Calorie Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง] ผมมองเพื่อนที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขในงานหมั้น หลังจากที่ผ่านอะไรมามากมาย ผมเห็นมันมีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วย ไม่ว่าจากนี้ไป พี่โรลจะรักมันตลอดไปหรือไม่ แต่สำหรับผมนั้น ผมจะเป็นเพื่อนมัน พวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
เรื่องคืนนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของผม จูบแรกของผมกับพี่นาย ผมนั้นรู้สึกว่าตัวผมอาจจะงี่เง่าหรือเปล่า ผมไม่รู้ ในความเป็นจริงแล้ว ผมก็ไม่ใช่ว่าจะต้องการทำเรื่องแบบนั้น ไม่ได้ต้องการให้จูบผม ไม่ได้ต้องการให้กอดผม แต่ถ้าเป็นไปได้มันก็ดีอ่านะ ฮ่าๆ
จริงๆ แล้ว สิ่งที่ผมคิดนั้นมันก็แค่ พี่นายนั้นเป็นคนที่ใจดีและดูสุภาพต่อคนรอบข้าง ไอ้ความใจดีไปทั่วของไอ้บ้านี่ทำผมรู้สึกรำคาญใจ
สิ่งที่ทำให้ผมสับสนว่าคนคนนั้นชอบผมจริงๆ หรือเปล่า นั่นก็เพราะว่า พี่นายนั้นถึงจะใจดีกับผม แต่ก็ใจดีกับทุกคนด้วย ถึงเหมือนว่าจะใจดีกับผมเป็นพิเศษก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ชอบแบบนี้เลย ความเป็นมิตรนั้นอาจทอดสะพานให้คนอื่นโดยง่าย
ผมไม่แปลกใจเลยว่าพี่แกจะเป็นคนเจ้าชู้ ก็เพราะทุกอย่างมันเอื้อกับนิสัยพี่แกน่ะสิ แบบนี้คนเป็นแฟนก็ปวดหัวตายล่ะ ผมเข้าใจแล้วว่าไอ้ลี่รู้สึกยังไงเมื่อมายืนจุดนี้ด้วยตัวเอง
ผมมองดูพี่นายที่พูดคุยประสานงานกับคนอื่น งานหมั้นในครั้งนี้ เรียกได้ว่าพี่นายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดงานทั้งหมด เป็นผู้ออกแบบ วางแผน ผมต้องยอมรับจริงๆ ว่าพี่เขามาทางนี้ และทำทุกอย่างได้ดี
ผมมองดูงานที่เริ่มจะไม่มีอะไรแล้ว ก็เดินออกไปสูดอากาศในสวน บ้านพี่โรลนั้นใหญ่โตมาก สวนดอกไม้ที่ถ้าเข้าไปแล้ว ผมไม่รู้จะออกมาถูกหรือเปล่า นี่มันสุดยอดจริงๆ
" แอบมาสูบอีกแล้วเหรอ " ผมมองตามเสียงที่ได้ยินและก็พบว่าพี่นายนั้นยืนกอดอกมองผมอยู่ ชุดสูททางการช่างเหมาะมากๆ กับรูปร่างพี่นาย แต่ผมไม่พูดหรอก เดี๋ยวแม่งได้ใจ
" นิดเดียวน่า "
เป็นเรื่องจริงที่ผมไม่ใช่เด็กดีอะไรแบบที่ใครคิดเท่าไหร่ ผมมีเพื่อนรักเพียงคนเดียวก็คือลี่ แต่จริงๆ แล้วผมก็ยังมีเพื่อนที่คุยกันได้หรือเพื่อนในคลาสเรียนอยู่อีกหลายคน ซึ่งพวกมันก็สูบบุหรี่ดื่มเหล้าหัวราน้ำกันทุกคน และผมก็ติดมาบ้าง
แต่ผมไม่เคยทำตัวแย่ๆ หรือสูบบุหรี่ตอนอยู่กับลี่หรอกนะ ผมไม่อยากให้มันเป็นห่วง ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้ติดไอ้บุหรี่นี่หรอก นานๆ สักชาติถ้าเครียดๆ ก็จะสูบ ซึ่งมันทำให้หัวโล่งดี และก็เลิกไปนานแล้วด้วย แกล้งคนเล่น ดูเหมือนพี่นายจะไม่ชอบเอามากๆ
" ขอได้ไหม " พี่นายหยุดยืนอยู่ข้างหลังผม
" จะสูบอ่ะ มีไร... " ผมชะงักทันทีที่พี่นายยื่นมือมา ที่บอกว่าขอได้ไหมนั้นไม่ใช่ว่าขอให้ผมเลิกหรอกเหรอ เพราะว่าพี่นายนั้นยื่นมือมาดึงบุหรี่ออกจากมือผมและจุดสูบขึ้นเอง
" ไม่ให้ " ผมรีบดึงมันออกจากปากพี่นายและเหยียบดับมันที่พื้น ผมไม่ชอบเลย ผมไม่เคยเห็นพี่สูบเลยด้วย
" ไม่ชอบที่เห็นเหมือนกันใช่ไหม ไม่อยากให้พี่สูบใช่หรือเปล่า " ผมทำหน้าบูดมองพี่นาย เหอะ รู้ดีนัก
แต่ผมก็ต้องตัวแข็งทื่อทันทีที่พี่นายยื่นมือมาช้าๆ และลูบที่ริมฝีปากผมเบาๆ
" แบบนี้แหละดีแล้ว ไม่อยากให้มันเปลี่ยนสีไป พี่ขอเถอะ นะ " พี่นายพูดและยื่นหน้าเข้ามาช้าๆ ไอ้ที่บอกว่าขอน่ะ หมายถึงขอให้เลิก หรือขอสิ่งที่ทำอยู่นี้กันแน่
" อย่า แม่มาด้วย " ผมพูดไปงั้นแหละ แม่ผมกำลังคุยกับแม่ไอ้ลี่ คุยกันทีก็ยาวแน่นอน ไม่มาเตร่แถวนี้หรอก
" ขอโทษนะ " แบบนี้อีกแล้ว ผมเบื่อคำนี้
" ถ้าไม่ชอบพี่ก็จะไม่ทำ จริงๆ พี่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว " งั้นเหรอ เพราะผมเป็นคนพิเศษอะไรแบบนั้นใช่ไหม
" เหรอ คิดว่าผมคงจะดีใจใช่ไหม เฮ้ แฟนผมไม่เคยแตะต้องผมเลยครับ เจ๋งใช่ไหม สุภาพบุรุษใช่หรือเปล่า " ความจริงแล้วผมก็แค่ต้องการรู้ว่า ผมพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ อยากให้พี่ทำเหมือนรักผมมากๆ ทำเหมือนผมเป็นคนสำคัญ ไม่ใช่ทำกับผม ใจดีกับผมเหมือนๆ กับคนอื่นแบบนี้
" ต้องการแบบนั้นเหรอ " พี่นายถามผมเป็นนัยๆ ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น
" ไม่ต้องการ " ผมพูดและเดินหนีคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
ผมเดินเข้ามาในงานอีกครั้ง และเดินไปหาเพื่อนรักของผม วันนี้มันหล่อมากๆ เอาจริงๆ เวลามันยิ้มแล้วน่ารักครับ แต่ถ้ามันทำหน้านิ่งๆ และทำผมแบบนี้ มันก็จัดว่าหล่อทีเดียว แต่ผิวพรรณมันทำให้ดูน่ารักมากกว่าด้วยแก้มสีชมพูระเรื่อ
" ไง " ผมเข้าไปจี้เอวมันข้างหลัง
" มึงไปไหนมา กูมองหาซะทั่ว "
" แหม มีกูอยู่ในสายตาด้วยเหรอ นึกว่ามีแต่ผัว " ผมพูดเบาๆ และมองพี่โรลที่ยืนคุยกับป๊าไอ้ลี่ พี่โรลนั้นหล่อเกินไปที่ผมจะไปยืนข้างๆ จริงๆ ลูกออกมาคงน่าตาดีแน่ๆ อ่าว ลืมไป เพื่อนกูไม่มีมดลูกนี่หว่า
ผมเดินออกมาจากเพื่อนเมื่อเหล่าญาติๆ เข้ามาคุยกับมันและพี่โรล ผมมองหาพี่นายอัตโนมัติ เมื่อกี้ผมรุนแรงเกินไปหรือเปล่านะ อีกไม่นานพี่นายคงต้องหมดความอดทนกับผมแน่ๆ
ผมเดินไปรอบๆ งานและมองหาพี่นายไปทั่ว ไม่ใช่ว่าหนีไปนั่งร้องไห้แล้วนะ
' นาย ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่โทรหาเราเลย ' ผมหยุดชะงักด้วยหัวใจที่สั่นไหว เสียงผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นในสวนใกล้ๆ กับงาน
' คืนนี้หลังเลิกงาน ไปด้วยกันไหม ไม่ได้ทำกันมานานแล้วนี่ อยากเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ' ผมตัวชาทันทีที่ได้ยินอะไรแบบนี้ ผมว่า ผมพอแล้วล่ะ ผมควรหยุดก่อนจะเสียใจไปมากกว่านี้ ผมก้าวต่อไปช้าๆ ผมไม่ใช่นางเอก ผมไม่หนีหรอก ผมจะไปต่อยไอ้เฮงซวยนี่
' ไม่ได้หรอก ตอนนี้มีแฟนแล้ว ' ผมหยุดชะงักอีกครั้งที่ได้ยินเสียงพี่นาย
' เอ๊ะ อะไรกัน ปกติมีแต่คบเล่นๆ ไม่ใช่เหรอ '
' คนนี้จริงจัง ' ผมหยุดยืนนิ่งๆ พิงผนังและยืนฟังต่อไป
' อย่ามาพูดให้ขำเลยนาย มีแฟนแล้วก็แอบทำก็ได้นี่ แฟนไม่รู้หรอก นี่นายตัวจริงเปล่าเนี่ย ทำป๊อดไปได้ ' หนอย คันมากเลยนะหล่อน
' นายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่อยากเสียใครไปอีก ' ผมมองหน้าด้านข้างของพี่นายที่สูงพ้นแปลงพุ่มไม้ขึ้นมา ใบหน้าจริงจังที่แสนเศร้า ขอบคุณครับ ขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจอยู่เรื่อย
ผมเดินออกมาจากตรงนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว
" หายไปตลอดเลย มึงห้ามไปไหน อยู่ข้างๆ กูนี่ " ผมโดนไอ้ลี่ลากไปทันทีที่โผล่ออกมาที่งาน นี่กูเพื่อนมึงนะไม่ใช่ผัวมึง เพื่อนผมมันคงประหม่าถ้าไม่มีผมอยู่ โถๆ ทีตอนมึงทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันไม่เห็นชวนกูไปดูด้วยเลย
" ลี่ เรื่องพี่นาย กูตัดสินใจแล้ว " ผมพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจังจนไอ้ลี่ทำหน้าเศร้าๆ ด้วยความเป็นห่วง
" กูอยากให้มึงคิดดีๆ พี่เขาเปลี่ยนไปแล้วนะ " นี่กูกับมึงพูดเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย
เรื่องที่ผมตัดสินใจนั้น มันคือเรื่องอะไรงั้นเหรอ หึหึ
ในตอนกลางคืน หลังจากงานหมั้น ก็มีงานเลี้ยงฉลองกันที่โรงแรมหรูห้าดาวในเครือบริษัทของครอบครัวพี่นาย เหอะๆ พ่อคุณหนูผู้เอางานเอาการก็ยังคงทำตัวยุ่งๆ กับงานเลี้ยงอีก โถๆ
ผมคิด ว่าถ้าผมได้คบกับพี่นายไปจนสุดทางนั้น ผมก็คงไม่อยากย้ายออกจากบ้านไม้ของผม ถึงพี่นายจะอยากให้ผมย้ายไปอยู่ด้วย แต่ผมก็คงทิ้งแม่ผู้โดดเดี่ยวของผมไม่ได้ พี่จะอยู่กับผมไหมนะ พี่จะทิ้งบ้านสวยๆนั้น และมาอยู่บ้านไม้หลังเล็กๆ กับผมหรือเปล่า
" ดื่มกับผมหน่อย " ผมเดินมายืนข้างๆ พี่นายที่กำลังสั่งงานพนักงานเรื่องเครื่องเสียงอยู่
ผมยื่นแก้วไวน์สีสันสวยงามให้พี่นายและยิ้มน้อยๆ พี่นายมองผมและยื่นมือมารับแก้วไวน์นั้นไว้
" หายโกรธพี่แล้วเหรอ " พี่นายถามผมและยังถือแก้วไว้ในมือ
" ไม่ได้โกรธสักหน่อย " ผมพูดและดื่มไวน์ในมือผม
" อย่าดื่มมากนะ เดี๋ยวปวดหัวอีก " พี่นายพูดและยังคงถือแก้วไวน์ไว้เฉยๆ ดื่มสิ ดื่มสักที๊
" อร่อยดีนะ ลองดิ " ผมมองแก้วไวน์ในมือพี่นายพลางกลืนน้ำลายลงคอ โอ้ยย ดื่มสิโว้ย
พี่นายมองผมและยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ผมยิ้มและทำท่าให้พี่นายดื่มอีก และพี่นายก็ทำท่าดื่มตาม เสร็จกูล่ะ ฮ่าๆ
หลังจากนั้นมันก็เป็นเหมือนช่วงเวลาที่หมุนผ่านไปอย่างรวดเร็วของคนตรงหน้า ผมเดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าแฟนผู้เป็นสุภาพบุรุษของผม หึหึ คืนนี้ตายเป็นตาย
ด้วยความสามารถและความฉลาดอันแสนบรรเจิดของผม ผมนั่งยองๆ มองพี่นายที่ถูกผมจับมัดติดกับเก้าอี้ของโรงแรมอย่างแน่นหนาอยู่ภายในห้องของโรงแรมพี่นายเอง นี่ผมวางยาแรงไปหรือเปล่านะ พี่แกถึงหลับยาวขนาดนี้
ผมถอดเสื้อสูทด้านนอกของพี่นายออกจนเหลือแต่เสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวใน และมัดมือทั้งสองข้างติดกันไขว้หลัง และมัดรอบเอวพันรอบกันเก้าอี้ ต่อให้เป็นเดอะฮัคก็ดิ้นไม่หลุดหรอกเฟ้ย
ผมถอดแว่นที่ดูเกะกะบนใบหน้าของพี่นายออก พี่นายนั้นหลับตาและก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ ตัวหนักชะมัด แทบตายแน่ะ แล้วก็อึดสุดยอด กว่าพี่แกจะหลับเล่นเอาลุ้นจนหัวใจจะวาย
เอาจริงๆ ผมก็แค่อยากแกล้งน่ะ มาถึงตอนนี้ผมเริ่มหวั่นใจแล้วว่า ผมเล่นแรงไปหรือเปล่านะ จะแก้มัดดีไหม พี่เขาจะเจ็บแขนหรือเปล่านะ ผมดื่มไปพอสมควรเพื่อย้อมใจอ่อนๆ ของผมให้มันแข็งขึ้น ผมอยากเห็นสีหน้าตกใจ สีหน้าทรมานจากคนตรงหน้า ผมก็โรคจิตใช่ย่อยนะ
ผมหัวใจเต้นรัวทันทีที่คนตรงหน้าขยับตัวน้อยๆ เงยหน้าและค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ผมรีบคว้าถุงกระดาษมาคลุมหัวตัวเองอย่างรวดเร็ว
" อะไรเนี่ย แล้วแว่นไปไหน " ผมมองผ่านรูบนถุงที่เจาะไว้และมองดูพี่นายที่หรี่ตามองตัวเองที่ถูกมัดและมองผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า ในห้องนั้นค่อนข้างมืด ผมเปิดแค่ไฟที่หัวเตียงไว้เท่านั้น
" ฮ่าๆ คืนนี้แกจะต้องทรมา... "
" เมี่ยง เอาแว่นให้พี่ " จบกัน รู้ได้ยังไงฟะ
" ม..ไม่ใช่นะ " ผมพยายามแก้ตัว
" เล่นอะไรเนี่ย เจ็บข้อมืิอไปหมดแล้ว " ง่า เจ็บจริงๆ ด้วย เอาไงดี ไม่ๆๆๆ ห้ามใจอ่อนเฟ้ย
" เมี่ยง งานไปถึงไหนแล้ว พี่ต้องไปช่วยงานนะ " เหอะ งานๆๆ งานจบไปแล้วเฟ้ย ป่านนี้สองคนนั้นคงไปถึงสวรรค์ชั้นไหนกันแล้ว สนใจคนตรงหน้าสิฟะ
ผมถอดถุงกระดาษออกจากหัวและหน้าบึ้งมองไอ้คนบ้างาน จ้างคนแล้วก็ปล่อยพวกนั้นทำไปก็ได้ จะต้องคุมอะไรขนาดนั้นเล่า
" เล่นสนุกพอแล้วก็ปล่อยพี่เร็วๆ เลย " หนอยย สั่งเหรอ ไม่ทำเฟ้ย
" ยังไม่รู้เหรอว่าตัวเองกำลังจะโดนอะไร " ผมพูดขู่ไปงั้นแหละ จริงๆ ยังไม่ได้คิดเลยอ่ะ ฮ่าๆ
พี่นายเงียบและจ้องมองผมด้วยใบหน้าเบื่อๆ ฉุนโว้ย กลัวผมบ้างดิ๊ ผมน่ากลัวนะ
" ไม่กล้าหรอก ใช่ไหมล่ะ " โอ้โห ขึ้นเลยแบบนี้ ดูถูกกกกันชัดๆ
ผมเดินไปมาตรงหน้าพี่นาย เอาไงดีฟะ แต่ดูถูกกันแบบนี้คงจะปล่อยให้ไปไม่ได้ ต้องสั่งสอนกันหน่อยแล้ว หึหึ
" ทำเอง งอแงเองไม่เอานะ " โอ้ยยย ผมหยุดเดินและย่อเข่านั่งลงตรงหน้าคนพูดทันที
" กำลังท้าทายใช่ป่ะ คิดว่ายิ่งท้าผมยิ่งทำใช่ไหม " รู้ทันหรอกนะ ไม่หลงกลหรอก หึหึ
" ไม่หรอก จะทำก็ได้นะไม่ว่า แต่ขอเตือนว่าอย่า " พี่นายพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนผมใจสั่นน้อยๆ แกล้งขู่ผมใช่ไหม คิดว่ากลัวหรือไง ถ้าพี่จะทำพี่คงทำผมไปนานแล้ว
ผมลุกขึ้นและเดินไปหยิบแว่นของพี่นายขึ้นมาและใส่เอาไว้ โอ้ยย นี่สั้นเท่าไหร่เนี่ย เล่นเอามึนเลยแฮะ ผมเดินเข้าไปหาพี่นายและนั่งทับลงที่ตักนั้น จ้องหน้าคนที่ทำหน้านิ่งๆ เอาไว้
" อยากให้ผมทำอะไร " พี่นายยังคงนิ่งสนิท และจ้องหน้าผมตาแทบไม่กระพริบ
" แก้มัด " เหอะ เรื่องสิ
" อยากจูบไหม " ผมคล้องแขนโอบรอบคอคนตรงหน้า พี่นายยังคงทำหน้านิ่งๆ หนอยย ไม่หวั่นไหวบ้างเลยเรอะ
ผมถอดแว่นออกและรุกเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าทันที พี่นายดูอึ้งชะงักค้างไป แต่ก็ตอบรับสัมผัสจากผมอย่างรวดเร็ว ผมลืมตาขึ้นทันทีที่คนตรงหน้าเริ่มลุกเร้าผมมากขึ้นด้วยเรียวลิ้นอันร้อนแรง หึหึ นึกว่าจะแน่
ผมผละริมฝีปากออกกะทันหันจนคนตรงหน้ายังคงยื่นหน้าตามมา เป็นไงล่ะ ชอบละสิ
" รู้สึกการกระทำจะสวนทางกับคำพูดนะ " ผมหัวเราะ หึหึ อย่างอารมณ์ดี
" ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย จริงไหม " ผมหุบยิ้มลงทันที หนอยยย ถ้าเป็นแบบนี้ละก็
ผมเลื่อนมือวางบนหน้าขาคนตรงหน้าและลูบไปมาเบาๆ จนพี่นายที่ทำหน้านิ่งๆ เริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ
" อย่าดีกว่านะ " พี่นายพูดเสียงเรียบๆ
" กลัวอะไรเหรอ "
" ไม่ได้กลัว "
" ถามจริงๆ เถอะ เคยคิดอยากกอดผมบ้างหรือเปล่า " ผมยื่นหน้าไปใกล้ๆ และถามด้วยความสงสัย
" เชื่อสิว่าไม่อยากได้ยินคำตอบหรอก " ผมขมวดคิ้วสงสัย แล้วมันยังไงกันเล่า
" เหอะ น่าเบื่อ " ผมลุกขึ้นจากตักอย่างโมโห เป็นคนที่กวนชะมัด
" ปล่อยเถอะ แขนชาหมดแล้ว " พี่นายทำหน้าเจ็บปวดและเร่งเร้าให้ผมแก้มัด
ผมที่เริ่มโมโหก็เดินเข้าไปใกล้คนตรงหน้าและนั่งลงคุกเข่าตรงหว่างขาคนที่นั่งอยู่
" เมี่ยง " พี่นายทำหน้าดุและเรียกผมเสียงดังขึ้น แต่ผมก็ไม่ฟัง เริ่มเลื่อนมือไปบนกางเกงของคนตรงหน้า เลื่อนช้าๆ ไปที่ซิบกางเกงอย่างท้าทาย
" พี่ไม่อยากทำเหมือนที่ทำกับคนอื่น ไม่ได้เหรอ "
" ผมไม่ใช่คนอื่น หรือว่าพี่ก็มองผมเหมือนคนอื่น เลิกทำตัวแบบนี้สักที มันทำให้ผมอึดอัดนะ " พี่นายนิ่งเงียบไปทันที ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยมองคนตรงหน้า เพราะอยู่ดีๆ ไอ้บ้านี่ก็เริ่มยิ้มน้อยๆ ซะงั้น
" งั้นเหรอ พี่ทำได้เหรอ " ผมเริ่มตาโตมองคนตรงหน้าที่ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เชือกที่มัดรอบเอวและข้อมือนั้นค่อยๆ หล่นลงกับพื้นพรมสีเข้ม พี่นายถือมีดเล็กๆ ไว้ในมือและกำลังยิ้มให้ผม
โอ้ยยย ที่เห็นนั่งนิ่งๆ นี่นั่งหั่นเชือกตลอดเวลาเลยงั้นหร๊า
ผมลุกขึ้นยืน และถอยหลังช้าๆ อ้ากกก ชิบหายแล้ว ซวยละเมี่ยงเอ๊ย อยู่ดีไม่ว่าดี นี่มันไม่ใช่อย่างที่คิดเอาซะเลย ผมที่คิดว่าผมจะทรมานสวาทคนคนนี้ทั้งคืน ตอนนี้ ความคิดทั้งหมดนั้นกำลังย้อนเข้าหาตัวผม
พี่นายก้มลงหยิบเชือกสีแดงที่พื้น ดึงมันจนตึงและยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์
" จะเริ่มกันหรือยัง ที่รัก "
ผมกลืนน้ำลายลงคอ พ่อสุภาพบุรุษของผมลอกคราบซะแล้ว ผมว่าค่ำคืนนี้มันคงยังอีกยาวไกลนัก
ลาก่อน ความซิงของผม