Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :14 :60% 6/04/2561
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :14 :60% 6/04/2561  (อ่าน 20681 ครั้ง)

ออฟไลน์ เต่าตุ่น

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-12
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #30 เมื่อ07-12-2017 21:44:16 »

ตอนที่5

“กลับมาแล้วครับ”ผมเดินเข้าไปในครัวเพื่อทักทายป้าจำปีที่กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่

“กลับมาแล้วหรอน้องเกรว กลับซะเย็นเลย”ปกติโรงเรียนจะเลิกประมาณบ่าย3ครึ่ง ผมจะถึงบ้านไม่เกิน4โมงครึ่ง แต่เพราะผมหยุดเรียนไปหลายวันเลยมีงานที่ยังไม่ได้ทำส่งอาจารย์อยู่หลายวิชา ทำให้กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะ6โมงครึ่งแล้ว

“พอดีเกรวต้องทำงานส่งอาจารย์ครับ เลยกลับช้า”ผมบอก ก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนชุดข้างบน

ห้องที่ผมพักอยู่ตอนนี้นั้นเป็นห้องนอนแขกที่ปกติจะไม่มีใครใช้ ซึ่งก่อนจะเดินไปถึงห้องของผมก็ต้องเดินผ่านห้องนอนของพี่นนต์ก่อน ไม่รู้ทำไมทั้งๆที่คิดว่าทำใจเรื่องคืนนั้นได้แล้ว แต่ทุกครั้งที่ต้องเดินผ่านห้องนี้ ตัวผมมันก็เกร็งสั่นไปหมด จนบ้างครั้งก็แทบก้าวขาให้พ้นประตูห้องนี้ไม่ได้

“พี่เกรว”ผมสะดุ้งตัวโย เมื่อได้ยินเสียงเรียกหันกลับมาก็เจอน้องกันต์ที่ในมือมีตุ๊กตากระต่ายสีน้ำตาล กำลังดึงชายเสื้อนักเรียนของผมอยู่

“คะ..ครับ”ผมตอบรับพร้อมหับเอามือลูบหัวน้องกันต์

“ไปไหนมา”น้องกันต์ช้อนสายตาถามอย่างสงสัย

“ไปโรงเรียนครับ น้องกันต์เหงาหรอ”ผมจุงมือน้องกันต์เดินไปที่ห้องตัวเอง โชคดีที่มีน้องกันต์เดินด้วยผมเลยเดินผ่านประตูห้องพี่นนต์ได้อย่าไม่ลำบากใจ

“กันต์ก็ไปโรงเรียนต์มา”น้องกันต์ส่ายหน้าก่อนจะตอบอย่างอารมณ์ดี

“น้องกันต์ไปโรงเรียนมาหรอ”ผมเปิดประตูห้องก่อนจะจูงมือน้องกันต์เดินเข้าไป  น้องกันต์พยักหน้าแล้วปีนขึ้นไปนั่งบนเตียงพร้อมมองสำรวจรอบๆห้องอย่างสนใจ

จะว่าน้องกันต์เองก็คงถึงวัยเข้าเรียนแล้ว เคยได้ยินว่าอยู่ที่เชียงใหม่ก็เข้าเตรียมอนุบาลแล้ว เพราะย้ายกลับมาที่กรุงเทพกะทันหัน เลยหยุดเรียนไประยะหนึ่งซินะ

“แล้วสนุกไหมครับ”ผมเอากระเป๋าไปวางแล้วเดินมาหาน้องกันต์ที่เตียง

“สนุกครับ มีเพื่อนเยอะเลย แต่ไม่มีจี”น้องกันต์พยักหน้าก่อนจะตอบด้วยเสียงติดเสียดายที่ไม่เห็นเพื่อนที่โรงเรียนเก่าในโรงเรียนใหม่

“เดี๋ยวสักวันต้องได้เจอกันแน่ครับ”ผมปลอบพร้อมลูบหัวน้องกันต์เบาๆ

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องน้องกันต์เท่าไหร่นัก เพราะตั้งแต่พี่นนต์แต่งงานก็ย้ายออกจากบ้านไปอยู่เชียงใหม่เลย เพราะพี่นนต์ตั้งใจที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น  ผมไม่ค่อยรู้เรื่องแม่ของน้องกันต์มากนัก  รู้แค่ว่าพี่นนต์หย่ากับเธอเมื่อ3ปีก่อน  ซึ่งในตอนนั้นน้องกันต์อาจจะเพิ่งคลอดออกมาก็ได้

พอมองน้องกันต์ก็ทำให้นึกถึงเรื่องตัวเองในสมัยเด็กๆ ผมจำได้ลางๆว่าผมอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่สีขาว มีสนามหญ้าที่มีต้นไม้ปลูกเต็มไปหมด มีพ่อและแม่ที่ใจดี เมื่อผมนึกถึงผมได้ยินแต่เสียงหัวเราะของพวกท่านที่ฟังดูเต็มไปด้วยความสุข  แต่กลับไม่เคยเห็นใบหน้าของพวกเขาเลย  ผมจำได้แค่นั้น มันเลื่อนลางจนบ้างครั้งอาจจะเป็นเพียงแค่จิตนาการที่ผมสร้างขึ้นมาหลอกตัวเองก็ได้

หากผมมีชีวิตอย่างที่คิดจริง แล้วทำไมผมถึงถูกบังคับให้ไปขายพวงมาลัยกลางสี่แยกแบบนั้นล่ะจริงไหมครับ

“พี่เกรว ๆ”เพราะมั่วแต่เม่อ จมไปกับความคิดของตัวเองจนน้องกันร้องเรียกหลายครั้ง

“หืมห์”ผมตอบรับเสียงเรียกเล็กนั้นอย่างไม่ค่อยมีสตินัก

“หิวแล้ว”น้องกันพูดเสียงอ้อนก่อนจะมองที่ท้องป่องเล็กๆของตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างเขินอาย ถึงเเม้จะไม่มีแม่แต่พี่นนต์ก็เลี้ยงน้องกันมาได้อย่างดีที่สุด ผมรับรู้ได้ถึงสิ่งที่น้องกันต์เป็น  เด็กที่ถูกเลี้ยงอย่างเอาใจใส่ในครอบครัวที่อบอุ่นมักจะมีบรรยากาศรอบตัวที่สดใสและน่ารักเสมอ

“งั้นไปกินข้าวกันต์ พี่นนต์เอ่อ คุณพ่อน้องกันต์อาจจะกลับดึกน้องกันต์ไปกินพร้อมพี่เกรวกัน”ผมบอก พร้อมลูบหัวเบาๆอย่างเอ็นดู น้องกันพยักหน้ารับ ผมเลยขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน หลังจากนั้นก็พาน้องกันต์เดินลงมาข้างล่างเพื่อทานอาหารเย็น

ตอนนี้เกือบจะสองทุ่มแล้ว แต่พี่นนต์ยังไม่กลับ ผมเลยอาสาไปพาน้องกันต์ไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้านอน เพราะน้องกันต์ดูจะง่วงแล้ว

“คุณพ่อล่ะ คุณพ่ออยู่ไหน”ผมอุ้มน้องกันต์วางลงบนเตียงในห้องนอนของผม ตอนแรกน้องกันต์หลับไปแล้วแต่พอผมวางลงที่บนเตียงก็งัวเงียตื่นขึ้นมา ถามหาพี่นนต์

“คุณพ่อยังไม่กลับครับ น้องกันต์นอนก่อนเลยครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน”ผมบอกพร้อมกับตบหลังเบาๆเป็นเชิงกล่อมให้น้องกันต์นอน  ที่จริงน้องกันต์นอนที่ห้องพี่นนต์ผม แต่เพราะไม่รู้ว่าคืนนี้พี่นนต์จะกลับมาไหมหรือจะกลับดึกแค่ไหน ผมเลยไม่กล้าให้น้องกันต์นอนห้องโน้นคนเดียว อีกอย่างผมก็ไม่กล้าที่จะเปิดประตูเข้าไปที่ห้องนั้นด้วย เลยตัดสินใจพาน้องกันต์มานอนห้องผมแทน

น้องกันต์หลับลงอีกครั้งอย่างง่ายด้าย ผมเลยเข้าไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวนอนเหมือนกัน พรุ่งนี้บาสบอกจะมารับผมไปโรงเรียนพร้อมกัน  ถึงผมจะปฏิเสธแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟังจะมารับท่าเดียว  ผมเลยกะจะตื่นแต่เช้าผมไม่อยากให้บาสมารอ เพื่อทางนั้นตื่นเช้าขึ้นมา

อาบน้ำสระผมเสร็จผมก็เดินออกมาเพื่อจะแต่งตัว  ผมชอบออกมาแต่งตัวนอกห้องน้ำครับ เพราะไม่อยากให้เสื้อผ้าชื้น ผมเองก็ค่อนข้างซุ่มซ้ามด้วย กลัวจะทำเสื้อผ้าที่จะใส่หล่นลงพื้น

“คุณพ่อ”ผมพันผ้าเช็ดตัวรอบเอวไว้แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำตามปกติ  แต่สิ่งที่ไม่ปกติกลับอยู่ตรงหน้าผม

พี่นนต์ที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตอนไหน กำลังนั่งอยู่บนเตียง มือกำลังลูบหัวน้องกันต์อยู่ ทั้งสองคนพ่อลูกหันมามองที่ผมโดยอัตโนมัติ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนเปลือยท่อนบนโดยที่ท่อนล่างมีเพียงแค่ผ้าขนหนูพ้นไว้อย่างเหม่นเหม่

“จะยืนอ่อยอีกนานไหม”พี่นนต์พูดเสียงเย็นติดไม่พอใจ  ผมเลยรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าที่มีชุดนอนห้อยเตรียมไว้แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

แอบน้อยใจพี่นนต์ไม่น้อยที่ว่าผม ทั้งๆที่ตัวเองเข้ามาห้องของผมโดยไม่ได้รับอนุญาตแท้ๆ

“จะนอนในนั้นหรือยังไง  จะอยู่ในนั้นไปถึงเมื่อไหร่”หลังจากที่ผมใส่ชุดนอนเสร็จ ก็ยืนอยู่ในห้องน้ำเพื่อรอให้พี่นนต์กลับก่อน  เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับพี่นนต์ตอนนี้   แต่ผ่านไม่สักพักพี่นนต์ก็มาเคาะประตูเรียกผมออกไป

“..........”กะจะยืนทำเตรียมใจต่ออีกหน่อย แต่ก็ทนเสียงเคาะประตูเร่งอีกครั้งไม่ไหว ผมเลยเปิดประตูห้องน้ำออกมา

พี่นนต์ยืนกอดอกพิงขอบประตูห้องน้ำ หรี่ตามองว่าที่ผมอย่างตำนิ  ส่วนน้องกันต์ตอนนี้หลับสนิทลงอีกครั้ง

“พี่นนต์มีอะไรหรือเปล่าครับ”หลังจากเปิดประตูห้องน้ำออกมาพี่นนต์ก็เอาแต่ยืนจ้องผมไม่พูดไม่จา จนผมทนกับบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ไม่ได้เลยถามออกไป

“เดี๋ยวนี้พี่ต้องมีอะไรหรือไง ถึงจะเรียกเราให้ออกมาเจอหน้าพี่”พี่นนต์ยืนตัวตรงก่อนจะขยับเข้ามาใกล้  ใกล้จนผมได้กินน้ำยาคาเชื้อที่ใช้ในรพ. มันไม่ได้เหม็นหรือฉุนหรอกนะครับ  แต่ก็นั้นแหละ จะบอกแค่ว่าเรายืนใกล้กันจนผมได้กลิ่นที่ติดมาจากรพ.

