ตอนที่ 7 : เหมือนคนโปรด
ตะวันเปิดประตูเข้าไปในร้านหนังสือ มันเป็นเย็นวันศุกร์เหมือนเช่นเคย แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือโทรศัพท์สายสั้นๆ ที่ดังขึ้นในบ่ายวันนี้
เมธโทรมาถามเขาว่าจะแวะไปที่ร้านหนังสือหรือไม่ ถ้าไปจะไปถึงประมาณกี่โมง จะได้รอกลับบ้านพร้อมกัน ตะวันนัดแนะกับเมธเรียบร้อยจึงวางสาย เงยหน้าขึ้นเจอสายตากรุ้มกริ่มของคนโปรด และสายตาสงสัยใคร่รู้ของไทย
“มันต้องมีซัมติงรอง เชื่อกู” คนโปรดหันไปคุยกับไทย
“มึงไม่บอกกูก็เห็น”
“ฤทธิ์ของโชคชะตาสามครั้งกำลังบังเกิด ดลให้ดวงใจสองดวง...อ้าวตะวันจะไปไหน” คนโปรดหยุดเล่นใหญ่
“ไปหาอะไรที่มีสาระกว่านี้ให้ทำ”
“โหตะวัน ด่าได้เจ็บปวดนัก มึงมันไม่มีสาระ” คนโปรดหันไปบอกไทย
“อ้าวไอ้คนโปรด มึงนั่นแหละรับไปเต็มๆ”
“จะไปหรือเปล่าห้องสมุด” ตะวันต้องเป็นคนเบรกเหมือนเช่นเคย
“ไป” สองเสียงตอบรับพร้อมกัน คว้าหนังสือวิ่งตามมา ความจริงแล้วตะวันแค่ไม่อยากพูดถึง เพราะเป็นห่วงใจที่เริ่มหวั่นไหวของตัวเอง
“พี่ใจดี” เสียงเล็กๆ เรียกเขาก่อนที่ตะวันจะเดินไปถึงตัว เด็กน้อยแสดงออกชัดเจนว่าดีใจที่เจอเขา มันทำให้ตะวันยิ้มได้
“สวัสดีครับหนูดล สวัสดีครับคุณเมธ”
“พี่เมธ” คนตัวสูงแก้ให้ ตะวันยิ้มเขินที่เรียกผิด “ครับพี่เมธ ผมยังไม่ค่อยชิน มาถึงนานหรือยังครับ”
“เพิ่งถึงพี่อยากให้ไล่เลี่ยกับตะวัน จะได้มีเวลาเลือกหนังสือ”
“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวสักครู่”
“ตามสบาย พี่กำลังเลือกนิทานให้ดลอยู่คงใช้เวลาอีกสักพักเหมือนกัน”
“ครับ” ตะวันเดินแยกออกมา เขาไล่มือไปตามชั้นหนังสือ เพื่อดูว่ามีหนังสืออะไรมาใหม่บ้าง สมาธิของตะวันจดจ่อ เขาเหมือนถูกมนต์ของหนังสือสะกดทุกครั้งที่เข้ามา
“โอ๊ะ!” ตะวันอุทานเมื่อแผ่นหลังกระทบเข้ากับอะไรบางอย่าง มือหนาคว้าเข้าที่เอวของเขาเพื่อกันไม่ให้ล้ม ตะวันหันไปมองถึงเห็นว่าเป็นเมธ
“ขอโทษครับ ผมไม่ทันมอง”
“ไม่เป็นไร” เมธปล่อยมือจากเอวของเขา ความใกล้ชิดเมื่อครู่ทำให้หน้าของตะวันร้อนผ่าว
“พี่เมธเลือกหนังสือเสร็จแล้วเหรอครับ”
“เปล่า แต่คนนี้เขาอยากอยู่ใกล้ๆ พี่ใจดี” เมธชี้ไปยังลูกชายที่ยืนเกาะขา เด็กชายดลยิ้มเขินให้ตะวัน
“พี่เลือกหนังสือก็เอาแต่ชะเง้อคอมองหาตะวัน ชั้นบังนิดก็ชะโงกจนเกือบล้ม พี่เลยเอามาฝากตะวันเสียเลย สะดวกไหม”
“ได้สิครับ” ตะวันยื่นมือให้เด็กชายดล หนูน้อยเอื้อมมือมาจับ ค่อยๆ เดินห่างจากขาของพ่อ
หนูน้อยยืนนิ่งข้างตะวัน เขาคอยมองเด็กชายเรื่อยๆ แต่เพราะกำลังให้ความสนใจกับเนื้อหาของหนังสือ คิ้วของตะวันจึงเผลอขมวดเข้าหากัน ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มโดยไม่ตั้งใจ เมื่อเขาหันไปมองเด็กชายดลให้แน่ใจว่าหนูน้อยยังอยู่ เสียงเล็กๆ ก็พูดขึ้น
“ดลไม่ดื้อ พี่ใจดีอย่าโกรธดลนะ” หนูน้อยแหงนเงยมองหน้าของตะวัน สายตาอ้อนวอน
“พี่ตะวันรู้ครับว่าหนูดลของพี่ตะวันน่ารักที่สุด” ตะวันย่อตัวลงนั่งดึงเด็กชายเข้ามากอดแน่นๆ ก่อนลุกขึ้นยืน จับจูงมือเด็กชายตัวน้อยเดินตรงไปเมธ
“พี่เมธได้หนังสือนิทานให้หนูดลหรือยังครับ”
“พี่กำลังเลือก”
“งั้นเราปล่อยให้คุณพ่อเลือก พี่ตะวันจะพาหนูดลไปเลือกสมุดระบายสีดีไหมครับ ชอบหรือเปล่า”
“ชอบ” หนูดลพยักหน้า
“ชอบครับ” ตะวันพูดด้วยเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้ม เพื่อไม่ให้หนูน้อยคิดว่าตัวเองกำลังถูกดุ
“ชอบครับ” หนูน้อยพูดตามเขา
“เก่งมาครับ” ตะวันช้อนตัวหนูน้อยขึ้นอุ้ม หันไปหาเมธ “ผมพาไปร้านเครื่องเขียนข้างๆ นี้นะครับ จะซื้อสีกับสมุดระบายสีให้หนูดล ถ้าพี่เมธซื้อเสร็จแล้วก็ตามไป หรือถ้าผมซื้อเสร็จก่อนจะมาหา”
“ตกลง แต่เดี๋ยวพี่ฝากเงินตะวันไปด้วย” เมธทำท่าจะล้วงกระเป๋า
“ไม่เอาครับผมจะซื้อเป็นของขวัญให้หนูดล”
“ขอบคุณมาก งั้นเดี๋ยวพี่ตามไป”
“ครับ” ตะวันอุ้มเด็กชายดลออกจากร้าน เดินไปไม่ไกลก็ถึงร้านเครื่องเขียนที่เขาพูดถึง
ตะวันปล่อยให้เด็กชายดลเลือกสมุดระบายสีเอง หนูน้อยเดินดูไปเรื่อยๆ สีหน้าติดกังวล ตะวันจึงเดินตามใกล้ๆ เขานึกว่าหนูน้อยกลัวคนและกลัวสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
“หนูดล” ตะวันนั่งคุกเข่าลง เขากอดเด็กชายไว้มือหนึ่ง อีกมือยกขึ้นลูบศีรษะเล็ก
“ถ้าไม่ชอบบอกพี่ตะวันได้นะครับ เราทำอย่างอื่นกันก็ได้” ตะวันใช้วิธีเดาจากความน่าจะเป็น
“ชอบ ดลชอบ ระบายสี สนุก”
“ถ้าชอบ ทำไมพี่ตะวันไม่เห็นดลยิ้มเลยครับ หรือว่าไม่มีเล่มสวยถูกใจ ถ้ายังไม่ถูกใจเดี๋ยวเราไปหาซื้อที่ร้านอื่นก็ได้นะครับ” หนูน้อยสั่นหน้าแรงๆ ตาเหมือนมีหยดน้ำคลอ
“ดลเลือกไม่ได้” ตาของหนูน้อยดูเศร้ามาก ตะวันรีบดึงเด็กชายเข้ามากอด โยกตัวไปมา
“ไม่เป็นไรครับ เลือกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” เขาไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เด็กชายกลัว แค่เลือกหนังสือไม่ได้ ปฏิกิริยาทำไมมากมายถึงเพียงนี้
“เกิดอะไรขึ้น” ตะวันเงยหน้าขึ้นมอง ถึงเห็นมาเมธมาถึงแล้ว ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง รับลูกชายไปกอดไว้ เด็กชายกอดคอพ่อแน่น ตะวันเล่าให้เมธฟังคร่าวๆ พยายามพูดให้กระทบใจเด็กชายน้อยที่สุด
“เพราะพี่เอง” เมธพูดเสียงเศร้า ดวงตาฉายแววเจ็บปวด
“ครับ?” ตะวันไม่เข้าใจ เมธรักลูกมาก ไม่มีทางทำให้หนูน้อยเสียใจ
เมธมองลูกชายที่ซบหน้าอยู่บนบ่า สะอื้นน้อยๆ เขาคิดหนัก เพราะคิดเอาไว้ว่าเมื่อเลิกกับภรรยาไปแล้ว ก็ไม่อยากพูดให้อีกฝ่ายเสียหาย แต่ถ้าเขาต้องการให้ลูกชายเติบโตและเข้มแข็ง ตะวันอาจจะช่วยเขาได้
“ตะวันถ้าพี่เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษขัดข้องไหม”
“ได้ครับ”
เมธถอนใจออกมายาว ก่อนตัดสินใจเล่า แรกที่เด็กชายดลมาอยู่ด้วย อิมยังเอาใจใส่ พยายามสอนเด็กชายให้เป็นอย่างที่ต้องการ แต่หนูน้อยมีบาดแผลมาจากที่ๆ เคยอยู่ ทำให้ไม่มีความมั่นใจ เด็กชายดลมักอึกอักไม่กล้าตอบ เอาแต่ก้มหน้า ไม่พูด ตัดสินใจเองไม่ได้ กลัวคนแปลกหน้า จนอิมรำคาญ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็เริ่มดุ เริ่มเสียงดัง ถ้าเมธอยู่เขาจะห้ามทันที และมีปากเสียงกันเรื่องวิธีเลี้ยงลูกทุกครั้ง แต่เพราะพวกเขาต่างเป็นพ่อและแม่ มีบางครั้งที่อิมพาลูกออกมาเพียงลำพัง เมธสังเกตว่าหลังๆ หนูน้อยไม่ร่าเริง ทุกครั้งที่กลับมาจะตัวสั่นเสมอ เมธได้เห็นกับตาว่าอิมตีเด็กน้อยเพราะทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ แม้จะตีไม่แรงนัก เหมือนพ่อแม่ตีลูกทั่วไป แต่ก็ทำให้เด็กชายกลัวจนลนลาน หลังจากวันนั้นเขาไม่เคยปล่อยให้ลูกชายไปไหนกับภรรยาตามลำพังอีกเลย โชคดีว่าอิมเองก็รำคาญเด็กชายดลมากจนไม่อยากเข้าใกล้อีก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สร้างแผลให้ลูกชายโดยที่เขาไม่รู้ตัว ถ้าเขาระวังมากกว่านี้สักนิดเหตุการณ์อย่างวันนี้คงไม่เกิดขึ้น
ตะวันพูดไม่ออก ได้แต่มองหนูน้อยในอ้อมแขนของเมธ เขาสงสารเด็กชาย พอๆ กับที่หัวใจของเขาสงสารและเห็นใจผู้ชายตรงหน้า คนที่อยู่ตรงกลางจะเจ็บปวดแค่ไหน
“หนูดลครับ” ตะวันกลับมาพูดภาษาไทย
“หนูดลชอบสมุดระบายสีใช่ไหมครับ”
“ครับ” เด็กชายดลยอมตอบแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นเรามาช่วยกันเลือกดีไหมเอ่ย ช่วยกันสามคน คุณพ่อ หนูดลกับพี่ตะวัน”
หนูน้อยไม่ยอมตอบ สายตากล้าๆ กลัวๆ ตะวันยิ้มอ่อนโยน เขาไม่เร่งเร้าเด็กชาย ตะวันหันไปมองเมธ
“พี่เมธอุ้มหนูดลมาดูหนังสือกันดีกว่าครับ เรามาช่วยกันเลือก”
“อืม เอาสิ” เมธเดินไปหยุดเคียงข้างตะวัน พวกเขาเดินช้าๆ เริ่มต้นเด็กชายเอาแต่ซุกอกพ่อไม่ยอมมอง เหมือนเกิดความกลัวไปแล้ว แต่เมื่อตะวันชี้ชวนให้ดูเล่มโน้นเล่มนี้ไปเรื่อยๆ ถามความคิดเห็นเมธบ้างก็เล่มไหนดี หนูน้อยก็ยอมมอง
ตะวันปล่อยให้หนูดลใช้เวลาอย่างเต็มที่ เล่มไหนที่เด็กชายแอบเมียงมอง ตะวันก็จะหยิบมาเปิดข้างในให้ดู หนูน้อยจะได้รู้ว่าชอบไหม สุดท้ายเด็กชายดลเลือกสมุดระบายสีได้สองเล่ม
ตะวันรับหนังสือมาจากเด็กชาย เขาหยิบอีกเล่มหนึ่งขึ้นมา ชูให้หนูน้อยดูหน้าปก
“สองเล่มนี้ของหนูดล แต่พี่ตะวันชอบเล่มนี้”
“เอาเล่มนี้” หนูน้อยรีบบอกน้ำเสียงกลัวๆ คล้ายกับตัวเองตัดสินใจผิดไปอีกแล้ว
“ไม่ใช่ครับ สองเล่มนี้ของหนูดล พี่ตะวันจะซื้อไปให้หนูดลระบายสี ส่วนพี่ตะวันชอบเล่มนี้พี่ตะวันก็จะซื้อไปเล่นกับหนูดลด้วย แล้วเราก็จะถามคุณพ่อว่าคุณพ่อชอบเล่มไหนจะได้เอาไปเล่นด้วยกัน หนูดลถามคุณพ่อสิครับ”
เด็กชายดลเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อ “พ่อชอบเล่มไหน”
“คุณเมธชอบเล่มไหนครับ” ตะวันพูดบ้าง แต่เติมคำว่าครับเข้าไป
หนูดลเป็นเด็กฉลาดจึงรีบพูดใหม่ตามเขาทันที “พ่อชอบเล่มไหนครับ”
เมธกวาดตาผ่านๆ เขาหยิบเล่มหนึ่งขึ้นมา “พ่อชอบเล่มนี้ครับ”
“พี่ใจดี พ่อชอบเล่มนี้” เด็กชายดลส่งหนังสือให้กับตะวัน
“ดลลองถามพี่ตะวันบ้างสิครับ ว่าพรุ่งนี้พี่ตะวันว่างมาระบายสีกับเราหรือเปล่าพ่อจะได้ไปรับ” ตะวันมองใบหน้าของเมธ ชายหนุ่มยังมีรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนที่เคย มันทำให้เขาไม่กล้าเข้าข้างตัวเอง เมธคงชวนเขาไปเป็นเพื่อนหนูดลเหมือนที่เคยคุยกันไว้
“พี่ใจดีพรุ่งนี้มาเล่นกับดลนะ” หนูน้อยพูดสั้นๆ เพราะจำที่พ่อพูดไม่ได้ “โอ๊ะ!” หนูน้อยยกมือปิดปาก ทำตาโต “พี่ใจดีพรุ่งนี้มาเล่นกับดลนะครับ” ตะวันยิ้มกว้าง หนูดลเป็นเด็กฉลาด ถ้าให้เวลาแกมากพอ ใจดีกับแกมากพอ เขาไม่เชื่อว่าหนูดลจะทำไม่ได้
“ตกลงครับ”
“พ่อ พี่ใจดีมา” ดวงตาของหนูน้อยสว่างขึ้นมาก มันทำให้ตะวันเบาใจขึ้น
“พ่อได้ยินแล้วครับ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราไปรับพี่ตะวันสักเก้าโมงเช้าดีไหม มาช่วยกันระบายสีที่บ้าน เดี๋ยวตอนเที่ยงพ่อพาออกไปกินไอศกรีม แล้วเราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะกัน คนเยอะก็ไม่เป็นไร เพราะดลมีพ่อกับพี่ตะวันไปด้วย” ตะวันตาโตมองหน้าคนพูด ไม่เห็นปรึกษาเขาสักคำเลย
“ดีครับ” หนูน้อยรีบพยักหน้า
“ไปด้วยกันนะตะวัน” เสียงทุ้มและสายตาของเมธ ละลายหัวใจของตะวันได้พอๆ กับลูกชาย เขาได้แต่พยักหน้าน้อยๆ
“ครับ”
“งั้นเราไปจ่ายเงินกันก่อน” เมธอุ้มลูกชายเดินนำไปที่หน้าเคาน์เตอร์ ตะวันวางสมุดภาพและกล่องสีให้พนักงานขึ้นเงิน เขาเป็นคนรับถุงมาถือ สุดท้ายเมธก็เป็นคนจ่ายเงินจนได้
ตะวันช่วยเปิดประตูร้านให้เมธอุ้มลูกชายเดินผ่าน ชายหนุ่มวางลูกชายลงที่พื้นหน้าร้าน กระซิบบางอย่างที่ข้างหูเด็กชายดล ตะวันไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน เมธลุกขึ้นยืน จับมือข้างหนึ่งของหนูน้อยไว้
“พี่ใจดี” ตะวันหันไปมองตามเสียงเรียกเล็กๆ เด็กชายดลเงยหน้าขึ้นยิ้มอายๆ ก่อนส่งมืออีกข้างให้กับเขา มือน้อยยื่นมาตรงหน้า ตะวันจับมือเล็กที่รออยู่กระชับ หนูน้อยเงยหน้าขึ้นมองสลับซ้ายขวา รอยยิ้มสดใสที่หายไปกลับมาอีกครั้ง
“กลับบ้านกันเถอะ” เสียงทุ้มนุ่มหู ตะวันรีบเบือนสายตาหนี เขาแพ้รอยยิ้มอ่อนโยนของเมธ มันทำให้ใจของเขาสั่น
ใจหนอใจ นี่เขากำลังจะเหมือนคนโปรดแล้วใช่ไหม แอบชอบเพศเดียวกัน ตะวันถอนใจออกมาเบาๆ มีอย่างเดียวที่เขากับคนโปรดแตกต่างกัน นั่นคือเขาไม่ใช่คนโปรด ตะวันได้แต่นับถือใจของเพื่อน เอาความกล้ามาจากไหนหนอคนโปรด ช่วยบอกเราที
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin