...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ผลประโยชน์ทับซ้อน...ตอน เมา (30 พ.ย. 2563) หน้า 42  (อ่าน 457377 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ปกรอดจากโทษขั้นสูงสุดแน่ๆ
เพราะเฮียรับปากแล้วหลังสอบตามปกขอ
แต่โทษขั้นรองลงมาก็ไม่รู้ซินะ อิอิ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เอาจริงๆเสืออย่างเฮียพอเจอน้องก็กลายเป็นแมวอยู่ดี 5555555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ปก ไม่รอเงื้อมมือ เอ๊ย......อ้อมกอด เฮียเจ๋งแน่  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เดี๋ยวก็รู้กันว่าเสือหรือแมววว

ออฟไลน์ Faii0518

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กด 1 ปกรอด(แบบต้องยอมเปลืองตัวอีกนิดส์)

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ขอกด 2 ล่ะกัน5555

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
น้องปกกกกก ยกนิ้วให้หนูเลย 5555 และเชื่อคราวนี้หนูก็ต้องรอดเนอะ แต่อาจต้องเปลืองตัวนิดหน่อย อิอิ

ขอขำน้องซอโซ่ ซื่อละเกิน น่ารักกกกก 5555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พี่โซ่คนซื่อ เอ็นดูจริงๆ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ +pEnGuIn+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ตอนนี้รอแค่หลังสอบค่ะ หุหุ  :hao6:

แต่พี่เจ๋งโมโหขนาดนี้จะโดนจัดซะก่อนรึป่าวก็ไม่รู้

น้องปกหาเรื่องซะแล้ว

ออฟไลน์ ichnuan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
กด 1 ปกรอด แต่คิดว่าพี่ไม่รอดค่ะ
นุ้งปกต้องง้อและอ่อยต่อชัวร์ อิอิ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เฮียเจ๋งหรอจะกล้าหือกับน้อง

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สวัสดีค่ะเพราะคิดถึงโ๊จ๊กกับโซ่เลยกับไปอ่านซ้ำเลยได้มีโอกาสตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วย  แค่ชื่อเรื่องก็โดนใจสุดๆแถมยังเป็นเจ๋งกับปกอีกดีใจสุดๆเลยค่ะ  แล้วก็ตามมาจนทันถึงตอนล่าสุดเสียทีอยากบอกว่าขำหนักมากกกกกกก  เฮียเจ๋งเป็นพระเอกที่ปากร้ายมากๆเลยสมกับที่เป็นน้องของโจ๊กแต่เฮียแกภาษีดีกว่าเยอะเพราะน้องปกปลื้มเฮียเจ๋งอยู่ก่อนแล้ว ส่วนน้องปกน้องร้ายกาจมากๆชอบนิสัยน้องมากค่ะ  อ่านตอนแรกๆแอบปวดใจไปกับน้องเวลาโดนเฮียแกด่าแล้วน้องปกก็คิดไปในแง่ลบตลอดเลยลุ้นหนักมากตอนที่เฮียเจ๋งรู้สึกคันๆในอกอยากให้น้องปกสมหวังเร็วๆ  แล้วเฮียก็ไม่ทำให้คนอ่านต้องรอนาน  สรุปชอบอ่ะชอบมากๆ  รอตอนต่อไปด้วยความอยากรู้แต่เราว่าน้องปกน่าจะรอดนะดูเหมือนเฮียเจ๋งแกไม่ค่อยทันน้องอ่ะ  แต่ก็ :hao3:ลุ้นๆเฮียอยู่เหมือนกันนะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กด2 อยากเห็นเด็กโดนขย้ำ กรี๊ดดด

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ชอบสายรหัสนี้จริง ๆ ใส่ใจกันทุกระดับ
ส่วนเฮียเจ๋งนั้นไม่น่าจะเอาชนะน้องปกได้ คงเป็นได้แค่แมวเชื่อง ๆ มากกว่า

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เจ๋งมาไวยิ่งกว่าจรวด มาแบบพายุ
ถึงบ้านแล้วจะเป็นแค่ลมพัดผ่านหรือเปล่าต้องรอดู

เจ๋งอยู่บ้านปก ไม่นิ่งดูดายนะคะ
ถ้าน้องชวนมาอยู่ด้วยคือพี่คงไม่ต้องกลับไปเอาของ ซื้อใหม่เลย

ปกฉัตรทำได้ และทำดีค่ะ
รอบนี้ก็ยังคิดว่าสยบได้
แต่จะสมยอมปล่อยให้พี่ได้ใจหรือเปล่า อันนี้เป็นไปได้

ติชชี่คือคู่ชงดิษหรอ แหมม เรือกำลังเชี่ยวเลย

ออฟไลน์ พันธุ์ไทย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ crOnOs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่อยให้สุด ถ้าได้เเล้ว... ก็อย่าหยุดนะลูก
น้องปกคะ พี่เชียร์ขาดใจ สายอ่อย สายยั่วเยงี้ พี่ชอบ อร๊ายยยยยยยย

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
อยากกด 2 แต่ความร้ายลึกของปกนั้นนนน อิชั้นขอกด1 ค่ะ :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เฮียเจ๋งพาน้องไปเปบี่ยนชุดอย่างไวแน่ๆ  :hao5:

ออฟไลน์ taku_kimu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โซ่ไออาร์ นายเอกในใจระดับท็อปเลย  :mew1:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ผลประโยชน์ทับซ้อน
By: Dezair
………………….
    ตอนที่ 14


   กิมจิสีสดและเปียกชุ่ม


   ปกฉัตรนั่งอยู่ในรถยนต์หรู ก้มหน้าก้มตาพยายามเอากระดาษทิชชู่เช็ดคราบที่ติดเสื้อ ยังดีว่าก่อนขึ้นรถเขากอบเอาส่วนที่เป็นผักและเศษต่างๆออกจากเสื้อไปแล้ว ตอนนี้ที่ยังเหลือคือคราบน้ำสีแดงส้มซึ่งเป็นวงกว้างและมันซึมเข้าไปข้างในด้วย


   รถยนต์ขับเลยสี่แยกไปได้หน่อยก็เลี้ยวเข้าสู่อาณาเขตของคอนโดหรูริมถนน ร่างโปร่งหันมองแล้วก็เพิ่งรู้ว่าคนขับไม่ได้พาเขากลับบ้าน


   “ไม่ต้องมามองกู รถติดแบบนี้มึงคิดว่าถึงบ้านมึงกี่โมง? ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบนคอนโดกู!”


เพราะรู้ตัวดีว่าแอบทำลับหลังเจตน์ ปกฉัตรเลยไม่กล้ามีปากเสียงนัก เขายอมลงจากรถเดินตามอีกฝ่ายไปแต่โดยดี


   คอนโดหรูห้องนี้ เขาเคยมาหลายครั้งแล้ว ครั้งแรกก็ว่าประหม่ามาก แต่ครั้งนี้สิ...ทั้งประหม่า ทั้งรู้ตัวว่าผิด


   “ขึ้นไปอาบน้ำ! แล้วถ้าไอ้น้ำกิมจิหยดลงบนพื้นห้องกู กูจะให้มึงถูทั้งคอนโด!” เสียงทุ้มเข้มงวดของเจ้าของห้องบอกให้รู้ว่าเจตน์กำลังโกรธ ปกฉัตรไม่พูดอะไร เดินขึ้นชั้นสองไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย


   ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็กลับลงมาชั้นล่างอีกครั้งด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่หาเอาจากตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้อง คราวนี้เจตน์คงโกรธจริง เพราะไม่อำนวยความสะดวกเหมือนคราวก่อนแต่อย่างใด แถมเจ้าตัวยังนั่งหน้าหงิกอยู่ที่โซฟาด้วย


   ปกฉัตรเดินเข้าไปหา พอนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน เจ้าของห้องก็เปิดฉากทันที


   “กูบอกว่ายังไง?! บอกว่าห้ามมึงไปยุ่งกับเรื่องไอ้ฝรั่งนั่นใช่มั้ย?!”


   “แต่ผมไม่ได้รับปากว่าจะไม่ยุ่ง...”


   “ไอ้ปก!!” เจตน์ร้องลั่น เห็นปกฉัตรดูนิ่งๆเหมือนจะเป็นคนว่าง่าย แต่เจ้าตัวหัวหมอยิ่งกว่าหน้าตาเยอะ


   แล้วคนหัวหมอก็รู้เสียด้วยว่าพอเจตน์เริ่มจะอาละวาด เขาควรจะทำยังไง


   ร่างผอมขยับเข้าหา วางมือกับต้นขาของคนรัก


   “พี่...ที่ผมทำ ก็เพราะไม่อยากให้พี่ฟางหนีเจฟอีก เพราะถ้าผมเป็นเจฟ แล้วพี่หนีผมแบบนั้น ผมก็คง...เป็นยิ่งกว่าเจฟในตอนนี้”


พอยกมาเปรียบเทียบกับเรื่องของตัวเอง คนกำลังโมโหก็เงียบกริบ ดวงตาเรียวจับจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้น ปกฉัตรยังคงหวั่นไหวและไม่แน่ใจ ความมั่นใจสร้างขึ้นมายาก แม้ว่าครั้งหนึ่งคนที่ทำลายมันจะไม่ใช่เจตน์ก็ตาม


   “กูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอว่ากูไม่หนีมึงไปไหนหรอก กูจะอยู่กับมึง จะอยู่ข้างๆมึง จะไม่ทิ้งมึงไว้คนเดียว” ร่างสูงโอบร่างของอีกฝ่ายเข้าใกล้


   “หลับตาสิ” เสียงทุ้มดังแผ่ว ปกฉัตรหลับตาลงอย่างว่าง่าย ปล่อยให้สัมผัสจากแขนของอีกฝ่ายโอบรัดร่างกายของอย่างเชื่องช้า


   “กูกอดมึงอยู่ มึงรู้ตัวมั้ย” คนที่ยังหลับตาพยักหน้ารับ ก่อนที่ลมหายใจอุ่นๆจะเคลื่อนเข้าใกล้แก้มมากขึ้นอีกนิดแล้วกลายเป็นสัมผัสที่แนบชิดลงกับผิว


   “กูหอมแก้มมึงอยู่ มึงรู้ตัวมั้ย” คนที่ยังหลับตาพยักหน้ารับอีกครั้ง คราวนี้สัมผัสที่ข้างแก้มลากเลื้อยมาที่ริมฝีปาก มันไม่ได้จู่โจมในทันที แต่คลอเคลียเบาๆบนริมฝีปากของปกฉัตร


   “ต่อให้มึงหลับตา กูก็ยังอยู่กับมึง...” ปกฉัตรไม่ได้ลืมตาขึ้นมาอีก สัมผัสที่ริมฝีปากบอกเขาว่าเจตน์กำลังจูบ เป็นจูบที่หนักแน่นแต่นุ่มนวล เป็นสัมผัสในความมืดมิดที่มองไม่เห็นแต่ก็รับรู้ว่าเจตน์ยังอยู่ตรงนี้ ยังกอดเขาเอาไว้ ยังจูบเขาด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี


   กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ริมฝีปากของเจตน์ก็เคลื่อนออกห่างแล้ว ปกฉัตรลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่านอกจากเจตน์จะกดร่างของเขาจนแทบจมหายเข้าไปในพนักโซฟาแล้ว แขนของเขาก็คล้องคอร่างสูงอยู่


   ...ดูแล้วเต็มใจถูกจูบ และเต็มใจจูบกลับเป็นอย่างยิ่ง!...


   “ผมขอโทษนะ พี่หายโกรธผมได้มั้ย” เสียงอ่อนๆ มาพร้อมกับมือที่ลูบอก ความโกรธมลายลงใต้มือนี้ ชีวิตลูกไก่ในกำมือเป็นยังไง เจตน์เข้าใจถ่องแท้ก็วันนี้


   “มึงก็อย่างงี้ทุกที” หนุ่มตี๋ซุกหน้าลงกับซอกคอขาวของคนรัก ไม่อยากยอมรับคำขอโทษของคนใต้ร่างตัวเองเลย แต่...ทำไงได้ ใจยอมมันไปหมดแล้ว ยอมตั้งแต่คำพูดของมันแล้ว


   ‘…ถ้าผมเป็นเจฟ แล้วพี่หนีผมแบบนั้น ผมก็คง...เป็นยิ่งกว่าเจฟในตอนนี้’


   ถ้าหนี ปกฉัตรจะยิ่งตาม ยิ่งหาทุกวิถีทาง ทำทุกอย่าง...ปกฉัตรคนนี้ คนที่ตะเกียกตะกายจนมาอยู่ข้างกันในวันนี้ เป็นคนที่ใช้ความรู้สึกเป็นที่ตั้ง และใช้ความพยายามอันแรงกล้า


   เพื่อเจตน์


เพื่อความรัก


   ร่างสูงสั่นเทิ้มไปทั้งหัวใจ อยากตอบแทนทุกความรู้สึกของคนในอ้อมแขน อยากตอกย้ำให้มั่นใจถึงสัญญา เขากอดรัดร่างผอมยิ่งขึ้น กลิ่นกรุ่นและไออุ่นของผิวเนื้อหลังอาบน้ำเข้ามาในประสาทสัมผัส หลับตาลงลากไล้ปลายจมูกไปมาเบียดจูบและปากลงกับซอกคอของปกฉัตร สองมือสอดไล้เข้าไปใต้เสื้อยืดของร่างผอม ชวนให้อารมณ์ลุกโหม แต่...เจ้าของผิวกลับทวงสัญญา


   “เราตกลงกันแล้ว ว่าหลังสอบนะ...” เจตน์ครางฮือเสียงดัง อารมณ์ลุกโชนดับมอด ดึงมือตัวเองออกจากเสื้อของอีกฝ่าย แต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากผิวของปกฉัตร


   “พี่...รักษาสัญญานะ” เป็นอีกครั้งที่เสียงฮือดังขึ้น ดูเหมือนคนถูกขอให้รักษาสัญญาจะยอมรามือแต่โดยดี แต่ไม่วายกัดซอกคอขาวไปทีด้วยความหมั่นเขี้ยว


   “อื้อ!...” ความรู้สึกเจ็บจี้ดทำเอาเจ้าตัวร้องเบาๆ ก่อนที่ร่างสูงที่ทาบทับอยู่ข้างบนจะพลิกตัวเองไปนั่งด้านข้างทำเป็นมองไปทางอื่นเพื่อระงับอารมณ์เอาไว้ ปกฉัตรยิ้มจางอย่างเอ็นดู เขาอยากจะอ้อนต่ออีกหน่อยแต่เสียงโทรศัพท์ขึ้นเสียก่อน เขาหันมองหา ก็ถึงได้เห็นทั้งโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ถูกวางเอาไว้ข้างกระเป๋าเป้


   ร่างโปร่งลุกขึ้นไปหยิบมาดู แล้วชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก็ทำเอาชะงัก


   “เป็นไร” เจตน์หันมาถามเพราะเห็นอีกฝ่ายไม่รับโทรศัพท์เสียที ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองเขา ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะเผยอตอบ


   “แม่โทร.มา”

...............................

   ชายหนุ่มจากคณะบัญชีนั่งตัวตรงอยู่บนโซฟา ในขณะที่ปกฉัตรเดินกลับมานั่งข้างเขา พร้อมกับโทรศัพท์แนบหู


   “ปกไปกินข้าวกับสายรหัสน่ะแม่ แล้ว...นี่ก็อยู่บ้านของรุ่นพี่ ” ร่างโปร่งพูดกับปลายสาย เจตน์ได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาถามทำนองว่าทำไมไปรบกวนอยู่บ้านคนอื่นดึกๆดื่นๆ เขาก็ชักคันปากอยากบอกเหลือเกินว่าไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นแฟน


   ...เป็นแฟนครับแม่! เป็นว่าที่ลูกเขยแม่ด้วย!...


   “ปก...ขอคุยหน่อย” จู่ๆคนที่นั่งข้างๆก็พูดขึ้นมา ร่างโปร่งไม่ทันอนุญาต โทรศัพท์ในมือก็ถูกดึงไป


   “สวัสดีครับ ผมชื่อเจ๋งนะครับ” เขากรอกเสียงลงโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นเดินออกไปคุยที่เทอเรซ ลมพัดสบายและบรรยากาศสวยๆของกรุงเทพฯยามค่ำคืนทำให้เจตน์คิดว่าเขาหัวแล่นกว่าการนั่งตัวตรงแน่วอยู่บนโซฟา


   ปกฉัตรรีบลุกตามคนรักปากไม่ค่อยดีด้วยความกังวล ทว่าเจตน์กลับดูสบายๆเหมือนคุยกับคนที่รู้จักกันมานาน


   “น้องมาค้างกับผมได้ครับ คืนนี้ดึกแล้ว แท็กซี่หายาก แล้วซอยบ้านน้องก็เงียบด้วย กว่าน้องจะถึงบ้านคงจะดึกกว่านี้ แล้วช่วงนี้น้องใกล้สอบ อ่านหนังสือดึกๆหลายคืน ให้นั่งแท็กซี่กลับคนเดียวผมก็เป็นห่วง มาค้างกับผม ห้องผมอยู่ใกล้มหา’ลัย พรุ่งนี้น้องก็ตื่นสายได้หน่อยนึงด้วยครับ”


   “ผมไม่ใช่รุ่นพี่ในคณะ ผมเรียนบัญชี แต่เรารู้จักกันตั้งแต่เรียนมัธยม ไอ้ดิษเพื่อนสนิทของน้องก็รู้จักกับผม แล้วถ้าคุณแม่ไม่สบายใจ เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ผมให้คุณแม่ก็ได้ครับ”


   “ครับ ช่วงนี้น้องเรียนหนักเพราะใกล้สอบ วันนี้ก็ติวจนค่ำ แล้วน้องก็ไม่ค่อยชอบกินข้าว ใช่ครับ...น้องทานน้อยเกินไป ดิษยังกินมากกว่าน้องเยอะเลยครับ แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลน้องอย่างดี” เจตน์ยิ้มกับโทรศัพท์ก่อนจะหันมาส่งคืนให้ปกฉัตรที่ยืนมองเขาตาปริบๆ


   “คุณแม่จะคุยด้วย” ร่างโปร่งรับโทรศัพท์กลับไป แล้วเสียงของแม่ก็ลอยเข้าหู


   ‘แม่คุยกับพี่เขาแล้ว แต่ถึงพี่เขาจะเต็มใจ ปกก็อย่ารบกวนพี่เขามากนะ แล้วเมื่อกี้พี่เขาบอกว่าปกไม่ค่อยทานข้าวอีกแล้วเหรอ’


   “ก็...ทานนะแม่ แต่...พี่เขาทานเยอะเกิน เขาก็เลยเห็นว่าปกทานน้อย” ไม่รู้ว่าเจตน์ใส่อะไรลงไปในคำพูด ดูเหมือนแม่ของเขาจะไม่สงสัยในความสัมพันธ์ของพวกเขาเลย



   ‘แล้วอย่าโหมอ่านหนังสือมากนะ ไว้พ่อกับแม่กลับไปแล้วเจอกันนะปก’


   “ครับแม่” แม่วางสายไปแล้วเจตน์เลยหันมาสั่งคนข้างกาย


   “มึงอย่าลืมส่งที่อยู่กูให้แม่มึงด้วยล่ะ” ร่างโปร่งพยักหน้ารับรู้ แล้วก็พลอยข้องใจจนต้องขบริมฝีปาก


   “แม่รู้ได้ยังไงว่าผมไม่กลับบ้าน” เพราะประโยคแรกของแม่คือถามว่าเขาอยู่ที่ไหน ปกฉัตรติดต่อพ่อแม่เสมอ ถึงจะไม่ทุกวัน แต่สัปดาห์หนึ่งๆก็หลายครั้ง ทว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่แม่โทรมาหาแล้วเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำถามที่ประหลาด

   
   “ก็...คงโทรเข้าบ้านมึงแล้วไม่มีคนรับรึเปล่า”


   “แม่ผมไม่เคยโทรเข้าบ้านตั้งแต่ผมมีมือถือ...”


คิดได้อย่างเดียวคือมีคนบอก แล้วใครบอก?


   “ก็คงมีคนบอก ไม่เห็นต้องคิดมาก แม่มึงโทรมาแบบนี้ กูก็เลยได้แนะนำตัว” เจตน์พูดอย่างไม่เดือดร้อน ปกฉัตรหันมามองร่างสูงเต็มสองตา ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายปากไม่ดีคนนี้ จะพูดจาสุภาพกับผู้ใหญ่ได้ขนาดนี้


   “พี่...ไม่โกรธใช่มั้ยที่ผมบอกแม่ว่าพี่เป็นรุ่นพี่”


   “ตอนนี้กูจะยอมเป็นรุ่นพี่ต่อหน้าพ่อแม่มึงไปก่อน แต่ถ้าเมื่อไรที่มึงคิดว่าพ่อแม่มึงพร้อม กูก็พร้อมจะบอกว่ากูเป็นแฟน” แต่ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไม่ได้เลย ก็คือความเป็นคนจริงจังของผู้ชายคนนี้ ใบหน้าที่มักจะเรียบเฉยอยู่เสมอเผยรอยยิ้มจางก่อนจะเดินเข้าไปโอบร่างหนาเอาไว้


   “ขอบคุณนะพี่”


   “กูรอเป็นแฟนมึงต่อหน้าพ่อแม่มึงอยู่นะ แล้วก็...รอเป็นผัวมึงหลังไฟนอลด้วย โอ๊ย! นี่มึงตีกูเรอะ?!” ตีไม่พอ คนตียังหมุนตัวเดินหนีอีกต่างหาก เจตน์จ้ำเท้าเดินตามจะไปเอาเรื่อง โทษฐานที่ประทุษร้าย


   “พี่ไม่ต้องตามมาเลย ผมจะอ่านหนังสือสอบ”


   “ไว้มึงสอบเสร็จก่อนเหอะ!”


   เป็นผู้ชายที่...พร้อมจะทำลายความโรแมนติกตลอดเวลา!

..................................

   สอบปลายภาคมาเยือนอย่างรวดเร็ว ปกฉัตรไม่ได้ถามผลลัพธ์ของการพบเจอกันระหว่างเจฟฟรี่และทิฆัมพรที่ร้านอาหารเกาหลีในวันนั้น แต่ตอนที่เขาพบหน้าเพื่อนลูกครึ่งที่หน้าห้องสอบ รายนั้นยิ้มให้เขาอย่างสดใสแล้วค้อมศีรษะให้หนึ่งที ก็พอจะเดาได้ว่าทุกอย่างคงลงตัวแล้ว


   แต่...คณะรัฐศาสตร์ ปี 1 สอบเสร็จวิชาสุดท้าย ในขณะที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ทั้งปี 1และปี 2 ยังสอบไม่เสร็จ


   ร่างสูงโปร่งของหนุ่มปี 1 ก้าวเท้าเข้ามาในอาคารสูงใจกลางเมือง ใบหน้าเรียบเฉยของปกฉัตรก็ยังเรียบเป็นนิจ แต่พอหันไปเห็นเจตน์เดินออกมาจากโถงลิฟต์ มุมปากของเจ้าตัวก็ยกขึ้นเล็กน้อย พอๆกับที่ดวงตาสีน้ำตาลจางๆคู่นั้นมีประกายวาวขึ้นมาอีกหน่อย


   “ทำไมมึงมาช้า กูหิว!” เจ้าของคอนโดหน้าหงิกก้าวไปถึงตัวก็บ่นทันที แต่ปกฉัตรดูจะคุ้นเคยกับเสียงแข็งๆและหน้าหงิกๆของหนุ่มตี๋รายนี้แล้ว


   “แล้วทำไมพี่ไม่หาอะไรกินรองท้องไปก่อนล่ะ” ตาเรียวของเจตน์ถลึงใส่คนต่อล้อต่อเถียงที่เดินเคียงกันไปยังโถงลิฟต์


   “ก็เพื่อนมึงน่ะสิ!! วอแวไม่ให้กูลุกไปไหนเลยเนี่ย! นี่ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามึงมาพร้อมข้าวเย็น มันก็คงไม่ให้กูลงมารับ แม่ง! เสือกจะติววันเดียวสอบ โง่ๆอย่างมันเอาให้ผ่านมีนยังยากเลย!”


   วันนี้ดิษกรมาพึ่งใบบุญเจตน์เหมือนเมื่อตอนกลางภาค แต่ปกฉัตรไม่ได้มาด้วยเพราะสอบเสร็จแล้ว แถมไม่ต้องหาข้ออ้างเรื่องขับรถแทนเหมือนแต่ก่อน เพราะมีใครบางคนโทรไปเรียกร้องให้เขาแวะมาทานข้าวด้วยอยู่แล้ว


   “แล้วนี่มึงเอาอะไรมา” เจตน์ถามแล้วเอื้อมมือไปดึงถุงพลาสติกในมือคนรักมาเปิดดู


   “ก๋วยเตี๋ยว มีเส้นเล็ก เส้นใหญ่และก็บะหมี่ ไม่รู้พี่จะอยากทานเส้นไหนบ้าง” ร่างสูงนิ่วหน้า เพราะก๋วยเตี๋ยวที่ปกฉัตรซื้อมานอกจากจะเยอะแล้วยังหนักน้ำซุปด้วย


ประตูลิฟต์เปิดออก เจตน์เดินลิ่วๆตรงไปยังห้องของตนเองโดยไม่พูดอะไร ทำเอาคนอุตส่าห์ทั้งซื้อทั้งหิ้วก๋วยเตี๋ยวมาชักกังวล


   พอเปิดประตูเข้าไปในคอนโด ปกฉัตรไม่แม้แต่จะแวะไปทักทายเพื่อนสนิทที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าโทรทัศน์ แต่กลับเดินตามเจ้าของห้องเข้าไปในครัว


   “พี่...” เขาเรียกคนที่เพิ่งยกถุงก๋วยเตี๋ยววางบนเคาท์เตอร์ ไม่ทันได้พูดอะไรต่อ อีกฝ่ายก็หันมามองหน้า


   “คราวหลังมึงซื้อแห้งมานะ”


   ...โธ่ ก็นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็อยากกินก๋วยเตี๋ยวแห้ง...


   ปกฉัตรยิ้มจาง เดินเข้าไปใกล้ “ถ้าพี่อยากกินแห้ง พี่ก็ไม่ต้องเติมน้ำ พี่จะกินเส้นอะไร เดี๋ยวผมใส่ถ้วยให้”


เจตน์อาจจะเครียด อาจจะอารมณ์ไม่ดีเพราะยังสอบไม่เสร็จ คนสอบเสร็จแล้วอย่างปกฉัตรก็เลยไม่ถือสาหาความกับหน้าหงิกๆและการเรียกร้องก๋วยเตี๋ยวแห้งนั่นเท่าไร ทว่า...ยังไม่ทันที่มือขาวจะหยิบถุงก๋วยเตี๋ยวออกมา เสียงของเจตน์ก็ดังขึ้นอีก


   “กูหมายถึงว่ามึงซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำแล้วมึงต้องหิ้วหนัก”


   ปกฉัตรชะงัก หันมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ


   “ซื้อมาได้ยังไง ที่กูนับๆดูเนี่ยสิบถุงได้มั้ง แล้วไหนจะน้ำซุปอีก”


เป็นคำพูดห่วงใยแบบทื่อๆของผู้ชายตัวใหญ่หน้าหงิกที่ทำเอาคนหิ้วก๋วยเตี๋ยวสิบถุงได้แต่กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะยิ้มจางด้วยความรู้สึกอุ่นๆในอก มือขาวสอดเข้าโอบเอวคนหน้าบึ้งอย่างเอาใจ ขยับตัวเข้าใกล้แล้วพูดเบา


   “ไม่ได้หนักมากมายอะไรหรอก แค่อยากให้พี่ได้ทานของอร่อยแค่นั้นเอง...” ริมฝีปากที่เอื้อนเอ่ยใกล้แค่เอื้อม และมันเป็นเอื้อมของเจตน์ที่แค่ฉกวูบนึงก็ได้ลิ้มรสจูบของคนรักแล้ว


   เป็นจูบที่เหมือนฉกเบาๆ เรียกเสียงหัวเราะคิกอย่างอารมณ์ดีจากปกฉัตร


   “พอเลย ไอ้ดิษก็อยู่...” เจ้าของเสียงหัวเราะท้วง แต่เจตน์กลับหมุนตัวเขาเข้าหาเคาท์เตอร์ ใช้ขนาดตัวไซซ์ฝรั่งบังร่างของปกฉัตรมิด ถ้าดิษกรจะทะเล่อทะล่าเข้ามาในห้องครัวตอนนี้ ก็คงเห็นแค่แผ่นหลังของเจ้าของห้องเท่านั้น


   ใบหน้าของหนุ่มตาเรียวคณะบัญชีบังแม้กระทั่งแสงจากหลอดไฟบนเพดานด้วยซ้ำ ปกฉัตรมองเห็นแต่ประกายวาววิบในดวงตาสีดำสนิทที่กำลังจับจ้องมาที่เขา


   ต้องการ...แต่ก็อ่อนล้า


   มือขาวยื่นไปแตะแก้มของร่างสูงแผ่วเบา นิ้วโป้งไล้ผิวอย่างอ่อนโยน แต่ก่อน เขาเคยคิดว่าเจตน์คือผู้ชายตัวใหญ่ที่แข็งแรง แข็งแกร่ง มีชีวิตชีวา แต่เวลานี้...ผู้ชายที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เหนื่อยและล้าทว่าก็ยังพยายามกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเองอย่างดี


   “พรุ่งนี้สอบวิชาสุดท้ายแล้วใช่มั้ย”


   “อือ”


   “พี่ทำได้ พี่เก่ง...” ปกฉัตรรับรู้ถึงอ้อมแขนของอีกฝ่ายที่รัดเขามากขึ้นเล็กน้อย เจตน์เครียด เขารู้ดี ไหนจะต้องเจียดเวลาไปช่วยติวดิษกรอีก ความใจดีและใจกว้างของร่างสูงทำให้ทอดทิ้งรุ่นน้องร่วมคณะที่แสนสนิทไม่ลง


   “คืนนี้มึงค้างที่นี่ได้มั้ย...กู...อยากเห็นหน้ามึงก่อนไปสอบ...” รอยยิ้มจางเผยบนใบหน้าที่เคยเรียบเฉย ก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มจะยืดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมอบสัมผัสแผ่วเบาให้กับริมฝีปากของคนร้องขอ


   “ถ้าเห็นหน้าผมก่อนสอบ ผมคาดหวังเกรดวิชานี้ของพี่นะ...” ใบหน้าของเจตน์ที่แสนเหนื่อยล้ามีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง


   “มึงเป็นป๊าม้ากูเหรอ คาดหวังเกรดกูเนี่ย”


   “ไม่ใช่สักหน่อย ผมแค่...อยากได้แฟนเรียนเก่ง...ก็เท่านั้นเอง” ยิ่งกว่าสาดกำลังใจใส่คนฟัง คนกำลังเหนื่อยกำลังล้า ถูกอีกฝ่ายเรียก ‘แฟน’ เข้าหน่อยก็เหมือนได้รับพลังเพิ่มอย่างรวดเร็ว อ้อมแขนแข็งแรงรัดแน่นขึ้นอีกนิด


   “แฟนมึงไม่ได้เรียนเก่งอย่างเดียวหรอกนะ อย่างอื่นก็เก่ง...”


   “ฮะแฮ่ม!!” บรรยากาศอ้อล้อของคนรักหายวับทันทีที่มีเสียงบุคคลที่สาม เจตน์ถอนหายใจเฮือก ขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด ยอมคลายอ้อมแขนออกให้ปกฉัตรโผล่หน้าพ้นร่างเขาไปดูที่ประตูครัว



ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8



ดิษกรยืนพิงกรอบประตูยิ้มแฉ่งอยู่เหมือนไม่รู้ไม่เห็นการขัดจังหวะแต่อย่างใด


   “ดิษ หิวรึยัง กูซื้อก๋วยเตี๋ยวมา มาเลือกสิ จะกินเส้นอะไร” ปกฉัตรเบี่ยงตัวออกจากกอดของคนรัก เดินมาที่ถุงก๋วยเตี๋ยว ดิษกรเลยเดินมาสอดส่องบ้าง แต่ไม่วายทำเป็นมองไปที่รุ่นพี่ร่วมคณะอย่างรู้ทัน


   “แล้วเฮียเลือกยัง ว่าจะกินเส้นไร” 


   “เลือกแล้ว! กูแดกเส้นใหญ่!” คนถูกขัดจังหวะไพรม์ไทม์ตอบเสียงแข็ง


   “เดี๋ยวผมเทใส่ถ้วยให้ พี่ออกไปเคลียร์โต๊ะข้างนอกที” ปกฉัตรรีบออกปากไล่คนรักออกจากห้องครัว เพราะเกรงว่าดิษกรจะหาเรื่องหยอกล้อแล้วก๋วยเตี๋ยวจะกลายเป็นอาวุธของคนกำลังเหนื่อย กำลังล้า และเพิ่งถูกขัดจังหวะซะก่อน


   เจตน์ยอมเดินตึงตังออกจากครัวไปแต่โดยดี เหลือแค่ดิษกรและปกฉัตรในครัวแค่สองคน ร่างโปร่งไม่พูดอะไร นอกจากหยิบถุงก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ออกมาเทใส่ชามและอุ่นไมโครเวฟให้


   “เอาใจเฮียดีเนาะ!” คำพูดของเพื่อนตัวใหญ่ทำเอาปกฉัตรต้องหันมอง


   “ก็เฮียมึงเหนื่อย...”


   “กูก็เหนื่อยนะ” ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ


   “เอาของมึงมาสิ เดี๋ยวกูอุ่นให้” ดิษกรดี๊ด๊า ส่งถุงก๋วยเตี๋ยวที่ตนเองเลือกให้เพื่อนรัก เขามองปกฉัตรจัดแจงเทก๋วยเตี๋ยวใส่ถุงและอุ่นไมโครเวฟต่อจากของเจตน์


   “มึงรู้มั้ย เมื่อกี้เฮียหูแดงด้วย ถามจริง ทำอะไรเฮียกู”


   “ไม่ได้ทำอะไรนี่”


   “แหมะ! ไม่ทำอะไรแล้วเฮียกูจะหูแดงได้ไง อานิศน่าจะได้มาเห็นว่าน้องปกน่ะ น่ากลัวกว่าเฮียเจ๋งเยอะ! ถ้าจะมีใครทำอะไรใครจริงล่ะก็ ไม่ใช่เฮียเจ๋งของกูแน่ๆล่ะ” ปกฉัตรชะงักไปอึดใจเมื่อดิษกรพูดถึงนิศราขึ้นมา


   “อานิศ...พูดถึงเรื่องกูเหรอ”


   “อื้อ ก็เขาเห็นเฮียมาบ้านมึง เขาก็สงสัยว่าใคร กูเลยบอกว่าเฮียคนที่หน้าหงิกๆ”


   “แล้วอานิศถามอะไรอีกรึเปล่า”


   “ไม่นะ เพราะกูก็บอกอาแล้วว่าเฮียเจ๋งน่ะคนดี ไว้ใจได้”


ร่างโปร่งรับฟังอย่างเงียบๆ ดิษกรอาจจะไม่คิดอะไร แต่นิศราเป็นคนใกล้ชิดครอบครัวของเขาคนหนึ่ง หากหล่อนจะให้ความสนใจกับเรื่องของเจตน์ หล่อนก็อาจเป็นคนที่โทรศัพท์ไปบอกแม่ของเขาที่ต่างประเทศ


   “ดิษ...ถ้าอานิศถามอีก มึงบอกอานิศไปก็ได้ว่า...เฮียของมึงรู้จักแม่กูแล้ว...”


   “เฮ้ย! รู้จักเมื่อไร”


ปกฉัตรยิ้มน้อยๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลจางนั้นแฝงความนัยอย่างที่ดิษกรมองไม่ออก


   “แม่เคยโทรมาตอนกูอยู่กับพี่ ก็เลยได้คุยกัน”


   หากนิศราเป็นคนฟ้องเรื่องเจตน์กับมารดาของเขา ปกฉัตรก็จะให้นิศรารู้ว่าเจตน์ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นคนใกล้ตัวที่รู้จักคุ้นเคยกับมารดาของเขาแล้ว ต่อให้ยังไม่รู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเขาและเจตน์ แต่คนรักของเขาก็ไม่ใช่คนไร้ตัวตนในสายตาบุพการีแน่นอน


   ปกฉัตรจะไม่ยอมให้ทุกอย่างพังเพราะอาของดิษกรอาศัยความหวังดีไปฟ้องพ่อแม่ของเขา และลงเอยที่การถูกกีดกันเด็ดขาด


   ...กว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ง่ายเลย และจะไม่ยอมให้มันพังลงง่ายๆเช่นกัน...

...............................

   คืนนั้นดิษกรและปกฉัตรค้างที่คอนโดของเจตน์ สถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือรุ่นน้องต่างคณะถูกไล่ขึ้นไปนอนชั้นบน เพราะเจตน์และดิษกรอ่านหนังสือที่ชั้นล่าง เกือบรุ่งสาง เจ้าของห้องถึงได้เดินสะโหลสะเหลขึ้นไปล้มตัวลงนอนบนเตียง


   ปกฉัตรตื่นขึ้นมาตอนถูกอีกฝ่ายรวบไปกอด แต่เจตน์หลับทันทีที่หัวถึงหมอน เป็นคนถูกกอดเสียอีกที่ได้แต่นอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขน คิดสะระตะไปเรื่อยอยู่ในอ้อมแขนนั้นจนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น คนที่เพิ่งได้นอนไปเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วก็ขยับตัว อ้อมแขนคลายออก เจ้าของห้องพลิกตัวไปกดปิดเสียงแล้วนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น ร่างโปร่งผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย กลัวว่าอีกฝ่ายจะหลับต่อ


   “พี่...หกโมงเช้าแล้ว”


   ดวงตาเรียวที่ปิดสนิทปรือขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะลุกขึ้นนั่ง สะบัดศีรษะตั้งสติไล่ความง่วงงุนก่อนจะหันไปมองคนที่ยังนอนมองเขาตาแป๋ว


   “มึงนอนต่อเถอะ”


   เจตน์กำลังจะหันไปลงจากเตียง แต่มือของเขากลับถูกคว้าไว้ คนเพิ่งตื่นที่ได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงหันมามองด้วยความงุนงงผสมหงุดหงิดเล็กๆ แต่คนที่รั้งเขาเอาไว้กลับลุกขึ้นนั่ง


   แล้วนั่งอย่างเดียวไม่พอ ยังยืดหน้าเข้ามาจูบเขาเบาๆอีกด้วย


   คนถูกจูบแบบไม่ทันตั้งตัวถึงกับตาค้าง แต่คนตั้งใจจูบขยับถอยห่างพร้อมกับรอยยิ้มเขินๆ เป็นรอยยิ้มเขินที่น่ารักมากๆในสายตาของคนตาค้าง


   “เดี๋ยวผมลงไปทำอาหารเช้าให้นะ”


   เจตน์ได้แต่มองตามคนที่ลงจากเตียงเดินออกจากห้อง ตอนจะปิดประตูยังหันมามองเขาแล้วไล่ให้ไปอาบน้ำ ร่างสูงได้แต่ยิ้มกับตัวเอง เขาสูดลมหายใจลึกรวบรวมพลังสำหรับการสอบในวันสุดท้าย ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำอย่างกระปรี้กระเปร่า


   มีคนรักมานอนค้างด้วยมันดีแบบนี้เอง!

..............................

   ดิษกรไม่อยากจะบอกรุ่นพี่ร่วมคณะที่เมื่อเช้าออกมาสอบพร้อมกันเอาซะเลย ว่า ‘เฮียเจ๋ง’ หน้าตาดุดันเหมือนจะเข้าไปฟันเกรดงามๆจากวิชานี้ยิ่งนัก ไม่รู้ฮึกเหิมมาจากไหน แต่ที่รู้ๆเขาแอบได้ยินปกฉัตรบอกกับเจตน์ก่อนจะออกมาสอบว่า


   ‘เย็นนี้เจอกันนะ’


   ก้างขวางคออย่างดิษกรอยากจะไปเจอด้วยมากๆ แต่นอกจากเพื่อนสนิทจะไม่ชวนแล้วก็เกรงใจเฮียเช่นกัน เอาเป็นว่าเย็นนี้จะปล่อยให้คู่รักข้าวใหม่ปลามันเขาไปฉลองสอบเสร็จกันสองคนก็แล้วกัน!


   “อานิศ ขอข้าวเพิ่ม” สอบเสร็จก็ตรงกลับบ้าน วันนี้คุณอาแสนใจดีของเขาออกปากว่าจะทำของชอบให้กิน เป็นการฉลองสอบเสร็จ


   “สอบมาเหนื่อยล่ะสิ แล้วทำได้มั้ยล่ะวันนี้ อาต้องเตรียมหาที่เรียนใหม่ให้รึเปล่า” นิศราตักข้าวใส่จานหลานชายเพิ่มแต่ไม่วายหยอกด้วยรอยยิ้ม ดิษกรทำหน้ามู่แต่จิ้มทอดมันกุ้งมาใส่จานตัวเอง


   นอกจากจะมีของชอบของเขาแล้ว ก็มีของชอบของปกฉัตรด้วย แต่วันนี้ปกฉัตรไม่อยู่ เพราะงั้นดิษกรจะสอยให้เรียบ!


   “ทำได้สิอา เมื่อคืนเฮียเจ๋งติวให้ตั้งเยอะ เฮียเก่งจริงๆนะ ติวตรงไหน ออกตรงนั้น ถ้าไม่ได้เฮีย ผมว่าวิชานี้ผมแย่แน่เลย” คำว่า ‘เฮีย’ ทำเอานิศราชะงักไปเล็กน้อย


   “เฮียหน้าหงิกคนนั้นน่ะเหรอ”


   “อื้อ!”


   “แล้ว...ทำไมดิษไม่ชวนเขามากินข้าวบ้านเราล่ะ”


   “จะชวนอยู่หรอก แต่เห็นว่านัดกับไอ้ปกไว้แล้ว ก็เลยไม่ได้ชวน ไว้วันไหนเฮียว่างจะชวนมากินข้าวบ้านเรานะ” ดิษกรผู้แสนซื่อไม่รู้เลยสักนิดว่าตัวเองพูดอะไรออกไป


   “นัดกับปก? ถึงว่าล่ะ ปกไม่กลับบ้านสักที”


   “ช่าย เมื่อวานมันก็ไปค้างที่คอนโดเฮียเจ๋งเหมือนกัน”


   “ไปทำไม ปกเรียนคนละคณะไม่ใช่เหรอ” คำถามนั้นทำเอาดิษกรเริ่มรู้ตัวว่าเขาเล่าสนุกปากจนลืมความจริงข้อหนึ่งที่ว่า นิศราไม่รู้ความสัมพันธ์ของเจตน์และปกฉัตร


   หนุ่มร่างยักษ์เหลือบตามองคุณอาของตนเองเล็กน้อย รู้สึกฝืดคอจนต้องหยิบน้ำมาดื่ม


   “ดิษ ปกกับเฮียของดิษคนนี้น่ะ...เป็นแฟนกันใช่มั้ย” คราวนี้น้ำที่ควรจะไหลลงหลอดอาหารกลับไหลลงหลอดลมแทน ดิษกรสำลักไอโขลกหน้าแดง ทว่านิศรากลับจ้องหลานชายนิ่ง


   “อาจะบอกเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ของปก”


   “อานิศ!” คนไอโขลกถึงกับร้องเสียงหลง


   “ไม่ใช่ว่าอาไม่เห็นด้วย หรือไม่เข้าใจความรักของวัยรุ่น แต่ถ้าปกจะคบหากับใคร อาคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ของปกก็ควรรับรู้”


   “แต่ไอ้ปกมันบอกว่าแม่มันรู้จักเฮียเจ๋งแล้วนะ เคยคุยกันด้วย” ดิษกรรีบละล่ำละลักบอก


   “เพราะอาเป็นคนโทรไปบอกให้คุณแม่ของปกโทรตามปกน่ะสิ” คราวนี้หลานชายถึงกับพูดไม่ออก นิศราเป็นคนใจดีก็จริง แต่หล่อนก็เข้มงวด


   “อาหวังดีกับปก ถ้าเฮียของดิษคิดจะคบหากับปกจริง เขาก็ต้องกล้าเผชิญหน้ากับทุกอย่าง...รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ของปกด้วย”


   “อ...อานิศหมายความว่ายังไง”


   “คุณพ่อคุณแม่ของปกกำลังกลับมาเมืองไทย”


แล้วอาหารเย็นของดิษกร ก็จบลงในวินาทีนั้นเอง!

...........................

   มันเป็นช่วงเวลาดีๆของคนสอบเสร็จที่ความรักกำลังสุกงอม ปกฉัตรไปรอรับที่หน้าตึกคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี พอเจตน์ลงมา ก็เป็นฝ่ายร่างสูงที่พาเขาแวะซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อของสด 2-3 อย่างแล้วก็กลับมาที่คอนโด ชวนทานที่อื่นก็แล้ว แต่คนเห็นเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่บอกว่าหลังสอบเสร็จแบบนี้ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์เท่านั้น!


   แล้วประโยชน์ที่ว่าก็คือต้องครบ 5 หมู่ด้วยนะ!


   เจตน์กำลังหมักเนื้อวัวด้วยเครื่องเทศ นอกจากสเต็กแล้ว ก็มีมันอบ กับสลัด ส่วนของหวานเป็นผลไม้ ครบ 5 หมู่ตรงตามหลักโภชนาการ


   “เดี๋ยวผมล้างผักให้แล้วกัน” ปกฉัตรเสนอ จะให้ยืนดูอีกฝ่ายทำคนเดียวก็ไม่ได้ จะออกไปนอกห้องครัวก็ไม่อยาก ในเมื่อเจตน์อยู่ในนี้ เขาก็อยากอยู่ด้วย


   “เออ เอาใส่ชามอ่างเลย อยู่ใน...” เจ้าของห้องครัวกำลังจะหันมาชี้พิกัดที่เก็บชามใบใหญ่สำหรับใส่ผักสลัด แต่ปกฉัตรเดินไปเปิดเคาท์เตอร์หยิบออกมาแล้ว เจตน์กะพริบตาปริบๆ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่นอกจากเขาแล้ว ก็มีใครอีกคนที่รู้ซอกมุมในครัวนี้ ทั้งๆที่...แต่ก่อน ไม่เคยให้ใครเข้ามาวุ่นวายในครัวเลยด้วยซ้ำ


   “มีอะไรเหรอ หรือพี่ไม่ได้หมายถึงใบนี้” ปกฉัตรเห็นอีกฝ่ายมองก็ออกปากถาม ชูชามอ่างในมือให้ดู


   “เปล่า...กูแค่...แปลกใจตัวเอง” ร่างโปร่งเดินมาที่อ่างล้างจานใกล้ๆ เสียงน้ำจากก๊อกดังกลบความเงียบในห้องครัว ก่อนที่จะมีเสียงของเจตน์แทรกขึ้นมา


   “มึงรู้มั้ย แต่ก่อน...กูไม่เคยให้ใครเข้ามายุ่งในห้องครัวกูเลย พวกไอ้ไทยังถูกไล่ออกไปข้างนอก” ดวงตาสีน้ำตาลจางหันมามอง แต่เจตน์ที่หมักเนื้อเสร็จแล้ว กลับยังเอาแต่จับจ้องเนื้อวัวในถ้วยใบใหญ่นั้น


   “แต่มึง...กูกลับลากเข้ามา”


   “แล้วพี่ก็หาเรื่องผมด้วย” เจตน์หันมองคนพูด ปกฉัตรยิ้มจางมาให้


   “ก็!...ตอนนั้นกูคิดว่ามึงกับไอ้ดิษเป็นแฟนกัน แล้ว...แล้วไอ้ไทก็ทำท่าสนใจมึง” คนฟังถึงกับส่ายหัวไปมา ทำเอาร่างสูงขมวดคิ้วฉับ ขยับเข้ามาใกล้


   “ส่ายหัวทำไม”


   “คิดว่าผมกับดิษเป็นแฟนกันก็พอเข้าใจ แต่คิดว่าพี่ไทสนใจผมนี่สิ นั่นเพื่อนพี่นะ...อ๊ะ! พี่มือเลอะ อย่าขยับเข้ามาใกล้สิ เลอะเสื้อผม” คนพาลที่ดูเพื่อนสนิทตนเองไม่ออกยิ่งพาลหนักด้วยการขยับเข้าใกล้ ทั้งๆที่มือเพิ่งผ่านกรรมวิธีการหมักเนื้อมา ปกฉัตรพยายามเอนตัวหนี แต่ยิ่งหนี เจตน์ก็ยิ่งใกล้ และพอยิ่งใกล้ด้วยหน้าตาหาเรื่องแบบคนพาล ปกฉัตรก็อดไม่ไหวหัวเราะออกมาเบาๆ


   “ยังจะหัวเราะกูอีก” คราวนี้ร่างสูงไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายลอยนวล ต่อให้มือทั้งสองข้างจะแตะเนื้อต้องตัวคนรักไม่ได้ เขาก็ยังสู้อุตส่าห์เอาร่างใหญ่ๆของตนเองเบียดจนปกฉัตรหนีร่นไปชิดกำแพง


   ข้างหลังกำแพง ข้างหน้าก็...ผู้ชายตาเรียวที่หมู่นี้มักชอบพูดจาเบาๆให้หัวใจสั่นไหวเรื่อย


   “หมดทางหนีแล้ว...” เสียงทุ้มดังเบา ใบหน้าเคลื่อนเข้าชิดใกล้จนแทบใช้ลมหายใจเดียวกัน คำว่าหนีของร่างสูงไม่ใช่แค่หนีจนมาชิดกำแพง แต่เป็นเรื่องที่เคยขอเอาไว้ แต่อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงให้รอคอยหลังสอบเสร็จ


สอบเสร็จแล้ว ปิดเทอมแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาของกันและกันแล้ว


สัญญาที่ปกฉัตรให้ไว้ วันนี้...เจตน์จะขอ


   ใบหน้าขาวมีรอยยิ้มจาง ไออุ่นที่เบียดเข้ามาหาบอกเขาถึงอารมณ์ที่อีกฝ่ายมี อกหนาที่แนบชิดร้อนรุ่มกว่าเคยจนหัวใจหวามไหว


   “ถ้าจะหนีแต่แรก ก็ไม่ไปรับที่คณะหรอก...” ริมฝีปากเกลี่ยกันและกันอย่างอ่อนหวาน ความรู้สึกกำลังพุ่งทะยานจากความใกล้ชิดที่โหยหามานาน


   “แต่...มือพี่เลอะอยู่นะ” แล้วก็เป็นฝ่ายปกฉัตรที่ฉุดอารมณ์โหมกระพือให้ตกวูบ เจตน์รู้ตัวในวินาทีนั้นว่าพวกเขากำลังทำอาหารกันอยู่ แต่แล้วจู่ๆ...ก็เลยเถิดกันกลางห้องครัวเสียอย่างนั้น


   ร่างสูงกะพริบตาปริบๆ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากคนที่ยังถูกเขาเบียดชิดกับกำแพงก็ยิ่งมันเขี้ยว แต่จะจับตัวปกฉัตรเอาไว้ก็ไม่ได้ เพราะมือของเขาทั้งเลอะทั้งเหม็น เลยต้องยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระทั้งๆที่ยังหัวเราะแบบนั้น


   “ไว้กินข้าวเสร็จก่อนเถอะ ยังไงวันนี้มึงก็ไปไหนจากกูไม่รอดหรอก!” ร่างสูงหมายมั่น แต่ปกฉัตรยังหัวเราะ ดึงแขนคนรักไปที่อ่างล้างจานที่ยังเปิดน้ำล้างผักอยู่


   “ล้างมือเถอะ ก่อนที่จะคิดทำอย่างอื่น” แล้วเจ้าตัวก็ยังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เห็นสีหน้าปกฉัตรสดใสแล้วถึงจะหมั่นไส้แต่ก็อดเอ็นดูไม่ได้ แล้วยิ่งเอ็นดู ก็ยิ่งอยากรักษารอยยิ้มแบบนี้เอาไว้นานๆ


   “มองอะไร จะหาเรื่องแกล้งผมเหรอ” ร่างโปร่งถาม ทว่าเจตน์กลับส่ายหน้า


   “กู...จะทำให้มึงยิ้มแบบนี้บ่อยๆ กูสัญญา” เสียงหัวเราะจางหายไป เหลือเพียงรอยยิ้มของคนฟังที่ไม่คิดว่าจะได้รับคำสัญญาแบบนี้เลย เป็นสัญญาที่ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีราคาค่างวด เป็นแค่สัญญาของผู้ชายทื่อๆคนหนึ่งที่ออกปากว่าจะทำให้เขายิ้มบ่อยๆ


   “แค่มีพี่ ผมก็ยิ้มออกแล้ว”


เจตน์ยิ้ม ไม่ต้องมีคำพูดอะไร ริมฝีปากของพวกเขาก็มอบคำสัญญาให้กันด้วยการสัมผัส เป็นการสัมผัสอย่างแผ่วหวานที่ไม่ได้จุดชนวนความรักความใคร่ แต่กลับดื่มด่ำและอุ่นวาบในหัวใจ


   ในห้องครัวมีเสียงพูดคุย และเสียงหัวเราะดังมาเรื่อย เป็นอาหารมื้อเย็นที่ช่วยกันทำและทานกันในห้องครัว ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีแม้แต่เก้าอี้นั่ง ทำไป ทานไป แล้วก็พูดคุยกันด้วยเรื่องของกันและกัน อาหารคาวหมดลง ปกฉัตรและเจตน์ก็ยกผลไม้ออกมาจากห้องครัว พวกเขากำลังจะเดินออกไปยังเทอเรซ แต่แสงสว่างวาบจากโต๊ะหน้าโซฟาทำเอาร่างโปร่งต้องหันมอง


   “ผมก็ว่าได้ยินเสียงโทรศัพท์อยู่” ปกฉัตรว่าอย่างนั้น ส่งจานผลไม้ให้ร่างสูงช่วยถือก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตนเองมาดู บนหน้าจอปรากฏสัญลักษณ์ของสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับหลายสาย


   “ไอ้ดิษโทร.มา” เขาเอ่ยปาก แต่วินาทีต่อมาบนหน้าจอจะปรากฏสัญญาณเรียกเข้าอีกครั้ง และคราวนี้...ปกฉัตรชะงัก


   “ทำไม” เจตน์เห็นสีหน้าของคนรักก็รีบเดินเข้ามาดู ปกฉัตรเงยหน้ามองเขา


   “แม่โทร.มา”


ร่างโปร่งกดรับสาย ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นมาเสียก่อน


   ‘ปก แม่กลับมาถึงเมืองไทยแล้วนะ อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงบ้านนะจ๊ะ’


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ไหน คราวที่แล้วใครกด 2 บอกน้องปกเสร็จเฮียเจ๋งแน่ๆคะ? เฮียเป็นลูกหมีในกำมือขนาดนี้ บอกว่าหลังสอบก็ต้องหลังสอบ ไม่มีก่อนสอบได้หรอกค่ะ ฮ่าฮ่า

ตอนหน้าแม่น้องปกมา ส่วนเรื่องหลังสอบของเฮียก็...มาจริง มาแน่ ใจเย็นๆนะเฮียนะ (ลูบหลังเฮียแต่เอาลิ้นดุนแก้มกลั้นยิ้ม)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ดค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
เฮียผ่านไปได้ สบายๆอยู่แล้ว
รู้ว่าอาของดิษหวังดีแต่แบบ อาน่าจะคุยกับปกก่อนมั้ยอ่า

ออฟไลน์ Ashita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารเฮียเจ๋งเขานะคะ สู้ๆ นะคะเฮีย

ออฟไลน์ Faii0518

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เฮียเจ๋งอยู่ในโหมดชี้นกเป็นไม้สุดๆอะ
ตอนหน้านี่ลุ้นเรื่องพ่อแม่ปกเลย แต่คิดว่าน้องปกเอาอยู่แน่ๆ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
กูรอเป็นแฟนมึงต่อหน้าพ่อแม่มึงอยู่นะ แล้วก็...รอเป็นผัวมึงหลังไฟนอลด้วย #เฮียเจ๋งคนจริง 2018 กล่าว
ขุ่นแม่มาแล้วจะได้...หรา งุ้ยๆๆๆหงุดหงิดแทนเฮีย  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
โอ้ยยยยย !!! แม่นะแม่ มาขัดจังหวะอะไรตอนนี้ ทีตอนนั้นละทิ้งน้องไปทำงานได้ พอน้องมีแฟนละก็รีบกลับมาดู ชิส์ !!! แถมมาดูไอ้วันที่พี่เจ๋งรอคอยด้วยสิ !!  :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด