KING ที่ 14 หัวใจที่เต้นผิดจังหวะ ผมยังคงนั่งอยู่ในรถของไอ้หอกธีร์ด้วยความรื่นรม หึหึ เสร็จกูละงานนี้ ได้ของฟรีมาใช้แน่นอน เอาไรดีน้า ลิปสติกรุ่นนั้นสีสวยฉิบหาย แต่พนักงานขายแม่งกวนตีน เอาอันนั้นดีกว่า
" แล้วตกลงจะไปธุระที่ไหน " ผมหันไปมองหน้าไอ้ธีร์ที่กำลังถามผมด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น
" ธุระอะไรวะ " ผมพูดแบบงงๆ อ๋อ เดี๋ยวนะ เมื่อกลางวันผมไปบอกมันแบบนั้นนี่นา
" เออ ใช่ๆๆ วันนี้ว่าจะไปซื้อของอ่ะ " ผมก็มั่วๆ ไปก่อนเดี๋ยวแม่งเล่นกูอีก
" ซื้ออะไร ที่ไหน " ผมเริ่มหน้าบึ้ง นี่มึงจะสอบสวนกูทำไมฟะ
" ซื้อ...เครื่องสำอางค์ " เอาจริงๆ คือนึกไม่ออก เลยมั่วอีกรอบ
" ถามจริง ชอบนักเหรอใส่กระโปรงน่ะ " มันถามด้วยสีหน้าเรียบๆ
" กูไม่ได้โรคจิตนะ มันเป็นงานกู ถ้าใส่แล้วไม่ได้ตังกูใส่เล่นในห้องก็พอแล้ว " ผมพูดพลางจิกตามองมัน
" จะได้สักเท่าไหร่เชียว ใจรักสิไม่ว่า " หนอยย รู้ทันกูไปอี๊กก
" ก็เวลากูใส่กูสวยกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก มันสะใจดี " หึหึ ความภาคภูมิใจเล็กๆ ของผม
" นั่นน่ะ เขาเรียกโรคจิต " ผมหน้าบูดและสะบัดบ็อบหนีมัน มึงสิโรคจิต กูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว
" แล้วตกลงเอาไง ไปเลยไหม " มันถามผมเสียงเข้ม
" ใครบอกกูจะไปกับมึง... " ผมพูดเบาลง จ้องหน้ามันด้านข้างที่เริ่มคิ้วชิดกันและมองมือมันที่เริ่มมีเส้นเลือดปูดขึ้นอย่างน่ากลัว โอ้ยยย อยากทำอะไรตามใจมึงเถอะ
" กูจะกลับคอนโดเปลี่ยนเสื้อผ้า มึงไปรอที่ไหนก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูโทรเรียก " แล้วก็หลอกให้มันรอนานๆ ค่อยโทรบอกมันทีหลังว่ากูไม่ไปแล้ว ฮี่ๆ
" เดี๋ยวรอบนห้องนั่นแหละ " เอ๊ะไอ้นี่ แปลว่ามึงจะขึ้นห้องกูอีกแล้วเหรอ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง
" รอนานนะ จะขึ้นไปจริงๆ เหรอ " ผมพูดงึมงำๆ เผื่อมันจะเปลี่ยนใจ
" อืมมม " โอเค๊ กูเบื่อจะพูดแล้วโว้ย
สักพักมันก็ขับรถมาจอดที่ใต้คอนโดของผม และพากันขึ้นไปที่ห้องของผมอีกที ผมมองมันที่ยืนสองมือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทีสบายๆ นี่มึงไม่ต้องรีบกลับบ้านหรือไงวะ กูจะเอายังไงกับมึงดี
" กูบอกแล้วนะว่านาน ห้ามเร่งด้วย " ผมเข้ามาในห้องและวางกระเป๋าลงแบบหน่ายๆ
" อืม จะทำไรก็รีบๆ ทำ " มันพูดพลางมองไปรอบๆ ห้องผมอย่างสนใจ มึงได้ฟังกูไหม กูบอกว่านานเฟ้ย
ผมเข้าห้องน้ำ อาบน้ำล้างตัว และออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำ พันผ้าเช็ดตัวไว้บนหัว และนั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้ง
" ไม่ต้องแต่งมากมายหรอก " ผมมองมันที่กำลังยืนกอดอกผ่านกระจกส่องหน้า
" รอไม่ไหวก็กลับไปป่ะ " ผมพูดและเบะปากใส่มัน
" แล้วอย่าใส่ชุดที่มันโป๊ได้ไหม " ผมหันควับไปมองมัน มึงนี่ยุ่งจริงๆ เป็นพ่อกูเหรอ มาสั่ง
" เออ " ผมที่คิดแบบนั้นแต่ก็ต้องตอบอีกอย่าง เดี๋ยวมันจะกัดคอผมขาดซะก่อน
ผมแต่งหน้าอยู่สักพักและเหลือบมองมันที่เดินไปรอบๆ รื้อข้าวของของผมดูอย่างสนใจ เหอะ ทำตัวเหมือนเป็นผัวกูจริงๆ นะมึง ชอบด่ากูไร้มารยาทแต่ตัวเองก็ทำ ผมบ่นปากขมุบขมิบพลางเลิกสนใจมันและตั้งใจเขียนคิ้วให้มันเท่ากัน
" ไปหัดแต่งหน้ามาจากไหน " ผมสะดุ้งน้อยๆ ทันทีที่รู้สึกว่ามันมานั่งจ้องผมใกล้ๆ
" ในเน็ต " ผมพูดพลางแต่งหน้าต่อไป พยายามไม่สนใจมันที่กำลังจ้องมองผมใกล้มากขึ้นๆ ทุกที
" เรื่องเรียนตั้งใจแบบนี้ไหม " มันพูดประชดผมที่กำลังเม้มปากทาลิปสติกสีชมพูน่ารัก เป็นอันจบพิธี
" เรื่องของกู " ผมพูดพลางหันไปหวีวิกผม และเหลือบมองมันที่เดินหนีไป โดนด่าแล้วหงอยไปดิมึง
" ใส่ชุดนี้ " ผมที่กำลังจัดแต่งวิกผมยาวที่ใส่เรียบร้อยแล้วก็หันไปมองมันที่โยนชุดเสื้อผ้าลงบนเตียง
" ไม่เอามันธรรมดาไป ไม่สวย " ผมมองเสื้อสีขาวแขนยาวที่มีลูกไม้น่ารักๆ ตรงคอและปลายแขน กับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีซีดที่มันหยิบให้
" ต้องใส่ชุดนี้ " มันยืนพิงตู้เสื้อผ้ากันผมไม่ให้เปิดออกได้ พลางทำหน้าจริงจังใส่ผม โอ้ยยย อะไรของมึงนักหนาฟะ
" เออ " ผมถลึงตามองมันและลุกขึ้นคว้าเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปใส่
เมื่อใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วผมก็เดินออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง มึงชอบเรียบๆ เป็นป้าแบบนี้เหรอ ไร้รสนิยมสิ้นดี
ผมมองมันที่หันมามองผมและอมยิ้มน้อยๆ อารมณ์ดีสินะ ได้บังคับกูเนี่ย
" เอาชายเสื้อเข้าในกางเกง "
" รู้แล้วน่า " ผมพูดพลางค่อยๆ ยัดชายเสื้อเข้าในกางเกงยีนส์ตัวน้อย ผมมองตัวเองในกระจก หุ่นผมก็เหมือนกับสาวร่างบางนั่นแหละ ผมใส่เสริมหน้าอกนิดหน่อย ทำให้ดูมีเอวมากขึ้น สะโพกเล็กๆ ขาเรียวยาว
" รวบผมน่าจะดีกว่านะ " ผมตัวแข็งทื่อทันทีที่รู้สึกว่ามันมายืนด้านหลังผม และกำลังเกลี่ยไรผมของผมและรวบขึ้นเป็นหางม้าให้
ผมรู้สึกหัวใจเต้นตึกตักแบบแปลกๆ เฮ้ยๆ เย็นไว้ไอ้ฟา อย่าไปหลงคารมมัน มึงใช้หน้าตามึงหลอกล่อกูไม่ได้หรอก แต่ก็นะ มันหล่อดีว่ะ ขนาดผู้ชายด้วยกันยังเผลอใจเต้นเลยกู
" กูมัดเอง " ผมพูดพลางขยับตัวหนีไปหน้ากระจก และรวบผมขึ้นเป็นหางม้าตามที่มันบอก
ผมเหลือบมองมันที่ยังคงยืนจ้องมองผมอยู่ และถ้าผมมองไม่ผิดมันกำลังจ้องหลังคอของผม
" เป็นโรคจิตชอบมองคอเหรอ " ผมพูดพลางขำท่าทีของมัน
" สวยดี " ผมรีบหันหน้าหนีและเดินมึนๆ ทำทีไปหยิบกระเป๋าถือในตู้ เมื่อกี้มันว่าไงนะ มันบอกสวยดี นี่กูไม่ได้หูฝาดใช่ไหม
ผมถือกระเป๋าสีดำเล็กๆ และเดินนำมันออกจากห้อง ผมเหลือบมองมันที่เดินตามผมมาเงียบๆ พลางคิดแผนอยู่ในใจ ผมว่าผมจะลากมันเข้าไปในร้านเครื่องสำอางค์และแกล้งมันสักหน่อย หึหึ อยากมากับกูดีนัก มึงโดนแน่
ไอ้ธีร์ตอนนี้ยังคงใส่ชุดนักเรียนขายาวสีเทา เสื้อสีขาวแขนยาวที่ถูกพับขึ้น แต่เน็กไทถูกถอดออกไปแล้ว ชุดนักเรียนโรงเรียนผมนั้นเป็นแบบเรียบง่าย คล้ายๆ ชุดนักศึกษา แต่แค่แบ่งเป็นสีๆ ตามระดับชั้นเท่านั้น ตอนนี้พวกเราอยู่ปีสุดท้ายแล้ว สีหลักของชุดเลยเป็นสีเทา
' ดูคู่นั้นดิ กิ่งทองใบหยกชัดๆ '
' เหมาะกันเนอะ หน้าตาโครตดีทั้งคู่เลย '
ผมทำหน้าเหม็นเบื่อนิดๆ ทันทีที่ได้ยินคำนินทาจากผู้คนที่เดินผ่าน กิ่งทองใบหนาดสิไม่ว่า มันนะไม่ใช่ผม
ผมเดินเข้ามาในลิฟท์ และกำลังจะเอื้อมมือไปกดเลข แต่ก็ถูกคนด้านหลังแย่งกดซะก่อน แล้วทำไมต้องมายืนชิดกูขนาดนี้ด้วยวะ พื้นที่ก็เยอะแยะ ผมเงยหน้าเหลือบมองมัน ตัวมันสูงมากครับ แต่ตอนนี้ผมใส่ส้นสูงอยู่ เลยต่ำกว่ามันนิดหน่อย กำลังดี
" เริ่มหิวแล้วเหมือนกันนะ " ผมพูดพลางยิ้มหวานให้มัน กูจะเล่นมึงให้หมดตูดเลย ไอ้ลูกรัฐมนตรี
" อืม ซื้อของแล้วค่อยหาอะไรกิน " มันพูดด้วยสีหน้าเรียบๆ
" ไม่เอาร้านธรรมดานะ " ผมพูดยิ้มๆ
" ร้านไหนก็ได้ " หืมมม ป๋าจังนะ หมั่นไส้ว่ะ
ไม่นานผมก็มานั่งอยู่ในรถ BMW คันเดิมของมัน ผมสังเกตุว่ามันดูเทคแคร์ผมมากขึ้น ด้วยการเดินมาเปิดประตูรถให้ และพอขึ้นรถแล้วยังจะมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้อีก นี่เป็นเพราะว่าผมแต่งหญิงหรือเปล่านะ
" ไม่ต้องทำเหมือนกูเป็นผู้หญิงก็ได้นะ จั๊กจี้ว่ะ " ผมพูดพลางกลั้นขำ
" มันเป็นมารยาท " อ๋อเหรอ ผมเบะปากหมั่นไส้ แต่แบบนี้ก็หมายความว่า กับผู้หญิงคนอื่นมึงก็ทำสินะ
Rrrr Rrrr
ผมที่นั่งอยู่ในรถสักพักก็ควานหาโทรศัพท์มือถือของผมที่กำลังส่งเสียงและกดรับสาย
" ฮัลโหลครับพี่เรียว "
" ฟาวันเสาร์มีงานนะ MC บูธเครื่องสำอางค์ พอดีเป็นของเพื่อนพี่ " ไอ้หยางานนอกอีกแล้วเหรอ งานนอกสำหรับผมก็คือ งานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการคอสเพลย์ และโฆษณาเสื้อผ้า
" ไม่ต้องพูดใช่ไหมครับ " ผมละกลัวเวลาต้องพูดเยอะๆ
" ไม่ต้องพูด แค่ยืนอย่างเดียว "
" ครับๆ เดี๋ยวผมโทรไปคุยรายละเอียดอีกทีนะ " ผมเหลือบมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้เริ่มหน้ายับขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ
" แล้วอยู่ไหน ทำอะไรอยู่เหรอ " พี่เรียวยังคงถามต่อ
" กำลังจะไปซื้อของครับ "
" คนเดียวเหรอ " นั่นไง จะตอบยังไงดีล่ะ ผมเหลือบมองคนข้างๆ อีกครั้ง แล้วทำไมจะต้องไปกลัวมัน ผมกับมันก็แค่เพื่อนกันปกตินั่นแหละ แฟนอะไรไร้สาระ
" เอ่อคือ...กับ เพื่อนฮะ " ผมพูดเหลือบมองไอ้ธีร์อีกครั้ง และทำเป็นมองออกไปนอกกระจก
" โอเค แล้วเจอกัน "
" ครับพี่ ขอบคุณครับ " ผมกดวางสายและกดโทรศัพท์เล่นต่อ
" พี่เรียวเป็นใคร " ผมมองไอ้ธีร์ที่ดูเหมือนจะขับรถเร็วขึ้นแปลกๆ
" พี่ที่รู้จักกัน " ใจอยากจะบอกว่าอย่ายุ่ง แต่ก็ไม่กล้าอ่ะ มันดูน่ากลัวอีกแล้ว
" แล้วโทรมาทำไม " อ๊าว ไอ้นี่ แม่งยุ่งจริงๆ ว่ะ ผมไม่ได้พูดออกไปแต่ก็หันไปทำหน้ากวนโอ้ยเข้าให้
" ถามมาก " ผมบ่นอุบอิบเสียงเบา และมองมันที่กำลังถอนหายใจแรงๆ หลายที
ไม่นานพวกเราก็มาถึงห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผมรีบถีบตัวออกมาจากรถทันทีที่จอดลง และเดินไปยังประตูห้างแบบไม่รอมัน หึหึ
' ใช่ฟ้าเปล่าวะ '
' เน็ตไอดอลอ่าเหรอ '
' น่ารักเนอะ '
ผมยิ้มให้คนที่กำลังจับกลุ่มจ้องมองผม และเดินดูของแถวนั้นไปเรื่อย
" นิสัยเสีย " ผมหันไปมองคนบ่นทันที หึ ก็รออยู่ในนี้ไงเล่า ขี้บ่นจริง
' มีแฟนแล้วว่ะ '
' แฟนหล่อโครต นายแบบหรือเปล่า '
' อกหักเลยกู '
ผมถอนหายใจจริงจัง ก็นะ มาเดินด้วยกันแบบนี้จะให้คิดเป็นอื่นก็คงไม่ได้ ผมเดินหนีมันและดูของไปเรื่อยๆ พอมันมาใกล้ ก็เดินไปอีกที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร และเดินตามมาเงียบๆ
เวลาที่อยู่กับคนเยอะๆ หรือกับเพื่อนผมจะไม่กลัวมันหรอก มันไม่กล้าตีผมอยู่แล้ว หายห่วง
เจอล่ะ ผมมองร้านเครื่องสำอางค์ขนาดใหญ่และเดินกลับไปลากไอ้ธีร์ที่กำลังดูอะไรไปเรื่อยให้ตามมา ซึ่งมันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร แต่ก็ทำหน้างงเล็กๆ
" สีนี้สวย " ผมยืนอยู่หน้าแผงลิปสติกที่เอาไว้ให้ลูกค้าลองและหยิบขึ้นมา เปิดฝา และดึงคอไอ้ธีร์ที่กำลังทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมให้ผมดึงคอมันลงมาง่ายๆ
" จะทำอะไร " มันถามผมพลางขมวดคิ้ว ฮ่าๆ มึงเสร็จกูล่ะไอ้หล่อ แต๋วแตกแน่มึง
" ขอลองหน่อย " ผมพูดและยิ้มขำ แต่มันก็อยู่นิ่งๆ และไม่ได้ว่าอะไรผม ซึ่งมันแปลกแฮะ ผมนึกว่ามันจะขัดขืนและด่าผมไฟแล่บซะอีก
ผมจรดลิปสติกสีแดงลงบนริมฝีปากได้รูปของมัน และหลบสายตาแปลกๆ ที่มันกำลังจ้องมองผม แต่ก็ชอบจะเผลอขึ้นไปสบตามันเป็นระยะ เหมือนกับถูกดึงดูดด้วยอะไรสักอย่าง
ผมเริ่มจะคิดแล้วว่า ผมตัดสินใจผิดพลาดซะแล้ว ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องมองหน้ามันใกล้ๆ แบบนี้ ยิ่งมันไม่ด่าไม่ว่าผม และยื่นหน้าให้ผมป้ายลิปสติกลงบนริมฝีปากมันด้วยแล้ว ผมยิ่งใจเต้นแปลกๆ
' ดูคู่นั้นสิ '
' น่ารักเนอะ อิจฉาผู้หญิงคนนั้นอ่ะ '
' แฟนเขาต้องรักมากแน่ๆ '
ผมมือสั่นและกลืนน้ำลายลงคอ นี่กูแกล้งมึงอยู่นะ ไม่รู้ตัวหรือไง ผมหยิบสีอื่นๆ และป้ายลงบนปากมันตามเดิม ชิ แบบนี้ไม่สนุกเลยอ่ะ จะไม่ขัดขืนหน่อยเหรอพ่อคุณ
" อุ๊ย " ผมยิ้มทันทีที่เผลอกดแรงมากเกินไปจนลิปเปรอะไปที่ข้างแก้มของมัน ฮ่าๆๆๆ กูตั้งใจหรอกโว้ย
" โทษที " ผมหัวเราะและหยิบหลายๆ สีตรงนั้นไปจ่ายตัง และทิ้งมันให้ยืนเอ๋ออยู่ด้วยรอยลิปสติกบนแก้ม
ผมมองดูมันที่ค่อยๆ เดินมาหาผมด้วยปากที่สีเละเทะไปหมด และแก้มที่มีรอยลิปลากยาวสีแดง
" ลบเลยนะ " ในที่สุดมันก็พูดความในใจออกมาด้วยหน้าที่เริ่มตึงขึ้น ฮ่าๆ สมน้ำหน้ามึง
" เออ อยู่เฉยๆ " ผมล้วงหาทิชชู่ในกระเป๋าเล็กๆ ของผมและดึงออกมาเช็ดปากให้มัน แหม่ ยี่ห้อนี้แน่นจริงวุ๊ย
ไอ้ธีร์ย่อตัวลงและอยู่นิ่งๆ ให้ผมเช็ดปากให้ ซึ่งไม่ต้องบอก ผมละเลงเช็ดสุดแรงเลยทีเดียว
" เบาๆ มันเจ็บ " มันดุผมพลางจ้องหน้าผมเขม็ง
" นี่ก็เบาแล้ว มันแน่น " ผมพูดพลางพยายามไม่สบตามัน เหอะ อยากให้กูเช็ดเอง ช่วยไม่ได้ หึหึ
" ต่อไปถ้าขอทำอะไรแรงๆ บ้าง ก็อย่าว่ากันนะ " มันพูดด้วยเสียงเบาๆ ที่ทำเอาผมขนลุกซู่ ผมชะงักมือและจ้องหน้ามัน ที่มึงพูดนั่นหมายถึงอะไรฟะ
" เกือบหมดแล้ว ทีเหลือเช็ดเอง " ผมว่าผมให้มันเช็ดเองดีกว่า ผมไม่ชอบมองหน้ามันใกล้ๆ จริงๆ ให้ตาย
แต่ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ผมมาซื้อของพวกนี้แล้วรู้สึกสนุกดี ปกติผมไม่ชอบเอาซะเลย ถึงผมจะอยากซื้อ แต่พอมาคนเดียวทีไร พวกเซลล์ขายก็จะชอบมากวนผม ไม่ก็คนที่มาเลือกซื้อเหมือนกัน เขาจะชอบจ้องหน้าผมและเข้ามาคุยด้วย แต่พอมาสองคนแบบนี้ ก็จะไม่มีใครกล้าเข้ามากวน ทีหลังต้องลากมันมาบ่อยๆ ซะแล้ว
และให้มันซื้อให้ด้วยน่าจะดีกว่า หึหึ