พิมพ์หน้านี้ - {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 25-02-2018 18:24:14

หัวข้อ: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 25-02-2018 18:24:14
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง





--------------

นิยายที่แต่งจบแล้ว
{{ King’s Club }} เพราะเสพติดเซ็กซ์  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47157.0)
{{ Knight's Hour }} เพราะเป็นเจ้านาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52388.0)
{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56382.0)
{{ I'm Not Him }} เขาให้ผมเป็นดารา  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60933.0)
{{ He's Not Me }} ผมไม่อยากเป็นดารา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62107.msg3707544)


(https://www.picz.in.th/images/2018/08/02/B93SlI.jpg) (https://www.picz.in.th/image/B93SlI)

[Pre-order] Just U, Not US เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา
ปิดจองวันที่ 10 ก.ย. / จัดส่งภายในวันที่ 30 ก.ย.
สั่งจองและแจ้งโอนได้ที่ -> http://majaynaja.lnwshop.com/
- ของแถมปกติ : ที่คั่น+โปสการ์ด
- ของแถมเฉพาะรอบจอง : เล่มเล็ก ‘ไดอารี่เผด็จศึก’ (พิมพ์ตามจำนวน ไม่ทำเพิ่มอีกในอนาคต)
- ราคา : 395 บาท ( ไม่รวมส่ง )
- จำนวนหน้า : 416 หน้า
- ตอนพิเศษไม่ลงเวป 5 ตอน + ภาพประกอบขาวดำ 1 ภาพ
ตอนพิเศษประกอบด้วย
ตอนพิเศษ 1 : สามปีครึ่งแห่งความสำเร็จ
ตอนพิเศษ 2 : นักศึกษาวันสุดท้าย ผู้จัดการวันแรก
ตอนพิเศษ 3 : ถ่าย MV กับผมเนี่ยนะ!?
ตอนพิเศษ 4 : รางวัลและการเปิดตัว
ตอนพิเศษ 5  : เกมเศรษฐี ( เสี่ยxจิตริน, นิฌานxเจตริน )
รายละเอียด -> https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67966.0


“คุณเจ อยากทำงานดีๆ มั้ยครับ”

นี่ไม่ใช่การขายตรง แต่เป็นการเสนองานผู้จัดการดาราให้กับเด็กอายุสิบแปดอย่างเจตริน ทองคำดี

และดาราที่เขาต้องดูแลก็ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ประตูดินประตูฟ้าประตูอากาศ ลื่นเป็นพ่อปลาไหลจับไม่ได้ไล่ไม่ทันอย่างนิฌาน ชาญชัยอีกด้วย!!

เจตรินรู้ทันที งานนี้ต้องมีเงื่อนงำ! ใครจะจ้างเด็กเพิ่งบรรลุนิติภาวะมาเป็นผู้จัดการกันล่ะ!

แต่เพื่อเงิน เจจะสู้หลังชนฝา และเพื่อเงิน เจจะสู้สุดแรงกล้า เพราะเพื่อเงิน เจจะสู้สุดใจล้า เพื่อเงินก้อนนี้...เจจะสู้! จนสิ้นเลือดหยดสุดท้าย!!!
 




สวัสดีค่า มาเปิดเรื่องใหม่กันกับน้องเจ น้องชายของเจตรินในเรื่อง I'M NOT HIM นั่นเอง!

แต่ถึงจะไม่อ่านเรื่องนั้นก่อนก็สามารถอ่านเรื่องนี้เข้าใจค่ะ เพราะไทม์ไลน์คนละช่วงต่างกันสองปีแหน่ะ!!

มาต้อนรับน้องเจวัยใสอายุสิบแปดกันเถอะค่ะ เย้ ^0^!

--------------

สารบัญ
ตอนที่ 0 : งานดีๆ มีอยู่จริง? ไม่มีอยู่จริง?
ตอนที่ 1 : พี่ฌานปลาไหลมือปลาหมึก (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3798866#msg3798866)
ตอนที่ 2 : เบอร์ปริศนา คู่กรณีมีถึงสอง!? (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3800850#msg3800850)
ตอนที่ 3 : แอนแอนคือใคร ใครคือแอนแอน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3802298#msg3802298)
ตอนที่ 4 : ว่าด้วยน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3804836#msg3804836)
ตอนที่ 5 : ความผิดของใคร (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3808217#msg3808217)
ตอนที่ 6 : อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3812001#msg3812001)
ตอนที่ 7 : ดาราหน้าใหม่ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3812987#msg3812987)
ตอนที่ 8 : เผยโฉมแอนแอน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3814829#msg3814829)
ตอนที่ 9 : ลักพาตัวเพื่ออะไร (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3818419#msg3818419)
ตอนที่ 10 : แผนซ้อนแผน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3821156#msg3821156)
ตอนที่ 11 : สมฤดี คนนี้มีที่มา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3826262#msg3826262)
ตอนที่ 12 : ข่าวฉาวและรุกฆาต (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3829824#msg3829824)
ตอนที่ 13 : เช็กเมทซีซันสาม (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3839594#msg3839594)
ตอนที่ 14 : บุกกองถ่าย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3840691#msg3840691)
ตอนที่ 15 : โทรศัพท์สายพิเศษ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3843702#msg3843702)
ตอนที่ 16 : เปิดตัวลูกสะใภ้ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3850680#msg3850680)
ตอนที่ 17 : ตาหมากของตัวร้าย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3854317#msg3854317)
ตอนที่ 18 : ลูกสะใภ้ทำคะแนน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3854868#msg3854868)
ตอนที่ 19 : สุดท้ายก็ฉวยโอกาส (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3855740#msg3855740)
ตอนที่ 20 : เร่งทำคะแนน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3856638#msg3856638)
ตอนที่ 21 : ถ่านไฟเก่า...แล้วไง? (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3857604#msg3857604)
ตอนที่ 22 : จดหมายพาซวย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3858895#msg3858895)
ตอนที่ 23 : เกาะกลางทะเล (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3859636#msg3859636)
ตอนที่ 24 : เปิดอกเปิดใจ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3860570#msg3860570)
ตอนที่ 25 : เห็นชอบหรือไม่ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3868603#msg3868603)
ตอนที่ 26 : ปฐมนิเทศ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3869864#msg3869864)
ตอนที่ 27 : มาตรการสะพานเชื่อม  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3870094#msg3870094)
ตอนที่ 28 : จุดจบ จุดเริ่มต้น (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3870849#msg3870849)
ตอนที่ 29 : เปิดเทอมวันแรก (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3871263#msg3871263)
ตอนที่ 30 : กินเลี้ยง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3872162#msg3872162)
ตอนที่ 31 : คืนเข้าหอ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3872955#msg3872955)
ตอนที่ 32 : อวสานเช็กเมท (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3873787#msg3873787)
ตอนที่ 33 : เดตวันแรก (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3874568#msg3874568)
ตอนที่ 34 : บทเรียนรักสามหลักสูตร (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3875295#msg3875295)
ตอนที่ 35 : รางวัลทรงคุณค่า (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3876099#msg3876099)
ตอนส่งท้าย  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3876940#msg3876940)
(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ : เกมเศรษฐี (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3881515#msg3881515)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 25-02-2018 18:26:15

ตอนที่ 0 : งานดีๆ มีอยู่จริง? ไม่มีอยู่จริง?


“คุณเจ อยากทำงานดีๆ มั้ยครับ”

เรื่องมันเริ่มจากประโยคนั้น คำพูดของเลขาจอมมารแห่งบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่เจ้าของช่องโทรทัศน์ที่ทำทั้งละคร รายการ ดูแลดารา รวมถึงลงทุนภาพยนตร์

คนระดับนี้ไม่ควรมาเดินเล่นในบ้านเก่าโทรมย่านชุมชนแออัดอย่างคุ้นชินประหนึ่งบ้านตัวเองได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่า...

“เสี่ยครับ วันนี้เป็นคิวต้องค้างที่บ้านนะ เสี่ยอย่ามากล่อมให้ผมตามเสี่ยกลับซะให้ยากเลย จิตรินคนดีคนนี้จะทำหน้าที่ลูกกตัญญูแสนซื่อสัตย์ ให้เวลากับคนรักและครอบครัวอย่างเท่าเทียม! ต่อให้เสี่ยจะทำตาปรอยใส่ จะอ้างว่าปวดแสบปวดร้อนอยากมีคนดูแลใกล้ชิด ผมก็จะไม่หลงกลเสี่ยอีกแล้ว! ”

“ปวดหัวตัวร้อนก็พอจิตริน ปวดแสบปวดร้อนอะไรกัน...”

“อะแฮ่ม ผมพูดผิดนิดหน่อยครับ เอาเป็นว่าวันนี้ผมไม่กลับไปกับเสี่ยแน่ พรุ่งนี้เราก็เจอกันแล้ว ได้กินข้าวด้วยกันแล้ว เสี่ยให้เวลาผมกับครอบครัวบ้างเถอะครับ แล้วผมเองก็เมื่อยหลังเต็มที...ไปค้างกับเสี่ยทีไรโดนชวนเล่นจ้ำจี้ตลอด ผมเหนื่อยนะครับเสี่ย!!”

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพี่ชายของผม...นายจิตริน ทองคำดีคบหากับท่านประธานบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ที่มักถูกเรียกขานว่าเสี่ยจนทุกคนพากันลืมเลือนชื่อจริงไปหมดแล้ว! แต่แม้จะติดแฟนขนาดไหน พี่จิก็คือพี่จิ ตั้งกฎอย่างดิบดีว่าจะสลับไปค้างบ้านเสี่ยกับบ้านตัวเองเพื่อไม่ให้หายหน้าหายตาจากครอบครัวเกินไป แม้บางครั้งบางทีจะถูกออดอ้อนจนเผลอค้างบ้านเสี่ยสองสามวันรวดเลยก็ตาม

นั่น เอาแต่พลอดรักกันอยู่ได้ ไม่คิดหันมามองบ้างเลยว่าน้องชายกำลังโดนล่อลวง!!

แต่ต่อให้พี่จิหันมาเห็นก็คงจะยิ้มซื่อใสเห็นดีเห็นงาม หลงผิดตาบอดหลงเชื่อว่าคุณเลขาคนนี้จะทำอะไรก็ช่างเหมาะสมดีเลิศไปหมด เพราะเป็นถึงคนที่ช่วยจับคู่ให้กับเขาและเสี่ยนั่นเอง...หึ พี่ผมน่ะหัวอ่อน ถูกหลอกใช้ให้เลี้ยงเด็กโข่งสวมหัวโขนนั่งเป็นประธานบริษัททั้งที่ทำอะไรไม่เป็นยังไม่รู้ตัวอีก!

แต่ผมจะไม่หลงกลเลขาจอมมารคนนี้เด็ดขาด...เลขาคมสัน!!

“จะขายตรงกันรึไง”

แนะนำตัวกันสักนิด ผมชื่อเจตริน ทองคำดี เป็นน้องชายคนเล็กประจำบ้านทองคำดีที่ประกอบด้วยบิดาชื่อนายฉัตรชัย และมารดาชื่อนางจรวย ทุกคนในบ้านผมล้วนจิตใจเปี่ยมบุญมากศรัทธาชอบช่วยเหลือคนอื่น มักยิ้มแย้มสดใสแจกความสุขให้คนรอบข้าง โดยเฉพาะพี่ชายของผมที่อายุก็ปาไปยี่สิบหกแล้วแท้ๆ แต่ยังโดนหลอกขายประกันอยู่เลย!

จริงอยู่...ว่าพี่จิเองเอาตัวรอดเก่ง ( เพราะคงไม่มีใครพูดทันเขา ) ทำงานเป็นนักเขียนบท และเพิ่งได้รับรางวัลจากภาพยนตร์เรื่อง Love after death เมื่อปีก่อนที่คุณเลขาเป็นผู้อนุมัติออกทุน แต่...สำหรับน้องชายอย่างผมแล้ว...ผู้ล่วงรู้นิสัยใจคอคนในบ้านเป็นอย่างดี ผู้ที่ต้องคอยมองครอบครัวยิ้มตลอดเวลาอย่างกับคนบ้า โดนกล่าวหาว่าคิดเยอะเกินไป คิดในแง่ร้ายเกินไปด้วยเหล่ามนุษย์ผู้มีจิตใจผ่องใส ว่าร้ายใครก็ทำไม่เป็นนั้น... อดรู้สึกเป็นห่วงกลัวโดนคนอื่นเอาเปรียบไม่ได้จริงๆ!

ลองมาเป็นผมสิ...ลองมาเป็นผมแล้วคุณจะรู้ว่าการเออออยิ้มแย้มตามไปด้วยทั้งที่รู้ว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายนั้นมันยากเย็นแสนเข็นขนาดไหน!!

ด้วยเหตุนี้เอง...นายเจตริน ทองคำดี ลูกชายคนเล็กหัวแก้วหัวแหวนของบ้านเลยกลายเป็นเด็กหน้าบึ้งอย่างนี้ คิ้วขมวด เชิดหน้าหาเรื่อง ทำตัวขวางโลกไร้มารยาทไม่สนใจว่าจะถูกนินทาอย่างไร เพราะผมตัดสินใจมาดีแล้ว...ว่าจะเป็นตัวถ่วงของบ้านหลังนี้! จะเป็นคนที่แยกเขี้ยวฮึ่มแฮ่ใส่ทุกคนที่หวังร้าย!! เป็นเกราะปกป้องให้คนในบ้านเอง!!

“ผมแค่อยากชวนคุณเจมาเป็นผู้จัดการดาราครับ”

โดยเฉพาะกับคุณเลขาที่ดันกรอบแว่นอย่างเป็นการเป็นงานตรงหน้า คนคนนี้ไม่มีทางทำอะไรโดยไม่หวังผล ยิ่งเห็นพี่จิเชื่อฟังทุกอย่างราวกับว่าคมสันเป็นนักปราชญ์แสนเก่งฉกาจตามประสาคนถูกล้างสมองแล้ว...ผมยิ่งต้องตั้งป้อมระวังภัย!

“ผมอายุสิบแปดนะครับคุณเลขา” ผมเอ่ยเสียงต่ำ จงใจประชดประชัน 

“แล้วอายุสิบแปดทำงานไม่ได้เหรอครับ”

“อย่ามาแกล้งโง่สิครับ คุณก็รู้ดีว่าไม่มีดาราคนไหนอยากให้เด็กอายุสิบแปดมาเป็นผู้จัดการทั้งที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ฉะนั้นคิดอะไรอยู่พูดออกมาตรงๆ เถอะครับ ผมไม่ได้ว่าง่ายแบบพี่จิ” ผมตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ในฐานะน้องชายคนเล็กประจำบ้านที่คอยกางปีกปกป้องครอบครัว ( ที่ไม่รู้อะไรบ้างเลย ) มาตลอด เวลามีคนเข้าหาอย่างไม่ประสงค์ดีจึงต้องแสดงออกอย่างก้าวร้าวรุนแรงให้ถอยห่างไปซะ! ไปให้ไกลแล้วอย่ามาเหยียบที่นี่อีก! มันน่าเศร้าที่ทั้งพ่อ ทั้งแม่ และพี่ชายของผมไม่เคยเข้าใจ คิดแต่ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของเด็กกำลังโต เป็นวัยต่อต้านเท่านั้นเอง....

“คุณเจเป็นลูกเก็บมาเลี้ยงเหรอครับ”

“คุณไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้”

ผมพูดตามจริง ครอบครัวทองคำดีนั้นรักสงบ แต่หากไม่ได้ผมที่ตั้งป้อมเฝ้าระวังมีหรือจะอยู่อย่างสุขสงบมาถึงตอนนี้ได้!

หลังเรียนจบมัธยมปลาย กฎเกณฑ์ทั้งหลายไม่เป็นผล ผมก็เริ่มไว้ผมยาวแล้วย้อมเป็นสีน้ำตาลแดง เจาะหู แต่งตัวโทนมืด เป็นนักเลงพร้อมเกเรเต็มขั้น เอาให้เห็นก็รู้เลยว่าอย่าคิดหาเรื่องถ้าไม่อยากมีปัญหา!

ปกตินิสัยก็แตกต่างจากคนอื่นๆ ในบ้านอยู่แล้ว พอเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอก ทำตาขวาง พูดจาขวานผ่าซากไม่ไว้หน้า ก็ยิ่งทำให้ผมถูกมองว่าเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงเข้าไปใหญ่

ทุกครั้งเมื่อได้ยินผมแต่หัวเราะหึหึอยู่ในใจ เพราะเท่ากับว่าบรรลุผลที่ต้องการ

เหมือนกับตอนนี้

“หัวเราะอะไรครับคุณเจ”

“เรื่องของผมครับคุณเลขา” ผมตอบพลางเหลือบมองตั้งใจปั่นประสาท แต่กับคมสันนั้นไม่มีทางหลุดฉุนเฉียวง่ายๆ กับท่าทางแค่นี้

“งั้นมาพูดเรื่องของคุณกันต่อ”

“ครับ มาพูดกันต่อถึงความจริงว่าคุณคิดอะไรถึงให้เด็กอายุสิบแปดเป็นผู้จัดการดารา ผมให้เวลาห้านาที ถ้าคุณไม่ยอมพูด ผมจะเรียกพี่จิ”

“เรียกมาทำไมเหรอครับ”

“เรียกมาบอกว่าผมเหงาใจจะขาด คิดถึงเขาจะแย่แล้ว เพียงเท่านี้พี่จิก็จะมาอยู่กับครอบครัว ไม่ยอมไปค้างกับเสี่ยอีกสามวันเป็นอย่างต่ำแน่นอน”

คุณเลขาดันกรอบแว่นอีกครั้ง คมสันย่อมรู้ว่าผมทำให้เป็นจริงได้ เพราะพี่จิเอ็นดูน้องชายคนเล็กคนนี้มาก รักและถนอมยิ่งกว่าใคร เทียบกับคนรักที่โตแต่ตัวอย่างเสี่ยแล้วไม่อาจเทียบเทียมได้เลย

ส่วนเสี่ย...กับคนอย่างเสี่ยที่แค่วันนี้ยังเกลี้ยกล่อมจะเป็นจะตายให้ค้างด้วยอย่างไม่ยอมแพ้ ถ้าอดนอนกับพี่จิสามวัน รับรองต้องลงแดงตาย ไม่เป็นอันทำงานทำการลำบากมาถึงคุณเลขาแน่นอน

ผมยกยิ้มอย่างเฉลิมฉลองชัยชนะเมื่อคมสันตัดสินใจคายความจริง

“คุณรู้จัก นิฌาน ชาญชัยมั้ยครับ”

“รู้จัก เขาแสดงเป็นพระเอกในเรื่องที่พี่จิเขียนบท Love after death ไง” ผมตอบอย่างระวังปาก พยายามคาดเดาว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน

“ตอนนี้คุณนิฌานต้องการผู้จัดการดาราโดยด่วน และต้องมาจากการแนะนำของผมเท่านั้น โดยมีข้อแม้ว่าต้องเป็นเด็กไร้ประสบการณ์ คิดโกงเขาไม่ได้ ไม่ต้องจัดการเรื่องงานอะไรเป็นพิเศษ ผมเลยนึกถึงคุณยังไงครับ คุณเจตริน”

พอถูกเรียกชื่อเต็มด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมเผด็จศึก ผมก็ขนลุกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก

“เพื่ออะไร”

“เพื่อมาเป็นฉากหน้าป้องกันไม่ให้คนคนหนึ่งมายุ่งกับตารางของเขา”

“สรุปคือ...” ผมยืนกอดอกพลางเคาะนิ้วกับต้นแขนตัวเอง เป็นท่าทีที่มักทำประจำเวลาใช้สมองเหมือนอิกคิวซังที่ต้องเอานิ้วแตะน้ำลายแล้ววนๆ ตรงขมับ “นิฌานต้องการผู้จัดการดาราที่มารับงานแค่ชื่อ มีแบคเป็นคุณเลขาของท่านประธาน เพื่อไม่ให้คนคนหนึ่งเข้ามายุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับตารางงานของเขา หรือให้ถูกคือล่วงรู้เกี่ยวกับรายได้ของเขาสินะ”

“เก่งมากครับคุณเจ ปะติดปะต่อเรื่องได้เยี่ยมยอดมากครับ สมแล้วที่เป็นน้องชายคุณจิ”

อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะว่าเขากำลังแอบหลอกด่าว่าจินตนาการผมกว้างไกลไม่แพ้การฝอยของพี่จิเลย!

“ค่าจ้างล่ะ” หลังไตร่ตรองครู่ใหญ่ เมื่อเห็นว่าไม่เสียหายผมเลยเริ่มเอนเอียง เพราะกำลังกลัดกลุ้มเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายอยู่พอดี ผมกำลังจะเข้ามหาลัยนะครับ แม้จะสอบติดทุนแต่ก็ต้องมีค่าบำรุงมหาลัย ค่าหนังสือ ค่าเครื่องแบบ ค่ากิจกรรมและอีกหลายอย่าง ในฐานะน้องชายคนเล็กที่อายุห่างกับพี่ชายถึงแปดปี ทำให้ผมมักเห็นภาพของพ่อ แม่ และพี่จิที่ทำงานหนักในการส่งเสียค่าเล่าเรียนให้ผมมาตลอด สำนึกด้านการหาเงินของผมเลยแรงกล้าเป็นพิเศษ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะส่งตัวเองเรียนจนจบโดยไม่ลำบากพี่ชายหรือครอบครัว!

คมสันไม่ตอบ แต่เขียนเช็คเป็นค่าจ้างล่วงหน้าให้ผมห้าหลักเน้นๆ

ผมลอบกลืนน้ำลาย

รับงานนี้สามเดือน กับค่าจ้างที่มากกว่าการเข้ากะเซเว่นหลายเท่า!

ผมมองหน้าคมสัน พยายามคาดเดาว่าเขามีอะไรปกปิดหรือไม่ ซึ่งคนขี้ระแวงอย่างผมมั่นใจเต็มร้อยว่าต้องมีเรื่องยิบย่อยที่คุณเลขาไม่ยอมพูดให้หมดอย่างแน่นอน ใครจะบ้ายอมจ่ายค่าจ้างขนาดนี้ให้ไปนั่งๆ นอนๆ เป็นไม้กันหมาเฉยๆ แต่หลังจากชั่งใจดูแล้ว...งานนี้นับว่าเอื้อประโยชน์กับผมพอดี แถมจากการทำงานในกองถ่ายภาพยนตร์ร่วมกันนิฌานเองก็ดูจะผวาพี่จิอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นผมเชื่อว่าสามารถควบคุมสถานการณ์เหนือคาดได้หากคุณเลขาหรือพระเอกชื่อดังคิดทำอะไรตุกติก

“ผู้จัดการดาราทำงานไม่ค่อยเป็นเวลานี่นะ...ยิ่งต้องเป็นไม้กันหมาด้วยแล้ว...”

“ถ้าอย่างนั้นเป็นเท่านี้ดีมั้ยครับคุณเจ” คมสันฉีกเช็คใบเก่า ก่อนจะเขียนใบใหม่ให้ด้วยราคาที่มากกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง

ผมเคาะนิ้วกับต้นแขนตัวเองในท่ากอดอกอีกครั้ง ขมวดคิ้วจริงจัง

“นิฌานเป็นดาราที่เจ้าชู้ประตูดิน เข้ากองไหนต้องตามจีบดารากองนั้นไม่เกี่ยงทั้งชายทั้งหญิงต่อให้มีแฟนหรือโสดก็จู่โจมไม่เลือกหน้า ผมว่าหน้าที่ผมนอกจากจะคอยกันคนไม่ให้ยุ่งเรื่องรายได้ของเขาแล้วยังต้องคอยตามเช็ดตามล้างเรื่องพวกนี้ด้วยรึเปล่า…นะ?”

“ถ้าอย่างนั้น...” คมสันมองด้วยสายตารู้ทันขณะเขียนเช็คใบใหม่ให้ มองตัวเลขที่มากกว่าเดิมเท่าหนึ่ง ผมก็ยิ้มกริ่ม ก่อนจะรับเช็คไปถือพลางโบกไปโบกมาคล้ายไม่สนใจทั้งที่ในใจลิงโลดหนักมาก

“คุณเจรับเช็คไปแบบนี้หมายความว่า...?”

“เฮ้อ...เห็นแก่หน้าพี่จิ ผมจะรับทำก็แล้วกัน!”


--------------


สวัสดีค่ะ เปิดตัวกับน้องเจที่รู้ทันคมสันเป็นคนแรกของซีรีส์ชุดนี้ 5555 หากหนูจิชอบฝอย จิระเกรี้ยวกราด น้องเจก็จะเห็นแก่เงินหน่อยๆ ค่ะ น้องโตมาในครอบครัวที่ทำงานหนักเลี้ยงตัวเองซึ่งยังเรียนอยู่ ใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าคนอื่นๆ เลยพยายามแบ่งเบาภาระครอบครัวตามประสาเด็กกตัญญูที่คิดปกป้องครอบครัวด้วยวิธีแปลกๆ ที่จิตรินและพ่อกับแม่มองแล้วพากันอมยิ้มขำขันด้วยความเอ็นดู สู้เข้านะน้องเจ! 

ส่วนนักอ่านที่ไม่เคยอ่านเรื่องก่อนสามารถอ่านได้โดยไม่ต้องย้อนอ่านเรื่องเดิมนะคะ เพราะแต่งแยกออกมาแค่มีตัวละครข้องเกี่ยวกันเฉยๆ ค่ะ แต่ถ้าสนใจสามารถเริ่มอ่านได้จาก I’m Not Him -> He’s Not Me สองเรื่องนี้แนะนำอ่านต่อกันค่ะเพราะมีไทม์ไลน์เอี่ยวกัน แต่สำหรับ Just U Not Us นั้นจะแยกออกมาเลยค่า ^ ^

ปล.สำหรับท่านที่ตามมาจากเรื่องแรก เรื่องนี้จะไทม์ไลน์ห่างกันสองปีนะคะ เรื่อง I’m Not Him จิตรินอายุ 24 เจตรินอายุ 16 -> เรื่องHe’s not me -> จิตรินอายุ 25 เจตรินอายุ 17 -> เรื่องนี้ จิตรินอายุ 26 เจตรินอายุ 18


ทำไมต้องให้อายุสิบแปด? ก็จะได้ไม่ติดคุกยังไงล่ะ!!!!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 25-02-2018 18:39:37
นั่งรออ่านสิค่ะซิสขาาา  :m20: o18 :hao6:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-02-2018 19:25:19
น่าติดตามมากค่ะ ชักอยากรู้ว่าจอมมารกับผู้รู้ทันจอมมารใครจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน ฮา
ส่วนนิฌานนั้น เรารอดูว่าน้องจะจัดการยังไง ฮุฮุ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 25-02-2018 19:35:17
เห็นชื่อคนแต่งแล้วรีบเข้ามาเลยค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-02-2018 19:51:08
มาแล้วมาแล้ว น้องน้อยน่าเอ็นดูของเรา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 25-02-2018 20:05:00
เห็นนักเขียนเปิดเรื่องน้องเจแล้วจิ้มเข้ามาอย่างไวเลย ชอบความรู้ทันกันของน้องเจกับคุณเลขา นานๆๆๆๆจะมีคนมารับมือกับคุณคมสันได้สักที นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณคมสันมีเบิ้มแล้วนะก็อยากจะเชียร์ให้คู่น้องเจอยู่หรอก คงมันน่าดูเลยแหละ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 25-02-2018 21:35:26
มีความโดนหลอก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: พิรุณสีเงิน ที่ 25-02-2018 21:37:44
น้องเจ !!!!! ในที่สุดก็มาเรื่องน้องเจซักที คนเดียวในเรื่องที่รู้ทันจอมมาร last boss สินะ
ยินดีกับเรื่องใหม่ด้วยนะคะ จะรอดูว่าน้องเจคนเก่ง กับพ่อปลาไหล จะเป็นยังไงบ้าง ;)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 25-02-2018 21:47:37
 :mew1:มารออ่านเรื่องของเจต เด็กผู้ไม่ใช่้ด็กจะเป็นรุกหรือรับดีเอ่ย 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-02-2018 22:26:20
น้องเจ จะสู้รบปรบมือไหวมั้ยน้าา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: thanatphon ที่ 25-02-2018 22:54:30
น้องเจสู้ๆๆ 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 25-02-2018 23:10:18
คมสันเจอคนรู้ทันแล้ว สู้ๆนะน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 25-02-2018 23:14:09
ติดตามค่ะ^^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-02-2018 23:36:59
เรื่องนี้จะเป็นการฟาดฟันฝีปากและฝีมือระหว่างฝ่ายแดง เลขาคมสัน กับ ฝ่ายน้ำเงิน หนูเจ ต้องแซ่บนัวส์แน่นอน  :ped149:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 25-02-2018 23:48:45
น่าสนุก  o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-02-2018 23:59:21
มันต้องอย่างนี้ซิน้องเจ ต้องมีใครซักคนที่รู้ทันและต่อรองกับจอมมารได้ o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 26-02-2018 00:00:15
เอาล่ะค่ะน้องเจเห็นแก่เงินได้ตกหลุมจอมมารเรียบร้อยแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 26-02-2018 02:02:30
คุณคมสันนี่ลาสบอสจริงๆ เป็นคนที่เหมาะจะเป็นประธานบริษัทมากกว่าคนแถวนี้อีก /ปรายตามองเสี่ย คมสันร้ายมากนี่ว่าคมสันต้องมีแผนไรอยู่แน่ๆ
ถ้าคมสันยื่นข้อเสนอนี้ให้กับจิตรินนี่เชื่อว่าจิตรินต้องตะครุบตั้งแต่เห็นเช็คครั้งแรกแน่ๆ ดีนะที่เป็นเจตริน น้องฉลาดในการเพิ่มมูลค่าเงินมากลูก หนูต้องเอาตัวรอดจากนิฌาณให้ได้นะ อย่าไปหลงกลเขาเด็ดขาด เข้าใจไหม
ติดตามตอนต่อไปนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-02-2018 02:29:43
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-02-2018 02:33:41
 :really2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 26-02-2018 08:37:03
 :impress2: ดาราเจ้าชู้กับเด็กตัวแสบจะเป็นไง รอติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-02-2018 08:42:38
ใครล่อลวงใคร เจ ตกหลุมพรางเลขาใช่ป่ะ

คมสัน ฉลาด คม สมชื่อ  :katai2-1:
ที่เป็นแฟนกับบอดี้การ์ดของเสี่ย
นี่คงเพราะผูกใจใช้งาน ไม่ได้ตกหลุมรักจริงๆใช่มั้ย  o18
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 26-02-2018 12:04:28
 :z1:



 :katai2-1: :mc4: :katai2-1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-02-2018 12:34:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-02-2018 15:22:09
ติดตามค่ะ  :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-02-2018 18:56:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 26-02-2018 21:06:03
วิ่งมาเจิมๆ ค่ะ น้องเจเเซ่บ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-02-2018 21:10:28
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 26-02-2018 21:47:20
เจ นี่เจ้าเล่ห์ผอดพี่จริงๆ
แต่อย่าคิดทายรัศมีกับท่านจอมมารนะคะ ยังไงก้อตกหลุมกับดักของท่านจอมมารชัวร์ๆ 55555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 26-02-2018 22:18:27

หนูเจอย่าเพลี่ยงพล่ำง่ายๆนะ เอาชนะคุณคมสันกับพ่อดาราให้อยู่หมัดเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 26-02-2018 23:04:54
ถึงจะรู้ทันจอมมารอย่างไร ก็ยังถูกหลอกล่อด้วยเงินอยู่ดีนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-02-2018 23:10:33
คงสนุกน่าดูเด็กแสบกับพระเอกเจ้าชู้
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 27-02-2018 01:23:15
 :z3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 27-02-2018 15:05:52
น่าติดตามมาก 
ขอสมัครเป็น FC หนูเจค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 27-02-2018 21:32:41
หนูเจคือนายเอกหลักในเรื่องนี้..  ทำไมรู้สึกว่าในอนาคตพระเอกเรามีแววอาการกลัวเมีย มาแต่ไกล..
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 27-02-2018 22:46:55
ตามมม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 27-02-2018 23:00:38
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 27-02-2018 23:03:50
พอรู้ว่าเป็นใครก็รีบปูเสื่อเลยค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 01-03-2018 14:36:32
ชอบบบบบ พอจะมีคนที่สามารถสู้กับคุณเลขาได้แล้ว 555555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌานปลาไหล -P2-
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 02-03-2018 20:39:34


ตอนที่ 1 : พี่ฌานปลาไหลมือปลาหมึก

 

“พี่จิ นิฌานเป็นคนยังไง เล่าให้ผมฟังหน่อยสิ”

“นึกอุตริอะไรขึ้นมาเนี่ยเจ หรือว่าโดนนิฌานตามจีบ!? ไม่ได้นะเจ คนคนนั้นเจ้าชู้ประตูฟ้าประตูดินประตูน้ำประตูอากาศ เจจะหลงคารมของนิฌานไม่ได้! พี่เคยเล่าให้ฟังแล้วไม่ใช่เหรอว่าจิระเคยโดนกระทำการอันเหี้ยมหาญยังไงบ้าง กองถ่ายเกือบล่มเพราะนิฌานมาแล้วนะจำไม่ได้เหรอ!”

“พี่จิไม่ต้องเล่นใหญ่ขนาดนั้นก็ได้...” ผมมองพี่ชายผู้เคารพรักด้วยสายตาเอือมระอากับการพล่ามเกินจริง พวกเราสองคนพี่น้องนอนด้วยกันตั้งแต่ยังตัวกระเปี๊ยกจนตอนนี้พี่จิสูงโปร่งไปเกือบร้อยแปดสิบเซนติเมตรอยู่แล้ว พอหันมามองตัวเอง...ผมเหมือนเด็กลืมดื่มนมอ่ะครับ ตัวสูงแค่ร้อยหกสิบแปด สงสัยเพราะไม่ค่อยออกกำลังกาย เทียบกับพี่จิที่เคยเป็นสตั้นท์แมนเก่า เข้ายิมออกยิมเป็นว่าเล่น แม้ตอนนี้จะลดลงมาบ้างแล้วเพราะเสี่ยขอร้องกลัวแฟนกล้ามใหญ่กว่าตัวเอง แต่พี่จิก็วิ่งตอนเช้าทุกวันเพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์ม

ส่วนผม...ทั้งที่ตั้งท่าแยกเขี้ยวขู่ใส่ผู้คน ตั้งป้อมอย่ามายุ่ง! อย่าเข้ามานะ! เข้ามากัดนะเฮ้ย! แต่ความจริงแล้วผมเป็นพวกขี้เกียจมาก ต่อหน้าคนอื่นก็มักจะนิ่งเงียบมากกว่าเปิดปากจ้อเหมือนพี่ชาย สิ่งเดียวที่ทำให้ยอมขยับเขยื้อนมีแต่เรื่องครอบครัวกับการหาเงินเท่านั้น หากไม่โดนหาเรื่องก่อนอย่าหวังเลยว่าผมจะกระดิกตัว...ขนาดพี่จิพยายามลากให้ไปวิ่งด้วยกันยังยอมแพ้ ปล่อยเด็กวัยกำลังโตนอนเต็มอิ่มสบายอุรา

“คุณเลขายื่นข้อเสนอให้ผมไปเป็นผู้จัดการดาราให้นิฌาน ผมเลยมาถามพี่จิเพื่อศึกษาข้อมูลเตรียมตัวเตรียมใจ”

“ผู้จัดการดารา? นิฌาน!? ไม่นะเจน้องรัก! ขาดสนเงินทองตรงไหนก็บอกมาสิ พี่เพิ่งได้โบนัสเมื่อต้นปีจากเสี่ยเพราะหนังทำเงินดังเป็นพลุแตก น้องชายคนเดียวเลี้ยงได้สบายมาก หรือว่าเจมีของที่อยากได้ ดูถูกน้ำใจไอ้จิมากไปแล้ว! พี่ชายคนนี้ต่อให้ชี้เดือนก็จะคว้าเดือน ชี้ดาวก็จะคว้าดาว! บอกมาเลยไอ้น้องพี่จะกระโดดล่องนภาไปคว้ามาให้เอง!”

คุยกับพี่จิ อย่างแรกที่ต้องทำคือการตั้งสติ

ยุบหนอ พองหนอ

“ผมตกลงไปแล้ว ไม่เปลี่ยนใจหรอกนะ” ผมรีบพูดดัก “ถ้าพี่อยากฝอยมาก ฝอยเรื่องนิฌานให้ผมฟังดีกว่า”

ผมตบเตียงแปะๆ เรียกพี่ชายให้มานอนเคียงข้างกัน พี่จิผิวเข้มคล้ำจากการตากแดดตากลม โหมงานหนักแต่เด็ก เทียบกับผมที่ค่อนข้างขาวกว่า กล้ามเนื้อไม่แน่นเท่าเพราะมักเลือกทำงานในที่ร่มแบบไม่ใช้แรงแล้ว...มองไปมองมาก็เหมือนพี่น้องคนละท้องกันจริงๆ

“นิฌานเหรอ...” พี่จิคนดีของผมทิ้งตัวตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาพร้อมลูบศีรษะเหมือนกล่อมนอน “นิฌานเป็นคนเจ้าคารมมาก และเจ้าชู้มาก ถ้าถามว่าเจ้าคารมขนาดไหน ต้องบอกว่าขนาดคบซ้อนยังไม่โดนด่าเพราะเป่าหูไว้ประหนึ่งตัวเองเป็นผู้ถูกหลอกจนคู่กรณีเห็นใจสงสารเสียเอง แถมยังสร้างสถานการณ์เก่ง ตีสนิทเก่ง หลอกเนียนฟันคนอื่นได้โดยแกล้งทำเป็นเข้าใจผิดด้วยหน้าตาสุภาพบุรุษ คนคนนี้เจนจัดในวงการมานาน ต้องระวังตัวให้ดีนะเจ...”

“ครับ” ผมซุกตัวเข้าหาพี่ชาย อ้อมอกแน่นๆ นั้นให้ความรู้สึกปลอดภัย เพราะอายุห่างกันมากเกือบๆ จะเป็นลูกหลง ครอบครัวเลยมักปฏิบัติกับผมเหมือนเด็กน้อย ไม่ว่าจะทำท่าทีก้าวร้าวโวยวายยังไงก็เห็นว่าช่างน่ารักน่าเอ็นดู ผมเลยพยายามทำตัวโตกว่าวัย แม้บางครั้งบางทีจะแอบออดอ้อนพวกเขาโดยตีเนียนว่าง่วงงุนก็ตาม

เพราะรักมากอย่างนี้ไง...เวลาเห็นคนสำคัญถูกหลอก ถูกรังแก ผมถึงทนไม่ได้!

ต่อให้รูปร่างจะไม่ถึกทนเท่าพี่จิ แต่ผมจะปกป้องทุกคนเอง!!

 



นิฌาน ชาญชัย

ดาราชายวัยยี่สิบแปดย่างยี่สิบเก้าปี ได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องแรกที่แสดงตอนแปดขวบ นับจากนั้นก็มีชื่อเข้าชิงตลอดแต่ไม่มีถ้วยกลับบ้านเลยสักครั้ง หลายปีมานี้ผลงานน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจ้าตัวไม่ยอมรับเล่นละคร พ่วงด้วยข่าวคาวลับๆ วงในที่พูดกันปากต่อปากว่าเจ้าชู้ แม้จะจับไม่ได้คาหนังคาเขาเพราะนิฌานลื่นเป็นปลาไหล แต่ถ้าเลือกได้บรรดาผู้กำกับหรือทีมงานก็ไม่อยากร่วมงานกับคนคนนี้นัก

นี่คือข้อมูลที่ผมรวบรวมมาได้ภายในหนึ่งวันหลังตอบตกลงกับคมสัน เลขาบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ที่นอกจากผลิตรายการและละครแล้วยังดูแลดาราในสังกัดอย่างดี หนึ่งในนั้นคือนิฌาน ชาญชัย ผู้เซ็นสัญญามานับยี่สิบปีและไม่มีท่าทีจะย้ายช่องไปไหน

ประสบการณ์ทำงานโชกโชน รู้จักคนกว้างขวาง ต่อให้ไม่มีผู้จัดการก็สามารถอยู่รอดเองได้

“คนนี้หรือครับผู้จัดการที่คุณหามาได้ คุณคมสัน”

“ครับ คุณเจตริน ทองคำดี น้องชายของจิตริน ทองคำดี คนเขียนบทภาพยนตร์ที่คุณนำแสดงในเรื่อง Love After Death ยังไงล่ะครับ” คุณเลขาช่วยแนะนำตัวให้ผมที่ยกมือไหว้อย่างมีมารยาท เพราะถูกครอบครัวสั่งสอนมาดี

“จิตริน...” นิฌานทวนชื่อก่อนจะเผยแววตาขยาดวูบหนึ่ง พี่จิเคยเล่าให้ฟังว่าเพราะคนคนนี้ล่อลวงเพื่อนสนิท เลยจัดการฝอยชุดใหญ่ไฟกะพริบ เล่นเอานิฌานถึงกับยกมือไหว้ สาบานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกขอแค่ให้พี่จิหยุดพูดเป็นพอ “ดูไม่เหมือนพี่เลยนะเรา แถมยังเด็กมาก...อายุเท่าไหร่เนี่ย”

“สิบแปดครับ” ผมตอบเสียงเรียบ มองประเมินคนตรงหน้าอย่างโจ่งแจ้งไม่ปิดบัง “ไม่ต้องห่วง ผมไม่พูดมากเหมือนพี่จิหรอก”

นิฌานลอบถอนใจ วันวานแห่งความฝอยนั้นคงจะฝังลึกในหัวจิตหัวใจของเขามากทีเดียว

“คุณเจยังเด็ก ไม่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงเลย อีกทั้งยังเป็นน้องชายของจิตริน...คนรักของท่านประธาน ผมเลยสามารถอ้างว่าใช้เส้นสายมาเป็นผู้จัดการให้คุณได้โดยไม่มีใครกล้าครหา ตรงกับคุณสมบัติที่กำหนดมาทุกอย่างครับคุณนิฌาน”

“พูดออกมาตรงๆ แบบนี้เลยเหรอครับคุณคมสัน” นิฌานเผยสีหน้าลำบากใจ มองมาอย่างกระอักกระอ่วนคล้ายไม่อยากให้ผมมองเขาไม่ดี

“ผมเป็นคนตรง” ผมตัดสินใจแสดงจุดยืนหลังเผลอกลอกตาไปหนึ่งครั้ง “มีอะไรก็พูดมาตรงๆ อย่าอ้อมค้อมเลยครับ เสียเวลาทำมาหากิน”

“เกือบลืมไป คุณเจขอเพิ่มเงินเดือนด้วยครับ” คมสันว่าพลางยื่นรายละเอียดสัญญาให้นิฌานดู

“มันค่อนข้างจะ...มากกว่าที่คุยกันไว้เท่าตัวเลยนะ” นิฌานพูดทั้งรอยยิ้มแต่สายตาคัดค้าน

“งั้นผมกลับล่ะ ขอตัวนะครับ” ผมผุดลุก ยกมือไหว้คมสันกับนิฌานตามประสาคนดีศรีสังคม ก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายเตรียมเดินออกจากห้อง

“เดี๋ยวสิ!” ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นิฌานเดินตามมากระชากแขนด้วยท่าทีเร่งร้อนทั้งที่พยายามปั้นหน้ายิ้มแย้มอย่างประนีประนอม “คุยกันดีๆ ก่อนมั้ยครับน้องเจ”

ผมเลิกคิ้ว มองคนที่จู่ๆ ก็เรียก ‘น้องเจ’ อย่างสนิทสนมแล้วค่อยๆ แกะมือเขาออก แต่นิฌานนอกจากจะเป็นปลาไหลแล้วยังเป็นปลาหมึกอีกด้วย จับแขนผมกึ่งลากกึ่งจูงมาที่เก้าอี้ได้สำเร็จอย่างแนบเนียนราวไม่ได้ใช้กำลังบังคับอย่างไรอย่างนั้น

“เรื่องเงินไม่มีปัญหาหรอก พี่แค่ตกใจที่มากกว่าเดิมเท่าตัวก็เท่านั้นเอง น้องเจใจเย็นๆ ก่อนนะ เอ้านี่...ดื่มน้ำก่อนสิ เอาขนมมั้ย พี่มีคุกกี้ติดตัวมาด้วยนะ”

“ผมไม่ใช่เด็กเล็ก ไม่ต้องเอาขนมมาล่อ” ผมเอ่ยเสียงเรียบ แต่ก็ยอมรับน้ำมาดื่มดับอารมณ์

“หลังจากนี้ต้องทำงานด้วยกันถึงสามเดือน เอาเป็นว่าน้องเจเรียกพี่ว่าพี่ฌานก็แล้วกัน จะได้สนิทสนมกันไวๆ”

“ในสัญญาจ้างไม่ได้ระบุว่าต้องสนิทสนมกันนี่ครับคุณเลขา” ผมหันไปคุยกับคมสันข้ามหัวนิฌาน

“ครับ ในสัญญาไม่มี แต่ด้วยจรรยาบรรณในการทำงานแล้ว ก็ควรจะคุยกันดีๆ ไม่กระชากลากถูกันนะครับ” คมสันกล่าวพลางเลื่อนสัญญาให้ผมกับนิฌานอ่านทวนข้อตกลงทั้งหมดอีกครั้ง “ระยะเวลาสามเดือน กับตารางงานที่แปรผันตามคิวของคุณนิฌาน คุณเจทำหน้าที่เป็นผู้จัดการแค่ฉากหน้าเท่านั้น แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยโดยเฉพาะเรื่องเงินค่าจ้างคุณนิฌานจะจัดการทั้งหมดเอง”

“ผมขอเวลาส่วนตัวกับน้องเจได้มั้ยครับคุณคมสัน” นิฌานไม่ยักแตะต้องสัญญาตรงหน้าแม้แต่น้อย

“คุณเจสะดวกมั้ยครับ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเอาตัวรอดได้ เชิญคุณเลขาตามสบายได้เลย” ผมกล่าวโดยแอบนึกขอบคุณน้ำใจของคมสัน อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้พาผมมาทิ้งขว้างไร้เยื่อใย เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผม...จะส่งผลเป็นลูกโซ่ อย่างแรกคือพี่จิอาละวาด อย่างที่สองคือเสี่ยโดนลูกหลง ซึ่งกระทบกับคุณเลขาที่คอยจัดการงานของท่านประธานเข้าอย่างจัง

หลังคมสันเดินออกไป นิฌานก็หยิบคุกกี้ที่เตรียมมากัดกรวบๆ

“น้องเจไม่ใช่เด็กหัวอ่อนสินะ”

“ต่อให้เป็นก็ไม่หลงกลคุณหรอกครับ พี่จิเล่าเรื่องที่เกิดในกองถ่ายให้ผมฟังหมดแล้ว” ผมสารภาพตามจริง “มีอะไรอยากตกลงกับผมนอกเหนือจากสัญญาลับหลังคุณเลขาก็บอกมาเถอะ”

“มันเป็นปัญหาส่วนตัวของพี่เอง...” นิฌานถอนหายใจเฮือก เผยสีหน้าลำบากใจที่แสดงละครส่วนหนึ่งจริงส่วนหนึ่ง “มีคนอยากเข้ามาคุมคิวงานของพี่ ตั้งใจจะให้รับงานเยอะๆ กอบโกยจากความสำเร็จของ Love After Death เป็นคนใกล้ตัว...ที่คาดว่าจะมาระรานตัวเจเองด้วย”

“งั้นคุณต้องเพิ่มค่าจ้างเป็นประกันความปลอดภัยให้ผมด้วยสิ” ผมพูดพลางขีดฆ่าตัวเลขในสัญญาแล้วเขียนใหม่ “เท่านี้พอมั้ยครับ”

นิฌานมองผมด้วยสายตาว่างเปล่า

“มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ อย่ามัวแต่คิด ผมอ่านใจคุณไม่ได้หรอกนะ”

“เรา...ไม่กลัวเลยรึไง”

“หรือว่าไม่ใช่แค่การระราน แต่เป็นการหมายเอาชีวิตหรือครับ ถ้างั้นก็ต้อง...” ผมตั้งใจจะขีดฆ่าตัวเลขใหม่ แต่ถูกนิฌานคว้าข้อมือจับหมับเข้าให้

“ยังไม่ทันทำงานก็คิดจะเรียกเงินไม่ยั้งเลยเหรอครับน้องเจ พี่รู้สึกเสียเปรียบมากเลยนะ”

มองคนที่คลี่ยิ้มหวานด้วยดวงตาประกายระยับแฝงความขุ่นเคืองผมก็อดจะตอกกลับไปไม่ได้

“คุ้มไม่คุ้มถ้าได้ทำงานด้วยกันก็รู้เองล่ะครับ...พี่ฌาน”

พวกเราจ้องตากันครู่ใหญ่ ผมที่เผชิญการฝอยของพี่จิแต่เด็กนั้นย่อมมีสมาธิดีกว่าอยู่แล้ว เพราะสุดท้ายนิฌานก็เป็นฝ่ายหลบตาไป แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือเหมือนกลัวผมจะเขียนตัวเลขขูดรีดเขาอีกอย่างนั้นล่ะ

“ไม่ถึงชีวิตหรอก ไม่ต้องเรียกประกันล่วงหน้าขนาดนั้น งานนี้เป็นงานง่ายๆ ไม่งั้นคงไม่ไว้ใจให้เด็กอายุสิบแปดมารับทำ”

“ถ้าพูดถึงขนาดนั้นงั้นผมเขียนตัวเลขกลับเป็นเหมือนเดิมดีมั้ยครับ” ผมเลิกคิ้วถามทีเล่นทีจริงอย่างมีมารยาท

“ช่างเถอะ เอาที่น้องเจเขียนล่าสุดก็ได้”

ผมยักไหล่ คิดในใจอยู่แล้วว่าพระเอกชื่อดังคงกลัวเสียหน้ามากกว่าเสียเงิน

“เอาเป็นว่าระหว่างรับงาน หากมีใครโทรมาสอบถามก็ปิดปากเงียบหรือพูดว่าไม่รู้เรื่องเข้าไว้ ถ้าถูกถามว่าทำไมถึงได้งานนี้ ก็ให้อ้างชื่อคมสัน อย่าพูดเรื่องพี่เป็นฝ่ายติดต่อเด็ดขาด”

“สรุปว่าหากมีใครหลอกถาม ต่อให้ผมรู้ก็ต้องตอบว่าไม่รู้ จงเล่นบทเด็กเส้นที่ถูกยัดเข้ามากะทันหัน ทำเหมือนคุณเป็นผู้ถูกกระทำลอยตัวอยู่เหนือปัญหาสินะครับ ผมเข้าใจแล้ว”

“ยังมีอีกอย่าง...” นิฌานคลี่ยิ้มเย็น คาดว่าคงลอบด่าผมในใจ “เรื่องส่วนตัวของพี่ ปิดหูปิดตาไว้จะดีที่สุด”

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องราวความรักของใครอยู่แล้ว” ผมพูดพลางยกแขนที่ยังถูกจับหมับ “จะปล่อยได้รึยังครับ ต้องชูมือให้คุณจับแบบนี้ผมเมื่อยนะ”

“โทษที...”

“ไม่เป็นไร แต่วันหลังอย่าทำอีกก็แล้วกัน”

ผมลูบข้อมือเมื่อเป็นอิสระ ก่อนจะหยิบสัญญามาเปิดอ่านทบทวนรอบสุดท้าย

“มีอะไรจะพูดอีกมั้ยครับ หรือคุณจะจ้องไปลอบด่าผมไปอย่างนี้ทั้งวัน” ผมพูดโดยไม่เงยมองหน้านิฌาน เห็นเขาเงียบ เอ่ยเสียงอ่อนคล้ายยอมความ แต่ตาที่มองผมนั้นหรี่เล็กคล้ายคิดอะไรในใจ ต่อให้โง่แค่ไหนก็รู้ว่าพระเอกชื่อดังคนนี้ไม่ค่อยสบอารมณ์กับผู้จัดการคนใหม่เท่าไหร่นัก

พวกตีเนียนคงแขยงประเภทขวานผ่าซากที่สุด!

“ที่เหลือไว้ค่อยปรับตัวหน้างานก็แล้วกัน น้องเจล่ะ...มีอะไรอยากจะพูดกับพี่มั้ย”

ผมเงยมองเขา พิงหลังกับพนักเก้าอี้ ก่อนจะกอดอกพลางเคาะนิ้วกับต้นแขนอย่างครุ่นคิด

“ถ้าคิดจะลองจีบผมเล่นๆ หวังดึงเป็นพวก ได้ก็ดีไม่ได้ก็ช่าง รบกวนลบออกจากสมองด้วยนะครับ”

นิฌานแทบจะปั้นหน้าไม่ถูกราวแทงใจดำอย่างจัง

“ผมอายุสิบแปด กำลังเอ๊าะด้วยสิ” ผมเอียงศีรษะยามเหลือบมอง “หรือควรจะเพิ่มประกันความปลอดภัยในแง่นี้ด้วยนะ...”

“เซ็นสัญญากันเถอะครับน้องเจ”

นิฌานเปิดหน้าสุดท้ายแล้วเซ็นสัญญาทันที ก่อนจะยื่นให้ผมลงนามเพื่อความเสร็จสมบูรณ์

“ต้องเรียกคุณเลขามาเป็นพยานด้วยมั้ยครับ” ผมที่เกือบจะเซ็นอยู่แล้วเงยหน้าถามหน้าซื่อตาใส

“ถ้าน้องเจอยากให้ทำแบบนั้นก็...”

“คิดอีกทีไม่ต้องดีกว่า ผมเซ็นแล้วนะครับ คุณเก็บหนึ่งฉบับผมเก็บหนึ่งฉบับ ถ้ายังไงขอดูคิวงานของคุณด้วยนะครับ ผมจะเอาไปทำการบ้านเพื่อจะได้เตรียมตัวเป็นผู้จัดการในวันพรุ่งนี้”

นิฌานพูดอะไรไม่ออก ยอมส่งสมุดจดตารางให้ผมถ่ายรูปเก็บแต่โดยดี

“ถ้างั้นพรุ่งนี้...ตอนเก้าโมงเจอกันที่บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์นะครับ” เสร็จธุระ ผมก็หยิบกระเป๋าสะพายเตรียมกลับบ้าน แต่ไม่วายโดนพระเอกชื่อดังกระชากแขนรั้งอีกครั้ง

“น้องเจ”

“ครับ”

“เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำตัวว่าง่ายจะน่ารักกว่านะ”

ผมมองนิฌานที่หน้ายิ้มแต่ตาไม่ยิ้ม

“ที่พี่ให้เราปั่นหัวไม่ใช่ว่ายอมแต่เพราะไม่อยากขัดหรอกนะ”

“ผมรู้...” ดูจากดวงตาที่แฝงความขุ่นเคืองอย่างอดทนอดกลั้นก็รู้แล้ว นิฌานทำงานในวงการมานาน เรียกว่าเป็นผู้มากประสบการณ์ที่ไม่ว่าใครล้วนเกรงใจและนับถือไม่น้อย มาเจอผมพูดใส่ไม่ยั้งขนาดนี้ ไม่ไว้หน้าเขาขนาดนี้ ต่อให้จะพยายามถ้อยทีถ้อยอาศัยยังไงก็อดโมโหไม่ได้

นับว่าประสบความสำเร็จตามแผนเป๊ะ

เจอกันครั้งแรกเลยอยากทลายกำแพง ให้ถูกคืออยากรู้ว่าเขาจะทนใส่หน้ากากได้นานแค่ไหน สุดท้าย...ก็ไม่เห็นจะเก่งอย่างที่พี่จิเล่าสักนิด

ผมหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะยกมือข้างที่เป็นอิสระแตะแก้มเขาเบาๆ ด้วยแววตาประกาบวิบวับ

“แต่คุณแสดงออกตรงๆ แบบนี้น่ารักกว่าคล้อยตามผมเยอะเลยนะครับ...พี่ฌาน”


น่าแปลก เพราะครั้งนี้ผมแกะมือปลาหมึกของเขาได้ง่ายดายเกินคาด

ผมไม่เสียเวลาเงยมองนิฌานอีก เมื่อบรรลุจุดประสงค์ก็เดินออกจากห้อง เจอกับคมสันที่นั่งรออยู่พอดิบพอดี

“รอกลับพร้อมคุณจิมั้ยครับ”

“ไม่ละ ผมกลับรถเมล์สะดวกกว่า”

เรื่องอะไรจะไปเป็นก้างขวางคอพี่จิกับเสี่ยที่มีคนขับรถพากลับบ้านทุกวันกันล่ะ โดยเฉพาะเมื่อวันนี้พี่จิต้องค้างบ้านท่านประธานบริษัทด้วยแล้ว...

ผมยกมือไหว้คมสันเป็นการอำลา ก่อนจะเดินไปเรียกรถที่หน้าปากซอยพลางครุ่นคิดว่าจะเอาเงินค่าจ้างไปทำอะไรดี ฝากสลากออมสินดีมั้ยนะ หรือว่าจะลองซื้อหุ้นสักตัว เอ...แต่ผมต้องเผื่อถอนออกเวลาจ่ายค่าเทอมด้วย งั้นไปซื้อพันธบัตรระยะสั้นน่าจะสะดวกกว่า

แต่เดินออกจากบริษัทไม่ทันไรก็โดนกระชากแขนอีกแล้ว

ผมหมุนตัวลอดแขนตัวเองไปด้านหลังชายแปลกหน้า เปลี่ยนจากการโดนกระชากเป็นการกดไหล่อีกฝ่ายให้โน้มตัวลงในท่าบิดข้อมือชี้ฟ้า สร้างความเจ็บสะท้านทรวงไปถึงหัวไหล่ ลืมบอกไป...ว่าถึงผมจะไม่เข้ายิม ไม่ชอบออกกำลังกายฟิตหุ่นอย่างพี่ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทักษะอะไรติดตัวเลย

เพราะผมไปเรียกไอคิโด...ศิลปะการป้องกันตัวที่เน้นเคลื่อนไหวน้อยแต่มีประสิทธิภาพสูง

“โอ๊ย!”

พอเห็นว่าเป็นใครผมก็รีบปล่อยมือ กลัวไม่มีคนจ่ายเงินให้

“พี่ฌานวิ่งตามมาทำไมครับ” ผมถามเสียงเรียบขณะมองซ้ายมองขวาด้วยกลัวว่าจะมีคนจำได้ว่ามีดารามายืนร้องโอดโอยอยู่ข้างถนน ยังดี...ที่นิฌานปลอมตัวใส่ผ้าคาดปากพร้อมหมวกใบโตมาด้วย

“พี่ลืมขอเบอร์เรา” นิฌานพูดพลางยื่นโทรศัพท์มาให้ขณะหมุนไหล่แก้ปวด “จะได้ติดต่อกันพรุ่งนี้ไง”

ผมรับมากดเบอร์ตัวเองแล้วกดโทรออก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดตัดสายแล้วหันหน้าจอให้พระเอกชื่อดังดูว่าภารกิจการวิ่งล่าหาเบอร์นั้นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

“ความจริงขอจากคุณเลขาก็ได้นะ” ผมพึมพำเสียงเบาขณะเซฟชื่อในโทรศัพท์ว่า ‘พี่ฌานปลาไหลมือปลาหมึก’

“เซฟชื่ออะไรของเราน่ะ” นิฌานแอบชะโงกหน้ามามอง “ดูของพี่สิ ดีกว่าเยอะเลย”

ผมมองชื่อ ‘น้องเจที่ไม่น่ารัก’ แล้วนึกเสียใจที่เมื่อกี้ไม่บิดแขนเขาให้หนักกว่านี้

“น้องเจจะขึ้นรถเมล์เหรอ ให้พี่ขับรถไปส่งแทนมั้ยครับ”

“อีกยี่สิบนาทีพี่ฌานมีสัมภาษณ์ไม่ใช่เหรอครับ” ผมเอ่ยเสียงเรียบ จดจำตารางงานของเขาทั้งหมดได้แม่นยำแม้จะกวาดตามองเพียงครั้งเดียวตอนถ่ายเก็บข้อมูล “ผมเตือนด้วยความหวังดี ถ้าพูดแล้วทำไม่ได้ อย่าพูดจะดีกว่านะ”

นิฌานมองผมพร้อมรอยยิ้มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้...ตาเขาพลอยยิ้มไปด้วย

“นั่นสิเนอะ”

แถมไม่ยักจะโกรธเคืองเวลาโดนผมเหน็บแนมอีก หรือว่าตอนวิ่งมาเมื่อกี้เขาจะล้มหัวฟาดพื้น เสียสติไปแล้ว!?

“เดินทางปลอดภัยนะน้องเจ”

เสียงเรียก ‘น้องเจ’ ก็ชวนขนหัวลุกอย่างประหลาด

ผมลูบต้นแขนตัวเอง ก่อนจะรีบเดินไปที่ป้ายรถเมล์ไม่คิดจะหันไปมองพระเอกชื่อดังอีกเลย

 

---------------

มาแล้วค่ะกับฉากปะทะคารมระหว่างน้องเจกับนิฌาน ให้คะแนนกันคนละเท่าไหร่ดีคะ? แม้น้องเจเหมือนจะนำโด่งแต่ตอนท้ายนิฌานเหมือนจะตีตื้นนะ ตกหลุมกับดักเด็กจนหน้ากากแตกไปที ถึงกับวิ่งไล่ตามขอเบอร์กันเลยทีเดียว น้องเจระวังตัวเร็วเข้า!!! #justUnotUS


เพจนักเขียนที่พ่ายแพ้เวลาน้องเจเรียกจิตรินในใจว่าพี่จิคนดีของผม  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 02-03-2018 21:04:35
เจลูกทำไมหนู Perform ดีขนาดนี้เอาลุงฌานเกือบคายหลายช็อตไม่สิตายไปหลายช็อตแล้ว  :hao7: :laugh:
เอ็นดูน้องง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 02-03-2018 21:07:42
วู๊ววววว น้องเจจะปราบพ่อปลาไหลละเว้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-03-2018 21:17:08
ปะทะคารมกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันมากกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-03-2018 21:20:44
ชอบตอนน้องเจจะหักแขนลุง ฮา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 02-03-2018 21:49:44
น้องเจสุดยอดดดดด  นายเอกแบบที่ชอบมากกก  :m3:
นอกจากจะรับมือคุณคมสันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อแล้ว
ยังเอาพี่ฌานได้อยู่หมัดตั้งแต่วันแรกที่เจอเลย ปลื้มที่สุด
ท่าทางพี่ฌาน จะได้หลงรัก น้องเจที่ไม่น่ารัก ตั้งแต่แรกแล้วล่ะมั้ง555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-03-2018 22:14:50
เอาแล้วๆๆ ยกแรกแค่ชิมลางเบาๆก่อน...หึหึหึ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-03-2018 22:24:49
ชอบๆๆๆๆๆๆ เจแสบแต่หัววันเชียว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 02-03-2018 22:36:21
ในที่สุดเราก็เจอผู้แข็งแกร่งในเซ็ตนี้แล้วนั่นคือน้องเจนั่นเองๆๆ รับมือกับคุณคมสันก็ได้ ปะทะกับนิฌาณก็ไหว แล้วดูท่าพ่อปลาไหลจะหลงเสน่ห์น้องเจเข้าไปซะแล้วละเนี่ย น้องเจต้องระวังตัวน้าา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-03-2018 22:50:14
คู่นี้น่าจะสูสี ^^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-03-2018 23:03:08
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 02-03-2018 23:05:20
น้องเจชั่งแข็งแกร่งง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 02-03-2018 23:13:03
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 02-03-2018 23:23:07
ไงล่ะ ปลาไหลไปต่อไม่ถูกเลย 5555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 03-03-2018 00:55:21
คิดจะจีบน้องเจ พี่ฌานคิดถึงพี่จิคนดีแล้วรึยัง 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-03-2018 01:02:02
1:0 ให้คะแนนนำน้องเจ เพราะตอกกลับมาทันทีทันใด ส่วนพี่ฌาณกลับไปลับฝีปากมาใหม่นะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-03-2018 01:03:57
ทำไมหนูอ้อยเบอแรงงี้ละเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-03-2018 01:33:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-03-2018 01:53:26
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-03-2018 01:58:04
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 03-03-2018 02:26:59
โอยยยยย ชอบน้องเจมากๆค่าาาาาา

้ร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-03-2018 10:21:42
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-03-2018 15:07:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 03-03-2018 16:06:43
:hao7: :hao7: น้องเจจจจจ กร้าวใจสุดดด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 03-03-2018 20:53:27
สนุกๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-03-2018 18:38:46
คู่นี้ดูสูสีกันมาก ยกแรกน้องเจชนะขาด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-03-2018 22:47:35
มาส่งกำลังใจให้น้องเจค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-03-2018 02:09:56
น้องเจจจจจจ สุดยอดมาก รับมือได้ทั้งคุณเลขาและก็นิฌานเลย สุดยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 05-03-2018 16:39:04
มาให้กำลังใจจร้าาาาาา o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-03-2018 11:51:20
สมน้ำสมเนื้อ คู่สร้างคู่สม? :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌาน - P.2 -02/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 06-03-2018 14:07:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 : เบอร์ปริศนา -P.3-
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 06-03-2018 19:05:48




ตอนที่ 2 : เบอร์ปริศนา คู่กรณีมีถึงสอง!?

 

เก้าโมงตรง ผมยืนรออยู่หน้าเคาน์เตอร์ของบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ เมื่อไม่มีคุณเลขาพาเข้าไปเลยติดแหงกอยู่ที่ชั้นหนึ่งเพราะยังไม่มีบัตรพนักงาน

“น้องเจ!”

ไม่ทันโทรเรียก พี่ฌานปลาไหลมือปลาหมึกก็เดินออกจากลิฟต์ด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรทันที

“มานานรึยังครับ แล้วนี่...วันนี้ใส่แว่นด้วยเหรอ”

“ให้สมเป็นผู้จัดการไงครับ” ผมขยับแว่นเป็นคำตอบ เพราะมาทำงานวันนี้วันแรกเลยตัดสินใจสวมเสื้อยืดคลุมทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีกรมท่า ตอนแรกกะจะใส่เชิ้ตหรอกนะ แต่เด็กอายุสิบแปดปีที่ตัวเล็กอย่างผมเนี่ยใส่เชิ้ตมันดู...เกินวัยไปสักนิด แทนที่จะดูสุภาพกลายเป็นขัดตาซะงั้น เลยตัดสินใจแต่งให้สมวัย แล้วคว้าแว่นกรอบดำที่ตอนแรกตั้งใจซื้อให้พี่จิตอนปลอมตัวสมัยเขาเป็นดารามาใช้ พอสวมแล้วดูเนิร์ดขึ้นจม

“ต่างหูหายไปไหนหมดล่ะ” นิฌานแตะนิ้วกับใบหูของผมแผ่วเบา โชคดีที่แค่ชั่ววูบไม่งั้นได้เจอนายเจตรินมือไม้กระตุกแน่

“ถอดออกสิครับ” ผมมองเขาเหมือนถามอะไรโง่ๆ รับบทเป็นผู้จัดการดาราทั้งที ผมไม่อยากให้ภาพลักษณ์ออกมาดูเป็นเด็กมีปัญหา เกกมะเหรกเกเรหรอกนะ

“พี่ชอบเราเมื่อวานมากกว่า”

“เหรอครับ” ผมพยายามจะไม่กลอกตา เมื่อมีใบผ่านทางอย่างนิฌานแล้วก็เดินเข้าไปด้านในเตรียมทำหน้าที่เสียที

งานแรกในฐานะผู้จัดการดาราวันนี้ คือการมาเฝ้านิฌานถ่ายโฆษณาน้ำหอม

เพราะบทพระเอกในภาพยนตร์เรื่อง Love After Death ทำให้ภาพลักษณ์ของนิฌานกลายเป็นผู้ชายอบอุ่นที่พร้อมจะดูแลคนรักจากใจจริงอย่างไร้ข้อแม้ แม้จะเป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิง แต่กลับถูกว่าจ้างให้มาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยรายละเอียดโฆษณาจะเกี่ยวกับสามีที่เลือกซื้อน้ำหอมไปเป็นของขวัญให้ภรรยานั่นเอง

แม้พี่จิจะเคยเป็นสตั้นท์แมนเก่าที่ผันตัวมาเป็นดาราช่วงหนึ่ง ก่อนจะจบลงด้วยการเป็นนักเขียนบท แต่ผมซึ่งเป็นน้องชายไม่เคยเข้ามาในกองถ่ายมาก่อนเลย เมื่อเป็นครั้งแรกไม่ว่าอะไรก็ดูใหม่ไปหมด ผมระงับความตื่นเต้น ยกมือไหว้ทักทายทีมงานอย่างมีมารยาท

“เด็กคนนี้คือใครเหรอคะพี่ฌาน”

ทีมงานคนหนึ่งเดินเข้ามาหาดาราหนุ่มอย่างสนิทสนม...นิฌานเป็นที่ชื่นชอบสำหรับต่างเพศมากทีเดียว เท่าที่ดูจากการแต่งตัวที่ค่อนข้างเน้นรูปร่างและป้ายพนักงาน ผมว่าเธอน่าจะเป็นสไตลิสต์ประจำบริษัท ถึงได้มองนิฌานอย่างหลงใหลได้ปลื้ม อีกนิดแทบจะกลืนกิน

สงสัยไอ้ความเจ้าชู้นั่นจะไม่ใช่แค่กับดาราด้วยกัน แต่เผื่อแผ่ไปถึงทีมงานเบื้องหลังด้วย...

“ผู้จัดการคนใหม่ของพี่เอง เรียกว่าน้องเจก็ได้นะ”

“เจตริน ทองคำดีครับ” ผมแนะนำตัวอย่างเป็นการเป็นงาน ก่อนจะยื่นนามบัตรที่เพิ่งทำสดๆ ร้อนๆ เมื่อเย็นวานยื่นให้ทีมงานตรงหน้า “ผมรับงานเป็นผู้จัดการให้คุณนิฌานสามเดือน ระหว่างนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

“ต๊าย น่าเอ็นดู” อีกฝ่ายรับนามบัตรผมไปถือพร้อมมองมาด้วยสายตาเป็นประกาย

“อย่าเชียวนะ นี่เด็กพี่” นิฌานกอดคอผมพร้อมเอ่ยกึ่งอวด เพื่อไม่ให้ดาราใต้ความดูแลต้องเสียหน้า ผมเลยพยายามอดทนนับหนึ่งถึงสิบในใจ

“เดี๋ยวนี้พี่ฌานหันไปกินเด็กแทนแล้วเหรอ ระวังติดคุกนะคะ” สไตลิสต์สาวเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอด

“น้องเจสิบแปดแล้ว” 

“ต่อให้สิบแปด แต่การกระทำชำเราเด็กโดยไม่ยินยอมก็ติดคุกครับ” ผมเอ่ยแทรกเบาๆ

“แหม มีอารมณ์ขันซะด้วย” หญิงสาวป้องปากหัวเราะคิกคัก แต่ไม่วายเหลือบสายตามองนิฌานอย่างสื่อความนัย “ไปเปลี่ยนเสื้อด้วยกันมั้ยคะสุดหล่อ”

“จุ๊ๆ อย่าพูดอะไรไม่ดีต่อหน้าเด็กอายุสิบแปดสิ” นิฌานขยิบตาอย่างทีเล่นทีจริง ถ้าคนอื่นมาได้ยินคงคิดว่าเป็นการล้อเล่นขำขัน แต่ผมคิดว่าพวกเขาสองคนต้องมีเหตุการณ์เปลี่ยนเสื้อฉบับสิบแปดบวกมาก่อนแน่นอน “มาเถอะน้องเจ พี่จะพาเราทัวร์กอง!”

นิฌานกอดคอผมพาเดินรอบสตูดิโอเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักหน้าของผู้จัดการคนใหม่ ผมเองก็ไม่อิดออด เพราะเกรงว่าถ้าเริ่มทำงานขึ้นมา อาจจะโดนไล่ออกจากห้องเพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กหลง

“เจตริน ทองคำดี ผู้จัดการคนใหม่ของนิฌานครับ ผมจะทำงานนี้สามเดือน ระหว่างนี้ถ้ามีอะไรสามารถติดต่อผมได้ทุกเมื่อนะครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ”

“ฝึกงานเหรอเรา” ผู้กำกับที่ค่อนข้างมีอายุ หรือเผลอๆ จะอายุเท่าพ่อผมมองอย่างชื่นชมที่เด็กสมัยนี้รู้จักหาประสบการณ์ “ทำงานกับนิฌานก็ต้องตั้งใจหน่อยล่ะ เพราะรายนี้น่ะ...เยอะ!”

“อะไรเยอะครับ” นิฌานหัวเราะเสียงใส ราวเป็นคนดีที่ถูกใส่ความ

“กิ๊กเยอะไง! คนเก่าๆ เลิกไปหมดรึยังล่ะ” ไม่พูดเปล่า ผู้กำกับยังปรายตาไปยังสไตลิสต์สาวที่ยืนรออยู่หน้าห้องเปลี่ยนเสื้อซะด้วยสิ

“ความหลังก็ให้เป็นความหลังเถอะครับ” นิฌานพูดก่อนจะก้มมากระซิบข้างหูผม “แต่ปัจจุบันพี่จะดูแลน้องเจอย่างดีเลย”

ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ผมค่อยๆ หยิบแขนนิฌานออกจากบ่า เพราะไม่จำเป็นต้องพึ่งเขาให้ช่วยพาลากทำความรู้จักรอบกองอีกต่อไปในเมื่อผู้กำกับคือคนสุดท้ายในที่นี้ที่ได้นามบัตรผม

“ดูผู้จัดการคนใหม่สิผมสิ รังเกียจกันซะด้วย” นิฌานหันไปฟ้องผู้กำกับ “เอาเถอะ ได้เวลาเปลี่ยนเสื้อแล้ว มาครับน้องเจ มาเปิดหูเปิดตากัน”

“พี่ฌานก็ไปเปิดหูเปิดตากับเธอสิครับ” แน่นอนว่าผมหมายถึงสไตลิสต์สาวนั่นเอง

“คิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย พี่ไม่เคยทำอะไรๆ กับเธอสักหน่อย สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือเลย”

“พี่ไม่ได้เป็นลูกเสือมาตั้งหลายปี เกียรติอะไรนั่นน่าจะระเหือดหายไปหมดแล้วนะ”

“พี่ชอบเราตรงที่รู้ทันเนี่ยล่ะ!”

นิฌานตบไหล่ผมดังป้าบ ดูอารมณ์ดีอย่างประหลาด ก่อนจะจับแขนลากผ่านหน้าสไตลิสต์ที่ยืนรอเก้อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับถ่ายโฆษณา

“จะพาผมมาทำไม พี่ก็เปลี่ยนของพี่ไปสิ” ผมโวยวายเมื่อถูกลากเข้ามาในห้องส่วนตัวเล็กแคบ ก่อนหน้านี้ไม่กล้าขัดขืนมาก...เพิ่งเข้ากองวันแรกจะไปมีเรื่องตื้บดาราภายใต้การดูแลของตัวเองต่อหน้าทีมงานได้ยังไง มีแต่อยู่กันสองต่อสองนั่นแหละผมถึงจะกล้าขึ้นเสียงใส่

“ช่วยถือเสื้อให้พี่หน่อย” นิฌานไม่ตอบแต่ถอดเสื้อส่งให้ผม ที่แขวนก็มีแต่ดันเรียกใช้ผู้จัดการประหนึ่งราวแขวนผ้า ผมรับเสื้อมาถืออย่างปลงตก ตามด้วยเข็มขัด และกางเกง...

“ชอบมั้ย”

ยัง ยังมีหน้ามาถามอีก ผมมองคนที่เหลือแต่บ็อกเซอร์ลายการ์ตูนด้วยความเพลียใจ บอกเลยว่าหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มตรงหน้าไม่สะทกสะท้านจิตใจด้านชาที่ถูกทารุณจากหุ่นล่ำบึกของพี่ชายในอดีตแม้แต่น้อย ทำแบบนี้เพื่ออะไร ตั้งใจโปรยเสน่ห์? กะให้ผมหวั่นไหว?

พลาดซะแล้วนิฌาน เพราะตอนนี้ผมมองเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์สุดขีดจนชวนเสียเซลฟ์

“มองหุ่นทำไม พี่หมายถึงกางเกงใน” นิฌานแก้คำทันที

“ผมไม่ใช่เด็กชอบดูการ์ตูนนะครับ”

“ว้า พี่อุตส่าห์ใส่มาอวดเรา” นิฌานพูดอย่างเสียดายสุดแสน ไม่วายคาดหวังปฏิกิริยาจากผมมากกว่านี้ แน่ล่ะ...จงใจทำทีเป็นเปลือยกายใช้กลยุทธ์ชายงาม แล้วเบรกอารมณ์ด้วยกางเกงในลายการ์ตูนเพื่อให้ดูขำขันป้องกันความกระดากอายไม่ให้รุกไล่เกินจริง นับว่าเขาวางหมากมาอย่างดิบดีตามประสาผู้ช่ำชองในการศึก

ผมขี้เกียจเปิดโปงเจตนาไม่บริสุทธิ์ของเขา เลยพับผ้าใส่ไม้แขวนให้เรียบร้อยเป็นการตัดบท

นิฌานเองก็หยิบเสื้อที่ทางทีมงานเตรียมไว้สวมใส่ไม่ยักจะพูดอะไรอีก แต่เชื่อสิว่าไม่ยอมหยุดง่ายๆ แค่นี้แน่...

“น้องเจผูกเนกไทให้พี่หน่อย”

นั่นปะไร...เงียบได้ไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ

“มือเป็นง่อยกะทันหันเหรอครับ”

“ไม่ได้เป็นง่อย แต่หมดเรี่ยวหมดแรงกะทันหันอยากสำออยใส่น้องเจ”

งวดนี้เล่นใหญ่จนผมถึงกับพูดไม่ออก ก่อนจะมองเนกไทอย่างครุ่นคิดว่าหากพลั้งมือรัดคอคนตรงหน้าตายไปจะต้องติดคุกกี่ปีกันนะ

“อย่าเพิ่งคิดฆาตกรรมพี่ครับ พี่ล้อเล่น” นิฌานรีบคว้าเนกไทมาผูกเองทันควัน ข้อดีของเขาที่พี่จิเคยบอกคือคนคนนี้มักรู้จังหวะในการเข้าใกล้และผละห่าง บางครั้งเหมือนจะถูกคุกคาม แต่บางทีก็เหมือนไม่ตั้งใจ เพราะอย่างนี้ถึงมีคนตกบ่วงหลายครั้ง

“ผมว่าผมพูดชัดตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะว่าถ้าพี่ฌานคิดจะลองจีบผมเล่นๆ รบกวนลบออกจากสมองด้วย”

โดนหยอดติดกันขนาดนี้ผมชักแกล้งบื้อไม่ไหว

“พี่ไม่ได้จีบ”

นี่เขาคิดว่าผมไอคิวติดลบสองรึไง

“พี่ไม่ได้จีบจริงๆ แต่มันเป็นนิสัยพี่ ถ้าน้องเจไม่คิดอะไร ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาตรงไหนนี่ครับ” ช่างเป็นคำตอบแถแบบขอไปทีสมฉายาปลาไหล

“งั้นผมขอเรียกค่าจ้างสำหรับรักษาสุขภาพจิตเพิ่ม”

“เรียกเพิ่มพี่ไม่เกี่ยง แต่เปลี่ยนจากค่าจ้างเป็นเลี้ยงอาหารน้องเจจะดีกว่านะ”

ผมกลอกตา นึกอยากโทรสายด่วน 1323 ปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต

เปล่า ไม่ได้จะโทรเล่าเรื่องตัวเอง แต่จะต่อสายส่งให้นิฌานนั่นแหละ!

 




หลังส่งนิฌานเข้าฉากสำเร็จ ผมก็รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่เวลาผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมงนับจากมาเหยียบที่บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์...เพิ่งจะเริ่มงานแท้ๆ นะไอ้เจ อย่าเพิ่งท้อสิวะ!

ผมตบแก้มตัวเองเรียกกำลังใจ ก่อนจะถือกระเป๋านิฌานไปหามุมนั่งอยู่ริมสตูดิโอเพราะกลัวเกะกะทีมงานคนอื่นที่เริ่มเช็กสถานที่ถ่ายทำอย่างเคร่งเครียดระหว่างรอนิฌานซ้อมบทสำหรับเตรียมถ่ายทำจริง

พลันรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนกะทันหัน

แผ่นดินไหว? ไม่ใช่! โทรศัพท์ของนิฌานต่างหาก!!

ผมลังเลเล็กน้อยว่าควรจะรับดีมั้ย จะถือเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวที่ตกลงกันในสัญญาหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องงานขึ้นมาล่ะ ตั้งแต่มาถึงที่นี่ผมก็แนะนำตัวแล้วช่วยนิฌานเปลี่ยนชุด ไม่นับว่าทำงานเป็นชิ้นเป็นอันนัก เลยแอบพนันกับตัวเองในใจว่าถ้านับหนึ่งถึงห้าแล้วยังไม่วางสาย ผมจะถือวิสาสะรับแทนเอง

หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ห้า

ยังไม่วางแฮะ คนโทรเข้าสงสัยจะมีเรื่องด่วน ขอรับแล้วกันนะไอ้พี่ฌาน!

“สวัสดีครับ ผมเจตริน ผู้จัดการของคุณนิฌานพูดสายครับ”

(( ผู้จัดการ? นิฌานมีผู้จัดการตั้งแต่เมื่อไหร่!? ))

เสียงปลายสายค่อนข้างมีอายุ ตัดเรื่องกิ๊กไปได้เว้นแต่นิฌานจะมีรสนิยมชอบคนสูงวัย แต่จะบอกว่าเป็นเรื่องงาน...ก็ไม่ถูกต้อง เพราะคงไม่มีตัวแทนจากบริษัทไหนถามผู้จัดการดาราด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮากเหมือนอยากถลกหนังหัวผ่านโทรศัพท์ขนาดนี้

ผมนึกถึง ‘คนใกล้ตัวที่หวังผลประโยชน์’ อันเป็นปัญหาทันควัน

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ” ผมตอบเสียงเรียบ ในเมื่อไม่ใช่กิ๊กและไม่ใช่งาน งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจมากนัก “ไม่ทราบว่ามีธุระสำคัญรึเปล่าครับ เพราะตอนนี้คุณนิฌานกำลังติดถ่ายโฆษณา ถ้ายังไง...ผมจะให้เขาติดต่อกลับ”

(( ไหนบอกชื่อเธอให้มันชัดๆ อีกครั้งสิ ))

“เจตริน ทองคำดีครับ”

(( มาเป็นผู้จัดการของนิฌานได้ยังไง ))

“คุณคมสันเป็นคนทาบทามครับ”

ปลายสายเงียบไปอึดใจหนึ่ง พร้อมเสียงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความโฉดชั่ว เอ๊ย ความเก่งกล้าสามารถของเลขาประจำตัวท่านประธานแห่งบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์นั้นทรงอานุภาพกระทั่งหญิงวัยกลางคนยังยอมแพ้ไม่กล้าซักไซ้

“ให้ผมช่วยติดต่อคุณคมสันเกี่ยวกับรายละเอียดการว่าจ้างมั้ยครับ” ผมแสร้งถามเสียงเรียบ จงใจให้อีกฝ่ายรีบๆ วางสายไปด้วยความหวาดกลัวระคนผวา

(( ไม่ๆๆ ไม่ต้องรบกวนเขาหรอก ถ้านิฌานเสร็จงานแล้วให้โทรมาด้วยแล้วกัน ))

“ครับ”

ผมมองโทรศัพท์ในมือที่ถูกตัดสายไปแล้วด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ!

“น้องเจ”

ก่อนจะหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อนิฌานเอ่ยเรียกพร้อมเดินเข้าใกล้ด้วยสีหน้าชื่นมื่น

“เห็นที่พี่ฌานซ้อมแสดงเมื่อกี้มั้ยครับ พี่เก่งมั้ย”

“เสียใจด้วย ผมไม่ได้ดู” พูดพลางส่งโทรศัพท์ให้เขา “เมื่อกี้มีผู้หญิงวัยกลางคนโทรมา สอบถามเรื่องผมนิดหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผมตอบตามที่เราตกลงกันไว้ไม่บิดพลิ้ว”

“พี่ไว้ใจน้องเจอยู่แล้ว” นิฌานเผยแววตาวูบไหววูบหนึ่งเมื่อเห็นเบอร์ปลายสาย “เก็บโทรศัพท์ก่อนเถอะ ไว้เสร็จงานค่อยโทรไป”

แล้วนิฌานก็ทิ้งตัวนั่งข้างผม

“ผู้กำกับล่ะครับ” เพิ่งมาสังเกตเอาก็ตอนนี้ว่าผู้กำกับหายไป ถึงว่าดาราหนุ่มมานั่งว่างเกาะติดกับผมเป็นตังเม

“เข้าห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวจะเริ่มถ่ายทำจริงแล้ว” นิฌานพูดพลางมองผมด้วยแววตาประกายระยับ “คราวนี้น้องเจตั้งใจมองพี่ดีๆ ด้วยล่ะ”

ผมลุกเนียนๆ เดินเนียนๆ ไปหยิบน้ำฟรีประจำกองมาให้นิฌานอย่างเอาใจใส่ ซะที่ไหน...แค่ถือโอกาสปลีกตัว เปลี่ยนมายืนกอดอยู่ข้างเก้าอี้ไม่ให้คนตัวโตนั่งเบียดต่างหาก

“ขอบคุณครับน้องเจ” นิฌานรับน้ำไปถือพลางมองผมด้วยรอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ยอมหยุด ขนาดผมก้มหน้าจ้องพื้นไม่สนใจยังรู้สึกถึงพลังงานชวนขนหัวลุกจากสายตาเขาเลย ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ

“ผู้กำกับมาแล้ว เงยหน้าเถอะ”

ผมเงยหน้า ทันเห็นแผ่นหลังนิฌานเดินเข้าฉากพอดี...ค่อยยังชั่ว ถ้าเจอสายตากรุ้มกริ่มจ้องทะลุกระดูกนั่นอีกผมต้องยั้งมือไม่ไหวต่อยหน้าเขาแน่ๆ นับว่าอีกฝ่ายกลับตัวทัน หรือไม่ก็พอเดาอารมณ์ผมได้ถึงรีบชิ่งซะก่อน

เดี๋ยวหยอก เดี๋ยวหยุด เดี๋ยวรุก เดี๋ยวหนี

ผมมองแผ่นหลังนั้นอย่างประเมินจนเผลอเคาะนิ้วกับต้นแขนโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เสียงโทรศัพท์สั่นจะดังขึ้นอีกครั้ง หลังนับหนึ่งถึงห้ายังไม่วางผมก็กดรับอีกตามเคย แต่ไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนแทรกขึ้นมาก่อน

(( นิ...ฌาน...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ))

ผมยืนนิ่ง ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะมีสติดูหน้าจอโทรศัพท์ที่กดวางไปแล้วด้วยความสยดสยอง

น้ำเสียงครางกระเส่ากึ่งโหยหวนต่อท้ายด้วยพลังทำลายล้างจนหูชานั้นต้องไม่ใช่เรื่องงาน ไม่ใช่คู่อริเจ้าเก่าเจ้าเดิม และไม่ใช่กิ๊กอย่างแน่นอน

ไม่สิ...อาจจะเป็นกิ๊กที่ถูกทิ้ง?

แต่นิฌานปลาไหลตัวพ่อขนาดนั้น ต้องมีวิธีพูดกล่อมดีๆ ให้ยอมรับได้อยู่แล้ว จะมีใครพยาบาทอาฆาตขนาดโทรมากรี๊ดใส่กันเลยเหรอ ผมนึกออกอย่างเดียวคือพวกแอนตี้แฟน แต่...แอนตี้แฟนขั้นไหนกันถึงมีเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวดาราด้วย!?

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ผมตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋านิฌานอย่างสงบ

ก่อนจะหลับตานั่งสมาธิ ขอให้ธรรมะช่วยขจัดภัยพาลแก่ลูกด้วยเทอญ โอม...

 

----------------

น้องเจผู้เจออะไรก็ไม่หวั่น เจอคนกรี๊ดใส่ทีถึงกับนั่งสมาธิ 5555

ครอบครัวทองคำดีนั้นค่อนข้างธรรมะธรรมโม เจเองถึงจะรับมือกับผู้ไม่หวังดีมาเยอะแต่ไม่เคยเจอเคสโรคจิตอย่างนี้เลยไปไม่เป็นเหมือนกัน มาเอาใจช่วยน้องกันด้วยนะคะ ตอนนี้โดนหยอกโดนแหย่ไปซะเยอะ แต่ยังปลอดภัยดีครบสามสิบสอง!!!



 

#JustUnotUs

เพจนักเขียนที่ส่งพลังใจปลอบขวัญน้องเจ  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 06-03-2018 19:28:20
 o13 รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-03-2018 19:29:34
 :a5: หมดแล้วเหรอ ยังไม่หมดวานเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-03-2018 19:44:35
สู้ๆนะน้องเจ เป็นน้องชายจิตรินได้ก็น่าจะสู้ได้ทุกอย่างแล้วล่ะ 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 06-03-2018 19:59:11
น้องเจสู้เขานะ ก้าวเข้าไปในบริษัทนี้ ต้องสตรองเท่านั้น 5555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 06-03-2018 20:07:22
เหนื่อยแทนน้องเจที่ต้องรับมือกับพี่ปลาไหล
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: wnkth ที่ 06-03-2018 20:15:22
กำลังสนุกเลยครับ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-03-2018 20:30:10
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-03-2018 21:45:37
น้องเจสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-03-2018 22:01:33
ละเหี่ย  เพลียใจ นิฌานจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-03-2018 22:09:51
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 07-03-2018 00:03:20
น้องเจ สู้เค้าลูก!!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-03-2018 00:46:27
                     แค่ไม่กี่ตอนฉันก็หลงรักตัวละครซะละไรต์นี่แก่งจริงๆทำกระเป๋าตังค์ฉันสั่นระดับ10อีกละ..อิอิ
                                                             :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-03-2018 01:10:40
แค่ 2 รายจิ๊บ ๆ เอง สู้เข้าไว้น้องเจ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 07-03-2018 01:24:33
เห็นแล้วเหนื่อยแทน สู้ๆเขานะน้องเจจจจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-03-2018 07:02:59
น่องเจต้องสู้นะคะ!! อิพี่ฌานนางไม่ยอมหยุดจีบแน่นอน
แถมยังทีคู่กรณีเยอะอีกต่างหาก =_=
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ygff0429 ที่ 07-03-2018 12:33:10
รออออออออออ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-03-2018 19:30:57
น้องเจสู้ๆนะลูก ฝ่ายธรรมะอย่างเราต้องเอาชนะฝ่ายอธรรมให้ได้  :a2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-03-2018 23:27:21
น้องเจกรวดน้ำให้สัมภเวสีด้วยนะ :laugh: สู้ๆนะลูกเพิ่งวันแรกก็เอาธรรมะเข้าข่มซะแล้ว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 08-03-2018 14:58:33
รอติดตามนะคะ หลงรักตัวละครเข้าแล้วว :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 - P.3 - [UP! : 06/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 09-03-2018 20:19:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 -
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 10-03-2018 20:02:36


ตอนที่ 3 : แอนแอนคือใคร ใครคือแอนแอน

 

สรุปแล้วงานวันนั้นผมก็ไม่ได้ดูฝีมือของนักแสดงมากประสบการณ์เพราะมัวแต่นั่งสมาธิจนเผลอสัปหงก รู้ตัวอีกทีก็ตอนนิฌานนั่งจ้องผมด้วยรอยยิ้มขำขัน แอบถ่ายรูปแบลกเมล์หลายสิบรูป

“พี่ไม่ได้แบลกเมล์สักหน่อย พี่จะเก็บไว้ดูเองต่างหาก”

ผมไม่เชื่อ! โลกนี้น่ากลัวและโหดร้าย ในฐานะคนปกติของครอบครัวทองคำดี ผมจำต้องระวังภัยทุกสิ่งอย่างไม่เว้นกระทั่งขู่ขวัญเอาเปรียบ นับว่าวันนี้ผมพลาดแล้ว...พลาดที่เมื่อคืนนอนน้อยเพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับการทำงานเป็นผู้จัดการวันแรก!

ถึงผมจะไม่โด่งดัง โดนถ่ายรูปประจานก็ไม่เสียหายเท่าดารา แต่ถ้าเกิดนิฌานเอาไปใส่สีตีไข่ว่าน้องชายของจิตริน ทองคำดี แฟนหนุ่มของท่านประธานใช้เส้นสายรับตำแหน่งผู้จัดการแต่แอบมางีบในกองสร้างความเสียหายถึงครอบครัวจะทำยังไง! ไม่ได้ ผมต้องปกป้องทุกคน!!

“เอาน่า พี่พามาเลี้ยงปลอบใจแล้วไง อารมณ์ดีนะครับ”

“ผมไม่ใช่เด็ก”

“ครับๆ”

“พี่ฌานสัญญาจะเลี้ยงอยู่แล้ว ฉะนั้นนี่ไม่ใช่เลี้ยงปลอบใจด้วย”

“ครับๆ น้องเจพูดอะไรพี่ก็ว่าตาม ดูสิ หน้าบึ้งตลอดเลย คิดอะไรอยู่น่ะเรา หรือคิดว่าพี่จะเอารูปไปสร้างเรื่องโยงถึงพี่ชายให้เสียหายกันหืม”

ผมหรี่ตา นั่นไง...นิฌานคิดจริงๆ ด้วย!

“น้องเจครับ พี่ยังอยากทำงานกับเรานะ และพี่ยังอยากทำงานกับบริษัทนี้ เอารูปน้องไปโยงหาจิตริน หาท่านประธาน...เกิดเลขาคมสันรู้ขึ้นมา...พี่ยังอยากมีชีวิตอยู่นะครับ”

ได้ยินแบบนี้ผมค่อยวางใจ ยอมกินหมูที่นิฌานคีบให้อย่างว่าง่ายด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่งโล่งสบาย มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ครอบครัวทองคำดีนั้นมีความระวังภัยต่ำมาก ผมเลยติดเป็นนิสัย เวลาพลาดท่าอะไรเข้าหน่อยก็พลอยโยงไปหมดว่าจะส่งผลกระทบกระเทือนถึงคนอื่นๆ ยังไงบ้าง

“น้องเจเลือกกินนะเนี่ย”

เขาอยากเปลี่ยนเรื่องไม่ว่า แต่เปลี่ยนมาเป็นเรื่องนี้กะยั่วให้ผมโกรธขึ้นมาอีกเหรอ

มองจานที่ผักถูกเขี่ยชิดริมขอบของตัวเองแล้วผมก็คีบเนื้อในหม้อต้มอย่างไม่รู้ไม่ชี้ วันนี้นิฌานปลอมตัวง่ายๆ โดยการแย่งแว่นเด็กเนิร์ดผมไปสวมพลางขยี้ผมให้ยุ่งกระเซิงไม่เป็นทรง ใส่แล้วดูเหมือนคนหน้าหล่อที่โรคจิตพ่วงเสียสติ ในร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างควันโขมง

ใช่ครับ เขาพาผมมาเลี้ยงบุฟเฟต์ปิ้งย่างเพราะนึกเมนูเอาใจเด็กกำลังโตไม่ออก นั่นก็ไม่ชอบ นี่ก็ไม่เอา เลยพามากินบุฟเฟต์ซะเลยจะได้ตัดปัญหา

“ผักก็ไม่กิน แครอทก็ไม่กิน มิน่าล่ะ...”

จะบอกว่าทำไมผมถึงตัวเล็กกว่าพี่ชายสินะ ผมชินแล้ว เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา...ผมก็เขี่ยสารพัดผักใส่จานพี่จิมาตลอด พี่ชายถึงได้สุขภาพแข็งแรงไม่เคยป่วยสักครั้งเดียว

“เคี้ยวตุ่ยๆ น่ารักจัง”

ผมถึงกับทำตะเกียบหลุดมือ

“ขนลุกเหรอน้องเจ โธ่ พี่ล้อเล่น” นิฌานหัวเราะร่วนแก้สถานการณ์ ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานเพื่อขอตะเกียบใหม่ ยังดีที่หลังจากนั้นไม่โดนแทะเล็มน่าสยองอีก คาดว่าหน้าผมเริ่มรับไม่ได้เต็มทน นิฌานเลยยอมเก็บปากสงบคำ แม้หลังจากนั้นจะคอยบริการดีสมเป็นเจ้าชู้ตัวพ่อ ผมทำน้ำจิ้มเลอะนิ้วแค่วินาทีเดียวเขาก็ส่งกระดาษทิชชูให้แล้ว คอยเติมน้ำทันทีที่เหลือเศษหนึ่งส่วนสาม ช่วยเดินไปตักของกินที่ผมชอบให้โดยที่ตัวเองนั่งกินผักเพื่อสุขภาพ ปิ้งแล้วก็ใส่จานแยกให้อย่างดี สรุปแล้วผมไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากคีบเนื้อใส่ปาก

บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี เหมือนคุณหนูที่มีคนรับใช้ช่วยบริการ จนกระทั่งนิฌานหยิบโทรศัพท์ที่สั่นครืดคราดขึ้นมาดูเบอร์หน้าจอพร้อมขมวดคิ้ว

ผมลุ้นหนักมากว่าจะเป็นแอนตี้แฟนคนนั้นรึเปล่า

แต่นิฌานกดตัดสายก่อนจะเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง

...อดเห็นเรื่องน่าสนุกเลยปัดโธ่! ผมอยากรู้ชะมัดว่าเขาจะจัดการกับเสียงกรี๊ดปริศนานั้นยังไง

“วันนี้น้องเจได้เจอกับ ‘แอนแอน’ แล้วใช่มั้ย”

“แอนแอน?”

“ก็สายที่สองที่น้องเจรับวันนี้ไงครับ พี่เห็นในประวัติโทรศัพท์ เจอเบอร์คุ้นเคยที่มีคนรับไปแล้ว เป็นไงครับ แอนแอนของพี่เสียงเพราะมั้ย”

“อย่าบอกนะว่าแอนแอนมาจากแอนตี้แฟน”

“น่ารักดีใช่มั้ยล่ะ เวลายุ่งๆ พี่จะกดตัดสาย แต่เวลาเหงาๆ ก็จะกดฟังเล่นๆ สนุกดี”

เขาเห็นแอนตี้แฟนเป็นของเล่นฆ่าเวลาไปแล้วเหรอ!?

“ทำไมพี่ไม่แจ้งความล่ะ”

“มีผู้หญิงให้ความรักขนาดโทรหาด้วยความคิดถึงบ่อยขนาดนี้ จะปฏิเสธลงได้ยังไง” นิฌานขยิบตา ส่วนผมวางตะเกียบ รู้สึกไม่อยากอาหารขึ้นมาซะดื้อๆ...

“อิ่มแล้วเหรอครับน้องเจ งั้นคิดเงินเลยนะ” นิฌานเรียกพนักงาน แถมยังให้แบงค์ใหญ่สีเทาอย่างใจป้ำพร้อมลุกจากโต๊ะทันที ผมมองเขาด้วยจิตใจเป็นอกุศล ไม่ได้คิดในแง่ชู้สาว แต่กำลังคิดว่าจะรอเงินทอนแทนคนใจป๋าดีมั้ย...

สุดท้ายความโลภก็เข้าครอบงำ นิฌานที่เดินเก๊กหล่อไปถึงหน้าร้านเพิ่งมีแก่ใจหันมามองผมเก็บเงินทอนเข้ากระเป๋าตัวเองพอดี

ตั้งร้อยกว่าบาท เอาไปซื้อข้าวกินได้ตั้งสามมื้อเชียวนะ!!

นิฌานมองผมด้วยสายตากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะชมในความงกก็ไม่ใช่ จะทักในความเค็มก็ไม่เชิง

“งั้นลาล่ะครับ” ผมยกมือไหว้ เตรียมตัวแยกย้ายทางใครทางมันสักที

“อ้าว น้องเจไม่กลับกับพี่เหรอ” นิฌานกระชากแขนผมอย่างนิ่มนวล เขามือไวมาก ขนาดผมระวังตัวแล้วยังหลบไม่พ้น แถมยังกึ่งลากกึ่งจูงด้วยสีหน้าพ่อพระไปที่รถอีกต่างหาก

“ผมกลับรถเมล์เองได้” ผมที่เดินเซแท่ดๆ ประท้วง ตั้งใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อไหร่พร้อมจะบิดข้อมือคนตัวโตกว่าให้ร้องจ๊ากไปเลย

“มันอันตราย”

“ไม่อันตรายไปกว่าพี่ฌานหรอก”

คนโดนว่าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มเซ่อแกล้งทำเป็นไม่รู้ความ

“อยู่กับพี่จะอันตรายได้ยังไง น้องเจก็พูดไปเรื่อย แต่เอาเถอะ พี่ไปส่งป้ายรถเมล์ใกล้ๆ แล้วกัน”

มองทางเปลี่ยวแสงไฟสลัวตามทางข้างหน้าแล้วเห็นแก่ความสะดวกตัวเองเลยยอมพยักหน้ารับ เพราะร้านปิ้งย่างนั้นเป็นร้านในซอยที่ดัดแปลงมาจากบ้าน ไม่ใช่ในห้างดังป้องกันการถูกจับผิด แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ...

“เลยป้ายรถเมล์แล้วนะพี่”

“ก็จะไปส่งใกล้ๆ ไง”

“แล้วนี่ไม่ใกล้ตรงไหน”

“พี่หมายถึงใกล้บ้านเรา ไม่ใช่ใกล้ร้านปิ้งย่างสักหน่อย”

ด้วยความสงสัยจุกอก ผมเลยได้แต่มองเขาตาปริบๆ ดูนิฌานที่ขับผ่านรถเมล์ป้ายแล้วป้ายเล่า ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ป้ายหน้าปากซอยใกล้บ้านผมที่ใช้เวลาเดินแค่สิบห้านาที

ใกล้...ใกล้จริงๆ ด้วย ใกล้จนไม่ต้องรอรถเมล์แล้ว!

“อีกนิดก็จะถึงบ้านเราอยู่แล้ว งั้นพี่ไปส่งเลยแล้วกัน”

“ไม่ต้อง! ผมลงตรงนี้แหละ” ผมรีบเปิดประตูลงจากรถทันที ไม่วายเหลือบมองนิฌานที่โบกมืออำลาหน้าระรื่นด้วยความรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม...เขารู้จักที่อยู่บ้านผมได้ยังไง!!

ในนามบัตรไม่ได้เขียนเอาไว้ ประวัติการฝึกงานผมก็ไม่ได้กรอก คิดไปคิดมาก็มีแต่ประวัติภายในของบริษัท เพราะจิตริน ทองคำดีเป็นนักเขียนบทมือฉมัง ถ้าแอบดูข้อมูลพนักงานน่าจะหาเจอง่ายๆ

“เดินดีๆ นะครับน้องเจ แล้วพรุ่งนี้พี่จะมารับตอนเจ็ดโมงครึ่ง”

ผมคงเป็นผู้จัดการดาราที่ได้รับอภิสิทธ์มาก มีดาราใต้ความดูแลขับรถรับส่งถึงที่

แต่โทษที ผมเดินดุ่มๆ ไม่สนใจ อย่าหวังเลยว่าพรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงครึ่งจะเจอกัน คอยดูเถอะ จะรีบออกจากบ้านตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเลย!

 






“เจ ตื่นได้แล้ว”

“ตื่นอะไรพี่จิ นาฬิกายังไม่ปลุกเลย” ผมงัวเงียพลิกตัวนอนคว่ำกับเตียง เกาะติดกับฟูกนุ่มไม่ยอมลุกง่ายๆ

“หกโมงครึ่งแล้วนะเจ”

“ผมตั้งนาฬิกาไว้หกโมงสี่สิบห้า” ผมคลุมโปง ผู้ชายใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวแค่สิบนาทีก็เหลือเฟือแล้ว

“แต่...” พี่จิคนดีของผม ผู้ตื่นแต่เช้าเพื่อวิ่งออกกำลังตั้งแต่หกโมงเช้ากระชากผ้าห่มทีเดียวหายไปทั้งผืนจนผมขดนอนตัวสั่น “นิฌานมารอเจอยู่ข้างล่างแล้วนะ”

“...งืม...”

ตื่นก่อนเวลา สมองผมไม่ค่อยปลอดโปร่งนัก

“นิฌานมารอเจอยู่ข้างล่างแล้วนะ!” พี่จิตะโกนดังขึ้น บ่งบอกว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหน “ตื่นเดี๋ยวนี้นะเจ ทำไมนิฌานถึงมาอยู่ข้างล่างบ้านเราได้ เขารู้ที่อยู่บ้านเราได้ยังไง เจไปบอกเขาเหรอ นี่เจโดนหลอกแล้วใช่มั้ย ไม่นะ...ไอ้น้องของพี่!!”

“พี่จิ หนวกหู” ผมปรือตามองพี่ชายที่เสียสติไปแล้ว ขยำขยี้จนผ้าห่มแทบจะกลายเป็นผ้าขี้ริ้ว “เขาก็เอาที่อยู่มาจากข้อมูลพนักงานบริษัทของพี่นั่นแหละ”

“แต่เจเองก็เป็นหนึ่งในพนักงานนะ”

“ผมไม่ได้กรอกใบสมัครเป็นทางการ ผมแค่เซ็นสัญญาชั่วคราวสามเดือนเฉยๆ เซ็นกับตัวนิฌานเองไม่ใช่กับทางบริษัทด้วย ขนาดบัตรพนักงานเข้าบริษัทยังไม่ได้เลย ต้องรอคุณเลขาทำเรื่องให้เป็นพิเศษ” ผมหาวหวอด ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเตรียมหลับต่อ “อีกสิบห้านาทีนะพี่จิ”

“แล้วนิฌาน...”

“ปล่อยเขารอไปสิ” ผมพูดหงุดหงิดเป็นการจบท้าย ก่อนจะใช้เวลาสิบห้านาทีนั้นอย่างเต็มที่ เมื่อนาฬิกาปลุกดังก็เดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเดินลงบันไดมาชั้นล่าง บ้านของพวกเราเป็นตึกแถวสามชั้นในย่านชุมชนแออัดน่ะครับ ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นทวดแล้ว สภาพเลยค่อนข้างเก่า มีกลิ่นชื้นตามมุมบ้าน บางครั้งบางทีก็มีปีเตอร์เดินมาทักทาย

“ลืมตาเดินด้วยสิน้องเจ”

ผมขยี้ตามองคนที่พูดกลั้วหัวเราะไม่พอยังมายืนขวางตรงบันไดอีกต่างหาก ไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็นิฌาน ชาญชัยนี่เอง

“ไหนพี่บอกจะมารับเจ็ดโมงครึ่ง” ผมถามเสียงเรียบด้วยสีหน้างัวเงีย ทั้งบ้านชินกับภาพผมเดินหน้ามึนไร้การป้องกันตัวเองในตอนเช้ากันหมดแล้ว แม้จะลากสังขารลงจากเตียงสำเร็จแต่ผมต้องใช้เวลาเกือบสิบห้านาทีกว่าจะตื่นเต็มตาอย่างสมบูรณ์

“พี่ตื่นเช้ากว่าที่คิดเลยไม่อยากนอนต่อ สู้ขับมาดัก เอ๊ย มาหาน้องเจเลยดีกว่า” นิฌานเอ่ยยิ้มๆ “ได้ข่าวว่าแม่น้องเจทำอาหารอร่อยด้วย เลยอยากมาฝากท้องสักมื้อ กินเสร็จก็ออกจากบ้านตอนเจ็ดโมงครึ่งพอดี”

“ข่าวจากไหนเหรอครับ”

“ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าจิตริน ทองคำดีตกท่านประธานได้เพราะเอาข้าวกล่องรสมือแม่ไปกินด้วยกันทุกวัน”

พี่จิไม่ได้ตกเสี่ยได้ด้วยอาหารรสมือแม่ แต่พี่จิตกเสี่ยเพราะฝอยจนเสี่ยมึนแล้วตีหัวเข้าบ้านต่างหาก!

“ใครๆ ก็รู้เนี่ยน่าจะมีไม่ถึงสิบคนในบริษัทนะครับ”

“โชคดีจังที่พี่เป็นหนึ่งในสิบคนนั้น” นิฌานมองผมไม่กะพริบ เฝ้าสังเกตท่าทางการตื่นนอนที่ค่อยๆ คืนสติทีละนิดของผมอย่างตื่นเต้นเหมือนกำลังเฝ้าสังเกตการวิวัฒนาการของถั่วงอก “อรุณสวัสดิ์ครับน้องเจ”

ก่อนจะกล่าวออกมาเมื่อผมตื่นเต็มตาในที่สุด...

ผมมองเขานิ่ง นิฌานเองก็ฉีกยิ้มสดใสกะโปรยเสน่ห์ไม่ยั้ง ผมหลับตาตั้งสติอีกครั้ง ก่อนจะผลักอกเขาเบาๆ ให้ถอยห่างจากตีนบันไดสักที

“แม่ สรุปวันนี้ผมกินข้าวเช้าด้วยนะ” ผมเดินไปบอกแม่ในครัว เพราะตั้งใจว่าจะออกจากบ้านเช้าหนีหน้าใครบางคน เมื่อวานเลยบอกปัดไม่ให้มารดาบังเกิดเกล้าทำกับข้าวเผื่อ แต่ในตอนนี้...ขอเติมพลังงานหน่อยแล้วกัน ยังไงก็หนีไม่พ้นแล้วนี่หว่า

“แม่รู้ตั้งแต่นิฌานมาแล้วจ้ะ” แม่ผมยิ้มหวาน ข้างๆ กันคือพี่จิที่คอยหยิบจับเครื่องครัวให้อย่างชำนาญ อย่าเข้าใจผิดเชียวล่ะ เพราะพี่จิน่ะ...หยิบเป็นอย่างเดียว แต่ทำอาหารไม่ได้เรื่องเลย!

ส่วนที่แม่ผมรู้จักนิฌานก็ไม่แปลก ในเมื่อครอบครัวผมสนับสนุนทุกการทำงานของสมาชิกในบ้าน พี่จิเขียนบทเรื่อง Love After Death จนได้รางวัล พวกผมเลยยกโขยงกันไปดูเกือบสิบรอบ เอียนหน้านิฌานจะแย่อยู่แล้ว

“เสี่ยมารับพี่จิตอนกี่โมงนะ”

“เก้าโมง”

อภิสิทธิ์ชนของการเป็นประธาน แม้ออกจากบ้านช่วงเดียวกับเวลาเข้างานก็ย่อมได้...

“พี่จิไปจัดการนิฌานหน่อยสิ ผมรำคาญ” ผมดึงแขนเสื้อพี่ชายเบาๆ พลางพยักพเยิดไปทางดาราหนุ่มที่นั่งฮัมเพลงหิวรักอย่างอารมณ์ดีตรงโต๊ะโซฟาด้านนอก

“เดี๋ยวเถอะเจ พูดจาแบบนี้กับผู้หลักผู้ใหญ่ได้ยังไง” แม่หันตะหลิวมาชี้หน้าต่อว่าผมทันควัน มารดาผู้เคารพรัก สั่งสองลูกชายสองคนมากับมือตั้งแต่เล็กแต่น้อย ไม่อาจยอมความเด็ดขาดหากลูกแสนน่ารักทำกริยาไม่เหมาะสม “นิฌานเขาจ้างงานลูกอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำตัวดีๆ หน่อยสิจ๊ะ”

“ไม่ได้นะแม่ นิฌานเขาคิดจะเคลมเจ!”

“เคลมอะไรกัน อย่ามองในแง่ร้ายอย่างนั้นสิลูก คุณเขาอุตส่าห์มารับเจถึงที่ จะเสียมารยาทได้ยังไง”

“แต่นิฌานเขาเจ้าชู้มากเลยนะแม่ ขนาดจิระยังเกือบหลงคารมโดนหลอกแล้วเลย! แล้วกับน้องชายของผม...กับเจจะไปเหลือได้ยังไง เจเพิ่งอายุสิบแปดเองนะ จะไปตามทันเล่ห์กลของนิฌานได้เหรอ! ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนจีรัง เจยังเด็กยังอ่อนวัย ต่อให้จะเก่งกาจแค่ไหนก็พลาดท่าเป็น เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้า!”

“ใช่ๆ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก นานครั้งจะเห็นด้วยกับพี่จิ ปกติแล้วพี่ชายจอมฝอยมักเห็นดีเห็นงามกับทุกสิ่งอย่าง จะยอมเห็นต่างบ้างก็ด้วยความห่วงน้องห่วงเพื่อนนั่นแหละ

“จะกินข้าวกันมั้ย”

พลันแม่ประกาศกร้าวด้วยประโยคเดียว

“กินครับ!” สองพี่น้องตอบพร้อมเพรียง

“งั้นอย่าให้แม่ได้ยินอีกนะว่าลูกที่น่ารักของแม่ว่าร้ายใคร ถึงนิฌานจะเคยทำตัวไม่ดี แต่ตอนนี้เขาอาจจะกลับตัวแล้วก็ได้ ยิ่งหลังจากนี้ต้องร่วมงานกับเจตลอดสามเดือน เรายิ่งห้ามอคติกับเขา แต่ต้องให้โอกาสต่างหากนะจิตริน เจตริน”

“แต่...”

“หรือว่าเราทั้งคู่จะลืมคติธรรมประจำบ้านทองคำดีกันแล้ว พูดดี คิดดี ทำดี รักษาจิตใจให้ผ่องแผ้วสดใส อย่าว่าร้ายอย่าอคติกับใคร จงมีรอยยิ้มบนใบหน้าพร้อมมอบไมตรีแก่กัน”

คล้ายได้ยินเสียงระฆังชำระบาป ผมกับพี่ชายผู้พ่ายแพ้ต่อพระในบ้านอย่างมารดาสุดประเสริฐนั้นถึงกับพนมมือซึมซับในคำสอนอย่างพร้อมเพรียง

“แต่เขาจะเคลมน้อง...” ซึ้งใจจริงๆ ที่พี่จิคนดีแอบกระซิบพึมพำทั้งยังพนมมือด้วยความเป็นห่วง

“เจดูแลตัวเองได้ ดูแลตัวเองได้ดีกว่าจิด้วยซ้ำ” แม่พูดพลางเทผัดเห็ดรวมลงจานก่อนจะส่งให้พี่จิ “เอ้า เอาไปวางที่โต๊ะได้แล้ว ยกต้มยำไก่บ้านกับปลาราดพริกไปด้วยนะจิ ส่วนเจ...ตักข้าวด้วยจ้ะ”

“ครับ แม่” สองพี่น้องขานตอบ ต่างคนต่างไม่กล้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เพราะถ้าขนาดพี่จิคนดียังฝอยไม่รอดผมก็อย่าหวังเลย

...เหนือกว่าจิตริน ทองคำดี ก็นางจรวย ทองคำดีนี่เอง

 

-----------------

น้องเจเวลาอยู่กับครอบครัวแล้วสมวัยดีนะคะ ดีนะที่งวดนี้หนูจิเห็นด้วย ไม่งั้นต้องอาละวาดอยู่คนเดียวในบ้านอีกแน่ๆ เลย โธ่ น้องเจคนปกติของบ้านทองคำดี 555

ตอนหน้าจะเริ่มเข้าสู่การทำงานแล้วค่ะ! เวลาแต่งนิยายชุดนี้เราสนุกมากเวลานั่งคิดสตอรี่โฆษณา คิดแผนการโปรโมต คิดเรื่องราวในละครอย่างเช็กเมทหรือหนังอย่าง Love After Death ถ้าอ่านแล้วอินด้วยเราจะมีความสุขมากๆ ค่ะ นิฌานมีภาพลักษณ์แบบเป็นผู้ใหญ่และสุภาพบุรุษ บทบาทในวงการจะแตกต่างกับจิระและจิตริน พ่อปลาไหลกับ #น้องเจที่ไม่น่ารัก จะนำไปทิศทางแบบไหน มาร่วมลุ้นด้วยกันนะคะ ^ ^

เพจนักเขียนอยากฝากตัวเป็นสะใภ้ทองคำดี (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

#JustUnotUS
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-03-2018 20:21:40
โอ้ยยยย หมั่นไส้นิฌานทำไมคุณแม่เห็นดีเห็นงามไปได้คะ ถึงจะไม่ให้มองในแง่ร้ายแต่ระวังไว้บ้างก็ดีไม่ใช่เหรอ น้องเจต้องสู้นะอย่ายอมตกหลุมเจ้าเล่ห์ของนิฌานง่ายๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-03-2018 20:23:51
ที่สุดของที่สุดก็คือนางจรวย น่ารักมากๆบ้านนี้
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 10-03-2018 20:25:45
ครอบครัวตัว จ. ตลกจังเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 10-03-2018 20:28:16
นิฌานจะยังไงกับน้องเจน้ออออ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 10-03-2018 21:40:51
กริ๊ดดด คืออะไร คืออะไรๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-03-2018 00:38:30
น้องเจสู้ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-03-2018 01:15:29
เจอพี่ฌาณหยอดไปหลายหลุมแล้ว ยังสลายภูมิต้านทานน้องเจมิได้  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 11-03-2018 02:54:49
 หน่องเจอิอิ
อ่านไปขำไปค่ะฝอยหนักขนาดไหนก็แพ้แม่ค่ะอะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามาปาปิกา555คิดได้ไงค่ะจิตริน
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
        :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-03-2018 07:06:36
 พี่จินี่คือในสมองจะมีแต่เค้าคิดจะเคลมน้องอย่างเดียว5555555 สุดยอดคุณแม่จ้า
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 11-03-2018 10:39:07
 :laugh: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-03-2018 12:42:48
 :laugh:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 11-03-2018 17:04:36
ตามจ้าาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: obofe ที่ 12-03-2018 13:24:03
ไม่น่ามาอ่านเรื่องนี้เลย  ปกติเราจะไม่เข้ากระทู้ที่จำนวนหน้าไม่ถึง 8 เพื่อนกันอาการลงแดง  แต่เห็นชื่อเรื่องคล้ายๆ ของหนูจิทั้งสอง  ก็คิดว่าเออชื่อคล้ายกันดีแฮะ

พอกดอ่านปุ่บ  นักเขียนคนเดียวกันเลย  เสียในมาก  เพราะตอนนี้ลงแดง  อยากเสพตอนต่อไปแล้ว  คนเขียนเขียดดีเกินไป  ฮือๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-03-2018 13:47:44
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 12-03-2018 19:16:06
น้องเจน่ารักมากๆๆๆ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 12-03-2018 21:03:47
น้องเจ เวลาอยู่กับครอบครัวนี่เป็นเด็กน้อยสมวัยเลย โหมดนี่ก็ชอบ น่ารัก
เวลาทำงานก็เก่งฉลาดรอบคอบ เป็นผู้ใหญ่เกินวัย นี่ก็ยิ่งปลื้ม > <
แล้วพี่ฌาน ตกลงตกหลุมเสน่ห์น้อยเจจริง ๆ แล้วใช่ไหมคะ ไม่กล้าขัดสักอย่าง555
รอเข้าโหมดทำงาน จะได้เห็นความสามารถของผู้จัดการดาราอย่างน้องเจแล้ว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Amaryllifolius ที่ 12-03-2018 23:23:09
น้องเจ~~~~~~~ อ่านไปได้ไม่เท่าไรก็รู้สึกเหมือนโดนตก
ความเป็น #น้องเจที่ไม่น่ารัก นี้มันช่างกร๊าวใจ

ปล.เรื่องนี้จอมมารจะมีบทเลี้ยงเด็กอีกมั้ย ถ้าเลี้ยงจะออกมาเป็นยังไงกันนะ ทันกันขนาดนี้  :ruready
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-03-2018 13:46:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 14-03-2018 12:35:53
โอยยยย คุณแม่ชนะน็อค 5555+
จะว่าไปน้องเจไม่น่าห่วงเท่าน้องจินะ
น้องดูทันคน เอาจริงๆแค่ทันคุณคมสันนี่น้องก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วล่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 - [UP! : 10/03/61]
เริ่มหัวข้อโดย: cookie12ck ที่ 14-03-2018 13:29:14
จ.ไหนจะสู้ จ.จรวย คุณแม่ชนะเลิศ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 - P.4 -
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 16-03-2018 20:39:31

ตอนที่ 4 : ว่าด้วยน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม


 

“อร่อยมากครับ”

จบมื้อเช้ากับสมาชิกแปลกหน้าที่มีดีกรีถึงพระเอกชื่อดัง แม่ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เจอคนหล่อมารยาทดีชมเชยเป็นกันเอง กินเกลี้ยงหมดชามไม่พอยังขอเบิ้ลอีก เป็นใครก็ต้องปลื้มทั้งนั้น โดยเฉพาะกับนางจรวย...ที่ชื่นชอบดาราเป็นทุนเดิม เมื่อก่อนแม่รับจ้างทั่วไป เน้นเย็บผ้าเป็นหลัก แต่หลังพี่จิทำงานในบริษัทของเสี่ย แม่ก็ผันตัวเป็นแม่บ้าน ติดละครชอบดูซีรีส์ รู้จักดาราทุกคนครอบจักรวาล

“จะว่าอะไรมั้ยถ้าแม่จะ...” นางจรวยเขินอายไม่ต่างกับสาวแรกรุ่น จะว่าไปพ่อเคยบอกว่าหลังยกโขยงไปดูหนังเรื่อง Love After Death สิบรอบ ในห้องนอนของแม่ก็มีโปสเตอร์หน้านิฌานปรากฏอย่างเป็นปริศนา...

หรือที่นางจรวยสั่งสองลูกน้อยทั้งสองด้วยบทเมตตาธรรมค้ำจุนโลก แท้จริงแล้วจะมีเจตนาแอบแฝง!

“ลายเซ็นเหรอครับคุณแม่ ได้สิครับ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ถ้ายังไง...ถ่ายรูปคู่ด้วยกันมั้ยครับ”

ผมกับพี่จิที่เก็บจานได้แต่มองภาพนางจรวยชูสองนิ้วถ่ายเซลฟี่กับนิฌานด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดีนะ...ที่พ่อของผมไปทำงานแต่เช้าตรู่ ไม่รู้ว่าเห็นภาพนี้จะรู้สึกหึงหวงขึ้นบ้างมั้ย แต่ดูจากทุ่งลาเวนเดอร์ในจิตใจ คาดว่าพ่อคงจะช่วยตั้งกล้องถ่ายรูปให้แม่มากกว่า รอยยิ้มของแม่คือความสุขของพ่อ ชีวิตคู่ที่ถักทอด้วยรักเปี่ยมด้วยความเชื่อใจ เพราะอย่างนี้ครอบครัวทองคำดีถึงเต็มไปด้วยบรรยากาศสีชมพู ฟุ้งด้วยอุ่นไอรัก

ผมมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มกระตุกที่มุมปาก คุณแม่? นางจรวยเป็นแม่ของผมกับนายจิตรินเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปเป็นแม่คนอื่นโว้ย!

“เจว่า...ถ้าพี่ไปขอถ่ายรูปกับนิฌานบ้างจิระจะหาว่าพี่ทรยศเพื่อนมั้ย”

มองพี่จิที่คล้ายจะอิจฉามารดาบังเกิดเกล้าเหมือนเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่เคยมีรูปคู่กับพระเอกชื่อดังทั้งที่เคยร่วมงานด้วยกันเลยเพราะดันเกิดเรื่องขึ้นมาก่อนผมก็แทบจะกุมขมับ...ก่อนหน้านี้ยังช่วยปกป้องน้องชายสุดที่รักจากพ่อปลาไหลอยู่เลย จะลืมง่ายไปแล้วนะ!

“พี่จิคนทรยศ!” ผมตอบทันที ไม่ใช่ว่าหาพวก เพราะผมไม่คิดคาดหวังพี่จิอยู่แล้ว แต่ผมกำลังหวง! หวงแม่ตัวเอง หวงพี่ชายตัวเอง หวงมันทุกคนในบ้านนั่นแหละ นั่น...แมวสีส้มเข้าไปคลอเคลียข้างเท้านิฌานนั่นผมก็หวง! สิ่งมีชีวิตในบ้านหลังนี้ล้วนอยู่ภายใต้การฮึ่มแฮ่ของผมทั้งหมด!!

“เจ้าส้ม!” ผมตะโกนเรียกแมวเพศเมีย ไร้ปลอกคอ เพราะเป็นแมวเร่ร่อนที่พี่จิชอบให้อาหารบ่อยๆ ก่อนหน้านี้มันท้องโต พวกเรากลัวว่าเจ้าส้มจะคลอดลูกไม่ราบรื่น เลยถือวิสาสะอุ้มมันมารักษาตัวในบ้าน ปรากฏว่าเจ้าส้มคลอดลูกแมวออกมาอีกเจ็ดตัว ได้พี่จิตั้งชื่อว่า ม่วง คราม เขียว เหลือง น้ำเงิน แสด แดง สมัยทุกตัวยังเล็กมากนางจรวยอาสาดูแลเองแถมทำหมันให้เจ้าส้มเป็นพิเศษ แต่เมื่อโตขึ้นก็นำไปปล่อยไว้ที่เดิม ยกเว้นครามกับน้ำเงินที่ได้เสี่ยรับไปเลี้ยง แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าส้มก็มักวนไปเวียนมาในบ้านอย่างคุ้นชิน

“เจ อย่าเสียมารยาทต่อหน้าแขกแบบนี้สิลูก”

“ผมแค่เรียกแมวเอง เนอะ เจ้าส้ม” ผมหันไปยิ้มกับแมวลายส้มที่ร้องเหมียว ก่อนจะพามันเข้าห้องครัวไปเฝ้าสองพี่น้องทองคำดีล้างจาน กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เจ็ดโมงครึ่งพอดีเป๊ะ

“นั่นอะไรน่ะแม่” ผมมองกล่องผูกโบว์ในมือแม่อย่างสงสัย หายเข้าครัวไปไม่ถึงสิบนาทีไหงมีของฝากได้กัน นิฌานมาตัวเปล่าไม่ใช่เรอะ

“น้ำหอมน่ะจ้ะ”

“ใช่แล้วครับ น้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม กลิ่นลาเวนเดอร์เหมาะกับคุณแม่มากๆ เลย ผมเลือกนานมากหวังเป็นของแทนใจในการฝากท้องครั้งนี้ หวังว่าคุณแม่จะชอบนะครับ”

ผมอ้าปากค้าง มองนิฌานที่ขยิบตาให้พร้อมยกมือจุ๊ปากให้เงียบไว้แล้วตัดสินใจไม่เปิดโปงเพราะนางจรวยตัวแทบลอยจากพื้น แม้ว่านั่นจะเป็น...น้ำหอมฟรีที่ได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายโฆษณาเมื่อวานสดๆ ร้อนๆ! เลือกนานมากอะไรกันล่ะ! ของแทนใจอะไรกันล่ะ! เพิ่งนึกได้เลยไปหยิบจากรถแล้วเอาริบบิ้นมาผูกโบว์ส่งๆ มากกว่าน่ะสิ!!

“ดูๆ ไปนิฌานก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย”

เดี๋ยวก่อนพี่จิ แค่น้ำหอมอย่าเปลี่ยนความคิด นั่นมันของฟรีนะ! นั่นมันของที่ไม่ได้จะเอามาฝากเราเลยนะ! นิฌานก็แค่เนียน แค่เนียนทำความดีเท่านั้นเอง!!

ผมอึดอัดใจมาก อยากแฉเหลือเกิน!

แต่มองแม่ที่ถือขวดน้ำหอมอย่างปลื้มปริ่ม ก็เพิ่งรู้ตัวเอาตอนนี้เองว่าครอบครัวทองคำดีห่างเหินเรื่องการซื้อเครื่องประทินโฉมมานานแค่ไหนกันแล้ว พ่อ พี่จิ และผม ล้วนแต่เป็นผู้ชาย เวลาให้ของขวัญในโอกาสพิเศษ หรือซื้อของให้กันก็มักมีแต่ของใช้ทั่วไป หารู้ไม่ว่าแม้จะอยู่กับบ้านเฝ้ากับเรือน แต่นางจรวยก็ใส่ใจตัวเองอยู่เสมอ ฉีดน้ำหอมสักนิด ทาปากปะแป้งสักหน่อย แค่นั้นก็ทำให้แม่มีความสุขแล้ว...

นึกภาพผู้ชายสามคนไปยืนเลือกน้ำหอมซึ่งไม่รู้ว่าผลออกมาจะหมู่หรือจ่า กับนิฌานที่ให้ของฟรีแต่ถูกใจ ผมก็ลดความขุ่นเคืองลงแม้จะแอบด่าความไหลลื่นของพระเอกชื่อดังก็ตาม

“ไปกันได้แล้วพี่ฌาน” ผมเป็นฝ่ายกระชากแขนคนตรงหน้าเพื่อจะได้จับแยกจากมารดาผู้เคารพรักเสียที นิฌานยกมือไหว้แม่ผมอย่างสุภาพ ไม่วายทิ้งท้ายว่า...

“เสร็จงานแล้วผมจะพาน้องเจมาส่งนะครับ รับรองว่าปลอดภัยหายห่วง”

“ฝากเจด้วยนะจ๊ะ”

“ได้เลยครับคุณแม่”

คิ้วกระตุกยิกๆ เหมือนว่ามันมีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง

อ้อ มันไม่ถูกตรงมารับมาส่งถึงที่นี่ไง!

“ใจเย็นก่อนสิน้องเจ ดึงพี่จนเสื้อยับหมดแล้ว” นิฌานตีมือผมเบาๆ เมื่อแรงกระชากมากกว่าเดิมสองเท่าตัวจนออกจากบ้านทองคำดีสำเร็จ ผมรีบปล่อยทันควัน พอหันไปมองก็เห็นว่าแขนเสื้อเขายับจริงๆ ซะด้วย ยังไม่ทันเข้างานเลยแท้ๆ

“ขอโทษครับ” ทำผิดก็ยอมรับผิด เจตรินแมนพอ

“ไม่เป็นไรครับ” นิฌานเอ่ยตอบทั้งรอยยิ้มหวาน “ขึ้นรถเถอะน้องเจ คนเริ่มมองแล้ว”

ผมอยากจะบอกนิฌานว่าหลังจากพี่จิคบกับเสี่ย ภาพของรถหรูมาจอดแช่อยู่หน้าตึกแถวนั้นก็เป็นที่คุ้นชิน ฉะนั้นที่มองกันน่ะไม่ได้สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นพระเอกชื่อดัง แต่สงสัยว่าแฟนของลูกชายคนโตบ้านนี้มารึยังต่างหาก!

ขึ้นรถได้ผมก็คาดเข็มขัด ก่อนจะทบทวนตารางงานโดยไม่เปิดดูโพยเพราะเมื่อคืนนั่งศึกษาอยู่นาน

“วันนี้ตอนเก้าโมง พี่ฌานต้องถ่ายโฆษณาน้ำหอมแบบที่สอง ส่วนช่วงบ่ายมีเดินแบบที่ห้าง xxx งานนี้ให้นักข่าวสัมภาษณ์ด้วยนะครับ คุณเลขาย้ำว่าให้ช่วยโปรโมตเช็กเมทซีซันสามที่กำลังจะเปิดกองให้ช่อง ถึงจะไม่ได้ร่วมแสดง แต่ถือเป็นการทำเพื่อบริษัท ผมคิดว่าพี่น่าจะมีคำพูดดีๆ เตรียมไว้อยู่แล้ว”

“แย่ล่ะสิ พี่ไม่ได้เตรียมไว้เลย”

ผมพยายามจะไม่กลอกตาใส่จอมสับปลับ

“ตอนนักข่าวถามว่าช่วงนี้พี่มีผลงานทำอะไรบ้าง พี่ก็พูดยิ้มๆ บอกว่า ‘ตอนนี้เหรอครับ แย่จัง ตอนนี้ผมแทบไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย มีแต่ถ่ายโฆษณากับเดินแบบ เพราะเอาเวลาทั้งหมดไปนั่งติดเช็กเมท ก่อนหน้านี้หลงกระแสอยู่นาน มาดูย้อนหลังทีติดหนึบเลยล่ะ ไหนๆ ก็พูดเรื่องนี้แล้ว ขอกระซิบความลับหน่อยแล้วกัน รับปากก่อนนะว่าห้ามบอกใครว่ามาจากผม เพราะ...เช็กเมทซีซันสามกำลังเปิดกอง อีกไม่นานจะได้ลงจอแล้วล่ะ!’...ประมาณนี้เป็นไงครับ”

นิฌานเงียบไปอึดใจหนึ่ง หาที่เลี้ยวรถจอดข้างทาง ก่อนจะหัวเราะลั่นซบหน้ากับพวงมาลัย

“ผมพูดผิดตรงไหน ผมวิเคราะห์จากนิสัยพี่แล้วไง” ผมถามหน้าแดงก่ำอย่างอับอาย กลัวทำอะไรพลาดเข้า ยังไงผมก็ยังเป็นเด็กไร้ประสบการณ์นะ

“เปล่า น้องเจไม่ได้ผิดตรงไหนเลย” นิฌานปาดน้ำใสตรงหางตา เขาหัวเราะจนน้ำตาเล็ดเลยเหรอ! “น้องเจทำได้ดีมาก มีทั้งลูกล่อลูกชน เป็นประโยคที่สมกับนิฌาน ชาญชัยมาก ดีกว่าที่พี่คิดเอาไว้ซะอีก!”

“ไหนพี่ฌานบอกว่าไม่ได้เตรียมไงครับ”

“น้องเจก็น่าจะรู้ว่าพี่โกหก”

ยังมีหน้ามายิ้มเผล่อีก ผมถอนหายใจเฮือก โล่งใจที่อย่างน้อยก็มีส่วนช่วยบริษัท ไม่ได้นั่งๆ นอนๆ คอยเฝ้านิฌานอย่างเดียว รับเงินเดือนมาทั้งทีก็ต้องทำให้คุ้มค่าจ้างสักหน่อย

“เก่งมากครับ”

“ถึงพี่ชมผมก็ไม่ดีใจหรอกนะ”

“แล้วทำยังไงน้องเจที่ไม่น่ารัก ‘ของพี่’ ถึงจะยิ้มให้กันล่ะ”

“หลังเสร็จงานเดินแบบ พี่ฌานมีงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนสนิทหลังจากนั้น ผมคงไม่ต้องไปใช่มั้ยครับ เพราะอีกสามวันข้างหน้า พี่ฌานก็มีงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนสนิทอีกคน ถ้าจะเรียกหารอยยิ้มจากผม พี่ฌานไปสนุกกับงานสังสรรค์เถอะ คงมีหลายคนที่อยากยิ้มให้พี่”

“ขนาดประชดยังน่ารักเลย”

“เสร็จงานแล้วผมกลับเองก็ได้นะครับ พี่ฌานไม่ต้องมาส่งหรอก”

“ไม่ได้ๆ พี่รับปากแม่เราแล้ว จะกลับคำได้ยังไง”

“แล้วเพื่อนสนิท ‘ของพี่’ ล่ะครับ”

“งานเลี้ยงวันเกิดจะไปตอนไหนก็ได้ ขอแค่ไปให้ถึงก็พอ” นิฌานตอบรับไม่สะทกสะท้านต่อคำว่ากล่าวแม้แต่น้อย ก่อนจะหันไปตั้งอกตั้งใจขับรถต่อ สมแล้วที่มีประสบการณ์แสดงร่วมยี่สิบปี...

หน้าหนามาก!

 







คอนเซปโฆษณาน้ำหอมมีทั้งหมดสองแบบ

แบบแรกคือนิฌานซึ่งรับบทสามีเดินเลือกของขวัญให้ภรรยาสาว จนกระทั่งมาสะดุดตากับบิวตี้เพอร์ฟูม เมื่อลองดมกลิ่น วันคืนหวานชื่นสมัยเพิ่งแต่งงานก็ปรากฏ นิฌานเผยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน ตัดสินใจซื้อไปฝากคนรัก

ส่วนแบบที่สองนั้น เรื่องราวเล่าย้อนไปว่าก่อนที่นิฌานจะออกมาเดินซื้อของขวัญทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงด้วยความหึงหวง ทำให้ฝ่ายหญิงสาวมีสีหน้าไม่สบายใจ ลังเลที่จะเปิดประตูบ้าน แต่เมื่อเธอเปิดเข้าไปก็พบกับดินเนอร์ใต้แสงเทียนและสามีที่ยืนรอเธอด้วยสายตาหวานซึ้ง

นิฌานพาหญิงสาวมานั่งตรงข้ามกัน สบตากัน ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษพร้อมยื่นกล่องของขวัญให้

จะเป็นอะไรไปได้ล่ะนอกจากขวดน้ำหอม

ภรรยาสาวแม้จะซาบซึ้งแต่ก็ยังมึนตังเล็กน้อย เธอหยิบขวดน้ำหอมขึ้นมา ก่อนจะสะดุดตากับกับชื่อบิวตี้เพอร์ฟูม

“คุณสวยที่สุดในสายตาผมเสมอ”

ประโยคบอกเล่าแสนกินใจจนหญิงสาวยินยอมยกโทษให้แต่โดยดี โฆษณาจบลงตรงนี้ ตรงที่ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันโดยมีขวดน้ำหอมวางตรงกลางพร้อมสโลแกน ‘สวยในแบบที่เป็นคุณ กับคนที่คุณรัก บิวตี้เพอร์ฟูม’

แม้จะไม่ค่อยสนใจเรื่องวงการบันเทิง แต่เพราะเป็นผู้จัดการ ผมเลยได้อ่านรายละเอียดงานด้วย

ฝีมือการแสดงของนิฌานนั้นผมจำแม่นตั้งแต่ดูหนังที่เขาแสดงเป็นสิบรอบแล้ว ฉะนั้นกับโฆษณา...กับภาพของสามีที่พยายามหาของขวัญง้องอนภรรยาสาวด้วยสายตาเปี่ยมรักอย่างอบอุ่นอ่อนโยน ชวนให้สาวๆ ระทวยเป็นลมล้มพับนั้นจึงเป็นอะไรที่ชวนสยดสยองซะมากกว่า

ประสบการณ์ของนิฌานส่งให้เขามาถึงจุดนี้ ผมจึงไม่มีความจำเป็นต้องคอยเฝ้ามองทุกฉากทุกตอน ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะนั่งเป็นรูปปั้นคอยช่วยรับโทรศัพท์เวลาอีกฝ่ายเข้าฉากก็พอ เสียแต่วันนี้...ผมทำแบบนั้นไม่ได้

เพราะสิบโมงเข้าไปแล้ว แต่คนรับบทเป็นภรรยาของนิฌานยังมาไม่ถึงกองเลย!

ทีมงานพยายามโทรตามหลายครั้ง ทุกครั้งจะเป็นเสียงสั่นๆ ตอบกลับว่ากำลังรีบไปค่ะ ไม่เบี้ยวงานแน่นอน แต่หลังจากรอถึงหนึ่งชั่วโมง หรือถ้านับนิฌานกับผมที่มาก่อนเวลาคือสองชั่วโมงนั้น...เริ่มจะหงุดหงิดเต็มทน

“ยกเลิกไปเลยไม่ได้เหรอครับ” ผมอดถามขึ้นมาไม่ได้ เพราะกังวลเรื่องงานเดินแบบต่อจากนี้ หากเธอมาตอนสิบเอ็ดโมงจะทำยังไง ต่อให้เร่งถ่ายขนาดไหนก็ไม่มีทางทันตามกำหนดการแน่นอน

“ฉากพร้อม ทีมงานพร้อม จะยกเลิกเอาดื้อๆ ไม่ได้หรอก อย่าลืมสิว่าทางนี้เสียค่าเช่าสตูดิโอแล้วนะ”

มองคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์คุยกับสาวอย่างสบายใจเฉิบแล้วผมอดหมั่นไส้ไม่ได้จริงๆ

“แล้วถ้าเธอมาไม่ทันล่ะ”

“ถึงตอนนั้นทีมงานก็ให้จ่ายค่าปรับตอนหลังได้ พยานครบ หลักฐานครบขนาดนี้ เบี้ยวสัญญาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้ายกเลิกกองก่อนตอน ‘มี่จัง’ มาพอดี จะกลายเป็นทางนั้นต่างหากที่จะเรียกร้องค่าเสียหายกับเราแทน”

“มีงี้ด้วยเหรอครับ”

“อะไรก็เกิดขึ้นได้ในวงการบันเทิง ไม่ต้องห่วงหรอกน้องเจ อีกไม่ถึงสิบนาทีเธอก็มาถึงแล้วล่ะ”

“พี่รู้ได้ยังไง”

นิฌานหันหน้าจอให้ผมดูว่าเขากำลังคุยไลน์กับ ‘โมจัง’

“เพื่อนสนิทของมี่จังน่ะ พี่เคยคบกับเธอมาก่อน พอทักไปถามเลยรู้ว่าเมื่อคืนทั้งสองคนหนีไปก๊งกันที่บ้านโมจัง ปรากฏว่าเมาค้างตื่นสาย แถมยังอ้วกไปหลายรอบ โมจังบอกว่ามี่จังเพิ่งออกจากบ้านตอนเก้าโมงครึ่ง ถ้านับจากบ้านของโมจังแล้ว...นี่ก็น่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะ”

เอาเป็นว่าผมจะไม่ถามว่าเขาคบกันแบบไหนถึงได้รู้ที่อยู่บ้านของโมจังก็แล้วกัน

เพราะมี่จังมาถึงกองภายในสิบนาทีจริงๆ

เธอรีบยกมือไหว้ขอโทษยกใหญ่ ผู้จัดการของเธอเองก็มีของฝากเป็นสินน้ำใจ

“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่ามี่จังท้องเสียตลอดคืน เพิ่งจะลุกมาได้เนี่ยล่ะค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ”

ถ้าไม่รู้จากนิฌานมาก่อน ผมก็คงเชื่อว่าดาราสาวในสภาพแก้มตอบ หน้าหมอง ตาโหลเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืนนั้นท้องเสียหนักจริงๆ...แต่ความจริงแล้วไม่ใช่! เธอเมาค้างจนอ้วกแตกต่างหาก!

“รีบแต่งตัวเถอะมี่จัง” ผู้จัดการรีบดันหลังดาราสาวให้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อแต่งหน้า ส่วนตัวผู้จัดการเองก็รีบปรี่ไปหาผู้กำกับและตัวแทนของบริษัทน้ำหอมทันที ทั้งขอโทษทั้งร้องไห้ เล่าสภาพของมี่จังได้น่าสงสารจับใจ สะอึกสะอื้นเสียจนผู้กำกับต้องช่วยประคองไม่ให้ล้มพับไปซะก่อน ส่วนตัวแทนที่ตอนแรกโกรธจนหน้าเขียวก็จำต้องรับคำขอโทษอย่างช่วยไม่ได้

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่เข้าใจและให้โอกาสเรา”

ผู้จัดการก็ต้องแสดงละครเก่งเหมือนกันเหรอเนี่ย

ผมพยายามศึกษา แต่ดันมีมือมาปิดตาซะงั้น

“เรื่องอย่างนี้น้องเจไม่ต้องเรียนรู้ก็ได้”

“ผมแค่เก็บข้อมูลเฉยๆ” ผมแงะมือนิฌานออกแล้วนั่งมองฉากน่าสนุกตรงหน้า คล้ายจะเห็นจากหางตาว่าเขาทำหน้าไม่ค่อยชอบใจนัก ทั้งที่เมื่อกี้นั่งรอดาราสาวเป็นชั่วโมงๆ ยังไม่ยักจะเปลี่ยนสีหน้า แต่ไหงตอนนี้ดันปึงปังกันล่ะ หรือว่าวัยทองกำเริบ? ไม่มั้ง เขายังไม่สามสิบเลย

“น้องเจตรงไปตรงมาน่ารักที่สุดแล้ว”

อ้อ...เขากลัวผมจะฝึกวิชาการแสดงนี่เอง

“ไม่ต้องห่วง ผมแค่เก็บข้อมูลจริงๆ”

“จริงเหรอ” ยัง ยังแสร้งก้มมองทำหน้าสงสัยในระยะประชิดอย่างแสร้งทำอีก

“ผมไม่หน้าหนาเท่าพี่หรอก”

“แหม เขินจัง”

เอ่อ...เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็นคนก้มหน้าเขินอายอย่างภาคภูมิใจความหนาของหน้าก็วันนี้แหละ!

-------------------

 

เราชอบฉากนิฌานเนียนให้ของฟรีกับว่าที่แม่สะใภ้ น้องเจมองอย่างเดียวพูดไม่ได้แฉไม่ได้ โธ่ น้องจ๋า 5555

อย่างเพิ่งหมั่นไส้นิฌานกันนะคะ หลังจากนี้...จะเริ่มเปิดเผยเนื้อในกันมากขึ้น นิฌานก็เริ่มเท่ขึ้นแล้ว! ( มั้งนะ ) #justUnotUS

 

เพจนักเขียนที่อยากเป็นเจ้าส้มให้น้องเจหวง  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/?ref=bookmarks)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 16-03-2018 21:24:47
ชอบความหวงทุกสิ่งอย่างในบ้านของน้องเจน่ารักอ่ะ 555
แต่เห็นพี่ฌานอย่างนี้ ทำไมรู้สึกว่า ชีวิตครอบครัวพี่ฌานน่าจะดราม่าแน่เลย
ชอบความคล่องแคล่วขยันเรียนรู้งานของน้องเจมาก น้องเก่งจัง
วงการบันเทิงก็แบบนี้แหละเนอะ สิ่งหลอกลวงเต็มไปหมด
ต้องอยู่อย่างเข้มแข็งให้ได้นะน้องเจ สู้ ๆ
ปล. บ้านน้องเจน่าจะรับเลี้ยงเจ้าส้มกับลูก ๆ ที่เหลือไปเลยเนอะ
ไม่อยากให้เป็นแมวจรเลย สงสาร T^T
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-03-2018 21:25:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-03-2018 21:32:25
ถ้ากับเพื่อนรึคนใกล้ชิดนิฌาณก็ไม่แย่นะ มีน้ำใจ ช่างสังเกตุ เข้ากับใครก็ได้ มีรอยยิ้มตลอด แต่กับคนรักนิสัยอย่างนี้คงไม่น่าคบ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-03-2018 21:56:48
ถึงน้องเจจะเก่งแต่ก็ยังมีความเป็นเด็กขี้หวงอยู่ น่ารักจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-03-2018 23:22:42
โดนจิกว่าหน้าหนาไม่เท่าพี่ฌาณต้องทำหน้าภูมิใจขนาดนั้นเลยหรา :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-03-2018 23:41:28
จิตรินค่ะตอนที่แล้วยังตั้งป้อมกับเค้าอยู่เลยมาตอนนี้จะไปขอถ่ายรูป555ความห่วงน้องไปไหนซะละค่ะอิอิ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-03-2018 23:48:37
ฌาณเข้าใจอิงผู้ใหญ่เนอะ แถมอิงผู้(ยิ่ง)ใหญ่ประจำบ้านถูกคนเสียด้วย  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 17-03-2018 00:11:53
โอยยยยย ชอบฉากปิดตาจัง เขินเบาๆ
พี่นิฌานนี่หยอดได้หยอดดีเลยนะคะ หยอดตลอดดด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-03-2018 00:21:41
ทำไมมันสั้น ทำไมมันสั้นกว่าชาวบ้านเขา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 17-03-2018 00:56:45
คนเขียนเก่งมากเลย สนุกทั้ง 3 เรื่องเลยจ้า รอตอนต่อไปน๊า  :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-03-2018 01:06:07
 :laugh:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 17-03-2018 11:48:18
หมั่นไส้นิฌานโว้ยยยยยยย นุ้งเจของพรี่หนูต้องสตรองนะคะอย่าให้ฝ่ายมารมาทำหนูไขว้เขวเด็ดขาด!!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-03-2018 12:34:33
น้องเจน่ารักอ่ะ ฮาความหวงของน้องนี่ล่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-03-2018 16:33:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-03-2018 22:50:38
พี่ฌานนี่คือพี่ฌานจิงๆ ไหลไปเรื่อย 55555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 18-03-2018 02:30:56
น้องจิคนทรยศ!!!
ย้ายข้างเร็วมาก
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 18-03-2018 13:19:24
ชอบครอบครัวทองคำดี^\\^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-03-2018 20:28:24
นิฌาน นี่รวมความเข้มแข็งที่ใจ
รวมความหนาที่หน้าจริงๆ  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 4 : น้ำหอม [16/03/61] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 19-03-2018 20:45:39
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 - [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 23-03-2018 19:41:40

ตอนที่ 5 : ความผิดของใคร



“พร้อมแล้วค่ะ”

ในที่สุดคนก็พร้อมสักที ผมหันไปมองตามเสียงแล้วถึงกับตาค้าง ไม่ใช่ตะลึงในความงาม แต่ผมอึ้งที่การแต่งหน้าเปลี่ยนหญิงสาวหน้าโทรมจากการเมาค้างเป็นดาราสาวสวยได้ไม่ต่างกับการแปลงผีดิบเป็นนางฟ้า ผมต้องขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีกจนมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด นี่สินะมหัศจรรย์ของเครื่องสำอาง!

“พร้อมมั้ยนิฌาน”

“พร้อมครับ” นิฌานตอบผู้กำกับ ไม่ยักจะเร่งร้อนเอาซะเลยทั้งที่ผมคอยก้มมองนาฬิกาตลอดเหมือนกำลังนับถอยหลังระเบิดเวลา ตอนนี้สิบโมงครึ่งเข้าไปแล้ว แต่ยังไม่เริ่มถ่ายสักฉาก!

ผมจำต้องมองการแสดงเบื้องหน้าด้วยความลุ้นระทึก ฉากแรกคือฉากย้อนความ สามีภรรยาทะเลาะกันด้วยความหึงหวง นิฌานทำได้ดีมาก แต่กับอีกคนนั้น...

“คัต!! ตรงนี้ไม่ได้พูดแบบนี้สักหน่อย ถ่ายใหม่!”

ดาราสาวเหมือนโดนฤทธิ์เมาค้างเล่นงาน จำบทพูดสลับไปสลับมาเดี๋ยวผิดเดี๋ยวถูกจนคนในกองชักไม่เชื่อแล้วว่าเธอท้องเสีย!

“ขอโทษค่ะ มีมี่เพิ่งทานยาแก้ไข้ เลยอาจจะมึนเบลอไปสักหน่อย” ผู้จัดการปรี่เข้ามาแก้ตัวแทนทันควัน ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมจนผมลอบชื่นชมระคนกลัดกลุ้ม เพราะแม้จะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่สามารถพูดความจริงออกมาได้!

แบบนี้มันเจ็บช้ำยิ่งกว่าตอนนิฌานให้น้ำหอมฟรีกับแม่ของผมอีก ไหงตอนพี่จิเล่าเรื่องราวสมัยเข้ากองดันมีแต่ความสนุกสนาน แต่ตอนนี้เหมือนหนังคนละม้วนเลย

ผมคงลืมไปสินะว่าโลกแห่งความจริงกับโลกตอนใส่ฟิลเตอร์บ้านทองคำดีนั้นมันต่างกันขนาดไหน!

“ตรงนี้ต้องพูดว่า ‘ฉันรักคุณยิ่งกว่าใคร แต่ทำไมคุณถึงนอกใจกันได้ลงคอ’ ต่างหากล่ะมี่จัง” นิฌานหันไปช่วยบอกบทดาราสาวด้วยรอยยิ้มไม่ถือสา ชวนให้บรรยากาศกดดันผ่อนคลายลง ตัวดาราสาวเองก็ส่งสายตาขอบคุณ พยายามท่องจำไม่ให้ผิดพลาดอีก

กว่าจะถ่ายจบฉากแรก...ปาไปสิบเอ็ดโมงยี่สิบนาที

ผมแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ เปลี่ยนมายืนกอดอกมองอย่างตั้งใจ

ฉากที่สอง คือฝ่ายภรรยากลับบ้านด้วยใจขุ่นมัว เป็นฉากง่ายๆ ไม่ต้องพูดอะไรเลย...ผมกัดปาก มองดาราสาวที่ค่อยๆ เดินไปใกล้ประตูบ้าน อีกนิดเดียว มือนั้นใกล้จะจับกลอนประตูอยู่แล้ว แค่เปิดออกก็จะจบลง เริ่มฉากต่อไปได้ทันที

แต่...

“คัต!”

เสียงตะโกนของผู้กำกับทำให้บรรยากาศหนักอึ้งหวนคืนอีกครั้ง

“เราเพิ่งทะเลาะกับสามีมานะ จะเดินกลับบ้านทำหน้าเหม่ออย่างนั้นได้ยังไง กังวลใจ เสียใจ อยากคืนดีแต่ยังไม่ยกโทษให้ แสดงออกมาให้ฉันเห็นหน่อยสิ!”

“ขะ ขอโทษค่ะ”

ดูดาราสาวที่ยกมือไหว้หน้าซีดเผือด ผมก็เพิ่งหันไปมองจอมอนิเตอร์ว่าเมื่อครู่เธอแสดงได้แย่ขนาดไหน ท่าทางการเดินไม่เป็นปัญหา แต่ตาลอยถึงดาวอังคาร ไม่เหมือนเพิ่งทะเลาะกับคนรักสักนิดเดียว

เหมือน...เอ่อ...เพิ่งกลับจากงานปาร์ตี้!

เวลาเดินไปข้างหน้าไม่ยอมหยุดแม้ดาราสาวจะขอเวลาทำสมาธิเพื่อทำความเข้าใจในบท ผมเห็นนิฌานไปนั่งคุยช่วยสร้างอารมณ์ร่วม เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหยอกทีเล่นทีจริง สร้างเสียงหัวเราะที่ไม่ควรดังขึ้นในเวลาแสนกระชั้นนี้

และแล้วฉากที่สองก็ถ่ายจบตอนสิบเอ็ดโมงห้าสิบนาที

ผมเริ่มเปิดกูเกิ้ลแมฟเพื่อดูระยะทางจากสตูดิโอไปยังห้าง xxx พบว่าต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง เท่ากับว่าในกรณีเลวร้ายที่สุด...ยังพอเลิกกองได้ถึงเที่ยงครึ่ง!

ซะที่ไหนกันล่ะ!!

งานเดินแบบเริ่มตอนบ่ายโมง เท่ากับว่าต้องไปก่อนเวลาต่างหากไม่ใช่ไปตรงเวลาเปิดเวที!!

แถมโชคชะตาก็ไม่เข้าข้าง บันดาลให้เกิด ‘กรณีเลวร้าย’ ที่สุดขึ้นซะงั้น!

เพล้ง

ฉากที่สาม นิฌานต้องจูงมือดาราสาวไปนั่งตรงโต๊ะดินเนอร์ใต้แสงเทียน มอบของขวัญสุดโรแมนติกอย่างน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม

แต่เธอกลับทำผลิตภัณฑ์ตกแตก!

ไม่เป็นไร ของยังมีสำรอง แต่กว่าจะทำความสะอาด จัดฉากใหม่อีกครั้งก็กินเวลาอีกร่วมสิบนาที!

“หน้าซีดเชียวนะน้องเจ”

นิฌานถือโอกาสได้พัก แต่เป็นการพักที่เต็มไปด้วยความรวดร้าวใจยิ้มไม่ได้หัวเราะไม่ออก ผมรีบส่งน้ำให้เขาดื่มระหว่างรอทีมงานเคลียร์พื้นที่ ก่อนจะเพิ่งนึกได้ว่ามีแซนวิซในกระเป๋า ซื้อเผื่อตอนเดินกลับบ้านเมื่อเย็นวานเพราะตั้งใจจะหนีใครบางคนถึงขนาดยอมอดกับข้าวฝีมือแม่

“อะไรครับเนี่ย”

“รีบกินสิครับ ถ้าถ่ายเสร็จต้องรีบไปงานเดินแบบต่อทันทีเลยนะ พี่ลืมแล้วเหรอ”

“พี่ไม่ลืมหรอก” นิฌานหัวเราะในลำคอ รับไปแกะพลาสติกเตรียมกินแต่โดยดี ไม่วายส่งอีกครึ่งชิ้นให้ผมทั้งรอยยิ้ม “น้องเจต่างหากที่ลืม ถ้าพี่อดอาหาร เราเองก็อดด้วยนะ แล้วยกแซนวิซให้พี่หมดอย่างนี้เราจะกินอะไร”

“ผมไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ต้องเดินแบบนี่นา”

ผมยอมรับ ผมลืมจริงๆ นั่นแหละ แต่ชั่งใจดูแล้วยังไงแซนวิซก็จำเป็นกับนิฌานมากกว่า เกิดเป็นลมกลางเวทีขึ้นมาจะทำยังไง ผมแบกรับความเสี่ยงอีกไม่ไหวนะ! แค่กับมี่จังอะไรนี่ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว!!

“เด็กกำลังโตต้องกินให้ตรงเวลา” นิฌานวางท่าเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนเด็ก ก่อนจะวางแซนวิซครึ่งชิ้นนั้นกับพลาสติกบนเก้าอี้พร้อมลุกไปเตรียมเข้าฉากอย่างไม่สนใจไยดีว่าแซนวิซจะน้อยใจขนาดไหนที่ถูกทิ้ง

ผมมองขนมปังสอดไส้แฮมชีสแล้วนึกสงสาร ยอมกินครึ่งชิ้นที่แทบไม่ระคายท้องนั้นเข้าปาก เคี้ยวงัมๆ อย่างลำบากใจเป็นล้นพ้น

เที่ยงตรง เริ่มถ่ายทำฉากที่สาม

ทั้งที่ควรจะเป็นเวลาเลิกกอง แยกย้ายเตรียมเดินทางไปงานเดินแบบ แต่กลับต้องมาติดแหงก!

ดาราสาวเองก็ช่างคงเส้นคงวา พอถึงตอนที่ต้องพูดตามบทก็มึนงงอีกครั้ง ผู้จัดการร้องห่มร้องไห้อ้างเหตุผลว่าเธอปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้ต่างๆ นาๆ ทีมงานทุกคนไม่อยากมากเรื่องจึงพร้อมใจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ พยายามจบการทำงานให้เร็วที่สุด

สมาธิของผมเองก็ตั้งมั่นกับฉากตรงหน้า ก่อนจะถูกทำลายไม่เหลือซากเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากกระเป๋าของนิฌาน

ขณะนี้เวลาเที่ยงยี่สิบนาที

ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก สังหรณ์ในใจบอกเตือนว่าปลายสายไม่ใช่หญิงวัยกลางคนช่างถาม หรือแอนตี้แฟนของนิฌานอย่างแน่นอน แม้ตอนนี้จะอยากเจอพวกเธอมากกว่าก็ตาม!

“สวัสดีครับ ผมเจตริน ผู้จัดการของนิฌานครับ”

(( สวัสดีค่ะ ฉันติดต่อมาจากงานเดินแบบที่ห้าง xxx นะคะ ))

ถ้าเดาเลขหวยแม่นแบบนี้บ้างก็คงดี

(( ไม่ทราบว่าทางคุณผู้จัดการกับนิฌานมาถูกหรือเปล่าคะ ถ้าติดขัดตรงไหนสามารถสอบถามได้เลยนะคะ ))

นะ...นี่มันการทวงถามโดยอ้อมชัดๆ! แปลความหมายออกมาเป็น ‘อยู่ที่ไหนแล้ว เมื่อไหร่จะถึง’

“ขอบคุณมากนะครับ ทางเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเส้นทาง ตอนนี้กำลังรีบไปครับ”

(( กำลังรีบไป? ยังไม่ใกล้ถึงอีกเหรอคะ ทางเราเริ่มเดินแบบตอนบ่ายโมงนะคะ เวลานัดจริงควรมาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้คนอื่นๆ ก็มากันครบหมดแล้ว ต้องแต่งหน้าแต่งตัว ทวนคิวเดินกันอีกนะคะ ))

“ครับ ผมเข้าใจครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พอดีเกิดเหตุสุดวิสัยทำให้มีความล่าช้าเกิดขึ้น แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณนิฌานจะไปทันแน่นอน”

(( แน่นอนนี่อีกนานแค่ไหนหรือคะ น้องพูดชัดๆ ให้พี่ได้มั้ย ))

ตอนแรกเรียกคุณ ตอนนี้เหลือแค่น้อง

เสียงเด็กช่างเป็นปัญหานัก เพียงพริบตาผมก็ถูกข่มแล้ว แต่ในสถานการณ์แบบนี้...ผมไม่กล้าหือหรอก

(( อย่าเงียบสิคะน้อง! นิฌานล่ะอยู่ไหน ขอสายนิฌานด้วยค่ะ! ))

“คือว่าตอนนี้...คุณนิฌานไม่สะดวกครับ”

(( จะไม่สะดวกได้ยังไงคะ รับงานของเราแล้วจะเบี้ยวกันแบบนี้เหรอคะน้อง ))

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”

(( งั้นให้คำตอบพี่ด้วยค่ะ ))

“ผมจะให้คุณนิฌานติดต่อกลับนะครับ”

(( น้องคะ บอกให้รอติดต่อกลับเนี่ยต้องรอนานแค่ไหนคะ พี่ต้องไปแจ้งกับฝ่ายอื่นอีกนะ ไม่รู้ล่ะ น้องต้องให้คำตอบพี่เดี๋ยวนี้ ))

“แต่ว่า...”

(( ให้นิฌานมาคุยกับพี่เดี๋ยวนี้ค่ะ! ))

ผมตัวหดเหลือสองนิ้ว แม้เคยมีประสบการณ์ทำงานเป็นพนักงานคิดเงินในร้านอาหารหรือเซเว่นมาแล้ว เคยเจอปัญหาลูกค้าเมากร่าง หาเรื่อง ไม่มีเงินก็แล้ว แต่สถานการณ์ช่างแตกต่างกับตอนนี้ลิบลับ เพราะผมสามารถควบคุมได้ ยังอยู่ในขอบเขตที่สามารถจัดการเองได้ด้วยตัวคนเดียว เจอลูกค้าเมากร่างงั้นเหรอ จัดไอคิโดให้หมอบสักชุดยังไงล่ะ เจอลูกค้าหาเรื่องงั้นเหรอ ผมนิ่งไม่โต้ตอบเดี๋ยวก็เบื่อไปเอง เจอลูกไม่มีเงินจ่ายงั้นเหรอ ก็ไม่ต้องให้ของ ให้อีกฝ่ายโทรเรียกเพื่อนมาจ่าย หรือหนักหน่อยก็แจ้งความจับไงล่ะ

แต่สถานการณ์ในตอนนี้...

หากพูดออกไปว่าอีกยี่สิบนาที แล้วไม่เป็นไปตามนั้นล่ะ

หากดาราเมาค้างคนนั้นทำน้ำหอมแตกอีกล่ะ

หากผิดคำพูด ผมไม่สามารถรับผิดชอบผลที่ตามมาแน่ๆ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมเองได้ไม่กล้าเอ่ยออกไปจริงๆ

(( ว่ายังไงคะน้อง นิฌานอยู่ไหน ให้นิฌานมาคุยเดี๋ยวนี้นะ! ))

“สวัสดีครับ ผมนิฌานเอง โวยวายอะไรครับสุดสวย”

ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆ โทรศัพท์ก็ถูกแย่ง ไม่รู้ว่านิฌานมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พอหันไปมองก็เห็นว่ากล้องยังถ่ายอยู่ด้วยซ้ำ ดาราสาวก็นั่งอยู่ตรงนั้น ในมือถือกล่องขวดน้ำหอม...ไฟพร้อม ทุกอย่างพร้อม แต่ทุกคนพากันมองมาทางผมตาปริบๆ เหมือนงุนงงว่าทำไมจู่ๆ พระเอกชื่อดังถึงได้เดินออกจากฉากมารับโทรศัพท์เอาดื้อๆ

“อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับ ผมกำลังรีบไป ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงแล้ว รอกันหน่อยนะ ถึงเมื่อไหร่ถ้าจะต่อว่ากันก็พร้อมน้อมรับเต็มที่ ไม่เบี้ยวแน่นอนสัญญาเลย” นิฌานเอ่ยทั้งรอยยิ้มสบายๆ “แล้วเจอกันในงานครับสุดสวย”

ผมรับโทรศัพท์ที่วางสายไปแล้วด้วยความสับสน

“พี่มาได้ไง”

...สับสนว่าจู่ๆ นิฌานโดดออกจากฉากมาทำไม!

“เห็นน้องเจกำลังมีปัญหา ซุปเปอร์แมนพี่ฌานก็ต้องเหาะมาช่วยสิ” นิฌานยักคิ้ว ก่อนจะขยี้ศีรษะผมเบาๆ คล้ายมันเขี้ยว “ไว้ค่อยคุยกันนะ พี่ไปจัดการตรงนู้นก่อน...ขอโทษครับ พอดีมีสายด่วนสำคัญต้องรับจริงๆ เริ่มถ่ายต่อกันได้เลย มี่จัง คราวนี้ขอเทคเดียวผ่านเลยนะ แล้วครั้งหน้าพี่จะพาไปช้อปปิ้ง”

พอได้ยินคำว่า ‘ช้อปปิ้ง’ ดวงตาลอยๆ ของดาราสาวก็เปล่งประกายระยิบระยับทันควัน

“อย่าผิดสัญญานะคะพี่ฌาน”

“พี่เคยผิดสัญญาด้วยเหรอ มา เทคเดียวผ่านนะครับ”

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อำนาจของช้อปปิ้งทำให้ดาราสาวสามารถเล่นเทคเดียวผ่านจริงๆ กินเวลาไม่ถึงห้านาทีหลังวางสายด้วยซ้ำ! ผมรีบถือกระเป๋าเดินไปหานิฌานที่ยกมือไหว้ลาคนในกอง พร้อมบอกว่าจะซักเสื้อมาคืนฝ่ายคอสตูมวันหลัง หนึ่งดาราและผู้จัดการเร่งฝีเท้าเดินออกจากสตูดิโอ อีกนิดก็แทบจะเหาะอยู่แล้ว

“คำขอบคุณล่ะ”

รีบแทบตายยังจะมีหน้าหันมายักคิ้วทวงบุญคุณกันอีก ผมแยกเขี้ยวให้เขา พร้อมส่งกระดาษทิชชูให้ซับใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอาง

“ขอบคุณครับ”

“ฮ้า ชื่นใจ” นิฌานทำหน้าเคลิ้มเกินจริง ไอ้เราจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก ผมเปิดโทรศัพท์ ดูระยะทางแล้วคิดว่ายังไงก็ไม่ทันยี่สิบนาทีตามรับปากแน่นอน

“ผมลองเช็กจราจรดูแล้ว ข้างหน้ารถติดมากเลยพี่ฌาน”

“เดี๋ยวพี่นั่งมอเตอร์ไซค์ไป เจขับรถพี่ตามมานะ”

นิฌานส่งกุญแจให้อย่างไม่คิดมาก แต่เดี๋ยวก่อน...

“ผมขับรถไม่เป็น!”

บ้านทองคำดีเน้นเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากับรถเมล์ แม้ในช่วงหลังมานี้พี่ชายจะหาเงินเข้าบ้านได้มากกว่าสมัยก่อน แต่ก็มีเสี่ยคอยรับส่ง ทำให้ไม่มีความคิดจะซื้อรถเลยสักครั้ง แน่ล่ะ ก็บ้านผมเป็นตึกแถว ไม่ค่อยสะดวกจอดรถหน้าบ้านนานๆ นัก แล้วยังไม่นับเรื่องค่าซ่อม ค่าน้ำมันอีก ยุ่งยากตายชัก

“งั้นเดี๋ยวเจนั่งแท็กซี่ตามมาแล้วกัน ไม่ต้องรีบร้อน” นิฌานเก็บกุญแจคืน ก่อนจะขยับเนกไท ถกแขนเสื้อ เตรียมซ้อนมอเตอร์ไซค์เต็มที่

“ผมก็นั่งมอเตอร์ไซค์ตามหลังพี่นั่นแหละ แล้วถ้าไปไม่ทันจริงๆ...พี่จะอ้างว่าเป็นความผิดผมก็ได้นะ”

“ทำไมล่ะ”

พวกเรามาถึงหน้าตึกแล้ว แต่มีมอเตอร์ไซค์จอดแค่คันเดียว...ช่วงเที่ยงอย่างนี้พนักงานหลายคนคงนั่งไปหาซื้อของกินกันถึงได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

“ผมเป็นเด็ก เพิ่งรับงานไม่นาน โยนความผิดมาที่ผมก็ได้ ผมไม่ถือหรอก เพราะพี่จะอ้างว่าเป็นความผิดของมี่จังก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ กล่าวหาผู้หญิงที่ป่วยหนัก ท้องเสียขนาดนั้นไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย เผลอๆ จะโดนมองไม่ดีอีก ยังไงซะผมก็เป็นผู้จัดการ ต้องช่วยแบกรับภาพลักษณ์ของดาราอยู่แล้ว”

“ไม่ พี่จะไม่ทำแบบนั้น” นิฌานหันมาบอกผมจริงจัง ขณะโบกเรียกมอเตอร์ไซค์ไปด้วย

“ทำไมล่ะ” กลายเป็นผมถามประโยคเดิมกับเขาซะงั้น

“พี่ไม่อยากเป็นคนขี้ขลาดในสายตาน้องเจ”

“ผมไม่คิดว่าพี่ขี้ขลาดหรอก ขนาดผู้จัดการของมี่จังที่พยายามแก้ต่างแม้รู้ว่าคนในกองพอเดาอะไรๆ ได้ก็ไม่ใช่คนขี้ขลาด ทุกคนแค่พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็เท่านั้น”

“แต่พี่รู้สึกไม่ดี เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมพี่ต้องโทษเราด้วย”

“แต่พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเหมือนกัน”

ขณะนี้เวลาเที่ยงครึ่ง ไปถึงยังไงก็ไม่พ้นถูกต่อว่า ถึงจะไม่เห็นด้วยตา แต่ผมรู้...รู้ว่าเขาต้องยิ้มรับคำเหล่านั้นไม่แก้ตัว แต่ก้มหน้าก้มตาเตรียมทำงานแถมยังมีอารมณ์ไปหยอกล้อคนอื่นอีก และเพราะรู้...ผมที่เห็นความพยายามของเขาในการถ่ายโฆษณาให้เสร็จ กล่อมเรียกสติดาราสาว สร้างบรรยากาศกองถ่ายไม่ให้กดดันแล้วนั้น...ก็ไม่อยากเห็นความพยายามต้องสูญค่า มาถูกเข้าใจผิดในอีกงานหนึ่ง

ทั้งที่เขาทำดีที่สุดแล้วแท้ๆ ทำหน้าที่ตัวเองอย่างเต็มที่ จนเรียกว่าเกินร้อยด้วยซ้ำ!

“พี่ควรโดนชมมากกว่าสิไม่ใช่โดนด่า! ถ้าต้องก้มหน้ารับผิดชอบในเรื่องที่ไม่ผิดสู้โยนให้ผม...อื้อ!”

“น้องเจที่ไม่น่ารัก ทำไมถึงได้น่ารักอย่างนี้นะ” นิฌานโอบแก้มผมด้วยสองมือจนปากจู๋พูดอู้อี้ไม่เป็นคำ เขามองภาพนั้นแล้วอมยิ้ม มันใช่เวลาหรือไง! “แล้วเจอกันในงานนะครับ”

นิฌานซ้อนมอเตอร์ไซค์ สวมหมวกกันน็อก กระซิบบอกวินให้รีบซิ่ง ก่อนที่แผ่นหลังนั้นจะเลาะเลี้ยวแทรกรถติดหน้าปากซอยหายไปอย่างรวดเร็ว

ผมเดินมารอมอเตอร์ไซค์คันต่อไปพร้อมนวดแก้มตัวเองไปด้วย

รับรู้ถึงอคติในใจบางอย่างที่ลดเลือนลง สายตาที่มองพระเอกชื่อดังจอมเจ้าชู้ก็เปลี่ยนไป

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...โดนทำเหมือนเด็กที่แก้ไขอะไรไม่ได้นั้น...มันน่าเจ็บใจเป็นบ้า!

 

-----------------------

นิฌานจอมแถดูเท่ขึ้นมั้ยคะ รายนั้นขยันหยอดน้องเจ แต่น้องเจก็ยังไม่คิดอะไรอยู่ดี แม้ตอนนี้...สายตาน้องเจจะเปลี่ยนไป มองนิฌานว่าก็เป็นคนใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า ไม่ได้เป็นปลาไหลไปวันๆ ก็ไม่ได้มีในแง่อกุศลทางชู้สาวแม้แต่น้อยนะเออ!!

แต่จากนี้น้องเจที่นั่งเบื่อๆ ในกอง ไม่คิดสนใจนิฌานมากนักก็จะเริ่มหันมาสนใจบ้างแล้วค่ะ!

ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้นของคู่นี้เนอะ มาร่วมเอาใจช่วยกันด้วยนะคะ ^ ^

#JustUnotUs

เพจนักเขียนที่อยากจะเป็นพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้น้องเจซ้อน  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-03-2018 19:52:44
เป็นการทำงานที่ลำบากเหลือแสนจริงๆ วงวารร
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-03-2018 19:53:39
ในความเป็นนิฌาน ยังมีนิฌานเวอร์ชั่นอื่นๆซ้อนอยู่  o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-03-2018 20:17:08
ตอนนี้คือหัวร้อนกับยัยดาราสาวนั่นมาก นิสัยแน่สุดๆรู้ว่ามีงานแต่ดันไปเมาแถมยังไม่พร้อมในการทำงานอีกไม่เป็นมืออาชีพเลย ทำคนอื่นเสียเวลาแถมทำน้องเจโดนด่าอีก ฮึ่ย!! อยากตบ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 23-03-2018 20:21:37
พี่ฌาน ยังมีอะไร ๆ ให้ค้นหาอีกเยอะสินะ ผู้ชายคนนี้
เริ่มมีส่วนดี ๆ ให้น้องเจเห็นแล้วน้า
นิสัยส่วนไหนที่แย่ ๆ ก็พยายามปรับปรุงตัวซะ
น้องเจฉลาด รู้อะไรเป็นอะไร แยกแยะได้แน่ ๆ นะพี่ฌาน > <
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 23-03-2018 21:08:05
ดีคะแต่สั้นเกิน โอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 23-03-2018 21:42:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-03-2018 23:23:48
พี่ฌานก็มีดีเหมือนกันนะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-03-2018 23:33:46
นั่นสิลืมไปได้ไงว่า ถึงนิฌานจะมีข่าวเสียเรื่องชู้สาว แต่งานเค้าดีมากนะ ก็ถือว่าดีในระดับนึงเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-03-2018 23:39:20
อ่านมาถึงตอนนี้ก็เห็นความเป็นโปรเฟสชันนอลในการทำงานของคุณพี่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 24-03-2018 00:08:58
นิฌานนี่เป็นคนที่ดูน่าค้นหานะ ตอนแรกคิดว่าแค่กะล่อนไปวันๆซะอีก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-03-2018 00:14:29
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 24-03-2018 02:41:52
กดดันแทนเจเลยตอนแรก
พี่ฌานเท่ขึ้นเยอะเลยตอนนี้ มายฮีโร่เลยจ้าาาา
เอาใจไปเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-03-2018 03:51:16
นี่แหละอิทธิพลของนักเขียน สามารถทำให้อีตาฌาณ คนขี้หลีในภาคหนูจิระ เป็นคนที่ก็พอดูจะคบได้ ดูดีขึ้นสำหรับหนูเจ  แต่ยังไม่มากพอเท่าไหร่นัก  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 24-03-2018 08:43:43
+10 ให้กับความเท่ของพี่ณานในตอนนี้!!
เท่มาก มืออาชีพมากมายจร้าาาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 24-03-2018 21:01:15
นิฌานทำคะแนนดีมากตอนนี้
พลิกกลับเลย  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-03-2018 22:26:20
พี่ฌาณคือเรื่องงานหายห่วงยกเว้นเรื่องหญิง เหมือนเป็นนิสัยความเคยชินในการหยอดปากหวาน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 25-03-2018 05:49:41
 o13 :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 25-03-2018 07:00:19
 :laugh :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 5 : ความผิด [23/03/61] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 25-03-2018 10:22:26
ไม่ชอบคนกะล่อนแบบนี้เล้ยยยย

แต่จะ "อดทนรอ" พระเอกปรับปรุงตัวนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-04-2018 10:40:34


ตอนที่ 6 : อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

 


“พ่อครับ แม่ครับ ผมอยากเรียนขับรถ”

งานเดินแบบจบลงด้วยดี การสัมภาษณ์แบบเนียนโฆษณาเช็กเมทซีซันสามก็ราบรื่น นิฌานพูดตามที่ผมเตรียมไว้เป๊ะทุกคำไม่มีตกหล่น แม้ว่าหลังจากนั้นจะถูกทางผู้จัดงานลากไปดุเพราะต้องรีบแต่งตัวเตรียมขึ้นเวทีไม่ทันต่อว่าก็ตาม

ตอนนั้นผมอยากจะเข้าไปร่วมยกมือไหว้ขอโทษขอโพยด้วย เพราะยังไงก็ทำใจไม่ได้ที่เห็นเขาพูดขอโทษทั้งที่ทำดีที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกกันเป็นคนนอก ทางเจ้าของงานไม่เห็นเด็กอายุสิบแปดในสายตา พอผมมาถึงยังมองงงๆ ว่านี่หรือผู้จัดการคนใหม่ของนิฌาน ชาญชัย

หลังแวะไปงานอีเวนต์อีกที่ เขาก็ขับรถมาส่งถึงบ้านตอนสองทุ่มตรง สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดในวันนี้คือการที่ผมขับรถไม่เป็น! ตอนนั่งแท็กซี่กับนิฌานกลับสตูดิโอเพื่อเอารถนั้น...ยิ่งนึกก็ยิ่งรู้สึกรับไม่ได้ ผู้จัดการประสาอะไรต้องให้ดารารับส่ง เวลาไปทำงานก็นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ ไม่ทำอะไรเลยนอกจากเป็นภาระ!

ถึงจุดประสงค์ในการว่าจ้างของนิฌานคือต้องการเด็กไร้ประสบการณ์ นั่งทวนตารางงานไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องอื่นๆ แต่ให้ผมเป็นตัวถ่วงก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฉะนั้นผมจะไปเรียนขับรถ!

“ถ้าเจตัดสินใจแล้วก็เดินหน้าให้เต็มที่เถอะจ้ะ” แม่ผมบอก แม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็พร้อมสนับสนุน

“เจไปเรียนก็ดีเหมือนกัน บ้านเราไม่มีใครขับเป็นเลย เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างน้อยก็มีคนที่ขับได้”

“แต่บ้านเราไม่มีรถนะจ๊ะพ่อ แบบนี้เจจะเอารถที่ไหนไปสอบใบขับขี่ล่ะ”

“พี่จิมีครับ” ผมพูดอย่างมั่นใจ เอ่ยถึงพี่ชายที่วันนี้ไปค้างบ้านแฟน “พี่จิเคยเล่าว่าได้ของขวัญจากเสี่ยเป็นรถหนึ่งคัน แม้จะปฏิเสธไปแล้วแต่เสี่ยก็ยัดเยียดให้ แต่เพราะที่บ้านเราไม่สะดวกจอดรถนานๆ  เลยไปจอดที่บ้านเสี่ยแทน”

“เสี่ยเขาซื้อให้จิ เราเอาไปใช้อาจจะไม่ค่อยเหมาะนะลูก”

“ผมขอใช้ตอนสอบใบขับขี่เท่านั้น ระหว่างนี้ที่เรียนเขามีรถให้ยืม ตอนทำงานผมก็ใช้รถของพี่ฌานได้ครับ”

“เจลองพูดกับจิหรือยัง” แม่ยังนึกเกรงใจเสี่ย

“พี่จิไม่เคยปฏิเสธคำขอร้องของน้องชายอย่างผมหรอก” ผมกอดอก ไม่รู้ซะแล้วว่าใครอยู่เหนือห่วงโซ่อาหารระหว่างผม พี่จิ กับเสี่ย

ถึงจะถูกเรียกว่าเสี่ยแต่อำนาจในมือน่ะน้อยยิ่งกว่าน้อย เป็นจุดต่ำสุดของห่วงโซ่ไปนั่นแหละ!!

“แล้ว...มีปัญหาอะไรมั้ยลูก” พ่อหันมากวักมือเรียกไปคุยกระซิบกระซาบลับหลังแม่ “เจ้าจิมันโทรมาฟ้องว่ามีคนคิดเคลมเจ”

โธ่ พี่จิคนดีของผม ตอนเช้าทำทีเหมือนจะทรยศ แต่ในใจยังคิดห่วงอยู่สินะ

ผมซึ้งน้ำตาจะไหล น่าแปลกที่ครั้งไม่ยักจะอคติกับนิฌานเหมือนเดิม อารมณ์ฮึ่มแฮ่พร้อมจะตั้งป้อมใส่ก็หดหายน้อยลงมาก

“ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อ นิฌานเขาไม่ใช่คนไม่ดี”

พูดจบผมก็ประหลาดใจตัวเอง ขมวดคิ้วนิดหน่อย ก่อนจะแก้คำเสียใหม่

“แต่ก็ไม่ใช่คนดี”

พ่อทำหน้ามึนใส่ผม ผมก็ทำตาประหลับประเหลือกใส่พ่อ สุดท้ายก็เป็นอันจบบทสนทนาด้วยความงุนงงทั้งพ่อและลูก

จะว่ายังไงดีล่ะ...เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าไอ้ความไหลลื่นของเขานั้นก็ไม่ได้แย่มากนัก รอยยิ้มนั้นมีจุดประสงค์ ความเจ้าชู้ก็ทำไปเพื่อบรรลุผล แม้จะมีทั้งเพื่อส่วนตัวและส่วนรวม แต่ก็ไม่นับว่าเลวร้ายเกินรับไหว...ละมั้ง

หลังคุยกับพ่อแม่เสร็จผมก็ขึ้นห้องเปิดคอมพิวเตอร์หาที่เรียนใกล้บ้าน เจอสถานที่น่าสนใจนั่งรถเมล์ไปแค่สองป้ายเท่านั้น ราคาก็ไม่แพงมาก แถมยังสามารถสอบใบขับขี่ได้อีกด้วย หลังตกลงใจแล้วผมก็ไม่ลืมโทรไปขออนุญาตพี่ชายคนดี

แต่...พี่จิไม่รับ

แปลกมาก พี่จิผู้มากมารยาทนั้นมักไม่ปล่อยให้ปลายสายรอนาน เว้นแต่ว่า...ติดกิจกรรมบางอย่างอยู่

ผมเงยมองนาฬิกา เพิ่งจะสามทุ่มเท่านั้น เฮ้ยๆ แม้จะรู้แก่ใจว่าเวลาพี่ชายไปค้างบ้านแฟนนั้นย่อมไม่วายถูกจับกิน แต่จะรีบมุดโปงไวไปมั้ย!

ผมวางโทรศัพท์บนโต๊ะ ตั้งใจว่าจะอาบน้ำแล้วค่อยลองโทรใหม่ แต่เสียงเรียกเข้าดังแทรกก่อน ผมยิ้มกริ่ม กดรับทันทีโดยไม่ดูปลายสาย

“ทำไมพี่จิไม่รับโทรศัพท์ผม!”

มีความสุขกับเสี่ยไม่สนใจน้องนุ่งขนาดนี้ อดแกล้งให้พี่ชายลนลานรีบง้อไม่ได้จริงๆ

(( น้ำเสียงห้วนเชียว กำลังหงุดหงิดอะไรเหรอครับ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเหงาก็โทรหาพี่ได้ รับรองว่าพี่จะไม่มีวันพลาดสายของน้องเจ ))

ผมชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่ต้องดูชื่อคนโทรก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร

“พี่ฌานไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนสนิทหรอกเหรอครับ” ผมเปลี่ยนเสียงเป็นเรียบเรื่อยทันควัน ถึงจะมองเขาในแง่เห็นอกเห็นใจมากขึ้น แต่การถูกแทะโลมนั้นมันน่าสยองขวัญค่อนไปทางเหนื่อยหน่าย ถ้าเป็นไปได้ผมอยากร่วมงานกันโดยไม่มีเรื่องชู้สาวมาข้องเกี่ยว

(( อยู่ครับ แต่ปลีกตัวมาโทรหาน้องเจ กลัวดึกกว่านี้จะไม่เหมาะ ))

“ถ้าโทรมาเพื่อคุยเล่น จะตอนไหนก็ไม่เหมาะทั้งนั้นแหละครับ”

(( โชคดีจัง เพราะพี่โทรมาเรื่องงาน แสดงว่าจะหลังจากนี้ต่อให้ดึกแค่ไหนพี่ก็โทรมากวนน้องเจได้ใช่มั้ยครับ ))

“ถ้ารู้กับอกว่ามันกวนใจผม อย่าโทรมาบ่อยๆ จะดีกว่าครับ”

(( โหดร้าย ))

เป็นคำตัดพ้อที่น่าถีบมากผมบอกเลย

(( พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปรับน้องเจตอนเที่ยงนะครับ ))

“นี่คือเรื่องงานแล้วเหรอครับ”

(( ก็พี่มารับเราไปทำงานด้วยกันไง ))

ผมกลอกตา จำตารางของนิฌานได้ว่าเขามีอัดรายการตอนบ่ายโมงครึ่ง เพราะมีคิวเอาช่วงสายไงวันนี้ถึงได้หนีไปงานเลี้ยงเตรียมเมาเต็มที่

“ผมไม่คิดว่าการมารับผู้จัดการจะเป็นงานของดาราตั้งแต่เมื่อไหร่นะครับ” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “ถ้าพี่อยากมากินข้าวกับแม่ผมก็เชิญ เพราะผมมีธุระ ไม่รอคนตื่นสายมารับหรอก”

(( เอ๊ะ นี่น้องเจกำลังจะบอกให้พี่รีบกลับเพื่อจะได้ตื่นมารับแต่เช้ารึเปล่า ))

“ผมกำลังจะบอกว่านี่ไม่ใช้หน้าที่ของดารา ฉะนั้นพี่ไม่ต้องมารับผมต่างหาก”

(( งั้นพรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงครึ่งเหมือนเดิมดีมั้ยครับ ))

“สนุกกับงานเลี้ยงให้เต็มที่เถอะครับ ผมวางละ”

คร้านจะโต้เถียงกับคนที่รู้ดีแก่ใจว่าพูดไปเรื่อยแต่จะทำจริงหรือเปล่านั้นยังต้องคิดตลบอีกหลายชั้น เพราะไอ้คำหวานแสนเอาอกเอาใจเหมือนเป็นคนพิเศษแบบนี้ไงใครต่อใครถึงได้ตกเป็นเหยื่อ วันนี้รึอุตส่าห์มองนิฌานในแง่ดีขึ้น แต่ระหว่างความรับผิดชอบในงานกับความเจ้าชู้นั้นต้องแยกแยะ อย่าเอามาปนกันจนเกิดความเห็นใจ!

พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง

ผมมองชื่อบนหน้าจอแล้วถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะกดรับ

“สัพเพ สัตตา อะเวราโหนตุ”

(( น้องเจ... ))

“อัพยาปัชฌาโหนตุ”

(( เอ่อ... ))

“อะนีฆาโหนตุ”

(( .... ))

“สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ”

(( สาธุ...เดี๋ยวๆ น้องแผ่เมตตาให้พี่ทำไมเหรอครับ ))

“จะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนซึ่งกันและกันไงครับ” ผมตอบกลับทันควัน เชื่อว่าคนฉลาดอย่างนิฌานจะต้องเข้าใจความหมาย แม้จะหลุดยิ้มเพราะคาดไม่ถึงว่าเขาจะรับมุกสาธุกันซะด้วย

(( ตกลงครับน้องเจ พรุ่งนี้เจอกันที่ทำงานนะครับ ))

“ขอบคุณที่เข้าใจอะไรง่ายนะครับ” ผมพยักหน้าอย่างพอใจที่ไม่ต้องงัดบทสวดชุดใหญ่ให้นิฌานเลิกตื๊อ

(( เดี๋ยวก่อนน้องเจ อย่าเพิ่งวาง! ))

“อยากให้ผมร่ายศีลห้าต่อเหรอ”

(( พี่แค่จะบอกว่าราตรีสวัสดิ์...ฝันดีนะครับน้องเจ ))

“แค่นี้ใช่มั้ย งั้นผมวางละ”

ผมลอบชมตัวเองในใจว่าทำดีหลังวางสาย ก่อนจะพนมมือไหว้พระที่ช่วยสร้างความสุขกายสุขใจ ขจัดปัดเป่าทุกข์ภัยได้รวดเร็วนัก

ส่วนพี่จิ...ขนาดผมอาบน้ำก็แล้ว นั่งเล่นเกมก็แล้ว ยังไม่คิดโทรกลับหาน้องเลย

ฮึ่ม ดูไว้นะครับ นี่เป็นตัวอย่างไม่ดีของคนติดแฟนจนลืมครอบครัว!

 













เช้านี้ผมตื่นตอนเจ็ดโมงไปวัดทำบุญตักบาตรกับแม่เพื่อสร้างกุศลให้ตัวเอง ก่อนจะนั่งรถเมล์ไปสนามฝึกขับรถเพื่อลองดูสถานที่และลองพูดคุยคร่าวๆ เนื่องจากผมมีเวลาว่างแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น โชคดีมากเพราะที่นี่เปิดถึงสามทุ่ม สามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามสะดวก นอกจากนี้ยังสามารถสอบใบขับขี่ได้เลยโดยมีคนของทางกรมขนส่งมาประเมินเองถึงที่ สะดวกสบายสุดๆ

ผมนั่งเปิดตารางงานนิฌานมาเทียบเพื่อนัดเวลากับครูผู้สอน ภาคทฤษฎีไม่มีปัญหาเพราะวันนี้ผมว่าง จึงนั่งอบรมรวดถึงเที่ยง แต่ภาคปฏิบัติอีกสิบชั่วโมงนี่สิ...เฉลี่ยออกมาแล้วได้วันละสองชั่วโมง มีเว้นบางช่วงตามความว่างของนิฌานตลอดสัปดาห์ ซึ่งหากเรียนจบแล้วสามารถสอบใบขับขี่ในวันอาทิตย์ที่สนามฝึกแห่งนี้ได้เลย

...วันอาทิตย์งั้นเหรอ

การสอบใบขับขี่ใช้เวลาทั้งวัน แต่วันนั้นนิฌานติดงาน ถ้าขอลาชั่วคราวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

เมื่อจ่ายเงินและอบรมเสร็จเรียบร้อยผมก็นั่งรถเมล์ไปที่บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ มาถึงตอนเที่ยงสี่สิบ ผมลูบท้องที่ป่องน้อยๆ จากการแวะกินข้าวร้านหน้าปากซอยก่อนจะเดินเข้าบริษัทแล้วโทรหาคุณเลขา

ไม่นานเลขาคมสันก็ลงมารับ พาขึ้นไปยังชั้นบนสุดเพราะพี่ชายกำลังรอง้อผมอยู่

“นี่ครับ บัตรของคุณเจ” เลขาคมสันยื่นบัตรแข็งร้อยเชือกให้ระหว่างอยู่ในลิฟต์ส่วนตัวสำหรับท่านประธานและผู้เกี่ยวข้อง “เนื่องจากคุณเซ็นสัญญากับคุณนิฌานโดยตรง รับเงินค่าจ้างเต็มๆ จึงไม่นับเป็นพนักงานของบริษัท ผมเลยทำบัตรผู้ช่วยพิเศษให้แทนครับ”

“ขอบคุณครับ” ผมรับมาห้อยคอ  สาเหตุที่ไม่ยอมกรอกใบสมัครเป็นเด็กฝึกงานอย่างเป็นทางการ เซ็นสัญญาแต่กับนิฌานก็เพื่อจะได้ไม่โดนหักภาษีและค่านายหน้าไงล่ะ!

ส่วนเจ้าบัตรใบนี้ก็มีประโยชน์กับผมมาก เพราะปกติดารากับผู้จัดการสามารถเดินเข้าออกบริษัทนี้โดยใช้หน้าตาเป็นทางผ่าน แต่สำหรับเด็กใหม่อย่างผม อายุสิบแปดกำลังเอ๊าะๆ นั้นการจะติดต่อหรือพูดคุยงานจำเป็นต้องมีเจ้าสิ่งนี้ช่วยยืนยันตัวตนว่าผมนั้นมีตำแหน่ง ไม่ใช่เด็กฝึกงานทั่วไปนะเออ!

และแน่นอนว่าชั้นบนสุดของบริษัทแห่งนี้คือห้องทำงานของท่านประธาน เป็นกระจกทั้งชั้นเผยให้เห็นวิวกรุงเทพสวยงามอย่างที่พี่จิเคยอวด ด้านนอกคือโซฟารับรองแขก ด้านในคือโต๊ะเลขาขวางกั้นหน้าประตูเพื่อคัดกรองคนเข้าพบ ผมผงะเล็กน้อยเมื่อพี่จิวิ่งถลาเข้ามากอด หรือให้ขยายความหน่อยคือโผน้ำหนักใส่เต็มที่จนตัวแทบล้มกลิ้ง

“พี่จิ ผมเจ็บ” ผมกัดฟันบอกพี่ชายที่ตัวใหญ่กว่าน้องแต่ดันไม่ประมาณแรงเอาซะเลย เมื่อก่อนตอนเป็นก้ามปูยิ่งหนักใหญ่ จับผมล็อกคอเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอย่างกับน้องเป็นตุ๊กตา

“พี่ขอโทษที่ไม่รับโทรศัพท์ เจโกรธเหรอ ทำไมโทรกลับแล้วไม่รับสายล่ะ” พี่จิยอมปล่อยผมจากอ้อมกอด ก่อนจะทำตาปรอยน่าสงสาร

“พี่จิเล่นโทรมาตอนเก้าโมง ผมติดธุระแถมยังจัดการอะไรหลายๆ อย่างเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องรอปรึกษาพี่ชายที่ทิ้งน้องไปกกกับแฟนหรอก”

“เจ~~”

“อย่าพุ่งมาอีกนะ” ผมรีบยกมือตั้งฉากห้ามพี่ชาย ยอมสารภาพแต่โดยดี “ผมจะเรียนขับรถ เลยกะยืมรถพี่จิไปสอบใบขับขี่ แต่วันนี้ลองคุยแล้วว่ายืมรถที่สนามฝึกได้ทั้งตอนสอนและตอนสอบ ผมเลยไม่ต้องรบกวนพี่ พี่จิเองเถอะ เมื่อคืนทำอะไรตั้งแต่สามทุ่ม หากมีเรื่องฉุกเฉินจะทำยังไง”

“เมื่อคืนหนักไปหน่อยน่ะ” พี่จิลูบศีรษะพลางยิ้มแห้ง แต่ทางนี้กลับยิ้มไม่ออก เพราะว่า...

“นี่รอยอะไร!” ผมดึงแขนพี่ชายมาดูรอยบาดมีเลือดซิบๆ ตรงข้อมือ ภาพสยดสยองปรากฏในห้วงความคิด หรือว่าเสี่ยจะทารุณพี่จิอย่างโหดเหี้ยม มีรสนิยมชอบความรุนแรงทำร้ายร่างกายคนรักระหว่างมีเพศสัมพันธ์

ไม่ได้! ผมไม่ยอมให้พี่ชายต้องทนเจ็บตัวกับรักพิสดารอย่างเด็ดขาด มีรักที่ดีต้องเสริมสร้างสุขภาพจิตและสุขภาพกายสิ ไม่ใช่มาบั่นทอนกัน!!

ผมจับมือพี่จิลากเข้าห้องเสี่ยโดยไม่เคาะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ

“คุยเสร็จแล้วเหรอจิตริน...” แต่คนในห้องไม่รู้สักนิด เพราะเล่นทักทายผู้มาเยือนโดยไม่เงยหน้า หลงคิดว่าเป็นแฟนหารู้ไม่ว่าคือน้องชายแฟน

“เอ่อ เสี่ย เงยหน้าหน่อยเถอะครับ”

เจ้าของชื่อ(?)ทำตามคำขอ ก่อนจะขมวดคิ้วงุนงงเมื่อผมชูมือพี่ชายขึ้นแล้วชี้รอยบาดอย่างเอาเรื่อง

“นี่คืออะไรครับ ทำไมพี่จิถึงบาดเจ็บ!”

“เธอแน่ใจนะให้ฉันพูด” เสี่ยหันไปถามพี่จิ ข้ามหัวนายเจตรินซะงั้น

“เจ...ใจเย็นๆ นะ เสี่ยไม่ได้ทำร้ายร่างกายพี่”

“แล้วทำไมถึงมีแผลล่ะ” เสี่ยเมินผมได้ ผมก็เมินเสี่ยได้เหมือนกัน

“คือว่า...เมื่อคืนเราเล่นตำรวจจับผู้ร้ายกันน่ะ” พี่จิอธิบายอ้อมแอ้มด้วยความเก้อเขิน เพียงได้ยินภาพก็ปรากฏเป็นฉากๆ ใช่ว่าผมจะไม่เข้าใจเกี่ยวกับชีวิตคู่ที่เติมสีสันด้วยการสร้างบทบาทสมมติ

ตำรวจจับผู้ร้าย....ต้องมีกุญแจมือ แสดงว่าพี่ชายผมรับบทเป็นผู้ร้ายล่ะสิ

ผมนึกภาพพี่จิคนดีทำตัวชั่วช้าไม่ออกเลย

“พี่เล่นเป็นตำรวจ” พี่ชายช่วยไขข้อสงสัยให้ผม “เสี่ยเล่นเป็นผู้ร้ายน่ะ”

“แล้วทำไมพี่ถึงมีรอยบาดล่ะ”

“ก็...”

“เกมพลิกกะทันหัน เป็นผู้ร้ายจับตำรวจยังไงล่ะ” เสี่ยเอ่ยแทรก ก่อนจะเชิดหน้าอย่างพอใจในผลงาน

มองพี่จิที่ก้มหน้างุดๆ แล้วผมก็ตัดสินใจปล่อยมือพี่ชายมากุมขมับตัวเอง

ห่วงเสียของแท้ๆ เลย!

 









ตอนบ่ายโมงผมลงไปหานิฌานที่ชั้นหนึ่งเพื่อขึ้นลิฟต์ไปสตูดิโอถ่ายทำรายการพร้อมกัน มองคนตาโรย หน้าหมองคล้ำนิดหน่อยแล้วก็พอเดาได้ว่าคนที่เมื่อคืนหนักไปหน่อยไม่ใช่แค่พี่จิ แต่ยังมีนิฌาน ชาญชัยด้วย!

“น้องเจมองพี่ทำไมเหรอครับ หรือว่าพี่ดูหล่อขึ้น”

“ใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้ายังไม่รู้ตัวอีก เอ้านี่ ของฝากครับ” ผมหยิบขวดน้ำขนาดเล็กให้อย่างมีน้ำใจ

“ของฝาก?” นิฌานรับมาถืองงๆ พลิกดูสลากยี่ห้อแปลกตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“เมื่อเช้าผมไปวัดทำบุญกรวดน้ำอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรมา ก็เลยหยิบน้ำมนตร์มาฝากพี่” คนบาปหนาอย่างนี้คงไม่เคยเห็นน้ำมนตร์แปะยี่ห้อวัดแถวบ้านผมหรอก เพราะเป็นวัดใหญ่เลยวางแจกสำหรับทุกคนที่มาทำบุญโดยบริจาคเงินตามศรัทธา

“นี่น้องเจจะบอกว่าพี่เป็นเจ้ากรรมนายเวรรึเปล่า”

“แล้วแต่พี่จะคิด”

“งั้นพี่คิดว่าเป็นคู่สร้างคู่สมได้มั้ย...อย่าเพิ่งเบ้ปากขนาดนั้นพี่ล้อเล่นครับ ดูสิ ไม่ทันขาดคำก็มีเจ้ากรรมนายเวรโทรตามเลย” นิฌานหันหน้าจอโทรศัพท์ให้ผมดูเบอร์คุ้นเคยของแอนตี้แฟน “รับดีมั้ยครับน้องเจ”

“พี่ก็ลองสวดมนตร์ใส่เหมือนที่ผมทำเมื่อคืนสิ”

“แต่แอนแอนเป็นคนเอาแต่ใจ ไม่เคยฟังใคร ชอบพูดแทรกก่อนแล้ววางสายทุกที”

พูดถึงแอนตี้แฟนอย่างกับเป็นกิ๊กเก่า ผมล่ะเชื่อเขาเลย

“ผมถามจริงๆ นะ ทำไมพี่ไม่แจ้งความ หรือทำอะไรสักอย่างกับเจ้ากรรมนายเวรสายนี้ล่ะ เขาใช้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวโทรมา ตามตัวง่ายจะตายไป”

“เพราะพี่เคยเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์สามครั้ง ทุกครั้งแอนแอนโทรตามพี่ได้แม่นยำอย่างกับตาเห็น แสดงว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง เกี่ยวข้องกับคนใกล้ตัว พี่เลยไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ถึงขั้นแจ้งความ แล้วก็กล้าไม่เล่าให้ใครฟังด้วย”

“พี่ก็เลย...?”

“พี่ก็เลยปล่อยไปตามยถากรรม อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะมีความอดทนมากกว่า”

ผมกุมขมับรอบที่สองของวัน ทำไมคนใกล้ตัวแต่ละคนช่างชวนละเหี่ยใจขนาดนี้

“อย่าทำหน้าสังเวชใจขนาดนั้นสิครับน้องเจ พี่เคยโทรกลับไปหาแอนแอนนะ แต่เขาไม่ยอมคุยกับพี่เลย ขนาดใช้เบอร์สาธารณะโทรไป หลอกชวนคุยถามชื่อก็ไม่รอด เฮ้อ ความจริงพี่ก็อยากรู้ชื่อเขาเหมือนกันนะ อย่างน้อยจะได้รู้ว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครจะได้พอสืบสาวราวเรื่องถูก”

“ถ้าผมจัดการให้พี่ได้ พี่จะเลิกหยอกพร่ำเพรื่อใส่ผมมั้ย”

“น้องเจไม่ชอบเหรอครับ”

“ผมพูดตรงๆ นะ เรื่องเมื่อวานทำให้ผมรู้สึกดีกับพี่ขึ้นมาก แต่ความเจ้าชู้ของพี่กำลังจะทำให้ผมผิดหวัง ถ้าอยากให้การทำงานตลอดสามเดือนราบรื่น พี่ควรเลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้ว”

นิฌานหุบยิ้ม คล้ายกำลังชั่งใจคิดถึงผลดีผลเสีย

“โอเคครับ หากน้องเจล้วงชื่อที่อยู่ของแอนแอนได้ พี่จะเลิกหยอกพร่ำเพรื่อใส่แน่นอน”

ผมดึงแขนนิฌานที่เบี่ยงหลบไปด้านหลังขึ้นพลางเลิกคิ้วทวงถามความซื่อสัตย์ เพราะเห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาแอบไขว้นิ้ว!

“พี่ฌานดื่มน้ำมนตร์ที่ผมให้ก่อนแล้วค่อยสัญญาดีกว่า”

“โธ่...น้องเจ”

“หรือให้ผมราดดี” ผมแย่งขวดน้ำมาแกะฝา นิฌานรีบคว้าคืนจนน้ำกระเซ็น เล่นเอาอีกฝ่ายรีบชักมือกลับพร้อมแสร้งสะดุ้งเฮือกร้องเสียงหลง

“โอ๊ย ร้อน!”

“เล่นเป็นเด็กไปได้” ผมอมยิ้ม เปลี่ยนใจยอมปิดฝาขวดแล้วเก็บให้เรียบร้อย พอดีกับลิฟต์ที่เปิดออก “เรื่องแอนตี้แฟนเราค่อยมาคุยกันต่อหลังถ่ายรายการเสร็จแล้วกันครับ”

“น้องเจว่าไง พี่ก็ว่างั้น”

มองคนฉีกยิ้มอย่างสบายใจเป็นล้นพ้นแล้วรู้สึกไม่น่าเสนอตัวช่วยเลย ปล่อยๆ ให้โดนรังควานก็ดีแล้ว!

-----------------------

โธ่ น้องเจคนปกติแห่งบ้านทองคำดี รักความธรรมะธรรมโมของน้องค่ะ มีการสวดแผ่เมตตา แล้วยังเอาน้ำมนตร์มาฝากอีก ช่างเป็นคนเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและบุญกุศลจริงๆ 5555

เพจนักเขียนที่พนมมือรอรับพรจากน้องเจ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-04-2018 11:23:38
โถถถ น้องเจ ผู้อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารของน้องจิ และเสี่ย
ดูท่าน้องจะต้องอยู่กับเจ้ากรรมนายเวรคนนี้ไปอีกนานโขเลยล่ะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-04-2018 11:56:03
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-04-2018 12:15:30
น้องเจผู้อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ฮือออ น่ารักกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-04-2018 14:24:01
โอ้โห
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-04-2018 14:32:11
โอ้ยย นี่ขนาดมีเสี่ยโผล่มานิดๆความน่าหมั่นไส้ของเสี่ยยังไม่ลดลงเลย เชอะ!!  ส่วนนิฌาณนี่พูดเองเออเองนิสัยพอๆกับเสี่ยเลยเจอน้องเจสวดแผ่เมตตาไปถึงได้ยอมถอย ฮ่าๆๆแต่ก็อยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังแล้วนะว่ามีอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-04-2018 15:08:32
โถถถ น้องเจ ผู้อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารของน้องจิ และเสี่ย
ดูท่าน้องจะต้องอยู่กับเจ้ากรรมนายเวรคนนี้ไปอีกนานโขเลยล่ะ :laugh: :laugh:

โอ้ยย นี่ขนาดมีเสี่ยโผล่มานิดๆความน่าหมั่นไส้ของเสี่ยยังไม่ลดลงเลย เชอะ!!  ส่วนนิฌาณนี่พูดเองเออเองนิสัยพอๆกับเสี่ยเลยเจอน้องเจสวดแผ่เมตตาไปถึงได้ยอมถอย ฮ่าๆๆแต่ก็อยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังแล้วนะว่ามีอะไรกันแน่

ต้องมีนอกมีใน มีนัย ลูบหน้า ปะจมูก  คนในแน่ๆ
นึกหน้าตาเจ ว่าต้องน่ารัก  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-04-2018 15:23:16
จิกับเสี่ย เล่าอะไรให้น้องฟังงงงงงง >\\\\<
ถึงเจจะเป็นจุดบนสุดขอห่วงโซ่อาหารก้อเหอะ 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 01-04-2018 16:35:17
น้องเจเก่งมาก อยากรู้ว่าจะใช้วิธีไหนจับตัวแอนแอน ต้องคนในแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-04-2018 16:51:46
น้องเจน่ารัก ใครอยู่ใกล้ๆก็คงตกหลุมรักง่ายๆล่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 01-04-2018 17:54:55
น่ารัก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-04-2018 18:28:13
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-04-2018 19:34:37
จะรอดูเจปราบมารแอนแอนสำเร็จไหม  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-04-2018 20:19:08
ชอบประโยค "น้องเจคนปกติ" จังเลย ฮา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-04-2018 20:22:42
บ้านนี้สายมโนของแท้ 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-04-2018 20:26:48
     ชอบเวลาที่ที่น้องเจรับมือกับอะไรก็ตามที่เจอค่ะนางมีความซึนของนาง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 01-04-2018 23:18:51
ในเรื่องนี้มีใครปกติบ้างคะ 55555555

สงสารน้องเจกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 02-04-2018 10:16:53
น้องเจจจจจจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 02-04-2018 14:51:44
นึกภาพไม่ออกแลยว่า 2 คนนี้จะรักกันยังไง   :undecided:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 02-04-2018 20:05:56
ชอบความสวดไล่ 555
จิกับเสี่ยก็น่ารัก เล่นอะไรกันอ่ะ!  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 6 - [01/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-04-2018 09:24:29
น้องเจเจ้ากรรมนายเวรคนี้ท่าจะสลัดยากนะลูก แค่ทำบุญสวดมนต์ เอาน้ำมนต์มาให้จะพอรึเปล่า ด้านพอตัวอยู่นะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 - [03/04/61] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 03-04-2018 19:10:34

ตอนที่ 7 : ดาราหน้าใหม่

 

 

“ถ้ายังไงต้องรบกวนน้องเจด้วยนะคะ”

“ไม่รบกวนหรอกครับ เดี๋ยวผมบอกนิฌานให้นะ”

“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆ”

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมายกมือไหว้ค้างกับผู้ใหญ่วัยกลางคนที่ก้มหัวปลกๆ จนกลัวคอเคล็ด กว่าจะปลีกตัวออกมาได้เล่นเอาเหงื่อตก ขนาดหันหลังให้แล้วยังรู้สึกถึงสายตาจับจ้อง บีบบังคับให้ผมทำตามคำพูดให้ได้!

หารู้ไม่ว่าผมไม่ทันทำตามคำนั้นนิฌานก็ชิงทำคะแนนนำไปก่อนแล้ว!

ดูนั่นสิ พระเอกจอมเจ้าชู้เริ่มยุทธการหว่านแห ผมว่านอกจากจะเป็นดาราแล้วนิฌานเจ้าของฉายาปลาไหลมือปลาหมึกนั้นต้องเชี่ยวชาญการทำประมงด้วย เพราะหว่านออกไปทีไรเป็นต้องมีเหยื่อติดกลับมาทุกครั้ง นี่มันยอดนักล่าแห่งอาเซียน!

ซะที่ไหนล่ะ...ดูจากสายตาของดาราหน้าใหม่น่าจะหวังผลกะเกาะติดความดังของนิฌานซะมากกว่า ผมหันไปมองผู้จัดการของดาราคนนั้นที่จ้องไล่หลัง ก่อนจะถอนหายใจเฮือก เดินเข้าหานิฌานอย่างจำใจ

“มีอะไรเหรอครับน้องเจ” คนเจ้าชู้ยิ้มระรื่นทันควันเมื่อผมดึงแขน(ไม่เบา)ให้ถอยห่างจากดาราคนนั้น “อยากคุยกับพี่สองต่อสองเหรอครับ”

“มีคนขอร้องให้ผมช่วยบอกพี่ฌานว่าระหว่างอัดรายการอยากให้ชวนดาราคนนั้นคุยเยอะๆ จะได้แอร์ไทม์มากๆ หน่อย”

“อ้อ ผู้จัดการสินะ”

“แต่ผมคิดว่าดาราคนนั้นก็คงติดสินบนโดยให้เบอร์พี่ฌานแลกกับการได้แอร์ไทม์แล้วมั้งครับ” ผมมองอย่างรู้ทัน เพราะระหว่างที่ผู้จัดการของดาราหน้าใหม่มาคุยกับผม นิฌานก็ตีเนียนจีบจนได้เบอร์มาเรียบร้อย ง่ายดายประหนึ่งอีกฝ่ายจงใจประเคนให้

“น้องเจที่ไม่น่ารัก ช่างรู้ใจพี่จริงๆ” นิฌานยังมีหน้ามาขยิบตาให้อีก “เรื่องปกติในวงการบันเทิงน่าน้องเจ ดาราหน้าใหม่ก็ต้องอยากให้เป็นที่จดจำ วิธีที่ง่ายที่สุดคือเกาะติดกับดารามากคุณภาพแถมหน้าตาดีไม่มีอะไรเสียหายอย่างพี่ อย่าเพิ่งกลอกตาสิครับ พี่เองก็ลำบากใจนะ โดนขอร้องแบบนี้บ่อยจนนับนิ้วไม่ได้ ถือว่าช่วยเหลือกันไป”

“พี่ฌานเลยถือโอกาสหาเศษหาเลย เนียนจีบเอาโต้งสิๆ นะครับ”

“พี่ไม่ได้บังคับใครสักหน่อย”

ที่นิฌานพูดก็ถูก เพราะถ้านับตามจริงแล้วคนที่เข้าอย่างหวังผลน่ะคืออีกฝ่ายต่างหาก แต่คนที่เห็นเป็นเรื่องเล่นๆ ฉกฉวยโอกาสสร้างฮาเร็มลับๆ เพราะลอยตัวอยู่ในวงการอย่างเขาก็น่าหมั่นไส้พอกัน

“น้องเจควรจะขอบคุณพี่นะที่ได้ทำงานเป็นผู้จัดการแบบสบายๆ”

พูดอีกก็ถูกอีก เพราะนิฌานเลยจุดที่ต้องให้คนวิ่งหางาน ใช้เส้นสายยัดเข้ากอง หรือเป็นตัวเสริมตัวสำรองแล้ว แต่เป็นฝ่ายเลือกงานต่างหาก! อย่างรายการเกมโชว์นี้เพียงแค่ออกปากว่าอยากมา ทางกองก็รีบจัดหาเวลาที่ลงตัวของพระเอกชื่อดังให้ทันที อภิสิทธิ์แค่ไหนถามใจดู

ความจริงแล้วกระแสของนิฌานนับว่าเรื่อยๆ มาตลอด นั่นคือไม่ดังมากแต่ก็ไม่เคยดับ เขาอยู่ในวงการถึงยี่สิบปี เห็นหน้าค่าตากันจนเบื่อจนเอียน เรียกได้ว่าไม่มีใครในประเทศไทยไม่รู้จักคนคนนี้เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวจนหนังด้าน แม้ช่วงหลังกระแสจะตกลงเพราะมีดารารุ่นใหม่วางตัวดีให้น่าร่วมงาน แต่หลังรับเล่นเรื่อง Love After Death กระแสก็พลิกฟื้น กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ต่อให้ไม่รับเล่นละครหรือภาพยนตร์ก็มีคิวงานทุกวันไม่ว่างเว้น ทั้งเดินแบบบ้าง ถ่ายแบบบ้าง เป็นพรีเซนเตอร์ ออกอีเวนต์ ร่วมรายการเกมโชว์ เป็นดารารับเชิญในงานเปิดตัวต่างๆ และอีกสารพัดจะบรรยาย

เรียกว่าเป็นช่วงกอบช่วงโกย

ซึ่งไม่รู้ว่าจะพุ่งแบบนี้ไปนานแค่ไหน

ผมเลยเป็นผู้จัดการที่น่าอิจฉามาก ไม่ต้องต่อรองค่าตัว ไม่ต้องคอยวิ่งหัวปั่นหรือช่วยคุยงาน เพราะนิฌานมีตารางที่จัดล่วงหน้าเป็นเดือนอยู่แล้ว

การเกิดและดับเป็นเรื่องธรรมชาติของวงการบันเทิง นิฌานมีต้นทุนดีเพราะอยู่มานานแถมหน้าตายังจัดว่าเป็นต่อ ตอนเด็กก็น่ารักน่าเอ็นดู ตอนวัยรุ่นก็หล่อเหลาขี้เล่น ตอนโตก็เริ่มมีความลุ่มลึก จัดเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งในสายตาคนภายนอก

นับว่าเป็นดาราที่ทุกคนเห็นการเติบโตในทุกช่วงวัย ตราบใดที่ยังมีงานคนคนนี้ก็ยากจะดับแสงเว้นแต่จะระเบิดทำลายตัวเอง

อย่างเรื่องเจ้าชู้นี่ตัวดี ผมแอบเห็นโปรดิวเซอร์รายการเหลือบมองนิฌานตอนขอเบอร์ดาราหน้าใหม่แล้วทำหน้าเอือมระอาวูบหนึ่ง หากเขาหยอกแล้วทำให้งานราบรื่นอย่างตอนมีมี่ก็แล้วไป แต่หากใช้ความพิศวาสส่วนตัวในการทำงานจนเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ เนี่ยก็ชวนละเหี่ยใจไม่ใช่น้อย

“ผมว่าผมไม่ควรจะขอบคุณพี่นะ เพราะจุดประสงค์แรกในการว่าจ้างคือผู้จัดการที่ทำอะไรไม่เป็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ พี่ฌานจะได้จูงง่ายๆ ไง”

“พี่อยากได้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจต่างหาก”

“ผมก็เห็นพี่ฌานยิ้มอย่างสุขกายสบายใจตลอด” ผมกัดเขาด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ

“มันไม่เหมือนกัน น้องเจลืมแล้วเหรอว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นบ้าง” พลันนิฌานถอนหายใจเฮือก เปลี่ยนอารมณ์เร็วจนผมขมวดคิ้วมุ่น ทำไมจู่ๆ ก็ทำตัวเหมือนผู้ถูกกระทำแสนน่าสงสารซะงั้นล่ะ “เกือบจะโดนเบี้ยวงานแล้วแท้ๆ แต่พี่ต้องยิ้มให้กับมี่จัง ทำทีเป็นสนใจ ให้ความสำคัญ จีบนิดหยอกหน่อยเพื่อการทำงานที่ราบรื่น อย่างดาราหน้าใหม่คนนี้ตอนเดินเข้ากองน่ะตัวตัวเกร็งไปหมด พอพี่เข้าไปคุยด้วยหน่อยกลับกระตือรือร้นอยากถ่ายทำไวๆ ดูสิว่าพี่ต้องเสียสละตัวเองขนาดไหน ต้องเปลืองตัวสร้างความสุขให้คนรอบข้างทั้งที่โดนเอารัดเอาเปรียบ”

“แล้วที่ขอเบอร์มาล่ะ” ผมเหลือบมองคนเล่นบทโศกด้วยสายตาปลาตาย

“ของตอบแทนความเหนื่อยยากของพี่ไง” นิฌานกลับมาฉีกยิ้มสดใส ก่อนจะตบบ่าผมเบาๆ “พี่แค่จะบอกว่ารอยยิ้มที่ให้คนอื่นกับน้องเจน่ะไม่เหมือนกัน ทางนั้นมีทั้งปัจจัยเรื่องงาน เรื่องฉกฉวยผลประโยชน์ เรื่องความไว้วางใจในอนาคต แต่น้องเจไม่ใช่ น้องเจไม่เคยหวังอะไรกับพี่เลย”

“ก็พี่ฌานไม่เห็นจะมีดีตรงไหนให้ผมหวัง”

“พูดได้น่าฟังมาก” นิฌานพยักหน้ารับคำอย่างชอบพอ ก่อนจะมองผมด้วยแววตาวูบไหวราวมีความนัยแอบแฝง “ที่สำคัญคือน้องเจจะไม่หักหลังพี่ ไม่แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจแน่นอน”

“พี่ฌานรู้ได้ยังไงว่าผมจะไม่ทำหากมีคนเสนอข้อตกลงดีๆ ให้”

ท่าทางส่อพิรุธนั้นชวนสงสัยซะจริงๆ

“เพราะน้องเจเป็นเด็กดี มีศีลห้าไงครับ” นิฌานเนียนลูบหัวก่อนจะรีบชักมือกลับเพราะเกือบโดนวิชาไอคิโดจับบิดข้อมือ ไอ้การถึงเนื้อถึงตัวนั้นทำให้ความสับสนเลือนหายทันควัน “เพราะอย่างนี้ไงพี่ถึงสบายใจเวลาอยู่กับเรา เข้าใจพี่แล้วเนอะ”

“นิดนึงครับ” ผมขมวดคิ้วตอบตามจริง เพราะแม้เมื่อวานจะเริ่มมองนิฌานในแง่ดีมากขึ้น ล่วงรู้ว่าไอ้ความเจ้าชู้ประตูดินนั้นมีจุดประสงค์แอบแฝง แต่ขณะเดียวกัน...ไอ้การหว่านแห รอเหยื่อติดเบ็ดแล้วจับกินเนี่ยเป็นนิสัยเสียๆ ที่น่ากระทืบเอามากๆ ต่อให้ข้ออ้างจะสวยหรูขนาดไหนว่าทำเพื่อความบันเทิงใจจากการถูกเอาเปรียบ หรือเครียดกับการทำงานเลยหาความรื่นเริงให้ตัวเองก็ตาม แต่มันไม่ควรอยู่ดีมั้ย!!

“งั้นน้องเจที่ไม่น่ารัก พี่ขอวานอะไรหน่อยนะ คือว่า...”

ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม

เพราะดันหลวมตัวรับปากไปอย่างมึนเบลอหลังปรับทัศนคติกัน ผมเลยต้องมานั่งจิ้มโทรศัพท์เพื่อเลือกซื้อชุดเดรสผู้หญิงให้กับมีมี่ระหว่างรอนิฌานถ่ายทำรายการ!!

จากตอนแรกเป็นตัวเสริม แต่เพราะนิฌานเลยทำให้ดาราหน้าใหม่ได้นั่งข้างพระเอกชื่อดัง มีแอร์ไทม์มากขึ้นสมใจ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจคนอื่น! เงยมองเสียงหัวเราะเฮฮาของรายการเกมโชว์แล้วผมที่ตัดสินใจไม่ถูกระหว่างเดรสสีแดงกับสีน้ำเงินก็ชักอยากจะกุมขมับ ขนาดแม่ชอบใช้น้ำหอมอะไรยังไม่รู้ แล้วให้เลือกซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงเนี่ยนะ! ออกจะเกินกำลังของเด็กอายุสิบแปดที่ไม่สนใจเพศตรงข้ามอย่างผมไปหน่อยมั้ย อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ใช่เกย์ ให้ถูกคือผมไม่เคยสนใจใครเพราะไม่เคยคิดเรื่องความรักต่างหาก

แล้วผมคิดอะไรน่ะเหรอ

หนึ่งคำสั้นๆ ง่ายๆ และตรงตัว ก็ ‘เงิน’ ไงล่ะ!!

ก่อนจะหาคนรักก็ต้องสร้างเนื้อสร้างตัวให้ได้ถูกมั้ยครับ แต่ผมเนี่ยดันเป็นลูกหลงของบ้าน แทนที่พ่อแม่จะเอาเงินเก็บไปเที่ยวเล่นสบายๆ ในยามแก่ กลับต้องมาส่งเสียค่าเล่าเรียน พี่ชายผมที่แก่กว่าถึงแปดปี ก็ต้องทำงานหนักแล้วนำเงินส่วนใหญ่มาลงที่การเรียนของผมเหมือนกัน เห็นอย่างนี้แล้วจะไปคิดเรื่องความรักได้ยังไง ลองคิดดูสิ ถ้าผมมีแฟนก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม! ไหนจะค่าเดต ค่าไปมาหาสู่กันอีกล่ะ

สิ้นเปลืองชัดๆ!!

เพราะอย่างนี้ผมเลยไม่คิดมองหาคนรู้ใจ มุ่งสู่การเก็บเงินเพื่อให้ทางบ้านรับภาระน้อยที่สุด เพื่อนหรือแทบไม่เคยไปเที่ยวเล่นด้วย แค่คอยฮึ่มแฮ่คนในบ้านไม่ให้โดนหลอกกับอ่านหนังสือให้ได้ทุนก็หมดเวลาแล้ว ตอนนี้ใกล้จะเข้ามหาลัยค่าใช้จ่ายก็ยิ่งเพิ่มสูง!! ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าผมจะรับงานของนิฌาน

และนั่นคือสาเหตุที่ผมมือสั่นไม่ยอมกดสั่งซื้อชุดเดรสสักที ตัวทางซ้ายราคาเหยียบหลักหมื่น ตัวทางขวาถูกกว่าหน่อย...งั้นไม่ต้องสนเรื่องสีแล้ว เอาตัวขวาละกัน

เมื่อกดสั่งซื้อเสร็จผมก็ยกมือปาดเหงื่ออย่างโล่งอก แต่ยังไม่จบ! ผมต้องเปลี่ยนเป็นร้านดอกไม้เพื่อเลือกซื้อช่อดอกไม้เป็นคำขอบคุณให้กับโมจัง เพื่อนของมี่จังที่ช่วยบอกเล่าความจริงให้ฟัง

บ้าเอ๊ย! ช่อดอกไม้แค่นี้ทำไมแพงกว่าบุฟเฟต์หมูกระทะอีก!!! 

กินก็กินไม่ได้ อิ่มท้องรึก็ไม่ ผมพยายามบังคับมือที่สั่นระริกของตัวเองให้กดสั่งซื้อช่อดอกไม้ราคากลางๆ เพื่อไม่ให้ขายหน้าทั้งโมจังและนิฌาน แม้จะท่องว่าไม่ใช่เงินเราแต่ก็แอบเสียดายอยู่ดี กว่าจะทำตามคำขอของนิฌานเสร็จก็ล่อเอาปวดใจไปหมด

“เรียบร้อยแล้วเหรอน้องเจ”

“เรียบร้อยแล้วครับ”

ไม่น่าเชื่อ ผมใช้เวลาต่อสู้กับจิตใต้สำนึกตัวเองในการสั่งซื้อเดรสหนึ่งตัวกับช่อดอกไม้อีกหนึ่งช่อนานเท่ากับเวลาพักของการอัดรายการเลยเหรอเนี่ย มองนิฌานที่ตีเนียนมานั่งเบียดผมก็รีบลุกไปหยิบน้ำให้เขาดื่ม ยืนกอดอกข้างเก้าอี้ตามเคย

“ไหนดูซิ...หืม น้องเจชอบสีแดงเหรอครับ”

“เปล่า มันถูกกว่าอีกตัวที่พี่ฌานให้เลือกต่างหาก”

คำขอของนิฌานคือช่วยซื้อของขวัญปลอบใจมี่จังที่ไม่สามารถไปช้อปปิ้งด้วยกันได้...ซะที่ไหน! คนอย่างนิฌาน ชาญชัยมีเวลาส่วนตัวให้กับกิ๊กที่พึงใจทุกคนอยู่แล้ว อย่างเมื่อคืนยังไปเมาเละโต้รุ่งได้เลย แต่คาดว่าจะไม่อยากสานต่อกับดาราสาว ถึงได้อ้างติดงานแล้วซื้อเสื้อหลักหมื่นแทน

ส่วนโมจังที่เป็นสายข่าวให้นั้นแม้จะเลิกราไปแล้วก็ยังติดต่อพูดคุยตลอดเวลา เพื่อความสัมพันธ์อันดีจึงมอบช่อดอกไม้ขอบคุณเป็นมารยาท ไม่มากเกินไม่น้อยเกิน

และสำหรับดาราหน้าใหม่ที่ขยันมองมาทางนี้คล้ายพยายามหาเวลาใกล้ชิดสนิทสนมกับนิฌานนั้น...หากจบงานนี้แล้วมีสานต่อ เชื่อสิว่าไม่วายโดนฟันแล้วทิ้ง! มีของส่งไปให้เป็นการปลอบโยนขณะที่เจ้าตัวหายหัวไปหว่านแหใส่คนอื่นต่อเรียบร้อยแล้ว!!

“หึงพี่เหรอถึงได้มองเด็กคนนั้นใหญ่เลย”

“ผมกำลังคิดว่าจะเตือนเขาดีรึเปล่า แต่ก็คิดว่าเตือนไปก็ไม่น่าจะได้ผลในเมื่อเขาจงใจเดินเข้าปากให้พี่ฌานงาบเอง”

“น้องเจที่ไม่น่ารัก” นิฌานเอื้อมมือจะลูบหัวผมอีกแล้ว แต่โทษที ผมยืนเขยิบห่างออกไปเกือบช่วงตัว “หงุดหงิดอะไรอยู่เหรอ หืม”

“ผมรู้นะว่าเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าคนสองคนตกลงปลงใจกันก็ไม่มีใครเสียหาย แต่ผมว่ามันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องหากต้องให้ใครสักคนยอมตามเกมพี่ฌานเพื่อให้ตัวเองเด่นดังในวงการ”

“คิดซะว่าวินวินทั้งสองฝ่ายสิครับ เขาก็ได้ประโยชน์ พี่ก็มีความสุข”

“ความสุขแค่ชั่วครั้งชั่วคราวน่ะเหรอครับ หรือพี่ฌานมีความสุขเวลาบริหารเสน่ห์ รู้สึกภูมิใจเวลาได้เก็บแต้ม จากนั้นก็มานั่งหัวปั่นคิดวิธีสลัดทิ้ง ทั้งอ้างเรื่องงาน ซื้อของให้ เอาเงินฟาด นี่เรียกว่าความสุขเหรอครับ” ผมชูโทรศัพท์ให้เห็นไลน์ของมี่จังที่ขอบคุณเรื่องชุดเดรสหลังนิฌานส่งภาพที่ผมกดสั่งซื้อให้เธอ แต่เธอก็ยังไม่ตัดใจทักกลับรัวๆ หาทางไปช้อปปิ้งด้วย กับโมจังที่ถามว่าเมื่อไหร่จะมาหาในแง่สิบแปดบวกพลางเหลือบมองนิฌานพร้อมยิ้มเหยียดอย่างสงสัยใคร่รู้ แล้วยังไม่นับสารพัดสาวๆ รวมหนุ่มๆ ที่ผมไม่ได้เข้าไปดูเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ขออีก “แต่เอาเถอะ เรื่องส่วนตัวของพี่ฌานผมไม่ยุ่ง”

ว่าจบก็ยักไหล่แบบอยากจะทำอะไรก็เชิญ

“...นี่น้องเจพูดหรือตบหน้าพี่อยู่เหรอครับ”

“แล้วพี่ฌานโกรธมั้ยล่ะ” ผมถามท้าทาย ที่พูดแรงเพราะอยากให้เขาได้คิด และผมก็กำลังหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละ

“ไม่รู้สินะ” นิฌานที่นิ่งไปครู่ใหญ่ตอบยิ้มๆ สายตายามมองผมก็ออกจะถูกใจแปลกๆ เหมือนไม่เคยมีใครพูดใส่ตรงๆ แบบนี้มาก่อน เห็นท่าไม่ดีผมเลยรีบตัดบท พยักพเยิดไปทางดาราหน้าใหม่ที่รีรอไม่กล้าเข้าฉากก่อนเพราะอยากเป็นจุดเด่นด้วยการควงนิฌาน ชาญชัย

“ไปเตรียมตัวเถอะครับ เขารอพี่ฌานอยู่”

ทีมงานค่อนข้างคุ้นชินกับภาพนี้ในเมื่อความเจ้าชู้ของนิฌานเป็นที่เลื่องลือในทุกกองถ่าย จนนินทาสนุกปากไปแล้วว่าวันนี้จีบใครติดบ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็มักจะยิ้มขำไปด้วยราวเป็นเรื่องตลกประจำวัน และเพราะไม่เคยเปิดตัวหรือจริงใจกับใครสักคนจึงไม่มีข่าวฉาวออกมาสักที นักข่าวไม่ทันจะจับประเด็นได้ก็เปลี่ยนคน ไม่ทันจะตามหาภาพหลุดก็เปลี่ยนคน ถามอะไรไปก็บอกว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็ไม่แปลกสักหน่อยนี่นะหากจะมีเพื่อนเยอะไปสักนิดแถมเปลี่ยนหน้าไม่ซ้ำกันทุกครั้งเวลาเข้างาน สมแล้วที่เป็นปลาไหลตัวพ่อ

ผมหยิบคู่มือสอบใบขับขี่ขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาระหว่างเงยมองการถ่ายทำเป็นระยะ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นแล้วเดินไปขอผ้าขนหนูจากทีมงานเมื่อจู่ๆ คนหน้ายิ้มใจเสือแย่งซีนดาราหน้าใหม่ซะอย่างนั้น

“เห็นแก่น้องใหม่ที่เพิ่งมารายการนี้ครั้งแรก พี่จะเป็นสุภาพบุรุษ ยอมรับโทษแทนเอง!”

ผู้ร่วมรายการหลายคนแกล้งหยอกแซวเต็มที่ ขณะที่ดาราหน้าใหม่นั้นทำทีเป็นรู้สึกผิด มองพระเอกคนดังอย่างซาบซึ้งปนขุ่นเคือง

เพราะดาราคนนี้ตั้งใจเล่นเกมแพ้เพื่อให้ถูกทำโทษหวังสร้างแอร์ไทม์ต่างหาก!

แทนที่จะสนับสนุนนิฌานดันไปเสนอตัวซะอย่างนั้น เกมทำโทษของรายการนี้คือการนั่งบนถังที่ด้านในบรรจุน้ำใส่น้ำแข็ง เย็นเฉียบถึงใจ โดยให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่นๆ ปาลูกบอลให้โดนเป้า หรือเรียกง่ายๆ ว่าเกมสาวน้อยตกน้ำนั่นเอง

ผู้ชายตัวโตสูงโปร่งนั่งขดบนถัง ดูแล้วน่าตลกขบขันไม่น้อย ผมถือผ้าขนหนูเตรียมรออยู่ข้างฉาก มองนิฌานด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ

ไม่รู้ว่าเพราะแรงรักหรือแรงแค้น เพราะคนที่ปาบอลโดนเป้าสำเร็จคือดาราหน้าใหม่นั่นเอง

แต่กล้องกลับแพนนิฌานที่ร่วงลงในถังแบบสโลโมชั่น เรียกเสียงหัวเราะร่าสะใจจากคนอื่นๆ เมื่อเห็นสภาพเปียกมะลอกมะแหลกหมดมาดสุภาพบุรุษ นิฌานค่อยๆ ปีนขึ้นจากถัง เสื้อผ้าแนบเนื้อเห็นไปถึงไหนต่อไหนจนต้องเอามือปิดกลางลำตัวที่เห็นส่วนนูนโป่งเป็นลำๆ

“จะปิดทำไมครับ เปิดให้เห็นนิฌานน้อยๆ หน่อยสิ”

“น้อยอะไรครับ ผมไม่เล็กนะ” นิฌานยังอุตส่าห์หันมาขยิบตาให้กล้องได้อีก รายการจบลงที่ภาพของนิฌานซึ่งกอดอกตัวสั่นด้วยความหนาววิ่งไล่พิธีกรหวังให้เปียกไปด้วยกัน ลืมเลือนดาราหน้าใหม่โดยสิ้นเชิง

คล้ายจะรู้สึกถึงสายตาทิ่มแทงจากผู้จัดการวัยกลางคนที่เพิ่งก้มหัวขอร้องผม แต่...ช่วงแรกของรายการนิฌานก็ทั้งพาไปนั่งด้วย แล้วยังให้อยู่ทีมเดียวกันอีก แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วมั้ง

ถึงแม้ว่า...เอ่อ...ไอ้ช่วงท้ายจะเหมือนหักหลังกันดังเปาะเลยก็เถอะ!

แต่จะเอาใจทุกคนย่อมเป็นไปไม่ได้ ทางโปรดิวเซอร์เองก็ดูจะพอใจกับบทสรุปนี้ ยินยอมรับคำนิฌานให้มาร่วมรายการทั้งทีย่อมอยากเก็บชอตเด็ดของพระเอกชื่อดังกับคนอื่นมากกว่าดาราหน้าใหม่ตัวสำรองเป็นไหนๆ เพราะเมื่อใครคนหนึ่งมีแอร์ไทม์เพิ่ม ย่อมหมายความว่ามีใครอีกคนที่แอร์ไทม์น้อยลง

น่าปวดหัวจริงๆ

ผมคลุมผ้าขนหนูให้นิฌานทันทีเมื่อเขาเดินเข้าหาหลังเลิกกอง มองคนในชุดแนบเนื้อแถมดูจะภูมิใจรูปร่างตัวเองจนน่าหมั่นไส้ก็รีบดันหลังไปห้องเปลี่ยนเสื้อส่วนตัวที่มีห้องน้ำในตัวเพื่อถอดชุดเปียกออกก่อนจะไม่สบาย

“น้องเจที่ไม่น่ารัก พี่ฌานทำดีมั้ย เป็นเด็กดีมั้ยครับ” ก่อนปิดประตูห้องน้ำ คนที่หน้าซีดปากสั่นไม่วายหันมาถามผมอย่างหวังคำชมเชย

ชมเชยอะไร ชมเชยที่สลัดเหยื่อทิ้งไม่คิดสานต่อน่ะเหรอ!?

โทษเถอะ มันเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้วไม่ใช่รึไง ช่วยแต่พอดี อย่ามากเกินจนกลายเป็นโอกาสสร้างความสัมพันธ์สุดลึกซึ้งแบบหวังน้ำบ่อหน้า จงเป็นแค่เพื่อนร่วมงานไม่ใช่เพื่อนร่วมเตียง ฉะนั้นผมไม่ชมเขาหรอก!

“โตจนอายุจะสามสิบแล้วยังกล้าเรียกตัวเองว่าเด็กอีก ไม่อายปากก็อายผมบ้างเถอะ”

“ฮั่นแน่ ยิ้มแล้ว แสดงว่าหายหงุดหงิดแล้วสิ...เฮ้ย! น้องเจอย่าเพิ่งทิ้งพี่ รอพี่เปลี่ยนเสื้อก่อน อย่าเพิ่งไป!”

“ผมแค่จะไปหยิบกระเป๋าเข้ามา ทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างนอกแล้วกลัวหาย” ผมมองคนที่ลนลานอย่างกับเด็กกลัวโดนทิ้ง “พี่เช็ดตัวดีๆ ก่อนค่อยสวมเสื้อนะ เป่าผมให้เรียบร้อยด้วย เดี๋ยวเป็นหวัด”

“ไหนบอกแค่ไปหยิบโทรศัพท์” คนตัวโตกว่าบ่นอุบ

“ผมสั่งไว้ก่อนไม่ได้รึไง”

“ได้สิครับ น้องเจว่าไง พี่ก็ว่างั้น”

ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดอยากกระทืบนิฌานมากตอนพูดประโยคนี้ แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้ผมถึงอารมณ์ดีจนหลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงหน้าเหวอๆ ของเขา

พลันหางตาคล้ายจะเห็นดาราหน้าใหม่กับผู้จัดการวิ่งแทคทีมเข้าหา

ผมรีบหยิบกระเป๋าทั้งของตัวเองและนิฌาน เดินกลับเข้าห้องแต่งตัวแล้วปิดประตูทันที

ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ก็อย่าคิดจะได้เจอะได้เจอกันอีกเลย!

 

 

--------------------

คิดว่าหลายคนน่าจะเริ่มเห็นแล้วว่า...ทำไมเราถึงให้เจมาคู่กับนิฌาน เพราะคนอย่างนี้ต้องเจอแบบน้องเจเท่านั้นจริงๆ ค่ะถึงเอาอยู่!!! คู่นี้ปะทะฝีปากเยอะมาก เยอะกว่าคู่เสี่ยเพราะจิตรินพูดอยู่คนเดียว เยอะกว่าจิระเพราะเตโชไม่เคยพูด แต่งแล้วมันมือมากเลยขอบอกๆ เห็นแวว #พ่อบ้านใจกล้า อยู่ลิบๆ 555

อ่านแล้วชอบอย่าลืมคอมเม้นให้กำลังใจกันด้วยน้า ส่วนเรื่องแอนแอนตอนหน้าได้เจอกันแน่ค่ะ!

#justUnotUS

เพจนักเขียนที่อยากเห็นน้องเจยิ้มเยอะๆ  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-04-2018 19:25:44
เจ เตรียมพารากระปุกใหญ่ๆ ไว้เลยนะ ทำงานกับเฮีย มีปวดหมองแน่ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-04-2018 19:48:23
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-04-2018 20:39:33
นิฌาน เจ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คู่นี้สมน้ำสมเนื้อกันจริงๆ
ต่อปากต่อคำ ไม่ลดราวาศอก
แต่ก็คิดถึงคู่เสี่ย จิ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-04-2018 21:30:10
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
คู่นี้มันมวยถูกคู่มาก
อีกคนก็กะล่อนไหลไปเรื่อย อีกคนก็ปากร้าย
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 03-04-2018 22:01:09
คู่นี้ใครจะตกหลุมใครก่อนล่ะเนี่ย นิฌาณก็พ่อปลาไหลจริงๆ อยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้พระเอกของเราเป็นแบบนี้ น้องเจเด็กดีมากลูกอยากลูบหัว ช่วยครอบครัวหาเงิน เลยไม่ยอมไปเดตโถ่ เอ็นดู
ติดตามตอนต่อไปนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-04-2018 22:12:18
เป็นนิยายที่อยากอ่านเรื่อยๆเลยค่ะสนุกดี
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 03-04-2018 23:20:37
น้องเจน่ารักกกกกกป
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-04-2018 00:32:51
เราว่าคู่นี้สุดท้ายจะเป็นความต่างที่ลงตัว นิฌาณต้องตกหลุมรักน้องเจแน่ เพราะน้องน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 04-04-2018 01:18:28
ตลกตรงที่เรียก น้องเจที่ไม่น่ารัก อ่ะ
ชอบความตรงของน้องเจมากกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-04-2018 01:32:41
เป็นคู่ที่เหมาะกันมากจริงๆ 55555 น้องเจน่ารัก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-04-2018 07:19:21
 :laugh:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 04-04-2018 10:19:44
พี่นิณานระวังนะคะ ทีเล่นที่จริงมาจะติดบ่วงน้องเจเข้าจิงๆ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-04-2018 12:02:54
นี่แหละวงการบันเทิง พูดเหมือนเคยอยู่555555 น้องเจต้องเจออีกหลายรูปแบบ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 04-04-2018 12:19:37
คนแบบน้องเจนี่แหละ คือคนที่พี่ฌานโหยหา  :กอด1:
เจอแล้วก็ต้องปรับปรุงตัวดี ๆ ห้ามทำให้น้องเสียใจเด็ดขาดนะพี่ฌาน
น้องเจคือที่หนึ่งในใจเลยตอนนี้ ชอบนายเอกแบบนี้ที่ซู้ด  :m3:
รอแอนแอนค่ะ อยากเห็นฝีมือปราบแอนตี้ของน้องเจแล้ว > <
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 04-04-2018 13:04:59
จริงเหมาะกับเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 05-04-2018 00:22:55
ทันกันจริงๆคู่นี้ เอาให้อยู่นะจ๊ะน้องเจผู้ไม่น่ารัก  :z1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 05-04-2018 23:54:30
อย่างเจคือดีงามไง 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 06-04-2018 10:28:23
ถ้าตัดเรื่องทำคู่จิระ เจ็บปวด ณิธารมีเสน่ห์มากจริงๆค่ะ ชอบให้ความพิเศษด้วย แต่ก็ลูกล่อลูกชน คบกันคนแบบนี้ต้องใจแข็ง ตกหลุ่มรักไม่รู้ตัวเลยเนี่ย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 06-04-2018 11:47:38
เมื่อไหร่จอมมาร ... จะรู้ใจตัวเองนะ?

ส่วนน้องน้อยของเรา ... อย่าเพิ่งหวั่นไหวนะ
ต้องรอให้จอมมาร "สำนึก" ก่อนเน้อ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 7 : ดารา - P.6 [03/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 06-04-2018 18:48:07
น้องเจน่ารักกก ส่วนนิฌาน พ่อบ้านใจกล้าเห็นๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 - P.7 [07/04/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 07-04-2018 19:04:12


ตอนที่ 8 : เผยโฉมแอนแอน

 

โปรเจกต์บิวตี้เพอร์ฟูมตั้งเป้ามากกว่าการเป็นน้ำหอม

งานเปิดตัวถูกกำหนดล่วงหน้าในอีกหนึ่งเดือน มีจุดประสงค์ปลุกความเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงผ่านนักแสดงนำโฆษณาอย่างนิฌาน ชาญชัย ผู้มีภาพลักษณ์เป็นสุภาพบุรุษ ทรงเสน่ห์กับทุกเพศทุกวัย หวังกล่อมเกลาให้ผู้ฟังมีความรักในตัวเองมากขึ้น

‘เพราะเธอสวยในแบบที่เป็นเธอ’

นี่ไม่ใช่บทพูด แต่คือบทเพลงที่นิฌานต้องฝึกร้อง

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าพระเอกชื่อดังไม่มีประสบการณ์ร้องเพลงมาก่อน และนั่นคือที่มาว่าทำไมพวกเราถึงนั่งกันสองต่อสองในห้องเก็บเสียงสำหรับฝึกการแสดงของบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์

ตารางงานวันนี้ของนิฌานเป็นไปอย่างสบายๆ เหมือนจงใจพักหลังลุยงานเลี้ยงโต้รุ่งจนตาโหล เพราะหลังถ่ายรายการเกมโชว์จบ นิฌานก็มีคิวฝึกร้องเพลงกับครูที่จ้างเป็นพิเศษ พวกเรามาก่อนเวลา ในห้องซ้อมจึงยังไม่มีใคร นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เปิดเผยชื่อของแอนตี้แฟน

“ห้าโมงเย็น เวลากำลังดี” ผมมองนาฬิกาข้อมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ “ขอโทรศัพท์พี่ฌานด้วยครับ”

“ขอหัวใจด้วยยังได้”

ผมเกือบจะมือกระตุกทำโทรศัพท์เขาหล่นแล้วเชียว

“เอาน่า พี่ใกล้จะไม่ได้หยอกน้องเจแล้ว ขอส่งท้ายหน่อยสิ”

“เอาที่พี่ฌานสบายใจเถอะ” ผมพูดประชดพลางหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดเบอร์ของแอนตี้แฟน ก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่งพลางเหลือบมองนิฌานพร้อมพูดเสียงอ้อมแอ้ม “ห้ามล้อผมนะ”

“ทำไมพี่ต้องล้อด้วยล่ะ”

ผมทำตาประหลับปะเหลือกใส่เขา ไม่ยอมขยายความก่อนจะทำท่ารูดซิปปากเพื่อขอความเงียบสำหรับเรียกสมาธิและสติ เราสองคนเหมือนทำพิธีกรรมบางอย่าง และนิฌานก็ให้ความร่วมมือดีโดยการยกมือปิดปากทั้งสองข้างจนผมหลุดขำวูบหนึ่ง

“ห้ามล้อผมนะ”

เห็นนิฌานพยักหน้าหงึกๆ ก็คลายความระแวงลง ก่อนจะกดโทรหาแอนตี้แฟนพร้อมเปิดลำโพงให้ได้ยินโดยทั่วกัน

(( สวัสดีค่ะ ))

“สวัสดีครับ! ผมเป็นพนักงานจากบริษัทขนส่งเอกชน xxx โทรมาแจ้งว่ากำลังนำพัสดุมาส่งนะครับ ไม่ทราบว่าสะดวกรับตอนนี้เลยรึเปล่าครับ! ถ้าพร้อมผมจะเข้าไปส่งเลยนะครับ หรือถ้าไม่สะดวกก็บอกได้เลยนะครับ!” ผมพยายามมองเมินสายตาอึ้งตะลึงของนิฌานที่ไม่เคยเห็นผมยิ้มร่าเท่านี้มาก่อน น้ำเสียงสดใส บ่งบอกความเป็นวัยรุ่นไฟแรงพร้อมลุยงานด้วยความกระตือรือร้น

(( โทรผิดรึเปล่าคะ ฉันไม่ได้สั่งของอะไรเลยนะคะ ))

“เอ...แต่เบอร์ที่จ่าหน้ากล่องมาเป็นเบอร์นี้นะครับ นี่ไงครับ เบอร์ 089-824-xxxx” ผมทวนเบอร์เพื่อความมั่นใจ ไร้ทีท่ากรุ่นโกรธใดๆ แต่ออกไปทางสับสนงุนงงชวนให้ปลายสายนึกเอ็นดู

(( เบอร์ถูกต้องค่ะ แต่ฉันไม่ได้สั่งจริงๆ นะ ))

“งะ...งั้นไม่ทราบว่าที่นั่นคือที่ไหนหรือครับ”

ต้องขอบคุณโลกสมัยนี้ที่หันมาค้าขายทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีไปรษณีย์เอกชนเปิดใหม่จำนวนมาก ผมเองก็เคยได้ยินข่าวพวกมิจฉาชีพโทรมาหลอกข้อมูลขอให้โอนเงินอยู่เหมือนกัน เลยได้ไอเดียล้วงชื่อและที่อยู่แทน

(( คอนโดสุขสวัสด์ค่ะ ))

“ที่เดียวกับที่แจ้งไว้เลยนะครับ คุณลองนึกดูดีๆ ไม่ได้สั่งของไว้จริงๆ เหรอ ไม่ต้องห่วง ผมไม่ใช่มิจฉาชีพนะ! คุณไม่ต้องโอนเงินใดๆ ทั้งนั้น ผมแค่อยากส่งของจริงๆ เพราะถ้าส่งของไม่ถึงมือลูกค้าผมต้องโดนเจ้านายด่าแน่เลย!” ผมพึมพำไปไม่เป็น ก่อนจะสอบถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงกึ่งเว้าวอน “แย่แล้วสิเรา เบอร์ก็ถูก คอนโดก็ถูก ทำยังไงดี...”

(( หน้ากล่องมีจ่าข้อมูลอะไรบ้างคะ ))

ทางปลายสายคงนึกสงสาร ถึงได้พยายามหาทางช่วยผม

“มีเบอร์โทรศัพท์แล้วก็ที่อยู่ครับ นี่ไงครับคอนโดสุขสวัสดิ์ ชั้นสาม...”

(( เดี๋ยวก่อนค่ะน้อง พี่ไม่ได้อยู่ชั้นสามนะ พี่อยู่ชั้นแปดต่างหาก ))

“ขอโทษครับ ผมดูผิด เลขสามกับเลขแปดมันคล้ายกัน นี่ไง เขียนว่าชั้นแปดจริงๆ ด้วย แน่ใจเหรอครับว่าไม่ใช่ของพี่จริงๆ ให้ผมได้ส่งของเถอะนะ บางทีอาจจะเป็นเพื่อนร่วมห้องพี่สั่งไว้ก็ได้ เนี่ย เขียนอยู่ว่าห้องแปดหนึ่งสอง ใช่มั้ยครับพี่”

(( โธ่ น้องคะ พี่อยู่คนเดียว...แล้วพี่ก็อยู่ห้องแปดสามสี่ต่างหาก ไม่ได้ใกล้กันเลย ))

“อ้าว สรุปไม่ใช่จริงๆ เหรอครับ” ผมทำเสียงเหรอหรา

(( สงสัยจะจ่าหน้ากล่องผิดแล้วล่ะ ))

“งั้นพี่ไม่ใช่คุณพลอยเหรอครับ”

(( ไม่ใช่ค่ะ พี่ชื่อสมฤดีต่างหาก ))

 “เหวอ ถ้าถามชื่อแต่แรกก็จบแล้ว ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ ที่ทำให้พี่เสียเวลา ผมเชื่อแล้วว่าจ่าหน้ากล่องผิดจริงๆ แล้วจะทำไงดีล่ะเนี่ย...”

(( ลองเอาของมาส่งที่เคาน์เตอร์คอนโดก่อนก็ได้ค่ะน้อง เดี๋ยวทางพนักงานคงพอจะติดต่อคุณพลอยห้องแปดหนึ่งสองได้เอง ))

“ขอบคุณพี่นะครับ รบกวนซะเยอะเลย ขอบคุณครับ”

(( จ้า ))

ผมตัดสายพร้อมนวดกรามตัวเอง ต้องขอบคุณเสียงแสนเยาว์วัยของของผมที่ทำให้ดูเหมือนเด็กวัยรุ่นไม่ประสีประสา ปลายสายถึงไม่ทันฉุกใจคิด แต่จะว่าไปแล้วแอนตี้แฟน แอนแอน หรือเรียกให้ถูกต้องคือคุณสมฤดีนี้ก็เป็นคนมีน้ำใจไม่เลว นอกจากจะอดทนคุยอย่างใจเย็นแล้วยังช่วยหาทางออกให้อีกต่างหาก

ขนาดผมยังคาดไม่ถึงว่าจะราบรื่นขนาดนี้!

“มองอะไรครับพี่ฌาน ผมบอกแล้วไงว่าห้ามล้อ” ผมหันไปหานิฌานที่ตาค้างไปแล้ว เพราะต้องแสดงต่อหน้าพระเอกชื่อดังของวงการถึงได้รู้สึกเขินอายขึ้นมาดื้อๆ ไอ้เราก็ไม่ใช่ดารา ทำได้เท่านี้ก็เต็มกลืน

“น้องเจครับ...” นิฌานคล้ายเพิ่งหาเสียงเจอ แถมยังมองผมแปลกๆ อีกต่างหาก “น้องเจใช้เบอร์ตัวเองโทรไป ถ้าเกิดแอนแอน...ไม่สิ สมฤดีคนนี้เป็นวงในขึ้นมาจริงๆ แล้วรู้ว่าน้องเจเป็นผู้จัดการพี่ ระวังจะจำเบอร์น้องเจได้นะ ก็เราเล่นแจกนามบัตรไปทั่วเลยนี่นา”

“โทรศัพท์เครื่องนี้มีสองซิมครับพี่ฌาน” ผมพูดพลางยิ้มหวานเพราะต่อให้เขาไม่ชม ก็นึกชมตัวเองกับความไม่ประมาท “เบอร์บนนามบัตรเป็นเบอร์ใหม่ที่ผมซื้อมาเพื่อทำงานโดยเฉพาะ ส่วนที่โทรเมื่อกี้น่ะเป็นเบอร์ส่วนตัวผม ขนาดพี่ฌานยังไม่รู้เลยแล้วใครจะรู้”

“อ้าว นี่น้องเจให้เบอร์ทำงานพี่หรอกเหรอ” นิฌานขยับตัวเข้าใกล้ ตาประกายแวววาวเหมือนวันที่เซ็นสัญญากันไม่มีผิด แถมออกจะระยิบระยับมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ!

 “ใช่ครับ ครบสามเดือนเมื่อไหร่ค่อยหักซิมทิ้ง ตัดปัญหาตามมาภายหลัง” ผมมอง ‘ตัวปัญหา’ อย่างเขาเป็นการสื่อความหมาย “ว่าแต่สรุปแล้วพี่รู้จักคุณสมฤดีมั้ย ใช่คนใกล้ตัวพี่รึเปล่า”

“รู้จัก เป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของพี่เอง”

“อ้าว”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับน้องเจ เรื่องนี้พอจะเดาได้ ไม่นับว่าตกใจมากหรอก แต่ที่ทำให้พี่ตกใจน่ะ...คือตัวน้องเจเองต่างหาก”

“ผมบอกแล้วไงว่าห้ามล้อ!” ผมฮึ่มทันที

“พี่ไม่ล้อ” นิฌานชูสองมือแบบยอมแพ้ทุกประตู “แต่พี่กำลังตกหลุมรัก”

“...ฮะ?”

“ตอนแรกก็ไม่มั่นใจหรอกนะ แต่อยู่กับน้องเจทีไรไม่รู้ทำไมถึงมีอะไรให้ประทับใจตลอด ในอกก็เต้นตุบๆ อาการแบบนี้พี่ว่าพี่กำลังตกหลุมรักน้องเจแน่ๆ!”

“เหอๆ ชีวิตนี้พี่ฌานตกหลุมรักมากี่รอบแล้วล่ะ” ผมว่าอย่างรู้ทันพลางเลิกคิ้วถาม ไม่สะทกสะท้านกับคำสารภาพใดๆ ทั้งสิ้น ไอ้เรารึอุตส่าห์หาทางช่วย แต่ตัวต้นเรื่องดันเอาแต่คิดเรื่องไร้สาระซะงั้น! “แล้วพี่ฌานตกมาลึกแค่ไหน คนอย่างพี่คงไม่จู่ๆ ก็กระโจนตกลงมาทั้งตัวหรอกใช่มั้ย”

“ก็ประมาณครึ่งขาได้...”

“งั้นก็ก้าวออกจากหลุมด้วยครับ เพราะผมไม่เอาพี่ฌานมาเป็นคนรักหรอก เสียเวลา” ตัดบทจบก็พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะถามเข้าเรื่องอีกครั้ง “แล้วพี่จะทำยังไงกับคุณสมฤดี จะปล่อยเธอไปก่อนเหรอ รู้ที่อยู่ขนาดนี้ถ้าจะเข้าไปสืบถึงเบื้องลึกเบื้องหลังคนหาเบอร์โทรศัพท์ของพี่ให้เธอ หรือจัดการจนเธอเลิกโทรมาก็น่าจะทำได้เลยนะ”

“น้องเจดูสนุกเชียว”

“ก็ผมชอบดูซีรีส์เช็กเมทนี่! ผมชอบพวกสืบสวนสอบสวน พอได้ลงมือเองก็สนุกดี” ผมยิ้มเหมือนเด็กๆ “แล้ว...เอ่อ พี่จะกุมหัวใจทำไม”

“ตกหลุมรักอีกแล้ว ตอนนี้เลยเข่ามานิดนึง”

ผมกลอกตา หมดอารมณ์คุยเรื่องสมฤดีโดยสิ้นเชิง

“นี่พี่ฌานกำลังหาทางบ่ายเบี่ยงความสนใจกันรึเปล่า ถ้าไม่อยากให้ยุ่งก็พูดตรงๆ อย่าทำเล่นแบบนี้ ผมไม่ชอบ”

“ก็ไม่เชิงอยากให้น้องเจยุ่ง แต่พอดีเรื่องนี้มันซับซ้อน...ส่วนเรื่องตกหลุมรักเนี่ยพูดจริง พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ”

“ก็บอกให้ตัดใจไงครับ”

“ถ้าน้องเจไม่รับรัก งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน น้องเจครับ...”

“ครับ”

“ไอ้ที่ตกหลุมรักเมื่อกี้พี่ล้อเล่น”

“ไม่เชื่อครับ!”

ผมแนบตัวชิดผนังสร้างเกราะระวังภัยทันควัน ปฏิเสธแบบนี้น่ากลัวกว่ายอมรับโต้งๆ อีก

“ว้า เสียดายจัง” นิฌานเลิกคุกคามในที่สุด กลับไปนั่งสงบเสงี่ยมพลางก้มเก็บโทรศัพท์ที่โดนผมปาทิ้งตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันรู้ตัวมากดโทรออก “ครูอยู่ไหนแล้ว ครับ ผมอยู่ในห้องซ้อมแล้ว รอครูมาสอนร้องเพลงตามที่เรานัดกันไง อ้อ ใกล้ถึงแล้วเหรอ โอเคครับ งั้นอีกสิบนาทีเจอกัน”

ผมหรี่ตามองนิฌานที่วางสาย หาที่นั่ง พลางหยิบเนื้อเพลงขึ้นมาท่องแล้วยังไม่กล้าแกะตัวเองออกจากกำแพง

“ไม่ต้องห่วงครับน้องเจ พี่จะทำตามสัญญา จะไม่แกล้งหยอกน้องเจเล่นแล้ว”

“แต่พี่...จะจริงจัง?” ผมถามตามลางสังหรณ์ ไม่รู้ทำไมถึงคิดคำชวนสยองขวัญแบบนี้ออกมา

ปรากฏว่าคำตอบของนิฌานคือรอยยิ้ม

ยิ้มทีเล่นเอาเสียววาบไปทั้งสันหลัง

“พี่ฌาน...”

“ขอความสงบด้วยครับน้องเจ พี่กำลังท่องเนื้อเพลง เดี๋ยวครูมาแล้วพี่ยังจำไม่ได้จะโดนดุเอา”

จู่ๆ ก็กลับสู่มาดทำงานอย่างไม่เข้าสถานการณ์เอาซะเลย ไม่สิ ไอ้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ต่างหากที่ไม่ควรเกิดขึ้น!

สรุปแล้วผมโทรสืบหาตัวจริงของแอนตี้แฟนไปเพื่ออะไร

นี่มันทำบุญได้บาปชัดๆ แทนที่จะสบายใจ แต่ทำไมมันแลลำบากจิตกว่าเดิมวะเนี่ย!!

 

------------------

อะแฮ่ม มาถึงตอนนี้ก็ได้เวลาเฉลยชื่อเรื่องค่ะ ทำไมเรื่องนี้ต้องชื่อ Just U, Not US

อะแฮ่ม อะแฮ่ม เพราะเราอยากให้คล้องกับ I’M NOT HIM กับ HE’S NOT ME ค่ะ แต่เพราะเป็นเรื่องแยกออกมาเลยจึงให้แนวการตั้งชื่อต่างออกไป โดยยืมตัว NOT มาใช้ และพอไล่เรียงจาก I -> HIM , HE -> ME แล้ว ก็เหลืออยู่แค่คำว่า You เท่านั้น และเมื่อคู่กับอยู่ ก็ต้องเป็นคำว่า US!

บังเอิญมากค่ะ เพราะดันตรงกับคาแรคเตอร์น้องเจพอดี เพราะเรื่องนี้....นิฌานเป็นฝ่ายตามจีบน้องทั้งเรื่อง อย่างที่เริ่มเห็นลางร้ายกันแล้ว แต่! เจไม่เล่นด้วยเลย จึงกึ่งๆ เป็นคำพูดของเจ  Just U, Not US อยู่คนเดียวไปเลยไป อย่ามาคิดดองด้วยนะเฟ้ย! ประมาณนี้ค่ะ 5555555

แต่น้องเจเล่นปล่อยของขนาดนี้จะไม่ให้หวั่นไหวได้ยังไง ขนาดเรายังหวั่นไหวเลย น้องเจน่ารักกก

 

เพจนักเขียนที่มองนิฌานเป็นคู่แข่งความรัก!  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-04-2018 19:23:08
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 07-04-2018 19:25:41
น่ารักๆๆน้องน่ารักจังเลย อยากสั่งของมาส่งที่ห้อง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-04-2018 19:36:49
นิฌาณตกหลุมรักน้องเจ ครึ่งตัวล้าวว อีกนิดนึงก็กระโจนลงไปเลยยย อิ้วววว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-04-2018 19:38:37
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 07-04-2018 19:59:38
โอยยย ตกหลุมรักมาครึ่งขา
แป๊บๆก็เหนือเข่า อีกไม่ช้าก็คงครึ่งตัว
แล้วเดี๋ยวจะขึ้นจากหลุมไม่ได้โดยไม่รู้ตัว


หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-04-2018 20:27:39
น้องเจน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-04-2018 20:38:47
พี่ฌานก้อคือพี่ฌานจิงๆ 555555555
น้องเจน่าเอ็นดูมากลูก ช่วยหาตัวแอนแอนขนาดนี้ จะไม่ให้พี่ฌานหลงรักได้ไง ><
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 07-04-2018 20:53:47
น้องเจคะ พี่ตกหลุมรักน้องเจจนจะมิดหัวแล้ว มากกว่าพี่ฌานเยอะ
เพราะงั้นไม่ต้องสนพี่ฌานค่ะ เรามารักกันเถอะน้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 07-04-2018 21:24:25
นั่นสิ อยู่ๆ ม่ทำตัวน่ารัก ใครจะไม่หลงค่ะน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 07-04-2018 21:47:27
 o13 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-04-2018 22:28:34
คู่นี้เหมาะกันสุดๆอ่ะ 555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 07-04-2018 22:35:26
คิดจะเคลมน้องเจนั้นไม่ง่าย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-04-2018 23:38:41
       หน่องเจทำไมหนูน่ารักน่าชังอย่างนี้ลูก
หนูไม่เหมาะกับตัวพ่อในวงการเลย555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-04-2018 23:56:22
มายากี่เล่มเกวียนขนมาเลย น้องเจไม่สนอยู่แล้ว  o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 08-04-2018 01:26:51
ทำไมพี่นิฌาณไม่ตอบล่ะคะว่าจริงจังน้องอุตส่าห์ถามแล้ว !! อยากรู้เหตุผลของแอนแอนที่มาเป็นแอรตี้แฟนพี่ฌาณจังว่าพี่ฌาณไปทำอะไรให้
ถ้าจะจีบน้องเจจริงๆพี่ฌาณห้ามเจ้าชู้นะไม่งั้นจะไม่ยกนิฌาณให้เด็ดขาดเลย ติดตามตอนต่อไปนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 08-04-2018 12:12:19
น่าร้าก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-04-2018 17:42:53
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 08-04-2018 18:58:28
 :laugh: :laugh: :laugh: ไม่ใช่ตกลงมาครึ่งตัวแล้วหรือคะพี่นิฌาณ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 09-04-2018 09:02:13
ตลกความตกหลุมมาแล้วครึ่งขา
ถ้าพี่ฌานตกหลุมรักจริงๆนี้ ลำบากเลยนะ
เล่นมาเยอะ น้องเจเขาจะเชื่อใจไหมเนี้ยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-04-2018 13:30:57
ระวังตัวนะน้องเจ อิพี่มันชอบหยอดจัง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 8 : เผยโฉม- [07/04/61] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 14-04-2018 14:01:41
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยจ้า รอน้องเจน้า
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 - [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 16-04-2018 18:25:53
 

ตอนที่ 9 : ลักพาตัวเพื่ออะไร

 

- พี่กลับถึงบ้านแล้วนะครับ -

ผมอ่านข้อความที่นิฌานส่งมาแล้วเก็บโทรศัพท์ไม่สนใจ ใครเลยจะเชื่อว่าคนอย่างนิฌาน ชาญชัยจะไปงานเลี้ยงแล้วกลับบ้านตั้งแต่สามทุ่ม แถมยังรายงานตัวอย่างดี ไม่โทรกวน ไม่หยอกล้อ ไม่ทำตัวน่าหมั่นไส้อย่างที่เคยเป็นได้จริงๆ

แต่ก็ไม่รู้ว่าดีแตกเอาตอนไหน

ดีไม่ดีอาจจะยังอยู่ในงาน แต่แสร้งหลอกให้ตายใจก็ได้

ผมไม่คิดตอบข้อความของนิฌาน เพราะเพิ่งเรียนขับรถสำหรับวันนี้เสร็จ สองชั่วโมงแรกเป็นไปอย่างตะกุกตะกัก แต่คุณครูชมว่าผมมีสมาธิดีมาก และเตรียมตัวมาดี เรียกว่าภาคทฤษฎีอัดแน่น เหลือแต่ปฏิบัติที่ยังต้องเรียนรู้อีกสักพัก

“แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้นะเจ”

“ขอบคุณครับ”

ผมสะพายกระเป๋าออกจากสนามฝึก ก่อนจะนั่งรถเมล์สองป้ายแล้วเดินเข้าซอยเพื่อกลับบ้าน  ช่วงดึกแบบนี้คนเดินสวนนั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย ดูเปลี่ยวร้างน่าขนลุกไม่เบา ผมยกโทรศัพท์ทำทีเป็นคุยกับเพื่อนทั้งที่ปลายสายว่างเปล่า สาเหตุสำคัญมาจากรถคันหนึ่งที่ตามหลังมาครู่ใหญ่

อาจเพราะเห็นผมไม่ยอมวางสายสักที รถปริศนาถึงไม่กล้ากระทำการอุกอาจ ผมสังเกตยี่ห้อรถด้วยหางตา พบว่าหรูหราราคาแพงเกินกว่าจะเป็นโจรเรียกค่าไถ่ แต่โทษเถอะ ครอบครัวทองคำดีไม่มีเงินมากพอให้เรียกร้อง รวมทั้งไม่เคยสร้างความบาดหมางให้ดักทำร้าย ที่พอนึกออกก็คือมีคนเพ่งเล็งแฟนของพี่ชาย...แต่เสี่ยที่มีเลขาจอมมารคุมอยู่นั้น...ใครจะกล้าหาเรื่องด้วย แถมถ้าคิดจะทำอะไรแผลงๆ ขึ้นมาสู่ไปหาพี่จิยังได้เรื่องกว่ามาหาผม ฉะนั้นที่พอเข้าเค้าก็มีแต่ผู้เกี่ยวข้องกับนิฌาน ชาญชัย บุคคลที่ผมเพิ่งคลุกคลีด้วยในช่วงนี้

จะแกล้งทำเป็นคุยโทรศัพท์หรือวางสายเพื่อพิสูจน์ดีนะ

การทำแบบหลังมันเสี่ยงมาก แต่การให้คนแปลกหน้าขับรถตามไปถึงบ้าน แล้วอาจจะเฝ้าหน้าบ้านไปจนถึงเช้าวันถัดไปนั้นเกรงจะสร้างความแตกตื่นให้กับพ่อและแม่มากกว่า ไม่ใช่ว่าไม่รักตัวกลัวตาย แต่ถ้าจะลอบทำร้ายกันจริงๆ ควรทำไปตั้งนานแล้ว นี่ใกล้ถึงบ้านเต็มทีแต่ไม่ยักไม่หลบเลี่ยงหนีหาย  แสดงว่าอยากจะเจรจาบางอย่างมากกว่า

ผมตัดสินใจทำเป็นวางโทรศัพท์แต่ความจริงแล้วกดปิดเสียง และก็เป็นดังคาด รถปริศนาเร่งเครื่องขับปาดหน้า ประตูที่นั่งข้างคนขับถูกเปิดออก พร้อมชายร่างโตที่รีบจับตัวผมยัดเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว

รถคันหรูเร่งเครื่องออกจากซอยทันควัน นับเวลาเกิดเหตุจนถึงตอนนี้ไม่ถึงหนึ่งนาที

รวดเร็ว รวบรัด บ่งบอกว่าอีกฝ่ายวางแผนมารอบคอบ ผมเงยมองหญิงสูงวัยตรงหน้า อายุอานามคงราวๆ ห้าสิบกว่าปี หรืออาจมากกว่านั้นเพราะผิวหน้าดูเด้งเกินวัยทั้งที่คอเหี่ยว คาดว่าคงผ่านกรรมวิธีมากมายเพื่อคงความสวยสาวเอาไว้สุดความสามารถ เครื่องแต่งกายในชุดเดรสเรียบหรูประโคมสร้อยเพชรและต่างหูระยิบระยับ เหมือนกำลังจะไปงานมากกว่าวางแผนลักพาตัวเด็กหนุ่มอายุสิบแปด

ในชีวิตผมไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุคคลระดับนี้ยกเว้นเสี่ยกับนิฌาน ถ้าเดาจากอายุและอิงจากละคร เธออาจจะเป็นแม่เสี่ยที่อยากให้ผมไปเกลี้ยกล่อมพี่จิให้เลิกกับลูกชายเธอ แต่เป็นไปไม่ได้ในเมื่อแม่เสี่ยอยู่ต่างประเทศ แต่งงานมีครอบครัวใหม่นานแล้ว จะมานึกหวงลูกชายที่ใกล้ขึ้นคานทำไม ฉะนั้นนิฌานจึงยังยึดตำแหน่งผู้ต้องสงสัยอันดับอย่างเหนียวแน่น

หญิงสูงวัย รู้จักกับนิฌาน มีเงิน มีอำนาจ ต้องการคุยกับผมสองต่อสอง

เมื่อนำทุกอย่างมารวมกัน ผมก็สรุปได้เพียงว่าเธอคือเจ้าของเสียงในโทรศัพท์ที่สอบถามเรื่องงานผู้จัดการ คนใกล้ตัวที่นิฌานจำต้องว่าจ้างผมมาบังหน้า

“ดูเธอไม่ตกใจเลยนะ” หญิงวัยกลางคนถามอย่างประหลาดใจเมื่อขึ้นรถมาได้ก็โดนผมจ้องอย่างเพ่งพิจารณา

“เพราะคุณไม่คิดปกปิดนี่ครับ รถคันนี้ตามผมมาตั้งแต่สนามฝึกยันป้ายรถเมล์หน้าบ้าน แถมยังขับเข้ามาในซอยที่คงไม่มีใครมีรถยี่ห้อนี้อีก...”

สำหรับคนชอบดูซีรีส์สอบสวน ความผิดปกตินี้พบเห็นได้ไม่ยาก

“เธอดูฉลาดกว่าที่ฉันคิด แต่ก็สมแล้วที่เป็นคนของเลขาคมสัน”

อันที่จริงผมไม่ใช่คนของคมสัน แต่ปล่อยให้เข้าใจผิดแบบนั้นก็ปลอดภัยกับชีวิตดี

“คมสันกับนิฌานให้ค่าจ้างเท่าไหร่กับงานผู้จัดการ ฉันจะให้เธอมากกว่าสองเท่า”

“ผมจะเชื่อคนแปลกหน้าได้ยังไงว่ามีเงินให้จริงๆ”

“ฉันเป็นแม่ของนิฌาน”

...น่าแปลกที่ผมไม่ประหลาดใจเลย

อาจเพราะแม้ใบหน้าเธอจะฉีดโบทอกซ์ และเหมือนผ่านการศัลยกรรมมา แต่ก็ยังมีบางส่วนคล้ายคลึงกับนิฌาน โดยเฉพาะดวงตาแพรวพราวเหมือนคิดอะไรตลอดเวลานั่น

“ฉันต้องการให้เธอลาออกจากการเป็นผู้จัดการดาราซะ”

“แล้วคุณจะให้ผมอ้างเหตุผลอะไรกับเลขาคมสันครับ ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายทาบทามติดต่อผมเอง และผมก็ตอบตกลงเซ็นสัญญาไปแล้ว ถ้าจู่ๆ ยกเลิกกะทันหันเลขาคมสันต้องสงสัยแน่”

“ต่อให้สงสัยแต่เลขาคมสันก็ทำอะไรไม่ได้ถ้าเธอยืนยันจะไม่รับงานนี้” ไม่พูดเปล่า ชายที่นั่งข้างคนขับยังหยิบปืนขึ้นมาจ่อศีรษะผมเป็นเชิงบังคับให้เลิกคิดแทนคนอื่นแล้วรีบๆ ตอบตกลงเสียที “ก็แค่เงียบๆ ไปซะ”

ผมยอมรับ ผมกลัวใจแทบขาด จู่ๆ โดนปืนจ่อไม่ใช่เรื่องตลกนะ!

“คุณทำแบบนี้มากี่คนแล้ว” ผมพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น ที่กล้าขนาดนี้เพราะเชื่อ...เชื่อว่านี่คือการขู่ เธอไม่มีทางทำร้ายผม เพราะเธอคือแม่ของพระเอกชื่อดัง ยิงเด็กอายุสิบแปดตายคารถถือเป็นการกระทำสิ้นคิดสุดขีด “ถ้าผมออก เลขาคมสันก็จะหาผู้จัดการคนใหม่ให้กับนิฌานอยู่ดี แล้วคุณจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหรอครับ”

ใจเย็นเข้าไว้เจตริน

ค่อยๆ คิด...เพราะผมไม่อยากเลิกเป็นผู้จัดการ แต่ถ้าไม่หาทางลงที่น่าพอใจ เธอก็คงไม่ยอมปล่อยผมลงจากรถ

“อย่าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเลยครับ เรามาคุยถึงต้นเหตุกันดีกว่า ทำไมคุณถึงอยากให้นิฌานไม่มีผู้จัดการ เพราะจะเข้ามาแทรกแซงตารางงาน หรือเพราะอยากแทรกแซงด้านรายได้”

ไม่ปฏิเสธ แถมสายตายังจ้องอย่างระแวดระวัง แสดงว่าเดาถูกทาง

“ผมช่วยคุณได้นะ แทนที่จะให้เงินผมออก เปลี่ยนมาจ้างผมเป็นสายมั้ยครับ”

“ฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง”

“คุณชมว่าผมฉลาด และคงไม่มีคนฉลาดที่ไหนปฏิเสธเงิน”

“แต่เธอเพิ่งปฏิเสธฉัน”

“ผมปฏิเสธที่จะรับเงินเพื่อลาออก แต่ผมกำลังหาทางให้ตัวเองได้เงินทั้งสองทาง จากค่าจ้างของนิฌาน และจากค่าจ้างในการเป็นสาย...ของคุณ”

ราวกับผู้หญิงคนนี้ฝังใจเรื่องเงินเป็นพิเศษ ถึงได้ดูเชื่อถือผมขึ้นทันตา ผมอดนึกถึงแววตาของนิฌานตอนพูดเรื่องโดนทรยศไม่ได้...แสดงว่าผู้จัดการก่อนหน้านี้...อาจมีหลายคนโลภมากจนไขว้เขว แต่เทียบกับการไล่ตามดาราที่เที่ยวหยอด หาเรื่องจีบคนอื่นไปทั่ว ความจริงใจไม่มี การเลือกรับเงิน(โดยมีปืนจ่อ)ก็เป็นหนทางที่สบายกว่าจริงๆ นั่นแหละ!

พอเห็นความลังเลของคู่สนทนาผมก็รีบย้ำเตือนไปอีก

“ผมทำงานนี้แค่สามเดือนเท่านั้น แค่สามเดือน ผมก็จะลาออกไปเองโดยไม่มีใครสงสัย ช่วงชิงจังหวะนี้ดีกว่ามั้ยครับ เพราะผู้จัดการคนต่อไปคงไม่คุยง่ายเหมือนผม”

“ฉันต้องการรู้ตารางงานทั้งหมด รวมทั้งบัญชีรายได้ของนิฌาน”

“ผมส่งตารางงานให้คุณตอนนี้เลยยังได้ แต่บัญชีนั้นผมไม่รู้ นิฌานไม่ให้ผมยุ่ง” ผมว่าตามสัตย์จริง แถมยังส่งตารางงานแสดงความจริงใจด้วย

“ทำไมถึงมีตารางแค่สามวัน”

“นิฌานจะบอกผมล่วงหน้าแค่สามวันเท่านั้น เขาระวังตัวดี”

หญิงวัยกลางคนสบถอย่างไม่สมวัย หารู้ไม่ว่าผม...โกหก

ถ้าไม่รู้ตารางล่วงหน้า ผมจะนัดครูสอนขับรถได้ยังไงละเอ้อ

การต่อรองที่ดีคือการบอกครึ่งหนึ่งเก็บครึ่งหนึ่ง นอกจากจะปลอดภัยกับตัวเองและนิฌานแล้ว ยังทำให้คนคนนี้ต้องพึ่งพาผม ฉะนั้นไอ้การขู่ทำร้ายคงเว้นไปสักระยะ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นผมอาจจะหาทางรอดที่ดีกว่า เพราะตอนนี้น่ะ...มันคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าล้วนๆ!

เอาปืนออกไปสักทีเถอะ!

แม้รู้แก่ใจว่าคงไม่ลั่นไก แต่ก็กลัวว่าปืนมันจะลั่น

“เธอต้องรายงานฉันทุกอย่าง เรื่องที่เขากำลังคบหาคนรัก เพื่อนสนิท หรือที่ที่ชอบไป”

“นิฌานเป็นปลาไหลตัวพ่อ เขาไม่เคยคบหาใครนานๆ ทั้งแบบเพื่อนและแฟน แถมยังชอบไปงานปาร์ตี้ไม่ซ้ำกันทุกงาน”

เห็นสายตาจ้องเขม็งนั่นผมก็รีบกลับคำ

“แต่ผมจะพยายาม”

“ดี ฉันจะให้เงินมัดจำก่อนก้อนหนึ่ง ถ้าเธอมีข้อมูลที่ดีกว่านี้ ฉันจะให้เพิ่มอีก” เธอกล่าวพลางเขียนเช็คส่งให้ผมในจำนวนหกหลัก ถือว่าใจป้ำไม่เบา “ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครล่ะ”

“ผมไม่พูดแน่ แต่คุณควรรีบส่งผมกลับที่เดิม เพราะหากดึกกว่านี้พ่อแม่ผมจะเป็นห่วง และคนแรกที่จะโดนโทรถามคือนิฌาน ถึงตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ไม่รับผิดชอบแล้ว”

“ไปส่งเขา”

ผมพอหายใจโล่งขึ้นเมื่อหญิงวัยกลางคนหันไปสั่งคนขับรถให้กลับสู่เส้นทางแสนคุ้นเคย

“นี่คือนามบัตรผม หากมีครั้งหน้าอีกรบกวนโทรนัดด้วยนะครับ อย่าตามมาถึงหน้าบ้านแบบนี้ ผมไม่อยากให้ครอบครัวไม่สบายใจ” ถ้าไม่เพราะเหตุผลข้อหลัง อย่าหวังเลยว่าคนอย่างเจตรินจะยอมเสียสละตัวเองยอมโดนปืนจ่อ

“แล้วฉันจะติดต่อไป”

“ครับ”

พอถูกพามาหน้าปากซอย ผมก็เดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นพี่ชายยืนอยู่หน้าประตู คอยชะเง้อคอมองหาใครบางคน

จริงสิ วันนี้พี่จิมีคิวนอนบ้านตัวเอง

“เจ! ทำไมกลับดึกแบบนี้ โทรไปก็ไม่ยอมรับ”

“ผมปิดเสียงตอนเรียนขับรถแล้วลืมเปิด เลยไม่ได้ยิน” ผมอ้าง ก็เพราะรู้จักครอบครัวตัวเองดีไงถึงได้รีบปิดเสียงก่อนโดนลักพาตัว ต่อให้เดือดร้อนแค่ไหนผมก็ไม่มีวันขอความช่วยเหลือจากพี่ชายตัวเองแน่ พี่จิยิ่งไม่ค่อยมีสติ เข้าใจเรื่องราวสุดซับซ้อนไม่ค่อยไหวอยู่ด้วย เอะอะกลัวจะฝอยน้ำไหลไฟดับพูดไม่ได้ศัพท์ชวนปวดหัว แล้วกับคนที่มีปืน...ใครจะกล้าให้พี่ชายตัวเองเผชิญหน้า!

“หน้าซีดจัง เหนื่อยเหรอไอ้น้อง อย่าบอกนะว่าวันนี้ลองขับแล้วไม่รอดก็เลยเปลี่ยนใจ เอาเลยเจ พี่คนนี้ไม่ขัดข้อง เรียนดึกกลับดึกขนาดนี้อันตรายจะตาย ถ้าเจเปลี่ยนใจก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ! ยังไงซะครอบครัวเราก็ไม่ได้ใช้รถเป็นประจำอยู่แล้ว ดีซะอีก จะได้ลดปัญหาอุบัติเหตุ เจรู้มั้ยว่าประเทศไทยมีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับหนึ่งเลยนะ ต่อให้เราไม่ชนเขาเขาก็มาชนเรา คิดดีแล้วน้องเอ๋ย ถ้าไม่ไหวก็บอกไม่ไหว อย่าเก็บอะไรไว้คนเดียว...เจน่ะชอบคิดมากคิดเยอะ คิดเผื่อคนอื่นแต่ไม่เห็นเผื่อตัวเองบ้างเลย พี่น่ะนะ...”

“พี่จิ หยุดพูดได้แล้ว ยุงกัดผมแล้ว”

“เออ ยุงกัดพี่เหมือนกัน งั้นเข้าบ้านกันเถอะ แล้วนี่กินอะไรรึยัง แม่เก็บกับข้าวเผื่อด้วยนะ”

“กินมาแล้วครับ”

“ดีมากไอ้น้อง วัยกำลังกินกำลังโตต้องรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เป็นโรคกระเพาะแล้วไม่คุ้มเสี่ยง แต่เสียดายชะมัด วันนี้แม่ทำแกงกะหรี่หมูทอด อร่อยเหาะอย่างนี้เลย!“ พี่จิไม่พูดเปล่ายังยกนิ้วโป้งด้วย “ขนาดเสี่ยยังขอเบิ้ลตั้งสองชาม คุณคมสันถึงกับขอสูตรเด็ดไปให้พ่อครัวที่คฤหาสน์ หึหึหึ...นับจากนี้สูตรแกงกะหรี่บ้านทองคำดีจะขจรไกล ไม่มีใครจะทำอร่อยได้เท่าแม่ผู้ยิ่งใหญ่ นางจรวย ทองคำดีอีกแล้ว! ฮุยเลฮุย”

“ฮุยเลฮุยอะไรของพี่จิเนี่ย” ผมหลุดยิ้ม ความเครียดเมื่อครู่เบาบางลงอย่างมหัศจรรย์

เพราะนี่คือครอบครัวคนสำคัญของผม คือบ้านของผม

ไม่มีอะไรสุขใจเท่าบ้านเรา จริงมั้ยล่ะครับ

 




หลังอาบน้ำเสร็จผมก็หาข้อมูลแม่ของนิฌานทันที ตอนแรกหาแบบไม่คาดหวัง แต่เหลือเชื่อครับ เพราะข้อมูลของเธอบนโลกโซเชียลนั้นมีเยอะกว่าที่คาด

ผู้จัดการคนแรกของนิฌานก็คือแม่แท้ๆ!

ไม่นับว่าแปลกในเมื่อนิฌานเข้าวงการตอนแปดขวบ เด็กวัยขนาดนั้นมักมีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อนิฌานได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม ได้รับคำชมมากมาย ถูกเรียกว่าเด็กมหัศจรรย์ แม่ของเขาถึงกับยอมลาออกจากงานเพื่อเป็นผู้จัดการให้ลูกชายเต็มตัว

นับจากชีวิตของนิฌานในวงการบันเทิงก็เริ่มต้นอย่างเข้มข้น ต้องยอมรับว่าการที่เขาเป็นยังเป็นดาวจรัสแสงไม่เคยดับนั้นมาจากความพยายามในวัยเด็กที่ไม่เคยเว้นช่วง ทำให้มีสายป่านต่อยาวไม่เคยขาด ภาพของสองแม่ลูกออกสื่อนั้นมีเป็นเรื่องชินตาจนใครหลายคนล้วนชื่นชม เพราะแม่ของนิฌานเป็นซิงเกิ้ลมัม เนื่องจากมีปัญหาหย่าขาดกับสามีตั้งแต่นิฌานอายุเพียงห้าขวบเท่านั้น

หลายความเห็นล้วนพูดถึงแม่นิฌานในทางที่ดี เพราะเธอไม่เคยอาย แถมยังภูมิใจมากเสียด้วยที่การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวนั้นทำให้ลูกชายประสบความสำเร็จขนาดนี้

‘นิฌานคือลูกที่ฉันภูมิใจ เขาไม่เคยทำให้ฉันผิดหวัง’

เพราะนิฌานยังเด็ก บทสัมภาษณ์ส่วนใหญ่แม่ของเขาจึงเป็นคนตอบ จนกระทั่งเริ่มโตขึ้น ถึงได้พอออกปากบ้าง แต่ทุกครั้งมักพูดถึงผู้ปกครองในแง่ดี ได้รับคำชมว่าลูกกตัญญู เชื่อฟังอย่างดีถึงขนาดยอมดรอปเรียนหลายครั้งเพื่อรับงานภาพยนตร์ ทำให้นิฌานเรียนจบช้ากว่าเพื่อนร่วมรุ่นถึงสองปี

แต่เมื่อเรียนจบปุ๊บ แม่ของนิฌานก็ถูกปลดจากการเป็นผู้จัดการดาราปั๊บ

ผมเริ่มได้กลิ่นตุๆ ตรงนี้

‘คุณแม่เริ่มมีอายุมากขึ้น ไม่คล่องแคล่วเหมือนแต่ก่อน และตอนนี้ผมก็เข้าวงการเต็มตัวแล้ว เลยอยากให้ท่านได้มีอิสระ ได้กิน ได้เที่ยวอย่างเต็มที่ทดแทนที่ต้องช่วยดูแลผมมาตลอดหลายสิบปี ไม่ต้องห่วงนะครับ นับจากนี้ผมจะเลี้ยงดูคุณแม่เอง’

คำสัมภาษณ์นั้นทำให้นิฌานได้รับรางวัลลูกกตัญญู...พร้อมภาพคู่แม่ลูกที่หายไปจากวงการอย่างถาวร นับแล้วก็เป็นเวลากว่าห้าปี ตอนนั้นผมเพิ่งสิบสาม ตั้งอกตั้งใจเรียนไม่สนเรื่องราวในวงการบันเทิง ก็ไม่แปลกที่ไม่รู้จักเรื่องราวเบื้องลึกของนิฌาน เพราะตอนหาข้อมูลเรื่องเขา ผมดูแค่การทำงานกับข่าวเรื่องความเจ้าชู้ ไม่เคยคิดเจาะลึกทางครอบครัวมาก่อน

“ทำอะไรอยู่น่ะไอ้เจ คิ้วขมวดจนเป็นปมแล้ว”

“พี่จิคิดว่าหน้าตา ชื่อเสียง เงินทอง ทำให้สายสัมพันธ์แม่ลูกตัดขาดกันได้มั้ยครับ”

“ทำไมถามแปลกอย่างนี้ล่ะ” พี่จิเกาหัว “พี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าสามารถตัดขาดได้มั้ย แต่จากที่พี่เคยทำงานในแวดวงบันเทิงมาก่อน หน้าตาคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของชื่อเสียง เรียกว่าหน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ดูอย่างจิระสิ ต่อให้เขาตดในที่สาธารณะยังไม่มีกล้านินทาเลย! มีแต่จะชมว่าน่ารักน่าเอ็นดู ต่อให้ทำอะไรผิดก็ยอมยกโทษให้! แต่พี่ไม่ได้หมายความว่าจิระไม่เก่งหรอกนะ จิระมาถึงจุดนี้ได้เพราะความสามารถ และเมื่อได้ชื่อเสียง...ก็จะนำมาซึ่งเงินทอง เงินสำคัญไฉนใครเลยจะรู้ แต่ทุกอย่างในโลกนี้ก็ต้องใช้เงินซื้อทั้งนั้น”

“พี่จิพูดมีสาระนะเนี่ย”

“ใช่มั้ยล้า”

“แต่ไม่ตรงคำถาม”

พี่จินั่งเหี่ยว ผู้ชายตัวโตนั่งขัดสมาธิทำไหล่เหี่ยวหน้าบู้อยู่บนเตียงไม่ใช่ภาพน่าดูนักหรอก

“ก็พี่ไม่รู้นี่ว่าตัดขาดได้มั้ย แต่ถ้าต้องถึงขั้นนั้นจริงๆ คงมีปัจจัยที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่หน้าตา ชื่อเสียง เงินทอง แต่ยังมีความอคติ ความเห็นแก่ตัว ความขัดแย้งกันด้วย” พูดจบพี่จิก็เบิกตาโพลง “อย่าบอกนะว่าถึงวัยหนีออกจากบ้านแล้ว ไม่นะเจ ถ้ามีเรื่องอะไรก็พูดกันดีๆ อย่าหนีออกจากบ้าน!”

“ผมไม่ได้อยู่ในวัยต่อต้านสักหน่อย!” ผมว่าอย่างโมโห ทำให้คนในบ้านถึงชอบคิดว่าอยู่ในวัยกำลังโตทุกที ผมโตแล้วนะ! ปกป้องทุกคนได้ด้วย!

“ก็ช่วงนี้เจกลับบ้านดึก พ่อแม่เป็นห่วงนะรู้มั้ย”

“ผมไปเรียนขับรถ!”

“อ้าว เจไม่ได้เลิกเรียนแล้วเหรอ”

“ผมไม่ได้คิดเลิกเรียนสักหน่อย วันนี้ครูยังชมว่าทำดีเลย”

“นั่นสิเนอะ เจเวลาตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้ดีตลอด เก่งมากน้องรัก”

“อารมณ์ไหนของพี่จิเนี่ย...” ผมทำหน้าไปไม่เป็นกับอาการผีเข้าผีออกของพี่ชาย ก่อนจะนึกได้ว่าควรเล่าเรื่องในวันนี้ให้นิฌานฟังสักหน่อย แม้จะรับปากแม่ของเขาไปแล้ว...แต่ผมต้องซื่อสัตย์ต่อคนจ่ายเงิน

‘ที่สำคัญคือน้องเจจะไม่หักหลังพี่ ไม่แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจแน่นอน’

ผมหัวเราะแห้งๆ ในลำคอ คนดีมีศีลห้าต้อศีลแตกข้อมุสาเพราะเขาแล้ว แต่ให้โทรไปตอนนี้ก็ไม่เหมาะเลยส่งข้อความไปแทน

- พรุ่งนี้มารับผมหน่อย -

นิฌานตอบกลับแทบจะในทันที

- ได้เลยครับน้องเจ ฝากบอกคุณแม่ด้วยนะว่าพี่จะไปฝากท้อง -

ไม่เย้าแหย่น่ารำคาญเหมือนเดิม แถมยังกระชับได้ใจความ เป็นผู้เป็นคนน่าเชิดชู

ผมปิดโทรศัพท์ นอนกลิ้งเล่นบนเตียงระหว่างรอพี่จิอาบน้ำ

พอย้อนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็เผลอขดตัวอย่างหวาดๆ มารู้สึกตัวเอาตอนนี้เองว่าใจกล้าบ้าบิ่นชะมัด เชื่อมั่นในความคิดตัวเองเกินไปมั้ย ถ้าเกิดฝ่ายนั้นไม่รับคำยิงผมทิ้งขึ้นมาจริงๆ จะว่ายังไง

ความกลัวเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าเมื่ออยู่คนเดียว พอเงยมองหาพี่ชายคนดี ก็ได้ยินเสียงร้องเพลงดังลั่นจากในห้องน้ำให้พอสงบจิตสงบใจได้บ้าง

ผมสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะยิ้มเฝื่อน รับงานผู้จัดการดาราหวังเงินเยอะแท้ๆ แต่ไหงกลายเป็นลึกลับซ้อนเงื่อนได้ขนาดนี้ล่ะเนี่ย

วูบหนึ่งคิดอยากฉีกสัญญาให้จบเรื่องจบราวไปซะ! ปล่อยนิฌานรับมือไป ปัญหาของเขาก็แก้ไขไปคนเดียวสิ ทำไมผมที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นต้องมาปวดหัวเป็นเพื่อนด้วย!

แต่พอนึกหน้านิฌานตอนบอกว่าอยู่กับผมแล้วสบายใจ เรียกน้องเจอย่างนั้นน้องเจอย่างนี้ ยอมเชื่อฟังตัดขาดกับดาราหน้าใหม่ด้วยรอยยิ้มระรื่น รับปากว่าจะไม่หยอกเล่นทำตัวเป็นเด็กดีมีวินัย เข้านอนเร็วไม่เมาหัวราน้ำ ไม่หาความสำราญอย่างเคย ผมก็...รู้สึกว่าจะทิ้งเอาดื้อๆ อย่างนี้ไม่ได้

สงสัย...เชื้อใจอ่อน ใจดี มีเมตตา ใฝ่คุณธรรมจะสืบมาทางสายเลือดทองคำดี

ต่อให้เป็นเจตรินก็ต้องยอมรับชะตากรรม!!

 

-------------

แอบหย่อนปมสักเล็กน้อย มีแววมาม่านิดๆ แต่เรื่องนี้รับประกันเช่นเดิมว่าไม่ดราม่ามากค่ะ เพราะตัวเอกหรือน้องเจนั้นแม้จะไม่มองบวกเท่าหนูจิ ไม่โวยวายซึนเดเระอย่างจิระ แต่มีสติรับมือดีมากและไม่เคยตีโพยตีพาย มีแต่ความน่ารัก มุ่งมั่น น่าเอ็นดูในทุกๆ ตอน!! #อวยแค่ไหนถามใจดู

มารอดูกันตอนต่อไปนะคะว่าน้องเจจะบอกนิฌานยังไง แอบวางแผนยังไง รับประกันว่าน้องไม่ยอมโดนขู่ฝ่ายเดียวค่ะ!

#justUnotUS

 

 เพจนักเขียนที่รักน้องเจสุดหัวใจ  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 16-04-2018 19:03:29
น้องเจของพรี่ กลัวมากมั้ยคะ โอ๋ๆ

ปล.คิดถึงจังค่า หายไปหลายวัน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-04-2018 19:03:52
ครอบครัวนี้ฮาจริงๆ น้องเจฉลาดมากกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 16-04-2018 19:24:46
พี่จิ่นี่ เป็นอะไรที่ เอ่อ....หายใจยังไงตอนพูดดดดด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 16-04-2018 19:26:34
น้องเจผู้รอบคอบสู้ ๆ นะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 16-04-2018 19:43:18
เรื่องนี้พระ-นาย ปกติสุด 55
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-04-2018 19:44:26
เรื่องคุณแม่ต้องถึงหูพี่ฌาณ  o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 16-04-2018 19:47:24
คุณแม่ใช้แรงงานเด็กเกินที่ควรแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 16-04-2018 20:09:02
 :mew1: รักน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-04-2018 21:14:26
 o13 น้องเจเก่งมาก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: asmar ที่ 16-04-2018 21:23:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-04-2018 21:44:26
จิยังคงความน้ำลายแตกฟองอย่างคงเส้นคงวามากกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-04-2018 22:37:02
ที่น้องเจจะบอก ก็คงจะบอกไปตรงๆเลยว่าเจอกับอะไรมาบ้าง ที่นี้ล่ะ นิฌาน คงอึ้งกับความคิด ของน้องเจแน่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-04-2018 23:58:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-04-2018 00:06:34
 o13

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-04-2018 02:01:03
เจแก้ไขปัญหาเก่ง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-04-2018 03:30:30
น้องเจเก่งมากเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 17-04-2018 06:05:37
แม่ก็โหดจัง เล่นเอาปืนมาขู่เลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: พิรุณสีเงิน ที่ 17-04-2018 09:17:38
น้องเจ ทำไมน่ารักแบบนี้ งืออออ ดูเป็นนายเอกที่ดูปกติที่สุดแล้วสินะ
ส่วนสองจินั้นก็นะ ;)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-04-2018 10:49:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 17-04-2018 12:30:44
น้องเจมีสติมากอ่ะ ส่วนคุณแม่โบท็อกซ์นี่จะโหดไปไหน เอาปืนจ่อน้องเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-04-2018 14:42:52
ชอบบบบบบ  คำขวัญประจำครอบครัวทองคำดี  :katai2-1:
ใจอ่อน ใจดี มีเมตตา ใฝ่คุณธรรม

เจ   น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
ทำตัวเข้มแข็ง พร้อมจะปกป้องคนในครอบครัว

พี่จิ  ก็พูดมาก น่ารักเหมือนเดิม  :mew1:
เสี่ย ก็พูดน้อย หลงเสน่ห์คนพูดน้ำไหลไฟดับพูดจ้อจนลิงหลับ  :man1:
เสี่ย จิ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

แม่นิฌานคงยักยอกเงินลูก จนลูกทนไม่ไหวแน่เลย
นิฌาน  เจ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 17-04-2018 20:20:44
 o13 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-04-2018 22:13:18
น้องเจมีสติมากเลย เป็นเราเจอปืนคงสติแตกไปเลย แต่ทำไมแม่พี่นิฌาณต้องทำแบบนี้? น้องเจจะบอกพี่นิฌาณป่ะ บอกเถอะไม่อยากให้พี่เค้ามารู้ทีหลังเดี๋ยวเสียใจคิดว่าโดนหักหลังอีก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Pinkii ที่ 17-04-2018 22:49:22
น้องเจสู้ๆๆ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-04-2018 07:28:55
โอ๋ๆๆๆๆ น้องเจคกใจไหมลูก~~~~
แต่ว่าทำดีมาก รับมือสถานการณ์เสี่ยงตายได้อย่างยอดเยี่ยม!
ตอนหน้ามาดูกันว่า นิฌาน จะว่ายังไงกับเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 18-04-2018 20:03:01
น้องเจเก่งจัง ปลื้มที่สุด  :กอด1:
ชอบเวลาพี่จิน้องเจอยู่ด้วยกัน น่ารักตลอดเลย > <
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-04-2018 22:16:26
เพราะนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของนิฌาณนี่นะน้องเจเลยต้องปรึกษาเจ้าตัว แต่ถ้าลองเปลี่ยนไปศึกษาคุณเลขาจอมมารดูสิ รับรองเรื่องจบภายในวันเดียวแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 19-04-2018 18:04:16
ปืนจ่อหัวเลยนะเจ คุมสติโคตรเก่งเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 9 ลักพาตัว- [16/04/61] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 20-04-2018 20:07:09
น้องเจเก่งมาก สติดีมากลูก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 22-04-2018 16:12:43


ตอนที่ 10 : แผนซ้อนแผน


ตอนผมเดินตาปรือลงบันไดมาในช่วงเช้า นิฌานก็ฉีกยิ้มยืนรออยู่แล้ว

เสียแต่ภาพตรงหน้าไม่ค่อยแจ่มชัดเท่าไหร่ เพราะผมยังอยู่ในสภาวะงัวเงีย ย่นคิ้ว พยายามตั้งสติกับเสามีชีวิตที่ยืนขวาง ไม่รู้ว่านิฌานทำเพื่อกลั่นแกล้ง หรือตั้งใจบังทางลงเพราะกลัวผมกลิ้งตกบันไดกันแน่ จริงอยู่ไอ้ท่าทางขยี้ตาเดินมันน่าหวาดเสียว แต่กับบ้านที่ผมอาศัยร่วมสิบแปดปี ต่อให้หลับตาเดินยังได้เลย

พอไปต่อไม่ได้ผมก็หยีตาขณะเงยมองคนตรงหน้าพร้อมภาพแจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ

“อรุณสวัสดิ์ครับน้องเจ”

ผมปิดปากที่อ้าหาว ขยี้ตาอีกสองครั้ง ก่อนจะมีแก่ใจสังเกตอีกฝ่าย

นิฌานฉีกยิ้มเจิดจ้า ฟันขาวสะอาดเรียงสวย หน้าไม่หมอง ตาไม่คล้ำ แผ่ออร่าหลับเต็มอิ่มเป็นหลักฐานว่าเมื่อคืนไม่ได้หนีเที่ยวไปเมาหัวราน้ำหรือโต้รุ่งกับใครที่ไหน

เห็นแก่เขาทำตัวดี ไม่โกหก ผมเลยพยักหน้าอย่างพอใจหนึ่งครั้งด้วยสีหน้าที่ยังมึนงงด้วยความง่วง

“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ฌาน”

และน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนแมวครวญ

คล้ายจะเห็นคนตรงหน้าจับหัวใจเหมือนโดนบางสิ่งจู่โจมเข้าอย่างจัง แต่ผมเดินเลี่ยงออกไปก่อนแล้ว เลยไม่ได้ดูว่าหลังจากนั้นนิฌานเป็นตายร้ายดียังไง พอเข้าครัวก็เห็นแม่กับพี่ชายคนดีกำลังทำอาหารเช้า ผมหลับตา สูดดมกลิ่นหอม มองภาพอบอุ่นตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเข้าไปช่วยหยิบจับจานชามให้แม่

แค่ตื่นมาเห็นภาพนี้ทุกวันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่หวั่น!!

แต่...ทำไมแม่ต้องทำผัดผักด้วย แล้วยังแกงจืดต้มมะระนี่อีก ผมย่นคิ้ว มองกับข้าวที่แทบกินไม่ได้ด้วยความงุนงงว่าแม่ไม่รักผมแล้วเหรอ ทำไมถึงเหลือแค่ไข่เจียวหมูสับให้กันล่ะ แต่พอเห็นนิฌานเจริญอาหารก็เข้าใจ...พระเอกชื่อดังต้องรักษาหุ่น ดูแลสุขภาพ แม่เลยคิดค้นเมนูเอาใจชาย...นางจรวยครับ คุณจะเห็นคนอื่นดีกว่าลูกตัวเองไม่ได้นะ!

แล้วผมก็เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงได้ลืมเลือนลูกชายคนนี้

“นี่ครับคุณแม่ รูปพร้อมลายเซ็นจากเรื่อง Love After Death ของนักแสดงนำทั้งสามคนที่คุณแม่อยากได้ ผมไปขอจิระกับดาวมาให้แล้วนะ”

“นิฌาน!!” แม่มองดาราตรงหน้าน้ำตาคลอ “ขอบคุณมากนะลูก”

ที่แท้แม่ก็รับลูกชายคนใหม่เข้าบ้านแล้ว!

ผมทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเห็นนางจรวยถือโปสเตอร์ทั้งสามใบราวของล้ำค่า ท่าทางคล้ายจะกรีดร้องดีอกดีใจปานวัยรุ่นนั้นยิ่งกว่าตอนได้น้ำหอมเป็นไหนๆ น่าโมโห! น่าโมโหที่ผมดันเข้าใจความรู้สึกนั้น!! เพราะหากมีคนให้โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นของสามนักแสดงนำในซีรีส์เช็กเมทก็คงมือสั่น น้ำตาคลอแทบชักดิ้นชักงอเหมือนกัน

ไม้ตายครั้งนี้หนักหน่วงนัก มาบ้านแค่สองครั้งแต่ทำคะแนนพุ่งสูงทะลุปรอท!

พริบตาก็กลายเป็นลูกทูนหัวไปแล้ว!!

“แล้วของผมล่ะ ของผมล่ะ”

เดี๋ยวก่อน คนผิวคล้ำตัวสูงที่ยกไม้ยกมือข้างๆ ผมเกี่ยวอะไรด้วย

“พี่จิ พี่เป็นคนเขียนบทเรื่องนี้นะ! ถ้าพี่อยากได้ก็ขอจิระกับดาวเองสิ!”

“แต่...หลังถ่ายจบก็แทบไม่ได้เจอกันเลยนี่นา ตอนอยู่ด้วยกันไม่เห็นค่า แต่พอแยกจากถึงเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่เคยมีลายเซ็นของจิระเลย! วันนี้ไอ้จิได้เรียนรู้ถึงสัจธรรมแล้ว อาเมน”

“พี่จิ...” ผมมองพี่ชายที่จู่ๆ ก็เล่นบทโศกข้ามศาสนาแล้วไม่รู้จะตบมุกยังไงดี เลยตัดสินใจถือกระเป๋าสะพายเดินออกจากบ้าน นิฌานรีบยกมือไหว้แม่ โบกมือให้พี่ชายผมประหนึ่งคนในครอบครัว ก่อนจะรีบเดินตามหลังต้อยๆ ราวกับสุนัขแสนซื่อสัตย์ แต่คงไม่มีสุนัขที่ไหนมองผมด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มกับสายตาสุดสยองอย่างนี้แน่!

“เมื่อวานพี่ฌานไปเจอจิระกับดาวมาเหรอครับ”

ขึ้นรถได้ก็ชวนคุยทันที เพราะผมอยู่กับเขาตลอดตั้งแต่รับงานผู้จัดการ แต่ไม่เห็นจะได้เจอจิระหรือดาวเลย งั้นเขาแอบไปขอลายเซ็นมาตอนไหนล่ะ หรือจะตั้งแต่สมัยเพิ่งเปิดตัวภาพยนตร์? ไม่มั้ง ผมนึกภาพนิฌานเที่ยวขอลายเซ็นคนอื่นมาเก็บไว้ชื่นชมเองไม่ออกเลย คนอย่างนี้จะทำอะไรสักอย่างต้องมีจุดประสงค์! แถมยังประสงค์ร้าย!!

“เมื่อวานน้องจิเห็นตารางงานว่าพี่จะไปงานเลี้ยง แต่ไม่รู้ล่ะสิว่าเป็นงานเลี้ยงของใคร”

“พี่ฌานจะไปเมาที่ไหนผมต้องรู้ด้วยเหรอ”

“จุ๊ๆ พี่ยอมรับว่ามีเที่ยวเล่นบ้าง แต่เมื่อวานเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของผู้กำกับเรื่อง Love After Death ได้เจอทั้งจิระและดาว โอกาสหายากอย่างนี้เลยให้พวกเขาช่วยเซ็นโปสเตอร์มาฝาก นี่ไง มีของน้องเจด้วยนะ”

ตอนได้ยินว่ามีของผมด้วย แวบแรกที่คิดคือโดนแล้วไง ไอ้เจเอ๋ย นายโดนฟาดไม้ตายทำคะแนนเหมือนนางจรวยแล้ว

แม้จิตใต้สำนึกจะบอกว่านิฌานทำเพื่อหวังผล หาได้มีความดีใดๆ ไม่ แต่วินาทีที่เห็นเขาเอี้ยวตัวไปหยิบโปสเตอร์จากหลังรถ ค่อยๆ คลี่มาตรงหน้าด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย ผมก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีก เบิกตามองภาพนั้นตัวแข็งค้างราวฝันไป ไม่จริงน่า...นั่นมัน...มิสเตอร์เอส!!

ผมมือสั่น แตะปลายโปสเตอร์แผ่วเบาเหมือนกลัวขาด มิสเตอร์เอส...คือหนึ่งในตัวละครของซีรีส์เช็กเมทที่ผมชอบมาก เรียกว่าติดงอมแงมดูซ้ำนับสิบรอบ บทนี้แสดงโดยจิระ และเป็นกองที่พี่จิเคยเข้าร่วมตอนซีซันหนึ่ง นับเป็นตัวละครที่ผมทั้งผูกพัน เพราะเห็นจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดกอง ทั้งหลงใหล เพราะเป็นตัวละครที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดตัวหนึ่งในซีรีส์ มิสเตอร์เอสได้รับทั้งบทดีและร้าย หลากหลายมิติและชาญฉลาด เป็นแฮกเกอร์มือฉกาจที่ไม่ว่าใครได้ชมเป็นต้องโดนตกทุกราย

ข้างในผมคลั่งไปแล้ว ต้องพยายามสูดหายใจเข้าลึกอยู่นานถึงจะตั้งสติรับโปสเตอร์นมาถือด้วยสองมืออย่างนิ่งสงบ ไม่ให้นิฌานได้ใจเกินไป แต่...

มิสเตอร์เอส...มิสเตอร์เอสเชียวนะ!

พอได้มองใกล้ๆ ก็ยิ่งเคลิ้ม นึกไกลถึงขั้นจะเอาภาพนี้ใส่กรอบ ตั้งไว้ข้างเตียง ที่ขาดไม่ได้คือต้องถ่ายรูปตั้งเป็นหน้าจอโทรศัพท์ด้วย!

“ไม่มีอะไรจะพูดกับพี่หน่อยเหรอครับ”

แม้นิฌานจะยิ้มได้น่าหมั่นไส้มาก แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้นอกจาก...

“ขอบคุณครับพี่ฌาน” ยกมือไหว้พร้อมเอ่ยสุภาพด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ นิฌานถึงกับหาโปสเตอร์นี้ไปขอลายเซ็นในงานเลี้ยงวันเกิดของผู้กำกับ Love After Death ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับซีรีส์เช็กเมทเลย ผมย่อมซาบซึ้งความใจกล้าหน้าด้านของเขา

แม้อยากจะชื่นชมอีกสักนิด แต่ทนหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของนิฌานไม่ไหวจริงๆ ผมม้วนเก็บโปสเตอร์อย่างบรรจง ก่อนจะหาที่เก็บไม่ได้เพราะกระเป๋าสะพายเล็กเกินไป ให้ถือติดตัวก็เกรงว่าจะยับ หรือกลับไปเก็บในบ้านก่อนดีนะ แต่...นิฌานออกรถแล้วนี่สิ ไม่ทันแล้ว โปสเตอร์มิสเตอร์เอสของผมไม่ปลอดภัยแล้ว

“ไว้ในรถพี่ก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มาส่ง”

แลกความปลอดภัยของโปสเตอร์ด้วยความปลอดภัยของตัวเอง...ไม่คิดไม่ฝันว่าเจตรินจะมาถึงจุดนี้

ผมมองเขาอย่างรู้ทันแต่ไม่คิดแฉ ก่อนจะเอี้ยวตัวเก็บโปสเตอร์ไว้บนเบาะหลังอย่างว่าง่าย เพราะยังไงก็คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!

“น้องเจชอบซีรีส์เช็กเมทจริงๆ นะเนี่ย” นิฌานอดแซวไม่ได้ “ถ้ารู้ว่าพี่โดนทาบทามให้รับบทตัวร้ายในเรื่องนี้ไม่ตกใจเลยเหรอ”

“อะไรนะครับ!” ผมรั้งอารมณ์ตัวเองไม่ทันแล้ว ตะโกนไม่พอยังดึงแขนเสื้อนิฌานหลายที “พี่จะได้เล่นในซีรีส์เรื่องนี้ด้วยเหรอ ตอนไหน เดือนไหน ทำไมไม่เห็นมีในตารางเลย”

“ใจเย็นก่อนครับน้องเจ พี่ปฏิเสธไปแล้ว”

ผมเหี่ยวทันที เหี่ยวยิ่งกว่าพี่จิเมื่อวานหลายเท่า

“ตอนติดต่อมาเมื่อสองเดือนก่อนพี่ไม่สนใจจริงๆ น้องเจก็รู้ว่าพี่ไม่รับเล่นละคร แต่เน้นภาพยนตร์มากกว่า”

ผมก้มหน้าสลด หดหู่หัวใจเหลือเกิน อีกนิดเดียวจะได้เข้ากองในฝันอยู่แล้วเชียว!

“น้องเจไม่โกรธพี่นะ”

“ผมจะโกรธทำไม คนตัดสินใจคือพี่ฌาน ผมไม่ใช่คนแสดงสักหน่อย” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุดเสียดาย

“แต่เห็นน้องเจเสียใจแล้วใจพี่ก็เจ็บไปด้วย”

“...ไหนบอกเลิกหยอกผมแล้วไง”

“พี่ไม่ได้หยอก แต่พี่พูดความจริงนี่ครับ ”

ผมเงยมองคนข้างตัวด้วยสายตาว่างเปล่า อารมณ์ดีใจ เศร้าใจเมื่อครู่เหมือนระเหิดหายไม่เหลือ

“แล้วน้องเจเรียกพี่มารับทำไมเหรอครับ”

วกกลับมาเรื่องสำคัญ ผมขยับตัวนั่งหลังตรงทันทีพร้อมเรียบเรียงความคิด ที่เรียกเขามาไม่ใช่เพราะพิศวาส แต่ไม่อยากคุยในที่สาธารณะอย่างบริษัทเอ็มเอชเอ็นต่างหาก เกิดมีคนได้ยินรับรองว่าดังระเบิดแน่ ดาราลูกกตัญญูผิดใจกับมารดาบังเกิดเกล้า แค่คิดก็สยองแล้ว

“เมื่อวานผมโดนแม่พี่ลักพาตัว” พูดจบตัวผมก็เซวูบ ไม่ได้หน้ามืดกะทันหันแต่เพราะจู่ๆ รถก็เป๋ไปทางซ้าย! ผมร้องลั่น ตกใจจัด กลัวไม่ตายเพราะตัวแม่ก็ตายเพราะตัวลูกนี่แหละ

“ระวังชน! พี่ฌาน!! เข้าข้างทางก่อน เดี๋ยวนี้เลย!”

คนที่มักมีรอยยิ้มประดับเสมอไม่เหลือยิ้มแล้ว แถมยังดูหน้าซีดแปลกๆ ชอบกล ผมลุ้นแทบเป็นแทบตายตอนเขาเปิดไฟเลี้ยวค่อยๆ แทรกจอดริมฟุตบาท เจอเหตุการณ์นี้เข้าไป...บอกเลยว่ายังไงก็ต้องสอบใบขับขี่ผ่านให้ได้! ฝากชีวิตไว้ในมือคนอื่นหวาดเสียวเกินห้ามใจจริงๆ!

“พี่ฌานพร้อมฟังมั้ย” ผมเงยมองคนที่นั่งหลับตากุมขมับ เขาดูอ่อนล้า เสียศูนย์ แกมขลาดเขลาอย่างบอกไม่ถูก

“ไม่เป็นไรครับน้องเจ...เล่ามาเถอะ”

“แม่พี่เสนอให้ผมลาออก”

“แล้วเราลาออกมั้ย” นิฌานลืมตา ถามกลับทันทีราวรู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมมองตาของเขาแล้วพบความเจ็บปวดแฝงอยู่ในนั้น อย่าบอกนะว่าที่ใจหายเมื่อครู่เพราะกลัวถูกหักหลังน่ะ

“ถ้าลาออกผมคงไม่เรียกพี่มารับหรอก”

“แม่พี่เสนอเงินให้เยอะกว่าที่พี่ให้ไม่ใช่เหรอครับ”

“ใช่ ดีกว่าเยอะมาก ผมเลยไม่ลาออก แต่เสนอตัวเป็นสายให้แม่ของพี่แทน” ผมยิ้มมีเลศนัย ตั้งใจให้เขาถาม แต่นอกจากนิฌานจะไม่ถามแล้ว...ยังมองผมอย่างผิดหวัง

เฮ้ๆ ผมดูเป็นคนเชื่อไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ! พูดเป็นนัยขนาดนี้ยังเข้าใจผิดอีกเหรอ!

“พี่ฌาน ผมบอกก่อนเลยนะว่าผมไม่ได้ทรยศพี่ แต่คิดดีแล้วว่าวิธีนี้ดีที่สุด พี่ฌานไม่ต้องหาผู้จัดการใหม่ แม่พี่เองก็ไม่ต้องไล่ตามเอาเงินฟาด อีกอย่างผมก็ทำงานนี้แค่สามเดือน ให้เป็นสายถือว่าพอเหมาะพอดี แล้วผมก็เตรียมแผนแล้วด้วย ผมจะให้ตารางงานพี่กับแม่พี่ล่วงหน้าแค่สามวันเท่านั้น เรื่องบัญชีก็ไม่ยุ่ง จะอ้างว่าพี่ไม่ให้ผมดูเพราะไม่ไว้ใจ หรือหากแม่พี่เริ่มสงสัย พี่ลองหลุดๆ ให้ผมบ้างก็ได้ หรือไม่ก็แสร้งให้ข้อมูลปลอม หลอกแม่พี่อีกชั้น แล้วผมจะทำทีเป็นโดนหลอกอีกที รับรองว่าสามเดือนนี้เราจะรอดปลอดภัยไปด้วยกัน”

ยิ่งพูด สายตานั้นก็ยิ่งจับผิด ผมเหมือนโดนไล่จี้ รีบอธิบายเร็วจี๋จนลิ้นแทบพันกัน

“จริงอยู่ว่าผมรับเงินจากแม่พี่ แต่...ถ้าพี่ฌานไม่สบายใจ คิดว่าผมทำด้วยเจตนาไม่ดี ผมจะเอาเงินนี้ไปทำบุญแทน” พูดแล้วก็เจ็บปวด แต่เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิดเลยยอมกล้ำกลืนปล่อยเงินก้อนนี้ไป “จุดประสงค์หลักที่ผมยอมเป็นสายไม่ใช่เพราะรับเงินสองต่อ นั่นเป็นแค่ผลพลอยได้ แต่จริงๆ แล้วผมทำเพราะไม่อยากลาออกจากการเป็นผู้จัดการ แม้จะติดต่อกับแม่พี่แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าข้างเธอ ผมน่ะ...ผม...”

จู่ๆ นิฌานก็หลุดขำ

หลุดขำทั้งที่ผมน้ำตาแทบไหลเพราะเสียเงินก้อนใหญ่!

“พี่ฌาน!” ผมฮึ่มหนักมาก เขาคิดว่าเรื่องเงินเรื่องทองเอามาล้อเล่นได้รึไง เมื่อวานผมต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ขนาดไหนเขารู้บ้างรึเปล่า!

“ใจเย็นๆ ก่อนครับน้องเจ จะรีบพูดไปไหนครับ พี่ยังไม่ได้โกรธ ไม่ทันว่าอะไรเลย”

“แต่ผมโกรธ”

“งั้นพี่ง้อ”

ผมเหลือบมองคนยิ้มกริ่มแล้วตัดสินใจยกประโยชน์ให้จำเลย ถึงเขาจะแกล้งแสดงตบตาให้ผมร้อนตัวสารภาพไปมากมาย แต่ปฏิกิริยาตอนแรกเป็นของจริง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษสายเลือดใจอ่อนทองคำดีนั่นแหละ

“หยุดหัวเราะได้แล้ว”

“แต่พี่มีความสุขนี่นา น้องเจยอมเป็นสายแต่ไม่ยอมลาออก แถมยังคิดหาทางรอดให้พี่ด้วย” พูดจบคนยิ้มแป้นเฉิดฉายท้าแสงตะวันก็เริ่มขับรถต่ออีกครั้ง “โชคดีจังน้าที่ได้น้องเจเป็นผู้จัดการ”

“แล้วคุณสมฤดี ลูกพี่ลูกน้องคนนั้น...ก็เป็นฝีมือแม่พี่ใช่มั้ยครับ” ผมแสร้งหูทวนลมกับสายตาหยอกกระเซ้าแฝงความนัยนั่นเพื่อให้ใครบางคนเลิกเล่นสักที

“ใช่ เป็นการก่อกวนเล็กๆ น้อยๆ ให้ประสาทเสียเล่นๆ น่ะ”

“พี่ฌานก็ยังอุตส่าห์สนุกกับมันนะ” ผมเหล่คนที่ไม่ยักจะสะทกสะท้านทั้งที่ก่อนหน้านี้หน้าซีดเผือด

“เพราะพี่รู้จักหาความบันเทิงใส่ตัวได้ดีกว่าใครต่างหาก” พูดจบนิฌานก็หรี่ตามองผมอย่างจับผิดเหมือนนึกอะไรออก “เดี๋ยวก่อนนะ น้องเจเล่าข้ามขั้นไปรึเปล่า เราโดนลักพาตัวได้ยังไง เล่าใหม่ตั้งแต่ต้นซิ”   

“ไม่มีอะไรสักหน่อย แค่แม่พี่กะจังหวะตอนไม่มีคนลากผมขึ้นรถเอง”

“ไม่มีคน? แต่เมื่อวานน้องเจให้พี่จอดตรงป้ายรถเมล์ตอนหนึ่งทุ่มนี่ ตอนนั้นคนยังพลุกพล่านอยู่เลยนะ”

“เมื่อคืนผมติดธุระ กว่าจะถึงบ้านก็เกือบสี่ทุ่มแล้ว” ผมพูดเสียงเรียบ พยายามไม่กระโตกกระตาก นิฌานคล้ายจะจับความผิดปกติได้ แต่ก็ไม่กล้าเซ้าซี้เพราะกลัวโดนผมลากออกนอกทะเลจนลืมประเด็นสำคัญ

“แล้วยังไงต่อ”

“ก็แค่นั้นแหละครับ” แต่โทษที ผมขอตัดจบเพียงเท่านี้

“ไม่ๆ น้องเจอย่ามาหลอกพี่ พี่รู้จักแม่ตัวเองดี ถ้าน้องเจปฏิเสธไม่มีทางคุยกันยาวจนจบลงที่การเป็นสายโดยไม่มีอย่างอื่นกดดัน แย่ละ” นิฌานเลี้ยวรถจอดข้างทางอีกครั้ง เดี๋ยวขับเดี๋ยวจอด สงสารรถที่ขับตามหลังบ้างเถอะ

“พี่ฌานทำอะไร!”

แต่ผมสงสารตัวเองมากกว่า เพราะพอมือว่างปุ๊บนิฌานก็จับแขน พลิกศีรษะ เลิกเสื้อเปิดพุงกันซะงั้น

“สำรวจความปลอดภัย ถ้าน้องเจไม่พูด พี่จะสำรวจจนกว่าจะมั่นใจจริงๆ ว่าไม่มีรอยขีดข่วนตรงไหน ว่าไงจะพูดมั้ยครับ จะพูดมั้ย”

ผมเตะถีบกับเขาอยู่นานจนกลัวว่าจะไปไม่ทันงาน และดูจากท่าทางแล้วนิฌานก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เลยยอมสารภาพแต่โดยดีเพราะสู้มือปลาหมึกไม่ไหว

“แม่พี่เอาปืนจ่อผม” พูดจบก็หอบเหนื่อย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากปิดเป็นความลับ คงเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าผิดหวังกับแม่ตัวเองมากกว่านี้ คนที่อ่อนไหวกับเรื่องครอบครัวอย่างผมค่อนข้างกระดากใจอยู่เหมือนกันเมื่อตกอยู่ในวังวนอันน่ากระอักกระอ่วน “แค่จ่อ แค่ขู่ ไม่ได้ทำอะไร ไม่มีใครอยากเป็นฆาตกรหรอกพี่ฌาน”

“กลัวมั้ยครับ”

ผมเผลอหลบตากับคำถามนั้นโดยไม่รู้ตัว

“กลัวใช่มั้ย โอ๋ๆ” นิฌานทำท่าจะโอบกอด แต่เรื่องอะไรจะให้เขาแต๊ะอั๋งกันล่ะ คนเจตนาไม่บริสุทธิ์อย่าหวังเลยว่าจะคิดเคลมกันง่ายๆ ผมปัดมือเขา ชี้นิ้วเป็นเชิงให้รีบไปทำงานได้แล้ว

นิฌานหัวเราะชอบใจ เสียงนั้นทำให้ผมพลอยกลั้นยิ้มไปด้วย ก็มันน่าตลกมั้ยล่ะ ไอ้เราตั้งใจอุบรายละเอียดเพราะอยากให้เขาสบายใจ แต่ไปๆ มาๆ โดนไล่ต้อนให้สารภาพไม่พอยังถูกปลอบอีกต่างหาก

“น้องเจไม่ต้องทำตัวเกินวัยมากก็ได้ครับ เกรงใจคนจะสามสิบอย่างพี่บ้างเถอะ” นิฌานพูดดัก “อ้อมกอดพี่ยังว่างเสมอนะ แสดงความกลัว ความอ่อนแอบ้าง เชื่อสิว่าจะน่ารักขึ้นเยอะเลย”

“งั้นผมยอมเป็นน้องเจที่ไม่น่ารักเหมือนเดิมดีกว่า”

ผมแสร้งมองข้างทางด้วยความโล่งใจอย่างประหลาด ไม่น่าเชื่อคนลอยชายอย่างนิฌานก็พึ่งพาได้เหมือนกัน

“พี่ฌาน” ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา ไม่มั่นใจว่าจะพูดออกไปดีมั้ยเพราะค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่..มาถึงขนาดนี้แล้ว ยอมมีความลับกับครอบครัว ร่วมหัวจมท้ายกับคนที่เพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงสัปดาห์ ถ้าไม่เปิดใจคุยกันให้รู้เรื่องคงไปค้างคาใจตลอดสามเดือนแน่ๆ “พี่พอจะบอกผมได้รึเปล่าว่าแม่พี่ต้องการอะไร จะอยากรู้ตารางงานของพี่ไปทำไม จะรู้เรื่องเงินเข้าออกในบัญชีเพื่ออะไร อยากให้ผมช่วยยักยอกเงินหรืออยากให้เป็นสายคอยดูเฉยๆ ผมจะได้วางแผนรับมือถูก”

“ไม่มีใครกล้าให้เด็กอายุสิบแปดช่วยยักยอกเงินหรอก” นิฌานเอ่ยยิ้มๆ คล้ายอยากให้วางใจ

“แล้วพี่ฌาน...โอเคจริงๆ นะ”

“เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วสิ่งที่น้องเจทำให้พี่น่ะยิ่งกว่าโอเคอีก” นิฌานหันมาขยิบตาใส่ “เรื่องของพี่กับแม่มันซับซ้อน แต่เอาเป็นว่าแม่พี่จะเริ่มกระตือรือร้นจนเกินเหตุก็ต่อเมื่อพี่เริ่มกลับมาโด่งดังอีกครั้งน่ะนะ น้องเจก็อดทนหน่อยแล้วกัน”

“แค่เฉพาะช่วงนี้เหรอครับ”

“ใช่ พองานน้อยลงก็ไม่จำเป็นต้องมีผู้จัดการ แม่พี่ก็แทรกแซงไม่ได้มากเพราะพี่มีเวลารับมือกับเขาอย่างเต็มที่”

เอ่อ...นี่แม่ลูกหรือศัตรูกันแต่ชาติปางไหน

“แต่ช่วงนี้พี่รับงานต่อเนื่องยาวเป็นเดือนๆ แค่ตั้งสมาธิกับงานก็เหนื่อยจะแย่ ให้คิดหาทางรับมือกับเขาอีกก็ไม่ค่อยไหว เจอโทรศัพท์ป่วนทุกวันถึงจะยิ้มออกแต่บางทีตอนอยู่คนเดียวก็เล่นเอาประสาทไปเหมือนกัน พอเป็นแบบนี้เลยต้องหาผู้จัดการมาช่วยดูแล ไม่งั้นคงถูกยัดเยียดคนใกล้ตัวไม่ก็เสนอตัวเข้ามายุ่งอีก หนักสุดเคยบุกมาหาถึงกองสร้างภาพแม่ที่ห่วงใยลูก ก็นั่นแหละครับ พี่เลยหาน้องเจมา ในช่วงเวลาจำกัดสามเดือนกำลังพอดีเลย”

“แต่ผมไม่เห็นจะช่วยพี่ฌานได้เยอะเท่าที่พี่คาดหวังนะ”

“เวลาเหนื่อยๆ เจอหน้าน้องเจก็หายแล้วครับ...ล้อเล่นน่า มีคนช่วยทวนตารางงานก็ดีแล้ว พี่จำได้ไม่หมดหรอก บางทีก็มีลืมบ้าง เล่นบ้าง อยากงีบก็มีคนช่วยปลุก หาอาหารมาให้กิน ช่วยจำเนื้อเพลง ดูทางให้ แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้วครับ”

ผมเงียบไปครู่หนึ่ง บางทีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เห็นว่าไม่สำคัญก็นับเป็นการแบ่งเบาเกินคาด

“แล้ว...พี่ฌานประเมินว่าจะมีงานเข้าเยอะๆ แค่สามเดือนเองเหรอ”

“พี่ทำงานในวงการมายี่สิบปีนะน้องเจ ภาพยนตร์ Love After Death ออกจากโรงมาหลายเดือนแล้ว ที่ยังมีกระแสเพราะมีงานรับรางวัลย้อนหลังเลยทำให้คนกลับมาสนใจ จะหวังให้โด่งดังต่อเนื่องได้น่ะไม่มีทางเกินสามเดือนนี้หรอก อย่าลืมสิว่ายังมีละครหรือภาพยนตร์เรื่องใหม่เกิดตลอดเวลา พี่จะไปยืนยงดังเปรี้ยงปร้างคงกระพันได้ยังไง อย่างเช็กเมทเองก็เพิ่งเปิดกองและจะเริ่มลงจอในอีกสองอาทิตย์แล้ว ซีรีส์ติดอันดับหนึ่งเรตติ้งของช่อง คนรอดูกันทั้งประเทศ จากนั้นเทรนด์ก็จะเปลี่ยนไป จากพระเอกอบอุ่น สุภาพบุรุษ ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนรักแบบพี่ จะเปลี่ยนเป็นพระเอกผิวเข้ม มีซิกแพค บู๊ดุดัน รักพวกพ้องอย่างอัครเดช”

นิฌานพูดซะเห็นภาพ

“เอาเป็นว่าหลังจบสามเดือนตอนน้องเจทิ้งพี่ พี่ก็ไม่ต้องมีผู้จัดการแล้ว”

“แล้วทำไมพี่ฌานไม่รับงานละครหรือภาพยนตร์ล่ะ”

“พี่รู้สังขารตัวเอง ตอนนี้กำลังพีค คนอยากเห็นหน้า ถ้าเอาแต่หมกตัวถ่ายละครกว่าจะได้ออกฉายกระแสก็ซาแล้ว อีกอย่างงานอีเวนต์พวกนี้ก็ได้เงินไวกว่า จบงานก็รับเข้ากระเป๋าสบายๆ แถมยังทำงานเป็นเวลา เพราะส่วนใหญ่จะถ่ายทำช่วงกลางวัน ไม่มีใครถ่ายรายการหรือจัดงานกันตอนตีหนึ่งใช่มั้ยละครับ ถึงจะเหนื่อยตอนเดินทาง แต่เทียบกับเข้ากองถ่ายทั้งวันทั้งคืนนอนไม่เป็นเวลาแล้วดีกว่าเป็นไหนๆ พวกงานภาพยนตร์น่ะยังไงเดี๋ยวทางบริษัทก็ต้องหาป้อนให้พี่เอง แต่งานจิปาถะพวกนี้น่ะไม่ได้มีเข้ามาพร้อมกันแบบนี้บ่อยๆ หรอกนะ”

ผมพยักหน้าหงึกหงัก นึกชื่นชมในความชำนาญการของนิฌานที่ประเมินผลล่วงหน้าตามประสาผู้คว่ำหวอด

“เพราะอย่างนี้ไงพี่ถึงต้องคอยหาความสำราญในชีวิต หยอกนิดจีบหน่อย คบคนโน้นเลิกคนนี้ ไม่งั้นคงเป็นโรคเครียดจนเป็นไมเกรน”

“พี่กำลังจะหาเหตุผลดีแตกเหรอ”

“พี่กำลังเรียกร้องความเห็นใจจากน้องเจต่างหาก ให้เลิกเสเพลแล้วเปล่าเปลี่ยวหัวใจ อยากให้คนข้างกายมาช่วยเติมเต็ม” นิฌานมองผมเหมือนหมาหงอย แต่โทษที ตาวาวระยับขนาดนั้นน่ากระทืบมากกว่าโอนอ่อน

“คนคนนั้นคงไม่ใช่ผมหรอก”

สรุปแล้วบอกให้เขาเลิกหยอกพร่ำเพรื่อ ก็มาโดนจีบพร่ำเพรื่ออยู่ดี ทำบุญไม่ช่วยอะไรเลยสินะเจเอ๊ย

“แล้วนอกจากตารางกับบัญชีของพี่ แม่ให้น้องเจจับตาดูอะไรอีกรึเปล่า”

“ก็มีเรื่องคนที่พี่คบหา คนที่สนิทสนมด้วยตอนนี้ กับที่ที่ไปบ่อยๆ” จู่ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน ผมที่กำลังกลอกตาหนีไปมองดินฟ้าอากาศรีบหันมาคุยกับนิฌานต่อแทบไม่ทัน

“แย่ละสิ”

“ทำไมครับ” ผมขมวดคิ้วมุ่นกับการอุทานเกินจริง

“ก็คนที่พี่สนิทสุดตอนนี้คือน้องเจ ที่ไปบ่อยๆ ก็คือบ้านของน้องเจ”

ผมใจหายวาบ กลัวที่สุดคือเรื่องบานปลายมาถึงครอบครัว

“ผมจะลาออก!”

“น้องเจอย่าเพิ่งทิ้งพี่! เอาอย่างนี้แล้วกัน...พี่จะไม่ไปบ้านน้องเจแล้ว”

ผมมองนิฌานพลางชั่งใจ กลัวอะไรไม่กลัวเท่าครอบครัวเดือดร้อน แต่แม่ของเขาเองก็อยากให้เก็บเป็นความลับ ยิ่งรู้น้อยที่สุดยิ่งดี หากนิฌานไม่มาแวะเวียนอีกก็ไม่มีเหตุจำเป็นต้องคอยตามเฝ้าตามดู ที่สำคัญ แม่ผมเองจะได้เลิกหลงผิด คิดรับใครมาเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพิ่ม! เจ้าส้มเองก็ปลอดภัย! พี่จิก็ไม่ทรยศกัน!!

“ดีครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงักๆ เหมือนตุ๊กตา ผลพลอยได้นี้ต้องรีบคว้าไว้!

“ส่วนเรื่องสนิทกับน้องเจ จะอ้างว่าเราเป็นฝ่ายพยายามเข้าหาเพื่อล้วงข้อมูลพี่ก็น่าจะใช้ได้นะ”

ผมพยักหน้าอีกครั้ง เรื่องนี้พอคิดไว้ตั้งแต่รับปากแม่เขาแล้ว

“หรือถ้า...บอกว่าพี่ตกหลุมรักน้องเจ กำลังจีบน้องเจก็ได้ครับ พี่ไม่ถือ”

“แต่ผมถือ!”






 
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - P.9
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 22-04-2018 16:13:15
(ต่อ)


หลังเหตุการณ์ลักพาตัวทุกอย่างก็สุขสงบดี

สุขสงบจนน่าแปลก...เหมือนช่วงพักเหนื่อยก่อนพายุเข้า

ผมคอยตื่นตัวระวังภัยเสมอ ผิดกับนิฌานที่แทบไม่สนใจเหมือนว่าเรื่องแม่เขานั้นช่างไร้สาระเกินจะเก็บมาคิด ซึ่งผมไม่ถือโทษ เพราะแค่ต้องทำงานทุกวันก็เหนื่อยจะแย่ เห็นคนปั้นยิ้ม คุมภาพลักษณ์ ห้ามโมโห ห้ามฉุนเฉียว ห้ามแสดงออกใดๆ นอกจากแง่บวกต่อหน้าสื่อเหมือนตุ๊กตามากกว่ามนุษย์ปกติ ก็ชักเข้าใจนิดๆ ว่าทำไมก่อนหน้านี้นิฌานถึงติดสำราญ ชอบเที่ยวเสเพล หนีไปปาร์ตี้สังสรรค์นัก

ไปๆ มาๆ ถึงได้ยิ้มค้างตลอดจนกู่ไม่กลับ กลายเป็นคนเจ้าชู้ตาหวานเจี๊ยบ

ก็ยังดี...ที่ช่วงนี้พอมีเวลาได้พักบ้างเพราะติดซ้อมร้องเพลงสำหรับงานเปิดตัวน้ำหอมที่จะถึง และวันนี้ก็เป็นวันอัดเสียง เพราะคาดหวังให้ดาราอย่างเขาร้องสดในงานมีแต่พังกับพัง ต้องอัดไว้เปิดสำหรับลิปซิงค์เท่านั้นถึงจะรอด

แต่โทษเถอะ ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว ตอนซ้อมก็พอไหว แต่ไหงร้องจริงกลับไม่ได้เรื่องเลย!

“น้องเจจะไปไหนน่ะ!”

แค่ลุกก็ลนลานตะโกนเสียงหลง ทำตัวเป็นลูกแหง่ไปได้ ผมถลึงตามองเขาเพราะอายเจ้าหน้าที่ในห้องอัดเสียง

“ผมจะไปหาอะไรกิน จะหนึ่งทุ่มอยู่แล้วพี่ฌานยังร้องเพี้ยนอยู่เลย ถ้าต้องรอต่อไปผมแห้งตายกันพอดี” ไม่ได้โมโหหิวหรอกนะ แต่เพราะต้องแอบโทรไปเลื่อนนัดเรียนขับรถเพราะดูท่าคงจะไปไม่ทันเนื่องจากมีคนอัดเสียงเกินเวลา

ทั้งที่วันนี้เรียนวันสุดท้ายแล้วแท้ๆ เชียว เสียดายชะมัด

“งั้นขอน้ำมะนาวให้พี่ด้วยนะครับ พี่ฌานเจ็บคอมากเลย” นิฌานทำหน้าน่าสงสารแกมออดอ้อน เคยเมินยังไงวันนี้ก็เมินอย่างนั้น เพราะผมเห็นใจเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ มากกว่า เพื่อมิตรภาพอันดีในการทำงาน เลยตัดสินใจลงไปสั่งเครื่องดื่มให้คนอื่นๆ ในห้องอัดด้วย พร้อมกับข้าวกล่องและขนมขบเคี้ยวพอประมาณ 

ซื้อแล้วก็เอาไปเบิกกับนิฌาน ขนมที่เหลือเก็บกลับบ้าน!

นึกแล้วก็น่าตลก แรกพบของผมกับเขาเต็มไปด้วยอคติ นิฌานเห็นผมเป็นเด็กก้าวร้าว ส่วนผมก็เห็นเขาเป็นดารามากฝีมือที่นิสัยไม่ได้เรื่องเอาซะเลย! แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นว่าต่างคนต่างอีกแง่มุมหนึ่งกันและกันมากขึ้น ไอ้ผมเห็นใจเขาน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ที่นิฌานมาสารภาพรักนี่สิ...

ผ่านมาหลายวันแต่ดาราชื่อก้องก็ยังไม่ดีแตก ไม่เถลไถล ไม่จีบดะหว่านแหริเป็นชาวประมง แถมยังตัวติดผมแจยิ่งกว่าลูกจิงโจ้ จนบางครั้งบางทีก็เผลอคิดว่าเขาเอาจริงรึเปล่านะ...แต่พอเห็นหน้ายิ้มๆ นั้นทีไรก็โยนความคิดอกุศลทิ้งไป ผมเชื่อว่าคนอย่างนิฌาน ชาญชัยสามารถตกหลุมรักได้สามร้อยหกสิบห้าครั้งต่อปี รักของเขามาไวไปไว เหมือนเวลาเห็นสาวสวย หนุ่มหล่อแล้วอดใจไม่ไหวเป็นต้องรุกหาตามประสาคนเจ้าชู้

เอาจริงน่ะอาจจะใช่ แต่จะนานแค่ไหนก็ต้องดูกัน

เพราะผมไม่เล่นด้วยเสียอย่างนี่นะ

พี่จิคนดีครองคู่กับเสี่ยจุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหารไปแล้ว ในใจลึกๆ ของผมที่ทำเพื่อครอบครัวมาตลอดเลยคิดอยากแต่งงานกับผู้หญิงน่ารัก ขยันทำงานบ้าน ช่วยดูแลพ่อแม่ได้มากกว่าผู้ชายตัวโตๆ ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย มีหลานให้แม่เลี้ยงสักคนแก้เหงา แก่ตัวไปจะได้สบาย...

จะว่าไปต้องขอบคุณแม่ของนิฌาน เพราะทำให้พระเอกชื่อดังเลิกเทียวรับเทียวส่ง เสนอตัวเป็นลูกทูนหัวในครอบครัวทองคำดีสักที นึกถึงเรื่องนี้แล้วผมก็ทำหน้าที่เป็นสายผู้ซื่อสัตย์สักหน่อย หลังโทรไปเลื่อนนัดเรียนขับรถก็ส่งตารางงานสำหรับสามวันของนิฌานให้แม่ของเขา ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด แม้จะสงสัยว่าจะเอาไปทำอะไรก็ตาม

“อ้าว น้องเจ มาพอดีเลยค่ะ”

ผมที่กำลังจะเดินออกไปสั่งข้าวโดนพนักงานต้อนรับรั้งตัว เธอทำท่าวางโทรศัพท์ คาดว่ากำลังจะโทรหาผมพอดี

“มีอะไรเหรอครับ”

“คนคนนี้มาหานิฌานน่ะค่ะ แต่ว่า...ดูแปลกๆ”

แปลก?

เมื่อหันไปก็รู้คำตอบ หญิงสาววัยยี่สิบกว่าๆ ใบหน้าสะสวยแต่ดูไม่เป็นธรรมชาติคล้ายผ่านมีดหมอหลายครั้งนั้นเชิดสูงอย่างเอาแต่ใจ แต่งตัวฉูดฉาดเป็นจุดรวมสายตาคนเดินเข้าออกในบริษัท เพราะเธอเล่นสวมเกาะอกสีแดงเด่นเผยหน้าท้อง โฉบเฉี่ยวด้วยผมลอนยาว กระโปรงผ่าข้างสูงจนน่าหวาดเสียว ดาราแต่งตัวเซ็กซี่ก็เคยเจอมาแล้ว แต่สำหรับคนคนนี้ผมคิดว่าดูโป๊มากกว่า

แค่มองก็รู้ว่าจงใจมาหาเรื่อง หรือจะเป็นกิ๊กเก่านิฌาน?

“สวัสดีครับ ผมชื่อเจตริน เป็นผู้จัดการของนิฌานครับ” ไม่พูดเปล่ายังแจกนามบัตรให้อย่างเป็นมิตร

“ฉันมารับนิฌานค่ะ” หญิงสาวเอ่ย “เขาอัดเสียงเสร็จแล้วใช่มั้ย เรามีนัดไปทานข้าวด้วยกัน จากนั้น...”

ตาขวากระตุกทันควัน ท่าทางของเธอค่อนไปทางสองแง่สองง่าม ไอ้รอยยิ้มเขินอายก็ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก จะไล่ให้ไปเรียนการแสดงใหม่ก็ไม่ได้ เพราะแค่คำพูดกับการแต่งกายชวนให้คนอื่นเข้าใจผิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ขนาดพนักงานต้อนรับยังพนักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงเข้าใจ แม้จะติดใจสงสัยเพราะรสนิยมของนิฌาน ชาญชัยนั้นมักกินกันลับๆ มากกว่าเปิดตัวในที่แจ้ง

“คุณคือ...?” แต่ผมคงปล่อยผ่านเธอไปไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าช่วงนี้นิฌานทำตัวดีมาตลอด ไม่ได้คบหาใครเป็นพิเศษ ขนาดแชทไลน์คุยกับสาวกับหนุ่มผมยังต้องช่วยตอบเลย คุยกันไม่เกินสามประโยคแล้วจะรู้ได้ยังไงว่านิฌานอยู่ที่ไหน เวลาอะไร

สังหรณ์ในใจบอกเตือนว่าตารางที่คอยส่งให้ทุกสามวันเริ่มทำพิษ

“ฉันชื่อสมฤดีค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะก้มกระซิบ “เป็นคนที่คุณหญิงท่านส่งมา”

ชัดเลย...ชัดเลยว่านี่เป็นแผนของแม่นิฌาน!

เพราะต่อให้เธอไม่แอบกระซิบบอก ผมก็จำได้ว่าชื่อของสมฤดีนั้น...คือชื่อของแอนตี้แฟนหรือแอนแอนยังไงล่ะ!!

 

-----

มาต่อกับน้องเจแล้วค่า ทั้งที่เรารักน้องเจมาก แต่ไม่รู้ทำไม...เวลาจะแต่งทีไรมักมีอุปสรรค มีงานอื่นมาแทรกตลอดเลย ( เรามีงานประจำอยู่แล้วค่ะ ) ถึงจะเป็นไปอย่างกระดึ้บๆ แต่ความรักที่มีต่อน้องนั้นท่วมท้นสม่ำเสมอ!! มาเป็นกำลังใจให้เราและน้องเจกันด้วยนะคะว่าผ่านพ้นอุปสรรคแรกที่แม่นิฌานส่งมาสำเร็จรึเปล่า!! แต่บอกเลยว่า...หากน้องเจกับนิฌานร่วมมือกัน...ก็แทบจะแข็งแกร่งสุดในห้วงจักรวาลของซีรีส์นี้แล้วค่ะ!! 555 ( คมสันนับเป็นข้อยกเว้น )

 
#justUnotUS
เพจนักเขียนที่อยากโดนน้องเจฮึ่มใส่ อยากอ้อนน้องบ้างจังเลยลูกเอ๊ย  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 22-04-2018 16:45:09
โดนแก้เกมล่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-04-2018 16:51:32
น้องเจสู้ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 22-04-2018 17:59:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 22-04-2018 18:36:31
^______^

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 22-04-2018 19:23:48
ส่งป้าสมฯมาหานิฌาน หญิงแม่มีแผนอะไรอีกเนี่ย
น้องเจสู้เค้านะลูก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 22-04-2018 19:43:27
น้องเจจัดไปเลยลูก เอาแรงๆ ขอบคุณค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-04-2018 19:52:52
หนูเจจะแก้ปัญหานี้อย่างไรนะ.  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 22-04-2018 21:19:45
ทำไมเรารู้สึกว่า นิฌานจริงจังกับน้องเจมากๆ  น้องเจเอง ก็เริ่มหลงคารมนิฌานเข้าแล้ว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 22-04-2018 21:48:32
นี่น้องเจมาเป็นผู้จัดการดาราหรือมาอยู่ในสนามรบเนี่ยสู้กับคนโน้นทีคนนี้ที ถ้าไม่ไหวก็ลองขอความช่วยเหลือจากจอมมารดูนะน้องเจ ถ้ามีอะไรที่อาจทำให้บริษัทขาดทุนละก็ จอมมารไม่ปล่อยผ่านแน่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-04-2018 22:33:56
น้องเจสู้ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 23-04-2018 00:47:17
เสี่ยจุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร 55555555555555 โถ เสี่ย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-04-2018 19:39:28
น่าสงสารเสี่ยเนอะ 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 23-04-2018 19:59:20
เปิดตัวสมฤดี  :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 23-04-2018 20:03:15
น้องเจสู้ ๆ พี่ฌานสู้ ๆ น้า
รู้สึกเหนื่อยแทนพี่ฌานเลย
ทำไมแม่ลูกกัน ถึงต้องมาสู้รบปรบมือกัน ไว้ใจกันไม่ได้เนี่ย
พี่ฌานถึงได้ติดใจครอบครัวอบอุ่นของน้องเจสินะ T^T
ตอนนี้ชอบพี่ฌานมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ แล้ว ^^
ส่วนน้องเจไม่ต้องพูดถึง ที่หนึ่งในใจเลยจ้ะ รักน้องเจ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-04-2018 20:20:13
 o13



 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-04-2018 22:19:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 24-04-2018 19:24:20
 น้องเจ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 25-04-2018 21:36:20
เอาแล้ววว ตารางงานที่ส่งเริ่มทำพิษให้แล้ว
อยากรู้้เหมือนกันว่าน้องเจจะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-04-2018 13:10:50
น้องเจแซะเสี่ยทำไม :laugh: เอ็นดูเสี่ยอยู่เฉยๆก็โดน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 26-04-2018 13:23:30
 :hao3: :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-04-2018 14:16:12
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 10 : แผน - [22/04/61] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 01-05-2018 21:16:49
ไม่เข้่ใจว่าแม่ของณิฌานต้องกานอะไร
ถึงขนาดทำลายลูกได้ลงคอ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - P.10
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 03-05-2018 20:02:08


ตอนที่ 11 : สมฤดี คนนี้มีที่มา


วินาทีแรกที่ได้ยินว่าเธอชื่อสมฤดี ผมก็เหงื่อแตกพลั่กตามประสาคนมีชนักติดตัว

แต่เมื่อเห็นว่าเธอจำกันไม่ได้ ผมก็จงใจกดเสียงต่ำลงกว่าเดิมอีกนิด ทำทีเคร่งขรึมอีกหน่อย ก่อนจะบอกให้เธอนั่งรอสักครู่เพราะต้องไปซื้อของกิน แล้วค่อยขึ้นไปหานิฌานพร้อมกันตามประสาสายลับสองหน้า

สมฤดีรับคำ เหมือนยินดีจะให้คนมองเธอและสงสัยให้มากยิ่งนานยิ่งดี เห็นแล้วก็ยิ่งตะขิดตะขวงในใจ จะโทรไปถามความเห็นนิฌานก็ไม่ได้เพราะเขากำลังอัดเสียง แล้วห้องอัดจะเปิดเสียงโทรศัพท์หรือพกติดตัวได้ยังไง ผมทอดถอนใจ รีบซื้อรีบกลับ ก่อนจะชักชวนให้เธอขึ้นไปหานิฌานพร้อมกัน

“พี่ช่วยถือนะคะ”

ผมนึกชมความมีน้ำใจ ความจริงสมฤดีไม่ได้เลวร้ายอะไร ตอนโทรไปหลอกถามยังช่วยพูดอยู่เลย

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้อย่าขวางพี่นะ”

...ซะที่ไหน

เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในแผนการไม่ชอบมาพากลของแม่นิฌานพิลึก ผมจับตาเธอมากขึ้น เดินประกบไม่ห่าง พอถึงห้องอัดก็เคาะประตูเป็นมารยาท

นิฌานเหลือบมองทันทีด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะกลายเป็นยิ้มค้างเมื่อเห็นใครบางคนตามหลังผมมาด้วย

“พี่ฌาน คุณแม่ให้ฉันมารับพี่กลับบ้านด้วยกันค่ะ” สมฤดีเรียกนิฌานอย่างสนิทสนม คำพูดค่อนไปทางล่อแหลมชวนให้คนอื่นเข้าใจผิด ทั้งที่จริงแล้ว...เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ จะเรียกว่าพี่ฌานก็ถูกต้องแล้ว จะกลับบ้านด้วยกันก็ไม่แปลก...

“เปิดตัวขนาดนี้ แถมยังให้เจอคุณแม่ด้วยอีก คนนี้ตัวจริงเหรอนิฌาน” เจ้าหน้าที่ในห้องอัดแซว

“เธอเป็นน้องสาวผมครับ” นิฌานรีบตอบปฏิเสธทันที นานครั้งจะเห็นเจ้าตัวเอ่ยจริงจังอย่างนี้ แต่น่าเสียดาย ไอ้ความเจ้าชู้ที่มักแจกสถานะพี่น้องให้เพื่อนร่วมวงการ ทำให้คำว่า ‘น้องสาว’ ของเขาไม่น่าเชื่อถืออย่างร้ายกาจ

ปลาไหลก็มีวันที่ผลกรรมย้อนเข้าตัวเหมือนกัน

“เอ๊ะ หรือจะเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ที่พี่ฌานเคยเล่าให้ผมฟัง” ยอมเสนอตัวช่วยสักหน่อยแล้วกัน เพราะคำพูดของผมยังไงก็น่าเชื่อกว่านิฌาน ชาญชัยเป็นไหนๆ

“อ้าว สรุปว่าเป็นญาติกันจริงเหรอ” นั่นไง เจ้าหน้าที่กลับคำทันที ส่วนผมก็หดคอหลบตาสมฤดีที่มองมาอย่างเกรี้ยวกราด

“ใช่ครับ เธอเป็นลูกของพี่ชายของสามีของน้องสาวของแม่ผมเอง”

“แต่ก็ไม่มีสายเลือดเดียวกันนะคะ” สมฤดีมองนิฌานอย่างแฝงความนัย

“น่าเสียดายนะ เพราะพี่ถือคติไม่ดองกันเองในเครือญาติ” นิฌานถอนหายใจ แสร้งมองเธออย่างไม่ให้ความหวัง บรรยากาศค่อนไปทางกระอักกระอ่วน จนเจ้าหน้าที่ในห้องอัดต้องรีบลากเข้าเรื่องงานก่อนจะกลายเป็นชู้สาวในครัวเรือน

หรือว่าสมฤดีจะชอบนิฌาน?

ถ้านับจากลูกของพี่ชายของสามีของน้องสาวแม่...ก็ถือว่าเธอไม่มีสายเลือดเดียวกันจริงๆ นั่นแหละ ลูกพี่ลูกน้องที่ห่างกันมากขนาดนี้ ด้วยวัยไม่ที่แตกต่างกันมากนัก จะรักชอบก็พอจะเข้าใจได้อยู่ แต่...ไอ้โทรศัพท์แอนตี้แฟนนั่นใช่การกระทำของคนที่แอบชอบเหรอ

ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดสมอง ตัดสินใจเขยิบห่างจากสมฤดีเล็กน้อย แต่เธอดันนั่งประกบ เล่นเอาผมกินข้าวกล่องอย่างไม่เป็นสุข

“ทำไมถึงพูดเรื่องลูกพี่ลูกน้องออกมา ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าขัด”

“ขอโทษครับ แต่ตอนเจอกันคุณไม่บอกก่อนนี่นา พอพี่ฌานพูดผมเลยเพิ่งนึกขึ้นได้ ถึงเผลอหลุดไป...” ผมกระซิบตอบอ้อมแอ้ม แม้จะดูเจียมตัวแต่ก็แอบเหน็บคุณเธอไปหนึ่งที ใช่ สมฤดีไม่พูด แล้วผมจะไปตรัสรู้ได้ไงว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของนิฌาน ฉะนั้นผมไม่ผิด!

“จริงเหรอที่พี่ฌานเคยพูดถึงฉัน...”

พยายามยิ่งจะไม่กลอกตามองบน ควรตอบยังไงดีนะเจตรินเอ๋ยเลย

“เขาพูดถึงฉันว่ายังไง ชมฉันรึเปล่า”

ในสายตาของปลาไหลจอมเจ้าชู้ ผ่านมาทั้งนางเอก ตัวประกอบ ยันสไตลิสต์ในกอง เทียบกับสมฤดีที่แต่งตัวเปิดเผยเนื้อหนังเกินไปแล้วเชื่อสิว่าไม่ใช่รสนิยมของนิฌาน เพราะเขาชอบแนวเซ็กซี่เรียบหรู ไม่ก็น่ารักน่าเอ็นดูมากกว่า...

“ผมจำไม่ได้แล้วครับ” ตอบแบบมึนเบลอก็แล้วกัน ถ้าชมก็กลัวจะไปซวยที่นิฌาน ถ้าตอบว่าไม่เคยชมก็กลัวจะซวยที่ตัวเอง ผมตั้งหน้าตั้งตาแกะข้าวกล่อง จดจ่อกับกะเพราหมูสับและไข่ดาว

สมฤดีเบะปากแบบขัดใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคล้ายจะถ่ายเซลฟี่

ผมรีบวางช้อนแทบไม่ทัน

“ไม่ได้นะครับ ห้ามถ่ายรูปลงโซเชียล”

“ฉันไม่ได้จะถ่ายติดพี่ฌานสักหน่อย”

“แต่คุณจะเช็กอินบริษัทเอ็มเอชเอ็นใช่มั้ย ไม่ได้นะครับ ในฐานะผู้จัดการ ให้คนนอกขึ้นมาถึงห้องอัดก็เสี่ยงโดนด่าแล้ว ถ้าคุณยังถ่ายรูปลงอีก ผมต้องถูกเรียกไปปรับทัศนคติแน่ๆ”

“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าขัด”

“ถ้าเรื่องอื่นผมยังพอตามน้ำได้ แต่เรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ครับ ต่อให้พี่ฌานจะเคยคลุกวงในกับคนอื่นมาก่อน แต่ไม่เคยมีรูปหลุดหรือข่าวฉาว ถ้าจู่ๆ คุณลงรูป...ผมต้องโดนเลขาคมสันจัดการแน่ๆ”

“เลขาคมสันจะทำไมนักเชียว” สมฤดีบ่นอุบ ฟังแล้วอยากจะนัดเธอให้กินข้าวสองต่อสองกับคุณเลขาจริงๆ จะได้รู้อิทธิฤทธิ์ของจอมมาร ผู้คุมบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ตัวจริงเสียงจริง

“การที่คุณมาประกาศตัวหน้าเคาน์เตอร์ก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ผมถามย้ำเสียงเบา เพราะสมฤดียังยึกยักไม่ยอมเก็บโทรศัพท์ไปสักที

“ฉันทำดีใช่มั้ยล่ะ”

“ครับ ดีมากเลย” ดีมากจนคนมองกันเต็มกับชุดผ่าสูงกับเกาะอกไร้รสนิยม แน่นอนว่านั่นได้แต่คิด แถมยังเตรียมแผนรับมือไว้แล้วว่าถ้ามีปาปารัชซี่แอบถ่ายขึ้นมาจะแก้เกมยังไง

แต่แม่ของนิฌานจะหยุดแค่นี้เหรอ...เดินหมากตื้นไปรึเปล่านะ

ผมคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าการส่งสมฤดีมาถึงที่จะได้ผลดีผลเสียเข้าทางเธอตรงไหน สรุปว่าอยากได้เงิน หรืออยากสร้างข่าวฉาวให้ลูกชายตัวเองกันเอง ผมล่ะมึน

“วันนี้ฉันจะกลับกับพี่ฌาน คราวนี้คงจะไม่ขัดแล้วใช่มั้ย”

“ตามสบายเลยครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก สวมบทสายลับพร้อมสนับสนุนเธอแสนจงรักภักดี ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินกะเพราอย่างสบายใจเฉิบเพราะเชื่อว่ายังไงนิฌานก็ไม่ยอมขึ้นรถกับเธอสองต่อสองแน่นอน

ไอ้นิสัยเจ้าเล่ห์กลับกลอกนั่นน่ะผมรู้จักดีกว่าใคร

กว่าจะอัดเสียงเสร็จปาไปสองทุ่มกว่า นิฌานเดินสะโหลสะเหลเตรียมวอนขอความรักความเมตตาด้วยสีหน้าเหนื่อยหนักยิ่งกว่าตอนถ่ายโฆษณาซะอีก เป็นดาราดีๆ ดันหาเรื่องรับงานเป็นนักร้องเสริมก็แบบนี้ล่ะนะ ผมมองเขาพลางยิ้มขัน ก่อนจะส่งน้ำของตัวเองให้เพราะเครื่องดื่มที่ซื้อมาเผื่อหมดไปนานแล้ว

“ขอบคุณครับน้องเจ”

“พี่ฌาน!” พอออกจากห้องอัด สมฤดีที่รออย่างเบื่อหน่ายก็รีบปราดมาควงแขน ขัดขวางนิฌานที่กำลังส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ผมได้ตรงจังหวะเหมาะเหม็ง ผมถึงกับหลุดหัวเราะพรืด คนเจ้าชู้จะส่งขนมจีบทั้งทีแต่โดนเบรก จากสายตาหวานเยิ้มเลยกลายเป็นมองอ่อน

เสียงเจือจ้าวของสาวเจ้าดังไม่หยุด ไม่ทันมองเลยสักนิดว่าผมกับนิฌานสื่อสารโทรจิตกันอยู่

ไอ้เราน่ะคลี่ยิ้มขัน สื่อความหมายว่า ‘สมน้ำหน้าครับพี่ฌาน’

ส่วนนิฌานยักคิ้วเบาๆ เป็นเชิง ‘ฝากไว้ก่อนนะครับน้องเจ’

“พี่ฌาน ฟังฤดีอยู่รึเปล่าคะ!”

“ขอโทษครับ วันนี้พี่เหนื่อยมากเลย ฤดีบอกว่าอะไรนะ”

“ฤดีจะกลับกับพี่ฌานค่ะ คุณแม่อยากให้กลับไปกินข้าวด้วยกัน”

“ตอนสองทุ่มจะสามทุ่มเนี่ยเหรอครับ” นิฌานเลิกคิ้ว เชื่อว่าแผนการวันนี้ของเธอพังเละไม่เป็นท่าเพราะการอัดเสียงล่วงเวลา

“พี่ฌานก็รู้ว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้าง คุณแม่คิดถึงพี่ฌานมากเลยนะคะ ก็พี่เล่นไม่กลับบ้านตั้งหลายวันแล้ว”

ในฐานะพระเอกชื่อดังผู้ได้รับรางวัลลูกกตัญญู ถูกพูดขนาดนี้จะปฏิเสธก็ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อยังอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ในห้องอัด

“เอาสิครับ พี่ก็คิดถึงคุณแม่เหมือนกัน ช่วงนี้ยุ่งจนไม่ได้ไปหาท่านเลย”

สมฤดียิ้มหวาน ส่วนผมแอบส่งสายตาเตือนนิฌานเป็นเชิง ‘ระวังจะได้กินอย่างอื่นด้วยนะครับพี่’

นิฌานยิ้มมุมปาก แอบแตะปลายนิ้วผมเบาๆ ระหว่างเดินสวนคล้ายจะสื่อว่า ‘พี่จะกินก็แต่กับน้องเจเท่านั้นครับ’

บอกเลยว่าขนหัวลุกตั้งแต่ไรผมยันตาตุ่ม

ผมเดินห่างออกมาเล็กน้อย ตัดสินใจแยกย้ายกันแถวหน้าลิฟต์จะดีกว่า

“อ้าว น้องเจจะไปไหน วันนี้นัดซ้อมขับรถกับพี่ไม่ใช่เหรอ”

เท้าที่กำลังจะก้าวหนีชะงักทันควัน หันขวับเงยมองนิฌานที่พอปราศจากสายตาจ้องจับผิดของคนในบริษัทก็เริ่มดำเนินแผนเอาตัวรอดจากลูกพี่ลูกน้องนามสมฤดี

ด้วยการลากผมไปเป็นไม้กันหมา!

“ใกล้จะสอบใบขับขี่อยู่แล้วจะไม่ลองขับจริงได้ยังไง มาๆ ไปด้วยกันนี่แหละครับ”

รู้ตัวอีกทีก็โดนลากไปลานจอดรถด้วยซะแล้ว ผมเหลือบมองคนสูงกว่าด้วยสายตาสับสนว่าไปเผยพิรุธให้โดนจับผิดตอนไหนกัน

“แต่วันนี้ต้องไปบ้านคุณแม่นะคะพี่ฌาน” สมฤดีโวยวายไม่ยอมรับ

“ให้น้องเจเป็นคนขับไงครับ กินข้าวเสร็จจะได้ช่วยขับมาส่งพี่ที่คอนโดด้วยเลย”

“ถ้าพี่ฌานเหนื่อยขับกลับไม่ไหว ให้ฤดีขับไปส่งก็ได้นะคะ ไม่ต้องรบกวนน้องเจหรอก”

“ไม่ใช่ว่าพี่เหนื่อยหรอกฤดี แต่เพราะวันอาทิตย์นี้น้องเจจะสอบใบขับขี่แล้ว พี่เลยอยากมั่นใจว่าเขาจะขับรถระหว่างทำหน้าที่เป็นผู้จัดการได้ เรื่องนี้สำคัญมากนะ” จู่ๆ คนเจ้าชู้ก็ทำหน้าเป็นจริงเป็นจัง ราวกับว่าเรื่องนี้นั้นสำคัญระดับชาติ อย่าว่าแต่สมฤดีเลย ขนาดผมยังเถียงไม่ออก!

ก็มีที่ไหนกันล่ะที่ผู้จัดการนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารัถให้ดาราในสังกัดขับรถเองอยู่ตั้งนานสองนาน!

ด้วยความรู้สึกผิดค้ำคอ ผมเลยยอมรับกุญแจจากนิฌานมาแต่โดยดีท่ามกลางสายตากล่าวประณามของสมฤดี...แต่เดี๋ยวก่อน ผมโดนบังคับต่างหาก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าผมไม่ได้ตั้งใจขัดขวางแผนการของเธอเลย

“นั่งสบายตัวมั้ย ลองปรับเบาะหน่อยมั้ยครับ”

ขึ้นรถมาได้ นิฌานก็ช่วยผมปรับกระจกรถ ปรับเบาะ ตรวจดูเข็มขัดนิรภัยทันที สมฤดีนั่งกอดอกทำแก้มป่องอยู่เบาะหลัง อดแขวะขึ้นมาไม่ได้

“ทำไมพี่ฌานไม่มานั่งกับฤดีล่ะคะ”

“หรือฤดีจะให้น้องเจขับรถคนเดียวทั้งที่ยังไม่มีใบขับขี่ล่ะ เอาอย่างนั้นก็ได้นะ ยังไงรถพี่ก็มีประกันชั้นหนึ่งอยู่แล้ว ชนสักโครมก็ไม่เป็นไรหรอก”

หญิงสาวหน้าซีดเผือดทันควัน

“งั้น...ก็ได้ค่ะ พี่ฌานนั่งข้างคนขับก็ได้”

ความแถนี้พี่ท่านได้แต่ใดมา

ผมเหลือบมองนิฌานที่เอาตัวรอดได้อย่างสบายเกินคาดพ่วงทำคะแนนกับผมด้วยความรู้สึกจะนับถือก็ไม่ใช่จะชมเชยก็ไม่เชิง ยัง...เจ้าตัวยังอุตส่าห์ขยิบตาใส่อีก เพราะได้นั่งคู่กัน เวลาจะแอบส่งสัญญาณหรือส่งสายตาสื่อความนัยเลยทำได้ง่ายกว่าเดิม

‘พี่ฌานลากผมมาทำไม!’ ผมเริ่มส่งโทรจิตไปก่อน

‘อย่าคิดจะทิ้งพี่เลยครับน้องเจ หึหึหึ’ นิฌานจ้องกลับด้วยรอยยิ้มวายร้าย หลังสำรวจความพร้อมเสร็จก็หันมาถามผมอย่างเป็นการเป็นงาน ไม่สนใจผู้โดยสารทางด้านหลังที่กอดอกกระฟัดกระเฟียดสักนิด

“น้องเจเรียนขับรถกี่ชั่วโมงแล้วครับนี่”

“แปดชั่วโมงครับ” ผมตอบตามจริง อดเสียดายไม่ได้เพราะถ้าวันนี้ดาราในสังกัดไม่เอาแต่แหกปากร้องเพลงเพี้ยน คงจะเรียนครบสิบชั่วโมงแล้ว

“เคยออกถนนใหญ่รึยังครับ”

“เคยแถวบ้านผมครับ แต่ยังไม่เคยเจอสี่แยกมาก่อน” ผมสารภาพอย่างประหม่า เป็นที่รู้กันดีถึงย่านธุรกิจแถวนี้ว่ามีสี่แยกพิฆาตเซียน

“ไม่ต้องกลัวหรอกน้องเจ ช่วงดึกอย่างนี้รถน้อยลงเยอะ ไม่ติดเท่าตอนปกติหรอก น้องเจทำได้อยู่แล้ว!” นิฌานชูกำปั้นให้กำลังใจ แต่ผมล่ะอยากจะต่อยหมัดใส่เขามากกว่า

“จะออกรถได้รึยังคะ” สมฤดีถามสวน กลัวเป็นบุคคลที่ถูกลืม

“ใจเย็นสิครับฤดี น้องเจไม่รู้สักหน่อยว่าบ้านพี่อยู่ตรงไหน ขอเปิดจีพีเอสก่อนนะ” นิฌานไม่แม้แต่จะมองผู้โดยสารที่เบาะหลัง ก้มหน้าก้มตาจิ้มโทรศัพท์ตั้งค่าจีพีเอสแล้วค่อยๆ สอนผมอย่างใจเย็น “น้องเจดูเป็นรึเปล่า ครั้งแรกอาจจะสับสนเวลามองซอยหรือทางเลี้ยวอยู่นะ หรือจะให้พี่เปิดเสียงดี แต่ชื่อถนนประเทศไทยบางทีก็น่าปวดหัว พูดออกมาก็ไม่รู้หรอกว่าสรุปแล้วจะให้ไปทางไหน”

“ผมยังไม่เคยใช้จีพีเอสเลย”

“งั้นพี่ตั้งตรงนี้แล้วกัน เห็นชัดมั้ยครับ” นิฌานวางโทรศัพท์ข้างหน้าปัดรถ

“เห็นชัด...แต่ไม่ค่อยสะดวก แค่มองถนนก็แย่แล้วครับ ขืนก้มมองจีพีเอสอีกผมกลัวชน”

“งั้นพี่คอยบอกทางแล้วกันเนอะ”

“ขอบคุณครับพี่ฌาน”

“ผ่านไปสิบนาทีแล้วนะคะ จะออกรถได้รึยัง” สมฤดีเอ่ยแทรกอีกครั้ง

“ลองขับวนรอบๆ ก่อนนะครับน้องเจ เอาให้ชินมือก่อน ดูนะว่ากระจกรถระดับพอดีมั้ย ขาเหยียบถึงมั้ย ไม่ติดขัดตรงไหนใช่มั้ย โอเค จากนั้นก็...เอ่อ...น้องเจเคยขับรถลงจากลานจอดมั้ยเนี่ย”

นิฌานบรรลุวิชาหูทวนลมไปแล้ว

“ผมยังไม่เคยขับทางลาดมาก่อนด้วยซ้ำ ลาดแล้วเลี้ยวอย่างนี้ยิ่ง...”

“ไม่ต้องกลัวครับน้องเจ ค่อยๆ ไปก็ได้ ใช่ แบบนั้นแหละครับ ค่อยๆ เหยียบเบรกไว้”

“พี่ฌานคะ คุณแม่ถามว่าจะกลับถึงประมาณกี่โมง คุณแม่จะเตรียมของว่างให้แทนค่ะ”

“เดี๋ยวค่อยถามได้มั้ยครับฤดี ทางเลี้ยวลงแบบนี้อันตรายมากนะ ถ้ารถทะลุตกตึกไปจะทำยังไง!”

“ขะ...ขอโทษค่ะ”

จู่ๆ ถูกนิฌานดุเสียงเข้ม สมฤดีเลยนั่งหงอยไปโดยปริยาย ไอ้ผมเองอยากจะขำก็ขำไม่ออกเพราะกำลังอยู่ในสภาวะวิกฤตรถไหล กว่าจะฝ่าด่านอรหันต์แต่ละชั้นของลานจอดรถเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์มาได้เล่นเอาเหงื่อออกมือไปหมด ทำไมในบทเรียนไม่เห็นได้ฝึกขับลงทางลาดอย่างนี้บ้างเลย!

แต่อุปสรรคยังไม่หมดเพียงเท่านั้น

พอลงจากลานจอดรถมาได้ ผมก็ติดเหง็กอยู่หน้าตึก เพราะเอาแต่ละล้าละหลัง หาจังหวะแทรกเข้าถนนใหญ่ที่มีรถขับสวนไปมาไม่ได้ จริงอยู่ ว่าช่วงนี้รถไม่ค่อยติด ไม่น่าลำบากยากเย็นมากนัก แต่...ก็เพราะรถไม่ติดไงถึงได้ขับกันไวกว่าปกติ ต่อให้ประกันชั้นหนึ่งผมก็กลัวโดนชนอยู่ดี!

“พักดื่มน้ำก่อนมั้ยครับน้องเจ” สายตาของนิฌานประกายพราวคล้ายจะหัวเราะเยาะอยู่ในที ผมหันไปถลึงตาใส่เขา แต่ก็ยอมหันหน้ามาดูดน้ำจากหลอดที่ป้อนจ่อปาก โดยทั้งสองมือจับพวงมาลัยแน่นไม่ปล่อย

“พี่ฌานคะ ฤดีว่า...”

“ได้จังหวะแล้วครับน้องเจ ตอนนี้แหละ รีบขับออกตึกไปเลย!”

สมฤดีกลับไปนั่งหน้างออีกครั้งเมื่อถูกขัด ส่วนผมหายใจโล่งขึ้นเยอะเมื่อพารถมาอยู่บนถนนใหญ่ได้สักที แต่...กับรถที่ขับกันไวขนาดนี้ให้อยู่เลนขวากลัวจะมีปัญหา ผมเลยพยายามจะเบี่ยงมาทางซ้าย...

“ตรงนี้ต้องระวังนะครับน้องเจ เพราะเป็นช่วงชุลมุนสี่แยกไฟแดง จะมีรถขับแทรกเยอะมาก นั่น! ระวังมอเตอร์ไซค์ด้วย”

ผมใจหายวาบ เพราะทุกอย่างกะทันหันเกินไปเลยหักพวงมาลัยกลับเลนขวาแทบไม่ทัน เดี๋ยวก่อน...ทำไมรถใหญ่ต้องคอยหลบมอเตอร์ไซค์ด้วยเนี่ย!

คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ มีแต่เสียงโวยวายของสมฤดีที่ไม่คาดเข็มขัดคนเดียวในรถ ผลคือศีรษะกระแทกกระจกเข้าอย่างจัง

“เบี่ยงรถให้มันนิ่มนวลหน่อยได้มั้ย!”

“ขอโทษครับ” ผมเอ่ยเสียงเบาหวิว ตอนฝึกขับกับครูผู้สอนค่อนข้างทำคะแนนได้ดี แต่พอลองลงสนามจริงบอกเลย...เละ!

“อย่าพูดอย่างนี้สิฤดี ครั้งแรกก็ต้องผิดพลาดบ้างเป็นธรรมดา ไม่เห็นต้องต่อว่าเลย”

“ขอโทษค่ะพี่ฌาน...”

เอาเป็นว่าผมมองไม่เห็นนิฌานที่หันมาขยิบตาเหมือนทวงความดีความชอบที่เอาคืนแทนผมแล้วกัน เพราะจุดสำคัญตอนนี้คือผมจะรอดจากสี่แยกนี้ได้รึเปล่า!!

ยังไงก็ตาม...ผมก็สามารถพารถจากเลนขวาสุดมาซ้ายสุดได้สำเร็จ!

“เขาบีบแตรทำไมเหรอครับ” ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ รถข้างหลังก็บีบแตรใส่

“อ้อ ตรงนี้เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดน่ะ”

“อ้าว ทำไมพี่ฌานไม่เตือนผมล่ะ”

“ให้บทเรียนไงครับ ตรงนี้จะชิดซ้ายไม่ได้เพราะต้องผ่านตลอด ถ้าไม่อยากโดนบีบแตรไล่ก็ต้องตามน้ำไปก่อน ไม่ต้องห่วงครับ มีที่กลับรถอยู่ข้างหน้า ไว้ค่อยอ้อมมาใหม่ก็ได้”

ผมมองนิฌานที่ยิ้มแฉ่งอย่างจงใจถ่วงเวลาแล้วเริ่มเดาแผนของเขาได้รางๆ

“วันนี้จะถึงบ้านมั้ยคะเนี่ย” นั่นไง ขนาดสมฤดียังประท้วง

“อ้าว ฤดีรีบเหรอครับ ถ้ารีบงั้นกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ให้น้องเจจอดข้างหน้าเลย แถวนี้เรียกแท็กซี่ง่ายอยู่ด้วย”

“พี่ฌานจะทิ้งฤดีกลับบ้านคนเดียวเหรอคะ!”

“ก็พี่ไม่รีบนี่นา พี่กับน้องเจมีนัดขับรถมาก่อน พี่ก็ต้องให้คิวกับน้องเจก่อนฤดีสิ อ้อ ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าถ้ารอไม่ไหวก็นอนก่อนได้เลย ไว้ว่างๆ พี่จะแวะเข้าไปหาท่านเอง”

“งั้น...ไม่เป็นไรค่ะ ฤดีรอไหว คุณแม่ก็รอไหว”

“ดีครับ” นิฌานพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะหันมาสอนผมขับรถอีกครั้ง กว่าจะกลับรถ กว่าจะวนกลับมาที่สี่แยกเดิมก็กินเวลาไปอีกร่วมยี่สิบนาที

สมฤดีถอนหายใจเฮือกเมื่อหลุดจากไฟแดงไปได้ เริ่มชวนนิฌานคุยอย่างอารมณ์ดีเพราะคาดว่าถนนจะเริ่มโล่งจนถึงบ้าน แต่ว่า...

“เอ๊ะ พี่ฌาน ตรงนี้ผมเลี้ยวผิดรึเปล่า”

“เลี้ยวผิดจริงด้วย ดูสิฤดี ชวนพี่คุยจนไม่ทันมองเลยเห็นมั้ย” คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิดจริงๆ แต่ผมก็ว่าเธอไม่ได้ในเมื่อจงใจเลี้ยวเข้าซอยเล็กที่ไม่น่าจะผิดได้ด้วยสีหน้าไม่ตั้งใจ ดูจากจีพีเอสแล้วเป็นซอยตันซะด้วยสิ สมฤดีอยากจะโวยวาย แต่เพราะเพิ่งถูกเอ็ดเลยยอมสงบปากสงบคำ “ซอยแคบอย่างนี้ยิ่งต้องระวัง เพราะรถจอดเรียงเต็มสองข้างทางแล้วยังมีมอเตอร์ไซค์คอยแทรกอีก ขับช้าๆ นะน้องเจ อย่าไปเฉี่ยวชนใครเข้าล่ะ”

ผมขับช้ายิ่งกว่าเต่าคลาน เชื่อว่าให้สมฤดีลงไปเดินยังเร็วกว่า

“ตรงนี้พอกลับรถได้มั้ยครับ”

“ได้ แต่น้องเจต้องใช้ฝีมือหน่อยนะ อย่าเสี่ยงเลย ลองขับลึกเข้าไปหาที่โล่งๆ กว่านี้ดีกว่า”

ผมทำตามคำสั่งของนิฌานอย่างเคร่งครัด ขับเข้าลึกขึ้นเรื่อยๆ...พร้อมกับเหตุการณ์น่าหวาดเสียวจากมอเตอร์ไซค์ที่เล่นเอาใจหายใจคว่ำอีกหลายครั้ง

และในที่สุด

“ปล่อยฤดีลงตรงนี้เถอะค่ะ”

จิตใจบอบบางของสาวน้อยก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป!

“เอางั้นเหรอฤดี” นิฌานมองเธออย่างเป็นห่วง

“ค่ะ ตรงนี้มีแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารพอดี ฤดีขอลงตรงนี้ดีกว่า ไว้พี่ฌานสะดวกเมื่อไหร่ก็อย่าลืมไปหาคุณแม่บ้างนะคะ ท่านคิดถึง”

“ครับ ขอบคุณฤดีมาก” นิฌานคลี่ยิ้มสุภาพบุรุษ ถึงขนาดลงไปส่งสมฤดีจนกระทั่งเธอขึ้นแท็กซี่อย่างปลอดภัยถึงค่อยกลับเดินมาเปิดประตูฝั่งคนขับ ผมเองก็ไม่รีรอ รีบลงเปลี่ยนไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถทันที

“พี่ฌานหาทางกลับรถแล้วค่อยไปส่งผมที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยแล้วกัน ก่อนเข้ามาผมเห็นอยู่”

“จงใจเลี้ยวผิดเหรอเรา”

“อ้าว ผมนึกว่าพี่ฌานรู้อยู่แล้วซะอีก” ผมหันมาถามเขาอย่างสงสัย พวกเราสบตากันครู่ใหญ่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“แสบนักนะเจ้าตัวเล็ก”

“ก็ทำตามแผนพี่ฌานนั่นแหละ” ผมตอบตามจริง “ว่าแต่พี่ฌานเถอะ รู้ได้ยังไงว่าผมเรียนขับรถอยู่”

นิฌานเจอที่ว่างสำหรับกลับรถพอดี เลยโชว์ประสบการณ์มาเหนือ ถอยหลังเข้าซองได้ในครั้งเดียวเพื่อกลับออกไปทางหน้าปากซอย

“เพราะพี่ใช้กลยุทธ์รู้เขารู้เราไงครับ ช่วงนี้น้องเจติดหนังสือเล่มนึงมาก ชอบหยิบมาอ่านรอระหว่างพี่ทำงาน ไอ้เราก็อยากจะรู้ชื่อหนังสือจะได้ไปหาอ่านบ้าง จะได้เอามาคุยกับน้องเจได้ เลยฉวยจังหวะที่น้องเจเข้าห้องน้ำแอบเปิดดู” นิฌานหัวเราะหึหึในลำคอ “ตั้งใจวางแผนกะตีสนิทแท้ๆ แต่พอเจอว่าน้องเจกำลังเรียนขับรถเพื่อพี่ก็ใจเต้นตึกตัก ตกหลุมรักเรายิ่งกว่าเดิม”

“จมถึงเอวแล้วเหรอครับ”

“สะดือต่างหากครับน้องเจ”

ผมหัวเราะเหอๆ แบบขอไปที

“พอเอาชื่อสนามไปหาข้อมูลถึงรู้ว่ามีสอบใบขับขี่ทุกวันอาทิตย์ และจากการคำนวณอาศัยที่พี่คอยมองน้องเจตั้งแต่ถือหนังสือเล่มนี้แล้ว คาดว่าน้องเจน่าจะเรียนไปหลายครั้ง อาทิตย์นี้คงจะสอบพอดี ใช่รึเปล่าครับ”

“ถูกครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก “แต่ที่ไม่ถูก คือผมไม่ได้เรียนขับรถเพื่อพี่ แต่เพื่อตัวเองต่างหาก พี่ฌานจำไม่ได้เหรอว่าเคยสติหลุดเกือบขับรถชนน่ะ”

“จำได้สิครับ ตอนนั้นน้องเจตะโกนเสียงหลง น่ารักสุดๆ เลย”

“...ผมลงตรงนี้ดีกว่า”

“ไม่ลงป้ายรถเมล์หน้าปากซอยแล้วเหรอครับ”

“ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย” พูดจบทั้งรถก็ตกในความเงียบครู่หนึ่ง แน่นอนว่านิฌานไม่จอด และผมเองก็ไม่ได้ประท้วง พวกเราต่างรู้ดีว่าปะทะฝีปากเป็นพิธีไม่ได้จริงจังอะไร “พี่ฌาน...”

“ครับน้องเจ”

“พรุ่งนี้จะมีข่าวพี่กับสมฤดีรึเปล่า”

“มีแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์เลย”

“แม่พี่ส่งสมฤดีมาตอนนี้เพื่ออะไร”

“เพราะต้องเป็นตอนนี้เท่านั้นถึงได้ส่งไม้ตายอย่างแอนแอนได้ต่างหากครับ ช่วงนี้พี่มีน้องเจแล้ว เลยไม่ค่อยรับสายแอนแอนไว้คุยเล่นนัก แผนป่วนประสาเลยไม่ค่อยได้ผล เฮ้อ...ก็พี่ไม่อยากนอกใจน้องเจนี่นา”

“เข้าเรื่องด้วยครับพี่”

“อะแฮ่ม...ก็น้องเจรายงานไปใช่มั้ยล่ะว่าพี่ทำตัวดีแค่ไหน แทบไม่ไปงานเลี้ยง ไม่ออกเดต ไม่ควงแขนกับใครเลย”

“ครับ”

“ถึงได้บอกว่าต้องเป็นตอนนี้เท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้แม่พี่เคยพยายามส่งคนมาสร้างข่าวหลายครั้ง แต่เพราะพี่เปลี่ยนคู่เดตบ่อยยิ่งกว่าอะไร คนที่ส่งเข้ามาเลยสร้างประเด็นไม่ได้ นักข่าวเองก็ไม่สนใจ จับคู่พี่กับดาราสาวย่อมเรียกกระแสได้ดีกว่าคนทั่วไป แต่พอสมฤดีมาในช่วงพี่ทำตัวดี...ขนาดเจ้าหน้าที่ในห้องอัดยังทักเลยว่าเป็นตัวจริงรึเปล่า”

ผมย้อนนึกแล้วก็อดยอมรับไม่ได้ว่าใช่ มันน่าสงสัยจริงๆ นั่นแหละ

สัญญาณเด็กดีของนิฌานเหมือนกำลังสื่อว่าคนเจ้าชู้กำลังจะหยุดอยู่ที่ใครสักคน

“นักข่าวจ้องเล็งพี่ช่วงนี้อยู่แล้ว น้องเจคงไม่รู้ตัวเลยสิ”

“ผมขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ เอาเป็นว่าสมฤดีเข้ามาให้ชวนเข้าใจผิด พรุ่งนี้ก็เตรียมรับมือแล้วกัน แต่พี่เชื่อว่าน้องเจคงมีแผนในใจไว้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”

ผมพยักหน้ารับ

“น้องเจคนเก่งของพี่”

ผมไม่ตอบกับคำชมชวนขนหัวลุกนัก เพราะกำลังหนักใจว่าสิ่งที่ทำอยู่มันดีแล้วจริงเหรอ

“พี่ฌาน...ผมทำให้พี่ลำบากกว่าเดิมรึเปล่า”

ทุกการกระทำของนิฌาน ชาญชัยมีเหตุผล เขาขยันยิ้ม ขยันหัวเราะ ขยันเข้าหาผู้คนเพื่อการทำงานที่ราบรื่น ควงทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายเพื่อไม่ให้ตกเป็นข่าวกับใครก็ตามที่ส่งมาจากแม่แท้ๆ ของตัวเอง แม้จะมีผลพลอยได้อันไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าการให้เขาหยุดทุกอย่างนั้น...มันดีแล้วจริงเหรอ

“น้องเจกังวลอะไรครับ เทียบกับความสุขชั่วครั้งชั่วคราวพวกนั้นแล้วน่ะ...การที่น้องเจอยู่ข้างพี่ ช่วยพี่คิด ช่วยพี่วางแผน ไม่ทรยศกันน่ะดีกว่าเป็นไหนๆ” นิฌานหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับจอดรถแถวป้ายรถเมล์ “เพราะคนพวกนั้นผ่านมาแล้วผ่านไป แต่น้องเจจะไม่ทิ้งพี่ใช่มั้ยครับ”

“ผมไม่ทิ้งพี่หรอก” ผมเอ่ยหนักแน่น เรียกสายตาหวานซึ้งจากนิฌานจนมดตอม “ภายในสามเดือนนี้น่ะนะ”

พูดจบก็เดินลงจากรถ ไม่ลืมหันมายกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า

“โธ่ กำลังซึ้งเลย”

นิฌานรับไหว้ด้วยสีหน้าสุดเซ็ง แต่ดวงตาประกายวาวอย่างรู้อยู่แล้วว่าต้องโดนตัดบท ก็เขา...ตกหลุมรักผมที่เป็นแบบนี้....

ไม่ใช่รึไงล่ะ

 

--------------

ใช่จ้ะน้องเจ ทางนี้ก็รักน้องเจที่เป็นแบบนี้ เป็นเด็กแสบน่ารักอย่างนี้เหมือนกันนะลูกจ๋าาา

ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนาไปทางเหนือธรรมชาติอย่างการส่งโทรจิตกันแล้วค่ะ 555 นิฌานชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คนเจ้าชู้เวลาหยุดที่ใครก็จะหยุดทุกอย่างเนอะ ส่วนน้องเจ...ยังคงเฉยชาอย่างคงเส้นคงวา ฮ่าๆ เราชอบฉากตอนพี่ฌานกับน้องเจส่งสายตาสื่อความนัยกันมากเลยค่ะ น่ารักกกกกก ส่วนน้องวางแผนแก้เกมยังไง ต้องรอลุ้น!

 

เพจนักเขียนที่อยากบีบแก้มน้องเจ  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 03-05-2018 20:46:40
น่ารักจังเลย  :-[
พี่ฌานคนดี น้องเจคนเก่ง
รอดูแผนน้องเจ ดูสิจะเด็ดขนาดไหน > <
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-05-2018 20:57:01
น้องเจกับพี่ฌานนี่แค่มองตาก็รู้ใจกัน ตอนสกัดแอนแอนออกนี่เข้าขากันดีมาก ชอบๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-05-2018 21:14:29
รับส่งกันดีจริงๆ  o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-05-2018 22:13:01
มีการส่งโทรจิต รู้ใจกันดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-05-2018 23:24:56
หูยยยย อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-05-2018 23:52:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-05-2018 02:05:57
ตอนเช้าจะมีข่าวอะไรน่ะ อยากรู้ ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 04-05-2018 02:22:37
แค่มองตาปิ๊ง ๆ ก็อ่านใจกันได้ทะลุปรุโปร่งอย่างนี้
ยังไง ยังไง ...
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 04-05-2018 06:03:59
รอการแก้เกมของน้องเจ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 04-05-2018 07:30:47
 :-[ อ๊ะ ๆ มีสบตาสื่อสารกันด้วยใจรู้เรื่องเข้าขากันดีอย่างนี้ อะจึ๋ย ๆ ๆ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-05-2018 07:46:46
น้องเจ น่ารักก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-05-2018 11:26:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-05-2018 15:51:57
น้องเจต้องมีแผนเด็ดๆมารับมือนะอย่าให้ยัยคุณหญิงนั่นมาเหนือกว่าได้ อิพี่ฌาณนี่ก็ขยันหยอดตลอดสรุปแล้วที่เจ้าชู้มาเรื่อยนี่เพราะขัดขวางแผนแม่ตัวเองหรอกเหรอ

ปล.แอบเห็นด้วยกับน้องเจที่ว่าน่านัดยัยสมฤดีให้ไปกินข้าวกับจอมมาร ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 04-05-2018 16:55:45
อื้อหือ เห็นที่จะจมในหลุมรักของน้องเจไปเกินอกแล้วละค่ะพี่ณาน
ไม่ใช่แต่สะดือหรอกนะ ออกอาการขนาดนี้ อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2018 17:47:24
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-05-2018 20:13:40
เดี๋ยวนี้พัฒนาถึงขั้นมองตารู้ใจแล้วหรอเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 05-05-2018 07:02:10
 :laugh: :laugh: ขุ่นพี่คะนี่คือจมลงไปแล้วค่ะ ไม่ใช่ตกเฉยๆ ถถถถถถถถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: hereg407 ที่ 05-05-2018 08:10:44

ชอบที่น้องเจกับพี่ฌานตามกันทัน แบบเนี้ยะ  สนุกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 05-05-2018 19:47:14
แหมมม มองตาก็รู้ใจ แหมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-05-2018 07:42:07
ถ้าไม่รักกันจริงส่งโทรจิตคุยกันไม่ได้นะ555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 11 - [03/05/61] - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 07-05-2018 21:45:08
ชอบน้องเจจจจจ รู้ใจกันแล้วเด่วนี้!!!!!!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 - P.10 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 11-05-2018 19:17:38
ตอนที่ 12 : ข่าวฉาวและรุกฆาต

 

พาดหัวข่าววันนี้...กับภาพแสนคุ้นตา

สมฤดีเดินควงแขนกับนิฌานในลานจอดรถ ท่าทางสนิทสนม ส่วนผม...ที่ตอนนั้นเดินตามหลังโดนตัดออกไปราวเป็นต้นไม้ใบหญ้าที่ไม่สำคัญ

‘เผยแล้ว! ตัวจริงของนิฌาน ชาญชัย ที่แท้ไม่ใช่ใครแต่คือลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง!’

ผมอ่านแล้วอดคิดไม่ได้ว่า...พวกนักข่าวอาจจะอัดอั้นกับนิฌานมานานก็ได้นะ รู้ว่าเขาเที่ยวคั่วคนนั้นคนนี้แต่แทบจับประเด็นมาเขียนปังๆ ไม่ได้สักที งวดนี้หลุดออกมาเลยจัดเต็มเป็นพิเศษ แถมยังใส่สีตีไข่ เติมความเห็นตัวเองไปซะมาก

อย่าง ‘สาวสวยสุดแซ่บมารอฝ่ายชายเพื่อไปดูฤกษ์แต่งงาน’ งี้ ‘แม่ให้ไฟเขียว! ลูกกตัญญูพาแฟนสาวไปกินข้าวสานสัมพันธ์กับแม่บังเกิดเกล้า’ งี้...แล้วยังมี ‘วงในเล่ากันว่าคนนี้คือหวานใจที่แอบคุยโทรศัพท์มาตลอด’ อีก...เอ่อ มากรี๊ดใส่ก็นับด้วยเหรอ

โทรศัพท์ของผมสั่นครืดคราดตั้งแต่เช้า ทุกครั้งที่มีคนโทรมาสอบถามก็ตอบไปตามตรงว่านิฌานกับสมฤดีเป็นแค่พี่น้องกัน ส่วนใหญ่ไม่เชื่อ เพราะอยากได้ประเด็นไปนั่งเทียนเขียนข่าวต่อมากกว่า แต่เรื่องอะไรผมจะหลงกลล่ะ นายเจตรินยิ้มกริ่ม ตอบทันทีว่ารายละเอียดที่เหลือให้มาสอบถามกับนิฌานโดยตรงในงานเปิดตัวน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม

เว้นช่องว่างให้ใส่สีตีไข่ประโคมลงไปอีกสักนิด ชวนนักข่าวมาเยอะๆ เรียกร้องความสนใจจากสื่อให้มากๆ แล้วค่อยสรุปจบในงาน นอกจากจะกระจายคำตอบรวดเดียวแบบไม่ต้องเหนื่อยยากลำบากใจแล้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงที่ผลตอบรับแรกได้รับความสนใจขนาดนี้

ถ้าไม่นับพวกนักข่าว เช้านี้ก็มีสายเรียกเข้าเหนือความคาดหมายจากคุณเลขาจอมมาร

“สวัสดีครับ”

(( คุณเจมีแผนรับมือแล้วใช่มั้ยครับ ))

ที่แท้ก็โทรมาด้วยความเป็นห่วง กลัวผู้จัดการมือใหม่อย่างผมตั้งรับไม่ทันนี่เอง

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าจะมีเรื่อง”

(( งั้นผมก็วางใจ ))

คุณเลขาโทรมาสอบถามแล้วก็วางสาย ผมเลิกคิ้ว อดคิดไม่ได้ว่าคนคนนี้ทำเกินหน้าที่ไปมากโข เลี้ยงเด็กโข่งอย่างเสี่ยไม่พอยังเผื่อแผ่มายังคนรอบตัวเสี่ยอีก สงสัยจะว่างมากนะเนี่ย

สรุปแล้วผมกับนิฌานไม่เดือดร้อนกับข่าวฉาวที่ยิ่งประโคมและออกนอกทะเลขึ้นทุกที รักต้องห้ามบ้างล่ะ แอบจดทะเบียนสมรสกันแล้วบ้างล่ะ นับวันก็ยิ่งเหลือเถิดเพราะนิฌานเก็บตัวเงียบไม่ตอบคำถาม เพียงบอกว่าให้รอดูกันในวันเปิดตัวน้ำหอม

หลายสื่อพากันสับสนว่าเกี่ยวอะไรกับน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูม แต่พอนึกได้ว่าโฆษณานั้นเน้น ‘รักในแบบที่เป็นคุณ’ ก็ยิ่งใส่สีตีไข่ บอกว่านิฌานจะสารภาพรักในงานนั้นแล้วคุกเข่าขอแต่งงาน เอ่อ...ไหนข่าวก่อนหน้านี้ว่าแอบไปจดทะเบียนสมรสกันแล้วไง ชักจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ วู้!

กลับมาที่พวกผมซึ่งสบายใจเกินเหตุกันบ้าง ไม่สิ ควรบอกว่าต้นตอของข่าวอย่างนิฌานคนเดียวต่างหากที่ยิ้มระรื่นชื่นบาน อาสาเป็นผู้ช่วยสอนขับรถให้ผมอย่างขยันขันแข็ง

“โอ๊ย!”

ตอนเจอรถตัดหน้าแล้วเผลอเบรกดังเอี๊ยด ผมเลยไม่สำนึกผิดสักนิดเมื่อเห็นคนตัวสูงกว่าหัวโม่งกระจกรถเข้าอย่างจัง

“ขอโทษครับพี่ฌาน” พูดตามมารยาท แต่สายตาสะใจสุดๆ นิฌานลูบหน้าผากปอยๆ ทำหน้าน่าสงสารราวกับว่าทำดีแต่ไม่เห็นค่า เฮอะ! ผมจะไปเห็นค่าได้ยังไงในเมื่อเขาสอนไปก็แอบเนียนกระแซะเนียนแต๊ะอั๋ง หากไม่เพราะอยากขับรถเป็นเร็วๆ อย่าหวังเลยว่าจะยอมเปลืองตัวขนาดนี้

“ไม่เป็นไรครับน้องเจ...ระวัง!”

แล้วคนตัวสูงก็โดนไปอีกโป๊ก เช่นเดียวกับผมที่เกือบหัวโขกพวงมาลัย

“จอดรับคนก็เปิดไฟเลี้ยวบอกหน่อยสิ!” ผมว่าอย่างหงุดหงิด เพราะสารพัดรถที่ขับแทรกนั้นมาจากการหาทางเบี่ยงเข้าเพื่อรับคนตามริมฟุตบาท ก็แถวนี้น่ะมีสำนักงานเยอะ คนทำงานแยะ พอรับคนเสร็จก็ปาดตัดหน้าเลี้ยวออก สร้างความโกลาหลวุ่นวายแก่มือใหม่อย่างผมมาก

“มีคนหัวร้อนซะแล้วสิ” นิฌานที่มีรอยช้ำบนหน้าผากสองรอยยังไม่วายหันมาแซวกัน

“ผมเปล่านะ” ไม่ทันขาดคำผมก็สบถอีกครั้ง รถเบรกเอี๊ยดตัวโยนเป็นรอบที่สาม คราวนี้คนตัวสูงตั้งรับทัน เกาะกับเบาะแน่นหนึบไม่ต่างกับจิ้งจกเกาะกำแพง “เปิดไฟเลี้ยวกันบ้างสิ!!”

“หัวร้อนแล้ว หัวร้อนแล้ว”

โอเค ผมยอมรับ ผมหัวร้อนเพราะความมักง่ายของการขับรถในชั่วโมงเร่งด่วนอย่างตอนเลิกงาน เห็นว่ารับคนแค่แป๊บเดียวเลยไม่ยอมเปิดไฟ จะเลี้ยวออกก็แทรกพรวดพราดเอาดื้อๆ แถมไฟแดงก็ขยันมาถี่ซะเหลือเกิน ทำให้รถกว่าจะขยับเขยื้อนออกไปแต่ละรอบน่าหวาดเสียว หากชักช้าก็โดนแซง แต่ถ้าจะซิกแซกเข้าหน่อยก็กลัวโดนชน

ผมกัดฟันกรอด นึกอยากจะไล่คนพวกนี้ไปสอบใบขับขี่ใหม่ให้หมด ขนาดผมเพิ่งฝึกหัดยังเปิดไฟตามกฎจราจรเลยนะ!

“ถ้าน้องเจไม่ไหว ให้พี่ขับแทนมั้ยครับ”

“พี่ฌานคงคิดว่าผมแย่มากเลยใช่มั้ย” ผมเอ่ยเสียงอ่อน รู้ตัวว่าเริ่มใช้อารมณ์เป็นใหญ่

“โห มีตัดพ้อกันด้วย” นิฌานจับหัวใจคล้ายโดนพลังที่มองไม่เห็นโจมตี

“ก็ผมใจร้อนมากไป หัวร้อนจริงๆ นี่...” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด เป็นฝ่ายขอลองฝึกเพราะติดใจจากครั้งก่อนที่ประสบการณ์จริงเทียบกับตอนเรียนไม่ได้เองแท้ๆ ถ้านิฌานไม่คอยรั้งคอยแหย่ ผมอาจจะเผลอปาดแทรกบ้างจนรถชนไปแล้วก็ได้ “มองอะไรครับ”

จู่ๆ ก็รู้สึกถึงออร่าคุกคามไม่น่าไว้วางใจ

“น่ารัก”

“...”

“...”

“ถ้าไม่ติดว่านี่รถพี่ ผมจะจอดข้างหน้าแล้วไล่ลงข้อหาคุกคามเด็ก”

“กลายเป็นน้องเจที่ไม่น่ารักซะแล้ว” นิฌานถอนหายใจเฮือกอย่างแสนเสียดาย ส่วนผมที่ขนลุกพึ่บพั่บก็หันมาใจจดจ่อกับการขับรถอีกครั้ง ราวกับว่าไอ้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

“พี่ฌานจะยื่นหน้าใกล้ไปมั้ย”

“ก็พี่อยากเห็นหน้าน้องเจชัดๆ ว่ายังหัวร้อนอยู่รึเปล่า...อย่าเพิ่งหดคอหนีสิ พี่ล้อเล่นครับ” เมื่อได้ผลลัพธ์น่าพอใจนิฌานก็กลับไปเกาะกับเบาะเป็นจิ้งจกเหมือนเดิม พอผมมองตามอย่างกังวลก็พยักพเยิดทั้งรอยยิ้มใจดี เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง “ตั้งใจขับรถเถอะ ทำสมาธิให้ดี พี่จะช่วยดูให้เราเอง”

ความโกรธ ความเศร้า ความไม่มั่นใจทั้งหลายเริ่มกลับกลายเป็นศูนย์เมื่อผมสูดหายใจเข้าลึกเพื่อตั้งหลักใหม่อีกครั้ง

“น้องเจคนเก่งของพี่ทำได้อยู่แล้ว”

“ผมไม่ใช่ของพี่สักหน่อย”

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เริ่มชินกับการปะทะฝีปากกับนิฌาน และเริ่มชิน...กับการไว้วางใจผู้ชายคนนี้

 






แล้วงานเปิดตัวบิวตี้เพอร์ฟูมก็มาถึง

อย่าถามว่ามีคนมาเยอะแค่ไหน ให้ถามว่ามีที่ยืนพอไหมจะดีกว่า! เพราะขนาดผมเป็นผู้จัดการ ได้ที่นั่งด้านหน้าในมุมพิเศษยังรู้สึกได้ถึงความแออัดของเหล่ากลุ่มคนทั้งแฟนคลับของนิฌาน ทั้งผู้ชมทั่วไป ทั้งเหล่านักข่าวหลากหลายสื่อที่สาดแฟลชเสียจนตาพร่าตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มงาน

ผลตอบรับที่ดีเกินคาดโดยไม่ต้องทุ่มซื้องบโฆษณาทำเอาเจ้าของผลิตภัณฑ์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

เช่นเดียวกับแขกไม่ได้รับเชิญแต่มีหน้าตาเป็นใบผ่านทางแถมยังได้ที่นั่งพิเศษข้างๆ ผมซึ่งเป็นต้นตอของข่าวลือทั้งหมดอย่าง...ครับ สมฤดีไงจะใครล่ะ วันนี้เธอมาในชุดราตรีเรียบหรูดูแพงกว่าวันก่อนหลายเท่า ไม่ต่างกับดาราดังมางานเปิดตัว ให้เกียรติกับงาน ให้เกียรติกับตัวเอง วางตัวเหมาะสม และเป็นที่มาว่าทำไมผมถึงตาใกล้บอด ก็แสงแฟลชเล่นสาดมาทางนี้รัวๆ จะก้มหลบก็ไม่ได้นี่ครับ!

เหล่าแฟนคลับมารอด้วยความผิดหวัง ไม่อยากให้นิฌานเปิดตัวแฟนสาวไวปานนี้พร้อมข่าวมงคลแสลงใจ แต่บรรดานักข่าวนั้นกระหายอย่างยิ่ง ขนาดแค่สมฤดีมาหานิฌานที่ตึก ยังเข็นเรือออกทะเลสู่จักรวาลเวิ้งว้างอันไกลโพ้นได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมโนไกลไปถึงไหน เผลอๆ อาจจะบอกว่าท้องก่อนแต่งเลยด้วยซ้ำ!

กลับมาสู่งานกันดีกว่า

หลังตัวละครสำคัญมาครบ ทุกอย่างพรั่งพร้อม เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ก็ดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของนิฌาน ชาญชัย

ซึ่งเซอร์ไพรส์ใครหลายๆ คนด้วยการร้องเพลงโชว์เสียงทุ้มนุ่มนั้นเป็นที่แรก!

แฟนคลับหลายคนละลาย นักข่าวหลายคนเคลิ้มฟัง ไม่ได้รู้เอาซะเลยว่ากว่าจะอัดได้ขนาดนี้ใช้เวลานานขนาดไหน ลองให้เขาร้องสดสิ...เพี้ยนตั้งแต่คำแรกที่ขึ้นต้นแล้ว!

เนื้อเพลงสื่อถึงความรักของผู้ชายที่อยากบอกผู้หญิงทุกคนให้เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะหากให้ผู้หญิงด้วยกันพูดอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือพอ แต่เมื่อเป็นนิฌาน ชาญชัยแล้วกลับฟังละมุนหวานชวนใจเต้นแรงไม่ต่างกับคำบอกรัก โดยเฉพาะเมื่อดาราชื่อดังจงใจมองมาทางสมฤดีอย่างสื่อความนัย เรียกแสงแฟลชกระหน่ำสาด

ตัวสมฤดีนั้นเขินอาย เมื่อถูกนิฌานมองด้วยสายตาหวานซึ้งขนาดนั้นไม่ว่าใครก็ทนไม่ไหว ยกเว้นผมไว้คนเถอะ...เพราะนั่งข้างๆ สมฤดี และไม่มีความตื่นเต้นตื่นตาใดๆ กับการแสดงตรงหน้า เลยเห็นได้อย่างชัดเจนว่านิฌานนั้นแม้เหมือนจะมองทางสมฤดีก็จริงแต่ความจริงแล้วนั้น...กำลังเกี้ยวผมอยู่ต่างหาก!

ผมถลึงตาใส่เขา สื่อว่าอย่ามาทำเล่นเอาตอนนี้ได้มั้ย!!

โทรจิตสื่อสารสำเร็จ นิฌานกลับมาตั้งใจกับการทำงานเช่นเดิม และเมื่อเพลงจบลง เขาก็โค้งตัวน้อยๆ ด้วยองศาสมบูรณ์แบบปานเจ้าชายในเทพนิยาย เรียกเสียงปรบมือและชื่นชมไม่คาดสาย

“สวัสดีครับ ผมนิฌาน ชาญชัย พรีเซนเตอร์บิวตี้เพอร์ฟูมควบคู่กับพิธีกรในงานนี้” นิฌานโบกมือทักทายผู้ชมด้วยรอยยิ้มขี้เล่นเป็นกันเอง “ผมชอบคอนเซปของบิวตี้เพอร์ฟูมมาก และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงตอบตกลงยอมร้องเพลงออกสื่อครั้งแรก แต่ไม่รู้ว่าทุกคนจะชอบกันรึเปล่า”

“ชอบค่า!”

นิฌานคลี่ยิ้มบาง ดูนุ่มนวลอ่อนโยนไม่ต่างกับสุภาพบุรุษในฝัน

“ถ้าชอบกันก็ดีแล้วครับ เพราะผมอยากให้ผู้หญิงทุกคนภูมิใจในตัวเอง เหมือนกับแขกรับเชิญพิเศษในวันนี้...”

เดิมที งานนี้จะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างความเห็นของผู้ชาย ( โดยมีนิฌานเป็นตัวแทนฝ่ายชาย ) และผู้หญิง ซึ่งจะจับฉลากเลือกจากผู้ร่วมงานที่ซื้อผลิตภัณฑ์ชิงโชคเข้ามา แต่เนื่องจากเกิดข่าวดังตัดหน้ากะทันหัน ผมซึ่งเป็นผู้จัดการจึงปรึกษาขอปรับเปลี่ยนแผนงานกับทางเจ้าของโดยตรง และได้รับไฟเขียวอย่างรวดเร็ว

“ขอเสียงปรบมือให้กับสมฤดี น้องสาวของผมด้วยครับ”

ความพลิกโผผิดคาดนี้ทำให้เหล่านักข่าวเก็บภาพใบหน้างุนงงของสมฤดีมือเป็นระวิง เธอหันมามองผมอย่างขอความช่วยเหลือ เพราะแม้จะไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่การปรากฏตัวครั้งนี้ของเธอคาดว่าอยู่ในแผนการของแม่นิฌานซึ่งอยากให้สถานการณ์ค่อนไปทางเข้าใจผิดมากขึ้น สมฤดีเตรียมคำพูดตอบนักข่าวแล้ว แต่ใครจะรู้ว่านิฌานจะชิงเดินหมากก่อน ไม่เปิดโอกาสให้นักข่าวถามสักคำ แถมยังเชิญเธอขึ้นไปบนเวทีอีกต่างหาก

มาถึงขั้นนี้แล้วจะถอยกลับก็ไม่ได้ สมฤดีฝืนยิ้ม เดินไปหานิฌานที่ไม่แม้แต่จะส่งไมค์ให้แสดงความเห็น

“ทุกคนคงรู้จักเธอกันแล้ว นี่คือสมฤดี หรือฤดีน้องสาวของผม แม้เธอจะเป็นญาติห่างๆ แต่ครอบครัวเราค่อนข้างสนิทสนมกันดี ทำให้ผมได้เจอกับเธอบ่อยๆ ตั้งแต่น้าสาวแต่งงานเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะวัยใกล้เคียงกัน ผมกับฤดีเลยเข้ากันได้ไว เมื่อก่อนเธอก็มักมาวิ่งเล่นที่บ้านผม เรียกว่าพี่ฌานไม่หยุดปาก”

คิดสร้างเรื่องแข่งกับดาราชื่อดังซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวจนเนื้อตัวสากด้านอย่างนิฌาน ต่อให้ทุกคำที่พูดมาเป็นเรื่องโกหกทั้งหมดก็ไม่มีใครติดใจสงสัยสักนิดเพราะพยายามจับใจความสำคัญว่าสมฤดีเกี่ยวข้องอะไรกับงานเปิดตัวครั้งนี้

“เมื่อก่อนฤดีไม่ได้หน้าตาแบบนี้เลยครับ” พลันนิฌานถอนหายใจอย่างเจ็บปวด ราวระลึกถึงวันวานแสนสุขที่เขาและเธอวิ่งเล่นด้วยกัน...วันวานที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงน่ะนะ “เธอเป็นคนน่ารัก ยิ้มเก่ง ร่าเริงสดใส มักทำให้ผมยิ้มตามเสมอ”

พลันหน้าจอด้านหลังซึ่งใช้สำหรับฉายโฆษณาปรากฏภาพถ่ายสมัยเด็กของสมฤดี ที่แม้จะไม่นับว่าสวย แต่รอยยิ้มฉีกกว้างนั้นตราตรึงใจไม่น้อย ซึ่งเมื่อมองเทียบกับในตอนนี้...แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมแม้เพียงเสี้ยวเดียว!

สมฤดีพยายามเดินลงจากเวที เธอเกือบจะกรีดร้องตกใจออกมาด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดาย...เพราะนิฌานคว้าข้อมืออย่างรู้ทัน แถมยังเผยยิ้มเห็นใจ เอ่ยต่ออย่างลื่นไหลไม่เหมือนคนท่องสคริปท์สักนิด

“เมื่อโตขึ้น เธอก็เริ่มใฝ่ฝันอยากเข้าวงการตามรอยผม แม้ผมจะให้คำปรึกษาอยู่เสมอ แต่เธอกลับไม่มั่นใจตัวเอง เมื่อโดนปฏิเสธหลายครั้งเข้าก็เริ่มคิดว่าเป็นเพราะเธอสวยไม่พอ หน้าตาดีไม่พอ และเริ่มหันมาสนใจด้านศัลยกรรม” ภาพบนจอเปลี่ยนเป็นรูปของสมฤดีที่มีผ้าพันแผลตามใบหน้าในแต่ละปี “ผมไม่เคยคัดค้านเรื่องการศัลยกรรมนะครับ หากทำแล้วมีความมั่นใจยิ่งขึ้น ผมก็ยินดีกับเธอด้วย แต่ฤดีกลับเห็นว่าเธอสามารถดีกว่านี้ได้อีก สามารถสวยกว่านี้ได้อีก จนกลายเป็นเสพติดการศัลยกรรม ผ่าตัดครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมเจ็บตัวเพื่อให้ดีขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ยอมลองออดิชั่นจนกว่าจะสวยพอในความคิดของตัวเอง”

นิฌานเว้นช่วงเล็กน้อย ดวงตาทอดมองอย่างห่วงใยลึกซึ้ง

“ผมเห็นใจน้องสาวนะครับ จึงวางแผนนี้ขึ้น”

ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับสมฤดีที่หน้าซีดจนไม่เหลือสีเลือด

“ฤดี...” นิฌานมองหญิงสาวด้วยสายตารักใคร่อบอุ่นดังคนในครอบครัวที่ปรารถนาให้น้องสาวมีความสุข “พี่อยากจะบอกเธอมาตลอด ว่าเธอสวย น่ารัก ในสายตาของพี่ชายคนนี้เสมอ สิ่งที่ขาดไปไม่ใช่ความงามอย่างที่เธอเข้าใจ แต่คือความมั่นใจในตัวเองต่างหาก เลิกบินไปเกาหลีแล้วหันมาสานฝันต่อเถอะนะ พี่ชายคนนี้จะเอาใจช่วย จะสนับสนุนเธอเอง ฤดี”

ทุกคำที่นิฌานพูด แม้จะตรงตามสคริปท์ซึ่งผมเป็นคนเขียนไม่ผิดเพี้ยน แต่สายตา น้ำเสียง สีหน้า ทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เสริมให้ละครฉากนี้สมบูรณ์แบบ ภาพในอดีตของสมฤดีบนหน้าจอหายไปแล้ว แทนที่ด้วยสโลแกนของน้ำหอม

‘สวยในแบบที่เป็นคุณ กับคนที่คุณรัก บิวตี้เพอร์ฟูม’

สมฤดีอ้าปากพะงาบๆ มองนิฌานน้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื่นตะลึง ปฏิกิริยาของเธอคือสิ่งเดียวที่ยืนยันว่าทั้งหมดคือแผนเซอร์ไพรส์ไม่ใช่การโปรโมตงานขาย สร้างความซาบซึ้งตรึงใจแก่ผู้ชมที่คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอฉากแสนอบอุ่นของสองพี่น้องจนปรบมือกันเกรียวกราว

บรรยากาศที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ทุกคนมองอย่างชื่นชม สมฤดีได้แต่กลั้นยิ้มหน้าบิดเบี้ยว หากกล้าทำตามแผนแม่ของนิฌานอีกก็เท่ากับว่าโง่เง่าเต็มทีแล้ว ใครจะเชื่อเธออีก? ในเมื่อนิฌานประกาศชัดถึงสถานะ พลิกตลบข่าวฉาวที่ออกทะเลไปไกลถึงดาวอังคารได้อย่างสวยงาม!

เมื่อจบงาน สมฤดีรีบขอตัวกลับก่อนด้วยความรู้สึกสับสนปนเปวางตัวไม่ถูก โดนแฉภาพสมัยก่อนว่าแย่แล้ว โดนปั้นเรื่องกลางงานยิ่งแย่กว่า เธอทั้งเสียหน้าและอับอาย ทำให้เหลือเพียงนิฌานคนเดียวที่ยืนยิ้มสุภาพให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทุกคำถามอย่างไม่ปิดบัง

“อธิบายเรื่องวันนั้นที่มีคนแอบถ่ายได้มั้ยคะ เรื่องเป็นไงมายังไง เป็นการสร้างกระแสรึเปล่า”

“ความจริงไม่มีอะไรเลยครับ ผมเรียกเธอมาเพราะอยากชวนให้มางานเซอร์ไพรส์ครั้งนี้ก็เท่านั้นเอง แม่ผมก็เห็นด้วย แต่ที่คาดไม่ถึงคือข่าวไปไวเกินไป ผมก็อยากจะบอกทุกคนหรอกนะครับ แต่กลัวว่าแผนที่วางไว้จะพัง เลยต้องเชิญทุกคนมาดูด้วยตาตัวเองในวันนี้”

แก้ตัวได้อย่างหมดจด แถมยังไม่ลืมยกความดีความชอบให้แม่บังเกิดเกล้าไม่ทิ้งลายดาราลูกกตัญญู

“เป็นครอบครัวที่น่ารักจังนะคะ”

“ต้องยกเครดิตให้แม่ของผมเลยครับ”

นักข่าวยังคงถามต่อ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจฟังแล้วเพราะเชื่อว่านิฌานรับมือได้

เอาล่ะ ถึงตอนนี้หลายคนคงสงสัย ว่าเรื่องราวเป็นยังไงมายังไงกันแน่

คงไม่ลืมกลยุทธ์รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งที่นิฌานสืบจนรู้ว่าผมแอบไปเรียนขับรถใช่มั้ยครับ ไม่ใช่แค่นิฌานหรอกนะที่ใช้กลยุทธ์นั้น เพราะตั้งแต่รู้ว่าชื่อของแอนตี้แฟนคือสมฤดี คือลูกพี่ลูกน้องของนิฌาน และเป็นหนึ่งในตัวหมากของแม่เขา ผมก็เริ่มค้นว่าเธอมีจุดอ่อนอะไรให้แม่ของนิฌานกุมไว้ เพราะคงไม่มีคนปกติที่ไหนจะโทรป่วนลูกพี่ลูกน้องตัวเองทุกสามเวลาโดยไร้เหตุผล

ครับ จุดเริ่มต้นของผมก็แค่อยากหาทางระงับโทรศัพท์สายนี้ก็เท่านั้น แม้นิฌานจะเมินเฉย แต่พักหลังมานี้คนรับคือผม มันน่าปวดหัวกว่าที่คิดนะบอกเลย

ต้องขอบคุณโลกโซเชียลที่กว้างไกล หลังจากตามดูเฟซบุ้คเธอย้อนไปหลายปี ผมก็รู้ว่า...เธอเป็นโรคเสพติดการศัลยกรรม

ไม่เพียงใบหน้า แต่ยังทั้งตัว สมฤดีพึ่งพาเรื่องเงินกับแม่นิฌานบ่อยๆ เพราะตัวแม่ของนิฌานเองก็เสริมความงามด้วยมีดหมอไม่น้อยถึงได้ไม่หย่อนคล้อยตามวัย ทั้งหมดนี้ผมเดาจากภาพถ่ายคู่กันตอนไปเกาหลีล้วนๆ และเมื่อถามนิฌานเพิ่มเติมเขาก็ยืนยันว่าผมคิดถูก

สมฤดีอยากเข้าวงการ นั่นคือเรื่องจริง หญิงสาวทุกคนย่อมใฝ่ฝันจะได้ยืนเด่นท่ามกลางสปอร์ตไลต์ แม่นิฌานใช้เรื่องนี้เป็นแรงผลักดัน พ่วงด้วยเรื่องบุญคุณด้านการเงินที่มักถูกพึ่งพาเสมอ สมฤดีที่เดิมทีไม่ได้มีใจคิดชั่วจึงยอมทำตามคำของแม่นิฌานแต่โดยดี เป็นตัวหมากที่ถูกจูงไปมาอย่างน่าสงสาร

ฉะนั้นตั้งแต่เห็นสมฤดีปรากฏตัวที่เอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ทั้งผมกับนิฌานก็รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น

การแต่งตัวที่เปิดเผยเกินงาม ไม่ต่างกับการป่าวประกาศว่ามองฉันสิ ฉันจะสร้างเรื่องให้เอง จากนั้นก็ทำเรื่องโวยวายขอพบนิฌานที่เคาน์เตอร์บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นแผนเรียกร้องให้ปาปารัชชี่สนใจ สร้างข่าวประโคมให้นิฌานเสียหาย ส่วนสมฤดีเด่นดัง เป็นที่รู้จักในข้ามคืน

เมื่อฝ่ายนั้นเดินหมากท้าดวลขณะที่ผมมีข้อมูลในกำมือพอดีก็พร้อมรับคำท้า

จริงอยู่ว่าสมฤดีนั้นน่าสงสาร แต่เทียบกับความตั้งใจของนิฌาน ผมย่อมไม่อยากให้คนมีความสามารถต้องมาซวยเพราะความมักง่ายหวังใช้ทางลัดเข้าวงการของใครบางคน แผนการถูกวางอย่างไม่ยากเย็น ผมออกไอเดียเขียนสคริปท์ นิฌานช่วยเสริมเพิ่มเติมรายละเอียด เราสองคนระดมสมองกันค่อยๆ ปะติดปะต่อเหมือนต่อจิกซอว์ จนสุดท้ายออกมาเป็นแผนการที่สมบูรณ์ อย่างรูปถ่ายนั่นเขาก็เป็นไปคนไปหามา คำพูดหลายอย่างก็เติมแต่งลงไปให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

แม่ของนิฌานเป็นคนฉลาด แต่พลาดไปอย่างหนึ่งคือผมกับนิฌานร่วมมือกัน

สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้ว สมฤดีเป็นเพียงตัวหมาก แต่พวกเราต่างเป็นตัวขุน โดนเผด็จศึกอย่างนี้ย่อมแก้เกมไม่ทัน

เรื่องทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้

ผมมองภาพนิฌานยืนโดดเด่นท่ามกลางนักข่าวด้วยกระแสที่ดีกว่าเดิมหลายเท่าแล้วอดคิดถึงประโยคยอดฮิตในซีรีส์ที่ชื่นชอบไม่ได้

เช็กเมท( รุกฆาต )

 

------------             

จบอย่างสวยงามมั้ยคะกับสมฤดีคนนี้

จากชื่อหลายคนก็น่าจะเดาออกว่ามาเป็นตัวประกอบกิตติมาศักดิ์ และใช่แล้วค่ะ บทบาทสำคัญของเธอได้จบลงตรงนี้แล้ว ร่วมกันปรบมือให้สมฤดี ตัวประกอบ ‘สม’ ที่ไม่ได้ออกมานานด้วยนะคะ แปะๆๆๆ

ส่วนคู่หลักของเรื่อง โอ๊ย ยิ่งแต่งยิ่งหลงค่ะ หมายถึงน้องเจนะคะไม่ใช่นิฌาน 5555 คนอะไรถึงได้น่ารักน่าเอ็นดู น่ารักน่าหลงขนาดนี้  เอาตรงๆ ว่าอิจฉานิฌานมาก ได้น้องเจคนเดียวคือมาวิน ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว น้องจัดการให้หมด แถมยังรู้ทันกันอีก หมั่นไส้!!

ส่วนตอนต่อไป...แฟนๆ ซีรีส์เช็กเมทห้ามพลาดค่ะ น้องเจแอบมีเกริ่นมากับคำยอดฮิต รับรองว่ามีเซอร์ไพรส์แน่นอน! #justUnotUS
 

เพจนักเขียนที่อยากลักพาตัวน้องเจมานอนกกที่บ้าน  (https://web.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-05-2018 20:08:45
เห็นคำว่าเช็กเมทผสมกับบุคลิกน้องเจในตอนนี้แล้วแอบอยากให้น้องเจเล่นเรื่องนี้ด้วยจัง บุคลิกน้องนี่ออกฉลาดแกมโกงเหมาะจะเป็นนักแฮกเกอร์เลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 11-05-2018 20:39:02
 o13 มีความรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง /เยี่ยม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-05-2018 20:59:29
ทำไมเรารู้สึกเหมือนคุณเลขาจะมีทายาทอสูรเลยคะ อะไรต่างๆมันให้มากๆเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-05-2018 21:39:56
สองคนนี้เหมาะกันสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ashbyipcet ที่ 11-05-2018 21:43:12
ซาตานน้องเจ As Commander  :hao7: :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-05-2018 03:00:03
ชะนีน้อยสมฤดี บทบาทได้ยุติลงในตอนนี้แล้ว ทีนี่ก็เหลือชะนีตัว(คุณ)แม่แล้วล่ะ จะรับมือกันอย่างไงนะ อยากรู้ ๆ  o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 12-05-2018 07:23:09
น้องเจทั้งเก่งทั้งน่ารักขนาดนี้ นิฌานคงไปไหนไท่รอด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-05-2018 08:27:37
สุดยอดเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 12-05-2018 08:30:12
คู่นี้เข้าขากันได้ดีมากๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-05-2018 08:38:45
เจควรไปเล่นเช็กเมทจริงจัง 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-05-2018 11:08:02
โถ่วๆๆๆๆ น้องฤดีของพี่ฌาน~~~~
ทั้งโดนแฉ โดนแก้เกมส์ อับอายขนาดนี้นู๋ได้อะไรบ้างลูก 55555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-05-2018 21:46:25
น้องเจฉลาดมาก ต้องเล่นซีรี่ย์เช็คเมทแล้วล่ะลูก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-05-2018 22:23:43
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-05-2018 01:16:31
 :katai2-1: o13 :katai2-1:



 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-05-2018 11:13:31
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-05-2018 15:24:50
พลิกโผ ได้ปั๊วะมากจ้า o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Axis._. ที่ 14-05-2018 13:57:58
เช็กเมทอย่างสวยงาม น้องเจนี่ก็ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเพิ่มขึ้นทุกวัน ชักไม่อยากยกให้นิฌานเเล้วสิ  :katai1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 14-05-2018 16:03:17
ตบมือให้น้องเจคนเก่งคร่าาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 14-05-2018 20:44:13
น้องมีความน่ารัก ฉลาดมากกกกๆ
ทันคนอีกต่างหาก เริ่มสงสารณิฌานแล้วสิ
ต่อไปคงไหลไปไม่ได้ละ
เจอน้องเจจัดการอยู่หมัดเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 12 รุกฆาต [11/05/61] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 15-05-2018 20:02:35
น้องเจเก่งมากๆ เลยจ้า
ชอบความเช็กเมท
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-06-2018 19:07:51

ตอนที่ 13 : เช็กเมทซีซันสาม


ด้วยสถานการณ์ที่พลิกผัน ทำให้นิฌานกลับมาโด่งดังด้วยกระแสชื่นชมอย่างล้นหลาม เดิมทีก็ถูกยกย่องเป็นสุภาพบุรุษ เป็นลูกกตัญญู เป็นผู้ชายแสนอบอุ่นอยู่แล้ว ตอนนี้พ่วงพี่ชายแสนดีเพิ่มไปอีก แถมยังสร้างความเชื่อ ‘จงภูมิใจในความสวยแบบที่เป็นคุณ’ ตามคอนเซปของบิวตี้เพอร์ฟูมจนมีงานอีเวนต์เข้ามากกว่าเดิมจนวิ่งวุ่น หนักหน่อยคือไปโชว์ตัวที่ต่างจังหวัด เสียเวลาทั้งวันเพราะต้องขึ้นเครื่องบิน

โชคดี...เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันผมก็ได้ใบขับขี่มาครอบครอง

นิฌานซึ่งอยู่ในช่วงกอบช่วงโกย มีงานอะไรมาก็รับเกือบทั้งหมดจึงไม่ต้องเหนื่อยหนักมากนัก ทุกวันนี้ผมเลิกงานดึกกว่าเดิมเพราะต้องขับรถไปส่งเขาที่คอนโดก่อนแล้วค่อยนั่งรถเมล์กลับบ้าน แม้นิฌานจะบอกว่าไม่จำเป็น แค่ช่วยเขาขับรถระหว่างการทำงานก็พอแล้ว แต่ผมล่ะกลัวดาราชื่อดังจะหลับใน หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ต้องพาเขาไปส่งถึงที่ให้ได้ถึงวางใจ

พอยืนยันแบบนี้ทีไร...สายตาของคนเจ้าชู้ก็หวานเยิ้มแปลกๆ ช่างเถอะ เขาจะตกหลุมรักจมไปถึงไหนก็ไม่สน ผมทำเพราะเป็นหน้าที่ต่างหาก!

อย่างวันนี้ ตอนทะเลาะกับเขาเรื่องนี้รอบที่ห้า และยืนยันว่ากลับเองได้ปลอดภัยหายห่วง หรือถ้าห่วงนักก็หัดห่วงตัวเองที่ใต้ตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าไม่หายสักทีบ้างเถอะ นิฌานก็ทำหน้าปลื้มปริ่มเหมือนสาวน้อย มองผมอย่างลึกซึ้งพร้อมพูดว่า...

“ตกหลุมรักอีกแล้ว”

“ถึงไม่โดนพรากผู้เยาว์ แต่ผมฟ้องล่วงละเมิดทางเพศได้นะ พี่อยากขึ้นหน้าหนึ่งวันพรุ่งนี้รึเปล่า”

ก็นั่นแหละครับชีวิตประจำวันของพวกผม ทางด้านแม่ของนิฌานก็เงียบไปหลังโดนแก้เกม แม้จะแอบโทรมาสอบถามว่าผมมีส่วนรู้เห็นกับการจัดฉากหลอกสมฤดีมาติดกับด้วยรึเปล่าก็ตาม แล้วเรื่องอะไรจะยอมรับกันล่ะ ตั้งแต่รู้จักนิฌาน ผมก็กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ต้องโกหกเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง

แน่นอนว่าหลังจากนั้นโทรศัพท์จากแอนตี้แฟนหรือแอนแอนก็หายเงียบ

โดนแฉภาพในอดีตกลางงานขนาดนั้น หญิงสาวที่ให้ความสำคัญกับใบหน้าตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใดถึงขั้นเสพติดศัลยกรรมย่อมไม่มีกระจิตกระใจจะโทรป่วนใครแล้ว แต่ผมก็ไม่ถึงกับแล้งน้ำใจ แอบส่งข้อมูลการออดิชั่นไปให้ เผื่อว่าเธอจะตั้งตัวใหม่ ถือโอกาสเข้าวงการด้วยสถานะน้องสาวที่กลับตัวกลับใจสานฝันต่อตามคำของพี่ชายมากกว่าการโด่งดังอย่างฉาบฉวยด้วยข่าวคาวในเครือญาติ

หวังว่าเธอจะเลือกเส้นทางที่ถูกต้องไม่ใช้ทางลัดอีกแล้วกัน

อันที่จริงผมก็ยังสงสัยสายสัมพันธ์สองแม่ลูกคู่นี้ คันปากน่ะใช่แต่เพราะนิฌานเคยตอบเลี่ยงไปรอบหนึ่ง ผมเลยไม่คิดว่าการถามอีกครั้งจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นตรงไหน จึงเลือกปิดปากเงียบแล้วเตรียมแผนรับมือแทน

เพราะที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ...

เช็กเมทซีซันสามจะเริ่มฉายแล้ว!!

นับจากวันแรกที่ได้ข่าวเรื่องเปิดกอง มาจนตอนนี้ที่ใกล้จะได้ดูซีรีส์ในดวงใจ เท่ากับว่าผมเป็นผู้จัดการให้นิฌานครบหนึ่งเดือนพอดิบพอดี

“แม่ห้ามสปอยผมนะ”

“จ้าๆ ไปทำงานเถอะเจ”

บ้านทองคำดีติดซีรีส์เรื่องนี้หนึบหนับทุกคน ซีรีส์เรื่องโปรด...แต่อดดูสดเพราะติดงาน ช่างทรมานใจสำหรับแฟนพันธุ์แท้ทุกซีซันอย่างผมจริงๆ จริงอยู่ว่าสมัยนี้ดูย้อนหลังได้เร็ว แต่เช็กเมทเป็นซีรีส์แนวสืบสวนหักมุม หากโดนสปอยจะหมดสนุกทันที โดยเฉพาะกับคนที่ชอบคิดตามเนื้อเรื่องมักวิเคราะห์คนร้ายอย่างผมเนี่ย

โอ๊ย อยากดูชะมัดเลย!!


เช็กเมทฉายทุกวันเสาร์อาทิตย์ และน่าเสียดายที่วันหยุดนั้นตารางคิวของนิฌานแน่นเอี๊ยดแทบขยับตัวไม่ได้ ผมนั่งคำนวณในใจว่ากว่าจะครบสามเดือนเช็กเมทคงฉายเกือบจบแล้ว เพราะทุกซีซันจะมียี่สิบตอน...ฉายแค่สองเดือนกว่าก็จบ เท่ากับว่าผมจะชวดยาวๆ ไป

เจ็บปวด เจ็บปวดเหลือเกิน!

ใจภักดีต่อซีรีส์เรื่องโปรดทุบตีกับความโลภอย่างได้เงิน สุดท้ายเงินก็ชนะเลิศ ผมก้มหน้าเก็บความกล้ำกลืนทำงานกับนิฌานอย่างขยันขันแข็ง จนกระทั่งหนึ่งวันหลังตอนแรกฉาย...ก็ถูกเลขาคมสันเรียกตัวเข้าพบ กำชับนักหนาว่าต้องมาคนเดียวเท่านั้น

ส่อพิรุธเห็นๆ!

ถึงจะอายุสิบแปดแต่ไม่ได้ใสซื่อโดนหลอกง่ายๆ นะ ผมคิดสรตะเตรียมแผนรับมือไว้มากมาย เชื่อว่าคนอย่างคมสันเรียกพบเป็นส่วนตัวจะต้องมีผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลัง! และสิ่งนั้นต้องยากยอมรับจึงคิดเกลี้ยกล่อม!!

ผมทำตามรับปากโดยรอจังหวะนิฌานกำลังอัดรายการแอบเนียนเดินออกจากห้องสตูดิโอ ตรงไปยังที่นัดหมายซึ่งอยู่คนละชั้นกัน ก่อนจะเคาะประตูห้องประชุมแล้วเปิดเข้าไปด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ

คมสันนั่งรออยู่แล้วด้วยรัศมีเปี่ยมชัยชนะทั้งที่ยังไม่เริ่มเจรจา

เห็นอย่างนั้นก็ลอบกลืนน้ำลาย พลางทิ้งตัวนั่งอย่างใจเย็นพร้อมรับมือทุกสถานการณ์

“มีอะไรเหรอครับคุณเลขา” ผมเปิดบทสนทนาก่อน แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดี แต่ความเจ้าเล่ห์กลับกลอกของคมสันก็ชวนระแวงทุกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้...ห้ามให้นิฌานมาด้วย ต้องคุยสองต่อสองเท่านั้น น่าสงสัยเกินไปแล้ว!

“ผมมีเรื่องอยากขอร้องคุณเจเกี่ยวกับคุณนิฌานครับ”

ผมยิ้มกริ่ม นับว่าไม่เกินความคาดหมาย แต่เกริ่นด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจแบบนี้แสดงว่าคมสันเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าผมต้องรับปาก ไม่ได้การ ผมกำลังตกหลุมพรางจอมมารหรือเปล่าเนี่ย ต้องตั้งสติให้ดีกว่านี้ ต้องไตร่ตรองขอเสนอให้รอบคอบ ใช่...ต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่ารีบร้อนตัดสินใจเด็ดขาด!

“ผมอยากให้คุณนิฌานแสดงเป็นตัวร้ายในซีรีส์เช็กเมทซีซันสา...”

“ตกลง!!”

...หมดสิ้นแล้วความหนักแน่นที่สะสมมา!!

คมสันที่พูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็ได้รับคำตอบน่าพอใจถึงกับดันกรอบแว่นเล็กน้อยกลบเกลื่อนรอยยิ้มขัน ส่วนผมก้มหน้าแก้มแดงเปล่งปลั่ง ทั้งดีใจทั้งอับอาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดเปลี่ยนคำ โทษเถอะ มีข้อเสนอดีๆ ขนาดนี้มาประเคนตรงหน้า แฟนพันธุ์แท้ตัวจริงอย่างผมมีหรือจะอดใจไหว!

แม้อดใจไม่ไหว แต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้เป็นการเป็นงาน

“อะแฮ่ม”

ด้วยการกระแอมไอแก้เก้อ เลิกเผยสีหน้าระรื่นเพื่อความสุขุมเยือกเย็น

“ก่อนหน้านี้นิฌานเคยบอกผมแล้วว่าได้รับการติดต่อให้แสดงเป็นตัวร้ายในซีซันสาม แต่เขาปฏิเสธไป ทางกองเองก็แคสนักแสดงคนใหม่เสร็จก่อนเปิดกอง แล้วทำไมถึงได้...”

“เพราะนักแสดงคนนั้นประสบอุบัติเหตุน่ะครับ” คมสันว่าพลางยื่นหนังสือพิมพ์ให้อ่านเป็นหลักฐาน หน้าหนึ่งพาดหัวด้วยอุบัติเหตุขับรถหลับในของดาราชื่อดังของบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ผมจำได้ดี ก็เพราะข่าวนี้ไงถึงยิ่งยืนยันเสียงแข็งว่าจะขับรถไปส่งนิฌานถึงคอนโดให้ได้

คาดไม่ถึงว่าดาราคนนี้จะรับบทเป็นตัวร้ายในซีรีส์เช็กเมท เพราะทางบริษัทปิดข่าวเพื่อสร้างความน่าติดตามลุ้นระทึก เหมือนที่เคยปิดว่าจิระจะกลับมารับบทมิสเตอร์เอสอีกครั้งในซีซันสอง

“แม้อุบัติเหตุไม่ร้ายแรงมาก แต่ดาราคนนี้แขนหัก ต้องใช้เวลาฟื้นตัวหลายเดือน คุณเจคงรู้ดีว่าเช็กเมทเป็นซีรีส์แบบถ่ายไปฉายไป จึงต้องยกเลิกสัญญาอย่างน่าเสียดาย” คมสันอธิบายเสียงเรียบ “แม้จะมีตัวเลือกอันดับสองอยู่แล้ว แต่ตัวเลือกแรกของเราก่อนจะแคสนักแสดงคนนี้คือนิฌาน เสียก็แต่...เขาไม่รับเล่นละคร”

“คุณเลขาเลยอยากให้ผมเกลี้ยกล่อมใช่มั้ยครับ” ผมว่าอย่างรู้ทันในแผนการอันชั่วร้ายของจอมมาร นิฌานไม่รับเล่นละคร ต่อให้เลขาบริษัทเจาะจงชี้ตัวก็ปฏิเสธ แต่ถ้าผมเป็นคนออกปากล่ะ...

นี่มันแผนลวงด้วยเสน่ห์ชายงามชัดๆ!

“คุณเจตอบตกลงแล้วนะครับ” คมสันย้ำเสียงเย็นเยี่ยงวายร้าย “ฉะนั้นคุณคงต้องพยายามหน่อยแล้วล่ะ ทางกองถ่ายรอคำยืนยันจากผมอยู่ เพราะถ้านิฌานไม่รับ ตัวเลือกลำดับสองยังรอแสตนบาย...”

“ผมจะจัดการให้เร็วที่สุด!” ตอบไปกัดฝันไป เพราะดันตกกับดักจอมมารจนได้ หมากตานี้ลึกล้ำนัก ผมไม่สามารถเพิกเฉยได้เลย มีแต่ต้องรับปาก ยืดอกเผชิญหน้าเท่านั้น!

ก็นี่น่ะกองถ่ายในฝัน!

เช็กเมทจงเจริญ!!

 





กระผม นายเจตริน ทองคำดีกำลังถูกนิฌาน ชาญชัยต้อนจนมุม

“พี่ฌาน...พี่จะทำอะไรน่ะ”

เล่าย้อนความกันสักนิด หลังผมเจรจากับคุณเลขาเสร็จสิ้นด้วยใจอันฮึกเหิม มีแรงกระตุ้นจากแฟนพันธุ์แท้ซีรีส์เช็กเมทเป็นทุนเดิม จึงเดินเข้าสตูดิโอด้วยความมาดมั่น ก่อนจะชะงัก เพราะเจอกับนิฌานจ้องเขม็งอย่างจับผิด หน้าตามึนตึงแทบดูไม่ได้ ตอนนั้นอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนผู้ทำงานเบื้องหลัง ต่อให้อยากถามว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้แต่เฉไฉไปก่อน หลังรอเขาเปลี่ยนเสื้อเสร็จเรียบร้อยเลยมานั่งเป็นสารถี เป็นคนขับรถที่ดีคอยดูแลดาราในสังกัด

แต่นิฌานกลับกระชากกุญแจรถออกแล้วยกมือยันประตูรถข้างหนึ่ง กักผมระหว่างเบาะที่นั่งกับแขนของเขา เอิ่ม ทำตัวเป็นพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นไปได้

“เมื่อกี้น้องเจหายไปไหนมาครับ พี่โทรไปก็ไม่รับ ถามใครก็ไม่มีคนรู้”

“เลขาคมสันเรียกพบกะทันหันน่ะครับ” ผมตอบ เรียกเสียงถอนหายใจยาวจากนิฌาน

“หลงนึกว่าน้องเจโดนแม่พี่ลักพาตัวอีกครั้งซะแล้ว”

“...ขอโทษครับ” ผมว่าอย่างสำนึกผิด ถ้าไม่เพราะเคยเกิดเหตุการณ์โดนปืนจ่อมาก่อนนิฌานคงไม่ร้อนรนเป็นห่วงขนาดนี้ ไอ้เราเองซะอีกที่คิดน้อยไป ต่อให้คมสันกำชับว่าเป็นความลับแต่อย่างน้อยก็ควรจะบอกก่อนสักคำ เพราะระหว่างโดนเลขาจอมมารกินหัวกับนิฌานเป็นห่วงจนหน้าตึงขมวดคิ้วมุ่น ผมย่อมไม่อยากเห็นอย่างหลังในเมื่อเลขาคมสันเจอแค่ครั้งคราวแต่กับนิฌานเจอกันทุกวันทุกเวลา

“แล้วเลขาคมสันเรียกน้องเจไปทำไมเหรอครับ แถมยังเรียกตอนพี่ทำงานอยู่ซะด้วย...วางแผนให้น้องเจทำอะไรรึเปล่า” พอรู้ว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องครอบครัว นิฌานคนหน้าตึงก็กลายเป็นจอมเจ้าเล่ห์ที่เหยียดยิ้มจับผิด จ้องกันจนแทบพรุน

“พี่ฌานเอาแขนออกก่อนดีกว่ามั้ย” ผมขยับตัวอึดอัด

“ไม่เอา มุมนี้กำลังดี โอ๊ยๆๆ น้องเจครับ พี่ยังมีงานต่อนะ”

“ผมก็ไม่ได้หักแขนพี่ฌานสักหน่อย อย่าสำออยสิครับ” ถึงตาผมยิ้มกลับบ้าง รุกไล่เกินจริงเลยโดนจับบิดข้อมือไปตามระเบียบ ผมยักคิ้วยั่ว พร้อมกระดิกนิ้วขอกุญแจรถคืน

“บอกก่อนสิว่าเลขาคมสันเรียกไปคุยเรื่องอะไร” นิฌานอิดออด

“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ” ผมเอ่ยเสียงเรียบ เหลือบมองคนตรงหน้าอย่างลังเลว่าจะตะล่อมกล่อมยังไงดี  “คุณเลขามาปรึกษาเพราะคนรับบทตัวร้ายในซีซันสามประสบอุบัติ...”

“อ้อ”

“...เหตุ”

ไม่ทันจบประโยคนิฌานก็บรรลุแล้ว เขายอมส่งกุญแจคืนแต่โดยดีด้วยแววตาประกายระยับ เพราะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเป็นต่อ และผมต้องเป็นฝ่ายขอความเห็นใจจากเขา

“งั้นน้องเจก็มีเรื่องสำคัญจะบอกพี่ใช่มั้ยครับ”

หน้าตายียวนน่ากระทืบมาก! ผมได้แต่ทำใจเย็น เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้านกับสายตาวับวาวชวนหนาวๆ ร้อนๆ นั่น

“เพราะคนรับบทตัวร้ายมาถ่ายทำต่อไม่ได้ เลขาคมสันเลยอยากให้พี่ฌานแสดงแทน”

“แต่พี่ไม่ชอบแสดงละครนี่นา”

“ผมตอบตกลงไปแล้ว”

“อ้าว น้องเจทำแบบนี้ได้ยังไงครับ ต่อให้ผู้จัดการจะมีอำนาจเลือกงาน แต่ก็ต้องถามความเห็นกันสักคำสิ ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ”

“ผมก็ไม่ได้อยากน่ารักในสายตาพี่ฌานสักหน่อย” ผมงึมงำ ไม่กล้าหือมากเพราะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ “พี่ฌานไม่ชอบแสดงละคร แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รับเล่นละครนี่ครับ”

“แต่หลายปีที่ผ่านมาพี่ก็ไม่เคยรับเล่นละคร น้องเจก็รู้”

“รู้สิครับ ถึงได้ตอบตกลง”

ทำงานร่วมกันมาขนาดนี้แล้วมีเหรอผมจะไม่เคยถามเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกรับแต่หนัง คำตอบคือศาสตร์การแสดงละครกับภาพยนตร์นั้นต่างกัน ตอนเด็กนิฌานโด่งดังจากการแสดงภาพยนตร์ ได้รับรางวัลได้รับคำชมมากมาย พอแสดงละครกลับโดนด่ายับ ด้วยจิตใจแสนบอบบางในวัยเยาว์ทำให้ฝังใจไม่กล้ารับเล่นอีก

“นับจากตอนนั้นพี่ฌานก็สะสมประสบการณ์มาตั้งเยอะ ตอนนี้พี่ฌานน่ะเก่งจะตาย เล่นละครได้อยู่แล้วครับ”

เหอๆ ให้ออดอ้อนใส่เขาน่ะขอทีเถอะ ใช้ความจริงใจพุ่งชนดีกว่า!

แต่ดูเหมือนจะพุ่งชนแรงไป นิฌานถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่ไม่วายเล่นตัวตามประสาเจ้าพ่อปลาไหล

“พี่ไม่มั่นใจเลย”

ผมกลอกตา เห็นอยู่ชัดๆ ว่าตายิ้มเยิ้มขนาดนั้นยังจะทำเสียงหงอยอีก

เอาวะ ตามน้ำสักหน่อย ทั้งหมดเพื่อเช็กเมท*!*

“พี่ฌานไม่มั่นใจตัวเอง อย่างน้อยก็ควรมั่นใจในตัวผมที่เชื่อว่าพี่ทำได้นะครับ” ผมพยายามให้กำลังใจอย่างเต็มที่ กำหมัดสองมือระดับอกพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชวนฮึกเหิม

“น้องเจกำลังจีบพี่อยู่เหรอ”

“จีบให้เล่นละคร ?ใช่ครับ” อย่าหวังเลยว่าจะเนียนให้หลงกล! นายเจตรินยังสติดีอยู่นะ!

“เฮ้อ...” นิฌานคล้ายไม่พอใจ มองผมแล้วถอนหายใจหลายต่อหลายครั้งไม่ยอมรับปากสักที

“พี่ฌานไม่ต้องอ้อมค้อมถ่วงเวลาหรอกครับ คิดเห็นยังไงพูดมาตรงๆ เลยดีกว่า”

“พี่พูดได้นะ?”

“พูดมาเถอะครับ”

“พี่ไม่อยากเล่นละครจริงๆ นอกจากความฝังใจในวัยเด็กแล้วพี่ยังทำงานมาหลายสิบปี โด่งดังจากการแสดงภาพยนตร์ ถ้าต้องมาถูกตำหนิจากการแสดงละคร ถูกต่อว่าเพราะซีรีส์เรื่องนี้มันไม่คุ้มกันเลย”

คาดไม่ถึงว่านิฌานจะสารภาพออกมาโต้งๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คนขี้เล่นเมื่อกี้หายไปไหน เปลี่ยนหน้ากากไวไปแล้ว!

“แต่ก็ใช่ว่าพี่จะไม่อยากก้าวข้ามความกลัวนั้นหรอกนะ ยิ่งน้องเจเชื่อมั่นในตัวพี่ขนาดนี้ใจเลยตอบรับไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่อีกส่วน...”

นิฌานถอนหายใจอีกเฮือก

“แอบน้อยใจยังไงไม่รู้ที่น้องเจใช้ความรักของพี่ไปการันตีคำตอบกับเลขาคมสัน น้องเจเห็นหัวใจพี่เป็นของตายหรือครับ”

คนเจ้าชู้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มเหมือนไม่ถือสาแต่สายตาที่มองสบแฝงความน้อยอกน้อยใจ ผมกลืนน้ำลาย รู้สึกผิดท่วมท้นจนทำอะไรไม่ถูก

“ขอโทษครับพี่ฌาน” นอกจากขอโทษด้วยท่าทางที่อ่อนลง “ขอโทษนะพี่...”

ผมดึงแขนเสื้อนิฌานเบาๆ อย่างเสียใจ ท่าไม้ตายนี้ใช้กับพี่จิแล้วได้ผลตลอด พี่ชายมักใจอ่อนยวบ ยอมยกโทษให้แต่โดยดี

แต่นิฌานดันใจแข็ง

“เฮ้อ...ในเมื่อน้องเจตอบตกลงไปแล้วพี่คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับเล่น”

ยิ่งพูดยิ่งตอกย้ำ ผมเห็นซีรีส์เช็กเมทสำคัญกว่าความรู้สึกคนตรงหน้าได้ยังไงนะ ถ้าเล่าให้พ่อกับแม่ฟัง ต้องถูกตำหนิแน่ๆ ที่มัดมือชกคนอื่นด้วยความคึกคะนองของตัวเอง

“เอ่อ ถ้าพี่ไม่อยากเล่นจริงๆ ผมจะไปคุยกับคุณเลขา...”

“พี่รับเล่น”

“...เอง” ผมคิ้วกระตุก โดนแทรกท้ายประโยคอีกแล้ว แถมหน้าตาของนิฌานก็ไม่ยักจะสลดสักนิด

“พี่รับเล่นถ้าน้องเจขอร้องพี่”

“ได้คืบจะเอาศอกรึเปล่าครับพี่ฌาน” ผมกัดฟันถามอย่างเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟัน เห็นยอมอ่อนเข้าหน่อยล่ะกล้าเชียวนะ

“ไหนพูดซิว่า ‘พี่ฌาน น้องเจขอร้อง พี่ฌานรับเล่นเพื่อน้องเจนะครับ’”

ใครจะกล้าพูดคำน่าอายนั่น!

“ว่ายังไงครับน้องเจ” นิฌานยิ้มระรื่น  รู้ว่าเด็กดีอย่างผมยังสำนึกผิด เลยกล้าเอาเปรียบเพราะผมดันไปเอาเปรียบเขาก่อน เลยไม่มีหนทางโต้แย้งนอกจากก้มหน้ารับกรรมที่ก่อไว้

“พี่ฌาน...” เอ่ยได้แค่สองคำก็ชะงัก มองหน้าเขาว่าเอาจริงเหรอ และใช่ นิฌานส่งโทรจิตบอกว่าเอาจริง ถ้าไม่พูดก็อย่าหวังเลยว่าจะจบเรื่องง่ายๆ “น้องเจ...ขอร้อง”

เสียงผมสั่นไปหมด มือกำแน่นอย่างรับตัวเองไม่ได้ สยิวจนขนลุกขนพอง!

“ขอร้องว่าอะไรครับ”

“ขอร้องให้พี่ฌานรับเล่นเพื่อน้องเจ...นะครับ” พูดจบผมก็หลับตาปี๋ อยากแทรกแผ่นดินหนีชะมัด ถ้าเขากล้าแซวรับรองมีออกหมัดแน่ๆ ปรากฏว่านิฌานไม่ฉวยโอกาสซ้ำเติม แต่ขยี้ศีรษะผมคล้ายมันเขี้ยว พร้อมตอบรับหนักแน่นด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

“ตกลงครับ”

เงยมองรอยยิ้มไม่ถือสาพร้อมจะตามอกตามใจจนถึงที่สุดนั่นแล้ว...ความอับอายก็คล้ายจะกลายเป็นความเขินอาย

“พี่ฌานตกลงจริงเหรอ ถ้าปฏิเสธผมก็ไม่โกรธหรอกนะ” ผมลูบแก้มตัวเอง เริ่มรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับเขา

“เอ้า ไหงน้องเจกลับคำเองซะงั้นล่ะ” นิฌานยิ่งยิ้มกว้าง “พี่รู้ว่าน้องเจชอบเช็กเมทขนาดไหน เห็นน้องเจดีใจพี่ก็มีความสุข”

“ก็พี่เป็นซะแบบนี้จะไม่ให้ผมเผลอคิดว่าหัวใจพี่เป็นของตายได้ยังไง” ผมอดประชดกึ่งเตือนไม่ได้ เขากำลังจะทำให้ผมเป็นเด็กนิสัยเสีย!

ผลคือนิฌานหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจไปกันใหญ่ เหมือนคำพูดนั้นช่างตรงใจมากกว่าแทงใจดำ

นะ...นี่มันเกินเยียวยาแล้ว!

---------------

อาการของนิฌานก็หนักไปตามคำพูดน่ารักๆ ของน้องเจ ฮือ ตอนนี้น้องมีแอบเขินด้วย! อิจฉานัก!! ทางนี้ก็พร้อมจะเอาอกเอาใจ ตามใจน้องเหมือนกันนะ!

ปล. มีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ แฮซแทคเรื่องนี้คือ #JustUnotUS แต่ไปส่องมาแล้วแอบแห้งๆ เหี่ยวๆ น่าจะเพราะพิมพ์ยากรึเปล่านะ?? เราคิดออกอีกสองแทคคือ #น้องเจที่ไม่น่ารัก #น้องเจของพี่ฌาน แต่น้องเจที่ไม่น่ารักอาจจะดูแปลกๆ หน่อยสำหรับคนผ่านมาเห็น จะบอกน้องเจของพี่ฌานก็ทำใจไม่ได้!!!! ถ้าชอบอันไหนหรือมีความเห็นใหม่ๆ ก็เสนอมาได้เลยนะคะ!!

*เปิดรับความเห็นสำหรับแฮชแทคเรื่องนี้*

หรือจะหักมุม #น้องเจของเหล่าแม่ยก เลยดี...แคกๆๆๆ

เพจนักเขียนที่ระทวยกับคำขอร้องของน้องเจ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-06-2018 19:52:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-06-2018 20:31:50
55555 นิฌานเจ้าเล่ โคตรๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-06-2018 20:34:51
ชอบ #น้องเจที่น่ารัก มากกว่านะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-06-2018 21:35:20
ถ้าเกี่ยวกับซีรี่ย์เช็คเมดให้น้องเจทำอะไรก็ยอม o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-06-2018 21:49:09
พี่ฌานมีความหลงน้องสูงมากกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-06-2018 22:24:01
ต่อไปน้องเจจะสู้นิฌานได้ไหมรู้สึกเหมือนยิ่งนานยิ่งแพ้ทาง5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-06-2018 22:59:26
 “พี่รู้ว่าน้องเจชอบเช็กเมทขนาดไหน เห็นน้องเจดีใจพี่ก็มีความสุข”


โอยยยยยยยย ยอมน้องอะไรขนาดนี้
 :-[ :-[

ปล.ขอโหวต #น้องเจของพี่ฌาน ค่ะ เค้าชอบความมุ้งมิ้ง :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: fullfeel ที่ 01-06-2018 23:20:13
เรื่องน่ารัก มาส่งกำลังใจ :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-06-2018 23:56:01
นิฌานนี่็แจกอ้อยตลอดดด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-06-2018 03:00:02
ตอนนี้รู้สึกว่า นิฌานเอ็นดูน้องเจมากๆเลยนะคะ เหมือนผู้ใหญ่เห็นเด็กน่ารักๆแล้วก็อดตามใจไม่ได้ ประมาณนี้
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-06-2018 03:15:17
เจตกหลุมพลางของนิฌาณจนได้  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 02-06-2018 09:43:40
เค้าเริ่มน่ารักใส่กันแล้ว  :o8: อยากติดแท็ค #น้องเจของเจ้ ฮ่าๆๆ ช่วยคิดแท็ค #เจตรินอินเลิฟ #เจรฌาน(มาจากเจและฌานยังกะแท็คงานแต่ง) #น้องเจคนขยัน #พี่ฌานคนเนียน #น้องเจแมวส้ม #ตามหากิจภัทร #กิจภัทรคือใคร(อันนี้แซวเล่นกลัวจอมมารมาตบหัวจัง) ขอบคุณมากค่ะ รอพี่น้องเข้ากองเชคเมต มีเด็กตื่นเต้นแน่นอน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-06-2018 10:40:49
น้องเจน่ารักมากเลยยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 02-06-2018 13:22:18
#ฌานหลงเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-06-2018 21:04:03
พี่ฌานมีความหลงน้อง ขออะไรก้อยอม 5555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 02-06-2018 23:09:50
#ฌานหลงเจ


เราเห็นด้วยกับอันนี้ค่ะ #ฌานหลงเจ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-06-2018 00:10:58
โอ๊ะ........น้องเจ  เริ่มใจอ่อนนิดๆและ   :impress2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 03-06-2018 09:46:53
น้องเจน่ารัก พี่ฌานอบอุ่น ฮื่ออออ  :m1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Blackbone ที่ 03-06-2018 11:12:49
น้องเจคนน่ารัก :-[  ทำไมน่ารักอย่างงี้ อ๊ายยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 03-06-2018 13:41:05
อยากจะแหมให้กับความสตรอว์ของอิพี่ชาญจริงๆ น้องเจอย่างเพิ่งหลงกลนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 13 - [Up : 02/06/61] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 03-06-2018 16:44:01
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 - P.12
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 03-06-2018 19:34:59
ตอนที่ 14 : บุกกองถ่าย


กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน วันนี้กระผมนายเจตริน ทองคำดี จะพาทัวร์กองถ่ายของซีรีส์เช็กเมทครับ!

แต่ก่อนจะไปเจอกับเหล่านักแสดง ผมต้องขอเล่าคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจตรงกัน อะแฮ่ม เช็กเมทเป็นซีรีส์แนวสืบสวนหักมุม ภาคแรกจะเน้นปูตัวละครผ่านการสืบสวนจบในตอน  โดยทุกตอนพระเอกจะพูดคำว่า ‘เช็กเมท’ หรือ ‘รุกฆาต’ เมื่อจับคนร้ายสำเร็จ

และคนแสดงเป็นพระเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่น! อัครเดช พระเอกชื่อดังขึ้นแท่นดารานักบู๊ประจำช่อง รูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์ม ซิกแพคเห็นชัด ผิวคล้ำนิดๆ เซ็กซี่กระชากใจ เพราะพระเอกซีรีส์นี้สืบคดีไม่พอยังถูกองค์กรไล่ล่า ต้องวิ่งหนียิงปืนกระโดดข้ามตึกบุกน้ำลุยไฟก็ไม่หวั่น และมักจะมีหญิงสาวพัวพันด้วยคอนเซปเดียวกับเจมส์ บอนด์ นั่นคือ...ไม่มีนางเอกตายตัว สลับสับเปลี่ยนตัวเอกหญิงไปเรื่อยๆ ตามบทบาทความนิยม หรือบางคนผ่านมาแล้วตายเลยในตอนเดียวก็ยังมี...

“อัค!! มาทางนี้เร็ว มาสวัสดีนิฌานหน่อย”

อัครเดชซึ่งแต่งหน้าแต่งตัวพร้อมถ่ายถูกผู้กำกับเรียกให้มาเคารพนักแสดงอาวุโสอย่างนิฌานที่เยือนกองกะทันหันเนื่องด้วยตารางงานมีจำกัด ผมตื่นเต้นดีใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ถลานำหน้านิฌานส่งนามบัตรให้พระเอกผิวคล้ำกับมือ

“สวัสดีครับ ผมคือผู้จัดการของนิฌาน ชาญชัย ถ้าเขามีปัญหาอะไรสามารถติดต่อผมได้ตลอดนะครับ!”

“น้องเจ...” นิฌานกุมขมับ ส่วนอัครเดชยิ้มอย่างเป็นมิตร สมแล้วที่ไม่เคยมีข่าวฉาวเลย ผมหมายถึง...ทั้งต่อหน้าและลับหลังนะครับ ให้เทียบกับดาราในสังกัดผมแล้วอัครเดชน่ะคะแนนความดีนำโด่ง!

“สวัสดีครับพี่ฌาน” อัครเดชรับนามบัตรเป็นมารยาท ไม่ถือสาท่าทางกระตือรือร้นจนเกินเหตุของผม ก่อนจะหันไปยกมือไหว้นิฌานที่แอบคิ้วกระตุกเบาๆ เพราะตั้งแต่เข้ากองมาผมก็ไม่สนใจดาราพ่อปลาไหลกระทั่งหางตายังไม่แล “หืม...เจตริน ทองคำดี เป็นน้องชายจิตรินหรือเรา”

“ใช่ครับ จิตรินคือพี่ชายของผมเอง!”

วันนี้ต้องกลับไปโม้กับพี่จิคนดีแล้ว! เพราะพี่ชายผมเคยเป็นสตั้นท์แมนให้กับอัครเดชมาก่อน แม้จะเป็นไม่นาน...แต่คนคนนี้กลับจำนามสกุลได้ สมแล้วที่เป็นอัครเดช สมแล้วที่เป็นพระเอกอันดับหนึ่งของช่อง!

“น้องชายจิตริน? ไหนๆ ขอดูหน้าบ้างสิ” พลันนักแสดงคนหนึ่งเดินแทรกกลางมากอดอกพิจารณา นะ...นี่มันธนัทนี่นา!!

ผมมือสั่นปากสั่น แก๊งของพระเอกเช็กเมทมีทั้งหมดสามคน และธนัทก็คือหนึ่งในนั้น!! เขารับบทเป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญที่มีความสามารถพิเศษในการสะเดาะกลอน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ แต่ผมไม่เห็นรู้เลยว่าเขารู้จักกับพี่จิด้วย!?

“ไม่ยักเหมือนพี่ชายแฮะ” ธนัทเลิกคิ้ว แม้จะรับบทเป็นชายหนุ่มอารมณ์ดี แต่ตัวจริงค่อนข้างโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมาแสดงออกอย่างชัดเจน “ดีแล้วๆ ไม่เหมือนพี่ชายก็ดีแล้ว”

“คะ...คุณรู้จักพี่จิด้วยเหรอครับ” ความสงสัยจุกอกเกินจะเก็บกลั้น

“ไม่รู้จักได้ยังไง ก็รายนั้นน่ะเป็นแฟนกับ...” ธนัทหัวเราะหึหึในลำคอ ช่องว่างนั้นเป็นอันรู้กัน เพราะจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่เจ้าของบริษัทแต่ในนามอย่างเสี่ย ถ้าจำไม่ผิด...ธนัทก็เคยเป็นหนึ่งในคู่ควงของท่านประธานก่อนที่พี่ชายผมจะปฏิบัติการฝอยตกเสี่ย

“สวัสดีครับพี่นิฌาน ผมชื่อพาย ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

แล้วคนสุดท้ายของแก๊งพระเอกก็ถูกผู้กำกับตามมาสวัสดีนักแสดงอาวุโสจนครบก๊วน พายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งมีบทบาทสำคัญในซีซันหลังๆ แทนในส่วนของมิสเตอร์เอส ถึงตรงนี้คงสงสัยกันใช่มั้ยครับว่าแล้วมิสเตอร์เอสไปไหน คนโปรดของผมอยู่ไหน!

คืออย่างนี้ครับท่านผู้ชม แก๊งพระเอกมีสามคน ประกอบด้วยอัครเดชสายบู๊ ธนัทสายคารมรวมข่าวสาร และมิสเตอร์เอสสายเฝ้าบ้านเพราะเป็นแฮกเกอร์มือฉมัง คนรับบทนี้คือจิระ แต่เพราะซีซันสอง...เพราะซีซันสอง!!

อะแฮ่ม ขอเวลาให้ผมได้เล่าสักนิด ซีซันสองของเช็กเมทมิสเตอร์เอสถูกองค์กรซึ่งเป็นศัตรูของพระเอกจับมาล้างสมองจนกลายเป็นตัวร้าย กว่าจะจำความได้ก็ปาไปตอนท้ายเรื่อง นึกแล้วผมก็บีบหัวใจ เพราะมิสเตอร์เอสถูกองค์กรชั่วร้ายฝังเครื่องมือที่จะทำให้หัวใจหยุดเต้น เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจงรักภักดีกับองค์กรต่อไป แต่ถึงอย่างนั้น...ก็แอบเจาะระบบ สมแล้วที่เป็นแฮกเกอร์มือฉกาจ! ผมภูมิใจในตัวมิสเตอร์เอสมาก ภูมิใจแม้กระทั่งในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต...มิสเตอร์เอสก็ยอมสละชีพเพื่อให้พระเอกถล่มองค์กรใต้ดินสำเร็จ!!

ก็ไม่แปลกที่ซีซันสามจะได้ผลตอบรับสูงตั้งแต่ตอนแรก เพราะเนื้อเรื่องเริ่มพลิกกลับ พระเอกเป็นฝ่ายไล่ล่าองค์กรร้ายที่หลบหนีจากซีซันสองเพราะโดนมิสเตอร์เอสหักหลัง แถมพระเอกแสนดียังถูกความแค้นครอบงำตั้งใจแก้แค้นให้เพื่อนรักจนกลายเป็นปรากฏการณ์อัครเดชภาคดิบเถื่อนฟีเวอร์

และคนที่มารับบทหัวหน้าองค์กรผู้ชั่วร้าย ที่จนป่านนี้ก็ยังไม่เผยตัวก็คือ...

“ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะครับน้องเจ”

เพราะพี่ฌานเป็นคนฆ่ามิสเตอร์เอส! พี่ฌานฆ่ามิสเตอร์เอสของผมได้ยังไง!!

“พวกเราดีใจมากเลยครับที่ได้ร่วมงานกับพี่” อัครเดชเอ่ยแทรกบรรยากาศกระอักกระอ่วนจากสายตาอันร้อนแรงของผม “หากติดขัดตรงไหนอย่าเกรงใจพวกเราสอบถามได้ตลอดเลยนะครับ ผมคิดว่าพี่อาจจะไม่ค่อยคุ้นกับการถ่ายทำของเช็กเมท เพราะเน้นถ่ายไปฉายไป แถมคนเขียนบทก็มีการแก้กันสดๆ หน้าฉาก ขนาดนักแสดงนำยังไม่รู้ตอนจบของเรื่องเลย บางทีก็โดนหลอก โดนเปลี่ยนทุกเมื่อเลยครับ”

อัครเดชช่างเป็นคนดี!

“อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณที่เตือนนะ พี่เรียกเราว่าอะไรดี? อัค?” นิฌานผู้ผ่านแต่กองภาพยนตร์คลี่ยิ้มสบายมากแม้ในใจจะลอบเหงื่อตกเบาๆ ผมรู้หรอกน่าว่าความฝังใจในวัยเด็กทำให้อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลายนั้นกลายเป็นขวากหนามอันยิ่งใหญ่ที่เขาต้องก้าวข้ามไปให้ได้

“เรียกผมว่าอัคได้ครับเลยพี่ ส่วนนี่นัท แล้วก็พาย”

“สวัสดีครับพี่ฌาน / สวัสดีครับพี่นิฌาน”

“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก พี่ต่างหากที่ต้องเกร็ง เปลี่ยนจากจอเงินเป็นจอแก้วครั้งแรกก็เจอของแข็งเลย หากทำอะไรผิดพลาดก็ไม่ต้องเกรงใจนะ บอกกล่าวกันได้เต็มที่!” นิฌานตบไหล่ธนัทกับพายแปะๆ อย่างถึงเนื้อถึงตัวตามประสาปลาไหลที่สามารถตีเนียนสนิทสนมกับทุกคนได้อย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที

ผมรู้สึกเหมือนตัวลอยๆ ชอบกล นักแสดงนำสามคนจากซีรีส์เช็กเมทอยู่ใกล้แค่เอื้อม คุยเล่นกันตรงหน้าในมุมที่ไม่เคยเห็นที่ไหน ถ้าขอลายเซ็นจะโดนด่ามั้ยนะ ถ้าขอถ่ายรูปด้วยล่ะจะเหมาะมั้ย...

“แนะนำตัวเสร็จแล้วก็มาคุยรายละเอียดทางนี้นะนิฌาน!”

“ครับ!” นิฌานขานตอบผู้กำกับ ก่อนจะหันไปยักไหล่อย่างเสียดายใส่สามหนุ่มที่กำลังคุยกันออกรส ผมแสร้งทำเนียน เขยิบห่างจากนิฌานเพราะคิดว่าผู้จัดการไม่จำเป็นต้องไปคุยเรื่องบทสักหน่อย ขอเป็นเสาประดับตรงนี้จะดีกว่า แต่ไม่รอดครับ นิฌานเอาแขนพาดบ่าเกี่ยวคอพาลากออกจากแก๊งพระเอกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นะ!

“พี่ฌานคนใจร้ายปล่อยผมนะ!”

“พี่ใจร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่” นิฌานทำหน้าเหวอ

“พี่ฆ่ามิสเตอร์เอส!”

นิฌานหัวเราะพรวด หน้ากากรุ่นพี่แสนดีคุยหยอกกับรุ่นน้องเมื่อครู่แหลกสลายในพริบตา สายตาที่มองผมก็แลอ่อนโยนน่าขนลุกแปลกๆ คงไม่ได้ตกหลุมรักกันอีกแล้วใช่มั้ย ป่านนี้จมไปถึงไหนแล้วเนี่ย

เพราะเจอภาพน่าสยอง ผมเลยตัดสินใจปิดปากเงียบยอมโดนลากแต่โดยดี

“อ่านบทคร่าวๆ แล้วใช่มั้ย” ผู้กำกับเอ่ยเข้าเรื่องด้วยสีหน้าจริงจัง ไอ้เราก็แอบหูผึ่งนิดหน่อยเพราะนิฌานไม่ยอมให้แตะบทของซีรีส์เช็กเมทเลย อ้างว่าแฟนพันธุ์แท้อย่างผมขนาดสปอยยังไม่กล้าอ่าน แล้วริจะข้ามขั้นอ่านบทได้ยังไง ผมเห็นด้วย ยังไม่อยากหมดสนุกแม้จะต้องเห็นการถ่ายทำอยู่ดีก็เถอะ “มีตรงไหนไม่เข้าใจรึเปล่า”

“มีไม่เข้าใจหลายจุดเลยครับ แต่เมื่อกี้อัคบอกแล้วว่าคนเขียนบทชอบแก้ไม่ก็เพิ่มรายละเอียดลงไปทีหลังเลยเขียนไม่เจาะจงมากนัก ตอนจบก็อุบไว้ก่อน ผมเลยไม่มั่นใจว่าจะคิดภาพรวมออกมาตรงกับผู้กำกับและคนเขียนบทรึเปล่า”

“เรื่องนั้นถ้าลองแสดงเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ คาแรคเตอร์ของหัวหน้าองค์กรยังไม่กำหนดชัด พอเปลี่ยนคนแสดงอะไรหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปด้วย แล้วแต่จะตีความ”

“แสดงว่าบางตอนผมด้นสดเติมเองได้เลยใช่มั้ย”

“ใช่ ตอนมิสเตอร์เอสก็ทำแบบนี้เหมือนกัน จิระเป็นคนสร้างคาแรคเตอร์ช่วงโดนล้างสมองเองเลยนะ แถมยังตั้งชื่อโค้ดเนมตอนเป็นสมาชิกองค์กรเองเลยด้วย”

“จริงเหรอครับ!” ผมโพล่งขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ไม่ได้เจอวันนี้ได้ยินแค่ชื่อก็ยังดี เห็นมั้ยล่ะว่าผมชอบมิสเตอร์เอสมากแค่ไหน โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นที่ได้มาก็ใส่กรอบตั้งตรงหัวเตียง ขนาดพี่จิยังไม่ให้จับ!

“เด็กที่ไหนเนี่ย” ผู้กำกับเลิกคิ้วมองผมอย่างงุนงง

“ขอโทษที่เสียมารยาทครับ ผมเจตริน ทองคำดี เป็นผู้จัดการของนิฌานครับ” ผมรีบส่งนามบัตรให้ทันทีด้วยความอับอาย ปกติในเวลางานจะวางมาดเคร่งขรึม แต่เมื่อกี้ดันหลุดเข้าอย่างจัง ขนาดนิฌานยังกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น “เป็นผู้จัดการจริงๆ ครับ”

ผมรีบย้ำเมื่อผู้กำกับมองด้วยสายตาแปลกๆ เป็นอันรู้กันว่าคนอย่างนิฌาน ชาญชัยนั้นแม้ช่วงหลังจะไม่ค่อยออกลาย แต่ความเจ้าชู้เป็นที่เลื่องลือ จู่ๆ ก็รับเด็กมาเป็นผู้จัดการ แวบแรกหลายคนเลยเผลอคิดว่าผมโดนหลอกมารึเปล่า

“ทองคำดี? นามสกุลคุ้นๆ นะ เรามีพี่ชายรึเปล่า ที่ตัวสูงๆ ผิวคล้ำๆ ดูล้นๆ หน่อย”

“พี่จิตรินคือพี่ชายผมเองครับ” ผมยืดอกอย่างภูมิใจ คิดไม่ถึงว่าสตั้นท์แมนตัวไม่เล็กจะเป็นที่รู้จักในกองถ่ายเช็กเมทซะด้วย

“ถ้าคนเขียนบทรู้คงดีใจ เขาชอบจิตรินมาก”

“พี่จิก็ชอบมากครับ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้พี่จิเริ่มฝึกเขียนบทเลย”

“นั่นสินะ ล่าสุดได้รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยนี่ จุ๊ๆ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เห็นซื่อๆ เซ่อๆ เป็นสตั้นท์แมนให้อัครเดชอยู่แท้ๆ จู่ๆ ก็เป็นนักเขียนบทมือทองซะแล้ว”

“อะแฮ่ม”

“พี่จิเขาจินตนาการเก่งครับ” ให้อวยพี่ชายบอกเลยเจตรินบ่หยั่น

“ใช่ๆ ฉันยังจำได้เลยว่าตอนคุยด้วยครั้งแรกเล่นเอามึนตึ้บ” ผู้กำกับหัวเราะ สรุปว่าที่จำพี่ชายผมได้เพราะประทับใจจากความฝอยสินะ

“อะแฮ่ม!”

พลันพวกเราสองคนหันมามอง ‘หัวหลักหัวตอ’ ที่กระแอมไอจนหน้าแดง

“มาคุยกันเรื่องบทหัวหน้าองค์กรต่อดีมั้ยครับ” เรียกร้องความสนใจสำเร็จ นิฌานก็ฉีกยิ้มการค้าทันควัน “ตรงที่ให้ปลอมตัวหมายความว่ายังไงเหรอครับ ผมจำบทมาแล้ว แต่ข้างหลังกลับมีวงเล็บว่าเปลี่ยนแปลงได้ เล่นเอางงเลย”

“อ้อ เรื่องปกติของคนเขียนบทน่ะ” ผู้กำกับโบกมือปัดกับความอินดี้ของคนเขียนบทชื่อดังประจำช่อง “ไม่มีใครเคยเห็นหน้าของหัวหน้าองค์กรมาก่อน เปิดตัวทั้งทีจะออกมาบอกว่าเป็นตัวร้ายเอาโต้งๆ ก็ไม่สนุกใช่มั้ยล่ะ คนเขียนบทเลยอยากให้ปลอมตัวเพื่อเข้าหาพระเอก ไม่งั้นขืนปล่อยให้อัครเดชตามไล่ล่าอย่างเดียวก็ไม่น่าลุ้นสิ ความจริงฉากนี้ถ่ายไปแล้ว นักแสดงคนที่ประสบอุบัติเหตุปลอมตัวเป็นตำรวจตามบทที่เธอได้รับนั่นแหละ แต่ในเมื่อนิฌานให้เกียรติตอบตกลงทั้งทีคนเขียนบทเลยอยากฟังความเห็นก่อนเผื่อจะเสริมเติมแต่งอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองลงไป ระหว่างรอก็ลองคิดดูแล้วกัน เพราะตอนนี้คนเขียนบทถูกเรียกไปคุยแผนงานคร่าวๆ ที่ต้องเปลี่ยนใหม่กับเบื้องบนอยู่น่ะ”

ตำรวจ? คนร้ายกลายมาเป็นตำรวจก็นับว่าไม่เลว แค่ได้ยินผมก็ตื่นเต้นแล้ว!

แต่พอมองหน้านิฌาน ผมก็รู้เลยว่าเขาไม่เห็นด้วย

ตำรวจมันเบสิกเกินไปสำหรับนิฌาน ชาญชัยซึ่งเริ่มสวมบทบาททำความเข้าใจกับตัวละครตัวนี้ หัวหน้าองค์กรย่อมมีความเจ็บแค้นที่พระเอกบุกถล่มรังจนต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน แม้ผู้บริการระดับสูงคนอื่นๆ จะหนีไปได้ แต่ก็แค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้น ในตอนท้ายของซีซันสอง สมาชิกขององค์กรใต้ดินถูกจับทั้งเป็นและตาย นับเป็นการสูญเสียมหาศาลจนเจ้าตัวเคลื่อนไหวไม่ได้ระยะหนึ่ง

แม้ในเรื่องจะพอเกริ่นว่าองค์กรนั้นพอมีเส้นสายกับตำรวจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ตำรวจกำลังได้ผลงานจากการบุกจับครั้งนั้น และตัวอัครเดชเองก็ไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากคนในเครื่องแบบ เพราะการตามล่าเป็นไปเพื่อการแก้แค้นล้วนๆ

“ถ้าจำไม่ผิด...มิสเตอร์เอสเป็นตัวละครที่ไม่มีประวัติความเป็นมาชัดเจนใช่มั้ยครับ”

“ใช่ เดิมทีมิสเตอร์เอสไม่ได้โดดเด่นขนาดนี้หรอก แต่เพราะจิระแสดงได้มีเสน่ห์เกินไป คนเขียนบทเลยเพิ่มบทขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงนำ ขนาดชื่อจริงยังไม่เคยเปิดเผยเพราะไม่ได้คิดไว้แต่แรก”

ที่แท้ความเป็นมาของมิสเตอร์เอสของผมก็น่าเศร้าขนาดนี้...แต่ยิ่งพูดถึงมิสเตอร์เอส ผมก็ลอบน้ำตาซึม ยังจำภาพวินาทีสุดแสนสะเทือนใจได้ดี วันนั้นผมถึงกับร้องไห้กอดคอกับแม่ ต่อให้ย้อนดูซ้ำอีกหลายครั้งก็มักถูกการแสดงของจิระดึงดูดจนเจ็บปวดตาม

“แล้วมิสเตอร์เอสเจอกับพระเอกได้ยังไงครับ”

“จากที่คุยคร่าวๆ กับคนเขียนบทคือมิสเตอร์เอสหนีออกจากบ้าน ใช้พรสวรรค์ในการแฮกเกอร์ก่ออาชญากรรมยักยอกเงินดำรงชีพ จนพระเอกมาเจอตัวแล้วชวนเข้าร่วมก๊วน เพราะขนาดธนัทเพื่อนเก่าของอัครเดชมิสเตอร์เอสยังไม่รู้จักเลย แสดงว่าทั้งสองคนเพิ่งจะร่วมงานกันได้ไม่กี่ปี”

นี่มันผลพลอยได้จากการเข้ากอง! ได้ยินความลับที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน!

“ถ้าอย่างนั้น...หากจู่ๆ จะมีญาติโผล่ขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใช่มั้ยครับ”

ผู้กำกับและผมเงยหน้ามองนิฌานตาปริบๆ

“ผมเปลี่ยนบทตำรวจเป็นอย่างอื่นได้ใช่มั้ย”

“ก็ต้องดูว่าความเห็นน่าสนใจแค่ไหน”

“งั้นผมจะปลอมตัวเป็น...อืม...ให้เป็นพ่อก็เกินไป งั้นเอาเป็นพี่ชายของมิสเตอร์เอสแล้วกัน! ตีสนิทพระเอกแล้วเนียนว่าจะช่วยแก้แค้นให้น้องชาย ดีมั้ยครับ!”

ผมอ้าปากค้าง

นี่มันไม่ใช่แค่ดี...แต่มันเหนือความคาดหมาย และกระแทกใจแฟนมิสเตอร์เอสตัวยงอย่างผมเข้าจังๆ

“พี่ฌานคนใจร้าย พี่ฆ่ามิสเตอร์เอสแล้วยังจะแสร้งเป็นญาติมาแก้แค้นอีกเหรอ หน้าไม่อาย!!”

นิฌานหัวเราะเริงร่า ส่วนผู้กำกับให้ไฟเขียวทันที

ก็ขนาดผมยังเป็นซะขนาดนี้ แล้วตอนเฉลยออกมาผู้ชมไม่ดีดดิ้นกันเลยเหรอ

หมากตานี้ร้ายกาจนัก! นิฌาน ชาญชัย!!

 

 

-----------

บุกกองเช็กเมทพร้อมแฮชแทคใหม่ #น้องเจที่น่าลัก !!!

เพราะน้องเจน่ารัก เลยอยากลักกลับบ้าน แอร๊ยยยย

ยินดีต้อนรับสู่เช็กเมทแบบเต็มตัวค่ะ! ในที่สุดก็มาถึงซีซันสาม ซึ่งเป็นซีซันสุดท้ายของซีรีส์แล้วนะคะ เรารักเช็กเมทพอๆ กับที่รักตัวละครทุกตัวในนิยายชุดนี้เลย ถ้าอิงจากบทบาทที่ได้รับ นิฌานก็คือคนกดปุ่มตอนมิสเตอร์เอสเดินออกจากห้องแล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงในซีซันสองค่ะ น้องเจเลยกล่าวประณาม พี่ฌานคนฆ่ามิสเตอร์เอส!!!

#น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก
ปล.ตอนนี้เรามีทวิตเตอร์แล้วนะคะ -> @MajaYnaja <-

เพจนักเขียนที่ต่อให้ไม่มีมิสเตอร์เอสก็ยังมีน้องเจในดวงใจ  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-06-2018 19:50:03
อ่านแล้วคิดถึงหนูจิทั้ง 2 คนเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2018 20:27:31
เอ็นดูน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 03-06-2018 20:35:42
#น้องเจที่น่าลัก น่าเอ็นดูด้วยนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-06-2018 21:07:19
ขำผู้กำกับ ประทับใจจตรินเรื่องฝอยแหลก
นัท ยังคงไม่ชอบจิตรินต่อไปเพราะเสี่ยนั่นแหละ   :z6:

เจ ออกแนวมีความสุขกับการทำงานแล้ว
ได้พบดาราเช็กเมทที่ชื่นชอบอีก
ได้รู้ลึกของการถ่ายทำ  :z3: :z3: :z3:
นิฌาน เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 03-06-2018 21:41:38
คือทุกคนรู้จักนายจิเพราะความฝอยสินะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 03-06-2018 23:00:44
แค่เปิดตัวหัวหน้าองค์กร ด้วยการปลอมตัวเป็นญาติมิสเตอร์เอสก็น่าสนใจมากๆแล้วค่ะ ริติดตามเช็คเมทซีซั่นสามนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 03-06-2018 23:08:14
อยากเห็นเช็คเมทเป็นหนังขึ้นมาจริงๆเลย ฮื้ออออ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-06-2018 00:52:04
นี่เพิ่งอ่านหนูจิจบไปพอมาอ่านตอนนี้เลยเหมือนได้อ่านภาคต่อไปด้วย เราว่าอีกหนึ่งเสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้ก็คือซีรี่ส์เช็กเมทนี่แหละ ทั้งๆที่เป็นแค่ส่วนนึงในนิยายแต่พอบอกว่าจะเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้วก็อดใจหายไม่ได้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 04-06-2018 21:10:56
 :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 05-06-2018 07:12:22
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 05-06-2018 10:03:17
อยากดูซีรี่เช็คเมท เลยค่ะ

ชอบตั้งแต่ภาคแรก  คิดว่าถ้าออกมาเป็นซีรี่จริงคงมันน่าดู
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 05-06-2018 10:22:01
น้องเจแฟนพันธ์แท้55555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 05-06-2018 10:32:47
พี่ฌานคนใจร้าย ทำไมเรานึกภาพน้องเจดีดดิ้นนะ ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-06-2018 22:16:28
พี่ฌาณคนใจร้าย พี่ฆ่ามิสเตอร์เอส5555555 น้องเจอินสุดดดด เอ็นดู~~~~
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 06-06-2018 20:13:08
โหยยยยย    #พี่ฌาญคนใจร้าย  ร้ายกาจสุดๆไปเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-06-2018 00:53:15
 o13

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-06-2018 01:34:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-06-2018 21:34:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 09-06-2018 03:54:26
มิสเตอร์เอส คิดถึงจิระจังเลยยย ตอนอ่านฉากตายของมิสเตอร์เอสในเรื่องก่อนเราน้ำตาแตกไปเลยจ้า  :hao5:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 14 กองถ่าย [03/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 09-06-2018 07:25:09
อ่านเรื่องเดียวเหมือนดูหนังสองเรื่องไปด้วย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 [09/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 09-06-2018 11:39:25

ตอนที่ 15 : โทรศัพท์สายพิเศษ

 

ไม่นาน คนเขียนบทที่ชักหน้ายุ่งเนื่องจากเปลี่ยนตัวนักแสดงกะทันหันก็มาเยือนกองถ่าย แต่ทันทีที่ได้ฟังไอเดียของนิฌานจากหน้าบึ้งก็กลายเป็นหน้ายิ้ม ความกดดันกลายเป็นความปลื้มใจ เพราะคนคนนี้ชอบความแปลกใหม่เหนือคาด โดยเฉพาะกับซีรีส์เช็กเมทที่มักมีเรื่องราวพลิกผันตลอดเวลา

“แหม กำลังเครียดอยู่เลยว่านักแสดงมากประสบการณ์จะหยิ่ง กลัวจะรับไม่ได้กับงานลวกงานร้อนครั้งนี้ ที่ไหนได้ ความคิดเจ๋งไม่เลวเลยนี่นา!”

ความเจ้าชู้ของนิฌานทำให้บางครั้งดูไม่จริงจังกับงาน จนมักถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอ ก็ไม่แปลกที่ตอนแรกคนเขียนบทจะหน้านิ่วคิ้วขมวด กลัวว่าดาราคนนี้จะถือความเก่าแก่ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่กระตือรือร้นเสนอความเห็นเหมือนดารารุ่นใหม่ที่ต้องขวนขวายสร้างโอกาสให้ตัวเอง

“เพราะใกล้ตัวผมมีคนติดเช็กเมทและชอบมิสเตอร์เอสมาก ผมเลยไม่อยากให้เขาผิดหวังน่ะครับ” นิฌานพูดพลางเหล่มองผมที่ยังโดนล็อกคอขยับไปไหนไม่ได้ บ้าเอ๊ย ผมไม่อยากอยู่กับตัวร้ายนะ ปล่อยผมไปดูการถ่ายทำของพวกอัครเดชเถอะ เพราะตั้งแต่คนเขียนบทเดินลงมาผู้กำกับก็ขอตัวไปทำงานต่อทันที ดูนั่นสิ สามหนุ่มสามมุมพยายามระดมสมองวางแผน เห็นแล้วก็อดซาบซึ้งในมิตรภาพไม่ได้

“นั่นสินะ ซีซันสามไม่มีมิสเตอร์เอสซะด้วย ยกมาเป็นประเด็นสำคัญให้คนหายคิดถึงอย่างนี้ก็ไม่เลว”

ไม่เลวอะไรล่ะ เลวมากเลยต่างหาก!

ผมซุกหน้ากับฝ่ามือ ไม่อยากจะได้ยินได้ฟังเรื่องแสนสะเทือนใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องรับรู้การหารือของคนเขียนบทและนิฌานอยู่ดี ด้วยเวลาที่กระชั้นและจำเป็นต้องเขียนบทใหม่เกินครึ่ง ฉากที่ถ่ายไปแล้วของนักแสดงคนก่อนจึงไม่ถูกตัดทิ้ง แต่นำมาเป็นจุดไขว้เขว ให้พระเอกเข้าใจผิดว่าเป็นหัวหน้าองค์กรปลอมตัวมาทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่! ถือเป็นการหลอกซ้ำหลอกซ้อน หลอกให้ตายใจกันไปข้างหนึ่ง!

สองคนนี้ยิ่งคุยก็ยิ่งถูกคอ พยายามใช้คีย์เวิร์ด ‘มิสเตอร์เอส’ มาขยี้เรื่องราวให้ยิ่งกรีดลึกจนผมเลือดซิบไปหมด ความจริงแล้วตารางวันนี้นิฌานต้องมาถ่ายในส่วนเดิมของนักแสดงคนก่อน แต่ในเมื่อไม่จำเป็นแล้วเลยลองแสดงต่อหน้าคนเขียนบทแทน

เพียงเห็นผมก็แทบลุกไปต่อย เขาแสดงได้น่ากระทืบเกินไปแล้ว!

“ทำไมพี่ถึงชั่วร้ายขนาดนี้!”

ด้วยใจภักดีต่อมิสเตอร์เอส ผมไม่สามารถทำเป็นบื้อใบ้ปรบมือชมเชยเหมือนที่คนเขียนบทกำลังทำได้จริงๆ

“ก็พี่เป็นตัวร้าย ไม่ให้พี่ร้ายแล้วจะรับเล่นทำไมล่ะครับน้องเจ”

นิฌานสะใจมากที่เห็นผมนั่งกระฟัดกระเฟียดอยากเข้าไปบอกแผนการลับของหัวหน้าองค์กรกับพวกพระเอกเต็มแก่ อย่าไปเชื่อ! มิสเตอร์เอสไม่มีพี่ชายสับปลับอย่างนี้หรอก!

กว่านิฌานจะลองแสดงหลายๆ แบบเพื่อหาจุดลงตัวที่คนเขียนบทเห็นชอบ ลองชุดเพื่อจะได้แจ้งกับฝ่ายคอสตูมในการเข้ากองครั้งหน้า ลองเข้าฉากกับแก๊งพระเอกเพื่อให้ผู้กำกับเห็นภาพเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน

ยังไม่ทันเริ่มแสดงก็ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ผมชักเล็งเห็นปัญหา

รวมถึงปัญหารถเมล์หยุดวิ่งด้วย!

“นอนค้างที่นี่สิน้องเจ เชื่อใจพี่ได้เลยว่าเหนื่อยขนาดนี้ไม่มีแรงทำอะไรเราหรอก”

“ผมเรียกแท็กซี่ได้ครับพี่ฌาน ตอนนี้ถนนโล่ง ไม่กี่นาทีก็ถึงบ้านแล้ว”

ถึงเห็นเขาเหนื่อยหนักตาปรือปรอย แม้ร่างกายจะปลอดภัยแต่ผมก็รู้สึกเหมือนได้รับการคุกคามทางจิตใจอยู่ดี

“ถ้าถึงบ้านแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะครับ”

“ผมส่งข้อความบอกแล้วกัน”

“ไม่เอา พี่กลัวเผลอหลับ”

“ก็เพราะกลัวพี่ฌานหลับผมเลยไม่อยากโทรปลุกไง”

“แต่พี่อยากรู้ว่าน้องเจกลับอย่างปลอดภัยรึเปล่า ไม่ต้องห่วงหรอกครับ โทรมาปลุกได้เลย ดีกว่าให้พี่นอนฝันร้ายกลัวน้องเจไม่ถึงบ้าน”

 สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายพยักหน้าเอออออย่างจำยอม เพราะเช็กเมททำพิษคนแก่เลยต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ รู้สึกผิดจนไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้วนิฌานยังอุตส่าห์เป็นห่วงกันอีก

เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ผมก็หยิบตารางงานขึ้นมาบันทึกใหม่ เพราะซีรีส์เช็กเมทเป็นแบบถ่ายไปฉายไป บทบาทของนิฌานที่แทรกกะทันหันจึงถูกขอคิวที่ว่างเกือบทั้งหมดในการเข้ากอง

แล้วดูตารางเขาสิ แน่นเอี๊ยดจนแทบกระดิกตัวไม่ได้เพราะเพิ่งรับงานอีเวนต์ตระเวนโชว์ตัวด้วยผลพ่วงจากการเปิดตัวบิวตี้เพอร์ฟูม ที่เหลืออยู่ก็มีแค่ช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น...ไม่ก็หลังพระอาทิตย์ตกดิน

ถ้าไม่เพราะคนเขียนบทขอเขียนเนื้อเรื่องส่วนของนิฌานใหม่หมด พรุ่งนี้มีหวังได้เข้ากองตั้งแต่ตีห้า...แต่ดูจากงานพิธีกรรับเชิญในรายการข่าวเช้าตอนเจ็ดโมงตรงก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่

สำหรับเด็กอายุสิบแปดยังเอ๊าะๆ อย่างผม นอนดึกตื่นเช้าไม่นับว่าทรมานสังขารนัก แต่คนใกล้จะสามสิบเนี่ยสิ...

พอถึงบ้านผมก็โทรหานิฌาน รอสายอยู่นานกว่าเขาจะกดรับ

(( น้องเจถึงบ้านแล้วเหรอครับ ))

ฟังจากเสียงงัวเงีย สงสัยจะเผลอหลับจริงด้วย

“ถึงแล้วครับ พรุ่งนี้ผมไปหาพี่ฌานที่คอนโดตอนหกโมงนะ”

(( ไม่นัดเจอกันที่บริษัทเหมือนปกติล่ะครับ ถ่อไปถ่อมาให้เหนื่อยทำไม ))

“พี่ฌานจะได้หลับในรถเอาแรงก่อนเข้างานอีกหน่อยไงครับ เดี๋ยวผมซื้อโจ๊กแถวบ้านเจ้าอร่อยไปฝากนะ”

(( พี่อยากกินฝีมือแม่น้องเจมากกว่า ไม่ได้กินตั้งนาน คิดถึงจัง หาววว ))

“ผมออกมาเช้ากว่าปกติ แม่คงยังทำกับข้าวไม่เสร็จ เอาไว้วันอื่นแล้วกันนะพี่ฌาน”

นิฌานงึมงำในลำคอ คงถึงขีดจำกัดในวันนี้แล้ว ใจผมเจ็บแปลบ รู้ดีว่าใครเป็นตัวต้นเรื่อง สร้างปัญหาวุ่นวายทั้งหมดให้เขารับกรรม

ก็ผมนี่ไง!

ฉะนั้นถ้าช่วยให้เขาสบายใจ นอนหลับเต็มอิ่มกว่าเดิมสักนิดก็ยินดี

“ฝันดีนะครับพี่ฌาน”

พลันได้ยินเสียงคนตกเตียงดังโครม!

“พี่ฌาน เกิดอะไรขึ้น!!”

(( มะ...ไม่มีอะไรครับน้องเจ )) นิฌานเอ่ยตะกุกตะกักเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะพึมพำเสียงเบาหวิวเหมือนคุยกับตัวเอง (( จะจีบน้องเจรุกอย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องใช้ใจแลกใจสินะ ))

“...ผมได้ยินนะครับพี่ฌาน” ผมกลอกตาสามที ปฏิบัติ!

(( ราตรีสวัสดิ์ครับน้องเจ! ))

แล้วดาราชื่อดังก็รีบวางสายเหมือนเผลอหลุดความในใจจนต้องหนีหน้า ทิ้งให้ผมกุมขมับ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่คนเดียว!

ก่อนหน้านี้โดนรุกทีไรเป็นต้องต่อปากต่อคำไม่ไว้หน้า คิดว่ายังไงซะก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจีบผมติด ซึ่ง...ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนั่นแหละ แต่เพราะความทุ่มเทของเขา ทำให้สายเลือดทองคำดีทำร้ายผม บอกว่าผมต่างหากที่ชั่วร้าย!

ถึงผมพร้อมเผชิญหน้ากับคมสัน ต่อให้ตกปากรับคำไปแล้วก็จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอิสรภาพของนิฌานคืนมาให้ได้ แต่คนเจ้าชู้กลับยิ่งออกลาย เห็นผมลนลานเท่าไรก็ยิ่งกระตือรือร้นจะเข้ากองเมื่อนั้น ถึงเขาจะตัดสินใจเอง แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอ้การกระทำเหล่านั้นน่ะเพื่อเอาใจกัน! อยากเห็นผมดีใจ ปลื้มปริ่มจนลืมใครบางคนที่เรียกร้องความสนใจโดยการล็อกคอหาความดีความชอบ...

สถานการณ์เข้าขั้นกระอักกระอ่วน หมายถึงผมเนี่ยที่ทำตัวไม่ถูก! ไม่กล้าจะเย็นชาใส่ ตัดรอนน้ำใจเหมือนเคยเพราะเกรงใจคนแก่ที่เห็นแก่ผมมากกว่าความเหนื่อยของตัวเอง แล้วทำไมคนถูกจีบต้องคิดแทนคนจีบด้วยวะเนี่ย!

ความดีความชั่วกำลังตีกันเอง ผมสูดหายใจเข้าลึก หลังตั้งสติแล้วก็หันไปตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีห้า ซึ่งนับว่าเช้าที่สุดนับตั้งแต่เป็นผู้จัดการมาเพราะต้องวนไปรับนิฌานก่อนค่อยเข้าบริษัท เป็นครั้งแรกที่ผมเสนอตัวขนาดนี้ และคาดว่าจะต้องทำแบบนี้อีกหลายครั้งระหว่างถ่ายทำเช็กเมท เผลอๆ จะต้องตื่นตีสองตีสาม ผิดวิสัยนิฌานผู้จัดตารางได้เป็นเลิศ พิสูจน์จากการทำงานแสนราบรื่น พักผ่อนเพียงพอ นอนหลับเต็มอิ่มตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

อึก...เจ็บปวดอีกแล้ว ผมเป็นคนทำลายวงจรชีวิตของเขาจนไม่เหลือสภาพ! 

แล้วอีแบบนี้จะมองเมินได้ยังไง มีส่วนต้องรับผิดชอบกันเห็นๆ จากโจ๊กเจ้าอร่อยจะเพิ่มเป็นพิเศษใส่ไข่ใส่หมูเยอะๆ ก็แล้วกัน คนงกอย่างผมถึงกับยอมควักอย่างไม่เสียดายเชียวนะ!

ได้ทำงานกับคนที่เข้าขากันนั้นดีอย่าง คือไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่กลัวโดนเข้าใจผิด โดยเฉพาะกับคนฉลาดอย่างนิฌาน ชาญชัย ต่อให้จู่ๆ ผมดีใส่เขาย่อมรู้ว่าผมทำไปด้วยใจเมตตาหาใช่ความพิศวาส...เหอๆ ก็เขาหวังผลแบบนี้อยู่แล้วนี่!

แต่ถึงอย่างนั้น...ไอ้คนเจ้าเล่ห์ก็ยังดีใจจนกลิ้งตกเตียงกับแค่คำว่าฝันดี

“ว๊ากกกก ผี!!”

“ผีอะไรล่ะพี่จิ นี่ผมเอง เจน้องชายพี่ไง!” ผมรีบอธิบายให้พี่ชายซึ่งนอนหลับอยู่ดีๆ ไม่ชอบดันนึกอุตริพลิกตัวมาเห็นฉากน่าสยองเข้า

“แล้วเจเอาหัวโขกเตียงทำไม...มันน่ากลัวนะ!”

ผมลูบหน้าผากที่เห่อแดงพร้อมยิ้มเจื่อน ภาพของเด็กหนุ่มนั่งบนเตียงเป็นเงาตะคุ่ม กลุ้มอกกลุ้มใจจนเอาหัวโขกเนี่ยไม่บอกก็รู้ว่าชวนหัวใจวายขนาดไหน

ว่าแล้วก็ถือโอกาสปรึกษาพี่ชายซะเลย

“พี่จิรู้เรื่องนิฌานรับเล่นซีรีส์เช็กเมทแล้วใช่มั้ย”

พี่ชายกะพริบตาปริบๆ ถือว่าเป็นคำตอบรับแล้วกัน

“พี่จิรู้รึเปล่าว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลัง นิฌานรับเล่นเรื่องนี้เพราะอยากจะเคลมผม...พี่จิว่าผมทำถูกมั้ย ทั้งที่รู้แก่ใจก็ยังจะสงสารคนทำดีหวังผล แต่จะให้ยิ้มเริงร่าเข้ากองในฝันขณะที่อีกคนทำงานหนักผมก็ทำเป็นไม่สนใจไม่ได้เหมือนกัน พี่ว่าผมควรจะทำยังไงดี ผมไม่อยากให้เขาได้ใจ แต่พอเห็นเขาดีใจขนาดนั้นก็สับสนมาก...พี่จิ...พี่จิ!!”

“คร่อก....ฟี้”

หมดกันพี่ชายผม ลืมไปเลยว่าพี่จิคนดีเป็นเด็กอนามัย นอนเร็วตื่นเช้าออกกำลังกาย รักษารูปร่างและมีสุขภาพแข็งแรงขนาดไหน

“เฮ้อ...ฝันดีนะพี่จิ” ผมทิ้งตัวข้างพี่ชาย นอนชิดริมเตียงเพราะกลัวจะโดนจระเข้ฟาดหางป้าบเข้าให้เป็นลูกหลงจากใครบางคนที่ชอบนอนดิ้น

แต่ระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มๆ อยู่นั้นจู่ๆ พี่ชายก็จับไหล่หมับพร้อมแรงบีบที่ไม่เบา

“เจ...”

ผมสะดุ้งตื่นทันควัน

“จะกลุ้มไปไยไอ้น้อง อยากทำอะไรก็ทำ จะคิดมากทำไม เอิ้กๆ”

...บอกทีว่าพี่ชายผมกำลังปลอบหรือนอนละเมอกันแน่

“นิฌานเองก็คงไม่คิดเยอะหรอก เขาทำในสิ่งที่อยากทำ จะทำเพื่อเอาใจเจหรือเพื่ออะไรก็ช่าง ตัดสินใจไปแล้วก็ลุยให้เต็มที่! ทำตามหัวใจเรียกร้อง!  ลุยให้สุดแล้วหยุดที่คำว่า...”

“คำว่า?”

“คร่อก...ฟี้”

ผมแทบจะลุกเอาหัวโขกเตียงอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่ามีเวลานอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง

เอาวะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เลิกคิดมากแล้วทำอย่างที่อยากจะทำก็แล้วกัน!

 






แล้วเรื่องก็เกิดจริงๆ ครับ

ไม่รู้จะเรียกว่าสมพรปากดีมั้ย แต่เอาเป็นว่าผมรีบวิ่งไปคุยโทรศัพท์ในรถแทบไม่ทันเมื่อเห็นสายโทรเข้าระหว่างนิฌานกำลังถ่ายรายการนอกสถานที่ในช่วงสาย

(( เช็กเมท? นิฌานไปถ่ายเช็กเมทได้ยังไง เขาไม่รับเล่นละครไม่ใช่เหรอ! ))

น้ำเสียงดุหาเรื่องมาก่อนเลย

“พอดีเลขาคมสันระบุตัวมาน่ะครับ” ผมตอบอ้อมแอ้มตามประสาคนมีคดีติดตัว ก็ไม่แปลกหรอกที่แม่ของนิฌานจะตกใจ รีบโทรกลับทันทีที่ผมส่งตารางงานใหม่ของลูกชายสุดที่รัก

(( คมสันเคยระบุตัวก็จริง แต่เขาปฏิเสธไปแล้วนี่ ))

ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่สำลักไอเผยพิรุธ

“คือ...เพราะครั้งนี้มีเหตุจำเป็นจริงๆ นิฌานเลยตอบตกลงน่ะครับ” ผมเลือกที่จะโกหกมากกว่าพูดตามจริง จะบอกได้ยังไงล่ะว่าขนาดเลขาคมสันออกโรงเองนิฌานยังปฏิเสธไม่ไยดี สื่อว่าเขายึดติดกับความฝังใจในวัยเด็กมากกว่าอิทธิฤทธิ์จอมมาร

แต่สุดท้ายก็แพ้พ่ายให้ความรัก

แหวะ ถุย

เล่นเองสยองเอง ผมลูบต้นแขนเบาๆ ก่อนจะจดจ่อกับการคุยโทรศัพท์ต่อ หลังได้รับคำปลอบใจจากพี่จิคนดีสมองก็ปลอดโปร่งกว่าเดิมเยอะ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

(( เริ่มถ่ายวันพรุ่งนี้เหรอ ))

“ครับ เพราะคนเขียนบทขอเวลาเกลาบทใหม่” ผมอธิบาย ยังนึกทึ่งไม่หายที่คนเขียนบทขอเวลาแค่วันเดียวในการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องตามที่นิฌานเสนอ แต่ถ้าไม่ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เห็นจะไม่ทัน เพราะเขาอยากแทรกบทตัวละครใหม่นี้ลงในตอนที่กำลังจะฉายช่วงเสาร์อาทิตย์ที่กำลังจะถึงแค่ไม่กี่นาทีก็ยังดี เลยต้องเร่งถ่ายกันสุดๆ  เวลากระชั้นชิดชนิดห้ามขาด ห้ามลา ห้ามตายกันทั้งกอง

(( ตารางแน่นขนาดนี้เขามีเวลาพักผ่อนเพียงพอหรือ ))

ไม่น่าเชื่อ แม่ของนิฌานห่วงสุขภาพของลูกชายด้วยเหรอเนี่ย แต่พอมองตารางงานที่ผมเพิ่งส่งให้เธอ...มันก็น่ากลัวมากจริงๆ

“ผมจะดูแลลูกชายของคุณให้ดีที่สุดครับ ไม่ต้องห่วง!”

ไฟแห่งความรู้สึกผิดลุกโชนอีกแล้ว ผมให้สัญญาอย่างมาดมั่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาดันเป็นเสียงหัวเราะซะงั้น เพราะไม่เห็นหน้า ผมเลยไม่รู้ว่าเธอขบขันด้วยความรู้สึกด้านบวกหรือด้านลบกันแน่

(( ลูกฉันคงงานยุ่งไปอีกหลายเดือน ))

“น่าจะราวๆ สองเดือนครึ่งได้ครับ”

(( โหมงานยาวเลยสิเนี่ย เขาแทบไม่มีวันหยุดตั้งแต่ตอนรับรางวัล Love After Death...ต่อบิวตี้เพอร์ฟูมแล้วยังมาเช็กเมทอีก ))

แม่ของนิฌานรำพึงรำพัน วันนี้มาแปลกมาก จนผมเลือกจะปิดปากเงียบเพราะกลัวใจอ่อนเข้า สายเลือดทองคำดีค่อนข้างอ่อนไหวเป็นพิเศษกับสายสัมพันธ์ครอบครัว

ที่สำคัญ ผมยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่านิฌานกับแม่ของเขาขัดแย้งกันเรื่องอะไร จะบอกว่าเรื่องเงิน? ก็ไม่น่าใช่ในเมื่อฝ่ายนั้นพยายามสร้างเรื่องฉาวลดงานลูกชาย จะบอกว่าแค้นเคือง? ก็ดูไม่เข้าเค้าในเมื่อข่าวฉาวก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสถึงขั้นบีบออกจากวงการ

(( ตั้งแต่บุกกองถ่ายครั้งล่าสุดเขาก็ไม่มาเจอหน้าฉันอีกเลย ไม่คุย ไม่ยุ่งเกี่ยว เหมือนเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน นับๆ ดูแล้ว...ก็หนึ่งปีพอดี ))

ผมลอบสะดุ้งในใจ แม่ลูกไม่ได้เจอหน้ากันหนึ่งปี ทั้งที่อยู่ในประเทศเดียวกัน จังหวัดเดียวกันเนี่ยนะ

(( โทรไปก็ไม่ยอมรับ ให้เธอฝากบอกว่าโทรกลับก็ไม่โทร สมฤดีไปตามมากินข้าวก็ไม่ยอมมา ฉัน...เฮ้อ ))

เสียงถอนหายใจนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเหงาหงอย ผมสับสนกับจุดยืนของแม่นิฌานจนเหงื่อตก

(( ถ่ายทำเช็กเมทตารางก็ไม่แน่นอน เกาะกระแสซีรีส์อันดับหนึ่งของช่องคงทำให้ได้งานต่อไปอีก...ฉัน...ควรจะดีใจกับลูกชาย แต่ฉัน...ก็ไม่อยากเห็นลูกผ่านโทรทัศน์ไปอีกปีโดยไม่ได้คุยกัน ))

คำพูดตัดพ้อนั้นช่างเสียดร้าว

(( นิฌานเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังบ้างหรือเปล่า ))

“เอ่อ เปล่าครับ” ผมเอ่ยอย่างระแวดระวังสุดขีด เรียกเสียงถอนหายใจอีกเฮือกจากหญิงวัยกลางคน

(( ตอนเด็กฉันบังคับเขารับงานมากเกินไป จนเขาไม่มีเพื่อน แถมเรียนจบช้ากว่ารุ่นเดียวกันอีก เขาโกรธฉันมาก จากนั้นก็ไม่ยอมให้แตะต้องเรื่องงาน แรกๆ ฉันก็ไม่ชอบใจหรอก อันที่จริงฉันก็ไม่เข้าใจ จนไม่เจอหน้าลูกมาตลอดหนึ่งปีเต็ม ))

ผมเงียบอีกครั้ง

(( ฉันคิดถึงลูก... ))

ผมขมวดคิ้ว พยายามหาความจริงใจจากประโยคนั้น

(( พวกเราสองแม่ลูกแตกหักกันเกินกว่าจะเข้าหากันดีๆ แล้ว ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เขายอมเชื่อ ยอมให้อภัยความผิดพลาดในอดีต ))

“แต่คุณ...ก็ไล่ผู้จัดการเขาออกตลอดปีเลยไม่ใช่เหรอครับ”

(( ผู้จัดการพวกนั้นไม่ดี แค่ล่อด้วยเงินก็ทิ้งลูกชายฉันแล้ว กับคนพวกนี้จะไว้ใจได้ยังไง จริงมั้ย ))

เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แค่เงิน แต่มีปืนด้วยนะ!

ราวอ่านใจได้ แม่นิฌานจึงไขข้อสงสัยทันควัน

(( ฉันยอมรับ ฉันไม่อยากให้ใครดูแลลูกชายของฉัน เพราะฉันอยากจะดูแลเขาเอง ฉันเป็นห่วงลูก อยากเจอหน้าเขา เลยใช้วิธีผิดๆ ข่มขู่ ))

ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“ทำไมถึงเล่าให้ผมฟัง”

(( เพราะนิฌาน...ดูจะให้ความสำคัญกับเธอมาก ))

วินาทีนั้น ผมคล้ายตกไปอยู่ในถังน้ำแข็ง จบกันที่ปิดบังความจริงไว้!

(( เขารับเล่นเช็กเมทเพราะเธอใช่มั้ย ที่ไม่ไปงานเลี้ยง ไม่ควงผู้หญิงคนไหนอีก...ก็เพราะเธอใช่มั้ย ))

แล้วผมจะตอบว่า ‘ใช่! คุณแม่คิดถูกแล้วครับ!’ ได้ยังล่ะเฮ้ย

(( ถ้าเขาฟังเธอขนาดนั้น ฉันก็อยากจะขอร้อง... ))

รับรู้ได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

(( ไม่ต้องให้มาที่บ้านก็ได้ แต่ฉันขอ...ขอให้เธอพาเขามากินข้าวกับฉันสักมื้อ ฉันอยากเจอลูกชาย อยากกินข้าวกับเขา อยากพูดคุยกันก่อนที่จะเริ่มถ่ายละครจนหาเวลาปลีกตัวไม่ได้ ))

ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

(( ทำเพื่อหัวอกแม่คนนี้สักครั้งได้มั้ย เจตริน ))

ถ้านี่เป็นแผน ผมยอมรับเลยว่าช่างเป็นแผนที่มาเหนือ อย่างน้อยเธอก็เจาะประเด็นได้ตรงเผง ทั้งเรื่องผมรักครอบครัว และเรื่องที่นิฌานฟังผม

แต่ แต่ แต่!

เธอรู้เรื่องนิฌานตามจีบผมได้ยังไงทั้งที่ไม่เคยรายงานมาก่อน!

หรือจะเป็นสมฤดีนะ? แต่ผมมั่นใจว่าไม่ได้เผยพิรุธต่อหน้าเธอ ฉะนั้นเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่น่าวางใจ แม้ผมจะเผลอคล้อยตามไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่เพราะเพิ่งได้บทเรียนจากเช็กเมทหมาดๆ จะตัดสินใจอะไรก็รอบคอบขึ้นเป็นเท่าตัวไม่กล้ารับปากซี้ซั้วเหมือนที่ตกกับดักจอมมาร

“ขอผมคิดดูก่อนนะครับ”

พูดจบก็วางสาย ประจวบเหมาะกับนิฌานเดินมาหาพอดี

“น้องเจมาหลบร้อนในรถเหรอครับ ขอพี่เข้าไปนั่งด้วยสิ”

“ทีมงานจัดที่พักให้นักแสดงไว้ไม่ใช่เหรอครับ” แม้จะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ปลดล็อกประตูเชิญชวนนิฌานเข้ามานั่งด้านใน พร้อมส่งโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดูทันที

เมื่อเห็นชื่อปลายสายคนที่กำลังขยับตัวหามุมนั่งพักสบายๆ ก็ขมวดคิ้วมุ่นทันควัน

“แม่พี่อยากนัดกินข้าวแหน่ะ”

“งวดนี้มาแนวแม่บังเกิดเกล้าเหรอเนี่ย น้องเจใจอ่อนเลยสิ”

“ผมยังไม่ได้รับปากนะ!” ผมรีบบอกปัดอย่างร้อนตัว แต่ก็ไม่วายเหลือบมองคนข้างกายด้วยความสงสัยเปี่ยมล้นจนเก็บกักไม่ไหว “พี่ฌานไม่เจอแม่มาหนึ่งปีแล้วจริงๆ เหรอครับ”

“สายตาเรามองพี่เหมือนเป็นลูกอกตัญญูเลย”

“ผมเปล่า!” ผมส่ายหน้าถี่รัว

“เฮ้อ เรื่องของพี่กับแม่ลึกซึ้งน่ะ...จะให้อธิบายก็กลัวจะไม่เห็นภาพ งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน...” นิฌานส่งโทรศัพท์คืนให้ผม “ฝากน้องเจนัดกินข้าว บอกว่าพี่จะพาลูกสะใภ้ไปเปิดตัวแล้วกันครับ”

“จะดีเหรอครับ” ผมถามเขาอย่างไม่มั่นใจ คนที่อาการหนักจนขับรถเป๋เกือบเกิดอุบัติเหตุอย่างเขาไหงจู่ๆ ก็ยอมพบหน้าผู้ให้กำเนิดง่ายดายขนาดนี้

“จะดีเหรอนี่หมายถึงเรื่องนัดเจอหรือเรื่องลูกสะใภ้ล่ะ”

“ก็ต้องอย่างแรกสิ!” ผมน่ะชินแล้วกับการพูดหยอกที่ต้องตัดทอนหารสองลบสามของเขา

“พี่ไม่อยากให้น้องเจเข้าใจผิด และไม่อยากให้น้องเจคิดเองเออเองจนจุกอก ก็เราน่ะคิดมากคิดเยอะจะตายไป แถมยังคิดเผื่อคนอื่นไม่ใช่เรื่องตัวเองอีกต่างหาก ดูสิ ขมวดคิ้วอีกแล้ว เอ๊ะ นี่รอยอะไร ทำไมมันแดงๆ...”

นิฌานที่เอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมถือโอกาสเปิดหน้าม้ามองรอยแดงอย่างงุนงง

แล้วผมจะกล้าตอบได้ไงว่านั่นเป็นรอยหัวโขกเตียง!

ผมผู้คิดมาก ซึ่งถูกผู้ไม่คิดอะไรเลยสองคนไล่ต้อนในวันเดียวกันทำได้แต่ปิดหน้าม้าลงแล้วชี้นิ้วไล่ให้นิฌานไปทำงานได้แล้ว

“อย่าลืมโทรนัดคุณแม่ด้วยนะครับคุณลูกสะใภ้คนใหม่แห่งบ้านชาญชัย”

“รู้แล้วน่า” ผมเออออขอไปที มองเมินประโยคหลังแล้วก้มหน้าปลุกปล้ำกับตารางที่แน่นเอี๊ยด จะนัดหลังเลิกงานช่วงสามทุ่มก็ยังได้แต่ผมคิดว่าการจำกัดเวลาน่าจะดีต่อตัวเองและนิฌานมากกว่า หากคุยกันไม่รอดยังพอมีข้ออ้างปลีกตัว เลยเลือกช่วงพักสั้นๆ เกือบหนึ่งชั่วโมงตอนห้าโมงครึ่ง ถ้านัดใกล้ๆ กับบริษัทคงไม่มีปัญหา

แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาจากอย่างอื่นรึเปล่านี่สิ!

 

-----------------

เราเชื่อว่าหลายคนคิดถึงพี่จิคนดีมากกว่านิฌาน 555

แต่นิฌานเองก็ขยันทำคะแนนมากขึ้นทุกตอนแล้วนะคะ! น้องเจเองก็เริ่มไม่ค่อยขัดแล้ว ออกแนวเออออไม่ได้ยินแทน กลัวจะไปทำร้ายน้ำใจคนใช้กลยุทธ์ใจแลกใจเข้า แหมมมม อยากจะแหมถึงดาวอังคารเลยค่ะ 555

 

แฮชแทค #น้องเจที่น่าลัก -> ทวิต @MajaYnaja

 

เพจนักเขียนที่อยากจะเป็นหมอนรองหัวน้องเจตอนโขกเตียง  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2018 12:35:30
 :man1:  เอ็นดูน้องจิ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-06-2018 12:50:16
อยากเจอจิระ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-06-2018 15:01:52
ลุยให้สุดแล้วหยุดที่คำว่า..."รัก” ใช่มั้ยคะน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 09-06-2018 18:57:11
 :hao3: เดี๋ยวๆๆ สะใภ้ของบ้านชาญชัยอะไร
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-06-2018 19:44:39
ว่าที่สะใภ้คืออัลไรคะ เนียนไปมั้ยพี่ฌาน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 09-06-2018 19:54:30
แม่นิฌานเชื่อได้มั้ยนะ ตอนนี้ระแวงค่ะ 555 ไม่กล้าไว้ใจ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง  :z3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-06-2018 19:55:48
 :man1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-06-2018 20:22:13
โถ่วนว้องเจ กำลังจะโดนมารยาคุณแม่พี่นิณานมาล่อลวงแล้ววววว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-06-2018 20:24:54
ว่าที่แม่ผัว...........
จะได้เจอว่าที่ลูกสะใภ้แล้ว   :z3: :z3: :z3:

นิฌาน เจตริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-06-2018 00:20:27
คงซับซ้อนและลึกซึ้งจริงค่ะ แม่ถึงได้ตามขนาดนี้

สงสารฌาณนะ ให้ชีวิตลำบากบนความวุ่นวายที่ป้องกันตัวเอง
เจคะ พี่เค้าไม่หยอกธรรมดานะ เค้าจะพาไปเปิดตัว
ยิ่งตอนนี้ตกหลุมจมไปถึงขาแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-06-2018 08:23:59
นึกภาพนิณาณ ที่แกบ้งนู๋จิคนงามไปเบย 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-06-2018 08:40:20
น้องเจพี่ฌาณเรียกหนูว่า ว่าที่ลูกสะใภ้หนูก็ไม่ปฏิเสธนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 10-06-2018 08:43:02
คนเขียนเก่งจังค่ะ อ่านแล้วอยากดูซีรีย์เช็กเมทของจริงเลยอ่ะ ต้องมันส์มากแน่ ๆ
เสียดายซีซั่นนี้ไม่มีมิสเตอร์เอส ไม่งั้นก็จะได้มีจิระในกองถ่ายด้วย
พี่ฌานตกหลุมน้องเจจนขึ้นไม่ไหวแล้วนั่น 555
ชอบความฉลาดทันคนของน้องเจมาก แต่แพ้ทางให้เช็กเมทตลอดนี่สิ โถ
ชอบคู่นี้มากเลย ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
ปล.  ทำไมบวกเป็ดไม่ได้ก็ไม่รู้ T^T  แต่บวกคะแนนให้คนเขียนแล้วน้า
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 10-06-2018 10:19:08
นี่ยังเดาปมแม่ลูกไม่ได้เลยนะว่ายังไงแน่ ตกลงนิฌาณหรือแม่กันแน่ที่ผิด หวังว่าเรื่องนี้จะไม่มีดราม่านะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-06-2018 10:48:33
น้องเจ พี่เขาบอกว่าหนูเป็นลูกสะใภ้เนี่ย หนูจะไม่ปฏิเสธหน่อยหรอคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-06-2018 18:59:27
 น้องใจอ่อนแล้วสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-06-2018 21:10:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 11-06-2018 02:44:31
แอบระแวงคุณแม่อยู่ตกลงเธอจะร้ายหรือเธอจะรัก อยากให้คุณแม่เป็นคนดีนะคะชีวิตรักของนิฌาณกับหน่องเจจะได้ราบรื่น
พี่นิฌาณจะพาน้องเจไปเจอมาแล้วแสดงว่าจริงจังมากๆเลยนะคะกับคนนี้ จีบน้องให้ติดเร็วๆนะละก็เลิกเจ้าชู้ด้วย  :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 11-06-2018 17:11:03
กรี๊ดๆๆ แวะมาจิ้มค่ะ ฮือ เพิ่งเห็นว่ามีเรื่องใหม่ แง้

หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: obofe ที่ 12-06-2018 16:55:53
ท่านดาราปลาไหลเป็นพระเอกที่เท่กว่าเสี่ยเยอะมาก  ไม่ต้องห่วงคะคุณนักเขียน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 - P.12 -[09/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 13-06-2018 02:20:44
แหมๆๆ ว่าที่สะใภ้ ไหลไปเรื่อยนะพ่อคู๊ณณ :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 23-06-2018 18:44:28

ตอนที่ 16 : เปิดตัวลูกสะใภ้

 


ไม่รู้ทำไมผมถึงตื่นเต้นกับการเจอแม่นิฌานมากกว่าเข้ากองเช็กเมทอีก

“เหงื่อออกเลยเหรอน้องเจ”

“พี่ฌานอย่าเนียน” พูดจบก็สะบัดมือหนี ใครใช้ให้จู่ๆ คนที่ควรจะกระวนกระวายที่สุดอย่างเขาลอบจับมือชื้นๆ ของผมกันล่ะ คิดแล้วก็สูดหายใจเข้าลึก เดินเคียงคู่ไปกับนิฌาน ชาญชัย ซึ่งสวมหมวกปิดบังใบหน้าเดินเข้ามาในร้านอาหารหรูซึ่งมีห้องส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยง

เมื่อไปถึงห้องจองแม่นิฌานก็มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

ไม่นับว่าผิดคาด แต่ที่ชวนเหงื่อตกกว่าเดิมคือนิฌานเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามกับมารดาบังเกิดเกล้าของเขา ซึ่งผมขอขยายความสักนิด ว่าไอ้ห้องนี้เป็นโต๊ะกลมสำหรับสิบคน การนั่งประจันหน้ากันจึงมีกระจกหมุนขวางกั้น แลห่างเหินเป็นที่สุด

แล้วผมจะทำอะไรได้ นอกจาก...

นั่งข้างๆ คนที่แอบเนียนจับมือพร้อมกระตุกเบาๆ ไม่ให้ขัดขืน เอาไงก็เอากัน!

“ไม่เจอกันนานเลยนะฌาน” เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกชาย แม่ของนิฌานก็เรียกชื่อเล่นอย่างสนิทสนมด้วยน้ำเสียงเจือความคิดถึงเต็มเปี่ยม

ตัดกลับมาที่เจ้าของชื่อ

นิฌานเอียงเมนูหันมาทางผมแล้วถามว่าอยากกินอะไร

เฮ้ๆ เป็นลูกอกตัญญูไม่ว่า แต่อย่าลากผมลงน้ำด้วยได้มั้ย!

“ไม่ต้องดูเมนูหรอกฌาน แม่สั่งอาหารที่ลูกชอบไว้แล้ว ถ้าไม่อิ่มค่อยสั่งของหวานเพิ่มแล้วกันนะ”

ช่วยประหยัดเวลาดีแท้ หรือไม่ก็เกรงว่าจะถูกเมิน แม่นิฌานจึงเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ เพราะหลังพูดจบไม่ทันถึงห้านาที อาหารสารพัดอย่างก็ถูกยกเสิร์ฟ ต้มยำกุ้ง ปูผัดผงกะหรี่ ปลากะพงทอดน้ำปลา หมูทอดกระเทียม หอยจ้อ ตบท้ายด้วยอาหารสุดเบสิกอย่างไข่เจียว

“ช่วงนี้ผมต้องคุมน้ำหนัก” หลังกวาดตามองหนึ่งที นิฌานก็หยิบเมนูขึ้นมาเปิดไม่สนใจพวกของทอดเรียงรายตรงหน้า

แต่ผม...หิวอ่ะ

น้ำลายเริ่มไหล กระเพาะเริ่มร้อง แต่ผมเกรงใจสงครามเย็นตรงหน้า เลยก้มหน้าเจียมเนื้อเจียมตัว กุมมือวางบนตักท่องยุบหนอ พองหนอ หิวหนอในใจ

“น้องเจอยากกินก็กินสิครับ” จู่ๆ นิฌานก็หัวเราะ แอบเนียนลูบหัวผมไปสามที “คิดมากอีกแล้ว หิวก็กินเถอะ ไม่ต้องสนใจพี่”

ไม่สนใจก็ได้ด้วย!?

นิฌานพยักหน้ารับตามประสาคนอ่านโทรจิตออก เมื่อได้ไฟเขียวเด็กวัยกำลังกินกำลังโตก็เริ่มโซ้ย แต่ไม่วายตะแคงหูคอยฟังบทสนทนาที่จืดชืดยิ่งกว่าไข่เจียว

“แม่ขอโทษนะฌาน แม่ลืมว่าลูกต้องเตรียมร่างกายสำหรับซีรีส์เช็กเมท”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมรับเล่นซีรีส์เรื่องนี้”

ไข่เจียวแทบติดคอ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษนิฌานที่จู่ๆ ก็คิดเปิดโปงฐานะสายลับสองหน้าของผม

“ก็...แม่ได้ข่าวจากวงในน่ะ”

“วงในจากไหนหรือครับ บทที่ผมรับเล่นเป็นความลับที่ทางกองปิดมิดชิด ขนาดท่านประธานยังไม่รู้เลย”

แม่นิฌานสะอึก ส่วนผมดื่มน้ำหลายอึกเป็นเพื่อนเธอ

ไอ้เราเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าวงในคนนั้นคือใคร ถึงได้รู้ลึกรู้จริง รู้ถึงขนาดนิฌานยอมรับเล่นเพราะผมเป็นคนขอร้อง!

“ก็...จากเจไงจ๊ะ”

งวดนี้เล่นเอาหอยจ้อแทบติดคอ

ผมไอคอกแคกจนนิฌานช่วยรินน้ำให้ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นแม่นิฌานจ้องเขม็ง ต่อให้อ่านโทรจิตเธอไม่ออก แต่ก็พอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าต้องการอะไร...

“ใช่ครับ ผมติดต่อกับแม่พี่เอง”

เป็นสายลับสองหน้าก็ซวยอย่างนี้ เอาใจคนข้างตัวไม่พอยังต้องช่วยเนียนให้คนตรงข้ามอีก ผมชักกินข้าวไม่ลงแล้ว

“กินเยอะๆ สิครับน้องเจ จากนี้ต้องลุยงานกันต่อถึงดึกเลยนะ”

แต่นิฌานไม่ยอมให้ผมวางช้อน เขาช่วยตักปลา แถมยังแกะก้างให้ผมอย่างเอาใจใส่ อย่ามาดูแลกันดีโดยทิ้งผู้ให้กำเนิดนั่งโดดเดี่ยวไม่มีอะไรบนจานสักอย่างได้มั้ย ผมยิ่งร้อนตัวเข้าไปใหญ่เมื่อจู่ๆ ก็เป็นเป้าสายตา

“ฌานสนิทกับเจมากเลยนะ / ไม่ยักรู้ว่าคุณสนิทกับน้องเจ”

ทำไมหัวข้อถึงกลายเป็นผมได้ล่ะเฮ้ย!

“ผมชอบน้องเจ” นิฌานหันมาขยิบตาเจ้าชู้ “หลงหัวปักหัวปำ”

งวดนี้ผมไม่สำลักแล้ว แต่แทบจะอ้วกปลาออกมาเลยทีเดียว

“เจกับแม่ก็ติดต่อกันมาสักพักแล้ว เพราะลูกบางคนไม่ยอมคุยกับแม่ แม่จึงต้องเข้าทางน้องเขา ให้ช่วยเล่าหลายๆ อย่างให้ฟัง ไม่งั้นแม่คงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูกเลย”

“ผมจะยอมเชื่อแล้วกัน”

พระเจ้าครับ ผมทำอะไรผิด ทำไมต้องลงโทษให้ผมมานั่งตรงนี้ด้วย!

ราวพระเจ้ารับรู้ความในใจ จึงส่งพนักงานมาเสิร์ฟอาหารที่นิฌานเพิ่งสั่งไปทำให้สองแม่ลูกเลิกต่อปากต่อคำชั่วครู่ ปล่อยผมพักหายใจหายคอบ้าง

และทันทีที่พนักงานปิดประตูจนเหลือแค่เราสาม...

“เจเป็นเด็กดีนะ”

“ใช่ครับ น้องเจเป็นเด็กดี เลยไม่ลาออกเหมือนคนอื่นๆ ที่ถูกคุณข่มขู่”

...ผมก็อยากขอตัวไปเข้าห้องน้ำเหลือเกิน ไม่เอาแล้ว อิ่มชื่อตัวเองแล้วครับ

“เจเป็นเด็กดี ถ้าเป็นคนคนนี้ ต่อให้เป็นผู้ชายแม่ก็ไม่คัดค้าน”

ผมว่าเรื่องราวชักไปในทางไม่ถูกไม่ควรขึ้นทุกที

“เจไม่ตกลงคบกับฌานล่ะลูก”

ผมไปเป็นลูกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่!!!

แล้วไอ้ตัวต้นเรื่องนั่นน่ะ...จะยิ้มหน้าระรื่นทำไม ตอนแรกยังแตกกันอยู่แท้ๆ ไหงพอวกมาเรื่องนี้ถึงเงียบกันล่ะ ปฏิเสธไปสิเฮ้ย!

“ผมกับพี่ฌานเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันครับ” ผมตอบแบบเป็นกลาง

“พิจารณาพี่เขาหน่อยสิจ๊ะ ในฐานะคนเป็นแม่ ไม่เคยเห็นฌานฟังใครขนาดนี้มาก่อน แสดงว่าเขาต้องรักเจมากๆ เลยนะ”

อย่า...ผมหมายถึงคนข้างตัวผมน่ะอย่าพยักหน้า!!

“แม่เองก็ชอบเจ ยินดีรับมาเป็นสะใภ้ตระกูลชาญชัย”

นิฌานยิ่งพยักหน้าหงึกหงักถี่รัวเข้าไปใหญ่ ผมทั้งหมั่นไส้ทั้งลอบนับถือในใจ เพราะประโยคนี้มัน...ประโยคเดียวกับที่เขาบอกตอนรับนัดไม่ใช่เหรอ แสดงว่าเจ้าตัวพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าบทสนทนาจะเอนเอียงมาทางนี้

หากไม่ถูกหยอกจนมองเมินมาก่อน ผมคงตกใจจนอ้าปากค้างไปแล้ว แต่ในเมื่อเตรียมใจได้ ผมจึงรับมืออย่างมีสติมากกว่าเดิม

ไม่วายเหลือบมองคนข้างตัวที่ยังยิ้มร่าไม่รู้สาเพื่อสื่อสารโทรจิต

‘จะให้ผมตอบยังไงถึงจะเข้าแผนพี่’

‘ตอบตกลงสิครับ รับรองว่าเด็ด’


นิฌานขยิบตา ไม่รู้ว่าเด็ดน่ะเพราะเข้าทางเขาที่ได้ทั้งคืบทั้งศอก หรือเพราะจงใจจะเปิดโปงธาตุแท้แม่ตัวเองกันแน่

“เรื่องนี้...ผม...” ผมก้มหน้าเสแสร้งทำเป็นเขินอาย ไม่ขอตอบอะไรเลยแล้วกัน มันกระดากปาก!

“น่ารักจริงๆ” แม่นิฌานทำหน้าซาบซึ้ง “แต่ถ้าคบกันแล้วเรื่องงานจะทำยังไงดีล่ะ ควรแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันนะจ๊ะ หากเป็นข่าวขึ้นมา ฌานที่เพิ่งรับเล่นเช็กเมทคงถูกผลตอบรับตีกลับแน่”

ทันทีที่ได้ยินประโยคหลัง ผมก็เลื่อนมือไปแตะนิ้วนิฌานเบาๆ

“เอาแบบนี้แล้วกัน แม่เข้ากับเจได้ดี และตัวเจเองก็รับรองได้ว่าแม่ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฌานจะโกรธจะเกลียดแม่ยังไงก็ได้ แต่อยากให้ลองเปิดใจ เปิดโอกาสกับรักครั้งนี้ ให้แม่กลับมาทำหน้าที่ผู้จัดการ ช่วยดูตารางงานและหาเวลานัดให้ลูกๆ ทั้งสองจะดีมั้ยจ๊ะ ในเมื่อแม่เป็นคนเดียวที่เป็นพยานความรักของเราสองคนวันนี้  รับรองว่าจะช่วยสนับสนุนทั้งเรื่องรักและเรื่องงาน ไม่ให้ขาดตกบกพร่องสักอย่างเดียว”

นี่เองคือประเด็นหลัก

ผมล่ะสุดแสนจะนับถือแม่นิฌานเลยจริงๆ เธอวางแผนได้เป็นขั้นเป็นตอนมาก ซึ่งผมจะขออธิบายโดยสังเขปดังนี้

หนึ่ง ใช้บทมารดาบังเกิดเกล้าผู้คิดถึงลูกชายจนทนไม่ไหวโจมตีผม ให้ผมลากเขามาทานอาหารในห้องส่วนตัว

สอง เริ่มชวนคุยให้เห็นถึงความขัดแย้งของแม่ลูก จากนั้นก็วกกลับมาที่หัวข้อ ‘น้องเจ’ ใช้ความเป็นสายลับสองหน้าของผมในการเออออใส่ทั้งสองคน บ่งบอกว่าเข้ากันได้ทั้งกับนิฌานและแม่ของเขา

สาม ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อ เพราะเธอรู้ว่าลูกชายที่รักผมหัวปักหัวปำจนเชื่อฟังทุกอย่างนั้นไม่มีทางขัดหากยกเรื่องการคบหามาพูด ซึ่งเป็นความจริง ไอ้เจ้าบ้านิฌานเสือกพยักหน้าหงึกหงักอยู่ได้!

สี่ แต่นิฌานพยักหน้าก็มีจุดประสงค์ เพราะชักนำมาถึงแผนการขั้นสุดท้าย นั่นคือเอาทุกอย่างมารวมกัน ให้ผมเชื่อใจเธอว่ารักลูกชาย เป็นห่วง อยากเข้ามาดูแล โดยยกข้ออ้างเรื่องความรักผมเป็นปัญหา ยกเรื่องเช็กเมทที่ผมรักมาดักคอ บอกเลย...ถ้าผมรักกับนิฌานเข้าจริงๆ เจอไม้นี้เป็นต้องอึ้ง

น่าเสียดาย

เพราะผมไม่ได้คบกับลูกชายเธอจริงเนี่ยสิ

‘ไหวมั้ยพี่’


ผมกำนิ้วนิฌานเบาๆ ผ่านใต้โต๊ะ พร้อมส่งโทรจิตผ่านสายตาอย่างเป็นห่วง

‘น้องเจยังหิวอยู่มั้ย’

ผมงงมาก ไหงจู่ๆ วกมาเรื่องกินกันล่ะ

‘จุกจนอิ่มแล้วพี่’

‘งั้น...ปิดฉากเลยละกัน’

แล้วนิฌานก็ลุกพรวดจนผมสะดุ้ง

“ไม่เจอกันหนึ่งปี ความต้องการของคุณยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด”

“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะฌาน” แม่นิฌานหน้าเจื่อนเล็กน้อย “แม่ไม่ได้จะควบคุมลูกสักหน่อย แต่แม่จะช่วยดูแลเรื่องงานและเรื่องหัวใจให้ต่างหาก ถ้าจะคบกับเจ น้องก็ต้องลาออกจากการเป็นผู้จัดการ ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ เพิ่งเซ็นสัญญากับเช็กเมท แล้วยังถ่ายไปฉายไปตัวติดกันตลอดอย่างนี้ หากเป็นข่าวฉาวขึ้นมามันคุ้มเหรอ จะนัดเจอหรือทำอะไรก็ลำบาก หากไม่มีคนกลางที่รู้เรื่องอย่างแม่ยังไงก็ประคองความสัมพันธ์ไม่รอด ไว้หลังถ่ายจบ งานน้อยลงกว่านี้ ไม่เป็นที่จับตาเหมือนในตอนนี้ อยากจะกลับเป็นเหมือนเดิมก็ยังไม่สาย”

“ถ่ายเช็กเมทจบ สัญญาผู้จัดการของน้องเจก็หมดอายุแล้ว”

“แม่...แม่ลืมคิดเรื่องนั้นไปเลย” แม่นิฌานแสร้งลืมเห็นๆ

“กลับกันเถอะน้องเจ อย่าไปฟัง”

“แม่หวังดีนะ!” แม่นิฌานแทรกอย่างลนลาน ก่อนจะหันมาหาแนวร่วม ทำหน้าตาวิงวอนเปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดู “เจ...เจเห็นด้วยกับแม่ใช่มั้ยลูก”

ผมซึ่งถูกคนข้างตัวกระชากมือให้ลุกขึ้นตามไปด้วยเลือกปิดปากเงียบ เพราะรู้ว่านิฌานจงใจยั่วโมโห ให้ผมยิ่งเห็นธาตุแท้คนตรงหน้ายิ่งกว่าเดิม

“เจ...เจ...” แม่นิฌานเรียกผมเสียงอ่อนอย่างน่าสงสาร ราวคนทำดีแต่ไม่มีใครเห็นความดี จนกระทั่งลูกชายเดินไปถึงประตูใกล้จะเปิดออกนั่นแหละ เธอก็ตะโกนลั่น น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นคนละคน “ไอ้ลูกโง่ คนที่จับมือนั่นเป็นคนของฉัน ไม่รู้ตัวรึไง!”

นิฌานชะงัก หันกลับมามองแม่ตัวเองด้วยสายตาว่างเปล่า

“นี่ไงหลักฐานการโอนเงิน ภาพถ่ายตอนที่นัดพบฉันก็มี เด็กที่แกรักนักหนาเป็นคนที่ฉันส่งไปเอง เพราะงั้นถึงได้เป็นผู้จัดการต่อไงล่ะ คิดว่ามันรักแกจนปฏิเสธฉันได้รึไง มันรักเงิน! เหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละนิฌาน!!”

ผมมองหลักฐานสลิปเงินโอนซึ่งถูกโยนบนโต๊ะอาหารแล้วเขยิบตัวเข้าหานิฌานกว่าเดิม และอุ่นใจมากที่เขาไม่ผละหนี บีบมือผมแน่นขึ้นอย่างไม่ยอมพรากจาก

ผมเอง...ก็จับมือเขาแนบแน่นไม่ต่างกัน

เพราะหมากตานี้ของแม่นิฌานโหดร้ายมาก ลองคิดดูสิครับ หากผมไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังแต่แรก หากปิดบังตั้งแต่วันนั้น...คำพูดพวกนี้จะทำร้ายกันขนาดไหน ต่อให้ผมปฏิเสธภายหลังก็ยากจะกอบกู้ความเชื่อใจ เผลอๆ ถูกนิฌานฉีกสัญญาด้วยซ้ำ การเข้ากองเช็กเมทก็จะไม่เหมือนเดิม เพราะเดิมทีเขาทำเพื่อผม แต่สุดท้ายกลับถูกหักหลัง คิดว่าเป็นคนของแม่ที่ส่งให้มารัก เจ็บซ้ำเจ็บซาก นับเป็นแผนโจมตีทางจิตใจล้วนๆ

ส่วนตัวเธอนั้นนับว่าคุ้มสุด ในเมื่อไม่ได้ตามต้องการก็ทิ้งไพ่ตายกะล้มกระดาน เดิมทีก็โดนลูกชายเกลียดอยู่แล้ว จะเสียผมไปก็แทบไม่ต่างกันในเมื่อจุดประสงค์แรกคือให้นิฌานไม่เหลือใคร เรียกว่าได้ความสะใจพ่วงผลพลอยได้ที่ดี

“พูดจบแล้วใช่มั้ยครับ”

ทว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า

นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้ว นิฌานยังยักคิ้วกวน กอดผมจากด้านหลังโชว์อย่างไร้ยางอาย

“สงสัยวันนี้น้องเจต้องเลี้ยงพี่แล้วล่ะ ใช้เงินที่แม่พี่โอนมาให้นั่นไง มาเลี้ยงฉลองสองต่อสองก่อนไปเข้ากองเช็กเมทพรุ่งนี้กันนะครับ ดินเนอร์ใต้แสงเทียน บอกรักกันใต้แสงดาว...”

นิฌานหอมหัวผมหนึ่งที เวรล่ะ เมื่อคืนไม่ได้สระผม!

“เอาให้ใครบางคนอิจฉาจนเหม็นความรักไปเลย”

“นิฌาน!”

“ฮ่าๆๆ!” นิฌานหัวเราะกลบเสียงตะโกนอย่างกรุ่นโกรธ ก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปทันที เปลี่ยนจากโอบกอดเป็นโอบไหล่ผม ไม่คิดหันหลังกลับไปมองแม่แท้ๆ ของตัวเองอีก

กระทั่งเดินมาถึงรถนั่นแหละ

เสียงหัวเราะและรอยยิ้มนั้นก็หายไป นิฌานเอียงศีรษะซบบ่าผม จับมือแน่นไม่ยอมปล่อยนับตั้งแต่ห้องอาหารจนถึงตอนนี้

“ทำไมแม่พี่ถึงยึดติดกับการเป็นผู้จัดการขนาดนั้น” ผมถามเสียงแหบแห้ง เข้าใจความขัดแย้งของทั้งคู่ในภาพรวม แต่ยังมองภาพหลักไม่ออก

“น้องเจลองเดาสิ แม่พี่มีหลุดออกมาด้วยนะ”

ผมทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมด ก่อนจะเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา

“เพื่อ...ควบคุม?”

“เก่งมากเด็กดี” นิฌานลูบหัวเป็นรางวัลอีกสามที ส่วนผมมองค้อน เพราะเห็นว่าไอ้ท่าทีทำเป็นเล่นอย่างสุดฝืนนั้นไม่น่าดูเอาซะเลย

“ถ้าจะเล่าก็ต้องย้อนไปตั้งแต่พี่ยังเด็ก เพราะแม่พี่ท้องก่อนแต่ง แต่แต่งงานกันไม่นานก็หย่าเพราะยื้อกันไม่รอด เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ก็ถูกนินทาว่ามีลูกตั้งแต่ยังสาว ใจแตกอย่างนั้นอย่างนี้ เฮ้อ...เครือญาติพากันหนีหายไม่อยากยุ่งเกี่ยว บางครั้งแม่พี่ก็เคยเปรย ว่าไม่น่าพลาดท้องพี่เลย แต่โชคดี...พี่ถูกทาบทามให้เล่นภาพยนตร์  แถมยังได้รางวัลอีก เรื่องราวถึงได้พลิกกลับตาลปัตร”

นิฌานเล่าไปพลางก้มหน้าซุกไหล่ผมไปพลาง แต๊ะอั๋ง! ลวนลาม!

“น้องเจพอนึกภาพออกมั้ย จากครอบครัวแตกแยก แม่ร้องไห้ทุกคืน ไม่มีคนคบหา โดนนินทาเยาะเย้ย กลายเป็นได้รับคำชื่นชม ยกยอว่ามีลูกชายที่ดี เป็นแม่ที่น่าอิจฉา ยังสาวยังสวย แล้วหาว่าพ่อของพี่ต่างหากที่เลือกทางผิดทิ้งพวกเราไป แม่จะยึดติดกับการเป็นผู้จัดการ พาลูกชายเร่ออกไปโชว์ตัว พาไปออดิชั่นสารพัดที่เพื่อคงชื่อเสียงพวกนั้นขนาดไหน”

แต่ผมไม่ผลักออก เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาอกุศล แต่พอพูดเรื่องอดีตแล้วก็คุมสีหน้าตัวเองไม่อยู่ มันเจ็บช้ำ ไม่อยากนึกถึง

“ถึงจะเหนื่อย ใช้ชีวิตวัยเด็กที่ไม่สมเด็ก แต่ตอนนั้นพวกเรามีกันสองคน พี่เลยรักแม่มาก ว่าซ้ายก็ซ้าย ว่าขวาก็ขวา ให้รับงานเยอะแค่ไหนก็ไม่แย้ง จะขาดเรียนหรือนอนน้อยก็ยอม แต่...พอโตขึ้น พี่ก็รู้สึกว่า...พี่ทำให้ด้วยใจ แต่แม่พี่ไม่ใช่...แม่ไม่เคยให้สิ่งที่พี่ต้องการกลับมาเลย”

ผมลูบหัวเขาสามทีอย่างปลอบโยน

“แม่มีพี่ไว้โอ้อวด ว่าแม่ไม่ได้ถูกพ่อทิ้ง แม่ไม่ได้ล้มเหลว ทุกคนต้องชื่นชม ต้องอิจฉา ต้องอยากเป็นอย่างแม่ เธอห่วงความคิดคนอื่นมากกว่าความรู้สึกของพี่ซะอีก ตอนที่พี่มีปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องเพื่อนหรือเรื่องเรียนก็ไม่สนใจ เอาแต่ห่วงว่าพี่จะทำงานได้มั้ย จะทำให้เธอเป็นแม่ดาราต่อไปได้หรือเปล่า”

นิฌานสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเงยหน้าสบตาผม

“มาถึงจุดหนึ่งที่พี่เริ่มโตพอจนตัดสินใจเองได้ สิ่งแรกที่พี่ทำคือปลดแม่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการ อย่าให้พูดเลยว่าบ้านแตกขนาดไหน แม่เชื่อว่าที่พี่มาถึงจุดนี้ได้เพราะตัวเธอเอง เมื่อโดนทิ้งให้เฝ้าบ้าน ให้เงินจำกัดเป็นรายเดือนจึงยิ่งยอมรับไม่ได้  ถึงขั้นไม่ยอมให้ประสบความสำเร็จ แต่อยากผลักให้ล้ม อยากให้พี่โดดเดี่ยวไม่เหลือใคร พยายามโจมตีทั้งกายทั้งใจ อยากให้พี่ซมซานกลับไปหา ว่าการเลือกออกไปใช้ชีวิตเองแบบนั้นมันผิด แต่การเป็นเด็กดีในโอวาท เชื่อฟังแม่ต่างหากที่ถูก”

พูดจบนิฌานก็เผยยิ้มขื่น

“พี่อยากได้แม่ที่รักพี่ แต่แม่ไม่อยากได้ลูกชายที่รักเธอ เธออยากได้สัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ตัวหนึ่งจับจูงไปโชว์ตัวแลกกับเงินให้คนอื่นอิจฉาตาร้อนกลบปมในใจต่างหาก ความคิดเราสวนทางมากเกินไป สุดท้ายพี่ถึงยอมแพ้ เลิกเป็นลูกที่ดี แต่ทำตัวสำมะเลเทเมา แม่อยากได้เรื่องฉาวเหรอ พี่จะทำให้ขนาดนักข่าวยังตามแฉไม่ทัน แม่อยากให้การทำงานในกองไม่ราบรื่นใช่มั้ย งั้นพี่ขอหาความสำราญใส่ตัวจนคนระอาแล้วกัน ผู้จัดการคนใหม่หามาไม่ซ้ำหน้า ผ่านมาแล้วผ่านไปไม่เคยได้แตะต้องบัญชี”

เล่าจบ นิฌานก็ถอนหายใจเฮือก เหมือนได้ระบายความลับที่เก็บซ่อนมาเนิ่นนาน

“พี่บอกแล้วว่ามันลึกซึ้ง”

“ลึกซึ้ง...มากจริงๆ ด้วย” ผมหาคำอื่นที่ดีกว่าไม่ได้จริงๆ ย้อนนึกถึงตอนปรึกษากับพี่จิ ว่าแม่ลูกสามารถตัดขาดกันเพราะเงินได้จริงมั้ย แต่นั่นเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้น เพราะเรื่องราวของนิฌานนั้นสะสมมาแต่เด็ก จากความพลาดพลั้งของปัญหาต้นๆ ของวัยรุ่นสมัยนี้...การมีบุตรในวัยที่ไม่พร้อม

เมื่อตั้งต้นจากจุดนี้ สายตาที่แม่เขามองลูกชายก็ไม่เหมือนครอบครัวทั่วไปแล้ว เมื่อรวมกับช่วงชีวิตที่ทิ้งดิ่งแล้วพุ่งสูงรวดเร็วเกินไป แม่เขาก็ยิ่งไม่ยอมรับหากถูกตัดในสิ่งที่เคยได้เคยมี ลูกที่พลาดให้กำเนิดนั้นควรจะเชื่อฟังแล้วซาบซึ้งในบุญคุณ ไม่ใช่ต่อต้านแยกตัวไปอย่างนี้สิ

ซึ่งไอ้แบบนั้นน่ะ...เรียกครอบครัวไม่ได้หรอกนะ!


“พี่ถึงดีใจเหลือเกินเมื่อน้องเจก้าวเข้ามา”

ผมกะพริบตาปริบ ปรับอารมณ์แทบไม่ทันเมื่อจู่ๆ ก็เปลี่ยนหัวเรื่อง

“แม่ทำให้พี่เป็นคนที่แย่ลง แต่น้องเจทำให้พี่อยากเป็นคนที่ดีขึ้น” นิฌานเงยหน้า มองผมด้วยสายตาหวานซึ้งที่แฝงความอบอุ่นมากกว่าหยาดเยิ้ม พร้อมบีบมือเบาๆ อย่างยืนยันคำนั้น “ไม่ต้องรับรักก็ได้ แต่ขอให้พี่ได้รัก...”

ว่าเขาไม่ได้หวังเคลมอย่างที่เข้าใจมาตลอด

“เป็นกำลังสำคัญ เป็นกำลังใจ เป็นเด็กดีอย่างนี้ตลอดไปนะครับ”

เพราะตัวตนของผมในใจเขามีอิทธิพลมากกว่าที่เคยคาดไว้หลายเท่า ไม่ต่างกับหลักยึดให้คนที่โดนคลื่นซัดจนโซซัดโซเซบอบช้ำทั้งกายใจได้พักพิง ถึงได้เอาใจกันเหลือเกิน และมีความสุขในทุกการกระทำของผมแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม

นี่เป็นครั้งแรก...ครั้งแรกที่ผมทบทวนคำว่า ‘รัก’ ของนิฌานอย่างจริงจัง

กับคนที่ยกครอบครัวเป็นอันดับหนึ่งตลอด ไม่เคยมีความคิดคบหาใครเลยสักครั้ง ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตาไม่น้อย

อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งล่ะที่ยังไม่อยากเชื่อตัวเอง แต่ไม่วายหลบรอยยิ้มและสายตาจ้องตรงไม่กะพริบนั้นด้วยการซุกหน้ากับบ่าเขาแทน

นิฌานหัวเราะฮะๆ ในลำคอพร้อมฉวยกอดหลวมๆ ไม่คิดล่วงเกิน

“อุ้มกลับบ้านเลยได้มั้ย ขนาดกำลังพอดีมือ”

“นี่คนครับไม่ใช่ตุ๊กตา”

“โอ๋ๆ ไม่โกรธนะ” นิฌานลูบหัวผม เห็นว่าเขาชอบและผมกำลังสบายหรอกนะถึงได้ยอม ไม่ใช่ว่าไม่กล้าเงยหน้าเพราะร้อนๆ หูจนต้องซุกบ่าแก้เก้อหรอกน่า

ฮึ่ม จะยอมเปิดใจให้ทำคะแนนก็ได้ ถ้าครั้งนี้ยังจีบไม่ติดอีกก็ถือว่าพี่ฌานไร้ฝีมือแล้ว!

----------------

ไม่นะน้องเจจจ อย่าเพิ่งเปิดใจแบบนี้สิลูกกกกกก

แม้จะคร่ำครวญแค่ไหน แต่นี่ก็ปาไปครึ่งเรื่องแล้ว ไม่เปิดไม่ได้แล้วค่ะ เดี๋ยวหนังสือจะหนาเกิน 555 เป็นอันคลี่คลายแม่ของนิฌานที่ไม่จบแต่เพียงเท่านี้ แต่ออกมาก็คุ้มค่าตัว เพราะทำให้ทั้งนิฌานและน้องเจพัฒนาไปอีกก้าวค่ะ คือแต่แรกจะเห็นว่าน้องเจปิดมาก ส่งอะไรมาคือไม่ยุ่งไม่สนใจเลย แถมยังตอกกลับอย่างแล้งน้ำใจสุดๆ เพราะน้องเจคิดว่านิฌานเป็นพวกเจ้าชู้ รักไม่นาน ฟันแล้วทิ้ง
 

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่อยากลักน้องเจหนีกลับบ้าน (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

ปล.เราก็อยากอัพเรื่องนี้ให้สม่ำเสมอเหมือนเรื่องอื่นๆ นะคะ แต่ไม่รู้ทำไม ตอนแต่งน้องเจมักจะมีอุปสรรคเข้ามา ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว อาถรรพ์มาก ฮือ แต่งแต่ละตอนต้องบิ้วสุดๆ กำลังใจที่ดีที่สุดก็คือมานั่งอ่านคอมเม้นทุกท่านค่ะ QAQ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-06-2018 19:06:24
 ลองพาแม่มาเจอกับครอบครัวทองคำดีสิ  :hao7: สนุกสนานแน่ๆ โดยเฉพาะลูกชายคนโต
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-06-2018 19:15:08
น้องเจของพี่หนูจะใจอ่อนแล้วเหรอลูก แต่ตอนนี้ก็เห็นใจนิฌาณนิดๆนะคือพอรู้ปมพี่แกก็พอเข้าใจว่าทำไมพี่แกเจ้าชู้หาความรักไปเรื่อย เพราะไม่เคยได้ความรักจากแม่บวกกับต้องการประชดแม่นี่เอง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-06-2018 19:18:48
ไม่น่าเชื่อเลยยย นิฌาณมีอดีตอันน่าเศร้าจริงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 23-06-2018 19:32:57
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 23-06-2018 19:53:21
แม่ฌานเนี่ยร้ายจริงๆ  :angry2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-06-2018 21:13:28
น้องเจ ต้องเล่นตัวไปเรื่อยๆก่อนค่ะ ดูพฤติกรรมก่อนนนน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 23-06-2018 21:45:34
น้องเจน่ารักมาก  แต่เรื่องจริงมากๆความรักความอบอุ่นจากครอบครัวมันเป็น power ให้กับคนๆนึงได้เลย  ทำให้คนๆนึงมีความมั่นใจ มี positive thinking นำพามาซึ่งอะไรอีกหลายอย่าง เพราะมันระลึกได้อยู่เสมอว่าเบื้องหลังของเรายังมีต้นไม้ใหญ่ที่กลับไปนั่งพักพิงได้นะ  ทำให้น้องเจออกมาเป็นเด็กน่ารักแบบนี้ครอบครัวทองคำดี คือดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PoyPay ที่ 24-06-2018 03:09:07
อ่านจนจบตอนได้ข้อสรุปว่า...
สิ่งที่ทำให้น้องเจอ่อนลงไม่ใช่เพราะพี่น่ารักแต่เป็นเพราะหนังสือเริ่มจะหนาแล้ว... 555...
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-06-2018 03:16:03
แล้วยัยแม่ฌาณทำงาน ทำการอะไร ถึงได้มีเงินมาจ้างคนอื่นทำร้ายลูกตัวเอง  :katai1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 24-06-2018 06:33:17
 :กอด1: น้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-06-2018 09:07:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 24-06-2018 14:36:45
โหมาดราม่าเต็มๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-06-2018 18:07:35
ลองพาแม่มาเจอกับครอบครัวทองคำดีสิ  :hao7: สนุกสนานแน่ๆ โดยเฉพาะลูกชายคนโต

เห็นด้วย ต้องได้เจอกับจิตริน จ้อไม่ทันจิแน่ กร๊ากกกกก   :laugh: :m20: :laugh:

แม่อย่างนี้ รักลูกไม่เป็น
:angry2:  เพราะรักแต่ตัวเองเท่านั้น

นิฌาน  เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-06-2018 08:42:07
น้องเจน่ารักมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 25-06-2018 10:39:10
ใครว่าน้องเจไม่น่ารัก

ไม่จริงเลยยยย

หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 25-06-2018 12:50:07
ชักจะหวงน้องเจซะแล้วสิ  o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-06-2018 22:26:12
น้องเจน่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-06-2018 23:06:07
ฮือ!! นิฌานทำเราใจบางแล้ว  และ น้องเจก็ใจอ่อนละจ้า~
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-06-2018 14:57:17
ตอนเด็กพี่ฌาณคงเหนื่อยมากเลยเนอะ ทั้งเรื่องแม่ เรื่องงาน โตขึ้นถึงตัดสินใจทำแบบนี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 28-06-2018 04:48:23
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 16 - P.13 -[23/06/61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-06-2018 09:07:05
เจ็บปวด นิฌาณไม่ได้แย่ แต่แค่อยากต่อต้าน
แม่ก็พลาดหนักมากค่ะ คิดว่าจะทำได้เหมือนเดิม

เจน่ารัก ปากแข็ง แต่ใจน่ะไปแล้วว
พี่ฌาณก็หยอดซะ จนเจอาจจะตามกลับเอง ไม่ต้องอุ้ม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 -[01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-07-2018 17:15:13
ตอนที่ 17 : ตาหมากของตัวร้าย

 

“หนี!”

“ให้หนีไปทางไหนล่ะ!”

สองหนุ่มทะเลาะกันในตรอกแคบท่ามกลางความมืด ด้านหลังเป็นเสียงฝีเท้าวิ่งไล่ตาม สร้างความแตกตื่นลนลานจนแทบทำอะไรไม่ถูก จะโทรหาตัวช่วยก็ทำไม่ได้เพราะเพื่อนแฮกเกอร์กำลังวิ่งหนีไม่ต่างกัน ใครจะรู้ว่าการบุกครั้งนี้ของพวกเขาจะถูกเจอตัวตั้งแต่ยังไม่ทำได้เริ่มต้น แถมคนที่มาขัดขวางดันเป็นตำรวจซะอีก

การกระทำของพระเอกหลังมิสเตอร์เอสตายนั้นสร้างความหวาดหวั่นแก่ตำรวจไม่น้อย จากที่เคยให้ความช่วยเหลือ ช่วยไขคดีมาตลอด กลับกลายเป็นขาดการติดต่อและลุยเดี่ยว หากไม่ตามติดคอยดักทาง ก็เกรงเหลือเกินว่าคนร้ายจะถูกฆ่าทิ้งโดยที่ยังไม่ทันได้จับมาไต่สวนตามกฎหมาย

และ...ใช่ พระเอกหมายฆ่าทิ้งจริงๆ ไม่คิดพึ่งพากระบวนการพรรค์นั้น เพราะไม่มีอะไรการันตีว่าหัวหน้าองค์กรจะได้รับโทษที่เหมาะสม หรือเผลอๆ อาจจะถูกปล่อยหรือหลบหนีออกมาอีกก็เป็นได้ เพียงคิด...ก็ไม่มีทางยอมให้เป็นจริงเด็ดขาด

ต่อให้ต้องตัดขาดกับตำรวจที่เคยร่วมงานกันมาตลอดก็ตาม!

“เอายังไงต่อดี”

“ปีนกำแพง”

“จะบ้าเหรอ! ฉันไม่ได้อึดถึกทนเหมือนนายน่ะโว้ย!” คนหนึ่งสบถลั่น ก่อนทั้งสองจะพากันสะดุ้งเมื่อจู่ๆ โทรศัพท์ของพระเอกสั่น ใครกันนะโทรเข้าในสถานการณ์นี้

(( เดินไปข้างหน้า ใต้แผ่นไม้มีฝาท่อให้ลอดข้ามไปอีกฝั่ง ))

“ใคร” แม้จะถาม แต่ในช่วงเวลาวิกฤต พระเอกก็เดินนำเพื่อนซี้ทำตามคำนั้น และเจอฝาท่อเข้าจริงๆ

(( ฉันน่ะเหรอ? ))

ปลายสายเอ่ยเสียงเรียบ

(( ฉันคือพี่ชายมิสเตอร์เอส ))

 




สามหนุ่มรวมตัวกันทันที ณ จุดนัดพบเมื่อหลบหนีออกมาได้ พร้อมสมาชิกหน้าใหม่ที่ดูสุขุมลุ่มลึกกว่าทุกคนในที่นี้ ชายหนุ่มร่างสูง สวมเสื้อโค้ตสีเข้มกลืนกับความมืดดันกรอบแว่นอย่างไม่ยี่หระ เส้นผมระต้นคอสีทองหม่นยุ่งกระเซิง เขานั่งนิ่ง เงยมองพวกพระเอกที่สุมหัวกันมองบัตรประชาชนสองใบอย่างใจเย็น

“ใช่จริงๆ เหรอ” คนหนุ่มที่มักคงรอยยิ้มเสมอขมวดคิ้วมุ่น ส่วนพระเอกนั้นยืนนิ่ง มองชื่อบนบัตรประชาชนใบแรกก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า...

“ใช่ นี่คือชื่อของมิสเตอร์เอส เขาเคยบอกฉัน...เป็นความลับของเราสองคน”

บัตรประชาชนใบแรกเป็นของมิสเตอร์เอส ส่วนใบที่สองซึ่งมีนามสกุลเดียวกันนั้น ย่อมเป็นของพี่ชายซึ่งนั่งรออย่างสงบไม่คิดขัดบรรยากาศหม่นเศร้าราวระลึกถึงการจากไปของเพื่อนสนิท

“งั้นก็...ยินดีต้อนรับนะคุณพี่ชาย!” ธนัทซึ่งรับบทหนักในการคลายความอึดอัดฉีกยิ้มกว้าง บัตรประชาชนทั้งสองใบคือหลักฐานยืนยันตัวตนที่ดีที่สุด เพราะมิสเตอร์เอสลบข้อมูลตัวเองออกจากระบบ ไม่มีทั้งรูปถ่ายและชื่อจริง คนที่รู้มีแค่ตัวพระเอกกับญาติสนิทเท่านั้น

“ขอบคุณ” นิฌานตอบเสียงเรียบ ในตอนนี้เนื้อเรื่องยังไม่เปิดเผยว่าเขาเป็นใคร และเชื่อว่าคงไม่มีใครคาดเดาได้แน่ว่าคนคนนี้จะเป็นถึงหัวหน้าองค์กรที่ตามหามาตลอด

...จุดไต้ตำตอโดยแท้

“แล้วคุณพี่ชายตามหาพวกเราเจอได้ยังไง”

“ฉันไม่ได้ตามหาพวกเธอ แต่ฉันมาเพื่อแก้แค้นให้น้องชาย พวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน จึงเจอกันโดยบังเอิญต่างหาก” เขาแก้ความเข้าใจเสียใหม่

“งั้น...คุณพี่ชายรู้ได้ยังไงว่ามิสเตอร์เอสตายแล้ว เขาไม่เคยติดต่อกลับไม่ใช่เหรอ”

“พวกเราไม่เคยติดต่อกัน แต่ทุกวันที่ 3 ของเดือนน้องชายฉันจะโพสภาพๆ หนึ่งบนเวปสาธารณะ นั่นเป็นรหัสลับ บอกให้ฉันรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ บางครั้งก็จะมีข้อความสอดแทรก หรือสื่อถึงพวกเธออยู่บ่อยๆ” ไม่พูดเปล่า ผู้ปลอมตัวเป็นพี่ชายยังเปิดภาพที่ว่าให้ดู บ้างเป็นรูปคอมพิวเตอร์โดดๆ บ้างเป็นรูปเงาของชายสามคน บ้างก็เป็นรูปที่มีตัวอักษรละลานตา “ภาพล่าสุดมีข้อความนัดหมายและสถานที่ ฉันคิดว่าน้องชายอยากพบจึงรีบไปตามนัด คาดไม่ถึง..ว่าเป็นแผนหลอกขององค์กร ล่อพวกเราสองพี่น้องออกมา ก่อนจะจับน้องชายฉันไป”

สาเหตุที่มิสเตอร์เอสถูกล้างสมองในซีซันสองถูกเปิดเผย

“ว่าแล้วเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ!” ธนัทดีดนิ้วเปาะ “มิสเตอร์เอสเอาแต่หมกตัวอยู่กับบ้าน จู่ๆ จะวิ่งโร่ออกไปให้โดนจับทำไมถ้าไม่เพราะอยากช่วยพี่ชาย เจ้าเพื่อนคนนี้...ปิดบังตัวเองไม่เคยเล่ามาก่อนว่ามีพี่น้องด้วย บอกกันสักคำจะตายรึไงนะ”

พูดจบธนัทก็ร้องอุ๊ย เพราะมิสเตอร์เอสไม่ได้จะตายหรอก...แต่ตายแล้วต่างหาก

“โทษที...” คนยิ้มแย้มหน้าสลด ตบบ่าพระเอกที่หน้าตึงอย่างสำนึกผิด “แล้วคุณพี่ชายไม่ถูกจับไปหรือ ทำไมถึงเพิ่งปรากฏตัวตอนนี้ล่ะ”

“เป้าหมายขององค์กรคือตัวน้องชาย เมื่อจับตัวได้ฉันก็ไม่มีประโยชน์อีก” นิฌานเกี่ยวคอเสื้อลงมาให้เห็นรอยกระสุน “พวกนั้นตั้งใจกำจัดฉันทิ้ง แม้รอดตายอย่างหวุดหวิด แต่กว่าจะฟื้นสภาพร่างกายอีกครั้ง...น้องชายฉันก็...”

ความเงียบเข้าแทรกแซง ทุกคนต่างจมในความสูญเสีย

“ก่อนตาย เขาส่งอีเมลเกี่ยวกับข้อมูลขององค์กรมาให้ฉันหนึ่งฉบับ ถึงจะช้าไปสักนิด แต่ฉันใช้อีเมลนั้นในการตามรอยสมาชิกคนที่เหลือขององค์กร น้องชายต้องมาตายเพราะฉัน ต้องเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น ฉัน...”

“ใจเย็นๆ นะคุณพี่ชาย” ธนัทตบบ่า หวังบรรเทาอารมณ์พลุ่งพล่าน “ตอนนี้พวกเราก็ใช้ข้อมูลนั้นในการตามรอยเหมือนกัน ทางเรามีแฮกเกอร์มือดีอยู่คน แล้วคุณล่ะ เป็นแฮกเกอร์เหมือนกันเหรอ”

“ถึงไม่เก่งเท่าน้องชาย แต่เรื่องนี้ฉันพอทำได้”

“งั้นก็ดีเลย” ธนัทยกนิ้วโป้ง ก่อนจะหันไปถามความเห็นพระเอก “นายว่าไง”

“ฉันไม่ไว้ใจ” คำตอบหนักแน่นพร้อมสายตาระแวงสงสัย กดดันให้นิฌานผู้สวมรอยเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอสมองสบเพื่อยืนยันตัวตนว่าน่าเชื่อถือ

เพราะทุกอย่าง...คือเรื่องจริง

ยกเว้นเรื่องพี่ชายตัวจริงของมิสเตอร์เอสนั้นถูกฆ่าตายไปแล้ว

...ตามคำสั่งของหัวหน้าองค์กร

“ฉันเสนอให้ขังเขาดูท่าทีก่อน”

“เฮ้ๆ ทำกับคุณพี่แบบนี้ไม่ดีมั้ง”

“ไม่งั้นก็แยกย้ายกัน ต่างคนต่างตามล่ากันเอง”

“ไม่เอาน่าเพื่อน...”

น่าเสียดายเพราะพระเอกไม่คิดประนีประนอม พูดจบก็เดินออกจากห้อง ทิ้งให้ธนัทยักไหล่ตามประสาคนกลาง

“คุณพี่ชายว่ายังไง”

“ฉันตัวคนเดียว ไม่เคยรู้จักองค์กรนี้มาก่อน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากรวมตัวกับพวกเธอมากกว่า” นิฌานหลุบตาเล็กน้อย “และฉันอยากรู้...เรื่องราวของน้องชายตอนเขาหนีออกจากบ้าน ว่ามารู้จักกับพวกเธอได้ยังไง สนิทสนมกันแค่ไหน ฉัน...อยากรู้ว่าตอนนั้นเขามีความสุขดีมั้ย”

“อ่า เข้าใจๆ” ธนัทลูบคางอย่างยุ่งยากใจ “งั้นทนหน่อยแล้วกันนะ หมอนั่นยังทำใจไม่ค่อยได้ สีหน้ามึนตึง ขมวดคิ้วทั้งวัน เหมือนคนละคนกับแต่ก่อนเลย แต่เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ถ้าคุณพี่ทำให้พวกเราเชื่อใจได้ ก็จะได้รับการต้อนรับแน่นอน”

นิฌานพยักหน้ารับ ไม่คิดเซ้าซี้เผยพิรุธ

“ระหว่างนี้คงต้องขังตัวคุณพี่ไว้ก่อน และริบอาวุธกับอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมด เฮ้ คุณแฮกเกอร์ตรงนั้นน่ะ มาช่วยกันค้นตัวหน่อย”

“จัดการเองสิ” พายซึ่งหน้านิ่วคิ้วขมวดหาเหตุผลว่าทำไมตำรวจถึงตามทันจนแผนการเหลวเป๋วตอบอย่างแล้งน้ำใจ

“อย่าถือสาเลย เมื่อก่อนหมอนี่กับมิสเตอร์เอสเป็นศัตรูกัน แต่พอรู้ฝีมือก็กลายเป็นนับถือ คนที่ชื่นชมต้องเสียสละตัวเองจากไปเอาดื้อๆ อย่างนี้ เขาที่เก่งไม่เท่าแต่อยากแก้แค้นเลยหงุดหงิดตลอดเวลา”

“แล้วเธอล่ะ ทำไมยังยิ้มได้อยู่อีก” นิฌานถามอย่างใคร่รู้

“ก็ถ้าไม่มีคนยิ้มสักคน ที่นี่คงห่อเหี่ยวแทบปางตาย” ธนัทยักไหล่ “มิสเตอร์เอสทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อจัดการองค์กรนั้น ฉันก็เลยทำเท่าที่ทำได้ อย่างน้อย...ก็ไม่ให้ทั้งหมอนั่นแล้วหมอนี่เครียดตายไปก่อน”

พูดจบก็ยิ้มแฉ่ง ชี้นิ้วขึ้นฟ้า

“ ‘หมอโน่น’ ก็คงภูมิใจที่ฉันทำอย่างนี้ เนอะ”

“คัต!”

จบแล้วกับฉากปะทะอารมณ์ที่แม้จะเป็นเพียงการสนทนากันสั้นๆ ของนักแสดงทั้งสี่คน แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้อย่างผมนั้น บอกเลยว่าเป็นสิบห้านาทีที่มีความหมายมาก! สีหน้าไม่เชื่อถือของอัครเดช รอยยิ้มของธนัท ท่าทางปันปึงของพาย แล้วยัง...ความนิ่งสงบแฝงอารมณ์ลึกลับปนเศร้าของนิฌานผู้ต้องทำให้คนดูคล้อยตามและเชื่อให้ได้ว่าเป็นพี่ชายของมิสเตอร์เอสแต่แท้จริงเป็นหัวหน้าองค์กรปลอมตัวมานั้น...ช่างสมบูรณ์แบบ!!

ผมเกือบโห่ร้องเป่าปากเมื่อผู้กำกับสั่งคัต แต่ละคนก็แทบจะถอนหายใจออกมาพร้อมกันเพราะปาไปเทคที่เจ็ดแล้ว

ติดที่ใครน่ะเหรอ

ก็...เจ้าของฉายาพระเอกจอเงินยังไงล่ะ

ศาสตร์การแสดงภาพยนตร์และละครต่างกันตรงไหนนั้น ผู้เชี่ยวชาญอย่างนิฌานบอกผมว่าการแสดงบนจอเงินจะเป็นธรรมชาติมากกว่า เนื่องจากเมื่อฉายแล้วเห็นหน้าเต็มขยายชัด หากแสดงล้นเกินไปจะกลายเป็นฝืน

ส่วนจอแก้วนั้นเนื่องจากไม่ได้ถูกบังคับให้ต้องนั่งจ้องตลอดเวลาเหมือนในโรงหนัง จึงจำเป็นต้องเน้นคำพูด เน้นเสียง เน้นท่าทางในการประกอบฉากมากกว่าเดิมเพื่อดึงอารมณ์ร่วมแก่คนดู

ปัญหาแรกของนิฌานคือไม่รู้ว่าต้องเล่นเยอะเลเวลไหน มากเกินไปก็ไม่ได้น้อยเกินไปก็ไม่ดี จึงต้องใช้เวลาปรับตัวมากกว่าคนอื่นๆ ในกอง แต่ประสบการณ์ยี่สิบปีของเขานั้นเป็นของจริง เมื่อจับจุดได้ทุกอย่างก็ราบรื่น

“ผมบอกแล้วว่าพี่ทำได้ ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน” ในฐานะผู้จัดการที่ดี เมื่องานออกมาน่าพอใจก็รีบเดินไปย้ำความเชื่อมั่น

“เพราะน้องเจมองอยู่ต่างหาก” ไม่พูดเปล่า คนเจ้าชู้ยังเล่นหูเล่นตา จนอัครเดชที่อยู่ข้างๆ เหลือบมองด้วยรอยยิ้มมุมปาก ผมไม่ได้หน้าหนาเท่าเขา เลยรีบลากแขนมาคุยกันตรงมุมสตูดิโอ “อายอะไรครับ พี่พูดความจริงนะ ดูสิ ใจยังเต้นแรงอยู่เลย”

นิฌานจับมือผมไปทาบกับหน้าอกที่หัวใจเต้นตุบๆ

“ตอนโดนผู้กำกับติครั้งแรกตัวพี่สั่นเลยนะ ทั้งที่ไม่ใช่เด็กแล้วแท้ๆ แต่ความฝังใจวัยเด็กก็ลบไม่ได้ง่ายๆ ความกลัวแทรกขึ้นมาจนเกือบถอดใจไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้วเลยล่ะ”

“แต่พี่ฌานก็ผ่านมาได้” ผมตบอกเขาเบาๆ หลายทีอย่างชมเชยด้วยน้ำหนักที่ไม่เบา

“น้องเจมองอยู่พี่จะขี้ขลาดได้ยังไง ต่อให้บุกน้ำลุยไฟก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด” แต่คนเนียนก็ยังเนียนต่อไป จับมือไม่ยักปล่อยสักที “ถ้าไม่เจอน้องเจ...พี่คงไม่มีวันนี้”

“ถึงอวยกันผมก็ไม่หายโกรธพี่ฌานหรอกนะ”

“อ้าว พี่ทำอะไรผิดเหรอครับ”

“พี่ฆ่ามิสเตอร์เอส!”

นิฌานหัวเราะพรวด ทำไมพอพูดถึงเรื่องนี้ทีไรเขาต้องขำทุกที ผมจริงจังนะเนี่ยคนใจร้าย

“แล้วน้องเจคนเก่งนึกออกหรือยังว่าใครเป็นสายของแม่พี่ ใช่คนในกองนี้รึเปล่า” พลันนิฌานเอ่ยเสียงเบาลง พลางเหลือบมองรอบๆ อย่างระแวง พวกเราสงสัยมากว่าใครเป็นคนบอกแม่นิฌานเรื่องอิทธิพลของผมในใจเขา

“ผมนั่งคิดมาทั้งคืนแล้ว” ผมกอดอก ใช้นิ้วเคาะกับต้นแขนเบาๆ ขณะเอ่ยข้อสันนิษฐาน “คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยมาก ทีมงานยิ่งเป็นไปไม่ได้ ผู้กำกับ คนเขียนบทตัดออกได้เลย เพราะทั้งคู่ไม่ได้ผลประโยชน์ถ้าโทรบอกแม่พี่ แค่ต้องถ่ายทำให้ทันตามกำหนดก็แทบไม่ได้นอนกันแล้ว นักแสดงยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เพราะเพิ่งมาเจอกันเมื่อสองวันก่อนและเพิ่งรู้พร้อมกันว่าพี่ฌานมาแสดงแทนวันนั้นเอง”

“ถูกครับถูก” นิฌานดูจะชอบมากเวลาผมวิเคราะห์ ถึงได้มองมาตาวาวอย่างเห็นดีเห็นงามไปซะทุกอย่างขนาดนั้น

“ที่พอเข้าเค้าคือมีคนได้ยินตอนผมขอร้องพี่ฌาน แต่...วันนั้นเราคุยกันในรถ ปิดประตูล็อกแน่น รอบข้างไม่มีคน ต่อให้แอบฟังจากบนหลังคาเป็นนินจาหรือแอบฟังจากใต้ท้องรถยังไงก็ไม่มีทางได้ยิน”

นิฌานหลุดขำ

“น้องเจดูหนังเยอะไปแล้ว”

“ผมแค่เดาความเป็นไปได้ทั้งหมดต่างหาก” ผมถลึงตาใส่ “คนที่น่าสงสัยที่สุดตอนนี้เลยเหลือแค่คนเดียว”

“ใครครับ” นิฌานขมวดคิ้วเคร่งเครียดทันควัน

“เลขาคมสัน เพราะเขาเรียกผมพบเป็นการส่วนตัว เป็นคนหลอกล่อให้ผมออกปากเกลี้ยกล่อมพี่ฌาน เป็นคนร่างสัญญามัดมือชกให้รีบเซ็นแล้วจับพวกเราโยนเข้ากองถ่าย เลขาคมสันมีประวัติส่วนตัวของพี่ รู้เรื่องความขัดแย้งของพี่กับแม่อย่างดี หาเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไม่ยากอยู่แล้ว แถมตอนพี่เที่ยวจีบคนอื่นไปทั่ว หยอกผมเล่นเป็นเรื่องปกติ ไม่เห็นจะมีใครคิดว่าพี่ฌานจริงจังหรือฟังผมขนาดนั้นเลย มีแต่เลขาคมสันเท่านั้นแหละจับจุดนี้ได้ คำพูดก็น่าเชื่อถือ ทำให้แม่พี่เชื่อไม่ยาก”

พูดจบผมก็ยกยิ้มอย่างได้ใจ

“คนร้ายก็คือ...เขานั่นแหละ!!”

“เก่งมากครับคุณเจ”

ก่อนจะสะดุ้งเฮือก โดนลากไปหลบอยู่ข้างนิฌานเมื่อจู่ๆ ก็มีคนเอ่ยแทรกขึ้นจากด้านหลังพร้อมเสียงปรบมือแปะๆ อย่างชื่นชม

ทั้งกองตื่นตัวทันที การปรากฏตัวของเลขาจอมมารนั้นน่าสะพรึงยิ่งกว่าการมาเยือนของท่านประธานบริษัทเป็นไหนๆ อย่างน้อยก็ผู้กำกับคนหนึ่งล่ะที่รีบบึ่งเข้าหาทำความเคารพ พร้อมรายงานสถานการณ์อย่างร้อนตัว

“ตอนนี้เราถ่ายทำทันตามกำหนดนะครับ ไม่ต้องห่วงเลย ไม่ต้องห่วงเลยจริงๆ!”

ตารางที่กระชั้นชิดทำให้ผู้กำกับกลายเป็นโรคหวาดระแวง นั่งคิดนอนคิดแต่เรื่องเช็กเมทไปแล้ว เหล่านักแสดงคนอื่นๆ ที่พักซ้อมบทเตรียมถ่ายทำฉากต่อไปก็พลอยนั่งไม่ติด เดินมาสวัสดีกันเป็นทิวแถว จะมีก็แต่คนเขียนบทที่ยังนั่งจดยิกๆ จมอยู่ในโลกส่วนตัวนั่นแหละที่ไม่กระตือรือร้นมาต้อนรับ

“ทันก็ดีแล้วครับ” คมสันเอ่ยอย่างวางใจ เช็กเมทเป็นซีรีส์อันดับหนึ่งของช่อง จึงไม่แปลกที่เลขาจะเดินตรวจงานเพราะเปลี่ยนตัวแสดงกะทันหัน “ผมขอคุยกับคุณเจเป็นส่วนตัวได้มั้ยครับ”

ผู้กำกับแทบจะจับผมใส่พานถวายแด่จอมมาร

“ไม่นะ น้องเจอย่าทิ้งพี่ไว้คนเดียว” แต่นิฌานไม่ยินยอม

“ไว้ให้คุณเจเล่าให้ฟังทีหลังก็ได้ครับ ตอนนี้ติดถ่ายงาน จะให้เรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานไม่ได้”

ผู้กำกับพยักหน้าหงึกๆ ฟังคำนั้นเหมือนประกาศิต ลากแขนนิฌานเตรียมเข้าฉากต่อทันที

‘ระวังตัวด้วยนะน้องเจ!’

นิฌานส่งโทรจิตมาแต่ไกล วิตกเหมือนเห็นผมถูกเอเลี่ยนดูดขึ้นยานอวกาศ

‘ผมมีพี่จิเป็นตัวประกัน เพื่อเสี่ยแล้วเขาไม่กล้าทำอะไรผมหรอก!’


ผมส่งโทรจิตตอบกลับ ก่อนจะเดินตามหลังคมสันออกจากสตูดิโอ ขึ้นไปชั้นบนอันเป็นห้องประชุมเล็กแสนคุ้นเคย

“เชิญนั่งครับคุณเจ”

ผมทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างใจเย็น พยายามครุ่นคิดว่าทำไมคมสันต้องคาบเรื่องนี้ไปแฉกับแม่ของนิฌานด้วย คนอย่างเขา จะลงมือลงแรงทีเป็นต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัท

เอ๊ะ คำนึงถึงบริษัทงั้นเหรอ

“มีอะไรอยากถามผมมั้ยครับ”

ผมว่าผมเดาได้แล้วล่ะ

“เช็กเมทตอนนี้อยู่ในช่วงน่าหวาดเสียวมาก การถ่ายทำและการตัดต่อจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย คุณกลัวว่าทันทีที่แม่นิฌานรู้ว่าพี่ฌานเล่นซีรีส์เรื่องนี้ จะใช้จุดอ่อนข้อนั้นทำให้การถ่ายทำล่าช้าไปอีก เลยยกเรื่องของผมกับเขาประเคนส่งให้ เพื่อให้เธอยกเลิกแผนอันตรายใดๆ ก็ตามเปลี่ยนมาใช้วิธีกล่อมผมเนียนขอเป็นผู้จัดการแทนใช่มั้ยครับ”

คมสันยกยิ้ม ก่อนจะดันกรอบแว่นอย่างพอใจ

“คุณเป็นเด็กฉลาดนะครับคุณเจ ถ้าคุณจิได้สมองสักครึ่งของคุณก็ดี”

“ถ้าพี่จิได้เสี้ยวความฉลาดของผมไป...เอาแค่เศษหนึ่งส่วนสี่ก็พอ พี่จิคงไม่เลือกเสี่ยเป็นคนรักหรอกครับ”

“คุณพูดถูก” คมสันเห็นด้วยทันที ไม่แม้แต่จะติดใจที่ผมลอบด่าท่านประธาน เพราะคนที่เลี้ยงดูเสี่ยมาตั้งแต่แบเบาะอย่างคมสัน แล้วยังวางแผนจับคู่ให้ดิบดีย่อมรู้ข้อเสียคนของตัวเองชัดเจนกว่าใคร

“ผมเห็นความขัดแย้งของคุณนิฌานกับแม่ของเขามานาน ในฐานะเลขาบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ ผมย่อมอยากให้เขาเป็นนักแสดงคู่บุญต่อไป เสียก็แต่แม่ของเขามักหาเรื่องขัดขวางชวนให้ใจหายใจคว่ำเสมอ จึงหาทางยุติปัญหาของคู่นี้มานานแล้ว” คมสันเกริ่นอย่างเป็นการเป็นงาน อยากถามนักว่าตอนเลี้ยงเสี่ยจริงจังเท่านี้มั้ย ถ้าใช่ทำไมถึงได้โตมาเป็นจอมมโนได้ขนาดนั้นกันล่ะ “คุณนิฌานเลือกตัดขาดกับแม่ตัวเอง แต่ว่า...นี่ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง”

“แล้วอะไรคือวิธีที่ถูกต้องล่ะครับ”

“ตอนนี้ทั้งสองคนมองในคนละมุม ยืนในคนละจุด ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับและมีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นทางขนานที่ไม่มีวันบรรจบกัน ฉะนั้นสิ่งที่ทั้งคู่ขาดก็คือ...คนกลางที่คอยผสานครับ”

“ซึ่งก็คือ...ผม?” ผมถามด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ

“ใช่แล้วครับ คุณเจจะเป็นสะพานเชื่อมให้สองแม่ลูกกลับมารักกันอีกครั้ง”

พลันทุกอย่างตกในความเงียบ ผมนั่งกอดอกจ้องหน้าคุณเลขาเขม็งเป็นเชิงถามว่าเขาเสียสติไปแล้วหรือ

“บางทีไม่ใช่แค่ผมที่ควรลดดูหนัง แต่คุณเลขาก็ควรเลิกดูละครน้ำเน่านะครับ”

“เจ็บแสบมากครับคุณเจ” คมสันตอบโต้ด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยยิ่งกว่า “ในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ ผมเชื่อว่าหากมีคุณเป็นตัวกลาง แม่ของคุณนิฌานจะตาสว่าง แน่นอน”

“อะแฮ่ม คุณไม่ใช่แม่เสี่ยครับคุณเลขา”

“กลับเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า คุณเจเดาถูกครับ ผมทำเพื่อไม่ให้แม่นิฌานขัดขวางการถ่ายทำเช็กเมท อันที่จริง...ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณกับแม่นิฌานติดต่อกันยังไง ผมเพียงวางหมากล่วงหน้าเพื่อไม่ให้กระทบกับการถ่ายทำในอนาคตก็เท่านั้น เพราะในอาทิตย์นี้ บทของนิฌานจะออนแอร์แล้ว เมื่อแม่ของเขาเห็น จะต้องคิดหาทางขัดขวางการถ่ายทำแน่นอน กำหนดการของเช็กเมทเป็นยังไงคุณรู้ดี คนอื่นก็ย่อมรู้ดี หากทำให้เขาบาดเจ็บไปสักอาทิตย์ หรือเกิดเหตุสุดวิสัยสักหน่อย ก็ต้องถอนตัวตามรอยนักแสดงคนแรกไปอย่างง่ายดาย”

ผมกลืนน้ำลายเมื่อคิดตาม

“เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนตัวนักแสดงเป็นครั้งที่สอง ผมเลยโยนเรื่องเช็กเมทและพวกคุณให้แม่นิฌานเป็นเหยื่อล่อ ซึ่งเธอเองก็ยินดีงับอย่างเต็มใจ เพราะจุดประสงค์แท้จริงของแม่นิฌานคือการเป็นผู้จัดการดาราอีกครั้ง หาทางควบคุมและครอบงำลูกชายว่าไม่มีใครทำตำแหน่งนี้ได้ดีเท่าเธอ”

“แล้ว...การที่ผมกับนิฌานเป็นคนรักกันทำให้เธอไม่สร้างเรื่องต่อจากนี้ได้ยังไงล่ะ ในเมื่อหัวเด็ดตีนขาดยังไงพวกเราก็ไม่มีวันยอมให้เธอเป็นผู้จัดการแน่ๆ”

“ตรงที่คุณเจเป็นน้องชายของคุณจิ ซึ่งคุณจิเป็นคนรักของท่านประธาน โดยผู้อยู่เบื้องหลังท่านประธานคือผมไงล่ะครับ”

...ช่างเป็นการเชื่อมโยงหลายทอดจนน่าปวดหัว แล้วไหงผมไปเกี่ยวข้องกับคมสันได้ล่ะเนี่ย

“ถ้าลูกของเธอบาดเจ็บ อาจแค่พลาดงานเช็กเมทและพักรักษาตัวชั่วคราว แต่ถ้าคุณเจเจ็บไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ ในฐานะเลขาที่ต้องดูแลสุขภาพจิตของท่านประธานซึ่งรักคุณจิและคุณจิก็รักคุณเจมากๆ สามารถใช้โอกาสนี้ทำให้คุณนิฌานหมดอนาคตในวงการได้เลย”

“...”

“แม่นิฌานย่อมไม่ยอมให้เกิดเรื่องนั้นเด็ดขาด แผนการชั่วร้ายจึงต้องพับเก็บ ไปโดยปริยาย ซึ่งถ้าหากคุณเจอยากให้คุณนิฌานปลอดภัย ก็ต้องรับบทคนรักแล้วตัวติดกันให้มากๆ นะครับ”

...ใครกันแน่ที่ชั่วร้าย!

ผมลอบคิดในใจ ผมกับแม่นิฌานยังวางแผนเล่นหมากรุกกันตาต่อตา พลัดกับรับพลัดกันรุก แต่คมสันนั้นมองการณ์ไกล เดินหมากครั้งเดียวสะเทือนไปถึงหลายสิบตาข้างหน้า!

เช็กเมทปลอดภัย นิฌานปลอดภัย ผมปลอดภัย

ยิงปืนนัดเดียวสอยนกร่วงทั้งฝูง!

“ผมทำในส่วนของผมแล้ว ที่เหลือก็คือคุณเจ...”

“ผม? ผมต้องทำอะไรอีก”

“หน้าที่สะพานเชื่อมไงล่ะครับ ตอนนี้เป็นโอกาสเหมาะที่แม่นิฌานกำลังจนทางตัน ฉะนั้นคุณต้องทำหน้าที่ลูกสะใภ้ที่ดี ช่วยประสานรอยร้าวระหว่างสองแม่ลูก คนรักครอบครัวอย่างคุณเจคงไม่อยากให้ครอบครัวชาญชัยต้องแตกหักกันตลอดไปใช่มั้ยล่ะครับ”

“งั้นผมต้องทำยังไง” มาถึงขั้นนี้แล้วผมก็เริ่มจะนับถือเลขาจอมมาร และรอรับฟังข้อเสนอแนะอย่างมีหวัง แต่...

“เรื่องนั้น...” คมสันดันกรอบแว่นอีกครั้ง “เด็กกตัญญูอย่างคุณเจคงต้องหาคำตอบเองแล้วล่ะ!”

โดนทิ้งไว้กลางทางซะงั้นเลย!!

 

----------

ชื่อตอนนี้ตั้งใจสื่อถึงทั้งบทหัวหน้าองค์กรและจอมมารเลยค่ะ 555

ซีรีส์เช็กเมทเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น เช่นเดียวกับคมสันที่เริ่มโชว์เก๋าหลังจากแทบไม่มีบทในเรื่องนี้เพราะน้องเจจัดการเรียบ 555 ยังไงน้องเจก็มองการณ์ไกลสู้จอมมารไม่ได้เนอะ แต่ถ้ารอโตกว่านี้ก็ไม่แน่!!

ปล.เจ็บสุดในตอนนี้ก็เสี่ยแล้วค่ะ กร๊ากๆ

#น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่อยากถามเสี่ยว่าโดนแซะขนาดนี้เสี่ยยังมีชีวิตอยู่มั้ย  (https://www.facebook.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-07-2018 17:47:02
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-07-2018 17:48:56
ว้าว มาแล้วซีรีย์ในดวงใจ  :m1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-07-2018 18:15:20
  ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เลขาคมสัน ก็ยังเป็นบอสใหญ่ ที่ควบคุมทุกอย่างอยู่ดี
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 01-07-2018 18:38:16
 o18 o18 จอมมาร 555555555 สมชื่อฉายาจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2018 18:38:46
เลขาคมสัน......เป็นนายตัวร้ายที่สุดนี่เอง   :fire: :fire: :fire:

ถ้าเจ แสดงบทบาทลูกสะใภ้
แล้วแม่นิฌาน  ได้อะไร   :katai1: :katai1: :katai1:
นิฌาน  เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-07-2018 19:31:23
จอมมารก็คือจอมมารต่อให้คนอื่นจะคิดแผนอะไรเหลี่ยมจัดแค่ไหน สุดท้ายคุณเลขาก็กวาดเรียบ อย่าว่าแต่พี่จิไม่แบ่งความฉลาดน้องเจเลย คุณเลขาก็เถอะไม่แบ่งความฉลาดให้เสี่ยบ้างละจะได้เลิกมโนเก่งซะที
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-07-2018 19:34:04
เสี่ยน่าสงสารเนอะ 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 01-07-2018 20:41:57
เอาจริงๆนะ......ทุกวันนี้ยังจำชื่อจริงเสี่ยไม่ได้เลย :ruready
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-07-2018 21:14:29
เสี่ยโดนแซะตลอด เสี่ยผิดอะไร :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-07-2018 21:37:00
คมสัน จอมมารตัวจริง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-07-2018 21:40:56
 ในบรรดาพระเอกทั้งหมดเสี่ยดูไร้ตัวตนที่สุด
คุณเลขาคือบิ๊กบอสที่แท้จริง5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-07-2018 21:52:37
ชอบตอนที่คมสันคุยกับน้องเจ รู้ทันกันไปซะหมด ว่าแต่เสี่ยผิดอะไรคะ แซะเสี่ยบ่อยจัง :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ประเดิมตอนแรก - 25/02/61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-07-2018 22:59:19
เอ๋! อิตานิฌานคนนั้นอ่ะหรอ! คนที่คิดจะเครมจิจิระอ่ะเหรอ  :o10:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-07-2018 23:06:54
จอมมารอย่างคมสัน โฮ...วางแผนซับซ้อนยิ่งกว่าเขาวงกต
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-07-2018 23:14:15
เลขาจอมมารนี่ถนัดเรื่องวางแผนมาก เรื่องจับคู่ให้คนรักกันก็ดูจะถนัดไม่แพ้กัน 555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 1 : พี่ฌานปลาไหล -P2-
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-07-2018 23:24:57
ดีมากลูก! น้องเจอย่าไปหลงคารมอิตานิฌานนะลูกกกกก

แต่เอ๊ะ!  พออ่านจบตอนแล้วเราชักไม่แน่ใจแล้วสิ  :laugh:

ส่วนลาสบอสนี่คิดว่าพี่คงบอกให้เราหนีไปไม่ทันแล้ว เอาใจช่วย

ให้เจชนะลาสบอสให้ตลอดรอดฝั่งค่ะ :katai2-1:

พี่ละเป็นห่วงเราละเกิน อย่างลาสบอสนี่ไม่ง่ายอ่ะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 2 : เบอร์ปริศนา -P.3-
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-07-2018 23:51:21
 :hao4: นิฌานมีปห.กับที่บ้านเหรอนี่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 3 - P.4 -
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 00:02:39
ทำไมตอนแม่พูดคติประจำบ้านแล้วเราได้ยินเสียง

เพลงเจ้าขุนทองแว่วเข้ามาในหูเฉยอ่ะ 55
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 02-07-2018 00:16:59
ทำไมร้ายกับเสี่ยขนาดนี้ สงสารร
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 15 [09/06/61] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 01:57:36
หน่องเจ้!!  :ling1: จนได้ แง้ ตกหลุมไปหมดแล้วลูกก ตายๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 02-07-2018 02:10:24
กรี๊ดดด  ลาสบอสแผลงฤทธิ์แล้ว!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-07-2018 04:10:35
จิมมารก้อคือจอมมารจริงๆ >0<
วางแผนมาอย่างดีงาม หลายซ้ำหลายซ้อนนนน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-07-2018 06:03:36
เลขาจอมมารจริงๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 02-07-2018 08:51:32
เป็นจอมมารที่น่ากลัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 02-07-2018 10:02:36
ทำไมใจร้ายกับเสี่ย555555555555555555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 02-07-2018 13:02:41
คุณคมสันกำลังจับคู่เพิ่มอีก 1 คู่ใช่ไหมคะ


หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 02-07-2018 14:46:39
คมสันคือลาสบอสที่แท้ทรู ทั้ง 3 เรื่องนี้ไม่มีใครแกร่งเท่านางอีกแล้ว  บริษัทนี้มีคมสันบริหารคนเดียวก็รอด  555 ฉลาด และ เก่งเกิน (ทุกวันนี้ก็เหมือนทำคนเดียวอยู่แล้ว ครั้นจะพึ่งประธานอย่างเสี่ยก็...)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 17 - P.14 - [01/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 02-07-2018 16:43:40
จอมมาร มาเป็นเลขาเราไหม มันว่างงงงงง 5555555+++
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [2/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 02-07-2018 19:24:19


ตอนที่ 18 : ลูกสะใภ้ทำคะแนน


หัวหน้าองค์กรถูกขังหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ เป็นเจ็ดวันที่มีธนัทเพียงคนเดียวช่วยยกข้าวยกน้ำมาให้กินตามเวลา เจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะจุดประสงค์แรกคือการแฝงตัวมาในกลุ่มพระเอกอยู่แล้ว

เพราะเหตุนี้ บทบาทของนิฌานจึงถูกทอนลงเมื่อเรื่องราวเบนไปทางตัวพระเอกซึ่งพยายามไล่ล่าองค์กรและหาทางสืบว่าทำไมตำรวจถึงตามทันจากตอนก่อน

แต่ที่น่าตะลึงกว่านั้น...

“ใช้ความสามารถของนายให้เป็นประโยชน์เถอะนะ”

คือฉากย้อนอดีตระหว่างพระเอกกับมิสเตอร์เอส! ซึ่งเป็นไปตามคำบอกเล่าของผู้กำกับทุกประการ!!

ตอนนั้น เด็กหนีออกจากบ้านอย่างมิสเตอร์เอสก่ออาชญากรรมยักยอกทรัพย์จากคนที่โกงกินประเทศเข้ากระเป๋าในการดำรงชีพ เพราะเจ้าตัวมีสมองสองมือและโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่องเท่านั้น เมื่อถูกพระเอกตามเจอ เด็กหนุ่มร่างบอบบางวิ่งไม่ทันใครเขาย่อมหนีไม่พ้น มิสเตอร์เอสยอมให้จับอย่างว่าง่าย ท่าทางไม่ยินดียินร้ายจนพระเอกแปลกใจ

และกลายเป็นถูกชะตาซะอย่างนั้น พระเอกเลือกที่จะไม่ส่งตัวมิสเตอร์เอสให้ตำรวจทั้งที่เป็นฝ่ายถูกขอร้องให้ไล่จับอาชญากรคนนี้ แถมยังชวนเป็นพวกอีกต่างหาก

“ทำความดีอย่างเดียวกินไม่ได้”

แล้วดูสิ มิสเตอร์เอสสวนกลับหน้าตายจนพระเอกหลุดยิ้ม

“งั้นฉันจะเลี้ยงนายเอง”

แม้จะอดคิดไม่ได้ว่ามิสเตอร์เอสตามผู้ชายแปลกหน้าต้อยๆ ง่ายไปแล้ว ต่อให้เป็นแฮกเกอร์ แอบค้นประวัติในฐานระบบราชการก่อนตอบรับคำของพระเอกก็เถอะ แต่ในฐานะแฟนพันธุ์แท้เดนตายอย่างผมก็ซาบซึ้งกับฉากในตำนานนี้เหลือเกิน

“จิระมากองตั้งแต่ตอนไหน ทำไมผมไม่เจอเขาล่ะ!” ก่อนจะโวยวายอย่างแสนเสียดาย เงยหน้าถามนิฌานซึ่งเพิ่งทิ้งตัวนั่งได้ไม่นานก็โดนหาเรื่องอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เพราะระหว่างรอเขาแต่งหน้าแต่งตัวอยู่นั้น ผมก็เปิดซีรีส์เช็กเมทย้อนดูในส่วนของเสาร์อาทิตย์ที่เพิ่งผ่านมา

นิฌานเอียงศีรษะมองภาพมิสเตอร์เอสผ่านโทรศัพท์ของผมก่อนจะครางในลำคออย่างเริ่มคาดเดาได้

“พวกเราเข้ากองตอนเย็น จิระคงจะเข้ากองตอนเช้ามั้ง คิวถ่ายของพี่กับจิระแยกกันอยู่แล้ว ไม่เจอกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” นิฌานตอบพลางขยับคอเสื้อที่ปิดมิดชิด “เสียดายทำไมล่ะน้องเจ พี่เคยขอลายเซ็นให้แล้วไง”

“แต่ผม...ผมอยากเจอนี่” ผมอุบอิบ ใช่ว่าไม่เคยเจอจิระมาก่อน แต่ตอนนั้นเขายังไม่ใช่มิสเตอร์เอสที่ผมชื่นชม การแสดงออกย่อมต่างกันอยู่แล้ว! “พี่ฌานแต่งแบบนี้แล้วแปลกตาดีนะ”

“นั่นคำชมรึเปล่า”

ผมยิ้มฮิฮะเป็นคำตอบ ก่อนจะหยิบพัดพับในกระเป๋ามาพัดให้นายแบบที่กำลังรอเดินเปิดงานในห้างดัง รูปร่างของนิฌานนั้นสูงโปร่งไม่ผอมบางหรือกำยำเกินไป จึงมักมีงานเดินแบบถ่ายแบบอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้มาแปลก เพราะเขาโดนแต่งตาหนาสีเขียวฟ้า แถมยังมีกากเพชรติดตามหางคิ้วอีกต่างหาก

เสื้อผ้าที่ใส่ก็ออกไปทางธีมอวกาศ เป็นชุดที่ไม่สามารถใส่ได้จริงในประเทศไทย

“พี่ของีบหน่อย” พูดจบคนตัวโตกว่าก็เอียงซบคล้ายจะพิงไหล่ ผมเกร็งตัวเล็กน้อยเพราะทีมงานและนายแบบนางแบบคนอื่นๆ อยู่กันเต็มหลังเวที นิฌานจับความประหม่าได้เลยเปลี่ยนเป็นนั่งพิงกำแพง พยายามไม่ให้ทรงผมที่เปิดเสยแถมย้อมเป็นสีเทาๆ ขาวๆ นั้นเสียทรง

การแต่งตาแบบนี้ดีอย่าง ตรงที่กลบรอยดำใต้ตาได้ดีเยี่ยม ผมชะโงกมองคนที่หลับอย่างรวดเร็วแล้วนึกขอบคุณที่ตารางอาทิตย์นี้ไม่เร่งกระชั้นเหมือนอาทิตย์ก่อน เพราะเรื่องราวจะเบนไปทางพระเอกมากกว่าหัวหน้าองค์กร

ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ก็นึกใจดีลดบทหรอกนะครับ แต่ทางกองต้องการให้ผมจัดคิวงานบางส่วนของนิฌานเสียใหม่พ่วงให้เวลาคนเขียนบทเกลาบทให้เรียบร้อยกว่านี้ต่างหาก งานอะไรที่เลื่อนได้ก็เลื่อนมาลงในอาทิตย์นี้ซะ จะได้มีเวลาถ่ายทำกันเต็มที่

และนั่นคือที่มาว่าทำไมผมกับนิฌานถึงวิ่งวุ่นแต่เช้า เพราะต้องเวียนออกกองนั้นเข้ากองนี้ นัดสัมภาษณ์พ่วงอัดรายการล่วงหน้า บางอีเวนต์ก็ต้องปฏิเสธไปเพราะนิฌานแยกร่างไม่ไหวจริงๆ

ตอนรู้ว่าเขาต้องเสียงานที่เคยรับปากไว้ ผมงี้แทบลงไปกราบขอขมา เพราะมันส่งผลกับชื่อเสียงด้วย แต่นิฌานกลับไม่ใส่ใจ บอกว่ารับงานเช็กเมทนั้นสร้างชื่อกว่าเป็นไหนๆ แถมเข้ากองแล้วก็มีความสุข มีเวลาจี๋จ๋ากับผมมากกว่าออกข้างนอก...

ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าไอ้การที่ด่าเช้าด่าเย็นว่าพี่ฌานคนใจร้ายมันจี๋จ๋าตรงไหน แต่ถ้าเขาคิดอย่างนั้นก็...ช่างเถอะ

ดูเช็กเมทจบผมก็ยกโทรศัพท์เปิดกล้องถ่ายคนนอนหลับอย่างนึกสนุก

นานๆ ครั้งจะได้แต่งตัวประหลาดขนาดนี้ไม่ถ่ายไว้เสียของแย่!

แต่จะเก็บไว้ดูคนเดียวก็ยังไงอยู่ ผมเปิดไลน์ขึ้นมา ลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งภาพนั้นไปให้แม่ของนิฌาน

- พี่ฌานกำลังงีบอยู่ล่ะ -

เพราะถูกเปิดโปงแล้ว ผมจึงไม่ใช่สายของเธอที่ต้องส่งคิวงานให้ สรุปคือ พวกเราไม่ได้คุยกันอีกเลยนับจากเหตุการณ์ในห้องอาหาร ฉะนั้นจู่ๆ ผมทักไปก่อนพร้อมรูปภาพที่ต้องขยี้ตาดูถึงจะรู้ว่าเป็นนิฌานนั้น...

ผลที่ได้คือโดนบล็อก

ผมกะพริบตาปริบ ตามด้วยอ้าปากค้าง ทำไมถึงบล็อกกันล่ะ นั่นลูกชายเธอนะ! ขนาดแม่ผมยังชอบให้ถ่ายรูปส่งไปบ่อยๆ เลย

แล้วคิดว่าคนอย่างเจตรินจะยอมแพ้ง่ายๆ เหรอ ตอนแรกน่ะส่งไปแบบไม่คิดอะไรมาก แต่เมื่อโดนโต้กลับอย่างโหดร้ายผมก็พร้อมลุย

โทรศัพท์ของนิฌานถูกกดรหัสปลดล็อกอย่างรวดเร็ว ในฐานะผู้จัดการที่ต้องคอยเช็กข้อความติดต่องานแล้วคอยขจัดปัญหาชายหญิงนัดพบอย่างผมน่ะเชี่ยวชาญในการกดโทรศัพท์ของเขามากกว่าของตัวเองซะอีก หลังถ่ายรูปคนนอนหลับอีกครั้งผมก็หาส่งไลน์ไปอีกรอบ

คราวนี้เธอไม่บล็อกแล้ว แต่พิมพ์กลับอย่างงุนงง

- ฌาน? -

ดูจากประวัติแชทที่แห้งแล้งสุดๆ...เห็นจะมีก็แต่แม่ของเขานั่นแหละที่ทักถามโดยไม่มีคำตอบใดๆ จากนิฌาน ไม่ใช่ว่าเป็นลูกอกตัญญู แต่ผมคิดว่าเขาคงเหนื่อยใจจะตอบมากกว่าเพราะทุกข้อความดูเสแสร้งไร้เยื่อใย

แล้วจู่ๆ ลูกชายที่เงียบหายไปเป็นปีส่งภาพมา ไม่ตกใจสิแปลก

- ผมเจเองครับ -

น่าเสียดายที่ผมไม่ใช่ลูกชายของเธอ

- ต้องการอะไร -

ผมนิ่งงันไปนานเมื่อถูกถามกลับ เอ่อ...ถ้าบอกว่าไม่ต้องการอะไรแค่อยากแบ่งปันภาพหายากของนิฌานจะถูกด่ามั้ย หรือฉวยโอกาสนี้ทำคะแนน เป็นสะพานเชื่อมให้พวกเขาดี

ถ้าอย่างนั้น...

- ผมกำลังทำหน้าที่สะใภ้อยู่ครับคุณแม่ -

พิมพ์ไปก็สยองตัวเองไปว่าบ้าบอได้ขนาดนี้เลยเหรอ อย่าว่าแต่แม่นิฌานที่เงียบหาย ผมเองก็อยากจะหายตัวจากโลกใบนี้ซะเดี๋ยวนั้น แต่ในสายตาของเธอซึ่งเห็นพวกเราเป็นคนรักกัน ต่อให้เหม็นความรักสักแค่ไหนก็ไม่กล้าหือกับผมซึ่งเป็น ‘น้องชายของคนรักของท่านประธานซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของจอมมาร’

เอ่อ...ไล่เรียงความสัมพันธ์ทีไรเหนื่อยหอบทุกที ยาวเกินไปแล้ว!

- ไร้สาระ -

สุดท้ายแม่นิฌานก็ตอบกลับมาสามคำแล้วเงียบหายของจริง ผมมองประโยคนั้นพลางหัวเราะเหอๆ ในลำคอ ก่อนจะหันไปปลุกคนข้างตัวเมื่อใกล้ได้เวลาขึ้นเวที

“พี่ฌาน” เพราะไม่รู้จะจับตรงไหน เสื้อผ้าหน้าผมดูแตะต้องไม่ได้สักอย่างเลยใช้วิธีเขย่าเก้าอี้เบาๆ แทน “พี่ฌานตื่นได้แล้วครับ”

ปกตินิฌานไม่ใช่คนหลับลึกเวลาอยู่ข้างนอก แค่ถูกเรียกหรือสะกิดนิดหน่อยก็รู้สึกตัวแล้ว แต่คงเพราะเหนื่อยสะสมหลายวันถึงปลุกยากกว่าปกติ

“พี่ฌาน”

“เจ้าหญิงนิทราอยากได้จูบจากเจ้าชายจังเลยน้า”

...เอาความเห็นใจผมคืนมา!

“ไหนครับเจ้าหญิง” ผมถามเสียงเรียบ ก่อนจะเกือบหลุดขำเมื่อเห็นคนแสร้งหลับยื่นปากจู๋อย่างรอคอยจุมพิต “หนึ่ง สอง สาม แชะ!”

“น้องเจถ่ายภาพพี่เหรอ” นิฌานลืมตามองทันควัน ที่แท้ก็ยังมียางอายอยู่บ้างเหรอเนี่ย

“ใช่ครับ”

“แล้วภาพเดียวจะพอได้ยังไง ถ่ายหลายๆ ภาพสิครับ” พูดจบนิฌานก็เก๊กท่าทุเรศทุรังไม่สมเป็นพระเอกชื่อดังซะงั้น ผมตกใจรีบเอาตัวบังแต่ก็ไม่วายถือโทรศัพท์ถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก ให้ตายสิ ถ้าใครมาเห็นภาพลักษณ์สุภาพบุรุษแสนดีมีหวังจบสิ้น ยิ่งตอนนี้แต่งตัวประหลาดเหมือนมนุษย์ต่างดาวอยู่ด้วย เลยยิ่งยกระดับความล้ำโลกเข้าไปใหญ่

“เลิกเล่นก่อนพี่ฌาน ใกล้จะได้เวลาแล้ว” ผมพยักพเยิดเป็นเชิงให้เตรียมเข้าแถวตรงจุดรวมตัวทั้งรอยยิ้ม

“งั้น...พี่ไปก่อนนะครับ” พลันนิฌานทำหน้าขรึม ทำท่าถือกระเป๋าเหมือนมนุษย์เงินเดือนที่เตรียมออกจากบ้านไปทำงานโดยมีภรรยามองส่ง

“ไปดีมาดีนะครับ...เดี๋ยว มันใช่เหรอพี่!” ผมแย้งเสียงหลงแต่ก็ยังอุตส่าห์เล่นกับเขาเนอะ นิฌานหลุดยิ้ม ส่วนผมทำหน้าดุใส่ จนสุดท้ายคนกะล่อนก็ยอมไปรวมตัวสักที

ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะมองรูปในโทรศัพท์

โอ๊ย...เสียสายตาแท้ๆ เลย!

เพราะก่อนจะปลุกนิฌานผมถือโทรศัพท์ของเขาอยู่ ฉะนั้นรูปทั้งหลายจึงอยู่ในเครื่องของเขา ผมหยุดคิดอย่างชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะเล่นพิเรนทร์ส่งภาพทั้งหมดให้แม่นิฌาน

ตอนผมถ่ายทั้งยิ้มทั้งหัวเราะทั้งอ่อนอกอ่อนใจ ถ้าแม่ของเขาเห็นแล้วหลุดขำสักนิดก็คงดีสินะ

ปรากฏว่าฝ่ายนั้นอ่านแล้วไม่ตอบครับ กระทั่งคำต่อว่ายังไม่มี ผมยักไหล่ เก็บโทรศัพท์แล้วหันไปทางจอมอนิเตอร์หลังเวทีเพื่อดูดาราในสังกัดเดินเปิดงาน






“พี่ฌาน ยิ้มหน่อย”

เลิกงานแล้วทั้งผมกับนิฌานที่เพิ่งแวะกินข้าวเติมพลังก็อารมณ์ดี

คนบ้าจี้เห็นผมยกกล้องเลยจัดเซอร์วิสให้เต็มสูบ ทำมือรูปหัวใจคล้ายจะบอกรักกันซึ่งหน้า ส่วนผมรีบเอื้อมคว้าแล้วโยนทิ้งลงถังขยะอย่างแม่นยำ

“โธ่ น้องเจ ถนอมใจพี่หน่อยสิครับ”

ผมไม่หือไม่อือ เพราะมัวแต่ก้มหน้าแต่งภาพอยู่ วันนี้ระหว่างรอเขาทำงาน ผมก็หมกมุ่นกับการปรับแต่งรูปภาพให้น่าสนใจ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าสมัยนี้สามารถทำกรอบปรับสีสร้างข้อความขีดเขียนลงในภาพได้ตามใจชอบ

ทำไปทำมาก็ชักสนุก กลายเป็นติดลมบนซะอย่างนั้น

“ทำไมวันนี้ทั้งวันน้องเจตามถ่ายรูปพี่ไม่หยุดเลยล่ะ จะทำโฟโต้บุ๊คขายเหรอครับ”

“พี่ฌานความคิดดีนะเนี่ย” หัวการเงินของผมทำงานทันที ถ้าเอารูปเบื้องหลังชีวิตประจำวันเขารวมเล่มขายแฟนคลับล่ะก็...รวยเละแน่นอน! “พี่ฌานคิดเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่”

“ถ้าทำจริงอย่าลืมปรึกษาบริษัทก่อนนะ เพราะพี่ถือเป็นดาราในสังกัดของเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์ แม้พี่จะอยากเป็นของน้องเจคนเดียวก็ตาม”

“พี่ฌานเอาจริงอ่ะ” 

“น้องเจอยากทำอะไรพี่พร้อมสนับสนุน เปอร์เซ็นต์หลังหักบริษัทแล้วไม่เอาเข้ากระเป๋า แต่ยกให้น้องเจหมดเลยเป็นค่าสินสอด”

“เล่นง่ายนะพี่” ผมส่ายศีรษะน้อยๆ พวกเราต่างรู้ดีว่าไม่ได้จริงจังอะไร บางภาพเป็นส่วนตัวเกินกว่าจะเผยแพร่สู่สาธารณะได้

“แล้วสรุปน้องเจถ่ายรูปพี่ทำไมเหรอครับ”

แต่ไอ้ความสงสัยของนิฌานเนี่ยจริงแท้แน่นอน

“สัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธ” เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมเลยวางแผนอย่างรัดกุมโดยให้เขารับปากแล้วค่อยสารภาพ แต่ใครจะคิดล่ะว่าทันทีที่ยกนิ้วก้อยขึ้นมาคนตรงหน้าก็รีบเกี่ยวก้อยสัญญาด้วยความไวแสง แถมยังแผ่ออร่าหน้าอิ่มเอิบเปล่งปลั่งเหมือนได้รับพลังงานล้นเหลือ “พี่ฌานจะไวไปแล้ว!”

“ได้เกี่ยวก้อยกับน้องเจทั้งที ต่อให้โลกจะถล่มดินจะทลายพี่ก็พร้อมน้อมรับด้วยชีวิต”

ผมค้อนตาใส่เขาสองวิ ก่อนจะสารภาพโดยการส่งโทรศัพท์ที่ค้างหน้าแชทไลน์ให้เขาดูด้วยตัวเอง

ผลคือออร่าสว่างไสวที่ค่อยๆ หมองลง...ผมชะโงกมองนิฌานที่นิ่งเงียบ ไถดูรูปภาพก่อนหน้าที่ผมส่งไปหาแม่เขาซึ่งรวมแล้วยังมากกว่าการโต้ตอบของสองแม่ลูกตลอดหนึ่งปีนี้ซะอีก

“นี่คือวิธีเป็นสะพานเชื่อมของน้องเจเหรอครับ”

ผมไม่คิดปกปิดอยู่แล้ว วันที่ไปคุยกับจอมมารก็เล่าทุกอย่างตามความจริงทั้งหมด ส่วนตัวนิฌานย่อมเห็นดีเห็นงาม เพราะการถูกมองเป็นคู่รักกันปานจะกลืนกิน (ในสายตามารดาบังเกิดเกล้า) นั้นย่อมเป็นเรื่องดี

ส่วนเรื่องสะพานเชื่อมนั้น...

“ไม่ได้ผลหรอก เชื่อพี่สิ”

เขาคัดค้านแบบอ้อมๆ

“ผมก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลรึเปล่า แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” ผมส่งโทรศัพท์ตัวเองให้อีกฝ่ายดูบ้างว่าเป็นเด็กดีขนาดไหน อาจเพราะเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านเลยถูกถามอย่างห่วงใยตลอดว่ากินข้าวหรือยัง จะกลับบ้านกี่โมง จนต้องคอยรายงานเป็นระยะ วันละสองถึงสามครั้งเป็นอย่างต่ำ “แม่ผมยังชอบเลย”

“ทำไมไม่เห็นมีรูปน้องเจเลยล่ะ” นิฌานผิดหวังเมื่อรูปที่ผมส่งให้แม่นั้นมีแต่ภาพอาหาร ภาพกองถ่าย ภาพรถติด แต่ไม่มีภาพตัวเอง

“ผมไม่มีตากล้องส่วนตัวเหมือนพี่ฌานนี่”

“งั้น...พี่ถ่ายรูปน้องเจได้มั้ย”

“แลกกับที่ผมถ่ายรูปพี่ฌานส่งให้แม่พี่ใช่มั้ย ได้!”

“พี่ยังไม่ทันคิดหาแผนให้น้องเจเลิกส่งรูปให้แม่ น้องเจก็คิดแผนให้พี่ยอมตกลงแล้วเหรอครับ”

“ก็ผมนำหน้าพี่ฌานอยู่นี่นา” ผมยิ้มกริ่ม ก่อนจะแบมือรอรับโทรศัพท์คืนพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์ “ตกลง? ไม่ตกลง?”

“ตกลง!”

ก็แค่นั้น ผมยักไหล่อย่างคาดไว้แล้วว่าเขาย่อมคว้าโอกาสนี้ในการทำคะแนน แม้ขัดใจเรื่องแม่สักนิด แต่เขาไม่กล้าโต้เถียงกับผมอยู่แล้ว ให้รู้ซะบ้างว่าใครใหญ่กว่ากัน ฮึ่ม

“งั้นขอประเดิมเลยแล้วกัน” คล้ายจงใจเอาคืน นิฌานรีบยกโทรศัพท์ถ่ายเซลฟี่ ตัวเองยิ้มแฉ่งดูดีตั้งแต่ปลายเส้นผมยันขนคิ้ว ส่วนผมน่ะเหรอยังหน้าเหวออยู่เลย!

“พี่ฌาน เราไม่ได้ตกลงแบบนี้นะ”

“อ้าว น้องเจไม่ได้บอกว่าห้ามถ่ายคู่นี่ครับ” คนตัวโตกว่าทำหน้าเหลอหลาไม่รู้เรื่อง ใสซื่อไร้เดียงสาน่าหมั่นไส้สุดขีด

ผมพลาดเองที่ไม่รอบคอบพอ

“โกรธเหรอครับน้องเจ” นิฌานเอ่ยเสียงอ่อนเมื่อเห็นผมนิ่งเงียบผิดวิสัย

“ถ่ายใหม่เลย”

“ครับ?”

“เมื่อกี้ผมหน้าเหวอมาก พี่ฌานถ่ายใหม่เลยนะ”

มีหรือนิฌานจะไม่เข้าใจว่าผมยอมตกลงแล้ว เขายิ้มแฉ่ง ไม่ลืมให้สัญญาณพร้อมถ่าย

ผมขยับเข้าใกล้เขา เอาเถอะ ถือซะว่าพวกเรายอมถอยคนละก้าว นิฌานแสร้งปิดตาข้างซ้ายเรื่องผมส่งรูปให้แม่เขา ส่วนผมก็ยอมปิดตาข้างขวากับการฉวยโอกาสครั้งนี้

“น้องเจยิ้มหน่อยครับ ชีส~”

ภาพถ่ายที่ออกมา คือผมกับนิฌานที่ยิ้มกว้างพอกัน

ก็ต่างรู้ทันกันซะขนาดนี้ พอตกลงได้เลยโล่งอก ออกมาเป็นภาพที่แสนจะผ่อนคลายสุขกายสบายใจซะเหลือเกินไงล่ะ!

----------------

ฮืออออออ น้องเจของแม่ เหมือนกำลังมองส่งลูกชายคนเล็กเตรียมออกเรือนเลยค่ะ พยายามจะรั้งไว้แต่ก็ใกล้จะต้องปล่อยมือเต็มที เจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน

มาร่วมกันมองส่งน้องเจด้วยความรักกันนะคะ และเชื่อว่าแม่ของนิฌานจะรับรู้ถึงความน่ารักของน้องอย่างแน่นอน ฮืออออ

เม้ามอยกันได้ที่  #น้องเจที่น่าลัก

Twitter @MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)


เพจนักเขียนที่อยากถ่ายรูปคู่กับน้องเจเหมือนกันนะ! (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 02-07-2018 19:44:28
นว้องเจโดนพี่ฌานตกกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-07-2018 22:07:33
น้องเจน่ารัก อยากได้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 02-07-2018 22:20:57
รอตอนต่อไปค่ะ^_^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-07-2018 23:04:50
น้องเจ อ่า น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-07-2018 23:14:59
นิฌานน่ะ คงหลงน้องเจไปสุดตัวแล้ว แต่มาถึงตอนนี้ดูน้องเจเปิดใจมากขึ้นมากๆเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 02-07-2018 23:20:01
บ๊ายบายน้องเจ ขอให้สุขสม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 03-07-2018 00:06:56
น้องเจจจจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-07-2018 01:24:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-07-2018 02:06:16
จิระะะะะะะะะะะะะะะ อยากเจอจิระอ่ะ อยากเจอ ๆๆๆๆๆๆๆๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 18 - P.15 - [02/07/61] Up!
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 03-07-2018 20:45:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 04-07-2018 20:36:08
ตอนที่ 19 : สุดท้ายก็ฉวยโอกาส


“นี่อะไรครับพี่ฌาน”

“กุหลาบแดงแทนความรัก”

ท่ามกลางสัปดาห์นรกของนิฌาน คนทำงานหนักจนตาโหลไม่วายแอบซื้อดอกไม้มอบให้ผมในเช้าวันถัดไป จะบอกว่ากระตือรือร้นในการทำคะแนนก็ไม่ถูก เพราะดอกไม้ในมือเขานั้น...เอ่อ ค่อนข้างเหี่ยว แถมยังช้ำเลือดช้ำหนอง ดูไม่น่ามองเกินกว่าจะมอบให้คนในดวงใจ

 “ความรักของพี่มีแค่ดอกเดียวเหรอครับ” ขณะนี้เวลาหกโมงตรง ผมนั่งรถไฟฟ้ามารับเขาที่คอนโด เพื่อเป็นสารถีช่วยขับไปทำงานโดยให้เจ้าของรถนอนพักระหว่างเดินทาง

แต่คนที่ควรจะงีบกลับยื่นดอกไม้จ่อหน้าด้วยท่าทางมีเลศนัยจนผมต้องรับมาพลิกดูหาว่ามีทริคอะไรแอบซ่อนไว้หรือเปล่า

“เพราะเป็นดอกเดียวต่างหากน้องเจเลยยอมรับ ถ้าพี่ซื้อเป็นช่อ น้องเจคงปาใส่หน้าแล้วบอกว่าให้เลี้ยงข้าวดีกว่าเพราะดอกไม้กินไม่อิ่ม”

แทงใจตรงจุดจนสะอึกกันเลยทีเดียว

“วันหลังพี่ฌานไม่ต้องซื้อมาแล้วนะ” หลังดูทุกซอกทุกมุมแล้วไม่พบความผิดแปลกอะไร ผมซึ่งรับมาแล้วก็ได้แต่เอ่ยเตือนอย่างหวังดี เพราะไม่ใช่คนที่จะดีใจกับดอกไม้ ไม่ว่าจะหนึ่งช่อหรือหนึ่งดอกก็ไม่ต่างกัน

“พี่ไม่ได้ซื้อ พี่ขอมาต่างหาก” นิฌานรีบอธิบาย “เมื่อคืนหลังน้องเจกลับไปแล้วพี่ออกมาซื้อของกินเล่นเพราะหิวมาก เจอร้านดอกไม้ที่กำลังปิดอยู่คัดดอกไม้ช้ำๆ ทิ้งถังขยะ เลยขอมาหนึ่งดอก”

มิน่าสภาพถึงดูไม่จืดขนาดนี้

“พี่ฌานนึกอะไรของพี่เนี่ย” ผมมองดอกกุหลาบในมืออย่างสนใจมากขึ้น ถ้าได้ฟรีมาก็ไม่มีเหตุต้องปรามให้เปลืองน้ำลาย

“ไม่ได้นึกพิเรนทร์อะไรหรอกครับ แต่กุหลาบดอกนี้น่ะ...เคยสวยงาม สีสันสดใสมากแท้ๆ แต่พอหมดวันก็ถูกคัดทิ้ง กลายเป็นขยะข้างทางซะงั้น ก็เหมือนกับตัวพี่ ที่เป็นดารามีคนชื่นชมห้อมล้อม แต่ใจจริงแสนจะเงียบเหงาเหลือตัวคนเดียว อยากให้คนเห็นค่าเห็นใจกัน แม้ว่าจะช้ำหมองไม่น่าดูแล้วก็ตาม”

ผมมองเขาตาปริบๆ กับมุกแถจนเลือดซิบ

“ฝากน้องเจให้ความรักกับพี่ เอ๊ย ดอกไม้ของพี่มากๆ ด้วยนะครับ”

ผมไม่ตอบ แต่เสียบดอกไม้ตรงกระเป๋าเสื้อตัวเองจนนิฌานยิ้มแก้มปริ

“ผมซื้อแซนวิซกับนมมาด้วย พี่ฌานกินก่อนค่อยงีบนะครับ”

“ได้เลยครับน้องเจ”

วันนี้เริ่มต้นอย่างสดใส ผมถ่ายรูปเขาส่งให้แม่นิฌานเป็นธรรมเนียม หลายวันผ่านไปเราสองต่างเริ่มชิน และคาดว่าแม่ของเขาเองก็คงชินชาไม่ต่างกัน ถึงได้เปิดอ่านแต่ไม่เคยตอบกลับ เอาเถอะ แค่อ่านก็นับว่ามีความคืบหน้าแล้ว ผมเองก็สนุกกับการเป็นช่างภาพส่วนตัวด้วย

“น้องเจ สวัสดีวันศุกร์หน่อย!”

รวมถึงเป็นนายแบบให้นิฌานเอาไปทำเป็นรูปไลน์บ้าๆ บอๆ อย่างสวัสดีวันจันทร์ สวัสดีวันอังคาร ฮึ่ม อย่าเห็นว่าส่งมาเชียวนะพ่อจะลบให้หมด!!

 






“ขอเสียงปรบมือให้กับแขกรับเชิญวันนี้กับนิฌาน ชาญชัยค่า!”

กลับสู่การทำงาน วันนี้นิฌานมาอัดรายการสัมภาษณ์ชื่อดังของทางช่อง ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ปฏิเสธไม่ได้จนต้องมานั่งจ๋องอยู่กลางสตูดิโอพร้อมแฟนคลับนับร้อยคนที่ร่วมสนุกกัน และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น...

อย่าเข้าใจผิด ผมมาเป็นหน้าม้าให้เฉยๆ! ไหนๆ ก็ต้องนั่งรอเขาอยู่แล้วเวลาอัดรายการที่ต้องมีคนดูเลยมักถูกจับมานั่งรวมกลุ่มด้วยเพราะวัยกำลังเหมาะเป็นผู้ชม อย่างตอนนี้ผมก็ตั้งใจทำหน้าที่ ปรบมือต้อนรับพร้อมกลุ่มแฟนคลับอย่างแนบเนียน

นิฌานแอบชะงักเล็กน้อยตอนเห็นผมนั่งหน้าสุด ตรงอกเสื้อมีดอกกุหลาบประดับจนดูโดดเด่นจากคนอื่นๆ

ผมถลึงตาใส่เขา ส่งโทรจิตให้อย่าคิดไกล ที่นั่งหน้าเพราะโดนหัวหน้าแฟนคลับของกลุ่มคนชอบนิฌาน ชาญชัยจับลากมาต่างหาก ผมกับเธอเจอกันหลายงานจนรู้จักกันในระดับหนึ่ง และเธอเองก็ดูจะชอบผมมากด้วย มากขนาดไม่ยอมให้ปฏิเสธจนจำใจนั่งตรงนี้ไง!

ส่งโทรจิตสำเร็จ นิฌานก็รีบสวมภาพลักษณ์ของสุภาพบุรุษแสนเป็นกันเอง หันมาทักทายพิธีกรสาวอย่างสนิทสนมคุ้นเคย

“กว่าจะขอคิวได้เนี่ยยากมากเลยนะคะ” พิธีกรสาวบ่นอุบทันทีเมื่อเชิญนิฌานนั่งลง “นึกว่าจะไม่ได้เจอคุณนิฌานซะแล้ว”

“สำหรับสาวสวย ผมมีเวลาให้เสมอครับ”

วี๊ดวิ้ว!

ผมตกใจแฟนคลับที่พร้อมใจกับผิวปากล้อเลียน นิฌานเองก็หันมายิ้มรับอย่างไม่ถือสาแถมยังขยิบตาใส่อีก ความเจ้าชู้ของเจ้าตัวเป็นที่รู้กันดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีคนควงจริงจังสักครั้ง จนบรรดาแฟนคลับถือเป็นเรื่องขำขันอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวแล้ว

“ถ้าไม่นับเมื่อยี่สิบก่อนที่ได้รับรางวัล ปีนี้ถือเป็นปีทองที่สุดของคุณนิฌานเลยใช่มั้ยคะ”

“ใช่ครับ โอกาสเข้ามาผมก็รีบรับ อายุป่านนี้จะมัวเล่นตัวไม่ได้แล้ว”

“แหม อายุป่านนี้อะไรกัน ยังไม่สามสิบสักหน่อย แถมคุณนิฌานยิ่งโตก็ยิ่งมีเสน่ห์ ฉันเองก็ตามดูตั้งแต่คุณเพิ่งเริ่มแสดง เห็นทุกช่วงวัยแล้วรู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ!”

“เดี๋ยวนะ ตอนผมแปดขวบคุณอายุเท่าไหร่”

“เอ่อ...น่าจะสองขวบได้”

“สองขวบแต่ดูหนังรู้เรื่องด้วย เก่งนะเราเนี่ย” นิฌานแกล้งหยอกพร้อมหัวเราะเสียทุ้มนุ่มจนพิธีกรเขินม้วน

“งั้นมาถามแฟนคลับบ้างดีกว่าว่าติดตามคุณนิฌานมานานแค่ไหนแล้ว”

“สองปีค่ะ!”

“หกปีค่ะ!”

“ยี่สิบปีค่ะ!”

เสียงที่ดังที่สุดและตะโกนอย่างภูมิใจที่สุดย่อมหนีไม่พ้นหัวหน้าแฟนคลับซึ่งนั่งอยู่ข้างผม เล่นเอาสะดุ้งจนต้องแอบเนียนคว้ารูปนิฌานจากหัวหน้าแฟนคลับที่พกอุปกรณ์เชียร์สารพัดมาถือเพราะกล้องแพนมาพอดี เดี๋ยวก่อน แล้วเขาจะยิ้มทำไม

อ้อ รูปนี้เขียนว่า ‘รักนิฌานที่สุดในโลก’

แฟนคลับกรี๊ดกระหึ่มเมื่อนิฌานยิ้มตาหยี ส่วนผมรีบส่งรูปคืนหัวหน้าแฟนคลับพร้อมสะกิดยิกๆ ขอเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่เธอถืออยู่

“ผมขอถือป้ายไฟได้มั้ยครับ”

“แต่รูปเบากว่านะน้องเจ” หัวหน้าแฟนคลับอายุสี่สิบต้นๆ เธอจึงค่อนข้างเอ็นดูผู้จัดการวัยคราวลูกอย่างผมมากทีเดียว

“ไม่เป็นไรครับ ผมขอถือป้ายไฟดีกว่า”

ได้ถือป้ายไฟแล้วอุ่นใจกว่าเยอะ ตัวนิฌานเองก็ไม่ได้หันมามองอีกเพราะพิธีกรเริ่มสอบถามอย่างใคร่รู้

“ช่วงนี้ไม่ควงใครเลย มีคนในดวงใจแล้วหรือเปล่าคะ”

ใคร่รู้ในเรื่องความรักของคนเจ้าชู้ที่ไม่ยักจะจีบดะเหมือนเคย!

ประเด็นนี้เป็นที่พูดถึงมากในโซเชียล ก็ตั้งแต่เรื่องของสมฤดีนั่นแหละครับ เพราะจู่ๆ นิฌานก็ทำตัวดี ไม่สลับควงสาวจนนักข่าวตามเก็บภาพไม่ทันอีก งานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน งานฉลองเฮฮาก็แทบไม่ไป เรียกว่าทำตัวดีมีวินัย ผิดนิสัยของเขาเข้าเต็มเปา

“เรื่องนั้น...” นิฌานหรี่ตาพร้อมยิ้มกริ่มมีเลศนัย เรียกให้เหล่าแฟนคลับใจระทึกยิ่งว่าลุ้นหวย เพราะทำงานมาหลายปี แฟนคลับของเขาเลยมีหลายช่วงวัย ถ้าโตหน่อยอย่างคุณหัวหน้าแฟนคลับข้างผมคนนี้ จะเน้นสนับสนุนผลงานไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าเป็นเหล่าเด็กสาววัยรุ่น จะค่อนข้างเพ่งเล็งเรื่องความรัก

“ผมยังไม่มีใครหรอกครับ ทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น หัวถึงหมอนก็หลับป็อก จะไปมีเวลาจีบสาวได้ยังไง จริงมั้ยครับ ฮะฮะฮะ”

พิธีกรหัวเราะ นิฌานหัวเราะ แฟนคลับหัวเราะ

ส่วนผมยกป้ายไฟปิดหน้าตัวเอง...จะบอกได้ไงล่ะไม่มีเวลาจีบสาว แต่มีเวลาจีบหนุ่ม!

ดอกไม้ตรงอกเสื้อคือหลักฐาน!!

“ถ้าอย่างนั้นพูดเรื่องผลงานกันบ้าง” พลันพิธีกรสาวขยับตัวยุกยิกอย่างตื่นเต้น “ช่วงนี้คุณนิฌานวิ่งออกงานเยอะมาก แต่ยังแอบไปถ่ายเช็กเมทได้อีกนะคะ ปิดพวกเราซะมิดเลย! รู้มั้ยว่าตอนเห็นพี่ชายมิสเตอร์เอส ฉันแทบจะกรีดร้อง แต่พอเห็นว่าคนแสดงคือใคร ฉันก็ร้องออกมาดังลั่น กลั้นไม่อยู่จริงๆ ค่ะ เซอร์ไพรส์มากเลย”

“แหม ขอบคุณครับ” นิฌานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“แล้วเป็นไงมาไงถึงร่วมงานกับซีรีส์เช็กเมทได้คะเนี่ย คุณนิฌานไม่รับเล่นละครไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ครับ”

“แล้วทำไมถึงตอบตกลงล่ะคะ วงในบอกว่าเคยติดต่อแต่โดนปฏิเสธนี่นา”

“เพราะตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเช็กเมทดี เลยปฏิเสธไป แต่ใครจะคิดว่าหลังจากนั้นพอลองดูแล้วผมดันติดหนึบเองซะนี่” นิฌานพยักหน้าหงึกหงักอย่างไม่จริงจังนัก “ย้อนไปดูสัมภาษณ์เมื่อเดือนก่อนสิครับ ตอนนั้นผมล่ะเสียดาย จะขอกลับคำก็ไม่ได้เพราะใกล้เปิดกองแล้ว เลยต้องแอบสปอย เพราะได้ข่าววงในมาจากคนที่ติดต่อขอคิวผมไปร่วมงานด้วยเนี่ยล่ะ!”

“ฉันจำได้ค่ะ คุณนิฌานเคยให้สัมภาษณ์ว่าติดดูเช็กเมทและแง้มว่าซีรีส์กำลังเปิดกองแล้ว”

“และนี่คือบทเรียนว่าหากมีโอกาสจงรีบคว้า ไม่งั้นจะเสียใจทีหลัง” นิฌานทำหน้าขรึม เรียกเสียงขบขันจากแฟนคลับเป็นระยะ

“แต่สุดท้ายคุณนิฌานก็ได้กลับมาเล่นนะคะ”

“ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสอีกครั้งครับ” นิฌานพยายามเลี่ยงถึงอุบัติเหตุของดาราดังอีกคน เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นดีใจขณะที่อีกคนต้องเจ็บตัว

“แสดงว่าคุณนิฌานรับเล่นซีรีส์ครั้งแรกเพราะชอบสินะคะ”

“ใช่ครับ ผมชอบ...เรื่องนี้” นิฌานคลี่ยิ้มนุ่มนวล แต่สายตาตอนเหลือบมองผมนั้นวับวาว ไม่ต้องอ่านโทรจิตก็รู้กันว่าไอ้ช่องว่างนั้น...หมายถึง ‘ชอบน้องเจที่รักเรื่องนี้เลยรับเล่น’ ช่างเป็นจอมเนียนจริงๆ พูดจบยังทำหน้าขึงขัง เรียกคะแนนจากแฟนคลับได้มากโข “อยากเป็นส่วนหนึ่งในซีซันสุดท้ายของเช็กเมทจริงๆ และหวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ”

รอยยิ้มอ่อนกลายเป็นเจ้าเล่ห์ในบัดดล แฟนคลับไม่ทันฉุกใจเพราะมัวแต่กรี๊ดรับคำ แต่ผมน่ะ...ผมน่ะ...

รู้ทันทีว่าเขากำลังสะใจ! รอเวลาหักหลังคนดูทั้งหมดจนกรีดร้องโหยหวน!

“พูดถึงบทที่ได้รับหน่อยสิคะ”

“อืม...ตัวละครตัวนี้พิเศษมากครับ” นิฌานขยับตัวเล็กน้อยคล้ายไม่อยากพูดถึงมากเพราะกลัวสปอย แต่ก็ไม่วายยอมคายออกมาอย่างนึกสนุก “หลังจากนี้จะได้ร่วมก๊วนกับกลุ่มตัวเอกแน่นอน สำหรับแฟนคลับมิสเตอร์เอสทุกคนผมอยากให้เอาใจช่วยพี่ชายของมิสเตอร์เอสแทน รับรองจะไม่ผิดหวัง!”

ไม่ผิดหวังนิดหน่อยแต่ผิดหวังมากๆ จนอยากจะบีบคอน่ะสิ!

“แหม อยากติดตามใจจะขาดแล้วคะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เช็กเมทฉายเจ็ดวันเลย”

“นักแสดงกับผู้กำกับคงขาดใจกันก่อน” นิฌานพูดติดหัวเราะ “ผมว่าความสนุกของเช็กเมทอยู่ที่ระหว่างรอฉาย คนดูจะวิเคราะห์แสดงความเห็นกันเนี่ยแหละครับ”

“สุดท้ายนี้มีอะไรอยากบอกทุกคนบ้างมั้ยคะ”

“ช่วงนี้คงเห็นหน้าผมบ่อยหน่อย ออกสื่อตามงานแล้วยังมาเจอในโทรทัศน์อีก ก็อย่าเพิ่งเบื่อหน้ากันนะครับ ให้โอกาสนักแสดงหน้าใหม่...หมายถึงใหม่ในจอแก้วคนนี้ด้วยนะ”

ปิดท้ายการสัมภาษณ์อย่างสวยงามด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม หลังจากนั้นมีการเล่นเกมแจกรางวัลกันอีกเล็กน้อย ก่อนจะจบการถ่ายทำด้วยดี

เพราะนั่งหน้าสุด ผมเลยยืนส่งเหล่าแฟนคลับที่ทยอยเดินออกจากสตูดิโอด้วยความซาบซึ้งใจเพราะพวกเธอมารอกันแต่เช้าตรู่ ไม่ลืมส่งป้ายไฟคืนหัวหน้าแฟนคลับ ก่อนจะไหว้ขอบคุณเพราะเธอคือผู้นำการรวมพล

“ขอบคุณที่ชวนกันมาในวันนี้นะครับ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ พวกเราพร้อมสนับสนุนนิฌานอยู่แล้ว แต่น้องเจ...พี่ขอถามอะไรอย่างได้มั้ย”

“ได้สิครับ”

“ตรงอกนั่นมัน...อะไรน่ะ”

ผมชะงักเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ก้มมองดอกไม้ที่ยังคาในอกเสื้อ

มะ...เหมือนมีชนักติดหลังชอบกล ผมลอบปาดเหงื่อขณะตอบด้วยเสียงเรียบไร้พิรุธ

“กุหลาบแดงน่ะครับ”

“กุหลาบแดง? พี่ว่าเหมือนกุหลาบดำมากกว่านะ...” หัวหน้าแฟนคลับถามกลับอย่างงุนงง ไม่ทันฉุกคิดเชื่อมโยงระหว่างผมกับนิฌานแม้แต่น้อย เพราะคนเจ้าชู้ยอดนักรักจอมทำคะแนนอย่างเขา...ไม่มีทางให้ดอกไม้ช้ำๆ กับใครแน่ ไม่รู้ว่านิฌานจงใจรึเปล่า แต่เขาทำให้ผมยอมรับดอกไม้ แถมยังไม่ทำให้คนอื่นสงสัยสำเร็จ

เห็นผมยิ้มบางไม่ตอบ หัวหน้าแฟนคลับจึงไม่ซักไซ้ต่อ เธอเปลี่ยนมาสอบถามตารางงานนอกสถานที่แทน พอรู้ว่าอาทิตย์หน้านิฌานเตรียมเข้ากองถ่ายเช็กเมทยาวๆ ก็ทั้งดีใจและเสียดายเพราะตามเฝ้าไม่ได้

“หากมีงานที่อยากให้รวมแฟนคลับไปเชียร์ติดต่อพี่ได้เลยนะ!”

“ครับ” ผมกับเธอต่างมีเบอร์โทรศัพท์ของกันและกัน เพราะการสานสัมพันธ์กับหัวหน้าแฟนคลับนั้นก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้จัดการ หลังมองส่งผมก็เดินกลับไปหานิฌานในห้องแต่งตัว เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วและกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่คนเดียว

“ช้าจัง พี่เหงาจะแย่”

ผมพยายามจะไม่กลอกตา แต่เดินไปตรวจดูรอบๆ ห้องว่าเขาไม่ลืมอะไรไว้ตรงไหน ก็คนนอนน้อยบางทีมีมึนงง ชอบลืมโน้นลืมนี่อยู่เรื่อย

“น้องเจ ระวัง!”

แต่ผมคงลืมไปอย่าง...ว่าตัวเองก็นอนน้อยจนตาโหลไม่แพ้กัน

พอก้มๆ เงยๆ มากเข้าเลยหน้ามืดซะงั้น ผมตกใจ นิฌานตกใจ แต่ผมจับกำแพงตะกายตัวเองทันก่อนหน้าทิ่มพื้น ส่วนนิฌานที่ถลาเข้าหาเตรียมเป็นเบาะรองกันกระแทกก็ได้แต่นอนหงายทำหน้าเซ่อซ่าเมื่อไม่เป็นตามที่คิด

“...”

“...”

ผมตัดสินใจที่จะไม่พูด แต่มองนิฌานยันตัวเองขึ้นยืนเงียบๆ ด้วยสายตาขบขัน

“มานึกขำพี่ทำไมครับ น้องเจจะเป็นลมพี่เลยสละตัวช่วยรองแท้ๆ”

“ก็ผม...” พูดจบผมก็หุบปาก รู้สึกมึนเบลอกะทันหันจนต้องทิ้งตัวนั่งกับพื้น

“น้องเจ!”

“พี่...เงียบก่อน ผมมึน”

นิฌานปิดปากทันที ก่อนจะรีบรินน้ำเย็นให้ผมดื่ม ระหว่างนั้นคล้ายได้ยินเสียงทีมงานเคาะประตูสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น แตเขาบอกปัดอย่างแนบเนียน

แล้วคนตีหน้ายิ้มโกหกทีมงานก็เดินมานั่งยองๆ ตรงหน้าผมพร้อมขมวดคิ้วมุ่น

“ต่อให้ใจไหวแต่ร่างกายน้องเจไม่ไหวแล้วนะ” พอเห็นผมสีหน้าดีขึ้น คนที่นั่งจ้องอย่างรอจังหวะดุมาตลอดก็เอ่ยเสียงเครียดทันควัน แต่ไม่วายช่วยเช็ดหน้าซึมเหงื่อให้อย่างอ่อนโยน “ส่งพี่ที่คอนโดแล้วกลับไปนอนบ้าน ก่อนจะตื่นแต่เช้านั่งรถเมล์มารับพี่เพื่อขับรถไปทำงานอีก น้องเจต้องนอนน้อยกว่าพี่ตั้งสองเท่า เตือนก็ไม่ยอมฟัง แล้วเป็นไงครับ สภาพแบบนี้จะทำงานต่อได้มั้ย”

“ได้สิ” ผมเอ่ย ก่อนจะหดคอเล็กน้อยเมื่อสายตาของนิฌานกร้าวขึ้นจนต้องแก้ตัวเสียงอ่อน “พักนิดหน่อยก็หายแล้วครับ”

ผมหลบสายตา แต่โดนเขาจับคางให้เงยขึ้นประจันหน้า

“ไม่ต้องมารับมาส่งพี่แล้ว ตกลงนะ”

“ไม่ตกลง!” ผมจ้องเขม็งกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงจะนอนน้อยกว่าเขาสองเท่า แต่คนที่ทำงานหนักว่าสองเท่ามีสิทธิ์สั่งกันด้วยเหรอ

“แต่...”

“ไม่มีแต่ครับ”

“น้องเ...”

“ผมจะนอนค้างห้องพี่” ผมหาข้อสรุปให้ตัวเองทันที “พี่ฌานยังจะแต่อีกมั้ยครับ”

คนที่เรียกชื่อผมไม่ทันจบประโยคดีอ้าปากพะงาบๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายกุมหน้าตัวเองอย่างจำยอมด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยเป็นคนละคนกับที่ดุผมจนหงอ

“ไม่...แต่แล้วครับ”

 




หลังเลิกงานตอนดึก ผมก็กลับบ้านไปเก็บเสื้อและของใช้ส่วนตัว พ่อกับแม่รู้ตั้งแต่ช่วงสายที่ผมโทรไปบอกแล้ว ส่วนพี่จิ...ไว้ค่อยบอกวันหลังแล้วกัน เพราะวันนี้พี่ชายผมค้างบ้านแฟน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องชายไม่กลับห้อง ฮึ่ม!

อันที่จริงพ่อผมยังลังเล แต่พอเห็นนิฌานถือกระเป๋าตามหลังผมต้อยๆ ด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น พ่อก็มาตบไหล่ผม กระซิบบอกว่าคนคนนี้น่าจะเคลมผมไม่ไหวหรอก แค่นอนค้างยังดีใจจนเป็นบ้าซะขนาดนี้

“น้องเจ...จะค้างจริงๆ เหรอ”

แต่คนบ้าก็ยังมีช่วงตั้งสติได้ทัน แม้จะช้าไปสักหน่อยเพราะผมและเขามาถึงคอนโดแล้วก็เถอะ สีหน้าของนิฌานค่อนไปทางเหลือเชื่อ เหมือนไม่คิดไม่ฝันว่าวันนี้จะมาถึง แม้มักชวนอยู่เสมอ แต่เขารู้ว่าพูดไปผมก็ปฏิเสธหน้าตาย เป็นอย่างนี้ประจำไม่มีวันเป็นอื่น

“ผมจะค้างเฉพาะวันที่เลิกงานดึกเท่านั้น หากวันไหนเลิกตั้งแต่ตอนเย็นก็จะกลับบ้าน” ผมอธิบาย “หรือพี่ฌานมีวิธีที่ดีกว่านี้”

“น้องเจเลิกระแวงกันแล้วจริงอ่ะ” นิฌานตอบคำถามด้วยคำถาม ทำไมเขาถึงคิดเยอะกว่าคนนอนค้างอย่างผมอีกล่ะเนี่ย

“พี่ฌานไม่เห็นจะน่าระแวงเลย”

“แล้วที่ปฏิเสธพี่ครั้งก่อนล่ะ”

“ครั้งก่อนกับครั้งนี้เหมือนกันตรงไหน” ผมย้อนถามพลางเลิกคิ้ว พอได้รู้ว่าตัวเองมีความสำคัญแค่ไหนในใจเขา ก็บอกเชื่อใจได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่านิฌานไม่กล้าจับกดผมอย่างที่พี่จิระแวงแน่นอน

ก็ลองทำผมผิดหวังหรือโมโหจนหนีเตลิดสิ คนตัวโตมีหวังร้องไห้โฮแน่

เมื่อโดนต้อนนิฌานก็จนคำพูด เขาผายมือเป็นเชิงว่าตามสบายเลย

“ผมนอนโซฟานะ”

“ไม่ได้ๆ พี่จะให้น้องเจนอนโซฟาได้ยังไง เดี๋ยวพี่นอนโซฟาเองครับ” ก่อนจะรีบปฏิเสธแทบไม่ทัน ขวางหน้าโซฟาเหมือนเป็นอาณาเขตต้องห้าม

“มันใช่เวลาทำตัวสุภาพบุรุษ ทำคะแนนตอนนี้มั้ยเนี่ยพี่” ผมจิ้มอกเขาจึกๆ “พี่ฌานรักผม อยากให้ผมนอนสบายๆ แต่ผมเป็นผู้จัดการพี่ ให้ดาราในสังกัดนอนหลังขดหลังแข็งไม่ได้หรอก”

พูดจบผมก็กัดปาก เดี๋ยวนี้พูดคำว่า ‘พี่ฌานรักผม’ ออกมาโต้งๆ ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พลันหน้าเห่อร้อนอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะเขินตัวเอง แต่ผมเขินกับสายตาล้อเลียนของเขา!

“มองอะไรครับ”

“ไม่มองครับไม่มอง น้องเจไม่อยากให้มองพี่ก็ไม่มอง”

นิฌานยกมือปิดตา กลับทำให้ผมยิ่งหน้าแดงก่ำ ไม่เอาแล้ว ไม่ยืนโต้เถียงกับเขาแล้ว ผมสะพายกระเป๋าเดินเข้าห้องน้ำ เตรียมจัดการตัวเองให้เรียบร้อย

ก่อนจะสะดุดกับกุหลาบที่ช้ำจนคล้ำตรงอกเสื้อ

ผมหยิบสมุดจดตารางงานขึ้นมาแล้ววางดอกไม้ลงไปในหน้าสุดท้ายเพื่อทับเป็นดอกไม้แห้ง จากนั้นจึงปอกเปลือกตัวเองวิ่งผ่านน้ำ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมาเยือนห้องของนิฌาน จึงไม่ค่อยตื่นเต้นกับอ่างน้ำโอ่อ่าราคาแพงและห้องน้ำที่ใหญ่เท่าห้องนอนของบ้านทองคำดี โดยเฉพาะตอนนี้ที่เริ่มง่วงหาว ตาแทบจะปิดอยู่ทุกเมื่อ

พอเดินออกมานิฌานก็เข้าต่อทันที ผมสบโอกาสนี้รีบจับจองโซฟา เกาะแน่นเป็นปลาหมึกไม่ให้เขาค้านอีก

นอนหลับตาได้ไม่นานเจ้าของห้องก็เดินมาหยุดยืนด้านข้างพร้อมถอนหายใจยาว

“น้องเจ” นิฌานเขย่าผมเบาๆ คนอะไรเห็นเด็กหลับแล้วยังหักใจปลุกได้ลงคอ “น้องเจ”

ผมแสร้งตายแล้ว

พลันได้ยินเสียงตุบเบาๆ คาดว่านิฌานคงนั่งยองๆ อยู่ข้างโซฟา จ้องผมอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี

“อุ้มไปเลยดีมั้ยน้า”

ไม่ดี!

“ไม่เอาดีกว่า ถ้าตื่นมาน้องเจต้องโกรธแน่เลย”

ใช่ๆ!

“น้องเจตัวเล็กน่ารัก นอนโซฟาแล้วพอดีกำลังสบาย แต่พี่ฌานตัวสูง ถ้านอนโซฟาขาคงเลยไปไกล ตื่นมาต้องเมื่อยมากแน่ๆ”

...ข้อดีของคนตัวเล็กสินะ แต่ทำไมฟังแล้วมันน่าหงุดหงิดอย่างนี้นะ!?

“อยากทำตัวเป็นสุภาพบุรุษจังน้า แต่ถ้ารู้ทั้งรู้ว่าทำแล้วเมื่อย นอนหลับไม่สนิท ทำงานพรุ่งนี้ไม่เต็มที่ น้องเจต้องโกรธแล้วก็โกรธแบบคูณสาม งั้นพี่ฌานจะเป็นเด็กดี เชื่อฟังน้องเจแล้วไปนอนในห้องนะครับ”

ดีมาก รีบๆ ไปนอนได้แล้ว!

“อยากจูบจังเลย”

ผมลอบสะดุ้งเบาๆ

“ถ้าแอบลักหลับน้องเจจะรู้มั้ยน้า”

...ผมควรตื่นดีมั้ย

“ไม่เอาดีกว่า จูบแรกของน้องเจต้องยินยอมด้วยตัวเอง”

ดีมากไอ้พี่ฌาน

“งั้นขอตรงนี้แทนแล้วกัน”

พลันผมรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นนุ่มนาบบนหน้าผาก

“ฝันดีนะครับน้องเจ”

ผมลืมตาทันที แต่นิฌานชิ่งหนีไว ลงมือแล้วก็วิ่งเข้าห้องนอน รีบร้อนยิ่งกว่าโดนกระทิงตกมันไล่กวดซะอีก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ทันเห็นหรอกว่าหูเขาแดงก่ำขนาดไหน

มีหรือคนฉลาดอย่างนิฌานจะไม่รู้ว่าผมแกล้งหลับ

ไอ้ที่เรียกตัวเองว่า ‘พี่ฌาน’ น่ะเป็นหลักฐานชั้นเยี่ยม!

รู้ทั้งรู้ยังกล้าจูบหน้าผากกันได้ลงคอ ไม่ใจกล้าหน้าด้านคงทำไม่ได้แน่ ผมทั้งฉุนทั้งขัน ที่ฉุนเพราะโดนฉวยโอกาส ส่วนที่ขันเพราะไอ้ท่าวิ่งตลกๆ เหมือนกลัวโดนด่าจนขาแทบขวิด 

พอนึกภาพนั้นก็โกรธไม่ลง ผมส่ายหน้ากับตัวเองก่อนจะขยับท่านอนสบายๆ ก่อนหลับตาไม่วายลูบสัมผัสที่ยังร้อนผ่าว

“ฝันดีนะครับ...พี่ฌาน”

----------------------

ฮือ อิจฉา ได้เนียนจุ๊บหน้าผากของหน่องเจด้วย!

ส่วนพิธีกรคนนี้เจ้าเก่าเจ้าเดิมนะคะ จากเรื่องของเตโชจิระยอดนักชงค่ะ คู่นั้นเปิดตัวได้เพราะจิระให้อิมเมจแรงๆ และเตโชดูมึนๆ แต่เราตั้งใจให้คู่ของนิฌานเจคบแบบปิดค่ะ เพราะภาพลักษณ์ของนิฌานนั้นตกแฟนคลับมาทุกวัย อยู่ในวงการมานาน แตกต่างกับจิระดารายอดข่าวฉาวพอสมควรเลย (ฮา)

เม้ามอยอย่าลืมติดแฮชแทค #น้องเจที่น่าลัก หรือทวิตเตอร์นักเขียน @MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja) ( อ่านว่า มาจะ”วาย”นะจ๊ะ )

เพจนักเขียนมาจะกล่าวบทไปเจ้าเก่าเจ้าเดิม (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-07-2018 21:09:11
ร้ายกาจมากกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-07-2018 21:17:52
น้องเจใจอ่อนมากแล้วนะเนี้ย พี่ฌาณก็ทำตัวน่ารักขึ้นทุกวัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 04-07-2018 21:22:32
งื้ออออ ทำไมอ่านตอนนี้แล้วเขิน
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-07-2018 21:25:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 04-07-2018 21:32:26
พิฌานนนนนนน อยากสมัครเป็นแฟนคลับ ฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-07-2018 21:40:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-07-2018 21:57:23
ความสัมพันธ์เริ่มคืบหน้ามาอีกนิดแล้ว แถมพี่ฌานยังได้จุ๊บหน้าผากน้องอีก จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-07-2018 22:29:08
มีคนเนียนตีมึน 1 อัตราค่ะ//ชี้พี่ฌาน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-07-2018 23:25:52
น้องเจยอมเรียกว่าพี่ฌานแล้ว  พี่ฌานมีโอกาสแล้ว  รีบทำคะแนนเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-07-2018 23:36:10
นิฌานเขิน  omg :ruready
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 05-07-2018 00:08:46
พ่อปลาไหลมีมุมเขินด้วยแหะ น่ารักอ่าา   :o8:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-07-2018 01:24:06
ยอมใจให้พี่เขาเลย เรื่องความเนียนเนี้ย  :katai3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-07-2018 07:25:57
จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า กับน้องเจผู้ฉลาดล้ำโลก  ทันกันอ่ะต่อปากต่อคำกันสนุกเชียว.  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 05-07-2018 07:51:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-07-2018 08:28:58
นิฌาน  น่ารักมากกกกกกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1:
เจ จะใจอ่อนบ้างมั้ยนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-07-2018 09:14:31
 :z1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-07-2018 09:57:36
กรี๊ดร้องงงงงงงง อิพี่ฌานนางเนียนค่ะทุกคน
นางสร้างภาพคนดีค่ะทุกคน ไม่ไหวละใจบางงงงง >\\\\\<
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 05-07-2018 10:06:08
ว้ายๆๆๆๆๆ ตอนนี้น่ารักยกกำลังสอง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 19 - P.15 - [UP: 04/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 05-07-2018 17:35:53
มีจุ๊บกันเบาๆ >\\\<
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 06-07-2018 20:36:02



ตอนที่ 20 : เร่งทำคะแนน


“สงสัยรึเปล่าว่าทำไมทางตำรวจถึงตามรอยได้ทุกครั้ง” นิฌานถามผมด้วยสีหน้านิ่งสงบแต่ดวงตาแฝงคำถามให้ฉุกคิด ท่าทางนั้นช่างน่าวางใจและเชื่อถือ แต่สำหรับผมนั้น...

อยากต่อย! อยากต่อยจะแย่แล้ว!!

“น้องเจอย่านิ่งสิครับ” นิฌานเห็นผมเงียบก็เลิกคิ้ว หลุดจากบทบาทที่กำลังแสดงชั่วคราว “ท่องไว้ว่าต่อยไม่ได้ ถ้าต่อยหน้าพี่ กองเช็กเมทในฝันของน้องเจล่มแน่ๆ”

“ผมยังไม่ทันส่งโทรจิตเลย พี่ฌานรู้ได้ไงว่าผมอยากต่อย”

“ก็น้องเจกำกระดาษจนยับย่นซะขนาดนั้น...ดีนะพี่จำได้หมดแล้ว อยากจะฉีกระบายอารมณ์ก็ตามใจเลยครับน้องเจ แค่อย่าต่อยหน้าพี่ก็พอ” พูดจบนิฌานก็ยิ้มแป้นแล้นกวนประสาทอย่างเต็มที่ ทั้งที่ควรจะเหนื่อยหนักแต่ทุกครั้งเวลาเตรียมเข้ากองเช็กเมทดาราชื่อดังช่างอารมณ์ดีเกินหน้าเกินตาเหลือเกิน! นี่หรือคือการจี๋จ๋า เขาพยายามแกล้งผมต่างหาก!

“เอ้า ต่อบทสิครับน้องเจ หรือให้พี่เริ่มเล่นใหม่ดี” นิฌานถามความเห็นผมก่อนจะกระแอมไอ จากนั้นคนยิ้มหน้าเป็นก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่นิฌาน ชาญชัย “สงสัยรึเปล่าว่าทำไมทางตำรวจถึงตามรอยได้ทุกครั้ง”

แต่เป็นตัววายร้าย!!

ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องของนิฌานครับ หลังผ่านสัปดาห์นรกมาได้ วันพรุ่งนี้เขาก็ต้องเข้ากองถ่ายเช็กเมทอีกครั้ง โดยต้องถ่ายทำติดต่อกันเพื่อตุนตอนจนทางผู้กำกับวางใจ จากนั้นจึงค่อยเข้ากองสลับกับทำงานนอกแบบสบายอุรา

ส่วนสาเหตุที่ผมนั่งจ๋องอยู่ตรงโซฟา ถือบทหน้าคร่ำเคร่ง ก็เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้ากองตั้งแต่ตีห้า!

รีบร้อนก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคืออยากได้ฉากช่วงเช้ามืดต่างหาก ผมเลยต้องเก็บของมานอนค้างคอนโดอีกคืน และอาจอีกหลายคืนจนกว่าจะพ้นช่วงวิกฤต

โชคดีที่ผมจัดตารางงานกะให้เจ้าของห้องนอนเต็มอิ่มอยู่แล้ว วันนี้เลยเลิกงานเร็ว มีเวลาให้นิฌาน ชาญชัย ถือบทซึ่งเพิ่งได้รับเมื่อสองวันก่อนเดินท่องวนไปมา....วนรอบโซฟาผมเนี่ย! ถ้าเป็นคุณจะทนไหวมั้ยครับ หลังจากนิฌานเดินลูบคางผ่านหน้ารอบที่สิบเก้า ผมก็ยอมทำตามความต้องการของเขา โดยการออกปากถามว่า... ‘พี่ฌานอยากให้ผมช่วยต่อบทมั้ย’

ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม ที่มาของภาพผมนั่งขมวดคิ้วถือปึกกระดาษในตอนนี้ เพราะนิฌานซึ่งท่องจำได้แม่นยำแทบจะยัดบทใส่มือผมโดยไม่ให้กลับคำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง...บนพื้น

เจ้าของห้องนั่งพื้น ส่วนแขกนั่งโซฟา

มันแหม่งๆ นะว่ามั้ย

ผมแย้งแล้วเพราะเป็นเด็กดีมีมารยาท แต่คนชอบตามใจนั้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเดินไปหาเชือกให้ผมช่วยมัดมือไขว้หลัง สวมบทหัวหน้าองค์กรซึ่งปลอมตัวเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอสที่ถูกขังในห้องปิดตาย ถูกมัดติดกับเสาป้องกันการหลบหนี

เพราะห้องนี้ไม่มีเสา อุปกรณ์สมมติจึงเป็น...เอ่อ...ขาเก้าอี้

มองนิฌานที่นั่งบนพื้น มือมัดอยู่กับขาเก้าอี้แล้วผมยอมใจกับความแน่วแน่ หันมาตั้งอกตั้งใจกับการต่อบท แต่ใครเลยจะเชื่อ...ว่าทันทีที่เขาออกปาก ผมก็อารมณ์ขึ้นแล้ว!

เพราะหัวหน้าองค์กรนั้นปลิ้นปล้อนสิ้นดี!

เหมือนกับนิฌาน ชาญชัยไม่มีผิด! สมแล้วที่ถูกเลขาคมสันวางตัวไว้...ผมนึกคนอื่นมาแสดงบทนี้ได้ดีเท่านี้ไม่ออกจริงๆ!

คล้ายจะเห็นเขาส่งโทรจิตทักท้วงราวเมื่อยมือเต็มทน ผมเลยรีบก้มอ่านข้อความในกระดาษทันควัน

“คุณพี่รู้อะไรก็รีบพูดมาเถอะ โดนสงสัยจะแย่แล้วนะ” ประโยคที่ผมพูดความจริงแล้วเป็นของธนัท หนึ่งในแก๊งพระเอกซึ่งค่อนข้างเอนเอียงมาทางพี่ชายมิสเตอร์เอส เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมเลยเอ่ยด้วยสีหน้าหงุดหงิด ผิดกับความเป็นจริงที่...

ย้อนความกันสักนิด การปรากฏตัวของพี่ชายมิสเตอร์เอสทำให้พระเอกสงสัย จนธนัทต้องจับคุณพี่ชายมัดมือกับเสาเพื่อจับตามอง ต้องยกข้าวยกน้ำมาให้จนสนิทสนมในระดับหนึ่ง นิฌานมักเอ่ยถามถึงเรื่องน้องชายเสมอ จึงไม่แปลกหากธนัทวางใจ และกลายเป็นคนกลางเมื่อพระเอกจงใจหาเรื่อง

ทำไมถึงหาเรื่อง?

ยังจำได้ใช่มั้ยครับว่าระหว่างนิฌานโดนขัง พระเอกก็ออกไล่ล่าองค์กรเหมือนเดิมตามปกติ ก็สมาชิกที่ตามรอยจนไปปะทะกับตำรวจไงครับ พระเอกไม่มีทางปล่อยให้คนคนนี้หลุดมือจึงลุยเดี่ยวโดยทิ้งธนัทกับพายเฝ้าพี่ชายมิสเตอร์เอสและรายงานสถานการณ์เป็นระยะ แต่...การบุกที่ควรจะราบรื่นก็โดนขัดขวางอีกครั้ง!

ด้วยพวกตำรวจเจ้าเก่าเจ้าเดิม!!

พระเอกโมโหมาก ตำรวจมาได้ตรงจังหวะประหนึ่งดักรอกันขนาดนี้จึงเชื่อว่าต้องมีสายในแก๊งตัวเอง แล้วจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่คนแปลกหน้าซึ่งอ้างว่าเป็นญาติของเพื่อนสนิท...

ข้อสันนิษฐานนี้เป็นไปได้ เพราะนิฌานปรากฏตัวครั้งแรกก็ตอนตำรวจมาเจอจนต้องหลบหนี เรื่องบังเอิญไม่มีโลก นั่นอาจเป็นการจัดฉาก!

และ...ใช่ นั่นไม่ใช่ความบังเอิญ

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่การจัดฉาก มันคือการฉวยโอกาสต่างหาก!

เพราะหัวหน้าองค์กรกับตำรวจเป็นปรปักษ์ต่อกันโดยสิ้นเชิง!!

กลับมาที่ปัจจุบัน พระเอกที่จำใจล่อถอยกลับมาเล่าสิ่งที่เผชิญให้ธนัทฟัง ทำให้เพื่อนซี้เริ่มสงสัย แต่กระนั้นก็เชื่อใจคุณพี่ชาย จึงแทรกกลางหวังไกล่เกลี่ยประนีประนอม

แต่คุณพี่ชายกลับถามตรงประเด็นจนชวนสะอึก!

“สงสัยรึเปล่าว่าทำไมทางตำรวจถึงตามรอยได้ทุกครั้ง”

นิฌานเล่นได้หน้านิ่งเหลือเกิน นิ่งจนสามารถตีความได้ทั้งด้านดีและร้าย เมื่อพระเอกได้ยิน ก็มั่นใจในทางลบแล้ว แต่ธนัทยังคงยืนขวาง สบโอกาสให้คนถูกจับมัดเอ่ยเสริมอีกประโยค

“เพราะฝ่ายตำรวจมีคนขององค์กรแฝงอยู่ไงล่ะ”

ราวโยนระเบิดลงมากลางดง

คำตอบของนิฌานสร้างความเงียบงันแก่สามหนุ่มแก๊งพระเอก แต่ละคนมีสีหน้าแตกต่างกันไป ก่อนธนัทจะเป็นฝ่ายสนับสนุนความเห็น

“ที่คุณพี่พูดก็มีเค้านะ” ซึ่งแน่นอนว่าคนพูดคือผม ต้องมาเรียกนิฌานว่าคุณพี่ โคตรอยากตบปากตัวเองเลย ทำไมนะทำไม ธนัทถึงต้องเข้าข้างคนคนนี้ด้วย ทั้งที่...ทั้งที่...

พอเห็นประโยคถัดมา ผมก็กุมขมับ

“ไม่เอาแล้วพี่ฌาน ผมพูดต่อไม่ได้! พี่ซ้อมหน้ากระจกเถอะ อย่าซ้อมกับผมเลย!”

เหมือนเด็กน้อยงอแงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แต่อย่าโทษผมเลย ก็ผมน่ะรักมิสเตอร์เอส ต้องมาพูดเป็นเชิงเห็นดีเห็นงามกับตัวร้าย ผมทำใจไม่ได้จริงๆ!

แต่นิฌานกลับนิ่งสงบ สายตาจ้องตรงอย่างเตรียมใจโดนกล่าวหาแต่กระนั้นก็พร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน

นั่นเป็นสายตาของ....พี่ชายมิสเตอร์เอส

ครั้งแรกก็ว่าได้ที่ผมเผชิญหน้ากับนิฌานยามแสดงด้วยสมาธิอันแน่วแน่จนลบคราบของคนเจ้าเล่ห์กวนประสาทเสียราบคาบ ความตั้งใจนั้นทำให้ผมเลิกโวยวาย ก่อนจะก้มหน้าอ่านบทของธนัทต่อ

“พวกเราเคยสงสัยข้อนี้แล้วตั้งแต่เมื่อก่อน”

ธนัทเห็นด้วยกับความเห็นของนิฌาน ทว่า...

“แต่มิสเตอร์เอสหาไม่เจอ!” พระเอกเชื่อมั่นในสหายที่ล่วงลับ เมื่อก่อนใช่ว่าไม่เคยสงสัยพวกตำรวจ เพราะหลายคดีที่เกี่ยวพันกับองค์กรมักเงียบหายไปเฉยๆ แต่เมื่อมิสเตอร์เอสสืบไม่พบ จึงปัดข้อสงสัยนั้นทิ้ง!

ต้องเล่นสองบทในเวลาเดียวกัน เถียงกันไม่พอยังคนละอารมณ์อีก ผมคลับคล้ายว่าตัวเองเป็นโรคสองบุคลิก

“น้องชายฉันหาไม่เจอก็ไม่แปลก” แต่นิฌานไม่คิดแซวกับท่าทางตะกุกตะกัก เดี๋ยวพูดช้าพูดเร็วของผม เขาเอ่ยต่อทันควันไม่ยอมเว้นช่วง แสดงความจริงใจในทุกคำเอื้อนเอ่ย ทั้งยังสบตาไม่ยอมหลบเลี่ยง จนคนถูกจ้องอดสั่นสะท้านไม่ได้ “เพราะประวัติของคนคนนั้นสะอาดมาก เป็นคนขององค์กรที่แฝงตัวเข้ามาในกรมตำรวจนานหลายสิบปีไต่เต่าจนได้ยศสูง แถมยังมีครอบครัวเป็นฉากหน้า เป็นหัวหน้าที่ลูกน้องเคารพรัก”

ใจผมสั่นไหว ไม่ใช่ว่าหลงรักเขา แต่ผมกำลังถูกการแสดงของเขาดึงดูดเข้าเต็มเปาจนเชื่อหมดใจ

คนคนนี้...คือพี่ชายของมิสเตอร์เอสจริงๆ!

“แล้วคุณรู้ได้ยังไง” คราวนี้ผมพูดบทของพาย แฮกเกอร์ซึ่งนั่งฟังมานานไม่คิดมีส่วนร่วม แต่เมื่อเกี่ยวพันถึงสิ่งที่ตัวเองยังหาทางเชื่อมโยงไม่เจอ ก็อดแทรกขึ้นมาไม่ได้

“เพราะเห็นน่ะสิ ในวันที่โดนใช้ล่อน้องชายมาติดกับ ฉันเห็นคนคนนั้นด้วยตาตัวเอง” พลันใบหน้าของนิฌานเผยความเจ็บปวดที่เก็บกลั้น เทียบกับแก๊งพระเอกซึ่งค่อนข้างได้รับผลกระทบจากการสูญเสียแล้ว นิฌานจะค่อนข้างเก็บอารมณ์มากกว่า อาจเพราะมีอายุมากกว่าคนอื่นๆ และด้วยลักษณะนิสัยที่มีอะไรก็มักเก็บไว้ในใจเหมือนมิสเตอร์เอสผู้เป็นน้องชาย

“แล้วทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้ล่ะ!” ผมถามแทนพระเอกของเรื่องด้วยความอินจัด ใช่ ทำไมไม่พูดให้ไวกว่านี้ ปล่อยพระเอกไปตามรอยจนโดนตำรวจดักตั้งหลายรอบ แถมยังเกือบบาดเจ็บกลับมาอีก แฟนคลับใจหายวาบนะรู้มั้ย!

“เพราะพวกเธอระแวงฉัน ถ้าพูดไปกลัวจะเป็นการป้ายความผิดน่ะสิ” นิฌานอธิบายอย่างใจเย็น ชวนให้อารมณ์คุกรุ่นของคนฟังสงบลงเพื่อใคร่ครวญ “คนคนนั้นคือคนที่ติดต่องานกับพวกเธอมาตลอด และเป็นคนที่สร้างความดีความชอบในการบุกองค์กรใต้ดิน ถ้าพูดไปแต่แรก จะเชื่อฉันหรือ”

แน่นอนว่า...ไม่เชื่อ

พลันความเงียบเข้าครอบงำ ไม่ใช่ว่าผมลืมบท แต่เพราะตรงนี้แก๊งพระเอกกำลังใช้สมองทบทวนกันอยู่

“เห็นมั้ย ไม่เชื่อกันจริงด้วย” นิฌานขยับยิ้มขื่น ราวรู้แต่แรกว่าต้องเป็นแบบนี้ ถึงได้ไม่พูดออกมา ถึงได้ไม่กล้าเอ่ยเตือน จนกระทั่งพระเอกประสบปัญหาแล้ววิ่งมาเค้นคอให้จำต้องพูด “ลองคิดดูให้ดีแล้วกัน ว่าหลังจากแยกตัวทำไมถึงถูกตำรวจไล่ตามหนักขนาดนี้ แค่เพราะห่วงความปลอดภัยของเธอ ห่วงว่าจะฆ่าคนร้ายอย่างเดียวหรือ ไม่ใช่หรอก ถ้าเป็นมิตรกันจริงทำไมไม่ปล่อยให้พวกเธอจัดการเรื่องนี้เองล่ะ แต่เพราะอยากให้คนร้ายหนีรอดไปต่างหาก ถึงได้พยายามถ่วงแข้งถ่วงขาโดยอ้างความยุติธรรม!”

น้ำเสียงตอนท้ายนั้นแฝงความเจ็บแค้นชิงชัง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจจากพระเอกขึ้นหลายเท่า

เพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป

และเข้าเค้าอย่างอัศจรรย์

“ขังฉันต่อก็ได้ แต่แนะนำให้ลองจับตาคนคนนั้นให้ดี” นิฌานเอ่ยอย่างหวังดี แม้จะแทบเป็นเหน็บชา กินข้าวไม่สะดวก โดนจับตาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งพระเอก ได้ตามล้างแค้นให้น้องชาย...เขาย่อมทนได้ “ถึงประวัติจะขาวสะอาด ไม่มีการติดต่อใดๆ ให้ผิดสังเกต แต่การกระทำจะต้องส่อพิรุธออกมาแน่นอน”

ตั้งแต่ต้นจนจบ คนคนนี้ไม่แม้แต่จะหลบสายตา

“เชื่อฉันเถอะ”

จึงไม่แปลกหากพวกพระเอกจะลองเชื่อสักครั้ง...ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน พี่ชายมิสเตอร์เอสก็ถูกปล่อยตัวในที่สุด

กลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักสำคัญตามล่าองค์กร!!!

ผมกำบทแน่นจนกระดาษยับย่น พร้อมกัดปากขณะมองหน้านิฌานที่ค่อยๆ คลายตัวเองจากตัวละคร

คนตีหน้าจริงจังมาตลอดพลันคลี่ยิ้มหวานหยดเตรียมกระเซ้าแซว

“เป็นไงครับน้องเจ พี่เล่นดีมั้ย”

“เล่นดีมาก!” ผมพูดเสียงดังอย่างเจ็บใจ ไอ้ชมก็อยากจะชม แต่ความคับแค้นใจมันมีมากกว่า “ดีมากจนผมสงสารพวกพระเอก พี่ฌานคนใจร้าย! พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่หลอกพระเอกจนเชื่อสนิทใจได้ยังไง!”

นิฌานหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ผมไม่เคยเห็นเขาทำงานแล้วยิ้มแย้มอย่างสบายอกสบายใจขนาดนี้มาก่อนเลย 

“ถ้าจะด่าก็ด่าคนเขียนบทสิครับ มาด่าพี่ได้ยังไง น้องเจไม่ยุติธรรม”

“กีพี่ฌานเป็นคนเสนอไอเดียพี่ชายมิสเตอร์เอสก่อนนี่” ผมพูดพลางมองเขาที่นั่งขยุกขยิกจนอดถามไม่ได้ “พี่ฌานเป็นอะไร”

“พี่แก้เชือกไม่ออก” คนตัวโตกว่าแต่นั่งพื้นเงยมองพลางยิ้มแห้ง

“โกหก” ผมแย้งอย่างรู้ทัน และก็เป็นตามจริง นิฌานชูมือสองข้างซึ่งเป็นอิสระขึ้น ก็ผมเป็นคนมัดเอง ปมเชือกไม่ได้ผูกด้วยซ้ำแค่ทบไปทบมาหลวมๆ จะแก้ไม่ออกได้ยังไงล่ะ เรียกร้องความสนใจชัดๆ

“แต่นแต้น”

แม้จะโดนจับไต๋ได้แล้ว แต่คนหน้าไม่อายก็ยังแถเนียนสร้างความรื่นเริงต่อไปราวเล่นกลแก้เชือก

“ดึกแล้ว เตรียมนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องเข้ากองเช้าซะด้วย น้องเจไหวนะครับ”

“ผมน่ะไหวอยู่แล้ว พี่ฌานนั่นแหละ อย่าซ้อมบทจนดึกเกินไปนะ” ผมเอ่ยอย่างเป็นห่วง รู้ว่าลับหลังคนตัวโตต้องท่องบทต่ออย่างขะมักเขม้น เพื่อการทำงานที่ราบรื่นและรวดเร็วในวันพรุ่งนี้

“พี่กลัวทำได้ไม่ดี”

“พี่ฌานทำได้ดีมาก ดีจนผมเชื่อสนิทใจ และผมเชื่อว่าคนดูก็จะเชื่อ” ผมจับปลายเสื้อเขาขณะพูด หวังสร้างความมั่นใจ เพราะคิดว่าเขาคงกังวลทุกครั้งเวลาเข้ากอง กลัวแสนกลัวจะโดนตำหนิทำให้ความกล้ากลายเป็นความฝังใจ

“เมื่อกี้พี่ไม่ได้เล่นใหญ่เกินไปใช่มั้ย”

“สายตาพี่ทรงพลังมาก สุดยอดแล้วครับ” ผมยกนิ้วโป้งชมเชย เรียกเสียงถอนหายใจจากนิฌาน แต่นั่นเป็นแค่การเล่นละคร! บ้าเอ๊ย ผมไม่น่าหลงกลเลย เพราะเพิ่งจะคลายมือไม่ทันไร ผมก็ผงะติดโซฟาเพราะจู่ๆ เขาก็พุ่งตัวเข้าหา ใบหน้าใกล้กันระยะประชิดจนน่าหวาดเสียว ผมมองริมฝีปากเขาเป็นอันดับแรก เตรียมใช้วิชาป้องกันตัวทันทีหากถูกฉวยโอกาสเป็นครั้งที่สอง!

ครั้งก่อนยังเนียนได้แต่ครั้งนี้อย่าหวังเลย!

แต่นิฌานไม่ได้ทำอะไรผม หมายถึง ไม่ได้จู่โจมในแง่อกุศลอย่างที่เข้าใจ เพราะสิ่งที่เขาทำ...คือการประคองแก้มผมด้วยสองมือ เหอๆ ดูจะมันมือดีเหลือเกินนะ แก้มผมนุ่มก็บอกมา

“พี่ฌานทำอะไร...” ผมพยายามคาดเดาว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน เลยยอมให้แก้มสองข้างโดนประทุษร้ายต่อไป

“พี่แทบจะรอเข้ากองวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว น้องเจรู้มั้ย พี่ไม่เคยนั่งนับวันที่จะไปทำงานอย่างดีใจแบบนี้มานานมากแค่ไหน ทุกๆ วันที่ทำไปเหมือนเป็นหน้าที่ พี่ยิ้มแย้มหาทุกคนก็เหมือนสวมหน้ากาก แต่ตอนนี้พี่สนุกมาก มีความสุขมากเลย!”

ผลคือนิฌานเล่นใหญ่มากจนปรับอารมณ์ไม่ทัน

แต่เห็นเขายิ้มร่า ลูบแก้มผมไถไปมาอย่างร่าเริงสดใส ผมก็นั่งกอดเข่าพลางตอบออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก

“เพราะเช็กเมทคาดเดาไม่ได้ไงครับ”

ถามติ่งซีรีส์อย่างผม คำตอบก็ต้องอวยกันอยู่แล้ว!

“ใช่ครับ เพราะเช็กเมทคาดเดาไม่ได้ ท้าทายให้พี่กลับมามีไฟในการทำงานอีกครั้ง น้องเจรู้มั้ย ยี่สิบปีในวงการบันเทิงมันไม่สนุกเลย หลายครั้งพี่เบื่อแสนเบื่อ ท้อแสนท้อ อยากจะออกจากตรงนี้ใจจะขาด แต่เพราะรักชอบการแสดงถึงไม่ไปไหน”

“พี่ทำถูกแล้ว” ผมพยักหน้าหงึกหงัก หวังสลัดมือปลาหมึกติดหนึบทิ้ง แต่ทำไม่สำเร็จ

“เรื่องของแม่ทำให้ยิ่งเครียด ทำงานแต่ละครั้งต้องคอยห่วงว่าจะถูกขัดขวาง ถูกทำให้เป็นข่าว ถูกสร้างเรื่องป้ายสีใส่ร้าย แต่ตอนนี้ได้ทำในสิ่งที่รักโดยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง กับบทบาทตัวร้ายที่แปลกใหม่ มันดีมาก!”

เห็นเขากระตือรือร้นขนาดนี้ ผมก็เผลอยิ้มตาม

“เพราะน้องเจ พี่เลยได้ทำสิ่งที่รัก กับคนที่รัก” ยิ่งพูดแววตาของนิฌานก็ยิ่งเปล่งประกายวาวระยับ ตอนแรกคิดว่าเขาตื่นเต้นตื่นตา แต่ที่ไหนได้...เป็นเพราะผมตกหลุมกับดักแล้วต่างหาก! เขาจงใจล็อกไม่ให้หลบเลี่ยง เพราะจะพูดจาหน้าอายให้เขินกันอีกแล้วน่ะสิ!

“ฉะนั้นพรุ่งนี้ต้องมองพี่คนเดียว ห้ามมองใครนะครับ”

บอกทีว่าไอ้ทั้งหมดที่พล่ามมา มันเกี่ยวกับคำขอร้องครั้งนี้ตรงไหน

จับแพะมาชนแกะ เรียกร้องความเห็นใจเพื่อให้ผมคล้อยตามชัดๆ!

“มองอัครเดชก็ไม่ได้เหรอครับ ผมเชียร์ฝั่งพระเอกนะ”

“ไม่ได้”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะพี่แสดงเพื่อน้องเจ ถ้าไม่มองไม่สนใจกัน พี่คงหมดเรี่ยวหมดแรง ไฟคึกมอดดับ พี่คงแสดงได้ดีเท่าเมื่อกี้ไม่ได้แน่หากไม่มีกำลังใจจากคนสำคัญ”

ตอแหล!!!

ผมมองคนที่จากไฟลุกโชกช่วงกลายเป็นแห้งเหี่ยวทันตาแล้วอยากจะตะโกนด่าซึ่งหน้าเหลือเกิน แสดงดีอย่างนี้คงไม่ต้องห่วงหรอกมั้ง!

“พี่ฌานเล่นใหญ่ไปรึเปล่า”

“น้องเจยังชมอยู่เลยว่าสายตาพี่ทรงพลัง เป็นไงครับ ทรงพลังพอมั้ย”

คนละเรื่องเดียวกันแล้วมั้ย!

ผมขยับตัวอึกอัก มือไม้อยู่ไม่สุขเดี๋ยวแตะเดี๋ยวชักกลับไม่กล้าประทุษร้ายนักแสดงที่ต้องเข้ากองแต่เช้าตรู่ ทำได้เพียงจ้องตากลับ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์

สายตาของนิฌานนั้นจับจ้องมาด้วยความรักเปี่ยมล้น ทั้งรักทั้งหลง มองแต่ผมคนเดียวไม่เผื่อให้ใครอื่น ยกเป็นคนสำคัญเหนือหิ้งบูชา เทินเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมอย่างภักดี

“อย่าหลบตาสิน้องเจ!”

“ปล่อยผมนะ!”

“ตอบรับก่อนสิ ทำไมครับ ทนสายตาพี่ไม่ได้แล้วเหรอ จะกลับคำชมกันแล้วเหรอ”

แผนจู่โจมอะไรกันเนี่ย! ผมรู้ตัวช้าจริงๆ ที่ตกหลุมทำคะแนนของนิฌานอีกจนได้ แถมยังเป็นวิธีแสนหน้าอาย ไม่ได้สารภาพรักโต้งๆ ออกมาสักคำแต่ทำให้ผมหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

“โอเค!”

“โอเคอะไรครับ”

“ผมจะมองแค่พี่ฌาน ปล่อยผมได้แล้ว”

เมื่อเป็นอิสระ ผมก็จับหน้าอกพร้อมหอบหายใจตัวโยน ทำไมถึงได้เหนื่อยยิ่งกว่าตอนโดนพี่จิลากไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าอีกวะเนี่ย

“หยุดหัวเราะเลยนะ ชิ้ว ไปนอนได้แล้วพี่ฌาน!”

“รับทราบครับผม!” นิฌานรับคำหนักแน่น ไม่ยักต่อว่ากันสักคำที่โดนผมโบกมือไล่ รีบวิ่งเข้าห้องก่อนจะโดนผมกระโดดต่อยเข้าจริงๆ ข้อหากวนประสาท

แถมยังกวนใจกันด้วย ฮึ่ม!





“ซวยแล้วไง!”

ธนัทสบถลั่นเมื่อพายสะกิดเรียกให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดว่าจุดซ่อนตัวของพวกเขาถูกบุกรุกด้วยกลุ่มคนในเครื่องแบบ!!

อย่าเพิ่งงงกันว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้พวกเรามาออกกองนอกสถานที่กันครับ เพราะเป็นฉากบู๊สนั่นของแก๊งพระเอก ทำให้ผมพลอยตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นเอฟเฟคอลังการต่อหน้าต่อตา

ภาพของคนในเครื่องแบบที่ประกาศให้มอบตัว แต่ยิงสวนทันทีเมื่อได้ยินเสียงต้องสงสัย ยิ่งยืนยันคำของพี่ชายมิสเตอร์เอสว่าหัวหน้าตำรวจซึ่งเคยติดต่อกันมาตลอดเป็นคนร้าย มาถึงตอนนี้ แม้จะอยากขังนิฌานให้นานกว่านี้อีกนิดก็ทำไม่ได้ ธนัทรีบปล่อยตัวคุณพี่ชาย ขณะที่พระเอกโบกมือให้พายนำทาง ส่วนตัวอัครเดชถือปืนปิดท้าย

แม้จะได้รับการเชื่อใจระดับหนึ่ง แต่นิฌานก็ห้ามถืออาวุธใดๆ อยู่ดีทั้งที่ตกในสถานการณ์น่าหวาดหวั่น เสียงยิงปืนตอบโต้ดังเป็นระยะ จากที่คอยระวังไม่กล้าทำร้ายผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่กล้าลงมือกับผู้พิทักษ์กฎหมาย เอาแต่หลบหนีอย่างเดียวของแก๊งพระเอก เมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนี้มีส่วนข้องเกี่ยวการตายของมิสเตอร์เอส อัครเดชก็ไม่มีความลังเลใดๆ ในการยิงสวน ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดหมายเอาชีวิต

พระเอกช่างเท่บาดใจ ทุกการต่อสู้เป็นไปอย่างแม่นยำและดุดันแข็งแรง เพราะหากไม่เอาจริง ตำรวจกลุ่มนี้อาจจะเผลอพลั้งมือฆ่าพรรคพวกโดยอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุก็เป็นได้!

“ทางนี้คุณพี่ชาย!”

ขึ้นชื่อว่าจุดซ่อนตัว จะไม่มีทางหนีลับได้ยังไง พายลอดรั้วข้ามไปถนนอีกฝั่ง พอดีกับรถคันหนึ่งที่จอดตรงหน้า รถคันนี้ถูกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ในมือพายนั่นเอง

ธนัทผลักตัวนิฌานขึ้นรถไปทันที ก่อนจะหันมากวักมือเรียกพระเอกที่ยังยิงโต้ตอบกันอยู่ รถคันนี้จอดเลียบแม่น้ำ เผยภาพพระอาทิตย์กำลังขึ้น สวยงามจับใจ

เมื่อสมาชิกขึ้นรถอย่างปลอดภัยทุกคน พายก็กดปุ่มระเบิด

เพียงพริบตาบ้านไม้ร้างแสนผุผังจนน่ากลัวว่าไม่มีใครกล้าอยู่ก็ถล่มลงมา หากเป็นสายตาคนภายนอก อาจคิดว่าบ้านหลังนี้โทรมพร้อมจะพังอยู่แล้ว แต่สำหรับกลุ่มคนที่ติดอยู่ด้านใน ย่อมรู้ว่าสาเหตุมาจากระเบิดลูกเล็กๆ ที่ติดกับเสาต้นหลักต่างหาก

“คุณพี่ไม่เป็นอะไรนะ” เมื่อรถเริ่มขับไปไกล ธนัทซึ่งนั่งเบาะหลังกับนิฌานก็หันมาสำรวจคนข้างตัว ส่วนพระเอกกับพายนั่งด้านหน้า คอยดูเส้นทางหลบหนี

“ไม่เป็นไร” นิฌานตอบ ก่อนจะเหลียวมองหลัง มองอดีตบ้านหลบภัย

เมื่อธนัทมองตามสายตานั้นก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้

“พวกเรากะใช้แผนหลบหนีนี้ตอนพวกองค์กรตามเจอ คิดไม่ถึงว่าต้องใช้กับพวกตำรวจ!”

“แต่หลายคนไม่คุ้นหน้าเลยนะ” พายเอ่ยแทรก เพราะไม่ได้เข้าข้างฝั่งพระเอกสุดกู่ และไม่ได้ผูกพันกับมิสเตอร์เอสจนเชื่อมั่นในตัวคุณพี่ชาย จึงมองสถานการณ์ได้อย่างเป็นกลางที่สุด “หัวหน้าคนนั้นก็ไม่โผล่มา”

“ตั้งใจฆ่ากันขนาดนี้ จะกล้าโผล่หัวมาได้ยังไงล่ะ เจ้าคนพวกนี้ก็เหมือนส่งมาเป็นหน่วยกล้าตาย ลงมือโหดเหี้ยม ขืนส่งคนคุ้นเคยกับพวกเรามาก็ทำไม่ได้ขนาดนี้หรอก” ธนัทฉุนเฉียวจัด ก่อนจะตบบ่าพี่ชายมิสเตอร์เอส “ถ้าไม่ได้คุณพี่ช่วยเตือนคงแตกตื่นลนลานแย่ ขอบคุณนะ”

นิฌานไม่ตอบ แต่เมื่อหันไปมองท้องฟ้าที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้น แสงที่สาดส่องนั้นก็ตกกระทบเงาใบหน้าเผยภาพมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น

เพราะตำรวจที่บุกมานั้นไม่ใช่ตำรวจจริง

แต่เป็นคนขององค์กรสวมเครื่องแบบตบตาหลอก เพื่อให้คำป้ายสีของเขาน่าเชื่อถือขึ้นต่างหาก!

“คัต!”

ทันทีที่ผู้กำกับสังคัต ผมก็ยืนประสานมือตรงหน้าอกด้วยความซาบซึ้งน้ำตาจะไหลอยู่หลังจอมอนิเตอร์ ภาพที่ปรากฏออกมานั้น...สวยมาก! ดูลึกลับ น่าค้นหา มีความร้ายกาจแฝงอยู่ แต่กระนั้นก็น่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดาว่าคนคนนี้คือใคร ช่างเต็มไปด้วยปริศนาที่จุดประกายให้นักคิดอย่างผมคลุ้มคลั่งแทบบ้า นี่มันจะสนุกเกินไปแล้ว! ทุกสิ่งอย่างเหนือการคาดเดาเกินไปแล้ว!!

“โห น้องเจอึ้งเลยเหรอ” รู้ตัวอีกที นิฌานซึ่งโดนแดดส่องหน้าเทคเดียวผ่านด้วยอินเนอร์ที่ส่งมาอย่างแรงกล้าจนผู้ชมสะท้านสะเทือนก็กลายเป็นคนเจ้าชู้นักหยอกซะงั้น “มองแต่พี่รึเปล่า ไม่ใช่ว่าเผลอมองอัคนะ”

“ผมก็มองพี่ฌานนั่นแหละ”

“ดีใจจัง”

“ผมมองเพื่อจับผิดต่างหาก” ผมกอดอก หรี่ตามองคนยิ้มระรื่นตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ นับเป็นคนที่มีดีให้อวด เพราะถ้าไม่นับครั้งแรกที่โดนติ นิฌานก็ไม่เคยทำพลาดเกินสามเทคอีกเลย

แต่ผมรู้หรอกน่าว่ามาจากความมุ่งมั่นทำการบ้านของเขา

นิฌานอยากให้ผลงานเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด

เพื่อให้ตัวเขาได้ก้าวผ่านความกลัว และเพื่อ...ตัวผมด้วย

“น้องเจคิดอะไรครับ ทำไมจู่ๆ ก็หน้าแดง”

“ผมร้อนต่างหาก” พูดจบก็หยิบพัดพับซึ่งพกติดกระเป๋าเสมอออกมาบริการนิฌานไม่ให้เหงื่อออกเยอะเกิน เพราะเขายังต้องถ่ายต่ออีก ระหว่างนั้นคนในกองก็เดินสวนกันไปมา พวกเราอยู่ในเต็นท์รวม นักแสดงนำทั้งหมดก็พักกันอยู่ในนี้

"นานๆ ทีจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น สวยดีนะครับพี่ฌาน”

เพราะกะหลบหน้ายียวนของนิฌานพอดี สายตาผมเลยไปหยุดกับภาพแสนสวยงามด้านข้าง ภาพของพระอาทิตย์ที่ขึ้นระหว่างตึกสองตึก นับเป็นโลเคชั่นที่ตรึงตาไร้ที่ติ เหมาะกับการแง้มตัวตนแท้จริงของหัวหน้าองค์กรเอามากๆ

“เพราะน้องเจชอบนอนอุตุน่ะสิ”

ถะ...เถียงไม่ออก!

เด็กดีที่ต้องเรียนตอนเช้า ทำงานตอนกลางคืนอย่างผม ถ้าเลือกได้ก็ขอนอนจนเต็มอิ่ม จะมีอารมณ์สุนทรีย์แหกขี้ตามาชมพระอาทิตย์ขึ้นทำไมล่ะเอ้อ

“พี่ฌานก็ไม่เคยสนใจเหมือนกันแหละน่า”

“ใครว่า พี่มองพระอาทิตย์ขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนแล้วต่างหาก ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก...ตารางชีวิตก็ผิดเพี้ยน นอนในกองกินในกอง นั่งมองภาพนี้หลายต่อหลายครั้ง ตอนแรกก็สวยอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นก็บาดตา...”

คำพูดอุปมาอุปไมยสมเป็นเจ้าคารม เขาต้องการจะสื่อว่าเข้าวงการบันเทิงแรกๆ ก็สวยหรูดูดี แต่เมื่อผ่านไปหลายปีก็เจ็บปวดเหลือแสน

“แล้วตอนนี้ล่ะครับ”

“ไม่รู้สินะ” นิฌานยักไหล่ “ก็ตอนนี้พี่มีพระอาทิตย์ดวงใหม่ที่น่ามองกว่าหลายเท่า แถมไม่ร้อนไม่แสบตา คอยส่องสว่างนำทางในทุกๆ วันอยู่นี่นา”

ผมถืงกับมือกระตุกแทบเอาพัดพับฟาดกบาลเขาเลยทีเดียว

เบื่อคนเจ้าเล่ห์! รุกจีบซึ่งหน้ากลางกองยังไงไม่ให้มีคนสงสัย!!

และเบื่อตัวเองชะมัดที่ดันรู้ทุกความหมายแอบแฝงของเขาทุกประโยคเลยเนี่ย จะโง่บ้างก็ได้เจตริน!!

--------------------

อย่าแปลกใจทำไมน้องเจเขินบ่อยจัง คือน้องเจเนี่ย ไม่เคยคิดเรื่องความรัก ปิดกั้น ปฏิเสธมาตลอด พอลองเปิดใจ รับอิพี่ฌานมาพิจารณา โดนรุกบ่อยมากๆ เข้า ก็จะเขินตามประสบการณ์อันต่ำต้อยของน้องแหละค่ะ น้องไม่ชินกับความรู้สึกแบบนี้!

ความให้ดอกไม้โดยไม่มีคนสะดุดตา ความบอกรักโดยไม่ให้คนในกองฉุกใจ  #น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนกัดผ้าเช็ดหน้าอิจฉาคนมีความรัก (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

Twitter : @MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-07-2018 20:53:39
หยอดได้ใจสั่นมาก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-07-2018 21:16:02
น้องเจ อย่ตกหลุมพรางง่ายๆน้าาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-07-2018 21:27:49
ถ้าเปลี่ยนน้องเจ เป็นจิตริน นิฌานจีบให้ตายก็อาจไม่ติดนะ 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2018 21:32:12
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-07-2018 22:18:04
น้องเจทั้งน่ารักทั้งฉลาด พี่ฌานจะหลงก็ไม่แปลก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 06-07-2018 23:50:24
ว่างเป็นหยอดเลยนะพ่อคู๊นนน
คนอ่านเขินจนตัวจะแตกแล้ว :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 07-07-2018 00:33:24
ชอบตอนน้องเจเขิน อิอิ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-07-2018 01:38:07
 o13


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-07-2018 05:37:24
นิฌาน คนเดิม.......เพิ่มเติม แอบเปิดร้านขายขนมครก  :m20:
หยอดเอาๆจนชำนาญนะน้องเจ  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-07-2018 05:48:18
รู้ทันแต่ก็ยังเขิน น้องเจเขินบ่อยแล้วนะเดี๋ยวนี้ o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-07-2018 05:49:56
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-07-2018 07:52:26
ขุ่นคะ! ฉันเขิลลลลลลลลลล
อ่านแล้วเขินเอง เหมือนตังเองเปนน้องเจที่โดนพี่ฌานรุกใส่ 55555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 07-07-2018 07:59:01
ขยันหยอดจนน้องจะไปไม่เป็นแล้ว :hao6:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-07-2018 08:10:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 20 - P.16 - [UP: 06/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 07-07-2018 14:19:11
คิดไปคิดมาน้องเจกับอิตานิฌาณก็เหมาะกันดีจริงๆแหละ มีความรู้ทันความคิดแค่ส่งโทรจิตสบสายตาก็รู้ความหมายกันแล้ว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21 - P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 08-07-2018 20:15:08

ตอนที่ 21 : ถ่านไฟเก่า...แล้วไง?



 

ไหนๆ ก็ออกกองนอกสถานที่แล้ว วันนั้นทั้งวันจึงเน้นตระเวนเก็บฉากล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่า ส่วนวันต่อมาค่อยกลับมาถ่ายทำต่อในสตูดิโอ...พร้อมกับนักแสดงรับเชิญคนสวย หนึ่งในตัวเต็งนางเอกเพราะปรากฏตัวตั้งแต่ซีซันหนึ่ง คอยช่วยเหลือพระเอกโดยตลอดและครั้งนี้ก็เสนอที่พักพิงชั่วคราวให้หนุ่มๆ ทั้งสี่อย่างใจกว้าง

คนคนนั้นก็คือ...โมจัง...

แฟนเก่าของนิฌาน!!

“ไม่เจอกันนานเลยนะสุดหล่อ”

ผมเพิ่งเคยเห็นโมจังครั้งแรก ยอมรับว่าเธอสวยโฉบเฉี่ยวน่าดึงดูดกว่ามี่จัง และค่อนข้างตรงสเปคนิฌานซึ่งชอบความท้าทายเผ็ดร้อนแบบนี้มาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมสองคนนี้ถึงเคยควงกันมาก่อน เพราะโมจังมักคลี่ยิ้มพริ้มพราย โปรยเสน่ห์เชิญชวนตลอดเวลา

“โมจังก็ยังสวยเซ็กซี่เหมือนเดิมเลยนะ” นิฌานเอ่ยชมเป็นมารยาท เพราะโมจังในชุดรัดรูปสีดำนั้นขับรูปร่างของเธอให้มีส่วนโค้งเว้าได้องศาราวศิลปะชั้นเลิศ “ไม่เหมือนเดิมสิ เพราะเราหุ่นดีขึ้นตั้งเยอะ"

“แน่อยู่แล้วสิคะ” โมจังยิ้มหวาน “รับเล่นเช็กเมทก็ต้องคุมอาหารแล้วเข้าฟิตเนสทุกวันถึงจะได้ขนาดนี้ ฉะนั้นถ้าจะชวนกินข้าวกันล่ะก็คงต้องปฏิเสธนะจ๊ะ”

“น่าเสียดาย” นิฌานหัวเราะในลำคอเป็นเชิงไม่จริงจังนัก ออกจะโล่งใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องหาคำบอกปัด

“เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่าจะรีเทิร์น” ธนัทแทรกเข้ากลางวงอย่างฉงนสงสัยแกมอยากหาเรื่องวุ่นวายบรรเทาความเครียดจากการเข้ากองแทบทุกวันจนเกือบเป็นโรคประสาทตามรอยผู้กำกับ “จุ๊ๆ ลายออกแล้วเหรอพี่”

“ทักทายตามประสาแฟนเก่าหรอกน่า” นิฌานย้ำคำชัดเจน ก่อนจะตบหัวธนัทเบาๆ หนึ่งทีจนเจ้าตัวรีบชิ่งหนี หากในแก๊งพระเอกเขาคือคนที่มักสร้างรอยยิ้มหวังผ่อนคลาย ธนัทตัวจริงก็คือจอมโวยวายชอบหาเรื่อง “อย่าถือสาเลยนะโมจัง”

โมจัง หรือชื่อจริงๆ คือโมนา สาวสวยลูกครึ่งที่มีตาสีเขียวโดดเด่นยิ้มรับ

“แล้วถ้าฉันคิดจะรีเทิร์นจริงๆ ล่ะ” คำถามทีเล่นทีจริง เล่นเอาผมซึ่งเป็นผู้จัดการอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็กลายเป็นต้นไม้ใบหญ้าให้พระเอก-นางเอกพลอดรักกันซะงั้น

มองไปมองมาภาพของหนุ่มหล่อสาวสวยตรงหน้าสุดแสนจะเหมาะสมลงตัว

“ก็ขอให้เป็นเพียงความคิดแล้วกัน” นิฌานคลี่ยิ้มไม่ถือสา แต่พอปลีกตัวได้ปุ๊บก็ลากคอผมปั๊บ ก้มกระซิบอย่างร้อนตัวเกินเหตุ “พี่เปล่านอกใจนะน้องเจ!”

“เอ่อ...ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ผมกะพริบตาปริบๆ ไอ้ชมก็ส่วนชม ไม่ได้คิดมากคิดเยอะสักหน่อย โมจังเป็นอดีต ผมแยกแยะได้น่า

“ไม่ได้ๆ พี่เป็นฝ่ายจีบอยู่ จะให้น้องเข้าใจอะไรผิดๆ ไม่ได้ ต้องรีบแถลงไข ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ!”

“ผมดูเป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมเลิกคิ้วถาม เห็นๆ อยู่ว่าหลายวันมานี้นิฌานพยายามทำคะแนนแค่ไหน หากจู่ๆ เขาเกิดเปลี่ยนใจเพียงเพราะเจอโมจังในกอง ก็เท่ากับว่าผมเปิดโอกาสให้ผิดคน! มองคนผิดแล้ว!!

“ไม่ๆ พี่ไม่มีทางทำให้น้องเจผิดหวังเด็ดขาด”

ราวอ่านใจได้ นิฌานเลยรีบยืนยันเสียงแข็ง

“งั้นพี่ฌานจะห่วงอะไร” ผมถามกลับ งงเป็นบ้าว่าคนฉลาดอย่างเขาจะลนลานจนหน้าเปลี่ยนสีทำไมกับอีแค่เรื่องที่รู้ดีกับใจอยู่แล้ว

“ก็พี่...” นิฌานพูดไม่ทันจบประโยคดีก็ถอนหายใจดังเฮ้อ ทั้งดีใจและเสียดายในเวลาเดียวกัน “น้องเจเข้าใจพี่ก็ปลื้มปริ่ม แต่ถ้าเป็นไปได้...ก็อยากโดนหึงจังเลยน้า”

ผมเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาทันที

“ฝันไปเถอะ!”

 

การถ่ายทำเป็นไปได้ด้วยดี นักแสดงทุกคนเป็นมืออาชีพ ไม่มีการลืมบทหรือติดขัดอะไร รับส่งอารมณ์กันอย่างไหลลื่น โดยเฉพาะฉากชวนวาบหวามระหว่างอัครเดชและโมจัง ทำออกมาได้ดีจนแฟนคลับเช็กเมทอย่างผมชุ่มชื่นหัวใจ

ก็ซีซันนี้น่ะเครียดเกินไปแล้ว! เมื่อมีฉากหวานๆ ปลอบโยนหัวใจจากการสูญเสียเพื่อนรักของพระเอก แม้จะเพียงโอบกอดไร้คำพูด แต่กลับดูโรแมนติกน่าซาบซึ้ง

ถ้าไม่ติดว่า...พวกตำรวจ(ปลอม)บุกมาอีกครั้ง!

ตอนมิสเตอร์เอสถูกล้างสมองเข้าองค์กรถูกฝังเครื่องติดตามตัวฉันใด ในตัวของหัวหน้าองค์กรก็มีเครื่องติดตามตัวฉันนั้น แต่ไม่มีกลไกแอบแฝงถึงชีวิต เพียงบอกตำแหน่งเพื่อให้ลูกน้องจู่โจมถูกที่ต่างหาก!

นิฌานถูกธนัทและพายจับตามองตลอด ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือติดต่อคนในองค์กรใดๆ ให้เผยพิรุธ เพียงแต่ทุกอย่างอยู่ในแผนซึ่งบอกกล่าวล่วงหน้าไว้แต่แรก

ก่อนปลอมเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอส หัวหน้าองค์กรสั่งลูกน้องจับตาดูฝั่งตำรวจและพระเอกให้ดี หากทางพระเอกเริ่มมีทีท่าระแวงตำรวจจากคำยั่วยุของตนเมื่อไร ก็ให้สวมเครื่องแบบบุกโจมตีอย่าได้รอช้า อย่าลืมเว้นจังหวะให้พวกเขาหนีไปได้ จากนั้นก็บุกเข้ามาอีก และบุกเข้ามาอีกจนกระทั่งพวกพระเอกอ่อนล้าทั้งกายทั้งใจ

ชักใยอยู่เบื้องหลังแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว

นัดแรก คือสร้างความน่าเชื่อถือรอจังหวะตลบหลังพวกพระเอกภายหลัง

นัดที่สอง คือกวาดล้างที่ซ่อนตัวและพันธมิตรของพวกพระเอกทีละแห่งที่ลำบากลำบนหาตั้งแต่ซีซันแรกได้อย่างแนบเนียน

และนัดที่สามคือ...ป้ายสีคนทรยศ!

สมแล้วที่เป็นหัวหน้าองค์กรซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวางแผนฆาตกรรม เพราะองค์กรนี้มีจุดประสงค์ในการให้คำแนะนำรวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ต้องการฆ่าคนให้ลงมือสำเร็จโดยไม่ถูกจับกุม โดยมีสมาชิกในองค์กรให้ความช่วยเหลือหรือแฝงตัวสนับสนุน ทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุไปจนถึงการป้ายสีหรือทำทีเป็นห้องปิดตาย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เหตุฆาตกรรมเล็กๆ ไปจนถึงการลอบสังหารระดับประเทศ ด้วยเหตุนี้พระเอกที่คอยลากฆาตกรตัวจริงออกมาแถมยังสืบสาวมาถึงคนในองค์กรว่าเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังคดีพิสดารทั้งหลายจึงถูกหมายหัว

ในเนื้อเรื่องตอนนี้ยังไม่เฉลย แต่ผมขอสปอยทุกคนแล้วกันว่าหัวหน้าตำรวจคนนั้นคือหนึ่งในสมาชิกองค์กรจริงๆ คำพูดของนิฌานถึงได้น่าเชื่อถือจนพวกพระเอกคล้อยตาม แต่ที่เล่าไม่หมด คือสมาชิกคนนี้แฝงตัวในหน่วยราชการจนคิดทรยศองค์กร!

ส่วนสาเหตุที่คอยขวางพระเอกไม่ใช่ว่าอยากปล่อยคนร้ายหลบหนี แต่เพราะกลัวพระเอกตามเจอแล้วความแตกว่าตัวเองเคยเป็นสมาชิกองค์กรต่างหาก! หากความจริงนี้เปิดเผย ตำแหน่ง การงาน สังคม ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมแหลกสลายในพริบตา จึงดักพระเอกทุกทิศทาง ขณะเดียวกันก็พยายามกำจัดสมาชิกที่หลบหนีซะ!

น่าเสียดาย...เพราะหัวหน้าองค์กรซ้อนแผนแต่แรก สมาชิกที่ข้อมูลหลุดจนถูกไล่ล่าและหนีรอดในตอนนี้นั้น...คือเหยื่อล่อ!

ในเมื่อถูกตามล่าจนแทบไม่มีโอกาสตั้งตัว ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่สนองไปซะเลยล่ะ? หัวหน้าองค์กรจงใจเผยข้อมูลให้พระเอกและคนทรยศกระโดดเข้ามาในหมากกระดานครั้งนี้แต่แรก!

ทำไมถึงต้องวางแผนหลายตลบน่ะเหรอ ก็ดูสถานการณ์ของหัวหน้าองค์กรหลังจบซีซันสองก่อนสิ มันแย่มาก! โดนถล่มจนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง คนที่เชื่อใจก็มีไม่ถึงสิบ ตำรวจหวังสร้างผลงาน พระเอกหวังแก้แค้น โดนรุมสองอย่างนี้ย่ำแย่มากจริงๆ นะเห็นมั้ย

ให้จัดการตำรวจยศสูงที่ระวังตัวแจ? ย่อมเป็นไปไม่ได้ จะให้ตามล่าพระเอกเหมือนสมัยก่อนด้วยกำลังเพียงหยิบมือ? ก็เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำได้...คือแฝงตัวแล้วชักนำทั้งสองฝั่งกำจัดกันเอง!!

ตำรวจในเครื่องแบบปลอมคือสมาชิกที่เหลือไม่ถึงสิบคนซึ่งเชื่อฟังคำสั่ง

แม้จะน้อยจนน่าใจหาย แต่ความภักดีมีเต็มร้อย หัวหน้าองค์กรเดิมพันกับลูกน้องจำนวนหยิบมือนี้เพื่อจัดการเสี้ยมหนามทั้งหมด เพราะเมื่อกำจัดคนทรยศและพระเอกได้แล้ว จะก่อตั้งองค์กรใหม่ หาสมาชิกใหม่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ

“ระวัง!”

และการบุกครั้งล่าสุดอย่างกะทันหันโดยไม่ทันได้นอนหลับสักตื่น ก็ทำให้โมจังสละชีพเพื่อถ่วงเวลาให้พระเอกหลบหนี...เดี๋ยวนะคุณคนเขียนบท ความโรแมนติกเพิ่งจะเกิดก็ฆ่าตัวละครทิ้งแล้วเหรอ ฉากหวานเมื่อครู่คือเดธแฟลกใช่มั้ย!!

เรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อมีการสูญเสียอีกครา พระเอกที่เพิ่งสีหน้าดีขึ้นกลายเป็นยิ่งคับแค้นเจ็บปวดใจ แฟนพันธุ์แท้อย่างผมก็พลอยใจร้าวไปด้วย

ทั้งหมดเพราะ...

เพราะพี่ฌานแท้ๆ เลย!!


“คัต!”

ฉากแสนหน่วงจบลงแล้ว โมจังในชุดเปื้อนเลือดค่อยๆ ยันตัวนั่ง ก่อนจะยื่นมือไปหานิฌานที่กำลังเดินผ่านนักแสดงนำทั้งหมดมุ่งตรงหาผมพอดิบพอดี

“ช่วยประคองหน่อยสิคะสุดหล่อ”

นิฌานชะงัก เมื่อมีคำขอร้องจากสาวสวย ท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนในกอง สุภาพบุรุษแสนดีก็ไม่กล้าหักหน้าฝ่ายหญิง ส่งมือช่วยประคองให้ลุกขึ้นก่อนจะหลุดอุทานเมื่อร่างของโมจังซบเข้าหา ทำให้เสื้อผ้าของนิฌานเปื้อนเลือดปลอม

“เปลี่ยนเสื้อด้วยกันนะคะฌาน” โมจังยิ้มซุกซน ไม่บอกก็รู้ว่าเธอจงใจ

‘ให้พี่ไปมั้ยครับน้องเจ’

แต่สิ่งแรกที่นิฌานทำคือการส่งโทรจิตขออนุญาตผม

เอายังไงดีนะ ผมมองโมจังที่จับแขนคนของผมไม่ปล่อย ราวหมายมั่นว่าต้องลากไปให้ได้ ก็ตัดสินใจยิ้มหวาน โบกมือไล่นิฌาน

‘น้องเจ’

แม้ไม่พูดอะไรออกมา แต่นิฌานมองผมอย่างตัดพ้อและเสียใจอย่างสุดซึ้ง เห็นแล้วก็อดไม่ได้ เดินไปตบอกเขาเบาๆ พร้อมส่งโทรจิต

‘พี่จะปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้ไม่ได้ เคลียร์ให้จบ อย่าให้มีอีก!’

นิฌานสะท้านเฮือกราวถูกข่มขู่จนรีบพยักหน้าถี่ๆ โมจังมองพวกเราสองคนอย่างสงสัย แต่น่าเสียดายเพราะเธอมัวระริกระรี้ในการลากแขนผู้ชายเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อ จึงไม่ทันสังเกตว่าเมื่อครู่ผมทำอะไรลงไป

ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมก็แค่...

 (( ทำไมถึงเย็นชาจังล่ะคะฌาน ))

แอบยัดโทรศัพท์ตัวเองซึ่งกดโทรออกใส่อกเสื้อของนิฌานก็เท่านั้น!

และในมือผมตอนนี้...ก็คือโทรศัพท์ของนิฌานนั่นเอง ผมยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเป็นผู้พิทักษ์ประตูไม่ให้ใครเข้าไปขัดจังหวะด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง มือถือโทรศัพท์เหมือนคุยเรื่องงาน แต่ความจริงแล้ว...กำลังแอบฟัง

 (( ปล่อยแขนพี่ได้แล้ว เราน่าจะรู้นะว่าที่พี่เงียบหายหมายความว่าอะไร ))

ทำให้ได้ยินทุกการสนทนาในห้องแต่งตัวที่แม้อยู่กันสองต่อสอง แต่มีหูที่สามร่วมด้วยอย่างแนบเนียน!

(( หมายความว่าอะไรล่ะคะ พี่มีคนที่จริงจังแล้วน่ะเหรอ แล้วไงคะฌาน เราก็ยังคุยกันได้ ไปกินข้าวด้วยกันได้นี่คะ เหมือนเมื่อก่อนไง ตอนที่ฌานจีบคนอื่นยังโทรหากันบ่อยๆ เลย...มานั่งเล่นกัน...มานอนด้วยกัน ))

(( มันไม่เหมือนเดิมแล้วโมจัง ))

(( ไม่เหมือนกันตรงไหนคะฌาน ))

(( ตรงที่ตอนนั้นพี่คบเล่นๆ แก้เหงา คบเพื่อฆ่าเวลา เหมือนที่คุยกับโมจังไง ))

(( ฌาน! ))

(( โมจังก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ วงการบันเทิงมันเครียด มีขึ้นมีลง มีความไม่แน่นอนตลอดเวลา จะหาคนนอกก็โดนแฉ เลยได้แต่คบกันเองเกาะกระแสกันจนโด่งดังไปทั้งคู่ ))

(( คนอื่นน่ะน่าเบื่อ ไม่มีใครคุยแล้วเข้าใจฉันได้ดีแล้วคุณแล้วฌาน ))

(( เป็นเกียรติมากครับ แต่อย่ามาตั้งความหวังกันเลย โมจังเอง...ก็ลองมองรอบตัว หาคนที่หยุดชีวิตหลักลอยแล้วปักหลักที่ใครสักคนเถอะ ))

(( เฮอะ เรื่องแบบนั้นก็มีแต่ในละคร ))

(( ละครก็อิงจากชีวิตจริงทั้งนั้น ถึงจะไม่น่าเชื่อ แต่พี่เจอคนคนนั้นแล้ว เจ๋งมั้ยล่ะ ))

(( ฌาน... ))

(( มองอะไรคนสวย อวยพรพี่สิ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ))

(( เพื่อนที่นอนด้วยกัน? ไร้สาระจริงฌาน อยากสลัดฉันทิ้งก็พูดมาตรงๆ เบื่อกันแล้วใช่มั้ย ฉันไม่มีค่ากับคุณแล้วใช่มั้ย บอกกันมาดีๆ อย่าแต่งเรื่อง! ))

(( ว้า พูดความจริงก็ไม่เชื่อแฮะคนเรา ))

(( ฌาน!! ))

(( โมจังคิดยังไงก็ตามสบายเลยแล้วกันนะ จะหาว่าพี่โกหก หรือคิดว่าโดนเขี่ยทิ้งก็ได้ พี่ไม่ถือ ))

(( คุณมัน...แย่ที่สุด! ))

(( ครับๆ ขอโทษนะครับ ))

ช่างเป็นบทสนทนาที่...หญิงก็ร้ายชายก็เลวจริงๆ! ผมล่ะพูดไม่ถูกพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าน่าจะคุยจบแล้ว เลยเปิดประตูห้องแต่งตัวไม่ให้คนในกองซุบซิบนินทานานไปกว่านี้

โอ๊ะ ไม่ล็อกกลอนซะด้วย คุยเรื่องส่วนตัวแท้ๆ แต่ไม่ระวังเอาซะเลยนะ

ผมคิดตามประสาผู้จัดการที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของดาราในสังกัด ก่อนจะชะงัก เพราะภาพที่เห็นคือโมจังโผกอดนิฌานด้วยความไวเสียง

ถ้าผมเป็นนักข่าวต้องรีบถ่ายภาพนั้นลงหน้าหนึ่งแน่นอน!

แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ ทันทีที่เห็นภาพ...เอ่อ...บาดตาดีมั้ย? ผมก็ประมวลผลทันที ติ๊กต็อกๆ อ้อ โมจังมีละครเรื่องเดียวนี่นะ และเรื่องนั้นคือเช็กเมท ซีรีส์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของช่อง แต่จู่ๆ ตัวละครเธอถูกฆ่ากะทันหัน กระแสย่อมตก แถมยังไม่มีงานต่ออีก ดาราสาวมากเสน่ห์จึงคิดเกาะแฟนเก่าที่กำลังขาขึ้นพุ่งกระฉูดในวงการ น่าเสียดายเพราะนิฌานไม่เล่นด้วย

นอกจากไม่เล่นด้วยแล้วยกมือขึ้นเหมือนคนร้ายยอมมอบตัวไม่กล้าแตะต้องโมจังที่ยิ่งซุกยิ่งไซ้ เป็นภาพที่ตลกมาก ผมโคลงศีรษะ ตัดสินใจยอมช่วยหน่อยแล้วกัน

“แมลงสาบ! พี่ฌาน แมลงสาบเกาะแขนพี่!”

“กรี๊ดดด!!”

ได้ผลเกินคาด นอกจากโมจังจะปล่อยมือจากคนของผมแล้ว เธอยังผลักนิฌานจนเล้มก้นกระแทกพื้น! แรงขยะแขยงแมลงสาบของผู้หญิงช่างน่ากลัวจริงๆ ถึงกับผลักผู้ชายตัวโตๆ ให้นั่งหน้าเหวอได้!

ผมเดินเลี่ยงโมจังที่ปัดแขนตามตัวพลางกระทืบเท้าย่ำอยู่กับที่มาช่วยพยุงคนล้มก้นจ้ำเบ้าให้ลุกขึ้น

“พี่คิดไปเองรึเปล่าว่าน้องเจกำลังสะใจ” นิฌานกระซิบข้างหูขณะสังเกตสีหน้าผมไปด้วย เขาคงกลัวว่าจะโดนเคือง โดนถลึงตาใส่สักนิด แต่ผลคือผมกำลังยิ้มเย็น ชื่นชมตัวเองอยู่ต่างหาก

ประโยคเดียว ไม่ต้องลงแรง ไม่ต้องโวยวาย ไม่ต้องเหนื่อยใจ

แถมยังเห็นคนหน้าด้านหน้าไม่อายล้มตลกมาก โคตรสะใจเลย

“พี่ฌานคิดถูกแล้ว” ผมกระซิบตอบ ก่อนจะรีบสะบัดมือเขาทิ้ง แล้วหันไปมองโมจังที่ยังประสาทเสียไม่เลิก “แมลงสาบบินหนีไปแล้วครับ”

“อะ...เอ่อ ขอบใจจ้ะ”

ตอนดาราสาวลากนิฌานเข้าห้องสองต่อสอง แม้จะก้มหน้าทำงานแต่คนในกองส่วนใหญ่ก็พร้อมกันเพ่งสมาธิมาที่ห้องนี้อย่างอยากรู้อยากเห็น พอผมเปิดประตูก็ลุ้นแทนแต่ยังไม่กล้าเสนอหน้า เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดเลยถือโอกาสมุงกันเต็มหน้าห้องประหนึ่งวิ่งสี่คูณร้อย

แต่ภาพที่ปรากฏดันไม่ใช่ฉากชวนเข้าใจผิด แต่เป็นฉากที่โคตรจะไม่เข้าใจเลย!

นิฌานยืนลูบก้นยิ้มเจื่อน ห่างจากโมจังที่ยังไม่วายกระทืบเท้าเบาๆ ผวากลัวแมลงสาบเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งเมตร มองยังไงก็ไม่เหมือนถ่านไฟเก่าพลอดรักกันสักนิด

โมจังได้สติเอาตอนนี้ เธอหันไปหานิฌาน หมายจะทำตามแผน แต่พอเห็นผมยืนขวางก็ไม่รู้จะทำยังไง แถมสายตาจากทีมงานก็ช่างกระอักกระอ่วน เก้อกระดากชวนหนีออกจากห้อง แต่...เธอยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า จะเดินออกไปทั้งตัวเปื้อนเลือดปลอมก็ไม่ได้มั้ย!

ผมถอนหายใจเฮือก สุดท้ายคนที่ต้องออกโรงช่วยก็นายเจตรินเจ้าเก่าเจ้าเดิม

“พี่ฌาน ไปข้างนอกกันเถอะครับ”

ผมคว้าเสื้อตัวใหม่ของนิฌานแล้วเดินนำดาราในสังกัดออกมาก่อน ทีมงานในกองเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรให้น่าลุ้นก็สลายโต๋ ผมปิดประตูให้โมจัง ไม่ลืมล็อกประตูอย่างหวังดี

“เปลี่ยนสิครับ”

ก่อนจะหันไปโยนเสื้อใส่หน้านิฌาน เพราะเขาเองก็ตัวเปื้อนสีแดง แต่ผู้ชายมีอะไรให้อาย จะถอดเปลี่ยนเอาตรงนี้ก็ไม่มีใครกล้าต่อว่า ทิชชูเปียกหรือผมก็มี พกติดกระเป๋าอยู่ทุกวันคอยซับหน้าเช็ดเครื่องสำอางให้เขาเนี่ย

“เดี๋ยวก่อนพี่ฌาน โทรศัพท์ผมล่ะ คืนมาก่อน” เมื่อเห็นเขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ผมก็รีบท้วงถามทันควัน สงสัยอีกฝ่ายจะลืมไปแล้วว่าตรงอกเสื้อมีอะไร

นิฌานรีบล้วงโทรศัพท์คืนให้ ผมรับมากดตัดสาย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเอง

“มองอะไรครับ เปลี่ยนเสื้อสิ”

“ขอโทรศัพท์พี่คืนมาก่อนสิครับ”

ผมส่งโทรศัพท์ของเขาคืน ก่อนจะแปลกใจเมื่อสิ่งแรกที่นิฌานทำ คือการพิมพ์ข้อความส่งแชทมาให้ผมทางไลน์

ปากมีไม่ยอมพูด แต่ดันพิมพ์ให้อ่านเนี่ยนะ!?

แต่พอเห็นข้อความนั้น ผมก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเงียบกริบนับตั้งแต่เดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อ

ที่แท้ก็...

- ทำไงดีน้องเจ พี่เคยคิดว่าตกหลุมเราลึกแล้ว แต่ตอนนี้ก็ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำอีก น้องเจจะทำให้รักมากถึงขนาดไหนกันครับ พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ!  (‘∀’●)♡    –

ทนไม่ไหวอยากพูดใจจะขาด! เลยต้องพิมพ์ส่งเพราะกลัวส่อพิรุธในกองถ่ายงั้นสิ ผมถลึงตาใส่เขา ก่อนจะพิมพ์กลับทั้งที่พวกเรายืนอยู่ใกล้กันระยะไม่ถึงหนึ่งเมตร

- คนหน้าไม่อาย! –

- เดี๋ยวเถอะ วันนี้มองอัคตาไม่กะพริบพี่ยังไม่ทันได้สะสางเลยนะ  (; ・`д・´)​  -

- พี่ฌานกล้าทำอะไรผมด้วยเหรอ –

- ท้ากันเหรอน้องเจ อย่าคิดว่าพี่ไม่กล้านะ! ヽ(o`皿′o)ノ –

อ่านจบผมก็เงยหน้าพลางยักคิ้วยั่ว นิฌานดีแต่พิมพ์แต่ตัวจริงแสนจะหงอแกล้งทำเป็นกอดอกตัวสั่น ก่อนเราสองคนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

ไม่ต้องให้ย้ำอีกครั้งนิฌานก็เปลี่ยนเสื้อ ส่วนผมเดินไปหาผู้กำกับเพื่อสอบถามคิวถ่ายเพิ่มเติม

เราสองคนทำเหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว... ยืนใกล้กันขนาดนั้นแต่ใช้พิมพ์ข้อความสื่อสารแทน เนื้อหาก็สุดแสนจะไร้สาระ นี่มันช่าง...ติงต๊องชะมัด!

“ยิ้มอะไรน่ะ” ผู้กำกับถามผมเมื่อจู่ๆ ก็อมยิ้มขึ้นมาซะงั้น

ผมแก้ตัวหน้าตาย

“ไม่มีอะไรครับ”

-----------------

น้องเจนี่...นายเอกในฝันเลยค่ะ
เป็นเด็กดี มีน้ำใจ รับมาเท่าไหร่ก็ให้กลับเท่านั้นไม่พอ ยังฉลาด ไม่งี่เง่า และรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างใจเย็นเอามากๆ นิฌานได้น้องเจถือว่ายิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอีก!

มาจะกล่าว : มีอะไรอยากจะบอกแฟนๆ ในตอนนี้มั้ยคะ
นิฌาน : ที่บ้านไม่มีน้องเจล่ะสิ//ขยิบตา

#น้องเจที่น่าลัก
เพจนักเขียนที่อยากจับนิฌานไปฆ่าหมกส้วมสักตอน (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)


ปล.เวลาพิมพ์แชทคุยกับน้องเจ เราจะเพิ่มอีโมติค่อนในส่วนของนิฌานนะคะ เพิ่งมาคิดได้ว่าคนอย่างนิฌาน น่าจะชอบจิ้มอีโมติค่อนประกอบภาพเพื่อความมุ้งมิ้งจีบน้อง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 08-07-2018 20:54:59
น้องเจฉลาดจริง แต่ก็อยากเห็นตอนน้องหึงเหมือนกันน้า นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะแสดงออกมาแบบใหน 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-07-2018 21:00:29
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2018 21:17:06
เจ...ยอดมาก  ฉลาด ไม่งี่เง่า
ไม่อารมณ์เสียง่าย ไม่ว่าจะเกิดอะไร  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
คิดถึง จิตริน ชอบความพูดมากของจิ เสน่ห์ของจิ  :m20: :laugh: :pigha2:

นิฌาน  เจ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 08-07-2018 21:34:34
น้องเจคือดีงามมากกกกอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-07-2018 22:16:39
น้องเจไม่รอด ลงหลุมนิฌานไปล่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-07-2018 22:44:25
น้องเจทั้งเก่ง ทั้งน่ารัก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-07-2018 23:38:08
เราก็หลงรักน้องเจนะ ถ้ามีแฟนที่ไม่หึงเรื่อยเปื่อยไร้เหตุผลมันดีที่สุด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-07-2018 00:59:19
น้องเจน่่ารัก :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 09-07-2018 13:22:15
น้องเจเจ๋งมาก  o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 09-07-2018 14:03:05
เช็กเมทนี่สมกับเป็นซีซั่นสุดท้ายจริงๆคือเหมือนเมนหลักของเรื่องและทุกปมของเรื่องมารวมอยู่ที่ภาคนี้อะ นี่อ่านแล้วเครียดมากและก็ลุ้นมากด้วย อ่านๆไปก็พาลโมโหอิพี่ฌาณตามน้องเจแล้วเนี่ย ส่วนนอกกองน้องเจก็ร้ายนะเนี่ยข่มอิตาพี่ฌาณซะอยู่หมัดเลยแต่ดีแล้วแหละคนแบบนั้นต้องเจอแบบน้องเจนี่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 09-07-2018 14:14:44
น้องเจน่ารัก ทั้งเก่งทั้งฉลาด ชอบน้องงงงง

ส่วนนิฌาน ดีมากกกกก ปฏิเสธชัดเจนไปเลย

ปล. อยากรู้ว่าพี่อัคแกมีคู่กะเค้ามั้ย ถ้าจำไม่ผิดพี่แกเคยชอบจิตรินในร่างจิระมาก่อนใช่ป่ะ

หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-07-2018 19:39:11
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 09-07-2018 20:05:15
 :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-07-2018 20:12:44
เป็นซีรี่ย์ที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนโดยแท้ นึกภาพออกเลยว่าตอนท้ายเรื่อง คนดูซีรี่ย์จะเซอร์ไพร์สขนาดไหน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-07-2018 17:37:12
เกลียดเครดิตพี่ณาน~~~~~
ใช่ซี๊! ที่บ้านเราไม่มีน้องเจนินาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 21- P.16 - [08/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-07-2018 22:16:05
ดีนะที่น้องเจไม่ใช่นายเอกที่หลับหูหลับตาหึง o13 นี่ดิถึงเอาพี่ฌาณอยู่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 11-07-2018 19:56:40

ตอนที่ 22 : จดหมายพาซวย


 

แล้วนิฌานก็ได้ขึ้นหน้าหนึ่งคู่กับโมจังในวันต่อมา

ขนาดไม่มีอะไรในกอไผ่ มีพยานจากคนทั้งกองถ่ายที่เห็นภาพโมจังกับนิฌานยืนห่างกันเป็นเมตร แต่คนจะเขียนข่าวต่อให้จับประเด็นแค่หนึ่งส่วนสี่ก็ขยายเพิ่มเติมได้

นับถือ นับถือ

ผมอ่านหนังสือพิมพ์ช่วงเช้าพร้อมขนมปิ้งคาปาก ก่อนจะส่งให้นิฌานซี่งนั่งดื่มกาแฟอยู่ฝั่งตรงข้าม เขารับไปกวาดตามองผ่านๆ แล้ววางทิ้งไม่สนใจ

“โมจังไม่ได้เข้ากองแล้ว ข่าวลือพวกนี้สามวันเจ็ดวันก็เงียบหาย”

“ผมยังไม่ทันว่าอะไรเลย” ผมพูดพร้อมยกแก้วใส่นมสดขึ้นดื่ม เด็กวัยกำลังโตสิ่งแรกที่หวังคือส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น แต่ทำไมนะทำไม ดื่มนมทุกวันแต่ยังตัวเท่าเดิม!

หรือเพราะนอนไม่พอกันนะ ต้องใช่แน่ๆ!!

“ทำไมน้องเจจ้องพี่เขม็งอย่างนั้นล่ะครับ ไม่ติดใจเรื่องโมจังแล้วไม่ใช่เหรอ”

นิฌานทาบอกอย่างอกสั่นขวัญแขวน

“ผมน่ะ...สูงขึ้นกว่านี้ได้อีกนะ!”

นิฌานมองแก้วนมในมือผมก่อนจะครางในลำคอ

“ที่แท้ก็กังวลเรื่องนี้”

“ผมสูงกว่านี้ได้จริงๆ นะ!”

“ครับๆ น้องเจต้องสูงขึ้นแน่ๆ จะสูงขึ้นแน่ๆ เลยเนอะ”

ไอ้คำพูดขอไปทีด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มอยากเอาใจเด็กนี่มันอะไรกัน ผมปัดมือที่เอื้อมหมายจะลูบหัวของเขาทิ้ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่สั่นครืดคราดเปิดดู

เฮ้ย! แม่นิฌาน!!

ในฐานะสะพานเชื่อมที่ดี ผมส่งรูปถ่ายของนิฌานให้เธอไม่เคยขาด ช่วงถ่ายเช็กเมทอาจวุ่นหน่อย จากห้าถึงหกรูปเหลือเพียงหนึ่งถึงสองรูปเท่านั้น ซึ่งแม่นิฌานอ่านแต่ไม่ตอบมาตลอด ไหงครั้งนี้...เธอกลับเป็นฝ่ายทักมา!!

ด้วยภาพถ่ายหน้าหนังสือพิมพ์เดียวกับที่ผมเพิ่งอ่านโดยไร้ข้อความใดๆ

ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มกริ่ม ฮั่นแน่ ทำเป็นไม่สนใจ แต่กลับส่งภาพเป็นเชิงสอบถามความสัมพันธ์ของผมกับนิฌาน ถ้าไม่เพราะใจเอนเอียงเข้าข้างว่าที่สะใภ้ตระกูลชาญชัยคนนี้ มีหรือจะยอมแชทหาก่อน

ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะรีบพิมพ์อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมด

“น้องเจทำอะไรน่ะ”

“คุยกับแม่พี่อยู่” พูดจบผมก็พิมพ์เสร็จพอดี เลยหันหน้าจอให้นิฌานดูว่าเกิดอะไรขึ้น ผลคือเจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่น ไม่ค่อยชอบใจความเล่าละเอียดยิบกระทั่งเรื่องแมลงสาบนัก

“น้องเจประมาทเกินไปแล้ว แม่พี่อาจจะหลอกถามเพื่อวางแผนตลบหลังก็ได้”

“ตลบหลังยังไงล่ะครับ”

“ก็เช่น...ผู้จัดการวายร้ายกลั่นแกล้งนางเอกดังที่กำลังกอดกับดาราชาย ขัดขวางเส้นทางรักของเธอ จนกลายเป็นเหตุการณ์ประท้วงให้ไล่น้องเจออก อย่าลืมสิว่าแม่พี่อยากให้พี่โดดเดี่ยวเคว้งคว้างไม่เหลือใคร”

“แม่พี่จะกล้าสร้างข่าวบีบผมที่เป็นน้องชายของคนรักของท่านประธานซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเลขาจอมมารได้ยังไง” ผมฮัมเพลงถามกลับอย่างอารมณ์ดี “ต่อให้เธอทำจริงผมที่มีคุณเลขาหนุนหลังก็ไม่ลาออกง่ายๆ หรอก พี่ฌานไม่เห็นต้องห่วงเลย”

“น้องเจ...”

“คนตระกูลชาญชัยอาจจะแพ้ทางเจตริน ทองคำดีก็ได้นะ” ผมหัวเราะคิก ก่อนจะถ่ายรูปเขาที่กำลังอ้าปากคัดค้านพอดี ภาพออกมาตลกมาก ผมไม่รีรอที่จะส่งให้แม่เขาได้รับชมของเด็ดวันนี้ “ถึงแม่พี่กับพี่ฌานจะเข้าหน้ากันไม่ติด แต่ผมคิดว่าแม่พี่ค่อนข้างชอบผมเลยล่ะ”

ไอ้ภาพข่าวหนังสือพิมพ์ที่เธอบรรจงถ่ายคือหลักฐานชั้นเยี่ยม ถ้าไม่สนใจกันจริงทำไมถึงห่วงว่าผมกับลูกชายของเธอจะผิดใจกันด้วยล่ะ พอเห็นความพยายามที่ผ่านมาได้ผลยอดเยี่ยม ผมเลยพลอยอารมณ์ดีไปด้วย

ช่วยสองแม่ลูกคืนดีกัน บุญกุศลนี้ต้องยิ่งใหญ่มากแน่!

“มันเขี้ยวจัง ขอฟัดแก้มได้มั้ย” นิฌานที่ตอนแรกไม่ค่อยเห็นด้วย พอเห็นผมยิ้มไม่หยุด ก็ยอมลงให้ด้วยสีหน้าเหมือนถูกเกาหัวใจแทบละลาย “หรือไม่น้องเจฟัดแก้มพี่ก็ได้ มาครับ มาฟัดเร็ว”

มองคนที่ทำแก้มป่องรอ ผมก็สนองตอบด้วยการหยิกเข้าให้เต็มเหนี่ยว

“โอ๊ย น้องเจ ถ้าหน้าพี่แดงจะเข้ากองไม่ได้นะ”

“หน้าพี่ฌานหนาจะตาย โดนหยิกนิดหน่อยไม่แดงหรอกครับ” ผมตอกกลับอย่างเจ็บแสบ ลืมบอกไป ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่ในร้านกาแฟชั้นล่างของบริษัทเอ็มเอชเอ็ม เอนเตอร์เทนเมนต์เพราะมาก่อนเวลา เมื่อท้องอิ่มก็เตรียมขึ้นสตูดิโอ

เสาร์อาทิตย์นี้เช็กเมทเริ่มฉายตอนที่หกกับเจ็ดแล้ว เท่ากับว่าครบหนึ่งเดือนตั้งแต่เปิดกล้องพอดี ซึ่งหมายถึง...สัญญาของผมเหลืออีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น

บทเวลาจะผ่านไปไวเล่นเอาตั้งตัวไม่ทัน

อดใจหายไม่ได้แฮะ

ตอนไปถึงสตูดิโอ นักแสดงหลายคนก็มาแล้วเพราะต้องแต่งหน้าแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้าฉาก ผมนั่งว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เลยหยิบจดหมายที่แฟนคลับฝากส่งมาทางบริษัทอ่านให้นิฌานฟังฆ่าเวลา

“ฉันติดตามพี่ฌานมานานแล้ว น้องสาวฉันก็ชอบพี่มากๆ เลยค่ะ เมื่อก่อนเราทะเลาะกันแทบทุกวัน แต่หลังจากชอบพี่เราสองพี่น้องก็สนิทสนมมากขึ้น จะไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด คุยกันถูกคอ ขยันเก็บเงินหารกันซื้อผลงานของพี่ ขอบคุณนะคะที่ทำให้ฉันและน้องสาวมีกิจกรรมร่วมกัน ใครว่าตามดาราแล้วไร้สาระ ปัญญาอ่อน พวกฉันขอค้านสุดกำลังเลยค่ะ!”

ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง...และนิฌานชอบมากเวลาผมพูดคะขาแม้จะด้วยเสียงแมนๆ ก็ตาม

“พี่เป็นดาราชายคนแรกและคนเดียวที่แม่ฉันติดตามจนถึงทุกวันนี้ แม่ฉันเป็นอัลไซเมอร์ค่ะ แต่ทุกครั้งที่เปิดหนังหรือผลงานให้แม่ดู แม่จะเรียกว่าน้องฌาน น้องฌาน ขอบคุณนะคะที่ทำให้แม่ฉันมีความสุข”

อ่านจดหมายฉบับที่สองจบ ผมก็หันไปยิ้มล้อเลียนนิฌาน

“อ่านต่อสิครับพี่เจ!”

เชี่ย!

ลืมซะสนิทว่าคนอย่างนิฌานนั้นมีหรือจะอายกับแค่คำเรียกน้องฌาน เขาหน้าด้านหน้าทนพูดดักกันขนาดนี้ผมก็คร้านจะล้อแล้ว!

จดหมายฉบับที่สาม ฉบับที่สี่ผ่านไป ส่วนใหญ่ผมจะเลือกอ่านจดหมายที่มีพลังบวก สร้างกำลังใจ พวกชมว่าพี่ฌานโคตรหล่อ หล่อมาก หล่อจนอยากจะกัดกินขอข้ามล้วนๆ

หลังแกะจดหมายจนเริ่มเมื่อย ผมก็เลือกหยิบการ์ดอวยพรอ่านบ้าง

“จะอีกยี่สิบปีหรือสามสิบปีไม่เคยหมดหวัง ขอให้นิฌานได้รับรางวัลที่สองในสักวันหนึ่ง!”

เปิดมาอันแรกก็เจอแจคพอตเลย ผมหันไปมองนิฌานที่กุมอกกระอักเลือด ดารายี่สิบปีที่ได้รางวัลแค่ผลงานแรกอย่างเขา ข้อความนี้นับเป็นคำอวยพรปรารถนาดีแต่แทงใจดำที่สุด!

ปรากฏว่ายังมีที่ชวนอึ้งกว่านั้น...

‘โมนาเป็นของกูคนเดียวเท่านั้น มึงไม่มีสิทธิ์!’


แอนตี้แฟนใช่ว่าจะไม่เคยเจอ แต่จดหมายจากแฟนคลับคนอื่นที่เข้าใจผิดคิดไปเองแบบนี้...เพิ่งจะเคยเจอครั้งแรกนี่แหละ!!

 





หลังจากวันนั้นผมกับนิฌานก็ลืมๆ เรื่องจดหมาย ไม่เห็นว่าเป็นสาระสำคัญ เพราะยังไงก็ไม่ได้เจอโมจังอีก หากข่าวซาเชื่อว่าแฟนคลับผู้คลั่งรักจะคิดได้

แต่...ผมดูถูกคนอยากขายของมากเกินไป!

ในงานเปิดตัวน้ำหอมบิวตี้เพอร์ฟูมกลิ่นใหม่ แขนรับเชิญพิเศษที่ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ยัดเยียดให้ขึ้นเป็นพิธีกรคู่กับนิฌานก็คือโมจัง

เกาะกระแสถ่านไฟเก่า เรียกนักข่าวรอสัมภาษณ์ความสัมพันธ์!

ผล?

ก็สมใจคนจัดงานสิครับ!!

ผมมองภาพสองพิธีกรที่คุยหยอกกันบนเวทีอย่างสนิทสนมจนชวนเข้าใจผิดแล้วกังวลเหลือแสน ไม่ได้กลัวเขานอกใจ แต่กลัวแฟนคลับผู้คลั่งรักโมจังคนนั้นเพ่งเล็งผิดคนต่างหาก!

อุตส่าห์ปล่อยเรื่องเงียบ นักข่าวโทรถามก็บอกปัดแท้ๆ แต่คนขายของมีหรือจะสนเรื่องหยุมหยิมพรรค์นั้น อะไรขายได้ก็จัดมาก่อน และแน่นอนว่าโมจังที่อยู่ในช่วงขาลง แต่จู่ๆ ได้ขึ้นหน้าหนึ่งเพราะนิฌาน ย่อมเต็มใจรับงานครั้งนี้ด้วยสีหน้าสดใสเปล่งปลั่งราวคนมีความรัก

การแสดงล้วนๆ!

“ควงแขนออกงานกันอย่างนี้ มีโอกาสรีเทิร์นรึเปล่าคะเนี่ย”

เมื่องานเปิดตัวจบลง เหล่านักข่าวก็รุมสัมภาษณ์ทันที

“ควงแขนอะไรกันคะ ทางผู้ว่าจ้างเขากำหนดมา พวกเราไม่ได้เป็นคนเลือกสักหน่อย อย่าเข้าใจผิดสิคะ” โมจังเผยท่าทีเขินอาย รีบปฏิเสธด้วยประโยคยอดฮิตของดารา “พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันค่ะ จริงๆ นะคะ”

ยิ่งย้ำ ก็ยิ่งน่าสงสัย ดูจากสายตากระหายของนักข่าวแล้วเชื่อเต็มเปาว่า ‘เพื่อนสนิท’ นั้นสามารถอ่านได้อีกอย่างว่า ‘แฟน’

“ในกองเช็กเมทได้ยินวงในเล่าว่าแอบเข้าห้องแต่งตัวกันสองต่อสองด้วย”

“พวกเราไม่ได้เจอกันนาน พอเจอกันในกองก็เลยคุย ‘เรื่องส่วนตัว’ นิดหน่อยน่ะค่ะ ไม่มีอะไรจริงๆ นะคะ”

ขณะที่โมจังเล่นละครอย่างชำนาญ นิฌานก็พยายามอย่างยิ่งจะไม่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายออกมากลางดง

“ใช่ครับ พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” เขายิ้มแย้มเห็นด้วย เพราะรู้ดีว่ากระแสน้ำกำลังเชี่ยวอย่าเอาตัวไปขวาง แต่ถ้าจะเบี่ยงเบนสักหน่อย...ก็ทำได้ไม่ยาก “โมจังมาปรึกษาเรื่องความรักครั้งใหม่ ผมจะไม่ฟังได้ยังไง เฮ้ย! พี่เผลอหลุดปากแล้วล่ะโมจัง ขอโทษนะ”

นิฌานยกมือขอโทษขอโพยดาราสาว เพียงประโยคเดียวก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“ความรักใหม่หมายความว่ายังไงเหรอคะโมนา”

“เอ๊ะ ตัวจริงเป็นอีกคนหรอกเหรอคะ”

“แอบซ่อนไว้แนบเนียนเลยนะคะเนี่ย คนคนนั้นเป็นคนในวงการหรือนอกวงการ บอกกันหน่อยสิคะ”

คราวนี้นิฌานฉีกยิ้มกว้าง ขณะที่โมนาข่มความไม่พอใจสุดความสามารถ

“จะไปมีได้ไงล่ะคะ ฌานก็” ดาราสาวตบแขนนิฌานเบาๆ อย่างหมั่นไส้แกมหยอกเย้า ดูน่ารักน่าเอ็นดูปานคู่สร้างคู่สม “โมจะไปมีรักใหม่ได้ยังไง ในเมื่อ...”

สายตาสื่อความนัย แม้ไม่พูดอะไรนักข่าวก็พร้อมใจกันนั่งเทียนมโน

“มีลับลมคมในนะคะเนี่ย โมนาช่วยขยายความหน่อยสิคะ”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ โมหาเรื่องชวนคุยกับฌานแค่นั้นเอง ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาเชื่อจริง ที่แอบตึงๆ ใส่กันวันนี้คงเพราะหึง...อุ๊ย แต่เราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันหรอกนะคะ ไม่ได้ตกลงคบหากันอย่างที่ทุกคนเข้าใจหรอกค่ะ!”

โมจังรีบลนลานแก้ตัว เพียงพริบตาก็ดึงกระแสเข้าข้างตัวเองได้สำเร็จ เฮ้ๆ กับแค่สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวน้ำหอม พลอตจะหักมุมพลิกล็อกยิ่งกว่าเช็กเมทไม่ได้นะ!

นักข่าวรีบจบสัมภาษณ์ทันที เพราะพอเดาได้ว่านิฌานจะเปิดปากเบี่ยงประเด็นอีกแล้ว! เรื่องอะไรจะยอมกันล่ะ พวกเขาต้องเขียนข่าวแลกเงินน่ะ ระหว่างถ่านไฟเก่าของดาราชายชื่อดังที่กำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ กับโมนามีรักใหม่ที่เป็นใครก็ไม่รู้ อย่างแรกน่าสนใจกว่าเห็นๆ!!

“พี่ฌานทำดีแล้วครับ” จบงาน นิฌานกับโมจังแยกย้ายกันราวเมื่อครู่ไม่ได้ยืนแนบชิดเบียดกันต่อหน้าสื่อ นิฌานซึ่งเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดโปรเวทธรรมดาเดินหาผมหน้าม่อยคอตก “จรรยาบรรณสื่อตอนนี้น่ะไม่ต้องการตีแผ่ความจริงหรอก อะไรขายได้ก็คว้าไว้ จะเติมแต่งเขียนเองโกหกหลอกลวงหรือโดนด่ายังไงก็ดีกว่าไม่มีกิน”

“น้องเจพูดซะพี่แทบบรรลุทางโลกเข้าหาทางธรรมเลย” นิฌานโคลงศีรษะแบบตามมีตามเกิด “เอาเถอะ พี่ชินแล้ว กลัวก็แต่น้องเจจะไม่พอใจ”

“ผมจะพาลโกรธพี่ฌานได้ยังไง ผมโตแล้วนะ!”

“แล้วใครชอบหาว่าพี่ใจร้ายนะ ใช่เด็กที่โตแล้วคนนี้รึเปล่า”

“เดี๋ยวเถอะพี่ฌาน!” ผมยกกำปั้นขู่ แต่นิฌานรีบก้มกอดผมเร็วๆ หนึ่งที ไวมากเท่ากะพริบตาหนึ่งครั้ง

“เติมพลัง” นิฌานยิ้มเผล่

หากเป็นสมัยก่อน เมื่อโดนใช้ประโยชน์นิฌานคงหาความสำราญเที่ยวเล่นกับโมจังให้สมใจนักข่าวซะเลย อาจจะพ่วงควงอีกหลายๆ คนให้ไขว้เขวเล่น แต่ในเมื่อตอนนี้กลับตัวกลับใจ ก็ทำได้แต่เดินตามผมต้อยๆ ด้วยสีหน้าระรื่น กอดเดียวก็ฟินได้ ฟิตยิ่งกว่ากินยาโด๊ป!

เวลายังเหลือ ผมเลยปล่อยนิฌานพบปะแฟนคลับที่มาให้กำลังใจกัน แถมยังอาสาเป็นตากล้องช่วยถ่ายรูปอีกต่างหาก!

แต่แล้ววงล้อมก็แตกฮือ

เพราะจู่ๆ ก็มีคนเทไข่ไก่ลงมาจากชั้นสาม!!

โชคดีชะมัดที่เสนอตัวเป็นตากล้อง เพราะทันทีที่เห็นวัตถุปริศนาร่วงมาจากชั้นบน ผมก็รีบเงยหน้าแล้วกดชัตเตอร์รัวๆ มองด้วยตาอาจไม่ชัด แต่ถ้าซูมด้วยโทรศัพท์ต้องเห็นอะไรบ้างแหละน่า แม้ในเวลาจำกัดแต่ผมถ่ายได้หลายสิบรูปก่อนที่ร่างนั้นจะวิ่งหายไป ถึงอยากตามแค่ไหนก็ทำไม่ได้เพราะอยู่ห่างเกินจะไล่ทัน

“กรี๊ดดด”

“อะไรเนี่ย ว้าย”

เพิ่งมีแก่ใจหันมาดูสภาพนิฌานกับแฟนคลับก็ตอนนี้ ผมรีบเดินไปขอทิชชูจากทีมงานของบิวตี้เพอร์ฟูมมาแจกให้ทุกคน...ซึ่งอนาถมาก เปลือกไข่ ไข่ขาว ไข่แดง แตกเยิ้มบนศีรษะและเลอะตามเสื้อผ้า บัดซบไปกว่านั้นคือเสียงกรี๊ดๆ เรียกให้นักข่าวที่เริ่มสลายตัวกลับมาเกาะกลุ่มด้วยความไวแสง สีหน้าแววตากระเหี้ยนกระหือรือปานนักล่า!

“ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์นะครับ ขอทางด้วยครับ อย่ามุงครับ”

ผมรีบกันนิฌานให้ถอยฉากทันที หัวหน้าแฟนคลับก็เข้าใจและช่วยบังหน้าพวกนักข่าวอีกต่อ จนกระทั่งส่งตัวนิฌานกลับไปหลังเวทีอีกครั้งสำเร็จนั่นแหละ ถึงพอหายใจหายคอโล่งขึ้นบ้าง

“ทำงานมายี่สิบปี เพิ่งจะมีคนใจดีช่วยหมักผมให้ก็วันนี้นะเนี่ย”

“ยังจะทำเล่นอีกนะพี่ฌาน”

ทีมงานของบิวตี้เพอร์ฟูมให้ความช่วยเหลือดีมาก หาขวดน้ำมาวางกองอย่างมีน้ำใจ ผมเลยจับนิฌานนั่งก้มหน้าตรงถังขยะ เทน้ำราดแล้วขยี้หัวให้เขาด้วยแรงหงุดหงิด

“โอ๊ยๆ น้องเจ พี่เจ็บนะครับ”

ผมเบาแรงลง กว่าจะล้างคราบเหนียวหนืดออกก็ล่อน้ำไปสี่ขวดเต็มๆ ผมรับผ้าขนหนูจากทีมงานส่งให้นิฌาน ก่อนจะเปิดโทรศัพท์ดูภาพที่ถ่ายได้ ไกลไปนิดแต่พอซูมก็พอมองเห็นว่าเป็นผู้ชายใส่ผ้าปิดปากสวมหมวกฮู้ดสีดำ

“โห เหตุการณ์เกิดไวขนาดนั้นน้องเจยังถ่ายทันอีกเหรอ” นิฌานในสภาพผมเปียกชี้ฟูกระเซอะกระเซิงมองมาด้วยสายตายอมรับนับถือ

“ผมคือเจตรินนะ” ก็ไม่เข้าใจหรอกว่าการเป็นเจตรินเกี่ยวกับที่ผมมือไวตรงไหน แต่ในเมื่อพูดไปแล้วก็อดจะเชิดหน้าน้อยๆ ไม่ได้ นิฌานยิ้มขัน ผมเลยยกกล้องถ่ายรูปเขาหลายภาพ และเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

...แต่รูปโดนประทุษร้ายอย่างนี้อย่าส่งให้แม่เขาจะดีกว่า

“น้องเจเป็นสายสืบน่าจะเหมาะ แบบในเช็กเมทไง”

“พี่ฌานคึกเกินไปรึเปล่า ไข่สดนะครับไม่ใช่น้ำหอม”

“ก็พี่สะใจ...เอ๊ย ดีใจ”

ผมเลิกคิ้วใส่คนที่แก้คำพัลวัน

“โมจังอุตส่าห์พยายามแทบตายเพื่อเกาะกระแสพี่ แต่สุดท้ายก็กินแห้ว ถ่านไฟเก่าที่ดูสร้างภาพเกินเหตุกับดาราชื่อดังอาบไข่กลางห้าง แค่นึกก็รู้แล้วว่าหน้าหนึ่งวันพรุ่งนี้จะเป็นข่าวไหน...หึหึหึ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ผมมองคนหัวเราะลั่นแล้วหมั่นไส้จนปาทิชชูเปียกใส่หน้าเขา

“ขอบคุณครับน้องเจ” นิฌานรับไปเช็ดต่ออย่างแนบเนียนด้วยสายตาซาบซึ้งราวผมบรรจงประเคนให้เขาอย่างนุ่มนวล

“ผมจะเอาเสื้อที่รถมาเปลี่ยนให้นะครับ พี่ฌานนั่งรอตรงนี้ก่อนนะ อย่าลุกไปไหนเด็ดขาด”

“คนร้ายก็วิ่งหนีไปแล้ว น้องเจจะกลัวอะไรครับ”

“กลัวพื้นเลอะ สงสารคนทำความสะอาด!”

แม้จะจับล้างหัว แต่เสื้อผ้ายังมีคราบไข่สด เดินหนึ่งก้าวก็หยดติ๋งๆ ผมเลยจับเขานั่งกับที่ห้ามขยับเขยื้อน ไม่วายหันไปมองอีกหลายครั้งจนมั่นใจ

เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยอย่างเสื้อขาด ด้ายลุ่ย กระดุมหลุด หลังรถของนิฌานเลยมีทั้งเสื้อผ้า กางเกง และรองเท้าสำรอง คาดไม่ถึงว่าตอนเดินออกจากหลังเวทีหัวหน้าแฟนคลับจะยืนรออยู่ด้วย ผมต้องย้ำเธอหลายครั้งว่านิฌานโคตรจะแฮปปี้กับการได้ไข่ไก่หมักผมถึงยอมกลับ

ตอนขึ้นบันไดเลื่อนผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาซูมดูรูปที่ถ่ายไว้ แม้จะเบลอไปสักนิดแต่พอเห็นเค้าหน้าและลักษณะการแต่งกาย ซึ่งเหมือนกับ...เฮ้ย คล้ายกับคนที่เพิ่งเดินผ่านผมเลยไม่ใช่เหรอ!!

ผมยกโทรศัพท์ขึ้นเทียบ พบว่าชายตรงหน้าแม้จะเอาที่คาดปากออก ดึงฮู้ดลง แต่ก็เป็นเสื้อตัวเดียวกันแน่ รูปร่างก็ใกล้เคียง แถมยังส่อพิรุธ เดินเลียบระเบียงชั้นสองเพื่อเหล่มองชั้นล่างเป็นระยะ พอเห็นนักข่าวยังดักรอนิฌานอยู่ก็คลี่ยิ้มมุมปากกึ่งสาแก่ใจ ฮึ่ม เจ้าคนร้าย แม้จะไม่ฟันธง แต่ผมมั่นใจกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าใช่แน่

ผมค่อยๆ ย่องไปด้านหลังชายคนนั้นหาจังหวะประชิดตัว แต่เขากลับหันกลับมามองพอดี  ทันทีที่เราสบตากัน อีกฝ่ายก็สะดุ้ง จากนั้นก็...วิ่งหนี!!

ชัดเลย หนีผมซึ่งเป็นผู้จัดการนิฌาน คนร้ายตัวจริงแน่นอนแล้ว!!

ถ้าเป็นซีรีส์เช็กเมท ฉากไล่ล่านี้ต้องเปิดเพลงเร้าอารมณ์ให้ลุ้นระทึก แต่ในความเป็นจริงมีแต่เสียงคนร้องตกใจเมื่อถูกวิ่งชนสะเปะสะปะ ผมนึกโทษขาสั้นๆ ของตัวเอง เพราะระยะห่างไม่ยักจะร่นสักที แถมคนคนนั้นยังวิ่งลงบันไดหนีไฟ...ทำให้เสียงฝีเท้าดังก้องโดยมีเพียงเราสอง และเมื่อตามกันจนสุดบันไดแล้ว ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเมื่อเปิดประตูก็คือลานจอดรถ

เสียงแตรดังสนั่นเมื่อผมเกือบจะโดนรถเฉียดชน ชั้นล่างสุดของห้างช่วงวันหยุดมีรถเข้ารถออกตลอดเวลา ไม่เหมาะกับการวิ่งไล่ล่าเอาซะเลย ใจหนึ่งผมนึกอยากตามต่อ แต่หลังโดนบีบแตรครั้งที่สองก็ไม่กล้าเสี่ยง พอดีกับโทรศัพท์ดังแทรก...

จริงสิ โทรศัพท์!

เมื่อตามต่อไม่ได้ผมก็ยกโทรศัพท์บันทึกวีดีโอ จนเมื่อเงาร่างนั้นวิ่งขึ้นบันไดในส่วนของลานจอดรถหายไป ผมก็ค่อยมีแก่ใจกดรับสายที่โทรซ้ำอีกหลายครั้ง

“พี่ฌาน ผมเจอคนร้ายแล้ว!” พูดไปก็หอบไป ผมวกกลับมาในห้าง ขึ้นบันไดเลื่อนชั้นสองเพื่อไปเอาเสื้อสำรองตามจุดประสงค์เดิม ไม่วายหันซ้ายหันขวาเผื่อเจอแจคพอตอีก แต่หมอนั่นคงไม่โง่วนเวียนอยู่ในลานจอดรถหรอก ป่านนี้น่าจะวิ่งออกนอกห้างถึงจะถูก “แต่เขาหนีไปแล้ว...”

(( น้องเจเป็นอะไรรึเปล่า! พี่ได้ยินเสียงเอะอะตรงชั้นสอง เห็นลือว่ามีคนวิ่งไล่กันไปทางบันไดหนีไฟ ลามไปถึงลานจอดรถชั้นล่างสุด ))

“เอ่อ...” สังหรณ์บางอย่างผุดขึ้นทันที หากยอมรับต้องโดนบ่นแน่นอน ผมเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากถูกเค้นคอผ่านโทรศัพท์ “เดี๋ยวคุยกันนะครับพี่ฌาน”

...แต่โดนจ้องเขม็งต่อหน้าก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

ผมยิ้มแห้งให้นิฌานเมื่อส่งเสื้อสำรองให้เขาเปลี่ยนหลังวกกลับมาที่ชั้นหนึ่ง ดาราชื่อดังไม่พูดไม่จา เหมือนรอให้ผมสารภาพผิดเองยังไงยังงั้น

แต่ผมไม่ผิดสักหน่อยนี่!

“ผม...เอ่อ...ไปขอดูกล้องวงจรปิดห้างก่อนนะครับ” เรื่องคนร้ายยังคาใจ ผมกะขอดูกล้องวงจรปิดช่วงเทไข่สักหน่อย

“พี่ไปด้วย”

นิฌานลุกตามทันที น้ำเสียงนิ่งเรียบแฝงความกดดัน ไม่ยอมให้ปฏิเสธจนผมได้แต่เดินนำไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ก่อนจะคึกเมื่อเห็นเงาร่างคุ้นตาเคลื่อนไหวในกล้องวงจรปิด ต้องขอบคุณโทรศัพท์สมัยนี้ที่เมื่อถ่ายแล้วมีบันทึกวันเวลาอย่างชัดเจน จึงสามารถเจาะจงช่วงที่ต้องการได้ทันที

น่าเสียดาย เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นไม่ชัดนัก แต่มีก็ยังดีกว่าไม่มี อย่างน้อยก็เห็นว่าคนร้ายยืนรอตั้งแต่ช่วงเริ่มงานแล้ว จนเมื่อนิฌานกับโมจังให้สัมภาษณ์จบ รอกลุ่มคนแออัดเริ่มแยกย้าย เขาก็ยกถุงหิ้วจากซูเปอร์ของห้างขึ้นแล้วเทไข่ลงมาหลายสิบใบ!

ผมยกโทรศัพท์อัดวีดีโอจากหน้าจอนั้นอีกต่อเพื่อนำไปแจ้งความ เห็นเค้าความคืบหน้าก็อดยิ้มดีใจไม่ได้

“ขอดูภาพตรงลานจอดรถชั้นล่างด้วยครับ”

ก่อนจะสะดุ้งวาบ หุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อนิฌานเอ่ยกับเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกชวนเสียวสันหลังวาบๆ

แล้วฉากการไล่ล่าประหนึ่งซีรีส์เช็กเมทก็ปรากฏ ผมถึงกับได้ยินเสียงกัดฟันกรอดๆ จากคนข้างกายเมื่อเห็นผมหวิดโดนรถชนสองครั้ง ในมือเขาถือโทรศัพท์บันทึกภาพ แต่เป็นคนละจุดประสงค์กับผมโดยสิ้นเชิง...

“ขอบคุณครับ”

เมื่อต่างได้สิ่งที่ต้องการ ผมกับนิฌานก็ขอตัวแล้วเดินกลับไปที่รถ ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น ชวนหนาวๆ ร้อนๆ อย่างบอกไม่ถูก

จนกระทั่งนั่งในรถแล้วปิดประตู นิฌานก็เปิดประเด็นทันที

“พี่จะส่งคลิปเมื่อกี้ให้แม่น้องเจ”

“ไม่ได้นะครับ!” ผมร้องเสียงหลง เกิดแม่ผมเห็นเข้าต้องลงโทษโดยการทำอาหารผักตลอดอาทิตย์แน่ๆ แค่คิดภาพเขียวๆ ผมก็ยี๋แล้ว ไม่เอานะไม่เอา

“งั้นส่งให้จิตริน”

“นั่นก็ไม่ได้!” ไม่อยากจะนึกภาพพี่จิคนดีเลย ครอบครัวทองคำดีแสนจะทะนุถนอมลูกคนเล็ก โดยเฉพาะพี่ชายที่ห่วงความปลอดภัยของน้องชายมาก หากดูคลิปนั้นล่ะก็...ผมต้องโดนพี่จิเทศน์สามวันสามคืนไม่รู้จบ! แถมยังมีแต่น้ำไม่ค่อยมีเนื้อด้วย! เป็นบทลงโทษที่น่าสยองที่สุด!!

“ทำไมถึงให้ดูไม่ได้ครับ” นิฌานถามผมเสียงเรียบ ชวนกดดันจนผมเผลอหลบตาไม่กล้าสู้หน้า “เพราะน้องเจรู้ว่าที่ทำมันไม่ดีใช่มั้ย”

“ไม่เชิงว่าไม่ดี แต่แค่มัน...อันตราย”

“อ้อ รู้ด้วยเหรอครับว่าอันตราย” นิฌานไล่ต้อนจนผมเหงื่อตก เพิ่งฉุกใจว่าบ้าบิ่นเกินไปจริงๆ เกิดคนร้ายมีอาวุธขึ้นมาล่ะ เกิดรถวิ่งเร็วจนเบรกไม่ทันล่ะ ชีวิตผมกับการไล่จับคนร้ายไข่ไก่ มันคุ้มกันแล้วเหรอ

“ภาพน้องเจก็ถ่ายแล้ว กล้องวงจรปิดก็มีเป็นหลักฐาน สิ่งที่เราควรทำคือนำทั้งสองอย่างนั้นไปแจ้งความ แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ” นิฌานเอ่ยเสียงดุ วางมาดเป็นผู้ปกครองสั่งสอนเด็ก แม้ตลอดมาเขาจะยอมลงให้ผม แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมให้ทุกอย่าง เหมือนที่ผมแม้จะชอบตัดบทเขา แต่ก็ไม่กล้าโต้เถียงออกมาในสถานการณ์แบบนี้

“ผม...ขอโทษครับ” เลยก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี

“ถ้าน้องเจลืมคิดถึงตัวเอง ก็คิดถึงคนรอบตัวให้มากๆ” แต่นิฌานยังพูดต่อด้วยสีหน้าที่ไม่ยักจะดีขึ้นเลย ผมเหลือบมองแล้วก็หลุบตาอีกครั้ง อดสงสัยไม่ได้ว่าที่ทำไปแม้อันตราย แต่เขาต้องโกรธกันขนาดนี้เลยเหรอ คนหน้ายิ้มที่มักเออออเข้าข้างกันเสมอจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นคนละคน รับมือไม่ถูกจริงๆ “เข้าใจมั้ยครับ”

แถมยังย้ำเสียงแข็งอีกต่างหาก

“ครับ...” ผมรับคำเสียงเบาหวิว ในฐานะลูกคนเล็กที่โดนประคบประหงมให้อิสระตามใจทุกอย่าง สถานการณ์โดนมองเค้นด้วยสายตาคาดโทษเจือกรุ่นโกรธแบบนี้เพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก

พลันนิฌานถอนหายใจเฮือก ก่อนจะวางมือแปะบนหัวผม

“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิน้องเจ พี่เตือนเพราะเป็นห่วงนะ”

“ก็พี่ดุผมอ่ะ...” ผมอุบอิบ น้ำเสียงเบาปานกระซิบ

“โอ๋ๆ”

“ทำหน้าน่ากลัวด้วย”

“โอ๋ๆ”

“ขู่ผมอีก”

ยิ่งพูดเสียงผมก็ยิ่งเบา ก่อนจะช้อนตามองอย่างน้อยอกน้อยใจ

“พี่ฌานคนใจร้าย...”

ปกติเวลาหาว่าเขาใจร้าย นิฌานจะยิ้มขัน แต่ครั้งนี้มาแปลก เพราะเขามือไม้อ่อนยวบหมดเรี่ยวหมดแรง คนที่เก๊กหน้าขรึมมาตลอดคล้ายจะละลายคาเก้าอี้ไปแล้ว

“พี่ฌาน?”

“อะแฮ่ม เสียเวลามากแล้ว ไปทำงานกันเถอะครับ” พลันนิฌานเก๊กเสียงขรึม สีหน้าอ่อนลงจนชวนให้ใจชื้นขึ้นจม ผมรีบกลับมาตั้งสมาธิพร้อมทำงานอีกครั้ง จดจ่อกับกาขับรถ แม้หางตาจะเห็นแวบๆ ว่าคนข้างตัวลูบหน้าอกตัวเองไม่ยอมหยุด

พร้อมกระซิบเสียงเบาหวิว

“หวิดใจจะวายแล้วสิเรา”

เดี๋ยวๆ คนที่เกือบโดนรถชนจนใจหายวาบ แล้วยังโดนเขาข่มจนกลัวแทบตายมันผมต่างหาก!

 

 

------------------

 งื้อ น้องเจ ฮือ บ้าเอ๊ย น้องเจ จะใจวายตามนิฌานแล้ว T[]T
มาตัดพ้อเสียงอ่อนงุ้งงิ้งอะไรขนาดนั้นค่ะน้องขา ใจอิแม่ไม่ค่อยจะดี ถึงกับต้องขอถังออกซิเจนมาสูดต่อชีวิต อะเฮื้อ เด็กอะไรพูดคำว่าใจร้ายได้ชวนทำลายล้างสุดๆ

#น้องเจที่น่าลัก


เพจนักเขียนที่ขอเครื่องปั้มหัวใจด่วน!  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 11-07-2018 21:17:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-07-2018 21:24:41
เจอน้องเจโหมดนี้เอาใจพี่ไปเลยค่ะ  :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-07-2018 22:02:40
ดาเมจรุนแรง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 11-07-2018 22:33:50
น่ารักกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 11-07-2018 22:44:26
พี่ฌาณโดนน้องเจแอทแทคเข้าไป ใจจะวายเลยเหรอค้า  :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-07-2018 22:55:09
โมนา พยายามจับนิฌานซะขนาดนี้เลยเหรอ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ออกตัวจับผู้ชายมากไป ผู้ชายเขาไม่เล่นด้วย
ที่ทำไปมันทำให้เกิดภาพลบของฝ่ายชายนะ   :fire: :fire: :fire:

เจ เหมือนเล่นไล่ล่าผู้ชายในเชคเมทเลย
ก็อันตรายจริงๆอย่าที่นิฌานว่าแหละ   :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-07-2018 23:07:04
น้องอ้อนหน่อย นิฌานจะหวิดหัวใจวายเลยรึ 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-07-2018 23:09:49
น้องเจผู้น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-07-2018 23:19:11
แค่น้องช้อนตามอง พี่ฌาณก็ใจจะวายแล้วหรา อ่อนนะพี่ฌาณ :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-07-2018 03:24:41
น้องเจต้องไปฝึกวิทยุทธ์กับพี่จิแล้วนะ เอาแบบเจ้มจ้นเลยนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 12-07-2018 08:53:01
อือหือโมเม้นมาเต็มๆ >\\<
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 12-07-2018 12:12:05
อิจฉานิฌานม๊ากกกกกกกกกกกก แงๆๆๆๆๆๆ เจาๆๆๆๆ น้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-07-2018 22:21:06
ช้อนตาอ้อนซะขนาดนี้ สมควรละลายแล้ววว พี่ฌาน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 13-07-2018 03:01:23
ฮืออออออ เดาว่าพี่ฌานคงได้หัวใจวายตาย ก่อนได้กินน้องเจ 55555555555 เด็กอะไร๊ ดาเมจรุนแรงต่อใจพี่ฌานเหลือเกินนนนน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 13-07-2018 06:44:14
น้องเจอ้อนนนนนนม   :impress3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 13-07-2018 08:11:40
งานนี้พี่ฌานแพ้ทางน้องเจแฮะ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-07-2018 15:53:19
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 22- P.17 - [11/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 13-07-2018 16:42:33
อ้อนพี่ฌานแบบไม่รู้ตัวอ่ะน้องเจ  น่ารักกกก งื้อ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 13-07-2018 19:56:39


ตอนที่ 23 : เกาะกลางทะเล

 

 

แม่นิฌานทักแชทผมก่อนอีกแล้ว

แถมยังถ่ายรูปหน้าเฟซของนิฌานที่ลงคลิปวีดีโอการไล่ล่าคนร้ายส่งมาอีกต่างหาก สงสัยจะเป็นห่วงที่ลูกชายตัวเองโดนไข่ไก่ทำร้ายละมั้ง ผมรีบเลือกรูปที่พอดูได้ในงานวันนั้นส่งไปพร้อมข้อความประกอบว่าลูกชายของเธอสุขภาพจิตดีเยี่ยมมาก อย่าได้กังวลเลย

แต่แล้วแม่นิฌานก็ส่งสติกเกอร์โกรธ

...เธอโกรธคนร้ายที่เทไข่ไก่ใส่ลูกชายขนาดนั้นเลย!

“พี่ฌานๆ ดูนี่สิ” ผมดีใจกับความเปลี่ยนแปลงนี้มาก สะกิดเรียกนิฌานที่นั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามกันให้มองหน้าจอ พลันคนที่มักขมวดคิ้วไม่ค่อยเห็นด้วยแต่จำใจยอมอย่างเขาก็หลุดยิ้ม ฮั่นแน่ ดีใจที่แม่เป็นห่วงก็บอกมา

“น้องเจอ่านให้จบก่อนสิครับ”

นิฌานจับมือผมให้หันหน้าจอเข้าหาตัวเอง และก็ทำให้เห็น...ว่าต่อจากสติกเกอร์โกรธ คือข้อความถามอย่างห่วงใยว่า

- เจปลอดภัยใช่มั้ยลูก -

เอ๊ะ...ผมเป็นลูกชายของเธอ หรือนิฌานกันแน่

ผมกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง แต่สุดท้ายก็ยอมพิมพ์เล่าเรื่องทั้งหมด เหมือนจะเดจาวูชอบกล เพราะผมก็เพิ่งอธิบายกับแม่ตัวเองสดๆ ร้อนๆ เมื่อเย็นวานนี่เอง ขนาดเห็นแค่วีดีโอที่ผมถ่ายหลังคนร้ายวิ่งหนีอยู่ลิบๆ ในลานจอดรถยังซักไซ้กันจนเหงื่อตก ต้องยืนยันแล้วยืนยันอีกว่าปลอดภัยดีครบสามสิบสอง ไม่ได้บ้าบิ่นขนาดวิ่งไล่ตามถึงวางใจ

เอ่อ...ถึงแม้จะยอมหยุดเอาตอนเกือบโดนชนไปสองครั้งก็ตาม

ต้องขอบคุณที่นิฌานทำตามคำขอ ยอมเก็บคลิปจากกล้องวงจรปิดตรงลานจอดรถเป็นความลับ แล้วให้ผมโพสภาพ วีดีโอที่ถ่ายเอง และวีดีโอตอนช่วงคนร้ายเทไข่ลงโซเชียลเพื่อขอให้คนแจ้งเบาะแสตัวการ

ก็ไม่อยากทำเป็นเรื่องใหญ่หรอกนะครับ แต่แจ้งตำรวจไปดันไม่มีความคืบหน้าเลยนี่สิ!

สุดท้ายเลยขอความร่วมมือทางโซเชียล และหวังว่าคนร้ายคนนั้นจะตกใจ ไม่กล้าทำอะไรแผลงๆ กลางที่สาธารณะอีกก็แล้วกัน

พิมพ์เล่าจนจบ แม่นิฌานก็นิ่งเงียบไม่ตอบคำ ผมรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลังอย่างบอกไม่ถูก เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง ถือโอกาส...

- พี่ฌานบังคับผมกินผัก! –

ฟ้องซะเลย!

ฮึ่ม นึกแล้วก็โมโห ผมยกโทรศัพท์ถ่ายภาพนิฌานที่กำลังเขี่ยผักใส่จานของผมพอดีเป็นหลักฐาน ปกติคนคนนี้ตามใจผมจะตายไป แต่ไม่รู้นึกคึกอะไรขึ้นมา ถึงได้งัดข้อกันแต่เช้า

- ผมเขี่ยออกแล้วแท้ๆ แต่แกล้งเขี่ยกลับมาอีก ใจร้าย! -

พอได้ฟ้องก็รู้สึกเหมือนทวงความยุติธรรมสำเร็จชอบกล ผมยิ้มกริ่ม เตรียมหากำลังเสริมโต้เถียงกับนิฌาน แต่ผลที่ได้รับหลังแม่ของเขาเงียบหายไป...กลับเป็น...บทความว่าผักมีสารอาหาร! ยาวเยียดแทบเป็นวิทยานิพนธ์!

ผมถือโทรศัพท์ค้างทันที

“น้องเจ?”

คนที่สนุกกับการเขี่ยผักเข้าจานผมถามอย่างงุนงงเมื่อจู่ๆ ผมก็ยิ้มแต่อีกเดี๋ยวก็หน้าบึ้ง เพื่อความแน่นแฟ้นของตระกูลชาญชัย ผมเลยยอมหันหน้าจอให้เขาอ่าน

“ในที่สุดก็มีเรื่องที่แม่กับพี่ความเห็นตรงกันสักที” นิฌานยิ้มขำ “มาครับน้องเจ อ้าม” 

นิฌานเห็นผมอิดออดเลยใช้ส้อมจิ้มคะน้าจ่อปากผม ฮึ่ย ผมเกลียดคะน้าที่สุด ก้านก็แข็งแถมยังขมจะตาย แต่พอเห็นนิฌานแย่งโทรศัพท์ไปกดอัดวีดีโอ บอกว่าจะส่งไปอวดแม่ตัวเอง ในฐานะของสะพานเชื่อมที่ดี เห็นเขายอมคุยกับผู้ให้กำเนิดครั้งแรกเลยยอมอ้าปาก

“เด็กดี” นิฌานลูบหัวผมสามทีเป็นรางวัล “พี่ส่งคลิปเมื่อกี้ให้แม่น้องเจแล้วก็แม่พี่ด้วยนะ”

ค่อยคุ้มกับที่ยอมกินผักหน่อย! ผมรีบรับโทรศัพท์มาดูผลตอบรับ เชื่อว่าจะต้องได้รับคำชมบ้างล่ะน่า

ปรากฏว่าคนแรกชมนิฌานว่าเก่งมากที่ทำให้ผมยอมกินผัก

ส่วนคนหลังส่งกลับมาว่าผมเก่งมากที่กินผัก

...ใครเป็นแม่ใครกันแน่นะผมเริ่มงงแล้ว!

 




พักเรื่องผักๆ กลับมาสู่เช็กเมทกันดีกว่า

“ใครวางสคริปท์ไว้ตรงเก้าอี้แล้วไม่หาอะไรทับเนี่ย ลมพัดปลิวไปแล้ว!”

“ผมเก็บเองครับ!”

อะแฮ่ม ยินดีต้อนรับสู่การออกกองนอกสถานที่ครับ เปิดประเดิมกันด้วยภาพผมที่รีบวิ่งไปเก็บสคริปท์ก่อนจะโดนพัดปลิวตกน้ำจนหอบเหนื่อย ตามด้วยการวิ่งไปช่วยจับไฟ ประคองเสาเต็นท์ และอีกสารพัดอย่างเนื่องจากโลเคชั่นครั้งนี้ค่อนข้างโหด

เพราะมันคือเกาะกลางทะเล!

แน่นอนว่าในเมื่อต้องนั่งรถ ต่อเรือ ข้ามมาถ่ายทำบนเกาะ แต่ละคนย่อมแบกสัมภาระมาด้วยอีกคนละหนึ่งกระเป๋า เพราะกำหนดการคือต้องค้างหนึ่งคืน นักแสดงนำที่ต้องร่วมทริปทรหดครั้งนี้หากไม่นับนิฌานแล้วก็มีพาย ธนัท และอีกหนึ่งนักแสดงสมทบ สาเหตุที่ไม่มีอัครเดช เพราะตามเนื้อเรื่องหลังถูกจู่โจมไม่ทันตั้งตัวหลายครั้ง ทำลายแหล่งกบด่านหลายครา พระเอกที่อ่อนล้าทั้งกายและใจก็โดนยิงสีข้าง เสี้ยวนาทีนั้นพี่ชายมิสเตอร์เอสช่วยประคองฝ่ากระสุนปืนเฉียดความตายอย่างหวุดหวิด สร้างความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด

และในช่วงที่จนทางตัน...ลูกสาวของคุณหัวหน้าตำรวจก็ยื่นมือช่วยเหลือ!

นี่มันโรมิโอกับจูเลียตชัดๆ! ลูกสาวของคุณตำรวจคนนั้นชอบอัครเดชตั้งแต่ซีซันหนึ่ง เพราะพระเอกช่วยไขคดีมากมาย แอบชอบอยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ แต่ในซีซันสุดท้ายกลับกล้าให้ที่พักรักษาตัว ซ่อนพระเอกใต้จมูกของพ่อ

พวกพระเอกเข้าใจว่าตำรวจที่ไล่ล่ามาตลอดนั้นไม่กล้าทำร้ายลูกสาวของผู้บังคับบัญชาจึงหยุดจู่โจมชั่วคราว แต่ความเป็นจริงนั้น...มา ผมจะเล่าให้ฟัง!

เรื่องของเรื่องคือลูกน้องแสนจงรักของหัวหน้าองค์กรจากเดิมเหลือไม่ถึงสิบ ตอนนี้ล้มหายตายจากจนไม่ถึงห้าคนแล้ว! ด้วยจำนวนแสนน้อยนิด การโจมตีล่าสุดที่พระเอกถูกยิง นิฌานจึงแอบทำสัญญาณมือให้หยุดการบุก เพราะเมื่อได้รับความเชื่อใจมากพอ ก็ไม่มีเหตุผลต้องปลอมตัวใส่ร้ายป้ายสีบั่นทอนกำลังพลตัวเองอีก!

สรุปแล้วตอนนี้พระเอกนั้นสบายสุด เพราะได้นอนตักสาว มีคนช่วยดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำบรรยากาศสีชมพู ขณะที่พวกนิฌาน ธนัท และพายนั้นต้องขับเคี่ยวกับพวกตำรวจต่อ ในเมื่อพวกเขาตามข้อมูลของสมาชิกองค์กรที่หลบหนีได้สำเร็จ!

จะบอกว่าสำเร็จก็ไม่ถูกในเมื่อตัวนิฌานแสร้งแฮกข้อมูลสืบว่าทางตำรวจกำลังรวมคนไปทางเกาะๆ หนึ่งอย่างน่าสงสัย จึงเป็นที่มาว่าทำไมทั้งสามคนถึงได้ทิ้งพระเอกไว้กับตัวละครหญิง แล้วนั่งเรือข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเกาะที่ว่า!

แต่สายเกินไป...

เพราะคนคนนั้นถูกฆ่าตายแล้ว!

“เป็นพวกเดียวกันแท้ๆ ทำไมถึงได้ฆ่าทิ้งซะล่ะ” ธนัทเอ่ยขณะก้มตัวสำรวจศพซึ่งถูกยิงหลายนัดจนเสียชีวิตคาที่กลางบังกะโลเก่าโทรม

“ฆ่าปิดปากไงล่ะ ตามล่าพวกเราไม่ได้เลยรีบกำจัดของร้อนในมือก่อนโดนสาวถึงตัว” นิฌานว่าอย่างเจ็บใจ ทำให้ธนัทหลงเชื่อเข้าเต็มเปาเพราะทุกอย่างช่างประจวบเหมาะ แต่ในความเป็นจริง หัวหน้าองค์กรเองก็คาดไม่ถึงว่าจะถูกฆ่าปิดปากไวขนาดนี้ จากสภาพศพ น่าจะเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว คาดไม่ถึงว่าข้ออ้างปลอมๆ อย่างตำรวจรู้ที่ซ่อนจะเป็นความจริง

จึงไม่แปลกหากนิฌานแสดงความเจ็บใจออกมาอย่างเปิดเผยผิดวิสัยของพี่ชายมิสเตอร์เอส

แผนเดิมคืออะไรน่ะเหรอ คือการให้คนคนนี้หลบซ่อนตัว จนถึงเวลาที่เหมาะสม...อย่างเช่นในตอนนี้ พวกเขาจะบุกจับกุม แล้วให้สมาชิกคนนี้สารภาพด้วยคำโกหก ป้ายสีว่าหัวหน้าตำรวจคือหัวหน้าองค์กร

และเมื่อกำจัดเสี้ยนหนามได้สำเร็จ หัวหน้าองค์กรตัวจริงอย่างเขาก็จะเป็นอิสระ เป็นฝ่ายลอยตัว คิดจะตลบหลังพลิกลิ้นเมื่อไรก็ง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ!

“ถึงจะสายเกินไป...แต่เราแยกย้ายกันค้นดูเถอะ เผื่อจะเจอเบาะแสถึงสมาชิกคนอื่นๆ ไม่ก็หลักฐานเอาผิดหัวหน้าตำรวจ” ธนัทออกความเห็น ก่อนจะพากันแยกย้ายรื้อค้น ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่นาน เพราะบังกะโลแห่งนี้ค่อนข้างเล็ก เครื่องเรือนน้อยนิด ขนาดที่นอนยังไม่มี เป็นเพียงผ้าปูกับพื้นเท่านั้น

พายหาโทรศัพท์เจอเป็นอย่างแรก แฮกเกอร์จึงเจาะรหัสผ่านอีเมลทันที รวมทั้งตรวจดูการโทรเข้าออกด้วย นิฌานลอบยิ้มกริ่มในใจ หวังว่าต่อให้ตายไปแล้วลูกน้องจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

“เจอแล้ว! อีเมลโต้ตอบกับหัวหน้าตำรวจ!!” พายร้องอย่างดีใจ ด้วยหลักฐานนี้สามารถเอาผิดจนโดนพิจารณาโทษถูกไล่ออกจากราชการ

“แบคอัพไฟล์ให้ดี” ธนัทย้ำเตือน “ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี ทำไมพวกนั้นไม่ทำลายโทรศัพท์ทิ้ง เว้นแต่ว่า...”

นิฌานใจหายวาบ ตะโกนลั่น “เขวี้ยงทิ้งเดี๋ยวนี้!”

ไม่ต้องรอให้นิฌานเตือนซ้ำ พายที่รู้สึกว่าโทรศัพท์ร้อนแปลกๆ ก็รีบโยนของในมือออกนอกหน้าต่าง เมื่อกระแทกพื้นทรายก็เกิดเป็นระเบิดลูกใหญ่จนผืนน้ำแตกกระเซ็น เอฟเฟคนี้อลังการงานสร้างแถมยังเสียงดังกัมปนาทเพราะทั้งน้ำทั้งทรายพลิกตลบกลายเป็นภาพสุดตื่นตา

แต่เล่นเอาผมหูอื้อ

แล้วนักแสดงที่อยู่ใกล้จะเหลือเหรอ

ธนัท นิฌาน พายถึงกับยกมือขอพักชั่วคราวด้วยสีหน้าซีดเผือดอย่างตกใจ

“โทษที กลัวภาพจะออกมาไม่สวยเลยเผลอใส่ระเบิดเยอะไปหน่อยน่ะ” ฝ่ายเอฟเฟครีบยกมือขอโทษขอโพยนักแสดงทันที จะโทษเขาคนนี้ก็ไม่ได้เพราะก่อนจะกดชนวน ผู้กำกับย้ำแล้วย้ำอีกว่าขอให้ออกมาดีในเทคเดียว

เหล่านักแสดงยิ้มเจื่อน ต้องพักอยู่นานกว่าจะพูดคุยสื่อสารกันไม่ติดขัด การถ่ายทำต่อจากนั้นคือฉากที่ธนัทเดินไปเขี่ยดูซากโทรศัพท์พร้อมส่ายหน้าว่าเละตุ้มเป๊ะแบบนี้คงกู้ข้อมูลอะไรไม่ได้แล้ว

“แบคอัพทันมั้ย...”

พายส่ายหน้า พอรู้สึกว่าเครื่องร้อนก็รีบโยนทิ้ง จะแบคอัพทันได้ยังไง

สองหนุ่มมองหน้าอย่างสิ้นหวัง ส่วนนิฌานซึ่งรอดตายหวุดหวิดเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ อยู่ดีไม่ว่าดี เกือบต้องมาตายเพราะคนทรยศเข้าจริงๆ! แม้ฝ่ายนั้นไม่รู้ว่าเป็นเขาก็เถอะ แต่ถ้าโดนลูกหลงจากการเนียนเข้าหาแก๊งพระเอกคงขำไม่ออก!

ฉากสุดท้ายท้ายสุด คือการขุดหลุมฝังศพในป่า เพราะแม้จะเป็นศัตรูกัน แต่ในเมื่อตายไปแล้วก็ไม่มีเหตุให้ต้องแค้นเคือง ธนัทมีน้ำใจมากพอแม้ตอนแรกพายจะคัดค้าน

นิฌานเองก็ให้ความร่วมมือ แม้ไม่ห่วงชีวิตลูกน้องนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นหนึ่งในผู้จงรักภักดี

จะเสียก็แต่...แผนการที่วางไว้อย่างดิบดีเริ่มตีรวน

นับจากนี้เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว!

“คัต”

สิ้นเสียงเลิกกองจากผู้กำกับ ทีมงานทุกคนก็ร้องเฮลั่นเหมือนผีบ้า ถึงกับถอดเสื้อทิ้งกับพื้นแล้วเฮโลกันลงทะเล ขนาดผู้กำกับก็ไม่เว้น! แม้พระอาทิตย์จะตกดินไปแล้วเพราะต้องถ่ายทำซ้ำหลายมุมกว่าจะเลิกกอง แต่ชาวเช็กเมทไม่สนใจ ลมจะหนาวสักแค่ไหนก็ขอแค่ได้เล่นสักครั้ง

ก็ที่ผ่านมาเครียดเกินไปแล้ว! เรื่องราวที่ถ่ายทำก็เครียดจนสมองปูดบวม! ต้องการระบาย ต้องการความผ่อนคลายกันสักที!

ผมเองก็โดนลากลงทะเลกับเขาด้วย หน่วยกล้าตายไม่ใช่ใครที่ไหน ก็นิฌานที่ถอดเสื้อโชว์ซิกแพค จับผมอุ้มโยนลงทะเลนี่ไง ฮึ่ม ผมเงยหน้าพรวดจากน้ำ ขมวดคิ้วมองเขาอย่างเคืองๆ แต่พอเห็นข้างๆ เป็นธนัทที่ส่งยิ้มขันให้ ก็สลัดความขุ่นหมองในใจทิ้ง ได้เล่นทะเลกับเหล่านักแสดงนำเช็กเมท ยิ่งกว่าถูกหวยอีกเจตริน!

“น้องเจไม่สนใจพี่เลย”

คนหวังดีช่วยจับโยนกลางกลุ่มนักแสดงทำหน้างอน ผมเลยซัดน้ำใส่เขาเป็นการแก้แค้น นิฌานถือโอกาสหลบหลังธนัทกับพาย เล่นเอาผมยืนนิ่งหน้าแดงก่ำไม่กล้าประทุษร้ายก๊วนพระเอกในดวงใจ

นิฌานกับธนัทหัวเราะลั่น สุดท้ายก็กลายเป็นเล่นลิงชิงบอลกัน ผมหัวเราะเริงร่าโดยมีใครอีกคนยิ้มตามไม่หุบเป็นฉากหลัง เพราะนิฌานรู้ว่าการได้เล่นเฮฮากับกลุ่มนักแสดงนั้นหายาก จึงอยากให้ผมรีบกอบรีบโกยโดยมีเขาเป็นตัวกลางช่วยสานสัมพันธ์

ตกดึก ลมเริ่มหนาวบาดผิว สุดท้ายก็เป็นผู้กำกับที่ไล่ให้ทุกคนกลับห้องก่อนจะป่วยกันยกกอง แม้ฉากที่ถ่ายทำจะจัดให้เหมือนเกาะร้าง แต่ความจริงแล้วเป็นเกาะสำหรับท่องเที่ยวที่มีบ้านพักเป็นบังกะโล โดยให้นักแสดงนำพักแยกกันบ้านละสองคนหลังหนึ่ง สามคนหลังหนึ่ง ส่วนทีมงานก็พักรวมกันหลังใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ธนัท พาย กับนักแสดงรับเชิญที่เพิ่งถูกฆ่าพักด้วยกัน ส่วนนิฌานก็พักกับผม ผู้จัดการเพียงคนเดียวที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย

การถ่ายทำนอกสถานที่ที่ต้องนั่งรถ ลงเรือ แล้วมาพักค้างคืน คนจำนวนยิ่งน้อยยิ่งประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ไม่รู้ว่านิฌานใช้อภินิหารอะไร หรือเพราะผมคล้ายจะเป็นเด็กเส้นของจอมมาร คนในกองจึงต้อนรับอย่างยินดี

หลังแยกย้ายกันอาบน้ำ เหล่ากลุ่มชายฉกรรจ์ก็มารวมตัวอีกครั้งกลางหาด แน่นอนว่าย่อมไม่พ้น...วงเหล้า!

ทีมงานดื่มเหล้าสนุกสนาน ขณะที่นักแสดงเพียงนั่งจิบ เลยมีผมคนเดียวที่พอมีสติคอยคุมเตาปิ้งบาร์บีคิว ส่วนนิฌาน...

“น้องเจ ยิ้มหน่อย”

ตามถ่ายรูปผมไม่หยุด! เขาดูชอบผมในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมากนะเนี่ย

“พี่ฌานไม่ไปดื่มกับคนอื่นเหรอ” ผมถามอย่างประหลาดใจ คนชอบปาร์ตี้สังสรรค์อย่างเขาแม้จะห่างเหินมานานแต่น่าจะรีบปรี่เข้าไปคนแรกถึงจะถูก

“ไม่ล่ะ พี่กลัวน้องเจเหงา ก็น้องเจถือศีลห้า ไม่ดื่มเหล้าใช่มั้ยครับ”

ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก แม้อดคิดในใจไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ผิดข้อมุสามาตลอด แต่พอเลิกเป็นสายลับ ผมก็เป็นเด็กเปี่ยมบุญ จิตใจผ่องใส

พูดถึงแม่นิฌาน วันนี้เป็นวันแรกที่ผมไม่ได้ส่งรูปให้เธอ เพราะบนเกาะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แน่นอนว่าก่อนเดินทางบอกกล่าวล่วงหน้าไว้แล้ว แถมแม่ของเขายังส่งสติกเกอร์อวยพรว่า ‘เดินทางปลอดภัย’ อีกต่างหาก

นับเป็นเรื่องราวดีๆ

“น้องเจตั้งหน้าตั้งตาปิ้งอย่างเดียวเลย”

“ก็คนอื่นๆ ทำงานกันเหนื่อยนี่ครับ ให้พวกเขาได้พักบ้างเถอะ ส่วนผมช่วยยกของนิดหน่อยเอง แค่ยืนปิ้งสบายมาก”

“แต่ก็ต้องกินบ้างนะ เอ้านี่” นิฌานคีบเนื้อหมูสามชั้นมาเป่าฟู่ๆ ก่อนจะยกจ่อปากผม

ผมหรี่ตามองไม่วางใจ เกรงว่าจะโดนสงสัยในความสัมพันธ์ เพราะตลอดการถ่ายทำที่ผ่านมา นิฌานมักทำเป็นเล่นไม่จริงจัง ไม่เคยเข้าหาลึกซึ้งหรือแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งให้จับผิด

แต่ไหงครั้งนี้ดันจ่อปากป้อนด้วยรอยยิ้มหวานล่ะ!

“ตั้งก๊งดื่มเหล้ากันขนาดนั้นไม่มีใครสนใจทางนี้หรอกน้องเจ แค่ป้อนเองด้วยไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เอ้า อ้าม”

นิฌานพูดอย่างรู้ใจ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในกองถ่าย ผมพยายามทำตัวเป็นผู้จัดการที่ดี และเขาเองก็แยกแยะได้ เวลาทำงานคือทำงาน หยอกคือหยอก ส่วนจีบก็มักทำตอนส่วนตัว หรือไม่ก็แบบให้คนอื่นจับผิดไม่ได้

กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าแย่เดี๋ยวจะแก้ไม่ทัน!

เพราะซีรีส์เช็กเมทน่ะ...กว่าจะมาถึงจุดนี้ผ่านอะไรมาเยอะ และก็อย่างที่แม่นิฌานเคยเตือน หากมีข่าวฉาวเรื่องนิฌานคบกับผู้จัดการตัวเองที่เป็นเด็กอายุสิบแปดปี คงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนักหรอก

รักชอบกันน่ะได้ แต่ต้องรู้จักเวลาและความเหมาะสม

นิฌานเข้าใจ ผมเข้าใจ เลยไม่ต้องมีเรื่องลำบากใจ ดีจริงๆ

“อร่อยมั้ย” นิฌานถามเมื่อผมยอมอ้าปากงับหลังเห็นว่าทีมงานแต่ละคนเริ่มหน้าแดง คุยกันเฮฮาไม่สนใจทางนี้เลยจริงๆ

“อร่อยครับ” ผมตอบทั้งที่ยังเคี้ยวแก้มตุ่ย นิฌานคงมันเขี้ยวมานานถึงได้แอบตีแก้มป่องๆ ของผมเบาๆ ตีเองก็หัวเราะเอง ก่อนจะช่วยผมปิ้งอยู่หน้าเตา พร้อมยกไปเสิร์ฟวงเหล้าที่ร้องหากับแกล้มเป็นระยะ

“หนาวมั้ย” นิฌานถามเมื่อลมกลางคืนเริ่มแรง ทำเอาผมเผ้ากระเซอะกระเซิงไม่เป็นไม่ทรง “พี่ไปหยิบเสื้อที่ห้องให้มั้ยครับ”

“ไม่เป็นไรครับพี่ฌาน ผมยืนอยู่หน้าเตา ร้อนกว่าหนาวอีก” ผมตอบพลางยกมือปาดเหงื่อ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวมึนๆ งงๆ กำลังดี คงเพราะมีคนคนนี้คอยถามคอยห่วงอยู่เคียงข้างละมั้ง ถึงได้รู้สึกกว่าการยืนอยู่ตรงนี้ ปลีกตัวจากคนอื่นๆ นั้นเป็นอะไรที่ดีต่อใจเหลือเกิน

“พี่ฌานก็กินบ้างสิ พวกของทะเลกินแล้วไม่อ้วนหรอก นี่ ผมปิ้งให้พี่โดยเฉพาะเลย กุ้งเผา!” เพราะสงสารคนที่กินแต่สลัดกับอกไก่ ผมเลยส่งกุ้งเผาเนื้อแดงก่ำสุกฉ่ำให้เขาอย่างนำเสนอ “ไม่กินมันกุ้งก็แกะหัวให้ผมนะครับ ผมชอบ”

“หืม น้องเจปิ้งกุ้งให้พี่เพราะอยากกินหัวกุ้งใช่มั้ย”

“รู้แล้วยังจะถาม” ผมถลึงตาใส่เขาทีเล่นทีจริงหนึ่งที ด้วยใบหน้าที่อมยิ้มจางๆ “จะแกะแต่หัวกุ้งมากินมีหวังโดนด่า พี่ฌานช่วยกินเนื้อกุ้งหน่อยนะ ผมเริ่มอิ่มแล้ว”

“ครับๆ น้องเจว่ายังไงพี่ฌานก็ว่ายังงั้นครับ มาๆ ส่งกุ้งมาให้พี่” นิฌานชินกับการเลือกกินของผมแล้ว ลูกคนเล็กก็จะเอาแต่ใจหน่อยๆ อย่างนี้ แต่ผมมีมารยาทพอ ร้องขอเฉพาะกับคนที่ขอได้ เพราะนิฌานกินมันกุ้งไม่ไหวหรอก คลอเรสเตอรอลมีหวังพุ่งพรวด!

“พี่ฌานใจดี”

“ทีงี้ล่ะบอกพี่ใจดีเชียวนะ” นิฌานหัวเราะอย่างไม่จริงจังนัก แต่ดวงตาประกายความสุข “สมเป็นน้องเจที่ไม่น่ารักจริงๆ”

เริ่มดึก แต่ละคนก็เริ่มอิ่ม เตาปิ้งจึงยุติหน้าที่รวมถึงคนปิ้งด้วย ผมโดนลากมานั่งร่วมวงโดยเหล่าทีมงานที่เริ่มเมามาย เพราะที่ขาดไม่ได้สำหรับการค้างคืนเกาะกลางทะเลอย่างนี้คือ...เล่าเรื่องผี!

 “หึหึหึ มาเที่ยวเกาะตั้งวงเหล้าแบบนี้มันต้องเล่าเรื่องผีสิ ทำไม ป๊อดเหรอๆ!” คนเริ่มคือธนัทที่เริ่มหน้าแดงแต่ยังมีสติครบถ้วน เรียกเสียงโห่จากเหล่าชายฉกรรจ์ที่ไม่หวั่นเกรงเรื่องเหนือธรรมชาติด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้กล้ากว่าปกติ

“มา ผมเริ่มก่อนเลย” ธนัทตบอกอย่างคึกคัก “มีชายคนหนึ่งขับรถกลับบ้านตอนกลางคืน ระหว่างทาง เจอหญิงสาวสวยโบกรถขอติดไปด้วย ชายคนนั้นจึงเปิดประตูรับ คิดจะสานสัมพันธ์ต่อ แต่แล้ว...เธอก็เริ่มเล่าว่าถนนสายนี้เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน...”

พลันทุกคนตกในความเงียบ

“อุบัติเหตุอะไรเหรอครับ ชายคนนั้นถาม หญิงสาวเลยเล่าว่ากลางดึกคืนหนึ่ง มีรถยนต์พุ่งมาด้วยความเร็วเพราะหลับใน ขับชนผู้หญิงที่กำลังจะเดินข้ามถนนจนร่างกระเด็นไปหลายเมตร ตอนนั้นเธอยังไม่ตาย แต่คนขับกลับหนีไม่ยอมช่วยเหลือ...”

ธนัทเล่าด้วยเสียงที่เบาลง เบาลง

“ถ้าคนคนนั้นเลี้ยวรถกลับมาสักนิดเธอคงไม่ตาย หญิงสาวรำพันอย่างเวทนา คนขับกระสับกระส่าย ถามว่าเธอรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร พลันหญิงสาวคลี่ยิ้ม เลือดสีแดงไหล่จากศีรษะอาบตัวช้าๆ...”

ทุกคนสูดหายใจเข้าลึก

“เพราะคนที่ฆ่าฉันก็คือคุณยังไงล่ะ!!!”

“กรี๊ดดดด”

อย่า อย่าตกใจว่าใครกรี๊ดในเมื่อการเข้ากองครั้งนี้คัดแต่ชายล้วนเพื่อความสะดวกในการเดินทางและแบ่งห้อง เพราะคนที่กรี๊ดคือช่างแต่งหน้าใจหญิง ตกใจกลัวกับเสียงตะโกนของธนัทจนโผกอดคนข้างตัว

เสียงร้องกรี๊ดนั้นชวนสะดุ้งยิ่งกว่าเรื่องเล่าซะอีก ผมเผลอกระเถิบชิดกับนิฌาน ขณะที่ธนัทตบเข่าหัวเราะสะใจ คนอื่นๆ ก็เฮฮา ชนเหล้ากันแล้วเล่าต่ออย่างสนุกสนาน

“ขอโทษนะพี่ฌาน”

“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” นิฌานตอบยิ้มๆ ด้วยสายตาล้อเลียนเหมือนแซวเด็ก ผมรีบหันหน้าหนี คิดว่าจะกลัวผีกันหรือไง เหอๆ เด็กธรรมะธัมโมอย่างผมถ้าเจอผีก็สวดแผ่เมตตาสิ จะกลัวทำไม

ใช่ ผมไม่กลัวสักหน่อย แม้จะเนียนนั่งชิดต่อไม่ยอมเขยิบก็เถอะ!

แต่ละคนเมามากคงไม่สนใจกับแค่ผมกับนิฌานตัวติดกันหรอกเนอะ ขนาดคุณพี่ช่างแต่งหน้ายังกอดแขนคนข้างๆ เลย

“ต่อไปตาผมนะครับ” พลันพายอาสา ทุกคนมองนักแสดงที่ค่อนข้างเงียบในกองด้วยสายตายิ้มขัน เชื่อว่าเรื่องเล่าจากคนคนนี้คงไม่น่ากลัว...“คู่รักคู่หนึ่งไปฮันนีมูนกันที่ทะเล พวกเขาเลือกพักบังกะโลริมหาด คืนแรก หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีคนจับจ้องตลอดคืนจนอึดอัด โดยเฉพาะตอนนอน เหมือนกับมีสายตามองลงมาตลอดเวลา”

พายเกริ่นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

“คืนที่สอง เธอก็ยังรู้สึกเหมือนถูกจ้อง เมื่อลืมตามองก็คล้ายจะเห็นเงาดำจากด้านบน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นแต่พัดลมเพดานตัวใหญ่ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดจากความเก่าเท่านั้น ฝ่ายสามีจึงบอกว่าเธอคิดมากเกินไป เงาดำที่เห็นนั้นคือเงาพัดลมต่างหาก”

หลายคนนั่งฟังอย่างตั้งใจ

“หญิงสาวลองไปถามเจ้าของที่ จึงรู้ว่าก่อนหน้านี้เคยมีคู่รักมาพัก แต่ฝ่ายชายลวงผู้หญิงมาฟันแล้วทิ้ง ฝ่ายหญิงเสียใจมาก จึงผูกคอตายในห้องพักนั้นเอง...”

ลมทะเลพัดไอหนาวเสียดกระดูกเป็นระยะ

“หญิงสาวเสนอให้เปลี่ยนที่พัก แต่สามีบอกว่าอีกแค่คืนเดียวก็จะกลับแล้ว จึงให้เธอทนอีกคืน หญิงสาวไม่กล้าเถียงสามีจึงยอม แต่คืนนั้น...เธอก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องจากด้านบนอีกแล้ว เธอลืมตามอง พยายามพิสูจน์ว่าบนเพดานนั้นมีแต่พัดลมเหมือนคืนก่อน...”

พายเว้นจังหวะ เรียกให้ผู้ฟังพากันใจระทึก

“แต่เธอกลับเห็นผู้หญิงผูกคอตายตรงพัดลม ใบหน้าซีดคล้ำลิ้นจุกปาก ก้มหน้ามองเธอและสามี!”

 “กรี๊ดดดด”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีใครหัวเราะแล้ว ทุกคนมองหน้าแล้วพากันหาเสียงไม่เจอ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ คลื่นทะเลก็ซัดโครม ทำเอาวงแทบแตก

“ไม่คิดนะเนี่ยว่าพายจะเล่าเรื่องผีเก่งขนาดนี้” ธนัทลูบต้นแขนตัวเอง สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก “ดึกแล้ว พวกเราแยกย้ายกันดีกว่าเนอะ”

หลายคนที่เริ่มสร่างเมาพากันพยักหน้าเห็นด้วย ตกดึกบรรยากาศไม่สู้ดีเอาซะเลย แต่พอแยกย้ายไปยังที่พัก ผมก็ชะงักกับภาพของบังกะโล...ที่มีพัดลมเพดานแขวนอยู่เหนือเตียง

มันคุ้นๆ นะว่ามั้ย

ความจริงผมไม่กลัวผีหรอกนะ แต่พอมีปัจจัยใกล้เคียงก็อดผวาไม่ได้

“น้องเจอาบน้ำก่อนนะ พี่ขอทวนบทส่วนของวันพรุ่งนี้ก่อน”

“ครับ” ผมชินแล้วเพราะตอนอยู่คอนโดของเขา นิฌานก็ชอบทวนบทก่อนนอน เจ้าตัวบอกว่าเป็นเคล็ดลับที่ทำให้จำแม่น

แต่ไม่รู้ทำไม พอเปิดประตูห้องน้ำแล้วได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูไม้ยามต้องลมพัด ก็เล่นเอาขนแขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ผมมองนิฌานที่ก้มหน้าก้มตาอ่านบท ก่อนจะตัดสินใจ...เปิดประตูอาบน้ำซะเลย

“หึหึหึ”

เหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้น แต่ผมตีมึนไม่สนใจ รีบอาบน้ำแล้ววิ่งจู๊ดออกมานอนตะแคงบนเตียง ลืมบอกไป ห้องที่จองเป็นห้องเตียงคู่นะครับ

ผมหลับตาไปสักพักก็นึกขึ้นได้ รีบลุกมานั่งสวดมนต์ก่อนนอนขณะที่นิฌานไปอาบน้ำบ้าง ตอนเขาเดินออกมา ผมยังสวดมนต์ไม่เสร็จเลย

“ปิดไฟนะครับน้องเจ”

จนเมื่อเขาเก็บบท แขวนผ้าเช็ดตัว เป่าผมเรียบร้อยแล้วนั่นแหละถึงหันมาถามผมที่เพิ่งสวดมนต์เสร็จพอดี

“ครับ” ผมนอนตะแคงคลุมโปง หันหน้าไปทางเตียงของนิฌานด้วยใจวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก แม้จะพยายามไม่หันมองเพดาน แต่เสียงของพัดลมที่หมุนพัดแกว่งไกวตามอายุการใช้งานก็ทำเอานอนไม่หลับ

ผมพลิกตัวกระสับกระส่าย ผิดกับนิฌานที่นอนนิ่งไม่ขยับ คงเพราะถ่ายทำมาทั้งวันจึงเพลียจนหลับสนิท

ไอ้ความคิดที่อยากจะถือหมอนขอไปนอนด้วยเลยชะงัก กลัวจะไปรบกวนคนทำงานหนักขึ้นมา

นึกแล้วก็กลุ้มใจ กลุ้มใจตัวเองเนี่ยที่กลัวกับแค่เรื่องเล่า นอนสิวะไอ้เจ นอน!

ผมพลิกตัวนอนตะแคงอีกด้าน พยายามข่มตาหลับ แต่สุดท้าย...

เสียงพัดลมก็ล่อเอาใจหายวูบๆ ทุกที

“น้องเจ”

“เฮ้ย!” ผมร้องลั่น ใครใช้ให้จู่ๆ ก็โดนเรียกเอาตอนเรื่องเล่าของพายวนเวียนในหัวกันล่ะ ผมหันมองต้นเสียง เจอนิฌานยืนถือหมอนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าแอ๊บแบ๊ว

“พี่ฌานทำอะไรน่ะ”

“พี่ขอนอนด้วยนะครับ”

“เอ๊ะ อะไรนะ เดี๋ยวๆ” ห้ามไม่ทันแล้ว นิฌานมุดตัวเองมาในผ้าห่ม วางหมอนแล้วทิ้งตัวนอนอย่างรวดเร็ว เขาเลือกตำแหน่งชิดริมเตียงเว้นระยะห่างสื่อเจตนาบริสุทธิ์ แถมยังเอื้อมมือมาลูบหัวผมอีกสามที “หลับฝันดีนะน้องเจ”

พูดจบก็หลับตานอนนิ่ง ทำเอาผมประท้วงไม่ทันจนได้แต่นอนนิ่งกะพริบตาปริบๆ น่าแปลกมาก เพราะพอได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเขา เสียงพัดลมไม่ยักจะน่ากลัวเหมือนเคย

ผมรอจนกระทั่งคิดว่าเขาหลับสนิท จึงค่อยๆ ขยับตัวกระแซะใกล้แบบไม่กล้ารบกวนอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนได้มุมนอนสบายๆ แบบชวนอุ่นใจ ก็หลับตาพร้อมรอยยิ้มที่แต่งแต้มตรงมุมปาก

“ฝันดีครับพี่ฌาน...”

คนคนนี้คงได้ยินผมพลิกตัวกระสับกระส่ายอยู่นานแล้ว ถึงจะเหนื่อยหนักแค่ไหนก็ตัดสินใจถือหมอนมาหาเพื่อขอนอนด้วยไม่คิดหยอกล้อให้อับอาย

ก็เป็นซะแบบนี้...แล้วจะไม่ให้ผมหวั่นไหวได้ยังไง

--------------

ตอนนี้ก็จะสยองๆ ปนหวานหน่อย
เรื่องเล่าของพาย...เราเคยได้ยินตอนไปเข้าค่ายสมัยยังเอ๊าะๆ ค่ะ จำไม่ค่อยแม่นเหมือนกันเพราะฟังมานานแต่หลักๆ น่าจะราวๆ นี้ ตอนนั้นไม่มีพี่ฌานเหมือนน้องเจ เล่นเอานอนผวาทั้งคืนเลย นอนก็ไม่หลับ แต่ตาก็ไม่กล้าลืม กลัวมองพัดลมแล้วเจออะไรเข้า ตอนกลางคืนริมทะเลยิ่งเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ด้วย โคตรกลัวเลยค่ะ QAQ

#น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่เปลี่ยนนิยายรักเป็นนิยายสยองขวัญ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter  (https://twitter.com/MajaYnaja)

ปล.ถ้าเปลี่ยนจากเจตรินเป็นจิระ เชื่อว่าจิระคงกลัวจนวิ่งหนีลงทะเลตั้งแต่เรื่องของธนัทแล้ว//แล้วเตโชก็จะทำหน้ามึนๆ เดินไปอุ้มขึ้นมา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-07-2018 20:45:50
ง่ะ อ่านแล้วขนลุกอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 13-07-2018 20:57:43
พี่ฌาน อบอุ่นที่สุดเลย   :-[
น้องเจหวั่นไหวให้เต็มที่เลยจ้า
พี่ฌานแสนดีขนาดนี้ เชียร์สุดใจขาดดิ้นเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-07-2018 22:35:13
 o13 กลายเป็นลูกรักของแต่ละบ้านเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-07-2018 22:51:06
หวั่นไหวเยอะๆเลย^__^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-07-2018 23:03:04
น้องเจ อย่าพึ่งหวั่นไหวง่ายๆสิ ^^ เล่นตัสเยอะๆก่อนนน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-07-2018 23:46:18
ดีที่ห้องเราไม่มีพัดลมเพดาน ไม่งั้นคืนนี้ได้เปิดไฟนอนแน่ๆ555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-07-2018 00:24:52
น้ำทะเลน่าไปเล่นด้วยจัง  o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-07-2018 01:01:27
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 14-07-2018 02:21:51
อื้อหืออ อบอุ่นได้อีก พี่ฌานของน้องเจ :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 14-07-2018 07:41:58
พี่ฌานตั่ลล๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-07-2018 07:50:02
น่องเจของเจ๊~~~~
น่ารักมากเลยลูก มีความกระแซะๆๆ พี่ฌานคนฟินน่าดู 5555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-07-2018 09:32:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 14-07-2018 11:27:20
พี่ฌาณน่ารักกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-07-2018 10:01:21
พี่ฌานอบอุ่นมากเลย :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 23 - P.18 - [13/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-07-2018 10:43:19
พี่ฌาณน่ารัก ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งหลงเนอะน้องเจ o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 15-07-2018 19:36:56
ตอนที่ 24 : เปิดอกเปิดใจ

 

“น้องเจ ตื่นได้แล้วครับ”

“ขอห้านาทีนะพี่จิ” ผมพลิกตัวหันหนีคนที่สะกิดไหล่ปลุก ดึงผ้าห่มคลุมโปงไม่สนใจ

“ไม่ใช่พี่จิสักหน่อย ไหนเรียกพี่ฌานซิ” แต่คนพูดยังตามตื๊อไม่เลิก ลงทุนขนาดเดินอ้อมเตียงมาสะกิดผมอีกฝั่ง “น้องเจขอห้านาทีสามครั้งแล้วนะครับ ตื่นได้แล้วนะ”

“ขออีกนิดนะพี่ฌาน...” ผมเอ่ยเสียงยานคานกึ่งอ้อน ปรือมองเขาอย่างงัวเงีย ก่อนจะพลิกตัวหนีอีกครั้ง

“ถึงจะขี้เซาแต่ปกติก็ตื่นนอนเป็นเวลาออกนี่นา ทำไมวันนี้ลุกยากจังเลยล่ะครับน้องเจ” นิฌานที่เงียบไปอึดใจหนึ่งเพราะโดนจู่โจมไม่ทันตั้งตัวรวบรวมสติตั้งข้อสงสัย “เมื่อคืนเรากลัวจนลืมตั้งนาฬิกาปลุกใช่มั้ย หืม”

“พี่ฌาน...” ผมปรือตาอีกครั้งอย่างหงุดหงิด โดนกวนไม่หยุดจนชักโมโหแล้วนะ ผมถลึงตามองเขา ก่อนจะหยิบหมอนมาปิดหูตัวเองตัดปัญหาซะเลย

“งี้นี่เอง คีย์เวิร์ดคือนาฬิกาปลุกสินะ” นิฌานพูดเองเออเองไม่ยอมหยุด “งั้น...”

พลันเสียงนาฬิกาปลุกแสนคุ้นเคยดังขึ้น ผมค่อยๆ ขยับตัวอย่างเชื่องช้า สัญชาตญาณสั่งให้เอื้อมมือหาต้นตอเพื่อกดปิด

ต้องลุกแล้ว ต้องลุกแล้ว


จิตใต้สำนึกสะกดจิตตัวเอง ผมเดินสะลึมสะลือเข้าห้องน้ำ ถือผ้าขนหนูและเสื้อผ้าที่โดนใครบางคนยัดเข้ามือโดยไม่รู้ตัวเพื่อจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

ผมแปรงฟันทั้งที่ยังหลับตา ล้างหน้าอาบน้ำด้วยสภาพที่ยังไม่ตื่นดี จนกระทั่งเดินออกจากห้องน้ำ เห็นคนตัวโตกว่าแอบถ้ำมองอย่างห่วงๆ กลัวผมจะลื่นล้มหัวฟาดพื้นนั่นแหละ ถึงเริ่มคืนสติ

“อรุณสวัสดิ์ครับน้องเจ”

“พี่ฌานถ้ำมอง”

“โธ่ เด็กน้อย” นิฌานลูบศีรษะผมอย่างเอ็นดู ก่อนจะพากันไปกินข้าวเช้าเพื่อเตรียมถ่ายทำฉากเก็บตกจากเมื่อวานต่ออีกนิด ตอนรวมตัวกันเห็นสภาพตาลึกโหลของแต่ละคนแล้วเชื่อว่าคงหลับไม่ค่อยสนิทนัก ผิดกับผมที่แม้จะติดงัวเงีย แต่หลับสบายตลอดคืน

เหอๆ ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้ากันขนาดนั้นเพราะไม่มีพี่ฌานเหมือนผมล่ะสิ!





 

กว่าจะลงเรือ นั่งรถกลับกรุงเทพ พวกเราก็มาถึงเอาช่วงเย็น วันนี้นิฌานไม่มีงานต่อเพราะกลัวรับงานแล้วไปไม่ทันด้วยตารางเวลาที่ไม่แน่นอน ผมเลยชวนมากินข้าว ณ บ้านทองคำดี เห็นบ่นอยากกินฝีมือแม่ผมนานแล้ว

“กินเยอะๆ เลยนะจ๊ะ” นางจรวยเป็นปลื้มออกนอกหน้าทีเดียว วันหยุดทั้งทีครอบครัวเลยพร้อมหน้าพร้อมตา ประกอบด้วยแม่ พ่อ และผม....พี่จิหายไปไหนน่ะเหรอ ฮึ่ม ก็ไปเดตกับเสี่ยไงครับ เชื่อสิว่าวันนี้ก็คงไม่กลับบ้าน เดตทีไรโดนชวนต่อบนเตียงทุกทีนั่นแหละ!

“ขอบคุณนะครับคุณแม่ อาหารอร่อยมาก รสมือดีไม่มีตกเลย” นิฌานตีเนียนอย่างสุขสันต์ ขณะที่นายฉัตรชัย พ่อของผมหันขวับเพราะสงสัยว่ามีลูกเพิ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้นิฌานจะเคยเจอพ่อผมแล้วตอนเก็บของไปนอนค้างคอนโดของเขา แต่ก็ไม่ได้เรียกอย่างสนิทสนม ยัดตัวเองเป็นหนึ่งในครอบครัวทองคำดี

พลันบรรยากาศมื้อเย็นคล้ายมีพายุเข้า ฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ

“กินเสร็จแล้วขอคุยส่วนตัวหน่อยนะ” พ่อเอ่ยเสียงเข้มประหนึ่งมาเฟีย

“ได้ครับ” นิฌานเจี๋ยมเจี้ยมเป็นลูกเจี๊ยบมิกล้าแหยม

ผมเงยหน้ามองแม่อย่างงุนงง ก็ทำไมจู่ๆ นายฉัตรชัยถึงทำหน้าขึงขัง ตีตนเป็นตัวร้ายกันล่ะ ผลคือนางจรวยตบบ่าผมให้อย่าคิดมาก เมื่อกินข้าวเสร็จก็จูงมือเข้าห้องครัว อ้างว่าให้ผมช่วยล้างจาน

แต่ความจริงนั้น...

“ชู่ เบาๆ นะเจ” นางจรวยให้ผมแอบยืนฟังบทสนทนาระหว่างพ่อกับนิฌาน!!

ลับลมคมในอะไรกันเนี่ย ผมงงมาก ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อจู่ๆ นายฉัตรชัยก็เปิดประเด็นด้วยหัวข้อสุดสะพรึง

“เมื่อไหร่จะคบกัน”

ใครคบใคร ผมกับพี่ฌานเหรอ!?

ผมหันไปมองหน้าแม่ ผลคือนางจรวยพยักหน้ารับ พร้อมกับบีบไหล่ผมเบาๆ ให้ตั้งใจเอียงหูเข้าไว้ อย่ากระโตกกระตากเป็นอันขาด

ถึงตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของพ่อแม่...พวกท่านคง...เป็นห่วงผม กลัวว่าความสัมพันธ์จะไม่ก้าวหน้า จึงตั้งใจสร้างสถานการณ์กดดันเค้นถามนิฌาน ให้เขาพูดความจริงออกมาว่าคิดเห็นยังไงกับเรื่องราวระหว่างเรากันแน่

หารู้ไม่...

“เมื่อน้องเจพร้อมครับ” นิฌานเอ่ยอย่างเคร่งขรึม รอยยิ้มขี้เล่นหายวับ ดวงตาจ้องสบไม่กะพริบ ยืนยันถึงความตั้งใจ “ไม่ต้องห่วงนะครับคุณพ่อ ผมไม่ได้คิดเคลมน้องเจ แต่ผมตั้งใจคบกับเขาอย่างจริงจัง น้องเจคือคนที่ผมต้องการ ต้องเป็นคนนี้เท่านั้นที่ผมจะใช้ชีวิตด้วย”

...ว่าคนที่ไม่ชัดเจนมาตลอดคือผมต่างหาก นิฌานแสดงออกชัดแต่แรก และคงเดิมเสมอมา

“คิดไกลถึงขนาดจะใช้ชีวิตด้วยกันเลยหรือ รู้ใช่มั้ยว่าน้องยังเด็ก ยังมีอนาคตอีกไกล ตอนนี้ก็ใกล้จะเข้ามหาลัยแล้ว เจยังมีตัวเลือกอีกมาก”

“ผมรู้ครับ และรู้ด้วยว่าน้องเจไม่ค่อยประสาเรื่องความรัก ผมถึงไม่คิดขอคบในเร็วๆ นี้แน่นอน ผมอยากให้เขาไตร่ตรองให้ดีก่อน เพราะช่วงนี้เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ถ้าจะคบหากัน ผมอยากให้เป็นที่ความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่หวั่นไหวจากความใกล้ชิด”

กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าในโลกนี้คนที่รู้จักผมดีที่สุดนอกจากตัวผมเองก็มีนิฌาน ชาญชัยเนี่ยล่ะ!

“แล้วถ้าเกิดเจไปรักชอบคนอื่นเข้าจริงๆ หลังหมดสัญญาล่ะ”

“ผมก็ยินดีกับเขาครับ นอกจากเป็นความรัก น้องเจยังเป็นความสุขของผม คุณพ่อครับ ทุกวันนี้ผมไม่เคยล่วงเกินน้องเลย แต่ผมก็มีความสุขมาก ดีใจมากเมื่อมองน้องเขายิ้ม หรือหัวเราะ ตื่นเต้นกับเช็กเมท ไม่ต้องมีผมตรงนั้นก็ได้ครับ แค่เห็นหน้าน้องเจ ผมก็ยิ้มออกมาเองแล้ว”

ฟังแล้วผมถึงกับเอาหน้าผากโขกประตูด้วยความเขิน แต่แม่รู้ทัน เลยเอามือมารองศีรษะไว้ทันท่วงที

ไม่ใช่ว่าห่วงหน้าผากลูก...แต่กลัวความลับเรื่องแอบฟังแตก!

“เอาจริงๆ แล้วกับเจพ่อไม่ค่อยห่วงหรอก งั้นกลับมาที่เรื่องฌานบ้าง เรามั่นใจได้ยังไงหากเจไปเรียน ไม่ได้เข้ากองด้วยกันแล้ว จะไม่หวั่นไหวกับดาราคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือควงคนโน้นคนนี้ออกบ่อยนี่ เจเป็นแค่เด็ก ถึงจะพยายามทำตัวเกินวัยไปบ้างแต่ก็เป็นแค่เด็กอายุสิบแปด เทียบกับดารา นักแสดง หรือไฮโซที่หน้าตาสะสวยคุณสมบัติเพียบพร้อมไม่ได้หรอกนะ สังคมในวงการบันเทิงกว้างมาก มั่นใจแค่ไหนว่าจะมั่นคงตลอดไป”

“ตั้งแต่เจอน้องเจ ผมก็ไม่เคยหวั่นไหวกับใครทั้งนั้น น้องทำให้ผมรู้จักคำว่าพอครับคุณพ่อ ผมยอมรับ ว่าเมื่อก่อนมีคนคบหาหลายคน ทั้งหญิงทั้งชาย วงการบันเทิงทำให้ความรักของผมโชกโชนมาก แต่เมื่อผ่านมาเยอะขนาดนั้น ผมก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้ว”

นิฌานถอนหายใจเฮือกเมื่อนึกถึงวีรกรรมในอดีต

“ผมเจอน้องเจ ผมพอแล้วจริงๆ น้องทำให้ทุกคนที่เข้ามาหลังจากนี้เป็นส่วนเกินทั้งหมด แต่เมื่อขาดเขาไปในใจผมก็เหมือนมีบางสิ่งขาดหาย เพราะอย่างนั้น...ผมถึงอยากให้น้องเจตัดสินใจดีๆ ไม่ต้องเป็นคนรักก็ได้ เป็นเพื่อนคู่คิด เป็นน้องชาย เป็นคนสำคัญ ขอเพียงยังอยู่ในสายตา ยิ้มให้ผมบ่อยๆ แค่นั้นก็พอสำหรับผมแล้วครับ”

พ่ออึ้ง แม่อึ้ง ผมเองก็อึ้ง

ใจจริงของนิฌานทำเอานายฉัตรชัยที่ตั้งใจเค้นคอเต็มที่ถึงกับหมดคำถามเลย

เดิมทีครอบครัวทองคำดีก็ไม่ถนัดรับบทดุดันอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำตอบแบบเคลียร์จบทุกประเด็น พ่อก็อ้าแขนกอดนิฌานอย่างเปิดใจยอมรับ เป็นภาพน่าซาบซึ้งใจจนแม่ถึงกับหลั่งน้ำตา

เอ่อ...แม่ครับ แม่จะร้องไห้ทำไม ลูกชายแม่ยังยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้นะ!

จบฉากซึ้ง นิฌานก็ขอตัวกลับราวนกรู้ว่าครอบครัวทองคำดีมีเรื่องต้องประชุมกัน แม่รีบผลักผมให้ออกไปส่งดาราในดวงใจ ที่ในไม่นานอาจกลายมาเป็นลูกเขยหัวแก้วหัวแหวน

“เอ่อ...” ไม่รู้ทำไม พอเผชิญหน้ากับเขาหลังได้ฟังคำสารภาพชวนขัดเขิน ผมถึงมองนิฌานได้ไม่ค่อยเต็มตา อึกๆ อักๆ อย่างบอกไม่ถูก

“แอบฟังอยู่ใช่มั้ย เด็กไม่ดี” แต่คนตัวโตกว่าก็ทลายกำแพงนั้นด้วยการกระเซ้าแซวพร้อมส่งสายตายียวนกวนประสาท “น้องเจทำตัวเหมือนเดิมเถอะ ไม่ต้องเอาความรู้สึกพี่ไปคิดมากหรอก พี่ไม่อยากให้เราตอบรับเพราะเห็นใจกัน พี่อยากให้เราคิดดีๆ น้องเจยังเด็ก ยังมีตัวเลือกอีกมาก เหมือนที่พ่อของน้องพูดนั่นแหละ”

“พี่ฌานไม่ต้องทำตัวเป็นพ่อพระขนาดนั้นก็ได้” ผมประชดตาขวาง อาการติดขัดตะกุกตะกักหายไป นิฌานเลยให้รางวัลด้วยการลูบหัวผมสามที

“พี่ไปแล้วนะครับ เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“ขับรถดีๆ นะครับ” ผมยืนส่งหน้าบ้าน มองจนกระทั่งรถคุ้นตาหายลับจากปากซอยก็กลืนน้ำลาย ค่อยๆ หันมาเผชิญหน้ากับนายฉัตรชัยและนางจรวย

“นิฌานอธิบายชัดเจนแล้ว เจล่ะลูก...”

ไม่ทันได้นั่ง แม่ผมก็เปิดประเด็น ผมเกาแก้มแก้เก้อ เรื่องของหัวใจที่เพิ่งเปิดรับครั้งแรกนั้นช่างน่าปวดหัว ไม่สามารถพูดฉอดๆ อย่างมั่นอกมั่นใจแบบนิฌานได้หรอก

 “ไม่ต้องเครียด คิดยังไงก็พูดออกมาเถอะ” นายฉัตรชัยเอ่ยเสียงอ่อน “ลูกรู้สึกอย่างนิฌานรึเปล่า คิดถึงอนาคตยังไง ตั้งใจจะจริงจังกับคนนี้แค่ไหน...พ่อกับแม่จะรับฟังเองนะเจ”

“ผม...” ผมหลุบตา มองพื้นมองมือตัวเองด้วยความสับสน “ผมไม่อยากเห็นเขาเสียใจ ไม่อยากทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว นั่นเป็นความรักหรือเปล่าครับ”

พ่อกับแม่ไม่ตอบ เพราะรู้ว่าผมกำลังตั้งคำถามกับตัวเองมากกว่า

“หากผมเป็นกำลังใจสำคัญ พี่ฌานก็เป็นคนที่ทำให้ผมพร้อมจะสนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน ได้แสดงความสามารถ และภูมิใจเมื่อเขาทำสำเร็จ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” ผมหลับตาขณะกลั้นใจถาม “การแสดงความยินดีกับเขาทั้งที่ตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย นั่นเป็นความรักหรือเปล่าครับ”

พ่อกับแม่ยังคงเงียบ ผิดกับผมที่เริ่มพรั่งพรูความในใจออกมา

“หากผมเป็นความสุขของเขา ผมก็อยากให้เขามีความสุขตลอดไป ผมถึงขนาดยอมเป็นสะพานเชื่อมให้แม่ของเขา ไม่ใช่แค่อยากทำความดี แต่ผมอยากให้เขาได้สัมผัสถึงคำว่าครอบครัว แม้สุดท้ายแล้วเราจะไม่ได้คบกัน ผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จนั้น แต่ผมก็อยากให้เขาได้รับมัน และจะร่วมดีใจ ยิ้มแย้มไปกับเขาด้วย”

ผมกลืนน้ำลาย ก่อนจะเงยหน้าสบตาพ่อและแม่

“นั่นเป็นความรักหรือเปล่าครับ”

นายฉัตรชัยและนางจรวยไม่ตอบ แต่สายตายามมองผมนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน

“ผมไม่เข้าใจคำว่าพอของเขา เพราะตลอดมา ครอบครัวทองคำดีช่วยเติมเต็มให้ผมไม่ต้องการอะไรแล้ว ผมรักพ่อ รักแม่ รักพี่จิ ผมพอใจที่จะอยู่เป็นครอบครัวอย่างนี้และไม่ต้องการใครอื่น ไม่เคยคิดเรื่องความรักเลยเพราะผม ‘พอ’ อยู่แล้ว”

ผมพยักหน้าเมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ก่อนจะชะงัก เมื่อนึกถึงสิ่งสำคัญ

“ไม่สิ พี่ฌานเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ผมลืมคิดไป” ผมพึมพำ “นั่นคือตัวผมเอง”

เจตริน ทองคำดี ผู้ให้ความสำคัญกับทุกคนรอบข้างไม่เว้นกระทั่งแมวจร แต่กลับลืมให้ความสำคัญกับตัวเอง เพราะผมถือคติครอบครัวมีความสุขผมก็มีความสุข แต่นิฌานเข้ามาเปลี่ยนความคิดนั้น ให้เลิกวางท่าเกินวัย ด้วยการเอาอกเอาใจกันอย่างไม่บันยะบันยัง

เขาทำให้ผมรับรู้ถึงความสุขที่เกิดจากตัวผมเอง ไม่ใช่จากการทำให้ผู้อื่น

นึกย้อนดีๆ แล้วก็น่าตลก เพราะนิฌานคนเก่าผู้แสนเจ้าชู้มักเป็นฝ่าย ‘รับ’ ความสำราญจากคนรอบตัว ก่อนจะหยุดทุกอย่าง และเป็นฝ่าย ‘ให้’ กับผมโดยไม่หวังผลใดๆ

ส่วนนายเจตริน ทองคำดี ผู้สักแต่ก้มหน้าก้มตา ‘ให้’ คนรอบกายนั้น ก็เริ่มเป็นฝ่าย ‘รับ’ ความรู้สึกดีๆ และจริงใจของนิฌาน

“พ่อครับ แม่ครับ ผมรู้คำตอบแล้วครับ”

อาจจะพูดว่ารักไม่เต็มปาก แต่ผมอยากรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้

“แล้วเจจะคบกับนิฌานมั้ยลูก”

“ผม...ผมไม่แน่ใจ” ผมตอบตามจริง รู้สึกดีก็ใช่ แต่จะให้ตกลงปลงใจเลยก็เกรงจะไวไปหน่อย อีกอย่าง... “แม่ไม่อยากมีหลานเหรอครับ”

ผมค่อนข้างติดใจเรื่องนี้ ทองคำดีจะสิ้นสกุลเพราะผมไม่ได้นะ!

“พี่จิก็คบกับเสี่ยไปแล้ว ถ้าผมคบกับพี่ฌานอีก...แม่จะไม่ได้อุ้มหลานนะครับ แล้วคนรอบข้างจะว่ายังไง ลูกชายบ้านนี้คบกับเพศเดียวกันทั้งคู่ พ่อกับแม่ยอมรับได้เหรอครับ”

“ได้สิ เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้คิดมากเหมือนเจนี่”

อ้าว...ผมคิดเยอะไปอีกแล้วเหรอ

“แม่รู้ว่าเจเป็นห่วง กลัวว่าพ่อกับแม่จะวางตัวยังไง แต่ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เจเห็นพ่อกับแม่สนใจด้วยหรือ หลานน่ะเป็นเรื่องของอนาคต แต่ปัจจุบันคือลูกชายที่น่ารักของแม่” แม่ประคองแก้มสองข้างผมอย่างอ่อนโยน “แล้วแม่จะห่วงสิ่งที่ยังไม่มีมากกว่าสิ่งสำคัญตรงหน้าได้ยังไง เจตัดสินใจจากความรู้สึกเถอะจ้ะ อย่าดึงพ่อกับแม่ไปเป็นปัจจัยร่วมเลย”

นายฉัตรชัยรีบพยักหน้ารับเป็นลูกคู่ทันควัน

“พ่อก็เห็นว่าคนคนนี้ดูแลเราได้นะ เขาเป็นผู้ใหญ่พอ คอยปรามคอยห้ามเราได้ เพราะเจน่ะชอบเตลิดบ่อยๆ”

“ก็ผมเป็นคนบ้าอาละวาดในครอบครัวปกตินี่...” ผมงึมงัม

“สรุปว่าไม่ต้องคิดเผื่อทางนี้ ทำตามใจตัวเองเถอะ”

“แม่พูดเหมือนพี่จิเลย”

“จะว่าไปปรึกษาเรื่องนี้กับพี่ชายยังน่ะเรา” แม่ทักเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าบ้านนี้ยังมีลูกชายอีกคน

ผมส่ายหน้า

“เอาเถอะ ถ้าเจตัดสินใจเลือกแล้วไม่มีใครขัดหรอก ต่อให้เป็นจิก็เถอะ” พ่อกล่าวเสริม

“เพราะพวกเรารู้ดี ว่าเจจะคิดเผื่อพวกเราเสมอ จะคิดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ” แม่สมทบ ทำงานกันเป็นลูกคู่ดีจริงๆ สองสามีภรรยาคู่นี้

“แล้วถ้าพลาดล่ะครับ หากผมตัดสินใจผิดขึ้นมา หากลองคบกันจริงแล้วไปไม่รอด”

“ถึงตอนนั้นก็มีพวกเรา ครอบครัวทองคำดีไงลูก” นางจรวยเอ่ย “ฉะนั้นไม่ต้องห่วงคนข้างหลังหรอก เพราะพวกเราไม่ไปไหน พร้อมจะสนับสนุนลูกเสมอ”

“ไม่ว่าจะถูกหรือผิด พวกเราจะอยู่ตรงนี้” พ่อทำหน้าขึงขัง

“ขอแค่เจเตรียมใจและกล้าที่จะตัดสินใจก็พอ”

ให้ตายเถอะ ทำไมครอบครัวผมถึงแสนดีขนาดนี้นะ ผมก้มกราบพ่อกับแม่ ขอบพระคุณและขอโทษที่ไม่สามารถเป็นเหมือนลูกคนอื่น แต่ถึงอย่างนั้น...ก็ยังรักไม่เปลี่ยนแปลง

ถึงตอนนี้ก็นึกขอโทษพี่จิในใจ เคยเข้าใจผิดว่าพี่ชายเป็นพวกรักชอบเพศเดียวกันซะอีก ผมไม่รังเกียจหรือกีดกันหรอกนะครับ แต่อาจจะมองแคบไปสักหน่อย

มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศหรือรสนิยมอะไรหรอก

แต่คนที่ผมรัก...ดันเป็นผู้ชายก็แค่นั้นเอง

--------------------

สารภาพความในใจกันเต็มสูบกับตอนนี้ ปรบมือให้ครอบครัวทองคำดีด้วยนะคะ // แปะๆๆๆ
ตอนนี้เป็นตอนที่สำคัญมาก เพราะถ้านายฉัตรชัยกับนางจรวยไม่เค้นให้นิฌานพูดให้น้องเจเข้าใจว่าคิดเห็นยังไง แล้วไม่เค้นให้น้องเจเข้าใจตัวเองว่ารู้สึกยังไง  ความสัมพันธ์ก็คงไม่คืบหน้ากันสักทีค่ะ

นิฌานจีบน้องติดมาสักพักแล้ว แต่ต่างคนต่างมีกำแพงกั้นอยู่ นิฌานห่วงน้องเจเลยไม่เคยทำมากกว่าการจูบหน้าผาก ลูบหัว ทะนุถนอมน้อง ส่วนน้องเจ...ก็ยั้งๆ ตัวเองอยู่ ใจน่ะไปแล้วแต่ห่วงโน่นห่วงนี่ เลยไม่ทำให้ชัดเจนสักที

ตอนนี้ก็เหมือนปลดล็อกกันไป

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่ขอเสนอสำนวนไม่ต้องดีพอแต่ขอแค่พอดี  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-07-2018 19:58:44
เป็นครอบครัวที่สุดยอดไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-07-2018 20:03:56
เป็นครอบครัวที่สุดยอดไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2018 20:15:01
เจได้รู้ความจริงใจของนิฌาน............
ว่ามีแต่ความปราถนาดีให้เจ :mew1:

เจ รู้แล้วว่านิฌานที่ปกติเคยรับแต่ไม่มีใจให้ใคร  กลับเป็นฝ่ายให้ใจเจ
ส่วนเจ ที่เคยเป็นฝ่ายให้กับคนในครอบครัวเป็นฝ่ายรับบ้างแล้ว
ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มกันและกัน   :hao5:

นิฌาน  เจตริน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-07-2018 21:11:34
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-07-2018 22:18:57
ครอบครัวทองคำดีนี่ใจกว้างสุดยอดไปเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณซี ที่ 15-07-2018 22:27:25
ทำไมครอบครัวทองคำดีน่ารักจัง งื้ออ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-07-2018 00:19:07
ครอบครัวน้องเจน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 16-07-2018 00:22:14
ครอบครัวทองคำดีเป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆจริงๆค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-07-2018 01:11:48
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-07-2018 02:35:28
ฌาณบอก "ไม่เคยลวนลามเจเลย" แต่เจบอก "พี่ฌาณถ่ำมอง" ถ่ำมองที่ถือเป็นการลวนลามทางสายตาอ่ะป่าว  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 16-07-2018 03:44:13
เขินมากกก ถ้านี่เป็นน้องเจระเบิดตัวแตกไปแล้ว ทำไมพี่ฌาณเป็นคนดีศรีสังคมอย่างนี้ กราบขอโทษที่ด่าพี่ไปในเรื่องของจิระคะ ตอนนั้นน้องรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนตอนนี้อยากได้พี่ฌาณมากๆๆๆ
ขุ่นแม่พี่ฌาณเป็นคนดีจริงๆใช่มั้ยคะจนถึงตอนนี้ก็ยังระแวงอยู่ แต่คงจะดีถ้าแม่พี่ฌาณดีจริงๆ คุณแม่จะได้ลูกสะใภ้ที่น่ารักอย่างน้องเจเลยนะคะ
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-07-2018 08:47:15
 :กอด1: รักครอบครัวทองคำดีจัง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 16-07-2018 16:30:28
สารภาพความรู้สึกหมดเปลือกเลย ชัดเจนกันทั้งคู่แล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีกั๊กๆกันอยู่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-07-2018 22:45:57
ปรบมือให้ครอบครัวทองคำดีค้าาาา สมกับเป็นพ่อแม่ตระกูลทองคำดีจริงๆ แคร์ลูกเป็นอันดับแรก ปรบมือๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-07-2018 22:49:28
พี่ฌานหล่อมากเลย เป็นพระเอกในใจน้องเลย น้องเจบอกความในใจมาแล้ว รู้ใจตัวเองแล้วว่ารักพี่ฌาน ทีนี้ก็รอน้องพร้อมแล้วก็รอพี่ขอน้องคบ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 17-07-2018 14:44:43
เป็นครอบครัวที่น่ารักมากเลยค่ะ

หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 17-07-2018 19:48:40
เป็นมุมมองความรักที่ดีจริงๆ เป็นครอบครัวตัวอย่างนะเนี่ยบ้านทองคำดีเนี่ย รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-07-2018 22:54:37
สมเป็นครอบครัวทองคำดี ใจกว้างสุดๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-07-2018 23:34:37
เป็นครอบครัวที่ดีจริงๆ เข้าใจลูกแล้วยังฮาอีก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-07-2018 21:02:13
เจเป็นคนตลก ทำเอง เขินเอง น่ารักด้วย
ครอบครัวนี้ดีจังเลยค่ะ อบอุ่น เข้าใจ คิดบวก
เจถึงเป็นคนชอบให้คนอื่น มากกว่าคิดถึงตัวเอง
ชอบที่เจคิดว่า พี่ฌาณมาเติมให้เจได้รู้จักรับบ้าง

ฌาณก็ชัดเจนไปอีก พ่อถึงกับไปไม่เป็นเลย
แหมมม เจอน้องเจแล้วเป็นคนโรแมนติก จิตใจดีมาเลยนะ

ชอบความรู้ทันคู่นี้มากค่ะ และก็แอบเนียนกุ๊กกิ๊กกันตลอด

จิตรินตกข่าวนะ อย่ามัวแต่ไปเดทสิ กลับมาก่อน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 24 - P.18 - [15/07/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-07-2018 23:10:48
โฮฮฮฮ ไม่นะ น้องเจเปิดใจขนาดนี้แล้วถ้าคนพี่รู้ต้อวดี๊ด๊าเตรียมทำคะแนนมากๆแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [1/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-08-2018 12:25:01


ตอนที่ 25 : เห็นชอบหรือไม่


ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้ผมตื่นก่อนนาฬิกาปลุก กระตือรือร้นมากจนนางจรวยมองส่งด้วยแรงใจสนับสนุน

“โชคดีนะลูก”

“ไว้ใจผมได้เลย!”

แม่กำหมัดสองข้างส่งสัญญาณให้ผมสู้ๆ ผมก็เลยกำหมัดสองข้างระดับอกกลับ เราสองแม่ลูกมองหน้ากันอย่างมุ่งมั่นปานไปรบ เพราะวันนี้...ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอนิฌาน ชาญชัย ดาราในสังกัดคบหาเป็นแฟน!

พ่อแม่เปิดไฟเขียวสนับสนุนด้วยใจเต็มร้อยขนาดนี้ หากประวิงเวลารีรอพวกท่านคงเสียใจที่อุตส่าห์เปิดโอกาสให้พูดความในใจกัน แต่จะให้โพล่งขอคบเลยก็เขินทำตัวไม่ถูก ผมเลยวางแผนเซอร์ไพรส์...ด้วยการเขียนการ์ด!

บรรดาจดหมายและการ์ดอวยพรจากแฟนคลับผมยังอ่านไม่หมดเลย ฉะนั้นวันนี้จะเขียนการ์ดใส่ลงไปด้วย แสร้งทำทีเป็นอ่าน แต่ความจริงแล้วคือคำสารภาพรัก ตบท้ายด้วยข้อความ ‘คบกับผมนะครับพี่ฌาน’ เชื่อว่าเขาจะต้องหน้าเหวอมากแน่ๆ

โดนรุกจีบใส่ตั้งนาน ขอรุกกลับบ้างแล้วกัน ฮึ่ม!

แม้จะเตรียมพร้อมอย่างดี แต่ในใจตื่นเต้นหนักมากเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมจะขอคบใครสักคน แต่ถ้าไม่ทำให้ชัดเจน เรื่องระหว่างเราก็คงไม่คืบหน้าสักที ในเมื่อนิฌานพร้อมใจจะรอและเคียงข้างผมในทุกสถานะด้วยสายตารักใคร่จริงใจอย่างเป็นผู้ใหญ่และใจเย็น วัยรุ่นใจร้อนอย่างผมก็ขอลุยเลยดีกว่า

ไอ้คิดน่ะส่วนคิด เพราะเมื่อรถเมล์ถึงจุดหมาย ผมก็เลิกลั่กทำตัวไม่ถูกด้วยความเก้อเขินทั้งที่ยังไม่ทันเข้าบริษัทเลยด้วยซ้ำ ผมลงจากรถเมล์ ผ่อนจังหวะการเดินช้าลงให้คนที่ลงมาพร้อมกันแซงไปก่อน จากนั้นจึงมองหาที่สงบข้างกำแพง หยิบการ์ดในกระเป๋าเปิดดูเพื่อความมั่นใจว่าเขียนถูกต้องทุกตัวอักษร

พออ่านก็รู้สึกหน้าแดงๆ ชอบกล นี่ผมกำลังจะขอนิฌานเป็นแฟนจริงๆ ใช่มั้ย คนที่เป็นดาราชื่อดังคนนั้นน่ะเหรอ เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิดกันแน่นะ ผมควรจะรอให้เช็กเมทถ่ายจบ ไม่ก็รอจนสัญญาสิ้นสุดค่อยรุกจะดีหรือเปล่า แต่! เรื่องการวางตัวของเราสองคนนั้นวางใจได้ ต่อให้เป็นแฟนกันแต่ต่อหน้าคนอื่นหน้าที่การงานย่อมเป็นอันดับหนึ่ง!

สรุปเป็นแฟนตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เห็นจะต่าง เพราะผมมั่นใจว่านิฌานแยกแยะได้ และตัวเขาก็เชื่อว่าผมทำได้เหมือนกัน อย่าคิดมากเลยเจตรินเอ๋ย ถือการ์ดเดินลงรถเมล์จนจะถึงหน้าบริษัทอยู่แล้ว มาหวั่นใจอะไรตอนนี้!

แต่! ไอ้แผนเซอร์ไพรส์ก็น่าอายไม่น้อย ผมนึกภาพออกเลยว่าหลังนิฌานเหวอ เขาก็จะมองผมด้วยสายตาลึกซึ้งกึ่งล้อเลียน แล้ววีรกรรมนี้จะสลักลึกในใจ เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาหยอกบ่อยๆ แน่

แต่! ไอ้การคบหาแม้จะน่าอายก็ไม่ใช่ความอับอาย ผมจะลังเลทำไมในเมื่อลงมือทำถึงขั้นนี้แล้ว แม่เองก็สนับสนุน กำหมัดสู้ๆ กันเมื่อเช้าแล้วด้วยซ้ำ ฉะนั้น...เลิกทะเลาะกับตัวเองแล้วลุยสักที

สู้โว้ย!

ตกลงปลงใจสำเร็จ ผมก็ประคับประคองการ์ดแสนสำคัญเตรียมเก็บใส่กระเป๋าไม่ให้มีรอยขีดข่วนใดๆ แต่ระหว่างที่ก้มหน้าก้มตารูดซิบกระเป๋าสะพายอยู่นั้น ก็มีคนคนหนึ่ง...กระชากคอเสื้อผมแล้วต่อยทันที!

ผมเหวอ คนรอบข้างที่กำลังเดินเข้าซอยมาก็เหวอ จู่ๆ ก็มีคนชกต่อยกัน บริเวณรอบด้านผมเลยเป็นที่ว่างหนึ่งเมตรทันทีเพราะไม่มีใครกล้ายุ่ง

“ลบคลิปออกเดี๋ยวนี้นะ!”

นึกว่าใคร...ที่แท้ก็มือเทไข่นี่เอง!

เพราะตัดขาดจากโลกโซเชียลไปสองวันจากการถ่ายทำบนเกาะกลางทะเล พ่วงด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของตัวเอง ทำให้ผมลืมสนิทว่าตอนนี้มือเทไข่ยังถูกสืบหาตามล่าตัวจากกลุ่มแฟนคลับนิฌานไม่ลดละ

คาดไม่ถึง...ว่าเขาจะลงทุนมาหาผมเองถึงที่!

ดีเลยสิ จะได้จับส่งตำรวจให้จบๆ ไป!

แม้โดนต่อยหนึ่งหมัด แต่ผมจำคำของนิฌานได้ดีว่าอย่าไปตอบโต้หาเรื่องเจ็บตัว แต่รีบแจ้งตำรวจจะดีกว่า ผมเลยมองเมินคนที่ลงทุนย้อมสีผม ใส่ผ้าคาดปากปกปิดตัวตนล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทันที

“อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆ กูไม่ยอมโว้ย!”

ผลคือโดนต่อยอีกหมัด แถมยังปัดป่ายจนโทรศัพท์กระเด็นตกพื้น ต่อด้วยกระชากกระเป๋าผมโยนทิ้งข้างๆ อีกต่างหาก ผมจะไม่ว่าเลย...ถ้าเกิดการ์ดสารภาพรักไม่กระเด็นออกมาเนื่องจากยังปิดกระเป๋าไม่สนิทดี แล้วช่างบังเอิญเหลือเกิน ที่มัน...ตกท่อน้ำทิ้ง!

มองการ์ดสีขาวกลายเป็นสีคล้ำ สภาพไม่น่าดู ผมก็เลือดขึ้นหน้า

เจตรินหัวร้อนแล้ว!

ต่อยมาสองหมัดใช่มั้ย ฮึ่ม ผมจะต่อยเขากลับสามหมัด เราสองคนผลัดกันฉุดกระชากลากถูท่ามกลางไทยมุง ผมได้เปรียบมากกว่าเพราะถึงจะหัวร้อนแต่ก็ยังไม่ลืมวิชาป้องกันตัว เขาต่อยมาก็ยกมือกันแล้วสวนกลับ แต่ก็ไม่วายปากแตกแว่นหลุด สภาพไม่ค่อยสู้ดีนักหรอก...

“บอกให้ลบคลิปไงวะ!”

“เอาการ์ดที่อุตส่าห์ทำแทบตายคืนมานะโว้ย!”

เหมือนเราสองคนจะคุยคนละเรื่องเดียวกัน มือเทไข่โมโหเรื่องคลิปซึ่งเป็นต้นเหตุให้โดนตามล่าในโซเชียล ส่วนผมโมโหที่การ์ดสารภาพรักซึ่งนั่งเขียนบรรจงอย่างดี เลือกจากหนึ่งในหลายสิบใบที่นั่งหลังขดหลังแข็งทำเมื่อคืนจนตาโหลกลายเป็นขยะเน่าเสีย ความตื่นเต้นโรแมนติกหายวับ นึกอยากระบายอารมณ์ให้สาแก่ใจ

แม้จะดูเหมือนนาน แต่ความจริงพวกเราตะลุมบอนต่อยกันไม่ถึงห้านาที ก่อนจะถูกขวางด้วยชายหนุ่มผิวคล้ำร่างสูงโปร่งที่มาถึงไม่พูดไม่จา จับหมัดของผมกับคนเทไข่ไก่คนละข้าง ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังลั่นบ่งบอกถึงพลังปอดไม่ธรรมดา

“หยุด-ได้-แล้ว!”

“พะ...พี่จิ”

ครับ บุคคลที่ปรากฏตัวพร้อมเสียงปรบมือจากคนรอบข้างด้วยท่วงท่าสุดเท่คือพี่ชายผมเอง พี่จิเคยเป็นสตั้นท์แมนเก่า แถมยังออกกำลังกายทุกวัน จับหมัดด้วยแรงบีบไม่ธรรมดาจนผมกับคู่กรณีพากันนิ่วหน้า ไม่กล้ากระโจนใส่กันอีก

“อ้าว คุณคนนี้หน้าคุ้นๆ นะครับ” พลันเลขาคมสันปรากฏตัว ราวรัศมีทรงอำนาจนั้นแผ่ออกมา บรรดาไทยมุงเลยพากันกระจายตัวราวจอมมารเสด็จ ข้างหลังคุณเลขายังมีบอดี้การ์ดของเสี่ยอีกคน ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะชื่อ...

“เบิ้ม จับตัวคนนี้ไว้”

ใช่ๆ ชื่อเบิ้ม!

พอไทยมุงสลายตัว ผมก็เพิ่งเห็นว่ามีรถหรูจอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ด้านในคือเสี่ยซึ่งนั่งเบาะหลังทำหน้าไม่สบอารมณ์ คาดว่าเพราะพี่จิอยู่ดีไม่ว่าดีกระโจนเข้ากลางวงบู๊ซะงั้น

“เอ๊ะ เจ ทำไมเจถึงมาต่อยกับคนนี้ล่ะ พี่เห็นคนมุงเยอะๆ นึกว่าจะมีเรื่องน่าสนุกเลยขอเสี่ยแวะดู คาดไม่ถึงว่าจะมีคนทะเลาะกัน ไอ้จิคนนี้เลยอดไม่ได้ ต้องช่วยเข้ามาห้ามเพื่อให้ชาวโลกรักกันเยอะๆ แต่...ทำไมหนึ่งในนั้นถึงเป็นเจได้ล่ะ! ไม่นะน้องพี่ ปากแตก หน้าเป็นรอยช้ำ ไม่นะไม่! ใครเป็นคนทำ! มันคือผู้ใด! ไยถึงกล้าทำร้ายดวงใจของตระกูลทองคำดีได้ลงคอ! ไม่สิ แม่สอนว่าอย่าเอาคืนคนอื่นด้วยกำลัง ฉะนั้นตอนนี้พี่ต้อง...ฮือ โฮ”

“พี่จิ...อย่าร้องไห้”

มองพี่ชายที่อารมณ์เปลี่ยนไวจนจะแก้ตัวก็ไม่ได้จะอธิบายก็ไม่ทัน ผมก็ทำได้เพียง...ลูบหลังปลอบใจ

“คุณจิพาคุณเจขึ้นรถก่อนเถอะครับ” เลขาคมสันออกปาก ด้วยเกรงว่าเสี่ยจะอารมณ์เสี่ยที่คนรักหาเรื่องแทรกกลางวงคนอื่นไม่พอ ยังมาร้องไห้โฮๆ อีกต่างหาก “ตรงนี้ผมกับเบิ้มจะจัดการเอง”

คมสันพูดไปพี่จิก็ไม่ฟังเอาแต่กอดผมร้องไห้อย่างเสียอกเสียใจสุดซึ้ง ผมเลยตบไหล่พี่ชายให้คลายอ้อมกอด จากนั้นก็ก้มเก็บโทรศัพท์ กระเป๋าและแว่นที่โดนต่อยตกพื้น ถอนหายใจกับการ์ดซึ่งจมอยู่ในท่อน้ำทิ้ง แล้วลากแขนพี่จิขึ้นรถแทน

ส่วนคนเทไข่ไก่ที่ตัวสั่นหน้าซีดเพราะโดนเบิ้ม บอดี้การ์ดตัวโตกล้ามบึกแถมยังหน้าบากคุมตัวนั้นก็ขอให้โชคดี...ตกอยู่ในเงื้อมมือของคมสัน น่าจะไม่จบแค่การปรับแต่คงมีแผลใจไปอีกนาน

“อย่าร้องไห้”

พอขึ้นรถ เสี่ยก็รีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้พี่จิด้วยสีหน้าไปไม่เป็น ทั้งห่วงทั้งงง

ผมยิ้มเจื่อน เห็นคู่รักปลอบโยนกันก็อดนึกถึงนิฌานไม่ได้

พอเงยมองภาพสะท้อนในกระจกก็อุทานในใจเสียงหลง สภาพหน้าแบบนี้...กับวีรกรรมหัวร้อนจนต่อยกับมือเทไข่ใกล้บริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์อย่างนี้...แผนขอคบด้วยความโรแมนติกน่าจะล่มแล้ว!!

 





และก็เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด

ทันทีที่นิฌานขึ้นมายังชั้นบนสุดของท่านประธาน แล้วเห็นสภาพผมนั่งบนโซฟารับแขก ข้างๆ กันคือพี่จิที่ช่วยทำแผลด้วยมือไม่เบา รอยยิ้มที่มักประดับบนใบหน้าของดาราชื่อดังเสมอก็สลายราวกับหมอกควัน

“เกิดอะไรขึ้น!”

“เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับคุณนิฌาน คือตอนแรกเนี่ย ผมนั่งรถมากับเสี่ย จากนั้นก็เจอคนมุงกันอยู่ในซอย แออัดมาก ผมนับดูแล้วน่าจะประมาณยี่สิบคนได้ จากนั้นก็...”

“ผมถามน้องเจครับ ไม่ได้ถามคุณจิ” นิฌานเอ่ยแทรกการฝอยของพี่จิด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนชวนให้หัวใจตกไปถึงตาตุ่ม ผมสบตาเขาแล้วใจสะท้านเฮือกๆ รีบหลบหน้าไม่กล้าสู้ความผิด

“เดี๋ยว! คุณจะเอาน้องชายผมไปไหน น้องชายผมยังเจ็บอยู่เลยนะ!” พี่จิร้องโวยวายเมื่อจู่ๆ นิฌานก็ลากแขนผมที่นั่งซึมให้ลุกขึ้น

“ผมต้องการคุยกับน้องเจสองต่อสอง” นิฌานเปลี่ยนหน้ากากไวมาก จากหน้าเคร่งกลายเป็นหน้ายิ้ม หันไปถามพี่จิเป็นมารยาทด้วยรอยยิ้มสุภาพแสนดี

“ถ้างั้นล่ะก็...เอาเป็นห้องทำงานของคุณสันมั้ยล่ะครับ ตอนนี้คุณสันไปสถานีตำรวจ คงไม่กลับในเร็วๆ นี้ ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัวก็ระดับสิบเต็มสิบเลย!”

เดี๋ยว แล้วไหงพี่จิที่เพิ่งจะปกป้องผม ถึงได้เสนอทางเลือกช่วยเหลือนิฌานซะงั้นล่ะ!

“ขอบคุณครับคุณจิ คุณช่างเป็นคนดีจริงๆ” นิฌานตบไหล่ชมเชย เรียกให้พี่จิยืดอกอย่างพอใจ เขาลากผมเข้าห้องทำงานของคมสัน ทันทีที่ปิดประตู ล็อกกลอน สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคน

ทั้งที่ควรจะระแวงกับการบุกเขตหวงห้ามของจอมมาร แต่เราสองคนลืมเลือนข้อสำคัญข้อนั้นไปจากสมอง เพราะนิฌานเอาแต่จ้องหน้า ส่วนผมก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

จะบอกว่า...เอ่อ...หัวร้อนเพราะการ์ดสารภาพรักถูกปัดตกท่อ ก็แลฟังไม่ขึ้น

ท่ามกลางความเงียบที่เต็มไปด้วยความกดดัน พลันนิฌานถอนหายใจเฮือกอย่างจำยอม

“น้องเจเล่าสิครับว่าทำไมถึงสติหลุด น้องเจเป็นคนมีเหตุผล ไม่ต่อยตีกับใครง่ายๆ แน่ ถ้างั้นช่วยอธิบายให้พี่เข้าใจหน่อยสิครับ หืม” นิฌานประนีประนอม พลางจับคางผมให้เงยหน้าด้วยสายตาเจ็บปวดใจกับรอยช้ำตามใบหน้าและมุมปาก

“ถ้าเล่าแล้ว...” ประโยคแรกที่เอ่ย ไม่ใช่การอธิบาย แต่คือคำถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “พี่ฌานจะดุผมมั้ย...”

พลันนิฌานตัวแข็งค้างในท่าจับคางผมเหมือนโดนแช่เย็น

“พี่ฌานจะโกรธผมมั้ย จะทำหน้าน่ากลัวใส่รึเปล่า” พูดความกลัวไปหมดแล้ว ผมก็กะพริบตาปริบๆ ช้อนมองอย่างว่าง่าย เพราะรู้ว่าถ้าเล่าต้องมีคนตำหนิเสียงโหด ทำหน้าถมึงทึงใส่แน่ๆ

แต่ผม...ไม่ชอบเห็นเขาดุนี่

แม้จะมีความผิดติดตัว ผมก็ขอความมั่นใจอยากให้เขารับปากกันก่อน แต่มองแล้วมองอีก กะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก นิฌานก็ยังตัวแข็งไม่ยักจะละลายสักที

หรือว่าครั้งนี้จะโกรธมากๆๆๆ เลย!?

ผมใจเสีย ใจหาย ใจตกไปถึงตาตุ่ม ยกสองมือกุมมือนิฌานที่จับคางผมแน่นเป็นเชิงขอร้อง พร้อมเอ่ยย้ำเสียงอ่อนยอมลงให้สุดชีวิต

“พี่ฌาน...”

พลันคนตัวโตเข่าทรุดฮวบ ผมสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ

“พี่ฌาน!”

ไอ้เรารีบถลาหมายช่วยประคอง แต่กลับโดนยกมือห้ามไม่ให้เข้าใกล้

โกรธมากจริงๆ ด้วย!

“พี่ฌาน...” ในอกมันหน่วงอย่างบอกไม่ถูก ผมนั่งกอดเข่าจุ้มปุ๊กใกล้เขาที่นั่งคุกเข่าก้มหน้านิ่ง ไม่รู้จะทำยังไง “พี่ฌาน อย่าโกรธสิ ผมขอโทษ ผมขอโทษครับ”

น้ำเสียงเริ่มจะสั่นเครืออย่างควบคุมไม่อยู่ ก่อนจะเหวอแทบไม่ทันเมื่อจู่ๆ คนที่นิ่งเงียบไม่ยอมตอบก็กวาดมือรวบผมที่นั่งกอดเข่าเข้าไปกอดแบบทั้งตัว

ทั้งตัวจริงๆ นะ! กวาดมือเดียวรวบไปหมดทั้งตัวเลย!!

“เฮ้อ” นิฌานถอนหายใจหนัก เอาคางวางอยู่บนศีรษะของผม เล่นเอากอดเข่าไม่กล้าขยับ เพราะท่าของเขาตอนนี้คือคุกเข่ายืดตัวโอบกอด เหมือนจะกลืนกินผมเข้าไปเลยอ่ะ!

“น้องเจนะน้องเจ จู่โจมด้วยท่าไม้ตายขนาดนี้ แล้วพี่จะต่อกรได้ยังไง” นิฌานเอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะตบหลังผมเบาๆ “พี่สัญญาว่าจะไม่โกรธ จะไม่ดุ จะไม่ทำหน้าน่ากลัวใส่ ฉะนั้นเล่ามาได้แล้วครับ”

“ด้วยท่านี้น่ะเหรอพี่ฌาน” ผมเงยหน้า แต่หัวติดอกเขา

“ท่านี้แหละ พี่จะได้ไม่ใจอ่อนไง”

ไม่เห็นหน้าจะได้ไม่ใจอ่อน ก็ดีเหมือนกัน เพราะผมไม่ต้องระแวงสีหน้าของนิฌานระหว่างเล่าเรื่องด้วย

“เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับพี่ฌาน” พอเขารับปาก ผมก็ใจชื้นขึ้นเยอะ “วันนี้ผมตั้งใจจะทำเรื่องเซอร์ไพรส์พี่ฌาน แต่ตื่นเต้นมาก ก่อนจะเดินเข้าบริษัท ก็เลยหยิบของชิ้นนั้นออกมาดู ไม่ทันระวังคนรอบข้าง จนโดนมือเทไข่ไก่ปราดเข้ามาต่อย”

ผมเล่าไป ศีรษะก็ซุกกับอกเขาไป

“ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจตอบโต้นะ แต่คนคนนั้นเอาแต่บอกว่าให้ลบคลิป ไม่ฟังกันเลย ผมเลยจะแจ้งตำรวจ แต่โดนปัดมือจนโทรศัพท์ตกพื้น แล้วยังโดนกระชากกระเป๋า จนของชิ้นนั้นตกท่อน้ำทิ้ง ของนั้นน่ะ...ผมนั่งทำมาทั้งคืน คิดดิบดีว่าจะให้พี่ฌานยังไง มาจมน้ำตายในท่อน้ำทิ้งอย่างนี้ ผมก็เลยโมโห หัวร้อนจนต่อยกลับ”

“จากนั้น...?”

“จากนั้นก็ตะลุมบอนกัน จนพี่จิเข้ามาห้ามครับ” เล่าจบ ผมก็ซุกหน้ากับเข่าตัวเองอย่างรับผิดแต่โดยดี

“ในสถานการณ์แบบนี้ ความจริงแล้วน้องเจควรจะทำยังไงครับ”

“ผมไม่ควรโต้กลับ แต่ควรร้องขอความช่วยเหลือ มีคนมุงเยอะขนาดนั้น ต้องมีสักคนช่วยห้ามปรามได้ แต่พอผมตอบโต้ ทุกคนเลยไม่กล้าเข้าใกล้ พากันจับกลุ่มถอยห่างออกไป...”

“ใช่แล้วครับ ถ้าโทรหาตำรวจไม่ได้ ก็ร้องหาความช่วยเหลือ จะเอาตัวเองไปต่อยตีกับคนจนตรอกพรรค์นั้นทำไม ไม่คุ้มเลย” นิฌานเอ่ยอย่างใจเย็นกึ่งสอนสั่ง ผมเลยครางตอบในลำคอเสียงเบา “ทุกคนเป็นห่วงน้องเจนะครับ พี่เองก็ห่วงแทบขาดใจ ยิ่งเห็นหน้าน้องเจช้ำไปหมด ก็รู้สึกเจ็บแทนเลย”

“พี่ฌานไม่โกรธผมนะ” ผมถามเสียงอ่อน

“ความจริงแล้วน้องเจเป็นคนมีเหตุผล ช่างวางแผน แต่นิสัยเสียคือขี้ระแวง แอบหัวร้อนเบาๆ และไม่ค่อยห่วงความปลอดภัยของตัวเอง”

“ไม่โกรธผมนะพี่ฌาน”

“ถ้าเกิดคนคนนั้นมีมีดจะทำยังไงครับ ถ้าเขาพกอาวุธมาข่มขู่เพราะจนตรอก น้องเจไปต่อยกลับคือการหาเรื่องให้โดนแทงเลยนะ ดีแค่ไหนแล้วที่จบแค่การวิวาทกัน น้องเจต้องคิดให้เยอะกว่านี้ ต้องระวังตัวเองให้ดีกว่านี้”

“พี่ฌาน...” ผมใจเสียอีกครั้ง โดนเมินก็น่าเศร้าอย่างนี้นี่เอง แถมยังไม่เห็นสีหน้าแววตาอีกฝ่ายด้วยว่าอยู่ในอารมณ์ไหนจนทำตัวไม่ถูก “...อย่าโกรธผมเลย”

“โกรธ” คำตอบของนิฌานเปรียบดังฟ้าผ่ากลางใจ “แต่จะหายโกรธถ้าน้องเจบอกว่าของเซอร์ไพรส์พี่คืออะไร”

พลันอ้อมกอดคลายออก ผมเงยหน้า เห็นนิฌานยิ้มบางด้วยสายตาให้อภัยแล้วจึงโล่งอก หน็อยแน่ ตอนบอกโกรธเมื่อกี้เล่นเอาตัวชา!

ผมแอบเคืองเขาเล็กๆ รู้ตัวว่าโดนแกล้งเข้าให้แล้ว แต่เพราะยังมีชนักติดหลัง เลยนั่งกอดเข่า ช้อนมองนิฌานก่อนจะเล่าออกมาด้วยหน้าซับสีแดงจาง

“เมื่อวานหลังพี่ฌานกลับไป พ่อกับแม่ก็จับผมคุยเปิดอก”

นิฌานพยักหน้ารับอย่างตั้งใจฟัง

“ความรู้สึกของพี่ฌานน่ะไร้ข้อสงสัย แต่คนที่ลังเลใจคือผมต่างหาก แต่พอลองนึกดูดีๆ ผมก็คิดว่าคงจะชอบพี่ฌานเข้าแล้วล่ะ”

“น้องเจ...”

“ยัง ผมยังพูดไม่จบ อย่าขัดสิครับ” ผมเอ็ด ก่อนจะพูดออกมารวดเดียวให้อายทีเดียวไปเลย “ชอบตอนไหนไม่รู้ แต่คงเริ่มจากความประทับใจในความรับผิดชอบต่องาน ในการรับปากเชื่อคำของผมไม่เจ้าชู้ เพราะมันทำให้ผมได้เห็น ว่าพี่ฌานไม่ใช่คนเลวร้าย ไม่ใช่คนสับปลับอย่างที่ผมเกลียด แต่เป็นคนจริงใจ ซื่อตรงคนหนึ่งมากเลยต่างหาก เรื่องของครอบครัวยิ่งทำให้ผมนึกอยากเอาใจช่วย ไม่ใช่ว่าสงสาร แต่เพราะผมอยากเห็นพี่ฌานมีความสุข”

ผมยิ้ม

“พี่ฌานบอกว่าผมคือความสุขของพี่ ส่วนผมเองก็อยากเห็นพี่มีความสุขเยอะๆ ถ้าอย่างนั้นสงสัยเราคงต้องคู่กัน คบกันไปนานๆ แล้วล่ะครับ”

พลันนิฌานทำหน้า...จะเหวอก็ไม่ถูก จะตื่นเต้นก็ไม่เชิง

เป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ดีใจแต่พยายามกลั้นไว้ ดูเคลิ้มๆ เพ้อๆ คล้ายตัวลอยๆ พลันเขาเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะถามด้วยแววตาขึงขัง

“น้องเจคิดมาดีแล้วใช่มั้ยครับ คบกับพี่นั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง เพราะพี่เป็นดารา คงให้เวลาเรามากเท่าคนอื่นๆ ไม่ได้”

“ไม่เห็นจะเป็นปัญหาตรงไหน ผมชอบที่พี่เป็นดารา และผมก็ชอบดูหนังดูละครด้วย บริษัทนี้ก็เป็นของเสี่ย ซึ่งเสี่ยเป็นคนรักของพี่ชายผม ผมจะเข้ามาหาพี่ฌานตอนไหนก็ไม่มีใครสงสัย และผมตั้งใจแล้ว...ว่าหลังเรียนจบจะมาสมัครเป็นผู้จัดการถาวร พี่ฌานจะได้ไม่เหงา มีความสุขในทุกๆ วันเลย ไม่ดีเหรอครับ”

“ดีสิ...ดีมากๆ แต่นี่เป็นรักแรกของน้องเจ เป็นความหวั่นไหวครั้งแรกของน้องเจ พี่รู้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะพี่รุกจีบไวเกินไป แต่น้องเจจะมั่นใจได้ยังไงว่าเลือกพี่นั้นดีแล้ว น้องเจยังเด็ก ยังมีตัวเลือกอีกเยอะ ถ้าน้องเจเปิดใจพิจารณาดีๆ น้องเจจะเจอคนที่ดีกว่าพี่อีกมาก”

“ถึงจะเป็นความรักครั้งแรก ความหวั่นไหวครั้งแรก แต่พี่ฌานก็เป็นคนแรกที่ทำให้ผมยอมเปิดใจ เมื่อผมเลือกแล้วก็จะไม่เสียใจทีหลัง และต่อให้อนาคตเจอคนที่ดีกว่าพี่ฌาน ไม่ว่าจะเพศอะไร ผมก็ไม่รู้สึกผิดที่เลือกพี่ เพราะผมรักพี่ไปแล้ว พี่ฌานจะให้ผมมีหัวใจหลายดวง รักใครอีกหลายคนพร้อมกันไม่ได้หรอกนะครับ” ผมเอ่ยพร้อมช้อนตามองกึ่งงอนที่จนป่านนี้ยังหาเหตุผลสารพัดอย่างมาอ้างอยู่ได้ แม้จะรู้ว่าทำเพราะห่วง แต่คนออกปากขอคบน่ะใช้ความกล้ามากนะรู้มั้ย ให้พูดอีกทีก็ไม่รู้จะเหมือนเดิมหรือเปล่า

“พี่ฌานต้องรับผิดชอบผมสิที่ทำให้รักไปแล้วอ่ะ”

พูดจบก็แอบฮึ่มในใจเบาๆ ดูซิว่าจะมาไม้ไหนอีก!

ผลคือนิฌานยอมจำนนต่อหลักฐาน มองผมด้วยสายตาอ่อนระทวยด้วยความรักและหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แค่เห็น...ก็รู้เลยว่าเขาตกหลุมผมจนจมมิดหัวแล้ว

“นี่คือแผนเซอร์ไพรส์พี่เหรอครับ” นิฌานกระแอมไอแก้เก้อ

“ใช่ครับ แต่ความจริง...ผมเขียนลงในการ์ด...”  ผมเอ่ยพลางมองคนที่รุกคืบเข้าหาอย่างงุนงงว่าจะทำอะไร “พี่ฌานมองผมใกล้ขนาดนี้ทำไมอ่ะ”

“พี่กำลังมองว่าน้องเจปากแตกแบบนี้จะจูบไหวรึเปล่า”

วะ...ว่าไงนะ!

ผมหน้าแดงก่ำกับประโยคน่าอายที่โพล่งออกมาไม่ทันตั้งตัว

“น่าจะไหวนะ จูบแรกของเรา เอาเบาๆ ก็แล้วกันเนอะ”

ยังจะมาเนอะอะไรอีก!

ผมมองคนหน้าด้านหน้าทนที่เพ่งพิศพิจารณารอยแตกมุมปากของผมอย่างตั้งอกตั้งใจ

“เห็นชอบครับ”

“ครับ?” ผมซึ่งสติกระเจิงไปแล้วเริ่มจับใจความไม่ทันว่าเขาต้องการสื่ออะไร เพราะนิฌานพูดไปพลางก็ยื่นหน้าเข้าใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ

“คำตอบของน้องเจที่บอกว่าเราคงต้องคู่กัน คบกันไปนานๆ แล้วล่ะ พี่เห็นชอบครับ” พอมองในระยะประชิดแบบนี้ จึงเห็นอย่างชัดเจนว่าดวงตาของเขาประกายวับวาวขนาดไหน

มันสวยมาก

“แล้วน้องเจล่ะเห็นชอบมั้ย”

“ครับ?”

นิฌานไม่ตอบ แต่เลื่อนสายตามาหยุดที่ริมฝีปากผม เป็นอันสื่อว่าผมเห็นชอบมั้ยหากเขาจะขอจูบเบาๆ บนปากแตกๆ ที่ซึมเลือดของผม

มาถึงขั้นนี้แล้ว...

“เห็นชอบครับ”

ก็ต้องไปให้สุดละวะ!

.........

.....

ผมไม่อยากจะบรรยายเลย ต้องพูดจริงๆ เหรอ

เอ่อ...เอาเป็นว่าจูบแรกของเรา ผมมองเขาตาแป๋ว ส่วนนิฌานก็ประกบปากลงมาด้วยสายตากระเซ้าแซว เพราะกลัวแผลสะเทือน เลยแค่แตะ นาบ แนบ ยู่ปากเป็นเสียงจุ๊บชวนจั๊กจี้แล้วค่อยถอนตัวออกไป

ผมลูบสัมผัสที่ร้อนรุ่มจากริมฝีปากไล่ไปทั้งหน้าก่อนจะชะงักเมื่อเพิ่งสังเกตว่าประตูเปิดอยู่...

ตรงนั้นมีเลขาคมสัน บอดี้การ์ดชื่อเบิ้ม และ...

“ไม่นะ เจโดนเคลมแล้ว! ไม่ ม่ายยย!!”

พี่จิ พี่ชายของผมเอง

--------------

เรียบร้อยโรงเรียนนิฌานค่ะ เอาน้องเจไปครองแล้ว โฮ
ใจหนึ่งก็เสียดาย แต่อีกใจก็ยินดีกับน้องเจด้วย เพราะนิฌานก็ดูแลน้องเจดีจริงๆ ช่วยดุช่วยสอน ในส่วนที่บางทีหนูจิหรือพ่อแม่ก็ปรามไม่ได้ สองคนนี้สมกันแล้วล่ะค่ะ
เป็นลมล้มตายกับคำพูดน้องเจมาก ฮือ ให้รับผิดชอบที่ทำให้น้องรักเหรอ ทางนี้อยากจะจับอุ้มไปรับผิดชอบให้ทั้งชีวิตเลย QAQ

#น้องเจที่น่าลัก
Twitter : @MajaYnaja  (https://twitter.com/MajaYnaja)
เพจนักเขียนที่มองส่ง เปิดเพลง ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์~ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

ปล.ใครรอฉากเอ็นซี น่าจะอีกสักพักเลยค่ะ เพราะน้องเจยังเด็ก ไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้ด้วย จะรีบคลุมโปงเหมือนเสี่ยคนหื่น หรือเตโชผู้หิวโหยคงไม่ไวไฟปานนั้น ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากแต่งนะ แต่มันเป็นไปตามบริบทเรื่องค่า <3

ลบข้อความออกนะคะ
เรื่องยังอยู่ห้องนิยาย นิยายยังลงไม่จบ
ห้าม ประชาสัมพันธ์ หรือ เปิดจอง ในรูปแบบหนังสือใดๆ ทั้งสิ้นในกระทู้

ผิดกฏ ข้อที่ 17 ค่ะ

แจ้งเตือน ครั้งที่ 1
Moderator BaoBao
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-08-2018 13:23:17
พี่จิ น้องเจโดนล่อลวงค่ะ

ทวงน้องเจ คืนมาค่ะ


ไม่ให้ค่ะ 


ปั่นเข้าไปป


555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-08-2018 13:32:18
ตอนที่บอกจะขอคบนี่เราอึ้งไปเลย ไม่นะน้องเจหนูรู้ใจตัวเองก็จริงแต่ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้นะลูกนะ อยากจะร้องโหยหวนด้วยความทำใจไม่ได้แบบพี่จิจริงๆเลย  :ling1: :z3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 01-08-2018 14:02:53
เป็นแฟนกันแน้ววววววววว เย่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-08-2018 14:30:33
คบกันแล้ว แถมยังมีพยานรักอีกสามหน่อด้วยนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-08-2018 14:46:53
จิ ยังคงเป็นจิ..........
พูดเยิ่นเย้อ น้ำไหลไฟดับ กว่าจะเข้าเรื่อง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
สมกับเสี่ยที่แทบไม่พูดเลย  :hao3:

นิฌาน ใจอ่อนระทวยกับคำสารภาพรักของน้องเจ แต่ตัวแข็ง นิ่งซะนี่   :o8: :-[ :impress2:
นิฌาน   เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2018 15:00:17
มุ่งมิ้งๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-08-2018 15:23:48
 :serius2: น้องเจม่ายยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-08-2018 17:04:41
เป็นแฟนกันสักที :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-08-2018 18:53:53
 :mc4:



 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-08-2018 21:17:30
พี่จิใจบางเหลือเกิน  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-08-2018 22:42:03
เป็นแฟนกันแล้ววววว น้องเจน่ารักมากเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-08-2018 23:11:40
ในที่สุดก็ได้เป็นแฟนกันซะที 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 02-08-2018 00:22:24
ดูจากนิสัยนิฌาน ยังไงก็ยอมน้องเจอยู่แล้ว ถ้าได้คบกันนิฌานไม่ปล่อยน้องเจให้ใครแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 02-08-2018 04:08:33
 :laugh: :laugh: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-08-2018 05:18:19
ตั้ลลักกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-08-2018 07:25:07
 :laugh: สักขีพยานเพียบเลยน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-08-2018 12:09:24
มันฮาตรงพี่จินี่แหละ ไม่นะน้องเจโดนเคลม ไม่ ม่ายยยยย :serius2: :serius2: :serius2: 5555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-08-2018 14:30:44
พี่จิรับไม่ด๊ายยยยยยย 55555555
แต่ว่าเราโอเคร เราเห็นชอบ!! ^0^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 25 - P.19 - [01/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 02-08-2018 19:43:32
***ลบข้อความ****
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - แจ้งข่าวหนังสือ - P.20
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-08-2018 20:34:20
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 04-08-2018 10:17:06
ตอนที่ 26 : ปฐมนิเทศ


กว่าจะอธิบายให้พี่จิคนดีเข้าใจเล่นเอาเหงื่อตก

เพราะพี่ชายผมขยันพูดแทรกตลอดเลย! แต่พี่จิเป็นคนเข้าใจง่าย และรักน้อง ฉะนั้นเมื่อถามย้ำว่าผมแน่ใจนะ มั่นใจนะ แล้วผมพยักหน้ารับ จากคัดค้านสุดกำลังก็ยิ้มยอมรับเหมือนไม่เคยตั้งป้อม

คนอะไรอารมณ์เปลี่ยนไวยิ่งกว่าสี่จี

ครอบครัวทองคำดียอมรับแล้ว ส่วนครอบครัวชาญชัยไม่ต้องห่วง เพราะแม่ของเขาเข้าใจว่าผมลูกชายเธอคบกันอยู่นาน วันนั้นเลยถ่ายรูปคู่ส่งไปให้ พร้อมข้อความว่า ‘วันนี้ก็ยังรักกันดี’

เลี่ยนสุดๆ

แต่แม่นิฌานส่งสติกเกอร์รับรู้มาด้วยละ!

เอาจริงๆ แล้วผมอยากจะนัดเจอเธอ อธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง แต่โดนนิฌานห้าม บอกว่าตอนนี้ยังไม่สะดวก เอาให้ถ่ายเช็กเมทจบก่อนค่อยว่ากัน เพราะเห็นทุกอย่างเป็นไปได้สวยขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจู่ๆ จะนึกอุตริขึ้นมารึเปล่า

ช่างเป็นคนมองแม่ในแง่ร้ายเหลือเกิน

แต่ผมก็พยักหน้าเออออตามเขา ตอนนี้เช็กเมทสำคัญที่สุด! เพราะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว!

ขณะเดียวกัน...ชีวิตในฐานะนักศึกษาเฟรชชี่ของผมก็กำลังจะเริ่มต้น!

“เจ เสร็จรึยังลูก”

“เสร็จแล้วครับ!” ผมตอบแม้จะไม่วายหันไปส่องกระจกดูเงาสะท้อนตัวเองในชุดนักศึกษา ตอนนี้นายเจตรินกลับมาสวมต่างหู เสยผมเท่ๆ ถอดแว่น ทำให้ดูเกเรหน้าร้ายไม่เบา บวกกับพลาสเตอร์แปะมุมปากที่ยังเป็นรอยแตกช้ำ เชื่อสิว่าจะไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยแน่นอน!

สร้างภาพลักษณ์น่ายำเกรงตั้งแต่วันแรกพบ ดีกว่าเป็นเด็กเนิร์ดให้โดนแกล้ง ผมพยักหน้าพอใจกับตัวเอง ก่อนจะเดินไปเปิดประตู

“เข้ากับเจมากเลยลูก” นางจรวยมองผมในชุดนักศึกษาน้ำตาปริ่ม

“ดูโตขึ้นมากเลยนะ” นายฉัตรชัยเอ่ยเสียงขรึม มองลูกชายคนเล็กอย่างภูมิใจ

พวกเราสามคนส่งสายตาปลื้มปริ่มไปมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขสงบ จนกระทั่ง...

“พ่อ แม่ ไอ้น้อง! รถมาแล้ว!!!”

พี่จิวิ่งขึ้นบันไดเสียงดังตึงตัง

“จิ อย่าวิ่งสิลูก มันอันตราย!”

“ขอโทษครับแม่” ผู้ชายตัวสูงโปร่งผิวเข้มคล้ำหน้าคมคายก้มหน้างุดๆ เมื่อถูกนางจรวยขึ้นเสียงใส่ ก่อนจะกลายเป็นฉีกยิ้มเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าประตู “ไอ้น้อง หล่อขึ้นจมเลย หล่อเหมือนพี่ชายเอ็งตอนเข้ามหาลัยไม่มีผิด ตอนนั้นนะ พี่ฝากวีรกรรมสะดุดล้มที่หน้าบันไดตอนเดินขึ้นห้องประชุมด้วย ล้มเดียว คนจำได้ยันเรียนจบ เจอยากลองมั้ย เป็นการสร้างความประทับใจแรกพบที่ดีนะ!”

“เหอๆ ไม่เอาอ่ะพี่จิ” ผมตอบพี่ชาย ก่อนจะเดินลงชั้นล่างซึ่งมีรถคันหรูจอดรอ

มาถึงตรงนี้ก็ขอพื้นที่อธิบายสักหน่อย

อะแฮ่ม! วันนี้คือวันปฐมนิเทศของผม นายเจตริน ทองคำดีครับ!

พ่อ แม่ พี่จิ ตื่นเต้นมาก ถึงขนาดยอมหยุดงาน แถมพี่ชายยังไปอ้อนเสี่ย ขอรถกับคนขับอย่างเบิ้มช่วยพาครอบครัวไปส่งผมที่มหาลัยด้วย ทุกคนตื่นเต้นดีใจ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าแค่งานปฐมนิเทศยังขนาดนี้ ถ้าเกิดเป็นงานรับปริญญา...จะขนาดไหน

แต่ถึงจะดูวุ่นวายไปสักนิด คนเยอะไปสักหน่อย ก็อุ่นใจดี

“เจโทรบอกนิฌานยังลูก” นางจรวยเอ่ยทักเมื่อพวกเราเริ่มออกเดินทาง ความจริงแล้วสัญญาของผมยังไม่หมด แต่ผมขอลากิจชั่วคราวเพราะมีพิธีสำคัญ นิฌานเองก็เข้าใจ เขาอยากเป็นหนึ่งในกลุ่มคนมาส่งผมด้วยซ้ำ แต่ทำไม่ได้เพราะติดถ่ายเช็กเมท

“เขาเข้ากองอยู่ ผมเลยส่งข้อความไปแทนครับ” ผมบอก ไม่เห็นว่าเรื่องเวลาเป็นปัญหา ผมเข้าใจเขา นิฌานก็เข้าใจผม จะมีก็แต่ครอบครัวทองคำดีเนี่ยแหละที่กลัวว่าหลังหมดสัญญา ผมไปเรียนตามปกติ ส่วนนิฌานทำงานแทบทุกวี่ทุกวัน จะกลายเป็นความสัมพันธ์จืดจาง จนกระตุ้นให้ผมอย่าปล่อยผ่าน มีอะไรก็ให้โทรหานิฌานไว้ก่อน

คนในครอบครัวดูจะลุ้นยิ่งกว่าพวกเราสองคนซะอีก!

มหาลัยของผมค่อนข้างไกลจากบ้านทองคำดี เลยใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะถึงที่หมาย วันนี้เป็นกรณีพิเศษ มีคนมารับส่งถึงที่ แต่ตอนเปิดเรียนคงจะต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์ต่อรถไฟฟ้า เดินอีกสักนิดก็ไม่นับเป็นปัญหา

ใช่ ไอ้การเดินทางน่ะไม่เป็นปัญหา เพราะคิดคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วชวนเหงื่อตกกว่าเยอะ! รถไฟฟ้าราคาขึ้นทุกปี ไป-กลับร้อยกว่าบาท ถ้าเป็นไปได้ผมอยากขึ้นรถเมล์มากกว่า เสียดายที่ไม่มีสายไหนต่อตรงจากแถวบ้านเลย ต้องลงคันนี้ต่อคันนู้น ลงคันนู้นต่อคันโน้น กะเวลาเดินทางยากมาก เคยอ่านกระทู้พันทิปมั้ยครับ รอรถเมล์สามชั่วโมงจนร้องไห้น่ะ นั่นเรื่องจริงนะ!

โชคดี ที่เงินจากค่าจ้างผู้จัดการมีเหลือเฟือ นึกแล้วก็ยิ้มดีใจ คิดถูกจริงๆ ที่รับงานนี้ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้ง...แฟน

อะแฮ่ม! กลับเข้าเรื่องก่อนดีกว่า เพราะพอถึงมหาลัย ผมก็เริ่มจะเขินๆ ขึ้นมา ดูแต่ละคนสิ มีผู้ปกครองมาส่งก็แค่หนึ่งถึงสองคน บางคนมาคนเดียวอย่างมาดมั่น พอหันมองตัวเอง...รู้สึกคล้ายเด็กยังไม่โต

แต่จะหักใจบอกให้พ่อกับแม่กลับก่อนก็ทำไม่ลง ผมหันมายิ้มให้ครอบครัวเป็นเชิงไม่คิดมาก ยังไงซะความรู้สึกของคนใกล้ชิดก็สำคัญที่สุด!

“ผมขึ้นห้องประชุมก่อนนะครับ” ผมหันมาไหว้ผู้ให้กำเนิดทั้งสอง

“พยายามหาเพื่อนเข้านะเจ” พ่อกำชับ

“ใช่ๆ อย่าเอาแต่นั่งหน้าบึ้ง ทำตาขวางใส่คนอื่นนะลูก” แม่ส่งเสริม

“หรือถ้าโดนหาเรื่องก็ไม่ต้องกลัว โยนอันธพาลพวกนั้นมาเจอพี่ได้เลยนะไอ้น้องเอ๊ย!” พี่จิตบท้าย

เฮ้ๆ พวกเขายังเห็นผมอยู่ในวัยต่อต้านอีกเหรอ ผมค้อนตาประหลับประเหลือกใส่ ไม่หือไม่อือแล้วรีบเดินเข้าห้องประชุมพร้อมนักศึกษาคนอื่นๆ

พิธีปฐมเทศ ถึงจะฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ความจริงแล้วเป็นการแนะนำสถาบัน แนะนำการเรียนการสอนและกิจกรรมอื่นๆ ตอนแรกก็ฮึกเหิมตื่นเต้นอยู่หรอก แต่พอผ่านไปหนึ่งชั่วโมง...ก็เริ่มมีคนสัปหงก

ผมเองก็หาวไปหลายรอบ เลยตัดสินใจมองซ้ายมองขวา ผูกมิตรคนใกล้ตัวไม่ให้ครอบครัวทองคำดีหยามว่าไร้มนุษยสัมพันธ์

“ไง” ผมทักคนใส่แว่นกลมกรอบดำที่นั่งติดด้านขวา การแต่งตัวเนี้ยบเป๊ะจนมั่นใจได้ว่าเป็นคนดีแน่นอน เผลอๆ จะดีจนโดนล้อว่าติ๋มบ่อยๆ ด้วยซ้ำ “เราชื่อเจนะ นายชื่อไร”

“ระ...เราชื่อติ๋ม ยินดีที่ได้รู้จัก”

ชื่อติ๋มจริงด้วยเฮ้ย!

ผมอึ้ง ยิ่งทำให้คนข้างตัวประหม่าจนหงอ เผยหน้าเศร้า สงสัยจะโดนล้อชื่อมาแต่เด็ก แถมยังพูดตะกุกตะกักเหมือนติดอ่าง ตัดสินใจแล้ว ผมจะเป็นเพื่อนกับหมอนี่แหละ ไม่มีพิษภัย ไม่คิดร้าย ไม่แว้งกัดแน่นอน!

ฉันเลือกนาย ติ๋ม!

“แลกไลน์กันมั้ย” เสียก็แต่หน้าช้ำๆ ของผมชวนหาเรื่องไม่เบา ติ๋มเลยกลัวตัวสั่น น้ำตาจะไหลกับการคุกคามครั้งนี้

“ดะ...ได้”

ผมถอนหายใจ ทำไมเหมือนไปบังคับขู่เข็ญเลยล่ะเนี่ย เห็นเขากลัวขนาดนั้นเลยไม่กล้าชวนคุยต่อ นั่งมองรอบๆ พลางสำรวจนักศึกษาแต่ละคนแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าแฟนผมเนี่ยหน้าตาดีที่หนึ่งเลยจริงๆ!

แหงล่ะ นิฌานเป็นดารานี่หว่า!

อาการแบบนี้เรียกว่าเห่อแฟนใช่มั้ยนะ ผมนึกขำตัวเอง จนหลุดหัวเราะแล้วส่ายหน้าเบาๆ

พลันติ๋มมองผมด้วยสายตาเปลี่ยนไป

ไหนๆ ก็หลุดยิ้มแล้วเลยหันไปยิ้มให้เขา หวังสานสัมพันธ์เพื่อนสนิท

ปรากฏติ๋มก้มงุดๆ ผวากว่าเดิม...เฮ้ ไม่ได้จะโปรยเสน่ห์ใส่ จะกลัวทำไม!

“เรามีแฟนแล้วน่า” ผมรีบบอกติ๋ม ตบไหล่เขาเบาๆ “เป็นเพื่อนกันนะ”

“นะ...นายอยากเป็นเพื่อนกับเราเหรอ”

“อืม!”

แล้วผมก็ตกเพื่อนได้หนึ่งคน

หลังจบพิธีปฐมนิเทศ เด็กทุนถูกเรียกไปรายงานตัวเพื่อฟังข้อแนะนำเพิ่มเติม อย่างเกรดที่ต้องรักษาไว้ และการทำงานรายชั่วโมงให้ทางมหาลัยเป็นการแลกเปลี่ยน

ติ๋มเองก็เป็นเด็กทุนด้วย บุญพาวาสนาส่งจริงๆ!

“ติ๋ม รีบกลับมั้ย”

“มะ...ไม่รีบ มีอะไรเหรอ”  ติ๋มสะดุ้ง เหมือนกลัวถูกฉุดไปไถเงิน

“ไปด้วยกันแป๊บนึงดิ” พูดจบ พวกเราที่รายงานตัวกับทางมหาลัยเสร็จแล้วก็รายงานตัวกับบ้านทองคำดีอีกต่อ ผมยืดอกพอใจมากเมื่อพาติ๋มมาเจอพ่อ แม่ และพี่จิ เพราะทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเลือกได้ดี!

“ติ๋มกลับไงเหรอลูก” นางจรวยปฏิบัติการนับญาติทันควัน แต่ละคนเองก็เริ่มรุมให้ติ๋มเป็นไข่แดงตรงกลาง

อย่าขยับ! ครอบครัวทองคำดีล้อมไว้หมดแล้ว!

“นั่งรถกลับด้วยกันมั้ย”

“ติ๋มกินอะไรมารึยัง”

“ฝากดูแลเจด้วยนะติ๋ม”

ติ๋มผู้หวาดกลัวตัวสั่น เมื่อเจอรัศมีอบอุ่นอ่อนโยนของครอบครัวทองคำดีกล่อมเกลาระยะประชิดก็เลิกกลัวผม จากพูดตะกุกตะกักก็เริ่มพูดคล่องขึ้น สรุปแล้วเขาจะติดอ่างเฉพาะเวลาตกใจหรือประหม่าสินะ ผมจะจำไว้

“แล้วเจอกันวันเปิดเรียนนะ!” ผมโบกมือลาเพื่อนใหม่ที่ขอตัวเพราะมีคนมารอรับ จากนั้นพวกเราก็ขึ้นรถ แวะกินข้าว ก่อนจะกลับบ้าน

ถึงห้องปุ๊บผมก็รีบถอดเสื้อนักศึกษา เปลี่ยนเป็นเสื้อเชิ้ตและเสื้อคลุมสีสุภาพ ปัดทรงผมให้ดูเรียบร้อย ถอดต่างหู หยิบแว่นมาสวม คว้าป้ายพนักงานใส่กระเป๋า จากนั้นก็วิ่งลงบันได ขึ้นรถที่พี่จิกับเบิ้มรออยู่

วันนี้ผมขอลาครึ่งวัน ยังต้องไปทำงานอยู่นะ!

เมื่อถึงบริษัทเอ็มเอชเอ็น เอนเตอร์เทนเมนต์เราสองพี่น้องก็แยกย้าย พี่จิขึ้นไปหาเสี่ยชั้นบนสุด ส่วนผมไปชั้นสี่อันเป็นสตูดิโอถ่ายทำเช็กเมท

“อ้าว น้องเจ มาแล้วเหรอ”

“สวัสดีครับ ขอโทษที่วันนี้มาช้านะครับ” ผมยกมือไหว้ทีมงานในกอง หันไปเห็นนิฌานกำลังเข้าฉาก สวมบทบาทพี่ชายมิสเตอร์เอสที่กำลังระดมสมองกับพวกพระเอกว่าจะจัดการกับหัวหน้าตำรวจอย่างไรดี

“ไม่ ฉันจะไม่ใช้เธอเป็นเหยื่อล่อเด็ดขาด!”

แผนการแรกอันชั่วร้าย คือให้พระเอกจับลูกสาวของหัวหน้าตำรวจเป็นตัวประกัน

หลายคนพากันถกเถียง แต่พระเอกยื่นคำขาด โมจัง ซึ่งแสดงเป็นอดีตคู่ขาก็โดนเดธแฟลกปักไปแล้ว พระเอกเลยไม่ยอมให้ผู้หญิงคนอื่นต้องมาซวยไปด้วย และสุดท้าย...ก็มาลงที่แผนการซึ่งทุกคนเห็นชอบ

“ถ้าอย่างงั้น...ก็คงต้องใช้ตัวนายเองล่อแล้วล่ะ!”

ธนัทเอ่ยปิดฉาก ผู้กำกับขานเสียงดัง

“คัต!”

เหล่านักแสดงได้พักกองชั่วคราวเพื่อให้ทีมงานจัดฉากใหม่เตรียมถ่ายต่อ ตอนแรกนิฌานทำหน้ากังวล แต่พอเห็นผมถือน้ำรอ ก็รีบปรี่เข้าหาแทบอดใจไม่ไหว

“พิธีปฐมนิเทศเป็นยังไงบ้างครับน้องเจ”

นึกว่ากังวลเรื่องการแสดง แต่ห่วงผมหรอกเรอะ!

“ก็ดีครับ ผมมีเพื่อนใหม่ด้วย ชื่อติ๋ม” ผมพูดพลางเปิดรูปถ่ายของติ๋มให้ดู นิฌานพยักหน้าหงึกหงัก ให้สามผ่านเหมือนครอบครัวทองคำดี

“เลือกได้เยี่ยมมาก! ดูปลอดภัย ไม่ตีท้ายครัวคนอื่นแน่นอน!”

“เหอๆ” ผมหัวเราะแห้งๆ กับท่าทางเกินจริงของนิฌาน

“อ้าว น้องเจไปงานปฐมนิเทศมาหรอกเหรอ” พลันธนัทแทรกกลางวง พร้อมด้วยอัครเดชและพายที่ร่วมก๊วนด้วย “เอ๊ะ ถ้าจำไม่ผิดสัญญาน้องเจจะหมดแล้วนี่ แย่จัง ระหว่างพี่ฌานกับน้องเจ ผมยังอยากเห็นหน้าน้องเจในกองมากกว่าดารารุ่นเดอะอย่างพี่ฌานอีก”

“ปากร้ายนะเรา” นิฌานแสร้งแยกเขี้ยวทำเสียงดุ

“ครับ อาทิตย์หน้าก็หมดสัญญาแล้ว” ผมมองเมินคนรักได้เป็นธรรมชาติสุดๆ พวกเราไม่ค่อยแตะเนื้อต้องตัวประเจิดประเจ้อในกองมากนัก หนักสุดก็แค่กอดคอ โอบไหล่ ไม่เคยจับมือ นั่งชิด โอบเอว หรือยื่นหน้าใกล้กันเกินเหตุ

“กองนี้คงขาดสีสันแย่” ทีมงานที่ผ่านมาได้ยินพอดีพลอยมารวมกลุ่มด้วย “หาเด็กอายุสิบแปด ใสๆ น่ารักอย่างน้องเจยากมากเลย ความกระชุ่มกระชวย พลังงานอันบริสุทธิ์...”

“คุกคาม คุกคามแล้ว!” นิฌานยืนขวางหน้าผม เล่นใหญ่จนเรียกเสียงหัวเราะเฮฮาจากคนอื่นๆ ผู้กำกับเองก็มาคุยด้วย พอรู้ว่าใกล้จะแยกจากก็เอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน ถ้าไม่ติดว่าคิวถ่ายกระชั้นชิดคงเลี้ยงส่งเป็นการเป็นงานกว่านี้ สุดท้ายเลยจบที่...สั่งพิซซ่ามาฉลอง

“เย้!” ธนัทดีใจ สลายตัวไปท่องบทราวบรรลุจุดประสงค์การก่อกวน ส่วนอัครเดชกับนิฌานมองหน้ากันยิ้มเจื่อน

เพราะสองพระเอกชื่อดังประจำช่องต่างต้องดูแลรูปร่างตัวเองให้ดี!

ผมล่ะแสนสงสาร ดึงเขาให้ก้มหน้าลงเพื่อกระซิบว่า ”ถ้าพี่นิฌานจะแอบกินพิซซ่าสักชิ้น ไขมันคงไม่รู้ตัวหรอก ผมไม่บอก พี่ไม่บอก ไขมันก็ไม่รู้”

“นั่นสิเนอะ แค่ชิ้นเดียวเอง ค่อยไปออกกำลังกายทีหลังก็ได้” มองสายตาวับๆ วาวๆ ของนิฌาน ผมก็เผลอคิดไกลจนถึง...เอ่อ...กิจกรรมใต้ร่มผ้า “คิดอะไรเนี่ยน้องเจ พี่หมายถึงออกกำลังกายปกติไม่ใช่อย่างอื่นสักหน่อย!”

“ผมไม่ได้ตั้งใจ สมองมันลามกเอง!”

“แสดงว่าต้องแอบคิดๆ บ้างแหละ ไม่งั้นสมองจะสั่งงานไวขนาดนี้ได้ยังไง” นิฌานพูดยิ้มๆ “โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วครับ พี่พูดเล่นเนอะ ไหน น้องเจส่งรูปชุดนักศึกษาให้แม่พี่หรือยัง”

เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน เด็กวัยรุ่นที่ศึกษาเรื่องสิบแปดบวกแต่ไร้ประสบการณ์อย่างผมก็รีบรับไม้ต่อทันที

“ยังเลยครับ ปกติผมส่งแต่รูปพี่ฌานไม่ก็รูปคู่ ไม่เคยส่งรูปเดี่ยวตัวเองให้เลย” ก็ผมไม่ใช่ลูกชายของเธอ จู่ๆ ส่งรูปตัวเองไปอวดว่าใส่ชุดนักศึกษา ใกล้จะเปิดเทอมแล้วนะ ไม่ประหลาดไปหน่อยเหรอ

“ลองบอกสิ” นิฌานคะยั้นคะยอ “เผื่อจะตอบอะไรกลับมา”

มองท่าทางกระตือรือร้นนั้นแล้วขัดไม่ได้เลยจริงๆ บางทีนิฌานคงอยากคุยกับแม่ตัวเอง แต่ไม่รู้จะพูดอะไรเลยใช้ผมเป็นสื่อกลาง คิดไปคิดมา...ที่แม่เขาเริ่มโต้ตอบกับผมอาจจะคิดคล้ายๆ กันก็ได้

อยากคุย แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง อ้างเรื่องงานก็ไม่ได้ เรื่องตัวเองก็ไม่ดี ทิฐิสูงลิ่ว อคติค้ำคอ งั้น...ใช้สะพานเชื่อม!

แหม ใช้คุ้มกันเลยนะสองแม่ลูกปากหนักคู่นี้

ผมยิ้มๆ อย่างไม่คิดมาก ก่อนจะกดส่งรูปนักศึกษาในวันนี้ให้แม่ของเขา

ปรากฏเธอตอบกลับไวมากจนตกใจเลย!

- เปิดเทอมเมื่อไหร่คะ –

ผมพิมพ์ตอบ เธอส่งสติกเกอร์โอเค ก่อนจะส่งท้ายด้วยข้อความอวยพร

- ตั้งใจเรียนนะคะ –

ผมอ่านแล้วก็เงยมองนิฌานที่ชะโงกหน้าดูตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความงุนงง ถึงจะรู้ว่าหน้าที่สะพานเชื่อมประสบความสำเร็จ แต่นี่ก็ออกจะชวนมึนอยู่นะว่าสำเร็จจริงหรือเธอเข้าใจผิดว่าใครเป็นลูกชายกันแน่

“แม่พี่บอกให้ผมตั้งใจเรียนด้วยอ่ะ”

“ดีแล้วครับ ขนาดกับพี่แม่ยังไม่เคยบอกให้ตั้งใจเรียนเลย มีแต่ให้ตั้งใจทำงานดีๆ ห้ามป่วยห้ามลาห้ามตาย” นิฌานเอ่ยทั้งรอยยิ้มบางกึ่งรำพึงรำพัน เขาดีใจกับความคืบหน้านี้ แต่บางทีก็อดจะเปรียบเทียบขึ้นมาไม่ได้

มามุกสลดอย่างนี้ ก็มีแต่ต้อง...

“ตั้งใจทำงานดีๆ นะครับพี่ฌาน”

ให้กำลังใจแทนแม่เขาล่ะนะ!

เฮ้อ เอาใจคนแม่แล้วก็เอาใจคนลูกต่อ นายเจตรินช่างประเสริฐเหลือเกิน

“ขอบคุณครับน้องเจ” นิฌานลูบหัวผมสามทีอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะเดินไปดูฉาก เตรียมซ้อมบทกับนักแสดงคนอื่น

ผมก้มมองโทรศัพท์ตัวเอง อ่านคำอวยพรให้ตั้งใจเรียนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเค้นสมองว่าควรทำยังไงให้คนปากหนักสองคนหันหน้าคุยกันดีๆ บ้างนะ

ความสัมพันธ์ของผมกับนิฌานก็คืบหน้าแล้ว สายใยแม่ลูกก็ได้เวลาต้องเดินหน้าบ้างแล้วล่ะ ฮุยเลฮุย!

---------

วันนี้มาเบาๆ กับน้องเจที่ใกล้จะได้เปิดเทอมกันแล้วค่ะ

ไม่เจอน้องเจในกองก็ใจหาย แต่คนที่แทบขาดใจคงเป็นนิฌาน สำหรับเช็กเมทตอนจบไม่ต้องห่วงนะคะ ไม่เห็นตอนถ่ายทำ แต่เดี๋ยวได้ดูพร้อมกับน้องเจบนหน้าจอแน่นอน!!

#น้องเจที่น่าลัก

Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
เพจนักเขียนที่อยากเห็นน้องเจชุดนักศึกษาบ้างจังน้า (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-08-2018 11:20:34
น้องเจน่ารัก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 04-08-2018 11:51:04
น้องเจน่าลัก น้องเจน่าลัก น้องเจน่าลัก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-08-2018 12:23:37
พอน้องเจใส่ชุดนักศึกษาพี่ฌานดูเป็นตาแก่ไปเลย 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 04-08-2018 17:01:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-08-2018 17:15:18
ถ้าพี่ฌานเห็นน้องเจใส่ชุดนักศึกษา จะเป็นยังงัยน้า.  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-08-2018 17:46:53
อยากรู้จักน้องติ๋มให้มากกว่านี้  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 26 - P.20 [UP : 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-08-2018 20:01:12
ความหลงน้องเจยังคงเส้นคงวามากกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [05/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 04-08-2018 20:15:50
ตอนที่ 27 : มาตรการสะพานเชื่อม


เพราะใกล้จะหมดสัญญาแล้ว ช่วงนี้ผมเลยถ่ายรูปนิฌานเยอะเป็นเท่าตัว

จากเดิมส่งให้แม่ของเขาวันละสามถึงสี่รูป กลายเป็นรายงานแทบทุกชั่วโมงนับตั้งแต่เริ่มงานยันเลิกงาน ถ้าวันไหนต้องนอนค้าง ก็ถึงขนาดแอบย่องไปถ่ายเขาตอนซ้อมบทในห้องน้ำ ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ เผื่อว่ามารดาเคารพรักจะแอบเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ แม้ไม่เห็นหน้าก็สัมผัสกันได้ผ่านรูปถ่าย!

ตอนแรกเกรงว่าจะโดนรำคาญอยู่เหมือนกัน แต่แม่นิฌานไม่ตอบอะไร อ่านแล้วก็เงียบ มีโต้ตอบบ้างเวลาผมชวนคุยเรื่องตัวเอง

ฮึ่ม ปากแข็ง ปากหนักแบบนี้ต้องใช้ไม้เด็ด!

“พี่ฌาน ถ่ายวีดีโอกันเถอะ!”

เมื่อรูปถ่ายไม่เพียงพอ ก็ต้องใช้ภาพเคลื่อนไหวเป็นสื่อกลาง!

เสียดายที่นิฌานเข้าใจผิด คิดว่าผมจะถ่ายวีดีโอส่งท้ายก่อนจะหมดสัญญาในวันพรุ่งนี้ ถึงได้รีบวิ่งมาด้วยความไวเสียงมานั่งจุ้มปุ๊กข้างๆ เตรียมนวยเนียแสดงความหวานเก็บไว้ดูย้อมใจเวลาต้องห่างกัน

“เก็บมือไปเลยพี่ฌาน ผมจะส่งคลิปนี้ให้แม่พี่นะ” ผมตีมือเขาที่มาถึงก็รวบเอวไปกอด นิฌานทำหน้างอออดอ้อนเป็นเชิงไม่เห็นด้วย

“จะส่งให้แม่พี่ทำไมล่ะครับ เกิดส่งต่อให้นักข่าวนี่ซวยเลยนะ”

“สัญญาผมหมดวันพรุ่งนี้แล้ว จะไม่ได้เป็นผู้จัดการให้พี่แล้ว กลัวอะไรล่ะครับ” ผมเอ่ยเสียงเรียบขณะตั้งกล้องโทรศัพท์เตรียมถ่าย “อีกอย่างผมตั้งใจจะถ่ายแบบบอกเล่าคุยเล่นกัน ไม่ได้ให้เราจี๋จ๋าโชว์คุณแม่สักหน่อย”

“ฮั่นแน่ น้องเจไม่ไว้ใจแม่พี่เหมือนกันล่ะสิเลยไม่ให้พี่จับไม่ให้พี่ทัช”

“ผมไม่กลัวแม่พี่ปล่อยคลิป แต่กลัวคนอื่นต่างหาก” ผมหันไปทำหน้าเพลียใส่นิฌานที่พยายามหาข้ออ้างไม่ให้ถ่ายวีดีโอ “อย่างช่างซ่อมโทรศัพท์ ไม่ก็เพื่อนสนิทคุณแม่ที่เปิดเจอโดยไม่ตั้งใจ ฉะนั้นพี่ฌานต้องทำตัวดีๆ เป็นเด็กดีที่ต่อให้คลิปหลุดก็สร้างชื่อเสียงให้พี่ได้ ไม่ใช่เรื่องฉาวนะครับ”

เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นสะพานเชื่อมของผมแล้ว แฟนคนดีก็ทำหน้างอนปากยื่นนิดๆ อย่างเสแสร้งเกินจริง

“พี่ฌานงอนอะไรอ่ะ ผมทำเพื่อพี่นะ” ผมจิ้มปากยื่นๆ ของเขาอย่างนึกสนุก

“ก็พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายที่น้องเจจะเป็นผู้จัดการแล้ว หลังจากนี้ไม่รู้จะหาเวลามาเจอกันตอนไหน แทนที่จะอยู่ด้วยกันสองคน เก็บเกี่ยวความหวานให้มากๆ น้องเจกลับคิดถึงแม่พี่มากกว่าพี่อีก” เรียกร้องความสนใจสำเร็จ คนตัวโตก็ยิ่งทำปากยื่น ขมุบขมิบต่อว่าผม “น้องเจใจร้าย”

ผมเบิกตากว้าง อึ้งไปครู่ใหญ่ถึงจะเพิ่งเข้าใจว่าเขากำลังเลียนแบบผมอยู่

“ทำไมพี่ฌานพูดคำว่า ‘ใจร้าย’ แล้วไม่เห็นน่ารักเลยล่ะ” ผมเอียงคอ “ไหนพูดใหม่สิครับ ขอน่ารักๆ นะ”

“น้องเจใจร้าย” นิฌานเอ่ยอย่างว่าง่าย เอียงคอตาม แถมขยิบตาใส่ ไหนกันคนขี้งอน หลุดยิ้มแล้วไม่ใช่หรือ “น้องเจใจร้าย น้องเจใจร้าย น่ารักหรือยังครับ”

“น่ารักก็ได้ครับ” ผมพยักหน้ารับขอไปที ก่อนจะปล่อยไม้ตายด้วยการหอมแก้มเขาดังฟอด มันเขี้ยวชะมัดเวลาคนตัวโตแสร้งทำเล่นอย่างนี้ “งั้นถ่ายวีดีโอกันได้แล้วเนอะ”

“น้องเจ...” นิฌานเอ่ยเสียงระโหย ลูบแก้มตัวเองแล้วรีบชี้ที่ริมฝีปาก “จูบผิดที่รึเปล่าครับ มาจูบใหม่เร็ว”

“ถ่ายวีดีโอก่อนครับพี่ฌาน” ผมเดินไปตั้งกล้องใหม่อีกครั้ง ไม่ยอมให้เขาปฏิเสธ ซึ่ง...นิฌานก็ไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว ในเมื่อหลังคบกัน คนที่เป็นฝ่ายช่วงชิงริมฝีปากก่อนคือเขาตลอด ผมไม่เคยเริ่มจูบก่อนเลย

ไอ้เขินน่ะก็ใช่ แต่หลังจากจูบกันหลายครั้งเข้าก็เริ่มชิน

สาเหตุจริงๆ ที่ผมไม่กล้าเริ่มน่ะเพราะ...เฮ้อ! ผมจูบไม่เป็น!!

อย่าลืมสิว่าผมเคยคิดเรื่องความรักที่ไหนกัน แฟนเอย คนรักเอย นู้น กองไว้ข้างๆ นู้น แล้วจู่ๆ จับพลัดจับพลูมาคบกับนิฌานปลาไหลมือปลาหมึก สุดแสนจะช่ำชองคนนี้ ผมจะกล้าจูบเขาก่อนได้ยังไง

“รีบถ่ายเร็วน้องเจ จะได้เสร็จไวๆ!” พอมีข้อแลกเปลี่ยน คนทำปากยื่นหน้างอก็ยิ้มกว้างทันควัน ผมมองคนรักอย่างละเหี่ยใจ ก่อนจะรีบปรับอารมณ์ ตั้งกล้องกดถ่ายแล้วเดินไปนั่งข้างนิฌานด้วยรอยยิ้มสุภาพพร้อมยกมือไหว้

“สวัสดีครับคุณแม่ พรุ่งนี้สัญญาผู้จัดการผมจะหมดแล้ว คงไม่มีเวลาถ่ายรูปนิฌานส่งให้เหมือนเก่า ผมกลัวคุณแม่จะเหงา ก็เลยถ่ายเป็นคลิปมาแทน เผื่อเวลาไหนที่คิดถึงกัน จะได้เปิดคลิปนี้ดู มีทั้งภาพทั้งเสียง ดีกว่ารูปถ่ายใช่มั้ยล่ะครับ” ผมพูดเองเออเองคนเดียว ก่อนจะใช้ศอกสะกิดนิฌาน ผลคือ...เขานั่งกอดอกหันข้าง ยอมถ่ายด้วยแต่ไม่คิดหันมองกล้อง

ทำตัวไม่ถูกล่ะสิเนี่ย

ผมมองคนรักอย่างเข้าใจ ไม่ได้กะให้เขายิ้มร่าพูดกับแม่ตัวเองตั้งแต่ครั้งแรก เลยทำตามแผนที่วางไว้ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายสบายใจ ให้นิฌานคลายความเครียดขึง

“วันนี้พวกเราไปเข้ากองเช็กเมทกันด้วย อีกไม่กี่ตอนเช็กเมทก็จะจบแล้ว ผมเสียใจมากๆ เสียใจมากๆๆๆ เลยครับ เพราะเรื่องมาถึงจุดไคล์แมกซ์แล้วแท้ๆ เหลืออีกแค่ไม่กี่อาทิตย์จะฉายจบ แต่ผม...ผมกลับอดดูตอนถ่ายทำฉากสำคัญซะงั้นเลย!”

พูดถึงเรื่องนี้ อินเนอร์ก็เริ่มมา

“ความจริงไม่ได้เข้ากองก็ดีอย่างนะครับ ตรงที่ไม่รู้สปอย มาลุ้นเอาผ่านหน้าจอไปเลย แต่...พอได้เข้ากองบ่อยๆ ผมก็เสพติดสปอยไปแล้วอ่ะ! ฉากที่ต้องถ่ายวันพรุ่งนี้ก็สนุกมาก พอคิดว่าต้องมาค้างเติ่งคนเดียว รู้ล่วงหน้าก่อนคนอื่นอยู่คนเดียว คุยกับใครก็ไม่ได้ แถมยังคาใจกับตอนจบอีก ผมก็...เสียใจมากๆ เลยครับ!”

พลันคนที่นั่งกอดอกหันข้าง แต่เอนหลังพิงไหล่กันตัวสั่นกึกๆ ผมหันไปมองนิฌาน เจอภาพคนตัวโตกำลังกลั้นหัวเราะอยู่พอดี

“พี่ฌานจะหัวเราะก็หัวเราะออกมาเถอะ!” ผมศอกใส่คนข้างตัว หวังให้เขามีส่วนร่วม แต่นิฌานยังใจแข็ง ไม่พูดไม่จาไม่โต้ตอบ “คุณแม่อย่าไปสนใจเขาเลย ฟังผมเล่าดีกว่า เพราะวันนี้...ผมเจอความลับอย่างหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มาก!”

การคุยคนเดียวจะว่าน่าอายก็น่าอาย แต่ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว นายเจตรินถอยกลับไม่ได้!

“พี่ฌานชอบบังคับให้ผมกินผัก แต่เขาเองก็ไม่ชอบกินผักเหมือนกัน!” พูดจบก็หัวเราะสะใจ “วันนี้ที่กองมีมะระยัดไส้ สร้างเสริมสุขภาพให้นักแสดง แต่พี่ฌานควักแต่ไส้มากินไม่ใยดีมะระเลย พี่ฌานเองก็ไม่กินผัก กลัวขมเหมือนผมนั่นแหละ!”

พลันคนที่นั่งเงียบมาตลอดขยุกขยิกเหมือนอยากประท้วง

“ในเมื่อพี่ฌานยังเขี่ยมะระได้ แล้วทำไมผมจะเขี่ยผักบ้างไม่ได้ คุณแม่ว่าจริงมั้ยครับ”

“แต่น้องเจจะเอาสารพัดผักกับมะระมาเทียบกันไม่ได้นะ” 

และแล้วนายนิฌาน ชาญชัย ก็ทนคันปากไม่ไหว!

“ผมเขี่ยผัก พี่ฌานเขี่ยมะระ มันก็คือเขี่ยเหมือนกันนั่นแหละ”

“ถึงจะเขี่ยเหมือนกัน แต่พี่เขี่ยน้อยกว่าน้องเจนะ ของพี่น่ะแค่มะระ แต่น้องเจคะน้าก็ไม่กิน บวบก็ไม่กิน ขึ้นฉ่าย ใบกะเพรา ขิง ตะไคร้ หอมแดง หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศก็ไม่กิน!”

“ผมกินมะเขือเทศนะ” ผมทักท้วง

“ซอสมะเขือเทศไม่นับนะครับน้องเจ” นิฌานหรี่ตามองอย่างจับผิด

“งั้นเอาแบบนี้มั้ย ถ้าพรุ่งนี้พี่ฌานยอมกินมะระ ผมจะยอมกินผักหนึ่งอย่าง”

“ท้าดวลกันเหรอน้องเจ เหมือนพี่จะเสียเปรียบยังไงชอบกล”

“เสียเปรียบตรงไหน พี่ฌานยอมกินมะระหนึ่งครั้ง ผมจะยอมกินผักหนึ่งอย่าง พี่ฌานก็หัดกินมะระหลายๆ ครั้งสิ ผมจะได้กินผักหลายๆ อย่างไง”

ทุ่มเทกว่านายเจตรินมีบ้างมั้ย ผมถึงขนาดยอมเอาผักเป็นประกันเลยนะ!

“น้องเจ...ทุ่มทุนสร้างจริงๆ นะเนี่ย” มีหรือนิฌานจะไม่รู้จุดประสงค์ เขามองผมอย่างยอมรับนับถือกับการวัดใจครั้งนี้ แต่ไม่รู้ทำไม...ดวงตาเขาประกายวาวๆ ชอบกล

“แล้วพี่ฌานจะตกลงมั้ยล่ะครับ”

“มาถึงขั้นนี้แล้ว...ก็ต้องตกลงสิครับ” นิฌานถอนหายใจเฮือกอย่างจำใจ ขยับตัวหันหน้าหากล้องอย่างอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด

“พี่ฌานตกลงแล้ว งั้นคุณแม่เป็นพยานในการท้าดวลครั้งนี้ของผมกับพี่ฌานด้วยนะครับ!” ทุกอย่างลงตัวตามแผน เมื่อมีเรื่องสุขภาพค้ำคอ ต่อให้ทิฐิแค่ไหนนิฌานก็อยากให้ผมกินผักมากกว่าอยู่ดี...

“งั้นเริ่มพรุ่งนี้เช้าเลยมั้ย หน้าปากซอยมีร้านตามสั่ง ทำแกงจืดมะระอร่อยมาก”

“เดี๋ยว พี่รู้ได้ไงว่าอร่อยมาก”

“ก็พี่เคยกินนี่ครับ” พลันคนที่เพิ่งทำหน้าเจื่อนเหมือนพลาดท่ายิ้มกริ่ม

...ผมสังหรณ์ใจไม่ดีชอบกล

“พี่ฌานไม่ได้เกลียดมะระเหรอ”

“ถ้ามีร้านทำอร่อยพี่ก็กิน แต่ในกองวันนี้ดันขมไปหน่อย แถมยังฝาดลิ้น พี่เลยเขี่ยทิ้ง ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้แต่ไม่อยากกิน น้องเจเข้าใจผิดไปเองทั้งนั้น”

“แล้วทำไมพี่ฌานไม่บอกผมก่อนล่ะ!” หมดกันนายเจตริน นึกว่าวางกับดักล่อเขาให้พูดกับกล้องสำเร็จ กลายเป็นตกหลุมเองซะงั้น

“ก็น้องเจกำลังสนุกนี่ พี่เลยสนอง” นิฌานหัวเราะร่า “อย่าคืนคำนะ แม่พี่ก็เป็นพยานแล้ว จะคืนคำไม่ได้นะครับน้องเจ”

มิน่าล่ะถึงจงใจหันหน้าตรงเผชิญกล้อง ที่แท้กะย้ำคำไม่ให้ผมบิดพลิ้วนี่เอง!

“คุณแม่ครับ พี่ฌานหลอกผมอ่ะ ท้าดวลเมื่อกี้เป็นโมฆะนะครับ”

“ไม่ได้ น้องเจเป็นคนยื่นข้อเสนอเองนะ พี่อุตส่าห์จำใจรับปาก ไม่ได้อยากตกลงเลยจริงๆ นะ”

“พี่ฌานแกล้งผมอ่ะ พี่ฌานใจร้าย!”

“ว่าพี่ใจร้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกครับน้องเจ ใช่มั้ยครับ คุณแม่”

นิฌานชะงักกึก เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกมา

พลันคนยิ้มแป้นแล้นสะใจที่ไล่ต้อนผมสำเร็จกลายเป็นเก้อกระดากทำตัวไม่ถูก นี่คงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่นิฌานเรียกแม่ด้วยน้ำเสียงระรื่นยิ้มทั้งตาทั้งปากขนาดนี้

ด้วยกลัวว่าจะเสียบรรยากาศ ผมเลยรีบตามน้ำ เลิกโมโหโวยวายแต่หันไปพูดใส่กล้องแทน

“งั้นคุณแม่ตัดสินแล้วกัน ว่าจะเข้าข้างผม หรือจะเข้าข้างพี่ฌาน”

“คุณแม่ก็ต้องเข้าข้างน้องเจอยู่แล้ว” นิฌานหลบตาพลางพึมพำเสียงเบา

“โธ่ มีเด็กขี้ใจน้อยอยู่ตรงนี้คนหนึ่งนี่นา” ผมจิ้มแก้มคนที่หันหน้าหนี “ตัวโตขนาดนี้ยังทำตัวเป็นเด็กอีกเหรอครับ ไหนเด็กชายนิฌานอายุเท่าไหร่เอ่ย”

“แปดขวบ”

ในใจผมลอบสะท้านเฮือก แปดขวบ...คือช่วงเวลาที่เริ่มเข้าวงการ และตอนที่ความรักในครอบครัวของเขา...เริ่มจะพังทลายสวนกับความสำเร็จด้านการงาน

“เด็กชายนิฌานอยากให้คุณแม่เข้าข้างหรือเปล่าครับ”

นิฌานนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่หันไปมองกล้อง

“ถ้างั้นคุณแม่คงต้องเอาใจลูกชายสักหน่อยแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง ผม...จะยอมกินผักก็ได้” พอนึกถึงผักเขียวๆ ผมก็เผลอทำหน้าพะอืดพะอมวูบหนึ่ง ก่อนจะรีบกล้ำกลืน ยกมือไหว้เป็นการส่งท้าย “ราตรีสวัสดิ์นะครับคุณแม่”

ทุกอย่างจบลงด้วยดีเกินคาด อย่างน้อยผลตอบรับก็ดีมากกว่าที่คิดไว้มากโข ผมเดินไปปิดกล้อง โหลดคลิปส่งให้แม่นิฌานทันที ก่อนจะเดินมานั่งยองๆ ใช้สองมือยันใต้คางตัวเองขณะยื่นหน้าหาคนที่นิ่งเงียบทำอะไรไม่ถูก คล้ายยังสับสนลังเลอยู่ในใจ

“ไม่ยากใช่มั้ยล่ะครับ” ผมถามเขา ส่งยิ้มให้กำลังใจหนึ่งที “การคุยกับคุณแม่น่ะไม่ได้ยากอย่างที่พี่คิดใช่มั้ย ดูสิ บทจะพูดก็พูดได้นี่นา ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ แถมยังอ้อนขอความรักอีกต่างหาก ตอนอยู่กับผม พี่ฌานบอกรักตั้งหลายครั้ง สารภาพอย่างตรงไปตรงมา แต่กับคุณแม่ คงไม่เคยพูดความในใจ แสดงความน้อยอกน้อยใจเลยล่ะสิ”

“กับน้องเจน่ะพูดแล้วได้รับกลับเป็นเท่าตัว แต่กับแม่น่ะ...” นิฌานถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นคำตอบ “แม่เคยมองพี่เป็นลูกชายที่ไหน”

“เราถึงต้องพยายามปรับทัศนคติไงครับ!” ผมกำหมัดฮึดสู้ “เมื่อก่อนพี่ฌานทำงานอย่างเดียว ก้มหน้าก้มตารับคำสั่ง พอถึงตอนปฏิวัติขึ้นมาก็ตัดฉับๆ ไม่คิดสานต่อ เลยไม่เคยได้คุยกันดีๆ สักครั้ง คุณแม่เองก็ไม่ทันสังเกต ว่าพี่ฌานตอนยิ้มน่ะดูดีแค่ไหน เธอเห็นแต่ตอนพี่ทำงานจริงจัง ว่าง่าย ไม่ก็ดื้อด้าน ไม่รู้เลยว่าบทจะรั่วก็รั่วกระจุยกระจาย”

ผมพูดพลางเปิดโทรศัพท์ให้ดูรูปนับร้อยของเขาที่ส่งผ่านไลน์

“ดูสิ มีแต่รูปตลกๆ ของพี่ฌานทั้งนั้นเลย” ผมยิ้ม “ผมเดาว่าต่อหน้าแม่ พี่คงไม่เคยหัวเราะให้เธอเห็นเลยใช่มั้ย”

นิฌานพยักหน้ารับ เริ่มสลดลงอีกครั้ง

“แม่พี่เองก็คงไม่เคยหัวเราะให้พี่เห็นเหมือนกัน”

พลันเขาชะงัก ก่อนจะ...ค่อยๆ พยักหน้าลง

“พี่ฌานบอกว่าแม่ไม่เข้าใจพี่ มองในคนละมุม แต่บางที...พี่ฌานก็คงไม่เคยเข้าใจคุณแม่เหมือนกัน และไม่คิดจะเข้าใจด้วย ถึงได้ใช้วิธีหักดิบ ตัดสัมพันธ์ซะเลย” ผมอธิบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เว้นจังหวะการพูด ไม่ให้บีบคั้นเกินไปนัก “ผมไม่ได้โทษพี่ฌานนะครับ แต่อยากให้ลองลดทิฐิลงสักนิด ก็พี่กับแม่น่ะหัวแข็ง ปากแข็งยิ่งกว่าอะไร พอขัดกันปุ๊บก็เอาแต่โจมตีอีกฝ่าย มองในแง่ร้าย โบ้ยความผิดให้อีกคนที่ไม่ได้ดั่งใจ จนเรื่องราวบานปลายมาถึงขนาดนี้”

พูดจบ ก็เหล่มองคนรักเป็นระยะ

“เพราะแตกหักกันมานาน เลยยิ่งเข้าหน้ากันไม่ติด แต่...การคุยกันอีกครั้งก็ไม่ได้ยากเกินไปใช่มั้ยครับ อย่างน้อยพูดผ่านกล้อง ไม่ต้องเจอหน้าคุณแม่ ไม่ต้องรับรู้ว่าจะโดนตอกกลับให้เจ็บปวดใจยังไง พี่ก็ทำได้ดีนะ” ผมขยับเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด “ผมว่าแม่พี่ต้องยอมใจอ่อนบ้างล่ะ”

นิฌานแค่นยิ้มไม่ค่อยเชื่อถือนัก แต่ผมยังใจเย็น พยายามประนีประนอม

“ผมว่าความจริงแล้ว...ทั้งพี่ทั้งแม่ต่างก็อยากแก้ไขความสัมพันธ์ให้มันดีขึ้น  แต่มันถึงจุดที่ไม่รู้จะหันหน้าเข้าหากันยังไง ต่างคนต่างไม่อยากเป็นฝ่ายผิด ยึดความคิดตัวเอง ถึงได้ยิ่งดึงดันไปคนละทาง” 

พูดไม่ทันขาดคำ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะรีบหันหน้าจอให้นิฌานอ่าน

- รับปากแล้วอย่าคืนคำพี่เขานะลูก -

“ดูสิ คุณแม่เข้าข้างพี่จริงๆ ด้วยล่ะ”

“แม่อยากให้น้องเจกินผักต่างหาก” นิฌานยังคงงึมงำไม่ยอมรับ แต่ผมเห็นหรอก ว่าเขาใจชื้นขึ้นเยอะ แต่ยังไม่กล้าเชื่อเพราะกลัวผิดหวัง

ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา

“ไหน เด็กชายนิฌาน ชาญชัยแปดขวบ พร้อมจะรับรางวัลมั้ยครับ” ผมหลอกล่อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พลันคนที่นั่งเซื่องซึมกลายเป็นจอมหน้าด้านหน้าทน รีบรวบเอวผมไปกอด พร้อมเงยหน้าทำปากจู๋ในทันที

“จูบพี่เร็ว จูบพี่เร็ว”

“กระตือรือร้นไปแล้ว!” ผมทั้งฉุนทั้งขัน ยังแอบเคืองหน่อยๆ นะที่เขาหลอกเรื่องเกลียดมะระกันจนเข้าใจผิดไปไกลโข แต่เอาเถอะ วันนี้ความสัมพันธ์ตระกูลชาญชัยพัฒนาขึ้นมาก ในฐานะสะพานเชื่อมอย่างผมก็ดีใจด้วย

“โอ๊ย!”

แต่ก็อดเอาคืนไม่ได้จริงๆ ผมเลยจูบ ไม่สิ ขบลิ้นอีกฝ่ายแบบไม่เบา

“ชอบแบบเจ็บปวดเหรอครับน้องเจ” คาดไม่ถึง คนเจ็บจนน้ำตาเล็ดไม่ยอมปล่อยมือจากเอวผม แถมยังรั้งเข้าหา บังคับให้โน้มหน้าจูบใหม่อีกครั้ง

“อืม...พี่ฌาน”

เทียบกับจูบอนุบาลของผมแล้วทาบกันไม่ติดเลยสักนิด ถึงจะเจ็บลิ้น แต่นิฌานก็ยังกระเหี้ยนกระหือรือ ดุนลิ้นกับริมฝีปากผมให้เปิดช่องได้คืบคลาน แทรกแซงเข้ามาพัวพันชุลมุนกลายเป็นสงครามย่อมๆ ผมครางในลำคอ หายใจกระชั้นแทบหมดลม ให้ตายเถอะ เรื่องนี้มิอาจทัดเทียมคนเก่งกล้าเลยจริงๆ จนสุดท้ายก็หน้าแดงใจสั่น เป็นฝ่ายยันมือกับอกเขาให้ผละออก

“วันนี้นอนกับพี่นะครับ” นิฌานเอ่ยหลังผมเริ่มปรับลมหายใจให้เป็นปกติ สองมือยังเกาะเอวไม่ห่างสมฉายามือปลาหมึก เหนียวหนึบยิ่งกว่ากาวตราช้าง “พี่ไม่ทำอะไรน้องเจหรอก แต่น้องเจใกล้จะไม่ได้เป็นผู้จัดการแล้ว ขอพี่ชาร์ตแบต กอดน้องเจให้เต็มอิ่มนะครับ”

หลังจากเป็นแฟนกัน แม้จะมาค้างคืนบ้าง แต่ผมก็นอนโซฟาเหมือนเดิมด้วยกลัวว่าคนทำงานหนักจะหมกมุ่นเรื่องใต้ร่มผ้าจนสมาธิหลุด...

“แค่กอดอย่างเดียวนะ”

นิฌาน ชาญชัยขึ้นชื่อเรื่องมุดโปงขนาดไหน ผมที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องจึงไม่ค่อยกล้าเสี่ยงนัก ก็บางครั้งบางทีแค่กอดกันตรงโซฟา ไอ้ส่วนกลางลำตัวของเขาก็ปูดโปนทักทายกันซะงั้น เล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อ ผงะถอยแทบไม่ทัน

เพิ่งคบกันไม่ถึงเดือน ยังไม่พร้อมเสียตัวโว้ย!

“ถึงไอ้ส่วนนั้นจะไม่รักดี แต่พี่ควบคุมตัวเองได้ครับน้องเจ แค่กอดจริงๆ”

ผมหรี่ตามองนิฌานอย่างจับผิด เห็นเขาทำหน้าซื่อตาใส ก็ถอนหายใจเฮือก

“ก็ได้ครับ”

สิ่งที่เชื่อมั่นเสมอมา คือนิฌานไม่มีวันทำให้ผมเสียใจ

แต่ที่ไม่ค่อยจะเชื่อน่ะคือตัวเองต่างหาก! ผมน่ะเป็นวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ไอ้เรื่องเคารพธงชาติทุกเช้าก็เรื่องปกติมั้ย! เกิดมึนๆ เผลอเอาของตัวเองไปชนของเขาก่อนจะทำยังไง ต้องหยั่งใจไว้นะเจตริน!!






....ผมรู้นะว่าพวกคุณคิดอะไรอยู่

ยังครับ ผมยังปลอดภัยดี เมื่อคืนก็นอนกอดกันสงบเสงี่ยมดีครับ แม้ตื่นเช้าจะเคารพธงชาติอย่างที่คิดไว้ไม่ผิดก็เถอะ แต่นิฌานทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ...ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติจริงๆ นั่นแหละ ผมที่ตอนแรกแอบเขินๆ เลยพลอยหน้าหนามากขึ้น ไม่พูดเรื่องไม่เหมาะไม่ควรปล่อยให้สงบลงไปเอง เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องกล้ำกลืนเผชิญหน้า

นั่นคือ...แกงจืดต้มมะระ!

นิฌานไม่ยอมให้ผมบิดพลิ้ว ตั้งกล้องถ่ายเป็นหลักฐานส่งให้แม่ด้วยตัวเองเลยทีเดียว เห็นเขาเริ่มเข้าใจและพยายามจะเป็นฝ่ายเข้าหามากกว่าหลบเลี่ยงอย่างเคย ผมก็จำใจต้องกินทั้งน้ำตา

แต่ไม่น่าเชื่อครับ มะระร้านนี้อร่อยสมคำล่ำลือ! ไม่ค่อยขม แถมยังต้มจนเปื่อย กินแล้วเคี้ยวงุบๆ เหมือนกำลังกินฟักมากกว่ามะระ การท้าดวลครั้งนี้เลยราบรื่น ไม่มีใครบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

มาลุ้นเหงื่อตกเอาตอนส่งคลิปรายงานผลให้แม่ของเขานั่นแหละ เพราะผมเป็นฝ่ายถูกกระทำ โดนนิฌานแกล้งหยอก แถมแม่ของเขาไม่เข้าข้าง หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมส่งคลิปเด็ดขาด นิฌานจึงนั่งทำหน้าเคร่งถือโทรศัพท์ คานิ้วเหนือปุ่มกดส่ง

“แค่จิ้มลงไปเองครับพี่ฌาน” ผมพยายามเกลี้ยกล่อมคนที่ต่อสู้กับจิตใจตัวเองจนเส้นเลือดสมองปูด “แค่จิ้มลงไปเบาๆ นะพี่ฌาน ไม่ได้ยากเลย สู้ๆ”

แล้วนิฌานก็สูดหายเข้าลึก หลับตาข้างหนึ่งจิ้มจึกสำเร็จ

ผมปรบมืออย่างชื่นชมในความกล้าทลายกำแพงครั้งแรกของเขา

“รู้สึกยังไงบ้างครับ”

“ก็...โล่งๆ ดีมั้ง” นิฌานตอบอย่างงุนงง เพราะไอ้ทิฐิที่ถือไว้นับปี เมื่อลองวางลงแล้วกดปุ่มจิ้มส่งแค่ครั้งเดียว กลับง่ายดายเหลือเชื่อ

แต่สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร

ผมกับเขานั่งเคียงกันในห้อง รอผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ

ไม่นาน แม่นิฌานก็ส่งสติกเกอร์ยกนิ้วโป้งชมเชยตอบกลับมา

นิฌานถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองสติกเกอร์นั้นจนมั่นใจว่าไม่ถูกต่อว่าหรือได้รับคำพูดจาทำร้ายกันเหมือนในอดีตก็หลุดยิ้ม

“ขอบคุณนะครับน้องเจ”

“ยินดีเสมอครับ”

ผมยิ้มรับคนที่ยื่นหน้ามาจุ๊บเบาๆ บนริมฝีปาก ก่อนต่างคนจะต่างแยกย้ายรีบเก็บของออกจากห้อง เพราะว่า...

วันนี้เป็นการเข้ากองเช็กเมทครั้งสุดท้ายของผมแล้ว!

---------------

ลักกี้อินเกม ลักกี้อินเลิฟค่ะ

สัญญาณของคู่แม่ลูกตระกูลชาญชัยเริ่มดีขึ้น เพราะสองคนนี้เหมือนเป็นทางขนาน ต่างมองโทษกันไปมา ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด แล้วก็ระทดระท้อใจทำร้ายกันเอง จนหาทางเข้าหน้ากันดีๆ ไม่ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้...จึงต้องมีสะพานเชื่อมอย่างน้องเจนี่เอง!

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่อยากมีน้องเจมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

Twitter : @ MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-08-2018 21:12:08
น้องเจนี่กาวใจที่แท้ทรูจริงๆ รอวันแม่ลูกเขาคืนดีกันนะ น้องเจต้องยิ้มแก้มแตกแน่ๆ

ปล.น้องติ๋มเป็นใครมาจากไหน แต่ไม่คิดว่าน้องจะโผล่มาเล่นๆแค่ฉากสองฉากแน่ๆ
ปล.2 อยากเห็นน้องเจมาดแบดบอยในชุดนักศึกษาเมื่อเช้าจัง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-08-2018 21:15:02
น้องเจเป็นกาวใจของพี่ฌาณกับคุณแม่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 04-08-2018 21:17:42
น้องเจทำดีมากค่ะ โอยยยย ปกติก็รักอยู่แล้ว ยิ่งรักน้องมากขึ้นไปอีก  :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-08-2018 22:07:36
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 04-08-2018 22:21:13
ติ๋มมมมมมมมมม ... ???
ไม่เคยรักใครเท่าติ๋ม ...

มีความหมิ่นเหม่ว่า ติ๋มจะมีบทบาทในภายภาคหน้า :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2018 22:43:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-08-2018 02:21:36
กำลังคิดว่าติ๋มจะเป็นชายชุดดำคนนั้นอ่ะป่าวน่ะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 05-08-2018 07:33:51
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 27 - P.20 [ 04/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 05-08-2018 20:45:43
 o13 กาวใจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20- [ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 06-08-2018 19:05:06
ตอนที่ 28 : จุดจบ จุดเริ่มต้น


อย่างที่เคยเกริ่นไป ว่าวันนี้เป็นการเข้ากองวันสุดท้ายของผม แต่ผมลืมขยายความอีกนิด ว่าฉากที่ถ่ายทำเป็นหนึ่งในฉากที่ผมรอคอยมากที่สุด!

ฉากเฉลยพี่ชายมิสเตอร์เอสว่าแท้จริงแล้วเป็นหัวหน้าองค์กร (สักที!)

ส่วนแผนที่จะใช้หลอกหัวหน้าตำรวจมานั้น...ก็คือการให้ลูกสาวของเขาไปบอกพ่อว่าพระเอกตายแล้ว!

ติดเชื้อจนตายด้วยแผลถูกยิงสีข้าง!

เอ่อ ผมรู้น่าว่ามันดูแปลกๆ ไปสักหน่อย แต่สำหรับหัวหน้าตำรวจ แค่รู้ว่าพระเอกตายแล้วก็ไม่สนหรอกว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร ยิ่งลูกสาววิ่งไปร้องห่มร้องไห้ ขอความช่วยเหลือ ก็รีบทำทีเป็นปลอบลูก

ครับ แก๊งพระเอกไม่เคยบอกเธอเลยว่าศัตรูของพวกเขาคือพ่อของเธอเอง เพราะการติดต่อกับหัวหน้าตำรวจอย่างราบรื่น ก็มีแต่ให้ลูกสาวสุดรักสุดหวงวิ่งไปเองเท่านั้น

ลูกสาวผู้ไม่รู้ว่าพ่อทำความผิด เธอเอาตัวพระเอกมาซ่อนเพียงเพราะไม่อยากถูกต่อว่าด้วยกลัวจะถูกกีดกัน

และนักแสดงหัวหน้าตำรวจ ก็คือ...อดีตหัวหน้าองค์กรก่อนที่นิฌานจะมาสวมบทแทน!

วันนี้เขาเข้ากองมาทั้งแขนใส่เฝือกด้วยสปิริตเปี่ยมล้น!

คนเขียนบทแก้ว่าทางหัวหน้าตำรวจประสบอุบัติเหตุจากตอนที่ไปไล่ล่าสมาชิกคนที่ถูกฆ่าตายบนเกาะ จึงสมเหตุสมผลว่าทำไมตัวร้ายใส่เฝือกเข้าฉาก

ถึงอย่างนั้นก็มีคนติดตามมาด้วย เพราะกลัวว่าพระเอกจะตายไม่จริง แม้ไอ้การร้องไห้ใจจะขาดของลูกสาวจะสมจริงมากก็ตาม

ซึ่งสงสัยน่ะดีแล้ว ในเมื่อนี่เป็นแผน และเมื่อเป็นแผน...หัวหน้าตำรวจก็ติดกับ!

ทันทีที่ลองเปิดถุงเก็บศพสำรวจพระเอกซึ่งแสร้งนอนนิ่งแต่ถือปืนรอ พระเอกก็ยิงสวนขึ้นมาหนึ่งนัด ด้วยระยะที่กระชั้นชิดเกินไป หัวหน้าตำรวจจึงบาดเจ็บ ข้างศีรษะถากเป็นรอยแผลยาวน่าสยดสยองจนตาลืมไม่ขึ้นข้างหนึ่ง เหล่าลูกน้องขยับตัวทันที แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตัวหัวหน้าถูกพระเอกถือปืนจ่อกลางหน้าผากเป็นตัวประกัน

“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้!”

เมื่อรู้ว่าโดนหลอก หญิงสาวก็ตะโกนอย่างเจ็บปวดที่ลวงพ่อตัวเองมาโดนคนที่รักฆ่า พระเอกมองเธออย่างขอโทษ พอดีกับพายที่ย่องไปสับท้ายทอยให้เธอสลบ ก่อนจะลากออกไปหลบมุม ป้องกันโดนลูกหลง

หัวหน้าตำรวจเมื่อเห็นว่าลูกสาวปลอดภัยดีก็โล่งอก ก่อนจะหันมาประจันหน้ากับพระเอก ซึ่งมองสบกลับด้วยสีหน้านิ่งเรียบแต่ดวงตาแฝงความโกรธแค้นชิงชัง

“ขอบคุณ ที่ไม่ลากลูกสาวฉันมายุ่งด้วย”

“เพราะเธอไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้...เธอไม่ใช่คนที่ทำให้มิสเตอร์เอสต้องตาย!” พระเอกเอ่ยพลางให้ธนัท พาย และนิฌานปลดอาวุธลูกน้องของหัวหน้าตำรวจและฆ่าทิ้งซะ เพราะถ้าไม่กำจัดให้หมดในวันนี้ จะต้องมีการตามล่ากันต่อแน่นอน

หัวหน้าตำรวจกระตุกเปลือกตาเมื่อได้ยินเสียงลูกน้องค่อยๆ ล้มลงทีละคน

“ฉันไม่เกี่ยวข้องกับการตายของมิสเตอร์เอส”

“โกหก!” พระเอกเกรี้ยวกราด “แกเป็นคนขององค์กร!”

“ใช่ ฉันเป็นคนขององค์กร แต่ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของมิสเตอร์เอส...ฉันตั้งใจจะทรยศองค์กรนั้นด้วยซ้ำ! ตั้งใจให้การบุกครั้งนั้นสร้างชื่อ! ชุบตัวออกมารับยศตำแหน่งอย่างภาคภูมิ!”

“น่าหัวร่อ ชุบตัวอะไรกัน แกเป็นคนตามล่าพวกเราไม่ใช่รึไง”

“ฉันสั่งแค่ให้ลูกน้องคอยขัดขวางไม่ให้ตามจับคนขององค์กรเพราะไม่อยากถูกเปิดโปงเท่านั้น และออกคำสั่งให้ฆ่าปิดปากคนคนนั้น แต่ไม่เคยให้ใครไปทำร้ายพวกนายสักครั้งเดียว”

“ฉันถูกตำรวจยิง!” พระเอกชี้ไปที่แผลเป็นตรงสีข้าง

“เรื่องนั้น...”

“หุบปาก” พระเอกซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นจากการถูกทรยศหักหลังของคนที่ให้ความร่วมมือกันดีตั้งแต่ซีซันหนึ่ง แถมยังต้องสูญเสียทั้งเพื่อนคนสำคัญและโมนา ทำลายความเชื่อใจของผู้หญิงแสนดีที่ช่วยดูแลยามบาดเจ็บสาหัส ถือปืนจ่อให้อีกฝ่ายเลิกพูดเสียที “ถ้าบริสุทธิ์ใจจริง แล้วทำไมเมื่อได้ยินว่าฉันตาย ถึงรีบมากันล่ะ ไม่ใช่ว่าดีใจหรอกหรือ”

ครั้งนี้หัวหน้าตำรวจเถียงไม่ออก เพราะการที่พระเอกตายไป นับเป็นเรื่องดีกับตัวเองจริงๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเปิดโปงเอาภายหลัง การตามล่าหาสมาชิกองค์กรคนอื่นๆ ก็ปลอดภัยต่อตำแหน่งมากขึ้น

“เช็กเมท”

ความเงียบไม่ต่างกับการยอมรับนั้น แม้จะเป็นในคนละความหมายที่แก๊งพระเอกเข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้นอัครเดชก็ลั่นไกปลิดชีพหัวหน้าตำรวจหวังจบเรื่องราวเสียที

ตั้งแต่ต้นจนจบ นิฌานมองแผนยืมมือฆ่าที่ประสบความสำเร็จด้วยรอยยิ้มบางแต้มบนมุมปาก ผิดกับคนอื่นๆ ที่แม้จะกำจัดตัวการสำคัญได้ แต่สีหน้ากลับแฝงความเสียใจที่เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดแตกหัก

นิฌานซ่อนใบหน้านั้นได้แนบเนียน เขารอ...จนเมื่อร่างของคนทรยศองค์กรค่อยๆ ล้มลง มือกุมอกที่ถูกยิงจนเลือดทะลัก ลมหายใจใกล้ปลิดปลิว ก็เดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะก้มกระซิบข้างหู

“หลังบุกองค์กร คิดว่าจะลอยตัวหนีออกไปได้ง่ายๆ งั้นหรือ” นิฌานเหยียดยิ้ม ก้มหน้าจนไม่มีใครสังเกต “ช่างเป็นสหายที่โง่เขลาอะไรอย่างนี้ จำไว้ซะ ไม่มีจุดจบที่ดีสำหรับคนทรยศ”

หัวหน้าตำรวจซึ่งสภาพร่อแร่ใกล้ตายพลันเบิกตากว้าง พลังเสี้ยวสุดท้ายเผยใบหน้าเจ็บแค้นขณะมองนิฌานซึ่งปลอมแปลงตัวเองแต่ไม่คิดเปลี่ยนเสียงอย่างตื่นตะลึง อดีตสมาชิกองค์กร ย่อมจดจำหัวหน้าตัวเองได้

แต่นิฌานไม่คิดให้อีกฝ่ายทักท้วง เมื่อเห็นร่างนั้นเริ่มดิ้นและอ้าปากพร้อมเปิดโปง ก็ลั่นไกจ่อหน้าผาก เป็นการจบชีวิตคนทรยศด้วยมือตัวเอง

“นายพูดอะไร ทำไมหมอนั่นถึงดูตกใจขนาดนั้น” ธนัทถามสงสัยกับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันของหัวหน้าตำรวจที่จากใกล้ตายเป็นคลุ้มคลั่ง

“ฉันบอกว่าตัวเองเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอส” นิฌานเอ่ยอย่างไร้พิรุธ “หมอนั่นเป็นคนฆ่าเองกับมือ เห็นคนตายแล้วฟื้นคืนชีพ ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงขนาดนั้น”

เป็นประโยคที่น่าเชื่อถือ ธนัทจึงไม่ติดใจสงสัย หันไปตบบ่าพระเอกซึ่งหลังจากฆ่าศัตรูคู่แค้นสำเร็จก็นิ่งงัน เหมือนว่าการลั่นไกออกไปนั้น ไม่ได้ช่วยให้ความเศร้าเสียใจจากการสูญเสียสหายดีขึ้นสักนิด

แต่ถึงอย่างนั้น การกำจัดคนชั่วไปหนึ่งคน ก็สามารถปกป้องชีวิตคนบริสุทธิ์ในภายภาคหน้าอีกนับไม่ถ้วน พระเอกพยายามปลอบใจตัวเอง ขณะที่พายหยิบโทรศัพท์ของหัวหน้าตำรวจแฮกหาข้อมูล

“หมอนี่ใช่หัวหน้าองค์กรจริงๆ น่ะเหรอ” ธนัทพึมพำ อย่าว่าแต่พระเอกที่เคว้ง ตัวเขาเองก็ยังทำตัวไม่ถูกเมื่อเป้าหมายถูกกำจัดขึ้นมาจริงๆ

“หัวหน้าองค์กรที่แฝงตัวเป็นหัวหน้าตำรวจ ไม่เคยถูกสืบค้น ไม่มีประวัติทำผิดมาก่อน เป็นการปลอมตัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดไม่ใช่หรือ” นิฌานเอ่ย ขณะหันมองพายที่ส่ายหน้าเบาๆ เมื่อไม่สามารถขุดหลักฐานกล่าวหาที่มีน้ำหนักพอได้

“ตัวหัวหน้าตายอย่างนี้สมาชิกที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องรอรับคำสั่ง อาจจะหนีไปต่างประเทศแล้วละมั้ง” ธนัทเอ่ย “แล้วคุณพี่จะทำยังไงต่อล่ะ จะรวมกลุ่มกับพวกเราตามจับคนอื่นต่อ หรือแยกย้ายกันเลยมั้ย”

“นั่นสินะ...” นิฌานหันไปหาพระเอก นิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ชวนใจหาย “ฉันอยากไปเยี่ยมหลุมศพน้องชาย”

โดยเฉพาะกับแฟนพันธุ์แท้เช็กเมทอย่างผม

“ฉันอยากไปเยี่ยมหลุมศพมิสเตอร์เอส”

“คัต!”

ผมแทบหยุดหายใจกับฉากหลากอารมณ์ตรงหน้า ไม่อยากจะคิดถึงวันออกอากาศ...ฉากที่นิฌานก้มกระซิบบอกนั้น ไม่ต่างกับการเปิดเผยตัวตนครั้งแรกต่อหน้าคนดูทั้งประเทศ!

ผู้กำกับก็ช่างเก่งกาจ นับตั้งแต่นิฌานเอ่ยประโยคนั้น มุมกล้องที่ถ่ายเขาก็เจาะจงเล่นแสงเงามากขึ้น เผยมุมมืดของใบหน้ายามลอบยิ้มหยันและแววตาประกายชั่วร้าย ซึ่งแก๊งของพวกพระเอกไม่ทันสังเกต

“พี่เล่นดีมั้ยครับน้องเจ”

ถามแฟนพันธุ์แท้อย่างผม บอกได้เลยว่าฉากเมื่อครู่เล่นเอาอยากจะกระโดดต่อยหน้าเขา ต่อให้คบกันแล้วความรู้สึกนั้นก็ไม่ลดลงสักนิด

อยากต่อย อยากต่อย อยากต่อย!

“น้องเจทำร้ายพี่ลงเหรอครับ” เพราะอ่านโทรจิตได้ นิฌานเลยกุมแก้มป้องกันตัวเองอย่างหวาดหวั่น “หลังจากนี้จะไม่เห็นน้องเจในกองเช็กเมทแล้ว ใจหายเหมือนกันนะ”

“พี่อย่าพูดสิ คนที่เศร้าที่สุดน่ะผมต่างหาก” พูดแล้วจะร้องไห้ เป็นคนขอร้องให้นิฌานรับเล่นเองแท้ๆ แต่กลับติดภารกิจด้านการเรียน จนอดติดตามจนถึงฉากสุดท้ายที่เฝ้ารอ “ซีซันนี้เป็นซีซันจบของเช็กเมทแท้ๆ เลย”

“วันฉายฉากจบพี่จะไม่รับงาน นั่งดูกับน้องเจดีมั้ยครับ”

“แต่วันนั้นผมนัดกับครอบครัวแล้ว หรือพี่ฌานจะมาดูที่บ้านผมมั้ย” ผมเอ่ยอย่างลังเลใจ ทั้งซีซันหนึ่งและสอง ครอบครัวทองคำดีจะนั่งดูเช็กเมทด้วยกันเสมอ

“แต่พี่อยากเช็กเมทน้องเจนี่นา”

“อะไรนะครับ” ผมถามเขาตาเขียว ถึงจะไม่ค่อยมีคนรู้ความสัมพันธ์ของเรา แต่ไอ้คำกำกวมมันสมควรพูดในกองมั้ยฮะ

เช็กมงเช็กเมทอะไรกัน ฝันไปเถอะ!

“ไม่มีอะไรหรอกครับ” นิฌานแสร้งหันหน้าหนี แก้มซับสีแดงจาง เฮ้ คนที่เล่นมุกใต้ร่มผ้า แถมยังหน้าหนาอย่างเขา ไม่ควรจะเป็นฝ่ายเขินมั้ย

ผมมองนิฌานแล้วเหมือนเห็นนางฟ้าและซาตานในใจเขากำลังต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ใจหนึ่งอยากถนอม อีกใจอยากเผด็จศึก ก็ตบไหล่คนที่เพิ่งบอกว่าควบคุมตัวเองได้ แต่พอใกล้จะจากกันกลับเผยความหงอยเหงาเศร้าซึมเหมือนอยากให้เวลาเดินช้าอีกสักนิด

แล้วผมจะทนไหวเหรอ

“ตกลงครับ”

สุดท้ายก็ตอบตกลงไปจนได้ ผมถอนหายใจเฮือก เรื่องป้องกันตัวเองนั้นไหวอยู่ แต่ที่ทนไม่ได้คือกลัวคนที่เห็นผมเป็นแสงนำทางชีวิตสลดเมื่อไม่ได้เจอกันต่างหาก เพราะนับจากนี้...คงหาเวลาเป็นส่วนตัวยากขึ้นแล้ว

ต้องแบ่งเวลาระหว่างครอบครัวกับคนรักให้ดี

สำหรับคนที่เพิ่งมีแฟนอย่างผม บอกเลยว่าไม่ค่อยชินเลยสิน่า!






แล้ววันเปิดเทอมของผมก็มาถึง

(( น้องเจตื่นหรือยัง ))

“ตื่น...แล้วครับ”

ข้อตกลงแรกหลังแยกย้ายใช้ชีวิตของตัวเอง คือการโทรหากันทุกวันตอนเจ็ดโมงเช้าและห้าทุ่ม ที่ต้องเจ็ดโมงเช้า เพราะเป็นเวลาตื่นนอนของผมพอดี นิฌานเสนอตัวเป็นนาฬิกาปลุก อยากให้ผมได้ยินเสียงเขาคนแรกของวัน

ส่วนที่ต้องห้าทุ่ม ก็เพราะเป็นเวลาที่ผมและเขาน่าจะกลับถึงบ้านแล้ว พวกเราพยายามนัดคุยกันในเวลาส่วนตัว จะได้ไม่กระทบกับการงานและการเรียน พ่วงถือโอกาสราตรีสวัสดิ์ด้วยเลย

(( ลืมตาเดินสิครับน้องเจ ))

นิฌานโทรเป็นวีดีโอคอล เลยเห็นภาพผมเดินสะลึมสะลือเข้าห้องน้ำ

“อืมๆ...ไม่ลืม...ไม่สะดุด หาว...” ผมพูดไม่เป็นคำ หลังล้างหน้าแปรงฟันจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็เดินสวมเสื้อนักศึกษาทำหน้ายุ่งออกมา เห็นนิฌานกำลังขับรถฮัมเพลงสบายใจเฉิบ จากมุมมอง เขาน่าจะตั้งโทรศัพท์ไว้ตรงหน้าปัดรถละมั้ง

“พี่ฌานจะถึงกองรึยัง” ผมถามเขาอย่างเป็นห่วง เพราะถ้าจำไม่ผิด วันนี้เขาต้องเข้ากองเช็กเมทตอนเจ็ดโมงครึ่ง

(( อ้าว ตื่นเต็มตาแล้วเหรอครับน้องเจ )) นิฌานหันมายิ้มให้ เขาใส่หูฟัง ไม่ได้ตะโกนคุยอย่างผมที่เปิดลำโพงเดินไปเดินมารอบห้อง (( อรุณสวัสดิ์ครับ ))

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

แปลกดีเหมือนกันแฮะ ปกติต้องเจอหน้าเขาทุกวัน เปลี่ยนเป็นคุยกันผ่านหน้าจออย่างนี้ก็ให้อารมณ์หวานซึ้งซาบซ่านหัวใจในอีกแง่หนึ่ง

(( พี่ใกล้ถึงแล้ว กินข้าวเช้าแล้วด้วย น้องเจล่ะ ))

“แม่ผมทำข้าวต้มกระดูกหมู ใส่กระเทียมเจียว เห็ดหอม และก็กุ้งแห้งด้วย”

(( น่ากินจัง ))

“ผมจะกินเผื่อพี่ฌานเองนะ”

(( ถึงมหาลัยแล้วอย่าลืมส่งข้อความบอกพี่ด้วยล่ะ ))

“พี่ฌานเองก็ตั้งใจทำงานนะ สู้ๆ”

พลันนิฌานถอนหายใจเฮือก เหลือบมองผมอย่างคิดถึงสุดหัวใจ

“ให้น้อยๆ หน่อยพี่ฌาน นี่เพิ่งวันแรกเองนะ” เห็นแล้วอดเหวขึ้นมาไม่ได้จริงๆ สายตาเขาจะชวนเลี่ยนเกินไปหน่อยมั้ย ผมถึงกับขนลุกเฮือกๆ เลย

(( แม้ตัวจะไม่อยู่ แต่น้องเจจะสถิตในใจพี่เสมอ )) พลันนิฌานทำหน้าบรรลุ (( คบเด็กต้องทำใจ แต่กินเด็กแล้วเป็นอมตะนับว่าคุ้ม ))

“กินอะไรล่ะ พี่ยังไม่ได้กินสักหน่อย!”

(( พี่แค่เปรียบเปรย น้องเจอย่าลามกสิ ))

“ฮึ่ม วางแล้วนะครับ”

ทำไมคนรักคล้ายกำลังนับเวลาถอยหลัง รอเวลาล่าเหยื่อเลยนะ คุยเรื่องนี้ทีไรแม้คิดว่าเขายังไม่กล้าทำอะไรแต่ขนคอลุกชันทุกที ผมส่ายหน้าให้กับการกระเซ้าแซวของนิฌาน ก่อนจะสะพายเป้เดินลงไปทานข้าวเช้า เสริมสร้างพลังงานเตรียมผจญกับการจราจรของประเทศไทย

เปิดเทอมวันแรก...กับชีวิตที่เปลี่ยนจากผู้จัดการเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง

เอาใจช่วยผมด้วยนะครับ!

 -----------------

 ชื่อตอนจุดจบ จุดเริ่มต้น สื่อถึงทั้งเรื่องเช็กเมทและชีวิตน้องเจค่ะ

ในเช็กเมทคือกำจัดตัวร้ายได้แล้วเหมือนจะจบ แต่ความจริงคือเป็นเหมือนเพิ่งเริ่มต้นในการเอาคืนของหัวหน้าองค์กรที่ได้เวลาหันมาตลบหลังพวกพระเอกแล้ว ส่วนน้องเจก็คือจบกับหน้าที่ผู้จัดการ มาสู่ชีวิตธรรมดาของนักศึกษา

เปลี่ยนฟีลกันสักนิด ตอนนี้สั้นไปหน่อยเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ไว้ตอนหน้ามาดูน้องเจเข้ามหาลัยกันนะคะ!

 #น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่ลุ้นระทึกทั้งเช็กเมทและน้องเจ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

@MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-08-2018 19:19:03
น้องเจ น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-08-2018 19:27:54
รอเจอน้องติ๋ม  :mew4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-08-2018 19:31:34
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-08-2018 19:47:13
เมื่อไหร่จะเผด็จศึก 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-08-2018 19:51:14
พี่ฌานหางโผล่แล้วววว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 06-08-2018 20:41:12
.... รอเจอติ๋มมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-08-2018 20:47:09
พี่ฌานได้ลงแดงก่อนแน่ๆ น้องเจจบงานผู้จัดการมาเป็นนักศึกษาเฟรชชี่แล้ว

แล้วติ๋มติ๋มจะมาสั่นคลอนความสัมพันธ์หรือเปล่าน้า   :hao4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 06-08-2018 22:00:47
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 06-08-2018 22:24:56
รอพี่ฌานเช็กเมทน้อง  :hao6:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-08-2018 22:55:21
น้องเจน่ารักจังเลยยยยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-08-2018 23:26:46
พี่ฌาณเล่นเองเขินเอง55555 จะเชคเมทน้อง พอน้องตกลงดันเขิน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 28 - P.20 -[ 06/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 07-08-2018 06:07:24
 :laugh: :laugh: o18 หุหุหุ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 - [07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 07-08-2018 19:54:49

ตอนที่ 29 : เปิดเทอมวันแรก

ผมมีเรียนคาบแรกตอนเก้าโมงเช้า

แต่กว่าจะถึงห้องก็ปาไปแปดโมงห้าสิบนาที นักศึกษาหลายคนจับจองที่เป็นหย่อมๆ แยกกลุ่มกันอย่างชัดเจน ผมกวาดตามองหาเพื่อนสนิท ก่อนจะเจอติ๋มที่นั่งกางสมุดเตรียมพร้อมอยู่คนเดียวแบบโดดเดี่ยวผู้น่ารักตรงที่นั่งหน้าสุด

ผมเดินไปทิ้งตัวนั่งข้างติ๋มอย่างไม่ลังเล มากคนก็มากความ ได้นั่งสงบๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะมหาลัยไม่มีการบังคับที่นั่งเหมือนสมัยมัธยม นักศึกษาส่วนใหญ่จึงมักเว้นที่ด้านหน้าไว้คล้ายกลัวอาจารย์เพ่งเล็ง

จากโดดเดี่ยวผู้น่ารัก เลยกลายเป็นคู่หูดูโอ้หน้าสุดที่ต่างสไตล์โดยสิ้นเชิง

ติ๋ม...ดูติ๋มสมชื่อ กระดุมติดถึงเม็ดบนสุด แขนเสื้อกลัดเรียบร้อย เนกไทผูกชิดติดคอ กางเกงดึงสูงเหนือสะโพก ส่วนผม..ปลดกระดุมเม็ดบนสบายๆ พับแขนเสื้อขึ้นมาเพราะร้อน เนกไทดึงลงหลวมๆ ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกง

“สะ...สวัสดี” อาจเพราะประทับใจกับครอบครัวทองคำดี ติ๋มจึงเป็นฝ่ายทักผมก่อนด้วยท่าทางเป็นมิตร

“อืม สวัสดี” ผมหยิบสมุดขึ้นมาเตรียมจดเหมือนติ๋ม แม้ภาพลักษณ์จะต่างกัน แต่เราทั้งสองต่างรักเรียนกันทั้งคู่...ไม่ใช่อะไร ต้องรักษาเกรดเพื่อทุน!

เพราะเป็นสองคนหน้าสุดเลยค่อนข้างเด่น หลายคนเลือกทักทายผมมากกว่าติ๋ม แต่โทษที เพื่อนสนิทขอมีคนเดียวก็พอ ผมหยิบหูฟังขึ้นสวมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและไม่สนใจ เดิมทีถ้าไม่ใช่ว่ามีเหตุจำเป็นอย่างเรื่องงานหรือครอบครัว ผมก็ไม่ใช่คนช่างพูด ช่างคุย หรือเริ่มบทสนทนาก่อนอยู่แล้ว

ผมมันคนขี้ระแวง กลัวจะโดนเอาเปรียบหรือหาเรื่องกัน อย่างขอลอกการบ้านงี้ ขอยืมเงินงี้ ถ้าเพื่อนเยอะก็ต้องไปเที่ยวเล่น ดูหนัง สังสรรค์กันอีก ไม่เอาล่ะ ผมขออยู่สงบๆ กับติ๋มดีกว่า

ไม่นานอาจารย์ก็มาถึง เพราะเป็นวันแรก บรรยากาศเลยไม่ค่อยเครียดมากนัก ออกแนวให้แต่ละคนค่อยๆ ปรับตัวมากกว่า จะว่าไปการสอนก็ให้อารมณ์คล้ายตอนมัธยมอยู่เหมือนกัน จะต่างกันก็ตรงที่เป็นอิสระกว่า และเจอผู้คนเยอะกว่า เพราะต้องย้ายห้องเรียนตลอดเวลา ทำให้เจอเพื่อนไม่ซ้ำหน้ากันเลย

อาจเพราะเลขประจำตัวใกล้กัน ผมกับติ๋มเลยมักเจอกันแทบทุกคลาส คนหนึ่งเนิร์ดเหลือเกิน อีกคนก็ส่งรัศมีอย่ามายุ่ง ไปไกลๆ นะชิ้วๆ พวกเราสองคนเลยถูกสังคมทอดทิ้ง พักเที่ยงก็ไปกินข้าวด้วยกัน

“แหวะ มะระขมชะมัด ติ๋ม กินมั้ย”

เห็นโรงอาหารมหาลัยมีแกงจืดต้มมะระ ผมติดใจกับรสชาติร้านหน้าปากซอยสุดโปรดของนิฌานเลยลองสั่งมา ผลคือ...ขมปากจนหน้าเบี้ยว

ติ๋มเห็นผมที่ตีหน้านิ่งมาตลอดวัน จู่ๆ หน้าเบี้ยวปากเบี้ยวเพราะมะระมีหรือจะกล้ากิน รีบส่ายหน้ารัวๆ ประหนึ่งอาหารจานนี้คือยาพิษร้ายแรง

ผมปาดน้ำตา คิดในใจว่าต้องฟ้อง!

- ไม่อร่อยเลย ขมจนผมน้ำตาไหล เกลียดมะระแล้ว! -

พิมพ์เสร็จก็ถ่ายรูปเป็นหลักฐานว่านายเจตรินคนนี้อุตส่าห์เริ่มหันมาชอบมะระแต่ดันโดนทรยศกันได้ลงคอ หลังจากนี้คงจะฝังจิตฝังใจ ไม่กล้ากินอีกแน่ๆ ฮึ่ม ได้ฟ้องแฟนก็ค่อยยังชั่วหน่อย ผมเดินไปสั่งของหวานมาล้างปาก ขณะที่ติ๋มมองตามตาปริบๆ

“แฟนเราไง” ผมย้ำ เมื่อเห็นติ๋มสงสัยว่าผมคุยกับใคร “ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเรามีแฟน”

พูดจบก็ดูผลตอบรับ แต่แฟนไม่อ่านไม่ตอบ สงสัยติดถ่ายเช็กเมท

ผมเก็บโทรศัพท์แล้วหยิบตารางเรียนขึ้นมาดูแทน ติ๋มนั้นค่อนข้างเงียบ ไม่เซ้าซี้ไม่ซักถาม ซึ่งดีมาก เพราะถ้าเขาถามขึ้นมาว่าแฟนคือใคร ผมก็บอกไม่ได้เต็มปากว่าคือนิฌาน ชาญชัย

กินน้ำแข็งไสเสร็จพวกเราก็หาห้องเรียนกันต่อ เพิ่งมาวันแรกเลยไม่ชิน เดินขึ้นเดินลงหลงกันสนุกเชียวล่ะ มารู้ตัวอีกทีว่านิฌานส่งข้อความตอบกลับเอาตอนเปลี่ยนคลาส เขาถามว่ามาค้างที่ห้องวันเสาร์นี้มั้ย จะได้กินแกงจืดมะระเจ้าอร่อยล้างปาก

- หรือถ้ายังไม่หายขม ล้างด้วยปากพี่ก็ได้นะครับน้องเจ  σ(≧ε≦o) -

ผมอ่านแล้วหลุดยิ้มกับไอ้ประโยคสุดกะล่อนของแฟน เมื่อก่อนฟังแล้วเพลียใจยังไง วันนี้ก็ยิ้มอ่อนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือชวนขำมากขึ้น

- ตกลงครับพี่ฌาน -

แฟนไม่อ่านไม่ตอบอีกครั้ง นี่สินะที่เขาว่ากันว่าเวลาไม่ตรงกัน ผมโคลงศีรษะ ก่อนจะเดินตามหลังติ๋มไปห้องประชุมเล็กที่แยกตามคณะ ตอนเรียนพวกเรานั่งหน้าสุด แต่พอทำกิจกรรมพวกเรานั่งหลังสุด

ครับ เลิกเรียนแล้วแต่ไม่วายโดนเรียกรวมตัวรับน้อง อย่า อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าจะมีการว๊ากอะไรทำนองนั้น ผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เลยออกแนวสันทนาการ ร้องเพลง เต้นรำกันมากกว่า ส่วนใหญ่ก็ให้เด็กปีหนึ่งมาแนะนำตัว ละลายพฤติกรรมกัน

ผมปรบมือเนียนไปกับเพื่อนๆ พยายามทำตัวให้จืดจางมากที่สุด ถ้าเลือกได้กลายเป็นแผ่นกระเบื้องก็ยิ่งดี วันแรกจบลงที่การเสนอชื่อดาวเดือนประจำคณะ และรับคำใบ้ให้หารุ่นพี่รหัสของตัวเอง

ในชีวิตจริงไม่ค่อยมีคนจริงจังกันมากหรอกครับ อย่างคนในคณะผมเอง พอเห็นคำใบ้ก็โยนทิ้ง เพราะไม่ใช่กิจกรรมบังคับ สุดท้ายเมื่อหมดเวลาแล้วหากันไม่เจอ รุ่นพี่ก็ต้องเฉลยอยู่ดี

เหอๆ ให้หารุ่นพี่ที่กระจายตัวรอบมหาลัย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเออ!

ระยะเวลาบังคับคือสองสัปดาห์ คนที่หาเจอจะรวมกันไปกินเลี้ยงฉลองโดยมีรุ่นพี่ออกค่าใช้จ่ายแบบไม่อั้น เรียกว่าเอาของฟรีมาล่อนั่นเอง

ส่วนตัวผมไม่ใช่เด็กกิจกรรม และไม่ชอบความวุ่นวาย ถ้าไปกินเลี้ยงก็ต้องมีพวกเหล้าเบียร์ปาร์ตี้แน่นอน เลยเป็นหนึ่งในคนที่โยนคำใบ้ทิ้ง

ติ๋มมองผมอึ้งๆ

พวกเราถูกปล่อยตัวตอนหกโมง แต่ละคนพากันแยกย้าย สาวๆ จับกลุ่มคุยสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ส่วนพวกผู้ชายเน้นเฮฮาชวนไปกินเหล้า ไม่ก็เตะบอล ผมบอกปัด เพราะแม่ทำข้าวเย็นรออยู่ที่บ้าน

ก็นี่แหละครับชีวิตมหาลัยแสนจืดชืดของผม





ห้าทุ่มตรง นิฌานโทรหาตรงเป๊ะราวตั้งเวลา

ตอนแรกแฟนก็กระตือรือร้นกับการเปิดเทอมวันแรกของผมอยู่หรอกนะ แต่พอฟังผมเล่าจบภายในสามนาที นิฌานก็เป็นฝ่ายเล่าขึ้นมาแทน

(( ไม่รู้อะไรซะแล้วน้องเจ ตอนพี่เข้ามหาลัยปีแรก ถูกโหวตให้เป็นเดือนคณะด้วยคะแนนท่วมท้นจนกลายเป็นประวัติศาสตร์เลยนะ! ))

“ก็พี่เป็นดารา มันแปลกตรงไหนอ่ะ” ผมถามเสียงเรียบเรื่อย การบ้านทำเสร็จไปตั้งแต่สามทุ่ม เลยนอนกลิ้งเล่นรอแฟนโทรมาอยู่นานแล้ว

ส่วนนิฌานน่าจะเพิ่งกลับถึงห้อง เพราะเขาอยู่ในชุดไปรเวท ยังไม่ทันล้างเครื่องสำอางเลยด้วยซ้ำ

(( โธ่ น้องเจตื่นเต้นกับพี่หน่อยก็ไม่ได้ )) คนตัวโตว่าอย่างน้อยใจ (( ที่พี่เล่าเพราะว่าพี่ปฏิเสธไปครับ ก็ตอนนั้นเวลาเข้าเรียนยังแทบไม่มี จะไปร่วมกิจกรรม ซ้อมการแสดงเตรียมประกวดเอาตอนไหน พูดแล้วก็เสียดาย...น้องเจเกือบมีแฟนเป็นเดือนมหาลัยแล้วนะเนี่ย ))

“จะเป็นเดือนหรือไม่เป็น พี่ฌานก็เป็นแฟนผมอยู่ดีนี่”

(( น่ารักมากครับ ถ้าอยู่ใกล้ๆ นะจะจับฟัดแก้มให้หายคิดถึง )) นิฌานมองผมอย่างมันเขี้ยว วันนี้พี่จิไปค้างบ้านเสี่ย เลยคอลวีดีโอกันสะดวก (( ไม่สิ พี่โดนน้องเจทำเป๋แล้วไง น้องเจครับ ที่พี่ยกเรื่องนี้มาพูดเพราะอยากให้น้องเจใช้ชีวิตวัยรุ่นให้สนุกต่างหาก อย่าติดบ้าน ติดพี่ ติดเรียนเลย มีกิจกรรมอะไรก็ลองทำดู ลุยให้เต็มที่ ถึงจะยุ่งยากไปบ้างแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่หาอีกไม่ได้แล้ว นักศึกษาปีหนึ่งเป็นได้แค่ครั้งเดียวนะครับ ))

“แต่สนิทกับรุ่นพี่ไม่เห็นจะได้ประโยชน์ตรงไหน บทเรียนผมก็ทบทวนเองได้ ไม่ต้องให้ใครติวใครสอน แถมพอนัดเจอก็มีกินเลี้ยง กลับบ้านดึก ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง พวกเพื่อนๆ เองพอเรียนจบก็แยกย้าย ไม่เห็นจะมีใครคบกันได้นาน”

(( น้องเจมองโลกในแง่ร้ายจริงๆ )) นิฌานถอนหายใจเฮือก (( เด็กดีที่ช่วยกล่อมพี่เรื่องแม่หายไปไหนครับ ทำไมพอเป็นเรื่องนี้ถึงปิดตัวเองจัง น้องเจอายุสิบแปดเองนะ ใช้ชีวิตให้สมวัยหน่อย! ))

นิฌานพยายามปลุกใจ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง นี่มันใช้ไม้แข็งแล้วต่อด้วยไม้อ่อน! แค่กล่อมผมต้องขนาดนี้เลยเหรอ จริงจังไปมั้ยครับคุณแฟน!

(( ลองดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย ถ้าน้องเจไม่ชอบค่อยถอยก็ได้ พี่ขอแค่ให้น้องเจลองเปิดใจคุยกับเพื่อนๆ ทำกิจกรรมกับรุ่นพี่ ความสุขแบบครอบครัว ความสุขแบบคนรัก กับความสุขตอนอยู่กับเพื่อนๆ ที่มหาลัย มันไม่เหมือนกันนะ ))

ผมนิ่งเงียบไม่ตอบ

(( หรือไม่ก็คิดซะว่าสนุกแทนส่วนที่พี่ย้อนกลับไปแก้ไม่ทันก็ได้ นะครับ ))

“ก็ได้...ครับ” ผมยอมตกลงในที่สุด ถ้าพ่อแม่และพี่จิได้ยินคงดีใจ เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายพยายามเข็นผมให้ออกสู่โลกกว้าง เลิกอยู่ในวัยต่อต้านตั้งนานแล้ว

ฮึ่ม ผมไม่ใช่วัยต่อต้านสักหน่อย แค่พอใจในสิ่งที่มีอยู่เลยโลกแคบไปสักนิด เก็บตัวมากไปสักหน่อยต่างหาก!

เที่ยวเล่นกับเพื่อนก็ต้องใช้เงิน กินเลี้ยงกับรุ่นพี่ก็ต้องใช้เงิน ทำกิจกรรมคณะ ก็ต้องใช้เงิน...

นับๆ นิ้วดูแล้วก็หน้าดำคร่ำเคร่ง ผมกลับคำดีมั้ยเนี่ย

(( รับปากแล้วห้ามคืนคำนะน้องเจ ไม่งั้นพี่จะฟ้องคุณแม่ด้วย ))

“ฟ้องแม่ใครครับพี่ฌาน”

(( ก็ทั้งแม่พี่และแม่น้องเจนั่นแหละ! ))

มองดูความเปลี่ยนแปลงของคนที่เมื่อก่อนแม้แต่เรียกแม่ยังไม่กล้าเอ่ย หรือพอผมหยิบยกเรื่องสะพานเชื่อมทีไรก็โยกโย้บ่ายเบี่ยง แต่ตอนนี้กลับพูดถึงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผมก็เริ่มคิดว่า...ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างจะดีมั้ยนะ

อย่างที่ทั้งพี่จิ นิฌาน และพ่อแม่พูดนั่นแหละ ลองดูก็ไม่เสียหาย ชีวิตมีครั้งเดียว เอาแต่ระแวงก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ถ้ามัวแต่คิดมากก็คงไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ใช้ชีวิตให้คุ้ม ลองกันสักตั้งสิน่า!





แล้วปฏิบัติการตามหารุ่นพี่รหัสก็เริ่มต้น!!

คำใบ้รุ่นพี่รหัสของผมคือ ‘หน้าตาดีมาก สาวรักสาวหลงทั้งประเทศ’

...เข้าใจที่ผมขยำทิ้งแล้วใช่มั้ยล่ะครับ

แค่อ่านคำใบ้ก็ปวดหัวแล้ว แต่ในเมื่อรับปากแฟนว่าจะสนุกกับชีวิตมหาลัยให้เต็มที่ หลังเลิกเรียนตอนบ่ายสาม ผมกับติ๋มก็เดินตรงไปโต๊ะคณะอันเป็นที่จับกลุ่มของพวกรุ่นพี่ ความลำบากอยู่ที่...รวมหมดทั้งปีสองถึงปีสี่ คนเยอะมาก! ละลานตาสุดๆ!

แล้วยังไม่นับบางส่วนที่ไปนั่งปนกับคณะอื่นด้วยนะ ผมหมดไฟ หมดแรง ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยเพื่อพี่รหัสที่สุดท้ายก็เฉลยทำไม แต่นิฌานเหมือนรู้ทัน ส่งข้อความมาดักผมตอนกำลังจะเลี้ยวกลับบ้านพอดี

- น้องเจครับ พี่รอน้องเจเล่าเรื่องวันนี้นอกจากเรื่องเรียนกับเรื่องติ๋มอยู่นะครับヽ(^Д^)ノ  -

อีโมติค่อนสุดกระดี๊กระด๊านี้....ฮึ่ม เอาวะ! มาถึงนี่แล้วก็ต้องลุยเท่านั้น แต่...

“ติ๋ม คำใบ้นายคือไรอ่ะ”

ขอเริ่มจากเพื่อนข้างตัวก่อนแล้วกัน กลยุทธ์รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งต้องเริ่มจากการเก็บข้อมูล ฉะนั้นผมจะส่งติ๋มเป็นตัวตายตัวแทน เอ๊ย ส่งไปเป็นหน่วยกล้าตาย เดินเข้าหากลุ่มรุ่นพี่อันน่าสะพรึง

ความจริงติ๋มไม่กล้ามาคนเดียวอยู่แล้ว เมื่อเห็นผมอยากช่วย ก็รีบส่งกระดาษคำใบ้มาทันที เดี๋ยวนะ ‘ม้าโพนี่คือของรัก’ คือคำใบ้เหรอ...จะเกี่ยวข้องกับ...รุ่นพี่ผู้หญิงที่ห้อยกระเป๋าลายม้าโพนี่สีชมพู...ที่กำลังเดินผ่านพวกเรามั้ยนะ

“ลุยเลยติ๋ม!”

ไม่รอช้า ผมรีบดันหลังติ๋มไปขวางหน้ารุ่นพี่กับแฟนหนุ่มของเธอก่อนจะคลาดกันทันที เพราะกะทันหันเกินไป ทั้งติ๋มทั้งรุ่นพี่ทั้งสองเลยพากันผงะ เห็นติ๋มก้มหน้าอึกอัก ผมก็รู้ว่าเขาคงประหม่าจนติดอ่างอีกแล้ว เลยเดินไปให้กำลังใจอยู่ข้างๆ สะกิดให้ติ๋มส่งกระดาษคำใบ้แก่เป้าหมาย

หลังสะกิดไหล่ติ๋มไปสามที ติ๋มก็ตั้งสติสำเร็จ รุ่นพี่สาวซึ่งสะพายกระเป๋าลายม้าโพนี่สีชมพูเมื่อรับไปอ่านก็ตาประกายวาว กลั้นยิ้มไม่ไหว ยอมเฉลยออกมาแต่โดยดี

“ใช่จ้ะ พี่เป็นพี่รหัสของติ๋มเองนะ ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ”

...เสร็จแล้วเหรอ ติ๋มทำภารกิจสำเร็จแล้วเหรอ!?

ผมเหมือนถูกทิ้งให้เคว้งคว้างอยู่คนเดียวชอบกลเมื่อพี่รหัสชวนติ๋มคุยอย่างดีใจที่หาตัวเจอไวขนาดนี้ ติ๋มเองก็ตอบรับเป็นพักๆ คงเขินอายเมื่อคุยกับสาวสวย

“เอ่อ ขอโทษนะครับ” เพราะเห็นว่าเธอท่าทางเป็นมิตร ผมเลยตัดสินใจขอความช่วยเหลือ “รุ่นพี่พอจะรู้จัก...คนที่หน้าดีที่สุดในคณะนี้ สาวรักสาวหลงทั้งประเทศมั้ยครับ”

พลันรุ่นพี่สาวหัวเราะพรืด ตบไหล่แฟนหนุ่มข้างๆ ตัวเธออย่างขบขัน

ผมเลื่อนสายตาไปมองแฟนหนุ่มคนนั้นทันที รูปร่างอ้วนกลม หัวโล้น ตัวโต มองแล้วเหมือนตุ๊กตาหมี น่าจะกอดอุ่นในหน้าหนาวนะ

“ถ้าหมายถึงคนหน้าตาดีที่สุดในคณะล่ะก็...ต้องคนนี้เลยจ้ะ” รุ่นพี่สาวเปิดรูปให้ดูภาพของดาราคนหนึ่งที่ผมพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง “แต่เขาทำงานไปเรียนไป เทอมนี้ก็ลงวิชาไม่เยอะ ผลุบๆ โผล่ๆ หาตัวยากหน่อยนะ”

“ขอบคุณมากครับ!” ผมยกมือไหว้อย่างมารยาทงาม เริ่มมีไฟเมื่อได้เบาะแสที่ต้องการ ก่อนจะลากติ๋มไปถามหาดาราคนนั้นด้วยกัน แต่...ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะไม่มาเรียน

ไม่เป็นไร วันหน้ายังมี เจตรินสู้ตาย!





สี่วันผ่านไป ผมดักหน้าดาราว่าที่รุ่นพี่รหัสผมสำเร็จ

อย่าให้เล่าเลยว่ายากลำบากขนาดไหน ก็พี่แกผลุบๆ โผล่ๆ เดี๋ยวมาเรียนตอนเช้าแวบไปถ่ายงานช่วงบ่าย มาอีกทีตอนเย็นแล้วก็หายตัวไป ผมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ต้องขอบคุณความปรารถนาดีของเหล่ารุ่นพี่ที่เห็นผมวิ่งวุ่น จึงช่วยบอกตารางเรียนของดาราคนนั้น แล้วพาผมไปยืนดักถึงหน้าห้องเรียน!

ซาบซึ้งมากครับ โลกนี้ยังมีคนมีน้ำใจอยู่อีกเยอะสินะ

แต่...

“พี่ไม่ใช่พี่รหัสน้องนะครับ ผิดคนแล้วล่ะ” ดาราคนนั้นยิ้มเจื่อนอย่างกระอักกระอ่วน เมื่อเห็นผมหน้าซีดคลับคล้ายจะเป็นลมก็รีบเสนอทางช่วย “ถ้าคนหน้าตาดีล่ะก็...อาจจะหมายถึงเดือนปีสองก็ได้นะ ตอนปีหนึ่งพี่ไม่ได้ลงประกวดเพราะติดงาน เลยไม่นับว่าเป็นคนหน้าตาดีที่สุดในทางพฤตินัย น้องลองไปหาคนนั้นดูนะครับ”

สี่วันที่ไร้ค่า...แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ อย่างไรซะเดือนปีสองก็หาเจอง่ายกว่าดาราคนนี้ แต่พอผมวิ่งหอบแฮกเข้าไปหาทางนั้นกลับรีบปฏิเสธทันควัน

“น้องรหัสพี่คือผู้หญิงต่างหาก ผิดคนแล้วล่ะไอ้น้อง”

 เสมือนโลกถล่มดินทลาย ผมทำอะไรผิดทำไมถึงหาพี่รหัสไม่เจอสักที! ตอนเข้าคลาสเรียน เพื่อนรุ่นเดียวกันหลายคนก็เริ่มหากันเจอแล้ว ผมมองกลุ่มผู้หญิงแล้วนึกลังเล สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไปถามว่าในบรรดารุ่นพี่ปีสองทั้งหมดพวกเธอชอบใครมากที่สุด

รายชื่อนั้นเยอะมาก ผมกับติ๋มแยกกันหาเพื่อความรวดเร็วในการดักจับ นี่มันปฏิบัติการอะไรกันเนี่ย พวกเพื่อนๆ ในห้องที่อยากสนิทสนมกับผมอยู่แล้ว พอเห็นผมเริ่มเป็นฝ่ายมาคุยด้วย ก็เสนอตัวช่วยหาคนตามใบรายชื่อกันอีกทาง แต่ทุกคนครับ...รุ่นพี่รหัสผมไม่ใช่หนึ่งในนั้น!!

แล้วปริศนารุ่นพี่รหัสของนายเจตรินก็เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถกเถียงกันมากที่สุดของเหล่าเฟรชชี่ปีหนึ่ง

คนที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก เห็นใจถึงขนาดช่วยรวบรวมรายชื่อรุ่นพี่ที่มีน้องรหัสแล้วเพื่อตัดตัวเลือกออกให้ผม เพียงพริบตา โทรศัพท์ของผมก็มีเบอร์เต็มไปหมด สนิทกันไวยิ่งกว่าตอนทำกิจกรรมสันทนาการอีก

อย่า อย่าคิดว่าทั้งหมดจะเป็นเพื่อนแท้เพื่อนตาย ทุกคนแค่อยากหาเรื่องสนุกๆ ก็เท่านั้น แล้วเผอิญ...ว่าคำใบ้ของผมนั้นทั้งน่าสนุกและน่าท้าทาย เทียบกับการเรียนแสนตึงเครียด หรือการปรับตัวกับมหาลัยแล้ว เลยกลายเป็นวาระแห่งชาติซะงั้น

แต่เวลาไม่ปรานีใคร แค่อึดใจหนึ่งก็ครบกำหนดสำหรับการหารุ่นพี่รหัส ผมเริ่มท้อ ติ๋มเองที่ช่วยวิ่งวนไปกับผมด้วยก็เริ่มเหนื่อย วันสุดท้ายนี้...เราตัดสินใจช่างมันแล้ว!

“ไม่เป็นไรน่าเจ เดี๋ยวพวกเราเลี้ยงไอติมเอง!”

เพื่อนร่วมคณะที่เป็นสักขีพยานความพลิกแผ่นดินหาพี่รหัสของผมปลอบใจ เพราะรู้ว่าผมไม่ชอบกลับบ้านดึก เลยเลือกกันหารเงินเลี้ยงไอติมใกล้มหาลัยแทน

แต่ไม่ทันจะยกพวกบุกร้าน รุ่นพี่รหัสของติ๋มกับแฟนหนุ่มของเธอกลับยืนรออยู่ใต้ตึกคณะ

“จะไปไหนกันเหรอจ๊ะ คนเยอะเชียว”

“เอ่อ...พวกเราจะเลี้ยงไอติมปลอบใจไอ้เจกันน่ะครับ”

“อ้าว ตัดใจแล้วเหรอจ๊ะ” รุ่นพี่รหัสของติ๋ม เป็นหนึ่งคนที่ติดตามผลอย่างเอาใจช่วยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ “น่าเสียดายจังเลย เนอะเดช”

ที่แท้แฟนของเธอก็ชื่อเดชนี่เอง...

เดี๋ยวนะ!

“มีใครในคณะเราเป็นน้องรหัสของพี่เดชรึยัง” ผมกระซิบกับติ๋ม ติ๋มหันไปกระซิบกับเพื่อนข้างๆ เพื่อนข้างๆ ก็กระซิบต่อกันเป็นทอดๆ เสมือนวาระแห่งชาติที่ต้องปิดเงียบแต่ส่อพิรุธกันต่อหน้ารุ่นพี่เลยทีเดียว เมื่อได้คำตอบ คนหลังสุดก็กระซิบไล่ย้อนกลับมาที่ติ๋มและผมอีกครั้ง

ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า...ไม่มี!

“ขอโทษนะครับรุ่นพี่” ผมเดินออกมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง เงยหน้าถามรุ่นพี่หุ่นตุ๊กตาหมีอย่างไม่มั่นใจนัก “รุ่นพี่ชื่อจริงว่าอะไรเหรอครับ”

พลันรุ่นพี่ฉีกยิ้ม ก่อนจะตอบออกมาว่า... “ฌเดช”

วินาทีนั้น เหมือนระฆังแห่งความสำเร็จก้องกังวาน

“รุ่นพี่คือพี่รหัสผมใช่มั้ยครับ”

“ใช่ ในที่สุดก็รู้ตัวสักทีนะ”

ใต้ตึกคณะนิเทศเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนผมจะตะโกนลั่น จากนั้นทุกคนก็พากันเป็นบ้า เหมือนค้นพบความลับระดับโลก

ที่แท้หน้าตาดีมาก สาวรักสาวหลงทั้งประเทศ ไม่ได้หมายถึงตัวรุ่นพี่รหัส แต่หมายถึงชื่อของรุ่นพี่ที่เหมือนดาราซึ่งหน้าตาดีมาก สาวรักสาวหลงทั้งประเทศ!

ผมน่าจะฉุกใจตั้งแต่คำว่าประเทศแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่นักศึกษามหาลัยจะมีคุณสมบัติข้อนี้ใช่มั้ยล่ะครับ ติ๋มกระโดดกอดผมน้ำตาปริ่ม เพื่อนแต่ละคนก็ไชโยโห่ร้อง ถึงขนาดโทรหาคนที่ไม่ได้มาเป็นสักขีพยาน ว่าในที่สุด ปริศนาของนายเจตรินก็ถูกไขในวันสุดท้ายก่อนเส้นตายพอดี!

อะไรจะโอเวอร์ขนาดนั้นเนี่ย ผมทั้งฉุนทั้งขำ ฉุนเพราะรหัสคำใบ้ของตัวเองซับซ้อนกว่าคนอื่นหลายเท่า แต่ก็ขำ เพราะถ้าไม่ใช่คำใบ้นี้ เหตุการณ์รวมแรงรวมใจ ท้าทายความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ก็คงไม่ส่งผลกระทบออกมาสุดโต่งขนาดนี้

“แล้วเจอกันในงานเลี้ยงสายนะจ๊ะน้องเจ” รุ่นพี่ของติ๋มยิ้มหวาน เธอคงสงสารผมละมั้ง ถึงได้พาตัวคุณแฟนมาเยือนถึงที่ กะให้ผมรู้ตัวสักที

“ขอบคุณนะครับ” ผมยกมือไหว้เธอและรุ่นพี่รหัสของตัวเอง ก่อนจะโดนเพื่อนๆ ลากไปกินไอติม เปลี่ยนจากเลี้ยงปลอบใจ เป็นเลี้ยงฉลองซะแทน

นับเป็นวันที่ผมดีใจที่สุด สบายใจที่สุด และสนุกที่สุดตั้งแต่เข้ามหาลัยเลย!

(( เป็นไงบ้างครับน้องเจ คุ้มมั้ยครับ ))

“คุ้มครับ เพื่อนๆ ทุกคนช่วยกันมากเลย แม้หลายคนจะไม่รู้จักกัน แต่ก็มารวมตัวกันเพราะอยากไขปริศนาคำใบ้ ถึงหลังจากนี้...จะมีเรื่องขัดแย้ง เถียงกันเรื่องเรียน โดนยืมเงินแล้วไม่คืน โดนโบ้ยงานกลุ่มให้ทำ ไม่สนิทสนมหรือคุยเล่นเฮฮาเท่าเดิม แต่อย่างน้อยวันนี้ก็คุ้มมาก สนุกมากครับ”

(( เห็นน้องเจยิ้มกว้างพี่ก็ดีใจ )) นิฌานพยักหน้ารับหงึกหงัก (( แม้น้องเจจะยังระแวง คิดมากคิดเยอะ มองโลกในแง่ร้าย แต่หัดเปิดใจ รับประสบการณ์ใหม่ๆ แบบนี้ พี่ก็ดีใจมากๆ เหมือนกันครับ ))

“ขอบคุณนะพี่ฌาน” ผมเอ่ยกับคนรัก เพราะวันนี้พี่จิอยู่บ้าน ผมเลยต้องแอบมานั่งคุยในห้องน้ำ พี่ชายไม่ได้ห้ามคุยกับแฟนหรอกนะ แต่ผมไม่อยากโดนล้ออ่ะ!

แล้วนั่น...พี่จิเคาะประตูทำไม

“เจ พี่ปวดอึ! ข้าศึกบุกชิดประตูเมืองแล้ว!!”

เสียงตะโกนของพี่จิคนดีลอดเข้าไปในโทรศัพท์ด้วย นิฌานหัวเราะร่วน ยิ้มบอกกับผมว่าราตรีสวัสดิ์

“ราตรีสวัสดิ์ครับพี่ฌาน” ผมพูด นิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกระซิบเสียงเบา “รักพี่ฌานนะครับ”

ปลายสายชะงักเล็กน้อย ก่อนจะมองผมด้วยตาประกายวาวแห่งความยินดี

(( รักน้องเจเหมือนกันครับ ))

เสียงประตูยังเคาะไม่ยั้ง ไม่ทันให้ได้ซึมซาบความรักและคิดถึงเลยสักนิด พอเดินออกจากห้องน้ำ พี่จิก็รีบถลาหาโถส้วมทันที ผมถอนหายใจเฮือก ทิ้งตัวนอนพร้อมดึงผ้าห่มคลุมให้เรียบร้อย

พวกเราคบกัน นิฌานเป็นคนดีขึ้น ส่วนผมก็โตขึ้น

ผมรู้วีธีเป็นสะพานเชื่อมให้เขา นิฌานเองก็รู้วิธีเกลี้ยกล่อมผมที่ขนาดครอบครัวยังทำไม่ได้

ถือว่าเลือกคนรักไม่ผิดจริงๆ นั่นแหละ กับนิฌาน ชาญชัยคนนี้

-------------

ตอนนี้เป็นตอนที่ค่อนข้างเรียบเรื่อย ฟีลแปลกใหม่จากตอนอื่นๆ แต่เป็นตอนที่เราชอบมากนะคะ เพราะได้เห็นน้องเจในมุมของเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้กระตือรือร้นกับงาน ช่วยเหลือนิฌาน แต่ใช้ชีวิตของตัวเองแบบไม่สนใจใครสุดๆ น้องเจเนี่ยความจริงแล้วเป็นคนค่อนข้างขวางโลกนะ จะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นวัยต่อต้านก็ไม่แปลก 555

น้องเจเปลี่ยนนิฌาน นิฌานเองก็เข้ามาเปลี่ยนน้องเจเหมือนกัน

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่แม้จะหื่นแต่ก็มีความละมุนในจิตใจ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-08-2018 20:24:24
พี่แบร์รี่ ณเดช ชื่อก็ใช่ หุ่นก็เหมือนกับชื่อเล่น เกือบพลาดแล้ว ดีที่เจหัวแหลม  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-08-2018 21:53:48
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 07-08-2018 21:56:37
ต่างคนก็ต่างเรียนรู้กันไป ปรับกันไปเน๊อะ. น้องเจเริ่มเปิดใจกว้างยอมรับคนอื่นมากขึ้น ดีมากๆ เลย ยกความชอบให้พี่ณานล่ะ.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-08-2018 22:37:04
น้องเจน่ารักเหมือนเดิมเลยน้าาาา
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-08-2018 00:16:58
เกลียดคำใบ้จัง555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-08-2018 00:17:56
มาถึงตอนนี้ก็คิดไว้ว่า นิฌาน ก็เป็นที่พึ่งที่ปรึกษาที่ดีได้นะ ^^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-08-2018 00:47:38
ค่อยสมวัยหน่อยนะ น้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-08-2018 12:15:52
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 08-08-2018 14:22:34
น้องเจที่ทำตัวสมวัยน่ารักน่าเอ็นดู :-[
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-08-2018 15:28:44
ตลกดีอ่ะ 555555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 29 - P.21 -[ 07/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-08-2018 21:35:32
น้องเจน่ารัก อ่านแล้วในหัวก็มีแต่คำว่าน้องเจน่ารักเต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 09-08-2018 19:35:24
ตอนที่ 30 : กินเลี้ยง


อาจเพราะไม่เคยมีแฟน ผมเลยคิดว่าการที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันทำตามหน้าที่ นิฌานทำงาน ผมตั้งใจเรียน ไม่นับเป็นเรื่องยากอะไร โทรคุยวันละสองเวลา เพียงพอจะตาย อยากเจอกันเหรอ เดี๋ยวผมไปหาเขาเองก็ได้ แต่หลังผ่านไปสองอาทิตย์นับจากเปิดเทอม ถ้าไม่นับวันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว...

ผมก็ไม่ได้เจอแฟนเลย

เอาตรงๆ ขนาดวันหยุดผมว่างนิฌานก็ไม่ว่างอยู่ดี ส่วนวันธรรมดานั้นอย่าหวัง...เพราะไอ้ภารกิจหารุ่นพี่นั่นแหละที่ทำให้เวลาส่วนใหญ่ผมหมดกับการเดินวนรอบมหาลัยจนเย็น จากนั้นก็กลับไปกินข้าวที่บ้าน ทำการบ้าน ทำงานกลุ่ม เตรียมพรีเซ้นท์ คุยกับแฟน นอนหลับ แล้วก็วนลูปแบบนี้อย่างไร้จุดสิ้นสุด

ชีวิตเด็กมหาลัยเหมือนจะสบาย...แต่ไม่ยักง่ายอย่างที่คิด!

วันเสาร์เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ผมขึ้นไปรอนิฌานที่ห้อง เห็นสภาพเสื้อผ้าโยนเต็มตะกร้าไม่มีเวลาส่งซัก เห็นจานชามที่กินแล้ววางทิ้งเพราะไม่มีเวลาล้าง ก็จัดการทำความสะอาดซะเลย อันที่จริงนิฌานมักจะจ้างแม่บ้านมาทำนะครับ แต่เขาคงเห็นว่าช่วงนี้ยุ่งกับการเตรียมปิดกล้องเช็กเมท ไม่ค่อยได้อยู่ห้อง เลยกะจ้างทีเดียวเอาตอนปิดกล้องนอนตีพุงอยู่กับห้องสบายๆ

“อ้าว น้องเจ มาตั้งแต่กี่โมงครับเนี่ย” สี่ทุ่มครึ่งนิฌานเพิ่งถึงห้อง พอเห็นผมกำลังนั่งกินขนมดูโทรทัศน์ ก็คล้ายใช้พลังเฮือกสุดท้ายไปหมดแล้ว ทิ้งน้ำหนักลงมาทั้งตัวกอดผมเกาะเป็นตังเม

“พี่ฌาน ผมหนัก”

“น้องเจของพี่ พลังงานของพี่ ดวงอาทิตย์ของพี่ เด็กดี...ยิ้มหน่อยสิครับ ไม่เจอตั้งหลายวันใจพี่เหี่ยวมากเลย” นิฌานกอดแล้วก็ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าว ราวไม่มีผมแล้วเขาพร้อมจะขาดใจตายทุกวันเวลา

“พี่ฌานยิ้มก่อนสิ” จู่ๆ มาบอกให้ยิ้ม ผมตั้งตัวไม่ทัน

นิฌานฉีกยิ้มทันควัน พอเห็นอย่างนั้นผมก็ยิ้มตามอัตโนมัติโดยไม่ต้องฝืนเลย

“คิดถึงพี่มั้ยครับน้องเจ” นิฌานถือโอกาสขยับตัวเปลี่ยนจากโอบกอดเป็นนอนตักผม พร้อมจับมือมาจูบเบาๆ

“จั๊กจี้น่าพี่ฌาน” ผมชักมือออก ใบหน้าเห่อแดงอย่างบอกไม่ถูก ไอ้คิดถึงก็คิดถึง แต่คงไม่หนักหนารุนแรงเท่าที่เขาแสดงออกแน่ๆ “เมื่อกี้ผมดูเช็กเมทด้วย พรุ่งนี้จะถึงฉากที่พี่ยิงหัวหน้าตำรวจแล้วสินะครับ”

“ใช่ พอจบฉากนั้นจะมีแฟลชแบคย้อนอดีตด้วยว่าหัวหน้าองค์กรวางแผนยังไงบ้าง” นิฌานหัวเราะสะใจ “แทบจะรอผลตอบรับไม่ไหวแล้ว น้องเจดูกระแสเช็กเมทมั้ย ตอนนี้ความนิยมของพี่ชายมิสเตอร์เอสสูสีกับพระเอกเลยนะ ไม่อยากจะคิดตอนความจริงเฉลย พี่จะโดนทุเรียนปาหน้ามั้ยเนี่ย”

“คึกไปแล้วนะพี่ฌาน” ผมถลึงตาใส่เขาอย่างโมโห หยามความรักของแฟนคลับที่มีต่อมิสเตอร์เอสเกินไปแล้ว “อาทิตย์หน้าก็จะจบแล้วสินะครับ”

“ใช่ อาทิตย์นี้เฉลย อาทิตย์หน้าก็จะจบแล้ว” นิฌานเงียบไปครู่หนึ่ง “ถึงจะรับเล่นเรื่องนี้เพราะน้องเจ แต่พี่ก็ทุ่มเทมากๆ เพราะคิดว่าน้องเจต้องตั้งหน้าตั้งตาดูอย่างใจจดใจจ่อแน่ๆ พอจะไม่ได้เข้ากองแล้ว...ก็ใจหายเหมือนกันนะ ไม่สิ เทียบกับไม่ได้เจอน้องเจแล้วหนักกว่า พี่ต้องตายแน่ๆ! ตายแน่ๆ!!”

“ไม่มีใครตายเพราะความคิดถึงหรอกนะพี่ฌาน” ผมขยับขาหลบ เล่นเอาคนที่นอนตักเพลินๆ รีบถลามาโอบเอวไม่ยอมให้หนี

“เอวบางๆ ของน้องเจ ฟอด”

แต่ไอ้คนลามกกอดแล้วไม่ยอมปล่อย เอาหน้าซุกไซ้หอมท้องผมจนชวนใจหวิว!

“เดี๋ยวเถอะพี่ฌาน หยุดเลยนะ” ผมแงะหัวเขาออก

“โธ่ น้องเจหวั่นไหวเหรอครับ วัยรุ่นความรู้สึกไวนี่นะ อายุสิบแปดกำลังฮอร์โมนพลุ่งพล่านอยู่ซะด้วยสิ” นิฌานเปลี่ยนมานั่งข้างๆ โน้มหน้าหรี่ตามองอย่างจับผิด

กำลังหวานกันอยู่แท้ๆ ไหงมาหื่นได้ล่ะเนี่ย

“ถ่ายคลิปกันเถอะครับ ไม่ได้ส่งให้คุณแม่นานแล้ว ท่านคงคิดถึง” ผมเปลี่ยนเรื่องทันที ซึ่งได้ผล เพราะคนหื่นกลายเป็นเด็กชายแปดขวบแสนเชื่อง นั่งคลอเคลียอยู่ข้างๆ ผมอย่างเชื่อฟัง

“พี่จะพูดอะไรกับแม่ดี เรามาเตี๊ยมกันก่อนมั้ย”

ผมหลุดขำคนตัวโตที่ขมวดคิ้วมุ่น

“ไม่ต้องเตี๊ยมหรอกพี่ฌาน ผมจะพูดนำก่อน พี่ฌานก็ค่อยๆ ตามน้ำ จะเล่นจะแหย่กันก็ได้ นี่อัพคลิปให้คุณแม่นะ ไม่ใช่การแสดงละคร” ผมพูดพลางตั้งกล้องกับโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา “ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องฝืน ถ้ามองกล้องแล้วไม่ชินมองหน้าผมก็ได้พี่”

เด็กชายนิฌานมองผมเพื่อเสริมสร้างกำลังใจ เมื่อเห็นเขาพร้อมผมก็เริ่มอัดวีดีโอ

“สวัสดีครับคุณแม่ ไม่ได้คุยกันนานเลยเนอะ พอดีช่วงนี้ผมเปิดเทอมแล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้เจอพี่ฌาน แต่พวกเรายังคุยกันอยู่นะครับ ไม่ได้ทะเลาะกันเลย คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะ” ผมเริ่มต้นด้วยการยกมือไหว้ทักทาย แม้คำพูดจะฟังดูส่อด้านการคบหา แต่พวกเราไม่ได้นั่งคลอเคลียประเจิดประเจ้อ ถ้าคลิปหลุดขึ้นมาจริงๆ ยังพอเนียนเป็นลูกพี่ลูกน้อง เป็นน้องชายที่น่ารัก หรือเป็นเพื่อนสนิทที่คุณแม่ไว้ใจให้ช่วยดูแลลูกชาย “ผมมีเรื่องจะเล่าให้คุณแม่ฟังด้วยล่ะ เกี่ยวกับรุ่นพี่รหัสของผมเองครับ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาหรอกนะ แต่พี่ฌานนี่สิ บอกให้ผมใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่หน่อย เขาหาว่าผมเก็บตัวล่ะ”

“ก็ต้องเจเป็นเด็กดีที่ติดครอบครัวจนเหมือนเด็กเก็บตัวจริงๆ นี่” นิฌานพูดแทรก พอเป็นเรื่องผมทีไรไม่ยอมปล่อยผ่านเลยสักครั้ง “ตั้งใจจะเรียนมหาลัยสี่ปีโดยคบติ๋มเป็นเพื่อนคนเดียว เชื่อเขาเลย”

“เพื่อนเรียน เพื่อนกินข้าว เพื่อนติว มีแค่คนเดียวไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน”

“ก็ไม่เสียหายหรอกครับ เพื่อนสนิทจะมีคนเดียวก็ได้พี่ไม่ว่า แต่เพื่อนในคณะน่ะก็ต้องคบๆ ไว้บ้างจะได้ช่วยเหลือกัน น้องเจเล่าเรื่องนั้นให้คุณแม่ฟังสิ ปฏิกิริยาของทุกคนตอนหาพี่รหัสเจอน่ะ”

“ผมก็กำลังจะเล่าอยู่นี่ไง พี่ฌานขัดผมก่อนอ่ะ”

“อ้าวเหรอ โทษทีๆ เชิญน้องเจเล่าเลยครับ”

การอัดวีดีโอครั้งที่สอง เป็นไปอย่างราบรื่นและน่าพอใจมาก จะว่าไปก็เหมือนเรามานั่งทอส์กโชว์กันมากกว่า เล่าไปอีกคนก็ขัด เดี๋ยวแทรกเดี๋ยวเสริม เดี๋ยวแย้งเดี๋ยวชม พอย้อนดูก็ตลกดี

“น่ารักดีนะครับ” นิฌานซึ่งรวบผมให้นั่งพิงไหล่เขาพูดหลังจากเราเปิดวีดีโอเล่นซ้ำก่อนจะโหลดส่งให้คุณแม่

“ใช่ ผมน่ารัก พี่ฌานก็น่ารัก คุณแม่ต้องชอบแน่ๆ”

“มันเขี้ยวจริงๆ เลย” พลันคนตัวโตก้มงับแก้มผมจนร้องโอดโอย ผมรีบลุกหนีแล้วส่งคลิปให้คุณแม่ เพราะดึกมากแล้วเลยไม่คิดว่าเธอจะตอบกลับมาทันที

“ไปอาบน้ำได้แล้วพี่ฌาน” ผมดึงแขนคนที่งอแงอยากนัวเนียผมต่ออีกสักนิด เพราะแม้ผมจะมาหาในวันหยุด แต่กว่าเขาจะกลับห้องก็ดึกดื่น แถมยังต้องตื่นเช้าไปทำงานอีก เวลาจู๋จี๋เลยน้อยแสนน้อย “ไว้ค่อยนอนกอดกันก็ได้ ไปอาบน้ำเร็ว”

“แค่กอด?”

“ก็ต้องแค่กอดสิครับ ผมยังไม่พร้อมนะ” ผมตัดสินใจพูดให้ชัด เพราะตั้งแต่คบกันนิฌานก็พูดเป็นเชิงสองแง่สองง่ามมาตลอด

“คิดมากเหรอหืม พี่ล้อเล่น น้องเจไม่พร้อมพี่ก็ไม่ฝืน รู้ใช่มั้ยเด็กดีว่าพี่ไม่ทำร้ายเราแน่นอน”

“ผมรู้...” ผมงึมงำ หน้าแดงก่ำ ไม่ใช่ว่ารังเกียจเรื่องบนเตียง แต่คนมันไร้ประสบการณ์ พอคิดแล้วมันก็แอบผวาหน่อยๆ น่ะเข้าใจมั้ย แถมผมยังเป็นฝ่ายรับอีก ไม่เข้าใจเลย ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายโดนกอดด้วยล่ะ

แต่พอมองขนาดตัวนิฌาน เทียบประสบการณ์ความช่ำชอง ก็คิดว่า...ไม่น่าจะพลิกเขาไหว อีกอย่าง...กับคนรักที่เป็นฝ่าย ‘ให้’ ผมอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน ผู้ ‘รับ’ อย่างผมก็ไม่ต่อต้านกับเรื่องใครกอดหรือถูกกอดหรอก

ส่วนสำคัญคือเมื่อไหร่ผมจะพร้อมต่างหาก!





“พี่จิ...ตอนพี่มี...เอ่อ...จุดจุดจุดกับเสี่ยครั้งแรก พี่จิเจ็บมากมั้ย”

“จุดจุดจุด? จุดจุดจุดคืออะไรน่ะเจ นั่งสมาธิ ดำน้ำ ปลูกปะการัง ทำอาหาร นวดสปา ดำนา ล่องเรือ ส่องสัตว์ ช้อปปิ้ง ดูละครเวที ดูคอนเสิร์ต จัดดอกไม้ เที่ยวตลาดน้ำ เรียนถ่ายรูป ดูกายกรรม ชมเมืองเก่า เข้าสัมมนา ทัวร์ธรรมมะ เรียนเต้นแล้วก็ร้องเพลง...เหรอ??”

ยังจะมา ‘เหรอ’ อีก! ผมกุมขมับตั้งแต่ดำน้ำแล้ว!!

“ผมหมายถึง...กิจกรรมบนเตียงน่ะ” ผมขยายความให้ลึกขึ้น เพราะคอนโดของนิฌานอยู่ไกลจากมหาลัยผมมาก แม้จะอยากนอนค้างด้วยอีกสักคืน แต่ผมก็โดนไล่มานอนที่บ้านในวันอาทิตย์เพื่อผจญภัยกับสารพัดการเดินทางไปมหาลัยในวันจันทร์

“อ้อ เล่นโยคะน่ะเหรอ”

“ไม่ใช่!” ผมมองพี่ชายอย่างสับสน นึกภาพพี่จิกับเสี่ยเล่นโยคะบนเตียงไม่ออกเลย “เซ็กซ์น่ะพี่จิ เซ็กซ์!”

สุดท้ายก็พูดโพล่งออกมาเอาโต้งๆ เหนื่อยใจกับพี่ชายคนดีจริงๆ

“ถ้าเรื่องนั้นละก็...แหม...เจ็บนิดหน่อย” พี่จิเขิน จับผ้าห่มบิดไปมาจนไส้แทบทะลัก “แต่ตอนนั้นมันสุขใจมากกว่า เจก็รู้ ว่ากว่าพี่จะลงเอยกับเสี่ยต้องผ่านอะไรมาเยอะแค่ไหน พอเสี่ยยอมกอด ก็เลยเคลิ้ม รู้ตัวอีกทีก็ลอยทะลุฟ้า ขึ้นสู่สวรรค์ชั้นเจ็ด”

“...”

คิดดีมั้ยเนี่ยที่ปรึกษาพี่จิ

“เจจะมุดโปงกับนิฌานแล้วเหรอ ไม่นะ เจยังสิบแปดอยู่เลย อย่าเพิ่งรีบสละความซิงสิน้องพี่! อย่างน้อยก็เก็บให้ถึงยี่สิบ! ใช่ๆ อย่างน้อยก็ต้องตอนอายุยี่สิบสอง ให้เท่ากับที่พี่ชายคนนี้ลิ้มรสประสบการณ์ครั้งแรกตอนยี่สิบสี่!”

“สรุปจะยี่สิบ ยี่สิบสอง หรือยี่สิบสี่กันแน่อ่ะพี่จิ...”

“ถ้าใจพร้อมอายุก็ไม่ใช่ปัญหา”

ผมเหนื่อยมาก ขอแปะมือหาคนมาคุยกับพี่ชายแทนได้มั้ย

“อย่าเพิ่งเอาหัวโขกเตียงสิไอ้เจ พี่แค่อารมณ์ขึ้นเพราะกลัวน้องชายเสียซิงเร็วกว่าตัวเองเฉยๆ! แต่ถ้าเจพร้อม พี่ก็ไม่ขัดหรอก แม้ว่าพี่จะใจหายบ้างก็ตาม ฮึก น้องชายพี่ เลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย ร้องเพลงกล่อมนอนให้ฟังแทบทุกคืน อาบน้ำให้ทุกวัน วิ่งเล่นกันทุกเช้า ยอมให้เขี่ยผักทุกเที่ยง นอนกลางวันด้วยกันทุกบ่าย นั่งดูโทรทัศน์กันทุกเย็น แล้วก็...แล้วก็...”

“พอเถอะพี่จิ นี่จะวนมาครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วนะ”

“เพลินไปหน่อย” พี่จิลูบหลังหัวพลางหัวเราะแก้เก้อ เสียงหัวเราะที่สดใสไร้เรื่องทุกข์ ฟังแล้วจิตใจผ่อนคลายอย่างประหลาด

“เอ้อ พี่จิ พรุ่งนี้ผมกลับมืดนะ มีเลี้ยงสายรหัส”

“แต่พรุ่งนี้พี่ไม่กลับบ้านนะ ต้องไปนอนกับเสี่ย”

”...”

“...”

“ราตรีสวัสดิ์นะพี่จิ” ผมปลงแล้ว ยอมแพ้แล้ว

“ฝันดีนะเจ” พี่จิพูดพลางทิ้งตัวนอนทันที นอนทั้งที่ผ้าห่มไส้ทะลักนั่นแหละ แต่หลับไปได้ไม่นาน พี่ชายก็เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ พลิกตัวหันมาหาผม จับไหล่แน่นจนคนขี้เซาสะดุ้งตื่น “ถ้าพรุ่งนี้เมากลับไม่ไหวก็โทรบอกพี่ชายคนนี้ เดี๋ยวจะให้เสี่ยส่งพี่เบิ้มไปรับนะไอ้น้อง”

“ครับ...”

ประมวลผลโคตรช้าเลยพี่จิ!






เย็นวันจันทร์ เหล่าคณะนักศึกษาที่หาพี่รหัสเจอตามกำหนดก็พากันยกโขยงไปยังร้านหมูกระทะ เหล้าเบียร์ไม่อั้น นับหัวแล้วเกือบสี่สิบคน

เพราะพี่รหัสเป็นแฟนกัน ผมกับติ๋มจึงนั่งร่วมโต๊ะกับทั้งคู่ ซึ่งดีมาก เพราะพี่รหัสของติ๋มไม่ดื่มเหล้า ผมไม่ดื่ม ติ๋มก็ไม่ดื่ม ทำให้โต๊ะเราค่อนข้างสงบ ขนาดพี่ฌเดชยังเกรงใจ ถือเบียร์จิบๆ แค่ทีสองทีพอให้หายอยาก

แน่นอนว่าหัวข้อที่ถูกพูดถึงที่สุดในงานเลี้ยงครั้งนี้ย่อมเป็นคำใบ้สุดกวนของพี่รหัสผมเอง แถมเจ้าตัวดูจะพอใจมากๆ ด้วย

ส่วนหัวข้อรองมานั้น...

“เมื่อวานดูเช็กเมทกันรึยัง”

“ดูแล้วๆ โอ๊ย พูดแล้วคันปาก สปอยได้มั้ย มีใครยังไม่ดูอีกบ้าง”

“ไม่ดูก็เชยแย่สิวะ ดูกันหมดแล้วโว้ย ฉากตอนเฉลยโคตรหักมุมเลย อุตส่าห์เทใจให้พี่ชายมิสเตอร์เอส สุดท้ายเสือกเป็นหัวหน้าองค์กรปลอมตัวมาซะงั้น ตอนย้อนความว่าวางแผนอะไรบ้างนะ โคตรแค้นแทนพระเอกเลย!”

“เออ จากที่ชอบๆ กลายเป็นเกลียดเลย แม่ง ฆ่ามิสเตอร์เอสแล้วยังปลอมตัวมาอีก พวกพระเอกก็ยังไม่รู้ตัว โคตรลุ้นเลยวะ จะเป็นไงต่อวะเนี่ย”

“ตอนหน้าจะไปหลุมศพมิสเตอร์เอสกันด้วย ต้องเปิดฉากสู้กันบ้างล่ะ”

“สู้กันต่อหน้าหลุมศพมิสเตอร์เอส...ฮึก ขออย่าให้พระเอกเป็นอะไรไปเลย!”

ผลตอบรับของซีรีส์เช็กเมทเป็นไปตามความคาดหมาย ตอนนี้นิฌานโดนก่นด่ากันทั้งประเทศ เชื่อสิว่างานอีเวนต์ที่เขาจะไปเปิดตัวสินค้าวันพรุ่งนี้ต้องถูกนักข่าวรุมถามแน่

นึกถึงสีหน้ายิ้มร้ายของแฟนผมก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เพิ่งจะเจอกันแท้ๆ...ชักจะคิดถึงขึ้นมาอีกแล้วแฮะ

“ติ๋มกลับไง”

หลังกินกันจนท้องแทบแตก ผมก็หันไปถามติ๋ม เพราะตอนนี้เริ่มดึกมากแล้ว ร้านหมูกระทะอยู่ในซอย จะเรียกรถแท็กซี่ เรียกมอเตอร์ไซค์ก็ลำบาก

“อ้อ เดี๋ยวพี่ชายเรามารับน่ะ”

ไม่ทันขาดคำ พี่ชายติ๋มก็ขับรถมารับน้อง ตอนแรกติ๋มบอกให้ติดไปด้วยมั้ย จะไปส่งหน้าปากซอยที่มีรถเมล์วิ่งผ่าน แต่ผมปฏิเสธไป เพราะตัวเองก็มีพี่ชายสุดที่รักอยู่เหมือนกัน

แต่พอโทรหา...พี่จิกลับไม่รับ

คุ้นๆ มั้ยครับ

มองนาฬิกาเวลาสามทุ่มตรง สงสัยพี่ชายกับเสี่ยจะเล่นตำรวจจับผู้ร้ายอีกแล้ว!!

“มา เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง” ฌเดช พี่รหัสของผมอาสาเมื่อเห็นผมเคว้งคว้างไร้ทางไป เขาดื่มเบียร์แค่สองแก้ว หน้ายังไม่แดง ดูไม่ค่อยเมา ผมเลยพยักหน้าตกลง ซ้อนหลังมอเตอร์ไซค์ของพี่แก ไม่ลืมหันไปยกมือลาเหล่ารุ่นพี่ที่ยังเฮฮากันในร้าน

ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์

แม้พี่รหัสจะไม่เมา มีสติรับรู้คุยโต้ตอบได้เหมือนปกติ แต่การดื่มแอลกอฮอล์ก็ทำให้การตอบสนองช้าลงอยู่ดี อย่างเช่นตอนนี้...ตอนที่มีหมาวิ่งตัดหน้า แทนที่จะหักเลี้ยวเข้าพุ่มไม้ข้างทาง พี่แกดันพุ่งชนหมาจนทั้งคน ทั้งมอเตอร์ไซค์ ทั้งหมากระเด็นกระดอน

ภาพสุดท้ายก่อนผมจะหมดสติคือโทรศัพท์ที่กะพริบถี่

ปลายสายคือพี่ชายของผม...พี่จิคนดีที่อยากร้องเพลงให้ว่าแค่หนึ่งวินาทีก็ช้าไป...

--------------

ตอนแรกลังเลมากว่าจะใส่มุกประโยคสุดท้ายดีมั้ย จะตัดอารมณ์ไปรึเปล่า แต่ไม่อยากให้เครียดกัน เลยใส่ดีกว่าค่ะ เพราะไม่ใช่อุบัติเหตุร้ายแรงมาก แค่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่จะทำให้หลายๆ อย่างพัฒนาขึ้น

และอยากให้เห็นด้วยว่าน้องเจไม่เคยโทษพี่ชายตัวเองนะคะ

เป็นหนึ่งตอนที่ต้น กลาง ปลาย คนละอารมณ์สุดๆ 555

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่อยากจะไปดำน้ำชมปะการังกับหนูจิ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 09-08-2018 19:53:03
ม่ายยยยยยยยยยยยยย น้องเจจจจจจจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 09-08-2018 20:01:37
น้องเจกับพี่ณเดชอย่าเป็นอะไรมากเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-08-2018 20:14:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-08-2018 20:27:49
ฤทธิ์ของเหล้าเบียร์ ดื่มนิดเดียวก็บั่นทอนสติได้ น้องเจจจจจจจจจ :mew2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 09-08-2018 21:17:20
แงงงงงงงงง น้องเจอย่าเป็นอะไรเลยนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 09-08-2018 21:32:20
ง่า ตอนนี้จบค้าง รีบต่อตอนหน้าไวๆ นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-08-2018 21:52:20
น้องเจ ไม่น่าไปกับคนเมาเลยย โอยย เจ็บมากมั้ยย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-08-2018 23:11:14
วั้ย. ตั่ยแล้วน้องเจ จะเป็นอะไรมั๊ย เดี๋ยวพี่จิกับพวกคงยกโขยงมาพาน้องเจไปเช็คร่างกาย แสกนสมอง  ที่โรงพยาบาลเป็นแน่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-08-2018 23:57:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-08-2018 02:08:26
น้องเจจจจจจจจ โดนพี่ณเดชพาไปกลิ้งบนถนน เจ็บมากไหมเนี่ย  :ling1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 10-08-2018 03:04:43
พี่จิ ช้าตลอด น้องเจเกิดอุบัติเหตุแล้วเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 10-08-2018 07:51:15
รอตอนต่อไปค่ะ^^
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-08-2018 10:20:54
ติมตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 30 - P.21 -[ 09/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-08-2018 19:20:11
งานนี้พี่จิต้องเสียใจแบบชุดใหญ่แน่
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 -[ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 11-08-2018 19:13:26

ตอนที่ 31 : คืนเข้าหอ


ภาพแรกที่ผมคิดว่าจะเห็นยามลืมตา คือครอบครัวทองคำดี

แต่...รอบกายผมกลับไม่มีใครเลย ไม่-มี-เลย!!

เป็นไปไม่ได้ นายเจตริน ทองคำดี ลูกชายคนเล็กสุดรักสุดหวงของบ้านประสบอุบัติเหตุ มีหรือที่พ่อกับแม่จะไม่รีบมานั่งเฝ้า พี่ชายจะไม่ทิ้งแฟนมาร้องไห้คร่ำครวญเสียใจที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ หรือว่าประเทศไทยหิมะตก ผมถึงถูกทิ้งให้นอนอยู่ในห้องคนเดียว!

ไม่เชื่อ ให้ตายผมก็ไม่เชื่อแน่ๆ ผมยันตัวเองลุกนั่ง ก่อนจะร้องโอดโอยเพราะปวดศีรษะ...มอเตอร์ไซค์ล้มไม่หนักหนาเท่าหัวกระแทกพื้นจนสลบเหมือด จำไว้นะครับ อย่าเห็นว่าใกล้แล้วไม่สวมหมวกกันน็อก เกิดเรื่องแล้วไม่คุ้มเลย

หลังตั้งสติ ผมก็สำรวจรอบๆ พบว่าเป็นห้องผู้ป่วยเดี่ยว หรูหรามาก ตอกย้ำว่าพี่ชายผมมาถึงแล้ว เพราะเสี่ยต้องออกเงินให้แน่ๆ แต่...พวกเขาหายไปไหนหมดล่ะ

ผมตัดสินใจกดกริ่งเรียกนางพยาบาลด้วยความมึนงง

ไม่นาน พยาบาลก็มาตรวจพร้อมกับครอบครัวทองคำดีมุงมองผมห่างๆ อย่างตื่นตกใจกันใหญ่ เฮ้...ผมฟื้นแทนที่จะดีใจ ไหงมองอย่างตื่นตะลึงอย่างนั้นล่ะ หรือผมมีหัวงอกออกมากัน

“จะยืนอออยู่ตรงนั้นอีกนานแค่ไหนครับ” ผมพูดอย่างหงุดหงิด น้องเล็กไม่ได้รับความห่วงใย เจ็บใจยิ่งกว่ามอเตอร์ไซค์ล้มอีก

“เจ!” พลันพี่จิร้องออกมาก่อน

“เจใช่มั้ยลูก!” ตามด้วยนางจรวย

“เจจริงๆ ใช่มั้ย!” ตบท้ายด้วยนายฉัตรชัย

ผมโคตรงง มองครอบครัวแสนรักที่จับกลุ่มอยู่ห่างๆ ด้วยความสับสนหนักมาก

“ก็ผมน่ะสิ เจตริน ทองคำดี จะให้เป็นใครได้ล่ะครับ”

สิ้นคำ พี่จิก็ถลามาคนแรก พุ่งตัวมากอดผมร้องไห้โฮๆ เฉลยข้อข้องใจที่ทิ้งให้น้องน้อยนอนเหงาอยู่คนเดียวนานสองนาน

“โฮ เจของพี่จริงๆ ด้วย พี่นึกว่าเราจะสลับร่างกับรุ่นพี่คนนั้นซะแล้ว พวกเราเลยไปยืนรออยู่ที่ห้องพักฟื้นของคนที่ชื่อฌเดช ลุ้นกันแทบตายว่าจะฟื้นขึ้นมาเป็นเจรึเปล่า ถ้าเจตื่นมาแล้วอยู่ปีสองจะทำยังไง ต้องเรียนตามเพื่อนๆ ไม่ทันแน่เลย!”

เดี๋ยว นั่นใช่ปัญหาที่ต้องห่วงเวลาสลับร่างเหรอ!

ผมยกมือนวดขมับ มองพ่อกับแม่ที่พยักหน้าสนับสนุนคำพูดพี่จิคนดีก็เริ่มเข้าใจเหตุการณ์คร่าวๆ...อย่าเพิ่งคิดว่าครอบครัวผมเป็นบ้าเลย แต่เพราะเคยเกิดเหตุการณ์สุดแฟนตาซี พี่ชายผมไปสลับร่างกับคนอื่น และคนคนนั้นเป็นจิระ ดาราที่กำลังโด่งดังตอนนี้ต่างหาก ถึงทำให้เรื่องไม่น่าเป็นไปได้ฟังแล้วเป็นไปได้

“ผมแค่รถล้มหัวฟาดพื้น ไม่ได้โดนรถชนสักหน่อย”

“อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้า!”

โอเค ผมเลิกเถียงกับพี่ชาย หันไปมองเลขาคมสันที่เดินตามเข้ามาพร้อมเสี่ยซึ่งแงะพี่ชายออกจากตัวผมไปกอดปลอบเสียเอง ก็พี่จิเล่นร้องห่มร้องไห้ พ่อกับแม่เองก็น้ำตาซึม คงใจเสียกันมากตอนรู้ข่าว

“เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วงนะครับคุณเจ เสี่ยจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง”

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมมีเงินเก็บอยู่ จะรบกวนเสี่ยได้ยังไง” ผมรีบแย้ง ต่อให้เสี่ยเป็นแฟนของพี่ชาย แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องออกค่ารักษาพยาบาลให้น้องชายแฟน

“ไม่รบกวนหรอกครับ เสี่ยเองก็ถือเป็นสมาชิกครอบครัวทองคำดี ไม่ใช่คนอื่นคนไกล”

...สรุปเสี่ยแต่งเข้าบ้านผมเหรอ!?

“แล้ว...รุ่นพี่ของผมเป็นยังไงบ้างครับ” ผมถามเลขาคมสัน เพราะดูเป็นคนที่พูดด้วยรู้เรื่องสุดแล้ว

“ฟื้นหลังคุณเจห้านาทีเองครับ ผมกับเสี่ยเลยมาช้า” คมสันกล่าว “นอกจากที่ศีรษะแล้วไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนเป็นพิเศษ รอดูอาการอีกสักคืนก็กลับบ้านได้แล้วครับ”

ผมถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะหันมองฟ้าที่ยังมืดอย่างสบายใจ แต่พอหันไปมองนาฬิกาติดผนัง ก็ต้องตกใจกับเข็มสั้นที่ชี้เลขแปด

ผมประสบอุบัติเหตุตอนสามทุ่ม...แต่ตอนนี้เพิ่งสองทุ่ม

ถ้าไม่ใช่เวลาไหลย้อนกลับ ก็หมายความว่า...

“คุณเจสลบไปเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมงครับ”

มิน่าพี่จิ พ่อ และแม่ ถึงได้คิดไกลล้ำโลก ที่แท้ผมสลบนานจนฟุ้งซ่านนี่เอง!

“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะครับ” แม้อุบัติเหตุจะเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ แต่ผมก็เสียใจที่ทำให้พวกท่านต้องเสียน้ำตา

“ปลอดภัยก็ดีแล้วลูก”

ผมยกมือไหว้รับขวัญพ่อกับแม่ หลังคุยเล่นกันจนเริ่มดึก ผมก็เหลือบมองโทรศัพท์เป็นพักๆ อย่างอดไม่ได้

“งั้นพวกเรากลับแล้วนะเจ”

“อ้าว ไม่มีใครนอนเฝ้าผมเลยเหรอ” ลูกชายคนเล็กน้อยใจอีกแล้ว ผมมองพ่อกับแม่อย่างเคืองๆ เมื่อพวกท่านรีบพากันกลับบ้าน พอหันหาพี่ชาย เสี่ยก็ลากเด็กอนามัยที่ตาปรือหายไปกับคุณเลขาเรียบร้อย

ทิ้งผมไว้คนเดียวได้ไงอ่ะ!

“ฮึ่ม” ผมตีมือกับเตียงอย่างโมโห ถ้าไม่ติดว่าหมอให้นอนดูอาการอีกคืน จะลุกจากเตียงกระโดดขึ้นรถติดไปด้วยให้ได้ แต่เหงาได้ไม่นานหรอกครับ เพราะตอนที่เริ่มจะเคลิ้มหลับ ในที่สุดคนที่ผมรอก็มาถึง

“น้องเจ!”

นิฌาน ชาญชัย แฟนผมเอง

“น้องเจไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ ตอนพี่รู้ข่าวเมื่อวานตกใจมากเลย รีบดิ่งมาจากกองเลยนะ แต่น้องเจยังไม่ฟื้น วันนี้พี่เองก็อยากจะหยุดงาน แต่แม่น้องเจรบเร้าบอกให้ไปทำงานเถอะ แล้วค่อยมาดูน้อง นอนเฝ้าทีเดียวแทน”

เอาเป็นว่าผมหายโกรธครอบครัวทองคำดีแล้วกัน

“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ครับพี่ฌาน แค่หัวแตกเฉยๆ” ผมชี้ผ้าพันแผลรอบศีรษะพร้อมยิ้มแห้ง “เมื่อวานพี่ฌานก็มาเฝ้าผมเหรอ”

“ใช่ครับ น้องเจบาดเจ็บขนาดนี้ พี่ไปไหนไม่ได้หรอก ต่อให้ตัวไปทำงาน แต่ใจก็อยู่กับน้องเจไม่ห่าง”

“เลี่ยนแล้วครับพี่ฌาน”

“โธ่ พี่พูดจริงๆ นะ” นิฌานถอดเสื้อนอกพาดกับโซฟาแขก ก่อนจะเดินมานั่งเก้าอี้ข้างเตียงผมพลางกวาดสายตาสำรวจเสียทั่วว่ามีตรงไหนเจ็บอีกหรือไม่ “พี่พูดจริงๆ นะครับ”

“ผมรู้” ผมตอบคนที่ย้ำคำหนักแน่น

“น้องเจสำคัญกับพี่ที่สุด สำคัญมากจนพี่ไม่กล้าจะคิดถึงวันที่ไม่มีน้องเจเลย” นิฌานเอ่ยเสียงเครือ นี่ก็อีกคนที่ฟุ้งซ่านหนัก ผมมองแฟนที่ก้มหน้าซุกกับฝ่ามือตัวเองแล้วอดโน้มตัวไปโอบกอดไม่ได้ “อย่าทิ้งพี่นะครับ”

“ผมไม่ทิ้งพี่ไปไหนหรอก” ผมจูบขมับคนที่ยังก้มหน้านิ่ง ก่อนจะค่อยๆ แงะมือเขาออก นิฌานไม่ได้ร้องไห้ แต่น้ำตาคลอหน่วยหวิดใกล้จะร้องอยู่เหมือนกัน ผมลอบยิ้มขันกับคนที่ปกติไม่คิดมาก แต่พอเป็นเรื่องผมกลับคิดไกล

คนเคยใช้ชีวิตลอยชายเคว้งคว้างอย่างเขาคงกลัวการลาจากที่สุด

“จะทิ้งลงได้ยังไง ก็ผมมีแฟนแค่คนเดียว คือนิฌาน ชาญชัยคนนี้นี่นา”

ผมรู้ซึ้งถึงแรงดึงดูดก็วันนี้นี่เอง เพราะพอพูดจบ สบสายตากับเขาครู่หนึ่ง ใบหน้าของเราสองคนก็ค่อยๆ โน้มเข้าหากัน ก่อนริมฝีปากจะแนบชิด ค่อยๆ ขบเม้นทีละนิดโดยไม่รู้ตัว

รสจูบที่อ้อยอิ่งและค่อยเป็นค่อยไปครั้งนี้มีแสงจันทร์เป็นพยาน





“เจ เป็นไงบ้าง!”

ตอนเช้า นางจรวยผลัดเวรกับนิฌานที่ต้องไปทำงาน พวกเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมผมเลยอดเห็นดาราชื่อดังนอนขดอยู่บนโซฟา หลับๆ ตื่นๆ คอยมองตลอดคืน

“วันนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว พรุ่งนี้คงไปเรียนตามปกติ” ผมตอบเพื่อนๆ แน่นอนว่าติ๋มเองก็มาด้วย พอไม่มีผม เขาดูจะเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยสนิทใจนัก เห็นได้ชัดจากระยะห่างระหว่างคนอื่นๆ กับติ๋ม

“ฝากเยี่ยมพี่ฌเดชด้วยนะ”

“เออ!”

กลุ่มเพื่อนแวะมาแล้วก็ไปอย่างรวดเร็ว เพราะเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เหลือแต่ติ๋มที่ยืนเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก คล้ายอยากอยู่ต่อแต่ไม่รู้จะชวนคุยยังไง แต่ถ้าอยู่ไปก็กลัวจะเกะกะ

อันที่จริงแล้วติ๋มไม่ใช่คนโลกส่วนตัวสูง คิดมาก หรือปิดตัวเองแบบผมหรอก ดูจากที่กระตือรือร้นในการทำกิจกรรมหาพี่รหัสก็รู้แล้ว แต่เขาไม่ค่อยกล้าพูดกับคนอื่นเพราะกลัวติดอ่างแล้วโดนล้อต่างหาก

“เหงาอ่ะดิ” ผมแกล้งหยอกซะเลย

“อืม หายเร็วๆ นะ” ติ๋มตอบรับแทบจะทันที คำพูดของติ๋มดูจริงใจกว่ากลุ่มเพื่อนนับสิบคนเมื่อกี้ลิบลับ แม่ถึงกับน้ำตาซึมที่ในที่สุดลูกชายคนเล็กก็รู้จักคบหากับคนอื่นบ้างสักที

ติ๋มดูโทรทัศน์เป็นเพื่อนผมกับแม่จนถึงหนึ่งทุ่ม ความจริงผมออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งแต่บ่ายแล้ว แต่นางจรวยบอกให้รอก่อน...

รอใครน่ะเหรอครับ

ก็แฟนผมคนเดิมเพิ่มเติมคือกระเป๋าเสื้อผ้า!

“พี่ฌานขนอะไรมาเต็มรถเนี่ย” ผมถามเมื่อเขามารับตอนสองทุ่ม สวนกับนางจรวยแค่ไม่กี่นาที ผมงงแม่มาก ไหนๆ นิฌานก็มาแล้วน่าจะกลับด้วยกันเลย ทางเดียวกันประหยัดน้ำมัน

“เดี๋ยวก็รู้ครับน้องเจ” นิฌานยักคิ้วยียวน ต่างกับคนที่นอนเฝ้าผมจนหลับไม่สนิทเมื่อคืนลิบลับ เพราะนิฌานขับรถมาแถวมหาลัยผม ก่อนจะเลี้ยวเข้าคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ห่างจากมหาลัยแค่สองป้ายรถเมล์

“พี่ฌาน...ย้ายคอนโดเหรอ”

“ใช่ครับ” แฟนผมพยักหน้าหนักแน่น “พี่ปรึกษากับคุณแม่น้องเจมาสักพักแล้วว่าอยากให้น้องเจอยู่หอ จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับ ทำกิจกรรมดึกๆ ดื่นๆ มันอันตราย พอเกิดอุบัติเหตุอย่างนี้เลยตัดสินใจ ว่าน้องเจไม่ต้องอยู่หอหรอก อยู่กับพี่นั่นแหละ พี่จะประกาศขายที่เก่า แล้วย้ายมาอยู่กับน้องเจเอง พอเรียนจบก็ค่อยหาห้องใหม่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างบริษัทกับบ้านน้องเจ จะได้เดินทางสะดวกๆ ดีมั้ยครับ”

“แต่ตอนนี้พี่ฌานต้องขับรถไปทำงานไกลขึ้นนะ”

“เทียบกับความปลอดภัยของน้องเจ พี่ยอม!”

มองคนที่ตัดสินใจไปแล้ว ถึงขนาดวางเงิน ซื้อห้อง แถมยังตกแต่งเรียบร้อยพร้อมอยู่ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก...แบกกระเป๋าเสื้อผ้าตามหลังต้อยๆ อย่างว่าง่าย

“พี่ฌานติดผมมากกว่าผมติดพี่นะเนี่ย”

ได้อยู่กับแฟน แถมไม่ต้องเดินทางไกล ใครบ้างจะไม่ดีใจ

“ก็พี่รักน้องเจนี่ครับ ไหน ขอหอมทีซิ”

ผมลูบแก้มที่โดนฟัดแล้วสำรวจห้อง ก่อนจะผงะ เมื่อเจอเตียงเดี่ยวในห้องนอน ผ้าปูสีชมพูหวานแหววจนชวนขนลุกนั้นยังไม่สู้กลีบกุหลาบที่โรยเต็มหมอน

“คืน ‘เข้าหอ’ ไงครับ”

สมเป็นเจ้าคารม ใช้คำกำกวมเก่งจริงๆ ผมย้ายมาอยู่หอ ยังจะเล่นมุกเข้าห้องหอได้อีก ผมทิ้งตัวลงบนเตียง แรงจนกลีบกุหลาบกระจัดกระจาย

“โธ่ น้องเจไม่โรแมนติกเลย” นิฌานบ่นอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะเก็บเสื้อผ้า พับผ้า แล้วยังแขวนชุดนักศึกษาให้ผมด้วย

ผมนอนตะแคงมองแฟนที่จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพแล้วรู้สึกอยากจูบเขาขึ้นมาชอบกล คงเพราะเพิ่งประสบอุบัติเหตุชวนใจหาย เลยอยากแสดงความรักต่อกันเยอะๆ ก่อนจะไม่มีโอกาส

“พี่ฌาน”

“ครับ”

“ขอจูบหน่อย”

 ไม้แขวนเสื้อตกกระแทกพื้น นิฌานหันมองผมด้วยสีหน้าอึ้งค้างตลกมาก ผมหัวเราะขำ ก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกแฟนด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ไม่รู้ท่านั้นไปสะกิดโดนอะไรเขาเข้า นิฌานถึงได้แขนขาอ่อนยวบ เอ่ยเสียงระโหยโรยแรงเหมือนถูกหมัดฮุคเข้ากลางใจ

“ได้ครับน้องเจ อยากจูบตรงไหนก็จูบ พี่ยกให้ทั้งตัวเลย”

ผมกอดเขา เอาขาก่าย ก่อนจะก้มจูบจุ๊บๆ อย่างนึกสนุก ส่วนใหญ่ก็เป็นจูบเด็กๆ ที่เน้นนาบไปนาบมา นิฌานเองก็ทำตามคำพูด ไม่ขัดขืน ไม่พลิกกลับ ปล่อยให้ผมทำตามใจชอบเหมือนกายหยาบอยู่ตรงนี้ แต่จิตวิญญาณขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

นอนกอดเขาสักพักก็เริ่มเคลิ้ม

ก่อนจะพากันหลับไปทั้งแบบนั้น ลืมตั้งนาฬิกาปลุกซะสนิท

แต่ผมไม่กลัวตื่นสายหรอก ก็มีคนที่รักอยู่ด้วยกันตรงนี้ เขาช่วยปลุกได้อยู่แล้ว จริงมั้ยครับ

------------

แฮ่ เห็นชื่อตอนแล้วคิดไกลกันรึเปล่าคะ ยังค่ะยัง น้องเจยังไม่ถูกกินน้า

กว่าจะได้น้องเจมายากใช่เล่น ในเมื่อน้องเจเปิดใจแล้วนิฌานก็อยากจะถนอมน้องไปจนกว่าจะพร้อมจริงๆ ค่ะ เพราะจากตอนนี้จะเห็นว่าพี่ฌานรักน้องมากจริงๆ นะ น้องเจเหมือนเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในชีวิตนิฌาน พลิกโลกให้มีสีสันและสวยงามขึ้นในพริบตา ถ้าขาดน้องเจไป...นิฌานคง...

 #น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่ฟินไปกับน้องเจและพี่ฌาน (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 11-08-2018 19:41:28
ตกใจหมด! เห็นชื่อตอนนึกว่าน้องเจจะเสร็จนิฌานซะแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2018 20:43:01
ตกอกตกใจกันเป็นทิวแถว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-08-2018 20:49:21
นี่แค่ขอจูบถึงกับมืออ่อน กระดิกนิ้วเรียกหน่อยยังสติล่องลอย บอกเลยความหลงหัวปักหัวปำนี่ไม่มีทางแก้หายได้ชั่วชีวิตแน่ พี่ฌานนน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-08-2018 23:19:51
แค่กระดิกนิ้วเรียกพี่ฌาณอ่อนไปทั้งตัวเลยหรา นึกว่าน้องเจจะเสร็จพี่ฌาณซะแล้ว รอไปก่อนนะพี่ o18
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 12-08-2018 11:16:01
เห็นชื่อตอนชวนคิดไปไกล :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 12-08-2018 12:15:18
ชอบ effect ของครอบครัวทองคำดีที่สุด555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-08-2018 13:22:42
 :L1: :pig4: :L1:

 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 12-08-2018 23:19:31
 :hao3: มดขึ้นแล้วค่ะน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-08-2018 11:11:40
หวาน หวานมาก!!! :katai5:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 13-08-2018 19:18:06

ตอนที่ 32 : อวสานเช็กเมท


“พี่ฌาน เร็วเข้า!!”

ผมรีบตบโซฟาเรียกคนรักให้นั่งด้วยกัน เพราะอีกไม่กี่นาที เช็กเมทตอนจบก็จะเริ่มฉายแล้ว!

นิฌานถือป๊อปคอร์นเดินตามมา เขามัวแต่เตรียมของอย่างกับไปดูในโรงหนังอย่างนั้นล่ะ ท่าทางสบายใจไม่คิดถึงใจคนเครียดอยากรู้ตอนจบอย่างผมบ้างเลย!

“เอ้า อ้าม” ...ที่แท้ก็เนียนอยากป้อนกันนี่เอง ผมเหลือบมองนิฌานตาขวางที่หวานไม่รู้เวล่ำเวลา แต่สุดท้ายก็อ้าปากกินป๊อปคอร์นอย่างว่าง่าย

ก่อนจะเข้าเรื่องผมต้องเล่าให้ฟังก่อน ว่าหลังจากหัวหน้าองค์กรกับพระเอกไปเยี่ยมหลุมศพมิสเตอร์เอสด้วยกัน...ปรากฏว่าศพของมิสเตอร์เอสหายไป! หลุมนั้นถูกขุดลึก ไร้ร่างของเพื่อนสนิท พระเอกที่ยังคาใจกับการฆ่าหัวหน้าตำรวจจึงยิ่งโมโห สบโอกาสให้หัวหน้าองค์กรอย่างนิฌาน ซึ่งแอบติดต่อให้เหล่าสมาชิกที่เหลือรอดแอบไปขุดศพมาซ่อนนั้นใช้ความใจเย็นของความเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอสช่วยคุมสถานการณ์

เรื่องราวเป็นไปอย่างลุ้นระทึก เพราะพระเอกแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ จนทำให้หลายๆ คนพากันผิดหวังเพราะสถานการณ์ช่างเข้าข้างตัวร้ายเหลือเกิน การสูญเสียติดต่อกันหลายครั้ง หลอกใช้ความเชื่อใจของผู้หญิงที่ช่วยชีวิต และการฆ่าผู้เคยมีพระคุณอย่างหัวหน้าตำรวจทำให้พระเอกขาดความเยือกเย็น เป็นที่ถกเถียงกันในโลกโซเชียลมากว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะโดนหัวหน้าองค์กรฉวยจังหวะนี้นำคนในก๊วน แล้วลวงออกมาฆ่าทีละคนหรือไม่

 แต่อย่าดูถูกพระเอกหน่อยเลย!

“พี่ฌานๆ ผมว่าพระเอกต้องแกล้งหลุดเพื่อให้หัวหน้าองค์กรได้ใจแน่เลย!” ผมพูดกับนิฌานที่ไม่หือไม่อือ เพราะนักแสดงที่รู้ตอนจบแล้วอย่างเขา ขืนเล่าสปอยมีหวังโดนผมยันโครมแน่ๆ

“ว่าแล้วไง! พระเอกที่ผมชื่นชมตั้งแต่ซีซันหนึ่ง ถึงจะเสียใจแค่ไหนก็ไม่โดนตัวร้ายครอบงำง่ายๆ เด็ดขาด!” ผมตบเข่าฉาดเมื่อเรื่องราวดำเนินถึงตอนเฉลย คืออย่างนี้ครับ หลังพระเอกอยู่ในสภาพไม่สามารถนำทีมได้ ตัวร้ายก็เสนอแผนหาทางนำศพของมิสเตอร์เอสกลับคืน ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นกลลวง! กะจะแยกพระเอกกับพวกพ้องออกจากกันเพื่อลวงไปฆ่าอย่างที่หลายๆ คนคาดไว้!

แต่พระเอกรู้แต่แรกแล้ว! แสร้งทำทีเป็นไร้ภาวะผู้นำเพื่อให้ตัวร้ายดำเนินการตามแผนแล้วตลบหลัง! หวังจะจับไต๋ได้คาหนังคาเขา!!

“เธอพูดอะไรน่ะ” ตัวร้ายเอ่ยถามหลังพาพระเอกปลีกตัวจากคนอื่นๆ มายังท่าเรือยามกลางดึก เพราะกะจะฆ่าพระเอกทิ้งแล้วถ่วงน้ำให้หาศพไม่เจอ

“ฉันพูดว่า...ศพมิสเตอร์เอสไม่ได้อยู่ที่นี่ไงล่ะ คุณพี่ชายตัวปลอม”

“แต่สัญญาณติดตามตัวที่อยู่ในนาฬิกามิสเตอร์เอสบอกตำแหน่งว่าอยู่ในน้ำนะ! เธอรู้ได้ไงว่าไม่ใช่ ทั้งที่ยังไม่ได้ลงไปดูเลย”

“เพราะนั่นเป็นสัญญาณหลอก...เพื่อกระชากหน้ากากของแกยังไงล่ะ!”

พระเอกที่เป็นฝ่ายตามตัวร้ายมาตลอดพลันชักปืนขึ้นจ่ออย่างเยือกเย็นเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ อย่าเพิ่งงงว่านาฬิกาที่ทั้งสองพูดถึงคืออะไร เพราะหลังศพมิสเตอร์เอสถูกนำไปซ่อน ธนัทก็บอกว่าก่อนฝังศพเพื่อนรักพวกเขาได้นำนาฬิกาเรือนหนึ่งใส่บนข้อมือของมิสเตอร์เอส เพราะกลัวว่าวันใดวันหนึ่ง องค์กรที่ยังลอยนวลอาจมายุ่งกับศพเพื่อนรักเพราะรู้ว่าพระเอกไม่มีวันยอมให้ใครรบกวนการหลับตลอดกาลของมิสเตอร์เอสเด็ดขาด

ต่อให้ต้องตามสุดล่าฟ้าเขียวก็ตาม!

พายเปิดหาตำแหน่งซ่อนศพของมิสเตอร์เอสทันที โดยที่ตัวร้ายอย่างหัวหน้าองค์กรบอกว่าทางนั้นต้องไม่รู้เรื่องสัญญาณนี้แน่ ฉะนั้นเราต้องรีบบุก โดยแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคอยบอกทิศทาง ส่วนกลุ่มสองพร้อมลุย เพราะยิ่งตาม สัญญาณก็ยิ่งห่าง จนสุดท้ายมาจมหายอยู่ใต้ทะเลซะงั้น

หัวหน้าองค์กรตั้งใจให้พระเอกงมหามิสเตอร์เอส เพราะถ้าเทียบฝีมือแบบตัวต่อตัว เขาย่อมไม่ใช่คู่มือพระเอก แต่ต่อให้เก่งกาจแค่ไหน ถ้าโดนลอบฆ่าจากในน้ำก็ไม่มีวันรอดแน่นอน

ส่วนพายและธนัท...ก็ให้ลูกน้องที่เหลือของตนไปจัดการ

กว่าจะได้รับความเชื่อใจจนพระเอกยอมตามมากันแค่สองคนนั้นช่างยากลำบากเหลือเกิน หัวหน้าองค์กรไม่ยอมพลาดโอกาสนี้แน่!

“สัญญาณหลอกอะไร”

“ถึงตอนนี้ยังไม่ยอมรับอีกหรือ ข้างใต้นี้ไม่มีร่างของมิสเตอร์เอส! เพราะนอกจากนาฬิกาแล้วพวกฉันยังใส่สัญญาณติดตามตัวอีกอย่าง”

พระเอกโยนโทรศัพท์ให้ตัวร้ายเปิดดู เพราะสิ่งที่ปรากฏนั้น...คือภาพถ่ายของธนัทและพายที่ทำทีเป็นเชื่อฟังให้พระเอกไปกับตัวร้าย แต่จริงๆ แล้วย่องไปหาสถานที่ซ่อนศพมิสเตอร์เอสตามสัญญาณที่แท้จริง แถมยังตลบหลัง จัดการสมาชิกองค์กรด้วยกับดักที่วางไว้อย่างรู้แกว

“เราเจอมิสเตอร์เอสแล้ว ฉะนั้นสัญญาณที่ปรากฏตอนนี้ ก็คือนาฬิกาเปล่าๆ ที่แกให้ลูกน้องถอดทิ้งเพื่อลวงฉันมาที่นี่! คนที่รู้เรื่องนาฬิกาก็มีแต่คนในกลุ่มเราเท่านั้น และการที่คนขององค์กรใช้แผนนี้ได้ แสดงว่าแกคือคนออกคำสั่ง!”

พระเอกเอ่ยปิดฉาก

“เช็กเมท”

สิ้นคำ พระเอกก็ลั่นไกก่อนที่หัวหน้าองค์กรจะชักปืนยิงโต้ ทุกอย่างพลิกกลับตาลปัตร จากที่ถือแต้มต่อกลายเป็นโดนต้อนเสียจนมุม ตัวร้ายกัดฟันกรอด เพราะมือขวาถูกยิงจนทะลุ ปืนที่เพิ่งคว้าไว้ตกกระแทกพื้น ซึ่งพระเอกก็รีบปราดเข้าไปใช้เท้าเตะทิ้งลงทะเลทันที

ใครเลยจะคิด ว่าองค์กรใต้ดินที่เก่งด้านวางแผนฆาตกรรมจะถูกถล่มด้วยน้ำมือของแฮกเกอร์คนหนึ่ง และหัวหน้าองค์กร จะต้องหนีตายกระเสือกกระสน ถูกไล่ต้อนจนมุมด้วยเพื่อนของแฮกเกอร์คนนั้น

“ถ้าเจอมิสเตอร์เอสในโลกหลังความตาย ฝากขอโทษด้วยล่ะที่ฉันทำให้เขาผิดหวัง ละทิ้งคุณธรรมเพื่อตามล่าพวกแกจนมือเปื้อนเลือดขนาดนี้” พระเอกเอ่ยขณะยิงขาขวาหัวหน้าองค์กรไม่ให้กระโจนลงน้ำเป็นการหลบหนี “แต่ไม่ต้องห่วงหรอก จบเรื่องนี้แล้วฉันจะไถ่โทษ เพราะมีแค่เรื่องนี้เท่านั้น...ที่ยกโทษให้ไม่ได้!”

“อั่ก!” ตัวร้ายถูกพระเอกยิงต่อที่ขาข้างซ้าย ทำให้ได้แต่กระเสือกกระสนด้วยความหวาดกลัวเพราะสีหน้าพระเอกนั้นไม่ต่างจากเพชฆาตที่พร้อมประหัตประหารไร้ความปรานี

“รู้สึกยังไงบ้างล่ะกับความตายที่ค่อยๆ คืบคลาน จำความรู้สึกนี้ให้ดี...เพราะเพื่อนฉันที่ถูกแกบีบบังคับให้ต้องตายก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน!” พระเอกลั่นไกอีกครั้ง คราวนี้ยิงเข้าที่แขนอีกข้างซึ่งยังพยายามไถตัวเองไปกับพื้น

“มิสเตอร์เอสล้มลงในอ้อมกอดของฉัน” พระเอกเอ่ยทั้งน้ำตา “มีแค่ภาพนั้น...ที่ไม่มีวันลืม”

ปืนถูกลั่นไกติดต่อกันหลายนัด

“เพื่อมิสเตอร์เอส” ก่อนจะเล็งที่กลางศีรษะ เมื่อพูดในสิ่งที่ต้องการจนหมดสิ้น ราวความอัดอั้นทั้งหมดที่เก็บกลั้นมาตลอดถูกคลี่คลาย พระเอกยิ้มทั้งน้ำตา“เพื่อเพื่อนรักของฉัน”

ปัง!

“เช็กเมท...”

พลันโฆษณาตัดอารมณ์ผมที่ยังอินจัดจนน้ำตาซึมตามอัครเดชไปด้วย ฉากนี้เต็มไปด้วยพลังการแสดงที่แฝงความรู้สึกมากมาย โดยเฉพาะตัวเอกที่ตลบหลังหัวหน้าองค์กรได้อย่างเฉียบขาด! ขณะเดียวกัน นิฌานเองก็แสดงบทบาทของหัวหน้าองค์กรที่สิ้นท่า ผู้ชักใยเบื้องหลังอย่างมั่นใจเกินร้อยแต่สุดท้ายกลัวความตายได้อย่างยอดเยี่ยม

“ทิชชูมั้ยครับน้องเจ”

หันมองคนข้างตัวที่เพิ่งโดนยิงดับในโทรทัศน์ แต่ยิ้มแป้นมองผมสะอื้นฮึกๆ อย่างชอบใจ อารมณ์หน่วงหนึบที่ติดมาจากซีรีส์ก็กลายเป็นความหมั่นไส้ ผมแย่งกล่องทิชชูมากอด หันหน้าหนีจากนิฌาน

“อะไรกัน งอนพี่เหรอครับน้องเจ พี่แสดงดีขนาดนี้ทำไมไม่ชมกันสักคำล่ะ”

“ฮึ่ม ซีรีส์ยังไม่จบ ผมยังชมพี่ฌานไม่ลงหรอก!” ผมพูดพลางจดจ่อกับโทรทัศน์อีกครั้ง เพราะนี่เป็นเบรกสุดท้ายก่อนเรื่องราวจะจบบริบูรณ์ ฉากตัดมาที่ภาพของพระเอกและเพื่อนๆ ยืนอยู่หน้าหลุมศพของมิสเตอร์เอสซึ่งซ่อมแซมให้เหมือนใหม่ราวไม่เคยถูกขุด

แต่ละคนพากันพูดทิ้งท้ายกับมิสเตอร์เอสคนละประโยคสองประโยค เพราะเมื่อนึกย้อนดูแล้ว นับตั้งแต่เปิดโปงองค์กร มิสเตอร์เอสถูกลักพาตัวไปล้างสมอง จนถึงตอนที่องค์กรล่มสลายแล้วถูกพวกเขาไล่ตาม เรื่องราวช่างมาไกลเกินเชื่อจริงๆ

พายเดินออกไปก่อน เพราะเขาและมิสเตอร์เอสไม่นับว่าเป็นพวกพ้องที่ดีต่อกันนัก ออกจะเป็นคู่แข่งที่ยอมรับนับถือเสียมากกว่า จากนั้นก็เป็นตาของธนัท ที่เมื่อพูดความในใจเสร็จก็ตบบ่าพระเอกเบาๆ ก่อนจะทิ้งให้พระเอกยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น...เนิ่นนาน

“ฉันถูกคุมความประพฤติล่ะ” พระเอกเอ่ยออกมาในที่สุด ใบหน้ายิ้มบาง แต่ดวงตาเศร้าโศก “เพราะฆ่าคนร้ายโดยเจตนาไม่ใช่การป้องกันตัว การวิสามัญนับเป็นความผิด แต่เพราะความดีความชอบตอนถล่มองค์กร ความเสียสละของนาย เปิดเผยสายในกรมตำรวจและจัดการสมาชิกที่เหลือขององค์กร โทษเลยเหลือแค่คุมความประพฤติ”

พระเอกเหลือบมองด้านหลัง ห่างออกไปนั้นคือตำรวจนอกเครื่องแบบที่จับจ้องตาไม่กะพริบ

เขาเงียบไปอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือก

“องค์กรที่พวกเราตามมาตลอดถูกทำลายแล้วนะ”

“พี่ชายตัวจริงของนายก็หาพบแล้ว เราจะทำพิธีฝังศพเขาอย่างดี ไม่ต้องห่วง”

“ฉันจะรอวันที่เราได้เล่นหมากรุกด้วยกัน”

“ฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบไปเกิดใหม่ล่ะ ถึงจะนานไปสักนิด แต่รอฉันก่อนนะ...”

“____”

ชื่อมิสเตอร์เอสถูกเอ่ย แต่เป็นเพียงภาพการขยับปากของพระเอก ไร้เสียงเล็ดลอด เพื่อให้ชื่อนั้นเป็นเพียงความลับ และมีเพียงพระเอกเท่านั้นที่เรียกได้

พลันลมหนาวพัดผ่าน พร้อมกับร่างเลือนรางปรากฏข้างๆ อย่างเงียบงัน

“พี่ฌาน...นั่นมัน!”

“ใจเย็นๆ ก่อนน้องเจ จับไหล่หรือจิกไหล่พี่เนี่ย เนื้อจะหลุดแล้ว” นิฌานหน้าเหยเกเมื่อจู่ๆ ก็โดนปมตะปบไหล่อย่างตื่นเต้น เพราะเงาร่างนั้นคือ...มิสเตอร์เอส!

ไม่สิ วิญญาณมิสเตอร์เอสต่างหาก จิระปรากฏทั้งรอยยิ้มภูมิใจในตัวเพื่อนสนิท ราวต้องการแสดงว่าตลอดมาเพื่อนคนนี้ไม่เคยอยู่ห่างจากพระเอกเลย

“ฉันจะรอนาย”

ผมน้ำตาแตกเมื่อวิญญาณมิสเตอร์เอสขยับปาก แม้ไม่มีเสียง แต่คนดูคาดเดาความหมายของประโยคนั้นได้ พระเอกเองก็คล้ายจะรับรู้ถึงคำตอบนั้น ถึงจะมองไม่เห็น แต่เผยยิ้มบาง

เพลงประจำตัวมิสเตอร์เอสของซีซันสองถูกเปิดขึ้นในตอนนี้

ซีรีส์เช็กเมทจบแล้ว แทนที่ด้วยมิวสิกวีดีโอที่ตัดต่อภาพตั้งแต่ซีซันแรกจนถึงซีซันสุดท้าย ผมน้ำตาไหลพรากๆ ทั้งซึ้ง ทั้งใจหาย เพราะซีรีส์สุดโปรดจบ เท่ากับว่าวันเสาร์อาทิตย์หลังจากนี้ไม่มีเรื่องต้องรอดูแล้ว!

ใจหาย ใจหายสุดๆ เลย

ผมดึงทิชชูเช็ดน้ำตาอย่างอินจัด คลับคล้ายว่าจะลืมอะไรไป...

พลันนิฌานจิ้มนิ้วกับต้นแขนผมเบาๆ เหมือนขออนุญาตแตะตัว

...อ้อ ลืมแฟนนี่เอง

“พี่ฌานทำอะไรน่ะ”

“พี่อยากกอดปลอบ แต่กลัวโดนผลักออก เลยจิ้มพิสูจน์อารมณ์น้องเจก่อน”

บ้าบออะไรเนี่ย ผมจะขำก็ขำไม่ออกกับหน้าตาจริงจังของเขา เลยซุกหน้ากับไหล่แฟน ไถไปไถมาเช็ดน้ำตาซะเลย

“ซีรีส์จบแล้ว ไหนคำชมพี่ล่ะครับ”

“พี่ฌานแสดงเก่งมาก” ผมชมด้วยเสียงอู้อี้เพราะยังซุกหน้ากับไหล่เขา “แต่...”

“แต่อะไรพูดมาเถอะน้องเจ พี่รับได้”

“แต่...ด้วยบทแล้วผมว่าหวังรางวัลยาก” ผมเอ่ยตามความจริง เงยมองนิฌานที่โอบเอวผมหลวมๆ “ตอนจบผู้กำกับเน้นไปที่อารมณ์ความรู้สึกพระเอกมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้ฉากการตายของหัวหน้าองค์กรไม่โหดเกินไป และบิ้วอารมณ์ไปยันฉากสุดท้ายที่ทำผมน้ำตาแตกได้”

นิฌานพยักหน้ารับหงึกๆ

“รางวัลนักแสดงสมทบอย่างน้อยต้องติดตาตรึงใจคนดู เหมือนที่จิระได้รางวัลตอนซีซันสอง แม้ตายแต่ก็ตายอย่างน่าจดจำและสะเทือนอารมณ์ แต่บทของพี่ฌานแม้จะมีความลึกลับซับซ้อน แต่ตอนจบกลับตายอย่างไม่ค่อยน่าจดจำ ออกไปทางสะใจและซึ้งกับพระเอกมากกว่า เทียบกันแล้ว...ยังมีละครหลายเรื่องที่บทนักแสดงสมทบบีบหัวใจกว่านี้มาก...” พูดจบ ผมก็มองสีหน้าแฟนอย่างเห็นใจเพราะเขาทุ่มเทกับซีรีส์เรื่องนี้ไปไม่น้อยแถมยังเฝ้ารอการเข้ากองอย่างตื่นเต้นดีใจ เรียกคืนความรู้สึกสมัยเข้าวงการแรกๆ ให้กลับมารักการแสดงอีกครั้ง

“ทำไมมองหน้าพี่อย่างนั้นล่ะน้องเจ พี่ไม่เป็นไร อันที่จริงตอนถ่ายก็พอเดาได้อยู่แล้วล่ะ พี่คาดหวังกับเรื่องนี้ ถ้าได้รางวัลก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็ยอมรับ เพราะพี่แสดงสุดความสามารถแล้ว แต่บางที ความสามารถอย่างเดียวก็ใช้ตัดสินไม่ได้ ต้องดูที่บทและองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย” นิฌานโคลงศีรษะ “อีกอย่าง พี่รับเล่นเรื่องนี้เพราะน้องเจ แค่น้องเจชมว่าพี่ฌานเก่งมาก เก่งสุดๆ เก่งจนหลงรักหัวปักหัวปำ พี่ก็ถือว่าได้รางวัลตอบแทนที่คุ้มค่าแล้วล่ะครับ”

พูดจบนิฌานก็มองผมตาแป๋วอย่างแสร้งใสซื่อแบบโคตรกดดัน

“ผมต้องพูดจริงอ่ะ”

“น้องเจไม่ให้รางวัลพี่หน่อยเหรอครับ พี่ฌานคนนี้ตั้งใจมากเลยนะ” นิฌานเริ่มงอแง เบะปาก มองผมตาปรอย ถ้าเบ้าหน้าไม่ดีจริงจะแสลงตามากนะเนี่ย

“พี่ฌานเก่งมาก เก่งสุดๆ” ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะยอมชมด้วยเสียงไร้อารมณ์ “เก่งจนหลงหัวปักหัวปำเลยครับ”

“ความจริงใจอยู่ตรงไหนครับน้องเจ” นิฌานหรี่ตาจับผิดกับการฝืนพูดนั้น

“ความจริงใจของผมก็อยู่ตรงนี้”

ผมจิ้มอกตัวเอง

“ส่วนความรักของผมก็อยู่ตรงนี้...ไงครับ”

ก่อนจะจิ้มใส่อกอีกฝ่าย วินาทีนั้นนิฌานคล้ายระเบิดตัวปุ้ง! รวบเอวผมไปกอดแน่นกว่าเดิมอย่างแทบจะอดใจรักผมมากไปกว่านี้ไม่ไหวแล้ว

ผมหัวเราะฮิฮะ ตีแขนเขาเบาๆ ก่อนจะโดนกอดแน่นจนไส้ทะลัก แล้วค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งบนตักนิฌาน เปิดโทรทัศน์เปลี่ยนช่องดูละครเรื่องอื่นอย่างอารมณ์ดี

“ช่วงนี้พี่เริ่มว่างแล้ว เราไปเดตกันมั้ย” นิฌานกอดเอวผมไม่ปล่อย

“เดต? พี่เนี่ยนะจะเดตกับผม อยากเป็นข่าวเหรอครับ” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ สำหรับนายเจตรินที่ไม่ถนัดเรื่องรัก งกเงินเป็นที่สุด การเดต...คือความสิ้นเปลือง

ผมเป็นเด็กติดบ้าน ติดครอบครัว ติดแฟนจริงๆ นั่นแหละ แค่อยู่ด้วยกันอย่างนี้ก็พอใจแล้ว สังคมแคบสุดๆ แถมยังขี้ระแวง กลัวเป็นข่าวดังขึ้นมา!

“งั้นเปิดตัวซะดีมั้ย” นิฌานยิ้มเจ้าเล่ห์

“ฝันอยู่เหรอพี่ฌาน” ผมเหลือบมองด้วยหางตา

“ฝันอะไรครับน้องเจ สมัยนี้เปิดกว้างกันแล้วนะ ดูอย่างคู่เตโชจิระสิ ยังเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันเลย”

“พี่ฌาน” ผมวางรีโมต ก่อนจะกอดอกคิ้วขมวดเงยมองเขาอย่างเคร่งเครียด “ผมเกลียดความวุ่นวายพี่ก็รู้ ขืนเปิดตัว คนที่โดนเพ่งเล็งคือผมมากกว่าพี่น่ะสิ! ยิ่งคบเพศเดียวกันด้วยแล้วยิ่งโดนแอนตี้นัก คู่เตโชจิระนั้นดีหน่อย คนหนึ่งก็มึนไม่สนโลก อีกคนก็มีข่าวฉาวจนชินชา เลยพากันไม่สนใจกระแสเน้นผลงานเป็นหลัก แต่ผมน่ะ...ไม่เหมือนกันนะ ผมเป็นคนธรรมดานะครับ! แถมยังเป็นนักศึกษาเฟรชชี่กำลังเอ๊าะๆ เลยด้วย!”

ยิ่งพูดผมก็ยิ่งคิดไกล ประสาทเสียจนแทบนั่งไม่ติดที่

“ต้องมีการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนเหมือนในละครแน่ๆ! คนธรรมดาที่คบกับดาราดังน่ะถูกหมายหัวทุกรายเลย ติ๋มก็จะโดนลูกหลง ถูกขังอยู่ในห้องน้ำ...”

“น้องเจครับ สติอยู่ไหนเอ่ย ยู้ฮู”

“แล้วก็จะมีคนดักรอหน้ามหาลัย หน้าบ้าน มีนักข่าวรอสัมภาษณ์ การเรียนไม่เป็นสุข พี่รหัสไม่คบหา ยิ่งตอนนี้พี่ฌานกำลังเป็นที่พูดถึงในเช็กเมท ยิ่งไม่เหมาะไม่ควรเลย ไม่มีทางเด็ดขาด!!”

“พี่เชื่อแล้วว่าน้องเจเป็นน้องชายจิตรินจริงๆ คนหนึ่งเดินเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ อีกคนก็ไล่เผาทุ่งลาเวนเดอร์ซะเหี้ยน” นิฌานมองผมด้วยสายตาอาดูร

“หรือไม่จริงครับ พี่ฌานกล้ารับปากรึเปล่าล่ะว่าถ้าเปิดตัวขึ้นมาผมจะไม่ได้รับผลกระทบในแง่ร้ายอะไรเลย”

“เอ่อ...พี่ไม่กล้ารับปากหรอก”

“เห็นมั้ยครับ ถึงผมจะคิดเยอะแต่ก็มีเค้าความจริงนะ! ตอนรักกันก็อยู่กันแค่สองคน ทำไมพอคบกันต้องป่าวประกาศให้คนรู้ทั้งประเทศด้วยล่ะ ไม่เอาหรอก ฮึ่ม!”

“โอเคครับ ไม่เอาก็ไม่เอา ไม่โกรธกันเนอะ ดีกันนะครับ” นิฌานชูนิ้วก้อย

“ผมไม่ได้โกรธพี่ฌานสักหน่อย แค่แจกแจงให้ฟังต่างหาก” ผมอธิบาย ซึ่งนิฌานก็พยักหน้าไม่โต้เถียง ถึงจะรับฟังทุกอย่าง แต่ไหงดูเศร้าๆ ชอบกล

ไม่ใช่เสียใจ แต่เสียดาย...

“อดอวดทุกคนว่าได้ควงน้องเจเลย กระซิก”

“สำออยแล้วครับพี่ฌาน!” ผมเหวลั่นอย่างอดไม่ได้

“ไม่ขึ้นเสียงสิครับ” นิฌานเอ็ดผมแบบไม่จริงจังนัก “งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน ไม่เปิดตัวก็ไม่เปิดตัว แต่อย่างน้อยเราต้องเดตกันนะ”

เกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย ขนาดผมเรียนแกตเชื่อมโยงยังแถได้ไม่เท่าเขาเลย!

“หรือแค่เดตน้องเจก็ไม่ยอมเหรอครับ” นิฌานทำเสียงสลด หน้าก็สลด หางตาตก บรรยากาศหม่นเศร้า คะแนนเต็มร้อยให้ล้าน สมเป็นนักแสดงจริงๆ

“ถ้าจะเดตล่ะก็...” ผมลังเล “ดูหนังรอบดึกดีมั้ยครับ เอาวันธรรมดาก็พอไม่ต้องวันหยุดหรอก คนจะได้ไม่เยอะมาก พี่ก็ไม่ต้องปลอมตัวเยอะด้วย”

“ดีครับดี!” นิฌานหอมหัวผมดังฟอด “น้องเจของพี่น่ารักที่สุดเลย!”

“น่ารักแล้วก็ช่วยคุมตัวเองด้วยครับ ไอ้แท่งแข็งๆ ที่ทิ่มก้นผมน่ะ บอกให้มันสงบๆ หน่อย!”

“แหม ก็พี่ปึ๋งปั๋งเตะปี๊บดังนี่ครับ”

“มือขวาโลกสวยครับพี่ฌาน ปฏิบัติ!”

----------------

และแล้วซีรีส์เช็กเมทก็จบลง ขอบคุณทุกการสนับสนุนนะคะ เรารักเรื่องนี้มากๆ แต่งด้วยอารมณ์อยากเห็นซีรีส์แนวๆ นี้ในประเทศไทยล้วนๆ แม้ในเรื่องของน้องเจจะพูดถึงไม่เยอะ เพราะไม่ได้แสดงเองจนเข้าถึงบทบาทเหมือนเรื่องก่อนๆ แต่ก็ถือเป็นอีกมุมมองของติ่งนะคะ เราเองก็ไม่กล้าลงรายละเอียดเยอะ กลัวจะเบื่อซะก่อน พยายามให้น้องเล่ารวบๆ แล้วเน้นซีนอารมณ์ที่หลายคนน่าจะรอคอยมากกว่า

แต่ถึงเช็กเมทจะจบ ก็อย่าลืมติดตามน้องเจกับพี่ฌานต่อนะคะ ส่วนพี่ฌานจะได้กินตอนไหน ขอแง้มว่าอีกไม่นาน เพราะเรื่องนี้ก็ใกล้จะจบตามรอยเช็กเมทแล้วค่า

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่หมั่นไส้คนอยากอวดน้อง (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-08-2018 19:33:34
น้องเจน่าลักกกก อยากกอดบ้างงงง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 13-08-2018 19:44:31
เจน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-08-2018 20:10:48
จะรออ่านตอนเสียตัว พลีกายให้พี่ฌาณ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน.  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2018 20:15:39
 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-08-2018 20:50:54
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 13-08-2018 21:01:42
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-08-2018 21:02:01
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-08-2018 21:47:33
เสียดายเช็กเมทจบแล้ว เรายังอยากดูต่ออยู่เลย 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 13-08-2018 21:49:12
เกิดเป็นพี่ฌานต้องอดทนค่ะ ของน่ากินอยู่ตรงหน้า แต่กินไม่ได้ น่าฉงฉาน 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 13-08-2018 21:56:21
น้องเจกับพี่จิ ผสมกันคนละครึ่งคงจะดี 5555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 13-08-2018 23:56:38
อดทนไว้ก่อนนะพี่ฌาน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 14-08-2018 00:40:29
ใจหายกับซีรี่ส์เช็กเมทเหมือนน้องเจเลยจริงๆ ด้วยความที่อยู่กันมาตั้งแต่ซีซั่นแรกได้เห็นทั้งเบื้องหลังเบื้องหน้ากว่าจะถ่ายออกมาเป็นฉากๆ คิดเหมือนนักเขียนคืออยากให้มีคนทำซีรี่ส์แบบนี้จริงๆ ส่วนคู่น้องเจกับอิพี่ฌาณนั้นก็ราบรื่นไร้อุปสรรค ตอนนี้ก็รอว่าน้องเจจะยอมให้โดนเช็กเมทตอนไหนละนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-08-2018 08:34:19
พี่ฌาณต้องมือขวาโลกสวยไปอีกนานแค่ไหน  :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 14-08-2018 13:20:23
มือขวาโลกสวยไปยาวๆเลยค่ะพี่ฌาน


ดูถ้าน้องเจคนน่ารักจะไม่ยอมง่าย

555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 14-08-2018 13:37:01
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:  น่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 14-08-2018 19:38:34
พี่ฌาณคงต้องอดทนไปยาวๆ เพราะน้องเป็นคนคิดเยอะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 31 - P.22 - [ 10/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-08-2018 20:40:53
ชอบ effect ของครอบครัวทองคำดีที่สุด555

ใช่เลย.........
โดยเฉพาะความเวิ่นเว้อ หลงประเด็นของพี่จิ สุดยอด   :laugh: :laugh: :laugh:

นิฌาน อดทน อดกลั้นเก่งมากกกกกกกกกก  o18 
นิฌาน เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-08-2018 11:10:08
อีกคนเดินในทุ่งลาเวนเดอร์ อีกคนเผาทุ่งลาเวนเดอร์ :laugh: :laugh: ยู้ฮู้~~~สติ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 32 - P.22 - [13/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 15-08-2018 18:23:08
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23- [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 15-08-2018 19:04:35
ตอนที่ 33 : เดตวันแรก



“โทษนะติ๋ม พอดีวันนี้เรามีเดตน่ะ ไว้ค่อยนัดติวพรุ่งนี้แล้วกันนะ!”

ปากบอกว่าไม่ชอบ ไม่สนใจ แต่เอาเข้าจริงผมตื่นเต้นกว่าที่คิด...เยอะมาก

นัดกับนิฌานไปดูหนังรอบดึก แต่บอกปัดติ๋มที่ชวนติวสอบย่อยเก็บคะแนนวันมะรืนตั้งแต่ห้าโมง ไม่อาการหนักจริง ทำไม่ได้นะครับ!

ก็นี่เป็นเดตแรกของผม

ขอให้นายเจตรินได้ตื่นเต้นหน่อยเถอะนะ!

ผมนั่งรถเมล์กลับคอนโด แวะซื้อข้าวเย็นขึ้นไปกินบนห้อง เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมปฏิติบัติการ...วางแผนการเดตกับดาราชื่อดัง!

ก่อนอื่นก็ต้องหาสถานที่ก่อน เงื่อนไขคือต้องเป็นห้างเล็ก อยู่ไกลจากที่นี่พอสมควร ป้องกันไม่ให้เพื่อนร่วมมหาลัยเจอเข้าโดยบังเอิญ ถ้าเป็นห้างที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม ใกล้ปิดยิ่งดี คนจะได้ยิ่งน้อย แถมยังมีโปรโมชั่นอีกต่างหาก

นี่ไง! ดูหนังรอบดึกมีโปรโมชั่นแปดสิบบาท เย้!

เมื่อได้สถานที่ผมก็หารอบหนังรอบสุดท้าย ปรากฏเป็นหนังซอมบี้ที่ใกล้ออกจากโรงแล้ว ผมเปิดรีวิวทันที คนชมเยอะมาก ผ่าน!

แต่หนังรอบสามทุ่ม เกรงว่าร้านอาหารในห้างจะปิดก่อน ผมมองเวลาแล้วยังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่านิฌานจะกลับ เลยตัดสินใจลงไปซื้อไข่มาติดตู้เย็น ตั้งใจจะแสดงฝีมือเซอร์ไพรส์แฟน!

อย่า อย่าคิดว่าผมจะทำกับข้าวเก่งเหมือนนางจรวย ถึงจะไม่เลวร้ายเท่าพี่จิที่แค่ต้มบะหมี่สำเร็จรูปยังทำตู้อบระเบิด แต่อย่างน้อยผมก็ทำไข่เจียวเป็นนะ!

ผมมองข้อความที่นิฌานส่งมาบอกว่ากำลังกลับแล้วกะเวลาหุงข้าว ทอดไข่ เมื่อประตูถูกเปิดอาหารก็พร้อมเสิร์ฟพอดี สมบูรณ์แบบมากเลยเจตริน!

“น้องเจทำเองเลยเหรอเนี่ย” นิฌานถึงกับซึ้งน้ำตาคลอ ไม่ได้ชื่นชมกับไข่เจียว แต่ซึ้งใจกับภาพผมใส่กางเกงขาสั้นสวมผ้ากันเปื้อน ยังไม่สามสิบแท้ๆ แต่มองผมอย่างกับตาแก่เต๊าะเด็กไปได้

“ลองชิมสิครับพี่ฌาน”

ผมพยักพเยิดให้เขามองไข่เจียวแทนขาอ่อนสักที

“อื้อหือ นี่มัน...ไข่เจียวที่อร่อยที่สุดในปฐพี! ไข่เจียวมหากาฬ!”

“ไม่ต้องชมเยอะหรอกพี่ฌาน รีบๆ กินเร็ว เดี๋ยวไม่ทันรอบหนัง” ผมเร่งเขาขณะถอดผ้ากันเปื้อน ก่อนจะวิ่งไปเปลี่ยนกางเกง ตอนเดินออกมาไม่วายถือเสื้อสำหรับเปลี่ยนให้แฟนด้วย อย่างเสื้อยืดคอกลม กับกางเกงสามส่วนและรองเท้าแตะหนีบ

เมื่อสวมหมวกกับใส่แว่นแล้ว ค่อยกลบรัศมีพระเอกหน่อย!

“น้องเจกระตือรือร้นมากเลยนะเนี่ย”

“กินเสร็จก็เก็บจานด้วยครับพี่ฌาน” ผมใช้ดาราชื่อดังล้างจานขณะสวมถุงเท้าเตรียมใส่ผ้าใบอยู่หน้าประตู ก่อนจะก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์เปิดแผนที่ ในมือถือกุญแจรถพร้อมลุย

“วันนี้น้องเจจะพาพี่ไปเดตที่ไหนเหรอครับ” นิฌานเดินฮัมเพลงออกมาจากห้องครัว เช็ดมือให้สะอาดแล้วเดินตามหลังผมต้อยๆ อย่างว่าง่าย แม้เขาจะเป็นคนชวนเดต แต่รายละเอียดยกให้ผมจัดสรรเองหมด

“ที่ xxx ครับ”

“เอ๊ะ ไม่ได้ปิดไปแล้วเหรอ”

“ยังไม่ปิดแต่ใกล้เจ๊งครับ คนน้อยดี แถมมีโปรโมชั่นแปดสิบบาทด้วย” ผมพูดอย่างดีใจเมื่อประหยัดเงินค่าเดต นอกจากจะเสนอตัวขับรถแล้วยังขอจ่ายค่าหนังเองด้วย เพราะนิฌานช่วยผมเยอะมาก อย่างคอนโดที่อยู่ตอนนี้ก็ไม่ต้องออกเงินสักกะบาท “ถ้าพี่ฌานเพลียงีบก่อนก็ได้นะครับ เพราะค่อนข้างไกลเลย ตอนกลางคืนรถไม่ค่อยติดผมเลยไม่ขึ้นทางด่วน”

“พี่จะอยู่เป็นเพื่อนน้องเจครับ เดตแรกก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ”

พลันผมหันขวับ มองคนพูดคำว่า ‘เดตแรก’ ได้อย่างหน้าไม่อาย

“พี่หมายถึง...เดตแรกกับน้องเจไงครับ” ผู้มีประสบการณ์โชกโชนรีบแก้คำ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองผมอย่างรักใคร่หลงใหล เพราะสำหรับนิฌาน ชาญชัยผู้มักทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแสนดี คารมคมคายจีบสาวจีบหนุ่มทั่ววงการ มักจะเป็นฝ่ายจัดระเบียบการเดตไม่ให้รถไฟชนกัน สรรหาบรรยากาศโรแมนติก มอบของขวัญทำเซอร์ไพรส์

พอได้เดตกับผมที่อาสาทำทุกอย่างเองเพราะกลัวแฟนเป็นพ่อบุญทุ่มพาไปดินเนอร์หรูที่ตึกใบหยก นิฌานเลยปลื้มปริ่ม ซาบซึ้งตั้งแต่ข้าวไข่เจียวยันโปรโมชั่นดูหนังแปดสิบบาท

“ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับมูลค่าจริงๆ นะเนี่ย”

“แหงสิครับ เพราะครอบครัวทองคำดีแม้จะไม่ร่ำรวย แต่เป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุดในโลก!”

เห็นนิฌานยิ้ม ผมก็ยิ้มตาม ไม่นานพวกเราก็ถึงที่หมาย

ถึงจะเป็นรอบสุดท้าย แต่เมื่อรวมผมกับนิฌานแล้วก็มีคนดูราวๆ เจ็ดคนได้ ผมรอจนใกล้เวลานั่งฉายแล้วค่อยซื้อตั๋ว โดยเลือกที่นั่งแถวที่ไม่มีคนจองเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีใครโผล่มานั่งข้างๆ จากนั้นก็ปล่อยให้คนเหล่านั้นเข้าโรงไปก่อน จนไม่เหลือใครอยู่แถวหน้าประตูแล้วจึงยกนิ้วโป้งให้นิฌานที่โดนบังคับให้ยืนหลบอยู่หลังเสาเป็นสัญญาณปลอดภัย

คลับคล้ายว่ากำลังทำภารกิจรักษาความลับอะไรบางอย่าง ผมสนุกและตื่นเต้นมากๆ แถมยังภูมิใจในความรอบคอบของตัวเองสุดๆ เมื่อทุกอย่างราบรื่นตามแผน ช่างเก่งกาจเหลือเกินนายเจตริน!

ตอนพวกเราเข้าโรงมาโฆษณาก็ฉายไปสักพักหนึ่งแล้ว ผมเดินนำหาที่นั่ง ก่อนจะนั่งเอนหลังอย่างสบายใจ ไม่ลืมกวักมือเรียกคนที่เดินตามหลัง มองทุกอากัปกิริยาของผมด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

“น้องเจลืมอะไรรึเปล่า”

“ลืมอะไรครับ” ผมถามงุนงง ปฏิบัติการสมบูรณ์แบบแล้วนี่

พลันคนข้างตัวคว้ามือผมไปกุม ไม่ใช่กุมธรรมดา แต่ค่อยๆ สอดนิ้วประสานแนบแน่น แถมยังพลิกหลังมือผมไปจูบหนึ่งที

“เรามาเดตกันนะ”

ผมหน้าแดง เพิ่งรู้ตัวว่าเล่นสนุกเกินไปนิด

นิฌานเองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร ออกจะเพลินตาด้วยซ้ำที่เห็นผมทำอะไรเพื่อเขามากมาย พวกเรานั่งจับมือดูนั่ง พลิกกันไปพลิกกันมาหยอกเย้าเล่น เป็นความรู้สึกที่ชวนจั๊กจี้หัวใจอย่างประหลาด ดูหนังกับครอบครัวก็ให้อารมณ์แบบหนึ่ง ดูหนังกับแฟนก็ให้อารมณ์แบบหนึ่งจริงๆ แฮะ

แต่ดูไปสักพัก ความเข้มข้นของหนังก็ทำให้ผมจดจ่อกับหน้าจอ ผิดกับ...

ตุบ

นิฌานที่หลับซะงั้นอ่ะ!

ผมมองเขาตาค้าง อึ้งมากเมื่อจู่ๆ แฟนก็หลับคาไหล่ ไม่ได้แสร้งทำด้วยแต่หลับจริง เพราะลมหายใจเขาสม่ำเสมอ แถมยังมีเสียงกรนเบาๆ ที่คนใกล้ตัวอย่างผมได้ยินเป็นระยะอีกต่างหาก ไหนใครบอกว่าเรามาเดตกันนะ เขาใช่มั้ย แล้วไหงถึงหลับคาโรง! หักมุมเกินไปแล้ว!

ผมอึ้ง ก่อนที่ความอึ้งจะเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เพราะแสงที่ส่องจากหน้าจอตกกระทบเงาหน้าของนิฌาน เผยให้เห็นความเพลียและเหนื่อยล้า ใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า แม้เช็กเมทจะจบแล้ว ไม่ต้องทำงานหนักเท่าเมื่อก่อน แต่ด้วยกระแสที่กำลังดังทำให้มีรายการมากมายเชิญตัว งานถ่ายแบบเดินแบบก็เข้ามาไม่ขาด

ภาพหลับใหลของคนรักสะกดสายตาผมยิ่งกว่าซอมบี้ไล่กัดคนซะอีก ผมมองเขาอยู่นาน ก่อนจะเกิดความคิดประหลาด จู่ๆ ก็อยาก...ลูบหัว

ปกตินิฌานชอบลูบหัวผมตลอดเลย จู่ๆ ก็อยากเป็นฝ่ายลูบหัวเขาบ้างอ่ะ!

โอกาสที่นิฌานส่งหัวมาเกยถึงไหล่แบบนี้มีไม่มากหรอกนะ!

คิดแล้วก็ปฏิบัติอย่างไม่รอช้า ผมเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนรักเบาๆ เมื่อแตะแล้วก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง อบอวลซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก

ลูบไปลูบมาก็ชักมันมือ แต่จู่ๆ นิฌานก็ขยับ ทำเอาผมรีบหันหน้าตรงจ้องฉากซอมบี้กระโดดกัดคออย่างรวดเร็ว

แล้วเขาก็นิ่ง...

ผมเหลือบมองคนรักด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าเขาหลับอย่างสงบตามเดิมก็โล่งใจ แต่ไม่กล้าลูบหัวเล่นแล้ว กลัวเขารู้สึกตัวตื่น

แต่...จู่ๆ ก็อยากจูบอ่ะ

ด้วยมุมและองศาการพิงไหล่ ทำให้สายตาผมสะดุดกับริมฝีปากที่เผยอน้อยๆ นั้นอย่างไม่ตั้งใจ ร่างกายไปไวกว่าความคิด เพราะรู้ตัวอีกทีผมก็เอี้ยวหน้า หมายจะจุมพิตเขาแล้ว แต่...

เอี้ยวไม่ถึง!

โปรดนึกภาพตามนะครับทุกคน นิฌานซบไหล่ผมอยู่ ผมเลยนั่งตัวเกร็ง ทำให้เอี้ยวเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงจุดหมาย บ้าน่าเจตริน แค่จะจูบแฟนก็ทำไม่ได้งั้นเหรอ

ซวยละ คอเคล็ด!

คล้ายได้ยินเสียงคอลั่นเบาๆ ผมเลยกลับมานั่งหลังตรงตามเดิม เพิ่มเติมคือเจ็บคอ แฟนก็ไม่ได้จูบ แถมยังเจ็บตัวอีกต่างหาก

ผมนั่งดูหนังพยายามลืมเรื่องเมื่อครู่ไป จับมือประสานนิ้วกับนิฌานไม่ปล่อยตั้งแต่หนังเริ่มยันหนังจบ คนเริ่มลุกออกจากโรง ผมก็หันไปมองคนที่ยังหลับลึก พลันรู้สึกอยากจูบขึ้นมาอีกแล้ว

พอลองเอี้ยวดูก็ปวดคอแปลบๆ ผมเลยตัดสินใจจูบหน้าผากเขาแทน พอแนบริมฝีปากลงไปก็ชื่นใจประหนึ่งทำภารกิจสำเร็จ มีความสุขมาก แต่...

“น้องเจ?”

นิฌานดันตื่นขึ้นมาซะฉิบ!

เหมือนถูกจับได้ว่าโดนลักหลับ ผมร้อนตัวรีบผละหนี แต่ปวดจี๊ดที่คอขึ้นมาจนร้องโอดโอย นิฌานตกใจ รีบประคองผมอย่างวิตก

“พี่เผลอพิงน้องเจจนคอเป็นตะคริวเลยเหรอครับ!”

โว้ย ไม่ใช่มั้ยพี่ฌาน!


แต่จะให้สารภาพความจริงก็น่าอายเกินไป แม้ผมเป็นคนตรง แต่ให้ประจานตัวเองก็ไม่กล้าพอ เลยรีบโบกปัดเป็นเชิงอย่าคิดมาก แล้วจูงมือกันเดินออกจากโรง

ช่วงเวลาที่ได้จับมือนั้นแม้จะแค่ครู่เดียวแต่ก็มีความสุขอย่างประหลาด เพราะพอเราเดินออกมาก็ต้องปล่อยมือด้วยกลัวโดนมอง อาจเพราะเมื่อครู่ได้หลับไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ นิฌานเลยดูสดชื่นขึ้น ถึงขนาดชวนผมไปเดินเล่นตลาดฝั่งตรงข้ามกับห้างที่ค่อนข้างคึกคัก

ก็เล่นมีตลาดเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงขนาดนี้...ห้างเลยคนน้อยอย่างกับผีหลอก

“เอาสิครับพี่ฌาน ผมเริ่มหิวพอดี”

ผมกินรอเขาตั้งแต่ตอนเย็น มาตอนนี้จะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ไม่หิวสิแปลก นิฌานบ่นพึมพำว่าเด็กวัยรุ่นช่างดีจังน้า กินดึกก็ไม่อ้วน ผมเลยแอบยักคิ้วยั่วเขาให้อิจฉาเล่น ผลคือโดนแฟนหยิกแก้มจนแดงแจ๋

“พี่ฌาน!”

“ถ้าไม่ติดว่ามีคนอยู่ พี่จะกัดแก้มน้องเจแล้วเคี้ยวกร้วมๆ เลย”

“ถึงเราจะดูหนังซอมบี้ แต่พี่ฌานที่หลับตลอดเรื่องไม่ต้องอินขนาดนั้นก็ได้นะ” ผมมองเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์ ก่อนจะพากันยิ้ม เดินข้ามถนนไปตลาดนัดซึ่งมีสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะของกิน ของใช้ เสื้อผ้า เรียกว่ารวมทุกอย่างจบครบในที่เดียว

“น้องเจอยากได้อะไรก็ชี้นะครับ พี่ฌานจะเป็นป๋าให้น้องเอง”

“ป๋าเป๋ออะไร ไร้สาระ” ผมว่า เดินผ่านของใช้ที่ไม่ค่อยจำเป็นเลยมาโซนของกิน นี่สิคือสิ่งที่ต้องการ “พี่ฌานๆ ซื้อไข่ปลาหมึกให้ผมหน่อย”

ผมดึงเสื้อเขาเบาๆ พลางชี้เตาปิ้งน้ำลายสอ

“เรียกป๋าสิครับ” นิฌานแซว แต่พอโดนถลึงตาใส่ก็ยอมควักเงินให้ผมไปซื้อแต่โดยดี กลัวว่าถ้าเขาเป็นคนสั่งแม่ค้าจะจำหน้าได้ แค่นี้ก็มีคนมองแล้ว เพราะถึงจะปลอมตัวแต่เขาสูงโปร่ง หุ่นดี แถมการสวมหมวกเดินตลาดตอนเที่ยงคืนนี่โคตรจะเด่นเลย

“พี่ฌาน ผมอยากกินลูกชิ้นทอดเจ้านั้นจัง”

“พี่ฌาน นั่นฝอยทองกรอบ ของโปรดแม่ผมเลย!”

“โอ๊ะ ขนมถ้วย! ผมอยากกินมานานแล้ว!”

ไม่รู้ว่านี่เป็นการเดต หรือการพาผมตระเวนกินกันแน่ ไม่นานผมก็เริ่มอิ่มท้อง โดยที่สองมือนิฌานถือของกินฝากพ่อและแม่เพียบ

“ตลาดนี้ขายไม่แพงเท่าไหร่ ดีจังนะครับ”

“เห็นน้องเจร่าเริงแบบนี้ ก็ดีต่อใจพี่เหมือนกันครับ”

ผมงี้แทบเดินสะดุดเท้าตัวเอง พอมองสายตาเคลิ้มๆ เพ้อๆ นั้นแล้วก็เขินอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ทันแย้งกลับ กลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงสามคนก็เดินมาสะกิดแขนนิฌาน

“ขอโทษนะคะ...คือ...ใช่คุณนิฌาน ชาญชัยรึเปล่าคะ”

ความแตกซะแล้วสิ นิฌานมองหน้าผมเป็นเชิงถาม เมื่อผมพยักหน้ารับ เขาก็หันไปยิ้มให้กับแฟนคลับที่ยืนบิดไปมา

“ใช่ครับ”

“กรี๊ด! ฉันบอกแล้วว่าใช่ ไม่เชื่อกันเลย”

“ก็ใครจะคิดล่ะว่านิฌานจะมาเดินตลาดนัดตอนเที่ยงคืน!”

“ขอโทษนะคะ คือ...พวกเราขอถ่ายรูปได้มั้ยคะ”

“ได้สิครับ” นิฌานยิ้มรับไม่ถือสา หนึ่งในสาเหตุที่เขาอยู่ในวงการได้นาน คือการวางตัวต่อแฟนคลับที่ค่อนข้างเป็นกันเอง

“ผมถ่ายให้เองครับ” ผมอาสา ถึงจะไม่ใช่ผู้จัดการ แต่ในฐานะคนสนิทก็ยินดีมากที่จะสนับสนุนเขาในสายอาชีพนี้ และผมก็ดีใจ เมื่อมีคนชอบมากกว่ามีคนเกลียด ดีแค่ไหนแล้วที่พวกเธอเห็นนิฌานแล้วขอถ่ายรูป ไม่ได้เอาทุเรียนมาปาหน้าเพราะอินกับบทตัวร้ายในซีรีส์เช็กเมท

“ขอบคุณนะคะ” เหล่าสาวๆ วี๊ดว้ายกันอย่างดีใจก่อนจะรีบขอตัวกลับ แต่การขอถ่ายรูปของเธอก็ทำให้หลายคนเริ่มมองนิฌานอย่างสงสัย แม้มีบางส่วนไม่กล้าขอถ่ายด้วย แต่ก็แอบยกโทรศัพท์ถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก เมื่อการเดตไม่เป็นส่วนตัว ผมกับนิฌานเลยตัดสินใจกลับ

“ขอโทษนะครับ” เมื่อขึ้นรถ นิฌานก็มองผมหน้าหงอย

“ขอโทษผมทำไมล่ะพี่ฌาน”

“ก็พี่เผลอหลับในโรง พอเดินออกมาข้างนอกก็มีคนจำได้อีก...”

“ไม่ใช่ความผิดพี่ฌานสักหน่อย ผมไม่คิดมากหรอกครับ ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำที่พี่ตั้งใจทำงาน และความพยายามนั้นก็ทำให้ได้ผลตอบรับที่ดี มีคนรู้จักพี่เยอะขึ้น ชื่นชมพี่เยอะขึ้น ไม่ดีตรงไหน”

“แต่พี่อยากให้ความสำคัญกับน้องเจที่สุดนี่นา”

“ผมรู้ว่าผมเป็นอันดับหนึ่งในใจพี่ฌาน” ผมยิ้ม “แค่นั้นก็พอแล้วครับ”

พลันนิฌานเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะยกมือกุมแก้มแดงๆ ของตัวเอง

“ทำไงดี พี่คิดว่าพี่ตกหลุมรักน้องเจจนจมมิดหัวแล้ว”

ผมเลิกคิ้วใส่คนเล่นใหญ่ เพราะนิฌานกุมคอเหมือนขาดอากาศ

“จมมิดแบบนี้หายใจไม่ออกเลย ต้องให้คนมาเติมออกซิเจนแล้วล่ะ!”

...ผมใช้เวลาถึงห้านาทีเต็มกว่าจะเข้าใจว่าโดนแฟนอ้อนขอจูบ

คอยังปวดแปลบๆ อยู่เลย แต่เห็นคนใจกล้าหน้าด้านลงทุนเล่นมุกพิสดารล้ำโลกขนาดนี้ ผมก็ยอมยื่นหน้าไปจูบปากเขาเบาๆ

ก่อนจะโดนกอดรัด สอดลิ้นเข้ามาให้รสจูบนั้นหวานจับใจ

แม้เดตแรกจะล่ม แต่เทียบความรักที่เขามีให้ผมอย่างท่วมท้นไม่ได้สักนิด

อันที่จริงผมก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร ตั้งแต่เริ่มคบกันจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเป็นพิเศษ ในเมื่อผมมีครบทุกอย่าง ไม่เคยอยากได้อะไรจากเขาเลย

ขอเพียงอยู่เคียงข้างกันอย่างมั่นคงก็พอแล้ว

------------

ใกล้จะจบแล้วค่า เลยอยากเขียนตอนที่ให้อารมณ์เดตน่ารักๆ จากคู่นี้บ้าง ความจริงนับเป็นตอนเซอร์วิสก็ได้นะคะเนี่ย ส่วนตอนหน้า....โฮะๆๆๆ คาดว่าจะเป็นตอนที่หลายคนรอคอย แต่แม่ยกน้องเจอาจไม่รอคอย

ยังไงก็ต้องมีสักวันที่น้องโดน...!!

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนที่ขอให้เตรียมใจล่วงหน้า (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 15-08-2018 19:32:03
น้องเจที่น่าสงสาร จะจูบแอบแฟนทั้งทีแต่ดันคอเคล็ด  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-08-2018 19:45:25
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-08-2018 21:14:08
น้องเจ...น่ารักกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-08-2018 22:11:56
 :man1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-08-2018 22:44:14
ตอนนี้ น้องเจทั้งน่ารักและน่าสงสารเลยอ่ะ 5555
ส่วนตอนหน้านี่ต้องบอกเลย รอคอยมานานนนนนนนนนนแล้ววววววววววว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-08-2018 22:53:45
ใกล้จะเสียตัวยัง รออยู่เด้อ  :hao6:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-08-2018 00:17:56
น้องเจ อุตส่าห์จะแอบขโมยจูบพี่เค้า ดันมาคอเคล็ดเสียนี่ 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-08-2018 01:02:09
น้องเจ รักษาคอก่อนไหมลูก!!!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-08-2018 01:20:02
ตอนหน้าเหรอ?ไม่น้าาาน้องเจจจจ แบบนี้ต้องให้พี่จิมาสกัดรึเปล่าเนี่ย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-08-2018 10:01:44
 o18 o18 o18 น้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-08-2018 14:18:21
นิฌาน  เจ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-08-2018 15:16:57
เอ็นดูน้องเจมากเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 33 - P.23 - [15/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-08-2018 17:16:38
โถ่วๆๆๆ ลูก
น่ารักจิงๆเลย นุ้งเจ นุ้งเจ~~~~
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 17-08-2018 19:44:06
ตอนที่ 34 : บทเรียนรักสามหลักสูตร


เพราะอยู่กับนิฌาน ผมเลยจะกลับบ้านทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เท่ากับว่ามีเวลาอยู่กับแฟนเยอะกว่าพี่จิที่กลับบ้านวันเว้นวันซะอีก รู้สึกผิดชะมัด อยากใช้เวลากับครอบครัวมากกว่านี้ ไม่อยากให้การมีแฟนห่างเหินกับพ่อแม่ที่แสนน่ารักและพี่จิคนดี แต่นางจรวยยืนยันเสียงแข็งว่าการอยู่กับนิฌาน ทำให้พ่อแม่อุ่นใจกว่าเดินทางไปกลับจากบ้านมามหาลัยหลายเท่า!

พอไม่ต้องทำงานพิเศษ ไม่ต้องรีบกลับบ้าน เลิกเรียนเสร็จผมก็ค่อนข้างเคว้งคว้าง นิฌานแนะนำให้ผมลองเข้าชมรม ซึ่งมาสรุปที่ชมรมดูหนัง พอบอกพ่อ แม่ และพี่จิ ทุกคนถึงกับร้องไห้โฮๆ ดีใจเหลือเกินที่นายเจตริน ทองคำดีเลิกห่วงครอบครัวแล้วทำตัวสมวัยตามใจตัวเองซะที ถึงขนาดโทรไปขอบคุณนิฌาน...เฮ้ๆ ทุกคนจะเวอร์ไปไหน ผมแค่เข้าชมรม! ไม่ต้องร้องไห้ก็ได้มั้ย!

- ดีแล้วลูก กอบโกยช่วงเวลานี้ให้มากๆ เข้านะ -

ขนาดแม่นิฌานยังเห็นด้วย!

ด้วยแรงสนับสนุนของทั้งครอบครัวและแฟน ผมเลยมีเพื่อนที่รักการดูหนังเพิ่มขึ้น ทุกวันพุธตอนเย็น พวกเราจะนัดกันเปิดหนังเก่าในห้องชมรม ดูจบก็จะนั่งวิเคราะห์กัน สนุกมากๆ

“เรื่องนี้นักแสดงเด็กเป็นตัวนำเรื่องที่ยอดเยี่ยม ทั้งที่เนื้อเรื่องดราม่าสุดๆ แต่นักแสดงกลับทำให้คนดูรู้สึกเอาใจช่วยว่าเขาจะผ่านพ้นไปได้แน่นอน”

“ใช่ๆ นักแสดงคนนี้แสดงได้ดีมากจริงๆ โดดเด่นจนกลบนักแสดงบางท่านที่มีประสบการณ์หลายสิบปีซะอีก!”

แต่การนั่งวิเคราะห์การแสดงของแฟน...ก็ชวนจั๊กจี้เหมือนกัน!

เพราะหนังที่เลือกดูในวันนี้คือภาพยนตร์เรื่องแรกของนิฌาน แน่นอนว่าผมเกิดไม่ทัน...พอได้ดูกับเพื่อนๆ ที่คิดวิเคราะห์กันอย่างจริงจังเลยยิ่งรู้สึกถึงพรสวรรค์ของเด็ก...ที่โตแล้วคนนี้

มิน่าล่ะหลังจากนั้นถึงไม่ได้รางวัลอีกเลย

ประหนึ่งเป็นผลงานมาสเตอร์พีซ ที่ทำไว้ดีเกินคาด จนทำให้ผลงานเรื่องต่อๆ ไปของเขาไม่อาจเทียบเคียง จนกลายเป็นความคาดหวังของคนดู ว่านิฌานต้องทำได้ดีกว่าเรื่องแรก ต้องเก่งกว่าเรื่องแรก เท่ากับว่าผลงานนี้คือกำแพงที่โคตรสูงตระหง่านของเขานั่นเอง

พูดถึงอิเหนา อิเหนาก็โทรมา

(( น้องเจจะกลับรึยังครับ ))

“กำลังจะกลับครับ พี่ฌานจะฝากซื้ออะไรเหรอ” ผมถามขณะมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้หนึ่งทุ่มตรง ไม่รู้ว่าเขากินข้าวเย็นรึยัง

(( ดีเลย พี่จอดรออยู่หน้ามหาลัยนะครับ แล้วเจอกันนะ ))

แฟนผมวางสาย ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ

“เจ เป็นไรวะ” เพื่อนๆ เห็นผมรับโทรศัพท์แล้วนิ่งค้างก็โบกมือปัดหน้าสงสัย ผมรีบตั้งสติ ไม่รู้จะพูดยังไงดีว่านักแสดงที่พวกเราเพิ่งชมกันเมื่อครู่รอรับผมอยู่หน้ามหาลัยเนี่ย!

“เอ่อ...เรากลับก่อนนะ”

“อ้าว ไม่ไปพร้อมกันล่ะ รอปิดเครื่องฉายหนังแป๊บเดียวเอง”

“เราต้องกลับก่อนจริงๆ โทษทีว่ะ” ผมรีบเก็บกระเป๋าแล้วชิ่งออกจากห้องชมรม วิ่งหน้าตาตื่นไปหน้ามหาลัยที่มีรถคุ้นตาจอดอยู่ แม้จะเริ่มดึก แต่ก็มีนักศึกษาเดินผ่านไปมา ผมล่ะเสียววาบๆ กลัวจะมีใครจำเขาได้

“พี่ฌานมารับผมทำไมเนี่ย” ขึ้นรถปุ๊บผมก็เหวใส่เขาปั๊บ ความรู้สึกของการแอบคบกับดาราชื่อดังเป็นอะไรที่ชวนใจจะวายอยู่เนื่องๆ

“อยากมารับแฟนก็ผิดเหรอครับ” นิฌานทำหน้าซึม “พี่ก็อยากทำหน้าที่แฟนที่ดีบ้างนี่น่า ตั้งแต่น้องเจเริ่มเรียน พี่ยังไม่เคยมาที่มหาลัยเลย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเดินไปสำรวจตึกเรียน โรงอาหาร ห้องน้ำ สนามกีฬาด้วยซ้ำ”

“พี่ฌานทำเหมือนพ่อแม่ผมเลย”

“ก็พวกเราทุกคนรักน้องเจนี่ครับ”

มองคนพูดที่มองมาด้วยสายตาหวานเยิ้ม ผมก็เลิกโต้แย้งทันที ความจริงแล้วไม่ได้โมโหอะไรหรอก แต่มันกะทันหันเกินจนตั้งตัวไม่ทันต่างหาก

“ครั้งหน้าถ้าจะมารับพี่ฌานบอกผมก่อนสิ”

“ได้ครับ” นิฌานรับปากเสียงใส พอตามใจเข้าหน่อยก็ยิ้มระรื่นเชียวนะ






ก็นี่แหละครับชีวิตมหาลัยของผม ทุกวันผ่านไปอย่างมีความสุขและสนุกสนานเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ของผมกับนิฌานก็ราบรื่นมาก ถ้าไม่นับของแข็งที่ชอบดันก้นผมบ่อยๆ เวลานอนกอดกันหรือตอนผมนั่งตักน่ะนะ...

ผมเองก็เป็นวัยรุ่น ความอยากรู้อยากลองน่ะมีอยู่แล้ว แต่เพราะต้องเปิดประสบการณ์เป็นฝ่ายรับ เลยยังกล้าๆ กลัวๆ ขอเตะถ่วงเวลา ซึ่งนิฌานเองก็ไม่เร่งร้อน มักจบลงที่โลกสวยด้วยสองมือทุกครั้ง

แต่วันนี้เป็นวันเกิดนิฌาน

เขาอายุยี่สิบเก้าปีเต็ม ปีหน้าก็จะขึ้นเลขสามแล้ว!

มองแฟนตัวเองที่อาจจะเตะปี๊บไม่ไหวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผมก็คิดว่าจะชักช้าไม่ได้ เพราะตัวเองก็คึกคักอยู่บ่อยๆ จนเมื่อยมือแล้วเหมือนกัน อยู่กับแฟนด้วยกันแทบทุกวันแถมโดนเขานัวเนียใส่ตลอดใครจะอดใจไหวกันล่ะ ผมก็เป็นคนมีความรู้สึกนะ!

วันเกิดเขานับเป็นฤกษ์งามยามดี วันนี้นิฌานมีจัดแฟนมีตติ้งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง กลับถึงบ้านราวๆ หกโมง พวกเราฉลองกันในห้อง กินเค้กด้วยกัน...หลังแยกย้ายอาบน้ำ ดูหนังอีกสักเรื่อง ก็ได้เวลา...

“น้องเจง่วงแล้วเหรอครับ” นิฌานทำหน้างงเมื่อจู่ๆ ผมก็จูงมือเขาเข้าห้องนอนตั้งแต่สามทุ่ม ผมไม่ตอบ แต่เดินไปนั่งบนเตียง ทำหน้าจริงจังประหนึ่งเรื่องคอขาดบาดตาย

“พี่ฌาน...” ผมพูดเสียงขรึม “ผมพร้อมแล้ว”

นิฌานนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ อ้าปากจนกรามแทบค้าง

“พ...พร้อมแล้วจริงเหรอน้องเจ” ผู้ช่ำชองเรื่องบนเตียงเป็นฝ่ายหน้าแดงก่ำเอ่ยตะกุกตะกักทำอะไรไม่ถูกผิดกับผมที่สงบนิ่งเกินคาด นิฌานเป็นแบบนี้เสมอ ไม่ว่าเขาจะเคยทำเรื่องเลวๆ มายังไง หยอกล้อเย้าแหย่น่ากระทืบแค่ไหน แต่ในเชิงปฏิบัติมักจะให้เกียรติผมเสมอ ไม่เคยฝืนใจและค่อนไปทางขลาดอายด้วยซ้ำ

สมัยยังไม่เป็นแฟนกัน แค่ผมค้างคอนโดเขาก็ล่อเอาแทบเป็นบ้า พอเป็นแฟนกันจริงก็ทำเอาเขาแทบเป็นลม มาครั้งนี้วันเกิดเขา ผมมีเซอร์ไพรส์ นิฌานก็หน้าแดงหูแดง จนผมชักอยากเป็นฝ่ายกระชากเสื้อทิ้งแล้วกดเขาแทน

แต่ทำได้เพียงคิดเท่านั้น เพราะทันทีที่ผมพยักหน้ารับ นิฌานก็กลายร่างเป็นหมาป่า...ที่นุ่มนวล เขาประคองหน้าผมขึ้นจูบ ใช้น้ำหนักตัวค่อยๆ กดให้ผมลงไปนอนราบกับเตียง

“น้องเจใจเต้นดังมาก” นิฌานหัวเราะหลังถอนจูบ ทาบมือกับหน้าอกผม

“พี่ฌานก็ใจเต้นแรงเหมือนกันนั่นแหละ” ผมเอ่ยเสียงเบาแก้เก้อ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกรุนแรงเมื่อนิฌานเริ่มปอกเปลือก เล่นเอาทั้งผมและเขามองตากันปริบๆ

“ถ้าน้องเจกลัว งั้นมาเริ่มแบบเบสิกก่อนมั้ย” นิฌานตัดสินใจประนีประนอม

“ยังไงครับ”

“อะแฮ่ม บทเรียนแรกกับอาจารย์นิฌาน” นิฌานกอดอกเคร่งขรึม หวังสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย “นอกจากมือขวาโลกสวยแล้ว ยังมีวิชากินไส้กรอกชีสด้วย”

พูดจบเขาก็สาธิตด้วยการเขี่ยเจน้อยของผมเล่นสามที ผมถลึงตารีบหุบขา แต่โดนนิฌานจับให้พาดกับลาดไหล่ของเขาแทน ก่อนที่อาจารย์นิฌานจะเริ่มการเรียนการสอน...

“พะ..พี่ฌาน”

ด้วยการกินไส้กรอกชีสที่ชื่อว่าเจน้อย!

ผมอ้าปากพะงาบ ทำอะไรไม่ถูก ขนาดมือยังไม่รู้จะวางตรงไหน เลยหยิบหมอนมากอดระบายความเสียวซ่านเมื่อเรียวลิ้นของนิฌานค่อยๆ โลมเลียไส้กรอกชีสเจน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ชวนหอบหายใจหนัก ผมยังเกร็งไปทั้งตัว แต่นิฌานกินไปก็ยักคิ้วให้ผมไป ท่าทางเอร็ดอร่อยมากจนมีเสียงจ๊วบๆ ดังออกมาเป็นระลอก

“ไส้กรอกอะไรน้า หวานกว่าเค้กอีก” นิฌานก้มเลียตรงส่วนปลาย ทำเอาผมหลุดร้องเสียงเบาจนรีบยกมือปิดปาก ผลคือเขายิ้มร้ายกว่าเก่า จากสัมผัสนุ่มนวลถนอมเจน้อยเริ่มหนักหน่วงขึ้น ผมหายใจกระชั้น ใช้หมอนมาอุดปากตัวเองเมื่อถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว

“วิชานี้สบายตัวกว่ามือขวาโลกสวยมั้ยครับ ถ้าวันไหนน้องเจต้องการ เรียกหาอาจารย์นิฌานได้เลยนะ”

“พี่ฌาน!” ผมใช้หมอนตีหัวเขาที่ทำเล่นไม่เลิก

“โอ๋ๆ ไม่หัวร้อนนะครับ เพราะเดี๋ยวอาจารย์นิฌานจะทำให้ร้อนกว่านี่อีก” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “บทเรียนต่อไป...”

“เดี๋ยวก่อนพี่ฌาน!” การประท้วงไม่เป็นผล นิฌานจับเจน้อยของผมเป็นตัวประกันแล้วกลืนกินจนตัวสะท้านเฮือก อารมณ์วาบหวามที่หลงเหลืออยู่จางๆ ถูกจุดติดขึ้นมาทันที

งวดนี้จังหวะเนิบช้าแต่ชวนเสียวเป็นระยะ สองมือขยำศีรษะเขา ไม่รู้ว่าพยายามกระชากออก หรือกดให้แนบชิดขึ้นกันแน่

พลันผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงนิ้วที่ปัดผ่านแถวบั้นท้าย

เฮ้ย เขาจู่โจมเบื้องล่างตั้งแต่เมื่อไหร่!

ผมอ้าปากค้าง มองนิฌานที่เบื้องหน้าอมเจน้อยด้วยสายตาใสซื่อบริสุทธิ์ แต่เบื้องหลังวนนิ้วรอบปากทางเดี๋ยวกดเดี๋ยวย้ำบริเวณนั้นจนร่างกายผมกระตุกเกร็ง ทันใดนั้นจังหวะลิ้นที่ช้ามาตลอดพลันเร็วขึ้น ผมแหงนหน้าหลุดครางด้วยความเสียวกระสัน รู้ตัวอีกทีนิ้วที่วนแบบรีๆ รอๆ อยู่นานก็จิ้มสวนสำเร็จแล้ว

“พะ...พี่ฌาน”

ในใจมันหวั่นๆ อย่างบอกไม่ถูกเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมสอดลึกเข้ามาในร่างกาย แม้จะแค่นิ้วเดียวแต่การเสียดสีนั้นก็ล่อเอานิ่วหน้า พลันนิฌานชักนิ้วออก ปาดกับน้ำคาวที่ผมหลั่งก่อนหน้านั้น ก่อนจะสอดเข้าไปใหม่อีกครั้ง

“อืม...” ผมขมวดคิ้ว พยายามผ่อนคลายตัวเอง ก่อนจะหลุดอุทานเสียงหลง เมื่อนิ้วข้างนั้นปัดผ่านจุดเสียวจนร่างกายกระตุกวูบ

“หึหึหึ”

มองหน้าวายร้ายของนิฌาน ผมคล้ายโดนจับจุดอ่อนเข้าอย่างจัง และก็จริงซะด้วย เพราะเมื่อเขากดย้ำจุดนั้นอีกครั้ง ตัวของผมก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้ง ซบหน้ากับเตียงพยายามกัดปากกลั้นเสียงคราง

พลันหนึ่งนิ้วกลายเป็นสองนิ้ว รุกรานควงคว้านไปพร้อมๆ กับเจน้อยที่ถูกโพรงปากอุ่นนุ่มดูดดุนด้วยจังหวะเร็วรี่กะทันหัน เร่งเอาผมผวาเฮือกส่ายสะโพกหมายหลบหลีก แต่โดนนิฌานที่จู่โจมจากสองทางยึดมั่น จนได้แต่ขยำศีรษะเขาทั้งสองมือ ระบายความเสียวซ่านที่พุ่งพรวดจนสะโพกลอยเหนือฟูกนอน

แล้วผมก็เสร็จอีกครั้ง

พร้อมเรี่ยวแรงที่คล้ายจะถูกสูบออกไปพร้อมกับของเหลวสีขาวที่ถูกคนรักไล่เลียอย่างเอร็ดอร่อย

“จบบทเรียนที่สองแล้ว น้องเจพร้อมสำหรับบทเรียนที่สามรึยังครับ”

เพราะถึงจุดสุดยอดสองครั้งติด ใจผมเลยยังเต้นรัวเร็วใกล้ทะลุจากอก ร่างกายปวกเปียกนอนแผ่รอให้นิฌานทำตามใจชอบ ได้แต่ปรือตามองคนที่ค่อยๆ คร่อมตัวเข้าหาโน้มหน้าจูบปาก ละเลียดชิมอย่างรักใคร่แกมลุ่มหลง สอดลิ้นแบ่งปันรสชาติขมฝาดของน้ำรัก ขณะเดียวกันก็จับขาผมพาดกับไหล่จัดท่าทางให้เหมาะสม

แม้ไม่ก้มมอง แต่ผมก็รู้สึกถึงความร้อนใกล้ปะทุของบางสิ่งบางอย่างที่ปัดผ่านไปมาแถวบั้นท้าย

“พี่ฌาน...ถุงยาง”

เด็กที่ดีต้องรู้จักเซฟตัวเอง เซ็กซ์เป็นเรื่องของกิจกรรมเข้าจังหวะของคู่รัก เป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ได้ผิดศีลธรรมจรรยาน่าอับอาย แต่การป้องกันตัวจากโรคร้ายนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็น

โดยเฉพาะกับคนที่ผ่านศึกมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างนิฌาน

“เรียบร้อยแล้วครับ” นิฌานก้มจูบผมอีกครั้ง กัดริมฝีปากที่บวมเจ่อนั้นเบาๆ “น้องเจสบายใจได้เลย”

นิฌานไม่ใส่ใจกับการทักท้วงของผม ออกจะเข้าใจด้วยซ้ำว่าต้องรอบคอบให้ดี

แล้วบทเรียนที่สามก็เริ่มต้น

ผมซุกกับไหล่ของเขาเมื่อรู้สึกถึงร่างกายช่วงล่างที่ค่อยๆ ขยายกว้างตามขนาดของสิ่งที่ดุนดันเข้ามา แน่นอนว่าครั้งแรกของผม...มันต้องเจ็บ แต่ก็ไม่ได้มากอย่างที่คิด อาจเพราะนิฌานช่วยเตรียมพร้อมไว้แล้ว ผมถึงโอบอุ้มส่วนนั้นของเขาแบบไม่ฝืนตัวเองเกินไป แม้จะเล่นเอาจุกตื้อแถวท้องน้อย ไม่สิ...จุกเอามากๆ เลยต่างหาก!

ผมหอบหายใจหนักขณะปรับความคุ้นชินกับขนาดที่ยังรุกคืบแทรกแซงอย่างเชื่องช้าแต่ร้อนแทบระเบิด ตอนที่คิดว่าน่าจะสุดแล้วก็ยังลึกเข้ามาได้อีก จุกแน่นไปหมดแล้วนะ!

ความเสียวซ่านเหือดหาย ความอึดอัดแทนที่ ผมรู้สึกหน่วงๆ อย่างบอกไม่ถูก ตอนที่กัดปากตั้งใจจะเงยหน้าถามนิฌานว่าปกติมั้ย เขาพลันจับสะโพกผมมั่น ดันให้ผละออกเล็กน้อย ก่อนจะรั้งเข้าหาตัวเองจนส่วนนั้นของเราสองแนบชิดติดกันแทบไม่เหลือช่องว่าง

“อุก...”

บอกเลยว่าจุกหนักกว่าเดิม

ผมชักไม่ไหว เริ่มคิดจะตีอกชกหัวนิฌาน แต่กลับโดนจับมือให้โอบไหล่กว้างนั้น โดนเลื่อนขาให้ไขว้กันในระดับเอวของเขา หลังปรับเปลี่ยนท่าทางเสร็จ นิฌานก็เริ่มเดินเครื่อง...เอ่อ ผมไม่รู้จะใช้คำนี้ได้มั้ย แต่เขาเริ่มเดินเครื่องจริงๆ!

“อ๊ะ...” แล้วร่างกายผมก็โยกไหวไปตามจังหวะสวนกายที่เดี๋ยวดึงออกเดี๋ยวกระแทกเข้าอย่างบรรจง ที่เรียกบรรจงเพราะไม่หนักหรือเร็วเกิน แต่ก็ไม่ได้เบาหรือช้าเกิน ผมเองก็บอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ คือสองมือที่จิกกับหลังเขา กับสองขาที่ไขว้รอบเอวจนเกร็งเหยียดนั้นบ่งบอกความเสียวซ่านที่ค่อยๆ เพิ่มระดับอย่างดีเยี่ยม

ความจุกหน่วงยังมีอยู่ แต่ความสุขสมเริ่มวิ่งแซงทะลุปรอท ผมหลุดครางเป็นระยะ เจียนคลั่งเมื่อนิฌานก้มจูบตามลำคอ ฝังรอยรักจนไปพร้อมๆ กับการสวนเอวที่เริ่มกระชั้นถี่ขึ้นทุกที และเมื่อเขาเปลี่ยนมาใช้ลิ้นเล่นกับยอดอกผม วินาทีนั้นเหมือนมีประกายไฟวิ่งจี๊ดขึ้นสมอง ร่างกายผมเกร็งไปหมด ตอดรัดเขาจนฌานน้อยแทบม้วยมรนา

จนเมื่อเขาพยายามสวนเอวเข้ามาอีกสองครั้ง เบื้องหน้าของผมพลันกลายเป็นสีขาว รู้สึกถึงบางอย่างในร่างกายที่ทะลักทลาย ถึงจุดสุดยอดจากประตูหลังครั้งแรกในชีวิต

มันช่าง...สุดยอด...ในหลายๆ ความหมาย ผมกะพริบตาปริบหลายครั้ง เรียกสติให้กลับมายังบทเรียนที่เพิ่งสำเร็จวิชา

นิฌานเกือบจะเสร็จพร้อมๆ กับผม เหลื่อมล้ำกันนิดหน่อย เขาถอนกายออก รูดถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำรักทิ้งถังขยะ ก่อนจะเอื้อมหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะข้างเตียงช่วยเช็ดทำความสะอาดให้

“จูบหน่อย” นิฌานที่หน้าตาสดใสเปล่งปลั่งยิ้มอย่างมีความสุขขณะก้มจูบผมซึ่งนอนหอบหายใจถี่ รู้สึกหนักไปทั้งตัวจนแทบขยับนิ้วไม่ได้ จนตอนนี้ยังได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัวอยูเลย

...ทำไมผมเหมือนจะตาย แต่เขาดูเด็กขึ้นไปอีกสิบปี...

“เก่งมากครับน้องเจ ครั้งนี้อาจารย์นิฌานให้แปดเต็มสิบเลยสำหรับครั้งแรก”

“แล้วอีก...สองคะแนนล่ะครับ” ผมพูดไปก็หอบไป เคยมีคนบอกว่าเซ็กซ์คือการออกกำลังกาย ผมเชื่อแล้ว เหนื่อยกว่าโดนพี่จิลากไปวิ่งอีก

“อีกสองคะแนนหักเพราะยังดูงงๆ มึนๆ ทำอะไรไม่ถูกนอนทื่อเป็นท่อนไม้” นิฌานหอมแก้มผมดังฟอด และอีกฟอดให้ครบสองข้าง “คงเพราะยังไม่ชิน งั้นไว้ครั้งหน้าออนท็อปพี่แล้วกัน น้องเจจะได้ขยับเอง”

แม้จะเหนื่อย แต่ผมยังมีแรงยกมือฟาดอกเขาเบาๆ

“ไม่ชอบท่านั้นเหรอครับ งั้นเอาเป็นท่าไหนดี โอ๊ยๆ อย่าตีสิครับน้องเจ พี่แค่คึกไปหน่อย มีอะไรกับน้องเจครั้งแรกเลยนะ ขอพี่ดีใจหน่อยสิ”

นิฌานกอดผมอย่างทะนุถนอม ซุกหน้ากับอกเหมือนเด็กตัวโตกอดตุ๊กตาสุดรักสุดหวง

“รักน้องเจนะครับ”

“รัก...เหมือนกันครับ” มือที่ยกหมายจะประทุษร้ายเปลี่ยนเป็นลูบศีรษะคนที่ถือโอกาสออดอ้อนพร้อมรอยยิ้มบางแต้มมุมปาก ไม่ว่ายังไงก็โกรธคนกะล่อนคนนี้ไม่ลงจริงๆ

บทเรียนรักทั้งสามเป็นอันจบลงด้วยประการฉะนี้

--------------

และแล้วน้องเจก็ถูกกินค่ะ กว่าพี่ฌานจะกินเด็กเป็นอมตะล่อไปท้ายเรื่อง ช้ากว่าคู่อื่นๆ เลย แต่นี่ก็ทำใจแต่งทั้งน้ำตาแล้วค่ะ ฮือ น้องเจของแม่ เหมือนเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝาอย่างสมบูรณ์ QAQ 

#น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนไว้อาลัยแก่ความบริสุทธิ์ของน้องเจ (https://www.facebook.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-08-2018 19:57:50
พี่ฌาณหน้าใสปิ๊งเลย ได้กินน้องเจ ถถถถ น้องเจลูกกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-08-2018 20:13:34
 :man1:


 :mc4: :katai2-1: :mc4:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-08-2018 20:20:09
 :heaven
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-08-2018 20:42:00
 :o8:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 17-08-2018 21:31:42
น้องเจยอมเพราะรัก จนพี่ฌานฟินขึ้นสวรรค์ไปแล้ว 555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-08-2018 22:20:25
และแล้วนิฌาณก็ประสบผลสำเร็จด้านการเป็นอมตะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 17-08-2018 22:57:04
หน่องเจของพรี่เป็นฝังเป็นฝาซะแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-08-2018 04:08:06
เสียตัวแล้วววววววววววววววววววววววววว ฉลองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 18-08-2018 07:28:45
ยินดีกับน้องเจและพี่ฌานด้วยยยย เตรียมหุงข้าวแดง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 18-08-2018 08:39:14
ในที่สุดก็มีคืนนี้ ชอบน้องเจตรงความตรงไปตรงมานี่แหละ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-08-2018 21:28:58
สุขสมมากไหมคะพี่ฌาน มาเต็มเลยนะ เป็นของขวัญที่ลืมไม่ลง

อารมณ์เด็กน้อยเอาใจลุงแก่เลยค่ะ น้องเจทุ่มทุนสร้างมาก
ถึงขั้นกลัวจะเตะปี๊บไม่ดัง ความล้ำบ้านนี้ไม่หลุดร่วงสักคน

ชอบโมเมนท์นิฌานอ้อนเจแล้วเจยอมความหงอยนั้น
เหมือนสลับอายุกันก็ไม่ต่างเลย 55555


หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 18-08-2018 22:06:12
 :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-08-2018 12:36:53
กินเด็กเป็นอมตะเนอะพี่ฌาณ หน้าใสปิ๊งๆๆ ต้องกินบ่อยๆ :m25: :z1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 34 - P.23 - [17/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-08-2018 14:06:00
ผิดคาดไปนิด นึกว่าน้องเจจะเสร็จคนพี่เพราะบรรยากาศพาไปหรือการรุกของพีมัน แต่เปล่าจ้าาาน้องเจจูงมือเข้าห้องแล้วบอกออกไปตรงๆเลย โถถถถ นี่มันสไตล์น้องเจจริงๆเลยลูก หนูจะตรงไปไหน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 19-08-2018 19:34:19


ตอนที่ 35 : รางวัลทรงคุณค่า


วันนี้เป็นงานประกาศรางวัล!

นิฌานต้องเตรียมตัวตั้งแต่ช่วงบ่าย ส่วนผมนั้นรอเรียนเสร็จก่อนค่อยตามเขาไปทีหลัง ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะมาหรอกนะครับ แต่เพราะได้รับข้อความตอบรับจากใครบางคน...เลยต้องมา!

“ผมเตรียมชุดให้คุณเจแล้วครับ”

แน่นอนว่าอดีตผู้จัดการอย่างผมคิดจะร่วมงานประกาศรางวัลย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เมื่อมีเลขาคมสัน เขารีบพาผมซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาเปลี่ยนเป็นชุดสต๊าฟฟ์ แขวนป้ายห้อยคอ เพียงเท่านี้ก็สามารถเดินไปเดินมาในงานได้อย่างสบายใจเฉิบ

ใครเลยจะเชื่อ เมื่อปีก่อนผมดูรายการนี้ผ่านทางโทรทัศน์ แต่ครั้งนี้ได้มาด้วยตัวเอง! ที่แตกต่างคือครั้งนี้เป็นงานประกาศรางวัลของจอแก้ว ไม่ใช่ภาพยนตร์

นิฌานที่เพิ่งได้มางานนี้ก็คงจะตื่นเต้นเหมือนกัน...ซะที่ไหน เขาเข้าสังคมเก่งมาก เลยชวนดาราหญิงคุยอย่างออกรส เห็นว่าผมไม่มาก็ออกลายสินะ!

“รับเครื่องดื่มเพิ่มมั้ยครับ” ผมในชุดบริกร ถือถาดเครื่องดื่มยื่นไปตรงหน้านิฌานที่กำลังยิ้มแย้มแจ่มใส นับตั้งแต่ได้กินตับผม เขาก็ดูเปล่งปลั่งทรงเสน่ห์ขึ้นจมจนใครๆ ก็ทักว่าหน้าเด็กขึ้น สงสัยสำนวนที่ว่ากินเด็กแล้วเป็นอมตะจะเป็นของจริง ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่รวมถึงหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้าหาไม่ว่างเว้น

“น้อง...!!” ทันทีที่เห็นผม นิฌานก็หลุดปากก่อนจะรีบปิดปากแทบไม่ทัน เล่นเอาดาราหญิงที่มองเขาตาเยิ้มเลิกคิ้วสงสัย อดถามออกมาไม่ได้

“พี่ฌานรู้จักเด็กคนนี้ด้วยเหรอคะ”

“อ่า...ใช่ครับ เป็นคนรู้จักของผมเอง” นิฌานพยักหน้ารับ “ขอตัวก่อนนะครับ”

แล้วนิฌานก็รีบลากแขนผมออกนอกงานทันที หามุมสงบ มองซ้ายมองขวาจนมั่นใจว่าเป็นส่วนตัว ก็รีบช่วยผมถือถาดแสดงความห่วงใย ถ้าไม่กลัวเสื้อเปื้อนคงแทบจะนั่งคุกเข่าขอขมาแล้ว

“ที่น้องเจเห็นไม่ใช่อย่างที่น้องเจคิดนะครับ” นิฌานมองผมตาปริบๆ อย่างใสซื่อบริสุทธิ์ แต่นักแสดงอย่างเขาจะเล่นบทนี้ย่อมทำได้ไม่ยาก “พี่คุยกับเธอถูกคอเฉยๆ แต่ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งเลย ทั้งตัวทั้งใจของพี่เป็นของน้องเจคนเดียว น้องเจก็รู้”

ผมแสร้งทำหน้านิ่ง แต่พอเห็นเขาลนลานเหงื่อแตก ก็หลุดยิ้ม

“วันนี้เป็นวันประกาศรางวัลนะครับพี่ฌาน ทำหน้าให้ดีๆ หน่อยสิ”

“น้องเจไม่โกรธพี่เหรอครับ”

“ผมจะโกรธทำไม มีใครรู้จักพี่ฌานดีเท่าผมด้วยเหรอ” ผมตบอกเขา “พี่หลงรักผมหัวปักหัวปำขนาดนี้ปันใจให้คนอื่นไม่ไหวหรอก อีกอย่าง...ถ้าพี่กล้านอกใจผมจริง...”

ผมคลี่ยิ้มเย็น

“คนที่เสียใจที่สุดก็ไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่ฌานที่เสียคนรักที่ดีที่สุดในโลกอย่างผมไปต่างหาก!”

“ใช่เลยครับ พี่ต้องเสียใจมากแน่ๆ เพราะคงหาคนรักอย่างน้องเจไม่ได้อีกแล้ว” นิฌานรีบคล้อยตามทันที คลอเคลียใกล้ๆ กัน เดิมทีนิฌานก็เห็นผมเป็นแหล่งพลังงานอยู่แล้ว ถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เป็นต้องจับนั่งตัก กอด หอม นัวเนียไม่ปล่อยเหมือนชาร์ตพลัง หลังจากมีอะไรกัน เขาก็ยิ่งอาการหนัก แล้วกับคนแบบนี้น่ะเหรอจะนอกใจผม...ไม่มีทาง!

แต่ถึงรู้ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ผมก็อดหวงนิดๆ ไม่ได้เหมือนที่นิฌานร้อนตัวทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยสักนิด ขอย้ำนะครับ ผมหวง ไม่ใช่หึง อย่าลืมสิว่านายเจตรินน่ะขี้หวงขนาดไหน ถ้าเกิดเทใจรักแล้วล่ะก็ ต่อให้เป็นเจ้าส้ม แมวจรจัดก็หวงไม่อยากให้ใครอุ้ม!

“ใกล้จะได้เวลาแล้ว พี่ฌานรีบเข้างานเถอะครับ”

“แล้วน้องเจล่ะ”

“ผมก็อยู่ข้างในแหละครับ แต่หลบมุมแอบดูเอา ก็ตอนประกาศรางวัลไม่ให้เสิร์ฟเครื่องดื่มนี่น่า”

“นี่น้องเจได้ค่าจ้างมั้ยเนี่ย”

“ผมมาฟรีครับพี่ฌาน เป็นแค่ตัวช่วยส่วนเกินที่เลขาคมสันยัดมา เพราะว่าวันนี้น่ะ...” ผมยิ้ม แต่ไม่ตอบ “พี่ฌานเข้างานเถอะ”

นิฌานสงสัย นานครั้งที่ผมจะยอมเปลืองแรงโดยไม่คิดค่าจ้าง แต่เพราะได้ยินเสียงประกาศใกล้จะเริ่มงาน เหล่าดารานักแสดงที่มากินเลี้ยงระหว่างรอแขกรับเชิญมาจนครบจึงแยกย้ายกันนั่งตามที่จัดระเบียบไว้

นิฌานนั่งโต๊ะเดียวกับนักแสดงนำเรื่องเช็กเมท แต่เดี๋ยวก่อนนะ...ข้างๆ นั่นมัน...จิระ!!

ผมตื่นเต้นจัด ไม่มองหน้าแฟนตัวเองเลยเพราะมัวแต่มองหน้าจิระ ถึงจะไม่ได้แสดงในซีซันสาม แต่จิระก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของเช็กเมท จึงได้รับเชิญในงานนี้ด้วย

พลันโทรศัพท์สั่นครืด ผมก้มเปิดดู

- มองพี่เดี๋ยวนี้นะน้องเจ! (Ò 皿 Ó ╬) -

ที่แท้ก็คนขี้หึงตัวจริงเสียงจริงนี่เอง ผมเงยหน้ามองเขา คาดไม่ถึงว่าขนาดยืนหลบมุมอยู่หลังเสา ไกลขนาดนี้ นิฌานยังหาเจอแถมรู้อีกว่าผมมองจิระตาไม่กะพริบ

ผมเลยเลิกมองจิระ แต่มองแฟนตัวเองแทน คู่เราไม่เคยกระทบกระทั่งเรื่องหึงหวง เพราะนิฌานมีวุฒิภาวะมากพอที่จะแยกแยะ เวลาผมกับเพื่อนๆ ไปเฮฮาก็ปล่อยแบบถึงไหนถึงกัน ถ้าดึกหน่อยก็จะมารอรับ เหมือนเป็นแฟนกันปกติแต่ที่ไม่ปกติคือไม่มีใครในคณะเคยเห็นหน้าแฟนผมมาก่อน

แต่ผมก็ไม่ใช่สายเถลไถลอยู่แล้ว นานครั้งถึงจะไปเที่ยวเล่นสักที ส่วนใหญ่ผมเกาะติดกับชมรมดูหนังมากกว่า ส่วนเวลาที่เหลือก็ยกให้ครอบครัวและแฟนตามเดิม

ความตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมในมหาลัยเริ่มน้อยลงแล้ว ผมหันมาตั้งอกตั้งใจกับการเรียนมากกว่า อย่างเมื่ออาทิตย์ก่อน...ผมมีสอบเก็บคะแนน นิฌานก็โดนห้ามแตะตัว ห้ามคลอเคลียเพราะต้องทำสมาธิ แม้เขาจะยอมทำตามอย่างดีแต่ก็เล่นเอาแทบลงแดงตายชักดิ้นชักงอกับพื้น

คนสำคัญของผมแต่ละคนอาการค่อนข้างหนัก นิฌานก็เล่นใหญ่คนหนึ่งแล้ว ครอบครัวทองคำดีไม่ต้องพูดถึง เดี๋ยวก็ร้องไห้ดีใจ พร่ำพูดไม่หยุดว่าผมเลิกเป็นวัยต่อต้าน...

กลับมาสู่งานประกาศรางวัลดีกว่า นิฌานนั่งชมการแสดงระหว่างงานอย่างเพลิดเพลินใจ ไม่มีความกดดันหรือกังวล เพราะพวกเราพอจะคาดเดาผลลัพธ์อยู่แล้ว

และก็เป็นไปตามที่คาด ปีนี้เช็กเมทกวาดรางวัลไปทั้งหมดสี่รางวัล

บทละครดีเด่น ผู้กำกับละครดีเด่น ละครดีเด่น และนักแสดงนำชายดีเด่น!

เหล่าทีมงานและนักแสดงถูกต้อนให้นักข่าวรุมสัมภาษณ์ความรู้สึกหลังจบงาน แน่นอนว่านิฌานย่อมเป็นเป้าการโจมตีเพราะนอกจากขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้แล้ว เขายังเป็นนกดีเด่น นกรางวัลมาแล้วร่วมยี่สิบปี

ไม่สิ ยี่สิบเอ็ดปี!

“คุณนิฌานรู้สึกยังไงกับผลรางวัลของปีนี้บ้างคะ”

“ผมรู้สึกว่าเป็นการตัดสินที่ยุติธรรมและเป็นกลางมากครับ” นิฌานค่อนข้างระวังคำพูด เพราะการเป็นดารามานาน ทำให้แฟนคลับเขาค่อนข้างเยอะ เวลาประกาศรางวัล ก็มักมีคนเชียร์ให้ได้ จนบางทีก็กลายเป็นความไม่พอใจกับคนที่ได้รางวัล เพราะคิดว่านิฌานเหมาะสมมากกว่า

ซึ่งเหล่านักข่าวชอบที่จะขยี้ปมนี้นักแล

“คุณนิฌานไม่นึกอยากถือถ้วยบ้างเหรอคะ”

“แหม ถ้าอยากได้ขนาดนั้นผมกลับไปถือถ้วยชามที่บ้านก็ได้ครับ” นิฌานพูดติดตลก ก่อนจะหันมาทำหน้าจริงจัง แย้มยิ้มบางด้วยประกายตามาดมั่น “ผมขอบคุณมากสำหรับทุกการสนับสนุน ที่อยากให้ผมได้รับรางวัลอีกสักครั้งนอกเหนือจากยี่สิบเอ็ดปีก่อน แต่ผมขอชี้แจงตามนี้ครับ...”

นักข่าวเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ

“ผมรักการแสดง ผมจึงเข้าวงการ ไม่ใช่ว่าผมเข้าวงการ เพื่อให้ได้รับรางวัล” นิฌานยิ้ม “ฉะนั้นอย่ายึดติดกับรางวัลการตัดสิน แต่โฟกัสที่ผลงานการแสดงดีกว่านะ ขอบคุณครับ”

คำตอบที่ถ้าไปประกวดเวทีนางงามมงกุฎต้องลงหัวแน่ เหล่านักข่าวถึงกับจำนนให้ดาราเจ้าคารมผู้นี้

เมื่อต่างคนต่างแยกย้าย นิฌานก็เดินมาหาผมที่ยืนรออยู่แล้ว ณ จุดเดิมที่ไม่ค่อยมีคน เขาแปลกใจสงสัยไม่น้อยที่เราไม่กลับบ้านไปฉลองความนกสองต่อสอง เพราะผมเป็นคนส่งข้อความนัดหมายไม่ให้เขากลับก่อน

“ผมมีของขวัญให้พี่ฌานล่ะ”

“หืม น้องเจยอมควักเงินซื้อของขวัญให้พี่ด้วยเหรอครับ” นิฌานแกล้งแซว เพราะผมค่อนข้างประหยัด เลยไม่ค่อยมีของขวัญให้เขาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่มักเป็นการทำเรื่องประทับใจ ใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ สะสมกันไปมากกว่า

นิฌานรับกล่องของขวัญมาแกะอย่างตื่นเต้นดีใจ แต่โทษที...

เพราะในนั้นมีเพียงความว่างเปล่า

“น้องเ...” พอเงยหน้าหมายประท้วงก็ชะงักค้าง

“มีของขวัญตั้งหลายอย่างที่ต่อให้ไม่ใช้เงินซื้อ แต่มีค่าต่อจิตใจมากกว่าหลายเท่า” ผมยิ้ม เดินเลี่ยงหลบให้เขาเห็นบุคคลหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังผมให้ชัดๆ “จริงมั้ยครับพี่ฌาน”

เขาไม่ตอบ เพราะจับจ้องบุคคลเบื้องหน้าตาไม่กะพริบ

“ฌาน...”

แม่ของเขาเอง

ผมค่อนข้างมั่นใจกับแผนเซอร์ไพรส์นี้ เพราะเลขาคมสันให้คนช่วยดูต้นทางแล้วว่าจะไม่มีใครมาขัดแน่นอน ก็ในเมื่อแผนสะพานเชื่อมเลขาจอมมารเป็นผู้เสนอ เขาก็ต้องช่วยผมจนถึงที่สุดสิ!

เพราะย้ายมาอยู่กับนิฌาน รูปถ่ายที่ส่งให้แม่ของเขาเลยกลับมาสม่ำเสมอ คลิปวีดีโอก็อัดส่งให้อาทิตย์ละครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะมีการโต้ตอบไปมาแสดงความเห็น ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

วัดจากอะไรน่ะเหรอครับ

ก็วัดจากนิฌานที่ไม่ค่อยอิดออดเวลาอัดคลิป แถมยังเรียกแม่ตัวเองผ่านกล้องได้คล่องปากมากขึ้นแล้วยังไงล่ะ!

ฉะนั้นในโอกาสพิเศษนี้ ผมจึงชวนเธอล่วงหน้าหลายวัน ตอนแรกก็ใจแป้วเพราะไม่ยอมตอบกลับ แต่ตอนเช้าวันนี้เอง...จู่ๆ แม่นิฌานก็ส่งข้อความว่าอยากแสดงความยินดีกับลูกชาย

เธอคงคิดว่าลูกชายจะต้องได้รางวัลแน่ คาดหวังกับการแสดงละครครั้งแรกในรอบยี่สิบปีของนิฌาน

ความรัก ความเป็นห่วง ค่อยๆ เพิ่มพูนทีละนิด แต่ความคาดหวัง ความอยากเด่นอยากดัง ก็ยังคงเดิม ฉะนั้นเมื่อนิฌานไม่ได้รางวัล ท่าทางของเธอจึงค่อนข้างประดักประเดิก ส่งช่อดอกไม้ในมือให้อย่างเก้ๆ กังๆ ไม่รู้จะพูดแสดงความยินดีอย่างไร

นิฌานเองก็หน้าเสีย เพราะคนที่กดดันเขามาตลอดว่าต้องดีต้องเด่นกว่าใครคือแม่แท้ๆ ของตัวเอง

หากปล่อยให้สองแม่ลูกปากแข็งคุยกัน ผมคงต้องรอถึงวันพรุ่งนี้พวกเขาถึงจะยอมเปิดปาก เพราะต่างคนต่างทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะต่อว่า จะแก้ตัว หรือจะทำอย่างไรดี ดูสีหน้าก็รู้แล้วว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้ผิดแผนไปไกลโข แต่...ไม่ถือว่าผิดจุดประสงค์ของผมนัก

แม่นิฌานเชื่อว่าลูกชายของเธอต้องได้รางวัล แต่ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาต้องชวด เลยจงใจให้ทั้งคู่มาเจอหน้ากันในสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วน เพราะถ้าไม่ใช่ตอนนี้ คงไม่สามารถแสดงความจริงใจออกมาได้

คำชื่นชมยินดีไม่ใช่สิ่งที่นิฌานต้องการ

“คุณแม่ครับ จำคำที่คุณแม่เคยพูดกับผมตอนผมทำคะแนนสอบย่อยพลาดได้มั้ย”

ผมจับไหล่แม่นิฌานอย่างส่งกำลังใจ คำพูดบางคำ เอ่ยกับคนอื่นช่างง่ายดาย แต่กับลูกชายแท้ๆ ของตัวเองที่ไม่เคยทำดีด้วย กลับนึกไม่ออก

คำๆ นั้น...

“ไม่เป็นไรนะลูก” แม่นิฌานเอ่ยออกมาในที่สุด ด้วยท่าทีอ่อนลง แม้น้ำเสียงจะเบาไปสักนิด ผิดกับท่าทีแข็งกร้าวของเธอ แต่ก็ถือว่าดีเกินคาด และมากเกินหวังสำหรับนิฌาน ชาญชัย “เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...นะฌาน”

มองช่อดอกไม้ที่ยื่นมาตรงหน้า นิฌานที่สั่นไปทั้งตัวก็ค่อยๆ รับมาทั้งรอยยิ้ม

เป็นรอยยิ้มที่อาบน้ำตาแห่งความยินดี กับคำพูดที่รอคอยมาตลอดยี่สิบเอ็ดปี

รางวัลที่เป็นยิ่งกว่าความสำเร็จ เลอค่ายิ่งกว่าถ้วยประกาศนั้น...

“ครับ เรามาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนะครับ คุณแม่”

เริ่มต้นใหม่อีกครั้งของแม่นิฌาน หมายถึงให้เขาอย่าสนใจความผิดพลาดในการแสดงครั้งนี้แล้วลองใหม่อีกครั้ง แต่สำหรับนิฌาน ชาญชัย คือการเริ่มต้นใหม่ของสายสัมพันธ์ครอบครัว

มองคนตัวโตที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กได้รับความรักที่รอคอยมาตลอด แม่นิฌานก็เพิ่งรู้ตัวว่าลูกชายตีความหมายผิดไปไกลโข แต่ก็ไม่คิดจะแก้คำ เพราะนั่น...

เป็นเรื่องดีแล้วไม่ใช่หรือ

 ผมเหล่ไปทางซ้าย นิฌานร้องไห้ซบหน้ากับช่อดอกไม้กอดหอมอย่างหวนแหน ผมเหล่ไปทางขวา คือแม่ของนิฌานที่มองลูกชายในสภาพที่ไม่เคยเห็นและแง่มุมความคิดที่ไม่เคยลองด้วยสีหน้าสับสนลังเล

ผมยิ้ม

ก่อนจะรวบกอดพวกเขาสองคนทั้งซ้ายขวา!

“น้องเจ!”

“เจ!”

นิฌานร้องอย่างตกใจเสียงดังพอๆ กับแม่เขาที่ทำหน้าตาตื่นเมื่อจู่ๆ ก็ได้ใกล้ชิดลูกชายตัวเองระยะประชิดขนาดนี้

แฟนผมหยุดร้องไห้แล้ว เขาตัวแข็งเกร็ง ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ไม่กล้าสะลัดหลุดจากอ้อมกอดที่รวบสุดแขนอย่างค่อนข้างทุลักทุเลนี้ แม่ของเขาเอง...แม้จะแสร้งมองไปอีกทางก็ยอมอยู่นิ่งๆ แต่โดยดี

ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร

ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆ ประสานรอยร้าวทีละนิด จะถือทิฐิสักหน่อย เก้อกระดากไปบ้าง อยากใกล้ชิดสนิทสนมแต่ไม่กล้า อยากกอดด้วยสองมือแต่ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

ผมจะกอดพวกเขาทั้งคู่แทนเอง

ก็ผมเป็นสะพานเชื่อมนี่นา

-------------

เราตั้งใจเขียนงานประกาศรางวัลของนิฌานให้ออกมาคนละแบบกับเรื่องของจิระค่ะ

ในเรื่องจิระ จะเป็นอารมณ์ความลุ้นระทึกกับการแสดง คาดหวังในรางวัล เมื่อได้แล้วก็เป็นความภาคภูมิใจ ดีใจที่สำเร็จตามฝัน

แต่สำหรับเรื่องของนิฌาน จะเน้นว่าที่แสดงเพราะอยากจะทำ และดีใจที่ทำได้อย่างที่ต้องการ ส่วนถ้วยรางวัลนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนหลักลอยอย่างนิฌานนั้นคือการมีคนรักที่เข้าใจอยู่เคียงข้าง...และความรักของครอบครัว

นิฌานไม่เคยคาดหวังกับน้องเจ เขาอยากทำในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขเฉยๆ เพราะน้องเจคือแหล่งพลังงาน คือรอยยิ้มคือเสียงหัวเราะ ถึงได้ตกใจในหลายๆ ครั้งเวลาน้องเสนอตัวทั้งนอนค้างคืนทั้งขอคบด้วยหรือขอมีอะไรด้วย

ขณะเดียวกัน นิฌานก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้รับความรักจากคุณแม่ หรือกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้งหลังตัดขาดกันไป ปฏิกิริยาถึงได้รุนแรงขนาดนี้

น้องเจคือความเหนือคาดของนิฌานค่ะ

เพจนักเขียนทำหน้าอิ่มทิพย์ (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)

#น้องเจที่น่าลัก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-08-2018 19:46:33
เจ นั้นแหละคือรางวัลความสำเร็จของฌาน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-08-2018 19:59:56
เจ สุดยอดเลย แม่ลูกเข้าใจกันได้ซะที  o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 19-08-2018 20:06:05
มันน่าดีใจยิ่งกว่ารางวัล ก็สายสัมพันธ์ครอบครัวนี่แหล่ะ
ซึ้งมาก ปรบมือให้น้องเจรัวๆเลยค่ะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 19-08-2018 20:19:55
นักเขียนรักษาคุณภาพของผลงานได้ดีครับ น่าชื่นชม
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-08-2018 21:03:22
น้องเจคือสุดยอดแฟนอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 19-08-2018 21:26:39
อ่านรวดเดียว 2วัน ชอบน้องเจ มาก เด็กอะไร
ทั้งฉลาดและมโนในเวลาเดียวกัน
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-08-2018 22:08:48
น้องเจนี่ถือว่าเป็นสุดยอดคนรักและสุดยอดลูกสะใภ้จริงๆ เอาใจช่วยทั้งแม่และนิฌานให้กลับมารักกันมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-08-2018 22:53:25
น้องเจลูกกกกยังทำตัวเป็นกาวใจได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-08-2018 23:21:12
น้องเจน่ารักกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-08-2018 23:31:48
น้องเจคือสะใภ้ดีเด่นแห่งปีเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 20-08-2018 09:58:58
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 20-08-2018 15:06:02
……

ความรักของครอบครัว

เป็นรางวัลที่ทรงคุณค่าจริงๆ



 :hao5:  :hao5:  :hao5:  :hao5:  :hao5:  :hao5:

หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-08-2018 15:15:39
น้องเจ่ารักมาก :o8:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนที่ 35 - P.23 - [19/08/61]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 21-08-2018 15:55:41
กอดด้วยคนค่ะ

น้องเจ เก่งมากค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 -
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 21-08-2018 19:10:38

ตอนส่งท้าย

“สวัสดีครับ ผมนิฌาน ชาญชัย”

ในห้องนั่งเล่นแห่งหนึ่ง ชายคนหนึ่งในสภาพเสื้อยืดกางเกงบอลแสนสบายทำท่าทางลับๆ ล่อๆ ในมือถือกล้องบันทึกวีดีโอ ค่อยๆ ย่องพร้อมยกมือจุปากให้เงียบเสียงราวสายลับที่กำลังปฏิบัติภารกิจระดับชาติ แต่ใครเลยจะรู้...ว่าคนคนนี้เป็นถึงดาราชื่อดัง อยู่ในวงการมาเนิ่นนานชนิดที่ 90% ของทั้งประเทศจะต้องรู้จักเขา!

แต่เชื่อสิว่า 90% นั้นจะต้องไม่เคยเห็นมุมขี้เล่นน่ารักๆ ในสภาพนี้แน่นอน

“ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะคุยกับกล้องทำไม เพราะไม่คิดจะส่งให้ใครดูอยู่แล้ว แต่ปกติผมมักโดนถ่าย ครั้งนี้เลยอยากเป็นฝ่ายแอบถ่ายบ้าง แต่จะไม่พูดอะไรเลยก็ไม่สนุก ต้องคุยกับกล้องด้วยสิถึงจะน่าลุ้น จริงมั้ยครับ” นิฌานพูดเองตอบเอง “หืม ผมจะแอบถ่ายใครน่ะเหรอครับ หึหึหึ เป็นเด็กดื้อ...ไม่สิ เด็กดีคนหนึ่งที่น่ารักมาก เขาชอบทำให้ผมประหลาดใจเสมอ และทำให้ผมตกหลุมรักตลอดเวลา”

พลันนิฌานคลี่ยิ้มอบอุ่น

“ใช่ครับ เขาคือคนรักของผมเอง”

กล้องเปลี่ยนโฟกัสไปจับภาพของเด็กหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มบนโซฟา เส้นผมสีน้ำตาลแดงกระจายตัวบนหมอนหนุน ใบหน้าหันข้างนิดๆ หลับสบาย หารู้ไม่ว่าโดนถ่ายวีดีโอแบล็กเมลเข้าแล้ว!

“น่ารักมั้ยครับ ตัวเล็กน่าอุ้มกลับบ้านเลยใช่มั้ย แต่ผมไม่ให้หรอกนะ” นิฌานหัวเราะกับตัวเอง ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มแก้มนุ่มๆ ของเจตรินหนึ่งที “เมื่อคืนเขาอ่านหนังสือจนดึก ตอนนี้เลยหลับเป็นตาย ดูสิ ใต้ตายังมีรอยคล้ำอยู่เลย เด็กสมัยนี้อ่านหนังสือเยอะจริงๆ สมัยผมยังไม่หักโหมขนาดนี้เลย”

นิฌานถอนหายใจเฮือก ก่อนจะดีดนิ้ว ราวเพิ่งนึกเรื่องสำคัญออก

“เกือบลืมแนะนำตัว คนรักของผมชื่อเจตริน ทองคำดีล่ะ ปีนี้อายุสิบเก้าแล้ว กำลังจะเรียนจบปีหนึ่งแล้วครับ!” เขาพูดกึ่งอวด สีหน้าภูมิใจกับแฟนตัวเองมาก “น้องเจเป็นเด็กขยัน จะทำอะไรก็ต้องทำให้ดี วันนี้เพิ่งสอบไฟนอลเสร็จ เลยนอนหลับเป็นตายเพราะโหมอ่านหนังสือโต้รุ่งมาหลายคืน หลับลึกขนาดที่ผมจิ้มแก้มยังไม่รู้ตัว”

พูดจบ นิฌานก็จิ้มแก้มอีกข้างให้เท่าเทียม

“ดูสิ ไม่ตื่นจริงๆ นะเห็นมั้ย”

ว่าแล้วก็จิ้มอีกหลายจึกอย่างมันเขี้ยว จนพอใจนั่นแหละถึงได้หันมาพูดกับกล้อง ทำสีหน้าเขินอายที่ดูน่ากระทืบมากกว่าน่าชมเชย

“แล้วผมถ่ายแฟนตัวเองทำไมน่ะเหรอครับ อืม...เพราะเขาทำอะไรให้ผมเยอะมาก ผมเลยอยากจะทำอะไรให้เขาบ้าง แต่ไม่รู้นะ ว่าน้องเจเห็นคลิปนี้แล้ว จะอารมณ์ดี หรืออารมณ์เสียกันแน่ แต่ไม่ว่าจะยิ้มหรือโกรธ น้องเจก็น่ารักมากๆ อยู่ดี”

นิฌานยิ้มกว้าง คล้ายนึกภาพรอยยิ้มของเจตรินจนเผลอยิ้มตาม

“หลงแฟน? ฮ่าๆ คงใช่มั้งครับ ก็น้องเจเป็นความสุขของผมนี่นา” ปากพูดดี แต่การกระทำค่อนไปทางชั่วช้า เพราะนิฌานหยิบปากกาเมจิกที่เตรียมไว้ขึ้นมาถือราวอวดอาวุธ “จุ๊ๆ อย่าส่งเสียงเชียว เพราะผมกำลังท้าทายอำนาจมืด”

แล้วเขาก็เปิดฝาปากกาเมจิก

“อำนาจมืดอะไรเหรอครับ? อำนาจมืดในใจผมนี่ไง!”

นิฌานหัวเราะร่า เสียงดังขนาดนี้ แต่เจตริน ทองคำดีก็ยังหลับลึกไม่รู้ชะตากรรม ชวนให้คนเห็นยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือ จ่อปากกาเข้าที่แก้มด้านขวาคนรักแบบกระหยิ่มยิ้มย่อง

“ผมอยากเห็นน้องเจใส่หูแมวมานานแล้ว แต่น้องเจไม่ยอม ทั้งออดทั้งอ้อน ยอมใส่เป็นเพื่อนก็ไม่เอา ผมเลยต้องแอบปฏิบัติการลับๆ ตอนน้องหลับ” นิฌานพูดไปก็เขียนหนวดแมวบนแก้มนิ่มๆ นั้นไป มือแอบสั่นเล็กน้อย ราวนึกกังวลว่าถ้าตื่นมาจะโดนคนรักโมโหใส่ที่เล่นไม่เป็นเรื่อง แต่นิฌานเชื่อ ว่าคนรักจะต้องเข้าใจ

เพราะเจตรินเครียดกับการสอบไฟนอลครั้งนี้มาก มากจนอดเป็นห่วงไม่ได้ วิธีคลายเครียดแบบฉบับนิฌาน ชาญชัย จึงเป็นการสร้างรอยยิ้มพ่วงน่าหมั่นไส้ไปพร้อมๆ กัน

ก็หลายวันมานี้โดนน้องเจห้ามเข้าใกล้!

หนังสือสอบยังใกล้ชิดคนรักกว่าตัวเองอีก!!!

“ทำไมถึงรักน้องขนาดนี้น่ะเหรอ...อืม ก็น้องเจน่ารักมากๆ เลยต้องรักเยอะๆ ไงล่ะ ผมล้อเล่นน่า ที่ผมรักน้องเจขนาดนี้...ก็เพราะน้องเป็นคนเตือนสติ ดึงผมที่เบื่อหน่ายวงการบันเทิง ทำตัวเสเพลไปวันๆ ให้กลับมาในทางที่ถูกที่ควรอีกครั้ง และเรียกคืนความรักความชอบ...ที่ถูกประสบการณ์ทรหดหล่อหลอมจนหลงลืมไปให้กลับคืนมา”

เล่าถึงตอนนี้ บนแก้มใสๆ ของเจตริน ทองคำดีก็มีหนวดแมวสามขีด

“ถึงคำพูดน้องเจจะเจ็บแสบไปนิด แต่ก็ตรงประเด็น เทียบกับคนอื่นที่ค่อนข้างเกรงใจ เห็นผมเป็นดาราร่วมยี่สิบเอ็ดปี น้องเจจริงใจกว่ากันเยอะเลยใช่มั้ยล่ะครับ แถมยังเห็นใจ พยายามให้ผมปรับปรุงตัว ไม่ใช่เพื่อเขา แต่อยากให้ผมปรับปรุงเพื่อตัวของผมเอง แล้วจะไม่หวั่นไหวได้ยังไง”

นิฌานเปลี่ยนเป้าหมาย จ่อปากกาบนแก้มซ้ายของคนรัก

“พวกเราเคยทะเลาะกันมั้ยเหรอครับ อืม...ก็มีบ้างนะ ส่วนใหญ่ไม่ผมดุน้องเจ ก็ถูกน้องเจนั่นแหละที่เอ็ดผม แต่เวลาทะเลาะกันทีไร ใจผมก็อ่อนยวบยาบกับน้ำเสียงอ้อนๆ และสายตาช้อนมองทุกที” พูดถึงตรงนี้ นิฌานก็ส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ “โกรธๆ อยู่ใจละลายเป็นน้ำ อยากบอกน้องชะมัดว่าช่วยน่ารักให้น้อยๆ หน่อย!”

แล้วแก้มเนียนใสของคนน่ารักก็มีหนวดแมวครบทั้งสองข้าง

“นี่แค่น้ำจิ้มครับ เพราะของจริงน่ะ...” นิฌานก้มหายไปจากหน้าจอชั่วคราว ก่อนจะโผล่มาอีกครั้งพร้อมที่คาดผมหูแมว “แตนแต่น! ผมสั่งซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตเลยนะ ลงทุนมากใช่มั้ย แต่เชื่อสิ ว่าคุ้มทุนแน่นอน”

แล้วนิฌานก็ทำหน้าเคร่ง ค่อยๆ คาดหูแมวอย่างระวังสุดขีด

สำเร็จ*!*

นิฌานกำหมัด เพราะภาพที่ปรากฏตอนนี้คือเจตริน ทองคำดีซึ่งนอนหลับตาพริ้ม ใบหน้ามีหนวดแมวข้างละสาม บนศีรษะคาดหูแมวสีชมพูหวานน่าเอ็นดู

“น่ารักมากใช่มั้ยครับ แต่ขอย้ำอีกครั้ง น้องเจเป็นของผม ถึงน่ารักแค่ไหนก็ให้อุ้มไปไม่ได้หรอกนะ” เหมือนจะพูดกับกล้อง แต่สายตาคนถ่ายจับจ้องแต่เจตรินไม่กะพริบ จนสุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ก้มฟัดแก้มโชว์ซะเลย

“พี่ฌาน ไม่เอา...”

ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อคนรักยกมือตบป้าบเข้าให้ที่ใบหน้า แม่นยำราวจับวางจริงๆ นิฌานรีบถดตัวถอย กลัวทำเด็กหนุ่มตื่น

ทุกอย่างตกในความเงียบ

จนกระทั่งมั่นใจว่าเจตรินนอนนิ่งไม่ขยับ นิฌานก็ลูบแก้มแดงๆ ของตัวเองแล้วหันมายิ้มให้กล้อง ด้วยสีหน้าปลื้มอกปลื้มใจ

“เกือบไปแล้วเชียว สงสัยฟัดแรงไปหน่อย” จากรอยยิ้มกว้าง เชื่อว่าโดนตบหน้าแลกกับการฟัดแก้ม คุ้มยิ่งกว่าคุ้มสำหรับผู้ชายคนนี้ “การกลั่นแกล้งจบแล้ว การอวยแฟนก็จบแล้ว ต่อไป...ก็ถึงเวลาสารภาพความในใจบ้างล่ะ”

นิฌานกระแอมไอ ทำหน้าจริงจัง ก่อนจะชูนิ้วชี้ขึ้นมา

ไม่ได้จะเก๊กท่าใส่กล้อง แต่เพราะ...

“น้องเจครับ วันนี้ครบหนึ่งปีที่เราคบกันแล้วนะ” นิฌานยิ้มบางด้วยสายตาอบอุ่นอ่อนโยน “น้องเจคงจำไม่ได้แล้ว แต่พี่จำวันแรกที่เจอน้องเจแม่นเลย ตอนนั้นพี่คิดว่าเด็กอะไรแก่แดดชะมัด ไม่ไว้หน้าผู้ใหญ่ ไม่เกรงใจกันเลย ก่อนจะมารู้ทีหลัง ว่าน้องเจจงใจยั่วโมโหให้พี่ถอดหน้ากาก ตอนนั้นพี่ยอมรับ พี่สนใจอยากจีบน้องมากๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้พี่โมโหแล้วหลุดจริงๆ”

“พี่ขอเบอร์เพราะอยากลองดูกันสักตั้ง”

“น้องเจจำได้มั้ย ตอนที่บอกว่าสิ่งที่พี่ทำมาตลอดหลายปีก็แค่ความสุขแค่ชั่วครั้งชั่วคราว เหมือนมาเบิกเนตรกันเลย พี่ถึงกับถามตัวเอง ว่าที่ทำไปมันถูกแล้วเหรอ แน่นอนว่ามันผิด พี่รู้ แต่ห้ามตัวเองไม่ได้ เพราะพี่ไม่มีความสุขกับชีวิตตอนนั้นเลย งานที่เคยรัก ก็ทำตามหน้าที่ให้จบๆ ไป คนที่เคยคบหา ก็แค่เข้ามาให้ชีวิตไม่จืดชืด เพราะทุกวันมีเรื่องเข้ามามากมาย ความเครียด ความกดดัน ความคาดหวัง ความไม่เป็นตัวเอง จนบางครั้งบางที ก็นึกอยากจะหนีออกจากตรงนี้เต็มทน”

“แต่เป็นดาราแต่เด็ก จะทำอาชีพอะไรอย่างอื่นได้อีกล่ะ สุดท้ายพี่ก็กลับมาตายรัง แต่งาน สังคม ทุกสิ่งอย่างรอบตัว มันช่างน่าเบื่อชวนเพลียจริงๆ ถึงได้ทำตัวแย่ๆ ทำร้ายน้ำใจใครหลายคน เห็นแก่ตัวใช่มั้ยครับ”

“บางทีพี่ก็อยากจะจบๆ ทุกอย่างไปนะ...แต่ก็ไม่กล้าคิดสั้นหรอก เพราะกำลังรอใครสักคน...คนที่จะเข้ามาห้าม มาทำให้พี่รั้งตัวเองได้

“น้องเจคือคนคนนั้นนะ”

“จำตอนหาชื่อแอนแอนได้มั้ยครับ ตอนนั้นน้องเจเก่งมาก รอยยิ้มดีใจที่เอาชนะคำท้า เหมือนจุดประกายไฟมอดๆ ของพี่ให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเลยล่ะ”

“แล้วจำตอนที่โดนแม่พี่ลักพาตัวได้มั้ยครับ ตอนนั้นน่ะ...ใจพี่หายจริงๆ นะกลัวว่าน้องเจจะทิ้งพี่ แต่ใครเลยจะเชื่อ ว่านอกจากไม่ทิ้งกันแล้ว น้องเจกลับบอกว่าจะเป็นสายให้แม่ ช่วยให้พี่ทำงานที่รักที่ชอบต่อไป”

“น้องเจ...คำพูดนั้นสำคัญมากนะ เพราะขนาดแม่แท้ๆ ยังไม่เคยคิดสนับสนุน แต่เด็กอายุสิบแปดคนหนึ่ง กลับช่วยเหลือพี่ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะอ้างเพื่อเงิน แต่น้องเจก็ทุ่มสุดตัวจนเกินหน้าที่ไปมากโข”

“น้องเจทำให้พี่เปลี่ยนมุมมอง ว่าการทำงานที่แสนน่าเบื่อนั้น พอทำให้ใครบางคนกลับกลายเป็นความสนุกซะอย่างนั้น”

“พี่เลยตอบแทนน้องเจด้วยการเล่นซีรีส์เช็กเมท อยากให้น้องเจดีใจ และมีความสุขเวลามาทำงานกับพี่ที่กองถ่าย แต่น้องเจก็ช่วยพี่ไว้อีกแล้ว ทำให้ก้าวผ่านความกลัว น้องเจทำให้รู้ว่า...จริงๆ แล้วพี่ขี้ขลาดมากๆ”

“ไม่สิ”

“น้องเจครับ พี่ว่า...ความจริงแล้วพี่เป็นคนกลัวความรักล่ะ”

“เพราะผิดหวังจากแม่ พี่เลยกลายเป็นคนกลัวความรัก กลัวว่าความรู้สึกที่มอบให้จะไม่ได้รับการเหลียวแล ถูกหลอกใช้ ถูกมองผ่าน ถูกละเลยเหมือนที่แม่เคยทำ เพราะอย่างนั้น...พี่เลยไม่เคยคบหาใครจริงจังสักครั้ง เพราะพี่กลัว...กลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมกับที่แม่ทำ”

“แถมยังแอบหมั่นไส้คู่รักคู่อื่นด้วย เวลาเห็นคนแสดงความรักกันตรงหน้า ก็มีความรู้สึกอยากจะทดสอบ เลยเป็นที่มาของข่าวพี่กินไม่เลือกทั้งโสดและไม่โสดนั่นแหละครับ เอ่อ...รวมถึงตอนจิระด้วย แต่เรื่องผ่านมาแล้วเนอะ ข้ามๆ”

“อะแฮ่ม น้องเจครับ สิ่งที่โหดร้ายที่สุดคืออะไรรู้มั้ย”

“ยิ่งกว่าไม่ได้รับความรัก คือการถูกมองข้ามความรักที่เรามีให้อย่างไม่ไยดี”

“พี่กลัวมากนะ...”

“แต่น้องเจมอบความกล้าให้พี่ ทำให้พี่รู้สึกว่า หากทุ่มเทให้กับความรักครั้งนี้ ต่อให้น้องเจจะไม่รักตอบ แต่จะไม่มีวันทำให้พี่เสียใจ ต่อให้เราไม่ได้คบหากันเป็นคนรัก แต่น้องเจก็จะเป็นเพื่อนคู่คิดที่ดี เป็นน้องชายที่น่ารักตลอดไป”

“พี่เข้าใจไม่ผิดใช่มั้ยครับ”

“แต่น่าตลกเนอะ ทั้งที่พี่กล้าที่จะลองทำหลายๆ อย่างแล้วแท้ๆ แต่แค่ขอคบด้วย พี่กลับไม่กล้าพูด ไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่เพราะรักมาก ถึงไม่กล้า...”

“พี่นี่ขี้ขลาดจริงๆ ไม่ได้ครึ่งของน้องเจเลย”

“ตอนน้องเจบอกว่าอยากให้พี่รับผิดชอบที่ทำให้รัก เลยดีใจมาก ดีใจสุดๆ ดีใจที่สุดในชีวิต”

“น้องเจคือความสุขที่พี่ตามหามาตลอดจริงๆ”

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณในทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตพี่ เปลี่ยนมุมมองให้โลกนี้สดใส ทลายความกลัวด้วยความกล้า และขอบคุณ...ที่รักพี่”

“พี่ฌานคนนี้สัญญาจะไม่ทำให้น้องเจผิดหวังเด็ดขาดที่เลือกคบกับนิฌาน ชาญชัย”

“รักน้องเจนะครับ”

การบันทึกภาพจบลงตรงนี้ นิฌานกดปิดเครื่อง ก่อนจะนั่งนิ่ง ราวหวนนึกว่าเมื่อครู่พูดสารภาพความในใจอะไรออกไปตั้งมากมายนะ

นึกแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ทำอะไรแบบนี้ก็เขินๆ เหมือนกันแฮะ”

พูดจบก็เกาแก้มแก้เก้อ ใบหน้าซับสีแดงจาง สำหรับนิฌาน ชาญชัยผู้ไม่เคยมีรักที่สมหวัง ไม่ว่าจะเป็นความรักของครอบครัวหรือคนรัก สิ่งที่รู้สึกกับเจตริน ทองคำดี จึงเป็นใจจริงแสนบริสุทธิ์ คือความรักและหวังดีล้วนๆ

“ไว้ค่อยให้น้องเจดูอีกสามสิบปีแล้วกัน” นิฌานพยักหน้ากับตัวเอง นับนิ้วแล้วตอนนั้นเจตรินก็อายุสี่สิบเก้า ส่วนเขาก็คงหกสิบ...

นึกภาพสองคนแก่ดูวีดีโอด้วยกัน มองภาพสมัยยังเอ๊าะ เล่าความในใจอย่างหมดเปลือก คงเป็นของขวัญครบรอบที่ชวนซึ้งคลอน้ำตาแน่ๆ

นึกแล้วก็รีบอัพโหลดคลิปเก็บใส่เครื่องพร้อมแบ็คอัพอีกหลายชั้นเพื่อความมั่นใจ จนเมื่อได้เวลากินข้าว นิฌานก็เดินไปนั่งข้างโซฟา เบียดตัวเองแย่งที่คนรักอย่างหน้าไม่อาย

“น้องเจครับ ตื่นได้แล้วนะ” เขาก้มกระซิบข้างหู แต่ไม่ค่อยได้ผล เพราะคนอ่านหนังสือสอบข้ามวันข้ามคืนยังหลับเป็นตาย ไม่กระดิกสักนิด “น้องเจครับ”

เด็กขี้เซา

นิฌานยิ้มกับตัวเองอย่างอ่อนใจ ก่อนจะนึกพิลึก

“ไม่ตื่น งั้นพี่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยแล้วกัน”

ภาพที่ออกมา คือนิฌานยกนิ้วจุปากเป็นความลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กับเจตรินที่นอนหลับทั้งสภาพสวมหูแมวและโดนเขียนหนวดแมว

อีกสามสิบปีค่อยเปิดดูด้วยกันนะ

เขาก้มจูบรูปนั้นด้วยใจอุ่นอวลด้วยรัก คิดในใจด้วยสีหน้าอ่อนโยน

จะเก็บรักษาอย่างดี

ก่อนจะหันไปก้มจูบคนที่ยังหลับพริ้มอย่างมันเขี้ยว กล่าวกับตัวเองไม่ต่างกับให้คำสัตย์

...และจะดูแลทะนุถนอมคนคนนี้ตลอดไป...


Just U , Not US

( Just Us )

END



-------------------

จบแล้วค่ะกับเรื่องของฌานเจ สำหรับนิยายชุดนี้ ในแต่ละเรื่อง เราพยายามเขียนให้ต่างมุม ต่างช่วง ต่างอารมณ์
จิตรินคือช่วงเพิ่งเข้าวงการ สดใหม่ ตื่นตาตื่นใจ ทุกอย่างช่างแสนดี ขณะเดียวกัน ซีรีส์เช็กเมทก็เพิ่งเริ่มต้นซีซันแรก นักแสดงเพิ่งทำความรู้จักกัน

ส่วนจิระ คือช่วงขาขึ้นที่โดนสกัดด้วยข่าวฉาว ต้องฝ่าฟันอุปสรรคไปหาความสำเร็จ ซีรีส์เช็กเมทเองก็เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หักโค้งหักศอกกับการพลิกบทร้ายของมิสเตอร์เอสในซีซันสอง และจิระก็เล่นได้อยู่หมัด

มาที่เรื่องนี้ นิฌาน ชาญชัย คือดาราที่อยู่มานาน ผ่านมรสุมจนชินชากึ่งตายด้าน ถึงได้หน้าด้านหน้าทน ล้มๆ ลุกๆ เลยจุดที่จะไขว่คว้าหาความฝัน เพราะอาชีพที่รักไม่อาจเติมเต็ม สิ่งที่ตามหามาตลอดคือการใช้ ‘ชีวิต’ ในแบบที่เป็น ‘ชีวิต’ จริงๆ
ในตอนจบของซีรีส์เช็กเมทเองก็เลือกเล่าผ่านมุมมองแฟนพันธุ์แท้อย่างน้องเจ
นับเป็นความรักและช่วงชีวิตการแสดงทั้งสามแบบที่เราอยากนำเสนอและให้ทุกคนอมยิ้มและสนุกสนานไปด้วยกัน

ขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงเรื่องนี้นะคะ 

เรื่องต่อจากนี้...ยังไม่มั่นใจ ตอนแรกคิดว่าจะเริ่มเรื่องใหม่ เพราะสามเล่มนี้คือจบและอิ่มไปตามระยะเวลาของมันแล้ว แต่เห็นหลายคนอยากอ่านเบิ้มสันกัน...เลยขอลองซาวนด์เสียงดูก่อน เพราะถ้าแต่งเบิ้มสันนี่ บรรยากาศเรื่องคงไปอีกทางเลย 555 #จอมมารเลี้ยงเด็ก #สามีที่ถูกทอดทิ้ง

และที่ขาดไปไม่ได้ คือการฮาร์ดเซลล์ทิ้งทวนค่ะ!

​(https://www.picz.in.th/images/2018/08/02/B93SlI.jpg) (https://www.picz.in.th/image/B93SlI)

[Pre-order] Just U, Not US เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา
สั่งจองและแจ้งโอนได้ที่ -> http://majaynaja.lnwshop.com/
- ของแถมปกติ : ที่คั่น+โปสการ์ด
- ของแถมเฉพาะรอบจอง : เล่มเล็ก ‘ไดอารี่เผด็จศึก’ (พิมพ์ตามจำนวน ไม่ทำเพิ่มอีกในอนาคต)
- ราคา : 395 บาท ( ไม่รวมส่ง )
- จำนวนหน้า : 416 หน้า
- ตอนพิเศษไม่ลงเวป 5 ตอน + ภาพประกอบขาวดำ 1 ภาพ
ตอนพิเศษประกอบด้วย
ตอนพิเศษ 1 : สามปีครึ่งแห่งความสำเร็จ
เมื่อน้องเจโหมเรียนจนสามารถเรียนจบได้ในสามปีครึ่ง แต่ในวันก่อนสอบวันสุดท้าย...นิฌานกลับต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของท่านประธานอย่างเสี่ย คู่รักที่ไม่เคยทะเลาะกันกลับมีปากเสียงกันเพราะเรื่องนี้ ไม่ ไม่ใช่ว่านิฌานจะทิ้งน้องเจ แต่น้องเจเป็นฝ่ายไล่นิฌานไปงานเลี้ยงต่างหาก ให้กำลังใจแฟนอะไร ไปไกลๆ ชิ้วๆ! แต่...การทะเลาะกันจะจบลงอย่างไร ต้องติดตาม!

ตอนพิเศษ 2 : นักศึกษาวันสุดท้าย ผู้จัดการวันแรก
การสอบผ่านพ้นไปด้วยดี...น้องเจหลุดจากสถานะนักศึกษา กลับสู่การเป็นผู้จัดการวันแรกสมใจนิฌานที่กระเหี้ยนกระหือรือยิ่งกว่าใคร ตอนนี้จะเล่าถึงช่วงเวลาสามปีครึ่งคร่าวๆ ช่วงที่ติ๋มรู้ความจริงเรืองแฟนของน้องเจ และฉาก NC ฉลองทิ้งทวนค่ะ >///<

ตอนพิเศษ 3 : ถ่าย MV กับผมเนี่ยนะ!?
เมื่อเป็นผู้จัดการแล้ว...ก็มาสู่การเผชิญปัญหาในกองถ่าย แต่จู่ๆ โดนจับมาแสดงเอ็มวีร่วมกับนิฌานนั้นน้องเจไม่ทันได้เตรียมใจ! แถมยังเป็นเอ็มวีอกหัก เนื้อเพลงพิลึกๆ ด้วยฝีมือของเตโชแฟนจิระอีกต่างหาก!

ตอนพิเศษ 4 : รางวัลและการเปิดตัว
หลังผ่านพ้นไปหลายปี ในวัยยี่สิบห้าปีนิฌานก็คว้ารางวัลที่รอคอยสำเร็จ แต่ใครเลยจะคาดคิด...ว่าตอนขึ้นรับรางวัล นิฌานก็จะโยนระเบิด เปิดตัวว่าคบหากับแฟนซะเฉย!! ไม่ ไม่พอ ตอนโดนเรียกสัมภาษณ์ ยังสารภาพอีกว่าแฟนคนนั้นเป็นผู้ชาย!
น้องเจช็อก! อ้าปากค้าง! อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า!!!

ตอนพิเศษ 5 : เกมเศรษฐี ( เสี่ยxจิตริน, นิฌานxเจตริน )
เกมเมากาวกับคนกาวๆ อย่างคู่รักติงต๊องเสี่ยกับจิตริน น้องเจไม่ได้อยากเล่นหรอกนะ แต่พอเห็นเงินปลอมเรียงรายตรงหน้าก็เผลอตอบตกลงไปซะฉิบ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์! และเป็นจุดเริ่มต้นของเกมที่ไม่เป็นเกม กฎไม่เป็นกฎ ทุกสิ่งทุกอย่างเหนือการคาดเดา มันคือการเมากาวดีๆ นี่เอง!!!

ขอฝากเนื้อฝากตัวน้องเจด้วยนะคะ <3
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-08-2018 19:30:52
จบแบบน้องเจไม่มีโอกาสได้พูดเลย แปลกไปอีกแบบ ยินดีด้วยจ้า  :mc4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 21-08-2018 19:32:36
พี่ฌานน่ารักอ่า โอยยยย อ่านที่พี่แกพูดตอนอัดคลิปแล้วมันอบอุ่นหัวใจ  :-[
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :pig4:
เราจะรอเรื่องเบิ้มกับคุณคมสันต์ต่อค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-08-2018 19:38:47
จบแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:

นิฌาน  เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มาก
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 21-08-2018 19:48:59
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-08-2018 20:03:07
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-08-2018 21:05:55
จบได้น่ารักอ่ะ แต่สภาพนิฌานต่อจากนั้นจะเป็นไงนี้สิน่าคิด เหอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-08-2018 21:12:20
 :katai2-1: o13 :katai2-1:



 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-08-2018 21:32:00
เป็นเรื่องที่น่ารักมากกกกก อีกเรื่องนึง
ชอบจัง โดยเฉพาะน้องเจ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 21-08-2018 21:43:59
น้องเจ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-08-2018 21:52:21
จบได้น่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-08-2018 21:57:10
สรุปที่ความในใจของพี่ฌาณ ไว้นั่งดูด้วยกันตอนแก่ น่ารักอ่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-08-2018 22:49:42
ตอนจบน้องเจเล่นบทเจ้าหญิงนิทรา พี่ฌานมาลักหลับ อัดคลิบบอกความในใจ น่ารักอ่ะ

ขอบคุณนะคะ  น้องเจน่ารักตั้งแต่ต้นจนจบเลย รักน้องจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-08-2018 23:03:32
ไม่ได้มีโอกาสมาบอก เพราะปกติเจมาเหนือตลอดเนาะ
นิฌานเลยอัดอั้น มาอัดคลิปแกล้งน้องด้วย บอกความในใจด้วย

แต่ฟัดขนาดนั้นไม่รู้ตัวเลยนี่ เจต้องอดนอนขนาดไหนคะ
หรือตื่นมาจะกลัวเขิน เลยข่มใจหลับต่อ

นิฌานน่ารักนะคะ มาในมุมที่เอ่ยจากนิฌานเอง
ก็ไม่ต่างกับที่เจบอกนะว่าพี่เค้าหลงเจหนักมาก ไม่หนีไปไหนแน่
เปิดใจเรียนรู้กัน ปล่อยวางในสิ่งที่ผ่านมา และก้าวต่อไปด้วยกัน
คนที่เคยเจ้าชู้เพราะจำเป็น ก็มาตกหลุมโดยจำนนต่อความซื่อตรงของน้องเจ

น่ารักมากเลยค่ะ เจไม่หึงเนาะ แค่หวงเอง
นิฌานก็ไม่หนีไปไหน ติดหนึบน้องเจและนัวเนียหนักมาก

ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ น่ารักน่าลุ้นมากเลยค่ะ
และสุดท้ายถึงจะเข้าใจความหมายกันผิดไปบ้าง
แต่เรื่องของแม่ลูกก็กำลังจะกลับมาเริ่มต้นให้ดี

รอติดตามต่อไปนะคะ สำหรับเราตอนนี้ยังไม่อินเบิ้มคมสันต์ค่ะ
แต่ถ้าคนเขียนพร้อมเรื่องไหน เราก็รอติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-08-2018 01:57:48
แหมๆๆๆ  ไม่ต้องรออีก30ปีหรอก 3ปี น้องเจได้ดูก็อายม้วนแล้ว555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 24-08-2018 15:58:48
 :กอด1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 26-08-2018 16:11:11
 :serius2: :serius2: เผลอแป๊ปแอบจบอีกแล้ว  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 27-08-2018 12:40:19
ชอบน้องเจค่ะ ซื่อสัตย์ ฉลาด มีเหตุผล มีสติ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี พี่ฌาณก็เก่ง อบอุ่น ทั้งคู่รู้ทันกัน เหมาะสมกันจริงๆ เช็คเมทอวสานซะแล้ว ไว้จะกลับไปอ่านซีซั่นแรกใหม่เนอะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 28-08-2018 04:59:48
พี่ฌานน่ารักมากๆๆๆ คนเจ้าชู้พอมาเจอน้องเจนี่รักมากจริงๆ หลงหัวปักหัวปำ ขำเวลาโดนน้องเจแอคเทค :laugh:
น้องเจก็ฉลาด น่ารักสมวัยมากๆ เวลาอยู่กับพี่ฌาน พี่ฌานก็ช่างเอาใจ เป็นคู่ที่รู้ทันกันจริงๆ
ส่วนจิโผล่มาทีก็ยังมีแต่น้ำเหมือนเดิม555555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 28-08-2018 13:12:18
น้องเจสู้ๆนะจ๊า
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 28-08-2018 16:33:07
จบไปอีกเรื่องแล้ววว ถ้าจะให้เทียบกันทั้งสามเรื่องเราว่าเสี่ยเมากาวที่สุดแล้วแถมเป็นพระเอกที่ยิ่งกว่าตัวประกอบซะอีกโผล่มาแทบนับหน้าได้ ฮ่าๆๆ รออ่านตอนพิเศษแต่ถ้ามีตอนพิเศษที่น้องเจกับนิฌาณมานั่งดูคลิปนี้ด้วยกันก็คงดีนะ

อ่านทอล์คแล้วเห็นชื่อคู่ของเลขาจอมมารนี่แทบกรี๊ดดด เขียนเถอะค่ะเขียนเถอะนะ ถ้าไม่อยากเขียนเป็นเรื่องยาวก็เขียนเป็นแบบมินิเรื่องยาวก็ได้แบบ 7-10 ตอนจบ ส่วนโทนเรื่องไม่รู้ว่าเป็นไงแต่รู้สึกไปแล้วว่าต้องแซ่บแน่ๆ สัมผัสได้ถึงความแซ่บของคุณเลขา  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 28-08-2018 17:01:00
น่ารักไม่แพ้คู่อื่นๆ
ว่าแล้วก็กลับไปอ่านคู่จิกับเสี่ย
กับคู่จิระ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-08-2018 18:35:58
จบได้น่ารักมาก แต่รับรองว่าน้องเจตื่นมาพี่ฌาณอ่วมแน่ ไปทำหนวดแมวบนหน้าน้องแบบนั้น  :hao7:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 28-08-2018 21:15:58
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 28-08-2018 22:00:23
น้องเจน่ารักอย่างนี้ไม่ให้รักได้ไง
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 28-08-2018 22:20:29
 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 29-08-2018 10:55:00
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 29-08-2018 13:01:22
 o13 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 29-08-2018 20:51:00
เขาเป็นแฟนกันแล้วค่ะคุณณณณณณ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 29-08-2018 22:37:05
โนดราม่าที่แท้ทรูแบบมีพอหอมปากหอมรอซึ่งชอบมากกกกกเพราะนุ้งเจของป้าแท้ๆทำดราม่ากลายเป็นการเข้าใจกันและกันคือดีคือชอบเจฉลาดและน่ารักกกกกกกกกกกกส่วนคุณพระเอกเรานั้นไม่ต้องพูดถึงนางก็ยังคงความปลาไหลและหว่านเส่นห์อย่างต่อเนื่องแต่ทำกับน้องเจคนเดียวเอ็นดูแรง ชอบบบบบบบบบบบเรื่องนี้คือดีไปหมดอ่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนส่งท้าย -P.24 - ( จบแล้วค่า )
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 30-08-2018 14:35:22
 o13
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา - ตอนพิเศษ -P.25 -
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-09-2018 20:15:54
(ตัวอย่าง) ตอนพิเศษ

เกมเศรษฐี

วันว่างๆ ณ บ้านเสี่ย จู่ๆ พี่จิคนดีก็ชวนเล่นเกม

ผมมองพี่ชายที่ตัวโตซะเปล่าแต่ชอบเล่นเกมเหมือนเด็กแล้วถอนหายใจเฮือก ตอนแรกก็ไม่ได้กระตือรือร้นอะไรหรอกนะ แต่พอเห็นพี่จิวางกล่องเกมกับพื้น กวักมือเรียกเสี่ยมานั่งบนเบาะรองนุ่มนิ่มที่คมสันเตรียมพิเศษเยี่ยงอภิสิทธิ์ชน ก็เผลอเขยิบตัวใกล้อย่างใคร่รู้

เพราะนี่คือ...เกมเศรษฐี!

ถึงจะเคยฮิตในโทรศัพท์ช่วงหนึ่ง และพอจะรู้วิธีการเล่นอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่เคยเล่นหรอกนะครับเกมเศรษฐีเนี่ย ก็เมื่อก่อนผมไม่ค่อยมีเพื่อน มีแต่พี่จิ แล้วจะเล่นกับพี่ชายแค่สองคนได้ยังไง โทรศัพท์ก็ใช้รุ่นเก่า ติดตั้งเกมไม่ค่อยรอด ช่วงนี้เริ่มว่างก็จริง แต่ก็ใช้เวลาไปกับการทำงาน ตามแฟน เอาใจแม่สามีซะเยอะ

อันที่จริงผมก็ไม่สันทัดกับการเล่นเกมเท่าไหร่

จนกระทั่งเห็นธนบัตร(ปลอม) เรียงรายตรงหน้า สัญชาตญานดิบก็เร่งเร้า ทำตาลุกวาวโดยไม่ได้ตั้งใจ

“งั้นผมเป็นนายธนาคารให้แล้วกันนะครับ”

เลขาคมสันผู้รักลูกไม่เท่ากัน วางเบาะให้เสี่ยเพียงคนเดียวขณะที่พวกผมนั่งพื้นเสนอตัวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยแฝงความสุนทรีย์ยามเห็นเด็กๆ เกาะกลุ่มเล่นกัน เอ่อ...เขาเองก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ไม่รู้ทำไมถึงชอบมองพวกผมเหมือนเป็นเด็กน้อยอยู่เรื่อย!

ตอนแรกแอบคัดค้าน แต่พอคมสันแจกเงินอย่างคล่องแคล่วผมก็รับมานับกึ่งคึกคะนอง เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากแฟนผม ชายหนุ่มผู้มีนามว่านิฌาน ชาญชัย ที่มองมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สายตารักใคร่หลงใหลไม่เคยเปลี่ยนแปลง

“ทำไมจับเงินปลอมแล้วมีความสุขจังล่ะน้องเจ ทีพี่ให้เงินจริงล่ะไม่ยอมรับ”

“มันไม่เหมือนกันนี่ครับ” ผมแย้ง นิฌานพยายามยัดเยียดให้ผมดูแลบัญชีอยู่นานแล้ว ตั้งใจให้ผมถือทั้งเงินสดและบัตรเครดิต เวลาอยากใช้จ่ายอะไรก็ค่อยมาขอกัน แต่ผมไม่ยอม เขาทำงานหาเงินมาแทบตายจะให้ผมจัดการคนเดียวได้ยังไง จริงอยู่ว่าเมื่อก่อนเขาค่อนข้างฟุ่มเฟือย หมั่นแต่งตัวหรู เปลี่ยนรถขับไปจีบสาว ซื้อของขวัญ พาคู่ขาไปดินเนอร์บ่อยๆ แต่หลังคบกับผม ความสุขภายนอกพวกนั้นก็ไม่จำเป็น กลายเป็นคนสมถะ

ผมชอบเงิน รักเงิน เพราะเป็นปัจจัยหลักที่พ่อ แม่ และพี่ชายขยันหามาเพื่อเลี้ยงดูผมตั้งแต่เด็กจนโต แต่ตอนนี้มีพอแล้ว ไม่ต้องขวนขวายขนาดนั้นแล้ว ก็เริ่มกลับสู่การเป็นปุถุชนคนธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้น...การได้จับเงินเยอะๆ แม้จะเป็นของปลอมก็ให้ความรู้สึกดีอยู่ดี!

ไม่สิ ไม่ใช่แค่ผมหรอก ทุกคนในโลกก็ชอบทั้งนั้น!

อาจจะยกเว้น...

“ไร้สาระ”

เสี่ยที่มองเงินปลอมในมือด้วยสายตาเวทนา ราวกับว่าเศษกระดาษพวกนี้ช่างน่าสงสาร เกิดมาทั้งทีกลับเป็นได้แค่ของปลอม แต่ถึงจะทำหน้าไม่เต็มใจเล่น พอพี่จิฝอยใส่เข้าหน่อยก็เริ่มถกแขนเสื้อพร้อมลุยแล้ว

“ไร้สาระตรงไหนครับเสี่ย เกมเศรษฐีน่ะเป็นเกมที่เล่นกันมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่รุ่นของแม่ผม นางจรวย ไปถึงรุ่นพ่อของผม นายฉัตรชัย เลยไปถึงรุ่นตาของผม นายชัยศรี และคุณทวดของผม นายศรีชัย...แล้วก็รุ่นทวดของทวด นาย...”

“พอเถอะจิตริน ฉันเล่นแล้ว”

ไม่รู้ว่ายอมเพราะใจอ่อน หรือเพราะอ่อนใจกันแน่

“ประวัติการเล่นอันยาวนานของเกมเศรษฐีจะต้องจารึกชื่อของเสี่ยด้วยแน่นอนครับ!” พี่จิชูนิ้วโป้งทั้งสองนิ้ว ทำเอาผมไม่กล้าขัดเลยว่าจริงๆ แล้วคุณทวดของเราชื่อศรีฉัตร ไม่ใช่ศรีชัย แต่ช่างเถอะ...เถียงพี่จิไปก็ทำร้ายจิตใจตัวเองเปล่าๆ ขนาดยังไม่ทันเริ่ม ผมก็เริ่มเหนี่อยแล้วเนี่ย

แล้วดูเสี่ยสิ...พอโดนอวยเข้าหน่อยก็เชิดหน้าเก๊กทันที ราวกับว่าผู้ชนะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าบ้านอย่างเสี่ยซะงั้น...

 “นั่งดีๆ!” แต่เก๊กได้ไม่นาน เสี่ยก็ต้องจับตัวพี่ชายผมที่เอาแต่นั่งขยุกขยิกให้สงบนิ่งสักที จากนั้นพวกเราสี่คนก็ได้ฤกษ์ประเดิมเกมครับ เริ่มจากการเลือกตัวหมากแต่ละสีสำหรับแทนตัวเอง  แน่นอนว่าบ้าอำนาจอย่างเสี่ย ต้องได้เลือกคนแรกโดยไม่คิดเปายิงฉุบเพื่อความยุติธรรม เล่นเอาผมกับพี่จิยกมือเก้อเลย

“ฉันจะเอาสีน้ำเงิน!” เสี่ยประกาศกร้าว หยิบหมากสีน้ำเงิน ไม่วายยัดเยียดสีชมพูให้พี่จิ ราวกับต้องการแสดงความรัก...แต่เสี่ยช่วยมองหน้าคนรักตัวเองหน่อย ผู้ชายตัวสูงโปร่งผิวคล้ำหน้าคมตามฉบับชายไทย...ใช้หมากแทนตัวสีชมพูเนี่ยนะ!?

พี่จิเป็นพวกไม่คิดมาก หรือเรียกง่ายๆ คือไม่ค่อยคิดอยู่แล้ว เสี่ยให้อะไรก็รับมาด้วยรอยยิ้มสดใส ผมเห็นแล้วก็ละเหี่ยใจ เลือกหมากสีแดงซึ่งเป็นสีเดียวกับสีผมตัวเอง ส่วนนิฌานซึ่งเป็นคนสุดท้ายนั้น ก็แสดงความรักความชอบด้วยการเลือกหมากสีเหลือง...

“ใช้วิธีเหมือนน้องเจไงครับ”

คนรู้ทันต่อให้ไม่พูดอะไรก็เข้าใจผมดีกว่าใคร นิฌานชี้ผมสีทองที่เพิ่งไปย้อมใหม่แล้วยิ้มหวาน ผมเองก็ยิ้มตอบ สังหรณ์ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นความพินาศ...

“งั้นเริ่มทอยลูกเต๋าเพื่อดูว่าใครจะได้เดินก่อนนะครับ” คมสันในฐานะนายธนาคารพ่วงกรรมการคุมเด็กเอ่ย ลำเอียงยังไงก็ลำเอียงอย่างนั้น เพราะเขาส่งลูกเต๋าให้เสี่ยคนแรก ซึ่งเสี่ยเองก็ไม่คัดค้าน ราวเคยชินกับการมีคนประเคนของให้ก่อน

...ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมเสี่ยถึงโตมาแบบนี้

แต่จะอาจหาญถกเถียงเรื่องการเลี้ยงเด็กกับจอมมารก็หาที่ตายเกินไป ผมตัดสินใจหูหนวกตาบอด หันมาลุ้นเสี่ยผู้ทอยลูกเต๋าด้วยท่วงท่าสุดเก๊กราวหล่อเหลาที่สุดในปฐพีดีกว่า

แต้มออกมาเป็น...เลข 1

“...”

“...”

“...”

“...”

จอมมารเข้าข้าง แต่โชคชะตาไม่เข้าใจ ก็มีสิทธิ์ดวงจู๋ได้เหมือนกันสินะ

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” พี่จิหัวเราะจนน้ำตาไหล ส่วนเสี่ยฮึดฮัดไม่พอใจ ยัดลูกเต๋าใส่มือคนรักบ้าง แต่เสี่ยครับ...เสี่ยคิดผิดรึเปล่า กับคนบาปหน้าขี้มโนอย่างเสี่ย พี่ชายผมน่ะเป็นคนดีศรีสังคม ใครเห็นใครก็รัก อวยพรให้โชคดี บุญบารมีมากล้น

แล้วผิดจากที่คิดซะที่ไหน พี่จิทอยได้แต้มสูงสุดอย่างเลข 6!

“เพราะฉันแบ่งดวงให้เธอยังไงล่ะ” เสี่ยผู้แพ้ได้แต่ห้ามเสียหน้า เมื่อเห็นแต้มของคนรักก็ไม่วายหาความดีความชอบให้ตัวเอง

“เสี่ยเก่งจัง เสี่ยแบ่งดวงให้ผมก็ได้ด้วย สุดยอดเลยครับเสี่ย!”

...ขอกลับบ้านตอนนี้ทันมั้ยนะ

--------------------

สวัสดีค่า วันนี้มาหย่อนตัวอย่างตอนพิเศษที่เราชอบที่สุดในเล่มนี้ ซึ่งก็คือ...ฉากปะทะของสองคู่รักพี่ชายกับน้องชายแห่งครอบครัวทองคำดีนั่นเอง! ตอนแต่งตอนพิเศษนี้สนุกมากค่ะ บ้าบอเมากาวสุดๆ แต่งพี่จิคนดีแล้วเหมือนสมองบินไปสู่ห้วงอวกาศอันลี้ลับดีค่ะ แต่น้องเจนี่สิ...อยากจะเทเกมหลายรอบก็ทำไม่ได้สักที! ผลสรุปจะเป็นยังไง ใครจะชนะ ครอบครัวทองคำดีจะร้าวฉานหรือไม่ ติดตามกันได้ในเล่มนะคะ <3

ตอนนี้เริ่มนับถอยหลังกันแล้ว อีกแค่ 9 วันจะปิดพรีออเดอร์แล้วน้า

[Pre-order] Just U, Not US เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา
ปิดจองวันที่ 10 ก.ย. / จัดส่งภายในวันที่ 30 ก.ย.
สั่งจองและแจ้งโอนได้ที่ -> http://majaynaja.lnwshop.com/
 (http://majaynaja.lnwshop.com/) - ตอนพิเศษไม่ลงเวป 5 ตอน + ภาพประกอบขาวดำ 1 ภาพ ตอนพิเศษประกอบด้วย 

ตอนพิเศษ 1 : สามปีครึ่งแห่งความสำเร็จ
เมื่อน้องเจโหมเรียนจนสามารถเรียนจบได้ในสามปีครึ่ง แต่ในวันก่อนสอบวันสุดท้าย...นิฌานกลับต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดของท่านประธานอย่างเสี่ย คู่รักที่ไม่เคยทะเลาะกันกลับมีปากเสียงกันเพราะเรื่องนี้ ไม่ ไม่ใช่ว่านิฌานจะทิ้งน้องเจ แต่น้องเจเป็นฝ่ายไล่นิฌานไปงานเลี้ยงต่างหาก ให้กำลังใจแฟนอะไร ไปไกลๆ ชิ้วๆ! แต่...การทะเลาะกันจะจบลงอย่างไร ต้องติดตาม!

ตอนพิเศษ 2 : นักศึกษาวันสุดท้าย ผู้จัดการวันแรก
การสอบผ่านพ้นไปด้วยดี...น้องเจหลุดจากสถานะนักศึกษา กลับสู่การเป็นผู้จัดการวันแรกสมใจนิฌานที่กระเหี้ยนกระหือรือยิ่งกว่าใคร ตอนนี้จะเล่าถึงช่วงเวลาสามปีครึ่งคร่าวๆ ช่วงที่ติ๋มรู้ความจริงเรื่องแฟนของน้องเจ และฉาก NC ฉลองทิ้งทวนค่ะ >///<

ตอนพิเศษ 3 : ถ่าย MV กับผมเนี่ยนะ!?
เมื่อเป็นผู้จัดการแล้ว...ก็มาสู่การเผชิญปัญหาในกองถ่าย แต่จู่ๆ โดนจับมาแสดงเอ็มวีร่วมกับนิฌานนั้นน้องเจไม่ทันได้เตรียมใจ! แถมยังเป็นเอ็มวีอกหัก เนื้อเพลงพิลึกๆ ด้วยฝีมือของเตโชแฟนจิระอีกต่างหาก!

ตอนพิเศษ 4 : รางวัลและการเปิดตัว
หลังผ่านพ้นไปหลายปี ในวัยยี่สิบห้าปีนิฌานก็คว้ารางวัลที่รอคอยสำเร็จ แต่ใครเลยจะคาดคิด...ว่าตอนขึ้นรับรางวัล นิฌานก็จะโยนระเบิด เปิดตัวว่าคบหากับแฟนซะเฉย!! ไม่ ไม่พอ ตอนโดนเรียกสัมภาษณ์ ยังสารภาพอีกว่าแฟนคนนั้นเป็นผู้ชาย!
น้องเจช็อก! อ้าปากค้าง! อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า!!!

ตอนพิเศษ 5 : เกมเศรษฐี ( เสี่ยxจิตริน, นิฌานxเจตริน )
เกมเมากาวกับคนกาวๆ อย่างคู่รักติงต๊องเสี่ยกับจิตริน น้องเจไม่ได้อยากเล่นหรอกนะ แต่พอเห็นเงินปลอมเรียงรายตรงหน้าก็เผลอตอบตกลงไปซะฉิบ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์! และเป็นจุดเริ่มต้นของเกมที่ไม่เป็นเกม กฎไม่เป็นกฎ ทุกสิ่งทุกอย่างเหนือการคาดเดา มันคือการเมากาวดีๆ นี่เอง!!!
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 01-09-2018 20:36:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-09-2018 20:55:51
แววหายนะมาแต่ไกลเลยนะ 555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-09-2018 21:22:23
 :m20:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-09-2018 08:14:29
แส่แววว่าเกมจะล่ม เพราะมีเด็กที่แพ้ไม่เป็น คนอวยแฟน เหม็นความรัก น่าจะมีการล้มกระดาน 55555
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 07-09-2018 20:41:52
THANK YOU  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 22-09-2018 12:01:02
น่ารักจังเลยยยย รักน้องเจเด็กแก่ 55555555555 รักฌานผู้หลงเด็กหัวปักหัวปำ เนื้อเรื่องสนุกมากค่ะ คลายเครียดมาก 5555555555
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-09-2018 23:57:17
อ่านจบแล้ววววว
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 24-09-2018 01:31:19
ขอบคุณค่ะ ชอบการบรรยายเนื้อเรื่องค่ะ น่าติดตามมากๆเลย
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 29-09-2018 13:56:56
สนุกมากๆ เลยครับ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 10-10-2018 18:52:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 21-11-2018 11:29:21
มีความสงสารน้องเจ เสี่ยเอาแต่ใจสุดๆ
ดีอย่างเดียวได้แฟนตามใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 05-07-2019 04:47:09
สนุกมากเลยค่ะอ่านตั้งแต่ต้นจนจบสนุกทุกตอนเลยค่ะน้องเจก็น่ารักณิณานก็น่ารักแบบตลกๆ
เป็นกำลังใจให้กับผลงานเรื่องต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 09-03-2020 11:41:25
อ่านจบแล้วจ้าา สนุกมาก ๆ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Goplayz ที่ 15-10-2021 20:45:05
ยังรอตอนพิเศษที่คมสันโดนจับกินสามวันสามคืนนะ....คริๆ