ตอนพิเศษ ตื๊อรักนายเย็นชา [เดย์]
หากความพยายามครั้งแรกของคุณล้มเหลว คุณจะยังพยายามทำมันต่อจนสำเร็จอีกมั๊ย
ครั้งที่สองครั้งที่สาม จะยังมีต่ออีกมั๊ย หรือคุณเลือกที่จะหยุดทุกอย่างลง เพียงเพราะความล้มเหลวจากครั้งแรก
..
.
.
ซึ่งผมคิดว่า ถ้าคุณได้ลองพยายามเป็นครั้งที่สองอาจไม่แน่ มันอาจจะสำเร็จขึ้นมาก็ได้
.
.
.
เหมือนกับคนๆหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว เพียงแต่ว่าคนคนนั้นยังไม่มีโอกาสได้ชื่มชมมันก็เท่านั้นเอง
“ คิดอะไรอยู่ว่ะ”
คนเรากว่าจะรู้ตัวว่าสิ่งนั้นมีคุณค่า เหมาะแก่การเก็บรักษาก็ต่อเมื่อได้ทำมันพังไปแล้ว
และตอนนี้เขาก็คิดว่าสิ่งนั้น ตัวเองได้ทำมันพังไปกับมือแล้วเช่นกัน
.
.
“ เชี่ยน้องมาว่ะ”
“ ฉิบหายละ”ความรู้สึกในตอนนั้นก็เหมือนกับเพื่อนของเขาสบถออกไปนั่นแหละ มันเหมือนกับมีมรสุมใหญ่ตรงหน้าที่พร้อมกวาดทุกสิ่งทุก
อย่างให้หายไป และสุดท้ายก็หายไป
หายไปพร้อมกับหัวใจของเขา พร้อมกับมรสุมลูกนั้น
.
.
.
“ ไอ้เดย์แม่งเงียบ”
“ ก็ปกติของมันปะว่ะ”
“ปกติห่าไร เงียบแบบนี้กูรู้สึกเหมือนมีพายุจะเข้าเลย ”
“ น้องอุ่นก็หายไปเลยว่ะ โทรไปหาก็ไม่รับ ไลน์ไปหาก็ไม่อ่าน”
“ ตอนนี้น้องจะเป็นยังไงบ้างว่ะ”
สองเพื่อนซี้คู่ดูโอ้ต่างพูดรับมุขกันเพื่อหวังจะเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนตัวเอง แล้วมันก็สำเร็จเพราะไอ้เพื่อนที่กำลังทำหน้าเคร่งขรึม
กับกองหนังสือนั่นกำลังหูผึ่งเมื่อได้ยินชื่อน้องอุ่น ไทอยากจะจะตบหัวมันมากเพราะมัวแต่เย็นชาใส่น้องแบบนี้ไง แล้วเป็นไงล่ะ
น้องดันเข้าใจผิดคิดว่ามันกับผู้หญิงที่มาหาในวันนั้นเป็นแฟนกันแหงมๆ ถึงได้หายหน้าหายตาไปนานซะขนาดนี้ อันที่จริงผู้หญิง
ที่มาหามันวันนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็ญาติมันเองนั่นแหละ น้องยาหยี แต่ที่ไทต้องโทรไปบอกให้อุ่นไม่ต้องมาก็เพราะยาหยี
เธอเป็นสาววาย กลัวว่าน้องมาแล้วจะตกใจเอา ดังนั้นเขาเลือกที่จะโหกน้องไปแบบนั้น แต่ไม่นึกว่าน้องจะมาเห็นฉากนั้นพอดี
ซวยกันไปตามระเบียบแบบไม่พักเลย
แล้วไอ้หนังสือที่มันกำลังถืออยู่ในมือเนี๊ยะใช่ว่ามันจะอ่านซะเมื่อไหร่ เป็นไงล่ะมึง เล่นตัวดีนัก สมน้ำหน้า นี่ขนาดนั่งด่าอยู่ในใจ
มันยังไม่คิดจะไปง้อน้องอีก ดี เพราะไอ้ไทคนนี้นี่แหละจะขุดมึงไปง้อน้องให้จงได้
“ คิดถึงน้องว่ะ”
“ จริง เด็กอะไรไม่รู้โคตรสดใส”
มาร์คแอบขำเมื่อเห็นเพื่อนปิดหน้าหนังสือลง หันไปสะกิดยิกๆส่งซิกกับไท เพื่อให้เติมไฟให้มากกว่านี้อีกหน่อย เพราะอยากจะ
เห็นหน้าไอ้เพื่อนหน้านิ่งของตัวเองมันทำหน้าอื่นบ้าง
โดยเฉพาะหน้าเหมือนลูกหมาที่โดนเจ้าของทิ้ง
ก็แหม ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าไอ้ที่ทำหน้านิ่งๆเนี๊ยะ แม่งก็แอบหวั่นไหวไปกับเขานั่นแหละ เพียงแต่มันฟอร์มเยอะ ขี้เก๊กมากไปไง
สุดท้ายแล้วก็โดนน้องทิ้ง โอ๊ยยย อยากจะสม น้ำ หน้าแล้วหัวเราะเยาะเย้ยซะให้เข็ด
“ มึงว่าน้องจะตัดใจจากไอ้เดย์ได้ยังว่ะ”
“ โอ๊ย ถ้าเป็นกูน่ะ กูตัดใจตั้งแต่วันนั้นแล้ว”
“ เออจริง เพราะไม่งั้นแล้วน้องมันก็ต้องมาวอแวกับมันแล้ว” เรื่องทับถมคนไว้ใจมาร์คกับไทได้เลย ยิ่งเป็นไอ้เดย์ยิ่งชอบ เพราะ
มันไม่ค่อยจะมีเรื่องให้ทับถมสักเท่าไหร่ ได้ทีขอเล่นใหญ่หน่อยละกัน
“ ใช่ไง แต่นี่เงียบมาก”
ไทอยากจะบันทึกสีหน้าของไอ้เดย์ซะตอนนี้จริงๆเล๊ย แม่งเอ๊ยอย่างกับลูกหมาโดนเจ้าของทิ้งจริงๆด้วย อย่างขำ แต่ขำไม่ได้ไง
เดี๋ยวมันจะรู้ ขอคีพลุกทำหน้านิ่ง ตีไข่ใส่พริกใส่ผงชูรสให้กลมกล่อมก่อน
“เอาไงดี ไปหาน้องไหม”
“ เป็นความคิดที่ดี กูบวก”
“ งั้นไปกันเลย”
“ เดี๋ยว พวกมึงจะไปไหน” มาร์คกับไทแอบแท็กมือกันอย่างเงียบๆใต้โต๊ะ กลั้นขำกันสุดฤทธิ์สุดเดช ขนาดจะตดก็ยังต้องกลั้น
เดี๋ยวจะเสียแผนหมด ก็กว่าที่ไอ้ย์จะยอมตามน้ำมาขนาดนี้น้ำลายไทต้องเสียไปตั้งเท่าไหร่ มันเหนื่อยน่ะเห้อ
แต่พอได้เห็นหน้าไอ้คนที่ทำหน้านิ่งตลอดเวลาเดือดปุๆแบบนี้ ค่อยคุ้มหน่อย แต่ แต่ แค่นี้อย่าคิดว่าคนอย่างไอ้ไทจะหยุดเรื่องนี้
มันต้องขุดต้องขยาย เพราะงั้นจะเล่นต่อไป
“ ทำไม เกี่ยวอะไรกับมึง”
“ หรือมึงจะตามไปด้วย”
“ ไอ้ไท แล้วมันจะตามไปด้วยทำไม ก็มันไม่ได้คิดอะไรกับน้องไม่ใช่เหรอว่ะ”
“ เออกูลืมว่ามันไม่ได้คิดอะไรกับน้องนี่ ”
เดย์อยากจะบีบคอไอ้เพื่อนสองคนของตัวเองมาก สาบานเหอะว่าพวกมันไม่รู้ แล้วไอ้สีหน้าที่กลั้นขำนั่นอะไร นี่ถ้าไม่ได้อยู่ใน
ห้องสมุด เขาคงเตะไอ้สองตัวนี้ไปนานแล้ว
“ งั้นเราสองคนไปกันเหอะ ปล่อยให้ไอ้คนที่ไม่คิดอะไรกับน้องมันอยู่คนเดียวเหอะว่ะ”
“ ไป”
สองคู่ดูโอ้เตรียมการลุกจากเก้าอี้ หันหลังสะบัดตูดเดินกอดคอกันแบบไม่อยากจะใส่ใจไอ้เพื่อนหน้านิ่งสักเท่าไหร่
ทั้งที่ในในก็นับเลขไปด้วย
หนึ่ง
.
สอง
.
สาม
.
สี่
ห้า
หก
เจ็ด
“ เออ กูคิด พวกมึงจะเอายังไง”ณ วินาทีนี้ไทสาบานเลยว่าอยากจะกระโดดร้องกรี๊ดๆออกมาซะให้ได้ ให้กูลุ้นอยู่ตั้งนาน
สองคู่ดูโอ้หันหน้ามายิ้มให้กันเมื่อแผนสำเร็จ เลยหันหลังไปมองไอ้เพื่อนหน้านิ่งแต่ตอนนี้หน้าเริ่มไม่นิ่งแล้ว มันออกจะโหดไป
นิด อีกนิด มึงก็จะกินหัวพวกกูแล้วไอ้สัด
“ พวกกูไม่เอากับมึงหรอก แต่มึงต้องไปเอากับน้อง” ไทกับมาร์คเดินตีคู่กลับไปนั่งที่เดิม ก่อนที่ไทจะโดนคู่ดูโอ้ตบกะบาลไป
หลายที เนื่องจากปากอัปรีย์พูดจาลามกออกไป แค่โดนตบไอ้นี่มันก็เล่นใหญ่ไปจนดาวอังคารซะ
“ โอ้โห ต่ำตมจริงมึงไอ้ไท”
“ กูแค่ล้อเล่นมั๊ย แต่มึงแม่งตบกูจริงไง เจ็บสึส”
มาร์คส่ายหัว ก่อนที่จะกลับมาจุดประเด็นถามในสิ่งที่สำคัญต่อ
“ ที่ว่าคิดเนี๊ยะ มึงคิดยังไง”
.
.
.
“ อ้าวเงียบ”
“ พวกกูมีเวลารอมึงก็จริง แต่ใช่ว่าทุกคนเขาจะรอมึงน่ะ”
หูย เด็ด เด็ดจริงๆ ไทยกนิ้วโป้งสองข้างให้กับความเด็ดของมาร์ค หันไปมองไอ้เดย์แล้วได้แต่ปลงตก อ้ำอึ้งอยู่ได้
.
.
.
“ ชอบ” สองเพื่อนคู่ดูโอ้ต่างกระพิบตาปริบๆ อ้าปากค้างพะงาบๆ รู้สึกเหมือนบรรลุวัตถุประสงค์เมื่อเพื่อนตัวเองยอมสารภาพความในใจออกมา
” ไอ้สัส ชอบก็ไปบอกน้อง ไปเลยๆ”
ไม่รงไม่รออะไรแล้ว สองเพื่อนคู่ดูโอ้ต่างก็ลากไอ้เพื่อนหน้านิ่งของตัวเองไปหาน้องที่คณะน้องทันที แต่กว่าจะรู้ว่าน้องเรียนห้อง
ไหนก็แทบจะสลบ ดีน่ะที่เจอเพื่อนสนิทน้องที่ชื่อเกมอะไรนั่นหน้าคณะก็เลยรู้ว่าน้องยังอยู่ในห้องที่เพิ่งเลิกคลาส
**********
.
“ อุ่นไม่ต้องพยามอะไรแล้ว เพราะพี่จะเป็นฝ่ายพยายามเอง”เป็นความสัจจริงที่เขาอยากจะบอกคนตรงมานานแล้ว น้องพยายามเข้าหาเขา พยายามทั้งที่อาจจะผิดหวังกลับไป
แต่เชื่อมั๊ยว่าผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าเขาคนนี้ ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า กำแพงที่หนาในใจเขาสามารถพังทลายลงได้เพียงแค่รอยยิ้ม
ของน้อง รอยยิ้มที่สดใสอย่างไอ้ไทกับไอ้มาร์คพูด หากต่อจากนี้เขาจะเป็นฝ่ายเข้าหาน้องบ้าง
เข้าไปทำความรู้จักกับโลกของน้องบ้าง เขาก็พร้อมที่จะทำ ขอเพียงให้คนตรงหน้ากลับมาอยู่ในสายตาอีกครั้งเขาก็ยอมทั้งนั้น
ไม่อยากให้หายไปไหน
ดวงตากลมโตที่แดงก่ำของคนตัวเล็กกว่าสั่นระริก มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อในคำพูด แต่เชื่อเถอะว่าต่อจากนี้เขาจะทำให้คน
นี้ๆเชื่อเขาให้ได้ แม้จะต้องแลกมาด้วยอะไรเขาก็ยอมทั้งนั้น เพราะตอนนี้โลกใบเดิมของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว
เปลี่ยนไปเพื่อจะเป็นโลกใบเดียวกันกับคนนี้ๆ เท่านั้น“ ทำไมขี้แยจัง แค่นี้ก็ร้องไห้แล้วเหรอ”
“ แล้วใครล่ะ ทำให้ต้องร้อง”
กำปั้นเล็กๆทุบเขาดังปั๊กลงบนไหล่หนา ถามว่าเจ็บมั๊ย ไม่หรอก มันเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับน้ำตาของน้อง เทียบไม่ได้เลยกับสิ่ง
ที่ทำให้น้องต้องเสียใจ หากแต่วันนี้เขาสัญญา สัญญาด้วยใจที่หนักแน่นของตัวเอง ว่าจะไม่ให้คนตรงหน้าต้องเสียน้ำตาเพราะ
เขา เพราะน้ำตามันไม่เหมาะกับใบหน้าน่ารักนี่เลยสักนิด รอยยิ้มที่งดงามเหล่านั้นต่างหากคือสิ่งที่เหมาะ
ริ้วแดงๆที่ปรากฏบนใบหน้ากับอาการที่มือเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขของคนตัวเล็ก ทำให้เขาอดที่จะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูไม่ได้
เขินสิน่ะ จะว่าไปเขาเองก็เขินเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย แต่มันก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ รู้สึกดีจนอยาก
จะกอดคนที่กำลังเขินหนักกว่าเขาให้จมไปกับอก
“ อื๊อ”
ไม่รู้ว่าร่างกายมันขยับไปตอนไหน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่
รู้เพียงแค่ว่าอ้อมกอดนี้มันอบอุ่น อบอุ่นจนอยากจะกอดไว้นานๆ ไม่อยากจะปล่อยให้ห่างกายไปไหน
อยากจะกอดแบบนี้ไปทุกวัน“ พี่กอดผมแน่นไปแล้ว”
อุ่นดิ้นเบาๆเพื่อหวังจะบอกให้คนพี่ที่กำลังกอดตัวเองนั้นรู้ว่ากอดเขาแน่นไป มือเล็กก็ค่อยๆลูบไหล่หนาเบาๆให้รับรู้ว่า เขาอยู่นี่
ไม่ได้หายไปไหน ไม่เคยคิดที่จะหายไปไหน
“ อะแฮ่ม พวกกูไม่ได้อยากจะขัดจังหวะน่ะ แต่ตอนนี้ไปแดกข้าวก่อนมั๊ยเดี๋ยวเวลาพักก็หมดซะก่อน”
เดย์รีบกดหัวคนน้องให้ก้มลงไปซบกับอกตัวเองทันที เพราะไม่อยากให้น้องเห็นหน้าตาล้อเลียนของเพื่อนทั้งสองคนที่พร้อมจะ
ออกปากแซ็ว แม้มันสองคนจะอ้างเรื่องแดกข้าวก็เหอะ แต่ชื่อมั๊ยถ้าเด็กในอ้อมอกตัวเองมอง มันสองคนต้องปล่อยคำพูดให้คน
น้องต้องอับอายแน่ๆ
“ เออๆ เดี๋ยวตามไป พวกมึงไปจองโต๊ะก่อนไป”
“ ไล่พวกกู ชิ”
“ เออ เชิญกอดกันให้ตามสบายเลย พวกกูไปก็ได้ งอล เพื่อนไม่ให้ความสำคัญ กระซิกๆ”
ไอ้เพื่อนเวร เดย์อยากจะตะโกนออกไปแบบนั้นจริงๆให้ตายเถอะ ก็ดูมันสองตัวดิ งอลเหี้ยอะไร แม่งกอดกันกลมล้อเลียนเขาอีก
ยิ่งก้มดูคนในอ้อมกอดตอนนี้ก็ตัวแดงเป็นกุ้งสุกไปแล้ว เลยใช้สายตาไล่ไอ้เพื่อนที่กำลังเป็นมารความสุขให้ออกไป เพราะไม่งั้น
เขาได้ไล่เตะมันสองตัวแน่ๆ แต่กว่าที่ไอ้เพื่อนสองตัวมันจะออกไปก็ล้อเขาตั้งนานสองนาน
“ หิวยัง ไปกินข้าวกันมั๊ย”
เสียงตอบอู้อี้ดังขึ้นในลำคอ เพียงไม่นานเด็กที่ตอบเขาไม่รู้เรื่องก็ผละตัวเองออกมาจากอ้อกอดเขา ปากบางนิ่มที่เขาเฝ้า
จินตนาการว่ามันต้องนุ่มกำลังขบเม้มกันจนห้อเลือด เพราะเจ้าตัวกำลังเขินอย่างหนัก
“
อย่ากัดปากแบบนี้สิ เห็นแล้ว........ อยากจูบ”ยิ่งเห็นหน้าแดงๆแบบนี้ ยิ่งอยากจะกระทำชำเราเสียให้เข็ด แต่เพียงตอนนี้สถานการณ์มันไมค่อยเอื้อเท่าไหร่
ซ้ำท้องก็ยังประท้วงเพราะความหิว หากจูบไปตอนนี้ก็เสียบรรยากาศไปหมด แล้วอีกอยางเรื่องแบบนี้เขาก็ต้องทำกันแค่ในที่ที่มี
แต่เราสองคน ไม่ใช่ในที่ที่มีไอ้เพื่อนเวรที่ยังไม่ได้ไปจองโต๊ะสักที เพราะมันสองตัวกำลังเกาะอยู่หน้าประตูนั่นยังไมได้ไหนเลย
อยากจะไปตะโกนใส่หูพวกมันมากเลยว่า กูเห็น มึงสองตัวไม่ต้องทำท่าแอบดูขนาดนั้นก็ได้มั๊ย
“ ไปเถอะ”
“ พี่จะจับมือผมไปแบบนี้เหรอ”
“ แล้ว ไม่ได้เหรอ”
“ เอ่อ....”
“ก็จับแล้วมันดีต่อใจ ดีจนไม่อยากปล่อย”“ ทำไมร้าย”
แล้วทำไมต้องน่ารักขนาดนี้
“ถ้าไม่ร้ายแล้วจะมีคน.....”
ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากให้คลาดสายตาไปไหน
เมื่อก่อนอาจจะเคยทำพลาด พลาดทำจนหลุดมือไป
แต่เมื่อได้มาแล้ว ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยเป็นครั้งที่สองแน่
เขาค่อยๆก้มหัวตัวเองลง ให้ใกล้กับหูแดงๆของคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะกระซิบเบาๆให้ได้ยิน
“ แล้วจะมีคนมารักเหรอ” **********
ให้ตายเถอะตอนนี้ไทกับมาร์คทั้งอิจฉาทั้งหมั่นไอ้เพื่อนหน้านิ่งที่เหลือเพียงอดีตของมันมากเลย
อดีตอะไรน่ะเหรอ ก็อดีตหน้านิ่ง ตีขรึมนั่นไง ตอนนี้ไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว หน้างี้อมยิ้มตลอด
มีความสุขจนพวกเขาสองคนกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้ว เพราะตอนนี้อะไรๆก็น้องอุ่น น้องอุ่นไปหมด
แม่งเอ๊ยไม่อยากจะพูด ไม่คิดเลยว่าไอ้เดย์จะสลัดคราบจากหนุ่มหน้านิ่งมาเป็นหนุ่มหน้ายิ้มตามรับตามส่งหนุ่มน้อยน่ารักกันได้
ทุกวัน ตอนเที่ยงแม่งก็ยังลากพวกกูสองคนมาร่วมรับรู้กับความรักของมันอีก แดกข้าวกันสี่คนแต่มันก็สามารถสร้างโลกพาสเทล
กันสองคนได้แบบเนียนๆ ลืมพวกกูไปเลย
จากที่เห็นน้องอุ่นวิ่งตามมันต้อยๆ ก็เปลี่ยนเป็นมันวิ่งตามน้องต้อยๆทุกฝีก้าวแทน ห่างกันนิดเดียวก็ต้องโทรหากันแล้ว
แล้วจะไม่ให้พวกกูสองคนอิจฉาได้ไง
“ เกลียดคนมีฟามรัก”
“ เราคิดถูกคิดผิดว่ะที่ช่วยมัน”
สองหนุ่มคู่ดูโอ้กอดกันกลมเบะปากทำท่าจะร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกเสียดายน้องอุ่นขึ้นมา รู้งี้จีบเองดีกว่า ก็น้องมันน่ารัก ยิ้มที
โลกสดใสจนอยากจะบรรจุน้องใส่ไว้ในขวดโหลแล้วเก็บไว้ที่บ้านเอง เห้อ คิดแล้วก็
พวกกูไม่น่าช่วยมันเล๊ย“ พี่เดย์ มารอนานแล้วเหรอครับ”
“ เพิ่งมาเอง”
โอ้โหววว เพิ่งมาพ่องเหอะ ได้ข่าวว่าวันนี้อาจารย์เลิกคลาสและพวกกูก็จะกลับไปนอน แต่มึงก็ลากพวกกูมารอน้องเค้าตั้งแต่เช้า
ตอนนี้ก็เที่ยงพอดีเป๊ะแล้วไง เพิ่งมามึงนี่ เพิ่งมาคิดได้ตอนนี้เหรอ ตอบพวกกู ไทเหลือบตามองเดย์อย่างเขม่น
“ พวกพี่สองคนหนาวเหรอครับ ถึงได้กอดกันกลมดิ๊กกันขนาดนี้”
“ พวกพี่แค่ขาดความอบอุ่น ก็เลยต้องกอดให้ความอบอุ่นกันเองไง”
โหวน้องอุ่น ไม่ต้องมายิ้มขำแบบนั้นเลย ใครมันจะไปอบอุ่นกันแบบน้องละครับ ไทเบะปากใส่เดย์ บอกเลย ณ จุดนี้ถ้ามึงไม่ได้
พวกกูช่วย มึงแจวเรือลำนี้ไม่ถึงฝั่งหรอกไอ้เดย์ บุญคุณพวกกูมึงต้องทดแทนเซ่
“ พวกมึงสองคนกลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูว่าจะไปหออุ่นด้วย”
“ไอ้เลว บุญคุณก็ไม่ทดแทน ยังจะมาไล่พวกกูอีก”
“ กูจะฟ้องศาล เชอะ ”
“ ใช่ เพราะงั้นมึงไปเตรียมทนายมาเลย บอกเลยงานนี้กูไม่ยอมแน่ ไปเหอะมึง เขาไล่เราอีกแล้วอ่ะ ฮือออ ไทรับไมได้ ”
ไอ้พวกประสาท เดย์ได้แต่ตะโกนก้องอยู่ในใจ ระอากับพวกมัน นับวันยิ่งบ้าเข้าไปทุกที
**********
เขาไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เรียกว่าความรักมันจะงดงามและวิเศษได้ขนาดนี้ คนสองคนที่ไม่เคยมีความผูกพันใดๆ
ไม่เกี่ยวข้องกันใดๆ แต่ทว่าวันนึงกลับได้รู้สึกพิเศษต่อกัน รู้สึกสำคัญต่อกันและกัน จนได้มาเป็นคนสำคัญของใจ
หากวันนั้นเขาไม่ตัดสินใจเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าความรู้สึกพิเศษเหล่านี้จะหามันได้ที่ไหน และจะมันได้จากใคร
ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในใจของเขาตอนนี้ที่อยากจะบอกน้องมากที่สุดคือ
คำขอบคุณ“ พี่เดย์ครับ คิดอะไรอยู่เหรอครับ”
เสียงน่ารักน่าฟังของน้อง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคว้าตัวเข้ามากอดเอาไว้
ตอนนี้พวกเขาสองคนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เหมาะสำหรับคนสองคนที่จะนั่งได้อย่างพอดี
อ้อมกอดน้องคือความมหัศจรรย์ที่ไม่ว่าครั้งไหนๆก็ทำให้เขารู้สึกดี ดีจนหายเหนื่อย อยากจะกอดไว้นานๆ
กอดให้ความรักของเขาซึมลึกเข้าไปในหัวใจให้น้องได้รับรู้ ว่าเขารักน้องมากแค่ไหน
และวันนี้เขาพร้อมแล้ว พร้อมที่จะบอกน้องว่ารักได้เต็มปากและเต็มใจ รักที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรใดๆทั้งสิ้น
“ขอบคุณที่อุ่นเข้ามาในโลกพี่”
“...”
“ขอบคุณที่ให้โอกาสคนอย่างพี่”
“.....”
“ ขอบคุณที่ทำให้ผู้ชาแสนเย็นชาคนนี้ กลายเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุด”
“....”
“ และขอบคุณที่อุ่นรักพี่”
น้องนิ่งเงียบอยู่ในอ้อมกอดเขา ก่อนที่จะรู้สึกถึงความอุ่นของหยาดน้ำตาที่ซึมผ่านเนื้อผ้า
แรงกอดรัดของน้องไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกอยากให้น้องกอดเขาให้แน่นขึ้นกว่านี้
ให้แน่นพอ สมกับความรักที่น้องมอบให้
“ ผมรักพี่”เสี้ยงอู้อี้ปนกับสะอื้นของน้องเปล่งถ้อยคำที่น่าฟังออกมาแม้จะได้ยินไม่ถนัดนัก
แต่ทว่าหัวใจกลับได้ยินมันชัดเจน ชัดเจนจนเสียงของมันเต้นระรัวราวกับมีคนมาตีกลอง
หากนี่คือความสุข มันคงเป็นความสุขที่สุขที่สุดในชีวิตที่เขาเคยมีมา
สองมือใหญ่เชยคางของคนที่กำลังสะอื้นไห้อยู่กับอกเขาให้เงยหน้าขึ้นมามอง
เงยหน้าให้ขึ้นมาเห็นความรักที่เขากำลังส่งมันผ่านสายตา
.
.
.
และคำพูด
“พี่ก็รักอุ่น”และจะรักตลอดไป
END
จบแล้ววววววววววววว
วันนี้นั่งปั่นทั้งวัน 5555 เราเป็นคนบ้ายอไง โดนยุนิดเดียวก็ขึ้นแล้ว
ฉากจบคิดว่าพวกเขาสองคนจะได้จูบกันมั๊ย อันนี้ไปจินตนาการเอาเองแล้วกันเนาะ 5555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และขอบคุณที่เข้ามาเม้นต์ ถ้าชอบไม่ชอบยังไงก็ช่วยกันเม้นต์ช่วยกันติ ช่วยกันให้กำลังใจด้วยน่ะค้า
เค้าจะ
ได้มีแรงปั่นเรื่องอื่นต่อ
#อัพแล้วไปอาบน้ำได้ ฮูเร่