@@ ##Final Answer## นายเกษตรเย็นชากับวิศวะวุ่นวาย :ตอนที่.10 / Up.24-Feb-18 @@
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@ ##Final Answer## นายเกษตรเย็นชากับวิศวะวุ่นวาย :ตอนที่.10 / Up.24-Feb-18 @@  (อ่าน 9317 ครั้ง)

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



นายเกษตรเย็นชากับวิศวะวุ่นวาย
l Final Answer l




คนนึงที่แอบรัก ไม่นิ่ง ไม่ขรึม ไม่เย็นชา ไม่ใช่ ยู

คนนึงที่ต้องรักแบบแอบๆ ไม่ขี้แกล้ง ไม่กวนประสาท ไม่วุ่นวาย ไม่ใช่ ตะวัน

เมื่อสามคนกับสองรัก มันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงต้องเลือก....ให้เหลือ.....คำตอบสุดท้าย

ถ้าเป็น คุณ จะทำอย่างไร?

----------------------------------------------------



:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2018 16:25:38 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7


Final Answer


ตอนที่.1 : ผมคือสตาฟพยาบาล



พวกเรา..

"พวกเรา"

สตาฟพยาบาลคณะเกษตร

"สตาฟพยาบาลคณะเกษตร"


ขอปฏิญาณตนว่า..

"ขอปฏิญาณตนว่า"


พวกเรา จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจที่มุ่งมั่น

"พวกเราจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจที่มุ่งมั่น"


มีความกระตืนรือล้นและระมัดระวัง

"มีความกระตือรือล้นและระมัดระวัง"


เคารพกฏและรักษาเกียรติในนามสตาฟพยาบาลคณะเกษตร


"เคารพกฏและรักษาเกียรติในนามสตาฟพยาบาลคณะเกษตร"

.
.
.
.


 
"ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวสตาฟพยาบาลนะคะน้องคุณ"


ผมพยักหน้ารับคำรุ่นพี่สตาฟพยาบาลที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม พร้อมกับยิ้มด้วยความปลื้มใจ ก่อนที่พี่ผู้หญิงตรงหน้าจะผูกพ้าพันคอสีเขียวแก่ที่ปักอักษรภาษาอังกฤษ FA-Agri สีแดงไว้ด้านหลัง ซึ่งย่อมาจากคำว่า First Aid ที่แปลว่าการปฐมพยาบาล กับ Agriculture ที่มาจากชื่อคณะเกษตรที่ผมเรียนอยู่



ผมนาย ภคุณ ทรัพย์ไพศาล ชื่อเล่น คุณ นักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ของคณะเกษตร สถาบันแห่งหนึ่งย่านชานเมืองกรุงเทพมหานคร สูง175 รูปร่างก็ถือว่าไม่แย่นะครับ หุ่นกำลังดีมีซิคแพคเล็กๆ ผิวขาวเพราะผมชอบกินน้ำเต้าหู้ทุกเช้า คิ้วเข้ม ริมฝีปากชมพู ดวงตากวนตีน ฮ่าๆ อันนี้เพื่อนผมมันชอบว่าผมนะครับว่าผมแสดงอารมณ์ผ่านดวงตาได้ดีมาก ไม่ว่าจะโกรธ จะงอน จะดีใจ จะเสียใจ แค่มองตาผมก็จะรู้ว่าตอนนั้นผมรู้สึกยังไง กีฬาที่ผมชอบก็แบดมินตันครับ บางทีก็ไปว่ายน้ำ ส่วนของกินที่โปรดมากที่สุดก็ข้าวไข่เจียว ไข่เจียวที่ไม่ใส่อะไรเลย แค่น้ำปลากับไข่ก็อร่อยแล้วครับ อีกอย่างที่ผมชอบคือ นุ้งแมว ครับ ผมนี่แหล่ะทาสแมวตัวจริง ผมมีแมวไทยอยู่หนึ่งตัว มันชื่อ เต้าหู้ เพราะมันตัวสีขาวเหมือนน้ำเต้าหู้ครับ แต่ตอนนี้มันอยู่ที่บ้าน ผมหล่ะอยากจะเอามันมาเลี้ยงที่หอมากกกก แต่พ่อกับแม่ไม่อนุญาติน่ะสิครับ T_T !!  ผมมีเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกันมาเรียนที่นี่อีก2คนครับ



คนแรก ไอ้โตเกียว สูงพอๆกับผม รูปหล่อ หน้าตี๋ กวนตีน ไอ้โตเกียวนี่เพื่อนสนิทผมเลยครับ เรียนห้องเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาลยันจบม.6 แล้วก็ยังตามมาเรียนคณะเดียวกันอีก แต่ดันอยู่คนละสาขาวิชาซะงั้น ส่วนชื่อโตเกียว เท่ห์ๆ ของมันนั้นไม่ได้มาจากเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นหรอกนะครับ เพียงแต่แม่ของมันชอบกินขนมโตเกียวตอนที่ตั้งท้องมันก็เท่านั้น ที่มาของชื่อเล่นมันนั้นเวลาไปที่บ้านของมันทีไร แม่มันต้องเล่าให้เพื่อนๆฟังทุกที ^^ บ้านไอ้โตเกียวอยู่ข้างๆโรงเรียนครับเป็นร้านถ่ายเอกสาร และก็ร้านเกมส์ด้วย หลังเลิกเรียนผมชอบไปสิงอยู่ที่ร้านเกมส์ของมันนี่แหล่ะครับ ถ้าคุยเรื่องเกมส์กับไอ้โตเกียวก็จะคุยได้นานเลยหล่ะครับ



ส่วนอีกคนนึงคนนี้สิเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นของจริง มันชื่อ ไอ้ยู ศตคุณ ยามากูชิ ลูกครึ่งญี่ปุ่น สูง185 ขาว จมูกโด่ง ปากสวยเป็นกระจับ หน้าตี๋ๆสไตล์ญี่ปุ่น แต่ผมชอบดวงตาและเส้นผมสีน้ำตาลของมัน ไอ้ยูเพิ่งย้ายจากญี่ปุ่นมาอยู่เมืองไทยถาวรตอนขึ้นม.ปลายนี่เองครับ เพราะว่าพ่อของมันที่เป็นคนญี่ปุ่นได้ย้ายมาเป็นผู้จัดการบริษัทฯเกี่ยวกับรถยนต์ยี่ห้อนึงที่ประเทศไทยครับ มันก็เลยต้องย้ายกลับมาเมืองไทยแล้วก็มาเข้าโรงเรียนเดียวกับผมตอนม.4 แต่อยู่คนละห้องกับผม พอเข้ามาแม่งก็โคตรป๊อบปูล่าอ่ะ ทำเอาสาวๆกรี้ดกันเกือบทั้งโรงเรียนเพราะไอ้ยูมันหล่อ ขาว สูงโย่งขนาดนั้นแถมยังเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นที่พูดไทยได้ชัดมากขนาดมันอยู่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แอบชอบมัน แต่นิสัยของมันโคตรจะนิ่งๆ ขรึมๆตามสไตล์ของเด็กญี่ปุ่น ใครที่ไม่รู้จักอาจจะคิดว่ามันเป็นคนหยิ่ง  บ้านของไอ้ยูอยู่ตรงข้ามกับบ้านของผมเป็นทาวเฮ้าส์สองหลังติดกันหลังนึงเป็นที่อยู่ของครอบครัว มีตากับยาย แม่ของไอ้ยู แล้วก็น้องสาวอีกหนึ่งคนชื่อน้องมิกิ ส่วนพ่อของมันทำงานที่กรุงเทพฯกับพี่ชายของมัน แต่ผมก็เห็นกลับมาที่บ้านบ่อยๆ ส่วนทาวเฮ้าส์อีกหลัง ตากับยายของมันเปิดเป็นร้านขายข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ข้าวหมูกรอบ และทุกๆเช้าก็ยังขายน้ำเต้าหู้ที่ผมชอบอีกด้วย


แปลกไหมครับ ที่ชื่อเล่นของมันแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทยได้เป็นชื่อเล่นของผม You = คุณ

.
.
.
.

"เอาหล่ะครับ พี่ในฐานะประธานสตาฟพยาบาลคณะเกษตรปีนี้ ขอแสดงความยินดีและยินดีต้อนรับน้องๆสตาฟพยาบาลปีหนึ่งทุกๆคนเข้าสู่ครอบครัวสตาฟพยาบาลของคณะเรา ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงาน นำความรู้ที่ได้อบรมและฝึกหัดมา เอามาใช้ให้เต็มความสามารถนะครับ"

สิ้นเสียงพี่ปลื้ม พี่ปี4ที่ดำรงตำแหน่งประธานสตาฟพยาบาลของคณะ พวกผมก็ปรบมือกัน พร้อมกับโห่ร้องด้วยความดีใจ ที่ผ่านการฝึกอบรมสตาฟพยาบาลที่ยาวนานกว่าสองอาทิตย์ไปได้ด้วยดี จนถึงวันนี้วันที่ได้รับผ้าพันคอสีเขียว ได้เข้าสู่ครอบครัวสตาฟพยาบาลอย่างเต็มตัว

รุ่นพี่สตาฟพยาบาลทยอยขนกล่องพิซซ่า ขนม และน้ำอัดลมมาวางเรียงตรงหน้าพวกผม แล้วก็สั่งให้พวกผมนั่งล้อมกันเป็นวงใหญ่ก่อนที่จะเอาถาดพิซซ่ามาวางตรงหน้าให้พวกผมกินด้วยกัน


"หูยยย พิซซ่าาาา" ไอ้โตเกียวที่นั่งอยู่ข้างๆผม ส่งเสียงขึ้นมาด้วยความดีใจ


"อย่ากินเยอะนะมึง เดี๋ยวไปกินชาบูต่อไม่ไหว" ผมหันไปบอกไอ้คนข้างๆที่กำลังจัดการกับพิซซ่าตรงหน้า


มันชะงักไปนิด เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้


"เออ วันนี้นัดกินชาบูกันนี่หว่า แล้วไอ้ยูหล่ะ มึงบอกมันหรือเปล่าว่าพวกเราจะกลับไปช้าหน่อยอ่ะ"


"กูไลน์บอกมันละ วันนี้มันก็คัดตัวนักบาสเหมือนกัน เลิกสามทุ่ม พอๆกับพวกเราแหล่ะ"


"เออ โอเค งั้นกูกินแค่สองชิ้นพอ" ไอ้โตเกียวบอกผมแล้วก็ส่งพิซซ่าชิ้นใหญ่เข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ


"โตเกียว รุ่นพี่บอกว่าให้คนละสองชิ้น ถ้าไม่อิ่มเอาของเราก็ได้นะ เรากินแค่ชิ้นเดียวก็อิ่มแล้ว" เพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆไอ้โตเกียวพูดขึ้น ไอ้โตเกียวถึงกับทำตาโต


"หูยยย ให้เราจริงดิ แต่ว่า เรากินแค่สองชิ้นก็พอแล้ว เดี๋ยวต้องไปกินชาบูต่ออ่ะ ขอบคุณนะครับ" ไอ้โตเกียวขอบคุณพร้อมกับพูดปฏิเสธเพื่อน แต่ผมก็เห็นว่ามันมองพิซซ่าชิ้นนั้นในมือของเพื่อนด้วยความเสียดายและมีท่าทีลังเล


"โถ่ มึงนี่นะ จะกินก็กินไป แต่ถ้ามึงอิ่มจนไปกินชาบูต่อไม่ได้ ก็เรื่องของมึงนะ" ผมหันไปบอกไอ้ตี๋ข้างๆที่ตอนนี้จัดการพิซซ่าสองชิ้นตามโควต้าที่พี่ๆให้มาเรียบร้อยหมดแล้ว


"ไม่กินคร้าบ รอไปกินชาบูกับมึงดีกว่าไอ้คุณ" ไอ้โตเกียวหันมาบอกผมพร้อมกับยิ้มให้ แถมยังเอาแขนยาวๆของมันมากอดคอผมอีก


"โตเกียวกับคุณนี่ดูสนิทกันดีเนอะ"


"ก็ตั้งแต่เด็กอ่ะครับ จำความได้ก็วิ่งเล่นกับมันแล้วหล่ะ" ไอ้โตเกียวบอกเพื่อน แล้วก็เอามือมาหยิกแก้มผมตามความเคยชินของมัน


"ดูดิ เล่นกันยังกับเป็นแฟนกันเลย อย่าทำแบบนี้บ่อยๆนะโตเกียว เราแอบจิ้น ฮ่าๆ" เพื่อนผู้หญิงเอ่ยปากแซวผมกับไอ้โตเกียว


"คุณ ก็นะ ให้โตเกียวลวนลามอยู่ได้"


"ผมจะบอกอะไรให้นะครับ กับไอ้คุณน่ะ ให้เล่นมากกว่านี้ยังได้นะครับ ดูไหมหล่ะ" ไอ้โตเกียวบอกเพื่อนแล้วก็เอี้ยวตัวจะมาทำท่าจูบผม


"อุ้บบบบ....!!!" มันถูกปิดปากด้วยพิซซ่าชิ้นสุดท้ายที่อยู่ในมือของผม


"ไอ้อุนอึง....ไอ้เอี้ยยยย" เสียงไอ้โตเกียวด่าผมทั้งๆที่มีพิซซ่าอยู่เต็มปาก ทำเอาเพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์พากันหัวเราะ สนุกสนานกันไป


"ไอ้เหี้ยคุณ พิซซ่าติดคอกู ขอน้ำหน่อย" ไอ้โตเกียวร้องขอน้ำจากผม ผมเลยลุกเดินไปเอาน้ำมาให้มัน เพื่อนบังเกิดเกล้าของผม


เกือบๆสามทุ่ม พวกผมก็เสร็จสิ้นพิธีการรับผ้าพันคอสตาฟพยาบาล ผมกับไอ้โตเกียวเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมกับเพื่อนๆ ในฐานะสตาฟพยาบาลคณะเกษตรอย่างเต็มตัว


"ยินดีด้วยนะครับสตาฟพยาบาลคณะเกษตร" เสียงเพราะๆ สุภาพๆของไอ้ยูมาพร้อมกับร่างสูงของมันที่เดินเข้ามาแสดงความยินดีกับผมแล้วก็ไอ้โตเกียว ร่างสูงตระหง่านของมันในชุดบาสเกตบอลทำเอาสาวๆแถวนั้นพากันเหลียวมอง


"มันแน่อยู่แล้วครับไอ้ยู นี่สตาฟพยาบาลนะครับ แล้วมึงอ่ะ กูต้องเรียกว่านักบาสคณะด้วยป้ะ" ไอ้โตเกียวถามไอ้ยูที่เอาแต่ยืนยิ้มอยู่


มันไม่ตอบ แต่พยักหน้าให้



"เชี่ย ดีใจด้วยนะเว้ยไอ้ยู โคตรเท่ห์อ่ะ นักบาสคณะเกษตร ได้เสื้อเบอร์ไรวะ ไหนๆเอามาดูดิ๊" ไอ้โตเกียวกระโจนเข้าไปกอดคอไอ้ยูด้วยความดีใจ


"ได้เบอร์2 แต่เสื้อยังไม่ได้นะ รุ่นพี่บอกว่าอีกสองวันอ่ะ พรุ่งนี้ก็ต้องเริ่มซ้อมแล้ว อาทิตย์หน้าเริ่มกีฬาเฟรชชี่"


"ดีใจด้วยนะเว้ยยู" ผมพูดแสดงความยินดีกับไอ้โย่งนั่นบ้าง มันก็หันมายิ้มให้ผม


"ขอบคุณครับ สตาฟพยาบาล" ไอ้ยูตอบผมพร้อมกับรอยยิ้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนๆของมัน สะกดผมได้อยู่หมัดจริงๆ


วันนี้คนนิ่งๆอย่างไอ้ยู ยิ้มได้มากกว่าทุกวัน คงเพราะดีใจที่ได้รับเลือกให้เป็นนักบาสตัวจริงของคณะ เหมือนกับผมและไอ้โตเกียวที่ได้เป็นสตาฟพยาบาลของคณะเช่นกัน




****************************

จากคนเขียนถึงคนอ่าน

 :pig4: :pig4:

ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนอ่านทุกๆคนด้วยนะครับ เนื้อเรื่องอ่านสบายๆ ฝากติดตามด้วยนะครับ แฮ่ๆ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2018 18:57:46 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอเจอตะวัน ตอนหน้า  :mew3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ยูนิ่ง ตะวันกวน ใครจะวิน

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
3 P  ก็ได้นะ  :hao7:

หรืออาจจะพลิกล๊อค ยูเป็นนายเอก ตะวันเป็นพระเอก  คุณเป็นพระรอง  :hao6:

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7

Final Answer


ตอนที่.2 : โตเกียวบอกให้กอดได้





"หิวยังเนี่ยยู" ผมหันไปถามไอ้ยูที่เดินอยู่ข้างๆผม ส่วนไอ้โตเกียวก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่


"อือ นิดหน่อย" ไอ้ยูตอบกลับมาสั้นๆตามสไตล์ของมัน กับไอ้ยูผมไม่เคยพูดกู-มึงกับมันเลย อาจจะเพราะตอน ม.ปลาย ผมกับมันอยู่กันคนละห้องก็เลยไม่ได้สนิทกันมาก เพราะไอ้ยูก็มีกลุ่มเพื่อนๆที่อยู่ห้องเดียวกับมันส่วนผมก็ตัวแทบจะติดกันกับไอ้โตเกียวไปไหนก็แพคคู่ เวลาเจอหน้าในโรงเรียนก็แค่ทักทายกันปกติ


ผมสามคนเดินมาถึงตรงที่จอดรถจักรยาน มีจักรยานสองคัน คันนึงของไอ้ยู ส่วนอีกคันของผม ไอ้โตเกียวจัดการไขโซ่คล้องจักรยานคันของผม พร้อมเป็นสารถีปั่นจักรยานให้ผมนั่งซ้อน


"พร้อมครับ ป่ะ กูหิวละ" ไอ้โตเกียวหันมาบอกผม พร้อมกับเอามือตบเบาะให้ผมขึ้นไปนั่งซ้อนมัน


"อะไรของมึง เพิ่งกินพิซซ่าไป มึงหิวอีกแล้วหรอวะ"


"ก็เออ ชาบูกับพิซซ่ามันคนละอย่างกันเว้ย แยกแยะดิ"


"เออๆ กินเยอะแบบนี้ อ้วนขึ้นมา กูจะขำให้"


"ไม่อ้วนหรอกน่า ไม่ได้กินบ่อยๆ เนี่ยมันชาบูร่วมสาบานของเราสามคนนะเว้ย จริงป่ะไอ้ยู" ไอ้โตเกียวพูดแล้วก็หันไปถามไอ้ยู


ไม่มีคำตอบจากคนที่ถูกถาม


"อ่าว ยู รถเป็นอะไรอ่ะ" ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆไอ้ยูที่กำลังก้มๆมองๆอยู่ที่ล้อจักรยาน


"น่าจะยางรั่วครับ" ไอ้ยูตอบผมพร้อมกับเอามือบีบล้อจักรยานให้ผมดู


"ซวยชิบ งั้นจอดรถไว้ที่นี่แหล่ะ พรุ่งนี้ค่อยหาคนมาซ่อมให้ วันนี้เราก็เดินกันไปสามคนนี่แหล่ะ โอเคมะ" ไอ้โตเกียวออกความเห็น แล้วมันก็จัดการเอาโซ่คล้องจักรยานของผมไว้เหมือนเดิม ส่วนไอ้ยูก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับดึงแขนผมให้ยืนขึ้นพร้อมกับมันด้วย


แขนยาวๆของไอ้ยูเปลี่ยนมากอดคอผม คนที่ทำอาจจะไม่คิดอะไร แต่คนที่โดนกอดคออย่างผม หัวใจโคตรเต้นแรง


"ขอโทษนะ เดินไปอาจจะทำให้ช้าหน่อย ถ้าปั่นจักรยานคงไปถึงเร็วกว่านี้" ไอ้ยูเอ่ยปากขอโทษผมกับไอ้โตเกียว


"เฮ้ย ไม่เป็นไร มึงนี่ก็คิดมาก เดินไปก็ดีกูจะได้ย่อยพิซซ่าสองชิ้นในท้องนี่ จะได้กินชาบูได้เยอะๆไง" ไอ้โตเกียวบอกไอ้ยู


"ป่ะ งั้นไปกันเถอะ" ผมบอกไอ้สองคนนั้นแล้วก็พากันเดินออกจากคณะ ไปตามทางที่จะไปหอของพวกผมเพราะร้านชาบูอยู่ใกล้ๆกับหอพวกผมเลย


ผมสามคนอยู่หอเดียวกันครับ ไอ้ยูกับไอ้โตเกียวอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนผมอยู่คนเดียว เพราะไอ้คิณ พี่ชายของผมที่เรียนอยู่อีกมหาวิทยาลัยนึง จะมานอนด้วย เพราะมันก็มีเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นี่ "คิณ" ภคิณ ทรัพย์ไพศาล คือพี่ชายของผม มันเรียนอยู่ปี3 คณะวิศวะกรรมศาสตร์ แต่คนละมหาวิทยาลัยกับผม แต่ก็อยู่ในกรุงเทพฯนี่แหล่ะครับ ทุกวันศุกร์ ไอ้คิณจะมานอนกับผมที่นี่ เพราะมันชอบมากินเบียร์กับกลุ่มเพื่อนของมันครับ


ในระหว่างทางที่กำลังเดินไป ไอ้ยูก็เอาแขนที่คล้องคอผมอยู่ออกไปแล้วก็หันมาขอโทษผม


"ขอโทษครับ"


"เฮ้ย ไม่เป็นไร กอดได้ๆ" ผมหันไปบอกไอ้ยู มันก็ยิ้มให้ผมพร้อมกับพยักหน้าให้


"แหม่ ไอ้ยูเนียนเลยนะมึง กอดคอไอ้คุณจนจะถึงร้านชาบูอยู่ละ ไม่ได้นะเว้ย คนนี้กูหวง" ไอ้โตเกียวบอกไอ้ยูแล้วก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดเอวไว้ ไอ้ยูเห็นก็หัวเราะออกมา


"ถ้าผมจะแย่ง คุณห้ามผมไม่ได้หรอก โตเกียว" ไอ้ยูพูดประโยคนี้ขึ้นมาทำเอาไอ้โตเกียวถึงกับเงียบไป ผมเองก็อึ้งไปกับคำพูดของมัน


"เอิ่ม ไอ้ยู มึงหัดพูดกู-มิงดิ๊ แบบที่กูพูดกับมึงเนี่ย ไม่ต้องมาพูดเพราะๆกับกูหรอก พูดได้ไหมครับ" ไอ้โตเกียวพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ ผมหันไปมองไอ้ยูก็เห็นว่าหน้ามันแดงเรื่อๆ คงจะเขินกับคำพูดของตัวเองเมื่อครู่


"ในชีวิตมึงเคยพูดกู-มึงป่าววะ" ไอ้โตเกียวถามอีก เพราะเห็นว่าไอ้ยูยังคงนิ่งเงียบอยู่


"ก็...เคย แต่...นี่เรายังไม่สนิทกัน เลยพูดไม่ได้" ไอ้ยูพูดขึ้น


"แหม่ ไม่สนิทแต่จะแย่งไอ้คุณไปจากกูเนี่ยนะ ไม่เนียนนะครับไอ้โย่งครับ เอางี้ ต่อไปนี้ถ้ามึงพูดเพราะๆกับกูกับไอ้คุณเมื่อไหร่ มึงต้องเลี้ยงข้าวกูสองคน โอเคนะ อะริกาโตะ ล่วงหน้าครับ ฮ่าๆ" ไอ้โตเกียวยื่นขอเสนอ ไอ้ยูก็ได้แต่ยิ้มๆ จังหวะนึงมันเหลือบตามามองผม ผมกับมันสบตากันแล้วรู้สึกแปลกๆ จนผมเองที่ต้องเป็นฝ่ายก้มหน้าหลบดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น


"ก็ได้ งั้น..ขออนุญาตินะครับ" ไอ้ยูพูดแล้วก็หันมาโค้งแบบคนญี่ปุ่นให้ผมกับไอ้โตเกียว


"เชี่ย ขนาดจะพูดกู-มึงยังต้องขออนุญาติ กูหล่ะเชื่อมึงเลยว่ะ ไอ้ยู"


.
.
.
.

ไม่นานพวกผมก็เดินมาถึงหน้าร้านชาบูที่เล็งๆกันไว้เมื่อวาน


"เชี่ย คนเยอะชิบ ต้องจองคิวป่าววะ" ไอ้โตเกียวพูดพร้อมกับชะเง้อมองคนที่นั่งอยู่ข้างในร้าน


"ไอ้คุณ มึงเอาหน้าหล่อๆของมึงเข้าไปจองที่ดิ๊ เผื่อจะได้เร็วขึ้น" ไอ้โตเกียวพูดพร้อมกับดันตัวผมให้เข้าไปจองคิว


"เชี่ย มึงก็หล่อ ทำไมไม่ไปเองวะ"


"เออน่า มึงแหล่ะไอ้คุณ"


"กูว่าเราเข้าไปพร้อมกันสามคนเลยป่ะ" ไอ้ยูพูดขึ้น ผมกับไอ้โตเกียวก็หันมาหัวเราะกัน ที่ทำให้ไอ้ยูพูดกู-มึงได้สำเร็จ


"กี่ที่คะ"


"สามที่ครับพี่"


"สามที่ เชิญโต๊ะห้าค่ะ ตามพี่มาเลยค่ะ"


"โชคดีเว้ย ได้โต๊ะเลย สบายหล่ะกู ขอเบคอน เนื้อสไลด์ ปูอัด" ไอ้โตเกียวพูดขึ้นพร้อมกับเดินเอามือลูบพุงของมันมานั่งที่โต๊ะ


"เดี๋ยวกูไปกดน้ำมาให้ ไอ้ยู ไอ้โตเกียว มึงเอาน้ำอะไรกัน" ผมถามไอ้พวกนั้น


"เดี๋ยวไปช่วย" ไอ้ยูพูดขึ้นแล้วก็ลุกจากโต๊ะมายืนข้างๆผม


ความสูง ขาว หล่อของไอ้ยู แถมอยู่ในชุดบาสเกตบอลสีขาวอีก ทำให้มันกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่ในร้าน


"กูเอาน้ำชา ชานะเว้ยไม่ใช่ชามะนาว" ไอ้โตเกียวบอกผม ผมกับไอ้ยูก็เดินไปตรงที่กดน้ำ


"ไอ้คุณมึงเอาน้ำไร" ไอ้ยูถามผม


"น้ำชาก็ได้เหมือนไอ้โตเกียวแหล่ะ เดี๋ยวกูไปตักน้ำจิมก่อนนะ" ผมแยกจากไอ้ยูเดินไปตักน้ำจิ้มที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ตักเสร็จก็เอาใส่ถาดเดินกลับโต๊ะ ปรากฏว่าไอ้ยูยืนถือถาดน้ำรอผมอยู่


"เอ้า ทำไมไม่กลับไปก่อนเนี่ย"


"รอกลับพร้อมกัน" ไอ้ยูตอบผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแล้วก็เดินนำหน้าผมกลับไปที่โต๊ะ ผมมองตามหลังสูงโย่งนั้นด้วยความ งงๆ


"อ้าวน้องคุณ พิซซ่าที่พวกพี่เลี้ยงเมื่อกี้ไม่อิ่มหรอคะถึงมาต่อชาบูได้เนี่ย" มีเสียงหนึ่งทักผม ผมหันไปมองก็ปรากฏว่าเป็นรุ่นพี่สตาฟพยาบาลที่อยู่ปีสอง


"ก็อิ่มครับพี่ แต่ผมนัดเพื่อนไว้อ่ะครับว่าจะมากินชาบูกันวันนี้ก็เลยต้องมา"


"อ๋อค่ะ กินเยอะๆนะจะได้มีแรงปฐมพยาบาล"


"นี่ไงพวกเธอ น้องคุณสตาฟพยาบาลที่เราบอกว่าหล่อๆอ่ะ เป็นไงตัวจริงหล่อป้ะหล่ะ" พี่ผู้หญิงหันไปบอกเพื่อนๆ เพื่อนๆที่อยู่ในโต๊ะของพี่ก็พากันหันมามองผม ทำเอารู้สึกเขินเหมือนกัน


"อยากจะป่วยซะตอนนี้เลย จะได้ให้น้องคุณดูแล"


"ขอเบอร์ ขอไลน์ ขอเลขบัญชีเลยค่ะน้องคุณ"


"โห่...พี่ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวเพื่อนรอน้ำจิ้ม" ผมบอกพวกพี่ๆแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้น กลับไปถึงโต๊ะ ไอ้โตเกียวสั่งเนื้อต่างๆมาวางเต็มโต๊ะ ส่วนที่อยู่ในหม้อก็กำลังเดือดได้ที่ส่งกลิ่นหอม ทำเอาผมรู้สึกหิวขึ้นมาได้อีก


"เชี่ย รอน้ำจิ้มเป็นชาติ" ไอ้โตเกียวออกปากบ่นผม


"เออ โทษทีพอดีเจอรุ่นพี่ชวนคุยอ่ะ" ผมขอโทษไอ้พวกนั้นแล้วก็แจกน้ำจิ้มที่ตักมาให้พวกมัน


"ไอ้ยู มึงไปบอกพ่อบ้านหอให้มาดูแอร์ที่ห้องเรายังวะ" ไอ้โตเกียวหันไปถามไอ้ยู


"อือ บอกแล้ว"


"ทำไมวะ แอร์เป็นไร" ผมถามไอ้โตเกียว


"แอร์ไม่เย็นว่ะ มีแต่ลมออกมา สงสัยน้ำยาแอร์หมดมั้ง นี่กูทนนอนกันมาสามคืนละพ่อบ้านแม่งก็ไม่มาดูให้ซักที"


"เอ้า แล้วก็ไม่มานอนห้องกู อยู่ห้องตรงข้ามกันทำไมไม่บอกกูครับ" ผมบอกไอ้สองคนนั้น


"อ่าว พูดคำว่าครับ เลี้ยงเลยๆ" ไอ้ยูพูดขึ้น ทำเอาไอ้โตเกียวหัวเราะ


"อะไร ไม่เกี่ยวกับกูเลย ไอ้โตเกียวมันสัญญาแค่กับมึง ห้ามมึงพูดเพราะ อย่ามั่วดิไอ้ยู" ผมบอกไอ้ยูแล้วก็หัวเราะ ไอ้ยูก็หัวเราะด้วย


"งั้น คืนนี้ถ้าแอร์ห้องกูยังไม่เย็น กูกับไอ้ยูไปนอนห้องมึงนะไอ้คุณ พรุ่งนี้มีเรียนบ่าย ตื่นสายได้" ไอ้โตเกียวบอกผม ผมก็พยักหน้าให้มัน


พวกผมนั่งกินชาบูกันไปก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย รู้สึกว่าไอ้ยูจะปรับตัวเข้ากับผมกับไอ้โตเกียวได้มากขึ้น เพราะตลอดเวลาสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมสามคนก็คุยกันในแบบเพื่อนที่มาจากโรงเรียนเดียวกันเท่านั้น แต่ตอนนี้ผมสามคนเหมือนจะสนิทกันมากขึ้น ไม่นับผมกับไอ้โตเกียวที่โคตรจะสนิทกันมากแล้ว พอมีไอ้ยูเข้ามาอีกคนก็ต้องสนิทกันให้มาก คุยกันให้มาก เพราะยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน


หลังจากกินชาบูเสร็จ ก็พากันเดินกลับหอครับ ซึ่งหอของผมก็อยู่ไม่ไกลจากร้านชาบูมากนัก เดินไม่ถึง10นาทีก็ถึงหอแล้ว ห้องของมันสองคนอยู่ตรงข้ามกับห้องของผม ผมเปิดประตูเข้าห้องไปก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ เปิดประตูระเบียงไปหยิบผ้าขนหนู


"เชี่ย กลิ่นบุหรี่ติดผ้าขนหนู" ผมร้องออกมา เพราะตอนนี้ผ้าขนหนูและเสื้อนักศึกษาที่ผมแขวนไว้ตรงระเบียงเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่


แม่ง ไอ้ห้องข้างๆออกมาสูบบุหรี่ตรงระเบียงแน่ๆเลย กลิ่นเลยมาติดเสื้อผ้าของผม ผมชะโงกหน้าไปมองระเบียงห้องข้างๆที่อยู่ห่างกันนิดหน่อย แต่ถ้ามีคนมายืนตรงระเบียงก็พอจะมองเห็นกันได้


"อย่าให้รู้นะมึงว่าใคร" ผมบ่นพึมพำแล้วก็เดินกลับเข้าห้องหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ


อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จผมก็เอาผ้าขนหนู เสื้อนักศึกษาที่ติดกลิ่นบุหรี่ใส่ตะกร้าลงไปซักที่เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญตรงชั้นหนึ่ง อ๋อ ลืมบอก ห้องของผมอยู่ขั้นสามครับ

ตอนที่เดินขึ้นมา ผมเดินตามหลังผู้ชายคนนึงตัวสูงพอๆกับไอ้ยู รูปร่างพอๆกัน มันเดินมาถึงชั้นสามแล้วก็เลี้ยวไปทางเดียวกับห้องของผม ผมก็ค่อยๆแอบเดินตามมันไปเผื่อว่าจะเป็นไอ้คนที่อยู่ห้องข้างๆผม จะได้ถือโอกาสตักเตือนกันซะเลยเรื่องสูบบุหรี่ แล้วก็จริงครับ ไอ้โย่งนั่น ยืนไขกุญแจอยู่ตรงหน้าห้องข้างๆผมจริงๆด้วย


"เฮ้ย ไอ้คุณ มึงไปไหนมาเนี่ย" ไอ้โตเกียวเปิดประตูห้องโผล่หน้ามาเรียกผม ส่วนไอ้คนห้องข้างๆผมก็เข้าห้องไปซะแล้ว


"กูเอาผ้าลงไปซักมาว่ะ ตากไว้หลังระเบียงมีแต่กลิ่นบุหรี่" ผมบอกไอ้โตเกียว


"เออๆ กูกับไอ้ยูไปนอนห้องมึงนะ แอร์ไม่เย็นเลยว่ะ"


"อือ มาดิ"


"โอเค รอไอ้ยูอาบน้ำแป้บ เดี๋ยวกูไปเคาะห้อง"


"เออได้ๆ" ผมบอกไอ้โตเกียวแล้วก็ไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในห้อง รีบเปิดประตูระเบียงออกไป เผื่อว่าไอ้คนข้างห้องจะออกมาสูบบุหรี่อีก


"ไม่มีแฮะ กลิ่นบุหรี่"  ผมชะโงกหน้าไปมองก็ไม่เห็นใครตรงระเบียง ไฟระเบียงก็ไม่เปิด มีแต่แสงไฟที่ส่องลอดผ้าม่านออกมาจากในห้อง เสียงคอมฯแอร์ของห้องมันทำงาน คงเปิดแอร์นอนไปแล้วมั้ง


"ก็ดี ถ้าเห็นว่าสูบบุหรี่เมื่อไหร่ มึงเสร็จแน่" ผมพึมพำอยู่คนเดียวแล้วก็กลับเข้ามาในห้อง


ซักพักไอ้โตเกียวกับไอ้ยูก็มาเคาะประตูห้องผม ผมเปิดรับมันสองคนเข้ามา ไอ้โตเกียวพุ่งตัวไปทิ้งร่างลงบนที่นอนของผมทันที ส่วนไอ้ยูก็นั่งทำหน้านิ่งอยู่บนเตียง มันใส่ชุดบาสอีกแล้วคราวนี้เป็นชุดสีแดงยิ่งขับผิวขาวๆของมันให้ดูดีขึ้นไปอีก


"จะนอนกันยังอ่ะ ปิดไฟเลยก็ได้นะ กูรอตากผ้าแป้บนึง" ผมหันไปบอกไอ้สองคนนั้น


"ไม่เป็นไรรอนอนพร้อมกันแหล่ะ เปิดทีวีดูก่อนได้มะ" ไอ้โตเกียวถามผม


"ได้ๆ" ผมเดินไปเปิดทีวีให้พวกมัน แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างๆไอ้ยู


"ไอ้คุณมึงนอนตรงกลางนะ" ไอ้โตเกียวบอกผม


"เดี๋ยวกูนอนพื้นก็ได้" ไอ้ยูพูดขึ้นมา


"เตียงออกจะกว้างสามคนก็นอนได้ มึงจะเสร่อไปนอนที่พื้นทำไมครับไอ้ยู อย่ามาทำเป็นพระเอก" ไอ้โตเกียวว่าไอ้ยู ผมก็หัวเราะ เพราะดูท่าทางแล้วไอ้ยูจะไม่เข้าใจประโยคที่ไอ้โตเกียวว่ามันเมื่อกี้


ได้เวลาซักผ้าเสร็จ ผมก็ลงไปเอาผ้าขึ้นมาตากแล้วก็เข้ามาปิดไฟนอน


"กูขอหมอนข้างนะ ไอ้ยูถ้ามึงจะกอดก็กอดไอ้คุณละกันนะ" ไอ้โตเกียวพูดพร้อมกับเอาหมอนข้างของผมไปนอนกอด


"เชี่ย ไอ้โตเกียว หมอนข้างกูคืนมา" ผมหันไปดึงหมอนข้างคืนจากไอ้โตเกียวที่นอนหันหลังให้ผม มันก็ไม่ให้คืน


"อือ กูขอยืมหมอนข้างมึงกอดคืนนึงนะไอ้คุณ" ไอ้โตเกียวบอกผม ผมตบหัวมันเบาๆแล้วก็ล้มตัวลงนอนหงายดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม


อยู่ๆ ไอ้ยูที่นอนอยู่อีกข้างก็พลิกตะแคงตัวมาทางผมพร้อมกับเอาแขนมารวบตัวผมเข้าไปกอด ทำให้หน้าของผมซุกอยู่ตรงหน้าอกอุ่นๆของมัน ได้กลิ่นแป้งเด็กหอมอ่อนๆจากตัวของมัน


"ไอ้ยู" ผมเรียกชื่อมันเบาๆ พร้อมกับพยายามผลักตัวมันออกไป แต่ไอ้ยูก็ไม่ยอมปล่อยผม


"ก็โตเกียวบอกว่าให้กอดได้" ไอ้ยูก้มหน้ามาพูดกับผม รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของมันที่พ่นใส่หัวของผม


"เชี่ยยยย ไอ้โตเกียวบอกว่าให้กอดได้ แต่มึงก็ควรจะถามกูก่อนป่าววะ ไม่ใช่อยู่ๆก็มากอดแบบนี้" ผมพูดอู้อี้ๆอยู่กับหน้าอกของมันเพราะโดนไอ้ยูกอดซะจนแน่น หน้าแนบกับตัวของมัน


"โอยาสุมิครับ" ไอ้ยูบอกผมพร้อมกับเอามือมาลูบหัวของผมเล่นเบาๆ



***************************************



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2018 19:52:15 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ห้องข้าง ๆ จะใช่ตะวันหรือเปล่าหน่า  :hao3:

ปล. "สกุลทรัพย์ไพศาล" คุ้น ๆ นะ น้องคุณ เราเป็นอะไรกับพี่ดำ วงฟอร์เอฟเวอร์หรือเปล่านะ  :m28:

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7
ห้องข้าง ๆ จะใช่ตะวันหรือเปล่าหน่า  :hao3:

ปล. "สกุลทรัพย์ไพศาล" คุ้น ๆ นะ น้องคุณ เราเป็นอะไรกับพี่ดำ วงฟอร์เอฟเวอร์หรือเปล่านะ  :m28:

ง่อววว แก้ไขนามสกุลแล้วนะครับ ขอบคุณที่บอกครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2018 18:59:18 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7



Final Answer


ตอนที่.3 : จูบจากตะวัน(First Kiss)





  ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับตัวอยู่ ปรากฏว่าเป็นไอ้โตเกียวที่นอนกอดผมซะแน่น แถมยังเอาขายาวๆของมันมาก่ายทับตัวผมอีกด้วย


"เชี่ยยย โตเกียวออกไป เอาหมอนข้างกูไปยังจะมากอดกูอีก" ผมเอ่ยปากด่าไอ้โตเกียวพร้อมกับผลักตัวมันออกไป ไอ้โตเกียวก็ส่งเสียงครางในลำคอ เพราะมันยังหลับอยู่


"อืออออออออออ"


มันลืมตามามองผมพร้อมกับพลิกตัวกลับไปนอนหงายแล้วก็หลับต่อ

ผมหันไปมองตรงที่ไอ้ยูนอน ตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว


"ตื่นไปไหนแต่เช้าวะ" ผมพูดเบาๆกับตัวเอง แล้วก็ลุกลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ ตอนนี้เพิ่งจะแปดโมงกว่าๆเอง ยังมีเวลานอนต่อได้อีก เพราะมีเรียนอีกที่ตอนบ่าย เดินผ่านเตียงเห็นหมอนข้างของผมหล่นอยู่ตรงพื้น ไอ้เชี่ยโตแม่ง ทำหมอนข้างผมหล่น ผมเดินไปเก็บหมอนข้างแล้วก็เอาฟาดตัวไอ้โตเกียว


"โอ้ยยย ไอ้คุณมึงตีกูทำไมเนี่ย" ไอ้โตเกียวสะดุ้งตื่นร้องออกมา แต่ก็เอาหมอนข้างไปกอดแล้วก็นอนต่อ


"เพิ่งจะแปดโมงจะปลุกกูทำไมเนี่ย" มันบ่นผมแล้วก็เงียบไป


ไอ้ยูเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับถุงใส่อะไรบางอย่างในมือ


"อ่ะ โจ๊กกับน้ำเต้าหู้" มันบอกผมแล้วก็วางถุงใส่ของลงบนโต๊ะญี่ปุ่นที่ผมกางไว้สำหรับนั่งทำการบ้าน ก่อนที่มันจะเปิดประตูห้องออกไปอีกครั้ง


"มึงจะไปไหนอีกเนี่ยไอ้ยู" ผมถามมัน ไอ้ยูหันกลับมามองผมด้วยสีหน้านิ่งๆ


"พ่อบ้านจะมาซ่อมแอร์" ไอ้ยูบอกผมแล้วก็ออกจากห้องไป


ผมเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็ออกมาจัดการกับโจ๊กที่ไอ้ยูซื้อมาให้ ไอ้ยูซื้อโจ๊กกับน้ำเต้าหู้มาอย่างละสามถุงคงจะซื้อมาเผื่อผมกับไอ้โตเกียว ผมแกะโจ๊กออกใส่ถ้วยสองถ้วย แล้วก็ออกไปเรียกไอ้ยูที่ห้องของมัน ส่วนไอ้โตเกียวปล่อยให้มันนอนไปก่อน ไอ้นี่ขี้เซา ปลุกยาก


"ไอ้ยู ไปกินโจ๊กกัน" ผมเดินเข้าไปในห้องของมัน ไอ้ยูกำลังยืนดูพี่พ่อบ้านซ่อมแอร์อยู่ มันหันมามองผมแล้วก็พยักหน้าให้ พร้อมกับเดินจับมือผมกลับมาที่ห้อง


"ไอ้ยู" ผมพูดชื่อมันออกมาเบาๆแล้วก็ก้มมองมือของไอ้ยูที่จับมือผมอยู่


ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้โย่งที่จูงมือผมคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนี้


มาถึงห้อง ไอ้ยูก็ปล่อยมือแล้วก็ดึงตัวผมให้นั่งลงแล้วก็กินโจ๊กด้วยกัน ผมกับไอ้ยูนั่งกินโจ๊กด้วยกันอย่างเงียบๆ ไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ผมก็แอบๆเหลือบตามองมันบ้าง ผมสีน้ำตาลธรรมชาติของมันทำให้มันโคตรจะดูดีเลย


ฟอดดดดดดดด....!!


อยู่ๆไอ้โตเกียวก็มากอดผมจากข้างหลังแล้วหอมแก้มผมฟอดใหญ่ สำหรับผมมันเป็นเรื่องปกติที่ไอ้โตเกียวจะเล่นแบบนี้กับผม จนผมชินไปแล้ว แต่สำหรับไอ้ยูมันไม่เคยเห็นผมกับไอ้โตเกียวเล่นอะไรกันแบบนี้ สีหน้าของมันเลยดูอึ้งๆไป กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


"กินกันไม่เรียกกูเลยนะมึง เมียจ๋าาา แกะโจ๊กไว้รอผัวหน่อยดิ ไปฉี่แป้บ" ไอ้โตเกียวบอกผมแล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ


"มึงกับไอ้โตเกียวนี่ เล่นกันขนาดนี้เลยหรอ หรือว่าเรื่องจริง" ไอ้ยูเอ่ยปากถามผม


"เชี่ย ไม่ใช่เรื่องจริงเว้ย ไอ้โตเกียวมันก็เล่นกับกูแบบนี้ปกติอ่ะ" ผมบอกไอ้ยูแล้วก็จัดการแกะโจ๊กใส่ถ้วยไว้ให้ไอ้โตเกียว


"หอมแก้มกันเนี่ยนะ แถมยังเรียกผัวเมียอีก" ไอ้ยูพูดขึ้นอีก


"ก็...เออ...เดี๋ยวอยู่ๆไปมึงก็ชินเองแหล่ะ กูไม่ได้คิดอะไร"


"แล้วถ้ามึงมีแฟน แฟนมึงก็ต้องหึง" ไอ้ยูบอกผม


"ถ้ากูมีแฟน แฟนกูก็ต้องรู้จักไอ้โตเกียว คงไม่หึงหรอก"


"หึงดิวะ" ไอ้ยูพูดขึ้นมาเสียงดัง ทำเอาผมตกใจจนต้องเงยหน้าไปมองมัน ไอ้ยูก้มหน้าหลบผมแล้วก็กินโจ๊กต่อ ไม่พูดอะไรออกมาอีก


ไอ้โตเกียวออกมาจากห้องน้ำก็มานั่งกินโจ๊กข้างๆผม


"ไอ้ยู พ่อบ้านมาซ่อมแอร์ยังวะ" ไอ้โตเกียวถามไอ้ยู ไอ้ยูก็เงียบ นั่งก้มหน้ากินโจ๊ก


"ไอ้ยู"


"ไอ้ยู"


"ไอ้เหี้ยยู" ไอ้โตเกียวเรียกไอ้ยูเสียงดังพร้อมกับเอามือตบโต๊ะ ทำเอาไอ้ยูตกใจเงยหน้าขึ้นมา


"มึงเป็นอะไรเนี่ย เรียกตั้งนานไม่ได้ยิน"


"เออ มีไร เรียกกูทำไม"


"กูถามว่า พ่อบ้านมาซ่อมแอร์หรือยัง"


"กำลังซ่อมอยู่"


"เออ ก็แค่นั้นอ่ะ มัวเหม่ออะไรอยู่วะ เรียกตั้งนาน"


"ป่าวๆ กูอิ่มละ ฝากเก็บด้วยนะ เดี๋ยวไปดูพ่อบ้านซ่อมแอร์ก่อน" ไอ้ยูบอกผมแล้วก็ลุกเดินออกจากห้องไป ผมก็มองตามมันไป


"เป็นเชี่ยไรของมันวะ" ไอ้โตเกียวพึมพำออกมา


ผมกินโจ๊กเสร็จก็ตามด้วยน้ำเต้าหู้ของโปรด ส่วนไอ้โตเกียวพอกินโจ๊กเสร็จก็ขึ้นไปนอนต่อ แถมยังสั่งผมไว้ว่าให้ปลุกด้วยตอน11โมง แม่งงงงง เพื่อนประเสริฐจริงๆ กินแล้วก็นอน


"มึงนี่ กินแล้วก็นอน เดี๋ยวก็อ้วนหรอก" ผมว่าไอ้โตเกียวแล้วก็ยกชามใส่โจ๊กออกไปล้างที่ระเบียง


โลกนี้มีเพลงรักอยู่หลายพันทำนอง ฉันได้ฟัง ได้ร้องอยู่ตั้งมากตั้งมาย

หลายๆเพลงเป็นเพลงรัก เพราะดีมีความหมาย



"เชี่ย ร้องเพลงพี่บี้ซะด้วย" ผมพูดออกมาเบาๆ เพราะได้ยินเสียงคนร้องเพลงออกมาจากระเบียงห้องข้างๆ ห้องผมอยู่ริมสุด ห้องข้างๆก็เป็นห้องของไอ้บุหรี่นั่น แม่ง อารมณ์สุนทรีย์จริงๆ


"ถ้ามึงสูบบุหรี่นะ เจอดีแน่ กูจะสาดน้ำใส่แม่ง" ผมพูดกับตัวเองแล้วก็ล้างชามไป กะว่าถ้าไอ้ห้องข้างๆสูบบุหรี่จนกลิ่นลอยมาถึงห้องผมหล่ะก็ ได้เห็นดีกันแน่วันนี้


ผมล้างชามจนเสร็จ พร้อมๆกับเสียงเพลงจากระเบียงห้องข้างๆก็เงียบไปแล้ว ผมเลยค่อยๆแอบชะโงกหน้าไปดู ได้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ ไอ้บุหรี่คงออกมาตากผ้าแล้วก็กลับเข้าห้องไปแล้วแน่ๆ ผมก็เลยเลิกสนใจแล้วกลับเข้าไปในห้อง ไอ้ยูก็เปิดประตูเข้าห้องมาพอดี มันกดล๊อคประตูห้องแล้วก็เดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง


"ซ่อมแอร์เสร็จแล้วหรอ" ผมถามไอ้ยู มันก็พยักหน้าให้แล้วเอาหมอนขึ้นมาปิดหน้า ผมก็เลยปิดไฟในห้องแล้วขึ้นเตียงไปนอนตรงกลาง


"คุณ" ไอ้ยูเรียกผมแล้วก็เอาหมอนที่ปิดหน้าอยู่มาหนุนหัว


"อือ ว่าไง"


"น้ำเต้าหู้อร่อยไหม"


"อือ ก็อร่อยนะ แต่ก็สู้ที่ร้านมึงไม่ได้หรอก" ผมตอบมันแล้วก็หันไปมองไอ้ยู เห็นมันยิ้มออกมา


"ไว้กลับไปกินที่บ้านกูเนอะ" ไอ้ยูหันมาบอกผม ผมก็พยักหน้าให้มัน


"มึงสองคนจะคุยกันอีกนานมั้ยครับ กูจะนอนครับ" ไอ้โตเกียวว่าผมกับไอ้ยู ผมก็เลยพลิกตัวหันกลับไปเอาขาก่ายไอ้โตเกียวมันถึงได้เงียบไป



สิบเอ็ดโมง นาฬิกาที่ผมตั้งไว้ส่งเสียงปลุก ผมก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็ปลุกไอ้โตเกียวกับไอ้ยู มันสองคนก็พากันกลับห้องไปเตรียมตัวอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน ผมนัดกันลงไปกินข้าวที่ร้านใต้หอตอนเที่ยง


ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบๆเที่ยง เตรียมเอกสารวิชาเรียน กำลังจะออกจากห้องไอ้คิณพี่ชายของผมก็โทรมาหาพอดี ผมก็เลยคุยโทรศัพท์อยู่ในห้อง


ก๊อก...ก๊อก


"ไอ้คุณเสร็จยังวะ"


เสียงไอ้โตเกียวมาเคาะประตูห้องถามผม


"มึงลงไปก่อนเลย กูคุยโทรศัพท์แป้บ" ผมเปิดประตูห้องออกไปบอกไอ้โตเกียว


"เอาข้าวไข่เจียวเหมือนเดิมใช่ป้ะ จะได้สั่งไว้รอ" ไอ้โตเกียวถามผม ผมก็พยักหน้าให้มันแล้วก็ปิดประตู เข้าห้องไปนั่งคุยโทรศัพท์บนเตียง

ผมคุยโทรศัพท์เสร็จ กำลังจะออกจากห้อง อยู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่า เขียนกระดาษโน๊ตไปติดประตูห้องไอ้บุหรี่ดีกว่า แล้วผมก็เอากระดาษโน๊ตแผ่นเล็กออกมาเขียนว่า "อย่าสูบบุหรี่นอกระเบียงได้มั้ยครับ กลิ่นมันลอยมาติดเสื้อผ้าที่ตากไว้" แล้วผมก็ออกจากห้อง มองซ้ายมองขวาไม่มีใคร แล้วก็จัดการติดกระดาษโน๊ตที่เขียนมา ไว้ที่ประตูหน้าห้องไอ้บุหรี่


ปั่บ...!!!!


"กูไม่ได้สูบบุหรี่ครับ" เสียงใครคนหนึ่งกระซิบที่ข้างหูของผม พร้อมกับแขนยาวๆของมันที่ยันประตูห้องกักตัวผมเอาไว้


ผมตกใจจนยืนนิ่ง ไม่กล้าหันไปมอง


ซวยแล้วกู..!! ผมคิดในใจ


"ตะวัน อย่าหนีแพทตี้สิ กลับมาคุยกันก่อน" เสียงแหลมปรี้ดของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น


"ช่วยอะไรกูหน่อยนะ" ไอ้คนที่กักตัวผมไว้พูดขึ้นแล้วก็เอามืออีกข้างมาประคองหน้าผมให้หันหน้าไปหามันแล้วมันก็ก้มลงมาประกบริมฝีปากกับผม


อุ้ปปป...!!


"กรี้ดดดดดดด ตะวัน อะไรกันเนี่ย ทำไมทำแบบนี้อ่ะ" เสียงผู้หญิงคนนั้นกรี้ด 


ผมออกแรงผลักตัวไอ้คนที่จูบผมออก ความรู้สึกในตอนนี้โคตรจะเคว้ง จูบแรกของผม กับคนที่ไม่รู้จัก ผมเงยหน้าไปมองไอ้คนที่ตัวสูงกว่า แล้วก็หันไปมองผู้หญิงที่เต้นเร่าๆอยู่ไม่ไกลนัก


"ตะวัน ทำไมตะวันทำกับแพทตี้แบบนี้ ตะวันเป็นเกย์หรอ"


"ก็ใช่ไง ที่นี้เชื่อหรือยังหล่ะว่าเราเป็นเกย์ จะได้เลิกตามกันซักที"


"แล้วนี่ก็แฟนเรา" ไอ้ตะวันพูดแล้วก็หันมามองหน้าผม ที่ยังมีอาการ งงๆ และจับต้นชนปลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูก


"ตะวัน" นายตะวัน วงศ์สุริยะ หนุ่มหล่อเฟรชชี่คณะวิศวะกรรมศาสตร์ สูง185 คิ้วเข้ม จมูกโด่งรับกับใบหน้าที่หล่อคมคาย มีเสน่ห์ที่สายตายียวนและรอยยิ้มที่มัดใจสาวแท้สาวเทียมได้อยู่หมัด ตะวันเป็นนักบาสเกตบอลของคณะวิศวะกรรมศาสตร์และยังเป็นว่าที่เดือนคณะอีกด้วย เพราะความหล่อของตะวันเป็นที่รู้กันทั่วในคณะ ถึงกับมีหลายคนบอกว่าถ้าตะวันลงประกวดดาวเดือนของคณะยังไงเขาก็ต้องได้ตำแหน่งแน่นอน



"แฟนเหี้ยไร" ผมพูดพร้อมกับผลักร่างสูงตรงหน้าจนเซออกไป แล้วก็รีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น



ผมวิ่งหนีลงมาแล้วก็เข้าไปในร้านข้าว ไอ้โตเกียวกับไอ้ยูนั่งกินข้าวอยู่ ข้าวไข่เจียวของผมก็วางรออยู่แล้ว


ผมหยิบทิชชู่มาจุ่มน้ำในแก้วแล้วก็เช็ดๆปาก ลบรอยจูบของไอ้ตะวันเมื่อกี้


"ทำเหี้ยไรอยู่วะ ช้าชิบ" ไอ้โตเกียวถามผม


ผมก็ไม่ตอบมัน เอาแต่เช็ดปากอยู่อย่างนั้น


"เป็นไรของมึงเนี่ย เช็ดอยู่ได้ปากอ่ะ" ไอ้โตเกียวถามผมอีก ส่วนไอ้ยูก็นั่งมองผมอยู่เงียบๆ


"ป่าวๆ ไม่มีไร กินข้าวละนะ" ผมตอบไอ้ยูแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าว ซักพักก็เห็นผู้หญิงที่ชื่อแพทตี้นั่นเดินออกจากหอไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน แล้วไอ้ตะวันนั่นก็เดินเข้ามาในร้านข้าว


มันเดินผ่านโต๊ะของผม แล้วก็เหล่ตามามองผมพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ผมรีบก้มหน้าหลบสายตาของมัน


ไอ้เหี้ย..ไอ้ตะวัน มึงเป็นจูบแรกของกู



************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2018 08:53:17 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


เปิดตัวแรงมากกกก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ในที่สุดตะวันก็ขึ้นมาให้เห็นเสียที แล้วตกลงกลิ่นบุหรี่จากไหนมันมาติดเสื้อที่ตากไว้ละ  :hao3:

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7




Final Answer


ตอนที่.4 : เพราะเรื่องผีของตะวัน/1





"ไอ้คุณเก็บของเสร็จยังกูปวดเยี่ยว" เสียงไอ้โตเกียวเอ่ยปากเร่งผมให้เก็บของเร็วๆ หลังจากเรียนเสร็จในคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้


"มึงก็ออกไปเยี่ยวก่อนดิวะ เดี๋ยวกูตามออกไป"


"เออๆ งั้นกูไปเยี่ยวก่อนแล้วมึงตามเข้าไปเจอกูในห้องน้ำนะ" ไอ้โตเกียวบอกผมแล้วก็สะพายกระเป๋าเดินไป


"เดี๋ยวก่อน..ทำไมกูต้องไปเจอมึงในห้องน้ำด้วยวะ" ผมถามไอ้โตเกียวมันก็หันมาทำหน้ากวนตีนใส่ผม


"งั้น มึงรอกูอยู่หน้าห้องเรียนละกันเดี๋ยวกูเยี่ยวเสร็จจะเดินมาหา นะครับที่รัก" ไอ้โตเกียวเอี้ยวตัวกลับมาหาผมพร้อมกับเอามือมาจับคางผมให้เชิดหน้าขึ้นไปหามัน



"อร้ายยย นี่โตเกียวกับคุณ เล่นอะไรกันไม่เกรงใจพวกเราเลยนะ ฟินจะตายอยู่แล้วเนี่ย" เสียงเพื่อนผู้หญิงแซวผมกับไอ้โตเกียว


"วันนี้แค่นี้ก่อน พรุ่งนี้โตเกียวจะเล่นให้มากกว่านี้นะครับ ไปละ" ไอ้โตเกียวบอกเพื่อนๆแล้วมันก็เดินออกไป ผมก็ส่ายหน้ากับการกระทำของมัน เฮ้อ...เพราะมันเล่นกับผมแบบนี่น่ะสิ ถึงไม่มีแฟนซะที ผู้หญิงเห็นก็คงคิดว่ามันเป็นเกย์ ใครจะกล้ามาจีบ


" คุณ เดี๋ยวไปที่ห้องชมรมสตาฟพยาบาลด้วยนะ พี่ๆเรียกประชุมอ่ะ เพราะวันนี้จะแบ่งกลุ่มพวกเราออกไปทำงานวันแรกเลยนะ"


"เออ เราลืมเลยอ่ะว่าพี่ๆเรียกประชุม ตื่นเต้นเนอะ ไม่รู้ว่าจะได้ไปทำงานที่คณะไหน"


"แต่ทำไม คณะอื่นต้องมาขอสตาฟพยาบาลจากคณะเราด้วยอ่ะ สตาฟพยาบาลของคณะเขาไม่มีหรอ หรือมีแต่ไม่พอ"


"ไม่รู้สิ สตาฟพยาบาลคณะเกษตรเก่งมั้ง คณะอื่นๆเลยมาขอตัวให้ไปช่วยดูแลอ่ะ"


"ป่ะ ไปห้องชมรมกันเถอะ มัวแต่คุยกันเดี๋ยวพี่ๆเขาจะรอ"


ผมกับเพื่อนๆที่อยู่ชมรมสตาฟพยาบาลพากันเดินออกมาจากห้องเรียน ไอ้โตเกียวยืนรอผมอยู่หน้าห้อง ไอ้ยูก็ยืนอยู่ด้วย


"อ่าว ไอ้ยู วันนี้ไม่มีซ้อมบาสหรอ" ผมถามไอ้ยูที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ เห็นสายตานิ่งๆของมันแล้วผมนี่ไม่ชอบเลยซักนิด มันดูหยิ่งๆ เย็นชา ยังไงก็ไม่รู้


"มีซ้อม เดี๋ยวจะไปแล้วเนี่ย"


"เออ งั้นเราก็แยกย้ายกันเถอะ ไอ้คุณ กูกับมึงต้องไปห้องชมรมนี่หว่า ตื่นเต้นเนอะวันนี้ต้องไปทำงานวันแรก" ไอ้โตเกียวพูดแล้วก็เดินเข้ามากอดคอผมพาเดินออกไปจากตรงนั้น


"เออ ไอ้ยู ซ้อมเสร็จตอนไหนก็โทรมาละกัน กูรอกินข้าว" ผมหันไปบอกไอ้ยู มันก็พยักหน้าให้แล้วหันหลังเดินแยกไปอีกทาง


ผมกับไอ้โตเกียวแล้วก็เพื่อนๆที่เป็นสตาฟพยาบาลปีหนึ่งมากันเดินมาที่ห้องชมรม แล้วก็เข้าไปนั่งรอรุ่นพี่เข้ามาประชุม ซักพักพี่สตาฟพยาบาลปีสี่ก็เข้ามา พวกผมก็นั่งแยกชั้นปี ตามที่รุ่นพี่ปีสี่สั่ง


"สวัสดีครับน้องๆสตาฟพยาบาลทุกคน วันนี้เป็นการเริ่มงานวันแรกของพวกเราอย่างเป็นทางการ พี่ก็จะแบ่งน้องๆออกเป็นกลุ่มเพื่อไปทำหน้าที่สตาฟพยาบาลในแต่ละจุดนะครับ ก็ขอให้ทุกคนทำงานให้เต็มที่ ใช้ความรู้ที่ได้อบรมมาให้เต็มที่เลยนะครับ กลุ่มไหนที่ได้ไปดูแลคณะอื่นก็ทำหน้าที่ให้ดีอย่าให้เสียชื่อเสียงสตาฟพยาบาลคณะเกษตรได้หล่ะ เข้าใจไหมครับ"


"เข้าใจครับ/เข้าใจค่ะ"


"แล้วก็อย่าลืมสวมผ้าพันคอตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการปฏิบัติงานนะครับ"


"เอาหล่ะพี่จะประกาศชื่อกลุ่มต่างๆที่จะได้ออกไปปฏิบัติงานนะครับ"


หลังจากนั้นพี่ปลื้มประธานสตาฟพยาบาลก็ขานรายชื่อแต่ละกลุ่มที่จะได้ออกไปปฏิบัติงานครับ ไอ้โตเกียวได้ไปประจำสนามที่ไอ้ยูซ้อมบาส ส่วนผมยังไม่รู้ว่าจะได้ไปไหน ก็ต้องนั่งลุ้นต่อไป


"กลุ่มต่อไป กลุ่มนี้ไปประจำที่สนามบาสสนามที่สอง ของคณะวิศวะกรรมศาสตร์นะครับ สนามนี้จะอยู่ในโรงยิมนะครับ ยิมที่สองข้างๆโรงอาหารกลางของคณะวิศวะนะครับ สำหรับคนที่ได้ไปประจำกลุ่มนี้ได้แก่ น้องแป้งปีสาม น้องพลปีสาม น้องป๊อบปีสอง น้องฟ้าปีสอง น้องอุ้มปีหนึ่งและน้องคุณปีหนึ่งนะครับ"


"เชี่ยยยย วิศวะ" ผมพึมพำออกมาเบาๆ


"โห ไอ้คุณงานแรกของมึงก็ไปคณะวิศวะเลย ดีว่ะ" ไอ้โตเกียวที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาพูดกับผม


"มึงจะเปลี่ยนกับกูป้ะหล่ะ กูไม่ได้อยากไปเลยนะเนี่ย" ผมบอกไอ้โตเกียวมันก็ส่ายหน้าปฏิเสธ


"เรื่องไรกูจะเปลี่ยน ไปดูแลไอ้ยูดีกว่า ดีกว่าไปคณะอื่น มึงก็ระวังเหอะ วิดวะนะเว้ย ทั้งดุ ทั้งเถื่อน หึหึ" ไอ้โตเกียวพูดขู่ผม


"เชี่ย อย่ามาขู่กูนะ เออ ถ้ามึงเสร็จงานก่อนก็โทรมาหากูด้วยละกัน" ผมบอกไอ้โตเกียวมันก็พยักหน้าให้ผม


หลังจากแจกแจงรายละเอียดการทำงานเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปเอากระเป๋ายาที่พี่ๆเตรียมไว้ให้ แล้วก็เดินไปยังสนามบาสตามที่กลุ่มของพวกผมได้รับมอบหมาย


"น้องอุ้ม น้องคุณปีหนึ่ง ตื่นเต้นมั้ยคะ งานแรกของเราเลยนะเนี่ย" พี่แป้งที่อยู่ปีสามหันมาถามผมกับอุ้ม


"ก็ตื่นเต้นครับพี่ แถมไม่ใช่คณะเราด้วย"


"ไม่ต้องกลัวหรอก คณะอื่นสิต้องเกรงใจเราที่เรายอมมาช่วยดูแลให้"


"แล้ววันนี้เขาแข่งอะไรกันหรอครับ"


"แค่ซ้อมนะ น่าจะเป็นทีมบาสชายของวิศวะน่ะ" พี่แป้งตอบผม


ไม่นานพวกเราก็พากันเดินมาถึงหน้าโรงยิมเนเซียมที่สองอันเป็นจุดหมายปลายทางที่เราจะมาทำหน้าที่สตาฟพยาบาล ผมก้มมองผ้าพันคอสีเขียวที่ผูกอยู่ที่คอก็รู้สึกฮึกเหิมและภูมิใจว่าเรานี่แหล่ะ สตาฟพยาบาลคณะเกษตร


"สตาฟพยาบาลมาแล้ว เชิญข้างในเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาช่วยดูแลพวกเรา" พี่ผู้หญิงคนนึงวิ่งออกมารับพวกผมแล้วก็พาพวกผมเดินเข้าไปในโรงยิม


เสียงลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นดังออกมา เสียงคนคุยกัน เสียงคนกำลังเล่นบาส ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจมาก แอบตื่นเต้น แต่ก็ขอให้อย่ามีใครได้รับอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บเลย การซ้อมจะได้ลุล่วงไปด้วยดี


"ประจำที่ตรงนี้เลยค่ะสตาฟพยาบาล"


"พวกเรา สตาฟพยาบาลมาแล้ว ไปขอบคุณเขาหน่อยเร็ว" เสียงคนเป่านกหวีดแล้วก็ออกคำสั่งให้พวกที่กำลังเล่นบาสอยู่เดินมายืนเรียงแถวหน้ากระดานตรงที่พวกผมนั่งอยู่ เพื่อขอบคุณพวกผมที่มาดูแล


"ขอบคุณครับ ที่มาช่วยดูแลพวกเรา" นักบาสเกตบอลของคณะวิศวะ พูดขอบคุณพวกผม ผมเห็นแล้วก็รู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเห็นความสำคัญของสตาฟพยาบาลและให้เกียรติสตาฟพยาบาลมากๆ


"วันนี้อาจจะซ้อมดึกหน่อยนะครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องแข่งแมตแรก ยังไงพี่รบกวนพวกเราด้วยนะครับ" พี่ที่เป่านกหวีดเมื่อกี้เดินมาบอกพวกผม คงจะเป็นพี่ปีสี่และก็เป็นโค้ชให้ทีมบาสด้วย ผมอ่านป้ายชื่อของพี่เขา "พี่โปเต้" ชื่อน่ารักดี เจ้าของชื่อก็น่ารัก สูง หล่อ ตี๋ จมูกโคตรโด่ง เวลาที่อยู่ในสนามก็โคตรเท่ห์เลยแถมยังพูดสุภาพมากๆด้วย


ผมกับพี่ๆสตาฟพยาบาลนั่งดูการเตรียมการซ้อมกันไป ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานด้วยถ้ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือมาขอความช่วยเหลือ


"สตาฟพยาบาล นี่น้ำกับขนมค่ะ กินกันได้เลยนะคะ ถ้าไม่พอไปขออีกได้นะคะพวกเราอยู่ตรงด้านหน้าโรงยิมค่ะ"


มีคนเอาขนมกับน้ำมาให้พวกผมเยอะแยะเลย งานนี้เปรมสิครับ สบายเลย เพิ่งรู้ว่าการเป็นสตาฟพยาบาลมันดีแบบนี้นี่เอง


"สตาฟพยาบาลครับ ขอบคุณนะครับที่มาดูแลพวกเรา" อยู่ๆก็มีนักบาสสามสี่คนวิิ่งมายืนตรงหน้าแล้วกล่าวคำขอบคุณพวกผม คงจะเพิ่งมาซ้อม ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็ต้องตกใจ เพราะหนึ่งในคนที่มาใหม่ก็คือ..ไอ้ตะวัน มันเห็นผมก็ชะงักไปนิดนึงเหมือนกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ของมันแล้วมันก็เดินไปตรงฝั่งที่พวกนักกีฬานั่งกันอยู่


นักกีฬาเริ่มลงวอร์มร่างกายในสนาม ผมกับพี่ป๊อบสตาฟพยาบาลปีสองก็เอากระเป๋ายาย้ายไปนั่งตรงฝั่งที่นักกีฬานั่งกันอยู่เพื่อความใกล้ชิดและปฏิบัติงานได้ง่ายเผื่อมีใครเป็นอะไร ซึ่งก็จะผลัดเปลี่ยนกันไปในกลุ่มสตาฟพยาบาล ผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงคงเพราะความตื่นเต้น และก็เพราะว่ามีไอ้ตะวันอยู่ตรงนั้นด้วย

ผมกับพี่ป๊อบนั่งคุยกันแล้วก็คอยดูนักกีฬาที่ลงไปวอร์มอยู่ในสนาม


"สตาฟพยาบาลครับ รบกวนขอความช่วยเหลือหน่อยครับ" อยู่ๆไอ้ตะวันก็พาร่างสูงโย่งของมันมานั่งข้างๆผม


ผมหันไปมองมันแล้วก็ทำหน้านิ่งใส่มัน แต่มันกลับยิ้มแล้วก็ส่งสายตากวนตีนๆมาให้ผม


"ใครๆก็บอกว่าสตาฟพยาบาลคณะเกษตรใจดี แต่นี่ทำไมไม่เห็นเหมือนกับที่เค้าบอกกันเลย" ไอ้ตะวันพูดขึ้นมา ทำเอาพี่ป๊อบหันหน้ามามองมัน


"มีอะไรให้ช่วยหรอ" ผมรีบเอ่ยปากถามมัน เพราะกลัวว่าพี่ป๊อบจะต้องออกปากเอง ผมเป็นปีหนึ่งจะให้พี่ปีสองเริ่มก่อนก็ใช่เรื่อง


"ปวดๆตรงข้อเท้าอ่ะครับ ช่วยทายาให้หน่อยได้มั้ยครับ"


ผมได้ยินก็ถึงกับเงยหน้าไปมองมัน


"เชี่ยยยย ต้องทำให้ถึงขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย" ผมได้แต่คิดในใจ


"อ่ะ น้องคุณยานวด เอาไปนวดให้เค้า" พี่ป๊อบส่งหลอดยานวดคลายกล้ามเนื้อมาให้ผม


ผมขยับตัวกลับหลังหันหน้าไปหาไอ้ตะวัน มันมองหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้มเยาะประกาศชัยชนะ แล้วก็เหยียดขายาวๆของมันมาตรงหน้าผม


"ให้นวดยาตรงไหน"


"ตรงนี้"  ไอ้ตะวันเอามือชี้ไปที่หน้าอก ตรงหัวใจของมัน


ผมทำหน้าไม่พอใจและทำเสียงจิ๊จ๊ะ ไอ้ตะวันก็หัวเราะ


"ทำไมทำหน้าไม่พอใจหล่ะครับ ไมเต็มใจทำหรอครับ งั้นผมไม่รบกวนก็ได้ครับ" ไอ้ตะวันแกล้งพูดเสียงดังจนพี่ป๊อบหันมามอง


"โอเคๆ ก็บอกดีๆดิว่าให้ทายาให้ตรงไหน" ผมปรับสีหน้าแล้วก็พูดดีๆกับมัน ไอ้ตะวันมันก็ทำหน้าพอใจที่ผมพูดดีๆกับมัน


ผมป้ายยาลงตรงข้อเท้าข้างที่มันยื่นมาหาผมแล้วก็จัดการใช้มือละเลงยาจนทั่วแล้วก็นวดข้อเท้าให้มัน กลิ่นของยานวดคลายกล้ามเนื้อลอยขึ้นมาเตะจมูกรู้สึกแปลกๆ เพราะปกติผมไม่ค่อยได้ใช้ยาอะไรแบบนี้เลย


"โอ้ยยย...!!" อยู่ๆ ไอ้ตะวันก็ร้องขึ้นมา ทำเอาผมตกใจรีบปล่อยมือที่นวดมันอยู่ พี่พยาบาลปีสามรีบวิ่งมาดู พี่ป๊อบก็หันมามองผมกับไอ้ตะวัน


"เป็นไร เจ็บอะไรตรงไหน กูนวดแรงไปหรอ" ผมรีบถามไอ้ตะวัน


"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ร้องเสียงดังเชียว" พี่แป้ง เข้ามาถามไอ้ตะวัน


"เอ่อ ไม่เป็นอะไรครับพี่ แหะ แหะ"


พี่แป้งนั่งดูผมนวดยาให้ไอ้ตะวันครู่นึงก็เดินกลับไป


"เชี่ย มึงอย่าทำแบบนี้ดิวะ ถ้าพี่เค้าประเมินไม่ให้กูผ่าน กูต้องคืนผ้าพันคอนะเว้ย" ผมพูดกับไอ้ตะวันเบาๆ เพราะรู้ว่าเมื่อกี้มันแกล้งผม


"ก็ดีดิวะ"


"ดีเชี่ยไร ถ้าพี่เค้าประเมินกูไม่ให้ผ่านกูก็ต้องคืนผ้าพันคอ ไม่ได้เป็นสตาฟพยาบาล"


"ก็ดี มึงจะได้มาดูแลกูคนเดียวไง" ไอ้ตะวันบอกผม


"เชี่ย เรื่องไรกูจะดูแลมึง" ผมว่ามันแล้วก็หยุดนวดยาให้มัน


"ปีหนึ่งครับ เตรียมลงสนามได้แล้วครับ" เสียงพี่โปเต้ เรียกนักบาสปีหนึ่งให้เตรียมพร้อมลงไปวอร์มในสนาม ไอ้ตะวันก็ลุกขึ้นยืน ไปนั่งใส่ถุงเท้ารองเท้าหน้าตาเฉยเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลย


"ไหนมึงว่าปวดข้อเท้าไง ทำไม..."


"กูไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย" ไอ้ตะวันหันมาตอบผมพร้อมกับรอยยิ้มเยาะ ทำเอาผมนี่อยากจะเข้าไปต่อยหน้ามันซะตอนนี้เลย





"เชี่ยยย หลอกให้กูนวดให้ตั้งนาน" ผมพึมพำกับตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำขณะที่เข้ามาล้างมือ ด้วยความโมโห ไอ้ตะวันแม่ง หลอกผมให้นวดให้ตั้งนาน ทั้งๆที่มันไม่ได้เป็นอะไรเลย


ผมเดินกลับออกมาจากห้องน้ำก็เจอพี่ๆคณะวิศวะยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงยิม


"สตาฟพยาบาลเกษตรน่ารักจังเลยค่ะ"


"ชื่ออะไรคะเนี่ย"


"ผมชื่อคุณ ครับ"


"อุ้ย ชื่อน่ารักจังค่ะ น้องคุณ"


"ขอบคุณครับพี่" ผมบอกพี่ๆเค้าแล้วก็เดินเข้าไปข้างในโรงยิม


"น้องคุณมานั่งพักก่อนค่ะ พี่ให้เพื่อนไปเปลี่ยนละ" พี่แป้งเรียกผมให้ไปนั่งพัก กินน้ำ กินขนมที่ทางวิศวะเอามาไว้ให้



ตอนนี้ก็เป็นเวลาทุ่มกว่าๆแล้ว ในสนามก็เริ่มแบ่งทีมซ้อมจริงจังแล้ว ไอ้ตะวันอยู่ในชุดบาสสีขาว มันดูโดดออกมาจากกลุ่มด้วยส่วนสูง หน้าตาและท่าทางเวลาที่ลงเล่นบาส มันดูดีและมีเสน่ห์มากครับ พี่แป้งกับพี่ฟ้ารวมทั้งยัยอุ้มยังเอ่ยปากชม แต่ผมดิ ยิ่งเห็นมันวิ่งอยู่ในสนามบาสยิ่งโกรธ ที่มันหลอกให้ผมนวดข้อเท้าให้ตั้งนาน แล้วก็ยังพาลไปโกรธที่เสียจูบแรกให้มันด้วย


"สตาฟพยาบาลคะ ทานข้าวกันก่อนค่ะ" พี่ๆจากคณะวิศวะเอาข้าวกล่องมาให้พวกผม ตอนนี้สองทุ่มกว่าๆแล้ว ไอ้โตเกียวโทรมาหาผม มันบอกว่าไอ้ยูซ้อมเสร็จแล้ว กำลังจะพากันกลับ แต่ผมดิทางนี้ยังซ้อมไม่เสร็จเลย ผมก็เลยบอกให้มันสองคนกลับไปกันก่อนเลย คุยโทรศัพท์กับไอ้โตเกียวเสร็จผมก็กลับเข้ามานั่งกินข้าว แล้วก็ดูการซ้อมบาสเกตบอลของทีมคณะวิศวะต่อ


จนเกือบๆห้าทุ่ม พี่โปเต้ถึงสั่งให้หยุดการซ้อม แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ผมเดินสะพายกระเป๋ายาออกมาจากโรงยิม พี่แป้งกับพี่พลอาสาเอากระเป๋ายากลับไปเก็บที่ห้องพยาบาลให้ เพราะผมจะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา

หลังจากแยกย้ายกัน ผมก็เดินกลับหอ กะว่าจะแวะหาอะไรกินก่อนเพราะกินข้าวกล่องไม่อิ่ม


"เฮ่ย กลับไงอ่ะ" ไอ้ตะวันขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดดักหน้าผม


"เดินกลับ"


"ป่ะ ไปกับกูหอเดียวกัน" ไอ้ตะวันบอกให้ผมขึ้นไปซ้อนรถของมัน


"ไม่เป็นไร กูเดินไปได้ มึงกลับไปเหอะ"


"มึงนี่ดื้อจังวะ" ไอ้ตะวันว่าผมแล้วมันก็จอดรถ ก่อนที่จะลงมาจากรถแล้วเดินมาหาผม

ผมเห็นร่างสูงใหญ่ของมันเดินตรงเข้ามาหาก็เลยถอยหลังเตรียมหนี แต่ก็ไปชนกับคนคนนึง ผมก็เลยหันไปขอโทษ


"อุ้ย...!! ขอโทษครับ"


"ไม่เป็นไรครับ นายเป็นอะไรหรือเปล่า" คนที่ผมถอยหลังไปชนเอ่ยปากถามผม


"เฮ้ย ไอ้มิว เอามอไซค์กูกลับหอหน่อย กุญแจก็เอาไว้กับมึงเลยพรุ่งนี้ค่อยออกมาเรียนพร้อมกัน" ไอ้ตะวันบอกคนที่ชื่อมิวพร้อมกับส่งกุญแจรถไปให้ ไอ้มิวก็ทำหน้า งงๆ


"ส่วนมึง ไปกับกู" ไอ้ตะวันหันมามองผมแล้วก็เอาแขนยาวๆของมันมากอดคอผมพาเดินออกไปจากตรงนั้น



"เชี่ย มึงจะพากูไปไหนเนี่ย กูจะกลับหอ" ผมร้องขึ้นมาพร้อมกับขัดขืนไอ้คนถ่อย


"อยู่เฉยๆเถอะน่า ก็จะกลับหอไง"


"แล้วไมไม่เอามอไซค์กลับ ซ้อนสามก็ได้อ่ะ"


"เดินกลับได้อยู่กับมึงนานกว่า แล้วอีกอย่างกูไม่ชอบซ้อนสาม" ไอ้ตะวันก้มหน้ามากระซิบข้างๆหูของผม ทำเอารู้สึกเสียวแปลกๆ


"เดินดีๆ อย่าดื้อดิวะ อยากเจ็บตัวหรอ" ไอ้ตะวันคงรำคานที่ผมพยายามขัดขืนมัน มันก็เลยขู่ผม


"มึงจะทำไรกู" ผมเงยหน้าไปถามไอ้คนตัวสูง

มันก้มหน้าลงมามองผม แล้วทำหน้าเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้


"เออ มึงชื่ออะไรนะ" มันถามผมแล้วก็จับป้ายชื่อที่ผมคล้องคออยู่พลิกขึ้นมาดูด้านที่มีชื่อของผม


"คุณ" ไอ้ตะวันพูดชื่อผมออกมาแล้วมันก็ยิ้ม


"มึงนี่ ชื่อน่ารักดีเนอะ"


"อย่ามายุ่งกับชื่อกูเลย เอาแขนมึงออกไปจากกูได้ละ" ผมบอกมันแล้วก็พยายามแกะแขนมันที่กอดคอผมอยู่ แต่ไอ้ตะวันกลับกอดแน่นขึ้น


"เชี่ย ปล่อยกู อึดอัด เออ แล้วทีหลังอ่ะจะสูบบุหรี่ก็อย่าสูบนอกระเบียงได้ป้ะ กูตากผ้าไว้แม่งมีแต่กลิ่นบุหรี่" ผมต่อว่ามัน ไอ้ตะวันก็เงียบไป


"หิวว่ะ ไปกินข้าวกับกูได้ป้ะ" ไอ้ตะวันถามผม


"เอิ่ม ที่กูด่ามึงไปเมื่อกี้มึงไม่ได้สนใจเลยใช่ป้ะ" ผมคิดในใจแล้วก็มองหน้ามันที่กำลังรอคำตอบจากผม


"คิดนานจังวะ เอาเป็นว่ามึงต้องไปกินข้าวกับกู จะได้เข้าหอพร้อมกัน" ไอ้ตะวันบอกผมแบบมัดมือชก ผมก็จำยอมไปแบบปฏิเสธไม่ได้


ผมกับไอ้ตะวันเดินมาถึงย่านหอพักซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากคณะวิศวะมากนัก แถวๆนี้มีร้านของกินหลายร้านมาก ไอ้ตะวันพาผมไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยว คงเป็นร้านประจำของมัน เพราะแค่มันเดินเข้าไปคนขายก็ถามมันว่าเอาเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า มันก็พยักหน้าให้คนขายแล้วบอกว่าวันนี้เอาสองชาม

มันพาผมไปนั่งที่โต๊ะ ซักพักเส้นใหญ่เยนตาโฟร์ถ้วยใหญ่ก็มาเสิร์ฟ


"อะไรเนี่ย กูไม่กินนะ กินข้าวกล่องมาแล้ว" ผมรีบบอกมันเมื่อไอ้ตะวันเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวมาตรงหน้าผม


"ข้าวกล่องมีแค่นิดเดียว มึงไม่อิ่มหรอกน่า กินๆไปเหอะ ร้านนี้อร่อยนะกูแนะนำ เดี๋ยววันนี้กูเลี้ยงเอง เป็นการขอโทษที่กลิ่นบุหรี่จากห้องกูลอยไปติดเสื้อผ้าของมึง"


"ไหนมึงบอกกูว่าไม่สูบบุหรี่ไง" ผมถามมัน ไอ้ตะวันก็เงียบ ก้มหน้าก้มตากินก๋วยเตี๋ยวของมันไป


หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ไอ้ตะวันก็จ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้ผมตามที่มันบอกไว้ แล้วผมสองคนก็พากันเดินกลับหอ ตอนนี้ก็ตีหนึ่งกว่าๆแล้ว ง่วงนอนชิบ ดีนะที่พรุ่งนี้เป็นวันศุกร์มีเรียนบ่าย ตื่นสายได้


ผมกับไอ้ตะวันขึ้นมาบนห้อง ไอ้ตะวันหยุดอยู่ตรงหน้าห้องมัน ส่วนผมก็เดินผ่านมันไปที่ห้องของผม แต่อยู่ๆ มันก็หันมาดึงแขนของผมแล้วพาเข้าไปในห้องมัน ไอ้ตะวันปิดประตูห้องแล้วก็กดล๊อค ผมก็ตกใจกับการกระทำของมัน


"อ่ะ ดมซะ ห้องกูมีกลิ่นบุหรี่ซะที่ไหน"


"ก็ตอนนี้มึงไม่ได้สูบมันก็ไม่มีกลิ่นอ่ะดิ"


"ก็กูไม่สูบบุหรี่" ไอ้ตะวันบอกผม


"ถ้ามึงไม่สูบแล้วใครจะสูบ ห้องนี้มีมึงอยู่คนเดียวไม่ใช่หรอ"


"ผีสูบมั้ง"


พอไอ้ตะวันพูดคำว่าผี ผมก็เกิดความกลัวขึ้นมา เพราะผมเนี่ย กลัวผีโคตรๆ ไม่ว่าใครจะหลอกผีอะไรก็กลัวทั้งนั้น


"มึงไม่เคยได้ยินหรอ เรื่องผีอ่ะ คนที่เช่าห้องอยู่ก่อนมึงอาจจะตายไปแล้ว ตอนมีชีวิตอยู่ชอบออกไปยืนสูบบุหรี่ตรงระเบียง ก็เลยทำให้มีกลิ่นบุหรี่ติดเสื้อผ้ามึงไง"


"เหี้ยยยยย พอ หยุดพูด กูกลัว" ผมว่าไอ้ตะวัน พร้อมกับรู้สึกขนลุกแล้วก็ตัวสั่นขึ้นมา ไอ้ตะวันมองผมแล้วมันก็หัวเราะ


"อ่ะๆ กูไม่แกล้งมึงละ กลับไปห้องมึงเถอะ คงง่วงแล้วอ่ะดิ" ไอ้ตะวันเดินไปเปิดประตูห้องให้ผม แต่ผมก็ยังไม่ยอมออกไป เพราะกลัวเรื่องผีที่ไอ้ตะวันเล่าเมื่อกี้


"ออกมาดิ กูก็ง่วงแล้วจะได้อาบน้ำนอน" ไอ้ตะวันบอกผม


"เอ่อ กู..." ในใจผมอยากจะบอกว่าขอนอนห้องมัน แต่ก็ยังไงๆอยู่ เพิ่งจะรู้จักกัน ถ้าจะขอนอนด้วยก็คงแปลกๆ


"ยังไงครับ ถ้าไม่ออกมาก็นอนนี่เลยนะ" ไอ้ตะวันบอกผมพร้อมกับทำท่าจะปิดประตู ผมก็เลยรีบวิ่งออกไปจากห้องของมัน มันยิ้มให้ผมแล้วก็ปิดประตูไป ปล่อยผมให้ยืนอยู่คนเดียว ผมหันไปมองห้องตัวเองก็นึกถึงเรื่องที่ไอ้ตะวันเล่าเมื่อกี้ ก็กลัวไม่กล้าเปิดประตูห้อง



ก๊อกๆ...ก๊อกๆ


"ไอ้โตเกียว ไอ้ยู" ผมหันไปเคาะห้องไอ้สองคนนั้นเผื่อมันจะตื่นมาเปิดประตูให้ผม เคาะอยู่นานก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ ผมเลยโทรหามันสองคน เบอร์ไอ้ยู โทรติดแต่ไม่รับสาย ส่วนเบอร์ไอ้โตเกียวโทรไม่ติด


"เชี่ยเอ้ยยยย ทำไงดีวะ" ผมยืนงุ่นง่านอยู่หน้าห้อง เพราะความกลัวทำให้ไม่กล้าเข้าไปในห้อง บวกกับเริ่มง่วงแล้วด้วย



ก๊อกๆ


"ไอ้ตะวัน" ผมตัดสินใจเดินไปเคาะห้องไอ้ตะวัน เพราะเหลือมันแค่คนเดียวแล้วในเวลานี้


"มีไรอีกอ่ะ ยังไม่เข้าห้องอีกหรอ" ไอ้ตะวันเปิดประตูโผล่หน้ามาถามผม มันคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เพราะตอนนี้มันนุ่งแค่ผ้าขนหนูผืนเดียว ผมเปียก มีน้ำเกาะพราวอยู่บนตัวเต็มไปหมด


"เออ ก็มึงอ่ะหลอกผีกู กูกลัวไม่กล้าเข้าห้อง" ผมบอกไอ้ตะวัน มันก็หัวเราะออกมา


"เห๊อะ...มึงนี่นะ เด็กน้อยชิบ งั้นคืนนี้นอนห้องกูละกัน โอเคมะ รับรองหลับสบายไม่มีผี" ไอ้ตะวันบอกผม


"แล้วกูจะอาบน้ำยังไงอ่ะ"


"โอเค งั้นเดี๋ยวไปอาบที่ห้องมึง มึงอาบเสร็จก็มานอนห้องกู"


"คือ กูไม่กล้าเข้าห้องคนเดียว"


"เชี่ย กลัวผีขึ้นสมองเลยนะมึงเนี่ย ทำไมวะ กลัวจะมีใครมายืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้องหรอ"


"เชี่ย มึงก็ยังหลอกกูอีก"


"โอเคๆ งั้นเดี๋ยวกูใส่เสื้อผ้าแป้บ จะไปเฝ้ามึงอาบน้ำที่ห้อง" ไอ้ตะวันบอกผมแล้วมันก็จัดการใส่เสื้อผ้า ผมนั่งมองไอ้ตะวัน ในใจก็โคตรจะโกรธมันเลย




"เพราะมึงอ่ะ เล่าเรื่องผี กูเลยกลัวจนเข้าห้องไม่ได้" ผมด่าไอ้ตะวันในใจ


******************************



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตะวันแอบหลอกให้น้องคุณนอนด้วยแน่ ๆ แล้วตกลงใครสูบบุหรี่ คนห้องข้าง ๆ ถัดไปหรือเปล่า  o18

ออฟไลน์ Isunn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ตะวัน แววพระเอกมาเต็มที่เลยอ่ะ

ส่วนยู น่าจะเป็นได้แค่ตัวรอง :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สนุกกกกกก ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

คุณ ชอบยู  :mew1:
ยู เหมือนจะชอบคุณ
ตะวัน แปลกๆ คว้าคุณไปจูบเพราะหนึหญิง
หรือตะวัน จะชอบคุณจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7



Final Answer


ตอนที่.5 : เพราะเรื่องผีของตะวัน/2







"ป่ะ กูเสร็จเรียบร้อยละ มึงจะได้ไปอาบน้ำ" ไอ้ตะวันใส่เสื้อผ้าเสร็จก็หันมาบอกผม


ผมกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นไปมอง ไอ้ตะวันอยู่ในชุดบาสสีขาว โคตรดูดีเลย มันทำให้หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมา


ไม่ได้...เราจะรู้สึกแบบนั้นไม่ได้ ผมคิดในใจ เพื่อห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดเกินเลยกับไอ้ตะวัน


"อ่าว มองกูอยู่ได้จะไปอาบน้ำป้ะเนี่ย" ไอ้ตะวันเอามือมาผลักหัวผมเบาๆ ทำให้ผมตื่นจากภวังค์


"เอ้อ..เออๆ ไปๆ" ผมสะดุ้งแล้วก็พูดออกมา ไอ้ตะวันก็ขำกับท่าทางของผม


"เชี่ย มึงนี่นะเด็กน้อยชิบ ตาขาว กลัวผีขึ้นสมอง ฮ่าๆ" ไอ้ตะวันว่าผมแล้วก็เปิดประตูห้องออกไป ผมเดินตามมันออกมาแล้วก็เปิดประตูห้องของตัวเอง ไอ้ตะวันก็เดินตามผมเข้ามา


"ห้องมึงนี่เรียบร้อยชิบ กลิ่นก็หอม" ไอ้ตะวันพูดแล้วก็ก้มลงไปดมที่นอนของผม


"กู..ไปอาบน้ำก่อนนะ อย่าหนีกูนะ" ผมบอกไอ้ตะวัน แล้วก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ


ในขณะที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่     


พรึ่บ.....!!!!


กรี๊ดดดดดดดดดดด..... เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาในใจ เพราะอยู่ๆไฟห้องน้ำก็ดับ


"เชี่ยยย เปิดไฟ ไอ้ตะวันมึงอย่าแกล้งกู" ผมตะโกนด่าไอ้ตะวัน ได้ยินเสียงมันหัวเราะลั่นห้อง ซักพักไฟก็เปิด ผมก็เลยรีบอาบน้ำ เพราะกลัวว่ามันจะแกล้งอีก


ผมแต่งตัวเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ ไอ้ตะวันมันหายไป...!!



"ตะวัน"



"ตะวัน มึงอยู่ไหน"



ผมเรียกหาไอ้ตะวัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากมัน เปิดประตูออกไปดูที่ระเบียงก็ไม่เจอมัน ชะโงกหน้าไปดูที่ห้องของมันไฟก็ยังดับอยู่ แล้วมันหายไปไหนวะเนี่ย ผมพึมพำออกมา แล้วก็หันหลังกลับเข้ามาในห้อง



พรึ่บ.....!!



ไฟดับอีกครั้ง ทำเอาผมสะดุ้ง แล้วก็ร้องออกมา


""เฮ้ย...."



"แฮร่....."



ไอ้ตะวันเอาไฟฉายส่องใต้คางของมัน ทำเอาผมตกใจที่อยู่ๆมันก็โผล่มา



"เชี่ยยยย ฮือออออออ ไม่เอา อย่าเล่นงี้ดิ กูกลัว" ผมทรุดตัวลงนั่ง เอามือปิดหน้า ตัวสั่นเพราะความกลัว


"อย่าแกล้งดิ กูกลัว ฮือออออ" ผมเอาแต่นั่งกอดเข่าก้มหน้า ตัวสั่น


แล้วก็รู้สึกว่ามีคนดึงตัวผมเข้าไปกอด


"ไอ้คุณ กูขอโทษ เชื่อละว่ามึงกลัวผีจริงๆ กูไม่แกล้งมึงละ ไม่ต้องกลัวนะ"


มือที่ลูบหัวของผมเบาๆ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้น


"กลัวจนตัวสั่นเลยหรอ กูขอโทษ จะไม่แกล้งมึงอีกแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ ป่ะ ขึ้นไปนอน" ไอ้ตะวันบอกผมด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยน มันพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นแล้วพาเดินไปที่เตียง


ผมนั่งลงบนเตียงแล้วก็เงยหน้าไปมองไอ้ตะวันที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม มันเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเบาๆ


"ตาขาวจริงๆเลยมึงเนี่ย" ไอ้ตะวันว่าผม


"มึงกลับห้องมึงไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกู" ผมปัดมือไอ้ตะวันออกไป แล้วก็ว่ามัน มันก็ทำหน้าตกใจ


"กูไป แล้วมึงจะอยู่ยังไง จะนอนยังไง"


"กูนอนได้ มึงกลับไปเลย แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก" ผมบอกมัน แล้วก็ลุกขึ้นยืน ผลักตัวมันให้ออกไปจากห้อง


ไอ้ตะวันเอาสองมือของมันมาจับไหล่ผมไว้


"ไอ้คุณ ใจเย็นๆ กูก็ขอโทษมึงแล้วไง อย่าโกรธกูดิ เอางี้ กูจะนอนเป็นเพื่อนมึงจนกว่ามึงจะหลับ พอมึงหลับปุ้บ กูก็จะกลับห้อง ไม่นอนกับมึงที่นี่หรอก" ไอ้ตะวันบอกผม แล้วก็เดินไปปิดไฟ


"ป่ะ ขึ้นเตียงนอนนะ"


 ไอ้ตะวันปิดไฟเสร็จก็เดินตรงเข้ามาหาผม จูงมือผมไปที่เตียงนอน มันกดไหล่ผมให้นั่งลงบนเตียง ผมก็ขยับตัวขึ้นไปนอน ไอ้ตะวันก็ตามขึ้นมานอนข้างๆผม มันเอาหมอนข้างมากั้นระหว่างผมกับมัน


"อ่ะ กูเอาหมอนข้างกั้นก็ได้ มึงนอนไปเลย ถ้ามึงหลับกูจะกลับห้องทันทีไม่ต้องห่วงว่าจะอยู่ให้มึงรำคาน" ไอ้ตะวันบอกผม แล้วมันก็เงียบไป

ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มแล้วก็ปัดผ้าห่มไปทางไอ้ตะวัน


"อ่ะ จะห่มผ้าก็ห่มนะ ถ้าหนาว" ผมบอกมันแล้วก็พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้มัน


เวรกรรมอะไรที่ผมต้องมาเจอคนอย่างไอ้ตะวันด้วยก็ไม่รู้ เจอกันครั้งแรกผมก็เสียจูบให้มันเลย เฮ้อ.....!!

.
.
.
.
.

ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนเจ็ดโมงเช้า พร้อมกับกระดาษโน้ตที่แปะอยู่บนหน้าผากของผม


"กูออกจากห้องมึงตอนตีสี่ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ ไอ้ตาขาว From ตะวัน"


"เชี่ย" ผมพูดออกมาเบาๆ ไอ้ตะวันแม่งเขียนโน้ตแปะหน้าผากผม


ตืดดดดด.....ตืดดดดดดดดดดด


โทรศัพท์ผมสั่น เป็นไอ้ยูที่โทรเข้ามา พร้อมๆกับเสียงเคาะประตูห้องของผม


ก๊อก....ก๊อก


"ไอ้คุณ....ไอ้คุณ มึงตื่นยัง" เสียงไอ้โตเกียวเคาะประตูถามผม


เฮ้อ..แม่ง อีกคนนึงก็โทรมา อีกคนก็มาเคาะประตูเรียก เอาไงดีวะ ผมเลือกกดตัดสายไอ้ยูทิ้ง แล้วเดินไปเปิดประตู เจอไอ้โตเกียวยืนอยู่หน้าห้อง


"มีไร มาเรียกกูแต่เช้า" ผมถามไอ้โตเกียว


"มึงแหล่ะ มีไรโทรมาหากูเมื่อคืน โทดทีว่ะกูหลับ โคตรเพลียอ่ะเมื่อวาน โทรศัพท์ก็แบตหมด" ไอ้โตเกียวบอกผม


"เออ ไม่มีไรหรอก แล้วนี่ไอ้ยูตื่นยัง"


"ไอ้ยูลงไปซื้อโจ๊กมั้ง มันบอกว่าจะโทรหามึงอ่ะ"


"อ่าวหรอ กูนึกว่าอยู่ด้วยกัน เลยตัดสายทิ้งไป" ผมบอกไอ้โตเกียวแล้วก็ รีบกดโทรศัพท์หาไอ้ยู แต่ก็ไม่ทันแล้ว ไอ้ยูเดินมาหยุดตรงหน้าห้องผม ในมือของมันถือถุงโจ๊กแล้วก็น้ำเต้าหู้เหมือนเช่นเคย


"กินที่ห้องมึงได้ป้ะ" ไอ้ยูถามผม


"อือ ได้ๆ เข้ามาดิ" ผมบอกไอ้ยู แล้วก็หลีกทางให้ไอ้สองคนนั้นเข้ามาในห้อง


ไอ้ยูเอาชามมาใส่โจ๊กให้ผมกับไอ้โตเกียว แล้วผมสามคนก็นั่งกินโจ๊กด้วยกัน


"เมื่อคืนขอโทษนะ เหนื่อยมาก ถึงห้องก็หลับเลยไม่รู้ว่ามึงโทรมาหา" ไอ้ยูเอ่ยปากขอโทษผม


"อือ ไม่เป็นไร ไม่มีไรหรอก"


"ต้องมีสิ ไม่งั้นจะโทรมาหาทำไมดึกขนาดนั้น แล้ววิดวะเลิกซ้อมดึกเลยหรอ" ไอ้ยูถามผม


"อือ เลิกซ้อมตอนห้าทุ่มอ่ะ วันนี้เขามีแข่งแมตแรก เลยซ้อมกันดึก แล้วมึงอ่ะยังไม่มีแข่งหรอ" ผมถามไอ้ยู


"วันจันทร์อ่ะ เจอคณะถาปัด ไปเชียร์ด้วยนะ"


"ก็ต้องไปอยู่แล้วป้ะ ยังไงกูก็ต้องไปเป็นสตาฟพยาบาลที่สนามแข่งแหล่ะ" ผมบอกไอ้ยู มันก็พยักหน้า


"ไอ้คุณ วิดวะเป็นไงบ้างวะ เก่งป้ะ" ไอ้โตเกียวถามผม


"ก็...โอเคนะ ซ้อมเป็นระบบดี ทีมเวิร์กโคตรดี มีแต่คนตัวสูงๆใหญ่ๆ"


"คู่ปรับตลอดกาลของคณะเรา" ไอ้ยูพูดขึ้น


"จริงง่ะ"


"อือ รุ่นพี่บอกมาว่าทีมบาสชายคณะเกษตรกับวิดวะเข้าชิงตลอด ผลัดกันแพ้ชนะมาตลอด ปีที่แล้วเราชนะ ปีนี้ต้องรักษาแชมป์ให้ได้เลย" ไอ้ยูพูดด้วยน้ำเสียงและสายตาที่มุ่งมั่น


"เออ ขอให้ชนะนะ ทำให้เต็มที่หล่ะ กูเป็นกำลังใจให้" ผมบอกไอ้ยู ไอ้ยูก็หันมายิ้มแล้วพยักหน้าให้ผม


"เออ ไอ้ยู วันนี้เรียนเสร็จมึงจะมาดูวิดวะแข่งป้ะหล่ะ กูกับไอ้คุณจะได้มาเป็นเพื่อน"


"เออ ก็ดีเหมือนกัน แต่ต้องดูก่อนว่ารุ่นพี่จะเรียกซ้อมหรือเปล่า"


"อ่อ เออๆ โอเค ถ้ามึงต้องซ้อมกูก็ต้องไปเป็นสตาฟพยาบาลประจำสนาม ไอ้คุณ งั้นมึงไปดูวิดวะแข่ง แล้วมาเล่าให้พวกกูฟังบ้างนะ ไอ้ยูจะได้รู้ว่าฟอร์มวิดวะเป็นยังไง" ไอ้โตเกียวบอกผม


"แหม่ มึงนี่นะ ฉลาดขึ้นมาทันทีเลยนะครับ ไอ้โตเกียว เออ เดี๋ยวกูจะไปดูแล้วจะจดจำทุกรายละเอียดเลย" ผมบอกไอ้โตเกียว ไอ้ยูก็หัวเราะกับคำพูดของผม


หลังจากที่พวกผมสามคนกินโจ๊กกับน้ำเต้าหูเสร็จ ผมก็เอาการบ้านออกมาทำ ไอ้ยูก็กลับไปที่ห้อง ส่วนไอ้โตเกียวก็ยังนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของผม รอเอาการบ้านไปลอก จริงๆไอ้โตเกียวมันเรียนเก่งนะครับ แต่เสือกขี้เกียจ ฮ่าๆ


ได้เวลาออกไปเรียนตอนบ่าย พวกผมก็ลงไปกินข้าวกันที่ร้านใต้หอ ที่ร้านข้าวผมได้เจอกับไอ้ตะวันอีกครั้ง มันเดินออกมาจากร้านข้าวพอดี พอเห็นผมมันก็เรียกชื่อผม


"ไอ้คุณ มีเรียนบ่ายหรอครับ"


"อือ มึงอ่ะ"


"เรียนบ่ายเหมือนกัน เออ ตอนเย็นมึงว่างป้ะ ถ้าว่างไปดูกูแข่งบาสดิ"


"ก็ว่างนะ มึงแข่งสนามไหนอ่ะ แข่งกะคณะไรวะ"


"แข่งกับวิดยา ที่สนามเมื่อวานแหล่ะ"


"สรุปว่า ข้อเท้ามึง..."


"กูไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย" ไอ้ตะวันตอบผมพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่


"เหี้ย แล้วก็หลอกให้กูนวดให้นะมึง" ผมด่ามัน ไอ้ตะวันก็ยิ้มๆ


"เออ ไอ้คุณ กูขอไลน์มึงได้ป้ะ เบอร์โทรก็ได้"


"อือ ได้ๆ"


ผมกำลังจะจดไอดีไลน์กับเบอร์โทรให้ไอ้ตะวัน อยู่ๆ ไอ้ยูก็เดินมากอดคอผม


"ข้าวได้ละ รีบไปกินจะได้ไปเรียน" ไอ้ยูพูดแล้วก็กอดคอพาผมเดินไปที่โต๊ะกินข้าวในร้าน ผมเห็นไอ้ยูหันกลับไปมองไอ้ตะวัน ไอ้ตะวันก็ทำหน้าเหวอๆไป


"มัวแต่คุยกันอยู่ได้ ข้าวมึงได้ตั้งนานละ" ไอ้ยูว่าผม


ผมหันไปมองไอ้โย่งดวงตาสีน้ำตาลที่กำลังกอดคอผมอยู่ สีหน้าของมันนิ่งเฉย
.
.
.
.
.

เมื่อกี้ มึง....ประกาศสงครามกับไอ้ตะวันใช่มั้ย ไอ้ยู....!!


******************************



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ว้าวววววว ตกลงทั้งคู่ชอบคุณเข้าให้แล้ว อยู่ที่คุณแล้วล่ะจะชอบใคร  :m17:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7


Final Answer



ตอนที่.6 : น้ำแดงโซดาของตะวัน



"เฮ้อ...วันนี้โชคดีชิบ ได้ไปเป็นสตาฟพยาบาลสนามเดียวกับมึง" ไอ้โตเกียวพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมา พลางเอาแขนยาวๆของมันมากอดคอผม


"อือ ก็ดี กูจะได้มีเพื่อนกลับหอ" ผมหันไปบอกมัน ไอ้โตเกียวก็พยักหน้าให้ผม


"เออ แล้วไอ้ยูหล่ะ ซ้อมป่ะวันนี้"


"ไม่รู้เลยว่ะ  อ่าว..นั่นไง เดินมานั่นละ ไอ้ห่านี่ตายยากชิบ" ไอ้โตเกียวบอกผมพร้อมกับชี้มือไปที่ไอ้ยู ที่กำลังเดินมาทางที่ผมกับไอ้โตเกียวยืนอยู่


ไอ้ยูแยกจากกลุ่มเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน มันเดินมาหาผมกับไอ้โตเกียว


"วันนี้มึงสองคนไปสนามไหน" ไอ้ยูถามผมกับไอ้โตเกียว


"สนามบาสวิศวะอ่ะ กูกับไอ้คุณได้ไปประจำทีมบาสชายวิดวะ" ไอ้โตเกียวตอบไอ้ยู ไอ้ยูก็ทำสีหน้านิ่งๆ


"อือ กูก็จะไปดูเหมือนกัน รุ่นพี่บอกว่าให้ไปดูฟอร์มการเล่นของวิศวะแล้วค่อยกลับมาซ้อมตอนสองทุ่ม"


"โห ซ้อมสองทุ่มแล้วเลิกกี่โมงวะ" ผมถามไอ้ยู


"ก็ห้าทุ่มมั้ง ประมาณนั้น"


"งั้น กูก็ต้องมาประจำสนามตอนมึงซ้อมอ่ะดิ" ไอ้โตเกียวถามไอ้ยู


"ไม่รู้ว่ะ อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้"


"เออๆ รอพี่เค้าบอกอีกทีละกัน เอางี้ เดี๋ยวสรุปงานสตาฟพยาบาลเสร็จ กูจะไปที่สนามบาส รอกลับหอเป็นเพื่อนมึงไงไอ้ยู" ไอ้โตเกียวบอกไอ้ยู


"ไม่ต้องมารอกูหรอกมันดึก กูกลับได้ เพื่อนๆในทีมก็อยู่หอแถวนั้นหลายคน มึงจะได้พักผ่อน"


"ก็ดูสถานการณ์อีกทีละกัน ถ้าไม่เหนื่อยมากกูกับไอ้คุณจะไปรอมึง สู้ๆเว้ย แชมป์ต้องเป็นของคณะเรา" ไอ้โตเกียวพูดแล้วก็ตบไหล่ให้กำลังใจไอ้ยู มันก็พยักหน้าให้


"เฮ้ย เครป อยากกินอ่ะ" ผมเดินมาถึงตรงหน้าประตูทางเข้าคณะวิศวะ เห็นรถพ่วงข้างมาจอดขายเครปอยู่ก็นึกอยากกิน รุ่นพี่สตาฟพยาบาลนัดที่สนามตอนห้าโมงเย็น นี่เพิ่งจะสี่โมงครึ่ง แวะซื้อเครปก่อนก็ทัน ผมคิดในใจ


"เอาดิ กินป่ะ ยังทันรุ่นพี่นัดตั้งห้าโมง" ไอ้โตเกียวบอกผม ผมก็พยักหน้าให้มัน แล้วก็พากันเดินไปที่ร้านเครป


"คุณลุงครับ ผมเอาไข่ ปูอัดแล้วก็หมูหยอง ราดมายองเนสอย่างเดียวครับ" ผมสั่งเครปกับคุณลุงคนขาย ไอ้โตเกียวกับไอ้คุณก็สั่งด้วย


"เออ ไอ้คุณ ไอ้คนที่มึงยืนคุยด้วยที่ร้านข้าวใต้หอมันคือใครวะ แล้วมึงไปรู้จักกับมันได้ยังไง" ไอ้โตเกียวหันมาถามผม แล้วก็ดูเหมือนว่าไอ้ยู ก็คงอยากรู้ด้วยเหมือนกัน เพราะผมเห็นมันหันหน้ามามองตอนที่ไอ้โตเกียวถามผม


"เอ่อ มัน..." ผมอึกอัก ไม่รู้ว่าจะตอบมันยังไง เพราะการเจอกันครั้งแรกของผมกับไอ้ตะวันไม่ค่อยจะน่าจดจำมากนัก


"มันเป็นใคร" ไอ้ยูถามผมเสียงเข้ม ทำเอาไอ้โตเกียวถึงกับทำหน้าเหวอไป


"มันชื่อตะวัน อยู่หอเดียวกับเรานั่นแหล่ะ" ผมบอกไอ้สองคนนั้นไป


"แล้วมึงกับมันรู้จักกันได้ยังไง" ไอ้โตเกียวถามจี้ผมอีก


"มึงจะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย"


"ไอ้คุณ บอกกูมา" ไอ้โตเกียวทำเสียงเข้มใส่ผม


"ก็รู้จักตอนมาเป็นสตาฟพยาบาลให้วิดวะอ่ะ"


"อ่อ มันเป็นนักบาสหรอ ถึงว่า หุ่นแม่งได้ สูงยาวเข่าดี เสือกหล่ออีก" ไอ้โตเกียวพูดแล้วก็หัวเราะ


"หรือว่า นั่นจะเป็นเพื่อนเขยกูวะ ไอ้คุณ ฮ่าๆ" ไอ้โตเกียวแซวผมแล้วก็หัวเราะ


"ไร้สาระ" เสียงไอ้ยูพูดแทรกขึ้นมา ทำเอาไอ้โตเกียวหยุดหัวเราะแทบไม่ทัน รวมทั้งผมเองด้วยที่ต้องหันไปมองมัน ไอ้ยูมองสบตากับผม จนผมต้องเป็นฝ่ายหันหน้าหนีมันซะเอง



ผมสามคนเดินเข้าเขตคณะวิศวะ ได้ยินเสียงกลองดังมาแต่ไกล คงเป็นเสียงกลองจากสนามกีฬานั่นแหล่ะ วันนี้มีแข่งหลายชนิดกีฬา ซึ่งก็จะใช้สนามกระจายๆกันไปในแต่ละคณะ ผมเดินไปถึงสนามก็แยกกับไอ้ยูเพื่อไปทำหน้าที่สตาฟพยาบาล ส่วนไอ้ยูก็ไปรวมกับเพื่อนๆในทีมบาสของมันที่มาคอยดูฟอร์มการเล่นของคณะวิศวะ ผมเอากระเป๋ายาไปวางตรงที่เขาจัดไว้ให้สตาฟพยาบาล วันนี้มีผมกับไอ้โตเกียวแล้วก็พี่ป๊อบปีสองมาทำหน้าที่สตาฟพยาบาลให้กับทีมบาสชายวิศวะครับ


พี่โปเต้ เป่านกหวีดเรียกนักกีฬามายืนเรียงแถวตรงหน้าพวกผม แล้วทุกคนก็กล่าวขอบคุณพวกผม


"ขอบคุณสตาฟพยาบาลนะครับที่มาดูแลพวกเรา"


"ไม่เป็นไรครับ สู้ๆนะครับ" ผมบอกกับทีมนักกีฬา แต่ไม่ยักจะเห็นไอ้ตะวันเลย ไหนมันบอกผมว่าลงแข่งวันนี้ไง


"น้องคุณครับ" มีเสียงเรียกผม ผมหันไปก็ปรากฏว่าเป็นพี่โปเต้ โค้ชของทีมวิศวะนั่นเองที่เรียกผม เห็นคนที่โคตรจะหล่อยืนอยู่ตรงหน้าแล้วหัวใจมันก็เต้นแรง


"ครับพี่โปเต้ สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้สวัสดีเมื่อรู้ว่าเป็นพี่โปเต้


"เฮ้ย เรารู้จักชื่อพี่ด้วยหรอเนี่ย" พี่โปเต้ถามผมแกมหัวเราะ รอยยิ้มทำให้พี่แกโคตรหล่ออ่ะ


"ก็เห็นที่ป้ายชื่อเมื่อวันก่อนอ่ะครับ วันที่พี่ซ้อมกันวันแรก"


"อ่อ อืม พี่จะมาบอกว่า มีน้ำกับขนม เดินไปหยิบกินได้เลยนะครับตรงโต๊ะสวัสดิการ ไม่ต้องเกรงใจนะ เราอุตส่าห์มาช่วยดูแล"


"ขอบคุณครับพี่ มันเป็นหน้าที่ของสตาฟพยาบาลอยู่แล้วครับ"


"ผ้าพันคอเบี้ยวแล้ว มาพี่จัดให้ใหม่นะครับ" พี่โป้เต้บอกผมแล้วก็เอาสองมือมาจับไหล่ผมดึงตัวเข้าไปหา พร้อมกับเอามือมาจัดผ้าพันคอของผมให้เรียบร้อย ผมรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของพี่แกที่พ่นลงบนหัวของผม แถมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่หอมอ่อนๆจากเสื้อผ้าของแกด้วย


"ไอ้ข่ะ..คุณ...น่ะ...น้ำาา" ไอ้โตเกียวเดินเอาน้ำมาให้ผม มันเรียกผมเสียงตะกุกตะกัก คงจะเห็นตอนที่พี่โปเต้กำลังจัดผ้าพันคอให้ผมอยู่


"ขอบคุณครับพี่" ผมขอบคุณพี่โปเต้แล้วก็เดินไปหาไอ้โตเกียว


"เชี่ย ใครวะไอ้คุณ มึงนี่เสน่ห์แรงเหมือนกันนะเนี่ย"


"เสน่ห์แรงเชี่ยไร พี่เค้าชื่อโปเต้ เป็นโค้ชบาสวิดวะ"


"อ่อ แต่ ใครหล่อๆเข้าใกล้มึงกูก็คิดไว้ก่อนแหล่ะ" ไอ้โตเกียวบอกผม


"พอเลยมึง ไร้สาระ" ผมว่าไอ้โตเกียว แล้วก็เดินหนีมันออกมา


"ไร้สาระ อีกแล้วหรอวะ" ไอ้โตเกียวพึมพำแล้วก็เดินตามผมมา พี่ป๊อบให้ผมกับไอ้โตเกียวเช็คยาในกระเป๋าอีกครั้ง แล้วก็ให้พักผ่อน รอเวลาที่การแข่งขันจะเริ่ม


ตอนนี้ในสนามก็เริ่มมีคนมารอเชียร์เยอะแล้ว ทั้งทางฝั่งของวิศวะเองแล้วก็ฝั่งคณะวิทยาศาสตร์ก็ขนกองเชียร์มาเยอะเหมือนกัน เพราะเป็นการแข่งขันรอบแรก

ผมเดินออกไปหาไอ้ยูที่ยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆนักบาส


"ไง ไอ้คุณสาวๆกรี้ดเยอะนะ สตาฟพยาบาลโคตรหล่อ" เพื่อนผู้ชายเอ่ยปากแซวผม


"ใครกรี้ด ไม่เห็นจะมีใครกรี้ดกูเลย สตาฟพยาบาลไม่เท่ห์เท่านักบาสหรอกมั้ง ฮ่าๆ" ผมบอกเพื่อน พวกมันก็หัวเราะกัน


"ไอ้คุณ ไอ้กรมันก็พูดถูกนะ ตอนมึงสะพายกระเป๋ายาเดินไปในสนาม มีแต่คนฮือฮา ยิ่งไอ้โตเกียวเดินตามไปด้วยนะ แม่ง หล่อคูณสอง สตาฟพยาบาลคณะเราแม่งเจ๋งจริงว่ะ ฮ่าๆ"


"เออๆ พวกมึงก็นะแซวกันเองอยู่ได้ มาดูบาสก็ดูบาสนะ ไม่ใช่มัวแต่เหล่สาวๆจนไม่ได้งาน" ผมว่าไอ้พวกมันแล้วก็เดินออกมากะว่าจะไปซื้อน้ำ ไอ้ยูก็ตามผมออกมา


"มึงจะไปไหน" ไอ้ยูถามผม


"ซื้อน้ำ"


"ไปด้วย" ไอ้ยูพูดแล้วก็เดินตามผมมา


เสียงโทรศัพท์ผมดัง แม่โทรมา ผมก็เลยรับสายแม่


"ไอ้ยู ฝากซื้อน้ำแดงโซดาหน่อยดิ แม่โทรมาว่ะ" ผมบอกไอ้ยูมันก็พยักหน้าให้ แล้วผมก็เดินกลับมายืนคุยโทรศัพท์กลับแม่ ตรงข้างๆอัฒจรรย์ฝั่งวิศวะ

ผมคุยกับแม่เสร็จก็ยืนรอไอ้ยูเอาน้ำมาให้ ในสนามนักบาสก็ลงไปวอร์มกันอยู่ ซักพัก ไอ้ยูก็เดินเอาน้ำมาให้ผม


พลั่ก.....!!


อยู่ๆก็มีลูกบาสพุ่งเข้ามาใส่แก้วน้ำตอนที่ผมกำลังรับน้ำจากไอ้ยู ทำให้แก้วน้ำหล่นไปที่พื้น อดกิน...


"เชี่ย..ใครวะ" ผมร้องออกมา ไอ้ยูเองก็ตกใจ มันหันหน้าไปมองในสนาม


ไอ้ตะวันวิ่งออกมา พร้อมกับพูดขอโทษผมกับไอ้ยู


"อ้าว ไอ้คุณ ขอโทษนะพอดีลูกบาสหลุดมืออ่ะ เดี๋ยวพาไปซื้อใหม่" ไอ้ตะวันบอกผม แล้วมันก็หันหน้าไปมองไอ้ยู


"ไม่เป็นไร จะเริ่มแข่งละ มึงกลับไปที่สนามเหอะ" ผมบอกไอ้ตะวัน แล้วก็ดึงแขนไอ้ยูออกมาจากตรงนั้น ตอนแรกไอ้ยูก็ขืนๆ เพราะจะเอาเรื่องกับไอ้ตะวัน เบื้องหลังของผมกับไอ้ยู ไอ้ตะวันมีรอยยิ้ม..!!


"กูรู้แม่งตั้งใจ ไม่ใช่หลุดมือหรอก" ไอ้ยูบอกผม


"เออ น่า จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ช่างมันเหอะ ซื้อใหม่ก็ได้" ผมบอกไอ้ยู แล้วก็เดินไปส่งมันที่กลุ่มเพื่อน ส่วนผมก็กลับไปประจำที่


นักกีฬาลงสนามไปแล้ว ไอ้ตะวันยังไม่ได้ลง มันนั่งเป็นตัวสำรองอยู่ข้างๆสนามใกล้ๆกับกระเป๋าพยาบาลของผม ไอ้โตเกียวกับพี่ป๊อบก็นั่งคุยกันอยู่


"สตาฟพยาบาลครับ ขอยานวดหน่อยครับ" ไอ้ตะวันเข้ามาขอยานวดกับผมทันทีที่ผมเดินไปนั่งตรงกระเป๋ายา


"คนอื่นก็อยู่ ทำไมไม่มาขอ"


"ก็รอมึงมา" ไอ้ตะวันบอกผมพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่ แต่ผมไม่ขำด้วย ผมจ้องมันกลับพร้อมกับส่งยานวดให้มัน


"นวดให้ด้วยตรงข้อมือ" มันบอกผมพร้อมกับยื่นแขนมาให้


"เดี๋ยวเรียกเพื่อนมานวดให้นะ ปวดฉี่ว่ะ" ผมบอกไอ้ตะวัน พร้อมกับเรียกไอ้โตเกียวมานวดให้มันแทนผม ไอ้ตะวันทำหน้าเสีย


"เชี่ยคุณ กูอยากให้มึงนวดให้"


"เพื่อนกูนวดก็เหมือนกูนวดนั่นแหล่ะ อย่าเรื่องมากดิ" ผมบอกไอ้ตะวันแล้วก็เดินออกมา ปล่อยมันโดนไอ้โตเกียวนวดไป โดยที่ไม่รู้เลยว่า ไอ้ตะวันมันเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เมื่อมันรู้ว่าไอ้โตเกียวกับผมเป็นเพื่อนกัน มันเลยล้วงถามข้อมูลทุกอย่างของผมจากไอ้โตเกียว ไอ้เพื่อนผมก็พาซื่อ เค้าถามอะไรแม่งก็บอกหมด เฮ้อ........


ผมไปเข้าห้องน้ำกลับมา ไอ้ตะวันก็ลงสนามไปซะแล้ว


"ไอ้คุณ ไอ้ตะวันนี่แม่งก็ดีเนอะ ดูดิแม่งเอาขนมมาให้เพียบเลย" ไอ้โตเกียวบอกผม พร้อมกับถุงขนมกองโตตรงหน้า


"มึงนี่ก็เนอะ ใครเอาของกินมาให้ก็ดีหมดแหล่ะ" ผมว่าไอ้โตเกียวมันก็หัวเราะ


ระหว่างการแข่งขัน ทุกครั้งที่ไอ้ตะวันได้จับลูกบาส จะมีเสียงกรี้ดเยอะมาก แม่ง ป๊อบปูล่าจริงๆ ผมเห็นมีคนแอบถ่ายรูปมันเยอะมาก ก็แม่ง ขาว สูง หล่อ แถมวันนี้ใส่ชุดบาสสีขาว แม่งยิ่งสว่างออร่าขึ้นไปอีก


จบการแข่งขันบาสเกตบอลชายระหว่างคณะวิศวะกับคณะวิทยาศาสตร์ ปรากฏว่าคณะวิศวะเป็นฝ่ายชนะไป 80-65 คะแนน ผมก็เข้าไปแสดงความยินดีกับไอ้ตะวัน แล้วก็เก็บของเตรียมกลับคณะไปสรุปงาน


"ขอบคุณนะคะสตาฟพยาบาลเกษตรที่มาช่วยดูแลนักบาสของเรา" พี่ผู้หญิงเข้ามามาขอบคุณพวกผม


"ไม่เป็นไรครับพี่ ยินดีครับ" ไอ้โตเกียวบอกพี่เค้าไป


ผมกลับมาสรุปงานที่ห้องชมรม เสร็จแล้วก็จะกลับหอ วันนี้ต้องกลับคนเดียว เพราะไอ้โตเกียวโดนให้ไปประจำสนามบาสของคณะต่อเพราะทีมบาสชายคณะเกษตรจะทำการซ้อมต่อตอนสองทุ่ม


ผมแยกกับไอ้โตเกียว ก็เดินกลับหอพร้อมเพื่อนๆสตาฟพยาบาลที่อยู่หอใกล้ๆกัน เพื่อนๆชวนผมกินข้าว แต่ผมยังไม่รู้สึกหิวก็เลยปฏิเสธไป แต่ก็ยังคงเดินดูของกินอื่นๆที่ขายอยู่ตรงริมทางรถไฟแถวๆหอ


อยู่ๆก็มีคนมากอดคอผม ผมหันไปก็ปรากฏว่าเป็นไอ้ตะวัน


"เชี่ย ตกใจหมด" ผมว่ามันพร้อมกับจับแขนมันที่กอดผมออกไป


"กอดคอแค่นี้ไม่ได้ หวงตัวชิบ" ไอ้ตะวันว่าผมแล้วก็เอื้อมแขนมากอดคอผมอีกครั้ง ผมก็เอามือจับแขนมัน


"อยู่นิ่งๆดิวะ ไปกับกู" ไอ้ตะวันบอกผม พร้อมกับกอดคอพาผมเดินไป


"มึงจะพากูไปไหน" ผมถามมันพร้อมกับทำท่าทางขัดขืน จนคนที่นั่งกินข้าวอยู่แถวๆนั้นหันมามองผมกับไอ้ตะวัน


ไอ้ตะวันไม่ตอบผม มันเงียบ แล้วก็พาผมมายืนตรงหน้าร้านน้ำ



"ก็จะชดใช้น้ำแดงโซดาที่ทำของมึงหกไง ยังไม่ได้กินไม่ใช่หรอ"


"เออ นี่มึงตั้งใจใช่มะ" ผมถามพร้อมกับจ้องหน้ามัน ไอ้คนตัวสูงก้มมามองผมพร้อมกับยักคิ้ว แล้วพยักหน้ายอมรับว่ามันตั้งใจแกล้งผม


"ไอ้เลว" ผมว่ามันแล้วก็เดินหนีมันออกมา


"เดี๋ยวก่อนดิ ใจเย็นดิวะ กูก็พามาซื้อคืนให้แล้วนี่ไง ขอโทษ" ไอ้ตะวันบอกผมพร้อมกับดึงแขนผมไว้


"อร้ายยย ตะวัน ใครน่ะจับมือถือแขนกันด้วย" เสียงเพื่อนผู้หญิงของไอ้ตะวันแผดขึ้นพร้อมกับยืนมองผมกับไอ้ตะวัน


ผมได้จังหวะนี้ก็เลยสะบัดแขนไอ้ตะวันจนหลุดเป็นอิสระแล้วก็วิ่งข้ามถนนกลับเข้าหอ ผมเข้าไปนั่งที่ร้านข้าวเพื่อสั่งข้าวกิน ในใจก็ภาวนาอย่าให้ไอ้ตะวันตามมา


แต่มันก็ตามมาจนได้ ไอ้ตะวันวางแก้วน้ำแดงโซดาตรงหน้าผม


"อ่ะ กูซื้อมาชดใช้ละนะ หวังว่าคงจะอร่อยกว่าไอ้น้ำเต้าหู้ที่มึงชอบกินนะ" ไอ้ตะวันบอกผมแล้วก็เดินออกไปจากร้านข้าว ผมก็มองตามมันไปด้วยความ งงๆ


มึงรู้ได้ไงว่ากูชอบกินน้ำเต้าหู้...ไอ้ตะวัน   ผมคิดในใจ



*****************************


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2018 11:41:25 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นั่นนะซิ รู้ได้ไงว่าชอบน้ำเต้าหู้ หรือว่าตะวันจะแปลงร่างเป็นจิ้งจกเกาะผนังไปแอบฟัง  :hao3:

ออฟไลน์ NC Wanted

  • NC Wanted
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ ฟูจิซัน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +153/-7



Final Answer



ตอนที่.7 : เกือบไปแล้ว





 ผมกินข้าวเสร็จ ดูนาฬิกาตอนนี้ก็ราวๆ4ทุ่มกว่า ไม่รู้ว่าพวกไอ้โตเกียวไอ้ยูจะซ้อมบาสกันเสร็จหรือยัง เลยโทรศัพท์หาไอ้โตเกียว เผื่อว่ามันจะให้ซื้อข้าวไว้ให้กิน มันก็ไม่รับสาย ผมเลยเดินขึ้นห้อง เปิดประตูระเบียงออกไปจะเอาผ้าขนหนูเพื่ออาบน้ำ แต่ผมก็ต้องอารมณ์เสีย เพราะมีกลิ่นบุหรี่บ้าๆนั่นอีกแล้ว ผมแอบๆชะโงกหน้าไปมองตรงระเบียงห้องไอ้ตะวัน ไฟระเบียงปิดอยู่ แต่เห็นมีเงาคนยืนสูบบุหรี่


"ไอ้ตะวัน ไหนมึงบอกไม่สูบบุหรี่ นี่ไงเห็นกับตาเลย" ผมพูดว่าไอ้ตะวัน เงาตะคุ่มๆนั่นขยับตัวนิดนึง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา แล้วก็ยืนสูบบุหรี่ต่อ ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่ผมพูด  ผมโคตรโมโหเดินกลับเข้าห้อง ออกไปเคาะประตูห้องไอ้ตะวัน


ก๊อก...ก๊อก


"ไอ้ตะวัน ออกมานี่เลยมึง ออกมา"


ก๊อก...ก๊อก....  ผมยืนเคาะห้องไอ้ตะวันพร้อมกับเรียกมันให้ออกมา



"เฮ้ยๆ ไอ้คุณ มาเคาะห้องกูทำไมเนี่ย มีอะไร" เสียงไอ้ตะวันถามผม ผมหันไปก็เห็นว่ามันเดินมาพร้อมกับหิ้วถุงพะรุงพะรัง



"อ่าว มึงไปไหนมาเนี่ย" ผมหันไปถามไอ้ตะวันด้วยอาการ งงๆ ก็แล้วเมื่อกี้ใครกันที่ยืนสูบบุหรี่ตรงระเบียงหลังห้องของมัน



"กูไปซื้อเบียร์มา สนใจดื่มกับกูหน่อยไหมครับ" ไอ้ตะวันบอกผมพร้อมกับยกถุงที่ใส่กระป๋องเบียร์ขึ้นมาให้ผมดู


"เออ แล้วมึงมาเคาะห้องกูมีอะไรเนี่ย"


"ก็..เมื่อกี้ กูเห็นมีคนยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงหลังห้องมึงอ่ะ ก็คิดว่าเป็นมึง" ผมบอกไอ้ตะวัน มันก็ทำตาโตแล้วก็สีหน้าตกใจ


"เชี่ยยยย ก็กูไม่อยู่ห้อง แล้วมึงเห็นใครวะ หรือว่าห้องกู...จะมี..ผะ...ผี" ไอ้ตะวันพูดด้วยท่าทางกลัวๆ ทำเอาผมรู้สึกขนลุกแล้วก็กลัวไปด้วย


"กูเห็นจริงๆนะ" ผมพูดแล้วก็ขยับตัวเข้าไปยืนใกล้ๆไอ้ตะวัน


"ไอ้คุณ มึงเห็นผีแน่ๆ กูไม่อยู่ห้อง แล้วมึงเห็นใคร"


"เชี่ย กูไม่รู้เว้ย" ผมบอกไอ้ตะวันแล้วก็หันหลังจะกลับห้อง



"ฮ่าๆ โอเคๆ กูไม่แกล้งมึงละ" เสียงไอ้ตะวันหัวเราะออกมา แล้วก็พูดกับผม


"มึงอยากรู้ใช่มั้ยว่าใครสูบบุหรี่ กูจะพาไปดู แล้วมึงก็ด่าเอาเองละกันนะ"


ไอ้ตะวันบอกผมแล้วก็เปิดประตูลากแขนผมเข้าไปในห้อง พี่โปเต้เดินกลับเข้ามาจากระเบียงหลังห้อง


"อ้าว น้องคุณ อยู่หอนี้หรอครับ"


"พี่โปเต้...!!" ผมพูดออกมาเบาๆ แล้วก็มองพี่โปเต้ โค้ชบาสเกตบอลชายคณะวิศวะที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม พี่แกถอดหูฟังออกจากหู ถึงว่า ไม่ได้ยินตอนที่ผมว่าเมื่อกี้


"ด่ามันดิ มันนี่แหล่ะสูบบุหรี่" ไอ้ตะวันบอกผมพลางเอาเบียร์ที่ซื้อมาแช่ในตู้เย็น


"เอ่อ...ทำไมพี่มาอยู่ห้องไอ้ตะวันได้หล่ะครับ"


"ก็นี่ห้องพี่ครับ" พี่โปเต้บอกผมแล้วก็เปิดเบียร์ที่ไอ้ตะวันส่งให้กระดกดื่ม


"ห้องพี่" ผมพูดออกมาแล้วก็มองไอ้ตะวันที่ยืนมองผมอยู่ สีหน้ามันเหมือนคนกลั้นหัวเราะเอาไว้


"มึงอะ ชอบไปสูบบุหรี่หลังห้อง กลิ่นมันลอยไปติดเสื้อผ้าไอ้คุณห้องข้างๆ แล้วคนที่โดนด่าก็คือกูนะครับ" ไอ้ตะวันพูดกับพี่โปเต้ ทำเอาผมตกใจ เพราะนั่นพี่ปีสี่นะ แต่ไอ้ตะวันปีหนึ่งเหมือนผม ไปพูดกูมึงกับพี่เค้าได้ยังไง


"อ๋อ พี่ขอโทษครับน้องคุณ พอดีชินอ่ะ เมื่อก่อนห้องข้างๆไม่มีคนอยู่ ต่อไปพี่จะไม่ออกไปสูบละครับ โทดทีนะ" พี่โปเต้บอกผม


"เดี๋ยวๆ มึงไม่สูบนอกระเบียงก็ไปสูบข้างล่างนะครับ ไม่ใช่มาสูบในห้องน้ำ กูจะฟ้องแม่" ไอ้คุณบอกพี่โปเต้ ทำเอาผมหน้าเหวอไปอีก .....กูจะฟ้องแม่..!!


"ทำหน้า งง เป็นลิงตกต้นมะพร้าวเลยนะมึง ฮ่าๆ" ไอ้ตะวันว่าผม


"ไอ้โปเต้เป็นพี่ชายกู พี่ชายแท้ๆเลย เลิก งง ได้ละ กลับไปนอนไป หรือจะกินเบียร์กับกูก่อน" ไอ้ตะวันถามผม


"ม่ะ..ไม่อ่ะ กูจะกลับห้องละ" ผมบอกไอ้ตะวัน


"ผมกลับก่อนนะครับพี่โปเต้" ผมบอกพี่โปเต้แล้วก็เปิดประตูห้องออกมา ไอ้ตะวันก็ตามผมออกมา


"เดี๋ยวก่อน ไอ้คุณ"


"มีไร" ผมหันไปถามมัน


"อย่าโกรธไอ้เต้มันเลยนะ เดี๋ยวคราวหลังกูจะคอยเตือนๆให้ ไม่ให้มันออกไปสูบบุหรี่นอกระเบียงอีก"


"กูไม่ได้โกรธพี่โปเต้" ผมบอกไอ้ตะวัน


"อ่าวหรอ โอเค ไม่โกรธก็ดีละ มึงกลับไปอาบน้ำนอนได้ละ ฝันดีนะ" ไอ้ตะวันบอกผมพร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นๆของมัน


"นี่มึงเป็นพี่น้องกับพี่โปเต้ จริงๆหรอ"


"ก็เออดิวะ พ่อแม่เดียวกัน เรียกว่าพี่น้องกันป่าวหล่ะ"


"ก็ไหนมึงบอกกูว่าอยู่คนเดียว"


"ก็คนเดียวไง คือห้องนี้ไอ้เต้มันอยู่มาก่อน แต่พอมันขึ้นปีสี่ไม่ค่อยมีเรียนมันก็กลับไปอยู่บ้าน ให้กูมาอยู่แทน แต่ก็มีบ้างที่มานอนกับกู เหมือนวันนี้ไง"


"อ๋อ โอเค เข้าใจละ กูไปละ ฝันดีนะ" ผมบอกไอ้ตะวัน มันก็พยักหน้าให้ผม


ผมกลับเข้ามาในห้อง กำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ไอ้โตเกียวก็โทรมาหาผม


"ไอ้คุณทำไรอยู่"


"กำลังจะอาบน้ำ"


"อย่าเพิ่งอาบ"


"ทำไมวะ"


"กูให้ห้านาที มาเจอกันที่ร้านนมตั้งเต้า" ไอ้โตเกียวบอกให้ผมไปหามันที่ร้านนมร้านประจำ


"เชี่ยยยย  ซ้อมเสร็จละหรอ"


"เออ กูกับไอ้ยูกำลังเดินไปเนี่ย จะถึงละ มึงลงมารอเลย เจอกันหน้าร้านนะ" ไอ้โตเกียวบอกผมแล้วก็วางสายไป


ผมถอนหายใจแล้วก็เอาผ้าขนหนูไปแขวนไว้เหมือนเดิม ก่อนที่จะออกจากหอ เดินไปรอไอ้โตเกียวกับไอ้ยูที่ร้านนม


ผมเดินไปถึงร้านนมไอ้สองคนนั้นก็ยืนรออยู่แล้ว


"เลิกซ้อมดึกจังวะ"


"แค่นี้จิ้บๆ เออไอ้คุณ พรุ่งนี้กูกับมึงไปซ้อมตีแบดกันหน่อยมั้ย"


"เออ ไปดิ ที่ไหนอ่ะ"


"ยิมแบดคณะวิดวะก็ได้ กูถามเพื่อนไว้ละ มันบอกว่าไปซ้อมได้"


"ใครวะเพื่อนมึง มึงมีเพื่อนอยู่วิดวะด้วยหรอ"


"เอ้า ก็ไอ้ตะวันไง ที่อยู่ห้องข้างๆมึงอ่ะ"


"เชี่ยย นี่มึงคุยกันแป้บเดียว เป็นเพื่อนกันเลยหรอวะ" ผมว่าไอ้โตเกียว มันก็ยิ้มๆ


"กูว่าเข้าไปคุยกันในร้านเหอะ" ไอ้ยูบอกพวกผม


ผมเข้าไปในร้านก็สั่งน้ำเต้าหู้เครื่องอุ่นๆมากิน ไอ้ยูก็กินน้ำเต้าหู้เหมือนผม ไอ้โตเกียวสังขนมปังสังขยามาเพิ่มความอ้วนให้อีก


"นี่มึงไม่กินข้าวกันหรอ"


"กูกินข้าวกล่องมาจากสนามบาสละพี่เค้าซื้อมาเลี้ยง โคตรดีอ่ะ กูนะอยากไปเป็นพยาบาลประจำสนามบาสทุกวันเลย ขนมก็มี ข้าวก็มีโคตรเปรมอ่ะ" ไอ้โตเกียวบอกผม


"นี่มึงอยากดูแลเพื่อนหรือว่าอยากไปเพราะมีของกินเยอะวะ" ผมถามไอ้โตเกียว


"ก็ทั้งสองอย่างแหล่ะน่า กูก็ดูแลไอ้ยูอยู่นะ แต่แม่งก็ไม่ค่อยเป็นอะไรให้กูดูแล"


"อ่าว กูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนี่" ไอ้ยูพูดขึ้นมา พวกผมก็หัวเราะกัน


"เออ ไอ้คุณ พรุ่งนี้วันเสาร์ เราไปเที่ยวกันมั้ย เย็นๆค่อยกลับมาซ้อมแบด" ไอ้ยูชวนผม


"อ่าว แล้วกูหล่ะครับ" ไอ้โตเกียวพูดแทรกขึ้นมา


"ก็ไปกันสามคนนี่แหล่ะ" ไอ้ยูบอกไอ้โตเกียว


"มึงจะไปไหนอ่ะ" ผมถามไอ้ยู เพราะรู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่อยู่ๆมันชวนออกไปเที่ยวข้างนอกแบบนี้ เพราะปกติไอ้ยูเป็นคนติดห้องจะตาย วันหยุดมันก็ขลุกอยู่แต่ในห้อง


"อยากไปซื้อร้องเท้าแล้วก็ดูหนังซักเรื่อง" ไอ้ยูบอกผม


"รองเท้าแข่งบาสอ่ะนะ"


"อือ"


"กินชาบูด้วยมะ หรือไม่ก็บิงซูถ้วยใหญ่ๆซักถ้วย" ไอ้โตเกียวเสนอความคิด


"ก็ดี งั้นตามนี้นะ แต่ขอสายๆหน่อยนะซัก10โมงโอเคมะ" ผมบอกไอ้สองคนนั้น


"มันก็ต้องเวลานั้นป่าววะ มึงไปเช้าห้างที่ไหนจะเปิดให้มึงครับไอ้คุณ" ไอ้โตเกียวบอกผมแล้วเอื้อมแขนมาตบหัวผมเบาๆ


"เชี่ย ผมเสียทรงหมด" ผมว่าไอ้โตเกียวแล้วเอามือปัดๆผมให้เข้าทรง


"เว่อร์ไปมึง ยังไม่ได้อาบน้ำนะ ฮ่าๆ" ไอ้โตเกียวว่าผม


"โตเกียว"


"อือ มีไร"


"คืนนี้ไปนอนห้องกูป้ะ" ผมชวนไอ้โตเกียวไปนอนด้วย เพราะวันนี้ไอ้คิณพี่ชายของผมไม่ได้มาหา


"เออ ไปดิ กลัวผีอ่ะดิมึง"


"ป่าว แค่อยากมีเพื่อนนอน"


"แล้วไอ้ยูหล่ะ" ไอ้โตเกียวถามผม


"กูนอนที่ห้องก็ได้ มึงไปนอนกับไอ้คุณเถอะ" ไอ้ยูบอกไอ้โตเกียว


"ไอ้ยู" ผมเรียกไอ้ยู มันก็หันมามองผมด้วยสายตานิ่งๆ


"มีไร"


"เตียงกูนอนได้สามคนนะ" ผมบอกไอ้ยู มันยิ้มแล้วก็ก้มหน้า


"เออ ไปก็ไป" ไอ้ยูบอกผม


แม่งเอ้ยยยย ฟอร์มจัดจริงๆ ผมว่าไอ้ยูในใจ


หลังจากกินเสร็จพวกผมก็พากันกลับหอ ไอ้ยูกับไอ้โตเกียวขอแวะเข้าเซเว่นก่อน ผมก็เลยยืนรอมันสองคนอยู่ข้างหน้า


"น้ำเต้าหู้นี่คงอร่อยเนอะ กินแม่งได้ทุกวัน" เสียงใครคนนึงพูดขึ้น ผมหันไปมองก็ปรากฏว่าเป็นไอ้ตะวัน


"อะไรของมึง เมาป้ะเนี่ย" ผมว่าไอ้ตะวัน เพราะสภาพมันตอนนี้หน้าแดง คอแดงไปหมด


"ไม่เมา"


"แล้วมึงจะไปไหน"


"มาซื้อเบียร์"


"เชี่ยยย เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขาไม่ขายแล้ว"


"อ่าวหรอ" ไอ้ตะวันพูดแล้วเปิดดูเวลาในโทรศัพท์มือถือ


"เออว่ะ"


"มึงนี่เมาไม่ดูเวร่ำเวลาเลยนะ"


"ยังไม่เมา ถ้าเมาจะมายืนคุยกับมึงได้หรอ"


"ตัวแดงสัส ยังบอกว่าไม่เมา"


"ไอ้คุณ"


"มีไร" ผมถามไอ้ตะวัน ไอ้ตะวันจ้องหน้าผมแล้วก็เอาสองมือของมันมาจับแก้มผม


"มึงนี่แม่ง โคตรน่ารักอ่ะ มีแฟนยังวะ"


"มีแล้ว" ไอ้ยูตอบไอ้ตะวันแทนผม แล้วก็ดึงตัวผมออกมา พร้อมกับกอดคอผมพาเดินกลับหอ ผมหันกลับไปมองก็เห็นไอ้โตเกียวยืนคุยอยู่กับไอ้ตะวัน แล้วมันสองคนก็พากันเดินตามผมกับไอ้ยูมา


"ไอ้ยู ทำแบบนี้ทำไมวะ" ผมหันไปถามไอ้ยู พร้อมกับเอาแขนมันที่กอดคอผมอยู่ออกไป


"ก็มันเมา มึงก็ยังไปยุ่งกับมันอีก"



"กูยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ"



"ก็เห็นจับแก้มกันขนาดนั้น ยังบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกหรอ" ไอ้ยูถามผมแล้วหันมาจ้องหน้าผม


"เอ่อ...ไม่มีไรหรอก" ผมบอกไอ้ยู แต่ก็รุู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวๆตอนที่ไอ้ตะวันเอามือมาจับแก้มเหมือนกัน


ไอ้โตเกียวเดินมากับไอ้ตะวัน ไอ้ยูเดินขึ้นห้องไปก่อน มันคงไม่อยากอยู่เจอไอ้ตะวัน


"ตะวัน พรุ่งนี้มึงว่างป่ะ ไปดูหนังกันมะ" ไอ้โตเกียวถามไอ้ตะวัน


"ไปดิ ถ้ากูตื่นนะ"


"เดี๋ยวกูโทรปลุก เอาเบอร์เอาไลน์มึงมา" ไอ้โตเกียวจัดการขอเบอร์ของไลน์กับไอ้ตะวัน



"โทรศัพท์กูแบตหมดว่ะ งั้นยืมโทรศัพท์มึงหน่อยดิไอ้คุณ" ไอ้โตเกียวเอาโทรศัพท์ของผมไปแอดไลน์กับเมมเบอร์ไอ้ตะวัน


หลังจากนั้นพวกผมก็พากันขึ้นไปบนหอ แล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้อง


"ไอ้คุณ" ไอ้ตะวันเรียกผม


"อือ มีไร มึงนี่ก็นะ เมาแล้วก็ยังจะออกไปเพ่นพ่านอีก" ผมหันไปดุไอ้ตะวัน มันก็ทำหน้าทะเล้นใส่ผม


"กูไม่ได้เมา"


"โว้ะ...ขี้เกียจเถียงกับมึงละ กูเข้าห้องละนะ"


ผมกำลังเปิดประตูเข้าห้อง แต่อยู่ๆไอ้ตะวันก็มายืนประกบตัวผมไว้ มันดันตัวผมจนหลังติดกำแพงหันหน้าเข้าหาร่างสูงของมันที่ยืนเอาสองแขนยันกำแพงไว้ไม่ให้ผมหนีไปได้ ภาพเหตุการณ์ที่ผมกับมันเจอกันครั้งแรกผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ไอ้ตะวันก้มหน้าลงมาจนแทบจะติดกับหน้าของผม รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆของมันที่พ่นใส่แก้มของผม ได้กลิ่นเบียร์อ่อนๆ


"ไอ้ตะวันอย่าทำเหี้ยๆ" พี่โปเต้เปิดประตูออกมาแล้วก็กระชากตัวไอ้ตะวันออกไป ผมก็ตกใจ


"ขอบคุณครับพี่โปเต้" ผมขอบคุณพี่โปเต้แล้วก็รีบเปิดประตูเข้าไปในห้องด้วยหัวใจที่เต้นแรง


พี่โปเต้เห็นไอ้ตะวันกำลังทำแบบนั้นกับผม พี่เขาจะคิดยังไงเนี่ย....??




*******************************




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2018 20:16:39 โดย ฟูจิซัน »

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: :3123:ชอบเรื่องนี้เนื้อหาน่าติดตาม รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยู คิดไรๆกับคุณหรือเปล่า  :hao3:
ดูยู หวงๆคุณ เกินเพื่อนอยู่นะ

แต่ตะวันนี่ ชอบลวนลามคุณนะ  :z3:
นี่คราวนี้พี่โปเต้ ขวางไว้ทัน ไม่งั้นตะวันจูบคุณแน่ๆ  :ling1: :ling1: :ling1:
     :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถามจริง ๆ ตะวันแอบไปติดที่ดักฟังไว้ที่ห้องคุณปะเนี่ย รู้ไปหมดทุกเรื่องเลยนะ  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด