*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 634397 ครั้ง)

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
หมอเพลิงเล่าให้คุณแม่ฟังไปเถอะค่ะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สารภาพไปเลยคุณหมอ จะได้ถือโอกาสขออนุญาตคุณแม่ดูแลลูกชายเค้าไปด้วยเลย

ออฟไลน์ bxx_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แมนไม่เครียดน๊าาา

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
บอกไปเลยแม่เปิดทางขนาดนั้น รออ่านต่อค้าบ

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เอาไงดี? :mew2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
แมนเอ๊ยยยยยยยย  ฮอร์โมนสวิงเหรอลูก

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
โอ๊ยยยย จะบอกหรือไม่บอกนะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ใจจะขาดแล้วเอย~ :hao5:

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โอยยยยย :serius2: :mew4: :ling1: :hao7: :-[ :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่ 25

They say nothing lasts forever,
We’re only here today.



 

 

 

 

 

 

 

            “เป็นไงบ้างลูก เมื่อคืนนอนหลับดีมั้ย  ทำไมตาบวมๆ” มารดาเงยหน้าขึ้นถามเมื่อเมืองแมนเดินลงบันไดมา  ลูกชายหลบตา เสมองอาหารเช้าบนโต๊ะแทน

            “ดีครับ  ไม่ได้กลับบ้านเสียนานเลยนอนเพลินไปหน่อย”  เมืองแมนนั่งประจำที่  ถามขึ้นลอยๆคล้ายไม่สนใจ  “คนอื่นล่ะครับ เจ้าเมย์ทานแล้วเหรอ”

            “เมย์รีบไปมหาลัยน่ะ  เห็นว่ามีงานที่คณะ”  แม่ของเขาตอบ  ส่งจานบรรจุแซนวิชน่ากินมาให้

            “อ้อ..”  เมืองแมนพยักหน้า  อ้ำอึ้งไปเล็กน้อย  พอเห็นเเม่ไม่พูดต่อก็เม้มปาก

            คุณจุไรเหลือบมองหน้าลูกชายเเล้วกลั้นหัวเราะอยู่ในใจ  เจ้าลูกคนนี้ยังดื้อไม่มีเปลี่ยน  เธอวางหน้าเฉยไม่ขยายความเพิ่ม  อยากรู้เหมือนกันว่าลูกชายจะทำอย่างไร

            “เกือบเจ็ดโมงแล้ว”  เมืองแมนกินเสร็จก็พูดลอยๆ  พอเห็นแม่ไม่พูดเข้าจริงๆ ก็จำต้องถามออกมา  “แล้วเพลิงกัลป์ล่ะครับ  ผมไม่เห็นตั้งเเต่เช้า”

            “เพลิงไปส่งเจ้าเมย์ที่หน้าปากซอยน่ะ”  แม่ตอบเสียงเรียบ แต่เมืองแมนอดรู้สึกไม่ได้ว่ามีรอยยิ้มขำแฝงอยู่ในสีหน้าของมารดา “โกรธอะไรกันเหรอ  เมื่อคืนเเม่เห็นเขามาเดินอยู่ข้างล่างตั้งนาน”

            “ไม่มีอะไรหรอกครับ”  ลูกชายอ้อมแอ้ม  หลบตาคนถาม

            “แล้วไป  มากันแค่สองคน  มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจานะลูก  อย่าใช้แต่อารมณ์” เธอพูดเนิบๆ  แล้วเปลียนเรื่องอย่างนุ่มนวล  “เสียงรถมาเเล้ว  เพลิงน่าจะมาแล้วล่ะ”

            “เขา…กินอะไรหรือยังครับ”  เมืองแมนถามเร็วปรื๋อ

            “ออกไปส่งเมย์ตั้งเเต่เช้า  น่าจะยังไม่ทันได้กินอะไรนะ”  คุณจุไรพูด  แล้วหยิบกล่องใสส่งมาให้อย่างรู้ใจ  เธอไม่ได้อยู่รอดูให้ลูกชายทำตัวไม่ถูกไปมากกว่าเดิม  แต่กลับลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว

            “ผมไปก่อนนะครับเเม่”  เสียงลูกชายดังขึ้นแว่วๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงรถถอยออกไปจากบ้าน

            คุณจุไรถอนหายใจยาว  เดินกลับออกมาจากห้องครัว  แซนวิชในจานหายไปเกือบครึ่ง  คงเป็นฝีมือของลูกชายหยิบไปฝากคนขับรถล่ะมั้ง

            จัดการอาหารเช้าจนเสร็จเรียบร้อยเเล้ว คุณจุไรก็จัดการเก็บกวาดบ้านเหมือนทุกวัน  ระหว่างนั้นก็อดนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มรุ่นลูกเมื่อคืนไม่ได้

            กรอบรูปเรียงรายอยู่บนหลังตู้  เด็กน้อยเมื่อยี่สิบปีก่อนส่งยิ้มร่ามาให้เธอ  ข้างๆกันนั้นเป็นรูปสามีกำลังอุ้มลูกชายคนแรกเอาไว้ในอ้อมแขน  อีกมือก็โอบไหล่ของเธอเอาไว้

            “ถ้าคุณยังอยู่  จะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้นะคะ  ฉันอดกลุ้มใจไม่ได้”

            ไม่มีคำตอบจากรอยยิ้มของคนในรูปภาพ

            ....................................................................................

 

            “เย็นนี้จะไปกินข้าวกับเพื่อน  ไม่ต้องรอ”  เมืองแมนพูดลอยๆ หลังจากขึ้นมานั่งเงียบอยู่บนรถมาตลอดทาง ลอบมองใบหน้าคมเข้มของคนขับก็เห็นอีกฝ่ายวางหน้าเรียบเฉย  ไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่มเติมเหมือนที่เคย   “น่าจะเลิกประมาณสองทุ่ม”  เขาขยายความอย่างไม่ตั้งใจ

            “อืม”  เสียงห้าวๆรับคำราวกับเสียไม่ได้  เลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าตึกคณะแพทยศาสตร์

            “อาจจะเลิกเร็วกว่านั้น  ไว้จะโทรหาก็เเล้วกัน”  เมืองแมนพูดต่อ  ครั้นเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทางสนใจก็เม้มปาก  กระแทกกล่องพลาสติกบรรจุอาหารที่วางไว้บนตักมาตลอดทิ้งเอาไว้ตรงคอนโซลรถก่อนจะเปิดประตูลงไป

            เพลิงกัลป์มองตามหลังร่างโปร่งบางที่เดินดุ่มๆตรงไปทางอาคาร  เพื่อนสองสามคนเข้ามาสบทบทักทายกับเมืองแมน  ทำให้ใบหน้ารูปหัวใจจ๋อยๆบึ้งๆนั้นค่อยยิ้มออก

            เพลิงกัลป์ถอนหายใจ  วนรถหาที่จอดอยู่พักใหญ่  วันนี้มีบรรดาญาติพี่น้องเพื่อนของบัณฑิตแพทย์มาให้กำลังใจกันไม่น้อย บ้างก็หอบช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี  บ้างก็สะพายกล้องพะรุงพะรัง

            ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋ากล้องมาสะพายเอาไว้บ้าง  เกือบจะลงจากรถแล้วถ้าท้องไม่ร้องประท้วงเสียก่อน  เหลือบมองกล่องบรรจุอาหารที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้ หึ... อยากจะแสร้งงอนต่ออยู่เหมือนกันหรอกนะแต่ว่า…

            พริบตาเดียวแซนวิชในกล่องก็หมดเกลี้ยง  เพลิงกัลป์เปิดประตูลงมาจากรถได้ก็เดินตรงไปทางอาคารที่เห็นเหล่าบัณฑิตไปรวมตัวกัน  กวาดตามองหาครู่เดียวก็เจอร่างโปร่งบางของเมืองแมนโดดเด่นออกมาจากกลุ่มคนที่พลุกพล่าน  เจ้าตัวอยู่ในชุดครุยตัวยาวเรียบร้อยแล้ว  ความโคร่งใหญ่ช่วยอำพรางหน้าท้องของฝ่ายนั้นได้ดีทีเดียว

            ผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆเมืองแมนทำท่าพยักพเยิดมาทางเขา  เพลิงกัลป์จำอีกฝ่ายได้ทันทีว่าชื่อเจมส์  เพื่อนสนิทที่เคยไปเยี่ยมแมนถึงโรงพยาบาลคนนั้น  เขาเห็นเมืองแมนมองมาทางเขาแวบเดียวแล้วก็หันกลับไป  ศีรษะทุยส่ายไปมาคล้ายกำลังปฏิเสธอะไรสักอย่างกับเพื่อนๆ

            จากนั้นเหล่าบัณฑิตก็ทยอยเข้าไปในหอประชุม  เพลิงกัลป์มองหาที่นั่งรอทว่าเมืองแมนกลับเดินย้อนมาหาเขาเสียก่อน

            “กลับไปก่อนเลย  ไม่ต้องรอ  มันหลายชั่วโมง”  เมืองแมนพูด  ไม่สบตาเขา

            “ไม่ได้มีธุระที่ไหน”  เขาตอบกลับไป  รักษาน้ำเสียงให้เรียบเฉย

            “กูจะไปกับเพื่อน ไม่ต้องรอหรอก”

            “หมายถึงพวกเจมส์อะไรนั่นใช่มั้ย”

            “ใช่”  เมืองแมนอึกอักราวกับจะพูดอะไรต่อ  แต่ก็ไม่พูด

            “ก็ได้  ถ้าไม่สบายใจล่ะก็  กูจะกลับก่อน  ขากลับจะให้ไปรับที่ไหนก็บอกแล้วกัน”  เพลิงกัลป์มั่นใจว่าอีกฝ่ายสามารถจับน้ำเสียงหมางเมินที่เขาใส่ลงไปอย่างจงใจได้อย่างเเน่นอน  ใบหน้าอ่อนใสซีดลงนิดหนึ่ง  เหลือบมองเขาสลับกับมองปลายเท้าตัวเอง

            “งั้น…ก็ตามนั้น”  บัณฑิตพึมพำ  หมุนตัวเดินตามหลังเพื่อนเข้าไปในหอประชุม

            คล้อยหลังได้ไม่กี่ก้าว  เมืองแมนก็หันกลับไปมองคนตัวสูงนั้นอีกครั้ง  เห็นอีกฝ่ายกำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง  ท่าทางคงจะเป็นญาติหรือเพื่อนของบัณฑิตที่มาร่วมงาน  ใบหน้าคมมีรอยยิ้มเเต้มอยู่ราวกับเป็นคนละคนกับที่คุยกับเขาอยู่เมื่อครู่นี้

            “สรุปรูมเมทมึงไปด้วยหรือเปล่า”  เจมส์เอียงหน้าเข้ามาถามหลังจากเข้ามาในหอประชุมแล้ว

            “ไม่หรอก”

            “ว้า  เสียดายจัง”  เพื่อนสนิทของเขาทำท่าเสียดายจริงจัง  “อยากทำความรู้จักให้มากกว่านี้เสียหน่อย”

            “ทำไมต้องอยากรู้จักคนพรรค์นั้นด้วย”

            “ก็มันเป็นเพื่อนมึงไม่ใช่หรอ กูก็ต้องอยากรู้จักเพื่อนของเพื่อนเป็นธรรมดา”  เจมส์พูด แล้วก็ยกมือขึ้นยอมแพ้เมื่อเขาขมวดคิ้วใส่  “ก็ได้ๆ  ไม่มีอะไรหรอก  แค่.. มีสาวๆเพื่อนเราเขาสนใจเพื่อนมึงอยู่น่ะ  เลยอยากให้มาทำความรู้จักกัน”

            “มันไม่ว่าง”  เมืองแมนตอบ

            “งั้นขอแค่เบอร์โทรเอาไว้ก็ได้  ไลน์ก็ยังดี”

            “ไว้ไปขอมันเองแล้วกัน”  หางเสียงของเมืองแมนสะบัดอย่างไม่ตั้งใจ

            “ทำไมมึงต้องใส่อารมณ์ด้วยวะแมน  เรื่องแค่นี้เอง”   เจมส์หรี่ตาลง  “มึงหวงเพื่อนหรอครับ”

            “กูไม่ได้หวง  ไม่มีความจำเป็นอะไรที่กูจะต้องหวงมัน”  เมืองแมนพูดเสียงเข้ม  “จะทำอะไรก็ทำ”

            ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆดังมาจากอีกฝ่าย  เมืองแมนยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

            กว่าจะกลับออกมาจากห้องประชุมก็เกือบบ่ายสามโมง  เมืองแมนกวาดตามองบรรดาญาติๆที่ยืนรอกันอยู่ข้างล่าง …ไม่มีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนรออยู่ด้วย

            ใจวูบลงอย่างไม่มีเหตุผล  เมืองแมนเม้มปาก  ยกมือขึ้นกระพือชายเสื้อครุยเรียกลม           

            … พอบอกให้กลับก็กลับจริงๆ  ไม่ได้เป็นห่วงกันเลยใช่มั้ย  หรือว่าไปกับสาวคนไหนแล้ว…

            หรือจะยังโกรธเรื่องเมื่อคืน…ไม่หรอกมั้ง

            “ไปกันไอ้แมน  ร้านเดิม  ไอ้ป๊อกจองโต๊ะเอาไว้แล้ว”  เจมส์เดินมาเกาะไหล่   “มึงไปรถกูมั้ย”

            “อืม”

            “เป็นอะไรไป  หรือว่าไม่สบาย”

            เมืองแมนสั่นศีรษะ   เดินตามหลังเพื่อนสนิทไปที่รถยนต์  อาหารเย็นมื้อนั้นผ่านไปแบบไม่ค่อยรู้รสเท่าไหร่  เมืองแมนอยากจะโทษว่าเป็นเพราะความเหนื่อยเพลียจากการซ้อมรับปริญญามาทั้งวันมากกว่าเป็นเพราะเพลิงกัลป์ไม่ยอมอ่านไลน์ของเขาเสียที

            “ไอ้แมนไปร้องเพลงบ้างสิ  วันนี้มึงยังไม่ได้ร้องสักเพลงเลย เหล้าก็ไม่แตะ”  เพื่อนๆเริ่มส่งเสียงเชียร์

            “กูเจ็บคอ”  แมนอ้าง

            “ไม่เชื่อ”  เพื่อนยัดเยียดไมค์มาให้เขาถือเอาไว้  เมืองแมนรับมาอย่างเสียไม่ได้  กดเลือกเพลงส่งๆมาหนึ่งเพลง  ได้เป็นเพลงสนุกๆที่กำลังฮิต

            “พอๆ  ไอ้แมนปั้นข้าวเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากเลย  กูเห็นแล้วกินข้าวไม่ลง”  เพื่อนโบกมือ

            “กูบอกแล้วว่าอย่าไปบังคับมัน”  ป๊อกพูดยิ้มๆ  เหลือบมองดูเวลา  “ครบสองชั่วโมงแล้วมึง  กลับบ้านกันเถอะ  พรุ่งนี้มีซ้อมอีกนะเว้ย”

            เมืองแมนเดินตามหลังเพื่อนๆออกมาจากห้องอาหาร  บ้างก็ชวนกันไปเที่ยวต่อที่อื่น เพื่อนส่วนใหญ่มีรถส่วนตัวกันทั้งนั้น เจมส์หันมามองเขาแทนคำถาม

            “มึงกลับก่อนเลย”  เมืองแมนพูด

            “นัดไอ้เพลิงเอาไว้กี่โมง”

            “สองทุ่ม”

            “อ้าว… อีกตั้งครึ่งชั่วโมง”  เจมส์พึมพำ  “มึงโทรไปบอกเพลิงให้มาก่อนเวลาสิ

            “ไม่เป็นไรหรอก”  เมืองแมนส่ายหน้า

            “งั้นกูจะนั่งเป็นเพื่อน” เจมส์เปิดประตูรถของตนเองแล้วกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปนั่งด้วย  “นั่งรอในรถนี่เเหละ  ข้างนอกยุงเยอะ”

            “แล้วตกลงเรื่องมึงกับน้ำเป็นอย่างไรบ้าง”  เมืองแมนถามขึ้นเบาๆ  เจมส์เงียบไปครู่จนคนถามรู้สึกเสียใจที่ถามละลาบละล้วง

            “ก็เหมือนเดิม  ไม่มีอะไร”

            “มึงทำใจได้แล้ว?”

            “ถ้ามันทำได้ง่ายๆก็ดีนะสิ”  เจมส์ถอนหายใจแผ่วเบา  “กลับไปคราวนี้เค้าอาจจะประกาศหมั้นกันก็ได้มั้ง   เลิกพูดเรื่องของกูเถอะ  เรื่องของมึงล่ะแมน  ว่าจะถามตั้งแต่ไปคราวที่แล้ว  …เพลิงกัลป์กับมึงเป็นอะไรกันแน่  อย่าบอกว่าเพื่อน  เพราะกูไม่เชื่อ”

            “มึงจะบ้าเหรอเจมส์”  เมืองแมนฝืนหัวเราะ

            “กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีแมน  คิดว่ากูดูไม่ออกเหรอ” เจมส์พูดแกมหัวเราะ  “มึงอ่ะ  อาการหนักแล้ว”

            “กูเนี่ยนะ”  เมืองแมนชี้ที่ตัวเอง  “ตลกน่า”  เสียงหัวเราะของเขาฟังดูฝืดเฝื่อนชอบกล

            “กูเคยมีความรักมาก่อน   มองปราดเดียวกูก็รู้   ถ้าเพลิงกัลป์ไม่ได้สำคัญกับมึงจริง  มึงไม่นั่งมองนาฬิกาสลับกับมองถนนทุกสองนาทีแบบนี้หรอก”

            เมืองแมนหน้าแดง

            “กูแค่จะรีบกลับบ้านเฉยๆ  เหนื่อยจะตาย”  เขาแก้ตัว

            “กูคงจะเชื่ออยู่หรอก ถ้ามึงไม่ได้นั่งมองนาฬิกาตั้งแต่บ่ายสามอ่ะนะ”  เพื่อนหันมาหรี่ตามองเขาอย่างจับสังเกต

            “ไม่มีอะไรจริงๆ”  เมืองแมนยืนยัน

            “มึงจะหลอกใครก็ได้ แต่หลอกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกแมน  เวลาไม่เคยคอยใครนะเว้ย  ชีวิตคนเราสั้นนิดเดียวมึงก็รู้  จะทำอะไรก็รีบทำ  คนอย่างนั้นเท่าที่ดูกูว่าเขาก็คงเป็นคนจริงคนหนึ่ง   ไม่งั้นคงไม่ตามมึงลงมาถึงนี่หรอก  คนอย่างมันน่าจะมีใครต่อใครล้อมรอบเยอะแยะ  อย่าเสียเวลาเลยแมน   อย่ากลัวที่จะรักใคร  เพราะถึงสุดท้ายต่อให้ไม่สมหวัง  แต่ความสุขความทรงจำที่ได้มาระหว่างนั้นมันคุ้มกับความเจ็บปวดมากนัก”

            เมืองแมนนั่งเงียบ

            “แบบกู...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้  กูก็จะรักน้ำจีบน้ำอยู่ดี”

            รถยนต์คันหนึ่งเลี้้ยวเข้ามาภายในที่จอดรถของร้านอาหารตรงเวลาเผง  เมืองแมนขยับตัว  หันไปมองเพื่อนนิดหนึ่งแทนคำลาแล้วก็เปิดประตูลงไปจากรถ  เจมส์มองตาม  เห็นเพื่อนเปิดประตูขึ้นไปนั่งเคียงข้างคนขับ

            “ไอ้แมนเอ๊ย..พอเขามาก็ตาเป็นประกายเลย  ลองส่องกระจกดูหน้าตัวเองบ้างก็คงจะรู้เอง”

            เมืองแมนไม่ได้ส่งกระจก เพราะตอนนี้เขากำลังนั่งแอบมองใบหน้าของคนขับรถเป็นระยะ

            “.....................”  หางคิ้วคมเข้มเลิกขึ้นน้อยๆแทนคำถาม  เมืองแมนรีบดึงสายตากลับมาโดยเร็ว

            “คุณแม่กับเมย์ทานข้าวแล้วหรือยัง”  เขาถามลอยๆ

            “ทานกันไปหมดแล้ว”  อีกฝ่ายตอบกลับมา

            “แล้ว…เข้านอนกันหมดแล้วเหรอ”  เมืองแมนถามขึ้นอีก

            “กลับไปถึงก็รู้เอง”  เพลิงกัลป์ยังคงรักษาการถามคำตอบคำด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไปจนถึงบ้าน  เมืองแมนมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าไปในบ้านทันทีโดยไม่หันมาสนใจกันอีกครั้งนั้น  ขอบตาชักจะร้อนๆจนไม่อยากจะเข้าไปในบ้านเพื่อเผชิญหน้ากับใครตอนนี้

            ชายหนุ่มเดินไปหยุดในสวนหลังบ้าน  นั่งอยู่ครู่เดียวก็ทนยุงกัดไม่ไหว  เลยต้องย้ายกลับเข้ามาในบ้าน  ทุกคนขึ้นห้องนอนกันหมดแล้ว  แม้แต่มารดาก็ไม่ได้อยู่รอเขา

เมืองแมนเปิดประตูเข้าไปในห้องของตน เจอร่างสูงใหญ่นอนตะแคงหันหลังให้อยู่ ท่าทางคล้ายหลับสนิทไปแล้ว ทั้งๆที่น่าจะเพิ่งเข้ามาในห้องได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง

“หลับแล้วเหรอ” เมืองแมนพูดกับแผ่นหลังนั้น ไม่มีเสียงตอบกลับมา

เมืองแมนเม้มปาก  ขยับเข้าไปใกล้เตียงมากขึ้นอีกนิด

“เมื่อเย็นกินอะไรกัน”

ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ...

“กูรู้นะว่ามึงยังไม่นอน ทุกทีถ้ามึงหลับสนิทจะต้องหายใจดังกว่านี้” เมืองแมนพูด ยกมือขึ้นกอดอก “ลุกขึ้นมานั่งคุยกันดีๆได้มั้ย เพลิงกัลป์”

เสียงของเขาอ่อนลงนิดหนึ่งแต่คนหลับก็ยังไม่ยอมขยับ  ดูท่าคราวนี้อีกฝ่ายอาจจะโกรธเขาเข้าจริงๆก็เป็นได้

ใครใช้ให้เมื่อวานหน้าเป็นนักล่ะ ...ทำยังไงดี ...

“โอ๊ย”

จู่ๆคนท้องก็ร้องอุทานออกมาเสียงดังลั่นจนคนแกล้งหลับลืมตาโพลง ลุกขึ้นมานั่งด้วยความตกใจ

“เป็นอะไรไป” เพลิงกัลป์จ้องมองอีกฝ่ายที่ตัวงอลง สีหน้าเหยเกราวกับกำลังเจ็บปวดเต็มประดา

“ไม่รู้ ปวดท้องจัง”

“เดี๋ยวกูเรียกรถพยาบาลก่อน”  เพลิงกัลป์กระโจนลงจากเตียง ทว่ามือเล็กคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน

“ไม่ต้อง เริ่มดีขึ้นแล้ว” เมืองแมนพูดเร็วปรื๋อ “สงสัยลูกดิ้นแรงไป”

เพลิงกัลป์คงเชื่อถ้าไม่เห็นแววตาเจ้าเล่ห์แกมพออกพอใจตัวเองของเจ้าตัว ท่าทางเมืองแมนดีใจมากที่ทำให้เขาลุกจากเตียงได้สำเร็จ

“เนี่ย...ดูสิ ดิ้นใหญ่เลย” คนพูดคว้ามือเขาไปวางบนหน้าท้องกลมนูนของตัวเอง แถมยังขยับเข้ามาจนเกือบชิด “ลูกดิ้นอ่ะ สงสัยจะหิว”

ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวยังช้อนตากลมๆขึ้นมองเขาอีกด้วย แววตาอ่อนเชื่อมแบบนั้นทำเอาคนมองใจสั่น จากที่ตั้งใจว่าจะ 'งอน' ต่ออีกหน่อยเป็นอันต้องล้มเลิก

“อยากกินอะไร” ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่วายตวัดเสียงนิดๆพอให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาไม่ได้เต็มใจนัก

ใบหน้ารูปหัวใจม่อยลงเล็กน้อย ปลายนิ้วเอื้อมมาจิ้มที่ท่อนแขนล่ำสันเบาๆ

“อะไรก็ได้….มาม่าก็ดี” ตอบอ้อมแอ้ม “เมื่อเย็นกินน้อย ลูกคงไม่อิ่มแน่ๆ”

“ลูกหรือแม่ เอาดีๆ” เพลิงกัลป์พูดแกมหัวเราะ เสียงอ่อนลงจนอีกคนใจชื้น ความกังวลที่แฝงอยู่ตั้งแต่เช้าค่อยคลายลงไปมาก

“ทั้งคู่”

“หิวก็ลงไปทำกินซิ”

“.............”  เมืองแมนย่นจมูก

เพลิงกัลป์เอื้อมมือไปดึงจมูกรั้นๆนั้นเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว เห็นใบหน้าอ่อนใสเริ่มแดงจัดก็ยิ่งเอ็นดู อดใจไม่ไหวก้มลงไปหอมแก้มข้างขวาแรงๆ

คนถูกหอมตาโต แต่ก็ไม่ได้ถอยออกเหมือนทุกที เมืองแมนเพียงแต่หันหน้าหนีเท่านั้น

“ลงไปข้างล่างกัน” เพลิงกัลป์กระซิบ

ลงมาจัดการต้มมาม่าให้คนบงการที่นั่งเท้าคางมองเขาตาแป๋วอยู่ที่โต๊ะ ความจริงเพลิงกัลป์ก็ไม่นึกเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะมาไม้นี้

....ไม่ชินเอาเสียเลย  ให้ตายสิ..

“เสร็จแล้ว”

เมืองแมนพึมพำขอบคุณก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

เพลิงกัลป์นั่งมองอยู่ครู่หนึ่ง เห็นอีกฝ่ายสูดเส้นยังไม่ทันเข้าปากดี ก็ชะโงกเข้าไปงับเส้นบะหมี่ที่ติดมุมปากของเมืองแมน  ทำเอาคนกำลังกินสะดุ้งจะผละหนี แต่ว่ามือใหญ่กลับรั้งท้ายทอยของเขาเอาไว้

ริมฝีปากคู่นั้นกลืนกินเส้นบะหมี่ที่มุมปากก่อนจะลามเลยมายังเรียวปากอ่อนนุ่ม บดเบียดดูดดื่มจนแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว

เมืองแมนขนลุกทั่วตัว ความร้อนแผ่ซ่านจากริมฝีปากที่สัมผัสไล่ลงมาจนถึงลำคอ เพลิงกัลป์จูบเขาราวกับต้องการแกล้งให้เขาขาดอากาศหายใจตาย ปลายลิ้นเคล้าเคลียไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าจะโลดออกมานอกอก

นานจนสมองเริ่มพร่าเบลอ บางทีมันอาจจะสัมพันธ์กับออกซิเจนที่ลดน้อยลง เมืองแมนก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

“มาม่าอร่อย” คนพูดยิ้มใส่ตาของเขา ยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากเบาๆ

เมืองแมนเผลอค้อนเข้าเต็มๆ

ช่วยกันกินบะหมี่ในชามจนหมด  เมืองแมนทำเป็นไม่เห็นสายตาแวววับของคนตรงหน้า อดคิดไม่ได้ว่าทำไมการง้ออีกฝ่ายถึงได้ดูเปลืองเนื้อเปลืองตัวนัก

เดินตามกันขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นสอง เงาของใครคนหนึ่งยืนอยู่บนบันไดขั้นบนสุด

“คุณแม่…” เมืองแมนอุทาน ขยับห่างจากคนที่เดินตามหลังมาโดยอัติโนมัติทว่าคนข้างหลังกลับวางมือลงบนบ่าของเขาทั้งสองข้างแล้วบีบเบาๆ

“แมน  เพลิง กลับมาแล้วเหรอ เป็นอย่างไรบ้าง ซ้อมรับปริญญาสนุกไหม”

“สนุกดีครับ คนเยอะหน่อย” เมืองแมนตอบ เบี่ยงตัวหลบมือของเพลิงกัลป์

“เพลิงไปรับมาเหรอ”

“ครับ” เมืองแมนอ้อมแอ้ม  เห็นมารดาไม่ขยับตัวราวกับมีเรื่องต้องการคุยกับเขาโดยเฉพาะ

“เหนื่อยแย่เลยสิ ทั้งคู่”

“ไม่หรอกครับ//ไม่ครับ” ทั้งสองตอบพร้อมกัน

“งั้นเข้ามาช่วยแม่จัดของหน่อยสิจ้ะ ยังไม่ง่วงกันใช่มั้ย” แม่พูดยิ้มๆเหมือนถามความสมัครใจ แต่เมืองแมนรู้ดีว่านี่คือคำสั่ง




ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk








          เขาเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้องนอนของมารดา เริ่มรู้สึกเครียดจนเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก คนข้างๆเขาก็คงไม่ต่างกัน เพราะฝ่ายนั้นถอนหายใจเฮือกต่อกันหลายตลบ

“แม่กำลังเรียงรูปในอัลบั้มใหม่อยู่ แมนช่วยแม่แยกรูปของแมนกับเมย์ทีนะ” มารดาบอก ส่งอัลบั้มเล่มหนาเก่ากึ้กมาให้เขา เพลิงกัลป์ทรุดตัวลงนั่งที่พื้นข้างๆ

รูปถ่ายเก่าๆตั้งแต่สมัยเมื่อครั้งที่เมืองแมนยังเป็นเด็กตัวกระจ้อยปรากฏแก่สายตา ใบหน้ากลมยิ้มร่าโชว์เหงือกบนหลังรถกระบะ บางภาพก็กำลังเบะปากร้องไห้ขี้มูกไหลย้อย

“รูปนี้น่ารัก” คนที่นั่งข้างเขาพึมพำ เมืองแมนเลยชำเลืองมองภาพในมืออีกฝ่าย พอเห็นถนัดก็รีบคว้าคืนกลับมา หน้าร้อนซู่  “ใครๆก็เคยแก้ผ้าอาบน้ำกันทั้งนั้น จะอายทำไมทีตอนโตยังดูมาแล้วเลย  โอ๊ะ!” พูดไม่ทันจบ เพลิงกัลป์ก็รู้สึกเจ็บปลาบที่ขาเพราะถูกเจ้าของรูปบิดเนื้อเต็มแรง

“เป็นอะไรไปเพลิง” คุณจุไรหันมาถาม

“มดกัดน่ะครับ แต่ก่อนเมืองแมนหน้าตาน่ารักมาก ไม่น่าโตเลยนะครับ” ประโยคหลังเขาแกล้งกระซิบให้ได้ยินกันสองคน

เมืองแมนหน้าง้ำ

“เดี๋ยวแมนช่วยแม่จัดคนเดียวได้ กลับไปนอนเลยไป” เขายั้งคำว่า ชิ่วๆ เอาไว้ได้ทัน

นึกว่าอีกฝ่ายจะยื้อไม่ยอมไปนอนแต่กลับผิดคาด เพลิงกัลป์ลุกขึ้นโดยดี ยอมออกจากห้องนอนไปก่อน ตอนนั้นเองที่เมืองแมนเริ่มรู้สึกเสียใจที่ไล่อีกคนออกไป

สายตาของมารดามองมาทางเขายิ้มๆคล้ายจะมีความนัย เมืองแมนเสหลบก้มหน้าก้มตาแยกรูปในอัลบั้มต่อ

“แล้วเจมส์เพื่อนลูกเป็นยังไงบ้าง ได้คุยกันหรือเปล่า” แม่ถาม

“คงเริ่มทำใจได้แล้วมั้งครับ เจอกันคราวนี้ก็เห็นคุยกับน้ำได้บ้าง ไม่ฟูมฟายเท่าตอนแรกๆ” เมืองแมนตอบ จริงๆคนที่ 'ทำใจ' ได้แล้วน่าจะเป็นเขามากกว่า ตอนนี้เมืองแมนสามารถนั่งฟังเรื่องราวของเจมส์ได้โดยไม่รู้สึกผิดปกติในใจอีก  นับว่าเป็นเรื่องแปลก  เพราะเขาแอบชอบเพื่อนสนิทคนนี้มาหลายปี  ไม่รู้ทำไมเวลาแค่ไม่กี่เดือน  ความรู้สึกถึงได้จางลงเร็วนัก

“ดีแล้วล่ะ แม่ก็เป็นห่วง…” เธอไม่ได้ขยายความต่อว่าเป็นห่วงใคร หรืออะไรบ้าง “ความรักมันก็ต้องมีสมหวังผิดหวังบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา  ใครๆก็ต้องผ่านเรื่องแบบนี้กันทั้งนั้น  ยิ่งพอโตมีงานมีการทำกันแล้วด้วยล่ะก็  แล้วแมนล่ะ…มีใครเข้ามาบ้างไหม” จู่ๆมารดาก็วกกลับมาถามเขาเฉย เมืองแมนสะดุ้งในใจ ตอบหน้าตาย

“ยังไม่เห็นมีใครเข้าตาเลยครับ สงสัยเนื้อคู่แมนจะยังไม่เกิด” พูดเสร็จแล้วก็อยากตบปากตัวเองสักทีสองที

“ขืนยังไม่เกิด มีหวังแม่ได้แก่ตายก่อนพอดีกว่าจะเห็นแมนเป็นฝั่งเป็นฝา” แม่เขาหัวเราะ “เรื่องหลานยิ่งไม่ต้องพูดถึง  แม่ไม่คาดหวังอยู่แล้ว... แมนรักใครชอบใครก็ลองคบดูเถอะลูก ความรักมันเป็นเรื่องที่บังคับกันไม่ได้ ไม่ต้องไปสนใจคำคนอื่น”

“คุณแม่?” เมืองแมนตกใจ เงยหน้าขึ้นมองมารดา  พบสบตาคู่นั้นคนเป็นลูกก็รู้ทันทีว่ามารดาคงรู้เรื่องหมดแล้ว

“เพลิงเขาบอกแม่ว่าเราคบกันอยู่”

เมืองแมนใจหายวาบ เรื่องคบกันยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าอีกเรื่องหนึ่ง

“แล้วเขาว่าอะไรอีกบ้างครับ”

“ก็ไม่ว่าอะไร เห็นบอกว่าจะไปคุยกับพ่อแม่เขาก่อน แล้วเขาจะมาหาแม่อีกที”

ลูกชายแทบจะอ้าปากค้าง มองหน้าแม่ตัวเองเหมือนเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

“อะไรนะครับ”

“นั่นสิ  แม่ก็ว่าจะถามแมนอยู่ว่าแม่ตกข่าวอะไรหรือเปล่า  ลูกแม่ไม่เห็นส่งนกพิราบมาเล่าความให้แม่ฟังบ้างเลย”  แม่เขาพูดยิ้มๆคล้ายเย้า  “เจอเขาพูดอย่างนี้แม่เลยไม่ทันตั้งตัว”

“คือ...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะแม่  คือแมน...แมนแค่..”  เมืองแมนอึกอักไม่รู้จะพูดอย่างไรดี  จะอธิบายเหตุผลตั้งแต่แรกที่ทำให้พวกเขาต้องมาติดแหงกอยู่ด้วยกันก็เกรงว่าจะยิ่งทำให้มารดาตกใจมากกว่าเดิมเปล่าๆ  อีกอย่างหนึ่ง  เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกมารดาเรื่องหลานของท่านด้วย

“แมนรักเพลิงหรือเปล่าลูก”  คุณจุไรเห็นท่าทางของลูกชายดูกังวลผิดปกติก็เริ่มสงสัย  เมื่อคืนหลังจากฟังความจากเพลิงกัลป์แล้ว  ดูท่าทางมุ่งมั่นจริงใจของชายหนุ่มรุ่นลูก  เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นเปลาะหนึ่ง  อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร  เป็นนายแพทย์เหมือนๆกันกับลูกชาย  หน้าตาท่าทางก็ดีใช้ได้  ถ้าตัดเรื่องเพศสภาพและค่านิยมเก่าๆออกไป  เธอก็พอจะยอมรับเขาได้ในฐานะคนรักของลูก

            แต่พอเห็นแววอัดอั้นตันใจของลูกรัก  หัวใจที่เริ่มสงบก็กลับวิตกขึ้นมาอีก

            “มีอะไรหรือเปล่าแมน  หรือว่ามีปัญหาอะไรกัน  เล่าให้แม่ฟังได้ไหม”  เธอประเหลาะ  เมืองแมนนั่งเม้มปาก  มองหน้าเธอตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้  คนเป็นแม่เลยยกมือขึ้นลูบศีรษะของบุตรชายเบาๆ  “ขี้แยแบบนี้จะไปรักษาใครได้ไงฮึ”

            “แมนแค่...ไม่รู้จะพูดยังไง”

            “ก็พูดตามตรงสิลูก  ไม่ว่ามันจะดีหรือร้ายแค่ไหน  แม่รับได้  แม่อยู่ข้างหนู...มีอะไรกันแน่หืม  หรือว่าเจ้าเพลิงกัลป์ทำให้แมนเสียใจ?”

            เมืองแมนส่ายหน้า  ก้มลงเช็ดน้ำตากับกางเกงนอนของมารดาจนเปียกชุ่มไปหมด

            “แต่ก่อนไม่ว่าแมนจะทำอะไร  แม่ก็เคารพในการตัดสินใจของแมนหมดไม่เคยก้าวก่าย  ยิ่งพอมาเสียพ่อไป  แมนก็ยิ่งเป็นผู้ใหญ่  มีความรับผิดชอบมากกว่าเพื่อนคนอื่นในวัยเดียวกัน  แต่ว่าที่เพิ่มมาด้วยก็คือนิสัยชอบเก็บเอาไว้คนเดียวของแมนนั่นแหละ  แม่อาจจะไม่ได้เก่งไม่ได้ฉลาด  อาจจะช่วยอะไรแมนมากไม่ได้  แต่แม่รับฟังแมนได้นะ”

            “คุณแม่”  เมืองแมนเงยหน้าขึ้นสบตามารดา  ความรู้สึกหนักๆในใจไม่ได้หายไปไหน  เหมือนๆกับการเคลื่อนไหวในท้องของเขาที่ยังคงอยู่  แม้ในเวลาที่เขากำลังเครียดจัดเช่นนี้ก็ตาม  เมืองแมนเผลอยกมือขึ้นลูบท้องแทนการปลอบใจลูกน้อย   

            ทำอย่างไรดี...บอกออกไปเลยดีไหม

            แต่ว่า...

            “นี่ก็ดึกมากแล้ว  แมนไปนอนเถอะ  ที่เหลือเดี๋ยวแม่จัดการต่อเอง”  จู่ๆมารดาก็ตัดบท  ยิ้มให้เขาแล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินหายไปในห้องน้ำ  เมืองแมนทำตัวไม่ถูก  เขารู้ว่าแม่เสียใจที่เขาไม่ยอมบอกตามตรง...เพราะเขาขี้ขลาดเกินไป

            ความขลาดกลัว...ที่จะยอมรับความจริง  ความไม่มั่นใจของเขา

            มัวทำอะไรอยู่เมืองแมน...เสียงหนึ่งดังขึ้นจากซอกมุมเล็กๆในหัวใจของเขา  เมืองแมนขมวดคิ้ว  นิ่งฟังเสียงที่เขาทำเป็นไม่ใส่ใจมาตลอด

            มันยากนักหรือไง แค่การยอมรับความจริง

            ยอมรับหัวใจตัวเอง แล้วอะไรมันจะเกิด  ก็คงต้องเกิด  เขาคงจะปิดเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว  มันทรมานเกินไปทั้งหัวใจของเขา และคนที่รักเขามากที่สุดด้วย

            ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินกลับออกมาจากห้องนอนของแม่  เขาเปิดเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง  คนข้างในผุดลุกขึ้นนั่งราวกับรออยู่ก่อนแล้ว  ท่าทางเพลิงกัลป์กังวลไม่ต่างจากเขา

            “เป็นอย่างไรบ้าง  คุณแม่ว่ายังไง”

            “รู้อยู่แล้วยังจะหนีออกมาก่อนอีก”

            “แม่ขยิบตาให้กูออกมาเอง”  เพลิงกัลป์ยกมือขึ้นเกาจมูก  “แล้ว...โอเคไหม  ทำไมร้องไห้อีกล่ะ”  ปลายนิ้วเรียวยาวไล้ที่แก้มของเขาแผ่วเบา  “ตาบวมไปหมด  เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่หล่อนะ”

            “เมื่อคืนไปพูดอะไรกับแม่ไว้  เล่ามาเลยนะ”

            “ก็แค่พูดความจริง  แต่กูไม่ได้เล่าเรื่องลูกนะแมน  จริงๆนะ”

            “กูถามอะไรอย่างนึงได้มั้ย”  เมืองแมนพูดช้าๆ  เงยหน้าขึ้นสบตาคมเข้มที่มองมา

            “ได้  แต่ไปนั่งถามได้ไหม  ดูท่าจะยาว”  อีกฝ่ายพูดแกมหัวเราะ  พาเขามานั่งข้างกันบนเตียง  เมืองแมนก้มหน้ามองหน้าท้องของตัวเองที่นูนเด่น  “มีอะไรเมืองแมน”  เพลิงกัลป์ทอดเสียงอ่อน

            “มึง...ที่มาทำแบบนี้  เป็นเพราะ...เลยตามเลยหรือเปล่า?”  เมืองแมนถามขึ้นเบาๆ  “ที่ทำลงไปเพราะว่าลูก...อย่างเดียว...ใช่มั้ย”

            “อ๋อ..อืม  ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ”  เพลิงกัลป์พยักหน้ารับ

            หัวใจของเมืองแมนเต้นช้าลง

            “กูแค่สับสน...คงเป็นเพราะลูกจริงๆนั่นแหละ  เพราะมึงเป็นพ่อของลูก   กูถึงรู้สึกทุกครั้งเวลาที่มึงเข้ามาใกล้”  เมืองแมนพึมพำ  “ถ้าไม่มีลูก  มันก็คงจะไม่เกิดขึ้น”  ประโยคสุดท้ายเบาจนแทบไม่ได้ยิน

            เพลิงกัลป์สบตาคู่นั้น  แววอะไรอย่างหนึ่งในดวงตากลมใสทำให้เขาเริ่มใจเต้นแรง

            “มึงเห็นกูเป็นคนดีขนาดนั้นเลยเหรอแมน”  เพลิงกัลป์พูดขึ้นเรียบๆ  เมืองแมนขมวดคิ้วเพราะตามไม่ทัน  “บอกตามตรงว่ากูไม่ใช่คนดีขนาดจะยอมทำทุกอย่างเพื่อลูกที่กูไม่ได้ตั้งใจให้เกิดหรอกนะ  กูไม่ใช่คนรักเด็ก  ไม่อยากมีภาระ  ชอบเที่ยวสนุกไปวันๆ  ยิ่งความสัมพันธ์แบบวันไนท์เนี่ยกูชอบมาก”

            “?”

            “มึงคิดว่ากูทำลงไปทั้งหมดนี่เพื่อคนที่กูยังไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าหรือไง”  เพลิงกัลป์ยกมือขึ้นแนบแก้มของเขา  “พูดไงดีล่ะ...จริงๆกูก็ไม่เคยพูดแบบนี้กับใครเลยนะ  เอาเป็นว่า...ลูกของมึงก็คือลูกของกู  กูรักมึง  กูก็เลยรักลูกของมึงซึ่งเป็นลูกของกูด้วย  งงไหม”

            “.........”

            “งั้นจูบ  จะได้เข้าใจ”

            เมืองแมนไม่ทันได้ถามว่าการจูบจะช่วยให้เขาเข้าใจได้อย่างไร  เพราะอีกฝ่ายเชยคางเขาขึ้นแล้วก้มลงจูบอย่างหนักหน่วง  เมืองแมนตั้งตัวไม่ทันได้แต่เหนี่ยวหัวไหล่แข็งแรงนั้นเอาไว้  เงยหน้าขึ้นรับสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างเผลอตัว  วินาทีนั้นเขาเริ่มจะรับรู้ได้ถึงความหมายที่อีกคนต้องการจะสื่อ  หัวใจใต้แผ่นอกกว้างที่แนบชิดเต้นรัวเร็วเป็นจังหวะเดียวกันกับเขาอย่างน่าประหลาด

            แมนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหกคะเมนตีลังกานั่งรถไฟเหาะอยู่  กัปตันไม่ยอมผ่อนให้เขาได้หายใจหายคอบ้างเลย ครั้นจะโดดหนีลงมา  เขาก็ทำไม่ได้....อยากจะโดยสารรถไฟขบวนนี้ไปจนสุดทางต่อให้ทางข้างหน้าจะเป็นทางโค้งชันหรือว่าทางตันก็ตาม

            ‘มึงอาการหนักแล้ว แมน’  เสียงของเพื่อนดังขึ้นในความคิด

            อาจจะจริง

            เมืองแมนจูบตอบกลับไปอย่างไม่ยอมกัน  รสสัมผัสในตอนนั้นช่างหอมหวานชวนให้ลุ่มหลง  เพลิงกัลป์จูบเก่งมาก  อันนี้เขาไม่ปฏิเสธ  แต่ที่เขาไม่อยากจะยอมรับเลยก็คือเขาเริ่มติดกับสัมผัสนั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

            สิ่งมีชีวิตในท้องของเขาเคลื่อนไหวอย่างแรง  ทำเอาเมืองแมนสะดุ้งผละออกก่อนอย่างไม่ตั้งใจ  ใบหน้าแดงก่ำลามลงไปถึงลำคอ  เหงื่อผุดตามไรผม

            เพลิงกัลป์มองหน้าเขานิ่งนานก่อนจะแตะริมฝีปากลงมาอีกเพียงแผ่วเบา  แต่ก็ทำให้หัวใจของเขาวูบไหว  จากปาก  เปลี่ยนที่เป็นปลายจมูก  ก่อนที่จะแตะซับคราบน้ำตาที่ยังค้างอยู่บนแก้ม  เพลิงกัลป์พรมจูบลงบนใบหน้าของเขาไม่เว้นแม้แต่เปลือกตาสองข้าง  ลมหายใจอุ่นจัดรดอยู่ที่ซอกคอ  ไรหนวดแข็งๆสากระคายทำให้เขาจักจี้

            “ทีนี้เข้าใจหรือยัง  หรือยังงงอยู่”

            “ไม่งงแล้ว”  เมืองแมนเม้มปาก  รู้สึกได้ว่ามันบวมขึ้นนิดๆ  ซบใบหน้าลงกับแผ่นอก  นิ่งฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นอยู่ข้างใต้เป็นจังหวะหนักแน่น  มือใหญ่ลูบไล้ที่ท้ายทอยของเขาแผ่วเบา

            “กูรักลูก  ..เมืองแมน  รักเพราะเขาเป็นลูกของเรา  กูรักเขาทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า  เพราะกูรักแม่เขามาก”

            “รักแม่กูน่ะเรอะ”   เมืองแมนพูดไปทางอื่นเพราะเขินจนทำตัวไม่ถูก  มือไม้เกะกะไม่รู้จะวางเอาไว้ตรงไหน  เลยโอบรอบเอวหนาค้างไว้เสียเลย

            “สงสัยต้องจูบอีกรอบ”

            “เออๆ รู้แล้ว  ปล่อยได้ยังอ่ะ”  เมืองแมนพูดจบก็ซุกหน้าลงกับต้นแขนหนา  ได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายฟังดูก้องกว่าปกติเมื่อแนบหูฟังอยู่แบบนี้

            “ใครกันแน่ที่กอดไม่ยอมปล่อย”  เพลิงกัลป์กระซิบ  “กูบอกความรู้สึกตัวเองไปหมดแล้ว  ตามึงแล้วแมน”

            “ให้พูดอะไร”   คนในอ้อมแขนทำไก๋ ทั้งที่หน้าแดงจัด   

            “คนเรา...ใจร้ายจังแฮะ”

            “อยากรู้อะไรล่ะ  ความรู้สึกของกูน่ะเหรอ”  เมืองแมนสบตาคมวาววับคู่นั้นแล้วก็เบือนหลบ  “ก็คงเหมือนกันมั้ง”

            “อะไรนะ  ได้ยินไม่ชัดเลย”  เพลิงกัลป์แกล้งเอียงหูฟัง

            เมืองแมนหมั่นไส้เลยเป่าลมใส่หูอีกฝ่ายแรงๆ  แล้วลุกขึ้นหนี  ไม่ได้หนีไปไหนไกลหรอก  เจ้าตัวเพียงแค่ลุกขึ้นยืนเท่านั้น

            เพลิงกัลป์โอบกอดรอบตัวของอีกฝ่ายรั้งเขามาจนชิด  แนบใบหน้าลงกับหน้าท้อง  รู้สึกได้ว่ามีความเคลื่อนไหวเล็กๆข้างในนั้น  เมืองแมนยกมือขึ้นลูบเส้นผมหยักศกของเขาครู่หนึ่ง  เงียบราวกับใช้ความคิด  สุดท้ายเจ้าตัวก็ถอนหายใจแผ่วเบา

            “พรุ่งนี้ไปบอกแม่กันเถอะ....เรื่องลูกของเรา”

            ..........................................................................................     

             

            มาอัพแล้วจร้า

        ใครรอเรื่องนี้กันอยู่บ้าง

       ตอนนี้เมืองแมนก็คงมั่นใจมากขึ้นแล้วล่ะมั้ง55555

            เจอกันตอนหน้านะคะ

            #แฟนหมอแมน

            อย่าลืมเม้นท์โหวตเป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า

           

 

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :mew1:เค้าบอกความรู้สึกต่อกันแล้ว

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
เขาบอกรักกันแล้ววววววว
รอตอนต่อไปค่ะ^^

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ในที่สุดปากก็ตรงกับใจซะทีนะแมน
บทจะหวานก็หวานนนนน
ตอนก่อนทำเอาเสียน้ำตาตามเลย
มาต่อบ่อยๆนะคะ รอเสมอ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
จะได้บอกไหมนะ
บอกที่เถอะ
สงสารคุณแม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ลุ้นๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เย้ๆๆๆๆ...........พูดคุยกัน รู้เรื่อง  :ling1: 
สารภาพรักกันแล้ว   o18
จูบกันด้วยยยยยย   :o8: :-[ :impress2:

เพลิง  แมน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ ตอนนี้หวานๆมดไต่มาก หมอแมนรู้ใจตัวเองแล้ว ตอนหน้าสู้ๆนะ ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1


เขาบอกรักกันแล้วววววว

 :-[  :-[  :-[  :-[  :-[  :-[  :-[

เป็นกำลังใจให้หมอแมนน้าาาาา บอกคุณแม่ไปเถอะ



 o13  o13  o13  o13  o13  o13

……

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ค้างอีกแล้วจ้าาาาาค้างสองตอนติดแลเวจ้าาาา
ยังไงก้อรอตอนต่ออไปนาจาา

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai1:



เครียดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ฮึ่ยยยโอ้ยยยยยกว่าหมอแมนจะยอมรับได้นี่เล่นเอาเกร็งไปหมดลุ้นไปทุกตัวอักษร ตอนหน้าก็ขออย่าให้มีอะไรมาขัดอีกเลยนะให้พวกเขาได้บอกแม่หมอแมนกันจริงๆสักที จะได้หมดปัญหาไปเปราะนึง

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ้ววววว ในที่สุดเมืองแมนก็จะเดินหน้าแล้ว เอาใจช่วยนะคะ เราว่ามันยาก แต่มันก็ต้องเริ่มได้แล้วล่ะเมืองแมน

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
น้ำตาจิไหล เขาบอกรักกันแล้วค่ะแม่ :hao5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เราเห็นด้วยนะที่จะบอกเรื่องลูกกับแม่ จะได้ไม่เครียด แม่น่าจะเข้าใจ

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
หมอแมน หมอเพลิงสู้ๆ ขอเรื่องทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี :katai1:

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ลุ้นตามเลย
คุณแม่จะว่าไงบ้างน้อ
//
ดีใจที่หมอแมนยอมรับความรู้สึกตัวเองสักที
หมอเพลิงก็ง้อคุณแม่เค้าหน่อยน้า ยิ่งขี้น้อยใจอยู่.
 :กอด1:

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ในที่สุดก็จะบอกแม่แล้ว  :mew4: :mew4: คิดถูกแล้วแมน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด