เพราะเขากลัวผู้ชาย ผมเลย(ต้อง)กลายเป็นตุ๊ด ep 12 ต่อสู้กับความกลัว 25/04/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เพราะเขากลัวผู้ชาย ผมเลย(ต้อง)กลายเป็นตุ๊ด ep 12 ต่อสู้กับความกลัว 25/04/19  (อ่าน 12416 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะรับเป็นแฟน หรือป่าวหนอ  :hao4:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ตามจร้าาาาาาา
ครอบครัว​น่ารักมาก

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ยังไม่มาหรอ คิดถึงนะคับ

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
มาได้ละคับ คิดถึงๆๆๆ

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ขอบคุณที่รอนะคะ ตอนนี้ไรท์เอ็นข้อมืออักเสบค่ะTT พยายามจะพิมพ์นิยายมือเดียวแล้วแต่ไม่ถนัดจริงๆ เลยต้องขอหยุดพักไปก่อน

ตอนแรกมันเหมือนจะหายดีแล้ว ไรท์ดันไปยกของหนัก มันเลยกลับมาเจ็บหนักกว่าเดิมอีก บวมเลยทีนี้ :sad11:   
ไรท์ขอพักให้ข้อมือหายสนิทก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมาต่อค่ะ ไรท์เองก็อยากแต่งต่อได้ไวๆเหมือนกัน :mew2:

ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ ขอบคุณที่คิดถึงโอ้เอ้กับสโนว์ด้วยนะคะ :pig4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขอให้หายไวๆ นะจ้าาา รอได้จ้าา
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ได้จ้า รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขอให้หายเจ็บไวๆนะคะรออ่านได้ค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่ 10   พลุกระจาย



“ถ้างั้น...เราขอสโนว์เป็นแฟนได้ไหมครับ”


.

.


.


.


.

นี่ผม..เผลอพูดบ้าอะไรออกป๊ายยยยยยยยยย  อ๊ากกกกกกก



โจรป่าอย่างผมกล้าดียังไงไปขอเจ้าหญิงมาเป็นแฟนวะ  โคตรไม่เจียมตัวเลยให้ตายเถอะ!!!
กว่าจะสำนึกได้ว่าพูดบ้าอะไรออกไป  ก็สายไปเสียแล้ว เพราะว่าถามออกไปแล้วไง! ฮืออออ ไอ้อันโทนิโอ้คนป่าอยากจะร้องไห้



ไม่รู้ว่าจู่ๆผมเกิดบ้าถามอะไรแบบนั้นออกไปได้ยังไงกัน  แมร่งเอ๊ยยยย ผมคงบ้าไปแล้วจริงๆ  ต้องรีบพูดแก้ตัวขอโทษก่อนที่สโนว์จะรู้สึกอึดอัดใจไปมากกว่านี้



“สโนว์เมื่อกี้ที่เราพูดอย่าไป..”



“ตกลง”   เสียงนุ่มตอบกลับมาก่อนที่ผมจะพูดจบประโยค



“ใช่ อย่าถือสา.....ห๊ะ!!!”  ผมหันขวับไปมองสโนว์ที่นั่งยิ้มนิดๆอย่างอึ้ง อย่างงงใจ อย่างมึนงง อย่างไม่แน่ใจว่าฟังผิดหรือเปล่า แต่ใจผมเนี่ยเต้นระห่ำสุดๆครับ



“ส..สโนว์  เมื่อ..เมื่อกี้เราได้ยินผิดไปหรือเปล่า...หรือ หรือว่าสโนว์..พ..พูดอะไรผิดหรือเปล่า”  ผมถามเสียงสั่นตะกุกตะกักอย่างห้ามไม่ได้    ทั้งดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นแต่ก็ทั้งกลัวด้วยว่าจะฟังผิดไปเองหรือเปล่า  ผมในตอนนี้โคตรขี้ขลาดตาขาวเลยจริงๆ



“แล้วเมื่อกี้...โอ้เอ้ถามเราผิดหรือเปล่าล่ะ” สโนว์สบตาผมแล้วถามกลับ



“เปล่านะ  เมื่อกี้เราถามจริงๆ”  ถึงมันจะเป็นคำถามที่ไม่ได้ตั้งใจจะกล้าถามออกไปแบบนั้นก็ทีเถอะ



“งั้นเราก็เหมือนกัน”



“เราตกลงเป็นแฟนกับโอ้เอ้จริงๆ”



วินาทีนั้นผมรู้สึกราวกับมีพลุนับล้านลูกแตกกระจายอยู่เต็มในหัวใจไปหมด   ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้มาก่อนเลยจริงๆ ไม่ได้คิดเลยจริง  มันรู้สึกตื้นตันในใจมากๆครับ จากแค่คนๆนึงที่แอบชอบเขา  แอบดูแลเขา ยอมแกล้งเป้นตุ๊ดเพื่อจะได้ใกล้ชิดเขา...รักเขา   แล้วพอถูกจับได้ก็ดูเหมือนว่าจะถูกเขาเกลียดจนไม่น่าจะกลับมามองหน้ากันได้อีกแล้ว



แต่ในวันนี้ ณ ตอนนี้ เขากลับตกลงยอมเป็นแฟนกับผม...ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ นอกจากดีใจ 


ดีใจมาก


มากที่สุด




“โอ้เอ้...ร้องไห้ทำไม อย่าร้องสิ”  คนตัวขาวเอาปลายนิ้วโป้งเช็ดน้ำตาออกให้อย่างอ่อนโยน สโนว์ดูตกใจปนขำเล็กน้อยตอนที่มาเช็ดน้ำตาให้   ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลออกมาตอนไหนจนสโนว์มาเช็ดให้นี่แหละ



ไอ้เชี้ย  นี่กูตื้นตันมากจนน้ำตาไหลออกมาเลยหรอวะ  เกิดมาเพิ่งเคยมีโม้เม้นท์นี้เป็นครั้งแรก ฮืออออ 



“สโนว์  เราสัญญานะเราจะเป็นแฟนที่ดี  จะดูแลสโนว์ทุกอย่าง  จะไม่ทำให้สโนว์เสียใจ จะตามใจสโนว์ตลอด  อยากกินอะไรจะไปซื้อมาให้ อยากเที่ยวไหนจะพาไปถึงที่ อยากได้อะไรจะเก็บเงินซื้อให้  อนาคตถ้าเรามีเงินเดือนจะให้สโนว์เก็บทุกบาททุกสตางค์เลยครับ แล้วก็จะ.จะ..จะ”   ผมรีบพูดทุกสิ่งที่นึกออก เพราะกลัวสโนว์จะเปลี่ยนใจไปเสียก่อน



“พอแล้วโอ้เอ้ พูดอะไรเยอะแยะ”  สโนว์ยิ้มขำ แล้วเอามือขาวๆของตนเองมากุมมือผมไว้ข้างนึง



“แค่โอ้เอ้เป็นแบบนี้เหมือนเดิมก็พอแล้ว”  สายตาหวานสบยิ้มให้กับผมจนผมอดจะยิ้มตามไม่ได้  นี่ผมฝันไปหรือเปล่านะ ถ้าฝันจริงก็ไม่อยากตื่นเลย



“แต่สโนว์  เมื่อกี้เราพูดจริงๆนะแล้วก็ยังพูดไม่หมดเลยด้วย”  ผมบอกคนตัวขาวไปพลางพลิกมือที่ถูกสโนว์กุมไว้ไปประสานมือไว้ด้วยกันแน่น  สโนว์เลิกคิ้วคล้ายจะถามว่ายังมีต่ออีกหรอ



“โอ้เอ้จะพูดอะไรอีกล่ะ?”



“ก็จะพูดต่ออีกว่า”




“ผมจะรักสโนว์แค่คนเดียวนะครับ”



หลังพูดเสร็จผมก็รู้ว่าคงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกที่รู้สึกเหมือนมีพลุกระจายอยู่ในใจเป็นล้านลูก  เพราะสโนว์ตอนนี้หน้าแดงก่ำและพยายามกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดความสามารถ  มือที่ประสานกันไว้ถูกบีบแน่น  ผมมั่นใจว่าสโนว์ต้องเขินมากแน่ๆ  ถามว่าทำไมถึงรู้?   ก็จะตอบแบบมั่นหน้าเลยว่า   ก็เพราะผมเป็นแฟนสโนว์ไงคร้าบบบบบ  ต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับสุดที่รักอยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ (ไอ้คนขี้ขลาดตาขาวเมื่อกี้หายไหนแล้ววว)


ผมและสโนว์มองหน้ากัน เราต่างยิ้มให้กันอย่างมีความสุขราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องที่ทำให้รู้สึกทุกข์ใจมาก่อนหน้านี้เลย   ปัญหาความเครียดต่างๆที่ผมคิดมาตลอดมลายหายไปราวกับฝุ่นผงที่ถูกสายลมเย็นพัดพาปัดเป่าไปจนหมดสิ้น


เหลือไว้แต่ความโล่งใจ  และความรู้สึกที่ว่าจะไม่ทำให้คนๆนี้ต้องผิดหวังในตัวผมอีกเป็นครั้งที่สอง







“ขอบคุณนะที่ให้โอกาสผมอีกครั้ง”   ผมพูดขึ้นตอนที่กำลังขับรถพาสโนว์ไปส่งที่คอนโด  ตอนนี้เราสองคนก็จับจับมือกันแน่นอยู่เลย  รู้สึกไม่อยากปล่อยไปไหนเลยครับ ไม่อยากให้หลุดหายไปอีกแล้ว



“อืม...ก็นะ  มันเคยชินแล้วนี่น่า ที่ต้องมีโอ้เอ้อยู่ข้างๆตลอด”   ผมได้แต่ยิ้มแป้น นี่แหละนะที่เขาว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน  หัวใจคนเราก็เช่นกัน ^^



“จะอยู่ข้างๆตลอดไม่หายไปไหนอีกแน่นอนครับผม”



“ให้มันจริงเถอะ”  สโนว์ย่นจมูกใส่  มันน่ารักซะจนผอยากจะไปบีบจมูกโด่งๆนั่นให้หายหมั่นเขี้ยว แต่ติดที่ว่ามือนึงขับรถ มือนึงก็ยังจับมือสโนว์อยู่  เลยคาดโทษไว้ในใจเงียบๆก่อนจะหันไปตั้งใจขับรถต่อ



ลึกๆผมก็ยังแอบสงสัยนะว่าสโนว์ไม่กลัวผู้ชายแล้วหรอ  หรือว่าไม่กลัวแค่กับผม  แต่ก็ไม่คิดจะถามสโนว์ตอนนี้หรอกครับ  คนกำลังชื่นมื่น ไม่อยากทำเสียบรรยากาศไปเสียก่อน  เอาไว้ค่อยถามทีหลังก็ได้  เพราะตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้ขอโฟกัสแค่เรื่องของผมกับสโนว์ก็พอ



“ทำไมฝนไม่หยุดตกสักทีนะ  ดูสิโอ้เอ้ เหมือนน้ำจะท่วมถนนด้วย  รถเราจะรอดไหมเนี่ย”  สโนว์หันไปมองด้านนอกที่ฝนยังตกกระหน่ำไม่หยุด  ผมก็สังเกตเห็นแล้วล่ะครับว่าเหมือนน้ำจะเริ่มท่วมถนนแล้ว



“ใกล้จะถึงคอนโดสโนว์แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ไม่ท่วมรถสโนว์แน่” 



“แล้วโอ้เอ้ไม่ขับวนไปที่มอเอารถตัวเองก่อนหรอ”  เออว่ะ  ลืมสนิทเลยว่าจอดลูกรักทิ้งเอาไว้



“ไม่เป็นไร..เดี๋ยวเราค่อยเรียกแท็กซี่กลับหอก่อนก็ได้วันนี้”  ถ้าแท็กซี่มันรับอะนะ  น้ำท่วมถนนแบบนี้ไม่รู้เลยว่าจะรับผู้โดยสารไหมเพราะเวลาปกติก็ไม่ค่อยจะรับอยู่แล้ว  สโนว์ไม่ได้พูดอะไรต่อ  จนในที่สุดรถก็มาจอดอยู่ที่คอนโดสโนว์โดยสวัสดิภาพ



“ขึ้นไปแล้วล็อคห้องดีๆนะสโนว์  พรุ่งนี้เจอกันนะครับ”  ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมสโนว์เบาๆอย่างที่อยากทำมานาน  ผมหยิกเป็นลอนของสโนว์นิ่มมือกว่าที่คิดไว้เสียอีก  เอาซะผมไม่อยากเอามือออกจากผมของสโนว์เลย



“แล้วโอ้จะกลับยังไง ฝนตกหนักไม่หยุดแบบนี้ แท็กซี่จะรับหรอ”  สโนว์ถามด้วยความเป็นห่วง



“เดี๋ยวเราลองเรียกแกร็บคาร์ดู  เพื่อมีคนมารับ”  ผมบอกแล้วเปิดแอปพลิเคชั่นเรียกแกร็บคาร์







แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที  ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีใครมารับผมเลย ให้ตายสิ - -



“ไม่มีมารับเลยใช่ไหมโอ้เอ้”



“ใช่ครับ..แต่เดี๋ยวก็คงมีมารับ  สโนว์ไม่ต้องห่วงหรอกขึ้นห้องไปเถอะเรารอรถคนเดียวได้ครับ ตากฝนมารีบขึ้นไปอาบน้ำเป่าผมเถอะเดี๋ยวจะไม่สบายนะ”



“โอ้เอ้ตากฝนเปียกเยอะกว่าเราอีก  ไม่กลัวตัวเองจะป่วยบ้างหรือไง”  สโนว์สวนกลับเบาๆ



“เราถึกจะตาย  แค่นี้สบายมากครับ  ฮัดชิ้ว!”   ไอ้บ้าเอ๊ยยยย เสือกมาจามอะไรตอนนี้วะ ไม่แมนเลยให้ตายเถอะโรบิ้น!



สโนว์มองผมอย่างสังเวท ก่อนจะเอ่ยปากพูด “ช่วยไม่ได้ก็ฝนเล่นตกไม่หยุดเลยนี่เนอะ”



“ถ้างั้น  คืนนี้โอ้เอ้ก็ขึ้นไปอยู่กับเราบนคอนโดก่อนแล้วกัน”




O_O   เอาจริงเดะ!  ได้อยู่ด้วยกันในห้องนอนอีกแล้วหรออออ






ตัวอย่าง ส่วนที่เหลือ



“อาอันโทนิโอ้  ถ้าลื้อได้อยู่สองต่อสองกับอาสโนว์ถึงสามครั้งสามครา แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า ลื้อก็อย่ามาเป็นลูกอั๊วะเลยนะ - -”








****************************************************************

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย  ทำไมม๊าพูดแบบนั้นนนนน  มีลูกเป็นสุภาพบุรุษไม่ดีใจหรอม๊า ฮ่าๆๆๆ :-[


ในที่สุดน้องโอ้เอ้ก็สมหวังสักที  ฮ่าๆๆๆๆ  :laugh:

ไม่อยากดึงดราม่าหนักเพราะเราอยากให้เป็นนิยายเบาสมอง ฟีลกู๊ดมากว่าค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่รออ่านกันนะคะ  ตอนนี้เราหายดีแบบมั่นใจแล้วว่าไม่น่าจะเจ็บข้อมือซ้ำอีก ดีใจมากมายหายทรมานสักที :hao5:



ยังเหลืออีก 50 % จะรีบปั่นนะคะ


ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ทุกกำลังเลยค่ะ  :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
"เธอเป็นแฟนฉันแล้ววววว"  :z2: :a3: :a11: :a1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
โอ้เอ้ ไปไม่ถูกเลยเจอหมัดฮุกเข้าให้ แถม แถม แถม เรียกขึ้นคอนโดด้วยกันอีก อร๊ายยยยยยยย
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :z13:
คิดถึงสโนว์ โอ้เอ้ แล้วก็คนเขียนแล้วนะ หายไปนาน กลับมาได้แล้วน้าาา

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่  11  อาหารของเรา






“ถ้างั้น  คืนนี้โอ้เอ้ก็ขึ้นไปอยู่กับเราบนคอนโดก่อนแล้วกัน”


“แล้วสโนว์จะไม่รู้สึกอึดอัดหรอ  สภาพเราตอนนี้มัน..”  ถ้าเป็นเมื่อตอนที่ยังแอ๊บเป็นตุ๊ดก็คงไม่เป็นไรเพราะผมในตอนนั้นไม่เหลืออะไรให้น่ากลัวเลยสักอย่าง   แต่ดูสภาพผมในตอนนี้สิครับ ไอ้หนวดเฟิ้มทั่วกรอบหน้า ผิวกลับมาแทนอีกรอบเพราะไม่ดูแลตัวเองแล้ว หน้าตาก็ย่ำแย่ รวมๆเหมือนโจรจริงๆ สโนว์จะไม่กลัวผมจริงๆหรอ


“ไม่เป็นไร  เรารู้ว่าโอ้เอ้จะไม่ทำอะไรให้รู้สึกอึดอัดแน่นอนเราไว้ใจ...แล้วเราก็ไม่ได้กลัวโอ้เอ้แล้วด้วย  เพราะงั้นไปบนห้องเราเถอะ  ยืนนานกว่านี้จะไม่สบายเอานะ”  เพราะคำพูดที่บอกว่าไว้ใจผมและไม่กลัวผมแล้ว  ทำให้ความกังวลก่อนหน้านี้จางลงไป   มันรู้สึกดีใจนะที่สว์ไว้ใจผมแถมบอกเองกับปากว่าไม่กลัวผมแล้วแม้สภาพผมจะโจ๊นนโจรก็ตาม  โคตรดีใจเลยอันนี้   ผมเลยพยักหน้าตกเดินตามสโนว์ขึ้นไปบนห้อง   


แล้วตอนนี้ผมก็ได้เข้ามาอยู่ในห้องของสโนว์เป็นครั้งแรก!


รู้สึกเหมือนซ้อมเข้าเรือนหอเลยล่ะครับ  ฮ่าๆๆๆๆ มโนไปโน้นนน


ห้องของสโนว์ตกแต่งได้เหมือนตัวตนของเจ้าของห้องไม่มีผิด  ภายในตกแต่งด้วยโทนสีไม้อ่อน ขาว แล้วก็สีฟ้าอมม่วงออกพาสเทลนิดๆผมก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าสีอะไร  แต่โดยรวมแล้วเข้ากันมาก สิ่งของภายในห้องก็ดูมินิมอลเรียบง่ายแต่มีครบทุกสิ่งอำนวยความสะดวก 

มันสวยและดูสบายใจที่ได้อยู่ในนี้มากเลยล่ะครับ


ห้องนี้คงเป็นพื้นที่ ที่สโนว์อยู่แล้วสบายใจที่สุดแน่นอน


“โอ้เอ้จะอาบน้ำก่อนไหม?”

“สโนว์อาบก่อนเถอะ  เราขออาบทีหลังดีกว่า” 

“เอางั้นหรอ...ก็ได้  ถ้าโอ้เอ้หิวก็หยิบของในตู้เย็นมาเวฟทานได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” 


“โอเคครับ” ^^  ผมยิ้มรับ สโนว์ก็เดินเข้าห้องนอนไปอาบน้ำ  ผมเลยเดินไปที่ห้องครัวสำรวจเสบียงดูว่าอะไรบ้าง  ก็พบว่าสโนว์น่าจะเป็นคนนิสัยเดียวกับอาม่า  คือชอบซื้อของมาตุนครับ มีดีกว่าไม่มีประมาณนั้น  สังเกตได้จากมาม่าแบบยกลัง โจ๊กซองแบบแพ็คนึง 12 ถุง อาหารซองแบบสำเร็จรูปหลากหลายยี่ห้อ ไหนจะพวกกระดาษทิชชู่ แชมพู ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า และของตั้งต่างที่ซื้อเก็บไว้ไม่น้อยกว่าครึ่งโหล  คิดว่าที่ซื้อเก็บไว้เยอะไม่น่าจะเพราะงกแบบอาม่าที่ถ้าซื้อทีเดียวเยอะๆจะได้ราคาส่งหรอกครับ  แต่คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้ออกไปไหนมากกว่า


สำรวจตู้ต่างๆในห้องครัวเสร็จก็มาสำรวจตู้เย็นต่อ  แต่พอเห็นของข้างในแล้วก็ได้แต่คิดว่าสโนว์เป็นคนแบบไหนกันถึงได้มีแต่อาหารแช่แข็งมันเต็มตู้เย็นแบบนี้เนี่ย!  มีไม่ต่ำกว่า 10 กล่องเลยด้วยซ้ำ  ถ้านับวันหมดอายุที่ไล่ๆกันในหนึ่งอาทิตย์สโนว์แทบจะกินอาหารแช่แข็งทั้งตอนเช้าและตอนเย็นแน่ๆ ผมได้แต่ถอนหายใจกับความเป็นอยู่ของสโนว์  กินแบบนี้เดี๋ยวผมนุ่มๆนั่นก็ได้ร่วงจนหมดหัวหรอก  เฮ้อ


มิน่าล่ะตอนพาไปกินข้าวที่บ้านครั้งนั้นถึงได้กินอาหารที่บ้านผมอย่างเอร็ดอร่อยเชียว  ไม่ได้การๆ  ผมต้องสร้างคุณภาพชีวิตในการกินที่ดีกว่านี้ให้สโนว์ครับ ผมเป็นแฟนเขา ผมคิดว่าผมน่าจะมีสิทธิ์ดูแลสโนว์ในส่วนนี้นะ  ไอ้อันโทนิโอ้คนนี้จะดูแลสโนว์ไวท์เอง โฮ๊ะๆๆๆๆ


จากนั้นผมก็ลองมองหาวัตถุดิบอื่นๆที่พอจะทำอาหารมื้อค่ำกินกันได้  แต่ก็เห็นจะมีแต่ไข่ไก่นี่แหละครับที่พอทำอาหารได้  เลยคิดว่าคงจะทำเมนูไข่เจียวเกี่ยวหัวใจให้สโนว์ทาน คึคึคึ  แค่ชื่อเมนูก็กินขาดล่ะ  แม้แท้จริงมันก็คือไข่เจียวบ้านๆนี่แหละครับ  ฮ่าๆๆๆ  เอาไว้ทอดตอนจะทานดีกว่าจะได้กินร้อนๆอร่อยนักแล  อ้อ มีปลากระป๋องด้วยแฮะ งั้นทำต้มยำปลากระป๋องไว้ซดน้ำให้คล่องคออีกหนึ่งอย่างแล้วกัน ง่ายๆไม่ยุ่งยาก  ทอดเบคอนที่เหลือติดตู้เย็นอีกอย่างก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับมื้อค่ำของเราสองคน

จากนั้นผมก็จัดการหุงข้าวไว้รอ  โชคดีที่มีข้าวสารติดไว้บ้างมื้อค่ำของเราทั้งคู่เลยน่าจะรอดตายกันไปอีกหนึ่งมื้อ  ไว้คราวหน้าผมจะซื้อวัตถุดิบอื่นๆมาไว้ในตู้เย็นบ้าง  เพื่อได้มีโอกาสเข้ามาในห้องของสโนว์อีกจะได้ทำอาหารให้สโนว์ทาน  ถึงผมจะไม่ได้ทำอาหารเก่งกาจมากแต่ก็พอทำเป็นรสชาติกินได้ไม่ทุเรศจนเกินไปหรอกนะครับ
กดหม้อข้าวหุงเรียบร้อยผมก็กลับมานั่งที่โซฟาตามเดิม เล่นเกมในโทรศัพท์รอจนกระทั่งนึกอะไรบางอย่าง   ผมรีบกดออกจากเกมแล้วกดโทรหาใครคนนึง

‘ม๊าของอันโทนิโอ้’


ตู๊ดดด

ตู๊ดดด


/ฮะโหลว  ว่างายว๊าอาอันโทนิโอ้  ม๊าบอกแล้วช่ายม๊าย  ง้ออาสโนว์ม่ายสำเร็จ ลื้อไม่ต้องเข้าบ้าน! ไม่ต้องโทรมาหาอั๊วะเลย!/  เสียงแว๊ดๆดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด จนผมต้องถือโทรศัพท์ให้ห่างจากหูเพราะกลัวหูจะแตกเสียก่อนทันได้พูดอะไร    ใช่ครับตั้งแต่วันที่แผนแตกสโนว์โกรธ ม๊าก็โกรธผมยิ่งกว่าไปอีก  ถึงกับบอกว่าถ้าง้อสโนว์ไม่สำเร็จไม่ต้องเข้าบ้าน เพราะงั้นผมเลยไม่ได้กลับไปบ้าน สภาพผมเลยโจรได้ใจปล่อยเนื้อปล่อยตัวได้มากขนากนี้ไง เพราะม๊าไม่เห็น ถ้าม๊าเห็นคงบ่นหูชาไปสามวันเจ็ดวันแน่นอนครับ


“ถ้าอั๊วะไม่โทรมา ม๊าก็ไม่รู้ข่าวดีนะสิ”  ผมรีบพูดก่อนที่ม๊าจะกดตัดสายทิ้ง

/ข่าวดีอะไรของลื้อว๊า  อาอันโทนิโอ้/  ม๊าถามเสียงยังหงุดหงิดเช่นเคย


“อั๊วะมีแฟนแล้วนะม๊า!” ^0^  ผมบอกน้ำเสียงร่าเริงอย่างดีใจที่สุดในสามโลก  คิดว่าม๊าเองก็คงดีใจมากแน่ๆ


/ว่าไงนะ! ลื้อมีแฟน แฟนที่ไหน มันเป็นคราย นี่ลื้อเทอาสโนว์แล้วงั้นหรอ  อาอันโทนิโอ้ ลื้อมัน มันชั่ว ทำร้ายจิตใจอาสโนว์ไม่พอ! ยังทำร้ายจิตใจอั๊วะกับอามาเรียฟิเซนน์อีก โฮฮฮฮฮฮ  ลื้อมันลูกทรพีจริงๆ ฮืออออ โฮฮฮฮฮ/   เสียงม๊าคร่ำครวญแถมด่าผมกระเจิง คนล่ะอย่างกับที่คิดไว้ทำให้ผมพยายามนึกว่าผมพลาดไปตรงไหน.....อ้อ  พลาดที่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นแฟนนี่เอง!

“ใจเย็นนะม๊า คนที่..”


/ไม่เย็นแล้ว! อั๊วะม่ายฟังอาร่ายจากลื้อแล้วอาอันโทนิโอ้ โฮฮฮ อั๊วะจะตัดลื้อออกจากกองมรดก!/


“สโนว์เป็นแฟนอั๊วะครับม๊า!”  ผมตะโกนตอบไปสุดเสียง  ก่อนที่อะไรมันจะไปกันใหญ่เพราะม๊านี่แหละ  เอะอะตัดจากกองมรดกตล๊อดดดด


/ฮืออออ.....ลื้อว่าไงนะ  พูดใหม่อีกทีสิ/  ม๊าชะงักหยุดร้องไห้ไป  ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมแทบปรับอารมณ์ตามไม่ทัน   เมื่อกี้ร้องไห้จริงหรือแสดงกันแน่ ผมล่ะอยากจะถามจริงๆ


“อั๊วะบอกว่า... อั๊วะกับสโนว์เป็นแฟนกันแล้วครับม๊า”  ผมพูดเน้นเสียงให้ม๊าได้ยินชัดๆ  กลัวม๊าหูตึงแล้วจะไม่ได้ยินอีก


/แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย/   เสียงกรี้ดร้องดังทะลุจนลำโพงแทบแตก ตามมาด้วยเสียงโวยวายตะโกนโวกเวก

/อาอันโทนิโอ้มีเมียเลี้ยวววววว ป๊า อาม่า อาหลิง อาฟู่ฟู่ อาอันโทนิโอ้มีเมียเลี้ยววววววว/  ได้ข่าวว่าแค่แฟนเฉยๆนะม๊า..ถึงจะอยากเป็นมากกว่านั่นก็เถอะ


/ว่าไงนะใครเป็นเมียมัน มันไปทำผู้หญิงที่ไหนท้อง อั๊วะจะไปเฉาะกระบาลมัน! อุตส่าห์ส่งไปเรียนมันกลับไปหาเมีย ใช้ได้ที่ไหนวะ!/  ชะอุ้ย!

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะป๊า..”  ผมแย้งไปแต่เหมือนว่าจะไม่มีใครได้ยินเสียงในโทรศัพท์
/แอร๊ยยย ใจเย็นๆๆ  แฮ่กๆ โอ๊ย หายใจไม่ทัน  อาหลิงเอายาดมมาให้ม๊าหน่อย/

/ม๊าก็นะ เล่นกรี้ดเป็นวัยรุ่นแบบนี้ก็หายใจไม่ทันน่ะสิ เอ้าๆ ยาดมจ่ะม๊า ใจเย็นๆค่อยๆดม/

/เออ ดีๆค่อยยังชั่ว  ป๊า อาอันโทนิโอ้มีเมียแล้วน๊า  อาสโนว์ไงอาสโนวววว  ฮืออออ อั๊วะดีใจมั่กมากเลย ฮือออ/

/อ้าวหรอ.. เออๆ งั้นแล้วไป จบๆ ลื้อก็ไม่บอกอั๊วะแต่แรกความดันอั๊วะจะขึ้นสมองอยู่แล้วเนี่ย เฮ้อ/

ผมหลุดยิ้มเบาๆเมื่อนึกภาพตามเสียงที่ได้ยิน ว่าที่บ้านจะวุ่นวายปนน่าขำขันแค่ไหน

/อาหลิง ไปหยิบโทรศัพท์อั๊วะมาให้ที/

/ฮัลโหล อาอันโทนิโอ้ลื้อยังฟังอยู่ไหมว๊า/

“ฟังอยู่ครับม๊า”

/ลื้อไม่ได้โกหกอั๊วะใช่ไหม อาอันโทนิโอ้ อย่าหลอกให้ดีใจเก้อน๊า ไม่งั้นอั๊วะจะเอาอีโต้ไปเฉาะหัวลื้อจริงๆด้วย/

“โห ม๊าโหดอ่ะ  แต่อั๊วะไม่ได้ล้อเล่นแน่นอนครับ  เนี่ยตอนนี้อั๊วะก็อยู่ที่คอนโดสโนว์...จะค้างคืนที่นี่ด้วยแหละ” อร๊ากกกกกกก พูดเองเขินเองเว้ย  หึ่ยยย เกลียดความสาวน้อยนี่จริงๆ

/จริงหรออาอันโทนิโอ้ ดีๆๆ คราวนี้จับให้มั่นอย่าให้หลุดมืออีกนะ รวบหัวรวบหางอาสโนว์เลย!/

“เฮ้ย! ม๊าก็ พูดอะไรแปลกๆอีกแล้ว  เพิ่งจะได้เป็นแฟนกันเอง”  จะมารวบหงรวบหางอะไรกัน

/อาอันโทนิโอ้!  ถ้าลื้อได้อยู่สองต่อสองกับอาสโนว์ถึงสามครั้ง แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า ลื้อก็อย่ามาเป็นลูกอั๊วะเลย!!!/

“โหยยยยม๊า   อั๊วะไม่พูดกับม๊าแล้ว”

/แล้วทำไมลื้อจะไม่พูดกับอั๊วะ ห๊า มีธุระสำคัญมากมายหรือง๊าย/  ม๊าตะโกนสวนกลับอย่างเคย

“ใช่  เพราะอั๊วะจะไปทำกับข้าวให้สโนว์กิน!”


/เออ งั้นลื้อวางสายได้ แค่นี้นะ ติ้ด/


กรรม  ไหงกลายเป็นม๊าที่วางสายไปดื้อๆซะงั้น  แค่บอกว่าเป็นสโนว์ม๊าก็ยอมง่ายๆเลยเชียวนะ  เห็นแววหัวเน่าอยู่ไม่ไกลเลยล่ะครับ - -


ผมเดินกลับไปที่ครัวเพื่อเตรียมตีไข่ทำไข่เจียว  สโนว์ก็เดินออกมาจากห้องพอดี เขาอยู่ในชุดนอนสีฟ้าอ่อนลายตารางพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่กำลังเช็ดผมที่เปียกชื้นนั่น  กลิ่นหอมอ่อนๆของครีมอาบน้ำลอยเข้าจมูกให้ใจสั่นไม่น้อย


“อาอันโทนิโอ้!  ถ้าลื้อได้อยู่สองต่อสองกับอาสโนว์ถึงสามครั้ง แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า ลื้อก็อย่ามาเป็นลูกอั๊วะเลย!!!”


“โอ้เอ้ เราอาบน้ำเสร็จแล้วนะ รีบไปอาบต่อเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย” เสียงของสโนว์ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิด

“อ..อืม  ตีไข่เสร็จพอดี เดี๋ยวออกมาทอดให้นะกินร้อนๆจะได้อร่อย”  สโนว์พยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มอ่อนๆให้เช่นเคย  ผมถึงกับต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ  หน้าดำหน้าแดงไปหมด   

อร๊ากกกกก  ไม่ๆๆ มึงอย่าคิดอะไรบ้าๆเด็ดขาดไปอันโทนิโอ้!  พุธโธ พุธโธ ไว้


สงบสติอารมณ์ได้ผมก็รีบอาบน้ำอาบความร้อนรุ่มในใจอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะหยิบชุดที่สโนว์เตรียมไว้ให้มาสวมใส่  มั่นใจล้านเปอร์เซนต์ว่านี่คือชุดนอนของสโนว์เองแน่นอน โฮ๊ะๆๆๆ เพราะว่ามันเป็นลายตารางเหมือนกันต่างตัวนี้เป็นสีน้ำเงินเข้ม  มีความชุดคู่ด้วยเว้ย  ไอ้อันโทนิโอ้นี่ยิ้มหน้ายิ่งกว่าจานดาวเทียมอีกครับ


พอผมเดินออกมาก็เห็นสโนว์นั่งดูทีวีพร้อมกับใช้ไดร์เป่าผมไปด้วยอย่างใจเย็น 

“หิวหรือยังครับ”  ผมถามคนตัวขาวพลางช่วยเอามือสางผมเบาๆ

“อื้ม ก็นิดนึง”  สโนว์หันมาตอบไม่ได้มีท่าทีกลัวการสัมผัสของผมแต่อย่างใด

“โอเค งั้นรอแป๊บนึงนะ ผมไปทำอาหารก่อน”

“ให้เราช่วยทำอะไรไหม”  สโนว์ดึงชายเสื้อถามตาแป๋ว

“อยากช่วยทำหรอครับ”  คนตัวขาวพยักหน้ารับ

“โอเค  งั้นมาช่ววยกันทำอาหารกัน” ^^ 


มื้อนี้ก็กลายเป็นว่าเราช่วยกันทำอาหารสโนว์คอยช่วยหยิบสิ่งของเครื่องปรุงต่างๆให้ผมเป็นคนปรุง  ผมจัดการทำต้มยำปลากระป๋องก่อน โดยมีสโนว์ช่วยฉีกใบมะกรูดให้อย่างตั้งใจ ต่อมาผมทำการทอดไข่เจียวที่ตีค้างไว้ปรุงรสเสร็จก็ทอดกับน้ำมันร้อนๆจนฟูฟองโดยมีสโนว์คอยถือจานรอใส่ไข่เจียวอย่างตั้งใจ แล้วสุดท้ายผมก็ทอดเบคอน โดยมีสโนว์เป็นคนหั่นชิ้นเบคอนให้สั้นพอดีคำอย่างตั้งใจ  ก่อนจะส่งให้ผมเป็นคนทอดเพราะว่าสโนว์กลัวน้ำมันกระเด็น

“โอ้เอ้สุดยอดไปเลย ทำอาหารน่ากินมากๆ”  สายตาวิบวับมองอาหารที่ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะทานข้าวอย่างตื่นเต้น

“สโนว์ก็ช่วยทำเหมือนกันนิครับ  มันก็ต้องอร่อยอยู่แล้ว”  ผมส่งยิ้มให้สโนว์

“งั้นเราทานข้าวกันเลยเนอะ”  สโนว์พูดก่อนจะอาสาตักข้าวใส่จานให้ผมทานตามด้วยของตัวเอง

เราสองคนผลัดกันตักอาหารใส่จานให้กัน  ถึงมันจะมีอยู่แค่สามอย่างแถมเป็นเพียงอาหารเมนูบ้านๆ  แต่มันก็อร่อยเหลือเกิน

“อร่อยจังโอ้เอ้”  สโนว์บอกทั้งที่ยังเคี้ยวข้าวแก้มตุ้ย

“อร่อยก็กินเยอะๆครับ  ต่อไปอย่าเอาแต่กินอาหารสำเร็จรูปนะ  มันไม่ดีต่อร่างกายเดี๋ยวจะเสียสุขภาพ เราเป็นห่วง”  ผมได้ทีก็ถือโอกาสพูดซะเลย

“ก็ถ้าเป็นห่วงจริงๆ...”  สโนว์เงียบเสียงไปทำให้ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่าเขาจะพูดอะไรต่อ


“ทำไมไม่มาทำอาหารให้เรากินทุกวันเลยล่ะ”   


“...”  ผมสตั๊นไปสามวิกับประโยคนั้นของสโนว์  กำลังใช้สมองคิดอยู่ว่ามันมีนัยยะอะไรหรือเปล่า แต่ปากผมคงรู้ว่าสมองคิดไม่ออกแน่ๆเลยพลั้งปากถามไปก่อนความคิดว่า..


“ได้หรอ..ผมมาทำอาหารให้สโนว์กินทุกวันได้หรอ”  หัวใจเริ่มทำงานหนัก เต้นแรงยิ่งกว่ากลองรัว ฝ่ามือเย็นเฉียบอย่างลุ้นรอคำตอบ


“ทำไมจะไม่ได้..ก็เรา...เป็นแฟนกันแล้วนิ”  คนพูดตอบกลับมาก่อนใบหน้าขาวใสจะขึ้นสีอย่างแดงจัดไปทั่วทั้งหน้า

น่ารักคูณร้อยไปเลยครับพี่น้องงงงงง    โอยยย หัวใจอันโทนิโอ้วันนี้ทำงานหนักมากเหลือเกินครับ

“รับทราบครับผม!”  ผมทำท่าตะเบ๊ะรับคำสั่งแบบทหารเสียงดัง ทำให้สโนว์หลุดขำกับท่าทางประหลาดของผมเบาๆ


มื้อนี้อาจไม่อร่อยที่สุดแต่เป็นมื้อที่มีความสุขที่สุดของเราในฐานะ ‘คนรัก’ กันแน่นอนครับผม


มีความสุขจริงๆเลย







++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






เรื่องที่คนโง่ไม่เคยรู้

หลังจากวางสายลูกชายตัวดีเสร็จ กิมย้งก็ยิ้มแป้นแล้นด้วยความดีใจ

“สบายใจแล้วสินะม๊า พอรู้ว่าเฮียกับพี่สโนว์ดีกันแล้ว” อาหลิงพุดพลางกอดม๊าอย่างเอาใจ

“เป็นแฟนกันแล้วต่างหาก ไม่ใช่แค่ดีกันสักหน่อยน๊า”  กิมย้งพูดขัด

“จ้า จ้า แฟนก็แฟน”  จือหลิงยิ้มแป้นตาม  เพราะเธอเองก็ดีใจมากไม่แพ้ม๊าเหมือนกัน  พี่สโนว์เป็นคนน่ารัก คนใจดี การที่มาตกลงเป็นแฟนเฮียได้นี่ยิ่งกว่าปาฏิหารย์ด้วยซ้ำไป

“มีความสุขกันแล้วก็มากินมื้อเย็นกันเถอะอากิมย้ง  เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดซะก่อน มาๆ”  มิ่งขวัญเรียกให้ทุกคนไปรวมกันที่โต๊ะทานข้าวพร้อมหน้า

“พวกลื้อกินกันไปเลย มื้อนี้อั๊วะไม่กินด้วยหรอก”

“ทำไมล่ะ ไม่กินเดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”

“ไม่ ไม่  คือ...อั๊วะบนกับบรรพบุรุษหว้าย  ว่าถ้าอาอันโทนิโอ้ดีกับอาสโนว์อั๊วะจะกินเจ......หนึ่งเดือน”

“ห๊ะ! หนึ่งเดือนเลยหรอม๊า”  จือหลิงถามเสียงดัง   กิมย้งได้แต่พยักหน้ารับ

“ช่ายๆ นึกม่ายถึงว่าบรรพบุรุษจะให้มากกว่าคำขอร้องของอั๊วะอีก ดูสิ  ได้เป็นแฟนกันเลยน๊า คุ้มมั่กมาก”

“งั้นเดี๋ยวอั๊วะกินเจเป็นเพื่อนลื้อเอง อากิมย้ง” มิ่งขวัญพูดขึ้นพลางยกถ้วยข้าว สองถ้วยไปนั่งแยกจากโต๊ะอาหารก่อนจะเดินไปเปิดตู้หยิบเอาถั่วลิสงออกมาคั่วเกลือในกระทะ

“อามิ่งขวัญ  ลื้อไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ด้ายน๊า  อั๊วะกินคนเดียวก็พอแล้ว  ลื้อไปกินอาหารที่โต๊ะเหมือนเดิมเถอะ”

“อั๊วะเป็นผัวลื้อนะ  แล้วจะปล่อยให้เมียตัวเองนั่งกินเจอยู่คนเดียวได้ไง”  มิ่งขวัญตอบทั้งที่สายตายังไม่ละจากการคั่วถั่วลิสง

“โฮฮฮฮฮ อามิ่งขวัญ  อั๊วะเลือกผัวไม่ผิดจริงๆด้วย โฮฮฮฮฮ”  กิมย้งกอดผู้เป็นสามีจากทางด้านหลัง พลางหยิบผ้าเช็ดหน้าคู่กายมาซับน้ำตา

“งั้นอั๊วะจะกินเจเป็นเพื่อนป๊าม๊าด้วย”  จือหลิงพูดขึ้น

“งั้น..ฟู่ฟู่..ก็จา..กิงเจ..ด้วยยย”  ตี๋เล็กของบ้านบกมือร่วมด้วยอีกแรง  ป๊าม๊ากินอะไรฟู่ฟู่ก็จะกินเหมือนกัน

“ไม่เป็นร่ายๆ พวกลื้อยังเด็ก ต้องกินอาหารให้ครบห้าหมู่จาด้ายโตไวๆน๊า อาหลิง อาฟู่ฟู่”

“แต่ว่า..” จือหลิงอยากคัดค้านเพราะกินเจเป็นเพื่อนป๊าม๊าจริงๆ ถ้าให้ตนเองกินเนื้อแต่ป๊าม๊าต้องกินแต่ผัก  ก็รู้สึกอกตัญญูอย่างไงไม่รู้

“อาหลิง อาฟู่ฟู่ พวกลื้อกินอาหารธรรมดาเป็นเพื่อนอาม่าเถอะนะ  อาม่าอายุเยอะแล้วต้องกินของบำรุงเยอะๆ พวกผักหญ้าสารอาหารไม่พอบำรุงร่างกายอาม่าหรอก  ขืนพวกลื้อมากินเจกันหมดอาม่าก็เหงาแย่สิแล้วจะกินข้าวลงได้ยังไง  จริงไหม?”   มิ่งขวัญประมุขของบ้านพูดอธิบายจนจือหลิงต้องยอมรับเหตุผลของป๊า

“ก็ได้  งั้นป๊าม๊าก็กินข้าวให้อร่อยนะ  พวกอั๊วะก็จะกินให้อร่อยเหมือนกัน  ใช่ไหม ฟู่ฟู่”  จือหลิงก้มลงไปถามน้องชายตัวน้อย

“ใช่กั๊บ! ฟู่ฟู่...หยักกิง....ก่ายทอด”  ฟู่ฟู่ ยิ้มตาหยีจนตาเหลือขีดเดียว เรียกรอยยิ้มให้คนในครอบครัวยิ้มตามไปด้วย





ทุกคนต่างลงมือทานอาหารเย็น  อาหารเมนูบ้านๆ ที่มีคนในบ้านนั่งทานด้วยกันอย่างพร้อมหน้า


แค่นี้ก็มีความสุขแล้วจริงๆนั่นแหละ





------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ก่อนอื่นขอสวัสดีนักอ่านทุกคนนะคะ :กอด1:

หายไปนานเพราะมีเรื่องเครียดๆหลายเรื่องเลย  มันเหนื่อยและบั่นทอนเรามากๆ
จนเขียนอะไรไม่ได้จริงๆ :hao5:   ขอโทษด้วยนะคะ


จะพยายามมาต่อให้จบให้ได้นะคะ....ถ้ายังมีคนอ่านกัน :heaven


ออฟไลน์ ป้าแก่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mc4: :mc4: :mc4:

นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
กรี๊ดดดดดดด ยังไม่ได้อ่านมาเม้นก่อน ดีใจที่มาต่อ คิดถึงงงงง
 :กอด1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อิ่มทุกมื้อแน่ ๆ สโนว์  :hao6:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนที่ 12

ต่อสู้กับความกลัว

   พาร์ท สโนว์


   ช่วงเวลากลางคืน ผมที่ยังนอนไม่หลับลืมตาขึ้นมามองความมืดมิดในห้องนอนของผมเอง  ก่อนที่สายตาจะปรับคุ้นชินกับความมืดจนพอมองเห็นอะไรมากขึ้น  ส่วนต้นเหตุที่ทำให้ผมนอนไม่หลับก็คงเป็นเพราะ...คนที่นอนอยู่กับพื้นข้างเตียงล่ะมั้งครับ

   ผมค่อยๆเลื่อนตัวไปแอบดูโอ้เอ้ที่นอนหลับอยู่บนผ้านวมผืนใหญ่ข้างเตียง เขาดูเหมือนจะหลับสนิทดี อดไม่ได้ที่จะเผลอจ้องมองใบหน้าเข้มๆนั่น ใบหน้าที่ดูเหมือนจะน่ากลัวด้วยรอยแผลเป็นบนหน้า แต่หากได้รู้จักแล้วก็ค้นพบว่าเขาเป็นผู้ชายที่ใจดีมากๆคนหนึ่ง  จนผมเองอดหวั่นไหวกับความใจดีของคนๆนี้ไม่ได้จริงๆ 

   ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกหลุมรักเขาตอนไหน ตอนที่เขาใจดีด้วย ตอนที่เขาเป็นห่วงผมตลอด ตอนที่เขาเข้ามาพูดคุยชวนผมเป็นเพื่อน  หรืออาจจะเป็นตั้งแต่ตอนนั้น

   ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรก...




   ย้อนไปวันนั้น 
   ผมขับรถไปย่านการค้าแห่งหนึ่งเพื่อจะไปรับกรอบรูปที่สั่งทำไว้ เนื่องจากมันมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะส่งไปรษณีย์ได้  แต่พอไปถึงที่ร้านเขาก็พบว่าของมีตำหนิอยู่หลายจุดพี่ผู้หญิงเจ้าของร้านเลยบอกจะเร่งเก็บงานให้ ผมเลยออกมาเดินเล่นตรงฟุตปาธรอ มียกกล้องโทรศัพท์หามุมถ่ายรูปสถานที่ที่มาเก็บไว้บ้าง

   “เมี๊ยววว เมี๊ยวว”  เสียงร้องเล็กๆดังอยู่ใกล้ๆ ดึงความสนใจให้ผมหันไปมอง

   แล้วก็พบกับสายตาแป๋วๆของแมวตัวหนึ่งที่ก้มหน้ามามองผมบนต้นไม้ที่ไม่ได้สูงมากที่ขึ้นอยู่ตรงช่องว่างฟุตปาธ  ดูท่าแล้วเจ้าเหมียวน้อยคงจะปีนขึ้นไปแต่หาทางลงไม่ได้  จริงๆมันก็ไม่ได้สูงมากนะครับแค่เหนือศีรษะผมนิดหน่อย  แต่เจ้าแมวน้อยน่าจะไม่กล้ากระโดดลงมามากกว่า  (สโนว์เอ๋ย โดนนังมาเรียฟิเซ่นหลอกแล้วลูกกก)


ผมยิ้มอย่างชอบใจในความอ๊องของเจ้าแมวตัวนี้ก่อนจะชูมือขึ้นไปค่อยๆจับเจ้าแมวน้อยให้ลงมาจากต้นไม้  โชคดีที่น้องค่อนข้างเชื่องเลยให้ผมจับง่ายๆ  ผมอุ้มน้องไว้บนแขนลูบขนนุ่มอย่างพอใจ  แต่แค่แป๊บเดียวน้องก็กระโดดออกจากมือไปในซอยข้างๆ ผมเลยตามไปเพราะห่วงว่าจะโดนรถชนน่ะครับ  เพราะติดถนนด้วย  พอตามไปก็ถึงได้รู้ว่าน้องอยากจะอึครับ  ผมก็เลยเอาทิชชู่ที่พบติดตัวมารองแล้วนั่งให้กำลังใจซะเลย พอน้องอึเสร็จผมก็จัดการเก็บอึน้องห่อแล้วทิ้งลงถังขยะให้เรียบร้อย ตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้วเลยคิดว่าน้องน่าจะหิวเลยบอกน้องว่าจะไปซื้ออาหารมาให้กินครับ  น้องอ้อนน่ารักมากๆจนผมคิดว่าอยากจะเอาไปเลี้ยงเลย  แต่ก็ติดที่พี่สาวผมแพ้ขนสัตว์ครับ    พี่ผมจะมาเยี่ยมผมที่คอนโดทุกอาทิตย์น่ะครับเสียดายไม่งั้นผมคงเอาน้องมาเลี้ยงแน่ๆ   เอ๋...หรือจะแอบเลี้ยงดีนะ  คอนโดผมก็อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์ได้ด้วย

แต่พอเดินกลับมาผมก็เห็นว่ามีผู้ชายตัวใหญ่ผิวเข้มคนหนึ่งอุ้มน้องไปแล้ว...ผู้ชายตัวใหญ่ที่อุ้มน้องไปแล้วก็หันมาฟัดหอมหัวน้องไปตลอดทาง

ดูๆไปก็น่ารัก..แปลกๆดี



ผมกลับไปที่ร้านทำกรอบรูปก็พบว่าเก็บงานไม่ทันจริงๆ แล้วก็เริ่มมืดแล้วด้วย  ผมเลยบอกว่าพรุ่งนี้จะมารับใหม่อีกที เพราะผมอยากให้งานเรียบร้อยที่สุดไม่อยากเร่งอะไรมากด้วย  ก็นะ  เพื่อว่าพรุ่งนี้ถ้าผมกลับมาเอากรอบรุป อาจจะได้เจอน้องแมวน้อยอีกก็ได้




แล้วก็ได้เจอจริงๆ


แต่เจอว่าเจ้าแมวน้อยถูกอุ้มโดยผู้ชายคนเดียวกับเมื่อวาน  ผมเลยต้องแอบมองเขาจากในรถที่จอดเทียบฟุตปาธไว้    เขายืนอุ้มน้องพลางเล่นหยอกกันอยู่นานสองนาน  ผมได้แต่แอบคิดว่าผู้ชายเล่นกับแมวก็น่ารักดีเหมือนกัน  แต่ก็แอบเสียดายที่ไม่ได้จับขนนุ่มๆนั่นอีก จนพี่เจ้าของร้านให้ลูกน้องยกกรอบรูปที่เก็บงานเรียบร้อยห่อกันกระแทกอย่างดีขึ้นทางด้านหลังรถเสร็จ เขาก็ยังไม่เดินไปไหน ท่าทางของเขาเหมือนกับ  กำลังมองหาอะไรบ้างอย่างหรือไม่ก็...กำลังมองหาใครบ้างคนอยู่ 

ผมยื่นเงินค่ากรอบรูปให้พี่เจ้าของร้านจากในรถ  แล้วนั่งมองเจ้าแมวน้อยกับผู้ชายคนนั่นก่อนจะขับรถออกมา

คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ


แต่แล้วผมก็กลับได้เจอเขาอีกครั้งที่มหา’ลัย   ผมแอบแปลกใจที่เห็นเขาเต้นแรงราวกับมีจิตใจเป็นแดนเซอร์ในตอนแรก  แต่ไม่มีเวลาให้สนใจมากนักเพราะผมเองเกิดอาการที่ไม่ได้อยากให้เกิดเลยจริงๆ คือการกลัวผู้ชาย  เลยทำให้ผมหมดสติไปซะก่อน   ผมเชื่อว่าใครๆก็ไม่อยากมีโรคแปลกๆแบบนี้หรอก  มันเป็นอาการที่ผมไม่สามารถควบคุมได้  อาจเพราะฝังใจจนยากจะลืมลงได้จริงๆ

หลังจากนั้น  ผมก็เริ่มสังเกตได้ถึงการมีตัวตนของเขาอยู่รอบๆตัว  ไม่ว่าผมไปที่ไหนในมหา’ลัยก็จะเห็นว่ามีเขาแอบนั่งอยู่ห่างๆเสมอ  น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าถูกสโตรกเกอร์หรือทำให้อึดอัดใจ  แต่กลับกลายเป็นว่ารู้สึกถูกปกป้องมากกว่า..

เพราะที่ไหนที่มีเขามานั่งอยู่ไม่ไกล  จะไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้ามาทำความรู้จักหรือตื้อขอเบอร์ผมเลย  ซึ่งมันถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับผม


และตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมเผลอแอบมองหาว่าวันนี้เขาจะมาอยู่ใกล้ๆผมอีกไหม

จนวันหนึ่งผมกับเขาก็ได้มาอยู่ใกล้กันแบบจริงๆในฐานะเพื่อน  ผมที่กำลังคิดจะดรอปเรียนเพราะไม่มีเพื่อนผู้หญิง กลับได้บังเอิญไปเห็นเขาตอนกำลังแต่งหน้าในห้องน้ำ ผมแปลกใจนิดหน่อยที่อยู่ๆก็เห็นเขาแต่งหน้าทาปาก  แต่พอเขาบอกว่าเขาแอ๊บแมน กรอปกับที่ผมเคยเห็นเขาเต้นยั่วรุ่นพี่วันรับน้องก็เลยคิดว่าเขาคงจะแอ๊บแมนจริงๆ  แถมเขายังมีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันอีก นั่นเลยยิ่งทำให้ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้แมนร้อยเปอร์เซนต์   

“แกเรียกเราว่าโอ้เอ้ก็ได้นะ”


และเมื่อยิ่งได้รู้จักผมก็รับรู้ได้ถึงความใจดีที่อาจดูสวนทางกับหน้าตา  โอ้เอ้เป็นคนใจดี ตลก และเขามักจดจำเรื่องของผมได้เสมอ จนผมไม่รู้สึกระแวงเขาอีกต่อไป  จนวันหนึ่งที่ผมได้ไปที่บ้านของโอ้เอ้  ครอบครัวโอ้เอ้ก็น่ารักและใจดีมาก  ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปด้วยดี ถ้าไม่ใช่เพราะคืนนั้นที่ผมนอนค้างที่ห้องนอนของโอ้เอ้


“เราอาบน้ำเสร็จแล้วนะโอ้เอ้” ผมบอกคนที่เดินไปเดินมาอยู่ในห้องอย่างทำตัวไม่ถูก
“อ..อ่อ งั้นสโนว์ตามสบายเลยนะ  เราไปอาบน้ำก่อน  สโนว์นอนเตียงนะเดี๋ยวเรานอนฟูกที่พื้นเองจ้า”   ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียงลายฟรุ้งฟริ้งของโอ้เอ้   

“ถ้าง่วงก็นอนก่อนได้เลยน้า  พอดีเราอาบน้ำช้าน่ะ”

“โอเค  โอ้เอ้ไปอาบน้ำเถอะดึกแล้ว”  ผมบอก  ก่อนก้มไปอุ้มน้องมาเรียฟิเซ่นขึ้นมาลูบขนนุ่มเล่นด้วย   โอ้เอ้เดินเข้าห้องน้ำไปตามคำบอกผม  ส่วนผมก็นอนเล่นฟัดพุงมาเรียฟิเซ่นอย่างหมั่นเขี้ยว

“ทำไมน่ารักแบบนี้เนี้ย”  ผมยิ้มให้มาเรียฟิเซ่น  ก่อนที่น้องจะกระโดดลงไปใต้เตียงแล้วไม่ยอมออกมา    ผมเลยต้องลงไปที่พื้นแล้วก้มลงมองหาก็เห็นน้องนอนอยู่ใต้เตียงเฉยๆ   ผมเลยเอื้อมมือไปจับตัวน้องลากออกมาจากใต้เตียง

แต่ไม่ได้มีแค่น้องที่ออกมาจากใต้เตียง  มันมีอะไรบางอย่างติดมากับพุงน้องด้วย  ผมหยิบมันมาดูก็เห็นเป็นรูปผมที่ฟุบหลับในห้องสมุดของมหา’ลัย ข้างๆมีโอ้เอ้ที่กำลังมองมาที่ผม  ผมคิดว่าเขาคงแอบถ่ายเอง แต่สายตาที่เขามองผมจากในรูปนั่นทำให้ผมรู้สึกใจเต้นผิดจังหวะแปลกๆ  และเมื่อพลิกรูปไปด้านหลังก็ได้เห็นกับข้อความหนึ่ง

‘ ได้อยู่ใกล้ๆแค่นี้...ก็ดีแล้ว
        โอ้เอ้ & สโนว์ ’


ผมรู้สึกเหมือนโลกหยุดนิ่งไปหนึ่งวินาที  ก่อนจะสะบัดผมไล่ความคิดบ้าๆว่าเพื่อนกันไม่น่าจะทำแบบนี้ นอกจากจากว่า  เขาไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อน


เสียงอาบน้ำในห้องน้ำเงียบไป  ผมคิดว่าเขาคงใกล้จะอาบน้ำเสร็จแล้ว  ในตอนนั้นผมจึงเลือกหลบหนีความรู้สึกแปลกๆในใจ แล้วเก็บรูปไว้ในกระเป๋าของผมก่อนจะแกล้งทำเป็นกอดมาเรียฟิเซ่นนอนหลับไป แอบคิดกังวลไปต่างๆนาๆว่าถ้าโอ้เอ้เป็นผู้ชายแท้ๆ  ผมจะทำอย่างไรดี  เขาจะทำร้ายผมไหม จินตนาการต่างๆทำให้ผมหวาดกลัว  ตัวผมเริ่มสั่นนิดๆอย่างควบคุมไม่ได้ 

เสียงเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ทำให้ผมพยายามแกล้งนอนหลับให้เนียนที่สุด  ฝีเท้าของเขาค่อยๆเดินมาใกล้ๆผมจนในที่สุดผมก็รู้สึกได้ว่าเขายืนอยู่ข้างเตียง  ตัวผมเริ่มสั่นอีกครั้งแต่แล้วอาการสั่นก็หายไปเมื่อโอ้เอ้ดึงผ้าห่มมาห่มกายผมไว้อย่างอ่อนโยน

“ฝันดีนะจ๊ะสโนว์”  โอ้เอ้กระซิบบอกฝันดีผม  ด้วยน้ำเสียงหวานๆเช่นเคยนั่นทำให้ผมโล่งใจ  โอ้เอ้เดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆ  ผมแอบดีใจที่ลับหลังผมโอ้เอ้ก็ยังเป็นโอ้เอ้ออกสาวเหมือนเดิม.....ผมว่าผมคงคิดมากไป   โอ้เอ้คงไม่ได้เป็นผู้ชายแท้ๆหรอก  จริงไหม?


เพราะถ้าเขาเป็นผู้ชายแท้ๆมาจริงๆ  ผมคง...รับไม่ได้





แล้วผมก็รับไม่ได้จริงๆเมื่อโอ้เอ้ยอมรับว่าตัวเขาไม่ได้เป็นตุ๊ดอย่างที่บอกผม  ผมรู้สึกแย่ที่เขาโกหกผม  และรู้สึกเหมือนกับผมเป็นแค่คนโง่ๆคนหนึ่งที่เชื่อว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย   ความรู้สึกตอนนั้นมันสับสนปนเปกันไปหมด  ผมเลยเลือกที่จะหลบหน้าไม่ไปอยู่ใกล้เขาอีก  ถึงแม้ว่าทั้งเขาและครอบครัวเขาจะดีกับผมมากก็ตาม 

 และการได้อยู่คนเดียวโดยไม่มีเขามันก็ทำให้ผมได้ทบทวนกับความรู้สึกของตัวเองหลายอย่าง...และมันก็น่าตกใจที่ว่า 

ผมดันคิดถึงแต่เขา ‘อันโทนิโอ้’ อยู่ทุกวันทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย



“ช่วงนี้ยูดูเครียดๆนะ  มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าบอกไอได้นะ”  พี่เบลล์ที่มาค้างคอนโดด้วยถามขึ้น

“หน้าไอออกขนาดนั้นเลยหรอ?”

“ก็ใช่นะสิ  มีอะไรหรือเปล่า”

ผมลังเลว่าควรจะเล่าดีไหม  แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเล่าให้พี่เบลล์ฟังทุกอย่างตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกันจนถึงปัจจุบันที่ไม่มองหน้ากันแล้ว

“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ  ยูว่าไอทำเกินไปไหม?  แต่ไอก็ไม่ชอบจริงๆนะที่เขาโกหกไอ”

“แต่ยูก็คิดถึงเขาทุกวันใช่ไหมล่ะ”

“...”  ผมได้แต่นิ่งเงียบ  เพราะไม่กล้ายอมรับว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ

“ยูก็รู้ว่าไอกลัวผู้ชาย  ไออยู่ใกล้เขาไม่ได้หรอก”   ใช่ผมกลัวผู้ชาย ผมไม่ควรอยู่ใกล้กับเขา  ผมพร่ำบอกตัวเองอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา  จนกระทั่ง

“สโนว์”  พี่เบลล์ยื่นมือมากุมมือผมไว้ก่อนจะมองนัยน์ตาผมอย่างต้องการส่งผ่านความรู้สึกในใจมาให้ผม  “ยูจะขังตัวเองอยู่ในความกลัวต่อไปจริงๆน่ะหรอ?”

คำถามจากพี่เบลล์ทำให้ผมนิ่งคิดไป

“ไอจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา  แต่ไอจะพูดถึงปัจจุบัน ณ ตอนนี้ เวลานี้  ในเมื่อยูเจอคนที่เขาดีกับยู  เทคแคร์ยู และพร้อมจะรักยู อยู่ตรงหน้ายูแบบนี้แล้วแท้ๆ  ยูจะไม่ให้โอกาสเขาเข้ามาในชีวิตยูเพราะความกลัวในอดีตจริงๆน่ะหรอ”

“...”

“สโนว์  มันไม่ง่ายหรอกนะที่เราจะเจอคนที่เขารักเรา”

“...”

“และเราก็รู้สึกไม่ต่างจากเขาเลยเหมือนกัน”

“...”

“ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้แล้วยูจะไม่ลองสู้กับความความกลัว  เพื่อทำสิ่งที่ข้างในใจยูมันเรียกร้องหน่อยหรอ”    พี่เบลล์ยิ้มแล้วกุมมือผมแน่นอย่างให้กำลังใจ


“.....”  ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป  แต่เลือกที่จะเข้าไปกอดพี่เบลล์ไว้ทั้งตัวอย่างซึ้งใจแทน


“ไอขอบคุณยูมากนะ”


“ยินดีเสมอจ้ะ Bro”



ใช่  ผมควรจะลองสู้กับความกลัวจริงๆสักครั้ง



หวังว่ามันจะยังไม่สายไปนะ






±+++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่ยังตามอ่าน ตามให้กำลังใจกันอยู่นะคะ
ขอบคุณมากๆเลย 

สงกรานต์ที่ผ่านมาไม่ได้มาอวยพรนักอ่านเลย
แต่ก็ขออวยพร ณ ตรงนี้

ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดปีนะคะ สมปรารถนาทุกๆอย่างดั่งใจนึกน้า รวยๆเฮงตลอดๆค่ะ :mew1:

ส่วนไรท์ ปีนี้ขอให้แต่งนิยายที่ดองไว้ให้จบก็ดีใจแล้วค่ะ 555( หัวเราะปนนั้มตาาา) 





แต่ยังไงตอนนี้ฝากติดตามโอ้เอ้กับน้องสโนว์ด้วยน้าา คิดเห็นรู้สึกอย่างไรก็พิมพ์บอกกันบ้างนะคะ ถือเป็นกำลังใจเล็กๆให้ไรท์บ้างน้า :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2019 11:31:19 โดย Monkey D »

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ้าว.... นี่สโนว์ก็ติดใจโอ้เอ้มาแต่แรกซินะ  :hao4:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
งุ้ยยยย สโนว์น่ารัก แต่ที่น่ารักกว่า ก็นังมาเรียฟิเช่นนะ
แอบแย่งซีนอยู่บ่อยๆ  อย่าหายไปนานนะคิดถึงคนเขียน
 :really2: :really2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด