SP1. พาร์ทของคุณหมอ
“จับน้องเบาๆนะลูก น้องยังตัวเล็กอยู่นะครับ” เสียงของแม่ดังขึ้นข้างๆหูในขณะที่เขากำลังจะยื่นมือไปสัมผัสน้อง
น้องตัวเล็กนิดเดียว แถมยังตัวแดงแจ๋ยับย่นเหมือนกุ้งที่แม่ต้มให้กินเมื่อวานไม่มีผิด น้องหลับตาสนิท มือเล็กหายเข้าไปในปากและกำลังดูดนิ้วจนแก้มกลมๆนั้นขยับไปมา ข้อเท้าของน้องมีกำไรข้อเท้าสีทองติดกระพวนดังกรุ้งกริ้งตามจังหวะขยับเท้าของน้อง
เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมใครๆก็รักน้อง ทั้งๆที่น้องตัวเล็ก แถมยังตัวย่นเหมือนกุ้งต้มอีก แต่ทุกคนในบ้านเขากลับมามุงดูและชมว่าน่ารักกันไม่หยุดปาก
สำหรับเขาแล้ว
.......น้องไม่น่ารักหรอก แต่เขากลับรักน้องทันทีที่เห็น
ตั้งแต่วันที่คุณแม่บอกว่าคุณป้าใจดีบ้านข้างๆมีน้องคนใหม่ และชวนเขาไปเยี่ยมน้องด้วยกันในวันนั้น เขาก็มาหาน้องที่บ้านทุกวัน เขามาเฝ้าน้องกินนม มาเล่นกับน้อง และหน้าที่ของเขาที่คุณป้าใจดีข้างบ้านให้เขาช่วยทำคือให้กอดน้องเอาไว้และตบตูดน้องเบาๆเพื่อกล่อมให้น้องนอน
จนในค่ำวันหนึ่ง วันนี้เข้าไม่ได้ไปเยี่ยมน้องเหมือนทุกวันเพราะคุณแม่ซื้อแผ่นซีดีการ์ตูนนินจาเต่าให้เป็นของขวัญในวันเปิดเทอมป.4 เขาจึงขอให้คุณแม่เปิดให้ดูหลังจากที่ทำการบ้านเสร็จแล้ว มันสนุกมากจนเขาลืมเวลาเข้านอนของน้องไปสนิท กว่าจะดูจบก็ตั้งสามทุ่มกว่าแล้ว แต่เขายังได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องดังลั่น ทั้งๆที่ปกติน้องควรจะนอนตั้งแต่สองทุ่มแล้ว
เขารีบวิ่งไปที่บ้านคุณป้าทันที เจอน้องที่ร้องไห้จนตัวแดง น้ำตาไหลไม่หยุดอยู่ในอ้อมกอดของคุณป้า คุณป้าหันมายิ้มให้เขาและขอให้เขาช่วยพาน้องเข้านอน คุณป้าบอกว่าน้องติดสัมผัมของเขาแล้ว พอเขาไม่มาจึงไม่ยอมนอนอย่างนี้ ตอนนั้นเขาไม่รู้หรอกว่าติดสัมผัสคืออะไร แต่พอเขาเข้าไปกอดน้องพร้อมกับตบตูดเบาๆเสียงร้องของน้องก็เงียบไปและน้องก็หลับลงภายในเวลาอันรวดเร็ว
ตั้งแต่วันนั้นเขาสัญญากับตัวเองไว้ว่าเขาจะพาน้องเข้านอนทุกวัน เพราะเขาไม่อยากให้น้องร้องไห้อีกแล้ว
จนกระทั้งวันหนึ่งตอนที่เขาพึ่งกลับมาจากโรงเรียน เขาได้ยินน้องร้องไห้เสียงดัง คุณป้าใจดีข้างบ้านวิ่งออกมาบอกคุณแม่ของเขาว่าให้พาไปโรงพยาบาลหน่อย น้องไม่สบายมาก เขารีบวิ่งเข้าไปดูน้อง น้องนอนร้องให้ตัวแดงอยู่บนเบาะ เขาเข้าไปกอดน้องเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้น้องตัวร้อนจี๋มือเล็กๆคว้าเสื้อนักเรียนของเขาไว้และกำมันเน้น น้องอ้าปากร้องไห้พร้อมๆกับหอบหายใจในบางช่วงอย่างน่าสงสาร แล้วคุณป้าก็มาอุ้มน้องไป
หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ค่อยได้เจอน้อง น้องต้องไปโรงพยาบาลบ่อยครั้ง บางครั้งก็อยู่โรงพยาบาลนานเป็นเดือน คุณแม่บอกว่าน้องต้องเข้ารักษาโรค โรคอะไรไม่รู้ที่เขาไม่เข้าใจ แต่เขาอยากเจอน้อง อยากกล่อมน้องนอน น้องอาจจะร้องไห้หนักเพราะที่โรงพบาบาลไม่มีเขากล่อม แต่คุณแม่บอกให้รอน้องที่บ้านเพราะน้องต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อ ทำให้เขาได้แต่ชะเง้อมองบ้านคุณป้าข้างบ้านทุกวันว่าเมื่อไหร่จะได้ยินเสียงน้องดังขึ้นมาอีกครั้ง
การรอคอยน้องมันยาวนาน จนในช่วงที่เขาจะขึ้นป.5 คุณแม่บอกว่าเราต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะคุณพ่อจะต้องไปทำงานที่อังกฤษบ้านเกิดของพ่อและเขากับแม่จะต้องย้ายไปอยู่อังกฤษ จนถึงตอนนั้นเขาเสียใจที่เขาจะไม่ได้เจอน้องอีกแล้ว น้องยังอยู่ที่โรงพยาบาล รอบนี้นานกว่าครั้งไหนๆ เขาได้ไปเยี่ยมน้องเพียงไม่กี่ครั้งเพราะการเข้าไปในห้องปลอดเชื้อค่อนข้างยุ่งยาก
เขาตั้งใจไว้ว่าอยากเป็นหมอ เพราะหมอเป็นคนเดียวที่จะได้เข้ามาเยี่ยมน้องบ่อยๆ ถ้าเขาเป็นหมอเขาจะได้กอดน้อง ปลอบน้องเวลาน้องร้องไห้ และยังจะได้เป็นคนรักษาน้องให้กลับมาแข็งแรงจากออกจากโรงพยาบาลมาเล่นกับเขาอีกครั้ง
แม่บอกว่าวันนี้เราจะไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย เพราะพรุ่งนี้เราจะต้องบินไปอังกฤษกันแล้ว ในตอนนี้น้องนอนนิ่งอยู่ในห้องกระจกที่มีสายระโยงระยางอยู่เต็มไปหมด เขาเข้าไปกอดน้องแบบเดิมไม่ได้แล้ว แม่บอกให้เขาบอกลาน้องอยู่ข้างนอก
แต่เขากลับนิ่งเงียบ........
......เพราะเขาสัญญากับตัวเองว่านี่จะต้องไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เจอกับน้องแน่นอน
เวลาผ่านไปนานจนความทรงจำในวัยเด็กของคนๆหนึ่งควรจะลบเลือนแต่มันกลับชัดเจนอยู่ในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที ทุกคำสัญญา ทุกเหตุการณ์ในอดีตยังคงตรึงตรา เขาทุ่มเทตั้งใจเรียนอย่างหนักจนสามารถเข้าเรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังในอังกฤษได้ และบินกลับมาทำงานในประเทศไทยทันทีที่เรียนจบ
เขาไปที่บ้านเก่าในสมัยเด็กทันทีที่เหยียบประเทศไทย แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะบ้านของคุณป้าใจดีข้างบ้านถูกปล่อยรกร้างบ้านเก่าของเขาเองแม่ก็ปล่อยขายทันทีที่ย้ายไปอยู่อังกฤษได้ไม่นาน
เขาทำงานในโรงพบาลเอกชนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโรงบาลเดียวกับที่น้องเข้ารักษาตัวตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาก็ค้นหาแฟ้มประวัติของน้องมาเช็คดูและพบว่าน้องได้รับการรักษาจนหายขาดจากโรคประจำตัวและไม่มีประวัติการรักษาหลังจากนั้นอีกเลย เขาหมดหนทางที่จะติดต่อน้องอย่างสิ้นเชิง
จนกระทั้งวันหนึ่งที่เขาเข้าเวรตรวจคนไข้ตามปกติ แต่วันนี้ต่างจากทุกวันเพราะแฟ้มประวัติของคนไข้รายหนึ่งทำให้เขาหัวใจเต้นแรง ชื่อที่ปรากฏหน้าแฟ้มยังคงตรึงตราอยู่ในหัวใจ มันเป็นชื่อเดียวกับป้ายชื่อหน้าเตียงของน้องตอนที่น้องยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
น้องเปลี่ยนไปมาก จากน้องตัวเล็กผิวย่นในวันนั้น วันนี้กลับผิวขาวผ่องน่าสัมผัส ดวงตากลมโตน้ำตาคลอทันทีที่เงยหน้ามาเจอเขาจนทำให้เขาอยากเขาไปกอดเอาไว้เหมือนตอนเด็กๆ แต่พอขยับเข้าไปหาน้องกลับถอยห่างและมีท่าทางลุกลี้ลุกลนจนเขาประหลาดใจ
น้องคงฝังใจกับหมอมาจากการรักษาโรคในวัยเด็กจนทำให้หวาดกลัวคนในชุดกราวน์ แต่การตรวจร่างกายของน้องในวันนั้นทำให้เขาหัวใจพองโตเมื่อพบว่าน้องยังติดสัมผัมของเขาอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าใดก็ตาม.......
- มาต่อตอนพิเศษให้แล้วค่ะหลังจากหายไปนาน
ตอนนี้อาจจะไม่มีอะไรมากเพราะอยากจะคลายปมทั้งหมดของเรื่องมากกว่า
ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามค่ะ