รัก คำๆ เดียวที่ทำให้คนที่ได้ฟังยิ้มเมื่อได้รับ แต่สำหรับ...คิน เขากลับไม่ต้องการมัน เขาต้องการแค่ใครคนนั้นผู้ที่จากไปโดยไม่มีวันหวนกลับมา
ณ สนามแข่งรถรถสองคันกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดโดยที่ไม่มีใครคิดจะยอมอ่อนข้อให้กันแม้แต่น้อย ถึงแม้ในสนามแข่งรถแห่งนี้จะมีกฎในการแข่งขัน อย่างว่าเมื่อมีกฎมันก็ต้องมีคนแหก รถสองคันวิ่งด้วยความเร็วเบียดเสียดกันไปมาทำให้ผู้คนที่อยู่นอกสนามจ้องกันตาไม่กระพริบ รถคันสีแดงเพลิงที่ตอนนี้กำลังก้าวขึ้นนำรถคันสีดำที่ขับไล่หลังมาติดพอถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน แต่แล้วรถคันสีแดงเพลิงก็สะบัดส่ายไปมาด้วยความรุนแรงทำให้คนที่อยู่ภายนอกสนามมองอย่างไม่วางตา รถคันสีแดงเพลิงที่ตอนนี้คนขับไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไปทำให้ชนเข้ากับกำแพงข้างสนาม แรงสั่นสะท้านพร้อมกับเสียงดังคล้ายกับเสียงระเบิดทำให้บุคคลที่อยู่ภายนอกสนามวิ่งตรงไปยังที่เกิดเหตุในทันที
“ซีโร่! ” เสียงของเด็กผู้ชายร่างบางที่ตอนนี้วิ่งเข้าไปยังที่เกิดเหตุตะโกนชื่อขงชายหนุ่มคนขับตลอดทางที่วิ่งไป ในใจก็ภาวนาอย่าให้เจ้าของชื่ออย่าได้เป็นอะไรเลย
“ซะ ซี” เสียงแผ่วเบาที่เอ่ยออกมาเมื่อเห็นร่างของคนที่วิ่งเข้ามาหานอนห่างจากตัวรถที่ตอนนี้มีเพลิงลุกไหม้ท่วมคัน เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลอาบเต็มสองข้างแก้ม
“ซีโร่” ร่างบางที่ค่อยๆ ประคองร่างที่บาดเจ็บตอนนี้เข้าหาตัว ร่างกายของคนในอ้อมกอดมีบาดแผลเต็มไปหมดไม่เว้นแม้แต่ใบหน้า เลือดไหลอาบเต็มตัวไปหมดทำให้คนที่ประคองร่างไร้เรี่ยวแรงจนต้องปล่อยโฮออกมาระรอกใหญ่
“ซี ได้ยินไหม? ได้ยินเสียงคินหรือเปล่า? ” เสียงที่เปล่งออกมาแหบพร่า คนที่ถูกเรียกค่อยๆ ลืมตามาสบตากับคนที่นั่งร้องไห้ประคองร่างของเขาเอาไว้พร้อมกับระบายรอยยิ้มบางเมื่อได้เห็นหน้าคนที่ตนรัก...คิน
“ค คิน” เสียงที่พยายามเปล่งออกมาเรียกคนที่กอดร่างเขาไว้ มือค่อยๆ ยกขึ้นลูบใบหน้าเนียนขาวใสที่ตอนนี้มีเพียงคราบน้ำตาบดบัง ดวงตากลมโตที่เขาเคยชอบมองว่ามันสวยตอนนี้มันกลับแดงช้ำเพราการร้องไห้อย่างหนัก จมูกโด่งที่รับกับใบหน้าเรียว ริมฝีปากสีแดงสดที่เคยสัมผัสหลายต่อหลายครั้งกลับเม้มแน่น
“ร้องไห้ทำไม” แม้จะไม่มีแรงแม้แต่จะพูดแต่เขาก็พยายามที่จะเอ่ยออกมา มือก็ค่อยๆ เช็ดน้ำตาอีกฝ่ายให้อย่างเบามือ
“นายต้องไม่เป็นไรนะ ฮึก”
“มะ ไม่เป็นไร แค่นี้สบายมาก” มือที่ตอนนี้กุมเข้าหามือเล็กบีบเบาๆ เผื่อให้อีกฝ่ายวางใจได้ว่าเขาจะไม่เป็นไร
“ไม่เป็นไรได้ไง ไอบ้า! เห็นๆ อยู่ว่าเจ็บหนักขนาดนี้ยังจะบอกไม่เป็นไร ฮึก ทำไม..” เมื่อได้ยินคนรักที่กำลังบาดเจ็บตอบออกมาแบบนั้นทำให้เขาถึงกับโวยวายขึ้นมาอย่างเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ถ้าร่างที่เขากอดตอนนี้ไม่ได้บาดเจ็บ เขาคงจะประทุษร้ายให้ช้ำไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่กอดร่างของคนรักเอาไว้แน่น
“ปะ เป็นคนขี้แงตั้งแต่เมื่อไร แค่กๆ” ร่างสูงค่อยๆ ลุกขึ้นเพื่อให้อยู่ในระดับกับคนรัก มองดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา เพียงแค่เปล่งเสียงออกไปนิดเดียวเขาก็ไอออกมาจนทำให้คนตรงหน้ารีบเอ่ยบอกลิ้นแทบพันกัน
“ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้อง..พูด ฮืออ” คนบอกส่ายหน้าทั้งที่น้ำตาก็ยิ่งไหล รอยยิ้มบางๆ ของเขาถูกส่งให้กับคนรักอย่างมีความหมาย
“คิน..” สองมือประคองใบหน้าของคนรักให้สบตากัน
“....”
“ถ ถ้าซี อึก ไม่อยู่แล้ว คินจะต้องเข้มแข็ง..นะ” ประโยคที่เขาบอกกับคนที่เขารักที่สุดฟัง เขารู้ตัวว่าเขาไม่รอดแน่ ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลและเขาเองก็รู้สึกถึงแรงที่มีก็เริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
“ฮึก ไม่! ”
“สัญญาได้ไหมว่าถ้าไม่มีซีแล้ว แค่กๆ ต ต้อง ขะ เข้มแข็งไม่ร้องไห้แบบตอนนี้นะ” เสียงนุ่มหูถึงแม้จะเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่สำหรับคินเขาได้ยินมันชัดเจน
“พูดบ้าอะไร! ซีต้องอยู่กับคินซิ ซีต้องไม่เป็นไร ฮึก ไม่เป็นไร อีกไม่นานรถพยาบาลก็มาแล้ว อดทนหน่อยนะ” ร่างสูงทำได้เพียงยิ้มให้ ตอนนี้เขาเองรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาอยากอยู่กับคนที่รักให้นานที่สุดแต่มันคงเป็นไปไม่ได้
“สัญญานะ ดูแลตัวเอง แค่กๆ ดะ ดีๆ อย่าเจ็บป่วยนะ ซีไม่ได้อยู่ดูแลแล้ว อย่าดื้อจนทำให้พี่ชายคินปวดหัวละ ยะ อย่าคิดมากถ้าซีไม่อยู่แล้ว อย่าร้องไห้ ยะ อย่า..โทษตัวเองเด็ดขาด อึก” เขารู้ว่าถ้าเขาต้องจากไปจริงๆ คนที่คิดมาก แล้วชอบโทษตัวเองว่าเป็นความผิดตัวเองเป็นคนยังไง
“อย่าพูดแบบนี้สิ ฮึก ซีต้องปลอดภัย ฮืออ”
“ถ้าไม่อยู่แล้ว..จ เจอคนที่พร้อมจะ ดะ ดูแลคินได้ก็ไปหาเขานะ ซ ซีคงไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว แค่กๆ ๆ อ๊ะ! ”
“ซะ ซีโร่!! ” เขาเองไม่เชื่อที่ได้ยินประโยคที่เหมือนจะไล่เขาให้ไปหาใครที่พร้อมดูแลเขาแทนคนที่บอกประโยคนี้ออกมา มีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่เขาได้รับ
“Happy Anniversary” สร้อยทองคำขาวพร้อมจี้ตัวอักษรเล็กๆ (ZK) ถูกสวมเข้าที่คอของคนรักตรงหน้า มอบจูบครั้งสุดท้ายให้กับคนที่เขารักมากที่สุด จูบที่ละเมียดละไม จูบที่ไม่มีการรุกราน จูบที่อ่อนหวานกว่าครั้งไหนๆ จูบที่แสนยาวนานจนคนที่เป็นฝ่ายถูกจูบผละออกเองพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอด
“ซีรักคินนะ” ตุ้บ! หลังจากที่เอ่ยประโยคสุดท้ายออกไปร่างกายที่เคยมีแรงก็หมดลงพร้อมกับลมหายใจครั้งสุดท้าย เขาทิ้งตัวไปหาร่างของคนรักที่อยู่ตรงหน้า
“ซะ ซี ซีโร่!!! ”
เสียงที่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ จับตัวอีกคนที่ตอนนี้หมดสติไปแล้ว จับเขย่าแรงๆ อีกคนกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ มือค่อยๆ เลื่อนไปปลายจมูกของคนรักที่หมดสติ ปรากฏว่าลมหายใจไม่มีแล้ว ร่างทั้งร่างชาวาบสมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกทำได้เพียงร้องไห้ดึงร่างของคนที่รักกอดไว้แน่น
“ตื่นมาฟังสิ อย่าล้อกันเล่นแบบนี้ได้ไหม ฮืออ ตื่นสิ! ฮืออออ”
“....” มีแค่ความเงียบที่ส่งกลับมาเท่านั้น
“ฮึก คินก็รักซีนะ”
.
.
.
"อื้อ~"
"ตัวเล็ก... ตื่นได้แล้วว"
เสียงงัวเงียที่เปล่งออกมาทำให้ร่างสูงที่กอดคนรักยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
“ถ้าไม่ตื่นจะปล้ำแล้วนะ” ร่างสูงกระซิบข้างหูพร้อมกับขบกัดที่ติ่งหูอีกคนเบาๆ
“ฮื้อ! ลุกแล้ว” คนหวังจะได้นอนตื่นสายๆ หน่อย เพราะวันนี้วันหยุดทั้งที กลับต้องมาโดนปลุก อารมณ์เสียจริงๆ
“หึๆ ถ้าไม่ใช้วิธีนี้จะไม่ลุกสินะ” ยังมีหน้ามาขำอีก คนอะไรกวนประสาทเป็นบ้า ร่างบางได้แต่ฮึดฮัดขัดใจทำท่าไม่พอใจลุกออกจากเตียงเตรียมจะเข้าห้องน้ำ แต่ก็ยังหันกลับมาถามคนที่นั่งบนเตียงเขาอยู่
“แล้วนี่มาทำไม? ”
“มาหาแฟนตัวเองไม่ได้หรือไง? ” ร่างสูงตอบคำถามของคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนที่ตอนนี้กอดอกขมวดคิ้วมองเขาอย่างสงสัย
“ก็ได้..แต่วันนี้มันวันครอบครัวนะ ทำไมไม่อยู่กับครอบครัว”
“ก็ใช่ไง วันนี้วันครอบครัวก็เลยมารับครอบครัวไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง” ร่างสูงบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ยังไง? ” คนที่ได้ฟังเลิกคิ้วถาม
“ก็แบบว่า.. ยังไงในอนาคตเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วไง” ร่างสูงก้าวเข้าไปหาแล้วกอดร่างบางเอาไว้แล้วบอกเสียงอ้อนๆ ให้คนฟังหน้าแดงเล่น
“เออ! ปล่อยได้แล้วจะอาบน้ำ” ร่างบางบอกกับอีกคนให้ปล่อย ยอมรับว่าคำพูดที่ร่างสูงบอกทำให้เขาเขิน ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายอย่างซีโร่จะมีความคิดแบบนี้ ผู้ชายอย่างคินที่ภูมิคุ้มกันต่ำก็หน้าแดงไปสิครับ
ห้างสรรพสินค้า“อยากกินอะไร อาหารจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ฝรั่งเศส...หรือไทย? ” พอมาถึงสถานที่ที่เราจะมาทำกิจกรรมวันครอบครัวซีโร่ก็เอาแต่ถามว่าอยากกินอะไร อาหารหลากหลายนานาประเทศพรั่งพรูออกมาเต็มไปหมด
“อาหารไทยเนี้ยแหละ” คินจูงมืออีกคนที่พูดไม่หยุดตั้งแต่ก้าวเข้ามาให้เดินตามไปยังร้านอาหารไทยที่อยู่ตรงหน้า
“ยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานสาวที่ยืนต้อนรับยกมือขึ้นสวัสดีก่อนจะผายมือเชิญเข้าไปในร้าน คินเพียงแค่ส่งยิ้มบางๆ ให้เท่านั้น
“กินไรดีคิน”
“ผมขอต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวานไก่ ปลากะพงนึ่งมะนาว ต้มจืด อืมเอาไรอีกดีอ่ะ” คินมองเมนูในมือพรางทำท่าคิดนิ้วเคาะอยู่ที่ปากตัวเอง ตาก็จ้องเมนูตรงหน้า ทำให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเลื่อนมือไปขยี้หัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“เอาเท่านี้พอครับ” ซีโร่หันไปบอกกับพนักงานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันมาพูดกับคนตรงหน้า
“สั่งทำไมเยอะแยะคิดว่ากินหมดไหม หืม”
“ก็มันอยากกิน อีกอย่างไม่ใช่ตังค์คินด้วย” คินบอกด้วยน้ำเสียงร่างเริง คนมองก็ได้แต่ส่ายหน้ากับท่าทางน่ารักของแฟนที่ชอบของฟรี
หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันไปดูหนังต่อด้วยการฟังเพลงและเดินเลือกซื้อของที่อยากได้ ซีโร่มองมือที่กุมเข้ากับมือเล็กแน่น เขารู้สึกมีความสุขที่เห็นคนรักของเขามีความสุขเช่นกัน
“ซีเข้าร้านนี้กัน” ไม่ต้องการคำตอบจากอีกฝ่าย คินจับมือลากร่างสูงเข้าไปในร้านที่ตกแต่งสไตล์เกาหลีน่ารักๆ มีของจุกจิกหลากสีเต็มไปหมด
“ก็บอกให้เรียกพี่ ทำไมยังเรียกแค่ชื่อ หือ” ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกจนถึงทุกวันนี้เขาไม่เคยได้ยินคำว่าพี่จากปากของแฟนตัวเองเลยทั้งๆ ที่เขาเป็นเพื่อนของพี่ชายคนตรงหน้า