ผมเลยถอยหลังทันทีที่พี่นนต์เริ่มขยับเข้ามาใกล้  แต่เพราะความไม่ระวัง พื้นที่ผมถอยหลังไปนั้นเป็น พื้นลดระดับลง เพื่อไม่ให้น้ำไหลออกจากพื้นห้องน้ำมาในส่วนของพื้นห้อง เลยทำให้ผมเสียหลักเกือบจะล้มหงายหลัง แต่โชคดีที่พี่นนต์คว้าตัวผมไว้ได้ทัน

เหมือนเวลาหยุดนิ่ง หัวใจผมเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ  ร่างกายสั้นสะท้าน ภาพคืนนั้นลอยเข้ามาในหัวจนผมเผลอผลักพี่นนต์ออกห่างอย่างไม่เบาแรง ด้วยความตกใจ พี่นนต์ก็ยอมคลายอ้อมแขนที่ประคองผมไว้ออกอย่างง่ายดาย

“ขอโทษครับ”ผมบอกขอโทษเสียงอูอี้เริ่มรู้สึกผิดเมื่อเห็นสีหน้าพี่นนต์ที่ดูเหมือนตกใจกับการกระทำของผม

“ที่หลังก็ระวังหน่อย”พี่นนต์ว่าแค่นั้นแล้วหันหลังเดินไปเปิดประตู ก่อนจะหยุดค้างไว้แบบนั้น

“พรุ่งนี้เช้ามีธุระอะไรหรือเปล่า”พี่นนต์หันมาถาม

“เอ่อ คือพรุ่งนี้ลูกชายคุณหญิงน้ำทิพย์ข้างบ้าน ที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงจะมารับไป โรงเรียนพร้อมกันครับ”ผมตอบตามจริง

“โทรไปบอกเขาไม่ต้องมา พรุ่งนี้พี่จะไปส่งพร้อมกันต์   ตั้งแต่พรุ่งนี้ไม่ต้องไปช่วยงานในครัว ช่วยกันต์เตรียมตัวไปโรงเรียนแทน เข้าใจไหม”ไม่ปล่อยให้ผมได้พูดแทรกเพื่อโต้แย้ง พี่นนต์พูดจบก็เลิกคิ้วถามแกมบังคับ

“ครับ”ผมเลยได้แต่ตอบรับเพราะไม่มีเหตุผลที่จะต้องโต้แย้ง   แม้จะแบรู้สึกไม่พอใจนิดๆก็ตาม

พี่นนต์เดินออกจาห้องไปทั้งทีที่ผมรับปาก  ผมเลยกะโทรไปบอกบาสเรื่องยกเลิกไม่ต้องมารับ  แต่โทรไปเบอร์มือถือก็ไม่มีคนรับ จะโทรไปเบอร์บ้านก็เกรงใจเพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว ผมเลยไม่ได้โทรไป เอาไว้โทรตอนเช้าอีกที

ผมก็เลยเข้านอน และทำใจเตรียมพร้อมสำหรับกิจวัตประจำวันที่ต้องเปลี่ยนไปตั้งแต่วันพรุ่งนี้

....................................................

“วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกตินิดหน่อย เพื่อไปเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของของน้องกันต์ที่จะไปโรงเรียนอนุบาล   หลังจากจัดเตรียมข้าวของของน้องกันต์ที่จะไปโรงเรียนเรียบร้อยแล้วผมก็ไปจัดการตัวเอง อาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จและร้อยเพื่อให้น้องกันต์ได้นอนต่ออีกนิด

“น้องกันต์ครับ ตื่นเถอะ”เมื่อผมจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วผมก็เดินไปปลุกน้องกันต์ที่นอนอยู่บนเตียงกับผมตั้งแต่เมื่อคืน

“งืมมม”น้องกันต์ขยับตัวหนีมือผมที่เขย่าตัวเบาๆเพื่อให้ตื่น

“เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะครับ  พี่นนต์ เอ้ย คุณพ่อจะรอนานนะครับ”ผมบอกอีกครั้งน้องกันต์ลืมตาขึ้นมาพร้อมใช้หลังมือขยี้ตาเพราะความง่วง ก่อนจะหันมาจ้องน้าผม แล้วพยักหน้ารับในสิ่งที่ผมพูดเมื่อกี้ 

หลังจากน้องกันต์ตื่นผมก็พาน้องกันต์ไปอาบน้ำแต่งตัว พอเสร็จก็พาลงมาข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน  ตะอาหารถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นแบบอเมริกันที่มีขนมปังปิ้ง ไส้กรอกและไข่ดาว  ผมเลยพาน้องกันไปนั่งที่โต๊ะ ซึ่งตอนนี้เก้าอี้สำหรับเด็กที่คุณลุงธนต์เคยสั่ง มาส่งแล้ว  น้องกันต์เลยนั่งทานมื้อเช้าได้อย่างสะดวก

“มีอะไรในเกรวช่วยไหมครับ”ผมถามป้าจำปีที่ยกน้ำส้มคั้นเย็นๆมาเสริฟให้

“ไม่มีอะไรแล้วจ้า น้องเกรวดูแลคุณหนูเถอะ  อีกเดี๋ยวคุณนนต์คงลงมา”ป้าจำปีว่ายิ้มๆก่อนจะรินน้ำส้มใส่แก้วทั้งสามใบให้

ผมลงมือทานมื้อเช้ากับน้องกันต์เพื่อรอพี่นนต์ได้สักพักพี่นนต์ก็ลงมา

“คุณพ่อ”น้องกันต์ที่ในมือยังมีขนมปังปิ้งกับไส้กรอกอันเล็กๆ ร้องเรียกพี่นนต์ตั้งแต่ใกล้

“กินอยู่อย่างพึ่งพูดครับ”พี่นนต์เดิมมาจูบที่หัวน้องกันต์พร้อมกล่าวเตือนไม่จริงจัง ก่อนจะไปนั่งที่หัวโต๊ะใกล้กับน้องกันต์แล้วยกกาแฟที่พี่ษาเอามาเสริฟขึ้นดื่ม พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วย

พอพี่นนต์มาร่างกายของผมมันก็เกร็งโดยอัตโนมัติ  ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าพี่นนต์ยังโกรธเรื่องที่ผมเผลอผลักเมื่อคืนหรือเปล่า

ปริ๊นปริ๊น

ก่อนที่ผมจะคิดอะไรไปไกลกว่านี้ผมก็ได้ยินเสียงแตรรถบีบไม่ดังมากนักที่หน้าทางเข้าบ้าน  ทุกคนในห้องอาหารหันไปมองทางต้นเสียงเป็นทางเดียวกันหมด

“ใครมาเช้าขนาดนี้กัน”พี่นนต์พูดขึ้น ทำให้ผมนึกขึ้นได้ทันทีว่าผมยังไม่ได้โทรไปบอกบาสเรื่องที่จะไม่ไปโรงเรียนพร้อมบาสวันนี้เลย

“นั้นซิค่ะ เพิ่งจะเจ็ดโมงกว่าเอง”ป้าจำปีพูดเสริม พร้อมทำท่าจะเดินออกไปดู

“น่าจะเป็นบาสเพื่อนเกรวเอง ขอโทษครับเดี๋ยวเกรวไปดูเอง”ผมบอกอย่างร้อนรน  พร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ไม่ต้อง ใครอนุญาตให้ลุกออกจากโต๊ะทั้งๆที่คนอื่นยังทานไม่เสร็จ” แต่ก็ถูกพี่นนต์พูดเสียงต่ำหยุดไว้

TBC.............................................

ว่าจะลงตั้งเเต่กลางวันแต่หลับยาวกว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง เลยเพิ่งลง

ช่วงนี้ยุ่งๆเรื่องเรียนกับทำโปรเจ็คจบ เลยไม่ค่อยมีเวลาได้มาลง  ขอโทษนะ

ถ้าว่างๆเมื่อไหร่จะพยายามเเวะมาลงเรื่อยๆ ทุกคนอาจจะรอนานไปหน่อยบ้างอย่างเพิ่มเลิกอ่านกันนะ

อย่าลืมอ่านเเล้วรู้สึกยังไงคอมเม้นต์เเสดงความคิดเห็นกันหน่อย นี่ทุกวันนี้ไม่รู้เลยว่าทุกคนอื่านเเล้วรู้สึกยังไง มันดีไหมหรือยังไง หรือยังไม่คนอ่านอยุู่ไหมบางทีก็สงสัย5555


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #31 เมื่อ08-12-2017 01:36:07 »

จะมีการเขม่นซึ่งกันและกัน ระหว่างพี่หมอกับน้องบาสไหมเนี่ย  :o10:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #32 เมื่อ08-12-2017 09:09:12 »

พี่หมอเริ่มจะหวงเด้กหรอ :hao3:

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #33 เมื่อ08-12-2017 10:03:47 »

 :pig4: :mc4:

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #34 เมื่อ08-12-2017 10:20:24 »

พี่หมอก็พูดดีๆกับน้องซิ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #35 เมื่อ08-12-2017 11:24:37 »

พี่หมอจะเอายังไงกันแน่ ไม่ชอบไม่รักน้องก็ปล่อยไป น้องก็คงไม่ว่าหรอก

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #36 เมื่อ08-12-2017 23:54:28 »

อิพี่นนท์ จะขีัเก็กไปถึงไหน ชิๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #37 เมื่อ08-12-2017 23:56:18 »

พี่นนต์ หวงเกรวแล้ว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #38 เมื่อ09-12-2017 09:22:39 »

เปิดศึกชิงนางแล้ว

ออฟไลน์ FiZZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
«ตอบ #39 เมื่อ09-12-2017 13:38:32 »

รอดูพี่นนหึงโหดอยู่นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :5 : 0712/2560
« ตอบ #39 เมื่อ: 09-12-2017 13:38:32 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เต่าตุ่น

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-12
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #40 เมื่อ18-12-2017 20:59:07 »

ตอนที่6

“ไม่ต้อง ใครอนุญาตให้ลุกออกจากโต๊ะทั้งๆที่คนอื่นยังทานไม่เสร็จ” แต่ก็ถูกพี่นนต์พูดเสียงต่ำหยุดไว้

“แต่ เพื่อน...”ผมพยายามจะบอกเหตุผลที่ต้องลุกออกจากโต๊ะ แต่พูดไม่ทันจบ พี่นนต์ก็พูดแทรกขึ้นมา

“พี่บอกว่าไม่ไง นี่คำพูดพี่ไม่มีความหมายเลยหรือไง”พี่นนต์ว่างหนังสือพิมพ์ลงโต๊ะอย่างหัวเสีย จ้องมองมาที่ผมอย่างตำหนิ    ทำเอาทั้งห้องอาหารเงียบกริบแม้กระทั่งน้องกันต์ที่เมื่อกี้ยังฮำเพลงก็เงียบลง พร้อมมองมาที่ผมอย่างสงสัย

“เดี๋ยวป้าออกไปรับเองค่ะ”จนสุดท้ายป้าจำปีก็พูดขึ้นพร้อมเดินออกจากห้องอาหารไป

“นั่งลง”หลังจากป้าจำปีออกจากห้องไป พี่นนต์ก็สั่งเสียงต่ำให้ผมนั่งลง

“.......”ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม ด้วยขอบตาที่ร้อนพราว เพราะความรู้สึกน้อยใจ

ได้แต่ถามตัวเองว่า ผมทำผิดอะไร ทำไมทุกครั้งไม่ว่าผมจะทำอะไรมันถึงได้กลายเป็นเรื่องที่ผิดไปซะหมดในสายตาของพี่นนต์  ผมรู้สึกเหมือนกลายเป็นคนที่ถูกจับผิดตลอดเวลาในหลายวันที่ผ่านมา

ผมนั่งก้มหน้านิ่ง หยุดมือทานอาหารเช้าตรงหน้าแม้ก่อนหน้านี้จะยังแทบไม่ได้แตะต้องมัน  นั่งนิ่งข่มน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นเต็มดวงตาไม่ให้มันไหลออกมา

............................................................

“ขอบคุณที่มาส่งครับ”หลังจากไปส่งน้องกันต์เสร็จ พี่นนต์ก็ขับรถพาผมมาส่งที่โรงเรียนตามที่บอก  ผมยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ โดยเลี่ยงที่จะต้องสบตากับพี่นนต์ ตั้งแต่ตอนทานข้าวหลังจากนั้นทั้งผมและพี่นนต์ก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย ส่วนเรื่องบาสตอนที่ผมกำลังจะออกจากบ้านป้าจำปีมาบอกว่า บอกบาสให้แล้วว่าผมติดธุระในช่วงเช้าเลยไปโรงเรียนด้วยกันไม่ได้ และยังช่วยขอโทษแทนผมด้วย ซึ่งผมเองก็กล่าวขอบคุณพร้อมยกมือไหว้ป้าจำปีที่ช่วยออกมารับหน้าแทนผม

มาคิดดูเรื่องทุกอย่างที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะความผิดของผมเอง ถ้าเมือคืนผมพยายามโทรบอกบาสเรื่องยกเลิกนัดให้ได้ หรือถ้าตอนเช้าผมไม่ลืมโทรบอก ป้าจำปีก็คงไม่ต้องออกมาขอโทษบาสแทนผม และพี่นนต์ก็คงไม่ทำท่าเหมือนโกรธผมแบบตอนนี้

“ตอนเย็นพี่จะแวะมารับ”ผมกำลังปลดเข็มขัดนิรภัยออกเพื่อเตรียมลงจากรถก็ต้องหยุดชักงักเมื่อพี่นนต์พูดขึ้น

“ไม่เป็นไรครับ เกลวกลับเอง...”ผมพูดยังไม่จบพี่นนต์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“พี่บอกพี่จะมารับ”น้ำเสียงเปลี่ยนไปทันทีเมื่อผมพยายามจะปฏิเสธ

“ครับ....เกรวไปได้หรือยังครับ”ผมถามมือจับค้างที่เปิดประตูตั้งแต่พี่นนต์เริ่มพูดเรื่องจะมารับตอนเลิกเรียน

“เดี๋ยว....”

ก๊อกๆ

เหมือนพี่นนต์จะต้องการจะพูดอะไรบ้างอย่างกับผม แต่บาสที่ไม่รู้มาจากทางไหนก็มาเคาะกระจกหน้าต่างรถฝั่งที่ผมนั่ง

“ไม่มีอะไร รีบลงไปซิ เพื่อนรอไม่ใช่หรือไง”พี่นนต์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะบอกให้ผมลงจากรถ  ผมทำตามถึงแม้จะอบสงสัยว่าเมื่อกี้พี่นนต์ต้องการพูดอะไรกับผม

“นึกว่าหลับ  เห็นจอดอยู่สักพักไม่ลงมา”บาสยืนพูดอยู่ใกล้ๆ พร้อมมองตามหลังรถพี่นนต์ที่เพิ่งขับออกไป

“เปล่า เออ เรื่องเมื่อเช้าขอโทษนะที่ผิดนัด เมื่อว่าจะโทรบอกแล้วแต่...”ผมเลิกสนใจคนใจร้ายและหันมาคุยกับบาสเรื่องเมื่อเช้า แต่ยังพูดไม่ทันจบดีบายก็พูดแทรกขึ้นมา

“it’s not a big deal เรื่องแค่นี้เอง ไปเถอะแดดร้อน ตัวจะไหม้อยู่แล้ว”พูดจบก็ดึงเอากระเป๋าของผมไปถือไว้ให้ ทำเอาเหล่าสาวๆที่ยืนอยู่แถวนี้ถึงกับหลุดเสียงกรี๊ดออกมา

“ไม่เป็นไร ถือเอง”ผมบอกพยายามจะแย้งกระเป๋ามาถือเอง เพราะแบบนี้มันดูแปลก ผมไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย กระเป๋าแค่นี้ถือเองได้

“อย่าน่า รีบเดินเขาประกาศให้เข้าแถวแล้ว”แต่บาสหลบไม่ให้ผมแย่งกระเป๋าคืนได้  แล้วเดินไปเพื่อเข้าแถวหน้าเสาธงตามที่คุณครูประกาศ  ผมเลยได้แต่ปล่อยไป เพราะรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างบอกไม่ถูก และสาเหตุทั้งหมดก็มาจากเรื่องพี่นนต์  ผมไม่รู้ว่าพี่นนต์เป็นอะไร เหมือนหลายวันที่ผ่านมาพี่นนต์หงุดหงิดเรื่องอะไรสักบ้างอย่าง ทุกครั้งที่ผมเจอพี่นนต์พี่นนต์มักจะโกรธและเย็นชาอยู่ตลอดเวลา  ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้แค่ไม่กี่ปี จากพี่ชายที่แสนดีและอบอุ่นที่ผมเคยรู้จัก กลับใจร้ายและเย็นชาได้ขนาดนี้

หลังจากเข้าแถวหน้าเสาร์ธงเสร็จ พวกผมก็ขึ้นห้องเพื่อเข้าคาบโฮมรูม   ตลอดระยะทางที่เดินจากหน้าเสาร์ธงมาที่ที่ห้องบาสจะถูกนักเรียนคนอื่นสนใจเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะนักเรียนหญิงที่หลายคนพยายามเดินเบียดเข้าหาบาสเมื่อสบโอกาส

แต่ก็ไม่น่าแปลกหรอกครั้ง เพราะบาสหน้าตาหล่อแบบเป็นลูกครึ่ง ตัวก็สูงจนเกือบๆเท่าพี่นนต์ แถมยังเป็นถึงลูกชายท่านทูตอีกต่างหากเลยยิ่งเป็นที่สนใจของเด็กในโรงเรียน  ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าบาสเข้าเรียนที่นี่ตั้งแต่ ม.4 จะวุ่นวายแค่ไหน ยังดีที่ตอนนนี้อยู่ ม.6แล้ว รุ่นน้องส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยกล้าเข้าหา จะมีก็แต่ปีเดียวกันนี่แหละที่แทบจะลากบาสไปห้องเรียนตัวเอง กว่าจะถึงห้องได้ก็เลยเอาหอบ

“เหนื่อย”พอเข้าห้องได้บาสก็นั่งแผ่ไปกับเก้าอี้เพราะความเหนื่อย ก็กว่าจะหลุดออกจากกลุ่มผู้หญิงตรงทางเดินได้ก็เลยเอาหมดแรงกันไปเยอะ และผมซึ่งถูกบาสจับแขนไว้ตลอดก็เลยกลายเป็นติดไปกับฝูงชนด้วย

“จะเป็นแบบนี้อีกหลายวันไหม”ผมเองก็ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ใกล้ๆบาสเพราะเหนื่อยไม่แพ้กัน ยิ่งตอนเช้าแทบไม่มีอะไรตกถึงท้องแรงที่มีน้อยอยู่แล้วก็แทบหมด   ถ้าต่อไปยังเป็นแบบนี้ทุกวัน ผมคงต้องให้ความสำคัญกับมื้อเช้ามาขึ้นเป็น2เท่าซะแล้ว

“ไม่รู้  นักเรียนหญิงที่ไทยแรงเยอะชะมัด”บาสบ่น

โชคดีที่พวกเราอยู่ห้องเรียนพิเศษ นักเรียนเลยน้อยกว่าห้องอื่นเกือบครึ่งหนึ่ง  ทั้งห้องรวมบาสด้วยแค่16คน แถมส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ชาย พอมาถึงห้องเราเลยปลอดภัยกว่าข้างนอก

“หมดสภาพเลยมึง 555”เก่งเป็นเพื่อนสนิทของผม เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ตอนม.ต้น เลยสนิทกัน

“เหนื่อยมาก”ผมบอก พร้อมเตรียมหยิบหนังสือที่จะเรียนวิชาขึ้นมาหลังคาบโฮมรูม   ยังไม่ได้คุยอะไรกันต่อ ครูที่ปรึกษาก็เดินเข้ามาในห้องพอดี

“อีกสองสัปดาห์ โรงเรียนเราจะจัดงานopen house นักเรียน ม.6โดยเฉพาะเด็กห้องEP.ทุกคนต้องเป็นตัวหลักของงานครั้งนี้  นี่เป็นหน้าที่ที่เด็กห้องเราต้องรับผิดชอบ วันนี้มาเลือกกันว่าจะทำอะไร แล้วหัวหน้าห้องเอามาส่งให้ครูก่อนพักกลางวันด้วย”ว่าจบท่านก็ทิ้งกระดาษที่มีรายละเอียดที่เด็กในห้องแต่ล่ะคนต้องให้หัวหน้าห้องแล้วเดินออกไป

“ลงชื่อครับ ใครมาก่อนได้ก่อน”พอครูออกไปหัวหน้าก็ตะโกนเรียกเพื่อนในห้องให้ไปลงชื่อ ทุกคนในห้อง กรูเข้าไปที่โต๊ะหัวหน้าห้องอย่างไว  มีแค่ผมกับบาสที่เอาแต่มองหน้ากัน

บาสอาจจะงงเพราะเพิ่งมาเรียนได้วันเดียวก็มีงานใหญ่เข้ามาเลยอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรเพราะได้รับผิดชอบเรื่องนี้ทุกปี เลยไม่รู้จะรีบวิ่งไปทำไม

“เกรวมึงทำคู่ไอ้บาสแล้วกัน มึงสนิทกับมันที่สุด”หลังจากที่ทุกคนลงชื่อแต่ล่ะตำแหน่งกันหมดแล้วหัวหน้าก็เดินมาหาผมที่โต๊ะ พร้อมวางกระดาษที่มีเพียงตำแหน่งเดียวที่ยังไม่มีใครลงชื่อ

“ได้ๆๆ”ผมบอกแล้วเขียนชื่อตัวเองลงไป”  จากนั้นก็ส่งให้บาสเขียนชื่อบ้าง

“บายศรีนี่อะไร”บาสถาม อย่างสงสัยพร้อมกับเซ็นชื่อลงไป

“เออน่า ให้ไอ้เกรวมันจัดการ  มึงก็ไปช่วยถือของเดินตามมันแล้วกัน มันโปรเรื่องนี้”หัวหน้าห้องบอกปัดๆ แล้วดึงกระดาษที่บาสเขียนชื่อเสร็จกลับไป  ปล่อยให้บาสทำหน้าสงสัยต่อไป

พักเที่ยง พวกผมกำลังเดินไปโรงอาหารเพื่อทานอาหารกลางวัน  แต่ยังไม่ทันได้ลงตึกหัวหน้าห้องที่เอารายชื่อไปส่งก็วิ่งหน้าตั้งมาหา

“เกรวๆๆ  วันนี้คาบบ่ายไม่มีเรียนนะ  ครูเขาจะประชุมเรื่องงานopen house”หัวหน้าบอก

“โอเคๆ”ผมพยักหน้าตอบรับ แล้วเดินไปกินข้าวกับบาสและก็เก่งด้วยอีกคน

หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณครูก็ประกาศเรียกให้นักเรียนที่รับหน้าแต่ล่ะส่วนไปประชุมกันตามจุดต่างๆ  การประชุมก็ไม่มีอะไรมาก คุณครูแค่แบ่งหน้าที่ให้แต่ล่ะคน รับผิดชอบ

“เกรว เดี๋ยวเกรวเอาเอารายการไปให้ร้านอุปกรณ์ ที่ห้างXXXXแล้วเลือกพวกดอกไม้ และของสดแล้วสั่งเขาไว้ล่วงหน้า  อาจจะต้องใช้เยอะกว่าทุกปีต้องรีบไปสั่งเดี๋ยวไม่ทันงาน   นักเรียนใหม่เธอเอารถมาใช่ไหม  ไปด้วยกันเลย เดี๋ยวครูทำเรื่องให้”ครูสมศรีบอกพร้อมส่งกระดาษรายการของที่ต้องใช้ให้ผม

“ครับ”ผมรับกระดาษว่าดู รู้สึกของที่ใช้  จะมีชื่อร้านไว้อยู่แล้วน่าจะไม่ยุ่งยากเท่าไหร่

“นำทางเลยครับคุณหนู”บาสว่าพร้อมพายมือให้ผมเดินนำออกจากห้องประชุม

เราขับรถกันมาที่ห้างแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นัก  พอไปถึงผมก็พาบาสเอาใบสั่งของไปจามร้านต่างๆที่คุณครูเขียนไว้

“ร้านสุดท้ายแล้ว ผมบอกเมื่อบาสทำหน้างอ เพราะเราวิ่งวุ่นไปตามชั้นต่างๆทั่วห้าง  โดยมีผมเดินนำและบาสก็เดินตามบ้างทีก็หลงบ้าง จนบาสเริ่มบ่น

“อย่าหลงอีกนะ เมื่อยแล้ว”บาสพูดดัก  ทำหน้างอ ตัวออกจะใหญ่รูปร่างก็ดูเป็นนักกีฬา เดินแค่ชั่วโมงกว่าๆก็บ่นซ่ะแล้วอยากจะแซวกลับแต่ดูจากหน้าบาสแล้วผมแซวไม่ออกจริงๆ

“ไม่หลงรับรอง ร้านนี้มาบ่อย”เลยได้พูดขำๆ พร้อมเดินนำไปยันชั้นล่าง ซึ่งเป็นโซนขายพวกของเล่นเด็ก  และมีสนามเด็กเล่น เราต้องมาสั่งพวกของลูกโป่งซึ่งใช้เป็นของตกแต่งในงาน   ซึ่งลูกโป่งจะสกรีนชื่อโรงเรียนเลยต้องสั่งทำเป็นพิเศษ เลยต้องรีบมาสั่ง เพราะเดี๋ยวไม่ทัน

“นี่ครับ  ขอวันที่15นะครับ”เสร็จธุระผมก็ออกมาหาบาส  แต่พอออกมากลับมองหาบาสไม่เจอ อาจจะไปห้องน้ำ

ผมเลยยืนรออยู่หน้าร้านทีเดิม เพราะเดี๋ยวบาสกลับมาเดินหาไม่เจอ  ยืนมองไปรอบๆ เห็นเด็กมากมายต่างวิ่งเล่นส่งเสียงกันอย่างสนุกสนาน  มองดูเพลินๆผมกลับเจอน้องกันต์ที่วิ่งมาจากทางไหนไม่รู้ผ่านหน้าไป  ผมเลยกะจะวิ่งตามไปเพราะเป็นห่วง แต่กลับเห็นน้องกันต์วิ่งไปหาเด็กผู้ชายที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับน้องกันต์   เด็กคนนั้นมากับผู้ชายอีกคนที่ท่าทางสุภาพ แต่นั้นไม่สำคัญเท่ากับ ผู้ชายตัวสูงอีกคนที่เดินตามหลังน้องกันต์มาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาคุยกับผู้ชายอีกคน  พี่นนต์กำลังยิ้มอย่างมีความสุข   ดวงตาคมที่เอาแต่จ้องมองผมด้วยความเย็นชา  แต่ตอนนี้กลับเต็มเปลี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อทอดมองผู้ชายคนนั้น

“เอฟ รอนานไหมครับ”

เอฟ  ชื่อของคนที่พี่นนต์พรำหาในคืนนั้น  คนที่พี่นนต์หลงรัก

TBC................................................................. 

เริ่มเข้ารื่องเเระ จริงๆเรื่องพี่นนต์นี่ไม่มีอะไรเลยนะ แต่ทำไมมันเเต่งยากเเต่งเย็น

คงจะได้รีไรท์อีกรอบตอนรวมเล่มเเน่เลย555555  อยากให้มันดูสมเหตุสมผลกว่านนี้หน่อย

อย่าลืมเเสดงความคิดห็นกันเข้ามานะ ว่าอ่านเเล้วเป็นไงมั้ง อย่าเงียเดี๋ยวไม่มีกำลังใจเเต่ง

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #41 เมื่อ18-12-2017 21:21:21 »

อ่าว นี่ตอนแรกเข้าใจว่าเอฟคือแม่น้องกันต์ (เราเข้าใจผิดไปเองสินะ ฮือออออ)

แล้วก็หมั่นไส้พี่นนท์อ่ะ ทำไมต้องร้ายใส่น้องด้วย

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #42 เมื่อ19-12-2017 01:38:14 »

ภาพตรงหน้าทำเกรวเจ็บอีกแล้ว  :กอด1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #43 เมื่อ19-12-2017 02:03:15 »

สงสารน้องจับใจเลยครับ ทำไมพี่ต้องทำกับน้องแบบนี้ เห็นเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์เหรอครับ ไม่โอเคเลยนะครับ!

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #44 เมื่อ19-12-2017 02:34:36 »

อิพี่นนท์ น่าหมั่นไส้ ขอให้โดนน้องเท
และก็เทๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #45 เมื่อ19-12-2017 07:11:55 »

พี่นนต์ ชัดเจนกับเกรวหน่อย  :angry2:
อ่อนโยนกับเกรว มากๆ
ให้เกรว อยู่ด้วยอย่างสบายใจจะดีกว่าไหม
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2017 11:53:28 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :6 : 18/12/2560
«ตอบ #46 เมื่อ19-12-2017 09:41:27 »

นึกว่าเอฟเป็นแม่น้องกันต์ซะอีก 555

ออฟไลน์ เต่าตุ่น

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-12
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #47 เมื่อ20-01-2018 00:45:50 »


ตอนที่ 7

“เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ ทุกอย่าลืมไปรับผิดชอบหน้าที่ ที่ครูให้  แล้วค่อยฟังกำหนดการกันอีกที  วันนี้กลับบ้านกันได้เลย”

“เกรว เกรว !”ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงบาสเรียกผมเสียงดัง

“ฮะ”ผมหันไปขานรับ เห็นคนในห้องเริ่มทยอยกันลุกออกไป

“ฮะ อะไรล่ะ คนอื่นเขากลับบ้านกันหมดแล้ว  โอเคหรือเปล่า เห็นเหม่อตั้งแต่กลับจากห้างแล้ว”บาสถามด้วยสีหน้าติดกังวล

“เปล่าๆๆ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ไปกันเถอะ”ผมรีบลุกเก็บของใส่กระเป๋าลวกๆ และชวนบาสกลับ

ตั้งแต่เมื่อกลางวันที่ผมเห็นพี่นนต์กับผู้ชายคนนั้น ผมก็ไม่สามารถสลัดภาพที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกจากหัวได้  สายตาที่พี่นนต์มองเขามันช่างแตกต่างกับที่มองผมเหลือเกิน   รู้สึกเจ็บที่ใจอย่างบอกไม่ถูก ผมได้แต่นั่งถามตัวเองซ้ำๆ ว่าทำไมผมกับผู้ชายคนนั้นถึงต่างกันขนาดนี้  ต้องทำยังไงผมถึงจะถูกมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักแบบนั้นบ้าง

“เอาไงกลับด้วยกันไหม”ผมเดินมาทางหน้าโรงเรียนที่มีรถของบาสจอดอยู่ใกล้ๆ

“ไม่อ่ะ เดี๋ยวที่บ้านมารับ”ผมไม่รู้หรอกว่าพี่นนต์จะมารับไหม ไม่รู้จะว่าตอนไหน  แต่ผมก็อยากจะลองรอสักครั้ง  หากผมยังมีความสำคัญอยู่บ้าน พี่นนต์ก็คงไม่ลืมผม

ผมพยายามคิดแบบนั้น แต่ในลึกๆกลับรู้ดี ว่าการรอครั้งนี้มันก็เหมือนกับ5ปีที่ผ่านมา  มันไม่ทางสมหวัง ไม่มีทาง...

