ติดแฮชแท็ก #พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์
อุ้มรัก'S l "06"❈ ❈ ❈ 100% ❈ ❈ ❈
“พี่ควอตซ์ครับ... พี่ควอตซ์” น้ำเหนือเอ่ยเรียกคนที่ยังนอนอยู่บนเตียงทั้งๆ ที่เวลานี้ก็เช้ามากแล้ว
“อือ... เหนือ...” คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวตื่น เจ้าตัวหรี่ตามองคนที่เอ่ยปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา
สีหน้าท่าทางที่ไม่ปกตินักทำให้น้ำเหนือนึกเป็นห่วง ดูท่าแล้วอาการจะยังไม่ดีขึ้นเสียเท่าไหร่ “รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ เวียนหัวอยู่หรือเปล่า”
“ครับ... เช้าแล้วเหรอ” ควอตซ์ถาม ดันตัวเองขึ้นนั่งแต่ก็ยังไม่สามารถลุกจาเตียงไปไหนได้เพราะรู้สึกเวียนหัว
“ครับ ไปทำงานไหวไหม ผมว่าพี่ควอตซ์นอนพักอยู่บ้านก่อนดีกว่าไหมครับ”
“ไม่เป็นอะไรครับ วันนี้พี่มีประชุมบอร์ดด้วย เดี๋ยวขอพี่นั่งพักอีกแป๊บหนึ่งแล้วจะลุกไปอาบน้ำครับ น้ำเหนือไปดูแฝดเถอะ” ถึงแม้จะเอ่ยบอกแบบนั้นแต่เจ้าตัวกลับจับแขนของน้ำเหนือเอาไว้ไม่ยอมปล่อยอีกทั้งยังดึงอีกฝ่ายมากอดเอาไว้ด้วย
“พี่ควอตซ์...”
“แป๊บนึงนะครับ” ควอตซ์บอกพร้อมกับกอดน้ำเหนือแน่นขึ้น เจ้าตัวซุกหน้าลงกับซอกคอของคนรัก กดจมูกเพื่อสูดดมความหอมอ่อนๆ จากร่างกายของน้ำเหนือ เป็นกลิ่นที่ทำให้เขารู้สึกดี
จนรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นมากแล้วนั่นแหละถึงได้ยอมผละออกจากน้ำเหนือแล้วเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ พอเจอน้ำเย็นๆ ก็พอช่วยให้รู้สึกสดชื่นแล้วก็สมองโล่งขึ้น อาการมึนๆ ตึงๆ ที่ศรีษะก็ลดลงไปมากทีเดียว อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็เดินลงมาข้างล่างเห็นคนรักกำลังต้อนเจ้าแสบให้ไปทานมื้อเช้า
ควอตซ์เอ่ยทักทายพ่อภรรยาที่เดินออกจากห้องมาพอดีก่อนที่ทั้งคู่จะพากันเดินไปยังห้องอาหาร มื้อเช้าเป็นข้ามต้มหมูส่งกลิ่นหอม แต่ควอตซ์รู้สึกไม่อยากอาหารเลยสักนิดคงเพราะอาการป่วย
“ของฉันเอากาแฟมาแก้วหนึ่ง” ควอตซ์เอ่ยบอกกับเมดที่กำลังจัดแจงตักข้าวต้มให้คุณหนูตัวเล็กทั้งสอง แต่พอเห็นสายตาของคนรักที่มองมาเขาก็เอ่ยปากอีกรอบ “ขนมปังปิ้งมาด้วยก็แล้วกัน”
เหล่าเมดพากันอมยิ้มกับอาการยอมลงให้ภรรยาของควอตซ์ เพราะถ้าหากเป็นก่อนที่น้ำเหนือจะเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะภรรยาและลูกสะใภ้ของบริสตัน ควอตซ์ไม่มีเสียหรอกกับการยอมตามใจใครแบบนี้ แม้แต่กับคุณหญิงมรกตยังต้องส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของลูกชาย แต่เพราะตอนนั้นควอตซ์เองก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีแค่เป็นการเอาแต่ใจกับบางเรื่องเท่านั้น คุณหญิงมรกตเลยปล่อยผ่าน
“วันนี้พ่อจะไปทำงานหรือเปล่าครับ หรือจะพักอยู่ที่บ้านอีกวัน ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหม” น้ำเหนือหันมาถามพ่อสินธรที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ
“พ่อว่าจะเข้าไปสักหน่อย ยังมีงานค้างหลายอย่างเลย” พ่อสินธรว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอกน่า พ่อไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ไปทำงานแค่นี้เอง”
“ก็ได้ครับ อย่างนั้นเดี๋ยวให้สิงคอยรับส่งพ่อแล้วกันนะครับ แขนเจ็บแบบนี้พ่อขับรถเองไม่ได้หรอก”
“ตามที่ลูกว่านั่นแหละ” สินธรพยักหน้ารับเห็นตามนั้น
หลังจากจัดการมื้อเช้าเรียบร้อย น้ำเหนือก็พาสองแสบไปบ้วนปากอีกรอบเช็คเสื้อผ้าลูกชายให้เรียบร้อยก่อนจะส่งกระเป๋านักเรียนให้คนละใบ ทั้งสองคนรับไปสะพายก่อนที่ครอบครัวบริสตันจะเริ่มออกเดินทาง
น้ำเหนือเห็นว่าควอตซ์ดูยังไม่สบายอยู่จึงไม่ได้ให้เจ้าตัวขับรถไปเองเลยให้สิง...คนขับรถขับมาส่งแทน แวะไปส่งฝาแฝดที่โรงเรียนก่อนแล้วจึงไปส่งเขากับควอตซ์ที่บริษัท แล้วให้สิงกลับไปคอยรับส่งพร้อมคอยดูแลพ่อสินธร
“พี่ลินครับ ผมฝากดูพี่ควอตซ์ด้วยนะครับไม่สบาย เวียนหัว” น้ำเหนือบอกกับลิน “แล้วเดี๋ยวผมจะแวะมาดูบ่อยๆ นะครับ นี่ประชุมบอร์ดตอนไหนเหรอครับ”
“ค่ะ เดี๋ยวสิบโมงครึ่งก็ประชุมแล้วค่ะ คงแค่ครึ่งวันค่ะ” ลินเปิดตารางงานดูก่อนจะตอบ “ตอนบ่ายไม่มีนัดอะไร ถ้ายังไงให้คุณควอตซ์กลับไปพักที่บ้านก็ได้ค่ะ ดูท่าจะอาการหนัก”
ทั้งคู่หันไปมองคนที่นั่งหลับตาพิงโซฟาอยู่ จากตอนแรกก่อนจะออกจากบ้านท่าทางของควอตซ์ก็ดูดีขึ้นมาแล้ว แต่พอตอนนี้เจ้าตัวดูจะเวียนหัวไม่น้อยเลยต้องนั่งนิ่งๆ แบบนั้น
“นี่... น้องเหนือคะ” ลินกระซิบเรียกให้น้ำเหนือหันมามอง “ไม่ได้... จะมีข่าวดีอะไรใช่ไหมคะ”
“ข่าวดี อะไรเหรอครับ” น้ำเหนือทำหน้างง
“อาการคุณควอตซ์จากที่ฟังน้องเหนือมาน่าสงสัยนี่ค่ะ นึกว่าจะมีข่าวดี” ลินพูดยิ้มๆ พลางลูบไปที่หน้าท้องของตัวเองเพื่อสื่อว่าข่าวดีที่พูดหมายถึงอะไร
น้ำเหนือมองก่อนจะร้องอ๋อ แล้วจึงยิ้มขำพลางส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอกครับ ผมว่าพี่ควอตซ์น่าจะเครียดมากกว่า”
“แหม... น่าเสียดาย นึกว่าจะสมใจคุณหญิงแล้วเสียอีก” ลินทำหน้าเสียดายอย่างปิดไม่มิด
เห็นทั้งคุณหญิงมรกต ทั้งคุณโทมัสต่างก็ลุ้นกันมานานว่าอยากจะได้หลานสาวอีกสักคน แต่ก็ไม่มีข่าวดีสักที แต่ลินก็พอรู้มาว่าไม่ใช่เรื่องงานที่น้ำเหนือจะตั้งท้องลูกอีกคนเพราะสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนคนอื่น
“พี่ลินก็รู้ว่าไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ” น้ำเหนือพูดยิ้มๆ
“น้ำเหนือ” เสียงเรียกของคนป่วยทำให้ทั้งสองคนที่คุยกันอยู่ต้องหันไปมอง ลินเอ่ยขอตัวไปทำงาน น้ำเหนือเลยเดินมาหาคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ที่โซฟา
“ว่ายังไงครับ อยากได้อะไรหรือเปล่าครับ” น้ำเหนือทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ก่อนจะเอ่ยถาม
อีกฝ่ายไม่ตอบ ยื่นมือมาคว้ามือของน้ำเหนือไปกอดเอาไว้แทน ทิ้งตัวพิงผนักแล้วหลับตาลง
“เวียนหัวอีกแล้วเหรอครับ” น้ำเหนือถามพยายามจะดึงมือออกแต่อีกฝ่ายจับเอาไว้แน่นเลยต้องปล่อยให้จับไป
“อือ” ควอตซ์รับคำสั้นๆ
“เข้าประชุมไหวแน่ใช่ไหมครับเนี่ย ต้องไปโรงพยาบาลไหมครับดูอาการพี่ไม่ค่อยดีเลยนะ” น้ำเหนือเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร แค่มึนนิดหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น” ควอตซ์ตอบก่อนจะบังคับให้น้ำเหนือนั่งนิ่งๆ เป็นหมอนให้เขานอนหนุนตัก สองแขนโอบรอบเอวของคนเป็นหมอนแล้วหลับตาลง
น้ำเหนือก้มลงมองคนป่วยก่อนจะลูบผมเบาๆ หวังว่าการที่เขาทำแบบนี้จะทำให้ควอตซ์อาการดีขึ้นแม้จะรู้ว่ามันไม่ได้ส่งผลกันเลยก็ตาม คนบนตักหายใจเข้าออกสม่ำเสมอคงหลับไปแล้ว ยังเหลือเวลาก่อนจะเข้าประชุมน้ำเหนือเลยปล่อยให้พักผ่อน ส่วนตัวเขาก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาพี่ๆ ในแผนกเพื่อบอกว่าจะเข้าสาย
เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมาคนที่นอนหลับอยู่ก็รู้สึกตัวตื่นโดยที่น้ำเหนือยังไม่ได้ลงมือปลุก น้ำเหนือรอจนอีกฝ่ายตื่นเต็มที่
“เป็นยังไงบ้างครับ ดีขึ้นไหม”
“ครับ ก็ดีขึ้นนะ” ควอตซ์ขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลางตอบ
“เดี๋ยวผมไปหยิบผ้ามาให้ครับ อย่าสะบัดหน้าแบบนั้น” น้ำเหนือห้ามเมื่อเห็นอีกฝ่ายสะบัดหน้าเพื่อไล่ความง่วงงุน กลัวว่าจะกลายเป็นหายง่วยแต่มึนหัวมากกว่าเดิม
ลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำในส่วนพักผ่อนของห้องทำงานก่อนจะออกมาพร้อมกับผ้าเปียกหมาดๆ หนึ่งผืน น้ำเหนือเดินกลับมานั่งลงข้างๆ ควอตซ์ก่อนจะใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดไปทั่วใบหน้าคนรักจนคนที่ยังมีอาการง่วงงุนตื่นเต็มตา
“เป็นยังไงบ้างครับ”
“อือ ดีแล้วล่ะ” ควอตซ์ตอบ เป็นเวลาเดียวกับที่ลินเดินเข้ามาในห้องเพื่อบอกเตือนเรื่องประชุม
น้ำเหนือจัดเสื้อผ้าของคนรักให้เข้าที่เข้าทางจนเรียบร้อยก่อนจะเดินไปส่งอีกฝ่ายที่ห้องประชุมแล้วตัวเองจึงกลับไปทำงานต่อ
“ว่าไงน้ำเหนือ เรียบร้อยแล้วเหรอ” เสียงทักทายดังขึ้นทันทีที่น้ำเหนือเดินเข้ามาในแผนก
น้ำเหนือยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนก่อนจะรับไหว้น้องฝึกงานทั้งสองคน “สวัสดีครับ เรียบร้อยดีครับพี่เอ ถ้าอาการพี่เขาไม่ดีขึ้นตอนบ่ายผมคงต้องขอตัวกลับก่อน”
“อาการหนักเหรอ” เป็นตี๋ที่เงยหน้าจากคอมพิวเตอร์ขึ้นมาถาม ก่อนที่ทุกคนจะเลื่อนเก้าอี้ตัวเองมาล้อมโต๊ะกลาง
