◇◆ เพียงเสี้ยวสัมผัส ◆◇ [บทส่งท้าย , 14/2/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◇◆ เพียงเสี้ยวสัมผัส ◆◇ [บทส่งท้าย , 14/2/61]  (อ่าน 22004 ครั้ง)

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*************************

เพียงเสี้ยวสัมผัส
[/b]

เรื่องราวของคนสองคนกับเซ็กส์..ที่ไร้ความรัก

เพราะพวกเราทั้งสองคน

แค่อยากเติมเต็มส่วนที่หายไปก็แค่นั้นเอง

แล้วทำไม..

คนที่เข้ากับผมได้มากที่สุด ถึงต้องเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลายด้วยนะ ?























​00 : Meeting an old friend.


คุณเคย.. ‘มองข้าม’ ใครสักคนไหม ?
ผมมองข้ามเขา
เขามองข้ามผม
จนกระทั่งวันหนึ่ง.. กงล้อหมุนพวกเรามาพบอีกครั้ง

เมื่อถึงเวลานั้น..
เรากลับไม่สามารถแยกจากกันได้อีกเลย


◇◆◇◆◇◆◇◆


      มันไม่ใช่ครั้งแรกของ ‘ไลออน ศศิวิกุล’ ที่ได้มีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า

 

 

 

            เจ้าของร่างสูงโปรงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวใหญ่กว่าขนาดตัวเดินทอดน่องตามทางของโรงแรมขนาดใหญ่ที่ได้นัดแนะไว้กับชายในเว็บหาคู่นอน เป็นปกติของไลออนที่จะรู้สึกเหงาสักเดือนละครั้ง สองครั้ง เสิร์ชหาคู่นอนชั่วครั้งชั่วคราว ผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง รุกบ้าง หรือรับบ้างสลับกันไป

 

 

                ‘ชั้น 4 ห้อง 468’ ชายหนุ่มขบคิดในใจ ยืนมองตัวเลขในลิฟต์ที่ขยับทีละตัวช้า ๆ จนได้ยินเสียงติ๊ง เป็นอันถึงจุดหมาย

 

 

                ประตูลิฟต์ของโรงแรมเปิดออก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นป้ายบอกเลขห้องที่ติดอยู่ทางผนังก่อนเขาจะตัดสินใจเลี้ยวไปทางขวา ไลออนเร่งฝีเท้าเร็วกว่าเดิม ก้อนเนื้อในอกเหมือนสั่นไหวแรงขึ้นเมื่อเขาพบว่าเลขห้องบนประตูค่อย ๆ ร่นลงเรื่อย ๆ จนใกล้ถึงปลายทาง

 

 

                ห้อง 468 ..  ‘คุณ N’ กำลังรออยู่

 

 

                หากจะว่ากันตามตรง คุณ N คือชาวเกย์สายรุกที่ทิ้งไอดีไลน์ไว้ในเว็บไซต์หาคู่นอน ส่วนไลออนก็แค่ไล่ตาดูแล้วสนใจ กดแอดไลน์เมื่อสามถึงสี่เดือนก่อนนั่นแหละ

 

 

                พวกเราเริ่มคุยกันจนพบว่าทั้งคู่ต่างเข้าขากันได้ดี ถูกคอทั้งเรื่องรสนิยมและอุปนิสัย คุณ N เป็นผู้ชายดูง่าย ๆ สบาย ๆ บางครั้งก็มึนบ้าง แต่บางครั้งกลับเปลี่ยนอารมณ์เป็นหื่นกามได้ราวกับคนละคน..

 

 

                โดยเฉพาะ.. ข้อความในตัวอักษรของผู้ชายคนนั้น..

 

 

ติ๊ง !

 

 

                เสียงแอพลิเคชั่นไลน์แจ้งเตือนขึ้นมาเรียกความสนใจไลออนให้ก้มดู เรียวปากเล็กเผลอแย้มยิ้มออกมา..

 

 

 

                คิดถึงแล้วก็มาเลยแหะ

 

 

                คุณ N : ผมอาบน้ำรอคุณอยู่นะ : )

            (แนบรูป)

 

 

                คนที่เดินอยู่ถึงกับหลุดยิ้ม รูปภาพเพียงท่อนไล่ลงมาจากปลายคางเปลือยท่อนบนและมีผ้าขนหนูผูกรอบเอวไว้อยู่ถูกส่งมาในมือถือเขาตามปกติที่เคยทำกัน แผ่นอกของคุณ N ค่อนไปทางขาว มีหยดน้ำเกาะแพรวพราวอยู่น่าจรดริมฝีปากซับดูดของเหลวลงคอจนทำให้คนอย่างเขาพาลตื่นเต้น เร่งฝีเท้าเร็วขึ้นไปอีก

 

 

                อันที่จริง.. ไลออนไม่เคยเห็นหน้าคุณ N ที่ว่าเลย

 

 

                มากสุดที่เคยทำกันคือวีดีโอคอลเพื่อ ‘เซ็กส์’ โดยเฉพาะเมื่อสามวันก่อน ตัวเขาเห็นเพียงแค่ส่วนต่ำกว่าใบหน้าและความใหญ่โตจากความเป็นชาย ต่างฝ่ายต่างช่วยตัวเอง ไลออนเลือกจะเป็นฝ่ายรับ คอยส่งเสียงปลุกกระตุ้นทางปลายสายให้เกิดอารมณ์ขึ้นพร้อมทั้งแสดงลีลาผ่านวีดีโอโดยไม่ให้เห็นใบหน้าของกันและกัน..

 

 

                คุณ N เคยบอกว่า เขาต้องการเช่นนี้

 

 

                เพราะมันดูน่าสนุกกว่ายังไงล่ะ

 

 

                ในเว็บหาคู่นั้นไลออนเลือกจะใช้คำแทนตัวว่า ‘คุณ L’ มากกว่าจะใช้ชื่อตัวเองจริง ๆ เขามีเซ็กส์ไม่เลือกหน้า แต่กับคนที่ทำให้รู้จักตื่นเต้นขึ้นได้ขนาดนี้นอกเสียจากคุณ N แล้ว.. หากเป็นคู่นอน ก็ไม่มีอีกเลย

 

 

ติ๊ง !

 

 

                เสียงไลน์เด้งขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้เป็นรูปภาพ แต่มาเป็นคลิปเสียงเลยทีเดียว

 

 

                ชายหนุ่มรู้หน้าที่ เขาสวมหูฟังคลิปเสียงนั่นก่อนแม้ว่าอีกแค่หนึ่งห้องก็จะถึงจุดหมายแล้วก็ตาม ได้ยินคำกระซิบว่า ‘รีบมานะครับ’ พาลให้รู้สึกเหมือนถูกปลุกกระตุ้นส่วนล่าง เสียงของคุณ N ที่แตกและแหบพร่าขับให้ดูเซ็กซี่เข้าไปอีก หากจะจินตนาการถึงร่างกายจากรูปภาพประกอบ.. เขาคือผู้ชายเพอร์เฟ็คดี ๆ นี่เอง !

 

 

                คุณ L : ผมอยู่หน้าห้องแล้วครับ

            คุณ N : ผมไม่ได้ล็อคนะครับ เข้ามาได้เลย

 

 

                ปลายเท้าหยุดลงที่หน้าห้อง 468 พอดีที่พิมพ์จบ ไลออนรู้สึกแปลกใจที่ตัวเองกำลังตื่นเต้นทั้งที่เขาเองก็ผ่านการนอนกับคนอื่นมาหลายครั้งแล้วก็ตาม อาจจะเป็นเพราะคุณ N คือคนแรกที่รู้สึกเข้ากันได้ดีทั้งร่างกาย ความคิด ทัศนคติ หรือแม้กระทั่งคำพูดคำจา คารม ลีลา ท่าทาง.. และเซ็กส์ ตั้งแต่เกิดมาไลออนยังไม่เคยเจอคนที่เข้ากันได้เท่านี้มาก่อน

 

 

                เขาตื่นเต้น.. ที่จะได้มีเซ็กส์หลังจากวีดีโอคอลกันมา

 

 

                และเขาเป็นคนมักมากในกาม.. เรื่องนี้ ตัวเขารู้ดี

 

 

                หนึ่งในความปรารถนาที่เกิดขึ้นคือการลองใช้ฝ่ามืลูบไล้แผงอกขาว ลองตวัดปลายลิ้นและอุ้งปากครอบครองความใหญ่โต ดูดเลียเสมือนว่ามันเป็นลูกอมแท่งที่แสนโปรดปรานอย่างเอร็ดอร่อย..

 

 

                อยากทำ..

 

 

                อยากให้สิ่งที่ตนเองเห็นผ่านกล้องวีดีโอกระแทกทั้นเข้ามาร่างกายตัวเอง สัมผัสความร้อนผ่าวของร่างกายกันและกันจนรับรู้ว่าสำหรับพวกเขา แค่วีดีโอหรือเสียง มันไม่พอ..

 

 

                ต้อง.. เจอตัวจริง

 

 

 

                อย่างเช่นวันนี้ :)

 

 

                ที่จริงตัวของไลออนเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่เด็กผู้ชายมัธยมปลายเกรียน ๆ อย่างเขากลายเป็นคนเต็มไปด้วยความมักมากในกาม อาจจะเป็นช่วงหลังจากความรักครั้งแรกและครั้งเดียวได้แหลกสลายเป็นธาตุอากาศ

 

 

                ตั้งแต่นั้น.. คำว่ารัก จึงอยู่ต่ำกว่าคำว่าเซ็กส์สำหรับเขา

 

 

                เริ่มจากออกเที่ยวกลางคืน หาคู่นอนเป็นชั่วครั้งชั่วคราวตามผับหรือตามอินเตอร์เน็ต ต้องการเพียงเสี้ยวสัมผัสจากใครสักคนให้โอบกอดทั้งร่างของตัวเองจนเกิดความพึงพอใจ ขอเพียงไออุ่นเล็ก ๆ ยามค่ำคืนที่ทำให้จิตใจเขาสงบลงได้และไม่นึกถึงอดีตคนสำคัญที่อยู่ในอกมาตลอด

 

 

                และคุณ N ที่ว่า คงคิดเหมือนกัน

 

 

ก๊อก ก๊อก

 

 

                เขาจงใจยกหลังคือเคาะประตูอย่างกลั่นแกล้ง และดูคุณ N ในห้องจะรู้ทันเพราะเสียงไลน์ร้องติ๊งขึ้นมาเสียติด ๆ

 

 

                คุณ N : อย่ามาแกล้งกันเล่นสิครับ.. เข้ามาได้แล้ว.. นะ นะ คุณแอล

 

 

            ดูอ้อนเข้าสิ

 

 

                น่าเอ็นดูขนาดไหน

 

 

                ชายหนุ่มอมยิ้ม รอเวลาแค่ไม่กี่วินาทีแล้วหมุนลูกบิดเข้าไปภายในห้องที่ถูกปรับแอร์จนเย็นกว่าทางเดินของโรงแรม ไลออนย้ายตัวเข้ามายืนแล้วปิดประตูลง

 

 

                สิ่งแรกที่รับรู้คือกลิ่นเย็น ๆ ของสบู่อาบน้ำลอยมาแตะจมูก

 

 

                สิ่งที่สองคือภาพประตูห้องน้ำที่แง้มออกมาจนเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของชายร่างสูงกว่า

 

 

                “คุณ L ?”

 

 

                น้ำเสียงทุ้มที่ฟังกี่ทีก็ดูเซ็กซี่ดังออกมาจากในห้อง สายตาของคนเพิ่งเข้าห้องไล่มองร่างกายที่พันผ้าขนหนูเอาไว้จากล่างขึ้นบนอย่างอดกลั้น แค่ร่างกายนี่ก็ทำให้อีกฝ่ายมีอารมณ์ได้แล้ว ยิ่งเห็นกล้ามหน้าท้องเรียงรายกันเป็ดมัด ๆ ยิ่งอยากลองตวัดปลายลิ้นตามร่องนั่นดูสักครั้ง..

 

 

                ท่อนล่าง.. ดูดีกว่าวีดีโอเป็นล้านเท่า !

 

 

                ยิ่งได้กวาดตาขึ้นมาจนถึงแผงอกน่าเอนซบยิ่งทำให้หัวใจเขาจะล้มเหลวซะให้ได้.. ไม่ว่าจะเป็นไหปลาร้าที่ดูเอ็กซ์สุด ๆ และขึ้นมาถึงลูกกะเดือกของคุณ N ก็ตาม..

 

 

 

 

                แต่แล้วทุกอย่างกลับต้องหยุดลง

 

 

 

 

 

                เพียงเพราะใบหน้าของคุณ N

 

 

 

 

                ใบหน้าที่จัดได้ว่าหล่อเหลาแต่กลับ ‘คุ้นเคย’ จนน่าประหลาดสะกิดใจเขาให้เรียกสติกลับมา เรียวคิ้วของตัวเองขมวดมุ่นเข้าหากัน.. อีกฝ่ายดูเป็นคนที่คุ้นเคย.. โครงหน้าคุ้นตาเสียจนต้องใช้เวลาในการทบทวนความทรงจำของตัวเอง..

 

 

 

                และย้อนกลับไป..ตอนสมัยมัธยมปลาย..

 

 

 

                ภาพของชายคนหนึ่งที่มีร่างกายทั้งเล็กกว่า บางกว่าเขา ดวงตากลมโตกับขนตายาวเป็นแพรวมถึงเสียงที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่สามารถแตกได้เสียทีจนกระทั่งจบม.6 แล้ว

 

 

                ผู้ชายที่จัดได้ว่าเป็นคนดังของโรงเรียน..และเป็นผู้ชายที่ถือว่าน่ารักในอันดับต้น ๆ ของระดับชั้นตอนนั้น..

 

 

                “ไลอ์..?”

 

 

                พอได้ฟังเสียงดี ๆ กลับพบว่ามันมีโทนที่ใกล้เคียงกันมาก ที่ต่างกันเพราะตอนนั้น ‘คุณ N’ คงเสียงแตกช้ากว่าปกติ ดวงตากลมของผู้ถูกเรียกเบิกกว้าง ปลายนิ้วพาลเย็นเฉียบเสียยิ่งกว่าบรรยากาศห้องเสียอีก..

 

 

                นี่มัน..

 

 

 

 

                อย่าบอกนะว่า..

 

 

 

                “นิว..?”

 

 

 

                เมื่อพูดออกไป ‘คุณ N’ ได้แค่นิ่งไม่นาน

 

 

                และระบายรอยยิ้มบาง กดปลายคางลงตอบรับแทนยิ่งทำให้หัวใจไลออนร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม..

 

 

                ..

                อีกฝ่ายคือนิว

 

 

 

 

 

 

                .. เพื่อนสมัยมัธยมปลายของเขาเอง


___________________________________________

สวัสดีค่ะ
StraWBerry_imin เองค่าาาา

มาแก้ไขเนื้อหารีไรท์นิดหน่อยค่ะ U v U และเปลี่ยนชื่อเรื่องค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามนะคะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2018 22:31:03 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ASKING FOR FREE SEX [ch.1 , P.1 , 26/11/2017]
«ตอบ #1 เมื่อ26-11-2017 14:04:11 »

01 : Friend with benefits.


แผดเผาจนร้อนรุ่ม
ทุกครั้งที่ผมอยู่กับคุณ.. ผมควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย


◇◆◇◆◇◆◇◆


   บังเอิญ


   โชคชะตา


   หรือพรมลิขิตกัน ที่พัดพวกเขาสองคนมาพบอีกครั้งในสถานที่เช่นนี้ เวลาเช่นนี้ และสถานการณ์แบบนี้


   ไลออนคิดไม่ตก ในโลกเรามีประชากรเป็นพันล้านคน ในประเทศไทยเองก็มีคนเป็นหมื่น ๆ คนที่ลงชื่อในเว็บไซต์หาคู่นอน แต่ใครจะไปคาดคิดล่ะว่าหวยจะออกตรงงวดเดียวกับเพื่อนสมัยม.ปลายแบบนี้


   ยิ่งคิดย้อนยิ่งทำให้ไลออนเครียดกว่าเก่า ผู้ชายที่เขาคุยและวีดีโอเซ็กส์คอลมาตลอดสามถึงสี่เดือน คือผู้ชายคนเดียวกับที่ตัวเองเรียนด้วยกันมาตลอด 3 ปีช่วงมัธยมปลาย


   เวรเอ๊ย


   ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งหนึ่งสมัยงานแสดงละคร เขานี่แหละเป็นคนแกล้ง และจัดให้นิว หรือ ‘นิรันดร์ นีรเตโช’ แต่งหญิงเล่นเป็นนางเอกของเรื่องราว ยัดเยียดบทสาวน้อยบนเวทีให้โดยไม่เต็มใจอีก เพราะรูปร่างบอบบางและใบหน้าหวาน ๆ นั่นจับแต่งหญิงทีก็ไม่มีใครแยกออกแล้วว่าตัวจริงคือผู้ชายน่ะ


   ต่างจากตอนนี้ลิบลับ.. มันไปทำอะไรมาวะ


   “ฮะ .. เอาตรง ๆ กูไม่เคยคิดก่อนเลยว่าจะได้เจอมึงอีก..” น้ำเสียงทุ้มติดหวานของเขาทำลายความเงียบระหว่างพวกเราทั้งสองคน นิวตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีขาวสะอาดของโรงแรมแทน ใบหน้าที่เคยหวานออกไปทางแนวหล่อ ๆ ใส ๆ ดูสงบนิ่ง ไม่ได้แสดงอาการตกใจเท่าไลออน อีกฝ่ายดูไม่ใส่ใจ ปล่อยมันไปเลยตามเลย


   แต่นั่นคือสำหรับนิรันดร์ไง


   ส่วนไลออนน่ะ .. ใส่ใจสุด ๆ


   เขาไม่อยากมีเซ็กส์กับ ‘เพื่อน’ ตัวเองไหร่


   “ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน” นิรันดร์ตอบประโยคสั้น ๆ “บังเอิญดี”


   บังเอิญ ?


   ใช่ บังเอิญสิ มาขนาดนี้แล้วน่ะหาคำอื่นทดแทนกันไม่ได้หรอก


   “มึงไปทำอะไรถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้” เขายิงคำถามเมื่อเตียงนุ่มยุบลงเพราะคนตัวใหญ่กว่าทิ้งแผ่นหลังอย่างเหนื่อยล้า ไลออนเดาไม่ถูกเลยว่าเป็นเหนื่อยกายหรือเหนื่อยใจมากกว่า “หมายถึงขนาดตัว.. แล้วก็เสียงด้วย”
   นิวไม่ได้ตอบทันที เขานอนใช้ปลายนิ้วเกี่ยวผมตัวเองที่ฉ่ำน้ำเล่น “ไม่รู้สิ ฮอร์โมนคงเพิ่งทำงานนั่นแหละ”
   “เดี๋ยวก็เป็นหวัด”


   ไลออนถอนหายใจพรืด คว้าผ้าผืนเล็กที่อยู่ไม่ไกลมาคลุมบนหัวของนิวอีกแล้วดึงอีกฝ่ายขึ้นมานั่งบนเตียง หากย้อนกลับไปสมัยม.ปลาย คงต้องยอมรับเลยว่าเขาคือหนึ่งในผู้ชายในห้องที่ค่อนข้างเอ็นดูนิว


   เพราะความตัวเล็ก ๆ บาง ๆ ของมันกับการพูดน้อยประโยค (เหตุผลที่พูดน้อย คือเพื่อนสนิทของนิวเป็นผู้ชายปากหมาและพูดมากจนแย่งนิวพูดหมด) ทำให้ตัวเองได้แต่คอยมองผ่าน ๆ และเล่นด้วยเป็นครั้งคราวแทน


    คนถูกดึงขึ้นมาให้นั่งบนฟูกยังคงนิ่ง ปล่อยไลออนขยี้ผมด้วยผ้าขนหนู นิวไม่ได้ว่าอะไร แค่เหลือบมองชายหน้าสวยที่กำลังเอาใจใส่กลัวเขาจะป่วยเพราะหัวเปียกเป็นครั้งคราว และเจ้าตัวจึงก้มหน้าลงอีกหน


   ส่วนหนึ่งคือให้ไลออนได้เช็ดผมตัวเองได้ง่ายขึ้น





   และอีกส่วนหนึ่ง..






   คือปิดบังมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นอยู่






   “ได้ข่าวว่าจบไปแล้วติดหมอนี่ มึงมีเวลาว่างด้วยเหรอ ?” ไลออนยิงคำถามเป็นครั้งที่สองเพื่อทำลายความเงียบ เสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังฮื่อ ๆ ยิ่งทำให้เจ้าตัวรู้สึกอึดอัดจนอธิบายเป็นความรู้สึกได้ยาก มองคนตัวโตกำลังก้มหน้านิ่ง ๆ เหมือนใช้ความคิด
   “ติดนะ แต่ซิ่วออกตั้งแต่เทอมแรกเพราะไม่ชอบ” คำตอบนั้นสร้างความแปลกใจให้คนฟังพอควร
   “แล้วซิ่วไปไหน ?”
   “มนุษ ฯ” เขาตอบเสียงเรียบ แหงนคอขึ้นมองคนที่หยุดขยี้ผมให้แล้วสะบัดผ้าเปียก ๆ แทน


   ไลออนผงะกับดวงตาคู่นั้นหลังจากเขาเดินไปเก็บผ้าและวกกลับมานั่งข้าง ๆ อีกรอบ รู้สึกประหลาดอย่างห้ามใจไม่อยู่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะตัวใหญ่กว่าตนเองแล้วแต่นัยน์ตาคู่สวยกลับยังคงดูเหมือนเดิม ขนตาเองก็ยังยาวเหมือนเดิม ออกแนวผู้ชายที่หล่อ ๆ หรือมองอีกมุมหนึ่งกลับสวยได้ในเวลาเดียวกัน


   “มองอะไร ?”
   “ไม่คิดเลยว่าคนแบบมึงจะทำอะไรแบบนี้”
   “กูต่างหาก ไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่เคยตัวเล็ก ๆ ขนาดนั้นจะ..” เขาเถียงกลับแทบในทันที หากต้องหยุดคำพูดลงเมื่อหัวนึกไปถึงช่วงเวลาที่ได้วีดีโอคอลกัน หลายท่วงท่า หลายมุมมอง ตอนนั้นตัวเองตื่นเต้นแทบตายที่จะได้พบกับ ‘คุณ N’ ที่ว่า จะได้ลองไขว่คว้าความอบอุ่นจากเรือนร่างของกันและกันเสียที


   แต่..


   คงทำไม่ลงแน่ ๆ ถ้าหากคน ๆ นี้คือเพื่อนน่ะ


   “จะ..?” นิวเว้นจังหวะตาม แต่เมื่อไลออนเงียบไม่ตอบ จึงพูดต่อระหว่างสางผมตัวเองเล่น “กูเป็นแบบนี้ของกูมานานแล้ว.. ทั้งเรื่องหาคู่ เปลี่ยนคู่นอน แต่ไม่เคยบอกให้ใครรู้” ไม่บอก.. แม้กระทั่งเพื่อนสนิทของตัวเอง เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้คือความต้องการส่วนตัว ไม่มีความจำเป็นที่จะประกาศให้โลกรู้เท่าไหร่


   เจ้าของร่างบางหันกลับไปมองใบหน้าจากด้านข้างของนิว คิ้วขมวดเข้าหากันอีกครั้ง


   “ตอนที่มึงคบกับ ‘จิน’ ก็ทำแบบ...”
   “เลิกแล้ว”


   น้ำเสียงแข็งกร้าวที่แทรกขึ้นมาทำให้คำพูดหยุดลงทันใด ไลออนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรต่อ เขากลืนประโยคตัวเองลงลำคอแทนเมื่อสัมผัสได้ว่าตนเองเผลอเอ่ยสิ่งที่ไม่สมควรจะพูดออกไป


   วูบเดียวเท่านั้น ที่นัยน์ตาสีอ่อนของเพื่อนสมัยมัธยมปลายสั่นคลอน


   จากนั้น มันกลับมาเป็นเช่นเดิม คือสงบนิ่ง ไร้ซึ่งความเจ็บปวดภายในให้พบเห็น หรือหากจะให้ไลออนเปรียบเทียบ..


   มันเหมือนคนที่เจ็บ จนด้านชาไปแล้วมากกว่า


   “ขอโทษ..”
   “มีรัก ก็ต้องมีเลิก เรื่องปกติน่ะ” นิวยังคงเอ่ยเสียงเรียบ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับรั้งแขนของคนนั่งอยู่ให้ลงมาด้วยกันแทน “แต่ตอนคบกับจิน กูไม่เคยทำอะไรพวกนี้หรอก.. กูไม่ชอบการนอกใจ”


   ไลออนไม่ได้ขัดขืน พลิกตัวหันไปมองคนที่ยังจับฝ่ามือเขา รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าที่อยู่ใกล้กัน


   “แต่.. กูไม่เคยคิดอยู่แล้ว ว่าพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป” น้ำเสียงนั้นไม่สามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกอะไรอยู่ ชายร่างเล็กกว่าเกือบถดตัวเมื่ออีกฝ่ายจับฝ่ามือเขาขึ้นมาไล้ปลายนิ้วโป้งช้า ๆ แล้วดึงเข้ามาประทับริมฝีปากสาก ๆ บริเวณข้อมือ “ไม่เคยเลย..”

   ประโยคแต่ละครั้งของนิวเหมือนสะกดให้ตัวเขาไม่หนีไปไหน




   อยู่ด้วยกันตลอดไป .. งั้นเหรอ




   “กูเคยมีความคิดแบบนั้นนะ..” ไลออนเป็นคนพูดต่อแผ่วเบา มองใบหน้าที่เริ่มริมฝีปากกดจูบตามข้อมือเขาอย่างไม่ขัดขืน “ที่ว่า.. จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปกับใครสักคนน่ะ..”

   ใครสักคน.. ในความทรงจำที่แสนเลือนลาง
   ใครสักคน.. ในใจที่ไม่เคยจางหายไป

   นิวครางในลำคอ ไม่ต่อประโยคอะไรนอกเสียจากเริ่มงับเบา ๆ ที่ข้อมือเขาแทน

   “ไม่คิดเหรอว่าทำแบบนี้แล้วกูจะรู้สึกแหยะนิด ๆ น่ะ” เสียงทุ้มหวานพูดติดตลก มองเจ้าของริมฝีปากแดงขัดกับใบหน้าที่ขาวเหลืองและใต้ขอบตาคล้ำอย่างคนอดนอน
   “แล้วแหยะที่รู้ว่าคนมีเซ็กส์ผ่านวีดีโอคืออดีตเพื่อนร่วมห้องด้วยหรือเปล่า ?”
   “ทำไมรู้ทัน” ไลออนหลุดยิ้ม เขารู้สึกมีเซ็กส์ไม่ออกจริง ๆ หากคน ๆ นี้คือเพื่อนตัวเอง


   มันเป็นปกติที่มีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าในฐานะของผู้ชายวัยย่างเข้าเลข 3 เขาไม่มีอะไรจะเสียแล้ว รวมถึงคนที่ตัวเองมีเซ็กส์ด้วยส่วนใหญ่ก็เป็นพวกวุฒิภาวะในเรื่องนี้ค่อนข้างดี ไม่ใช่คนปากมากคอยโม้เม้าท์หรืองี่เง่าไปทั่ว จะพูดในอีกความหนึ่ง หากเจอคนงี่เง่า เขาก็พร้อมจะสลัดทิ้งบล็อกไลน์ได้เสมอโดยไร้ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์


    “รู้สิ.. กูก็เป็น” นิวพูด ยังคงเล่นกับฝ่ามือเล็กและบางกว่าตัวเองไม่เลิก หนำซ้ำบางครั้งลองยกมือมาเทียบกันเล่นอีก ช้อนนัยน์ตามองลอดผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วของกันและกันเพื่อเห็นใบหน้าขาวนวลที่อยู่ไม่ไกล “แต่พอมาคิดอีกที กลับรู้สึกว่าพวกเราเหมือนกันนะ”
   คนฟังเลิกคิ้ว “เหมือน ?”
   ชายหนุ่มร่างใหญ่กว่าปล่อยให้เป็นช่วงเวลาของเสียงเครื่องปรับอากาศขับกล่อมให้อีกฝ่ายตกอยู่ในห้วงความคิดของการพิจารณาคำว่า ‘เหมือน’ แล้วสอดปลายนิ้วประสานกับฝ่ามือคู่นั้น มืออีกข้างยื่นเข้าไปหาเพื่อได้สัมผัสบนแก้มเนียนเชื่องช้า
   “อืม.. เหมือน” นิวย้ำ ใช้ปลายนิ้วร้อนผ่าวเกลี่ยแก้มนุ่มเชื่องช้ายิ่งเหมือนทำให้ไลออนต้องมนต์ เขาไม่ได้ตอบอะไรในทีแรก ปล่อยสัมผัสบางเบาวนข้างแก้มตัวเองพร้อมกับใจที่เผลอเต้นโครมครามจากความตื่นเต้นของร่างกายที่เริ่มขยับมาใกล้กันอีกทีละมิล ฯ
   สุดท้าย.. ไลออนจึงเลือกหลับตาลงไม่ยอมสบตา
   “ยังไง ?” เขาถามกลับ ได้ยินเสียงร่างกายที่ขยับมาใกล้กันกว่าเดิม
   “เพราะพวกเรา.. ถูกทิ้งเหมือนกัน”


   เหมือนประโยคนั้นสะกิดแผลใจของเขา


   ไม่ต่างจากการถูกบีบก้อนเนื้อในอกจนบิดเบี้ยว ไลออนลืมตาขึ้นมองทันใด ความแข็งกร้าวปรากฏบนลูกแก้วกลมที่จ้องมองคนยิ้มอยู่


   ถูกทิ้ง..?


   คำนี้สะท้อนภายในหัว ภาพของ ‘ชายผู้เป็นที่รัก’ ของตนฉายมาอีกครั้ง เพียงแค่คนเดียวที่เชื่อว่าจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วมันกลับจบลงที่การปล่อยมือกันและกัน เปลี่ยนไปจับฝ่ามือของหญิงสาวที่ไลออนไม่เคยรู้จักมาก่อน เดินเข้าพิธีแต่งงานโดยมีตัวเขายืนอยู่ไม่ไกลในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวพร้อมรอยยิ้มแสดงความยินดี


   ไทเกอร์


   ผู้ชายที่เป็นทั้งคนข้างบ้าน เพื่อนสมัยเด็ก รักครั้งแรก รักครั้งเดียว และรักข้างเดียวของเขามีครอบครัวไปแล้ว

   “กูเปล่าถูกทิ้ง..”


   ได้แต่ปฏิเสธไว้..


   ไม่อยากยอมรับเลยว่าถูก ‘เพื่อนสนิท’ ทิ้งไปแล้วจริง ๆ ..


   เขาไม่ยอมรับข้อนั้นแม้ว่าจะมีหลักฐานอยู่ทนโท่คือเด็กตัวน้อยในท้องของหญิงคนนั้น สัญลักษณ์ของความรักที่แสนอบอุ่นแต่ไม่ต่างจากมีดกรีดใจเขาให้มีน้ำตาเมื่อรับรู้ข่าว


   ไลออนแยกมันไม่ออก ว่าตอนนั้นที่ตัวเองร้องไห้เพราะรู้ว่าไทเกอร์มีลูก คือหยาดน้ำตาความยินดีจากใจ หรือเป็นหยาดน้ำตาของความอิจฉา


   อิจฉา.. ที่อยากได้ความรักจากผู้ชายคนนั้น
   ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนสนิท แต่เป็นฐานะคนรัก


   “ไม่รู้ว่าคิดอะไร.. แต่สีหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนี้มันน่ารักดีนะ” เสียงเรียกสติคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดให้กลับมาขมวดคิ้วมองแทน
   “เป็นโรคจิตตอนไหน ทำไมไม่รู้”
   “ก็คิดตลอด แต่ไม่พูด” นิวตอบทันที ตีลงแก้มเนียนเบา ๆ สองสามที “มึงเถอะ ทำแบบนี้มานานแล้วรึยัง”
   “แบบนี้ ? แบบไหน ?”
   “มั่วแบบนี้”
   “เหมือนด่าตัวเองไปด้วยเลยว่ะ”
   “ก็ไม่ได้ปฏิเสธ”
   ไลออนเผลอกระตุกยิ้มกับประโยคเหล่านั้น เขาถอนหายใจ ตอบกลับเสียงปกติอย่างไม่รู้จะปิดบังไปเพื่ออะไร
   “ถ้าหากวีดีโอ หรือคอลคุยก็คงเป็นปีแล้ว แต่ยอมออกมาเจอหลัง ‘มัน’ แต่งงานสักสองเดือนได้”
   ไม่ต้องบอก.. ก็รู้ว่า ‘มัน’ คือใคร
   เพราะวันแต่งงานนั้น นิวเองก็ไปเข้าร่วมตามมารยาทที่ควรทำเหมือนกัน
   “สามปีได้แล้วรึเปล่านะ”
   “ถามแต่กู แล้วมึงล่ะ ?”
   “พอได้รู้จักกับ ‘มัน’ ก็เลิกทำไปพักนึง แต่พอเลิกกัน ก็รู้ว่าสันดานเก่ากลับมา เลิกไม่ได้สักที” เขาตอบกลับเสียงเรียบยิ่งทำให้ไลออนได้รับรู้ว่า.. อีกฝ่ายดูอยู่ในด้านนี้มานานกว่าที่คิด
   แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นเรียวปากชายตรงหน้าแย้มรอยยิ้มขึ้นแทนพร้อมประโยคถัดไป
   “ดูเหมือนว่าพวกเราจะมี ‘มัน’ เป็นของตัวเองนะ”

   คนฟังชะงัก นิ่งงันราวกับงุนงงกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด แต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการทำความเข้าใจ นัยน์ตาไลออนอ่อนลง อยากจะเอ่ยประโยคตอบโต้แล้วก็ต้องเก็บคำลงไปแทน ความรู้สึกหนักอึ้งปรากฏในอกซ้ายจนปวดหนึบ ภาพเพื่อนสนิทที่ตัวเองแอบรักข้างเดียวมาตลอดฉายภาพในหัวอีกครั้งเป็นการตอกย้ำคำว่า ‘มัน’ ที่ว่า

   “จริงไหม ?” คนถูกถามอย่างไลออนไม่ได้โต้ตอบ แค่เหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตา นิวยังยิ้ม พร้อมกับประโยคที่ดูโหดร้ายนั่น
   ใช่.. 
   เรามี ‘มัน’ เป็นของตัวเอง..
   “อืม..” เสียงครางแผ่วเบาตอบโต้ เป็นจังหวะเดียวกับฝ่ามือที่ทาบบนแก้มเนียนเขาเริ่มขยับเชื่องช้ารอบที่สอง ใช้เวลาประสานดวงตาอย่างคนที่รับรู้กันและกัน เริ่มต้นเล้าโลมความรู้สึกจากอุณหภูมิความร้อนในร่างกายของทั้งคู่
   “ใช่ไหมล่ะ ..” นิวตอบรับ ใบหน้าทั้งสองเริ่มเข้าหากันอย่างเผลอไผล การชักจูงของนิวอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว..
   มันทำให้เขาเริ่มคล้อยตาม
   “พวกเรา.. เหมือนกันเลย”
   เราต่างฝ่ายต่างมีคนที่รู้สึกรัก
   และเรา ต่างฝ่ายต่างก็ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง..
   “ลองไหม” น้ำเสียงของนิวยังคงระดับได้เสมอ ทั้งนุ่มนวล อ่อนโยน ผิดกับภาพในอดีตครั้นมัธยมปลายที่ติดอยู่ในหัวของไลออน ท่าทางของชายตรงหน้าไม่ใช่ ‘นิว’ ที่ตัวเองเคยรู้จัก




   แต่มันคือท่าทางของ ‘คุณ N’ ..



   คน ๆ นี้เริ่มสวมบทบาทอีกครั้ง


   “ลองอะไร ..”
   “ลอง.. ไม่ต้องมี ‘ไลออน’..ดู”
   “...”
   “ไม่ต้องมี ‘นิว’ ดูด้วย”
   “...”
   “ไม่ต้องมี ‘อดีตเพื่อนสมัยม.ปลาย’ อีก..”
   “...”
   ตอนนั้นใบหน้าของชายตรงหน้าขยับเข้ามาใกล้ตอนไหน เขาเองก็ไม่รู้เลย..
   “มีแค่เซ็กส์.. ที่ช่วยปลอบประโลมกันและกัน” ริมฝีปากร้อนฉ่ำกดบนปลายจมูกของไลออน “มีแค่เซ็กส์.. ของ ‘คุณ N’ และ ‘คุณ L’ ..”
...



◇◆◇◆◇◆◇◆


   ริมฝีปากทั้งสองเริ่มฉกฉวยจูบจากกันและกันด้วยความโหยหา รสชาติของเหลวจากโพรงปากของนิวกระตุ้นไลออนได้อย่างง่ายดาย เขายกแขนโอบกอดลำคอหนาไว้ พลิกตัวเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมพร้อมบดขยี้จูบอีกหลายหน
เขา.. ขอตอบรับคำเชื้อเชิญของคุณ N
   “คุณชอบแบบไหน ?” เสียงไลออนกระซิบถาม สายตาเริ่มพร่ามัวด้วยราคะที่เปี่ยมล้น ไม่ต่างจากฝ่ามือกว้างที่ตะปบเข้าบั้นท้ายตัวเองแรง ๆ
   “ชอบแบบเปลือยล่างน่ะครับ” นิวตอบเสียงแผ่ว เขายิ้มออกมากับท่าทางเช่นนั้น รับรู้ถึงการคำตกลงจากคุณ L ที่อยู่ตรงหน้า..
   ไม่ต้องจินตนาการหรอกว่าเคยเป็นเพื่อนกัน
   เราแค่รับผลประโยชน์ของกันและกัน
   ปลดเปลื้อง สุขสม
   และจบลงตรงนั้น
   กางเกงยีนส์สีกรมถูกถอดลงช้า ๆ เผยให้เห็นร่างขาวนวลและเรียวขาน่าบีบขย้ำ สายตาของนิวเรียกได้ว่าโลมเลียทุกสัดส่วนก็ว่าได้ ตั้งแต่ปลายเท้าเปลือยเปล่าไล่ขึ้นมาถึงต้นขาด้านในและส่วนที่นูนออกมาจากบ็อกเซอร์แบรนด์ดังนั่น
   “ผมบอกว่าเปลือยไงครับ” คนตัวใหญ่กว่ากระซิบ ปลายนิ้วแตะลงแผ่วเบาที่จุดกึ่งกลาง “แต่คุณ L ยังไม่ถอดตรงนี้ออกเลยนะ”
   ไลออนหัวเราะอย่างคนขี้เล่น
   “ให้คุณ N ถอดให้ไง”
   “ถ้าผมถอดให้ มันจะไม่จบแค่ถอดนะครับ ?”
   ประโยคนั้น เรียกเสียงหัวเราะของไลออนได้มากกว่าเก่า
   “ก็ไม่อยากให้จบแค่ถอดไง แค่นี้ก็แปลไม่ออกเหรอ”
   ปลายนิ้วใหญ่เป็นฝ่ายเกี่ยวกางเกงออกอย่างคล่องแคล่วจนมันร่นลงไปอยู่ที่ข้อเท้าอีกฝ่าย ไลออนเองก็เร็วเช่นกัน เขาสะบัดปลายเท้าให้ชั้นในกระเด็นไปอยู่สักมุมห้องใดมุมห้องหนึ่งเรียบร้อย
   สายตาคมมองลงที่จุดกึ่งกลางของอีกคน สีอ่อน ๆ ระเรื่อของแก่นกายจนน่าจับตามองยิ่งกว่าคู่นอนไหน ๆ ของนิวทำให้ตัวเขาไม่สามารถคลาดสายตาออกไปได้ อีกฝ่ายเองก็ใช่ย่อย หยัดตัวขึ้นคร่อมตักของเขาอีกครั้ง ฝ่ามือจับลงบ่ากว้างอย่างไม่รู้สึกเขินอายสายตาคนตรงหน้า
..
จะอายทำไมล่ะ .. ในเมื่อในวีดีโอคอลก็ได้ ‘เยอะ’ กว่านี้แล้วนี่
   “อยากทำอะไรก่อนล่ะครับ ?”
   เสียงของไลออนในฐานะคุณ L เรียกความสนใจนิวได้พอควร และแน่นอนว่ารอยยิ้มก็เหมือนกัน เรียวปากบางกระตุกขึ้นช้า ๆ
   “อยากทำที่ผมไม่สามารถทำได้ในวีดีโอคอลครับ”
   คำตอบเป็นอันสมบูรณ์..
   เขาเข้าใจทันที ซิปกางเกงเนื้อดีของนิวถูกรูดลงด้วยริมฝีปากแดงจัดของไลออน นัยน์ตาสีอ่อนช้อนขึ้นมองอย่างยั่วยวน ลิ้นร้อนตวัดเลียความแห้งผากรอบเรียวปากเขาอีกสองสามครั้งเมื่อเห็นความใหญ่โตตั้งชันขึ้นออกนอกกางเกง
   “ไม่ใส่ชั้นในซะด้วย” ไลออนผิวปาก ปลายนิ้วไล้ลงตามแนวความยาวนั่นแทน
   “ก็มันไม่จำเป็นในวันนี้เท่าไหร่” การตอบกลับเรียกเสียงหัวเราะคิกได้ทันที ปลายลิ้นแดงเริ่มชิมที่แก่นกายใหญ่โตเป็นครั้งแรก..
หลายครั้งที่ไลออนเคยจินตนาการถึงรสชาติของคุณ N ..
แต่ไม่มีครั้งไหนเทียบเท่ากับของจริง
   รสชาติเค็มปะแล่มกับกลิ่นความเป็นชายทำให้เลือดภายในกายของเขาพุ่งพล่านไปทั่ว ร้อนผ่าวหัวใจเต้นแรงอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น ลิ้นเล็ก ๆ เริ่มชิมแก่นกายทั่วทุกตารางนิ้วที่พอลากผ่านได้ เขาขยับเลียจนมันเปียกชุ่ม อ้าปากอีกครั้งครอบครองส่วนหัวแล้วตวัดปลายลิ้นเลียเชื่องช้า เนิบนาบ สลับดูดอีกหลายครั้งเหมือนได้อมจูปาจุ๊บแท่งใหญ่กว่ามือ
   นิวครางเสียงแผ่ว เขาพอใจ สุขสมกับสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้ เปลือกตาบางปิดลงพร้อมทั้งจินตนาการถึงร่างกายของ ‘มัน’ ที่เขารักมาตลอด ความรักครั้งแรกและครั้งเดียว จินตนาการถึงริมฝีปากที่ขยับเล้าโลมส่วนล่าง ท่าทางเย้ายวน กับสะโพกส่ายไปมาจนน่าตีสักรอบ..
แล้วตัวเขาเอง.. จึงปรือตาขึ้นมอง
   ไลออนอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวบางจนเห็นยอดอกชมพูระเรื่อ ด้านล่างเปลือยเปล่าจนน่าเอ็นดู โก่งสะโพกขึ้นต้อนรับมือของนิวให้ตะปบด้านหลัง บีบนวดเนื้อบั้นท้ายเล่นระหว่างถูกปรนเปรอด้วยปลายลิ้น..
สุดท้าย.. ก็ทนไม่ไหวจนได้
ป้าบ !!
   เสียงฝ่ามือตีลงแก้มก้นข้างขวาเป็นเหตุให้ไลออนสะดุ้งจนตัวโยน พวงแก้มสีขาวแปรเปลี่ยนเป็นแดงจัดทันทีที่รับรู้ เขาอ้าปากจะพูดอะไรต่อ แต่ความใหญ่โตกลับถูกทะลวงเข้ามาในโพรงปากตัวเองเต็ม ๆ พร้อมเพรียงด้วยปลายนิ้วที่สอดแทรกทางด้านหลังของเจ้าตัว
   “อื้อ.. อื้ออ” เสียงครางประท้วงในลำคอกับความรู้สึกประหลาดทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะระบายความอัดอั้น นัยน์ตาสีอ่อนปรือปรอยลงช้า ๆ แล้วเริ่มขยับโพรงปากเข้าออกเป็นจังหวะ ก่อนที่สะโพกมนจะกระตุกเกร็งเมื่อพบว่านิ้วที่สามได้สอดเข้ามาโดยไร้การหล่อลื่นช่วย
   ปลายนิ้วของนิวถอนออก เขาก้มมองไลออน เชยปลายคางอีกฝ่ายเพื่อให้เห็นใบหน้าหวานชัดเจน ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มขึ้นมุมปาก
   “คุณทำผมมีอารมณ์ตลอดเลย.. คุณ L” นิวกระซิบ ดันร่างอีกฝ่ายลงนอนกับพื้นเตียงและจับแยกขาออก “คุณรู้ไหม ? ในวีดีโอคอลน่ะ สู้ในนี้ไม่ได้เลยนะ
   “ฮื่อ..คุณนี่มัน..” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนปรือปรอยลงอย่างอ่อนแรง รอยยิ้มบนใบหน้าของไลออนเป็นตัวตอบกลับถึงการอนุญาตให้เป็นขั้นถัดไป แต่ถึงอีกฝ่ายไม่พูด นิวก็ยังคิดจะทำต่อจนจบอยู่ดี
   เสียงฉีกซองถุงยางไม่ได้ทำให้ไลออนรู้สึกตื่นเต้นมากเท่าไหร่ .. ได้ยินเสียงอีกฝ่ายกำลังสวมใส่ถุงยางให้กับความแข็งขืนของเจ้าตัวก็หลับตาลงเชื่องช้า..
เขาไม่ตื่นเต้นหรอก..
เพราะสิ่งที่เขาตื่นเต้น.. คือฉากต่อไปต่างหาก
   เพราะต้องการเติมความสุขที่ขาดหายไปของกันและกัน จึงเลือกหนทางนี้...
   เสียงกระแทกและโหมแรงลงดังระงมภายในห้องสี่เหลี่ยม สลับกับเสียงครางแหบพร่าเพราะความสุขสมจากความเสียวซ่านที่พาพวกเขาทั้งสองคนไปถึงฝั่งฝัน ไม่ว่าจะเป็นนิว หรือไลออน ต่างฝ่ายต่างได้รับความสุขจากเซ็กส์ครั้งนี้โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งใดอีก..





   แค่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราว..






   ก็เพียงพอสำหรับคนขาดแคลนมัน















_________________________________________________________________



TALK ::

สวัสดีค่า
จบไปอีกบทกับนิยายเรื่องนี้ค่ะ ^ ^
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2017 15:06:08 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ASKING FOR FREE SEX [ch.2 , P.1 , 29/11/2017]
«ตอบ #2 เมื่อ29-11-2017 13:33:52 »

02 : Once you start , you can’t stop.

เรา
ต่างฝ่าย ต่างปรารถนากันมากขึ้น
เพียงแค่เสี้ยวสัมผัส
ก่อเกิดความลุ่มหลงในไออุ่นจากกายกันและกัน
แล้วจากนั้น..
เรา
จึงเสพติดกัน


◇◆◇◆◇◆◇◆


   ดึงดูดกันได้มากกว่าที่คิด..
   กว่าใคร และกว่าครั้งไหนที่เคยได้สัมผัส
   เพียงแค่ผิวเผิน กลับตราตรึงสองกายให้จดจำไว้เนิ่นนาน
   


   แสงแดดยามเช้าลอดผ่านตาข่ายผ้ามู่ลี่บาง ๆ ที่ประดับไว้ด้านข้าง รบกวนการพักผ่อนของร่างเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มผืนใหญ่บนเตียงนอนคิงไซส์เป็นอย่างดี คิ้วเรียวของไลออนย่นเข้าหากันอย่างหงุดหงิดใจ เขาซุกหน้าลงหมอนขนเป็ดอย่างอ่อนล้าจากกิจกรรมยามค่ำคืนที่ผ่านมา
   ปวดเอว..
   เป็นสัมผัสแรกเมื่อได้สติ เปลือกตาสีไข่มุกปรือกระพริบถี่ ปรือมองภาพรอบด้านเพื่อพบเพียงความว่างเปล่า
   คนข้างกายเขาหายตัวไปเสียแล้ว
   ฝ่ามือสัมผัสพื้นที่ว่างเปล่าข้างกายกลับเย็นชืดจึงเดาไม่ยากว่าลุกออกไปนานพอควรแล้ว เมื่อคืนไลออนไม่ได้สังเกตโรงแรมสักเท่าไหร่เพราะความตื่นเต้นระคนตกใจ
   แต่ตอนนี้กลับพบว่า.. มันกว้างเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียวที่นี่..
   ยังไงซะ เซ็กส์ครั้งนั้นก็เป็นแค่คืนเดียวที่สัมผัสไออุ่นจากกายของกันและกัน อีกฝ่ายคงไม่สนใจอะไร จบทุกอย่างให้เป็นเรื่องของเมื่อคืน..
   และ.. ตัวเขาเองก็เหมือนกัน



   ไม่มีการติดต่อกันอีก
   เมื่อจบ มันคือจบ เวลาล่วงเลยมากว่า 3 สัปดาห์ที่ไลออนได้มีเซ็กส์กับเพื่อนสมัยมัธยมปลายของตัวเองและไม่มีการติดต่อกันอีก ช่วงวันแรก ๆ รู้สึกกังวลสถานะของตนและนิว แต่เมื่อตระหนักได้ว่าพวกเขาคงไม่เจอกันอีกเหมือนคนอื่น ๆ จึงเริ่มลืมเลือนความรู้สึกกังวลนั้นไป
   สิ่งเดียวที่หลงเหลือ
   คือเขาหมกมุ่นกว่าที่ตัวเองคิด
   ไลออนฝันถึงคืนนั้นเสมอ คืนที่เพื่อนสมัยมัธยมปลายคนนั้นยืนอยู่ยิ้มอย่างร้ายกาจ ท่อนล่างถูกบดบังด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวอวดร่องความแข็งแกร่งบนหน้าท้อง
   ในความฝัน ตัวเขาเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย สอดแขนกอดรั้งเอาไว้อย่างโหยหา เพียงร่างกายได้สัมผัสกันแผ่วเบากลับยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างง่ายดาย ตัวเขาเสพติด ‘คุณ N’ ในความฝันตัวเอง จินตนาการหลากหลายท่วงท่าอย่างคนไม่เคยพอ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายจ้องมองตนเองด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ยิ่งชวนให้ใจสั่น
   เขา.. ต้องการถูกอีกฝ่ายสัมผัส..
   ไม่ใช่ใครก็ได้
   แค่คน ๆ นี้เท่านั้น
   “พี่ไลอ์.. พี่ไลอ์ !”
   “!!”
   “พี่ไลอ์คิดอะไรอยู่เอ่ย ?”
   สติของพนักงานบริษัทหนุ่มหวนคืนอีกครั้ง จินตนาการถูกทำลายโดยเสียงหวานใสจาก ‘ดาว’ หรือดารารัตน์ ฤรนาถ หญิงสาวรุ่นน้องในบริษัทที่อ่อนกว่าเขาถึง 4 ปี .. รวมถึงเป็นหนึ่งในอดีตคู่นอนชั่วคราวเช่นเดียวกัน
   เขาสนิทกับเด็กคนนี้เป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะนอนด้วยกันบ่อย แต่เป็นเพราะความซุกซนและเย้ายวนของคุณเธอนี่แหละ
   “ตกลงคิดอะไรอยู่เหรอ..” เธอถาม เอียงคอจ้องด้วยความอยากรู้ ไลออนสลัดภาพคุณ N ออกจากหัว ทอดสายตามองเสื้อคอเต่าของดารารัตน์ที่รัดส่วนหน้าอกแน่นจนเกือบปริ ยิ่งเห็นยิ่งคันมืออยากจะเข้าไปขยำแรง ๆ เสียรอบสองรอบ
   ดาวเป็นผู้หญิงจัดว่าหน้าตาดีและมีเสน่ห์ ยิ่งอัธยาศัยขี้เล่นและซุกซนแบบนี้ ยิ่งทำให้ใคร ๆ เองก็อยากรู้จักขึ้นไปอีก
   แต่สำหรับไลออน แค่เต๊าะเล่นเป็นครั้งคราวก็สนุกดี
   “กำลังคิดอยู่ว่าอยาก ‘คว้าดาว’ ครับ” เขาจงใจพูดประโยคส่อหลายแง่ แต่สายตากลับเหลือบมองอกอวบอิ่มไม่ปิดบัง “วันนี้แต่งตัวสวยนะเนี่ย”
   “แหม.. พี่ไลอ์ล่ะก็ ทำเป็นชมอีกแล้ว” ดาวยิ้ม เขยิบตัวเข้าไปใกล้อีก แต่กลิ่นน้ำหอมฉุนของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี “แน่ะ..ทำเป็นไม่มอง..”
เพราะน้ำหอมต่างหากโว้ย
   ไลออนเถียงในใจแต่ก็หัวเราะออกไป ฟังคำพูดของเธอก็บอกชัดเจนว่าอยากมีอะไรมากกว่าการนั่งคุยกันเป็นแน่แท้
   “ตอนบ่ายพี่มีเจรจางานกับบริษัทอื่นนะน้องดาว” เขาใช้จังหวะนี้เปรยตามองส่วนที่ปริเปิดให้เห็นเนินอกกับเสื้อในสีหวาน
   “เหมือนกันเลยค่ะ ส่วนตอนเช้า ดาวว่างทั้งวัน..” เธอกระซิบยั่ว จับแขนเสื้อของไลออกเอาไว้ กระตุกแรงเพียงนิดโน้มตัวลงมาหา “แล้วพี่ไลอ์.. อยากไป ‘คว้าดาว’ กันไหมล่ะคะ ?”
   ชายหนุ่มหลุบตามองเรียวปากรูปกระจับชมพูประกาย
..
คงพอแก้ขัดได้ไม่น้อยเลยล่ะมั้ง

◇◆◇◆◇◆◇◆


   หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านเข้ามาคือห้องน้ำชายด้านหลังของบริษัท ซึ่งคราวนี้มันถูกจัดเป็นสถานที่สำหรับ ‘คว้าดาว’ ของไลออน แม้ว่าพื้นห้องน้ำจะสกปรกอยู่บ้างแต่ก็ใช่ว่ามันจะน่ารังเกียจ เขามองร่างอรชรของหญิงสาวที่นั่งชันเข่าอยู่บนฝ่าชักโครกอย่างซุกซน ฝ่ามือข้างนั้นวางบริเวณกึ่งกลางลำตัวของเขา
   “พี่ไลอ์.. มีถุงยางไหม ?”
   “มีนะ.. อยู่ใน..” ชายหนุ่มพึมพำตอบ คว้าถุงยางอนามัยในกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาอวด “นี่ไง”
   “ว้าว ครั้งที่แล้วดาวไม่ทันสังเกตเลย พกติดตัวเลยเหรอเนี่ย” คนได้รับคำชมคลี่ยิ้มให้ “คิดได้ไง ? ดูเซ็กซี่จัง..”
   คิดได้ไงน่ะหรือ..
   ‘ถ้าไม่เลือกหน้า .. ก็ต้องไม่เลือกโรค’
   ‘อะไรนะไทก์ กูงง’ สายตาของมันจริงจัง พูดเสียงเข้มใส่
   ‘กูหมายถึง ถ้าจะมีเซ็กส์กับใครไม่เลือกหน้า ก็ต้องไม่เอาโรคมาไงวะ ถุงยางอ่ะ ต่อไปนี้พกใส่กระเป๋าสตางค์เอาไว้เลยโว้ย !’
   ความคิดพวกนี้.. มาจาก ‘เพื่อนสนิท’ ที่เป็นรักครั้งเดียวของเขามาตลอดตั้งแต่เรียนรู้คำว่ารักยังไงล่ะ
    มันสั่งให้เขาทำแบบนั้น
   หลังจากที่สารภาพกับ ‘มัน’ ว่าตัวเองสามารถมีเซ็กส์ได้ไม่เลือกหน้า ‘มัน’ จึงสั่งให้พกถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์เพื่อที่จะไม่พกโรคติดตัวไปไหนมาไหนจากการมั่วของตัวเอง
   ไลออนยิ้มบาง ๆ กับความทรงจำเหล่านั้น
   .. ‘มัน’ เป็นห่วงเขาเสมอ..ในฐานะเพื่อนที่แสนดี
   “หู้ว.. คิดอะไรอยู่น่ะ ไม่ตอบคำถามดาวอีกแล้ว”
   “คิดว่าน้องดาวต้องเงียบหน่อยแล้ว” ปลายนิ้วยาวแตะบนริมฝีปากอวบอิ่มของหล่อนไว้เหมือนเป็นการตักเตือน “จะให้ใครได้ยินเสียงไม่ได้นะครับ”
   เจ้าของชื่อไม่ยอมตอบ เกลียวลิ้นร้อนตวัดเลียตามความยาวของนิ้วเรียวที่แนบขอบปาก เธองับลงนิ้วกลางอย่างจงใจ ลากความหยุ่นร้อนสลับกับดูดช้า ๆ
   คนถูกยั่วอีกหัวเราะ ใช้มือข้างว่างปลดกระดุมออก คว้าอกอวบอิ่มไว้จนเต็มฝ่ามือจนเธอร้องเสียงเบา
   “คว้าดาวเต็ม ๆ เลยนะคะ.. อื้ออ” เสียงร้องครางแปรเปลี่ยนเป็นเสียงดูดปลายนิ้วยาว และตัวไลออนใช่ว่าจะเป็นคนมีศีลธรรมนัก ส่วนกึ่งกลางเขาปวดหนึบ ยิ่งเห็นดาวแยกเรียวขาออกยิ่งรู้สึกเหมือนถูกปลุกปั่นอารมณ์
   ซิปกางเกงเนื้อดีถูกรูดลง ส่วนความเป็นชายขยายใหญ่ ชูชันสู้แรงโน้มถ่วงจนดาวทำตาโตร้องหู้วอีกรอบ
   “แหวกออกให้ดูหน่อย..” ไลออนกระซิบแผ่วเบา จับข้อเท้าหญิงสาวแยกห่างจนเห็นทุกสัดส่วนสีชมพูอ่อน เธอไม่ตอบโต้ ใช้ปลายนิ้วเรียวเล็กแหวกทางกลีบชมพูระเรื่อ “กลั้นเสียงไว้นะ..”
   เขาเตือนหลังสวมถุงยางเสร็จ กระแทกทุ้งเข้าไปครั้งเดียวจนมิดด้าม รับรู้แรงดูดจากปลายนิ้วเพื่อกลั้นเสียงของเจ้าตัวไม่ให้คนข้างนอกได้ยินเพราะความเจ็บและเสียวซ่านระคนกันไป
เซ็กส์.. ที่ต้องกลั้นเสียงแบบนี้..
   ชั่ววินาทีก่อนที่จะได้เริ่มบรรเลงบทร้อนแรง เขาจินตนาการเซ็กส์นอกสถานที่ที่จะต้องอดกลั้นเสียงไม่ให้ใครได้ยิน มันคงทั้งสนุกสุขสมเจือปนกับความทรมานที่ใฝ่หา
   แต่คราวนี้...
   มันยังไม่พอ..
   เขาไม่ได้อยากเป็นคนที่กระทำแบบนี้ อยากเป็นฝ่ายถูกกระทำให้เรี่ยวแรงเหือดหายไปทั้งกาย ถูกบกดจูบจนโอนอ่อนตามแรง ร้องครางเสียงแหบพร่า อยากเป็นฝ่ายได้รับความเจ็บแสบเสียวซ่านจากด้านหลังมากเสียกว่า..
   เขาอยากเป็นฝ่ายถูกกระทำ..
   ใบหน้าของคนในความฝันแล่นเข้ามาในหัว
ถ้าขอเบอร์คุณ N เก็บไว้ก็คงจะดี
..


◇◆◇◆◇◆◇◆

   “งั้น..ดาวไปก่อนนะคะ”
   เสียงกระซิบของหญิงสาวดังขึ้นแล้วเขยิบตัวออกจากห้องน้ำชาย ดารารัตน์หันไปโบกมือให้กับเขาที่นั่งอยู่คนเดียว ไลออนเพียงแค่เผยรอยยิ้มให้ ผงกหัวเป็นเชิงตกลงว่าจะเจอกันที่ทำงานอีกครั้งอย่างไม่มีใครคิดอะไร
และจากนั้น.. ประตูห้องน้ำจึงปิดลง
   เขาปรายตามองถุงยางใช้แล้วในถังขยะ ภาพของร่างดารารันตน์ที่บิดเร้าปรากฏในหัว เสียงครางหวานนั่นไม่ได้เรียกให้รู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด..
เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ..
   ประตูห้องน้ำถูกปิดลงอีกครั้ง ชายหนุ่มเกี่ยวตัวล็อคประตู แล้วปลดเปลื้องกางเกงตัวเองให้หล่นไปอยู่ที่ข้อเท้า เปลือกตาของเขาหลับ
   ลองจินตนาการถึงคนอื่นดู..
   ถึง.. คน ๆ นั้น..
   ใบหน้าที่ผุดขึ้นคนแรกคือไทเกอร์ เพื่อนสนิทของเขาเอง พวงแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะความร้อนในห้องน้ำ ใช้ปลายนิ้วสัมผัสกับช่องทางด้านหลังตัวเอง ทั้งแข้งขาแทบอ่อนแรง แต่โชคดีนักที่มีประตูห้องน้ำคอยเป็นส่วนค้ำยันไม่ให้ล้มไปอยู่กับพื้นเสียก่อน ปลายนิ้วยาวกดลงความตอดรัดภายใน ไลออนหลับตาแน่น เพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้วและขยับเข้าออกช้า ๆ
   ในคราแรก.. มันยังเป็นไทเกอร์อยู่ ..
   แต่เมื่อนึกถึงตอนร่างกายถูกกระแทกสะโพกเข้ามาอย่างรุนแรงกลับไม่ใช่คนเดิมอีก..
   มันเป็นภาพของคุณ N เมื่อคืนนั้นที่ยังตราตรึงในหัวมาตลอด เขาชอบร่างกายอีกฝ่าย ชอบทั้งหน้าท้องแข็งแกร่ง ชอบเสียงครางทุ้มต่ำที่ดังคลอเคลียข้างหู
   เขา.. ชอบ.. เซ็กส์ของคน ๆ นี้มากกว่าใจที่เรียกถึงเพื่อนสนิทตัวเองเสียอีก
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
   ไลออนสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงนาฬิกาปลุก คว้าโทรศัพท์เป็นพัลวันเพื่อกดปิด แต่แล้วรายการแจ้งเตือนจะทำให้เขาตกใจยิ่งกว่า
12.50 น.
   ..ลืมเรื่องเจรจางานกับตัวแทนบริษัทอื่นตอนบ่ายโมงตรงได้ไงวะ !
   ไอ้ฉิบหาย !

◇◆◇◆◇◆◇◆


   “ไลอ์ ! คู่เจรจาเขามารอคุยตั้งนานแล้ว ตอนนี้พี่เมย์รับหน้าแทนอยู่ รีบไปเร็ว !”
   “ผมขอโทษครับพี่ !”
   ไลออนผงก ๆ หัวให้กับทุกคนที่เริ่มเร่ง ข่าวมาว่าอีกฝ่ายเป็นคู่เจรจาจากบริษัทชื่อดังเสียด้วย การไปนัดกับบริษัทตัวเองสายเป็นเรื่องไม่น่าให้อภัยอีกต่างหาก เขาเตรียมใจถูกต่อว่ามาพอสมควรก่อน แต่หวังแค่การมาสายครั้งนี้จะไม่ทำให้ยอดขายตกก็พอ
   13.10 น.
   สายไปแค่สิบนาที ! แต่ภาพพจน์ของบริษัทอาจเสียหายเป็นพันล้านก็ได้ !
   สองขาเดินมาถึงหน้าห้องประชุมงาน จำได้ลาง ๆ ว่าเป็นการแค่การรับรายละเอียดสินค้าที่อีกฝ่ายมานำเสนอมาให้แต่ไลออนก็ยังไม่อยากสายอยู่ดี เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เคาะประตูก่อนเป็นการขออนุญาตก่อนเปิดเข้าไป
แกร๊ก
   “เอ๊ะ นั่นไง น้องไลอ์มาพอดีเลย เดี๋ยวเมย์ว่าคุยกับน้องไลอ์แทนดีกว่าค่ะ” หญิงวัยสามสิบกว่าพูดด้วยความสุภาพ ก่อนจะหันไปหาตัว ‘น้องไลอ์’ ที่ยืนยิ้มแห้งอยู่ “เป็นไงบ้างไลอ์ พี่บอกคุณนิรันดร์ให้แล้วนะว่าเราเพิ่งกลับมาจากประชุมด้านบนน่ะ แล้วพี่แค่อธิบายสัญญาคร่าว ๆ ให้คุณนิรันดร์ฟังแล้ว เดี๋ยวไลอ์ลองทวนอีกทีก็ได้นะ”


   นิรันดร์.. ทำไมมันคุ้นหูแปลกๆ..
   แล้วเดี๋ยว กูไปประชุมอะไรตอนไหนวะ..


   อยากจะโพล่งถามไปแบบนี้แต่สมองกลับฉับไวกว่าว่าอีกฝ่ายหาข้ออ้างให้เขามาสายอย่างแนบเนียน ไลออนยิ้ม ยกมือไหว้พี่เมย์ที่เดินออกจากห้องแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ต่อแทน
   เอาล่ะมึง ไลอ์..
   ทำงานสิวะ..
   “ก็คิดอยู่ว่าไลอ์ไหน.. ที่แท้ไลออนนี่เอง”
   ห๊ะ ?
   เสียงคุ้นหูเรียกให้เจ้าของชื่อหันกลับไปด้วยความฉงน และไม่รู้จะตีสีหน้าอย่างไรยิ่งกว่าเมื่อคนที่นั่งอยู่คือคนที่ตัวเองเพิ่งนึกถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้..
   คุณ.. N
   จะมีอะไรบังเอิญไปกว่านี้ไหม ..
   ความตื่นเต้นก่อตัวขึ้นภายในอกเขาเอง ชายหนุ่มก้าวเท้าแทบไม่ออกเมื่อเห็นคนในความฝันตัวเป็น ๆ นั่งอยู่ตรงหน้า
   คุณ N ในชุดสูทสุภาพและเซ็ทผมขึ้นยิ่งขับให้ใบหน้าที่แต่เดิมดีอยู่แล้วมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก
ยอมรับเลยว่าดีใจ..
   ดีใจเนี่ย ดีใจจนตัวแข็งเลย ยิ่งได้เห็นอีกฝ่ายยิ้มออกมาทั้งท้องไส้เริ่มปั่นป่วน
   แต่แล้ว..
   มันกลับหยุดลง
   “บังเอิญเจอมึงบ่อยจังเลยว่ะไลอ์ มานั่งก่อนดิ ไม่รู้เลยนะว่ามึงอยู่บริษัทนี้น่ะ”
   เหมือนทุกอย่างถูกชัตดาวน์ลง คล้าย ๆ อาการคอมพิวเตอร์ทีถูกดึงปลั๊กออกแล้วหน้าจอดับ ถ้อยคำจากนิวลบภาพคุณ N ในความคิดจนหมด เหลือแค่รูปลักษณ์เพื่อนสมัยมัธยมปลายที่ปรากฏสู่สายตา
   คน ๆ นี้ ..ไม่ใช่คุณ N
   เขาคือนิว .. นิรันดร์ นีรเตโช
   เมื่อคิดได้เช่นนั้น ความตื่นเต้นของเขาดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ไลออนเดินเข้าไปนั่งลงตามคำเชิญ
   ไม่รู้สึกตื่นเต้นแล้ว..
   นึกแปลกใจกับตัวเองเหมือนกันที่จู่ ๆ ความต้องการมาตลอดสามสัปดาห์หายวับอย่างง่ายดาย
   ทำไมกันนะ..
   “จะว่าไป มึง..”
   “อยู่ในบริษัทผมไม่พูดคำหยาบนะ” เขาเลือกจะขัด “ถึงจะเป็นนิวก็เถอะ แต่เราคงต้องเป็นทางการหน่อยแล้ว”
   “จริงด้วย.. ผมลืมไปเลย” นิวพึมพำ ลูบริมฝีปากของตัวเองช้า ๆ “ขอโทษที มันชินไปหน่อย”
   “จะเสนออะไรน่ะ” ตัดสินใจบอกปัดเรื่องที่ต้องการพูดด้วยรอยยิ้ม “อธิบายรายละเอียดให้ฟังหน่อยสิ”


◇◆◇◆◇◆◇◆


   การเจรจาเต็มไปด้วยความตึงเครียดมากกว่าที่ไลออนตระหนักไว้ ทีแรก เขาคิดว่าเป็นคนที่รู้จักกัน คงได้คุยอย่างผ่อนคลาย แต่ตัวแทนจากบริษัทฝั่งโน่นกลับเฉลียวฉลาดกว่าที่คิด ทั้งเทคนิคการนำเสนอ การต่อรองราคาซื้อขายรวมถึงเจรจาผลประโชน์นั้นไร้ที่ติ
   ไลออนสรุปความคิดในหัวตัวเองเกี่ยวกับสินค้าไม่นานจึงตัดสินใจตกลงกับตัวเองโดยที่คนฝั่งตรงข้ามยังพูดเสนอต่อเช่นเดิม เขาใช้โอกาสนี้เหลือบมองตามเค้าโครงใบหน้าเพื่อนตัวเอง
   อืม..
   หล่อว่ะ..
   ทั้งหน้าตรง ด้านข้าง หรือมองจากมุมสูง อีกฝ่ายควรจะไปเป็นนายแบบซะมากกว่าพนักงานบริษัทอีก ครั้งก่อนเขาก็เห็นนิวก็จริงแต่ไม่มีโอกาสนั่งสังเกตุโครงหน้าชัด ๆ เช่นวันนี้
   นิวเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก..   
   จะว่าไปทางหล่ออย่างเดียวคงไม่ใช่ เมื่อจ้องดี ๆ เค้าโครงความหวานบนใบหน้านิวยังมีอยู่ แต่มันออกไปทางแนวดุนิด ๆ ติดสวย ๆ มากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะหุ่นใต้เสื้อสูทนั่นไลออนจะเชื่อว่าอีกฝ่ายเทิร์นรุกเทิร์นรับได้แน่
   และถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อคืนนั้น..
   ไลออนคงไม่อยากเชื่อ ว่าอีกฝ่ายรุกเก่งจนเขาถอนตัวไม่ขึ้น
   ภาพความทรงจำนั้นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากที่จรดลงลำคอของเขา ฝ่ามือที่ลูบไล้ บีบขยำทุกสัดส่วนของเขา หรือแม้กระทั่งตอนตนเองได้ลองกดจูบตามแนวร่องกล้ามหน้าท้อง ..
   ..
   “คุณ.. คิดอะไรอยู่น่ะ”
   “!!”
   ความคิดตัวเองถูกฉุกกลับมารอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวัน ไลออนไม่อยากจะเชื่อตัวเอง เขากำลังอยู่ในเวลางานแท้ ๆ แต่กลับจินตนาการสิ่งอกุศลของคนตรงหน้าอย่างน่าไม่อายยิ่งรู้สึกขายขี้หน้าเข้าไปทุกที
แต่ตอนนี้..
   นิรันดร์.. ยื่นหน้ามาใกล้เกินเหตุ..
   ไลออนแทบหยุดหายใจ..
   อากัปกิริยาคุณ N กลับมาแล้ว..
   คนอะไร เปลี่ยนท่าทางเร็วชะมัด
   “เปล่า..” คนหน้าหวานปฏิเสธ ก้มหน้าลงเช็คเอกสารต่อพร้อมพูดเสียงรัว “เดี๋ยวคุยต่อกันคราวหน้าดีไหม ? ตอนนี้มันเริ่มเย็นแล้ว ส่วนรายละเอียดผมจะลองเสนอที่ประชุมให้ดู แล้วถ้าผ่านจะเชิญคุณเข้าประชุมครั้งหน้าด้วย”
   “คุณ..”
   ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่มีไว้สำหรับเจรจาผู้ค้าขายแห่งนี้ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ พิกล ยิ่งพบว่าตัวเองอยู่ในห้องสองต่อสองกับคน ๆ นี้ยิ่งรู้สึกโหวงเหวงชอบกล
   บางครั้งนิวแสดงท่าทีของเพื่อนสมัยม.ปลายออกมา แต่บางครั้งสายตาที่เปี่ยมด้วยเลศนัยกลับฉายความเจ้าเล่ห์จนทำใจสั่น
   เขา.. ปรับตัวไม่ทัน..
   ว่าอีกฝ่ายคือ ‘นิว’ หรือ ‘คุณ N’ กันแน่
   “รีบกลับเหรอ ?”
   “ใช่ .. รีบ” เขารู้สึกขนอ่อนลุกชันกับบรรยากาศรอบกาย อีกฝ่ายที่นั่งฝั่งตรงข้ามขยับร่างเพียงเล็กน้อยกลับทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
   หมับ
   มือที่พยายามรวบเอกสารให้เสร็จถูกคว้าไว้ ใบหน้าเขาร้อนวูบจากสัมผัสตัวเล็กน้อยกับอีกฝ่าย ไลออนใช้เวลาเกือบนาทีในการเงยหน้าขึ้นไปสบตา..
   และใช่..
   ลูกแก้วสีอ่อนคู่นั้น.. เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์..
   ไม่ใช่เพื่อนสมัยม.ปลายเสียหน่อย
   “หืม..” เสียงครางต่ำในลำคอทำให้ก้อนเนื้อในอกคนฟังกระตุกวาบ ใจเต้นรัวจนไม่กล้าเขยื้อนร่างกายออกไปไหน “ก่อนหน้านี้.. คุณ L บอกว่าอะไรนะครับ ?”
   อา..
   เริ่มสวมบทบาทเป็นคุณ N อีกแล้วสินะ..
   ดวงตาไลออนสั่นคลอน ช่องท้องปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อหลายพันบินวนอยู่ ยิ่งปลายนิ้วสาก ๆ ของคุณ N ลูบวนบริเวณข้อมือเขาสื่อความต้องการที่ชัดเจนกว่าเก่ายิ่งทำให้ก้อนเนื้ออกซ้ายเต้นโครมคราม



   อันตราย..
   ร่างกายพวกเรา.. เข้ากันได้ดีเกินไปแล้ว



   ไลออนไม่เคยเป็นเช่นนี้กับใครมาก่อน แค่สัมผัสแผ่วเบา แต่ทำให้รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง



   ชายหนุ่มแค่นเสียงตอบเบาจนเกือบไม่ได้ยิน


   “ผมบอกว่า.. มันเย็นแล้ว” ไม่รู้ว่าเหตุใดเสียงตนเองจึงแปร่ง ๆ ไปจากเดิม แต่เขาก็ยอมต่อประโยคให้จบ “เราควรกลับก่อนบริษัทปิด..”
   จากนั้น..
   รอยยิ้มบนใบหน้าอดีตเพื่อนมัธยมปลายดูร้ายกาจกว่าครั้งไหน ๆ
   “ถ้างั้น.. ‘เรา’ จะกลับไปไหน ‘ด้วยกัน’ ดีครับ คุณ L ?”




ก็บอกแล้ว..


ร่างกายที่เข้ากันได้.. มันอันตรายเป็นที่สุด
















__________________________________________________



TALK :: ฮา

ขอโทษที่มาช้านะคะ T___T เพราะงานเมื่อวาน แต่แจ้งไว้ในเพจล่วงหน้าแล้วแต่ก็ขอมาขอโทษอีกทีหนึ่ง

                จริง ๆ เรื่อง เพียงเสี้ยวสัมผัส มีฉากเรทเยอะกว่านิยายที่อิมอินแต่งทั่วไปก็จริง แต่ว่าเนื้อเรื่องจริงๆ เป็นมุมมองของผู้ชายสองคนที่มีเซ็กส์กันโดยที่ไม่ได้รักกัน เลียแผลใจกันมากกว่า ฮา

                เรื่องนี้ถ้าให้อยู่หมวดจริง ๆ คือหมวดรักเศร้า ๆ และดราม่าค่ะ จะเริ่มเนื้อความดราม่าตอนที่ 3 เป็นต้นไป และคาดเดาว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกิน 12 ตอนจริงๆ 55555 ถ้าไม่มีอะไรพลาดนะคะ

                T w T ขอบคุณนะคะที่ยังมีคนกดเข้ามาอ่าน ดีใจมากกกกเลยค่ะ


ปล.ไลออน , นิว หรือน้ำกรด มาจากเรื่องนี้ค่ะ (ย้ายไอดีมา แฮ่ะๆ)


>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40911.0  (เรื่องนี้จบแล้วน้า)






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2017 15:08:11 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re:◇◆ ASKING FOR FREE SEX◆◇ [ch.3 , P.1 , 1/12/2017]
«ตอบ #3 เมื่อ01-12-2017 20:45:59 »


03 : Perfect mask and perfect fool.

รสชาติจูบของคุณ
คอยซับคราบน้ำตาอยู่


◇◆◇◆◇◆◇◆


   มันเป็นช่วงสมัยม.ปลาย ที่พวกเรายังอยู่ด้วยกัน
   ‘น้องสิงโตของพี่เสืออ’ น้ำเสียงยานคางมาพร้อมกับการกระโจนเข้ากอดของไทเกอร์ที่ทำให้คนถูกเรียกว่า ‘น้องสิงโต’ ถึงกับเซถลา ต่อด้วยการจุ๊บลงแก้มขาว ๆ ไปเสียทีนึง ‘พี่เสือคิดถุงน้องสิงโตจัง !’
ไม่มีใครรู้เลย.. ว่าตอนนั้นหัวใจเขาเต้นแรงแค่ไหน
   ไลออนอมยิ้ม ขยับตัวยุกยิกแล้วพูดเสียงทะเล้นกลับ
   ‘พี่เสืออ๋า ! มาทำอะไรน้องสิงโตแบบนี้ ประเจิดประเจ้อที่ซู้ด’ พูดพลางพยายามดันตัวอีกฝ่ายออก แต่คนถูกเรียกว่าเสือก็ยังไม่ยอมแพ้ เอาหน้าถูไถกับแก้มเจ้าตัวเล่น ‘เง้อว’
   ‘ทำเสียงน่ารักตล๊อด... อะไร ! มองอะไรมึงอ่ะอิกรด !’ เขาพูดเสียงอ่อนโยนประโยคแรก ก่อนจะหันขวับไปคนที่มองมาแล้วทำสีหน้าพะอืดพะอมใส่ ‘อิจฉากูอ่ะเด้ที่ไม่มีคนน่ารักให้กอด ให้กูเสนอนะ ไปกอดกับคู่กัดตัวดำของมึงโน้นน’ ว่าแล้วไทเกอร์ก็หัวเราะลั่น ก่อนไลออนจะมาผสมโรงด้วยทันที
   ‘เอ๊ะ เดี๋ยวนะพี่ไทก์ ! ถ้าให้ไปกอดกับคู่กัดแบบนี้จะดีเหรอ !’ คนตัวเล็กกว่าทำเสียงสะดีดสะดิ้ง กลับมาเรียกไทก์และไลอ์ที่เป็นชื่อเล่นของพวกเขาทั้งสองจริง ๆ แทน
   ไทเกอร์หันมาทำหน้าหวานหยดย้อย ประคองแก้มคนหน้าสวย ต่อด้วยมอบจุ๊บแรง ๆ ที่เหม่งไปรอบนึง
   ‘ก็กัดกันกอดกัน.. ทำไปบ่อย ๆ เดี๋ยวก็รักกันเองล่ะจ้ะ’
   ‘ฮิ้ววววววว’ คนชื่อกรดอ้าปากพะงาบ แล้วแหกปากลั่นแบบทุกที เป็นผู้ชายที่โดนแกล้งบ่อยสุด แล้วเอาแต่โวยวายเป็นที่สุด
   ‘ไอ้เหี้ย หุบปากไปเลยพวกมึง !!!!’




   ไลออนปรือตาขึ้นตื่นจากความฝันช่วงมัธยมปลายของเขา




   รสชาติของเซ็กส์ที่ห่างเหินกับความปวดเมื่อยตามสะโพกของชายที่นอนเคียงข้างตัวเองปลุกให้เขาตื่นขึ้น ชายหนุ่มยิ้มเจื่อกับความฝันสมัยมัธยมปลาย ตัวเขาทั้งเฮฮา มีเพื่อนเยอะ ล้วนเป็นเพราะคนสนิทอย่าง ‘ไทเกอร์’ ทั้งสิ้น ทั้งความทะเล้น ความซุกซน แน่นอนว่าความกระแดะสมัยก่อนอีกด้วย หากไม่ได้อยู่กับไทเกอร์ เขาคงทำไม่ได้หรอก


   และเมื่อนึกถึงช่วงเวลาก่อนเข้ามหาลัย..
   เขานึก..ถึงวันที่ไม่มีไทเกอร์ไม่ออกเลย



   ก่อนที่ไทเกอร์จะคบกับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ พวกเราอยู่ด้วยกันมาเสมอ ทุก ๆ วัน



   ผู้หญิงคนนั้น.. น่าอิจฉา


   “อืม..” เสียงครางในลำคอของคนที่อยู่ข้างกายเรียกสติของคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่ เวลานึกถึงเรื่องไทเกอร์ เขามักจมสู่ห้วงความคิดโดยไม่ได้ตั้งใจตลอด เหม่อลอย ฝ่ามือเผลอกำแน่นอย่างคนที่กำลังเคียดแค้น
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน
   ไลออนเปลี่ยนความสนใจไปทางคนข้างกายแทน ในอดีตสมัยมัธยมปลาย เขาเคยคุยกับผู้ชายที่ชื่อน้ำกรดที่เป็นเพื่อนสนิทของนิว และคน ๆ นั้น ได้บอกเขาว่า.. นิวเป็นคนมีฟีโรโมนกับเพศเดียวกัน
   ตัวเขาในเวลานั้นได้แต่มองร่างเล็กบางที่เดินตามน้ำกรดทุกเมื่อ มองรอยยิ้มหวานและท่าทางนิ่ง ๆ ไม่ค่อยแสดงออกอะไรมากนัก

   แล้วก็คิด.. ว่าฟีโรโมนอะไรนั่นมันเพ้อเจ้อชัด ๆ
   แต่วันนี้เขาคงต้องเปลี่ยนความคิด

   เพราะวันนี้.. เป็นอีกวันที่เขามีเซ็กส์กับคน ๆ เดิมอย่างถอนตัวไม่ขึ้นทั้งที่ปกติตนเองเป็นพวก One night stand แท้ ๆ แต่เมื่อเจอร่างกายของคนที่เข้ากับตัวเอง ทุกครั้งที่ได้สัมผัสแนบเนื้อกัน ทั้งตัวจะรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนโดนแผดเผา แค่ปลายนิ้วสากจรดลงบนแก้มของตัวเองกลับทำให้กระตุ้นอารมณ์ได้ ยิ่งถูกริมฝีปากนั้นทาบทับทั่วกายยิ่งทำให้ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนจนสติเลือนลาง
   ไลออนมองดูใบหน้าหล่อเหลา อีกฝ่ายต่างจากเมื่อก่อนมาก ทั้งที่เคยมีดวงหน้าหวานราวกับเด็กผู้หญิงและนัยน์ตากลมโต คิ้วเรียวน่ารักน่าเอ็นดูจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคนดังของโรงเรียนแท้ ๆ ใครจะไปเชื่อว่าโตมาแล้วจะหื่นขนาดนี้ แถมยังหล่อฉิบหายอีก
   ‘ขอบตาดำจังแหะ..’
   เป็นความคิดแรกเมื่อมีโอกาสสำรวจใบหน้าอีกฝ่าย ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยบริเวณความคล้ำของขอบตาคนหลับ บางครั้งนิวทำสีหน้าร้ายกาจเป็นที่สุด แต่บางครั้งเจ้าตัวกลับเผยสีหน้าโศกเศร้าออกมาด้วย
   และสิ่งที่ไลออนเชื่อ.. คือปัญหาบางอย่างที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพูดออกมา ทำให้พวกเขาคลุกตัวอยู่ด้วยกัน แลกเปลี่ยนความสุขผ่านเซ็กส์ที่ช่วยให้พวกเราทั้งคู่ลืมเลือนความทุกข์ของเรื่องราวในชีวิต
   “หือ ขนตายาวด้วยแหะ” พึมพำกับตัวเองอีกครั้งตอนปลายนิ้วไล้แก้มเนียนเล่นต่อ ครั้งหนึ่งในความทรงจำเคยบอกว่านิวเองเป็นผู้ชายที่ขนตายาวพอสมควร ไม่ว่าจะโตขึ้นและรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปยังไง ใบหน้าของคน ๆ นี้ก็ยังคงมีเค้าโครงเดิมเสมอ


ก็สวย..เหมือนเดิม ถึงจะหล่อ แต่ก็สวย



   หมับ


   ความคิดหยุดลงเพียงเท่านี้ และเป็นอีกครั้งที่ฝ่ามือใหญ่กว่ารวมปลายนิ้วตัวเองที่เล่นบริเวณแก้มและใต้ของตาของชายที่ควรจะหลับ


   นี่มัน..


   “แกล้งหลับหรือครับ คุณ N”
   “นึกว่าจะมีมอนิ่งคิสนี่ครับ เลยแกล้งหลับก่อน” เขาพูดเสียงตัดพ้อ “วันนี้ผมมีนัดคุยแผนงานกับบริษัทคุณ”


   คนตัวเล็กกว่าเลิกคิ้ว


   “ที่จริงจะคุยเลยก็ได้นะ.. ยังไงคุณก็หมายถึงคุยกับผมน... !” ไม่ทันจะได้พูดจบประโยค ร่างกายคนที่ควรจะซุกหน้าบนแผ่นอกกลับพลิกตัวขึ้นคร่อมไว้แทน ไลออนกระพริบตาปริบ เห็นอีกฝ่ายยิ้มซุกซนยิ่งไม่น่าไว้วางใจ “ครับ ?”
   “ผมมีเรื่องจริงจังที่อยากคุยกับคุณ” คำพูดนั้นสร้างความสงสัยแก่คนหน้าหวาน แต่การกระทำนี่สิ น่าสงสัยกว่า
   “งานรึเปล่าครับ ? ถ้างานแล้วจำเป็นต้องขึ้นคร่อมผมเหรอ ?” คนอยู่ด้านใต้ตีหน้าซื่อถาม


   จริง ๆ นะ .. สภาพตอนนี้ไม่น่าคุยเรื่องจริงจังได้
   มันดูชวนกันไปมีเซ็กส์อีกรอบมากกว่า


   เหมือนอีกฝ่ายตั้งใจให้อยู่ในท่าล่อแหลมเพราะรอยยิ้มร้าย ๆ ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ไลออนเองก็หาเหตุผลจะปฏิเสธไม่เจอ เขาปล่อยให้ดวงตาทั้งคู่จ้องมองกันไม่ขยับเขยื้อน


   “คุณรู้ไหม.. ทุกครั้งที่ผมได้จับตัวคุณ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกไฟฟ้าช็อตยังไงไม่รู้” คนฟังไม่ได้ตอบ ปล่อยให้ริมฝีปากสากที่ผ่านการบดจูบมานับครั้งไม่ถ้วนโน้มเข้ามาคลอเคลียข้างใบหูของตน “คุณเป็นคนแรกที่ทำให้ผมอยากรุนแรงด้วย”




   ให้ตาย.. พูดอะไรวะ..




   ใบหน้าของไลออนขึ้นสีแดงระเรื่อ นึกแปลกใจที่ไม่รู้สึกรังเกียจคำพูดพวกนั้น ในทางตรงกันข้าม ความรู้สึกตื่นเต้นมันกลับมากกว่าเสียอีก ยิ่งตอนถูกหัวเข่าที่วางอยู่ระหว่างท่อนขาเปลือยเปล่าแตะลงบริเวณส่วนล่างแล้วขยับเสียดสีระหว่างพูดต่อ


   เดี๋ยวนะ..


   ตื่นมาก็คิดจะเอาเลยรึไง !


   เถียงให้ตายในใจ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ บ้าจริง


   “ผมอยากจะกัดคุณ”
   “อ..อื้อ” ฟันคมนั้นเริ่มขบบริเวณติ่งหูที่กระซิบเสียงแหบพร่าก่อนเป็นอันดับแรก ร่างบางสั่นคลอนกับแรงดูดขบ เผลอบีบบ่ากว้างหนัก ๆ จากลมหายใจที่คลอเคียตามผิวกาย
   “และคุณ.. ก็ดูเหมือนจะชอบมัน..” นิวเว้นช่วงให้ไลออนได้พักหายใจ อีกฝ่ายผละออกแค่ริมฝีปาก แต่ช่วงล่างกลับคลึงส่วนอ่อนไหวด้วยหัวเขา มันยิ่งเหมือนสูบเรี่ยวแรงเขาให้เหือดหายไป “ชอบใช่ไหมครับ.. ที่ผมทำแบบนี้”
   “ฮ..อา..”
   “ชอบไหมครับ ? ที่ผมทรมานให้อยู่ในอารมณ์แบบนี้..” คำพูดนั้นเป็นเหมือนตัวเร่งอารมณ์ นิวไม่ปล่อยให้ไลออนไปถึงฝั่งฝัน เขาแค่หยอกล้อ เล่นสนุกกับความทรมานเพราะต้องการปลดปล่อยมากกว่า
   พวงแก้มคนด้านล่างแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด ทั้งร่างจิกเกร็ง นัยน์ตาสีอ่อนพร่ามัวด้วยหยาดน้ำใส ๆ เขาเผยอปากออก จะเปล่งเสียงห้ามแต่อีกฝ่ายเหมือนรู้จังหวะ ขยี้หัวเข่าลงเปลี่ยนเป็นเสียงครางหวานหู
   “ผมถามคุณไง.. ว่าชอบไหม ?” ปลายคางถูกเชยขึ้นมองนัยน์ตาอ่านยาก ดวงตาสีอ่อนของเขาเปี่ยมด้วยหยดน้ำตาเม็ดใหญ่ที่เอ่อล้นอยู่ ขยับปากเสียงตอบแผ่วเบา
   “ชอบ..อื้อ..” เขาปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว ตั้งแต่เจอ ‘คุณ N’ รสนิยมทางเพศของตัวเองกลับยิ่งชัดเจนมากขึ้น เขาอยากให้อีกฝ่ายช่วยขบกัดร่างกายตัวเอง ช่วยปรนเปรอ ทำให้ตัวเขาควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ทำให้ตัวเขารู้สึกปั่นป่วนเวลาได้พบเจอกัน “ช.. ชอบมาก ๆ”





   ไม่มีคู่นอนคนไหนเข้ากันได้ดีกว่านี้อีกแล้ว




   เรียวปาก ‘คุณ N’ กระตุกขึ้นอย่างพึงพอใจ





   “ผมเองก็รู้สึกแบบคุณ..”

   เขาอยากเล่นกับเรือนร่างอีกฝ่าย


   อยากจะบดฟันลงทั่วหัวไหล่กลมจนเป็นร่องรอยการถูกกัด ขบเม้มทุกสัดส่วน ปรนเปรออีกฝ่ายด้วยมือและริมฝีปาก


   อยากจะเห็นร่างกายคนตรงหน้าขดตัวใต้ร่างและสั่นคลอนเพราะความเสียวซ่าน วิงวอนขอร้องให้เขาช่วยกระทำต่อ ยิ่งน้ำเสียงแหบพร่าสั่นเครือมากเท่าไหร่ ยิ่งปลุกปั่นราคะให้สูงมากขึ้นเท่านั้น


   ต่างฝ่าย .. ต่างช่วยทรมานให้พวกเขาตกอยู่ในห้วงความต้องการให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้..




   เพราะช่วงเวลานั้น..
   เป็นแค่ช่วงเวลาเดียวที่พวกเขาจะไม่นึกถึง ‘มัน’




   “มาเป็น..เซ็กส์พาร์ทเนอร์กับผมเถอะครับ ‘คุณ L’ ..”



   คำตอบ..
   มีแค่ตกลง
   ..



◇◆◇◆◇◆◇◆


   หลังจากวันนั้นเขากับนิวได้แยกย้ายกลับโดยอีกฝ่ายยังคงคุยกับตนเองในฐานะ ‘คุณ N’ เป็นครั้งคราว แต่ตอนนี้พวกเขาสองคนไม่ได้อยู่เพียงทวิตเตอร์และสไกป์เท่านั้น ล่วงเลยมาถึงแลกไอดีไลน์กันหลังจากตกลงเป็นเซ็กส์พาร์ทเนอร์และวันดีคืนดีมีนัดเจอกันบ้าง หากงานยุ่งพวกเขาก็วีดีโอคอลกันบ้าง แน่นอนว่าไม่มีคุยเล่นไถ่ถามเรื่องชีวิต


   มันมีแต่.. เซ็กส์ล้วน ๆ


   “ขอบตาพี่ไลอ์ดำ ๆ นะคะ” เสียงหวานของน้องดาวที่นั่งโต๊ะข้าง ๆ เรียกสติไลออนให้กลับมาอีก “เป็นอะไรหรือเปล่าคะพี่ ?”
   “พี่แค่ง่วงนิดหน่อย..” .. เมื่อคืนคุณ N คนกามมาขอฟังเสียงครางตอนห้าทุ่มเล่นเอาไลออนแทบบ้า “อะไร.. มองทำไม”
   “วันนี้พี่ไลอ์หล่อจังค่ะ..”
   “แน่ะ ชมแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ คิดว่าพี่จะหลงเชื่อน้องดาวเหรอครับ” เขาดักทาง บีบปลายจมูกโด่งของหญิงสาวไปสักทีนึงเล่นเอาคุณเธอหัวเราะร่วนกับการถูกจับได้
   “คือ..” ดาวลากเสียง “พี่ไลอ์.. คือดาวอยากรู้จักคนที่มาทำคู่ค้ากับพี่ไลอ์ด้วยอ่ะ..”
   “คนไหนน่ะ ?”
   “คุณ..ผู้ชายตัวสูง ๆ หล่อ ๆ ดูมีเสน่ห์.. ขาว ๆ ด้วย” เธอเริ่มบรรยายลักษณะภายนอก “แถมยังดูสนิทกับพี่ไลอ์มากเลย”
   “อ้อ.. นิรันดร์น่ะเหรอ ?”
   “คุณนิรันดร์ ! คนนั้นแหละ ๆ คือเขาหล่อม้ากมากอ่ะ” คนฟังได้แต่ยิ้มเยาะ เหล่มองไปทางพื้นที่โล่ง ๆ ด้านข้าง..


   โถ่
   สมัยเด็กคุณนิรันดร์สวยกว่าเธอตอนนี้อีกนะสาวน้อย..


   “ขอเขาเองสิ” ไลออนยิ้ม “พี่ไม่กล้าให้โดยพลการหรอก”
   “หูย ขี้งกค่ะ” เธอถึงกับงอนตุ๊บป่อง หมุนเก้าอี้ไปอีกทางแล้วทำงานของตัวเองแทน ปล่อยให้สาวน้อยขี้เล่นอย่างดารารัตน์งอแงไปเอง
   เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาเกิดการสั่นครืด ๆ อีกหนหนึ่งพร้อมป๊อบอัพหน้าจอเด้งเป็นข้อความจาก ‘คุณ N’ เป็นชื่อเล่นที่ไลออนเมมเอาไว้หลังจากแลกเบอร์กันอีกรอบ
   รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏบนใบหน้าหวาน


   คุณ N : ผมเบื่อจะฟังแต่เสียงครางคุณแล้วนะ อยากเจอตัวครับ


   ดูสิ ..
   ติดใจแล้วแน่นอน :)


   คุณ L : งั้นคราวหน้าต้องมีอุปกรณ์ปิดปากหน่อยแล้วล่ะครับ แล้วค่อยเจอกัน :P


   เขาไม่ทันจะได้วาง ก็เกือบหงายหลังตกเก้าอี้ทันทีโทรศัพท์สั่นอีกครั้ง เด้งเป็นรูป ‘อุปกรณ์’ ที่ว่าจริง ๆ ไลออนน่ะหมายถึงพวกผ้าปิดปาก แต่อุปกรณ์ที่อีกฝ่ายว่านี่สิ.. ของเล่นเซ็กส์ทอยชัด ๆ!


   คุณ N : ชอบอันไหนสุดครับ ?
      (แนบรูป)
   คุณ L : แชทมาหาเพราะซื้อพวกนี้อยู่เหรอครับ..




   ที่รู้เนี่ย เพราะแคปรูปหน้าจอเป็นร้านสั่งซื้อยังไงล่ะ



   คุณ N : เก่งมากครับ ตกลงชอบอันไหนที่สุดครับ ?



   เขากำลังจะพิมพ์ตอบกลับทว่าอารมณ์รื่นเริงกลับต้องหายวับไป เมื่อมีอีกหน้าจอแชทของอีกแอพลิเคชั่นเด้งขึ้นมาแทน
   มันมาจากผู้ชาย.. ที่เขาไม่ได้คุยมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน ผู้ชายที่เรียกได้ว่าเกิดมาพร้อม ๆ กับเขา อยู่ข้างบ้าน เป็นเพื่อนสนิทของกันและกัน..
   “ไทเกอร์..”


   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : ไลอ์จ๋าา จำได้ป่าวนี่ครายยย
   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : ฮาโหล้ว !



   เป็นวินาทีที่ลมหายใจของเขาติดขัด แค่สองประโยคที่ทักทายทำให้ภาพความทรงจำมากมายสมัยยังเรียนอยู่ด้วยกันกลับปรากฏเหมือนกรอเทปย้อน ใบหน้าของเขาชาวูบ หัวใจที่อยู่ในระดับปกติร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
   มัน..แชทมาหาเขาด้วย..
   ไลออนเม้มปากเข้าหากัน ปลายนิ้วโป้งสั่น ๆ กดเข้าไปดูแชทด้านใน เขาทำแค่ส่งสติ๊กเกอร์ ‘มีไรห๊ะ’ ไปหา ไม่ทันจะได้กดออกหน้าต่างแชท อีกฝ่ายกลับตอบมารอบสอง


   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : ไลอ์ที่รักของไทก์จ๋า จำลูกสิงห์ได้เปล๊า คลอดมาสามปีแล้วนะ ไลอ์ยังไม่เคยเจอลูกไทก์เลย คิดถุงไลอ์จุงเบยจุ้บๆ
   Lionintheoffice’ : โถ่ะ ก็ไทก์ไม่ยอมทักแชทมาบอกไลอ์อ่ะ อีกอย่างไลอ์ยุ่ง ๆ ด้วย ต่างคนทำงานก็น่าจะรู้นิ TT___TT คิดถึงไทก์เหมือนกันน


   โอเค
   มันปกติ
   ปกติใช่ไหม ? นี่คือประโยคปกติที่เพื่อนจะคุยกัน
   ไลออนกระซิบกับตัวเองในใจ เขาตอบให้ทุกอย่างเหมือนปกติ พูดจาสนุกสนานเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่แตกต่าง มันจะไม่มีวันรู้แน่นอนว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง ภายในอกถูกบีบคั้นแค่ไหน





   เพราะมันคือตัวอักษรผ่านหน้าต่างแชท






   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : แล้วไลอ์อ่ะเป็นไงบ้างงง ไม่ได้เจอกันนานเลยย ใช่ตั้งแต่สิงห์ยังไม่ออกจากท้องแม่รักเลยปะ
   Lionintheoffice’ : น่าจะใช่อ่ะ ไม่ได้เจอกันนานจริง แต่ไลอ์สบายดี เฮฮาทุกวัน น้องทำงานก็น่ารัก 5555 ไทก์อ่ะ เป็นไงบ้าง ?






   จะไม่มีใครรับรู้ความรู้สึกแท้จริงของคนที่กำลังพิมพ์อยู่แน่นอน




   ไม่ว่าขอบตาจะเริ่มร้อนผ่าวเพราะภาพตรงหน้าที่เขานั่งอ่านแชทอยู่ ไทเกอร์ไม่ตอบประโยคที่ถามกลับ แต่ส่งรูปเจ้าตัวกำลังอุ้มเด็กคนหนึ่งที่ทำหน้าตาบูดบึ้งให้เหมือนคุณพ่อมือใหม่หลงลูกไม่ผิดเพี้ยน


   จะไม่มีใครรู้ความรู้สึกจริง ๆ ของเขา..


   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : ทะด้า ! น่ารักมั้ยๆๆ นี่น้องสิงห์
   Lionintheoffice’ : เอาแต่ชมลูกอ่ะ ไลอ์ไม่น่ารักหรอ -3-
   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : น่ารักซี้ไลอ์ แต่น่ารักน้อยกว่าภรรยาเก๊ากะน้องสิงห์นะ อันนี้ขอๆๆ ไทเกอร์รักเมียกะลูกที่ซู้ดในโลกก


   ฝ่ามือที่จับโทรศัพท์เผลอกำแน่นขึ้นแทน..
   ให้ตายเหอะ เจ็บชะมัด
   แต่เพื่อน
   เขาเป็นเพื่อนที่ดี


   Lionintheoffice’ : โอ้ย เบื่อคนหลงเมียย เบื่อคนหลงลูกกก ตกลงทักหาไลอ์มีอะไรอะ ให้ช่วยไรไหนบอก
   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : เย็นนี้ไปรับลูกสิงห์มาส่งบ้านไทก์ให้หน่อยดิ T^T ไทก์กับขุ่นเมียไม่ว่างอ่าๆๆ
   Lionintheoffice’ : กี่โมงอ่ะเย็นนี้ ?
   เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : ห้าโมงงงง T____T ขอบคุณมั่กเวอร์นะๆๆๆ ไลอ์ ไทก์รักไลอ์ที่สุดเลยยยยยยย


   นั่นไง
   ว่าแล้วเชียว
   สุดท้ายไลออนก็ได้แต่ถอนหายใจแผ่วเบา ความหวังในใจเล็ก ๆ ว่าอีกฝ่ายจะคิดถึงตัวเองจริง ๆ หายไปกับข้อความสุดท้าย เขาปิดแชทลง วางโทรศัพท์มือถือแล้วเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า..





   ถ้าหากเป็นไปได้.. มีคนห่วงเขาจริง ๆ สักคน..ก็ดีสินะ




   “อ๋า ! พี่ไลอ์นั่งตรงนั้นค่ะ”
   น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของสาวดาวที่เรียกชื่อเขาทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ชายหนุ่มเหลือบมองด้วยหางตา แล้วก็ต้องเด้งตัวขึ้นทันทีที่เห็นว่าหล่อนกำลังคุยกับใคร..




   นั่น..




   มัน..




   “ม..มาทำไม..”



   อีกฝ่ายยิ้มให้ วันนี้นิวอยู่ในชุดธรรมดา ๆ แฟชั่นเสียมากกว่าเหมือนคนไม่เข้าทำงานวันนี้ แต่นั่นก็ยิ่งขับให้อีกฝ่ายดูดีไปอีกแบบ เสือสีเทาอ่อนภายใต้เสื้อคลุมตัวใหญ่ลายสีขาวกรม แขนเสื้อพับขึ้นมาอยู่ที่ข้อศอกจนทำให้อีกฝ่ายดูฮอตกว่าเดิมแถมยังเปลี่ยนลุคจนผิดถนัดเล่นเอาน้องดาวกระปรี่กระเปร่าในการพูดคุยกว่าปกติ ก่อนจะบ่นอุบอิบเมื่อถูกรุ่นพี่อีกฝั่งหนึ่งของห้องเรียกใช้งาน
   “นั่น.. ใส่เข้ามาบริษัทได้ด้วยเหรอ..” คนตะลึงอยู่นิ่งไปนาน นิวเป็นพวกตามแฟชั่นมากกว่าที่คิด แต่อย่างน้อยก็ไม่ควรจะใส่กางเกงขาด ๆ เข้ามาในบริษัทเขาเท่าไหร่ แม้จะทำให้อีกฝ่ายดูดีมากแค่ไหนก็ตามที
   แต่เจ้าตัวไม่สนคำถามพวกนั้น เขายิ้ม
   “ผมเห็นว่าคุณไม่ตอบแชท เลยมาเอาคำตอบน่ะครับ” ไลออนเห็นนัยน์ตาสีอ่อนเหลือบมองรอบ ๆ ประหนึ่งดูว่าไม่มีใคร ก่อนเขาจะเปิดแชทรูปภาพ ‘อุปกรณ์’ แล้วยื่นให้เลือก “แล้วก็ วันนี้กลับด้วยกันนะ ?”
..


   
___________________

TALK ::


ถ้าหากเป็นการคุยแชทกันล่ะก็..
เราคงไม่มีวันรู้เลยเนอะ
ว่าอีกฝั่งของหน้าจอโทรศัพท์นั้นเขากำลังร้องไห้อยู่หรือเปล่า
):
ติดต่อทวิตเตอร์อิมอินได้ @StraWBerry_imin  #เสี้ยวสัมผัส ค่ะ :D  หรือเพจ StraWBerry_imin ได้เสมอค่ะ

แอบเห็นคนกดถูกใจให้ด้วย.. ดีใจอ่ะ ขอบคุณมากนะคะ  :กอด1:
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2017 15:11:13 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: ◇◆ ASKING FOR FREE SEX ◆◇ [ch.3 , P.1 , 1/12/2017]
«ตอบ #4 เมื่อ02-12-2017 06:03:56 »

ชอบสไตล์การเขียนค่ะ รอติดตามนะคะ อยากให้เขาสองคนรักกันจัง

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ◇◆ ASKING FOR FREE SEX ◆◇ [ch.3 , P.1 , 1/12/2017]
«ตอบ #5 เมื่อ17-12-2017 11:29:20 »

ชอบสไตล์การเขียนค่ะ รอติดตามนะคะ อยากให้เขาสองคนรักกันจัง

ฮื่อ
ขอบคุณนะคะสำหรับคอมเม้นท์แรก Y v Y ดีใจมากเลยค่ะ

ขอบคุณค่า

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
04 : Jealous are killing me inside.

ความอิจฉาที่กำลังแผดเผาภายใน
ทำลายตัวตนที่อ่อนโยนของผม
..
มันกำลังจะหายไป


◇◆◇◆◇◆◇◆



   ไลออนควรเรียนรู้วิธีปฏิเสธพาร์ทเนอร์ของเขาให้มากกว่านี้



   ทุกครั้งที่ใบหน้าของคุณ N เขยิบเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเขาเหมือนถูกสั่งให้หยุดลง ก้อนเนื้อในอกพาลเต้นรัวจนแทบหลุดออกมา อาการปั่นป่วนในช่องท้องเหมือนมีผีเสื้อนับพันบินวน


   ทุกสัมผัสจากฝ่ามือร้อนทำให้ร่างกายของเขาเหมือนถูกจุดไฟเผา ทั้งจากริมฝีปากชื้นแฉะ หรือจะเป็นจากปลายลิ้นชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ แค่เข้าใกล้กันเพียงเสี้ยวสัมผัสเท่านั้น


   ทุกความคิดมลายหายไป
   ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย
    อย่างเช่นตอนนี้..



   ภายในรถยี่ห้อออดี้สีแดงเพลิงตระหง่านเด่นหรากว่าคันอื่นบนลานจอดรถยังไม่เคลื่อนตัวออกตั้งแต่ชายสองคนเข้าไปภายในสักระยะหนึ่งแล้ว มีแค่ตัวรถที่ ‘สั่น’ เหมือนว่าสองร่างภายในกำลังกิจบางอย่างอยู่


   เป็นโชคดีของไลออนที่นิวติดกระจกฟิล์มดำจนไม่สามารถมองจากด้านนอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในรถยนต์คันหรู


   “อื้ออ...”เสียงครางดังระงมระหว่างที่สองปลายลิ้นแลกหยาดน้ำสีใส ๆ กันและกันผ่านโพรงปากชุ่มฉ่ำ ไลออนถูกนิรันดร์จูบหลายต่อหลายครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ พนันได้ว่าทุกซอกทุกมุมภายในโพรงปากนี้ไม่มีส่วนไหนที่ลิ้นร้อน ๆ ของชายร่างสูงจะไม่ได้ลิ้มลอง


   เขารู้สึกเหมือนถูกสูบพลังงานเพียงแค่โดนจูบจนริมฝีปากแดงเจ่อ นิวเอาแต่จูบซ้ำเหมือนที่เต็มไปด้วยโลภะ ตักตวงความหอมหวานจากโพรงปากไม่มีที่สิ้นสุดจนไลออนต้องเริ่มส่งเสียงในลำคอบอกถึงการหมดอากาศหายใจอีกฝ่ายถึงจะยอมลามือ


   “ม.. มีธุระ.. อา..” คนตัวเล็กกว่าประท้วงแต่ไม่ทันไรกลับโดนปลายจมูกโด่งซุกไซร้ลงซอกคอเป็นหนที่สอง ร่างตัวเองเหมือนกลายเป็นตุ๊กตา โดนจับให้ไปนั่งบนตักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ ทั้งกายเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ มือบางเกาะหัวไหล่คนที่ยังไม่ยอมหยุดเอาไว้แน่น


   เขายอมออกมากับนิว โดยมีข้อแม้ว่าให้ตัวเองทำธุระเสร็จก่อน.. แต่เมื่อยกของไปวางเบาะหลังเสร็จเรียบร้อยกลับถูกอีกฝ่ายกระชากเข้ามาทั้งจูบและซุกไซร้อย่างคนหื่นกาม


   ไม่สิ
   ก็หื่นกามจริง ๆ นั่นแหละ


   “ขออีกนิด..” เสียงทุ้มแหบพร่าที่ไลออนหลงใหลมาตลอดช่วงวีดีโอเซ็กส์คอลกันกระซิบเบาจนทำให้เผลอโอนอ่อน แก้มเนียนขึ้นสีแดงก่ำ ครางเสียงฮื่อเมื่อถูกแทะเล็มตามผิวเนื้อจนเสื้อผ้ายับยู่ยี่


   “พอก่อน.. แค่นี้พอ”


   “คุณยังไม่ได้บอกผมเลยนะว่าจะขับไปไหน” นิรันดร์พูดยิ้ม ๆ แต่ริมฝีปากกลับงับเล่นตามยอดอกสีหวานที่ชูชันอยู่ตรงหน้าหลังกระดุมเสื้อถูกปลดออก “จริงสิ อย่าลืมเลือกอุปกรณ์นะครับ ถ้าคุณไม่เลือก.. ผมจะเลือกให้เองล่ะนะ”


   “รู้น่า” ในที่สุดไลออนก็ดันศีรษะกลม ๆ ออกไปได้ ก้มมองคนที่ตัวเองนั่งบนตักด้วยท่าทางดุกับการไม่เป็นข้อตกลง ตอนแรกบอกแค่ไปส่ง ไปด้วย ไม่เห็นบอกสักนิดว่าจะมีการมาทำแลกจูบอะไรแบบนี้ก่อน “แล้วก็ต้องไปรับเด็กที่หมู่บ้านนึง. .เดี๋ยวผมบอกทางเอง”


   “ผมอุตส่าห์มาหาคุณถึงที่นี่ ไม่มีบริการเหรอครับ ?”


   ไลออนถอนหายใจพรืด


   “จริง ๆ คุณไม่เห็นต้องตามมาด้วยเลย คำตอบพวกนี้รอในแชทเอาก็ได้” เมื่อเขยิบตัวลงจากตักอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อพบว่ามีบางอย่างดันนูนขึ้นทิ่ม ๆ เขาอยู่ “โอ้ย..” ถึงกับโอดอรวญ
   “ทำให้หน่อย” นิวหัวเราะทันที “เนี่ย มันตั้งเพราะคุณนะ” ไม่พอนั่น ยังชี้ลงไปตรงเป้ากางเกงอีก
   “ผมเปล่าสักหน่อย” เขาเริ่มหน้างอ “คุณเป็นคนจับผมอุ้มขึ้นตักแล้วจูบ ๆ เองนะ แต่ตอนนี้ผมต้องไปทำธุระต่อ”
   เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมา อีกครั้งที่ทำให้คนมองใจสั่นคลอนเพราะรอยยิ้มแสนร้ายกาจ กับนัยน์ตาที่ซุกซน
   “ไม่ใช้ปาก.. ผมไม่ขับรถแน่”



   ยื่นข้อเสนอมาอีก..



   “ผมควรรู้สึกยังไงเนี่ย..” เหมือนถูกไล่ต้อนจนจนมุมซะงั้น รถนี่ก็ของเขา แต่นิวอาสาขับแถมมีข้อแลกเปลี่ยนแบบนี้อีก
   “ตอนนี้เพิ่งบ่ายสองเองคุณ .. ยังมีเวลาน่า” ร่างกายนิ่งงันเมื่อฝ่ามืออีกฝ่ายคว้าปลายนิ้วตนเองมาวางไว้ที่เป้ากางเกง “คุณจะปล่อยผมทรมานแบบนี้ไมได้นะ.. ผมรอมาหลายอาทิตย์เลย”


   นัยน์ตาสีอ่อนตวัดมองใบหน้าของนิรันดร์


   เขาแค่เผยรอยยิ้มที่ดูซุกซนไม่ต่างกัน เสียงซิปกางเกงถูกรูดลงเชื่องช้าและสอดมือเข้าไปสัมผัสความใหญ่โต


   “ถ้าผมไปรับเด็กสาย.. คุณจะได้รับบทลงโทษแน่”


◇◆◇◆◇◆◇◆

   ใบหน้าสวยโน้มตัวลงไปเข้าครอบงำส่วนที่ชูชันสู้แรงโน้มถ่วงจนน่าขัน ปลายลิ้นเล็ก ๆ เริ่มตวัดเลียชิมรสชาติของแท่งร้อนที่ได้สัมผัสอยู่ มันไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ไลออนตื่นเต้น เขารับรู้ถึงฝ่ามือที่แทรกเข้ามาขยุ้มบริเวณเรือนผมนุ่มนิ่มตัวเอง ปลายฟันคมครูดลงตามแนวแก่นกายช้า ๆ


   รสชาติของนิรันดร์ สำหรับไลออนคือรสชาติที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอม หรือขนาด ทุกอย่างดูอยู่ในระดับที่เขาถูกใจ


   “อืมม..” เสียงครางดังออกมาจากลำคอคนอยู่สูงกว่าเมื่อปลายลิ้นเล็ก ๆ เริ่มไล้เลียไปทั่วทุกมุม นิรันดร์เผลอเม้มปากเพราะมือที่สะกิดบริเวณส่วนฐานของแก่นกายเล่นสองสามที “ซน..”


   เจ้าของดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองอย่างท้าทาย


   “นิดหน่อยเอง” ไลออนพูด อ้าปากครอบงำส่วนอ่อนไหวทันทีที่จบประโยค ความแข็งขืนกระดกขึ้นสู้ในโพรงปาก เขาจึงจัดการโยกริมฝีปากเป็นจังหวะสลับกับดูดแรง ๆ อีกหลายครั้งอย่างเชี่ยวชาญ


   ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาที่ส่วนปลายของเขาก่อนจะปลดปล่อยหยาดน้ำขาวขุ่นเข้าโพรงปากคนที่ยังมีอุ้งปากรองรับทันที นิวเห็นหัวไหล่เล็ก ๆ นั่นสะดุ้งตอนถูกฉีดเข้าปาก และเขาก็กดรอยยิ้มขึ้นอย่างขบขัน..


   นั่นแหละ
   ที่อยากเห็น..
   อาการสะดุ้งตกใจแบบนั้นแหละ


   “อึก..” คนตัวเล็กกลืนมันลงลำคอ แล้วตวัดสายตามองดุ ๆ ระหว่างที่ใช้มือปาดส่วนทีเปรอะเปื้อนใบหน้าออก “บ้าเอ๊ย ลืมถุงได้ไง”
   “แค่ครั้งเดียวเอง” นิวหัวเราะ จัดแจงรูดซิปขึ้นและแต่งตัวให้เรียบร้อย เขาหยิบทิชชู่เปียกแล้วยื่นไปซับคราบขาวขุ่นเหล่านั้นออกจากใบหน้าหวานจนหมด
   ไลออนเองก็ทำตัวไม่ซนอะไร หันไปหาพร้อมหลับตายอมอีกฝ่าย
   สัมผัสจากทิชชู่เย็น ๆ ซับคราบออกเชื่องช้าจนหมด นิวขยำมันแล้วโยนทิ้งลงถุงขยะที่อยู่ด้านหลัง



   “คุณ L ครับ”



   คนถูกเรียกขมวดคิ้ว “ครับ ?”



   จุ๊บ




   “...” เสียงจากการจุ๊บเบา ๆ นั่นทำเอาอึ้งไป ลืมตามองแทบไม่ทัน
   “ผมบอกแล้วไง ว่าผมเบื่อจะเซ็กส์โฟนกับคุณแล้ว” อีกฝ่ายยังคงยิ้มไม่เลิก “ให้ทนรอไม่ไหวหรอกครับ”
   จบประโยคขับออกไปสร้างความงุนงงให้กับคนนั่งข้าง ๆ กว่าครั้งไหน ปกติก็เป็นพวกชอบพูดจาวกวนอยู่แล้ว ยิ่งฟังก็ยิ่งงงมากขึ้นเท่านั้น



   และ..



   นานแล้วเหมือนกัน.. ที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้


   ก่อนหน้าที่จะมีนิวเข้ามาวนเวียนในชีวิต เขาเป็นคนเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ คอยท่องเที่ยวตามประสาผู้ชายใช้ชีวิตคนเดียว มีเซ็กส์ในกับคนที่คุยกันรู้เรื่องและจากลากันไปง่าย ๆ การที่วันดีคืนดีทุกสิ่งจะแปรเปลี่ยนไปเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตั้งรับกับความรู้สึกนี้ไว้



   แต่ถ้าวันหนึ่ง.. สิ่งเหล่านี้จางหายไปเหมือนกับครั้งก่อนล่ะ



   ตัวเขา.. จะสามารถอดทนต่อความโดดเดี่ยวได้อีกไหมนะ ?



   นัยน์ตาสีอ่อนเผลอเหลือบมองชายที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับระหว่างทำเป็นจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ คำถามมากมายปรากฏขึ้นในหัวสมองของเขาแต่ปากกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรและกักเก็บความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้แต่เพียงคนเดียว



   มันคือความกลัวที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า..


   เขาเริ่มกลัวที่จะถูกทำเช่นเดิมอย่างคราวเดียวกับไทเกอร์



   ชายคนนั้นบอกเอาไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไปและไม่ทิ้งกัน แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายสะบัดมือที่กอบกุมกันเอาไว้เนิ่นนานและพุ่งไปข้างหน้าเพื่อมีครอบครัวอันแสนสุขสันต์ ภรรยาคนสวยกับลูกตัวน้อยที่แสนน่ารักน่าชังอีก


   เขาไม่อยากถูกทิ้งไว้ด้านหลังอีกแล้ว..


   ภายในอกซ้ายถูกบีบคั้นจนฝ่ามือเผลอจิกเกร็ง ยามใดที่นึกถึงความทรงจำที่ติดค้างภายในหัว ยามนั้นย่อมเหมือนถูกกรีดด้วยมีดคมลึกลงรอยแผลเก่า ในตอนนั้นเขากล้าพูดได้เต็มปากว่าหลงรักเพื่อนตัวเองไปทำให้รู้สึกเช่นนั้น


   แต่ในตอนนี้.. หากไม่เป็นการคิดล่วงหน้า และไม่รู้สึกเกี่ยวกับคำว่ารักลงไปกับผู้ชายข้าง ๆ เขาคงแค่เหงาที่ต้องกลับมาอยู่เพียงลำพังอีกแน่




   แต่แล้วความสัมพันธ์ของพาร์ทเนอร์เซ็กส์จะยั่งยืนมากแค่ไหนเชียว ?




   มันคงจบลง หากใครคนใดคนหนึ่งมีความรักหรือเบื่อหน่ายกัน   อย่างไรก็ตาม คนที่นั่งข้าง ๆ ก็คงจะมีคนที่ไปต่อในอนาคตสักวัน แม้ไลออนจะไม่ได้รู้สึกเกินเลยกับอีกฝ่าย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีใครสักคนอยู่ด้วยสร้างความอบอุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียวแบบปกติเสียอีก



   ..เพราะงั้น.. ช่วยอย่าเพิ่งเบื่อ ‘คุณ L’ ไปก่อนแล้วกัน..


◇◆◇◆◇◆◇◆


   รถออดี้สีแดงแล่นเข้าที่จอดสถานพักเลี้ยงเด็กตามที่ไทเกอร์ได้บอกตัวเขาไว้ ครั้งแรกเขานึกว่านิวจะถามเหตุผลที่พามารวมถึงสร้างความลำบากใจในการตอบ แต่เปล่าเลย อีกฝ่ายเลือกจะเงียบ หันไปยิ้มสบาย ๆให้กับไลออนเสียมากกว่าเหมือนเข้าใจว่านี่คือเรื่องส่วนตัวและไม่ควรจะยุ่งอะไรนัก


   เขาโล่งใจ



   ที่คนนั่งข้าง ๆ คือนิรันดร์ หรือคุณ N นั่นแหละ



   ไลออนเดินลงจากรถ มองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าเป็นเวลาสมควรตามนัดแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินเข้าไปที่หน้าบ้านพักเล็ก ๆ พร้อม ๆ กับนิวนั่นเอง

   “มารับเด็กเหรอคะ ?” เสียงเป็นกันเองดังมาจากหญิงที่จัดได้ว่าแก่ชราแล้ว เธอนั่งอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ต้อนรับเหมือนเป็นหนึ่งในพนักงานและแม่ครัว “ชื่ออะไรเอ่ย ?”
   “ชื่อน้องสิงห์ครับ ผมมารับแทนคุณพ่อเขา” เอ่ยพลางหยิบหลักฐานเป็นเอกสารที่ไทเกอร์ส่งรูปมาพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชนตัวเอง มือเหี่ยวย่นนั่นรับบัตรมา เธอตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะร้องอ้อ แล้วบอกให้เด็กที่อยู่แถวนั้นไปปลุกน้องให้ออกมา


   นิวที่ยืนอยู่เลิกคิ้วอย่างสงสัย


   แม้จะไม่ถามอะไร แต่ก็พอรู้ว่าลูกของไทเกอร์ชื่อสิงห์ .. เพราะตัวเองก็เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คมัน และเห็นการอัพรูปลูกชายเป็นประจำอยู่แล้ว


   แต่..


   ทำไมต้องชื่อสิงห์ล่ะ


   “นี่..” เป็นประโยคแรกจากคนข้างกายเขาที่ดังขึ้นหลังจากเดินออกมาจากรถ “ชื่อ.. สิงห์งั้นเหรอ ?”


   ไลออนระบายยิ้มบาง กดปลายคางลงตอบรับ


   “มันบอกว่า.. มันรู้ที่กูน้อยใจมันเพราะไม่ได้ติดต่อเลยหลังแต่งงาน” เสียงพึมพำลอดออกมาจากปากเจ้าตัว “เลยเป็นสิง.. สิงโต.. Lion ไง ฟังดูแล้วตลกไหมล่ะ


   ผู้ฟังเงียบเสียนาน อีกฝ่ายไม่ได้เป็น คุณ L ตอนพูดประโยคนี้ยิ่งเป็นสัญญาณชี้ชัดว่าเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากความรู้สึกปวดร้าวในอกลึก ๆ ได้ นิวมองไลออนผ่านหางตา สีหน้าและแววตาความเจ็บปวดยังคงวนเวียนอยู่ไม่จางหาย




   เป็นเหตุให้ฝ่ามือร้อนเอื้อมเข้าไปจับปลายนิ้วมือที่อยู่ข้างตัวอีกคน




   แค่เพียงเสี้ยวสัมผัสแผ่วเบา .. แต่ไม่หายไป..



   ยั่งยืน



   ยังอยู่ตรงนี้เสมอ



   แค่นั้นคงเพียงพอสำหรับคนที่ต้องการ





   ตามคาดเดา ไลออนหลุบตามองมือนั้นและใบหน้าด้านข้างของคนตัวสูงกว่า ไม่ได้มีคำพูดคำจาใด ๆ ไม่ได้มีคำปลอบใจใด ๆ มีแค่เพียงสัมผัสเท่านั้นที่ชโลมจิตใจแห้งผากของเขาให้ชุ่มฉ่ำขึ้นมา..



   เท่านี้.. ก็เพียงพอ
   ..




   “เชื่อกู เด็กผู้หญิง !”
   เสียงโหวกเหวกดึงสติของพวกเขาทั้งสองคนให้กลับมา นิวชักมือกลับ ส่วนไลออนเองก็เอามือไขว่ไว้ด้านหลังแทน สายตาสองคู่หันมองไปตามเสียงที่ได้ยินไม่ห่างกันก่อนจะเห็นชายสองคนกำลังยืนเถียงกันด้วยท่าทางหงุดหงิด

   และชายที่ว่า.. ก็คือคนที่พวกเขารู้จักเอง

   ชะตาคงเล่นตลกกับพวกเขา ทั้งสองคนนั่นรู้จักกันดีเลยล่ะ เพื่อนสมัยมัธยมปลายที่เคยกัดกันจนเป็นคู่ดังในโรงเรียน.. ดนัยและน้ำกรด หรือเขาเรียกกันว่า ‘นัย’ กับ ‘กรด’

   ทั้งสองคือหนึ่งคู่รักที่น่าอิจฉาในสายตาหลายคน ต่างฝ่ายต่างเคยเป็นคู่กัดกันสมัยมัธยมปลาย แต่กลับจับพลัดจับพลูสุดท้ายเป็นคนรักกันจนตอนนี้เข้าวัยทำงานก็ยังดูเหมือนข้าวใหม่ปลามันอยู่เพราะนิสัยกัดกันไม่เลิก
   น้ำกรดเป็นผู้ชายที่รูปร่างสูงโปร่งติดไปทางค่อนข้างขาว ใบหน้าซน ๆ ยังไม่ได้แปรเปลี่ยนไปมาก ส่วนดนัยคือผู้ชายร่างสูงใหญ่ผิวสีแทนเป็นเอกลักษณ์ ไลออนปฏิเสธไม่ได้เลยว่าดนัยดูดีกว่าเมื่อก่อนเสียอีก คงเข้าขั้นที่ว่า ยิ่งอายุมาก ยิ่งดูดี

   แถมยัง.. ดูแสดงอารมณ์มากขึ้นตั้งแต่อยู่กับน้ำกรดอีกด้วย

   “เด็กผู้ชาย” ท่าทางไม่สบอารมณ์ของชายผิวคล้ำตัวสูงแสดงผ่านมาทางสีหน้าทันที “อีกอย่าง กูยังไม่ให้เลี้ยง”
   “แต่กูอยากเลี้.. เฮ้ย ! ไอ้ไลอ์ ไอ้นิว !” ประโยคหลังผู้ชายร่างสูงโปร่งที่ชื่อว่าน้ำกรดเหลือบมามองทางเขาพอดี ไลออนอึ้งไป ไม่ทันจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างกายที่สูงกว่าก็โผเข้ามากอดคนข้างกายเขาแล้ว   
   “อา..?”
   “นิว ! มึงไม่ตอบแชทกูสักที ติดต่อไปไม่เคยตอบอ่ะ หายไปไหนวะไอ้เหี้ย !”


   อีกอย่างหนึ่งคือ น้ำกรดกับนิวเป็นเพื่อนสนิทกัน


   เรื่องนี้ไลออนเกือบลืมไปเสียสนิท นิวเองก็ไม่เคยพูดถึงน้ำกรดระหว่างพวกเขาอยู่ด้วยกันด้วย และถ้าให้เทียบตอนนี้ สมัยก่อนนิวเคยตัวทั้งเล็กทั้งบางกว่าน้ำกรด แต่ตอนนี้มันสูงจนเกือบเท่าไอ้นัยแล้วด้วยซ้ำ
   เจ้าของชื่อฉายแววสีหน้าตกใจกับคนที่พุ่งเข้ามามอบอ้อมกอด นิวอ้ำอึ้งไป แต่ไลออนมองแล้วนั่นเหมือนเป็น ‘ตัวตนของนิว’ ที่เขาเคยรู้จักกำลังรับอ้อมกอดของน้ำกรดอยู่ต่างหาก
   ตัวตนของนิว..
   ซึ่ง.. เป็นสิ่งที่ไลออนไม่เคยรู้จัก
   ชายหนุ่มหน้าหวานยิ้มเจื่อน ปลายเท้าเขี่ยบริเวณพื้นช้า ๆ
   เพราะเขา.. รู้จักแค่ ‘คุณ N’ ยังไงล่ะ
   “มึงมาทำอะไร..”
   “ตัวสูงขึ้นเยอะเลยนะมึงน่ะ..”
   เป็นเสียงดนัยที่แทรกขึ้นมาพร้อมทั้งจับน้ำกรดแยกออกจากพาร์ทเนอร์เขา ไลออนไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม สายตานิ่งอ่านยากของนัยกวาดผ่านใบหน้าเขาและนิว วินาทีนั้นเหมือนทุกอย่างกระจ่างในลูกแก้วสีทึบ เขาดูมองออกโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยอะไร
   “ไอ้หมามันอยากรับเด็กเลี้ยงน่ะ แต่กูไม่ค่อยเห็นด้วย”
   “ไม่เห็นห่าไร มึงกับกูเถียงว่าจะเลี้ยงชายหรือหญิงอยู่ และกูอยากได้ผู้หญิง !”
   “เลี้ยงตัวมึงให้รอดก่อนเหอะไอ้สัตว์”


   ดูสิ..


   ผ่านไปกี่ปี สองคนนี้ก็ยังเถียงกันไม่เปลี่ยนไปเลย






   เป็นคู่รักที่น่ารัก..





   “พวกมึงยังกัดกันไม่เลิกอีกเหรอวะ ฮั่นแน่ะ” ไลออนหลุดยิ้ม พูดเสียงล้อ ๆ “คบกันมาเกือบสิบปีแล้วสิเนี่ย ? เมื่อไหร่จะแต่งงาน ๆ กันไปสักทีวะ”







   และน่าอิจฉา.. สำหรับคนไร้รักในเวลาเดียวกัน






   “อ้อ” ประโยคคำถามของไลออนได้รับเสียงตอบรับโดยชายผิวคล้ำ ก่อนเจ้าตัวจะคว้ามือข้างซ้ายน้ำกรดขึ้นมาโชว์แหวนเรียบ ๆ สีเงินตระหง่านอยู่บนนิ้วนาง “ไม่น่าเกินปลายปี เดี๋ยวกูจะส่งการ์ดไปให้แล้วกัน”
   “..เชี่ยเอ๊ย” น้ำกรดหน้าแดงก่ำ หันหนีไม่ได้ปฏิเสธอีกยิ่งทำให้ไลออนและนิวเผลอยิ้มออกมา


   ความรักที่ทั้งสองคนมีพาลให้ภายในใจอิจฉาจนร้อนรุ่ม


   แต่เบื้องหน้า เขาทำได้แค่ยิ้ม



   “ดูเถียงน้อยลงนะมึงน่ะ” นิวเอ่ยเรียบ ๆ
   “แต่มึงควรรู้ไว้ ว่าถ้ามึงจะเลี้ยงเด็กแล้วมึงพูดคำหยาบกับกูแบบนี้ตลอดมันไม่ดีกับเด็ก กูบอกมึงแล้วนี่” เสียงทุ้มต่ำของดนัยดังขึ้นเอื่อย ๆ “มึงอยากให้ลูกมึงโตมา ชี้หน้ามึงแล้วด่าไอ้เหี้ยไหมล่ะ”

   คนฟังหน้าถอดสี จินตนาการเด็กผู้หญิงลุกขึ้นพูดคำแรกว่า ‘ไอ้เหี้ย ! ไอ้เหี้ย !’ แล้วส่ายหัวพรืด “ไม่..ไม่ๆๆ”
   “เออ งั้นก่อนจะเลี้ยงเด็กก็เลิกพูดคำหยาบ เอาตัวเองให้รอดได้แล้ว”


   ไลออนและนิวมองดูคู่รักคุยกัน เดาว่าพวกเขาทั้งสองคนน่าจะทำตัวเหมือนสมัยก่อนเป็นอย่างไร สมัยนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นแน่แท้ แต่การจะรับเด็กสักคนมาเลี้ยงหมายถึงอนาคต หากได้รับพื้นฐานที่ไม่ดี ยิ่งเป็นการต่อยอดที่น่าเห็นใจของเด็กและแน่นอน


   “ก็จริงของไอ้นัยนะ เนี่ย ไทก์มันก็เลิกพูดคำหยาบตอนมีลูกเพราะกลัวลูกติดหยาบ ๆ จากมัน” ไลออนเสริม “ก็ลองดูสิ แทนตัวเองไง นัย กรด นัย กรด จริง ๆ กูกับนิวก็ไม่ค่อยพูดแล้ว เพราะเราต้องทำงาน ใช่มะ ?”
   “ห๊ะ พวกมึงไม่พูดกันเลยเหรอ” คนอยากได้ลูกสาวเหวอกว่าเดิม หันไปมองนิวอย่างหาความช่วยเหลือ
   “ถูก เวลางานจะไม่พูด หรือพูดบ้างแต่ไม่ทุกประโยคเหมือนที่มึงคุยกับไอ้นัย”
   “....” และแล้วคนชื่อดนัยกลับกระตุกยิ้มมุมปากขึ้น
   “ลองดูสิ ฝึกพูดตั้งแต่วันนี้เลยก็ดี ถ้า ‘กรด’ ทำได้ นัยก็ตกลงเรื่องเด็ก” เขาคว้ามือเล็กกว่าของคนรักไว้ “แล้วอยากรับเด็กผู้หญิง หรือเด็กผู้ชายค่อยมาว่ากันอีกที”
   “....”
   “นัยว่าวันนี้มาแค่นี้ก่อนดีกว่า กลับกันได้แล้วกรด”
   “....”
   ผิวที่ขาวอยู่เปลี่ยนสีแดงจัดซะยิ่งกว่าเนื้อแตงโมจนเหมือนจะระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว น้ำกรดอ้าปากพะงาบ ๆ จะพูดแต่ก็ลังเล กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ แล้วอ้าปากอีกรอบ พร้อมหุบลงเป็นครั้งที่สองท่ามกลางความตื่นเต้นของเพื่อนสองคนรักอีกหนึ่ง
   “ก.. ก.. กรด.. กรด..” คนฟังอยู่ถึงกับต้องกลั้นขำ ตั้งแต่รู้จักกับ ‘น้ำกรด วิจารนิโยช’ มาเกือบ 10 ปี ไม่เคยมีวันไหนคำดี ๆ หลุดออกมาจากปากมันเวลาอยู่กับเพื่อน และจะได้เห็นก็คราวนี้ “กรด....กลับก่อนนะ นิว ไลอ์”
   “ดูแลกรดให้ดี ๆ อย่าประสาทแดกกับมันไปก่อนแล้วกัน นัย”
   “นิว ! มึงอะแหละตัวดี ติดต่อกูมาบ้างก็ได้...” คนฝึกเลิกพูดคำหยาบชะงัก “... นิวนั่นแหละ หัดติดต่อกรดมาบ้างก็ได้ .. ทำงานแล้วไม่ติดต่อกรดมาเลยนะ” เสียงกึ่ง ๆ ท่องมากกว่า แต่ฟังแล้วก็น่าเอ็นดูเหลือเกิน
   “กลับไปเตรียมเรื่องของกรดก่อนเถอะ แล้วค่อยมาพูดเรื่องของนิว” คนเคยหน้าหวานหัวเราะ
   “งั้นกรดกลับก่อนนะ..” ดูมันจะยังทำใจไม่ได้ครึ่งหนึ่ง แต่กำลังพยายามอยู่ ไลออนเห็นน้ำกรดหันไปจับมือดนัยตอบ แล้วพูดเสียงเบากว่าเก่าเหมือนกลัวว่าเพื่อนอีกสองคนของเขาจะได้ยิน “..นัย กลับกันนะ กรดหิวแล้ว”


   เจ้าของผิวสีคล้ำกร้านแดดเบิกตากว้างขึ้น ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาช้า ๆ กระชับฝ่ามือตอบแล้วหันไปบอกลาเพื่อนเขาทั้งคู่ จังหวะเดียวที่น้องสิงห์ถูกจูงออกมาจากห้องแทน


   และแล้วใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มจากไลออนจึงเริ่มจางลงเมื่อเพื่อนสองคนเขาลับสายตา




   ..ดูพวกเขา.. มีความสุขชะมัด



   ฝ่ามือเผลอจิกกำแน่นขึ้นจนสั่นคลอน ภายในอกเขาเหมือนถูกทับด้วยหินหนักร้อยตัน รู้สึกทั้งอึดอัดและปวดหนึบจนทนแทบไม่ไหว


   เขาอิจฉา..สองคนนั้น


   แม้จะเป็นคู่ชายรักชายแต่กลับอยู่ได้อย่างยั่งยืน ความรักที่ทั้งสองคนมอบให้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปไหน เขาไม่ได้คิดจะทำลาย แต่แค่รู้สึกอิจฉา.. และอยากได้รับความรักบ้าง



   สายตาเขาหลุบมองเด็กผู้ชายที่วัยย่างเข้าสามขวบคนนั้น..



   เขาอยากได้รับบ้าง.. ไม่ใช่จากใครสักคน



   แต่เป็นจาก ‘มัน’ .. เหมือนที่ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ ได้รับ..



   “ไลออน” เสียงกระซิบแผ่วเบาดึงสติเจ้าของชื่อให้กลับมาอีก



    “..ทำหน้าตาน่ากลัวใหญ่แล้ว”



   เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าเผลอคิดอะไรลงไป ความรู้สึกละอายใจก่อเกิดขึ้นภายในอก ยิ่งเห็นท่าทางหวาดผวาของน้องสิงห์ที่ว่ายิ่งทำให้เจ้าตัวหันหนี เป็นฝ่ายเดินจ้ำอ้าวไปที่รถก่อนปล่อยให้นิวยกน้องสิงห์ขึ้นมาอุ้มบนอ้อมแขนแทน


   “คุงน้าคนนั้น.. น่ากัว” เด็กตัวน้อยกระซิบเบา ๆ อย่างหวาดระแวง“ฮื่อ.. แล้วคุงน้าเป็นใคร.. พ่อเสือของหนูอยู่ไหน”


   “น้าชื่อน้านิว.. เดี๋ยวพาไปหาคุณพ่อให้นะครับ” คนตัวสูงรีบออกรับก่อน“น้าคนนั้นชื่อพี่ไลอ์.. เขาไม่น่ากลัวหรอก อย่ากลัวเขาเลย”


   “จิงเหยอ..”


   “อือ เขาแค่อารมณ์ไม่ดีเท่านั้นแหละ”


   ริมฝีปากอุ่นแนบบนแก้มนุ่มนิ่มของเด็กแผ่วเบาแล้วเริ่มเดินตามไป นัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนค่อย ๆ กลับมาเป็นดั่งเดิมเมื่อเด็กตัวน้อยเริ่มซุกหน้ากับหัวไหล่เขา


   ภาพใบหน้าที่ทั้งเจ็บปวดและเต็มไปด้วยความอิจฉาของไลออนแล่นเข้ามาอีกครั้งหนึ่งในหัว มือลูบบริเวณแผ่นหลังเล็กของน้องสิงห์ช้า ๆ เขารู้ว่าเจ้าตัวคงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น..


   นิวถอนหายใจช้า ๆ



   .. ถ้าปล่อยไว้แบบนี้..



   นัยน์ตาสีอ่อนหลุบมองเด็กที่เริ่มหลับอีกครั้ง..




   เขาว่า เขาพอคาดเดาบางอย่างได้




   คงไม่ดีต่อหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้เรื่องสินะ




Talk :

   เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น เพียงเสี้ยวสัมผัส พร้อมแท็ก #เพียงเสี้ยวสัมผัส ค่ะ
   เรื่องนี้เป็นเรื่อง...
   จะว่าไงดี  ค่อยๆ เนิบ ๆ ล่ะมั้งค่ะ ฮ่า ตอนนี้เองก็ได้ตัวละครจากเรื่อง Non Romance มาอีก
ไลออนเป็นผู้ชายคิดมากและออกแนวเก็บกด
ส่วนนิวเองก็รู้เรื่องนี้ ^ ^
จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต นิวเดาได้แล้ว คนอ่านพอเดาได้ไหมคะ ?

ขอขอบคุณที่ทุกคนยังเข้ามาอ่าน หรือมีคนเข้ามารอ ดีใจมากตอนเห็นคอมเม้นท์เลยค่ะ ตอนนี้สอบเสร็จแล้วจะกลับมาอัพตามปกตินะคะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกัน ^ ^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2017 13:45:21 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ ชอบน้าาาา
ทั้งคุณN คุณL เลย สงสารอะ เอาใจช่วย!
ชอบภาษาค่ะ บรรยายสวย ชอบบรรยากาศในเองด้วย
เดานี่ไม่แน่ใจ รออ่านเลย 5555

ออฟไลน์ MAmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คู่หื่น2017  :z1:สนุกๆบรรยายได้อารมมาก555

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

05 : The Reason why we have ‘N’ and ‘L’ .

ผมอยู่นี่ไง
ข้างๆ คุณ
ข้าง ๆ กันและกัน

◇◆◇◆◇◆◇◆


   “ไทก์ก็นึกอยู่เลยว่าไลอ์ไม่ได้ขับคันนี้ ที่แท้ก็รถนิวนี่เอง !”


   น้ำเสียงสดใสของคุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘ไทเกอร์’ พูดเจื้อยแจ้วเมื่อเขาได้พบเพื่อนสนิทตัวเองหลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานานเกือบปี ในตอนแรกที่รถยนต์คันสีแดงแล่นมาถึงก็เล่นเอาตกใจเพราะไม่คุ้นตา แต่พออีกฝ่ายลงจากรถก็ถึงกับร้องอ๋อ รีบเชิญให้เพื่อนทั้งสองคนเข้ามาในบ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็นไว้ทันที


   เขาก็เป็นแบบนี้แหละ



   อัธยาศัยดีเสมอ



   “เป็นพ่อคนแล้วเป็นไงบ้างล่ะไทก์ ?”


   “เหนื่อยใช่ย่อย ลูกสิงห์ซนมาก ๆ เลย ขอโทษไลอ์ด้วยนะที่ทำเดือดร้อนไปด้วยน่ะ”


   “เออ..” คนถูกฝากฝังเด็กผงกหัว มองจานอาหารแล้วยิ้มออกมา “ที่ไม่หลุดคำหยาบออกมาสักคำเนี่ย เพราะกลัวลูกติดรึไง ?”


   ใช่ ตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในบ้านไทเกอร์ เจ้าตัวก็ประกาศคุยกันได้แต่ห้ามพูดคำหยาบเพราะไม่อยากให้ลูกชายตัวเองได้ยินเท่าไหร่และรอให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า รวมถึงอายที่จะดูหยาบคายต่อหน้าภรรยาสาวที่อยู่ในครัวอีก


   “ก็ดีเหมือนกัน จริง ๆ พอโตแล้วนิวเองก็ไม่ค่อยพูดคำหยาบ” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มันเหมือน จะว่าไงดี ? เพราะต้องเข้าสังคมด้วยมั้ง เลยชินกับการใช้ผมกับคุณไปเลย”


   “ใช่ไหม ? ไทก์ก็เป็นเหมือนกัน เอ๊ะ นี่ภรรยาไทก์เองนิว ชื่อล้อมรักนะ” ประโยคหลังของไทเกอร์ชะงักเมื่อเจ้าของร่างระหงเดินเข้ามาแล้ววางถาดจานต้มยำกุ้งให้ “โห กลิ่นห้อมหอมอ่ะ นางฟ้าล้อมรักของไทก์”


โป๊ก !


   “โอ๊ย !” ทัพพีพลาสติกถูกโขกลงกลางกระหม่อมของคนเป็นสามี “ฮื่อ .. รุนแรงกับไทก์อีกแล้ว”


   “เล่นอะไรไม่เข้าเรื่องเลย เห็นไหมเนี่ยว่าเพื่อน ๆ อยู่” เสียงใส ๆ แว๊ดเข้ามาทำเอาไทเกอร์หน้าจ๋อยเป็นเสือกลัวเมีย


   ภาพเบื้องหน้าทำให้แขกทั้งสองถึงกับนิ่งงัน และเป็นนิวที่เผยรอยยิ้มบาง เขาเห็นเพื่อนแต่ละคนของตัวเองเริ่มมีเส้นทางความรักและมีความสุขก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจบ้าง


   และ..


ถ้าแบบนั้น.. ‘มัน’ ของเขา กับผู้หญิงคนนั้นก็คงมีความสุขเหมือนกันสินะ


แกร๊ง


   เสียงช้อนอะลูมิเนียมหล่นลงจานข้าวเรียกให้นิวหันขวับไปมองชายอีกคน ใบหน้าของไลออนยังประดับด้วยรอยยิ้มอย่างไร้ที่ติ ไม่มีความขุ่นมัวหรือหงุดหงิดในใบหน้าของเจ้าตัวเอง


   “ขอโทษที.. ง่วงนิดหน่อย”


   เสแสร้งเก่งเหลือเกิน


   มันคือความคิดของนิรันดร์เมื่อได้ของดูคนข้างกาย


   ไม่มีแม้กระทั่งหยาดน้ำตาหรือความหงุดหงิด ต่างจากเมื่อคราวก่อน เสมือนว่าอีกฝ่ายเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ลึกภายในอก


   “ไลอ์คงกลับไวหน่อย..”


   แต่ไม่ว่าจะปกปิดยังไง


   ความรู้สึกที่แท้จริงก็ไม่เคยมิด


ใบหน้ายังคงยิ้ม..
แต่น้ำเสียง.. กลับไม่สามารถควบคุมได้แล้ว


ทั้งสั่นเครือ ทั้งเจ็บปวด


แต่จะมีใครไหม ที่สังเกตนอกจากตัวเขา


   “ไลอ์ อย่าเพิ่งไปนะ รักมีอะไรจะให้” เสียงของภรรยาไทเกอร์ดังขึ้นมาทันที ดูเหมือนอีกฝ่ายจะผ่อนคลายกว่าเมื่อสองสามปีก่อนที่เคยเจอไลออนครั้งแรกเหมือนกัน ล้อมรักยิ้มอย่างเป็นมิตร หมุนตัวเดินไปหยิบของที่ว่ามาให้


   “พวกเราซื้อมาตอนไปต่างประเทศด้วยกันน่ะ” ไทเกอร์เปรย “ไทก์จำได้ว่าไลอ์ชอบ พอไลอ์มาเลยกะจะให้สักหน่อย แต่ขอโทษนะนิวที่ไม่ได้มีส่วนของนิวน่ะ"


   “ไม่เป็นไรหรอก” คนถูกขอโทษสั่นหัว เขายกแขนพาดคอไลออนที่ยังนั่งมองจานข้าว “จริง ๆ ต้องไปส่งไลอ์ที่ห้องอยู่แล้ว เดี๋ยวแอบกินจากไลอ์ก็ได้”


   “จริงเหร..”


   เสียงคุณพ่อมือใหม่ขาดห้วง เมื่อนัยน์ตาเหลือบมองบางอย่าง เขานิ่งไป จนกระทั่งล้อมรักกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาพร้อมขนมถุงใหญ่


   “ช็อกโกแลตของฝากจากรักและไทก์นะ” เธอพูดอย่างเป็นกันเอง “อ่ะนี่ เก็บไว้กินนะ”


   ส่วนไลออนได้แต่ก้มหน้าไม่มอง เขาเม้มปากเข้าหากัน ฝ่ามือจับชายเสื้อของนิวไว้สั่น ๆ เหมือนเป็นสัญญาณบอกว่าเจ้าตัวไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกแล้ว


ภาพความรักของทั้งคู่มันมากเกินกว่าที่เขาจะรับไว้..


   ภายในอกปวดหนึบเสียหมด ยิ่งเห็นความรักมากมายยิ่งสร้างแรงกดดันในใจ


เขาไม่อยากจะเห็นมัน.. ไม่อยากจะรู้สึกอิจฉาคนสองคนนี้อีกแล้ว


   ไลออนอยากเป็นคนที่สามารถเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข


และยิ้มให้กับอีกคน


มากกว่าความรู้สึกอิจฉาริษยา


   ..





รวมถึงอยากทำลาย..




   “ขอบคุณนะ เดี๋ยวนิวพาไลอ์กลับก่อนแล้วนะ” พาร์ทเนอร์เป็นคนรับหน้าแทน ยื่นมือไปรับถุงพร้อมโค้งศีรษะลงยิ้ม ๆ ฝ่ามือใหญ่คว้าปลายนิ้วที่กำบริเวณชายเสื้อเขาแทน “ไลอ์.. กลับกัน”


   เจ้าของชื่อผงกหัว พยายามเค้นเสียงในลำคอตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก ทั้งลำคอแห้งผาก..


ทำตัวเป็นปกติ


เป็นปกติสิวะไลออน..


   “.. แล้วเจอกันใหม่นะไทก์ พี่รัก เดี๋ยวครั้งหน้าถ้าไลอ์ไปเที่ยว ไลอ์จะซื้อขนมมาฝากด้วย” สุดท้ายไลออนยิ้มจาง “เดี๋ยวจะกินขนมให้อร่อยเลย”
..


◇◆◇◆◇◆◇◆



   รถยนต์คันเดิมแล่นออกจากตัวบ้านของไทเกอร์เชื่องช้า ด้านนอกกระจกฝนเริ่มตกโปรยปราย มีเพียงท่วงทำนองเพลงสากลและเสียงหยาดฝนที่เริ่มตกโปรยปรายจนกลายเป็นกระหน่ำทำให้เขาต้องจอดหลบอยู่ข้างทางแทน
   เจ้าของใบหน้าสวยเบนสายตามองด้านนอกตัวรถ ท่าทีสงบนิ่ง ไร้คำพูดคำจาใด ๆ หลังจากออกมาจากบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นหลังนั้น


   เขาปล่อยให้น้ำตาที่อัดอั้นอยู่เป็นเสียงกรีดร้องผ่านดวงตากลมโต


เจ็บ..


และไม่อยากเห็นภาพเช่นนี้อีกแล้ว


ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าอยากให้ไทเกอร์มีความสุขก็เพียงพอ แต่เรื่องจริงมันกลับไม่ง่ายอย่างใจคิด


ตัวเขายังคงมักมาก โลภะในรักเล่นเดียวกันจึงทำบางครั้งสายตาที่ทอดมองไปทางครอบครัวเต็มไปด้วยความริษยา


เขา..


แค่อยากมีความสุข กับคนที่เขาแอบหลงรักมาตลอดเท่านั้นเอง


   “ไลอ์..”


   เสียงนุ่มทุ้มข้างกายตัดกับเสียงฝนที่โหมกระหน่ำไม่หยุดหย่อนปลุกไลออนออกจากภวังค์ เขาเลือกจะนั่งนิ่ง ใช้เวลาเป็นตัวขัดเกลาความรู้สึกทั้งปวง ตบท้ายด้วยหลังมือที่ปาดหางตาข้างซ้ายช้า ๆ


   “กลับกันเถอะ” เอ่ยต่อเสียงเบา “ไปส่งที่ห้องให้หน่อย”


   และไม่ต้องพูดอะไรแล้ว


เขาอยากอยู่คนเดียว..


   เหมือนอย่างทุกทีที่เกิดเรื่องขึ้น คอยอยู่คนเดียว ไม่ต้องไปไหนแล้วนั่งร้องไห้กับตัวเอง จากนั้นวันถัดไปก็จะปกติเหมือนเดิม กลับมายิ้ม กลับมาหัวเราะได้ ใช้ชีวิตตามปกติสุข..


   ให้มันเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ


   ไม่จำเป็นต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง


   “อย่าดื้อสิ.. หันมาก่อนเถอะ” อีกฝ่ายพูดอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงทุ้มนั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกโอนอ่อน แต่ก็ยังคงไม่ยอมหันกลับไปเสียที


   เขาชินกับการร้องไห้คนเดียวแล้ว ดังนั้นการให้ใครคนอื่นเห็นตัวเองตอนร้องไห้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


   “มึง.. กูขอ อย่าเพิ่งเลย.. กูไม่พร้อมจริง ๆ” ชายหนุ่มพึมพำ “ให้กูอยู่คนเดียวเหอะนะ”


   “นี่..” ได้ยินนิวกระซิบ จนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเคลื่อนเข้ามาใกล้มากแค่ไหนแล้ว “..ลืมไปแล้วเหรอ ว่าทำไมถึงมี ‘คุณ N’ กับ ‘คุณ L’ ขึ้นมา..”


อย่าเพิ่งอบอุ่นสิ..


ไม่เอา..


เขาไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมา.. เพราะกลัวจะเคยตัว


“...” ปลายคางถูกจับให้หันกลับไปเชื่องช้า แต่เขากลับไม่สามารถบังคับร่างกายได้ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งหนึ่ง ลมหายใจร้อน ๆ ที่ไม่ห่างกันเป็นตัวบ่งบอกว่าชายตรงหน้าเขยิบเข้ามาใกล้เกินไปแล้ว


คิ้วเรียวผูกเป็นปมติดกันกับภาพตรงหน้าที่พร่ามัว หยดน้ำตาเม็ดใหญ่เอ่อล้นบริเวณขอบตาจนทำให้ทุกอย่างมึนเบลอเสียหมด


เคยมีใครอยู่ด้วยตอนร้องไห้เรื่องไทเกอร์..


ตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา.. มีแค่ตัวเองเท่านั้นที่คอยปลอบโยน


   ปลายนิ้วโป้งอุ่น ๆ เกลี่ยน้ำตาออกอย่างนุ่มนวลเป็นเหตุให้คนที่กำลังร้องไห้เผยรอยยิ้มบิดเบี้ยวออกมา


   “ทำไม.. ตอนนี้กูไม่ใช่คุณ L อะไรนั่นสักหน่อย..” พูดเสียงกระท่อนกระแท่นแผ่วเบา “ฮึก.. ไม่ต้องสน..กูอยากร้องไห้คนเดียว จริง ๆ .. ปล่อยกูไปเหอะ..”


   “ตอนนี้ก็ไม่ได้ปลอบคุณ L สักหน่อย” การตอบกลับนั้นทำให้เขานิ่งงัน “ปลอบไลออนต่างหาก..”


   ยิ่งได้ยินเสียงอ่อนโยน ยิ่งทำให้ไม่สามารถเก็บกักเขื่อนน้ำตาได้อีก เขาร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย สะอื้นฮักอย่างคนถูกพังทลายความปวดร้าวในอกโดยมีริมฝีปากอุ่นคอยทดแทนผ้าเช็ดหน้า จูบซับบริเวณแก้มเปียกชื้น


   “ช.. ช่วยกูที..” ทั้งตัวสั่นคลอน พึมพำไม่เป็นประโยค “ปลอบกู.. ปลอบกูที.. ให้ลืม ‘มัน’ .. ที”


ช่วยปลอบ..


ไม่ทั้งในฐานะคุณ L ..


แต่เป็นไลออน..ที่ต้องการการปลอบประโลม



   นิวมองใบหน้าที่ชุ่มด้วยน้ำตา เรียวปากของคนตัวใหญ่กว่าขยับยิ้มขึ้น ฝ่ามือลูบแก้มเนียนแผ่วเบา..


   “นั่นก็เป็นหน้าที่ของ ‘เรา’ อยู่แล้วนี่..”
   ..



◇◆◇◆◇◆◇◆


   เสียงหยาดฝนตกกระทบพื้นผิวด้านนอกรถสร้างความเย็นเฉียบให้ในบรรยากาศแต่กลับไม่ทำให้คนสองคนที่คลอเคลียกันอยู่ภายในรถยนต์รู้สึกหนาวขึ้นมาได้ ทั้งร่างกายพวกเขาร้อนผ่าวเหมือนถูกแผดเผา ร่างโปร่งบางของไลออนขยับขึ้นคร่อมตักของเบาะที่นั่งส่วนนิวเองกลับเลื่อนเบาะลงอย่างรู้ทัน


   “ฮ..ฮะ..” เสียงครางแผ่วเบาเมื่อกางเกงชั้นในถูกร่นลงอยู่แทบข้อเท้า ฝ่ามือบางจับบริเวณบ่ากว้างเอาไว้แน่น “ช่วย..ผม”


   “หยุดพูดคำนั้นได้แล้วน่า..” นิวกระซิบ เกลี่ยแก้มคนหน้าหวานแผ่วเบาอย่างเอ็นดู ดวงตาของไลออนทั้งแดงและบวมช้ำ ขนตายาวเป็นแพเปียกชุ่มด้วยหยาดน้ำตาจนทำให้เขาอดกดจูบเพื่อซับมันไม่ได้ “เพราะผมอยู่นี่แล้ว..”


   ทุกคราที่เรือนร่างได้ใกล้ชิดกันมันทำให้เขาเริ่มร่องรอย ไลออนหยัดเข่าขึ้น ใช้ฝ่ามือปลดกระดุมกางเกงและรูดซิปของนิวลงต่อ ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อกับความใหญ่โตที่ตั้งชันขึ้นจนใจเขาสั่นแรง แม้ว่าจะเคยทั้งใช้ริมฝีปากและใกล้ชิดกันมาก่อน แต่เห็นกี่ครั้งก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี


   “อยากให้ผมทำอะไร.. วันนี้บริการเต็มที่เลย” เรียวปากโค้งขึ้นช้า ๆ มองเรือนร่างที่ขาวโพลนที่เริ่มถอดเสื้อทีละตัวและโยนทิ้งไปอยู่เบาะหลังรถเขา “ปลอบใจคนขี้แยหน่อย..”


   “เงียบเลย..” คนเพิ่งร้องไห้เสร็จหมาด ๆ ทำเสียงดุ ฟาดเสื้อตัวสุดท้ายใส่หน้าก่อนโยนไปเบาะหลังตามอีกรอบ “อยาก.. ทำอะไรก็ได้..”


   “..”


   “ไม่อยากนึกถึงหน้าของเด็กคนนั้น..”


   “..”


   “ให้ลืมเรื่อง..วันนี้..”


   “..” นิวยกยิ้ม


   “อยากให้ .. มันหายไปทั้งหมด”


   สิ้นเสียงดั่งประโยคอนุญาต เขารั้งลำคอคนอยู่บนตักเข้ามาประกบปากจูบ สอดปลายลิ้นแทรกอย่างโหยหา กระหวัดกวาดความหวานฉ่ำอีกครั้งโดยที่ฝ่ามือไม่ลืมจับสะโพกอิ่มแล้วขยำนวดเต็มมือ คนถูกบีบเด้งตัวแรง ผละออกมาจากการแลกรสจูบแล้วทำท่าดุ ๆ ใส่


   จนสุดท้ายพวกเขาก็ยิ้มออกมา นิวถูกฝ่ามือปัดป่ายทั่วลำตัวสลับกับถูกลูบไล้แผงอกแกร่งของเขา ใบหน้าไลออนอยู่ไมไกล ทั้งซุกไซร้และคลอเคลีย บดจูบบริเวณทั่วไหปลาร้าแล้วยกสะโพกขึ้นสูง


   “รู้นะว่าจะทำอะไร” น้ำเสียงกึ่งหยอกล้อต่อด้วยการถูกตีบั้นท้าย
แรง ๆ จนคนตัวเล็กกว่าต้องสะดุ้ง “เอาสิ..ทำเลย”


   ไลออนหน้าแดงแจ๋ เขาไม่ตอบกลับ แค่กระชับฝ่ามือบริเวณบ่าแล้วเริ่มขยับสะโพกถูไถแก่นกายกับช่องทางด้านหลัง ความร้อนผ่าวที่เสียดสีอยู่ทำให้หัวใจเขาสั่นระรัว กดปลายเล็บลงบ่าแข็งอีก ลมหายใจเริ่มผิดจังหวะ ได้ยินเสียงครางในลำคอของนิวที่อยู่ที่ต่ำกว่ายิ่งสร้างอารมณ์ให้เขา


   ฝ่ามือหนาคว้าสะโพกนุ่มมือไว้ ใช้เวลาในการสอดปลายนิ้วขยายทางไม่นานแล้วจับกดลงแล้วกระแทกรวดเดียวจนมิดด้ามทำให้คนร่างบางร้องครางไม่เป็นภาษา หัวไหล่บางสั่นไหว ซุกหน้าบริเวณซอกคอเอาไว้ตัวสั่น ๆ


   “ฮ..อื้ออ... อ๊า” เสียงครางหวานไลออนเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างดี ยิ่งสายตาทอดมองเรือนร่างที่แดงก่ำไปทั้งตัวจนน่ากัดยิ่งสร้างอารมณ์ให้กับเขา อยากจะฟัดร่างนี้แรง ๆ สักรอบหนึ่งจนพอใจ แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเริ่มเห็นหยาดน้ำตาเม็ดโตคลอเบ้าดวงตาอีกฝ่าย “อะ..”


..เขารู้
ว่านั่นไม่ใช่การเจ็บเพราะมีเซ็กส์อย่างแน่นอน


   ชายหนุ่มระบายยิ้มบาง ปลายนิ้วโป้งปาดตามขอบตาของไลออน
ช้า ๆ อีกฝ่ายไม่พูดอะไร แต่กดสะโพกลงมาจนสุดพร้อมน้ำตาล้นอาบใบหน้า สะอึกสะอื้นเสียงแผ่วเบา ซุกศีรษะบริเวณต้นคอของเขาต่อมา


   “ไม่ได้ร้องเพราะมันสักหน่อย” ยิ่งไลออนพูด ยิ่งไม่น่าเชื่อสักนิด “เพราะเจ็บต่างหาก ไม่มีอะไรหล่อลื่นให้สักนิด..”


   “จริง ๆ อยู่หลังรถแหละ แต่ลืมไปหน่อย” นิวพูดเสียงนุ่ม ยิ้มมองคนที่ยังน้ำตาไหลไม่หยุดอยู่ ริมฝีปากจึงเริ่มกดจูบซับตามหยาดน้ำตาอุ่น ๆ “หน้าตาคุณตอนร้องไห้มันน่ารักจริง ๆ นะ”


   “พูดจาโรคจิตแบบนี้รอบที่สองแล้วเหอะ..” คนตัวเล็กกว่าพึมพำ หลับตาลงปล่อยให้อีกคนเอาแต่จูบซับเรื่อยเปื่อย “ไม่ขยับสักทีเล่า.. ไหนว่าจะร้อนแรงจนลืมเรื่องแย่ ๆ ไง”


   คนที่ได้รับคำพูดนั้นหลุดหัวเราะแทน ฝ่ามือทั้งสองข้างสอดเข้าขยำบั้นท้ายนุ่มแรง ๆ จนคนอวดดีร้องโอดอรวญ กระซิบตอบเสียงเบา


   “งั้นเลือกมาก่อนว่าจะเอา ‘อุปกรณ์’ อันไหนดี” เขาพูด จับสะโพกไลออนเอาไว้ไม่ให้ขยับต่อเหมือนกลั่นแกล้งเล่น “จำรูปที่ส่งไปได้ไหม ? มีหลายอย่างเลย ชอบแบบไหน ? จริง ๆ ผมอยากเห็นหูแมวหางแมวมากกว่านะ แล้วก็ที่มันพอสั่นในตัวคุณได้..”


   “ดะ เดี๋ยว ! อย่าเพิ่งให้เลือกตอนนี้” คนที่เพิ่งร้องไห้เสร็จอ้าปากค้างกับอีกฝ่ายที่จู่ ๆ ถามอะไรก็ไม่รู้ นิวยักคิ้ว เขาสวนสะโพกขึ้นรอบหนึ่งเล่นเอาทั้งตัวคนนั่งบนตักเกร็ง จะโยกเองก็ไม่ได้เพราะถูกตรึงไว้ด้วยฝ่ามือนั่น “ฮ..อะ อ๊า เดี๋ยว ผ ผมยัง..”


   “หูแมวนะครับ ?” เขายังพูดเสียงราบเรียบด้วยรอยยิ้มประดับบนใบหน้า “ผม..อยากเห็น”


   คนฟังอย่างเขาหน้าแดงก่ำ ยิ่งอีกฝ่ายพูดส่วนนั้นที่ค้างอยู่ภายในยิ่งขยายใหญ่จนร่างกายเขาสั่นคลอน ริมฝีปากไลออนเม้มเข้าหากัน อยากจะขยับให้ได้ดั่งใจคิดแต่ฝ่ามือที่คว้าสะโพกไว้กลับไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระสักที


แม่งเอ๊ย .. ร้ายสุด ๆ เลย..


   “ตกลงสิ..” นิวเร่ง ฝ่ามือบีบขยำบั้นท้ายนุ่มจนเต็มมือ และเมื่อยังไร้คำตอบ เขากลับสวนสะโพกขึ้นไปแรง ๆ สักทีหนึ่งเป็นการสั่งสอน “ผมรอคุณพูดอยู่นะครับ”


   “ฮ..อ๊าา ! เดี๋ยว.. อะ” ไลออนร้องเสียงหลงไม่เป็นภาษา รู้สึกติดอยู่ระหว่างกึ่งกลาง จะไปต่อให้ถึงฝั่งฝันแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอม จะเลิกไปเลยคนตรงหน้าก็กักไว้อีก นี่มันโคตรโรคจิตเลย


..และเขาก็ดูโรคจิตที่ชอบอะไรแบบนี้เหมือนกัน


   “คำตอบล่ะครับ..” เขากระซิบถาม ฝ่ามือเปลี่ยนเป็นคว้าแก่นกายสีอ่อนที่ชูชันของไลออนเอาไว้ ใช้ปลายนิ้วเริ่มนวดคลึงก้อนกลม ๆ ใต้ฐานตามด้วยรั้งรูดขึ้นช้า ๆ แต่เมื่อน้ำขาวขุ่นเริ่มปริ่มที่ส่วนปลายกลับใช้ปลายนิ้วโป้งปิดกั้นรูส่วนหัวไว้ไม่ให้ปลดปล่อยออกมาเสียที “เร็ว..”


   “อย่า..ฮะ .. มันทรมาน..” ไลออนแทบหมดเรี่ยวแรง ศีรษะกลมวางบนหัวไหล่ของคนตัวใหญ่กว่า “ฮ..ฮะ ..อ๊า ..ปล่อย”


   “ตกลงสิ..”


   “ฮ..ฮื่อ..”


   “ตกลงสิ ไม่งั้นผมจะไปหยิบเซ็กส์ทอยที่อยู่เบาะหลังแล้วนะครับ” ฟังคำพูดพร้อมหน้าซื่อ ๆ ของนิวยิ่งทำให้คนเป็นพาร์ทเนอร์หน้าถอดสี “มีอุปกรณ์ช่วยทรมานอีกเยอะเลย”


   “..ตกลงแล้ว ! ตกลง !”


   นิวชะงัก ยอมปล่อยมือจากส่วนนั้นออกแล้วยิ้มกว้างให้


   “งั้นเก็บของเล่นไว้ใช้ครั้งหน้าแทน เนอะ”
...
◇◆◇◆◇◆◇◆


   ‘ไทก์.. จริง ๆ แล้วไลอ์เป็นเกย์’


   เสียงสารภาพแผ่วเบาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักเหมือนหวาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจหรือเปล่าทำให้ไทเกอร์ยืนอึ้งอยู่เช่นนั้น เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สีหน้าเพื่อนสนิทตัวเองมันกลับกลืนทุกคำพูดลงไป


   ‘..ตั้งแต่ตอนไหนวะ..’


   ไลออนเงียบ แล้วสั่นหัว ‘ไม่รู้..แต่เรื่องต่อไปนี้ถ้าไลอ์พูด ไทก์จะรังเกียจไลอ์ก็ได้’ ยิ่งพูดเช่นนั้นยิ่งทำให้คนฟังขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม อันที่จริงการเป็นเกย์มันไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเด็กโรงเรียนชายล้วนมาตลอดอย่างเขาเลย มันปกติเข้าขั้นมากด้วยซ้ำ


   แต่สิ่งที่ไม่ปกติสำหรับไทเกอร์..คือ..ประโยคนี้ต่างหาก


   ‘ไลอ์นอนกับใครก็ได้โดยไม่รู้จักกัน’ ประโยคนั้นทำให้ลมหายใจไทเกอร์ผิดจังหวะ ‘..แค่อารมณ์ทางเพศ’


   ‘ของแบบนี้มันต้องทำกับคนที่ตัวเองรัก..ไม่ใช่เหรอ..’


   ‘.. ไลอ์ไม่ใช่ไทก์นะ’ เพื่อนสนิทหน้าหวานยังพึมพำต่อ นัยน์ตาเศร้าซึมของไลออนในวันนั้น ไทเกอร์ไม่เคยลืม..


   ไทเกอร์ไม่ใช่คนรับเรื่องพวกนี้ได้ มันสกปรกสำหรับเขา แม้จะเคยได้ยินคนรอบตัวมีเซ็กส์และนอนกับใครก็ได้ไม่เลือกหน้า แต่ไม่ใช่สำหรับไทเกอร์ เขาต้องการมีแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรักเท่านั้น ยอมรับว่าเคยเกินเลยแค่ความสนุกสมัยวัยรุ่นนิดหน่อยมาแต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถมีเซ็กส์แบบไม่เลือกหน้าได้อยู่ดี..


สุดท้าย... สิ่งที่เขาเกลียด กลับมาเกิดกับตัวเพื่อนสนิทตัวเอง


   ไทเกอร์ใช้เวลาไม่นาน ก่อนจะยิ้มบาง


   ยังไงอีกฝ่ายก็คือเพื่อน จะให้ตัดกันเพราะเรื่องแค่นี้คงไม่ได้


   ‘ถ้าไม่เลือกหน้า .. ก็ต้องไม่เลือกโรค’ ดังนั้นเขาจึงพูดคำนี้ขึ้น


   ‘อะไรนะไทก์ กูงง’ ไลออนขมวดคิ้ว เห็นสายตาของไทเกอร์ที่จริงจัง พูดเสียงเข้มใส่ย้ำอีกรอบ


   ‘กูหมายถึง ถ้าจะมีเซ็กส์กับใครไม่เลือกหน้า ก็ต้องไม่เอาโรคมาไงวะ ถุงยางอ่ะ ต่อไปนี้พกใส่กระเป๋าสตางค์เอาไว้เลยโว้ย !’


เพราะเขา..เป็นห่วง..


อย่างน้อยไม่สามารถป้องกันให้เพื่อนตัวเองสะเปะสะปะกับใคร ๆ ได้


ก็ขอให้อย่างมีโรคติดมาเป็นพอ



   ไทเกอร์ถอนหายใจอีกครั้งกับความทรงจำในอดีต ยอมรับเลยว่าตอนไลออนมาสารภาพเช่นนั้น รู้สึกโลกจะเหวี่ยงตัวแรงขึ้นไปอีก ทั้งสับสน มึนงง แต่สุดท้ายประสบการณ์ที่เคยสะสมมาตั้งแต่เด็กยามเจอสถานการณ์คับขันกลับทำให้เขาควบคุมอารมณ์ได้และเปลี่ยนแง่คิดตนเอง


จบท้ายด้วยการสามารถยิ้มให้กับไลออนได้อีกครั้งเพื่อจะไม่สร้างความลำบากใจให้เพื่อนตนเอง


เพราะแค่เขารวบรวมความกล้ามาหาตน.. ก็คงพอแล้ว


   แต่เมื่อตอนข้าวเย็น.. ไลออนคงไม่รู้ตัวเลยเป็นแน่


   ตอนนั้นที่เขาพูดคุยกับนิว


   ‘ไม่เป็นไรหรอก’ นิวสั่นศีรษะ ยกแขนพาดคอไลออนที่ยังนั่งนิ่ง นัยน์ตากลมโตที่อ่านยากนั่นจงใจมองไทเกอร์ไม่วางตา เรียวปากบางแย้มรอยยิ้มขึ้นช้า ๆ ขณะที่ฝ่ามือเลื่อนเสื้อออกมานิดหน่อย..


   จนเห็นรอยจูบบนลำคอขาวของเพื่อนสนิท..


   ‘จริง ๆ ต้องไปส่งไลอ์ที่ห้องอยู่แล้ว เดี๋ยวแอบกินจากไลอ์ก็ได้’ หัวใจไทเกอร์เกือบตกไปอยู่กับพื้นตอนเห็นร่องรอยเช่นนั้น เมื่อรวมกับประโยคจากไลออนก่อนหน้านี้ ทำให้เขาเข้าใจทันทีว่าทั้งสองคนนี้คงไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาอีกแล้ว


นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย..


   “ไทก์ มาช่วยดูลูกหน่อยสิ มัวทำอะไรอยู่น่ะ”


   เสียงเรียกจากภรรยาผู้เป็นที่รักดึงสติคนจมในภวังค์ให้กลับมา ไทเกอร์ลุกขึ้นตามเสียง


 ตัดสินใจโยนเรื่องทุกอย่างในหัวทิ้งไปแล้วตอบรับคำพูดของล้อมรักแทน ตอนนี้คนที่เขาต้องสนใจไม่ใช่ไลออนเหมือนสมัยเด็กอีกต่อไป


แต่คือล้อมรัก


ภรรยาสาวของเขา คู่ชีวิตของเขา


คือน้องสิงห์


ลูกชายของเขา หัวใจของเขา



   รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าของพ่อคน


หากไลออนตัดสินใจเช่นนั้น ตัวเขาในฐานะเพื่อนคงทำได้แค่ป้องกันด้วยการตักเตือน


พวกเราโตแล้ว


มีเส้นทางของตัวเอง


และตัวเขาเองก็ยังหวังอยู่เสมอ


..


ว่าเพื่อนสนิทที่รักที่สุดคนนี้ จะมีความสุขเข้าสักวัน




TALK ::

   หนึ่งในสิ่งที่เรากลัวตอนแต่งคือคนอ่านจะอ่านแล้วงงไหมนะ เพราะตัวละครเรื่องนี้ความสัมพันธ์ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งมันท้าทายเรามาก ๆ ที่จะสื่อออกมาให้คนอ่านไม่งง แม้ว่าภาษาของเราจะงง ๆ อยู่ก็ตาม

   อิมอินอยากลองแต่งเรื่องราวที่ “ผู้ชายสองคน ต่างหลงรักคนอื่นอยู่และมาอยู่ด้วยกันเอง” รวมถึง “การสื่อความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ไม่ใช่ของระหว่างตัวละครหลักสองตัว แต่เป็นตัวละครหลักกับอีกตัว”

   สำหรับอิมอิน อิมอินชอบเรื่องนี้มาก มันยากมากเลยค่ะที่จะสื่อถึงความเจ็บปวดของตัวละครที่มีแผลในใจอยู่ /ปาดน้ำตา/
 
   แชปเตอร์หน้า จะเริ่มเป็นแชปเตอร์ของ “นิว” แล้วล่ะค่ะทุกคน ซึ่งเราได้แง้ม ๆ เรื่องของนิวในแชปนี้ออกมานิดหน่อยด้วยแหละ

   ส่วนเรื่องของไทเกอร์ไลออน เราจะกลับมาอีกทีตอนประมาณสี่ตอนสุดท้ายเมื่อใกล้จบ ซึ่งนิยายเรื่องนี้ก็ใกล้จบแล้วล่ะ ผ่านมาเกือบถึงครึ่งเรื่องแล้วค่ะ แต่ทีน่ายินดีคือต้นฉบับจบแล้ว (เย้) เหลือแค่ตรวจภาษาอีกหลาย ๆ รอบ เพราะอิมอินเป็นคนภาษาไม่ดีมาก ๆ ไม่กล้าจะแต่งเสร็จแล้วลงปุ๊บปั๊บทันที ขนาดตรวจภาษาแล้วยังเจอคำผิด คำซ้ำอยู่เลย (หงอย)

   อืมม.. ในแชปนี้ อยากให้ลองมองแง่มุมไทเกอร์ดู

   เขารู้ว่าเพื่อนตัวเองเป็นเกย์ (ถึงจะยังไม่รู้ว่าเพื่อนชอบ) แต่ในฐานะคนเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมแล้ว เขาจะไม่แบกรับทุกอย่างเอาไว้

   เขาเลือก จะรับสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบจริง ๆ นั่นคือครอบครัวนั่นเองค่ะ
   แต่ถึงยังไงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเท่าเดิมแล้ว..


    เขาก็ยังคงรักเพื่อนสนิทตัวเองคนนี้ในฐานะเพื่อนอยู่ดี

   วันนี้ทอร์คยาวจัง

   อยากคุยกับนักอ่านค่ะ หรืออยากคุยกับคนที่แวะเวียนผ่านมาอ่านด้วยเสมอเลยค่ะ


   ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์กำลังใจนะคะ มีความสุขทุกครั้งที่เห็นคอมเม้นท์และความเห็นนักอ่านมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไทเกอร์ก็ไม่ผิดอ่ะนะ
แต่อดสงสารไลออนไม่ได้

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
06 : 2 broken men.

หากย้อนเวลากลับไปได้
สิ่งที่จะแก้ไข
คือการไม่รักคุณ

◇◆◇◆◇◆◇◆
   
   มันเป็นความผิดพลาดของเขาในอดีต



   ช่วง.. ปิดเทอมตุลาคมตอนม.6 ของเขาเอง


   ‘อย่า .. ! อย่า..’ เสียงร้องห้ามของร่างโปร่งที่ขดตัวอยู่เตียงนอนอย่างหวาดระแวง ทั้งกายขาวนวลเต็มไปด้วยรอยจูบสะเปะสะปะและร่องรอยการเกือบมีเซ็กส์เป็นคราบขาวขุ่นเปรอะเปื้อนตามเรียวขาและผ้าปูที่นอน ‘คนรัก’ ที่ตัวใหญ่กว่าของเขาสั่นคลอน น้ำตาเม็ดโตอาบท่วมใบหน้าสะอาดสะอ้านของเจ้าตัวเอง


   จินเป็นคนเดียว.. ที่นิวอยากให้ยิ้มมาตลอด


   ‘จิน..’ นิวครางชื่อคนรักตัวเอง ‘กลัว.. เหรอ..’


   คนตรงหน้าไม่ตอบ แค่กอดตัวเองไว้แน่นกว่าเดิม.. และไม่ปฏิเสธคำถามนั้น


จินกลัวการมีเซ็กส์กับเขา..


.. กลัวการมีเซ็กส์กับแฟนตัวเอง


   แม้จินจะไม่ยอมพูดบอกมาตรง ๆ หรือโต้ตอบอะไร แต่อากัปกิริยาที่แสดงออกมาแทนคำพูดคือคำตอบ เขากลัวสัมผัสจากนิวทุกครั้งที่แตะเนื้อต้องตัวกันโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอแสดงออกไปเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง จินกลัวที่จะถูกสอดใส่เข้าไป กลัวความเจ็บปวดจากการโหมแรงกระแทก และกลัวปลายลิ้นที่แสนซุกซนคอยโลมเลียจากนิว..


   มัน ‘มาก’ เกินไป


เขารักนิว

   
แต่.. ความต้องการทางเพศของเราต่างกัน


   จินต้องการ ‘ความรัก’ ที่แสดงออกมามากกว่า ‘ทางเพศ’ บนเตียง แต่นิวกลับแสดง ‘ความรัก’ ที่ว่านั่นไม่เก่งผิดกับ ‘ทางเพศ’ ที่เจ้าตัวเชี่ยวชาญนักเชี่ยวชาญหนา..


   ‘จินกลัวนิวเหรอ..’ เขาถามเสียงเบาอีกครั้งแต่คนใต้ร่างยังไม่ตอบกลับ มีแค่น้ำตาที่พรั่งพรู่ออกมาจากดวงตาคู่นั้นแทน มือบางจึงเอื้อมเข้าไปแตะใบหน้าหวังปลอบประโลม ‘ไม่เป็นไรนะ .. นิวอยู่นี่’


เพี๊ยะ !


   ฝ่ามือเขาถูกปัดออกอย่างจังด้วยใบหน้าหวาดระแวง นิวเองก็ได้แต่นั่งนิ่ง มองฝ่ามือตนเองที่ถูกปัดออกและร่างกายที่ถดถอยหนีจนถึงหัวเตียง


   เขาถูกจินปฏิเสธ..และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกเสียด้วย


   เจ็บ..


   ‘ขยะแขยง..’


   รู้สึกเหมือนกำลังจะตายอยู่บ่อยครั้งที่ได้ยิน


   ‘ข..ขอโทษ ให้เวลากูหน่อยนะ.. ให้เวลากู..’ คนหวาดกลัวพึมพำ ‘จินจะดีขึ้น.. แต่ให้เวลาจิน..’


รสนิยมทางเซ็กส์พวกเขามันไม่ได้เข้ากันได้เลย..

พวกเขา ‘แตกต่าง’ มากเกินไป

   ต่อให้เวลาจะมากแค่ไหน.. คงไม่จำเป็นอยู่ดี..

   นิวพยายามปรับตัวเข้าหาจินแล้ว เขารู้ว่าจินเคยคบกับผู้หญิง และเขาก็เป็นฝ่าย ‘แย่ง’ คน ๆ นี้มาจากผู้หญิงคนนั้น พอมาคบกับตัวเองจึงเกิดความกังวลกว่าปกติทั่วไป ทั้งเรื่องเซ็กส์ และเรื่องของความรัก

    ครั้งแรกเขายอมให้จินเป็นฝ่ายนำทั้งที่มันไม่ใช่ตัวเขาเลย ยอมเป็นฝ่ายอยู่ด้านล่างและรับเรี่ยวแรงที่อีกฝ่ายสอดใส่หรือโหมกระหน่ำเข้ามา

   เขายอม.. เพราะรัก

   พอถึงคราที่จินจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นตามสัญญาที่ให้กันไว้ว่าจะสลับกัน อีกฝ่ายกลับถดตัวหนี สั่นระริกจนทำให้นิวไม่สามารถทำอะไรต่อได้ ทุกอย่างยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเขาเริ่มไม่สามารถแตะต้องตัวชายตรงหน้าคนนี้ได้

   ทั้งที่เขายอมได้แท้ ๆ ..

   แต่เหตุใด.. จินถึงทำตามข้อตกลงไม่ได้กัน

   คำถามนี้วนในหัวหลายต่อหลายครั้ง ใช่ว่านิวจะไม่รู้.. อีกฝ่ายคบกับผู้หญิงมาก่อน พออะไร ๆ เปลี่ยนไป มันคงยากที่จะเปลี่ยนตาม

   หรือบางที..

   เป็นเพราะ ‘หัวใจ’ ของเจ้าตัวกำลังปฏิเสธเอง

   ‘พอเถอะ..’ เขาพูดขึ้น มองมือตนเองที่ถูกคนรักปัดออกด้วยความปวดร้าว ดวงตาของจินที่มองในวันนั้นเหมือนจะขาดใจเมื่อได้ยินประโยคที่คนตัวเล็กกว่าเอ่ยขึ้นต่อ ‘ยังกังวล ยังห่วงอยู่ใช่ไหม’

   ‘....’ จินไม่ตอบ แค่เมินหน้าหนียิ่งเป็นความชัดเจน

   เป็นเหตุให้หัวใจคนฟัง.. ใกล้แหลกสลายเต็มที

   ‘ดูเราจะปรับหากันไม่ติดเลย..’ เสียงนิวเต็มไปด้วยความอ่อนล้า เขาเหนื่อย เหนื่อยมากเหลือเกินจากการที่จะต้องคอยเป็นฝ่ายที่ปรับได้แค่เพียงคนเดียว พอเขาเริ่มลงล็อค อีกฝ่ายกลับขยับหนีให้กลับมาจูนไม่ติดเช่นเดิม

   มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิด ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ที่เข้ากันไม่ได้ ทั้งลักษณะนิสัยของทั้งคู่ จินขี้เป็นห่วง ยังคงห่วง ‘ผู้หญิงคนนั้น’ อยู่หลังจากเลิกกันมา นิวเองก็ขี้หึงขี้หวง พวกเขาทะเลาะกันบ่อยตั้งแต่คบกันเพราะการกระทำของจิน และความขี้หึงขี้หวงเกินไปของนิว ไม่มีใครสามารถลดละกันได้เลย

   โดยเฉพาะ.. หลังจากที่ได้คุยกับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ มันยิ่งทำให้นิวแน่ใจในคำตอบของตัวเอง

   ดังนั้น...




   ‘ถ้าอะไร ๆ ไปด้วยกันไมได้.. เราก็เลิกกันเถอะ’






   ความอึดอัดจากอ้อมกอดทำให้เปลือกตาสีไข่มุกปรือขึ้นเชื่องช้า ภาพตรงหน้าคือเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้เกินกว่าปกติยิ่งสร้างความสงสัยให้แก่เขา ไม่กล้าเขยื้อนกายเพราะท่อนแขนแกร่งที่โอบกอดเอวตัวเองอยู่

   แปลก..

ปกตินิวไม่กอดเขาตอนนอนหรอก..

   “จิน..” เสียงละเมอเรียกชื่อถัดมาช่วยทำให้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันที อีกฝ่ายยังดูตกอยู่ในห้วงความฝัน กระชับกอดร่างบางแน่นขึ้นกว่าเดิม

   ไลออนคลี่ยิ้มออกมาช้า ๆ รบกวนอีกฝ่ายด้วยหลังมือที่ไล้วนข้างแก้ม

   “จินที่ไหนล่ะ..” พูดพลางกดจูบบนริมฝีปากสีแดงตรงหน้า “ไลอ์ต่างหาก” ชายหนุ่มค่อย ๆ ดันแขนอีกฝ่ายออก เขาหยัดกายขึ้นมานั่งบนเตียง สีหน้าของชายที่เป็นพาร์ทเนอร์ตนเองเรียกว่าดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำเพราะคิ้วเรียวนั่นกลับขมวดผูกแน่นแม้ว่าจะเป็นแค่ฝัน

ท่าทาง.. คงเป็นเรื่องที่ไม่อยากนึกถึงสินะ

   ไลออนโน้มตัวลงไปหา กระซิบข้างหูเสียงแผ่ว

   “ถ้าฝันร้ายนัก.. ก็ตื่นขึ้นมาได้แล้วนะ นิว”

ได้ผล..

   ขนตายาวแพกระพริบเชื่องช้าราวกับปฏิบัติตามคำพูด  เมื่ออีกฝ่ายได้ลืมเต็มตาไลออนกลับพบว่ามีหยดน้ำใส ๆ คลอเบ้าคนฝันร้ายอยู่ นิวไม่ได้พูดอะไร เแค่นอนนิ่งอยู่แบบนั้นเหมือนทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น

   และไม่นานเจ้าตัวจึงค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมา

   “ขอบคุณที่ช่วยปลุกล่ะ ไลอ์..”


◇◆◇◆◇◆◇◆

   ฝันร้าย

   นิวพูดเพียงเท่านี้ และมอบรอยยิ้มแก่เขา

   เจ้าตัวไม่คิดจะเอื้อนเอ่ยประโยคใดต่อ แค่หลุบตาลงมองพื้น หากถามอะไร ก็จะสั่นศีรษะช้า ๆ ปฏิเสธ แล้วเปลี่ยนหัวข้อเป็นอาหารเช้ามื้อนี้จะกินอะไรดีตามด้วยเดินเข้าครัว

   ไลออนทอดสายตามองแผ่นหลังหนากว่า นิวทำอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างแพนเค้กให้เขา กับดื่มนมสดที่อยู่ในตู้เย็นอย่างสบาย ๆ เหมือนทุกที

   นิวมักเป็นเช่นนี้เสมอ ไม่ค่อยพูดเรื่องที่เจ้าตัวมองว่าไม่จำเป็น คอยเทคแคร์บ่อย ๆ จนบางครั้งก็ทำให้เขาสงสัยถึงตำแหน่งพาร์ทเนอร์ที่เจ้าตัวว่าต้องทำขนาดนี้เชียวหรือ

   ครั้งหนึ่งไลออนเคยถามว่าทำไมถึงต้องดูแลกันขนาดนี้ คำตอบกลับคือรอยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะ แล้วบอกว่า ‘แค่ชิน’

   จากนั้น ไลออนจึงถามต่อว่า ‘ชิน’ อะไร

   คน ๆ นั้นแค่ยิ้ม

   แล้วจบบทสนทนาลงเพียงเท่านั้น




   กล่องบรรจุความทรงจำจะไม่ถูกเปิดเผย หากเจ้าของยังคงคิดซุกซ่อนมัน











◇◆◇◆◇◆◇◆



















   เคยไหม

   กับการจมปลักอยู่ในความทรงจำในอดีต

   ไม่ว่าจะพยายามผลักไสความอึดอัดในอกออกไปเท่าไหร่กลับไม่เคยจางหาย ต่อให้ดึงดัน ดิ้นรนจะวิ่งหนีมากแค่ไหน สุดท้าย สิ่งที่เป็นรอยแผลเป็นก็ยังคงอยู่ที่เดิม

   นิวไม่สามารถลบเลือนมันออกไปได้เลย

   ไลออนไม่ได้คัดค้านในการที่เขาเงียบและไม่บอก แค่พยักหน้าให้ แล้วบอกว่าวันนี้จะอยู่ด้วยทั้งวันเท่านั้น อย่างน้อยก็อยู่เป็นเพื่อนให้กับเขา

   และแบบนั้น.. ก็ทำให้สบายใจเหมือนกัน

   ครั้งหนึ่งนิวเคยมีความรัก เป็นสิ่งที่เรียกว่ารักครั้งแรกที่ไม่มีวันลืมเลือน ตัวเขาที่แสนซุกซนและไม่เคยใส่ใจในความสัมพันธ์ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘จิน’

   คน ๆ นั้น สอนให้นิวรู้จักกับความรัก สอนให้เรียนรู้ที่จะลองรักใครสักคนดู ใส่ใจ และดูแล แม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรก แต่มันกลับไม่เคยจางหายไป

   นิวเคยคิดจะลืม

   แต่เขาทำไม่ได้

   สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะจดจำทุกอย่างเอาไว้ แต่ผลลัพธ์ของการจดจำ คือการไม่สามารถก้าวต่อ

   เขาจมปลักกับตัวเอง จมอยู่ในความรักครั้งเก่าที่ไม่ลบเลือน ในช่วงแรกที่นิวต้องเลิกรากับจินเขาไม่สามารถนอนหลับได้ สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝันที่แสนหอมหวานว่าครั้นยังคงมีกันอยู่

   และพอพบความจริง

   ตัวเขาได้เพียงแต่ร้องไห้อย่างเงียบงัน

   ภายในห้องนี้ แม้วันเวลาจะล่วงเลยมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ตาม แต่เขายังคงเก็บทุกอย่างไว้ที่จินเคยให้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญ โปสการ์ดเล็ก ๆ ที่ช่วยกันเลือกระหว่างไปเที่ยว หรือจะเป็นโมบายเปลือกหอยตอนไปทะเลด้วยกัน

   มันยังคงอยู่เสมอ..

   รอยยิ้มของจินในความทรงจำเขามันช่างงดงามเหลือเกิน..

   “นิว..” เสียงเรียกสติของตัวเองที่นั่งเหม่ออยู่ทำให้เขาดึงกลับมาได้ เจ้าของชื่อหันไปมองตาม

   “...?”

   ไลออนยังยืนอยู่ตรงนี้ สีหน้าเหมือนตกใจ เจ้าตัวจะเดินเข้ามาหาพร้อมปลายนิ้วนุ่มแนบบนแก้มแผ่วเบา




   วินาทีนั้น.. จึงทราบถึงสัมผัสชื้นแฉะที่เกาะกุมอยู่





   นิวเพิ่งรู้ ว่าตัวเองร้องไห้อยู่



   “คิดอะไรอยู่..” ถ้อยคำที่แสดงความห่วงใยอย่างไม่ปิดบังทำให้ชายหนุ่มตัวใหญ่กว่าก้มหน้า เขายิ้มบาง สั่นศีรษะช้า ๆ

   “แค่.. ฝันร้าย”

   ปฏิเสธเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ความในใจ

   มันอ่อนแอเกินกว่าที่จะเปิดเผย

   นิวรักที่จะดูเจ้าเล่ห์ รักที่จะดูร้ายกาจ รักที่จะดูมีเล่ห์เหลี่ยม และเกลียดที่จะดูอ่อนแอ

   ความทรงจำที่อยู่ในหัวเกี่ยวกับ ‘จิน’ คือจุดอ่อนของเขา

   “จำที่ไลอ์ร้องไห้ แล้วนิวปลอบไลอ์ได้ไหม ?” ประโยคเนิบนาบดังขึ้นเชื่องช้า เหมือนเป็นโอกาสให้เขารื้อฟิล์มความทรงจำ

   รวมถึงไลออนไม่ได้ใช้คำพูดอย่างเช่น ‘ผม’ แบบที่คุยกับคุณ N หรือใช้คำว่า ‘กู’ อย่างที่คุยกับนิว

   “ไลอ์คิดว่ามันไม่ถูกนะ ประโยคตอนนั้นที่นิวบอกน่ะ” คนหน้าหวานยังคงเอ่ยเสียงเบา “มันไม่ใช่ ‘จะมีคุณ L หรือ คุณ N ไปทำไม’ แล้วล่ะ”

   เขาประคองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าให้แหงนขึ้น

   “...”

   “ถ้าปล่อยให้นิวเศร้าอยู่แบบนี้..” เพียงแค่ประโยคไม่กี่คำ เหมือนเป็นสิ่งบีบคั้นหัวใจคนฟัง “จะมี ‘เรา’ ไปทำไมล่ะ..”

   หัวใจหนอ.. เหตุใดช่างอ่อนแอ

   ทั้งขอบตาผู้ฟังร้อนผ่าว ท่อนแขนที่เคยอบอุ่นและแข็งแกร่งรวบร่างบางมาโอบกอดเอาไว้แน่น เขาซุกหน้าตัวเองลงกับหัวไหล่บาง



   เรา




   นิวเคยพูดคำนี้กับไลออน

   แต่วันนี้ ไลออนเลือกจะพูดกับนิวเอง

   “ไลอ์จะฟังนิวเอง” คำปลอบโยนไม่ต่างจากการทายาบนบาดแผลทั้งแสบ ทั้งเจ็บ แต่ช่วยให้ความเหวอะหวะหายดี


ส่วนคำพูดระบาย คงเจ็บปวดที่ต้องนึกถึงมัน

   แต่ในขณะเดียวกันกลับสามารถเยียวยาสิ่งที่เก็บกักไว้ได้

   ไลออนรับรู้ถึงแรงโอบกอดที่แนบแน่นกว่าครั้งไหน เขายิ้มบาง ยกแขนกอดตอบคนที่กำลังอ่อนแอ พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกยกไปนั่งบนตักอีกคนเสียแล้ว

   “นิวฝัน.. ถึงจิน” เสียงงึมงำอยู่บริเวณหัวไหล่ทำให้คนฟังพยักหน้า แม้จะทราบอยู่แล้วว่าฝันถึงใคร แต่เขาอยากให้นิวเลือกจะพูดเองมากกว่า

   เพราะเมื่อใดที่อีกฝ่ายต้องการการปลอบประโลม

   ให้รู้.. ว่ามีเขาอยู่ตรงนี้เช่นกัน

   “ฝัน.. ถึงวันที่เลิกกับจิน” ริมฝีปากบางกดจูบที่กลุ่มเส้นผมเล็กช้า ๆ “ฝัน.. เราเลิกกันแล้ว.. มันตอกย้ำตลอดเลยไลอ์”

   “นิวไม่รู้จะทำยังไงแล้ว .. นิวอยากหลุดออกจากวังวนนี้” น้ำเสียงอีกคนสั่นเครืออย่างควบคุมไม่ได้ เขาเข้มแข็งมาตลอด คอยปลอบโยนคนตรงหน้ามาตลอด..

   จนลืมดูหัวใจตัวเอง

   “นิว..เจ็บ..”

   “ไลอ์ปลอบคนไม่เก่งนะ แต่..” เขาพึมพำ

   “...”

   “จำไว้อย่างเดียวล่ะนิว” เสียงนั้นพึมพำ “ว่าอยู่นี่” 

   เขายิ้มจาง

   “นิวกับจิน ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันมาก..” ค่อย ๆ เอื้อนเอ่ยทีละประโยคอย่างยากเย็น เหมือนหยิบชิ้นส่วนความทรงจำออกจากกล่องให้อีกฝ่ายได้เปิดดู “แต่ว่า.. สุดท้าย เรากลับไปต่อกันไม่ได้”

   “ทำไมล่ะ..?”

   ไม่รู้เลยว่าน้ำตานั่นพรั่งพรู่ลงจนบ่าไลออนเปียกหมดแล้ว

   แต่เขาก็กลั้นไว้ไม่ได้เลย..

   ความทุกข์ที่เก็บกักเอาไว้ภายในตลอดมาทำให้หัวใจอ่อนล้าไม่ต่างจากคนที่พ่ายแพ้

   “จิน... กลัวนิว”

   “...”

   “จินกลัวสัมผัสของนิว” ถึงจังหวะนี้ ร่างสูงกว่าค่อย ๆ ผละออกมาทั้งรอยยิ้ม แต่กลับดูเจ็บปวดกว่าครั้งไหน “กลัวที่จะต้องมีเซ็กส์กัน”

   เขาเริ่มระบายออกมา น้ำเสียงกระท่อนกระแท่น บางครั้งมีติดขัดเพราะการสะอื้น นิวเป็นคนอ่อนแอกว่าที่ภายนอกเห็น แม้จะดูเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ หรืออบอุ่นมากแค่ไหนแต่ก็ยังคงมีมุมอ่อนแอ

   เขาเล่าออกมาตั้งแต่เริ่มต้น นิวเจอกับจินทั้งที่จินมีแฟนที่เป็นผู้หญิงอยู่ ความเห็นแก่ตัวได้ครอบงำจิตใจ เขาหลงรักจินหัวปรักหัวปรำ แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด แย่งชิงผู้ชายคนนั้นมาเป็นของตัวเองจบท้ายด้วยการได้คบกัน

   หลายครั้งที่มีคนตักเตือนว่าการแย่งชิงไม่ใช่สิ่งที่ดี นิวเองก็รู้ดี แต่เมื่อใจรักไปแล้วเขาจึงเลือกทำตามหัวใจเสียมากกว่า มองข้ามความผิดนั้นที่เสมือนโซ่ตรวนของล่ามขาทุกครั้งที่ก้าวเดิน

   บางครั้งนิวฝันถึงความทรงจำในอดีตจนไม่สามารถหลับสนิท คืนวันที่ฝนตกกระหน่ำผู้หญิงที่เป็นคนรักของจินมาหาเขา เธอร้องไห้ออกมาปานใจจะขาดทำให้ความรู้สึกผิดยิ่งถล้ำลึก ยิ่งเห็นน้ำตาที่รินจากดวงตาของผู้บริสุทธิ์ยิ่งทราบว่า.. เขาควักหัวใจของผู้หญิงคนนั้นออกมาเสียแล้ว

   นิวทำร้ายคนอื่น โดยใช้ความเห็นแก่ตัวเป็นหลัก เป็นที่ตั้ง วันนั้นแฟนเก่าของจินไม่เพียงแค่ร้องไห้อย่างเดียว เธอยังพูดประโยคหนึ่งให้เขา..

   นั่นคือบอก...

    ‘ช่วยดูแลจินแทนด้วยนะ..’

   ‘ให้ดีกว่าเรา..’

   ‘ถ้าเราดูแลจินดีจริง ๆ .. จินคงไม่มีคนอื่น’

   การไม่โทษใครอื่นนอกเสียจากตัวเองเหมือนตะปูตอกย้ำความผิด เขายิ่งจมลึกกว่าเดิม เหมือนถูกกดหัวลงมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีวันจะได้ตะเกียกตะกายขึ้นเหนือน้ำ

   สุดท้าย.. ทุกอย่างตามสนองเขาทัน

   ไม่มีสิ่งใดที่แย่งมาแล้วยั่งยืน

   โซ่ตรวนความผิด ไม่ใช่โซ่ที่ล่ามไว้เพื่อพันธนาการบทลงโทษเพียงอย่างเดียว แต่มันพันธนาการ.. ให้ทั้งคู่ไม่สามารถแหวกว่ายในความสัมพันธ์ต่อได้ กลางมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ พวกเขากำลังจมน้ำไปด้วยกัน

   ความรักจากการแย่งชิงของเขาแหลกสลายไปต่อหน้าต่อตา เมื่อตนเองยอมทุกอย่าง แต่จินไม่ได้ถูกแย่งไปไหนอย่างที่เคยคิดไว้ เพราะสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างมันเปราะบางคือความรักของเราทั้งคู่เอง

   จินปรับตัวไม่ได้กับการคบกับผู้ชาย ฝ่ามือที่ผลักร่างตัวเองออกสุดแรงคือตัวยืนยัน วันนั้นจินขดตัวสั่นระริก นอนอยู่บนเตียงพร้อมพร่ำบอกว่าไม่เอา และขยะแขยงคือสิ่งที่ที่เชือดหัวใจนิวมากที่สุด

   คำว่าขยะแขยงยิ่งเชื่อมกับตอนที่อีกฝ่ายเป็นคนรุกล้ำเข้ามา ยังดูมีสีหน้ากังวล และหันหนีเป็นพัก ๆ

   ดังนั้น.. ทำไมนิวจะไม่สังหรณ์ถึงอนาคตอันใกล้ที่คล้ายจะพังทลายได้กันล่ะ

   ต่อมา จินมักบอกว่าขอโทษ

   ขอโทษที่พูดคำว่าขยะแขยง ขอโทษที่ไม่สามารถปรับตัวได้ และจะพยายามมากกว่าเดิม ฝ่ายนิวเคยเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่กลับตาลปัตร ยิ่งย่ำแย่กว่าเดิมหลายพันเท่า

   และแล้วสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือเป็นไปไม่ได้

   วันที่จินร้องไห้เพราะเขาครั้งนั้น ซ้อนทับกับภาพผู้หญิงคนนั้นที่มาหาและร้องไห้ออกมาอีก เขาแย่งจินมาแล้ว และได้รับเป็นบทลงโทษที่พวกเขาไม่สามารถปรับตัวให้ลงรอยกันได้เลย

   บทสรุปของความรักสำหรับคนที่ไม่ลงล็อค

   คือพวกเรา.. เลิกกันในที่สุด

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0





   “หลังจากเลิกกัน นิวจะนอนไม่หลับเลย..” เขาพูดเสียงแผ่ว ก้มมองพื้นไม่ยอมเอ่ยอะไรต่อ “เพราะนิวฝันถึงวันนั้นตลอด.. วันที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัว สลับกับวันที่จินร้องไห้เพราะหวาดกลัวแบบนี้...”

   ไลออนไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนว่าเกิดขึ้นกับคนตรงหน้า จึงทำเพียงแค่ยกแขนโอบกอดเอาไว้เท่านั้น

   “แม้แต่ไอ้กรดยังไม่รู้เลย” คนอ่อนแอหัวเราะ “แปลกไหม.. ทั้งจมอยู่กับอดีต ทั้งรู้สึกผิดกับการกระทำตัวเอง..”

   “อืม..”

   “นิว.. ไม่สามารถยกโทษให้ตัวเองได้เลย” ถึงจังหวะนี้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาแหงนขึ้นมองไลออน “นิวไม่ควรจะเข้าไปยุ่งกับ ‘ความรัก’ ของพวกเขาตั้งแต่แรก.. ทุกอย่างมันตามสนองนิวไปหมดแล้ว ไลอ์.. นิวไม่กล้าจะมีความรักกับใครใหม่อีกแล้วด้วย”

   ริมฝีปากผู้ฟังกดจูบบนเรือนผมคนนั่งอยู่แผ่วเบา เขาพูดตอบ รอให้นิวเป็นฝ่ายระบายออกมา..


   อย่างน้อย.. ก็ได้เปิดเลือดที่คั่งค้างในบาดแผลแล้ว


   “นิวจมอยู่กับความรู้สึกผิด ก้าวต่อไม่ได้.. มันเหมือนเป็นบาปที่ติดตัวทุกครั้งที่จะมีรักใหม่ นิวกลัวว่าเขาจะกลัวนิวอีก กลัวว่าจะไปทำลายคู่รักคนไหนอีก..”


   จากนั้น.. เขาจะปล่อยให้เลือดล้นทะลักล้นออกมา


   “นิว.. นิวไม่อยากทำแบบนั้นอีกแล้วไลอ์ ไม่อยากทำให้ใครเจ็บปวดอีก ไม่อยากเห็นใครหวาดกลัวเพราะนิวด้วย” คนฟังผงกหัวลงช้า ๆ แหงนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาไว้ “นิว..ไม่อยากจะแย่งของใครแล้ว..”


   และเมื่อเลือดที่คั่งค้างอยู่หมดลง..


   เขาจะเป็นคนใส่ยาเอง




   “แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว นิว”  ไลออนระบายยิ้มบาง “แค่คิดว่าจะไม่ทำผิดอีกแล้วก็พอ”

   “....”

   “จมอยู่กับอดีตมาตลอดใช่ไหม..” น้ำเสียงนุ่มที่ฟังแล้วก็อ่อนโยนไม่แพ้กับตัวเขาที่เคยปลอบประโลมอีกฝ่าย “พอมาวันนี้ได้ระบายออกมาแล้วใช่ไหม..”

   คนฟังไม่ตอบ แค่จ้องมองใบหน้าสวยงาม ดวงตาคู่โศกศัลย์สะท้อนให้เห็นความจริงจังอย่างไม่ปิดบัง

   “แล้วสัญญากับตัวเองสิ.. ว่าจะไม่ทำแล้ว”

   เขาเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

   “พอสัญญาเสร็จ.. ก็ยกโทษให้ตัวเองเถอะนะ” อดีตที่ผิดพลาด ควรนำมาเป็นบทเรียน ไม่ใช่บทลงโทษคอยตอกย้ำความพลาดพลั้ง  “เดินหน้าต่อได้แล้ว.. นะ”

   ร่างบอบบางถูกรวมเข้าไปกอดแนบแน่น เขารับรู้ถึงหยาดน้ำอุ่น ๆ ที่ชื้นแฉะบนบ่าตัวเอง อีกฝ่ายสะอื้นอย่างไร้เสียง ปล่อยให้ฝ่ามือเล็ก ๆ คอยลูบลงเรือนผมนิ่มช้า ๆ

   “แล้ว... ไลอ์” เขาถามแผ่วเบา เหมือนลังเล ก่อนจะเอ่ยต่อ  “แล้วไลอ์ล่ะ กลัวนิวไหม ?” กลัว.. เหมือนที่จินกลัวรึเปล่า

   “คิดยังไงถามคำถามนี้กับพาร์ทเนอร์ตัวเอง โง่เง่า” ไลออนหัวเราะ ดันใบหน้าอีกฝ่ายออกแล้วงับลงริมฝีปากล่างแรง ๆ จนอดีตคนเคยติดหมอร้องโอ๊ย “ถ้ากลัวก็ไม่มาค้างที่ห้องขนาดนี้หรอก”

   สองนัยน์ตาประสานกันอีกหนหนึ่ง

   นิวคลี่ยิ้มออกมากว้างกว่าครั้งใด

   ฝ่ามือสอดเข้าใต้ท้ายทอยคนที่นั่งอยู่บนตัก โน้มใบหน้าลงเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเกี่ยวกัน

   “ช่วยปลอบเด็กฝันร้ายหน่อยสิครับ..”

   เสียงออดอ้อนกลับมาอีกครั้ง..

   แม้ไลออนยังตะขวิดตะขวงใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายกลับโล่งอกมาเปราะหนึ่ง

   เพราะ.. มันดีกว่าเห็นน้ำตา

   “ไม่ใช่แค่เด็กฝันร้ายหรอกนะ” คนตัวเล็กว่าพูด กดจูบบริเวณข้างแก้มเบา ๆ “ยังเป็นเด็กขี้แยอีกด้วย..”

   “คุณก็เป็นเด็กขี้แยเหมือนกัน”

   ทั้งสองประสานดวงตากัน


   แล้วหัวเราะออกมา


   “ขี้แยทั้งคู่เลยเนอะ”


   ..
◇◆◇◆◇◆◇◆

   สิ่งแรกที่แปลกใจคือนิวยอมบอกความรู้สึกกับเขา

   ครั้งหนึ่งน้ำกรดเลยเล่าให้ฟังว่านิวกับเจ้าตัวทะเลาะกัน เพราะความลับเกินร้อยเรื่องของนิวที่เอาแต่ปิดน้ำกรดเพื่อนสนิทมาตลอด

   ครั้งสองดนัย แฟนน้ำกรดเคยพูดเปรย ๆ ว่านิวไม่ค่อยชอบพูดสิ่งที่ตัวเองคิดเท่าไหร่ หากมาวันนี้เจ้าตัวกลับยอมเปิดใจให้เขา

   หรือเพราะ.. เห็นว่าเป็นคุณ L กันนะ ?

   ไลออนปรือตาขึ้นช้า ๆ เขามีเซ็กส์เป็นรอบที่สองของวันกับนิวหลังจากปลอบประโลมเด็กฝันร้าย ท่อนแขนที่ทั้งใหญ่ทั้งอบอุ่นโอบรอบร่างกายบางเอาไว้แน่นเหมือนคนหวงของเล่นไม่ผิดเพี้ยน

   เมื่อได้จังหวะ เขาจึงตัดสินใจขยับกายออกเชื่องช้าแม้ว่ายังมีความสงสัยในใจว่าเหตุใดกันคนตรงหน้าที่ดูปกติมาตลอดถึงตกอยู่ในห้วงความทรงจำไม่น่านึกถึงได้   

   หรือ.. เขาอยู่กับความทรงจำของมันตลอด

   เพียงแค่เลือกที่จะไม่พูดเท่านั้น

   ‘สวยแหะ..’ ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวเมื่อลองสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายยามหลับ ผิวสีขาวนวลกว่าตัวเขาและขนตายาวเป็นแพที่พริ้มตาหลับ
ดู ๆ ไปอีกฝ่ายเองก็มีเค้าโครงจากเมื่อก่อนหลงเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน ไลออนยกยิ้ม มือเกลี่ยปอยผมที่ปรกตามใบหน้าของคนนอนอยู่แทน

   ..เหมือนเด็กไร้พิษสงเลย..

   “เอาล่ะ.. หิวแล้ว ทำไรดีนะ” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขยิบกายออกจากอ้อมกอดอีกฝ่ายที่กอดกักเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่ามันจะหายไป แต่สุดท้ายเสียงสั่น ‘ครืด ครืด’ กลับเรียกความสนใจของเขาได้แทน

   ไอโฟนเครื่องสวยวางอยู่บนหัวเตียง แสงไฟหน้าจอประกายขึ้นพร้อมป็อบอัพเด้งหน้าจอเป็นรูปแชทเข้าทำให้ไลออนรู้สึกรำคาญ เขาคิดจะเอื้อมมือไปหยิบมัน.. แต่เมื่อเห็นว่าใครส่งมาความคิดกลับหยุดลงแทน..
คนๆ นั้น..

คือ.. แฟนเก่านิว..

Jinjin Jitawanrachai : นิววว มึง แฟนกูบอกการ์ดที่มึงช่วยออกแบบแม่งสวยมากเลยเว้ย ขอบใจมากกก ละอย่าลืมเรื่องคืนนี้ด้วยยย มาด้วยๆๆ

   ‘การ์ด ?’

   คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน .. คนส่งมาดูจากชื่อและนามสกุลคือแฟนเก่านิวไม่ผิดแน่นอน..
แต่การ์ดงั้นหรือ..


การ์ดอะไรล่ะ..


   ความอยากรู้มากกว่าความถูกต้อง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พึมพำคำว่าขออนุญาตกับคนที่นอนอยู่แล้วกดรหัสผ่านเข้าโทรศัพท์ทันที ไลออนอยู่กับนิวมานานจนต่างฝ่ายต่างเริ่มวางใจกัน รวมถึงบางครั้งก็โยนมือถือให้ง่าย ๆ โดยไม่คิดอะไรด้วยซ้ำ
ปกติไม่ยุ่งนักหรอก..


แต่ครั้งนี้ขอใช้มันให้เป็นประโยชน์หน่อย


   เมื่อกดเข้าไปในหน้าจอ เขาขมวดคิ้วแน่นกว่าเก่าเมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอ..


Yesterday


Jinjin Jitawanrachai : มึงๆๆ อย่าลืมมาปาร์ตี้สละโสดคืนนี้ด้วย

Nirun Neradacho : ทำไมต้องไปวะ ถ้ากูติดงานงี้ไม่ได้เหรอ

Jinjin Jitawanrachai : ไม่ได้ !!! มึงต้องมาเพราะมึงคือคนสำคัญของกูเลยนะเว้ย !!

Nirun Neradacho : - Read –

Today

 Jinjin Jitawanrachai : นิววว มึง แฟนกูบอกการ์ดที่มึงช่วยออกแบบแม่งสวยมากเลยเว้ย ขอบใจมากกก ละอย่าลืมเรื่องคืนนี้ด้วยยย มาด้วยๆๆ

   “...”

   นี่มันอะไรน่ะ .. มันหมายความว่า ‘มัน’ หรือเพื่อนที่ชื่อว่า ‘จิน’ กำลังจะ.. แต่งงานงั้นเหรอ ?

   เขาลังเล แต่แค่ชั่วขณะ ปลายนิ้วโป้งปัดหน้าจอแชทเลื่อนขึ้นไปยังข้อความก่อน ๆ จนกระทั่ง.. เห็นมัน..

ทุกอย่าง.. เมื่อไม่กี่เดือนก่อน..


Jinjin Jitawanrachai : นิววววววว กูมีเรื่องจะขอให้มึงช่วยหน่อย T^T

Nirun Neradacho : ช่วยอะไรอ่ะมึง ?

Jinjin Jitawanrachai : ถ้ากูบอกแล้วมึงอย่าตกใจนะเว้ย มีแค่มึงคนเดียวอ่ะที่จะทำได้

Nirun Neradacho : เออ ว่ามาๆ

Jinjin Jitawanrachai : ช่วยออกแบบการ์ดแต่งงานให้กูหน่อย

Nirun Neradacho : ห๊ะ ?

Jinjin Jitawanrachai : เออมึง T___T ออกแบบการ์ดแต่งงานให้กูที กูชอบสไตล์การออกแบบมึงสุดแล้วอ่ะ

Nirun Neradacho : ไม่ไปเลือกที่ร้านหรือว่าโปร ๆ ดิวะ

Jinjin Jitawanrachai : กูไม่เคยเจอใครทำแล้วถูกใจเท่ามึงเลย !

Nirun Neradacho : เอ้า ไอ้สัสนี่ กูขี้เกียจ

Jinjin Jitawanrachai : นิววววววววววววว

Nirun Neradacho : ..

Jinjin Jitawanrachai : นิวค้าบบบบบบ

Nirun Neradacho : ...

Jinjin Jitawanrachai : นิวช่วยจินหน่อยน้ะ งานมันสำคัญมากๆๆสำหรับจินเลย

Nirun Neradacho : เออ ก็ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

Jinjin Jitawanrachai : เย้

Nirun Neradacho : กูเคยขัดมึงได้ที่ไหนล่ะ



   เนื้อหาข้อความคร่าว ๆ มีเท่านี้ คือ.. ‘จิน’ หรือ จินตร์ จิตาวันราไชย กำลังจะแต่งงานกับแฟนสาว จึงขอให้นิวมาช่วยเป็นคนออกแบบการ์ดแต่งงาน.. ก็เท่านั้นเอง..


แต่..


มันก็เท่านั้น.. ถ้านิวไม่ได้เป็นแฟนเก่าของผู้ชายคนนั้น

บางที.. อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนข้างกายเขายังวนเวียนกับความทรงจำที่หลอกหลอนและไม่สามารถก้าวต่อไปได้เสียที คงเพราะเหตุนี้..



   “ทำอะไรอยู่”




เฮือก



   หัวไหล่บางสะดุ้งโหยงพร้อมมือถือที่ร่วงหล่นลงบนเตียงนุ่ม ใบหน้าไทเกอร์เปลี่ยนเป็นสีซีดเผือก.. เขาหันหน้าไปตามประโยคนั้นช้า ๆ ก่อนจะพบกับคนที่ควรจะหลับอยู่..

ที่..ลืมตาขึ้นแล้ว

   ท่าทางแข็งกร้าวผิดกับครั้นปกติและแสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์เป็นอย่างไม่ปิดบังทำให้หัวใจเขาเผลอหล่นวูบไป..


   เลือดในกายไลออนเย็นเฉียบ


นั่น.. ไม่ใช่คุณ N ..


..

นั่นคือนิว..









TALK ::



สวัสดีค่ะ วันนี้ก็เข้าสู่ทอร์ค มาคุยเล่นกันหน่อยเร็วว วันนี้ก็ได้ ‘เปิดเผย’ ความจริงใน Non Romance ที่ไม่เฉลยหรือที่น้ำกรดมโนกันเล่น (ฮ่า) และขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากเลยนะคะ พอเห็นคอมเม้นท์เหมือนแรงกระตุ้นให้อัพต่อเลยค่ะ T////T ดีใจมากกกกก
ตอนนี้เรื่องดำเนินมาได้ “ครึ่ง” เรื่องแล้วค่ะ 55555 อีก 6 ตอนจะจบแล้วน้าทุกคนนนนน
1. ตอนนิวอยู่กับจิน นิวเป็นรุกหรือรับ Ans : ตาม ‘ความต้องการ’ ของนิว คือ ‘รุก’ ค่ะ เพราะเจ้าตัวไม่ชอบรับเท่าไหร่ แต่นิวเป็นคนที่ถ้าหากรักใครแล้ว เขาต้องการจะให้ทำอะไร ก็จะยอม ในครั้งแรกที่ฮึ้บ ๆ กับจินจึงกลายเป็น ‘รับ’ ไปโดยปริยายเพราะจินเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน และดูไม่ยอมที่จะเป็นรับง่าย ๆ อีกอย่างสภาพร่างกายตอนเด็ก ๆ ของนิวตัวเล็กบางหน้าหวาน ฮ่า
2. ไหนจินบอกว่าขยะแขยงไป แล้วทำไมไปได้กับนิวตอนเคะได้
Ans : นิวตอนเด็กเหมือนผู้หญิงมากค่ะ หน้าตาน่ารักไปเลย และตอนคบกันจึงไม่ทำให้จินตะขวิดตะขวงใจเท่าไหร่ แต่พอตอนมีเซ็กส์ (ครั้งแรก) ตามที่นิวเห็นคือจินค่อนข้างกังวล และหันหนี แต่ก็ยังมีได้ค่ะ ทว่าพอตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ มันกลับยิ่งเหมือน ‘ไม่ใช่’ ในใจ คำตอบคือ จินเป็นผู้ชายแท้ ๆ เลย ที่สามารถรุกผู้ชายด้วยกันได้ ผู้หญิงก็ได้ แต่จะให้ไปเป็นรับเนี่ย.. ไม่เอาเด็ดขาด 5555
3. ขอเหตุผลที่เลิกกันอีกชัด ๆ สิ
ANS : หลัก ๆ คือ ‘รสนิยมทางเพศ’ ของทั้งคู่ไม่ตรงกันค่ะ เลยพากันไม่รอด และตัวนิวเองก็จมกับความรู้สึกผิดหลังผู้หญิงคนรักปรากฏตัว จึงทำให้ยอมถอยออกไปง่าย ๆ ด้วย (เหมือนคนที่ตอนทำไม่รู้สึกหรอก แต่ผ่านไปสักพัก ได้โอกาสไตร่ตรองแล้วรู้สึก ยิ่งมีอากัปกิริยาจินแบบนั้น ยิ่งตอกกย้ำความรู้สึกไปอีก)
4. เรื่องนี้จบ Happy Ending ไหม สองคนนี้จะรักกันไหม มีความสุขไหม
ANS : ตอบยากจัง แต่ยืนยันนอนยันว่าไม่ใช่ Bad Ending แน่นอนค่ะ ^ ^ สำหรับอิมอิน เป็นตอนจบที่เหมาะกับคู่นี้แล้ว 555
5. ตอบข้อนึง ทำไมนิวถึงให้เห็นรอยจูบตรงคอไลออน
ANS : ให้อีกฝ่ายรู้สถานะระหว่างพวกเขาสองคน แล้วอยากให้วางตัวค่ะ แต่ไทก์ยังไม่แน่ใจ ว่าเป็นคนรัก หรือแค่คู่นอน ที่มั่นใจแน่ ๆ คือ สองคนนี้ได้กันแล้วแน่นอน !
6.ดราม่าเยอะไหม
ANS : นิวกับไลออน สองคนนี้ไม่มีดราม่าเลยค่ะ มีแต่ดราม่านิวกับจิน และไลออนกับไทเกอร์ ซึ่ง.. ไม่เยอะหรอกค่ะ (?) สักตอนที่ 11 ก็หมดดราม่าแล้ว ฮ่า
7.ทำไมนิวถึงปิดบังนิสัยตัวเองกับน้ำกรด
ANS : คนรู้นิสัยนิวจริง ๆ ตอนนี้มีแค่ เบสที่เป็นเพื่อนกันมานานกว่ากรด จินแฟนเก่า กับไลออน ส่วนนัยแค่พอมอง ๆ พอรู้ ๆ แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมาก (นัยชอบไปเคลียร์ให้คู่นี้นิวจินเวลาจินกับนิวทะเลาะกันตอนคบกันค่ะ) ส่วนน้ำกรด นิวเคยบอกไว้ในเรื่อง Non Romance (อ้างอิงจากตอนที่ 37 ประโยคที่ว่า “เพราะงี้.. กูเลยไม่อยากให้มันรู้ด้านเหี้ย ๆ กูไง” )
   ในความรู้สึกนิว น้ำกรดเป็นเพื่อนที่ดีมาก และไม่ค่อยอยากให้รู้อะไรเหี้ย ๆ เท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็รู้ และกรดก็บอกเลยว่ามันไม่ดี 55555 อีกข้อคือ กลัวน้ำกรดรับไม่ได้ด้วยค่ะ
   8.คู่นัยกรด
   ANS : ปัจจุบันถึงตอนจบและไปยันแก่ รักกันมาก กัดกันเหมือนเดิมค่ะ แต่รักกันมาก นิสัยนัยตอนที่คบกับน้ำกรดจะเผยออกมา (ตอนพิเศษ Non Romance ในเล่ม) ด้วยค่ะ น้ำกรดจะหน้าด้านขึ้นเยอะมาก 555555555 ภูมิใจที่มีนัยเป็นผัว เชิงนั้น
   9. ทำไมนิวถึงเปิดใจให้ไลออนทั้งที่น้ำกรดไม่เคยเปิดเลย
   ANS : วุฒิภาวะของนิวตอนเด็กๆ ที่มองน้ำกรด และปัจจุบันมันต่างกันค่ะ น้ำกรดเป็นคนอารมณ์ร้อน คิดไรทำเลย แล้วเป็นคนดี(?)ในสายตาของนิว พอนิวคิดอะไรเป็นอะไร เลยไม่กล้าบอกน้ำกรดค่ะ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บอกไลออน ก็เพราะว่าไลออนดูพึ่งพา(?)ได้มากกว่ากรด และอีกข้อที่สำคัญที่สุด.. ตอนนี้ทั้งสองคน “เหลือกันอยู่แค่สองคน” แล้วค่ะ 555555 ไม่มีใครแล้ววววว
   10. นิสัยนิวจริง ๆ เป็นยังไง
   ANS : พูดไม่ค่อยเก่งแต่ชักจูงคนเก่ง พูดเก่งกับคนสนิท ถ้ามีน้ำกรดอยู่ด้วยจะพูดเยอะขึ้น ชอบความดูลึกลับค่ะ ชอบดูเจ้าเล่ห์ ชอบดูเข้มแข็งเป็นที่พึ่งพาได้ (ปรากฏในบทก่อน ๆ ที่นิวแสดงออกมาให้ไลออนเห็น) แต่ความจริงเจ้าตัวก็.. อ่อนแอไม่แพ้ใครเหมือนกัน แค่ไม่อยากแสดงออกมาเยอะ
   แต่วันนี้
   ไลออนเริ่มรักษาแผลของนิวได้แล้วนะ

   ทอร์คเยอะอีกแล้ว อยากคุยเสมอเลยค่ะ แฮ่ะๆ ดีใจมากเลยทุกครั้งที่เห็นคอมเม้นท์ ไม่ว่าจะเป็นกับใครก็ตาม กับนักอ่านเก่า หรือกับนักอ่านใหม่
   หากมีคำถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ สามารถทิ้งคำถามไว้ได้นะคะ จะเข้ามาตอบให้ครบเลย (หากไม่เกี่ยวพันกับเนื้อเรื่อง) ค่ะ
   ขอบคุณนะคะ ที่ยังคงติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้กันอยู่
StraWBerry_imin


ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
สงสารนิวอะ โอ๋ๆนะ ไลออนปลอบๆ ปลอบกันนะทั้งสองคนนน
แอบเสียวานหลัง นิวจะโกรธไหมนั้นที่ไลออนแอบดูมือถือ...
ก็คงมีบ้างแหละเนอะ แต่หวังว่าคงจะไม่หนัก ; w ;
เอาใจช่วยทั้งสองคนน

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
สนุกอะ ดูเยียวยากันและกัน...นึกไม่ถึงว่านิวก่อนเคยตัวบาง ร่างน้อยจะรุก  :katai1: ดีที่ปัจจุบันงานดี งานละเอียด 555555555555  o13
ตอนหน้านิวจะโกรธไหมอะ แล้วแฟนเก่าดูท่าจะจบไม่ค่อยสวยแต่ จินก็ยังติดต่อกล้าให้ออกแบบการ์ดแต่งงานให้อีกเด้อ โอ้โห แข็งแกร่งเว่อร์หรือจะคนละ จิน 55555555 สงสารไลออน สงสารนิว ตอนจบคงจะแบบก็คงจะรู้สึกดีที่มีกันและกัน วันข้างหน้าอาจจะเรียกว่าความรักได้ไรงิปะ อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆและอาจจะตลอดไป~~~ :z3:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
หวังว่าทั้ง2จะช่วยเยียวยาซึ้งกันและกันได้
ก็ดูเป็นคู่ที่ลงตัวกันดี

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
07 :  Goodbye my last love.




ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันมาก
ครั้งนี้ก็ยังรักกันอยู่
แต่แค่น้อยกว่าเธอเท่านั้นเอง



◇◆◇◆◇◆◇◆




   อีกหนึ่งในสาเหตุของฝันร้ายที่ทวีความรุนแรงทำให้นิวไม่สามารถอดทนเพียงคนเดียวได้อีก.. คงเป็นเรื่องนี้

   ‘ออกแบบการ์ดแต่งงานให้จินเหรอ..’ น้ำเสียงของไลออนไม่สู้ดีนัก เขาลังเล มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนโทรศัพท์มือถือจะถูกแย่งไปจากมือทันที สายตาไม่เป็นมิตรถูกส่งมาให้..

   แต่มันก็แค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น นิวกลับถอนหายใจแผ่วเบาแทน


   ‘ขอโทษ’ คนตัวเล็กพึมพำ ‘ไม่มีข้อแก้ตัวหรอกนะ’


   เขาสั่นหัว ‘ไม่เป็นไร แต่เห็นหมดแล้วเหรอ ?’


   ‘อืม..’ ไลออนเม้มปากเข้าหากัน สีหน้าของนิวยังดูไม่ค่อยดีนัก เขายื่นมือเข้าไปแตะลงบนใบหน้าที่แห้งเหือดจากหยดน้ำตาแล้ว ‘อดทนได้ยังไง..’


   ได้แต่ถามคำนี้ออกไป..


   สิ่งที่ได้รับคือการยิ้มเฝื่อน ๆ ให้

   ‘แล้ว..ไลอ์อดทน ที่ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ไทก์ได้ไงล่ะ..’

   เขาถูกสวนมาเพียงเท่านี้.. เป็นคำตอบของทุกอย่าง

   เพราะ..รัก





   ตามการคาดเดา เพียงเวลาก่อนวันแต่งงานสามวันกลับมีคำเชิญถึงกลุ่มเพื่อนเพื่อมาปาร์ตี้สละโสดของจินหรือคนรักเก่าของนิว ในตอนนั้นไลออนลังเลว่าจะไปดีไหม แต่เมื่อเขาหันไปถามความเห็นของพาร์ทเนอร์ตัวเองที่ดูเศร้าซึมยิ่งกว่าเดิม และ ‘ไป’ งานนั่น ทำให้ไลออนต้องทิ้งความลังเลลงถังขยะ


   เขาไปงานนี้


   และแน่นอนที่สุดว่าจะไปกับนิว


   เสียงดนตรีในงานดังกระหึ่มเป็นจังหวะเพลิดเพลินชวนลุกขึ้นโยก กลิ่นแอลกอฮอล์และบุหรี่คละคลุ้งภายในห้องส่วนตัวของร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งถูกเหมาทั้งร้านเพื่อ ‘ปาร์ตี้สละโสด’   ให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติกับเจ้าของธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ดังอย่างจินตร์ จิตาวันราไชย ที่กำลังจะแต่งงานในสามวันข้างหน้า


   หากพูดให้ชัด..


   คือแฟนเก่าของนิวกำลังจะแต่งงาน


   “นิวอยากเมา”เพียงประโยคเดียวสั้น ๆ ง่าย ๆ ของชายข้างกายเขาดังขึ้น ตามด้วยคว้าเหล้าแก้วที่สองมากระดกดื่ม ปล่อยของเหลวสีอำพันไหลรินลงลำคอ “ไลอ์”


   “อยู่นี่ไง” คนถูกเรียกเขยิบตัวใกล้


   “ตอนไทก์แต่งงานก็เจ็บแบบนี้ใช่ไหม”


   “...” ถามอะไรสงสารใจคนฟังหน่อยสิวะ


   “นิวเพิ่งรู้ว่ามันเป็นยังไง” ไลออนปล่อยให้ศีรษะกลม ๆ เอนซบบนหัวไหล่ตัวเอง “ไลอ์ผ่านมาได้ไงน่ะ”


   “เจ็บเจียนตายเลย” เรียวปากบางเผยรอยยิ้มระหว่างคุยกันเพียงสองคน “ทุกวันนี้ไลอ์ก็ยังเจ็บอยู่นะ”


   “...”


   “ไลอ์แสดงอาการเศร้าไม่ได้ ทุกครั้งที่ไลอ์อยู่ต่อหน้า ‘มัน’ ไลอ์จะต้องยิ้มแย้มตลอด” คนพูดแตะลงผมนุ่มราวขนแมว ลูบลงช้า ๆ เพื่อปลอบประโลม “บางครั้ง ยิ่งไลอ์เห็นลูก.. ของพวกเขาสองคน มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของความรักเลย”


   “...”


   “ไลอ์อิจฉา” เขาสารภาพออกมาตามตรง “อิจฉา จนบางครั้งคิดว่ากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ถ้าไลอ์อยู่กับเด็กคนนั้นแค่สองคน..”


“...”


“ไลอ์อาจจะพลั้งมือทำอะไรไม่ดีไปก็ได้”


   “อย่าทำแบบนั้นนะ” นิวสวน ผละออกมาจากการอิงซบหัวไหล่บาง “ถ้าทำแบบนั้น.. คนที่เสียใจตลอดชีวิต ก็คือตัวไลอ์นะ”


   แต่คำตอบที่ได้ไม่ใช่การตกลง มีเพียงรอยยิ้มขบขัน


   “ตอนนี้.. ไลอ์ต้องปลอบนิวต่างหาก อย่าเปลี่ยนเรื่องเชียว” จบประโยค แก้วเหล้าเย็นเฉียบแนบข้างแก้มจนทำให้ร่างคนที่จ้องอยู่สะดุ้งโหยง


   “....?”


   “อยากเมาไม่ใช่เหรอ ?” คนหน้าหวานยิ้มจนตาปิด “หยิบขึ้นมาชนสักแก้วดิ”


   นิวหลุดหัวเราะ คว้าแก้วขึ้นตอบรับคำเชิญชวนเหล่านั้นพลางกระดกรสชาติขมปร่าของของเหลวสีอำพันลงลำคอรวดเดียวแล้วยื่นแก้วให้เมื่อหมดลง ไลออนไม่เอ่ยอะไร แค่หยิบขวดมารินให้ต่อเป็นแก้วที่สาม สี่ หรือห้า คนที่กำลังตกอยู่ในห้วงความเศร้าก็ยังไม่มีท่าทีจะหยุดลง


   “จริง ๆ การเมามันไม่ใช่ทางออกหรอกนะนิว” เสียงทุ้มติดหวานกระซิบเบาข้างใบหูตัดกับเสียงดนตรีที่ดังขึ้นเป็นระลอก


   เจ้าของชื่อหัวเราะ


   “แต่ก็ยังให้ดื่มไม่ยั้ง.. คิดอะไรอยู่หืม” ดวงตาสีอ่อนตวัดมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเอง เขาไม่รู้ว่าตอนไหนกันที่ร่างกายเข้าไปใกล้กับร่างบางจนแทบแนบชิด


   อาจจะเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดกัน

   เผลอสัมผัสจนไม่รู้ตัวเลย

ฝ่ามือเล็กเกลี่ยบริเวณข้างแก้มนิ่มที่ซุกอยู่ใกล้ลำคอ


   “คิดว่าเพราะอะไรล่ะ”


   ถามเสียงแผ่วเพราะพวกเขาเริ่มสื่อสารกันด้วยสายตาอีกครั้ง

   ไม่มีเสียงใดตอบโต้กลับมา เป็นครั้งแรกที่นิวได้จ้องตาไลออนโดยปราศจากความคิดใด ๆ เพราะรสชาติแอลกอฮอล์ที่ครอบงำจิตใต้สำนึก


   และตอนนั้น.. เขาก็เพิ่งรู้



   ว่าดวงตาคู่นี้ที่เคลือบแคลงไปด้วยความโศกศัลย์.. ก็สวยดีเหมือนกัน



   “เฮ้ย !! นั่นไอ้ไลอ์เว้ย แม่งมางานนี้ด้วย !!”


   เสียงโหวกเหวกเรียกให้เจ้าของชื่อผงะ หันมองไปตามเห็นฝูงเพื่อนสมัยมัธยมปลายกำลังเดินเข้ามาในห้องนี้ ส่วนนิวเองก็ผละออกอย่างรวดเร็ว มองตามด้วยสายตางุนงง  “ไม่ได้เห็นหน้าเลย ไอ้สัตว์ กูก็นึกว่ามึงไม่ชอบแสงสีเสียงซะอีกไอ้ไลอ์ !”

   “กูก็มาเปิดหูเปิดตาบ้าง” ไลออนหัวเราะ กลบเกลื่อนอย่างแนบเนียน   “เออ ดี ๆ งั้นมึงมาเลย มาดื่มกับพวกกูเลย !”

   “เฮ้ย เดี๋ยว กูมากับนิว” เขารีบปฏิเสธ แต่เพื่อนยังดึงกระชากอยู่ “เฮ้ยมึง”

   “โหย ไอ้ไทเกอร์ดูโอ้มึงไม่มาแล้วเศร้าล่ะสิ แม่งไปอยู่กับเมียแล้ว กลัวเมียเลยไม่มา !”

   “มันเลี้ยงลูกป่ะละ ไอ้สัตว์”

   “อ้าว แล้วไลอ์ มึงไม่มีลูกบ้างเรอะ”

   “กูโสด ไม่มีใครเอา” คนตัวเล็กเริ่มพูดเสียงห้วนอย่างไม่สบอารมณ์ เพื่อนพวกนี้ชักถามมากไปแล้ว สลับกับคอยเหลือบมองนิวเป็นระยะ ๆ

   ตอนสมัยเรียนไลออนค่อนข้างจัดอยู่ในระดับดังเพราะมีเพื่อนเยอะเลยทีเดียว อีกข้อหนึ่งเพราะรอยยิ้มและท่าทีสดใส รวมถึงมักจะจับคู่กับไทเกอร์เป็นประจำ เป็นตัวดูโอ้ปาท่องโก๋ คอยตบมุกใส่กันแกล้งชาวบ้านชาวช่องไปวัน ๆ คนเลยรู้จักเยอะเป็นพิเศษจึงไม่แปลกที่จะมีคนมาทักทายผิดกับนิวที่ไปทางแนวเงียบ ๆ มากกว่า

   “เนี่ย ! มีแต่พวกคนมีเมียหมดแล้วฮื่ออ ไอ้จินก็กำลังจะมีเมีย ไอ้ไทก์ก็ไปมีเมีย ไอ้นัยก็มีเมีย.. แต่มีเพื่อนพวกเรานะเว้ย มีผัวคนนึง” มันพูดขำ ๆ แล้วได้ยินเสียงใครสักคนถามล้อ ๆ ขึ้นว่าใคร “ไอ้กรดไงสัตว์ ! มีผัว ! ชื่อนัย โอ๊ยย เพื่อนกินกันเองง”

   “เชื่อเหอะว่าถ้าไอ้กรดอยู่ มันโวยวายเอารองเท้าฟาดหัวมึงแน่” นิวเอ่ยเสริมยิ้ม ๆ ได้ยินเสียงเพื่อนร้องหู้วแทรกเป็นระยะ ๆ นินทาเพื่อนคนอื่นที่ไม่ได้มางานในวันนี้เพราะส่วนใหญ่มีเมียมีลูกกันแล้วทั้งนั้น

   “เออ ว่าแต่เจ้าของงานแม่งอยู่ไหนวะ กูว่าเห็นมันเดินมาในห้องแล้วนะ” ประโยคของใครสักคนเรียกความสนใจนิวได้เป็นอย่างดี

   “ไม่รู้ว่ะ เห็นเดินสวนออกไปก่อนพวกกูเข้ามา”

   เขาเบิกตากว้าง

   ..เดินสวนออกไป..
   ถ้าอย่างนั้น..


   “อ้าว นิว จะลุกไปไหน ?”

   “ไป.. ห้องน้ำ”


   หรือว่า.. จินจะเห็นที่ตัวเองกับไลออนเกือบจะจูบกันตรงนั้น..


   เมื่อคิดถึงตอนนั้น สายตาเขาเหลือบไปมองร่างบางที่นั่งอยู่บนโซฟาแล้วแกว่งแก้วเหล้าในมือเล่น เหมือนเป็นการไถ่ถามเชิงขออนุญาตไปในตัว    แม้ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องหันไปขออนุญาตมัน..


   อาจจะเป็นเหมือนมารยาทของคนมาด้วยกันและกำลังจะไปตามหาคนอื่นนั่นแหละ

   ไลออนสังเกตถึงจุดนั้น เรียวปากบางยกยิ้มขึ้น

   “ไปเองได้ใช่ไหม” ประโยคนั้นเหมือนคำตอบโดยนัย “ไม่ต้องห่วง ต่อให้นิวหลง ไลอ์ก็จะพาตัวนิวกลับมาหาไลอ์เหมือนเดิมเอง”

   สิ้นประโยค คนที่คิดจะไปไม่ลังเลอีก เขาเดินออกจากห้องโดยยังคงสงสัยกับความรู้สึกตัวเองที่อยู่ในอก

   มันแปลก..

   เขาสบายใจกับคำพูดนั้น

   สบายใจกับความหมายที่แฝงอยู่ในประโยคนั้น





   ‘ต่อให้นิวหลง ไลอ์ก็จะพาตัวนิวกลับมาหาไลอ์เหมือนเดิมเอง’
   …
   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น.. ก็ยังคงกลับมาหากันได้เสมอ





◇◆◇◆◇◆◇◆








   “จิน !!”

   ถ้อยคำตะโกนเรียกชื่อของอดีตคนรักตัวเองดังขึ้นแหวกกลางบรรยากาศเงียบงันยามค่ำคืนผิดจากภายในร้านอาหารสุดหรูที่เขาได้เดินออกมา นิววิ่งตามจินออกมา โชคยังดีที่อีกฝ่ายไปไม่ไกลนักจึงทำให้หาตัวได้ไม่ยากเท่าไหร่

   เจ้าของชื่อชะงักฝีเท้า หันกลับมามองด้วยแววตาติดงุนงง นิวไม่แน่ใจนักว่าเขาตาฝาดไปหรือเปล่าที่เห็นความสั่นไหวในดวงตาคู่นั้น

   เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี.. ที่พวกเขามีโอกาสเผชิญหน้ากันเช่นนี้

   นิวรู้สึกทั้งคิดถึง..

   อยากกอดผู้ชายคนนี้เหลือเกิน

   โหยหาในความรักเก่าที่บุบสลายไป

   “จินจะไปเก็บของในรถ” น้ำเสียงนั้นงึมงำแผ่วเบาทำให้นิวผงะ ยิ่งคำแทนตัวยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด “มีอะไรรึเปล่า ?”


   สรรพนามแบบนั้น.. ไม่ต่างจากสมัยคบกันเลย


   นิวได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมกัน


   ทำไมเขาถึงไม่สามารถปล่อยมือจากผู้ชายคนนี้ได้เสียที


   “นิวกับไลออนไม่ได้คบกัน” สุดท้ายจึงเลือกพูดออกไปเช่นนั้น สายตาจินดูตกใจ ก่อนที่มันจะกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว


   “..ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักอย่างเลย” คนที่ตัวเล็กกว่าไปแล้วตอบกลับ “อีกอย่างจินกำลังจะแต่งงานแล้วนะ”

   นิวผงกหัวลงเบา ๆ

   “นิวรู้”

   “.. อืม ขอบคุณเรื่องการ์ดงานแต่งมากนะ..” คนฟังได้แต่เพียงยิ้มเจื่อนเหมือนบอกว่าเขาเต็มใจจะทำ “แล้ว.. นิวจะมางานแต่งจินไหม ?”

   ยิ่งฟังคำพูดของอีกคน ยิ่งไม่ต่างจากหนามทิ่มแทงใจ

   จินถามอะไรโง่ ๆ ออกมาซะแล้ว ขนาดงานสละโสดยังมา แล้วทำไมงานแต่งจะไม่มากันล่ะ

   “ไป” เขาตอบ “ไป..ยินดีกับจินไง”

   ยินดีในฐานะแฟนเก่า ในฐานะเพื่อน หรือในฐานอะไรก็แล้วแต่

   แม้ว่าจะไม่อยากแค่ไหน.. ก็จะไป

   จินเหมือนตกอยู่ในห้วงความคิด เขาบอกว่าจะไปเก็บของที่รถแต่ในมือกลับไม่มีสิ่งใดถือแม้แต่อย่างเดียวยิ่งทำให้นิวแน่ใจว่าชายตรงหน้ากำลังเดินหนีออกจากงานไป.. เพราะเห็นเขากับไลออนเกือบจูบกัน

   หรือถ้าหากมันไม่ใช่.. ก็อยากเข้าข้างตัวเองสักนิดก็ยังดี

   “จินไม่รู้ว่าควรเริ่มอะไรก่อนดี” ในที่สุด ชายตรงหน้ากลับเอ่ยประโยคนี้ออกมา “แต่สาเหตุที่พยายามทักไปหาบ่อย ๆ ทั้งที่นิวชอบอ่านแต่ไม่ตอบมันมีอยู่นะ”

   คนฟังนิ่งงัน


   “พูดมาสิ”


   “แค่อยากขอโทษ..น่ะ”


   “.. ขอโทษอะไร ?”


   “วันสุดท้ายของเรา” อีกฝ่ายก้มหน้าลงมองพื้น “จินพูดว่าขยะแขยงออกไป”


   “...”


   “จินพูดว่าขยะแขยงทั้งที่ตอนนั้นจินกำลังจะมีเซ็กส์กับแฟน” น้ำเสียงเหมือนกำลังบังคับไม่ให้สั่นอยู่ เขาเหมือนอึดอัด อดกลั้นกับเรื่องนี้มานานจนในที่สุดก็มีโอกาสได้พูดออกไปสักที


   อย่างน้อยเพื่อช่วยสารภาพความรู้สึกผิดที่ติดค้าง

   และอาจช่วย.. ให้ใครสักคนหลุดจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน

    “จินกลัว ทั้งที่จินกำลังมีเซ็กส์กับคนที่จินรักมากที่สุด”


   นิวรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก..


   ..เมื่อได้ยินคำว่า ‘รัก’ ..ออกมาอีกครั้งจากปากคนที่เขาให้ไปหมดแล้วทั้งหัวใจ


   “แต่จินไม่รู้ว่าจะหาข้ออ้างอะไรกับนิวดีในการเรียกมาคุยแบบนี้” อีกฝ่ายดูสับสน พูดเสียงเบากว่าเดิมหลายเท่า “ขอโทษที่ต้องขอให้ออกแบบการ์ด แต่โอเค จินยอมรับ จินพยายามหาเรื่องคุยกับนิวจนยกมาอ้าง”


   “....”


   “เพื่อ.. ที่จะหาทางชวนวันนี้ ถ้าส่งคำชวนเข้าในกลุ่มม.6 ของเราเฉย ๆ นิวก็คงไม่มาใช่ไหม มันไม่แปลกหรอกถ้านิวไม่มา แต่จินก็ยังอยากคุยกับนิวก่อน.. เพื่อ.. พูดให้ชัด ๆ”


   “พูดอะไร”


   เหมือนโลกของเขาเคว้งคว้าง





   และตอนนั้นก็ตระหนักได้.. ว่าเหตุใด จึงต้องวิ่งตามผู้ชายคนนี้มา ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีพันธะใดอีกแล้ว




   “จินขอโทษ.. ฮึก... จินขอโทษ นิว..” คนตัวเล็กกว่าเริ่มตะกุกตะกักไม่กล้าสบตา “สีหน้านิวตอนเห็นจินกลัว รู้ไหม มันยังติดอยู่ในหัวจินไม่หายเลย”





   น้ำตาของอีกฝ่ายร่วงหล่นลงมา




   ไม่ต่างจากของเหลวกัดเซาะหัวใจคนมอง




   พวกเขา.. ต่างคน ต่างติดอยู่ในความหวาดกลัวจากภาพในความทรงจำของตัวเอง







   “ขอร้องเถอะ” เขาคว้าไหล่อดีตคนรักเข้ามา “อย่าร้องไห้..”








   เพราะคนที่อยากร้องที่สุดตอนนี้..
   คือเขาต่างหาก..









   แม้จะเสียใจแค่ไหนกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน แต่น้ำตาของจินคือทุกอย่างสำหรับนิว เพียงแค่อีกฝ่ายเจ็บปวด.. มันไม่ต่างกับการฉีกหัวใจเข้าทั้งเป็นจนขาดวิ่น




   เขาอยากเห็นรอยยิ้มของจินมากกว่า




   “จินรู้ว่าการที่ให้นิวมาที่นี่ มันทำให้นิวเจ็บ แต่จินก็ยังทำอีก..” ร่างของคนที่เริ่มร้องไห้มากขึ้นถูกรวบไปกอดไว้ “จินไม่รู้จะหาโอกาสที่ไหนมาคุยกับนิวแล้วขอโทษ.. จินทำให้นิวเจ็บตลอดเลย เจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บจนจินกลายเป็นคนเหี้ย ๆ เลย.. แม้แต่ตอนนี้ก็เจ็บใช่ไหม..”




   ไม่สามารถปฏิเสธความเจ็บได้เลย..




   แต่..



   “ไม่เป็นไร” เขาพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น “มันไม่เป็นไร” 





   “จินขอโทษที่ลังเล ขอโทษที่ขอเวลา ขอโทษที่รับมันไม่ได้... จินขอโทษ..” คนรู้สึกผิดเริ่มสะอึกสะอื้น ทั้งกายสั่นคลอน ไม่ต่างจากหัวใจที่สั่นไหว “ขอโทษที่บอกว่าขยะแขยง ขอโทษที่รับไม่ได้ จินน่ะอยากรับได้ ! อยากรับได้มาตลอดเลย !! แต่สุดท้าย.. จินทำไม่ได้..ฮึก..”







   นิวกอดอีกฝ่ายไว้แน่น เขาสั่นหัวช้า ๆ





   ไม่เอาสิ...






   ไม่ต้องพูดแล้ว..





   ถ้ามันทำให้ร้องไห้.. ก็อย่าพูดเลย





   “มันผ่านมาแล้วน่า.. เรื่องรสนิยมมันใช่ของบังคับกันได้เหรอ” และเรื่องของ ‘เรา’ ก็จบไปแล้ว “นิวไม่อยากให้จินร้องไห้แล้ว.. หยุดพูดเถอะนะ” มันทำให้เขาเจ็บจนอยากจะร้องไห้ตาม





   พวกเรา..รักกัน




   ไม่ว่าผ่านไปนานกี่ปี พวกเราก็ยังรักกัน





   แต่พวกเราเข้ากันไม่ได้..





   เราปรับตัวให้กันไม่ได้...





   “นิว.. จินพูดจริง ๆ จินไม่สามารถรักผู้ชายคนไหนได้นอกจากนิวอีกแล้ว” จินผละออก เงยหน้าขึ้นสบตา







        “นิว.. นิวเป็นผู้ชายคนเดียวที่จินจะรักนะ”






   และประโยคนั้น.. ทำให้เจ้าของชื่อระบายยิ้มออกมา






   เป็นรอยยิ้มที่ทั้งเจ็บปวด






   เป็นรอยยิ้มที่ทั้งอ่อนโยน





   พร้อม ๆ กับขอบตาที่ร้อนผ่าว








   “แต่ผู้ชายคนเดียวที่จินจะรักคนนี้..” เขากระซิบตอบเสียงเบา “ไม่ใช่คนสุดท้าย.. ที่จะอยู่ในชีวิตจิน”







   สิ้นเสียงของนิว คนที่กำลังจะแต่งงานปล่อยโฮออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ พวกเขากอดกัน ร้องไห้หนักกว่าครั้งที่เลิกกันเสียอีก ท่อนแขนที่เคยอุ่นแสนอุ่นเมื่อสัมผัสกับเย็นชืดจนน่าใจหาย




   มันจบแล้ว..




   .. คำว่า ‘เรา’ จบแล้ว..





   “แค่ครั้งสุดท้าย..” ใครบางคนพึมพำระหว่างอยู่ในอ้อมกอด แหงนหน้ามองแววตาที่ทั้งอบอุ่น และอ่อนโยน แต่แฝงด้วยความเจ็บปวด “แค่ครั้งสุดท้ายได้ไหม..”





   ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงจริง ๆ..





   “ให้จินได้แก้ตัว..”





        ก่อนจะถูกพันธนาการด้วยคำว่าแต่งงาน


   นิวมองอีกฝ่าย ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยหยาดน้ำใส ๆ ออกให้ช้า ๆ สองดวงตาจ้องมองกันไม่ผละออกเสมือนมีแรงดึงดูดให้โน้มหน้าเข้าหากัน แววตาอ้อนวอนและคะนึงหาก้าวข้ามคำว่าผิดถูกไปอีกครั้ง


   เพราะนี่เป็นครั้งสุดท้าย


   ที่จะเห็นแก่ตัวเช่นนี้


   เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้กัน.. จนสัมผัสถึงลมหายใจของกันและกัน


   หลังจากนี้..


   ทุกอย่างจะจบลงจริง ๆ เสียที






TALK :: StraWBerry_imin


แต่งยากมากเลยค่ะ
เพราะไม่เคยเล่าเรื่องราวว่านิวกับจินรักกันมากขนาดไหน การจะสื่อออกมาให้ทุกคนเข้าใจมันยากมาก T____T หากสื่อไม่ดีต้องขอโทษด้วยนะคะ /โค้ง  :sad4:
แฮ่ นิวใจกว้างค่ะ ไม่โกรธไลออน
เดี๋ยวตอนหน้าจะจบพาร์ทของนิวและเรื่องราวทั้งปมทั้งปวงนะคะ

นิวกับจิน สองคนนี้รักกันมากเลยค่ะ
แต่.. แค่เข้ากันไม่ได้ตามที่เกริ่นมาทั้งหมด
อิมอินขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์มากนะคะ ทำให้มีกำลังใจในการแต่งต่อมากเลย และรีไรท์ก่อนลงเว็บตลอด

ส่วนเรื่องรวมเล่ม
รวมแน่นอนค่า
และ.. นี่ครืออออ ภาพประกอบในเล่มค่ะ !! นิวและไลออนเอง >< ระหว่างนี้จะเอาภาพมายั่วน้ำลายกันเรื่อย ๆ นะคะ



ขอบคุณที่ติดตามค่า


********************************************

ฝากผลงานอื่นด้วยนะคะ

เรื่องสั้น
   ► ► ► ► ลูกแมวจนตรอก

   N (P) C


เรื่องยาว
   ◇◆ เพียงเสี้ยวสัมผัส ◆◇



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2018 19:46:35 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
08
The End of my last love.



‘แล้วสัญญากับตัวเองสิ.. ว่าจะไม่ทำแล้ว’

◇◆◇◆◇◆◇◆






ผลั่ก !!!





ถ้อยคำของใครคนหนึ่งก้องอยู่ในหัว ทั้งอ้อมกอด คำสัญญา ใบหน้าที่ช่วยอยู่เคียงข้างกันในวันที่เศร้าใจเวียนกลับคืน สองมือใหญ่ผลักร่างที่เล็กกว่าตัวเองออกจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองอยู่กับพื้น



‘ขอโทษ’ นัยน์ตาสีอ่อนเบิกกว้างกับการกระทำของตัวเอง แววตาความผิดหวังปรากฏบนเสี้ยวใบหน้าของคนรอคอย



‘ทำไม..’ ประโยคของคนที่อยู่บนพื้นพึมพำจนกลายเป็นแหบพร่า เขาเบือนหน้ามองพื้น เม้มริมฝีปากเข้าหากัน ‘เพราะอะไร..’



‘เราจะกลับไปทำผิดแบบเดิมไม่ได้’ เสียงของเขาเหมือนขาดหายไป ‘นิวขอโทษ’


จินมองใบหน้าเขา หลากหลายอารมณ์ หลากหลายความรู้สึกวนเวียนอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น.. กับการเป็นฝ่ายถูกปฏิเสธบ้าง


เหมือนภายในอกถูกบีบแน่น รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง


เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้า แววตาที่ทั้งผิดหวัง ทั้งไม่เข้าใจวนเวียนอยู่ในลูกแก้วสีมืด จนกระทั่งเขาตระหนักได้.. เมื่อถึงประโยคต่อไป


‘นิวจะไม่ทำผิดอีกแล้ว’


เสียงที่สะท้อนอยู่เปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น


‘ไม่ได้จริง ๆ ..’


‘ตอนที่จินปฏิเสธนิว นิวเจ็บแบบนี้ใช่ไหม’ เสียงที่ตอบกลับมาทำให้คนผลักออกนิ่งงัน เขามองอดีตคนรักที่ยกกำปั้นทุบอกซ้าย ‘ใช่ไหม..’


เขารู้ .. ว่าจินกำลังรู้สึกเจ็บกับการที่ได้รับผลตอบรับเช่นนี้ และรู้ว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหนกับการถูกปฏิเสธ


แต่สุดท้ายแล้ว ..


‘เราเลิกติดต่อกัน.. ได้ไหม’ มันเป็นเสียงแกมขอร้องของนิว ‘หลังจากนี้ นิวถือว่าเรื่องพวกเราจบลงตรงนี้ ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก’ ทั้งเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ทั้งความรู้สึกที่ค้างคาในอก..


ให้ทุกอย่างมันพอ


จินไม่ได้ตกลง หรือไม่ได้พูดตอบ แค่เงยหน้ามองด้วยดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา


‘ต่อไปนี้ ถ้าจินแชทมาหา นิวก็จะไม่ตอบอีกแล้ว’ เขาพูดเสียงเนิบช้า แต่กลับหยั่งลึกถึงกลางอกอดีตคนรัก ‘เราจะเลิกติดต่อกัน..’


นิวยิ้มเป็นครั้งสุดท้ายให้กับผู้ชายตรงหน้า


‘และทำในสิ่งที่ควรจะทำเสียที’


..







นัยน์ตาสีอ่อนปรือปรอยขึ้นมาช้า ๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับแสงแดดที่ลอดผ่านตาข่ายผ้าม่านจนทำให้แสบตา อาการมึนหัวตีปรวนขึ้นจนพาลให้วิงเวียนศีรษะ ร่างสูงโงนเงนหยัดกายนั่งอยู่บนเตียงนอน


รอบ ๆ นี้.. คือห้องของนิว


เขาก้มมองฝ่ามือตัวเอง.. คืนนั้น นิว ‘ผลัก’ จินออกไปสุดแรง แม้ริมฝีปากที่ห่างกันเพียงนิดจะไม่ได้รับการแตะต้องเพราะถ้อยคำสัญญากับใครบางคนทำให้สติเขากลับมา


นิว.. จะไม่กลับไปทำผิดอีก


เขาพลาดพลั้งโอกาสสัมผัสครั้งสุดท้ายที่หัวใจร่ำร้องมาตลอดไปนับตั้งแต่ผู้เป็นที่รักออกห่าง ตัดสินใจยับยั้งความรู้สึกตัวเอง เป็นฝ่ายทำให้ทุกอย่างมันจบอย่างที่ควรจะเป็น..


คงไม่มีโอกาสได้กอดมันอีกแล้ว..ตลอดกาลเลย


“นึกว่าจะไปมีเซ็กส์กับมันซะอีก” อีกเสียงเรียกให้นิวหันกลับมา นั่นคือไลออนที่ยืนพิงประตูอยู่ไม่ไกล


คนตัวใหญ่ไม่แปลกใจนักที่ได้เห็นพาร์ทเนอร์ตนเองยืนตรงนั้น ไลออนมีคีย์การ์ดสำรองเก็บติดตัวเอาไว้หลังจากมีเซ็กส์บ่อยกันขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อความสะดวกของพวกเขาทั้งสองทำให้การเข้าออกภายในห้องแต่ละคนไม่ได้ยากเลย


“หน้าตาดูไม่ได้เลยว่ะ..” เสียงติดหวานพึมพำ ก้มมองคนที่ดวงตาบวมช้ำ “เห็นเดินตามกันไป.. นึกว่าจะได้ ‘สัมผัส’ กันครั้งสุดท้ายซะอีก” คนตัวเล็กก้าวเข้ามาหา “แต่ก็ไม่ทำนี่”


“อืม.. เขายอมด้วย ท่าทางนิวจะพลาดไปแล้ว”


“ใช่”


“พลาด.. แล้วให้มันไปแต่งงานแล้ว”


“ใช่ มันจะแต่งงานแล้ว” คนตัวเล็กกว่ายังย้ำ


“อะไรกัน.. จบแล้วเหรอวะ”


“เอาจริง ๆ คู่ของนิวจบตั้งแต่ม.ปลายแล้ว” คำพูดไลออนเรียกรอยยิ้มเจ้าของชื่อได้ แม้ว่ามันจะบิดเบี้ยว แต่ก็เป็นรอยยิ้ม..


ได้แต่บอกตัวเอง ว่าเขาทำดีแล้ว


“ฮะ ๆ ไอ้เหี้ย..” พึมพำเสียงแผ่วพลางรั้งร่างอีกฝ่ายที่เดินมากอดไว้ ซุกใบหน้าลงหน้าท้อง ปล่อยให้หยดน้ำอุ่น ๆ ไหลรินและถูกซับด้วยเสื้อตัวโคร่ง “ไลอ์ นิวอยากร้องไห้”


“ก็ร้องสิ..” พาร์ทเนอร์ของเขาบอก ยกแขนขึ้นโอบกอดอีกฝ่ายไว้ “ไลอ์ปลอบคนไม่เก่งเท่านิวหรอกนะ แต่ไลอ์บอกนิวได้แค่คำเดียว”


“...”


“คำเดิม ๆ ที่บอกตั้งแต่วันก่อน”


“...”


“อยู่นี่”


สองคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ ทำให้ความแข็งแกร่งที่อดทนมาตั้งแต่เมื่อคืนพังทลายลง เขาอดทนมาตลอด อดทนไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าจินให้ได้ เขาอยากจะทำตัวเข้มแข็งเพื่อปกป้องคน ๆ นั้น เพื่อปลอบประโลม ยืนยันว่าไม่เป็นไรที่จะจากกันและแต่งงานไป ให้อีกฝ่ายสามารถเต็มที่ในความรักดั่งคู่สามีภรรยา


แต่ตัวเขาเอง.. ก็อ่อนแอไม่แพ้กัน


นิวกระชับกอดแน่น ปล่อยน้ำตาให้ไหลจนเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของไลออนเปียกจนชุ่ม รับสัมผัสอุ่น ๆ จากฝ่ามือที่ลูบบนศีรษะ ถูกเกลี่ยเส้นผมนุ่มเบา ๆ แล้วกดจูบบริเวณหน้าผากไปอีกรอบ


“ทำตามสัญญาด้วยนี่... เก่งมาก”


“เออ”


ไลออนยิ้มบาง


“รู้เปล่า บางทีก็นึกไม่ออกว่าจะแทนตัวเองยังไงดี มึง กู นิว ไลอ์ ผม คุณ อยากได้แบบไหน” น้ำเสียงกึ่งหยอกล้อของคนหน้าหวานดังขึ้นพร้อมมองคนที่ยังคงมีน้ำตาอยู่ “วันนี้ให้เลือกเลย..”


“มึงกูไปก็ได้” นิวพึมพำ ผละออกช้า ๆ แล้วหลับตาลง ปล่อยให้ปลายนิ้วโป้งของไลออนช่วยปาดคราบน้ำตาให้ “ดูใจ ๆ ดี”


ไลออนหัวเราะ ถามต่อเสียงติดสงสัย


“งั้นงานแต่งมัน มึงจะไปไหม ?”


คนร้องไห้เสร็จสูดลมหายใจเข้าออก


ตอบเสียงแผ่วเบา


“ไป..กับมึง”


“บังคับเหรอ ?”


“...”


คนบังคับไม่ตอบ แต่กลับรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากการแนบริมฝีปากบริเวณหน้าผากแผ่วเบา


เสียงหัวเราะดังอีกครั้ง


“เดี๋ยวไปเลือกชุดด้วยกันนะ”



◇◆◇◆◇◆◇◆





ทุกอย่าง.. ก็ปกติดี..


เหมือนงานแต่งทั่วไป


หากใครเคยไปงานเฉลิมฉลองวันดีเช่นนี้มาก่อนคงรู้ว่ามันช่างแสนวิเศษมากแค่ไหน สายตาคู่ชายหญิงสองคนที่เปี่ยมด้วยความรักยืนตระหง่านแย้มยิ้มให้กันและกันบนเวที นิวได้ข่าวว่าฝ่ายเจ้าสาวมีคนรู้จักค่อนข้างเยอะจึงทำให้ผู้คนล้นหลามภายในงานยิ่งเป็นเครื่องยืนยันความหนักแน่นในสักขีพยานความรัก


ส่วนตัวเขา.. ก็เป็นหนึ่งเสียงของความรักนี้


“จะเข้าไปในงานไหม ?” เสียงไลออนที่ยืนอยู่ข้างกายดังขึ้นด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบัง


“ห่วงกูขนาดนั้นเลยเหรอ” นิวย้อนด้วยรอยยิ้ม


“กูเข้าใจความรู้สึกมึงนี่” เพราะเขาเองก็เคยไปงานแต่งของคนที่ตัวเองรักเหมือนกันนั่นแหละ


“แต่กูไม่ใช่เพื่อนเจ้าบ่าวแบบมึงนะ” ดูสิ ยังมีปากดีอีก


“ขอดีดทีได้ไหม พูดแทงใจดำชะมัด”


“ดีดได้นะ” คนตัวสูงกว่าว่า “แต่ขอด้วยปาก”


เจ้าของใบหน้าสวยขมวดคิ้วแน่น จ้องคนที่หลับตายื่นปากด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะจัดการดีดเพี๊ยะลงหน้าผากแรง ๆ แทนทีนึง


“ไม่อยากแกล้งให้คนแถวนี้ร้องไห้ว่ะ”


“โห ใจร้ายจัง ทีตัวเองร้องไห้เยอะยังไม่ล้อเลย”


เสียงพูดคุยเป็นอันต้องหยุดลงเมื่อพิธีการภายในโบสถ์แห่งนี้เริ่มต้นขึ้นทำให้คนเถียงกับพาร์ทเนอร์ตัวเองหุบยิ้มทันที เขายืนขึ้นเป็นมารยาทตามที่ควร พร้อมประตูของโบสถ์ถูกเปิดออก มีเจ้าบ่าวที่เดินเข้ามาพร้อมกับครอบครัวฝั่งของเขาเองช้า ๆ จนกระทั่งยืนตรงหน้าบาทหลวง..


มันเริ่มแล้วสินะ..


หัวใจของนิวเหมือนถูกโยนลงเหว ความปวดร้าวจนแทบยืนไม่ไหว จินกำลังอยู่ตรงนั้น เบื้องหน้าแท่นสักขีพยานแห่งความรักพร้อมกับบาทหลวงที่ยิ้มให้อยู่..


และแน่นอน..


ว่าอีกฝ่าย.. ไม่แม้แต่มองเขา


ให้ตาย เจ็บชะมัด


ไม่นานเวลาต่อมาเป็นเจ้าสาวที่เดินเข้าตามพร้อมกับครอบครัวฝั่งเจ้าสาว นิวเห็นพวกเขาหันไปมองกัน ตอนทั้งคู่นั้นจ้องตากันเหมือนยิ่งทำให้โลกของนิวเหวี่ยงกว่าเดิมจนแทบยืนไม่อยู่ เจ้าของหัวใจเขายืนอยู่ตรงนั้น.. แต่มันช่างห่างไกลเสียเหลือเกิน เขารู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อมาจุกอยู่ที่ลำคอตนเอง


อยาก.. ร้องไห้เป็นบ้า..


ริมฝีปากหยักศกเม้มเข้าหากัน แววตาปวดร้าวมองคนทั้งสองคนที่จ้องใบหน้ากัน และสุดท้าย.. นิวกลับรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วเมื่อได้เห็นสีหน้าจินที่ยิ้มอยู่แล้วเผยรอยยิ้มกว้างกว่าครั้งใด


รอยยิ้มของจินที่เขารักมาตลอด.. ถูกมอบให้ผู้หญิงที่เจ้าตัวรัก..


รอยยิ้มที่นิวเคยได้รับมาตลอด ตอนนี้มันเปลี่ยนเจ้าของรอยยิ้มโดยสมบูรณ์แบบเสียแล้ว..


เขาไม่อาจจะทำอะไรได้.. นอกซะจากยืนแสดงความยินดีอยู่ตรงนี้..


หมับ


มือของนิวถูกดึงเข้าไปจับเอาไว้โดยคนข้างกาย เขานิ่งงัน สายตาที่มองคู่รักเบนมองเสี้ยวใบหน้าของไลออนที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกยินดียินร้ายอะไร อีกฝ่ายแค่มองตรงไปที่การพูดคำสาบานตน แต่ฝ่ามือกลับออกแรงกระชับปลายนิ้วเขาแน่นกว่าเดิม..


“อยู่นี่”


คำเดิม ๆ


ซ้ำ ๆ


แต่กลับทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น


นิวตัดสินใจเลิกมองภาพนั้นต่อ


ก้มใบหน้าลง บีบฝ่ามือตอบกลับไป..


และวันนี้ เขาคงยิ้มไม่ได้เลย.. ถ้าไม่มีคน ๆ นี้
..



◇◆◇◆◇◆◇◆

“ไงล่ะ”


ไลออนทักชายร่างสูงกว่าที่เดินออกมาด้านนอกก่อน นิวไม่สามารถอยู่จนจบพิธีได้ ตัวของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะยืนแสดงความยินดีอย่างคนทั่วไปแต่โชคยังดีที่มีใครสักคนคอยอยู่ด้วยเช่นนี้


“กูไม่ไหวว่ะ” เขาสารภาพออกมา แหงนหน้ามองฟ้าไม่ให้น้ำตาที่คลอเบ้าอยู่หยดลง “มัน.. แย่กว่าที่กูคิด”


“เออกูรู้ซึ้งเลย”


“มึงทนได้ไงวะ” นิวพูดจากใจจริง “มันเหี้ยมาก..”


“รู้” ไลออนตอบ แต่ก็ต้องเลิกคิ้วเมื่ออีกฝ่ายส่งโทรศัพท์มือถือมาให้ “อะไร ?”


“เป็นอย่างเดียวที่กูจะขอร้องมึง”


“เชื่อกูสิว่าไม่ใช่อย่างเดียวแน่” แม้ยังไม่เข้าใจแต่ก็ตอบกลับไปก่อน “มึงจะทำไร ?”


“ลบให้ที”


“หา ?”


“ลบเบอร์ ลบเฟส ลบไลน์ ลบทุกอย่างที่เกี่ยวกับ..จินให้ที” ประโยคหลังคนที่ยิ้มให้ทั้งน้ำตาดูลังเล นิวไม่ใช้คำว่า ‘มัน’ อีก ซ้ำยังพูดชื่อออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ “ต้องช่วยกูล่ะ”


“ทำไมไม่ลบเองวะ”


“กูทำเองไม่ได้”


“แล้วทำไมต้องลบมัน ?”


ประโยคถัดไปเรียกให้สายตานิววกกลับไปอยู่บนใบหน้าสวยอีกครั้ง อีกฝ่ายเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่แปลกหรอกที่ไลออนจะไม่อยากให้นิวลบ มันเหมือนตัดทุกอย่างออกไปและหนีมัน


แต่..


เขาจำเป็น


“กูอยากลืมมันให้ได้” เสียงทุ้มดังแผ่วเบา เป็นฝ่ายเดินนำออกจากอาณาเขตงานแต่ง “วันนี้กูอาจจะลืมไม่ได้ ก็ยังมีพรุ่งนี้อยู่ พรุ่งนี้กูยังลืมไม่ได้ ก็ยังมีมะรืน มะรืนยังลืมไม่ได้...”


“ก็ยังมีอาทิตย์หน้า” ไลออนเสริม ก้าวเท้าตามให้เดินอยู่เคียงข้างนิว “อาทิตย์หน้าไม่มีก็เดือนหน้า เดือนหน้าไม่มี ก็ปีหน้า หรืออาจจะเป็นอีกสิบ ๆ ปี”


คนถูกขัดหันไปมอง น้ำตาที่กลัดกลั้นไว้เริ่มหายไปแล้ว


 “รู้ดีนะมึง”


 “นี่ใคร ?” เขายักคิ้วกวน “พาร์ทเนอร์มึงนะ”


 “งั้นเย็นนี้มึงอยากกินไร” เริ่มเปลี่ยนคำถามตอนเห็นความกวนประสาทของคู่นอนตัวเอง “เดี๋ยวทำให้”
กึก\

 ปลายเท้านิวชะงักเพราะถูกแรงดึงจากด้านหลัง

 “ไม่อยากกินไรเลย” เสียงหวานพูดเนิบ ๆ “อยากถูกกินมากกว่า”


..
 ทันทีที่จบประโยค
 รอยยิ้มร้ายกาจของคนที่เพิ่งก้าวผ่านเรื่องทุกข์ใจมาได้ก็ปรากฏบนใบหน้าแทน

..
 คงเป็นเพราะไลออนปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ จึงไม่ได้ยินมัน.. ข้อความที่ส่งมาจากเฟสบุ๊ค







 เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : มึง อาทิตย์หน้าว่างปะ
 เจ้าเสือกับลูกสิงห์ : ฝากเลี้ยงลูกกูวันนึงดิ


____________________________________________________________
TALK with Strawberry_imin

ตอนแรกว่าจะอัพอีกสองอาทิตย์หน้าแล้วอัพทีเดียวสามตอนรวด
เปลี่ยนใจใหม่ค่ะ T – T อัพวันนี้แล้วหยุดหนึ่งอาทิตย์นะคะ ขอแพ็กนิยายอีกเรื่องส่งก่อนน้า
ตอนนี้ก็..
ถือว่าจบพาร์ทของนิวโดยสมบูรณ์แล้วค่ะ เหลือแค่เรื่องของไลออนเอง ซึ่งมีประมาณ 2 ตอน และเราจะลงรวดเดียวเลยเพราะไม่อยากให้ค้างกันน้า
และเรื่องนี้จะเปิดจองปลายเดือนมกรานี้ค่ะ และอิมอินอาจหายไปพักผ่อนยาว ๆ กับการแต่งนิยายเรื่องราว ๆ เลย /เปื่อย/ คาดว่าจะเป็นช่วงเปิดจองและโอนคือ ปลายมกราฯ  – ต้นพฤษภา ค่ะ ราคาไม่น่าเกิน 300 ค่า
ภาพจิบิประกอบค่าาาาา
ไลออนและนิววว
ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านมากค่ะ ชอบอ่านคอมเม้นท์ทุกคน T/////T ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ดีแล้วที่มีกันและกันอยู่ตรงนั้นนน
"อยู่นี่" เป็นคำที่วิเศษณ์มากๆอะ จริงๆ
สองคนนี้เคมีเข้ากันสุดๆแล้ว เข้าใจกันและกันน
ชอบที่นิวไม่ทำและนึกถึงไลออน ทำได้แล้วนะ
เดี๋ยวก็ผ่านมันไปได้ นายยังมีไลออนอยู่ข้างๆ!

ต่อไปก็เป็นปัญหาของไลออนแล้วสินะ
ข้อความในเฟซนั้นคือทิ้งระเบิดมากเลย...
 :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
09
Destroyed myself.


หากไม่ดับเปลวเทียนในคราเดียว
ภายภาคหน้า
อาจลุกลามเป็นกองเพลิง

◇◆◇◆◇◆◇◆


   ‘ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูก็จะไม่ทิ้งมึง’


   ประโยคนั้นในความทรงจำยังไม่เคยเลือนหายไป


   ภาพของพวกเราที่นั่งชิงช้าข้างกันในสมัยที่ไลออนรู้สึกกังวลว่าเขาอาจสอบเข้าม.4 ที่เดียวกับไทเกอร์ไม่ติด


   ไทเกอร์น่ะ ทั้งตัวสูงกว่า ใจเย็นกว่า แล้วก็เรียนเก่งกว่าเขา


พวกเราต่างกันลิบลับ


   และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ไทเกอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาเสียแล้ว จะกิน จะนอน จะเล่น ช่วงอนุบาลจนถึงมัธยม ไลออนหาคำว่า ‘ไม่มีไทก์’ ในชีวิตไม่เจอเลย


   ตอนไหนกันหนา.. ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเราสองคน


   ตอนที่พวกเราเริ่มปล่อยมือกัน


   หรือว่า..


   จะเป็นตอนทีผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในชีวิตมึงกัน ไทก์ ?






◇◆◇◆◇◆◇◆
   





   ไม่ต่างจากการเติมน้ำมันหล่อเลี้ยงเปลวเทียนร้อนรุ่มที่กำลังแผดเผาจิตใจ




   “ไม่ซนนะครับน้องสิงห์ พ่อเสือไปแป๊บเดียว เดี๋ยวกลับมาหาน้องสิงห์นะ”



   “น้องสิงห์จะไม่ซน”



   “อย่าดื้อกับพี่เขานะน้องสิงห์”



   “น้องสิงห์จะไม่ดื้อด้วย”



   “เก่งมาก มาให้พ่อกับแม่หอมทีละข้างเลย   


ฟอด
ฟอด



   เจ้าของร่างโปร่งในรถออดี้คันหรูเบือนหน้าหนีภาพครอบครัวแสนสุขสันต์ตรงหน้าที่ฝากฝังลูกชายเพียงคนเดียวกับเขาเป็นระยะเวลา 1 วันเต็มเนื่องจากงานที่ต้องออกนอกจังหวัดของทั้งคู่นั่นเอง



   เมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาไลออนได้รับข้อความขอความช่วยเหลือเรื่องลูกชายตัวเอง แม้ว่าทีแรกเขาจะอยากปฏิเสธ แต่กลับถูกตื้อเสียจนต้องยอม



   ‘ทำไมต้องไลอ์อ่ะ ?’


   ‘เพราะไทก์เชื่อว่าไลอ์ดีที่สุดแล้ว’


   ประโยคง่ายแสนง่ายที่ทำให้ใจอ่อน



   ดวงตาสีน้ำตาลคาราเมลเหลือบมองภาพการร่ำลาลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของครอบครัว ทั้งไทเกอร์และล้อมรักดูกังวล ย้ำหลายครั้งกับลูกชายว่าอย่าดื้ออย่าซนและขอความกรุณาพวกเขาทั้งสองในการดูแลอีกสามสี่รอบ



   เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว ทั้งคู่มอบจูบข้างแก้มให้กันและกันคนละที



   ไลออนรู้สึกเหมือนตัวชาไปถึงปลายนิ้ว แต่กลับไม่สามารถเขยื้อนตัวหนีภาพนั้นไปได้ สีหน้าแสนมีความสุขของไทเกอร์เมื่ออยู่กับล้อมรักและลูกชายทำให้หัวใจบอบช้ำ ร่ำร้องอย่างคนอิจฉา



   เปลวเทียนในใจแผดเผาประกายร้อนวูบ



   ปลายเล็บคมเผลอกำแน่นจิกฝ่ามือตัวเองจนสั่นคลอน ทั้งผู้หญิงคนนั้น ทั้งเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดนั้น



   เขาเกลียด



   อยากทำให้แตกสลาย



   แต่แล้วภาพทุกอย่างก็ดำมืดลงจากความร้อนของฝ่ามือที่เข้ามาแนบชิดบริเวณดวงตา



   รวมถึงความคิดเขา



   มันหายไปในตอนนี้



   แต่ยังคงมีอยู่



   ไม่ต่างจากเปลวเทียนที่หรี่ลง



   “เป็นไปได้.. อย่ามองดีกว่านะ”




    ทว่าไม่รู้ว่าเมื่อใดจะถูกจุดขึ้นมาอีก

















◇◆◇◆◇◆◇◆








 
   วันนี้คือวันที่แตกต่างจากทุกวัน



   ภายในห้องใหญ่ของนิวมีเด็กอีกคนกำลังนั่งมองอาหารบนโต๊ะตาประกาย น้องสิงห์เป็นเด็กตัวเล็กกว่าปกติ ผิวขาวสะอาดสะอ้านเหมือนคุณพ่อไทเกอร์ แต่ใบหน้าหวานน่าเอ็นดูอย่างคุณแม่ล้อมรัก



   เป็นดั่ง..ผลผลิตอันงดงามของสองคนนั้น



   ไลออนก้มหน้ามองจานข้าวระหว่างรอนิวที่วุ่นในครับ เขาไม่ค่อยคุยกับน้องสิงห์เท่าไหร่นักแม้ว่าเด็กวัยกำลังคุยจะพูดจ้อไม่หยุดก็ตาม



   เขาเกลียดเด็กคนนั้น..



   และเกลียดที่ต้องมาเลี้ยงดูเช่นนี้



   “น้าไลอ์..”



   เสียงเล็ก ๆ เรียกให้นัยน์ตาเฉยชาตวัดมองใบหน้าอ่อนเยาว์ ความใสซื่อบริสุทธิ์ยิ่งสะท้อนออกมามากเท่าไหร่ยิ่งตอกย้ำความเลวร้ายในหัวของเขามากขึ้นเท่านั้น ทวีคูณความหงุดหงิดคล้ายสาดน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง



   “น้าไลอ์กินช็อกโกแลตของแม่รักรึยังครับ ?” สิงห์พูดชัดกว่าครั้งก่อนที่เจอกัน แต่ไม่ได้ทำให้คนคุยด้วยรู้สึกยินดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับคำถามนั่น “น้องสิงห์ชอบช็อกโกแลต”



   “อืม” เขาตอบในลำคอ เปลี่ยนสายตาเป็นมองทางครัวว่าเมื่อใดกันที่พาร์ทเนอร์ตัวเองจะทำอาหารเสร็จ



   “ตอนนั้นนะ ตอนนั้นน้องสิงห์ไปเที่ยวกับแม่รักแล้วก็พ่อเสือ” เด็กตัวเล็กเจื้อยแจ้วไม่หยุด “น้องสิงห์ขอแม่รักซื้ออมยิ้ม แต่แม่รักไม่ยอมซื้ออมยิ้มให้”



   “..”



   “น้องสิงห์เลยขอพ่อเสือแทน”



   อา..



   หงุดหงิด..



   จะพูดอะไรนักหนา



   แล้วถ้าพูด ทำไมต้องพูดเรื่องของสองคนนี้



   “พ่อเสือก็เลยขอแม่รักให้น้องสิงห์”



   ทำไมต้องพูดชื่อของผู้หญิงคนนั้นด้วย..



   จะทนไม่ไหวแล้ว..



   “แล้วพ่อเสือบอกน้องสิงห์ว่า พ่อเสือมีเวทมนตร์ให้แม่รักยอมด้วย” คราวนี้คนเป็นเด็กหัวเราะคิกคัก “พ่อเสือก็จุ๊บแก้มแม่รักไปทีนึง.. แม่รักเลยยอมซื้อช็อกโกแลตให้พ่อเสือ แต่ไม่ยอมซื้ออมยิ้มให้น้องสิงห์ แล้วพ่อเสือก็เอาช็อกโกแลตมาให้น้าไลอ์”



   เด็กน้อยเป็นดุจดั่งผ้าขาว.. บอกเล่าประสบการณ์ที่ตัวเองเผชิญมาเพื่อชวนคุย ประโยคไร้เดียงสาถูกถ่ายทอดผ่านริมฝีปากสีชมพูจิ้มลิ้มไม่หยุด



   แต่นั่นยิ่งทำให้รำคาญ



   และหงุดหงิด



   “หุบปาก...”



   “คุยอะไรกันอยู่น่ะ หืม ?”



   คำพูดของไลออนถูกแทรกด้วยผู้มาใหม่ที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมผัดบล็อคโคลี่ท่วมชามส่งกลิ่นหอมอบอวลในอากาศ



นิววางชามลงบนโต๊ะ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ส่วนน้องสิงห์ทำตาโตกับผักสีเขียว



   “น้านิวทำผัดอะไรเหรอครับ ? หน้าตาประหลาดจัง”



   “น้าทำผัดบล็อกโคลี่ น้องสิงห์เคยกินบล็อกโคลี่ไหมครับ ?” เห็นคนเด็กสุดยกส้อมเขี่ย ๆ ผักทรงแอ็ฟโฟรด้วยสีหน้างุนงง “ไม่ชอบเหรอ ?”



   ไม่ทันจะได้ตอบกลับมีเสียงกระแทกดังขึ้น



“ไม่ชอบก็ไม่ต้องกิน”



   “ไลอ์....” นิวเอ่ยเสียงอ่อน เหมือนการตักเตือนเป็นกราย ๆ ทำให้เจ้าของชื่อร้องหึในลำคอ ก้มหน้าตักข้าวทานส่วนของเขาแทนสร้างความสงสัยให้เด็กน้อยกว่าเก่า



   “??”



   “แต่เมื่อกี้คุยอะไรกันอยู่น่ะ ให้น้ารู้เรื่องด้วยได้ไหม ?” คนทำอาหารยังคงพูดเสียงนุ่ม หย่อนตัวลงเก้าอี้และตักผักบล็อคโคลี่ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตามด้วยวางลงบนจานของน้องสิงห์ “น้าอยากมีส่วนร่วมด้วยจัง”



   “คุยเรื่องช็อกโกแลต !” เด็กตัวน้อยกระตือรือร้นพูด “ก็แม่รักกับพ่อเสือซื้...”



   จากนั้น..



   ก็เป็นเสียงการเล่าประโยคเดิม ๆ



   เล่าทุกอย่างที่ตัวเองเคยเจอมาเหมือนเด็กวัยฝึกพูดสร้างความรำคาญให้กับไลออนเข้าไปทุกที ยิ่งได้รับรู้ถึงความรักที่ชายหญิงคู่นั้นมีให้กัน ยิ่งเพิ่มโทสะและความเกลียดชังของเขาให้มากกว่าเก่า



   อุตส่าห์เลือกออกห่าง.. เพื่อจะไม่รู้ว่าสองคนนั้นรักกันมากแค่ไหนแล้วแท้ ๆ



   แต่ทำไม ถึงคอยเติมน้ำมันในเปลวเทียนตลอดเลยนะ



ครืด



   เสียงลุกจากเก้าอี้ขัดจังหวะการพูดคุยของพวกเขาทั้งสองคน ไลออนไม่มีแม้จะส่วนร่วม



แต่เอาเข้าจริงตัวเขาก็ไม่ต้องการส่วนร่วมพวกนั้นเท่าไหร่ แค่อยากจะลุกออกจากโต๊ะอาหารนี้ไปเพื่อลบความอึดอัดก็พอ



   นิวแหงนคอมองเขาพร้อมกับเด็กตัวเล็ก



   “น้าไลอ์.. อิ่มแล้วเหรอ..”



   อีกแล้ว..



   ประโยคใสซื่อแบบนั้นอีกแล้ว..



   นั่นแหละ เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเกลียดชังมากขึ้น



   ไลออนไม่แม้แต่จะตอบคำถาม แค่มองตาขวาง คว้าจานไปล้างโดยไม่สนใจคำพูดใด ๆ ของใครอีกเป็นครั้งที่สอง



   เขารู้ว่าตัวเองกำลังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ขาดสติควบคุม



   สายตาเหลือบมองภาพคนสองคนคุยกันในห้องครัวผ่านบานกระจกใสระหว่างล้างจาน ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอีกครั้ง



   หากนั่นคือผลลัพธ์ของความรัก



   ..








   เขาก็อยากจะทำลายมันจนยับเยิน







◇◆◇◆◇◆◇◆







   นิวรู้สึกไม่สบายใจเลย..




   เป็นความรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่มีอยู่ เขาจึงไม่ยอมให้น้องสิงห์คลาดสายตาตัวเอง ทั้งที่จริงตัวเขาก็ไม่ได้ชอบเด็กอะไรมากนักแต่เพราะความเป็นห่วงล้วน ๆ บวกกับที่ไลออนเคยพูดไว้..



   ‘มึงเกลียดน้องเขาเหรอ ? ‘



   ‘ใช่’



   ‘มึงพาลอยู่นะ ไอ้กรดเคยบอกแล้วว่าอย่าพาลหนิ’



   ‘ใช่’



   ‘..มึง นั่นเด็กนะ’



   ‘ก็ใช่อีก’



   ‘...’



   ‘แต่กูอยากให้เด็กนั่นหายไปว่ะ..’



ไลออนตอนนั้นพูดเสียงเบา ‘ถ้ากูอยู่แค่สองคนกับน้องเขาคงไม่ไหวแน่ ๆ’



   ‘....’ เออ นิวก็พอเดาออก




   ‘มึงมาช่วยกูเลี้ยงน้องเหอะ’




..









   ทางนี้เองก็ปฏิเสธได้ที่ไหนกันล่ะ




   เพราะเหตุนี้เขาจึงไปกับไลออนและช่วยเลี้ยงอีกแรงด้วย ถ้าปล่อยให้อยู่คนเดียวมีหวังเจ้าตัวสติฟุ้งซ่านแน่ ๆ




   เด็ก.. เองก็ซื่อแสนซื่อ อยู่ในวัยกำลังพูด เล่าเรื่องประสบการณ์ที่ตัวเองผ่านมาให้ฟัง แต่ทุกครั้งที่พูดยิ่งเหมือนเครื่องตอกย้ำจิตใจของคนแอบหลงรักอย่างไลออน..




   น่าสงสาร..




   ไม่รู้จะสงสารใคร เด็กหรือไลออนดี..



   
   เขาแค่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่เผลอทำอะไรบ้า ๆ ไปเท่านั้น..




   “น้านิว..” เสียงหงอย ๆ ของคนที่เพิ่งกินข้าวเสร็จดังขึ้นอีกครั้ง “น้าไลอ์เกลียดสิงห์เหรอ..”




   “ไม่หรอก” ชายหนุ่มตอบ เอื้อมมือไปลูบเรือนผมนิ่มอีกรอบ โชคดีนักที่เขารู้จักวิธีเข้าหาเด็ก และน้องสิงห์ก็ถือว่าเป็นเด็กไม่ดื้อเลยด้วยจึงทำให้คุยง่ายขึ้นไปอีก “น้าไลอ์เขาแค่เครียด”



   “น้าไลอ์เครียดอะไร” ยังถามต่อเสียงสงสัย “น้าไลอ์เครียดที่น้องสิงห์มาอยู่ที่นี่เหรอ”



   “เปล่าครับ น้าไลอ์เครียดเรื่องงาน” นิวพูดยิ้ม ๆ “เอาจานไปเก็บกันนะ”



   “อื้อ !”



   ผู้ชายตัวใหญ่และตัวเล็กเดินไปเก็บชามไว้ในเครื่องล้างจาน ก่อนจะมีเสียงใส ๆ ถามมาอีกครั้ง



   “ถ้าสิงห์ทำของขวัญให้น้าไลอ์ น้าไลอ์จะหายเครียดไหมครับ น้านิว?”



   ของขวัญ ?



   เด็กตัวแค่นี้ทำไมถึงพูดเก่งจังนะ



   “น้องสิงห์จะทำอะไรล่ะครับ ?” ก็ดีเหมือนกัน มันอาจจะเป็นวิธีช่วยให้ไลออนอ่อนลงกับเด็กคนนี้ก็ได้
   คนอายุน้อยทำหน้าตาครุ่นคิด ตอบเสียงดังฉะฉาน



   “น้องสิงห์ทำได้หลายอย่างเลย วาดรูปก็ได้ พับกระดาษก็ได้ แล้วก็ร้อยพวงมาลัยก็ได้” เริ่มสงสัยแล้วว่าที่บ้านไทเกอร์สอนลูกยังไงนะ “แต่น้องสิงห์อยากพับกระดาษให้น้าไลอ์”



   “ทำไมต้องพับกระดาษล่ะครับ ?”



   เด็กตัวเล็กหันมายิ้มให้



   “เพราะพ่อเสือสอนให้น้องสิงห์พับกระดาษครับ” เขาพูด “และพ่อเสือบอกว่า.. ถ้าอยากให้น้าไลอ์อารมณ์ดี จะต้องพับกระดาษรูปสิงโตให้น้าไลอ์”



   นิวขมวดคิ้วอย่างสงสัย



   กระดาษรูปสิงโต ?



   หรือมันเป็นโค้ดลับอะไรบางอย่างกันนะ




   “อยากได้อย่างอื่นนอกจากกระดาษไหม ?”



   “สิงห์อยากได้สีด้วย.. เอาสีด้วยนะ”



   “อืม.. งั้นเดี๋ยวน้านิวจะไปหยิบสีให้นะ น้องสิงห์รอตรงโน้น” คนฟังเพยิดหน้าไปทางกลางห้องรับแขกโล่ง ๆ ที่พอจะมีพื้นที่ ‘พับกระดาษ’ ให้เด็กได้ “กระดาษตรงที่อยู่ใต้ชั้นนั้นใช้ได้เลยนะ โอเคไหมครับ ?”



   “โอเคครับ !”



   นิวมองร่างเล็กเดินไปตามที่บอกอย่างว่าง่ายสร้างรอยยิ้มให้คนมองทันที น้องสิงห์ไม่ใช่เด็กดื้อเลยด้วยซ้ำ เข้าข่ายนอนสอนง่าย ตอนนั้นที่เห็นไลออนช่วงบ้านฝากเลี้ยงเด็กคงเรียกได้ว่าตกใจกลัวกับสีหน้าพวกนั้นแน่ ๆ..



   ว่าแต่..



   ไลออนหายไปไหนนะ ?





   เขาฉุดคิดขึ้นมาได้ อีกฝ่ายหายตัวไปหลังจากมื้อกลางวัน เดาจากสีหน้าไม่สบอารมณ์ที่จะต้องอยู่ร่วมบ้านกับลูกของคนที่ตัวเองเคยรักเท่าไหร่เป็นแน่ ยิ่งสายตาที่มองมาทางร่างเล็ก ๆ นั่นยิ่งเหมือนจะเฉือนเนื้อให้ได้ทุกที..






   ราวกับว่า.. เกลียดกันจนไม่อยากให้อยู่บนโลกนี้..







   แต่เดี๋ยวนะ ..





   คาวามคิดเขาหยุดลงเมื่อหยิบปึกกระดาษและกล่องสี คำว่าไม่อยากให้อยู่บนโลกนี้ทำให้ฉุดคิดอะไรหลาย ๆ อย่างได้ ทั้งความทรงจำมากมาย ถ้อยคำเก่า ๆ ที่เจ้าตัวเคยพูดในวันที่ได้ดื่มเหล้าด้วยกันก็ตาม




   ตอนนั้น..




   ‘ไลอ์อิจฉา’




   ‘อิจฉา จนบางครั้งคิดว่ากำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว ถ้าไลอ์อยู่กับเด็กคนนั้นแค่สองคน.. ไลอ์อาจจะพลั้งมือ..’




   ตอนนั้นก็ด้วย




   ‘กูอยากให้เด็กนั่นหายไปว่ะ’




   ‘ไม่อยากนึกถึงหน้าของเด็กคนนั้น..’





   ‘อยากให้ .. มันหายไปทั้งหมด’





..






   ปลายนิ้วของเขาเย็นเฉียบ..




   อยากให้.. หายไปทั้งหมด..




   เจ้าของร่างสูงหันกลับไปทางทิศเดิม น้องสิงห์ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ก้มหน้าก้มตาพับกระดาษที่มีไม่กี่แผ่นอย่างใจจนใจจ่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างว่าเกิดสิ่งใด




   เหมือนที่ไม่สนใจ.. ว่ามีใครบางคนจากชั้นสองของห้องยืนอยู่..



   เขาเบิกตากว้าง ร่างของคนที่หายไปตลอดเวลาหลังทางข้าวกลางวันเสร็จยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าราบเรียบไม่ได้แสดงออกสิ่งใด เหลือแค่ดวงตาที่ต้องมองมาทางเด็กคนนั้น..



   มันดูเรียบเฉย



   เต็มไปด้วยความเย็นชาผิดจากคนที่เคยรู้จักกัน


   และนั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด



   หัวใจคนมองร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แจกันใบหนึ่งที่ควรประดับไว้หน้าห้องอยู่ในมือของไลออน



   ความเกลียด



   ความโกรธ


   การสูญเสียที่ถูกเก็บกดมาหลายปีครอบงำผู้ชายคนนั้นให้หน้ามืดตามัว จมอยู่กับความเจ็บปวด และต้องการจะระบายความเสียใจ


   โดยเป็นแค่อารมณ์เพียงชั่ววูบที่เกิดขึ้น


   วินาทีนั้น นิววิ่งเข้าไปอย่างไม่คิดเมื่อแจกันถูกยกขึ้นสูงเหนือหัว


   ปล่อยปึกกระดาษในมือปลิวว่อนเต็มห้อง


   ..


   เด็กที่แสนบริสุทธิ์ไม่ควรจะได้รับผลเช่นนี้


   ไม่สิ


   ‘ไม่มีใคร’ ควรจะได้รับสิ่งเหล่านี้


   ไม่มีใครสมควรจะเจ็บหรือถูกทำร้ายทั้งนั้น..


   ..


   ไม่มีใคร .. สมควรตายเพราะน้ำมือของคนอีกคน



   “สิงห์ !!”




   เสียงตะโกนลั่นทำให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่หันกลับไปมองนิว เขาพุ่งตัวไปสุดกำลัง พยายามวิ่งสุดแรง สุดความสามารถ อย่างน้อยก็ขอคว้ามือและปกป้องเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งไม่ให้เป็นอันตรายกับความขาดสติของผู้ชายคนนั้น



   แต่..




   ระยะทางมันไกลเกินไป



   เขา.. เอื้อมมือไปไม่ถึง



   ไม่แม้แต่จะเข้าไปใกล้เด็กที่มองมาด้วยความงุนงง



   ..





   เมื่อทุกอย่าง.. มันสายเกินไป






   ..










   เพล้ง !!!!








TALK ::
   ค้างเนอะ
   ค้างหน่อย ๆ
   อ่านตอนต่อไปได้เลยฮับ !


ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
10
Say sorry and Thank you to myself.


กาลครั้งหนึ่ง
พวกเราเคยอยู่ด้วยกัน

◇◆◇◆◇◆◇◆
   



   เรามักจะเป็นตัวตบมุกให้กันเสมอ



   “เนี่ยมึง ไอ้กรดกับไอ้นัยอ่ะ มันโดนลงโทษผ้าผูกมือกันเว้ย” เสียงซุบซิบของไทเกอร์ดังข้างหูคนตัวเล็กกว่าที่เผยสีหน้าติดงุนงง แล้วทำตาโตตาม



   “จริงดิ ? มีแผนชั่วไร”



   “พอมันมานะ เดี๋ยวเราแกล้งมัน” สีหน้าซน ๆ ปรากฏขึ้นอีกทอด “เดี๋ยวกูเริ่ม แล้วมึงตาม โอเคปะ ?”



   “จัดไป” ไลออนดีดนิ้ว หัวเราะร่วนแล้วหันไปหาเพื่อนคนอื่น ๆ “เฮ้ย ๆพวกมึง อย่าลืมนะเว้ย หน่วยเสริม”


   “ไอ้นัยไอ้กรดมาแล้ว !”


   “เริ่มเลยมึง”


   เมื่อร่างของชายตัวเล็กผิวขาวกับหนุ่มผิวแทนเดินเข้ามาในห้องทันใด ก็ตามด้วยเสียงโฮ่ฮิ้วร้องกัน


   “โอ๊ะ โอ้ะ โอ๋ ! คุณชายสองคนกลับมาแล้วครับ แหม ไปทำอะไรกันมาเนี่ย เนื้อตัวเปียกเชียว !” ใครสักคนในนั้นเริ่มให้ ไทเกอร์รีบเข้ามาแทรกตามนัดทันที


   “ดูนั่นสิ ! ทุกคนเห็นนั่นไหม เนี่ย ผ้าผูกมือติดกันเชียวนะ” ว่าจบแล้วไลออนเองก็ลุกขึ้นอย่างรู้หน้าที่ ยิ้มกว้าง พูดด้วยสีหน้าที่แรดสุดเท่าที่จะทำได้


   “อ้าว นี่ไทก์ไม่รู้เหรอว่าเอาผ้าไปทำอะไรน่ะ ?”


   “เอาไปทำอะไรเหรอไลอ์ ?”


   “ก็เพื่อพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างไงล่ะ !”


   “ฮิ้วว !”






   ช่วงเวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกัน





   มันสนุกมากจริง ๆ






   ไม่ว่าจะเป็นการได้หยอกล้อกัน แกล้งชาวบ้าน วางแผนคอยทำงานห้องด้วยกันมันเหมือนเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับไลออน





   มีค่า.. จนไม่อาจลืมเลือนได้แม้แต่ครั้งเดียว






   “มึงอยากไปดูดาวไหมวะไลอ์” เสียงซุกซนของเพื่อนสนิทตัวเองเรียกให้ไลออนหันไปมองด้วยสีหน้างุนงง พวกเขามาเข้าค่ายกระชับมิตรกับน้อง ๆ และเป็นหนึ่งในสภานักเรียนจึงได้รับหน้าที่ช่วยตรวจว่าเต้นท์ไหนยังไม่ยอมนอน แต่จู่ ๆ ไทเกอร์ที่จริงจังกับงานดันเอ่ยขึ้นมาเช่นนี้เสียได้




   “จะโดดงานไปดูดาวเหรอวะ ?”




   “ไม่ต้องโดดหรอก” มันหัวเราะ เดินเข้ามาเอามือพาดรอบลำคอแล้วชี้ไปบนฟ้า “เงยหน้าดิ”



   เขาทำตามที่บอก ดวงตากลมเบิกกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นดาวนับพันเต็มฟ้า




   “เชี่ย.. สวยว่ะ ยอดเลย” ไลออนพึมพำ ความมืดมิดจากท้องฟ้ามีแสงดาวที่สะท้อนลงมา แม้มันจะน้อยนิด แต่กลับช่วยขับความงดงามยามค่ำคืนให้ตราตรึงจิตใจได้




   คนเป็นเพื่อนสนิทมานานหัวเราะ




   “เนี่ย ต่างจังหวัดก็แบบนี้แหละ ลองกรุงเทพ ฯ ดิ อดเห็นแน่” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม “สวยเนอะ”




   เขาพยักหน้าหงึก




   “สวย..”




   “เหมือนมึงอะ”




   “ห๊ะ ?” ใบหน้าร้อนวูบกับคำชมที่ไม่ทันตั้งตัว “ไรวะ”




   “มึงก็สวย รู้ตัวใช่ไหมวะว่าสวยกว่าผู้ชายทั่วไป” ยิ่งฟังคำพูดนั่นยิ่งทำอะไรไม่ถูก แขนที่กอดรอบลำคอเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม ไทเกอร์ยังยิ้มให้ ยกมืออีกข้างยีเรือนผมนุ่ม “ในหมู่ผู้ชายทั้งโรงเรียนนี้ สำหรับกู กูยกให้มึงที่หนึ่งเว้ย”




   “ไม่สนใจแบบไอ้นิวหรือไง ตัวเล็กกว่ากู หน้าหวานด้วย”




   “อันนั้นเรียกน่ารัก แต่อย่างมึงอ่ะเรียกสวย” เขายังพูดต่อ จับยีแก้มคนตัวเล็กกว่าแรง ๆ ไปสักที “เก็บตูดมึงไว้ดี ๆ อย่าให้ใครง่าย ๆ !”




   “โอ๊ย ไม่คิดเหรอว่ากูจะมีเมียอ่ะ”




   ไทเกอร์หัวเราะร่วน




   “ไม่คิด” มันแกล้งสบตาเขา พูดด้วยเสียงหยอกล้อ “ถ้ามีผัว  ทุกคนต้องคิดว่าเป็นกูแน่นอน”




   เขามองใบหน้าอีกฝ่ายต่อ ปล่อยให้ความเงียบงันเข้าครอบงำแค่วินาทีเดียว แล้วกลับมาเปล่งเสียงหัวเราะ




   “กูก็ว่างั้นอ่ะ”





   ริมฝีปากหยักแย้มยิ้มช้า ๆ ดันฝ่ามือออกจากการกอดคอแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า




   “เวลานี่ผ่านไปเร็วนะไลอ์”




   “หือ ?” เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว จู่ ๆ ไทเกอร์เปลี่ยนคำแทนตัวอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียงอีกแล้ว แต่ก็นั่นแหละ ไลออนก็พอชินอยู่เลยไม่ได้ว่าอะไร มันมักจะทำเช่นนี้เวลาอยากพูดอะไรมุ้งมิ้ง




   “เร็วมากอ่ะ จำได้เลยว่าตอนนั้นไทก์ยังกังวลเพราะไลอ์งอนอยู่เลย”




   “งอนไรวะ ?” คนโดนกล่าวหาทำหน้างง




   “งอนเพราะไทก์ไปเตะบอล แล้วลืมนัดไลอ์ไง”




   คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันทีทันใด




   “นั่นมันเรื่องเมื่อกี่สิบปีวะ !”




   “ตอนนั้นไทก์โคตรตกใจอ่ะ ลืมเวลาไปได้ไงไม่รู้ คิดแน่ ๆ ว่าไลอ์ต้องงอนเลยพับสิงโตไปให้ ยังเก็บไว้อยู่ไหม ?”




   เก็บสิ




   เขาคิดในใจเท่านั้นแหละ แต่ไม่ตอบอะไรต่อ




   “แต่อย่างไลอ์นะ ไม่มีวันทิ้งของที่ไทก์ให้หรอก” เอ้า งั้นจะถามทำไม




   “รู้นี่นา” ไลออนยิ้ม ๆ มอง “ไม่ทิ้งหรอก กระดาษพับนั่นน่ะ”




   คนฟังหัวเราะอีกครั้ง




   “มีไรจะบอก”




   “อะไรอีกล่ะไทก์”





   เจ้าของชื่อแค่หัวเราะ เดินไปข้างหน้า แล้วหันมามองด้วยแววตาติดจริงจัง





   “สำหรับไทก์น่ะ ไลอ์คือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตแล้วนะ” แต่ละประโยคไม่ต่างจากสิ่งที่ทำให้หัวใจกระตุกวูบ “พี่เสือรักน้องสิงโตมาก รักสุด ๆ รักมากที่สุดแบบที่เพื่อนพอให้กันได้เลย”




   คนฟังอย่างเขาก็ทำได้เช่นเดิม



   คือการยิ้ม




   แล้วเดินเข้าไปหา ยกแขนขึ้นกอดคอกันแทน




   “น้องสิงโตก็รักพี่เสือเหมือนกัน” ตอบกลับเสียงแผ่ว เขาพูดคำว่ารักได้ แม้จะคนละฐานะที่อีกฝ่ายมอบให้ก็ตาม




   “อยากให้รู้นะ ว่าไทก์รักไลอ์มาก ๆ” ไทเกอร์พูด มองคนตัวเล็กกว่า แล้วกดจูบบนหน้าผากอย่างไม่นึกรังเกียจ และมันคือสิ่งที่ทำกันประจำจนเคยชินแล้ว “แต่ไทก์อยากให้ไลอ์มีความสุขได้.. โดยไม่มีไทก์”




   “.. อะไรนะ ?”




   “หมายถึง อนาคต พอโตขึ้นไทก์ก็จะต้องแต่งงาน มีลูก ไลอ์เองก็เหมือนกัน เราต่างคนต่างแยกกันอยู่ มีครอบครัวของตัวเอง อยู่ด้วยกันตลอดไปเหมือนตอนนี้คนยาก”  เสียงนั้นยิ่งเหมือนคำตอกย้ำคนฟัง “แต่จำไว้เลยนะไลอ์ ว่าไทก์หวังตลอด... ว่าเพื่อนรักมากที่สุดคนนี้ของไทก์คนนี้จะมีความสุข”





   ตอกย้ำคำว่าเพื่อนในจิตใจคนฟังเหลือเกิน




   ตัวเขาตอนนั้นได้แต่ยิ้มให้





   ไทเกอร์รักเขาอย่างใจจริง.. อยู่ในขอบเขตฐานะเพื่อน




   ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ..





   “แล้วไทก์เองก็อยากมีลูกด้วย” อีกฝ่ายยังคงพูดต่อ เป็นประโยคแผ่วเบา “อยากเลี้ยงเด็ก อยากเห็นเขาเติบโต ..”




   “...”




   “และเด็กคนนั้นน่ะ .. จะเป็นหัวใจดวงน้อย ๆ ของไทก์เลยล่ะ ไลอ์”




   ตอนนั้น ไทเกอร์หันมายิ้มให้เขา




   เสียงของมันเบา




   แต่จริงจัง





   “ไลอ์เองก็รักไทก์ใช่ไหม ถ้าไลอ์รักไทก์ ไลอ์ก็คงจะรักหัวใจไทก์ด้วย”




   “...”





   “อย่าลืมรักเด็กคนนั้นด้วยนะ”




   มันเป็นแค่คำทิ้งท้ายตอนนั้นที่ไลออนเคยสงสัยว่าอีกฝ่ายพูดออกมาเพื่ออะไร ตัวเขาจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรต่อ มันผ่านมาเนิ่นนานแล้ว แต่สิ่งที่รับรู้มีเพียงแค่สามข้อหลัก ๆ




   หนึ่ง .. ไทก์บอกว่ารักเขาในฐานะเพื่อน และหวังว่าเขาจะมีความสุขได้โดยไม่มีมัน




   สอง .. ไทก์บอกว่าลูกชายของตัวเองจะกลายเป็นหัวใจดวงน้อย ๆ




   และสาม..






   ไทก์ขอ ..





   ให้รักเด็กคนนั้นด้วย




   …







◇◆◇◆◇◆◇◆














ผัวะ !!



   เสียงกำปั้นกระแทกเข้าที่แก้มข้างหนึ่งจนทำให้ตัวคนยืนอยู่ล้มไปกองกับพื้นอีกทาง ความเจ็บปวดและรสชาติฝาดของเลือดในโพรงปากเรียกสติไลออนให้กลับมา




   สิ่งแรกที่เห็น คือใบหน้านิวที่เต็มไปด้วยความโกรธ



   “มึงทำเหี้ยอะไรของมึง !!”



   คนฟังได้แต่นั่งนิ่ง หัวไหล่บางถูกคว้าเข้าไปเขย่าแรง เขาไม่ได้ตอบ เพียงแค่ไล่สายตามองรอบ ๆ เท่านั้น




   ความดำมืดในจิตใจเริ่มจางหายเมื่อเห็นเศษซากของมัน




   แจกัน..




   คำนี้ปรากฏในหัว ทั้งกายพาลสั่นระริก ดวงตาเบิกโพลง




   “กะ กู .. กู” เสียงสั่นเครือเปล่งออกมาจากริมฝีปากที่เริ่มเปลี่ยนเป็นความซีดเผือกเพราะตกใจ ทั้งกายพาลเย็นเฉียบ ความเจ็บปวดข้างแก้มเหมือนเรียกสติให้กลับมา “กู .. กูฆ่า..มันไปแล้วเหรอ ..”




   “มึงฟังกู อย่าเพิ่งพูดอะไร”




   ไลออนสะบัดตัวออก




   เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น




   “ไลอ์..”




   “กูฆ่ามันไปแล้ว !! กูฆ่าลูกไทก์ไปแล้ว !!” คนตัวเล็กแทบกรีดร้อง ปัดป่ายฝ่ามือที่ยื่นเข้ามาหา ถดตัวถอยไม่ต่างจากคนเสียสติ “กูฆ่าไปแล้ว.. กูฆ่าลูกมันไปแล้ว”




   “ไลอ์.. ไลออน ฟังนิวก่อน ใจเย็น ๆ สิ ฟังนิวก่อน”




   “หุบปาก !!”




   “ไลอ์ นิวบอกให้ฟังก่อน ”




   เจ้าของชื่อไม่ได้ฟัง เขาส่ายหัวพรืด ทรุดตัวถอยจนกระทั่งฝ่ามือวางลงบริเวณเศษแจกันที่แหลกละเอียด เลือดสีแดงฉานซิบตามรอยบาด




   “กูฆ่ามันไปแล้ว.. กูทำลายหัวใจของไทก์ไปแล้ว..” เพียงแค่พูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ ซาก ๆ ออกมา “ฆ่าไปแล้ว.. กูทำลายไปแล้ว..”




   “ฟังนะ ไลอ์ ไลอ์ไม่ได้ฆ่าเด็กคนนั้น ไลอ์เขวี้ยงแจกันไปอีกทางข้าง ๆ ตัวไลอ์” เขายังคงพยายามใจเย็นกับร่างที่สั่นระริก “ตอนนี้ไลอ์ก็เหยียบเศษแจกันอยู่ไง ถ้าไม่ออกมาจะเป็นแผลหนักกว่าเดิมนะ”




   นัยน์ตาสีอ่อนลอกแล่ก เหลือบมองเศษที่กระจัดกระจายใต้ฝ่าเท้า สลับกับคนที่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาหา






   “ไม่มีใครเป็นอะไรเพราะไลอ์เลยนะ .. ทุกคนปลอดภัยดี” นิวพูดเสียงนุ่ม อ่อนโยนด้วยรอยยิ้มอย่างที่เคยมี “เดินมาหานิวนะ ไลอ์..”






   ความอ่อนโยน.. ที่กำลังพยายามสู่ภายในเขาทีละนิด






   “ไลอ์คิดจะฆ่าคนนะ ปล่อยไว้แบบนี้จะดีเหรอ” จิตใต้สำนึกชั่วดียังคงอยู่ เขาพึมพำออกมาอย่างคนไม่มีทางไป “ควรเรียกตำรวจ จับ ๆ ไลอ์เข้าคุกไปซะได้ก็ดี.. ไลอ์คิดจะฆ่าคนนะนิว”







   “ไลอ์ไม่ได้ทำอะไร .. แค่.. ปัดแจกันตกแตกเท่านั้นแหละ”









   “อย่ามาโกหก !! ไลอ์รู้ว่าทำอะไรลงไป ! และคิดอะไรอยู่ !!” เสียงตะคอกกลับทำให้คนเกลี้ยกล่อมต้องชะงักฝีเท้าตรงนั้น “อย่าเข้ามาใกล้ !! ถ้าไลอ์ยังเป็นแบบนี้ไลอ์ก็ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับไลอ์ !!”







   อีกฝ่ายตะคอกใส่ทั้งน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่






   “ไลอ์มีความคิดจะฆ่าคนนะนิว !? ทำไมไม่กลัวบ้าง ! มันไม่ใช่ความคิดของคนจิตปกติจะทำกัน !!” ร่างบางค่อย ๆ หยัดกายขึ้นยืน เหยียบย่ำเศษแก้วจนฝ่าเท้าเจ็บเสียหมด แต่เขายังคงยืนยันไม่ให้นิวเข้าใกล้ “ไลอ์.. ไลอ์ไม่อยากมีความคิดแบบนี้ !! แต่ไลอ์ห้ามตัวเองไม่ได้เลย..ฮึก..”





   ร้องไห้ออกมาแล้ว..






   ทุกอย่างที่เคยเก็บไว้ภายในถูกระบายออกมาเมื่อถึงจุดสิ้นสุด





   “ไลอ์อยากหยุด.. ไลอ์ไม่อยากคิดอะไรแย่ ๆ แบบนี้อีกแล้ว ที่ผ่านมาไลอ์รู้ตัวดี นิวเองก็น่าจะเคยได้ยินเวลาไลอ์พูดออกไปด้วย” เขาเสียงสั่นเครือ “แต่ไลอ์.. ไม่รู้ว่าจะทำยังไง... ไม่รู้อีกแล้ว”





   สภาพของผู้ชายตรงหน้า..




   ไม่ต่างจากคนที่ไม่มีจุดยึดเหนี่ยว




   พร้อมจะแตกสลายไปเพียงแค่สัมผัส





   “นิวจะพาไลอ์ไปหาหมอ” คนตรงหน้าเอ่ยหนักแน่น “พาไปหาจิตแพทย์ เราจะคุยกันเรื่องอาการเหล่านี้ เขาจะให้คำแนะนำที่ดีและเขาจะบำบัดความคิดที่เกิดขึ้น หมอจะคอยให้คำปรึกษาเรา”







   “...”









   “นิวไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่สำหรับนิวคนพบจิตแพทย์ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ป่วย แค่เป็นคนที่หนักใจ ต้องการได้รับคำปรึกษา หาทางออกในชีวิตก็ได้”









   “...”






   “ไม่ต้องห่วงจะได้หมอไม่ดีด้วย อย่าลืมสิว่านิวเคยเรียนหมอแล้วซิ่วมา นิวจะติดต่อหาเพื่อนที่จบแล้วคอยช่วยดูให้ไลอ์เองนะ”






   เขาเห็น ท่าทางไลออนเริ่มโอนอ่อนลง แววตาแข็งกร้าวค่อย ๆ จางหายทำให้กล้าก้าวเข้าไปใกล้ช้า ๆ






   “และไลอ์ ไม่ต้องห่วงนะ” รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าของคนที่เริ่มเข้ามาใกล้ จนเหยียบย่ำเศษแจกันที่อยู่ตามพื้นไปด้วย “นิวจะไปกับไลอ์เอง”





   “...”



   คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามองเขา


   “ถ้าหากไลอ์ต้องทานยา นิวจะช่วยเตือนเรื่องเวลาไลอ์เอง”



   แววตาของผู้ฟังปะปนด้วยความรู้สึกหลากหลาย




   และเปี่ยมด้วยน้ำตา




   “ถ้าหากไลอ์ต้องไปหาหมอ นิวจะไปเป็นเพื่อนไลอ์ คอยอยู่กับไลอ์”




   ทั้งร่างของคนที่เพิ่งขาดสติสั่นระริกกับสิ่งที่เกิดขึ้น




   “และไม่นิวย้ายมาอยู่กับไลอ์ ไลอ์ก็ต้องย้ายมาอยู่กับนิวเอง”




   ลำคอของคนฟังแห้งผาก เปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา




   “ทำไม..” ไลออนพึมพำ “ทำไมต้องทำขนาดนี้”





   และหยาดน้ำตาอุ่น ๆ ไหลทั่วใบหน้าเมื่อได้ยินประโยคต่อไป







   “เพราะนิวอยู่นี่”






   “...”






   “อยู่นี่”





   สองคำ ที่แสนอบอุ่น




   เป็นสองคำ ที่ทำให้พวกเขาทั้งสองคนมอบให้กันตลอด




   เสียงปล่อยโฮของคนที่แตกสลายไปดังระงมทั่วห้องนอน เขาออกโผกอดนิวเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักลงอ้อมกอดจนอีกฝ่ายล้มกระแทกกับพื้นแต่ก็ยังไม่ทำให้น้ำตาของหยุดไหล ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นจนเสื้อคนสูงกว่าเปียกชุ่ม





   ไลออนซุกใบหน้าอยู่บนแผ่นอก ทั้งกายสั่นคลอน ควบคุมตัวเองไม่ได้อีก สะอึกสะอื้น ปลดปล่อยทุกสิ่งที่ค้างคาในใจ





ตึก..





   เสียงเดินขึ้นบันไดช้า ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ ดังขึ้นทำให้นิวหันไปมองตาม ร่างเด็กผู้ชายตัวเล็กในมือมีกระดาษพับเป็นรูปร่างถือเอาไว้ด้วยความประหม่า





   “น้าไลอ์.. ร้องไห้ทำไม...” เด็กคนนั้นถาม เดินเข้ามาหาช้า ๆ แต่กลับถูกห้ามเอาไว้




   “อย่าเพิ่งเข้ามานะน้องสิงห์ เดี๋ยวโดนแก้วบาด” นิวหันไปมองอีกฝ่ายที่หยุดยืนตามคำสั่ง “น้านิวแกล้งน้าไลอ์จนร้องไห้น่ะ..”





   “น้านิวคนนิสัยไม่ดี” สิงห์พูด ดวงตากลมโตสะท้อนแววความเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบัง “น้องสิงห์อยากปลอบน้าไลอ์..”





   “...” เจ้าของชื่อไม่พูดอะไร แค่ค่อย ๆ ผละออกจากอ้อมกอด แล้วมองสิ่งของในมือเด็กน้อย





   ..มันคือ.. กระดาษ




   ที่พับเป็นรูปสิงโต..




   “น้านิวห้ามแกล้งน้าไลอ์ .. พ่อเสือบอกน้องสิงห์ว่า น้าไลอ์เป็นคนสำคัญของพ่อเสือ”




   เขาทำอะไรลงไป..




   ได้แต่ถามคำนี้กับตัวเอง




   “...”



   “พ่อเสือบอกว่าอยากให้น้องสิงห์สนิทกับน้าไลอ์ เพราะน้องสิงห์ก็เป็นสิงโตเหมือนน้าไลอ์”




   “...”




   ยิ่งฟัง..




   มีแต่ความรู้สึกผิดที่ถาโถม



   และหยาดน้ำตาที่อาบแก้ม



   “ห้ามแกล้งน้าไลอ์นะน้านิว”




   “น้านิวไม่แกล้งแล้วครับ..” คนถูกหาว่ารังแกคนอื่นยิ้มบาง ๆ “แล้วไหน น้องสิงห์มีอะไรจะให้น้าไลอ์รึเปล่า”




   “มีครับ” เด็กยังคงกระตือรือร้น ยื่นกระดาษไปให้โดยยังไม่ได้เดินเข้าไปหาเพราะสั่งของน้านิว “พ่อเสือเคยเล่าว่า
ตอนน้าไลอ์งอนพ่อเสือ แล้วร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะไม่ยอมมาก่อทรายด้วย พ่อเสือพับกระดาษรูปสิงโตให้น้าไลอ์หายร้องไห้”





   คนฟังเบิกตากว้างขึ้น




   มองกระดาษพับรูปสิงโตในมืออีกคน




   “วันนี้น้าไลอ์ร้องไห้.. น้องสิงห์ให้สิงโตนะ”




   แสนใสซื่อ




   แสนบริสุทธิ์




   เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบของคนกลับทำทุกอย่างที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นได้




   ‘ถ้าทำแบบนั้น.. คนที่เสียใจตลอดชีวิต ก็คือตัวไลอ์นะ’




   เสียงนิววันนั้นสะท้อนเข้ามาในหัว หลังจากที่เขาบอกว่าอาจพลั้งมือไปก็ได้



   ไลออนไม่อาจกลั้นน้ำตาเป็นรอบที่สาม เขาร้องไห้ออกมา พร่ำพูดคำว่าขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า ขอโทษน้องสิงห์ ที่มีความคิดที่แสนเลวร้าย ขอโทษนิว ที่ทำให้เดือดร้อน ขอโทษไทเกอร์ ขอโทษล้อมรัก ขอโทษทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ในวันนี้ แต่เป็นตั้งแต่อดีตที่เคยคิดมาในทุกแง่มุม




   และเขาไม่ลืมขอโทษตัวเอง..ที่เอาแต่มุ่งหวังในสิ่งร้าย ๆ จนทำให้สูญเสียความเป็นตัวเอง







   ตอนจบ





   เขาขอบคุณตัวเอง





   ที่ยั้งสติไว้ในวินาทีสุดท้ายได้ทัน






_________________________________________________________________


TALK #อ่านกันหน่อยเร็วว

   เนี่ย เลยบอกไม่อยากให้ค้างเลยค่ะ  ฮ่า
   โล่งใจกันไหมทุกคน หลุดพ้นจากดราม่าแล้วค่า เรื่องนี้อีก 2 ตอนจะจบนะคะ  ทางนี้โล่งใจมากเลยที่จะลงจนจบแล้ว
   เรื่องนี้เปิดให้พรีออเดอร์วันนี้ค่ะ
   รายละเอียด
1   เล่ม ราคา 270 บาท (ยังไม่รวมค่าส่ง) + 30 / 50 (ลงทะเบียน / EMS)
ภายในเล่มประกอบด้วย ตอนพิเศษ “เพียงรักสัมผัส” , ตอนพิเศษสนองตัณหาคนแต่ง , ภาพประกอบแบบลายเส้นมังงะวาดโดย LadyVanila 2 รูป สกรีนโทน , ภาพประกอบลายเส้นกึ่งเรียลลิสติกวาดโดย TW studio 2 ภาพ (สี)
ของแถมที่ได้รับ : โปสการ์ด 1 ใบขนาด 4 x 6 (มี 2 ลายค่ะ ต้องสุ่มเลือกเอาว่าจะได้ลายไหน หากใครต้องการโปสการ์ดครบ 2 ใบ จะสามารถซื้อได้ในราคา 30 บาทค่ะ )
สำหรับคนที่เคยซื้อเรื่อง Non Romance ทางเราเห็นมีส่วนลดให้ค่ะเพราะเห็นว่าเป็นตัวละครหลักที่มาต่อๆ กันเนอะ เป็นเหลือเล่มละ 250 บาทค่ะ
   
ตั้งแต่วันนี้ ถึงประมาณช่วง 30 เมษายน นะคะทุกคน ^^ 

   แบบฟอร์มกรอกข้อมูลหากสนใจรูปเล่ม > https://goo.gl/iSYhb2


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2018 22:40:38 โดย ImInDragon »

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
น้องสิงห์น่ารักนะ เด็กน้อยยยย //กอดโอ๋
สงสารไลอ์ ดีใจจริงๆที่นายยั้งตัวเองทัน ฮืออออ
น้องสิงห์น่ารักมากๆ คำก็น้าไลอ์สองคำก็น้าไลอ์ๆๆ เด็กดี น้าไลอ์จะต้องสนิทกับหนูได้แน่ๆ
ดีจริงๆที่มีนิวอยู่ คำว่าอยู่ตรงนี้มันดีจริงๆ
ดูแลกันและกัน ไลอ์ยังมีนิวนะ!
 :hao5:

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
11
Let’s forget them together.







ต่อให้ใช้เวลากี่ร้อยปี
ก็จะพยายามไปด้วยกัน




◇◆◇◆◇◆◇◆


ในวันที่ไทเกอร์มารับตัวลูกชายเพียงคนเดียวกลับ ไลออนขอปลีกตัวไปคุยด้วยกันเพียงแค่สองคนเท่านั้นประมาณสิบห้านาทีแล้วทั้งคู่ก็เดินกลับมาด้วยกัน


นิวสังเกตเห็นแค่รอยยิ้มของไทเกอร์ดูเจื่อนกว่าปกติกับช่องว่างระหว่างทั้งสองคนที่ดูเพิ่มมากขึ้น แต่เขาเลือกจะไม่เอ่ยถามอะไรจนกระทั่งตอนที่น้องสิงห์เริ่มง่วงเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน นอนขดตัวกลมอยู่ตรงเบาะหลัง เป็นแค่ครั้งแรกที่ไทเกอร์เรียกเขา


“นิว”


“ว่าไง ?”


ริมฝีปากหยักศกคลี่ยิ้มบาง


“ฝากดูแลด้วยล่ะ” แม้จะไม่ได้เอ่ยว่าหมายถึงใคร ก็พอรับรู้และเข้าใจ “ส่วนไลอ์”


“...?”


ดวงตาสีเมล็ดกาแฟจ้องมองใบหน้าผู้ถาม


“อย่าลืมก็พอ ว่าเราเป็นเพื่อนรักกัน”


คนที่ได้ฟังดังนั้นยิ้มช้า ๆ

“แน่นอน”

...


◇◆◇◆◇◆◇◆



“สารภาพรักน่ะ”


“.. แค่ก !” คำตอบแสนสั้นของไลออนสร้างสีหน้างุนงงให้นิวได้เป็นอย่างดี คุกกี้ที่เพิ่งกัดไปเกือบติดคอเล่นเอาคนตัวเล็กหัวเราะร่วนแล้วยื่นน้ำดื่มตาม “เกือบ..เกือบตายแน่ะ”


“ตกใจอะไรล่ะ ก็แค่สารภาพความในใจที่เก็บไว้เกือบสิบห้าปีมั้ง” เขาพูด ใช้ปลายนิ้วกวาดเศษผงเล็ก ๆ ที่ร่วงจากคุกกี้จนกองพะเนินอยู่บนจานเล่น “ให้เล่าเหรอ ?”


“ถึงขนาดนี้แล้วก็อยากรู้”


ไลออนไม่ตอบอะไร ปลายลิ้นแดงเลียนิ้วตัวเองเล่นทำความสะอาดจนเหมือนลูกแมว


“บอกความจริง บอกเหตุผลที่ไม่ยอมมีแฟนสักที บอกความรู้สึกทุกอย่างออกไปมั้ง จบท้ายด้วยคำว่าไม่ต้องการให้มันรักกลับ พระรองไหมล่ะ”


“ไม่กลัวเขาหนักใจเหรอ ?”


“ถึงจุดนี้แล้ว.. กลัวตัวเองเก็บกดมากกว่า” สีหน้าเศร้าหมองปรากฏอยู่วูบหนึ่ง “ขอให้อย่าติดต่อมาอีก จนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้นน่ะ”


“ทุกอย่าง ?”


ไลออนพยักหน้า


“แค่บอกว่า.. สัญญาจะติดต่อไปอีก” ลูกแก้วสีอ่อนสั่นไหวเล็กน้อย  “ตอนเป็นเพื่อนที่ดีของมันได้ ‘จริง ๆ’ น่ะ”


คนฟังไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่หยิบคุกกี้ชิ้นที่สองในขวดโหลมากินต่อ เขากำลังประเมินความคิดของไลออนในตอนนี้ ท่าทาง และสายตาของชายตรงหน้าอยู่


“มั่นใจเหรอที่ทำแบบนี้ไปน่ะ”


“อืม แล้วก็นี่” อีกฝ่ายยื่นโทรศัพท์ให้ ทำให้เขาเลิกคิ้ว “ทำแบบเดียวที่เคยทำให้ดิ”


หมายถึง.. บล็อกสินะ


นิวผงกหัวลงรับโทรศัพท์มาก่อนจะกดเปิดรายชื่อเบอร์ผู้ติดต่อ วินาทีนั้นเขาเหลือบมองสีหน้าของไลออนอีกทีเพื่อเป็นการยืนยันสิ่งที่เจ้าตัวตั้งใจจะทำ


สิ่งที่ได้ตอบกลับมา คือรอยยิ้มบาง


และเสียงกระซิบแผ่วเบา


“อยากลืมให้ได้น่ะ”


“ถ้าวันนี้ลืมไม่ได้ล่ะ” เขาถามอีก


“ก็ยังมีพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ไม่ได้ก็ยังมีมะรืน มะรืนไม่ได้ก็ยังมี..” ไลออนจงใจเว้นช่วงให้นิวต่อประโยคนั้น


“อาทิตย์หน้า” คนข้างกายเอ่ยเสริม หลุดหัวเราะออกมาช้า ๆ “อาทิตย์หน้าไม่ได้ ก็ยังมีเดือนหน้า เดือนหน้าไม่ได้ ก็ยังมีปีหน้า ปีหน้าไม่ได้.. ก็ยังมีเป็นสิบ ๆ ปีเลย”


เป็นประโยคซ้ำ ๆ ที่เคยพูดกันเมื่อก่อนหน้านี้


แต่คราวนี้.. กลับสบายใจมากกว่าครั้งไหน


ทั้งสองคนจ้องมองดวงตากันและกัน สองฝ่ามือสอดประสานเข้าไว้ ริมฝีปากร้อนประทับจูบแผ่วเบาบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา สลับกันกับคนตัวเล็กกว่าจูบบริเวณปลายคาง


“เราจะลืม ‘มัน’ ไปด้วยกันนะ”
“เอาสิ” ตอบกลับเสียงเบาเหมือนดั่งคำสัญญา ทวนประโยคเดิมซ้ำ “จะลืม ‘มัน’ ไปด้วยกันเลย”





◇◆◇◆◇◆◇◆





พวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันเต็มตัวในที่สุด


ไลออนมักจะถามถึงอาการฝ่าเท้านิวครั้งนั้นที่เหยียบลงบนแจกันด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เสมอ แต่สิ่งที่ได้รับคือเสียงหัวเราะ และบอกว่าเจ้าตัวควรจะห่วงตัวเองด้วย เพราะไลออนเองก็เจ็บทั้งเท้าทั้งมือเลยด้วยแถมยังต้องกินยาตามที่หมอสั่งอีก


สุดท้ายพอสีหน้ารู้สึกผิดปรากฏขึ้น สิ่งที่ได้รับอีกคือฝ่ามือใหญ่ยื่นเข้ามาขยี้ผมนุ่มนิ่ม


‘สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ของเราไง’ นิวให้คำนิยามกับแผลที่ทำพวกเขากะเผกไปหลายอาทิตย์


ไลออนยอมเข้ารับการรักษา เขาได้พูดคุยและปรึกษากับคุณหมอที่นิวสรรหามาให้เพราะเจ้าตัวพอมีเพื่อนอยู่คณะแพทย์เนื่องจากเคยเรียนและซิ่วออกมาหาตัวเอง การติดต่อพวกนี้จึงไม่ยากมาก


ทว่าผู้ป่วยดูไม่ค่อยให้ความร่วมมือเต็มร้อย


อาจมีบ้างแหละ ที่ขี้เกียจไปตามนัด.. หรือขี้เกียจกินยา


แต่ก็ได้พาร์ทเนอร์เขามาช่วยคุมแทนเสมอ


“อย่าลืมกินยาด้วย กินยาให้ดูเลย” นิวพูด เสียงจริงจังทุกครั้งหลังหรือก่อนมื้ออาหารตามขนาดยาที่ได้รับ ท่องจำจนขึ้นใจ เตือนตลอดเวลาที่มีโอกาส ไม่ว่าจะเจอหน้า หรือไลน์หา สิ่งที่ไลออนต้องทำคือการกดถ่ายรูปให้ดูว่ากินแล้ว บางครั้งหากไลออนหมั่นไส้มาก ๆ ที่เอาแต่ถามนักถามหนา ก็จะถ่ายเป็นคลิปวีดีโอส่งตอนอยู่ที่ทำงานเลยด้วยซ้ำ


“โอเค้ เรียบร้อย ?” หลังจากที่ป้อนยาเข้าปากตัวเองให้นิวดูเป็นการตกลง ไลออนยักคิ้วกวน ๆ ไปเสียรอบหนึ่ง “กินยาแล้วครับผม”


เจ้าของใบหน้าคมคายเผยรอยยิ้ม กดจูบบนแก้มนิ่มรอบหนึ่งให้รางวัลแล้วบุ้ยปากไปที่เตียงแทน


“ไปรอตรงนู้นเลย”


“อะไรน่ะ จะทำอะไร” คนตัวเล็กแกล้งพูดเสียงตกใจ “ยามันออกฤทธิ์ให้ง่วงนะ” จากนั้น เขาก็ชะงัก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแทนแล้วนิ่งไปยาว


“เป็นอะไรน่ะ ?”


“แค่เพิ่งนึกได้ว่าเราไม่ได้คุยกันแบบ ‘คุณ N’ กับ ‘คุณ L’ แล้วนี่” เขาพึมพำ จำไม่ได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน “มึงกูก็ไม่ใช้แล้วด้วย”


คนที่ช่วยเก็บซองยาบนโต๊ะไปไว้ที่ร้องอ๋อ


“นั่นสิ” นิวหัวเราะ “งั้นก็ไม่ต้องมีคุณ N กับ คุณ L แล้วก็ดี”


“งั้นเปลี่ยนเป็นไรล่ะ ผม ? คุณ ?”


“อย่างนั้นก็เหมือนเดิมสิ” เขาเผยรอยยิ้มออกมา “แทนตัวเองกันเลยว่านิวกับไลอ์ไหมล่ะ”

“เอาจริงดิ ?”

“ตอนมีเซ็กส์ก็ลองเรียกชื่อกันบ้างไหม เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” คำนั้นทำไลออนตาโต ดูลังเล แต่กลับถูกท่อนแขนหนารวบเข้าไปกอด


“เดี๋ยว ๆ”


ฟอด


โดนขโมยจูบแก้มไปอีกข้างด้วย


“ไปลองกันเลยไหม นิวตื่นเต้นจัง” เขาไม่ทันจะได้ปฏิเสธ ไม่ทันจะได้ร้องโวยวาย แรงอันมหาศาลของอดีตเพื่อนสมัยมัธยมก็จับยกขึ้นพาดบ่าเล่นเอาเจ้าสิงโตไปแทบไม่เป็น รู้ตัวอีกทีก็ตอนก้นกระแทกกับเตียงดังตุ้บแล้ว


“อูย.. แต่เดี๋ยวไลอ์จะง่วงนอนนะ เพราะกินยาไปเมื่อกี้” พูดเสียงเบาตอนทั้งตัวถูกรวบเข้าไปกอด ระดมจูบทั่วหน้าจนเขาอยากจะฟาดสักที “นิว.. นิวว้อย ฟัง”


“นิวฟังไลอ์อยู่ครับ...”


สตั้นท์เลย..


น้ำเสียงเชิงออดอ้อนดังขึ้นมาเบา ๆ เขาเชื่อว่าตัวเองเคยได้ยินมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นมันมีหลากหลายเหตุการณ์ให้คิดมากเสียกว่าจะรู้สึกอะไร


แต่ตอนนี้..


ทำไมเขินวะ


“ทำไมไลอ์หน้าแดงจัง ? เรายังไม่ได้ทดลองครางชื่อกันและกันเลยนะ”


อีกข้อหนึ่งที่ควรบัญญัติไว้ในพจนานุกรมความรู้รอบตัวของไลออน.. คือนิวเป็นผู้ชายที่ขี้แกล้งมาก !


“ไลอ์...”


ฝ่ามือร้อนที่แทรกเข้าหน้าท้องแบนราบทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งโหยง ทั้งหน้าแดงก่ำ ยิ่งอีกฝ่ายวนมือลูบตามหน้าท้องยิ่งทำให้ทั้งกายพาลร้อนผ่าว


ยาคงยังไม่ออกฤทธิ์ให้ง่วงสินะ


บัดซบ


ไลออนเม้มปาก มือซน ๆ นั่นไล่ขึ้นมาถึงแผ่นอก บดขยี้ตุ่มไตสีหวานใต้เสื้อยืดตัวเก่งของเขา นิวจับจุดได้ว่าส่วนไหนกันทำให้ตัวเขามีอารมณ์ พอรู้สึกอีกที กางเกงบ็อกเซอร์ก็โดนถอดทิ้งไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้


“ไลอ์..”


“อื้อ..” เสียงครางหวานในลำคอเมื่อฝ่ามือนั้นเริ่มลามเข้ามาที่ต้นขาด้านใน สัมผัสแท่งเนื้อร้อนอย่างชำนาญ ปลายนิ้วลูบความน่ารักตามทางยาวช้า ๆ ต่อด้วยแกล้งบดขยี้ส่วนหัวอีกทีหนึ่งชวนให้ทรมานใจ


“ครางชื่อนิวหน่อยเร็ว..”


หื่นฉิบหาย


ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัว เขาเม้มปาก รับรู้ถึงความนูนจากเป้ากางเกงอีกฝ่ายที่แนบอยู่ด้านหลังตนเอง เรียวปากบางกระตุกยิ้มขึ้นแทน


แต่..


ไม่ได้หื่นคนเดียวเสียหน่อย


ไลออนจงใจเขยิบตัวเบีดบั้นท้าย เสียดสีกับส่วนกึ่งกลางที่กระดกสู้พยายามโผล่ออกมาจากกางเกงสียีนส์ให้ได้ของนิว


“ไลอ์..” เสียงของอีกฝ่ายติดแหบพร่าเหมือนจะคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังพยายามไม่แสดงออกมากมาย “ครางชื่อนิวหน่อยนะครับ นะ”


“ทำให้ไลอ์ครางให้ได้สิ.. นิว” กระซิบตอบกลับเบา ๆ “แค่มือมันไม่ทำให้ไลอ์ครางได้หรอกนะ”


เหมือนสาสน์ท้ารบก็ไม่ปาน


คนเชื่อมั่นว่าตัวเองเชี่ยวชาญนัก เชี่ยวชาญหนาถึงกับคิ้วกระตุก เขาพลิกตัวขึ้นคร่อมอีกคน จับขาเรียวอ้าออกแล้วยกพาดบ่าตัวเอง จ้องมองใบหน้าขาวที่ยกยิ้มท้าทาย


“พูดเองนะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวลงไปถึงจุดกึ่งกลาง สูดกลิ่นความเป็นชายด้วยความปรารถนา ปลายลิ้นหนาตวัดลงที่บริเวณส่วนหัวเป็นอย่างแรก แล้วเริ่มไล่ตามแนวความยาว ชโลมความชุ่มชื้นบนแท่งร้อนจนทั่ว


ไลออนสะดุ้งในตอนแรกเพราะไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะรวดเร็วถึงตอนนี้ เขาเม้มปาก สอดฝ่ามือเข้ากลุ่มผมที่คลอเคลียอยู่เบื้องล่างตัวเอง สัมผัสชื้นร้อนครอบงำส่วนอ่อนไหวพาลในแข้งขาอ่อนระทวย เขาเสียววูบทุกครั้งที่ถูกดูดดึงส่วนหัว สักพักปลายลิ้นเริ่มหยอกล้ออีก ชโลมไม่เพียงแค่ตามแนวความยาว แต่ไล่ลงไปใช้ปากคลึงดูด สลับกับลิ้นเลียที่ส่วนฐานก้อนกลมด้านล่างอีก


“ฮ..อาา” เสียงหวานครางแหบพร่าตอนอีกฝ่ายใช้ริมฝีปากงับเบา ๆ ตรงฐาน เหมือนตั้งใจ และเปลี่ยนเป็นครอบงำแล้วเร่งจังหวะปากที่ขยับเข้าออก “อื้อ.. นิว เร็วอีกสิ... เร็วอีก”


เป็นดั่งคำสั่ง อีกฝ่ายเร่งความเร็วจนทั้งร่างกระตุกวาบ แก้มใสขึ้นสีแดงจัดเมื่อเขาเกร็งเรียวขาที่ถูกจับพาดบ่า ก่อนจะปลดปล่อยความร้อนผ่าวจนท่วมท้นอุ้งปากที่รองรับอยู่


“ฮ..อาา นิว.. นิว!” ไลออนหอบหายใจตอนที่คนตรงหน้าผละออก ดวตากลมโตปรือปรอยอย่างเหนื่อยล้า จ้องมองคนที่ดูยังไงก็หนีไม่พ้นคำว่าจากหน้าหล่อแต่หื่นฉิบหายไปได้


แล้วยิ่ง.. ตอนที่คราบหยาดน้ำของเขาเปรอะเปื้อนริมฝีปากนั่น.. พาลให้ตื่นเต้นจนได้


ไลออนตัดสินใจเอียงหน้าหนีแล้วซบลงหมอน ไม่ยอมขยับเขยื้อน แล้วตัดสินใจหลับตาลง พึมพำต่อเสียงติดงัวเงีย


“..ยาออกฤทธิ์แล้ว นิว”


“.... หา?” คนที่กำลังเตรียมขั้นต่อไปถึงกับชะงัก “เดี๋ยวสิ ไลอ์ ไลอ์จะเสร็จไปคนเดียวแบบนี้ไมได้นะ”


“ง่วงมาก.. คนป่วยต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ”


ดูพูดเข้า !!


“แม่นางทั้งห้าไปก่อนนะ”


ไลออนพูดทิ้งท้าย เล่นเอาคนที่ยังไม่ทันได้ถึงฝั่งฝันอ้าปากค้าง จะปลุกก็ไม่กล้าเพราะอยากให้พักผ่อน แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่ทันเสร็จไปสักน้ำเลยนี่ ควรจะทำยังไงต่อล่ะทีนี้


“โธ่โว้ย !”


สุดท้าย... เจ้าตัวจึงได้แต่เดินคอตกไปห้องน้ำแทน..


แม่นางทั้งห้านี้จะสถิตกับชีวิตเขาตลอดไป


ฝากไว้ก่อนเถอะ ไลออน...!!

..




◇◆◇◆◇◆◇◆




เมื่อรับรู้ได้ถึงการลุกออกไปของอีกคนและเสียงประตูห้องน้ำเปิด คนที่นอนอยู่บนเตียงจึงกระตุกยิ้มออกมา..



ยาน่ะ ยังไม่ได้ออกฤทธิ์สักหน่อย
..
แค่อยากเห็นสีหน้าเหวอหวาของคนตรงนั้นเท่านั้นเอง
และอีกอย่าง..
พจนานุกรมของไลออนน่ะ บันทึกว่านิวขี้แกล้งมาสักระยะแล้ว
แต่พจนานุกรมของนิวน่ะ เมื่อไหร่จะรู้นะ ..
..

ว่าไลออนเองก็ขี้แกล้งเหมือนกัน



 

StraWBerry_imin : Talk
สวัสดีค่ะ
บทต่อไปเป็นบทส่งท้ายแล้วนะคะ ^ ^ ;;; ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมาถึงตรงนี้จนได้ ซึ่งบทส่งท้าย อยากลงวันวาเลนไทน์จังค่ะ 5555555 เจอกันวันที่ 14 กุมภานะคะ !
และมีภาพร่างหน้าปกเอามาให้ดูกันค่ะ :) ใครสนใจนิยายเรื่องนี้สามารถเข้าไปติดต่อจองหรือติดต่อในเพจอิมอินได้เลยค่า หรืออีกช่องทางหนึ่งคือทวิตเตอร์ Strawberry_imin น้า

ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันค่ะ







ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
เคลียร์กันได้แล้วเนอะ ขอให้ทั้งสองคนลืมได้ไวๆนะ
ยังไงก็ยังมีกันและกันเสมอออ อ่านตอนนี้แล้วเขินๆ งือออ
ไลอ์น่ารักกกกก น่าฟัดมากๆ ฮืออ ตอนนี้เหมือนแมวเลยย //น้วย
 :-[ :กอด1:

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
คือเข้าใจ ทุกคน ...

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ImInDragon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
12

บทส่งท้าย


 Happiness of us.




ไม่สัญญานะ ว่าอนาคตจะไม่ไปไหน
แต่จะสัญญาได้อย่างเดียว
ว่าตอนที่อยู่ด้วยกัน
เรา
อยู่นี่
: )





◇◆◇◆◇◆◇◆






   ไอ้บ้าที่ไหนจัดงานเลี้ยงลูกตัวเองใหญ่ขนาดนี้วะ


   เป็นความคิดแรกของนิวหลังจากเดินทางมาถึง ‘งานเลี้ยงวันเกิดลูกสาวครบ 1 ขวบ’ ของน้ำกรดและดนัยที่สุดแสนจะเห่อลูกเพราะห้าปีให้หลัง ทั้งคู่ก็สร้างเนื้อสร้างตัวรับเด็กมาเลี้ยงตามหวังจริง ๆ


   ตอนแรกก็คิดล่ะนะ ว่าไทเกอร์น่ะเห่อลูกมาก อัพสเตตัสเกี่ยวกับลูกแทบทุกอาทิตย์


   เจอน้ำกรดเข้าไป.. เหมือนมันคอยแข่งกันอัพสเตตัสอวดลูก


   พอน้ำกรดอัพสเตตัสเกี่ยวกับ ‘น้องรัน’ ลูกสาวคนเดียววันละครั้ง ไทเกอร์ก็เปลี่ยนเป็นอัพสเตตัสเกี่ยวกับ ‘น้องสิงห์’ วันละสองครั้ง สักพักน้ำกรดก็เปลี่ยนเป็นอัพสเตตัสพร้อมติดแท็กไทเกอร์ประลองอีก


   มีหรือ คนเห่อลูกจะไม่รับคำท้า


   แท็กมาไทเกอร์แท็กกลับไม่โกง ซ้ำร้ายไลออนยังมาบอกว่าเฟสบุ๊คจินเองก็โพสว่าภรรยาตั้งท้องแล้วแถมยังอวดใส่น้ำกรดและไทเกอร์อีก เล่นเอาคนเป็นเฟรนด์กับพวกมันในเฟซบุ๊คกุมขมับไปตาม ๆ กัน


   กระทั่งได้รับการ์ดเชิญไปงานวันเกิดลูกสาวของพ่อกรดพ่อนัยนี่แหละ.. แน่นอนว่าผ่านเฟสบุ๊ค


   เขากับไลออนไปทำงานบริษัทกันวันนี้เลยตัดสินใจนัดเจอกันช่วงเย็นที่งานเลี้ยงนี้เลยจะได้ไม่ต้องเปลืองเวลาไปรับไปส่งกัน นิวระบายยิ้ม ยืนมองบรรยากาศงานที่เต็มไปด้วยความคึกคักและเด็ก ๆ วิ่งว่อนไปพลางหาคนคุ้นเคยที่ยังไม่มาตามนัดด้วย แต่ระหว่างที่สายตากำลังกวาดตามองหาผู้ชายคนนั้นกลับต้องชะงัก


   จิน..กำลังมองมาทางเขา


   ส่วนข้างกายคนนั้นคือภรรยาสาวที่สวมชุดคลุมท้องอยู่


   ในตอนนั้นนิวคิดว่าตัวเองจะรู้สึกแย่ แต่น่าแปลก มันเป็นแค่อาการโหวงเหวงในอกเหมือนสะเก็ดหินที่หลุดออกไปแล้วหลงเหลือแค่บาดแผล เขาตัดสินใจคลี่ยิ้มออก ผงกหัวให้จินครั้งหนึ่งเป็นการทักทายง่าย ๆ ตามประสาคนที่เคยคุยกัน


   และสิ่งที่ได้รับกลับคือรอยยิ้ม พร้อมการผงกหัวกลับมา ก่อนเจ้าตัวจะหันไปคุยกับภรรยาเช่นเดิม


   ตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เขากับจินขาดการติดต่อไป นิวปิดการรับรู้ คุยกับไลออนว่าไม่ให้ส่งข้อมูลตัวเขาให้จินหากถูกถามถึง


   ซึ่งแน่นอน ไลออนตกลงอย่างง่ายดาย ซ้ำยังบอกอย่างเดียวกัน คือไม่ต้องพูดอะไรหากไทเกอร์เข้ามาไถ่ถามถึงตัวเขาผ่านนิว


   พวกเรามีข้อแลกเปลี่ยนกันตรงนี้..


   “น้านิว ! น้านิว !” เสียงเล็ก ๆ เรียกความสนใจของนิวอีกครั้ง รอยยิ้มเอ็นดูปรากฏบนใบหน้าของตัวเขา “น้านิว สวัสดีครับ”


   “พูดเก่งขึ้นแล้วนี่ น้องสิงห์” เขาพูด หัวเราะตอนเด็กตรงหน้าหันซ้ายหันขวา “มีอะไรหือ ?”


   “น้องสิงห์หาน้าไลอ์ พ่อเสือสอนว่าให้น้องสิงห์หวัดดีทุกคน”


   สอนดีเหมือนเคย..


   เจ้าของร่างสูงใหญ่เหลือบมองไทเกอร์ที่ยังอยู่กับภรรยาสาว เขาหันมาโบกมือให้ แน่นอนว่านิวก็ทำอากัปกิริยาง่าย ๆ คือการโบกมือกลับเช่นเดิม


   “น้าไลอ์ไปไหนเหรอครับ ? ปกติน้าไลอ์ตัวติดกับน้านิวตลอดนี่ครับ” เด็กน้อยในวัยแปดขวบยังถามเสียงซื่อ ความเป็นจริงคือแม้ว่าไลออนกับไทเกอร์จะขาดการติดต่อกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้องสิงห์ติดไลออนมากอย่างไร้สาเหตุ ทำให้เจ้าตัวเล็กแวะมาบ้านเขาประมาณอาทิตย์ละครั้ง ถ้าเดือนไหนไม่ได้เจอไลออนเป็นอันว่ามีงอแงเพราะน้องสิงห์บอกว่าแก้มไลออนนุ่มมาก และชอบแอบหอมเป็นประจำ ไม่หอมมีไม่ยอมกินข้าว พ่อแม่เห่อลูกจึงต้องยอม ๆ กันซะได้


   ช่วงแรกแม้ไลออนจะบอกเขาโอเคแล้ว แต่นิวไม่ไว้วางใจจะให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันจึงมักจะคอยดูห่าง ๆ เสมอ จนสุดท้ายน้องสิงห์อายุได้สักหกขวบก็แอบปีนขึ้นไปนอนกลางวันบนโซฟาเดียวกับไลออนหลังกินยาเสร็จ แล้วดันหลับปุ๋ยไปทั้งคู่ซะได้


   แล้วไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ก็กลายเป็นภาพทั้งคู่นอนกอดกันกลมแทน


   เขาเลยเริ่มไว้วางใจ ว่าเหตุการณ์ในอดีตจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว


   “น้าไลอ์ยังไม่กลับมาจากที่ทำงานเลย.. อ้อ นั่นไง” พูดไม่ทันขาดคำ ร่างบางที่เดินเข้ามาในชุดสูทเต็มยศเพราะมีประชุมตอนบ่ายก็เดินเข้ามาเล่นเอาสิงห์ทำตาโต


   “น้าไลอ์ !”


   “นิ.. อ้าว น้องสิงห์” ขายาวก้าวตรงเข้ามาแล้วถึงกับเกือบเซเมื่อเด็กแปดขวบพุ่งไปกอดแล้วซุกหน้าลงท้องเขาแทน “อูย .. ทำไมเด็กแรงเยอะจัง”


   “เพราะน้าไลอ์เริ่มแก่แล้ว” คนฟังทำตาดุ เขกลงกลางหน้าผากเด็กน้อยไปเสียทีหนึ่ง “งื้อ เจ็บอ่า”


   “เดี๋ยวโดนเลย แล้วเป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”


   “ก็...”


   “สิงห์”


   เสียงทุ้มที่ไลออนไม่ได้ยินเสียนานดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ทั้งร่างชะงักกึก เจ้าของชื่อทำตาลอกแล่ก วิ่งเตาะ ๆ ไปหาคนเป็นพ่อเขา


   “พ่อเสืออ”


   “เนี่ย เห็นน้องรันเจ้าของงานวันเกิดรึยัง ? ไปทำความรู้จักกับน้องรันหน่อยสิ” ไทเกอร์เอ่ยกับลูกชายพร้อมรอยยิ้มเล่นเอาสิงห์ลังเล “ไม่ไปเจอเจ้าของงานหน่อยเหรอเรา ?”


   “น้องสิงห์ไป แต่..” คนเป็นเด็กชายวอกแว่ก หันกลับไปมองหน้านิวและไลออนสลับกัน สุดท้ายก็เป็นใบหน้านิวแทน “น้านิว ห้ามแกล้งน้าไลอ์นะ”


   “เหะ ?”

   คนถูกกล่าวหาเผยสีหน้าประหลาดทันใด


   “ถ้าน้านิวแกล้งน้าไลอ์ น้องสิงห์จะโป้ง ๆ น้านิวแล้วพาน้าไลอ์มาอยู่ในห้องขุมสมบัติของน้องสิงห์ !”


   “ห้องขุมสมบัติ ?” ไลออนทวนคิ้วขมวดติดกัน


   “เขาเรียกห้องนอนว่าห้องขุมสมบัติน่ะ” ไทเกอร์เป็นคนเฉลย ขณะที่คนโดนตราหน้าว่าขี้แกล้งเพราะเหตุการณ์ในอดีตนั้นได้แต่หัวเราะเก้อ


   ท่าทางความจำแม่นเหลือเกินนะ


   “น้านิวสัญญาครับว่าจะไม่แกล้งน้าไลอ์” เขาสบกับดวงตากลมโตที่ยังคงความใสซื่อและบริสุทธิ์ไว้เสมอ “และจะดูแลไปตลอดกันแบบนี้แหละ”


   ประโยคหลัง.. เขาหันกลับไปมองไทเกอร์ที่จ้องอยู่


   เหมือน..เป็นการบอกนัย ๆ ว่าหมายถึงอะไร


   “....” ดวงตาสีเข้มมองตอบ เพียงแค่ผงกหัวลงแล้วปล่อยให้ลูกชายคนเดียวออกไปวิ่งเล่นต่อ “ขอโทษที่ต้องรบกวนบ่อย ๆ .. ท่าทางลูกชายไทก์จะติดทั้งสองคนมากเลย”


   “ไม่ได้ติดนิวแน่ ๆ” พูดพลางไหวไหล่เล็กน้อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นขึ้น หลายครั้งที่ไทเกอร์มีเหตุการณ์มาบรรจบเจอกับนิวและไลออนเสมอโดยมีลูกชายเป็นต้นเหตุ   


   ส่วนใหญ่ ไลออนจะแค่ฟัง หรือไม่ก็เดินออกไปทางอื่น หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าหรือพูดคุย


   เขากับไลออนเป็นคนละกรณีกัน สำหรับตัวเขา จินคืออดีตคนรักเก่า การที่ติดต่อกันให้น้อยที่สุดคือเรื่องดีสำหรับทั้งคู่และครอบครัวของจินเอง


   แต่สำหรับไลออน ไทเกอร์คือเพื่อนสนิทที่ไม่มีวันตัดขาดกันได้ แม้จะห่างเหินกันไปนานแค่ไหน หรือบอกตกลงกันแล้วว่าจะไม่มาเจอ สุดท้ายสายสัมพันธ์ของคำว่าเพื่อนจากฝ่ายนั้นก็ยังไม่สามารถตัดออกได้ง่าย ๆ


   ไทเกอร์เป็นห่วงไลออนเสมอ


   และแน่นอน ว่าทั้งหมดนี้อยู่ในฐานะเพื่อน


   “ขอถามหน่อยสิ แค่อย่างเดียวก็พอ” คำพูดนั้นเรียกให้สายตาสองคู่หันไปมองได้ นิวรู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่คำถามที่มีให้เขาเพราะสายตาที่มุ่งตรงไปทางใบหน้าสวย


   “...”


 “ตอนนี้มีความสุขไหม ?”


   พวกเขารู้ว่ามันไม่ใช่คำถามประชดประชัน


   แต่มันคือคำถาม ที่ต้องการคำตอบจากใจจริง


   สิ่งที่ไลออนมอบให้คือความผิดหวัง นัยน์ตาสีอ่อนแค่จ้องมองตอบ แล้วเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทางโดยไม่ลืมกระตุกแขนนิวแทน


   “ไปกันเถอะ”


   เขาเลือกจะไม่ตอบคำถามนั้นในตอนนี้


   นิวหันมองไทเกอร์ โค้งลงเล็กน้อยเป็นเชิงบอกลาก่อนจะเดินออกมาด้านนอกของงานบริเวณระเบียงแทน ลมเย็น ๆ พัดปะทะกับใบหน้าคมคาย เขามองความเงียบสงัดสลับกับภายในตัวบ้านที่เต็มไปด้วยสีสัน


   “ทุกคนมีลูกกันหมดแล้วเนอะ” เป็นประโยคแรกที่ดังออกมาจากปากของไลออน ร่างบางเอนพิงกับราว สายตามองภายในตัวห้อง


   ทุกคน.. เต็มไปด้วยรอยยิ้มกันทั้งนั้น เฮฮา และสนุกสนาน


   “มองจากตรงนี้ ทุกคนก็ดูมีความสุขดี” นิวเสริม เผยเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ “ว่าแต่ทำไมถึงไม่ตอบคำถามของมันล่ะ ?”


   คนตัวเล็กไหวไหล่


   “เพราะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่..” เขาดูลังเลที่จะเอ่ยต่อ “พอเจอคำถามนี้มาสองรอบ เลยรู้สึกแปลก ๆ”


   สองรอบ..


   นิวเลิกคิ้วเชิงสงสัย


   “ก่อนจะมาถึงงานสักพัก ก็.. มีคนไลน์มาถามคำถามนี้น่ะ” เรียวปากบางแย้มยิ้มน้อย ๆ “แต่เขาไม่ได้หมายถึงไลอ์หรอก.. เขาหมายถึงคนที่อยู่กับไลอ์มากกว่า”


   ไขปริศนาได้ในพริบตา


   นิวทอดมองไปทางด้านหน้า เห็นจินกับภรรยาคุยกับน้ำกรดและดนัยอยู่ก็ยิ้มบาง แล้วคอยฟังเสียงดนตรีที่เคล้าคลอระหว่างครุ่นคิดคำตอบกลับ


   “คิดว่า.. คนที่ถามเมื่อกี้ ก็ไม่ได้ถามถึงนิวหรอก” เขาพูด “น่าจะถามถึงคนที่อยู่กับนิวมากกว่า”


   “...”


“...”


หลากหลายเรื่องราวพรั่งพรู ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ถือว่าดี แต่มันกลับไม่ใช่ประสบการณ์ที่แย่เช่นเดียวกัน
พวกเราต่างฝ่ายต่างบอบช้ำจากอดีต แปรเปลี่ยนตัวเองด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ความคิดและอุปนิสัยถูกผกผันตามสิ่งที่เคยเผชิญ
บางครั้งบางเรื่อง ก็ดีขึ้น
บางครั้งบางเรื่อง ก็แย่ลง
ขวักไขว่หาจุดที่ พอดี
สุดท้ายกาลเวลาหมุนพา โชคชะตาเวียนวนให้พวกเขามาบรรจบกัน ความบังเอิญที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนทำให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันตรงนี้


และคิดว่าจะอยู่ตรงนี้ต่อไป


ไม่มีใครทราบว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร


   สถานะของพวกเขาคือคนที่สบายใจจะอยู่ด้วยกัน ณ ปัจจุบัน และรู้สึกดีที่เป็นเช่นนี้

ในนาที.. ที่ทั้งคู่ปล่อยให้ความเงียบครอบงำ และคอยทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นมาจนกระทั่งใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้วยกันถามขึ้นระหว่างมองบรรยากาศภายในตัวห้องและรอยยิ้มเหล่านั้น



   “คิดว่า... เราจะมีความสุขแบบพวกเขาได้ไหม ?”


   เป็นคำถามที่ไม่ต้องรีรอคำตอบนานเลย


   คนฟังหัวเราะ


   “ตอนนี้... เราก็มีความสุขกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?”
   ...

Fin




 StraWberry_imin : Talk
   จบแล้วนะคะ
   เรื่องนี้จบแล้ว.. ใจหายหน่อยๆ แต่ก็จบแล้ว
   ส่วนตอนจบคำถามใครเป็นคนถามใคร ให้เดาเล่นกันเองไม่ขอเฉลยนะคะ แฮ่ะ นิวกับจินทั้งคู่ไม่ได้กลับมาคุยกันแบบเดิมก็จริง แต่รักษาระยะห่างค่ะ เป็นไม่ค่อยคุยอะไรกันแล้วแค่เจอหน้าก็ผงกหัวกัน ส่วนไทเกอร์กับไลออน ยังไงเขาก็เพื่อนกันอยู่ดี.. ตัดกันขาดแบบนิวจินที่คล้ายๆ คนเคยรักกันตัดกันคงยาก ทำให้อิมอินเลือกทางนี้ค่ะ เพราะยังไงนิวจิน และไทเกอร์ไลออนก็คนละกรณี
   ขอโทษแฟนคลับคนที่เชียร์คู่ไทเกอร์กับไลออนจริงๆ นะคะ ..อิมอินวางไว้นานแล้วว่าไทเกอร์ไม่ชอบผู้ชายค่ะ ฮื่อ จะให้สมหวังกับคนที่ต้องการทุกคน .. คงยากเนอะ โดยเฉพาะในความจริง
   สุดท้าย เราก็มาสมหวัง กับ ‘สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิด’ แทนค่ะ
   อย่าลืมกดอ่านหน้าต่อไปนะคะ เป็นหน้าคุยกันครั้งสุดท้ายก่อนจบเรื่อง.. ดีใจนะคะ ที่เรื่องนี้มีนักอ่านเข้ามาอ่านและอยู่ด้วยกันแบบนี้ ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะ

กดคุยกันหน้าถัดไปด้วยน้า อย่าลืมนะคะ














คุยกันก่อนจบเรื่อง กับ StraWBerry_imin

   จบแล้วค่ะ ..



   เรื่องนี้ลงเว็บแค่นี้และจบแล้วค่ะ ฮ่า จบโดยสมบูรณ์ ตอนสองประโยคสุดท้ายไว้ให้เดากันเองว่าใครถาม ใครตอบนะคะ เหมือนปริศนาธรรม (?) ฮ่า..


   คราวนี้คงเรียกได้ว่า เซ็ทที่เกี่ยวข้องกับ Non Romance คงจบอย่างสมบูรณ์แล้วค่ะ อิมอินดีใจมากเลยที่เรื่องนี้มีคนเข้ามาแวะเวียนอ่านอยู่ และตัดสินใจลงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพราะเป็นวันวาเลนไทน์ค่ะ

   คู่นี้คงเป็นคู่ที่ไม่มีใครคาดคิดเลยเนอะ


   อิมอินอยากจะสื่อออกมาถึงเรื่องที่ดูเป็นไปไม่ได้ ดูไม่น่าเกิดขึ้น แต่ก็ยังเกิดขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อิมอินตัดสินใจแต่งเรื่องนี้จนจบ เพราะอิมอินยังอยากให้ตัวละครตัวเองมีความสุขค่ะ อย่างน้อยแม้สิ่งที่เขาเป็นหรือพบตอนนี้อาจจะไม่ใช่ความรัก แต่คงมีสักวันที่เป็นความรัก หรือมีใครที่อยู่เคียงข้างด้วยกัน สามารถยิ้มได้ รวมถึงมีความสุขได้ด้วย


   ในเรื่อง Non Romance จะเห็นได้ว่าตัวละครนิว กับไลออน ยังเศร้าอยู่ แถมยังติดค้างเรื่องปมของนิวจินอีกด้วย แต่มาเรื่องนี้ได้คลายออกหลายๆ อย่างแล้วค่ะ ^ ^
   
   ตัวละครของอิมอินโตขึ้นแล้วนะ
   ทั้งน้ำกรด ทั้งดนัย ทั้งนิว จิน ไทเกอร์ ไลออน ทุกคนได้รับการเติบโตขึ้นแล้ว จากเรื่อง Non Romance สู่เรื่อง เพียงเสี้ยวสัมผัส


   อิมอินรักที่จะทำให้ตัวละครแต่ละตัวค่อย ๆ เติบโตแบบนี้มากเลยค่ะ รักที่จะให้พวกเขาเรียนรู้หลาย ๆ อย่าง เจอสิ่งที่เกิดขึ้น เข้าใจ และสามารถยิ้มได้กับปัจจุบัน

   อดีตของแต่ละคนไม่สวยงาม


   ทุกคนมีประสบการณ์ที่แตกต่าง กลั่นกรองให้เขาโตขึ้นมามีความคิดที่ผิดไปจากคนอื่น


   พวกเขาล้วนแต่เรียนรู้ที่จะผิดพลาด เรียนรู้ที่จะได้รับบทเรียน เรียนรู้ที่จะแก้ไขไม่ให้กลับไปทำผิดอีก

   จากนั้น คือเรียนรู้ที่จะยอมรับอดีตที่เกิดขึ้น จะถูก หรือจะผิด มันก็คืออดีตของเขา ในเมื่ออดีตกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว จึงอยู่กับปัจจุบันแทน

   สุดท้าย ใครที่กำลังจมอยู่กับความเจ็บปวด อดีตที่พลาดพลั้ง อย่าลืมใส่ยาให้บาดแผล อาจจะเจ็บแสบอยู่บ้าง แต่ก็ไม่จมอยู่กับจุดนั้น

   แล้วพยายามลุกขึ้นก้าวเดินต่อนะ

   มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ แม้มันจะไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หรือไม่ใช่สิ่งที่สวยงามอย่างคาดหวัง
   
   แต่อย่างไร.. ก็ทำให้ปัจจุบันของเรามีความสุขกันนะคะ :)


รักนักอ่านเสมอ
   StraWBerry_imin
14/2/2560

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
อ้าววว จบแล้ววว ไม่อยากให้จบเลยโถ่ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จบล๊าวววว รู้สึกเต็มตื้นไปกับทุกตัวละคร เป็นนิยายที่ดีมากเลยขอบคุณคับ //แอบคิดว่าผู้ชายอย่างจินนี่น่ากลัวนะ ถ้านิวเกิดเล่นด้วยนี่จบไม่สวยแน่ สงสารผู้หญิง เหอๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด