Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.31] [25.08.2018 : 21.20]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bear in mind ...ผมไม่ร้ายนะครับ [YAOI] [ep.31] [25.08.2018 : 21.20]  (อ่าน 17363 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องลูกหยีเคยโดนดักตบมั้ยคะ ^^

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

[Episode 17]







"มึงแน่ใจนะว่าทำแบบนี้แล้วจะเวิร์ค"

"เวิร์คไม่เวิร์คกูไม่รู้หรอก แต่กูเป็นห่วงน้ำ...หรือมึงไม่เป็นห่วงวะธาม"

"พูดมากอยู่นั่น รีบๆไขเถอะ"

ที่เถียงกันอยู่นี่ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นโจ้กับธามที่กำลังยืนเถียงกันอยู่หน้าห้องเพื่อนตัวเล็ก...

เกือบสองอาทิตย์มานี้ คนตัวเล็กเงียบหายไป ขาดการติดต่อ พวกเขาสองคน เพื่อนในกลุ่มก็ไม่มีใครติดต่อได้ เจอกันแค่ในคาบเรียน แต่พอพักหรือหลังเลิกเรียนนั้นพวกกลุ่มเพื่อนของน้ำก็ไม่มีใครหาตัวน้ำเจอเลย จนอิ่มทนไม่ไหว โทรเล่าให้พวกเขาฟัง แล้วเขาก็ว่ามันแปลก เพราะแม้แต่พี่ผาเองยังไม่ได้เจอหรือติดต่อคนตัวเล็กนี่ได้เลย

โจ้กับธามเลยตัดสินใจกันว่าจะบุกเข้าไปรอในห้องของคนตัวเล็กนี่เสียเลย เพื่อไม่ให้คนตัวเล็กเลี่ยง หรือหลบหายไปไหนอีก

ที่ผ่านมาผาก็เอาแต่คอยเฝ้าถามพวกเขาสองคนทุกวันว่าติดต่อหรือเจอน้ำบ้างหรือเปล่า ทั้งสองก็ได้แต่ปฏิเสธไปเพราะตัวทั้งสองเองไม่รู้จริงๆ ในตอนแรกเขานึกว่าคงจะงอนหรืออะไรกันปกติทั่วไป และที่น้ำไม่ติดต่อมาคงเป็นเพราะเรียนหนัก แต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงไม่ใช่...ปัญหามันคงมีมากกว่านั้น เพื่อนตัวเล็กของเขาไม่เคยหนีปัญหา จะเจออะไรหนักหนาแค่ไหนก็ไม่เคยปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย...แต่ครั้งนี้เขาว่าปัญหามันคงจะหนักเกินไปจริงๆ

"น้ำจะหายไปเงียบๆแบบไม่มีคนเห็นนี่เป็นไปได้หรอวะ" โจ้นึกสงสัย พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียง

"เป็นไปไม่ได้หรอก...มหาลัยก็มีอยู่เท่านี้"

"แต่ถามคนอื่นก็บอกเหมือนกันว่าไม่เห็น" ตั้งแต่รู้เรื่องจากกลุ่มเพื่อนของน้ำที่คณะแพทย์เขาก็เที่ยวไปถามจากคนนู้คนนี้บ้าง...แต่ก็ไม่มีใครเจอ ทั้งๆที่เป็นที่รู้จักของทุกคนแท้ๆ แต่กลับไม่มีใครเห็นเลย...มันจะเป็นไปได้ยังไง

"ต้องมีคนรู้สักคนนึงนั่นแหละ" ธามว่า โจ้พยักหน้าเห็นด้วย เขาจะรู้คำตอบได้ก็คงต้องรอเวลาที่น้ำจะกลับมาเท่านั้นแหละ



เป็นเวลานานเกือบสองชั่วโมง จนท้องฟ้าเปลี่ยนสีเหลือให้เห็นเพียงความมืดสนิท เม็ดฝนโปรยลงมาตามฤดูกาล ไม่นานหลังจากนั้นเสียงก็อกแก็กจากการไขลูกบิดประตูก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนเบนความสนใจจากหน้าจอมือมาเป็นประตูห้องแทน

เสียงประตูถูกปิดลง ตามด้วยแสงสว่างจากดวงไฟกลางห้องที่ถูกเปิดโดยคนที่เพิ่งเข้ามา ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องไม่ได้ทำการเปิดไฟเพราะไม่อยากให้เพื่อนตัวเล็กจับสังเกตได้ว่ามีคนอยู่ในห้อง 

สภาพของคนที่ยืนถอดรองเท้าอยู่หน้าประตูโดยไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในห้องแม้แต่น้อย เปียกซกไปด้วยน้ำ

ฮู้ดสีกรมแบบสวมหัวถูกถอดออกไปจากตัวใส่ตระกร้าที่วางไม่ห่างกัน หันกลับเข้ามาก็ต้องตกใจที่บุคคลทั้งสองยืนอยู่กลางห้อง...ทั้งๆที่ห้องมันก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ทำไมเขาไม่สังเกตเห็นกันนะ

"ดูโทรมไปเยอะเลย ช่วงนี้เรียนหนักหรอ" ธามไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า พอเห็นสภาพแล้วก็อดที่จะยิงคำถามใส่ไม่ได้...ใต้ตาบวมช้ำและมีสีคล้ำขึ้นดูปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่เป็นเพราะนอนดึกอย่างเดียวแต่มาจากการร้องไห้อย่างหนักด้วย ร่างกายที่ผอมอยู่แล้วก็ดูเหมือนจะซูบลงไปอีกไม่น้อย...ถ้าทางนั้นรู้ คงไม่อยู่เฉยเป็นแน่

"อ อื้ม ใกล้มิดเทอมแล้วน่ะ" น้ำส่งยิ้มกลับไปให้คนตัวโตหน้านิ่งทั้งสอง ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปวางสัมภาระไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะรับผ้าขนหนูมาจากโจ้ที่ผละออกไปหยิบมาให้จากราวตาก

"คงจะหนักมากจริงๆ ถึงได้ขาดการติดต่อไปเลย" โจ้พูดออกมาน้ำเสียงตัดพ้อ ทำให้คนตัวเล็กหลบสายตาหลุกหลิก

"ไปอาบน้ำไป" น้ำพยักหน้าให้ธามแต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากัน ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป



"กูรับไม่ได้ว่ะไอ้ธาม" โจ้เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว

"กูก็ไม่ต่างจากมึงเลย" ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ที่ว่ารับไม่ได้ ไม่ใช่รับเพื่อนไม่ได้...แต่รับสภาพไม่ได้ ตั้งแต่อยู่กันมาทั้งสองคนไม่เคยเห็นน้ำดูหมดพลังชีวิตได้มากขนาดนี้มาก่อน ...นัยน์ตาที่เคยสุกใส กลับมีแต่ความหม่นหมอง ความกังวลและความไม่มั่นใจ ร่างกายผอมซูบลงกว่าเดิม จนแทบจะเรียกว่าก้างได้อยู่แล้ว...เขาทั้งสองน่าจะมาให้ไวกว่านี้ ทำไมชะล่าใจทิ้งไว้จนกลายเป็นแบบนี้กัน เขาทั้งสองนึกกล่าวโทษตัวเองอยู่ในใจ

เพียงไม่นานคนที่เข้าไปอาบน้ำก็เดินออกมาสวมเสื้อยืดคอย้วยและกางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้นสีฟ้าพร้อมนอนมาเรียบร้อยแล้ว ผ้าขนหนูถูกคลุมอยู่บนกลุ่มผมนิ่มแล้วขยี้เบาๆ เพื่อให้ผมที่เปียกจากการสระนั้นแห้งลง 

น้ำพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดแบบที่ผ่านมา เพราะไม่อยากให้เพื่อนสนิททั้งสองนึกเป็นห่วง...ไม่ใช่เพราะว่าเขาอยากปิดบัถงเรื่องนี้ แต่เขายังไม่อยากเล่าให้ใครฟังในตอนนี้ก็เท่านั้น

"กินข้าวมารึยัง" ธามที่กำลังนั่งแกะถุงกับข้าวใส่จานอยู่ที่โต๊ะญี่ปุ่นถามขึ้นมา กับข้าวพวกนี้โจ้เป็นคนออกไปมาเพียงครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่คนตัวเล็กจะกลับ และกับข้าวพวกนี้ก็ยังอุ่นๆอยู่ เลยไม่ต้องเอาเข้าไมโครเวฟให้เสียเวลา "ยังเลย เริ่มหิวแล้วเนี่ย" น้ำหย่อนตัวนั่งข้างกันกับธาม จัดเตรียมชามช้อนทำเหมือนกับว่าหิวเสียเต็มประดา...พยายามทำตัวให้เหมือนกับว่าตัวเองปกติดี แต่อาการที่พยายามจะปกปิดก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาของทั้งสองไปหรอก...ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องเอ่ยปากถาม ถ้าไม่ถามคนตัวเล็กไม่มีทางบอกปัญหาออกมาแน่นอน...ไม่ใช่ว่าเขาอยากเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวอะไรขนาดนั้น แต่ดูสภาพตอนนี้ คงปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหว...เพื่อนเขาทั้งคนนะ จะให้ปล่อยไปเฉยๆแบบนี้อย่างนั้นน่ะเหรอ

เขานั่งกินข้าวกันไป ถามนู่นถามนี่กันไปส่วนใหญ่คำถามบนโต๊ะกินข้าววันนี้มาจากคนตัวเล็กทั้งสิ้น พวกเขาทั้งสองได้แต่ผลัดกันตอบคำถาม และก็คอยตักอาหารใส่จานคนตัวเล็ก ถึงแม้จะพูดว่าหิว แต่ข้าวที่กินเข้าไปน้อยกว่สแมวดมเสียอีก ในเมื่ออิ่มแล้วก็ช่วยกันเก็บโต๊ะแล้วมานั่งเอนหลังพิงปลายเตียงดูหนังกันเพื่อย่อยอาหาร



ครืดด ครืดดด

แรงสั่งครืดคราดจากแรงสมาร์ทโฟนที่วางอยู่ข้างตัวธาม หยิบขึ้นมาดูก็ปรากฎชื่อของรุ่นพี่ในสาขาเขาคนหนึ่งที่ทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งใจเห็นตกใจจนสังเกตเห็นได้

"ครับพี่ผา" 

'มึง ...เจอน้ำรึยังวะ' เสียงปลายสายที่ฟังแล้วดูอ่อนแรงน่าสงสาร ธามหันมองหน้าคนตัวเล็กที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว...น้ำเอื้อมมือมาจับแขนเขาเอาไว้แล้วส่ายหน้าช้าๆ พร้อมกับน้ำใสๆที่เอ่อคลอตาสวยไหลลงมาอาบแก้ม

"ยังครับ ผมกับโจ้ยังไม่เจอเลย" ธามโกหกไปพร้อมกับบีบกระชับมือคนตัวเล็ก ส่วนโจ้ก็ลูบหัวเบาๆอย่างปลอบโยน

'ทำไมไม่มีใครเจอน้ำเลย กูไม่เข้าใจ...น้ำไม่อยากเจอกูมากขนาดนั้นเลยหรอวะ' เสียงปลายสายสั่นเครือเสียจนธามไม่อยากเชื่อหู...น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้

"คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ น้ำคงมีเหตุผล" คนตัวเล็กเริ่มสะอื้นออกมาเบาๆ จนธามต้องลุกออกมาคุยตรงระเบียง ปล่อยให้โจ้ปลอบไปก่อน

'กูไม่เข้าใจเหตุผลนี้เลยว่ะ น้ำไม่อธิบายอะไรกูเลย ถ้าจะไปจากกู อย่างน้อยกูก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่หรอวะว่ากูผิดอะไร' เขาไม่รู้จะพูดให้อีกฝ่ายสบายใจอย่างไรดี ความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มันยังใหม่และเปราะบางสำหรับน้ำมากและความสัมพันธ์ในรูปแบบรักเพศเดียวกันก็ยิ่งเปราะบางเข้าไปใหญ่ถ้าหากไม่เปิดใจคุยและยอมรับกันแน่นอนว่าทุกอย่างมันคงออกมาแย่ อย่างที่ทั้งคู่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

เขาไม่รู้จะพูดอะไร ก็ได้แต่รับฟังแล้วบอกให้อีกฝ่ายสบายใจได้ แล้วก็วางสายไปพลางคิดในใจไปว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะเป็นถึงขนาดนี้ ธามคิดแค่ว่าอีกฝ่ายคงจะเฟลๆอยู่บ้างแต่ก็ไม่คิดว่าจะเรียกว่าเฮิร์ทได้ 

ธามเดินกลับเข้ามาข้างในเสียงสะอื้นเบาลงแต่ก็ยังคงมีอยู่ น้ำมองหน้าเขาเหมือนจะอ้อนเอาอะไรสักอย่าง ธามจึงเข้าไปนั่งยองๆตรงหน้าก่อนจะค่อยๆอ้าแขนออก เพียงเท่านั้นคนตัวเล็กก็พุ่งเข้าใส่จนเขาต้องนั่งราบลงไปกับพื้น แล้วลูบหลังลูบหัวไปมาอย่างปลอบโยนก่อนจะรับรู้ได้ถึงความอุ่นชื้นบริเวณอกที่คนตัวเล็กซบอยู่...เขามองหน้าโจ้ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหัวพร้อมกัน ก็เป็นซะอย่างนี้...ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่ทำให้น้ำร้องไห้ ก็จะมาอ้อนให้พวกเขากอดปลอบอยู่ตลอด ยิ่งตอนอยู่กับแม่ดายิ่งแล้วใหญ่ กอดไม่ยอมปล่อย อ้อนอยู่อย่างนั้นจนบางทีเขาก็นึกหมั่นไส้ในความขี้อ้อนขั้นสุดนั่น...แต่ใครจะรู้กันเล่าว่าน้ำนั้นขี้อ้อนขนาดไหนนอกจากพวกเขาเนี่ย จะว่าไป...อาจจะมีอีกสองคนล่ะมั้งที่รู้

"ไหน...จะเล่าให้ธามกับโจ้ฟังได้ยังว่ามีเรื่องอะไรกัน" ธามเป็นคนเอ่ยถาม ต่อให้โจ้จะเป็นห่วงมากขนาดไหน ถ้าเขารู้สึกว่าอีกคนไม่สบายใจที่จะเล่าเขาก็ไม่อยากถามให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ น้ำพยักหน้าแล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ธามกับโจ้ฟัง เพราะน้ำเองก็ไม่อยากเก็บมันไว้คนเดียวอีกแล้ว น้ำอยากระบายมันออกไปและน้ำก็รู้ดีว่าโจ้ ธามและน้ำก็รู้ว่าทุกคนเป็นห่วงเขามากแค่ไหน

"ทำไมถึงหลบหน้าทุกคน รู้มั้ยมีคนเป็นห่วงเราเต็มไปหมด" น้ำพยักหน้าลงช้าๆก่อนจะก้มหน้ายอมรับผิดตามที่โจ้กล่าวมา อย่าว่าแต่พวกเขาเป็นห่วงเลยแม้แต่ในโซเชียลเองก็ตาม ที่ถึงขั้นตั้งแท็กว่าคิดถึงน้ำ ตามหาน้ำ

"และหลบไปอยู่ไหนมา ทำไมไม่มีคนเห็น"

"สระว่ายน้ำหลังมอ"

"อยู่คนเดียว?" ธามถามออกมาอย่างนึกแปลกใจ เพราะถ้าน้ำบอกว่าไปอยู่หลังมอ คงมีคนรู้เห็นเรื่องนี้มากกว่าสองแน่ๆ

"เปล่า ...น้ำเจอพี่ดินกับเพื่อน" ตอนแรกน้ำคิดว่าปลอดภัยจากคำถามจากคนมากมายเหล่านั้นแล้ว แต่ก็ดันมาเจอดินกับเพื่อนที่มาว่ายน้ำอยู่ น้ำจะเดินหนีออกไปก็ได้ แต่อะไรไม่รู้ทำให้เขาเลือกที่จะอยู่ ความรู้สึกข้างในลึกมันบอกว่าคนๆนี้ไว้ใจได้มากที่สุดแล้วในเวลานี้ ในทุกๆวันน้ำจะเข้าไปที่สระแล้วแต่เวลา แต่ดินก็จะเข้ามาพร้อมกับอาหารมากมายมาให้เขา ทุกๆวันผ่านไปแบบนั้นจนน้ำคิดว่าเขาสนิทใจกับคนๆนี้ง่ายกว่าคนอื่น และทั้งๆที่ดินกับเพื่อนจะบอกกับคนที่ตามหาว่าน้ำอยู่ที่สระก็ได้ แต่ดินก็ไม่ทำ ดินเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้และช่วยตามหาอย่างเนียนๆไป

"น้ำรู้มั้ยว่าน้ำกำลังหนีปัญหา" ธามว่าออกมาหน้าดุ เขาแอบไม่พอใจเล็กๆด้วยซ้ำที่น้ำเลือกที่จะหนีปัญหาแบบนี้

"รู้..."

"น้ำรู้มั้ยที่น้ำทำแบบนี้มันทำให้อีกคนนึงเสียใจ" น้ำเงยหน้าขึ้นมองหน้าธาม น้ำตาที่หายไปกลับมาเอ่อคลออีกครั้ง

"น้ำบอกเขารึเปล่า...ว่าเขาผิดอะไรถึงทำให้น้ำต้องบอกเลิกเขาและหายไปแบบนี้" ธามยื่นมือไปลูบหัว น้ำส่ายหน้าตอบช้าๆ พวกเขาสองคนไม่ได้เข้าข้างผาหรอก  แต่สภาพที่เห็นตอนที่ผาขับรถมามอทุกวันหลังฝึกงานเสร็จ เพื่อถามว่าเจอน้ำบ้างรึเปล่าก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย พวกเขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกของผานั้นมีให้น้ำมากแค่ไหน แต่ที่รับรู้ได้คือผาเสียสูญไปเยอะ

"น้ำผิดเอง..." คนตัวเล็กพูดออกมาพร้อมกับหยดน้ำสีใสที่ไหลลงมาบนแก้มเนียน ภาพที่เห็นสร้างความปวดใจต่อเพื่อนทั้งสองไม่น้อยเลย...น้อยครั้งนักที่น้ำจะร้องไห้หนักขนาดนี้ แต่ก็ต้องใจแข็งไว้เพราะถ้าน้ำผ่านเรื่องนี้ไปได้มันก็จะกลายเป็นบทเรียนสำคัญอีกหนึ่งบทเรียนในชีวิตของเจ้าตัว

"น้ำรู้...ว่าน้ำไม่ควรจะตัดสินใจไปเองคนเดียว น้ำรู้แล้วว่าที่น้ำทำแบบนี้มันดูถูกความรู้สึกของพี่ผามากขนาดไหน...น้ำงี่เง่า ไม่มีเหตุผลมากเลยใช่มั้ย" น้ำเอ่ยเสียงสั่นเครือ กลั้นก้อนสะอื้นเต็มที่พร้อมกับหันไปกอดโจ้ที่นั่งอยู่ข้างกัน

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็คิดอยู่เสมอว่าที่เขาทำมันถูกต้องแล้ว ไม่จำเป็นต้องถามไม่จำเป็นต้องปรึกษา แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว...ว่าที่เขาคิดมามันผิดทั้งหมด ทั้งๆที่เคยบอกกันไว้ว่ามีอะไรต้องพูดกันปรึกษากัน แต่เขากลับไม่ทำ เขากลับไม่เห็นความสำคัญของอีกฝ่ายเลยสักนิดเดียว เอาแต่งี่เง่าไร้สาระ ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต...ตัดสินเขาเพียงเพราะคำพูดของคนอื่น เชื่อมั่นคนอื่นมากกว่าคนข้างตัว...แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาไม่น่าได้รับการให้อภัยเลย

"เรางี่เง่าได้ ทำตัวไม่มีเหตุผลบ้างก็ไม่เสียหาย แต่เราต้องรู้ขอบเขต ทุกอย่างมันมีขีดจำกัด...และนี่มันแค่เริ่มต้นทางข้างหน้ายังอีกยาวเลย" โจ้พูดเตือนสติ ลูบหัวปลอบอย่างเอ็นดู

"ทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องฝืน เป็นตัวของตัวเอง...ไม่ต้องกลัวใครว่าถ้าเราจะเป็นเรา ...เป็นอย่างไรแสดงออกไปอย่างนั้น บอกกันแล้วตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะศึกษากัน แต่เรากลับปิดกั้นตัวเอง ปิดกั้นเขาไม่ให้โอกาสเขา ...ตอนนี้ยังไม่สาย ถามใจตัวเองดูว่าจะยังไงต่อไปดี โอเคก็เดินหน้าต่อ ไม่โอเคก็ถอยกลับมา...ธามกับโจ้ก็อยู่ตรงนี้ทั้งคน ไม่ปล่อยให้ช้ำใจนานหรอก" พวกเขาพูดคุยกับคนตัวเล็กจนดีขึ้นมาก พวกเขาไม่ใช่คนที่มีความรักที่ดีหรือเชี่ยวชาญอะไรขนาดนั้น แต่เขาแค่แนะนำในสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตของคนตัวเล็กไปในทางที่ดีเท่าที่เพื่อนคนนึงจะทำได้ก็เท่านั้นเอง

เมื่อทุกอย่างดีขึ้น พวกเขาสองคนก็ตัดสินใจนอนกันที่นี่ เพราะตอนนี้มันก็ปาไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว กว่าพวกเขาจะอาบน้ำกันเสร็จออกมาน้ำก็น้ำก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว



"มึงมานอนกับกูก็ได้มั้ง จะได้ไม่ต้องปูผ้า" ธามเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่ตัวเองปูผ้าเสร็จแล้ว

"มึงจะให้กูนอนเบียดมึงเพื่อ?"

"ที่นอนตั้งกว้างไม่เบียดกูหรอก"

"แหม พูดยังกะกูตัวเล็กเท่ามด"

"ถึงไม่มดแต่มึงก็ตัวเล็กกว่ากู มานี่มา" ธามยักคิ้วให้กวนๆ พร้อมกับตบที่ว่างข้างตัว ทางแถบที่ติดเตียง...ก็เวลานอนมันไม่ใช่ให้รอบๆตัวมันว่าง

"คิดอะไรกะกูปะเนี่ย คะยั้นคะยออยู่นั่น" โจ้บ่นกะปอดกะแปด หยิบผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอนตรงที่ว่าง

"และถ้ากูบอกว่าคิด" โจ้ชะงักไปทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงที่ติดจะจริงจังนั่น

"ไอ้สัด มึงก็แกล้งกูจัง" 

"กูไม่ได้แกล้ง" ธามยังพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ไม่มีแววเล่น

"เอาจริงดิ..." โจ้หันไปถามหน้าแหยๆ เพราะน้ำเสียงที่มั่นคงไม่เปลี่ยนนั่นเริ่มทำให้นึกหวั่นๆขึ้นมากลัวว่าเพื่อนตัวเองจะพูดจริง

"หึหึ ...กูง่วงละ ฝันดีมึง" ธามส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะล้มตัวลงนอนดึงผ้าห่มคลุมจนมิดหัว ปล่อยให้อีกคนนั่งตัวแข็งทื่อกับเสียงหัวเราะหึๆนั่นอย่างงงงวย...นี่โดนมันแกล้งอีกแล้ว ใช่...อีกแล้ว ก่อนหน้านี้มันก็แกล้งแบบนี้มาตลอด ทำไมไม่จำบ้างวะ ...ไม่จำแถมใจเต้นไปกับมันอีก...ควรหาแฟนนะโจ้นะ

บอกตัวเองในใจแล้วก็ถีบไอ้คนที่นอนคลุมโปงแรงๆไปที จนได้ยินคำด่าออกมาก็หัวเราะลั่นจนคนที่นอนบนเตียงขยับตัวอืออาอย่างนึกรำคาญ เขายกมือขึ้นปิดปากเอาไว้แทบไม่ทันชะเง้อหน้าขึ้นมองเห็นว่าหลับสนิทดีก็ล้มตัวลงนอนบ้าง แต่เขายังไม่ทันได้ปิดตาเลยด้วยซ้ำ เสียงสั่นครืดคราดของโทรศัพท์คนที่นอนอยู่ข้างๆกันก็ยังขึ้นมา เขามองดูชื่อและเวลาหน้าจอซึ่งตอนนี้ก็ตีหนึ่งแล้ว ส่วนชื่อนั้นก็เป็น 'พี่พุ่ม' เขาหยิบขึ้นมากดรับทันที เผื่อมีเรื่องด่วนอะไรที่จะให้ช่วย

"ฮัลโหลครับ ...ครับ ไอ้ธามมันหลับ ...ห้ะ! ...ครับๆๆ ...ได้ครับ" โจ้รับคำสั่งรุ่นพี่เสร็จก็ทำการปลุกคนข้างตัวทันที

"ไอ้ธามตื่น!  ไอเชี่ยตื่นดิวะ ...ตื่นไอ้สัด"

"เออๆ เชี่ยไรของมึงวะ" 

"อืม...มีเรื่องอะไรกันอ่ะ" เสียงปลุกของโจ้ไม่ใช่ปลุกแค่คนข้างตัวแต่ดันทำให้คนที่หลับสนิทอยู่บนเตียงพลอยตื่นขึ้นมาด้วย

"ตื่นแล้วก็ดีเลย ลุกไปใส่เสื้อผ้าดีๆก่อนไปเร็วๆ จะได้ไปกัน" โจ้พับผ้าห่มวางบนหมอนแล้วลุกออกไปใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ลวกๆ

"เดี๋ยวมึงเดี๋ยว มึงจะให้พวกกูแต่งตัวไปไหนดึกดื่นป่านนี้" ธามถามอย่างไม่เข้าใจ คนตัวเล็กที่ยังไม่ตื่นเต็มตาแต่พอฟังแล้วคิ้วก็ขมวดเข้าหากันจนจะเป็นปม

"พี่พุ่มโทรมาเมื่อกี้ บอกให้ไปช่วยแบกพวกพี่เขากลับหน่อย ...ถ้าไม่ไปมึงโดนซ่อมแน่" คนที่ได้ฟังก็ถึงกับลืมตาโพลงกันทั้งสองคน ธามรีบพับผ้าห่มแล้วลุกขึ้นมาแต่งตัวบ้าง...ใครมันจะอยากโดนซ่อมกันมั่งเล่า

"พี่ผาด้วยรึเปล่า" น้ำลุกขึ้นนั่งก่อนจะถามอย่างนึกเป็นห่วง

"พี่พุ่มบอก ว่านั่นน่ะตัวอาการหนักเลย เมาสุดตั้งในรอบปี" น้ำได้ยินอย่างนั้นก็ลุกขึ้นมาบ้าง

"ขอไปด้วย" 

"ไปเปลี่ยนชุด" ธามบอก ที่ให้เปลี่ยนชุด ไม่ใช่ว่าเป็นชุดเที่ยวอะไรหรอก แต่เพียงแค่เปลี่ยนมาใส่ชุดที่มันสุภาพกว่าชุดนอนก็เท่านั้นเอง...





[ พาร์ทของพี่ผา ]


"วันนี้หนักละนะมึงอ่ะ เลิกๆๆ พอไอ้สัดพอ" เสียงไอ้พุ่มตะโกนโหวกเหวกแข่งกับเสียงเพลง พยายามจะยื้อแก้วในมือผมออกแต่ผมไม่สนใจมันหรอก ...เลิกอะไรของมึง กูไม่เลิกเว้ย!! ไม่้เลิกหรอก...ไม่ยอมเลิกเด็ดขาด...

'เราเลิกกันเถอะนะครับ'

หลังจากวันนั้น มันผ่านมาจนจะสองอาทิตย์แล้วแต่ประโยคนี้มันยังวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่ไปไหน 

หลังจากวันนั้นที่น้องส่งประโยคนี้มา ผมก็ถึงกับลืมหายใจไปเลย พอตั้งสติได้ก็ส่งข้อความกลับไปแต่ก็ไม่มีแววว่าจะตอบกลับมา ผมจึงเปลี่ยนเป็นต่อสายหาเจ้าตัวแทน...แต่กลับได้ยินเสียงตอบรับอัตโนมัติทุกสายไป

ผมไม่ได้ทำเพียงแค่โทรไป ตอนเช้าผมก็ไปดักรอตรงหน้าหอเขาตั้งแต่เช้าแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา ตอนเย็นผมก็ไปรออยู่ที่หน้าตึกแต่ก็ไม่เคยเจอ ผมไม่ได้ทำแค่วันเดียว แต่ผมทำมันมาโดยตลอดเกือบสองอาทิตย์นี้ แต่ก็ไม่เคยเจอไม่เคยติดต่อได้เลย 

จะเจอก็แต่กลุ่มเพื่อนน้อง ก็เลยถามข่าวคราวมาบ้าง ทุกคนก็ตอบเหมือนกันหมดว่าน้ำก็สบายดี แต่พอหลังๆมาเริ่มบอกผมว่าไม่เคยเจอตัวเลย ติดต่อก็ไม่ได้ ทางไอ้โจ้ไอ้ธามเองก็ตอบผมแบบนี้อีกเหมือนกัน ผมจนปัญญาแล้วจริงๆ

ไอ้พวกเพื่อนผมเองก็ไม่มีใครเคยเจอเลย มหาลัยก็มีอยู่เท่านี้ จะหายหน้าหายตาไปแบบไร้ร่องรอยเลยได้ยังไงกัน

ในตอนแรก ผมเอาแต่เฝ้าตามหาน้อง ติดต่อน้องจนไม่เป็นอันทำอะไร คอยเฝ้าถามคนนู้คนนี้ตลอดว่าเจอน้องบ้างรึเปล่า จนป๊าต้องเรียกเข้าไปพบ ถามผมว่ามีเรื่องไม่สบายใจอะไร จนถึงขั้นทำให้เสียงานเสียงการขนาดนี้ ผมก็เล่าทุกอย่างให้ท่าฟังจนหมดแบบไม่มีกั๊ก ตอนนั้นคงได้ราวๆหนึ่งอาทิตย์ ที่อยู่ๆคนตัวเล็กก็หายไปจากสารบบชีวิตผม ป๊าผมฟังท่านก็นิ่งไป ผมก็เลยกังวลไปต่างๆนาๆว่าท่านจะว่าอย่างไรบ้าง เพราะผมก็ลืมไปเสียสนิทว่าเรื่องที่เล่าให้ฟังมันไม่ใช่เรื่องแบบคนปกติทั่วไป เพราะคนที่ผมคบเป็นแฟนคนแรกจริงๆจังจนเก็บมาเครียดแบบนี้เป็นผู้ชาย...แถมยังไม่ใช่คนที่มีหน้ามีตาในสังคมอีก...แต่ป๊าผมท่านไม่ได้ว่าอะไรผมสักคำ ท่านถามผมมาคำถามนึงที่ทำให้ผมหยุดทุกอย่างแล้วทบทวนตัวเองใหม่...

'ลูกตามหาเขาเพราะเขาเป็นแฟนที่บอกเลิกไป หรือเพราะว่าเขาเป็นคนที่จากไปพร้อมหัวใจของลูก'



คำถามที่ฟังแล้วมันไม่ได้เข้าใจยากเลยสักนิดเดียว แต่คำตอบล่ะ คำตอบเป็นอะไรกันแน่ตอนนี้ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ

ผมรู้ดีว่าอะไรที่ทำให้น้องต้องหนีหายไปจากผม ผมไม่แคร์เลยด้วยซ้ำว่าเขาจะเป็นใคร มาจากไหน แต่ก็อย่างที่เห็น เราไม่เคยคุยกันในเรื่องนี้เลย ผมไม่เคยบอกเขาให้เขามั่นใจที่จะอยู่กับผม...ผมนี่มันแย่จริงๆ

"เพ้อห่าอะไรของมึง" ไอ้วัชนี่ก็อีกคนถามอยู่นั่น

"กูไม่ได้เพ้อ แต่กูไม่อยากเลิก...กูผิดรึไง" ประโยคที่พูดออกไป ไอ้พวกนี้มันรู้ดีว่าผมไม่ได้เล่นๆเลย

"มึงจริงจังขนาดนั้นเลยหรอวะ" อยู่ๆไอ้ว่านก็วางแก้วแล้วถามผม ดูมันจริงจังแปลกๆ

"ตอนนี้กูมั่นใจแล้ว" 

"น้ำไม่เหมือนคนอื่น..." 

"กูรู้...กูรู้ดี ว่าน้ำไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เพราะงี้ไงถึงทำให้กูมั่นใจ...และรู้สึกไปแล้ว" ในประโยคสุดท้ายผมพูดแผ่วลงไปจนเสียงเพลงแทบจะกลบ แต่ผมรู้ว่าพวกมันคงได้ยิน

"มึงไม่ได้สร้างเรื่องจะหลอกน้องเขาใช่มั้ยไอ้ผา" สีหน้ายุ่งยากใจของไอ้พุ่มยามมันเอ่ยถาม ทำให้ผมต้องคิดทบทวนตัวเองว่าผมทำอะไรให้เพื่อนสนิทอย่างพวกมันคิดว่าผมจะทำเรื่องแบบนั้น

"กูดูเลว ดูร้าย...ขนาดนั้นเลยหรอวะ" ผมถามเสียงเครียด ตอนนี้เริ่มคิดไปถึงคำพูดต่างๆนาๆของคนรอบตัว ที่พูดว่าผมในแง่แบบนั้นมาตลอด

"ก็...ดูเป็นแบบนั้น" ไอ้วัชยักไหล่ไปที

"แต่กูไม่ได้เป็นแบบนั้น...พวกมึงก็รู้" 

"รู้ก็รู้แค่พวกกูปะวะ คนอื่นเขารู้กับมึงปะล่ะ ...ชัดเจนกับแค่ตัวเองมันไม่พอหรอกไอ้สัด หัดชัดเจน ปฏิเสธคนอื่นเด็ดขาดบ้าง ...และยิ่งน้องมันเข้ามา มึงทำอะไรให้น้องมันมั่นใจในตัวมึงมั่ง มึงนั่งบอกกับตัวเองว่ามั่นใจว่ารู้สึก บอกแค่ตัวเองว่ารับได้ในทุกๆอย่างที่น้องเขาเป็น...แต่มึงเคยบอกน้องเขาบ้างปะวะ น้องเขาเคยรู้กับมึงมั้ยว่ามึงคิดยังไง มึงเคยบอกว่าอยากได้คนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ไม่งี่เง่าเอาแต่ใจ พอมีเข้าจริง มึงไม่เห็นจะอยากรักษาไว้เลยวะ..." ผมไม่เถียงไอ้พุ่มสักคำ ...สิ่งที่มันพูด คือจริงทุกอย่าง...ผมไม่ได้เจ้าชู้ ผมไม่ได้ควงเขาไปทั่ว อย่างที่ทุกๆคนพูดกันอยู่ พวกมันรู้ดี และผมก็รู้ดีว่าผมไม่ได้มั่วอะไรกับใครอย่างนั้น

แต่ทุกอย่างที่ทุกคนเห็นว่สผมไปกับคนนู้นคนนี้ มันเป็นเพราะความสงสารและความเป็นลูกผู้ชายมากกว่า เขาขอติดรถผม ขอให้ผมช่วยถือของ ขอให้ผมไปส่งเขาที่คอนโดหรือบ้านเพราะเขาเมาและขอให้ผมไปส่ง ทุกอย่างมันมีแค่นั้น...บางคนขอสานความสัมพันธ์กับผม แต่ผมปฏิเสธพวกเธอบางคนก็เข้าใจ แต่บางคนก็ไม่เข้าใจและไปปล่อยข่าวเสียๆหายๆว่าโดนผมเขี่ยทิ้งบ้าง โดนผมฟันแล้วทิ้งบ้าง...ผมอยากจะแก้ข่าวพวกนั้นจะตาย แต่ถ้าหากผมแก้ต่างให้ตัวเอง มันจะผิดอะไรกับเป็นไอ้หน้าตัวเมียที่ปัดความรับผิดชอบกันล่ะ เพราะฉะนั้นผมเลยเลือกที่จะปล่อยมัน จนมันเงียบไปเอง

...ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น จนมันลามมาถึงตอนนี้ที่ผมปล่อยให้คนอื่นมาว่าคนของผมจนเขาคิดมากและเลือกที่จะไปจากผม แต่มันจะโทษใครได้มันก็เป็นผมเองนี่แหละ ที่ไม่ปกป้องและไม่แก้ไขอะไรเลย...ผมรู้ว่าผมผิด ผมก็กำลังจะแก้ไขมัน ได้แต่ภาวนาว่าขอให้น้ำเลิกหลบผมสักที และหลังจากนั้นผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือเขาไปอีกแน่...











...100%...

...To Be Continued...





ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โถๆๆงานนี้พี่ผาผิดทั้งขึ้นทั้งล่อง

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
สนุกค่ะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
[Episode 18]









"จะเข้าไปยังไง...อายุยังไม่ถึงไม่ใช่หรอ" คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นมาอย่างกังวล

หลังจากที่โจ้ได้รับสายจากพี่พุ่มว่าให้มาหาที่ร้าน พวกเขาก็จัดการกับตัวเองแล้วรีบนั่งแท็กซี่กันออกมา จนตอนนี้ก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าแล้ว คนตรวจบัตรคุมเข้มขนาดนั้นจะเข้าไปได้อย่างไร

"รออยู่นี่ก่อน" ธามบอกออกมาก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับการ์ดที่ยืนคุมอยู่ หลังจากนั้นก็เรียกให้พวกเขาตามเข้าไป...

บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยนักท่องราตรีมากมายหลากหลายเพศ ที่ถึงแม้ว่าจะดึกดื่นป่านนี้แล้ว ที่นี่ก็ยังแน่นขนัดไปหมด เสียงเพลงบีทหนักๆทำให้ทุกคนโยกย้ายกันไปตามจังหวะอย่างเมามันส์ แสงสีสวยงามสลับกันไปอย่างน่ามอง ...เขาไม่เคยเข้ามาในที่แบบนี้เลย นี่เป็นครั้งแรก...

"เดินระวังหน่อยสิ" อยู่ดีๆธามก็เดินเข้ามาโอบไหล่เขาไว้ ทำให้เขาต้องละสายตามองไปตามผู้คนรอบๆตัว 

สายตาแต่ละคนที่มองคนตัวเล็กมันปกปิดไม่มิดเลยแม้แต่น้อยว่าต้องการจะสื่ออะไร...คนตัวเล็กหันมามองหน้าธามเดินเบียดเข้าใกล้อย่างนึกกลัวสายตา ก่อนจะเอื้อมไปจับชายเสื้อโจ้ที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเอาไว้

"ตามมาดีๆ" โจ้หันมาบอก แต่ถึงไม่บอกหลังจากนี้เขาก็จะเดินดีๆแล้วล่ะ



กว่าพวกเขาจะฝ่าดงนักเต้นทั้งหลายมาถึงโต๊ะก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน หลากหลายคนเข้ามาทักทายโจ้กับธามอย่างคุ้นเคย และตอนนี้ภาพตรงหน้าก็ทำให้เขาต้องหยุดมองและหยุดคิดเรื่องราวต่างในหัว...พี่ผา

ความรู้สึกอย่างแรกที่แล่นเข้ามาคือความ...คิดถึง ตลอดเวลาที่เขาพยายามหลบหน้าคนๆนี้ พยายามหนีความรู้สึกต่างๆมากมาย แต่ความรู้สึกหนึ่งที่เขาไม่เคยหนีมันได้เลยคือ...คิดถึง  และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าความรู้สึกตอนนั้นมันเทียบกับตอนนี้ไม่ได้เลย

ความรู้สึกที่เขาพยายามหนีมาตลอดมันประเดประดังเข้ามา จนเขาอยากเห็นแก่ตัวดึงรั้งผาไว้ให้มาอยู่กับคนต่ำต้อยอย่างเขา ที่เขามาด้วย...ก็แค่อยากเจอ ถ้ามีโอกาสได้คุยหรือขอโทษ เขาก็พร้อมจะทำ ถ้ามันไม่สายเกินไป...

"น้ำ...มาด้วยหรอ" ว่านเป็นคนเอ่ยถามก่อนจะขยับออกห่างจากผาเพื่อให้คนตัวเล็กได้นั่งลงข้างเพื่อนตัวเอง

"พี่ผา..." คนตัวเล็กเอ่ยเรียกคนข้างตัวเบาๆ คนถูกเรียกหันมามองทางต้นเสียง และก็พาลคิดไปว่าตัวเองคงเมาจนเพ้อเห็นน้ำเป็นแน่

ผาวางแก้วลงไม่สนใจภาพตรงหน้า เอนหลังพิงกับโซฟาก่อนจะหลับตาลงและพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา

คนตัวเล็กที่มองอยู่ก็ถึงกับหน้าเสียไป...กับการกระทำที่ผาเพิ่งเมินเขาไป มันคงสายไปแล้วสินะ ...คนตัวเล็กคิดแบบนั้นก่อนจะขยับออกไปนั่งข้างโจ้ที่โซฟาอีกตัวหนึ่ง...ถ้ามันจะเป็นแบบนั้น เขาก็คงต้องยอมรับสินะ ดีซะอีก ที่คนต่ำต้อยอย่างเขาจะไม่ไปทำให้ชีวิตใครต้องแปดเปื้อน

"มันไม่ได้ไม่อยากเจอหน้าเราหรอก...มันแค่เมาน่ะ มันเลยกำลังคิดว่าตัวเองละเมออยู่" ว่านเอ่ยบอกกับคนตัวเล็กยิ้มเพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดี และอีกอย่างเขาก็อยากพูดให้คนตัวเล็กที่นั่งจิตตกอยู่นี่เลิกคิดมากด้วย

ผาที่เรียกสติตัวเองอยู่นานก็ลืมตามองข้างตัว คิดแค่เพียงว่าขอให้คนตัวเล็กนั่นยังนั่งอยู่ข้างๆ...แต่มันก็ไม่ เขาคงจะเพ้อเพราะเหล้าจริงๆนั่นแหละ

"ไอ้สัดทำหงอย น้องมันนั่งอยู่นู่น" วัชที่นั่งอยู่อีกฝากตะโกนขึ้นมาพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางโซฟาอีกฝั่ง ที่มีคนตัวเล็กนั่งอยู่...ไม่ได้เพ้อไปจริงๆสินะ 

"สติมึงยังอยู่ใช่มั้ยเนี่ยไอ้ผา" เขาพยักหน้าตอบให้วัชซึ่งเป็นคนถาม

"จะทำไรก็ทำ น้องมันจะร้องอยู่แล้วเนี่ยที่มึงเมินเขาน่ะ" พุ่มยังไม่ทันจะพูดจบ ผาก็ลุกพรวดไปดึงตัวน้ำออกมาจนถึงลานจอดรถ ถึงแม้จะมึนจนแทบจะเดินไม่ตรงทางแต่เขาก็ต้องรีบพาคนตัวเล็กนี่เดินออกมาให้พ้นสายตาลวมลามพวกนั้นโดยเร็ว ขนาดใส่แค่เสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นเหนือเข่ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวยังโดนมองขนาดนี้...ไม่อยากคิดถึงตอนที่ใส่ชุดอื่นเลย

ผารู้สึกมึนหัวจนต้องเอนตัวพิงรถ คนตัวเล็กเห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปประคอง...

"พี่ผา...ไหวมั้ยครับ" คนตัวเล็กถามอย่างร้อนใจ ดูท่าทางแล้วคงมึนไม่ใช่น้อยเลย...แค่เห็นปริมาณขวดที่วางอยู่บนโต๊ะก็คงเดาได้ไม่ยากว่าผากินมันเข้าไปเยอะมากขนาดไหน

"คงขับไม่ไหว...เราขับได้มั้ย" 

"พอได้ครับ" น้ำขับรถได้ ตั้งแต่ตอนที่อยู่กับแม่ดาแล้ว เวลาจ่ายตลาดเพื่อซื้อกับข้าวมาทำอาหารให้น้องๆทาน พวกพี่โตๆในบ้านจะรับหน้าที่ขับรถไปกับแม่ดา หรือกับพี่เลี้ยง ธามขับเป็นเพราะแม่ดาไว้ใจและสอนให้ ส่วนเขากับโจ้ได้ธามสอนให้ คนอื่นๆที่ออกไปกับพี่เลี้ยง เขาก็จะสอนให้ เพื่อให้ออกมาใช้ชีวิตภายนอกได้...เขารับกุญแจจากผา หลังจากช่วยพยุงผาไปยังฝั่งนั่งข้างคนขับแล้ว พอได้จับพวงมาลัยเข้าจริงๆก็อดตื่นเต้นไม่ได้...เคยขับก็จริง แต่ไม่ใช่รถหรูแบบนี้

ถึงจะตื่นเต้นหรือกลัวว่าจะขับชนนู่นชนนี่ขนาดไหน เขาก็ขับรถหรูมาถึงคอนโดของผาได้อย่างปลอดภัยในที่สุด...รู้สึกผิดตงิดๆที่ขับโดยไม่มีใบขับขี่ แต่ก็เอาเถอะดีกว่าให้คนเมามาขับก็แล้วกัน

พอจอดรถเรียบร้อยคนตัวเล็กก็ลงไปช่วยพยุงผาลงจากรถเพื่อขึ้นห้อง ผาส่งกระเป๋าตังค์ที่มีคีย์การ์ดมาให้เขาใช้สแกนเข้าไป...ทันทีที่เขาปิดประตูเสร็จและหันกลับมา คนตัวเล็กก็โดนสวมกอดจากร่างสูงเสียจมอก

...คนตัวเล็กกอดตอบร่างสูงไปพร้อมๆกับซบหน้าลงกับอกแกร่ง จมูกที่แทบจะจมหายไปกับอกแกร่งได้กลิ่นจางๆของน้ำหอมกลิ่นประจำตัวผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ทั้งๆที่มันน่าจะเหม็นแต่กลับหอมอย่างน่าหลงใหล

"พี่ขอโทษ/น้ำขอโทษ..." คำพูดที่เอ่ยออกมาพร้อมกันหลังจากที่นิ่งเงียบกันไปอยู่นาน ทำให้คนทั้งคู่แอบยิ้มให้กับตัวเองที่มีความคิดตรงกันขนาดนี้...

ผาคลายกอดออกมามองหน้าคนในอ้อมแขน ใบหน้าที่เคยสดใสกลับดูโทรม ตัวที่ผอมอยู่แล้วมาได้กอดคราวนี้กลับผอมไปกว่าเดิมมาก

ผาไล้มือแกร่งไปตามใบหน้าที่ที่เคยสดใสกว่านี้อย่างนึกโทษตัวเอง

"ที่เป็นแบบนี้...เพราะพี่ใช่มั้ย" คนตัวเล็กไม่ตอบได้แต่หลบตาคมที่มองมา

"พี่ขอโทษนะครับ..." คนตัวเล็กเงยหน้ามองสบกับดวงตาคม

"น้ำต่างหากที่ต้องขอโทษ...น้ำผิดเองที่งี่เง่าไร้สาระ..." 

"ถ้าพี่ทำให้น้ำมั่นใจ...มันก็คงไม่เป็นแบบนี้ ทั้งหมดมันเป็นเพราะพี่ไม่ชัดเจนและไม่เคยทำให้เรามั่นใจที่จะยืนอยู่ข้างพี่เลย..."

"..."

"พี่ขออะไรหน่อยได้มั้ย..." ผาเอ่ยถามเสียงนุ่ม ทั้งๆที่ยังคงกอดเอวคนตัวเล็กเอาไว้หลวมๆ คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับคำขอนั้นช้าๆ...

"ต่อจากนี้ไปพี่อยากให้เรามั่นใจที่จะยืนข้างพี่ อยากให้แคร์แค่พี่ ฟังแค่ที่พี่จะพูด ดูในสิ่งที่พี่จะทำ และเปิดใจให้พี่คนเดียว...พี่ขอมากไปรึเปล่า" ผายกมือขึ้นเกลี่ยแก้มนิ่มไปพลาง

"ม ไม่ครับ" คนตัวเล็กเสตาหลบไปชั่วครู่หนึ่งเพื่อจะสลัดความเขินที่กำลังพุ่งขึ้นก่อนจะหันมาสบตาคมเช่นเดิม...

"...แล้วทำได้มั้ย" เสียงนุ่มทุ้มที่เอ่ยออกมากับสายตาคมกล้าที่มีแต่ความอ่อนโยนนั่นทำให้น้ำแทบทรุด

"ด ได้ ...ได้ครับ" คำพูดตะกุกตะกัก ไหนจะแก้มใสที่ขึ้นสีแดงเรื่อนั่นอีกทำให้คนมองอยู่อดที่จะยิ้มให้กับความน่ารักนี้ไม่ได้...ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้กันนะ

"...ที่ผ่านไปแล้วให้แล้วไป เรามาเริ่มกันใหม่ ...เนอะ" เป็น 'เนอะ' ที่ดาเมจรุนแรงที่สุดในชีวิตของน้ำแล้ว สายตาอ้อนๆ น้ำเสียงอ้อนๆ ทำให้เขาเอ่ยตอบตกลงได้อย่างไม่ยากเย็นเลยสักนิด ท่าทางน่ารักของคนตัวเล็ก ทำให้ผาอดใจไม่ไหวก้มลงประกบปากสีแดงสดนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว มือที่กอดเอวหลวมๆในคราแรกก็กอดรัดแน่นขึ้นจนแนบชิดสนิทกัน 

ริมฝีปากร้อนค่อยขบแม้ม ลิ้มเลียริมฝีปากสีสดไปมาเบาๆ ก่อนจะส่งลิ้นเข้าโพรงปากที่เปิดรับเขาอย่างยินดี เพื่อให้เขาได้ฉกชิมความหวานอย่างเต็มที่

ลิ้นร้อนไล่ควานไปทั่วโพรงปากอย่างโหยหาและแสนคิดถึง คนในอ้อมแขนรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้ดี เพราะเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน สองแขนเรียวถูกยกขึ้นโอบรอบคอแกร่งอย่างหาที่ยึด เพราะเขาแทบจะยืนไม่อยู่กับจูบแสนเร่าร้อนที่ร่างสูงมอบให้กับเขา

สองแขนแกร่งยกตัวคนตัวเล็กขึ้นมา จนคนตัวเล็กเป็นฝ่ายต้องก้มลงไปจูบแทน...คนตัวเล็กผละออกมามองใบหน้าคมเข้มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเป็นฝ่ายก้มลงประกบปากเสียเอง

คนตัวเล็กไม่อาจรู้ได้ว่าตัวเองนั้นถูกพาไปที่ใด จนกระทั่งแผ่นหลังบางสัมผัสได้ถึงความอุ่นนุ่ม นั่นก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าตัวเองนั้นถูกพามาที่ใด...ห้องนอน

ผาละจากริมฝีปากอิ่มสีสด ไปยังใบหูก่อนจะจุ๊บเบาๆจนเกิดเสียง ที่ทำให้คนตัวเล็กถึงกับสติกระเจิง ความเสียวแล่นปร๊าดไปทั่วร่าง ผาไล่ต่ำลงไปยังซอกคอหอมกรุ่น ลิ้นร้อนลากเลียชิมไปทุกตารางนิ้ว ทำให้คนตัวเล็กหลุดเสียงอันน่าประหลาดออกมา แต่สำหรับผาแล้วมันเซ็กซี่น่าฟังมากเสียจนกลางกายขยับตัวตื่น

ผากดจูบลงไป ก่อนจะขบเม้มเบาๆพอให้เกิดรอย แล้วผละออกมามองอย่างชื่นชม คนตีวเล็กกัดปากแน่นใบหน้าแดงแจ๋ จนเขาต้องเลื่อนตัวขึ้นประกบปากอย่างน่าหมั่นเขี้ยว

มือทั้งสองก็เริ่มทำหน้าที่...คอยเลิกเสื้อยืดสีดำขึ้นมาจนเผยหน้าท้องขาวแบนราบ เขาค่อยๆผละจากริมฝีปาก ไล่จูบลงมาจนถึงบริเวณหน้าท้องแบนราบ ที่พอมีกล้ามเนื้ออยู่นิดหน่อย ลมหายใจร้อนผ่าวที่ลากผ่านไปตามผิวเนื้อทำให้คนที่สัมผัสถึงมันถึงกับขนลุก ท้องน้อยบิดมวนอย่างไม่เคยเป็น...

ผาลอบมองปฏิกิริยาของคนตัวเล็กที่หลับตาพริ้มเชิดหน้าขึ้นอย่างพอใจ ค่อยๆก่มลงจุ๊บบริเวณรอยบุ๋มกลางท้องจนเกิดเสียง...

"อ๊ะ..." การกระทำนั้นเรียกเสียงจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี 

ร่างสูงจุ๊บสูงขึ้นเรื่อยๆ มืออีกข้างก็ทำหน้าที่เลิกเสื้อขึ้นไปด้วย จนในที่สุด ตุ่มไตสีชมพูอ่อนก็ปรากฎแก่สายตา /คนตัวเล็กที่ตื่นเต้นกับการกระทำนี้ก็เฝ้ามองอย่างลุ้นๆ ว่าผาจะทำอย่างไรต่อไป ผารู้ถึงการจ้องมองตนจากคนตัวเล็กจึงมองตอบกลับไปอย่างมีนัยแฝง จนคนตัวเล็กต้องเบนสายตาหนีเพราะทนเขินสายตาคู่คมนั่นไม่ไหว

ดวงตากลมโตคู่สวยสั่นระริกจนผาจับความรู้สึกกังวลมากมายได้ เขาเคลื่อนหน้าขึ้นไปให้อยู่ในระดับเดียวกันก่อนจะมองลึกลงไปในแววตา...

"กลัวรึเปล่า..." ผาถามคนตัวเล็กเสียงนุ่มพร้อมกับค่อยๆ ควบคุมอารมณ์ดิบที่ปะทุขึ้นไม่ให้มากขึ้นไปกว่าเดิม

คนตัวเล็กนิ้งเงียบไป เม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด...น้ำกำลังกลัว ว่าหลังจากเหตุการณ์ หลังจากที่เขาลืมตาตื่นในวันพรุ่งนี้ข้างกายของเขามันจะว่างเปล่า...ตลอดไป

"...พี่ขอโทษคนดี" ผาก้มลงจุ๊บปากอิ่มไวๆ ก่อนจะดึงเสื้อลงอย่างเดิมแล้วผละออกไปนั่งปลายเตียง คนตัวเล็กลุกขึ้นคุกเข่าสวมกอดผาเอาไว้จากทางด้านหลังใบหน้าสวยซบลงบนลาดไหล่

"ไม่เห็นต้องขอโทษเลย..." น้ำว่าเสียงอู้อี้

"ต้องขอโทษสิ พี่ทำคนดีอึดอัดนะ...พี่ไม่ทำหรอกเพราะคนดีไม่พร้อม เนอะ..." ผาว่าอย่างตัดใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจอะไรแต่เขาแค่ไม่อยากบังคับฝืนใจ...เอาแต่อารมณ์ตัวเอง

ปึก!!

น้ำฟาดเข้าไปที่อกแกร่งหนึ่งทีก่อนจะผละออกมาหน้ามุ่ย ผาหันตามมาพลางลูบอกตัวเองป้อยๆ เพราะที่ฟาดมาเมื่อกี้ก็แสบอยู่เหมือนกัน ก่อนจะยืนแขนข้างหนึ่งไปกอดเอวเล็กเอาไว้หลวมๆ

"ไม่ต้องมานงมาเนอะกับน้ำเลย ...น้ำเคยบอกรึไงยังว่าไม่พร้อมอ่ะ เคยบอกรึไงว่าอึดอัดอ่ะ..." เป็นประโยคที่ผาต้องทวนอย่างอึ้งๆ

"รู้ใช่มั้ย ว่าพูดอะไรออกมา" ผายืดตัวขึ้นชิดใบหูพร้อมกับเอ่ยเสียงแหบพร่า ทำให้คนฟังขนลุกซู่ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปาก อย่างนึกขึ้นได้ว่าประโยคเมื่อครู่มันไม่ต่างอะไรกับเชิญชวนเลยสักนิดเดียว

ผาผละออกมามองกิริยาน่ารักๆนี่ให้เต็มตา ไม่อยากจะเชื่อเพียงแค่กิริยาน่ารักๆนี่ก็ทำให้กลางกายขยับตัวตื่นเต็มที่อย่างฉับพลัน...น่ากดให้จมเตียงจริงๆ!

แววตาพราวระยับอย่างเจ้าเล่ห์แบบที่น้ำไม่เคยเห็นมาก่อน เล่นเอาหนาวๆร้อนๆชอบกล แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้วเขาก็ไม่ถอยหรอกน่า น้ำลดมือที่ปิดปากออกก่อนจะก้มลงจุ๊บปากร่างสูงหนึ่งทีแรงๆ แต่ยังไม่ทันได้ผละออกผาก็จับหน้าเขาไว้ เปลี่ยนมาคุกเข่าเหมือนเขาแทน

ลิ้นร้อนบุกรุกเข้ามาชิมความหวานอีกครั้ง เกี่ยวกระหวัดกันไปมาจนได้ยินเสียงของความชื้นแฉะ ...จากเร่าร้อนแทบแผดเผาให้เป็นจุลแปลเปลี่ยนเป็นอ่นโยนเสียจนเหมือนล่องลอยอยู่ในอากาศ หวาบหวามจนมวลท้องน้อยไปหมดจนกลางกายคนตัวเล็กตื่นตัว...

ร่างสูงกดจูบลงต่ำมาเรื่อยๆ มือข้างหนึ่งรั้งเสื้อขึ้นจนไปกองอยู่ที่คอ ตุ่มไตสีอ่อนที่เมื่อครู่มองสำรวจอยู่นาน มาคราวนี้ก็เลยไม่ต้องเสียเวลาสำรวจตรวจดูอะไร ...ปากร้อนจึงครอบครองลงไปอย่างไม่ลังเล ดูดดึงจนแข็งเป็นไตก็ผละมาอีกข้าง

...คนตัวเล็กที่โดนกระทำ รู้สึกเหมือนกระแสไฟแล่นไปทั่วทั้งตัว สติกระเจิดกระเจิงกันไป แอ่นอกขึ้นรับริมฝีปากร้อน นิ้วเรียวสวยสอดเข้าใต้เรือนผมจิกขยุ้มบางทีเพื่อระบายความเสียวซ่านที่วิ่งวนอยู่ทั่วร่าง...เสียงครางกระเส่าที่หลุดออกมาอย่างไม่ปิดกั้น ทำให้ร่างสูงเองแทบจะน่ามืดจับกดให้จมเตียงเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เขารู้ดีว่าต้องใจเย็น

เสื้อเริ่มจะเกะกะสำหรับผา จึงถอดออกไปจากร่างเล็ก แล้วค่อยๆให้น้ำนอนราบลงไป ...ร่างกายขาวสะอาด ทีบัดนี้มีรอยคิสมาร์คของเขาเต็มไปหมด ...คนตัวเล็กมือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไปทั่วแผงอกแกร่งภายใต้เสื้อผ้าเนื้อดี...พลางคิดในใจว่าเมื่อไหร่จะถอดมันออกเสียที แต่ก็เขินเกินกว่าจะเอ่ย...

ผาเริ่มลงไปยุ่มย่ามกับกางเกง มืออีกข้างหนึ่งทำหน้าที่สะกิดตุ่มไตไปมาเพื่อสร้างความรัญจวนให้มิห่ากายเล็ก อีกมือก็ทำหน้าที่ปลดเปลื้องกางเกงให้พ้นทางจนเหลือเพียงอันเดอร์แวร์สีขาวตัวเดียว 

ผามองส่วนอ่อนไหวที่คับแน่นภายใต้อันเดอร์แวร์ด้วยสายตาพราวระยับ ก่อนจะเหลือบขึ้นมองคนขี้เขินและจุ๊บลงเบาๆตรงส่วนอ่อนไหวทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากกัน...การกระทำนั้นแทบทำให้น้ำหน้ามืด เนื้อตัวแดงแจ๋ เพราะความเขินขั้นสุด

ผาถอดรั้งอันเดอร์แวร์ออกไปจากตัว ทำให้เห็นส่วนสวยกลางกาย ...ผาจ้องมองสำรวจทั่งไปหมดจนคนตัวเล็กทนเขินสายตาผาไม่ไหวจึงยกมือขึ้นปิดหน้าเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อร่างสูงเพื่อขอร้อง...

"...พี่ผา" 

"ครับ ที่รัก"

ฉ่า!!

ผาผละออกมาขานรับเสียงแหบพร่า ที่ฟังแล้วเซ็กซี่สุดๆ ใครเขาให้เรียกแบบนี้กันเล่า ถ้าหัวใจวายตายใครจะรับผิดชอบ...ฮืออ~ เขินง่ะ >//<

"ม ไม่มอง...ได้มั้ยง่า" คนตัวเล็กเอ่ยขอเสียงอู้อีทั้งๆที่มือยังปิดหน้าอยู่ ร่างสูงอมยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วค่อยจับมือที่ปิดหน้าสวยออกและกดจูบลงบนริมฝีปากอิ่มหนักๆไปหนึ่งที ร่างสูงไม่ตอบอะไร พรมจูบไปทั่วใบหน้าแล้วลงมายังตุ่มไตสีอ่อน ขบเม้มดูดดึง จนคนใต้ร่างเสียวสะท้าน สองมือปัดป่ายไปทั่วกายขาว บีบเคล้นตามแรงอารมณ์ที่ประทุขึ้นยามเสียงครางกระเส่าถูกเปล่งออกมา

ผาผละออกมายืดตัวขึ้นก่อนจะค่อยปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกอย่าใจเย็น สายตาคู่คมมองสบดวงตาสวยที่บัดนี้ปรือปรอยเพราะแรงอารมณ์ 

เสื้อผ้าถูกปลดออกไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้คนตัวเล็กมองสำรวจได้เต็มตาอย่างชะล่าใจ มองไล่ลงมาตั้งแต่ใบหน้าคม แผงอกแกร่ง หน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเรียงเป็นลอนสวย...และส่วนที่ต่ำลงมานั้นคนตัวเล็กก็มองมันอย่างเขินอายจนตัวแดงแจ๋ แต่ก็ไม่ยอมละสายตาไปไหน

ผาที่มองดูอยู่นั้นก็ถึงกับเขินขึ้นมาเสียเอง จับมือเรียวให้มาวางที่กลางกายร้อนผ่าว ...คนตัวเล็กชะงักมือไว้ในคราแรกแต่ก็ยอมกอบกุมมันอย่างตามใจ ผาขยับมือเขาให้เลื่อนขึ้นลง ก่อนจะเปล่งเสียงครางต่ำออกมาคล้ายกับพอใจ

ผาปล่อยมือออกเปลี่ยนมากอบกุมส่วนอ่อนไหวของคนตัวเล็กแทน และทำเช่นเดียวกันกับที่คนตัวเล็กกำลังทำให้เขาอยู่ น้ำสะดุ้งเล็กน้อยที่ถูกกระตุ้นโดยฝ่ามืออุ่น ความเสียวซ่านเข้าทำงานอย่างเต็มที่ ความรู้สึกพลุ่งพล่านอย่างไม่เคยเจอมาก่อน เสียงอืออาฟังไม่ได้ศัพท์ถูกเปล่งออกมาจนทำให้สิ่งที่น้ำกำลังกอบกุมอยู่ขยายตัวจนกำไม่มิด

ขาเรียวทั้งสองข้างถูกช้อนใต้ข้อพับให้ตั้งขึ้น เผยให้เห็นส่วนอ่อนไหวด้านหลังสีสด ที่ขมิบเหมือนรออะไรบางอย่าง คนตัวเล็กที่เห็นว่าร่างสูงมองอยู่ก็หุบขาเข้าหากันอัตโนมัติ

ผาจับขาทั้งสองแยกออก ข้างหนึ่งถูกยกขึ้นพาดบ่าแกร่งเอาไว้ ก่อนที่ผาจะค่อยๆไล่จูบลงมาเรื่อยๆจนถึงขาอ่อน ก่อนจะขบเม้มสร้างรอยสีกุหลาบ

"อ๊า~" มือข้างที่ยังว่างอยู่กอบกุมส่วนอ่อนไหว รูดขึ้นลงอย่างใจเย็น ก่อนจะเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น...

"อ๊ะๆ ...พ พี่ผา อึก อ๊ะ...น้ำ ไม่ไหว อ๊าา~" คนตัวเล็กกระตุกเกร็งสองสามครั้งก่อนที่น้ำสีขุ่นจะถูกฉีดพ่นออกมาจนเลอะหน้าท้องและมือของผาเต็มไปหมด

ผาใช้มือที่มีความเปียกชื้นน้ำรักคนตัวเล็กป้ายไปที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนจะค่อยๆกดนิ้วแกร่งลงไปหนึ่งนิ้ว...ความคับแน่น จุกเสียดเล่นงานจนคนตัวเล็กผวาเฮือก ทำให้ผาก้มตัวลงไปจูบปลอบ...

"ไม่เกร็งนะคะคนดี..." ความเคยชินเวลาพูดคะขากับน้องสาวหลุดออกมาอย่างไม่ตั้งใจซึ่งนั่นทำให้คนตัวเล็กเขินและผ่ินคลายลง เขาจูบซับหน้าผากมนพลางค่อยๆขยับนิ้วมือ ผนังอ่อนนุ่มตอดรัดที่รัว ทำให้กลางกายแข็งขืนจนปวดหนึบไปหมด ...เขาเคลื่อนนิ้วจนช่องทางคุ้นชินจึงค่อยๆเพิ่มเข้าไปอีกนิ้ว และ...อีกนิ้ว ความจุกเสียดแล่นพล่านไปทั่วช่องทาง

"อ๊ะ อ๊า...เจ็บ" คนตัวเล็กร้องออกมาว่าเจ็บแต่เสียงครางกระเส่าที่นำมาก่อนนั้นเป็นตัวยืนยันได้ดีว่าเสียวมากกว่า ร่างสูงยิ้มเอ็นดูก่อนจะพรมจูบไปทั่วขาขาว พร้อมกับเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น หมุนวนหาจุดเสียว

"อ๊า!" คนตัวเล็กกระตุกเกร็งจนผายิ้มกริ่ม กดย้ำๆที่จุดนั้นอีกสองสามที ก่อนจะค่อยๆถอนนิ้วออกมา

"ถ้าทนไม่ไหวบอกผานะคะ...ไม่ต้องฝืน" เสียงนุ่มทุ้มกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน มอบจูบอันแสนอ่อนหวานนุ่มนวลจนคนใต้ร่างเคลิ้มไป ค่อยๆจับขาพาดบ่าแกร่ง...ก่อนจะค่อยๆสอดใส่ส่วนใหญ่โตเข้าไป 

"อ๊ะ!! ...อึก น้ำเจ็บ" ผาผละจูบออกมาเพื่อมองคนใต้ร่าง น้ำสีใสไหลลงเป็นทางที่หางตา นิ้วแกร่งเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้เบาๆ

"ไหวมั้ย...พอแค่นี้ได้นะ พี่ไม่เป็นไร" เขาก้มลงจูบซับที่หางทั้งสองข้าง กำลังจะถอนตัวออก แต่คนใต้เอาขาตวัดเกี่ยวรอบเอวเขาไว้เสียก่อน

"น้ำ อึก...เชื่อใจพี่ผาได้ใช่มั้ย" คำถามที่ดูเหมือนธรรมดา แต่กลับทำให้คนฟังใจเต้นไม่เป็นส่ำ ...ที่ผ่านมาเวลาเขามีอะไรกับใคร เขาไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของอีกคน เขาไม่เคยแคร์ว่าอีกคนจะเป็นอย่างไร...แต่กับน้ำ เขากลับแคร์ เขากลับกลัวว่าถ้าหากทำให้คนตัวเล็กเจ็บและฝังใจ จนกลัวรสสัมผัสของเขามันคงแย่กว่าอะไรทั้งปวง...ในขณะที่เขาแคร์ คนตัวเล็กกลับให้ความเชื่อใจในตัวเขา...ถ้าผมจะรักเขาคงไม่ผิดอะไรใช่มั้ยครับ

ผาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ทำเพียงแค่จูบซับไปทั่วบริเวณใบหน้า เขาใช้มือข้างหนึ่งรูดชักส่วนอ่อนไหวนำพาอารมณ์คนตัวเล็กอีกครั้ง มอบจุมพิตอ่อนหวานให้ ....ก่อนจะค่อยๆดันส่วนกลางกายของตัวเองเข้าไปจนสุดความยาว

เสียงหอบหายใจหนักๆของคนทั้งคู่ ดังอยู่ทั่วทั้งห้อง น้ำตาสีใสไหลลงหางตาอีกครั้งด้วยความเจ็บ...ร่างสูงแช่นิ่งเอาไว้อย่างนั้นเพื่อให้คนตัวเล็กได้ปรับตัว...กรามแกร่งขบแน่จนขึ้นเป็นสันเพื่อสะกดกลั้นแรงอารมณ์ไม่ให้กระโจนจ้วงลงไปจนคนตัวเล็กเจ็บตัว ผนังนุ่มตอดรัดอย่างบ้าคลั่งจนเขาเองก็แทบจะคลั่งตามอยู่แล้ว

"พ พี่ผา..." น้ำเรียกก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่น

"ข ขยับหน่อย" เขายิ้มให้กับคำขอของคนตัวเล็ก ก้มลงไปหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่ ก่อนจะเริ่มขยับให้แทนคำตอบ มือข้างหนึ่งก็รูดรั้งแกนกายสวยไปด้วย

"อ่าาา...แน่นมากเลย" เขาพูดไปจ้องหน้าคนตัวเล็กไป จนแก้มใสขึ้นสีเรื่อน่ารักจนอดไม่ไหวก้มลงหอมทั้งสองข้างไปฟอดใหญ่ๆ

ผาสอดจับข้อพับทั้งสองข้างก่อนจะดันแยกออกจนแทบชิดอกแล้วขยับในจังหวะช้าๆ...เขาอยากจะใส่สุดแรงแต่ก็กลัวว่าคนตัวเล็กจะรับไม่ไหว

"อ เอ่อ...พี่ผา" 

"ครับ" ผมรับคำ เร่งจังหวะขึ้นอีกนิดอย่างทนไม่ไหวแต่ก็ไม่ได้เร็วหรือแรงอะไร

"เอ่อ คือ...อ๊ะ!" "อะไรคะคนดี" ก้มลงหอมแก้มนิ่มไปอีกฟอด

"ร เร็ว ...เร็วๆได้มั้ย" ผาได้ฟังถึงกับชะงักก่อนจะยิ้มออกมา ก้มลงจุ๊บใบหู

"ตามบัญชาครับที่รัก"



พั่บๆๆ ๆๆๆ

"อ๊ะๆ พ พี่ผา อื้อ~" คนตัวเล็กยังไม่ทันได้เขินกับคำพูดด้วยซ้ำไป แรกกระแทกจากสะโพกสอบก็ทำให้สติกระเจิงไปคนละทาง

ร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก สองมือเรียวจิกครูดไปกับแผ่นอกแกร่งอย่างระบายความเสียวซ่าน

"อ่าา ที่รักแน่นมาก อืมมม..." แก้มใสขึ้นสีแดงเรื่อเพราคำพูดของผาอย่างหน้ารัก...คนอะไรขี้เขินเสียจริง

ผาหยุดขยับสะโพก แล้วค่อยๆจับตัวคนตัวเล็กให้พลิกคว่ำในท่าที่เรียกว่าด็อกกี้ สะโพกสวยลอยเด่น ช่องทางขมิบรออะไรบางอย่างเห็นแบบนั้นก็อดใจที่จะสอดเข้าไปรวดเดียวจนสุดไม่ได้

"อื้ออ!...ลึก ลึกเกินไป" คนตัวเล็กฟุบหน้าลงไปกับหมอนคล้ายกับหมดแรง ผาเลยจับแขนคนตัวเล็กให้ขึ้นมาจนแผ่นหลังขาวเนียนแนบชิดกับอกแกร่ง แล้วค่อยๆขยับซอยสะโพกเริ่มจากช้าๆ เป็นรัวเร็ว จนคนตัวเล็ครางไม่เป็นภาษาเพราะความเสียวซ่าน

มือทั้งสองข้างของร่างสูงก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี อีกข้างหนึ่งบีบขยี้ที่เม็ดทับทิบสีอ่อน อีกข้างก็ทำการรูดรั้งส่วนอ่อนไหว ผนังนุ่มตอดรัดเสียจนแทบจะทนไม่ไหว

"อ๊ะ!! ต ตรงนั้น" เสียงหวานแหบแห้งร้องครางสุดเสียง ร่างสูงกดจูบซอกคอหอมก่อนจะปล่อยน้ำให้ฟุบลงไปกับหมอนใบใหญ่ แล้วกระหน่ำซอยย้ำลงไปจุดเดิมอย่างรัวเร็ว

"อ๊ะ อ๊ะ จ จะเสร็จ พี่ผา..." 

"อีกนิดครับ อืมมม..." เขากระแทกซอยรัวเร็วอีกไม่กี่ที ทั้งสองคนตัวกระตุกเกร็งพร้อมกับปล่อยน้ำสีขุ้นออกมาพร้อมกัน

"อื๊อออ~ / อ่าาห์~" เสียงแห่งความสุขสมดังสอดประสานกันทั่วทั้งห้อง

คนตัวเล็กทิ้งตัวลงนอนราบไปกับเตียงอย่างอ่อนแรง คนที่คร่อมอยู่ด้านบนก็ตามลงไปทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมติดกัน ผาก้มลงพรมจูบแผ่นหลังเนียนขาวพร้อมกับเม้มทำรอยสีกุหลาบเอาไว้อย่างหลงใหล สูดดมกลิ่นหอมไปทั่วทั้งตัวอย่างกับคนโรคจิต...

เสียงหอบหายใจยังคงดังอยู่ที่คนหายใต้ร่าง เขายังไม่ยอมถอนตัวออกไป ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้คิดเอาไว้รอบเดียวคงพอ ไม่อยากรังแกเสียจนป่วยเอา...แต่มาตอนนี้ เปลี่ยนใจแล้ว ต่อให้ไม่สบายหนักแค่ไหน หรือลุกเดินไม่ได้ เขาจะดูแลเอง

"ไหวหรือเปล่าเบเบ้..." เขาพูดขำๆก่อนจะขบที่ใบหูเล็กเบาๆอย่างหยอกล้อ ก่อนจะขยับสะโพกเบาๆ ทำเอาคนใต้ร่างส่งเสียงอืออา

"คนแก่ขี้หื่น" น้ำบ่นกระปอดกระแปด...บ่นไปแบบนั้นแล้วรอดหรือ? ก็เปล่านี่

ผาจัดการเผด็จศึกไปอีกสี่รอบถ้วน ก่อนจะอาบน้ำ ล้างชำระคราบคาวออกเพื่อให้คนตัวเล็กนอนสบายตัวและให้กินยาแก้ไข้ดักไว้...จนตอนนี้คนตัวเล็กก็หลับไปแล้วเพราะความอ่อนเพลียจากการที่เขาเอาแต่ใจรังแกคนตัวเล็กมากไปหน่อย

เขารีบจัดการตัวเองบ้างเพื่อมานอนกอดคนตัวเล็ก ผาลูบหัวน้องก่อนจะก้มลงหอมแก้มใสไปฟอดใหญ่ ทำให้คนตัวเล็กร้องอืออาออกมาอย่างไม่พอใจที่มารบกวนการนอน...ผาล้มตัวลงนอนข้างกัน ดึงตัวน้ำเข้ามากอดเอาไว้แนบอกอย่างนึกหวงแหน พลางนึกไปถึงคำถามของป๊าที่ถามเขาไว้...วันพรุ่งนี้เขาจะกลับไปตอบคำถามของป๊าอย่างมั่นใจ...และคนในอ้อมกอดเขาจะต้องได้รับรู้มันในเร็วๆนี้แน่นอน


.



.



"ฝันดี...ที่รัก"








...100%..

...To Be Continued...

Talk
- แอร๊ยยยยยย~ ดีมั้ยไม่รู้ งงมั้ยไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลยตอนนี้ แงงงง~
- เขาหมดสต็อคละนะตัวเอง จะเข้าสู่มิติการดองละนะ5555 อย่าเพิ่งหนีหายกันไปไหนนาจาาา



ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เดินเรืรองรวดเร็ว ดีมากเลยค่า อจ.สว.ท่านนั้นต้องเป็นคุณย่าคุณยายน้องน้ำแน่เลย

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Episode 19





...คนตัวเล็กขยับตัวตื่น เพราะว่าความรู้สึกอบอุ่นที่ซุกตัวอยู่ตลอดคืนนั้นหายไป แต่ก็ขยับได้เพียงเล็กน้อย เพราะความปวดร้าวที่สะโพกแล่นริ้วขึ้นมาอย่างฉับพลันทำให้ร่างเล็กต้องนอนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่อย่างนั้น มือเล็กปัดป่ายไปทั่วบริเวณที่เคยมีร่างแกร่งนอนกอดก่ายกันอยู่ ความเย็นชืดของพื้นผิวเป็นตัวบ่งบอกได้ดีว่าคนที่เคยนอนอยู่ได้ลุกออกไปนานแล้ว

...ความร้อนผ่าวบริเวณกระบอกตา ทำงานเร็วพอๆกับความรู้สึก ทั้งที่เปลือกตายังไม่ทันได้เปิดขึ้นมา น้ำสีใสก็ไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ...หัวใจดวงน้อยปวดแปลบอย่างกับมีมือปริศนามาบีบเคล้น อย่างจะให้มันสลายไปคามือ ...เขาอยากให้ความเย็นชืดของที่ว่างข้างตัวเป็นแค่ความฝัน อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นสิ่งที่เขาแค่ฝันไป แต่ความเจ็บตรงสะโพกก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน...มันคือเรื่องจริง ...และสิ่งที่เขากลัว กลัวว่าตื่นขึ้นมาหลังจากเหตุการณ์นั้น ข้างตัวของเขามันจะมีแต่ความว่างเปล่า และมันก็ว่างเปล่าจริงๆ

...คนตัวเล็กกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับแสง ฝืนขยับตัวลุกขึ้นนั่งหัวเตียง กวาดสายตามองไปรอบห้อง โทรศัพท์และกระเป๋าตังที่เคยวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว...ถ้ามีเงินสดหรือเช็ควางอยู่หัวเตียง เขาคงไม่ต่างกับถูกพี่ผาซื้อมาระบายความใคร่เลยสักนิด ...คนตัวเล็กขยับตัวลงจากเตียง น้ำตาไหลอาบสองแก้มใส อย่างน่าสงสาร...ถึงตอนนี้จะสงสัยว่าผาหายไปไหน หนีเขา รังเกียจเขา หรือจะทิ้งไปเพราะว่าเขามันง่าย เขาก็ไม่คิดจะถามให้มากความ... ...ก้าวลงมายังไม่ทันที่จะก้าวเดินไปไหน แข้งขาที่อ่อนแรงจากกิจกรรมเมื่อคืนก็ทำให้ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเพราะความไม่ระวัง



ตุ้บ!!


"น้ำ!!" น้ำเสียงนุ่มที้มที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกชื่อคนที่กองกับพื้นอย่างตกใจ ก่อนจะรีบเข้ามาประคองคนตัวเล็ก...แต่น้ำตาที่ไหลเลอะสองแก้มใสก็ทำให้เขาแทบจะทำอะไรไม่ถูก

"น้ำ...คนดี ร้องไห้ทำไม เจ็บหรอ..." ผาถามออกมาอย่างรนราน มือไม้เหมือนจะสั่นไปหมด ...อะไรวะ แค่น้ำตาโว้ยไอ้ผา ตั้งสติสิตั้งสติ

...คนตัวเล็กที่เห็นการกนะทำที่ดูแสนจะห่วงกันก็ยิ่งทำให้ร้องไห้หนักเข้าไปใหญ่ สะอื้นฮัก น้ำตาไหลพรากคล้ายจะไม่ยอมหยุดกันง่ายๆ นั่นยิ่งทำให้ผารนรานหนักเข้าไปอีก

"คนดี...ไม่เอาไม่ร้องได้มั้ย เป็นอะไรบอกผาหน่อยเร็ว..." ร่างสูงนั่งราบไปกับพื้นรวบตัวคนตัวเล็กขึ้นนั่งบนตักแล้วสวมกอดเอาไว้แน่นอย่างใจเสีย ลูบหัวลูบหลัง โยกตัวคล้ายกับกล่อมเด็กน้อย กดจูบย้ำๆลงไปที่กลุ่มผมนิ่ม...ทำไมกัน ทำไมข้างในมันปวดหนึบขนาดนี้กันนะ

"..ฮึก พี่ผา...จะทิ้ง ฮึก .." หืม? 

"ใครบอก...หื้ม" ผาช้อนประคองแก้มนุ่มทั้งสองข้างให้เงยหน้ามองกัน ...ในใจก็พลางนึกสงสัยว่าคนตัวเล็กคิดได้ยังไงว่าเขาจะทิ้ง...

สองนิ้วโป้งแกร่ง ปาดไล้น้ำตาที่เลอะสองแก้มนุ่มออกให้อย่างเบามือ แต่ก็ยังไหลมาไม่ขาดสาย

"ตื่นมาก็ไม่เห็นแล้ว...ฮึก" พอได้ยินคำตอบ ผาก็กดจูบที่หน้าผากเนียนอย่างเอ็นดู...

"โอ๋นะคนดี ...คนดีร้องไห้เพราะคิดว่าผาจะทิ้งหรอคะ หื้ม" ผาพูดไปพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู สองมือประคองสองแก้มนุ่มที่ขึ้นสีแดงเรื่อเอาไว้ไม่ปล่อย

คนตัวเล็กพยักหน้าตอบช้าๆ หลุบสายตามองต่ำ นึกต่อว่าตัวเองในใจที่คิดอะไรไปเรื่อยอีกแล้ว...แต่มันก็อดที่จะคิดไม่ได้อยู่ดี

"หึๆ พี่แค่ออกไปทำอาหารเอง ...ไม่ได้คิดจะทิ้งเสียหน่อย คิดไปเอง..." ร่างสูงยิ้มขำ ก้มลงจุ๊บเรียวปากสีสดที่เจ่อบวมหน่อยๆอย่างหมั่นเขี้ยว คนตัวเล็กซบหน้าลงกับอกแกร่งพร้อมกับกอดเอวสอบไว้แน่น การกระทำที่ดูแล้วเหมือนจะอ้อนอยู่ในทีทำให้อสูรกายน้อยที่หลับสนิทอยู่ตื่นตัวขึ้นมาได้ง่ายๆ 

...เสื้อเชิ้ตสีดำ ยาวปิดเพียงครึ่งเรียวขาสวยที่พาดเอวแกร่งเอาไว้ ทำให้สติแทบปลิวหาย...ยิ่งมาบวกกับความขี้อ้อนนี่เข้าไปอีก ยังดีที่เมื่อคืนเขาใส่อันเดอร์แวร์ที่เขาซื้อมาผิดไซต์ให้ด้วย ..เจอใครไม่รู้สึกอะไรให้เหยียบหน้าเลยจริงๆ

"น้ำขอโทษที่น้ำงี่เง่าอีกแล้ว มันไร้สาระมากเลย แต่...น้ำแค่ ไม่ชอบที่ตื่นมาแล้ว...ไม่เจอ" คนตัวเล็กพูดออกมาเสียงแผ่ว แต่ชัดเจนทุกคำ

มันก็สมควรที่คนตัวเล็กนี่จะร้องไห้เสียใจ หรือน้อยใจกับเรื่องนี้อยู่แล้ว...ใครๆก็ไม่อยากรู้สึกว่าถูกทิ้งหลังการร่วมรักหรอก จริงๆคนตัวเล็กอาจจะไม่ร้องไห้หรือคิดมากขนาดนี้หรอก ถ้าไม่ใช่เพราะพิษไข้ อุณหภูมิสูงกว่าปกติ ไหนจะลมหายยังอุ่นร้อนอีก ...เท่าที่รู้ผารู้จากโจ้ธามมาเวลาคนตัวเล็กไม่สบาย จะขี้อ้อนเอามากๆ แถมยังงอแงขั้นสุด

"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย มันอยู่ที่ความใส่ใจของพี่ต่างหาก มีอะไรที่ชอบไม่ชอบก็บอกกันตรงๆเนอะ และอีกอย่าง...น้ำมีสิทธิ์งี่เง่าใส่พี่ได้ งอนได้ น้อยใจได้ จะหึงจะหวง จะวีนจะเหวี่ยงยังไงก็ได้ พี่ให้สิทธิ์เต็มที่..."

"และถ้าน้ำวีนใส่ล่ะ" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นถามตาใส ทำให้ผานึกหมั่นเขี้ยวก้มลงจุ๊บไปอีกหนึ่งที

"ได้ค่ะ" ดอกที่หนึ่ง

"และถ้าน้ำหึงล่ะ หึงกับทุกคนเลย..."

"นั่นพี่ชอบมากเลย อยากให้ที่รักหึงบ่อยๆ" ดอกที่สอง

"และถ้าน้ำงี่เง่าล่ะ พี่ผาจะรำคาญน้ำมั้ย" สายตาแบบนี้นี่ กำลังยั่วกันอยู่ใช่มั้ยเนี่ย...จับกดซะดีมั้ง

"ไม่รำคาญหรอกค่ะ ...เมียพี่ทั้งคน"  ตู้มม!!  ดอกที่สาม ระเบิดตัวตายไปเลย...มิทชั้นคอมพลีท ตายได้ตายไปแล้ว...

"บ บ้า ...ม เมีย เมออะไรเล่า" คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกักอย่างขัดเขิน แก้มใสขึ้นสีแดงเรื่องอย่างน่ารัก จนผาอดใจไม่ไหวต้องก้มลงไปฟัดให้ช้ำกันไปข้าง

"ก็จริง ...จำไม่ได้แบบนี้ต้องรื้อฟื้นซะแล้วมั้ง" ผาพูดก่อนจะก้มลงไปฟัดแก้มคนตัวเล็ก ไล่ลงมาที่ซอกคอหอมที่มีรอยรักของเขาเต็มไปหมด...เห็นแล้วมันก็ชื่นใจ

คนตัวเล็กหัวเราะคิกคัก เพราะจักจี้ไรหนวดที่กำลังขึ้นของร่างสูง สองมือปัดป่าย พยายามดันใบหน้าคมให้ออกห่าง แต่ก็ไม่เป็นผลเอาเสียเลย ในที่สุดก็หมดแรงเพราะว่าเหนื่อยกับการหัวเราะ จึงเปลี่ยนเป็นโอบรอบลำคอแกร่งไว้แทน

ร่างสูงแปลเปลี่ยนจากแกล้งฟัดเล่นๆ กลายเป็นทำเพราะอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยานขึ้นสูง สองมือแกร่งลูบไล้ไปตามเรียวขาสวย ไล่ขึ้นไปเรื่อยจนถึงเอวคอดก่อนจะหายเข้าไปในเสื้อสัมผัสกับผิวเนียนที่อุ่นกว่าอุณหภูมิปกติเล็กน้อย

เรียวปากได้รูปก็ฝากร่องรอยใหม่ ทับซ้ำลงไปรอยเดิมบ้าง สร้างรอยใหม่บ้าง...สองมือแกร่งยังทำหน้าที่ได้ดีโดยไม่ต้องกลัวว่าคนตัวเล็กจะเอนหงายหลังลงไป เพราะด้านหลังของคนตัวเล็กเอนพิงไปกับเตียง

สองมือลูบไล้สูงขึ้นเรื่อยๆ เสือตัวยาวเลิกขึ้นสูงตามไปด้วย นิ้วแกร่งลากไล้ไปรอบๆเม็ดทับทิมสีสด แต่ไม่ยอมขยับแตะมันเลยสักนิด คนตัวเล็กที่บิดส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านที่เริ่มโถมเข้าใส่ก็นึกหงุดหงิดในใจ อยากให้ร่างสูงครอบครองมันเสียที

ร่างสูงผละมือออกมา ปล่อยชายเสื้อลงก่อนจะปลดกระดุมออกเกือบหมดแผง แหวกสาบเสื้อออกกองลงที่ข้อศอก เผยให้เห็นไหล่เนียนทั้งสองข้างและตุ่มไตเม็ดเล็กสีสดทั้งสองข้าง ผาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่ขมวดคิ้วเข้าหากัน ขบกัดปากล่างแน่นเหมือนกำลังสะกัดกั้นอะไรบางอย่าง

ร่างสูงค่อยๆก้มหน้าลงจนแทบชิดแผ่นอกเนียน แลบลิ้นเลียขบเม้ม ไปรอบๆตุ่มไตเม็ดเล็กที่ชูชันขึ้นมาเพราะแรงอารมณ์ สองมือเรียวสอดขยุ่มกลุ่มผมดำอย่างต้องการระบายความอัดอั้นภายใน

ร่างสูงรับรู้ได้ดีถึงความอึดอัดนั้น แต่เขาแค่อยากให้คนตัวเล็กพูดขอเขา พูดบอกความต้องการของตัวเองกับเขาออกมาก็เท่านั้น เขาต้องสงบสติตัวเองมากมายขนาดไหนเพื่อไม่ให้ครอบครอง

"พ พี่ผา อึก..." คนตัวเล็กเรียกเสียงแผ่ว

"หื้ม...ต้องการอะไรคะที่รัก"

"ผาใจร้าย..." คนตัวเล็กทำหน้าเบะ

"โอ๋ ไม่แกล้งละๆ ไปเข้าห้องน้ำกับผาเนอะ จะได้สบายตัว ฟอดดด!" ผาก้มลงหอมแก้มนิ่มไปฟอดใหญ่ ก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กเข้าไปจัดการต่อในห้องน้ำ ซึ่งผาต้องอดใจไม่สอดใส่เข้าไปเพื่อให้คนตัวเล็กไม่สบายหนักไปมากกว่านี้



.



.



"หะ! อยู่กับไอ้ดินเนี่ยนะ!?" ผาวางช้อนที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากลงที่เดิม

หลังจากที่ทำภานกิจให้คนตัวเล็กเสร็จ เขาก็พากันออกมากินข้าวที่ผาอุตส่าห์ตื่นมาทำให้ตั้งแต่เช้า พอกินไปได้สักพัก เขาเลยได้โอกาสถามสิ่งที่เขาสงสัย...และก็นึกแปลกใจอยู่กับการที่คนตีวเล็กเขาว่า ช่วงที่หายไปอยู่ที่สระก็เจอกับพวกดินตลอด

"ช่าย..." คนตัวเล็กตอบทั้งๆที่ยังคงเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ดูน่าอร่อย

"โห มันทำตัวได้เนียนมาก ไม่บอกอะไรแถมยังทำเป็นช่วยหาอีก" ต้องมีเคลียร์ๆ ผาได้แต่นึกเข่นเขี้ยวไอ้เพื่อนตัวดีอยู่ในใจ ปล่อยให้เขาเป็นบ้าเป็นหลังตามหาอยู่ได้ตั้งนานสองนาน ที่แท้ตัวมันก็รู้และไม่ยอมบอกกัน...

"ขอโทษครับที่ทำให้วุ่นวาย..."

"ช่างมันเถอะ ...พี่บอกแล้วไงว่าเริ่มใหม่ และหวังว่าคราวนี้คงไม่บอกเลิกพี่อีกนะ" ผาพูดพร้อมกับเริ่มยกถ้วยจานไปเก็บ เพราะเขากับคนตัวเล็กกินกันเสร็จแล้ว

"จะไม่มีแบบนั้นอีกแล้ว" คนตัวเล็กตอบเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนจะค่อยๆเดินตามเข้าไปยืนอยู่หน้าซิ้งค์ล้างจานเตรียมจะล้าง ร่างสูงที่เก็บกับข้าวเสร็จแล้วก็มายืนซ้อนด้านหลังก่อนจะหอมแก้มนุ่มไปฟอดใหญ่จนคนตัวเล็กต้องหดคอหนีเพราะรู้สึกจั๊กจี้หนวดที่เพิ่งขึ้นเป็นตอของร่างสูง

ผาจับตัวให้คนตัวเล็กหันหน้ามา ใช้แขนสองข้างยันกับซิ้งค์ล้างจานกั้นคนตัวเล็กเอาไว้ จ้องหน้าคนตัวเล็กไม่วางตา จนคนโดนจ้องหน้าร้อนวูบ

"จ จ้องน้ำทำไม" 

"เจ็บรึเปล่า" 

"จ เจ็บอะไรเล่า" ถึงจะรู้ว่าผาถามถึงอะไรแต่คนมันเขินเกินจะตอบได้ ก็กลบเกลื่อนทำเป็นไม่รู้เรื่องไปอย่างนั้น

ร่างสูงยิ้มเอ็นดูก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือมาลูบก้นกลมเบาๆ คนโดนจับถึงกับสะดุ้งตกใจตัวแข็งทื่อ 

"เจ็บมากรึเปล่า หื้ม" เสียงนุ่มทุ้มกระซิบถามย้ำข้างๆหู ที่ตอนนี้เป็นสีแดงแจ๋เป็นที่เรียบร้อยแล้ว



เพี๊ยะ!

