เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เมามาย ตอนที่15 27/04/2561  (อ่าน 8051 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: เมามาย ตอนที่12 20/11/2560
«ตอบ #30 เมื่อ21-11-2017 11:11:08 »

ต้นกล้า ว่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ท่อนซุง แม้ว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ยังอึมครึมๆนะ
        :L1: :L1: :L1:
   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: เมามาย ตอนที่12 20/11/2560
«ตอบ #31 เมื่อ25-11-2017 20:01:17 »

่โถ่ว่านผู้ถูกลืม แม้วกลับมาก่อน!!!!

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่13 26/02/2561
«ตอบ #32 เมื่อ26-02-2018 21:17:43 »

ตอนที่13
ตามใจ

พาร์ทของท่อนซุง
ผมอยู่บนรถกับแม้วท่ามกลางการจราจรที่เริ่มติดขัดขึ้นแล้ว
   “มีอะไรจะพูดมั้ย” แม้วเริ่มเปิดประเด็น คงจะเป็นเรื่องที่ผมมากับบิวละมั้งครับ
   “แล้วคิดว่าไง” ผมเปิดให้มันแสดงความคิดก่อนเลยครับ
   “ก็ไม่ว่าไงมึงเคยบอกว่าไม่มีอะไรกันแล้วกูก็ไม่ได้ว่าอะไร” มันพูดแล้วยิ้มออกมา บางทีผมก็เดาอารมณ์ของคนตรงหน้าผมไม่ถูก ทั้งๆที่มันควรที่จะโกธรผมแต่กลับไม่
   “ไม่โกธรซุงเหรอ” มันส่ายหน้าแล้วยิ้ม
   “อยากรู้มั้ยทำไมซุงถึงอยู่กับบิวได้” ผมถามลองเชิงของคนตรงหน้าแต่ท่าทีไม่ได้เปลี่ยนไป
   “ก็เล่ามาดิรอฟังอยู่เนี้ย”
   “คือบิวไปหาซุงที่คณะแล้วบอกให้ไปเป็นเพื่อนเซ้าซี้ตั้งนานจนซุงเริ่มรำคาน ก็เลยไปให้มันจบๆไป ไม่คิดว่าจะเจอแม้วที่นั้น” ผมเล่า มองทางข้างหน้าสลับกับหน้าของแม้วที่ไม่ได้มีท่าทีอะไรเปลี่ยนไป เห้ยไม่ด่าหน่อยเหรอวะ
   “แล้วไป” แม้วพูดก่อนที่จะเสียบหูฟังและหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
ผมเอื่อมมือไปถอดหูฟังของแม้ว สายตาจิกกัดที่มองมาทางผมที่แกล้งคนข้างๆ
   “จะฟังเพลง” มันพูดและเสียบเข้าหูเหมือนเดิม วันนี้ก็เจอเริ่มปวดหัวมามากแล้วผมอยากฟรีบ้างไอ้คนข้างๆก็ไม่สนใจผมเลย
   “แม้วครับ”
   “...”
   “แม้วครับ ได้ยินซุงมั้ย” ท่าทางจะไม่ได้ยินเสียงของผม
   “แม้ว” ผมรู้สึกแปลกๆตั้งแต่เรียนเสร็จแล้วครับ ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองเหม่อๆลอยๆ แถมรู้สึกหนาวกว่าปกติด้วยครับสงสัยจะไม่สบายมันคั้นเนื้อคั้นตัวแปลกๆ  ผมถอดหูฟังคนที่ฟังเพลง สายตาหันมาค้อนผมเหมือนผมไปเผาบ้านของมัน ขอโทษครับ
   “อะไรของมึงเนี้ย” น้ำเสียงค่อนข้างไม่พอใจเท่าไหร่ ทำเอาผมไม่กล้าบอกว่าผมรู้สึกไม่ดีเลย
   “ซุงว่าซุงไม่สบาย” ผมบอกตามความรู้สึกของผมไปตามตรง
   “จริงจัง” น้ำเสียงของแม้วดูซอร์ฟลงอย่างเห็นได้ชัด
   “จะล้อเล่นทำไม” ถึงผมจะสุขภาพแข็งแรงแต่ป่วยทีนี้ก็หนักนะครับ และดูเหมือนว่าครั้ง นี้จะเป็นหนักมากด้วย แต่ก็ยังมีหมออยู่ข้างๆผมคงจะมีคนดูแลผมแล้วถ้าเขามาดูแลผมนะ
   “ไปหาหมอยัง”
   “ก็คนนั่งข้างๆนี้ไงหมอ” 
   “กวนตีน”
   “กวนใจได้ป่าว” ผมมองหน้าแม้วที่กำลังจะตีผม ผมทำอะไรผิดครับแค่แซวเฉยๆ
   “กูจะไม่เชื่อว่ามึงป่วยก็เพราะแบบนี้แหละ” อ่าวเชื่อผมเถอะนะ
   “ตรวจให้หน่อยดิ”
   “เป็นไข้หวัดธรรมดาเดี๋ยวก็หาย” 
   “คือไม่คิดจะแตะตัวหรือตรวจอะไรเลยเหรอ”
   “ไม่อ่ะกูแม้วญาณทิพย์”
   “แต่ซุงป่วยจริงๆนะ เนี้ยๆตัวร้อนด้วย เจ็บคออีก แอ็กๆ” นี้เป็นไงผมไอโชว์เลยนะครับ
   “กูว่ามึงไม่ได้ป่วยธรรมดาแล้วละ” ผมตาโตกับคำที่มันพูด
   “แล้วซุงเป็นอะไรครับ”
   “เป็น...”
   “...”
   “เป็นโรคสำออย” อ่าวหรอกด่าผมนี้หว่า
   “โอ๊ย” ผมตบหัวแม้วเบาๆ
   “ทำร้ายกูเหรอ” 
   “ใครจะกล้า” 
   “สัส ไหนจับหน้าผากหน่อย” แม้วเอามือมาจับหน้าผากของผม ผมค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าหาคนตรงหน้าช้าๆ หน้ามันแดงขึ้นสีเป็นริ้วๆ ทำให้ความน่ารักเพิ่มขึ้นเท่าตัว
   “ไปได้แล้ว!! เดี๋ยวคันหลังก็บีบแตรไล่หรอกไอ้นี้” แม้วผละตัวออกจากผม
   “ฮ่าๆๆ”
   “หัวเราะๆ ป่วยแล้วมึงอ่ะพักผ่อนเยอะๆ”
   “ครับผม” ผมตอบรับ
ผมส่งแม้วกลับหอเสร็จฝนก็เทซ่าลงมา ทำให้ผมไม่สามารถกลับบ้านตัวเองได้เนื่องจากแม้วไม่ ยอมให้ผมกลับโดยให้เหตุผลว่าฝนตกหนักขับรถอันตราย ผมก็เชื่อนะถือว่าโชคดีที่ได้อยู่ห้องกับแม้ว
พาร์มของแม้ว
ผมมองไอ้คนที่เหมือนจะป่วยที่กำลังเล่นโน๊ตบุ๊คของผมอย่างสบายใจนี้มึงป่วยจริงป้ะเนี้ย
   “สบายเลยนะมึง” ผมแซวไอ้ยักษ์ที่เปิดดูแกลอรี่สมัยเด็กของผม เห้ยนั้นมันรูปหัวโจกเลยนะเว้ยเกรงใจกันบ้างดิ
   “ตอนเด็กๆแม้วน่ารักจัง” ผมไม่ตอบแต่ยื่นถ้วยข้าวต้มที่ผมทำเองกับมือให้ไอ้ยักษ์
   “อ่ะกลัวมึงหิว” ไอ้ยักษ์มองหน้าผมอึ้งๆนิดนึ่ง
   “ไม่ตายหรอกน่ากินๆไปเหอะกูไม่ได้ใส่ยาพิษไว้” ท่อนซุงหยิบช้อนขึ้นมาและจ้วงเข้าปากไปคำนึ่ง
   “แม้วไม่กินเหรอ”
   “ยังมีอีก ตอนนี้ยังไม่หิว” ผมตอบ
ตึ๊ง ตึ๊ง
   เสียงข้อความของโทรศัพท์ผมเข้ารัวๆ และทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าผมลืมไอ้ว่านอยู่ที่ร้าน
   Oncewan “ไอ้เหี้ยว่านมึงทิ้งกูให้อยู่ที่นี้คนเดียวว่ะเพื่อน”
      “โทษทีวะเพื่อนแล้วตอนนี้มึงอยู่ไหนวะ” แม้วง่าว
   Oncewam “ห้อง”
      “ดีแล้วมึงโทษทีนะ” แม้วง่าว
ผมได้แต่ขอโทษเพื่อนในใจที่ผมลืมมันไว้ที่ร้าน มูมู่คอฟฟี่ ร้านที่เพื่อนผม แนว ทำงานอยู่ ใครอยากรู้จักแนวให้มากว่านี้ติดตามใน แนวศาตร์นะคร๊าบบบ (ขายของอีกละ) ผมนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อยรอเวลาที่ไอ้ท่อนซุงจะกลับไปบ้านตัวเองสักที
   “เมื่อไหร่มึงจะกลับวะ” ผมถาม
   “ไล่ซุงแล้วเหรอ ขอนอนด้วยได้มั้ย” โห มึงเล่นงี้เลยเหรอ แม่งแอบไปอาบน้ำตอนไหนก็ไม่รู้ครับแถมยังใส่ชุดของผม คือมึงยัดตัวลงไปได้ไงวะ
   “สัสชุดกู” ผมรีบโวยวายทันที
   “ไม่เป็นไรน่า ชุดแม้วตัวใหญ่เท่าซุงพอดีเลย” คำว่าพอดีของมึงคือกางเกงฟิตเปรี๊ยะขนาดนี้เลยเหรอ
   “สะกดคำว่ามารยาทเป็นมั้ย” ผมด่ามันด้วยความเอือม แต่ก็ไม่วายทำหน้าตายไม่สนคำที่ผมด่าไป
   “พูดอะไรฟังไม่เข้าใจ” นอกจากมึงจะไม่มารยาทแล้วยังจะมานอนตักกูทำไมวะ
   “จะมานอนตักกูทำไมออกไป” ผมพยายามผลักหัวของมันออก แต่มันก็ไม่ยอมออกสักที
   “ขอนอนหน่อยนะครับ” เอาอีกแล้วครับสายตาแบบนี้น้ำเสียงแบบนี้
   “เออ” ผมปล่อยมันนอนบนเตียงของผม ผละผมก็ขอตัวไปอาบน้ำนะครับ
   
   “หลับยังวะมึง” ผมเดินออกจากห้องน้ำมาก็เจอไอ้ท่อนซุงหลับเป็นตายบนเตียงของผมแล้ว
ครื๊ดดด ครื๊ดดด
ผมมองไปที่โทรศัพท์ของผมแต่ว่าไม่ใช่ครับ คงมาจากโทรศัพท์ของไอ้ยักษ์มัน ผมขอถือเสียมารยาทนะครับ ผมมองไปที่ร่างยักษ์ที่หลับใหลอยู่บนเตียงก่อนที่จะมองเบอร์แปลกที่ยิงเข้าเครื่องของมัน ถึงแม้จะเป็นเบอร์แปลกแต่ผมก็จำได้นะครับว่าเป็นเบอร์ของใคร
   “...” ผมกดรับสายแต่ไม่ได้ทักทายปลายสายแม้แต่คำเดียว
   “เป็นไงบ้างคะ”
   “...” ผมไม่ตอบ
   “ทำไมซุงเงียบจัง แผนของเราไปถึงไหนแล้ว” แผนของเรา แผนอะไรผมฟังอย่างใจจดใจจ่อ
   “อื้อ” ผมแค่ส่งเสียงออกไปเพราะถ้าผมพูดแน่นอนบิวต้องจำเสียงผมได้แน่นอน
   “วันนี้บิวชอบมากเลยที่เห็นไอ้แม้วมันทำท่าหยิ่งหยอง ดีใจคิดว่าซุงเป็นของมันไปแล้ว บิวละขำ ขำจนแทบจะเป็นบ้าเวลาคิดถึงหน้ามัน คิดดูสิถ้าวันไหนที่มันรักซุงแล้วจะเป็นยังไง คิดแล้วขำ ขอโทษนะคะแม้วที่บิวทำไปเพราะความสนุกส่วนตัวล้วนๆ” ผมอึ้งกับคำพูดของผู้หญิงคนนี้ ผมงง งงไปหมดแล้วตกลงนี้มันเรื่องอะไรกัน
   “อยู่กับมันเหรอถึงไม่พูด” บิวถามมาอีกครั้ง
   “อื้อ” ผมยังคงตอบแค่เสียง
   “ดีมากหลอกให้มันรักได้เร็วๆนะคะ บิวเป็นกำลังใจให้”
ตกลงเรื่องของผมกับท่อนซุงเป็นแค่เรื่องหลอกกันเหรอ ผมพูดอะไรไม่ออก สมองมันอื้อไปหมด ทำไม ทำไม ทำไมเวลาผมเปิดใจให้ใครทีไรมันต้องเป็นแบบนี้ตลอด สายตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตาของผมมองร่างที่นอนบนเตียงพร้อมกับคำถามมากมายที่เข้ามาในหัวของผม
   “มึงทำแบบนี้ทำไมวะท่อนซุง” ผมเอ่ยถามเบาๆ ก่อนที่จะกดตัดสายทิ้งไป ผมเดินออกมานอกระเบียงที่ติดกับห้องของผม ผมมองไปตามแสงสีของเมืองหลวง มองรถที่วิ่งผ่านไปมา หลายๆครั้งที่ผมถูกตามใจ หลายๆครั้งที่ทำตัวเป็นเด็ก เพียงแค่ผมอยากได้ความรักจากใครบางคนเท่านั้น แต่ครั้งนี้ผมคงยอมให้มันหลอก
   “ถ้ามึงอยากมาหลอกกู กูก็จะยอมโง่เป็นความให้มึงหลอก ตามใจมึงเลย แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ว่าตอนนี้กูไม่ได้เปิดใจให้มึงแล้ว” น้ำตาของผมไหลไม่ยอมหยุด ทุกอย่างที่ผมพูดมันคือความจริงในใจของผมที่คิดได้ในตอนนี้ ถ้ามันเข้ามาในชีวิตผมเพื่อหลอกผมจริงๆละก็ ผมจะยอมให้หลอกจนมีเพื่อนเป็นควายสักฝูง
   “กูไม่ได้เปิดใจให้มึงแล้ว แต่กูรักมึงจริงๆแล้วนะท่อนซุง” ผมได้แต่พูดกับตัวเอง พูดกับดวงดาวบนท้องฟ้า พูดกับเมฆาสีขาวบางๆที่ลอยบดบังดวงจันทร์เต็มดวงในคืนนี้ 

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: เมามาย ตอนที่13 26/02/2561
«ตอบ #33 เมื่อ26-02-2018 22:31:06 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ขแก้คำผิดนะ
คั้นเนื้อคั้นตัวแปลกๆ ------ ครั่นเนื้อครั่นตัว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2018 22:36:03 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่14 04/03/2561
«ตอบ #34 เมื่อ04-03-2018 20:57:46 »

ตอนที่ 14
เส้นขนาด3

ชีวิตผมหลังจากวันที่โดนคนที่ผมรักเท โดนเพื่อนทิ้งไว้ร้านกาแฟแถมยังต้องมานั่งเศร้าคนเดียวอีกเหรอเนี้ย ผมอยากจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปในกลีบเมฆสีขาว ทำเหมือนว่าผมไม่ได้อยู่ที่โลกใบนี้ ผมอยากจะไปเป็นเทวดาบนชั้นฟ้าที่สามารถสอดส่อง ดูแลทุกคนบนโลกได้
   “ถ้าผมเป็นเทวดาคอยดูแลคนอื่นได้นะ ผมขอดูแลพี่ต้นกล้าได้มั้ย” ผมพูดขึ้นมาพร้อม กับน้ำตาที่ล้นเอ่อ สายตาของผมจับจ้องไปที่รูปภาพที่แสดงความเป็นพี่ต้นกล้าได้ดี สายตาอบอุ่น อ้อมกอดแกร่ง เสียงทุ้มน่าฟัง มันทำให้ผมคิดถึงจนแทบเป็นบ้า ผมลากตัวเองมาหน้ากระจกก่อนที่จะจัดการกับตัวเองพร้อมออกไปร่าเริงเพื่อลืมความเศร้าของผมอีกครั้ง
ผมขับรถมาจอดที่ร้านประจำของผม ผมมองตัวเองอีกครั้ง เสื้อสีขาวแขนยาวคอวี กางเกงยีนดำมีรอยขาด และที่ผมขาดไม่ได้ก็คือความมั่นหน้านั้นเอง ขาของผมก้าวเข้าประตูร้านอย่างมั่นใจ สายตาสาดส่องไปรอบพลางมองหาคนที่รู้จักหรือโต๊ะว่างๆที่เอาไว้เก็บตัวเพื่อล่อเหยื่อที่จะทำให้ผมลืมใครบางคนไปได้ ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมอับของร้านก่อนที่จะสั่งเครื่องดื่มที่ผมดื่มเป็นประจำ เพลงที่เป็นจังหวะเมามันดังขึ้นพร้อมผู้คนที่โยกตัวตามจังหวะเพลง ทำให้นึกถึงแต่ก่อนที่ผมก็เคยเต้นกับเพื่อน
   “หวัดดีครับ ไม่ทราบว่ามาคนเดียวเหรอ” ผมมองชายที่เข้ามาใหม่เอ่อไอ้เผือกนั้นเองครับ
   “ไงมึง” เผือกเป็นเพื่อนชมรมเดียวกับผมและแม้วครับ เอ้อผมลืมอีกคนครับไอ้แนวเพื่อนที่เรียนด้วยกันตอนมัธยม แต่ผมก็ไม่ได้สนิทมากครับ
   “ดูดิไอ้เผือกแม่งลากกูมา” เสียงไอ้แนวบ่นอุบ พร้อมทำหน้าเบื่อหน่ายกับสถานที่แบบนี้สักเท่าไหร่
   “ว่าแต่พวกมึงมากันสองคน” ผมถามอย่างประหยัดคำ อารมณ์ตอนนี้ผมไม่อยากตอบคำถามอะไรเพื่อนสักเท่าไหร่แต่ยังดีที่สองคนนี้ไม่ได้ถามอะไรผมมาก มันเดินกลับโต๊ะที่มีพวกพี่รหัสมันนั่งกันเต็มไปแล้วครับ
   “หวังว่ามึงคงไม่มานะ” คุณๆคงจะรู้ว่าคนที่ผมหมายถึงคือใคร ถึงแม้ผมจะพูดแบบนั้นแต่ในใจจริงผมอยากให้เขามามาก และอยากพูดคุยกับเขามาเช่นกัน ผมจิบน้ำอำพันไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจผู้คนตามที่ตัวเองหมายไว้ตั้งแต่แรก เสียงเพลงเริ่มสนุกขึ้นแต่อารมณ์ของผมยิ่งแย่ลงเพราะน้ำเมาที่ผมดื่มเข้าไป
   “ไง” คำทักทายที่ผมให้ผมเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ
   “มึง...” ผมรู้สึกอะไรหลายๆอย่างทั้งดีใจ ทั้งเสียใจ ไม่อยากเจอหน้าแต่ในใจก็โหยหา สมองสั่งเกลียด ดวงใจสั่งให้รัก
   “มาคนเดียวเหรอ”
   “ป่าว” ผมโกหก
   “แล้วมากับใคร” พี่ต้นกล้าถามผม
   “แฟน” ผมไม่สบตากับอีกฝ่ายเพื่อที่จะหลบพิรุธที่กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ว่าผมโกหก
   “เหรอ รักกันนานๆนะ” คนที่ได้ตำแหน่งพี่ชายผมไปไม่นานพูดแล้วเดินหันหลังกลับไป
   “เดี๋ยว” ผมวิ่งไปคว้ามือเพื่อที่จะรั้งเอาไว้
   “จับมือพี่แบบนี้ไม่กลัวแฟนเห็นหรือไง” ไม่มีโว๊ยย
   “...”
   “มีอะไรครับ” น้ำเสียงที่ผมคุ้นเคยกลับมาแล้ว หยาดน้ำตาของผมไม่อาจจะรั้งไว้ได้ ผมไม่สนใครอะไรทั้งนั้น สองแขนของผมสวมกอดร่างหนาตรงหน้าก่อนที่จะปล่อยโฮจนพี่ต้นกล้าตกใจ
   “เป็นอะไรครับว่าน” ผมได้แต่ส่ายหน้า ผมไม่รู้ว่าคนในร้านจะเห็นเราสองคนมั้ย ผมรู้แต่ว่ามีแค่ผมกับเขาเท่านั้นในเวลานี้
   “กูคิดถึงมึง” ผมพูดสิ่งที่สมองห้ามแต่ใจคิดออกไป
   “กูก็คิดถึง” หัวใจผมสั่นระรัวกับคำพูดล่อใจของพี่ต้นกล้า ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นคำหลอกลวงผมก็ยินดี
   “ฮื้อ” ผมจะคงกอดร่างเขาเอาไว้ เสียงหัวใจของผมดังจนกลับว่าจะกลบเสียงเพลงของร้าน แต่ทำไมกันผมถึงได้ยินเสียงหัวใจจากคนตรงหน้าชัดกว่าเพลงในผับซะอีก
   “กูเลิกกับแฟนแล้ว” ผมตากับคำพูดของพี่ต้นกล้า
   “จริงเหรอ” ผมปาดน้ำตาตัวเอง   
   “คิดว่าไง” ผมไม่สามารถคิดอะไรได้แล้วในเวลานี้ ผมดีใจจนแทบจะวิ่งอ้อมสนามหลวงเป็นสิบๆรอบก็ว่าได้
   “แล้วพี่ขวัญ”
   “เขาโอเค เราจบกันด้วยดี” ผมคงไม่เชื่อหลอกครับเลิกกันยังไงก็ต้องมีฝ่ายที่เจ็บเสมอแน่นอนครับ
   “แล้วมึงมาบอกกูทำไม”
   “นึกว่าอยากจะรู้ว่ากูโสด แต่ลืมไปว่ามึงมีแฟนแล้ว”
   “กูโสด!!” ผมรีบตะโกนทันที คือกลัวมันเข้าใจผิดนะครับผมต้งรีบแก้ตัวไว้ก่อน
   “ไหนบอกว่ามีแฟนแล้วไง”
   “ใครบอกว่ามีแฟนแล้ว กูบอกว่ามากับแฟนต่างหาก” ผมยังคงแถต่อไป มีใครเห็ดเลือดที่หน้าผมมั้ยครับถลอกกันไปข้างแล้ว
   “นั้นไง ไหนละแฟนพามาดิวะ” คนตรงหน้ายิ้มแบบคนถือไพ่เหนือกว่า ทำเอาผมไม่รู้จะแก้ทางยังไงดี รอยยิ้มที่ผมโหยหาตลอดเวลา
   “ไม่มีโว๊ย”
   “เด็กขี้โกหกเอ๊ย” พี่ต้นกล้าเอามือมาลูบหัวผม เห้ยนี้หัวคนนะเว้ยไม่ใช่หัวหมาลูบอยู่ได้
   “แล้วไง”
   “ก็ป่าว กูถามมึงอย่างนึ่งได้มั้ย”  ผมกับพี่ต้นกล้านั่งดื่มบรรยากาศไปพลางๆ ถามสารทุกข์สุขดิบไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงคำถามที่ทำเอาผมไม่รู้ว่าจะตอบไปยังไงดีใครก็ได้ช่วยหาคำตอบให้ผมหน่อยได้มั้ย
   “ว่านคิดยังไงกับพี่” ผมมองสีหน้าที่จริงจังของพี่ต้นกล้า และการเปลี่ยนสรรพนามการเรียกตัวเองที่ดูจริงจังกว่าแต่ก่อน
   “ไม่บอกเว้ย” ผมโวยวายเป็นเด็กที่ไม่อยากบอกความผิดของตัวเอง แต่แตกต่างที่ผมไม่อยากบอกไปว่ารักเขามากแค่ไหน แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผมเจอมา ผมว่าควรบอกเขาตรงๆดีกว่า เผื่อมีมือดีฉกชิงไปทำไงละครับ
   “บอกหน่อยน้า”
   “เอาหูมาใกล้ๆดิ” พี่ต้นกล้าเอียงหูมาทางผม ผมเลยกับไปทีนึงก่อนที่จะพูดว่า
   “รักไงไอ้พี่ต้นกล้าเอ๊ย” ผมหัวเราะออกมาก่อนที่จะเขยิบหนีออกมา
   “อยากรู้มั้ยว่าพี่คิดยังไงกับว่าน” ขนาดนี้แล้วทำไมจะไม่อยากรู้วะ เรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาที่เรามีอะไรกัน หรือว่าทะเลาะกัน ผมกับพี่ต้นกล้าไม่เคยพูดคำๆนึ่งออกมาเลยก็คือว่า รัก ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกอยู่ในใจก็ตาม หรือว่าผมอาจจะติดใจในรสลีลาของเขาก็เป็นไปได้
   “บอกมาดิ”
   “ไม่บอกครับ”
   “ไม่บอกก็ไม่ต้องบอกเว้ย”  ผมทำแก้มป่อใส่คนตรงหน้าไม่รู้ว่าน่ารักหรือน่าเกลียดแต่ผมก็ทำไปแล้ว หวังว่าคงไม่มีใครเห็นนะครับ
   “ดูที่การกระทำของพี่เอาเองละกัน เพราะเขาบอกว่าการกระทำสำคัญว่าคำพูด” สีหน้าของพี่ต้นกล้าจริงจังขึ้นทันตาเห็น
   “แต่การกระทำไม่ชัดเจนเท่ากันคำพูดนะพี่” เอาสิ ถ้าจะมาประชันวลีหรือคำเด็ดๆเข้ามาเลย
   “บางอย่างคำพูดก็สื่อสารไม่ได้หมดหลอกนะ”
   “พี่รู้มั้ยครับว่าหลายๆอย่างที่พี่ว่า การกระทำก็ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นเลย”
   “ฮ่าๆๆ พอเถอะเดี๋ยวมาทะเลาะกันอีก พี่ไม่เอานะทรมาน”
   “ก็จริงของพี่มาๆ มากินกันดีกว่า” ผมเห็นด้วยที่จะไม่สานความต่อเดี๋ยวจะทะเลาะกันจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยแฮปปี้กับการที่เราทั้งคู่ทะเลาะกันสักเท่าไหร่นะครับ มันทำให้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตผมมันดูน่าเบื่อและเฉยชาไปบ้า
   “กินกันเหรอ” พี่ต้นกล้ามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
   “กินเหล้ามั้ยละ” รู้สึกว่าแก้มผมจะร้อนๆขึ้นมาแล้ว สงสัยแอร์มันไม่ค่อยดีแล้วมั้ง
   “หึๆ”

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: เมามาย ตอนที่14 04/03/2561
«ตอบ #35 เมื่อ05-03-2018 06:46:12 »

มาต่อเร็วๆนะ :3123:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: เมามาย ตอนที่14 04/03/2561
«ตอบ #36 เมื่อ05-03-2018 10:12:35 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ EanAA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
«ตอบ #37 เมื่อ27-04-2018 01:31:10 »

ตอนที่15
จดจำ

ผมตื่นมาไม่เจอท่อนซุงอยู่ข้างๆผมเริ่มสันนิธานแปลกๆว่าเรื่องเมื่อคืนมันจะเป็นเรื่องจริง ผมพยายามที่จะหลอกตัวเองว่าแค่เรื่องล้อเล่นขำๆ แต่เรื่องจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ผมรู้สึกเสียใจวันเวลาที่ผ่านมาผมมีแต่ท่อนซุงตลอดเวลา แต่สิ่งที่มันทำกับผมคือเรื่องทั้งหมดเป็นแผนของบิวหรือท่อนซุงกันแน่ ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องของผมกับท่อนซุงหรือ ผมกับบิวกันแน่
   “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงท่อนซุงที่เปิดประตูเข้าห้องของผมมาทักทายยามเช้า
   “...”
   “เป็นอะไร” มันถามเมื่อเห็นสีหน้าของผมแปลกไป
   “มึงกำลังโกหกอะไรกูอยู่หรือเปล่า” ผมถามมันตรงๆ
   “โกหกอะไร” ท่อนซุงทำหน้าตกใจเล็กน้อย
   “มึงกับบิวยังคุยกันเหมือนเดิม ไม่สิต้องบอกว่ามึงกับบิวยังเป็นแฟนกันอยู่ แล้วกูละกูเป็ฯอะไรกับมึง!” ผมโวยลั่น ตัวผมสั่นเทาเพราะกลัวคำตอบของท่อนซุงที่อาจจะทำให้โลกของผมพังไปได้ในเสี้ยววินาที ท่อนซุงจับผมลุกขึ้นและสวมกอดอุ่นเข้ามา
   “กูรักมึงนะท่อนซุง ตกลงมึงกับบิวยังคบกันอยู่ใช่มั้ย! มึงมาหลอกกูทำไม หลอกกูว่ารักทำไม!” ผมทุบอกแกร่งของท่อนซุง พร้อมสายน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความเจ็บปวกที่เกาะกินในหัวใจของผม มันเข่าผมอ่อนแทบยืนไม่ไหว แต่ท่อนซุงก็ยังไม่ปล่อยผมจากอ้อมกอดแกร่ง
   “กูขอโทษ” น้ำเสียงที่ผมไม่เคยได้ยินจากท่อนซุง ถึงแม้จะเอ่ยคำขอโทษแต่น้ำเสียงแข็งกร้าวราวกับผมกับมันไม่เคยรู้จักกัน
   “กูเจ็บ” ผมพูดขึ้นมา
   “กูขอโทษที่มาหลอกมึง มันจริงตามที่มึงพูดทุกอย่างบิวใช้ให้กูมาหลอกมึงแต่สิ่งที่ที่กูไม่เคยโกหกมึงเลยสักครั้ง”
   “...”
   “กูไม่เคยรักมึง” ผมจุกกับคำพูดของมัน จริงอย่างที่ท่อนซุงพูด มันไม่เคยบอกรักผมสักครั้ง มีแต่ใช้คำอ้อมๆอย่างชอบ หรือสนใจ มีแต่ผมที่เลยไปใช้คำว่ารักกับมันแล้ว
   “แต่กูรักมึง
   “อย่างที่พูดกูรักบิวไม่ใช่มึง” พอพูดจบท่อนซุงก็คลายกอดออก เข่าที่อ่อนแรงของผมทรุดตัวลงกับพื้นทิ้งเพียงความเจ็บปวด
   “ก่อนที่มึงจะไป” ท่อนซุงหยุดเท้าลง
   “มีอะไร”
   “เสียงแข็งจังวะ” ผมพูด
   “เห้อ มีอะไรรีบๆพูดมาเวลาของผมกับคุณหมดแล้วนะ” มันเปลี่ยนโทนเสียงให้นุ่มขึ้นแต่สรรพนามที่ใช้แสดงถึงความห่างเหินของผมกับมันอย่างสิ้นเชิง
   “ขอจูบสุดท้ายได้เปล่า” ผมก้มหน้าลงพร้อมน้ำตาที่ไหลลงพื้น
   “เงยหน้ามา” ท่อนซุงนั่งคุกเข่าลงและดึกผมเข้าไปจูบ ที่มีเพียงแค่ปากแตะกับเท่านั้นแต่มันทำให้ผมร้อนลุ่มในใจราวกับมีไฟสุ่มอก มันเจ็บปวดดั่งฟ้าที่ผ่ากลางดวงใจของผม สองมือกอดร่างท่อนซุงเอาไว้ไม่อยากให้ไปไหน ผมผละออกจากท่อนซุงก่อนที่ไอ้ยักษ์ที่เปลี่ยนไปจะเดินออกไปอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของผม สักครั้งจนก้าวนั้นหายออกไปจากห้องเล็กๆของผม นี้เหรอคนที่ผมรักไป ทั้งหมดมันคือการหลอกลวงใช่มั้ย ถ้าผมสามารถย้อนเวลาไปได้ผมจะไม่ไปทำตัวเป็นเด็กๆที่มีเรื่องชกต่อกับมันแถมยังทำรถมันเปื้อน แต่ในเมื่อมันเกิดไปแล้วผมคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากทนกับความเจ็บปวดนี้ไป

ผมมาเรียนหลังจากผ่านวันนั้นมาไม่นาน ผมเก็บอาการเฮิร์ดทั้งหมดลงแต่น่าแปลกที่ไอ้ว่านยังคงจับผมได้
   “มึงรู้ใช่มั้ยว่ามึงเก็บอาการไม่เก่ง” ผมอยากจะเอาอะไรมาปิดหน้าผมแล้วเขียนว่า กูปกติดี
   “กูชิวๆสบายๆไม่ได้อกหักหรืออะไรมาเลย” ผมแสดงท่าทางปกติอย่างไม่มีพิรุธ
   “นั้นไงมึงบอกแล้วว่าอกหัก” ไอ้ว่าทำหน้าตาจริงจัง “อยากจะเล่าก็เล่าไม่อยากเล่าก็จะไม่บังคับ” ว่านพูดและลากผมเข้าเรียน ในวันนี้ช่วงบ่ายผมว่างแล้วครับ ผมก็เข้ามาชมรม ‘รักสัตว์’ ตามปกติ ผมเห็นไอ้ว่านมารอแล้วตามปกติของมัน
   “อ่าวไอ้แม้วเป็นอะไรวะมึง” ว่านทักทายผม
   “เปล่า” ผมตอบไปเพียงเท่านั้น
พาร์ทของแนว
สวัสดีครับ เราเคยรู้จักกันหรือเปล่า มาถึงก็ร้องเพลงเลยนะครับแหม อะอะผมชื่อแนวนะครับ เป็นเพื่อนในชมรมเดียวกับไอ้แม้วมันและยังเป็นเพื่อนสมัยมัธยมครับแต่ผมไม่ค่อยได้สนิทกับมันเท่าว่านนะครับ
ผมมองดูไอ้แม้วที่มันนั่งเงียบในชมรคมปกติมันจะเฮฮาปาจิงโกะแต่วันนี้มันซึมเป็นพิเศษครับ ผมว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับคนที่ชื่อบิวและท่อนซุงด้วย วันก่อนที่มันคุยเรื่องคนชื่ออบิวกับท่อนซุงในห้องนี้เอ่อ จำเรื่องที่มันจะแก้แค้นบิวได้มั้ยครับ คือวันนั้นผมได้ยินเต็มๆสองหูเลยในห้องนี้กับไอ้เผือก พอดีวันนั้นผมมาเก็บขอกับมันครับ แล้วไอ้ว่านกับไอ้แม้วมันกำลังคุยกันพอดีเลยไม่มีใครสังเกต แต่แม้วมันก็มาเล่าให้ผมฟังทีหลังนะครับ
   “มึงทำไมบิวต้องให้ไอ้ท่อนซุงมาหลอกเราด้วย” ไอ้แม้วกำลังต่อสายตรงถึงบิวเพื่อเคลียร์ปัญหาให้มันจบๆ และมันยังเปิดลำโพงให้พวกผมได้ยินโทษครับผมเข้าใจผิด เป็นบิวเองมากกว่าครับโทรมาหาไอ้แม้ว แต่ไม่ได้เคลียร์นะมาเยาะเย้ยต่างหาก ผมขอโทษที่สื่อสารผิดนะครับ
   “ได้ข่าวว่าจะแก้แค้นเราก่อนไม่ใช่เหรอเป็นไงโดนเราเอาคืนก่อนที่จะแก้แค้นซะอีก หึๆ สมใจยังคะคุณแม้ว รู้ไว้ด้วยนะท่อนซุงเป็นของฉันไม่ใช่ของแก” บิวพูดจบก็ตัดสายไปเลยครับ ไอ้แม้วทำหน้าเหมือนโดนตบด้วยไม่หน้าสามกลางสี่แยกไฟแดง ตอนนี้หน้ามันขึ้นสีเพราะความโกธรจนเห็นได้ชัด
   “แม้ว” ผมเรียกชื่อมันเบาๆ
   “ทำไมบิวถึงรู้” ไอ้ว่านถามผมพวกมันอาจจะสงสัยผมแต่เชื่อเถอะพวกมันเป็นเพื่อนของผม ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอนครับ
   “อย่าเพิ่งด่ากูนะ เรื่องนี้จริงๆไม่ได้รู่แค่นี้ว่ะ วันที่พวกมึงคุยกันในห้องนี้ มึงคิดว่าอยู่กันสองคนแต่จริงๆแล้วมีกูกับไอ้เผือกด้วย” ผมเอ่ยถึงไอ้เผือกในทางใส่ร้าย แต่ก็ผมสงสัยมันคนแรกนี้หว่า
   “เผือกเหรอ” แม้วพูดขึ้นมา
   “เผือกจะทำแบบนั้นเพื่ออะไร” แม้วถามผมอีกครั้ง
   “กูไม่รู้แต่กูแค่บอกมึงเฉยๆว่าเรื่องนี้มีกู มึง ว่านแล้วก็ไอ้เผือกที่รู้ ถ้ามึงสองคนไม่ได้บอกใคร กูก็ไม่ได้บอกใครเหลือแค่ไอ้เผือก มึงจะคิดว่าบิวเขาเอาเครื่องดักฟังติดตามตัวมึงหรือไง” ผมพูดตามหลักเหตุผลของผม 
   “กูเชื่อใจมึงนะ” ไอ้แม้วพูด ว่านหยิบโทรศัพท์เพื่อที่จะติดต่อไอ้เผือกแต่มันบอกว่าเรียนอยู่ เลยนัดให้มาคุยเรื่องบิวที่ห้องชมรมหลังที่มันเรียน พวกผมรอเวลาจนผ่านไปหลายชั่วโมง ตั้งแต่บ่ายๆจนถึงเกือบค่ำแต่ไอ้เผือกยังไม่มา 
   “เมื่อไหร่มันจะมา” ไอ้ว่านที่ดูจะเดือดที่สุดกำลังขึ้นเสียงลั่นห้องส่วนไอ้แม้วมันยังคงนั่ง  เงียบอยู่มุมเดิมของมัน  ส่วนผมก็ยังคงนั่งเล่นเกมในมือถือผมต่อไป ไม่ใช่ว่าผมไม่เครียดนะผมก็  เครียดแต่ถ้าผมไม่หาอะไรทำผมนี้แหละจะเดือดกว่าไอ้ว่านเป็นแน่แท้
   “เอาไงให้กูไปลากคอมันมาจากหอมันมั้ย” ผมถาม
   “ไม่ต้อง กูว่ากูพอแล้วเรื่องทั้งหมดเกิดเพราะกู งั้นก็ให้มันจบที่กูโอเคมั้ย” ไอ่แม้วพูดแล้วลุกออกจากห้องไป
   “ไม่ต้องไปไอ้แม้วแม่งเป็นแบบนี้แหละเดี๋ยวอีกสองสามวันมันก็กลับมาอารมณ์ดีอีก”  ไอ้ว่านจับไหล่ผมที่กำลังจะตามไอ้แม้วไป ผมเลยปล่อยมันไปตามยถากรรม 
   “สู้ๆนะเพื่อนฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ” ผมได้แต่บอกมันก่อนที่ผมจะปิดห้องชมรม แล้ว กลับไปที่หอผมบ้าง 
   “งั้นกูกลับแล้วนะ” ไอ้ว่านพูด ขอบอกก่อนนะครับพวกผมไม่ใช่ไม่รักเพื่อนนะครับ แต่ถ้ามันอยากจะพูดก็จะรอให้พูดพวกผมไม่อยากบังคับ การที่พวกผมปล่อยให้มันอยู่คนเดียวก็เพราะว่าถ้ามันต้องการคนระบายหรือต้องการเพื่อนมันก็จะมาหาเอง ถ้ามันคิดจะฆ่าตัวตายละก็ถือว่าเป็นกรรมของมันแล้วกัน 
ตุบ
ระหว่างที่เดินออกมาสายตาก็จดจ่ออยู่แต่กับมือถือของผม ร่างที่ใหญ่กว่าชนผมอย่างจังๆ
   “ขอโทษครับ”
   “มีตาก็หัดมองบ้าง ไม่ใช่จ้อแต่โทรศัพท์” ผมมองร่างที่วิ่งผ่านไป คือมึงก็ผิดที่วิ่งชนเหมือนกันเปล่าวะไอ้กร๊วกเอ๊ย ว่าแต่มันหน้าคุ้นๆนะครับแต่ผมไม่เคยรู้จักหลอกครับ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเดือนคณะที่ไหนสักแห่งแน่นอนเพราะเคยเห็นหน้ามันบนโปสเตอร์มหาลัย

พาร์ทของว่าน

ผมละสงสารเพื่อนจับใจใครๆที่ว่าผมรักเพื่อนคนนี้ คือจริงๆก็รักนะครับแต่ไม่ใช่เชิงชู้สาว เอ๊ะมันไม่ใช่ผู้หญิงนี้หว่า แต่ทุกครั้งที่มันเจอปัญหามันจะวิ่งแจ้นมาหาผมทันทีแต่ครั้งนี้เหมือนมันจะหนักเอาการอยู่ครับ มันนั่งเงียบไม่พูดจาอะไรเลยสักคำ ระว่างที่ผมรอไอ้แนวมันนั่งเล่นเกมอยู่ในห้องชมรมผมก็โทรหาไอ้เผือก
   “ไอ้เผือกอยู่ไหน” ผมถาม
   “เรียนอยู่ว่ะมีอะไรเปล่าวะ” มันกระซิบเบาๆคงจะกลัวอาจารย์ได้ยิน
   “เลิกเรียนแล้วมาหาที่ห้องชมรมหน่อย”
   “ไปทำไมวะ เออๆเดี๋ยวเข้าไป”
   “คุยเรื่องบิว” ผมพูดจบไอ้เผือกก็รีบตัดสายไปเลย ไม่ทันที่จะพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ผมเริ่มเชื่อไอ้แนวแล้วครับ ไม่ใช่เพราะมันเป็นเพื่อนสมัยมัธยมนะครับ แต่เพราะสาเหตุและเหตุผลรวมถึงการกระทำมากกว่าที่ทำให้ผมเชื่อ ผมมองไปที่ไอ้แม้วที่นั่งมองรูปท่อนซุงในโทรศัพท์พร้อมนิ้วที่สั่นๆ น้ำตาไหลอาบหน้ามันทำให้ผมรับรู้ว่ามันเจ็บปวดมากขนาดไหน ถ้าผมโดนแบบมันก็คงจะเจ็บไม่น้อย เรื่องของผมกับมันเหมาะแล้วครับที่เป็นเพื่อนกันต่างคนต่างมีเรื่องเจ็บๆในเรื่องความรักเหมือนกันแต่ผมรอดแล้วครับ ถึงแม้ว่าในอนาคตยังไม่แน่ โชคดีนะเพื่อน




 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
Re: เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
«ตอบ #38 เมื่อ27-04-2018 09:20:44 »

สงสารแม้ว  :hao5:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
«ตอบ #39 เมื่อ27-04-2018 22:13:43 »

 :mew4: :mew4: :mew4:


เป็นกำลังใจให้แม้วนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เมามาย ตอนที่15 27/04/2561
« ตอบ #39 เมื่อ: 27-04-2018 22:13:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด