04 : Jealous are killing me inside.
ความอิจฉาที่กำลังแผดเผาภายใน
ทำลายตัวตนที่อ่อนโยนของผม
..
มันกำลังจะหายไป
◇◆◇◆◇◆◇◆
ไลออนควรเรียนรู้วิธีปฏิเสธพาร์ทเนอร์ของเขาให้มากกว่านี้
ทุกครั้งที่ใบหน้าของคุณ N เขยิบเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเขาเหมือนถูกสั่งให้หยุดลง ก้อนเนื้อในอกพาลเต้นรัวจนแทบหลุดออกมา อาการปั่นป่วนในช่องท้องเหมือนมีผีเสื้อนับพันบินวน
ทุกสัมผัสจากฝ่ามือร้อนทำให้ร่างกายของเขาเหมือนถูกจุดไฟเผา ทั้งจากริมฝีปากชื้นแฉะ หรือจะเป็นจากปลายลิ้นชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ แค่เข้าใกล้กันเพียงเสี้ยวสัมผัสเท่านั้น
ทุกความคิดมลายหายไป
ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย
อย่างเช่นตอนนี้..
ภายในรถยี่ห้อออดี้สีแดงเพลิงตระหง่านเด่นหรากว่าคันอื่นบนลานจอดรถยังไม่เคลื่อนตัวออกตั้งแต่ชายสองคนเข้าไปภายในสักระยะหนึ่งแล้ว มีแค่ตัวรถที่ ‘สั่น’ เหมือนว่าสองร่างภายในกำลังกิจบางอย่างอยู่
เป็นโชคดีของไลออนที่นิวติดกระจกฟิล์มดำจนไม่สามารถมองจากด้านนอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในรถยนต์คันหรู
“อื้ออ...”เสียงครางดังระงมระหว่างที่สองปลายลิ้นแลกหยาดน้ำสีใส ๆ กันและกันผ่านโพรงปากชุ่มฉ่ำ ไลออนถูกนิรันดร์จูบหลายต่อหลายครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ พนันได้ว่าทุกซอกทุกมุมภายในโพรงปากนี้ไม่มีส่วนไหนที่ลิ้นร้อน ๆ ของชายร่างสูงจะไม่ได้ลิ้มลอง
เขารู้สึกเหมือนถูกสูบพลังงานเพียงแค่โดนจูบจนริมฝีปากแดงเจ่อ นิวเอาแต่จูบซ้ำเหมือนที่เต็มไปด้วยโลภะ ตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากไม่มีที่สิ้นสุดจนไลออนต้องเริ่มส่งเสียงในลำคอบอกถึงการหมดอากาศหายใจอีกฝ่ายถึงจะยอมลามือ
“ม.. มีธุระ.. อา..” คนตัวเล็กกว่าประท้วงแต่ไม่ทันไรกลับโดนปลายจมูกโด่งซุกไซร้ลงซอกคอเป็นหนที่สอง ร่างตัวเองเหมือนกลายเป็นตุ๊กตา โดนจับให้ไปนั่งบนตักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ทั้งกายเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ มือบางเกาะหัวไหล่คนที่ยังไม่ยอมหยุดเอาไว้แน่น
เขายอมออกมากับนิว โดยมีข้อแม้ว่าให้ตัวเองทำธุระเสร็จก่อน.. แต่เมื่อยกของไปวางเบาะหลังเสร็จเรียบร้อยกลับถูกอีกฝ่ายกระชากเข้ามาทั้งจูบและซุกไซร้อย่างคนหื่นกาม
ไม่สิ
ก็หื่นกามจริง ๆ นั่นแหละ
“ขออีกนิด..” เสียงทุ้มแหบพร่าที่ไลออนหลงใหลมาตลอดช่วงวีดีโอเซ็กส์คอลกันกระซิบเบาจนทำให้เผลอโอนอ่อน แก้มเนียนขึ้นสีแดงก่ำ ครางเสียงฮื่อเมื่อถูกแทะเล็มตามผิวเนื้อจนเสื้อผ้ายับยู่ยี่
“พอก่อน.. แค่นี้พอ”
“คุณยังไม่ได้บอกผมเลยนะว่าจะขับไปไหน” นิรันดร์พูดยิ้ม ๆ แต่ริมฝีปากกลับงับเล่นตามยอดอกสีหวานที่ชูชันอยู่ตรงหน้าหลังกระดุมเสื้อถูกปลดออก “จริงสิ อย่าลืมเลือกอุปกรณ์นะครับ ถ้าคุณไม่เลือก.. ผมจะเลือกให้เองล่ะนะ”
“รู้น่า” ในที่สุดไลออนก็ดันศีรษะกลม ๆ ออกไปได้ ก้มมองคนที่ตัวเองนั่งบนตักด้วยท่าทางดุกับการไม่เป็นข้อตกลง ตอนแรกบอกแค่ไปส่ง ไปด้วย ไม่เห็นบอกสักนิดว่าจะมีการมาทำแลกจูบอะไรแบบนี้ก่อน “แล้วก็ต้องไปรับเด็กที่หมู่บ้านนึง. .เดี๋ยวผมบอกทางเอง”
“ผมอุตส่าห์มาหาคุณถึงที่นี่ ไม่มีบริการเหรอครับ ?”
ไลออนถอนหายใจพรืด
“จริง ๆ คุณไม่เห็นต้องตามมาด้วยเลย คำตอบพวกนี้รอในแชทเอาก็ได้” เมื่อเขยิบตัวลงจากตักอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อพบว่ามีบางอย่างดันนูนขึ้นทิ่ม ๆ เขาอยู่ “โอ้ย..” ถึงกับโอดอรวญ
“ทำให้หน่อย” นิวหัวเราะทันที “เนี่ย มันตั้งเพราะคุณนะ” ไม่พอนั่น ยังชี้ลงไปตรงเป้ากางเกงอีก
“ผมเปล่าสักหน่อย” เขาเริ่มหน้างอ “คุณเป็นคนจับผมอุ้มขึ้นตักแล้วจูบ ๆ เองนะ แต่ตอนนี้ผมต้องไปทำธุระต่อ”
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมา อีกครั้งที่ทำให้คนมองใจสั่นคลอนเพราะรอยยิ้มแสนร้ายกาจ กับนัยน์ตาที่ซุกซน
“ไม่ใช้ปาก.. ผมไม่ขับรถแน่”
ยื่นข้อเสนอมาอีก..
“ผมควรรู้สึกยังไงเนี่ย..” เหมือนถูกไล่ต้อนจนจนมุมซะงั้น รถนี่ก็ของเขา แต่นิวอาสาขับแถมมีข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้อีก
“ตอนนี้เพิ่งบ่ายสองเองคุณ .. ยังมีเวลาน่า” ร่างกายนิ่งงันเมื่อฝ่ามืออีกฝ่ายคว้าปลายนิ้วตนเองมาวางไว้ที่เป้ากางเกง “คุณจะปล่อยผมทรมานแบบนี้ไมได้นะ.. ผมรอมาหลายอาทิตย์เลย”
นัยน์ตาสีอ่อนตวัดมองใบหน้าของนิรันดร์
เขาแค่เผยรอยยิ้มที่ดูซุกซนไม่ต่างกัน เสียงซิปกางเกงถูกรูดลงเชื่องช้าและสอดมือเข้าไปสัมผัสความใหญ่โต
“ถ้าผมไปรับเด็กสาย.. คุณจะได้รับบทลงโทษแน่”
◇◆◇◆◇◆◇◆
ใบหน้าสวยโน้มตัวลงไปเข้าครอบงำส่วนที่ชูชันสู้แรงโน้มถ่วงจนน่าขัน ปลายลิ้นเล็ก ๆ เริ่มตวัดเลียชิมรสชาติของแท่งร้อนที่ได้สัมผัสอยู่ มันไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ไลออนตื่นเต้น เขารับรู้ถึงฝ่ามือที่แทรกเข้ามาขยุ้มบริเวณเรือนผมนุ่มนิ่มตัวเอง ปลายฟันคมครูดลงตามแนวแก่นกายช้า ๆ
รสชาติของนิรันดร์ สำหรับไลออนคือรสชาติที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอม หรือขนาด ทุกอย่างดูอยู่ในระดับที่เขาถูกใจ
“อืมม..” เสียงครางดังออกมาจากลำคอคนอยู่สูงกว่าเมื่อปลายลิ้นเล็ก ๆ เริ่มไล้เลียไปทั่วทุกมุม นิรันดร์เผลอเม้มปากเพราะมือที่สะกิดบริเวณส่วนฐานของแก่นกายเล่นสองสามที “ซน..”
เจ้าของดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองอย่างท้าทาย
“นิดหน่อยเอง” ไลออนพูด อ้าปากครอบงำส่วนอ่อนไหวทันทีที่จบประโยค ความแข็งขืนกระดกขึ้นสู้ในโพรงปาก เขาจึงจัดการโยกริมฝีปากเป็นจังหวะสลับกับดูดแรง ๆ อีกหลายครั้งอย่างเชี่ยวชาญ
ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาที่ส่วนปลายของเขาก่อนจะปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นเข้าโพรงปากคนที่ยังมีอุ้งปากรองรับทันที นิวเห็นหัวไหล่เล็ก ๆ นั่นสะดุ้งตอนถูกฉีดเข้าปาก และเขาก็กดรอยยิ้มขึ้นอย่างขบขัน..
นั่นแหละ
ที่อยากเห็น..
อาการสะดุ้งตกใจแบบนั้นแหละ
“อึก..” คนตัวเล็กกลืนมันลงลำคอ แล้วตวัดสายตามองดุ ๆ ระหว่างที่ใช้มือปาดส่วนทีเปรอะเปื้อนใบหน้าออก “บ้าเอ๊ย ลืมถุงได้ไง”
“แค่ครั้งเดียวเอง” นิวหัวเราะ จัดแจงรูดซิปขึ้นและแต่งตัวให้เรียบร้อย เขาหยิบทิชชู่เปียกแล้วยื่นไปซับคราบขาวขุ่นเหล่านั้นออกจากใบหน้าหวานจนหมด
ไลออนเองก็ทำตัวไม่ซนอะไร หันไปหาพร้อมหลับตายอมอีกฝ่าย
สัมผัสจากทิชชู่เย็น ๆ ซับคราบออกเชื่องช้าจนหมด นิวขยำมันแล้วโยนทิ้งลงถุงขยะที่อยู่ด้านหลัง
“คุณ L ครับ”
คนถูกเรียกขมวดคิ้ว “ครับ ?”
จุ๊บ
“...” เสียงจากการจุ๊บเบา ๆ นั่นทำเอาอึ้งไป ลืมตามองแทบไม่ทัน
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมเบื่อจะเซ็กส์โฟนกับคุณแล้ว” อีกฝ่ายยังคงยิ้มไม่เลิก “ให้ทนรอไม่ไหวหรอกครับ”
จบประโยคขับออกไปสร้างความงุนงงให้กับคนนั่งข้าง ๆ กว่าครั้งไหน ปกติก็เป็นพวกชอบพูดจาวกวนอยู่แล้ว ยิ่งฟังก็ยิ่งงงมากขึ้นเท่านั้น
และ..
นานแล้วเหมือนกัน.. ที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้
ก่อนหน้าที่จะมีนิวเข้ามาวนเวียนในชีวิต เขาเป็นคนเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ คอยท่องเที่ยวตามประสาผู้ชายใช้ชีวิตคนเดียว มีเซ็กส์ในกับคนที่คุยกันรู้เรื่องและจากลากันไปง่าย ๆ การที่วันดีคืนดีทุกสิ่งจะแปรเปลี่ยนไปเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตั้งรับกับความรู้สึกนี้ไว้
แต่ถ้าวันหนึ่ง.. สิ่งเหล่านี้จางหายไปเหมือนกับครั้งก่อนล่ะ
ตัวเขา.. จะสามารถอดทนต่อความโดดเดี่ยวได้อีกไหมนะ ?
นัยน์ตาสีอ่อนเผลอเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับระหว่างทำเป็นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ คำถามมากมายปรากฏขึ้นในหัวสมองของเขาแต่ปากกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรและกักเก็บความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้แต่เพียงคนเดียว
มันคือความกลัวที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า..
เขาเริ่มกลัวที่จะถูกทำเช่นเดิมอย่างคราวเดียวกับไทเกอร์
ชายคนนั้นบอกเอาไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปและไม่ทิ้งกัน แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายสะบัดมือที่กอบกุมกันเอาไว้เนิ่นนานและพุ่งไปข้างหน้าเพื่อมีครอบครัวอันแสนสุขสันต์ ภรรยาคนสวยกับลูกตัวน้อยที่แสนน่ารักน่าชังอีก
เขาไม่อยากถูกทิ้งไว้ด้านหลังอีกแล้ว..
ภายในอกซ้ายถูกบีบคั้นจนฝ่ามือเผลอจิกเกร็ง ยามใดที่นึกถึงความทรงจำที่ติดค้างภายในหัว ยามนั้นย่อมเหมือนถูกกรีดด้วยมีดคมลึกลงรอยแผลเก่า ในตอนนั้นเขากล้าพูดได้เต็มปากว่าหลงรักเพื่อนตัวเองไปทำให้รู้สึกเช่นนั้น
แต่ในตอนนี้.. หากไม่เป็นการคิดล่วงหน้า และไม่รู้สึกเกี่ยวกับคำว่ารักลงไปกับผู้ชายข้าง ๆ เขาคงแค่เหงาที่ต้องกลับมาอยู่เพียงลำพังอีกแน่
แต่แล้วความสัมพันธ์ของพาร์ทเนอร์เซ็กส์จะยั่งยืนมากแค่ไหนเชียว ?
มันคงจบลง หากใครคนใดคนหนึ่งมีความรักหรือเบื่อหน่ายกัน อย่างไรก็ตาม คนที่นั่งข้าง ๆ ก็คงจะมีคนที่ไปต่อในอนาคตสักวัน แม้ไลออนจะไม่ได้รู้สึกเกินเลยกับอีกฝ่าย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีใครสักคนอยู่ด้วยสร้างความอบอุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียวแบบปกติเสียอีก
..เพราะงั้น.. ช่วยอย่าเพิ่งเบื่อ ‘คุณ L’ ไปก่อนแล้วกัน..
◇◆◇◆◇◆◇◆
รถออดี้สีแดงแล่นเข้าที่จอดสถานพักเลี้ยงเด็กตามที่ไทเกอร์ได้บอกตัวเขาไว้ ครั้งแรกเขานึกว่านิวจะถามเหตุผลที่พามารวมถึงสร้างความลำบากใจในการตอบ แต่เปล่าเลย อีกฝ่ายเลือกจะเงียบ หันไปยิ้มสบาย ๆให้กับไลออนเสียมากกว่าเหมือนเข้าใจว่านี่คือเรื่องส่วนตัวและไม่ควรจะยุ่งอะไรนัก
เขาโล่งใจ
ที่คนนั่งข้าง ๆ คือนิรันดร์ หรือคุณ N นั่นแหละ
ไลออนเดินลงจากรถ มองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าเป็นเวลาสมควรตามนัดแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปที่หน้าบ้านพักเล็ก ๆ พร้อม ๆ กับนิวนั่นเอง
“มารับเด็กเหรอคะ ?” เสียงเป็นกันเองดังมาจากหญิงที่จัดได้ว่าแก่ชราแล้ว เธอนั่งอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ต้อนรับเหมือนเป็นหนึ่งในพนักงานและแม่ครัว “ชื่ออะไรเอ่ย ?”
“ชื่อน้องสิงห์ครับ ผมมารับแทนคุณพ่อเขา” เอ่ยพลางหยิบหลักฐานเป็นเอกสารที่ไทเกอร์ส่งรูปมาพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนตัวเอง มือเหี่ยวย่นนั่นรับบัตรมา เธอตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร้องอ้อ แล้วบอกให้เด็กที่อยู่แถวนั้นไปปลุกน้องให้ออกมา
นิวที่ยืนอยู่เลิกคิ้วอย่างสงสัย
แม้จะไม่ถามอะไร แต่ก็พอรู้ว่าลูกของไทเกอร์ชื่อสิงห์ .. เพราะตัวเองก็เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คมัน และเห็นการอัพรูปลูกชายเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่..
ทำไมต้องชื่อสิงห์ล่ะ
“นี่..” เป็นประโยคแรกจากคนข้างกายเขาที่ดังขึ้นหลังจากเดินออกมาจากรถ “ชื่อ.. สิงห์งั้นเหรอ ?”
ไลออนระบายยิ้มบาง กดปลายคางลงตอบรับ
“มันบอกว่า.. มันรู้ที่กูน้อยใจมันเพราะไม่ได้ติดต่อเลยหลังแต่งงาน” เสียงพึมพำลอดออกมาจากปากเจ้าตัว “เลยเป็นสิง.. สิงโต.. Lion ไง ฟังดูแล้วตลกไหมล่ะ
”
ผู้ฟังเงียบเสียนาน อีกฝ่ายไม่ได้เป็น คุณ L ตอนพูดประโยคนี้ยิ่งเป็นสัญญาณชี้ชัดว่าเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากความรู้สึกปวดร้าวในอกลึก ๆ ได้ นิวมองไลออนผ่านหางตา สีหน้าและแววตาความเจ็บปวดยังคงวนเวียนอยู่ไม่จางหาย
เป็นเหตุให้ฝ่ามือร้อนเอื้อมเข้าไปจับปลายนิ้วมือที่อยู่ข้างตัวอีกคน
แค่เพียงเสี้ยวสัมผัสแผ่วเบา .. แต่ไม่หายไป..
ยั่งยืน
ยังอยู่ตรงนี้เสมอ
แค่นั้นคงเพียงพอสำหรับคนที่ต้องการ
ตามคาดเดา ไลออนหลุบตามองมือนั้นและใบหน้าด้านข้างของคนตัวสูงกว่า ไม่ได้มีคำพูดคำจาใด ๆ ไม่ได้มีคำปลอบใจใด ๆ มีแค่เพียงสัมผัสเท่านั้นที่ชโลมจิตใจแห้งผากของเขาให้ชุ่มฉ่ำขึ้นมา..
เท่านี้.. ก็เพียงพอ
..
“เชื่อกู เด็กผู้หญิง !”
เสียงโหวกเหวกดึงสติของพวกเขาทั้งสองคนให้กลับมา นิวชักมือกลับ ส่วนไลออนเองก็เอามือไขว่ไว้ด้านหลังแทน สายตาสองคู่หันมองไปตามเสียงที่ได้ยินไม่ห่างกันก่อนจะเห็นชายสองคนกำลังยืนเถียงกันด้วยท่าทางหงุดหงิด
และชายที่ว่า.. ก็คือคนที่พวกเขารู้จักเอง
ชะตาคงเล่นตลกกับพวกเขา ทั้งสองคนนั่นรู้จักกันดีเลยล่ะ เพื่อนสมัยมัธยมปลายที่เคยกัดกันจนเป็นคู่ดังในโรงเรียน.. ดนัยและน้ำกรด หรือเขาเรียกกันว่า ‘นัย’ กับ ‘กรด’
ทั้งสองคือหนึ่งคู่รักที่น่าอิจฉาในสายตาหลายคน ต่างฝ่ายต่างเคยเป็นคู่กัดกันสมัยมัธยมปลาย แต่กลับจับพลัดจับพลูสุดท้ายเป็นคนรักกันจนตอนนี้เข้าวัยทำงานก็ยังดูเหมือนข้าวใหม่ปลามันอยู่เพราะนิสัยกัดกันไม่เลิก
น้ำกรดเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงโปร่งติดไปทางค่อนข้างขาว ใบหน้าซน ๆ ยังไม่ได้แปรเปลี่ยนไปมาก ส่วนดนัยคือผู้ชายร่างสูงใหญ่ผิวสีแทนเป็นเอกลักษณ์ ไลออนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดนัยดูดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก คงเข้าขั้นที่ว่า ยิ่งอายุมาก ยิ่งดูดี
แถมยัง.. ดูแสดงอารมณ์มากขึ้นตั้งแต่อยู่กับน้ำกรดอีกด้วย
“เด็กผู้ชาย” ท่าทางไม่สบอารมณ์ของชายผิวคล้ำตัวสูงแสดงผ่านมาทางสีหน้าทันที “อีกอย่าง กูยังไม่ให้เลี้ยง”
“แต่กูอยากเลี้.. เฮ้ย ! ไอ้ไลอ์ ไอ้นิว !” ประโยคหลังผู้ชายร่างสูงโปร่งที่ชื่อว่าน้ำกรดเหลือบมามองทางเขาพอดี ไลออนอึ้งไป ไม่ทันจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างกายที่สูงกว่าก็โผเข้ามากอดคนข้างกายเขาแล้ว
“อา..?”
“นิว ! มึงไม่ตอบแชทกูสักที ติดต่อไปไม่เคยตอบอ่ะ หายไปไหนวะไอ้เหี้ย !”
อีกอย่างหนึ่งคือ น้ำกรดกับนิวเป็นเพื่อนสนิทกัน
เรื่องนี้ไลออนเกือบลืมไปเสียสนิท นิวเองก็ไม่เคยพูดถึงน้ำกรดระหว่างพวกเขาอยู่ด้วยกันด้วย และถ้าให้เทียบตอนนี้ สมัยก่อนนิวเคยตัวทั้งเล็กทั้งบางกว่าน้ำกรด แต่ตอนนี้มันสูงจนเกือบเท่าไอ้นัยแล้วด้วยซ้ำ
เจ้าของชื่อฉายแววสีหน้าตกใจกับคนที่พุ่งเข้ามามอบอ้อมกอด นิวอ้ำอึ้งไป แต่ไลออนมองแล้วนั่นเหมือนเป็น ‘ตัวตนของนิว’ ที่เขาเคยรู้จักกำลังรับอ้อมกอดของน้ำกรดอยู่ต่างหาก
ตัวตนของนิว..
ซึ่ง.. เป็นสิ่งที่ไลออนไม่เคยรู้จัก
ชายหนุ่มหน้าหวานยิ้มเจื่อน ปลายเท้าเขี่ยบริเวณพื้นช้า ๆ
เพราะเขา.. รู้จักแค่ ‘คุณ N’ ยังไงล่ะ
“มึงมาทำอะไร..”
“ตัวสูงขึ้นเยอะเลยนะมึงน่ะ..”
เป็นเสียงดนัยที่แทรกขึ้นมาพร้อมทั้งจับน้ำกรดแยกออกจากพาร์ทเนอร์เขา ไลออนไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม สายตานิ่งอ่านยากของนัยกวาดผ่านใบหน้าเขาและนิว วินาทีนั้นเหมือนทุกอย่างกระจ่างในลูกแก้วสีทึบ เขาดูมองออกโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไร
“ไอ้หมามันอยากรับเด็กเลี้ยงน่ะ แต่กูไม่ค่อยเห็นด้วย”
“ไม่เห็นห่าไร มึงกับกูเถียงว่าจะเลี้ยงชายหรือหญิงอยู่ และกูอยากได้ผู้หญิง !”
“เลี้ยงตัวมึงให้รอดก่อนเหอะไอ้สัตว์”
ดูสิ..
ผ่านไปกี่ปี สองคนนี้ก็ยังเถียงกันไม่เปลี่ยนไปเลย
เป็นคู่รักที่น่ารัก..
“พวกมึงยังกัดกันไม่เลิกอีกเหรอวะ ฮั่นแน่ะ” ไลออนหลุดยิ้ม พูดเสียงล้อ ๆ “คบกันมาเกือบสิบปีแล้วสิเนี่ย ? เมื่อไหร่จะแต่งงาน ๆ กันไปสักทีวะ”
และน่าอิจฉา.. สำหรับคนไร้รักในเวลาเดียวกัน
“อ้อ” ประโยคคำถามของไลออนได้รับเสียงตอบรับโดยชายผิวคล้ำ ก่อนเจ้าตัวจะคว้ามือข้างซ้ายน้ำกรดขึ้นมาโชว์แหวนเรียบ ๆ สีเงินตระหง่านอยู่บนนิ้วนาง “ไม่น่าเกินปลายปี เดี๋ยวกูจะส่งการ์ดไปให้แล้วกัน”
“..เชี่ยเอ๊ย” น้ำกรดหน้าแดงก่ำ หันหนีไม่ได้ปฏิเสธอีกยิ่งทำให้ไลออนและนิวเผลอยิ้มออกมา
ความรักที่ทั้งสองคนมีพาลให้ภายในใจอิจฉาจนร้อนรุ่ม
แต่เบื้องหน้า เขาทำได้แค่ยิ้ม
“ดูเถียงน้อยลงนะมึงน่ะ” นิวเอ่ยเรียบ ๆ
“แต่มึงควรรู้ไว้ ว่าถ้ามึงจะเลี้ยงเด็กแล้วมึงพูดคำหยาบกับกูแบบนี้ตลอดมันไม่ดีกับเด็ก กูบอกมึงแล้วนี่” เสียงทุ้มต่ำของดนัยดังขึ้นเอื่อย ๆ “มึงอยากให้ลูกมึงโตมา ชี้หน้ามึงแล้วด่าไอ้เหี้ยไหมล่ะ”
คนฟังหน้าถอดสี จินตนาการเด็กผู้หญิงลุกขึ้นพูดคำแรกว่า ‘ไอ้เหี้ย ! ไอ้เหี้ย !’ แล้วส่ายหัวพรืด “ไม่..ไม่ๆๆ”
“เออ งั้นก่อนจะเลี้ยงเด็กก็เลิกพูดคำหยาบ เอาตัวเองให้รอดได้แล้ว”
ไลออนและนิวมองดูคู่รักคุยกัน เดาว่าพวกเขาทั้งสองคนน่าจะทำตัวเหมือนสมัยก่อนเป็นอย่างไร สมัยนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นแน่แท้ แต่การจะรับเด็กสักคนมาเลี้ยงหมายถึงอนาคต หากได้รับพื้นฐานที่ไม่ดี ยิ่งเป็นการต่อยอดที่น่าเห็นใจของเด็กและแน่นอน
“ก็จริงของไอ้นัยนะ เนี่ย ไทก์มันก็เลิกพูดคำหยาบตอนมีลูกเพราะกลัวลูกติดหยาบ ๆ จากมัน” ไลออนเสริม “ก็ลองดูสิ แทนตัวเองไง นัย กรด นัย กรด จริง ๆ กูกับนิวก็ไม่ค่อยพูดแล้ว เพราะเราต้องทำงาน ใช่มะ ?”
“ห๊ะ พวกมึงไม่พูดกันเลยเหรอ” คนอยากได้ลูกสาวเหวอกว่าเดิม หันไปมองนิวอย่างหาความช่วยเหลือ
“ถูก เวลางานจะไม่พูด หรือพูดบ้างแต่ไม่ทุกประโยคเหมือนที่มึงคุยกับไอ้นัย”
“....” และแล้วคนชื่อดนัยกลับกระตุกยิ้มมุมปากขึ้น
“ลองดูสิ ฝึกพูดตั้งแต่วันนี้เลยก็ดี ถ้า ‘กรด’ ทำได้ นัยก็ตกลงเรื่องเด็ก” เขาคว้ามือเล็กกว่าของคนรักไว้ “แล้วอยากรับเด็กผู้หญิง หรือเด็กผู้ชายค่อยมาว่ากันอีกที”
“....”
“นัยว่าวันนี้มาแค่นี้ก่อนดีกว่า กลับกันได้แล้วกรด”
“....”
ผิวที่ขาวอยู่เปลี่ยนสีแดงจัดซะยิ่งกว่าเนื้อแตงโมจนเหมือนจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว น้ำกรดอ้าปากพะงาบ ๆ จะพูดแต่ก็ลังเล กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ แล้วอ้าปากอีกรอบ พร้อมหุบลงเป็นครั้งที่สองท่ามกลางความตื่นเต้นของเพื่อนสองคนรักอีกหนึ่ง
“ก.. ก.. กรด.. กรด..” คนฟังอยู่ถึงกับต้องกลั้นขำ ตั้งแต่รู้จักกับ ‘น้ำกรด วิจารนิโยช’ มาเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีวันไหนคำดี ๆ หลุดออกมาจากปากมันเวลาอยู่กับเพื่อน และจะได้เห็นก็คราวนี้ “กรด....กลับก่อนนะ นิว ไลอ์”
“ดูแลกรดให้ดี ๆ อย่าประสาทแดกกับมันไปก่อนแล้วกัน นัย”
“นิว ! มึงอะแหละตัวดี ติดต่อกูมาบ้างก็ได้...” คนฝึกเลิกพูดคำหยาบชะงัก “... นิวนั่นแหละ หัดติดต่อกรดมาบ้างก็ได้ .. ทำงานแล้วไม่ติดต่อกรดมาเลยนะ” เสียงกึ่ง ๆ ท่องมากกว่า แต่ฟังแล้วก็น่าเอ็นดูเหลือเกิน
“กลับไปเตรียมเรื่องของกรดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูดเรื่องของนิว” คนเคยหน้าหวานหัวเราะ
“งั้นกรดกลับก่อนนะ..” ดูมันจะยังทำใจไม่ได้ครึ่งหนึ่ง แต่กำลังพยายามอยู่ ไลออนเห็นน้ำกรดหันไปจับมือดนัยตอบ แล้วพูดเสียงเบากว่าเก่าเหมือนกลัวว่าเพื่อนอีกสองคนของเขาจะได้ยิน “..นัย กลับกันนะ กรดหิวแล้ว”
เจ้าของผิวสีคล้ำกร้านแดดเบิกตากว้างขึ้น ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาช้า ๆ กระชับฝ่ามือตอบแล้วหันไปบอกลาเพื่อนเขาทั้งคู่ จังหวะเดียวที่น้องสิงห์ถูกจูงออกมาจากห้องแทน
และแล้วใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มจากไลออนจึงเริ่มจางลงเมื่อเพื่อนสองคนเขาลับสายตา
..ดูพวกเขา.. มีความสุขชะมัด
ฝ่ามือเผลอจิกกำแน่นขึ้นจนสั่นคลอน ภายในอกเขาเหมือนถูกทับด้วยหินหนักร้อยตัน รู้สึกทั้งอึดอัดและปวดหนึบจนทนแทบไม่ไหว
เขาอิจฉา..สองคนนั้น
แม้จะเป็นคู่ชายรักชายแต่กลับอยู่ได้อย่างยั่งยืน ความรักที่ทั้งสองคนมอบให้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปไหน เขาไม่ได้คิดจะทำลาย แต่แค่รู้สึกอิจฉา.. และอยากได้รับความรักบ้าง
สายตาเขาหลุบมองเด็กผู้ชายที่วัยย่างเข้าสามขวบคนนั้น..
เขาอยากได้รับบ้าง.. ไม่ใช่จากใครสักคน
แต่เป็นจาก ‘มัน’ .. เหมือนที่ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ ได้รับ..
“ไลออน” เสียงกระซิบแผ่วเบาดึงสติเจ้าของชื่อให้กลับมาอีก
“..ทำหน้าตาน่ากลัวใหญ่แล้ว”
เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าเผลอคิดอะไรลงไป ความรู้สึกละอายใจก่อเกิดขึ้นภายในอก ยิ่งเห็นท่าทางหวาดผวาของน้องสิงห์ที่ว่ายิ่งทำให้เจ้าตัวหันหนี เป็นฝ่ายเดินจ้ำอ้าวไปที่รถก่อนปล่อยให้นิวยกน้องสิงห์ขึ้นมาอุ้มบนอ้อมแขนแทน
“คุงน้าคนนั้น.. น่ากัว” เด็กตัวน้อยกระซิบเบา ๆ อย่างหวาดระแวง“ฮื่อ.. แล้วคุงน้าเป็นใคร.. พ่อเสือของหนูอยู่ไหน”
“น้าชื่อน้านิว.. เดี๋ยวพาไปหาคุณพ่อให้นะครับ” คนตัวสูงรีบออกรับก่อน“น้าคนนั้นชื่อพี่ไลอ์.. เขาไม่น่ากลัวหรอก อย่ากลัวเขาเลย”
“จิงเหยอ..”
“อือ เขาแค่อารมณ์ไม่ดีเท่านั้นแหละ”
ริมฝีปากอุ่นแนบบนแก้มนุ่มนิ่มของเด็กแผ่วเบาแล้วเริ่มเดินตามไป นัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนค่อย ๆ กลับมาเป็นดั่งเดิมเมื่อเด็กตัวน้อยเริ่มซุกหน้ากับหัวไหล่เขา
ภาพใบหน้าที่ทั้งเจ็บปวดและเต็มไปด้วยความอิจฉาของไลออนแล่นเข้ามาอีกครั้งหนึ่งในหัว มือลูบบริเวณแผ่นหลังเล็กของน้องสิงห์ช้า ๆ เขารู้ว่าเจ้าตัวคงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น..
นิวถอนหายใจช้า ๆ
.. ถ้าปล่อยไว้แบบนี้.. นัยน์ตาสีอ่อนหลุบมองเด็กที่เริ่มหลับอีกครั้ง..
เขาว่า เขาพอคาดเดาบางอย่างได้
คงไม่ดีต่อหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้เรื่องสินะTalk :
เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น เพียงเสี้ยวสัมผัส พร้อมแท็ก #เพียงเสี้ยวสัมผัส ค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่อง...
จะว่าไงดี ค่อยๆ เนิบ ๆ ล่ะมั้งค่ะ ฮ่า ตอนนี้เองก็ได้ตัวละครจากเรื่อง Non Romance มาอีก
ไลออนเป็นผู้ชายคิดมากและออกแนวเก็บกด
ส่วนนิวเองก็รู้เรื่องนี้ ^ ^
จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต นิวเดาได้แล้ว คนอ่านพอเดาได้ไหมคะ ?
ขอขอบคุณที่ทุกคนยังเข้ามาอ่าน หรือมีคนเข้ามารอ ดีใจมากตอนเห็นคอมเม้นท์เลยค่ะ ตอนนี้สอบเสร็จแล้วจะกลับมาอัพตามปกตินะคะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกัน ^ ^