“เหอะนา ไหนๆ ก็เป็นแฟนกันแล้วจะเรียกพี่ทำไม จริงไหม? ” แฟนพูดว่าไง คงต้องว่าตามนั้นครับเดี๋ยวจะมีปัญหาตามมาที่หลัง
“จะเอาอะไร ชอบของแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน” ซีโร่กอดคอคนรักที่กำลังยืนเลือกของอย่างสนออกสนใจ
“ซีว่ามันน่ารักไหม ซื้อไปฝากพี่เคน พี่คิงและพี่เคลวินเป็นไง? ” บอกพร้อมกับยื่นของมาตรงหน้าอีกฝ่าย มั่นใจแล้วหรอว่าไอสามตัวนั้นจะชอบ พวงกุญแจรูปกระต่ายคงเข้ากับพวกนั้นมากเลย ซีโร่แค่ยิ้มให้แล้วโยกหัวอีกฝ่ายอย่างนึกเอ็นดู
“คิดว่าของน่ารักมุ้งมิ้งแบบนี้เหมาะกับพวกเถื่อนๆ แบบพี่ชายคินหรอ” พูดตามตรงผมว่ามันไม่เหมาะเลยซักนิด
“ง่ะ แต่ว่ามันน่ารักนะ O3O”
“ครับบบบบ~” ซีโร่ก็ได้แต่เออออไปด้วย สุดท้ายก็ตามใจให้ซื้อมาจนได้ ก็เล่นทำหน้าน่ารักแก้มพอง ตาโตก็กระพริบถี่ซะ ใครเห็นก็ต้องใจอ่อนล่ะว่ะ เฮ้ออ
...
“คิน!! อย่าวิ่ง แฮ่กๆ”
“ทะเล ทะเล๊ ทะเล”
เสียงร้องเพลงของคนที่บอกอยากมาทะเล พอมาถึงก็กระโดดลงจากรถวิ่งไปยังทะเลเบื้องหน้าที่กว้างใหญ่ คลื่นลูกเล็กที่พัดเข้าฝั่ง ลมเย็นสบายพัดมากระทบร่างที่กางแขนรับเอากลิ่นอายของธรรมชาติของทะเลเข้าไปเต็มที่
หมับ!
“บอกว่าอย่าวิ่ง รู้ไหมคนวิ่งตามมันเหนื่อย” พอมาถึงร่างบางซีโร่ก็กอดไว้แน่น พรางหอบหายใจถี่เอาอากาศเข้าปอดหลังจากวิ่งตามมาจนถึง
“ใครใช้ให้วิ่งตามมาละ สม แบร่!
” คินผลักซีโร่ให้ออกห่างแล้ววิ่งกลับไปยังทางเดิม
“ให้มันได้อย่างนี้สิแฟน” ซีโร่มองร่างของคนรักวิ่งลิ่วไปหาพี่ชายทั้งสามของตัวเอง มีแฟนเด็กก็ต้องเข้าใจ เขาได้แต่บอกตัวเองแล้วเดินตามคนรักที่เพิ่งจากไป
บ้านพักตากอากาศของตระกูล ค. เป็นที่พักของพวกเขาทั้งห้าคนในตอนนี้ บ้านพักที่ตกแต่งสไตล์ตะวันออก บริเวณรอบบ้านเป็นส่วนเล็กๆ มีสระว่ายน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ถัดไปก็เป็นทะเลยที่เพียงเดินไปไม่มากก็ถึง
ณ ห้องรับแขก
“พี่เคนๆ คืนนี้เราจัดปาร์ตี้กันนะ... นะ” คินออกเคนที่เป็นหัวหน้าทริปเที่ยวในครั้งนี้ เคนเพียงหันมามองน้องชายคนเล็กที่ทำตาปริบๆ
“เอาสิ” เคนยิ้มให้น้องชายแล้วขยี้หัวเบาๆ
“สรุปไอซีนอนห้องเดียวกับคินนะ ห้องมีแค่สี่ห้องแบ่งคนละห้อง...ส่วนคินคงไม่มีปัญหาใช่ไหมเอาแฟนไปนอนด้วยคงไม่เป็นไร แต่ถ้าจะทำอะไรก็เบาๆ หน่อย เกรงใจคนข้างห้องด้วย” เคลวินพูดเองเออเองหมด ส่งสายตาวิบวับแพรวพราวมาหาน้องชายที่ตอนนี้นั่งคิดลึกไปถึงไหนต่อไหน
“บ้า! ใครจะไปทำอะไรอย่างที่พี่คิดเหอะ” คิดได้แต่ตะโกนไล่หลังพี่ชายคนที่สามที่เดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ทำแก้มพองๆ เหมือนงอน แก้มก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ทำให้ผู้ชายสามคนในห้องรับแขกได้แต่ขำกับท่าทางของเด็กน้อยเพียงคนเดียว
“ขำไรกันเล่า ไม่ได้คิดแบบนั้นซักหน่อย! ” คนที่ถูกขำก็โวยวายขึ้นมาทั้งๆ ที่หน้ายังแดงอยู่
“พวกพี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรคินเลยนะ หึๆ” คิงขยี้หัวน้องชายอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วก็เดินขึ้นชั้นสองไปเป็นที่สอง
“ซีโร่” เมื่อพี่คนรองเดินจากไปก็หันหน้ามาทำตาปริบๆ ส่งให้ จนเจ้าของชื่อต้องเอ่ยตอบ
“จะเอาอะไรละ หืมว่ามา” ซีโร่ยิ้มบางให้กับคนรักที่เมื่อเขาเอ่ยประโยคนั้นจบก็ยิ้มกว้างทันที
“ไปเล่นน้ำกัน..นะ” เจอคำว่า (นะ) ต่อท้ายทีไรเขาก็ยอมมันทุกที
ตูม!
“ซีโร่ มานี่ๆ ๆ ๆ” คินเรียกอีกคนให้เดินเข้าไปหา
“ทำไมมาลึกขนาดนี้ ขึ้นไปเล่นข้างบนดีกว่า” เมื่อซีโร่เดินเข้าไปหา คินที่น้ำอยู่แค่คอ เขาจึงเอ่ยบอกกลัวคนตัวเล็กจะจมเอาถึงแม้จะว่ายน้ำเป็นก็เถอะ
“ไม่เอาเล่นนี่แหละ นะๆ ๆ” ซีโร่ทำเพียงถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ พอร่างสูงหันไปมองทางฝั่ง คินที่ตอนนี้มีความคิดอยากแกล้งแฟนตัวเองจึงดำน้ำลงไปโดยไม่ให้อีกคนสังเกตเห็น
“คิน” ไร้เสียงตอบกลับ
“คิน..” ลองเรียกอีกครั้งก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ทำให้ซีโร่หันกลับมามอง แทนที่จะเห็นร่างของคินกลับไม่มี
“คิน! ” ซีโร่ถึงกับตัวชาวาบ หัวใจเต้นแรงเป็นส่ำเพราะตกใจเมื่อหันมาไม่เจอคนรัก เขาจึงดำน้ำหา แต่ก็ไม่พบ
“คิน อย่าเล่นแบบนี้! ” ร่างสูงก็ยังคงดำน้ำต่อไปเรื่อยๆ
“คึๆ ๆ” เมื่อร่างสูงของซีโร่โผล่พ้นน้ำก็ได้ยินเสียงคนที่ตามหาก็ต้องรีบหันไปคว้าเข้ามากอดแน่น คินที่ตอนแรกกะจะแกล้งเล่นถึงกับชะงักกับท่าทางของอีกคน
“ป..เป็นอะไร ขอโทษนะ”
“อย่าเล่นแบบนี้อีกเข้าใจไหม” ซีโร่ผละออกมามองหน้าของคนรักอย่างเป็นห่วง
“อื้อ” คินพยักหน้ารับ
“เฮ้ออ ถ้าคินเป็นอะไรไป ซีจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองเลย” ซีโร่พิงหน้าผากตัวเองกับคนรัก ถอนหายใจโล่งอกที่คนตรงหน้าไม่เป็นอะไร
“ขอโทษนะซีระ..อื้ออ” คินที่เอ่ยยังไม่ทันจบก็ต้องกลืนคำทั้งหมดเมื่อคนตรงหน้าปิดปากเขาด้วยปากของตัวเอง ริมฝีปากที่แนบชิดกันเนิ่นนานจากที่ละเมียดละไม อ่อนหวาน เปลี่ยนเป็นรุนแรงตามแรงอารมณ์ของคนทั้งคู่ เมื่อร่างบางเผยอริมฝีปากออก หอบเอาอากาศเข้าปอด เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างสูงสอดปลายลิ้นร้อนเข้าไปคว้านหาความหวานจากปากอีกคน ทั้งดูดเม้มลิ้นเล็กอย่างหยอกล้อ ขบเม้มริมฝีปากล่างของอีกคนก่อนที่จะผละออก น้ำเชื่อมใสๆ ยืดออกมาติดมุมปาก ร่างบางทำเพียงหอบหายใจเอาอากาศเข้า
“อย่าเล่นแบบนี้อีกนะ เข้าใจไหมคิน” ว่าพรางขยี้หัวคนรักเบาๆ จรดริมฝีปากเข้ากับหน้าผากของคนตรงหน้าแผ่วเบา
“อือ”
“เย็นแล้วขึ้นฝั่งกันเดี๋ยวจะไม่สบายได้” พูดจบเขาก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบกาย พาขึ้นฝั่งทันที รู้สึกว่าร่างที่อุ้มอยู่จะตัวรุ่มๆ ซะด้วยสิ
“อ้าวไหงตอนไปเดินไปเองได้ ทำไมตอนกลับถึงโดนอุ้มมาท่าเจ้าสาวละน้องชาย หึๆ” คิงที่ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองก้มมองคนสองคนที่กำลังจะเข้าบ้านจึงอดที่จะเอ่ยแซวน้องชายตัวเองไม่ได้
“เจ้าสงเจ้าสาวอะไร บ้า! ” พูดจบก็สะบัดตัวลงจากการอุ้มของอีกคนแล้วตรงดิ่งเข้าในบ้านเพื่อหนีอาการที่ตอนนี้หน้าคงแดง อายก็อายพี่บ้าพูดไรก็ไม่รู้
“หึๆ”
บรรยากาศในช่วงเย็น บริเวณริมสระว่ายน้ำที่ตอนนี้ตกแต่งด้วยไฟดวงเล็กๆ อยู่บริเวณต้นไม้ มีเตาไว้สำหรับย่าบาร์บีคิว มีโต๊ะวางอาหารทะเลมากมายเต็มไปหมด พร้อมกับแอลกอฮอล์วางเรียงรายกันอย่างระเบียบ
“โห้ ! เจ๋งอ่ะ หลับแปบเดียวพวกพี่เนรมิตมาเต็มเลยนะ” คินที่พึ่งตื่นจากนอนเพราะการเล่นน้ำเหนื่อยเดินออกมาพร้อมกับชุดนอนเสื้อแขนยาวสีขาวกับกางเกงลายวัวที่เข้ากัน
“มานั่งนี่” เคนเรียกน้องชายให้ไปนั่งข้างๆ คินจึงเดินไปนั่งลงข้างพี่ชายตัวเองพรางสอดสายตามองหาใครอีกคน
“มองหาไอซีหรอ มันไปเอาของในครัว” เคลวินตอบคำถามที่คิดว่าน้องน่าจะถามออกมา คนฟังทำเพียงพยักหน้ายื่นมือรับแก้วน้ำอัดลมที่พี่ชายคนรองยื่นให้
“หิวยังคิน” คนที่ถูกเอ่ยในบทสนทนาเมื่อครู่เดินออกมาจากตัวบ้านพร้อมกับถาดผลไม้ เขาวางมันลงบนโต๊ะก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ คนรัก
“หิวแล้ววว” เมื่อพบคนที่ถามถึงคินก็ยิ้มกว้างและมาเกาะแขนคนรักไว้แน่น
พอรับประทานอาหารเสร็จ พวกเขาทั้งห้าคนก็มานั่งเล่าประสบการณ์ต่างๆ ที่เคยเจอมา ทั้งยังเล่าเรื่องในวันเด็กกันและก็ไม่วายยังเล่าเรื่องน่าอายของน้องชายให้กับแฟนน้องได้รู้อีกมากมาย...เวลาล่วงเลยไปอากาศด้านนอกก็เริ่มเย็น ทำให้คินต้องยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองสองข้าง คนข้างกายจึงยกมือขึ้นกอดไว้หลวมๆ เพื่อช่วยคลายหนาว คินจึงเอนหัวซบที่ไหล่กว้าง ฟังพี่ชายสามคนร้องเพลงและเล่นกีตาร์ ตีกลอง อย่างสนุกสนาน
“ซีไม่ลองร้องเพลงหน่อยหรอ” คินเงยหน้าถามคนที่กำลังกอดเขาเอาไว้
“อยากฟังหรอ” ซีโร่ถาม แกฝ่ายพยักหน้าช้าๆ
“อื้อๆ”
“โอเค! .. ไอเคนเล่นเพลง...” เมื่อซีโร่ตอบตกลงว่าจะร้องเพลง เขาจึงลุกเดินไปทางสามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามพร้อมกระซิบบอกมือกีตาร์ให้เล่นเพลงที่เขาต้องการ
“จัดไปครับเพื่อน! ” เคนรับคำพร้อมกับเสียงกีตาร์เริ่มขึ้น
“รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน
ความทรงจำเกิดขึ้นเมื่อไหร่
เมื่อไหร่ที่ทำให้เราสองคนเริ่มหวั่นไหว”
เสียงทุ้มนุ่มเริ่มร้องขึ้นมา...คินมองคนรักที่ร้องเพลงให้เขา สายตาและรอยยิ้มที่ส่งมาให้เขาได้ยิ้มตาม
“หรือจะเป็นในตอนที่คุณต้องนอนเสียใจ
หรือว่าตอนที่เราต้องไกล
มันทำผมได้รู้ว่าคิดถึงแต่คุณ
และในตอนนี้ ในเวลานี้
ล่วงเลยมานานเป็นปี
ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรัก”
จู่ๆ คนที่ร้องเพลงอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ
ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น
นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ
ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว”
ร่างสูงเอื้อมมือมากุมเข้ากับมือเล็กของอีกคน เขายังคงร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ จนจบ
.
.
.
“ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ
ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น
นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ
ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว”
“ชอบไหม? ” เมื่อเพลงที่ร้องจบลงซีโร่ที่ตอนนี้นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“ชอบมากก” คินตอบอย่างไม่ต้องคิด คนได้ฟังถึงกับยิ้มกว้าง คว้าคอคนรักมาประกบจูบเข้าด้วยกันค่อยๆ เลียดไล่ตามริมฝีปากบาง กดหนักที่มุมปากของอีกคนแล้วจึงผละออกมาส่งยิ้มให้กับร่างบางจนตาหยี...
“รักนะคิน” ประโยคบอกรักที่ดังอยู่ใกล้ๆ หูทำให้คนฟังก้มหน้าเขิน...แต่พอเงยหน้าขึ้นมาภาพที่เขาคิดว่าจะเห็นคนรักอยู่ตรงหน้ากลับเริ่มจางหายออกไปจนหน้าตกใจ และมันยังแทนที่ด้วยภาพของคนรักที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ในสนามแข่งรถ
“ซะ ..ซีโร่!! ” ร่างทั้งร่างชาวาบเมื่อเห็นคนที่รักนอนบาดเจ็บสาหัส เขาทำได้เพียงประคองไว้เท่านั้น น้ำตาพรั่งพรูเต็มสองข้างแก้ม
“ไม่! อย่าจากคินไปนะ ฮืออ ไม่นะ”
“คิน..” ซีโร่เพียงเอ่ยออกมาเสียงเบา ก่อนจะยิ้มบางๆ เลื่อนมือจับกุมใบหน้าคนรักไว้อย่างถนุถนอมก่อนที่จะเอ่ยประโยคสุดท้ายออกไป
“ซีรักคินนะ” เพียงประโยคสุดท้ายหลุดออกจากปาก ร่างที่ถูกคินกอดประคองอยู่ก็หายวับไปเพียงชั่วพริบตา
“ไม่!!!! ”
...
“ไม่!!!! ” เฮือก คินเด้งขึ้นมาด้วยความตกใจ ทำให้พี่ชายที่นั่งเฝ้าไข้รอดูอาการน้องถึงกับสะดุ้ง
“ไม่ ฮึกฮืออ” คินส่ายหน้าเมื่อภาพสุดท้ายที่เขาฝันมันช่างเลวร้ายเกินกว่าที่จะรับได้
“ฟื้นแล้วหรอคิน” คิงที่เดินเข้ามาดูอาการน้องชายเอ่ยถาม
“ซีโร่! ซีโร่! ซีโร่อยู่ไหนพี่คิง? ..ซีล่ะ? ฮึก” คินได้แต่ร้องเรียกหาชื่อของคนรัก พรางเขย่าแขนพี่ชายร้องเรียกถามคำเดิมซ้ำๆ จนพี่ชายต้องดึงน้องเขามากอดปลอบ ลูบหัวน้องช้าๆ
“ฮึก ฮืออ พี่คิงซีโร่ไปไหน ฮืออ” คินยังไม่ลดละความพยายามที่จะถาม เขาหวังว่าเขาแค่ฝันร้ายไปก็ในเมื่อภาพแห่งความสุขที่เขาเคยมีร่วมกันยังฉายให้เห็นอยู่เลย แต่ทำไม... สุดท้ายคนที่เขารักถึงกลับหายไปกับตา
“ฟังพี่ดีๆ นะคิน..ซีโร่มันไปสบายแล้ว”
“ฮืออ ไม่จริง พี่คิงโกหกคิน ฮืออ” เมื่อได้ยินคำตอบจากคนเป็นพี่ภาพที่เขานึกถึงในสนามแข่งรถครั้งสุดท้ายและก็ล่าสุดนั้นมันคือความจริง คินทิ้งตัวไปหาพี่ชายด้วยความอ่อนล้า หลับตาลงปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา เสียงร้องไห้ของน้องชายทำเอาคนเป็นพี่ต้องกำหมัดแน่น เขาสงสารน้อง เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะปลอบน้องยังไง
“พรุ่งนี้...พี่จะพาคินไปหาซีโร่นะ” คิงบอกกับน้องชายที่ตอนนี้สงบลงขึ้นบ้างแล้ว
“.....” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ออกจากร่างบาง ทำให้คิงถึงกับถอนหายใจออกมา เขาไม่อยากให้น้องชายที่ร่าเริงต้องเป็นแบบนี้ เขาเองก็เสียใจที่เพื่อนตัวเองต้องมาจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับมา เขาทำเพียงแก้แค้นคนที่ทำให้เพื่อนของเขาต้องตายในสนามแข่งรถนั้น หลังจากที่เพื่อนเขาเสียชีวิตและได้สืบจนรู้ว่าอีกฝ่ายที่แข่งด้วยเล่นสกปรกกับเพื่อนเขายังไง ถ้าแค่เบียดให้ตกข้างทางมันไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้เพื่อนเขาเสียหลักได้ ไหนจะเสียงระเบิดของรถ นั่นก็เพราะฝั่งนั้นเล่นใช้ปืนยิงที่ล้อรถของเพื่อนเขาจนเสียหลักพุ่งชนเข้ากับกำแพงและไม่วายมันยังยิงซ้ำที่ถังน้ำมันรถกะจะฆ่าให้ตายจริงๆ และมันก็ทำสำเร็จ เพื่อนเขาต้องตายเพราะพวกสวะอย่างมัน เคน คิง และเคลวินจึงจัดการเก็บคนที่ทำกับเพื่อนเขาจนมีจุดจบไม่ต่างกันเผลอๆ อาจจะทรมานมากกว่าด้วยซ้ำ
ณ สุสานแห่งหนึ่งสายลมที่พัดปลิวพัดผ่านร่างของคินที่อยู่ในชุดสีขาวสะอาดตา ใบหน้าอิดโรยของอีกคนที่แม้จะนอนหลับไปถึงสามวันเต็มๆ แต่เพราะการร้องไห้อย่างหนักทำให้เขาดูไม่ค่อยมีแรง ในมือถือดอกไม้ช่อหญ่เอาไว้ ก่อนที่จะทรุดนั่งตรงหน้าหลุมฝังศพที่มีชื่อสละเอาไว้ว่า “Zero”
“เป็นไงบ้าง สบายดีนะ รู้ไหมว่าคินคิดถึงแล้ว ซีละคิดถึงคินบ้างรึเปล่า? ถ้าคิดถึงก็กลับมาหาคินนะ ฮึก กะ.กลับมาได้ไหม” ดอกไม้ถูกวางลงตรงหน้าหลุมศพ คินก็พูดความรู้สึกที่อยู่ในใจ พูดไปน้ำตาก็ไหล มันเจ็บอยู่ที่อก คินยกมือกุมตรงหัวใจที่มันบีบรัดจนน่าอึดอัดและยังเจ็บจี๊ด พี่ชายทั้งสามคนทำได้แค่มองน้องชายที่ร้องไห้อีกครั้งอย่างนึกสงสาร
“ฮึก ไปสบายแล้วนะ คินสัญญาว่าจะไม่ดื้อ จะเป็นเด็กดีไม่ทำให้พี่ชายของคินต้องปวดหัว คินจะทำ ฮึก จะทำตามที่ซีบอกนะ...แต่ที่คินทำไม่ได้ ฮึก! ” คินเว้นวรรคไว้พรางเช็ดน้ำตาออกลวกๆ
“คินไม่สามารถรักใครได้นอกจาก..ซี” มือเล็กลูบลงที่รูปของคนรักเบาๆ แล้วยิ้มให้กับรูปตรงหน้าสื่อความหมายที่บอกออกไปผ่านสายตา
“ขอบคุณนะที่เข้ามาทักคินในวันนั้น วันที่ทำให้เราสองคนได้รู้จักกันและรักกกันมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณที่ดูแลคินมาตลอด ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง...ขอบคุณจริงๆ” คินค่อยๆ ยืนขึ้นเต็มความสูงมองหลุมศพตรงหน้า
“คินรักพี่ซีนะและจะรักตลอดไป” ประโยคที่ซีโร่เคยหวังจะได้ยินคำว่าพี่จากคินตลอดที่คบกัน ตอนนี้คินได้พูดมันแล้วถึงแม้จะสายเกินไปก็ตาม...รอยยิ้มบางที่ส่งยังหลุมศพตรงหน้าอาจจะทำให้คนที่จากไปแล้วมีความสุขก็ได้ คินคิดแบบนี้เวลาที่มองที่หลุมศพคนรัก
“ไปกันเถอะครับพี่ๆ” เสียงที่เหนื่อยล้าของน้องชายปลุกพี่ชายที่อยู่ในภวังค์แห่งความคิดหันกลับมามองน้องชายด้วยรอยยิ้มบางก่อนที่จะเดินออกมาจาก... สุสานที่ที่เพื่อนรักเขาอยู่
ความรักของคนสองคน อาจจะมาบรรจบกันในปลายทางหรืออาจจะแยกกันก่อนถึงจุดหมาย แต่สุดท้ายแล้วความรัก ก็จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีเสมอ...
==============
เรื่องสั้นเรื่องแรกที่แต่งไว้นานมากๆแล้ว อยากลงให้อ่านกัน
ไม่รู้ว่าชอบแบบนี้หรือเปล่า หากทำอะไรผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะค่ะ^^