“พี่เขาเวียนหัวครับ เป็นๆ หายๆ ผมเลยว่าถ้ายังไม่ดีขึ้นจะพาไปหาหมอแล้ว” น้ำเหนือตอบ
“ดีแล้ว ดีๆ พาไปหาหมอนั่นแหละตอนนี้โรคอะไรก็ไม่รู้เกิดขึ้นเต็มไปหมด รีบไปตรวจไปหาสาเหตุเสียก่อนจะได้ไม่เป็นอันตราย” เอเห็นด้วยกับความคิดของน้ำเหนือ
“ถ้าเขาไม่ดื้อนะครับ” น้ำเหนือพูดยิ้มๆ
“แหม... แต่ท่านรองฯ ก็ไม่เคยดื้อกับเราเลยนี่นา”
น้ำเหนือส่ายหน้า “ไม่เคยดื้อน้อยน่ะสิครับ พี่ว่าสองแสบดื้อไหมล่ะ คนเป็นพ่อคูณสิบเข้าไปครับ”
“จะว่าไปไม่เจอสองแสบนานแล้วนะเนี่ย” ดินพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาไม่เห็นฝาแฝดมาเกือบเดือนแล้ว
“มาถึงก็อยู่กับพี่ควอตซ์ครับ พี่เขากลัวว่าจะมาวุ่นวายเพราะเห็นว่าเรากำลังเร่งงานกันอยู่ แต่เดี๋ยววันนี้คงมาป่วนได้” น้ำเหนือตอบยิ้มๆ
“ทิวกับจ๊ะจ๋ายังไม่เคยเจอตัวนำโชคของแผนกเราสินะ” เอหันไปพูดกับน้องฝึกงานทั้งสองคน ให้ทั้งคู่ทำหน้างง
“เดี๋ยววันนี้ก็ได้เจอแล้วล่ะ ตัวป่วนเลย”
“ว่างั้นไม่ได้สิเหนือ เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักตัวนำโชคเลย ชี้แบบไหน แบบนั้นขายดีมาก พวกพี่ชอบพนันกัน รู้ไหมเคยพนันว่าแบบที่สองแสบเลือกไม่ดัง โดนกินเรียบ!”
ทั้งทิวกับจ๊ะจ๋าก็ได้แต่พยักหน้ารับเพราะยังไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดดี ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันทำงานในส่วนของตัวเองต่อ คอลเลคชั่นความเป็นไทยที่เร่งทำกันมาตลอดเดือนใกล้ประสบความสำเร็จ หลังจากประชุมกันมาหลายรอบจนได้แบบไฟนอลแล้ว ตอนนี้ทุกคนเลยกำลังลงรายละเอียดของงาน แบบดีไซน์ของทิวกับจ๊ะจ๋าก็ได้รับเลือกให้ผลิต ทั้งสองแทบจะร้องไห้ด้วยความดีใจไม่คิดว่าจะมีผลงานเร็วขนาดนี้ สำหรับพวกเขาแค่คิดว่ามีโอกาสได้ร่วมออกแบบก็ดีมากแล้ว แต่นี่ได้นำแบบออกมาผลิตด้วยเลยเหนือความคาดหมายมากทีเดียว
“พี่น้ำเหนือครับ ช่วยผมดูตรงนี้หน่อยได้ไหมครับ ผมทำมาแบบนี้ใช้ได้หรือยังครับ” ทิวเรียกน้ำเหนือก่อนจะส่งแบบสเก็ตให้ดู
น้ำเหนือรับงานของรุ่นน้องไปนั่งดูรายละเอียดก่อนจะแนะนำไปในส่วนที่ยังไม่ดี “ทิวเขียนระบุลงไปเลยว่าต้องการขนาดเท่าไหร่ ยิ่งขนาดของชิ้นงานยิ่งต้องระบุนะ ไม่อย่างนั้นฝ่ายผลิตเขาไม่รู้หรอก แล้วเดี๋ยวพอได้แบบที่พอใจแน่แล้วก็ออนสเกลได้เลย อย่างตรงนี้ทิวสามารถระบุได้เลยว่าอยากได้เป็นอะไร ทับทิม สปิเนล ทัวร์มาลีนหรือโกเมน ระบุแค่รัตนาภรณ์ไม่พอหรอก เพราะสีแดงก็มีเพียบไปหมดเลย”
“ครับ”
“ลองเช็คดีเทลพวกนี้ดีๆ มันเป็นดีเทลเล็กๆ ที่ชอบลืมกันแต่มันสำคัญมาก เพราะถ้าไม่ระบุสีฝ่ายผลิตหยิบสีอื่นมาใส่งานเราจะเปลี่ยนเลยนะ พวกพี่ๆ น่ะโดนฝ่ายผลิตบ่นมาหลายรอบแล้วเรื่องไม่ระบุสีเนี่ย” น้ำเหนือว่ายิ้มๆ
“ใช่ๆ” โม่ที่อยู่ใกล้ๆ กันได้ยินก็พยักหน้า “เคยโดนฝ่ายผลิตสั่งให้นั่งคัดด้วยว่าให้ระบุสีระบุชนิด มือแทบหงิก อย่างกับย้อนไปตอนเรียนประถมโดนคัดลายมือ”
ทิวได้ยินก็หัวเราะกับคำบอกเล่านั้น คนอื่นๆ ก็หัวเราะไปด้วย ตอนนี้มานั่งนึกก็ขำกัน แต่ตอนนั้นจริงๆ ก็แทบขำไม่ออก
“ขอบคุณพี่น้ำเหนือมากนะครับ”
“อือ มีอะไรก็ถามได้นะ” น้ำเหนือยิ้มให้
“เออน้ำเหนือ แล้วไม่ไปรับแฝดเหรอ วันนี้บอกว่าเลิกครึ่งวันนี่” ดินหันมาถาม เพราะใกล้เวลาพักเที่ยงแล้ว
“วันนี้มีคนอาสาไปรับให้ครับ” น้ำเหนือตอบ หยิบโทรศัพท์มากดดูเมื่อมีการแจ้งเตือน ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่อาสาไปรับฝาแฝดให้ส่งรูปเจ้าตัวเล็กนั่งทานข้าวมาให้ดู
น้ำเหนือส่งข้อความขอบคุณกลับไปก่อนจะเปลี่ยนไปส่งข้อความหาลินเพื่อถามถึงการประชุมบอร์ด อีกฝ่ายตอบกลับมาว่ายังไม่เลิกประชุม น้ำเหนือเลยจัดการเรื่องอาหารกลางวันให้ทั้งคอวตซ์แล้วก็ลินด้วย
“มัมๆ~มัม~” สองเสียงดังประสานกันมาให้ทุกคนที่อยู่ในห้องชะงัก กลายเป็นว่าทุกคนหยุดทำงานกันหมดแล้วหันไปมองทางเดียวกัน
ก่อนจะเห็นร่างน้อยๆ วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามา เจ้าตัวแสบโถมตัวหามัมมี๊ที่ขยับมารอรับอยู่ก่อนแล้วเพราะรู้นิสัยลูกชายดี ต่างแย่งกันกอดมัมมี๊จนพอใจแล้วถึงได้ผละออกก่อนจะยกมือไหว้มัมมี๊ รวมไปถึงทุกคนในห้องด้วย ฝาแฝดชะงักไปเมื่อเห็นคนแปลกหน้าในห้อง
“สวัสดีอาทิวกับอาจ๊ะจ๋าก่อนครับ” น้ำเหนือบอกกับฝาแฝด
“ซาหวัดดีครับ” ทั้งพี่ฮาร์ทแล้วก็น้องเดียร์ต่างก็ยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มกว้างอย่างเด็กอารมณ์ดีไม่กลัวคนแปลกหน้า
“สวัสดีครับ” ทิวกับจ๊ะจ๋ายิ้มรับ ก่อนจะพากันทำตาโตเมื่อได้ยินน้ำเหนือแนะนำต่อ
“นี่พี่ฮาร์ทกับน้องเดียร์ ลูกชายฝาแฝดของพี่เอง” น้ำเหนืออดที่จะยิ้มขำกับท่าทางของทั้งสองคนไม่ได้เมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะทั้งคู่เองก็รู้ว่าเขากับควอตซ์เป็นอะไรกัน แม้จะไม่เคยบอกตรงๆ แต่ก็คงรู้ พอมาได้ยินเขาแนะนำเด็กแฝดว่าเป็นลูกคงจะทั้งงง ทั้งไม่เข้าใจ “เป็นลูกชายฝาแฝดของพี่กับคุณควอตซ์น่ะ”
“มัมๆ แด๊ดๆ ล่ะ แด๊ดๆ” พอได้ยินชื่อของแด๊ดดี๊สองฝาแฝดก็รีบร้องถามทันที
“แด๊ดๆ ยุ่งอยู่ครับ วันนี้อยู่กับมัมๆ ก่อนนะ มีการบ้านกันหรือเปล่า ถ้ามีก็เอาขึ้นมาทำนะครับ” น้ำเหนือลูบผมฝาแฝดก่อนจะบอกให้ทั้งสองคนไปนั่งทำการบ้าน “ว่าแต่ลุงโอ๊ตล่ะครับ ไม่ได้เดินมาด้วยกันกับพวกหนูเหรอ”
“ลุงโอ๊ตไปหาป้าลินแย้วครับ” พี่ฮาร์ทหันมาตอบคำถามของน้ำเหนือ “วันนี้ลุงโอ๊ตพาไปกิงข้าวด้วย หย่อยๆ เลย กิงติมด้วย”
“อย่างนั้นเหรอครับ แล้วพี่ฮาร์ทกับน้องเดียร์ดื้อกับลุงโอ๊ตหรือเปล่า”
ฝาแฝดส่ายหน้า “มะดื้อเลย จิงๆ นะครับ”
“ครับผม มัมๆ เชื่อลูกอยู่แล้ว ทำการบ้านนะครับทำไม่ได้มาบอกมัมนะเดี๋ยวมัมสอน แล้วก็อย่ากวนพวกคุณลุงคุณป้านะครับ”
“ครับ!”
น้ำเหนือยิ้มกับการขานรับของทั้งสองคน แต่ก็กลายเป็นว่าบรรดาลุงๆ ป้าๆ เสียเองที่เข้าไปก่อกวนฝาแฝด ทั้งชวนคุยชวนเล่นจนฝาแฝดไม่ได้ทำการบ้าน
ตอนนี้กำลังเปิดประชุมกันอยู่ว่าคอลเลคชั่นใหม่นี้ผลงานชิ้นไหนจะขายดีสุด ก็เอาแบบมากางบนโต๊ะ แล้วก็ให้ฝาแฝดเลือกดู แต่ละคนก็ลุ้นกันสนุกสนานจนเกือบจะตั้งวงเดิมพันกันแล้ว
“พี่น้ำเหนือครับ” ทิวขยับมาใกล้น้ำเหนือก่อนจะก้มลงเรียกรุ่นพี่
“หือ ว่าไง”
“พวกพี่ๆ เขา เล่นแบบนี้กันบ่อยๆ เหรอครับ” ทิวถามออกมาเมื่อนั่งมองพวกบรรดาพี่ๆ ในแผนกเล่นกันอยู่สักพักแล้ว
น้ำเหนือหลุดขำก่อนจะพยักหน้ารับ “ตั้งแต่เจ้าแฝดเล็กๆ แล้ว ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งประเด็นกันแบบนี้หรอก แต่ตอนแฝดเล็กๆ พี่เคยพามาเข้าประชุมด้วยแล้วทั้งแสบก็ไปตีแปะๆ บนกระดาษที่ร่างแบบเอาไว้ แล้วแบบนั้นดันขายดีมาก”
“อ่า... ครับ”
“แล้วมันบังเอิญหลายครั้งไง พอหลังๆ เวลาจะออกคอลเลคชั่นใหม่ก็จะมาเปิดประเด็นเอาแฝดมาเลือกแบบนี่แหละ”
ทิวพยักหน้ารับรู้กับคำบอกเล่าของน้ำเหนือ “ออ... ครับ เอ่อ... พี่น้ำเหนือขอโทษนะครับ พอดีมีสีเลอะหน้าพี่น่าจะเป็นสีไม้”
“อ้าวเหรอ สงสัยมือพี่เลอะสีเลยไปป้ายโดนหน้า”
น้ำเหนือว่าก่อนจะหันไปหยิบกระดาษมาจะเช็ดหน้าตัวเอง “ผมช่วยดีกว่าครับ” ทิวพูดก่อนจะใช้กระดาษค่อยๆ เกลี่ยสีที่เปื้อนหน้าน้ำเหนือออกให้
“เสร...”
“น้ำเหนือ!!” เสียงเรียกอันดังทำเอาทุกคนสะดุ้ง แม้แต่ฝาแฝดที่จำเสียงนั้นได้ก็พลอยสะดุ้งหน้าเสียไปด้วย
น้ำเหนือเห็นอาการสะดุ้งของลูกชายก็เดินเข้าไปหาฝาแฝดที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ทั้งพี่ฮาร์ทน้องเดียร์รีบขยับมาใกล้มัมมี๊ทันที
“ครับพี่ควอตซ์” หันไปขานรับคนที่เรียกเขาเสียงดังด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด รวมไปถึงหน้าตาบึ้งตึง
“กลับบ้าน!” ควอตซ์ตอบเสียงห้วนสั้น ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของแผนกดีไซน์ไป
“ขอโทษทีครับ สงสัยจะไม่สบายเลยดูหงุดหงิด อย่างนั้นผมขอตัวเลยนะครับ พี่ฮาร์ทน้องเดียร์ไปเก็บกระเป๋าครับ เรากลับบ้านกัน” น้ำเหนือหันไปขอโทษทุกคนก่อนจะก้มลงบอกลูกชายฝาแฝด
“มัมๆ... แด๊ดๆ น่ากลัว...” น้องเดียร์บอกกับน้ำเหนือระหว่างรอลิฟต์ลงไปชั้นล่าง ควอตซ์ไม่ได้อยู่ตรงนั้นคาดว่าอีกฝ่ายคงลงไปรอที่รถแล้ว
“ไม่มีอะไรครับ แด๊ดๆ ไม่ดุหนูหรอกนะ” น้ำเหนือย่อตัวลงกอดลูกชายทั้งสองคนที่ดูท่าจะกลัวแด๊ดดี๊กันมากทีเดียว
แม้ควอตซ์จะดุแฝดเวลาทั้งสองคนทำผิด แต่ก็ไม่เคยตวาดหรือใส่อารมณ์ ทำเสียงดังใส่ แต่คราวนี้ทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ได้ยินแด๊ดดี๊ทำเสียงดังก็คงนึกกลัวกันไปก่อน
น้ำเหนือพาฝาแฝดลงลิฟต์ไปชั้นล่าง วันนี้พวกเขาไม่ได้เอารถมาแต่คิดว่าควอตซ์คงสั่งให้คนเตรียมรถแล้ว และก็จริงดังคาดเพราะทันทีที่ออกจากลิฟต์ก็เห็นคนหน้าหงุดหงิดยืนรออยู่
แม้ว่าสีหน้าของควอตซ์จะไม่ได้หงุดหงิดเท่าก่อนหน้านี้แต่ฝาแฝดก็ยักนึกกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ ตอนนั่งรถกลับน้ำเหนือเลยต้องพาฝาแฝดไปนั่งที่เบาะแถวสองของรถตู้แทน และให้ควอตซ์นั่งแถวแรกด้านหลังคนขับ ฝ่ายตัวควอตซ์เองก็พอจะเข้าใจเลยไม่ได้ว่าอะไร
น้ำเหนือพาฝาแฝดไปอยู่ที่บ้านใหญ่ให้ป้ายุพินและสาลี่ช่วยดูแล ส่วนตัวเขาก็เดินตามควอตซ์ไปที่บ้านเพื่อจะได้พูดคุยกัน
“เป็นอะไรไปครับ ทำไมถึงได้หงุดหงิดเสียงดังแบบนั้น ลูกกลัวพี่ไปหมดแล้ว” น้ำเหนือเปิดประเด็นทันทีที่เข้ามาในห้องนอน
“แล้วเราล่ะ” ควอตซ์ไม่ตองแต่ถามกลับ “ทำไมถึงได้ทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กนั่นขนาดนั้น ยืนพูดคุยหัวเราะ”
“เด็กนั่น... หมายถึงทิวน่ะเหรอครับ” น้ำเหนือทำหน้างง “พี่ควอตซ์ครับ ทิวเป็นเด็กฝึกงานและอยู่กลุ่มผม ผมก็ต้องคอยให้คำแนะนำน้องเป็นธรรมดา และถ้าพี่เห็นว่าผมกับทิวคุยกันหัวเราะสนิทสนมกันนั่นล่ะก็ ผมคุยกับทิวเรื่องแฝด และที่สำคัญกว่าอะไรเลยผมไม่ได้คิดอะไรกับทิวในเชิงนั้นเลยสักนิดเดียว”
คนอธิบายก็อธิบาย แต่คนโมโห หงุดหงิดก็ยังไม่คลายความหงุดหงิดลง แม้จะชักงักไปตอนได้ยินคำอธิบาย
“มีเรื่องอะไรครับ ผมเชื่อว่าแค่พี่ควอตซ์เห็นผมใกล้ชิดกับทิวคงไม่ได้ทำให้พี่หงุดหงิดขนาดนี้หรอก” น้ำเหนือถามด้วยความเป็นห่วง ยกมือขึ้นจับแขนของคนรัก “งานมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”
พอน้ำเหนือใช้น้ำเย็นเข้าลูบ คนร้อนก็เริ่มเย็นลง ควอตซ์เดินไปนั่งที่โซฟาพลางลูบหน้าลูบตาตัวเองเพื่อตั้งสติ
“พี่ขอโทษ... วันนี้ประชุมเรื่องเครียดหลายเรื่องพี่เลยทั้งเวียนหัว มึนหัว รู้สึกหงุดหงิดอารมณ์แปรปรวนมาก” ควอตซ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “พี่ไม่ได้ตั้งใจจะตวาดหรือหงุดหงิดใส่เรากับแฝดเลย แต่พี่อารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะเวียนหัวอยู่แล้วพอไปเห็นเราอยู่ใกล้กับเด็กนั่นก็เลย...”
“ผมน่ะไม่เป็นไร เพราะผมเข้าใจว่าต้องมีเรื่องอะไรมารบกวนพี่แน่นอน แต่กับลูก... ไม่ใช่นะครับ” น้ำเหนือเดินไปนั่งข้างๆ แล้วพูดอย่างใจเย็น
“พี่รู้... พี่เข้าใจ พี่ขอโทษ แล้วเดี๋ยวพี่จะไปขอโทษลูกด้วย”
“ครับ ผมว่าพี่ควอตซ์พักก่อนดีกว่าครับจะได้ดีขึ้น สีหน้าพี่ดูไม่ค่อยดีเลย เดี๋ยวจะไม่หายป่วยเสียที” น้ำเหนือพูด จับมือควอตซ์ให้เดินไปที่เตียง จัดที่นอนให้เรียบร้อยตอนที่อีกฝ่ายนอนลงแล้ว
“พี่ขอโทษนะ”
“ครับ ผมเข้าใจ” จับมือของควอตซ์เอาไว้ ลูบเบาๆ ที่หลังมือ “นอนพักเถอะครับ ตื่นมาแล้วค่อยไปคุยกับลูกนะ”
น้ำเหนือนั่งจับมืออีกฝ่ายอยู่แบบนั้นจนกระทั่งควอตซ์หลับไปจึงได้ผละออกจากเตียง ตั้งใจว่าจะไปคุยกับพี่ฮาร์ทแล้วก็น้องเดียร์ก่อน แล้วจึงค่อยให้ควอตซ์ไปคุยอีกที ถ้าปล่อยให้คุยเลย ดีไม่ดีสองแสบอาจจะไม่ยอมคุยกับแด๊ดดี๊เพราะกลัวแด๊ดดี๊จะเสียงดังใส่อีก
❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈ ❈
เค้ากลับมาแล้ววววววว หายไปเกือบเดือนเลยเนอะ ฮ่าาาา สารภาพผิดด้วยความจริงใจ 1. ขี้เกียจ คืออยากแต่งนะคะแต่ว่าความขี้เกียจชนะทุกสิ่งอย่างจริงๆ ค่ะ แฮ่... 2. ติดละครเจ้าค่ะ ติดหนักมาก 3. ติดเกมค่ะ ไม่ใช่เกมออนไลน์ หรือ เกมใหม่อะไร แต่หาโหลดมาเล่นเรื่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยค่ะ นั่นแหละสาเหตุ ฮาาาา จริงๆ ก็แบบ อยากปล่อยชิลนั่นแหละค่ะ อยากพักสักหน่อยด้วย เลยไม่ได้มาอัปให้เลย ยังไงจากนี้ถ้าไม่ติดธุระสำคัญอะไรจริงๆ จะมาอัปให้ตลอดนะคะ อีกอย่างละครจะจบแล้วด้วย ไม่มีเรื่องใหม่ให้ติดแล้ว แต่งนิยายได้จ้าาา
ตอนนี้อาการคุณพี่แลจะแปรปรวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย คุณพี่เป็นอะไรเนี่ย อาการช่างน่าเป็นห่วงเนอะ วิงๆ เวียนๆ แบบนี้ สงสัยต้องพาคุณพี่ไปหาหมอแล้วล่ะเนอะ ไม่รู้จะใช่อย่างที่ทุกคนเข้าใจกันหรือเปล่า
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ ^^
ไม่อยากจะขออะไรมาก แต่ขออย่างเดียวอ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่ควอตซ์น้องเหนือน้อยใจแย่เลย รักพี่ควอตซ์เมนต์ รักน้องเหนือเมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