S-E-A-L <<รัก>> ลับๆ = เผยความลับครั้งที่ END [20/7/18]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S-E-A-L <<รัก>> ลับๆ = เผยความลับครั้งที่ END [20/7/18]  (อ่าน 29730 ครั้ง)

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
กรเป็นหนักเลยนะ แล้วพีทล่ะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้โดนหนักเหมือนกันนะนั้น แล้วถ้าเจอหน้ากันอีกล่ะจะทำอะไรกันอีกไหม
ขอพีทรักษาตัวแป้ป ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
สนุกมากกกก มาต่ออีกเร็วๆนะคะ ไม่รู้ทำไมเราอยากให้พีทได้กับกร
อ่ะ เด๋วเรือนี้ต้องมา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เขาคือพี่วิน ชิมิ แต่เขามีภรรเมียแล้วนิ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
อยากอ่านต่อแล้วค่าไรท์ ขอวันละหลายๆตอนเลยได้ไหมคะ อยากอ่านต่อมากเลยค่า ผู้รอบๆตัวกรมีแต่เด็ดๆทั้งนั้นเลย แต่ละคนดูเหมือนจะหลงเสน่ห์กรเข้าทุกคนเลย แถมผู้แต่ละคนมีความจิตๆยังไงไม่รู้หรือเราคิดไปเอง555 #ฮาเร็มจงเจริญ #หลายpจงเจริญ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2018 14:16:00 โดย chaweewong19841 »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมาก รออ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
9
“เมื่อกี้ใคร?” ปั้นจั่นยืนหน้าตาถมึงทึงตรงหน้าผม ผมไม่รู้ว่ามันโกรธอะไรอีก เลยทำหน้านิ่งๆ ไว้

“พะ พี่ที่รู้จักกันน่ะ” ไม่รู้จะบอกว่าเป็นอะไรดี ก็เอาแค่นี้แล้วกัน ผมยังไม่เคยเล่าเรื่องที่ไปพบอาจารย์นักจิตให้ใครฟัง ตอนคุยกับเวสป้า มันก็คิดว่าผมยังไม่เคยไปหานักจิต ก็เลยแนะนำอะไรมาเยอะแยะไปหมด

“สนิทมากเหรอ” ทำไมมันต้องทำเสียงดุด้วยล่ะวะ

“นิดหน่อย แล้วมึงมาทำไรถึงนี่” ผมถามกลับ ก็มันอยู่หอใน แล้วมายืนหัวโด่หน้าหอผมได้ไง

“กูมาหามึง แต่มึงไม่อยู่ ก็เลยรอ” มันตอบพลางเดินตามผมเข้าไปในหอ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร “โทรไปก็ไม่ติด กูนึกว่ามึงหายไปไหนแล้ว”

“เออว่ะ ลืมเปิดมือถือ” ผมนึกขึ้นได้ เลยหยิบมือถือมาเปิดเครื่อง ปิดไว้ตั้งแต่ไปหาหมอไผ่ แล้วก็มัวแต่เพลินกับพี่วิน จนลืมไปสนิท

ติ้ง

พอเปิดเครื่องปุ๊บ เสียงไลน์ก็ดังทันที พี่วินนั่นเองที่ส่งข้อความมา เขาแปะโน้ตชื่อน้ำหอมไว้ให้ผมด้วย น่ารักจังว่ะ ผมอมยิ้มอารมณ์ดี

“กร ถามจริงๆ นะ คนเมื่อกี้เป็นอะไรกับกร” หุบยิ้มแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ ซาลาเปาก็ยื่นหน้ามาใกล้ๆ มันยืดตัวเตี้ยๆ ของมันขึ้นตรงหน้าผม และตอนนี้เราก็อยู่ในลิฟท์สองคน

“ก็...พี่ไง พี่แถวบ้าน” ผมเอนตัวหนีมัน แต่มันก็ยิ่งเขยิบเข้ามาใกล้ จนตอนนี้ตัวผมโดนดันจนติดมุมลิฟท์ ซาลาเปาย่นคิ้ว ทำหน้ามุ่ย แล้วจู่ๆ มันก็กอดหมับที่ตัวผม เงยหน้ามาทำเสียงอ้อนๆ จนผมขนลุกซู่

“คืนนี้นอนด้วยนะ ห้ามปฏิเสธ!”

******

ก็พูดซะขนาดนั้น จะให้ผมไล่กลับก็ยังไงอยู่ เอาจริงๆ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องนั้นกับพี่กานต์ ผมก็ไม่อยากให้ใครมานอนค้างที่ห้องอีกเลย ผมกลัวว่าตัวเองจะทำอะไรไร้สติแบบนั้นอีก เวลาหน้ามืดมันห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ แต่วันนี้ผมได้ยาจากจิตแพทย์มาแล้ว เลยคิดว่าคงนอนหลับได้สบายโดยไม่ฝันร้ายและไม่ตื่นมากลางดึกอีก ก็เลยยอมให้ซาลาเปามันนอนด้วย อุตส่าห์มารอทั้งวัน แถมช่วงนี้เหมือนมันโกรธๆ ผมอยู่ ก็ถือว่าเป็นการง้อไปแล้วกัน

“กร! เสื้อมึงตัวใหญ่ไปอ่ะ กูไม่ใส่นะ” อ้าว? เฮ้ย! ห้ามไม่ทัน มันอาบน้ำเสร็จมารื้อเสื้อผ้าผมแล้วก็ลองใส่ แต่ปรากฏว่าเสื้อยืดมีแต่ตัวใหญ่ พอมันใส่ก็ดูโคร่งๆ มันเลยถอดออกซะงั้น เหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว แล้วจะมาค้าง ทำไมไม่เตรียมชุดมาวะ

“เออๆ ตามสบายแล้วกัน” ผมว่าพลางนั่งลงเปิดโน๊ตบุ๊คทำงาน “หิวก็อุ่นอะไรกินเอานะ ในตู้เย็นอ่ะ”

“มีงานเหรอ” มันเดินเข้ามาชะโงกหน้าดูใกล้ๆ

“อือ นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอ” ผมตอบ สายตาก็จดจ้องที่หน้าจอ เพื่อพิมพ์งานที่ยังค้างคาให้เสร็จ แต่จู่ๆ ซาลาเปาก็โน้มตัวลงมากอดคอผม เอ่อ... “มันเกะกะ จะเอาไรรึเปล่าเนี่ย”

“จะรอ รีบทำงานแล้วมานอนด้วยกันนะ” หือ? “จุ๊บ”

“เฮ้ย! ทำอะไรวะ!” มันจูบแก้มผมเฉยเลย ไม่ได้รังเกียจหรอก แต่ตกใจมากกว่า ผมเอามือลูบแก้มตัวเอง แล้วเอี้ยวตัวไปมองมันที่ผละออกไปแล้ว มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เดินไปนั่งแกว่งขาบนเตียง ผมก็เลยขี้เกียจว่าอะไรอีก รีบทำงานจะได้นอน

กว่าผมจะทำงานเสร็จ ก็เห็นซาลาเปามันนอนกอดผ้าห่มหลับปุ๋ยไปแล้ว เวลาหลับมันก็น่ารักดีหรอก รู้สึกเงียบสงบขึ้นมาเลย ผมคิดพลางหยิบยาที่ได้มาวันนี้มากิน คืนนี้กินแค่ยาคลายเครียดแล้วกัน จะได้หลับสบายถึงเช้า
............
........
......
...
“อ๊า ฮ่า~”

ตึก ตึก ตึก

อือ...ทำไมอึดอัดแปลกๆ ร้อนโครตๆ ด้วย ทั้งที่กินยานอนแล้ว ทำไมผมรู้สึกอย่างกับร่างกายมันหนักๆ เหมือนมีอะไรมากดทับ หวังว่าคงไม่ใช่ผีอำนะ เพราะอยู่หอนี้มาเกือบปีแล้ว ไม่เคยเจอผีเลยสักครั้ง แล้วผมก็ไม่ได้ฝันร้ายอะไรด้วย

“กร...อ๊ะ...” หือ? เสียงร้องแปลกๆ ว่ะ

“เฮ้ยยยย” ผมลืมตาโพลง พอเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็เด้งตัวลุกขึ้น มือข้างหนึ่งยันเตียง อีกข้างผลักร่างเล็กบนตัวผมออก แต่...ร่างกายที่ยังเชื่อมต่อกันมันไม่แยกจากกันง่ายขนาดนั้น แถมแรงกดทับที่เจ้าตัวเล็กมันทิ้งลงมายังทำให้ผมเสียวซ่านไปทุกอณูขุมขน

“อ๊า...กร กร...” ปั้นจั่นเผยอปากร้องครางเสียงกระเส่า มันหลับตาพริ้ม เหงื่อชุ่มโชก ขยับบั้นท้ายขย่มโยกอยู่บนตัวผมอย่างเมามัน มือเล็กๆ เกาะที่ไหล่ของผมแน่น ผมทำอะไรไม่ถูก ผลักออกก็ไม่ได้ แถมยิ่งเห็นมันทำหน้าสุขสมเสียขนาดนั้นอีก

“มะ มึง...ทำเหี้ยอะไรเนี่ย...ไอ้ปั้น...” ผมกัดฟันเค้นเสียงออกมา คือตอนนี้ร้อนจนจะทนไม่ไหวแล้ว ก็รู้ๆ อยู่ว่าร่างกายของผมมันไวกับเรื่องพรรค์นี้แค่ไหน แล้วนี่ มันเล่นมาออนท็อป ทำหน้าเซ็กซี่ครางเสียงหวานแบบนี้

“อือ...ก็...ทำให้กร...เป็นของเราไง” มันเอ่ยเสียงหวานฉ่ำ ตาปรือปรอยมองหน้าผม แล้วเคลื่อนใบหน้ามาประกบปาก สองมือโอบรัดหัวผมไว้ไม่ให้หนี ลิ้นเล็กๆ สอดแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างเร่าร้อน แม่ง...จูบโครตเก่ง เล่นเอาผมคล้อยตามแบบกู่ไม่กลับ ในเมื่อเสนอมา ก็ขอสนองเลยแล้วกัน

“อ๊า!” ผมพลิกร่างเล็กลงนอนหงาย กระแทกตัวใส่เต็มเหนี่ยวจนมันครางลั่น ปั้นจั่นฉีกขาออกกว้างอย่างเชื้อเชิญ นี่ผมคงไม่ได้กำลังฝันเรื่องลามกอยู่ใช่มั้ย? แต่ความรู้สึกเสียดเสียวที่ท้องน้อยกับคราบเหนียวๆ ที่ไหลออกมาทั้งของผมและของมันมีกลิ่นสดใหม่ ในฝันคงไม่มีทางรู้สึกหรือได้กลิ่นขนาดนี้หรอก

“อือ...” ผมเริ่ดหน้าขึ้นเมื่อใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดของห้วงอารมณ์ ข้างในของปั้นจั่นตอดรัดถี่รัว มันเสร็จก่อนหน้าผมเมื่อครู่นี้ และพยายามจะทำให้ผมเสร็จในตัวมัน แต่โชคดีที่ผมดึงตัวเองออกมาได้ทัน น้ำสีขาวขุ่นเลยทะลักพรวดใส่หน้าท้องของปั้นจั่นแทน

ผมหอบแรง ทิ้งตัวลงนอนคว่ำทับร่างเล็กที่ก็หอบไม่แพ้กัน ตัวมันแดงก่ำเหมือนผิวทารกแรกเกิด ยอดอกสีน้ำตาลอ่อนๆ แข็งชูชันอยู่ตรงปากผมพอดี ผมเลยงับแล้วดูดมันเข้าปาก

“อ๊ะ กร...อ๊า...เสียว...” มันดิ้นเร่าๆ บิดตัวเกร็งบนที่นอน แก่นกายฉ่ำน้ำของมันค่อยๆ มีปฏิกิริยาจนชนกับของผมที่ยังแข็งอยู่ ผมกัดเม็ดไตแข็งๆ บนอกมันแล้วเลียซ้ำๆ จนหน้าอกมันเต็มไปด้วยน้ำลายของผมทั้งสองข้าง ก่อนจะจับมันนอนคว่ำและยกสะโพกเล็กๆ นั่นขึ้นมา กระแทกตัวเข้าไปพรวดเดียวสุดทาง ปั้นจั่นกรีดร้องสุดเสียง ตัวสั่นกึกๆ แต่ผมจับยึดสะโพกมันไว้ เลยไม่ได้ทรุดลงไป

ผมไม่พูดพล่ามทำเพลง กระแทกกระทั้นกายใส่ตามแรงอารมณ์ที่ยังไม่มอดดับง่ายๆ ถ้าจะโทษ ก็โทษที่มันเป็นคนยั่วผมก่อนก็แล้วกัน ปั้นจั่นร้องครางจนเสียงแหบแห้ง ครั้งสุดท้ายที่ผมปลดปล่อย มันก็สลบไปแล้วเรียบร้อย

เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นมาอย่างมึนงง เรื่องเมื่อคืนอย่างกับฝันไป แต่พอเห็นคนตัวเล็กที่นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ ก็รู้ทันทีว่าไม่ได้ฝัน ร่างกายของมันยังมีรอยแดงช้ำบางจุด ตรงไหล่กับสะโพก มีรอยฟันที่ผมกัด ร่องรอยจากการร่วมเพศที่ชัดเจนที่สุดคือช่องทางของมันที่มีน้ำของผมไหลเยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะครั้งหลังๆ ผมชักออกมาไม่ทัน ก็เลยแตกในไปนิดหน่อย แถมไม่ได้ใส่ถุงยางอีกต่างหาก...คิดแล้วก็เครียดนิดๆ ดีนะที่มันไม่ใช่ผู้หญิง

ข่มขืนรุ่นพี่ โดนเพื่อนลักหลับ แถมยังต่อกันไปอีกหลายยก ทำไมชีวิตผมถึงมีแต่เรื่องเฮงซวยแบบนี้ ผมไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ ไม่ได้อยากมั่วกับใครก็ได้ ถึงได้เลือกคุยผ่านกล้อง ไม่มีการนัดเจอเหมือนแรกๆ ที่เคยนัดพวกผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงที่ผมเคยมีอะไรด้วยก็แค่สองคน และผมคิดว่ามันไม่ปลอดภัย เลยเลิกทำ แต่สุดท้ายชีวิตของผมก็ต้องการเซ็กส์มากกว่าที่คิด

ก็แค่ SEX ที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองในสมอง ไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกใดๆ

ไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ ไม่ได้ผูกพัน

“กร...” เสียงของปั้นจั่นปลุกผมให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ผมมัวแต่กุมขมับคิดถึงสิ่งที่ทำลงไป ผมยั้งตัวเองไม่อยู่ ผมห้ามตัวเองไม่ได้ และนี่มันคือความผิดพลาดอย่างมหันต์

ผมไม่ได้หันไปมองหน้าปั้นจั่นในตอนนี้ แถมยังทิ้งขาลงข้างเตียง นั่งหันหลังให้ ทำท่าว่ากำลังจะลุกไป แต่มือเล็กๆ ของมันก็คว้าเอวผมไว้แล้วสวมกอดมาทั้งตัว

“กร...เราขอโทษ แต่เราชอบกร ชอบมากๆ อยากให้กรเป็นของเรา” มันซบหน้ากับหลังของผม ความเปียกชื้นนั้นทำให้ผมรู้ว่ามันร้องไห้ “กรไม่ได้รังเกียจใช่มั้ย ไม่อย่างนั้นคงไม่...”

“พอ! อย่าพูดถึงมันอีก” ผมกึ่งสั่งกึ่งขอร้องในที ปวดหัวจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว

“ไม่เอา! จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไง ในเมื่อกรก็ได้เราแล้ว หลายรอบด้วย!” มันเริ่มโวยวาย นี่มันน่ารำคาญกว่าพวกผู้หญิงอีกนะ

“เพราะมึงยัดเยียดให้กูไง มันจะไม่เกิดขึ้นอีก กูกับมึงเป็นเพื่อนกัน ปั้นจั่น เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่มั้ย?” ผมพยายามเน้นย้ำสถานะระหว่างเรา ผมไม่อยากมีแฟน และที่สำคัญ ผมไม่ได้รักมัน

“ทำไมกรต้องพูดขนาดนั้นด้วย! ก็เราชอบกร เรารักกร เราผิดเหรอที่อยากให้กรกอดเรา เปิดใจให้เราบ้าง ทีกับพี่กานต์ กรก็ยอมเขาทุกอย่าง ไอ้พีทกรก็ไม่รังเกียจมัน พี่คนเมื่อวานที่มาส่งหน้าหออีก กรชอบทุกคน ยกเว้นเราเหรอ!” ปั้นจั่นร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็กๆ เวลาไม่ได้ดั่งใจ ผมไม่ตอบ แต่กระชากแขนมันออก แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

ปังๆๆ

“กร! ออกมาคุยให้รู้เรื่องนะ! เราไม่ยอมจบง่ายๆ แน่ กรต้องรับผิดชอบเรา!” ปั้นจั่นทุบประตูห้องน้ำรัวๆ จนผมทนไม่ไหว เปิดผลัวะออกไปประจันหน้ากัน ผมคว้าคางเล็กๆ นั่นบีบมันแน่น ยกร่างเล็กขึ้นจนเท้าลอยจากพื้นเล็กน้อย

“รับผิดชอบ? มึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าวะ ปั้น” ผมขมวดคิ้วหน้าตาเขม็งเกร็งไปหมด จริงสิ ผมควรจะกินยาอีกตัวหนึ่งที่หมอไผ่ให้มาด้วย “มึงถ่างขาให้กูเอาเอง กูจำเป็นต้องรับผิดชอบด้วยเหรอ? ขนาดกับพี่กานต์ กูข่มขืนเขาแท้ๆ เขายังไม่เรียกร้องเหี้ยไรจากกูเลย!”

ฉิบหายล่ะ ผมเผลอหลุดปากเรื่องนั้นออกไปแล้ว

“อะ...อะไออะ” (อะไรนะ?) ปั้นจั่นหน้าซีดเซียว พยายามจะแกะมือของผมออก ผมเลยเหวี่ยงร่างเล็กไปที่เตียง

“กลับไปซะ!” ผมตวาด

“ไม่!” ปั้นจั่นลุกพรวดขึ้นมาอีก มันกระโจนเข้ามากอดรัดผม “ถ้าไม่อยากให้เรื่องพี่กานต์รู้ถึงหูคนอื่น ก็ยอมเป็นแฟนเราซะ”

“มึงขู่กูเหรอ?” ผมเดือดดาล อยากขย้ำไอ้ตัวเล็กหน้าแป้นนี่จนแทบคลั่ง

“เออ ถ้ารู้สึกผิดกับพี่เขา ก็ไม่ควรให้เรื่องนี้หลุดไปถึงหูคนอื่นใช่มั้ยล่ะ มึงคงไม่อยากมีข่าวฉาว โดนตำรวจจับเพราะข่มขืนผู้ชายด้วยกันใช่มั้ย ถ้าพ่อแม่มึง...อื้อออ” ไม่ทันที่ปั้นจั่นจะได้พูดมากกว่านั้น ผมผลักมันกระแทกผนังห้องแล้วขยี้ปากเล็กๆ นั่นด้วยปากของผมจนเลือดซิบ

ผมผละออกมาจ้องหน้ามันด้วยแววตาเกรี้ยวกราด แต่ปั้นจั่นกลับเลียเลือดที่ริมฝีปากตัวเองอย่างชอบใจ ก่อนที่ผมจะห้ามตัวเองไว้ไม่ไหวอีกต่อไป

******

เย็นวันจันทร์ ผมไปพบพี่วินตามปกติ แต่ผมไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังหรอก พอเห็นผมเงียบผิดปกติ เขาก็พยายามถามเพื่อให้ผมตอบ แต่ผมก็ได้แค่ส่ายหน้าไปมา ไม่ยอมปริปากอะไรออกไป

“พี่พอจะดูออกว่ากรมีเรื่องไม่สบายใจนะ เอางี้ เราออกไปคุยกันข้างนอกบ้างดีกว่า” พี่วินลุกขึ้น เดินมายืนด้านหลังผมและโน้มตัวลงมา เอามือลูบบนไหล่จนผมรู้สึกขนลุกแปลกๆ “ไหล่เกร็งหมดแล้วเนี่ย ป่ะ พี่พาไปเที่ยวนะครับ”

ไม่รู้เพราะอะไร ผมถึงได้คล้อยตามเขาง่ายดายตลอด ไม่มีความคิดจะต่อต้านอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย และรู้สึกดีที่เขาดูแลเอาใจใส่ผมด้วย

พี่วินพาผมไปเดินเที่ยวในห้างฯ เพราะตอนนี้ยังไม่เย็นมาก ราวๆ 5 โมงได้ แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมรู้สึกเครียดขึ้นมาอีก

“ผมไปรับโทรศัพท์แป้ปนะครับ” ผมบอกพี่วินแล้วขอตัวเดินหลบไปอีกทาง ให้เขาไม่ได้ยินที่ผมคุย ก่อนจะแนบมือถือกับหู “มีอะไร”

[อยู่ไหน ทำไมไม่รอ ถามเวส มันบอกว่ากรขี่มอไซค์ออกไปแล้ว] ปั้นจั่นโวยวายใส่โทรศัพท์ มันเริ่มทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของผมจนผมเริ่มอึดอัดมากขึ้นทุกที

“มาซื้อของ เดี๋ยวไปรับ” ผมพูดเพื่อตัดรำคาญ มันบอกว่าหลังจากนี้จะไปนอนที่ห้องผม ไม่ให้ผมพาคนอื่นไปที่ห้องได้อีก

[เร็วๆ นะ คิดถึง] มันพูดจาน่ารัก แต่ผมไม่ได้รู้สึกรักมันเลยสักนิด ยังไงก็ได้แค่เพื่อน แต่ตอนนี้ต้องยอมไปก่อน ผมวางสายแล้วรีบเดินไปขอโทษพี่วิน เพราะต้องขอตัวกลับก่อน พี่เขาไม่ว่าอะไร ขับรถไปส่งผมที่คณะจิตวิทยา เพราะผมจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ที่นั่น 

“ถ้าพร้อมจะเล่าเรื่องที่กลุ้มใจให้พี่ฟัง ก็บอกได้ทุกเมื่อนะ ตอนนี้ให้คิดว่าพี่คือพี่ชาย ไม่ใช่แค่นักจิตวิทยานะครับ” ก่อนจะจากกัน พี่วินก็เอามือมาขยี้ผมของผมเล่นอย่างเอ็นดู รอยยิ้มของเขาทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น “แล้วอย่าลืมทานยาตามที่หมอไผ่สั่งไว้นะครับ”

“ครับ ขอบคุณนะพี่วิน พี่ดูแลผมดีจนผมไม่คิดว่าเราเป็นแค่คนไข้กับคนบำบัดเลย” ผมพูดความรู้สึกออกไปตามตรง พี่วินมีสีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มหวานให้ผม

“พี่ต้องดูแลเราดีอยู่แล้วล่ะ ก็กรเป็นน้องชายของพี่นี่ครับ”

ผมล่ะอยากจะถาม ว่าคิดแบบนั้นกับผมจริงๆ เหรอ แต่คิดอีกที ผมก็สงสัยตัวเองว่าจะอยากรู้เรื่องนั้นไปทำไม พี่เขาต้องมองผมเป็นน้องชายอยู่แล้ว ไม่มีทางคิดอะไรอย่างอื่นหรอก แม้แววตาของเขาที่มองผม ในบางครั้งมันเหมือนแฝงความนัยบางอย่างก็ตาม แต่ผมก็พยายามไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากไปกว่านี้

“งั้นผมไปนะครับพี่วิน เจอกันวันเสาร์” ผมโบกมือลา ก่อนจะขึ้นคร่อมบนรถ จากที่เคยเจอกันแค่วันจันทร์ ตอนนี้ต้องเจอวันเสาร์ด้วย เพราะเขาเป็นคนพาผมไปหาหมอไผ่ จริงๆ ผมไปเองก็ได้ แต่เขาก็ยืนยันจะพาไปทุกอาทิตย์ ทำให้เราได้เจอกันเพิ่มขึ้น จากอาทิตย์ละครั้ง เป็นอาทิตย์ละสองครั้ง

ผมวกกลับไปที่หน้าคณะตัวเอง เพื่อรับไอ้ซาลาเปาหน้าแป้น มันบอกจะรอบนตึก แต่ผมขี้เกียจเดินขึ้นไป เลยจอดรถรอที่หลังตึกแล้วไลน์ไปเรียกมันให้ลงมาเอง ระหว่างรอก็ไลน์คุยกับพี่วินไปด้วย พี่เขาบอกว่ากำลังเก็บของกลับหอ ก็แปลกดีที่เขาอยู่หอพักอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ทั้งที่บ้านก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ แต่เขาบอกว่าส่วนใหญ่นอนที่หอ เพราะขี้เกียจตื่นเช้าแล้วเจอรถติด แถมมหาลัยผมรถมันติดมากจริงๆ แหละ ผมก็พอจะเข้าใจอยู่

ซาลาเปาน่าจะลงมาได้แล้ว ผมกดปิดหน้าจอมือถือ กำลังจะเก็บใส่กระเป๋ากางเกง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีแขนมารัดคอพร้อมมือที่ปิดปากแน่น ผมตกใจดิ้นรนทันที แต่พอได้ยินเสียงกระซิบของคนที่มาล็อคคอจากด้านหลัง ผมก็เลิกดิ้น

“ตามกูมา”

******
ใครมา น่าจะเดากันได้นะ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เขาคือพี่วิน ชิมิ แต่เขามีภรรเมียแล้วนิ  :hao5: :hao5:
มันต้องมีอัลไล

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อยากอ่านต่อแล้วค่าไรท์ ขอวันละหลายๆตอนเลยได้ไหมคะ อยากอ่านต่อมากเลยค่า ผู้รอบๆตัวกรมีแต่เด็ดๆทั้งนั้นเลย แต่ละคนดูเหมือนจะหลงเสน่ห์กรเข้าทุกคนเลย แถมผู้แต่ละคนมีความจิตๆยังไงไม่รู้หรือเราคิดไปเอง555 #ฮาเร็มจงเจริญ #หลายpจงเจริญ
แต่ละคนดูจิตจริง ฮ่าๆ ฮาเร็มของกร

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมาก รออ่านนะจ๊ะ
ขอบคุณค้าบ มาติดตามกรกับบรรดาเมียต่อ

ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2
เราขอเดาว่า เป็นพีท มาต่ออีกเร็วๆนะคะไรท์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เราเชียร์วินนะ  หรือว่าไรท์จะให้เป็น3p 555

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
มาดูความลับในใจของพี่วินกันมั่ง

10
ผมมีความลับที่บอกใครไม่ได้

[วิน เมื่อไหร่คุณจะมีเวลากลับบ้านคะเนี่ย งานวิจัยอะไรนั่นมันสำคัญกว่าครอบครัวมากนักรึไง] เสียงปลายสายเป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง น้ำเสียงของเธอออกจะหงุดหงิดทุกครั้งที่โทรมา แล้วผมบอกว่าไม่ว่าง

“ถ้าไม่ทำงาน ผมจะหาเงินที่ไหนให้คุณใช้ล่ะ ถ้าไม่มีธุระอะไรผมวางนะ” ผมตัดสายทิ้งอย่างไม่ใยดี รำคาญที่จะต้องทนฟังคำบ่นว่าของหล่อนเต็มที แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากอดทน

ผมทิ้งตัวลงนั่งพิงเก้าอี้ในห้องทำงานที่มหาลัยอย่างอ่อนล้า เหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ จนไม่อยากขยับตัวไปไหน

เข็ม หรือเขมิกา เป็นผู้หญิงที่แม่ของผมเลือกมาให้เมื่อสองปีก่อน แม่บอกว่าเธอเป็นลูกสาวคนรองของตระกูลไฮโซชื่อดัง ซึ่งแม่ของเธอเป็นเพื่อนสนิทของแม่ผมอีกที

แล้วไง?

ตอนที่แม่แนะนำเธอกับผม ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ นะ เพียงแค่ไม่กล้าพูดออกมา เธอมองผมด้วยดวงตาแวววาวเป็นประกายราวกับพบของขบเคี้ยวถูกใจ ไม่ว่าผมจะแสดงสีหน้ารังเกียจอย่างจงใจแค่ไหนก็ตาม

เราทำความรู้จักกันราวปีครึ่ง เพราะแม่บังคับให้ผมต้องคบกับเธอ บอกว่าอายุขนาดผมควรแต่งงานและมีลูกสืบสกุลได้แล้ว แต่ผมไม่ได้อยากมีลูกกับผู้หญิงคนนี้ หรือผู้หญิงคนไหน

ผมเป็นเกย์

นี่คือความลับอย่างแรกที่พ่อแม่ผมไม่เคยรู้

แล้วแม่ก็ไปสู่ขอเจ้าหล่อนมาให้ผมเสร็จสรรพ โดยไม่คิดจะถามความเห็นผมเลยแม้แต่น้อย ผมต้องฝืนทนนอนร่วมเตียงเดียวกับเธอแค่คืนแรกๆ เท่านั้น เธอพยายามจะยั่วยวนให้ผมร่วมรักกับเธอ แต่ผมปฏิเสธ และผมก็ขอย้ายออกมาอยู่หอพักในมหาวิทยาลัยเมื่อปลายปีก่อน ด้วยข้ออ้างว่าต้องอยู่ทำงานวิจัยให้คณบดี และคงกินเวลาหลายปี แต่ผมก็แวะกลับไปเยี่ยมเธอที่บ้านบ้างนานๆ ครั้ง

แม่โทรมาเร่งเร้า ให้ผมมีลูกกับเข็ม แต่ผมไม่ทำ สุดท้ายผมก็กลายเป็นโรคเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งที่ตัวผมเป็นนักจิตวิทยา แต่กลับมีอาการทางจิตเสียเอง มันบ้าบอมั้ยล่ะ

ผมเมินสายเรียกเข้าที่เข็มโทรจิกเข้ามาอีกหลายสาย หยิบยาในลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานมากินเพื่อให้ผ่อนคลาย ตั้งแต่ผมได้รู้จักกับเด็กคนนั้น...ชลกร ที่ตอนแรกผมรู้แค่เพียงเขาใช้ชื่อในเนตว่า เอส ผมก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จนแทบไม่ต้องพึ่งยา

และนี่คือความลับอีกข้อของผม

ผมรู้จักกับชลกรผ่านเว็บไซต์สำหรับชาวสีรุ้ง ในคืนหนึ่งที่ผมนอนไม่หลับและบังเอิญเขาก็นอนไม่หลับ เราคุยกันนิดหน่อยก่อนจะต่างคนต่างสำเร็จความใคร่ผ่านหน้าจอ โดยที่ไม่เห็นหน้าหรือได้ยินเสียงจริงๆ ของกันและกัน แต่ผมกลับรู้สึกดีกับเขา มากกว่าคนอื่นที่เคยเจอ เขาปรึกษาผมหลายเรื่อง ดูเขาเครียดกว่าผมอีกมั้ง ทั้งที่อายุยังน้อยแท้ๆ ผมเลยให้คำปรึกษาเล็กๆ น้อยๆ เพราะทำงานด้านนี้อยู่แล้ว

ตอนที่เขามาหาผมในฐานะผู้ป่วยทางจิต และผมอยู่ในฐานะนักจิตวิทยา ตอนแรกผมไม่รู้หรอกว่าเป็นเขา แต่เรื่องที่เขาปรึกษาผมบวกกับวิธีการพูดจาและลักษณะท่าทางของเขา ทำให้ผมแน่ใจว่าเขาคือ เอส

แต่ผมต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงไว้ก่อน ค่อยๆ พูดคุยกับเขาไปเรื่อยๆ จนเขาเริ่มไว้ใจและเล่ารายละเอียดที่มากกว่าเดิม ซึ่งผมเคยได้ฟังมาแล้วทั้งหมด แต่ผมคิดว่าเขายังมีเรื่องที่ปิดบังอยู่อีกหลายเรื่อง

ผมเริ่มเข้าหาเขามากขึ้น พยายามจะให้รู้ว่านี่คือผม คนที่เขาคุยด้วยเกือบครึ่งปีที่ผ่านมา ผมรักเขา ผมรู้สึกอย่างนั้น ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เหมาะสม ผมเป็นอาจารย์ เป็นนักจิตวิทยาที่รักษาเขา อายุมากกว่าเขาเป็นสิบปี เขาเพิ่งอายุ 18-19 เพิ่งเรียนปี 1 ผมไม่อยากให้ชีวิตเขาพังเพราะผมเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่สุดท้ายผมก็เอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับเขาจนหมดทั้งใจ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง จนผมสะดุ้ง นึกว่าเข็มตื้อไม่เลิก แต่พอมองหน้าจอก็ต้องรีบกดรับ

“ครับ กร?”

[พี่...วิน...] เสียงกรดูอ่อนแรง ผมขมวดคิ้ว

“เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ?”

[ผม...อยู่ที่...] เขาบอกแค่สถานที่ แล้วสายก็ตัดไป ผมร้อนใจมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบคว้ากุญแจรถออกไปจากห้องทันที

ผมบึ่งรถเข้าไปอีกฝั่งของมหาลัย ตามที่กรบอก จอดรถทิ้งไว้เพราะทางข้างหน้าไปต่อไม่ได้ แล้วรีบวิ่งไปตามทางเดินในตรอกแคบๆ โดยที่หัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ผมกลัวว่ากรจะเป็นอะไรไป เพราะแถวนี้ทั้งมืดและอับ

ผมเดินไกลพอสมควรกว่าจะเจอกรที่นั่งพิงกำแพงตึกอยู่หลังถังขยะใบใหญ่ ทำให้ไม่มีใครเห็นเขา

“กร! เกิดอะไรขึ้น” ผมเข้าไปเช็คร่างกายของเขาอย่างลนลาน มีบาดแผลหลายแห่ง ที่หัวมีเลือดไหล คิ้วแตก ปากแตก “ใครทำแบบนี้! พี่จะพาไปหาหมอ ลุกไหวมั้ย” ผมประคองร่างเขาขึ้นยืน ดูเหมือนไม่มีกระดูกส่วนไหนหัก เพราะเขาลุกขึ้นยืนได้ แต่ตัวงอๆ คงเจ็บที่ช่องท้อง

กรไม่ปริปากพูดอะไรเลยสักคำ แม้แต่เสียงร้องโอดครวญจากบาดแผลตอนที่โดนพยาบาลทำแผลให้ ก็ไม่มีสักแอะ ดวงตาของเขาเหม่อลอย ไม่มีน้ำตาสักหยด แต่ผมรู้ว่าเขากำลังร้องไห้อยู่ข้างในใจ

ระหว่างรอทำแผล มือถือของกรมีสายโทรเข้ามาสองครั้ง และผมก็ต้องรับสายให้ เผื่อคนที่โทรมามีธุระสำคัญ

[กร! หายไปไหน! ทำไมทิ้งมอไซค์ไว้!] เจ้าของเสียงปลายสายโวยวายเสียงสั่นเครือ เหมือนกำลังร้องไห้ [เราคิดว่ากรจะทิ้งเราแล้ว...]

“ใจเย็นนะครับ นี่มือถือของกร แต่ผมไม่ใช่กร” ผมเอ่ยเสียงนุ่มนวลอย่างที่ชอบใช้เพื่อปลอบประโลมคนไข้ คนที่ปลายสายเงียบไปอึดใจ เหมือนพยายามตั้งสติ

[แล้วคุณเป็นใคร กรอยู่ไหน เกิดอะไรขึ้น]

ผมชั่งใจ ไม่รู้ว่าคนคนนี้คือใคร ควรบอกเรื่องที่กรโดนทำร้ายหรือไม่ “กรเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ กำลังรักษาตัว”

[อยู่ไหนล่ะ ผมเป็นแฟนเขา ผมจะไปหาเขา ช่วยบอกผมด้วย]

แฟน?

กรมีแฟนแล้วงั้นเหรอ? ทำไมเขาไม่เห็นเคยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังเลยล่ะ

อา...จริงสินะ

ที่ผมคิดว่าเขายังมีเรื่องปิดบัง บางทีอาจจะเป็นเรื่องนี้

ทั้งที่มีแฟนแล้ว แต่ก็บอกว่าอยากเจอผม

เราต่างก็...กำลังโกหก

ปวดใจบอกไม่ถูกแฮะ

ผมตั้งสติและบอกสถานที่ให้ปลายสายรับทราบ ก่อนจะวางสายไป อีกไม่นาน คงได้เจอแฟนของกร แต่ผมไม่อยากอยู่รอเจอ เลยฝากพี่พยาบาลที่รู้จักกันให้ดูแลกร พร้อมจ่ายค่ารักษาไว้ให้ แล้วกลับห้อง

ผมนอนแผ่อยู่บนเตียง ไร้เรี่ยวแรงจะทำอะไรทั้งนั้น แฟนของกรคงไปถึงโรงพยาบาลแล้ว และคงได้เจอเขาแล้ว น้ำตาผมไหล ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันเจ็บใจ

ไหนบอกว่าอยากเจอพี่ไง

จะให้อยู่ในฐานะอะไรล่ะ เซ็กส์เฟรนเหรอ?

ทั้งที่ผมรักเขา และคิดว่าจะหาทางหย่ากับเข็ม เพื่ออยู่กับเขา

แต่ผมคงคิดไกลไป

ดีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน และจากนี้ไป ก็คงไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว

ผมหลับตาลง ให้น้ำตามันไหลรินไปเรื่อยๆ ความรักของเพศที่สามอย่างพวกเรามันคงหาความจริงใจได้ยาก ใครๆ ก็มองว่ามีแต่พวกมั่วเซ็กส์ไปวันๆ เพราะเป็นผู้ชาย ไม่ท้อง จะมีอะไรกับใครก็ได้ จะรุกก็ได้ รับก็ไม่เกี่ยง การเปิดเผยตัวตนของเราก็เหมือนเปลือยร่างกายให้คนอื่นมอง ให้พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปาก

หน้าตาทางสังคม ใครบอกว่าไม่สำคัญ ใครว่าไม่จำเป็น

ผมเป็นอาจารย์ เป็นนักจิตวิทยา ถ้าเรื่องที่ผมเป็นเกย์เปิดเผยออกไป อย่างแรกเลย มันต้องมีผลกระทบกับหน้าที่การงานของผมแน่นอน แม้จะบอกว่ายุคนี้เปิดกว้างแล้ว แต่คนหัวโบราณคร่ำครึก็ยังมีอยู่ไม่น้อยในมหาวิทยาลัย แล้วอีกอย่าง ผมแต่งงานแล้ว ใครๆ ก็รู้ ทั้งบ้านผมและบ้านของเข็มจะต้องแตกหักแน่นอนถ้าเรื่องนี้แพ่งพรายออกไป

ด้วยหน้าตาทางสังคม วงศ์ตระกูล อาชีพการงานและอายุของผม

ผมไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้ ผมต้องอดทน ต้องจำยอม ผมจะไม่มีโอกาสได้รับรักแท้จากใคร แม้แต่คู่แต่งงานของตัวเอง

และผม...จะต้องไม่รักใคร

******

ปั้นจั่นมาถึงโรงพยาบาลและได้เจอกรที่ห้องฉุกเฉิน ร่างเล็กโผเข้ากอดทั้งน้ำตาอย่างลืมตัว เพราะเป็นห่วงอีกฝ่ายแทบคลั่ง ตอนที่ลงจากตึกแล้วเห็นแต่รถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ โดยที่ยังมีกุญแจเสียบคาไว้ จึงรู้ทันทีว่ากรต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง แต่โทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด โทรติดอีกทีก็เกือบทุ่มไปแล้ว และเป็นคนอื่นที่รับสาย หัวใจแทบวายตอนที่รู้ว่ากรเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมบาดเจ็บแบบนี้ แผลแบบนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่” ปั้นจั่นมองดูเนื้อตัวที่มีรอยฟกช้ำหลายจุดของกร หัวมีผ้าพันแผลวนรอบอย่างกับมัมมี่ขนาดนี้ ปากก็แตก คิ้วก็มีผ้าแปะไว้ เลือดยังซึมๆ อยู่ด้วยซ้ำ

“ช่างมันเหอะ” กรบ่ายเบี่ยง ไม่อยากเล่าเท้าความใดๆ ทั้งสิ้น

“แต่กรบาดเจ็บยับเยินขนาดนี้ ใครทำ บอกมา!” ปั้นจั่นเท้าเอวจ้องหน้า แววตาเคร่งขรึม แต่กรปฏิเสธด้วยการส่ายหน้า

“อยากกลับห้องแล้ว ขับรถแทนกูได้มั้ย”

“เออๆ ค่อยๆ เดินนะ” ปั้นจั่นจำยอม ถอนหายใจพลางช่วยพยุงร่างสูงให้เดินไปรับยาและกลับห้องด้วยกัน

พอกลับมาถึงห้อง ปั้นจั่นก็เตรียมจะเช็ดเนื้อตัวทำความสะอาดร่างกายให้

“แล้วใครพากรไปโรงบาล เราโทรไปแล้วเขารับสาย แต่พอไปถึง คุณพยาบาลก็เอามือถือของกรมาให้ บอกว่าคนที่พามาส่งจ่ายเงินและขอตัวกลับไปแล้ว” ปั้นจั่นถามไปจับแขนของกรยกขึ้นอย่างเบามือและค่อยๆ เช็คไล่จากปลายแขนไปยังใต้รักแร้

“เขาผ่านมาเจอน่ะ ไม่รู้จักกันหรอก”

“ไม่รู้จักแล้วจ่ายเงินให้ด้วยเนี่ยนะ? กรโกหก บอกมานะว่าใคร” แม้จะหงุดหงิด แต่ก็รู้ว่ากรเจ็บอยู่ ปั้นจั่นเลยพยายามไม่ใส่อารมณ์

“ไม่รู้ก็ไม่รู้ดิวะ จะเซ้าซี้ทำไม” กรดึงแขนกลับ ทำท่าจะนอนลง แต่ปั้นจั่นยังตามไม่เลิกรา มือเล็กเขย่าแขนร่างสูงเบาๆ

“ก็แค่ตอบมา ทำไม? สำคัญมากเหรอ ถึงไม่อยากให้รู้”

คำถามของปั้นจั่นทำให้กรนิ่งงัน ก่อนจะหลับตาลงแล้วเอ่ยออกมาว่า “อือ สำคัญมาก”

“กร!”

เขาพยายามข่มตาหลับ ไม่สนใจเสียงโวยวายของคนตัวเล็กด้านหลังที่หงุดหงิดไม่พอใจใส่ ปั้นจั่นเลิกเช็ดตัวให้แล้ว เพราะเห็นว่ากรจะนอน แต่ก็ยังมานอนเกาะอยู่ข้างหลัง เอามือลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ อย่างออดอ้อนพลางซุกหน้าเข้าหา

“เรารักกรนะ อย่าทิ้งเรา เปิดใจให้เราบ้าง เราอยากเป็นคนสำคัญของกร...” เสียงนั้นแผ่วลงเรื่อยๆ และเหลือเพียงแค่เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ

แม้จะหลับตานานแค่ไหน แต่กรก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เราขอเดาว่า เป็นพีท มาต่ออีกเร็วๆนะคะไรท์
มาเร็วมั้ย

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เราเชียร์วินนะ  หรือว่าไรท์จะให้เป็น3p 555
ม่ายยยย ไม่ได้จั่วหัวไว้น้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เรื่องเรื่่มยุ่งเพราะปั้นจั่น

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เริ่มจะปวดหมองแล้ว เสน่ห์แรงเกินห้ามใจจริง ๆ เลยนะกร ตกลงเอาเป็นเหมาหมดทุกคนไปเลยแล้วกัน แบ่งเป็นวัน ๆ ไปเลยไป  :z3:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
11
“ทำไมต้องเปลี่ยนคนให้คำปรึกษาด้วยครับ?” ผมขมวดคิ้วมองหน้าพี่วินอย่างไม่เข้าใจ เมื่อได้ฟังเรื่องที่เขาแจ้งในวันนี้ เขาบอกว่าผมต้องเปลี่ยนผู้ให้คำปรึกษา เพราะเขากับผมรู้จักกันมากเกินไป และนักจิตวิทยาไม่ควรสนิทสนมกับคนไข้ที่ตนรักษาถึงขนาดนี้

“พี่อธิบายไปแล้วนะกร ช่วยทำความเข้าใจด้วย” เขาเองก็หน้าเครียดๆ ไม่เหมือนทุกที

“ผมไม่เข้าใจ จะต้องให้ผมเล่าเรื่องเดิมซ้ำๆ กับคนอื่นงั้นเหรอ? พี่กำลังเล่นอะไรอยู่”

“พี่ไม่ได้เล่น!” เขาเสียงดัง ผมไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน แม้จะเพิ่งรู้จักกันไม่นานก็ตาม แต่ผมคิดว่าเขาไม่ใช่คนแบบนี้

“ในเมื่อพี่รู้ว่าสนิทกับคนไข้มากเกินไม่ได้ แล้วทำไมต้องเข้ามาดูแลผมขนาดนี้ พี่ทำให้ผม...” ขาดพี่ไม่ได้ ผมอยากจะพูดประโยคนี้ แต่ไม่กล้า

ผมรู้สึกดีกับทุกสิ่งที่เขาทำให้ โทรไปเมื่อไหร่ก็รับ แม้ตอนงานยุ่งหรือนอนหลับ ไม่ว่าผมให้ช่วยอะไรเขาก็ทำ เอาใจใส่ผมยิ่งกว่าพ่อแม่ แล้วทำไมเขาถึงคิดจะทิ้งผม

“กร...นายยึดติดกับนักจิตที่บำบัดตัวเองไม่ได้หรอกนะ ในเมื่อเราสนิทกันมากกว่านั้นแล้ว ก็ควรเปลี่ยนคนบำบัด” เขาพยายามหว่านล้อมด้วยน้ำเสียงราบเรียบแบบที่ชอบใช้ ผมเองก็อยากจะทำความเข้าใจให้มากกว่านี้นะ แต่ตอนนี้สมองไม่ค่อยรับรู้อะไรเลย ผมรู้แค่ผมต้องการพี่วินคนเดียวเท่านั้น

“เชื่อพี่นะกร ให้คนอื่นรับหน้าที่นี้แทนพี่ แล้วพี่จะได้ดูแลกรเวลาอยู่ข้างนอกได้อย่างเต็มที่ไงครับ นะครับ เชื่อพี่นะ”

เพราะเขาพูดหว่านล้อมเก่ง หรือเพราะผมใจอ่อนง่ายก็ไม่รู้ สุดท้ายผมก็ต้องยอมเปลี่ยนนักจิตวิทยาตามที่เขาแนะนำ

******

ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมจู่ๆ เขาก็พูดเรื่องจะเปลี่ยนคนให้คำปรึกษากับผม หลังจากผมต้องรักษาแผลที่โดนไอ้พีทกับเพื่อนมันรุมทำร้าย พี่เขาก็ขาดการติดต่อไปเป็นอาทิตย์ จนผมต้องมาพบที่คณะจิตวิทยา โทรนัดเพื่อเข้ารับการรักษาจากเขาตามปกติ แต่เขาดันพูดเรื่องนั้นขึ้นมา ทำให้ผมสับสนมึนงงไปหมด

ตอนที่ผมขอให้เขามาช่วย เขายังรีบร้อนมาหาผม พาผมไปส่งโรงพยาบาลอย่างร้อนรน สีหน้าของเขาในตอนนั้นเป็นห่วงผมจริงๆ ไม่ใช่เพราะผมเป็นคนไข้คนหนึ่งของเขา

และตอนนั้นเองที่ผมเริ่มรู้สึกตัว ว่านอกจากพี่ SlipXD ที่ผมชอบคุยด้วยแล้ว ผมก็ชอบพี่วินไม่แพ้กัน ผมรู้สึกอบอุ่นใจเวลาอยู่กับเขา ผมชอบเวลาที่เขาจับมือ เวลาที่เขาลูบหัว ชอบรอยยิ้มอ่อนโยนและแววตาที่มองมาที่ผม

ผมรู้ว่าเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับผมมากเกินกว่า คนไข้หรือน้องชาย แต่ผมก็ยังต้องการเขามากกว่านั้น

ผมรู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ไม่รู้ว่ามีลูกหรือยัง แต่ผมก็รักเขา รักตัวตนของเขา รักทุกสิ่งที่เป็นเขา

ผมอยากอยู่ข้างๆ เขา และอยากให้เขาคอยอยู่เคียงข้างผมเหมือนเดิม

“กินยาตามที่หมอสั่งครบดีใช่มั้ย กร” วันนี้ผมมาหาพี่วินโดยที่ไม่ได้นัด แค่มาชวนเขาไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ช่วงนี้ผมอยากอยู่กับเขาแทบทุกวัน เพราะเขาบอกเองว่า ถ้าผมยอมเปลี่ยนนักจิต เขาจะดูแลผมเวลาอยู่ข้างนอก นอกเวลางานได้มากขึ้น

“ครบครับ นอนหลับสบายยันเช้า และผมก็รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย” เรานั่งคุยกันไป กินข้าวกันไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เขาขับรถพาผมมา รอยยิ้มของเขายังคงเหมือนเดิม ถามไถ่ผมด้วยความห่วงใย แต่แววตาของเขาไม่เหมือนเดิม มันดูเศร้าและเหงาแปลกๆ

“ดีแล้ว” เขายิ้มอ่อน ตักสปาเกตตี้เข้าปาก ซอสสีแดงติดที่มุมปากข้างหนึ่ง ผมเลยยื่นมือไปเพื่อจะเช็ดให้ แต่เขากลับสะดุ้งและเอียงคอหลบ

“ซอสมันติดน่ะพี่” ผมชักมือกลับ รู้สึกแย่นิดหน่อยที่เขาทำเหมือนรังเกียจที่ผมจะถูกเนื้อต้องตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นเขาที่ชอบเข้ามาคลอเคลีย

“ขอบใจ” เขาก้มหน้าหลบสายตาผม และหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมุมปากทั้งสองข้าง

“พี่มีอะไรจะเล่าให้ผมฟังมั่งมั้ย” เพราะเขาผิดปกติ ไม่เหมือนเดิมในบางอย่าง และมันทำให้ผมสงสัย

“ไม่นี่ ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น”

“แต่พี่ไม่มองตาผมแบบที่พี่ชอบทำ” ทุกทีเป็นผมมากกว่าที่หลบสายตาของเขา ดวงตาสุกใสทอประกายที่ชอบมองผมอย่างแฝงความนัย ที่ผมพยายามหลบเลี่ยงไม่คิดอะไรกับมัน

แต่ผมหยุดคิดไม่ได้แล้ว

“พี่วิน ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

******

“จะคุยก็คุยสิ ที่นี่แหละ” เขาจอดรถตรงข้างทางบนถนนในมหาวิทยาลัย มันดึกแล้ว ไม่ค่อยมีรถผ่าน

“พี่มีอะไรในใจรึเปล่า ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ แต่มันก็แปลกตั้งแต่วันที่พี่ขอให้ผมเปลี่ยนคนบำบัดแล้วล่ะ” ปกติผมไม่ชอบพูดความคิดตัวเองออกมาเท่าไหร่ แต่กับพี่วิน มันเหมือนเคยชินกับการบอกเล่าทุกเรื่องที่พบเจอมา รวมทั้งระบายความในใจทั้งหมดกับเขา ผมเลยคิดว่าสามารถพูดคุยกับเขาได้ตรงๆ

“ไม่มีจริงๆ อย่าคิดมากสิครับ” เขาใช้น้ำเสียงเหมือนตอนที่ผมเป็นคนไข้ของเขาอีกแล้ว เสียงที่ทำให้ผมต้องเคลิ้มตาม แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ผมต้องการรู้คำตอบจริงๆ

“แต่พี่ไม่เหมือนเดิม ถ้ารำคาญผม ก็บอกมาตามตรงได้นะ” ผมพาลคิดไปต่างๆ นานา ตั้งแต่เรื่องที่เขาขอให้เปลี่ยนคนบำบัด ผมก็คิดมากมาตลอดจนต้องพึ่งยามากกว่าเดิม เรื่องของปั้นจั่นก็ยังค้างคา มันมานอนที่ห้องผมเกือบทุกคืน แต่วันนี้ผมบอกไว้แล้วว่าจะกลับดึก มีธุระที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงโดนโทรมากวนรัวๆ

“พี่ไม่ได้รำคาญ ไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับกรเลยนะ กลับกัน...” เขาหันมามองหน้าผมและเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ยอมพูดออกมา ก่อนจะหันหน้ากลับไปทางเดิม แววตาของเขาสั่นระริก แม้ในรถมันจะมืดสลัว แต่ผมก็เห็นชัดเจน
“กลับกันอะไรครับ?” ทั้งที่ปกติเขาจะชอบคะยั้นคะยอและหว่านล้อมผมให้พูดความในใจแบบแนบเนียน แต่ตัวเขากลับมีอะไรไม่ยอมบอก

ผมรู้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน บางเรื่องผมไม่มีสิทธิรู้หรือถาม แต่ผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้จริงๆ

“พี่วิน ตอนนี้เราไม่ใช่นักจิตกับคนไข้แล้วนะครับ ผมอยากให้พี่...เป็นพี่ชายของผมจริงๆ อยากให้เราคุยกันได้ทุกเรื่อง” ผมค่อยๆ รีดเค้นความในใจของเขาทีละน้อย พอจะเรียนรู้มาจากเขาบ้างแล้วล่ะว่าต้องทำตัวยังไง บางทีผมก็อยากลองเรียนจิตวิทยาดูเหมือนกัน

“พี่ชายเหรอ?” เสียงของเขาสั่นนิดหน่อย เขาหันหน้าหนีอีกแล้ว คราวนี้มองออกไปนอกรถ ให้ผมเห็นแค่ท้ายทอย ผมซอยสั้นระต้นคอขาวๆ ดูเซ็กซี่ไม่เบา

ผมสะดุ้งกับความคิดของตัวเอง

บอกตามตรง ผมรู้สึกว่าเขามีหลายๆ อย่างที่ผมคิดว่าคล้ายกับพี่ SlipXD ทั้งสีผิว คำพูดจาในบางครั้ง ริมฝีปากสวยๆ เวลายิ้ม และท้ายทอยนี่ ที่ผมเคยเห็นเวลาพี่ SlipXD หันหลัง

หรือว่า...

“พี่วิน” ผมได้สติกลับมา มือคว้าไหล่ของเขาที่เริ่มสั่น แต่เขาไม่ยอมหันหน้ามาหา “พี่ร้องไห้เหรอ?”

“เปล่า” แต่เสียงสั่นโครตๆ ใครไม่รู้ว่าร้องก็บ้าแล้วแบบนี้

“พี่ร้องไห้ทำไม”

“ก็บอกว่าเปล่าไง” เขาขึ้นเสียง ผมเลยฉุนกึก จับหน้าเขาให้หันมา

“แล้วน้ำตานี่อะไร! พี่เป็นอะไรกันแน่ บอกผมสิ!” ให้ตายเถอะ น้ำตาของเขาทำเอาใจผมกระตุกวูบ มันเป็นความเจ็บปวดที่คล้ายกับตอนที่เห็นแม่ร้องไห้ แต่ต่างกันนิดหน่อย ตรงที่เขาไม่ใช่แม่ของผม

พี่วินกลั้นเสียงสะอื้นด้วยการเม้มปาก แต่น้ำตาของเขายิ่งไหลพราก

“พี่วิน” ผมไม่อยากทนมันอีกต่อไปแล้ว ทั้งที่ปากก็บอกอยากให้เขาเป็นแค่พี่ชาย แต่ในใจของผมตอนนี้ ต้องการให้เขารับรู้ความรู้สึกที่มี...ทั้งหมด

ผมจับคางของเขาเอาไว้แน่นหนา ริมฝีปากของเราทาบกันสนิท แม้เขาจะยังเม้มปากกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเอง ผมรู้สึกถึงไหล่บางที่กระตุกเกร็งคล้ายจะตกใจ สองมือของเขายกขึ้นดันอกผมทันที

“กร...” เมื่อเขาเผยอปากเรียกชื่อผม ผมก็ส่งปลายลิ้นร้อนๆ เข้าไปในนั้นอย่างถือดี เขาไม่ได้ต่อต้านอย่างที่คิด แค่สั่นน้อยๆ และหลับตาลง เมื่อผมเห็นดังนั้นจึงยิ่งบดจูบหนักหน่วงขึ้น ทั้งที่ยังลืมตามองหน้าเขาอยู่

มันเป็นจูบที่หอมหวานกว่าที่ผมเคยจินตนาการไว้

ลมหายใจของเราไหลรวมกัน เสียงครางเบาๆ ในคอของเขากระตุ้นให้ผมเกิดความต้องการ ร้อนรุ่มไปทั่วสรรพางค์ ในรถแคบๆ แถมยังจอดอยู่ริมทางในมหาวิทยาลัย

เราจูบกันนานมาก

พี่วินตอบรับผมอย่างดี คล้ายกับว่าเขาก็ต้องการสิ่งนี้มานานเหมือนกัน เราต่างตอบสนองซึ่งกันและกัน ฝ่ามือของผมลูบไล้ที่ต้นคอขาวพลางกดจูบลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ พี่วินคล้องแขนโอบรอบลำคอของผม ก่อนที่ผมจะค่อยๆ เอนตัวลงจนชิดกระจกรถและอุ้มเขาให้ขึ้นมานั่งบนตัก เราตัวเท่าๆ กัน แต่เขาเบากว่าผมเยอะ

“อย่า!” จู่ๆ เขาก็สะดุ้ง คว้าจับมือผมไว้แน่น เพราะผมกำลังจะล้วงเข้าไปใต้ขอบกางเกงสแลคสีดำของเขา เสื้อเชิ้ตของพี่วินร่นขึ้นสูงเกือบถึงหน้าอก และหน้าผมก็กำลังซุกไซร้อยู่แถวนั้น

“พอก่อน...นี่มันในมหาลัยนะกร” เขาผลักผมออกแล้วกลับไปนั่งที่คนขับตามเดิม ผมรู้สึกเสียดายมาก เลยตามไปกอดรัดร่างของเขาไว้พลางซุกไซร้ใบหน้ากับซอกคอขาวๆ ดูดเบาๆ พอให้น้ำลายเปียก เขาเอี้ยวตัวหลบทันที “บอกว่าพอไง...กรมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ”

“พี่เองก็แต่งงานแล้วเหมือนกัน” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดแบบนั้นออกไป เขาชะงักกึก หน้าแดงก่ำ ไม่รู้เพราะโกรธหรืออาย

“งั้นเราก็ไม่ควรทำ...อื้อ” ผมไม่สนใจฟังต่อ จับหน้าเขาให้หันมาแล้วขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อนก่อนจะผละออกมาใช้ลิ้นเลียเรียวปากสวยที่แดงช้ำนิดหน่อย พี่วินสบตากับผมอีกครั้งแล้วหรุบตาลงทันที ผมหอมแก้มเขาทั้งสองข้างพลางเชยคางของเขาขึ้น จูบเบาๆ บนริมฝีปากและค่อยๆ ละเลียดลงมาที่คอ สองมือสั่นๆ ของเขาจับที่แขนของผม ใบหน้าเริ่ดหงาย ดวงตาปิดสนิท

“กร...ไม่เอาตรงนี้” ในที่สุดเขาก็ยอมเอ่ยประโยคนั้นออกมา “ไปห้องพี่...นะ”

******

พริบตาแรกที่เข้าไปในห้องของเขา ผมหยุดชะงัก

หอพักอาจารย์ก็เหมือนกับหอในของนักศึกษา หน้าต่างบานเกล็ด เก้าอี้หมุนได้ตัวนั้น ตู้เสื้อผ้าและบานประตูที่มีกระดาษแปะอยู่

“มาถึงนี่แล้ว ยังไงพี่คงต้องบอก” พี่วินเอ่ยขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด จนผมอยากจะเข้าไปกระชากมันออกเดี๋ยวนั้น เขาถอดเสื้อและหันมาหาผม ใต้แสงไฟจากหลอดนีออนแบบยาวบนเพดาน เรือนร่างสีชมพูอ่อนกับยอดอกเม็ดสวยสีชมพูนั้น ทำให้ผมต้องขมวดคิ้ว

ไม่ใช่ตื่นตะลึงกับร่างกายสวยงามของเขา แต่มันคุ้นตาจนผมคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย

“พี่...” ผมเดินเข้าไปหาเขา สายตายังคงจับจ้องร่างกายของเขา

“อือ...คนที่กรคุยด้วยมาเกือบครึ่งปีในเว็บนั้น” เขาสูดลมหายใจเข้าและผ่อนมันออกมาช้าๆ ก่อนจะบอกเล่าความจริงบางอย่างที่ผมเองเกือบลืมเลือนมันไปแล้ว

“คือพี่เอง”

******

กรได้รู้สักที หลังจากคนอ่านรู้กันหมดแหละ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เรื่องเรื่่มยุ่งเพราะปั้นจั่น
จริวที่สุด

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เริ่มจะปวดหมองแล้ว เสน่ห์แรงเกินห้ามใจจริง ๆ เลยนะกร ตกลงเอาเป็นเหมาหมดทุกคนไปเลยแล้วกัน แบ่งเป็นวัน ๆ ไปเลยไป  :z3:
ดูฮาเรมไปนี้ดส์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
กรรู้แล้วจะเป็นไงต่อนะ คงไม่จิตตกกังวลว่า ตัวเองเป็นชู้กับสามีชาวบ้านนะ  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เย่ๆ เยสกันๆ เลิฟๆ ฟินสุด

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ชอบจัง ชอบความหื่นนิดๆ (เอ๊ะ?) ของเรื่องนี้นะคะ

เป็นฮาเร็มก็ดูไม่เลว  :hao6:

จริงๆชอบทุกคนยกเว้นซาลาเปา
ดูงอแงวอแวมากก พี่กานต์กับพีทเราก็ชอบ
โดยเฉพาะพีทที่ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง

ยังไม่อยากฟันธงว่าใครเป็นนายเอก ตามอ่านต่อไป

คนเขียนมาอัพบ่อยๆน้า  :กอด1:

ออฟไลน์ Pankwun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
้อื้อหือออ ไหนๆก็รู้เรื่องแล้ว จัดหนักโลดดดดดดด :hao6:พ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2018 22:01:10 โดย Pankwun »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
กำจัดปั้นจั่นยังไงดีอ่ะไรท์ นางชักจะวุ่นวายเยอะไปละ :angry2:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
12
ปั้นจั่นกำโทรศัพท์ในมือแน่น นี่มันเกือบตี 1 แล้ว แต่กรยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา ถ้าจะค้างที่บ้านก็น่าจะโทรมาบอกกันบ้าง เล่นเงียบหายไป มันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่จะโทรไปก็กลัวว่าจะรบกวน ถ้าเกิดกรต้องค้างที่บ้านจริงๆ แล้วนี่มันก็ดึกมากแล้ว

“เอาไงดีๆๆๆ” ร่างเล็กเดินวนไปมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่หน้าโซฟา ในห้องพักของกร ต้องตัดสินใจว่าจะโทรหรือไม่โทรไป

ใจหนึ่งอยากโทรไปหา แต่อีกใจยังไม่กล้า

แม้จะขู่กรเรื่องพี่กานต์จนได้เป็นแฟนแบบจำยอมแล้ว แต่ปั้นจั่นรู้ตัวดีว่ากรไม่ได้รัก ไม่ได้คิดอะไรมากกว่าคำว่าเพื่อน ทั้งที่ปั้นจั่นพยายามมาตลอด เพื่อให้กรสนใจ ทั้งที่คิดว่าเป็นคนเดียวที่เข้าถึงตัวกร เพราะกรไม่มีเพื่อนคนอื่น แต่พอกรเริ่มรู้จักเพื่อนๆ คนอื่น รวมทั้งพวกรุ่นพี่ ปั้นจั่นก็ไม่แน่ใจแล้วว่ากรจะเลือกตน

ถึงได้ใช้วิธีนั้น

ก็อยากได้ แล้วจะให้ทำยังไง

กับเพื่อนคนอื่นหรือพี่กานต์ ยังไม่ติดใจสงสัยอะไรเท่าไหร่ เพราะกรแค่พูดคุยด้วยตามปกติ แต่คนนั้น พี่ที่มาส่งกรหน้าหอวันนั้น คนที่ฉีดน้ำหอมและทำให้กรเขิน

“ไม่ดิ! ก็กรบอกว่าแค่พี่แถวบ้าน คงสนิทกันแหละ...” แต่ดูสนิทเกินไปมั้ย แถมกรหน้าแดงแบบนั้น ยิ้มแบบนั้น ไม่เคยเห็นกรเขินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ

ใช่ ไม่เคยมีใครหน้าไหนทำให้กรทำหน้าแบบนั้น แม้แต่ตัวปั้นจั่นเอง

ยอมไม่ได้ ยังไงก็ต้องทำให้กรเป็นของเรา

นั่นคือสิ่งที่ปั้นจั่นคิดอยู่ในหัว และคืนนั้นก็ตัดสินใจทำมันลงไป เพราะเห็นว่ากรกินยาและนอนหลับไม่ได้สติ แต่ตอนที่กรตื่นมาแล้วจัดชุดใหญ่ให้ ก็มีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก

ต่อให้ได้มาแค่ร่างกายก็ไม่เป็นไร จิตใจเดี๋ยวมันก็เป็นไปเอง

แต่ถ้าคนคนนั้นยังอยู่

“ฮึ่ยยยย” ปั้นจั่นเผลอบีบมือถือในมือพลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากรู้ว่าคนในรถคนนั้นคือใคร แล้วถ้าตอนนี้กรอยู่กับคนคนนั้นล่ะ!?

******

“คนที่กรคุยด้วยในเว็บนั้นมาเกือบครึ่งปี คือพี่เอง...”

กวินท์หรุบตาลงเมื่อเอ่ยความลับที่ปิดบังไว้ออกไปเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากโกหกอีกต่อไป เพราะจะบอกหรือไม่ก็มีค่าเท่ากัน

กรมีแฟนแล้ว

และตัวเขาก็มีภรรยาแล้ว

“พี่วิน” กรมีสีหน้าเหมือนกำลังดีใจ เด็กหนุ่มเข้าสวมกอดร่างบางของอาจารย์ แต่ภวินท์พยายามจะผลักไส “ผมอยากเจอพี่มาตลอด นี่พี่รู้ว่าเป็นผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเลยสินะ? ผมเองก็เอะใจอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นพี่จริงๆ”

“ขอโทษแล้วกันที่พี่ไม่ได้บอกแต่แรก เพราะพี่ต้องรับปรึกษาเรื่องของนาย” ภวินท์ขืนตัวออกจากอ้อมกอดของกร ด้วยสีหน้าหม่นหมอง

กรจ้องมองใบหน้าของคนที่อยากเจอมาเนิ่นนานอย่างหลงใหล ฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้ที่ข้างแก้มแดงระเรื่อ “ผมดีใจนะที่เป็นพี่”

“กร...” ภวินท์เงยหน้ามองเด็กหนุ่มด้วยแววตาไหวระริก

“ผมรักพี่ คนที่ผมคุยด้วยแล้วนอนหลับได้ และพอมาเจอพี่คนนี้ ผมก็คิดว่าผมเริ่มจะชอบพี่วิน ผมรู้สึกผิดกับพี่ SlipXD เลยยังไม่กล้าทำอะไรมาก แต่ในเมื่อพี่เป็นคนเดียวกัน ผมก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังความรู้สึกแล้ว” แววตาของเด็กหนุ่มช่างอ่อนโยน อ่อนโยนมากเสียจนภวินท์รู้สึกเจ็บแปลบในอก

“แต่กรมีแฟนแล้ว! กรไม่เคยบอกพี่ เรื่องที่พวกเราทำอยู่มันผิด! กรควรจะกลับไปหาแฟนของกร” ภวินท์ผลักร่างหนาตรงหน้าออกห่าง “พี่ไม่อยากเจอกรแล้ว!”

“แต่ผมต้องการพี่!” กรคว้าข้อมือบางทั้งสองข้างดึงรั้งเข้าหาตัวแล้วใช้แขนโอบรัดเอวบางให้แนบชิด แม้ว่าภวินท์จะพยายามขัดขืน “พี่ไปรู้อะไรมาผมไม่สน ผมรักพี่วิน!”

“แต่พี่แต่งงานแล้ว...”

ประโยคนั้นทำให้กรชะงัก เรียวคิ้วขมวดปม “แล้วทำไมพี่ถึงเข้ามาคุยกับผม ทำไมต้องยั่วผม ทำไมต้องทำดีกับผม”

“พี่...” ภวินท์ก้มหน้าก้มตา มือของเด็กหนุ่มเชยคางของเขาให้เงยหน้าสบสายตา แต่ภวินท์ก็ยังเบนสายตาหนี

“ตอบผมมาสิ ที่เราทำกันผ่านกล้อง แล้วที่พี่เข้ามาทำดีกับผม มันเพราะอะไร” กรคาดคั้น หัวใจเต้นแรงเมื่อคิดถึงคำตอบที่จะได้รับ แต่ภวินท์ไม่ยอมตอบ จนเขาต้องสรุปเข้าข้างตัวเอง “พี่ก็ชอบผมใช่มั้ย”

“กร...” ภวินท์เกาะแขนเด็กหนุ่มด้วยมือสั่นเทา นัยน์ตามีน้ำใสเอ่อคลอ

กรพูดถูกทุกอย่าง

ริมฝีปากร้อนกำลังจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ ภวินท์สะดุ้งแรง เบือนหน้าหนี ทั้งที่สองมือยังเกาะแขนของกรไว้แน่น ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือจะไปดี

กรไม่สนใจในความลังเลของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มบีบคางร่างบางบังคับให้หันหน้ามาหาและประกบปากทันที ภวินท์ถูกดันจนสะดุดกับขอบเตียง ร่างบางล้มลงนอนหงาย โดยมีร่างของเด็กหนุ่มตามไปไม่ห่าง ริมฝีปากประกบลงมาอีกครั้งอย่างเร่าร้อน

แม้ใจจะรู้ว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ภวินท์ก็ห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้ เขาตอบรับลิ้นสากที่แทรกเข้ามาในโพรงปาก อายุขนาดเขาใช่ว่าไม่เคยมีประสบการณ์ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่รู้สึกมากเท่านี้มาก่อน ปากของกรร้อนแทบแผดเผาให้มอดไหม้ ลิ้นของกรกวาดไล้ทั่วโพรงปาก ดุนดันหยอกล้อเหมือนเด็กซุกซน เสียงลมหายใจหล่อหลอมรวมเป็นหนึ่ง พร้อมฝ่ามือที่ค่อยๆ บีบขยำไปทุกสัดส่วนอย่างเอาแต่ใจ

“ทำเหมือนที่พี่ชอบทำหน้ากล้องสิ” เสียงกระซิบแผ่วผิวทำเอาเสียวซ่านไปทุกอณู ภวินท์กัดปากที่สั่นน้อยๆ อย่างชั่งใจ ปวดหน่วงที่ท้องน้อยเจีบนคลั่ง อยากได้สัมผัสที่เร่าร้อนรุนแรงกว่านี้ ให้เหมือนที่จินตนาการไว้

ร่างบางปลดกางเกงออกจนหมด นั่งอ้าขาอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มร่างสูงที่จ้องมองด้วยดวงตาทอประกาย แก่นกายสีหวานฉ่ำแข็งชูชัน ช่องทางสีเข้มถัดจากนั้นกำลังขมิบถี่ๆ คล้ายร่ำร้องให้กรทำอะไรสักอย่าง

“สวย...” เด็กหนุ่มเลียริมฝีปากพลางถอดเสื้อออก ก่อนจะทิ้งตัวลงดูดปากเรียวสวยเสียงดังจ๊วบ และเลื่อนลงมาไซร้ที่ซอกคอ ปลายลิ้นร้อนสากลิ้มเลียรสหวานจากร่างกายบาง ก่อนจะขบกัดและดูดแรงๆ ให้เกิดรอยสีชมพูเข้มบนผิวขาวเนียน อย่างที่อยากทำมาตลอด

“อ๊ะ...กร...กร...” เสียงครางเรียกชื่อฟังระรื่นหู กรยกยิ้มมุมปาก ริมฝีปากร้อนเข้าครอบครองยอดอกเม็ดงามสีชมพูเข้มตามแรงปรารถนา มันอร่อยอย่างที่คิด จนอยากจะกัดกินเข้าไปทั้งตัว ร่างบางแอ่นอกรับ สองมือสอดไล้ขยุ้มขยี้กลุ่มผมดกหนาของเด็กหนุ่ม “กัดแรงๆ สิ...อ๊า!”

กรทำตามที่สั่งอย่างว่าง่าย กัดหัวนมสีชมพูเข้มจนร่างบางกรีดร้องเสียงกระเส่า ส่วนหัวของแก่นกายสีหวานมีน้ำปริ่มออกมา ทั้งที่ไม่ทันสัมผัส ฟันคมของเด็กหนุ่มขบลงและดึงรั้งเม็ดไตแข็งขืนทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม ก่อนจะค่อยๆ เลียซ้ำๆ เหมือนปลอบโยนให้หายเจ็บ จนหน้าอกของร่างบางเต็มไปด้วยน้ำลาย

มือร้อนข้างหนึ่งเลื่อนลงเบื้องล่าง แตะเบาๆ ที่กลีบตูมซึ่งเต้นตุ้บสู้นิ้ว ร่างบางบิดเกร็งด้วยความเสียวซ่าน จิกทึ้งเส้นผมของเด็กหนุ่มอย่างแรง

“กร...อย่าแกล้ง...เข้ามาเร็วๆ” สิ้นเสียงสั่งแสนหวาน กรดูดนิ้วตัวเองให้เปียกชุ่มน้ำลายแล้วค่อยๆ ดันเข้าไปในร่างนั้นเชื่องช้าทีละนิ้ว จนครบสาม ช่องทางของภวินท์พร้อมรับของเขาอย่างเต็มที่ ไม่มีอิดออด ทำให้เข้าไปได้ง่ายดาย แม้ไม่ใช้ตัวช่วยอื่น

“นิ้วผมกับนิ้วพี่ แบบไหนดีกว่ากัน”

“อ๊ะ! อื้อ ขะ...ของกร” ร่างบางส่งเสียงร้องน่ารักพลางขยับสะโพกตอบรับการขยับของนิ้วทั้งสาม “ของกรดีที่สุด...” มือเรียวสวยแตะที่ส่วนกลางลำตัวที่พองขยายคับกางเกงของเด็กหนุ่ม

“ยังไม่ทันลองเลยนะ” กรหัวเราะเสียงใส รู้สึกหมั่นเขี้ยวคนตรงหน้าขึ้นมาจนอดฟัดแรงๆ ไม่ได้ ก่อนจะชักนิ้วออกและรูดซิบกางเกงลง

“แค่...จินตนาการก็...รู้สึกดี...แล้ว” ร่างบางเอ่ยราวกระซิบ ใบหน้าและใบหูย้อมด้วยเลือดฝาดแดงก่ำ สายตาเหลือบลงเบื้องล่าง มองอาวุธเหล็กนาบไฟของเด็กหนุ่มที่ปรากฏสายตา แค่ขนาดก็ทำเอาร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความกระสัน

“พี่นี่น่ารักกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย ไม่คิดว่าอาจารย์จะลามกได้ขนาดนี้” กรคลี่ยิ้มพลางขยับสะโพกเอาท่อนเอ็นแข็งเกร็งถูกับร่องสะโพกของร่างบางที่อ้าขารอด้วยแววตาลุกวาว

“อือ...พูดมาก!” มือเรียวตีเข้าที่ต้นแขนหนา แต่ไม่ได้แรงมากนัก กรหัวเราะอารมณ์ดี ก่อนจะขยับสะโพกกดส่วนหัวของตนเข้าไปตรงปากทาง และค้างไว้แบบนั้นจนภวิทน์ต้องจิกเล็บที่แขนเด็กหนุ่มด้วยความหงุดหงิด “ถ้าไม่เอา พี่ไม่ให้ทำแล้วนะ!”

“เอาครับ เอา...ไม่งอนนะ เอาจริงแล้ว...”

“อ๊า!” จู่ๆ ลำท่อนร้อนฉ่าก็ถูกดันเข้าไปในร่างจนเกือบสุด ร่างบางกรีดร้องดัง น้ำตาไหลเล็ด ยกมือขึ้นทุบอกเด็กหนุ่มเต็มแรง “แกล้งอีกแล้วนะ!”

“หึหึ” กรหัวเราะในคอ “ก็พี่น่ารัก” กดจูบที่ขมับและข้างแก้มนุ่มของอาจารย์หนุ่มสักสองสามที ก่อนจะดันร่างกายเข้าไปจนสุดทางและเริ่มขยับช้าๆ

“เร็วๆ เร็วอีก” อาจารย์หนุ่มบีบนวดต้นแขนและหัวไหล่ของร่างเบื้องบนด้วยความกำหนัด ความเสียดเสียวจากสิ่งที่สอดใส่ในร่างช่างรุ่มร้อนจนอดรนทนไม่ไหว ต้องยกสะโพกสวนกลับไปตามจังหวะ

ของจริงมันดีกว่าที่คิดนัก

กรอุ้มร่างบางขึ้นในท่านั่ง ปล่อยให้ภวินท์ขยับสะโพกด้วยตัวเอง สีหน้าของอาจารย์ช่างงดงาม จนไม่อยากละสายตาแม้เสี้ยววินาที เด็กหนุ่มจดจ้องมันเนิ่นนานราวตกอยู่ในภวังค์

“อา...ฮ่า...กร...”

“อึก” หน้าท้องแกร่งหดเกร็งและฉีดพ่นของเหลวสีขาวขุ่นใส่ช่องทางที่กำลังตอดรัดขย่มโยกบนหน้าตน เพียงแค่ได้ยินเสียงครางกระเส่าเรียกชื่อ

“อ๊า...เด็กบ้า! ทำไมเร็วจัง” ภวินท์หยุดชะงักพลางคลำช่องทางที่มีน้ำเหนียวข้นไหลเยิ้มออกมา สะกิดปลายเล็บเบาๆ ที่ส่วนแข็งของร่างกายเด็กหนุ่มที่คาอยู่ในตัวให้มันกระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกครั้ง

“ขอโทษครับ...ก็พี่...เซ็กซี่เกิน” กรเอ่ยขอโทษเสียงอ่อยก่อนจะกอดรัดร่างบางไว้และไซร้ปลายจมูกคมกับริมฝีปากร้อนที่ซอกคอขาวกับบริเวณไหปลาร้า สองมือบีบคลึงบั้นท้ายแน่นตึงและเริ่มทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอีกครั้ง โดยที่คนพี่เป็นฝ่ายนำ

“จะเสร็จก็บอกด้วยนะ” ภวินท์คลี่ยิ้ม โน้มตัวลงจูบเบาๆ ที่ปากของกร แต่เด็กหนุ่มไม่ยอมหยุดแค่สัมผัสผิวเผิน กลับกดต้นคอเขาไว้และสอดลิ้นเข้าไปไล่ต้อนจนน้ำลายไหลย้อยลงมาที่คาง ร่างกายเบื้องล่างก็ยังคงขยับสอดรับกันอย่างเร่าร้อน

“อือ...” กรครางเบาๆ กอดรัดร่างบางไว้แน่นหนา “จะเสร็จแล้ว...”

“พี่ด้วย ไปพร้อมกันนะ หนูน้อยของพี่” คำพูดจาน่ารักของภวินท์ทำเอากรหน้าร้อนผ่าว เด็กหนุ่มกระแทกตัวสุดแรง กัดไหล่บางจนขึ้นรอยเขี้ยวและปลดปล่อยเข้าสู่ร่างบางจนหมดทุกหยาดหยด ภวินท์ที่เสร็จสมพร้อมๆ กันหอบหายใจพลางซบหน้ากับไหล่แกร่ง ผิวสีอมชมพูกลายเป็นแดงจัด เหงื่อไหลโทรมกาย

“อีกรอบไหวมั้ยครับ” กรอุ้มร่างบางกระชับแนบอก กดจูบไปทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อ ภวินท์ส่ายหน้าดิก เขาอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ไม่ได้แข็งแรงปึ๋งปั๋งแบบหนุ่มๆ อย่างกร แค่รอบสองรอบก็แทบตาย แต่คบเด็กคงต้องทำใจ

“ไว้พรุ่งนี้นะ” คำตอบของภวินท์ ทำให้กรยิ้มกว้างเหมือนเด็กน้อยที่ได้ของโปรดปราน เด็กหนุ่มพรมจูบทั่วใบหน้าและแผ่นอกบางอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ถอนกายออกและอุ้มร่างบางให้ลงนอน คำว่า พรุ่งนี้ ของอาจารย์ หมายความว่าจะยังได้เจอกันและกอดกันแบบนี้อีกเรื่อยๆ

“ผมรักพี่วินนะ รักมาก” เสียงพึมพำของเด็กหนุ่มทำให้ภวินท์เข้าสู่ห้วงนิทราด้วยรอยยิ้ม

******

ตี๊ดดดดด

เสียงสายเรียกเข้าจากมือถือของกรปลุกให้อาจารย์หนุ่มต้องงัวเงียตื่นขึ้นมา ทั้งที่เพิ่งได้หลับไปไม่ถึงชั่วโมงดี เขาลุกขึ้นนั่ง หันไปมอง เห็นกรยังหลับสบาย คงไม่ยอมตื่นง่ายๆ แน่ เลยควานหามือถือจากในกางเกงของเด็กหนุ่มมาดูให้

“ปั้นจั่น”

ชื่อนี้ภวินท์จำได้แม่นยำ คนที่โทรมาตอนพากรไปโรงพยาบาลคราวนั้นและบอกว่าเป็นแฟน

อาจารย์หนุ่มชั่งใจว่าจะรับหรือไม่รับดี แต่ถ้าไม่รับ อีกฝ่ายอาจจะกระหน่ำโทรไม่เลิกรา ซึ่งมันรบกวนการนอนเอามากๆ

คิดไปคิดมา เสียงเรียกเข้าก็ดับไปครู่หนึ่ง และติดขึ้นมาใหม่

แบบนี้ ถ้าไม่รับ คงไม่เลิกโทรแน่

ภวินท์ตัดสินใจ จรดปลายนิ้วบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของกร

******
เอาแล้วๆๆๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
กรรู้แล้วจะเป็นไงต่อนะ คงไม่จิตตกกังวลว่า ตัวเองเป็นชู้กับสามีชาวบ้านนะ  :katai1:
จิตอย่างอื่นมากกว่า ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เย่ๆ เยสกันๆ เลิฟๆ ฟินสุด
จุดประสงค์ชัดเจนมาก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ชอบจัง ชอบความหื่นนิดๆ (เอ๊ะ?) ของเรื่องนี้นะคะ

เป็นฮาเร็มก็ดูไม่เลว  :hao6:

จริงๆชอบทุกคนยกเว้นซาลาเปา
ดูงอแงวอแวมากก พี่กานต์กับพีทเราก็ชอบ
โดยเฉพาะพีทที่ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง

ยังไม่อยากฟันธงว่าใครเป็นนายเอก ตามอ่านต่อไป

คนเขียนมาอัพบ่อยๆน้า  :กอด1:

หื่นนิดๆ พอฮะ เด๋วไม่เหมาะกะเยาวชน อิๆ

No harem แน่นอนฮะเรื่องนี้ คู่หลักก็รู้ๆ กันอยู่แหละเนอะ
แต่เดี๋ยวจะจัดให้อีกสักสองสามคู่ อิๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
้อื้อหือออ ไหนๆก็รู้เรื่องแล้ว จัดหนักโลดดดดดดด :hao6:พ

อาจจะไม่หนักมาก แต่ก็พอได้ล่ะมั้งนะ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
กำจัดปั้นจั่นยังไงดีอ่ะไรท์ นางชักจะวุ่นวายเยอะไปละ :angry2:
เด๋วนางจะโดนจัดแน่ๆ คับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด