「 IN TIME 」• ย้อนยุค เกาหลีโบราณ • บทที่ 9 [08/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 「 IN TIME 」• ย้อนยุค เกาหลีโบราณ • บทที่ 9 [08/10/60]  (อ่าน 8959 ครั้ง)

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ชอบเรื่องแนวนี้มากครับขอบคุณนะครับแต่งต่อเรื่อยๆนะ

ออฟไลน์ VIRIDIAN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
ภาพแรกที่ฉายชัดหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาคือหมู่แมกไม้นานาพันธุ์ที่บดบังแสงแดดไม่ให้ส่องลงมายังพื้นดิน บยอลหรี่ตาจนหยีไปหมด พยายามจะพยุงตัวขึ้นจากพื้นหญ้า แต่เป็นอันต้องล้มตัวนอนลงไปอีก เขาทำไม่ได้... มันเจ็บแปลบๆไปทั้งหลัง....บอกทีว่านี่ไม่ได้กระดูกหักใช่ไหม!

คุณพระช่วย...หรือว่าเขากำลังจะตาย[/i]

เด็กหนุ่มพยายามบิดตัวไปซ้ายแล้วย้ายไปขวา และนั่นยิ่งทำให้แน่ใจว่าร่างกายของตนมันบอบช้ำไปซะทุกส่วน....ไอ้ม้าสารเลว! มันทำกับเขาอย่างนี้ได้ยังไง! นอกจากจะนั่งมันมาจนปวดตูด แล้วยังต้องมาตกจากหลังมันอีก...แล้วอย่าให้รู้นะว่าใครเป็นคนหวดแส้ให้ม้าวิ่ง...พ่อฟ้องไอดอลให้สั่งประหารเรียงคนเลย....

อูย....ระบมเป็นบ้า....

บยอลนอนคาดโทษอาชาหลวงอย่างผูกใจเจ็บ ใบหน้ากลมบิดเบี้ยวไปหมดเพราะรู้สึกปวดเนื้อครั่นตัวไปหมด หากแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ประสาทสัมผัสของเด็กหนุ่มด้อยไป ถ้าได้ยินไม่ผิด...บยอลรู้สึกเหมือนกำลังมีใครวิ่งมาทางที่เขานอนอยู่นี่!

“ช่วยด้วยยยย ช่วยด้วย!!!!!!!!!!!ผมตกม้า โอ้ย...ใครก็ได้ช่วยด้วย”

แหกปากดังลั่นไปทั้งป่า หวังว่าคนที่วิ่งมาทางเขาจะเป็นทหารที่ลาดตระเวนอยู่ ป่านนี้คงได้มีใครไปแจ้งที่เขตพักผ่อนแล้วคงกำลังตามหาเขาอยู่แน่ๆ .....บยอลนอนยกมือก่ายหน้าผาก เขาจะนอนรอความช่วยเหลืออยู่ตรงนี้แหละ! ไม่ลุกแล้ว จะขอขี่หลังใครก็ได้ไปซักคน เขาจะไม่พยายามอะไรทั้งสิ้น!

เสียงฝีเท้าวิ่งยังคงดังเข้ามาเรื่อยๆ แต่มันก็คงจะไกลเกินกว่าที่จะมีใครมาเห็นว่าเขานอนอยู่ใต้ต้นไม้รกชัดตรงนี้ เพราะงั้นต้องตะโกนอีก ตะโกนเสียงดังๆ! ไม่อย่างงั้นได้นอนตายเป็นผีเฝ้าภูเขาอยู่ตรงนี้แน่ๆ!

“ช่วยด้วย !! ผมอยู่ตรงนี้!! ผมอยู่ตร.......”

“อยู่นี่เอง.....” 

เสียงทุ้มของใครบางคนพูดแทรกประโยคร้องขอความช่วยเหลือขององค์ชายว่าที่รัชทายาท ทว่าคนที่บยอลร้องเรียกไม่ใช่ทหารลาดตระเวน แต่เป็นชายในชุดดำที่แต่งตัวมิดชิดถึงสามคน! แถมคนพวกนั้นกำลังยืนล้อมวงก้มหน้ามองเขาด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้ด้วย....



IN TIME
** เนื้อเรื่อง และตัวละครทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
______________________________
{ 8 - HOUR  }
R E V O L T : 2


บยอลตาโตทะลึ่งพรวดขึ้นจากพื้นทันที เด็กหนุ่มกระเถิบตัวถอยหลังกรูดติดต้นไม้ใหญ่ทันที! แทบจะลืมความเจ็บไปหมดสิ้น! ดูจากรูปการแล้วคนพวกนี้ไม่ได้มาช่วยเหลือเขาแน่ๆ นึกอยากจะตบปากตัวเองให้หนักที่ตะโกนเรียกสิ่งอันตรายมาหาตัว

“....พ...พวกนายเป็นใคร”  บยอลโพล่งออกไปยังคงตั้งสติเมื่อสามคนนั้นย่างสามขุมมาหา น้ำตาเกือบไหลเมื่อหนึ่งในสามคนนั้นเริ่มยกดาบขึ้นจ่อคอหอยเขา โอ้ย! พ่อแก้วแม่แก้ว ใครก็ได้ช่วยเขาที ไอ้สามคนนี้มันไม่ได้หวังดีกับเขาแน่ๆ!!

ฝ่ายชายชุดดำเห็นองค์ชายบยอลนั่งตัวซีดตัวสั่นแล้วนึกอยากหัวเราะนัก ใครกันนะเป็นต้นข่าว ที่ลือว่าองค์ชายสติไม่สมประกอบคนนี้เก่งนักเก่งหนา เชียวชาญเรื่องอาวุธวิทยายุทธแทบจะทุกขนาน พวกเขาเกือบจะคิดว่างานนี้เป็นงานหิน อาจจะมีโอกาสได้ประมือกับองค์ชายคนเก่งแล้วแท้ๆ... แต่ดูสิ...

ภาพองค์ชายบยอลที่นั่งเม้มริมฝีปากแน่นจ้องดาบที่จ่อคอตัวเองสลับกับพวกเขาช่างน่าสมเพชยิ่งนัก ทว่าก็จะประมาทไม่ได้ เพราะครั้งนึงยอดนักฆ่าหนึ่งในกลุ่มก็เคยทำพลาดมาแล้ว... 

“...พ....พวกนายเป็นใคร ต้องการ...อะไร เงินหรอ...ปล่อยผมไปเถอะ..ถ้าอยากได้เงินผมจะถอนมาให้ เอาให้หมดบัญชีเลย...” ว่าที่องค์รัชทายาทถอยจนตัวแทบจะกลืนเข้าไปในต้นไม้อยู่แล้ว “อย่าฆ่าผมเลย...จะเอาอะไร ต้องการอะไร บอกกันดีๆเถอะน.....”

“ชีวิตของท่าน.....องค์ชายบยอล” 

บยอลกลั้นลมหายใจเมื่อชายชุดดำดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าสวนขึ้น เด็กหนุ่มส่ายหน้ารัว ยกมือสองข้างขึ้นพนมกลางอก “เอาขีวิตผมไปทำไม...ชีวิตผมไม่มีอะไรเลย ไอโฟนก็ยังผ่อนไม่หมด”

“มีสิ” หัวหน้าของชายชุดดำอีกสองย่อตัวลงมานั่งประจันหน้าบยอล ก่อนจะเอื้อมมือมากระชากผ้าที่ปิดปากของตนออก เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มที่มีรอยบากอยู่บนโหนกแก้มด้านซ้าย บยอลตาโตทันที ยกมือชี้รอยแผลนั่นทั้งอารมณ์อึ้ง....

“....น..นายคือ....คนเมื่อคืนนั้น!!”

ความรู้สึกเย็นเยียบที่โดนดาบเล่มคมจ่อคอตัวเองวันนั้นยังจำได้ติดตา แล้วตอนที่องครักษ์อินซาปาดาบพุ่งมาเฉียดหน้าเขา ดูเหมือนคนร้ายจะได้รับบาดเจ็บไปด้วย และบยอลมั่นใจมากว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาวันนี้ก็คือคนร้ายในวันนั้น ! เพราะรอยแผละของหมอนี่ห่างเฉียดตาไปนิดเดียว มันต่อกับรอยแผลของเขาเกือบจะพอดี!!

“ใช่...วันนั้นข้าแค่พลาด...” ลู่เหวินมองไปรอบ ๆ ก่อนจะหันมาแสยะยิ้มที่มุมปาก “และวันนี้พระองค์ก็ไม่ได้มีสุนัขหลวงคอยคุ้มกันแล้ว”

ทำยังไงดี ทำยังไงดี!

บยอลยังคงจ้องที่ใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายนิ่ง จะมีก็แต่ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันจนแน่นที่แสดงอารมณ์ ในใจคิดหาวิธีทีจะรอดไปจากที่นี้ได้อย่างสุดฤทธิ์ 

“...ทำไมต้องฆ่าผมด้วย...อย่างน้อยก่อนตายผมก็ควรจะได้รู้เหตุผล!” บยอลพยายามถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด มือเรียวที่พนมเอาไว้ตกลงข้างตัว ในสายตานักฆ่าทั้งสามอาจจะเห็นว่าองค์ชายบยอลกำลังช็อกจนหมดแรง แต่แท้ที่จริงแล้ว.... 

นักฆ่าหนุ่มพยักหน้าน้อย ๆ เอาเถอะ ไหนๆองค์ชายสติไม่สมประกอบคนนี้ก็จะตายแล้ว หากได้รู้เหตุผลอะไรบ้างก็คงจะได้ตายตาหลับ

“ประเทศนี้ต้องการผู้เสียสละ” 

เด็กหนุ่มนึกไปถึงหนังบู๊ที่เขาชอบดู อันตัวร้ายมันชอบพูดจาวนไปวนมาก่อนจะฆ่าพระเอก จ่อปืนเล็งเป้าเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้วแต่ก็ยังไม่ฆ่า มัวแต่พร่ำพรรณนาจนตัดไปอีกเบรก.... เพราะอย่างนั้นเขาจึง....

“และผู้เสียสละคนนั้นก็คือท่.....โอ้ย!!” 

มือบางยกขึ้นเหวี่ยงเศษดินเศษหินที่นั่งกำตั้งแต่ทำเป็นอ่อนแรงใส่หน้าผู้ร้ายอย่างรวดเร็ว! ก่อนจะผลักคนที่อยู่ด้านขวามือสุดให้ล้มกระเด็น ร่างบางรีบพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นทันที สองขาออกตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แต่ใครซักคนนึงในกลุ่มนักฆ่าดันไหวตัวทัน เจ้านั่นใช้จังหวะที่เด็กหนุ่มออกวิ่งปามีดสั้นที่เหน็บไว้กับเอว พุ่งมาทางไหล่ขวาของว่าที่องค์รัชทายาททันที

“โอ้ย!!”

บยอลแหกปากลั่นเมื่อโลหะเย็นวิ่งแหวกอากาศเข้ามาประทุษร้ายตน เด็กหนุ่มเซน้อยๆแต่ยังดีที่พยุงตัวเองเอาไว้ได้ ตอนนี้ไม่มีเวลาหยุดดูแผลแล้วเพราะพวกมันก็เร่งฝีเท้าตามเขามาแทบจะในทันที เด็กหนุ่มคิดได้อย่างเดียวตอนนี้คือวิ่ง! วิ่งป่าราบ! ไม่ต้องคิดอะไรอีก! วิ่งเท่านั้นบยอล วิ่ง!!! 

___________________________________________________
___________________________________________________

“....นานเกินไป....” 

ร่างโปร่งหันมาเอ่ยกับคณะหลังละสายตาจากดวงอาทิตย์ที่เคลื่อนตัวต่ำลงกว่าเดิม มือเรียวกำเชือกคล้องม้าแน่น เอื้อมมือไปหวดแซ่ตีสะบักม้าที่ตนนั่ง เตรียมตัวควบออกไปจากพื้นที่ทันที หากว่าไม่ได้มีม้าของใครอีกคนที่ควบมาขวาง

“ฮี๊!!!!” 

ยังดีที่เจ้าม้าไม่ตกใจมากเท่าไหร่ถึงได้แค่หยุดกระทันหัน แต่ก็เกือบจะล้มไปได้หากอินซาไม่ได้กุมบังเหียนเอาไว้อย่างดี เจ้าของใบหน้าขาวหันขวับไปทางคนที่บังอาจมาขวางเขาเอาไว้อย่างอาฆาต ขุนนางคนที่เขาไม่อยากจะเอ่ยปากด้วยนั่งอยู่บนม้าตัวนั้น!

“......”

“ข้าจะไปตามฝ่าบาท.....ถอยออกไป” พัคอินซาพูดเสียงแข็ง มือเรียวยกแส้ขึ้นเหนือหัวเตรียมออกม้าทันทีที่เสวนาจบ “ถ้าหากไม่ถอย...ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

“ข้าจะไปด้วย”  คิมกีอุนมองใบหน้าของราชองครักษ์นิ่ง

“....ไม่ต้อง ข้าว่าท่านกลับที่พักไปตามทหารมายังจะดีซะกว่า”

“แต่ข้าจะไปกับเจ้า” กีอุนเอ่ยช้าๆ ดวงตายังคงจ้องใบหน้าขาวนิ่ง มือหนายกมือขึ้นเตรียมหวดแส้แล้วเช่นกัน

“แต่ฝ่าบาทรับสั่งว่าไม่ต้องตามไปนะ...ข้าว่าพวกท่านอยู่รอที่นี่ดีกว่า” ใต้เท้าซินหัวหน้าห้องเครื่องเอ่ยปากหน้าเครียด ส่งผลให้คนทั้งสองที่ประจันหน้ากันเมื่อครู่หันมาตะคอกเขาโดยไม่ได้นัดหมาย

“ท่านจงรีบกลับไปตามทหารมา! / ท่านนั่นแหละที่ต้องไปตามทหารมา!”

ราชองครักษ์กับใต้เท้าคิมหันกลับมามองกันแทบจะในทันที แต่ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไรต่อ ร่างโปร่งก็หวดแส้พาม้าออกไปแล้ว กีอุนมองเด็กหนุ่มที่ขี่ม้นำไปไกลก่อนหันกลับไปหาใต้เท้าซินที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด นัยน์ตาคมกริบจ้องคนที่อยู่บนม้าอีกตัวอย่างคาดโทษ

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังจะทำอะไร......ท่านทำเกินกว่าที่ท่านพ่อข้าสั่งไว้” 

“...ตะแต่....”

“รีบไปตามทหารมาที่นี่....ก่อนที่ข้าจะหงุดหงิดมากกว่านี้...ไป!”

___________________________________________________
___________________________________________________
ไม่มีเวลาให้คร่ำครวญกับอาการบาดเจ็บอีก ร่างในชุดเครื่องทรงประพาสเอื้อมอีกมือที่ยังว่างไปคว้าคันธนูคู่ใจและกระบอกลูกดอกมาแนบอกเอาไว้แน่น ก่อนจะเหวี่ยงตัวเองหลบหลังต้นไม้ใหญ่หวังให้เป็นที่หลบภัยชั่วคราว 

กึก!

หากแต่ช้าไปนิด กลุ่มนักฆ่าในชุดดำเห็นเขาเสียแล้ว และเสียงบางอย่างที่พลาดเป้ามาปักอยู่บนตอไม้ข้างๆก็ไม่ใช่อะไร นอกจากดอกธนูอาบยาพิษที่เคลือบไปด้วยเกสรของดอกยี่โถ ทำให้ตรงปลายของมันเป็นสีแดงเข้มจนเขาสังเกตุได้ง่าย

“ออกมาเถอะฝ่าบาท...หมดเวลาเล่นสนุกของพระองค์แล้ว”

อิลสูดลมหายใจเข้าปอดพยายามตั้งสติให้มั่น ก่อนมือเรียวยาวเลือกหยิบบางดอกที่อยู่ในนั้นมาง้างเข้ากับคันธนูเอาไว้ เขากำลังรอให้พวกมันเดินเข้ามาใกล้กว่านี้อีกนิด....

อีกนิด....

และ....

“ฝ่าบา..อั่ก!”

โดยที่พวกมันไม่ทันได้ระวังตัว อิลเหวี่ยงตัวออกจากมุม กำหนดเป้าหมายคือต้นคอของพวกมันซักคน เล็งให้มั่นแล้วปล่อยลูกธนูออกไปอย่างรวดเร็ว ปลายแหลมของลูกดอกปลิดชีวิตหนึ่งในกลุ่มนั้นให้ล้มลงทันที ก่อนที่ร่างสูงจะม้วนตัวไปอีกทาง หยิบลูกธนูง้างคันแล้วปล่อยออกไปอีกดอก

กลุ่มนักฆ่าที่มากันห้าคนเริ่มหาที่หลบซ่อนตัวทันที เพราะงานนี้ไม่ได้หมูอย่างที่พวกมันคิดเลยแม้แต่น้อย! จากห้าตอนนี้เหลือแค่สาม....นับว่าฝีมือการยิงธนูของพระราชาแม่นยำยิ่งนัก เพราะยังไม่มีดอกไหนที่พลาดเป้าเลย.... 

ทุกดอกวิ่งแหวกอากาศปักเข้าที่ต้นคออย่างรวดเร็วราวกับจับวาง....

“อั่ก!!” 

ไม่ทันได้เคลื่อนไหวอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆ เพื่อนที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ข้าง ๆ กันก็ล้มลงหมดลมโดยที่มีลูกธนูปลายแหลมปักต้นคอ...พอเห็นอย่างนั้นแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่ามีเหงื่อเม็ดโตไหลซึมเต็มแผ่นหลัง... พวกเขายังเหลืออีกสอง และไม่มีใครมองเห็นพระราชาของประเทศนี้เลยแม้ซักคน....

รวดเร็ว....ไร้ซึ่งจุดอ่อนโดยสิ้นเชิง...

 “ข้างซ้....อั่ก!”

เจ็บใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรเพื่อนเอาไว้ได้เลย...ชายชุดดำหันขวับไปทางซ้ายทันที ร่างสูงของพระราชายกดาบขึ้นจ่อที่อกของเขาแล้ว

“เจ้าทำงานให้ใคร....หากตอบ...ข้าจะไว้ชีวิต” สุรเสียงเย็นเยียบของพระราชาเตือนว่าตอนนี้เขาก็เหมือนกับหมาจนตรอก ถ้าหากฆ่าไม่ได้ตนก็ต้องกลับไปตายอยู่ดี เพราะอย่างนั้นถึงได้ตัดสินใจเอื้อมมืออันสั่นเทาของตนชักดาบออกจากฝัก แล้วเหวี่ยงเข้าหาจุดสำคัญ ฟันแฉลบเข้าที่สีข้างของอีกฝ่ายทันที

“เอื้อ....อ....อั่ก”

ไม่รอให้ชายชุดดำพูดอะไรออกมาอีก อิลตัดสินใจหมุนตัวออกจากดาบของอีกฝ่าย ง้างมือฟันขาดสะพายแล่งในดาบเดียว ร่างทั้งร่างของนักฆ่าทรุดลงช้า ๆ ก่อนนอนแน่นิ่งลงกับพื้นทั้งๆ ที่ตายังไม่ปิดลงด้วยซ้ำ...

เหตุการณ์เมื่อครู่ทำเอาคนที่ไม่ได้จับดาบมานานอย่างร่างสูงถึงกับทรุด ยังดีที่กำดาบปักกับพื้นพยุงตัวเอาไว้ได้ มือเรียวยาวข้างที่ว่างยกขึ้นปิดที่บาดแผลใหญ่ ความรู้สึกเจ็บพุ่งทวีขึ้นทันทีหลังจากได้เห็นโลหิตสีแดงฉานที่ค่อยๆไหลซึมจากสีข้างตนเอง....

ลอบฆ่างั้นหรือ....

ทั้งๆที่การล่าสัตว์ครั้งนี้...เป้าหมายที่คาดการณ์เอาไว้ คือองค์ชายบยอลแท้ๆ แต่ผิดกัน... เหยื่อที่ถูกล่าในเกมครั้งนี้คือเขาเองงั้นหรือ..... 

หรือว่าจะเป็นองค์ชายบยอลที่วางแผนทั้งหมด...   ความคิดต่อมาผุดขึ้น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด หากเป็นองค์ชายบยอลจริงๆ ก็เท่ากับว่าที่ร่างบางแกล้งทำเป็นขี่ม้าไม่เป็น คือแผนที่ลวงให้เขาเข้ามาในป่าแห่งนี้.... 

“ช่วยด้วย!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!!” 

ไม่ทันจบความคิด เสียงตะโกนของใครบางคนก็ดังขึ้นลั่น ร่างสูงรีบพาตัวเองหลบเข้าพุ่มไม้แถวนั้นทันที

“ช่วยด้วย...ช่วยด้....อ้ะ” 

องค์ชายบยอลวิ่งเข้ามาในเขตการต่อสู้เมื่อครู่ และสะดุดหน้าคะมำเมื่อเท้าของตนเหยียบลงไปบนศพที่เขาเพิ่งฆ่าเมื่อครู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ อิลหลบมองเหตุการณ์อยู่หลังต้นไม้... ความไว้ใจสำหรับคนร่างบางที่เคยมีให้ตอนนี้ลดลงไปกว่าครึ่ง บางทีนี่อาจจะเป็นแผนลวงอีกก็ได้!

“อ...อย่านะ...อย่าเข้ามา” 

หากแต่ภาพชายชุดดำอีกสามคนที่เพิ่งวิ่งตามมาถึง และกำลังจะลงดาบกับองค์ชายบยอลนั้นทำให้พระราชาของประเทศเปลี่ยนพระทัย ร่างสูงเผยตัวออกจากเงาไม้ ง้างคันธนูปล่อยปลายแหลมออกไปปลิดชีวิตอีกสองคนที่กำลังจะประทุษร้ายว่าที่องค์รัชทายาททันที

“พระเจ้ายอนชาง!!!” 

บยอลหันกลับไปทางที่แนวของลูกธนูพุ่งมาช่วยชีวิตตน แล้วก็พบกับมายไอด้อลที่ยืนง้างคันธนูอยู่ไม่ไกล  เด็กหนุ่มไม่ทันได้ระวังตัวเลยแม้แต่น้อยจึงทำให้พลาดท่าเสียที โดนนักฆ่าที่ไม่ได้ปิดหน้าคนนั้นคว้าตัวเอาไว้ได้

“หยุด!...ลดดาบของเจ้าลงเดี๋ยวนี้!”

แม้จะเป็นคำสั่งของพระราชา แต่ก็ไม่ทำให้นักฆ่าเคลื่อนไหวเลยแม้แต่นิด ดาบนั้นยังคงจ่อที่คอหอยขององค์ชายบยอลราวกับจะจับอีกฝ่ายเป็นตัวประกัน ร่างกายที่ใกล้ชิดกันของร่างบางกับนักฆ่าทำให้ร่างสูงไม่กล้าปล่อยธนูออกไปได้ดั่งใจคิด มือเรียวยาวยังคงง้างมันไว้กับมืออยู่อย่างนั้น....

เขาควรเล็งเป้าอื่น.....ไม่อย่างนั้นองค์ชายบยอลอาจจจะได้รับบาดเจ็บไปด้วย...

เร็วเท่าความคิดพระราชาของประเทศก็เล็งเป้าหมายใหม่ เขาปล่อยลูกธนูวิ่งพุ่งไปยังข้อศอกของมือด้านที่นักฆ่าหนุ่มจับดาบเอาไว้ และนั่นทำให้อีกฝ่ายเสียท่าทำดาบหลุดมือ!

องค์ชายบยอลกระทุ้งเข้าที่กระบังลมของคนที่จับตัวเองไว้อีกยก ก่อนจะโผไปหลบด้านหลังร่างสูงที่คว้าลูกธนูเตรียมยิงใส่นักฆ่า แต่ยังไม่ทันที่จะได้ปล่อยออกไป เสียงควบม้าก็ดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ

นักฆ่าหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงล่าถอยออกจากเป้าของพระราชาทันที ชายชุดดำวิ่งหนีหลบออกไปอีกทาง เกือบจะเบาใจได้แล้วแท้ๆ ถ้าทหารม้าเร็วที่วิ่งมาทางพวกเขาไมได้กำลังง้างคันธนูไปทางองค์ชายบยอลอยู่ล่ะก็....

ปึก!

ลูกธนูอาบยาพิษที่อิลเคยเห็นนักฆ่าที่เขาเพิ่งจัดการไปใช้ พุ่งตรงเสียบกลางหลังของทหารม้าเร็วที่กำลังง้างคันธนูไปยังร่างบาง ก่อนความโกลาหลจะเกิดขึ้น เมื่อทหารม้าในชุดเกราะต่างสีอีกพวกควบม้าตรงมาโรมรันกับพวกที่ถึงที่หมายอยู่ก่อนแล้ว....

“....นะ....นี่มันอะไรกันวะเนี่ย”

บยอลงงไปหมด โคตรงง....งงมากๆ

ตั้งแต่วิ่งหนีนักฆ่าแล้วมาเจอพระเจ้ายอนชาง แล้วยังทหารที่ทำท่าจะฆ่าเขา แต่ก็มีอีกฝ่ายมาช่วย แล้วก็พุ่งรบกันเอง ภาพตรงหน้าไม่ได้ทำให้เข้าใจอะไรดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะทำให้งงกับงงเท่านั้น นี่เขากับพระเจ้ายอนชางยืนอยู่ตรงกลางของสงครามย่อม ๆ เลยนี่หว่า!!!

“องค์ชายบยอล...นับหนึ่งถึงสาม...วิ่งเดี๋ยวนี้....” 

พระเจ้ายอนชางที่ดูเหมือนจะงงพอๆกับเขาเดินถอยหลังมากระซิบเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือเขาไว้แน่น “หนึ่ง....สอง....สาม วิ่ง!!!!” 

แรงกระชากจากพระเจ้ายอนชางทำให้เด็กหนุ่มเกือบจะร้องไห้ออกมา ถ้าไม่ติดตรงที่ว่ากลัวคนพวกนั้นได้ยินแล้วล่ะก็! ก็มือที่พระองค์ทรงกระชากหม่อมฉันอยู่มันเป็นแขนข้างที่ได้รับบาดเจ็บโว้ย!! โอ้ยยยย มายไอด้อล!!!

บยอลวิ่งไปตามแรงฉุดของอีกคนสุดชีวิต เรียกว่าโกยแนบวิ่งกันป่าราบเลยทีเดียว เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะพาเขาไปที่ไหน ได้แต่กุมมือเรียวยาวของร่างสูงเอาไว้แน่นแล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ !

“หนีไปแล้ว!! ฝ่าบาทหนีไปแล้ว”

“ตามองค์ชายบยอลไป! จับตายเท่านั้น!!!”

ดูเหมือนพลทหารม้าสองกองจะรู้ตัวแล้วว่าพวกเขาหนีออกมาจากสมรภูมิรบ  ดีหน่อยที่พระเจ้ายอนชางทรงพระมีไหวพริบมากๆ ถึงได้ลากเขาออกมาก่อนที่พวกนั้นจะไหวตัว ทำให้พวกเราวิ่งนำมาไกลอยู่เหมือนกัน ....เชื่อไหมว่าบยอลเกลียดคำว่า ‘แต่ไม่ทันที่....’ มาก เพราะเมื่อไหร่ที่มันโผล่ขึ้นมา ชีวิตเขาก็ดูเหมือนจะมีแต่สิ่งอัปยศอดสู!!! 

“เ..เหวอออ”   

ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้คิดจบ ร่างทั้งร่างของเขาก็เซถลาไปตามทางลาดชันของหน้าผา ที่พระเจ้ายอนชางทรงพาให้มาพบเจอกับทางนี้  บยอลกลิ้งลุนๆ เหมือนลูกฟุตบอลในสนามก็ไม่ปาน แถมกิ่งไม้เศษหินก็ยังพร้อมใจกันแหลมคมด้วย มันทั้งเกี่ยวทั้งบาดจนทั้งตัวเขาเจ็บแสบไปหมด!!! 

“อึก!!” 

บยอลกลิ้งตามร่างสูงลงมาหยุดอยู่ที่ใต้ผาหินที่มีต้นไม้ปรกคลุมติดๆ ร่างบางยังไม่ได้ลุกขึ้นจากพื้นเลยด้วยซ้ำ แต่พระเจ้ายอนชางที่ดูเหมือนจะได้สติก่อนก็เขยิบเข้ามาถอดเสื้อนอกของเขาออกจากตัวทันที ไม่มีการให้สัญญาณอะไรเลยแม้แต่น้อย มือเรียวนั่นเร่งถอดเสื้อเขาออก ก่อนจะถอดฉลองพระองค์ตัวนอกออกจากร่างของตนเช่นกัน

“เฮ้ย...เฮ้ย....ทำอะไร พระเจ้ายอนชางจะทำอะไร!!” 

“...เบาเสียงเจ้าหน่อย...” ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังพูดเสียงดัง มือเรียวยาวจัดการห่อเศษหินไว้ข้างใน แล้วขยุ้มเสื้อนอกของเขาทั้งสองเหวี่ยงทิ้งลงกลางลำธารที่เชียวกรากทันที

“จะทรงทำ’ไร” บยอลกระซิบ พูดเสียงให้เบาลงหลังจากเพิ่งโดนทำหน้าดุใส่เมื่อครู่ พระเจ้ายอนชางไม่ตอบอะไรออกมา นอกจากมองไปทางหน้าผาที่พวกเขาเพิ่งตกลงมาแหมบๆ   

ทหารกลุ่มใหญ่ที่ใส่เสื้อคนละสีกำลังวิ่งหาอะไรบางอย่าง ก่อนพวกมันจะจับเป็นสองกลุ่ม แล้วชี้ไปยังฉลองพระองค์ตัวนอกที่พวกเขาเพิ่งจะถอดทิ้งไป.... ตอนนี้เสื้อนอกสองตัวนั้นลอยไปติดกิ่งไม้ใกล้ๆหน้าผาน้ำตกใหญ่  ส่วนอีกตัวหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้....

คุณพระ....อย่างนี้นี่เอง  บยอลหันกลับมามองที่พระเจ้ายอนชางอย่างภูมิใจในไอดอลของตัวเอง  ทรงพระฉลาดยิ่งนักนะเนี่ย!!!!

“พวกมันไปแล้ว...” 

รู้ตัวอีกทีก็จ้องพระพักตร์ของพระเจ้ายอนชางอยู่นาน... โอย... มายไอดอล ทำไมยิ่งมองยิ่งหล่อวะเนี่ย จะทำยังไงถึงจะได้หน้าใสกิ๊งอย่างนี้บ้าง สงสัยถ้าได้กลับบ้านคงต้องไปฉีดโบท็อกซ์รัวๆซะแล้ว...

“แล้วพวกเราล่ะครับ” 

“ค่อยๆออกไป...ตามข้ามา....” 

บยอลพยักหน้ารัว ก่อนจะเดินแหวกต้นหญ้ารกรุงรังตามหลังพระเจ้ายอนชางติดๆ..  พวกเขาเดินออกห่างจากเขตล่าสัตว์มากขึ้นเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ เดินจนบ่ายคล้อย ตะวันเกือบจะตกดินแล้ว แต่ก็ไม่เห็นทางออก  เดินจนรู้สึกเมื่อยขา เจ็บแผลแต่ก็ยังหยุดเดินไม่ได้....

ถ้าหากว่าพวกมันยังตามมาอยู่อีกล่ะ.... 
น่ากลัวเป็นบ้า....

เด็กหนุ่มค่อย ๆ เดินช้าลง คำนวณเวลาเองในใจ ตอนนี้พวกเขาก็เดินมาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงเห็นจะได้

“ผมหิวน้ำ....” บ่นกระปอดกระแปดออกมาเบาๆ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายที่นำอยู่ด้านหน้าจะสนใจหรอก แต่พอพูดจบ ร่างสูงที่เดินไปแต่ทางตรงก็เลี้ยวไปทางด้านขวาทันที....

“น้ำ!!!!” 

บยอลวิ่งเข้าหาลำธารเล็ก ๆ ทันที! ยกมือกวักน้ำลูบหน้าลูบตาตัวเองจนสดชื่นก็เพิ่งสังเกตุได้ว่ามันเป็นลำธารคนละสายกับที่เขาจากมา ก็ไม่ได้เซอร์ไพร์สอะไร เท่ากับเงยหน้าขึ้นมาแล้วเจอกระท่อมเล็กๆที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก....

“ก.....กระท่อม!! เรารอดแล้วพระเจ้ายอนชาง !! กระท่อม!! นั่น”  บยอลดีใจสุดขีด รีบชี้ไปทางกระท่อมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่า ในสายตาของเด็กหนุ่มมันมีแสงเรืองรองวิบวับสาดเป็นไฟสปอตไลท์อยู่ด้านหลังด้วย!

พระเจ้ายอนชางไม่ตอบอะไรนอกจากหันมาอมยิ้มให้ ก่อนพวกเขาจะเร่งฝีเท้าเดินไปทางกระท่อมหลังนั้นอย่างรวดเร็วเพราะนี่ก็เย็นมากแล้ว และเมื่อมาถึงที่หมาย ก็พบว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย...มันเป็นแค่ที่เก็บฟีนเล็ก ๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแค่ถังตักน้ำ.... 

ร่างสูงเปิดประตูกระท่อมเข้าไปนั่งพักทันที ปล่อยให้องค์ชายบยอลปิดประตูตามหลังเข้ามา... ความรู้สึกปวดแผลที่สีข้างประดังเข้ามาทันทีหลังจากที่ทรุดตัวลง  มือเรียวกุมที่หน้าท้องเบา ๆ พยายามปิดมันเอาไว้

“ทรงบาดเจ็บนี่” แม้จะพยายามซ่อนแล้วแต่ร่างบางก็ยังเห็น บยอลวิ่งถลาเข้ามาทันทีที่เห็นเลือดแดงฉานไหลซึมออกมาจากสีข้างของอีกคน

“อะ...โอ้ย....เบามือเจ้าหน่อย” พระเจ้ายอนชางกระซิบออกมาทันทีที่บยอลเอื้อมมือไปจับมัน ทำไมเขาไม่สังเกตเลยนะ ว่าพระเจ้ายอนชางไม่ค่อยพูดจาอะไรเลยระหว่างที่เดินทางมา.... ทรงบาดเจ็บนี่เอง... แล้วเขาจะทำยังไงดีวะเนี่ย !

ภาพตรงหน้าที่องค์ชายบยอลกำลังลนลานกับแผลของเขา ทำให้ร่างสูงเบาใจขึ้นเปราะหนึ่ง อย่างน้อยองค์ชายบยอลก็กำลังเป็นห่วง และไม่ได้มีท่าทีหมายจะปลิดชีวิตเขาแต่อย่างใด....ดวงตาคมค่อยๆปรือลงช้าๆ.... พร้อมกับสัมปชัญญะสุดท้ายคือองค์บยอลกำลังเอ่ยบางอย่างกับเขา....

“.....อย่าหลับนะพระเจ้ายอนชาง....อย่าหลับ!!!”

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> TBC

นายเอกเด๋อ ซื่อ มากเลย ต้องเอาใจช่วยกันหน่อยนะคะ 5555
ที่เขียนเรื่องนี้เพราะชอบการเมืองในราชสำนักของเกาหลีมากเลย คือมันส์มาก
ดูซีรี่ส์มาแล้วอินก็เลยอยากเอามาเขียน 5555 ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ ><

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พระองค์คงต้องสอนอีกเยอะป่านได้ลูกมาเลี้ยง  :m20:
 :L1:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โธ่ จะไหวไหมนี่บยอล

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
คงต้องพัฒนาอีกไกลเลย

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาเถอะนะ มารอไรต์จ้าาาาาา :mew2:

ออฟไลน์ VIRIDIAN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1

แสงยามเย็นของดวงอาทิตย์ที่คล้อยต่ำยิ่งบดบังทัศนะในการมองให้แย่ลงกว่าเดิม เป็นเวลากว่า 2 ชั่วยามแล้วที่เหล่าทหารลาดตระเวน ขันทีรวมถึงนางกำนัลออกตามหาพระราชาและว่าที่องค์ชายรัชทายาท ทว่ายิ่งดวงจันทร์ลอยสูงขึ้นเท่าใด ก็ดูเหมือนความหวังก็จะยิ่งไกลออกไปเท่านั้น

คบเพลิงถูกจุดขึ้นอันแล้วอันเล่า ขยายวงไปจนถึงป่าชั้นใน แต่ก็ยังไม่มีใครที่พบเบาะแสของทั้งสอง นั่นยิ่งทำให้ราชองครักษ์ที่บกพร่องต่อหน้าที่อย่างพัคอินซาร้อนใจ นึกโทษตัวเองว่าเหตุใดเขาถึงไม่ยอมฝืนคำสั่ง แล้วเชื่อสัญชาตญาณของตนซะ

ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งบนท่อนไม้ใหญ่ ส่องคบเพลิงในมือไปยังเศษหนังวัวที่ถูกวาดเป็นรูปแผนที่ของป่านี้คร่าว ๆ ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นมานวดขมับตนเบา ๆ เขาไม่รู้ว่าจะไปตามหาพระองค์ที่ไหนแล้ว หากว่าความดีที่เคยทำมาทั้งชีวิตจะพอดลบันดาลให้เขาหาพระราชาเจอได้ เขาก็จะขอยกมันให้เทพยาดา ผู้ปกปักรักษ์ป่านี้ทั้งหมด....

“น้ำหน่อยไหมท่านราชองครักษ์”

กระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำสะอาดอยู่ครึ่งนึงถูกยื่นมาตรงหน้า นั่นทำให้ร่างโปร่งชั่งใจว่าจะรับมันมาดีหรือไม่ ดวงตาเรียวมองตามขึ้นมือหนาขึ้นไป ว่าจะรับมาแล้วเชียว แต่พอเห็นรอยยิ้มเช่นนั้นแล้วพาลก็ให้นึกเรื่องสมัยก่อนขึ้นมา....

“ข้าไม่หิว” 

“หึ” กีอุนหัวเราะในลำคอเบา ๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมรับของจากมือตน “ข้าไม่ใส่ยาพิษให้กินหรอก....รับไปสิ”

“ข้าไม่ไว้ใจใครก็ตาม...โดยเฉพาะกับท่าน”  เรียกว่าแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนกว่าไม่ต้องการเสวนาด้วย แต่มีหรือคนอย่างกีอุนจะยอมล่าถอย ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งบนท่อนไม้ท่อนเดียวกับร่างโปร่งทันที ก่อนจะเขยิบตัวเอง เบียดกระแซะให้ชิดเข้าไปอีก

“ท่าน!” 

พัคอินซาตะโกนลั่นผุดลุกขึ้นยืนแทบจะทันทีทันใดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจงใจทำอะไรที่เข้าใกล้คำว่า ‘ยั่วโมโห’ มือเรียวกำดาบข้างตัวเอาไว้แน่น รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ชอบให้มายุ่งด้วย แล้วเหตุใดยังมาตามเกาะติดกันแบบนี้อีก!

แรกเริ่มเขาออกคำสั่งให้พวกทหารแบ่งเป็นสองฝ่ายเพื่อลดเวลาในการตามหาฝ่าบาทลง ทุกคนล้วนเห็นด้วย ยกเว้นก็แต่ใต้เท้าคิมกีอุน... ร่างสูงทั้งคัดค้าน ทั้งหาเหตุผลสารพัดมาอ้างไม่ให้แบ่งเป็นสองฝ่าย บอกว่าทั้งหมดก็เพื่อเพื่อความปลอดภัยของพระราชาและว่าที่องค์รัชทายาท

...ทุกคนล้วนเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำตามที่ใต้เท้าคิมว่า...
มีก็แต่เขาเท่านั้น...ที่เห็นว่ามันมีสิ่งผิดปรกติซ่อนอยู่....

“กินสิ...ข้าเห็นว่าเจ้าปวดหัว...ปล่อยไว้เช่นนั้นจะไม่มีแรงออกตามหาพระราชานะ” จบคำก็วาดรอยยิ้มที่มุมปาก มือหนายื่นกระบอกไม้ไผ่ไปให้คนตรงหน้า “...เจ้ากินเมื่อไหร่ข้าก็จะไปให้ห่างเจ้าเมื่อนั้น”

“ไม่ใช่กงการอะไรของท่าน” อินซาสวนขึ้น “ท่านไม่ควรมาวุ่นวายกับข้าเช่นนี้....ไม่สิ...ท่านไม่ควรจะตามข้ามาด้วยซ้ำ...”

ใต้เท้าคิมได้ยินก็หัวเราะออกมาก่อนจะหยัดตัวขึ้นเต็มความสูง ใบหน้าคมยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าขาวอย่างจงใจให้อีกฝ่ายโมโหมากขึ้นกว่าเดิม “กินสิ...แล้วข้าจะไม่ยุ่งกับเจ้าเลย” 

อินซากลอกตาไปมาเมื่อสัมผัสได้ว่าตนในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากตัวตลกให้อีกฝ่ายล้อเล่น เขายื่นมืออกไปกระชากกระบอกไม้ไผ่ออกจากมือของอีกคน ก่อนจะยกมันขึ้นกระดกลงคอรวดเดียวจนหมด แล้วกระแทกมันเข้ากับอกของคนที่ยืนอมยิ้มอยู่ตรงหน้า “พอใจท่านหรือยัง”

คนฟังไม่ตอบอะไร ทำเพียงแค่อมยิ้มเล็กๆออกมาเท่านั้น แต่สาบานได้ว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจเป็นที่สุด และเมื่อคบเพลิงที่ถืออยู่ในมือตกลงกับพื้นด้านข้างต่อหน้าต่อตา สิ่งผิดปรกติที่ว่าก็ฉายชัดขึ้น.....

“...ท...ท่าน”

พัคอินซาประคองสติตนเองแทบจะไม่ไหว ภาพตรงหน้ามันพร่ามัวไปหมด เพียงสิ่งเดียวที่เขามองเห็น คือใบหน้าของใต้เท้าคิมกีอุน ขุนนางฝ่ายใต้ที่เพิ่งจะเอื้อมมือเข้ามาจับไหล่เขาเอาไว้ ดวงตาคมเผยแววเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด และก่อนที่จะได้เอ่ยอะไรมากไปกว่านี้ ทุกอย่างก็ดับวูบลง...

ราชองครักษ์หมดสติไปเสียแล้ว...


IN TIME
** เนื้อเรื่อง และตัวละครทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องที่ผู้เขียนจินตนาการขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
______________________________
{ 9 - HOUR  }
T H O R N



“นั่น!! กวางพะย่ะค่ะ!”

เสียงกระซิบเบาๆของหัวหน้าขันทีเบนความสนใจของทุกคนไปที่กวางตัวใหญ่ มันกำลังยืนเล็มหญ้าอยู่ใกล้ลำธารอย่างสบายอกสบายใจ ไม่รู้สึกถึงภัยที่กำลังจะย่างกรายเข้าไปหาเลยแม้สักนิด

“ให้หม่อมฉันจัดการเอง”

น้ำเสียงแหบพร่าของเชื้อพระวงศ์ที่เพิ่งจะเข้าสู่วัยหนุ่มดังขึ้น ก่อนมือบางจะเอื้อมไปหยิบลูกธนูจากกระบอกที่แขวนไว้บนอานม้ามาง้างคัน แต่ยังไม่ทันที่จะได้ปล่อยปลายแหลมพุ่งไปคร่าชีวิตเจ้ากวางดั่งใจคิด ก็มีน้ำเสียงอ่อนโยนของใครบางคนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ช้าก่อนบยอล...อย่าเพิ่งยิงเจ้ากวางตัวนั้น”  ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นองค์ชายชิน องค์รัชทายาทคนสำคัญแห่งโชซอน พี่ชายร่างกายอ่อนแอของบยอลนั่นเอง

“เรายังจะรออะไรอีก...” คำเอ่ยห้ามนั่นทำให้องค์ชายบยอลจำต้องลดคันธนูลง “กวางป่าตัวใหญ่ถึงเพียงนี้ไม่ใข่จะมีอยู่ทั่วป่านะเสด็จพี่” 

“ข้ารู้” ชินหันมาหาน้องชายที่เพิ่งชักสีหน้าให้ตนยิ้ม ๆ ก่อนจะพยักเพยิดไปทางร่างสูงของอีกคนที่นิ่งเงียบอยู่ด้านหลัง “แต่ข้าอยากให้องค์ชายอิลเป็นคนยิงเจ้ากวางตัวนั้น...ได้ไหมองค์ชายอิล” 

เป็นดั่งคำประกาศิตไม่มีใครคิดจะค้านองค์ชายชินซักคน แม้องค์ชายบยอลที่เป็นน้องชายจะเสียหน้าอยู่ไม่น้อย แต่ร่างบางก็ยอมอยู่นิ่งๆปล่อยให้องค์ชายอิลที่ถูกกล่าวถึงก้าวขึ้นมายืนอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร

ร่างสูงค้อมศีรษะเคารพองค์ชายร่างบางในขณะที่มือหนาก็หยิบลูกธนูขึ้นง้างคันแนบกับใบหน้าของตน ดวงตาคมหรี่ลง พยายามเล็งเป้าตรงที่เจ้ากวางโดนแล้วจะตายตกลงไปทันที ก่อนจะปล่อยปลายแหลมออกไปตามพระประสงค์ขององค์รัชทายาท

“เจ้า!!!!!!!!!!!!!!!!”  องค์ชายบยอลตะโกนแหวขึ้นมาทันทีที่ปลายแหลมของลูกธนูพุ่งไปปักอยู่บนตอไม้ข้าง ๆ นอกจากจะไม่สามารถปลิดชีวิตกวางตัวนี้ได้แล้ว ศรที่พี่ชายต่างแม่ยิงออกไปยังไล่ให้มันหนีกลับเข้าป่าไปอีก....  “เจ้าทำบ้าอะไร!! นั่นมันกวางที่พวกเราจะนำไปถวายเสด็จพ่อนะ!!” 

คนฟังได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร ยืนมองโทสะของร่างบางที่กำลังคุกรุ่นเต็มที่ ดวงตารีถลึงมองใส่เขาอย่างอาฆาต ดูเหมือนการกระทำของเขาเมื่อครู่ จะเพิ่มความจงเกลียดจงชังให้ได้อีกพันเท่าทวีคูณ

“ช่างมันเถอะบยอล....สัตว์ที่เจ้าล่ามาก็มากมายเสียจนเสด็จพ่อคงจะหารางวัลมาประทานให้เจ้าไม่หวาดไม่ไหวแล้ว” 

“....แต่”

“ไม่มีแต่องค์ชายบยอล....พี่เหนื่อย อยากกลับที่พักของเราแล้ว” ชินยื่นคำขาด แล้วก็เป็นดังคาด น้องชายร่วมสายเลือดของเขาแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดออกมาแทบจะในทันที ร่างบอบบางยืนมององค์ชายลำดับที่สามเหวี่ยงตัวขึ้นบนอาน สบนัยน์ตาฉายแววเอาแต่ใจนั่นได้เพียงครู่ องค์ชายบยอลก็ควบม้าออกไปโดยไม่แม้จะหันกลับมามอง

“เจ้าอย่าถือสาน้องชายของเราเลยนะ...องค์ชายอิล” ดวงตากลมโตคู่นั้นยังคงจับจ้องอยู่ที่เดิม มองดูองค์ชายคนเล็กค่อยๆห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ ก่อนใบหน้าขาวจะหันกลับมาอมยิ้มกับคนที่ยังยืนอยู่ข้างตัว “เข้ารู้ว่าเจ้าก็เห็นอย่างที่ข้าเห็น....”

“.........”

“เพราะอย่างนั้นเจ้าถึงไม่ยิงกว่างตัวนั้นใช่ไหม?....องค์ชายอิล” 

___________________________________________________
___________________________________________________

“....กลับมาแล้วหรือ ลูกข้า”  สุรเสียงอ่อนโยนเอ่ยขึ้นหลังจากทอดพระเนตรมองบุตรชายทั้งสามที่กำลังเดินเท้าเข้ามาหา  พระราชาของประเทศแย้มพระโอษฐ์กว้าง เมื่อเห็นว่าเนื้อตัวของเด็กชายอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่ามอมแมมเกินจะทน

เห็นแล้วก็อดที่จะรู้สึกยินดีไม่ได้ คนเป็นพ่ออย่างพระองค์ จะมีสิ่งใดเล่า ที่ทำให้เป็นสุขใจมากไปกว่าเห็นลูกทั้งสามมีความสามัคคี รักใครกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างนี้

“เสด็จพ่อ” 

องค์ชายทั้งสามเอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมกันก่อนจะยอบตัวลงทำความเคารพพระราชาของประเทศ ซักพักนั่นแหละถึงได้ย้ายไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำขึ้นจากหนังสัตว์ เหล่าองค์ชายและพระราชาล้อมวงกันอยู่รอบกองไฟ  ดื่มน้ำชา กินอาหารที่พวกนางกำนัลเตรียมเอาไว้ให้ตั้งแต่บ่าย

“องค์รัชทายาทบอกพ่อว่าสัตว์ทั้งหมดนี่...เจ้าเป็นคนล่ามาเองทั้งหมด....จริงหรือองค์ชายบยอล” 

พระเจ้าซุกจงเอ่ยพลางยิ้มๆกับบุตรชายคนที่สาม ซึ่งองค์ชายบยอลที่กำลังเสวยไก่ย่างก็พยักหน้ารับแทบจะในทันที “....พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ...”

“แล้วเจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ”  องค์ชายบยอลที่รอฟังคำนี้มาตั้งแต่เช้า ทะลึ่งตัวขึ้นมา พร้อมกับชี้ไปทางเสด็จพี่ของตน “หม่อมฉันอยากได้ธนูชีลีของเสด็จพี่ชินพะย่ะค่ะ” 

ธนูชีลี ยอดธนูฝีมือช่างจากมองโกลที่พระองค์ทรงสั่งให้ทำขึ้นเป็นพิเศษ เนื่องในโอกาสวันรับตำแหน่งองค์รัชทายาทขององค์ชายชิน น้ำหนักเบากว่าธนูผู้ใหญ่สามเท่า หากแรงส่งของมันก็มากกว่าธนูธรรมดาเป็นสามเท่าเช่นกัน และเมื่อเร็วๆนี้ องค์รัชทายาทเพิ่งจะเอ่ยปากว่าคงจะไม่ได้ใช้ธนูแล้ว เพราะร่างกายที่เจ็บออดๆ แอดๆ มาแรมปี เพราะอย่างนี้องค์ชายบยอลจะแสดงตัวว่าอยากได้มันมาไว้ในครอบครองก็ไม่แปลก

“ธนูชีลีนั้น พ่อให้พี่เจ้าแล้ว คงจะเอ่ยปากยกให้เจ้าไม่ได้หรอก องค์ชายบยอล”

 “...ก็หม่อมฉันเคยเอ่ยปากขอเสด็จพี่แล้ว แต่เสด็จพี่ไม่ให้นี่พะย่ะค่ะ”  องค์ชายน้อยเบ้ปากมองไปยังพี่ชายร่างกายอ่อนแอที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเสด็จพ่อ

“แล้วเจ้าล่ะอิล....ล่าอะไรมาได้บ้าง” คนเป็นพ่อเอ่ยถามลูกชายอีกคนที่นั่งเงียบมาตั้งแต่แรก แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบ ลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆก็สวนขึ้นมา

“องค์ชายอิลเกือบจะล่ากวางตัวใหญ่ได้พะย่ะค่ะ.....แต่ก็พลาด”

“กวางตัวใหญ่?”  พระราชาหันไปขมวดคิ้วกับองค์รัชทายาทที่เพิ่งจะยกถ้วยน้ำชาขึ้นจรดริมฝีปากเมื่อครู่ “ไม่เห็นพี่เจ้าบอกพ่อเลย” 

“เอ่อ.....” 

“เรื่องนี้คงต้องให้องค์ชายอิลอธิบายให้เสด็จพ่อฟัง...น่าจะดีกว่าเสด็จพี่ชินนะ” น้ำเสียงแหลมขององค์ชายลำดับที่สามสวนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นว่าพี่ชายร่วมสายเลือดของตนกำลังจะเอ่ยปากออกมา ดวงตาเรียวรีทอดมองไปยังร่างสูงที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ถึงแม้จะไม่พูดอะไรแต่ก็ใช่ว่าจะปกปิดความผิดของตนได้หรอกนะ....พี่ชาย

“ว่ายังไง...องค์ชายอิล”  คนถูกเรียกหลุบตาต่ำลง มือเรียวยาววางตะเกียบเงินอย่างเบามือที่สุด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้เป็นพ่อ

“กวางตัวนั้นท้องแก่อยู่กระหม่อม....”

“เพราะกวางตัวนั้นกำลังตั้งท้อง...เจ้าถึงไม่ล่ามันงั้นหรือ” ทรงถามทวนอีกครั้ง

องค์ชายอิลพยักหน้าเบาๆ “พะย่ะค่ะ...หากเราฆ่าแม่ก็เท่ากับฆ่าลูกด้วย ไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าทั้งคู่ในเมื่อเราต้องการแค่เนื้อกวางตัวแม่...”

เงียบไปพักนึง พระราชาของประเทศจึงได้เอ่ยถามขึ้นมาอีก “....ทำไมล่ะ”

“หม่อมฉันแค่คิดว่า...บางทีการหว่านพืชโดยไม่ต้องคาดหวังอะไร...ผลที่ได้กลับมาอาจจะทวีคูณยิ่งกว่าที่เราตั้งใจเอาไว้พะย่ะค่ะ....หากปล่อยให้แม่กวางได้คลอดลูกกวาง ประชากรสัตว์ในป่าหวงห้ามก็จะเพิ่มขึ้น ในหน้าหนาวนี้ เราอาจจะมีเสบียงในวังเพิ่มขึ้นอีก ยุ้งหลวงก็จะมีข้าวเหลือมากขึ้น ทีนี้ก็จะสามารถนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ทุกข์ร้อนได้มากกว่าที่แจกอยู่พะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ฟังความคิดเห็นขององค์ชายที่สองก็อดที่จะทึ่งกับความคิดความอ่านไม่ได้ พระเจ้าซุกจงได้แค่คิดไปตามขั้นตอนที่บุตรชายเล่าให้เห็นภาพ ก่อนจะพยักหน้าและสรวลออกมาเสียงดัง

“ฮ่าฮ่าฮ่า....ดี....ดีมากอิล.....เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัล...พ่อจะยกให้”

“...หม่อมฉันไม่ได้ต้องกา....” พูดไม่ทันขาดคำ องค์รัชทายาทชินก็สวนขึ้นมาเสียก่อน

“ธนูชีลี.....”

“...”

“หม่อมฉันขอยกให้องค์ชายอิลแทนของที่เสด็จพ่อจะประทานให้เป็นรางวัล...ได้หรือไม่พะย่ะค่ะ”



มื้อเย็นในเขตล่าสัตว์จบลงไม่ดีเท่าไหร่นัก ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึมที่ก่อตัวขึ้นระหว่างองค์ชายบยอล และองค์ชายชินทำให้คนกลางอย่างอิลรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ด้วยฐานันดรที่ต่ำศักดิ์กว่า เพราะตนเกิดจากพระสนมไม่ใช่พระมเหสีอย่างองค์ชายทั้งสอง ทำให้ตนปฏิเสธอะไรไม่ได้นอกซะจากต้องรับธนูชีลีมาไว้ในครอบครองตามอย่างที่องค์รัชทายาทต้องการให้เป็น

แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่พอใจ ก็องค์ชายบยอลนั่นแหละที่ออกอาการขัดใจอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่หลังมื้ออาหารก็ดูเหมือนจะแย้มพระสรวลน้อยลง จนตอนนี้อิลก็ยังไม่เห็นองค์ชายบยอลเลย ทั้งๆที่ปกติจะไปประดาบเล่นกับพวกทหารในค่ายแล้วแท้ๆ

อิลก้มมองธนูชีลีในมือตน ฝีมือยิงธนูของเขา ใครๆก็รู้ดีกว่าด้อยกว่าองค์ชายบยอลอยู่หลายขุม ...

“ภูมิใจมากไหม...” 

เงยหน้าขึ้นไปก็ได้พบกับเจ้าของเสียงที่นั่งห้อยขาอยู่บนกิ่งไม้หนา ใบหน้ากลมนั่นจ้องมาทางเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเปรยตามองลามไปถึงธนูที่เขาถืออยู่ในมือ

“องค์ชายอิลยิ่งธนูไม่ได้เรื่อง ใครๆก็รู้....แล้วทำไมพี่ชินยังยกยอดธนูให้คนอย่างท่าน” ภาพองค์ชายน้อยที่นั่งขมวดคิ้ว เบ้ปากอยู่บนต้นไม้ใหญ่ช่างน่าเอ็นดู.... “คนอย่างท่านมันไม่ได้ความ...ไม่คู่ควรซักนิด...”

องค์ชายบยอลกระโดดลงมาจากต้นไม้หยุดยืนประจันหน้าพี่ชายต่างแม่ที่ยังคงตีสีหน้าเรียบเฉย อิลไม่พูดอะไรออกมาซักคำ หากแต่มือเรียวยาวนั่นกลับยื่นออกมาตรงหน้า... 

พร้อมกับธนูชีลีที่บยอลอยากได้!

“เอาไปสิข้ายกให้ท่าน...องค์ชายบยอล” 

องค์ชายบยอลกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก.. มองธนูชีลีในมืออีกคนนิ่ง “ทำไมถึงยกให้ข้า” 

“ท่านอยากได้มันไม่ใช่หรือ?” 

แทนที่จะดีใจ ใบหน้ากลมกลับเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวเพราะแรงโทสะ เหตุใดจึงยกยอดธนูให้เขาอย่างง่ายดาย... ได้มาง่ายๆก็ยกให้เขาง่าย ๆ องค์ชายอิลทำราวกับว่ามันไม่มีค่าไม่มีราคาอะไร กลับกันกับเขาที่ต้องพยายามอ้อนวอน ร้องขอ พยายามทำตัวให้ทัดเทียมกับธนูคันนี้มาโดยตลอด....

นี่เขากำลังโดนดูถูก โดนสมเพชอยู่ใช่ไหม...

“ไม่...”  ใบหน้ากลมเสหันไปอีกด้าน “ข้าไม่ต้องการรับของจากมือคนไร้ความสามารถอย่างท่าน” 

“......”

“และจงจำเอาไว้ด้วย...ข้าไม่ต้องการความเห็นใจ หรือเมตตาใดๆจากคนอย่างท่าน”

“.......”

“แต่ข้าจะคว้ามันมาไว้ในมือของข้า.....ด้วยตัวข้าเอง”
.
.
.
.
.
.
.



เฮื้อก

ดวงตาคมเบิกโพลงขึ้นมาในความมืด เสียงหอบหายใจหนักดังสะท้อนไปทั้งกระท่อม เหงื่อกาฬเย็นเยียบที่ไหลซึมไปทั่วแผ่นหลังย้ำเตือนว่าเหตุการณ์ในความฝันเมื่อครู่ยังคงติดอยู่ในซอกหลืบเล็กๆของความทรงจำ แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมานานแล้วก็ตาม

แซ่ก...แซ่ก...แซ่ก 

เสียงแมกไม้เสียดสีกันอย่างผิดปกติที่ด้านนอก ทำให้พระราชาของประเทศรู้สึกไม่ปลอดภัยเท่าใดนัก กว่าจะรู้ตัวอีกทีมือเรียวยาวก็เอื้อมไปควานหาสิ่งของที่จะนำมาเป็นอาวุธ ก่อนจะเขวี้ยงมันออกไปใส่ผู้บุกรุกที่เพิ่งจะเปิดประตูกระท่อมเข้ามาเสียแล้ว 

“เฮ้ย!!” 

ถังไม้ที่บรรจุน้ำสะอาดอยู่เต็มตกลงพื้นทันทีที่มีสิ่งแปลกปลอมพุ่งใส่  ยังดีที่บยอลรู้สึกตัวได้ไว ไม่อย่างงั้นคงจะได้สลบไสลเป็นเจ้าชายนิทราไปอีกคนแน่ๆ....

นี่กะเอากันให้ตายเลยใช่ไหมฝ่าบาทT_T

“ผมเอง ผมเอง อย่าทำอะไรผมนะ”   

ดวงตาคมหรี่ลงเมื่อหูของตนจับกระแสคุ้นเคยในน้ำเสียงของอีกฝ่ายได้ ร่างสูงหยัดร่างกายที่ระบมไปด้วยแผลขึ้นนั่งพิงผนังทันที  “องค์ชายบยอล?”

แม้จะเป็นคืนเดือนหงาย แต่ก็ใช่ว่าแสงสว่างจากดวงจันทร์จะทำให้เขาเห็นทุกสิ่งในกระท่อมหลังนี้ พระราชาของประเทศขมวดคิ้ว พยายามปรับสายตาให้ชาชินกับความมืดมากยิ่งขึ้น

“ก็มีกันอยู่สองคน...แล้วจะให้ผมเป็นคุณองครักษ์หรือไงล่ะครับ”

อยู่มาหลายวันดูเหมือนความกลัวหัวหลุดจากบ่าของบยอลจะน้อยลงตามไปด้วย เด็กหนุ่มนั่งลงชันเข่าตรงหน้าไอด้อลของตัวเอง  ก่อนจะลากถังน้ำสะอาดมาไว้ข้างๆตัว ดีนะเนี่ยที่เขามีสกิลในการทรงตัวสูง ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงตกใจจนทำน้ำในถังหกหมดไปแล้ว

ไม่เสียแรงเลยที่เคยได้เป็นนายกองตอนที่อยู่ค่ายลูกเสือ...
คนมันมีความสามารถ อยู่ที่ไหนก็มีความสามารถ....

 “เจ้าจะทำอะไร” ร่างสูงที่เพิ่งจะปรับสายตาได้ชินกับความมืดเอ่ยถาม แต่คนถูกถามก็ไม่ตอบอะไร นอกจากนั่งยอง ๆ  แล้วทำท่าพิลึกพิลั่นอยู่ตรงหน้าเขา

พยายามอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล เด็กหนุ่มจึงได้ฤกษ์เงนหน้าขึ้นมาสบตากับพระราชาของประเทศ “ผมกำลังจะฉีกเสื้อ เอามาทำผ้าพันแผลให้ฝ่าบาทไงล่ะ”

 “ฉีกเสื้อ?” อิลขมวดคิ้วก่อนจะก้มลงออกแรงฉีกผ้าฝ้ายในฉลองพระองค์ชั้นในออกมายื่นให้คนตรงหน้า “นี่ใช่ไหมที่เจ้าต้องการ” 

“โห....”  บยอลตาโต ทำไมทีกับเขาฉีกตั้งนานไม่เห็นจะออก พอฝ่าบาทลงมือฉีกเองเท่านั้นแหละ ง่ายอย่างกับฉีกกระดาษทิชชู่ออกจากม้วน....  เด็กหนุ่มรับมันมาชุบน้ำแล้วแค่พอหมาด ก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่สีข้างของอีกฝ่ายเบา ๆ  “ให้ผมถอดเสื้อผ้าของพระองค์ได้ไหม” 

อิลเงยหน้าพิงผนังกระท่อม ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ “ดูเจ้าพูดเข้า....จะทำแผลให้ข้ารึ” 

“ใช่เลยฝ่าบาท....ถอดเสื้อเลย เดี๋ยวผมจะล้างแผลให้” 

“ไม่ต้องหรอก...นำเศษผ้าในมือเจ้ามาสิ เดี๋ยวข้าจัดการเอง”ร่างสูงหัวเราะเบาๆ เอื้อมไปแย่งเศษผ้านั้นมา ก่อนจะลงมือล้างแผลที่สีข้างของตนอย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญ  “เจ้าก็ยื่นแขนมาสิ....บาดเจ็บไม่ใช่หรือ?”

บยอลสะดุ้ง เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองก็บาดเจ็บเหมือนกัน ที่ผ่านมาหลายชั่วโมงนี่ไม่รู้สึกเจ็บเลยนะ แต่พอถูกทักเท่านั้น ความปวดก็แล่นปราดขึ้นมาทันที ร่างบางเขยิบตัวเองให้เข้าไปใกล้พระเจ้ายอนชางที่นั่งพิงพนังอีกนิด ก่อนจะยกแขนข้างที่ถูกคนร้ายฟันให้

“.......”  บยอลนั่งมองไอด้อลทำแผลให้ตนด้วยความชื่นชม นี่ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม ทำไมเก่งมันไปหมดซะทุกเรื่อง ตั้งแต่ยิงธนู จนถึงล้างแผล ไม่มีอะไรที่เขาเทียบชั้นร่างสูงได้เลยซักนิด

“เรียบร้อย” บยอลโค้งหัวแทนที่จะเอ่ยคำขอบคุณ และในจังหวะที่ยอบศีรษะลงนั่นเอง อาการเจ็บแปลบที่แผลเก่าก็แล่นขึ้นมาเล่นงานกันทันที! 

“โอ้ย...” เด็กหนุ่มอุทานออกมาเสียงเบาพยายามเขยิบตัว พาร่างของตนไปนั่งพิงที่ผนังข้าง ๆ ฝ่าบาทอย่างระมัดระวัง นี่คงจะเพราะล่าสัตว์ เดินป่า ตกม้า ตกเหว ผจญภัยสุดแสนเลวที่เกิดขึ้นภายในหนึ่งวันแน่ๆที่ทำให้แผลถูกแทงที่ใกล้หายมันเกิดลั่นเปรี้ยะขึ้นมาแบบนี้

สงสัยจะอักเสบแน่ๆ...

“เจ้าทำอะไรน่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามร่างบางที่ลุกขึ้นมาทำท่าเหมือนกำลังหาของ เด็กหนุ่มที่เขยิบตัวหนีไปอีกทางทำเพียงแค่เอี้ยวหน้ามาผงกหัวให้ นั่งอยู่อย่างนั้นซักพักจึงหันกลับมาเต็มตัว

“นั่นอะไร” ดวงตาคมเบิกโพลงเมื่อเห็นเม็ดกลมๆสีขาวที่วางอยู่บนมือบาง “ยาพิษงั้นหรอ!” 

บยอลส่ายหัวหงึกๆ “ไม่ช่าย.....นี่พาราน่ะฝ่าบาท” 

“....พารา?” พระราชาทวนคำ

“ใช่ฝ่าบาท...เอาน่า...พระองค์หยิบไปเลยเม็ดนึง...ไม่อันตรายหรอก...มันเอาไว้แก้ปวด”บยอลยื่นมือไปตรงหน้าร่างสูงที่ทำท่าทางเหมือนกับไม่ไว้ใจ ทว่ามือเรียวยาวนั่นก็หยิบไว้สำหรับตนเองหนึ่งเม็ด 

“แก้ปวด” อิลมองเม็ดสีขาวในมือตนเองอย่างชั่งใจ “จะเป็นไปได้อย่างไร เม็ดเล็กเท่าถั่วเหลืองแค่นี้...” 

“เดี๋ยวผมกินให้ดู....รับรอง จะทรงหายปวดแผลเป็นปลิดทิ้ง!” พูดจบคำร่างบางก็ยัดยาใส่ปาก แล้วกวักน้ำในถังมาดื่มให้อีกคนดูเป็นตัวอย่าง “นี่ไง...ไม่ยากเลย” 

ดวงตาคมมองมันอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจทำตามอย่างที่องค์ชายบยอลทำให้ดู ร่างสูงหลับตา เอนตัวพิงผนังรอปฏิกิริยาจากเจ้าเม็ดเล็กๆนี่อยู่สักพัก หากเป็นยาพิษเขาก็คงจะไม่รอดออกไปจากป่านี้ ถือว่าเป็นการเดิมพันที่เสี่ยงอยู่เหมือนกัน

“.....ข้าปวดน้อยลง”  ทว่าผลที่ได้กลับเป็นไปตามที่องค์ชายบยอลบอก อิลรู้สึกปวดที่สีข้างน้อยลงจริงๆ และเป็นเรื่องน่ายินดี ที่องค์ชายบยอลไม่ได้คิดร้ายกับเขา เหมือนอย่างที่เขาหวาดระแวงเอาไว้แต่ต้น

นั่นพาลไปทำให้นึกถึงความฝันเมื่อก่อนหน้านี้.... 

“องค์ชายบยอล...ข้ามีอะไรอยากจะถามเจ้าสักหนึ่งข้อ” 

เงียบไปอยู่นาน พระเจ้ายอนชางที่นิ่งสงบก็ผงกหัวขึ้นมา ดวงตาคมนั่นมองสบเข้าไปอย่างกับจะค้นใจของเด็กหนุ่ม  บยอลเม้มริมฝีปากแน่น “....ถามเลยฝ่าบาท”

“เจ้าดีใจมากใช่ไหม..ที่ข้ายกธนูชีลีให้เจ้า” 

พอฟังคำถามจบก็แทบจะหัวเราะออกมาเสียงดัง ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าเขร่งขรึมอยู่ “ก็ต้องดีใจสิฝ่าบาท..ฝ่าบาทอุตส่าห์ยกให้เลยนะ”  ดีใจอยู่แล้ว ของของไอดอลเลยนะ 

คนได้ฟังไม่ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ เท่านั้น ทว่าเด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงความอึดอัดที่เริ่มก่อตัวขึ้นท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายเมื่อครู่  คิ้วบางเริ่มขมวดเข้าหากันแน่นจนเป็นปม ก่อนที่จะได้อ้าปากพูดอะไรออกไป อีกฝ่ายก็ยิงคำถามฮุกหมัดตรง สวนหน้าบยอลจนเหมือนรู้สึกระบม....มันชาไปทั้งแถบ

“....เจ้าเป็นใครกัน.....”


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> TBC


สภาพฝ่าบาทเหมือนกระเตงลูกน้อยไปทุกที่  555
ย้อนดูเหตุการณ์เมื่ออดีต จะเห็นได้เลยว่าองค์ชายบยอลนี่เก่งกว่าฝ่าบาทอีก
แล้วบยอลจะเป็นไงต่อเนี่ยยย เอาใจช่วยนางด้วยค่า

ปล. อัพช้าหน่อยนะค๊า 5555  ช่วงนี้อีกงานที่ทำเยอะไปนิด T_T ใครจะดูดวงทักมาหาเราได้นะ เราดูดวง 555 (ขายกันแบบนี้เลย?)


ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 o13 นั้นไง ฉลาดๆ อย่างพระราชาต้องรู้เข้าสักวัน ว่าไงน้องบยอลตอบมายไอดอลไปสิจ๊ะ  :katai3:
 :3123:  :pig4:  :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
หมัดฮุกเลยยยย

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
ฝ่าบาทสงสัยแล้ววว
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
น็อคเลยเจอคำถามนี้

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
กว่าจะรู้ว่าไม่ใช่องค์ชายตัวจริง

ออฟไลน์ pawara123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านได้ลื่นไหลสนุกมากครับ น่าติดตาม และเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคร้าบ แถมได้ความรู้อีกเยี่ยมๆๆ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เป็นฟิคมาก่อนเลยมีส่วนที่รีไรท์ไม่หมดรึเปล่าคะ  มีบางช่วงเป็นท่านกีอุนพูด แต่ต่อมาก็บรรยายเรียกว่าจงอินอะค่ะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เรื่องราวน่าติดตาม หนุกหนาน ๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
ไม่กลับมาแล้วหรือท่าน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 485
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สนุกค่า อ่านเพลินเลย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนุก ตามจ้าตาม  :mew1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Swanlee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
'ก็เป็นตัวข้าไง'ตอบไปลูก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด