บทที่8 ยอมรับความจริงซะ!!
หลังจากกลับมาจากไปเที่ยวบ้านไอ้ดินตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว ชีวิตยังคงดำเนินตามปกติจะมีที่แปลกๆไปคือ
ไอ้ดินมักจะเข้ามาทำให้หัวใจปั่นป่วนอยู่เสมอๆ วันนี้ก็เช่นกัน..
เย็นวันอาทิตย์หลังจากกลับมาจากบ้านใหญ่ กำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน ก็เจอรถไอ้ดินจอดขวางอยู่หน้าบ้านเลยต้องจอดรถต่อจาก
รถมันแล้วลงมาดูว่าไอ้เจ้าของรถมันอยู่ไหน ไปส่องดูที่รถก็ไม่ยักจะเห็นมัน ไปไหนของมันวะ แล้วแทนที่มันจะจอดรถตรงข้างรั้ว
เสือกมาจอดขวางประตูรั้วบ้านอีก อ่านหนังสือไม่ออกรึไงป้ายก็แขวนอยู่ตรงรั้วว่าอย่าจอดขวางหน้าบ้าน น่าโมโหจริง!!
เอ๊ะ หรือว่าไม่ใช่รถมันลองสำรวจรถดีๆ ก็ใช่นี่หว่า รถมันก็ยี่ห้อนี้ สีนี้ ป้ายทะเบียนโคราช แล้วมันไปไหน?!!
ไม่อยากเสียเวลาคิดเอาของไปเก็บในบ้านก่อนดีกว่า วันนี้แม่ทำบราวนี่ กับชีสเค้กให้ นี่แหละคือเหตุผลที่กลับบ้านใหญ่
เห็นแก่กินจริงๆเลยผม สงสัยติดนิสัยมาจากไอ้หมี!!
เดินเข้ามาถึงประตูบ้านก็ได้ยินเสียงงุ้งงิ้งๆอยู่ข้างหลังบ้าน ใครวะ?!! หรือว่าขโมย!!
รีบวางของทั้งหมดลง แล้วหยิบไม้กวาดที่วางอยู่ใกล้ๆแล้วย่องไปหลังบ้าน แม่จะฟ้าดให้หลังหักเลยค่อยดูไอ้โจรชั่วบังอาจมา
ขโมยของบ้านกู ..ค่อยๆย่อง ย่อง ย่อง และสิ่งที่เห็นคือ ไอ้ดินนอนคว่ำตรงเก้าอี้ไม้ตัวยาวให้แมวนวดหลังให้อย่างสบายใจ
ฟู่..ถอนหายใจโล่งอกนึกว่าจะเจอกับขโมยจริงๆซะแล้ว!!
“ตรงนั้นแหละๆพี่ปี เด็กดีเดี๋ยวกินขนมกันเนาะ” ไอ้ดินตอนนี้นอนคว่ำมีจำปีนวดให้ตรงกลางหลัง
จำปีเป็นแมวที่ชอบนวดเห็นเรานอนไม่ได้เลยเจ้าเหมียวจะกระโดขึ้นมานวดให้ทันที ส่วนจำปาก็นอนหันหน้าเอาจมูกเตะกับจมูก
ไอ้ดิน ส่วนชบานอนหงายท้องสบายใจอยู่ตรงหว่างขาของไอ้ดิน
ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลหน้านิ่งอย่างไอ้ดินจะมีมุมมุ้งมิ้งแบบนี้ ถ้าแฟนคลับมันได้เห็นภาพนี้คงระทวยกันเป็นแถบๆ
ว่าแล้วก็หยิบมือถือมาแอบถ่ายรูปมันไว้ดีกว่า
‘แชะ’ เสียงชัตเตอร์ ทำให้ไอ้ดินรู้ตัว มันหันมาทำหน้าตกใจ รีบลุกขึ้นนั่ง
“แม่มาแล้ว ไปหาแม่กัน” มันพูดพร้อมกับเดินมาทางผม ตามด้วยลูกสมุนทั้ง3ตัว
“ใครแม่ มึงพูดให้มันดีๆ”
“ก็มึงไงเป็นแม่แมว แถมยังใจร้ายปล่อยให้พ่อแมวกับลูกแมวรออย่างเหงาหงอยตั้งนาน” มันพูดพร้อมกับช้อนตามองผม นี่มึงชัก
จะมุ้งมิ้งเกินไปละ ไม่เข้ากับหนังหน้าและสารร่างมึงเลย!!
“หุบปากมึงเลย พูดจาไร้สาระ แล้วนี่เข้ามาบ้านกูได้ยังไง แถมยังจอดรถขวางประตูรั้วอีก”ผมร่ายยาวเป็นชุดใส่มัน
“ก็ถ้าจอดไกลเดี๋ยวมึงไม่รู้ว่ากูมา แล้วกูก็ปีนรั้วเข้ามา คิดว่ามึงคงอนุญาต มาอยู่เป็นเพื่อนเด็กๆด้วยไง” มันพูดเสียงอ่อนเหมือน
เด็กที่กำลังโดนดุและพยายามแก้ตัว แปลก..วันนี้มันจะเอาโหมดนี้เข้าสู้ใช่มะ?!!
ได้หัวใจกูแข็งแรงพอไม่หวั่นไหวกับโหมดงุ้งงิ้งมุ้งมิ้งของมึงหรอก??!!
“เออๆ คราวหลังก็โทรบอกกูก่อน มาปีนเข้าบ้านแบบนี้คนอื่นเห็นแล้วเค้าเข้าใจผิดคิดว่ามึงเป็นขโมยโทรแจ้งตำรวจ
ขึ้นมาจะทำไง” ผมบ่นมันอีกครั้ง อย่าให้กูได้บ่นนะ กูบ่นทีนึงมึงได้หูชาแน่ๆ
“ขอโทษ” มันพูดเสียงอ่อน พร้อมกับทำหน้าหงอย ..อย่านะใจ อย่าไปหลงใจอ่อนกับหน้าเสแสร้งแกล้งทำของมันเด็ดขาด!!
“แล้วมึงมาทำไม”
“มาหา อยากเจอ คิดถึง” มันพูดพร้อมกับสบตาผมนิ่ง
“คิดถึงเด็กๆเหรอ”
“ป่าว คิดถึงมึง” มันพูดพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้ โอ้ย..ใกล้ไปแล้ว ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจ
.. กลิ่นเปปเปอร์มินต์? ไม่ได้การหัวใจผมกำลังจะพัง!! รีบผลักอกมันออกอย่างว่อง
“คิดถึงอะไร วันศุกร์ก็เพิ่งเจอกัน” เมื่อวันศุกร์มันก็เพิ่งแวะมาหาชบาที่บ้าน มาซะดึกบอกว่าออกมาเซเว่นเลยแวะมาหาพร้อมกับ
สารพัดนมและขนมปังหลากหลายยี่ห้อที่มีขายในเซเว่นมันเหมามาหมด
“แต่เมื่อวานไม่ได้เจอไง ความจริงไม่ได้เจอแค่ชั่วโมงเดียวก็คิดถึงแล้ว” มันพูดพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาอีกครั้ง
ผมที่ยังถือไม้กวาดไว้ในมือเลยเอาปลายด้ามไม้กวาดดันอกมันเอาไว้ ไม่ให้มันเข้ามาใกล้มากกว่านี้
“...” ได้แต่มองบน อะไรจะเวอร์วังขนาดนั้น กูยังไม่ใช่แฟนมึงสักหน่อยจะคิดถึงอะไรกันนักกันหนา
“แล้วมึงล่ะ คิดถึงกันบ้างรึยัง!!” มันถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับรอยยิ้มละมุน
“...” บึ้ม.. ได้ยินเสียงอะไรมั้ย หัวใจแข็งแรงแค่ไหน ก็ต้านทานไม่อยู่ มาโหมดนี้กูยอม!!
“พอเลยไอ้ดินอย่าเข้ามาใกล้กูมาก เดี๋ยวกูฟาดด้วยไม้กวาด” ผมทำท่าจะเอาไม้กวาดฟาดมัน ไอ้ดินเลยยอมผละออก
“เขินรุนแรงเหมือนกันนะเราเนี่ย” ยัง..ยังจะพูดอีกไม่ได้กลัวที่กูขู่เลยใช่มั้ยเนี่ย!!
“หยุดพูดแล้วไปขยับรถให้กูได้ละ จะได้เอารถมาจอดในบ้านสักที”
“โอเค รับทราบครับ” มันพูดพร้อมกับทำท่าตะเบ๊ะแบบทหาร แล้วก็รีบวิ่งไปย้ายรถให้ทันที แปลก..วันนี้มันมาแปลกจริงๆ
หรือที่จริงแล้วมันเป็นไบโพลาร์วะ!!
หลังจากย้ายรถมาจอดในบ้านเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลากินเค้กสักที
“กินด้วยรึป่าว” ผมถามไอ้ดินขณะที่แบ่งเค้กใส่จาน
“กิน” มันตอบสั้นๆ ด้วยใบหน้านิ่ง..เปลี่ยนโหมดแล้วสินะ กูต้องตามอารมณ์มึงให้ทันใช่มะ?
“มาแบ่งใส่จานเองละกันนะ” พูดเสร็จผมก็ถือจานเค้กที่มีบราวนี่กับชีสเค้กอยู่อย่างละชิ้นมาว่างบนโต๊ะหน้าโซฟา
กินไปดูรายการวิเคราะห์บอลก่อนบอลเตะไปพลางๆ วันนี้บอลพรีเมียร์ลีกคู่แรกเตะเร็วหน่อยหกโมงครึ่ง
แต่คู่สำคัญที่คืนนี้ห้ามพลาดคือคู่ดาร์บี้แมตช์ระหว่างแมนยูที่เตะกับทีมเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญอย่างแมนซิตี้
แมตซ์นี้มีความสะเด่าฮาร์ดคอร์ไม่ต่างกับแมตช์แดงเดือดที่ปีศาจแดงแข่งกับเป็ดแดง
ออกตัวแรงขนาดนี้ไม่บอกก็รู้ว่าผมคือแฟนเรดอาร์มี่หรือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตัวจริงเสียงจริง ผ่ามพ้าม!!
“อร่อยมั้ย?” อยู่ๆไอ้ดินก็ถามขึ้น ก็นึกว่ามันลุกไปเอาเค้กในครัวแต่มันยังนั่งอยู่ที่เดิม
“เค้กแม่กูอร่อยอยู่แล้ว” ผมพูดพร้อมกับตักชีสเค้กคำโตใส่ปาก
“ไหนชิมหน่อย” พูดปุ๊บมันก็แย่งช้อนในมือผมตักเค้กใส่ปากมันเฉยเลย!!
“...”
“อร่อยจริงๆด้วย ทำขายได้สบายเลยนะเนี่ย” มันพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
“อะไรมาแย่งกูกินเพื่อ?”
“ก็เมื่อกี้มึงชวนกูกิน”
“กูหมายถึงให้มึงกินชิ้นใหม่ ไม่ใช่ชิ้นเดียวกับกู” ทำไมกูต้องมาเสียเวลาแปลไทยเป็นไทยด้วยวะ!!
“ไม่เอากูจะแย่งมึงกิน” มันตอบหน้าตาย แล้วยังหน้าด้านตักบราวนี่คำโตใส่ปากมันอีก
“เป็นหมารึไง ชอบแย่งของกิน”
“อื่อ เป็นหมานี่กำลังแย่งกินเค้กของหมาอยู่” เอิม..เหมือนโดนหลอกด่าว่าเป็นหมา
“อ่ะ กินเข้าไปพูดมากจัง” แล้วไอ้หมามันก็ตักเค้กมายัดใส่ปากผม
กลายเป็นว่าไอ้ดินยึดช้อนไปครองมันเลยตักเค้กเข้าปากมันคำนึงสลับกับป้อนผมคำนึง กินสลับกันแบบนี้จนเค้กทั้ง2ชิ้นในจาน
หมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว น่าแปลกแทนที่ผมจะลุกไปหยิบเค้กชิ้นใหม่มากินก็ได้
แต่ผมกับเต็มใจยอมให้ไอ้ดินมันป้อนสลับกันกินทีละคำกับมันแบบนี้ และก็คิดอีกว่าผมน่าจะหยิบเค้กใส่จานมาให้มากกว่านี้จะ
ได้ยืดเวลาออกไปอีกหน่อย!! นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่วะ?!! แม่ต้องใส่ส่วนผสมอะไรผิดลงไปในเค้กแน่ๆ ลูกชายแม่กินเข้าไปถึง
ขั้นเคลิ้มกับการกระทำของคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆได้ขนาดนี้!!
“แย่งหมากินอร่อยจัง” หมดกันกูไม่น่าหลงเคลิ้มไปกับมึงเล้ยยย!!!
“มึงสิหมา เอาจานไปล้างด้วยนะไอ้หมาโทษฐานที่บังอาจมาแย่งเค้กกูกิน”
“แน่นอน มันเป็นหน้าที่พ่อบ้านอย่างกูอยู่แล้ว ส่วนแม่บ้านอย่างมึงนั่งดูทีวีให้สบายใจนะจ๊ะ เดี๋ยวจะเอาชาพีชเย็นๆมาเสริฟให้จ๊ะ”
“...” แม่คงใส่ส่วนผสมอะไรผิดลงไปในเค้กจริงๆนั้นแหละ ไอ้ดินแม่งเพี้ยนไปละ!!
แล้วไอ้หมาที่กลายร่างเป็นพ่อบ้านก็เอาชามาเสริฟหลังจากที่มันล้างจานแค่ใบเดียวเสร็จ
“นี่จ๊ะ” มันพูดพร้อมกับวางแก้วชาพีชลงบนโต๊ะ มันถือมาแค่แก้วเดียว อย่าบอกนะว่าจะแย่งกูกินอีก
ไม่มีทางหรอก ผมรีบยกชาพีชขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว ไอ้สัดเย็นขึ้นหัวแม่งดื่มไวไปหน่อย
“หึๆ” ไอ้ดินหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดต่อว่า
“หมาไม่กินชา ไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้”
“ตกลงมึงยอมรับว่ามึงเป็นหมาแล้วสินะ!!”
“เป็นอะไรก็ได้ที่มึงอยากให้เป็น รวมถึงเป็นแฟนมึงด้วยเมื่อไหร่มึงจะอยากให้เป็นสักที?”“ไม่รู้!!...เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น!!!” ผมโพล่งตอบออกไปเสียงดัง แต่ประโยคหลังตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว
“...” ไอ้ดินไม่ได้พูดอะไร แต่กับยิ้มกว้างกับคำพูดของผม
“เมื่อไหร่มึงจะกลับหอสักที” ผมถามเพราะมันชักจะอยู่นานเกินไปละ หัวใจผมก็เริ่มแกว่งมากขึ้นทุกที
“ยังไม่กลับรอดูบอล เดี๋ยวพวกไอ้หมีจะตามมาดูบอลด้วย” มันตอบหน้าตาย
“ฮะ..ทำไมกูไม่รู้เรื่อง” ตกลงนี่ใช่บ้านกูรึป่าววะ?!!
“...” มันแค่ยักไหล่ไม่ตอบ
“เฮ้อ เอาที่มึงสบายใจละกัน” ผมพูดเสร็จไอ้ดิน ก็โน้มหน้าเข้ามาทำท่าจะจูบผม
“ทำอะไรของมึง” ผมพูดพร้อมกับใช้ฝ่ามือดันปากมันให้ออกห่าง แต่ก่อนที่มันจะผละตัวออกมันก็จุ๊บที่ฝ่ามือผมเต็มๆ แมร่ง!!!
“จูบไง ก็มึงบอกเองว่าเอาที่สบายใจละกัน!!”
“...” หมดคำจะอู้ บะฮ้าปันต๋าย บะวอก บะจ้าดง่าว ฟังภาษาคนบ่าฮู้เรื่อง!!!!!!
“อะๆ ไม่แกล้งละ ดูทำหน้าเข้าสิ หน้าย่นหมดละเป็นหมาพันธุ์ชาเป่ยรึไง” ไหนบอกไม่แกล้งแล้วไง
มาหลอกด่าว่ากูเป็นหมาอีกละ เถียงมันไม่เคยชนะสักที โมโห!! หมาก็หมาวะ งับแขนแม่ง!!!
“โอ้ย เจ็บนะเนี่ย เป็นหมาจริงๆด้วย” ไอ้ดินพูดพร้อมกับกลั้นขำ
“...”
“ดูดิ เป็นรอยเลย” แล้วมันก็โชว์รอยเขี้ยวบนแขนให้ผมดู สมน้ำหน้า!!
“ฮัลโหลเพื่อนฟูง ได้เสียกันรึยังจ๊ะ เพื่อนมาขัดจังหวะอะไรรึป่าวเอ่ย” ไอ้หมี เอ่ยปากแซวตั้งแต่เดินเข้าประตูมา วันนี้มันใส่ชุด
แมนยูทีมเย้าฤดูกาล2017-2018มาซะเต็มยศ เหลือแค่รองเท้าสตั๊ดมึงก็ลงสนามได้เลย มันขาดแค่รองเท้าจริงๆนะ
แม่งมันใส่ถุงเท้ากับสนับแข้งมาพร้อม!!
“เป็นอะไรไอ้พู่ ทำหน้าอย่างกับหมาขี้หักใน” หมาอีกละ เดี๋ยวกูก็กัดซะเลยนิ แฮ่!!
“ซื้ออะไรมากินบ้าง เอาไปเทใส่จานมากินดิ๊” เห็นไอ้หมีมันถือของกินมาพะลุงพะลัง เลยใช้ให้มันไปเทใส่จานไม่อยากเถียงกับ
มันแค่ไอ้ดินคนเดียวก็ปวดหัวมากพอละ
“โว๊ะ โมโหหิวก็ไม่บอก ไอ้ดินมาช่วยกูหน่อยดิ” แล้วไอ้หมีก็เรียกไอ้ดินให้ไปช่วยในครัว
“มาละๆ ตำบักหุ่งแซ่บๆ” นี่คืออะไรปาร์ตี้อาหารอีสานเรอะ มีทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ซุปหน่อไม้
ลาบเป็ด ก้อยเนื้อ ต้มแซ่บ อื่อหื้อ เห็นแล้วก็น้ำลายแตก กำลังจะจกข้าวเหนียวในถุงก็โดนเบรกด้วยไอ้ดินซะก่อน
“เดี๋ยวก่อน ล้างมือรึยัง” ไอ้ดินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า วันนี้วันอาทิตย์เชื้อโรคไม่ทำงาน” ผมพูดไม่แคร์ ตั้งหน้าตั้งตาจะกินต่อ
“พู่กัน!!” ไอ้ดินทำเสียงดุ พร้อมกับทำหน้านิ่ง ที่นิ่งมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า
“เออๆ ล้างก็ล้าง” แล้วผมก็ลุกไปล้างมือ ทำไมกูต้องกลัวสายตากับน้ำเสียงของมันด้วยวะ!!
“ของมึงจานนี้ ตำไทยใส่พริก2เม็ด เผ็ดระดับอนุบาล” ไอ้หมีเลื่อนจานตำไทยที่สีสันดูจืดชืดมาทางผม ทำไมมันดูกระจอกจังวะ
“แต่กูอยากกินตำปูปลาร้าอ่ะ” อยากกินปลาร้า มันดูแซ่บนัวมากกก
“จานนี้มันเผ็ดระดับ10กะโหลก ถ้าคิดว่าแดกได้ก็แดกเลย” มึงสบประมาทกูมากไปแล้วไอ้หมี ลิ้นกูมันพัฒนามากขึ้นละเว้ย
ว่าแล้วก็กินโชว์มันสักหน่อย ตักส้มตำปูปลาร้ามาคำโตเข้าปากยังไม่ทันได้กลืน
อื่อหือ เผ็ดฉิบหายวายป่วง!!
“มึงไม่สั่งตำพริกไปเลยวะ ไอ้สัดโคตรเผ็ด” ผมรีบรับน้ำที่ไอ้ดินยื่นมาให้ ดื่มจนหมดแก้ว
“เป็นไงละมึง อวดเก่งดีนัก” แล้วไอ้หมีก็หัวเราะกับการพยายามกินเผ็ดของผม ทุกครั้งที่มันกินเผ็ดผมมักจะขอกินด้วย
เพราะรู้สึกว่ามันเป็นรสชาติของผู้ใหญ่ แต่ลิ้นผมมันก็ระดับอนุบาลจริงๆนั้นแหละ นี่ยังถือว่าพัฒนามามากแล้วนะที่กินส้มตำใส่
พริก2เม็ดได้ เมื่อก่อนต้องสั่งว่าเอาพริกติดครก อ่อนจริงๆเลยกู!!
“กินไม่ได้ก็อย่ากินสิ ดูสิหน้าแดงหมดละ” ไอ้ดินพูดพร้อมกับใช้ทิชชู่ซับเหงื่อที่ปลายจมูกให้ผม
ไม่รู้ว่าผมเริ่มชินกับการดูแลของมันรึป่าวถึงไม่ได้ขัดเขินหรือปฏิเสธกับการกระทำของมัน
โดยลืมไปว่าไอ้หมีกำลังจ้องมองเราสองคนอยู่ด้วยใบหน้ากลั้นยิ้ม..
“ไอ้ปูนไม่มาเหรอ” ปกติมันจะมาเป็นคู่หูดูโอ้กับไอ้หมีอยู่แล้ว
“เดี๋ยวมันตามมา กินข้าวกับที่บ้านก่อน”
“แล้วไอ้นพกับไอ้สมใจล่ะ” ผมถามหาเพื่อนอีก2คนที่ช่วงหลังมานี้ เรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน6คน
“ไอ้ห่า2ตันั่นมันไม่มา มันป๊อด!!”
“ทำไมวะ” ผมถามด้วยความสงสัย
“เด็กเป็ดอย่างมันไม่กล้ามาหรอก ตอนนี้ไปเป็นกองแช่งอยู่ร้านเหล้าแถวหน้ามอกับเพื่อนแก๊งเป็ดแดงของมันนู้น” ไอ้หมีพูด
พร้อมกับจกก้อยเนื้อเข้าปาก มึงเป็นผีดิบรึป่าววะ ของดิบของคาวชอบจังนะมึง
จะว่าไปไม่ว่าแมนยูจะแข่งกับทีมอะไรทีมนั้นจะมีกองเชียร์เพิ่มขึ้นชั่วคราวซึ่งมาจากบรรดาแฟนคลับลิเวอร์พูลเสมอๆ!!
“แล้วมึงไม่ไปกับไอ้พวกสมใจเหรอ” ผมหันไปถามไอ้ดินบ้าง
“ไปทำไม กูเชียร์แมนยู..เห็นมั้ยว่าเราใจตรงกัน เป็นแฟนกูได้ยัง” มันพูดหน้านิ่ง พร้อมกับฉีกไก่ย่างใส่จานให้ผม
มึงขอกูเป็นแฟนง่ายๆเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศแบบนี้ก็ได้เหรอ?!!
“แค่กๆ ไอ้บ้า งั้นกูคงได้เป็นแฟนกับคนที่เชียร์แมนยูทุกคนเลยละสิ” กูใจตรงกับคนเกือบค่อนโลก!!
“เออ..อย่าเพิ่งจีบกันออกหน้าออกตาขนดนั้นครับ เกรงใจกูด้วย แล้วไก่ย่างก็ไม่ต้องฉีกให้มันเยอะขนาดนั้นก็ได้นะไอ้ดิน
มันจะแดกไม่ทันอยู่ละเหลือไว้ให้กูแดกบ้าง จะดูแลเอาใจใส่มากกันเกินไปละ
กูล่ะเหม็นความรักจริงจริ๊ง!!” ไอ้หมีบ่นยืดยาวแต่ปากยังเคี้ยวไม่หยุด พูดไปด้วยแดกไปด้วยน้ำลายกระเด็นลงจานไหนไม่รู้เป็น
จานไหน นี่กูต้องแดกส้มตำผสมกับน้ำลายมึงไปด้วย อร่อยนัวฉิบหาย!!
ปาร์ตี้อาหารอีสานจบลงพร้อมกับเสียงเป่านกหวีดหมดครึ่งแรกของบอลคู่แรกที่เตะในวันนี้
เอฟเวอร์ตันเจ้าบ้านนำเวสแฮมอยู่1-0
“คู่นี้มึงเชียร์ใครวะ หมี” ผมหันไปถามไอ้หมีที่กำลังนั่งกินเค้กล้างปากอยู่ นี่แค่กินล้างปากนะปาไป5ชิ้นละ
ถ้ากินจริงจังอย่านับเป็นชิ้นหรือปอนด์เลยนับเป็นกิโลง่ายกว่า!!
“กลางๆวะ ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ยังไงก็มีเด็กเก่าแมนยูทั้งคู่ ทั้งรูนีย์ ทั้งชิชาริโต้ ให้เสมอละกันแบ่งกันคนละแต้ม”
“แสดงว่ามึงไม่ได้แทงบอลคู่นี้ไว้สินะ ถึงได้ตอบแบบนี้” ผมหรี่ตาถามมันอย่างจับผิด
“รู้ดีนะมึงอ่ะ วันนี้กูเต็งแมนยูทีมเดียวเว้ย กูมั่นใจตัวทีเด็ดอย่างพอล ป็อกบา กับน้องหมากของกู มาแน่ๆวันนี้” ไอ้หมีพูดพร้อมกับ
ทำหน้ามั่นใจ ขอให้มาแน่ๆอยากมึงว่าเหอะ แพ้มาโดนแฟนบอลบางทีมรอซ้ำเติมเละแน่ๆ!!
บอลเริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน ไอ้ปูนก็มาถึง พร้อมกับเบียร์หนึ่งลัง ไม่บอกก็รู้ว่าใครบงการให้มันซื้อมา
“เอามาค่าเบียร์หกร้อย” วางลังเบียร์ปั๊บไอ้ปูนก็กระดิกนิ้วรัวๆทวงค่าเบียร์กับไอ้หมีทันที
“หารกันดิวะมึงไม่แดกไง อ่ะเอาไปห้าร้อย อีกร้อยนึงมึงจ่ายละกัน”
“โด่ ไม่ป๋าเลยมึงอ่ะ”
“เดี๋ยวรอคืนนี้แมนยูชนะ ป๋าให้อีกห้าร้อยเลย แต่เดี๋ยวนะมึงลืมซื้อน้ำแข็งมาใช่มั้ยไอ้ปูน ให้แดกเบียร์อุ่นป๋าไม่โอเคอ่ะ”
“มึงก็ออกไปซื้อเองดิ กูขี้ข้ามึงรึไง เบียร์กูก็ซื้อมาให้แดกละ”
“เดี๋ยวกูไปซื้อให้เอง น้ำยาล้างจานบ้านมึงหมดนะไอ้พู่” ไอ้ดินพูดหลังจากมันให้อาหารเจ้าเหมียวทั้ง3ตัวเสร็จ
แล้วมันก็หันมาบอกผม
“ยังไม่ต้องล้างก็ได้แช่ไว้อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจัดการเอง”
“ไม่ได้ กูไม่ชอบมันเหม็น สกปรก” เออเอากะมันสิ ผมลืมบอกอีกอย่างว่าไอ้ดินเป็นคนสะอาด เห็นอะไรเลอะหรือหยดลงพื้นหรือ
ที่โต๊ะนิดหน่อยไอ้ดินจะรีบเช็ดทันที!!
“เออๆตามใจมึง งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อเอง”
“ไปด้วยกัน!!” มันพูดพร้อมบังคับผมด้วยสายตา ว่ากูต้องไปกับมึง!!
“เออๆ เอาแค่น้ำแข็งใช่มะ” ผมหันไปถามไอ้หมีอีกที
“ขนมขบเคี้ยวด้วยก็ดี เหงาปาก”
“...” เหงาปากพ่อง..ตอนที่มึงพูดปากมึงยังไม่หยุดเคี้ยวเลย!!
“เอามอไซค์ไปนะ เซเว่นตรงปากซอยนี่เอง” ผมหันไปบอกไอ้ดินที่เดินตามหลังมา
“...”
“ขึ้นมาดิ ยืนบื้ออยู่ได้ หรือมึงจะขี่?”
“ไม่อ่ะ กูจะรอขี่แค่มึง!!” สายตาตอนมึงพูดหื่นฉิบหาย
“...” พูดไม่ออกเลยกู กูเริ่มกลัวมึงขึ้นมาละนะ!!
ผมค่อยๆขี่เจ้าสโกมาดิสีขาวแดง ด้วยความเกร็ง จะไม่ให้เกร็งได้ไงละ ก็ไอ้ดินเล่นกอดเอวผมแน่นซะขนาดนี้ตัวก็โตเท่าควาย
คนที่เห็นผมกับมันตอนนี้คงคิดว่ามันเป็นภาพที่แปลกพิลึก!!
“เดี๋ยวๆ ไม่ต้องกอดขนาดนั้นก็ได้มั้ง ไม่ตกง่ายๆหรอก”
“ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน ”
ผมกำลังจะหันหน้าไปบอกมัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้ดินยื่นหน้ามาพอดี
โป๊ะเชะ..ปากเราชนกันพอดิบพอดี!! นี่มันพล็อตละครน้ำเน่าหลังข่าวชัดๆ
ผมรีบเลี้ยวรถจอดข้างทางทันที ขื่นขับต่อรถล้มแน่ๆ ขาเขออ่อนไปหมด!!
“อะไร อยากจูบกับกูก็ไม่บอก” ไอ้ดินพูดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก แถมยังกอดเอวผมไม่ยอมปล่อยอีก
“...” ตั้งสติๆพู่กัน ผมไม่พูดอะไรตั้งใจขับรถต่อพร้อมกับแกะมือไอ้ดิน แกะยังไงมันก็ไม่ยอมปล่อย
ทำตัวเหมือนกับเป็นลูกหมีโคอาลาที่เกาะหลังแม่มันไม่ยอมปล่อย แต่หนังหน้ามันไม่เหมาะกับหมีโคอาลา อย่างมันต้องหมี
ควาย!!
ยิ่งขี่เร็วมันก็ยิ่งกอดแน่น ผมเลยต้องค่อยๆคลานอย่างกับเต่า!!
และแล้วก็มาถึงเซเว่นอิเลฟเว่นโดยสวัสดิภาพ ด้วยสภาพที่หัวใจเกือบจะวาย!! โดยใช้เวลาเดินทางเกือบ20นาที
ซึ่งปกติแว๊นมาแปปเดียวอย่างช้าไม่เกิน7นาที!!
“น้องดิน!!” อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนนึงมาทักไอ้ดิน หันไปมองเท่านั้นแหละ อื่อหือ..นมหรือส้มโอวะ ใหญ่กว่าหัวกูอีก!!
แล้วนั่นกางเกงขาสั้นหรือกางเกงใน ก้มทีนึงเห็นไปถึงง่ามดาก แม่เจ้าโว้ย!! อะไรจะแท็กซี่ขนาดนั้น!!
“หวัดดีครับพี่แปม” ผมเห็นไอ้ดินยกมือไหว้ เลยไหว้ตามมัน แต่ตาพี่แกไม่ได้มองมาที่ผมเลยมองแต่ไอ้ดินด้วยสายตาหวานเยิ้ม
กูไม่ใช่อากาศธาตุนะ!!
“พอดีเลย ช่วยพี่เลือกหลอดไฟหน่อยสิพอดีโคมไฟอ่านหนังสือพี่มันหลอดขาด น้องดินช่วยดูให้หน่อยสิว่าพี่ต้องซื้อหลอดแบบ
ไหน พี่ซื้อไม่เป็นอ่ะ ” ขอเบ๊ะปากกับความตอแหลของพี่แกได้มะ เห็นๆอยู่ว่าเมื่อกี้ตอนนางเห็นได้ดินนางรีบหยิบหลอดไฟที่อยู่
ในตะกร้ากลับเอาไปวางที่เดิม!! แล้วยืนคุยเฉยๆไม่ได้ใช่มะ ทำไมต้องคล้องแขนไอ้ดินด้วย นมก็ถูแขนไอ้ดินไปสิ!!
..แล้วทำไมกูต้องหงุดหงิดด้วยวะ!!
“กูไปรอที่รถนะ” ผมบอกมันเสียงห้วน ..หึ กูซื้อของเสร็จแล้วมึงยังอยู่ที่เดิมเลือกไม่ได้สักทีกะอีแค่หลอดไฟ
จะเลือกอะไรกันนักกันหนา!!
“ป่ะ กลับกัน” ไอ้ดินเดินหน้านิ่งมาหาผมที่รถ
“ไม่ไปซ่อมโคมไฟให้พี่เค้าที่ห้องเลยละ” อารมณ์เหวี่ยงมากบอกเลอ!!
“...” ไอ้ดินไม่พูดอะไร แต่กับยิ้มกว้าง
“ยิ้มอะไร” กูไม่ตลก
“รู้ป่ะว่า
มึงกำลังหึง!!”
“...”
หึง หึง...ไม่จริ๊ง!!!!
“หึงบ้าอะไรของมึง”
“พี่แปมเป็นพี่ที่คณะ เค้าแค่ขอให้ช่วยเลือกหลอดไฟ ไม่ได้มีอะไร”
“บอกทำไม” มึงจะเลือกกันกี่หลอดก็ไม่ต้องมาอธิบายให้กูฟัง
“ก็เดี๋ยวมึงเข้าใจผิด”
“เพ้อเจ้อ กูไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น”
“มึงนั้นแหละ คิดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ดูดิโมโหจนหน้าแดงหมดละเนี่ย” แล้วมันก็เอื้อมมือมาจับแก้มผมเบาๆ เกลียดสีหน้าและน้ำ
เสียงของมันจริงๆ!! ทำไมต้องทำเหมือนกับว่าแคร์กูด้วยวะ!!
“ขึ้นรถ จะกลับมั้ย?”
ขึ้นรถปุ๊บก็สเต็ปเดิม เกาะกูแน่อย่างกะตีนตุ๊กแก แต่รอบนี้ไม่กอดอย่างเดียว เอาคางมาเกยบนบ่าผมด้วย!!
“กูชอบกลิ่นตัวมึงจัง มันหอมเหมือนผลไม้อะไรสักอย่างแต่กูนึกไม่ออกว่ามันคือผลไม้อะไร” ไม่พูดเปล่า มันสูดลมหายใจข้างๆ
แก้มผม ไอ้สัด!!ขนลุกเลยกู
“กลิ่นตะขบมั้ง” ผมตอบกวนตีนมัน
“เหรอ ตะขบหอมขนาดนี้เลยเหรอ ไหนขอดมพิสูจน์อีกทีสิ” แล้วมันก็โน้มหน้ามาหอมแก้มผมฟ้อดใหญ่
“ไอ้ดินนน!!” ผมโวยเสียงดังลั่น ไอ้นี้กูขับรถอยู่หรอกนะ ไม่งั้นมึงเจอกูตบกะบาลแน่
“หอมดีเนอะ ตะขบลูกนี้” มันพูดด้วยน้ำเสียงระรื่น ถึงไม่เห็นหน้าของมันเดาได้เลยว่ามันกำลังยิ้มแน่ๆ!!
..ไม่น่าตอบกวนตีนมันเลย!!
ถึงบ้านสักที..เหนื่อย!! นี่กูขี่มอไซค์ไปเซเว่นที่ปากซอยหรือไปแข่งโมโตครอสมาวะ!!
“มึงไปเซเว่นสาขาสุไหงโกลกมาเหรอวะ นานสัดๆ” ไอ้หมีที่นอนเหยียดยาวบนโซฟา บ่นแบบไม่ใส่ใจนัก
หมั่นไส้ มึงไม่รู้หรอกว่าเมื่อกี้กูเจอกับอะไรมาบ้าง เอาถุงน้ำแข็งไปว่างบนหน้ามันแม่ง!!
มีต่อด้านล่าง