บทที่ 5
วันนี้ก็เป็นเช้าที่น่าเบื่อเช่นเคย ฮินาตะถอนหายใจขณะเดินลงไปยังชั้นล่างของบ้าน ผ่านมาห้าวันหลังจากไคยะหายตัวไปแล้วก็นับเป็นสองวันได้ที่ถูกเรนจูบพร้อมกับสารภาพรัก
ทว่าช่วงเวลาจากตอนนั้นจนถึงปัจจุบันเพื่อนสนิทคนนั้นไม่ได้มาประจ๋อประแจ๋รอบกายอย่างที่คิดเอาไว้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีเพราะหากว่าอีกฝ่ายพยายามรุกคืบสานต่อจากจูบคราวก่อนเขาคงทำทุกวิถีทางผลักไสเรนออกไปให้พ้นจากตัว
“ใครน่ะ” ระแวดระวังตัวเมื่อเดินผ่านห้องนั่งเล่นแล้วเห็นเงาของใครในห้องมืด ทว่าแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาทางผ้าม่านทำให้รู้ว่าคนที่อยู่ตรงนั้นเป็นผู้หญิง
“ใครนะถ้าไม่ตอบฉันจะแจ้งความนะ” ฮินาตะมองหาสิ่งที่น่าจะเป็นอาวุธให้ได้
“คิดไม่ถึงว่าหลานทั้งคนจะจำหน้ากันไม่ได้” คนปริศนาหัวเราะ ฮินาตะจำเสียงหัวเราะเย้ายวนได้ในทันที เขาไม่มีทางลืมน้ำเสียงแบบนี้
“คุณย่าเทเรซ่า” ฮินาตะเดินไปเปิดไฟ ท่ามกลางแสงไฟเจ้าของร่างระหงผู้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับไคยะยืนอยู่ที่ตรงนั้น
“ได้ข่าวจากแฮร์โรลว่าดื่มเลือดได้แล้วหรือ” เทเรซ่ากรีดยิ้มยั่วเย้า
“ดื่มเลือดได้แล้วจะทำไม ถ้าทำได้ผมจะไม่ดื่มมันอีกเป็นครั้งที่สอง” ฮินาตะกล่าวเสียงเย็นชา “ที่นี้จะใช้ใครมาบังคับให้ผมดื่มเลือดอีกล่ะ หรือว่าจะทำด้วยตัวเอง”
“หึหึ...ไม่ละ ฉันแค่รอให้เธอกระหายแล้วจัดการเหยื่อด้วยตัวเองก็พอแล้ว”
“คุณพูดอะไรผมไม่...” ฮินะตะตวาดเสียงแข็ง เขาหอบเบาๆด้วยความเลือดพล่านแล้วนิ่งงันไปเพราะนึกอะไรได้บางอย่าง
“นี่ก็น่าจะเป็นวันที่ห้าแล้วสินะ หลังจากไคยะทิ้งเธอไว้ ถ้าให้เดา ฉันได้กลิ่นเลือดของไคยะจากตัวเธอ นี่คงจะดื่มเลือดไคยะสินะ”
“แล้วทำไมครับ” ฮินาตะเสียงสั่นนึกกลัวรอยยิ้มแปลกๆบนใบหน้าของเทเรซ่า
“แล้วยังไงนะหรือ” เทเราซ่ากลั้วหัวเราะ “จะให้ฉันเดาต่อไปจากกลิ่นเลือดที่จางลง คาดว่าไคยะน่าจะให้เลือดเธอเมื่อห้าวันก่อน รับรองว่าไม่นานเธอต้องกระหายเลือดอีกแน่” ฮินาตะถึงแม้กังวลกับข้อเท็จจริงแต่เลือกจะสะบัดหน้าเดินหนี
“อ้าวจะไปไหนล่ะ” เทเรซ่าทำเสียงเย้าแหย่
“ไปให้พ้นจากหน้าคุณไง”
“แต่ฉันมีข้อเสนอนะ”
“ผมไม่มีอารมณ์จะฟัง”
“ฟังก่อนเถอะ” เทเรซ่าเข้ามายืนข้างกายเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ มือเรียวเชยคางเด็กหนุ่มให้หันไปสบตา
“มีวิธีที่จะทำให้เธอไม่กระหายเลือดอีกต่อไป” ฮินาตะใจเต้นระทึกเขารอฟังอยู่
“ถ้าเธอดื่มเลือดของฉันและเข้าพิธีเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นดาร์คฮาร์ฟ นอกจากจะไม่ต้องดื่มเลือดแล้วเธอยังจะมีชีวิตอมตะไม่แก่ไม่ตายมีสภาพแบบเดียวกับมินาโกะแม่ของเธอ”
“แต่นั้นมันเป็นพิธีแต่งงานของแวมไพร์กับมนุษย์นี่” ฮินาตะรู้ดีว่าพีธีกรรมสร้างดาร์คฮาร์ฟมีจุดประสงค์เช่นไร ทั้งหมดเพื่อให้คนรักของแวมไพร์เป็นอมตะพร้อมทั้งยังสร้างประโยชน์เป็นแหล่งเลือดให้ไปจนกว่าจะตายไปพร้อมกัน
“คุณจะแต่งงานกับผมหรือคุณย่า”
“ทางนิตินัยล่ะก็ใช่แต่ทางพฤตินัยนี่ต้องขอคิดดูก่อน” เทเรซ่าหัวเราะเจ้าเล่ห์
“ผมขอปฏิเสธ”
“ทำไม” เทเรซ่ามีสีหน้าเคร่งขรึม
“เพราะผมเกลียดคุณ ถ้าจะให้ต้องมีชีวิตอมตะร่วมกับคุณไปจนตายผมยอมตายดีกว่า”
“อ้อ...” เทเราซ่าเหยียดยิ้มเย้ยหยัน “คงยังโกรธที่ฉันใช้ให้ไคยะไปบังคับให้ดื่มเลือดสินะ อยากให้รู้ไว้ว่าไคยะเต็มใจทำเอง”
“ผมไม่สนเรื่องนั้น มันนานเกินจนลืมไปแล้ว”
“งั้นรึ” เทเรซ่าทำเสียงล้อเลียนพลางยื่นหน้าเขามากระซิบข้างหู “รู้กันแค่สองคนนะ เธอแอบรักพี่ชายตัวเองใช่ไหม”
ฮินาตะกัดฟันกรอด ใบหน้าของเขาแดงซ่านด้วยทั้งโกรธและอาย เด็กหนุ่มพลุนพลันออกจากบ้านไปโรงเรียนโดยมีเสียงหัวเราะดังไล่หลังมา
“ทำไม” ฮินาตะพึมพำด้วยความอึดอัดใจเมื่อหน้าห้องเรียนอาจารย์ประจำสายชั้นแนะนำตัวเทเรซ่าให้รู้จักในฐานะอาจารย์คนใหม่
“ตั้งแต่วันนี้ไปอาจารย์เทเรซ่า น็อกซ์จะมาสอนแทนจนกว่าอาจารย์มิยาชิตะจะกลับมาสอนต่อได้นะ” อาจารย์ประจำสายชั้นกล่าวกับนักเรียนในห้อง
ทำไงดี ถ้าต้องถูกจับตามองตลอดเวลาเขาจะทำอะไรได้ แถมเทเรซ่ายังเป็นพวกกระหายเลือดกินไม่เลือกหน้าไม่รู้ว่าพวกนักเรียนจะเจอกับอะไรบ้าง
ขณะที่คิดเช่นนั้นเด็กหนุ่มก็ยกมือขึ้นปิดจมูกของตน ขนลุกเกรียวเมื่อกลิ่นเลือดที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผิวหนังของเพื่อนๆ กระตุ้นเร้าเขาจนกระสันอยาก ทำไมต้องมาเป็นตอนนี้ด้วยนะ
“อ้าวเธอตรงนั้นเป็นอะไรไปหรือเปล่า” เทเรซ่าซึ่งแสร้งทำเป็นคนไม่รู้จักเดินนวยนาดเข้ามาใกล้
“ไม่เป็นไรครับ” เขาจวนเจียนจะถึงขีดจำกัดแล้วยังไงก็ต้องไปจากที่นี่ เด็กหนุ่มรู้ได้จากร่างกายที่สั่นระริกเหมือนคนป่วย
“ผมจะไปห้องพยาบาลครับ” ลุกขึ้นยืนอย่างปุ๊บปั๊บ ระหว่างก้าวเดินดันสะดุดขาตัวเองล้มลงไปท่ามกลางสายตาของผู้คนในห้อง แข้งขาเขาอ่อนแรงไปหมดเพราะขาดเลือดนั่นเอง
“คุณคนนั้นน่ะ”
“คะ” เด็กสาวขานรับเทเรซ่า
“คุณช่วยพยุงเด็กคนนี้ไปห้องพยาบาลทีสิจ๊ะ” นักเรียนหญิงเข้ามาพยุงตัวฮินาตะไปห้องพยาบาลโดยมีเทเรซ่าเดินตามไปติดๆ
บ้าที่สุดแค่ขืนไม่ให้กระหายก็เต็มทนแล้ว นี่เขาไม่มีแรงแม้แต่จะกล่าวปฏิเสธ
“ค่อยๆนั่งนะคามิชิโระคุง” นักเรียนหญิงประคองฮินาตะที่อ่อนระโหยด้วยความอยากให้นั่งลง ขณะที่พยุงก็เผยช่องว่างให้เขางับต้นคอได้ในระยะประชิด ลำคอขาวผ่องกับกลิ่นของสาวบริสุทธิ์ทำให้เด็กหนุ่มขาดสติเผยอปากหมายฝังเขี้ยวลงไป ทว่าสายตาเจ้ากรรมดันปะเข้ากับเทเรซ่าซึ่งยืนยิ้มกริ่มดังนั้นเขาจึงผลักเด็กสาวให้ออกห่างจากตัว
“ออกไป”
“เอ๋...อะไรกัน” เด็กสาวงุนงงไปหมดเธอถูกผลักจนเซแล้วยังถูกไล่ด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“เธอกลับไปที่ห้องเรียนเถอะจ๊ะเดี๋ยวครูจัดการเอง”
“ค่ะ” เด็กสาวมองดูฮินาตะด้วยแววตาสงสัยก่อนจะเดินจากไป เมื่ออยู่ตามลำพังเทเรซ่าก็ระเบิดหัวเราะชอบใจ
“ความยับยั้งชั่งใจต่ำ ความกระหายเลือดที่มากกว่าแวมไพร์ปกติหลายเท่า สมกับที่เป็นเดมี่แวมไพร์ผู้พิกลพิการในหมู่แวมไพร์จริงๆ” หล่อนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“หากว่าเป็นแดมพีลคงไม่สร้างความลำบากใจให้มากถึงขนาดนี้” เทเรซ่าเดินเข้าไปใกล้ฮินาตะใช้ปลายนิ้วเกี่ยวคางให้หันมาสบตา “กลับกลายเป็นผ่าเหล่าในทางแย่ๆซึ่งมีความเป็นไปได้แค่เพียงน้อยนิดเท่านั้น รู้ไหมว่าการปล่อยให้เธออยู่ร่วมกับมนุษย์ต่อไปมันเสี่ยงต่อการคงอยู่ของเผ่าพันธ์มากแค่ไหน ว่ายังไงจะยอมเป็นดาร์คฮาร์ฟของฉันหรือว่าจะปล่อยให้ฉันฆ่าทิ้งตรงนี้ตามกฎของเผ่า”
ต้องตายอย่างนั้นหรือ เขายังไม่อยากตาย แต่ก็กลัวผลลับของข้อเสนอที่ได้รับมา หากเลือกที่จะเป็นดาร์คฮาร์ฟอาจไม่มีวันได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ปกติอีก ยิ่งกว่านั้นยังตนทนอยู่กับคนที่เกลียดตลอดกาลอีกด้วย
“เลือกมา” เทเรซ่าใช้มือบีบเข้าที่ลำคอของฮินาตะอย่างหลวมๆ บอกชัดว่าถ้าปฏิเสธจะฆ่าทิ้งอย่างแน่นอน
“ฉัน...” ฮินาตะกัดฟันกรอดพร้อมกับหลับตาปี๋ ถ้าจะต้องเลือกในตอนนี้ยังไงก็ไม่อยากตาย “ฉัน...”
“จะไม่มีใครเป็นดาร์คฮาร์ฟของใครทั้งนั้น” เสียงทรงอำนาจดังขึ้นในจังหวะที่สถานการณ์ตึงเครียด ฮินาตะลืมตาตาขึ้น เทเรซ่าบีบรัดคอของเขาจนต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
“เห...” เทเรซ่าลากเสียงยั่วเย้าขณะหันไปมองไคยะซึ่งยืนตระหง่านยังเบื้องหน้าเธอ “แกนี่มาขัดจังหวะกันได้นะ”
“ขัดจังหวะอะไรไม่ทราบยัยเฒ่า”
“แกเปลี่ยนไปนะ กลายเป็นคนก้าวร้าวอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เทเรซ่าห่อไหล่แสร้งทำเป็นกลัว เมื่อหลานชายคนโตส่งสายตาแข็งกร้าวมาให้
“ปล่อยมือจากเจ้านั่นแล้วกลับรังลับไปซะ”
“ปล่อยหรือ” เทเรซ่าทำเสียงจุจุในปากพร้อมกับบีบคอฮินาตะแน่นยิ่งกว่าเดิม
“อึก...” ฮินาตะครางขณะที่เจ็บยังรับรู้ได้ถึงความร้อนรนของไคยะ เป็นห่วงเขาด้วยหรือ ทำไมล่ะทั้งที่ก่อนหน้านั้นเมินเฉยกันมาตลอดหลายปี จนเขาคิดว่าถูกพี่ชายเกลียด
“ถ้าเจ้านั่นเป็นอะไรไปฉันจะฆ่าเธอซะ” ดวงตาของไคยะฉายแววอำมหิต
“แกกล้าฆ่าผู้นำอย่างฉันงั้นรึ” เทเรซ่าหัวเราะอย่างประสงค์ร้ายพลางจิกเล็บลงบนลำคอของฮินาตะจนเลือดไหลซิบ
“ยังไงฉันก็จะขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไปอยู่แล้ว แวมไพร์แก่ๆ ทิ้งไว้ให้มีชีวิตก็เปล่าประโยชน์”
“พูดได้ดี” เทเรซ่ากล่าวเสียงเนิบนาบ พลันลงมือกับฮินาตะอย่างไม่ปรานี ทว่าไคยะไวกว่ามากเข้าถึงตัวในทันที ผู้เป็นย่าแก้ลำด้วยการเหวี่ยงหลานคนเล็กเข้าใส่
“แค่กๆ” ฮินาตะไอโขลกๆในอ้อมกอดของไคยะ แววตาที่มองสบมาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“พี่” ฮินาตะรู้สึกอยากจะร้องไห้ เขาเจ็บปวดที่ใจอย่างไม่อาจอธิบายทั้งยังร้าวที่บริเวณบาดเจ็บอีกด้วย
“ยัยเฒ่าทำนายเจ็บถึงขนาดนี้” เสียงของไคยะช่างรวดร้าวราวกับเป็นคนเจ็บเสียเอง
“กลับรังลับไปซะ” ชายหนุ่มกระชับฮินาตะไว้ในอ้อมกอด
“กลับงั้นหรือ” เทเรซ่าหัวเราะด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“บอกไว้ก่อนนะไคยะว่าเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่อยากให้มีปัญหามอบฮินาตะมาให้ทางนี้จะดีกว่า”
“ไปให้พ้น” เทเรซ่ามองดูสองพี่น้องด้วยแววตาเวทนา เจ้าหล่อนกลายร่างเป็นค้างคาวยักษ์บินออกนอกหน้าต่างหายลับไป
“คุณคิซาระจะมาที่นี่หรือ” ฮินาตะกังวล เด็กหนุ่มรู้จักคิซาระดีเพราะหล่อนมักมาหาในวันเกิดของไคยะทุกปี ยกเว้นห้าปีหลังที่ไคยะไปงานฉลองวันเกิดตัวเองที่รังลับ
“ไม่จำเป็นที่นายต้องใส่ใจ ถ้าฉันห้ามไม่ให้มาคิซาระก็จะไม่มา”
ไคยะมีสีหน้าเคร่งขรึม ฮินาตะซุกใบหน้าลงไปบนอกของพี่ชายด้วยความรู้สึกสับสน คิดไปเองหรือเปล่านะเขาไม่ต้องการให้คิซาระมาที่นี่ ที่บ้านซึ่งเขาอาศัยอยู่กับพี่ชายตั้งแต่แรกเกิด
...
เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า
ฝากกดติดตามเพจบ้างน้า
https://web.facebook.com/Violasheep-143717016230496/