ตอนที่ ๑๙
ชลธีกระชับมือคนรักให้แน่นขึ้นแล้วค่อยๆ เดินฝ่าฝูงชนที่กำลังยืนพูดคุยถ่ายรูปกินเลี้ยงสังสรรค์ ลูกเป็ดพยายามแงะมือตัวเองออกอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้สักนิด เห็นสายตาเขียวปั้ดและแก้มพองลมยามไม่ได้อย่างใจ นายทหารหนุ่มก็อยากจะเอื้อมมือบีบให้หายมันเขี้ยว รูปร่างสูงเพรียวบางของเด็กหนุ่มเริ่มมีน้ำมีนวลจนเขาสังเกตได้ ตามช่วงสะโพกและต้นแขนเริ่มมีเนื้อหนังนุ่มนิ่มไปหมด เขาขอสารภาพยืดอกรับอย่างแมนๆ เลยว่า..
โคตรชอบ“เดินก็มองทางด้วยสิครับ มองแต่หน้าลินท์เดี๋ยวก็ชนคนอื่นเขาหรอก” มุจลินท์บอกคนรักที่เอาแต่จ้องหน้าเขาอยู่นั่น
“ลินท์ก็จูงมือพี่ไปแทนสิ” เขาพูดพร้อมจุดยิ้มเจ้าเล่ห์
“ฮื่อ เลิกมองได้แล้ว อยู่ด้วยกันทุกวันยังจะมาจ้องอีก” เขาพยายามจะเอามือออกเพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจคนอื่นแต่ชลธีก็ยังไม่ยอมแถมยังมายียวนใส่อีก
“พี่ชอบมองหน้าลินท์นี่นา ก็ชอบมองทุกส่วนนั่นแหละ”
“พอเลย อยู่ใกล้พี่แล้วเปลืองตัวชะมัด”
“ฮ่าๆ”
“ไม่ต้องหัวเราะเลยนะครับ แล้วก็ปล่อยมือลินท์ได้แล้ว”
“ไม่ปล่อย ทำไมพี่จะจับมือลินท์ไม่ได้” ชลธีเริ่มหน้ามุ่ย “จับมือเมียตัวเองก็ไม่ได้”
“พี่ฉลาม ชู่ว!”
“ห้ามพี่พูดอีกอะ”
“ไม่ได้ห้าม ก็ เอ่อ พูดกันสองคนก็ได้นี่”
“ที่นี่ก็ได้.. จะที่ไหนพี่ก็จะพูด!” ในเมื่อเจ้าตัวยืนกรานเขาตามใจก็ได้
เห้อ มีแฟนแก่ที่อารมณ์แปรปรวนเหมือนเด็กสี่ขวบต้องทำอย่างไรครับเด็กหนุ่มไม่ขัดขืนปล่อยให้คนรักจูงมือแม้จะรู้สึกหน้าร้อนเวลามีคนมองด้วยสายตาแปลกๆ ก็เถอะ ชายหนุ่มพาเขามาซุ้มถ่ายรูปที่มีคู่บ่าวสาวกำลังยืนถ่ายภาพกับผู้ร่วมงาน เขารีบหลบหลังชลธีอัตโนมัติเมื่อเห็นสายตาของใครบางคนมองมาทางนี้ ว่าจะไม่ตื่นเต้นหากเจอบรรดาเพื่อนของชลธีแต่เอาเข้าจริงมันก็อดตื่นเต้นไม่ได้ มือเขาเย็นเฉียบไปหมด
“แม่จ๋า----” เด็กชายวิ่งมาเกาะขาเขาแน่น “แม่อยู่นี่เอง”
“ไปเล่นที่ไหนมาครับลูก” เขาถามลูกชายที่เหงื่อแตกพลั่ก ขนาดในหอประชุมหนาวขนาดนี้เจ้าตัวแสบยังมีเหงื่อเต็มตัวได้ต้องไปวิ่งเล่นที่ไหนมาแน่ “เหนียวตัวไหมครับเนี่ย”
“ไปเล่นตรงนั้นมาฮะ มีดอกไม้เยอะแยะเลย ส้วยสวยฮะแม่ลินท์” ไทเกอร์ชี้ไปซุ้มดอกไม้ ที่มีคนเข้าไปถ่ายรูปหนาแน่น
“เดี๋ยวทำธุระกับป๊าก่อนเดี๋ยวเราไปถ่ายรูปกันบ้างเนอะ” เด็กชายพยักหน้าก่อนจะวิ่งไปจับชายเสื้อคุณพ่อที่กำลังคุยกับเจ้าบ่าวอยู่
“อ่าว ไทเกอร์” ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งในชุดเครื่องแบบสโมสรทหารบกสูททักซิโด้สีขาวกางเกงดำแถบแดงดูสง่างามเหมาะสมกับวันพิเศษทักลูกชายเขาที่อายม้วนต้วนเมื่อเจอคนแปลกหน้า
“สวัสดีอาไทเขาหน่อยลูก”
“หวัดดีค้าบบบ” ไทเกอร์กระพุ่มมือไหว้มองหน้าคุณอาที่ไม่คุ้นหน้าก่อนเดินหันหลังไปหาคุณแม่
“ไท.. นี่ลินท์” ชลธีคว้ามือเขาแล้วดึงให้เขาเข้าไปใกล้ “แฟนกู”
แฟนกู… อืม ได้ยินแบบนี้เขาอยากจะระเบิดตัวเองให้หายไปเลย
“เห้ย เอาจริงดิพี่” รุ่นน้องชลธีที่ชื่อไททำหน้าแตกตื่นตกใจมองเขาไม่วางตา “เปลี่ยนรสนิยมไม่บอกไม่กล่าวกันล่วงหน้าเลยนะ”
“อย่ามากวนตีนกู” นายทหารหนุ่มขมวดคิ้วมองรุ่นน้อง “เดี๋ยวกูฟ้องเมียมึงหรอกว่าสมัยเรียนมึงนี่แหละ..อุ้ป” เจ้าบ่าวพุ่งพรวดใช้มือเข้าปิดปากชลธีแน่น
“โอ้โห เล่นแบบนี้เลยหรอเฮียหลาม”
“ไอ้สัด ปล่อยกู มือแม่งเค็มฉิบหาย”
“ผมไหว้ละ กราบเลย ห้ามบอกเมียที่เคารพรักเด็ดขาด” ไทแทบจะยกมือไหว้
“เรื่องไปอาบอบนวด แต่ไปโผล่บาร์เกย์ใช่ไหม”
“โอ๊ยยย เฮียยยผมกราบล่ะ” เจ้าบ่าวหนุ่มอยากจะร้อง รีบเปลี่ยนเรื่องโดยหันไปหาเด็กหนุ่ม “น้องลินท์ไปเจอได้ไงครับเนี่ย คนแบบนี้ ทั้งหล่อ สมาร์ต ดูดี”
มุจลินท์หลุดหัวเราะ มองรุ่นพี่รุ่นน้องหยอกล้อกัน “เจอข้างถนนนี่แหละครับ” เขาตอบไปตามความจริงว่าเจอกันที่ไหน ดูเหมือนเจ้าบ่าวจะตกใจไปเล็กน้อยแล้วมองชลธีด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“โห เฮีย เดี๋ยวนี้ไปหลอกเด็กตามโรงเรียนใช่ไหม” ไทเริ่มอยากจะเอาคืนรุ่นพี่ “จบมอปลายหรือยังครับ”
“ปีหนึ่ง แล้วครับพี่ไท”
“คุก คุก คุก ไม่รู้อะไรติดคอนะเฮีย” เจ้าบ่าวแกล้งกระแอมไอ ส่วนเขานี่หน้าร้อนไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวกูขอไปคุยกับเมียมึงแปบ เดี๋ยวกูมา”
“โอ๊ย เฮีย ไม่เป็นไรครับ เกรงใจ ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ” ไทรับกักตัวรุ่นพี่เอาไว้ “แล้วเจอพี่เทียนหรือยัง”
“ยังเลย เดี๋ยวมาถ่ายรูปกับมึงก่อน” ชลธีตอบ “ไอ้ปานกับไอ้นัชมาช่วยเป็นซุ้มกระบี่ใช่ไหม โชคดีนะมึง”
“ขอบคุณครับเฮีย” ไทยกมือไหว้รุ่นพี่ด้วยความเคารพรัก สายสัมพันธ์พี่น้องที่เชื่อมถึงกันไม่มีวันตัดขาด เป็นธรรมเนียมที่สังคมทหารต้องให้ความเคารพผู้ที่อาวุโสกว่า “ฝากดูแลเฮียหน่อยนะน้องลินท์ อย่าทิ้งเฮียพี่ไปอีกคนล่ะ”
“ครับพี่ไท ขอให้พี่ไทกับแฟนมีความสุขมากๆ นะครับ”
เขาอุ้มลูกชายเข้าไปถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาวท่ามกลางซุ้มดอกไม้สีหวานที่บานสะพรั่ง กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยผะแผ่วอ่อนหวานเข้ากับบรรยากาศชื่นมื่นของความสุข เขามองพี่ไทและเจ้าสาวจับจูงมือกันด้วยความทะนุถนอมดูแลทุกฝีก้าวประคับประคองช่วยเหลือกันด้วยความรัก เป็นภาพที่หวานจนเขาอดจะเขินตามไม่ได้
“พี่บอกแล้วว่าให้เราแต่งงานบ้างลินท์ก็ไม่เชื่อ”
“พี่ยังพูดเรื่องนี้ไม่จบอีกหรือ” เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าคนรักพูดเล่นหรือพูดจริงกันแน่ “ชอบแกล้งลินท์อยู่เรื่อย”
“พี่ไม่ได้พูดเล่นสักหน่อย พูดจริงๆ”
“บ้า!”
“เกอร์ครับ เดี๋ยวป๊าจะขอแม่ลินท์แต่งงาน เกอร์ต้องช่วยป๊านะครับ แม่เขาจะได้อยู่ป๊ากับเกอร์ตลอดไปเลย” คนตัวโตหันไปหาลูกชาย เขาต้องหาแนวร่วมเสียหน่อย
“แม่ลีนแต่งงานกับป๊าสิ แบบอาไท” เด็กชายชี้ไปคู่บ่าวสาวที่เจอเมื่อครู่ “เกอร์อยากให้แม่ลินท์อยู่กับเกอร์นานๆ” เด็กชายส่งสายตาออดอ้อนแถมซุกเข้าหาเขาอีก
“แม่ไม่ได้ไปหน่อยสักหน่อย ป๊าเขาแค่แกล้งแม่เท่านั้น”
“แม่อยู่กับเกอร์นะ นะนะ”
“ครับๆ อยู่กับเกอร์ไปนานๆ เลย” เขายิ้มขำให้กับท่าทางลูกชาย “น่าฟัดจริงๆ เลยลูกใคร”
“ลูกแม่ลินนนนนนน” ไทเกอร์ทำปากจู๋ยื่นไปหามุจลินท์ “จุ้บ”
“จุ้บกันๆ” เขาเลยก้มลงหอมแก้มลูกชายไปสองฟอด
“อะไรกัน ป๊าเป็นส่วนเกินอีกแล้ว เกอร์ต้องจุ้บป๊าด้วย”
“ป๊าๆ จุ้บๆ” เด็กชายหันไปทำปากจู๋ใส่คุณพ่อก่อนจะกดจมูกเล็กลงแก้มชายหนุ่ม ชลธีสลับไปหอมแก้มลูกชายบ้างก่อนจะหันไปงับแก้มเด็กหนุ่มที่กำลังเหวอ
“เห้ยพี่!” เขาร้อง “เอาอีกแล้วนะ”
“ช่วยไม่ได้ลินท์อยากน่ารักเอง”
“ลินท์ไม่น่ารักก็ได้ ลินท์จะดื้อให้ดู”
“ถ้าดื้อก็จะโดนหนักกว่านี้ จะลองไหมล่ะ พี่อะไหวอยู่แล้วแต่ลินท์น่ะสิ” นายทหารหนุ่มยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ อยากแกล้งลูกเป็ดให้ร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างเขาชะมัด
“ป๊าอย่าแกล้งแม่ลิน” เด็กชายโบกมือไปมา “ห้ามแกล้งงงงงงงงง”
“ป๊าไม่ได้แกล้งแม่ลินท์สักหน่อยลูก”
“จริงหยอคับ”
“จริงสิครับลูก.. ปะ เดี๋ยวไปหาลุงเทียนกัน” ชลธีพาเขาและลูกไปยังโต๊ะรับรองที่มีผู้ใหญ่นั่งอยู่เต็มไปหมด หนึ่งในนั้นมีชายหนุ่มวัยกลางคนหน้าตาคมเข้มบุคลิกดุดันเห็นในครั้งแรกก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นทหารอย่างแน่นอน ชลธียกมือไหว้ก่อนจะแตะเอวเขาให้เข้ามาใกล้
“พี่เทียน นี่ลินท์ที่ผมเคยเล่าให้ฟัง”
“สวัสดีครับ” เขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ด้วยความนอบน้อม สายตาของนายทหารผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์ร์มาโชกโชนจ้องมองเขาเหมือนจะประเมินในคราแรกก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเอ็นดู
“อืม เป็นยังไงบ้างล่ะลินท์”
“สบายดีครับพี่เทียน”
“อยู่กับฉลามเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ มีความสุขดีครับ”
“อดทนหน่อยนะ ชีวิตครอบครัวทหารมันก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีเวลา มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยคุยกัน ถนอมน้ำใจกันไว้” ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะหันไปมองเด็กชายที่มองเขาตาแป๋ว
“ไทเกอร์จำลุงได้ไหมครับ”
“ไม่ฮะ”
“ลุงเทียนครับ” ชลธีบอกลูกชาย
“หวัดดีฮะลุงเทียน” เด็กชายยกมือไหว้ ดวงตากลมโตสีดำขลับจับจ้องไปที่ใบหน้าคุณลุงไม่วางตา “ลุงเทียนมีหนวด” เด็กชายชี้แล้ววิ่งจะไปจับ มุจลินท์รวบตัวลูกชายไว้ได้ทันก่อนไทเกอร์จะกระโดดขึ้นตักคุณลุง
“แสบได้พ่อมันจริงๆ ฮ่าๆ” เทียนชัยหัวเราะ “เห็นมึงมีความสุขกูก็ไม่ห่วงแล้ว ครั้งนี้มึงก็ดูแลรักษาให้ดีๆ ไม่ต้องมาปรึกษากูแล้ว”
“ยังไงพี่เทียนก็เป็นพี่ที่ผมเคารพรักอยู่เสมอครับ”
“ไปๆ ไปดูแลลูกเมียได้แล้ว ก่อนที่มึงจะต้องไปทำงานอีก อีกสองอาทิตย์ใช่ไหม?”
“ครับ จดหมายส่งตัวกำลังจะมาแล้ว ผมคงต้องเตรียมตัว” เขาตอบ
“คุยกับคนที่บ้านให้ดี อย่าให้มีปัญหาอีกล่ะ”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะครับ”
“เออ มึงเอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้ก็พอ”
เขายกมือไหว้บอกลาบุคคลที่เคารพรักเหมือนญาติผู้ใหญ่อีกครั้ง แม้นายทหารหนุ่มใหญ่อย่างเทียนชัยจะเคยผ่านประสบการณ์จากหน่วยฝึกที่หฤโหดหรือแม้กระทั่งการลงไปประจำการณ์ในพื้นที่ที่มีการก่อการร้ายก็ตาม เขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีประสบการณ์มากพอที่จะแนะนำให้ชลธีเอาตัวรอดจากภารกิจในครั้งนี้ได้ อุปสรรคและปัจจัยต่างๆ ในการทำงานแต่ละครั้งไม่เหมือนกันสักครั้ง เป็นความท้าทายอย่างยิ่งในอาชีพทหาร เป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีที่ต้องธำรงเอาไว้ เขามองชายหนุ่มที่เดินจากไป ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้ท่อนขาที่ไร้ความรู้สึก ขาของเขากำลังจะเดินไม่ได้ เป็นผลมาจากการถูกระเบิดเมื่อหลายปีก่อน แม้เขาจะไม่มีโอกาสได้กลับไปรับใช้ชาติอีก แต่เขาก็ยังมีความหวังจากรุ่นน้องไฟแรงคนอื่นๆ ที่กำลังจะสานต่อปณิธานต่อไป แม้สุดท้ายจะไม่ได้อะไรกลับมาก็ตาม
แม้แต่ชีวิต….
.
.
.
.
“ลินท์”
“ครับ?”
“ลินท์อยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษไหม” เขาถามขณะที่สายตายังจับจ้องไปที่ท้องถนน ชลธีขับรถพามุจลินท์และลูกชายกลับบ้านทันทีที่งานจบ ไม่ได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนเก่าที่แวะเวียนมาเจอหรือรุ่นน้องที่ชักชวนไปแฮงค์เอ้าท์ เขาอยากให้เวลากับครอบครัวให้มากที่สุด
“ไม่มีนะครับ ลินท์ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนหรอก” เด็กหนุ่มตอบ “ถามลูกชายแล้วกันครับว่าอยากไปไหน”
“ต้ะเล!” เด็กชายส่งเสียงร้องดังลั่น สงสัยว่าจะอยากไปทะเลจริงๆ “เกอร์อยากว่ายน้ำอ่า”
“ชอบทะเลหรือครับลูก”
“ชอบม้ากมากฮะ”
“พี่จะพาลินท์ไปเที่ยวหรือ” พอเห็นลูกดีใจขนาดนั้นเขาก็เริ่มอยากจะไปทะเลบ้างแล้วเหมือนกัน เด็กหนุ่มจึงหันไปถามคนรัก “ไปทะเลก็ได้นะครับ”
“ได้สิ ชดเชยครั้งที่แล้วที่ไม่ได้เที่ยวเต็มที่แล้วกัน”
“ชวนคุณพ่อกับคุณแม่ไปด้วยดีไหมครับ พี่ปลาก็ไลน์มาชวนลินท์ไปเที่ยวอยู่”
“ไม่ต้องไปคุยกับมันมาก วันๆ อ่านหนังสือจนเพี้ยนไปแล้ว”
“อะไรกันครับ พี่ปลาแค่กลัวลินท์เหงาเลยชวนลินท์กับคุณยายไปทานข้าวที่บ้านใหญ่ต่างหาก”
“แล้วไป” ชลธีตอบ “ถ้ามาชวนเมียพี่ไปเที่ยวที่อื่นพี่เล่นมันกบาลแยกแน่!”
“ฮื่อ พี่นี่ยังไง จะไม่ให้ลินท์ไปไหนเลยหรือ”
“ถ้าพี่ขังลินท์ได้พี่ขังไปแล้ว” นายทหารหนุ่มพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน “ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยคอยดู จะนอนกอดเช้ากอดเย็น.. หึๆ คิดแล้วก็ชื่นใจจัง”
“ชื่นใจจางงงงงงงงง”
“ลูกได้ยืนหมด พูดอะไรเนี่ย”
“สงสัยคืนนี้ต้องฝากเกอร์ไปนอนกับคุณยายอีกวัน”
“ทุกที!!” เขาได้นอนกับลูกชายไม่กี่ครั้งแทบจะนับนิ้วได้ ไม่รู้ชลธีไปกินดีหมี หรือยาชูกำลังมาจากไหนถึงได้แรงดี มีแรงสะกิดเขาได้ทุกวี่ทุกวัน แค่คิดก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ถ้าเขาท้องได้ป่านนี้คงมีลูกตั้งทีมฟุตบอลได้แล้ว
“ฮ่าๆ” ชลธีหัวเราะ ไอ้เรื่องแกล้งเมียให้โมโหเนี่ยมันงานถนัดเขาจริงๆ นะ
ชายหนุ่มใช้มือที่ว่างลูบกลุ่มผมเด็กหนุ่มที่กำลังพิงซบลูกชาย มือหนาไล้ลงมาซอกคอแตะที่หลังคอลูกเป็ดเบาๆ เขาหันไปมองสบตากับชลธี
“มีอะไรหรือครับ”
“เปล่า พี่ก็แค่คิดว่าพี่โชคดีจังเลยเนอะที่พี่เจอลินท์” ชลธีพูดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “พี่ตื่นขึ้นมาเจอลูกเป็ดนอนน้ำลายไหลทุกวันน่ารักเป็นบ้า”
“พี่ฉลาม! อย่ามาแซวกันนะ” เด็กหนุ่มทำจมูกย่นพยายามพูดเสียงเบาเพราะลูกชายงีบหลับคาอกเขาไปแล้ว “ใช่สิ ลินท์นอนน้ำลายไหลยืดทุกวัน ลินท์ไปนอนกับลูกก็ได้”
“พี่แซวเล่นจ้ะคนดี” เขารีบหยุดแกล้งลูกเป็ดทันที หากมุจลินท์โมโหขึ้นมามันจะไม่คุ้ม นี่สินะที่เขาบอกว่า รักชีวิตอย่าคิดสู้เมีย “พี่กำลังคิดว่าจะพาลินท์ไปฮันนีมูนที่ไหนดี”
“บ้าหรอ ฮันนีมูนอะไรกัน”
“พี่ยอมแต่งงานกับลินท์ตั้งแต่ลินท์ให้แหวนพี่เมื่อวันเกิดแล้ว” นายทหารหนุ่มโชว์แหวนที่ได้รับเมื่อวันเกิดที่ผ่านมา เด็กหนุ่มนห้าร้อนผ่าวรู้สึกเหมือนเขาขอชลธีแต่งงานอย่างไรไม่รู้ “เลือกมานะครับจะไปสวีทกันที่ไหน”
“ลินท์อยากชวนพี่ปลา พี่ช้าง พี่นัสไปด้วยได้ไหม”
“ลินท์จะให้พวกตัวแสบมาขัดขวางทางรักของพี่หรือ ไม่มีทาง! พี่ไม่ยอมให้มันมาแน่ๆ” ชลธีขับรถไปบ่นงึมงำไปตลอดทางจนถึงคอนโด ส่วนเขาได้แต่ส่งสายตาเขียวปั๊ดให้กับความขี้หวงของชายหนุ่ม เขาอุ้มลูกชายที่กำลังนอนหลับปุ๋ยวางลงบนเตียงนุ่ม เด็กชายร้องอืออาก่อนจะสะดุ้งตื่นแล้วโผเข้ากอดเขาแน่น
“แม่จ๋า” ไทเกอร์ร้องเรียก “คืนนี้นอนกับเกอร์ไม่ได้หรือฮะ”
“ได้สิครับ เดี๋ยวเราไปนอนห้องใหญ่กันนะ ปะลุกไปอาบน้ำกับแม่ก่อน”
“เย่ๆ นอนกับป๊าด้วยนะ”
เขาพาลูกชายไปอาบน้ำให้สบายตัวโดยให้เจ้าตัวเลือกชุดนอนเอง หยิบแปรงสีฟันและแก้วน้ำสำหรับบ้วนปากเอง ชุดนอนวันนี้เป็นสีเหลืองอ่อนลายหมีพูห์ หลังจากอาบน้ำประแป้งจนตัวลายพร้อมแล้ว เด็กชายหยิบหมอนตัวเองในห้องวิ่งไปจุ้บคุณยายหนึ่งทีแล้วเข้าไปหาคุณพ่อที่กำลังเตรียมเข้านอน
“วันนี้จะนอนกับป๊าหรือครับ”
“นอนกับป๊าฮะ” ไทเกอร์ปีนขึ้นเตียงวางหมอนใบเล็กตรงกลางก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มนุ่ม นอนมองคุณพ่อและคุณแม่ตาแป๋ว
“เมื่อกี๊มีคนบ่นกับแม่ว่าง่วง ทำไมตอนนี้ไม่ยอมนอนล่ะครับ”
“อยากฟังคุณแม่เล่านิทาน” เด็กชายขยี้ตา “กาต่ายกับต่าววววว”
“ให้คุณพ่อเล่ามั่งดีไหม”
“นิทานของพี่เป็นเรื่องฉลามกับลูกเป็ดน่ะสิ”
“พอเลย” มุจลินท์รีบเบรคเพราะไม่มั่นใจนิทานของชายหนุ่มคือเรื่องอะไรกันแน่ ดูจากสายตาแพรวพราวแล้วคงจะไม่พ้นเรื่องให้เขาเปลืองเนื้อเปลืองตัว “ลินท์เล่าเองดีกว่า”
ชลธีถอดเสื้อนอนและสวมกางเกงผ้าแพรติดร่างกายตัวเดียวเช่นเคย มุจลินท์อุ้มลูกชายที่หลับสนิทแล้วให้เขยิบมาทางริมเตียงใช้นอนข้างและตุ๊กตาตัวโปรดของลูกชายกั้นไว้ ส่วนเขานอนตรงกลางตระกรองกอดลูกชายเอาไว้
“กอดพี่ด้วยสิ”
“พี่ก็นอนกอดหมอนข้างไปก่อนแล้วกัน”
“นอนกับเมียก็ต้องกอดเมีย”
ฟอด! “อาบน้ำก็ยิ่งตัวหอม” เขาสูดกลิ่นตัวเด็กหนุ่ม “หอมไปทั้งตัวเลย”
“ก็ใช้แชมพู สบู่ยี่ห้อเดียวกันนะครับ ลินท์จะไปหอมมากกว่าพี่ได้ยังไง”
“ไม่รู้แหละ พี่ชอบ” เขาพูดพลางกระชับอ้อมกอดให้คนรักเข้ามาใกล้ เสพติดการสัมผัสจากมุจลินท์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น “ชอบกลิ่นหอมๆ จากตัวลินท์ ชอบดม ชอบหอม ชอบกอด ชอบ…”
“พอแล้วครับ เสียงดังลูกก็ตื่นพอดี”
“งั้นเบาๆ ก็ได้” ชายหนุ่มกระซิบ “พี่ขอกอดหน่อยสิ”
“อื้อ เอาสิ ก็นอนกอดกันทุกวันอยู่แล้ว”
“เสพติดการกอดลินท์ไปแล้วทำไงดี พี่นอนไม่หลับแน่ถ้าไม่มีลินท์”
“เว่ออีกแล้ว”
“เอ้าจริงๆ พี่เข้าป่านอนกลางดินกินกลางทราย ไม่เคยได้นอนหลับเต็มตาสักคืนหรอกนะ”
“ลินท์เป็นห่วงพี่จัง”
“เป็นห่วงพี่ก็ต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่ไปให้ความหวังใคร ห้ามแจกเบอร์ ห้ามแจกไลน์”
“เดี๋ยวๆ ไม่มีหรอกน่า พูดเหมือนลินท์หล่อเลือกได้อย่างนั้นแหละ”
“ลินท์ไม่หล่อ แต่ลินท์น่ารัก เรื่องหล่อน่ะยกให้พี่เถอะ หึๆ”
“วันๆ ลินท์ไม่ได้เจอใครสักหน่อย”
“ไม่รู้แหละ มีเมียเด็กก็ต้องหวงเป็นธรรมดา” ชลธีพูดพลางใช้มือที่ว่างลูบคางอย่างคนใช้ความคิด “ยิ่งพี่ไม่อยู่ด้วย ไม่ได้ๆ เดี๋ยวให้ไอ้ปานมาช่วยดูแล”
“ไม่ต้องเลย ให้พี่ปานไปทำงานเถอะ จะมาเฝ้าลินท์ทำไม”
“จะได้คอยช่วยลินท์ได้ หรือไม่.. ลินท์ต้องย้ายไปอยู่กับคุณแม่พี่ที่บ้านใหญ่” ชายหนุ่มกำชับเสียงหนักแน่น “ไม่งั้นพี่ไม่วางใจ”
“เอาที่พี่สบายใจแล้วกัน แต่พี่สัญญากับลินท์ได้ไหมว่าพี่จะกลับมาหาลินท์กับลูก”
“พี่สัญญา”
“พูดแล้วห้ามคืนคำ”
“พี่ขอค่าสัญญาเป็นจูบหวานๆ แล้วกันนะคนดี” เขาใช้ริมฝีปากแตะไล้ไปวงหน้าขาวก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากบาง ค่อยๆ ทาบทับสอดแทรกความอุ่นร้อนของลิ้นไปช่วงชิมความหวาน มือที่ว่างก็ลูบไล้สะโพกกลมมนของคนรัก ขยำเบาๆ จนลูกเป็ดร้องครางเครือใช้ฝ่ามือดันอกเขาออก แต่มีหรือที่ชลธีจะยอม ใช้มือหนาสอดเข้าไปในกางเกงขาสั้นยางยืดบีบบั้นท้ายนุ่มเบาๆ
“พี่นอนท่านี้ได้ไหม”
“เอามือออกไปเลยนะครับ”
“ใจร้าย” ชายหนุ่มโอดครวญ “ไม่สงสารพี่หรือ”
“ไม่”
“ง่า”
“ดูทำเสียงเข้า”
“มีเมียเด็กก็ต้องทำตัวเด็กๆ เข้าไว้”
“ใครสอนพี่เนี่ย”
“ไอ้ปาน”
“โดนพี่ปานแกล้งแล้วล่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะ “คิดว่าทำตัวเด็กแล้วลินท์จะยอมหรือ”
“ไม่ยอมพี่คงต้องใช้ท่าไม้ตาย” เขาพูดเสียงจริงจัง “รวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว”
“ฮื่อ” ลูกเป็ดเขยิบหนีให้พ้นจากคนบ้ากาม “ลูกนอนด้วยพี่อย่ามาทำทะลึ่งนะ”
“ก็ทำข้างนอกก็ได้ เปลี่ยนบรรยากาศ”
หาข้ออ้างลื่นไหลได้ตลอด คงไม่ใช่ฉลามแล้วล่ะ แต่เป็นปลาไหลแทน!
“นู่นเลยครับ” เด็กหนุ่มชี้ไปที่ห้องน้ำ “จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วค่อยมานอน”
“โถ่ลินท์.. ผัวจะขาดใจตายอยู่แล้ว”
“พี่ฉลาม! ผัวเผออะไร”
“พี่ไง” ชายหนุ่มชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ลินท์ก็เป็นม..”
“เงียบเลยนะครับ” เขาทำเสียงดุใส่ชายหนุ่ม
“ก็ได้ พี่ทำเองก็ได้” ชลธีพูดจบก็ถอนมือที่กอดเอวลูกเป็ดออกแล้วพลิกตัวหันหลังให้ มุจลินท์แอบเหลือบมองคนรักเล็กน้อย ชลธีคงจะไม่งอนเขาเพราะแบบนี้หรอกใช่ไหม เด็กหนุ่มดึงผ้านวมให้ขึ้นมาช่วงอกและดูว่าลูกชายนอนดิ้นถีบผ้าออกจากตัวอีกหรือเปล่า เขาปิดเปลือกตาแต่ยังหลับไม่สนิท ท่ามกลางความเงียบเสียงร่างกายเสียดสีกับเนื้อผ้าดังสวบสาบ ตามด้วยเสียงหอบหายใจ
“ลินท์ ฮื่อ.. อ่า ลินท์” เด็กหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อเสียงครางต่ำส่งเสียงเรียกเป็นชื่อเขา เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งหันไปมองชลธีที่กำลังกำแก่นกายรูดขึ้นลง ใบหน้าคมเข้มได้รูปบิดเบี้ยวไปด้วยความสุขสม ดวงสีดำสนิทจ้องมาที่เขา มันเปี่ยมไปด้วยความต้องการ เขากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากเมื่อเห็นชลธี ภาพยั่วเย้าอารมณ์ตรงหน้าเริ่มทำให้เขาปวดหนึบบริเวณท้องน้อย
“พี่ฉลาม!” เด็กหนุ่มร้อง “ลินท์ให้ไปทำในห้องน้ำไม่ใช่ตรงนี้” เขาทุบไปที่ต้นแขนหนาของคนรัก พยายามไม่มองฉลามน้อยที่กำลังแข็งขืนเต็มมือ
“ไม่มีลินท์ก็ไม่มีความหมาย” เขากัดริมฝีปาก ยิ่งได้เห็นคนรักกำลังจ้องมองความรู้สึกเสียวพร่าก็แล่นไปทั่วกาย “ขอพี่มองหน้าลินท์หน่อย”
“ไป ไปเลย.. ไปห้องน้ำเดี๋ยวนี้!” เด็กหนุ่มลงจากเตียงดึงคนรักที่กำลังสาวแกนกายขึ้นลงอย่างเอาเป็นเอาตายให้ลุกขึ้น เขาอยากจะบ้าตายไม่คิดเลยว่าชลธีจะดื้อขนาดนี้ แล้วยังมีการมาบอกว่าเขาดื้อ.. คนที่ดื้อคือพี่นั่นแหละ!
หลังจากลากชายหนุ่มตัวโตออกมาได้สำเร็จ สภาพของชลธีตอนนี้ทำเอาเขาไม่อยากจะมอง กางเกงผ้าแพรที่ใส่ติดตัวเมื่อกี้มันหายไปไหน!
“ลินท์จะทำอะไรพี่”
“ก็ช่วยทำให้พี่สงบ จะได้ไปนอนสักที” ล็อกประตูห้องน้ำเสร็จแล้วเขาดันหลังชายหนุ่มให้ไปติดกำแพงปูนที่เย็นเยียบทำเอาชลธีสะดุ้งเบาๆ เขานั่งคุกเข่าใช้มือเล็กกำแก่นกายคนรักไว้ในมือน้ำหล่อลื่นสีใสที่ปริ่มออกมาทำให้เวลาขยับขึ้นลงง่ายขึ้น นายทหารหนุ่มกลั้นเสียงครางมือหนาคว้าเข้าที่กลุ่มผมนุ่มของลูกเป็ด ดวงตาสีน้ำตาลเทาจ้องมองอย่างผู้ชนะและรูดรั้งมือให้เร็วขึ้น ก่อนจะใช้ริมฝีปากบางจูบส่วนหัวและใช้ลิ้นเปียกชื้นแตะเบาๆ ครอบครองความอ่อนไหวจนลึกสุด ดูดดึงจนได้รับเสียงร้องของชายหนุ่มดังสลับเสียงหอบหายใจ
“ลินท์.. ปล่อย พี่จะ ฮึ่ย!” เขากระชับมือที่ต้นคอเด็กหนุ่มไม่ให้ขยับไปมากกว่านี้แต่ลิ้นเจ้าลูกเป็ดที่ไม่ยอมหยุดทำเอาเขาเสียวจนตัวโยน “ลินท์ หยุดก่อน.. แฮ่ก” เขาปลดปล่อยออกมาภายในริมฝีปากเล็ก เด็กหนุ่มไอแค่กพยายามกลืนน้ำรักลงคอ
”แค่กๆ ๆ”
“ลินท์คายออกมา เร็ว!”
“ฮื่อ กินหมดแล้ว”
“กินทำไมเนี่ย”
“ก็อยากลองกินดู”
“มันสกปรก คายออกมา” เขาใช้มือรองที่ริมฝีปากเด็กหนุ่ม แต่เจ้าตัวส่ายหัวดิกแถมยังปิดปากตัวเองแน่น “ทำไมดื้อกับพี่ หือ?”
“พี่ ดื้อกับลินท์ก่อน”
“หึ เมียดื้อก็ต้องจัดการ”
“ฮื่อออออออ” เด็กหนุ่มถูกจับให้เงยหน้ารับจูบที่เข้ามาประทับอย่างไม่ทันตั้งตัว ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวกระหวัดภายในโพรงปากดูดดึงเอาคราบน้ำรักที่เขากลืนกินไปเมื่อครู่จนหมด ร่างกายเขาร้อนวูบวาบจากสัมผัสที่คนรักกำลังปรนเปรอให้ ส่วนอ่อนไหวเริ่มตึงคับแน่นกางเกงนอน
“จะดื้อกับพี่อีกไหมครับ?”
“แฮ่ก.. แฮ่ก” เจ้าลูกเป็ดหอบหายใจมองเขาตาเขียวปั้ด “ดื้อ!”
“ดีๆ” เขาใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง แล้วถลกเสื้อนอนตัวบางของคนรักขึ้นจนเห็นยอดอกที่กำลังแข็งเกร็ง ลงลิ้นแตะตุ่มไตสีหวานจนเด็กหนุ่มครางเครือไม่ได้ศัพท์ “ชอบไหมครับ?”
“ฮื่อ”
“ชอบไหม ผู้ชายในเครื่องแบบ” เขาลูบไล้แก้มขาวของลูกเป็ดที่ขึ้นสีระเรื่อ น่างับ น่าฟัด น่ากัดเป็นบ้า! “แบบไม่ใส่อะไรเลย….”
“ฮื่อออออ” เด็กหนุ่มร้องโวยพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมของชายหนุ่มแต่ไม่มีแรงมากพอ ชลธีไม่ได้ทำอะไรคนรักมากไปกว่านั้นแค่เห็นท่าทางเหนื่อยอ่อนของมุจลินท์เขาก็เลิกแกล้ง ชายหนุ่มบรรจงจูบซับเหงื่อให้คนรักพลางใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดไปตามตัวเบาๆ เขาพาเด็กหนุ่มมาส่งที่เตียง จัดท่าทางให้คนรักได้นอนสบายตัว จนกระทั่งเห็นเด็กดื้อนอนหลับสนิทไปแล้วส่วนเขาก็ได้เวลาพักผ่อนสักที มือหนาลูบไล้ไปตามกรอบหน้าเด็กหนุ่มด้วยความรักใคร่อย่างสุดซึ้ง ในที่สุดเขาก็พบเจอความเจอความสุขที่อยู่ไม่ไกลตัวเลย.. ขอให้หลังจากนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษของเราทั้งคู่ตลอดไป
“ฝันดีนะครับคนดีของพี่”
TBCมาม่ายังไม่มานะคะ ป้าเกศไปเตรียมตัวก่อน
ตอนหน้ามาดูพี่หลามพาเมียไปฮันนีมูนนะจ้ะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากๆ เลย ดีใจมาก
คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า
เดี๋ยวเอาตอนพิเศษมาลงให้ค่ะ รัก <3