"ค ใครเขาให้ถามกันเล่า" คนตัวเล็กฟาดไปที่ไหล่คนถามหนึ่งทีแบบไม่เบาแรง

"เขินแล้วชอบทำร้ายพี่หรอ หื้ม ...พี่ก็แค่เป็นห่วงเห็นเขาบอกว่าครั้งแรกมันจะเจ็บมาก แล้วเมื่อคืนพี่ก็..." คนตัวเล็กมือขึ้นมาปิดปากร่างสูงอย่างไว กลัวว่าจะพูดอะไรออกมาที่จะทำให้เขาเขินมากไปกว่านี้ ผายิ้มขำคนตัวเล็กที่เอาแต่ทำหน้าตื่นๆ ไอ้ที่ฟาดมานั่นก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากนักหรอก 

"ก็...จ เจ็บ แต่..ไม่มากเท่าที่คิดไว้" ที่เขาเคยอ่านมา หรือฟังพวกเพื่อนผู้หญิงคุยกันมันเจ็บจนลุกเดินไปไหนไม่ได้..ถึงตอนนี้เขาจะเจ็บอยู่มากแต่ก็ไม่ได้แย่ถึงกับขั้นเดินไม่ได้

"แต่พี่ว่าน้ำมีไข้นะ...ไปนอนพักก่อนเนอะ" ร่างสูงพูดออกมาก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กขึ้นแล้วเดินตรงไปทางห้องนอน

"แต่จาน น้ำยังไม่ได้ล้างเลย"  "ตอนนี้คนดีต้องกินยาแล้วนอนพักก่อน เรื่องล้างจานเดี๋ยวคนดีจะได้ล้างมันทุกวันแน่นอน" ผาวางร่างเล็กลงบนเตียง แขนทั้งสองข้างค้ำเตียงคร่อมคนตัวเล็กไว้

"ล้างทุกวัน?"

"ช่าย ย้ายมาอยู่กับพี่นะ"

"ห้ะ?" คนตัวเล็กอุทานออกมา

"พี่โทรบอกไอ้ธามไว้แล้ว เดี๋ยวเย็นวันพรุ่งนี้มันจะเอาของสำคัญๆมาให้ก่อน"

"ไม่ย้ายมาได้มั้ย"

"ไม่ได้ครับ" ผาส่งยิ้มหวาน

"ทำไมน้ำต้องย้ายมาด้วยอ่า...รบกวนพี่ผาเปล่าๆ"

"ช่วงนี้พี่ฝึกงาน ไม่มีเวลาดูแลเราเลย...มาอยู่กับพี่อ่ะดีแล้ว พี่ดูแลคนดี ดนดีก็ดูแลพี่ไง...ดูดิพี่ผอมลงไปตั้งเยอะ" เอาจริงๆสำหรับน้ำ ผาก็ผอมลงไปจริงๆนั่นแหละ...แต่จะให้มาอยู่ด้วยแบบนี้ มันจะดีหรือ

"มันจะดีหรอครับ"

"ที่สุดครับ"

"แต่..." คนตัวเล็กแย้ง

"โอเคๆ ...ตอนนี้คนดีต้องกินยาแล้วนอนพักก่อน ส่วนเรื่องย้ายมาค่อยว่ากันเนอะ" ผาส่งยาให้คนตัวเล็กกิน ห่มผ้าให้ จุ๊บหน้าผากมนเบาๆหนึ่งที รอจนคนตัวเล็กหลับแล้วออกมานั่งเคลียร์เอกสารบางส่วนที่ป๊าให้เขาลองเอามาศึกษาดู

บางทีเรื่องที่เขาจะให้คนตัวเล็กมาอยู่กับเขาวันนี้พรุ่งนี้อาจจะเร็วไปมาก...เขาควรจะให้เวลาคนตัวเล็กมากกว่านี้ จะว่าไป...เขาก็ว่าเขาเป็นเอามากเหมือนกัน อยู่ดีๆก็นึกอยากให้คนตัวเล็กมาอยู่ด้วยกัน นึกหวง นึกห่วงสารพัด ..คิดจินตนาการไม่ถึงมื้อเช้า ที่ตื่นมาก็มีกับข้าวอร่อยๆจัดวางไว้เต็มโต๊ะกินก่อนไปทำงาน ...เป็นเอามากว่ะ เป็นเอามากจริงๆ กลายเป็นคนขี้มโนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะเรา



.

.





[รอง time.]

"กลับก่อนเว้ย ...พวกมึงก็กลับกันดีๆล่ะ อย่าตีกันอีกล่ะพวกมึงอ่ะ" เพื่อนในกลุ่มชื่อปาล์มเอ่ยลาเพื่อนอีกสองคน

"เออๆ มึงเถอะ ขับดีๆ เจอตำรวจและมึงจะยุ่ง" ธามบอกพร้อมกับพยุงตัวเพื่อนตัวดีที่ยืนเอาหัวพิงไหล่เขาอยู่

"พวกกูน่ะเคลียได้ พวกมึงผัวเมียเถอะ อย่าตีกันล่ะ กูไปละ" เขายิ้มให้กับคำพูดพวกนั้นอย่างไม่ถือสา ปาล์มสอดตัวขึ้นรถ พร้อมกับเพื่อนในกลุ่มที่มาด้วยกันอีกสามคนและขับออกไปเหลือเพียงเขาสองคนที่ยืนอยู่หน้าร้าน

วันนี้พวกเขานัดกันมาช่วยรุ่นพี่ทำงานกัน  พอเสร็จจากงานมีเวลาว่างเลยชวนกันมาร้านประจำจนดึกดื่นขนาดนี้ "ไหวมั้ยมึง" ธามถามคนข้างๆตัวที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่พูดจา

"ไหวดิ กูไม่ได้เมาขนาดนั้น" โจ้ตอบออกมาเสียงเนือยๆ แต่ก็ยังไม่ยอมยกหัวออกไป

"เล่นไปเยอะนะวันนี้ ...เป็นไรอีกห้ะ?"

"หึ แสนรู้จังมึง ...ก็นิดหน่อยว่ะ"

"ถึงห้องค่อยว่ากัน" ธามบอกแค่นั้นก่อนจะโบกมือเรียกแท็กซี่เพื่อเข้าหอ โจ้หัวเราะหึๆในลำคออย่างชอบใจ...ไอ้ธามมันก็เป็นซะแบบนี้ ถึงแกล้งเขายังไง แต่มันก็เป็นคนเดียวที่รู้ใจเขาที่สุด อ่า...น้ำอีกคน



ทั้งสองคนมาถึงห้องอย่างปลอดภัย ตลอดทางเดินไม่มีเสียงพูดคุยจากคนที่เดินตามธามมาเลย จากคนที่เคยชวนคุย มีเรื่องให้พูดคุยตลอดกลับเงียบกริบ...สงสัยจะเครียดจริง

ธามหยุดยืนอยู่กลางห้องเพื่อรอให้อีกคนพูดเรื่องในใจออกมา แต่อีกคนทำแค่เพียงเดินเข้ามาข้างหลังเขาเอาหัวมาพิงไว้กับลาดไหล่

"ไม่เมื่อยหรอวะ" ธามยักไหล่ข้างที่อีกคนเอาหัววางเอาไว้ ที่ถามเพราะอดสงสัยไม่ได้ ก็ตัวเขาทั้งคู่สูงพอๆกัน

"ขออยู่แบบนี้แปปนึง" ธามไม่ตอบ ยืนล้วงกระเป๋านิ่งๆให้เพื่อนพิงหัวอยู่อย่างนั้น...ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้คนอย่างมันเก็บมาคิดถึงขนาดนี้

"มึงจะบอกได้ยัง กูเมื่อย" ธามยื่นมือไปตบหัวเพื่อนเบาๆ

"กูบอกมึงได้จริงๆหรอวะ" 

"งั้นไม่ต้องบอก กูไปอาบน้ำละ ง่วง" ธามว่าจบก็ก้าวขาเดินออกไป แต่ก็ต้องชะงักเท้าตัวแข็งทื่อเพราะสองแขนของอีกคนสอดมากอดรั้งเอวเขาเอาไว้จนแผ่นหลังแกร่งแนบไปกับอกคนข้างหลัง

"ไอ้สัด งอนกู" โจ้ว่าก่อนจะค่อยๆพิงหัวกับลาดไหล่แบบเดิม

"แล้วจะกอดกูเพื่อ? ค่าตัวกูแพงนะ" ถามว่าออกมาขำๆ ก่อนจะล้วงมือไปที่กระเป๋ากางเกงยีนส์ของคนข้างหลัง หยิบเอาบุหรี่ออกมาจุดสูบ ส่วนโจ้ก็เงียบไปอีกครั้ง...จมอยู่กับความคิดตัวเองว่าจะบอกกับอีกคนดีมั้ย...เรื่องนี้เขาสามารถบอกอีกคนได้จริงๆหรือเปล่า โจ้คิดทบทวนกับตัวเองอยู่นาน...ทั้งเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้

"ไอ้ธาม..." 

"ว่า"

"กูสับสน" คนที่ยืนสูบบุหรี่นิ่งๆให้เพื่อนพิงชะงักค้างไปชั่วขณะ...ได้สติก็นึกถามตัวเองในใจว่ามันสับสนเรื่องอะไร ทำไมถึงทำให้มันดูเครียดได้ขนาดนี้ ถึงจะมีคำถามเต็มอยู่ในอกแต่ก็ยังคงเก็บเอาไว้

"วันนี้กูบอกเลิกเขามาอีกแล้ว" ดูจากสภาพการดื่มอย่างหนักของมันวันนี้ก็ทำให้ธามรู้ได้ว่ามันคงตัดใจทิ้งเขามาอีกตามเคย

โจ้เป็นคนที่หน้าตาดี อยู่ในแบบพิมพ์นิยม ตั้งแต่เข้ามาเป็นเฟรชชี่ ก็มีคนเข้าหามันมากมาย แต่ก็คบกันได้แค่พักเดียวมันก็ดันบอกเลิกเขาไปเสียหมด...คงเป็นเพราะมันสับสน แล้วมันสับสนอะไรของมัน

"กูไม่รู้ว่ะ กูสับสน...กูว่าตัวกูไม่มีความสุขว่ะเวลาคบกับเขา กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลย กูไม่เป็นตัวเอง แล้วกูก็อึดอัด..." ธามยืนฟังเพื่อนเงียบๆ

"ไอ้ธาม..."



"..."



"...มึงคิดอะไรกับกูปะวะ"

น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาข้างหู ทำให้คนฟังได้ยินมันอย่างชัดเจน

คำถามนี้โจ้ถามธามบ่อยเพราะว่าธามชอบบ่นเขาเหมือนเป็นพ่อก็ไม่ปรานแต่ทุกครั้งที่ถามไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก และเขาเองก็ก็ตอบกลับไปแบบ...ไม่จริงจัง แต่มาครั้งนี้...น้ำเสียงและความรู้สึกจริงจังที่แฝงมาในคำถามมันต่างออกไป...มันจริงจังจนคนฟังไม่กล้าตอบไปอย่างเคย

"มึงจะไม่ตอบกูเหมือนทุกทีหรอวะ" ...ตอบอย่างทุกที ก็คงจะตอบว่า 'คิด' ...ในครั้งก่อนๆที่ถามเล่นๆ เขาตอบกลับไปจริงจังและสีหน้าของมันก็แสดงออกชัดเจนว่ารับไม่ได้จนเขาทำให้มันกลายเป็นเรื่องตลก โดยการตอบว่าล้อเล่นตามหลังทุกครั้งไป...แต่คราวนี้ มันถามเขาแบบนี้มันต้องการอะไรจากเขา

"มึงชอบกูหรอวะ" ธามตัดสินใจถามในสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในใจออกไป...การที่มันมาถามว่าเขาคิดอะไรทั้งๆที่ตัวเองกำลังสับสน มันไม่ใช่ใครหรอกที่ทำให้มันจมอยู่ในความรู้สึกนั้น...นอกจากเขา


"...และถ้ากูบอกว่าใช่" คำตอบที่ทำให้คนฟังใจกระตุก แกะมือที่พาดกอดเขาอยู่ออก ก่อนจะออกไปยืนนอกระเบียง...

"มึงคิดดีๆก่อนตอบดิวะ" 

"..." คนที่ฟังทรุดตัวนั่งลงบนเตียง ยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองอย่างคิดไม่ตก เขาคิดมาหลายต่อหลายครั้ง คิดจนปวดหัว...เขาเอาแต่นึกถึงคำพูดของมันที่ตอบเขากลับมาอย่างจริงจังเสมอเวลาเขาถามว่า 'มึงคิดอะไรกับกูปะเนี่ย' เขาใจเต้นกับคำพูดจริงจังของมันทุกครั้งที่มันตอบกลับมาว่า 'คิด...' ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดมันจะบอกว่า 'ล้อเล่น' ก็ตาม... เขาควรทำยังไงดี



"มึงก็แค่สับสนไอ้โจ้...มึงไม่ได้คิดแบบนั้นกับกูหรอก" ธามเดินกลับเข้ามายืนตรงหน้าโจ้ คนที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ

"กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมานาน มึงอาจจะเขวไง...กูก็ผิดที่กูเล่นกับมึงแบบนั้น กูรู้สึกแย่ว่ะ ที่กูเป็นต้นเหตุให้มึงสับสน ให้มึงอึดอัดเวลาอยู่กับแฟนมึง...มึงก็รู้ดีว่าที่กูตอบมึงว่า 'คิด' ทุกครั้งตัวมึงเองก็อึดอัด เพราะคิดว่ากู 'คิด' จริง...แต่มึงสบายใจเถอะ กูไม่คิดกับมึงแบบนั้นหรอก" 



...ไม่เลยไอ้ธาม กูไม่สบายใจสักนิดเดียว...



โจ้นิ่งคิดทบทวนคำพูดที่อีกฝ่ายพูดมาอย่างช้าๆ

...ใช่ มันเป็นเพียงแค่การสับสนเว้ยโจ้ มึงจำไว้ มึงแค่สับสน...

"อืม กูอาจจะสับสนจริงๆ เพราะกูกับมึงสนิทกันมาก ห่วงกันมาก ผูกพันธ์กันมาก...โอเคกูเข้าใจ" โจ้พูดออกมาพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เพื่อให้อีกคนสบายใจ ว่าเขาเข้าใจและไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น

"มึงไปอาบน้ำไปจะได้นอน ง่วงชิบหาย" ธามหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางพาดอยู่กับเก้าอี้โยนให้คนที่นั่งบนเตียง ก่อนจะโถมตัวไปนอนแผ่หลาจนอีกคนต้องลุกออกไปอาบน้ำอย่างเสียไม่ได้...

หลังจากที่โจ้ลุกไปแล้ว คนที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงก็พลิกตัวมองไปที่ประตูห้องน้ำพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างหนักใจกับความรู้สึกที่มีอยู่

ความรู้สึกที่มี มันเริ่มชัดเจนเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่เขาเริ่มโตขึ้นจนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จนนึกย้อนกลับไปทบทวนก็พบว่ามันก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆหลายปีแล้ว

เขาเคยสงสัยในความรู้สึก จนมีผู้หญิงคนนึงเข้ามา เขาไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ก็อยากให้ความรู้กสึกตัวเองมันชัดเจน เขาจึงตัดสินใจลองคบกับผู้หญิงคนนั้นดู แต่ทุกสิ่งอย่างที่คอยวนเวียนอยู่ในความคิดกลับเป็นเพื่อนสนิทเขาที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนที่เข้ามาความรู้สึกเขามันก็ยังคงเป็นเช่นเดิม

และความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่รู้สึก ที่ผ่านมาเขาเคยลองหยั่งเชิงอีกฝ่ายมาแล้วทั้งทำตัวใกล้ชิดเกินเพื่อน หรือเลือกใช้คำพูดในเชิงของคนรักกัน...แต่ผลที่ได้กลับมาคือการต่อต้านที่แสดงออกมาทางสีหน้า...และเขาก็เลือกที่จะใช่คำว่า 'ล้อเล่น' มาแก้ต่างให้กับตัวเอง และจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นคนทำให้อีกฝ่ายอึดอัดและลำบากใจ 

ทุกอย่างเหล่านั้นมันชัดเจนสำหรับเขามากพอแล้ว เขาเลยเลือกที่จะกดมันเอาไว้ เพราะเขาไม่อยากกลายเป็นคนไม่น่าไว้ใจ หรือกลายเป็นเพื่อนแสนเลวที่แอบคิดอกุศลกับเพื่อนตัวเองมานานแสนนาน



...เขาจะไม่ให้อีกคนรับรู้ จะไม่มีใครรู้ และมันก็จะเป็นเช่นนั้นตลอดไป...









100%

...To Be Continued...



สวัสดีปีใหม่นะจ้าว ขอให้มีความสุขมากๆนะจ้าว คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกสิ่งอย่างนะจ้าว
:mew1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2018 22:02:52 โดย มายซินนี่ »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

สวัสดีปีใหม่

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
อ่านรวด 19 ตอนเลยยยยย ชอบบบบบหนูน้ำน่าร้ากกกกกกก........

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มาต่ออีกเร้ววววว อยากอ่านแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

Episode 20







ขี้เซา...คนอะไรขี้เซาจริงๆเลย

น้ำ ที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับฝันหวานต้องหดคอหนีเพราะความรู้สึกจั๊กจี้ไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ แต่ไม่ว่าจะพยายามหนียังไงก็หนีไม่พ้นเสียที...มันตัวอะไรกันล่ะเนี่ยมากวนเวลาเขานอน

คนที่ระดมหอมแก้มหอมคอเพื่อปลุกคนตัวเล็กอยู่ก็ถึงกับหลุดขำคนตัวเล็กที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนไม่พอใจที่ถูกรบกวนเวลานอน

"น้ำคะ...ฟอดดดด" ชื่นใจจริงๆ

"คนดี ตื่นเร็ว...สายแล้วนะ ฟอดดด" หอมจริงๆเชียว

"ฮื่อออ~...น้ำขออีกห้านาทีน้าา~" คนตัวเล็กว่าออกมาเสียงงัวเงียๆทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา ก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นคลุมจนมิดหัว

คนมองก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มขำ ก่อนจะเลิกผ้าห่มลงมาแล้วกดจมูกลงไปที่แก้มใสสูดความหอมเข้าเต็มปอดอีกหนึ่งฟอดใหญ่ แล้วปล่อยให้คนตัวเล็กนอนพักผ่อนได้เต็มที่ อะๆ อย่าเข้าใจผิดกันน้า เมื่อคืนแค่ดูหนังกันดึกเฉยๆหรอกน่า

วันนี้คนตัวเล็กต้องกลับหอตัวเองแล้ว ใจจริงเขาก็ไม่อยากให้กลับเลย...เขาอยากให้น้ำมาอยู่กับเขาที่นี่เลยต่างหาก แต่ก็นะ...ลองคุยลองหาข้อตกลงร่วมกันแล้ว จะย้ายวันนี้พรุ่งมันก็เร็วไป ผาเลยให้สิทธิ์คนตัวเล็กตัดสินใจเองว่าจะย้ายมามั้ย

แล้วอีกอย่างวันนี้เขาเองก็ต้องกลับบ้านด้วย ม้าโทรมาบ่นจนหูชาไปหมดแล้ว ว่าลูกชายคนเดียวไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง

เขาใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเกือบครึ่งชั่วโมงได้ พอเดินออกมาจาห้องน้ำก็เห็นคนขี้เซานอนกระพริบตาปริบๆมองเขาอยู่ ร่างสูงจึงส่งยิ้มไปให้พร้อมกับเดินเข้าไปหา เท้าแขนคร่อมร่างเล็กเอาไว้



จุ๊บ~

"มอนิ่งคิสค่ะที่รัก" ร่างสูบกดจูบลงไปเบาๆบนริมฝีปากน่าจูบสีสด

"งื้ออ~ น้ำยังไม่ได้แปรงฟันเลย" คนตัวเล็กบ่นออกมางุ้งงิ้ง ยกมือขึ้นปิดปาก

"ไม่เห็นเป็นไรเลย หอมออก" กดจมูกหอมแก้มไปทีเพื่อยืนยัน

"ฮื่ออ~ แล้วก็เลิกใช้คะ/ขากับน้ำด้วย" คนตัวเล็กว่าออกมาอย่างเอาแต่ใจ แต่ก็ยังทำให้ร่างสูงยิ้มได้อยู่ดี

"ทำไมคะ ไม่ชอบหรอ" ร่างสูงถามไปก็ใช้ปากงับแก้มงับหูคนตัวเล็กไป จนคนตัวเล็กต้องหดคอหนีแล้วหนีอีก

"ชะ ชอบ...แต่น้ำไม่ชินนี่นา ฮื่ออ~อย่างับซี่" คนตัวเล็กตอบไปพยายามดันหน้าผาให้เลิกกัดแก้มตัวเองไป แต่ก็ไม่เป็นผล

"ก็ใช้บ่อยๆคนดีจะได้ชินไง"

"มันไม่ชินสักหน่อย"

"มันไม่ชินแล้วมันทำไมคะ" 

"มันก็เขินไงเล่า!" คนตัวเล็กตอบออกมาเสียงดัง แก้มสองข้างขึ้นสีแดงเรื่อ คนขี้แกล้งก็สมใจอยากที่แกล้งได้สำเร็จ อดจะหัวเราะกับหน้าตาเอาเรื่องนี่ไม่ได้ เขินอยู่แท้ๆ แต่ทำเป็นกลบเกลื่อนไปงั้น



"หึหึ เขินก็น่ารักดีออก พี่ชอบ" บอกไปตามจริงพร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มนิ่มอีกฟอด น้ำยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้า ผาก็จุ๊บไปทั่วทั้งมือเล็กจนต้องเปลี่ยนจากมือเป็นพลิกตัวนอนคว่ำซุกหน้าไว้กับหมอนใบใหญ่แทน



...ให้ตายเถอะ ไม่อยากไปไหนเลย ไม่อยากกลับแล้วบ้าน ป๊าครับ ม้าครับผมอยากนอนกอดเมียยยยยย!!!



.

.

.





"หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคะ" เสียงใสเอ่ยทักทายผาหลังลงจากรถอย่างเง้างอน คนมองเผยรอยยิ้มตรงเข้าไปหอมหัวอย่างเอ็นดู...ในที่สุดเขาก็ต้องกลับบ้าน เพราะคนตัวเล็กก็ต้องกลับหอเพื่อไปติวหนังสือสอบมิดเทอมกับเพื่อนเขา

"หอมแต่น้อง ไม่คิดจะมาหอมม้าบ้างหรอ" น้ำเสียงอ่อนโยนคุ้นหูทำให้เขารีบผละไปหาคนที่อ้าแขนรอรับ เขากอดร่างสมส่วนเอาไว้ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาที่อีกคนคอยท่าอยู่แล้ว

หญิงสาวต่างวัยที่เขามอบความรักให้สุดหัวใจตรงหน้านี้ไม่ใช่ใครอื่น คนหนึ่งคือมารดา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวสุดแสบ ที่ออกมารอต้อนรับการกลับบ้านของลูกชายในรอบหลายเดือน

"ปะ เข้าบ้านกันลูก...ม้าเตรียมของโปรดผาไว้ทั้งนั้นเลย" สามคนแม่ลูกพากันเดินเข้าไปในบ้านด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า "ป๊าละครับ" เมื่อเข้ามาถึงโต๊ะอาหารแต่กลับไม่พบประมุขของบ้าน ลูกชายคนเดียวอย่างผาจึงเอ่ยถาม

"ห้องทำงานน่ะลูก" คนเป็นแม่ชี้ไม้ชี้ไปยังชั้นสองฝั่งขวาที่เป็นที่ตั้งของห้องทำงานของประธานบริษัท ผาพยักหน้ารับแล้วเดินขึ้นไปหาบิดาทันที...ดีเหมือนกันเขาเองก็มีอะไรอยากจะปรึกษาป๊าเขาอยู่เหมือนกัน





ก๊อกๆๆ

แกร๊ก!



ไม่ต้องรอให้ผู้ที่อยู่ในห้องอนุญาต เพราะป๊าเขาคงรู้อยู่แล้ว ว่าเป็นลูกชายแน่นอนที่ขึ้นมาหาเขาแบบนี้

"นั่งก่อนสิ" เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยบอก ทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร ผาเห็นคนเป็นบิดากำลังยุ่งกับกองเอกสารจึงนั่งรอเงียบๆ จนกระทั่งอีกฝ่ายอ่านรายละเอียดและตวัดลายเซ็นต์ลงไปในเอกสารชุดสุดท้าย

"ว่าไงไอ้เสือ ลมอะไรหอบมาถึงบ้าน หึ๊?" คนเป็นพ่อส่งยิ้มอบอุ่นไปให้ลูกชายที่แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยถึงแม้ว่าลูกชายจะมาฝึกงานอยู่ที่บริษัท

"ลมคิดถึงไงครับป๊า" 

"หึ อ้อนแบบนี้เอาไว้ใช้กับคนอื่นนู่นไป๊" เขายิ้มขำให้กับลูกชายคนเดียวของบ้าน

"โถ่ป๊า ผมจะอ้อนป๊าบ้างจะเป็นไร" เขาพูดหยอกล้อกับบิดาแบบนี้ประจำ

ผู้เป็นพ่อของเขาไม่ใช่คนใจดี แต่ก็ไม่ใช่คนใจร้าย ในด้านการใช้ชีวิตทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ทั้งป๊าและม้าให้อิสระกับเขาทุกอย่าง...แต่ในหน้าที่การงาน ป๊ากับม้าไม่เคยละเลยเขาแม้แต่มิลเดียว โดยเฉพาะป๊า ที่จะเข้มงวดในการงาน ในการรับผิดชอบหน้าที่ทุกอย่าง จนเรียกได้ว่าเขาเก่งในระดับหนึ่ง...นั่นคือหน้าที่ในการงานที่เราต้องรับผิดชอบ พอนอกเหนือจากนั้นป๊าเขาก็คือพ่อที่ดีมากๆคนหนึ่ง...ที่รักเขาและครอบครัวมากที่สุด

"อ่ะ เอาไปดู" คุยกันไปกันมาสักพัก ป๊าเขาก็ยื่นแฟ้มแฟ้มหนึ่งมาให้เขาตรงหน้า...ดูทรงแล้วไม่น่าจะเป็นแฟ้มเอกสารแหะ

"ป๊า! นี่แกล้งกันปะเนี่ย" ร่างสูงร้องออกมาอย่างตกใจ ...ก็จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง ก็แฟ้มนี้มีแต่ลูกสาวนักธุรกิจ ในแวดวงของป๊าเขาทั้งนั้น เขาพลิกดูลวกๆกะด้วยสายตานี่คงประมาณสิบกว่าคนได้...อะไรกันละเนี่ย ป๊าก็รู้ไม่ใช่หรอว่าเขามีแฟนแล้ว

"ป๊าไม่แกล้งหรอก ของม๊าลูกนู่น ...แต่ว่าลูกเลือกๆไว้หน่อยก็ดีนะ" ผาหน้าเสียไปหน่อย เพราะประโยคท้ายป๊าเขาไม่มีแววล้อเล่นอยู่เลย

"ป๊าก็รู้ไม่ใช่หรอว่าผม..."

"ก็เพราะว่าป๊ารู้ไง ...ดูๆไปเผื่อเจอใครตรงสเป็ค"

"ป๊า...ผมมีแฟนแล้ว ผมไม่เอาครับ" ผาพูดกับบิดาอย่างชัดเจนหนักแน่น พร้อมกับยื่นแฟ้มคืนบิดาที่เดิม

"...แต่แฟนลูกเป็นผู้ชาย บางทีสาวๆพวกนี้อาจะช่วยให้หายสับสนก็ได้นะ" ...สับสน?

"ผมไม่ได้สับสน...และผมก็ไม่ดูผู้หญิงพวกนี้ด้วย ขอตัวครับ" ผาพูดดออกมาด้วยแรงอารมณ์เพราะสติที่ขาดผึง เพียงเพราะบิดากล่าวหาว่าเขาเกิดความสับสน เขาแฟ้มลงอย่างแรง ก้าวเท้าตึงตังออกไปยังไม่ทันได้ก้าวพ้นโต๊ะเสียด้วยซ้ำ...

"หยุดเดี๋ยวนี้นะนคินทร์!" เสียงทรงอำนาจที่เอ่ยเรียกชื่อจริงเขา ทำให้เจ้าตัวรู้ได้ทันทีว่าบิดาเขาเอาจริงแล้ว...

"ครับ" ร่างสูงหันหลังกลับไปยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ตอบรับเสียงเรียบพลางมองใบหน้าเงียบขรึมของบิดาที่แตกต่างจากแววขี้เล่นก่อนหน้านี้มากไปพอควร

"ความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่ยั่งยืน จะไปได้นานแค่ไหนก็ไม่รู้...สังคมยอมรับก็จริง แต่ความต่างล่ะ" ที่ป๊าเขาพูดมาก็ถูก...เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาทำให้เขารู้ว่าคนตัวเล็กของเขาคิดมากกับเรื่องความต่างนี้มากแค่ไหน...แล้วถ้ามันเป็นแบบนี้และเขาจะขอให้อยู่ด้วยกันแบบนี้เรื่อยๆไปน้องจะอยู่กับเขามั้ย...ในภายภาคหน้า เขาจะบอกเลิกแล้วหายไปจากชีวิตเขาอีกรึเปล่า...ผาอาจจะรั้งน้องเอาไว้ได้ แต่ความสุขของกันและกันล่ะ...มันจะมีรึเปล่า

"เรื่องนี้...ผมขอตัดสินใจเองได้มั้ยป๊า ...ผมรู้ว่าป๊ากับม้าไม่โอเคกับการที่ผมทำแบบนี้...แต่ผมขอลองก่อนได้มั้ย ถ้าน้องไม่โอเค...หรือในอนาคตผมกับน้องไปด้วยกันไม่ได้...ผมจะปล่อยน้องไปและผมจะรับข้อเสนอของป๊ากับม้า" 

"เอาแบบนั้นก็ได้...แต่ลูกรู้ใช่มั้ย ว่าที่ป๊ากับม้าทำมันเพื่อตัวเราเอง" ถึงตัวเขาจะอยู่ในสังคมแวดวงธุรกิจ เครือข่ายไฮโซมากมายแต่เรื่องการใช้ชีวิต เรื่องหัวใจเขาไม่เคยเข้าไปบังคับให้ลูกต้องเดินตามทางที่เขาขีดไว้...เรื่องที่ลูกชายมีแฟนเป็นผู้ชายเขาเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ด้วยความเหมาะสมทางสังคม ที่ในภายภาคหน้าจะกลายมาเป็นความกดดันที่ไม่ส่งผลดีต่อตัวของลูกชายเอง...เขาก็เป็นพ่อคนหนึ่งที่รักและห่วง...ที่เขาทำไปเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของคนทั้งคู่มากกว่าห่วงหน้าตาของวงศ์ตระกูล

ร่างสูงพยักหน้ารับ ส่งยิ้มให้บิดาด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม เขาถือแฟ้มนั้นลงมาด้วยหลังจากที่ผู้เป็นแม่ขึ้นมาตามให้ลงไปกินข้าว

เสร็จจากการพบปะครอบครัวผาขับรถกลับมายังคอนโดตัวเอง นั่งมองแฟ้มอย่างเหนื่อยหน่ายใจ...ตอนทานข้าวเขาได้รู้รายละเอียดจากม้ามาว่า ม้านัดดูตัวให้เขาไว้แล้วสองคน...วันเวลานัดคือหลังจากที่คนตัวเล็กของเขาสอบมิดเทอมเสร็จพอดี ...ผาปฏิเสธไม่ได้ เพราะม้ารู้แค่ว่าเขามีแฟนแต่ยังไม่รู้รายละเอียดอะไร...ใจนึงเขาก็ไม่ได้อยากจะปิดบังเพราะคิดว่าม้าเขาเข้าใจได้ แต่อีกใจก็คิดว่ามันยังไม่สมควรบอก...เพราะกลัวท่านรับไม่ได้เช่นกัน

เรื่องนี้เขาคิดไว้แล้วว่าจะบอกน้ำ...น้องเป็นคนมีเหตุผลพอตัว และผาคิดว่าคนตัวเล็กของเขาต้องเข้าใจอย่างแน่นอน



.

.



.





สอบมิดเทอมของคนตัวเล็กผ่านไปแล้วสามวิชา ถึงเขาจะไม่มั่นใจในคำตอบที่ตัวเองทำลงไปแต่ก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง

ตัวต่อไปที่เขาจะสอบเนี่ยน่ะสิเขาว่าเขาไม่ถนัดที่สุดเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือฟิสิกส์ตัวร้ายที่อาจารย์บอกแนวข้อสอบมาแค่ว่า 'ออกทุกชีท' และ 'อัตนัยสิบข้อ' ถึงวิชานี้เขาจะเคยติวให้โจ้กับธามบ่อยๆตอนสอบเข้า แต่ตอนนั้นมันเนื้อหาง่ายๆของมัธยม ไม่เหมือนตอนมหาลัยเลยสักนิดเดียว คนตัวเล็กบ่นให้ผาฟังจนผาบอกว่าจะช่วยติวให้เพราะเรียนอาจารย์คนเดียวกัน...และวันนี้เขาก็นั่งรอผามารับอยู่ที่ห้องสมุด



ครืดด ครืดด

แรงสั่นจากสมาร์ทโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงทำให้คนตัวเล็กต้องผละสายตาออกมาจากตัวหนังสือ หยิบขึ้นมาดูรายชื่อที่โชว์ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆออกมาและกดรับสายอย่างเร็วเพื่อไม่ให้อีกคนถือสายรอนาน

"ครับพี่ผา"

'อยู่ไหนแล้วคะ' ...แค่เสียงนุ่มทุ้มที่รอดออกมาจากโทรศัพท์ก็สามารถทำให้คนที่ถือสายฟังอยู่หน้าขึ้นสีแดงเรื่อได้ คนตัวเล็กต้องกัดเม้มริมฝีปากร่างเอาไว้เพื่อสกัดกั้นความเขินไม่ให้มันแผ่กระจายออกไปจนเพื่อนอีกสามคนรับรู้และเอามาล้อเขาได้

"น้ำยังอยู่ห้องสมุดอยู่เลยครับ" เพียงแค่ประโยคๆเดียวที่พูดออกไปก็เรียกสายตาจากคนทั้งสามให้หันมามองเขาได้แล้ว...เห็นอิ่มนิ่งๆแบบนั้นก็เถอะ แต่สายตาที่มองมานี่แซวเขาเต็มที่ เบทกับพราวไม่ต้องพูดถึงมองหน้ากันแล้วยิ้มกริ่มๆให้กันอยู่

'มีร่มรึเปล่า ข้างนอกฝนตกแล้ว...มันเพิ่งตกเมื่อกี้ตอนออกมาพี่ก็เลยไม่ได้เอาออกมาด้วย' คนตัวเล็กที่อยู่ในห้องสมุดอ่านหนังสือจนเพลินไปหน่อยเลยไม่ทันสังเกตว่าว่าข้างนอกฝนตกแล้ว

"น้ำก็ไม่ได้เอามาครับ" ก็ตอนออกมาแดดเปรี้ยงฟ้าโล่งขนาดนั้น ใครมันจะไปคิดกันว่าตอนหัวค่ำฝนจะตกลงมา

'งั้น...ลองถามเพื่อนดู เผื่อมีใครเอามาก็ให้เดินมาส่ง...น้ำจะได้ไม่เปียก' คนตัวเล็กลดโทรศัพท์ลงจากข้างหู

"เอ่อ...มีใครเอาร่มมามั้ย" น้ำเอ่ยถามเพื่อนทั้งสามคน เบทเป็นคนแรกเลยที่ส่ายหัว

"เบทไม่ได้เอามา...นู่น ไอ้อิ่มนู่นมันเอามา" เบทพนักเพยิดหน้าไปทางอิ่มที่นั่งฝั่งตรงข้ามตัวเอง

"น้ำขอยืมร่มหน่อยสิ"

"เดี๋ยวไปส่ง" อิ่มพูดแค่นั้น หยิบร่มออกมาและช่วยคนตัวเล็กเก็บของ เพราะว่าคนตัวเล็กยังต้องคุยโทรศัพท์ต่ออีกนิดหน่อย

เมื่อคุยเสร็จ เก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยลาเบทกับพราว โดนแซวจนเขินหน้าแดงกันไปก็หลายทีกว่าจะหลุดออกมาได้







"พี่ผามาแล้ว" คนตัวเล็กเอ่ยบอกคนข้างตัวเบาๆ อิ่มลุกขึ้นกางร่มรอให้คนตัวเล็กมาเดินออกไปด้วยกัน อิ่มส่งเขาขึ้นรถแล้วเดินอ้อมไปฝั่งคนขับที่พี่ผานั่งอยู่ พี่ผาลดกระจกลงแล้วทั้งสองคนก็คุยอะไรกันสักอย่างซึ่งเขาไม่ได้ยิน ไหนจะเสียงเพลงในรถและเสียงฝนตกข้างนอกนั่นอีก...ช่างเถอะ คงฝากให้ดูเขาแบบทุกทีนั่นแหละ







"หิวรึยังคะ" ผาเอ่ยถามคนตัวเล็กหลังจากขับรถออกมาจากมหาลัยแล้ว ยื่นมือมาโยกหัวคนตัวเล็กเบาๆพร้อมกับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้...อ่า รู้สึกร้อนๆยังไงชอบกลแหะ

"ก็...หิวแล้ว พี่ผาล่ะ หิวรึเปล่า" คนตัวเล็กจับมือผาไว้ก่อนที่จะประสานเข้าไว้ด้วยกันแล้วเลื่อนมือวางอยู่ที่หน้าขาตัวเอง

"หิว...อยากกินต้มจืดเต้าหู้" 

"ที่ห้องมีของรึเปล่าครับ...แวะซื้อมั้ย"

"มีๆ...วันนี้พี่บอกให้แม่บ้านซื้อเข้ามาให้แล้ว" คนตัวเล็กตอบรับไป แต่ตายังจ้องมองคนข้างตัวไม่วางตา

"มีอะไรรึเปล่า...จ้องแบบนี้พี่ก็เขินแย่"

"...แค่อยากมองแฟนไม่ได้หรอ" ร่างสูงแทบจะเหยียบเบรกไม่ทัน หน้าเริ่มร้อนแปลกๆ...หันมองคนข้างๆก็พบกับรอยยิ้มล้อๆที่ส่งมา พร้อมกับมือเล็กบีบเป็นจังหวะจนเขาต้องชักหนีมาลูบหน้าลูบตาตัวเองแก้เขิน แต่ก็ยังไม่วายที่คนตัวเล็กยื่นมือมาจิ้มแก้มเขาจึกๆ...หึ่ม! ตัวแสบเอ๊ย





คนตัวเล็กเห็นท่าทางของผาดูผ่อนคลายมากขึ้นก็เบาใจลงไปได้บ้าง...ตั้งแต่ขึ้นรถมา เขารับรู้ถึงความเครียดอะไรบางอย่างที่ผากำลังเผชิญอยู่...ทั้งการพูดถึงมันจะเหมือนทุกๆวันที่เคยพูดกันแต่วันนี้วันนี้มันแปลกๆไปจนเขาเองรับรู้ได้...ถึงเขาอยากถามแต่ก็เลือกที่จะไม่ถามเพราะอาจจะทำให้อีกคนรำคาญเอาได้







มื้อเย็นผ่านไปด้วยกับข้าวที่แสนจะอร่อยและเรียบง่ายในแบบที่ร่างสูงชอบ การเอาใจใส่เล็กๆน้อยๆของคนตัวเล็กทำให้ผาคลายความกังวลจากเรื่องเมื่อกลางวันนี้ลงไปได้เยอะ...เขารู้ว่าที่น้ำทำก็เพราะรู้ว่าเขากำลังมีเรื่องกังวลใจอยู่ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้เขาคลายความกังวลลงและมันก็ได้ผลดีมากๆเอาเสียด้วย

เขารู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูกกับวันนี้และก็หลายๆวันที่ผ่านมา...ถึงมันจะผ่านมาได้ไม่นานเป็นแรมปี แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าการกระทำที่อีกคนทำให้เขามันมีแต่ความตั้งใจ จริงใจ และใส่ใจ...จนเขารู้สึกว่ารักช่วงเวลาเหล่านั้น และเขาก็รู้สึกว่าเขารัก...คนที่ทำให้เขารักช่วงเวลาเหล่านั้นเข้าอย่างจัง







"ก่อนอื่นน้ำก็ต้องดูก่อนว่าโจทย์ให้อะไรมาบ้าง ดูว่าโจทย์ให้หาอะไรหรือไม่ได้ให้อะไรมา...แล้วเราจะเลือกสูตรใช้ถูก" คำพูดอธิบายของผาดังมาตลอดเกือบสองชั่วโมง...และตลอดเวลาน้ำเองก็ไม่วอกแวกเลยแม้แต่น้อย เพราะร่างสูงเองดูเครียดมากกว่าเสียอีก จนน้ำไม่กล้าวอกแวกทำอะไรนอกเหนือจากนั่งทำโจทย์ ถาม และฟัง





และในที่สุดมันก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เขาเข้าใจมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้เข้ามันร้อยเปอร์เซ็นต์ ผานั่งพักอยู่ที่โซฟาตัวยาว ส่วนเขาขอตัวไปอาบน้ำ พอออกมาก็เห็นผาหลับตาหัวพิงพนักอยู่ เขาหย่อนตัวลงนั่งข้างๆเบาๆ แต่ผาก็รู้ตัวลืมตามามองกัน แววตาบ่งบอกถึงความกังวลอย่างปิดไม่มิด...จนน้ำเองอดใจไม่ให้ถามเพราะความเป็นห่วงไม่ได้

"พี่ผากังวลอะไรอยู่รึเปล่าครับ" ร่างสูงหลับตาลงเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา..

"น้ำช่วยหยิบแฟ้มสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะให้พี่ทีได้มั้ยคะ" ผาเปิดเปลือกตาขึ้นมองแล้วเอ่ยขอเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหยอย่างเหนื่อยอ่อน เขาตอบรับคำแล้วเดินไปหยิบมาให้อย่างว่าง่ายแล้วกลับมานั่งที่เดิม

"เปิดดูสิคะ" เขาเปิดดูตามคำสั่งแล้วก็อต้องตกใจกับรูปผู้หญิงสวยพร้อมข้อมูลประวัติส่วนตัว...เขาไล่อ่านช้าๆ จับใจความคร่าวๆได้ว่าผู้หญิงสวยเหล่านี้ล้วนเป็นลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ทั้งนั้น...เหมือนเขาจะเข้าใจรางๆแต่ก็ยังไม่มั่นใจในความคิดของตัวเอง

"มานั่งกับผามา" ผาหยิบแฟ้มไปวางไว้บนโต๊ะก่อนจะช้อนตัวเขาขึ้นให้นั่งบนตักแกร่งหันหน้าเข้าหากัน

"คนพวกนั้นคือคนที่ป๊ากับม้าพี่หามาให้...มันมีผลต่อธุรกิจ"



"..."



"ป๊าหาคนพวกนี้มาให้เพราะคิดว่าพี่สับสน...และคิดว่าเราทั้งคู่อาจจะรับความกดดันในเรื่องของความต่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ได้..."

"..." เขาเลือกที่จะเงียบและคิดตามสิ่งที่ผาพูด นิ้วแกร่งไล้เกลี่ยไปทั่วแก้มเนียนอย่างหลงใหล



"ป๊ากลัวว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันไม่ยั่งยืน ป๊าพีี่ก็เลยจะจัดการเรื่องนี้ให้มันจบไวขึ้นโดยการหาคนมาให้เพื่อที่พี่จะได้เลิกกับเราไวๆ..."



"..." ...ฟังมาถึงตรงนี้น้ำตาสีใสก็อดจะเอ่อขึ้นมาไม่ได้



"...แต่พี่ไม่เลิกหรอก พี่ขอป๊าจัดการเรื่องนี้เองดูก่อน..."



"..."



"...ถ้าเราทำให้ป๊ากับม้าพี่เห็น ว่าเราเข้าใจกันดี พวกเราผ่านความกดดันต่างๆไปได้...ทุกอย่างมันก็จะลงตัว"



"..."



"พี่รู้ว่าเราคงไม่โอเคกับเรื่องที่ป๊าจัดหาคนมาให้..แต่พี่ก็เป็นคนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่อยากขอให้น้ำเข้าใจ..."



"..."



"แล้วพี่ก็รู้ว่าเราไม่มั่นใจกับตัวพี่เลยสักนิดเดียว...การกระทำน้ำอาจจะรับรู้ได้บ้างว่าพี่รู้สึกยังไง...แต่พี่ก็ยังไม่เคยพูดมันเลย"



ตึกตัก ตึกตัก หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ น้ำตาใสรินไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ จนร่างสูงต้องไล้นิ้วปาดเช็ดออกให้อย่างเบามือ...แววตาคมมองสบมาอย่างมุ่งมั่นและจริงจังจนเขาใจสั่นอย่างดีใจ



"พี่รักน้ำนะคะ...มาบอกเอาตอนนี้มันอาจจะกลายเป็นคำพูดที่ดูเห็นแก่ตัวเพื่อเข้าใจและอยู่ด้วยกัน....และถึงแม้มันจะเกิดขึ้นในเวลาไม่นาน แต่ที่พี่พูดไปมันออกมาจาก...ตรงนี้" ผาพูดคำว่า 'ตรงนี้' พร้อมกับจับมือเล็กมาวางไว้ที่อกด้านซ้ายที่มีก้อนเนื้อกำลังกระหน่ำเต้นอยู่ ...น้ำตาสีใสก็ยังไหลออกมาเงียบๆไม่ขาดสาย แต่ข้อนิ้วแกร่งก็ยังคอยปาดเช็ดให้อย่างอ่อนโยนไม่ห่าง



"มันยากที่จะเข้าใจ แต่พี่ก็อยากให้เราเข้าใจ...มันยากที่จะเชื่อใจแต่พี่ก็อยากให้เราเชื่อใจกัน"



"..."



"พี่รู้ว่าทุกอย่างมันยากไปหมด..."



"..."



"จับมือไปกับพี่ได้มั้ยคะ จับมือไปกับพี่...ทำเรื่องยากๆเหล่านั้นให้เป็นแค่เรื่องง่ายๆไปด้วยกัน"



"..."



"เราจะเชื่อใจกัน...เข้าใจกัน เติมเต็มในส่วนที่ขาดให้กันและกัน..."



"..."



"ตกลงมั้ยคะ...โอเคมั้ย" คนตัวเล็กพยักหน้ารับรัวๆ พร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาลวกๆ



"...ตกลง ฮึก โอเค...น้ำโอเค น้ำจะเข้าใจทุกอย่าง น้ำจะเชื่อใจผา... น้ำจะอดทน ฮือ...น้ำจะจับมือผาแน่นๆ จะไม่ไปไหนจนกว่าผาจะไม่จับมือน้ำแล้ว..." คนตัวเล็กสะอื้นไห้เบาๆ คว้าเอามือผามาจับไว้แน่น



"ไม่มีทาง...ผาไม่มีทางปล่อยมือจากคนดีแน่นอน...ต่อให้น้ำจะไม่จับมือกันแล้วก็ตาม" ร่างสูงยอกออกมาอย่างหนักแน่น โอบรอบเอวกระชับให้ชิดกันมากขึ้น



"น้ำเชื่อใจนะ...แต่ความเชื่อใจของน้ำมีให้ผาแค่ครั้งเดียวนะ"



"รับทราบค่ะ ฟอดดด" ผาตอบรับด้วยรอยยิ้มเต็มใจ พร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่ คนตัวเล็กโถมตัวกอดผาแน่น จนคนรับน้ำหนักหัวเราะออกมา



"ฮื่ออ~ ไม่ต้องหอมเลย...จะนอนแล้ว" คนตัวเล็กว่าออกมาเสียงอู้อี้ๆ เพราะเอาหน้าซุกกับอกแกร่งของร่างสูงเอาไว้



"จะนอนแบบนี้หรอคะ หื้ม?" ผาเอ่ยถามพร้อมกับกดจูบลงไปบนกลุ่มผมนิ่ม สองมือโอบกระชับเอวบางไว้แน่น



"ช่าย...น้ำจะนอนแบบนี้ อยากนอนแบบนี้ ห้ามขัดใจนะ.." ง่วงแล้วก็แบบนี้...ติดจะเอาแต่ใจ นิสัยเด็กๆ แต่โคตรน่ารักเลย...น่ารักจนอยากปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วกลืนลงท้องไปซะ หึ่ม! ถ้าเอาภาษาของเขาก็คือ น่ารักจนน่าจับกดเสียให้จมเตียง...



"หึๆ โอเคไม่ขัดค่ะไม่ขัด...ที่รักอยากนอนแบบนี้ทุกวันมั้ยคะ" 



"อื้ม...อยากนอนแบบนี้ทุกวัน" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองสบตากันตรงๆ



"งั้น...ย้ายมาอยู่กับพี่นะคะ...มาอยู่กับผา เนอะ ผาจะกอดทุกวันเลย" ผาเสนอ เน้นย้ำคำว่า กอด ชัดเจนกว่าคำอื่นๆ อย่างสื่อความหมาย



"กอดแบบไหนง่าา~" รู้ทันดีจริงๆ...ผาส่ายหน้ายิ้มๆ ส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้เต็มที่



"แต่คืนนี้เขาไม่ให้ผากอดหรอ แบร่~" คนตัวเล็กว่าจบก็แลบลิ้นมาให้ก่อนจะกระโดดลงจากตักเขาวิ่งปรู๊ดหนีเข้าห้องไป...ผาหัวเราะออกมาเต็มเสียงก่อนจะจะถอนหายใจออกมาแล้ววิ่งตามเข้าไป



"มานี่เลยนะตัวแสบ...มาให้สำเร็จโทษซะดีๆ" ผาพูดออกไปอย่างหมั่นเขี้ยว เข้าไปจับคนตัวเล็กอุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปวางที่เตียง ก่อนจะก้มลงไปประกบปากกับริมฝีปากสีสด



น้ำเปิดปากรอรับลิ้นร้อนอย่างรอคอย สองแขนเรียวโอบรั้งต้นคอแกร่งเอาไว้ สองงิ้นร้อนเกี่ยวพันกันไปอย่างต้องการจะเติมเต็มวางอย่างที่ขาดหาย จูบที่อ่นหวานนุ่มนวลและอ่อนโยนจนคนใต้ร่างอ่อนยวบไปหมด...จูบเติมพลังนี้กินเวลานานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมากว่าร่สูงจะผละออก...

"รักนะคะ" ร่างสูงบอกก่อนจะก้มลงไปมอบจูบแสนหวานให้อีกครั้ง จนสติเขาแทบจะหายไปและลงมือทำอะไรที่มันมากกว่านี้เขาก็ผละออกมาอย่างแสนเสียดาย...ดวงตาหวานปรือปรอยเพราะแรงอารมณ์



"วันนี้ไม่กอดหรอก...รวบยอดไว้หลังมิดเทอมทีเดียว พอถึงตอนนั้น...รับรองเลยว่ากอดไม่ปล่อยแน่" สายตาที่มองมามันระยิบระยับ แพรวพราวและแสนเจ้าเล่ห์เสียคนมองขนลุกซุ่ เสียวสันหลังวาบว่าคงโดน 'กอด' ไม่ปล่อยจริงๆอย่างที่อีกคนบอกแน่ๆ



คนทั้งคู่สอดตัวเข้าใต้ผ้าผ่ม ผากระชับกอดให้คนตัวเล็กแนบชิดเขามากขึ้น กดจูบหน้าผากมนด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย..ก่อนที่ทั้งคู่จะเอ่ยราตรีสวัสดิ์เพื่อส่งอีกคนเข้าสู่นิทราที่แสนสุข



ต่อไปนี้...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าแรงกดดันจะมากสัเพียงไหน เขาก็จะอดทนและผ่านมันไปด้วยกัน...ถ้าผาบอกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว...เขาเองก็เห็นแก่ตัวเหมือนกันที่ไม่ปล่อยผาให้ไปเจอชีวิตที่ดี...เขาเองที่เห็นแก่ตัวดึงผาให้ลงมาเกลือกกลั้วกับเขา



น้ำสัญญานะ...น้ำสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังเลยที่ผาเลือกที่จะจับมือเขาไปด้วยกัน...ขอบคุณนะครับที่เลือกน้ำ
[/i]













100%

...To Be Continued...




ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ  สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารน้ำจังเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องสาวผาน่าจะช่วยพี่ชายบ้างนะ

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0

Episode 21





"จริงหรือคะคุณพ่อ" คุณพิชรัตน์ที่ได้ฟังเรื่องบางอย่างจากปากของพ่อสามีถึงกับร้องไห้โห ทรุดนั่งลงกับโซฟาอย่างอ่อนแรงจนคนเป็นสามีอย่างคุณชัชชัยต้องประคองกอดเอาไว้...แม้ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกัน

"ฉันคงไม่สร้างเรื่องมาหลอกลูกตัวเองหรอก ...ไปรับกลับมาได้แล้ว ฉันคิดถึงหลาน" ผู้อาวุโสที่สุดในบ้านเอ่ยขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...

"ครับคุณพ่อ...ผมกับพิชจะรีบไปรับลูกกลับมา" ลูกชายคนโตของตระกูลเอ่ยออกมาอย่างยินดี น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยไหลเลยตลอดสี่สิบกว่าปีกลับไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่ใช่เพราะความเสียใจแต่มันเป็นเพราะความดีใจมากที่สุดในชีวิต...

"คุณแม่! ร้องไห้ทำไมครับ" เสียงหนึ่งร้องดังขึ้นมาจากหน้าประตู รีบโผเข้าไปกอดผู้ที่ตนเรียกว่าแม่ เขาหันไปมองคุณปู่ของเขาที่กำลังนั่งยิ้มอยู่ แต่พ่อกับแม่เขากลับนั่งร้องไห้...

"คุณปู่แกล้งอะไรพ่อกับแม่ครับเนี่ย" เด็กหนุ่มโวยวายใส่ผู้เป็นปู่อย่างไม่จริงจังนัก กิริยาน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเป็นธรรมชาติจนผู้เป็นแม่ต้องยกมือขึ้นลูบหัวด้วยความเอ็นดู

"คุณปู่ไม่ได้แกล้งอะไรแม่หรอก ...แม่แค่มีเรื่องดีใจน่ะ" คนเป็นแม่ส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แววตาส่งประกายสวยอย่างที่ตัวเขาไม่เคยเห็นผู้เป็นแม่ดีใจแบบนี้มาก่อน

"ดีใจอะไรกันหรือครับ" ทุกคนไม่ตอบ เขาไล่สายตามองทุกคน พ่อ...แม่...ปู่ ทุกคนต่างมีรอยยิ้มยินดีอยู่บนใบหน้า...

"ร หรือ หรือว่า..." เขานึกอะไรไม่ออกแล้วนอกจากเรื่องนี้ ที่จะทำให้พ่อแม่ของเขาร้องไห้ด้วยความดีใจแบบนี้ ...เขาถามออกไปทุกคนพยักหน้าให้เขาพร้อมกัน

"แล้วพี่..."

"ไม่ต้องห่วงไปหรอก รายนั้นน่ะ รู้มาก่อนปู่อีกตามเรื่องเองอะไรเองจนแน่ใจแล้วถึงได้มาบอกให้ปู่ช่วย...แถมยังไปดูไปเฝ้าตลอดอีก" ผู้เป็นคุณปู่ของหลานพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดีไม่คลาย ตัวเขาเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย 

"และทำไมพี่ดินไม่เห็นบอกผมเลยล่ะครับ กลับมาผมงอนซะดีมั้งเนี่ย" เด็กหนุ่มตัวเล็กว่าออกมาอย่างงอนๆ

"จะงอนอะไรพี่อีกล่ะ" คนที่ถูกพูดถึงเดินล้วงกระเป๋าเดินเข้ามากอดผู้เป็นแม่จากทางด้านหลัง แล้วกดหอมที่แก้มนิ่มอย่างแสนคิดถึง ผู้เป็นแม่เองก็ทำเช่นเดียวกันกลับไป ก่อนที่ดินจะผละไปกอดผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่ข้างๆบ้าง

"เพิ่งมากันเมื่อสองเดือนที่แล้วเองนะครับ คราวนี้ลงมาทำอะไรกันอีกครับเนี่ย...เดินทางบ่อยๆมันไม่ดีนะครับ" ดินแทรกตัวลงนั่งข้างพ่อตัวเองก่อนจะถามออกมา

"พ่อจะเข้ามาติดต่อธุรกิจนิดหน่อย"

"และก็มีเรื่องที่แม่ต้องเข้ามาจัดการด้วยจ้ะ" ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"ปู่ไม่เห็นบอกดินเลย" 

"ทีพี่ดินยังไม่เห็นจะบอกน้องเลย ชิ" เด็กหนุ่มตัวเล็กว่าออกมาอย่างเคืองๆ ส่งค้อนให้คนเป็นพี่ไปหนึ่งที แต่ก็ไม่ได้งอนอะไรจริงจังนัก

"ได้ข่าวมาว่าไปเจอมาแล้วนี่" ดินยื่นหน้าออกไปหาคนเป็นน้อง

"ใครครับ?!" เด็กหนุ่มถามออกมาตาโต

"ไม่รู้หรอ?" ดินแอบตกใจอยู่หน่อยที่อีกคนทำเหมือนไม่รู้ แต่คำตอบที่ได้คือการส่ายหน้ารัวๆจากอีกคนนั่นทำให้เสียงหัวเราะหลุดออกมาอย่างห้ามไม่ได้...อะไรกันก็เขาเห็นว่าเจอกันไปแล้ว จะไม่รู้ได้ไงว่าใคร

"ไม่ต้องหัวเราะเลย...รู้ก็บอกน้องมั่งเซ่!" อีกคนแหวออกมา นั่นทำให้ทั้งหมดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู



ตระกูลใหญ่และเก่าแก่อย่างบวรวัชรศิริกุลกำลังดีใจอย่างมากกับการที่จะได้รับหลานชายที่หายตัวไปกลับมา จริงๆตัวเขาเองอยากจะไปรับหลานอีกคนกลับมาตั้งแต่ที่รู้เรื่องแล้ว...แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ยังไม่ลงตัว แต่ตอนนี้บวรวัชรศิริกุลพร้อมต้อนรับการกลับมาของหลานรักที่จากไปนานแล้ว เจ้าหลานชายคนโตก็แสนจะเห่อ...จัดการตามหาเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งๆที่ตัวเขาเองนั้นแทบจะตัดใจไปแล้ว แต่เจ้าหลานชายตัวดีก็ไฟแรงจนทำให้ทั้งบ้านฮึดขึ้นมาอีกครั้งจนในที่สุดก็เจอ...รอหน่อยนะหลานปู่







"โจ้ แล้วธามอ่ะ ไม่ได้มาช่วยขนด้วยหรอ" วันนี้คือวันที่สอบมิดเทอมเสร็จหมดแล้ว และแน่นอนนั่นหมายถึงเขาต้องย้ายเข้าไปอยู่กับพี่ผา...และคนที่มาช่วยเขาเก็บของก็คงไม่พ้นโจ้กับธาม เดี๋ยวอีกสักพัก พราวกับอิ่มจะตามมาช่วยด้วย

ติดใจอยู่กับสองคนนี้เนี่ยสิ ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมายังไม่เคยเห็นสองคนนี้แยกกันเลยสักครั้ง ไปไหนมาไหนตัวก็ติดกันตลอด...จะตีกัน แกล้งกันยังไงก็ไม่เคยโกรธเคืองกันจริงๆจังๆสักที...แต่เห็นทีอาการแบบนี้คงไม่ใช่อาการของคนโกรธกัน

"คงไม่มาหรอก เมื่อคืนมันไม่ได้กลับห้อง" โจ้หันมาบอกเขายิ้มๆ แต่เป็นยิ้มแบบขอไปทีน่ะนะ

"แล้วไม่ได้คุยกันหรอ เห็นทุกทีคุยกันตลอด"

"ไม่ได้คุย...มันไม่รับสาย ไลน์ไปอ่านไม่ตอบ ก่อนออกไปมันบอกแค่ว่ามันจะไปหาแฟนมัน" ...แต่ธามไม่มีแฟน น้ำได้แต่ตะโกนตอบในใจ ตอนนี้เขาพอรู้แล้ว...ว่าระหว่างสองคนนี้ มันเกิดอะไรขึ้น

"น้ำว่า...โจ้ควรเคลียร์นะ อย่าปล่อยไว้เลย...มันไม่ใช่แค่โจ้หรือธามที่ไม่สบายใจนะ แต่น้ำเองก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย" 

"..."

"โจ้เคยบอกน้ำไม่ใช่หรอ ถ้าเป็นความรู้สึกให้ถามหัวใจ...มันจะบอกเราทุกอย่างเอง แต่ตอนนี้น้ำว่าโจ้ไม่ได้กำลังใช้ใจคิดนะ..." คนตัวเล็กว่าออกมาพร้อมกับจิ้มนิ้วลงไปบนแผงอกด้านซ้าย โจ้ทิ้งตัวแผ่หลาบนเตียงกร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"ตอนนี้ใช้สมองคิด...มันบอกว่า มันเป็นแค่การสับสน ปล่อยไว้แบบนี้แหละ เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง แต่หัวใจมันบอกว่า ความรู้สึกลึกๆแล้วมันไม่ใช่แค่สับสน แต่มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ไม่ควรปล่อยมันไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย..." โจ้พลิกตัวนอนคว่ำเอาหมอนปิดหน้าตัวเองเอาไว้อย่างไม่อยากคิดอะไรต่อ ...แต่เดี๋ยวนะ น้ำพูดเหมือนรู้ เห้ย! น้ำรู้ด้วยหรอวะ?

โจ้เด้งพรวดขึ้นมานั่งจ้องหน้าน้ำเขม็ง จนน้ำหลุดขำ กับท่าทางนั้น

"รู้ด้วยหรอ" โจ้ถามออกมาห้วนๆ

"ก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นซะหน่อย คิกคิก" น้ำปิดปากขำ

"แสบนะเดี๋ยวนี้ ต้องบอกให้พี่ผาจัดการขั้นเด็ดขาดซะมั่งแล้ว" แววตาเจ้าเล่ห์ของโจ้ทำเอาน้ำหยุดขำไปเสียดื้อๆ 

"จะ จะ จัดการอะไรเล่า!" คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกัก เสหลบตาโต้ ทำเป็นจัดของให้วุ่นไปหมด...

"จะว่าไป...ดูน่ารักขึ้นนะ ดูมีเสน่ห์ขึ้นด้วย...เขาเรียกว่าอะไรนะ เอ้อ! ดูมีน้ำมีนวล" โจ้ลุกพรวดไปยืนข้างๆน้ำ ก้มลงไปมองหน้าใกล้ๆ หรี่ตาข้างนึงอย่างสำรวจจนน้ำทนไม่ไหว หันหนีมาอีกทาง

"พะ พูดอะไร เพ้อเจ้อแล่ว เมาปะเนี่ยโจ้อ่ะ" ...โวยวาย งานนี้มีคนโวยวาย ต้องมีอะไรแน่ๆ มีพิรุธขนาดนี้ แบบนี้ต้องเค้น เสียดายไอ้ธามไม่อยู่

"ใครเมาแต่หัววัน" พูดถึงธาม ธามก็มา แถมเอาพราวกับอิ่มขึ้นมาด้วย...ได้จังหวะจริงๆ ได้แกล้งคนขี้เขินก็คราวนี้แหละวะ

"โจ้เลยธาม พูดอะไรไม่รู้เพ้อเจ้อ" น้ำขยับตัวไปยืนข้างๆธาม โจ้กอดอกมองยิ้มๆ

"ไม่ได้เพ้อเจ้อเว้ย ก็แค่...พูดไปตามที่เห็น"

"อะไรวะ" ธามหันมาถามโจ้หน้างงๆ

"มึงสังเกตปะวะ ว่าน้ำของเรา...ดูน่ารักขึ้น" ธามหันมองหน้าน้ำ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด  ดึงแก้มนิ่มทั้งสองข้างไม่เบานัก จนน้ำซี๊ดปากด้วยความเจ็บ

"จริงด้วยว่ะ ดูมีน้ำมีนวล...สวยขึ้นปะเนี่ย" ธามขยับตัวไปยืนข้างๆโจ้ กอดอกมองยิ้มๆ

"สวยอะไรเล่า อย่าแกล้งได้มั้ยล่ะ" น้ำขยับตัวไปยืนข้างพราวกับอิ่มอย่างต้องการคนช่วย

"แต่จะว่าไป...ช่วงมิดเทอมนี่มีแต่คนชมน้ำว่าน่ารักขึ้นนะ ดูดิ...หน้าใสเชียว ไปทำอะไรมาจ๊ะ~" น้ำยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองก่อนจะเอาหัวไปพิงกับแขนอิ่มที่ยืนข้างกัน

"หึๆ อย่ามาปกปิดความเขินแถวนี้ดิ" อิ่มผลักหัวเขาออกเบาๆ จนคนตัวเล็กทำหน้าตูมใส่ ส่งค้อนให้เพื่อนสองคนอย่างงอนๆ

ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ วันที่มาติวหนังสือกันรอยสีจางๆที่คอคงไม่ใช่รอยยุงกัดหรอกมั้ง...แต่ก็ไม่มีใครแซวหรือพูดอะไรไป เพราะมิดเทอมมันกลบความอยากรู้ในตอนนั้นไปเสียหมด...แต่ตอนนี้ต่อมอยากรู้มันถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง...ถึงจะไม่ได้คำตอบเป็นคำพูด แต่การกระทำของคนขี้เขินที่แสนจะมีพิรุธนี่ก็เพียงพอที่จะเป็นคำตอบได้แล้ว



"กูว่าพี่ผาผ่านนะ ถ้าเป็นคนอื่นพอรู้ว่าแฟนตัวเองเป็นแบบน้ำ คงทิ้งไปนานแล้ว" โจ้ว่าออกมานิ่งๆ สายตามองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังนั่งเก็บของอยู่ตรงมุมห้องกับเพื่อนอีกสองคน

"อืม..." ธามตอบรับในลำคอ

"หรือว่าพี่แกรู้วะ" โจ้หันหน้ามาถามคนข้างตัว...ลืมเรื่องที่กังวลต่างๆนาก่อนหน้านี้ไปเสียสนิท

"มึงก็บ้า พี่แกจะไปรู้ได้ไง" 

"พี่แกรวยจะตาย อาจจะจ้างนักสืบมาสืบก็ได้"

"พี่ผาไม่รู้หรอก"

"มึงเอาอะไรมามั่นใจวะ" โจ้ท้าวเอวถาม

"เออน่า ...เย็นนี้เข้าไปหาแม่ดากับกูด้วย" 

"ทำไมวะ"

"เห็นแม่บอกว่าพี่เขาจะเข้าไป"

"เออๆ และมึง...ไม่ไปนอนกับแฟนมึงหรอวะ" ธามนิ่งไปนิดก่อนจะยิ้มออกมา

"ทำไม...คิดถึงกู ว่างั้น" 

"ไอ้เชี่ยนี่ อย่ามั่ว ใครคิดถึงมึง" 

"ก็เห็นถาม" 

"กวนส้นตีนไอ้สัด" ด่าใส่หน้าธามไปคำ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปเก็บของที่ระเบียง ส่วนธามเองก็ไม่ได้สนใจที่จะเดินตามไป จึงเดินเข้าไปช่วยน้ำเก็บของใส่ลัง

บรรยากาศตึงๆที่เขาสร้างขึ้นมาโดยการหลบหน้าโจ้ไป มันคลายลงไปบ้างแล้ว...เขาเห็นแก่ตัวใช้ความไว้ใจที่อีกฝ่ายมอบให้ในฐานะเพื่อนสนิทมามากพอแล้ว เขาเป็นฝ่ายรู้สึก เพราะฉะนั้นคนที่จะต้องรับผิดชอบไม่ใช่คนที่ไม่รู้เรื่องอย่างโจ้ เขารู้สึกได้...เขาก็ต้องจัดการกับมันได้ หัวใจเขา ถ้าเขาไม่จัดการให้มันหลาบจำเสียบ้าง...แล้วใครล่ะจะมาจัดการได้









"สวัสดีครับแม่ดา" ทั้งสองคนโจ้ธามยกมือไหว้ทำความเคารพผู้ที่เขาเรียกว่าแม่จนติดปากมาตั้งแต่เกิด 

"มานั่งนี่ก่อนมาลูก พี่เขาออกไปเอาเอกสารเดี๋ยวมาจ้ะ" ดาริณยิ้มรับอย่างอ่อนโยน พร้อมกับตบที่ว่างข้างตัวให้สองหนุ่มหล่อเข้ามานั่ง

ทั้งสามคนคุยแลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบกันไปมา เพราะด้วยความคิดถึงที่ไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมาเหมือนขออนุญาติดึงความสนใจของคนทั้งสามให้หันไปทางต้นเสียงได้ "สวัสดีครับพี่ดิน" โจ้กับธามยกมือไหว้รุ่นพี่ในคณะที่แม่ดาของเขาได้ทำการนัดกันเอาไว้

"เออหวัดดี" ดินตอบรับแบบขอไปทีก่อนจะรีบร้อนเข้ามานั่งตรงข้ามกันกับทั้งสามคนเพราะเกรงว่าผู้ใหญ่จะรอนาน

"นี่ครับน้าดา เรื่องสร้อยที่ดินเคยบอก..."  ดินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับยื่นซองที่เป็นรูปภาพของตัวสร้อย และใบเสร็จการสั่งทำจากร้านจิวเวอร์รี่ โจ้กับธามหยิบไปดูบ้างก่อนจะมองหน้ากัน

"ใช่จริงๆด้วย...เส้นเดียวกันเป๊ะๆ" โจ้ว่าออกมาอย่างนึกทึ่ง ไม่คิดว่าจะมีครบขนาดนี้ มันไม่ใช่ผ่านมาแค่ปีสองปี แต่นี่มันเกือบยี่สิบปีเชียวนะ...ทุกอย่างยังอยู่ครบ

"แต่ช่วงนี้ไม่เห็นเจ้าตัวใส่" ดินว่าออกมาเสียงเครียด เพราะถ้าเกิดหายหรือว่าถูกขโมยมีคนเอาไปใช้สมอ้างเข้าจะแย่

"ครับ...เจ้าตัวเขากลัวทำหายน่ะครับเลยถอดเก็บไว้" ธามพอจะนึกออกอยู่บ้างว่าตั้งแต่เข้ามหาลัยเจ้าตัวก็ไม่ค่อยใส่มันออกไปไหนมาไหน มักจะถอดเก็บเอาไว้อย่างดี

"แล้วคุณพิชกับคุณชัชล่ะจ้ะ" ดาริณถามขึ้นมาบ้าง

"รายนั้นอยากมาอยู่แล้วครับ ถ้าเคลียร์เรื่องทางนั้นเสร็จคงมารับกลับบ้านแน่นอน คุณปู่เองก็อยากมารับใจจะขาด...อยากมารับไปตั้งแต่ที่รู้แรกๆแล้วครับ...แต่คุณน้าก็ว่าทำไม่ได้ ดินเองก็ทำได้แค่เทียวไปเทียวมาแบบนี้" ดินร่ายยาวออกมาอย่างหงุดหงิดในใจ ที่อะไรหลายๆอย่างมันไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็น แทนที่ทุกอย่างจะจบเร็วขึ้น กลับยืดเยื้อมานานแรมปี...แทนที่จะได้อยู่ร่วมกันก็กลับยิ่งต้องออกห่างจากกันมากขึ้น

"เรื่องความปลอดภัยคงไม่ต้องห่วงหรอกครับ พวกผมดูแลตลอดอยู่แล้ว...แถมตอนนี้ได้คนดูแลเพิ่มไปอีกคน" โจ้พูดประโยคท้ายยิ้มๆ เมื่อนึกถึงคนที่อาสามาดูแล

"ก็ดี" 

"พี่เขายังไม่รู้ใช่มั้ยครับ" โจ้ถาม

"ยังหรอก... แต่ก็ไม่แน่นะ มันมาที่นี่กับพี่บ่อยกว่าทุกคน มันก็รู้นะว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่..." 

"แบบนี้พี่เขาคงตงิดๆใจบ้างแหละครับ ผมว่า" โจ้ยังแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความเป็นห่วงและกังวล...ถ้าเกิดเรื่องมันถูกเปิดเผยขึ้นมาก่อนเวลาอันควร...ทุกอย่างที่ช่วยกันทำมาก็จบ

"อย่าคิดกับมันแบบนั้นดิ...พี่รู้นิสัยเพื่อนพี่ดี...ถึงจะหวงก็เถอะ" ดินว่าออกมาอย่างปลงๆ ถึงจะหวงแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ทำได้แค่ดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ขออย่างเดียว...อย่างล่วงเกินน้องเขาก็พอ ไม่งั้นคงได้มีตายกันไปข้าง!


...และงานนี้คงได้มีคนตีกันตายแน่นอน...







100%

...To Be Continued...

Talk

มาแย้ววน้าาาาา~

กราบงามมๆ หงึ เค้าขอโทษที่ไปนานกว่าสิบชาติได้ รีดหายไปกันหมดแล้วมั้งเนี่ยยยย*กระซิกๆ* กลับมาหาไรท์ก๊อนนนนน*กวักมือเรียก*



ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ใครจะรับใครกลับบ้าน ใครที่มีคนคอยดูแลอยู่แล้ว ใครหน่า  :ruready

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งานนี้น่าจะมีคนโดนตีตาย555

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Episode 22




ฟอดด!

"หอมบ่อยไปแล้วนะครับ" คนตัวเล็กต่อว่าผาออกมาพร้อมมุ่ยหน้าใส่ไปอย่างไม่จริงจังนัก

ตั้งแต่คนตัวเล็กกลับมาจากมหาลัย เดินเข้าห้องมา ยังไม่ทันได้ปิดปรตูดีๆ ผาก็จับเขาฟัด หอมตรงนู้นจูบตรงนี้ จนน้ำว่าน้ำคงช้ำไปทั้งตัวแล้ว

"ก็คนมันคิดถึงแฟนนี่ครับ ฟอดด!" ผาว่าออกมาพร้อมกับฝังจมูกลงบนแก้มนิ่มอีกที

"อยู่ด้วยทุกวันแล้วยังจะคิดถึงอีกหรอครับ"

"เจอไม่เจอก็คิดถึง" ผายังคงกดจมูกลงไปทั่วใบหน้าเขาอยู่อย่างนั้น จะเบี่ยงหลบยังไงก็ไม่รอดพ้นจมูกซุกซนนี่สักที

"ฮื่อ หายคิดถึงได้แล่ว" น้ำจับหน้าผาเอาไว้ ยู่ปากใส่อย่างงอนๆ เลยโดนจุ๊บปากไปหนึ่งที ทำเอาหน้าที่แดงอยู่แล้วแดงขึ้นไปอีกจนลามไปถึงหู ...ภาพตรงหน้ามันน่ารักเสียจนผาอดใจไม่ไหวแล้ว...

"...หิว" ร่างสูงว่าออกมานิ่งๆ มองคนในอ้อมแขนไม่วางตา...หมั่นเขี้ยวชะมัด

"หิวก็ปล่อยน้ำซี่~ น้ำจะได้ไปทำอะไรให้กินไง"

"...หิว ฟอดด!" โดนหอมไปอีกหนึ่งที

"ถ้าพี่ผาไม่ปล่อยก็หิวอยู่แบบนี้นี่แหละ"

"...หิวน้ำ"

"ก็กำลัง..." น้ำหมุนตัวออกจากอ้อมกอดไป แต่ยังไม่ทันได้เดินไปไหน ตาสวยเบิกกว้างอย่างตกใจ

คำพูดสองแง่สองง่ามที่ทำให้คนฟังถึงกับหน้าแดงซ่าน เพราะไม่รู้ว่าอีกคนหิวน้ำที่เป็นน้ำจริงๆหรือว่าหิว...เขากันแน่

...งื้อออ~คิดอะไรของเรากันละเนี่ย ลามกชะมัดเลย

"กำลังอะไรคะ หื้ม" ผาดึงรั้งเอวอีกคนที่ยืนตัวแข็งทื่อให้ขยับเข้าใกล้เหมือนเดิม แถมยังกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมคลาย

สายตาเจ้าเล่ห์พราวระยับ ทำให้คนถูกมองขนลุกซู่...ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากคนในอ้อมกอด ทำให้ผาย่ามใจยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกจนเกือบหมด...ก่อนจะแหวกมันออกเผยให้เห็นลำคอขาวระหงส์ที่วันนี้มีสร้อยคอสีเงินวิบวับประดับอยู่ ไหปลาร้าวางพาดเฉียงขึ้น หัวไหล่มนขาวเนียนสะอาด ผิวเนียนละเอียดอย่างลูกผู้ดี จนหน้าฝากรอยเอาไว้ปกปิดผิวเนียนนี่ไม่ให้ใครเห็นนอกจากเขา...หรือใครที่มันกล้ามอง คนพวกนั้นจะได้รู้...ว่าผิวเนียนนี้มีเจ้าของแล้ว ซึ่งมันก็คือ...เขา

คนขี้เขินที่แทบทรุดลงไปกองเพราะสายตาอันเร่าร้อนนั้นที่จ้องมองมา ซุกตัวตัวเข้าหาอกแกร่งเพื่อหลบจากสายตาที่ส่งมานั่น...โดนจ้องแบบนี้ด้วยสายตาที่แสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจนแบบนี้...เขาทำอะไรไม่ถูกแล้ว แม้แต่เรี่ยวแรงจะปฏิเสธ ยกมือปิดสายตานั่นก็ยังทำไมได้เลย...ไม่ดีเลย ไม่ดีต่อใจเอาเสียเลย

"หิวน้ำจังเลย..." เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างหู พร้อมกับขบเม้มลงมาเบาๆ เล่นทำเอาขนอ่อนลูกซู่ไปทั้งตัว...เขาเลือกที่จะไม่ตอบอะไร เพราะไม่รู้จะตอบอะไร...ใจมันเต้นแรงเสียจนแทบจะกระดอนออกมานอกอกอยู่รอมร่อ ความเขินที่พวยพุ่งอย่างต่อเนื่องนั้นจะให้เขาตอบว่าอย่างไร...

"คอแห้งหมดแล้ว...จะให้พี่กินน้ำได้รึยังคะ" เสียงนุ่มทุ้มกระเส่า กระซิบบอกันอยู่ข้างหู ร่างสูงกอดโยกตัวน้ำไปมาๆ คล้ายจะกล่อมให้อีกคนคล้อยตามกับสิ่งที่เขาเอ่ยขอ...มือหนาลูบไล้อยู่ที่ก้นสวยก่อนที่จะเลื่อนขึ้นสูงหายเข้าไปในเสื้อเชิ้ต สัมผัสกับผิวนิ่มมือ คนตัวเล็กสะดุ้งน้อยๆ เวลาที่ผาเริ่มบีบเคล้นก้นกลม อีกมือก็ยังทำหน้าที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนลื่น...คนตัวเล็กที่ถูกชักพาอารมณ์เริ่มหายใจถี่กระชั้นมากขึ้น เริ่มไม่อยู่สุก มือสวยกำเสื้อเขาไว้แน่น

"อยากกินใจจะขาดแล้วน้า..."

"ฮื่ออ~ ก็มัวแต่พูดง่ะ ไม่กินสักทีเล่า" พูดจบก็ฟาดบักเข้าที่อกแกร่งเต็มๆมือ คำพูดติดจะงอนๆและเอาแต่ใจอยู่ในทีนั่นผารู้ดีว่าอีกคนพูดกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองก็เท่านั้นแหละ

"หึๆ โอเค งั้นจะกินละนะ จะกินให้หมดเลย" ผาไม่รอช้า ช้อนร่างบางขึ้นแนบอกพาเดินเข้าไปยังห้องนอน วางลงบนเตียงนุ่มอย่างเบามือ บรรจงถอดอาภรณ์ทั้งหลายอย่างใจเย็น จนคนตัวเล็กเหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย ส่วนเขาเหลือเพียงกางเกงแสล็คสีดำปกปิดส่วนตึงแน่นเอาไว้...

...ตั้งแต่น้ำย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ จนตอนนี้มันปาไปสองอาทิตย์แล้วเขายังไม่ได้ทำรักกับแฟนตัวเล็กนี่เลยสักครั้ง ...เขาเองก็งานยุ่งกว่าจะกลับห้องบางครั้งก็ดึกมาแล้ว น้ำเองก็เรียนหนัก...เพราะฉะนั้นวันนี้ผาเองก็ไม่อยากพิรี้พิไรอะไรให้มันมากความนัก...เขาอยากกินจะแย่อยู่แล้ว


เขามองสำรวจเนื้อตัวไปทั่วก่อนจะก้มลงไปตลัดลิ้นรัวใส่เจ้าเม็ดเล็กที่แข็งเป็นชูชันรอท่าเขาอยู่ที่แผ่นอกเนียนขาว...
"อ๊าา...ฮึก อ่ะ" เสียงครางเสนาะหูดังแว่วมาเวลาที่เข้าละเลงลิ้นลงไปและขบเม้มมันเบาๆ

"ชอบมั้ยคะ"

จ๊วบ

"อื้ออ พะ พี่ผา ...อ่าา" เสียงตอบรับอันน่าฟังนั้นเป็นคำตอบที่น่าพอใจมากแล้วสำหรับผา

เขาเลื่อนตัวลงต่ำ ลากลิ้นร้อนขบเม้มดูดึงไปทั่วแผ่นท้องเนียนเรียบ สองมือแกร่งก็บีบเคล้นตามลงติดๆ... จนมาถึงแอ่งสะดือบุ๋มน่ารัก เขากดจูบลงไปแผ่วเบาจนเสียงหวานหลุดครางออกมาอย่างเสียวซ่าน...สองมือเรียวสอดประสานเส้นผมของเขาจิกทึ้งบ้างเพื่อระบายอารมณ์

ผาหยุดมองแก่นกายสีสวยที่ตอนนี้มีน้ำปริ่มออกมา เขาช้อนตามองคนตัวเล็กที่กำลังกัดริมฝีปากมองเขาอยู่ ก่อนจะตวัดลิ้นเลียชิมน้ำสีขาวขุ่นนั่น ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงจัดแต่ก็ยังไม่ยอมผละสายตาหลบเข้าไปไหน

ผาเป็นส่ายผละสายตาออกมา มองไปยังส่วนสวยก่อนที่จะเคลื่อนริมฝีปากไปครอบครงมันเอาไว้

"อ๊าา ยะอย่า ฮื่ออ"
เสียงร้องห้ามปรามที่ดูจะขัดกับแรงกดที่หัวเขา

ผาออกแรงดูดและรูดรั้งแก่นกายสวยช้าๆ  จากนั้นก็เร่งจังหวะให้เร็วมากยิ่งขึ้น เพียงไม่นานร่างบอบบางก็กระตุกเกร็งพร้อมกับปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มโพรงปาก เขากลืนมันลงไปบางส่วน และปล่อยออกมาเล็กน้อยชโลมไปจนทั่วส่วนแข็งขืนเพื่อใช้แทนสารล่อลื่น...

ผาเลื่อนตัวไปประกบปาก มอบจูบดูดดื่มให้กับคนตัวเล็กที่นอนหายใจหอบถี่อยู่

"ของเมียอร่อย"

"บ้า มันสกปรกนะ แฮ่กๆ"

"ก็อย่างที่บอก...ของเมียอร่อย" ยังไม่ทันที่น้ำจะนอนฟังให้จบประโยคดี ร่างเขาก็ลอยหวือขึ้นมานั่งทับส่วนแข็งขืนเสียแล้ว

ร่างสูงเอนหลังพิงหัวเตียงเอาไว้ใช้มือทั้งสองข้างลูบไล้สะโพกเนียนเล่นไปมา หน้าเหวอๆของน้ำเป็นอะไรที่น่าหมั่นเขี้ยวสำหรับผามาก จึงโน้มคอลงมาปล้นจูบไปเสียยกใหญ่

"ทำไม..." หลังจากผละออกมาแล้วคนตัวเล็กก็เอ่ยถามอย่างสงสัยว่าทำไมถึงให้เขานั่งแบบนี้...

"พี่อยากเห็นเมีย on top"

"แต่น้ำ ทะ ทำไมเป็น อื้ออ.." คนตัวเล็กอ้อมแอ้มตอบด้วยความขวยเขิน สองแขนโอบรอบลำคอแกร่งแน่นเมื่อนิ้วแกร่งกำลังสะกิดเบาๆอยู่ที่ตุ่มไตสีอ่อนทั้งสองข้างอย่างหยอกล้อ

"เดี๋ยวสอน... ยกตัวขึ้น แบบนี้" ผาพูดพร้อมกับเอามือประคองสะโพกเนียนให้ยกขึ้น

"แล้วจับมัน ไปไว้ตรงนี้..." ร่างสูงจับมือข้างหนึ่งของคนตัวเล็กไปยังส่วนแข็งขืน มือนิ่มกอบกุมส่วนร้อนนั่นไว้ ก่อนจะจับมันไปไว้ตรงช่องทางรักของตัวเอง

"ค่อยๆทิ้งตัวลงมา อ่าาห์...แบบนั้น"

"อ๊าา...ฮ่าห์" คนตัวเล็กโอบรอบลำคอแกร่งไว้เช่นเดิมก่อนจะค่อยทิ้งตัวลงมาตามที่ผาบอก...เขาเป็นคนคุมเอง ถึงไม่เจ็บเท่าครั้งก่อนแต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี...อดยอมรับไม่ได้ว่าการได้เป็นคนควบคุมเองแบบนี้ ก็รู้สึกดีไม่น้อย

"อ่าห์ เก่งมากค่ะที่รัก...เจ็บมั้ย" ผากดจูบย้ำๆไปที่ริมฝีปากบวมเจ่ออย่างให้รางวัลคนเก่ง

"มะ ไม่เท่าไหร่ครับ อ๊าา" และในที่สุด ส่วนแข็งขืนนั้นก็เข้าไปจนมิด...ผนังด้านในตอดถี่รัวเล่นเอาผาแทบคลั่ง อยากกระแทกสวนเข้าไปเต็มที่...แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะวันนี้เขาอยากดูความเร่าร้อนของคนตัวเล็กนี่

"ขยับเลยมั้ย" คนตัวเล็กไม่ตอบแต่ค่อยยกสะโพกขึ้นจนเกือบหลุดก่อนจะทิ้งตัวลงมา

"อึก ลึก อ๊า..." จากช้าๆแปลเปลี่ยนเป็นจังหวะที่เร็วมากขึ้น สองมือเรียวค้ำพยุงตัวอยู่บนหน้าอกเขา หน้าสวยเชิดขึ้นส่งเสียครางกระเส่าออกมาไม่หยุด...เซ็กซี่เป็นบ้า

"ที่รักเก่งมาก อ่าห์...เยี่ยม" คำชมจากผาคล้ายกับสารกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้อารมณ์พลุ่งพล่าน...มือเรียวข้างหนึ่งกอบกุมส่วนอ่อนไหวก่อนจะเริ่มทำการชักรูดให้ตัวเอง...มันเป็นภาพที่ทำเอาคนมองกักเก็บอารมณ์ดิบภายในตัวเอาไว้ไม่อยู่...และเขาจะไม่ทน

ผาล็อคสะโพกมนเอาไว้ให้ลอยเด่น ก่อนจะสวนกระแทกเข้าไปรัวๆ ช้อนจับใต้ข้อพับขาทั้งสองข้างให้อ้ากว้างมากขึ้น...จนเห็นถึงอะไรต่อมิอะไรที่มันส่งผลอย่างแรงกับอารมณ์ดิบขิงเขา..เสียงครางที่เริ่มจะแหบแห้งมีให้ได้ยินตลอดไม่ขาดสาย...

"อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ...อื้อ มะ ไม่ไหว น้ำไม่ไหว ฮืออลึกไป" ผนังด้านในขมิบรัดถี่รัวจนทำเอาเขาแทบเสร็จ... ผาหยุดชะงักค้างกลางคัน ทำเอาคนด้านบนถึงกับต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างทรมานในกายระคนสงสัย แต่ก็สงสัยได้ไม่นานนัก...

ผาจับให้คนด้านบนหันหลังมาทางตัวเอง...ส่วนนั้นยังเชื่อมติดกันอยู่ มันหมุนคงเสียจนคนตัวเล็กคนลุกซู่เพราะความเสียว

ผาดึงเขาลงไปให้นอนลงไปจนแผ่นหลังแนบชิดกับอกแกร่ง ผามอบจูบอันดูดดื่มให้ะร้อมกับที่กระแทกตัวสวนขึ้นมา

"อ๊ะ อ๊ะ พะ พี่ผา..."

"อ่าห์...ว่าไงคะ" ผาถามพร้อมกับกดจูบที่ใบหูเล็ก เอวสอบยังกระแทกกระทั้นเข้าไปไม่หยุด

"สะ...สะ เสียว อ๊ะ อ้ะ" ผาที่ได้ฟังคำตอบก็ยกยิ้มกริ่มอย่างพอใจ...ทำไมน่ารัก อย่างนี้ต้องให้รางวัล

ผากระแทกตัวสวนเข้าไปถี่กระชั้นเสียจนคนที่ทอดกายอยู่บนตัวเขาสั่นคลอนไปมาตามแรงกระทั้น

"อ๊ะ มะ ไม่ไหวแล้ว อื้ออ" เสียงแหบครางกระเส่าบอกออกมาอย่างนั้น เอวสอบที่เคยทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมก็หยุดลง

คนตัวเล็กหันหน้ามามองคิ้วขมวดเพราะขัดใจ เขาจูบให้หนึ่งทีก่อนที่จะค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งทำให้คนตัวเล็กนั่งอยู่บนตักเขา เขาดันให้คนตัวเล็กโน้มตัวลงไปเล็กน้อย ใช้มือค้ำยันไว้กับเตียง...เอวสอบกลับมาทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง จากเชื่องช้าแต่หนักหน่วงแปลเปลี่ยนเป็นรัวเร็ว ถี่กระชั้น

ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย ความสุขสมจ่อใกล้เข้ามามาเรื่อยๆจนแทบขาดใจ

"ดีมั้ยคะ อ่าา...ชอบรึเปล่า" เขาถามพร้อมกับขยับเปลี่ยนท่าอีกครั้งเป็นด็อกกี้สไตล์...เขาเคลื่อนไหวเอวสอบอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง ก้มลงขบเม้มไปทั่วหลังเนียนขาว ช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นมาแนบอก จับใบหน้าที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ให้มองตรงไปยังปลายเตียงที่มีภาพของพวกเขาสะท้อนอยู่กับกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง...ทันทีที่เห็นใบหน้าสวยก็ขึ้นสีแดงจัดจนลามลงมาถึงลำคอขาว สงสัยคงต้องโมห้องใหม่ ติดกระจกให้รอบ

...ใบหน้าสวยเหยเก คิ้วสวยขมวดแน่นคล้ายกับถูกขัดใจอยู่ในที...ถึงแม้จะอยากแกล้ง แต่ถ้าแกล้งไปก็เหมือนกับทรมานตัวเองไปด้วย

เอวสอบเคลื่อนที่เร็วขึ้น ถี่ขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วทั้งห้องอย่างน่าอาย...แต่มันกลับเร้าอารมณ์คนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี...เอวสอบเสือกไสไม่นานนัก ความสุขสมก็พุ่งทะยานขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ร่างกายทั้งสองกระตุกเกร็งพร้อมกับปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นจนเต็มช่องทางด้านหลังและพื้นเตียง

คนตัวเล็กปล่อยตัวให้นอนราบไปกับเตียงอย่างหมดแรง โดยที่ร่างสูงทาบทับไปติดๆกัน...ผาถอดแกนกายออกจนเกิดเสียงอันน่าอาย น้ำสะดุ้งเฮือกกับความว่างเปล่าของช่องทางด้านหลัง...น้ำสีขาวขุ่นไหลตามออกมาจนเลอะขาวเรียวทั้งสองข้าง

"ที่รักเซ็กซี่มากเลย..."

"แฮ่ก ไม่ต้องมาพูดเลย แฮ่กๆ พี่ผาบ้า"

"ไม่งอนน้า มา...พี่พาไปอาบน้ำ จะได้มานอนกันเนอะ" ร่างสูงพูดจบก็ช้อนตัวอุ้มขึ้นมาแนบอก ก้มจูบหน้าผากมนไปหนึ่งทีแล้วพาเดินเข้าไปห้องน้ำ เสร็จภาระกิจในห้องน้ำที่ทำแค่อาบน้ำเฉยๆ เพราะพรุ่งนี้คนตัวเล็กมีเรียนเช้า
ร่างสูงแต่งตัวเสร็จก็มาจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ ก่อนจะพากันมาทิ้งตัวลงที่เตียงภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน




"ยังไม่นอนหรอ หื้ม" ผาเห็นคนในอ้อมกอดยังนอนมองเขาตาแจ๋ว

"ยังครับ"

"ไม่เหนื่อยหรอ ต่อได้นะ จะได้หลับฝันดี" ร่างสูงยิ้มกริ่มก่อนจะพลิกตัวขึ้นคร่อมอย่างไว จนคนตัวเล็กฟาดเพี๊ยะเข้าให้ที่แขน

"พี่เจ็บนะเนี่ย" ผาลูบแขนตัวเองป้อยๆ แล้วกลับมาทิ้งตัวลงนอนที่เดิม พร้อมกับดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแนบอก

"ก็ลากมก" ร่างสูงขำออกมากับหน้ามุ่ยๆนั่นอย่างเอ็นดู...เมื่อก่อนน่ารักยังไงเดี๋ยวนี้ก็น่ารักอย่างนั้น

"แล้วทำไมยังไม่หลับอีก หื้ม"

"วันนี้...เป็นยังไงบ้างครับ" คนตัวเล็กเงยหน้าถาม

วันนี้...ที่คนตัวเล็กหมายถึงไม่ใช่เรื่องงาน เรื่องเรียน แต่หมายถึงเรื่องการนัดดูตัว...กับลูกสาวนักธุรกิจที่ผู้เป็นแม่ของเขาจัดหามาให้

"ก็เหมือนที่ผ่านมา...พี่บอกเขา ว่าพี่มีแฟนแล้ว เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร"

"เธอไม่โวยวายเอาหรอครับ"

"ไม่นะ เธอเข้าใจ...แล้วเธอก็ไม่ได้ถูกใจอะไรพี่ด้วย" คนตัวเล็กพยักหน้ารับช้าๆก่อนจะเงียบไป

ผ่านมาสองอาทิตย์ตั้งแต่คนตัวเล็กย้ายเข้ามาอยู่หลังสอบมิเทอมเสร็จ เขาก็เริ่มถูกผู้เป็นแม่นัดลูกสาวบ้านนู้นบ้านนี้ให้ และทุกคนที่ผ่านมาเขาก็คุยกันด้วยความจริงใจและเปิดเผย...เขาบอกทุกคนอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเขานั้นมีคนรักอยู่แล้ว  พวกเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา ไม่ได้โวยวายอย่างที่นึกกังวล...ทุกคนที่ผ่านมา มันผ่านไปได้ด้วยดี และเขาก็ภาวนาให้หลังจากนี้มันผ่านไปได้ด้วยดีอีกเช่นกัน

เขาไม่อยากให้คนที่เขาแคร์ต้องเสียความรู้สึกเพราะเขา...และคนที่เขาแคร์ก็เข้าใจเขา ดูแลเขาเป็นอย่างดี...คนที่เขาแคร์มั่นใจในตัวเขาแล้ว เขาก็จะไม่ทำให้น้ำต้องเสียความมั่นใจนั้นไปเด็ดขาด...

"ยังเชื่อกันอยู่รึเปล่า..."

"ครับ...น้ำเชื่อ" น้ำตอบพร้อมกับวาดแขนกอดเอวสอบ

"ขอบคุณครับ" เขาจูบหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาแล้วกระชับกอดตอบคนในอ้อมแขน

"น้ำง่วงแล้วง่า" น้ำพูดออกมาเสียงงู่งี่ มือไม้ขยี้ตาหนุบหนับไปหมด จนผาต้องจับมือเอาไว้ไม่ให้คนตัวเล็กขยี้ตาอีก

"ง่วงก็นอนค่ะ ...อย่าขยี้เดี๋ยวตาช้ำหมด"

"อื้ม...คิสๆ" ผาก้มลงมองใบหน้าสวยที่แหงนคอขึ้นมาอย่างแปลกใจปนขำ...ง่วงแล้วจะงอแงขี้อ้อนกว่าปกติเป็นสิบเท่า จนเขาอยากจะให้เป็นแบบนี้ตลอดเวลาจริงๆ

"หึๆ กู๊ดไนท์คิสค่ะคนดี"


จุ๊บ~
ผาก้มลงไปจุ๊บปากบวมเจ่อหนึ่งทีก่อนจะผละตัวออกไปปิดไฟแล้วกลับมานอนที่เดิม

ฟอดดด!

"รักนะคะคนดี"

"...เหมือน กัน ค่ะ..." เสียงที่เปล่งออกมามันแผ่วเบาจนคล้ายกับว่ารำพึงรำพันกับตัวเองเสียมากกว่า...แต่ไม่ว่ามันจะแผ่วเบายังไง เขาก็ได้ยินมันชัดเจนอยู่ดี..

...เหมือนกันนี่ คือรักเหมือนกันใช่รึเปล่า? แค่คิดใจมันก็เต้นรัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้...ถึงจะอยากฟังมันแค่ไหนว่าอีกคนรู้สึกเหมือนกันรึเปล่า แต่ก็ไม่อยากถาม...อยากได้ยินเพราะว่าอีกฝ่ายอยากบอกเอง...ความรู้สึกของการถูกบอกรักจากคนที่เรารัก มันจะรู้สึกดีแค่ไหนกันนะ...






100%
...To Be Continued...





ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โอ้ยยย อยากมีโมเม้นท์ แฟน คะ ขา แบบนี้บ้างจัง
ฮิตนะ รู้ไหม!!!

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ่านแล้ว  ก็หิวน้ำเหมือนกันเลย  :pighaun:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
กำลังพยายาม  ตามอ่านอยู่นะน้องน้ำน่ารักมากเลย  :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
พ่อแม่จะมารับน้ำเมื่อไหร่น้า

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Episode 23




'ที่รัก ติวหนังสือใกล้เสร็จรึยัง' เสียงจากปลายสายที่โทรเข้ามาเมื่อครู่ดังขึ้นมาทันทีหลังจากกดรับสาย สรรพนามที่ใช้เรียกนั้นทำเอาน้ำหน้าแดงซ่านขึ้นมา...แต่ก็ต้องสะกดกลั้นความเขินเอาไว้

"เหลืออีกวิชาเดียวก็เสร็จแล้ว พี่ผาจะมารับน้ำหรอ"

'ใช่ค่ะ ไม่ไว้ใจใครให้มาส่งหรอก' คนที่ถือสายอยู่ถึงกับกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ คำพูดที่แสนจะขี้หวงนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยๆพองโตอยู่เรื่อยไป...ไหนจะคำคะ ขานั่นอีก บอกให้หยุดพูดได้แล้วก็ไม่ฟัง...พูดทีไรเขาก็รู้สึกว่าอากาศมันจะร้อนๆขึ้นมายังไงทุกที

"คร้าบๆ งั้นสี่ทุ่มครึ่งเจอกันครับ" ปลายสายรับคำก่อนจะคุยกันอีกสองสามประโยคแล้ววางสายไป น้ำก็กลับเข้ามาติวต่อ ทำเป็นไม่สนใจสายตากรุ้มกริ่มพร้อมแซวของเพื่อนเขาทั้งสามคน

ตอนนี้เขาสี่คนมาหมกตัวอยู่ในห้องสมุดของคณะ เพราะตอนนี้มันคือมหกรรมสอบไฟนอลแล้ว ซึ่งมันก็หนักหนาเอาการอยู่เหมือนกันและพรุ่งนี้มันคือการสอบสองตัวแรกของตารางไฟนอล และเขาก็คงไม่อยากให้คะแนนออกมาไม่ดีด้วย จึงต้องคร่ำเคร่งอ่านๆจดๆกันอยู่อย่างนี้...ได้แต่บอกกับตัวเองว่าทนอีกหน่อยเดี๋ยวก็จะได้พักแล้ว

เวลาสี่ทุ่มกว่าทุกคนในโต๊ะปิดหนังสือลงก่อนจะค่อยๆฟุบหน้าลงบนหนังสือเล่มหนาอย่างเหนื่อยอ่อน

"ใช้พลังงานเยอะจังวะ" เบทเป็นคนบ่นออกมาเสียงอ่อนระโหย ทำหน้าเบะเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ

"นี่แค่ปีหนึ่งเองนะ เก็บไว้บ่นตอนปีสองเถอะเบท" พราวเอ่ยมาอย่างนั้น แต่ก็ฟุบหน้าอยู่เหมือนกัน แม้แต่อิ่มเองยังดูท่าจะไม่ไหวเอาเลย น้ำมองภาพนั้นอย่างยิ้มๆ ก่อนที่บทสนทนาจะดำเนินต่อไปแรงสั่นของสมาร์ทโฟนบนโต๊ะก็ทำให้ทุกคนรวมใจเบนสายตาไปมอง มันคือของน้ำเองและหน้าจอโชว์ชื่อหลาขึ้นมาทำให้น้ำต้องรีบกดรับสาย

"ครับ"

'ให้พี่ขึ้นไปรับมั้ย หนังสือเยอะรึเปล่า'

"ไม่เยอะครับ วันนี้น้ำยืมแค่สองเล่ม" เมื่อสองสามวันก่อน เขายืมหนังสือกลับไปอ่านห้าถึงหกเล่ม แต่ละเล่มใหญ่ๆหนาๆทั้งนั้นจนเขาขนไปไม่หมด จนต้องโทรให้ผาขึ้นมาช่วยถือลงไป อย่าถามถึงเพื่อนสามคนของเขาเลย...มีสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

ปลายสายตอบรับก่อนจะวางสายไป น้ำเก็บของใส่กระเป๋า อีกสามคนนั้นเก็บเสร็จตั้งแต่เขาคุยโทรศัพท์แล้ว

"ไปกันเลย หิวๆ หิวไส้จะขาดแล้ว" เบทว่าออกมาก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นเป็นคนแรก พากันเดินไปกับพราว เขากับอิ่มเดินตามไปกันทีหลัง มองสองคนนั้นตีกันอย่างขำๆ เห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงโจ้กับธามขึ้นมา...สองคนนั้น อยู่ด้วยกันทีไร ก็มีเรื่องตีกันตลอด แต่ว่าพักนี้เขาไม่เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเลย มาหาน้ำที่คอนโดก็มักจะมาแยะกันโจ้มาอีกวัน ธามมาอีกวัน หรือบางทีมาวันเดียวกันแต่มาไม่พร้อมกัน...อยู่ด้วยกันความอึดอัดเล็กๆก็แผ่กระจายไปทั่ว จนบางทีน้ำเองก็ยังอึดอัดแทน...

"น้ำกลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้" น้ำหันกลับไปโบกมือให้กับทั้งสามคนที่เดินมาส่งตนที่รถขอผาจอด ทั้งสามคนโบกมือให้เขา เบทกับพราวเดินนำออกไปก่อนแล้ว แต่อิ่มกลับเดินตามเขามาตรงไปหาผาที่เปิดกระจกรออยู่ พี่ผาส่งยิ้มให้ น้ำเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกันก่อนที่เขาจะเดินอ้อมเปิดประตูขึ้นไปนั่งที่ประจำ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผาเลื่อนปิดกระจกและอิ่มเดินออกไปแล้ว...ทั้งสองคนคุยกันแบบนี้บ่อยครั้งเวลาที่ผามารับน้ำ น้ำสงสัยจนเลิกสงสัยไปแล้วว่าทั้งสองคนคุยเรื่องอะไรกัน

"เหนื่อยมั้ยคะวันนี้" พอรถออกมาได้สักพัก ผาก็เอ่ยถามพร้อมกับจับมือของน้ำไปกุมไว้บนตัก...ผามักจะทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาขับรถแรกๆน้ำก็เขินอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรจนตอนนี้ก็เริ่มชินแล้ว และก็...ชอบมากด้วย

"ไม่เท่าไหร่ครับ...แต่ตอนนี้น้ำหิวมากกว่า หิวมากๆด้วย" เสียงบ่นงุ้งงิ้งๆ หน้ายู่ๆของน้ำทำเอาผายิ้มขำออกมาด้วยความเอ็นดูยกมือเรียวที่ประสานกันไว้ขึ้นมาจูบอย่างหวงแหน

"โอเค งั้นเดี๋ยวไปหาอะไรกินกันก่อนเนอะ"

"น้ำอยากกินฝีมือพี่ผาง่ะ" น้ำว่าออกมาหน้ามุ่ย เพราะตัวเองไม่อยากกินอะไรที่มันสิ้นเปลือง ไม่ใช่เปลืองเงินของเขาเอง แต่น้ำกลัวว่ามันจะเปลืองเงินผาเปล่าๆ กินข้างนอกทีไรผาก็ควักกระเป๋าจ่ายให้ตลอด...และน้ำไม่ได้รู้สึกดีสักนิดที่จะต้องให้ผามาคอยจ่ายให้แบบนั้น

"ขี้อ้อนจังเลยน้า เดี๋ยวนี้" ผาว่าออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ในใจพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...ผาชอบเวลาที่น้ำง่วงเพราะว่าน้ำมักจะขี้อ้อน พูดงุ้งงิ้งๆ แต่เวลานี้ไม่ใช่ น้ำไม่ได้ง่วง...แต่น้ำกลับอ้อนเขา

"มะ ไม่อ้อน...ก็ได้ครับ" น้ำตอบออกมาเช่นนั้นแล้วเงียบไป ...ตัวน้ำเองก็ลืมตัวไป...เขาวางใจใคร หรือสนิทใจกับใคร น้ำก็มักจะเผยนิสัยขี้อ้อนของตัวเองออกมา แม่ดา โจ้และธามจะรู้นิสัยข้อนี้ดี แต่กับผา อาจจะรำคาญนิสัยแบบนี้ของเขาก็ได้

หากความรำคาญนั้นมันสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนวันนึงผาทนไม่ไหวแล้วเลือกไปจากเขา...เขาคงไม่โทษใครเลยนอกจากตัวเขาเองที่ทำตัวน่ารำคาญ ตอนเด็กๆเขามักจะอ้อนแม่ดาบ่อยๆจนโจ้กับธามก็บอกว่ามันน่ารำคาญ...คนตัวเล็กอดคิดไม่ได้เลยว่านิสัยแบบนี้จะทำให้อีกคนรำคาญเอาได้


น้ำนั่งเงียบขบคิดอะไรมาตลอดทั้งทางหลังจากนั้นจนถึงคอนโด เขาวางหนังสือลงบนโต๊ะตัวเล็กหน้าโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าครัวไปกะว่าจะไปทำอะไรง่ายๆกินให้อยู่ท้องไปก่อน...เขาอยากให้ผาทำให้กินก็จริง แต่ในความคิดบอกว่าคงไม่ดีหากจะเพิ่มภาระให้กับผาอีก
ผาที่จับสังเกตอาการของน้ำที่นิ่งไปได้้ตั้งแต่ที่อยู่บนรถ ทีแรกผาคิดว่าน้ำคงเหนื่อย คงเพลียมาก เลยเงียบไป...แต่พอเข้าห้องมาก็ยังเงียบอยู่ มันผิดปกติเกินไปจนเขาเองใจคอไม่ดีกลัวว่าจะทำอะไรหรือพูดอะไรไปให้คนตัวเล็กของเขาคิดมาก เขาจึงเดินคนตัวเล็กเข้าไปในครัวก่อนจะสวมกอดน้ำเอาไว้จาทางด้านหลังในขณะที่น้ำกำลังยืนล้างผักอยู่

"เป็นอะไรไป หื้ม" ผากดจูบลงบนกลุ่มผมนิ่ม ก่อนจะเอาคางมาเกยไหล่มนไว้

"เปล่าครับ"

"ที่รักกำลังไม่โอเค"

"...พี่ผาหิวมั้ยครับ น้ำจะได้ทำเผื่อ" คนตัวเล็กพูดเปลี่ยนเรื่องไป...

"บอกพี่ก่อนสิ...คิดอะไรอยู่ หื้ม" ผายังคงถาม อยากให้คุยกันตรงๆ เขาอยากรู้อยากแก้ไข...ถ้าเขาผิดเขาอยากขอโทษเขาไม่อยากให้คนตัวเล็กเงียบเฉยๆไปแบบนี้

"น้ำจะทำไข่เจียวหมูสับ..."

"น้ำ..." ผาเริ่มกดเสียงต่ำลงเพราะคนตัวเล็กยังคงเผลี่ยนเรื่องทำเหมือนกับว่าไม่ได้ฟังสิ่งที่เขาถามเลยแม้แต่น้อย

"ครับ...มีต้มจืดเต้าหู้ไข่ด้วย"

"ทำแบบนี้...ไม่น่ารักเลย" น้ำเสียงคล้ายจะตัดพ้ออยู่ในทีพร้อมกับอ้อมแขนที่คลายออกทำเอาผักที่ล้างน้ำอยู่ล่วงลงไป ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับถูกสต๊าฟเอาไว้ หัวใจดวงน้อยปวดหนึบขึ้นมา

...ไม่น่ารักงั้นหรอ...


"อ่า...งะ งั้นเดี๋ยวผม ไปอาบน้ำก่อนนะครับ" น้ำเอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอย ดวงตากลมสวยแดงกล่ำ นั่นทำให้ผารู้ทันทีว่าทำผิดเข้าให้เสียแล้ว...เขาไม่ได้ตั้งใจจะว่าน้องแบบนั้น แต่เขาแค่อยากให้คนตัวเล็กฟังเขาบ้าง บอกเขาบ้างก็เท่านั้น

น้ำกำลังจะหมุนตัวออกไปแต่ผาคว้าเอามากอดแนบอกเสียก่อน

"ไม่ๆ คนดี พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น...คนดีฟังพี่ก่อน" น้ำพยายามดิ้นออกไปจากอ้อมแขนแต่ผากลับรัดแน่นยิ่งกว่าเดิมจนน้ำหยุดดิ้นไป

น้ำไม่พูดอะไรออกมาปล่อยให้ผายืนกอดอยู่เช่นนั้น ซึมซับความอบอุ่นที่แผ่นซ่านออกมา...เขางี่เง่าอีกแล้ว ทำไมพักนี้ทำตัวไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

"น้ำขอโทษ...น้ำงี่เง่าอีกแล้ว" น้ำถอนหายใจออกอย่างเหนื่อยใจกับตัวเอง ก่อนจะค่อยๆหันหน้าไปผาเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่น ซบหน้าลงกับแผงอกแข็งแกร่ง

"พี่ก็ขอโทษที่พูดแบบนั้น...แต่น้ำไม่สนใจคำถามพี่เลย เอาแต่เปลี่ยนเรื่อง..." น้ำเสียงตัดพ้อในท้ายประโยคนั่นทำเอาน้ำอยากทึ้งหัวตัวเองที่ทำอะไรไร้สาระ

"น้ำขอโทษ..." น้ำบอกเสียงอู้อี้

"ไม่เป็นไร...แล้วจะบอกพี่ได้รึยังว่าเป็นอะไร หื้ม"

"น้ำแค่...กลัวพี่ผารำคาญ"

"เรื่องอะไรคะ" น้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับจูบแผ่วที่กลุ่มผมนุ่ม ทำเอาใบหน้าคนตัวเล็กร้อนวูบ ใบหูแดงก่ำ

"ก็...เรื่องที่น้ำพูดบนรถ" ผาได้ฟังก็นึกตามคำพูดของคนตัวเล็กไปถึงเรื่องที่เราพูดกันบนรถ...และมันก็คงมีเรื่องเดียว

"..."

"น้ำกลัวพี่ผารำคาญ"

"ใครจะรำคาญ...ไม่รู้หรอว่าพี่อยากให้เมียพี่อ้อนบ่อยๆ น่ารักจะตาย" ใช่จะตาย...เขานี่แหละจะตายอยู่แล้ว...บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะเขินอะไรกันนักกันหนา..แต่พอผาพูดแบบนี้ก็ข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมถึงเขินเอาๆ

"อ้อนพี่บ่อยๆนะรู้มั้ย" น้ำเสียงที่เปล่งออกมาอย่างอ่อนโยนแบบนี้ก็ทำให้เขาร้อนวาบไปทั้งตัวทุกครั้งไป

ผาคลายอ้อมกอดออกแล้ว ก่อนจะมองหน้าน้ำพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้งกริ่ม ว่ากันตามจริงถ้าน้ำเป็นขี้อ้อน อ้อนขอนู่นขอนี่ ทรัพย์สมบัติคงหายเกลี้ยงเป็นแน่

"ไม่อาว...ปล่อยน้ำได้แล่ว น้ำหิว" ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะแต่ใบหูแดงแจ๋นั่นก็ปิดไม่มิดหรอกว่ากำลังเขินอยู่

"หึๆ งั้นไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวค่อยออกมากิน" ผาดันหลังให้น้ำเดินเข้าห้องไปเพื่ออาบน้ำ

"น้ำขอทำให้เสร็จก่อนไม่ได้หรอ เพิ่งแค่ล้างผักเอง" น้ำว่าออกมาก่อนจะหันหน้าเข้าครัวแต่ก็โดนผาดักไว้ก่อน

"ไปอาบน้ำ...เดี๋ยวพี่ทำให้กินเอง"

"จริงง่ะ" น้ำถามออกมายิ้มๆ ดวงตาเป็นประกายอย่างดีใจ...ไม่ใช่ดีใจเพราะว่าเขาไม่ต้องลงมือทำเองแต่ดีใจเพราะว่าเขาจะได้ทานอาหารฝีมือของผาต่างหาก

"จริงสิคะ กินกับข้าวฝีมือพี่ทุกวันไม่เบื่อบ้างหรอ หื้ม" พักนี้เขาลงมือทำกับข้าวเอง เพราะไม่อยากให้น้ำเหนื่อยเพิ่ม แค่เรียนก็เหนื่อยพออยู่แล้ว...ถึงตัวเขาเองจะเหนื่อยเหมือนกันก็เถอะ แต่เวลาเห็นคนที่เรารักมีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้ ความเหนื่อยที่สะสมตลอดทั้งวันก็หายไปในพริบตา

"ไม่เบื่อ น้ำชอบ..." รอยยิ้มสดใสที่ออกมาอย่างจริงใจทำให้คนมองอยู่ต้องคลี่ยิ้มตาม

"งั้นไปอาบน้ำไป จะได้ออกมากินข้าว...ต้องอ่านหนังสือต่ออีกไม่ใช่หรอคะ" ผาพูดจบก็ก้มลงหอมแก้มนิ่มไปหนึ่งที

"ช่าย...แต่กินข้าวก่อนไม่ได้หรอ"

"ไม่ได้ เหม็นแล้วเนี่ย" ผาก้มลงหอมแก้มอีก ก่อนจะย่นจมูกบอกว่าเหม็น น้ำดึงเสื้อออกมาก่อนจะก้มลงไปดม

"เหม็นจริงง่ะ งั้นน้ำไปอาบน้ำก่อน" พูดจบก็หมุนตัวเข้าห้องไปอาบน้ำทันที...จริงๆก็ไม่เหม็นหรอก...หอมมากด้วยซ้ำไป

ผากลับหลังเดินเข้าไปในส่วนของครัวเพื่อทำกับข้าวต่อจากน้ำที่ทำค้างไว้แค่ล้างผัก

น้ำอาบน้ำเสร็จแล้ว เดินเช็ดผมออกมาจากห้องมองไปยังส่วนของครัวที่มีร่างสูงกำลังทำกับข้าวอยู่อย่างคล่องแคล่ว น้ำเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อมองภาพนั้นให้ชัดเจนว่ามันไม่ใช่ความฝัน...มันเกินกว่าที่เขาฝันเอาไว้เสียอีก

เขาเป็นแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งพ่อหรือแม่ ทั้งฐานะ และชาติตระกูล...ไม่มีอะไรสักอย่างที่คู่ควร แต่ผาก็ยังเลือกที่จะรักเขา...ผาสมารถเจอคนที่ดีกว่าน้ำอีกเยอะ อย่างเช่นที่แม่ของผากำลังทำ แต่ผาก็ยังให้ความชัดเจนกับเขาเสมอมา กลับเป็นเขาเองที่มานั่งกังวลและไม่มั่นใจตลอดเวลา ว่าจริงๆแล้วมันควรจะเป็นแบบนี้จริงหรือ...ถึงจะขบคิดเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา รู้ทั้งรู้ว่าจะเดินไปด้วยกันตลอดไม่ได้...แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเป็นคนเห็นแก่ตัว เลือกเอาความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้งเพราะความรู้สึกข้างในมันเอ่อล้นออกมาเกินกว่าจะหันหลังหนี...แต่หนทางที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดมันก็ช่างยากเหลือเกิน...มีแค่ความรักมันไม่พอจริงๆ

...เขาขอเวลามีความสุขแบบนี้อีกสักนิด ขอตักตวงมันเก็บไว้อีกสักหน่อย...เมื่อเขาทำใจได้แล้ว เขาสัญญา ว่าจะเป็นน้ำผู้เจียมตัว แล้วเดินจากไปเอง...

"มายืนทำอะไรตรงนี้...ผมเผ้าก็ไม่เช็ดให้แห้ง หิวมากเลยหรอ หื้ม" ผาเดินออกมาจากครัวหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดบ่าเขาเช็ดหัวให้อย่างเบามือ ทำให้น้ำออกจากความคิดแล้วมองคนตรงหน้าแทน...

"อย่าจ้องกันสิ" ผาโวยออกมาอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนที่พรุ่งนี้จะไม่มีแรงไปสอบ...คนตัวเล็กเลิกจ้องเขาก็จริง แต่กลับขยับเข้ามาซบอกเขาแทน สองแขนเรียวโอบรอบเอวสอบไว้หลวมๆ ลมหายใจที่เป่ารดอยู่ที่อก กลิ่นแชมพูอ่อนๆทำเอาร้อนรุ่มไปทั่วทั้งกาย...แต่เขาก็ต้องสะกัดสกลั้นมันเอาไว้ เตือนสติตัวเองว่าทำไม่ได้...เพราะพรุ่งนี้น้องต้องไปสอบ

"...ใจเต้นแรงจัง" คนตัวเล็กพูดเสียงอู้อี้อยู่กับอก พลางหันหน้าเอาหูแนบไปกับอกเขา

"ก็ดูเราทำสิ จะไม่ให้ใจพี่เต้นแรงได้ไง"




[มีต่อจ้าา]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2018 21:02:23 โดย มายซินนี่ »

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0




"ใจเต้นแรงกับน้ำด้วยหรอ" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาถามเขาตาโต

"ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ..." ผาบอกยิ้มๆ ยิ่งทำให้คนตัวเล็กตาโตอ้าปากค้างเข้าไปใหญ่

"จริงหรอ...ตอนไหนง่ะ"
"ไม่ บอก"
"บอกน้ำหน่อยไม่ได้หรอ" หน้าอ้อนๆถูกส่งมาพร้อมกับพูดที่ไม่ได้ต่างกันนัก มันน่ารักเสียจนต้องก้มลงไปดูดริมฝีปากอิ่มหนักๆหนึ่งทีด้วยความหมั่นเขี้ยว...

จุ๊บ!

"ไม่ ได้ ครับ" ผาตอบก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กให้เดินเข้าไปนั่งทานข้าว แต่คนตัวเล็กก็ร้องออกมาอย่างนึกอะไรได้ก่อนจะกระโดดมายืนขวางอยู่ตรงหน้าเขา

"อ้ะ! ใช่ตอนที่เจอกันที่ตลาดรึเปล่าครับ"

"หึๆ ไม่ใช่"

"หงึ แล้วตอนไหนอ่า บอกหน่อยน้า~" น้ำจับแขนเขาเขย่าไปมา หน้ามุ่ยๆอ้อนๆ น่าจับฟัดเสียจริง...ผามองภาพนั้นด้วย่อยยิ้มขำ นี่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่สำหรับเขาที่คนตัวเล็กอ้อนเขาถึงขนาดนี้...

"ไปกินข้าวก่อนไป...คุณหมออะไรไม่ดูแลตัวเองเลย" หาจับให้น้ำหันหน้าเข้าครัวก่อนจะดันหลังให้เดินไปที่โต๊ะจับนั่งประจำที่ให้เสร็จสรรพ น้ำจึงต้องจำยอมนั่งกินข้าวไปแต่โดยดี ปัดเรื่องนี้ทิ้งไปเพราะคิดเอาเองในใจว่าผาคงแกล้งตนเล่นก็เท่านั้น และอีกอย่าง ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่ารออยู่...นั่นก็คือการสอบ

เขารีบกินข้าว เก็บจานชามให้เรียบร้อยแล้วก็รีบมานั่งอ่านหนังสือต่อ เขาอยากจะทบทวนอีกสักรอบสองรอบเพื่อความมั่นใจ ดีที่ตารางสอบของเขาเริ่มสอบตอนสิบโมงเช้าเลยไม่ต้องรีบนอนเท่าไหร่

"พี่จะไปอาบน้ำแล้วนะ ให้พี่เปิดเพลงไว้ให้มั้ย"

"ครับ" เขาเงยหน้าขึ้นไปส่งยิ้มให้ผาที่กำลังสารวนอยู่กับเครื่องเสียงตรงหน้า รอแค่พักเดียวเสียงเพลงสากลก็ดังขึ้นมา

เขาชอบฟังเพลงเวลาที่ต้องทำอะไรใช้สมาธิมากๆ

ผาเดินละมาหาน้องก่อนจะก้มลงหอมหัวหนึ่งทีแล้วเดินเข้าห้องไป เพื่อไปเตรียมตัวซ้อมในส่วนการสอบของตัวเองบ้าง การสอบของเขามันนอกตารางแล้วแต่อาจารย์จะนัดเพราะตอนนี้เขาปีสี่แล้วและเขาก็ฝึกงานอยู่เรื่องสอบที่ว่าคือการพรีเซ็นต์ในเรื่องการฝึกงานของตัวเองและก็ส่งโปรเจคด้วย




เวลาผ่านไปจนตีหนึ่งกว่า ผาหันกลับไปมองที่เตียงที่ตอนนี้มันยังไร้ร่างของอีกคนที่สมควรจะมาเข้านอนได้แล้ว เขาลุกขึ้นเก็บเอกสารทั้งหมดเข้าที่แล้วค่อยๆเปิดประตูออกไปดู เห็นคนตัวเล็กกอดแขนตัวเองไว้ฟุบหน้าลงกับกองหนังสือ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหรกัน...

ผาลองเขย่าเรียกน้ำหลายครั้งแต่คนขี้เซาก็ไม่ยอมตื่น เขาจึงตัดสินใจอุ้มอีกคนขึ้นแนบอกแล้วเดินเข้าห้องไป วางร่างเล็กลงบนเตียง ห่มผ้าให้จนถึงอก...เสียงฮึมฮัมในลำคอดังออกมาให้ได้ยินพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเป็นปมอย่างคนโดนขัดใจ ผามองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มขำ ก่อนจะเดินออกไปปิดไฟปิดแอร์ข้างนอกให้เรียบร้อยแล้วเข้ามานอนข้างๆน้อง

เหมือนน้ำจะตัวรู้ว่าอยากจะดึงตัวเข้ามากอด พอเขาเอนตัวลงนอนน้ำก็พลิกตัวหันหน้ากลับมาหาเขาทันที คงเพราะความบังเอิญมากว่าความตั้งใจเพราะคนตัวเล็กหลับสนิท...แต่เขาไม่สนใจหรอก เขาอยากกอด คิดได้แบบนั้นก็รีบดึงตัวคนตัวเล็กมาแนบอกตนไว้อย่างเช่นทุกคืน

"รักนะคะ..." ผาเอ่ยคำๆเดิมที่พร่ำบอกกับคนในอ้อมกอดเช่นทุกคืน...ถึงแม้บางค่ำคืนคนตัวเล็กอาจจะไม่รับรู้ถึงมัน...อย่างเช่นคืนนี้ก็ตาม

ผาเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงแล้วหลับตาลง


ผ่านไปเพียงครู่หนึ่งหลังจากที่ลมหายใจร่างสูงเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ คนในอ้อมกอดก็ลืมตาขึ้นมา มองหน้าคมเข้มผ่านความมืดไป...น้ำรู้สึกตัวตั้งแต่ที่ผาอุ้มเขาแล้ว แต่ไม่กล้าแสดงตัวว่าตื่นแล้ว...กลัวโดนบ่น ก็เลยแกล้งหลับมาตลอด ที่พลิกตัวกลับมานั่นก็เป็นความตั้งใจของเขาเองที่อยากกอดผา แต่ใจก็ไม่กล้าพอจะเป็นฝ่ายกอดก่อน

น้ำมองคนตรงหน้าอย่างเต็มตา เก็บเกี่ยวทุกความสุข ทุกความอบอุ่นจากอ้อมกอดให้ลึกลงไปในใจ...เผื่อวันใดวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้หายไป...เขาจะได้ไม่รู้สึกโหยหามันอีก

"น้ำขอให้พี่อยู่เป็นความสุขของน้ำอีกสักนิดนะครับ...อีกไม่นาน พี่ผาจะได้มีความสุขแบบที่พี่ควรจะมี...รักพี่ผานะครับ" เสียงสั่นเครือและแผ่วเบาในตอนท้ายประโยคที่มาพร้อมกับน้ำสีใสที่ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวย...น้ำเช็ดมันออกไปช้าๆ ขยับเข้าไปชิดแนบอกอุ่นมากขึ้นกว่าเดิม แล้วหลับตาลง...ปล่อยวางทุกอย่างก่อนจะเข้าสู่นิทราที่แสนหวาน



...หากจะขอพรสักข้อหนึ่ง เขาขอได้มั้ย...ขอให้ความเป็นจริงเหล่านี้เป็นเพียงความฝันที่แสนเศร้า ให้ความฝันเหล่านี้กลายมาเป็นความจริงที่แสนสุข คงไม่ได้สินะ...ความจริงก็คือความจริง และความจริงเหล่านั้นมันชัดเจนและแสนเจ็บปวด...ต้องอยู่กับมัน ต้องอยู่กับความเจ็บปวดนั้นให้ได้ แม้มันจะไม่มีวันสิ้นสุดเลยก็ตาม...









talk

มาแล้วววว~ มาช้า แต่มานะ ฮื่อออ ขอโทษเน้อที่ให้คนอ่านรอกันนานเป็นชาติเศษ เปิดเทอมมาคนเขียนก็เจอศึกหนักจริงๆ :sad4: จัดการตารางชีวิตตัวเองยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ เลยเลื่อนลงมาตลอด สัญญาว่าจะไม่ทิ้ง ถ้ายังมีคนรออ่านอยู่

ปล.ไม่ดราม่า จัดให้แค่พอกรุบกริบๆ นิยายเรื่องนี้อย่าคิดเยอะ มันไม่มีอะไรเล๊ยยย เป็นที่อยากจะเขียนแบบหลบๆซ่อนๆ ซับซ้อนๆบ้าง แต่ไม่ได้อ่ะ เฉลยหมด คนชอบลุ้นหักมุมนี่ไม่ต้องหวังเพราะจะผิดหวัง555555555

ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ




ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไม่เอามาม่านะสงสารน้ำ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้ำเอย ลูก ทำไมหนูหวังความสุขในชีวิตน้อยจังเลยลูก อยู่กับมันให้เยอะกว่านี้นะลูก แล้วชีวิตหนูจะดีขึ้นเอง  :กอด1:

ออฟไลน์ มายซินนี่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0


Episode 24





"เลิกอ่านได้แล้ว" 

"ขออีกนิดไม่ได้หรอครับน้ำยังไม่ค่อยมั่นใจเลย"

"อ่านบนรถมันเสียสายตา แล้วเดี๋ยวก็เวียนหัวอีก" 

"ง่ะ แต่ตอนนี้ติดไฟแดงองแล้วนี่นา"

"ขี้เถียง" ผาว่าออกมาเช่นนั้นแต่ใบหน้ากลับมีแต่รอยยิ้มสุขใจ เขายื่นมือไปขยี้ผมนุ่มก่อนจะหันมาสนใจถนนตรงหน้าอีกครั้งเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว

ช่วงสอบไฟนอลสำหรับคนตัวเล็กผ่านไปสองวันแล้วและนี่คือวันที่สาม แต่วันนี้คือวันสอบไฟนอลวันแรกของเขา ทุกวันจะแค่ปลุกแล้วมาส่ง พอสอบเสร็จก็มารับ



ใช้เวลาบนท้องถนนไม่นานนักรถออดี้คันสวยก็เลี้ยวเขามายังมหาลัย ตรงไปที่คณะแพทย์เพื่อไปส่งคนตัวเล็กข้างตัว

"ถึงแล้ว" ผาปลดเข้มขัดออก เอี้ยวตัวยื่นหน้าไปใกล้ๆ คนที่เอาแต่ก้มหน้าอ่านแลคเชอร์ในมือ

"งั้นน้ำไปก่อนนะครับ..." คนตัวเล็กเก็บของใส่กระเป๋าแต่ยังไม่ทันได้ลง

"คิสก่อน" น้ำทำหน้าตาเลิกลัก มองไปข้างนอกมีแต่นักศึกษาเดินเต็มไปหมด...ไม่เอาด้วยหรอก

"ไม่มีใครเห็นหรอก...เร็ว"

"มะ ไม่เอา..." ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยคริมฝีปากร้อนก็ฉกวูบลงมาปิดปากเขาไว้เสียแล้ว เขาหลับตาปี๋เพราะไม่อยากมองออกไปนอกรถว่ามีใครเห็นเขาบ้าง...จากที่เกร็งตัวแข็งในคราแรก น้ำก็ค่อยๆอ่อนลงตามแรงอารมณ์ที่นำพายนอยู่ ความอบอุ่นความหวานละมุนทำเอาความกังวลต่างๆนาๆปลิวหายไปจนหมเงด เหลือไว้เพียงเสียงชื้นแฉะให้ได้ยิน



น้ำเริ่มหายใจไม่ทันจึงทุบอกประท้วงเบาๆ ผาจึงค่อยๆผละออกอย่างแสนเสียดาย ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงเรื่อไม่เคยจะห้ามใจไม่ให้หอมแก้มนิ่มนี่ได้เลยสักครั้งเดียว ปากอิ่มบวมเจ่อนี่ก็เหมือนกัน...ทำให้เขาเสียนิสัยไม่รู้จักพอสักที

"พะ พอแล้วครับ เดี๋ยวเข้าห้องสอบสาย" น้ำเห็นท่าไม่ดีจากสายตาที่หิวกระหายนั่นจึงรีบออกปากห้ามทันที เก็บของเสร็จก็เปิดประตูรถลงไปอย่างไว และผาเองก็เปิดประตูตามเขาลงมาด้วเช่นกัน...ทำให้เป็นเป้าสายตาทันทีเมื่อผาเดินเข้ามาหาเขามีเสียงกรี๊ดกร๊าดดังแว่วมาจนเขาอยากจะวิ่งหนีเข้าไปหลบในมุมตึกเสีสตอนนี้



"คุณหมอขี้ลืมแบบนี้จะไปสอบได้ไงคะ" เสียงกรี๊ดกร๊าดดังแว่วมาให้ได้ยินอีกละลอกหลังจากที่ผาพูดเช่นนั้นกับเขา ...ผาไม่ได้มีทีท่าสนใจอะไร ยื่นกระเป๋าดินสอขนาดย่อมมาตรงหน้า น้ำเก้ๆกังๆไม่กล้ายื่นมือไปรับ เหลือบมองคนรอบตัวอย่างอายๆ เพราะสายตาที่มองมา...มองทั้งตัวเองและมองผา

เขาไม่ยอมยื่นมือไปรับผาเลยเอื้อมหยิบกระเป๋าเขาไปแล้วจัดการเก็บใส่กระเป๋าให้เขาเรียบร้อย...รอยยิ้มหล่อส่งมาให้เขาไม่ขาดสายจนใจเขาจะขาดอยู่รอมร่อ แล้วคนก็มีแต่คนมองผาเต็มไปหมด...ไม่รู้จะลงมาให้คนมองทำไมกัน

"คะ คนมองเยอะเลยครับ" น้ำก้มหน้าจนคางแทบชิดอก ผาเงยหน้ามองคนรอบข้าง แล้วก็พบว่ามีสายตาจำนวนมากกำลังมองมาที่น้ำและเขา ส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำนั่นแหละ...แต่ท่าทางที่อยากจะไปให้พ้นจากตรงนี้เต็มที่คืออะไรกันๆ คิ้วขมวดแน่นอย่างไม่ชอบใจ...อายที่เขามาส่งอย่างนั้นหรือ? ผาคิดในใจพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาจนใจมันรู้สึกเจ็บร้าวไปหมด

"น้ำไม่โอเคหรอ" น้ำเสียงเจือความตัดพ้อน้อยใจเรียกความสนใจจากน้ำได้เป็นอย่างดี...

"อื้ม" รอยยิ้มที่เคยมีให้กันหายไป มีเพียงแววตาผิดหวังและเสียใจ...เขาตอบอะไรผิด

"โอเค...ถ้าน้ำไม่สบายใจที่พี่มาส่งก็ไม่เป็นไร งั้นตอนเย็นเอาที่น้ำสะดวกก็ได้เดี๋ยวพี่ไปรับ" ผาหันหลังกำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถแต่น้ำรั้งแขนร่างสูงเอาไว้ก่อนเพราะว่าผากำลังเข้าใจตนผิด...

"มีอะไร น้ำต้องไปสอบนะ เหลืออีกแค่สี่สิบนาทีเอง เดี๋ยวไม่ทัน" น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยออกมาคล้ายกับไม่ได้เป็นอะไรพร้อมกับค่อยๆบิดแขนออกแบบไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป...ไม่ได้นึกน้อยใจกับการปฏิเสธนี้เลย แต่น้ำกลับเข้าใจดีว่าผากำลังไม่โอเคเหมือนกัน



"พี่ผากำลังไม่โอเคใช่มั้ย"

"ก็...นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย" ผายักไหล่ไม่สนใจ คำคะขาที่เคยใช้จนน้ำชอบที่จะให้ผาใช้แบบนั้นกับตนก็หายไป

"น้ำไปสอบได้แล้ว...พี่ไปก่อนนะ" ผาส่งยิ้มให้น้ำก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัย ไวเท่าความคิด...น้ำเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับที่เดิมของตัวเองอย่างรวดเร็วจนผาเองก็ตกใจไม่น้อย



"เข้ามาทำไม หื้ม" ผาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ใจเขากลับปวดแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

"ก็พี่ผาไม่โอเค...พี่ผากำลังเข้าใจผิด" น้ำว่าออกมาก่อนจะทิ้งตัวลงพิงเบาะ

"พี่เข้าใจอะไรผิด...พี่รู้ว่าน้ำอายที่พี่พูดแบบนั้น พี่เลิกพูดแล้วนี่ไง ไม่ต้องห่วงเนอะ" น้ำทำหน้ายุ่ง

"อายที่คบกับพี่ขนาดนั้นเลยหรอ" ผาถามออกมาพร้อมกับเบือนหน้าออกไปมองนอกรถ ไม่อยากฟังคำตอบ...

"ไปกันใหญ่แล้วครับ...น้ำไม่ได้อายใครเลย น้ำก็เขินของน้ำปกติ"

"และที่ขมวดคิ้วไม่พอใจนั่นล่ะ จะให้พี่คิดว่าไง" ผาขึ้นเสียงถามนิดหน่อย จนน้ำเองขมวดคิ้วใส่ กอดอกอย่างไม่ชอบใจ

"ไม่พอใจพี่ผานั่นแหละ! จะลงจากรถไปให้คนอื่นเขามองทำมันเล่า! ชิ!" ประโยคเอาแต่ใจที่พูดออกมามันไม่ได้ทำให้ผานึกโกรธหรือไม่พอใจแต่อย่างใด มันกลับทำให้ใจเขาพองโตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความเจ็บแปลบที่อกที่เขาสร้างมันขึ้นมาเองเมื่อสักครู่มันหายเป็นปลิดทิ้ง เขายิ้มออกมาอย่างโล่งใจก่อนจะดึงอีกคนเข้ามากอด น้ำดันอกเขาน้อยๆ

"ไม่ต้องมากอดเลยนะ" น้ำเสียงติดจะไม่พอใจแต่มันช่างขัดกับใบหูแดงแจ๋นี่เหลือเกิน

"หึงพี่หรอ" ผาผละออกมามองหน้าน้ำก่อนจะถามออกมายิ้มๆ

"ไม่ต้องพูดเลย น้ำจะไปสอบแล่ว" น้ำหยิบนู่นจับนี่ดูวุ่นวายไปหมด ที่ทำนี่กลบเกลื่อนความเขินชัดๆ

"ฮ่าๆ พี่ดีใจนะรู้มั้ย" ผาขำออกมาก่อนจะดึงน้ำเข้าไปก่อนอีกที

"ไม่พูด...แบบนั้นแล้วหรอครับ" น้ำอ้อมแอ้มถาม...ถึงมันจะเขินเวลาที่ผาพูดก็เถอะ...แต่มันก็ชอบด้วยเหมือนกัน

"ชอบให้พูดหรอคะ" ผาถาม คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักอยู่ตรงอก

"ไปสอบแล่ว เดี๋ยวไม่ทัน" น้ำผละออกมาหยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่



จุ๊บ!

ผายื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มนิ่มไวๆหนึ่งที

"ตั้งใจสอบนะคะ เสร็จแล้วโทรหาเดี๋ยวมารับ"

"ครับ...เดี๋ยวน้ำโทรหา" น้ำบอกแค่นั้นพร้อมรอยยิ้มหวาน เปิดประตูลงจากรถไป เขายืนโบกมือบ๊ายบายให้ผา แต่ไม่แน่ใจว่าอีกคนที่อยู่ในรถนั้นจะเห็นรึเปล่า จนกระทั่งผาลดกระจกลงมาโบกมือให้เขาเช่นกัน แว่นกันแดดแบรนด์ดังที่อีกคนหยิบมาสวมไว้พร้อมกับรอยยิ้มที่ชวนหลงใหลทำให้น้ำรู้สึกหัวใจจะวายซะเดี๋ยวนั้น...น้ำหันหลังแล้วรีบเดินเข้าตึกไปไม่หันกลับมามองอีกคนเลย ...ผามองคนตัวเล็กเดินไปด้วย ท่าทางเขินๆจนเดินหายลับเข้าไปใต้ถุนตึก ...ผากำลังจะกดกระจกขึ้น แต่สายตาดันเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนมองเขาอยู่ไม่ไกล...ไอ้ใหม่



...ทั้งสองคนมองกันไปมาอยู่อย่างนั้น เป็นใหม่เองที่ก้าวขาเดินเข้ามาหา ผากดปิดกระจกแต่ยังคงไม่ออกรถไปไหน จนกระทั่งอีกฝ่ายเดินมาถึงตัวรถเปิดประตูขึ้นมานั่งข้างกัน ผาจึงออกรถเพื่อไปยังคณะตัวเอง 

...ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรต่อกัน จนกระทั่งรถจอดลงตรงหน้าคาเฟ่ของคณะวิศวะซึ่งเป็นร้านประจำของกลุ่มเขา...ทั้งกลุ่ม ยกเว้นหนึ่งคนที่ไม่ได้มีความทรงจำร่วมกันตลอดสามปี





ผาและใหม่ลงจากรถและเดินเข้าร้านไป ปกติที่นี่จะเต็มไปด้วยหนุ่มวิศวะที่มานั่งมองสาวกันแต่ตอนนี้คนบางตาไปเพราะอยู่ในช่วงสอบ

ผาเดินเข้าทักทายพี่เจ้าของร้านเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปยังโต๊ะประจำที่ตอนนี้มี พุ่ม วัช ว่านและดินนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

"ไงมาด้วยกันได้วะ" พุ่มทักขึ้นมาพร้อมกับขยับที่ให้ทั้งสองได้นั่งก่อน

"ก็ กูไปส่งน้ำมา เลยเจอมัน" ผาว่าออกมาก่อนจะหยิบน้ำของใครสักคนบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม ทั้งโต๊ะเอ่ยเสียงแซวผากันยกใหญ่ ยกเว้น...

"ทำไมมึงต้องไปส่งน้ำด้วยวะ" ดินถามออกมาเสียงขรึม ทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบ เบนสายตามองไปทางดิน...สีหน้าแววตาไม่ได้มีความคลางแคลงสงสัยเหมือนกับคำพูด แต่มันดูเหมือน...ไม่พอใจ

"มึงคงยังไม่รู้ เพราะวันๆนึงมาถึงก็เรียนเลิกเรียนก็เข้าบริษัท มึงก็เลยไม่รู้ว่าไอ้ผามันมีแฟนแล้ว" วัชว่ายิ้มๆ พร้อมกับตบบ่าของผาหนักๆสองสามที

"และเกี่ยวไรกับน้ำ" สีหน้าของดินยิ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ

"ก็มันกับน้องคบกัน" พุ่มเสริมขึ้นมาอีกคน

"มึงเหมือนมีปัญหานะดิน" ผาโพล่งออปมาเพราะจับความรู้สึกบางอย่างในคำพูดนั้นได้แต่...ไม่แน่ใจ

"ถ้ามีแล้วจะทำไม"

"กูเพิ่งรู้ว่ามึงชอบแย่งของเพื่อน"

"กูไม่ได้ชอบแย่ง...แต่ถ้ากูจะแย่ง ก็ไม่ใช่ปัญหาของใคร"

"ปัญหากับกูนี่ไง"

"จริงจังหรอวะ" ดินเผยยิ้มหยัน ทำเอาคนที่เหลือมองหน้ากันไปมา อย่างนึกกังวล ทั้งสองคนนั่งมองกันไปมา ถ้าหากเป็นการ์ตูนคงมีกระแสไฟฟ้าแล่นแปลบๆออกมาจากตาทั้งคู่เป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครคิดจะห้าม...เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าสองคนนี้ไม่มีทางลงมือกันอย่างแน่นนอน

"แล้วมึงจะมาเสือกเพื่อ? สนใจ?"

"ก็...ประมาณนั้น" ดินเบ้ปากยักไหล่ นั่นทำให้ผารู้สึกว่าหัวจะร้อนหน่อยๆ

"อยากได้ก็มาเอาไป" ผาก็ทำท่าทางเช่นเดียวกัน

"มึงไม่เอาแล้ว?"

"ก็ไม่เชิง...ถ้ามึงเข้ามาแล้วน้องเขาไปหามึงกูก็ไม่ว่า" ...เขาคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าหากวันหนึ่ง มีคนอื่นเข้ามาหาน้ำ...แล้วน้ำเลือกที่จะไปจากเขา ถึงเขาจะรัก...แต่ก็คงจะไม่รั้ง เพราะนั่นถือว่าเขาเต็มใจจะไป...

"ไม่โกรธกู?"

"ไม่ล่ะ กูต้องขอบใจมึงมากกว่าที่มาทำให้กูกับน้องรักกันมากขึ้น หรือไม่...กูอาจจะตาสว่าง" ความจริงจังทั้งในน้ำเสียงและสายตาที่ส่งมา ดินรับรู้มันได้ดีว่าเพื่อนเขาคนนี้รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ...

...ถึงมึงจะเป็นเสือสิ้นลายและรักน้องเขาไปแล้วก็เถอะ...กูปล่อยให้มึงง่ายๆไม่ได้หรอก หึ...



"ตีกันพอยัง" ว่านโพร่งออกมากลางวงสงครามประสาทขนาดย่อม ทำเอาคนที่เหลือถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่มีคนยุติมันสักที

"เออเถียงกันจนลืมประเด็นสำคัญไปเลยไอ้พวกห่า" ...ทั้งกลุ่มเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งราวกับไม่มีใครอยากจะพูดเรื่องนี้ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องหลักๆที่นัดกันมาในวันนี้

"พวกมึงเรียกกูมา เพื่อที่จะเงียบใส่กูเนี่ยนะ" และในที่สุด ใหม่ก็เป็นคนทนอยู่ในความเงียบนั้นไม่ไหว โพร่งออกมาอย่างหัวเสีย

"กูไม่ได้จะเงียบใส่ กูแค่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง" ดินเป็นคนพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดูค่อนข้างจะลำบากใจ ทุกคนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

"ก็เริ่มตรงสาเหตุที่มึงนัดกูมาดิวะ"

"มึงเจอกับ 'มัน' มั่งรึยัง" ทุกคนทำท่าจะเงียบลงไปอีก ผาจึงทำหน้าที่เป็นคนเปิดเรื่องเสียเอง

"เจอแล้ว"

"มึงโอเคปะวะ" พุ่มถาม

"ทำไมกูต้องไม่โอเค"

"ก็มึงกับมัน..."

"ในเมื่อมันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นและตัวมันเองก็ไม่ได้สนใจ...กูจำเป็นจะต้องสนใจมันด้วยหรอวะ" ใหม่พูดออกมาอยากไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เจอกันก็หลายครั้ง แต่ทุกครั้งทำเหมือนไม่รู้จักกัน แม้แต่ความเป็นเพื่อนสักนิดจะหลงเหลือให้กันก็ไม่มี...

"กูว่าไม่ใช่มันไม่อยากสนใจมึงหรอกไอ้ใหม่"

"มึงเป็นมันรึไงวะไอ้วัช ถึงได้รู้ความคิดมันอ่ะ...กูเจอกับตัวเองกูรู้ดี สามปีที่ผ่านมามันก็พอแล้ว...แม้แต่ความเป็นเพื่อนมันยังไม่หลงเหลือไว้ให้กูเลยด้วยซ้ำ" ใหม่ว่าออกมาเสียงสั่นเครือ แววตาคมแดงก่ำ ดินตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจเพราะรู้ดีว่าลึกๆแล้วใหม่เป็นคนเซนซิทีฟ...คนอื่นๆก็รู้ข้อดีเหมือนกัน

"มันไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นหรอก เชื่อกูเถอะ" พุ่มยังคงพยายามพูดต่อ

"มึงก็สมควรจะบอกมันได้แล้วปะวะ" คนเงียบประจำกลุ่มโพล่งออกมาก่อนที่ใหม่จะทันได้อ้าปากตอบไป ทำให้ใหม่เปลี่ยนเป้าหมายจากพุ่มเป็นว่านแทน ก่อนจะหันมาหาดิน

"บอกอะไร"

"มันความจำเสื่อม..." เป็นผาเองที่เฉลยให้...และคำตอบที่ใหม่ได้รับรู้ ทำเอาในอกปวดหนึบไปหมด คล้ายกับถูกบีบจนแทบหายใจไม่ออก...

"ตะ ตั้งแต่ เมื่อไหร่วะ" ใหม่ยกมือขึ้นลูบหน้าของตัวเองเพื่อเรียกสติ ดวงตาแดงก่ำ...ถึงในใจจะมีคำตอบอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากได้รับการยืนยัน

"มึงก็รู้..." คำตอบจากดินยากเกินจะยอมรับ...น้ำตาสีใสหยดลงบนมือที่บีบประสานกันแน่นอย่างเงียบๆ ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง...แม้แต่เสียงกระดิ่งที่ประตูดังก็ไม่อาจเรียกความสนใจจากใหม่ไปได้



"ตลอดเวลาที่กูไปหามันที่นู่น...ทั้งพ่อแม่มันไม่เคยบอกกูเลยว่ามันเป็นอะไร กูถูกมันไล่กลับมาทุกครั้ง... กูโกรธมันที่มันทำแบบนั้นกับกู...แต่ตอนนั้นกูไม่รู้"



"มันเป็นเพราะกู... มันเป็นเพราะกูเอง กูทำลายชีวิตมัน"

"ไอ้ใหม่มึงใจเย็นๆก่อน" 

"มึงจะให้กูเย็นได้ไง มันเป็นเพราะกู มันเป็นเพราะกู!" ใหม่เริ่มสติแตก พูดออกมาเสียงดัง

"แต่มึงไม่ได้มีเจตนาให้มันเป็นแบบนั้น!" ใหม่เงียบไป เพราะที่ดินพูดออกมามันก็จริง...จริงที่ว่าเจตนาเขาไม่ได้ต้องการทำลายชีวิตของอีกคน



"ไหนมึงบอกว่ามึงไม่สนใจมันแล้วไง..." ชายเงียบประจำกลุ่มพูดขึ้นมา ไม่ได้ตะคอก หรือตะโกนเสียงดัง...แต่มันทำให้ทุกคนเงียบ และเบนสายตามายังว่าน

"..." ใหม่ไม่ตอบ ยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างกลัดกลุ้ม

"มึงโกหกใครโกหกได้ จะโกหกตัวเองมึงก็ทำได้ แต่ความรู้สึกมึง...มันไม่โกหกมึงหรอก มึงรู้ดี"

"กูไม่ได้..."

"ไม่ได้รู้สึกแล้ว? ...ตลกดี ปากบอกไม่รู้สึก แต่น้ำตาที่ไหลออกมานี่อะไร ฝุ่นเข้าตามึงงั้นสิ?" ว่านยิ้มเยาะ 

"...วันนี้แค่นี้ใช่มั้ย งั้นกูกลับแล้วนะ" ยังไม่ทันที่ใหม่จะคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายด้วยซ้ำ คำพูดจี้ใจจากว่านก็ดังขึ้นมาขัดเสียก่อน

"รู้สึกก็รู้สึกสิวะ ยอมรับมันก็ไม่ตายหรอก...เอาแต่หลบอยู่หลังคำโกหก มันดีแล้วหรอวะ"

"เออ กูรักมัน มันเป็นเพราะความปากพล่อยของกูเองที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ถ้าวันนั้นกูไม่เมามันก็คงมาอยู่ตรงนี้! ...และกูผิดนักรึไงวะที่จะเลือกโกหก เพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวดเหี้ยๆนั่นน่ะหะ!" ใหม่ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเหลืออดก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป...แต่อีกคนกลับเดินเข้ามาแทน






"กว่าจะโผล่หัวมาได้นะมึง" พุ่มทักขึ้นมาหลังจากที่อีกคนยอมโผล่ออกมาจากที่ซ่อนแล้วมานั่งตรงที่ว่าง ที่ใหม่เพิ่งจะลุกออกไป

"ก็กูมีสอบ"

"มึงมาตั้งแต่ตอนไหน"

"สักพัก" "มึงจำไอ้ใหม่ไม่ได้จริงๆหรอวะ" วัชเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย ตลอดเวลาเขานั่งเงียบมาตลอดเพราะไม่อยากเสนออะไรนัก

"...ไม่ได้" เขาส่ายหน้าช้าๆ มองออกไปข้างนอก...ที่มีร่างใหม่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาท

สามปีที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อเมริกา คนๆนี้ก็มักจะไปหาเขาทุกเดือนและทุกครั้งที่ห็นจะปวดหัวเจียนแทบจะระเบิด ร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ...เขาจำอีกคนไม่ได้จริงๆ รู้แค่เพียงว่าคนๆนี้คงมีความสำคัญกับเขามากแน่ๆ

"รู้สึกยังไง..." ชายเงียบประจำกลุ่มซึ่งวันนี้คงไม่ใช่อย่างนั้นเอ่ยถาม

"...เจ็บ อยากจะร้องไห้ตาม" เขาพูดพลางนึกถึงประโยคสุดท้ายที่คนๆนั้นพูดออกมา ก็พาลทำให้ใจปวดหนึบและอยากจะร้องไห้อย่างที่พูดซะอย่างนั้น

"คิดว่ามันสำคัญกับมึงมั้ย"

"...ก็คงงั้น" เขาตอบพร้อมกับจุดรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก

"มึงรู้ใช่มั้ย...ที่มันพูดเมื่อกี้คือมึง" ว่านยังคงถามต่อเนื่อง...เห็นทีวันนี้คงต้องเอาฉายาชายเงียบคืน

"อืม...กูรู้ กูคิดว่าก่อนหน้าที่กูจะเป็นแบบนี้...กูก็รู้สึกแบบเดียวกันกับมันนั่นแหละ" คำพูดของอีกคนทำเอาหลายคนอึ้งไปตามๆกัน สำหรับใหม่ ทุกคนใหม่กลุ่มพอดูออกว่าใหม่รู้สึกยังไง...ทุกๆการกระทำของใหม่มันบอกแบบนั้น การดูแลเอาใจใส่ที่เหมือนจะเป็นเรื่องทั่วไป แต่ใหม่ก็ใส่ใจมันทุกรายละเอียด...

บทสนทนากำลังจะดำเนินต่อไปแต่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงสมาร์ทโฟนของผา...แต่ทุกคนก็ไม่ได้สนใจอะไรและหันกลับมาคุยกันต่อ



"มึงคิดว่ามึงรักไอ้ใหม่เนี่ยนะ" ดินถามออกมาอย่างอึ้งๆ เพราะไม่รู้ดูไม่ออกเหมือนกันว่าจะรู้สึกเหมือนกันกับใหม่

"มึงจะว่าไป ถ้าดูดีๆไอ้ใหม่มันก็น่ารักนะ แต่แม่งมันห้าวไปงั้นแหละ" วัชเสริมขึ้นมา ดินนึกภาพตามก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย



ในกลุ่มเขามีแต่คนแข็งๆกันทั้งนั้น ไม่ค่อยจะมีความอ่อนโยนกันสักเท่าไหร่ จะมีก็แต่ใหม่ ที่พอจะละเอียดรอบคอบ ใส่ใจทุกรายละเอียดแบบนั้น...ถึงจะเจ้าชู้ไปหน่อยก็เถอะ สงสัยเป็นเพราะมีความอ่อนโยน เอาใจใส่ล่ะมั้งถึงได้เป็นที่ถูกตาของผู้หญิงหลายๆคน "พี่ๆสวัสดีครับ" ทุกคนหันไปตามเสียงที่เอ่ยขึ้นมา

"เออๆ หวัดดีๆ มาๆมึงนั่งก่อน" พุ่มกับวัชขยับพื้นที่ให้สมาชิกใหม่เข้ามานั่ง

"อ่าว มึงอยู่นี่ด้วยหรอ กูก็นึกว่ามึงกลับไปแล้ว" 

"เอ่อ...สวัสดีครับ" เสียงสดใสที่ดังขึ้นนั้นทำให้ดินกับผาเงยขึ้นมองอย่างไว...น้ำมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา ก่อนจะเดินไปทางผาที่กวักมือเรียกเขาอยู่ เขามองไปยังเบทที่นั่งลงอีกฝั่งที่ได้รับการต้อนรับจากเพื่อนผาอย่างเป็นกันเอง...น้ำกำลังจะหย่อนตัวลงนั่งที่ข้างผาแต่สายตาดันเห็นเข้ากับใครอีกคน ที่เขากับพราวและเบทคิดว่ากลับบ้านไปแล้ว...

"...อิ่ม"









100%

...To Be Continued...

talk

แฮร่~ มาต่อให้อย่างไว 3 วันเองมั้งรู้สึก ช่วงนี้ดาวน์เลยแต่งไวว ฮาาา

- ตอนนี้เริ่มเฉลยปมพี่ใหม่ละ เดี๋ยวเรื่องราวต่างๆกำลังคิดอยู่ว่าจะยกยอดไปในตอนพิเศษดหรือว่ารวดเดียวเลยแต่แยกเป็นพาร์ทดี?? ทุกคนลืมพี่ใหม่ไปแล้ว ตอนนี้...ค่าตัวพี่แกแพง  :z3:

- ขอบคุณทุกการแสดงความคิดเห็น มันเป็นเพราะไม่กี่ตัวอักษรของคุณที่ทำให้เรามีแรงแต่งมาได้ไวขนาดนี้ ขอให้สนุกกับการอ่านนะจ้าววว

ปล. หลังจากนี้ไป ซื้อทิชชู่ตุนไว้หน่อยก็ดีนะคะ ฮรี่ๆ




ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อิ่มต้องเจ็บหนักแน่ ๆ ถึงได้เรียนล้าหลัง 3 ปี แล้วยาเสพติดมันเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของใหม่และเพื่อน ๆ อย่างไง  :confuse:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ปมเยอะจุง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด