★☆ คุณากร ★☆ตอนที่สิบ :คืนร้อน...เพราะไฟดับ!(UP 28/7/61)อัพเเร้วมาอ่านกันเร้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★☆ คุณากร ★☆ตอนที่สิบ :คืนร้อน...เพราะไฟดับ!(UP 28/7/61)อัพเเร้วมาอ่านกันเร้ว  (อ่าน 8858 ครั้ง)

ออฟไลน์ Matcha_Latte

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
- ขอทอล์คนิดหน่อยนะคะ




สวัสดีตอนดึกๆค่ะคนอ่านที่น่ารัก มัทฉะลาเต้เองค่ะ เเน่นอนว่ามัทห่างหายไปนานมากเหตุผลที่ว่าก็คือติดงานค่ะ ไม่มีเวลาปลีกตัวทำอะไรเลย ติดนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด  ต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งที่ทำให้นักอ่านบางท่านรอนานเกินไป (ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีมั้ยนะคะ  :mew2:)


เราอยากเเจ้งให้นักอ่านทุกท่านทราบว่า ต่อจากนี้ไปจะเเบ่งอัพเป็นเปอร์เซ็นที่เว็ปเด็กดีนะคะ เเละเมื่อไรที่อัพครบ 100% เเล้วก็จะนำมาอัพที่เล้าเป็ดด้วยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อป้องกันการดองของตัวเองเลยจะเเบ่งอัพเป็นเปอร์เซ็น หากใครจะรออ่านเต็มร้อยก็สามารถรอได้  เพราะจะพยายามไม่ทิ้งช่วงห่างจากกันมากนัก

สุดท้ายเเล้วขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากนะคะที่กดเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ เเละให้โอกาสมัท ให้โอกานิยายเรื่องคุณากร 

เเละสุดท้ายท้ายสุด รักน้องชอบน้องอย่าลืมคอมเม้นหรือเข้าไปติดเเท้กในทวิตเตอร์นะคะ  #คนของคุณากร


ขอบคุณที่รักกัน

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
กรี๊ดดดดดดดดดด นึกว่าตาฝาด คนเขียนมาอัพแล้ววว ดีต่อจายยยยย
คุณนิวกับน้องทอมก็ยังน่ารักกันเหมือนเดิม
เพิ่มเติม จะได้อยู่ด้วยกันแล้วววว 5555555

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เรื่องนี้สนุกมากครับ มากประมาณความซึนของคุณนิวเลย

ออฟไลน์ Matcha_Latte

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนที่สิบ : คืนร้อน…เพราะไฟดับ !




          เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากจบสงครามเเล้ว พวกเขาทั้งคู่ก็ล้มตัวลงนอนเเผ่หลาอยู่บนเตียงอย่างหมดแรง  ส่วนคุณนิวนั้นได้แผลมาเต็มๆเพราะเล่นกันเเรงเกินไป เจ้าเด็กยักษ์บ้าจี้เลยเผลอถีบเข้าเสียเต็มรักทำเอาคุณนิวถึงกับตกเตียง



ทีเเรกก็คิดว่าคุณนิวจะโกรธ เเต่ก็เปล่าเลย เมื่อเจ้าเด็กยักษ์รีบลงไปดูคนโดนถีบตกเตียงด้วยเร็วรี่ เเละช่วงจังหวะหนึ่งที่เขาทั้งคู่ได้สบตากัน แค่เพียงเสี้ยววินาที เสียงหัวเราะจากคนทั้งคู่ก็ดังลั่นห้อง 




นั่นเป็นอีกครั้งที่คุณนิวได้ร่วมเตียงเดียวกับเจ้าเด็กยักษ์ และเป็นอีกครั้งที่เขาหลับไปโดยมีใครสักคนอยู่ข้างๆ คนข้างๆก็เป็นคนที่เขาถูกใจ 



เช้านั้นที่ตื่นขึ้นมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีมากกว่าวันไหนๆ ไม่ต้องข่มตาหลับเหมือนทุกคืน เพราะอาการนอนไม่หลับที่มีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน



ถ้าเปรียบชีวิตให้เหมือนสี ของคุณนิวคงไม่พ้นเฉดสีเทา ความเทานั้นเกือบขาว มันเป็นความจือชืดไม่มีสีสรรค์ และคุณนิว… ไม่เคยรู้ตัวเองเลยว่าตั้งเเต่มีทอมเข้ามาในชีวิต สีเทาเกือบขาวแสนจืดชืดของเขากำลังถูกสีสันสดใสแปดเปื้อนที่ละนิดที่ละน้อย 


เเรกเริ่มเดิมทีอาจจะเพราะถูกใจ เเต่เขาไม่เคยรู้ใจตัวเองเลยว่ามันกำลังจะรู้สึกมากกว่านั้นเข้าไปทุกที
แต่สุดท้ายแล้วเขาจะไม่มีวันได้รู้เลยถ้ายังปล่อยให้ความคิดบ และความรู้สึกบางอย่างครอบงำจิตใจอยู่อย่างนี้


          ใช่…


          จะไม่มีวัน 




          “น้องทอม” หลังจากที่คุณนิวออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่หยดน้ำเกาะตามลำตัวเขาก็ตรงดิ่งมาที่เตียงพร้อมทั้งเอ่ยปากเรียกคนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องตรงหน้า


ที่ต้องออกมาในสภาพนี้ก็เพราะว่าเมื่อคืนเขาเผลอหลับเเบบจริงจัง ทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ ว่าจะมาขอยืมเสื้อผ้าเจ้าเด็กยักษ์ใส่ก่อน


คิดเเล้วก็น่าอาย… เพราะความคิดที่ผุดขึ้น เลยทำให้คุณนิวหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ในความน่าอายของตัวเองที่เผลอหลับไปง่ายๆทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ



          “น้องทอมครับ” เมื่อปลุกเจ้าเด็กยักษ์ครั้งแรก แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา คุณนิวก็เลยต้องเรียกเจ้าเด็กยักษ์อีกเป็นครั้งที่สอง


          “อือออออ” เจ้าเด็กยักษ์ส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอด้วยความขัดใจ พร้อมกับพลิกตัวไปมาราวกับว่าขี้เกียจเต็มที แม้แต่ลืมตาก็ทำให้ไม่ได้ 



ไม่ถึงสามนาที ท้ายที่สุดก็ต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาแม้ว่าจะง่วงขนาดไหนก็ตาม เพราะหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามร่างกาย ตามศีรษะของคุณนิวที่กำลังหยดลงตามตัวเเละใบหน้าของทอม ปลายจมูกของพวกเขาปัดป่ายกันไปมาเนื่องจากว่าระยะห่างนั้นมีน้อยมากและทั้งหมดนั้นก็มาจากความจงใจของคุณนิวล้วนๆ  แต่ที่ทำเพราะแค่อยากจะเเกล้งเจ้าเด็กยักษ์ก็เท่านั้น
 


          “เหี้ยยยยยยย” ทันเท่าความคิด เมื่อสมองประมวลผลเสร็จเเล้ว สวนสัตว์จึงเปิดทำการทันที เเละประเดิมด้วย ‘เหี้ย’ เป็นตัวเเรก

เท่านั้นยังไม่พอ ทอมต้องออกเเรงผลักอกคุณนิวด้วยเเรงทั้งหมดที่มีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องใกล้ชิดกันขนาดนี้

คนขี้เเกล้งยอมผละออกมาอย่างง่ายดาย เพราะไม่อยากถึงเนื้อถึงตัวเจ้าเด็กยักษ์มากนัก เดี๋ยวไก่จะตื่นเอาได้ เเค่นี้มันก็มากพอเเล้ว



คุณนิวเผลอระบายรอยยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความสุข เเต่กลับกันทอมนั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะการกระทำของอีกคน เป็นเพราะว่าไม่เคยได้เข้าใกล้ผู้ชายคนไหนในลักษณะเเบบนี้มาก่อน เเม้เเต่ไอ้เพชรที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันก็ไม่เคยอย่างน้อยก็แค่กอดคอ ออยเเดนยิ่งเเล้วใหญ่ เพราะมีเเต่มันสองคนที่ใกล้ชิดกันเอง




         “ทำเหี้ยไรเนี่ย?” ทอมถามด้วยความไม่พอใจ เเต่เจ้าตัวจะรู้มั้ยนะว่าผิวขาวๆบนใบหน้ากำลังขึ้นสีเเดงระเรื่ออย่างกับลูกตำลึงสุก 



          “ก็ปลุกไงครับ” เสียงทุ้มตอบกลับไปด้วยความราบเรียบเเต่ก็ยังคงระบายรอยยิ้มน้อยๆออกมาด้วยความชอบใจ เพราะท่าทางของเจ้าเด็กยักษ์ในตอนนี้  ขี้แมลงวันที่ปลายจมูกนั้นน่ากัดให้จมเขี้ยวเสียจริง



          “ปลุกบ้านมึงเขาปลุกกันเเบบนี้เหรอ” ครั้งนี้ทอมลุกขึ้นมานั่ง พร้อมกับเผชิญหน้ากับคุณนิวที่ตอนนี้กำลังยืนยิ้มค้ลายกับคนบ้าอยู่ข้างเตียง
หนำซ้ำคนบ้าในตอนนี้ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอีกด้วย เขามีเเค่เพียงผ้าขนหนูที่พันรอบเอว



          รู้หรอกว่าเว้ยว่าหุ่นดี! เรียนจบเมื่อไรเดี๋ยวจะไปฟิตหุ่นให้เเซ่บกว่าคอยดู



พอเห็นร่างกายคุณนิวแบบเต็มๆตาเจ้าเด็กยักษ์เลยอดเปรียบเทียบกับตัวเองที่ไม่ได้ เพราะตอนนี้หุ่นของอตัวเองนั้นเริ่มจะเหมือนหมีเข้าไปทุกวัน




          “ทีเมื่อคืนน้องทอมยังปลุกพี่เเบบนี้เลย”



          ไอ้ฉิบหายยยยยย



          ทอมถึงกับร้องโอดครวญอยู่ภายในใจเพราะความหน้ามึนของคนอายุเยอะตรงหน้า



          “เเล้วมีไร ปลุกกูเเต่เช้าเลยมันใช่เวลาตื่นมั้ย?” ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้นล่ะน่าดูเเน่!


          “พี่เเค่จะขอยืมเสื้อผ้าเปลี่ยนไปก่อน”

         
          ไอ้ห่าเอ้ยยยยย อยากใส่ตัวไหนก็ใส่ไปสิวะ จะมาขอทำสากกะเบืออะไรเล่า !



          “เออ ตามสบายอยากทำไรก็ทำ” เมื่อจบประโยคเเล้วเจ้าของห้องก็กำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ


          “เเล้วจะออกไปพร้อมพี่เลยมั้ยครับ” เพราะกลัวว่าเจ้าเด็กยักษ์ของเขาจะเจอเข้ากับอดีตเพื่อนรัก คุณนิวเลยอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความใส่ใจ



เเถมมันยังเป็นความใส่ใจเล็กๆน้อยๆที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังยิบยื่นไปให้น้องทอม เเละไม่รู้ว่าให้ไปตั้งเเต่เมื่อไร เพราะนอกจากเพื่อนเเละคนในครอบครัวเเล้ว เขาก็ไม่เคยให้ใครอีกเลย


          “ทำไมต้องออกไปพร้อมกัน ? เดี๋ยวเจอกันตอนเย็นก็ได้”


          “ไม่กลัวเจอหน้าเพื่อนคนนั้นเหรอครับ?”


พอได้ฟังคุณนิวพูดเจ้าเด็กยักษ์ถึงกับทำหน้าครุ่นคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาว่า “เอออ ไปกับมึงก็ได้
เเละนอกจากคุณนิวจะห่วงเจ้าเด็กยักษ์เเล้วเขายังห่วงอีกว่า เด็กจะเบี้ยวข้อตกลง เพราะฉะนั้นกันไว้ดีกว่าเเก้ เขาเลยต้องพาเจ้าเด็กยักษ์ไปส่งไว้ที่คอนโดตัวเอง ถึงเเม้ไม่ว่ายังไงทอมก็หนีเขาไม่พ้นก็ตาม






          : )





          .




          เมื่อเช้าขณะที่กำลังเดินไปขึ้นรถ เจ้าเด็กยักษ์ตัวแสบถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองก็มีรถ ทำไมต้องทำให้อื่นให้ลำบากด้วย เนื่องจากคุณนิวเขาก็มีหน้าที่ที่ต้องทำเหมือนกัน  ตอนนั้นเลยเกิดอาการเปลี่ยนใจกะทันหัน เพราะเจ้าเด็กยักษ์บอกว่าเดี๋ยวจะขับรถไปเอง

และคุณนิวก็ขัดไม่ได้อีกต่างหาก เลยปล่อยให้เจ้าตัวทำตามใจชอบเพราะไม่ว่ายังไงน้องทอมก็ต้องไปอยู่กับเขาที่คอนโดอยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กยักษ์จะอยู่กับเขาไปถึงเมื่อไร เพราะน้องมีสิทธิ์เลือกทุกเมื่อเชื่อวันว่าจะกลับมาอยู่ห้องตัวเองเมื่อไรก็ได้  และยิ่งถ้าน้องทำใจ ปลงเรื่องเพื่อนคนนั้นได้เมื่อไร ก็ยิ่งจะโนสนโนแคร์และกลับไปอยู่ที่ตรงนั้นได้โดยไม่ต้องคิดอะไร 

แต่เชื่อเถอะ…เสือเจ้าเล่ห์อย่างคุณนิวไม่มีทางปล่อยให้เหยื่อชิ้นใหญ่นี้หลุดมือไปง่ายๆหรอก เพราะเขาคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาว่าจะทำยังไงให้น้องอยากอยู่เพราะ ว่าอยากอยู่เอง


ทั้งคู่แยกกันตรงลานจอดรถที่หอของทอม เส้นทางของทั้งสอคือคนละทาง คุณนิวไปทำงานส่วนน้องทอมก็มีโปรแกรมว่าจะไปหาเพื่อนรักทั้งสอง ออยกับแดน  ซึ่งทอมขอเดาว่าสองคนนั้นยังไม่ตื่น เพราะตอนนี้มันเป็นเวลาที่เช้ามากๆและมันก็เป็นเวลาที่ทอมยังไม่ตื่นเช่นกัน แต่เพราะใครบางคนที่ตื่นเช้ากว่าดันมาปลุกไม่รู้เวลาล่ำเวลา 

วันหยุดใครเขาตื่นเช้ากัน  เขาตื่นตอนเย็นนู๊นนนนนน  ตอนแรกก็อยากด่าให้ใจขาดดิ้น แต่พอดึงสติ ตัวเองกลับมาแล้วก็คิดว่าดีเหมือนกัน เพราะถ้าเขาไม่ได้ออกไปพร้อมกับคุณนิวแล้วเจอกับอดีตเพื่อนรักเข้ามันคงไม่เวิร์คเท่าไร เพราะฉะนั้นเลยยกโทษให้แคเพียงครึ่ง อีกครึ่งเป็นความหงุดหงิดที่ต้องตื่นแต่เช้าก็แล้วกัน เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกเอาเรื่อง 

ทอมเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคุณนิวถึงยังตื่นเช้าได้ขนาดนี้  ถึกจริงๆ  ทั้งที่ดูจากสารรูปแล้วไม่น่าจะเป็นคนถึกได้ขนาดนี้  เนื่องจากท่าทางดูเป็นคนเหยาะแหยะ เป็นคุณชายเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างไรก็ไม่รู้ แต่ก็นะ… คนเราไม่ตัดสินกันแค่ภายนอกไม่ได้นี่นะ เพราะทอมชอบโดนคำสอนนี้กรอกหูมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโตจากพี่ทับทิมคุณแม่ว่าอย่าตัดสินคนที่ภายนอก เพราะเราไม่ได้เป็นบรรทัดฐานของโลกใบนี้   


จะว่าไปคุณนิวเขาก็ดีเหมือนกัน ถ้าตัดเรื่องความหน้ามึน และเรื่องที่ชอบบังคับกันแบบนุ่มนวลออกไปได้มันจะดีมาก !
จนถึงตอนนี้ทอมรู้แล้วว่าคุณนิวเป็นพวกหว่านล้อมเก่ง บางครั้งก็ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรออกมาแต่ก็ตอบตกลงไปแล้วอย่างงงๆ

แล้วก็อีกเรื่องเลยที่ยังรู้สึกว่ายังไงก็ยอมตัดออกจากใจไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องของเค้ก เพราะทอมรักเค้ก แต่ก่อนทอมมีคนคุยเยอะแยะ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปแต่เค้กเป็นคนแรกที่ผ่านมาแล้วทอมไม่อยากให้ผ่านไป เพราะฉะนั้นมันเลยยากที่จะตัดใจ 

เขาดูเหมือนไม่ได้คิดเรื่องเค้กแล้ว ใช่… เขาไม่คิด แต่มันก็ต้องผ่านการใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะไม่ให้ตัวเองคิด บางครั้งที่ความคิดเรื่องของเค้กผุดขึ้นมาเขาเเทบจะกระอักเลือดตาย เเต่ไม่ส่าจะรู้สึกเหมือนตายยังไงก็ต้องปกปิดไว้ไม่อยากให้ใครรู้

นี่เลยเป็นข้อสุดท้ายที่ติดอยู่ในใจ ทำให้ทอมไม่สามารถมองคุณนิวในแง่ที่ดีได้เลย  เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทอมเองเริ่มเกิดความย้อนเเย้งในใจว่า คุณนิวก็ไม่ได้เเย่เสียทีเดียว เลยเกิดเป็นข้อถกเถียงขึ้นมาในใจเงียบๆว่า  ‘สรุปเเเล้วจะมองเขาเป็นคนยังไงดี?’   



นั่นเป็นหัวข้อที่ทอมเฝ้าถามตัวเองตั้งเเต่เช้าจนถึงตอนนี้   “ทอมเย็นนี้เเดกไรดี?”    ตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน เเละท้องของเพื่อนทั้งสองเริ่มประท้วงว่า ‘หิวเเล้ว’  ออยถึงได้เอ่ยปากชวน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเรียนเล่มหนาในรอบหลายชั่วโมง 




          “ไม่รู้ว่ะ…”  ทอมพูดเสียงเบา  ทั้งที่ยังคงจดจ่ออยู่กับหนังสือตรงหน้า   



          “เนื้อย่างมะ!”  พอตอบไปว่า ‘ไม่รู้’ เเค่เพียงเสี้ยววินาที สมองก็นึกไอเดียดีๆออกมา ว่าจะไปกินเนื้อย่างกันดีหรือเปล่า?


          “ก็ดีนะ เรียวลิ้นกูไม่ได้สัมผัสสามชั้นย่างหอมๆนานแล้ว”  ออยว่าอย่างนั้น พร้อมกับทำท่าประกอบราวกับว่าทางโหยหามันมานานแสนนาน


          “บุฟเฟต์มั้ย? หรือยังไงดี?”   ออยตั้งคำถาม


          “เนื้อย่างก็เนื้อย่างสิวะ ไม่ได้อยากกินบุพเฟต์”   แต่ทอมก็เกิดคำค้าน เพราะสำหรับทอมแล้วเนื้อย่างก็คือเนื้อย่าง บุพเฟต์ก็คือบุพเฟต์  ถึงมันจะย่างเหมือนกัน ใช้กระทะเหมือนกัน แต่อรรถรสและรสชาติมันโคตรต่างกัน


          “กูอยากกินบุพเฟต์ว่ะ…กลัวไม่อิ่ม”   ออยหน้าหงอลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจ้าตัวคิดว่าไปบุพเฟต์มันมีตัวเลือกให้เยอะกว่า


          “แต่กูอยากกินเนื้อย่าง”  ทอมว่าเสียงแข็ง และศึกครั้งนี้เขาไม่เป็นคนแพ้เด็ดขาด ถึงแม้ว่าออยมันจะมีแดนคอยเข้าข้างอยู่ตลอดเวลาก็ตาม !


          “ไอ้เหี้ยทอมมมมมมมมมมมมมมมมมม” 


          “เอออ กูเหี้ยทอมเอง มึงมีไรครับไอ้สัดออย”   ความหยาบคายเริ่มเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองคนเริ่มจะมีความเห็นต่างในความคิดว่าจะกินอะไรดี 


          “แดนนนนนนนนนนมึงดูไอ้ทอมดิ”   เพราะรู้ว่าตัวเองต้องสู้ทอมไม่ได้แน่ๆ เจ้าเตี้ยที่สุดในกลุ่มจึงต้องหันไปพึ่งเพื่อนรักหักสวาทที่นั่งเงียบๆ อย่างไม่คิดจะห้ามหรือมีความเห็นใดๆ


          “ทอมมึงก็ตามใจมันหน่อยดิ…”  ว่าจะไม่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูด จริงๆแล้วแดนยังไงก็ได้แต่ไอ้เตี้ยข้างๆนี่ดันทำหน้าตาเป็นหมาหงอจนน่าสงสาร


          “ไม่ !”  แต่มีเหรอที่ทอมจะยอม คนอย่างไอ้ออยน่ะทำหน้าหงอแล้วเห็นผลได้แค่กับแดนเท่านั้นแหละ เพราะมันไม่มีทางเกิดขึ้นกับทอมแน่


          “ไอ้สัด”  ‘สัด’ คำใหญ่ๆหลุดออกมาจากปากออย พร้อมกับพุ่งกระแทกหน้าทอมเข้าอย่างจัง   


          “เออ กูสัด ! งั้นก็แยกกันแดกจะได้จบๆ”   กินคนเดียวก็ได้วะ… ไม่ตายหรอก


          “โว้ยยย ไอ้พวกเหี้ย แค่เรื่องกินหมูกระทะกับบุพเฟต์ก็เอามาเป็นประเด็นกัน ไอ้ฉิบหาย!”  ก่อนที่เพื่อนจะโวยวายกันไปมากกว่านี้ แดนจึงต้องชิงพูดขึ้นก่อนเพื่อตัดความรำคาญที่กำลังก่อเกิด


          “โอเคงั้นแยกกันกินนะ”  ทอมสรุป 


          “ไม่เอาน่า” แดนพูดกับทอม ประโยคถัดไปเขาหันไปพูดกับแดน “ไอ้ออยมึงอย่าเรื่องมาก”  จากตอนแรกที่เข้าข้างออย แต่ดูท่าแล้วคนหัวแข็งมากกว่าจะเป็นทอม แดนเลยต้องยื่นข้อเสนอ “ถ้ากลัวแดกไม่อิ่ม ตัวเลือกน้อยเดี๋ยวกูพาไปหาอะไรกินก็ได้”   


          เฮ้อ…อยากจะถอนหายใจวันละหลายล้านรอบกับเพื่อนคนนี้ ที่ต้องตามใจประหนึ่งว่าเป็นเมีย



          “ตะ…”   


          “ไม่มีแต่ แล้วรีบใสหัวไปร้านเนื้อย่างกันสักที กูหิวจนจะแดกหัวมึงได้แล้ว”  จากตอนแรกเป็นศึกระหว่างทอมกับออย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นศึกของออยและแดนไปเสียแล้ว เพราะสองคนนี้กำลังจะแดกหัวกันอยู่รอมร่อ 



เมื่อทุกอย่างเคลียร์แล้ว ท้องฟ้าก็เริ่มถูกความมืดเข้าปกคลุมถึงเวลาที่สามหนุ่มต้องออกไปร้านเนื้อย่าง เพราะเสียงท้องร้องในกำลังร้องประท้วงประหนึ่งว่าฟ้าผ่า ทอมขับรถมาต่างหากเพราะเขาต้องกลับไปที่คอนโดของคุณนิว ส่วนออยและแดนนั้น แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกัน 


          “สวัสดีค่ะ ลูกค้ากี่ที่คะ?”  เด็กเสิร์ฟสาวหน้าตาน่ารักเดินมาถาม เมื่อเห็นว่าลูกค้าโต๊ะใหม่กำลังเข้า


          “สามครับ”  ทอมตอบพร้อมกับเดินหาที่นั่ง และโต๊ะที่เขาเลือกก็เป็นโซนด้านหน้าร้าน บริเวณนี้เปิดโล่งไม่มีหลังคายื่นออกมา ทำให้รับลมเย็นๆที่กำลังพัดเอื่อยเฉื่อยพัดผ่านร่างใหญ่สร้างความสบายตัวให้คนขี้ร้อนได้เป็นอย่างมาก


          “รับชุดเล็กหรือชุดใหญ่ดีคะ?”   


          “เอาชุดใหญ่สอง แล้วก็ชุดแถมขอเป็นสามชั้นล้วน เครื่องดื่มเอาเป็นโค้กแล้วก็น้ำเปล่าสองขวด”  ทอมสั่งอย่างรู้งาน  เมื่อพนักงานเดินออกไปออยและแดนก็เดินเข้ามา


          “สั่งยัง?”  ทั้งสองนั่งลงฝั่งเดียวกัน เพราะเก้าอี้เป็นเก้าอี้แบบยาว ซึ่งทางฝั่งที่ทอมนั่งอยู่นั้นบอกเลยว่าเหลือพื้นที่เยอะมาก


          “สั่งแล้วสิ รอมึงสองคนคงไม่ได้กินหรอก” 





          Rrrrrrr   


          ทอมว่าอย่างนั้น แต่ก่อนที่ออยหรือแดนจะได้เอ่ยปากพูดขึ้น  เสียงโทรศัพท์เครื่องสวยก็ส่งเสียงร้องเตือนว่ามีคนโทรมา


          “ว่าไง?”  ไม่ปล่อยให้ปลายสายรอนาน แค่เพียงเสี้ยววินาทีทอมก็กดรับ เพราะชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอนั้นขึ้นว่า ‘ไอ้ลูกหมา’ 

          [น้องทอมอยู่ไหนครับ?]

          “ทำไมอ่ะ มีไร ?”  แทนที่จะตอบคำถาม แต่กลายเป็นทอมที่ถามกลับ

          [พี่ว่าจะชวนทานข้าว]   

          “ไม่ได้ว่ะ ตอนนี้อยู่ร้านเนื้อย่าง”

          [อืม…น่าเสียดายจังเลยนะครับ]  ในประโยคนี้เสียงของคุณนิวอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ฟังแล้วดูหงอมากๆ จนอยากรู้ว่าหน้านิ่งๆอย่างเขา ตอนนี้กำลังหงอเหมือนกับเสียงที่เปล่งออกมาหรือเปล่า   

          “เออ โทษทีมึงม้าช้าอ่ะ ไปหาอะไรกินเองก็แล้วกัน”

          [ครับ…]   คุณนิวตอบรับแค่เพียงสั้นๆ และกดวางสาย และมันมีชั่วขณะหนึ่งที่ทอมรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็พยายามบอกตัวเองอยู่ในใจว่าคุณนิวโทรมาช้าเอง เราไม่ได้มีนัดกันมาก่อน เพราะฉะนั้นเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย   

          “ใครวะมึง?”  เป็นเพราะทนความสงสัยของตัวเองไม่ไหวออยเลยเอ่ยปากถามออกไปด้วยความอยากรู้



          “เออ ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”  ไม่ใช่ว่าไม่อยากเล่า แต่เพราะขี้เกียจที่จะนั่งสาธยายทอมเลยขอเลี่ยงที่จะพูด และอีกอย่างทั้งสองคนยังไม่รู้ว่าทอมต้องไปอาศัยที่คอนโดคุณนิว และถ้ารู้ทั้งสองคนก็จะเกิดคำถามขึ้นอีกมากมาเช่น ว่าทำไม?  ไหนว่าไม่ชอบ? ไหนว่าคนนี้แฟนใหม่เค้ก?  และอีกบลาๆๆ ซึ่งทอมขอไม่สู้ในการตอบคำถาม ไม่ใช่ว่าเพราะกลัวโดนล้อหรืออะไร แต่มันขี้เกียจมากจริงๆ และนิสัยข้อนี้มันก็แก้ไม่หายเสียแล้ว





          อ่านต่อข้างล่างนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-07-2018 01:26:13 โดย Matcha_Latte »

ออฟไลน์ Matcha_Latte

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ต่อค่ะ




สามหนุ่มใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการยัดเนื้อย่างชุดใหญ่สองแถมหนึ่ง บอกเลยว่าตอนนี้ซิปกางเกงแทบจะแตกอยู่รอมร่อ จนทอมถึงขั้นแวะเซเว่นเพื่อลงไปซื้ออีโนกันเลยทีเดียว  หลังจากนั้นไม่เกินสิบนาทีมาสด้าคันสวยก็เลี้ยวเข้าไปยังบริเวณลานจอดรถของคอนโดหรูของคุณนิว  บอกเลยว่า ณ จุดจุดนี้ถ้าให้คลานขึ้นห้องคงต้องคลานเพราะมันอิ่มมากจนไม่อยากเดินหรือทำอะไรทั้งนั้น 



          สี่ทุ่มโดยประมาณที่ทอมมาถึงห้องของคุณนิว เจ้าตัวเลยถือวิสาสะเดินเปิดประตูเข้าไปเลยไม่ได้กดออดเรียกให้เจ้าของห้องออกมาเปิดให้ เพราะคุณนิวทิ้งคีย์การ์ดไว้ให้ตั้งแต่เมื่อเช้าก่อนจะแยกย้ายกัน
เมื่อเข้ามาถึงใจกลางห้องแล้ว ภาพตรงหน้าที่ปรากฏคือผู้ชายที่อายุสามสิบอัพแต่หน้าเด็กม๊ากกกกมากกำลังนั่งอยู่หน้า    แล็ปท็อปราคาแพงที่วางไว้อยู่บนโต๊ะตัวเล็กตรงโซฟา



          “ยังไม่นอนเหรอ?”   ชั่วขณะหนึ่งที่ทอมเดินเข้ามา คุณนิวทำแค่เพียงชำเลืองตามองและไม่ได้เอ่ยถามอะไร ทำให้ทอมต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามเอง ทั้งที่ปกติแล้วจะไม่ได้เป็นในรูปแบบนี้


          “ยังครับ”  และเขาก็ตอบกลับสั้นๆทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากหน้าจอ แถมมือก็ยังพิมพ์ยิกๆไม่หยุด และท่าทางของคุณนิวที่เห็นอยู่ในตอนนี้ทำให้ทอมคิดไปไกลว่าเขากำลังโกรธ เรื่องที่ไม่ได้ไปกินข้าวกับเขา


แต่คนดื้อก็ไม่ได้โทษตัวเองหรอกนะ เพราะเจ้าเด็กยักษ์ปลอบใจตัวเองตลอดว่าไม่ได้ทำผิดอะไร อีกทั้งคุณนิวเพิ่งโทรมาชวนมายอมชวนตั้งแต่เนิ่นๆ



          แต่ก็นะ…ถึงจะคิดอย่างนี้แต่มันก็…


          โว้ยยยย !


          อยากจะทึ้งหัวตัวเองแรงๆ  ทึ้งทำไมไม่รู้แต่ตอนนี้อยากทึ้งมาก



          ทอมอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นอยู่ในสายตาของคุณนิวเสมอ และท่าทางของทอมในตอนนี้ทำให้เขาอยากจะเอ่ยปากถามเจ้าเด็กยักษ์มากว่า ‘เป็นอะไรหรือเปล่า’   แต่เพราะงานตรงหน้านั้นเครียดเกินไปเลยทำให้เขาหยุดแค่เพียงคิด
เมื่อเขาได้จดจ่ออยู่กับอะไรแล้วใจก็จะไม่วอกแวกไปไหน อย่างเช่นตอนทำงาน ถ้าทำงานก็คือทำเขาจะไม่สนใจสิ่งใดเด็ดขาด นิสัยของคุณนิวก็เป็นแบบนี้  ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องงาน เรื่องอื่นก็ไม่เว้นเช่นกัน ถ้าผ่านพ้นช่วงของการสนใจงานไปแล้วก็นะ สิ่งต่อไปที่จะสนใจและจดจ่อสาบานได้ว่าคงไม่พ้น… เจ้าเด็กยักษ์คนนี้



          หนึ่งชั่วโมงผ่านไปทอมนอนกระสับส่ายไปมาอยู่บนเตียง เล่นโทรศัพท์ก็แล้ว ลองเอาหนังสือออกมาอ่านก็แล้วแต่ต้องขอยอมรับเลยว่าภาพของคุณนิวที่นั่งทำงานก่อนหน้านี้ลอยวนเวียนอยู่ในหัวเขาไปมา


          แต่จริงๆแล้วตอนที่คุณนิวนั่งทำงานนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญนักหรอก   จะว่ายังไงดี…


          ก็เพราะลักษณะท่าทาง ปฏิกิริยาของคุณนิวที่มีต่อเขาน่ะสิ… ดูก็รู้ว่ากำลังโกรธกันเห็นๆ 


          เฮ้ออออออ ! มันจะไม่ไร้สาระไปหน่อยหรือไง แค่ไปตามคำชวนของเขาไม่ได้เนี่ย !
คิดแล้วก็หงุดหงิด และการระบายความหงุดหงิดว้าวุ่นใจของทอมก็คือการเตะขาไปมากลางอากาศ ดีดดิ้นเสียจนผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่



          'ไอ้ลูกหมาเอ้ยยย!’  พร้อมทั้งก่นด่าคนที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกเสียงดังลั่น แต่มันก็ลั่นไปได้ไม่ถึงคุณนิวเพราะเจ้าตัวดันเอาหน้ามุดลงไปในหมอนใบโต


         แต่แล้ว…



          พรึบ !
          ทั้งห้องก็ต้องตกอยู่ในความมืดเพราะไปที่เปิดสว่างอยู่ๆก็ดับไปโดยไม่ทราบสาเหตุ


          “เหี้ยอะไรวะเนี่ย !” ร่างสูงดีดตัวขึ้นจากที่นอนด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งสบถออกมาด้วยความตกใจระกับความสงสัย
ทันเท่าความคิดเจ้าตัวรีบลุกออกจากเตียงและกำลังจะเดินออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก แต่นึกขึ้นได้ว่าลืมหยิบโทรศัพท์ ทันเท่าความคิดร่างสูงเลยกลับหลังหันจะไปหมายจะไปเอาโทรศัพท์ที่อยู่ตรงไหนสักที่ของเตียงหลังใหญ่นี้



          แต่…


          โอ้ยย !


          เสียงอุทานเพราะความเจ็บปวดของเขาดังลั่นห้อง เพราะปลายเท้าดันไปเตะที่ขาเตียงนอนเข้าอย่างจังสาเหตุก็เป็นเพราะว่ามองไม่เห็นอะไร เลยกะระยะของช่วงเท้ากับเตียงนอนไม่ได้ ตอนนี้ทอมเลยได้แต่กระโดดโหยงๆไปมาท่ามกลางความมืด สองมือก็กำแน่นที่บริเวณปลายเท้าเพราะความเจ็บ



          “ไอ้โง่เอ้ยยย!”  เป็นเพราะความหงุดหงิดเลยทำให้ลั่นคำออกมาด่าตัวเองหนึ่งประโยค เมื่อความเจ็บบรรเทาลงแล้วเลยเดินออกไปข้างนอกเพื่อไปหาคุณนิว   


เจ้าเด็กยักษ์ใช้แฟลชจากโทรศัพท์เป็นแสงนำทางในความมืด บริเวณที่กำลังยืนอยู่ตอนนี้ก็คือพื้นที่กลางห้อง มันเป็นพื้นที่นั่งเล่นซึ่งก่อนหน้านี้คุณนิวใช้นั่งทำงาน และเมื่อส่องแฟลชไปทางนั้นพื้นที่ข้างหน้ากลับว่างเปล่า ไม่มีแลปท็อปหรือกองเอกสารวางทิ้งไว้ และแน่นอนว่าไม่มีเจ้าของห้องนั่งอยู่



          เฮ้อ…
          ลมหายใจเฮือกใหญ่ถูกพ่นออกมาเพราะความรู้สึกใจแป้ว อะไรกัน… ไฟดับก็ไม่คิดแม้แต่จะออกมาดูเลยเหรอ?
ก็ได้ๆ จะโกรธกันก็ตามใจ อย่ามาง้อก็แล้วกัน !


ทันเท่าความน้อยใจที่กำลังประทุขึ้นมาเงียบๆ เสียงประตูห้องพร้อมกับเสียงของคุณนิวก็ดังขึ้น  “น้องทอมจะไปไหน ?” 
เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก แสงแฟลชจากโทรศัพท์เขาสาดส่องไปทางเจ้าเด็กยักษ์ที่กำลังยืนหันหลังเตรียมตัวเดินเข้าห้อง


         “เรื่องของกู”  ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่ภายใต้ความมืดนั้นกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทั้งที่เขาไม่รู้ตัวในปฏิกิริยาตอบรับ ว่าคุณนิวโผล่มาแล้วเป็นยังไง  ในใจนั้นลิงโลดอย่างบอกไม่ถูก


          “พี่โทรไปถามที่ล็อบบี้ข้างล่างแล้ว”  คุณนิวพูดพร้อมทั้งเดินไปทางเจ้าเด็กตัวสูง 


          “แล้-” 


          “เขาบอกว่ายังไม่ทราบสาเหตุ ทราบแล้วยังไงเดี๋ยวแจ้งอีกที”


          “อ่อ… คิดว่าไม่ได้จ่ายค่าไฟ”  เจ้าเด็กยักษ์พูดติดตลก ทั้งคู่หันแสงแฟลชเข้าหากัน ทอมถึงได้เห็นว่าคุณนิวอยู่ในสภาพพร้อมนอน จากกลิ่นหอมที่ลอยมาแตะจมูกขอเดาว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ อีกทั้งยังมีเส้นผมที่เกาะเต็มไปด้วยหยดน้ำ เลยขอเดาว่าก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ได้ออกมาโดยทันทีเป็นเพราะว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
 


เฮ้ออ… เมื่อครู่นี้ก็คิดเป็นตุเป็นตะเสียใหญ่โตว่าคุณนิวโกรธจนไม่อยากเจอ สาบานได้เลยว่าถ้าคุณนิวอ่านใจเขาได้มันต้องน่าอายมากแน่ๆ



         “ตามมานี่มา”  เป็นเพราะท่าทีของคุณนิวที่ดูเพิกเฉยต่อประโยคคำพูดของตัวเองทำให้ทอมรู้สึกใจแป้วลงอีกครั้งทั้งที่เมื่อห้าวินาทีที่แล้วเขายังรู้สึกดีอยู่เลย



          หมับ !


          แต่หัวใจเจ้ากรรมมันดันเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อฝ่ามือใหญ่ของคุณนิวจับเข้าที่ข้อมือเขาพร้อมทั้งพาเดินฝ่าความมืดออกไปตรงระเบียง


          “นั่งข้างนอกกันเถอะ ข้างในคงร้อนน่าดู”  เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงตรงระเบียง เจ้าเด็กยักษ์ก็ทิ้งตัวนั่งลงตรงพื้นกระเบื้องทั้งที่ไม่มีอะไรมารอง   


          “นั่งลงไปอย่างนั้นก็สกปรกสิครับ เดี๋ยวพี่ไปหาเก้าอี้มาให้” 



          หมับ  !


          ยังไม่ทันที่คนอายุเยอะกว่าจะเคลื่อนตัวเดินไปเอาเก้าอี้ด้วยซ้ำ เจ้าเด็กยักษ์ก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเขา ก่อนจะออกแรงรั้งให้คุณนิวนั่งลงที่พื้นด้วยกัน



          “นั่งลงพื้นนี่แหละ  มันไม่ได้เปื้อนขนาดนั้น”  ทอมไม่ใช่คนเจ้าสำอางค์ แต่คุณนิวกลับตรงกันข้าม  แต่ถึงจะเป็นคนอย่างนั้นยังไง เมื่อเจ้าเด็กยักษ์รั้งให้เขาลงไปนั่งด้วยคำปฏิเสธก็เลยไม่หลุดออกจากปาก


รอบตัวของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเงียบเพราะทอมกำลังสนใจแต่โทรศัพท์ตรงหน้าเนื่องจากไลน์กลุ่มกำลังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนที่ไม่ค่อยเล่นโซเชียลใดๆอย่างคุณนิวเลยทำแค่นั่งมองท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยความมืดตรงหน้า ก่อนจะหันมองคนข้างๆที่กำลังตั้งใจกดโทรศัพท์ยิกๆอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง  เขาอาศัยแสงจากดวงจันทร์และแสงไฟจากตึกรอบๆเพื่อเป็นแสงสว่าง 


   
          เหอะ…

          คิดแล้วก็ตลก อะไรกันนะที่ทำให้เขาสนใจในตัวเจ้าเด็กยักษ์มากขนาดนี้ 
          คนอื่นที่เขาเคยถูกใจก็ยังไม่เป็นถึงขนาดนี้
          หรือว่ามันจะพัฒนามาเป็นความชอบกันนะ ?
          แต่…เขาไม่เคยชอบใครมานานแล้ว มันจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งจริงๆเหรอ ?


คำถามวนเวียนอยู่ในหัวคุณนิวทั้งที่สายตาเขายังไม่ละออกจากเสี้ยวหน้าของเจ้าเด็กยักษ์ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่ตอนนี้เจ้าเด็กยักษ์เลิกสนใจโทรศัพท์และหันมาเห็นว่าคุณนิวกำลังมองตนอยู่อย่างนั้นไม่วางตา



          “มองไร ?”   เจ้าเด็กยักษ์ปากไวถามออกไปทั้งอย่างนั้นเพราะรู้สึกถึงความแปลกในสายตาของคุณนิว  เหมือนมันกำลังมีบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้นแต่ก็ไม่สามารถตีความออกมาได้ว่ามันคืออะไร
 

          “เปล่าครับ”  คุณนิวส่ายหน้าไปมาเบาๆพร้อมทั้งรอยยิ้มที่ระบายออกมาน้อยๆ  “หิวอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ไปหามาให้?” 


          “ไม่อ่ะ เนื้อย่างชุดใหญ่สองแถมหนึ่งทำกูพุงแตกจะตายอยู่ละ เนี่ยแน่นท้องไปหมดเลย”


          “งั้นเอาอีโนมั้ย?  เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้”


          “ไม่ กินมาแล้ว ตอนนี้อยากได้พาสเตอร์มากกว่า” 


          “หืม…? น้องทอมเป็นอะไรครับ ?” 


          “กูเดินเตะขอบเตียง”


          “ไหนให้พี่ดูหน่อย”   คุณนิวว่าอย่างนั้นพร้อมทั้งจะจับเท้าทอมขึ้นมาดูว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน หรือต้องไปหาหมอมั้ย


          “นี่ๆ ไม่ต้องเว้ย ไม่ได้เป็นอะไรมากแค่เดินไปเอาพลาสเตอร์มาก็พอ” 
คุณนิวนิ่งและเงียบไปประมาณสิบวินาที พร้อมทั้งมองหน้าเจ้าเด็กยักษ์อย่างไม่ค่อยเชื่อในคำพูดนัก “กูไม่เป็นไรจริงๆ ขอแค่พลาสเตอร์ก็พอ”   
เป็นเพราะเห็นว่าคุณนิวดูจะไม่เชื่อเท่าไรนัก  ทอมเลยต้องพูดซ้ำอีกหนึ่งรอบว่าต้องการแค่พลาสเตอร์จริงๆ



          “ก็ได้ครับ ก็ได้…”  แต่คุณนิวก็ต้องยอมแต่โดยดี  ก็เขาไม่ใช่คนเจ็บนี่นะ



สิ้นประโยคนั้นคุณนิวก็หายไปร่วมห้านาทีก่อนจะกลับมาพร้อมทั้งกล่องประถมพยาบาลและขนมกินเล่นติดมือมาสองห่อที่น่านเคยซื้อมาไว้ก่อนจะย้ายกลับไปอยู่บ้านใหญ่ พร้อมกับโค้กสองประป๋อง



          ทอมยื่นมือจะไปคว้ากล่องประถมพยาบาลแต่ก็ต้องหยุดอยู่อย่างนั้นเมื่อคุณนิวขยับไปทางอื่นไม่ให้เจ้าเด็กยักษ์ได้กล่องไป


          “เดี๋ยวพี่ทำให้ครับ” เขาว่าอย่างนั้นและนั่งลงที่เดิมของตัวเอง 


          “เดี๋ยวกูทำเอง” 


          “ให้พี่ทำนะครับ ไม่อย่างนั้นก็ไปหาหมอ” 


          “โว้ะ !  เรื่องมาก !”   


          “เพราะน้องทอมเป็นคนชอบทำอะไรลวกๆ ไม่ค่อยละเอียดเพราะฉะนั้นให้พี่ทำให้ดีกว่านะครับ”



          : )



          คนเจ้าเล่ห์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล  และสุดท้ายทอมก็ยอมในที่สุด


          เห็นมั้ยล่ะ…?  เขามันพวกหว่านล้อมเก่ง !



         “ส่งเท้าข้างที่เป็นแผลมาครับ”    ในสถานการณ์ที่เขาต้องการเอาชนะเจ้าเด็กยักษ์คุณนิวจะดูอ่อนโยนเป็นพิเศษไม่ว่าจะทั้งท่าทางและน้ำเสียง


          “งี่เง่าว่ะ”  ทอมต่อว่าแต่ก็ยื่นเท้าข้างที่เป็นแผลออกไปแต่โดยดี เท้าข้างนั้นถูกคุณนิวจับวางไว้ตรงที่ตักเขา จนทอมอดแปลกใจไม่ได้ว่าคนเจ้าสำอางค์อย่างนั้นกล้าจับเท้าคนอื่นอย่างไม่รับเกียจได้ยังไง


          “ครับ”  เขาตอบรับพร้อมทั้งตรวจดูว่าแผลใหญ่หรือไม่ ถึงแม้แสงไปรอบกายจะไม่ได้สว่างมากนักแต่ก็พอมองเห็นว่ามีเลือดซึมออกมาจากซอกเล็บ


          “เดี๋ยวก่อนนอนก็กินยาแก้ปวดด้วยนะครับ  คงปวดน่าดูเลย”  คุณนิวว่าอย่างนั้นก่อนจะใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดที่นิ้วกลางของฝ่าเท้า พร้อมกับติดพลาสเตอร์ลงไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย


          “เออ พูดอย่างกับเป็นหมอ” 


          “เปล่าหรอกครับ…”


          “พี่ไม่ได้เป็นหมอ แต่พี่เป็นห่วง




          ตู้ม!


คล้ายกับมีเสียงระเบิดดังขึ้นมาในหัวของทอม เมื่อได้ฟังประโยคเมื่อครู่แล้วทอมถึงกับไปต่อไม่เป็น เลยแกล้งนำโค้กกระป๋องมาเปิดดื่ม



          “พี่เป็นห่วงจริงๆ”  เพราะความเงียบที่เข้าปกคลุมคนทั้งคู่ เหมือนกับความมืดที่กำลังปกคลุมท้องฟ้า คุณนิวเลยพูดอีกหนึ่งประโยคออกไป  แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนประเภทดีแต่พูด เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ 


          “คะ ใครเขาพูดแบบนี้กัน”


          “พี่ไงครับ… คราวหลังดูแลตัวเองให้ดีๆหน่อยพี่ไม่อยากเห็นเราเจ็บตัว”


          “…”


นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนแล้ว เจ้าเด็กยักษ์ของเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คุณนิวรู้สึกว่าไม่อยากให้เกิดความเจ็บปวดขึ้นกับเจ้าตัว ไม่ว่าจะเจ็บปวดทางกายหรือทางใจ



          “…”


          “หายโกรธกูแล้วหรือไง ?”  หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง คำถามที่ค้างคาใจมาตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วก็ถูกพูดออกมา


          “หืม…?”  คิ้วหนาขมวดเข้าหากันน้อยๆ “โกรธ…?  พี่ไม่ได้โกรธอะไรเรานะ”


         “ใช่เหรอ?  ร้อยทั้งร้อยที่บอกว่าไม่ก็ใช่ทั้งนั้นแหละ” 


          “จริงสิครับ พี่ไม่ใช่คนซับซ้อนอะไรขนาดนั้น”  “แล้วเรื่องอะไรล่ะครับ ที่ทำให้น้องทอมคิดว่าพี่จะโกรธ?”


          “ก็…”


          “…” 


          “ก็เรื่องที่กูไม่ไปกินข้าวด้วยอ่ะ !”  ถึงตอนแรกจะอึกอัด แต่พอได้พูดออกมาแล้วทอมกลับพูดเร็วรวดเดียวจบ


          “ฮะ… ฮะ ฮะ ฮ่า”  และคำตอบเมื่อครู่นั้นทำเอาคุณนิวหลุดขำออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เสือยิ้มยากอย่างเขาดันมาหลุดหัวเราะเพราะเรื่องเข้าใจผิดของน้องทอมที่มีต่อตัวเขาได้อย่างง่ายดาย  สาบานได้เลยว่าถ้าศักดิ์ดาและสิงหามาเห็นมีหวังโดนล้อยันลูกบวชแน่ๆ


          “หัวเราะอะไร !?”  คนคิดเป็นตุเป็นตะถามด้วยความหงุดหงิดระคนกับความอับอาย แล้วไอ้อาการเงียบขรึม มึนตึงก่อนหน้านี้ล่ะ?  มันคืออะไรกัน !


           “เปล่าครับ”  เขาตอบและหยุดหัวเราะแต่ก็ยังคงไม่หยุดยิ้ม บอกได้คำเดียวว่ามันสร้างความน่าอับอายให้กับเจ้าเด็กยักษ์เป็นอย่างมาก


          “โว้ยยย ไปไม่อยู่แล้ว!”   เจ้าเด็กยักษ์โวยวายก่อนจะรีบลุกขึ้นหมายจะเดินหนีออกไปจากสถานการณ์หน้าอับอายนี้ให้เร็วที่สุด



          หมับ !
          แต่ทอมก็ช้ากว่าคุณนิวหลายปีแสง พอเขาคว้าหมับเข้าที่ข้อมือก็ออกแรงดึงให้เจ้าเด็กยักษ์นั่งลงที่เดิม


          “พี่ไม่ขำแล้วก็ได้” 


          “ห้ามยิ้มด้วย !”    ทอมนั่งลงแล้ว พร้อมกับพูดข้อห้ามข้อที่สองที่คิดว่าคุณนิวห้ามทำ นอกจากการหัวเราะแล้ว


         “ไม่คิดเลยนะครับ ว่าจะเรื่องแบบนี้เป็นด้วย?” 


          “เรื่องแบบนี้ ?”   ทอมถึงกับหันหน้าไปถามอย่างหาเรื่อง  เรื่องแบบนี้เหรอ?  เหอะ….!   เรื่องแบบนี้แล้วมันยังไง ?


          “พี่หมายถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆ เพราะเราดูไม่น่ามานั่งคิดถึงเรื่องแบบนี้”


          “มึงจะบอกว่ากูไม่ค่อยสนใจความรู้สึกคนอื่นงั้นสิ !?”  แต่ดูเหมือนว่ามันจะแย่ไปกว่าเดิม เพราะทอมดันตีความหมายไปแบบผิดๆ


          “ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่”  คุณนิวตอบอย่างใจเย็น ผิดกับคนตรงหน้าที่กำลังมีไฟลุกอยู่บนศีรษะ “ก่อนหน้านี้พี่ก็สงสัยเหมือนกันว่าเราเป็นอะไร เพราะดูแปลกไปเหมือนกัน”


          “แล้วทำไมไม่ถาม แล้วทำไมพอกูถามมึงแล้วต้องตอบกูแบบตึงๆ ตอบแบบไม่สนใจด้วยล่ะ?” 
ถ้าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปจะคิดแล้วนะว่าน้องทอมกำลังน้อยใจเขาจริงๆ


          “ก็พี่เครียด เพราะกำลังทำงาน” 


          “แล้วยังไงวะ ?  กำลังทำงานแต่พูดให้ดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง @$%@$^@@%&@&@^*@^@*^@* ”

 

          ภาพของทอมที่กำลังบ่นคุณนิวยาวเป็นหางว่าวดันมีภาพของใครสักคนแทรกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...
          น้องทอมทำให้เขาคิดถึงใครบางคน
          และใครคนนั้นก็เป็นคนที่ติดอยู่ในใจเขามานานแสนนาน



          “อื้อ….”   


          เพราะน้องทอมทำให้เขาคิดถึงอดีตมากเกินไปการที่ทำให้เจ้าตัวหยุดพูดหยุดบ่นน่าจะดีกว่า แต่เขาดันใช้วิธีที่แตกต่างออกไป…


ริมฝีปากสวยได้รูปฉกฉวยทาบทับลงบนริมฝีปากของเจ้าเด็กยักษ์เพื่อดูดกลืนเสียงที่กำลังกำลังเปล่งออกมาให้หายไป เขาอยากให้ทอมหยุด…เพื่อที่จะไม่ต้องทนเห็นภาพในอดีตมาซ้อนทับภาพที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน


          เพราะมันแย่มาก… และเขาทนไม่ได้จริงๆ


          ทอมตกใจจนมือไม้อ่อนไม่ไม่แม้แต่แรงที่จะขัดขืน ไม่ใช่ว่าไม่เคยจูบแต่เพราะอีกคนเป็นผู้ชายเขาเลยรู้สึกว้าวุ่นไปนิดหน่อย จากนั้นความรู้สึกพวกนั้นก็กลายมาเป็นความสงสัยและแปลกใจในตัวเองว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนี้ 


ถ้าเราจูบคนที่ไม่ได้ชอบ หรือไม่ได้รัก แน่นอนว่ามันต้องเป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคลายไปออก แต่กับคุณนิวแล้ว… มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิดเขากลับ…รู้สึกดีจนน่าปะหลาดใจ 


ลมหายใจของคุณนิวได้กลิ่นยาสีฟันเต็มไปหมด ส่วนทอมนั้นก็มีความหวานของน้ำโค้กเคลือบอยู่ในโพรงปากจนทำให้คนที่ไม่ชอบดื่มน้ำอัดลมอย่างคุณนิวถึงกับติดใจ และชอบมันได้อย่างง่ายดาย   



เขาไม่ได้ลุกล้ำด้วยการสอดแทรกเลียวลิ้นแต่กับทำแค่บดคลึงเบาบ้างหนักบ้างสลับกันตามแรงอารมณ์ที่กำลังเกิด รสจูบนี้อีกคนได้ความหวานแต่อีกคนกลับรู้สึกขมปร่าอย่างบอกอไม่ถูก เสียงชื้นแฉะดังขึ้นรอบกายแต่กลับส่งไปไม่ถึงเขาทั้งคู่   



          จนกระทั่ง…


          พรึบ !



          ไฟกลับมาใช้ได้อีกครั้ง เลยทำให้สวิตช์ไฟที่เปิดค้างไว้อย่างนั้นเริ่มทำงานทันทีที่ได้กระแสไฟฟ้า เขาทั้งคู่ผละออกจากกันด้วยความรวดเร็ว  ทอมมีสีหน้าที่ค่อนข้างตื่นตกใจส่วนคุณนิวนั้นยังคงรักษาความราบเรียบไว้ได้อยู่



          “ฟะ ไฟมาละแล้ว ”


          “…”


          “ปะ ไปนอนแล้วนะ ง่วงมาก”    ทอมทิ้งท้ายไว้อย่างนั้นก่อนจะรีบวิ่งแจ้นเข้าห้องตัวเองไปด้วยความรวดเร็ว  เหลือก็เพียงแต่คุณนิวที่นั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งไปกับสายลมที่กำลังพัดเอื่อยเฉื่อย



          ให้ตายสิ… นี่เขาทำอะไรลงไป ?


          จูบแรกของเขากับเจ้าเด็กยักษ์มันควรจะเกิดจากอะไรที่ดีกว่านี้… ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการทำลายภาพๆนั้นที่กำลังฉายซ้อนทับอยู่กับน้องสิ…



         คุณากรกำลังรู้สึกผิดอย่างมาก 

         หนึ่งประโยควนเวียนอยู่ในหัวเขาไปมาว่า ‘ไม่น่าทำเลยจริงๆ’   




         โปรดติดตามตอนต่อไป...







งุ้ยยยยย หายไปนานเลยยยยยยยยยยยยยย ต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งด้วยนะคะ ก็ไม่มีอะไรมาก...เเค่.... เขาจูบกันเเรวข่ะเเม๊ขาาาาาา กรี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถึงจูบของคุณนิวเขาจะรูู้สึกหน่วงๆมากก็เถอะค่ะ 

เอาเป็นว่านะคะ รักน้องชอบน้องอย่าลืมคอมเม้น หรือ ติดเเท้ก #คนของคุณากร ในทวิตเตอร์นะคะ


ปอลิงค่ะ นิยายเรื่องนี้แบ่งอัพเป็นเปอร์เซ็นนะคะ ซึ่งจะอัพในเด็กดีก่อนเเล้วอัพครบ100%เมื่อไรถึงจะมาอัพในเล้าค่ะ  สามารถตามอ่านในเด็กดีได้นะคะ หรือใครจะรออ่านร้อยเปอร์เซ็นทีเดียวก็ได้ค่ะ   

สามารถเข้ามาคุยเเละคอยติดตามความเคลื่อนไหวของนิยายได้ที่ twitter @blueeyesmine     

เจอกันตอนหน้านะคะ 

รัก



ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
งื้ออออ​ ความหลังอะไรนะ​ อย่ามาทำให้น้องเสียใจน้า

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อยากรู้ว่า " คนในความหลัง " ของพี่นิว นี่ตายหรือว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ถึงจะตายหรือไม่ตายถ้าวันหนึ่งน้องรักพี่ขึ้นมาแล้วรู้ว่าพี่มีคนในใจ วันนั้นน้องคงเสียใจน่าดู

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด