มาแล้วค่า
**********************
สวัสดีครับ และสุขสันต์วันลอยกระทงย้อนหลัง ไปลอยทีไหนกันมาบ้างครับ ส่วนผมก็ แฮ่ะๆ ไม่เน้นลอย แต่เน้นดูพลุแทนครับ แต่ที่ไหน ไม่บอกนะ อิอิ
แล้วก็ขอโทษที่หายหน้าหายตากันไปนะครับ พอดีวุ่นๆ นิดหน่อย จริงๆวันนี้ก็วุ่นนะครับ แต่กลัวจะรอกันนานเลยมาอัพเสียก่อน
อ่านกันเลยครับ ยังเรื่อย ๆ อยู่นะครับ
***********************
ช่วงนั้นเรื่องของลูกค้าป่านก็ดูเงียบๆ ไปครับ ผมกับมันก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ แต่ผมเองก็เตรียมตัวไปเริ่มงาน เพราะทางหน่วยงานเขาเรียกตัวแล้ว
ช่วงนั้นเราก็เรื่อยๆ กันจริงๆ ครับ เช้ามา ผมไปทำงาน ไอ้ป่านก็ไปทำงาน กลางวันก็ sms หากันว่ากินข้าวหรือยังอะไรแบบนี้กันไป เย็นส่วนมากผมจะเลิกก่อน ก็กลับไปทำกับข้าวอะไรง่ายๆ ไว้รอมันกลับมา แต่บางวันที่ผมมีโอที หรือมีประชุมงานกับนาย ป่านเลิกก่อน มันก็จะไปซื้อหรือไม่ก็สั่งอะไรมาไว้ให้กินกันแทน (มันว่าจะลองทำกับข้าวเหมือนกันนะครับ แต่ผมบอกมันไปว่าอย่าลำบากเลย ........ ก็ นะ ฮ่าๆ)
ก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ นะครับ วันธรรมดา ผมกับมันก็อยู่ด้วยกันที่คอนโด วันศุกร์ เสาร์ หรือบางทีก็เสาร์ อาทิตย์ เราก็กลับไปบ้านใครบ้านมัน
ทีนี้มีอยู่วันไอ้ป่านมันก็บอกผมตอนกินข้าวกันอยู่ว่า
เอ เสาร์อาทิตย์นี้ไปบ้านคุณยายป่านกันไหม
ผมก็ หือ ที่ ......... น่ะเหรอ (ต่างจังหวัดครับ)
อื้อ คุณยายให้มาชวนน่ะ
แล้วแม่กับน้องป่านไม่ไปเหรอ
แม่ไปสัมมนา น้องป่านมันไปเที่ยวกับเพื่อน มีแต่เราสองคนนี่แหล่ะ
ผมก็เลยตกลงไปครับ เพราะไม่เคยไปบ้านคุณยายของป่านเลย ปกติมันจะไปกับแม่กับน้อง ผมก็เลยไม่อยากไปกวน คุณยายก็บอกนะครับ ว่าว่างๆ ให้ผมกับป่านไปเที่ยวบ้าง ป่านมันคงเห็นว่าหนนี้ทางสะเดวก
แล้วเราจะซื้ออะไรไปฝากคุณยายดี ผมถามไอ้ป่าน มันก็คิดๆ
สรุปก็เป็นพวกของบำรุงน่ะครับ ก็ไปซื้อจัดตะกร้ากันไปมา
ไอ้ป่านมันบอกว่าให้ไปกันตั้งแต่เย็นวันศุกร์ ออกจากกรุงเทพเย็นๆ ก็ไปถึงประมาณ สองสามทุ่ม ยังไม่ดึกเท่าไรนัก (อันนี้แบบขับเรื่อยๆ นะครับ)
ไปถึงตุณยายยังไม่นอนครับ (แกติดละครหลังข่าว) ไอ้ป่านก็จูงมือผมไปไหว้คุณยาย คุณยายกอดมันแล้วก็มากอดผม
ขับรถมาเหนื่อยๆ หิวไหมลูก เดี๋ยวยายให้เขาจัดสำรับให้เลย
กินขนมกันมาบ้างแล้วจ้ะ ไอ้ป่านบางทีมันก็พูดจ้ะจ๋ากับยายมันนะครับ น่ารักดี
เอล่ะ หิวไหมลูก
ไม่เท่าไรครับ
ไอ้ไม่เท่าไร ยังไงก็แสดงว่าหิวอยู่ดี รอเดี๋ยวนะลูก แล้วยายมันก็เรียกแม่บ้านมาจัดโต๊ะ ให้ผมกับไอ้ป่านกินข้าวเย็นกันครับ แต่ผมก็บอกว่าไม่ต้องก็ได้ครับ นั่งตรงนี้ดีกว่า จะได้คุยกับคุณยายด้วย (คุณยายนั่งดูทีวีอยู่ที่กลางเรือน คือ บ้านคุณยายเป็นเรือนไทยน่ะครับ)
ไอ้ป่านมันก็อ้อนคุณยายใหญ่ (หลานชายคนโปรดนี่นา) บ่นว่าอยากกินโน่นนี่นั่น ยายก็บอกว่าพรุ่งนี้ เดี๋ยวจะทำให้กิน แล้วก็หันมาถามผม
แล้วเอล่ะลูก อยากกินอะไรไหม ยายจะทำให้กิน
อะไรก็ได้ครับ ผมตอบยิ้มๆ ก็แค่ลำพังที่ไอ้ป่านมันสั่งไปก็เยอะแยะมากมายแล้วครับ
คุณยายก็เลยหันไปถามไอ้ป่านว่าผมชอบกินอะไร
ไอ้ป่านมันก็ยิ้มๆ บอกว่าผมอ่ะ กินทุกอย่างที่มันกินน่ะแหล่ะ คุณยายเลยหัวเราะ
ก็หม่ำไปคุยกับคุณยายไป จนละครจบ คุณยายก็เลยจะขอตัวไปนอน ผมกับป่านก็ช่วยกันประคองคุณยายไปส่งที่ห้อง ส่วนห้องเราสองคนคุณยายบอกว่าจัดห้องไว้ที่ปีกเรือนอีกด้าน จะได้ส่วนตัว
พอส่งคุณยายแล้วผมกับมันก็มานั่งเล่นกันต่อ สักพัก ก็ไปที่ห้องครับ
คือต้องบอกก่อนว่า เรือนไทยบ้านคุณยายเนี่ย เป็นเรือนไม้เก่า แต่ก็ปรับปรุงบางส่วนเช่นห้องน้ำที่ตามปกติแล้วแยกจากตัวเรือน แต่ด้วยความที่คุณยายก็อายุมาก ห้องนอนบนเรือน (เรือนหลักมีสองห้อง เรือนที่แยกออกมาเป็นเรือนปีก ที่ผมกับป่านพัก มีห้องนอนเดียว อีกด้านเป็นเรือนที่ทำเป็นเรือนครัวเวลาคุณยายจะทำกับข้าว เรือนหมู่ด้านบนมีนอกชานเชื่อมเดินถึงกันได้หมดนะครับ ด้านล่างจะมีเรือนแม่บ้าน คนสวน คนชับรถ แล้วก็เรือนครัวเดิม) ก็จะมีห้องน้ำอยู่ด้วย เพื่อทั้งคุณยายและเวลาญาติๆ มาเยี่ยม มาเที่ยวพักผ่อน
ติดแอร์ แต่ก็รักษาความงามของเรือนไทยแบบ หมู่เรือนไทย ได้ดีนะครับ (ผมแอบแหย่ไอ้ป่านด้วยว่าเรือนไม้เก่าแบบนี้เจ้าของเดิมเขาไม่มาด้วยเหรอ ไอ้ป่านมันทำเสียงดุ ว่าห้ามพูดจาไม่ดี ผมก็บอกว่า ผมถามเฉยๆ ไม่ได้ลบหลู่ มันก็บอกว่า นั่นแหล่ะ ไม่ให้พูดๆ แต่จริงๆ ผมว่าเพราะมันกลัวผีมากกว่า)
ไอ้ป่านมันขอผมไว้ว่า อย่าทำอะไรมากมายที่นี่ เรื่องมีอะไรกันน่ะครับ เพราะถึงคุณยายจะรู้ว่าผมกับมันเป็นอะไรกัน แต่มันก็ยังเกรงๆ และรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรมากนักที่บ้านคุณยายนี่
ผมก็เข้าใจมันนะครับ ก็เลยบอกมันว่าไม่ต้องห่วง ผมแล้วแต่มันอยู่แล้ว (เพราะฉะนั้นทริปตอนนี้คงไม่ค่อยมี พริก มี ขิง มี อะไรเรียกเลือดกันเท่าไรนะครับ ฮ่าๆ)
แต่เราก็อาบน้ำด้วยกัน
ผมชอบห้องน้ำที่บ้านยายมันมาก คือมันมีความเก่า ของห้องน้ำแบบสมัยก่อน คือมีตุ่มใส่น้ำ แต่เป็นดินเผาเคลือบสี (ไม่ใช่โอ่งมังกร) ใบใหญ่ กับขันสาคร (ขันเงินใบใหญ่ๆ นะครับ) แต่ก็มีของใหม่ คือฝักบัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น และอ่างอาบน้ำที่ทำเลียนสีให้ให้เหมือนกับโอ่ง (คุณยายบอกว่า ที่ต้องมีโอ่งไว้เพราะแรกๆ บางทีน้ำไม่ไหล ก็เลยต้องมีไว้เพื่อๆ)
ส่วนห้องน้ำก็เป็นชักโครกปกติน่ะแหล่ะครับ
อาบน้ำกันแล้วก็ออกมาแต่งตัว ไอ้ป่านใส่ชุดนอน แล้วมันก็ให้ผมใส่ชุดนอนคล้ายๆมัน (ไปซื้อมาให้ครับ ปกติผมไม่ใช่คนนอนแบบใส่ชุดนอนปิจาม่าเข้าชุดไง เสื้อยืด กางเกงบ๊อกเซอร์หรือไม่ก็ กางเกงเลก็นอนสบายแล้ว)
เรามานอนคุยกันบนเตียง (สี่เสาด้วยนะครับ มีมุ้งด้วย เมื่อก่อนคงได้ใช้งานจริงๆ แต่ตอนนี้หน้าต่างกรุกระจก ติดแอร์ เลยกางแล้วรวบไว้สวยๆ) ไอ้ป่านบอกว่า พรุ่งนี้จะพาผมไปเที่ยวในสวนมัน มันบอกว่ามีคลองด้วยพายเรือเล่นได้
ผมก็บอกว่า ดีเหมือนกัน คายัคก็พายมาแล้ว มาลองเรืออิแปะ เรือพายแบบบ้านๆ เรามั่งดีกว่า (แต่ผมไม่บอกมันหรอก ว่าผมก็เคยพายเรือพวกนี้มาแล้วเหมือนกัน ฮ่าๆ)
คืนนั้นมันก็นอนคุยนั่นคุยนี่ เล่าวีรกรรมของมันตอนเด็กๆ สมัยมาเที่ยวบ้านสวนให้ผมฟัง เช่นไปปีนต้นไม้ จนโดนมดแรงรุมกัด คันคะเยอไปทั้งตัว ไปลองเดินข้ามสะพานต้นหมาก แล้วพลาดตกท้องร่อง แอบขโมยมะม่วงที่ยายมันไปว่าสวนข้างๆ ไว้จะมาทำข้าวเหนียวมะม่วงไปถวายพระ ไปให้กระรอกในสวนกิน เพราะมะม่วงสวนมันไม่อร่อยเท่า
ผมก็ขำมันนะครับ ท่าทางตอนเด็กๆ ไอ้ป่านมันก็เอาเรื่องอยู่ทีเดียวเชียว
มันบอกว่ามาบ้านสวนทีไร มันสนุกทุกที เมื่อก่อนพ่อมันพามันขี่คอเดินเล่นในสวนด้วย
พอมันพูดถึงพ่อ เสียงมันก็แอบเครือๆ ตาแดงๆ ผมก็เลยกอดมันแล้วบอกว่า เอางี้ เดี๋ยวผมจะให้มันชี่หลังเที่ยวสวนเอง เพราะตัวมันก็ขนาดนี้คงขี่คอไม่ไหว
ไอ้ป่านถึงหัวเราะออก
คืนนั้นมันก็ชวนผมคุยจนหลับไปทั้งคู่ โดยที่มันก็นอนซุกไหล่ผมเหมือนเดิมแหล่ะครับ
ไว้มาต่อ เที่ยวบ้านสวนตอนหน้า วิธีทดสอบความขยันจากคุณยายกันต่อนะครับ
ไปทำงานต่อแล้วครับผม
*********************************