.................................

นนต์part

“หลับหรอค่ะ”ผมกลับมาบ้านหลังจากไปส่งเอฟกับน้องจีที่บ้านเขาแล้ว ตลอดทางกลับน้องกันต์ที่วิ่งเล่นมาตลอดทั้งวันก็หลับโดยไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ผมเลยอุ้มเข้ามาในบ้านทั้งแบบนั้น

“ครับ  เดี๋ยวผมรบกวนป้าเอาน้องกันต์ไปนอนทีนะครับ  ผมจะขอไปเคลียร์งานที่ห้องทำงาน”ผมบอกพร้อมค่อยๆส่งน้องกันต์ในป้าจำปี เพื่อพาน้องกันต์ไปนอน

“ได้ค่ะ”หลังจากนั้นผมก็แยกตัวไปเคลียร์งานต่อที่ห้องทำงานของคุณพ่อ เพราะวันนี้ทั้งวันผมแทบไม่ได้ทำงานเลย

ตั้งแต่รู้ว่าเอฟขึ้นมากรุงเทพ ผมก็ห้ามใจตัวเองที่จะไม่ไปเจอเขาไม่ได้ เลยโทรนัดเขาออกมาทันทีที่ผู้รู้ข่าวว่าเขามากรุงเทพ

ผมรักเอฟ แม้มันจะเป็นแค่รักฝ่ายเดียวก็ตาม

เอฟเป็นคนไข้ของผม เคสของเอฟพิเศษเพราะเอฟท้องได้ มันก็คงจะไม่แปลกอะไรถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชาย  คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ เอฟเป็นผู้ชายที่ตั้งท้องได้จริงๆและผมเองที่เป็นคนทำคลอดให้เขา   ผมเป็นเจ้าของไข้เขาตั้งแต่ตอนที่เค้าตั้งครรภ์ได้3เดือน  วันนั้นผมได้รับโทศัพท์จากคุณลุง ว่าต้องมีเคสพิเศษเขาจะย้ายไปเชียงใหม่แล้วผมเองตอนนั้นก็กำลังเปิดคลินิกทำวิจัยของวิทยานิพล ผมเลยได้เอฟมาเป็นคนไข้ในความดูแล และทางครัวครอบเอฟก็อนุญาตให้ผมทำวิจัยเคสของเขา  ซึ่งในทางวิชาการแล้วนี่เป็นโอกาสสำคัญที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลย

ครั้งแรกที่ผมได้เจอเอฟ  ผู้รู้สึกเหมือนมีอะไรบ้างอย่างดึงดูด  ใบหน้าอ่อนเยาว์ของผู้ชายวันยี่สิบต้นๆ นั้นหม่นหมอง ความเศร้าเต็มดวงตากลม  ริมฝีปากสีซีดที่ฝืนยิ้มทักทายผม   ทุกอย่างในวันนั้นทำผมรู้สึกเหมือนต้องมนต์   ในใจผมก็ได้แต่ร้องตะโกนบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนๆนี้และเด็กในท้อง 

ผมดูแลเอฟแทบทุกวันตลอดระยะเวลาเกือบ6เดือน  อาการแพ้ท้องของผู้ชายที่ตั้งครรภ์นั้นรุนแรงกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผมเคยเจอ  ยิ่งใกล้กำหนดคลอด ยิ่งรุนแรง เอฟเป็นลมบ่อยมาก ทานอาหารแทบไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะทานเท่าไหร่ก็อาเจียนออกมาหมด  อากาศเริ่มแย่ลงจนถึงขนาดต้องให้พามาอยู่ที่คลินิกของผม เพื่อดูอาการ24ชั่วโมง  ความจริงผมควรพาเขาไปนอนที่โรงพยาบาล แต่เอฟขอร้องไว้เพราะเขาอยากให้คนรู้เรื่องที่เขาท้องได้ในน้อยที่สุด  ก็อย่างที่ทราบกันดี หากข่าวเรื่องผู้ชายท้องได้หลุดออกไป ชีวิตเขาและครอบครัวคงจะวุ่นวาย 

เท่าที่ผมรู้ตอนนั้น เอฟอาศัยอยู่กับพ่อและแม่  เขาเป็นลูกคนเดียวและไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่สนิท  เหมือนทางครอบครัวจะพยายามเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ทุกอย่างก่อนหน้าที่ผมจะได้รู้จักพวกเขา ผมไม่รู้อะไรเลย   ผมไม่เคยรู้เรื่องของพ่อเด็ก เพราะทางฝั่งเอฟไม่เคยพูดถึง และผมเองก็ไม่อยากจะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องนี้

ผมดูแลเขาส่วนหนึ่งอาจะเป็นเพราะผมเป็นเจ้าของไข้ แต่อีกส่วนคงเพราะผมสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะดูแลเขาและลูกของเขาให้ดูที่สุด

จนเผลอลืมดูแลครอบครัวของตัวเอง   

ตอนั้นอดีตภรรยาของผมก็เพิ่งคลอดน้องกันต์ แม้ผมกับภรรยาจะอาศัยอยู่ด้วยกัน  แต่เพราะบ้านและคลินิกก็ค่อนข้างจะไกลกันผมที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเคสของเอฟ  ก็แทบไม่ได้กลับบ้านตัวเอง  รู้ตัวอีกทีผมก็ถูกภรรยาทิ้ง ผมไม่โทษเขาหรอกครับ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเองที่ปล่อยเขาให้อยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่เขายังท้องน้องกันต์จนกระทั่งคลอด ผมก็ยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องของตัวเอง ตอนที่ผมเห็นใบหย่าที่มีลายเซ็นของเขาเซ็นเรียบร้อยแล้ว ผมถึงได้รู้สึกตัวว่าผมทำอะไรลงไป 

แต่มันก็สายเกินไป จนสุดท้ายครอบครัวของผมก็แตก  ฟังดูแล้วก็น่าสมเพชนะครับ  ผมสัญญากับตัวเองว่าจะปกป้องคนไข้และดูแลเขาให้ดีที่สุด  แต่ภรรยากับลูกตัวเองแท้ๆผมกลับมองข้ามไป จนเสียเขาไป   

อดีตภรรยาของผมตั้งใจจะแต่งงานกับชาวต่างชาติคนหนึ่งที่เขาเคยมาพักบ้านผมแบบโฮมสเตย์ ตอนเองเป็นช่วงที่ผมกำลังยุ่งกับเรื่องคลินิกพอดี นั้นคงเป็นโอกาสที่ทำให้พวกเขารู้จักและสนิทสนมกัน บอกตามตรงตอนที่ผมรู้เรื่องนี้ผมเฮิร์ทอยู่หลายวันกินแต่เหล้า จนแม่ผมต้องบินจากแอฟริกาเพื่อมาเตือนสติผม  จนผมตั้งสติได้อีกครั้ง  ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาที่เอฟอาการทรุดหนักและใกล้คลอด  แม่ผมเลยอยู่เพื่อดูแลน้องกันต์ให้  หลังจากเอฟคลอดลูก เขาก็ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านตัวเอง ผมเลยถือโอกาสพักเรื่องงานวิจัย แล้วหันมาดูแลน้องกันต์อย่างที่ควรจะทำก่อนหน้านี้  ผมรู้สึกผิดทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ เพราะผมเป็นพ่อที่แย่ น้องกันต์ถึงได้ไม่แม่อยู่พร้อมหน้าเหมือนเด็กคนอื่น

และนี่คงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมตกหลุดรักเอฟ  เพราะตั้งแต่ที่เขารู้เรื่องที่ผมหย่ากับภรรยา เขาก็คอยมาให้กำลังใจ ช่วยเลี้ยงน้องกันต์และช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ยุ่งเพราะต้องเลี้ยงน้องจีที่เพิ่งคลอด

หลังจากที่อดีตภรรยาของผมแต่งงานกับชาวต่างชาติคนนั้น เธอก็ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศทันที โดยไม่สนใจเรื่องน้องกันต์เลยสักนิด เธอไม้แม้แต่จะบอกลาน้องกันต์ในวันสุดท้ายที่เธออยู่บ้านหลังนี้ด้วยซ้ำ

ซึ่งผมเองก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอในเรื่องนั้น แต่หลังจากที่เธอไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเกือบ3ปี เธอก็กลับมา  พร้อมต้องการของสิทธิเลี้ยงดูน้องกันต์  แต่ผมไม่อาจปล่อยให้น้องกันต์ไปอยู่กับเธอได้   เพราะผู้หญิงที่ทิ้งลูกตัวเองไปอยู่กับชายอื่นเกือบ3ปื โดยไม่แม้จะถามข่าวคราว หรือความเป็นอยู่ของลูกตัวเองเลยสักครั้ง   ในเมื่อตกลงกันไม่ได้ เราทั้งคู่ก็ยื่น ฟ้องร้องสิทธ์เลี้ยงดูลูก จนท้ายที่สุดผมก็ชนะคดี และเป็นผู้ปกครองน้องกันต์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะในระหว่างที่กำลังฟ้องร้องอยู่นั้น  เธอและสามีก็ถูกหมายจับคดี ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับมาเฟียที่ต่างประเทศ  และหลบหนีไปได้ เรื่องทุกอย่างเลยจบลงอย่างง่ายด้ายแม้จะยึดยื้อมาเป็นปีก็ตาม

ตลอดเวลาเกือบ3ปีที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่หย่ากับอดีตภรรยา  ผมกับเอฟเราดูแลซึ่งกันและกัน จนผมเริ่มรู้สึกมากเกินกว่าสถานะหมอกับคนไข้   และในวันที่ผมตัดสินใจที่จะบอกความรู้สึกตัวเอง  ผู้ชายคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้น  ชายแปลกหน้าที่น้องสาวผมตั้งใจพามาแนะนำในถานะว่าที่คนรัก

จนผมมารู้ทีหลังว่าเขาคือ พ่อของน้องจี  ผู้ชายที่ทำให้เอฟตั้งท้อง

วินาทีที่ผมได้รู้ว่าผมไม่อาจได้เอฟมาครอง   ผมรู้สึกเหมือนโลกครึ่งใบผมกำลังถล่มลงตรงหน้า ในหัวของผมเต็มไปด้วยคำถาม

ทำไมเรื่องที่เป็นแบบนี้   ทำไมเขาต้องมาตอนี้  ทำไมผมไม่บอกความรู้สึกกับเอฟก่อนหน้านี้ ทำไม...

ผมไปต่อไม่ได้ ผมไม่รู้จะทำยังไง มันเร็วเกินไป   ทั้งๆที่ผมเสียใจมากกว่าครั้งไหนๆ แต่ผมกลับไม่ร้องไห้ออกมา  ไม่ร้องสักนิด

ผมไม่ยอมรับความจริง และหันหลังหนี

แต่วันนี้ที่ผมได้พบเอฟ นั้นทำให้ผมยอมรับความจริงสักที  ความจริงที่ว่ามีผู้ชายคนอื่นที่ยืนอยู่ข้างเขา และผมไม่มีวันแทรกได้เลย

เวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน ด้วยความเหนื่อยล้าผมเลยเดินลงมาชั้นล่างเพื่อจะหาอะไรดื่ม  แต่ก็เจอกับป้าจำปีที่ยื่นอยู่หน้าประตูบ้านด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

“มีอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมยังไม่นอน มีอะไรหรือเปล่า”ผมถามอย่างสงสัย  แม้คนงานในบ้านจะทำงานค่อยรับใช้ แต่บ้านผมก็มีนโยบายว่า ตั้งแต่2ทุ่ม คนงานทุกคนในบ้านจะได้พักผ่อนโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่จำเป็นต้องรอเรียกใช้อะไร  และยิ่งป้าจำปีที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก ท่านสามารถพักได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องอยู่ดึกหรืออะไรเลย

“น้องเกรวค่ะ  น้องเกรวยังไม่กลับเลยค่ะคุณนนต์”ป้าจำปีพูดด้วยน้ำเสียงกังวน

“โทรหาหรือยังครับ”ผมถาม ขมวดคิ้วเข้าหาหันอย่างไม่ชอบใจ  นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้ว  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เกรวไม่ควรจะกลับบ้านดึกขนาดนี้

“คือ น้องเกรวเธอไม่มีมือถือค่ะ  เคยมีเครื่องหนึ่งแล้วพัง จากนั้นพอคุณท่านจะซื้อให้ใหม่เธอก็ขอร้องไม่ให้ซื้อ เพราะกลัวทำพังอีก  แต่ปกติถ้าจะกลับดึกน้องเกรวจะโทรมาบอกป้าก่อนตลอด แต่วันนี้ยังไม่ได้รับโทรศัพท์เลยค่ะ  โทรไปหาลูกคุณหญิงน้ำข้างบ้าน  เด็กในบ้านก็รับและคุณหญิงเละลูกชายก็ไปงานเลี้ยงค่ะ ไม่มีใครอยู่บ้าน”

“ป้าจำปี ไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมตามหาเกรวเอง”พอฟังมาถึงตรงนี้ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมต้องเป็นคนไปรับเกรวหลังเลิกเรียน

“เอ๊ะ คุณนนต์จะไปตามหาที่ไหนค่ะ เดี๋ยวป้าเรียกชาติให้ไปช่วย..”ป้าจำปีวิ่งตามผมออกมาที่โรงรถ

“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”ผมบอกแล้วรีบขึ้นรถและมุ่งหน้าไปที่โรงเรียน

 ผมขับรถจนมาถึงหน้าโรงเรียน ที่ตอนนี้ประตูรั้วปิดสนิท ผมเลยลองสอบถาม รปภ.ที่อยู่ที่ป้อมหน้าโรงเรียน

“ไม่ทราบว่าพอจะเห็นเด็กผู้ชายที่สูงประมาณนี้ ตัวเล็กๆผอมๆ บ้างไหมครับ”ผมถามพร้อมทำท่าทางอธิบาย

“อ่อ เห็นคนหนึ่งครับนั่งอยู่นี่จนเกือบ2ทุ่ม  แล้วเดินไปด้านโน้นครับ” รปภ.ชี้ไปที่ปากซอยที่เป็นส่วนที่อยู่ติดถนนใหญ่ ที่มีป้ายรถเมย์อยู่  โรงเรียนของเกรวตั้งอยู่ในซอย และมีทางเข้าออกสองทาง  ทางที่ผมขับมาคือทางเข้าและถ้าจะออกก็ต้องขับไปอีกด้านของปากซอย

พอได้ข้อมูลผมก็รีบขับรถไปทางที่ รปภ.บอกว่าเกรวเดินไปทันที  ขับไม่นานผมก็เจอป้ายรถเมย์ ที่มีไฟ สลัวๆให้แสงสว่าง

ผมไม่เห็นร่างเล็กที่ผมกำลังตามหา แต่เห็นผู้ชายเร่ร่อน ที่สวมเพียงหางเกาขาสั้นขาดๆ กำลังยืนอยู่ที่ป้ายรถเมย์  มือล้วงเข้าไปในกางเกงเหมือนกำลังจับน้องชายของตัวเอง และวินาทีนั้นเองที่ผมเห็นร่างเล็กที่หลับเอนซบไปกับขอบเสาร์ของป้ายรถเมล์โดยไม่ได้รู้เลย ว่ากำลังมีผู้ชายเร่ร่อนกำลังพยายามทำอนาจารตรงหน้าตัวเองอยู่

“เกรว!!!”ผมตะโกนสุดเสียง  ก่อนจะเปิดประตูลงรถอย่างเร่งรีบไปที่ป้ายรถเมล์    ชายเร่ร่อนได้ยินเสียงผมตะโกนก็วิ่งหนีไปในทันที

“พี่นนต์”คนที่ไม่ระวังตัวตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ  มองผมสลับกับชายเร่ร่อนที่วิ่งหนีไปอย่างพยายามลำดับเหตุการณ์

“ดึกป่านนี้ทำไมไม่กลับบ้าน!  รู้ไหมว่าถ้าพี่มาช้ากว่านี้จะเกิดอะไรขึ้น”ผมรีบเข้าไปกระชากคนไม่ระวังตัวให้ลุกขึ้นมาจากราวม้านั่งของป้ายรถเมล์

“เกรว ระ...”

“ทำไมไม่ระวังตัวห๊ะ! มานี่!!”ผมไม่ทันได้ฟังสิ่งที่เกรวกำลังจะพูด ด้วยความโกรธ ผมจับที่แขนของเกรว แล้วออกแรกกระชากให้เดินมาที่ รถ

“พี่นนต์ผมเจ็บ”ผมไม่ได้ฟังเสียงร้อง ของคนตัวเล็ก แต่ลากจนพาเข้าไปในรถได้

“ทำไมเป็นเด็กแบบนี้ ห๊า ! นี่มันจะเกินไปแล้ว รู้ไหมว่านี่มันกี่โมง!  ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่  เรากลายเป็นเด็กเหลวไหลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!”ด้วยความโกรธ ผมตะคอกต่อว่าทันทีที่ขึ้นรถได้

“อึก..เกรว..” ร้องไห้ตัวสั่นอย่างหวาดกลัว

“พี่ไม่อยากฟังคำแก้ตัว รู้ไหมว่าตัวเองทำอะไรอยู่! ถ้าพี่มาช้ากว่านี้  และถ้าไอ้นั้น มันไม่ได้มาแค่คนเดียว รู้ไหมจะเกิดอะไรขึ้น! ทำไมไม่ระวัง!!”ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออก ใจผมเต้นระส่ำ  ทั้งโกรธ ทั้งเคือง และกลัว

ถ้าผมออกมาจากห้องทำงานช้ากว่านี้  ถ้าผมขับรถช้ากว่านี้  ถ้าไอ้บ้านั้นมันไม่ได้มาคนเดียว  จะเกิดอะไรขึ้น   

“หยุดร้อง น้ำตาไม่ได้แก้ไขได้ทุกเรื่อง  กลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกันยาว ผมหันไปตะคอก  อารมณ์ของผมตอนนี้เดือดจนไม่รู้จะทำยังไง  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมอยากจะฆ่าใครสักคน  ไอ้บ้านั้น ทำไมถึงปล่อยให้คนแบบนั้นอยู่ใกล้โรงเรียนแบบนี้  ทำไมทางโรงเรียนไม่ดูแลเรื่องพวกนี้ให้ดี

คุณเข้าใจความรู้สึกของการที่คนที่คุณห่วงใย ทำตัวประมาทไม่เข้าท่า จนเกือบจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นกับตัวเขาเองไหม   มันเป็นความรู้สึกที่แย่ ไม่ใช่แค่เพโกรธที่เขาทำตัวประมาทไม่ระวัง แต่โกรธที่ตัวเอง ไม่สามารถดูแลปกป้องเขาไม่ให้เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้

“ฮือ..อึกๆ”เกรวยังคงร้องไหด้วยตัวที่สั่นเทาอย่างหนัก  นั้นยิ่งทำให้ผมปวดใจ คุณไม่รู้หรอกว่าการที่คนที่คุณคอยดูแลและปกป้องเขามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ เกือบจะถูกคนอื่นทำร้ายนั้นมันเลวร้ายแค่ไหน

การที่โดนคนทำร้ายว่าเลวร้ายแล้ว  แต่มันยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อคนที่เผลอทำร้ายเขา เป็นคุณเอง

TBC.

กลับมาเเล้วขอโทษที่ให้รอ  กลับจากงานศพก็เจอสอบเลย  ชีวิตวิกิจยิ่งนัก   

จริงตอนนี้ พาร์ทพี่นนต์ยังมีอีกนะ แต่ ยังไม่ได้ตรวจคำ ง่วงเเล้วเรื่องของเรื่อง ไว้จะรีบมาลงต่อ

ฝันดีทุกคน

ปล. อย่าเพิ่งด่าพี่หมอ นางเป็นห่วงของนางไง555


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #48 เมื่อ20-01-2018 01:42:16 »

 :hao5: เศร้าใจ เกรวทำอะไรก็ไม่ดีสำหรับอีพี่หมอใช่ไหม

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #49 เมื่อ21-01-2018 08:16:23 »

เมึยตัวเองท้องอยู่ แต่กลับนอกใจไปอยู่กับคนอื่น
ผู้ชายแบบนี้เกลียดมาก!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
« ตอบ #49 เมื่อ: 21-01-2018 08:16:23 »





ออฟไลน์ we.jinkyu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #50 เมื่อ21-01-2018 12:13:57 »

หมอ ฟังเกรวบ้างสิ  o22 ติดตามๆ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #51 เมื่อ21-01-2018 13:58:24 »

ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #52 เมื่อ21-01-2018 16:40:47 »

โอ้โหหหห อ่านตอนนี้แล้วเกลียดพี่หมอมากกกกก

เรื่องภรรยาเก่าก็เรื่องนึง
แต่เรื่องเกรวนี่ก็ความผิดตัวเองหรือเปล่า? บอกว่าจะไปรับเขาแล้วก็ลืม แล้วก็มาโมโหเขาอีก

โอ้ยยยย โมโห!!!1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #53 เมื่อ22-01-2018 22:44:05 »

โมโห อิพี่หมอ ขอให้น้องเกรซรักกะน้องข้างบ้านเลย สาธุ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #54 เมื่อ23-01-2018 02:45:46 »

อ้าววววว

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #55 เมื่อ23-01-2018 04:52:19 »

เกลียดอิพี่หมอออออ ตัวเองบอกจะมารับแล้วก็ลืม

ยังมีหน้ามาโรธเขาอีก ฮืออออสงสารเกลวทำไมถึงมาลงเอ่ยได้ตอนเรื่องจี  แถมยังหวงโคตร ๆ อีก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :7 : 20/01/2561
«ตอบ #56 เมื่อ23-01-2018 05:17:08 »

ความผิดใคร  :angry2:
ใครบอกจะมารับเกรว  :fire:

ออฟไลน์ เต่าตุ่น

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-12
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :8 : 5/02/2561
«ตอบ #57 เมื่อ05-02-2018 22:30:40 »


ตอนที่8

นนท์talk

“ลงมา”ผมเปิดประตูฝั่งที่เกรวนั่งเมื่อมาถึงบ้าน

“....”เกรวยังคงนิ่ง เอาแต่ก้มหน้ากั้นเสียงสะอื้น ไม่ยอมลงจากรถ

“พี่บอกให้ลงมา!”ผมขึ้นเสียงสั่ง

“คุณนนต์”ป้าจำปีที่เพิ่งปิดประตูรั้วเสร็จ กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่โรงรถ เพราะได้ยินผมพูดเสียงดัง

“.....”ผมไม่ได้ตอบรับ พยายามสงบสติอารมณ์แม้ว่าจะเดือดสุดๆก็ตาม

“คุณนนต์ ป้าว่านี่ก็ดึกแล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกันดีกว่าไหมค่ะ เดี๋ยวป้าดูน้องเกรวต่อเอง”ป้าจำปีพูดขอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวน

“........”ผมปล่อยมือที่กำลังจับข้อมือของเกรวออกแล้วหันหลังเดินเข้าบ้าน  ผมในตอนนี้คงสติอารมณ์ไม่ได้ง่ายๆ ป้าจำปีคงรู้ว่าถึงคุยไปก็จะมีแต่แย่ลง  ผมเลยเลือกทำตามคำขอของป้าจำปี เดินเข้าบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผมรู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความผิดของเกรว  รู้ว่าผมเองก็เป็นฝ่ายผิด รู้ทั้งรู้แบบนั้นแต่ผมก็ห้ามตัวเองไม่ให้โกรธเกรวไม่ได้  มันเป็นความรู้สึกแย่ที่ยากจะอธิบาย

“โถ่โว้ย!”พอขึ้นมาถึงห้องทำงาน ด้วยแรงอารมณ์ผมกวาดทุกอย่างบนโต๊ะทำงานทิ้งอย่างหาที่ระบาย

ตั้งแต่เรื่องคืนนั้น ที่ผมเมาจนลงมือทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นกับเกรว  เหมือนทุกๆนาทีตั้งแต่นั้น จิตใต้สำนึกเอาแต่บอกว่าผมเลวร้ายแค่ไหน  มันเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุดในชีวิตตั้งแต่ผมเคยเจอมา  ลองคิดดูถ้าเป็นคุณ คุณจะรู้สึกยังไงที่ข่มขืนน้องตัวเอง  แม้เกรวจะไม่ใช่น้องแท้ๆ แต่ผมก็รักและห่วงใยไม่ต่างจากน้องแท้ๆ ผมดูเเลเกรวมาตั้งแต่เด็ก

ผมยังจำได้ดี ครั้งแรกที่ผมได้พบเกรว 

เด็กผู้ชายตัวผอมบางที่สวมใส่เสื้อผ้าเก่าๆขาดๆ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ  จนแทบหาที่ว่างไม่เจอดวงตากลมที่เต็มไปด้วยความเศร้าและหวาดกลัว  ทุกวันนี้ผมยังจำได้ดี ผมเคยสัญญากันตัวเองตั้งแต่นาทีแรกที่ได้เห็นเด็กชายคนนั้น ว่าผมจะดูแลป้องป้อง และไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเขาได้เด็ดขาด 

แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่ง ผมก็ลงมือทำร้ายเขาอย่างๆไม่มีทางให้อภัยได้   ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำสิ่งเลวร้ายแบบนั้นไปได้ยังไง  จิตใจของผมชั่วช้าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่  ทุกอย่างมันทำให้ผมสติแตก ทุกคืนผมเอาแต่ฝันถึงใบหน้าที่เต็มไปด้วยคาบน้ำตาของเกรว กำลังร้องอ้อนวอนให้ผมหยุดทำร้ายเขา แต่ผมก็ไม่หยุด

ในหัวผมเต็มไปด้วยเรื่องในคืนนั้น ผมหาทางออกในเรื่องนี้ไม่เจอ ผมกลัวและวาดระแวงทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเกรว  ผมไม่รู้ว่าเกรวจะรู้สึกแย่แค่ไหนที่โดนข่มขืน

ผมพยายามหลบหน้า  ทำงานที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าจนดึกตลอดหลายวันตั้งแต่เกิดเรื่อง  ใช้เวลาคิดอยู่หลายวันว่าผมควรรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้ยังไง

สุดท้ายข้อเสนอแรกที่ผมบอกพ่อก็เป็นทางที่ดีที่สุด

 การข่มขืนไม่ต่างจากการภาคทั้งชีวิตของคนคนหนึ่ง  มันเป็นความผิดที่ไม่มีวันอภัยได้  ในเมื่อผมเป็นคนทำลายชีวิตของเกรว ผมก็ควรจะใช้ทั้งชีวิตของผมในการทดแทน

วันนั้นที่ผมตัดสินใจกลับมาบ้านเพื่อจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผมก่อ  แม้ผมจะรู้อยู่เต็มอกว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ผมไม่มีทางได้รับความรักและเครารพจากเกรวแบบเมื่อก่อน  ทั้งๆที่คิดไว้ตั้งแต่แรก แต่พอเห็นท่าทีเย็นชา  ไม่แม้จะมองหน้า มันทำให้ผมอดรู้สึกแย่ไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อหลายปีก่อน

 เมื่อก่อนผมเป็นเบอร์หนึ่งสำหรับเกรว ไม่ว่าผมจะไปไหน ไม่ว่าผมจะทำอะไร ทุกทีต้องมีเกรวอยู่ข้างกายเสมอ ผมคิดถึงเด็กน้อยตัวเล็กที่เอาแต่เรียกชื่อผมซ้ำๆ ไม่ว่าจะลืมตาตื่นหรือปิตาหลับ ผมเป็นคนเดียวที่เกรวเรียกหา  มันรู้สึกดีที่ตัวเองกลายเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับใครสักคน แต่พอวันหนึ่งเขากลับเมินเฉยเย็นชาใส่ แม้แต่หน้ายังไม่อยากมอง มันก็ทำให้คุณรู้สึกแย่ไม่น้อยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผมจะรู้อยู่เต็มอกว่าสมควรแล้วที่จะได้รับการปฏิบัติแบบนี้ แต่ผมก็ไม่สามารถทำใจยอมรับได้ อย่างน้อยๆก็ตอนนี้

ในหัวของผมยังคงเห็นเกรวในวัย17ปี เป็นแค่เด็กไม่ถึง10ขวบที่อ่อนน้อมและออดอ้อนผมตลอดเวลา ผมรู้สึกแบบนั้นและไม่อยากยอมรับว่าเด็กที่น่ารักแบบนั้น จะเย็นชาใส่  ถึงแม้ว่าสาเหตุทั้งหมด จะเป็นเพราะตัวผมเองก็ตาม

เรื่องในคืนนี้ก็เหมือนกัน ทั้งๆที่ผมรู้ว่าผมผิดที่บอกว่าจะไปรับแต่ก็ไม่ได้ไป แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะพาลใส่เกรว  ผมก็แค่คนเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมรับความผิดที่ตัวเองก่อ

endนนต์

เกรวtalk

“เข้าบ้านกันเถอะลูก” ป้าจำปีที่คอยลูบหลังปลอบใจพูด พร้อมทั้งออกแรกดึงข้อมือผมเบาๆ เพื่อให้ดินตามป้าจำปีเข้าไปในป้า

“อึก..ฮือ”ผมพยักหน้ารับคำก่อนลงจากรถเดินตามป้าจำปีเข้าบ้านทั้งๆที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด

เพรี้ยง!!

เข้ามาในบ้านได้ไม่กี่ก้าว ผมก็ได้ยินเสียงของที่หล่นแตกจากบนห้องทำงานชั้นสอง  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่นนต์โกรธผมมากแค่ไหน

ผมสะดุ้ง ขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้งหยุดชะงักและถอยหลังจากหวาดกลัว  พี่นนต์กำลังโกรธ  โกรธผมอย่างที่ไม่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  น้ำตาที่กำลังจะหยุดไหล กับไหลลงมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่

“เข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวป้าจะขึ้นไปส่งที่ห้อง”ป้าจำปีโอบไหล่ผมไหวหลวมๆ ก่อนจะพยุงให้เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของตัวบ้าน เปิดประตูและพยุงผมเข้าห้องนอน  ก่อนที่ท่านจะลูบหัวอย่างปลอบโยน  ผมโผล่เข้ากอดป้าจำปีอย่างหาที่พึ่ง

“ฮือๆๆ..อึก”ผมซบหน้าร้องไห้อยู่กับอกของป้าจำปี  ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่นนต์ต้องโกรธผมขนาดนั้น

“หนูรู้ใช่ไหมว่าผิด  ป้าไม่รู้หรอกว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น  แต่น้องเกรวเป็นเด็ก กลับบ้านดึกขนาดนี้โดยไม่บอกให้คนในบ้านรู้ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูก”ป้าจำปีลูบหลังอย่างปลอบประโลม

“เกรวขอโทษครับ  เกรวขอโทษ”ผมซบหน้าไปกับอกของป้าจำปี  ออกแรงกระชับแขนโอบกอดป้าจำปีอย่างสำนึกผิด

ผมรู้ ถึงแม้ว่าพี่นนต์จะเป็นคนบอกให้ผมรอพี่นนต์มารับ  แต่ผมก็ไม่ควรประชดประชันโดยการนั่งรอจนดึกขนาดนี้   แถมยังหลับไม่ระวังจนเกือบจะเกิดอันตรายขึ้น  ไม่แปลกที่พี่นนต์จะโกรธ  แต่ผมก็ไม่เคยคิดคิดว่าพี่นนต์จะโกรธถึงขนาดนี้

“รู้ไหมทำไมคุณนนต์ถึงโกรธขนาดนั้น”เหมือนป้าจำปีจะรู้ทุกอย่างที่ผมคิด

“ฮือ..อึก”แค่คิดถึงตอนที่พี่นนต์ตะวาดผมระหว่างทางกลับ ก็ทำเอากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“เพราะคุณนนต์เป็นห่วงน้องเกรวมาก ถึงได้โกรธขนาดนั้น  กับคนที่เราไม่ได้รักหรือห่วงใยคงไม่สนใจใยดีแบบนี้หรอกนะลูก”เหมือนคำพูดของป้าจำปีเตือนสติผม ผมหยุดร้องไห้คิดตามในสิ่งที่ป้าจำปีกำลังพูด

“ยิ่งสำคัญมาก ห่วงมากก็ยิ่งต้องโกรธมากเป็นธรรมดา “ป้าจำปีดันผมให้เงยหน้าขึ้นมาพบตากับท่าน  มือนิ่มเสยผมที่เปียกชื่นขึ้นให้ ก่อนจะปาดน้ำตาที่กำลังไหลลงมาอย่างปลอบใจ

“เกรว อึก..ขอโทษครับ”ผมพยายามหยุดร้องเพราะไม่อยากให้ป้าจำปีเป็นห่วงผมไปมากกกว่านี้

“ป้าน่ะไม่โกรธอะไรน้องเกรวหรอกเพราะป้ารู้ ว่าน้องเกรวเป็นเด็กดี ทุกอย่างที่น้องเกรวทำป้าเชื่อว่าหนูมีเหตุผล”

“............”

“ แต่ถึงจะมีเหตุผลยังไง หนูก็ต้องรู้ว่าการกระทำแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ถูก ใช่ไหม ถ้าหนูรู้ตัวว่าผิดก็ต้องขอโทษให้เรียบร้อย “ป้าจำปีลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน พร้อมส่งรอยยิ้มอย่างเอ็นดูให้

“ครับ”ผมยกมือไหว้ก่อนจะรับคำ 

................................................................................................

เมื่อคืนผมนอนไม่หลับ คิดแต่เรื่องที่ต้องขอโทษพี่นนต์ ผมไม่รู้ว่าจะขอโทษพี่นนต์ยังไง  พี่นนต์ถึงจะยกโทษให้ เรื่องเมื่อคืนแม้ผมจะทำตามที่พี่นนต์สั่ง แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ควรทำตัวประชดประชันต์คำสั่งพี่นนต์แบบนั้น ผมรู้สึกผิดที่ทำให้ทั้งพี่นนต์และป้าจำปีเป็นห่วง

ถ้าเมื่อคืนพี่นนต์มาไม่ทันผมอาจจะถูกทำไม่ดีไม่ร้ายไปถึงไหนต่อไหน     ถ้าผมสำนึกได้เร็วกว่านี้ ผมคงไม่รู้สึกผิดมากอย่างตอนนี้

“.........”ผมตื่นตั้งแต่เช้ามืด ตั้งใจจะไปขอโทษเรื่องเมื่อคืนกับป้าจำอีกครั้ง รวมไปถึงพี่นนต์ ที่ผมยังไม่รู้ว่าจะสู้หน้าพี่นนต์ยังไง

ผมลงไปเตรียมอาหารเช้าของทุกคนด้วยตัวเอง ตั้งใจจะทำงานทุกอย่างแทนป้าจำปี เพราะผมเอง ที่ทำให้ท่านแทบไม่ได้นอนเมื่อคืน 

“หอมเชียว ทำอะไรลูก”ผมคนหม้อข้าวต้มกุ้งพร้อมกับคิดเรื่องที่ตัวเองทำเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย ไม่รู้ป้าจำปีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกอีกก็ตอนที่ฝ่ามืออ่อนโยนแตะที่แขนของผมที่กำลังคนข้าวต้มจนเริ่มเละ

“จะเละแล้ว”ป้าจำปีพูดเตือนขำๆ พร้อมแย่ง ทับพีที่คนข้าวต้มกุ้งเมื่อกี้ไปถือเอง

“ขอโทษครับ  เกรวกลัวป้านอนไม่พอเลยอาสามาเตรียมอาหารเช้าแทน”ผมเสียงอ่อน รู้สึกผิดทั้งๆที่ตั้งใจจะทำอาหารเพื่อรับผิดชอบความผิดที่ทำให้ป้าจำปีต้องนอนดึก แต่กลับทำข้าวต้มเละเพื่อมัวแต่เหม่อ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ ไม่เละเท่าไหร่  ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น”ป้าจำปีหันมาปลอบ

“......”ผมได้แต่ทำหน้าแหยๆอย่างอดรู้สึกผิดไม่ได้

“น้องเกรวช่วยไปดูคุณหนูหน่อยได้ไหม ปานนี้คงตื่นแล้ว”ป้าจำปีว่า   ผมตอบรับเดินขึ้นไปชั้นสองไม่ทันจะได้ขึ้นไปถึงดี ผมก็เห็นน้องกันต์เดินงัวเงียออกมาจากห้องของพี่นนต์

“พี่เกรว”พอเห็นผมก็ร้องเรียกทันทีผมกำลังจะเดินเข้าไปหาน้องกันต์แต่ยังไม่ทันได้ก้าว พี่นนต์ที่ยังคงใส่ชุดทำงานตั้งแต่เมื่อคืนก็เดินออกมา  ผมหยุดชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวพ้นบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสอง รู้สึกอึดอัดทำตัวไม่ถูก

 แค่เสี้ยวนาทีที่พี่นนต์เห็นผม พี่นนต์ที่ตอนแรกกำลังจะเดินออกจากห้องก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งพร้อมปิดประตู เหมือนไม่อยากจะเห็นหน้าผม

พี่นนต์ยังไม่หายโกรธเรื่องเมื่อคืน

ถึงผมจะเตรียมใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่พอเจอตรงๆแบบนี้ก็ทำเอารู้สึกแย่จริงๆ

............................................................

ผมพาน้องกันต์มาอาบน้ำที่ห้องจากนั้นก็พาลงมาทานอาหารเช้า ที่ห้องทานอาหาร

“น้องกันต์อย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม”ผมตะโกนบอก เมื่อน้องกันต์ลงจากบันไดได้ก็ออกวิ่งสุดแรง

พลั่ก!

“แงๆๆๆๆๆ!!!”ยังไม่ทันพูดจบ น้องกันต์ก็ล้มลงที่หน้าห้องทานอาหาร ก่อนจะร้องไห้เสียงดัง  ผมตกใจเลยรีบวิ่งเข้าไปดู แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพี่นนต์ที่อยู่ในชุดไปรเวทวิ่งออกมาจากห้องทานข้าวเพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องกันต์

“คุณพ่อแงๆๆๆๆ!!”เมื่อเห็นพี่นนต์น้องกันต์ก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม

“ทำไมไม่ระวัง! พ่อบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง!”พี่นนต์รีบจับขาของน้องกันต์ก็จะพลิกไปมา เพื่อตรวจดู เพราะพื้นบ้าน ทำจากหินอ่อนพื้นเลยแข็งมาก ถ้าล้มกระแทกแรงๆก็จะเจ็บกว่าพื้นชนิดอื่น

“ฮือๆๆๆแงๆๆๆ!!!”สองแขนของน้องกันต์ชูขึ้นเพื่อหวังจะให้พี่นนต์อุ้มค้างชะงักเมื่อเจอคนเป็นพ่อดุ  พอเห็นแบบนี้ผมก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ทั้งๆที่ผมควรจะดูแลน้องกันต์ให้ดีๆแต่กลับปล่อยให้น้องกันต์ต้องเจ็บตัวแบบนี้

“อุ๊ยตายแล้ว เป็นอะไรมากไหมคะ”ป้าจำปีที่เพิ่งวิ่งออกมาจากห้องครัว รีบเข้ามาดูน้องกันต์

“น่าจะไม่เป็นไรมากครับ”พี่นนต์จับๆขาน้องกันยืดหดเหมือนพยายามดูว่าหัวเข่าเป็นอะไรไหม

“เดี๋ยวป้าไปเอากล่องยาให้ค่ะ”ป้าจำปีเสนอ

“เดี๋ยวเกรวไปเอาเองครับ”ผมบอกแล้วรีบหันหลังขึ้นไปชั้นสองจำได้ว่ากล่องปฐมพยาบาลอยู่ที่ห้องทำงานลุงธนต์

แต่ก็ต้องอึ่งเมื่อเข้ามาในห้องแล้วเห็นเอกสารและของหลายอย่างตกกระจายไปทั่วพื้น ทำให้นึกถึงเมื่อคืนตนที่ผมกำลังเดินเข้ามาในบ้านได้ยินเสียงของหล่นจากห้องนี้ ทั้งหมดเป็นฝีมือพี่นนต์แต่ต้นเหตุคืนผมเอง แต่ผมดึงสติกลับมาตอนนี้เรื่องที่สำคัญคือน้องกันต์ที่ยังคงร้องไห้อยู่ข้างล่างจนได้ยินเสียงมาถึงบนนี้

ผมรีบเอากล่องปฐมพยาบาลไปให้พี่นนต์ที่ตอนนี้อุ้มน้องกันต์มานั่งตักแล้ว

“ดะ..ได้แล้วครับ”ผมรีบเอากล่องปฐมพยาบาลไปให้ พี่นนต์ไม่ได้พูดอะไรไม่แม้จะเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยซ้ำ ไม่รู้เพราะตอนนี้กำลังห่วงน้องกันต์หรือเพราะยังโกรธผมเรื่องเมื่อคืนกันแน่ ผมถอยออกมายืนห่าง เพราะความรู้สึกผิดเรื่องที่ไม่ดูแลน้องกันต์ให้ดี บวกกับเพราะรู้สึกว่าพี่นนต์ไม่ต้องการเห็นหน้าผมในตอนนี้

...........................................................

“พี่เกรวๆ”น้องกันต์ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นสะกิดเรียกผมที่เอากำลังจมกับความคิดเรื่องของพี่นนต์

“คะ..ครับ”ผมเลิกคิ้วถาม

“น้องกันต์อยากไปที่นั้น”น้องกันต์ชี้ไปที่ทีวีที่กำลังมีโฆษณาของสวนน้ำเปิดใหม่แห่งหนึ่งแถบชานเมือง

​TBC"

ได้คอมมาเเล้ว   ช้านิดนะเดี๋ยววันศุกร์ลงตอนที่9ให้

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :8 : 5/02/2561
«ตอบ #58 เมื่อ05-02-2018 22:48:42 »

 :z6: :z6:แด่พี่นนท์

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: Doctor' lover เด็กหมอ ตอนที่ :8 : 5/02/2561
«ตอบ #59 เมื่อ05-02-2018 22:50:12 »

เกรว หนูอย่าหงอมากนักซิ พี่นนท์เขาไม่กัดหนูหรอก  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด