ตอนที่ ๓
“เรื่องของเรามันไปต่อไม่ได้แล้ว พี่จะยื้อเกศไว้ทำไม!?..” สายตาตัดพ้อระคนเจ็บปวดของคนตรงหน้าทำให้เขาเผลอกำข้อมือบางเสียแน่น เกศราพยายามใช้แรงอันน้อยนิดดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุม “เกศมาเยี่ยมลูกตามที่พี่ต้องการแล้ว สมใจพี่แล้วก็ปล่อยฉัน!”
“เกศ..ลูกต้องการคุณ ไทเกอร์ต้องการแม่..”
“พี่ก็ไปจ้างพี่เลี้ยงเด็กสิ เกศจะไปมีชีวิตใหม่ของเกศ พี่ธีได้ยินไหม! ” ใบหน้าสวยหวานที่ชลธีเคยชอบมองไม่รู้เบื่อ บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เขาขบกรามแน่นนึกเกลียดตัวเองที่เป็นต้นเหตุให้อดีตภรรยาเสียใจ
“เกศจะทิ้งพี่ พี่ไม่ว่า แต่ทำไมถึงใจร้ายกับลูกนัก”
เพี๊ยะ!“ทุกอย่างมันเป็นเพราะพี่! เพราะพี่คนเดียว!”
แรงตบจากฝ่ามือบางไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บมากไปกว่าหัวใจของที่กำลังปวดร้าว ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือแผ่นหลังบอบบางของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจกำลังเดินจากไป ชลธีไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้ชายที่ผ่านเรื่องราวเฉียดตายมามากมายอย่างเขาจะรู้สึกอ่อนแอได้ขนาดนี้..
อย่าไปจากพี่ได้ไหม...ชลธีรู้จักกับเกศราเมื่อสมัยบรรจุตำแหน่งร้อยตรี ผู้หมวดหนุ่มหล่อเป็นที่ต้องตาของสาวๆมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้ ชลธีรู้สึกต้องใจได้เท่าผู้หญิงคนนี้
เกศราเป็นลูกสาวของผู้พันที่เขาสังกัดอยู่ในขณะนั้น เขาเหมือนหมาวัดที่คิดจะเด็ดดอกฟ้าอย่างไรอย่างนั้น เธอเป็นนักเรียนนอกหัวสมัยใหม่ มีความมั่นใจในตัวเอง ทำให้เขาตัดสินใจเดินหน้าตามจีบมาตั้งแต่นั้น ด้วยความอดทนและสม่ำเสมอ ในที่สุดเขาก็ผ่านด่านพ่อตาสุดโหดได้สำเร็จ หลังจากคบกันได้สามปี ชลธีตัดสินสร้างครอบครัวกับผู้หญิงที่เขารัก
เขาว่ากันว่าผู้หญิงที่จะเคียงข้างนักรบได้นั้น ต้องมีความอดทนอดกลั้นและเสียสละเป็นอย่างมาก ชีวิตนายทหารที่ดูสวยหรูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบทำให้ชลธีไม่สามารถหาเวลามาดูแลภรรยาได้อย่างครอบครัวทั่วไป แม้กระทั่งวันคลอดลูกชาย เขาก็ยังติดภารกิจด่วนอยู่ที่ชายแดน มีเพียงกำลังใจที่ส่งไปให้ผ่านสายโทรศัพท์เท่านั้น
ชีวิตอิสระของเกศราถูกจำกัดมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับผิดชอบดูแลลูกชายและดูแลธุรกิจเสริมความงามไปพร้อมๆกัน เธอจึงได้ขออนุญาตชลธีจ้างพี่เลี้ยงเด็กชื่อชมพูมาดูแลไทเกอร์ในเวลาที่ต้องไปติดต่องานข้างนอก
นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด …ชลธีกลับบ้านได้แค่เสาร์อาทิตย์ เขากำลังเลื่อนยศขึ้นเป็นพันตรี นั่นคือการออกจากสังกัดเดิมเพื่อไปเรียนโรงเรียนเสธฯเป็นเวลา1ปี เขาต้องเทียวไปเทียวมาจากประจวบฯ-กรุงเทพฯ แต่เพื่อได้เจอหน้าลูกชายสุดที่รักวัยสองขวบและภรรยา คือกำลังใจที่ทำให้เขาผ่านไปแต่ละวันได้
ระยะหลังชลธีเริ่มสังเกตว่าไทเกอร์ติดขนมหวานและติดโทรทัศน์มากขึ้น บางครั้งถึงขั้นดึงโทรศัพท์จากมือเขาไปกดเล่น ลูกไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาตั้งคำถามในใจและสังเกตพฤติกรรมลูกชาย พี่เลี้ยงเด็กจะเข้ามาดูแลในช่วงกลางวันทำให้เขาไม่เคยได้เห็นว่าเลี้ยงลูกชายเขาอย่างไร
เขาและเกศราเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นเรื่องการเลี้ยงลูก.. “ถ้าพี่ไม่พอใจ พี่ก็มาเลี้ยงเองสิ!” หญิงสาวขึ้นเสียง คิ้วสวยขมวดเป็นปมแน่น “เกศเลี้ยงลูกพี่คิดว่าไม่เหนื่อยหรือ”
“เกศ!” ชลธีตกตะลึงมองผู้หญิงที่เคยพูดจาอ่อนหวาน หัวใจกระตุกเกร็งเมื่อเห็นแววตาว่างเปล่าของภรรยา
“พี่ไม่มีเวลา เกศก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน”
“แต่นี่ลูกนะ เกศจะเลี้ยงเขาทิ้งๆขว้างๆแบบนี้ไม่ได้”
“เกศหาพี่เลี้ยงเด็กมาเลี้ยงไทเกอร์แล้ว พี่จะเอาอะไรจากเกศอีก”
“ถ้าห่วงธุรกิจมากนัก ก็ให้คนอื่นมาทำธุรกิจแทนซะ ขายทิ้งไปเลยก็ได้” เขาขบกรามแน่น ใช่ว่าเรื่องนี้ไม่เคยพูดมาก่อน ภรรยาของเขาทุ่มเทให้กับสร้างฐานะ เขาก็ยินดี แต่ตัวเขาที่ไม่มีเวลาดูแลลูก ก็คาดหวังให้เกศราทำหน้าที่แม่ให้อย่างเต็มที่
“ไม่!” หญิงสาวจ้องตาเขม็ง “เกศไม่ยอม”
“เกศไม่ห่วงลูกเลยหรือ”
“พ่อมันยังไม่ห่วงเลย แค่มีพี่เลี้ยงดูแลก็พอแล้ว”
“เกศ!! พี่ขอร้อง..” เขารู้สึกเจ็บในอกเมื่อเห็นภรรยาปล่อยโฮ “เลิกทำงานแล้วมาเลี้ยงลูก”
“ไม่” หญิงสาวส่งเสียงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ “ให้เกศมีจุดยืนบ้าง จะให้เกศแบมือขอเงินพี่ใช้ตลอดหรือ”
“พี่เลี้ยงเมียพี่ได้ เกศไม่จำเป็นต้องทำงานเลย”
“พี่ไม่เข้าใจเกศ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเกศ พี่แค่เป็นห่วงลูก”
“เราแยกกันอยู่เถอะค่ะ”
“เกศ..”
ตลอดปีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาเริ่มย่ำแย่ เขาและเกศราไม่ค่อยได้พูดคุยเหมือนแต่ก่อน ชลธีพยายามกลับบ้านบ่อยขึ้นเพื่อมาอยู่กับลูกชาย เขาแอบติดกล้องวงจรปิดในห้องนอนของไทเกอร์โดยไม่ให้ใครรู้ จนกระทั่งวันหนึ่งเรื่องทุกอย่างเริ่มปรากฏ เขารีบดิ่งกลับบ้านทันทีเนื่องจากครูประจำชั้นโทรมาบอกว่าลูกชายเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นไข้ขึ้นสูง และไม่สามารถติดต่อคุณแม่ได้ เขารีบโทรหา คเชนทร์ น้องชายของเขาที่เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลมาจัดการเรื่องขอส่งตัวหลานชายมารักษา
ชลธีเป็นห่วงว่าภรรยาจะล้มป่วยเพราะหักโหมเรื่องบริหารธุรกิจมากเกินไป แต่เมื่อเขากลับไปถึงสิ่งที่เขาเห็นคือภาพของภรรยากำลังร่วมรักกับผู้ชายที่เขาไม่รู้จักบนเตียงนอนของเขาเอง
“พี่ธี!” เกศรารีบดึงผ้าห่มมาคลุมร่างที่เปล่าเปลือย ชลธีชาวาบไปทั้งตัว เขาไม่รู้เลยว่าควรทำอย่างไรดี
เขาเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น ความฝันของเขาคือการมีพ่อ แม่ ลูก อยู่กันพร้อมหน้า มีชีวิตที่มีความสุข บางครั้งเขาก็คิดว่า
เขาคงจะคาดหวังมากเกินไปเขานับหนึ่งถึงสิบในใจเกือบร้อยครั้งเพื่อยับยั้งชั่งใจไม่ให้ควักปืนพกในกระเป๋ากางเกงออกมาเป่าหัวมัน เขาได้คำตอบเสียทีว่าทำไมภรรยาเขาถึงได้เปลี่ยนไป ในเมื่อเกศราตัดสินใจที่จะเลือกแบบนี้ เขาก็ควรเคารพการตัดสินใจตั้งแต่แรก ไม่ควรยื้อไว้ให้เนิ่นนานเลย ชลธีเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้และกลับไปหาลูกชายที่โรงพยาบาล และขาดการติดต่อกับเกศราตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
เขาค่อยๆไล่เรียงดูภาพในกล้องวงจรปิดในห้องของลูกชายวัยสามขวบ ไทเกอร์ถูกจับขังในห้องนอนตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียน จะมีพี่เลี้ยงวางจานข้าว ห่อขนมและแก้วน้ำไว้ในห้อง โทรทัศน์และไฟถูกเปิดตลอดทั้งคืนเพราะไม่มีใครเข้ามาอีก ไทเกอร์วิ่งไปทุบประตูเมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีใครเปิดประตูเข้ามาพร้อมทั้งร้องหาแม่
แม่ที่ไปอยู่ไหนไม่รู้..ร้องจนกระทั่งหลับไป เมื่อถึงเวลาไปโรงเรียนของอีกวันจะมีพี่เลี้ยงเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้และพาไปโรงเรียน ไม่แม้แต่พาเข้าห้องน้ำอาบน้ำเลยด้วยซ้ำ ชลธีกรอภาพย้อนไปย้อนมา หัวอกของคนเป็นพ่อเหมือนมีใครควักหัวใจของเขาเอามาเหยียบจนบี้แบน นึกถึงลูกชายตัวน้อยที่ตอนนี้ไม่สามารถนอนคนเดียวได้ ความรู้สึกผิดตีรวนในอกยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด
พ่อขอโทษ...
.
.
.
.
เสียงเพลงดังสนั่นพาให้วัยรุ่นที่ขยับโยกย้ายไปตามเสียงเพลงออกสเต็ปไปตามจังหวะสนุกสนาน เป็นภาพที่น่ามองยามเห็นสาวสวยในชุดเสื้อผ้าตัวจิ๋วเบียดร่างไปตามอารมณ์ สถานบันเทิงใจกลางเมืองเป็นสถานที่นัดพบของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวยามราตรี กลุ่มชายหนุ่มในชุดลำลองสบายๆในมุมวีไอพีนั่งดื่มเหล้าพลางใช้สายตาสอดส่องเหยื่อสำหรับคืนนี้ ชลธีถอนหายใจเฮือกเหม่อมองไปตามบรรยากาศ เสียงเพลงชวนเต้นไม่ได้ทำให้ชลธีรู้สึกมีอารมณ์ร่วม มันรู้สึกวูบโหวงปวดหนึบ เขาตัดสินใจใช้เหล้าเป็นตัวช่วยในการทำให้นอนหลับคืนนี้
“ไอ้ฉลาม ไอ้ห่า แค่พวกกูชวนออกมากินเหล้าแค่นี้ต้องถอนหายใจเหมือนจะตายให้ได้เลยหรอวะ” ต้นไทรเป็นเพื่อนสนิทของชลธีสมัยเรียนอยู่ที่เตรียมทหาร ถึงแม้จะแยกย้ายกันไปเรียนตามเหล่าต่างๆแต่พวกเขาก็มักจะนัดพบกันอยู่เสมอ เป็นธรรมดาของสังคมนี้ เหล้าและผู้หญิงที่ไม่เคยขาด
“กูแม่งเหมือนคนตายไปแล้วว่ะ”
“กูเห็นไอ้นนท์เลิกกับเมียแล้วก็เป็นแบบมึงได้สามวัน กูพามาเที่ยวแม่งหายเลย” ชัยวัตร นายตำรวจหนุ่มตี๋ขวัญใจสาวๆ ตัวท็อปของกลุ่มที่มักจะเห็นหน้าตาขาวจั้วะของมันตามเพจนายร้อยในโซเชี่ยลมีเดีย
“หายเศร้า?”
“เออ หายไปกับเด็กนั่งดริ้งค์ทั้งคืน ทิ้งพวกกู!”
“แม่ง!” สองตัวแสบหัวเราะครืนทิ้งให้ชลธีถอนหายใจต่อไป ในเมื่อต้นไทรเทเหล้าไม่ทันใจ เขาก็เลยจัดการชงเหล้าเองเสียเลย ขนาดที่ใครก็ว่าเขาคอแข็งตอนนี้เขาก็เริ่มจะมึนๆแล้วเหมือนกัน
“ว่าไงครับผู้กำกับ เพื่อนโสดทั้งที ใจคอจะไม่หาอะไรปลอบใจไอ้ฉลามมันหน่อยหรือ” ต้นไทรยิ้มกริ่มหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้ชัยวัตร สถานบันเทิงแถบนี้อยู่ในพื้นที่ที่สน.ของชัยวัตรเป็นผู้ดูแล เป็นธรรมดาที่เขาจะมาเก็บดอกเบี้ยเล็กๆน้อยๆ
“ใจร้อนนะมึง ไม่รอไอ้ห่าเต๋าก่อนหรอวะ แม่งได้เลือกทีหลังแล้วชอบโวยวาย” ชัยวัตรพูดถึงอัครพลเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่เป็นทหารเรือประจำอยู่จังหวัดชลบุรี นานๆทีถึงจะขึ้นมาเยี่ยมเยียนพวกเขาที่กรุงเทพ หลังจากทราบข่าวว่าชลธีมีเวลาออกมาสังสรรค์ เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องรีบหาเวลามาปลอบใจเพื่อน
“มึงดูไอ้ฉลามก่อน ทำตัวเหมือนจะตายวันนี้พรุ่งนี้”
“กูสบายดี” เขาวางแก้วหลังจากยกดื่มจนหมดในรวดเดียว สมองเริ่มตื้อ หัวใจสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
“พูดงี้ได้ไงวะ กูเพื่อนมึงนะ” ชัยวัตรขมวดคิ้วย่น รู้สึกไม่ชอบใจที่เพื่อนรักร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทำตัวเบื่อโลกได้ขนาดนี้ เขาหันรีหันขวา ชูมือดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว บริกรเด็กหนุ่มก็รีบวิ่งแจ้นเข้ามาทันที “เดี๋ยวกูจัดให้”
“คืนนี้มีเด็กไหมวะ” เขากระซิบข้างหูเด็กหนุ่มที่หน้าตาตื่นเมื่อผู้กำกับหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ชัยวัตรชักจะหงุดหงิดกับเสียงเพลงที่ดังจนเริ่มฟังไม่รู้เรื่อง “บอกเจ๊ไก่ว่าวันนี้ขอแบบพิเศษๆ”
“ครับๆ” เด็กหนุ่มตัวแข็งเกร็งสูดกลิ่นกายหอมเย็นที่กระจายออกมาจากคนตรงหน้า ผู้กำกับหนุ่มชื่อดังที่เขาเคยกดไลค์ในเฟซบุ๊คให้เมื่อหลายวันก่อน ไม่คิดเลยว่าตัวจริงจะ เอ่อ..
น่ารัก... ปฐวีเป็นเด็กหนุ่มมหาลัยฯที่มารับจ็อบพิเศษที่ผับชื่อดังแห่งนี้ ด้วยรูปร่างหน้าตาชวนมองจึงได้รับตำแหน่งคอยบริการลูกค้าในโซนวีไอพี จึงเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของผู้กำกับหนุ่มเป็นอย่างดี
ชัยวัตรยิ้มกริ่มเมื่อเห็นบริกรหนุ่มหน้าตาดีน้อยกว่าเขารับคำแล้วรีบไปดำเนินการให้ ก่อนจะหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับกลุ่มเพื่อนชายโสด
“ไอ้ฉลาม มึงเป็นอะไรวะ” ผู้กำกับหนุ่มเอ่ยทักเมื่อเห็นเพื่อนที่จู่ๆก็ทำหน้าเครียดขึ้นมา “มึงใจเย็นๆก่อน กูกำลังเรียกเด็กมา”
“ไอ้วัตร...มึง”
.
.
.
.
.
.
.
สองมือบางคอยดึงรั้งกางเกงขาสั้นที่แนบเนื้อจนเห็นรูปทรงก้อนเนื้อให้ลงมา เสื้อกล้ามสีขาวบางจ๋อยที่เขาใส่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะบางจนพาลให้เห็นตุ่มไตสีชมพูอ่อนที่กำลังแข็งเกร็งเพราะอากาศหนาว ทรงผมที่แต่เดิมปรกหน้าถูกจัดเซ็ทให้เห็นดวงตากลมโตสีเทาใสแจ๋ว หน้าตามอมแมมถูกจับแต่งหน้าอ่อนๆ ริมฝีปากสีชมพูรับกับใบหน้ารูปไข่และทรงจมูกเชิดรั้น ตอนนี้มุจลินท์เริ่มจะเกลียดทุกสายตาที่มองเขาเหมือนสินค้าชิ้นหนึ่งชะมัด
“ลินท์มาหาเจ๊ตรงนี้ จะไปนั่งหลบตรงนั้นทำไม”
“ผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ” เขายืดเบียดไปกับเหล่าหญิงสาวที่แต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อย สายตาสอดส่องหาทางหนีทีไล่ ห้องนี้เหมือนห้องรับแขกขนาดใหญ่เป็นที่พักสำหรับหญิงสาวที่มีอาชีพขายเรือนร่างให้กับเสี่ยกระเป๋าหนักหรือผู้มีอิทธิพล มุจลินท์คิดว่าคนอย่างเขาน่ะหรือจะมาทำอะไรแบบนี้ได้ ผู้ชายผอมแห้งมีแต่กระดูกอย่างเขาเนี่ยนะ เขาพบว่าตัวเองคิดผิดมหันต์เมื่อราคาประมูลตัวเขาในคืนนี้จบลงที่ราคาเกือบสามแสนบาท
เงินจำนวนมากที่ทั้งชีวิตเขาจะหาได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้
“คืนนี้ลินท์ต้องทำตัวดีๆนะ เสี่ยเขาจะทำอะไรก็ปล่อยเขา” หญิงสาวรูปร่างอวบวงหน้ายาวตาเล็กตี่เหมือนอาหมวยเอ่ยพลางใช้หวีซี่เล็กบรรจงหวีผมให้เขา “อยู่เฉยๆไม่ต้องขัดขืน เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง เชื่อเจ๊”
เชื่อก็โง่แล้ว!เขากำหมัดแน่นสงบสติอารมณ์ให้นิ่งที่สุด ถ้าหากเขาทำอะไรวู่วามไป ไม่เพียงแต่เขาที่เดือดร้อน แต่ยายกับเปรี้ยวก็จะมีอันตรายไปด้วย มุจลินท์รู้สึกเต็มตื้นในอกม่านน้ำตาใสบดบังวิสัยทัศน์จนพร่ามัว เขาแค่ต้องการใครสักคนที่พาเขาออกไปจากที่นี่..
เสียงร้องขอที่ไม่มีวันไปถึงมุจลินท์ถูกชายชุดดำสองคนพาไปที่ห้องแห่งหนึ่ง ผู้หญิงที่คอยจัดแจงแต่งตัวให้และไปส่งเขาชื่อเจ๊ไก่ หล่อนคอยลูบหัวลูบตัวปลอบให้เขาที่สั่นไปด้วยความกลัวสงบจิตใจลง
“ผมไม่ไปได้ไหม” คนตัวเล็กเสียงสั่น “จะให้ผมทำงานอะไรก็ได้.. แต่แบบนี้ไม่เอาได้ไหมเจ๊”
“ไม่ต้องกลัวไป” เจ๊ไก่ล้วงถุงพลาสติกข้างในมียาเม็ดเล็กสีขาว หล่อนยื่นมาให้เขาหนึ่งเม็ด
“ยาอะไรน่ะเจ๊”
“ยาแก้ปวดหัว” เขารับมาแล้วเพ่งพินิจ อาการปวดหัวตุบๆทำให้มุจลินท์ยิ่งเกิดความกังวล เขาถอนหายใจเฮือก รับมาใส่ปากแล้วกลืนน้ำตาม ในใจครุ่นคิดไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาจะไม่ยอมง่ายๆแน่
ภายในห้องที่ถูกพาเข้ามาเป็นเตียงขนาดหกฟุตถูกปูด้วยผ้าปูสีเบจ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน หน้าต่างเปิดไว้ให้ลมพัดโกรกเห็นวิวเป็นตึกที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืน ด้านล่างของโรงแรมคือสถานบันเทิงชื่อดังของเหล่านักท่องราตรีที่เขาไม่มีแม้แต่ปัญญาจะซื้อบัตรผ่าน
น้ำตากลิ้งลงบนแก้มนวล เขากัดฟันแน่นไม่ยอมให้เสียงร้องหลุดรอดไปแม้แต่นิดเดียว เสียงประตูห้องถูกปิดลง เขานั่งนิ่งอยู่มุมห้อง หัวใจเต้นรัวแรงจนแทบระเบิด มุจลินท์รู้สึกว่าห้องเริ่มหมุนจนวิงเวียนศีรษะ อากาศที่ตอนแรกรู้สึกหนาวแปรเปลี่ยนเป็นร้อนรุ่มจนทำให้อยากจะ.. ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด
“ลินท์! ลินท์!”
“พี่..ฉลาม..” เสียงคุ้นเคยทำให้ดวงตากลมโตฉ่ำปรือขึ้นมามอง เห็นภาพเลือนลางเป็นนายทหารหนุ่ม
“ลินท์ อย่าเพิ่งหลับ ตื่นมาคุยกับพี่ก่อน” ชลธีเขย่าตัวลูกเป็ดที่ตัวอ่อนปวกเปียก หลังจากที่ได้รับข้อความจากน้องสาวของมุจลินท์ เขาจึงขอความช่วยเหลือจากผู้กำกับหนุ่มเพื่อขอรายละเอียดเจ้าพ่อเงินกู้ สินชัย โชคเข้าข้างที่เจ๊ไก่ เอเย่นต์รับซื้อเด็กสาวในวงการที่ใครต่างรู้จัก คือสายสืบลับๆที่ช่วยชัยวัตรในคดีค้ามนุษย์ เขาจึงทันตัดหน้าประมูลตัวมุจลินท์มาได้อย่างเฉียดฉิว แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอาการของคนตัวเล็กตรงหน้าเหมือนโดนยา.. ปลุกเซ็กซ์
ไอ้วัตร!คนที่คิดแผนการพิเรนทร์ๆมีแต่มันคนเดียว!
“ผมร้อน..” สองมือบางดึงรั้งเสื้อให้หลุดออกจากตัว “รู้สึกไม่ดีเลย..”
ชลธีบรรจงวางลูกเป็ดบนเตียงนุ่ม ร่างเล็กบนเตียงสั่นระริก มือทั้งสองดึงรั้งผ้าปูที่นอนจนหลุดลุ่ย เด็กหนุ่มรู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก ร่างกายตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าร้อนผ่าวเหมือนมีใครเอาไฟมาลน ความรู้สึกแปลกประหลาดยามร่างกายบดเบียดกันทำให้เขาเผลอส่งเสียงร้องน่าอับอายออกมา มุจลินท์ไม่อาจสกัดกลั้นอารมณ์ที่กำลังลุกโชนขึ้นได้
“พี่ฉลาม”
“พี่อยู่นี่..” เขาลูบหัวคนตัวเล็ก “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ”
“กอดผมที..” คนตัวเล็กโผเข้ากอด ชลธีครางฮึ่มในลำคอ กลิ่นหอมกรุ่นจากกายคนตรงหน้าเย้ายวนเหลือเกิน ดวงตาฉ่ำน้ำปรือตามอง “ช่วยลินท์ด้วย…” อารมณ์เบื้องล่างตีตื้นขึ้นมาในอก ชลธีอยากหักห้ามใจไม่ให้พลั้งมือทำอะไรลงไป เสื้อยืดสีขาวบางถูกเจ้าตัวฉีกทึ้งออกไปอย่างไม่ไยดี ตุ่มไตสีชมพูกำลังแข็งเกร็ง คนตัวเล็กครางเครือไม่ได้ศัพท์
“ฮื่อ.. พี่ฉลาม” ใบหน้ารูปไข่แดงพร่าเมื่อร่างกายถูกบดเบียด “ตรงนั้น..” มือบางค่อยๆรูดรั้งกางเกงขาสั้นออกจากสะโพกอวบ สองขาแยกออกจากกัน ดวงตาคมคร้ามของชายหนุ่มจับจ้องก้อนเนื้อขาวที่กำลังเชื้อเชิญเขา
เขาไม่อยากเอาเปรียบคนตัวเล็ก ในระหว่างที่กำลังเต็มไปด้วยฤทธิ์ยา เขาเป็นผู้ชายอายุสามสิบกว่า เคยมีภรรยาและมีลูกติดอีกหนึ่งคน ส่วนอีกคนยังเป็นแค่นักศึกษาอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ
เห็นคุกอยู่รำไร... TBC เขาทำอะไรกันคะ //ปิดตา
ขอบคุณคอมเม้นทุกคนเลย ชื่นใจจ้ะ เจอกันตอนหน้านะคะ^^