HOLY SHXT!! เมื่อแฟนผมเป็นพี่ว้าก! กฏที่3 (อัพเดท 17/11/2562)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: HOLY SHXT!! เมื่อแฟนผมเป็นพี่ว้าก! กฏที่3 (อัพเดท 17/11/2562)  (อ่าน 7463 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
โหย สนุกมากกก อยากอ่านต่อแล้ว > <
แต่อ่านแล้ว ยังไม่รู้เลย ฝ่ายไหนรุกฝ่ายไหนรับคะ 555
สงสารนนท์ดวงไม่ดีเลย แล้วก็เข้าใจทศด้วย
เพราะตัวเองทำให้เพื่อนโดนลงโทษ ต้องรู้สึกผิดอยู่แล้ว
พี่ฟิวก็คงเจ็บเหมือนกันที่ต้องสั่งลงโทษแฟนตัวเอง โถ ๆ
จะรู้ความจริงกันตอนไหนน้อ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
โอ้ยย สนุกอ่ะ คิดถึงแนวนี้จัง

ออฟไลน์ ptp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กฏที่2 :: เป็นแฟนพี่ว้ากห้ามวู่วาม


TosSaKan: ผมถึงห้องแล้วนะครับ

TosSaKan: พี่ฟิวเลิกกี่โมงครับ


           ผมจ้องมองข้อความตัวเองที่ส่งหาคนรักแล้วต้องถอนหายใจออกมาเหงาๆ นี่ผ่านไปสิบนาทีแล้วอีกฝ่ายยังไม่มีท่าทีจะอ่านเลย จะโทรไปก็กลัวรบกวน อีกฝ่ายคงจะยุ่งกับการรับน้องจนไม่ได้มองโทรศัพท์แน่ๆ ผมไม่ว่าเรื่องที่เขาเห็นงานสำคัญกว่าแฟนหรอกครับ ถ้าผมกังวลเรื่องนี้คงอยู่กับพี่ฟิวไม่ได้นานเพราะคนรักผมเป็นนักกิจกรรมตัวยงตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว จริงๆผมเจออีกฝ่ายก็เพราะเขาเป็นพี่สันของโรงเรียนนี้แหละ ครั้งนี้ผมนึกว่าเขาเป็นพี่สันมหาลัยด้วยซะอีก


          ก็นะเป็นอะไรนานๆก็คงเบื่อบ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นแฟนผมนานแค่ไหนก็ไม่เบื่อนะครับพูดเลย หล่อ รวย เก่ง นิสัยดีแบบนี้ พี่ฟิวจะตระเวนหาทั่วโลกก็ไม่เจอแล้วละ ถามว่าเขินไหม ก็นิดหน่อยครับแต่ส่วนมากเป็นเรื่องจริงเลยไม่รู้จะเขินอะไร


          คิดเองเออเองตบมุขเองจบ ผมก็หัวเราะเบาๆให้กับตัวเองด้วย อ่า... ความเหงานี้มันน่ากลัวจริงๆ ผมกลิ้งไปอีกฝั่งของเตียงเพื่อหยิบหนังสือการ์ตูนที่พี่ฟิวอ่านทิ้งไว้มาเปิดอ่านแทนแก้เบื่อ


          ตอนนี้ผมอยู่ที่หอรักของผมกับพี่ฟิวแล้วครับ กว่าจะแบกสังขารเดินมาได้แทบตกบันไดสามตลบ ดีนะที่หอที่พี่ฟิวเลือกเป็นแบบมีลิฟต์ เหมือนเขาทำนายล่วงหน้าได้อย่างงั้นแหละว่าผมต้องใช้แน่ๆ จริงๆก็ไม่ปวดมากถึงขนาดขาขาดหรอกครับ ผมไม่ได้วิ่งครบยี่สิบรอบตามคำสั่งเพราะแค่ผ่านไปหกรอบกว่าๆพวกพี่พยาบาลก็เรียกพวกผมเข้าไปหาแล้ว และแน่นอนครับผมไม่เล่นตัวเรียกปุ๊บผมก็วิ่งออกนอกสนามทันที ความจริงผมกะจะกลับหอตั้งแต่สามรอบแรกด้วยซ้ำ แต่นนท์นี่สิเห็นตัวเล็กๆบางๆแบบนั้นแต่เล่นวิ่งจริงจังเหมือนไปเกณฑ์ทหารเลย


           คิดถึงเรื่องนี้ก็เคือง เหงาไม่พอดันมาอารมณ์เสียกับอะไรแบบนี้อีก วู้! หงุดหงิด!


          ผมดีดตัวลุกขึ้นออกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัว กะจะขัดสีฉวีวรรณลบเรื่องร้ายๆออกจากตัวแล้วนอนต้อนรับสุดที่รักบนเตียงหอมๆ พี่ฟิวกลับมาจะได้สดชื่นๆ ถึงผมจะทำอาหารไม่เป็นแต่เรื่องหวานเสน่ห์ใส่แฟนนี้ผมไม่เป็นรองใครนะครับ ฝึกมาสามปีเพื่อใช้กับอีกฝ่ายโดยเฉพาะเลย


          ผมใช้เวลาอาบน้ำเกือบชั่วโมง ยืนอาบจนขาที่ตอนแรกเริ่มหายปวดตอนนี้เริ่มปวดมาอีกรอบ ผมทาครีมใส่เสื้อบอลแขนกุดของคนรักลวกๆ ถึงห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำก็ตาม ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆที่อีกฝ่ายเลือกสรรให้แล้วก็กดดูแชทที่ผมถามอีกฝ่ายอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าเพราะพี่ฟิวตอบกลับมารัวๆ พร้อมเปลี่ยนชื่อไลน์ใหม่ที่ผมอ่านแล้วต้องหลุดขำเบาๆ เฮ้อ ทำไมแฟนผมน่ารักจัง


ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: อีกนานเลยอะ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: คิดถึงเราละสินาย

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: เขินจัง

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: พี่กลับสองทุ่มเลยครับทศกินข้าวก่อนก็ได้นะ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: เอาแบบกินจนเตียงหัก เดินทีพื้นร้าวอะ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: เข้าใจนะครับแฟน

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: อย่าลืมคิดถึงเรานะนาย

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: บอกว่าให้คิดถึงเราไง

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: คิดถึงเราสิ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: อย่างอแงนะแฟน

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: พี่ต้องไปแล้วว่ะ มีมารผจญ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ทำไมต้องมาขัดขวางความรักคนอื่นไม่เข้าใจ
ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: คุยนิดเดียวแม่งบ่นอยู่ได้

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: พี่ไปแล้วนะ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ไปจริงๆแล้ว

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ไปจริงๆอีกรอบ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ทำไมทศไม่อ่าน

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ทศมีใคร

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ทศคุยกับใคร

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ทำไมเมินพี่

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ถึงพี่จะไม่รวยแต่ทุกอย่างพี่ใหญ่นะครับ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ทำไรอยู่อะ

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: ไปจริงๆละ แม่งจะยึดมือถือพี่โคตรเลว

ฟิวรูปหล่อพ่อไม่รวยแต่แฟนเพอร์เฟค: อย่างอแงนะคนดี


          ใครงอแงกันแน่ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ต้องเหงาขนาดไหนถึงจะเพ้อเองขนาดนี้ได้


          ผมส่ายหัวขำๆกับข้อความที่ไม่เหมือนมนุษย์มนาของพี่ฟิว พอนึกว่าถ้าอีกฝ่ายกำลังประชุมหรือคุยกับเพื่อนอยู่ ผมนี่สงสารเพื่อนของแฟนจริงๆ เหลือบมองเวลาตอนนี้ก็ปาไปทุ่มเกือบครึ่งแล้ว คิดไปคิดมาผมรอกินพร้อมพี่ฟิวเลยดีกว่า


TosSaKan: เดี๋ยวผมรอครับไม่เป็นไร กลัวแฟนเหงา


          ส่งข้อความเสร็จก็รอดูอีกสักพัก พอเห็นอีกฝ่ายไม่มีวี่แววจะอ่าน ผมก็เปลี่ยนเป็นไปอ่านหนังสือการ์ตูนอีกรอบ อากาศเย็นๆกับความเพลียเมื่อตอนเย็นทำให้ผมตัดสินใจวางการ์ตูนแล้วเปลี่ยนแผนเป็นนอนรออีกฝ่ายแทน หวังว่าอีกฝ่ายจะปลุกผมนะ ไม่งั้นผมไม่ตื่นยันเช้าแน่ๆ .
.
 
 
.



 
 
           ลมอุ่นร้อนกระทบหน้า ไออุ่นที่คุ้นเคยทำให้ผมที่นอนเคลิ้มๆต้องเอื้อมมือไปโอบอีกฝ่ายมากขึ้น  ขยับหาที่เหมาะๆอีกสักนิดก่อนจะปล่อยตัวปล่อยใจให้เข้าสู่นิทราต่อ


"เหนื่อยหรอครับ" เสียงอีกฝ่ายดูแหบแห้งคุ้นหูแปลกๆ แต่ต้องคุ้นหูอยู่แล้วเขาเป็นแฟนผมนี่ งงอะไรวะทศ ผมขมวดคิ้วงงกับความคิดตัวเอง พลางขยับมือลูบหัวคนรักไปด้วย พี่ฟิวชอบทำตัวเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่ผมลูบหัว อีกฝ่ายขยับตัวซุกไซ้ผมกว่าเดิม จนแทบไม่มีช่องให้หายใจแต่ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ ความคิดถึงมันชนะความรู้สึกอึดอัด ผมนอนลูบผมอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ ผมคนรักยาวขึ้นมากจนแอบรู้สึกเมื่อยมือ         


           พี่ฟิวเหมือนจะรู้ เขาจับมือผมข้างที่กล่อมเขามากุมไว้ ก่อนที่ผมจะเคลิ้มเตรียมหลับอีกครั้ง ถา้ไม่ติดว่าอีกฝ่ายซนอะนะ ความรู้สึกสากๆคันๆเหมือนเมื่อคืนกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่รู้สึกอภิรมย์ด้วยเพราะมันกวนเวลานอนผมเหลือเกิน     


"อืมมมมมม" ผมครางเสียงในลำคอแต่ไม่ใช่เพราะสยิวนะครับ รำคาญล้วนๆเลย ผมขยับหนีไปที่อื่นแล้วเบียดเข้าหาที่อุ่นๆนั่นอีกครั้ง พยายามดึงผ้าห่มที่ไม่รู้มันหายไปไหนหรือว่าไม่ได้ห่มก่อนนอนก็ไม่รู้ ดึงแล้วดึงอีกก็ไม่เห็นมันมา แถมมันบางจนไม่น่าจะช่วยให้หายหนาวเท่าไหร่ด้วย แต่กลิ่นแปลกๆชวนปลอดภัยดีให้อภัย


"จะถอดเสื้อให้พี่หรอครับ" เสียงหยอกเย้ากับลมหายใจร้อนๆเป่าบนหัวผม แต่มันไม่น่าสนใจเท่าผ้าห่มบางๆกับไออุ่นที่ชวนให้ผมซุกเข้าไปหาอีก ผมสูดกลิ่นที่คุ้นเคยเข้าไปเต็มปอด เอาหัวขยับๆพอได้ที่รู้สึกอุ่นสบายที่สุดผมก็พร้อมจะเอาสู่นิทราเหมือนเดิม


"เปลี่ยนยาสระผมหรอเรา หืม หอม" เสียงสูดหายใจดังต่อเนื่องบนหัว ทำให้จากที่พร้อมนอนทำเอาผมเริ่มรำคาญแทน ผมร้องเสียงในลำคอแบบขัดใจ ขยับหัวซุกเข้าไปอีกจนรู้สึกเหมือนมีอะไรทิ่มตรงเปลือกตาและแน่นอน


         ผมเจ็บ!!


        มันแสบๆคันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก ผมขมวดคิ้วพยายามไถหน้าลงมาให้หลีกๆหนามที่ทิ่มตา แต่ยิ่งไถยิ่งแสบ ยิ่งไถยิ่งคัน ใครเอาสก็อตไบรท์มาไว้แถวนี้วะ  ผมเอามือที่ว่างดันหน้าอีกฝ่ายที่ซุกไซ้ มาดมั่นว่าจะถอดแมสเจ้าปัญหาออกไปให้ได้ 


          ป่วยก็ป่วยด้วยกันละวะ! ติดหวัดแฟนไม่เป็นไร แต่กวนเวลานอนสิเรื่องใหญ่!


          แต่พอลูบๆคลำๆตรงที่น่าจะเป็นแมสปิดปาก ผมกลับรู้สึกถึงอะไรที่เป็นเส้นๆแทน จะบอกว่าผมก็ไม่ใช่ หรือว่าผมซุกหัวพี่ฟิวอยู่ 
          ผมค่อยๆลืมตาทั้งๆที่อารมณ์ขุ่นมัว แต่พอลืมปุ๊บสายตาที่ควรจะปะทะกับแสงห้องที่ผมเปิดทิ้งไว้แต่มันกลับมืดเหมือนมีอะไรมาบัง ผมขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมเพราะภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า มันเป็นเส้นสีดำๆยาวๆอีกนิดก็จะทิ่มตาผมแล้ว ลองขยับมือมาเขี่ยๆไอ้เส้นดำๆในสายตากลับให้ความรู้สึกแปลกๆ มันแข็ง สาก คันๆ และ...อยู่ตรงคาง...
 

         นึกถึงเวลาตัวเองต้องโกนตอนเช้าทุกอาทิตย์ก็ทำให้รู้แจ้งขึ้นมา ที่แท้ก็หนวดนี่เอง ก็ว่าอยู่ทำไมเจ็บๆ แถมไว้ยาวขนาดนี้อีก ผมละอยากจะโกนให้ซะจริง พอรู้ถึงสาเหตุความสงสัยถูกปัดเป่าผมก็ปิดตาลงเตรียมนอนอีกครั้ง แค่ขยับออกจากตรงที่มีหนวดก็ไม่โดน...ทิ่ม....แล้ว...
 
 
         หนวด!!!!!!!!
 
 
         พลั่ก!!!!
 
 
"อั่ก! โอ๊ย!!!!" ผมกระแทกหัวกับที่อุ่นๆตรงหน้าก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกตื่นเต็มตากับเรื่องตกใจเมื่อกี้ พอตั้งหลักได้แล้ว ก็หันขวับไปหาผู้ชายร่างสูงข้างๆที่ร้องโอดครวญมือกุมจมูกจนมองไม่เห็นหน้าตา เห็นแค่หนวดรุงรังตรงคางแค่นั้น อีกฝ่ายใส่เสื้อช็อปสีแดง ผมยาวรุงรัง และเสียงร้องแหบเหมือนกอลลัม!!


          ใครวะเนี่ยยยยยยย!!!!


          ปากไม่ทันเอ่ยถามเท้าก็กระตุกยันไปเต็มแรงจนร่างเหมือนหมีป่าหล่นตุ๊บไปข้างเตียง อีกฝ่ายส่งเสียงเจ็บปวดแต่เพราะมันแหบจนน่ากลัวมันถึงฟังดูน่าขนลุกแทนสงสาร


          ผมเปลี่ยนตำแหน่งจากเตียงไปยืนข้างๆอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะจะช่วยนะครับ จะซ้ำ!!!


"ดะเดี๋ยว! อั่ก!!" ผมไม่สนใจท่าทางคนบนพื้นที่ยกมือห้ามไปมา พอยืนได้มั่นคงปุ๊บก็ยกเท้าเหยียบหลังอีกฝ่ายไปเต็มแรง จนคนโดนเหยียบทรุดนอนคว่ำไปกับพื้น โอเค เหยียบอาจรู้สึกไม่พอเตะขอเตะสีข้างอีกละกัน!


"มึงเป็นใครวะ!!!! เข้ามาได้ยังไง!!" ผมตะโกนถามอีกฝ่ายเสียงกร้าว ห้องผมไม่พอมานอนบนเตียงให้ซุกไซ้อีก เข้าห้องคนอื่นทั้งทีนั่งเฉยๆขโมยของไปเงียบไม่ได้รึไง จะมากอดรัดฟัดเหวี่ยง ผมทำไมวะ! โอยยยยยย ไม่ไหวแล้ว ขนลุกกกก! ผมดันรู้สึกดีตอนกอดด้วยไง!!
 

            ยิ่งคิดยิ่งเคือง ผมถีบยันอีกฝ่ายที่พยายามลุกขึ้นจนหงายหลังไปนอนกับพื้น เตะมือที่พยายามจะจับข้อเท้าผมไว้ก่อนจะง้างเท้าขึ้นสูงอีกรอบ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะยกเท้ากระทืบท้องมันรอบที่สอง เสียงคำรามที่คุ้นหูเหมือนเพิ่งได้ยินเมื่อหลายชั่วโมงก่อนทำให้ผมหยุดชะงัก


"ทศ!!!! นี่พี่เอง!!" เสียงกอลลัมตะโกนแต่ที่ทำให้ผมสะดุดที่สุดคือมันรู้ชื่อผมด้วยนี่แหละ ผมเปลี่ยนกระทืบเป็นเหยียบอกอีกฝ่ายแทน กดน้ำหนักจนอีกฝ่ายหน้าเหยเกย


"พี่ไหน?" ถ้าบอกว่าพี่คณะ ผมจะบี้ลูกรักให้หาเมียไม่ได้เลย เอ๊ะ หรือจริงๆเขาอยากได้ผัว? เล่นนอนกอดผมด้วย แค่คิดหน้าผมอึมครึมขึ้นอีกระดับ


            ตัวผม ผมให้แฟนกอดได้คนเดียวว้อยยยยยยย!


"อึก! พะ พี่ฟะ"


"มึงพูดดีๆดิ!" ผมไม่สนตาใสที่มองผมเหมือนด่าในใจ ทำไมอะ ผมจะเหยียบจนมันหายใจไม่ออกแบบนี้แหละ ว่าแล้วก็เพิ่มแรงกดไปอีก ตาใสแล้วไงคิดว่าผมจะ...ยอม...


          เดี๋ยวนะ


          เมื่อกี้ผมว่าอะไรนะ


          ตาใส???


"ฟะ ฟิวไง อึก! ฟิวแฟนทศอะ!!"


          ตาใส!!!!


          FUCK!!!!!!!!!!!!



          ผัวะ!!


"อั่ก!!"


"เฮ้ย!" ผมรีบทรุดลงไปหาอีกฝ่าย มองหน้าด้านซ้ายที่ผมเผลอเตะไปเต็มแรงจนคนบนพื้นหน้าหัน ครั้งนี้ผมไม่ได้ตั้งใจนะสาบาน! เท้าไปเองล้วนๆเลย โอยยยยยยยย


"ทศขอโทษ พี่เป็นไงบ้าง" ความรู้สึกอยากเหยียบให้จมดินเมื่อกี้ลอยหายไปทันที พอสังเกตท่าทาง เส้นผม ลำคอเนียนๆแบบละเอียด ร่างหมีถึกเมื่อกี้ดูบอบบางขึ้นจม!


          ทำไมผมไม่เอะใจตั้งแต่กลิ่นอีกฝ่ายแล้ววะ! เส้นผมเล็กๆขี้แมลงวันบนหลังคอนั่นอีก นี่มันแฟนผมชัดๆ!!


          พี่ฟิวโอดโอยในลำคอเสียงที่ตอนแรกฟังดูน่ากลัวแต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกน่าสงสารซะงั้น อีกฝ่ายค่อยๆลุกขึ้นพลางสะบัดหัวเบาๆเหมือนเรียกสติ แต่ที่ทำให้ผมหน้าซีดมากกว่าเดิมนั้นคือ เลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากซ้ายของอีกฝ่าย!
 

            โอยยยยย แฟนผมมมมม


"พี่ฟิว! จะ เจ็บมากไหมครับ เจ็บตรงไหนบ้าง" ผมหันรีหันขวาง มองสำรวจอีกฝ่ายซ้ายขวา พยายามนึกว่าตัวเองลงแรงไปที่ไหนบ้าง แต่แบบ.... มีที่ว่างตรงไหนผมยันตรงนั้นเลยนี่หว่า ภาวนาให้ตัวเองไม่ใส่แรงมากแต่ก็รู้ตัวอยู่ว่าปล่อยไปสุดทีน


       ฮือ แฟนผมมมมมมมม


"ทะ ทศ" อีกฝ่ายมองหน้าผมอึนๆพลางซี๊ดปากเบาๆ ดวงตาที่เหมือนลูกแก้วกวาดตารอบห้องก่อนที่จะทำหน้าเหยเก คือ... พี่โดนเตะไงไม่ใช่ตกบันได ไม่ต้องทำท่าเหมือนความจำเสื่อมได้ไหม


"พี่ลุกไหวไหมครับ มา ผมช่วย" ผมถามน้ำเสียงหงอยๆ พลางรวบเอวคนตัวหนาพยายามค่อยๆดึงคนบนพื้นลุกขึ้น พี่ฟิวงอตัวทันทีที่ยืนเห็นแบบนั้นผมยิ่งใจเสียเข้าไปใหญ่


"นั่งตรงนี้ก่อนนะครับ" ผมประคองอีกฝ่ายนั่งบนเตียงแบบเก้ๆกังๆ ตัวพี่ฟิวก็ไม่ได้เล็กๆไง ตัวหนากว่าผมด้วยซ้ำ ดีหน่อยที่ผมสูงกว่า


"ซี๊ดดด ไหวๆ" คนโดนผมกอดเอ่ยเสียงเบาทั้งน้ำตาคลอ ผมเห็นแบบนั้นยิ่งหน้าเจื่อน กวาดตาดูรอบห้อง แต่ก็ไม่เห็นกล่องปฐมพยาบาลสักชุด


"เรามีพวกที่ล้างแผลยานวดอะไรแบบนี้ไหมครับ" ถ้าไม่มีผมคงต้องลงไปซื้อ ไม่ก็พาพี่ฟิวไปโรงพยาบาล


"มีๆ" แฟนผมพูดพลางกุมมุมปากด้านซ้ายไว้ นิ้วสีแทนชี้ไปยังตู้ที่อยู่มุมสุดของห้องครัว ใครเก็บที่ทำแผลไว้ห้องครัวบ้างอะ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย


"ครับ เดี๋ยวผมทำแผลให้นะ" จะบอกว่านอนลงไปเลยก็ได้ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าด้านหลังก็โดนผมเหยียบไปไม่น้อยก็เลยได้แต่เก็บปากเก็บคำดีที่สุด


          ผมรื้อๆเอากล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ห้องครัวสักพัก ก่อนจะรีบเอาไปทำให้คนบนเตียง พี่ฟิวนั่งมองผมตาแป๋วอยู่แล้ว ดวงตาใสนั่นดูไม่โกธรผมเลยสักนิดมีแต่น้อยใจล้วนๆ


           ทำไมผมเห็นเป็นหมาตัวใหญ่กำลังเศร้าหูหางตกวะ ไม่ได้ ผมจะเปรียบสุดที่รักเป็นหมาไม่ได้!

"เจ็บมากไหมครับ" ผมถามคนที่เงยหน้าให้ผมทำแผล พี่ฟิวส่ายหัวเบาๆแต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นพยักหน้าหงึกหงัก ตกลงจะเจ็บหรือไม่เจ็บครับแฟน


          ผมกวาดตามองแผลตรงปากอีกฝ่ายแล้ว พยายามใช้น้ำเกลือเช็ดคราบเลือดที่แห้งและติดเต็มหนวดเป็นก้อนๆออก แต่พอไม่ใช้แรงมันก็ไม่ออก พอใช้แรงคนตรงหน้าผมก็ซี๊ดปากทุกที เป็นแผลแบบนี้กินอาหารคงลำบากน่าดู พาอีกฝ่ายไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงบาลเขาจะหาว่าเว่อร์ไหมนะ


"โกนหนวดดีไหมครับ มันบังแผลอะ" ผมเอ่ยขึ้นมาลอยๆแบบไม่คิดอะไร แต่คนถูกถามกลับส่ายหัวรัวๆแบบไม่เจียมสังขาร ใบหน้าที่โจร.... เอิ่ม ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราตื่นตกใจ หน้าซีดลงจนผมสงสัยว่าซีดกับคำถามหรือเพราะแผลกันแน่ ตอนแรกก็ไม่สงสัยหรอกพอคนเจ็บเล่นใหญ่งี้ต่อมสงสัยผมก็ทำงานขึ้นทันที


"ทำไมละครับ พี่ฟิวชอบหนวดหรอ?" ผมเลิกคิ้วถาม ตอนคบอีกฝ่ายตอนมัธยมโรงเรียนเขาก็ไม่ให้ไว้หนวดซะด้วย แต่ถึงยังไงไว้ยาวขนาดนี้ก็เกินไปไหมนะ


"ทศไม่ชอบหรอ" อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ถามผมกลับด้วยน้ำเสียงหงอยๆ ผมละสายตาจากมุมปากอีกฝ่ายแล้วมาสบตาใสที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกน้อยใจแทน ไม่เข้ากับตัวใหญ่ๆหนวดเราขรึมเลยสักนิด ผมหัวเราะเบาๆแล้วก้มลงจุ๊บมุมปากอีกข้างที่ไม่มีแผลของคนบนเตียง
 

"รักขนาดนี้ยังจะถามอีกหรอครับ" ถึงมันจะสากๆเจ็บๆรุงรังไปบ้างก็เถอะ พี่ฟิวฉีกยิ้มกว้างแบบไม่เจียมสังขารอีกรอบ ก่อนจะหลุดร้องโอดโอย กุมมุมปากข้างที่เป็นแผลของตัวเอง แผลจะเปิดเพราะเจ้าตัวนี่แหละผมว่า


"เรารีบทำแผลกันเถอะเนอะ" ผมใช้มีอีกข้างสางผมฟูๆให้คนบนเตียงให้รู้ว่าผมหมายถึงแบบนั้นจริงๆ “พี่จะได้กินข้าวกินยาอาบน้ำสระผม ดูสิ เหนียวไปหมดแล้ว...อะ...” ผมขมวดคิ้วชะงักมือที่เล่นผม อยู่ๆคำพูดของชัยก็เข้ามาในหัว ทั้งทีไม่เกี่ยวกับสถานการณ์เลยสักนิด
 

        ผู้ชายตัวใหญ่ผิวเกรียมๆหน้านี่ครึ่งนึงมีแต่หนวดอีกนิดก็ซานตาคลอส ปากนี่ไม่ต้องพูดถึงโดนปิดจนกูกลัวเขาแดกหนวดตอนพูดไปด้วย ผมอีกมึง ผมนี่ยาวกระเซอะกระเซิงเหมือนไม่ได้สระมาสามอาทิตย์!
 

           ผมกวาดตามองแฟนตัวเองอีกครั้ง เริ่มมีอะไรสักอย่างที่ไม่ถูกต้อง


           ผิวเกรียมๆ ผมมองสีผิวที่ดูก็รู้ว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาของคนด้านล่าง

           หนวดยาวเหมือนซานต้า ผมเขี่ยหนวดรุงรังของอีกฝ่าย แม้จะไม่ถึงเหมือนกับซานต้าแต่ก็ยาวเกินกว่าที่คนทั่วไปจะไว้

           ผมยาวกระเซอะกระเซิง ผมค่อยๆใช้มือสางผมที่ฟูยาวถึงบ่า มันติดแน่นเป็นก้อนจนผมสงสัยว่ามีครีมนวดในห้องน้ำไว้ทำไม


            พี่ฟิวเงยหน้ามองผมงงๆ แต่พอผมสำรวจอีกฝ่ายหลายๆรอบ ภาพเลือนรางสีแดงเส้นๆของอีกคนก็เข้ามาแทนที่แทน


           เฮดว้าก...


           เสียงคำรามที่เรียกชื่อผมตอนผมเหยียบท้องพี่ฟิวเข้ามาในหัวอีกครั้ง พอลองนึกเอาไปเทียบกับเสียงคำรามที่เรียกผมว่าทศกัณฐ์ในหอประชุม ก็ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่


          ผม.... จำไม่ได้ครับ
 
 
         อะล้อเล่น
 
 
         ผมหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกมีเรื่องอิมพอสซิเบิ้ล เสียงของคนบนเตียงกับคนบนเวทีเหมือนกันจนน่ากลัว แต่เดี๋ยวๆตั้งสติก่อนทศ มึงอาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ใจที่เต้นแรงนี่สิทำเอาคำถามในหัวตีกันจนผมทนไม่ไหว


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2018 20:52:15 โดย ptp »

ออฟไลน์ ptp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0


"พี่...ไว้ผมกับหนวดทำไมครับ" ผมถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง พี่ฟิวชะงักกึก ก่อนที่คนบนเตียงจะเกาหลังคอแล้วเหล่ไปทางซ้าย ท่าทางแบบนั้น ทำให้ผมที่ตอนแรกไม่มั่นใจเปลี่ยนเป็นมั่นเกินครึ่งทันที


          พิรุธ...


         ชัดเลยว้อย!!!


"ก็แบบ..." อีกฝ่ายอ้ำอึ้ง ปฏิกิริยาแบบนั้นทำให้ผมฉุน แต่เพราะผมยังไม่รู้ความจริง ยังไม่รู้เหตุผลและ...อาจจะคิดไปเอง เรื่องแค่นี้ แฟนผมต้องบอกผมสิ!


"ชอบหนวดกับผมยาวหรอครับ" ผมจับหน้าให้อีกฝ่ายมองผมดีๆ พี่ฟิวไม่ตอบแต่หัวเราะแห้งๆแทน
 

 
"พี่ไม่ได้ไว้ เพราะเป็นกฎอะไรใช่ไหม" คนข้างล่างส่ายหัวรัวๆ ตอนนี้ผมรู้สึกคิดถูกมากที่ยืนข้างๆแทนนั่งบนเตียงเพราะผมสามารถเห็นหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งสายตาของคนรักที่เบี่ยงหลบผมไปมองพื้น ผมตีแก้มอีกฝ่ายเบาๆให้เขามาสบตาอีกครั้ง ก่อนจะเลิกคิ้วถามต่อ


"ไว้เพราะกิจกรรมรึเปล่าครับ" ถ้าไม่ใช่กฎก็ต้องตามเพื่อน พอคิดถึงพวกไว้หนวดรุงรัง ไอ้พี่ว้ากคิ้วหนาก็เข้ามาในหัวทันที พี่ฟิวมองตาผม ปากบางที่แทบจะมองไม่เห็นเม้มเข้าหากันแน่นจะหนวดกลบหายไป อีกฝ่ายพยักหน้าเบาๆพลางส่งสายตาให้ผมแบบกล้าๆกลัวๆ


"กลัวทำไมครับ ผมแค่ถาม"คนที่ควรหน้าถอดสีอยู่ตรงนี้เถอะ "วันนี้ผมเจอพี่ที่คณะใช่ไหม"


"ครับ" พี่ฟิวตอบรับเสียงเบา ยิ้มเจื่อนๆส่งมาให้ ผมไม่เว้นว่างถามต่อทันที ทั้งๆที่ใจเต้นโครมคราม เริ่มเข้าใจความรู้สึกโคนันก็ตอนนี้


"พี่ยืนอยู่บนเวทีหอประชุมรึเปล่า"


"อ่า..." แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายนิ่ง พี่ฟิวเบะปากให้ผมเหมือนทุกครั้งเวลาทำตัวไม่ถูกก่อนที่แขนยาวๆจะโอบเอวผมแล้วซุกหน้ากับท้องผมไว้ "ครับ...ใช่"


            โอเค


            ชัด


            เจน
 
 
"พี่นึกว่าทศรู้แล้ว" คนฝังหน้าบนท้องผมพูดอ้อมแอ้ม แต่ผมดันฟังรู้เรื่องซะนี้


"รู้ว่าอะไรครับ"


"ว่าพี่เอ่อ... เป็นพี่ว้ากกับ...เปลี่ยนชื่อ" เหอะ อยากจะหัวเราะเสียงนี้ออกมาดังๆ ถ้าผมตื่นมาเห็นพี่ว้ากบุกห้องมานอนกอดผมบนเตียงนะ ผมกระทืบไม่เลี้ยงยิ่งกว่านี้อีก จริงๆผมไม่ได้เป็นพวกหัวรุนแรงนะครับ แต่รู้สึกวันนี้ผมจะหงุดหงิดบ่อยเหลือเกิน อยากจะพ่นไฟใส่หัวแฟนให้มอดไหม้


          เปลี่ยนชื่อเลยนะครับ ถ้าแฟนของคุณเปลี่ยนชื่อแล้วไม่บอกคุณจะรู้สึกยังไง! โอเคผมจะพยายามเข้าใจว่าระยะทางกับเวลาอาจจะเป็นอุปสรรคในการพูดคุย แต่ยังไงผมก็เคืองอะ


"ผมลืมใส่คอนแทค" ผมกรอกตาตอบอีกฝ่ายส่งๆ พี่ฟิวร้องอ๋อเบาๆกับเหตุผลของผมก่อนที่ห้องจะปกคลุมไปด้วยความเงียบ อยากทำบรรยากาศมาคุต่ออีกหน่อยแต่พอก้มมองหัวฟูๆที่ซุกท้องผมแล้วต้องถอนหายใจออกมา ถามว่าโกธรไหมก็โกธรครับ แต่มันไม่ถึงขนาดโวยวายออกมาส่วนมากเป็นน้อยใจมากกว่า ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำตัวอ้อนๆใจผมก็ยิ่งอ่อนยวบ เฮ้อ เพิ่งเจอกันเมื่อวานไหงวันนี้มีเรื่องให้ระทมทุกข์แบบนี้วะ ผมเม้มปากแน่นพลางเอื้อมมือไปนวดต้นคอคนกอดเบาๆ


"ทำไม... พี่ไม่บอกผม” แล้วผมจะเชื่อใจพี่ได้ไงวะ พี่ฟิวคลายแรงกอดช้าๆก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองผม เหลือบตาเห็นรอยช้ำตรงมุมปากคนรักใจผมก็ยิ่งอ่อนยวบลงไปอีก


            ทำไมผมเห็นคนหนวดขรึมเป็นน่าฟัดได้นะ


            ทศ อย่าเพิ่งไม่ใช่เวลา


"พี่ขอโทษ โกธรหรอ" สบตาใสที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดนั่นแล้ว ผมต้องถอนหายใจยาวๆอีกครั้ง


             น่าฟัดจริงด้วย


              ทศ กำลังดราม่าทศ เอ้า ฮึบ!


"ครับ แต่ผมเสียใจมากกว่า" ปากบางใต้หนวดเคราขรึมเบะอีกครั้ง แขนที่กอดรอบเอวผมไว้รัดแน่นขึ้น


"ขอโทษครับ พี่แค่อยากให้ทศรู้วันเปิดเทอมเลย แบบ...เซอร์ไพร์" ผมเลิกคิ้วแล้วหัวเราะในลำคอ หัวเราะแบบแห้งๆน่ะครับ เซอร์ไพร์เลยไง เซอร์ไพร์จนเลือดกลบปากเลยไหมละ


"เซอร์ไพร์บ้าอะไรครับ" อยากจะบอกว่าเซอร์ไพร์เหี้ยอะไรละ แต่ก็พูดกับอีกฝ่ายไม่ลง


"ก็... ถ้าพี่บอกว่าเป็นพี่ว้าก ทศจะกลัวพี่ไหมอะ" ผมก้มมองหน้าคนพูดนิ่ง กลัวไหมหรอ... แน่นอนคำตอบคือไม่ ใครมันจะไปกลัวแฟนตัวเองครับ พอนึกภาพอีกฝ่ายอยู่บนเวทีเมื่อหลายชั่วโมงที่แล้ว ถึงผมจะไม่รู้ว่าเป็นพี่ฟิวผมก็ไม่กลัวอยู่ดี เพราะผมรู้ว่าอีกฝ่ายทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้วเปรียบเทียบกับพวกนักธุรกิจหน้าซื่อตาใสรอยยิ้มดูจริงใจในลอนดอนแล้ว พวกแก๊งพี่ว้ากดูเป็นแก๊งหมีเดินหาน้ำผึ้งกันไปเลย

 
            ถึงจะกวนตีนก็เถอะ เหอะ!
 
 
"อ่อ... ให้ผมกลัวแบบวิ่งรอบสนามยี่สิบรอบน่ะหรอ?" จบประโยคพี่ฟิวที่ยิ้มเจื่อนอยู่แล้วก็ยิ่งเจื่อนเข้าไปอีกทันที ทำเสียงกระเง้ากระงอดตอบผม


"ทศอะ ก็ตอนนั้นทศผิดนี่" หืม ผมผิด? ผมยิ้มหวาน เพิ่มแรงนวดที่หลังคอคนรักอัตโนมัติ พี่ฟิวชะงักก่อนที่จะพูดต่อ "เรื่องปกป้องเพื่อนทศไม่ผิดหรอก พี่เข้าใจ"


"แล้วที่ผมผิด?"


"ทศเถียงรุ่นพี่ แถมกวนต-- แฮ่ม แอบแซะเขาด้วย" อ่อ... หมีคิ้วหนา


"ทศแค่พูดความจริง" ผมแก้ต่างให้ตัวเอง แต่แทนที่พี่ฟิวจะพูดต่อกลับยิ้มแป้นน่ารักน่าหมั่นไส้แทน นี่แฟนผมเสพยาหรืออะไร


"ยิ้มทำไมครับ"


"ทศหายโกธรพี่แล้วอ่อ" ผมบอกตรงไหนว่าหายโกธรวะ แต่เอาจริงๆก็หายแล้วละถือว่าเจ๊ากับที่ผมลงแรงเท้ากับคนรักไป ถึงจะน้อยใจอยู่ก็เถอะ ผมมาที่นี้เพื่ออยู่กับคนที่ผมรัก อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามประเทศมาถ้าผมมัวแต่โกธรก็รู้สึกเสียเวลาสวีทกับพี่ฟิวไปอีก ค่อยแก้แค้นอีกฝ่ายในแบบของผมก็ยังไม่สาย


"ทศแทนตัวเองด้วยชื่อแล้วอะ หายโกธรเค้าแล้วใช่ป่ะ" แบ๊วเว่อร์ ตอนที่ไม่มีหนวดเครามันก็น่ารักน่าแกล้งนะ แต่พอมีปุ๊บความชายฉกรรจ์มันตีเข้าหน้าผมแทนเลยเนี่ยสิ แต่โอเค คนรักผมมีความสุขผมรับได้


"อย่าเปลี่ยนเรื่องสิครับ ทำไมไม่ให้ป้ายชื่อใหม่ละ ให้วิ่งรอบสนามทำไมครับ" แถมไม่ฟังเหตุฟังผลอะไรอีก คิดแล้วก็ขึ้น ถอนผมฟูนั่นซะเลย นี่แน่ะ!


"นั่นพี่ช่วยทศนะ จริงๆต้องโดนไล่ออกจากห้องเชียร์ด้วยซ้ำ ทศปีนเกลียวรุ่นพี่เพื่อนทศทำป้ายพังตั้งแต่วันแรก มันไม่ใช่ข้อหาเบาๆเลยนะเว้ย" ผมเลิกคิ้วส่งสายตาว่า อาร์ ยู ซีเรียส? พอพี่ฟิวพยักหน้ารับด้วยใบหน้าจริงจัง ผมก็หลุดหัวเราะออกมาจริงๆ


"ดีซะอีก ใครอยากเข้าเชียร์อะ จริงๆพรุ่งนี้ทศก็กะจะไม่เข้าไปแล้วนะ น่าเบื่อ"


"ทศอะ!" อะอะไรละ อะอา เอะเอ อุอูหรอ ทำผิดแล้วแบ๊วกลบเกลื่อนทุกที


"มันไม่เห็นมีประโยชน์เลยพี่ฟิว ทศว่ามันเสียเวลา" ไร้สาระมากเลยในสายตาผม เต้นบ้าๆบอๆของพี่สันยังมีประโยชน์กว่าอีก


"มีดิ ไม่งั้นพี่จะเข้าว้ากทำไมวะ"พี่ฟิวพูดน้ำเสียงจริงจัง ผมมองตาใสมุ่งมั่นนั่นแล้วชี้เข้าหาตัว


"อยากว้ากผมหรอ?" พี่ว้ากของผมชะงักแล้วตอบอ้อมแอ้ม


"ก็...นิดนึง" ตะโกนใส่หน้าแฟนมีอะไรให้ชอบอะ สงสัยอะเกน


"ไม่ต้องว้ากที่มหาลัยก็ได้มั้งถ้างั้นอะ" คนกอดผมทำหน้าสงสัย "ว้ากในห้องก็ได้ เฮดว้ากอยากให้ทศกัณฐ์ทำอะไรละครับ" ผมฉีกยิ้มอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนมือจากนวดหลังเป็นโอบรอบคออีกฝ่ายแทน


               ดวงตาใสเหมือนลูกแก้วเบิกกว้าง ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นวิ้งๆระยับไปหมดพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจะประทับลงบนใบหน้าหนวดเครา


                พี่ฟิวไม่ตอบแต่กลับทำปากจู๋ พยายามเงยหน้าให้ผมที่อยู่ข้างบนเห็นชัดๆ ผมขำให้กับคำสั่งของคนรัก ขำทั้งท่าทาง ขำทั้งหน้าเขาด้วย จินตนาการผู้ชายหน้าโหดๆทำปากจู๋ตาหยีใส่สิครับ ไม่เหลือภาพคนเวทีให้ผมแค้นเคืองเลย

                ผมกุมแก้มอีกฝ่ายไว้ทั้งสองข้าง ก่อนที่จะค่อยๆโน้มลงไปใกล้ๆดวงตาใสเปิดขึ้นน้อยๆตามระยะที่สั้นลงเรื่อยๆ ไม่ต้องทำอะไรแค่สบตาใสนั่นผมก็รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูรู้สึกตัวอีกทีใบหน้าคนรักผมอยู่ใกล้แค่คืบก่อนที่จะใกล้จนลมหายใจร้อนๆรดริมฝีปาก  ผมขยับจมูกซีดของตัวเองเขี่ยจมูกโด่งสีแทนนั่นเบาๆพร้อมกับใบหน้าตรงหน้าที่ค่อยๆเอียงปรับองศา รู้สึกถึงสัมผัสกดให้โน้มมากกว่านี้ที่ต้นคอ ความร้อนของริมฝีปากอีกฝ่ายที่ใกล้จะแตะกันทำให้ผมค่อยๆเผลอปากช้าๆเหมือนมนตร์สะกดพลางค่อยๆหลับตาเตรียมสัมผัสกับความนุ่มที่คุ้นเคย แต่พอคิดอะไรบางอย่างได้ปุ๊บก็ทำให้ผมชะงักเปลี่ยนใจต้านแรงกดที่ต้นคอชะโงกหน้าขึ้นไปจุ๊บเบาๆที่เหม่งคนตรงหน้าแทน
 

          จุ๊บ!
 

"อ้าว!?!"
 

"แผลยังไม่หายเลยทำแผลกันต่อดีกว่าครับ" ผมผละตัวออกจากอีกฝ่ายเร็วๆจนคนบนเตียงจับไม่ทัน พยายามไม่สนใจใบหน้าเหมือนโลกสลายของพี่ฟิวแล้วหยิบสำลีใส่ยาต่อ
 

"ดึกแล้วพี่ฟิวยังไม่ได้ทำอะไรเลย พรุ่งนี้มีเรียนนะครับ"
 

"ทศอะ! อะไรวะ"
 

"อะไรครับ?" ผมถามกลับ ทำหน้างงว่าอีกฝ่่ายมีอะไรทำหน้างอนผมทำไมผมทำอะไรผิด พี่ฟิวจิ๊ปากขัดใจ มองค้อนผมวงโต ก่อนจะชูมือขึ้นสองข้างเหมือนยอมแพ้ แม้ปากจะยื่นจนน่าตีก็เถอะ


                ผมพยายามใช้เวลาทำแผลให้พี่ฟินน้อยที่สุดเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้กินอะไรเลย มองคนบนเตียงบิดขี้่เกียจช้าๆก่อนจะไล่อีกฝ่ายไปอาบน้ำสระผม เมื่อเห็นว่าพี่ฟิวไม่ได้บาดเจ็บสาหัสสากรรจ์เหมือนที่ผมนึกไว้ ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว หวังว่าร้านข้าวจะไม่ปิดนะ


"พี่ฟิวครับ กินอะไรเดี๋ยวทศสั่งให้" ด้วยความที่กลัวคนในห้องน้ำจะไม่ได้ยิน ผมเลยลืมตัวตะโกนถามเสียงดังจนกลัวคนห้องข้างๆด่า นี่เพิ่งสามทุ่มเองคนในหอคงไม่หลับกันหรอกมั้ง


"เดี๋ยวพี่ลงไปด้วย" แต่เสียงคนในห้องน้ำกลับดังไม่ต่างกัน เสียงแหบขนาดนั้นยังจะตะโกนอีกนะคนเรา ผมถอนหายใจเบาๆรู้สึกเป็นห่วงอีกฝ่าย ยิ่งพรุ่งนี้มีประชุมเชียร์ต่ออีกด้วย มองนาฬิกาอีกทีผมว่าไปสั่งอะไรให้พี่ฟิวกินรอเลยดีกว่า


"งั้นพี่ตามมานะครับ เดี๋ยวทศสั่งให้ก่อน" ได้ยินเสียงโอเคแว่วๆมาตามลม ผมก็คว้าเอากระเป๋าเงินกับโทรศัพท์ออกจากห้องไป




             ร้านข้างล่างหอเป็นร้านอาหารเล็กๆหลายร้านมารวมกัน มีอาหารตามสั่ง ราดหน้า ข้าวมันไก่ ร้านขายน้ำ เหมือนเป็น Food court ขนาดย่อม


            ผมเลือกเดินไปสั่งผัดกระเพราให้ตัวเอง กับข้าวผัดหมูแฉะๆให้พี่ฟิว กลัวถ้าสั่งข้าวต้มอีกฝ่ายจะครวญครางกับความร้อนของน้ำซุป ถ้าสั่งผัดกระเพราแบบผมก็กลัวแผลอีกฝ่ายจะทรมาณกับความเผ็ด เอาข้าวผัดที่ทั้งจืดทั้งไม่มีน้ำซุปให้พี่ฟิวนี่แหละ น่าจะโอเคสุด


"นั่งก่อนนะพ่อรูปหล่อ เดี๋ยวพี่เอาไปเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะเลยจ๊ะ" ผมยิ้มหวาน หัวเราะเบาๆกับสรรพนามเรียกตัวเองของผู้หญิงวัยกลางคน ผมผละออกมาจากร้านอาหารตามสั่ง เดินไปสั่งน้ำต่อก่อนจะหาที่นั่งดีๆ


TosSaKan: ถึงร้านแล้วครับ พี่ลงมาได้เลย


           กดส่งข้อความแล้วรออีกฝ่ายอีกสักพัก ไม่ถึงนาทีพี่ฟิวก็ส่งสติ๊กเกอร์โอเคที่ดูฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วให้ผม นี่หรอพี่ว้าก แล้วผมจะเอาอะไรไปกลัวอะถามจริง


            ระหว่างรออาหารกับคนรัก ผมเลยนั่งเล่นนั่งส่องกราฟหุ้นในบริษัทพี่ชายรอ ไม่ได้เล่นหุ้นแบบจริงจังหรอกครับ แต่เหมือนเป็นสิ่งที่ผมทำจนชินไปแล้วตอนเรียนไฮสคูล มองดูตัวเลขที่เปลี่ยนจากเมื่อวานไปโขก็ต้องร้องดีใจในใจ ดีนะที่ไม่ลงทุนกับตัวนี้


             พอตรวจดีไปเรื่อยๆชักเพลิน ยิ่งเห็นว่าตัวไหนเพื่อนผมมันพลาดไปก็ต้องยิ้มสะใจ ไม่ได้สะใจแบบเต็มขั้นครับ สะใจที่มันไม่ฟังผมนี่แหละว่าแล้วก็แคปหน้าจอไปเย้ยมันซะหน่อย แต่ยังไม่ทันจะส่งข้อความไปให้เพื่อนตาน้ำข้าว แรงสะกิดเบาๆก็ดึงผมออกจากภวังค์


              อา... ผมมากินข้าวกับพี่ฟิวนี่หวา แต่อีกฝ่ายลงมาเร็วขนาดนี้แสดงว่าวิ่งมาแน่ๆ ร่างกายไม่อำนวยอยู่ทำไมไม่ดูแลดีๆนะ


"พี่ฟิว--"


"แบร่!!!!!!!"


"เฮ้ย!!!" ผมสะดุ้งตกใจ มองค้อนเจ้าของเสียงก่อนที่ผมจะผงะ เบิกตากว่ามองคนตรงหน้านิ่ง


         มะ


         มาได้ไงวะ!!


"มึงอยู่หอนี้หรอ ทำไมไม่บอกวะ ทศจะได้กลับพร้อมกัน” เสียงร่าเริงเฟลนลี่นั่น ทำให้หัวผมขาวโพลนไปหมด


"ชะ"


"อ้าว หน้าซีดเฉยหิวอะดิ สั่งข้าวยังวะ มากูแดกเป็นเพื่อน"


"อะไอ้ชะ"


"ฮะ อ้ำอึ้งไรวะ หรือกูหล่อขึ้น? เรื่องปกติอะมึงกูหล่อขึ้นทุกชั่วโมงอยู่แล้ว"


"ไอ้ชะ"


"โอ๊ย กูรำคาญว่ะ เออ! กูชัยเอง มึงเป็นอะไรเนี่ยไอ้หล่อ"


"....."


          ไอ้ชัย


           มึงมาทำอะไร!!!
______________________________________________________________________________________

นั่นสิ ชัยมากินอะไรตอนสามทุ่มลูก ดึกขนาดนี้หนูมาทำไม555
รู้ความจริงแล้วจ้าาาา แก้ลบแก้ลบบ่อยสุด ตอนแรกก็อยากให้ทศดราม่าแต่มันไม่ดราม่าสักที เอาขำแบบทศไปเลยแล้วกันนนน  พยายามทำให้พีคแต่มันก็ไม่พีคอะค่ะคุณ  คาแรกเตอร์พี่ฟิวอยากให้เป็นคนที่เหมือนว้ากใครไม่ได้ในสายตาทศ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ จะพยายามแต่งให้สนุกไม่ออกนอกทะเลนะคะ เพิ่งรู้ว่่านิยายนี่แต่งยากเหลือเกินนนนนน   :katai1: :katai1: :katai1:


ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
พี่ว๊ากความแตกก็งานนี้ 555

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คนอะไรวาดแฟนตัวเอง? :hao4:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m16: เพื่อนโผล่มาผิดเวลามากกกก  :m31: อย่างนี้ต้องโดนซ่อม  :m16:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ก่อนที่พี่ฟิวจะลงมา เจอกับน้องหายก่อนแล้วกัน เห็นหลัด ๆ มาโน้นแล้ว "น้องหายนะ"  :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ฟิว ให้อารมณ์งุ้งงิ้ง ออดอ้อน
ส่วนทศ ดูเข้มแข็ง  ปกป้อง ไม่ยอมคน 
 แล้วสถานะของคู่นี้มันยังไงกันเนี่ย  :mew2:
ทศ ฟิว หรือ ฟิว ทศ  ล่ะเนี่ย  :hao3: :hao3: :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig2:

ออฟไลน์ Aeflizm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ใครนายเอก ใครพระเอกคะ จะได้จิ้นถูก <3

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
พี่ฟิว น้องทศถ้าจะเนื้อหอมน๊ะจ๊ะ  :o8:

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
โอ๊ยยยย ดีค่ะ เรื่องนี้ อ่านแล้วยิ้มมากมาย ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ ptp

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

กฏที่3 :: เป็นแฟนพี่ว้ากต้องพยายาม(1)


ผมเคยคิดว่าเมื่อผมมีคนรัก ไม่ว่าเขาจะเป็นคนยังไง เพศไหน ฐานะไหน หรือแม้แต่รูปร่างหน้าตาจะเป็นยังไง ผมก็จะเปิดเผยต่อคนรอบข้าง บอกเพื่อน บอกพี่ บอกครอบครัว ความคิดผมมันถือเป็นการให้เกียรติอีกรูปแบบหนึ่ง



แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีแฟนเป็นเฮดว้าก...



โอเค ผมปั๊บปี้เลิฟกับพี่ฟิวตั้งแต่มัธยมต้น หลายปีที่ผ่านมาแน่นอนผมรับได้ที่มีแฟนเป็นผู้ชายและสามารถปรับตัวที่คนรักเป็นราษฎรเคลื่อนที่ได้ ผู้ชายที่รู้จักทุกคนยันหมาหน้าโรงเรียน ครั้งนี้อาจจะคล้ายๆกัน แต่เปลี่ยนจากทุกคนทักทายสวัสดีเป็นเดินหนี แหวกทางเป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้แทน แน่นอนมันไม่ได้กระทบอะไรกับสถานะคนรักของเรามาก



เอ่อ..แต่คิดไปคิดมาก็น่าจะกระทบมากอยู่



เฮดว้าก คือคนที่เด็กเข้าใหม่ต้องเกรงกลัว นั้นคือลุคที่พี่ฟิวพยายามฝึกมาตั้งแต่ปีสอง ผมที่เคยเห็น(ลางๆ)เคยฟังเขาเกรี้ยวกราดในหอประชุม ก็ต้องยอมรับว่าคนรักผมพยายามมากจริงๆ พอคิดว่าพี่ฟิวทุ่มเทให้กับตำแหน่งสูงส่งขนาดนี้ ผมก็คงรู้สึกไม่ดีแน่ๆที่ทำให้ตำแหน่งคนรักด่างพร้อย ถึงไม่อยากจะทำตัวคิดมาก เสียสละตัวเหมือนนางเอกละครแต่ถ้านึกถึงเหตุและผล ผมเลยเสนอกับพี่ฟิวให้ปิดความลับที่เราคบกันเอาไว้



และใช่ครับ คนรักผมโวยวายห้องแตกเลย ถึงเขาจะโตขึ้นสามปีแต่ความเป็นเด็กในตัวไม่รู้ทำไมยังอยู่ในตัวเขาไม่ต่างจากเดิม




แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบหรอกนะ



กว่าจะอธิบายเหตุผลร้อยแปดก็หมดไปครึ่งค่อนคืน พี่ฟิวของผมไม่ใช่เด็กดื้อเขาเข้าใจเหตุผลได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว แค่ทำตัวง้องแง้งให้ดูไม่ยอมความไปงั้นแหละ ผมรู้ว่าเขาก็กังวลเรื่องนี้ เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบไปถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ชาววิศวะว้ากของเขาด้วย แล้วยิ่งผมเป็นเด็กปีหนึ่งที่สร้างวีรกรรมตั้งแต่วันแรก คงจะสนุกเลยแหละ



อา... แต่ถ้าถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นใต้หอผมตอนนั้นละก็ มันก็ผ่านไปสามวันแล้วละครับ



ใช่ครับ ดินเนอร์ครั้งแรกหลังที่ไม่ได้เจอกันมาสามปีของผมกับพี่ฟิว ถูกทำลายลงโดยไอ้ชัย
ครับ ผมเรียก 'ไอ้' ชัย คนอย่างมันไม่ควรให้เกียรติใดๆ ยิ่งผมนึกย้อนไปเหตุการณ์นั้นแล้ว รู้สึกยิ่งอยากเพิ่มสรรพนามนำหน้ามันด้วยซ้ำ ไอ้ชัยที่สถาปนาเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทผมภายในไม่ถึงอาทิตย์แต่เกลียดพี่ว้ากเข้าไส้ ตอนที่มันเห็นพี่ฟิวเข้าร้านเดียวกับผม เพื่อนสนิทผม(ที่สถาปนาตัวเอง)ก็เกรี้ยวกราดกัดพี่แกทันที คนรักผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกครับ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ชัยมันแซะๆด่าๆอยู่เนี่ยเป็นพี่เขา เพราะนอกจากไม่หงุดหงิดเก๊กโหดแล้ว ยังยิ้มหน้าบานมาหาผมจนแทบจะได้แบล็คกราวเป็นสวนลาเวนเดอร์อยู่แล้ว



และสุดท้ายก่อนจะถึงขั้นวิกฤต ผมก็เลือกเดินไปบอกป้าแม่ค้าคนสวยให้เอาข้าวใส่กล่องให้ ก่อนที่จะเดินไปขอตัวกลับจากไอ้ชัยด้วยข้ออ้างที่สุดเบสิคตอนเรียนที่ไฮสคูลคือ 'ไม่ว่างมีธุระกับแฟน' แค่นั้นมันก็ทำตาโตแล้วเข้าอกเข้าใจผมทันที แต่ไม่วายแซะพี่ฟิวที่นั่งเอ๋อรอผมอยู่ที่โต๊ะอีก คนรักผมผู้ไม่รู้เรื่องราวใดๆพอเห็นผมเดินผ่านเหมือนคนไม่รู้จักกันเขาก็ได้แต่นั่งมองตาระห้อยสายตาตัดพ้อ ทำหน้าเหมือนโลกสลายซะอย่างนั้น



ช่างไม่รู้เลยเอาซะเลย



แต่ก็นั่นแหละครับ สุดท้ายก็ได้นั่งคุยทานข้าวปรับความเข้าใจกันบนห้องจนถึงดึกดื่นยันฟ้าสว่าง เห็นพี่ฟิวต้องตื่นแต่เช้าทั้งๆที่ตายังไม่เปิดก็สงสารจับใจ



ถ้าจะหาคนผิดละก็ผมโยนให้ไอ้ชัยคนเดียวเลย กล้าทำให้แฟนผมเป็นหมีแพนด้า มันต้องชดใช้!
 


"วู้ว! กูได้สมุดมาแล้วว้อย!!!" พูดถึงโจโฉโจโฉก็มา ผมเบนตาออกจากมือถือเหลือบมองผู้ชายที่ผมเคียดแค้นเมื่อสามวันก่อน พอเห็นมันชูสมุดเล่มเล็กๆสีน้ำตาลเท่าฝ่ามือ ผมก็ทำได้แค่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม



"งงไปอีก นี่สมุดล่าลายเซ็นต์ไงมึง ที่พี่แกอธิบายไว้เมื่อคราวนู่นน่ะ" ไอ้ชัยพูดพลางสะบัดสมุดขึ้นลง ก่อนที่จะโยนแบะไปบนโต๊ะแบบไม่มีความถนอมใดๆทั้งสิ้น ผมขมวดคิ้วย้อนความทรงจำว่าเมื่อวานผมทำอะไรไปบ้าง แต่ไม่ทันที่ผมจะตอบเสียงแหบๆก็แทรกเข้ามาก่อน



"ทศไม่ได้เข้าเชียร์ครั้งที่แล้ว มึงจำไม่ได้รึไง" ร่างผอมบางเดินเข้ามานั่งข้างชัย ก่อนที่จะถือวิสาสะหยิบกาแฟเย็นที่ผมซื้อขึ้นดื่มโดยไม่ได้ขอ



ยิ่งคบการกระทำยิ่งขัดกับหน้าตาจริงๆ...



ผมเลิกสนใจกาแฟที่โดนผู้ชายสองคนตรงหน้าแย่งกันกิน แล้วกลับไปนึกถึงเรื่องเมื่อวาน สาเหตุที่ผมไม่ได้เข้าห้องประชุม มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากหรอกครับ ก็แค่เมื่อวานพี่ฟิวไม่ได้เข้าว้ากผมก็เลยไม่ไป



ครับ... ผมจะเข้าเชียร์ก็ต่อเมื่อไปเฝ้าแฟน



มันอาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่ผมก็ไม่เห็นว่าการเข้าเชียร์จะสำคัญหรือได้ประโยชน์อะไรสักนิด ก็พยายามเปิดใจอยู่นะครับ แฟนผมอุตส่าห์ทุ่มตัวเป็นเฮดว้ากเจ็บคอกลับห้องทุกวันแบบนั้น แต่นั่นแหละผมดันเป็นคนหัวดื้อซะด้วย ครั้งนี้ถือเป็นข้อเสียเลยจริงๆ


"เออ แต่พวกแม่งไม่ให้สมุดมึงอะ" ชัยเอ่ยขึ้นหลังจากที่กินกาแฟหมดยันน้ำแข็งอีกครึ่งแก้ว คนหน้าคมเปิดสมุดพลางเคี้ยวน้ำแข็งในปากไปด้วย



"อ่อ..." ผมครางในลำคอ ไม่รู้จะตอบกลับไปยังไงเพราะถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ให้เหมือนกัน สมุดเชียร์ที่พวกเพื่อนผมทั้งสองคนถืออยู่ เป็นสมุดแฮนด์เมดที่พวกปีหนึ่งในคณะทุกคนต้องช่วยกันทำ แน่นอนว่าสมุดก็ต้องออกแบบเอง เย็บเอง สุดท้ายเงินก็ต้องออกเอง ยิ่งถ้าผมที่เข้าเชียร์บ้างไม่เข้าบ้าง ยิ่งงานร่วมกลุ่มของคณะแบบนี้ผมยังไม่เข้าไปแม้แต่เงา อย่าว่าแต่สมุดเลยชื่อผมคงยังไม่อยากจะเรียกกันเลยมั้ง



"เราก็อยากปกป้องทศนะ แต่หาข้อโต้แย้งไม่ได้จริงๆ" นนท์ทำหน้าสำนึกผิด ไม่รู้ว่าฝั่งนั้นเขาด่าผมว่าอะไรบ้าง ถ้าไม่ร้ายแรงขนาดฆ่าแม่ตบผู้หญิงผมก็น้อมรับนะ เพราะครั้งนี้ผมดูเห็นแก่ตัวจริงๆ เถียงไม่ออกเลยครับ



"ไม่เป็นไร เรากะจะไม่เข้าอยู่แล้วอะ" ผมยิ้มให้นนท์ ทันทีที่ผมพูดจบ จากหน้าสำนึกผิดของเด็กเรียนก็เปลี่ยนเป็นปลงตกทันที พร้อมกับสายตาที่ส่งมาประมาณว่า กูว่าแล้ว


เพื่อนขอโทษได้ไหมละ
 


"กูเข้าใจๆ กูก็เบื่อโคตรๆเหมือนกัน ถ้าไอ้นนท์แม่งไม่ป๊อดเข้าเชียร์คนเดียวไม่ได้ละก็ กูโดดไปแล้วววววววว" ชัยเอ่ยเสียงสูงจนคนโดนนินทาระยะเผาขนส่งค้อนให้ แต่คนอย่างชัยมันก็ไม่สะทกสะท้าน เขาทำหน้าล้อเลียนกลับ ก่อนที่จะกระดกน้ำแข็งที่เหลือในแก้วกาแฟผมจนหมด
 


คือ... กูดื่มไปแค่สองอึกเองนะ


 
"แม่งไม่เห็นมีประโยชน์เลย มึงรู้มะไอ้ทศ เข้าไปนั่งแต่ร้องเพลงๆ กูนี่แทบจะรักสถาบันเหมือนเป็นหุ้นส่วนลูกหลานอธิการเขาละ" ชัยใส่อารมณ์อย่างเกรี้ยวกราด ยังไม่ทันที่ผมจะบอกว่าเห็นด้วย ผู้ชายแว่นหนาก็พูดแทรกออกมาก่อน


   "แต่สมุดล่าลายเซ็นมันไม่เหมือนกันว้อย! เขาสร้างให้เรารู้จักรุ่นพี่ รุ่นพี่ได้รู้จักเรา มึงไม่มองจุดประสงค์เขาไง!!" คนตัวผอมโวยวายก่อนที่จะหันทางผม "ทศลองไปดูสิ มันต้องมีประโยชน์แน่ๆเชื่อกู" ผมสบตาใต้แว่นนั่นก่อนจะเลิกคิ้วมองชัยดูว่ามันจะเถียงอะไรต่อ



"โห อย่างไอ้ทศแม่งไม่ต้องร่วมกิจกรรม แค่นั่งหายใจทิ้งคนเขาก็รู้จักกันทั้งมอละ มึงคิดสินนท์มึงคิดดดด” ผู้ชายตัวโตฝั่งตรงข้ามผมเอานิ้วชี้กดแรงๆที่ขมับคนข้างๆ คนถูกจิ้มปัดนิ้วทิ้ง ทำท่าจะเถียงกลับ ก่อนที่ชะงักเหมือนพูดไม่ออก ท่าทางนั่นทำให้ผมหลุดขำออกมาเบาๆ



"กูชนะ ไอ้ทศมึงไม่ต้องเข้าร่วม" หน้าตาชัยดูพึ่งพอใจเหมือนโต้วาทีชนะระดับประเทศ ผมพยักหน้ารับ



"กูไม่คิดจะเข้าอยู่แล้ว"



ถึงจะมีนนท์เป็นร้อยคน ก็เปลี่ยนความคิดผมไม่ได้หรอก ขอโทษนะเพื่อน
.
.
.

.
.

.

.
.
.

. .
"ทศได้สมุดล่าลายเซ็นรึยัง" เสียงแหบๆจากฝั่งตรงข้าม ทำให้ผมละความสนใจข้าวเย็นตรงหน้ามาสนใจหน้าอีกฝ่ายแทน



"ครับ?" ผมทำหน้าอึน พี่ฟิวมองผมตาปริบๆก่อนจะทำหน้าอึนตาม



"อ้าว สมุดไง สมุดล่าลายเซ็นอะ" ดวงตาใสฉายแววคาดหวังนิดๆนั่น ทำเอาผมต้องกลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่



"ครับ ผมรู้แล้ว ทำไมหรอครับ?" ผมหยิบแก้วดื่มน้ำแก้เก้อ คนรักผมเปลี่ยนจากหน้าอึนเป็นยิ้มหน้าบานอีกรอบพลางพยักหน้าหงึกหงักหลายๆที



"ได้แล้วใช่เปล่า โธ่ พี่ก็ตกใจนึกว่าทศไม่รู้เรื่อง ก็งงอยู่จะไม่รู้เรื่องได้ไงวะในเมื่อต้องช่วยๆกันทำ" พี่ฟิวทำหน้าโล่งใจอย่างน่ารัก ผมยิ้มบางก่อนจะตอบอีกฝ่าย



"ครับ ผมรู้แล้ว" รู้เรื่องสมุดแล้วแต่ไม่ได้ช่วยทำนะครับ...



"ดีๆ ตอนแรกพี่โคตรเป็นห่วงเลย คิดว่าทศจะไม่เข้าร่วม นี่แอบเครียดเลยนะเนี่ย" ผมยิ้มให้กับใบหน้ายู่ยี่ที่อีกฝ่ายแกล้งทำ พลางเอื้อมมือไปคลายหัวคิ้วนั่นเบาๆ



"อยากให้ผมเข้าขนาดนั้นเลยหรอครับ" ผมถามพลางหมุนเส้นผัดไทป้อนอีกฝ่าย คนรักผมอ้าปากรับแล้วพยักหน้ารับแข็งขัน



"สุดๆ" ปากบางนั่นตอบทั้งๆที่เส้นเต็มปาก ผมหัวเราะขำทั้งๆที่ในใจเริ่มรู้สึกกังวล
 


ชิบหายแล้วไงละไอ้ทศ
 


ใบหน้าผมยังคงยิ้มหวานพลางป้อนให้คนตรงหน้าอีกคำ พี่ฟิวก็ช่างเป็นเด็กดีเคี้ยวนิ่งๆไม่มีการขัดขืนทั้งที่ตะเกียบก็คาอยู่ในมือตัวเอง แต่ก็ดีแล้วครับเขาจะได้ไม่ถามอะไรเยอะแยะ



ผมกรอกตาคิดเรื่องเข้าร่วมกิจกรรมอีกครั้ง มือก็ทำหน้าที่เลี้ยงเด็กตัวโตไปด้วย ถึงผมจะเปลี่ยนใจเพราะอีกฝ่ายแล้ว ยังไงผมก็ไม่มีสมุดอะไรนั่นอยู่ดี เอาไงดีละ



เหลือบมองตาใสคนตรงข้ามแล้วก็รู้เสียใจขึ้นมา ถ้าหากประกายสดใสนั่นเปลี่ยนเป็นผิดหวังแทน ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากให้คนตรงหน้ารู้สึกแบบนั้นกับผมเลยจริงๆ



"ทศอยากรู้เหตุผลไหม ที่พี่อยากให้เราเข้าร่วม" พี่ฟิวเอ่ยขึ้นทันทีที่ผมป้อนผัดไทเสร็จ ผมยิ้มรับกับเสียงแหบแห้งเพราะการว้ากของเขา ทั้งๆที่ในใจอยากจะถามอีกฝ่่ายว่า วกกลับมาเรื่องนี้อีกทำไม



"ยาวรึเปล่าละครับ ถ้ายาวพี่ฟิวไปอาบน้ำก่อนดีไหมแล้วค่อยนอนคุยกัน ดีไหมครับ?" คนรักผมชะงัก ปากบางนั่นอ้าเหมือนอยากจะพูดเต็มที่ ผมลุกขึ้นชะโงกจูบเบาๆที่หน้าผากอีกฝ่าย ก่อนที่จะทำท่าทางปิดจมูกหน้ายี๋



"ว้า เหม็นเหงื่อจัง น่ารักไม่ลงแล้ว"



"โธ่ ทศ!" คนรักผมเบะปากทั้งๆที่หูแดง ไม่รู้ว่าเขินที่ผมจุ๊บหรือที่ผมพูดกันแน่ คนตัวโตเด้งตัวลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวพลางใช้ตาใสนั่นคาดโทษ



"พี่ออกมาเดี๋ยวเจอกัน!"



"ว้า คนต่อคิวเยอะด้วยสิ" ผมทำหน้าเสียดาย พี่ฟิวทำปากขมุบขมิบเหมือนจะพูดว่าตัวแสบแล้วก้าวยาวๆเข้าห้องน้ำไป



พอเห็นทางสะดวก ผมก็รีบหยิบมือถือหารายชื่อในแอปพลิเคชั่นดังสีเขียวๆทันที กรอกตานึกถึงคนที่พอจะช่วยได้ก่อนที่ชื่อของคนๆนึงจะเข้ามาในหัว ผ่านไม่แค่นาทีกว่าอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา



ดีมากนนท์ สมแล้วที่ยกกาแฟให้แก้วนึง




ทศกัณฐ์ :: เราอยากล่าลายเซ็นแล้ว พอติดต่อใครได้บ้าง



N.: เดี่ยวลองถามให้



N.: ดีใจนะที่ทศคิดได้




นี่ไม่ได้แค้นกันใช่ไหม



ผมส่ายหน้าขำ ก่อนจะเดินไปหยิบน้ำมะนาวที่ผมแช่ตู้เย็นไว้มาอุ่นใส่แก้วรอคนที่อยู่ในห้องน้ำ ถ้าทุกคนถามว่าตอนเย็นที่ผมเลิกเรียนผมรีบกลับมาทำอะไร คำตอบก็คือ เจ้าน้ำมะนาวนี่แหละครับ



ผมหาข้อมูลมาเขาว่าจะช่วยรักษาเส้นเสียงคนรักผมได้ไม่รู้ว่าได้มากน้อยแค่ไหนแต่ลองดูก็ไม่เสียหายเท่าไหร่ พี่ฟิวของผมเป็นคนชอบสนใจแต่คนรอบข้างไม่ดูแลตัวเอง เมื่อวานซืนอีกฝ่ายตื่นมาคุยกับผมอยู่ดีๆเสียงก็หายไปเลย ผมนี่ตกใจจนแทบจะโทรให้หมอที่บ้านบุกมา แต่ก็นั่นแหละหน้าที่หัวหน้าว้ากมันค้ำคอ พี่ฟิวฝืนสังขารจะไปให้ได้ จนครั้งล่าสุดที่อีกฝ่ายไม่ได้เข้าเชียร์นั่นแหละครับ ครั้งนั้นเสียงหายไปจริงๆ หายชนิดที่แบบว่าหลงเหลือแต่ลมออกมา แต่ก็ดีครับคนรักผมจะได้พักบ้าง ถึงเขาจะยอมพักแค่วันเดียวแล้วใช้เสียงเหมือนกอลลัมไปว้ากน้องวันถัดไปก็เถอะ



คิดถึงตรงนี้ผมก็ขำ ไอ้ชัยกับนนท์บ่นให้ผมฟังใหญ่เลยว่าเฮดว้ากเสียงน่ากลัวขึ้น แค่กระแอมเสียงนนท์ก็ขนลุกซู่ไหล่หดแล้ว ผมนี่ไม่รู้ว่าจะสงสารคนรักดีหรือเพื่อนใหม่ดีเลย



"ทศทำไรอะ" กลิ่นหอมสบู่พร้อมกับแรงรัดที่เอวทำให้ผมออกจากความคิด เอ่อ.. จริงๆตกใจเพราะหนวดมันทิ่มอะครับ ไม่ใช่เพราะมีคนกอดหรอก



"ทำน้ำมะนาวให้รุ่นพี่อยู่ครับ เป็นรุ่นพี่ที่น่ากลัวมากๆด้วย" คงเพราะยังแอบรู้สึกผิดกับอีกฝ่ายอยู่ ตอนตอบผมถึงดัดเสียงเล็กเสียงน้อยตามคนกอด บอกตามตรงว่าโคตรไม่คุ้นคืออยู่ที่นู่นผมไม่เคยทำตัวมุ้งมิ้งกับใครเลยไง



"แล้วแฟนกลัวรึเปล่าครับ ให้พี่ตีให้ไหม" ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายถามแบบไหนหนวดถึงทิ่มคอผมจนจั๊กจี๋ไปหมด ผมขยับคอหนีนิดๆแต่อีกฝ่ายก็ยังคงไม่ยอมลดละ ยังใช้ลมหายใจร้อนๆกับหนวดเส้นยาวยุ่งกับคอผมไม่เลิกไม่ลา



โอย เดี๋ยวน้ำมะนาวหกกกกก



"พี่ฟิวหยุดเล่นก่อนนนนน" ผมห้ามเสียงอ่อน ไม่กล้าขึ้นเสียงใส่นั่นแหละ พี่ฟิวหัวเราะเบาๆข้างหูผมก่อนแรงรัดกับไออุ่นด้านหลังจะหายไป



น่ะ... พอเขาออกไปก็เสียดาย ไอ้ทศนะทศ



"หืม นี่ครั้นให้พี่อีกแล้วหรอ" ผมพยักหน้าแต่ก็ไม่วายทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบอีกฝ่าย
คนมีความรักมักดูเด็กลงไปจริงๆ



"ทำไมครับ เบื่อฝีมือทศแล้วหรอ" เสียงตอแหลมากทศ อยากจะกรอกตาด่าตัวเอง แต่พอเห็นพี่ฟิวดูยิ้มแย้มหน้าบานชื่นชอบแบบนี้แล้ว โอเค ทศยอมปัญญาอ่อนต่อไปก็ได้



"ใครว่าพี่เบื่อ บอกมาเดี่ยวพี่ไปเตะปากมันให้" ทศเองแหละครับ แฟนต้องใจเย็นๆนะ



"ฮ่า! หวานสดชื่นนนนน" ผมยิ้มกว้างตอบรับทันทีที่อีกฝ่ายยกดื่ม ความรู้สึกแม่ที่เห็นเรากินข้าวอร่อยเป็นแบบนี้นี่เอง แต่ครั้งนี้ผมแค่ครั้นน้ำมะนาวครั้งหน้าคงต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้



หมายถึงครั้นน้ำส้มนะครับ เอาจริงๆผมยังไม่กล้าลงครัวขนาดนั้น ยกหน้าที่ให้พี่ฟิวผมดีกว่า อีกฝ่ายทำอาหารเก่งกว่าผมเยอะ!



"น้ำมะนาวที่ไหนหวานละครับ เสียใจเลย" ผมทำปากยื่นที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดจะทำใส่ใคร ก่อนที่จะตกใจที่อยู่ๆอีกฝ่ายก็หันมาจุ๊บปากผมแรงๆทีนึง จนเสียงดังจ๊วบดังก้องห้อง



"หวานไหมละครับ" คนมีหนวดถามพร้อมรอยยิ้มกว้างประดับอยู่บนหน้า ดวงตาใสนั่นดูระยิบระยับไปหมด ผมกัดฟันรู้สึกหมั่นเขี้ยวอีกฝ่ายขึ้นมา แต่พอจะทำท่าเข้าหา พี่ฟิวก็หลบหนีไปห้องนอนแล้ว



จริงๆจะบอกว่าหนีก็ไม่ถูก เล่นนั่งรอบนเตียงเลย ไม่น่าเชื่อว่าคนตัวใหญ่มีหนวดเฟิมจะดูน่ารักได้ขนาดนี้



ผมเดินเข้าไปตรงกลางระหว่างขาที่อีกฝ่ายอ้าและล็อคผมทันทีที่เข้าไป ยืนมองคนข้างล่างที่นั่งเงยหน้ามองผมตาแป๋วแล้วรู้สึกหมั่นเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูก



ผมประคองหน้าคนข้างล่างก่อนที่จะประทับที่ปากบางนุ่มนั่นเบาๆ ไม่น่าเชื่อว่าหนวดพวกนี้จะไม่เป็นอุปสรรคเลย พี่ฟิวเม้มปากรับผมเบาๆพร้อมกับแรงกดหลังคอที่ทำให้ผมต้องก้มต่ำลงอีกอย่างช่วยไม่ได้ ลิ้นร้อนสัมผัสกลีบปากบางแผ่ว มันให้ความรู้สึกหวิวๆจนผมต้องเม้มปากใส่เจ้าลิ้นนั่นก่อนที่เราสองคนจะผละออกจากกัน



ขนาดไม่ได้แลกลิ้นเหมือนในหนังอีโรติก ผมยังตื่นเต้นขนาดนี้ ตายๆตายแน่ๆ



"ทศรักพี่จัง" ผมพึมพำออกมาเบาๆทั้งๆที่จมูกโด่งของอีกฝ่ายยังคลอเคลียแก้มผมอยู่ไม่ห่าง



"ลองไม่รักสิ จะร้องไห้ให้ดู" เสียงพี่ฟิวถึงจะแหบแต่ยังรับรู้ว่าอีกว่าใช้น้ำเสียงน่าสงสาร ผมหัวเราะแล้วผละออกมา



"อยากเห็นคนร้องไห้จัง"



"ตุเวงง่า อย่าแกล้งดิ" ใบหน้าที่เป็นญาติกับซานต้ายู่ยี่ แก้มที่ปกคลุมด้วยเส้นหนวดป่องออกมาก่อนที่คนรักของผมจะสะบัดหน้าแรงๆเหมือนน้อยใจนักน้อยใจหนา



เอิ่ม...



ผมควรจะมองว่าน่ารักดีไหม ควรบอกคนรักไหมว่ามันปัญญาอ่อ-- หมายถึงแบ๊ว แบ๊วเกินไป
คนนั่งบนเตียงพอเห็นผมเงียบก็เปลี่ยนเป็นช้อนตามองผมปริบๆ ทำปากยู่บิดตัวไปมาพลางครางเสียงเล็กในลำคอ



"อื้ออื่อ ไม่ยักเก๊าหยอ ตะมัยอะตุเวง"



โอเค ไม่บอกดีกว่า



แม่ง...



ตลก!!



ผมกลั้นขำในคอพยายามไม่ให้หลุดพรวดใส่หน้าคนข้างล่างแต่มันก็ยากลำบากซะเหลือเกิน ไหนฟิลลิ่งโรงแมนติกผมอยู่ไหนวะ อยู่ซอกไหนหาให้ผมที!



โอยยย ตลก ทรมาณณณณ



"จะขำก็ขำเถอะ ตาแดงละน่ะ ใช่ซี้ เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนนี๊" เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน โดนเฉพาะพี่อะ เปลี่ยนเยอะสุดเลย ผมปล่อยขำออกมาแบบอดไม่อยู่ก่อนที่พยายามจะกลืนมันลงคอเมื่อเห็นว่าคนหน้าเข้มเริ่มสลด



ขอโทษครับแฟน ผมมองพี่เป็นเด็กชายวัยใสแบบเมื่อก่อนไม่ได้จริงๆ ขออภัย



"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ ผมขำเพราะเอ็นดูไง พี่ฟิวของผมน่ารักจะตายเนอะ" น่ารักแบบหมีเท็ดดี้อะครับ ไม่ก็หมีล่าน้ำผึ้งในป่าใหญ่



เดี๋ยวทศ นี่แฟนมึงไง



"น่าเอ็นดูแล้วอยากดูเอ็นไหมอะ มีให้ดูนะตุเวงใหญ่ด้วย เท่านี่!" คนหน้าสลดเมื่อกี้ชูแขนให้ผมดู ใบหน้าหนวดเคล้ายิ้มกรุ่มกริ้มพร้อมกับด้วยตาที่ประกายแวววาว ดีนะที่เขาทำให้ผมดูคนเดียว ถ้าไปทำแบบนี้ข้างนอก เจอกันอีกทีอาจจะตอนประกันตัวที่โรงพักเลยก็ได้



อะ แต่เขาน่ารักนะครับ ถึงจะทำหน้าโรคจิตเขาก็น่ารักอยู่ดี



"นอนไหมครับแฟน" ผมจับแขนเขาให้ลงมา ก่อนที่จะผลักไหล่คนนั่งบนเตียงให้นอนลง "นอนเยอะๆจะได้โตไวๆเนอะ"



"โตมากกว่านี้ตุเวงจะรับไม่ไหวเอานา" พี่ฟิวก็ยังคงเป็นเด็กเสมอจนเสมอปลาย แฟนผมยังคงยิ้มกรุมกริ่มแม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะโดนผมคร่อมบนตัวก็ตาม



"ทศรับพี่ได้หมดแหละครับ"



"ชื่นใจจังครับแฟน"



"นอนเนอะ"



พี่ฟิวพยักหน้าทั้งๆที่หัวเราะเสียงแหบ ผมล้มตัวลงข้างๆคนบนเตียง ก่อนที่คนรักผมจะดึงผ้าห่มคลุมให้พร้อมกับสัมผัสอุ่นๆที่ประทับตรงหน้าผาก



"ฝันดีครับทศ รักทศนะ"



"ครับ" ผมขยับหัวตัวให้ซุกเข้าอกอีกฝ่ายเหมือนเด็กขาดความอบอุ่นทั้งๆที่ผ้าห่มก็อุ่นจนร้อนแล้ว "ทศก็รักพี่ครับ"



รักจนไม่อยากห่างกันอีกแล้ว

.

.

.
.

.

"อะนี่ทศ ข้อมูล" นนท์ยื่นกระดาษสีขาวใบเล็กๆ พร้อมกับภาพบางคนที่แคปส่งมาในแชท ในกระดาษเล็กๆเป็นเหมือนไอดีไลน์ ส่วนในแชทเหมือนจะเป็นรูปภาพ เฟสบุ๊ค กับชื่อนามสกุลและสาขา



ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพื่อนคนนี้อยากให้ผมเข้ากิจกรรมขนาดไหน



ผมพยักหน้าขอบคุณ ก่อนที่ร่างผอมตรงหน้าจะนั่งลงเก้าอี้หินอ่อนของคณะแบบไม่ต้องเชิญ



"แต่ได้ข่าวมานะว่า ไอ้ต่วยเนี่ยมันเป็นคนอคติ แบบถ้าไม่ชอบใครแล้วก็จะไม่ชอบอะ แต่ถ้าชอบใครนี่แม่งตาบอดไปหมดดดดด"



"และมึง ไอ้ทศมึงอยู่ไทป์แรกแน่นอน"ชัยกล่าวเสริม



"แบบไม่ชอบขี้หน้าอะ"



"แม่งเกลียดมึงเลยดีกว่า เอาตรงๆ"



ขอบใจนะชัย กูสบายใจขึ้นมากเลย



ผมยิ้มบางรับพวกเพื่อนสองคนด้วยหน้าเรียบเฉยทั้งๆที่ในหัวเริ่มตีกันไปหมด เอาไงดีวะ ใช้เงินฟาดหัวเลยได้ไหมง่ายดี



"แล้วคนอื่น?" ผมลองถามนนท์อีกครั้งเผื่อจะมีเคสง่ายๆบ้าง เพราะเอาจริงๆผมต้องการด่วนอยู่เหมือนกัน พวกแก๊งค์พี่ว้ากจะลงมาให้ลายเซ็นวันที่สาม ซึ่งถ้าตัดวันนี้ไปมันเหลือแค่อีกสองวันด้วยซ้ำ


จะให้คนรักผมเฟลไม่ได้ ไม่ได้!



"นี่แหละ เฮดแล้ว คือมันเป็นหัวหน้างานอะ สมุดเหลือก็อยู่ที่มัน เงินก็อยู่ที่มัน แบบ... เหรัญไม่ต้องทำอะไรเลยแค่นั่งเชิดๆอย่างเดียว"



เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วว่างั้นเถอะ



ผมกรอกตาใช้ความคิด ก่อนที่จะมองตรวจสอบหน้าฟีดเฟสของคนที่เป็นเฮดไปด้วย ถ้าผมเดาไม่ผิดเขาน่าจะ...



เยี่ยม อันนี้น่าจะใช้ได้



"ไม่เป็นไรนนท์ เราจะพยายามหาทางละกัน" ผมเอ่ยขึ้นแต่ดูเหมือนนนท์จะไม่มั่นใจ



"ไหวแน่นะทศ มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ"



"ถ้าไม่ได้ก็ดักตีแม่งเลยดิ ง่ายดี" ชัยมึงต้องไม่ก้าวร้าวสิ นนท์ก็ดูเห็นด้วยกับผม เด็กเรียนแว่นหนาทำสีหน้ารังเกียจชัยเหมือนเห็นเพื่อนข้างๆเป็นสปีชีย์ที่ไม่น่าพิศสมัย



ผมหัวเราะใส่ทั้งคู่พลางเก็บกระดาษที่เขียนไลน์ในลงกระเป๋า



“กูมีวิธีน่า... ว่าแต่ Aquaman  นี่เข้าโรงวันไหนนะ”



_______________________________________________________________________________________________________

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด