ตอนที่ 15 : การอ่อยของไทย (2)
นอกจากความรู้สึกสุขใจที่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนของไทยเลย เขาชักสงสัยว่าหรือที่จริงแล้วเขาไม่เหมาะกับการอ่อยสักนิด ควรยกความสามารถนี้ให้กับคนโปรดไป
“อาบน้ำโคตรนาน” ไทยมองตรงไปยังร่างสูงเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ เขานอนกลิ้งอยู่บนเตียง
“ถ้ามึงอาบน้ำเร็วกว่านี้กูว่าไม่สะอาด”
“ปากมึงนี่จริงๆ” ไทยบ่นแต่ก็ยกแขนตัวเองขึ้นดมเพื่อความมั่นใจ
“หึๆ เดี๋ยวมึงก็บอกว่าสะอาดดี” ปราบขำท่าทางของไทย
“งั้นมึงดม” ไทยยื่นแขนขึ้น ใช้สายตากวนๆ มองอีกฝ่าย ปราบเดินเข้ามาหยุดยืนริมขอบเตียงมองเขานิ่ง ใจของไทยเริ่มเต้นแรงเมื่ออีกฝ่ายนั่งลง
ความเย็นของมือที่จับลงมาบนข้อแขนทำให้ไทยสะดุ้งน้อยๆ จมูกโด่งจรดลงสูดดมกลิ่น ไทยรู้สึกถึงความมวนในช่องท้องจากความตื่นเต้น เรื่องแค่นี้เขาจะตื่นเต้นทำไมวะ
“เป็นไงสะอาดใช่ไหม” ไทยพยายามทำเหมือนเขาไม่รู้สึกอะไร “เฮ้ย!” เสียงร้องดังลั่นเพราะไม่ทันได้ระวังตัว เมื่อใบหน้าของคนพิสูจน์ก้มลงจรดจมูกบนแก้มของเขาโดยไม่บอกกล่าว
“หอมดี”
“มึงทำอะไรวะ!” ไทยยกมือขึ้นกุมแก้มหน้าตาตื่น
“ต้องให้กูบอกเหรอ”
“เออสิวะ!”
“เขาเรียกหอม”
!!
“ไอ้เหี้ย!” ไทยต่อยเบาๆ เข้าที่ท้องของปราบด้วยความหมั่นไส้ความกวนประสาทของอีกฝ่าย “อย่ากวนตีนกูสิวะ มันใช่เวลาเหรอ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้กูควรทำอะไร” มือสองข้างของปราบคร่อมลงบนตัวเขา ใบหน้ายื่นเข้ามาใกล้ ไทยสบตากับปราบ ใจของเขาเต้นระทึก
“มึง..มึงควรขอโทษที่หอมแก้มกูโดยพลการ กูยังไม่ได้อนุญาต”
“ขอโทษครับ” ริมฝีปากของปราบจรดลงบนหน้าผาก ไทยหน้าเหวอทั้งเขินทั้งตกใจ เขาใช้เวลาตั้งสติชั่วครู่ พยายามเก๊กหน้าดุแต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมา
“ขอโทษยังไงของมึงวะ”
“หึๆ” ผมที่ตกลงบนหน้าผากถูกปัดออกให้ ไทยจ้องตากับปราบ สายตาคู่นั้นอ่อนโยนไม่เคร่งขรึมเหมือนเดิม “ขอโทษแบบคนแอบชอบยังไงล่ะ”
“แต่กูเรียกว่าฉวยโอกาส เผลอไม่ได้เลยนะมึง” ไทยบ่น
“ใช่”
“หือ?” ไทยเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
“มึงไม่ควรเผลอ” ริมฝีปากร้อนประกบเขาหาริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว ไทยเบิกตากว้างก่อนจะหรี่ลงจนปิดสนิท ริมฝีปากของปราบบดเบียดริมฝีปากของเขา ความร้อนไหลผ่านไปทั่วร่าง
“ไม่รังเกียจใช่ไหม” เสียงกระซิบแผ่วเบา ใบหน้าของปราบลอยอยู่ด้านหน้า ไทยย่นจมูกใส่
“มึงจะถามให้กูอายทำไมวะ”
“หึๆ “ เสียงหัวเราะขำทำให้ไทยหมั่นไส้ จัดการคว้าคออีกฝ่ายลงมาจนริมฝีปากแนบชิดกัน ไทยดูดริมฝีปากล่างของปราบ กัดเบาๆ ก่อนปล่อยออก เขายักคิ้วกวนๆ ใส่ เหอะเดี๋ยวจะหาว่าคนอย่างไทยไม่แน่จริง
ดวงตาของปราบวาววับ รอยยิ้มร้ายๆ จุดขึ้นที่ริมฝีปาก “ต้องทำยังไงกูถึงจะได้แบบนี้อีก”
“ไอ้เหี้ย!! ฮ่าๆ” ไทยขำจนตัวโยน เขาทิ้งศีรษะลงบนหมอนหัวเราะออกมาเสียงดัง
“อืมมม” ไทยลากเสียงยาวแกล้งทำหน้าคิด หลังจากหยุดเสียงหัวเราะลงได้แล้ว “กูว่ามึงควรเริ่มจากการเลิกทำให้กูอายก่อนดีไหม ไม่อายเพราะหน้าแหกก็อายเพราะมึงจู่โจมกูเกินไป
“แต่กูทำไม่ได้ทั้งสองอย่าง”
“อะไรวะ” ไทยทำเสียงขัดใจ จีบยังไงถึงไม่ตามใจกันสักนิด
ปราบเอนตัวลงนอนข้างเขา ตะแคงตัวหันหน้ามาหา “ข้อหนึ่งมึงหน้าแหกเพราะตัวเองไม่ใช่เพราะกู ส่วนข้อสองกูยิ่งรับปากไม่ได้ใหญ่เพราะกูอยากทำ”
“เฮ้อ คบกับผู้ชายมันเป็นอย่างนี้เอง แม่งอย่างเซ็ง” ไทยนอนหงายสอดมือเข้าใต้คอ ตามองเพดาน ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ไทยย่นคิ้วหันหน้าไปมองปราบ ดวงตาอีกฝ่ายพราวระยับ ขำอะไรของมันวะ
!!!
ไทยเพิ่งรู้ตัวว่าเขาพูดอะไรออกไป เหมือนเขาเพิ่งยอมรับไปว่าคบกับผู้ชาย ไอ้เวรไทยยยย! “กูทำตัวเองหน้าแหกอีกแล้วใช่ไหม”
“เปล่า” ปราบดึงมือที่ไทยเพิ่งตบหน้าผากตัวเองออก “มึงเพิ่งทำตัวน่ารักต่างหาก” ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง ไทยค่อยๆ ยิ้มกว้าง
“มึงกำลังทำให้กูเหลิง”
“ตามสบาย”
“ชอบกูจริงเหรอวะ”
“กูเคยตอบมึงไปแล้วและจะไม่ตอบซ้ำ เพราะคำตอบกูยังเป็นคำเดิม”
“แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่ได้อยากฟังเหตุผลแต่กูอยากฟังคำนั้น มึงจะพูดไหม” ปราบมองดวงตาของเขา ไทยยิ้มน้อยๆ ดวงตาอ่อนลง
“กูชอบมึง” เสียงทุ้มหนักแน่นแต่ไม่เท่ากับดวงตามั่นคงที่มองมา
“แล้วมึงไม่อยากรู้เหรอว่าตอนนี้กูคิดยังไง”
“ไม่..”
“อย่าตอบว่าไม่อยากรู้เพราะกลัวกูรำคาญนะ มึงโดนถีบแน่” ไทยรีบดักคอ
“หึๆ เปล่า กูจะพูดว่าถึงไม่ถามกูก็รู้”
“แน่ใจนะว่ามึงรู้จริง” ไทยยิ้มกวนๆ เขารู้สึกอารมณ์ดี ทุกอย่างรอบตัวดูปลอดโปร่งไปหมด
“ถ้าอย่างนั้นมึงจะบอกกูไหม”
“บอกสิวะ” ไทยพยักหน้า “เดี๋ยว!” ไทยเบิกตากว้าง ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าของปราบ “มึงแม่งขุดหลุมดักกูนี่หว่า ให้แน่ใจว่ากูจะพูดใช่ไหม”
“ฮ่าๆ” นานๆ ทีปราบจะหัวเราะเสียงดัง “ก็แค่ลองดูเผื่อมันได้ผล”
“เดี๋ยวเหอะ!” ไทยยกหมัดขึ้นชู ขยับตัวขึ้นนั่งพิงหมอนบ้าง “เห็นขรึมๆ เจ้าเล่ห์ฉิบหาย”
“กับคนที่ชอบโยกโย้มันก็ต้องใช้วิธีนี้ไม่ใช่เหรอ”
“กูโยกโย้ที่ไหน กูออกจะตรงไปตรงมา”
“งั้นมึงบอกมาสิว่ามึงชวนกูมาเที่ยวทะเลทำไม”
“ตอบได้ดิวะไม่เห็นจะยากตรงไหน กูชวนมึงมาเพราะ...” ไทยยกยิ้มเจ้าเล่ห์
“เพราะ?”
“เพราะกูอยากมา” เห็นไหมเขาไม่ได้โกหกสักนิด
“หึๆ นั่นแหละที่เขาเรียกว่าโยกโย้”
“งั้นมึงคิดว่ากูชวนมึงมาทำไม” ไทยส่งสายตาท้าทาย อยากรู้ว่าปราบคิดอะไรอยู่ในใจ
“อยากให้กูตอบจริงเหรอ”
“เอาสิ” ไทยมั่นใจว่าปราบตอบไม่ถูกแน่ จะรู้ได้ยังไงขนาดคนอ่อยอย่างเขายังรู้สึกว่ามันไม่เอาไหนสักนิด เป็นการอ่อยที่แย่มาก
“เพราะมึงชอบกูเข้าให้แล้ว”
ไทยถอนใจออกมาดังๆ ทำหน้าเซ็ง “กูไม่ควรชวนมึงมาทะเลใช่ไหม”
“เปล่า มึงไม่ควรทำตัวน่ารักต่างหาก”
คำนี้อีกแล้ว ไทยเริ่มใช้แกตเชื่อมโยง ทุกครั้งที่เขาอ่อยปราบมักจะพูดว่าเขาน่ารัก ถ้าอย่างนั้นน่ารักก็คืออ่อยงั้นเหรอ!!!
“กูชอบให้มึงอ้อน” เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันเขา รอยยิ้มขำของปราบบอกว่าเจ้าตัวรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
“มึง..” ไทยลอบมองเหมือนเด็กที่ทำความผิดแล้วถูกจับได้ ยิ่งทำให้สายตาของปราบเพิ่มความเอ็นดูมากยิ่งขึ้น “มึงรู้เหรอวะ” เสียงถามอ่อยลง
“รู้อะไร”
“ไม่ต้องมาหลอกให้กูเสียฟอร์ม ก็นั่นแหละ” ไทยใช้เสียงโวยวาย อยู่กับปราบเขาเหมือนเด็กเล็กๆ เข้าไปทุกวัน
“พอเดาได้ มึงพยายามเกินไป”
“กูว่าแล้วแม่งไม่เหมาะกับกูสักนิด กูคิดว่ากูเหนือชั้นแน่นอนแต่มันไม่เหมือนกัน อ่อยหญิงง่ายกว่านี้เยอะ” ไทยพูดออกมาหมดเปลือก ถ้าปราบจะฉลาดขนาดนี้เขาไม่มีฟอร์มก็ได้
“ใครว่าไม่เหมาะ กูชอบให้มึงทำ”
“พอเลย” ไทยหน้ามุ่ย ไม่ได้ผลแล้วยังอายอีก
“ตกลงมึงใจตรงกับกูแล้วใช่ไหม”
“ใช่ แต่ไมได้หมายความว่ากูตกลงใจคบมึงเป็นแฟนนะ”
“ทำไม” สีหน้าของปราบจริงจัง ขยับตัวขึ้นนั่งหลังตรง ดวงตาเต็มไปด้วยคำถาม
“เพราะตรงนี้บอกกูว่ากูชอบมึง” ไทยชี้ที่หัวใจของเขา “แต่กูอยากรู้ว่าตรงนี้จะฉลาดกว่าตรงนี้ไหม” คราวนี้เขาเลื่อนนิ้วขึ้นชี้ที่ศีรษะ “มึงทำให้กูเห็นสิว่าหัวใจของกูฉลาดกว่าสมอง”
ดวงตาของปราบที่มองตรงมายังเขาอ่อนโยน “มึงกังวลอยู่ใช่ไหม”
“เปล่ากูไม่ได้กังวล แต่มันคือการแลกมามึงเข้าใจไหม แลกกับความกังวลของพ่อแม่ แลกกับการไม่มีลูก แลกกับการใช้ชีวิตในสังคมกับสายตาที่มองเข้ามา มึงต้องทำให้กูรู้ว่าใจของกูตัดสินชีวิตกูได้ถูกต้องแล้ว ทำให้กูเห็นสิว่ามันคุ้มค่า”
สาเหตุที่ไทยเปลี่ยนการตัดสินใจไม่ตกลงคบกับปราบทันที เพราะเขารู้ใจตัวเองมากขึ้นว่าเขาจริงจังกับความรู้สึกครั้งนี้มากแค่ไหน เขาอยากแน่ใจเพราะเขาชอบคนๆ นี้มากจริงๆ
“...”
“โกรธเหรอวะ” คนฟังนั่งนิ่งจนไทยชักกังวล เขายื่นหน้าเข้าไปมองหน้าของปราบใกล้ๆ
“เปล่า กูแค่ดีใจที่รักคนไม่ผิด”
รัก รัก รัก ไทยอ้าปากค้าง เมื่อกี้ไอ้ปราบพูดว่า
”รัก” ใช่ไหม!!
“อุ๊บ!” เพราะมัวแต่ตกตะลึงไทยจึงไม่ทันตั้งตัวเมื่อริมฝีปากร้อนทาบทับลงมาบนริมฝีปากของเขา ปราบไม่ปล่อยให้เขามีเวลาคิด ริมฝีปากหนาบดคลึงยั่วเย้า ก่อนสอดปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นของเขาภายในปากอย่างชำนาญ
ไทยโอบมือไปรอบลำคอของปราบ ดึงให้อีกฝ่ายแนบชิดเข้ามามากขึ้น เขาเรียกร้องและได้รับการตอบสนองตามที่ต้องการ ร่างากายของเขาร้อนผ่าว
ไทยหอบหายใจเมื่อพวกเขาผละหน้าออกจากกัน ปราบมองเขาด้วยสายตาอบอุ่น ไทยเม้มปากซ่อนรอยยิ้ม ดวงตาของพวกเขาต่างเป็นประกาย พวกเขาสบตากันนิ่งก่อนเสียงหัวเราะของไทยจะหลุดลอดออกมา
“เขินเหรอ” ปราบพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ ไม่ใช่แบบขบขันหากแต่เอ็นดู
“เปล่า กูอายตัวเอง” ไทยยิ้มทะเล้น เขาไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมีมุมแบบนี้
“ทำไม”
“เรื่องอะไรกูจะบอก” ไทยยักคิ้วเขาไม่มีวันบอกหรอกว่านี่มันคือจูบที่ดีที่สุดของเขา เป็นหนึ่งข้อที่ไทยจะให้คะแนนหัวใจ เขาเพิ่งรู้ว่าการจูบที่สามารถปล่อยใจได้เต็มร้อย ไม่มีใครเป็นผู้นำไม่มีใครเป็นผู้ตาม ไม่มีการเขินอาย มีแต่ความกระหายอยากใกล้ชิดกันเป็นจูบที่วิเศษแค่ไหน
“พอแล้วเว้ย!” ไทยรีบยกมือขึ้นห้าม เมื่อปราบยื่นหน้าเข้ามาหา
“หึๆ กลัวอะไรวะ”
“กลัวห้ามใจไม่ได้ กูไม่อยากให้ร่างกายมาก่อนอย่างอื่น แค่สมองกับใจตีกันสองอย่างก็พอแล้ว”
“ฮ่าๆ”
“ปราบ” สายตาของไทยจริงจัง
“หือ”
“กูชอบมึงนะกูกล้ายอมรับเลย ดังนั้นช่วยทำให้กูเห็นด้วยเถอะว่ากูตัดสินใจถูกแล้ว”
“อย่าห่วง มึงจะไม่มีวันผิดหวัง”
“ขอบใจ” ไทยยื่นหน้าเข้าไปใกล้แตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากหนาเร็วๆ ก่อนรีบล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงคอ
“กูนอนล่ะ”
“ไหนว่าไม่เขิน” เสียงถามเต็มไปด้วยความขบขัน
“เปล่า กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้เขิน แต่กูต้องรีบหลับก่อนอย่างอื่นจะตื่นโว้ย” ไทยตะโกนเสียงดังก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงหัว ได้ยินเสียงปราบหัวเราะดังลั่น หัวเราะไปเถอะ! ไม่ระวังมึงนั่นแหละต้องวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนกู
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin