผมอุ้มร่างบางลงนอนหงาย จูบเบาๆ อีกทีที่หน้าผากชื้นเหงื่อนั้น พีทยังหอบสั่นน้อยๆ ก็โดนไปหลายรอบอยู่กว่าผมจะยอมปล่อย ได้กอดมันแล้วหยุดไม่ได้เลยจริงๆ ผมรวบขามันแล้วจับยกขึ้น น้ำของผมยังไหลออกจากตรงนั้นไม่หยุด เลยคิดว่าต้องทำความสะอาดเสียหน่อย พีทตะปบไหล่ผมแน่นทันทีที่ปลายนิ้วของผมชิดปากทาง

“ไม่เอาแล้ว!” มันร้องเสียงเครือ ผมคลี่ยิ้ม กดนิ้วเข้าไปจนมันสะดุ้ง ทุบไหล่ผมดังอั่ก “พี่กานต์!”

“เอาน้ำออก เดี๋ยวมึงท้องเสีย” นิ้วของผมเสือกพรวดเข้าไปภายในเพราะมีตัวช่วยหล่อลื่น ผมคว้านเอาน้ำรักของตัวเองที่อยู่ในร่างมันออกมา พีทกัดปากจนเลือดซิบ ขาสั่นพั่บๆ เหมือนลูกนก เล็บจิกเกร็งบนไหล่ผม

“อา...อ๊ะ...”

“อย่าทำเสียงแปลกๆ ดิ เดี๋ยวก็ตื่นอีกจนได้” ผมชักวูบๆ ที่ท้องน้อย เพราะมันดันทำหน้าเซ็กจัดแถมส่งเสียงครางน่ารัก ผมหายใจฟืดฟาดอยู่ข้างหูมัน ปล่อยไปเยอะเลยล้วงออกมาเท่าไหร่ก็ไม่หมดเสียที ยิ่งผนังนุ่มๆ นั่นตอดรัดราวกับยั่วยวน ผมยิ่งตัวเกร็ง

“พีท...พี่จะไม่ทนแล้วนะ”

พีทช้อนสายตามองผมหวานเชื่อม ขาเรียวสวยไม่มีขนสักเส้นของมันข้างหนึ่งยกขึ้นพาดบ่าผมพร้อมส่ายสะโพกรับนิ้วที่คว้านภายใน ก่อนที่มันจะพูดจาน่าฟัดออกมาจนผมหุบยิ้มแทบไม่ลง

“ผมก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”

******

วันต่อมา พีทไปขอโทษกรแล้วก็วิ่งกลับมาหาผมที่ยืนแอบดูอยู่ข้างตึก มันคงอายและเสียศักดิ์ศรี ผมเข้าใจ แต่ในเมื่อมันเป็นคนหาเรื่องเขาก่อน มันเป็นคนผิด มันก็ต้องขอโทษ และหลังจากนี้ก็เลิกแล้วต่อกันไป ผมจะคอยควบคุมดูแล ไม่ให้ไอ้เด็กน้อยนี่ก่อเรื่องกับใคร

มันเครียดเรื่องที่บ้านและเรื่องเรียน ผมเข้าใจ มันระบายให้ผมฟังได้ ผมรับฟังทุกอย่าง และพร้อมจะอยู่เคียงข้างมัน แถมด้วยเรื่องคลายเครียดที่ทำให้พีทต้องร้องขอวันละหลายๆ รอบด้วยไปอีก

ระหว่างเรา ไม่มีใครพูดถึงเรื่องรักๆ ใคร่ๆ หรือจะคบกันเป็นแฟน เป็นคนรัก แต่ผมคิดว่า แม้ไม่พูดออกมา มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ารู้สึกยังไง และถ้าวันหนึ่ง มันอยากไปจากผม ผมก็พร้อมจะปล่อยมือ

เราจะไม่ผูกมัดกันด้วยสถานะใดทั้งสิ้น เพราะพวกเราเป็นคนแบบนั้น

แต่อย่างน้อยๆ ตอนนี้

ผมก็รักมัน

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
พีทโดนของ น่าจะของแรงซะด้วย5555 :-[

มาดูของที่พีทโดนสิ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
พี่กานต์เป็นไส้เดือนหรอ โดนกรกด พอย้ายไปที่พีทกลับจับพีทกดซะงั้น แหล่มจริง ๆ เลยพี่กานต์เนี่ย  o13

นางสายเมะ ตอนกรนั่นไม่นับ ฮ่าๆๆๆ แต่จริงๆ ได้สองอย่างจะอยู่ง่ายในโลกนี้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พีทก็มีมุมตะมุตะมด้วยเนอะ555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อึ้งกับนิสัยพีทเลยอ่ะ  :m22:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าแมนแค่ไหนก็แพ้ได้จ้ะ  :laugh:

คือพี่กานต์มีความแมนมากสำหรับเราอะ
แต่โดนกรกดจนได้ ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็เถอะ

นี่ยังไม่เชื่อเลยนะว่าพีทครั้งแรก

รอตอนต่อไป  :katai4:

ออฟไลน์ Pankwun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อะแหม เป็นรับก็ไม่บอกนะพีท ทำเก่งขู่กร อะโดว้ อยากอ่านตอนของกรกับพี่หมอคนสวยแล้วง่า

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
มาน้อยๆ ก่อน หลังจากนี้คือมันจะเข้าเรื่องแล้วล่ะ ที่ผ่านๆมาคือการปูทาง อิๆ

16
“เฮ้ย! ไงวะมึง ช่วงนี้รู้สึกติดมือถือนะ” แรงตบบนบ่าเบาๆ ทำให้กรเงยหน้ามองคนที่เข้ามาทักและนั่งลงข้างๆ ก่อนจะหันไปตอบไลน์ของวินต่อ ตั้งแต่ตกลงเป็นแฟนกันแบบลับๆ ก็คุยกันผ่านไลน์ทุกวัน พอตกเย็นกรก็จะไปเจอวินที่ห้างฯ ไกลจากมหาลัยไปหน่อย เพราะไม่อยากเจอคนรู้จัก แม้จะไม่ได้เดินจับมือกัน แต่แค่ได้เห็นหน้า กรก็พอใจมากแล้ว

“ก็ปกติน่า”

“แน่ะๆ มีอมยิ้ม” เวสป้าเอานิ้วจิ้มแก้มของกรเล่น ตั้งแต่พูดคุยเรื่องอาการนอนไม่หลับ ปรึกษากันเรื่องหมอจิตเวช ทั้งสองคนก็สนิทกันมากขึ้น ทั้งที่ตอนแรกเวสป้ายอมรับว่าไม่ค่อยชอบคนเงียบๆ และดูไม่เป็นมิตรอย่างกรเท่าไหร่ กรเองก็ไม่ค่อยชอบที่เวสป้ามักจะมองด้วยสายตาดูถูก แต่พอมาเป็นเพื่อนกันจริงๆ ต่างคนต่างก็ไม่ได้คิดกับอีกง่ายในแง่นั้นเลย กรไม่ใช่คนเงียบขรึม เขาแค่โลกส่วนตัวสูงและขี้อายนิดหน่อย ส่วนเวสป้าก็ไม่ได้ชอบดูถูกคนอื่น

“แล้วมึงกับไอ้ปั้น ตกลงยังไง?” แฟ้มเข้ามากอดคอกรแล้วกระซิบถามให้ได้ยินกันแค่สามคน เวสป้าเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่ เพราะใครๆ ก็รู้ว่าปั้นจั่นชอบกร และเหมือนจะตามจิกอย่างกับเป็นแฟนกันอยู่พักหนึ่งด้วย เวลาที่กรหายไปไม่ได้บอกกล่าว ปั้นจั่นมักจะออกตามหาเป็นบ้าเป็นหลัง เค้นถามทุกคนที่คิดว่าสนิทกับกรและพวกที่เรียนเซคเดียวกัน

“ทำไมวะ? ก็เพื่อนกันไง” กรมองหน้าเพื่อนทั้งสองคนอย่าง งงๆ แฟ้มเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ส่วนเวสป้าก็กลอกตาไปมา

“ก่อนหน้านี้ กูคิดว่ามึงเป็นแฟนไอ้ปั้นซะอีก”

“สรุปมึงมีแฟนแล้ว แต่ไม่ใช่ไอ้ปั้นใช่มั้ยวะ”

โดนรุมถามมาขนาดนี้ กรก็เลยได้แต่ส่ายหน้ารัวๆ “ไม่ใช่เพราะกูชอบผู้หญิงนะ แต่กูไม่ได้ชอบปั้นแบบนั้น”

“งั้นแฟนมึงก็เป็นผู้ชายเหรอวะ” แฟ้มทำตาโตอย่างประหลาดใจ

กรพยักหน้ารับ แม้จะชั่งใจอยู่นานว่าควรบอกเพื่อนมั้ย แต่ก็ไม่อยากปกปิดเป็นความลับอะไร ถ้ามีคนถามก็พร้อมจะตอบตามตรง

“แบบนี้มึงต้องระวังนะ กูว่าไอ้ปั้นมันยังไม่ตัดใจง่ายๆ ถ้ารู้ว่ามึงชอบผู้ชายด้วยอีก มันจะยิ่งไม่ถอยแน่” เวสป้าที่อายุมากกว่ากร และดูเหมือนจะผ่านอะไรมาพอสมควรตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ แววตาของปั้นจั่นที่คอยมองไล่ตามหลังกรอยู่ทุกวัน ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องรู้ แต่ไม่มีใครอยากพูดอะไรเท่านั้น ถ้ากรไม่มีแฟน พวกเพื่อนๆ อาจจะแซวและเชียร์ให้ได้กับปั้นจั่น เพราะปั้นจั่นก็น่ารัก นิสัยดีกับเพื่อนๆ ทุกคน ติดที่คอยตามติดกรมากไปหน่อย แรกๆ ไม่ขนาดนี้ ทำให้หลายคนคิดว่ากรน่าจะรู้แล้วว่าปั้นจั่นชอบ ปั้นจั่นถึงได้กล้ารุกหนักขนาดนั้น

“แต่กูก็คุยกับมันแล้วนะ ว่ายังไงก็ได้แค่เพื่อน” กรทำหน้าลำบากใจ พักนี้ปั้นจั่นเงียบหายไปก็จริง แต่มันอาจจะเป็นความสงบก่อนพายุลูกใหญ่จะก่อตัว ไม่อย่างนั้นพวกเวสป้าคงไม่มาถามไถ่และเตือนด้วยความหวังดี

“ถ้าเคลียร์กันเข้าใจทั้งสองฝ่ายก็โอเค แล้วเย็นนี้มึงไปเดทกับแฟนป่ะเนี่ย” เวสป้ากระตุกยิ้มถาม เพราะเห็นกรกดมือถือยิกๆ อีกรอบ

“อือ” กรตอบรับในคอ เพื่อนๆ เลยหมั่นไส้ยีหัวเขาเล่นกันใหญ่

ทุกอย่างในชีวิตเหมือนเริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ได้รู้จักกับวิน กรเลยยิ่งรักวินมากขึ้นทุกวัน นอกจากเป็นแฟนที่น่ารักแล้ว พี่วินของเขายังเป็นที่ปรึกษาที่ดีในหลายๆ เรื่อง

“วันนี้กรอยากทำอะไรครับ ดูหนังมั้ย?” วินถามขึ้นตอนที่เดินผ่านโซนหน้าโรงหนังในห้างฯแห่งหนึ่ง กรหันมองตาม ช่วงนี้มีหนังน่าสนใจพอดี

“เดดพูล2 มั้ยพี่” เด็กหนุ่มชวนทันที แต่ลืมนึกไปว่าวินจะชอบหนังแนวนี้หรือเปล่า “อ๊ะ ขอโทษครับ ถ้าพี่ไม่ชอบ ดูเรื่องอื่นก็ได้นะ”

วินหัวเราะคิก “ดูได้หมด ภาคแรกพี่เคยดูแบบแผ่นนะเรื่องนี้ กรชอบเรื่องเหรอ?”

“ก็...ชอบ” สายตาของเด็กหนุ่มจ้องมองใบหน้าสวยๆ ที่กำลังหัวเราะอย่างน่าเอ็นดูของหนุ่มรุ่นพี่ กรเขยิบเข้าไปยืนใกล้ๆ ร่างสูงโปร่งที่วันนี้สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนบางๆ ได้กลิ่นหอมจางๆ ของน้ำหอมกลิ่นเดียวกันกับตัวเขา เพราะเป็นยี่ห้อที่วินซื้อให้คราวก่อน

“พี่กดซื้อตั๋วในแอพแล้วล่ะ อีกครึ่งชั่วโมง” วินชูหน้าจอสมาร์ทโฟนให้ดู

“อะไรกัน ผมอยากเลี้ยงพี่มั่ง ไวไปมั้ยเนี่ย” กรทำหน้ายู่เหมือนเด็กๆ จนวินอดหัวเราะอีกรอบไม่ได้ มือนุ่มขยี้ผมคนตัวสูงกว่านิดหน่อยเบาๆ

“ไว้เรียนจบ ทำงานเมื่อไหร่ พี่จะขอให้เลี้ยงทุกวันเลยดีมั้ย”

“โห อีกตั้งสามปีเลยนะพี่” กรจ้องตากับวินด้วยความหลงใหล จนวินต้องรีบลดมือลง เพราะไม่ได้อยู่ในที่ส่วนตัว เขาเองก็ลืมตัวไปเหมือนกัน พอเห็นวินยิ้มอ่อนแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง กรเลยกะพริบตาถี่ๆ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ตามกฎของวินคือ ห้ามทำตัวรุ่มร่ามในที่สาธารณะ และกรก็ยอมรับข้อตกลงนี้แล้ว

“ที่พี่พูด ก็คือหลังจากนี้ไปอีก 3 ปี จนกว่ากรจะได้ทำงาน และหลังจากกรทำงานไปอีกหลายๆ ปี เราก็ยังอยู่ด้วยกันไง” แก้มขาวๆ ของวินขึ้นสีแดงจางๆ กรอมยิ้ม

“โอเคครับ”

******

หลังจากดูหนังจบแล้ว ทั้งสองคนก็เดินไปที่ลานจอดรถ แต่ต้องแยกกันกลับ เพราะกรเอามอเตอร์ไซค์มา ส่วนวินก็ขับรถยนต์กลับ แต่ก่อนแยกกัน กรขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาวินที่รถ กะจะโบกไม้โบกมือส่ง

“ไหนคุณบอกว่าทำวิจัยยุ่งมากไง แล้วมาทำอะไรแถวนี้จนดึกดื่น” กรเบรกรถเกือบไม่ทัน เลี้ยวมอเตอร์ไซค์จอดหลบหลังเสาเพื่อดูสถานการณ์ เพราะมีผู้หญิงสามคนยืนรุมอยู่หน้ารถของวิน คนที่คุยกับวินท่าทางหัวเสียเอาเรื่อง ทั้งกระชากแขนและทุบอก สีหน้าท่าทางของวินไม่ค่อยสบอารมณ์นัก คล้ายจะรำคาญ

“ผมมาทำธุระ” วินถอนหายใจแรง ผู้หญิงสาวร่างสูงเพรียวในชุดแซกสีครีม คว้าต้นแขนของวินไว้แล้วเขย่าไปมา เธอดูหงุดหงิดมาก

“โกหก! คุณมีเมียน้อยใช่มั้ยวิน! ถึงได้ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง อ้างแต่ว่าทำงาน แล้วพามันมาเที่ยว คงไม่ได้ไปนอนกกกันที่หออาจารย์ด้วยหรอกนะ”

“เข็ม! เอาอะไรมาพูด” วินถลึงตาใส่เจ้าหล่อน เพื่อนๆ ของภรรยาอีกสองคนช่วยกันดึงมือของวินออกจากไหล่ของเข็ม

“ฉันเห็นคุณไปกับเด็กผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษาเมื่ออาทิตย์ก่อน” เพื่อนสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้น กรนิ่งฟังอยู่ข้างเสา

เด็กผู้หญิงใส่ชุดนักศึกษา?

“นั่นลูกศิษย์ผม” วินแสดงสีหน้าเอือมระอาเต็มทน “มีอะไรค่อยไปคุยที่บ้านนะเข็ม จะกลับกับผมหรือเพื่อนของคุณ?”

“ฉันจะกลับกับยัยมี่ แต่คืนนี้คุณต้องกลับบ้าน เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องนะวิน!” เข็มโวยวายชี้หน้าคาดโทษสามี แม้จะเป็นการแต่งงานแบบคลุมถุงชนทั้งสองฝ่าย แต่ขึ้นชื่อเป็นสามีภรรยากัน เข็มยอมไม่ได้ที่จะปล่อยวินไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยโดยที่เธอไม่รู้ ยิ่งตอนนี้ยังไม่มีลูกด้วยกัน ถ้าเกิดวินมีเมียน้อยจริง และมีลูกกับเมียน้อยขึ้นมา ทั้งสมบัติและตัววินก็ต้องแบ่งครึ่งไปอีก

กรยืนมองรถของอาจารย์ที่ขับกระชากออกไปจากตรงนั้น สามสาวก็ขึ้นรถคันสีแดงที่อยู่ไม่ไกลกันแล้วขับตามออกไปด้วย

เขาไม่แน่ใจว่าเรื่องเด็กผู้หญิงชุดนักศึกษาที่ภรรยาของอาจารย์พูดคืออะไร อาจจะเป็นแค่ลูกศิษย์อย่างที่วินบอก เพราะทุกเย็น วินก็มีนัดกับเขาตลอด กลับห้องไปก็ยังวิดีโอคอลหากันก่อนนอน กรเลยมั่นใจว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยังดีที่พวกนั้นไม่เห็นวินอยู่กับเขา หรือถึงเห็น ก็คงไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ที่สำคัญพวกเขาไม่ได้แสดงท่าทีเหมือนคนรักหรือแฟนกันเวลาอยู่ข้างนอกเท่าที่ควรด้วย

ความสัมพันธ์ที่เหมือนครึ่งๆ กลางๆ อย่างนี้ ทำให้กรฉุกคิดขึ้นมาเมื่อเห็นภรรยาของอาจารย์

วินบอกว่าจะหาทางหย่ากับเข็ม แต่มันต้องใช้เวลา

แล้วมันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันล่ะ?

อีก 3 ปี จนกรเรียนจบ หรือจนกรทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ อีก 10 หรือ 20 ปี

กรไม่รู้เลย...

tbc

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
พีทก็มีมุมตะมุตะมด้วยเนอะ555

อยู่กับกานต์แล้วแบ๊ว

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อึ้งกับนิสัยพีทเลยอ่ะ  :m22:

จริงๆ นางไม่ร้ายนะ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าแมนแค่ไหนก็แพ้ได้จ้ะ  :laugh:

คือพี่กานต์มีความแมนมากสำหรับเราอะ
แต่โดนกรกดจนได้ ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็เถอะ

นี่ยังไม่เชื่อเลยนะว่าพีทครั้งแรก

รอตอนต่อไป  :katai4:

ถ้ากรไม่เล่นทีเผลอ มัดกานต์ตอนหลับ ก็คงไม่ได้กด ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อะแหม เป็นรับก็ไม่บอกนะพีท ทำเก่งขู่กร อะโดว้ อยากอ่านตอนของกรกับพี่หมอคนสวยแล้วง่า
กรกับพี่วินคนสวยกลับมาพร้อมดราม่าจัดเต็ม...

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไหนจะปั้นจั่นไหนจะยัยเข็ม ปวดหัวแทนน้องกร :ling1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถึงเวลาคุยกับเมียแล้ววิน   :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด