เนื่องในโอกาสแฟนเพจครบ 6,000 likes
อยากให้มาบ่อยๆต้องกดไลค์ให้เจ็ดพันไวๆ (ผิด) 555+
ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ลัฟนะ จุ้บๆ
Special Thanks : A day with the one
เสียงพื้นรองเท้ากระทบกระเบื้องของโถงทางเดิน ชายเสื้อตัวยาวถึงข้อเท้าขยับตามจังหวะการเดินก่อนจะทิ้งตัวลงเช่นเดิมเมื่อเจ้าของร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรหยุดมองออกไปนอกกำแพงกระจก
พระอาทิตย์ยามเก้าโมงเช้าทำมุมกับตึกเกิดแสงเงาพาดผ่านไปยังบนทางด่วนที่ตัดผ่านด้านหนึ่งของธนาคาร สองมือใต้แขนเสื้อไขว้กันอยู่ด้านล่าง บรรยากาศอันโดดเดี่ยวบางอย่างอบอวลอยู่รอบตัวแม้แต่เลขาก็ทำได้แค่ทิ้งระยะห่างอยู่ประมาณห้าก้าว
เจิ้นมักจะหยุดยืนมองวิวตรงนี้ครู่ใหญ่ทุกวันหลังจากไปส่งเจ้าจันทร์ที่โรงเรียน...ตอนนี้ก็มหาลัย ชีวิตประจำวันยามเช้าที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเว้นแต่จะเป็นช่วงงอนกัน
ขายาวก้าวเดินต่อไปยังห้องทำงาน เลขาทั้งสี่คนต่างประจำที่ของตัวเอง หนึ่งคนเดินไปเตรียมกาน้ำชา หนึ่งคนรอเปิดประตู หนึ่งคนยืนโค้งรออยู่ และอีกคนเดินตามเข้าไปในห้องทำงาน บอดี้การ์ดสองคนอยู่หน้าห้องโค้งคำนับก่อนจะแยกกลับไปนั่งประจำที่ตัวเอง
ธรรมเนียมบางอย่างของเยว่ที่สืบกันมารุ่นต่อรุ่น ธรรมเนียมที่คนนอกไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมีขั้นตอนอะไรมากมายขนาดนี้...แต่จะอยู่กับเยว่ถ้าไม่เคารพกฎเยว่ ก็ไม่ต้องมาอยู่
ความเอาแต่ใจอันร้ายกาจ....กับอำนาจเงินทำให้คนมองข้ามและยอมทำตาม ผลประกอบการธนาคารช่อฟ้าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ ช่อฟ้ากลับหาช่องธุรกิจที่ทำกำไรให้ธนาคารได้
กาน้ำชากับถ้วยชาชุดใหม่ถูกยกเข้ามาวางมุมโต๊ะ กลิ่นชาจีนหอมลอยมาตามควัน เจ้าของช่อฟ้าดื่มชาวันละสองรอบ ตอนเช้าและตอนบ่าย ชาต่างชนิด ถ้วยชาต่างชุด เลขาที่เดินเข้ามาพร้อมกันรายงานผลการดำเนินงานที่ติดตามอยู่ไปเรื่อยๆ เสียงทุ้มต่ำถามบ้างเป็นบางครั้ง รายงานเสร็จก็เดินออกไปเลขาคนที่สองถึงเข้ามาแทน
เรื่องที่รายงานเปลี่ยนไปเป็นเรื่องส่วนตัว...และส่วนมากก็มักจะวนเวียนอยู่กับเรื่องเจ้านายคนเล็กของช่อฟ้า เรื่องที่เจิ้นให้ดูบ่งบอกถึงความใส่ใจอันมากมายมหาศาล...อาจจะมากกว่าผลประกอบการธนาคารด้วยซ้ำ
การทำงานทั้งวันผ่านไปตามปกติจนกระทั่งช่วงเย็น เมื่อไม่มีนัดกับใครที่ไหนจึงกลับขึ้นไปบนช่อฟ้าได้ในตอนหกโมงเย็น เสียงคุยเจื้อยแจ้วดังออกมาจากห้องครัวปะปนกับเสียงแม่บ้านคนเดียวของชั้นห้าสิบเก้า
ขายาวก้าวตามเสียงไปจนถึงขอบประตู มูนนี่ตัวเล็กผูกผมน้ำพุกำลังยุ่งอยู่กับอะไรสักอย่างในหม้อ จากกลิ่นหอมๆ นี่น่าจะเป็นต้นยำ มีคุณป้าแม่บ้านคอยบอกให้ใส่อันนั้นเพิ่มอันนี้เพิ่ม
“เจิ้นจะกินได้จริงๆ นะ? กังวลจัง”
“หอมออกค่ะ คุณจันทร์ต้องมั่นใจสิคะ”
“งื้อ...อยากให้เจิ้นกินเยอะๆ จัง”
“ให้พี่กินอะไรหืม?”
เสียงทุ้มต่ำเรียกทำให้คนตั้งใจทำกับข้าวหันมามองก่อนแก้มใสจะแดงระเรื่อเพราะเขินที่ถูกจับได้
“โหยยไม่เซอไพรส์เลยอ้ะ ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจัง”
พ่อครัวหัวน้ำพุทิ้งหม้อตัวเองมาหาคนกลับบ้านเร็วทันที แขนเล็กควงเกี่ยวเข้าไปที่ท่อนแขนใต้ชุดจีนสีดำ เจิ้นเดินนำคนหอมเครื่องต้มยำออกมาด้านนอก ปลายจมูกก้มลงหอมหัวเหม่งเบาๆ มีกลิ่นนมปะปนไปกับกลิ่นต้มยำจางๆ ....
น่าแปลกที่ยังมีกลิ่นนมติดผิวทั้งๆ ที่อายุขนาดนี้แล้ว...คงจะเป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่จะติดตัวไปตลอด...เจ้ามูนนี่พระจันทร์รสนมของเขา...
“ไม่ไปทำกับข้าวต่อแล้วหรอ?”
“อ้ะ ลืมเลย เจิ้นอ่ะทำจันทร์วอกแวก แย่มาก”
แลบลิ้นเล็กใส่แล้ววิ่งกลับไปหาคุณป้าแม่บ้านต่อ สักพักก็ถือแก้วน้ำเย็นๆ ออกมาพร้อมหน้ามุ่ย บ่นกระปอดกระแปดว่าคุณป้าแม่บ้านบอกว่าเสร็จแล้วเหลือแค่รอเวลา
ระหว่างรอตั้งโต๊ะเจิ้นเดินไปให้อาหารนกเหมือนทุกวัน ลมเย็นๆ พัดจนผมยาวปลิวไปเรื่อยเปื่อย ชายเสื้อก็ขยับไปตามลมไม่ต่างกัน มูนนี่เดินตามมาด้วยแถมยังชวนนกร้องเพลง
บางทีก็สงสัยว่าเจ้าตัวมีความสุขอะไรนักหนามันถึงมากมายจนไม่อยากให้เสียใจ น้ำตาแค่นิดเดียวของเจ้าจันทร์มันทำเขาทรมาน แค่อยากจะให้ยิ้มแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีความสุขไปทุกวัน
“จันทร์...มีความสุขไหม”
“หือ....มี มีเยอะเลย...เจิ้นมีความสุขเหมือนจันทร์ไหม?”
“น่าจะคนละแบบ”
“ความสุขมีหลายแบบด้วยหรอ? ของเจิ้นเป็นแบบไหนล่ะ”
“แบบที่ฝากไว้กับธนาคารเจ้าจันทร์...ดูแลความสุขของพี่แล้วให้ดอกเบี้ยความสุขพี่ด้วยนะ ความสุขพี่จะได้เพิ่มขึ้นเยอะๆ”
“ธนาคารนี้ดอกเบี้ยดี้ดี แปดสิบเปอร์เซ็นต์ จันทร์จะฟักความสุขของเจิ้นให้ออกไข่ แล้วมาร้องเพลงแบบหลักทรัพย์ออมทรัพย์เลย”
เสียงหัวเราะเล็กๆ ดังขึ้น พร้อมๆ กับที่เจ้านกสองตัวก็ร้องเพลงตาม
“สมมุติถ้าจันทร์แต่งงาน....อยากจะได้อะไรเป็นสินสอด”
คำถามที่อยากจะรู้ว่าคนมีความสุขแบบเจ้าจันทร์ของเขาจะอยากได้อะไรอีก
“หา...ไม่ใช่จันทร์ต้องไปขอหรอ จันทร์เป็นผู้ชายนะ”
“สมมุติ...”
คิ้วเข้มขมวดนิดหน่อย แค่คิดว่าจะต้องให้เจ้าจันทร์ไปขอใครก็ชักจะอารมณ์เสีย
“ขอ..ช่อฟ้าได้ไหม? จันทร์อยากได้อ้ะ ทำไมช่อฟ้าไม่มีชื่อจันทร์สักที เฮ้อ...”
ความงอแงสมัยเด็กที่คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของห้องดูดาวเพราะแค่ทำป้ายชื่อ จนวิชาสังคมศึกษาบอกว่าเจ้าของบ้านต้องดูที่โฉนด แล้วก็งอแงที่ไม่เจอชื่อตัวเอง
“แล้วพี่จะไปอยู่ไหนล่ะถ้ายกให้จันทร์?”
“จันทร์แบ่งให้อยู่ด้วย เพราะจันทร์ใจดี”
“ขอบคุณครับ ขออยู่ด้วยคนนะ”
ตากลมโตฉายแววความสุข มือหนาเลื่อนไปกุมมือเล็กจับจูงเดินเล่นไปด้วยกัน จะย้ายชื่อเจ้าของคงทำไม่ได้เพราะมันมีขั้นตอนหลายอย่าง...แต่ถ้าย้ายชื่อเข้ามาเขาก็วางแผนไว้แล้ว
ชื่อ เจิ้น เยว่ ที่โดดเดี่ยวบนทะเบียนบ้าน...ควรจะมี ศศิมณฑล เยว่ มาอยู่คู่กัน
“แล้วถ้าเจิ้นแต่งงาน เจิ้นอยากได้อะไรเป็นสินสอดอ่ะ”
“พี่ต้องเป็นคนให้สิ”
“ก็สมมุติไง แบบของจันทร์อ้ะ สมมุติ”
“อืม...จันทร์ว่าถ้าจันทร์มาขอพี่ พี่จะอยากได้อะไร?”
“อืม....เจิ้นมีทุกอย่างแล้วอ่ะ...งั้น...จันทร์ให้สินเชื่อ โหยทำไมทำหน้าผิดหวังอ่ะ สินเชื่อนี่ดีมากเลยนะ นุ่มนิ่วด้วย หอมด้วย แล้วก็จันทร์รักมากด้วย จันทร์รักมากๆ ก็เลยอยากให้ความรักของจันทร์ไง”
“งั้นพี่ยึดสินเชื่อแล้วนะ?”
“อ้าว ยึดเลยหรอ ขอยืมก่อนได้ไหมอ่ะ...นะๆ แลกกัน จันทร์แบ่งช่อฟ้าให้เจิ้น เจิ้นแบ่งสินเชื่อให้จันทร์”
คนโดนขอแบ่งกระต่ายหูยาวถึงกับหลุดหัวเราะ...ช่อฟ้ากับสินเชื่อกลายเป็นมูลค่าในการแลกเปลี่ยนเท่ากัน ประเมินทรัพย์สินล่าสุดของธนาคารช่อฟ้าก็เป็นหลักหมื่นล้าน
เจ้าคนเอากระต่ายมาแลกจะรู้เรื่องไหมเนี่ย?
“จะแลกกับพี่จริงๆ?”
“งื้อออ สินเชื่อกอดได้นะ คุ้มสุดๆ”
“โอเค แลกกัน”
หวังว่าเจ้าจันทร์จะไม่จริงจัง...เพราะถ้าทวงสัญญาขึ้นมาคนเป็นลมคนแรกคงจะเป็นเลขาสี่คนที่เจ้านายเอาธนาคารไปแลกตุ๊กตา
ตาหลุบมองมือตัวเองที่เกาะเกี่ยวกับมือเล็ก นิ้วนางเกลี้ยงเกลา....มันจะว่างอีกไม่นาน วงเล็กๆ ...พอดีนิ้ว ไม่ต้องมีเพชรเดี๋ยวไปซนจนเพชรหลุดมาร้องไห้อีก ไม่ได้เสียดายเพชร...แต่ไม่อยากให้เจ้าตัวมาร้องไห้...เขาคงเสียใจกว่าเพชรหาย
“มือจันทร์มีอะไรหรอ”
“ถ้าจันทร์ใส่แหวน จะเลือกแบบไหน?”
“เอาเพชรเม็ดเท่าบ้านเลย เอาใหญ่ๆ ฮึ่ยยย คนมันรวยต้องอวดดดดด แต่จันทร์ไม่รวยอ่ะ...เอาแบบนั้นได้ไหมเจิ้นที่เคยกินตอนเด็กๆ ที่เป็นขนมแหวนอ่ะ ที่เป็นลูกอมเพชร อยากกินอีกจัง”
“.........”
...ค่อยคิดแล้วกัน
==============================
มูนนี่ขี้มโนความโรแมนติกเป็นศูนย์จริงๆ สงสารเจิ้น 555555555555555555
มาขอเรานะเจิ้น แหวนสังกะสีก็เอา ไม่เอาเพชรเม็ดเท่าบ้านแถมกินได้แบบมูนนี่แน่ๆ

และนี่คือแหวนที่นางอยากได้ 5555
