เรื่องสั้นจบในตอน | Sleep and Death
–จุดเริ่มต้นของจักรวาลที่ได้ก่อกำเนิดนั้น ความมืดมิดดลบันดาลให้เกิดทุกสรรสิ่ง โดย‘เคออส’ผู้ถือกำเนิดขึ้นมาในจักรวาลที่มีแต่ความโกลาหลว่างเปล่าและให้กำเนิด นิกซ์ เทพีแห่งรัตติกาล เมื่อนางมีบุตรธิดาร่วมกับเอรีบัส เทพแห่งความมืด ราตรีกาลของนิกซ์ นางถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเหล่าเทพีและเทพในยุคเริ่มต้น โดยให้กำเนิดสองพี่น้องฝาแฝด ฮิปนอสและทานาทอส เทพแห่งการหลับใหล และเทพแห่งความตาย เพียงใบหน้ารูปลักษณ์เฉกเช่นเดียวกัน ทว่าอุปนิสัยกลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง ใบหน้าเรียบเฉยของชายหนุ่ม ปรากฏรอยยิ้มที่หาดูได้ยากก้มมองชายหนุ่มอีกคนที่นอนอยู่บนตักของตน ชายผู้มีใบหน้าเฉกเช่นเดียวกับเขา แต่กลับกันหากมองไปที่แฝดผู้พี่แล้วพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นดูอ่อนโยนคล้ายกับเป็นความนุ่มนวล ความสงบสบายใจไม่ต่างอะไรกับนิทราหลับใหล แม้ในยามตื่นด้วยเช่นกัน
ภายในห้องนอนอบอุ่น แสงสว่างแสงยามเช้าขับกล่อมร่างบนตักของออร์คัสให้จมอยู่ในห้วงนิทราแสนสบาย อีกเดี๋ยวอีกฝ่ายก็ต้องจากเขาไปอีกตามเคย ในฐานะชายหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดปี ชีวิตของนักศึกษา
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเขี่ยปอยเส้นผมที่อยู่ข้างแก้มอย่างรักใคร่ ใบหน้าของแฝดพี่มีรอยยิ้มน้อยปรากฏอยู่ราวกับว่ากำลังหลับฝันดี
หวังว่าจะไม่ไปล่อลวงใครเข้าหรอกนะ... ชายหนุ่มผู้เป็นแฝดผู้น้องมองดวงหน้านั้นอย่างครุ่นคิด
"ทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ"ฝาแฝดคนพี่ขยับตัวเล็กน้อยอยู่บนตัก นามเก่าในดินแดนกรีกคือฮิปนอส ส่วนในโลกมนุษย์ อีกฝ่ายชื่อ แซม แม้จะมีร่างใหม่แต่ก็ยังคงมีพลังของฮิปนอสเช่นเดิม
"พี่หลับเเล้วน่าดู ฉันเลยมองเสียเพลิน"ออร์คัสเอ่ย ชื่อนี้มาจากภาษาละตินเช่นกันแปลว่าความตาย ชายหนุ่มก้มมองแฝดพี่ที่ยังคนนอนหนุนตักของเขาอยู่ แซมลืมตาขึ้นมองเขาแววตาสีนิลมีประกายชีวิตชีวา
"หึ ไม่ใช่จับผิดฉันหรือไง"แซมยิ้ม คิ้วสีน้ำตาลแดงขยับเข้าหากัน ออร์คัสพ่นลมหายใจแรง
"ถ้าหากใช่แล้วจะทำไมล่ะ ฉันหึงหวงพี่เป็นเรื่องถูกต้อง "
"อ้อ หึงหวงถึงขั้นไปช่วงชิงความตายจากผู้อื่นอย่างไร้เหตุ ใช้ได้ทีไหนกัน"อีกฝ่ายหัวเราะคล้ายจะยียวนให้เขาโกรธ
"ข้ายอมแพ้พี่ก็ได้ "เขาเอ่ยบอก ในครั้งอดีตเขาก็พ่ายแพ้ต่อแฝดพี่ราบคาบ แม้ว่าพลังของแห่งการหลับใหลดูเหมือนไร้พิษภัย แต่หากถูกร่ายคำสาปเข้าล่ะก็ น่ากลัวไม่น้อย ต้องหลับใหลไปชั่วนิรัจน์ ดูได้จากการที่เคยไปสาปซุสให้หลับใหลไปแล้วถึง2ครั้ง แฝดผู้พี่ของเขานั้นนี่กล้าหาญไม่เบา
แซมผุดลุกออกจากตักของออร์คัส
"ถึงเวลาที่ต้องกลับเเล้วล่ะ นายคงไม่งอแงอีกนะ"แซมเอียงคอมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน เจ้าตัวมาจุติในโลกมนุษย์ตามคำขอของเทพซุสเพื่อมาจับตาดู ออร์คัสไม่ให้สร้างความวุ่นวาย แม้ว่าแฝดน้องของเขาจะทำเช่นนั้นไม่ได้แล้วก็ตาม เทพซุสกังวลเกินเหตุไปแล้ว
"ฉันคงคิดถึงพี่นะ"ออร์คัสเอ่ยเบาๆ ซุ้มเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความจริงใจ เขาไม่ใช่หัวใจด้านชาไร้ความรู้สึกที่มีแต่ความโดดเดี่ยว เพราะเคยเป็นเทพแห่งความตายมาก่อน กล่าวให้ถูกในเวลานี้ เขาไม่ได้มีฐานะเทพอีกต่อไป เขาถูกลงทัณฑ์จากซุส ให้มาจุติในร่างของมนุษย์ไร้พลัง ปีกที่ไหล่โดนตัดออกไปหนึ่งข้างเพื่อลดทอนพลังแห่งความตาย
"ขอโทษนะ ที่มาหาทีไรก็เอาแต่นอนทุกที"แซมเอ่ยเสียงแผ่วหลบสายตาของแฝดน้องอย่างรู้สึกละอาย มีกลางคืนย่อมมีนิทรา เขาคือเทพแห่งการหลับใหล หน้าที่เป็นเช่นนั้น
"ก็ชดเชยให้ฉันสิ อย่ามัวแต่เอาแต่พูด"ออร์คัสพูดด้วยเสียงเยียบเย็น
แววตาสีนิลจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของพี่ชายฝาแฝด ใบหน้าที่เหมือนกับตนเองไม่มีผิด แต่เขาไม่เคยมองว่ากำลังจ้องตัวเองอยู่เลยสักนิด คงเพราะผิวกายขาวสะอาด ต่างจากเขา ที่ออกจะเข้มอยู่บ้าง
"เฮ้อ ในร่างกายมนุษยนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะนัก"แซมขยับมานั่งใกล้กับเขา
"อย่างไรล่ะ"ออร์คัสไม่ประหลาดใจ คาดอยู่แล้วว่าต้องเจอคำตอบนี้ ใบหน้านิ่งขรึมลงเหลือบมองแฝดผู้พี่อย่างไม่สบอารมณ์นัก เมื่อมาอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปี ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ทั้งๆที่เขามีจิตวิญญาณของทานาทอสแท้ๆ กลับไม่เย็นชาเช่นเดิมได้
"โลกมนุษย์มีกฏเกนณ์ เจ้ามาเพื่อถูกลงทัณฑ์อีกอย่าง...เมื่อสัปดาห์ก่อน ฉันเพิ่งเจอกับมอร์เฟียส แพนทาซอสและโฟบีเตอร์ด้วย"แซมย่นคิ้วก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ทั้งสามคนที่ กล่าวถึงคือ ลูกชายของฮิปนอส แม้ในพื้นภพนี้ ทั้งสามก็ยังทำงานร่วมกับฮิปนอสเพื่อดลบันดาลให้เกิดความฝันในลักษณะต่างๆ หรือจะเรียกพวกนี้ว่าเทพแห่งความฝัน
เหล่าโอเนรอย* "อ้อ เกี่ยวเหรอ ไม่ยักรู้ว่าสามคนนั้นจะไม่รู้เรื่องของเรา"ออร์คัสพูด ก่อนหน้านั้นที่เคยอยู่ร่วมกันในถ้ำด้วยกัน เขากับพี่ก็ไม่เคยแยกห่างจากกัน ยามที่ฮิปนอสต้องทำหน้าที่บัลดาลห้วงนิทราแก่มนุษย์ เขาก็ตามไปด้วย
"นายโกรธฉันหรอไง"แซมมองมาที่เขาด้วยสายตารู้ทุกอย่าง เจ้าตัวรู้ แต่ก็ยังทำไขสือเรื่องของเขาอยู่ได้
"มันก็นะ...ฉันโดนทำร้ายสารพัด พี่ยังมีแก่ใจจะห่วงคนอื่น เเล้วใจฉันล่ะ หรือลืมเลือนไปแล้ว หรือเห็นว่าเป็นเพียงอดีตเนิ่นนาน"ออร์คัสเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเย็นชา เมื่อได้ลิ้มลองความรักแล้ว หัวใจก็ไม่อาจทานความหนาวเหน็บจากการหมางเมินได้อีก
"บ้าน่า นายไม่รู้เหรอไงว่าฉันรู้สึกยังไง"แซมยื่นมือมากุมมือทั้งสองของเขาไว้แน่น มันอบอุ่น
"อ้อจะบอกว่ารัก แต่ก็สาปข้าได้ลง"เขาเอ่ย อดีตที่เคยอยู่ดินแดนใต้พิภพ ฮิปนอสหักหลังเขาผู้น้อง ตามคำสั่งของฮาเดส ทำให้เขาหลับใหลไปนานกว่า2000ปี เขาควรฆ่าฮิปนอสไปแท้ๆ แต่เพราะ...รักนั่นไงเป็นพิษร้ายแก่ทั้งมนุษย์และเหล่าเทพ ดั่งคำกล่าวที่ว่า Amare et sapere vix deo conceditur แม้กระทั่งเทพเจ้ายังยากที่จะรักและฉลาดในเวลาเดียวกันเลย
"ฉันไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆหรอก"แซมพูดด้วยน้ำเสียงเครือขม แววตาหมองลง แน่นอนว่าการกระทำในครั้งนั้นเขาไม่ได้รู้สึกดีไปด้วย
"ช่างเถอะ ปล่อยให้ข้าอยู่ที่นี่แหละ"เขาพูดเสียงเรียบ รู้สึกไร้พลังขึ้นมา เขาโดนทอดทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า
ก่อนหน้านั้นในช่วงที่ทรอยยังคงรุ่งเรือง ครั้งหนึ่งออร์คัสเคยถูกเรียกขนานนามว่า 'ทานาทอส'เทพแห่งความตาย เป็นที่ครั่นคร้ามแก่ทวยเทพและดินแดนปรโลก ผู้ซึ่งเป็นฝาแฝดผู้น้องของฮิปนอส ทั้งคู่เป็นเทพกรีกเกิดในยุคแรกเริ่มก่อนยุคของเทพซุส
ฮิปนอสและทานาทอสเป็นบุตรของ นิกซ์ เทพีแห่งราตรีกาลและเอรีบัส เทพแห่งความมืดมิด ส่งผลให้ฮิปนอส มีต้นธารจากความมืดในเวลากลางคืน เขาจึงกลายเป็นเทพแห่งการหลับใหล ส่วนทานาทอส เป็นเทพแห่งความตาย ทานาทอสและฮิปนอสเคยใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเป็นสุขในดินแดนมืดมิด นั่นคืออยู่ในโลกแห่งความตายใต้พิภพ อยู่ในถ้ำที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเลธี แม่น้ำแห่งการลืมเลือน หน้าถ้ำมีดอกป๊อปปี้และมีฝูงผีเสื้อ เปรียบเสมือนจิตวิญญาณแห่งความตาย
ทว่าเรื่องราวความโง่งมของตนในครานั้นช่างน่าหัวเราะสิ้นดี สาเหตุที่ทำให้เขาถูกร่ายมนต์จากฮิปนอส เป็นอะไรที่ไม่ต่างกับตัวโง่งมเลยจริงๆ แม้ตนจะเป็นเทพแห่งความตาย รับดวงวิญญาณที่ตายอย่างสงบ ไม่ใช่วิญญาณที่ตายอย่างทารุนเช่นเคอร์ผู้เป็นพี่สาว ทว่าเหล่าเทพกลับเกลียดชังบุตรที่กำเนิดจากความมืดมิดนัก หรือสิ่งเกี่ยวข้องกับความตาย เพราะมันไม่น่าพิสมัย
แต่ดีนักที่ฮิปนอสนั้นต่างจากเขา สุขุมอ่อนโยนกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแฝดพี่คนนี้จะไม่ใช่ตัวอันตราย ไม่เช่นนั้นเขาทั้งสองจะเป็นผู้ช่วยฮาเดสจ้าวแห่งนรกได้หรือ ทั้งยังอยู่มานานก่อนที่จะเกิดยุคแห่งสภาโอลิมปัสเสียอีก
"นายโกรธจริงๆด้วยสินะ"แซมเอื้อมมือขึ้นไปจับใบหน้าของออร์คัสเเผ่วเบา ตนเองนั้นรักออร์คัส หรือทานาทอส ไม่ว่าจะชื่อไหนเขาก็รัก หากเกลียดจริงๆล่ะก็ อีกฝ่ายจะไม่มีวันได้ตื่นจากการหลับใหลอย่างแน่นอน
"ฉันตื่นขึ้นมาจากการหลับเพื่อมองพี่ไปลวงล่อมนุษย์ชายคนอื่นในยามหลับอย่างนั้นเหรอไง"ออคัสเคยได้ยินว่าแม้ฮิปนอสจะดลบัลดาลให้เกิดการหลับใหล แต่ในบางครั้งพลังของเขาก็ครอบคลุมถึงการสะกดจิตอีกด้วย แน่นอนว่าสามารถทำอะไรๆได้มากกว่าที่คิด โดยไม่ใช้โอเนรอยเลยก็ตาม
"นายเชื่อหรือไง"
"ฉันไม่คิดว่าพี่จะโดดเดี่ยวมาหลายพันปีนะ นอกเหนือจากพวกเทพ ฉันคิดว่าพี่คงได้ลิ้มลองมนุษย์บนพื้นพิภพไปบ้างแล้วเหมือนกัน"ออร์คัสเอ่ยเงียบๆ น้ำเสียงเข้มห้วน ทำให้แซมหัวเราะขึ้นเบาๆละมือจากใบหน้านิ่งขึงของแฝดน้อง เข้าใจความหึงหวงของอีกฝ่ายดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนโลกมนุษย์คงปั่นป่วน
"...งั้น...กลับไปอยู่บ้านของเราดีไหม...."แซมเอ่ยอย่างลังเล เหลือบมองออร์คัสที่ดูเย็นชา ราวกับรูปปั้น ชักทำตัวคล้ายกับตอนเป็นทานาทอสเข้าไปทุกที
"บ้าน? ที่ไหน"ออร์คัสมองอีกฝ่ายอย่างข้องใจ
"ข้าหมายถึงถ้ำของเราสองคนที่เกาะเลมนอส**ไง"แซมยิ้ม เมื่อมองใบหน้าของออร์คัสอยู่นานจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถ้อยคำเก่าแก่ที่เคยใช้ด้วยกัน
"ข้าไปไม่ได้ "ออร์คัสพลันแววตาประกายครุกกรุ่น ใบหน้าดุจมีความมืดครอบคลุม
"ข้าจะไปขอร้องฮาเดส ให้เจ้าไปอยู่ที่ถ้ำของเราตามเดิม"แซมบอก หากเขาขอร้องจ้าวแห่งนรกซ้ำๆเข้าล่ะก็ อีกฝ่ายคงยอม แต่ถ้าไม่ยอมง่ายๆอาจต้องพึ่งบารมีของท่านแม่
"แล้วข้าก็อุดอู้อยู่แต่ในถ้ำ ส่วนเจ้าก็ได้เล่นสนุกอยู่บนภพมนุษย์งั้นเหรอ"
"ไปกันใหญ่ ...ข้าน่ะ อยากกลับไปอยู่ที่ของเราใจจะขาด ที่นี่ไม่เหมือนที่บ้านเรา วุ่นวายไม่หยุดหย่อน ข้าคิดถึงฝูงฝีเสื้อของเจ้า มันคงคิดถึงนายเก่าไม่น้อย"
"เกรงว่าหากแม้ฮาเดสจะอนุญาตข้า แต่มีหรือผู้นั้นจะยอม"ออร์คัสไม่กล้าดีใจ เพราะเทพซุสหมดความอดทน จนเขาต้องมาจุติเป็นมนุษย์ไปตลอดไปอีกยาวนาน พลังก็ไม่แข็งแกร่งเช่นเดิม เขาเหลือปีกเพียงข้างเดียว เพราะได้ฮิปนอสขอร้องให้เขา แทนที่จะเป็นความตาย อ้อไม่สิ จากการหลับใหลไปชั่วนิจนิรันดร์ไม่สามารถตื่นออกมาได้อีก แล้วจะต่างอะไรจากการตายล่ะ ให้ตายเถอะ. มาคิดดูแล้วฮิปนอสเลือดเย็นนัก กว่าหลายพันปีที่เขาหลับใหลอยู่ในถ้ำ แฝดพี่คนนี้ยังใช้ชีวิตเช่นเดิม
"อ้อ ข้าอาจพูดกับเฮร่าได้ "แซมยิ้มทั้งปากและแววตา ยื่นหน้ามาใกล้เขาอย่างเคยชิน อีกฝ่ายคล้ายออดอ้อนกว่าที่เคย ทำให้ออร์คัสยิ้มบางๆ
"นางจะทำได้หรือ นางสร้างเรื่องมาไม่น้อย "
"ได้สิ ตอบแทนที่ข้าทำให้นางได้กลั่นแกล้งเฮราคลีสและชดใช้ที่ทำให้ข้าเกือบโดนซุสเล่นงานด้วย" เขาหัวเราะนึกขึ้นได้ว่าทานาทอสก็เคยต่อสู้กับเฮราคลีสเช่นกัน เขาขยับหน้าโน้มหาออร์คัสเพื่อจูบอีกฝ่ายเบาๆเป็นการให้คำเชื่อมั่น ออร์คัสพอใจขึ้นบ้าง
"อยู่ๆทำไมถึงเปลี่ยนใจล่ะ"ชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่าเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ มองใบหน้าขาวสะอาดของแฝดพี่อย่างตั้งใจ
"อยากอยู่กับน้องชายให้มากขึ้นอีก ข้ามาเพื่อดูแลเจ้าด้วย ไม่อยากให้เผลอใช้พลัง เจ้ามาจากความมืดมิด ไม่ยากที่จะเรียกหาพลัง ข้อสำคัญเจ้าคิดว่าข้าไม่มีวิธีหยุดเจ้าเหรอ"แซมเอ่ยยิ้มแย้ม ทำเอาออร์คัสถึงกลับดวงตาประกายวูบด้วยโทสะ
"ฮิปนอส!"
"อย่าเอ่ยนามนั้น"แซมยิ้มยื่นมือไปปิดปากอีกฝ่ายไว้ พูดมากไปจะเป็นการอันเชิญบุตรชายทั้งสามของเขาให้มาหาถึงที่ คงประหลาดถ้าต้องมาเจอกันในสภาพนี้
"เจ้าคิดจะให้น้องชายหลับใหลไปอีกแล้วหรือไง ...ดีสิ ข้าไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว"ออร์คัสขมวดคิ้วไม่พอใจ เขาโดนลงทัณฑ์และหลับใหลไปนาน หน้าที่นำวิญญาณไปยังปรโลกกลายเป็นของเฮอร์มีส เทพแห่งการสื่อสารไปแล้ว
"ชู่ว ไม่ยักรู้ว่าทานาทอสเป็นคนขี้น้อยใจขนาดนี้"แซมยิ้มขำ
"เจ้ารับปากข้าแล้วนะ"ซุ้มเสียงราบเรียบเอ่ยกับแฝดพี่
"แน่นอน ข้ารับปาก อีกไม่นาน เราจะไปเกาะเลมนอส ถ้ำของเราสองคน"แซมขยับกายเข้าหาอีกฝ่ายโอบกอดอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาในคำสัญญา
ออร์คัสฟังแล้วคลายความโกรธเคืองในใจกอดรัดพี่ชายฝาแฝดไว้แน่น ตื่นขึ้นมาแล้วเขาไม่ยอมหลับใหลไปอีกแน่นอน เขาจะไม่เป็นตัวโง่งมอีกแล้ว !
“อ้ออีกเรื่องเผื่อเจ้ายังไม่มั่นใจในตัวข้านะ ข้ายังคงรักเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะทานาทอสหรือออร์คัส”แซมเอ่ยจากใจ คำว่ารักที่มีให้แก่แฝดผู้น้องแต่เพียงผู้เดียว แซมมองใบหน้าที่คล้ายคลึงกับตนเองด้วยสายตามั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง
“เช่นกัน semper iedm”แม้จะไม่ได้ใช้ภาษาละตินมาเนินนานแต่คำบางคำก็ไม่ลืมเลือน รักมันก็รักอยู่แล้ว แต่หลายชั่วอายุที่มีชีวิตอยู่เขาก็ยังคงรู้สึกเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยน
จบตอน
อาจจะหยิบเอาเทพกรีกเล็กๆมาเเต่งเป็นตอนสั้นๆแทนค่ะ ถ้าหากว่างก็จะมาอัพเรื่อยๆ ฝากด้วยนะคะหากใครที่ชอบตำนานกรีก
เกร็ดความรู้ *โอเนรอย เทพเจ้าแห่งความฝัน ประกอบด้วยมอร์เฟียส โฟบิเตอร์เเละเเพนทาซอส เป็นบุตรของฮิปนอสเทพเเห่งการหลับไหลกับพาซีเทีย เทพีแห่งการพักผ่อน การเยียวยาและภาพลวงตา โอเนรอยอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งความฝันตั้งอยู่ในยมโลก
มอร์เฟียส- เป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้าให้แก่มนุษย์โดยผ่านความฝันหรือนิมิต สามารถปรากฏกายในรูปร่างไหนก็ได้ในช่วงไปที่เข้าฝัน มีร่างจริงคือปีศาจที่มีปีก
โฟบิเตอร์มัก-เป็นสัญลักษณ์ของฝันร้าย ความหวาดกลัว สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ป่า นก งู
เเพนทาซอส– สร้างฝันอันเป็นเท็จ ดูแลเกี่ยวกับจิตใต้สำนึก จิตนาการ สามารถบันดาลสิ่งไม่มีชีวิตได้ เช่นภูเขา ต้นไม้
**2 ถ้ำของฮิปนอสและทานาทอส อยู่ใกล้ดินแดนนรกของฮาเดส และ อีเรบัส โดยที่แห่งนั้นไม่มีแสงหรือเสียงเล็ดรอดเข้ามาในถ้ำของเขาและพืชที่ถูกสะกดจิตเท่านั้นเช่นดอกป๊อปปี้เติบโตที่ถ้ำเพื่อที่ฮิปนอสจะไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นโดยเสียงดังต่างๆ ส่วนใหญ่จะใข้เวลาในการนอนซึ่งเป็นกิจวัตรของเขา
**เกาะเลมนอส**ซึ่งต่อมาถูกอ้างว่าเป็นเกาะแห่งความฝันในดินแดนนรกที่ได้รับการแปลเป็นนรกในพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับ Septuagint (ฉบับเก่า) ฉบับภาษากรีกแปลมาจากภาษาฮิบรู "สารบบ 70 หรือ เซ็พทัวจินส์ (LXX : The Septuagint)" ซึ่งชาวยิวจะใช้อยู่บริเวณรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพราะภาษากรีกเป็นภาษาสากลในสมัยนั้น
***ส่วนเรื่องความโง่งมของทานาทอสแล้วเราไม่ลงรายละเอียดมากเอาคร่าวๆคือ โดนหลอกล่อโดยกษัตริย์ซีซิสฟัส ทานาทอสจนหลงกลแล้วถูกจับขังทำให้ไม่มีคนตายเกิดขึ้น แต่ก็ถูกช่วยจากเเอรีส เทพแห่งสงคราม (เพราะไม่มีคนตายจากการบ) และจุดจบของซีซิสฟัสก็ลงเอยไปยังยมโลกแทน***
****แตกรณี่ที่โดนฮิปนอสร่ายมนต์ใส่จนต้องหลับใหลไปยาวถึง 2000 ปี(ไม่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจนนักแต่เราเลือกส่วนนี้มาแต่งเติมค่ะ) เพราะความที่ทานาทอสเริ่มกลายเป็นเทพเจ้าที่โหดร้ายมากขึ้น ตามตำนานอาวุธของทานาทอสมีดาบด้วย(มีปีกและคาดดาบ เสาหินอ่อนประติมากรรมจากวิหารอาร์ทิมิสที่เอฟิซัส ประมาณ 325–300 ปีก่อน ค.ศ.) ต่อมาทานาทอสตื่นขึ้นมาพร้อมกับความโกรธเเค้น เขาเกลียดชังฮาเดสเเละโกรธเเค้นฮิปนอสที่จับเขาขัง อยู่ในห้วงราตรี อันยาวนาน ทานาทอสจึงระบายความเกลียดชัง นั้นออกมาโดยการสังหารนางฟ้า เทวดาหลากหลายองค์และเขาเริ่มต้นทรมานวิญญาณเเละผู้คนในขุมนรกอย่างทารุณโหดร้าย จนเรื่องไป ถึงเทพซุสได้สั่งให้ ฮิปนอสมาจุติบนโลกมนุษย์เเละหลอกล่อให้ทานาทอสมาสังหาร ใข้เวลาต่อสู้นานถึง10วันจนกระทั่งทานาทอสได้เสียหลักล้มลง ฮิปนอส จึงฉวยโอกาสนั้นร่ายมนต์ทำให้ทานาทอสให้หลับใหลไปตลอดกาล(ซึ่งตอนแรกเทพซุส ได้สั่งให้ฮิปนอสฆ่าทานาทอสทิ้ง)เเต่ฮิปนอสได้วอนขอชีวิตของทานาทอสไว้ ซุสจึงให้ฮิปนอสตัดปีกบริเวณไหล่ของทานาทอสทิ้ง (บางตำราก็ว่าเป็นปีกที่ศีรษะแต่อิงจากรูปปั้นทานาทอสมีปีกที่ไหล่ค่ะ)เพื่อกำจัดพลังในการควบคุมความตายของเขา
อ้างอิง >
http://www.greeklegendsandmyths.com/hypnos.htmlhttps://mythology.aminoapps.com/page/blog/eros-hypnos-thanatos/b3PQ_3miou0PJE0nQNdRk87jwvbYJpvl5q