ตอนที่ 33 : เดตวันแรก
“โทษนะติ๋ม พอดีวันนี้เรามีเดตน่ะ ไว้ค่อยนัดติวพรุ่งนี้แล้วกันนะ!”
ปากบอกว่าไม่ชอบ ไม่สนใจ แต่เอาเข้าจริงผมตื่นเต้นกว่าที่คิด...เยอะมาก
นัดกับนิฌานไปดูหนังรอบดึก แต่บอกปัดติ๋มที่ชวนติวสอบย่อยเก็บคะแนนวันมะรืนตั้งแต่ห้าโมง ไม่อาการหนักจริง ทำไม่ได้นะครับ!
ก็นี่เป็นเดตแรกของผม
ขอให้นายเจตรินได้ตื่นเต้นหน่อยเถอะนะ!
ผมนั่งรถเมล์กลับคอนโด แวะซื้อข้าวเย็นขึ้นไปกินบนห้อง เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมปฏิติบัติการ...วางแผนการเดตกับดาราชื่อดัง!
ก่อนอื่นก็ต้องหาสถานที่ก่อน เงื่อนไขคือต้องเป็นห้างเล็ก อยู่ไกลจากที่นี่พอสมควร ป้องกันไม่ให้เพื่อนร่วมมหาลัยเจอเข้าโดยบังเอิญ ถ้าเป็นห้างที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ใกล้ปิดยิ่งดี คนจะได้ยิ่งน้อย แถมยังมีโปรโมชั่นอีกต่างหาก
นี่ไง! ดูหนังรอบดึกมีโปรโมชั่นแปดสิบบาท เย้!
เมื่อได้สถานที่ผมก็หารอบหนังรอบสุดท้าย ปรากฏเป็นหนังซอมบี้ที่ใกล้ออกจากโรงแล้ว ผมเปิดรีวิวทันที คนชมเยอะมาก ผ่าน!
แต่หนังรอบสามทุ่ม เกรงว่าร้านอาหารในห้างจะปิดก่อน ผมมองเวลาแล้วยังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่านิฌานจะกลับ เลยตัดสินใจลงไปซื้อไข่มาติดตู้เย็น ตั้งใจจะแสดงฝีมือเซอร์ไพรส์แฟน!
อย่า อย่าคิดว่าผมจะทำกับข้าวเก่งเหมือนนางจรวย ถึงจะไม่เลวร้ายเท่าพี่จิที่แค่ต้มบะหมี่สำเร็จรูปยังทำตู้อบระเบิด แต่อย่างน้อยผมก็ทำไข่เจียวเป็นนะ!
ผมมองข้อความที่นิฌานส่งมาบอกว่ากำลังกลับแล้วกะเวลาหุงข้าว ทอดไข่ เมื่อประตูถูกเปิดอาหารก็พร้อมเสิร์ฟพอดี สมบูรณ์แบบมากเลยเจตริน!
“น้องเจทำเองเลยเหรอเนี่ย” นิฌานถึงกับซึ้งน้ำตาคลอ ไม่ได้ชื่นชมกับไข่เจียว แต่ซึ้งใจกับภาพผมใส่กางเกงขาสั้นสวมผ้ากันเปื้อน ยังไม่สามสิบแท้ๆ แต่มองผมอย่างกับตาแก่เต๊าะเด็กไปได้
“ลองชิมสิครับพี่ฌาน”
ผมพยักพเยิดให้เขามองไข่เจียวแทนขาอ่อนสักที
“อื้อหือ นี่มัน...ไข่เจียวที่อร่อยที่สุดในปฐพี! ไข่เจียวมหากาฬ!”
“ไม่ต้องชมเยอะหรอกพี่ฌาน รีบๆ กินเร็ว เดี๋ยวไม่ทันรอบหนัง” ผมเร่งเขาขณะถอดผ้ากันเปื้อน ก่อนจะวิ่งไปเปลี่ยนกางเกง ตอนเดินออกมาไม่วายถือเสื้อสำหรับเปลี่ยนให้แฟนด้วย อย่างเสื้อยืดคอกลม กับกางเกงสามส่วนและรองเท้าแตะหนีบ
เมื่อสวมหมวกกับใส่แว่นแล้ว ค่อยกลบรัศมีพระเอกหน่อย!
“น้องเจกระตือรือร้นมากเลยนะเนี่ย”
“กินเสร็จก็เก็บจานด้วยครับพี่ฌาน” ผมใช้ดาราชื่อดังล้างจานขณะสวมถุงเท้าเตรียมใส่ผ้าใบอยู่หน้าประตู ก่อนจะก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์เปิดแผนที่ ในมือถือกุญแจรถพร้อมลุย
“วันนี้น้องเจจะพาพี่ไปเดตที่ไหนเหรอครับ” นิฌานเดินฮัมเพลงออกมาจากห้องครัว เช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินตามหลังผมต้อยๆ อย่างว่าง่าย แม้เขาจะเป็นคนชวนเดต แต่รายละเอียดยกให้ผมจัดสรรเองหมด
“ที่ xxx ครับ”
“เอ๊ะ ไม่ได้ปิดไปแล้วเหรอ”
“ยังไม่ปิดแต่ใกล้เจ๊งครับ คนน้อยดี แถมมีโปรโมชั่นแปดสิบบาทด้วย” ผมพูดอย่างดีใจเมื่อประหยัดเงินค่าเดต นอกจากจะเสนอตัวขับรถแล้วยังขอจ่ายค่าหนังเองด้วย เพราะนิฌานช่วยผมเยอะมาก อย่างคอนโดที่อยู่ตอนนี้ก็ไม่ต้องออกเงินสักกะบาท “ถ้าพี่ฌานเพลียงีบก่อนก็ได้นะครับ เพราะค่อนข้างไกลเลย ตอนกลางคืนรถไม่ค่อยติดผมเลยไม่ขึ้นทางด่วน”
“พี่จะอยู่เป็นเพื่อนน้องเจครับ เดตแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ”
พลันผมหันขวับ มองคนพูดคำว่า ‘เดตแรก’ ได้อย่างหน้าไม่อาย
“พี่หมายถึง...เดตแรกกับน้องเจไงครับ” ผู้มีประสบการณ์โชกโชนรีบแก้คำ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองผมอย่างรักใคร่หลงใหล เพราะสำหรับนิฌาน ชาญชัยผู้มักทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแสนดี คารมคมคายจีบสาวจีบหนุ่มทั่ววงการ มักจะเป็นฝ่ายจัดระเบียบการเดตไม่ให้รถไฟชนกัน สรรหาบรรยากาศโรแมนติก มอบของขวัญทำเซอร์ไพรส์
พอได้เดตกับผมที่อาสาทำทุกอย่างเองเพราะกลัวแฟนเป็นพ่อบุญทุ่มพาไปดินเนอร์หรูที่ตึกใบหยก นิฌานเลยปลื้มปริ่ม ซาบซึ้งตั้งแต่ข้าวไข่เจียวยันโปรโมชั่นดูหนังแปดสิบบาท
“ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับมูลค่าจริงๆ นะเนี่ย”
“แหงสิครับ เพราะครอบครัวทองคำดีแม้จะไม่ร่ำรวย แต่เป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุดในโลก!”
เห็นนิฌานยิ้ม ผมก็ยิ้มตาม ไม่นานพวกเราก็ถึงที่หมาย
ถึงจะเป็นรอบสุดท้าย แต่เมื่อรวมผมกับนิฌานแล้วก็มีคนดูราวๆ เจ็ดคนได้ ผมรอจนใกล้เวลานั่งฉายแล้วค่อยซื้อตั๋ว โดยเลือกที่นั่งแถวที่ไม่มีคนจองเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีใครโผล่มานั่งข้างๆ จากนั้นก็ปล่อยให้คนเหล่านั้นเข้าโรงไปก่อน จนไม่เหลือใครอยู่แถวหน้าประตูแล้วจึงยกนิ้วโป้งให้นิฌานที่โดนบังคับให้ยืนหลบอยู่หลังเสาเป็นสัญญาณปลอดภัย
คลับคล้ายว่ากำลังทำภารกิจรักษาความลับอะไรบางอย่าง ผมสนุกและตื่นเต้นมากๆ แถมยังภูมิใจในความรอบคอบของตัวเองสุดๆ เมื่อทุกอย่างราบรื่นตามแผน ช่างเก่งกาจเหลือเกินนายเจตริน!
ตอนพวกเราเข้าโรงมาโฆษณาก็ฉายไปสักพักหนึ่งแล้ว ผมเดินนำหาที่นั่ง ก่อนจะนั่งเอนหลังอย่างสบายใจ ไม่ลืมกวักมือเรียกคนที่เดินตามหลัง มองทุกอากัปกิริยาของผมด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“น้องเจลืมอะไรรึเปล่า”
“ลืมอะไรครับ” ผมถามงุนงง ปฏิบัติการสมบูรณ์แบบแล้วนี่
พลันคนข้างตัวคว้ามือผมไปกุม ไม่ใช่กุมธรรมดา แต่ค่อยๆ สอดนิ้วประสานแนบแน่น แถมยังพลิกหลังมือผมไปจูบหนึ่งที
“เรามาเดตกันนะ”
ผมหน้าแดง เพิ่งรู้ตัวว่าเล่นสนุกเกินไปนิด
นิฌานเองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร ออกจะเพลินตาด้วยซ้ำที่เห็นผมทำอะไรเพื่อเขามากมาย พวกเรานั่งจับมือดูนั่ง พลิกกันไปพลิกกันมาหยอกเย้าเล่น เป็นความรู้สึกที่ชวนจั๊กจี้หัวใจอย่างประหลาด ดูหนังกับครอบครัวก็ให้อารมณ์แบบหนึ่ง ดูหนังกับแฟนก็ให้อารมณ์แบบหนึ่งจริงๆ แฮะ
แต่ดูไปสักพัก ความเข้มข้นของหนังก็ทำให้ผมจดจ่อกับหน้าจอ ผิดกับ...
ตุบ
นิฌานที่หลับซะงั้นอ่ะ!
ผมมองเขาตาค้าง อึ้งมากเมื่อจู่ๆ แฟนก็หลับคาไหล่ ไม่ได้แสร้งทำด้วยแต่หลับจริง เพราะลมหายใจเขาสม่ำเสมอ แถมยังมีเสียงกรนเบาๆ ที่คนใกล้ตัวอย่างผมได้ยินเป็นระยะอีกต่างหาก ไหนใครบอกว่าเรามาเดตกันนะ เขาใช่มั้ย แล้วไหงถึงหลับคาโรง! หักมุมเกินไปแล้ว!
ผมอึ้ง ก่อนที่ความอึ้งจะเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เพราะแสงที่ส่องจากหน้าจอตกกระทบเงาหน้าของนิฌาน เผยให้เห็นความเพลียและเหนื่อยล้า ใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า แม้เช็กเมทจะจบแล้ว ไม่ต้องทำงานหนักเท่าเมื่อก่อน แต่ด้วยกระแสที่กำลังดังทำให้มีรายการมากมายเชิญตัว งานถ่ายแบบเดินแบบก็เข้ามาไม่ขาด
ภาพหลับใหลของคนรักสะกดสายตาผมยิ่งกว่าซอมบี้ไล่กัดคนซะอีก ผมมองเขาอยู่นาน ก่อนจะเกิดความคิดประหลาด จู่ๆ ก็อยาก...ลูบหัว
ปกตินิฌานชอบลูบหัวผมตลอดเลย จู่ๆ ก็อยากเป็นฝ่ายลูบหัวเขาบ้างอ่ะ!
โอกาสที่นิฌานส่งหัวมาเกยถึงไหล่แบบนี้มีไม่มากหรอกนะ!
คิดแล้วก็ปฏิบัติอย่างไม่รอช้า ผมเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนรักเบาๆ เมื่อแตะแล้วก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง อบอวลซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก
ลูบไปลูบมาก็ชักมันมือ แต่จู่ๆ นิฌานก็ขยับ ทำเอาผมรีบหันหน้าตรงจ้องฉากซอมบี้กระโดดกัดคออย่างรวดเร็ว
แล้วเขาก็นิ่ง...
ผมเหลือบมองคนรักด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าเขาหลับอย่างสงบตามเดิมก็โล่งใจ แต่ไม่กล้าลูบหัวเล่นแล้ว กลัวเขารู้สึกตัวตื่น
แต่...จู่ๆ ก็อยากจูบอ่ะ
ด้วยมุมและองศาการพิงไหล่ ทำให้สายตาผมสะดุดกับริมฝีปากที่เผยอน้อยๆ นั้นอย่างไม่ตั้งใจ ร่างกายไปไวกว่าความคิด เพราะรู้ตัวอีกทีผมก็เอี้ยวหน้า หมายจะจุมพิตเขาแล้ว แต่...
เอี้ยวไม่ถึง!
โปรดนึกภาพตามนะครับทุกคน นิฌานซบไหล่ผมอยู่ ผมเลยนั่งตัวเกร็ง ทำให้เอี้ยวเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงจุดหมาย บ้าน่าเจตริน แค่จะจูบแฟนก็ทำไม่ได้งั้นเหรอ
ซวยละ คอเคล็ด!คล้ายได้ยินเสียงคอลั่นเบาๆ ผมเลยกลับมานั่งหลังตรงตามเดิม เพิ่มเติมคือเจ็บคอ แฟนก็ไม่ได้จูบ แถมยังเจ็บตัวอีกต่างหาก
ผมนั่งดูหนังพยายามลืมเรื่องเมื่อครู่ไป จับมือประสานนิ้วกับนิฌานไม่ปล่อยตั้งแต่หนังเริ่มยันหนังจบ คนเริ่มลุกออกจากโรง ผมก็หันไปมองคนที่ยังหลับลึก พลันรู้สึกอยากจูบขึ้นมาอีกแล้ว
พอลองเอี้ยวดูก็ปวดคอแปลบๆ ผมเลยตัดสินใจจูบหน้าผากเขาแทน พอแนบริมฝีปากลงไปก็ชื่นใจประหนึ่งทำภารกิจสำเร็จ มีความสุขมาก แต่...
“น้องเจ?”
นิฌานดันตื่นขึ้นมาซะฉิบ!
เหมือนถูกจับได้ว่าโดนลักหลับ ผมร้อนตัวรีบผละหนี แต่ปวดจี๊ดที่คอขึ้นมาจนร้องโอดโอย นิฌานตกใจ รีบประคองผมอย่างวิตก
“พี่เผลอพิงน้องเจจนคอเป็นตะคริวเลยเหรอครับ!”
โว้ย ไม่ใช่มั้ยพี่ฌาน!แต่จะให้สารภาพความจริงก็น่าอายเกินไป แม้ผมเป็นคนตรง แต่ให้ประจานตัวเองก็ไม่กล้าพอ เลยรีบโบกปัดเป็นเชิงอย่าคิดมาก แล้วจูงมือกันเดินออกจากโรง
ช่วงเวลาที่ได้จับมือนั้นแม้จะแค่ครู่เดียวแต่ก็มีความสุขอย่างประหลาด เพราะพอเราเดินออกมาก็ต้องปล่อยมือด้วยกลัวโดนมอง อาจเพราะเมื่อครู่ได้หลับไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ นิฌานเลยดูสดชื่นขึ้น ถึงขนาดชวนผมไปเดินเล่นตลาดฝั่งตรงข้ามกับห้างที่ค่อนข้างคึกคัก
ก็เล่นมีตลาดเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงขนาดนี้...ห้างเลยคนน้อยอย่างกับผีหลอก
“เอาสิครับพี่ฌาน ผมเริ่มหิวพอดี”
ผมกินรอเขาตั้งแต่ตอนเย็น มาตอนนี้จะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ไม่หิวสิแปลก นิฌานบ่นพึมพำว่าเด็กวัยรุ่นช่างดีจังน้า กินดึกก็ไม่อ้วน ผมเลยแอบยักคิ้วยั่วเขาให้อิจฉาเล่น ผลคือโดนแฟนหยิกแก้มจนแดงแจ๋
“พี่ฌาน!”
“ถ้าไม่ติดว่ามีคนอยู่ พี่จะกัดแก้มน้องเจแล้วเคี้ยวกร้วมๆ เลย”
“ถึงเราจะดูหนังซอมบี้ แต่พี่ฌานที่หลับตลอดเรื่องไม่ต้องอินขนาดนั้นก็ได้นะ” ผมมองเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์ ก่อนจะพากันยิ้ม เดินข้ามถนนไปตลาดนัดซึ่งมีสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะของกิน ของใช้ เสื้อผ้า เรียกว่ารวมทุกอย่างจบครบในที่เดียว
“น้องเจอยากได้อะไรก็ชี้นะครับ พี่ฌานจะเป็นป๋าให้น้องเอง”
“ป๋าเป๋ออะไร ไร้สาระ” ผมว่า เดินผ่านของใช้ที่ไม่ค่อยจำเป็นเลยมาโซนของกิน นี่สิคือสิ่งที่ต้องการ “พี่ฌานๆ ซื้อไข่ปลาหมึกให้ผมหน่อย”
ผมดึงเสื้อเขาเบาๆ พลางชี้เตาปิ้งน้ำลายสอ
“เรียกป๋าสิครับ” นิฌานแซว แต่พอโดนถลึงตาใส่ก็ยอมควักเงินให้ผมไปซื้อแต่โดยดี กลัวว่าถ้าเขาเป็นคนสั่งแม่ค้าจะจำหน้าได้ แค่นี้ก็มีคนมองแล้ว เพราะถึงจะปลอมตัวแต่เขาสูงโปร่ง หุ่นดี แถมการสวมหมวกเดินตลาดตอนเที่ยงคืนนี่โคตรจะเด่นเลย
“พี่ฌาน ผมอยากกินลูกชิ้นทอดเจ้านั้นจัง”
“พี่ฌาน นั่นฝอยทองกรอบ ของโปรดแม่ผมเลย!”
“โอ๊ะ ขนมถ้วย! ผมอยากกินมานานแล้ว!”
ไม่รู้ว่านี่เป็นการเดต หรือการพาผมตระเวนกินกันแน่ ไม่นานผมก็เริ่มอิ่มท้อง โดยที่สองมือนิฌานถือของกินฝากพ่อและแม่เพียบ
“ตลาดนี้ขายไม่แพงเท่าไหร่ ดีจังนะครับ”
“เห็นน้องเจร่าเริงแบบนี้ ก็ดีต่อใจพี่เหมือนกันครับ”
ผมงี้แทบเดินสะดุดเท้าตัวเอง พอมองสายตาเคลิ้มๆ เพ้อๆ นั้นแล้วก็เขินอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ทันแย้งกลับ กลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงสามคนก็เดินมาสะกิดแขนนิฌาน
“ขอโทษนะคะ...คือ...ใช่คุณนิฌาน ชาญชัยรึเปล่าคะ”
ความแตกซะแล้วสิ นิฌานมองหน้าผมเป็นเชิงถาม เมื่อผมพยักหน้ารับ เขาก็หันไปยิ้มให้กับแฟนคลับที่ยืนบิดไปมา
“ใช่ครับ”
“กรี๊ด! ฉันบอกแล้วว่าใช่ ไม่เชื่อกันเลย”
“ก็ใครจะคิดล่ะว่านิฌานจะมาเดินตลาดนัดตอนเที่ยงคืน!”
“ขอโทษนะคะ คือ...พวกเราขอถ่ายรูปได้มั้ยคะ”
“ได้สิครับ” นิฌานยิ้มรับไม่ถือสา หนึ่งในสาเหตุที่เขาอยู่ในวงการได้นาน คือการวางตัวต่อแฟนคลับที่ค่อนข้างเป็นกันเอง
“ผมถ่ายให้เองครับ” ผมอาสา ถึงจะไม่ใช่ผู้จัดการ แต่ในฐานะคนสนิทก็ยินดีมากที่จะสนับสนุนเขาในสายอาชีพนี้ และผมก็ดีใจ เมื่อมีคนชอบมากกว่ามีคนเกลียด ดีแค่ไหนแล้วที่พวกเธอเห็นนิฌานแล้วขอถ่ายรูป ไม่ได้เอาทุเรียนมาปาหน้าเพราะอินกับบทตัวร้ายในซีรีส์เช็กเมท
“ขอบคุณนะคะ” เหล่าสาวๆ วี๊ดว้ายกันอย่างดีใจก่อนจะรีบขอตัวกลับ แต่การขอถ่ายรูปของเธอก็ทำให้หลายคนเริ่มมองนิฌานอย่างสงสัย แม้มีบางส่วนไม่กล้าขอถ่ายด้วย แต่ก็แอบยกโทรศัพท์ถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก เมื่อการเดตไม่เป็นส่วนตัว ผมกับนิฌานเลยตัดสินใจกลับ
“ขอโทษนะครับ” เมื่อขึ้นรถ นิฌานก็มองผมหน้าหงอย
“ขอโทษผมทำไมล่ะพี่ฌาน”
“ก็พี่เผลอหลับในโรง พอเดินออกมาข้างนอกก็มีคนจำได้อีก...”
“ไม่ใช่ความผิดพี่ฌานสักหน่อย ผมไม่คิดมากหรอกครับ ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำที่พี่ตั้งใจทำงาน และความพยายามนั้นก็ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดี มีคนรู้จักพี่เยอะขึ้น ชื่นชมพี่เยอะขึ้น ไม่ดีตรงไหน”
“แต่พี่อยากให้ความสำคัญกับน้องเจที่สุดนี่นา”
“ผมรู้ว่าผมเป็นอันดับหนึ่งในใจพี่ฌาน” ผมยิ้ม “แค่นั้นก็พอแล้วครับ”
พลันนิฌานเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะยกมือกุมแก้มแดงๆ ของตัวเอง
“ทำไงดี พี่คิดว่าพี่ตกหลุมรักน้องเจจนจมมิดหัวแล้ว”
ผมเลิกคิ้วใส่คนเล่นใหญ่ เพราะนิฌานกุมคอเหมือนขาดอากาศ
“จมมิดแบบนี้หายใจไม่ออกเลย ต้องให้คนมาเติมออกซิเจนแล้วล่ะ!”
...ผมใช้เวลาถึงห้านาทีเต็มกว่าจะเข้าใจว่าโดนแฟนอ้อนขอจูบ
คอยังปวดแปลบๆ อยู่เลย แต่เห็นคนใจกล้าหน้าด้านลงทุนเล่นมุกพิสดารล้ำโลกขนาดนี้ ผมก็ยอมยื่นหน้าไปจูบปากเขาเบาๆ
ก่อนจะโดนกอดรัด สอดลิ้นเข้ามาให้รสจูบนั้นหวานจับใจ
แม้เดตแรกจะล่ม แต่เทียบความรักที่เขามีให้ผมอย่างท่วมท้นไม่ได้สักนิด
อันที่จริงผมก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร ตั้งแต่เริ่มคบกันจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเป็นพิเศษ ในเมื่อผมมีครบทุกอย่าง ไม่เคยอยากได้อะไรจากเขาเลย
ขอเพียงอยู่เคียงข้างกันอย่างมั่นคงก็พอแล้ว
------------
ใกล้จะจบแล้วค่า เลยอยากเขียนตอนที่ให้อารมณ์เดตน่ารักๆ จากคู่นี้บ้าง ความจริงนับเป็นตอนเซอร์วิสก็ได้นะคะเนี่ย ส่วนตอนหน้า....โฮะๆๆๆ คาดว่าจะเป็นตอนที่หลายคนรอคอย แต่แม่ยกน้องเจอาจไม่รอคอย
ยังไงก็ต้องมีสักวันที่น้องโดน...!!
#น้องเจที่น่าลัก
เพจนักเขียนที่ขอให้เตรียมใจล่วงหน้า