เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama+Incest] update 22/3/18 ตราบาป ENDING จบจริงๆละ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama+Incest] update 22/3/18 ตราบาป ENDING จบจริงๆละ  (อ่าน 42284 ครั้ง)

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2018 13:16:44 โดย ichiichi »

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #1 เมื่อ04-02-2018 23:10:33 »

ลองเอามาลงในนี้ดูสักหน่อย เรื่องก่อนๆ หน้านี้ดันลืมไปละว่าไปไว้ในไหน...

เพิ่งเคยแต่งแนวนี้นะฮะ ฝากด้วย

++++++++

ผมเคยคิดที่จะตาย

ความรู้สึกเสียวปลาบตอนที่ปลายเท้ายื่นออกไปจากดาดฟ้าแม้แค่เพียงเซนเดียว ผมยังจำมันได้ดี

ตอนนั้น ผมก้มมองปลายเท้าตัวเองและเลยไปยังพื้นเบื้องล่าง

สายลมเย็นพัดวูบ

ร่างกายเหมือนเซเล็กน้อยเพราะแรงลม

บนดาดฟ้าของตึก 16 ชั้น

ถ้าตอนนั้น

ผมกระโดดลงไป

ไม่ว่ายังไง...ก็ตาย

******

เพราะมันคือตราบาป

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันร้าย ฝันเดิมๆ ที่ตามหลอกหลอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

มัน...ผู้ชายคนนั้น

ผมเอามือลูบท้องตัวเองที่โตขึ้นทุกทีอย่างแผ่วเบา บางอย่างเต้นตุ้บๆ อยู่ในนั้น ความรู้สึกพะอืดพะอมตีขึ้นมาจนถึงลำคอ และผมก็ต้องรีบพุ่งตัวลงจากเตียง เพื่อเข้าไปอ้วกในห้องน้ำจนหมดไส้หมดพุง

มันคือ...ก้อนเนื้อเล็กๆ ที่ผู้ชายคนนั้นทิ้งไว้ในตัวผม

น่าขยะแขยง น่ารังเกียจ

ไอ้ปิศาจชั่วนั่น

เสียงของมันกระซิบอยู่ข้างหู ยังคงก้องอยู่ในหัว

“พี่จะรอวันที่ลูกของเราคลอดออกมานะ กฤตติณณ์”

******

ย้อนไปเมื่อ 7 ปีก่อน

ผมเพิ่งขึ้นชั้นมัธยมปลาย แต่ก็มีเหตุให้ต้องย้ายโรงเรียนกะทันหัน เพราะเรื่องงานของพ่อ ผมไม่รู้จะแนะนำตัวเองว่ายังไงดีเหมือนกัน แต่ผมจำได้ว่าตอนนั้น ผมเป็นคนที่ร่าเริง มนุษย์สัมพันธ์ดี การย้ายโรงเรียนกลางเทอมจึงไม่มีผลกับชีวิตผมเท่าใดนัก

ผมเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนใหม่ได้ดีในเวลาอันสั้น เข้าชมรมศิลปะที่ชอบ ได้พบกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่ชมรม เธอชื่อว่า ไอซ์ เราสนิทกันเพราะมีรสนิยมคล้ายกันหลายอย่าง และคงไม่ต้องบอกว่า ความรักของเราเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร

พวกเราคบกันก่อนปิดเทอม และพอเปิดเทอมสอง ความสัมพันธ์ก็ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ครั้งแรกของผมกับเธอ ทั้งจูบและเซ็กส์ เกิดขึ้นในห้องชมรม ในช่วงเย็นที่ทุกคนกลับไปหมดแล้ว ท้องฟ้าเริ่มมืด และบรรยากาศก็เป็นใจ ผมทำทุกอย่างด้วยความอ่อนโยน ผมรักเธอ รักไอซ์ รักมากกว่าสิ่งใด ผมคิดอย่างนั้น และทุกวันนี้ก็ยังคงคิดแบบนั้นอยู่

ตอนนั้นพวกเรารักกันมากจริงๆ และไม่คิดว่าจะมีสิ่งใดมาพรากเราจากกันได้

แต่แล้วก็เกิดเรื่องที่ทำให้ผมกับเธอต้องจากกันตลอดกาล

ผมต้องออกจากโรงเรียนกลางครัน ถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน ต้องหางานทำด้วยวุฒิม.3 แม้ว่าแม่จะพยายามแอบช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่มีทางกลับไปที่บ้านหลังนั้นได้อีก ผมมีข้าวของติดตัวมาไม่มาก เช่าห้องเก่าๆ โทรมๆ ในย่านชุมชนแห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยนักเป็นที่ซุกหัวนอน ต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อประทังชีวิตด้วยเงินวันละไม่กี่ร้อยบาท จากงานรับจ้างตามร้านค้าแถวนั้น ทั้งล้างจาน เสิร์ฟอาหาร ทำความสะอาด ยังดีที่ผมพอมีฝีมือในด้านการวาดรูป เลยหารายได้เพิ่มจากการวาดรูปขายในช่วงกลางคืนที่ตลาดนัด ได้เงินบ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พออยู่ได้

แต่เรื่องเฮงซวยในชีวิตผมมันไม่ได้จบแค่นั้น

ไอซ์มีพี่ชายสองคน และพี่ชายคนโตของเธอก็เป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ แถมยังเล่นการเมืองมีทั้งเงินและอิทธิพล เขาอายุแค่ 34 ปีเท่านั้นเอง แต่เก่งกาจจนหาตัวจับยาก เห็นหน้าค่าตาบ่อยๆ ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารไฮโซ รวมทั้งในทีวีด้วย

แต่เรื่องพวกนั้นช่างหัวมันเถอะ

เพราะมัน...คือไอ้สารเลวชาติชั่ว

เป็นคนระยำที่ผมจะไม่มีวันให้อภัย!!!

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #2 เมื่อ04-02-2018 23:12:01 »

พอดีว่าเอาลงเวบอื่นไว้ เลยมาลงในนี้รัวๆ รวดเดียวเลยแล้วกัน

++++++

“ไอ้ติณ!” นพดล เพื่อนร่วมหอพักเปิดประตูพรวดเข้ามา พอเห็นกฤตติณณ์นั่งทรุดอยู่กับพื้นห้องน้ำก็ร้องเสียงดังด้วยความตกอกตกใจ เขาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 4 เรียนอยู่มหาลัยรัฐใกล้ๆ แถวนี้ บ้านอยู่ต่างจังหวัด เลยต้องอยู่หอพัก นพทำงานที่ร้านอาหารเดียวกันกับติณ และต่างช่วยเหลือกันมาตลอดตั้งแต่นพเรียนปี 1 และนพก็รู้เรื่องที่ติณ...ท้อง
นพทิ้งถุงกับข้าวลงบนพื้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปพยุงติณขึ้น สีหน้าร้อนรน
“ให้กูพาไปหาหมอมั้ย” นพมองเขาด้วยสีหน้าสับสน เขารู้ว่ามันยากจะยอมรับ แม้ท้องของเขาจะโตขึ้นทุกเดือนและผลการตรวจที่นพเองก็เป็นคนพาไปเช็คอยู่ตลอด จะเป็นสิ่งยืนยันว่าผู้ชายอย่างเขากำลังท้อง แต่ยังไงก็ประหลาดอยู่ดี

แม้กระนั้น นพก็ยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

และเขาไม่ได้ผิดปกติ เขาเคยเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง
แต่เพราะมัน! เพราะไอ้สารเลวนั่น!! เขาถึงต้องมีร่างกายแบบนี้...

 “ไม่เป็นไร กูแค่อ้วกจนหน้ามืด” ตั้งแต่รู้ตัวว่าร่างกายนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ติณก็อ้วกแทบทุกวันอยู่แล้ว ยิ่งไอ้ตัวที่อยู่ในท้องเขาโตขึ้นเท่าไหร่ ติณยิ่งขยะแขยงและอยากอ้วกเอามันออกมาเท่านั้น
“กินข้าวไหวมั้ยวะ กูซื้อของโปรดมึงมาทั้งนั้นเลยนะ” นพพาติณไปนั่งลงบนเตียง ก่อนจะหยิบถุงอาหารมาเทใส่ชามให้ กลิ่นแกงและผัดผักหอมฟุ้ง
“มึงเอาเงินมาจากไหน นี่ยังกลางเดือนอยู่เลย” ติณเกิดความสงสัย เพราะนพก็ไม่ได้มีเงินมากมาย นพเป็นแค่ลูกชาวนาจนๆ ที่สอบติดในกรุงเทพฯ และขอทุนเรียน ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จิปาถะก็ต้องหางานพิเศษทำเอา แต่วันนี้ ทั้งที่เงินเดือนยังไม่ออก นพกลับมีอาหารหน้าตาดีมาถึงสองอย่าง ปกติพวกเขากินกับข้าวแค่อย่างเดียวทั้งสามมื้อ หรือไม่ก็แค่โจ๊ก 20 บาทตอนเช้าเท่านั้น
“กู...ได้งานเพิ่มน่ะ เขาให้รายวัน” เขาตอบโดยไม่สบตา แปลกมาก
“มึงไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายใช่มั้ยวะ” แม้จะยากจนข้นแค้นแค่ไหน เรื่องที่ติณจะไม่มีวันทำก็คือเรื่องที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะค้ายาหรือขายตัว เพราะผู้ชายสมัยนี้ก็ขายตัวได้ มีทั้งป้าๆ ตัณหากลับและพวกเกย์เปลี่ยวๆ มากมายรอซื้อในราคาดี ยิ่งถ้าพวกที่หน้าตาดีหน่อย ก็ได้ราคาดีและลูกค้าเพียบ
“เออน่า ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน แต่ก็เปลืองตัวนิดหน่อยว่ะ ฮ่าๆ” นพหลุดปากออกมา เขารีบเอามือปิดปากตัวเองทันที ติณจ้องมองอย่างคาดคั้น
“มึงไปทำอะไรที่ไหนกันแน่”
“อย่าเซ้าซี้เลยว่ะ ติณ กินๆ เหอะ ลูกมึงหิวแย่แล้ว” นพเลี่ยงพลางยื่นชามข้าวมาให้ติณถือ และหยิบชามของตัวเองมากินบ้าง

กินข้าวเสร็จ ติณยังคงพยายามคุยกับนพอีกครั้ง เพราะเขาไม่อยากให้นพทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายหรือต้องแลกกับศักดิ์ศรีเพื่อตัวเอง พวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น
“นพ มึงไม่ต้องลำบากเพื่อกูกับไอ้เด็กเวรนี่นักก็ได้” ติณว่าพลางทุบมือที่ท้องตัวเอง นพรีบปรี่เข้ามาคว้าแขนเขา
“เดี๋ยวก็แท้งกันพอดี ไอ้ห่า!” นพดุติณเสียงดัง ก้มลงแนบหูฟังเสียงเด็กที่อยู่ในท้อง ราวกับเป็นพ่อเสียเอง “อีกไม่นานก็คลอดแล้ว มึงช่วยทนหน่อยได้มั้ย ยังไงมันก็ลูกมึงนะ”
“มันไม่ใช่ลูกกู!” ติณโวยวาย นพต้องยื้อข้อมือเขาไว้ทั้งสองข้าง เพราะเขาทำท่าว่าจะทุบท้องตัวเองอีก
“ใจเย็นๆ สิวะ! จะยังไงมันก็อยู่ในท้องมึงแล้ว และมึงอุ้มท้องมันมาตั้งหลายเดือนแล้วนะ” คำพูดของนพทำให้ติณอ่อนลง นพจึงยอมปล่อยมือและลูบที่ท้องของเขาเบาๆ
“เด็กมันไม่รู้เรื่องด้วยนะมึง อย่าทำร้ายมันเลย” นพยิ้มบางๆ ให้เด็กในท้อง แต่ติณกลับรู้สึก...เจ็บใจ
“ฮึก” ติณเริ่มสะอื้นไห้ รู้สึกไม่ชอบเวลาที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้เลย นพดึงตัวเขาเข้าไปกอดไว้ ลูบหัวปลอบโยน แต่ยิ่งทำให้ติณกลั้นน้ำตาไม่ไหว และร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนทุกครั้ง

ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องไอ้เด็กบ้านี่กับพ่อของมัน!

“กูไม่ได้ลำบากมากมายอะไรหรอก แค่งานกลางคืนที่ต้องโดนพวกอาเสี่ยกับบรรดาป้าๆ แตะเนื้อต้องตัวนิดหน่อย แต่ก็ได้ทิปเยอะนะมึง บางคืนได้มาสองสามพัน” นพเล่าด้วยดวงตาเป็นประกาย ถึงอย่างนั้นก็เป็นงานที่เสี่ยงจะเสียตัวอยู่ดี
“ระวังๆ หน่อยแล้วกัน อย่าให้ใครมอมเหล้าเอาไปขายได้ล่ะ ครั้งแรกมีกับคนที่รักดีกว่า” ติณสั่งสอนในฐานะรุ่นพี่ ทั้งที่ก็อายุห่างกันแค่ปีเดียว แต่อย่างน้อยเขาก็มีประสบกามมาก่อนล่ะนะ เพราะนพยังโสดสนิท แถมเวอร์จิ้นด้วย
“กูก็รอมีครั้งแรกกับมึงนี่ไง หลังลูกคลอดนะ เมียจ๋า” นพโผเข้ากอดเอวเขาแถมยังเอาหน้ามาถูบนอก ทำเหมือนผัวอ้อนเมียจริงๆ ติณเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“สัส กวนตีนนะมึง รีบๆ ไปเรียนได้แล้ว” ติณผลักนพออก นพหัวเราะคิกแล้วหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ ติณรู้สึกว่าหมู่นี้นพชักจะได้ใจใหญ่แล้ว พอเห็นว่าไม่ว่าอะไร ก็ชอบกอดชอบหอมอยู่เรื่อย
“กูแม่ง รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นพ่อคนเลยว่ะ ทำงานหาเลี้ยงเมียกับลูก ภูมิใจสุดๆ อ่ะ” ยัง ยังไม่เลิกเล่นมุกทุเรศๆ ติณคิดพลางยกเท้าจะถีบด้วยความหมั่นไส้ นพเลยรีบลุกหนี ทำให้ติณเสียหลักเล็กน้อย และ...
“โอ๊ยยย เจ็บบบบ” จู่ๆ ติณก็ปวดท้องขึ้นมา ปวดมากด้วย เด็กในท้องของเขาดิ้นแรงกว่าทุกทีจนเจ็บระบมไปหมด ติณร้องโอดครวญเสียงดัง นพหน้าตาตื่นเข้ามาประคองให้นั่งเอนหลังพิงหัวเตียงไว้
“เฮ้ยๆๆๆ ทำไงดีๆๆๆ มือถือๆๆ” นพวิ่งไปมาเหมือนหนูติดจั่น ติณหรี่ตามองเขา ความเจ็บแล่นริ้วไปทั่วทั้งร่าง ภาพสุดท้ายที่เห็นและเสียงที่ได้ยินคือตอนที่นพกดมือถือโทรหาคนคนนั้น...

******

ติณตื่นขึ้นมาอีกครั้งในโรงพยาบาล เขาสวมชุดผู้ป่วยสีชมพูเรียบร้อยแล้ว ที่แขนมีสายน้ำเกลือระโยงรยางค์ รู้สึกไม่สบายตัวและยังหนักที่ท้องเหมือนเดิม
สายตากวาดมองรอบห้องและพบว่าอยู่ในห้องผู้ป่วยพิเศษ เตียงเดี่ยว มีทั้งทีวี ตู้เย็น ห้องน้ำส่วนตัวและห้องครัว นพนั่งกอดอกนอนหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟา

“น...พ...นพ...” ติณพยายามส่งเสียงเรียกคนที่นอนหลับสนิททั้งที่อยู่ในท่านั่ง มือขาวซีดเอื้อมคว้าอะไรบางอย่างในอากาศ เหมือนว่าจะไปถึงตัวของนพได้
“นพ...”
ในที่สุดนพก็รู้สึกตัวตื่น เขาลืมตาขึ้นอย่างสลึมสลือ พอเห็นมือขาวๆ ที่ยื่นออกมาหา ก็รีบตาลีตาเหลือกลุกขึ้นมาจับไว้
“ตื่นแล้วเหรอ!? รู้สึกยังไงมั่ง ยังเจ็บท้องอยู่มั้ย”
“ไม่แล้ว...” ติณตอบเสียงระโหยโรยแรง “กูเป็นอะไรไป?”
“อ๋อ หมอบอกว่ามึงเจ็บท้องหลอก อะไรเนี่ยแหละ เป็นอาการปกติของคนใกล้คลอด นี่ก็ 7-8 เดือนแล้วนี่” นพตอบพลางช่วยประคองร่างโปร่งที่มีท้องโตกว่าคนปกติให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงที่ปรับยกขึ้นมาแล้ว
“เหรอ” ติณสีหน้าสลดลง ความเป็นจริงที่ยังคงรับไม่ได้จนทุกวันนี้ยังคงตามตอกย้ำ

เขากำลังท้องอยู่จริงๆ

“หมอบอกว่ามึงอาจจะเครียดมากไปด้วย ช่วงนี้ต้องมาตรวจบ่อยๆ อ๊ะ ไม่ต้องห่วงนะ กูมีเงินดูแลมึงกับลูกแน่นอน” นพยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี แต่ติณกลับขมวดคิ้ว
“แล้วมึงเอาเงินมาจากไหน ห้องพิเศษนี่ก็ไม่ใช่ถูกๆ! มึงไปทำอะไรมาอีก!” ติณคาดคั้น รู้สึกใจคอไม่ดีแปลกๆ นพไม่ยอมตอบ ไม่ยอมสบตา แถมยังทำท่าทางเลิกลั่กแบบนั้นอีก แต่ยังไม่ทันคุยกันรู้เรื่อง ประตูห้องก็เปิดออก


ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #3 เมื่อ04-02-2018 23:14:55 »

เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งที่เดินเข้ามา เขาสวมสูทสีเข้ม ผูกเนคไทผ้าไหมอย่างดีมีคลิปติดไว้กับเสื้อเชิ้ตตัวในดูเรียบร้อย กางเกงจับจีบเรียบกริบและรองเท้าหนังสีดำขัดมันขึ้นเงาอย่างดี ทั้งตัวล้วนแต่เป็นของราคาแพงยับระดับที่ชาตินี้คนอย่างติณและนพไม่มีวันได้สัมผัส

ชายคนนั้น...คนที่ติณเกลียดเข้ากระดูกดำ เดินมาหยุดตรงหน้าพวกเขาและยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร
“ไง ติณ ดีขึ้นมั้ย” ถามไปตามมารยาทอย่างนั้นเอง ดวงตาคมกริบจ้องสบตาคู่สวยที่มีแววเกรี้ยวกราดอย่างท้าทาย
“มึง! ไอ้เหี้ย! ออกไปให้พ้นหน้ากู!” ติณโวยวายปัดแขนขาใส่ชายหนุ่มร่างสูง ซึ่งเขาก็แค่เอี้ยวตัวหลบเล็กน้อย นพรีบเข้ามาห้าม
“อย่า! ติณ เดี๋ยวก็เจ็บท้องอีกหรอก!” นพคว้าแขนของติณไว้แล้วดึงเข้าหาตัว โอบร่างที่บอบช้ำทั้งกายและใจนั้นเข้าสู่อ้อมอก ชายร่างสูงที่ยืนดูอยู่ย่นหัวคิ้วอย่างไม่สมอารมณ์นัก ก่อนจะคว้าไหล่ของนพแล้วผลักออก
“อยากชกอีกกี่หมัดล่ะถึงจะพอใจ เอาสิ ถ้ามีแรงลุกมาน่ะนะ” คนชอบท้าก็ยังคงกวนโมโหไม่เลิกด้วยการยื่นหน้าไปหาใกล้ๆ นพตั้งท่าจะเข้ามาห้ามอีก แต่ติณไวกว่า ปล่อยหมัดเข้าที่หน้าหล่อๆ นั่นอย่างจัง
“หึ” คนโดนต่อยแค่นหัวเราะ ยืดตัวตรงตามเดิม “แรงมีแค่นี้เองเหรอ น้องติณ”
“ไอ้ชาติชั่ว ไอ้สัตว์หมา ไปตายซะ!!!” ติณยังคงโวยวายก่นด่าไม่เลิกรา นพยืนหน้าซีด ไม่รู้จะห้ามยังไงดีแล้ว ส่วนคนถูกด่าก็ยังยิ้มกวนประสาท
“ไม่ต้องไล่ พี่แค่มาเยี่ยม “เมีย” กับ “ลูก” เดี๋ยวก็ต้องไปทำงานต่อแล้วล่ะครับคนดี” น้ำเสียงนั้นราวกับประชดประชันแดกดันกัน ชายหนุ่มร่างสูงขยับเนคไทตัวเองเข้าที่แล้วหันไปหานพ
“มีอะไรก็โทรหาไม่ต้องเกรงใจ ฝากดูแลเมียกับลูก “ของพี่” ด้วยนะ นพ หึหึ” แล้วก็เดินออกจากห้องนั้นไปพร้อมเสียงหัวเราะสะใจ ทิ้งให้ติณกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนบนข้อมือ หน้าตาบิดเบี้ยวเหยเกด้วยโทสะ ส่วนนพได้แต่ถอนหายใจ

หลังจากชายคนนั้นออกไปจากห้องแล้ว ติณก็กระชากสายน้ำเกลือออก ลุกพรวดลงจากเตียงโดยที่นพไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้ยๆๆ มึงจะไปไหน ทำไรวะเนี่ย ไอ้ติณ!” นพปรี่เข้าไปรั้งแขนของติณไว้
“กูจะกลับแล้ว! มึงเอาเงินคืนมันไปด้วย!” ติณตวาดลั่น เดิมดุ่มๆ ไปเปิดประตู
“จะบ้าเรอะ! หมอบอกว่ามึงต้องนอนอีกสองสามคืนนะ! ต้องให้น้ำเกลือด้วย! เดี๋ยวก็ได้แย่ทั้งแม่ เอ๊ย พ่อ เออ ช่างเหอะ ทั้งมึงทั้งลูกหรอก” นพเกิดสับสนขึ้นมาเล็กน้อยตอนพูด ตามไปคว้าตัวร่างโปร่งไว้อีกครั้ง
“เงินที่มันจ่ายค่าห้องไปแล้วช่างแม่ง แต่ที่เหลือจากนี้มึงต้องคืนให้หมด กูไม่รับเงินของไอ้เหี้ยนั่น!” ติณสบถลั่น ดวงตาวาวโรจน์ “กูเกลียดมัน!”
“เออ เรื่องนั้นกูรู้ แต่ยังไงคุณอันก็เป็น...”
“มึงหยุดพูดเรื่องนั้นเดี๋ยวนี้!!!” ติณหันไปจ้องตา สองมือคว้าคอของนพไว้ ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาบริเวณตกอกตกใจ พยาบาลรีบวิ่งมาห้าม

“คุณกฤตติณณ์คะ! ออกมาได้ยังไงคะเนี่ย ตายแล้ว! ปล่อยคุณคนนี้ก่อนนะคะ” เธอพยายามร้องห้าม แต่ไม่กล้าเข้ามาใกล้ไปกว่านั้น คนท้องปกติก็อารมณ์แปรปรวนอยู่แล้ว แต่นี่เป็นคนท้องที่เป็นผู้ชาย เรี่ยวแรงเยอะกว่าผู้หญิงอีก
“มะ ไม่ต้องห่วงผมครับพี่สาวคนสวย โทร...เลย” นพที่โดนบีบคอ แต่ไม่ได้แรงมากนักทำท่ายกหูโทรศัพท์ส่งสัญญาณบอกคุณพยาบาล เธอทำหน้างง ก่อนจะเข้าใจความหมายแล้วรีบวิ่งไปกดโทรศัพท์
เพราะติณไม่คิดจะทำร้ายเพื่อนจริงๆ จังๆ ถึงได้ออมแรงไว้ แต่สีหน้าโกรธขึงของเขาทำให้คนอื่นแตกตื่นไปหมด ไม่นานนัก คนที่เขาเกลียดแสนเกลียดก็เดินมาถึงแล้วจับตัวเขาล็อคไว้ นพถึงได้เป็นอิสระ

“เป็นบ้าอะไร ออกมาทำไม!?” อันดาตะคอกใส่โดยใช้เสียงเบาที่สุด ลากตัวติณกลับเข้าห้องคนไข้ตามเดิม
“ปล่อยกู! ไอ้สารเลว!” ติณทั้งดิ้นรนและก่นด่า แต่อันดาไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำด่าทอหยาบคายพวกนั้นเลย เขาชินกับมันแล้วก็ว่าได้ มือหนารัดพันข้อมือบางแน่นหนา จนพาติณเข้าห้องได้สำเร็จ โดยมีนพตามเข้าไปด้วยท่าทางร้อนรน นพไม่อยากทำร้ายติณ ถึงต้องอาศัยแรงของอันดามาช่วยในสถานการณ์นี้ พอดีว่าอันดาเพิ่งจะลงไปถึงลานจอดรถ จึงรีบขึ้นลิฟท์กลับมาได้ทัน
“อย่าให้ฉันต้องเรียกลูกน้องขึ้นมาจับนายนะติณ! อยู่นิ่งๆ สัก 10 นาทีได้มั้ย!?” อันดาก็ไม่กล้ารุนแรงมาก เพราะกลัวสะเทือนเด็กในท้องของติณ “นพ มาช่วยพี่จับมัด!”
“ห๊ะ?” นพทำหน้าเหวอ “มัด? มัดเลยเหรอครับ?”
“เอาเนคไทพี่มัดขาติณไว้ ที่แขนพี่มัดเอง” อันดาสั่งพลางคว้าสายน้ำเกลือที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา กว่าจะจับคนไข้ให้นอนนิ่งๆ บนเตียงได้ก็ทำเอาเหงื่อซก นพรีบออกไปตามพยาบาลมาต่อสายน้ำเกลือให้

ติณหลับไปแล้ว เพราะในน้ำเกลือมียาบำรุงอ่อนๆ ที่ทำให้ผ่อนคลายปนอยู่ด้วย อันดาต้องยกเลิกประชุมวันนี้เพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องของติณ เขาออกปากว่าจะอยู่เฝ้าเอง และให้นพไปทำงานพิเศษตามปกติ
อันดานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ยอมห่าง ยังไงเสีย ติณก็เป็น...แม่ของลูก แม้อาจจะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าได้ทำเรื่องเลวร้ายนั้นลงไปแล้วจริงๆ

เขาทำให้ติณกลายเป็นแบบนี้

แต่มันก็สมควรแล้วนี่ กับสิ่งที่ติณควรได้รับ

ใช่...มันสมควรแล้ว

แล้วทำไม พอมองหน้าติณตอนที่หลับใหลไม่ได้สติแบบนี้

ความรู้สึกผิดมันถึงได้เอ่อท้นขึ้นมาในใจกันนะ

คืนนั้น เป็นคืนที่ฝนตกหนักมากและมีเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าดังแทบตลอดเวลา
ภายในห้องแลปใต้ดินของเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขา
ที่มืดสลัว

“ไอ้สารเลว! มึงทำอะไรกับกู!?”
“ก็ทำให้มึงกลายเป็นผู้หญิงไง”
“ไอ้ชาติชั่ว!”
“กูจะขอฝากสิ่งนี้ไว้ในตัวมึง และมึงต้องอุ้มท้องลูกของกู!”
“มึงมันเลวระยำ! ไอซ์จะต้องเสียใจที่มีพี่ชายชั่วๆ อย่างมึง!”

เพี๊ยะ!

เปรี้ยง!

 “ถ้ายังไม่เลิกปากดี กูจะเอาให้แม่งพรุนจนเดินไม่ได้เลย”
“อึก...มึงมัน...เหี้ย...อันดา...”
“ใช่ กูเหี้ย กูเลว แต่ก็ไม่บัดซบเท่ามึงหรอก ไอ้ติณ”
“...กูเจ็บ...”
“หึ กูจะฉีดน้ำเชื้อของกูเข้าไปในท้องมึง ให้ลูกๆ ของกูวิ่งเล่นในนั้น แล้วก็ผสมกับไข่ของมึง”
“หยุดพูด...ฮึก...พอที”
“เป็นไงล่ะ รู้สึกดีมั้ย มึงตอดกูขนาดนี้แล้วนะ”
“อย่าพูด...ไอ้เหี้ย...”
“อา...ครั้งแรกสินะน้องติณของพี่”
“ฮึก...”
“โครตดีเลยว่ะ ได้เอามึงเนี่ย รัดแน่นๆ นะ พี่จะเสร็จแล้ว”
“ฮืออออออ”
“อืม...ติณ แตกในนะครับที่รัก”
“ไอ้เหี้ยยยยยย ม่ายยยยยยยยย”

พรึ่บ!

“ม่ายยยยยยยย!!!”
“ติณ ติณ! เป็นอะไร!?” อันดารีบลุกขึ้นคว้าแขนติณที่จู่ๆ ก็ละเมอลุกมาโวยวายปัดป่ายไปทั่วด้วยความตกใจ แต่แทนที่ติณจะตื่นขึ้นมาแล้วสงบลง พอเห็นหน้าเขาก็ยิ่งโวยวายอาละวาดหนักกว่าเดิม
“ไอ้สารเลว! ไอ้ชาติชั่ว! ออกไปให้พ้น!!! กูเกลียดมึง!” ติณกราดด่าเสียงดัง หยิบข้าวของใกล้มือปาใส่อันดาที่ต้องรีบยกแขนขึ้นป้องกันไว้ เสียงเอะอะทำให้พยาบาลต้องวิ่งเข้ามาดู ก่อนที่จะออกไปตามคนมาช่วยจับติณ
“นี่มึงทำเหี้ยอะไรอีกเนี่ยไอ้อัน!” ชายหนุ่มรูปร่างสันทัดสวมแว่นตาไร้กรอบพรวดพราดเข้ามาในห้อง ชุดกราวน์สีขาวทำให้รู้ทันทีว่าเขาคือหมอในโรงพยาบาลแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนกับนักการเมืองหนุ่มอันดาอีกด้วย
“กูไม่ได้ทำอะไรนะเว้ย! จู่ๆ ติณก็ละเมอ ตื่นมาก็อาละวาดใส่กู” อันดารีบร้องบอก พลางยื้อยุดข้อมือบางที่ทุบลงมาไม่เลิก
“มึงนี่นะ ทำให้คนไข้กูเครียดอีกแล้วสิ รู้ทั้งรู้ว่าน้องมันเกลียดขี้หน้ามึง” หมอหนุ่มเดินเข้ามาช่วยจับแขนของติณ “ใจเย็นๆ ครับ นี่พี่หมอเอง ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีใครทำร้ายติณนะครับ” ฝ่ามืออุ่นๆ ของคุณหมอวางลงบนศีรษะ ติณจึงค่อยๆ สงบลง หมอหันไปทำตาดุใส่อันดาเป็นเชิงบอกให้ถอยไปไกลๆ อย่าเข้ามาในระยะที่ติณมองเห็น อันดาจึงเลือกหลบไปยืนด้านหลัง ชิดกระจกหน้าต่าง
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ ไม่มีใครทำร้ายติณได้ พี่หมออยู่ที่นี่ทั้งคน หายใจช้าๆ นะครับ ค่อยๆ อย่างนั้น” น้ำเสียงอ่อนโยนและกลิ่นหอมอ่อนๆ จากคุณหมอทำให้ติณผ่อนคลายได้จริงๆ เขาปรับลมหายใจตามที่บอกและหลับตาลงในอ้อมกอดของหมอ
“ผมฝันร้าย ฮือออ พี่หมอ ผมฝันเห็นมันอีกแล้ว!” ติณร้องไห้โฮเหมือนเด็กๆ โผเข้ากอดซุกแผงอกของคุณหมอหาความอบอุ่น อันดารู้สึกไม่ชอบใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ช่วงนี้คุณแม่มือใหม่ยังอารมณ์แปรปรวนอยู่มาก ขืนโผล่หน้าไปอีก มีหวังอาละวาดยับเยิน
“โอ๋ๆ คนดีไม่ร้องนะครับ ไม่เครียดนะ มันผ่านไปแล้ว ไม่ต้องไปคิดถึงมันนะครับ พี่กับนพอยู่กับติณเสมอนะ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว...” หมอหนุ่มปลอบโยนด้วยน้ำเสียงไพเราะเป็นจังหวะคล้ายร้องเพลงกล่อมเด็ก และในที่สุดติณก็หลับใหลไปอีกครั้ง

คุณหมอสูติฯ ที่ชื่อเล่นว่า หมอ เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของอันดาตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลาย รู้ทุกเรื่องที่อันดาทำลงไป และเรื่องของไอซ์กับติณด้วย
“กูว่ามึงเลิกมายุ่งกับน้องเขาเหอะว่ะ เรื่องที่มึงกับไอ้บาสทำไว้ มันมีผลกระทบมากกับสภาพจิตใจเขานะเว้ย” หมอพูดถึงเพื่อนอีกคนหนึ่งที่หนีไปอยู่เมืองนอกและเลิกทำอาชีพหมอไปแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้น
“แต่นั่นเมียกู ลูกกู จะไม่ให้กูมาดูดำดูดีได้ยังไงวะ” อันดาขมวดคิ้วมุ่น ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่บนชั้นสองของร้านกาแฟใกล้ๆ โรงพยาบาล หลังจากทำให้ติณสงบลงได้แล้ว หมอก็ลากเพื่อนตัวดีออกมา และสั่งให้พยาบาลพิเศษมาเฝ้าติณไว้แทน
“มึงก็กล้าพูดเนาะ ทำระยำกับเขาขนาดนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องข่มขืน...” หมอจ้องหน้าเพื่อนอย่างเอาเรื่อง “มึงรู้อยู่แก่ใจ”
“กูรู้ไง แล้วไง? ต่อให้ติณไม่ยอมรับ แต่มันก็เป็นเมียกู ที่อุ้มท้องลูกชายของกูอยู่” อันดาก็ไม่หลบสายตาเพื่อนเช่นกัน เขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว กล้าได้กล้าเสีย กล้าทำกล้ารับ แม้เรื่องที่ทำไว้ ต่อให้ทำดีเท่าไหร่ก็ลบล้างไม่มีวันหมดจากใจของติณก็ตาม

“แล้วถ้าเด็กคลอด มึงจะทำยังไงต่อ จะให้เด็กเรียกใครว่าแม่?” หมอต้องยอมเป็นฝ่ายถอยออกมา นั่งกอดอกเอนหลังพิงกับโซฟาพลางถอนหายใจใส่
“ก็ติณไง มันต้องเป็นแม่ดิ ก็มันเป็นคนคลอด ส่วนกูเป็นพ่อ” อันดาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“มึงนี่คิดง่ายเหมือนเล่นพ่อแม่ลูกเนอะ อยู่ประถมรึไง สมองมีก็คิดหน่อย อย่าใช้แต่หัวแม่ตีนคิด” หมอปากร้ายเฉาะหน้าเข้าให้จังใหญ่ อันดาถึงกับสะอึก “พอเด็กโตขึ้น มันก็จะรู้ว่าผู้ชายท้องไม่ได้ และแม่ก็ต้องเป็นผู้หญิง”
“งั้นก็จับติณผ่าตัดแปลงเพศแม่งเลย โอ๊ย! เชี่ยหมอ!” เพราะพูดไม่คิดอีกแล้ว เลยทำให้หมออดไม่ได้ที่จะตบหัวกลวงๆ ของไอ้คนที่ทำธุรกิจระดับพันล้านแถมอยู่ในวงการการเมืองมานานปี แต่ดันมีสมองต่ำตมเหลือเกิน
“แค่ที่มึงทำแบบนั้นยังไม่พอเหรอวะ ยังจะฝืนใจอะไรน้องมันอีก กว่ามันจะใช้ชีวิตปกติได้มึงรู้มั้ยว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง ไม่เห็นแก่มันก็เห็นแก่หน้าพ่อแม่มึงกับพ่อแม่มันบ้าง” หมอยังอารมณ์กรุ่นๆ เอานิ้วเคาะหน้าผากเพื่อนรักอีกหลายที
“เออๆ กูรู้แล้วน่า ยังไงกูก็เลี้ยงทั้งแม่ทั้งลูกได้อยู่แล้ว ถ้าติณไม่ยอมไปอยู่กับกู ก็ให้อยู่ที่ห้องเช่านั่นแหละ กูมีไอ้นพคอยส่งข่าวให้ ถึงจะไม่ค่อยโอที่มันชอบมากอดมาซบเมียกูก็เหอะ” อันดาเบะปากอย่างนึกหมั่นไส้ไอ้เด็กตัวผอมกะร่องที่ชอบมาออดอ้อนติณ แถมเหมือนติณจะเอ็นดูมันมากเสียด้วย
“นี่มึงหวงติณด้วยเหรอวะ ไม่ใช่ว่าแค่แก้แค้นเสร็จๆ ไป ทำร้ายมันแล้วก็ปล่อยให้เผชิญยถากรรมไป?” หมอกอดอกนิ่วหน้ามองเพื่อนอย่างคาดคั้น
“หมอ...กูกับมันเคยสนิทกันเหมือนพี่น้อง ถึงเรื่องที่มันเคยทำจะชั่วชาติสำหรับกู และกูแค้นมันมาก แต่กูก็แยกแยะออกเว้ย เพราะตอนนี้มันเป็นของกูไง กูเป็นคนหวงของ มึงน่าจะรู้ดี” อันดาทำหน้าจริงจังสุดชีวิตจนหมอนึกขัน
“เออ กูจะเชื่อแล้วกัน ไอ้เพื่อนเลว”


ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #4 เมื่อ04-02-2018 23:20:39 »

ติณออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่ห้องเช่าห้องเดิมแล้ว นพยังคงคอยดูแลไม่ขาด ทั้งหาข้าวหาน้ำมาให้ ทำความสะอาดห้อง งานบ้านทุกชนิดแทบไม่ให้ติณต้องออกแรง เพราะท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที นพยังไม่เคยมีอะไรกับใคร เรื่องเคยเป็นพ่อคนยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาอายุแค่ 22 เรียนก็ยังไม่จบ เอาตัวเองยังไม่รอด ไม่กล้าคิดมีครอบครัว แต่พอติณท้อง ยอมรับว่าแรกๆ ช็อคหนักมาก แต่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยสักนิด แถมยังตื่นเต้นอยากจะดูแลติณกับลูกให้ดีที่สุด ประหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน

นพรักติณมาก รักเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา พยายามจะคิดว่าเป็นแบบนั้นมาตลอด

“นพ เมื่อย” แค่ติณกระดิกนิ้ว นพก็พร้อมทำตามคำสั่งเหมือนหมาผู้ซื่อสัตย์ ติณเห็นเหมือนนพมีหูกับหางส่ายไปมาตอนที่วิ่งหน้าตั้งมาบีบนวดไหล่ให้อย่างเอาอกเอาใจ
“มึงนี่เป็นสามีที่ดีได้เลยเนอะ” ติณเอ่ยติดตลก เอนหลังพิงแผ่นอกของเพื่อนรัก แม้จะผอมแห้งไปหน่อย แต่ร่างกายของนพอบอุ่น รู้สึกดี
“กูก็คิดแบบนั้นว่ะ ตั้งแต่ดูแลมึงกับลูก ก็อยากเป็นพ่อคนขึ้นมาจริงๆ” นพเองก็หัวเราะเหมือนไม่ได้จริงจังอะไร

ใช่...ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ

“มึงก็รีบหาเมียเข้าสิ เรียนจะจบแล้วนี่ พอทำงานสักสี่ซ้าห้าปีก็ค่อยแต่ง” นพก้มหน้ามองคนพูดที่หลับตาพริ้มสบายอารมณ์ ติณเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนรัก แต่ทำไมพอติณพูดแบบนี้ ในอกของเขามันสั่นๆ
“อืม...ถ้าหาได้นะ จะบอกมึงคนแรกเลย” มือที่บีบนวดชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะนวดต่อ น้ำเสียงของนพสั่นเครือเล็กน้อย แต่ติณไม่ทันรู้ตัว ยังคงหลับตาเอนกายหาความอุ่นจากร่างกายของหนุ่มตัวผอม ทั้งที่ก็ได้ยินเสียงหัวใจของนพเต้นแรงอยู่ตลอดเวลา แต่กลับแสร้งไม่สนใจมัน

อีกไม่นาน ติณจะต้องเตรียมตัวเข้าผ่าตัดคลอดแล้ว พี่หมอเป็นคนดูแลเคสของเขาเป็นกรณีพิเศษ เพราะไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน ที่สามารถผ่าตัดเชื่อมต่อมดลูกกับร่างกายของผู้ชายได้ และยังทำให้ท้องอีกต่างหาก ถือว่าเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก ไม่คิดว่าบาส เพื่อนหมอร่วมรุ่นของตนจะก้าวล้ำทางการแพทย์ขนาดนี้ แม้ตอนนี้บาสจะเลิกเป็นหมอแล้ว และหันไปเอาดีทางด้านนักวิทยาศาสตร์แทนก็ตาม

“พวกมึงแม่งก็ถนัดแต่คิดเรื่องชั่วๆ” หมอสบถด่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของบาส ที่มาขอรับผลตรวจร่างกายของภรรยาทางพฤตินัยที่มาตรวจในวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะย้ายมานอนพักรอผ่าตัดในวันมะรืนนี้
“อะไรวะ จู่ๆ ก็ด่า” คนที่รับเอกสารการเตรียมตัวผ่าคลอดของคุณแม่มือใหม่ไปอ่านอย่างละเอียดขมวดคิ้วมองหน้าหมอ
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ จะต้องผ่าคลอด ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะมึง ขนาดผู้หญิงยังลำบาก แล้วนี่ผู้ชาย” หมอส่ายหน้าพลางถอนหายใจหนักๆ อย่างระอาใจ “ระดับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดน้องมันต่ำมาก ถ้าเสียเลือดและเลือดไม่พอ อาจจะไม่รอดทั้งแม่ทั้งลูก” พอรู้ตัวว่าเหมือนจะพูดอะไรผิดไป หมอก็ทำหน้าปุเลี่ยน แต่ไม่ได้คิดจะพูดแก้ใหม่ให้ยิ่งพิลึกกว่าเดิม
“เอาเลือดกูไปสิ กรุ๊ปเดียวกันอยู่แล้ว จะใช้จนหมดตัวเลยก็ได้” อันดาทำหน้าเหมือนไม่ใช่เรื่องร้ายแรงจนหมออยากจะลุกขึ้นตั๊นหน้าเพื่อนสักที
“มึงยอมตาย? ก่อนทำไม่รู้จักคิดไง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับติณจะทำยังไง ไอ้สัสเอ๊ย” คนเป็นหมอยังอดสบถด่าไม่ได้ เครียดจริงๆ ที่ต้องมาตามล้างตามเช็ดเรื่องงี่เง่าของไอ้พวกเพื่อนตัวดี ไอ้บาสก็หนีหายไปไม่ติดต่อกลับมา

“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะหมอ” อันดาเริ่มหน้าซีดด้วยความกังวล ใกล้วันกำหนดผ่าแบบนี้ อะไรๆ ก็ตึงเครียดไปหมด จึงไม่อยากโผล่หน้าไปให้ติณเห็น เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนทั้งแม่ทั้งลูก แล้วยิ่งเพื่อนหมอมาพูดแบบนี้อีก ความกังวลฉายชัดในดวงตาของเขา
“ก็อาจจะไง ยังไม่ได้ผ่ากูจะรู้มั้ยล่ะ ร่างกายมันอ่อนแอมาก เพราะทั้งเครียดแล้วก็ไม่เต็มใจที่จะมีลูก เลยแทบไม่ดูแลตัวเอง แม้นพจะคอยช่วย แต่มันก็ต้องไปเรียน ไปทำงาน ไม่รู้ว่าระหว่างนั้นติณดูแลท้องตัวเองมากแค่ไหน” หมอเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน ผลตรวจสุขภาพของติณค่อนข้างแย่ เด็กในครรภ์ก็เหมือนไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่
“แล้วจะทำไง กูไปดูมันก็ไล่ กูไม่อยากให้มันเครียดกว่าเดิม เลยถอยออกมา ส่งใครไปมันก็ไม่เอา”
“เป็นกู กูก็คงทำแบบติณว่ะ มึงทำใจไว้หน่อยนะ ว่าอาจจะเสียคนใดคนหนึ่ง หรือไม่ก็...ทั้งคู่” หมอยกมือขึ้นตบบ่าเพื่อนอย่างเห็นใจ
“มึงอย่าขู่กูแบบนี้ไอ้หมอ” อันดากัดปากจนเลือดซิบ “กูต้องไม่เสียใครไปทั้งนั้น ไม่อีกแล้ว”
หมอไม่ตอบอะไร ทำได้แค่ตบบ่าเพื่อนอีกสองสามที ก่อนจะขอตัวไปดูคนไข้รายอื่นต่อ

ก่อนวันผ่าตัด ติณต้องมานอนที่โรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวล่วงหน้าหนึ่งคืน ทั้งการทำความสะอาดร่างกาย หน้าท้อง ล้างสวนทั้งทางก้นและท่อปัสสาวะให้สะอาดหมดจด โดยมีนพมาคอยเฝ้าอยู่ตลอด
“มึงไม่ทำงานเหรอคืนนี้” ติณนอนนิ่งอยู่บนเตียงหลังจากถูกเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรงไปมากทีเดียว นพนั่งอยู่บนโซฟา มองดูเขาอยู่ตลอดเวลา
“กูลาไว้แล้วสามวัน พรุ่งนี้ก็จะหยุดเรียนด้วย กูจะอยู่กับมึง รอมึงออกจากห้องผ่าตัด” นพยิ้มกว้าง เพื่อเป็นกำลังใจให้ติณ “มึงต้องเข้มแข็งไว้นะ แล้วเราจะเลี้ยงลูกด้วยกัน”
“สัส พูดเหมือนมึงกับกูเป็นผัวเมียกัน” ติณว่าขำๆ ก่อนจะเสมองไปทางอื่น นพลุกเดินเข้ามาหา กุมมือติณไว้ ติณเลยหันไปมองหน้าเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความฉงน
“กูพูดจริงๆ ถึงกู...จะยังซิง แต่...กูจะเป็นพ่อให้ลูกมึงเอง” นพพูดพลางเอานิ้วถูจมูกอย่างขัดๆ เขินๆ
“ตลก” ติณหรี่ตามองยิ้มๆ
“ไม่ตลกดิวะ คือกู...” นพสูดลมหายใจลึกๆ เต็มปอดแล้วพ่นออกมาเพื่อผ่อนคลายก่อนจะตัดใจพูดออกมา “กูอยากให้มึง เป็นคนแรกของกู”
“ไอ้นพ” ติณเรียกชื่อเพื่อนด้วยเสียงอ่อนใจ
“กูพูดจริงๆ นะติณ กู กู...กูรักมึงอ่ะ คือ กู...ไม่ค่อยแน่ใจ แต่พอได้ดูแลมึงกับลูก กูเลยแน่ใจไง ว่ากู...รักมึง อยากให้มึงเป็นคนแรก” นพพูดไปกลอกตามองเพดานไป แก้มสองข้างแดงปลั่ง เสียงสั่นนิดหน่อยด้วยความตื่นเต้น

กลัวถูกปฏิเสธ แต่ก็อยากบอก

ติณคลี่ยิ้มบางๆ จับมือนพกลับ หนุ่มร่างผอมสูงเลยยอมก้มหน้ามามองหน้าเขาสลับกับมือที่จับกันไว้พลางกะพริบตาปริบๆ ด้วยความหวัง
“ได้...ไว้กูหายดีก่อนนะ”
คำตอบของติณทำให้นพยิ้มออกอีกครั้ง ยิ้มจนตาหยียิงฟังขาวจั๊วะสะท้อนแสงไฟนีออน ในอกเต็มตื้นไปหมดด้วยความดีใจ

ก่อนการผ่าตัด แพทย์วิสัญญีได้สอบถามและให้ยาลดกรดในกระเพาะอาหารรวมทั้งต่อสายน้ำเกลือเข้าเส้นเลือดดำที่แขนเรียบร้อย รอจนยาชาออกฤทธิ์แล้วจึงลงมือผ่าตัด ขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แม้ว่าติณจะเสียเลือดมาก แต่หมอได้เตรียมเลือดสำรองไว้มากพอ ทำให้การผ่าตัดเสร็จสิ้นด้วยดี

“พี่หมอแม่งโครตเท่ ตอนที่เดินออกมายิ้มให้กูทั้งเหงื่อโชก บอกว่ามึงกับลูกปลอดภัยแล้ว กูนี่ร้องลั่นโรงบาลเลยว่ะ โครตอาย” นพเล่าด้วยอาการตื่นเต้นไม่หาย ติณหลับไปราวๆ 14 ชั่วโมงกว่าจะฟื้น สีหน้ายังซีดเซียว เรี่ยวแรงก็ยังไม่ค่อยกลับมา
“อายแล้วร้องทำไมวะ พิลึกคน” ติณหัวเราะเสียงแห้ง มองนพด้วยสายตาอ่อนโยนจนคนถูกมองรู้สึกหน้าร้อนผ่าว
“ไว้มึงเดินไหวแล้ว ไปดูหน้าลูกกันนะ กู...ถือวิสาสะตั้งชื่อให้แล้วล่ะ ถ้าไม่ชอบค่อยเปลี่ยน” นพเอานิ้วจิ้มแก้มตัวเองแก้เก้อ ติณยังคงยิ้มบางๆ ให้เขา
“ชื่ออะไรเหรอ”
“ตฤณภพ” นพตอบพลางทำท่ายืดอกอย่างภูมิใจ “ชื่อคล้ายมึงเลยไง”
“ชื่อเล่นล่ะ”
“ก็เรียกว่า ภพ แล้วกัน”
“งั้นก็ตามนั้น” ติณเงยหน้ามองเพดาน รู้สึกอ่อนล้าและอยากจะหลับตาลงเหลือเกิน
“เอาจริงดิ?” นพยื่นหน้าไปถามใกล้ๆ อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“จริงดิ” ติณหลับตาลง
“ไม่คิดจะเปลี่ยนแล้ว?”
“อือ” แล้วเขาก็หลับไป

นพลูบเส้นผมสีดำดกหนาของติณแผ่วเบาด้วยความรัก ที่จริง มีอีกคนหนึ่งที่นั่งเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดทั้งวันทั้งคืนเหมือนเขา แต่นพไม่กล้าเอ่ยชื่อนั้นออกมา และคนที่ตั้งชื่อลูกชายของติณ ก็ไม่ใช่เขา แต่เป็นคนคนนั้น

“ไม่ต้องบอกนะว่าพี่เป็นคนตั้ง”

เพราะอันดาสั่งไว้แบบนั้น นพเลยต้องกลบเกลื่อนไปว่าตัวเองเป็นคนตั้ง ไม่ใช่การถือวิสาสะแบบบังเอิญแต่อย่างใด แต่อันดาเตรียมชื่อนี้ไว้นานแล้ว

นพพอจะมองออกว่าอันดารู้สึกอย่างไรกับติณ ถ้าติณอยู่กับคนคนนั้นจะสุขสบายไปทั้งชีวิต ภพเองก็จะสบายไปด้วย ใจหนึ่งไม่อยากให้ติณกับลูกต้องลำบากอยู่กับตัวเอง แต่อีกใจก็ไม่อยากปล่อยมือ

แค่ติณเท่านั้น...ที่ไม่อยากปล่อย

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #5 เมื่อ04-02-2018 23:25:25 »

5
หลังผ่าตัดคลอด ติณยังต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอทั้งของเขาและลูกชายตัวน้อยที่ต้องอยู่ในตู้อบหลายวัน แถมยังมีแผลจากการผ่าคลอดที่กว่าจะหายดีก็หลังจากนี้อีกหลายเดือน   
ทั้งที่ติณเกลียดผู้ชายคนนั้นกับสิ่งที่มันฝากไว้ในท้องมาตั้ง 9 เดือน แต่พอได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก เขาก็ร้องไห้ออกมา ไม่รู้เหมือนกันว่าฮอร์โมนเพศเกิดผิดปกติเพราะมีมดลูกในร่างกายหรือเปล่า แต่ความรู้สึกของคนที่อุ้มท้องเจ้าตัวน้อยจนคลอดออกมาและได้เห็นหน้าลูกนั้น มันช่างอิ่มเอมใจจนต้องยอมรับออกมาตรงๆ ว่าเขาดีใจที่ลูกปลอดภัย

“ตอนที่แม่คลอดติณ ก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน” แม่ของเขามาเยี่ยมหลังจากรู้ข่าวว่าติณผ่าคลอดสำเร็จแล้ว เธอได้ข่าวจากหมอ เพื่อนของอันดา ตอนที่ติณท้องได้ 5 เดือนกว่าแล้ว ตอนนั้นช็อคมากและไม่กล้ามาเจอหน้าลูกชายเลย แต่สุดท้ายก็ทำใจยอมรับมันและมาเยี่ยมติณบ้างเป็นครั้งคราว ครั้งนี้เธอก็พาหลานสาวตัวน้อยมาด้วย ลูกสาวของพี่สาวของติณนั่นเอง
“ยัยตาลก็เคยเป็นเหมือนเราด้วยนะ ตอนคลอดแม่ตัวน้อยนี่ ก็ต้องผ่า เพราะร่างกายไม่เอื้อให้คลอดแบบธรรมชาติ” แม่ลูบหัวติณเบาๆ พลางเล่าเรื่องต่างๆ ในบ้านให้ฟัง เรื่องที่ติณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็ยังอยากรู้
“พวกแม่คงลำบากกันมาก” ขอบตามันร้อนผ่าว ติณอยากจะร้องไห้ ตั้งแต่ท้องจนคลอดแล้วก็ยังอารมณ์แปรปรวนอยู่ดี เขาไม่ชอบตัวเองที่งอแงไร้สาระแบบนี้เลยจริงๆ
“อืม แต่พอเห็นหน้าลูกแล้ว ต่อให้ต้องสละชีวิตนี้ แม่ก็คิดว่าคุ้ม” แม่ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน และติณก็ปล่อยให้น้ำตาไหลรินอาบแก้ม ซุกหน้ากับหน้าท้องของแม่อย่างโหยหา

แม่กลับไปแล้ว นพจึงเข้ามาในห้องเพื่อคอยเฝ้าติณตามเดิม แม่ของติณพูดคุยกับเขาไม่นาน แค่ฝากให้ดูแลติณมากๆ เท่านั้น เพราะหลังผ่าคลอด ร่างกายของมารดาจะอ่อนแอมาก
“อยากกินอะไรมั้ย กูจะไปซื้อให้” นพที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาเอ่ยถาม ติณนอนตะแคงหันหลังอยู่ แต่น่าจะไม่ได้หลับ
“ไม่อ่ะ” ติณพลิกตัวมามองนพ ยื่นมือไปหา “มาใกล้ๆ ที”
“มึงนี่อ้อนเก่งขึ้นนะ แต่ก่อนมีแต่กูอ้อนป่ะวะ?” นพหัวเราะเบาๆ นั่งลงบนเตียงแล้วกุมมือติณไว้ คงเพราะติณอยากมีใครสักคนอยู่ข้างๆ และเขาก็เป็นคนเดียวที่ยังอยู่ตรงนี้ ติณค่อยๆ ดึงมือออกจากมือของนพแล้วสวมกอดเอวเขาไว้
“ขอบคุณนะ นพ”
“อะไรของมึง” นพกะจะหัวเราะกลบความเขิน แต่ติณก็พูดต่อขึ้นมาก่อน
“ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกูเสมอ ขอบคุณที่ทำทุกอย่างให้กู ขอบคุณที่รักกู” ติณหลับตาลง กอดนพไว้อย่างนั้น นพนิ่งเงียบไปนาน ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อย โน้มตัวลงใกล้ๆ ใบหน้าขาวใสของติณ

ติณเคยอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี ผิวพรรณก็เลยขาวผ่องเนียนใสต่างจากนพที่เป็นลูกชาวนาจนๆ เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก นพไม่ได้ชอบติณที่ตัวขาว ไม่ได้ชอบที่หน้าตาหล่อเหลา แต่ชอบเพราะเป็นติณ แม้จะไม่ได้มีร่างกายภายนอกแบบนี้ เขาก็จะยังคงรักติณเหมือนเดิม

ติณลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ตรงปลายจมูก ใบหน้าของนพอยู่ใกล้มาก ชั่วขณะหนึ่งนั้นที่รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นรัว ก่อนจะค่อยๆ สงบลงเมื่อริมฝีปากของนพทาบทับลงมา ติณหลับตาลงอีกครั้งอย่างเต็มใจ

แอ๊ด...

ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทเต็มยศพร้อมช่อดอกไม้เยี่ยมคนไข้และกระเช้ายาบำรุงหยุดชะงักอยู่ตรงนั้น เรียวคิ้วสวยขมวดปม จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยแววตากราดเกรี้ยว มือที่ถือช่อดอกไม้กำแน่นจนดอกไม้สีสวยแหลกคามือ

“ทำอะไรกัน...”

“คะ คุณอันดา!” เป็นนพที่รีบผละออกมาก่อน แม้ว่าติณดูจะไม่สนใจและพยายามเหนี่ยวคอของนพไว้ก็ตาม
“เพิ่งคลอดลูก ก็คิดจะเล่นชู้เลยเรอะ ติณ” อันดาแสยะยิ้มมองติณที่กำลังมีสีหน้าเคลิบเคลิ้มกับรสจูบของนพเหมือนจงใจจะยั่วโมโหเขา มือเรียวสวยยังลูบไล้ที่หลังคอของหนุ่มตัวผอมที่นั่งตัวเกร็ง
“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณอัน...คือเรา”

พั่บ!

อันดาปาช่อดอกไม้ใส่หน้านพดล “เห็นตำตายังจะแก้ตัว เป็นลูกผู้ชายรึเปล่าวะ” สีหน้าของอันดาเดือดดาลยิ่งขึ้นอีก แต่มีแค่นพที่หวาดกลัว
“แล้วเกี่ยวอะไรกับมึง ออกไปให้พ้น! กูกับนพจะได้ทำอะไรๆ กัน” ติณเชิดหน้าใส่
“นี่เพิ่งผ่าตัดมาไม่ถึงอาทิตย์ ก็คิดจะถ่างขาให้ชู้แล้วเหรอที่รัก” น้ำเสียงและแววตาของอันดามีความประชดประชัน นพหน้าซีดเผือด แต่ติณกลับนิ่ง
“จะถ่างให้ใครก็ไม่ใช่เรื่องของมึง”
อันดากัดฟันกรอด พุ่งไปผลักร่างผอมออกแล้วเข้าไปแทนที่ ตรงหน้ากฤตติณณ์ “ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อกูเป็นผัวมึง ไอ้ติณ!” มือหนาเงื้อขึ้นเหมือนจะฟาดลงบนใบหน้าของติณ นพจึงรีบเข้ามายื้อไว้
“ยะ อย่าครับคุณอัน ติณยังไม่หายดี”
“มึงก็อีกคน” เป้าหมายจึงเบนมาลงที่หน้าของนพแทน นพยกมือลูบแก้มตัวเองที่ชาไปทั้งแถบ แถมยังรู้สึกถึงรสเลือดในกระพุ้งแก้มด้วย “อย่าสะเออะมายุ่งกับของของกูอีก!”
“ไอ้สัส! มึงนั่นแหละอย่าโผล่หน้ามาให้กูเห็นอีก!” ติณโวยลั่น ผุดลุกขึ้นทั้งที่ยังเจ็บจนต้องเบ้หน้า แต่ก็ยังปรี่เข้าไปดูแก้มที่บวมช้ำของนพด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“กลับมานอน!” อันดาคว้าเอวติณให้ออกห่างจากนพ จะจับกดลงนอนบนเตียง แต่ติณดิ้นรนสุดชีวิต จนแผลที่ยังไม่หายสนิทดีมีเลือดไหลซึมออกมา
“คุณอัน! เลือด! เลือดออก!” นพร้องบอกหน้าตาตื่น อันดามองตามเนื้อตัวไม่เห็นว่าตนมีบาดแผลตรงไหน จึงหันไปมองที่แผลผ่าตัดของติณ
“กดเรียกหมอมาสิวะ จะยืนบื้อทำไม!”

“พวกมึงนี่น้า...วุ่นวายที่สุดในสามโลก โดยเฉพาะมึง ไอ้อัน!” หมอหนุ่มส่ายหน้าอย่างระอาใจ ถอนหายใจทุกครั้งที่เจอหน้าเพื่อนจนเบื่อจะเจอแล้ว
“ก็มันมายุ่งกับเมียกูก่อน!” โชคดีที่ติณหลับไปแล้ว เลยไม่ลุกมาโวยวายเถียงกันอีก หมอถอนหายใจอีกระลอก หันไปมองหน้านพอย่างเห็นใจ เด็กมันตัวแค่นี้ โดนตบทีหน้าบวมเจ่อเลย น่าสงสาร
“เออๆ เมียมึงก็เมียมึง ถ้าเขารับมึงเป็นผัวอ่ะนะ แต่ดูท่า...” หมอเหล่ไปทางนพอีกครั้ง “จะไม่ใช่ว่ะ”
“ยังไงก็ของกู! และกูไม่ยกให้ไอ้อีหน้าไหนทั้งนั้น” มีหันไปแยกเขี้ยวขู่เหมือนหมาอีกต่างหาก นพสะดุ้งขนลุกเกรียว
“หวงเมียเหลือเกิ๊นคนเรา ลำไยว่ะ นพ มากับพี่ ปล่อยมันเฝ้าไปก่อน ยังไงก็ได้แค่มองเขาตาละห้อยล่ะวะ” หมอหัวเราะสะใจก่อนจะโอบบ่านพเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้คนบ้าอยู่เฝ้าสมบัติของตัวเองไป

หมอพานพไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟร้านเดิมใกล้ๆ โรงพยาบาล สั่งชาสมุนไพรกับเค้กแครอทไม่หวานมากมาให้ นพไม่ค่อยได้กินอะไรแบบนี้ เรียกว่าแทบไม่เคยกินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่เกรงใจ แต่ก็กินจนหมดเกลี้ยง

หมอมองดูเด็กหนุ่มนักศึกษาธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ตาวาวตอนเห็นเค้กแล้วอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้
“อร่อยมั้ยครับ” พอหมอถาม นพที่มัวแต่กิน ก็เงยหน้ามองคนถามและรู้สึกว่าแก้มมันร้อนๆ เมื่อสบสายตาเปี่ยมรอยยิ้มนั้น มันไม่ใช่รอยยิ้มเยาะ แต่เป็นยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจเหมือนพ่อยิ้มให้ลูก
“อะ อร่อยมากเลยครับพี่หมอ” นพตอบขัดๆ เขินๆ กินหมดแล้วก็วางจานกับช้อนส้อมลง
“นพ พี่มีเรื่องอยากคุยสักหน่อย” จู่ๆ หมอก็เปลี่ยนมาทำหน้าจริงจัง นพเองก็เผลอนั่งตัวตรงอย่างเกร็งๆ
“เราชอบติณเหรอ? หรือแค่สงสาร”
“ผมชอบติณครับ” นพตอบทันที แบบไม่มีคิดก่อน ไม่มีลังเล ปกติเด็กคนนี้ดูแหยๆ ขี้กลัว โดยเฉพาะเวลาเจออันดา แต่ตอนนี้กลับตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ หมออึ้งนิดหน่อย แต่ก็พยักหน้าว่าเข้าใจ
“โอเค งั้นก็วางใจ เพราะนพคงไม่มีทางทิ้งติณไปไหน” หมอว่า สีหน้าคลายกังวล “พี่แค่สงสัยน่ะ ไม่คิดเหมือนกันว่าเราจะยอมตอบตรงๆ แสดงว่ารักมากสินะ”
“ครับ” นพยังคงยืนยันหนักแน่น
“แล้วคิดว่าจะเลี้ยงไหวมั้ย ทั้งติณทั้งเด็ก” หมอโน้มตัวลงวางแขนบนหน้าขาตัวเอง เพื่อจะได้เห็นหน้านพใกล้ๆ คอยสังเกตสีหน้า
“ไหวครับ อีกไม่นานผมจะเรียนจบแล้ว จะหางานทำ ดูแลติณกับภพเอง”
“พี่ก็อยากให้เป็นแบบนั้น แต่นพไม่คิดเหรอว่าอันดาพร้อมกว่า”
“คิดครับ” นพหรุบตาลง “แต่ผมรักติณ รักภพ แม้จะไม่ใช่ลูกผม”
“เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีจังนะ ใครได้นายเป็นแฟนคงมีความสุข” หมอคลี่ยิ้มบางๆ ยื่นมือไปลูบหัวเด็กหนุ่มตัวผอม “ความเป็นจริงมันโหดร้าย นพ ไม่ต้องห่วง มีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ พี่จะพูดกับไอ้อันให้นะ ให้ติณได้อยู่กับนพ คงมีความสุขมากกว่า”
ได้ฟังอย่างนั้น นพก็ยิ้มออก “ขอบคุณครับพี่หมอ”

แม้หมอจะเป็นคนอธิบายและออกปากให้เอง แต่อันดาก็ใช่จะยอมโดยง่าย เขาต้องการทั้งติณและภพ และไม่อยากให้นพมายุ่มย่ามมากไปกว่านี้ จึงยื่นเงื่อนไขให้นพหางานทำหลังเรียนจบให้ได้ภายในหนึ่งเดือนเท่านั้น ถ้าไม่ได้ ก็จะมาพาตัวภพไป ต่อให้ติณจะไม่เต็มใจก็ตาม

รวมทั้งสั่งให้หมอโกหกติณกับนพไปว่า ติณจะต้องไม่ตั้งท้องอีก เพราะมีผลกับมดลูกที่ยังผ่าออกไม่ได้ และหากท้องต้องผ่าคลอดอีกรอบ อาจจะถึงชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้ติณคิดมีสัมพันธ์กับนพลึกซึ้งไปกว่านี้

“กูต้องเสียจรรยาบรรณเพราะมึงแท้ๆ เลย” หมอส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับเพื่อนที่หัวรั้นไม่เลิก เห็นแก่ตัว จนไม่คิดมองถึงความสุขของติณเลยสักนิด
“กูยอมให้พวกมันอยู่ด้วยกันก็ดีแค่ไหนแล้ว อย่าได้คิดจะตีท้ายครัวกูเด็ดขาด มึงก็เหมือนกัน เข้าข้างไอ้เด็กนั่นเหลือเกิน อยากได้มันมั่งรึไง?” อันดาพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าหมอจนต้องหันหลบไปไอแค่กๆ
“ไอ้สัส เป็นพ่อคนแล้วเลิกสูบสักทีเหอะ แล้วกูก็ไม่ได้คิดอะไรอกุศลกับนพด้วย” หมอขยับแว่นตาไร้กรอบเหมือนไม่รู้จะเอามือไปไว้ตรงไหนดี
“เหรอวะ เห็นชอบมองมันตาเยิ้มๆ นะมึงน่ะ เกิดหลงขึ้นมาก็จับทำเมียไปเล้ย จะได้จบๆ เลิกมายุ่งกับคนของกู” อันดาเหล่มองเพื่อนรักที่ทำหน้าเซ็งๆ
“พ่อมึงเถอะครับคุณอันดา กูมองแบบเอ็นดู ไม่ได้คิดทุเรศๆ เหมือนมึงหรอก ไม่ได้หื่น ไม่ได้ขาดของ ไม่ได้เงี่ยนด้วย”
“กูจะเชื่อแล้วกัน ฮ่าๆ” อันดาหัวเราะเย้ยใส่หน้าหมอ “กูจะคอยแวะไปดูพวกมันบ่อยๆ ไม่ให้มีโอกาสได้เสียเป็นผัวเมียกันแน่ มึงคอยดู”

ติณออกจากโรงพยาบาลและกลับไปอยู่ที่ห้องเช่ากับภพและนพแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่ร่างกายต้องพักฟื้น นพจึงไม่ยอมให้ทำงานหนักเลย ทำได้แค่ล้างจาน พับผ้า และดูแลลูก ส่วนนพก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว กำลังยุ่งกับการทำรายงานและการสอบ ติณจึงไม่อยากรบกวนมาก

“แง๊ แง๊” เสียงภพร้องจ้ากลางดึก นพที่ยังไม่นอนจึงลุกมาดู ติณก็งัวเงียลุกมาเช่นกัน
“ภพเป็นไร” ติณขยี้ตามองไปทางนพที่อุ้มลูกขึ้นมาโอ๋ให้หยุดร้อง
“สงสัยไม่ค่อยสบายว่ะ พี่หมอบอกว่าเด็กที่ผ่าคลอดจะไม่แข็งแรง แล้วเราก็ไม่มีนมแม่ให้ด้วย” นพว่าพลางอุ้มเจ้าตัวเล็กโยกไปมา “พาไปโรงพยาบาลมั้ย”
“อืม”
“โทรหาคุณอันดีมั้ย” เพราะไปโรงพยาบาลย่อมมีค่าใช้จ่าย และพวกเขาก็ไม่ได้มีเงินมากมาย ยังไงก็ต้องพึ่งผู้ชายคนนั้นอยู่ดี ติณกัดปากอย่างเจ็บใจ พยักหน้าให้นพทำตามที่บอก

ภพมีไข้อ่อนๆ และหมอก็ให้ยาเรียบร้อยแล้ว อีกสองสามวันถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องให้มาโรงพยาบาลอีกครั้ง ติณกับนพเอ่ยขอบคุณหมอเวรดึกที่ช่วยดูแลก่อนจะเดินออกมาจากห้องตรวจ
“เป็นไงมั่ง” อันดาถามขึ้นเมื่อเห็นสองคนเดินออกมา
“มีไข้น่ะครับ ฉีดยาแล้ว” นพตอบ เพราะติณไม่ยอมมองหน้าอันดา แถมยังทำเป็นหูทวนลม
“ไปอยู่ที่บ้านฉันก่อนดีมั้ย ฉันจะให้คนหาแม่นมมาให้” อันดาเสนอ นพมีท่าทางลังเล
“ผมก็คิดว่าอยากให้คุณอันดูแลเขา เพราะมันจำเป็นจริงๆ แต่...” นพเสมองไปทางคนที่ยืนหลบมุมอุ้มลูกอยู่ห่างๆ “ติณมันดื้อ”
“นายช่วยพูดให้ทีสิ ติณน่าจะฟัง” อันดาคะยั้นคะยอพลางดันหลังนพให้เดินไปหาติณ นพก็เลยต้องยอมพูดให้อย่างช่วยไม่ได้

นพให้เหตุผลว่า เพราะเด็กไม่ได้รับสารอาหารจากนมแม่ เสี่ยงต่อการป่วยและเป็นภูมิแพ้ จึงควรให้อันดารับภพไปดูแลในช่วง 6 เดือนแรกก่อน เพื่อตัวภพเอง สุดท้ายติณก็ใจอ่อน
“แล้วติณจะไปอยู่กับพี่มั้ย” ในเมื่อได้ตัวลูกแล้ว ก็อยากจะให้แม่เด็กไปอยู่ด้วย อันดาเกลี่ยไรผมชื้นเหงื่อที่ข้างแก้มของติณพลางมองด้วยแววตาอ่อนโยน ความเกลียดแค้นชิงชังของอันดาหายไปนานแล้ว ตั้งแต่วันที่ได้แก้แค้นและทำให้ติณเกือบตาย
“ไม่” ติณปัดมือนั้นออกพลางหันหน้าหนี ที่ยอมนั่งรถมาด้วย เพราะอยากไปส่งลูกให้ถึงบ้านของอันดา เพื่อจะดูว่าภพอยู่สุขสบายปลอดภัยแน่นอน
“ไม่คิดถึงลูกเหรอ” น้ำเสียงทุ้มแผ่วเบาอยู่ข้างหู คล้ายกับกำลังพยายามชักจูงให้หลงไปกับคำพูดนั้น ติณเขยิบตัวไปจนชิดประตูรถ
“ไว้ไปเยี่ยม รีบๆ ออกรถสักที” ติณว่าพลางเหลือบมองเห็นนพที่ยืนส่งอยู่ตรงลานจอดรถ และคงเห็นอันดากำลังไล่ต้อนเขา

ติณมองไม่เห็นสีหน้าของนพ เพราะมันไกลเกินไป
ไม่อยากให้เห็นเวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้ เวลาที่อ่อนแอ
อย่ามองมา ได้โปรด...อย่ามอง

“ติณ” อันดากระซิบเสียงอ่อน จับคางมนให้หันไปสบตา “พี่อยากดูแลเรากับลูกจริงๆ นะ”
“แต่กูไม่อยาก!” ติณผลักอกเขาอย่างแรง อันดาจึงต้องยอมล่าถอย และกลัวว่าภพจะตื่นด้วย
“โอเค งั้นไปบ้านพี่ก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
จากนั้นรถยนต์สีดำราคาหลักสิบล้านก็ค่อยเคลื่อนตัวออกไปจากบริเวณนั้น


ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #6 เมื่อ04-02-2018 23:26:08 »

6
“ก็กูบอกว่าไม่!” ติณโวยวายดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง อันดาให้คนรับใช้คอยดูแลภพและวิ่งตามติณลงมาที่ชั้นล่าง ก่อนที่ติณจะเรียกแท็กซี่กลับหอ
“ติณ...ไม่เอา อย่าเสียงดังสิ” อันดากระซิบข้างหู น้ำเสียงอ่อนโยน แต่การกระทำนั้นไม่โอนอ่อน แรงที่รัดร่างโปร่งไม่มีคลายลงเลย การ์ดที่ยืนเฝ้าอยู่แถวนั้น ชะเง้อมองเหมือนอยากจะเข้ามาช่วย แต่อันดายกมือห้ามไว้ แล้วส่งซิกทางสายตาให้คอยเฝ้าไว้
“มันดึกมากแล้ว คืนนี้นอนนี่ก่อน แค่คืนเดียว” อันดาพยายามกล่อมเด็กดื้อให้สงบลง ริมฝีปากประทับจูบเบาๆ บนกลุ่มผมนุ่ม “นะครับ”
“ปล่อย” ติณเสียงอ่อนลง ถ้าแค่คืนเดียวก็คงไม่เป็นไร แม้จะไม่อยากอยู่ร่วมชายคากับคนคนนี้ แต่ก็ยังห่วงลูก พอเห็นติณเลิกดิ้นรน อันดาก็คลายอ้อมกอดออก
“ไปนอนห้องพี่นะ”
“กูจะนอนตรงนี้!” ติณแหวใส่ ชี้นิ้วไปที่โซฟา แล้วหันหลังจะเดินไปล้มตัวนอนตรงนั้น แต่อันดาก็รีบช้อนร่างโปร่งขึ้นอุ้มเสียก่อน
“ไอ้! ปล่อยกูลงนะ ไอ้อันดา ไอ้เหี้ย!”
“อย่าโวยวายสิ รบกวนคนอื่นเขา แค่นอนกับสามีจะเป็นไรไป” อันดายิ้มหวาน ใช้คำพูดที่สุภาพกับติณก็แล้ว ติณก็ยังไม่เลิกโวยวาย แต่ไม่กล้าดิ้น เพราะกลัวตก สุดท้ายก็ทำได้แค่ร้องโวยวายก่นด่าอันดาจนถึงห้อง

ติณถูกบังคับให้นอนข้างๆ อันดาบนเตียงขนาดคิงไซส์ แม้มันจะกว้าง และติณก็นอนเกือบตกขอบเตียง แต่อันดาก็ยังตามมาเบียดกายแนบชิด แถมชายหนุ่มร่างสูงยังไม่สวมเสื้อ มีแค่กางเกงขายาวตัวเดียวที่ใส่นอน
“จะเบียดมาทำไม” ติณเค้นเสียงลอดไรฟันด้วยความหงุดหงิด เขยิบหนีจนไม่มีที่ให้หนีแล้ว จะลุกไปนอนที่อื่นก็ไม่ได้ เพราะโดนกอดเอวไว้แน่น ง่วงก็ง่วง เลยไม่มีอารมณ์จะขัดขืนไปมากกว่านี้
“ก็อย่าหนีสิ” อันดาเอ่ยทั้งที่หลับตา ปลายจมูกคมสันคลอเคลียแถวหลังคอ
“แล้วจะไซร้ทำไม ไปไกลๆ จะนอน” ติณยกศอกดันร่างสูง
“พี่คิดถึง” เสียงทุ้มต่ำกระซิบอยู่ตรงคอ พร้อมริมฝีปากร้อนๆ ที่เริ่มประทับจูบ ติณขนลุกซู่ ภาพคืนนั้นหวนกลับมาราวกรอเทป
“อย่า! ไปให้พ้น!” ติณพลิกตัวหันไปผลักร่างสูง ไม่สนว่าจะร่วงลงพื้นหรือไม่ อันดารีบคว้าเอวบางไว้ ยกร่างโปร่งขึ้นนอนคว่ำทับบนร่างกำยำของตน ติณน้ำตาไหลพราก ความทรงจำเลวร้ายประดังประเดในหัว ร้องไห้จนตัวโยน อันดาจะกอดปลอบเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหยุด ร้องจนเหนื่อยแล้วก็หลับคาอกชายหนุ่มร่างสูงไป

เช้าวันต่อมา ติณตื่นแต่เช้า เข้าไปดูลูกในห้องสำหรับเด็กที่อันดาเตรียมไว้ให้ เห็นแม่นมกำลังให้นมภพอยู่พอดี ภาพนั้นสะท้อนในอก รู้สึกเจ็บใจ ที่ไม่สามารถเลี้ยงดูภพด้วยตัวคนเดียวได้ ยังไงภพก็ต้องการแม่...และถ้าไอซ์ยังอยู่

“ติณ ไปกินข้าวเช้ากัน” จู่ๆ ร่างสูงก็โผล่มายืนซ้อนข้างหลัง ติณตกใจเกือบหน้าคะมำ ดีที่วงแขนแกร่งคว้าไว้ได้ทัน
“เล่นบ้าอะไร” ร่างโปร่งหันไปโวยใส่ หน้าตาหงุดหงิดเอาเรื่อง แต่อันดากลับอมยิ้ม
“ขี้ตกใจจังนะเรา ไปกินข้าวเร็ว”
“ไม่ จะกลับแล้ว” ติณรีบตัดบท แค่มาเยี่ยมลูกแล้วก็จะกลับเลย อันดาตามไปรั้งตัวไว้อีก
“กินข้าวก่อนสิ เดี๋ยวเป็นลมไปทำไง ร่างกายยังไม่ฟื้นดี”
“หึ แล้วใครที่คิดจะทำทุเรศๆ ทั้งที่ร่างกายของกูยังไม่หายดี!” ติณสบถพลางสะบัดแขนออก เดินจ้ำอ้าวออกไปจากตัวบ้าน
“ก็พี่อยากได้ลูกสาวอีกสักคน” อันดาหลุดปาก ติณหันไปขมวดคิ้วจ้องเขม่น
“ไหนพี่หมอบอกว่าห้ามท้องอีก”
“เอ่อ...” อันดาอึกอัก ติณหมุนตัวเดินเข้ามาใกล้ จ้องหน้าคาดคั้น
“มึงหลอกกูอีกแล้วใช่มั้ย!? ไอ้สัตว์นรก ไอ้เฮงซวย! ไปตายซะ!”

เพี๊ยะ!

ติณตบหน้าอันดาเป็นการส่งท้าย แล้วรีบเดินหนีออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าบ้านทันที อันดาวิ่งตามไป ยื้ดยุดกันจนแท็กซี่ที่จอดรอขอตัวไปก่อน
“ปล่อยกู!” ติณเงื้อมือจะต่อยหน้าอันดา แต่ชายหนุ่มไวกว่าคว้าหมัดนั้นไว้ได้
“ถ้าท้องได้แล้วไง? มึงอยากจะไปท้องกับใครอีก!?” อันดาเริ่มมีน้ำโห ประกายตาคมกริบจ้องหน้าติณกลับ
“เรื่องของกูมั้ยล่ะ” ติณพยายามสะบัดข้อมือออก “จะปล่อยมั้ย!?”
“ไม่! โอ๊ย!!!” ติณอัดเข่าเข้าที่กลางลำตัวของอันดาเต็มแรง มือหนาจึงยอมปล่อยข้อมือบางเป็นอิสระ แล้วเอาไปกุมเป้าตัวเองแทน
“ไปตายซะ ไอ้หน้าส้นตีน!” ด่าพร้อมชูนิ้วกลางให้แล้วก็รีบวิ่งหนีไปโบกแท็กซี่ที่เห็นไกลๆ หนีไปจนได้

ติณกลับมาที่หอพักราวๆ 10 โมง วันนี้นพไม่มีเรียนและรออยู่ในห้องของเขาตั้งแต่เมื่อคืน พอเห็นติณกลับมาก็โผเข้ากอดด้วยความดีใจ
“กูนึกว่ามึงจะไม่กลับมาแล้ว” แรงกอดของนพไม่ได้มากมายอะไร เพราะกลัวติณเจ็บแผล ติณรู้ดีถึงความเอาใจใส่และความห่วงใยของนพ เขาลูบหลังร่างผอมเบาๆ
“เมื่อคืนมันดึกแล้ว ก็เลยค้าง”
“แล้วภพเป็นไงมั่ง” นพผละออกมาถามอย่างร้อนรน เป็นห่วงทั้งแม่ทั้งลูกจนแทบไม่ได้นอน
“ดีขึ้นมากแล้ว มีแม่นมคอยให้นมอยู่” ติณว่าพลางนั่งลงบนเตียง ถอดเสื้อผ้าชุดเดิมออก ต่อหน้านพที่เผลอจ้องหน้าอกที่มีเม็ดตุ่มเล็กๆ สีชมพูสองข้าง และพอติณรู้สึกตัวเงยหน้ามอง นพก็รีบเบนสายตาไปทางอื่นแทน
“เออ งั้นก็ดีแล้วนะ ภพจะได้แข็งแรง” นพว่าพลางเดินหนีไปทางครัวเล็กๆ “เดี๋ยวกูทำอะไรให้กิน”

ท่าทางเขินอายของนพทำให้ติณนึกขันอย่างเอ็นดู เขาลุกขึ้นเดินไปหานพแล้วโอบเอวจากด้านหลัง เล่นเอาร่างผอมสะดุ้งเฮือก
“จะ จะเอาอะไรรึเปล่า” นพตัวเกร็งเอ่ยถามเสียงสั่นๆ ติณหัวเราะคิก มือเรียวสวยไล้ที่แผ่นหลังของนพ
“เอามึงได้ป่ะ”
“เฮ้ย! กูไม่ใช่...” ของกิน คำพูดของนพขาดห้วง เมื่อจู่ๆ ติณก็จับร่างผอมพลิกให้หันไปหาแล้วประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม เพราะคราวก่อนมีคนมาขัดกลางครัน ก็เลยได้แค่ปากแตะกันไม่นาน แต่ครั้งนี้เป็นจูบของจริงจากคนที่มีประสบการณ์มากกว่าอย่างติณ นพไม่เคยจูบกับใครมาก่อน ได้แต่ยอมให้ติณเป็นผู้นำ
“อ้าปากสิ” เพราะนพเม้มปากเสียแน่น ติณจึงต้องแนะนำ นพลืมตามองเขา ทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมอ้าปาก
“กูจะค่อยๆ สอนมึงเอง แล้วคราวหน้าต้องจูบกูให้ได้แบบนี้นะ” ติณกำชับก่อนจะประกบปากกันอีกครั้งพร้อมสอดลิ้นเข้าไป นพสะดุ้งตัวเกร็งด้วยความตกใจผงะถอยหลังจนชนขอบเตาแก๊ส ติณประคองเอวของร่างผอมไว้ ค่อยๆ สอนให้นพรู้จักวิธีการจูบแบบดีพคิสอย่างช้าๆ แต่เหมือนลูกศิษย์ของเขาจะเรียนรู้เร็วเกินคาด นพส่งลิ้นตอบรับกลับมาตามสัญชาตญาณ ดันร่างโปร่งไปชิดผนังห้องแล้วดูดลิ้นของติณซ้ำๆ บดบี้ริมฝีปากอิ่มดูดดึงด้วยแรงปรารถนาเสียงดังจ๊วบๆ หัวใจสองดวงเต้นถี่รัว ลมหายใจปั่นป่วน ในท้องเบาโหวงและสมองก็ขาวโพลนไปหมด

“อื้อ...พอ...” เป็นฝ่ายคุณครูที่ต้องดันร่างผอมออกก่อน น้ำลายยืดย้อยจากปากตอนที่ผละออกมา นพจ้องมองปากแดงเจ่อของติณอย่างโหยหา ทำท่าจะเข้ามาจูบอีก จนติณต้องรีบร้องห้าม
“ไอ้ห่านี่ บอกให้พอ กูหายใจไม่ทัน!”
“ขะ ขอโทษ...” นพทำตาละห้อย จนติณโกรธไม่ลง
“ครั้งแรกแน่ป่ะเนี่ย?” ชักไม่แน่ใจ เพราะจูบได้เร่าร้อนปานนี้ ติณขมวดคิ้วหรี่ตามองคนตรงหน้า
“ครั้งแรกสิวะ!” นพยืนยันหนักแน่น พลันติณก็สังเกตเห็นส่วนล่างของนพที่ตุงๆ คับเป้ากางเกง เขาแสยะยิ้มเอามือคว้ามันไว้แบบไม่ทันให้นพได้ตั้งตัว ร่างผอมกระโดดเหย็ง
“แค่จูบก็แข็งแล้วอ่ะ” มือนุ่มบีบคลึงให้เบาๆ นพนิ่วหน้าซี้ดปาก แก้มแดงปลั่งด้วยความอาย และยิ่งอายหนักเมื่อได้ยินที่ติณกระซิบบอก
“ตอนนี้ยังไม่ได้นะนพ ไว้อีกสักสองสามเดือนค่อยทำ แต่กู...จะช่วยมึงด้วยมือก่อนแล้วกัน”

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #7 เมื่อ04-02-2018 23:26:51 »

7
นพดลนั่งเหม่อมองสายฝนที่โปรยปรายอยู่นอกหน้าต่างห้องเรียน อาทิตย์หน้าก็สอบปลายภาคครั้งสุดท้ายแล้ว จากนั้นก็เรียนจบ หางานทำ รับปริญญา สถาบันที่เขาสอบเข้ามาได้ค่อนข้างมีชื่อเสียง และตัวเขาก็เรียนดีระดับที่ได้ทุนเรียนฟรีสี่ปีซ้อน เรื่องหางานไม่น่ายาก เขาจะพยายาม พยายาม และพยายามให้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลูกเมีย

ลูกเมีย

พอคิดแบบนั้นมันก็รู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจแปลกๆ ติณเป็นผู้ชายทั้งแท่ง (พิสูจน์มาแล้วรอบหนึ่งว่ายังมีครบสมบูรณ์) จะให้เป็นเมียก็ไม่ดี แต่ตัวเขาก็ไม่ได้อยากเป็นเสียเอง นพเคยลองเกริ่นๆ กับที่บ้านแล้วเรื่องครอบครัว แค่บอกพ่อว่าเจอคนที่อยากใช้ชีวิตด้วย อยากมีลูกด้วยกัน พ่อก็หัวเราะครืนอย่างดีอกดีใจ แถมยังบอกให้พาแฟนไปที่บ้านให้ได้

แต่ถ้ารู้ว่า “แฟน” เป็น “ผู้ชาย” แถมยัง “ท้องได้” พ่อกับแม่จะว่ายังไงนะ?

“ติณ ไว้กูเรียนจบแล้ว กลับไปบ้านกูสักครั้งมั้ย ไปไหว้พ่อกับแม่” นพเข้ามากอดและคลอเคลียตามปกติ ติณชอบเวลาที่นพอ้อนแบบนี้ เพราะมันเหมือนตอนที่ไอซ์ชอบอ้อนเขา...

ติณยังรักไอซ์อยู่เสมอ ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง
แต่ชีวิตของเขาต้องดำเนินต่อไป
แม้อยากจะตายๆ ไปให้พ้นจากชีวิตบัดซบนี่เสียที
แต่เพราะเด็กคนนั้น เขาจึงต้องอยู่

“จะดีเหรอวะ” ติณไม่แน่ใจว่าพ่อแม่ของนพจะรับเขาได้ หรือจะบอกว่าเป็นแค่เพื่อน แล้วภพล่ะ? ต้องฝากไว้ที่ผู้ชายคนนั้นอีกนานแค่ไหนกัน จนกว่าจะโตและแข็งแรงเลยหรือ

ในหัวของติณมีแต่เรื่องให้คิดเต็มไปหมด ยังไม่รู้เลยว่าจะให้ลูกเรียกว่าอะไร พ่อ? แม่? หรือให้เรียกชื่อเฉยๆ ไปเลยดี? ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ต้องเลี้ยงดูเด็กคนนั้นอย่างจริงจัง ทั้งที่น่าจะตายๆ ไปด้วยกันแล้ว

ตอนที่รู้ตัวว่าท้อง ติณเคยคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง

ครั้งแรกบนดาดฟ้านั่น แต่ไม่ทันได้กระโดดลงไป นพมาคว้าไว้ได้ก่อน ครั้งที่สองจะผูกคอตาย นพก็มาห้ามไว้อีก ครั้งที่สามกรีดข้อมือ นพก็พาส่งโรงพยาบาลทัน และครั้งนั้นแหละที่ทำให้ต้องติดต่อกับอันดาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นนพก็คอยแจ้งข่าวเรื่องของติณกับลูกให้อันดารับทราบอยู่เสมอ

นพเอาแต่พูดว่า เด็กไม่ได้ทำอะไรผิด สงสารเด็กในท้อง จนติณรู้สึกอิจฉา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นถึงอิจฉาเด็กในท้องตัวเอง คงเพราะเขาเริ่มจะรู้สึกดีๆ กับนพเกินเพื่อนแล้วก็ได้
นพคอยดูแล ลูบท้อง ฟังเสียงของเด็กนั่น บางครั้งก็พูดคุยด้วย ร้องเพลงให้ฟัง อ่านหนังสือให้ฟัง ทำตัวเหมือนเป็นคุณพ่อมือใหม่ ความอิจฉาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเอ็นดู เริ่มจะคล้อยตามเรื่องที่นพทำทีละน้อย รู้สึกดีเวลาที่นพคอยอยู่ข้างๆ ให้กำลังใจ ถ้าเด็กนั่นคือตัวเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับนพ ก็อยากจะลองรักมันดู อยากจะคลอดเด็กนั่นออกมา และเลี้ยงดูด้วยกันกับนพ ถึงได้ยอมอุ้มท้องไว้ แม้บางครั้งจะหงุดหงิดที่มีมันอยู่ในท้องก็ตาม

แต่พอได้เห็นหน้าภพครั้งแรก ความเกลียดชังทั้งหลายแหล่ก็มลายหายไปในพริบตา ตอนที่นพอุ้มลูกขึ้นมากอดไว้อย่างรักใคร่ เอาจมูกถูกับใบหน้าและมือกับเท้าเล็กๆ นั่น ติณก็สาบานกับตัวเองตั้งแต่วินาทีนั้นแล้วว่า จะรักภพจนกว่าชีวิตจะหาไม่

และจะรักแค่นพคนเดียวเท่านั้น

แต่ความเป็นจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น

แม้พวกเขาจะดูเป็นครอบครัว แต่มันไม่สมบูรณ์

พวกเขาเป็นผู้ชายทั้งคู่ เมื่อภพโตขึ้นก็อาจจะสับสน แต่เรื่องนั้นยังอีกยาวไกล เรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดตอนนี้คือ ทำยังไงให้พ่อแม่ของนพยอมรับ

ติณไม่ได้คิดถึงผู้ชายอีกคนที่เคยทำร้ายตนแม้แต่น้อย เรื่องมันจบแล้ว ติณยอมคลอดเด็กคนนั้นแล้ว และจะไม่มีวันยกภพให้อันดาแน่นอน ในเมื่อนพรักเด็กคนนั้นมาก เขาก็จะรักด้วย และจะไม่ยอมให้อันดามาพรากลูกไปจากคนที่เขารัก

“ติณ?” เมื่อเห็นติณเอาแต่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจมอยู่ในห้วงความคิดเพียงลำพัง นพก็เอ่ยเรียกอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดติณก็กลับคืนมาเป็นตัวเอง
“ห๊ะ?” ติณหันไปสบตาอย่างงุนงง “ว่าไงนะ?”
“ตกลงเอาไง จะไปด้วยกันมั้ย? พาภพไปด้วยก็ได้”
“แล้วจะบอกพ่อแม่ว่าไง บอกว่ามึงติดใจพ่อหม้ายลูกอ่อนงี้เหรอ”
“หม้ายเหี้ยไรล่ะ กูนี่ไงสามี ขอสุภาพนิดหนึ่งนะ” นพชี้อกตัวเองพลางยิ้มกว้างอย่างภูมิอกภูมิใจ ติณเบะปากด้วยความหมั่นไส้
“เอาจริงนะนพ ใครจะยอมรับได้วะ เป็นเกย์ แถมยังมีลูกติดอีก” ติณส่ายหน้า
“กูนี่ไงรับได้ แม่มึง...เอ่อ คุณหญิงแม่อ่ะ ก็รับได้ พี่สาวมึงอีก เพื่อนมึง เพื่อนกู พี่หมอ ทุกคนก็ยอมรับได้ทั้งนั้น พ่อกับแม่กู ถึงจะเป็นคนบ้านนอกแต่ก็ไม่ได้ใจแคบนะมึง” นพยืนยันหนักแน่นจนติณเริ่มจะใจอ่อน เดี๋ยวนี้เขาใจอ่อนให้กับนพทุกเรื่อง
“ก็ได้ ลองดู” ติณว่าพลางเอนหัวพิงกับไหล่ของนพ

แม้จะผอมไปหน่อย แต่ร่างกายของนพอบอุ่นเสมอ อีกหน่อยพอฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นจากเงินเดือนที่นพหาได้ ค่อยจับฟิตร่างกายให้บึกบึนไว้ต่อกรกับไอ้คนพาลอันดานั่นก็ได้

และแล้วก็ถึงวันที่นพเรียนจบ ผลสอบออกเรียบร้อย และได้เกียรตินิยมอันดับที่ 1 เหรียญทองตามคาด จากนี้ต้องหางานทำเพื่อเก็บเงินและเรียนต่อเนติบัณฑิต เพื่อจะสอบเป็นทนายความและต่อด้วยการสอบเข้าเป็นอัยการเมื่ออายุครบ 25 ปี
“แบบนี้หางานได้ง่ายแน่ ไว้พี่จะแนะนำสำนักงานทนายความของเพื่อนให้” พี่หมอเป็นคนที่มีน้ำใจกับพวกเขามากจริงๆ ทั้งดูแลตอนที่ติณท้อง แล้วตอนนี้ก็ยังช่วยเหลือเรื่องภพกับนพอีก
“ขอบคุณครับพี่หมอ” นพยิ้มรับอย่างดีใจ นานๆ ทีพี่หมอก็ชวนนพมากินขนมเค้กแถวโรงพยาบาล วันนี้ติณกับภพมาตรวจร่างกายพอดีด้วย
“ถึงติณจะแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่จะทำอะไรกันก็...เบาๆ หน่อยล่ะ” หมอแกล้งแซวขำๆ แต่ทำเอาสองหนุ่มหน้าร้อนฉ่า
“เฮ้ยๆ อย่าบอกนะว่า...”
“ไม่ๆ พี่หมอ อย่าเพิ่งคิดไกล ผมยังไม่เคยทำอะไรติณมากกว่าใช้มือ” นพรีบปฏิเสธตามประสาคนซื่อ ติณหันไปถลึงตาใส่เอาศอกกระทุ้งสีข้างของนพเบาๆ ไม่ให้กระเทือนถึงลูก
“ฮ่าๆ เออๆ มึงนี่ก็ตร๊งตรงเนอะ แล้วนี่ยังต้องฝากภพไว้กับไอ้อันอยู่มั้ย” หมอมองไปที่เด็กน้อยในอ้อมกอดของนพ
“ก็ต้องงั้นล่ะครับ ทำไงได้ พวกเราไม่มีนมแม่ให้ไอ้หนูนี่” ติณว่าพลางเอานิ้วจิ้มแก้มภพเล่น
“อืม งั้นก็คงอีกนานนะกว่าจะได้เลี้ยงกันเอง” หมอทำหน้าครุ่นคิด “เอางี้ พี่จะขอน้ำนมจากพวกแม่ๆ ที่มาคลอดลูกเก็บไว้ให้ บางทีก็มีเหลือๆ บ้าง แต่ก็คงไม่เยอะมากอะไรนะ”
“ขอบคุณมากครับพี่หมอ ขอบคุณหลายๆ รอบเลย” นพยิ้มร่า ยิ่งคิดถึงวันที่จะได้เลี้ยงดูภพด้วยกันกับติณแบบจริงๆ จังๆ แล้วก็ยิ่งดีใจ

ติณไม่ได้อยากพึ่งพาผู้ชายคนนั้นเลยสักนิด ไม่เคยต้องการเลย แต่เขากับนพไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะเลี้ยงดูภพได้ในตอนนี้ ไหนจะเรื่องนมแม่อีก เวลาภพป่วยก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย เลยจำใจต้องรับความช่วยเหลือจากอันดาทุกเดือน และถ้านพต้องเรียนเนติฯ ไปด้วยทำงานไปด้วย กว่าจะได้เป็นอัยการอีก ก็คงต้องพึ่งอันดาอีกนาน

“อย่าคิดมากนะ กูแค่อยากให้ลูกอยู่ในที่ดีๆ เอาไว้กูทำงานสักปีสองปีจะลองผ่อนคอนโดหรือหาบ้านถูกๆ สักหลัง” ด้วยการแนะนำจากพี่หมอ ทำให้นพหางานได้ทันทีที่เรียนจบ หลังสอบใบอนุญาตว่าความแล้ว ก็ต้องเก็บคดีความทั้งหมด 20 คดี เพื่อรอสอบอัยการต่อไป
“กูก็จะหางานทำด้วย นี่ก็หายดีแล้ว” แม้จะมีวุฒิแค่ม.3 ติณก็ไม่อยากนั่งงอมืองอเท้ารอให้นพหาเลี้ยงอย่างเดียว
“ไม่ได้ดิ กูไม่อยากให้มึงทำงานหนักๆ”
“งั้นวาดรูปขาย?” ติณเสนอ ซึ่งนพดูจะค่อนข้างเห็นด้วยกับงานนี้
“ก็ดีนะ กูเลิกงานก็มาช่วยมึงขนของไปวาดรูปที่ตลาดนัดได้ กูว่าจะซื้อมอเตอร์ไซค์สักคัน จะได้พามึงกับลูกไปไหนได้สะดวก” นพคว้าร่างโปร่งเข้าไปกอดไว้แนบกาย ติณเองก็ทิ้งตัวพิงกับอกบางๆ นั้นอย่างไม่รังเกียจ
“มึงนี่สมเป็นคุณพ่อสุดๆ เลยนะ น่ารักที่สุดเลย” ติณหยิกแก้มของคุณพ่อมือใหม่ด้วยความหมั่นเขี้ยวพลางหัวเราะคิกคัก เมื่อนพทำหน้าเหยเก คนถูกหยิกก็ไม่น้อยหน้า ก้มลงมาฟัดแก้มนิ่มๆ ของติณยกใหญ่

ทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดีแล้ว (รวมทั้งเรื่องพ่อกับแม่ของนพ ที่น่ารักไม่แพ้ลูกชาย) ในเมื่อนพหางานได้ตามกำหนดที่อันดาวางไว้ อันดาจึงต้องยอมคืนลูกให้ทั้งคู่ พี่หมอก็ช่วยจัดหาน้ำนมแม่มาให้ ภพแข็งแรงขึ้นมาก ตัวก็โตขึ้นพอสมควร ตอนนี้อายุได้ 7 เดือนแล้ว เริ่มจะนั่งเองได้ ตอนกลางวันติณจะคอยเล่นกับภพ โดยให้ภพนั่งแล้วหยิบของเล่นให้ดูในระดับสายตา คอยพูดคุยกับภพไปเรื่อยเปื่อย เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการ ส่วนอาหาร ก็เริ่มให้กินอาหารเสริม และเปลี่ยนมากินนมผง ติณคอยช่วยพยุงตัวให้ภพรู้จักการยืนเป็นครั้งคราว พอตอนเย็นนพจะมารับไปวาดรูปขาย จึงฝากภพไว้กับป้าข้างห้องใจดีให้คอยช่วยดูแลแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็กลับ และช่วยกันดูแลภพต่อจนลูกหลับ

[เป็นไงมั่ง] หลังจากติณกับภพเข้านอนแล้ว นพก็จะโทรไปรายงานความเคลื่อนไหวตลอดทั้งวันให้อันดาทราบ อันดาให้มือถือพร้อมคอยจ่ายค่าบริการให้เสร็จสรรพ เพื่อไม่ให้นพต้องลำบากมาก ส่วนค่าใช้จ่ายจิปาถะบางอย่างก็คอยช่วยอยู่บ้าง แต่รับทั้งหมดไม่ได้ เพราะติณจะรู้และไม่ยอมแน่นอน
“วันนี้ภพเริ่มคลานแล้วก็ยืนเองบ้างแล้วครับ เด็กคนนี้เรียนรู้เร็วมากเลย” นพรายงานไปตามจริงทุกครั้ง เล่าทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างตอนเปลี่ยนผ้าอ้อม
[เหรอ อยากเห็นจัง ไว้นายถ่ายคลิปส่งมาทีสิ] นพรู้สึกถึงน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจและมีความสุขของคุณพ่อตัวจริง พลันนึกสงสารอันดาขึ้นมานิดหน่อย เพราะติณไม่ยอมให้มาเจอลูกชายเลย
“ผมถ่ายไว้ครับ เดี๋ยวส่งไลน์ไปให้”
[แล้วเรื่องงานของนาย โอเคมั้ย จริงๆ มาเป็นทนายให้พรรคพี่ก็ได้นะ ตอนนี้ก็พอมีตำแหน่งว่าง] อันดาอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะยังไงภพกับติณก็ต้องมีคนดูแลที่ไว้ใจได้ ขืนปล่อยให้อดๆ อยากๆ อยู่กับนพก็แย่พอดี
“ไม่เป็นไรครับ ที่ทำอยู่ผมโอเคแล้ว”
[ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกพี่นะ ฝากติณกับภพด้วย...] อันดาเว้นจังหวะครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่ออีกว่า [พี่ไว้ใจนพได้ใช่มั้ย เรื่องติณ]
นพนิ่งงัน คำว่าไว้ใจของอันดาไม่น่าจะหมายถึงแค่เขาสามารถเลี้ยงดูและดูแลติณได้ แต่หมายรวมถึง นพจะไม่ยุ่งกับติณ
“เอ่อ...”
[หวังว่านพจะไม่ “หักหลัง” พี่ นะครับ] แล้วสายก็ตัดไปทันที ไม่รอให้นพตอบรับหรือปฏิเสธ ซึ่งมันคือการมัดมือชกของผู้ชายที่ชื่ออันดา

นพเดินกลับเข้าไปในห้องที่ติณกับลูกกำลังนอนหลับสนิท เขามองดูภพตัวน้อยๆ นอนบิดตัวไปมาแล้วค่อยๆ เลื่อนสายตาไปยังติณที่อยู่บนเตียงข้างๆ กัน

นพทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เสียงของอันดาลอยมาในหัว แน่ล่ะว่าเขา “หักหลัง” ไปแล้วครึ่งทาง ทั้งคิดเกินเลยกับติณแล้วยังเคยช่วยกันสำเร็จความใคร่ด้วยมือ แม้จะแค่สองสามครั้งก็ตาม
ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกหรอกที่จะไม่ปรารถนาในตัวคนที่รัก แม้แต่คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนอย่างนพก็ตาม ความรักมักมาคู่กับความต้องการเสมอ อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ แค่สักครั้งก็ยังดี

ถ้าติณปฏิเสธ เขาจะยอมตัดใจ แต่นี่ติณเป็นฝ่ายเรียกร้องเองเสียด้วยซ้ำ นพรู้สึกได้ว่าติณต้องการที่พึ่ง ต้องการใครสักคนที่จะยึดเหนี่ยวเอาไว้ แม้มันอาจจะไม่ใช่ “ความรัก” และเป็นแค่สภาวะความต้องการของร่างกายเท่านั้นก็ตาม

วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เด็กน้อยค่อยๆ เติบโตขึ้นจนตอนนี้อายุได้ 2 ขวบแล้ว การงานของนพก็มั่นคงดีมาก อีกไม่นานจะได้เวลาสอบเป็นอัยการแล้ว ช่วงนี้นพจึงงานยุ่ง เพราะยังเหลือคดีที่ต้องเก็บอีก 3 คดีความในปีนี้ และปีหน้าก็จะได้ไปสอบเลื่อนขั้นเสียที ตั้งแต่เริ่มทำงานทนายความ นพกล้าพูดกล้าทำขึ้นมาก เพราะมีอาจารย์คอยฝึกฝนทักษะในการว่าความและขึ้นศาลให้ และนพก็เป็นคนที่เรียนรู้เร็วในทุกๆ เรื่อง

คดีความสุดท้ายในปีนี้ที่เขาต้องทำ เป็นคดีเกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่ถูกข่มขืน ซึ่งปกติไม่ค่อยมีพ่อแม่คนไหนกล้าฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่เคสนี้หนักหน่อย เพราะน้องคนนั้นถูกรุมโทรมและโดนวางยา ทำให้กลายเป็นเจ้าชายนิทรา ทางพ่อแม่เด็กจึงต้องการดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 10 ล้านบาทจากครอบครัวของผู้ต้องหาที่ก่อคดี ซึ่งมีทั้งหมด 5 คน

ส่วนความสัมพันธ์ของติณกับนพก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้คืบหน้าไปกว่านั้น เพราะนพงานยุ่งตลอดเวลา แทบไม่มีวันหยุด ปีแรกยังดีที่พอปลีกตัวมารับติณไปวาดรูปขายได้ช่วงเย็น แต่พอปลายปีเดียวกันนั้นก็เริ่มยุ่งจนต้องวานให้ผู้ช่วยมารับติณแทน ยิ่งปีถัดมายิ่งยุ่งขนาดที่ว่า เสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องออกไปดูแลลูกความของตน หาข้อมูลต่างๆ อยู่ตลอดเวลา อยู่ที่ห้องก็ยังต้องทำงาน แต่นพก็พยายามหาเวลามาช่วยติณเลี้ยงภพบ้าง

“สอบผ่านได้เป็นอัยการเมื่อไหร่ พวกเราก็จะสบายขึ้นแล้วล่ะ นพจะสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัด แล้วก็หาซื้อคอนโดอยู่ด้วยกันที่นี่นะ ติณว่าดีมั้ย?” อีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น นพก็จะได้สอบแล้ว คดีสุดท้ายของเขาจบลงด้วยดี ผู้เสียหายได้รับเงินชดเชยเรียบร้อย และผู้ต้องหากลุ่มนั้นก็ถูกพิพากษาจำคุกรวม 7 ปี มันอาจจะไม่มากมาย แต่ก็เพียงพอกับความต้องการของพ่อแม่เด็กที่เป็นผู้เสียหายแล้ว
“อืม แล้วแต่นพเลย ติณทำให้นพลำบากรึเปล่า” ติณเอนหลังพิงแผ่นอกที่ดูมีกล้ามเนื้อขึ้นเล็กน้อยของนพ เพราะอายุมากขึ้น ร่างกายก็สมส่วนขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่แบบไหนติณก็ชอบทั้งนั้น
“ไม่หรอก นพอยากทำให้ติณกับลูก เราเป็นครอบครัวเดียวกันใช่มั้ย” นพเกยคางบนศีรษะของติณแล้วโอบแขนกอดเอวบางไว้หลวมๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายของติณทำให้รู้สึกสบายใจและปลอดโปร่ง ไม่ว่าจะทำงานเหนื่อยและเครียดแค่ไหน พอได้กลับมากอดติณและสูดกลิ่นหอมนี่ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“แน่อยู่แล้วสิ นพเป็นคุณพ่อที่น่ารักและเก่งที่สุดในโลกเลย” ติณยิ้มหวาน ลูบแขนที่กอดเอวตนไว้ไปมา ก่อนจะพลิกตัวหันหน้าไปหานพและยกแขนขึ้นคล้องรอบลำคอของชายหนุ่มร่างผอม
“ไว้สอบเป็นอัยการแล้ว ติณจะให้รางวัลนะ ต้องผ่านนะครับคนเก่งของติณ” ริมฝีปากสีอ่อนเคลื่อนเข้าใกล้และประทับจูบบนแก้มของนพแผ่วเบา “ติณรักนพนะ”
นพคลี่ยิ้มบางๆ “นพก็รักติณ” จากนั้นต่างก็จูบกันและกันอย่างดูดดื่ม เพื่อยืนยันถึงความรู้สึกที่มี


ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #8 เมื่อ04-02-2018 23:27:44 »

8
“ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไม...”

ขอโทษนะ ติณ

คิดถึงนะ

นานแล้วที่ติณไม่ได้ฝันเห็นเธอคนนั้น “ไอซ์” หญิงสาวผู้เป็นที่รัก จวบจนตอนนี้ก็ยังคงรักเสมอไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าวันเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน

ติณเข้าใจความรู้สึกของไอซ์แล้วนะ

เขาพึมพำเบาๆ พลางลูบหน้าท้องตัวเองที่มีบางสิ่งผิดปกติไปจากเดิมอยู่ภายใน การต้องใช้ชีวิตเหมือนผู้หญิง ทำให้ติณเข้าใจไอซ์มากขึ้น เข้าใจพร้อมๆ กับความเสียใจ

อีกไม่นานนพก็จะสอบเป็นอัยการแล้ว ติณคอยดูแลและให้กำลังใจอยู่ตลอด พี่หมอเองก็โทรมาถามไถ่ข่าวคราวบ้างเป็นบางครั้ง เห็นว่าตอนนี้ต้องเป็นอาจารย์หมอสอนนักศึกษาแพทย์ด้วย งานเลยยุ่งเป็นพิเศษ ไม่ค่อยมีเวลามาเยี่ยมหรือออกไปเจอกันข้างนอกเหมือนก่อน ส่วนอันดาก็มีเรื่องวุ่นวายในพรรคการเมืองที่สังกัด แว่วๆ ว่าจะเลิกเล่นการเมืองเร็วๆ นี้ หันมาทำแต่ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักอย่างเดียวแล้ว

“ตั้งใจสอบนะ นพทำได้อยู่แล้ว” วันไปสอบ ติณแค่ส่งเขาที่หน้าตึกหอพักเท่านั้น เพราะต้องพาเจ้าตัวเล็กไปส่งโรงเรียนอนุบาล แต่กะว่าจะไปรอตอนสอบเสร็จ
“มีติณกับภพเป็นกำลังใจ ยังไงก็ทำได้ครับ” นพยิ้มหวานพลางจะก้มลงหอมแก้มภรรยาที่น่ารัก แต่ติณดันอกเขาไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะประเจิดประเจ้อไป
“อายเค้า” ติณขมวดคิ้ว แก้มขึ้นสีอมชมพู
“เออ โทษที เผลอไปหน่อย” นพยอมผละออกมาพร้อมยกมือเกาหัวแก้เก้อ “งั้นไปก่อนนะ”
“อื้อ” ติณโบกมือส่งนพที่ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วสตาร์ทเครื่องออกไป

การสอบอัยการนั้นบางครั้งมีปีเว้นปี ปีที่นพสอบจึงเป็นปีที่ภพอายุได้ 4 ขวบแล้ว เรียนชั้นอนุบาล 2 พอดี ผู้สมัครสอบปีนั้นมีจำนวน 7,489 คน และมีผู้ที่สอบผ่านน้อยมากในแต่ละปี แต่ด้วยความอุตสาหพยายามและกำลังใจที่ดี ทำให้นพสอบผ่านด้วยคะแนนลำดับต้นๆ ได้เป็นอัยการสมใจ

“เอาเจ้าภพไปฝากไว้กับพี่หมอ?” นพเอียงคอมองหน้าติณอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมติณถึงเอาลูกไปฝากที่พี่หมอในวันหยุดแบบนี้ ทั้งที่น่าจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เพื่อฉลองที่เขาสอบผ่าน
“ก็ใช่ไง พี่หมอบอกจะพาไปเที่ยว ก็เลยรบกวนยาวๆ ถึงพรุ่งนี้เช้าเลย” ติณว่า สีหน้าไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด แต่นพถึงกับเหวอ
“เฮ้ย ไปกวนพี่เขาขนาดนั้นได้ไง”
“พี่หมอเขาเต็มใจน่า มาเข้าเรื่องเราดีกว่า นพ” ติณเดินเข้าไปโอบแขนรอบคอร่างผอมสูงที่ยังมึนงง “คืนนี้ต้องฉลองกันหน่อยนะ ติณมีของขวัญพิเศษจะให้” เสียงกระซิบหวานๆ ทำเอานพหัวใจเต้นแรง เลือดลมสูบฉีดจนหน้าแดงก่ำ
ก็ “ของขวัญ” ที่ว่า มันรู้ๆ กันอยู่ว่าคืออะไร

อยู่ด้วยกันมาเกือบ 8 ปี คบกันจริงจังก็ราวๆ 3 ปีกว่าได้แล้ว แต่นพยังไม่เคยแตะต้องติณมากกว่าช่วยกันด้วยมือ ซึ่งนับว่าน้อยครั้งมาก ยิ่งพอนพเรียนจบต้องทำงานและเตรียมตัวสอบมาตลอด ก็ไม่มีเวลามาคิดเรื่องอย่างนั้นเท่าไหร่ ต่างคนต่างก็รอเวลาที่เหมาะสม แม้ในหัวของนพจะยังคงมีเสียงของผู้ชายคนนั้นดังก้องอยู่ก็ตามที

หวังว่านพจะไม่ “หักหลัง” พี่ นะครับ

“นพ? เป็นอะไรไป” ติณเอียงคอมองอย่างสงสัย เมื่อเห็นนพนิ่งไปนาน นพได้สติและยิ้มแหยๆ ให้
“คือ กำลังคิดว่า...จะออกไปซื้อถุงยางเลยดีมั้ย”
ติณหน้าร้อนฉ่ากับคำตอบนั้น “ไม่ต้องก็ได้”
“เอ๊ะ? แต่พี่หมอเคยบอกว่า...” นพขมวดคิ้ว
“พี่หมอบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว” ติณหรุบตาลงก่อนจะเงยขึ้นสบสายตาซื่อใสของนพอีกครั้งอย่างเว้าวอน ริมฝีปากสีสวยเม้มนิดหนึ่งก่อนจะขยับทีละคำ อย่างชัดเจน
“ติณ-อยาก-มี-ลูก-กับ-นพ”
“ห๊ะ?!” นพสะดุ้งเฮือก ตกใจกับข้อความกะทันหัน สมองประมวลผลอยู่ครู่ใหญ่ก่อนหน้าจะระเบิดตูมจนได้ยินเสียงฟู่ๆ ตามมา
“ฮะฮะ น่ารักจัง เขินมากเลยเหรอ” ติณหัวเราะอารมณ์ดี มือเรียวลูบไล้ที่แก้มบุ๋มๆ ของร่างผอมสูง นพเป็นคนน่ารักมากกว่าหล่อ สูงกว่าติณเกือบ 10 ซม. แต่ดูผอมบางกว่า
“กะ ก็...มัน...เอ่อ...” นพทำหน้าไม่ถูก ตัวแข็งเกร็งไปหมด มือที่กอดติณไว้ก็นิ่งทื่อ หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าจะหลุดออกมานอกอก ไม่คิดว่าติณจะพูดตรงๆ ขนาดนั้น

อยากมีลูกเนี่ยนะ? ก็หมายความว่า...จะให้ทำแบบ...ไม่ใส่ถุงยางน่ะสิ

“ไม่อยากมีลูกด้วยกันเหรอ” ใบหน้าใสคลอเคลียอยู่แถวซอกคอ นพเอนตัวหลบเล็กน้อย เพราะมันจั๊กจี้แปลกๆ ใจก็คิดว่า เขาน่าจะเป็นคนทำแบบนี้รึเปล่า? ไม่ใช่ให้คนเป็นเมียรุกเอาๆ
“อะ อยากสิ...อยากครับ” นพจับต้นชนปลายไม่ถูก ตื่นเต้นจนฝ่ามือชื้นเหงื่อไปหมด ติณหัวเราะคิกกับความไม่ประสีประสาของชายหนุ่มผู้ไร้ประสบการณ์ เรื่องใช้มือช่วยกัน มันชินแล้ว แต่เรื่องนี้นพคงไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจ
“งั้นก็ทำสิ” คนช่างยั่วตื้อไม่เลิกรา นพกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ติณมองดูลูกกระเดือกของเขาพลางเอาปลายนิ้วลูบไล้มันช้าๆ
“ตอนนี้เลยเหรอ? ไหนบอกว่าคืน...อือ...” จู่ๆ ร่างโปร่งก็ดึงคอเสื้อเขาลงมาประกบจูบเสียดูดดื่ม จูบกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ติณเร่าร้อนกว่าปกติ ลิ้นรุกไล่สู่โพรงปากรวดเร็วไม่ทันตั้งตัว นพครางฮือในคอ เพราะลมหายใจเริ่มติดขัด พยายามจูบตอบติณและควบคุมลมหายใจให้เข้าที่อย่างทุลักทุเล

ลิ้นของติณหวาน รสจูบของติณมีกลิ่นหอมเหมือนลูกอมรสมิ้นต์ ติณอาจจะเพิ่งอมลูกอมมา แต่เขาเนี่ยสิ...ไม่ทันเตรียมตัวอะไรเลย กลัวว่าติณจะเหม็นปาก แต่ก็ไม่ทันแล้ว ติณรั้งคอเขาไม่ปล่อย ยิ่งจูบก็ยิ่งเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ เหมือนฉุดไม่อยู่ ทุกสิ่งถูกปลดเปลื้อง ติณมือไวเป็นบ้า นพคิดพลางช่วยร่างโปร่งถอดเสื้อยืดออกจากหัว ส่วนตัวเขานั้นเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้

มือเรียวสวยไล่สัมผัสตามแผงอกและลาดไหล่ของร่างผอมสูง แต่พอมันลูบมาถึงหน้าท้อง นพก็สั่นเกร็งไปทั้งร่าง ความรู้สึกเบื้องล่างชื้นแฉะปูดนูนขึ้นอย่างยากจะห้าม ติณทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง นพชันเข่าข้างหนึ่งลงตรงหว่างขาของติณ ก้มลงประกบจูบอีกครั้งด้วยแรงราคะถาโถม จวบจนติณไม่เหลือสิ่งใดปกปิดร่างกาย นพจึงได้ผละออกมา

สิ่งแรกที่เขาอยากทำมานานคือ...เลียยอดอกสีชมพูเข้มของติณแรงๆ

ทั้งดูดและกัดและเลียซ้ำไปมาทั้งสองข้างอย่างกระหายหิว เหมือนเด็กดูดนมแม่ นพจำไม่ได้หรอกว่าตอนเด็กๆ ดูดนมแม่ยังไง แต่ตอนนี้อยากกินนมของติณมากและทำมันไปตามสัญชาตญาณดิบล้วนๆ
“อ๊า อย่าแรงสิ” ติณตีแขนนพเบาๆ เพราะถูกกัดหัวนมแรงเกินไป แทนที่จะเสียว มันเจ็บจี๊ดเสียมากกว่า “อื้อ อ๊า...อ๊ะ นพ...เดี๋ยว...อ๊า” ติณร้องห้ามไปครางกระเส่าไป เมื่อร่างผอมสูงไล่ดูดผิวกายจากหน้าอกต่ำลงมาที่ท้องน้อย แถมยังใช้ลิ้นแยงเข้าไปในสะดือของตน จนร่างโปร่งสะดุ้งโหยง เผลอจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของร่างผอม
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของร่างผอมสูงฝังลงตรงหว่างขา ลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นรดบนขนอ่อน พาให้ติณครางเบาๆ ค่อยๆ เอนตัวลงนอนราบไปบนเตียง แยกขาออกกว้างเพื่อให้รู้ว่ายินยอมพร้อมใจทั้งหมด นพซุกหน้าลงครอบปากกับแท่งเนื้ออุ่นร้อนของร่างโปร่ง
“ยะ อย่ากัดนะ ระวังฟันไปโดนด้วย” ติณร้องบอกเสียงสั่น ก่อนจะครางลั่นเมื่อนพรูดปากขึ้นลงรัวเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ “อ๊า! อื้ออออ...”

ทำไมเก่งจังวะ!?

ในหัวของติณคิดแบบนั้น แต่ไม่มีเสียงจะเปล่งออกมาเป็นคำ ได้แต่อ้าปากค้าง เอามือจิกทึ้งเส้นผมของนพไว้แน่น สะโพกลอยหวือกระดกรับจังหวะการรูดรั้งนั้นอย่างลืมตัว เสียวซ่านไปจนถึงปลายนิ้วเท้า

ถึงจะมีประสบการณ์มาก่อน แต่ติณก็มีแค่กับไอซ์คนเดียว และเธอไม่เคยทำให้ขนาดนี้ นี่คือครั้งแรกที่มีคนใช้ปากกับส่วนนั้น ติณหอบฮัก เมื่อนพถอนปากออก ปล่อยให้น้ำรักของติณพุ่งกระฉูดออกมาเป็นระลอก ร่างโปร่งสั่นสะท้านตัวกระตุกเกร็ง

นพยกมือขึ้นปาดเช็ดคราบสีขาวบนปากและใบหน้า ก้มมองติณที่นอนบิดไปมาด้วยแรงปรารถนาที่ยังไม่มอดดับ ติณชูแขนสองข้างขึ้นคล้ายกับเชิญชวนให้เขาทาบทับลงไปอีก โอบกอดเอาไว้แนบแน่น
“ตรงนี้...มีน้ำไหลออกมาด้วย” เพราะร่างกายถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนเพศหญิงบางส่วน แม้จะยังมีอวัยวะเพศชายคงเดิม แต่ช่องทางด้านหลังของติณเชื่อมต่อกับมดลูก จึงมีการขับสารคัดหลั่งเป็นเมือกขาวออกมาเมื่อมีการร่วมเพศ ช่วยหล่อลื่นให้สะดวกขึ้น (ปกติติณจะมีประจำเดือนเหมือนผู้หญิงด้วย แต่มาไม่มาก และแค่วันเดียว)
“อ่ะ...อือ...” ติณกอดร่างผอมไว้แน่นขึ้นอีกเมื่อนิ้วร้อนๆ ของนพคืบคลานเข้าสู่ภายในร่างกาย
“นุ่มจัง” นพหลับตาพริ้มเอ่ยเสียงพร่าพลางขยับนิ้วช้าๆ แทรกเข้าไปข้างในจนสุดความยาวนิ้วทั้งสอง
“ลามก อ๊ะ!” ร่างโปร่งกระตุกเกร็ง แอ่นสะโพกเข้าหามือของชายหนุ่มร่างผอม ขาข้างหนึ่งยกขึ้นก่ายหลังของนพ สองแขนกอดรัดแผ่นหลังกว้าง
“น่าจะเข้าได้แล้วมั้ย?” นพผละออกมาถาม ติณหน้าร้อนผ่าว ไม่กล้าสบสายตาที่จ้องมองมาอย่างมีความหมาย
“จะรู้มั้ยล่ะ?”
“อ้าว?”
“จะใส่ก็ใส่เข้ามาสิ” ติณกัดปากหลังพูดจบ นพแลบลิ้นเลียริมฝีปากทีหนึ่งก่อนจะจับยกสะโพกบางขึ้นวางทับบนต้นขาของตน และค่อยๆ ถูส่วนปลายของลำท่อนแข็งเกร็งกับช่องทางที่มีน้ำใสๆ ไหลออกมาเป็นระยะ ติณยิ่งเม้มปาก บีบแขนชายหนุ่มร่างผอมอย่างแรง เมื่อมันค่อยๆ แทรกส่วนปลายเข้ามาเชื่องช้า
“เจ็บรึเปล่า?” นพกระซิบถามเสียงแหบเครือ กัดฟันทนทำทุกอย่างอย่างไม่เร่งรีบ ซึ่งมันยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายของติณขับสารหล่อลื่นออกมามากขึ้นอีก ช่องทางนั้นคับแน่น แต่ก็อ่อนนุ่มและลื่นไหล ติณไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด จึงได้แต่ส่ายหน้าตอบ
“อา...นพ...นพ...” ร่างโปร่งขยับสะโพกเข้าหาด้วยตัวเอง “เข้ามาอีก”
นพหน้าร้อนฉ่า เผลอกระแทกใส่จนร่างโปร่งสั่นกึก ติณน้ำตาไหลพราก รีบโน้มคอร่างสูงลงประกบจูบพลางเอื้อมมือลงไปแหวกช่องทางด้านหลังของตนให้นพเข้ามาง่ายขึ้นอีก และในที่สุดก็เข้าไปได้จนสุดทาง
“ขยับเลย” สิ้นเสียงสั่ง นพก็เริ่มขยับกายเข้าออกเนิบนาบ และค่อยๆ รัวขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์

เสียงผิวเนื้อกระทบกระทั่งกันดังก้องไปทั่วห้องที่เงียบสงัด เสียงลมหายใจ เสียงคราง เสียงดูดปากดังจ๊วบ เสียงเตียงที่ลั่นเอี๊ยดเป็นระยะ กับร่างสองร่างที่ยังแนบสนิทจนเย็นย่ำค่ำมืด
“นพ...แรง...แรงอีก” เพราะไม่ได้ปลดปล่อยมานาน สองคนจึงอึดน่าดู ต่างไม่ยอมแพ้กัน ยังคงทำรอบเป็นครั้งที่ 5 เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ช่องทางสีแดงก่ำของติณมีน้ำสีขุ่นข้นทั้งของตัวเองและของอีกฝ่ายทะลักล้น
“รอบสุดท้ายนะ...ไม่ไหวแล้ว...” นพครางบอกเสียงแหบพร่า ก้มหน้าลงซบกับไหล่ของติณ ครั้งแรกก็จัดหนักขนาดนี้ นพที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนถึงขีดจำกัดเสียแล้ว
“อือ...อย่าเพิ่งหลับ...อ๊ะ อ๊า!!!” น้ำรักของนพฉีดพุ่งเข้าใส่ ปลายนิ้วเท้าของติณจิกเกร็ง เล็บมือครูดเป็นทางบนแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่พอปล่อยลูกๆ เข้ามาในตัวติณเสร็จ ก็ผล็อยหลับทันที ติณพ่นลมหายใจอย่างขัดใจ ดันร่างของนพให้ลงนอนหงายบนเตียง เห็นหลับสบายแบบนี้ก็โกรธไม่ลง เลยก้มไปหอมแก้มทีหนึ่ง แล้วจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย

รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปากของร่างที่นอนหลับอ่อนแรงอยู่บนเตียง

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #9 เมื่อ04-02-2018 23:28:35 »

9
7 ปีก่อน

“ติณครับ เพิ่งย้ายมาเรียนกลางเทอม อยู่ห้อง 3 ชอบวาดรูปตั้งแต่ป.4 แล้ว ก็เลยมาเข้าชมรม ยังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ฝากตัวด้วยนะทุกคน” ผมแนะนำตัวกับเพื่อนๆ ในชมรม ที่มีทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่ รวมทั้งอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมด้วย ทุกคนยิ้มแย้มทักทายอย่างเป็นมิตร
“เรา ไอซ์ นะ อยู่ห้อง 2” เด็กสาวหน้าตาน่ารักตัวเล็กๆ เดินเข้ามาแนะนำตัวกับผมที่นั่งลงหน้าขาตั้งภาพ เตรียมจะวาดรูปแจกันดอกไม้ตรงหน้าที่อาจารย์สั่ง ผมยิ้มให้เธอ ก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างๆ พลางเลื่อนขาตั้งของตัวเองมานั่งวาดข้างๆ ผม
“เมื่อเช้าเราเห็นติณที่หลังตึกแหละ”
“เอ๊ะ?” ผมหันควับไปมองหน้าเธอ รู้สึกหน้าร้อนนิดๆ
“ใจดีจังนะ” ไอซ์ยิ้มตาหยีแล้วลงมือวาดรูปของเธอ แล้วเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก

เช้าวันต่อมา ผมก็เอานมไปให้พวกลูกแมวที่หลังตึกเรียนเหมือนเดิม คราวนี้มีไอซ์ขอตามมาดูด้วย เธอบอกว่าที่บ้านเลี้ยงหมาตัวโตมาก เลยเอาไปเลี้ยงไม่ได้ แต่ปกติก็จะแวะมาดู เอานมมาให้บ้าง และเมื่อวานนี้ก็กะจะทำอย่างนั้น แต่ก็เจอผมเข้าเสียก่อน จึงแอบดูอยู่ห่างๆ ไม่คิดว่าตอนเย็นจะเจอกันที่ห้องชมรม
“ไม่มีใครสนใจหรือสังเกตเห็นเจ้าพวกนี้เลย ทั้งที่ร้องกันขนาดนี้ น่าสงสารมาก ลุงภารโรงแกก็คอยมาดูแลนะ เห็นแกบอกว่าแม่พวกมันโดนหมากัดตายไปแล้ว” ไอซ์นั่งยองๆ อุ้มลูกแมวตัวหนึ่งขึ้นมาใช้สลิงค์เล็กๆ ให้นม ผมเองก็ทำแบบเดียวกันกับอีกตัวหนึ่ง ลูกแมวสีเขรอะขระมีทั้งหมด 5 ตัว พวกมันผอมแห้งจนเห็นกระดูก ตอนที่ผมมาเจอก็คิดแบบไอซ์ คือสงสาร ก็เลยไปหาข้อมูลในเนตเรื่องการเลี้ยงลูกแมวแรกเกิด และเอานมแพะมาให้พวกมันกิน เพราะเขาบอกว่านมวัวมันไม่ย่อย
“ช่วยกันให้นมสองคนมันก็จะเร็วขึ้นเนอะ” ไอซ์ว่าพลางยิ้มหวาน
“อือ งั้นเรามาช่วยกันดูแลเจ้าพวกนี้จนกว่าจะโตกัน” ผมเสนอ และไอซ์ก็ตอบตกลง

นอกจากการดูแลลูกแมวด้วยกัน วาดรูปด้วยกันทั้งที่ห้องชมรมและในวันหยุดแล้ว พวกเรายังชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน ฟังเพลงแนวเดียวกัน ดูหนังแนวเดียวกันด้วย ทำให้พวกเราสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนสอบปลายภาคผมติวหนังสือกับไอซ์สองคนในห้องที่บ้านของเธอ พ่อแม่ของไอซ์และผมต่างรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเรา แม้ว่าผมกับเธอจะยังไม่ได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการเรื่องที่จะเป็นแฟนกันอะไรทำนองนั้น และตอนนั้นผมก็ได้รู้จักกับพี่ชายทั้งสองคนของไอซ์ด้วย

พี่อันดา พี่ชายคนโตของไอซ์ ตอนนั้นเขาอายุ 27 แต่ก็เป็นผู้บริหารบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่แล้ว แม้จะเป็นกิจการที่รับช่วงต่อจากพ่อของพวกเขาก็ตามที แต่เพราะความสามารถของพี่อัน ทำให้บริษัทใหญ่โตจนมีมูลค่าหลักพันล้าน ช่วงนั้นเขาเริ่มมีคนมาทาบทามให้เล่นการเมืองด้วย เพราะจริงๆ แล้วพี่เขาจบรัฐศาสตร์ แถมยังค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงสังคม น่าแปลกที่เขาไม่มีแฟน แต่ก็มีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ระดับนางแบบนักแสดงแวะเวียนมาหาพี่เขาไม่ขาด

และพี่คนรองของไอซ์ ชื่อ พี่อ้น อายุ 19 ที่จริงไอซ์กับพี่อ้นเป็นลูกคนละแม่กับพี่อันดา เลยมีอายุที่ห่างกันมาก ตอนนั้นพี่อ้นเรียนอยู่ปี 1 คณะบริหาร และอยู่หอพักที่มหาวิทยาลัย ผมเลยไม่ค่อยได้เจอเขาเท่าไหร่ ส่วนมากจะเจอแค่พี่อัน เพราะบางทีก็ให้พี่อันช่วยติวหนังสือให้ พี่เขาเก่งทั้งวิทย์ คณิต แล้วยังภาษาอังกฤษที่เป๊ะเว่อร์อีก เพราะเคยไปเรียนเมืองนอกมา จบปริญญาโทจากอังกฤษเชียวล่ะ
ตอนนั้นพวกเราทุกคนสนิทสนมรักใคร่กันดีมาก มากจนผมไม่คิดว่าวันหนึ่งมันจะเกิดเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผม

“ติณ...ไอซ์...มีเรื่องจะบอก” ตอนนั้นพวกเราอยู่ชั้นม.6 แล้ว เป็นช่วงก่อนสอบปลายภาคเทอมแรก
“ไอซ์ท้อง...”
ผมนิ่งอึ้ง “ละ ล้อเล่นน่า” ผมรู้ว่ามันแย่มากที่ถามออกไปแบบนั้น แต่ผมคิดว่ามันเป็นตลกร้ายที่เธอคิดจะอำผมจริงๆ และเธอก็เงยหน้าขึ้น ยิ้มให้ผม
“อื้อ ล้อเล่น”
ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก “เล่นบ้าๆ นะ ตกใจจริงเลยเนี่ย หัวใจเกือบหยุดเต้น”
“ติณป้องกันตลอด ยังจะเชื่อที่ไอซ์พูดอีกเหรอ หลอกง่ายจังนะ” เธอหัวเราะเสียงใส เข้ามากอดแขนผมไว้แน่น และผมไม่ทันรู้สึกตัวเลยว่ามือของเธอกำลังสั่น

ถ้าเพียงแต่ตอนนั้น ผมจะสนใจเธอมากกว่านี้สักนิด และสังเกตเห็นแววตาเศร้าๆ นั้น

[ช่วงนี้ไอซ์แปลกๆ ไป ทะเลาะอะไรกันรึเปล่า] พี่อันโทรมาถามผมในคืนหนึ่ง ช่วงนั้นเราต่างต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย พ่อผมอยากให้ผมเรียนวิศวะ เพื่อจะได้มาช่วยงานที่บ้านได้ ก็เลยต้องคร่ำเคร่งหน่อย ไอซ์เองก็เข้าใจ เธอจึงไม่ค่อยมารบกวนผม
“เปล่านี่ครับ คงเพราะผมยุ่งเรื่องสอบ ไม่ค่อยมีเวลาให้ไอซ์มั้งพี่ เอางี้ พรุ่งนี้ผมจะไปหาที่บ้านแล้วกัน”
[อืม พี่เชื่อใจติณนะ ว่าจะดูแลน้องสาวพี่ได้ เพราะงั้นฝากด้วย] พี่อันมักจะพูดแบบนั้นกับผมเสมอ แต่ผม...กลับทำอย่างนั้นไม่ได้

ผมปกป้องดูแลไอซ์ไม่ได้

“ติณ...ไอซ์ขอโทษ” เธอพูดทั้งน้ำตา ขาของเธอกำลังจะยื่นออกไปจากตรงนั้น
ลมพัดแรงจนเสื้อผ้าของพวกเราปลิวพั่บๆ บนดาดฟ้าชั้น 16
“ไอซ์ อย่าทำอย่างนี้ กลับมาหาติณนะ” ผมยื่นมือออกไปหาเธอ ค่อยๆ ก้าวช้าๆ ไปใกล้ เพื่อจะเอื้อมคว้าตัวเธอไว้
“ขอโทษนะ ติณ” เธอพูดคำนั้นวนไปมา น้ำตาไหลเป็นสาย
“กลับมาหาติณ แล้วค่อยๆ คุยกันนะ” ผมพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมเธอ แต่ไอซ์ไม่ยอมจับมือผมไว้
“ขอโทษ...ไอซ์ขอโทษ...”
“ไอซ์!!!!”

สายลมพัดวูบและสงบลง เสียงผู้คนกรีดร้องโวยวาย เสียงไซเรน

“ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไม...” ในหัวของผมว่างเปล่า ภาพของเธอที่ปลิวลงไปจากดาดฟ้ายังติดตา
“ทำไมทิ้งกันแบบนี้ ทำไม ทำไม” ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อะไรที่ทำให้เธอตัดสินใจแบบนั้น

ผลชันสูตรปรากฏว่า เธอฆ่าตัวตายและมีเด็กในท้อง

ก้อนเนื้อสีแดงฉานที่แตกกระจายออกจากตัวเธอ นองบนพื้นคอนกรีตสีเทา

ความเจ็บปวดของเธอที่ต้องแบกรับมันมาตลอด ผมไม่เคยเข้าใจ

ทำไมต้องทำแบบนี้

ทำไมต้องตาย

ไอซ์อาย ไอซ์ไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน ไอซ์กลัว
เด็กในท้องโตขึ้นเรื่อยๆ ไอซ์ไม่กล้าบอกใคร
กินยาแล้วมันไม่ออก
ไอซ์อยากไปทำแท้ง แต่ต้องมีผู้ปกครองไปด้วย
ไอซ์ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่
ไอซ์ไม่กล้าบอกพี่ๆ
ไอซ์ไม่อยากให้ติณเดือดร้อน
ไอซ์ขอโทษ
ขอโทษนะติณ

มันคือข้อความสุดท้ายที่ผมเพิ่งเปิดอ่านหลังจากนั้น เธอส่งมาในวันนั้น วันที่ผมต้องไปสอบ และผมไม่ทันได้เปิดอ่านมัน สอบเสร็จก็หาไอซ์ไม่เจอ เลยวิ่งวุ่นไปทั่ว จนในที่สุดก็เจอเธอบนดาดฟ้าของตึกที่มาสอบด้วยกัน

พ่อผมโกรธจัด ทั้งต่อยและตบผมอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน พ่อแม่ของไอซ์ไม่ติดใจเอาความ เพราะไอซ์ตายไปแล้ว เพียงแค่ไม่อยากเห็นหน้าผม พี่อ้นไม่ได้พูดอะไรกับผมสักคำ เพราะเราไม่ค่อยสนิทกันอยู่แล้ว ส่วนพี่อัน ตอนนั้นเขาติดงานที่ต่างประเทศไม่ได้กลับมาในทันที แต่เขาคงโกรธแค้นผมมาก

พ่อไล่ผมออกจากบ้าน ผมต้องออกจากโรงเรียนตอนเทอมสอง ผมสูญเสียไอซ์ สูญเสียเด็กคนนั้น ที่ผมก็ไม่แน่ใจว่าใช่ลูกของผมหรือเปล่า ผมดูเลวเนอะที่คิดอย่างนั้น แต่ผมมั่นใจว่าผมป้องกันมาตลอด และไม่น่าพลาด

แล้วไอซ์ท้องกับใคร? ท้องได้อย่างไร?

นั่นคือคำถามที่ผมเฝ้าวนเวียนหาคำตอบ แต่สุดท้าย เรื่องที่จบไปแล้วก็ต้องจบ

ใครๆ ก็คิดว่าเป็นเพราะผม

ก็ให้มันเป็นแบบนั้นแล้วกัน

4 ปีหลังจากนั้น
ชีวิตของผมลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ในห้องเช่าถูกๆ ที่แคบอย่างกับรูหนู หาเลี้ยงตัวเองด้วยงานทุกชนิดเท่าที่วุฒิม.3 ของผมจะเอื้ออำนวย กับการวาดรูปตามตลาดนัดช่วงค่ำๆ
มีนพเป็นเพื่อนเพียงคนเดียว เพราะนิสัยน่ารักๆ ของเขา ทำให้ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ตอนแรกเราเจอกันที่ร้านอาหารที่ผมทำงานอยู่ และเขาเข้ามาเป็นเด็กใหม่ เพิ่งย้ายมาจากต่างจังหวัด ดูซื่อๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องราว โดนลูกค้าข่มเอาประจำ และผมก็ต้องคอยช่วย
พอเริ่มสนิทกัน ผมก็ชวนเขามาอยู่ที่หอเดียวกัน เพราะมันถูกกว่าที่เขาอยู่กับเพื่อน เขาก็ตกลง ย้ายมาอยู่ห้องตรงข้ามกัน คอยดูแลช่วยเหลือกันตลอด
เราอายุห่างกันปีเดียว ก็เหมือนเพื่อนกัน แม้เพื่อนๆ ของนพเวลามาที่ห้องของเขา จะเรียกผมว่าพี่ แต่นพกลับเรียกผมด้วยชื่อเท่านั้น เขาบอกว่าเพื่อความสนิทสนม และผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ในเมื่อเรียกกันมาจนชินปากแล้ว

ผมไม่เคยโทษไอซ์ ไม่เคยคิดว่าการตายของเธอครั้งนั้นทำให้ชีวิตของผมต้องตกต่ำ ผมยังคิดถึงเธอและรักเธอเสมอ ไม่ว่าความจริงจะคืออะไร ผมก็ยอมรับมันได้แล้ว

แต่...ยังมีคนที่ไม่ยอม เขาตามหาผม เพียงเพื่อจะแก้แค้นที่ผมทำให้น้องสาวของเขาต้องตาย

ทั้งที่ผมเคยคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่ดี

แต่เขากลับทำร้ายผม เพียงเพื่อความสะใจ ทั้งที่รู้ว่าทำไป ไอซ์ก็ไม่ฟื้นกลับมา

และไม่ว่าเขาจะขอโทษหรือพยายามไถ่โทษอีกกี่ร้อยพันครั้ง ผมก็จะไม่มีวันอภัย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-02-2018 23:28:35 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #10 เมื่อ04-02-2018 23:40:48 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #11 เมื่อ05-02-2018 00:08:49 »

บวกเป็ดโล้ด  o13

เรื่องราวซับซ้อนน่าติดตามมาก แต่...จะกับใคร!!  :a5:

พี่อัน หรือนพ หรือจบแบดเอนดิ้ง หรือ......!!  o22

ตาม ตาม ตามจ้า  :pig4:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #12 เมื่อ05-02-2018 00:44:33 »

เข้ามาอ่านเพราะเห็นว่าดราม่า เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะดำเนินเรื่องเร็วมาก ตอนแรกนึกว่าจะดราม่าช่วงที่นายเอกท้องซะอีกแต่ก็ไม่ใช่ แถมพระเอกอีกก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใครกันแน่ อันดาก็เลวเกิ๊นน นพก็ดีเกิ๊นน คาดว่าดราม่าน่าจะอยู่หลังจากนี้แหละเพราะดูแล้วอันคงโมโหมากแน่ที่รู้ว่านพกับติณมีอะไรกันแล้ว ทีนี้คงต้องรอดูว่าพี่มันจะทำอะไรนี่แหละ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #13 เมื่อ05-02-2018 00:55:23 »

แล้วพี่อ้นไปไหนล่ะ  :hao4:

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #14 เมื่อ05-02-2018 08:28:21 »

บวกเป็ดโล้ด  o13

เรื่องราวซับซ้อนน่าติดตามมาก แต่...จะกับใคร!!  :a5:

พี่อัน หรือนพ หรือจบแบดเอนดิ้ง หรือ......!!  o22

ตาม ตาม ตามจ้า  :pig4:

ขอบคุณที่ติดตามและบวกเป็ดให้นะค้าบ จะพยายามแต่งให้ไม่โหดมาก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #15 เมื่อ05-02-2018 08:29:36 »

เข้ามาอ่านเพราะเห็นว่าดราม่า เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะดำเนินเรื่องเร็วมาก ตอนแรกนึกว่าจะดราม่าช่วงที่นายเอกท้องซะอีกแต่ก็ไม่ใช่ แถมพระเอกอีกก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใครกันแน่ อันดาก็เลวเกิ๊นน นพก็ดีเกิ๊นน คาดว่าดราม่าน่าจะอยู่หลังจากนี้แหละเพราะดูแล้วอันคงโมโหมากแน่ที่รู้ว่านพกับติณมีอะไรกันแล้ว ทีนี้คงต้องรอดูว่าพี่มันจะทำอะไรนี่แหละ

ดีใจมีคนอ่านแล้วสนุก เพราะตอนแต่งบางช่วงก็รู้สึกยังไม่พีคพอ แต่จะพยายามต่อไปนะคับ ขอบคุณที่ติชมน้า

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama]
«ตอบ #16 เมื่อ05-02-2018 08:30:20 »

แล้วพี่อ้นไปไหนล่ะ  :hao4:

ยังไม่มีบท ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
10
หลังจากที่นพได้เป็นอัยการเต็มตัว ก็เริ่มมีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองและวงสังคม เพราะเขามักจะได้รับหน้าที่ว่าความให้คดีสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับอาญาแผ่นดิน และช่วยเหลือโจทก์ที่ต้องสู้คดีกับพวกคนมีอำนาจ ด้วยความสามารถในการว่าความที่หาตัวจับได้ยากในยุคสมัยที่ใครๆ ต่างก็เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล

แต่มันก็เป็นดาบสองคมของคนที่ทำงานด้านกฎหมาย

แน่นอนว่า ในการทำงานแต่ละครั้ง จะต้องสร้างความแค้นเคืองให้แก่ฝ่ายจำเลยที่ถูกยื่นฟ้องและตัดสินข้อหาในคดีต่างๆ แต่นพก็พร้อมจะสู้อย่างเต็มที่ เพื่อความยุติธรรม

“การ์ดเชิญไปงานแต่ง?” ติณหยิบการ์ดสีมุกที่นพวางไว้บนโต๊ะทำงานขึ้นมาดู ตอนนี้พวกเขาย้ายมาอยู่บนคอนโดหรูราคาหลายล้านย่านใจกลางเมืองแล้ว ส่วนพ่อแม่ของนพที่บ้านนอก เขาก็สร้างบ้านหลังใหญ่ให้พวกท่านอาศัยอย่างสุขสบาย แถมยังจ้างแม่บ้านคอยดูแลรับใช้ด้วย
“ครับ งานลูกสาวคุณหญิงอรกับหนุ่มผู้โชคดี” นพว่ายิ้มๆ ติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายที่คอเสร็จก็หันหน้ามาหาติณที่รอผูกเนคไทให้
“ติณต้องไปด้วยเหรอ” เพราะในการ์ดเชิญเขียนชื่อของนพและครอบครัว
“ได้มั้ย?” นพถามอย่างเกรงใจ เขารู้ว่าติณไม่ชอบออกงานสังคมเท่าไหร่ คงกลัวเจอหน้าคนที่ไม่อยากเจอ แต่งานนี้เป็นงานสำคัญของ...น้องสาวคนเล็กของติณ
ติณถอนหายใจยาว “ถ้าไม่ไป แม่คงโกรธติณแน่ แม้จะเชิญผ่านนพมาก็เถอะ”
นพยิ้มกว้างแล้วโอบร่างบางทั้งตัวมาไว้ในอ้อมกอด “พาเจ้าตัวเล็กไปด้วยเนอะ คุณแม่คงอยากเจอหลาน”
“ครับ แล้วแต่คุณสามีเลย” ติณหยิกแก้มสามีไปที แล้วค่อยผูกเนคไทต่อจนเสร็จ ก่อนจะสวมสูทให้นพเรียบร้อย
“งั้นผมไปทำงานก่อนนะ คืนนี้มีงานเลี้ยง กลับดึก ไม่ต้องรอนะครับ” นพหอมแก้มติณฟอดใหญ่แล้วเดินไปที่ประตู ติณยิ้มส่งตามปกติ แล้วกลับไปทำงานบ้านต่อ

ครอบครัวของติณมีฐานะที่จัดว่าดี ไม่ได้ร่ำรวยมากระดับมหาเศรษฐี แต่แม่ของติณมีศักดิ์เป็นคุณหญิง จึงค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงสังคมมาก ตอนที่พ่อรู้เรื่องของไอซ์ ถึงได้โกรธจัด ถึงกับออกปากไล่ติณออกจากบ้าน ตัดออกจากตระกูล ทั้งที่ติณเป็นลูกชายเพียงคนเดียว

แม้ว่าแม่จะยังคอยติดต่อช่วยเหลือมาตลอด แต่พ่อไม่เคยสนใจติณ ไม่เคยโทรหา ไม่เคยมาเยี่ยมสักครั้ง ตัดขาดกันแล้วจริงๆ

แล้วจะต้องไปเจอกันในงานแต่งของน้องแต้ว น้องสาวคนเล็กของติณ จะสู้หน้ากันอย่างไรไหว

ติณคิดพลางเก็บเครื่องดูดฝุ่นราคาแพงกว่าคอมพิวเตอร์เข้าที่ เจ้าตัวเล็กนั่งเล่นของเล่นอยู่ในห้องเด็ก ติณโผล่หน้าไปดูลูก
“หิวรึยังครับ น้องภพ”
“ป๊า~” ภพรีบวิ่งเข้ามาเกาะขา “อยากกินพิซซ่า”
“อะไร เมื่อวานก็เพิ่งกิน เดี๋ยวก็อ้วนหรอก” ติณเอ็ดเบาๆ เจ้าตัวเล็กทำหน้ามุ่ย ช่วงนี้ปิดเทอม ติณเลยเหนื่อยเป็นสองเท่า ต้องดูแลเจ้าตัวเล็กด้วย ทำงานบ้านด้วย แต่วันหยุด นพก็จะช่วยเลี้ยง “เราไปหาอะไรกินข้างนอกกันดีมั้ย”
“เอาครับ” เด็กน้อยวัย 6 ขวบพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย สองคนจูงมือกันไปที่ลานจอดรถ ภพร้องเพลงกับตุ๊กตายีราฟคอยาวที่อุ้มมาด้วยอย่างอารมณ์ดี

วันเสาร์ช่วงเย็นคือเวลางานเลี้ยงคอกเทลของงานแต่ง ทั้งที่ติณเคยเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูล แต่กลับไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานช่วงเช้าที่มีพิธีสำคัญๆ แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากอะไร
งานเลี้ยงช่วงเย็นมีคนมาเยอะที่สุด ทั้งคนในวงการบันเทิงและแวดวงสังคม นักข่าวจากหลายสำนัก

ติณเลือกชุดสูทสีเทาเข้มแบบเดียวกับของนพ แต่ผูกเป็นหูกระต่ายสีแดงแทนเนคไทสีน้ำเงิน ส่วนเจ้าตัวเล็กก็สวมสูทสีชมพูอ่อนกับหูกระต่ายสีขาว ดูน่ารักน่าชัง
“น่ารักเหมือนคุณแม่เลยน้า เจ้าตัวเล็กของพ่อ” นพอุ้มลูกชายขึ้นมาฟัดแก้มเล่น ก่อนจะพากันไปขึ้นรถ ครั้งนี้ไปงานเลี้ยงใหญ่ เลยให้คนขับรถมารับแทนที่จะขับไปกันเอง
“พ่อนพ งานมีพิซซ่าให้กินมั้ย” ภพถามถึงของโปรดเป็นอันดับแรก สองพ่อมองหน้ากันแล้วหลุดหัวเราะออกมา
“ไว้พรุ่งนี้พ่อจะโทรสั่งมาให้นะครับ คืนนี้กินขนมอย่างอื่นไปก่อน”
“นี่ก็ตามใจอีกแล้ว กินบ่อยอ้วนเป็นหมูพอดี ดูลูกคุณสิ ตัวบวมอย่างกับอะไร” ติณบ่นขำๆ พลางรัดเข็มขัดนิรภัยให้เจ้าตัวเล็ก แล้วรถแวนสีเทาก็ค่อยเคลื่อนตัวออกไป

ภายในงานเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย ส่วนใหญ่เป็นคนในวงสังคมไฮโซที่ติณไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ออกงานแบบนี้มานานเป็นสิบปีแล้ว ดีที่ไม่ค่อยมีใครจำเขาได้ว่าเป็นลูกชายคนกลางของตระกูล
“ภพ อย่าซนนะ ห้ามวิ่งและระวังชนคนอื่นด้วยนะครับ” ติณบอกลูกชายจอมซนที่เตรียมจะเล่นสนุกในงานเต็มที่ ภพหน้าเจื่อนลงทันที ได้แต่พยักหน้ารับว่า “ครับ”
“คุณนพดล ตาติณ!” เสียงหญิงคนหนึ่งที่ติณแสนจะคุ้นเคยดังขึ้น เขาหันไปและยิ้มกว้างออกมา
“แม่!” สองแม่ลูกโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง คุณหญิงอร แม่ของติณยังคงสวยไม่สร่างแม้จะอายุเกือบ 60 เข้าไปแล้ว เธอลูบหัวลูกชายอย่างรักใคร่พลางมองไปทางนพ ที่ยกมือไหว้ทักทาย เธอจึงไหว้ตอบด้วยท่าทางเป็นกันเอง
“คุณนพคงจะดูแลดีมาก ถึงได้มีน้ำมีนวลกันทั้งแม่ทั้งลูก” แม่ยิ้มหวานให้ทั้งสองคนและเจ้าตัวเล็ก ที่นานๆ เจอกันที “ไงน้องภพ”
“คุณยาย” ภพร้องเรียกเสียงใสวิ่งเข้าไปให้ยายกอดและหอมแก้ม แถมเจ้าตัวเล็กยังหอมแก้มคุณยายกลับอย่างเอาใจ
“เดี๋ยวไปเจอยัยตาลกับยัยแต้วหน่อยสิ ตาแอมป์ด้วย ยังไม่เคยเจอกันเลยนี่?” คุณหญิงอรว่าพลางเดินนำหน้า ติณกับนพจึงจูงมือภพเดินตามไป

ติณได้เจอหน้าพี่สาวและน้องสาวที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปี ทั้งสามคนกอดกันร้องไห้ด้วยความคิดถึง จนติณอดล้อน้องคนเล็กไม่ได้ เพราะหน้าเลอะเครื่องสำอาง
“ไปเติมหน้าหน่อยไปยัยแต้ว ร้องไห้ซะ” พี่ตาลเรียกช่างมาพาแต้วไปก่อน แต้วยังไม่หายคิดถึงพี่ชายเลยกอดอีกทีแล้วรีบไปแต่งหน้าใหม่
“แล้วไหนเจ้าบ่าวครับพี่ตาล?” ติณชะเง้อมองหาคนที่น่าจะเป็นเจ้าบ่าวของน้องสาวตัวแสบ เมื่อก่อนแต้วเป็นเด็กทโมน ทั้งแสบทั้งซน แทบจะยิ่งกว่าเด็กผู้ชายอย่างเขาเสียอีก ไม่คิดว่าน้องตัวแสบจะได้มีวันอย่างนี้กับเขา ตอนรู้ก็ตกใจเหมือนกัน แต่ก็ดีใจมากกว่าที่น้องจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา เลยอยากรู้ว่าผู้ชายที่โชคดีสุดๆ คนนั้นเป็นใคร
“เดี๋ยวก็มา คงดูแลพวกเพื่อนๆ ของเขาอยู่ทางนั้นน่ะ” ตาลชี้ไปทางกลุ่มคนที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับติณ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่ดูภูมิฐาน แสดงว่าเจ้าบ่าวของน้องสาวก็น่าจะอยู่ในวงสังคมเช่นกัน และมีคนหนึ่งที่โดดเด่นอยู่ในกลุ่มนั้น ผู้ชายตัวสูงเพรียว รูปร่างคล้ายๆ นพ สวมสูทสีขาวต่างจากคนอื่นๆ ที่เป็นธีมสีฟ้า ติณเห็นแค่เพียงด้านข้างเท่านั้น

สักพัก พี่ตาลก็กวักมือเรียกเจ้าบ่าวมาหา ชายคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่ติณคิด และพอเห็นหน้าชัดๆ ติณก็รู้สึกว่ามันคุ้นมาก
“นี่คุณแอมป์ เจ้าบ่าวสุดหล่อของยัยแต้วเขา” พี่ตาลผายมือแนะนำชายร่างสูงเพรียว หน้าตาคมคาย แอมป์ยิ้มนิดๆ แต่สายตาจ้องมองติณเหมือนจะให้ทะลุเข้าไปข้างใน
นพรู้สึกถึงสายตาที่คุกคามนั้นจนต้องคว้ามือติณมาจับไว้ แอมป์เห็นดังนั้นจึงเบนสายตาไปทางตาล ก่อนจะหันกลับมามองเหมือนเดิมเพื่อทำความรู้จัก
“สวัสดีครับ นี่คงเป็นพี่ชายของแต้ว เห็นเธอเล่าให้ฟังบ่อยๆ คุณกฤตติณณ์?”
“ใช่จ้ะ” ตาลยิ้มรับแทนติณ เพราะติณมัวแต่จ้องหน้าอีกฝ่ายกลับ บรรยากาศมันแปลกๆ จนตาลและนพรู้สึกได้

******

“ขอโทษนะ เราชอบติณ”
“ไอ้หน้าอ่อนนั่นมันมีดีกว่าผมตรงไหน”
“ทุกตรง”
“ไอซ์!”


******

ความทรงจำบางส่วนที่ขาดหายไปหลังจากที่ติณถูกอันดาทำร้ายในคืนนั้นเหมือนจะแล่นปราดเข้ามาในหัวอย่างกะทันหันจนติณต้องกุมขมับ หน้าของเขาเริ่มซีดลง รู้สึกไม่มีแรงจะยืนและต้องเอนตัวพิงไหล่ของนพไว้
“เป็นอะไรรึเปล่าติณ” พี่ตาลรีบเข้ามาดูอาการน้องชายด้วยความเป็นห่วง
“ให้ผมพาไปนั่งพักก่อนมั้ย?” นพกอดเอวติณเพื่อช่วยพยุงไว้ เจ้าตัวเล็กยืนทำตาปริบๆ มองพ่อกับป๊า ส่วนผู้ชายอีกคนในชุดเจ้าบ่าวสีขาวบริสุทธิ์ก็มองติณด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ไม่มีใครสนใจเขาแล้วในนาทีนี้
“ป๊า เป็นอะไรครับ” ภพยื่นมือไปดึงชายเสื้อของติณเบาๆ ติณยิ้มแหยให้ลูกชายตัวน้อย บอกว่าไม่สบายนิดหน่อย ก่อนจะให้นพพาออกไปจากบริเวณห้องจัดเลี้ยง ฝากภพไว้กับตาล

ตาลจับมือเด็กน้อยไว้ และเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าแอมป์ยังยืนอยู่ตรงนี้ เธอจึงเงยหน้ามองเขา
“โทษทีนะคะคุณแอมป์ ติณไม่ค่อยแข็งแรง ต้องให้ไปพักก่อน เลยไม่ทันได้รู้จักกับอัยการนพดลเลย”
“ไม่เป็นไรครับ” แอมป์ยิ้มบางๆ ก่อนจะก้มมองภพ ที่เอาแต่มองตามพ่อกับป๊าตาละห้อย “แล้วเด็กคนนี้?”
“อ๋อ ลูกของติณน่ะค่ะ น้องภพสวัสดีคุณอาแอมป์ก่อน” ตาลเขย่ามือภพเบาๆ และปล่อยให้เด็กน้อยประนมมือไหว้
“สวัสดีครับ อาแอมป์” เด็กน้อยเรียกตามที่ตาลบอก แอมป์คลี่ยิ้ม ลงนั่งยองๆ ตรงหน้าภพ
“สวัสดีครับน้องภพ” มือใหญ่ลูบหัวเด็กชายอย่างเอ็นดู ภพยิ้มแฉ่งตามประสาเด็ก

นพพาติณไปนั่งพักที่ด้านนอกห้องจัดเลี้ยง เพื่อจะได้สูดอากาศเต็มปอด สีหน้าของติณไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำหวานมาให้ นั่งรอตรงนี้นะครับ” นพลูบมือของคนรักเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ติณเอนหลังพิงกับโซฟา รู้สึกปวดหัวตุ๊บๆ อยากจะหลับพักสักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้หลับตา ก็ได้ยินเสียง
“ติณ?” เสียงผู้ชาย ทำให้ติณหันควับไปมอง และพบกับชายร่างเล็กคนหนึ่ง “ใช่ติณรึเปล่าครับ?” คนเดิมที่เรียกชื่อเขาก้าวเข้ามาใกล้ๆ ติณเขยิบหนีด้วยความตกใจ
“ครับ?”
“ฉันเอง! จำไม่ได้เหรอ? คิมไง ที่อยู่ห้องเดียวกันตอนม.4 คิมหันต์” คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ อย่างถือวิสาสะ แสดงความสนิทสนมเต็มที่ “เราเคยเล่นเทนนิสด้วยกัน แล้วฉันก็ตีลูกโดนหัวนายด้วย จำได้ยัง?”
ติณพยายามนึก แต่ก็เลือนรางเหลือเกิน “ขอโทษนะ ผมจำไม่ค่อยได้”
“โห อะไรกัน ลืมเพื่อนคนนี้ได้ไงเนี่ย ตั้งแต่นายออกจากโรงเรียนกลางครัน ฉันก็ติดต่อนายไม่ได้เลย ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ แม้นายจะจำไม่ได้ก็เหอะ” คนที่บอกว่าตัวเองชื่อ คิม เบียดตัวเข้าใกล้ ติณนั่งชิดขอบโซฟาไม่มีที่ให้หนีแล้ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงเจตนาร้ายใดๆ จึงค่อยผ่อนคลายลง

ตั้งแต่วันที่ถูกอันดาทำร้าย ติณก็ค่อนข้างขยาดผู้ชายด้วยกัน ยกเว้นกับพี่หมอและนพที่ยอมให้เข้าใกล้ได้

“นายหายไปไหนมาตั้งนาน เพื่อนๆ คิดถึงนายทั้งนั้น” คิมหันต์ยังคงเจื้อยแจ้ว แต่ติณรู้สึกไม่สบายตัวเอาเสียเลย
“อืม”
“อะไรกันติณ ทำไมทำตัวห่างเหินจัง เราเป็นเพื่อนกันน้า เอ๊ะ? นายหน้าซีดนี่นา ไม่สบายเหรอ? เนี่ย ฉันกะแล้วล่ะว่าต้องเจอนายที่นี่ งานแต่งน้องสาวนายกับไอ้แอมป์นี่นะ หมั่นไส้ชะมัดเลย ไอ้คุณชายนั่น” คิมหันต์ทำหน้ามุ่ย นั่งกอดอกท่าทางหงุดหงิด
ติณขมวดคิ้วมองคิม “คุณ รู้จักคุณแอมป์ด้วยเหรอ?”
“อ้าว? นี่นายจำใครไม่ได้เลยเหรอ? ไอ้แอมป์มันเคยจะแย่ง...เอ่อ...นั่นแหละ มันไม่ถูกกับนายมากเลยเมื่อก่อนน่ะ ไม่คิดว่าจะมาจีบน้องสาวนายได้ ฉันไม่ค่อยไว้ใจมันเลย แต่น้องแต้วดันเลือกมันนี่หว่า ทำไงได้” คิมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยที่ติณจำเพื่อนไม่ได้สักคน แล้วก็บ่นยาวเรื่องของแอมป์
“เขา...คุณแอมป์น่ะ เคยรู้จักกับผมเหรอ?” มิน่าถึงได้รู้สึกคุ้นนัก

“กูจะแย่งมีไรมั้ย”
“ไอ้เหี้ยแอมป์!”
“ระวังไว้ให้ดีเหอะมึงน่ะ”


“โอ๊ย!” จู่ๆ ติณก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีก เขากุมขมับพลางร้องโอดครวญจนคิมตกใจ
“เฮ้ย! เป็นไรอ่ะติณ ติณ?”
พอดีกับที่นพเดินออกมาพร้อมแก้วน้ำหวาน “ขอโทษครับ ถอยหน่อย” นพรีบแทรกตัวนั่งลงระหว่างคิมกับติณ เอาน้ำหวานให้ติณจิบและคอยลูบหลังให้
คิมมองดูสองคน ใจหนึ่งก็เป็นห่วงติณ แต่ก็สงสัยว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมแต่งตัวคล้ายกัน แถมยังดูสนิทกันมากด้วย
“ติณไม่สบายเหรอ? เป็นอะไรมากรึเปล่าอ่ะ” คิมชะเง้อหน้ามอง
“ครับ เขาไม่ค่อยสบาย” นพตอบโดยไม่ได้หันไปมอง “กลับคอนโดก่อนดีมั้ย?”
“ไม่เป็นไร” ติณปัดมือที่ลูบหลังให้ “อยากอยู่จนจบงาน ไม่งั้นยัยแต้วคงเสียใจ”
“แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ น้องน่าจะเข้าใจนะติณ ผมเป็นห่วงคุณ” นพว่าพลางประคองร่างบางไว้ในอ้อมแขน ไม่ได้สนใจว่าอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยจะคิดยังไง
“ติณไหวจริงๆ แค่มึนๆ เดี๋ยวก็หายแล้ว นะนพ ให้ติณอยู่นะ”

คิมมองดูติณที่เอนซบบ่าของชายแปลกหน้า แถมยังทำท่าออดอ้อนเหมือนแฟนกันด้วยความประหลาดใจ เพราะติณที่คิมเคยรู้จัก เป็นผู้ชายห้าวๆ โผงผาง เวลาทะเลาะกับแอมป์ทีไรก็ต้องต่อยกันนัวทุกที แต่ติณในตอนนี้ดูบอบบางเหลือเกิน
“เอ่อ...คุณ?” จู่ๆ นพก็หันไปมองคิมเหมือนเพิ่งนึกได้ คิมสะดุ้งเล็กน้อยหลุดออกจากห้วงวามคิดไร้สาระของตน
“อ้อ ผมเป็นเพื่อนสมัยม.ปลายของติณครับ แต่เขาเหมือนจะจำผมไม่ได้หรอก” คิมยิ้มแหย นพพยักหน้ารับ
“ขอโทษด้วยนะครับ เขาเคยเกิดอุบัติเหตุจนความทรงจำหายไปบางส่วน”
“เอ๋? จริงดิ? ขนาดนั้นเชียว? ติณ ฉันขอโทษนะ เอาแต่พล่ามยาวให้นายฟัง ทำนายปวดหัวรึเปล่าเนี่ย?” คิมตกอกตกใจ
“ไม่เป็นไรครับ เขาไม่ค่อยสบายอยู่แล้วด้วย ไม่ใช่เพราะคุณหรอก” นพว่าพลางกอดติณไว้หลวมๆ คิมยังมองดูด้วยสายตาสงสัย
“แล้วคุณ?”
“เอ่อ...ผม...” นพอึกอัก ไม่แน่ใจว่าควรจะแนะนำตัวว่าอย่างไรดี
แต่ติณก็รีบชิงตัดหน้า “แฟนผมเอง”
“หา!?” คิมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเฝื่อนแล้วมองสองคนสลับกันอีกหลายครั้ง
“ผมชื่อนพดลครับ เป็นคนรักของติณจริงๆ” นพยิ้มแบบไม่เต็มปากนัก ส่วนคิมยังอึ้งอยู่ ไม่คิดว่าติณคนแมนจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ลักษณะท่าทางที่อ่อนลง แต่รสนิยมยังเปลี่ยนไปด้วย
“ผะ ผม...คิมหันต์...เอ่อ...เป็นแฟนติณจริงดิ?” คิมยื่นมือไปจับมือนพเพื่อทำความรู้จัก แต่ยังจ้องหน้านพไม่เลิก ทั้ง งง ทั้งอึ้ง ทั้งสับสน ปนเปกันไปหมด
นพอมยิ้ม คิมหันต์คนนี้ออกจะแปลกๆ แต่คิดว่าไม่มีพิษภัยอะไร “ครับ แฟนจริงแท้แน่นอน”

ในงานเลี้ยง ตาลจูงมือเจ้าตัวเล็กไปหาแม่และพ่อ คุณหญิงอรอุ้มเด็กน้อยอย่างรักใคร่ แต่ทางพ่อที่ไม่รู้เรื่องราว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ทำหน้างงๆ
“เด็กนี่ลูกใครน่ะคุณ”
คุณหญิงอรอมยิ้มนิดๆ “ลูกชายของติณไงคะคุณ”
“หา? ลูกเจ้าติณ?” เพราะเวลาผ่านมานานมากแล้ว จนเรื่องขุ่นเคืองหมางใจในวันวานเหมือนเศษฝุ่นผง แต่พ่อยังคงมีทิฐิ ไม่ยอมพบหน้าลูกชายเพียงคนเดียว “มันไปมีเมียตอนไหน”
“หึหึ” คุณหญิงหัวเราะในคอ ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยหันไปหาสามีที่ยืนขมวดคิ้ว งง เป็นไก่ตาแตก “สวัสดีคุณตาสิครับ น้องภพ”
“สวัสดีครับคุณตา” ภพยกมือไหว้ ยิ้มแฉ่งให้คุณตา
คุณตานิ่งอึ้งหนักกว่าเดิม แม้มือจะลูบหัวหลานชายเพื่อรับไหว้ แต่บางอย่างมันขัดๆ ในใจ
“ตา? เดี๋ยวนะ? ผมต้องเป็นปู่ไม่ใช่เหรอ?” คุณตากษิเดชมึนหนัก จนคุณหญิงอร ภรรยาของเขายิ่งหัวเราะและอธิบายเรื่องที่ทำเอากษิเดชเข่าแทบทรุด
“ก็ลูกชายของคุณเป็นคนตั้งท้องเด็กคนนี้ เป็นคุณแม่ของเด็ก เราก็ต้องเป็นตายายของแก ถูกแล้วค่ะ”
 
“มันเรื่องบ้าอะไร!? พา...พาเจ้าติณมาหาผมที ผมต้องคุยกับมัน” หลังจากที่ตาลพาพ่อมานั่งพักในห้องแต่งตัวแล้ว พอท่านเริ่มหายหน้ามืดก็โวยวายเรียกหาติณทันที คุณหญิงอรจึงพยักหน้าให้ตาลไปเรียกติณกับนพมาหาพ่อ
“คุยกับลูกดีๆ นะคะคุณ แกอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ รับความรุนแรงจากคนเป็นพ่ออย่างคุณไม่ไหวเหมือนเมื่อตอนนั้นหรอกนะ” คุณหญิงอรอุ้มหลานชายไม่ห่างตัว นั่งลงเคียงข้าง กุมมือของสามีไว้
“ผมจะพยายามแล้วกัน ถ้ามันไม่กวนประสาทผม” กษิเดชกุมขมับ
คุณหญิงบีบมือสามีแน่น และสมทบด้วยประโยคที่ทำร้ายจิตใจคนเป็นพ่อยิ่งนัก “ติณไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ แล้วก็เกรงใจคุณนพด้วยนะ เขาเป็นอัยการใหญ่ที่ตอนนี้กำลังมีชื่อเสียงเชียวล่ะ เป็นสามีของลูกชายคุณ”
“โอยยย ผมจะเป็นลม”

ก๊อกๆ

“เข้ามาเลยจ้ะ” คุณหญิงเอ่ยอนุญาต ตาลจึงเปิดประตูให้น้องชายและสามีเดินเข้าไปในห้องนั้น โดยเธอรอด้านนอก ส่วนเจ้าตัวเล็กก็วิ่งออกไปหาตาล เพราะผู้ใหญ่ต้องคุยกัน
“พ่อ...” พอติณได้เห็นหน้าพ่อ ก็เหมือนจะร้องไห้ออกมา คว้ามือนพไปกุมไว้เพื่อเรียกหากำลังใจ ผู้เป็นบิดา เมื่อเห็นลูกชายจับมือกับผู้ชายด้วยกันก็อยากจะลมจับเสียให้ได้
“สวัสดีครับ คุณกษิเดช” นพค่อยๆ ดึงมือออกแล้วยกมือไหว้พ่อตาอย่างนอบน้อม ท่าทางสุภาพของเขาทำให้กษิเดชใจอ่อนลงเล็กน้อย จึงยกมือรับไหว้ลูกเขย (?) อย่าง งงๆ
“นั่งลงสิ” เป็นแม่ยายที่เชิญให้ลูกๆ ทั้งสองนั่งลงใกล้ๆ ติณกับนพสบตากันก่อนจะเดินไปนั่งตามที่บอก
“มันเรื่องอะไรกันเจ้าติณ แกหายหัวไป แล้วจู่ๆ ก็...มีลูก กับผู้ชาย?” คุณพ่อเริ่มเรื่องทันที
“คือเรื่องมันยาวน่ะครับ” ติณก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีเหมือนกัน “มันมีเรื่องที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นแบบนี้ แล้วก็ตั้งท้อง”
“เพราะเจ้าอัยการนี่เรอะ!?” พ่อตาเหมือนจะของขึ้น จนภรรยาต้องรีบห้ามปราม
“ไม่เกี่ยวกับนพเลยครับ เขาเป็นเพื่อนข้างห้องที่คอยดูแลผมตอนที่ท้อง จนคลอดภพออกมา เขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้ผมเสียใจเลยสักครั้ง ผมเลยรักเขา แล้วเราก็อยู่ด้วยกัน ช่วยกันเลี้ยงภพ” ติณอธิบาย พ่อหันไปมองหน้าแม่ และหล่อนก็พยักหน้าว่าเรื่องจริง
“แล้วพ่อเด็กเป็นใคร?”
“ผมไม่อยากพูดถึงเขา ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันสามคนพ่อลูก มันโอเคแล้ว นพเป็นพ่อที่ดี และเป็นคนรักที่ดีของผมด้วยครับ” ติณกล่าวอย่างหนักแน่น จนพ่อต้องถอนหายใจ

จู่ๆ ลูกชายที่ไปทำผู้หญิงท้องจนผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตาย ก็เกิดท้องได้เสียเอง แถมท้องกับใครก็ไม่รู้ แต่ก็มีผู้ชายอีกคนมารับเป็นพ่อให้ เรื่องมันช่างชุลมุนวุ่นวายเสียเหลือเกิน ยากจะยอมรับได้ แต่ยังไงมันก็คือความจริง

“คุณนพดลใช่มั้ย?” คราวนี้พ่อเบนสายตาไปทางนพที่นั่งตัวเกร็งนิดๆ นพพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“ไม่รังเกียจเจ้าติณที่เป็นแบบนี้เหรอ? ร่างกายผิดธรรมชาติ แล้วท้องกับใครที่ไหนก็ไม่รู้”
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะคุณ” แม่ปรามเบาๆ แต่พ่อก็ไม่สนใจ ยังคงจ้องหน้านพอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ นพกลืนน้ำลายลงคอก่อนตอบ
“ไม่เคยรังเกียจเลยครับ ผมรักติณ และรักภพเหมือนลูกของตัวเอง” แววตาของนพซื่อตรงเสมอ พ่อจึงยิ้มออก รวมทั้งคุณหญิงอรด้วย
“ดี เป็นผู้ชายที่ดี เห็นว่าเป็นอัยการสินะ? หน้าที่การงานก็ดี มีชื่อเสียงอีกต่างหาก ลูกชายผมโชคดีจริงๆ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณกษิ...”
“เรียกพ่อสิ มาคุณเคินอะไร ห่างเหินจริง” พ่อแย้งทันควัน นพมองหน้าติณด้วยความแปลกใจ แล้วต่างก็คลี่ยิ้ม
“ครับ คุณพ่อ”

เมื่อปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว นพกับติณก็ออกมาหาเจ้าตัวเล็กที่รออยู่หน้าห้องกับตาล
“พ่อนพ กินหนม!” เด็กน้อยส่งเสียงสดใส
“ครับๆ เดี๋ยวผมพาลูกไปหยิบขนมนะ ติณไปหาที่นั่งรอก่อน ถ้าเวียนหัวบอกนะครับ”
“อืม” ติณพยักหน้า แล้วนพก็อุ้มลูกไปหาขนมทาน ติณมองตามสองพ่อลูกที่พูดคุยหยอกล้อกันแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
“อารมณ์ดีแล้วเหรอครับ คุณกฤตติณณ์”
พลันเสียงทุ้มๆ ที่กระซิบข้างหูอย่างไม่ทันตั้งตัว ก็ทำให้ติณถึงกับสะดุ้ง ตกใจถอยหนีไปหลายก้าว
“คะ...คุณ....?”
ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวบริสุทธิ์ส่งยิ้มหวาน แม้ว่าดวงตาจะไม่ได้ยิ้มแย้มด้วยเลย
“คุณแอมป์?” ติณพยายามสูดลมหายใจให้เข้าที่และเรียกชื่ออีกฝ่าย
“เรียกกันซะห่างเหิน นี่มึงจำกูไม่ได้จริงดิ?” แอมป์ขมวดคิ้ว ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ ต่อให้ผ่านมานานเป็นสิบยี่สิบปี ก็ไม่น่าจะลืมกันได้ เพราะตัวเขาก็ยังไม่เคยลืมเลย
“เอ่อ ขอโทษจริงๆ...ผม...” ติณหรุบตาลงมองพื้น แอมป์เอียงคอน้อยๆ หรี่ตาจ้องมองเขา
“หึ อ่อนลงเยอะนะมึงน่ะ” ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวก้มลงกระซิบข้างหูอีกครั้ง “ถึงกูจะไม่ได้ไอซ์ แต่อย่างน้อยตอนนี้...”
ติณเงยหน้าพรึ่บ กัดฟันกรอดจ้องหน้าคนที่แสยะยิ้มอยู่ตรงหน้าทันที

“อย่างน้อย...ตอนนี้กูก็ได้น้องสาวมึงเป็นเมีย”

to be cont...

อาจจะไม่ค่อยหวือหวาดราม่าจัดมาก ติชมกันได้นะครับ ขอบคุณมาก

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ต่อรัวๆ คนที่รอคอยกลับมาแล้ว หายไปสามตอนรวดเลย

11
ชายร่างสูงใหญ่ยืนสูบบุหรี่อยู่ริมหน้าต่างห้องทำงาน ในมือมีรูปถ่ายของคนที่เขาเฝ้าตามหามาตลอด 2 ปี
“หึ อย่าคิดว่าจะหนีจากกูพ้น กฤตติณณ์”

******

ติณกระชากคอเสื้อของแอมป์จนชุดสูทยับยู่ยี่ คนแถวนั้นต่างแตกตื่น หมัดที่ง้างขึ้นจะชกหน้าหล่อๆ ของเจ้าบ่าวต้องหยุดชะงัก เพราะน้องสาวที่เขารักมากเข้ามาห้ามไว้เสียก่อน
“เกิดอะไรขึ้นพี่ติณ พี่แอมป์?” แต้วมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา นพฝากเจ้าตัวเล็กไว้กับพี่ตาลแล้วรีบเข้ามาคว้าตัวติณไว้
ติณไม่พูดไม่จา สะบัดมือที่จะต่อยแอมป์ลงอย่างหัวเสีย ความรู้สึกแบบนี้เขาจำได้ดี ความโกรธที่พลุ่งพล่านในอก เพราะมัน!
“พี่คงพูดอะไรไม่เข้าหูพี่ชายเราไปหน่อยน่ะ ผมขอโทษด้วยนะครับคุณติณ” แอมป์แสร้งยิ้มเศร้า แต้วปัดเสื้อและจัดชุดสูทของว่าที่สามีให้เข้าที่ด้วยสีหน้าร้อนรน พ่อกับแม่ก็ออกมาดูเพราะได้ยินเสียงเอะอะ
“มีอะไรกัน?” พ่อเดินเข้ามาถาม แต่เหตุการณ์ดูเหมือนจะสงบลงแล้ว
“ไม่มีอะไรครับคุณพ่อ แค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมพาติณไปนั่งพักก่อนนะครับ” นพแก้ต่างให้ ด้วยความน่าเชื่อถือของอัยการคนดัง พ่อกับแม่เลยไม่ติดใจสงสัยอะไรมากกว่านั้น

นพพาติณไปนั่งพักด้านนอกที่โซฟาตัวเดิม ลูบหลังปลอบโยนให้หายอารมณ์ร้อน ติณมองหน้านพแล้วเบะปากนิดๆ เหมือนจะร้องไห้ น่ารักเสียจนนพแทบอดใจไม่ไหว อยากจะจูบปากสักทีสองที แต่ก็กลัวคนมาเห็น เลยได้แค่กอดร่างโปร่งไว้
“ติณเกลียดผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ทำไม แต่ติณเกลียด ไม่อยากยกยัยแต้วให้แล้ว” ติณพูดพึมพำเสียงอู้อี้เพราะหน้าซุกอยู่กับไหล่ของร่างสูง
“อะไรกัน? หวงน้องหรอกเหรอ? ผมเข้าใจนะ แต่น้องแต้วโตแล้ว ไม่ต้องห่วงมากหรอก” นพพยายามปลอบใจ แต่ติณส่ายหน้า
“ไม่ใช่อย่างนั้นสิ ผู้ชายคนนั้น...” ติณเงียบไป ก่อนจะยืดตัวตรง “ ช่างมันเถอะ เข้าไปในงานกันดีกว่า” แล้วก็คว้ามือของนพให้เดินตามไป

“พี่ติณ!” แต้วผละจากเจ้าบ่าวตรงดิ่งมาหาพี่ชายทันทีที่เห็นติณกับนพเข้ามาในงาน “พี่ติณ ไม่ได้มีเรื่องอะไรกันแน่นะ? พี่แอมป์ก็บอกแค่เข้าใจผิด แต้วไม่อยากให้ทะเลาะกัน ยังไงเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ”
ติณมองหน้าน้องสาวที่ทั้งกังวลและร้อนรนด้วยความรู้สึกผิด

ปกป้องไอซ์ก็ไม่ได้

ปกป้องน้องตัวเองก็ยังไม่ได้

ตัวเขามันอ่อนแอ

“อือ แค่เข้าใจผิด พี่ไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก” แต่เกลียดอย่างบอกไม่ถูก ติณคิดในใจ ฝืนยิ้มให้น้องสุดชีวิต
“แต้วรักพี่ติณนะ พี่ติณเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดของแต้ว” แต้วก็คิดแค่ว่าพี่ชายคงจะหวงและห่วงเธอมากเกินไป จึงพยายามพูดจาเอาใจและกอดติณไว้แน่น ติณลูบหัวน้องสาวแผ่วเบา พลางถอนหายใจ สายตาเหลือบมองไปยังผู้ชายคนนั้น ซึ่งแอมป์ก็จ้องมองมาเช่นกัน
ติณกำหมัดแน่น ก่อนจะผละจากอ้อมกอดของน้องสาว และยิ้มให้หล่อนอย่างอ่อนโยนที่สุด
“เจ้าบ่าวของน้องรออยู่ ไปหาเขาสิ พี่ไม่เป็นไรแล้ว อารมณ์ดีมากเลย เนอะนพ?”
แต้วมองหน้านพที่พยักหน้ายิ้มให้ แล้วหอมแก้มพี่ชายก่อนจะวิ่งกลับไปมาว่าที่สามี รอตัดเค้กด้วยกัน

พอแต้วไปแล้ว นพก็คว้ามือของติณมากุมไว้ บีบเบาๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย เขารู้ว่าติณต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างกับแอมป์ แต่ถ้าติณยังไม่อยากเล่า เขาก็ไม่คิดจะคะยั้นคะยอ

[เอาล่ะครับ! ได้เวลาที่ทุกท่านลอยคอ รอคอยกันแล้ว! เชิญบ่าวสาวของเรามาตัดเค้กบนเวทีเลยคร้าบบบบ!!!]
เสียงพิธีกรดังขึ้น ทุกคนต่างปรบมือส่งเสียงโห่ฮา
ติณยืนอยู่มุมหนึ่งกับนพ ยังคงจับมือกันแน่น ติณเลือกที่จะไม่มองภาพนั้นโดยการเอนตัวพิงกับไหล่ของร่างสูง หลับตาลง น้ำตาที่ไม่อยากให้ไหลออกมาพรั่งพรูอาบสองแก้ม ไม่รู้ทำไมตัวเขาถึงได้อ่อนแอขนาดนี้ หรือเพราะร่างกายที่ไม่ปกตินี่ ในหัวคิดอยู่เรื่องเดียว

ไม่อยากปล่อยน้องให้อยู่ในกำมือผู้ชายคนนั้นเลย
................
...........
.......
...
งานเลี้ยงจบลงแล้ว

พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายและบ่าวสาวต่างออกมายืนส่งแขกเหรื่อในงานที่กำลังเดินทางกลับ ติณก้มมองนาฬิกาข้อมือขณะที่กำลังจะเดินไปที่ลานจอดรถของโรงแรม
22.30 น. แล้ว
“เจ้าตัวเล็กล่ะ?” ติณมองหาลูกชายที่ฝากไว้กับพี่สาวเสียนาน
“เดี๋ยวผมไปตามให้” นพว่าพลางจะปล่อยมือ แต่ติณก็ดึงไว้
“ไปด้วยสิ” คงเพราะเรื่องของแอมป์และหลายๆ เรื่องที่ประดังประเดเข้ามาในหัว ติณจึงรู้สึกไม่อยากอยู่คนเดียวตอนนี้
นพจับมือติณและยิ้มบางๆ “ผมไปแป้ปเดียว คุณนั่งรอเถอะ ผมไม่อยากให้เหนื่อย”
แต่ติณก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีก นพถอนหายใจเบาๆ กระตุกแขนบางให้ร่างของติณแนบชิดกับผนังมุมหนึ่งของทางเดิน ซึ่งไม่มีใครผ่านไปมา เอาตัวเองบังไว้แล้วกดจูบเบาๆ ที่หน้าผากและริมฝีปาก
“รอผมอยู่นี่แหละ นะครับ”
ติณหน้าร้อนผ่าว ไม่คิดว่านพจะกล้าจูบนอกสถานที่ ถ้าเป็นนพคนเมื่อก่อนที่ไม่ประสีประสา คงจะทั้งอายและลนลาน ถ้าเกิดติณเป็นฝ่ายรุกไล่เวลาอยู่ในที่สาธารณะ แต่ตอนนี้นพทั้งเท่และใจกล้าสุดๆ
“อือ” ติณพยักหน้ารับ ยืนรอให้นพเข้าไปตามภพที่ด้านในห้องจัดเลี้ยง

ติณเดินไปนั่งรอนพที่โซฟาหน้าล็อบบี้เล็กๆ ตรงทางเดินไปลานจอดรถ คนทยอยกลับไปจนเกือบหมดแล้ว บริเวณนี้จึงไม่ค่อยมีคน เห็นแค่พนักงานโรงแรมบางส่วนที่ยังขนของกันอยู่
เสียงฝีเท้าที่ดังวุ่นวายเริ่มเงียบลง เหลือเพียงเสียงเดียวที่ก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อเสียงของคนที่เดินมาดังขึ้น ติณก็ต้องสะดุ้งสุดตัว จนนั่งไม่ติดที่
“หาเจอสักทีนะ ติณ”

******

“ภพ ลาคุณตาคุณยายกับพวกคุณน้าก่อนครับ” นพสะกิดบอกลูกชายตัวน้อยที่เริ่มจะง่วงเหงาหาวนอน
“ผมง่วงอ่า” เจ้าตัวเล็กส่งเสียงยานคางหันไปกอดพ่อเสียอย่างนั้น พวกคุณตาหัวเราะกันใหญ่ ยกเว้นลูกเขยคนใหม่ที่ดูจะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่
“ไม่เป็นไรๆ พาน้องภพกลับเถอะลูก ไว้วันหลังพากันไปเยี่ยมที่บ้านมั่งนะ” แม่ยายลูบหัวหลานชายอย่างเอ็นดู
“ไว้มาเล่นกันใหม่น้า น้องภพ” มิ้นท์ ลูกสาวของตาลก็โบกมือให้น้องชายที่ตอนนี้ถูกพ่ออุ้มขึ้นพาดบ่าแล้ว เด็กน้อยตาปรือปรอยเต็มที
“งั้นผมลานะครับคุณพ่อคุณแม่ พี่ตาล น้องแต้ว...คุณแอมป์” นพยิ้มให้ทุกคน จนมาหยุดที่คนสุดท้าย ซึ่งมองหน้าเขาจนคิ้วขมวดปม นพเลยชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มให้ในที่สุด แอมป์จึงได้สติและยิ้มกลับไปแบบงงๆ

แอมป์สงสัยอยู่นานแล้วว่าอัยการนพดลเกี่ยวข้องอย่างไรกับติณ ที่คุณหญิงแม่เชิญมาร่วมงาน เข้าใจว่ารู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับครอบครัวนี้ แต่ไม่คิดว่าจะมากับติณ แถมยัง...เด็กคนนั้น
“พี่ชายคุณกับอัยการนพดลเขาเป็นเพื่อนกันเหรอ?” แอมป์ดึงแขนแต้วไปคุยกันสองคนไกลจากที่พวกพ่อยืนส่งแขก แต้วมองเขาแล้วหัวเราะเบาๆ
“เออ แต้วลืมเลยค่ะ พี่นพเขาเป็นแฟนพี่ติณ”
“ห๊ะ!? ผู้ชายด้วยกันเนี่ยนะ?” แอมป์ทำหน้าเหลือเชื่อ แต่แต้วก็ยืนยันหนักแน่น
“สมัยนี้แล้วนะ พ่อกับแม่แต้วยังรับได้เลย พี่นพนิสัยดีมากๆ พ่อยังไม่ว่าเลยเนี่ย รับเป็นลูกเขยเต็มตัวแล้วด้วย”
แอมป์จิ๊ปากเล็กน้อยอย่างขัดใจ ไม่คิดว่าติณจะเป็นเกย์ แถมยังมีแฟนระดับนั้น “แล้ว...เมีย เอ๊ย ภรรยาพี่ชายคุณล่ะ? ไปไหนแล้ว แม่ของ...ภพ น่ะ”
“อ้อ ไม่มีหรอกค่ะ แต้วก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่พี่ตาลบอกว่าภพเป็นลูกของพี่ติณกับพี่นพ ไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้”
แอมป์พยักหน้าว่าเข้าใจตามนั้น และคิดไปเองว่า คงเป็นเด็กที่ขอมาเลี้ยง แต่ก็หาเด็กได้หน้าตาคล้ายกับติณมากพอดู

ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้พาบ่าวสาวไปส่งเข้าเรือนหอหลังจากแขกกลับไปหมดแล้ว จู่ๆ นพก็วิ่งอุ้มภพกลับมาหน้าตาตื่น
“มีใครเห็นติณมั่งมั้ยครับ?”
“อ้าว? ไม่ได้รอที่เดิมเหรอ?” พี่ตาลมองนพอย่าง งงๆ ส่งลูกสาวให้กลับบ้านกับสามีไปก่อน แล้วลองโทรหาติณ
“เอ...ไม่ติดเลย” ตาลมองมือถืออย่างกังวล พ่อกับแม่และแต้วเดินมาดู รวมทั้งแอมป์ด้วย
“ไปไหนของเขาน่ะ” ตาลบ่นพึมพำ
“มีอะไรเหรอลูก” แม่ยื่นหน้ามาถาม เห็นตาลยังกดมือถือไม่เลิก ส่วนนพก็ดูท่าทางร้อนรน
“ผมกลับไปหาติณตรงล็อบบี้หน้าลานจอดรถแล้วไม่เจอครับ”
“ไปเข้าห้องน้ำรึเปล่า?” พ่อว่า แต่นพส่ายหน้า
“ผมไปหาแล้ว ไม่เจอเลย ถามพนักงานก็ไม่มีใครเห็นเลย”
สีหน้าของนพไม่ได้บ่งบอกว่าล้อเล่น ทุกคนเริ่มใจคอไม่ดี ตาลกดมือถือโทรหารัวๆ แต่ไม่มีสัญญาณเลย
“ให้ทางโรงแรมเช็คกล้องวงจรปิดดีมั้ยครับ” แอมป์เสนอ นพจึงนึกได้ รีบขอบคุณแอมป์และวิ่งไปติดต่อพนักงานที่ล็อบบี้ด้านหน้าทันที โดยมีแอมป์กับแต้ววิ่งตามไปด้วย

ภาพในกล้องวงจรปิดมีถึงแค่ตอนที่ติณยังนั่งอยู่ที่เดิม หลังจากนั้นก็เหมือนสัญญาณขัดข้องและภาพตัดไปอีกที ตอนที่ติณหายไปจากตรงนั้นแล้ว
“ผมว่าเราควรจะแจ้งความไว้ก่อน” แอมป์ว่าพลางเกาคางอย่างครุ่นคิด แม้จะไม่ค่อยถูกกันมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แถมยังเกิดเรื่องในวันงานแต่งงานของตน เลยรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ยังไม่ครบ 24 ชม. ตำรวจไม่รับแจ้งหรอกครับ” นพสีหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้ฝากภพไว้กับตายายแล้ว มาเช็คกล้องกับแอมป์แค่สองคน แอมป์เอามือตบบ่าเขาเบาๆ อย่างให้กำลังใจ
“คุณนพใช้อำนาจที่มีให้ตำรวจรับเรื่องเลยได้มั้ยล่ะครับ”
“ไม่ได้ครับ ต้องทำตามกฎหมาย ผมไม่อยากใช้อำนาจกับเรื่องส่วนตัว ขอบคุณที่มาช่วยตามหานะครับ” นพยิ้มอ่อนให้แอมป์ เจ้าบ่าวอึ้งไปเล็กน้อย ไม่คิดว่ายุคนี้จะยังมีคนที่ซื่อสัตย์ ซื่อตรง แบบนี้อยู่ในโลกอีก
แอมป์ยิ้มบางให้ บอกแค่ว่า “ไม่เป็นไรครับ”

นพพาภพกลับไปที่คอนโด ไม่มีวี่แววว่าติณกลับมาที่นี่เลย เขาอุ้มลูกเข้าไปนอนในห้อง ห่มผ้าและจูบหน้าผากเด็กน้อยที่ยังหลับสนิท ก่อนจะนั่งลงข้างเตียงอย่างหมดแรง

ที่คิดได้ตอนนี้มีอย่างเดียวคือ...

ติณต้องอยู่กับผู้ชายคนนั้น

แน่นอน

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สรุปยังไง
หวยออกที่มคร
นพหรืออันดา

เอาจริงๆ ใจเชียร์อันดา
แต่ดูทรงแล้วคงยาก 55555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพราะมันคือตราบาป...[Mpreg Drama] update 6/2/18
« ตอบ #19 เมื่อ: 06-02-2018 17:02:33 »





ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
12
“พี่หมอ!! พี่หมอ!!!!”

ตึงๆๆๆ

เสียงตะโกนเรียกและทุบประตูห้องรัวๆ ทำเอาคุณหมอที่เพิ่งกลับจากเวรดึกและกำลังจะเข้านอนเอาแรง ก่อนออกไปสอนนิสิตแพทย์ช่วงบ่าย ต้องรีบวิ่งพรวดออกมาทั้งกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เพราะกลัวคนในคอนโดจะเปิดประตูออกมาด่า
“อย่าเสียงดังสิ เฮ้ย!” หมอตกใจหน้าตาตื่นเมื่อถูกคว้าไหล่แล้วผลักเข้าไปในห้อง สีหน้าของคนที่มาหาร้อนรนสุดขีด เหมือนเกิดเรื่องร้ายแรงคอขาดบาดตาย “มีอะไรเนี่ย นพ? นี่มันเพิ่งจะตี 5 นะ”
นพทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เขย่าตัวหมออย่างแรง “ไอ้อันดาอยู่ที่ไหน!? มันอยู่ไหน!?”
“เดี๋ยวๆ มีอะไรเนี่ย ใจเย็นก่อน มีอะไรกับไอ้อันมัน?”
“มันลักพาตัวติณไป ต้องเป็นมันแน่ๆ พี่หมอบอกผมมา มันพาติณไปไว้ไหน!?” นพโวยวายหน้าตาเครียดขึง หมอพาเขาไปนั่งที่โซฟา ลูบหัวลูบหลังเพื่อให้สงบจิตสงบใจ
“นี่มันตามพวกนายจนเจอเหรอเนี่ย? ไอ้ห่าเอ๊ย กัดไม่ปล่อยเลย” หมอสบถเบาๆ นพกับติณย้ายหนีจากห้องเช่าเล็กๆ นั่นมา 2 ปีกว่าแล้ว ไม่ได้บอกอันดาว่าย้ายไปที่ไหน แม้จะเห็นหน้านพผ่านทางสื่อต่างๆ แต่อันดาจะไม่มีทางได้เจอติณ
“ตอนนี้ผมฝากภพไว้ที่บ้านคุณแม่แล้ว ต้องตามติณให้เจอให้ได้ ผมไม่ยอมให้มันพาติณไปไหนทั้งนั้น พี่หมอ! พี่ต้องช่วยผมนะ!”

******

เสียงฮีทเตอร์ที่คอยให้ความอบอุ่นภายในห้องทำให้ร่างโปร่งบางที่นอนไม่ได้สติมาค่อนคืนค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น สิ่งแรกที่ปรากฏสู่สายตาก็คือ บรรยากาศด้านนอกหน้าต่างที่กำลังมีหิมะตก

พรึ่บ!

ติณผุดลุกจากที่นอนและสะบัดผ้าห่มผืนหนาออก วิ่งไปที่ประตูห้องซึ่งอยู่ไกลพอสมควร มือเอื้อมคว้าลูกบิดประตูไว้ ทว่า

แกร็ก...แกร็กๆๆ

“เชี่ย!” ร่างโปร่งสบถใส่ประตูที่เปิดไม่ออกอย่างหัวเสีย มองไปรอบๆ ห้อง มีแค่เตียงนอนสีขาวกับฮีทเตอร์เท่านั้น ด้านในสุดมีประตูอีกบาน ซึ่งน่าจะเป็นห้องน้ำ เขารีบวิ่งไปทันที
ในห้องน้ำน่าจะมีช่องลมระบายอากาศหรือท่อระบายน้ำที่พอจะหลบหนีออกไปได้ แต่น่าเสียดายที่มันถูกปิดตายแน่นหนา ไม่ว่าติณจะพยายามแงะยังไงก็ไม่ยอมเปิดออก แถมเจ้าของห้องน่าจะเก็บอุปกรณ์ทุกชนิดที่จะช่วยงัดแงะช่องทางหนีไปหมดแล้ว ไม่มีของมีคมสักชิ้น
ติณกัดปากจนเลือดซิบ หัวคิ้วขมวดหากัน ใบหน้ายุ่งเหยิง ร้อนรน หน้าต่างล็อคแน่นหนาและมีเหล็กดัดขวางอยู่ ต่อให้พังกระจกก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี มันเตรียมการมาดีทีเดียว

ไอ้อันดา!

ติณล้วงหามือถือ แต่ไม่เจอ นาฬิกาข้อมือบอกวันที่และเวลา เพิ่งผ่านมาแค่วันเดียว แต่ป่านนี้ทุกคนคงวุ่นวายกันน่าดู นพ...จะต้องออกตามหาจนแทบคลั่งแน่ พอคิดถึงหน้าของนพ หน้าของลูก ติณก็ปวดร้าวในอก

ทำไมถึงหนีไม่พ้นเสียที หรือจะต้องฆ่ามันให้ตายไป จะได้จบๆ

ปัง!

เสียงประตูเปิดดัง ทำเอาสะดุ้งโหยง ติณรีบหลบหลังประตูห้องน้ำ แม้แต่ลมหายใจก็พยายามทำให้เงียบที่สุดพลางเงี่ยหูหังเสียงฝีเท้าของคนที่เข้ามาในห้องนั้น

ตึก ตึก ตึก

หัวใจของเขาเต้นถี่รัวจนกลัวว่าอีกคนในห้องจะได้ยิน รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นใคร ไม่ได้หวาดกลัว แต่กำลังร้อนรน หาวิธีต่อกรกับไอ้คนพาลสันดานชั่ว ที่ไม่ยอมรามือจากพวกเขาง่ายๆ

“ออกมา” เสียงทุ้มต่ำน่ารังเกียจนั่นทำให้ติณต้องขมวดคิ้ว แต่ยังไม่ยอมออกไปจากห้องน้ำ จนอีกฝ่ายต้องเดินเข้ามาฉุดกระชากออกไป
“ปล่อย! พากูมาที่นี่ทำไม!?” ติณทั้งดิ้นรน โวยวาย แต่อันดาก็ยังนิ่งเฉย ลากติณมาโยนทิ้งไว้บนเตียง รูดผ้าม่านปิดไม่ให้แสงสว่างลอดผ่านเข้ามาได้ จนทั้งห้องมืดสลัว
“คิดว่าจะหนีจากกูไปเสวยสุขกับชู้รักของมึงได้เหรอติณ” อันดาแสยะยิ้ม สาวเท้าเข้าไปจนถึงตัวติณที่ลุกขึ้นมาใช้แขนยันเตียงไว้ ร่างสูงใหญ่ราวยักษาคร่อมทับกดร่างโปร่งบางลงบนเตียงอีกครั้ง
“นพไม่ใช่ชู้! แต่เป็นคนที่กูรัก แค่คนเดียวเท่านั้น!” ติณโวยลั่น สองมือทั้งทุบและดันร่างสูงใหญ่นั้น แต่ก็ทำได้แค่ให้อันดาเซไปเล็กน้อยเท่านั้น

ถ้าร่างกายยังเหมือนเดิม คงไม่เป็นแบบนี้แน่

อันดากระชากข้อมือสองข้างนั้นอย่างแรงจนติณต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ดึงเข็มขัดมารัดพันไว้ไม่ให้ดิ้นหลุดและฉีกเสื้อเชิ้ตตัวบางของติณออกอย่างไม่ใยดี เสียงเนื้อผ้าขาดแคว่กๆ บาดหู ติณยกขาขึ้นจะถีบอกอีกฝ่าย แต่ก็ถูกคว้าจับไว้ได้ พร้อมกับถูกแยกขาออกกว้างจนแทบฉีก
“อย่าให้กูต้องข่มขืนมึงเหมือนตอนนั้น” อันดาตวาดเสียงดัง ติณหยุดชะงัก เหงื่อแตกพลั่กเมื่อได้ยินคำต้องห้าม ภาพในคืนนั้นไหลบ่าเข้ามาในหัวราวกับกรอเทป น้ำตารื้นขึ้นที่ขอบตา ความอ่อนแอที่ไม่ต้องการหวนกลับมาอีกครั้ง พอเห็นแบบนั้น อันดาก็ลดเสียงลง
“พี่ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลยติณ แต่ติณหนีพี่ไป กับไอ้อัยการหน้าอ่อนนั่น!” อันดาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเมื่อเอ่ยถึงชายที่ตนตราหน้าว่าเป็นชู้รักของติณ “ทุกครั้งที่ต้องเห็นหน้ามันในทีวี พี่อยากจะขยี้ บดบี้มันให้เละคามือ มันหักหลัง ทรยศความไว้ใจของพี่ ที่พี่ฝากติณไว้กันมัน!”
“นพไม่ได้หักหลังใคร! พวกเรารักกัน!” ติณโต้กลับทั้งน้ำตา อันดามองหน้าติณนิ่งงัน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมา
“ไม่เป็นไร ติณคงยังโกรธพี่เรื่องนั้นอยู่ ที่พี่มามาที่นี่ ก็เพื่อจะทำให้ติณกลับเป็นเหมือนเดิม”
“หมายความว่ายังไง?” ต่างคนต่างจ้องมองกัน ติณสับสนและไม่เข้าใจ ส่วนอันดามีแววตาที่อ่อนโยนอย่างประหลาด

อันดาตั้งใจจะพาติณมาหาบาส เพื่อนสนิทที่ร่วมมือกันทำร้ายติณในคืนนั้น คนที่ใช้วิทยาการทางการแพทย์ฝังมดลูกและเชื่อมต่อกับวงจรภายในร่างกายของติณ ให้สามารถตั้งท้องได้เหมือนผู้หญิง ผ่านการร่วมเพศทางทวารหนัก โดยใช้ทฤษฎีเดียวกับ ทฤษฎีโอเมก้าเวิร์ส ที่เคยมีแต่ในนิยายแนวรักร่วมเพศ

ในเมื่อบาสเป็นคนผ่าตัดเชื่อมต่ออวัยวะภายในให้ติณได้ ก็ย่อมเอามันออกได้เช่นกัน

เพราะอันดาไม่ต้องการให้ติณมีลูกกับคนอื่นนอกจากตนอีกแล้ว ยังดีที่ระหว่าง 2 ปีที่ตามหา ติณยังไม่ท้องกับนพ อาจจะเพราะไม่ได้มีเวลาทำอะไรกันบ่อยๆ และครั้งแรกที่มีก็ไม่ได้ทำให้ติดในทันที

เรื่องนี้ติณกับนพเคยไปปรึกษาพี่หมอมาแล้ว ดูเหมือนน้ำเชื้อของนพจะไม่แข็งแรงนัก จึงทำให้ติดลูกยาก

อันดาไม่ได้บอกอะไรมากกว่านั้น ก่อนจะปล่อยมือจากติณ
“พี่เอาอาหารมาให้ กินซะ ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม มะรืนนี้ไอ้บาสมันจะมาตรวจให้อีกที”
ชื่อนั้นทำให้ติณถึงกับสะอึก

“บาส”

“มึงคิดจะทำอะไรกับกูอีก! ไอ้เหี้ยอันดา!” ติณลุกพรวดจะคว้าตัวอันดา แต่หน้ามืดจนเกือบล้ม ดีที่อันดารับไว้ได้ทัน
“อยู่ที่นี่ไปเงียบๆ แหละน่า ไว้มันมาก็รู้เอง” อันดาตอบแค่นั้น แล้วพยุงร่างโปร่งให้นั่งลงบนเตียง ยื่นถาดอาหารที่วางทิ้งไว้บนพื้นมาให้ “กินให้หมดนะ เดี๋ยวพี่มาเก็บ” แล้วก็เดินออกไปจากห้องนั้น โดยไม่ลืมล็อคกุญแจจากด้านนอก ทิ้งให้ติณนั่งงุนงงกับถาดอาหารตรงหน้า

******

หมอช่วยนพตามหาร่องรอยทั้งหมดของอันดา และพบว่าออกเดินทางไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งไม่ระบุพิกัดว่าไปที่ไหน เรื่องนี้ทุกคนที่บ้านของติณต่างรับรู้ ไม่เว้นแม้แต่ลูกเขยคนเล็ก ที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว
“ทำไม...พี่ชายของไอซ์ถึงต้องพาตัวติณไปอ่ะครับ?” แอมป์พอจะรู้ว่าไอซ์มีพี่ชายอยู่ 2 คน และอันดาเป็นพวกมีอิทธิพล
“เรื่องมันยาวมากเลยลูก” แม่ว่าพลางหันหน้าไปมองทางพ่อ ที่ยังไม่รู้ความจริงบางอย่างเช่นกัน
“ถ้าจะเล่าก็คงเป็นวัน รู้แค่ว่า เขาทำเพื่อแก้แค้นแทนน้องสาวก็แล้วกัน” พี่ตาลเปิดปากพูดด้วยตัวเอง และเพียงแค่นั้น แอมป์ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้บางส่วน

อันดาแค้นที่ติณทำให้ไอซ์ท้องและฆ่าตัวตาย

แต่...มันเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นอีกหรือเปล่า

และจริงๆ แล้ว...

“เป็นอะไรรึเปล่าคะพี่แอมป์ ทำไมหน้าซีดๆ?” แต้วหันไปมองแอมป์ด้วยความเป็นห่วง เห็นเหงื่อออกและหน้าซีดเผือดจนน่ากลัวว่าจะเป็นโรคเลือดอะไรหรือเปล่า
“เอ่อ...พี่ พี่...ขอไปนอนพักแป้ปนะ มันมึนๆ” แอมป์ฝืนยิ้มให้ภรรยาสาว ก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องนั่งเล่น เพราะตอนนี้ทุกคนอยู่ที่ห้องรับแขกกันหมด ร่างสูงเพรียวทรุดตัวลงนั่งกุมขมับ เหงื่อชื้นไปทั้งตัวด้วยความกลัว

คนที่ต้องโดนแก้แค้น

จริงๆ แล้ว

...

******

“ไม่ได้ว่ะ ยังผ่าตัดไม่ได้ตอนนี้” บาสนั่งเอนหลังพิงกับเก้าอี้แบบหมุนได้หน้าโต๊ะทำงานที่มีเครื่องมือแพทย์มากมาย รวมทั้งเอกสารการตรวจต่างๆ
อันดาขมวดคิ้ว “ทำไมวะ?”
“...” บาสเงียบไปนาน จนอันดาเริ่มจะหงุดหงิด
“มีอะไรก็รีบๆ พูดมาสิวะ”
“มึงฟังนะ” บาสสูดลมหายใจแล้วพ่นพรูออกมาทางปาก เห็นไอสีขาวลอยฟุ้ง

“ติณท้องอยู่”

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
สรุปยังไง
หวยออกที่มคร
นพหรืออันดา

เอาจริงๆ ใจเชียร์อันดา
แต่ดูทรงแล้วคงยาก 55555555

อันแทบไม่มีบทเลยหลังๆ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
โอยย ลุ้นค่ะ ลุ้นมากก เอาใจช่วยทั้งนพและติน

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
โอยย ลุ้นค่ะ ลุ้นมากก เอาใจช่วยทั้งนพและติน
ขอบคุณที่ติดตามนะค้าบ เด๋วมาต่อ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1001
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เพลียกับพี่อัน..นี่ถ้ารู้ความจริงว่าใครทำ จะยังไงเนี่ย :ruready

ปล่อย ๆ ให้ติณกับนพมีความสุขสักที :เฮ้อ:

แล้วนี่ติณท้อง....หวยจะออกแบบไหนล่ะเนี่ย  :hao7:

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โอยยย ไม่อยากจะเลยว่าอันดาจะบอกให้บาสเอาลูกออกมา ถ้าทำแบบนั้นนี่จะแบนอันดาเลยนะ รับไม่ได้อย่างแรง

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เพลียกับพี่อัน..นี่ถ้ารู้ความจริงว่าใครทำ จะยังไงเนี่ย :ruready

ปล่อย ๆ ให้ติณกับนพมีความสุขสักที :เฮ้อ:

แล้วนี่ติณท้อง....หวยจะออกแบบไหนล่ะเนี่ย  :hao7:
หวยยังไม่ออกสักที ติดงานนนนน เด๋วมาต่อน้า

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
โอยยย ไม่อยากจะเลยว่าอันดาจะบอกให้บาสเอาลูกออกมา ถ้าทำแบบนั้นนี่จะแบนอันดาเลยนะ รับไม่ได้อย่างแรง
ถ้านางจะใจร้ายขนาดนั้นก็นะ...

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นแต่ก็ยิ่งงงเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าคนเขียนตั้งใจจะแต่งแบบ time skip แล้วค่อยวนเนื้อเรื่องกลับมาถึงที่มาที่ไปรึเปล่า เนื้อเรื่องมันเลยดูก้าวกระโดดไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไหร่ อย่างเรื่องที่ติณความจำเสื่อมตรงนี้ไม่แน่ใจว่าคนเขียนเคยเกริ่นไว้แล้วเราอ่านข้ามไปเองหรืออย่างไร ไหนจะเรื่องที่ติณกับนพหนีจากอันอีก เอาจริงๆคนมีอิทธิพลอย่างอันการที่จะตามหาตัวสองคนนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรขนาดนั้นนะ เพราะนพเองก็ยังออกสื่ออยู่ถ้าให้คนตามนพการที่จะเจอที่อยู่นี่ไม่ยากเลยจริงๆ เราเลยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันดูย้อนแย้งกัน แต่ถ้านี่มันเป็นความตั้งใจของคนเขียนก็ขอโทษด้วยค่ะ

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นแต่ก็ยิ่งงงเช่นกัน ไม่แน่ใจว่าคนเขียนตั้งใจจะแต่งแบบ time skip แล้วค่อยวนเนื้อเรื่องกลับมาถึงที่มาที่ไปรึเปล่า เนื้อเรื่องมันเลยดูก้าวกระโดดไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไหร่ อย่างเรื่องที่ติณความจำเสื่อมตรงนี้ไม่แน่ใจว่าคนเขียนเคยเกริ่นไว้แล้วเราอ่านข้ามไปเองหรืออย่างไร ไหนจะเรื่องที่ติณกับนพหนีจากอันอีก เอาจริงๆคนมีอิทธิพลอย่างอันการที่จะตามหาตัวสองคนนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไรขนาดนั้นนะ เพราะนพเองก็ยังออกสื่ออยู่ถ้าให้คนตามนพการที่จะเจอที่อยู่นี่ไม่ยากเลยจริงๆ เราเลยรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันดูย้อนแย้งกัน แต่ถ้านี่มันเป็นความตั้งใจของคนเขียนก็ขอโทษด้วยค่ะ

เราอธิบายแบบข้ามๆ จริงๆ แหละ กระโดดอย่างไกล ฮ่าๆ เรื่องติณความจำเสื่อม มันไม่ถึงขั้นลืมหมด แค่เหมือนนึกออกไม่หมด ลืมบางเรื่อง บางคน เพราะมันจะมีช่วงที่นางนึกถึงไอซ์ แล้วนึกไม่ออกว่าไอซ์ไปท้องกับใคร เพราะลืมหน้าแอมป์ไปแล้ว พอมาเจออีกทีเลยพอจะนึกๆ ได้ จริงๆ นางรู้แหละว่าใครทำ นางแค่ลืม
อันเลิกเป็นนักการเมืองแล้ว และมีเรื่องหลายเรื่อง เลยปล่อยติณกับนพไปช่วงหนึ่ง ขอโทษที่ไม่ได้อธิบายชัดเจนค้าบ แค่บอกว่ามีเรื่องและจะเลิกเล่นการเมืองไว้เฉยๆ
เน้นบรรยายแต่ตัวหลักไปหน่อย แหะๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด