อืม คิดว่าไม่น่ากังวลมากนะคะ ที่จริงตรองดูแล้ว ถือว่าโอเคเลยด้วยซ้ำ
คือที่พูดนี่ไม่ใช่การปลอบใจ หรือการมองโลกในแง่ดีหรอกนะคะ
ที่เป็นการวิเคราะห์ในฐานะที่ตัวเองก็เป็นผู้หญิง และมีกรณีศึกษาที่อยู่ใกล้ตัวมากๆ
ที่บอกว่าโอเคนั้น
ก็จากที่คุณเอเล่าว่าแม่ป่านค่อนไปทางหัวโบราณ รับเรื่องชาย+ชายไม่ได้
โดยเฉพาะยิ่งเกิดกับลูกชายคนเดียวด้วยแล้ว คนที่ยึดติดแบบนี้จะไม่มีทางยอมเด็ดขาด
ซึ่งอันที่จริงคุณแม่ป่านเองก็คงรู้และไม่ยอมมานานแล้ว ถึงได้ชอบพูดเปรยๆ ว่าเกย์นั้นน่ารังเกียจ
ให้คุณป่านฟังบ่อยๆ ซึ่งนั้นก็คือการ"ลงมือ"แบบผู้หญิง+ผู้ใหญ่
แต่ด้วยวันเวลาที่ผ่านมา... สิ่งที่คุณเอและคุณป่านทำและแสดงออกนั้น
ทำให้คุณแม่ป่านค่อยๆ ปรับเปลี่ยนทัศนคติได้ในที่สุด
คำว่า ไม่รับรู้ ที่จริงแล้ว แปลว่า ยอมรับ นั่นแหละคะ ซึ่งมันเป็นวิธีพูดแบบผู้หญิง
เพราะคุณเอกับคุณป่านย่อมรู้ดีว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นน้องสาว, คุณยาย คุณพ่อแม่ของคุณเอ
หรือคุณหนูที่คุณแม่ป่านแนะนำให้ ต่างก็สังเกตเห็นกันทั้งนั้น แล้วนับอะไรกับคุณแม่ป่าน
การไม่ยอมรับของคุณแม่ป่านที่เคยทำ คือการทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่พูดถึง และคอยเหน็บแนม
และถ้าไม่ยอมรับจริงๆ เชื่อว่าคุณแม่ป่านจะต้อง "สั่ง" ให้เลิกแน่นอน เพราะคุณแม่ฯนั้น
มีฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัว และเป็นผู้บริหาร ที่ผ่านมาก็สั่งให้คุณป่านทำโน่นนี่อยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าจะ "สั่ง" ในเรื่องที่ตัวไม่ชอบและไม่ยอมรับแล้วนั้น ทำได้ง่ายมาก
ดังนั้นการที่คุณแม่ป่านยอมพูดออกมาในที่สุด ทั้งยังไม่ได้สั่งห้ามอะไร
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว
การที่คุณแม่ป่านยอมพูดออกมา ทำให้ตัวคุณแม่ผ่อนคลายความยึดติดให้กับตัวเอง
คุณแม่ป่านกำลังปรับตัวให้ยอมรับกับความเป็นจริงอยู่
ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งไปทำอะไรที่จะเป็นการเร่ง หรือบีบบังคับให้ท่านแสดงออกมากกว่านี้
เพราะผลอาจจะออกมาตรงข้ามก็ได้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ หวังว่าสักวันคุณเอจะได้สู่ขอคุณป่านกับคุณแม่สักทีนะคะ
