{เรื่องสั้น} รัก คือ บททดสอบ : พระเพลิง (ตอนที่ 13) 18/2/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {เรื่องสั้น} รัก คือ บททดสอบ : พระเพลิง (ตอนที่ 13) 18/2/61  (อ่าน 8335 ครั้ง)

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




+++++++++++++

เรื่องสั้น


❤ …เหมือนกัน i LOVE you TOO ❤ : on air


เรื่องยาว








{เรื่องสั้น}
รัก คือ บททดสอบ : พระเพลิง

"
กันต์กร

เคยหลงรักใครไหม... แน่นอนว่าหลายคนคงตอบว่า ‘เคย’

แล้วเคยถูกคนเกลียดไหม  หลายคนก็อาจจะตอบว่า ‘เคย’

แต่ผม ‘กันต์กร’ หรือไอ้กันต์ของเพื่อนๆ กำลังหลงรักคนที่กำลังเกลียดขี้หน้าผมอยู่

เขาที่เป็นพี่ชายของเพื่อนสนิท แต่อีกฝ่ายคงมองผมเป็นแค่ไอ้ตัวน่ารำคาญ

เป็นเห็บหมาหรืออะไรสักอย่างที่ไม่ควรอยู่ใกล้ แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้เห็บหมาอย่างผมก็ยังคงเกาะเขาไม่ปล่อย

เพราะผมก็รักเขาไปแล้ว...


"

พระเพลิง

ถ้าจะพูดถึงไอ้กันต์ ผมก็คงนิยามมันว่า...

ไอ้ตัววายป่วง    ที่ส่งข้อความห่าเหวอะไรไม่รู้ไม่หยุดหย่อน

ไอ้เด็กฉิบหาย   ที่เสนอหน้ามาทุกครั้งทั้งที่บอกว่ารำคาญ

ไอ้เด็กเหี้ย   ที่พูดกับมันอีกอย่าง แม่งเสือกทำอีกอย่าง

ไอ้เด็กเวร    ที่แดกเหล้าแล้วอ่อยผู้ชายไปทั่ว แล้วเสือกมาเถียงว่าไม่ได้อ่อย

ไอ้เด็กห่าราก   ทีวันๆ เอาแต่เดินตามตูดไอ้พระพายตัวดีต้อยๆ จนคนเขาคิดกันไปว่าแม่งซั่มกันไปถึงไหนๆ

ไอ้เด็กเลวคนนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมอารมณ์เสียเวลาที่เจอหน้า ทำให้หงุดหงิดเวลาที่มันเสือกหายหัวไปแบบไม่บอกไม่กล่าว
แถมไอ้อาการอยากกระทืบคนที่เข้ามาใกล้มันนี่มันเรียกว่าอะไร

โว้ยยยยย ไอ้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของผมมันจะขึ้นสุดลงสุดไปถึงไหวว่ะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2018 13:59:02 โดย anin »

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จุดเริ่มต้นของบททดสอบ


   ผมชื่อกันต์กรครับ เรียนอยู่ปี 1 สาขาอินทีเรียดีไซด์ ผมเป็นผู้ชายที่ไม่มีอะไรพิเศษ หน้าตาก็แสนจะธรรมดา ฐานะครอบครัวระดับปานกลาง มีเพื่อนน้อย พูดไม่เก่ง แสดงอารมณ์ไม่เป็น ชีวิตก็คงจะราบเรียบมีความสุขดีถ้าหากว่าผมเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่ในที่ที่เหมาะสมของตัวเอง


   แต่ผม...เผลอใจรักคนที่ไม่ควรรัก

   ผู้ชายที่สูงเกินไป ผู้ชายที่ชื่อ ‘พระเพลิง’ ผู้ชายเพียบพร้อมไปทุกอย่างทั่งหน้าตา ฐานะ และสติปัญญา เขาอยู่ห่างไกลเกินกว่าคนอย่างผมจะเอื้อมถึง แต่ผมก็รักเขาอย่างหัวปักหัวปำ รักอย่างไม่ลืมหูลืมตา ถึงพี่พระเพลิงฮ็อตมากในหมู่สาวๆ ด้วยความหล่อที่ติดตัวมาดุจประเจ้าประทานพรตั้งแต่เกิด และมาดขรึมๆ ที่พูดน้อยต่อยหนัก ยิ่งทำให้น่าค้นหา มันก็ไม่ทำให้ผมตัดใจจากพี่เขาไปง่ายๆ


    กับพี่พระเพลิงแล้ว ผมกันต์กรคนนี้ คงเป็นได้แค่ไอ้ตัวน่ารังเกียจในสายตา แม้แต่จะพูดทักทายกันอย่าง พี่พระเพลิงก็ยังไม่อยากที่จะเอื่อนเอ่ยด้วยสักประโยค จะมีบ้างก็คือคำด่าทอ หรือแขวะเอาบ้างเป็นบางครั้งบางคราวถ้าผมเผลอทำอะไรที่ทำให้พี่เขาเคืองใจขึ้นมา


   จากวันเป็นเดือน จากเดือนเคลื่นผ่านเป็นปี ผมที่ชื่อกรกันต์ก็ยังเป็นแค่ไอ้ตัวน่ารังเกียจอยู่วันยันค่ำ


   “ทำไมมึงต้องเอามันมาด้วยว่ะ รกหูรกตาฉิบหาย ไอ้ห่านี่แม่งก็แปลกรู้ว่าไม่อยากให้มาก็ยังเสือกด้านหน้าโผล่มาอยู่ได้”


   ผมได้ยินคำห้วนอย่างเคยชิน ไม่มีครั้งใดที่คำพูดของพี่เพลิงที่พาดพิงถึงผมจะเป็นคำพูดปกติไปได้ มันจะมีแต่คำพูดเหน็บแนบ หรือไม่ก็เกี้ยวกราดให้เจ็บปวด แต่ผมก็ชินเสียแล้ว ชินที่ถูกพี่เพลิงเกลียด


   “พี่เพลิงนี่ก็นะ ไอ้กันต์มันก็อยู่ของมันเงียบๆ จะไปด่ามันทำไม” พระพายเพื่อนร่วมคณะของผมแก้ต่างให้ อย่างที่เคยเป็น พระพายรู้ว่าผมคิดกับพี่ชายของเขายังไง ไม่ต่างจากที่พี่พระเพลิงก็รู้ว่าผมคิดกับเขาแบบไหน

   นี่ล่ะมั้งครับ ที่ทำให้พี่พระเพลิงเกลียดผม

   “มึงก็ไม่ต้องพามันมาสิ กูจะได้ไม่ต้องด่า จะมานั่งแดกเหล้าให้สบายใจ เสือกเอามันมาด้วย บอกมึงกี่ทีละว่าถ้ากูชวนมาแดก ไม่ต้องสาระแนเอามันมา เคยฟังกูมั้ย”

   “ก็ให้มันมาเที่ยวด้วยจะเป็นไรไปเล่าพี่”

   “ก็กูไม่อยากเห็นหน้ามันไงไอ้ควาย พูดไม่รู้เรื่อง”


   ผมได้แต่เงียบ แม้ใจอยากจะมองใบหน้าอันหล่อเหลาของพี่พระเพลิงเพียงใด แต่ก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ ไม่อาจแม้แต่จะเหลือบมอง ตอนนี้ใบหน้าที่หล่อปานเทพบุตรจำแลงของเขาคงงอง้ำ คิ้วเข้มคงขมวดเข้าหากันอย่างถูกทำให้ขัดเคืองใจ เพราะผมที่ทำให้ดวงตาคู่สวยแข็งกระด้างผิดจากเวลาที่ไม่มีผม


   “งั้น เออ...กู เออ ผมไปนั่งกับพวกบอยโต๊ะโน้นแล้วกัน ไม่รบกวนเวลาของมึงกับพี่เพลิงแล้วกัน”

   “เฮ้ย ได้ไง มึงมากับกูนะ อย่าน้อยใจดิวะ พี่เพลิงเขาพูดเล่น ทำเป็นไม่ชินไปได้”

   ผมมองมือพระพายที่รั้งข้อมือผมไว้ แต่พอผมหันไปสบดวงตาแข็งกร้าวก็ต้องเสหันไปมองทางอื่นแทน

   เจ็บครับ แล้วก็ไม่เคยชิน


   ใครจะอยากได้สายตาชิงชังแบบนั้นกัน โดยเฉพาะกับคนที่เราแอบชอบ ถึงผมจะมีภูมิต้านทานหลายชั้นขนาดไหนก็ต้องแพ้ ถึงจะพยายามทำความเช้าใจว่าพี่พระเพลิงก็เป็นคนพูดตรง พูดแรง ซึ่งก็คือนิสัยและเป็นตัวตนของเขา แต่ก็ไม่วายเสียใจอยู่ดี


   “เออ กูไปนั่งโน่นนะ”

   “ก็ไปสักทีสิมึง พิรี้พิไรอยู่ได้ วันหลังถ้ารู้ว่ามีกูอยู่ก็ไม่ต้องเสือกเสนอหน้าเน่าๆ ของมึงมาด้วยล่ะ”

   ผมได้ยินเต็มสองรูหูว่าพี่พระเพลิงพูดอะไรออกมาบ้าง ไม่โกรธครับ แต่ก็แค่น้อยใจ


...

   “พอแล้วครับ ผมเมาล่ะ” ผมบอกกับพี่คริส รุ่นพี่ปีสามอย่างอ้อแอ้ แต่พี่เขาก็ยังคงรินเหล้าให้อย่างไม่ขาด ไม่สนใจว่าผมจะไหวหรือเปล่า

   “ไม่เมาก็ถือว่าเสียเที่ยวนะครับ”

   “เดี๋ยวผมกลับห้องไม่ไหว เมากว่านี่ไม่ได้แล้วครับ” ผมพูดไป รอบตัวผมเริ่มโคลงเคลงแล้วครับ

   “เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

   “ไม่ต้องพี่ มันกลับกับผม” พระพายเดินมาแล้วบอกแบบนั้น ตอนนี้พระพายย้ายมานั้งกับเรา สร้างความครื้นเครงได้ไม่น้อย เพราะพระพายเป็นพวกอารมณ์ดี คุยสนุก

   “ถามจริงๆ นะ มึงจีบไอ้กันต์อยู่ป่ะเนี่ย ตัวติดกันตลอด” พี่คริสจ้องมาที่เราสองคนอย่างสงสัย

   “เปล่าพี่” ผมปฏิเสธทันที

   “ไม่ใช่หรอกพี่ ไอ้กันต์ตัวมันน่ะโสด แต่หัวใจไม่นะครับ” เพื่อนในกลุ่มของผมเสริมทัพสร้างเสียงเฮฮาให้วงเหล้า

   “ใช่พี่ ตัวมันน่ะ ทั้งโสดทั้งซิง แต่ใจมันอ่ะ มีเจ้าของ” พระพายเสริมทัพ แล้วก็ทำท่ากวาดสายตาไปทั่วบริเวณ

   “กันต์ชอบใคร” พี่คริสถามยิ้มๆ แล้วก็หยิบแก้วของผมไปชงเหล้าให้เพิ่ม

   “แถวนี้แหละพี่” พระพายพูดขึ้น

   “ใครวะไอ้พาย มึงเหรอ”

   “ไม่ใช่อ่ะ แต่ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอก”

   “ไอ้พาย หยุดนะ พูดเรื่อยเปื่อย” ผมรีบห้ามมันไว้ “ไม่มีอะไรหรอกครับพี่คริส อย่าไปสนใจมันเลย”

   “ก็พี่อยากอยากรู้”

   “พี่อยากรู้ทำไมอ่ะ”


   ความเผือกของไอ้พายมันน่ากลัวจังเลยวุ้ย ถึงผมจะไม่ได้ปิดบังว่าของพี่พระเพลิง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าอยากจะให้คนทั่วไปรับรู้ กับตัวผมเองก็ไม่ได้แคร์ใครอยู่แล้ว แต่คนที่ผมแคร์ก็คือพี่พระเพลิง


   ที่ผ่านมาพี่พระเพลิงก็แสดงชัดว่าไม่ชอบหน้าผม แล้วถ้าเรื่องนี้ถูกพูดในวงกว้าง พี่พระเพลิงอาจโกรธหนักกว่าที่เป็นอยู่ แล้วนั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากให้เกิด

   “ก็พี่จะจีบ”

   “…”

   “ถ้ากันต์ไม่มีเจ้าของ งั้นพี่ขอจีบกันต์นะ”

/////////
ฝากเรื่องใหม่ด้วยค่ะ^^ :bye2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โหยพระเพลิงใจร้าย ตามมาอ่านเรื่องใหม่   :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 1


   โอ้ยยยยย!

   ปวดหัวจังเลย จะไม่เมาอีกแล้ว

   ถ้ามันจะต้องทรมานขนาดนี้!


   ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการแฮงค์ระดับสิบ เมื่อมองไปรอบๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือคอนโดของพระพาย   พอมองไปข้างๆ ร่างของไอ้เจ้าของห้องก็ไม่อยู่แล้ว ว่าแต่ไอ้พายมันไปไหนกันนะ ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียง รวบรวมแรงกายเท่าที่มีแต่ก็รู้สึกอยากอ๊วกที่สุด


   ผมรีบวิ่งออกมาจากห้อง ตรงไปยังห้องน้ำด้วยความเร็วสูง จังหวะเดียวกับที่สวนกับร่างกายสูงใหญ่ของพี่พระเพลิงที่สวมเพียงกางเกงนอนเพียงตัวเดียว พี่เขาเบี่ยงตัวหลบให้นิดหนึ่ง


   “เอาดีๆ นะมึง ถ้าห้องน้ำกูเลอะกูจะหัวมึงไปถูให้เข็ด”

   ผมฟังเสียงที่ตะหวาดไล่หลังมาพร้อมกับอาเจียนสิ่งของที่คั่งข้างจากเมื่อคืนออกมาเพื่อลดความทรมานในกระเพาะ

   “แดกไม่เป็นก็ยังเสือกจะแดกอีก”

   ผมเดินออกมาหลังจากกดชักโครกและบ้วนปาก

   “เออ พี่เพลิงไม่ไปไหนหรือครับ”

   “เสือก มานอนคอนโดคนอื่นยังมาเสือกถามโน่นถามนี่อีก”

   ไปไม่เป็นเลย สตั้นสิบวิ

   “ขอโทษครับ”

   “ก็เห็นมึงพูดแบบนี้ทุกที แต่ก็ยังมานอนตลอดเน๊อะ”

   “พายไปไหนครับ พี่รู้มั้ยครับ”

   “กูจะรู้เหรอ ก็มันนอนกับมึงมาถามกูได้ไง”

   “ไม่เป็นไรครับ เดี่ยวผมโทรหาพายก็ได้”

   ผมมองเรือนร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างคนที่ดูแลตัวเองของพี่เพลิงชั่วครู่ ก่อนจะเบี่ยงสายตาหลบไปมองทางอื่น เพราะเหตุที่หัวใจมันเต้นผิดจังหวะ คนอะไรไม่รู้ทำไมหุ่นดีจนน่าอิจฉา

   “มองเหี้ยไร”

   “เปล่าครับ”

   “สัด ก็เห็นว่ามองอยู่”

   “…” โมโหอะไรแต่เช้าว้าาาาา

   ปกติเช้าๆ พี่เพลิงจะไม่ค่อยหงุดหงิดนี่หว่า แต่ทำไมวันนี้ถึงได้หัวเสียจังเลย หรือว่าอาจจะเมาค้าง

   “กูไม่หลงคารมมึงอย่างคนอื่นหรอกยะ คนอย่างมึงอ่ะ ดูง่าย แม่งแรด อ่อยทั้งกับกู กับไอ้พาย แล้วไหนยังจะไอ้รุ่นพี่ของมึงนั่นอีก เป็นห่าอะไรวะ ชอบบริหารเสน่ห์เหรอ”

   “ผมเปล่า”

   “เปล่าเหี้ยไร ปากมึงก็บอกว่าชอบกู แต่เมื่อคืนมึงก็อ่อยมัน ไอ้รุ่นพี่เหี้ยไรของมึงอ่ะ แต่พอผับเลิกมึงก็มานอนกับน้องกู แถวบ้านกูเรียกว่าเรี่ยราด”

   ไม่จริงเลยคนที่ผมมีใจให้มันมีแค่พี่พระเพลิงแค่คนเดียวเท่านั้นล่ะ มีแค่พี่เพลิงวนเวียนอยู่ในหัวไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ทั้งๆ ที่ผ่านมาพี่เพลิงจะทำท่ารังเกียจแต่ผมก็ยังชอบพี่เขาอยู่ดี

   “พี่เข้าใจผมผิดไปใหญ่แล้วนะครับ ให้ผมอธิบายก่อน”

   ผมรีบถลาเข้าไปใกล้พี่เพลิง แต่เพราะความมือไวทำให้คว้าเข้าที่แขนของพี่เขา

   “อย่ามาโดนตัวกู” พี่เพลิงสะบัดแขนออก และผลักผมด้วยแรงที่มากพอให้ผมกระเด็น

   ร่างผมเซไปสามสี่ก้าว สายตาก็จ้องพี่เขาอย่างตกใจ ตกใจตัวเองที่กล้าไปแตะต้องเขา แล้วก็ตกใจเขาที่ดูอารมณ์รุนแรงผิดปกติ

   “ขอโทษครับ”

   “นี่ไอ้กันต์ เอาจริงนะ มึงไปให้พ้นหน้ากูสักทีได้ไหมวะ มึงจะคบกับไอ้พายกูก็ไม่ได้ห้ามหรอกนะ มึงจะสนิทกันยังไงก็เรื่องของพวกมึง แต่อย่าเสือกมานอนห้องกูจะได้ไหม อย่าเสนอหน้ามาให้กูเห็น กูรำคาญลูกตา เลิกส่งข้อความเหี้ยๆ มาในไลน์กูได้แล้วมึงก็รู้ว่ากูไม่อ่าน”


   ใช่ครับ พี่พระเพลิงไม่เคยอ่านข้อความของผมเลย เป็นผมเองที่ตื้อพี่เขาไม่เลิก ทุกเช้าก็จะมีข้อความอรุณสวัสดิ์ ตอนกลางวันก็จะถามว่ากินข้าวหรือยัง ส่วนกลางคืนก็ข้อความให้นอนฝันดี แต่ทว่าตลอดปีกว่าๆ ที่ผ่านมา พี่เขาไม่เคยเปิดอ่านสักครั้ง แต่ผมก็ยังดื้อที่จะส่งไป


   “การที่กูไม่บล๊อคมึงก็ไม่ใช่ว่ามึงจะส่งส้นตีนอะไรมาก็ได้นะ ถ้ากูไม่เห็นแก่หน้าไอ้พายกูกระทืบมึงไปนานแล้ว”

   “ผมคงทำให้พี่ลำบากใจมาก ผมต้องขอโทษด้วย”

   “แค่ไปให้พ้นหน้ากูเหอะ” พี่เพลิงเดินหันหลังให้ผม

   โครม!!!!

   เสียงมาจากในครัว เดาเอาว่าพี่เพลิงคงเตะโครมเข้าให้กับอะไรสักอย่าง

   “ไอ้ถังขยะเหี้ยนี่ก็มาเกะกะส้นตีนเหลือเกิน ไอ้ฉิบหาย”

   ผมรีบเดินเข้าไปดูก็เห็นว่าพี่เพลิงกุมเท้าตัวเอง โดยที่เลือดกำลังไหลซิบอยู่ พอดูใกล้ๆ เลยได้เห็นว่าพี่เขาโดนมุมของถังขยะที่เป็นเหล็กเข้าเต็มรัก เลือดกงี้ไหลซกเห็นแล้วก็เจ็บแทน

   “พี่เป็นอะไรมากมั้ย”

   “อย่ายุ่ง” พี่พระเพลิงสะบัดแขนเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้

   ผมมองพี่เขาเดินกระเผลกขาอย่างเป็นห่วง แต่พอจะเข้าไปพยุงพี่เขาก็ถลึงตาใส่ ส่งสัญญาณว่าอย่าได้เขามาเด็ดขาด ไอ้เราก็อยากจะดูกาอารแต่เจ้าตัวก็ดื้อด้วยการเดินหนีทั้งที่เลือกกำลังไหลรินอยู่

   “ขอผมดูหน่อยครับ”

   “พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าอย่ามายุ่ง เข้าห้องไอ้พายไป”

   “โหย เลือดพี่ไหลเยอะเลย เดี๋ยวผมไปเอาอุปกรณ์ทำแผลก่อน พี่นั่งรอแป๊บนะ”

   “มึงจะทำตัววุ่นวายทำไม กูไม่เป็นไรหรอก ไอ้กันต์ ไอ้เด็กเวรฟังกูอยู่มั้ยมึงอ่ะ”

   ผมฟังเสียงที่ดังไล่หลังมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาเพื่อทำแผลให้จอมโวยวายอย่างพี่เพลิง ผมเห็นเลือดก็รู้เลยว่าพี่เขาจะต้องเจ็บมาก แต่คนปากแข็งขี้เก๊กฟอร์มจัดอย่างพี่เพลิงคงไม่ทำสำออยให้เห็นกันง่ายๆ ไม่รู้ว่าเล็บจะเปิดลึกหรือเปล่า

   พอออกมาอีกครั้งก็เห็นพี่เพลิงเอาทิชชูซับแผลอยู่ตรงโซฟา สีหน้าพี่เขานิ่งมาก ไม่ได้แสดงอาการว่าเจ็บว่าปวดแต่อย่างใด ยังคงหล่อโหดอยู่ในหน้า

   ใจแข็งเหลือเกินนะพ่อคุณ เก็บอาการก็เก่ง ถ้าลองเป็นพระพายป่านนี้โวยวายบ้านแตกไปแล้ว

   “ให้ผมดูหน่อยนะครับ” ผมทรุดตัวลงกับพื้น แล้ววางชุดปฐมพยาบาลไว้ข้างๆ ตัว

   พี่เพลิงจิ๊ปาก ทำท่าขยับหนีห่างออกไป แต่ผมก็ทำใจดีสู้เสือด้วยการรั้งข้อเท้าของพี่เขาไว้แน่น ไม่ยอมอีกฝ่ายโดยง่าย

   “เดี๋ยวกูทำเอง มึงเข้าห้องไปเหอะ”

   “พี่ทำเองไม่ถนัดหรอก ให้ผมช่วยดีกว่านะ”

   “มึงนี่ยังไงวะ พูดห่าอะไรไม่เคยฟัง แล้วมาจับกูทำไม อย่านึกว่ากูจะไม่กล้าถีบมึงนะ” พี่เขาบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ก็หลบไปไหนไม่ถนัดเพราะผมจับข้าเขาเอาไว้แน่น

   “อยากถีบก็เอาเลยพี่”

   “มึงท้ากูเหรอ” คิ้วพี่เพลิงกระตุก เสียงก็กดลงต่ำราวกับว่าข่มจิดข่มใจอยู่

   โอ้ย! ก็กลัวอยู่นะ แต่เป็นห่วงเยอะกว่า

   “เปล่าท้า แค่จะทำแผลให้เฉยๆ นี่ล่ะ ถ้าอยากถีบผมเพราะว่าผมจุ้นจ้านน่ารำคาญก็ถีบเลย แต่เอาไว้หลังจากทำแผลเสร็จก่อนแล้วกัน ได้มั้ยล่ะ”

   ผมพูดเสียงเบา ส่งรอยยิ้มอ่อนๆ ไปให้อย่างต่อรอง

   รู้หรอกน่าว่าพี่เขาไม่ชอบให้ผมเข้าใกล้ แต่พอเห็นเขาเจ็บจนได้เลือด ผมก็ทนไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเปลี่ยนเป็นผมที่เจ็บแทนได้ผมก็ยอมนะ

   “…”

   พี่เพลิงกระแทกขาข้างที่เจ็บลงกับเบาะอย่างแรง ไม่สนว่าจะทำให้แผลนั้นระบมเพิ่มหรือเปล่า

   “ทำแม่งซะ ไอ้แผลเหี้ยเนี่ย จะได้เลิกยุ่งกับกูสักที” พี่เขาด่ามาให้เป็นของแถม แต่มันกลับทำให้ผมยิ้มได้

   ผมค่อยๆ หยิบทิชชูที่พี่เขากดแผลไว้ออก ก็ได้เห็นกับบาดแผลที่ถือว่าหนักเอาการทีเดียว เล็บตรงหัวแม่โป้งเท้าของพี่เพลิงฉีกกว่าครึ่งเล็บ เนื้อตรงจมูกเล็กก็เป็นแผลลึกเห็นแล้วน่าขนลุกสุดๆ

   “เจ็บมั้ยพี่ แผลลึกเลย เลือดก็ไหลไม่หยุด”

   “ไม่เจ็บมั้ง สัด!”

   โดนอีกดอก

   “เดี๋ยวผมห้ามเลือดก่อน เจ็บหน่อยนะครับ”

   ผมพูดแล้วก็หยิบผ้าก๊อตมาซับแผลไว้ ไอ้ครั้นจะกดแผลเพื่อห้ามเลือดก็กลัวพี่เขาจะเจ็บ ก็เลยดูงกงกเงิ่นเงิ่นพิกล

   “มึงกดแบบนั้นเลือดแม่งไม่หยุดหรอก พอดีเลือดกูไหลหมดตัว”

   “ก็กลัวพี่เจ็บ”

   “มานี่มา กูทำเอง” พี่เขาชักเท้าหนี เป็นผมที่รีบคว้าไว้แทบไม่ทัน

   “ผมทำให้เหอะพี่”

   “...”

   หลังจากนั้นผมก็จัดการทำแผลให้พี่เพลิงอย่างเบามือ ตลอดเวลาพี่เพลิงไม่ส่งเสียงอะไรสักแอ๊ะ พี่เขาสุดยอดของความอึดอ่ะ ยกนิ้วให้เลย ผมชำเลืองมองพี่เพลิงเป็นระยะ เห็นพี่เขามองมาที่ผมพาลให้ผมประหม่าแบบแปลกๆ ประหม่าจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งกลับพี่เขาเจ็บ แล้วที่สำคัญเพราะความใกล้ชิด ซึ่งไอ้อย่างหลังนี่ก็ดูจะนำโด่งแซงทางโค้งไปไกลโข


   “พี่ปวดไหม”

   “ไม่”

   พี่เพลิงกระแทกเสียงที่ดูจะหงุดหงิด

   “กินยาพาราดักไว้ก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวมันจะปวดทีหลัง” พูดจบผมก็รีบกุลีกุจอหายาในกล่องให้ควัก

   “ไม่แดก”

   “กินหน่อยเหอะพี่ เดี๋ยวมันปวดนะ”

   “มึงนี่ยังไงวะ กูบอกอย่าง มึงก็ต้องทำอีกอย่าง เห็นท่าทางแบบนี้มึงนี่แม่งโคตรดื้อเลย ไอ้เหี้ย”

   เหี้ยก็มาครับ

   “ก็ผมหวังดีกับพี่”

   “กูดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้ไอ้เด็กแรดๆ อย่างมึงมาสอนหรอก”

   “พี่เอาอะไรมาพูดว่าผมแรด”

   “ก็มึงแรดไง ฟาย” พี่เขาดูมีน้ำโห

   เดี๋ยวนะ เจอกันทีไรก็โมโหตลอดไม่ใช่เหรอว้า แต่วันนี่เหมือนว่าจะเกรียวกราดผิดปกติแหะ กินอะไรผิดสำแดงไปเนี่ย ถึงอย่างนั้นก็เป็นความสุขอีกแบบนะ ความสุขที่ได้ดูแลคนที่เรารัก

   “แล้วแต่พี่จะคิดแล้วกัน ตอนนี้ต้องกินยาก่อน”

   ผมยื่นยาให้แต่พี่เขาก็ยังนิ่งไม่หือไม่อือ

   “พี่อย่าทำแบบนี้สิ”

   “แดกแห้งๆ เลยมั้ยมึง หรือยังไง”

   ผมมองหน้าคมเข้ม ที่จ้องผมตรงๆ เราใกล้กันมาก มากจนผมหัวใจสั่นไปหมด

   “เดี๋ยวเอาน้ำให้ครับ”

   ผมเดินไปเปิดตู้เย็น รินน้ำใส่แก้วมาให้เจ้าตัวที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ ทำไมนะไม่ว่าพี่เพลิงจะทำสีหน้าแบบไหนผมก็มองว่าพี่เขาก็ดูหล่ออยู่ดี

   “ไอ้พายมันไปข้างนอกไปรับญาติกู กว่าจะกลับก็คงเย็น แล้วมึงจะกลับยังไง”

   ไล่เร็วจัง ใจเหี่ยวเลยสิเรา

   “ก็เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับ”

   “จะกลับกี่โมง”

   “อาบน้ำเสร็จก็ว่าจะกลับเลย”

   “รีบไปอาบน้ำไปมึง จะได้กลับๆ ไปสักที”

   ผมฟังคำพูดของพี่เพลิงแล้วก็ลุกขึ้นจากหน้าโซฟาด้วยความรวดเร็ว เดินเข้าห้องของไอ้พายแล้วจัดการหยิบเสื้อตัวหนึ่งของมันมาใส่ พร้อมกับคว้ากางเกงตัวเก่งของตัวเองขึ้นมาสวมลวกๆ เป็นการแต่งตัวที่เร็วกว่าทุกครั้งในชีวิต จัดการหยิบเป้ของตัวเองขึ้นพาดบ่าแล้วเดินออกมาทั้งที่น้ำท่าก็ไม่ได้อาบ

   “ผมกลับนะครับ”

   ผมไม่ได้หันกลับไปมองว่าพี่เพลิงทำหน้าแบบไหนอีก สิ่งที่ผมทำก็แค่เพียงเดินจากมา พร้อมกับปิดประตูห้องของเพื่อนรัก กับคนที่ผมหลงรักอย่างแผ่วเบา



...
มีความปากจัดคร้าาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2017 12:15:20 โดย anin »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
โหย..ยยยย พระเอกมีความโหดสัดรัสเซีย   :sad2: :sad2: :sad2:

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 2 : ทนให้ได้

   หลังจากวันที่ผมทำแผลให้พี่เพลิง ทุกอย่างก็เข้าสู่โหมดปกติ โหมดที่ผมยังคงเป็นไอ้น่ารำคาญคนเดิมต่อไป และยังส่งข้อความไปหาพี่เพลิงเหมือนเดิมวันละสามครั้งอย่างตรงเวลา ผมยังติดตามไอ้พายไปทุกที่ที่มีพี่เพลิงปรากฎตัวอยู่ด้วย ไปเพื่อให้ได้เห็นหน้าพี่เขาบ้างแม้บางครั้งจะเป็นระยะไกลๆ ก็ถือว่านั่นคือความสุข


   ผมกลับรู้สึกได้ว่าตั้งแต่วันนั้น พี่เพลิงดูจะเปลี่ยนไป แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงของพี่เพลิงถือว่าเป็นกรเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีไหม รู้แค่ว่าพี่เพลิงไม่ได้ทำท่าทางหงุดหงิด หรือด่าทอผมอีกแล้ว กลับกันสิ่งที่พี่เพลิงทำคืออาการที่เรียกว่าเย็นชา เฉยเมย


   “ว่าไงพี่ ลมอะไรหอบพี่มาถึงโรงอาหารคณะผมเนี่ย”

   พระพายเอ่ยทักพี่ชายตัวเองที่เดินเข้ามายังโต๊ะที่พวกเรากำลังนั่งกินขนมกับน้ำกันอยู่ พี่พระเพลิงนั่งลงข้างพระพายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม เขาไม่ได้สนใจว่าผมมีตัวตนเช่นเคย ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร

   “ผ่านมาว่ะ เห็นมึงเลยแวะทัก”

   ผมมองพี่เขาตรงๆ ก็ได้เห็นว่าพี่เขาก็ยังหล่อเหมือนเคย หน้าดุเหมือนทุกครั้งที่เราเจอกัน

   “แวะกินข้าวไหมเฮีย กับข้าวที่นี่อร่อยนะ”

   “ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวจะออกไปกินข้างนอก มีคนรออยู่”

   “ใครวะพี่” ไอ้พายร้องถาม

   “ไม่ใช่มึงแน่นอน”

   “เดี๋ยวนะเฮีย ใช่คนแถวนี้หรือเปล่า” ไอ้นิวเพื่อนผมอีกคนร้องถาม สายตามันกลับมองมาที่ผมอย่างมีนัย

   “โน่นโว้ย! คนที่กูรอ”

   พวกเราพร้อมใจหันไปมองพร้อมกัน แต่เพียงแวบเดียวผมก็รีบเมินหน้าหนี อาการบางอย่างกระแทกเข้าที่กลางอกผม

   เจ็บจี๊ด...

   “ฟ้าคนสวยนี่นะ” นิวเพื่อนผมโอดครวญ “โหยเฮีย มาสอยดาวคณะผมทำมายยยย ไปหาไกลๆ หน่อยไม่ได้เหรอ อย่ามาแย่งพวกผมเลยนะเฮีย”

   “ไม่ทันล่ะมึง คนนี้กูจอง”

   “ไม่เอาดิเฮีย น้องฟ้านี่ของหวงประจำรุ่นเลยนะ”

   “ตอนนี้เป็นเด็กกูอ่ะ”

   “เสียดุลการค้าให้วิศวะตลอดอ่ะ ไม่ยุติธรรมเลย”

   “โลกเรามันโหดร้ายเสมอแหละมึง แล้วก็เลิกทำน้ำลายหกใส่ฟ้าได้ล่ะ เดี๋ยวโดนถีบ”

   “เฮียโหดอ่ะ กับน้องกับนุ่ง อย่าโหดนักเลยพวกผมกลัวนะเนี่ย จริงมั้ยมึงไอ้กันต์”


   ผมที่ถูกพาดพิงถึงทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วก็เงียบเหมือนเช่นเคย อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองไปที่พี่เพลิงเล็กน้อย กลั้นใจรอคำด่ากลับมาอย่างที่เป็นมาเสมอ แต่ทว่าพี่เพลิงกลับทำเหมือนไม่ได้สนใจว่าผมมีตัวตนอยู่ มันพีคก็ตรงนี้ล่ะ


   เจ็บเหี้ยๆ

   เจ็บเวลาที่ถูกเมินใส่ แบบนี้ไม่เอา ด่าผมเถอะพี่

   “สัดนิว ลามปาม กูเพื่อนเล่นมึงเหรอ” เสียงโหดของพี่เพลิงโพล่งขึ้น แล้วยกมือขึ้นตบกะโหลกของอีกฝ่ายเป็นการลงโทษ “อย่าเยอะ วันนี้กูอารมณ์ดี อย่าทำให้เสียบรรยากาศ”

   กูคือไอ้ตัวที่ทำให้เสียบรรยากาศสินะ

   “โทษคร๊าบบบบ” ไอ้นิวพึมพำพลางลูบหัวตัวเอง ทำท่าทางหดคอสงบปากสงบคำ

   เราต่างก็รู้กันว่าฟ้าเป็นดาวเด่นในคณะเราขนาดไหน เพราะทั้งสวยหุ่นดีแถมเรียนเก่งจนใครๆ ในรุ่นหลงรักกันอย่างหัวปักหัวปำ เอาจริงๆ นะ แม่งเอ้ย! โคตรเหมาะสมกันว่ะ ผู้หญิงกับผู้ชาย คนสวยกัยคนหล่อ

   พี่เพลิงลุกขึ้นอย่างเป็นสุภาพบุรุษทันทีที่ฟ้าเดินมาใกล้โต๊ะพวกเรา

   “พี่เพลิงคะ รอฟ้าหน่อยได้มั้ยอ่ะ ฟ้าต้องคุยกับอาจารย์ก่อน สักสิบนาทีน่ะค่ะ”

   “ได้ดิ เดี๋ยวพี่รอนะครับ ฟ้าหิวมั้ย พี่จะไปหาอะไรมาให้รองท้องก่อน”

   “ยังค่ะ ฟ้าไปแป๊บเดียวนะ”

   ผมมองจากหางตาก็เห็นว่ารอยยิ้มของพี่เพลิงนั้นช่างดูดีขนาดไหน แต่ก็นะทั้งรอยยิ้มแล้วก็คำพูดดีๆ มันไม่ได้มีเอาไว้ให้ผม มันอาจมีให้กับหลายๆ คน แต่ยกเว้นกับผม ตอนนี้ฟ้าเดินจากไปแล้ว แต่เสียงพูดคุยระหว่าพี่เพลิงกับเพื่อนผมยังดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานต่อไป ทั้งเสียงหยอกล้อ พูดคุยเรื่องสรรพเพเหระ แต่ผมกลับไม่ถูกดึงเข้าสู่วงสนทนา

   ผมได้แต่มองเหม่อมองดูผู้คนที่เดินสวนไปมา รู้สึกเซ็งๆ ยังไงไม่รู้ จัดได้ว่าจิตตกด่ำดิ่งสู่ก้นเหว จนกระทั่งโทรศัพท์ในกระเป๋าแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้านั่นล่ะที่ดึงผมออกมา


   P’manow : อยู่ไหนวะ
   P’manow : รอก่อนนะเว้ย ห้ามหนีกลับก่อน



   พี่นาวรุ่นพี่จากโรงเรียนเก่าของผมทักมา ก่อนหน้านี้ผมสัญญากับพี่เขาไว้ว่าจะไปช่วยงาน presentation ที่คอนโดของเขา พี่นาวเรียนถา’ปัตย์ ครับ แต่ผมเด็กอินทีเรีย จะว่าไปก็ได้เกื้อกูลกันอยู่นั่นล่ะ ถึงแม้จะเรียนคนละเอกแต่ผมกับพี่เขาก็ถือได้ว่าสนิทกันระดับหนึ่งทีเดียว


   พี่นาวใจดี พูดน้อย แกจะนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวเยอะ แต่เป็นคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าสบายใจ ช่วงหลังมานี้ผมอยู่กับพี่นาวบ่อยขึ้นมาก ส่วนใหญ่ก็จะไปดูแกซ้อมดนตรีอ่ะนะ เห็นนิ่งๆ แบบนั้นพอจับกีตาร์แล้วพังค์มาก



   GuNgUn : รอพี่อยู่โรงอาหารคณะอ่ะ

   GuNgUn : ถ้ามาช้าก็จะหนีกลับแล้วนะ


   P’manow : ลองดู กูทืบมึงแน่

   P’manow : ตีนกูเบอร์ 42 ไม่เล็กไม่ใหญ่ เต็มแก้มพอดี

   
      
GuNgUn : จัยร้าย

   P’manow : คงไม่ร้ายไม่เท่าใครบางคน
   P’manow : คนที่คุณก็รู้ว่าใคร

   
   พี่นาวแม่ง! ยิ่งจิตใจห่อเหี่ยวอยู่ ยังจะมาขยี้ให้แหลกอีก เดี๋ยวนะไม่ช่วยทำงานเสียเลยมั้ย

GuNgUn : ยกเลิกนัดครับ

   P’manow : กูล้อเล่น
   P’manow : เดี๋ยวเสร็จงานเร็วจะพาไปแดกของหรู


   
GuNgUn : รีบดริบมาเลยพี่ รออยู่
   GuNgUn : อยากไปเต็มแก่แล้วเนี่ย

   ผมเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ก็เห็นสายตาของพี่เพลิงที่บังเอิญสบเข้ากับสายตาของเขาพอดี แล้วก็เป็นพี่เพลิงที่สะบัดหน้าหนีไปอีกรอบที่ล้าน

   เออดี พี่นาวมาก็จะได้หาเรื่องหลบออกไปก่อน ไม่รู้อ่ะวันนี้เพลียใจเหลือหลาย

   “พาย กูจะไปทำงานช่วยพี่นาวนะ” ผมกระซิบบอกเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม พอดีกับที่พี่นาวเดินตรงแด่วมาที่พวกผมด้วยรอยยิ้มมุมปากเล็กๆ


   พวกเราทุกคนต่างยกมือขึ้นไหว้พี่นาวผู้ที่แสนจะอินดี้ พี่เขาหน้าตาดูเหมือนหนุ่มญี่ปุ่นครับ (ได้ข่าวว่าเป็นลูกเสี้ยวนะ)  ขาว ตัวสูง หุ่นก็เพรียวๆ แต่ก็โคตรเท่ พี่แกไม่เหมือนใครอ่ะ ถึงไม่ได้หล่อแบบคมเข้มพี่เพลิง แต่พี่เขาก็ดึงดูดผู้คนนะ แม้จะพูดน้อยแต่พูดทีแล้วมีเสน่ห์สุดๆ ยิ่งตอนยิ้มพี่แกโคตรคลูอ่ะ โดยเฉพาะเวลาที่พี่เขาร้องเพลงภาษาญี่ปุ่นนะ สาวกรี๊ดดดดดดด แบบลืมตาย


   เวลาอยู่บนเวทีกับชีวิตปกติพี่เขาดูแตกต่างกันมาก เมื่ออยู่บนนั้นพี่เขาจะดูเป็นอีกคนหนึ่งที่ดูมีพลังแบบยอดมนุษย์ ปล่อยแสงเฟี้ยวฟ้าวมาก แต่เวลาธรรมดาอย่างตอนนี้ เขาก็จะมีบุคคลิกเหมือนคนเฉื่อยชาอ่ะ


   แต่ผมมีความลับจะบอกครับ พี่เขามีแฟนแล้ว แถมแฟนพี่เขาก็หล่อแบบสุดๆ หล่อแบบ Full Hd เสียด้วย

   เอ้า !!! งง งง

   “หวัดดีพี่” พวกเราทักพร้อมกัน

   “หวัดดี” พี่นาวยิ้มอ่อน แล้วแตะบ่าผมเป็นการทักทาย แถมยังยักคิ้วให้ผมทีนึงเหมือนกำลังล้อเลียน ซึ่งก็ทำให้ผมหน้างอ ยกศอกถองพี่เขากลับเบาๆ

   “รอโคตรนานอ่ะพี่นาว”

   “กูก็รีบมานี่ไง”

   “ไปเลยป่ะ หรือคุยกับเพื่อนอยู่”

   “ไปเลยดีกว่าพี่” ผมพูดเบาๆ ก่อนหันไปลาเพื่อนๆ “งั้นไปก่อนนะพวกมึง”

   “ไม่ไปกินข้าวกันก่อนเหรอมึง” ไอ้พายร้องบอกจังหวะที่ผมกำลังเก็บของ
 
   “เสียดายว่ะ เมื่อกี้เฮียบอกจะเลี้ยงชาบูเลยนะ จะไปกินด้วยกันก่อนป่ะวะ กินเสร็จแล้วค่อยรีบตามไป”

   ผมชะงักเล็กน้อย “พวกมึงไปเหอะ กูเกรงใจว่ะ”

   “ก็ดี เพราะกูก็ไม่ได้อยากชวนมึงแต่แรกอยู่แล้ว”

   นั้นคือประโยคแรกที่พี่เพลิงจงใจพูดกับผม น้ำเสียงช่างเย็นชาจับใจ

   เดจาวูชัดๆ

   “พี่นี่แม่งก็ชอบแกล้งมัน” ไอ้พายขมวดคิ้ว พูดอย่างปกป้อง

   “ก็กูไม่ได้ชวน ถ้าจะแดกก็ให้แม่งจ่ายเอง สามร้อยเก้าสิบเก้าของกูเก็บไว้ใช้ทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ”

   พี่เพลิงพูดลอยๆ ขณะมือก็สไลด์ไอโฟนเล่น

   “เดี๋ยวกูพาไอ้กันต์ไปก่อนนะ ต้องรีบว่ะ เดี๋ยวแม่งไม่ได้นอนอีก” พี่นาวลูบหัวผมเบาๆ เหมือนอยากโอ๋ เหมือนพยายามจะปลอบโยน แต่เคยได้ยินป่ะว่ายิ่งปลอบแม่งยิ่งอ่อนแอ ยิ่งดูแลแม่งยิ่งปล่อยโฮอ่ะ

   พี่แม่งอย่าดิวะ เดี๋ยวน้ำตาปริ่ม

   “พามันไปกินข้าวด้วยนะพี่” ไอ้พายบอก

   “ไอ้ดิ เดี๋ยวจะพาไปกินทั้งของคาวของหวานเลย มึงอย่าห่วง”   

   “กูไปก่อนนะ”

   “น่าจะไปได้ตั้งนานล่ะ” พี่เพลิงพูดให้ได้ยินแบบลอยๆ

   ผมกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอก่อนจะโบกมือลาเพื่อนทั้งสองคน  ส่วนอีกคนผมไม่กล้าแม้แต่ชำเลืองมอง แล้วเดินจากมาด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ดีอยู่ว่าข้างกายนั้นมีพี่นาวที่กอดคอผมอย่างให้กำลังใจ


   “ฟังกูนะ” พี่นาวกระซิบข้างหูของผม โดยมีผมที่แหงนหน้าไปมองแบบไม่เข้าใจ “หัวเราะทีหลังดังกว่า”

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เปลี่ยนพระเอกได้ป่ะ..ไม่ใช่จำเลยรักนะ สงสารน้อง +1 เป็ด ครัช  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮือออ พระเอกโคตรซึนโคตรปากแข็งเลย
สงสารน้องงงงง มาต่อไวๆน้า  :pig4:

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 3 : อย่าใจอ่อน

{พระเพลิง}

   ผมเป็นคนใจร้อน ใครๆ ก็บอกแบบนั้น

   ผมรู้สันดานของตัวเองดี ก็ผมชื่อพระเพลิงนิสัยก็ต้องร้อนแรงแผดเผาเหมือนชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้นี่ล่ะ ตรงคอนเซปเปะๆ ก็ใช่ว่าจะทำตัวไม่มีเหตุผลพาลหาเรื่องไปทั่วนะ ผมเป็นคนชัดเจน ไม่หาเรื่องใคร แต่ก็ไม่ใช้คนยอมคนใครมากวนส้นจริง พ่อลุยแหลก คนส่วนใหญ่มักกลัวผม หาว่าผมเป็นคนหล่อสันดานโฉด


   ก็ไม่เถียงนะ แต่ผิดตรงไหนที่กูไม่ยอมคน


   อย่างตอนแรกที่ผมเข้ามาเรียนที่นี่ ไอ้เพลิงคนนี้ก็หวิดจะมีเรื่องกับรุ่นพี่ก็หลายหน ก็พวกแม่งหาว่าผมกวนตีน หาว่าผมไม่เคารพ แต่พออยู่ไปนานๆ ทุกคนก็รู้ว่าผมไม่ได้มีเจตนาอะไรแบบนั้นหรอก ก็แค่คนปากหมายิ้มไม่เป็น แล้วก็ไม่ชอบโดนวอแวก็แค่นั้น ดูเดี๋ยวนี้ดิ ไปไหนใครก็ทัก ก็ไม่ได้สำคัญตัวผิดนะ แต่ผมมันอยู่ในชนชั้นเซลิบริตี้ของเราๆ ชาววิศวะว่ะ


   ผมก็อยู่สงบสุขดีนะจนมาตอนนี้ก็ปีสามล่ะ กระทั่งเจอกับไอ้กันต์


   มันเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายผมครับ ที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม มาสนิทกันจริงๆ จังๆ ก็ช่วงมหา’ลัยนี่ล่ะที่ดูจะตัวติดกันหนึบ มีไอ้พายก็มีไอ้กันต์ เคยสงสัยนิดๆ ว่ามันทั้งคู่อาจเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อหรือเปล่า เคยถามไอ้พายมันตรงๆ นะ มันก็ปฏิเสธแบบยิ้มๆ บอกกับผมว่าเพื่อนมันมีคนที่ชอบแล้ว


   แถมคนที่เพื่อนมันชอบก็กลายมาเป็นผมเสียได้


   เอ๋อแดก งงสัด


   อะไรมึง มาชอบกูเนี่ยนะ


   ไม่ได้อ่ะ ไม่เคยชอบผู้ชาย ทำใจไม่ได้ด้วยที่มีผู้ชายมาชอบ


   ไอ้จะมาปลื้มเห็นเป็นไอดอลนี่รับได้นะ แต่ถ้ามาในเชิง เอิ่มมมมม จะมาเอาผมทำผัวเนี่ย ไม่ได้จริงๆ มันผิดคอนเซป ดังนั้นผมจึงตั้งป้อมกับมัน เป็นป้อมปราการที่หนามาก ตั้งใจไว้ว่าถ้ามันเข้ามาวุ่นวายเมื่อไร พ่อจะด่าให้ยับ


   แต่ไอ้กันต์มันคงเหมือนกับแมลงสาบอ่ะ แม่งอึด นิวเคลียลงแม่งก็รอดเอา ด่าเท่าไรแม่งก็ปล่อยผ่าน ทำหูทวนลมเก่งฉิบ เป็นผมเองที่บางครั้งก็เมื่อยปาก หมดพลังงานไปก็เยอะ ที่มากไปกว่านั้น ไอ้เด็กนี่มันชอบไลน์มาทุกวี่ทุกวัน นี่ก็จะเป็นปีล่ะ มันก็รู้นะว่าผมไม่อ่าน แต่แม่งก็หน้ามึนส่งมาถี่ยิ่งกว่าสาวๆ ในสต๊อคของผมเสียอีก ก็เคยด่ามันไปอยู่หลายหนอ่ะนะ แต่มันก็ยังทำอยู่


   มันคือตัวน่ารำคาญ ยิ่งช่วงหลังมานี้ผมยิ่งรู้สึกหงุดหงิด งุ่นง่านแบบแปลก ยกตัวอย่างวันนั้นเลย วันที่ผมไปร้านเหล้าแล้วเจอกับมัน ทั้งที่เป็นคนไล่มันไปนั่งที่อื่น แต่ไหงมันกลับพะว้าพะวง คอยมองซ้ายมองขวาดูมันที่ไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนแล้วก็รุ่นพี่ของมัน


   ไม่เข้าใจอ่ะ ทำไมหัวร้อนตอนที่พวกไอ้คริสทำกะลิ้มกะเหรี่ยใส่มัน แล้วมันก็อ้อยเกิ๊น มีความแรด มีความสตอ แถมยังเมาเลื้อยเหมือนลูกหมาอีก


   วุ้ย!!!! โมโห แดกเหล้าไม่มีความบันเทิงเลยเหอะคืนนั้น คิดแต่อยากจะเดินไปล้มโต๊ะเสียให้ได้ หมั่นไส้ ไม่ได้หวงได้ห่วงอะไรหรอกนะ แต่ขัดหูขัดตา


   “ผัวใหม่เพื่อนมึงเหรอ” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ ตอนที่ขับรถพาไอ้พายกลับห้อง หลังจากที่โดนไอ้พวกนี้ถล่มยับด้วยการยัดห่าประหนึ่งอดอยากมานานแสนนาน


   “อะไรวะ ใครผัวใคร” ไอ้พายเงยหน้าจากโทรศัพท์ แล้วหันมาถามอย่างงงๆ


   “…” ผมถลึงตาใส่ไอ้น้องเวร ส่งสายตาดุๆ ไปให้ที่มันบังอาจเสแสร้งแกล้งไม่รู้


   มึงรู้ แต่ทำไขสือ ไม่น่าเสียเงินจ่ายค่าของแดกให้แม่งเล้ยยยยย


   “สาบานให้ไข่มึงฝ่อ”


   “พี่หมายถึงไอ้กันต์เหรอ แหมมมมม! สนใจใยดีมันด้วย” เสียงมันล้อเลียนตามสเตป


   “ก็แค่ถาม เผื่อแม่งย้ายเป้า”


   “เสียดายเหรอ” ไอ้พายทำเสียงดัดจริตมาก น่าตบสุด


   “ใช่เรื่องที่กูต้องเสียดายมั้ย”


   “ไม่เสียดายก็ไม่เสียดาย ว่าแต่พี่ไม่ใจอ่อนกับมันบ้างเหรอ มันนิสัยดีนะ แถมยังบูชาพี่แบบสุดๆ อ่ะ พี่ได้มันเป็นแฟนนี่ไม่ต้องปวดหัวเลยนะ มันว่านอนสอนง่าย มันน่ารักจะตาย”


   “หน้าตากูนี่มันเหมือนคนอ่อนไหวง่ายไหม” ผมชี้มาที่หน้าตาของตัวเอง “นี่มึง กูจะบอกให้นะว่าแม่งไม่เคยฟังที่กูพูดเลยสักคำ กูบอกซ้าย แม่งไปขวา กูบอกให้เลิกยุ่งแม่งก็ตื้อฉิบหาย แบบนี้อไม่ใช่ว่านอนสอนง่าย”


   “ก็มันชอบพี่”


   “กูไม่ชอบมัน”


   “เอาดีๆ พี่ไม่ชอบมันจริงอ่ะ”


   “เออ ไม่ชอบ”


   “ไม่ชอบก็ไม่ชอบ จะเสียงสูงทำไม” ไอ้พายมันอมยิ้มเล็กน้อย “แล้วถ้าพี่หมายถึงพี่นาว นั่นน่ะไอดอลมันอ่ะพี่ เป็นต้นแบบห่าอะไรของมันสักอย่างนี่ล่ะ เอาจริงๆ ถ้าถัดจากพี่ไป พี่นาวนี่ล่ะที่ไอ้กันต์มันอินแบบสุดๆ มันบอกว่าชอบไลฟ์สไตล์ของพี่เขา ยิ่งช่วงหลังๆ มานี้โคตรสนิทกันอ่ะ”


   สงสัยเพราะไอ้นาวแม่งเท่ไง เคยเห็นมันเล่นกีตาร์เมื่อวันงานคณะของมัน ก็ดูดีนะ แต่กูหล่อกว่าหลายขุม


   “ชิ” ผมเบะปาก “ชอบสไตล์อปป้าซารางเฮงี้”


   “พี่เขาสายปลาดิบพี่ ไม่ใช่สายกิมจิ”


   “สายเหี้ยอะไรก็เหอะ เอาแม่งไปไกลๆ กูสักที เดี๋ยวกูแก้บนหัวหมูกับนางรำเลย” ผมพึงพำแต่มันไม่เต็มปากว่ะ


   “นี่พี่ไม่มีทางชอบมันจริงๆ ใช่ป่ะ”


   “กูกระเดือกแม่งไม่ลง”

   ความจริงคืออะไร...

   เดี๋ยวนะ ไอ้ตอนที่มันทำแผลให้ กูคนนี้ใช่ไหมที่เกิดช้างน้อยตั้งเด่ขึ้นมา

   กูคนนี้ใช่ไหมที่ต้องไล่แม่งกลับบ้านไปแบบด่วนๆ อ่ะ พอแม่งกลับไปไอ้ความค้างคาก็เสือเล่นงานจนต้องมานั่งติ้วตัวเองให้เสียประวัติชายชาตรีอีก   แม่งเริ่มอันตรายแบบซุปเปอร์แดนเจอร์รัสแล้วอ่ะ หลายวันที่ผ่านมาผมเลยต้องจูนสติขนานใหญ่


   “น่าสงสารมันนะ แต่เดี๋ยวสักพักมันคงตัดใจได้นั่นล่ะ ตอนนี้มันก็บอกกับผมว่ามันกำลังตัดใจอยู่ วันก่อนมันบอกกับผมว่าขอเวลาอีกแป๊บใกล้จะทำใจได้ล่ะ”


   ผมมองหน้าไอ้พายมันตรงๆ เดี๋ยวนะ ไอ้กันต์บอกว่าจะตัดใจแล้วเหรอ นี่ต้องดีใจสินะ


   “ดีใจสัดๆ ดีฉิบหาย”


   ผมพูดออกไปอย่างร่าเริง แต่เอาจริงๆ หัวใจแม่งกลับหน่วงแบบแปลกๆ ว่ะ


   เดี๋ยวนะ นี่ไม่ได้กำลังเสียดายหรอกใช่ไหมว่ะ


   แล้วเดี๋ยวนะ กูไม่ได้กำลังหึงมัน?

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
หลอกตัวเองให้สำเร็จนะพระเพลิง ถ้าน้องตัดใจได้แล้วจะรู้สึก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 อิพี่เพลิงโคตรยัอนแย้ง แถมไบโพล่าอีกตังหาก #แบะปากมองบน

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ปากแข็งไม่พอยังไม่รู้ใจตัวเองอีกกก เดี๋ยวน้องตัดใจจริงๆแล้วจะรู้สึก
 :pig4:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ขออีกกก
พระเพลิง แกมันร้ายมากกก
แต่กันต์ยอมทุกอย่างแบบนี้ ทนมาเป็นปีๆ พระเพลิงคงไม่ได้เจ็บ้ท่าไรหรอกมั้ง

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 4
: ทุกอย่างย่อมมีการเริ่มต้น แค่อดทนรอ

   “ขอบคุณนะพี่ที่มาส่ง”

   “กูดิต้องขอบคุณมึง อุตส่าห์มาช่วยงาน”

   “ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวพอตาผมพี่ค่อยมาช่วยคืนก็ได้”

   “เออ มึงรีบขึ้นห้องเหอะ ดึกแล้ว”

   “ครับ ขับรถกลับกันดีๆ นะพี่”

   ผมโบกมือให้พี่นาวกับแฟนของเขาที่ขับรถมาส่ง มองรถคันสีดำที่ขับไปจนลับตาก่อนจะมองนาฬิกาในมือจึงรู้ว่านี่ก็เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว หน้าหอพักของผมยังมีเด็กนักศึกษาเข้าออกกันอยู่บ้างประปลาย บางคนออกไปหาของกิน บางคนก็เพิ่งกลับจากการท่องราตรี

   ผมขึ้นห้องด้วยจิตใจที่ดีกว่าเมื่อตอนบ่ายเล็กน้อย การที่หาอะไรอย่างอื่นทำในช่วงเวลาเฟลก็ช่วยให้อาการอันย่ำแย่ดีขึ้นได้บ้าง แต่ในใจผมก็ยังคงวนเวียนคิดถึงแต่พี่เพลิง

   ห้าทุ่มแล้ว ...

   ป่านนี้พี่เพลิงจะทำอะไรอยู่ ปกติผมจะส่งขอความกู๊ดไนท์ให้พี่เขาตอนห้าทุ่มเปะๆ แต่วันนี้ผมกลับไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำ ท้อแท้ ห่อเหี่ยว บางทีผมควรพอได้แล้ว ผมควรเลิกตอแยคนที่เขาไม่มีใจ แล้วก็ยอมรับความจริงให้ได้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานะของคนอกหัก

   โอ๊ยยยย คำนี้มันเป็นของแสลงอ่ะ

   ไอ้สุภาษิตว่าอกหักดีกว่ารักไม่เป็นนี่ใครคิดว่ะ จิตใจแม่งแกร่งดุจหินผาไม่พอยังโลกสวยขนาดบัญญัติถ้อยคำปลอบใจให้แก่อนุชนคนรุ่นหลังได้อีก


   PraPai : มึงกลับห้องยังวะ

GuNgUn : ถึงละ

GuNgUn : มีไร

   PraPai : ป่าว มีคนถามกู กูเลยถามมึงอีกที

    PraPai : ไม่มีไรล่ะ นอนเหอะมึง


GuNgUn : เออ

   ก็ไม่ได้อยากจะคิดไปเองหรอกนะ แต่คนที่ถามนี่... ใช่พี่เพลิงหรือเปล่า

   ใช่มั้ยนะ? อยากให้ใช่วุ้ยยยยย

   

   ผมกำลังพยายามหักห้ามใจไม่ให้ทักพี่เพลิง ไม่ยอมให้มือที่คันยุบยิบกดพิมพ์คำว่าราตรีสวัสดิ์ออกไป แต่ไม่ว่าจะพลิกไป พลิกมา ม้วนหน้าม้วนหลังแปดตลบ ผมก็ยังคิดถึงแต่หน้าของพี่เขา อยากเซย์กู๊ดไนท์อ่ะ

   เอาวะ!

GuNgUn : ฝันดีนะครับ
   
   ในที่สุดผมก็ห้ามมือห้ามใจตัวเองไม่ได้ กดทักพี่เขาไปตามเดิม แต่เดี๋ยวนะ

   เฮ้ย!

   
Read
GuNgUn : ฝันดีนะครับ
   
   พี่เพลิงอ่าน อ่านแล้ว

   ขุ่นพระ ยกมือทาบอก...

   มีความดีใจ เหนือกว่าความดีใจคือความตื่นเต้น เหนือความตื่นเต้น เอาแล้วๆๆๆๆๆ
      
   P’plerng : เสือก

   P’plerng : หมาตัวไหนบอกจะตัดใจ ถ้าจะตัดใจก็เลิกส่งข้อความมา

   
   ถึงใจคิดว่าจะตัด แต่มันตัดไม่ได้ แล้วก็ไม่เคยบอกกับใครนะ

GuNgUn : ผมเปล่านะ
   GuNgUn : ผมน่ะ
GuNgUn : ตัดใจไม่ได้หรอก

   ผมพิมพ์ข้อความที่ตอบออกไปจากใจ แต่พอพิมพ์เสร็จนะ ใจก็ร้องว่า...

   หวายยยยยยย โดนแน่ ไอ้กันต์โดนแน่ แอร์แบคมาเลย เตรียมรับแรงกระแทก จักชุดใหญ่มาเลยพี่ ด่ามาหนักๆ ชอบๆ กูนี่แม่งมาโซเบอร์ต้นเลย


   P’plerng : จะนอน

   P’plerng : เลิกกวนใจกูได้ล่ะ

   P’plerng : สัด


   
GuNgUn : คับ

   เฮ้ย!
   ทำไมคำว่า ‘สัด’ นี่มันทำไมเพราะจัง


...
คนบางคนก็ไม่รู้ใจตัวเองนะคะ ให้เวลาเขานิดนึง


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่เพลิงเริ่มใจอ่อน??? น้องกันต์ต้องเอาคืนบ้างนะ เอาใจช่วย #ทีมกันต์   :ped149: :ped149: :ped149:

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขออีกนิดนึงน้าาาา มาอีกๆ พี่เพลิงเริ่มใจอ่อนแล้วใช่มะๆ

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คนมันรักอะเนอะ
แค่เห็นความหวังมันก็อดจะมีความสุขไม่ได้

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ชอบอ่ะ มันคันยุกยุกในหัวใจดี อิอิ
วันนี้จะมาต่อไหมเอ่ย

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 5
ภูมิต้านทานทางอารมณ์

   หลังจากวันนั้นภาพโดยรวมระหว่างผมกับพี่เพลิงเหมือนจะดีขึ้นมาเล็กน้อย ถึงแม้ความดุดันกับฝีปากอันคมกริบปานมีดโกนยิลเลตของเขาก็ยังคงสำแดงเดชอย่างคงเส้นคงวา มีที่ดีขึ้นมาหน่อยก็คือการอ่านไลน์ผมบ้างในบางครั้ง ซึ่งเดี๋ยวนี้ผมก็ทำมากกว่าแค่การทักทายปกติสามเวลา ด้วยการส่งไปแสดงความเป็นห่วงในบางวาระ ซึ่งก็อาจจะโดนแจกกล้วยกลับมาบ้างบางครั้งบางคราวเช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าพี่เพลิงจะเอนเอียงมาทางผมหรอกนะ


   เพราะอย่างที่รู้ๆ กันดี พี่เพลิงกำลังเดินหน้าสานสัมพันธ์กับฟ้าอยู่ ผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์อย่างนั้น ใครจะไม่หลงรักล่ะ ฟ้าคือดวงใจของชายหนุ่มทุกคนคณะ เดินไปทางไหนคนก็มาตามจนเหลียวหลังคอแทบเคล็ดกันเป็นแถบๆ แบบนี้ผมจะเอาอะไรไปสู้


   การเห็นพี่เพลิงกับฟ้าอี๋อ๋อกันทำให้ผมเกิดอาการปวดแปลบเป็นระรอก มากบ้างน้อยบ้าง สุดแท้แต่ว่าวันนั้นผมจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบไหน ถ้าเขายิ้มหวานให้กัน จับมือกันผมก็เจ็บน้อยหน่อย แต่ถ้าวันไหนเป็นการจับแก้ม โอบกอดวันนั้นอาการของผมอาจปวดแสบปวดร้อนที่หัวใจขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ยังพอรับไหว นี่ก็ไม่รู้ว่าหัวใจของผมมันจะทนมือทนตีนได้อีกสักกี่น้ำ เพราะตอนนี้ใจมันบางเหลือเกิน


   “กันต์ กับพี่คริสนี่ยังไงวะ เห็นจ้องจะนัวมึงจังเลย” ไอ้พายเพื่อนรักถามผมระหว่างที่เรานั่งเล่นอยู่ใต้ตึกคณะ สีหน้ามันดูจริงจังและคาดคั้นเอาคำตอบ


   “ก็ไม่ยังไง พี่เขาก็แค่มาแซวเล่น”


   “แซวเล่นเหรอ แต่เห็นมึงคุยไลน์กับพี่มัน” ไอ้พายทำท่าจับผิด


   จริงครับ ช่วงนี้พี่คริสมักจะเดินมาพูดคุยพูดเล่นกับผมบ่อยมาก แต่ผมก็ว่าไม่เห็นแปลก ในเมื่อเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน อีกอย่างถึงเขาจะบอกว่าจะจีบแต่ในความคิดผมพี่มันมาหยอกเล่นเสียมากกว่า คงไม่ได้มาจริงจังอะไรหรอกคงเป็นแค่เรื่องขำๆ


   “เห็นมันบอกจะจีบมึงไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวนี้ฮอตนะเพื่อนกู”


   “พี่เขาก็พูดเล่นมั้ย”


   “อย่านะมึง อย่าเสือกไปหลงคารมพี่มันเข้าล่ะ กูได้ยินมานะว่าแม่งคบกับใครก็ไปเกาะเขาแดก แม่งชอบให้คนมาเปย์ ซื่อๆ อย่างมึง กูขอเตือนไว้ก่อน หลอกแดกมึงหมดตัวไม่รู้นะเว้ย”


   “เพ้อเจ้อ กูจะไปชอบเขาได้ไง มึงก็รู้ว่ากูไม่มีทางไปชอบเขาหรอก”


   “ก็ไม่แน่อ่ะมึง ถ้ามันรุกมึงหนักอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นล่ะ เกิดใจอ่อนล่ะ กูห่วงมึงจริงๆ นะไอ้กันต์”


   “กูก็ไม่โง่มั้ย” ผมขมวดคิ้ว “เพื่อนมึงคนนี้หนักแน่นพอเว้ย ไม่ได้โลเลไปทางโน้นที ทางนี้ที อีกอย่างกูก็ไม่มีทางชอบคนอื่นอยู่แล้ว เชื่อกูดิ”


   ไอ้พายยิ้มกว้าง สีหน้าก็ดูพออกพอใจกับคำพูดของผม


   “อิจฉาพี่เพลิงว่ะ มีคนอย่างมึงมารักมาชอบนี่แม่งโคตรบุญกะบาล คนที่จะมามั่นคงแล้วก็สีทนได้อย่างมึงได้จากที่ไหวะ เสียดายที่มันประสาทสัมผัสช้า แต่มึงก็รอพี่กูหน่อยนะ อย่างเพิ่งท้อแล้วหนีไปมีเมียซะก่อนล่ะ กูอยากได้มึงเป็นพี่สะใภ้”


   ผมฟังไอ้พายพูดแล้วเก็บมาคิด อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างตัวเองนี่จะมีความหวังด้วยเหรอ


   “อีกสองวันวันเกิดกู ร้านเดิมนะมึง กูจองโต๊ะไว้แล้ว”


   “อืม กูล้างท้องรอแดกของฟรี”

   

วันเกิดพาย

   โอ้ยยยย วันเกิดเพื่อนรัก งานนี้ต้องมีฉลองเป็นธรรมดา


   เหมือนเคยครับ ณ ร้านประจำ พวกเรานัดกันเพื่อเมาหยำเปกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่เมาแล้วอ้วกแตกอ้วกแตน เอาแค่กินสนุกๆ หอมปากหอมคอก็พอ เพราะผมมันเป็นพวกคออ่อน กินไม่กี่แก้วก็เดินเซล่ะ ไม่ใช่อย่างพวกมันที่กินเท่าไรก็ไม่รู้จักเมา


   “วันเกิดกูครับเพื่อน เอาแดก”


   เสียงชนแก้ว เสียงหัวเราะสนุกสนานเฮฮา บวกกับบรรยากาศรอบตัวครึกครื้นกันมาก เมื่อเหล่าชายกลัดมันกว่าสิบชีวิตรวมตัวกันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการแอ๋วสาวเป็นธรรมดา เสียงแซวเสียงหยอกล้อสาวๆ ดังเกรียวกราว แต่ผมที่นั่งอยู่ในวงเหล้าที่พวกเรารวมตัวกันกว่าสิบชีวิตกลับไม่ได้สนุกสนานตามไปด้วยสักเท่าไร


   อาการเซ็งจับจิตเริ่มคุกคามมาเป็นระยะๆ จะว่าไม่สนุกเลยก็ว่าได้


   “เฮีย พวกผมขอเลยนะ ยังไงวันนี้เหลือไว้ให้พวกผมบ้าง ไม่ใช่กวาดเอาไปเรียบ”


   “ช่วยไม่ได้ บังเอิญกูหล่อ และรวยมาก” พี่เพลิงยิ้มมุมปากก่อนกระดกแก้วดื่มเหล้าในมือรวดเดียวจนหมด


   “เกลียดอ่ะ ชมตัวเองก็ได้”


   “ชาตินี้มึงไม่ได้แดกกูหรอก ตายแล้วเกิดใหม่ชาติหน้าค่อยมาว่ากันนะ”


   “หูยยยย คนนั้นหุ่นโคตรแซบอ่ะ เห็นมองเฮียหลายรอบแล้ว”


   “เออ กูเล็งอยู่ มึงนี่สายตาแหลมคม ใช้ได้”


   ผมได้ยินถ้ายคำหยอกล้อเรื่องควาวฮอตของพี่เพลิงกับกลุ่มเพื่อนๆ ทุกคำพูดทุกประโยค เลยคิดได้ว่าเอาจริงๆ แล้ว ต่อให้มีใจให้พี่เพลิงมากเท่าไร หรือผมแสดงออกมาว่าชอบพี่เขาอย่างชัดเจนขนาดไหน ระหว่างผมกับพี่เขาก็ไม่อาจมีวันเป็นไปได้


   เพราะพี่เพลิงไม่ได้มีทีท่าหรือแนวโน้มว่าจะชอบผู้ชาย เขายังชอบที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิง แล้วที่สำคัญก็มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากๆ ด้วยสิ นี่ขนาดพี่เขาเพิ่งมานั่งที่โต๊ะไม่ถึงชั่วโมง กลุ่มสาวๆ ก็พร้อมใจแจกเบอร์ ขอไลน์พี่เขากันให้วุ่นไปหมด มีคนหนึ่งแสดงชัดเลยว่าสนใจพี่เขาถึงขั้นเดินมาขอชนแก้ว ต่อด้วยที่ทั้งคู่ก็กระกระซิบกระซาบกันอยู่นานสองนาน ก่อนที่จะพากันเลี่ยงเดินไปที่ไหนสักที่


   ภาพที่ผู้หญิงสุดเซ็กซี่คนนั้นซบลงที่แผ่นอกของพี่เพลิงมันช่างชัดเจนจนว่าทั้งคู่ต่างพอใจซึ่งกันและกันขนาดไหน เดาไม่ยากว่าผู้หญิงกับผู้ชาย จะหายไปทำกิจกรรมอะไรกัน ผมที่แอบมองคนทั้งคู่จนลับตา แล้วก็ทำได้เค่เพียงปลอบใจตัวเองเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆ มา


   แต่แม่งเอ้ยยยยย!


   ยากว่ะที่จะบอกให้ตัวเองไม่รู้สึกอะไร


   การหลอกตัวเองว่าความเจ็บแบบนี้มันจะผ่านพ้นไปมันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ นะเว้ย


   สิ่งที่ผมทำคือการกินเหล้าไปเรื่อยๆ นับไม่ถ้วนว่าจัดไปกี่แก้ว รู้สึกแค่ว่าใกล้จะเกินลิมิตของตัวเองในไม่ช้านี้แน่ๆ เสียงพูดคุยเฮฮาของกลุ่มเพื่อนไม่ได้ทำให้ผมครื้นเครงตามไปด้วย นี่ก็เกรงใจไอ้พายเหมือนกันที่มานั่งหน้าหงิกทั้งที่เป็นวันเกิดมันแท้ๆ


   แต่มึง ขอเวลาแป๊บนะ


   ไอ้พายมันเองก็พอจะรู้สิ่งที่ผมกำลังรู้สึกอยู่ มันถามผมเป็นรอบที่สามว่าไหวหรือเปล่า แต่ผมก็ฝืนๆ ยิ้ม แล้วบอกว่าไม่เป็นไร แสร้งทำเป็นว่าเฮฮาแต่จริงๆ แล้วเปล่าเลย พอมันเดินไปเต้นกับสาวโต๊ะข้างๆ ผมก็ยังดึงหน้ากลับมาในโหมดทุกข์ระทมเช่นเดิม


   ผ่านไปพักใหญ่ เพื่อนๆ ของผมเริ่มแยกย้ายกันไปคั่วสาวตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บาง อีกหลายคนก็ไปเต้นบ้าบอก็มีแต่ผมนี่ล่ะที่ยังนั่งกินเหล้าพลางเล่นโทรศัพท์ในมือแก้เซ็ง แล้วพี่เพลิงก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ตอนนี้ไม่มีร่างของผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่ผมก็ยังวุ่นวายกับโทรศัพท์ ประหนึ่งว่ากำลังหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอ่ะนะ


   “ทำหน้าส้นตีนอะไรแบบนั้นวะ” เสียงพี่เขาพูดขึ้นมาลอยๆ แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบ และส่งไลน์คุยกับพี่คริสที่ทักมาแทน


   “…”


   “กูพูดกับมึงอยู่”   


   “…”


   “สัด กวนตีเหรอไอ้กันต์ พูดกับมึง เสือกทำเป็นหูทวนลม ต้องให้ด่าใช่ป่ะมึงอ่ะ”


   “พี่พูดกับผมเหรอ” เมื่อพี่เขาเอ่ยชื่อผมจึงย้อนกลับไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แต่ยังคงไม่มองหน้าเขา


   “นี่มึงปัญญาอ่อนหรือกวนตีน ตอบดีๆ นะมึง นั่งกันอยู่แค่สองคนกูไม่คุยกับมึงแต่คุยกับขวดโซดามั้ง”


   “ครับ ผมคงปัญญาอ่อน”


   ผมตอบไปแบบนั้น เพราะถ้าผมฉลาดสักหน่อยก็คงรู้ว่าควรตัดใจจากพี่เขาได้แล้ว


   “กูว่ามึงกวนตีน ตอบแบบนี้พูดเลยว่ากวนตีน”


   “…”


   ผมไม่พูดอะไร ทำได้เพียงถอนหายใจ และยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแทน


   ไม่มีอารมณ์อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยอ่ะ


   เบื่อ...


   ใจพัง...


   เหมือนอากาศหล่อเลี้ยงไปไม่ถึงหัวใจ...



   อาการแม่งคล้ายๆ หัวใจกำลังจะล้มเหลว...


   “หน้ามึงแม่งอย่างกับมีใครตาย นี่มันวันเกิดน้องกู ทำหน้าแบบนี้จะมาทำไมให้เสียบรรยากาศวะ”

   “…”

   เงียบ...

   ผมยังคงเงียบเช่นเคย ต่อให้ผมบอกตัวเองว่าอย่าไปสนใจเท่าไร แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าพี่เพลิงกำลังจ้องมองผมอยู่


   “เป็นอะไร”


   “…”


   “กูถามว่าเป็นอะไร ถ้ามึงไม่ตอบกูอีกนะ”


   พี่เพลิงเตะขาผมจากใต้โต๊ะ ผมมองไปที่พี่เขาแล้วก็เห็นพี่เขาชี้หน้าผมอย่างคาดโทษ


   “เมามั้ง” ถึงปากผมจะพูดแบบนั้น มือผมก็ยังคงกระดกแก้วในมือไปเรื่อยๆ


   “เอ่อ ก็แดกเข้าไปเหอะมึง คลานเป็นหมากูจะให้พวกมันทิ้งมึงให้นอนข้างถนน”


   แล้วผมก็ทำหน้าไม่ถูกเมื่อพี่เพลิงแย่งแก้วในมือผมออกไป


   “ไม่เกี่ยวกับพี่นะ”


   โหยยยย


   เป็นครั้งแรกที่ผมยอกย้อนพี่เขา พูดจบมือพิมพ์ยุกยิกยุกยิกโต้ตอบสลับกันไปกันมาระหว่างพี่คริสกับพี่นาว เพื่อเลี่ยงไม่ให้ตัวเองรู้สึกหดหู่กับสถานการณ์ตรงหน้าไปมากกว่านี้


   “เมาแล้วเป็นภาระ เดี๋ยวก็เสล่อมานอนห้องกู”


   พี่เพลิงถือแก้วเหล้า พลางชี้หน้าผม สายตาดุๆ ส่งมาอย่างเคย เออ ผมมันไอ้ตัวภาระ ไอ้ตัวน่ารำคาญ ใช่สิ จะมาน่ารักเหมือนผู้หญิงของพี่ได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย!


   “เดี๋ยวผมกลับห้องตัวเอง ไม่ไปห้องพี่หรอก” ผมพูดออกไปอย่างน้อยใจ


   “ปากดีนักนะ กูพูดก็ฟังดิ จะเถียงให้อารมณ์ขึ้นทำไมวะ โอหังนักนะมึง”


   “เปล่าเถียง แค่พูดให้พี่สบายใจเฉยๆ”

   “สบายใจอะไร”


   “เรื่องที่ผมไม่ไปนอนห้องพี่ไง”


   “…”


   “ถึงเมาผมก็ดูแลตัวเองได้นะ”


   “กูจะดูน้ำหน้ามึง ปากดีไปเถอะ”


   “…”


   “มึงจะติดโทรศัพท์อะไรหนักหนา เขามาแดกเหล้าสังสรรค์กัน เล่นโทรศัพท์ก็เล่นที่บ้าน”


   ผมวางโทรศัพท์ลง แล้วจ้องหน้าพี่เขาตรงๆ เห็นพี่เขามองมาแบบไม่พอใจ แต่เดี๋ยวนะ เคยมีตอนไหนที่พี่เขามองมาที่ผมแล้วแสดงสีหน้าพอใจหรือมีความสุขบ้างไหม


   ก็ไม่มีนะ...

   เพราะงั้น อย่าได้แคร์



   “งั้นขอแก้วผม” ผมเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้า แต่มือของเขากลับยกหนีไปเสียเฉยๆ


   “เลิกแดก”


   “ก็พี่บอกว่าต้องมากินเหล้าสังสรรค์ พี่ต้องคืนแก้วเหล้าให้ผม”


   ผมไม่หลบตาพี่เขาอีกต่อไป แล้วก็เห็นรอยยิ้มที่มุมปากที่ดูยังไงๆ ก็หล่อเหลือร้าย


   “ยอกย้อนนักนะ เออ! ถ้ามึงเมาเหมือนหมา กูจะบอกให้ไอ้พายปล่อยมึงทิ้งไว้ที่นี่ จำไว้นะมึง”


   “พี่บอกให้มันทิ้งผมไว้นะ บอกมันว่าไม่ต้องพาผมกลับไป เดี๋ยวผมหาทางกลับบ้านเอง”


   ผมพูดอย่างเด็ดเดี่ยว เอาสิว่ะ ให้มันรู้ไปว่าอย่างไอ้กันต์จะไม่มีปัญญากลับบ้านเอง


   ตอนนี้เสียงเพลงที่คลอเคล้าจากวงดนตรีประจำผับที่เปลี่ยนมาเป็นเพลงช้าๆ ซึ่งเพลงนี่อาจจะตรงกับความรู้สึกของผมที่สุด แล้วผมก็กระดกเหล้าแก้วนั้นจนหมด โดยมีสายตาของใครอีกคนจ้องมองโดยไม่คลาดสายตา


   สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่าความเหงา
คือการที่เราไม่เคยได้รู้จักความรักมาก่อน
ดิ้นรนค้นหาไปทุกๆ อย่าง
ก็อยากจะลองสัมผัสว่ารักเป็นเช่นไร

และวันที่น้ำตาร่วงหล่น
จนเจ็บปวดร้าวจึงเข้าใจ

โอ้รสชาติแห่งรักที่หามันมานาน
รสชาติแห่งความรัก มันแสนทรมาน
น้ำตาแห่งรัก เอ่อไหลรินออกมา
ให้เราได้เข้าใจ ยิ่งเข้าใจ

อาจจะดูเลวร้าย เศร้าไปทุกอย่างกับความรัก
มันอาจจะปวดร้าว จนทรมาน
ไม่ว่ารักจะเป็นอย่างไร ก็ยังจะค้นหามัน

โอ้รสชาติแห่งรักที่หามันมานาน
รสชาติแห่งความรัก มันแสนทรมาน
น้ำตาแห่งรัก เอ่อไหลรินออกมา
ให้เราได้เข้าใจ ยิ่งเข้าใจ

เจ็บปวดทรมาน เจ็บปวดทรมาน

จึงเข้าใจ โอ้รสชาติแห่งรัก ที่หากันมานาน
รสชาติแห่งความรัก จะไม่มีวันจาง
น้ำตาแห่งรัก ถูกสร้างมันออกมา
ให้เราได้เข้าใจ ยิ่งเข้าใจ


โอ้รสชาติแห่งความรัก รสชาติแห่งความรัก
รสชาติแห่งความรัก โอ้รสชาติแห่งความรัก


เพลง รสชาติแห่งรัก โดย paradox


..................

กำลังคิดว่าถ้าถึงคราวที่กันต์เอาคืนนี่จะเอาให้พี่เพลิงไปไม่เป็นเลย
รอติดตามนะคะ


เม้นท์กันหน่อยน้าาาา จะได้รู้ว่าเข้ามาติดตามกัน
ขอบคุณทุกท่านนะคะ


ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
กันต์หยุดใหพี่เพลิงทำร้ายจิตใจเราได้แล้ว เอาคืนหนักๆไปเลย
ติดตามอยู่นะคะ สู้ๆๆ  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
กันต์ ต้องเข้มแข็ง เข้าโหมด สวย-เริ่ด-เชิด-หยิ่ง ได้แล้ว อิพี่เพลิงน่าหมั่นไส้  :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สงสารกันต์จัง เพลิงมีแต่ทำร้ายจิตใจ

เมื่อไหร่จะรู้ตัว รู้ตัวเมื่อสายไป ระวังเหอะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
รอกันต์เอาคืน อิอิ
ใครจองมองกันต์

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 6
ความอ่อนไหว


{เพลิง}

   ผมมองไอ้พายหอบหิ้วไอ้เพื่อนปลวกของมันกลับมาห้อง ด้วยความโมโหผสมกับความรู้สึกอึดอัดขัดอกขัดใจ ก็เพราะแม่งเล่นเมาชนิดที่เรื้อนเอาโล่ขนาดนี้ ทั้งที่เตือนแล้วห้ามแล้วก็ยังอวดดีใส่ แล้วดูสภาพดิ น่าทุบฉิบหาย


   “นี่ไง กูบอกแล้วว่าแม่งต้องเมา ดูดิ๊แม่งเมาจริงๆ ด้วย สัดถ้ามึงจะเมาเบอร์นี้วันหลังอย่ามากับกูนะ หน้ากูบาง อายคน”


   ไอ้พายหิ้วปีกเพื่อนมันที่ทำท่าเมาไม่รู้เรื่องรู้ราว


   “อ้ายพี่เพลิง พี่แม่งร้ายว่ะ ผมชอบพี่ไปได้ยังงายยยย”  ไอ้เด็กเรื้อนมันแหกปากขึ้นมาระหว่าที่เราทั้งสามคนกำลังขึ้นลิฟท์


   “มึงพูดดีดีนะ เมาแล้วปากหมานะมึงอ่ะ”


   “เออไง ปากหมาเหมือนกันเลย ก็พี่อ่ะ ชอบด่าผม เกลียดผมมากหรือไง พูดกับผมเพราะๆ บ้างไม่ได้เหรอ” มันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ผมอย่างใจหน้าด้าน แล้วก็ผลักไอ้พายกระเด็นไปสองก้าว “แต่ผม โคตรชอบพี่เลย”


   “ไอ้กันต์ เบาๆ หน่อยได้มั้ย หูกูจะแตก” ผมได้ยินเสียไอ้พายหัวเราะลั่น “จะสารภาพรักกันก็ไปทำกันสองคน กูคนกลางฟังแล้วจั๊กจี้”


   ผมเปิดประตูห้องให้ไอ้พายที่หัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกัยลากเพื่อนเส็งเคร็งของมันเข้ามาข้างใน


   “แต่ผมแม่งโคตรชอบพี่เลย พี่แม่งคนจริง คนตรง แถมพี่แม่งหล่อที่สุดในใจผมเลยนะพี่” มันเอื้อมมือทำท่าจะมาจับหน้าผม แต่ผมผงะหนีอย่างตกใจ


   “มึงอย่า! ไอ้พายมึงมาเอาแม่งไปเลย เดี๋ยวกูห้ามใจไม่ไหวเผลอถีบมันเข้า”


   “พี่จะไปถือสาคนเมาทำไม ฮ่าๆๆ แม่งเมาน่ารักจะตาย”


   “ดูตรงไหนว่าน่ารัก ธรรมดากูก็เบื่อแม่งจะตายล่ะ มาเจอไอ้อาการเมาเรื้อนของแม่งนี่อีก เพื่อนมึงนี่แม่ง”


   “พี่จะบ่นอะไรนักหนา กินเหล้ามันก็ต้องเมาดิวะ” ไอ้พายหัวเราะร่วนไม่หยุด


   “แต่แม่งเมาไม่เหมือนคนอื่น มึงดูมัน มีสติที่ไหน พวกลากไปข่มขืนทำไง เผลอแป๊บเดียวแม่งโดนหิ้วไปแล้วเห็นมั้ย”


   “หวงมันเหรอ”


   “กูรำคาญ”


   “ปากแข็ง”


   “แต่ที่แข็งแน่ๆ คือแข้ง อยากลองมั้ยมึง”


   “พี่แม่งเดายากว่ะ เดี๋ยวด่ามัน เดี๋ยวก็ทำท่าเหมือนหวงมัน เอาสักอย่าง”


   “กูไม่เหี้ยอะไรทั้งนั้นล่ะ”


   “เบื่อคนปากไม่ตรงกับใจ รำคาญว่ะ ผมไปนอนดีกว่า” ไอ้พายเดินหนีไปเฉยๆ ไม่มีท่าทีห่วงหาอาทรไอ้เพื่อนปลวกของแม่งสักนิด ปกติเห็นรักันจริงรักกันจัง ทีงี้แม่งเสือกทิ้งดื้อเลยเนี่ยนะ


   “แล้วมึงไม่เอามันเข้าไปนอนด้วยล่ะ”


   “ไม่เอา เดี๋ยวมันอ้วก ให้มันนอนข้างนอกแหละ พรุ่งนี้ค่อยมาเก็บซาก”


   “มึงจะทิ้งมันไว้อย่างงี้นะ”


   “เออ ถ้าพี่เวทนามันก็เอามันเข้าไปนอนด้วยดิ หรือถ้าไม่ก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้นล่ะ ผมง่วงล่ะ ขืนเอามันเข้าไปด้วยนอนไม่หลับพอดี ว่าแต่พี่เหอะ ใจดีเอามันเข้าไปนอนด้วยก็ได้นะ แต่อย่าไปซุยมันล่ะ มันยังซิงอยู่นะเว้ยพี่”


   “ไอ้เหี้ยพาย” ผมทำท่ายกตีนถีบมัน ขณะที่ไอ้น้องชายปากหมาเดินหัวเราะร่าเข้าห้องของตัวเองแล้วกดล็อคประตูดังแกร๊ก



   

   ไอ้พายทิ้งเพื่อนมันนอกเกลือกบนโซฟาอย่างไม่ดูดำดูดี ผมมองมันอย่างชั่งใจ ว่าจะเอายังไงกับมัน จะทิ้งให้นอนจมกองอ๊วกดี หรือจะช่วยสงเคราะห์มันด้วยการเอาน้ำสาดให้สร่างเมาดี


   แต่ไม่ว่าจะทางไหนแม่งก็มีแต่คำว่าเลอะเทอะ


   “พี่เพลิง พี่เกลียดผมเหรอ” มันเพ้ออีกระรอก


   “…”


   “พี่ไม่เกลียดผมได้ไหมอ่ะ”


   มันมองท่าทางออดอ้อนของมันด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งโมโห ทั้งรำคาญ แต่ก็มีคำว่าสงสารอยู่กระจิ๊งหนึ่งก็ตรงที่มันทำเสียงอ้อนนี่ล่ะ


   “กูเกลียดเพราะมึงทำตัวแบบนี้แหละ”


   “ผมทำอะไรผิด”


   “มึงไม่รู้ตัวเหรอ”


   “ผมแค่ชอบพี่ มันผิดมากเหรอที่ผมชอบพี่”


   “…”


   “ชอบมาก ชอบจริงนะ” มันลุกขึ้นมาอย่างยากเย็น แล้วนั่งจ้องหน้าผมทั้งที่ดวกตาปรือแดงก่ำ


   “ไอ้กันต์ ไอ้เหี้ย มึงจะตะโกนให้ข้างห้องเขามาด่าหรือไง”

   
   ไอ้กันต์ที่เมาแล้วไร้สติโดยสิ้นเชิง แผดเสียงดังแปดหลอด ไม่สนว่าตอนนี้มันจะปาเข้าไปตีหนึ่งตีสองแล้ว


   โวยวายไม่โวยวายเปล่า ยังมาสารภาพรักกูอี๊ก ป่านนี้ไอ้พายแม่งเก็บข้อมูลรอเวลาเอามาล้อเลียนจนลูกบวชแน่ กูแม่งก็อายเป็นนะ นี่โทษเพราะความที่มันเมาเลย ทั้งที่ผมเตือนมันนอกจากที่มันจะไม่ฟังเสือกยังดึงหน้าใส่ผมอีก


   ทีนี้อยากจะดูน้ำหน้าไอ้คนที่บอกว่าดูแลตัวเองได้ซิ ว่ามันจะเก่งสักแค่ไหน แล้วเห็นมั้ย สุดท้ายก็ต้องมานอนห้องผมอยู่ดี บอกแล้วแม่งเก่งไม่ตลอดหรอก


   “ผมเสียใจว่ะ เวลาพี่ไปกับคนอื่นอ่ะ แม่งเหมือนหายใจไม่ออก”


   “ใครเอาตีนอุดจมูกมึง” ผมย้อนกลับแบบมีโมโห


   “มันเหมือนพี่เอาตีนกระทืบหัวใจผมมากกว่าาาาา”


   กูก็เป็นของกูแบบนี้นี่หว่า แต่ไหงกลับรู้สึกว่าตัวเองผิด ทำไมกลับรู้สึกว่าผมทำอะไรบางอย่างที่ไม่ควรแก่การให้อภัยเอาเสียเลย


   “…”


   “พี่ไม่ชอบผมไม่เป็นไร แต่พี่อย่าเรื่อยเปื่อยไปทั่วซิ ผมไม่ไหวว่ะ”


   เสียงของไอ้กันต์มันชวนให้หดหู่แปลกๆ ว่ะ มึงอย่าดรามาให้กูรู้สึกผิดเด่ ไม่ใช่เมียกูสักหน่อย


   “แล้วใครใช้ให้มึงมาชอบ”


   “ก็ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ไง ผมแม่งโคตรงี่เง่า”


   “รู้ตัวก็ดีมึงอ่ะ”


   “โกรธตัวเองว่ะ โกรธพี่ด้วย”


   “มาโกรธกูเรื่องไร แล้วมีสิทธิ์ไรมาโกรธกู”


   “ก็รู้ว่าไม่มีไง ถึงพี่จะไปทำอะไรกับผู้หญิงคนไหน ผมแม่งก็ไม่มีสิทธิ์ แต่ผมก็โกรธพี่อยู่ดี ทั้งโกรธทั้งน้อยใจ”


   “…”


   เมาแล้วตรงฉิบหายเลยแม่งเอ้ย!


   คือมึงตรงไป ตรงจนไม่ได้ไว้หน้าความมาดแมนของกูเล้ยยย! ปกติก็รู้นะว่ามันชอบ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เคยโจ่งแจ้งขนาดนี้


   ถึงกูจะไม่ได้อ่อนไหวอะไรง่ายๆ แต่พอเจอย้ำๆ ซ้ำๆ แบบนี้ ใจมันก็แกว่งป่ะวะ


   “ผมหึงพี่ ไม่รู้เอาความมั่นหน้าอะไรไปคิดแบบนั้นเน๊อะ”


   “…”


   “ผมอ่ะ รู้ว่าพี่เป็นคนชัดเจน แต่ผมก็ชัดเจนเหมือนกัน ผมชอบ อ๊วกกกกกกก”


   “ไอ้กันต์ ไอ้เวร!”


   “อ๊วกกกก”


   มึงแดกอะไรเข้าไปบ้างเนี่ย!


   มันปล่อยของที่คั่งค้างออกมาจนเละไปหมด สภาพของไอ้กันต์ตอนนี้ที่เลอะเทอะไปหมดเพราะเหล้ากับอาหารที่อยู่ในกระเพาะสารพัดสารพัน


   “ไอ้กันต์ สัด! พรมกู เดี๋ยวๆ รอก่อนอย่าเพิ่งปล่อย”


   ผมรีบห้ามมันแล้ววิ่งพล่านเพื่อหาถังขยะสักใบเพื่อเอามาให้ไอ้เด็กขี้เมา แต่ไม่ทันแล้วครับ ตอนนี้ทั้งพรม โซฟา แล้วก็ตัวมันไม่ต่างอะไรไปจากกองขยะเปียกที่ดูไม่จืด


   “มึงนี่แม่ง” พูดไปก็ขยี้ผมตัวเองไป “ไอ้พาย มึงมาดูเพื่อนมึงเลย หนีไปนอนแล้วทิ้งมันไว้แบบนี้เหรอ โถ่เว้ย ภาระชัดๆ” ผมตะโกนเสียงดัง แต่ไม่ว่าจะยังไง ไอ้น้องชายตัวดีก็ไม่มีทีท่าว่าจะออกมาดูศพเพื่อนรักแม้แต่น้อย


   “แหวะ” มันสำรอกออกมาอีก


   และรอให้ไอ้กันต์อ๊วกจนหมดไส้หมดพุง


   “เดี๋ยวฟื้นขึ้นมาเมื่อไร กูจะจัดให้หนักเลยมึง”


   ถึงปากผมจะพูดไป แต่ก็ไม่วายยกร่างไอ้กันต์ขึ้นมาในอ้อมแขน แม้มันจะทั้งเหม็นและมอมแมมเหมือนหมากก็เหอะ แต่ผมก็ยังเวทนาด้วยการลากมันเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งให้มันนั่งแมะอยู่กับพื้น แล้วจัดการลอกคราบมันออกไปจนหมดเหลือไว้แค่กางเกงบ๊อคเซอร์ตัวเดียวของมันจากนั้นก็เอาน้ำราดมันตั้งแต่หัวลงมา เพื่อล้างคราบต่างๆ นาๆ ที่มันทำเอาไว้


   “เฮ้ย! หนาวนะโว้ย ปล่อย”


   “มึงโว้ยกับใคร”


   “…”


   “นี่กูพระเพลิงนะ ไม่ใช่เพื่อนเล่นมึง”


   ผมผลักหัวมันแรงๆ ให้สำนึก


   “ผมหนาว”


   ปากมันสั่งหงึกหงัก แต่ทำเสียงอ่อยลง ดูเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่ากำลังพูดกับใครอยู่


   “มึงก็ลุกขึ้นมาล้างเนื้อล้างตัวดีๆ จะได้เสร็จเร็วๆ”


   “ผมลุกไม่ไหว หัวมันหนัก”


   “ก็อวดเก่งแดกเข้าไปสิ เป็นไงมึง ผิดคำพูดกูมั้ย”


   “…”


   เราสองคนมองหน้ากัน ผมที่ถือฝักบัวอยู่มองหน้าแดงระเรื่องของมัน ปากกระจับได้รูบของมันสั่นระริกจนผมอดสงสารไม่ได้ ก็ปกติผมชอบอาบน้ำเย็นเพราะอาบน้ำอุ่นมันผิวแห้ง ทีนี้ก็เลยไม่ได้ปรับอุณหภูมิให้


   “น้ำเย็นนี่ล่ะมึง จะได้สร่าง”


   “ขอน้ำอุ่น ผมหนาว”


   “ไม่ มึงดื้อ ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง เอ้าเร็วๆ เข้าลุกขึ้นจะได้เสร็จ กูจะได้นอนสักที ต้องมาวุ่นวายกับภาระอย่างมึงเนี่ย เสียเวลา”


   ผมพูดเหมือนตัดความรำคาญ แต่เอาจริงๆ ใจเป๋เหมือนกันว่ะ


   ไม่เอาๆ อย่าอ่อนไหว มันไม่แมน


   “พี่มาช่วยผมทำไม”


   เออ นั่นสิ


   ทำไม?


   “พอ! สะอาดแล้ว” ผมปิดน้ำ “เอ้า นี่ผ้า เช็ดตัวซะ กูรอข้างนอก”


   ผ่านไปครู่ใหญ่ ไอ้กันต์ก็เดินเซเล็กน้อยออกมาจากห้องน้ำด้วย อาการมันดูดีขึ้นหลังจากโดนน้ำเย็นๆ ราดหัวเข้าไป ผมเดินไปที่ตู้แล้วหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นของตัวเองออกมา แล้วโยนใส่หน้ามันก่อนที่จะเป็นฝ่ายเดินเข้าห้องน้ำบ้าง


   “มึงนอนนี่ก็ได้ ข้างนอกเละเทะเหมือนสมรภูมิรบ เพราะอ๊วกมึงนั่นล่ะ ส่วนไอ้พายเพื่อนมึงแม่งปิดห้องเงียบไปแล้ว” ผมบอกเสียงเรียบ แล้วก็เดินเลี่ยงไปอาบน้ำโดยที่มีไอ้กันต์มองมาด้วยสายตางงเหมือนหมาเอ๋อ


   “…”
   



   ผมผลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง โดยมีไอ้กันต์ที่นอนตัวแข็งเป็นก้อนหินนอนห่างออกไปไม่ถึงเมตร ผมนอนหงายลืมตามองเพดานในความมืด ไตร่ตรองเรื่องต่างๆ ที่วนเวียนเข้ามาในหัว ซึ่งเรื่องเหล่านั้นคือเรื่องของไอ้คนที่นอนอยู่ข้างๆ ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน


   วันนี้ผมพยายามที่จะใช้ชีวิตให้เหมือนเดิม ด้วยการออกไปกับสาวที่เจอกันในร้านเหล้า เธอสวย เซ็กซี เป็นผู้หญิงในอุดมคติที่ผมชอบ มีนม แล้วก็มีก้นที่น่าตีเป็นที่สุด แต่ไม่รู้ทำไมตอนที่ผมจูบกับเธออยู่นั่นใบหน้าหงอยๆ ของไอ้กันต์ก็ผุดขึ้นมาในสมอง แล้วก็พาลไม่อยากทำอะไรๆ ต่อไปเสียฉิบ


   ผมนึกถึงดวงตาที่แสนเศร้าของมันที่แอบมองผมตลอดตั้งแต่เข้าร้านมา ตั้งแต่สาวคนแรกขอเบอร์ สาวคนที่สองแลกไลน์ แล้วสาวคนสุดท้ายที่ขยับมานั่งตัก ผมเห็นตลอดว่ามันกำลังมอง ผมทำกับมันเหมือนคนใจร้าย ทั้งที่รู้ว่ามันชอบ ทั้งที่รู้ว่ามันมีใจ แต่ผมก็ยังยั่วมันด้วยการแสดงท่าทางสนใจผู้หญิงคนอื่นให้มันเห็น


   ผมรู้ว่ามันเสียใจ แล้วผมก็รู้ว่ามันเศร้า...


   ผมก็แค่ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมเองก็ไขว่เขวกับมันอยู่นิดๆ หน่อยๆ


   มันเสียฟอร์ม


   มันไม่เซลฟ์


   โว้ยยยยย!


   สับสน ไม่เอา ไม่ชอบแบบนี้


   “กันต์”


   “…”

   “ไอ้กันต์”


   “…”


   “กูรู้ว่ามึงไม่หลับ”


   “ครับ”


   “ทำไมมึงต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยวะ”


   “แบบไหนครับ”


   “ก็แบบว่า... หึง”


   “… ก็เพราะว่าผมหึง”


   “มึงกับกู ไม่ได้เป็นไรกัน จะมาหึงกูทำไม”


   “ผมขอโทษที่ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้”


   เสียงของไอ้กันต์เบาหวิว ในความมืดผมไม่รู้ว่ามันกำลังแสดงสีหน้าแบบไหน แต่เสียงมันดูเศร้าๆ


   “มึงไม่ควรชอบกู มึงไม่รู้เหรอว่ากูมีแต่แฟนที่เป็นผู้หญิง”


   “…”


   “กูไม่เคยชอบผู้ชาย”


   “…”


   “มึงได้ยินที่กูพูดไหม”


   “…”


   “ไอ้กันต์ มึงได้ยินหรือเปล่า” ผมส่งเสียงให้ดังกว่าเก่าอีกนิด แล้วก็หันไปมองมันที่กำลังหันหลังให้อยู่


   “ครับ ได้ยิน”


   เสียงไอ้กันต์สั่นเครือ


   “งั้นมึงก็ควรเลิกชอบกู”


   “…”


   “กูเป็นพี่มึงได้ แต่เป็นคนรักของมึงไม่ได้ มึงอย่าดื้อ”


   “ผมเคยลองแล้ว”


   “มึงควรมองคนอื่นที่ไม่ใช่กู กูไม่ใช่สำหรับมึงหรอก”


   ผมพูดแต่ใจมันกับหวิวๆ ไอ้คำว่าให้มันไปมองคนอื่นมันพูดออกไปได้ไม่เต็มปากสักเท่าไร ในนั้นมันยังมีคำว่าหวงมันอยู่หน่อยๆ ยิ่งตอนที่มันสนิดกับรุ่นพี่คนอื่น


   “ผมทำให้พี่รู้สึกไม่ดีเหรอ”


   “…”


   เสียงแม่งเศร้าว่ะ ผมเลยพูดไม่ออก ไม่เคยหักอกผู้ชาย เพิ่งครั้งนี้ครั้งแรกนี่ล่ะ


   “ผมขอโทษนะพี่”


   เราอยู่ภายใต้ความเงียบกันเนิ่นนาน แต่ผมกลับรู้สึกว่าความเงียบนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสงบ ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองอาจจะกำลังเสียอะไรในชีวิตที่อาจจะสำคัญมากๆ ไปก็ได้


   ผมลุกขึ้นนั่ง แล้วหันไปมองอีกคนที่หันไปทางอื่น ด้วยเซ้นท์ทำให้ผมรู้ว่าไอ้กันต์มันไม่ได้หลับ


   “มึง! ร้องไห้ทำเชี่ยไร”


   ผมโวยเสียงหลงเมื่อเห็นว่าไอ้เด็กน้อยข้างๆ น้ำตาไหลเป็นทาง ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้


   ใครตาย! เรื่องนี้ไม่มีใครตายนะมึง ร้องไห้เพื่อ


   มันหลับตา แล้วเอามือเช็ดแก้มตัวเอง ทำท่าเหมือนกำลังหลับ แต่กูบอกได้เลยว่าแม่งไม่เนียน


   “ไอ้กันต์”


   ผมจับหัวไหล่ของมันแล้วออกแรงให้หันมามองกันตรงๆ


   ผมเอื้อมมือไปเปิดไฟตรงหัวนอน แสงสลัวๆ ทำให้เราทั้งคู่ต่างจ้องมองกันได้ชัดเจนขึ้น ผมมองเห็นความเศร้าและเสียใจผ่านดวงตาของอีกฝ่าย แต่ไอ้คนดื้ออย่างไอ้กันต์ก็ไม่หลบตา


   “ผมขอพี่อย่างเดียว”


   “…”


   “ขอแค่ครั้งเดียว แล้วผมจะไปไกลๆ จากพี่  จะไปให้พ้นจากสายตาของพี่”


   “…” ผมเงียบ รอดูว่ามันจะพูดอะไร


   “จูบเดียว แล้วผมจะไม่ยุ่งกับพี่อีก ให้ผมได้มั้ย”


...

จูบเดียวเท่านั้นนนนนน
แล้วฉันจะไป!

กระซิก กระซิก

 :m15:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ๊ยย สงสารกันต์ ฮือออ
เมาแล้วพูดตามที่คิดทุกอย่าง ดีแล้วให้พระเพลิงรู้ซะบ้าง

แต่ก็พยายามเข้าใจในมุมพระเพลิงนะ
มี ผช มาชอบก็ต้องมีรู้สึกแปลกๆบ้าง แต่ไม่ทำร้ายความรู้สึกน้องได้มั้ย สงสาร
จูบแล้สอาจพบทางสว่างก็ได้นะ 55

จูบเลยๆ

ออฟไลน์ pamhicc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอ้ยยยย สงสารน้องงงงง  :o12:
พี่เพลิงก็ดีแต่ไล่น้อง เดี๋ยวจะรู้สึกนะจ้ะ รอสมน้ำหน้าอยู่

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารน้องกันต์ พี่เพลิงใจร้ายมาก

ออฟไลน์ anin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
บททดสอบที่ 7
รับมือกับความเปลี่ยนแปลง

   “จูบเดียว แล้วผมจะไม่ยุ่งกับพี่อีก ให้ผมได้มั้ย”

   ริมฝีปากของผมรอคอยการตัดสินใจของพี่เพลิงด้วยความหวังที่ริบหรี่


   คงจะเป็นอีกหนึ่งคำปฏิเสธที่จะลอยมากระแทกใส่หน้าผม


   คนอย่างพี่เพลิง ไม่มีทางที่จะทำตามคำขอของผมได้แน่   


   ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าถึงเวลาที่ต้องตัดใจ แต่คนที่มีความแน่วแน่ในความรักอย่างไอ้กันต์คนนี้ คงไม่มีปัญญาตัดใจง่ายๆ แบบปุบปับอยู่แล้ว ก็รักพี่เขามาตั้งนาน จะให้ตัดอกตัดใจชั่วค้ามคืน มันยากไปไหม ผมก็เลยจงใจพูดขอพี่เขาจูบแบบนี้ ใจก็กะว่าให้แตกหักกันไปข้างใดข้างหนึ่งเลยยิ่งดี ทุกอย่างจะได้ง่ายขึ้น


   ผมคาดหวังว่า นอกจากคำปฏิเสธแล้วพี่เพลิงอาจจะต่อยผมสักสองสามหมัด เผลอๆ อาจแถมชุดคอมโบ้เซ็ตเป็นการกระทืบผมให้จมฝ่าเท้า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทุกอย่างผมก็มีข้ออ้างในการตัดใจ


   ผมอยากให้พี่เขาใจร้ายกับผมให้มากๆ  ยิ่งมากยิ่งดี


   วันนี้ผมรู้แล้วว่าการที่เห็นพี่เขากับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะทนรับได้


   เมื่อก่อนผมอาจอดทน ทำตัวไม่รู้สึกรู้สา แต่ระยะหลังมานี้ยิ่งผมถล้ำหัวใจให้พี่เขามากเท่าไร ความอดทนของผมมันก็น้อยลงๆ ทุกที


   นับวันผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังเห็นแก่ตัว หวงของที่ไม่ใช่ของของตัวเอง ซึ่งมันดูน่าสมเพช


   การรอคอยเพียงไม่กี่วินาทีแต่มันช่างดูแสนจะเนิ่นนาน


   พี่เพลิงไม่แสดงสีหน้าว่าโกรธ แต่พี่เขากลับแสดงสีหน้าคล้ายกำลังตัดสินใจ ซึ่งการตัดสินใจของพี่เขาผมไม่อาจเดาได้ว่าผลมันจะเป็นแบบไหน


   ในที่สุด!




   สิ่งที่ผมรอคอยก็เกิดขึ้น แต่มันต่างจากที่คิดตรงที่ว่าพี่เพลิงไม่ได้ต่อยผมคว่ำ กลายเป็นว่าพี่เขาประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับผมอย่างที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน



   ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ผมตั้งตัวไม่ติด


   สิ่งที่ผมกำลังรู้สึกว่ามันไม่ใช่รสจูบแบบที่เป็นความอ่อนหวาน แต่มันคือรสจูบที่มีแต่ความลังเลไม่แน่ใจ ปากของเรามันเป็นแค่การสัมผัสกันอย่างผิวเผิน ไม่มีความแนบชิด ไม่มีความลึกซึ้ง และมันให้ความรู้สึกได้ถึงความเหินห่าง


   ลมหายใจของพี่เพลิงมีกลิ่นมินต์ กลิ่นนั้นอลอวลในสติอันเหลือน้อยของผม และรอยจูบบางเบานั้นก็กำลังทำให้ผมน้ำตาไหล


   จบแล้ว...


   ระหว่างผมกับพี่เพลิงควรจบได้แล้ว


   ผมสัญญากับเขาไว้แล้วว่าจูบเดียว


   และผมในฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่ง ควรรักษาสัญญา










   แต่....

   มันจะง่ายกว่านี้มาก ถ้าทุกอย่างจบแค่เพียงหนึ่งรอยจูบ


   ใช่ครับ...


   มันไม่ใช่แค่หนึ่งรอยจูบ


   ผมที่พยายามฝืนให้ตัวเองผละออกจากริมฝีปากที่สัมผัสอย่างแผ่วเบาตรงหน้าเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกอะไรไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนเจ้าของริมฝีปากอีกคนกลับรั้งรอและไม่ยอมให้ปากของเราผละออกจากกันโดยง่าย


   ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขารั้งต้นคอผมไว้ และกดริมฝีปากของเราให้แนบชิดกันกว่าเก่า ลิ้นร้อนๆ ของเขาวาดไล้ริมฝีปากล่างของผมอย่างจงใจ ซึ่งทำให้ผมที่ไม่เคยคาดฝันความแนบชิดอย่างนี้ถึงกับสะดุ้ง


   มือหนาของพี่เพลิงขยับมาต้นคอ กระชับให้ผมขยับเข้ามาอีก และครั้งนี้พี่เพลิงก็รุกผมอย่างเปิดเผย เราทั้งคู่แลกเปลี่ยนลมหายใจกัน ผมปล่อยให้พี่เขานำทาง พี่เพลิงขยับตัวจนกระทั่งตอนนี้ผมตกอยู่ใต้วงแขนของพี่เขาอย่างไม่มีทางดิ้นหลุด

   
   เราไม่ได้พูดกันเราทำแค่เพียงสัมผัส และรับรู้ความรู้สึกของกันและกัน


   เสื้อผ้าของเราทั้งคู่ถูกสลัดออกอย่างเชื่องช้า ไม่รีบร้อน เราทำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป เราแตะต้องกันในทุกส่วนของร่างกาย ไม่มีพื้นที่ไหนที่เป็นความลับระหว่างเราทั้งคู่


   ไม่มี...


   “อึก... อะ”


   ผมส่งเสียงโอดครวญเมื่อพี่เพลิงรุกล้ำนิ้วมือเรียวยาวที่อบอุ่นเพื่อหยั่งเชิงเรือนร่างที่ไม่เคยถูกกร่ำกรายมาก่อน ผมขยับร่างหนีพี่เขาเล็กน้อยด้วยเพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยจริงๆ ดวงตาปิดสนิทรับรู้เพียงสิ่งที่พี่เขากำลังกระทำ


   “อย่าเกร็ง” เสียงพี่เขาแหบพร่า ให้ความรู้สึกเซ็กซีและน่าฟัง


   “ครับ... อะ”


   ถึงจะพยายามให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย แต่ผมก็มองว่ามันเป็นเรื่องยากอยู่ดี


   “กันต์ มองพี่” พี่เพลิงลูบผมที่กระเซอะกระเซิงของผม แล้วลูบไล้ผ่านลงมาที่แก้ม ความรู้สึกนั้นช่างอ่อนโยน แล้วก็ให้ความรู้สึกที่ดีจริงๆ


   “อึก...”


   ผมกัดริมฝีปาก กลั้นเสียงที่เอ่อท้นไปด้วยความรู้สึกปั่นป่วนที่กำลังเล่นงานเรือนร่างและจิตใจของผมอยู่ เผลอมองพี่เขาด้วยความรู้สึกประหม่า ในแววตาคงเจือความกังวลอยู่มากแน่ๆ


   “กลัว? ไม่ต้องกลัว”


   เมื่อมองเข้าไปในดวงตาคู่คมแสนสวยก็พบความห่วงใยปรากฏชัดอยู่ในนั้น ผมเริ่มรู้สึกว่าน้ำตาของผมเอ่อล้นอย่างควบคุมไม่ได้


   มันไม่ใช่ความกลัว สิ่งที่รับรู้ในตอนนี้ผมขอเรียกมันว่าความเจ็บปวด...


   ความเจ็บปวดที่ไม่ใช่ทางด้านร่างกาย หากมันคือความเจ็บปวดทางใจ...


   เจ็บปวดที่สายตาแบบนี้ครั้งหนึ่งพี่เพลิงเคยมอบมันให้ แล้วผมก็คงไม่มีวันได้เห็นมันอีก


   ผมกอดพี่เขาแน่น ซึมซับความรู้สึกร้อนระอุที่แสนจะปลุกเร้านั้นไว้ เมื่อพี่เพลิงเปลี่ยนมาสัมผัสแก่นกายที่แสนจะเร่าร้อนของผมแทน พี่เขาลูบไล้อย่างแผ่วเบาในทีแรก เพียงครู่จึงเริ่มเร่งจังหวะขึ้นจนผมกระสับกระส่าย เมื่อหนักเข้าผมจึงตะปบมือของพี่เขาไว้อย่างห้ามปราม สิ่งที่พี่เขาทำอยู่กำลังทั้งเป็นความสุข และความทุกข์ทรมานพร้อมๆ กัน


   “พี่ช่วย”


   พี่เพลิงประทับจูบลงที่ริมฝีปากผมหนักๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะใช้มืออีกข้าง คลายมือของผมที่รั้งแขนพี่เขาไว้ออก เราต้องตากัน ผมเลยได้เห็นดวงตาที่มุ่งมั่นและอยู่ในห่วงแห่งความต้องการไม่ต่างกันเลย


   “ให้พี่ช่วยนะ” พี่เขากระซิบอ้อยอิ่งที่ข้างหู แล้วซุกไซ้ตรงซอกคอกัดเม้มแรงๆ ทีหนึ่งจนผมสะดุ้งด้วยความเสียวซ่าน


   สิ้นคำพูดพี่เพลิงก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพี่เขาช่วยผมได้จริงอย่างที่ปากว่า อาการทุลนทุลายโหยหาการปลดปล่อยสิ้นสุดลง พร้อมด้วยไคล์แม็กส์ที่สุดแสนจะหอมหวาน


   ผมครางเสียงแห้ง


   วินาทีที่ความร้อนระอุของอีกฝ่ายรุกล้ำเข้าสู่เรือนร่างที่พรักพร้อมของผม เสียงเขาเราทั้งคู่ต่างเปล่งเสียงแห่งความแปลบปร่าอย่างอยากจะบรรยาย


   ไร้การต่อต้าน ไร้การขัดขืน มีเพียงความยินยอมพร้อมใจ


   เราทั้งคู่ต่างใช้เวลาที่มีร่วมกัน ปลุกเร้ากันจนไม่มีช่องว่างให้ลังเลอีกแล้ว


   “อึก อะ พี่เพลิง” ผมรู้ตัวว่ากำลังครางไม่เป็นสรรพ แต่ผมก็เต็มอกเต็มใจที่จะรองทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่เพลิงกำลังจะมอบให้


   “เด็กแสบ!” พี่เพลิงกระซิบเสียงเข้ม


   พี่เพลิงกัดฟันกรอดเหมือนกำลังอดทนอะไรสักอย่าง พร้อมกันก็ขยับร่างอันใหญ่โตของตัวเองสู่เรือนร่างผมอย่างเชื่องช้า อดทน จนในที่สุดผมก็รองรับพี่เขาไว้ได้ทั้งหมด


   พี่เขาขยับตัวเชื่องช้า ช้ามาก


   แต่ในความเชื่องช้ากลับเต็มไปด้วยความหนักแน่น ตั้งอกตั้งใจจนผมสั่นสะท้าน


   “อืม” ผมส่งเสียงโต้กลับอย่างแผ่วเบา แต่ไม่คิดว่าเสียงที่ผมเปล่งออกไปมันกลับทำให้พี่เขาดูจะสิ้นสุดความอดทน


   “ยั่วจังวะ พี่ไม่ใจดีหรอกนะ”


   “…”


   ผมปรือตามองพี่เขาทั้งที่ยังหอบหายใจถี่ๆ อากาศเหมือนไม่พอหายใจ


   “โธ่! ว่าจะไม่ทำแรงแล้วนะเนี่ย แต่ถ้าทำท่าทางแบบนี้ พี่ก็จะไม่ใจดีด้วยหรอกโว้ย!”


   “อึก พี่เพลิง”


   ผมเปล่งเสียงได้แค่นั้น เพราะหลังจากนั้นพี่เพลิงก็ประกบลงมาลิ้มชิ้มรสที่ปากผมอีกครั้ง และครั้งนี้พี่เพลิงไม่ได้ใจดีอีกจริงๆ ด้วย พี่เขาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดตักตวงความต้องการจากผมจนผมรองรับร่างสูงแกร่งของพี่เขาไม่ไหว


   แต่ถึงอย่างนั้นภายใต้ความหื่นที่พี่เขาแสดงออก ผมกลับรับรู้ได้ว่าพี่เขาไม่ได้หยาบคายกับครั้งแรกของผมเลย เพราะหลังจากที่พี่เขาออกแรงจนร่างผมสะบักสบอมนั้น เขาก็จัดการดูแลผมอย่างดีจนผมรู้สึกว่าผมแม่งโครตจะโชคดีที่มีเขาเป็นคนแรกของตัวเอง


   แต่ถึงจะโชคดียังไง ทุกอย่างก็ต้องกลายเป็นอดีต

   งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา


   เหมือนกับผมในตอนนี้ เวลาของผมคงหมดแล้ว...


   ผมควรเลิกเป็นตัวน่ารำคาญของพี่เขาได้แล้ว





....

เอาไปพอหอมปากหอมคอนะคะ
เลิฟซีนเบาๆ พอน่ารัก คริคริ

ฝากเม้นท์ ฝากให้กำลังใจทั้ง ไอ้กันต์ของเฮียเพลิงนะคะ
เดี๋ยวมาต่อให้

ทีนี้ว่าจะจัดพี่เพลิงหนักๆ สักหน่อย
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

จ๊วบบบบบบ!
จุ๊บแรงๆ

 :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด