#Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #Holler...เรียกฉันสิที่รัก#...ตอนที่ 71 (17/11/19) P.37 -END-  (อ่าน 224124 ครั้ง)

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ  :impress2: มาลงตอนต่อไปแล้วนะคะ ไปอ่านกันเลยค่ะ ถ้ามีคำผิดหรืออะไรผิดพลาดก็ขออภัยไว้ตรงนี้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ไว้เจอกันนะคะ  :กอด1:


+++++++++++++++++++++++++++++++

Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 31 The way you love me.


So don’t you worry, baby you got me
เธออย่าห่วงไปเลยที่รัก เธอมีฉันอยู่
I got a bad boy, must admit it
ฉันได้หนุ่มที่ร้ายกาจมา ก็ต้องยอมรับล่ะนะ
You got my heart, don’t know how you did it
เธอได้หัวใจฉันไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร
And I don’t care this is it babe
และฉันก็ไม่สนมันหรอก นี่แหละรัก
I don’t want another way to feel you next to me
ฉันไม่สนหนทางอื่น เพื่อจะรู้สึกถึงเธอที่อยู่ข้างกายฉัน
I love the way you make me feel
ฉันรักวิธีของเธอที่ทำให้ฉันรู้สึกได้
I love the way
ฉันรักวิธีนี้
Baby I love the way you make me feel
ที่รัก ฉันรักวิธีของเธอที่ทำให้ฉันรู้สึกได้
I love the way, the way you love
ฉันรักวิธีนี้ วิธีที่เธอรักฉัน


        ยามเช้าที่เขาใหญ่นั้นบรรยากาศช่างสวยงาม แสงแดดอ่อนรำไรฉายสาดส่องไปทั่วพื้นหญ้ารอบๆโรงแรมแห่งนี้ ลูกค้าที่มาเข้าพักหลายคนก็ตื่นมาชื่นชมบรรยากาศยามเช้ากันหลายคนแต่ก็คงไม่ใช่ลูกค้าสี่หนุ่มที่จองห้องพักพูลวิลล่าอย่างแน่นอน

        ไคและเก้ายังคงหลับอุตุ ทั้งที่วันนี้จะต้องเดินทางกลับที่พักและเวลาที่จะต้องคืนห้องคือเวลาเที่ยงแต่ทั้งคู่ก็ยังคงนอนหลับอย่างไม่อยากตื่น เพราะเมื่อคืนดื่มไปก็เยอะ อีกทั้งออกแรงทุบตีกันก่อนนอนเข้าไปอีก จนตอนนี้ก็ยังคงหลับทั้งที่หลายๆคนตื่นมารับแสงแดดตอนเช้าแทบจะทั้งสิ้น

        และอีกห้องคือห้องของคู่รักหมาดๆก็เช่นกัน ยังคงนอนหลับอย่างสนิท ร่างสองร่างนอนกอดกันภายใต้ผ้าห่มพร้อมดวงตาที่หลับสนิท ลมหายใจยังคงสม่ำเสมอ ทั้งคู่นอนหลับอยู่อย่างนั้นนานไปอีกเป็นชั่วโมงและในที่สุดคนแรกที่ขยับคือ...พระพาย

        พระพายลืมตาขึ้นมาช้าๆพลางมองไปรอบๆและหันไปมองคนที่นอนข้างๆ รอยยิ้มประกายบนใบหน้าทันทีทั้งที่ดวงตายังสะลึมสะลือ ความอบอุ่นที่พาดผ่านมาที่รอบเอวนั้นทำให้พระพายรู้ดีว่าตอนนี้พิธานกำลังนอนกอดเขาอยู่

        เมื่อคืนช่างเป็นคืนที่ยอดเยี่ยมอย่างที่พิธานบอกไว้จริงๆ มันช่างเร่าร้อนและอิ่มเอมไปทั้งกายและใจ แม้ว่าจะเหนื่อยล้าและเมื่อยขาไปบ้างก็ตาม แต่จิตใจนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

        ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆว่าตอนนี้ตัวเขาและพิธานได้ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะได้ผู้ชายที่แสนจะร้ายกาจในครั้งแรกที่เจอกันมาเป็นแฟนอยู่ข้างกายในตอนนี้ เรื่องราวที่ผ่านมาแม้จะเป็นระยะสั้นๆแต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มากมายนัก ต่อจากนี้ไปเรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็คงต้องเป็นเรื่องของอนาคต พระพายอยากจะทำทุกๆวันต่อจากนี้ไปให้เป็นวันที่มีความสุขให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

        พระพายยิ้มออกมากับความคิดของตัวเองก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลา ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงกว่าเกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว ถึงเวลาต้องอาบน้ำแต่งตัว เดินทางกลับไปสู่ชีวิตปกติเช่นเดิม พระพายขยับตัวนิดๆอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้พิธานรู้สึกตัว อย่างน้อยก็อยากให้เจ้าตัวนอนต่ออีกสักหน่อยเพราะยังพอมีเวลา

        เมื่อเอาตัวเองออกมาจากเตียงนอนและการกอดก่ายของพิธานได้แล้วนั้น พระพายก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ รู้สึกตึงตรงต้นขา สันหลังและสะโพก การเดินจึงดูขัดตาไปบ้าง เมื่อมาถึงห้องน้ำก็รีบอาบน้ำทันทีเพราะจะได้ไปรีบเก็บของให้ตัวเองและคิดจะเก็บของให้พิธานด้วย

        ใช้เวลาไม่นานนักพระพายก็อาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวจนแห้งและใส่เสื้อผ้าทันที ตอนนี้พิธานยังคงหลับอยู่ พระพายจึงเก็บของของตัวเองทั้งหมดจากนั้นก็ดึงเสื้อผ้าของพิธานที่เหลืออีกหนึ่งชุดในกระเป๋าคงเป็นชุดที่เจ้าตัวเตรียมไว้สำหรับวันนี้

        พระพายแขวนชุดนั้นไว้จากนั้นก็เก็บเสื้อผ้าชุดอื่นของพิธานเข้ากระเป๋าไป เหลือเพียงของใช้เล็กน้อยที่พิธานจะใช้ จัดการทุกอย่างเสร็จก็ดูเวลาอีกครั้งพบว่าเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงนิดๆแล้ว คงถึงเวลาที่จะต้องปลุกพิธาน

“คุณ...ตื่น” พระพายนั่งลงบนเตียงก่อนที่จะเขย่าแขนพิธานเบาๆ แต่พิธานยังคงไม่ขยับตัวอยู่ดี

“ตื่นสิ” พระพายยังคงปลุกต่อไป แต่พิธานไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแต่อย่างใด

“ถ้าไม่ตื่นผมไปละนะ” พระพายว่าพร้อมทำท่าจะลุกออกจากเตียง แต่พิธานก็ไม่ยอมตื่นอยู่ดี

“เอาไงดี?” พระพายนั่งคิด จากนั้นก็คิดได้ว่าจะปลุกพิธานพร้อมกับได้แกล้งไปด้วย เป็นวิธีที่พิธานคงคาดไม่ถึง

“ตื่นเถอะครับ...” พระพายกระซิบเบาๆที่หูก่อนที่จะเอื้อมมือไปบีบตรงกลางลำตัวของพิธานผ่านผ้าห่ม แน่นอนว่าพิธานสะดุ้งตัวทันที

“แกล้งกันรึไง?” พิธานถามเสียงแหบพร่าตามประสาคนเพิ่งตื่น แต่มือนั้นจับมือของพระพายไว้ได้ทันท่วงที

“ก็ปลุกตั้งนานไม่ยอมตื่น” พระพายบอก

“ต่อไปเวลาจะปลุกต้องทำอย่างนี้” พิธานจูบริมฝีปากพระพายเบาๆอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะผละออก 

“เรียกว่ามอร์นิ่งคิส” พิธานว่าพลางยิ้มมุมปาก

“แต่เช้าเลย” พระพายอมยิ้มก่อนที่จะรีบลุกขึ้น

“ไปอาบน้ำเถอะครับ ใกล้ถึงเวลาออกจากโรงแรมแล้ว”

“อืม รอในห้องนี่แหละ เดี๋ยวออกไปพร้อมกัน” พิธานบอก ก่อนที่จะลุกไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ


        เจอพิธานในโหมดคนรักก็ทำเอาพระพายใจหวิวๆไม่หยอก เพราะอะไรถึงคิดว่าพิธานดูน่ารักขึ้น หรือเพราะกำลังอยู่ในห้วงความรักอย่างหัวปักหัวปำกันถึงได้คิดเช่นนั้น พิธานอาบน้ำเสร็จก็แปลกใจไม่น้อยที่ข้าวของนั้นถูกเก็บใส่กระเป๋าจนเกือบจะหมดแล้ว

“นายเก็บของเหรอ?” พิธานถาม

“คุณไม่ชอบเหรอ ผมจุ้นจ้านไปใช่ไหม?” พระพายถามกลับอย่างรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะลืมไปว่าบางครั้งพิธานอาจจะไม่ชอบให้ละลาบละล้วงถึงความเป็นส่วนตัวมากนัก

“ไม่หรอก...แค่คิดว่าเหมือน....” พิธานเงียบไป พระพายหันมองอย่างสงสัย

“เหมือนอะไรครับ?”

“เหมือนมีเมีย”

             พิธานพูดเท่านั้นก่อนที่จะหันหลังให้พระพายและรีบสวมเสื้อผ้าทันที พระพายหน้าแดงขึ้นมา พอจะเข้าใจสักหน่อยว่าพิธานกำลังรู้สึกอาย เพราะดูจากท่าทางกลบเกลื่อนหันหลังให้แบบนี้ จากนี้ไปคงจะได้รู้จักพิธานในหลายๆมุมมากขึ้นกว่าเดิม

        ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาถึงสิบเอ็ดโมงเกือบจะเที่ยงแล้ว พิธานและพระพายก็พากันออกจากห้องนอนและมาคืนกุญแจที่ล็อบบี้แล้ว คงเหลือแต่ไคและเก้าที่ยังไม่ออกมา

“เอ๊ะ...ทำไมเก้ายังไม่มา” พระพายสงสัยจึงโทรหาเก้าทันที เพียงครู่เดียวเก้าก็รับสาย

“จะเสร็จแล้วมึง รอก่อน กูตื่นสาย” เก้าพูดด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะวางสายโดยไม่ทันให้พระพายได้พูดอะไรสักคำ พิธานมองพระพายที่ไม่ทันได้พูดตอบก็โดนตัดสายทิ้งใส่

“ตื่นสายครับ ตอนนี้กำลังรีบกันน่าดู” พระพายบอก

“มานั่งรอเถอะ”


        พิธานดึงให้พระพายมานั่งตรงโซฟาที่มองไปยังวิวรอบข้างของโรงแรมได้ พระพายหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปภาพข้างหน้าที่ดูสวยงามแม้ว่าแดดแรงแล้วก็ตาม พิธานมองพระพายที่สนุกกับการถ่ายรูปก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาบ้างและดึงพระพายให้เขยิบมานั่งชิดกัน

“ทำอะไรครับ?” พระพายถาม พิธานเปิดกล้องหน้าและถ่ายรูปคู่ของทั้งสองทันที

“ถ่ายรูปไง”


        พระพายยิ้มกว้างออกมาโดยที่มีพิธานยิ้มออกมานิดๆและอีกรูปพิธานใช้จังหวะที่พระพายเผลอ จูบแก้มพระพายและกดถ่ายรูปด้วยความรวดเร็ว คนโดนจูบหน้าเหวอเพราะไม่คิดว่าพิธานจะจูบแก้มที่นี่ในที่ที่ผู้คนเยอะแยะเช่นนี้

“คุณพิธาน!” พระพายร้องออกมาพลางหันมองรอบข้าง ซึ่งพนักงานที่เดินอยู่แถวนั้นต่างพากันหลบหน้าทันที

“กลัวอะไร?” พิธานถามอย่างอารมณ์ดี

“คนเยอะ” พระพายว่า

“นายไม่ต้องสนใจคนอื่น สนแค่ฉันก็พอ” พิธานว่าอย่างนั้นก่อนที่เก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง


        ได้ยินอย่างนั้นก็ทำเอาพระพายไปไม่ถูก ถึงการแสดงออกของพิธานจะดูขวางโลกและไร้ซึ่งความสนใจในสิ่งรอบข้าง แต่เมื่อมองดีๆจะรู้ว่านั้นคือวิธีแสดงความรักในแบบของพิธาน เป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาและรู้สึกดีไม่น้อยเหมือนกัน

        นั่งเล่นกันอยู่เพียงครู่จากนั้นก็เห็นไคและเก้าเดินเร็วๆไปคืนกุญแจ พระพายที่หันไปเห็นจึงโบกไม้โบกมือเรียกเก้าที่ยืนรอพนักงานเช็คห้องอยู่ เพียงไม่นานนักทั้งสองคนก็เดินมาหาพิธานและพระพายที่นั่งรออยู่

“ตื่นสายเหรอ?” พระพายถามทันทีที่เก้านั่งลง

“เออสิ หลับลืมเลยมึง” เก้าว่า พลางนั่งลงอย่างเหนื่อยหอบเพราะตื่นมาก็ทำทุกอย่างอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลา

“คุณไคก็ตื่นสายเหรอครับ?” พระพายหันไปถามไคบ้าง

“ใช่ เอาจริงๆเก้าเป็นคนปลุกผมซะด้วยซ้ำ” ไคบอก

“ช่างเถอะ ว่าแต่เราจะกลับกันเลยดีไหม หรือจะทานข้าวกันก่อน” พระพายถาม

“กลับเลยก็ได้ ค่อยแวะหาอะไรกินข้างทางก็แล้วกัน” เก้าว่า

“ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับเรามาถ่ายรูปรวมกันดีไหม ตรงนี้มุมสวยพอดี” พระพายเป็นคนเสนอ

“ไม่เอา ไม่อยากถ่ายร่วมกับมัน” เก้าชี้ไปที่ไคทันที

“เอาน่า เราไม่ได้มาเที่ยวกันบ่อยๆนะ” พระพายว่า


        ไคไม่สนว่าเก้าจะบอกว่าไม่อยากถ่าย กลับเดินไปหาพนักงานที่เดินอยู่ ไหว้วานขอให้ถ่ายรูปให้ แน่นอนว่าพนักงานยินดีที่จะถ่ายรูปให้ พระพายยืนชิดกับเก้าและพิธานยืนข้างพระพายและโอบเอวพระพายไว้ เก้าเหล่มองก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าโดนไคโอบไหล่อยู่ จึงหันไปว่าไคทันที

“โอบไหล่กูทำไม เอาออกเลย” เก้าขู่

“มองกล้องๆ หน้าเหวอไม่รู้ด้วยนะ” ไคยิ้มให้กล้อง เก้าเลยต้องหันไปมองกล้องพร้อมยิ้มออกมานิดๆ ต่างกับพระพายที่ยิ้มกว้างอย่างรู้สึกดีใจที่ได้ถ่ายรูปร่วมกัน

             หลังจากขอบคุณพนักงานที่ถ่ายรูปให้แล้ว ทั้งสี่คนก็พากันเดินลงไปยังลานจอดรถเพื่อขับรถกลับ คราวนี้พิธานขอเป็นคนขับสลับกับไคบ้าง ซึ่งไคก็ยินดีที่จะให้พิธานขับ

        พิธานประจำที่นั่งฝั่งคนขับโดยที่มีพระพายนั่งหน้าเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ตามความต้องการของพิธาน ไคและเก้าจึงนั่งหลังตามระเบียบ แน่นอนว่าเก้ายังง่วงอยู่จึงอาศัยการนั่งข้างหลังนี้หลับโดยไม่สนใจจะมองวิวข้างทางเลยสักนิด
 
        ขับรถไปได้เรื่อยๆจนในที่สุดพิธานก็แวะที่ร้านอาหารชื่อดังของพื้นที่แถวนั้นตามที่ไคบอก เก้าตื่นขึ้นมาก็พร้อมจะหาอะไรใส่ท้องทันที ร้านนี้ผู้คนเยอะแยะเพราะเป็นช่วงวันหยุด อีกทั้งเป็นเวลาอาหารเที่ยงพอดี

         ทั้งสี่คนนั่งลงตรงโต๊ะว่าง โชคดีที่มีคนลุกไปพอดี จัดการสั่งอาหารมาหลายอย่างเพราะอยากลองเมนูเด็ดที่เป็นเมนูแนะนำ ระหว่างที่นั่งรอพระพายก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมานั่งเล่นจากนั้นก็หันไปคุยกับไค

“คุณไค ผมขอรูปที่ถ่ายรวมกันเมื่อครู่นี้ได้ไหม?” พระพายถาม

“ได้สิ เอาไอดีไลน์มา เดี๋ยวผมจะแอดเป็นเพื่อน” ไคบอก พระพายทำท่าจะบอกแต่พิธานกลับเอามือปิดปากพระพายไว้

“อื้อๆๆ” พระพายร้องอู้อี้พลางส่งสายตาถามว่าทำไมถึงเอามือปิดปาก

“ส่งมาที่ฉัน เดี๋ยวฉันส่งให้เขาเอง” พิธานบอกแบบนั้น ไคที่ได้ยินก็ยิ้มกริ่ม

“แอดเป็นเพื่อนกันก็ไม่เสียหายนี่ เวลานายไม่สะดวกฉันจะได้ตอบพระพายเรื่องนายได้ไง” ไคบอก

             พิธานคิดอยู่ครูหนึ่งจากนั้นก็ยอมปล่อยมือที่ปิดปากพระพายในที่สุด พระพายโล่งอกทันทีที่พิธานยอมปล่อยมือ เก้าหรี่ตาของพิธานที่เหมือนจะแสดงท่าทีว่าห่วงพระพายออกมาได้ชัดเจน แปลว่าตอนนี้ต้องมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน

        ไคที่ได้รับอนุญาตให้เพิ่มเป็นเพื่อนกับพระพายในแอพพลิเคชั่นไลน์ได้ จึงส่งรูปที่ถ่ายรวมให้เมื่อครู่นี้ รวมถึงทั้งรูปที่ไคแอบถ่ายทั้งสองคนตอนที่อยู่ไร่องุ่นด้วย พระพายยิ้มทันทีที่เห็นรูปนั้นก่อนจะกดบันทึกทั้งหมดไว้และเลือกที่จะลงรูปรวมสี่คนที่ถ่ายที่โรงแรมลงบนเฟสบุ๊คและแท็กเก้าด้วย แต่ของพิธานและไคนั้นพระพายไม่มีจึงทำได้เท่านี้ เมื่อเอาลงแล้วจึงมีการแจ้งเตือนไปยังเก้า ซึ่งรายนั้นเมื่อเปิดมาดูก็ร้องโวยวาย

“มึงจะแท็กกูทำไมพาย เดี๋ยวคนถามกูอีกว่ามากับใคร” เก้าว่า

“ก็บอกว่าเพื่อนไปสิ จะอะไรนักหนาวะ?” พระพายพูด

“นั่นสิ หรือว่าไม่ใช่เพื่อน?” ไคถามบ้าง เก้าหันไปแยกเขี้ยวใส่ทำท่าจะว่าอะไรสักอย่าง แต่โชคดีที่อาหารมาเสียก่อน จึงจำต้องสงบศึกเพื่อปากท้องก่อน


         นั่งทานพลางพระพายก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือไปพลาง หัวเราะเมื่ออ่านข้อความที่พี่กล้วยมาเขียนไว้ว่า “นั่นเพื่อนมึงคนนั้นนี่ หล่อขึ้นรึเปล่าวะหรือหน้าตามึงแย่กว่าเดิมเพื่อนมึงเลยหล่อขึ้น” พระพายนั่งหัวเราะก่อนจะเขียนตอบกลับพี่กล้วยไป พิธานมองก่อนที่จะกระแอมกระไอขึ้น

“กินข้าวก่อน อย่ามัวเล่น” พิธานบอก พระพายจึงรีบหยุดและทานอาหารต่อทันที


        ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสี่คนก็ทานอาหารเสร็จ จากนั้นก็รีบจ่ายเงินและขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับกันต่อ หากช้ากว่านี้รถอาจจะติดได้ ก่อนขึ้นรถพระพายก็ซื้อขนมของดีประจำจังหวัดติดไม้ติดมือมาบ้างเพื่อจะเอาไปฝากพี่ๆที่ทำงานและส่วนหนึ่งเอาไว้ทานเล่นเอง เก้าที่นั่งลงข้างไคก็เปิดเพลงในโทรศัพท์มือถือเสียบหูฟังสร้างโลกส่วนตัวทันที เพราะไม่อยากให้ไคชวนคุยต่อหน้าเพื่อนของตัวเอง ไคเองก็ทำตามไม่ต่างจากเก้าตอนนี้ทั้งสองคนจึงนั่งฟังเพลงเงียบๆ เพลงที่เปิดในหูฟังนั้นก็เบาจนได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนรถ พลางสังเกตสองคนที่ขับรถและนั่งหน้าหวังว่าจะมีอะไรคืบหน้าไปบ้างหลังจากที่พามาเที่ยวในครั้งนี้เพื่อคาดหวังว่าจะมีอะไรพัฒนาขึ้นมาบ้าง


        และสิ่งที่คาดหวังก็เกิดขึ้น ระหว่างทางที่ขับรถนั้นไคและเก้านั่งเงียบๆทำเหมือนไม่สนใจอะไรและมองไปยังข้างทางนั้น ก็ได้เหลือบเห็นพระพายกำลังนั่งทานขนมที่ซื้อมาอยู่ ด้านพิธานเหล่มองก่อนจะละมือจากพวงมาลัยรถและสะกิดพระพาย

“ป้อนหน่อย” เสียงนั้นฟังดูอ่อนลงจากเมื่อก่อนที่ได้ยิน เมื่อก่อนนั้นจะพูดราวกับออกคำสั่ง แต่สิ่งที่ได้ยินคือคำขอที่ฟังดูนุ่มนวล ส่วนความนิ่งบนใบหน้านั้น....ก็ยังคงเหมือนเดิม

“อ้าปาก” พระพายว่าก่อนที่จะป้อนขนมให้พิธานตามคำขอและสิ่งที่พิธานทำต่อจากนี้ทำเอาเก้าหน้าแดงขึ้นมาทันที


        พิธานกัดนิ้วของพระพายก่อนที่จะใช้ลิ้นเลียนิ้วนั้นเบาๆ พระพายอมยิ้มก่อนที่จะรีบดึงมือออกมาทันที และเก้าก็ได้เห็นมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนคือสายตาแพรวพราววิบวับที่ส่งให้พระพาย คนที่หน้านิ่งมาโดยตลอดก็มีมุมนี้อย่างคนอื่นเขา ช่างน่าตกใจจริงๆ ดูเหมือนคนที่ได้เห็นตลอดคงเป็นพระพายคนเดียวเท่านั้น

“กินขนมสิ ไม่ใช่นิ้วผม” พระพายพูดเสียงเบาๆ

“นิ้วนายอร่อยกว่าขนมอีก” พิธานพูด แม้จะใช้น้ำเสียงปกติแต่ฟังแล้วรู้สึกจักกะจี้พิกล ไคที่ได้ยินก็อมยิ้มนิดๆ แปลว่าแผนการที่ทำลงไปไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน


        นั่งดูฉากกุ๊กกิ๊กไปตลอดทางอีกหลายฉากอย่างเช่น พิธานเอื้อมมือไปลูบผมพระพาย พระพายป้อนน้ำให้พิธาน มีบ้างครั้งก็จับมือกันในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะทำอะไรพระพายก็จะหันไปมองข้างหลัง ไคและเก้าจึงทำทีว่าหลับเลยทำให้พระพายไม่เอะใจว่าจริงๆแล้วทั้งสองคนเห็นหมดทุกอย่าง

        ในที่สุดพิธานก็ขับรถมาถึงกรุงเทพฯเสียที ตอนนี้เวลาล่วงเลยเข้าสู่เวลาเย็นแล้ว พิธานจึงขับรถตรงไปยังคอนโดฯของตนเองและไค เก้าที่เห็นอย่างนั้นก็ทำท่าตื่นๆทันทีที่รถมาจอดลงที่ลานจอดรถของคอนโดฯแห่งนี้

“มาคอนโดไอ้ไคเหรอ?” เก้าถาม

“มึงรู้เหรอว่าคุณไคเขาอยู่นี่?” พระพายถามอย่างสงสัย เพราะเก้าไม่เคยบอกมาก่อนมาเคยมาที่นี่แล้ว

“เอ่อ...กูเคยมานั่งกินเหล้ากับมันน่ะ” เก้าเกือบจะขุดหลุมฝังตัวเองแล้วแท้ๆ ดีที่เฉไฉได้ทัน

“ไม่ยักจะเคยบอกกู” พระพายยังไม่คลายความสงสัย

“ลงจากรถได้แล้ว” ไคบอกเท่านั้น ตอนนี้พิธานลงจากรถโดยไม่รอใครและเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองและของพระพายที่อยู่หลังรถ


        ทั้งสี่คนเดินขึ้นลิฟต์กดหมายเลขไปยังชั้นบนสุด ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงที่หมาย พิธานที่สะพายกระเป๋าทั้งของตัวเองและของพระพายเดินนำลิ่วไปยังห้องของตนเองซึ่งเก้าที่เห็นจึงร้องถาม

“เดี๋ยวๆ นี่พวกมึงอยู่คอนโดเดียวกันเหรอ?” เก้าถาม

“ฉันไม่เคยบอกนายเหรอ?” ไคที่เดินไปยังห้องของตัวเองที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของพิธาน

“เออสิ มึงไม่เคยบอกกู แล้วมึงล่ะพาย?” เก้าว่าก่อนที่จะหันไปถามพระพาย

“กูรู้ แต่ไม่ได้บอกมึง” พระพายยิ้มแห้ง

“ให้ได้อย่างนี้สิพวกมึง ว่าแต่จะพามานี่ทำไม?” เก้าก็ถาม

“มานั่งพักก่อน เดี๋ยวไปส่ง” ไคบอก

“พาย กูไปกับมึงด้วย” แน่นอนว่าเก้าเลือกที่จะไม่ไปห้องไคแน่นอน

 “ไม่ให้เข้า” พิธานบอกอย่างนั้น

“ถ้าอย่างนั้นพายมาอยู่กับกู มึงก็ไปห้องมึงคนเดียวสิ” เก้าโวยทันที

“ไม่ พระพายต้องอยู่กับฉัน” พิธานยังคงยืนยันคำเดิม

“ถ้าอย่างนั้นก็กลับเลยไม่ต้องพักมันแล้ว กูจะกลับบ้าน ไปๆไอ้พายกลับกัน” เก้าบอกพลางจะดึงมือพระพายไปด้วย พระพายที่ได้แต่เดินไปตามแรงดึงของเก้าแต่พิธานกลับดึงมือพระพายไว้ทัน

“แฟนของฉันต้องอยู่นี่ ส่วนนายจะไปที่ไหนก็เรื่องของนาย”


        คำว่าแฟนที่ออกจากปากของพิธานทำเอาเก้าอ้าปากค้าง ไคผิวปากทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ถือเป็นความสำเร็จที่งดงามที่ทั้งสองคนได้ลงเอยกันเสียที

“เดี๋ยวนะๆ” เก้าทำท่าจะร้องถามแต่พิธานไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น กลับดึงพระพายเข้าห้องทันที

“เดี๋ยวสักพักจะไปหานะไค” พิธานบอกเท่านั้นก่อนจะปิดประตูลง

“ได้...ส่วนนายไปอยู่ที่ห้องฉันก่อน” ไคว่า เก้าจึงจำต้องเดินตามไคเข้าห้องไปโดยปริยาย...



Lyrics: The way by Ariana Grande   ft. Mac Miller.


ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
พิธานชัดเจนมาก  :katai2-1:
แต่ขำปฏิกิริยาน้องเก้าอ่ะ ตั้งสติก่อนลูก แผนน้องยิ่งกว่าสำเร็จอีก เพื่อนเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ต้องฉลองค่าา  :laugh:

ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พิธานน่ารักมาก มานิ่งๆ แต่มีมุมกุ๊กกิ๊กให้เห็นตลอด พระพายหนูเอาใจพี่เค้าเยอะๆนะลูกกก

ออฟไลน์ jaibang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 ฮืออออออ หวานมาก ดีมากกกกกกก ตลกไคอ่ะ55555555555 :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ไม่ต้องอึ้งเก้า
ก็แผนสำเร็จำไง

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
พิธานเค้าก็น่ารักนะคะ อิอิ o18

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คนนี้พี่หวง จริงๆ555555555555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พิธานชัดเจนแล้วนะ ไคล่ะว่าไง  :katai3:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ชัดเจนสุดๆเลยจ้าาา o13

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
มีที่ไหนพอจะให้เก้ายืนได้บ้าง สงสารเขาจัง

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ :)  :pig4:

ออฟไลน์ Bluedock

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อุ๊ยเขิลลลลลลลลลล

ออฟไลน์ KawinCa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พิธานโหมดขี้อ้อนและขี้หวง คริคริ
แฮปปี้ตลอดไปอย่าได้มีมาม่าใดมาแผ้วพาน
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ kimjuy_o

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-2
สวัสดีค่ะ ตอนที่ 32 มาแล้วนะคะ คู่หลักลงเอยแล้ว คงลุ้นว่าอีกคู่จะเป็นยังไงต่อใช่ไหมคะ จะมีความคืบหน้าหรือไม่ก๋็เข้าไปอ่านกันเลยดีกว่าเนอะ เช่นเคยค่ะ หากมีคำผิดหรือข้อผิดพลาดประการก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ รักค่ะ ไว้เจอกัน  :bye2:

++++++++++++++++++++++
Holler…เรียกฉันสิที่รัก
ตอนที่ 32 Magic spell.

One of these days maybe your magic won’t affect me
ไม่แน่สักวันหนึ่งเวทมนต์ของเธอจะไม่ได้ผลกับฉัน
And your kiss won’t make me weak
และจูบของเธอจะไม่ทำให้ฉันอ่อนระทวยอีก
But no one in this world knows me the way you know me
แต่จะไม่มีใครบนโลกนี้ที่รู้จักฉันในแบบที่เธอรู้จักหรอก
So you’ll probably always have a spell on me…
นี่เธอร่ายคาถาใส่ฉันมาตลอดใช่ไหม

        เก้าเดินเข้าห้องตามไคมาด้วยความมึนงง คำว่าแฟนยังคงล่อยล่องอยู่ในหัวเต็มไปหมด ไม่คิดจริงๆว่าพิธานจะออกตัวแรงถึงขนาดนี้ และพระพายก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้เขาฟังเลยสักนิด

“ตกใจอะไร ไม่ดีใจเหรอที่แผนสำเร็จ” ไคถามขึ้นหลังจากวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ

“กูช็อคว่ะ ไม่คิดว่าเพื่อนมึงจะพูดออกมาเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น”

“ก็ดีสิ นั่นแปลว่าพิธานจริงจังกับพระพายนะ”

“ก็รู้ แต่ก็ยังเหนือความคาดหมายสำหรับกูอยู่ดี” เก้ายังคงนั่นมึนๆอยู่

“เดี๋ยวรอพระพายมาก็ค่อยถามสิ” ไคว่าพลางเดินไปหยิบขวดน้ำมาสองขวดจากตู้เย็น ยื่นให้เก้าขวดหนึ่งซึ่งเก้าก็รับมันมา

“แผนเราสำเร็จว่ะ ต่อจากนี้ไปสองคนนั่นก็ไม่ต้องเจอกันเพราะเรื่องพวกนั้นแล้ว” เก้าที่เริ่มหายงงก็คิดได้มากขึ้น

“ใช่ แผนเราสำเร็จ ต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้ว”

“มึงคิดว่าสองคนนั้นจะไปกันรอดไหมวะ?” เก้ารู้สึกเป็นห่วงพระพายเหมือนกัน เพราะเป็นครั้งของพระพายที่คบหาใครสักคนเป็นแฟน

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ถึงดูพิธานเป็นแบบนั้นแต่ก็เป็นคนจริงจังมากนะ” ไคว่าหลังจากดื่มน้ำจนหมดขวดแล้ว

“ก็เพื่อนมึงน่ากลัวจะตายชัก จะไม่ให้ห่วงพายมันได้ไงวะ”

“เอาน่า นี่ก็จะเย็นแล้ว นั่งพักสักหน่อยเดี๋ยวไปส่ง” ไคบอกจากนั้นก็เดินไปหยิบรีโมทมาเปิดทีวี


        เก้านั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวี ซึ่งไคก็นั่งลงข้างๆเช่นกัน เก้าดื่มน้ำไปพลางดูทีวีไปด้วย เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาอีกครั้งเพราะนี่ก็เริ่มจะเย็นแล้ว

“มึง กูหิวว่ะ” เก้าบอก

“รอหน่อยได้ไหม เดี๋ยวจะได้กินพร้อมกัน”

“เออๆ รอก็ได้” เก้าว่า


        นั่งดูทีวีไปจู่ๆก็เกิดคำถามขึ้นมา เรื่องราวส่วนตัวของพิธานและไคนั้นทั้งตัวเขาและพระพายไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ทำงานอะไร ที่ไหนอย่างไร แทบจะไม่รู้จักกันดีเสียด้วยซ้ำไป เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็ถึงเวลาที่ต้องถามเจ้าตัวแล้ว อย่างน้อยก็พอจะได้รู้อะไรมากขึ้น

“กูถามอะไรหน่อย” เก้าจั่วหัวขึ้นมา ในขณะที่ไคนั้นก็กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่

“ถามเรื่องอะไร?” ไคหยุดทุกอย่างแล้วหันมองหน้าคนที่กำลังตั้งคำถามอยู่

“มึงกับพิธานทำงานอะไร?”

“จริงด้วย ไม่เคยคุยกันถึงเรื่องนี้เลย”

“ก็นั่นแหละ กูเลยมาถามอยู่นี่ไง”

“พวกเรารับช่วงต่อธุรกิจของที่บ้าน” ไคตอบ

“ธุรกิจอะไร?”

“ของฉันเป็นธุรกิจส่งออกพวกเครื่องหนัง ส่วนของพิธานเป็นธุรกิจโรงแรม” ไคตอบ

“พวกมึงนี่คัดเพื่อนเข้ากลุ่มจากหน้าตาและฐานะการเงินรึไง?” เก้าอดไม่ได้ที่จะสงสัย ยังจำพวกเพื่อนๆของไคและพิธานได้ จัดว่าหน้าตาดียกกลุ่มเลยทีเดียว

“ไม่หรอก มันเป็นเรื่องบังเอิญ อีกอย่างมันเป็นสังคมที่เราเรียนเราอยู่เลยมาเป็นเพื่อนกัน”

“แปลว่าพวกมึงก็ว่างงานลอยชายได้เพราะเป็นงานของที่บ้านว่างั้น?”

“ไม่จริงเลย เหนื่อยกว่าพนักงานปกติเสียอีก” ไคบอก

“ตรงไหน กูเห็นพวกมึงเที่ยวกันตลอด” เก้าไม่เชื่อ

“จริงสิ เวลาทำงานก็หนัก แต่พอได้พักก็เลยเต็มที่”

“ชีวิตพวกมึงนี่ดีเนอะ เกิดมาก็มาต้นทุนชีวิตกันเลย” เก้าว่า

“อย่าคิดอย่างนั้นสิ คนเราความรับผิดชอบมากน้อยก็ตามต้นทุนชีวิตนั่นแหละ อีกอย่างพ่อแม่ก็คาดหวังเยอะตามไปด้วย” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ฟังไคพูดถึงเรื่องราวเช่นนี้

“ลำบากกันขนาดนั้นเลย?”

“อืม เหนื่อยเหมือนกัน พวกเราเลยพยายามหาความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการ” ไคตอบพร้อมกับมองหน้าเก้า

“ถ้ากูไม่เพ้อเจ้อจนเกินไป ตอนนี้พิธานเพื่อนมึงคงจะมีความสุข”

“ใช่ พิธานดูมีความสุขมาก”

“แล้วมึงล่ะ มึงยังหาความสุขไม่เจอเหรอ?” เก้าถามขึ้น เพราะสีหน้าของไคนั้นราวกับยังตามหาสิ่งที่เรียกว่าความสุขไม่เจอ

“จริงๆก็เจอแล้วนะ” ไคตอบ

“เจอก็ดีแล้วนี่” เก้ายักไหล่พลางพูด

“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าความสุขของฉันที่เจอคืออะไร?” ไคว่าพลางขยับตัวเข้ามาใกล้เก้าทีละนิด

“จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ?” เก้าพูด พลางขยับตัวอออกห่าง รู้สึกถึงอะไรสักอย่างเมื่อไคขยับเข้ามา

“ถามสิ จะได้ตอบ”

“เออๆ ถามก็ถาม แล้วความสุขมึงคืออะไรล่ะ?” เก้าเบ้หน้าอย่างรำคาญใจแต่ก็ถามตามที่ไคอยากให้ถาม

“ก็นายไง”


        เป็นคำตอบที่เหมือนจะตรงกับที่เก้าคิดว่าเขาคือความสุขของไคตามประสาคนตามหยอดตามจีบ แต่ใจหนึ่งก็อดจะคิดไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องคิดคำตอบออกมาเช่นนั้น แปลว่ายอมรับและรู้ตัวดีใช่หรือไม่ว่าไคกำลังรุกจีบแบบเต็มตัว อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ที่คิดถูกเกินไปแล้ว

“กูน่าจะซื้อหวยนะ ถ้าจะทายแม่นขนาดนี้” เก้าว่า ไม่ได้รู้สึกเขินกับคำพูดของไคเลยสักนิด

“ไม่หน้าแดงเลยเหรอ?” ไคถามพลางจ้องหน้าเก้า

“กูไม่ใช่สาวน้อยตาหวานนะมึง ที่จะได้เขินกับคำเสี่ยวๆของมึงน่ะ”

“แต่เห็นพระพายหน้าแดงบ่อยจะตายไปเวลาอยู่กับพิธาน”

“คนละคนกันสิวะ นั่นเพื่อนกู นี่กู” เก้าแย้งทันที

“ต้องทำยังไงให้นายเขินได้ล่ะนี่” ไคว่าพลางใช้ความคิด

“มึงทำอะไรก็ไม่สะเทือนกูหรอก” เก้าพูดอย่างมั่นใจ

“จะจริงเหรอ?” ไคว่าพลางขยับตัวเข้ามา

“กะ...ก็จริงนะสิ” เก้าพูดเสียงดังขึ้น เมื่อรู้สึกถึงไคที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

“ถ้าอย่างนั้นก็มาลองกัน”


        เพียงเสี้ยววินาทีเดียวที่พูดจบ ไคก็พุ่งเข้าหาเก้าแล้วจับข้อมือเก้าไว้ รู้สึกถึงแรงบีบที่ไม่ได้แรงมากนักแต่ก็ขยับบิดหรือกระชากออกไม่ได้ เก้าดิ้นพล่านทันทีที่ถูกไคจับตัวไว้

“ปล่อยกูนะไอ้ไค มึงเล่นอะไรของมึงเนี่ยะ” เก้าร้องเสียงดัง

“ก็จะทำให้หน้าแดงไง”


        ไคว่าก่อนที่จะดันเก้าให้นอนลงบนโซฟา ใช้หัวเข่ากดขาของเก้าไว้ไม่ให้ได้มีโอกาสขยับหนีหรือให้ออกแรงถีบได้ เป็นเมื่อเหมือนคืนอีกแล้ว การใช้กำลังเช่นนี้ เก้าฮึดฮัดพยายามขยับตัวให้หลุดพ้นจากการแกล้งของไคให้ได้

“มึงเป็นบ้าหรือว่าโรคจิตวะ” เก้าว่าอย่างโมโห

“คนเราก็มีสิ่งที่ชอบทำต่างกัน จริงไหม?”

“พูดอะไรของมึง?” เก้าถามอย่างไม่เข้าใจ

“รู้ใช่ไหมว่าพิธานมีรสนิยมแบบไหน?” ไคถาม

“ก็พอรู้” จากที่พระพายเล่าแม้จะไม่ละเอียดแบบทุกฉาก แต่ก็พอรู้ว่าพิธานนั้นจัดอยู่ในประเภทไหน

“ฉันไม่ใช่แนวพิธานที่มักจะใช้อุปกรณ์ แต่ชอบแนวนี้ต้องใช้กำลัง นี่แหละที่ฉันเป็น” ไคว่า


        ไคออกแรงกดอีกครั้ง คราวนี้เก้าดิ้นได้ยากกว่าเดิม ไคโน้มใบหน้าลงแล้วจูบริมฝีปากของเก้าอย่างรวดเร็ว เก้าหลับตาแน่นเพราะไม่อยากเห็นใบหน้าของไคที่อยู่ใกล้จนเกินไป จากการที่พยายามดิ้นนั้นก็เริ่มหยุดลงเพราะหวังว่าหากไม่ต่อต้านไคคงจะยอมปล่อย

“ไม่ดิ้นแล้วเหรอ?” ไคละใบหน้าขึ้นมาถามเก้าที่หลับตาแน่น

“มึงชอบให้กูขัดขืนใช่ไหม ถ้ากูไม่ดิ้น มึงก็จะไม่ชอบ” เก้าเลือกที่จะพูดออกไปตรงๆ

“คิดผิดแล้วล่ะ ถึงนายจะดิ้นหรือไม่ดิ้น ฉันก็จะทำอยู่ดี”


        พูดจบไคก็จูบริมฝีปากของเก้าอีกครั้ง เก้าเม้มปากอย่างสุดชีวิตเพราะหวั่นใจว่าจะสอดลิ้นเข้าไป เมื่อรับรู้ได้ว่าเก้าไม่ยอม ไคจึงยึดข้อมือของเก้าทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะข้างด้วยมือเพียงข้างเดียว อีกมือที่ว่างก็สอดมือเข้าไปในเสื้อ ลูบตรงหน้าท้องของเก้าเบาๆจากนั้นก็จูบอีกครั้ง ฝ่ามือที่ลูบไล้นั้นเลื่อนไปโดนแถวหน้าอกของเก้า อารามตกใจเพราะไม่เคยถูกสัมผัสเช่นนั้นมาก่อนทำให้เก้าร้องออกมา ริมฝีปากที่เปิดขึ้นจึงทำให้ไคใช้โอกาสนี้สอดลิ้นเข้าไป

        เก้าเบิกตากว้าง พยายามดิ้นพล่านแต่ก็ไม่ทำให้ไคหยุดแต่อย่างใด รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ไคอย่างที่เคยเห็นตอนปกติ ดูดุดัน น่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้เลยสักนิด ผิดกับไคที่ชอบยิ้มแย้มและหัวเราะอย่างที่ผ่านๆมา

“อื้อๆ” เก้าพยายามร้องประท้วง น้ำตาซึมตรงหางตาเพราะความโมโหที่ไม่สามารถสู้แรงไคได้ เมื่อไคเห็นเช่นนั้นจึงยอมหยุดและปล่อยเก้าให้เป็นอิสระทันที

“มึงแกล้งกูทำไมวะ” เก้ารีบลุกขึ้นนั่งทันทีพลางขยี้หน้าขยี้ตาเพราะดันโมโหจนเกือบจะร้องไห้ออกมา

“ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ไคบอก

“ไม่ตั้งใจอะไรของมึง มึงตั้งใจชัดๆ”

“ขอโทษจริงๆ” ไคว่าก่อนที่จะขยับเข้ามาใกล้แล้วลูบผมเก้าเบาๆ

“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังกูเลย” เก้าเบี่ยงตัวหนี

“อย่างอนกันสิ” ไคพูด ตอนนี้เจ้าตัวเริ่มยิ้มออกมาเหมือนอย่างเคย

“มึงเป็นโรคจิตเหมือนเพื่อนมึง” เก้าขึงตาใส่ไค ไคเงียบไปเพียงครู่ก่อนพูด

“พิธานไม่ใช่โรคจิต แต่เป็นรสนิยม” ไคแก้ไขคำพูดนั้น

“ถ้าพิธานมันมีรสนิยมแบบนั้น แล้วมึงก็มีรสนิยมชอบบังคับเหรอวะ?” เก้าถามอย่างรู้สึกหวั่นๆเมื่อนึกถึงตอนที่ไคใช้กำลังเมื่อครู่นี้

“ก็แค่แกล้งหรอก อยากให้นายเห็นว่าถ้าฉันจะทำอะไรนายจริงๆฉันก็ทำได้ จำที่เคยบอกได้ไหมว่าถ้านายไม่สมยอม ฉันก็จะไม่ทำ” ไคพูด เก้าเองก็จำได้ลางๆว่าไคเองก็เคยพูดเช่นนั้นมาก่อน

“เออ แล้ววันนี้ทำทำไมวะ?”

“ก็นายพยศ น่าปราบ ยิ่งนายสู้ก็ยิ่งขึ้น” ไคว่าพลางยิ้มกว้าง

“โรคจิตขนานแท้เลยมึง”

“ถ้าไม่อยากให้บังคับก็ยอมกันซะสิ” ไคบอก

“ทำไมต้องยอมมึงล่ะ?” เก้าเถียงทันควัน

“ชอบขนาดนี้แล้ว ไม่ใจอ่อนกันบ้างเลยเหรอ?” ไคว่าก่อนที่จะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆเก้า

“กูไม่ใจอ่อนหรอก” เก้าพูดเสียงเบาขึ้นเมื่อใบหน้าของไคขยับเข้ามาใกล้ๆ

“ถ้าไม่อยากให้ใช้กำลังก็ยอมให้จูบแบบดีๆสิ”

“ทำไมต้องยอมด้วยวะ?” เก้าถอยออกมาทีละนิด

“ขอเถอะ ขอให้ฉันจูบนายแบบดีๆได้ไหม ถ้านายไม่ชอบจะผลักฉันก็ได้” ไคว่า

“เรื่องอะไรต้องยอม?”

“แปลว่ากลัวจะชอบมันสินะ” ไคยักคิ้วข้างเดียวเชิงท้า แน่นอนว่าเก้าไม่ยอมอย่างแน่นอน

“หยามกูอีกแล้ว เอาสิ เก่งจริงก็ทำเลย”


        เมื่อเก้าพูดเช่นนั้นไคก็ทำตามอย่างที่ขอจริงๆ ริมฝีปากประกบลงอย่างแผ่วเบา ก่อนที่แลบเลียมันอย่างช้าๆ ขยับปลายลิ้นให้เก้าเผยอริมฝีปาก แน่นอนว่าเก้าก็ยอมให้ทำเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าตัวจะทำอย่างไรต่อไป

        ลิ้นนั้นกวาดควานทั่วโพรงปาก ดูดดุนมันอย่างช้าๆ ต้องยอมรับว่าไคนั้นถือว่าช่ำชองจนน่ากลัวเพราะการจูบนี้ทำเอาเก้าเริ่มหวิวในอก เผลอจูบตอบกลับไปตามประสาคนกำลังเคลิ้ม จากที่ไคบุกจูบอยู่ฝ่ายเดียว กลับกลายเป็นว่าเก้าก็จูบสู้ไปด้วย

        ความคิดจะผลักออกเริ่มเลื่อนหาย ตอนนี้ริมฝีปากของทั้งสองประกบติดกันพร้อมเสียงจูบดังขึ้นมาเป็นระยะ การจูบของไคนั้นนุ่มนวลและรุกอย่างเป็นจังหวะ ผิดกับจูบที่ใช้กำลังจากเมื่อครู่นี้มาก ทำเอาเก้าเผลอใจไปไกลพอควร แต่เมื่อฝ่ามือของไคลูบไล้ตรงแผ่นหลังแล้วเลื่อนมาบีบที่สะโพก เก้าจึงได้สติและดันไคออกทันที

        ใบหน้าแดงก่ำนั้นเผยให้ไคได้เห็นว่าเก้าหวั่นไหวไปกับจูบของเขาเสียแล้ว ริมฝีปากวาวฉ่ำเพราะการถูกจูบที่ติดกันหลายนาที ความเห่อร้อนกระจายไปทั่วตัว เก้าจึงรีบหันหน้าหนีไคที่ส่งสายตาหวานๆจนใจเต้นตึกตักขึ้นมา

“เป็นยังไง ชอบไหม?” ไคถามขึ้น

“ก็..งั้นๆ” เก้าว่าพลางหันหน้าไปทางอื่น

“หน้าแดงเชียวนะ” ไคว่าก่อนที่จะนั่งพิงโซฟาและวาดแขนไปยังด้านหลังของเก้า

“กู..กูร้อน” เก้าว่าพลางกระพือเสื้อบ่งบอกว่าอากาศร้อนจริงๆ

“ชอบเวลานายปากแข็งแบบนี้แหละ” ไคว่า

“ไม่ได้ปากแข็ง” เก้าพูดเสียงดัง

“ชอบนายนะ ฉันจะรอวันที่นายใจอ่อนกว่านี้” ไคว่าก่อนที่จะจูบแก้มเก้าอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้มีเสียงออดดังขึ้น น่าจะเป็นพิธานและพระพายที่เป็นคนมากด


        เก้านั้นเริ่มหวั่นใจแล้วตอนนี้ว่าเพราะอะไรถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ ทุกครั้งที่โดนไคแหย่จะเลือดขึ้นหน้าและทำเรื่องบ้าๆลงไปตลอด แต่ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นทุกๆครั้งก็จะยิ่งทำตัวไม่ถูก ร้อนรนและหวั่นไหว หรือว่าสำนวนที่พูดว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนจะเป็นเรื่องจริง

        ไม่เคยหวั่นไหวกับใครขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำเขาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งเป็นไปไม่ได้ แต่ทำไมกับไคถึงพิเศษกว่าคนอื่น ยามโดนมองหรือทำเรื่องบ้าๆเหล่านั้นแล้วเหมือนจะรู้สึกอ่อนแรงแบบแปลกๆและครั้งนี้ยิ่งกว่าครั้งไหนๆคือการจูบตอบ ไม่อยากโกหกตัวเองเลยจริงๆว่าเมื่อจูบครู่นี้ทำเอาจิตใจกระเจิดกระเจิงและอ่อนระทวยจริงๆ

        ไคใช้วิธีอะไรถึงทำให้เก้าไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้ แน่นอนว่าเก้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และคงจะไม่ยอมให้ใครมาเห็นสภาพนี้ได้ เพียงแค่ไคคนเดียวก็เกินพอแล้วกับสภาพเช่นนี้ จูบที่ปล้นเอาความรู้สึกและเรี่ยวแรงราวกับเป็นเวทมนต์ เก้านั่งคิดอยู่อย่างนั้นจนพระพายเดินมาหาเก้าที่นั่งนิ่งจนผิดสังเกต

“เก้า มึงเป็นไร?” พระพายถามขึ้นเมื่อเห็นเก้านั่งเหม่อๆ

“อ้าว มึง มาแล้วเหรอ?” เก้าหลุดออกจากความคิดของตัวเองทันที

“เออ มาแล้ว และตอนนี้สองคนนั่นก็ลงไปข้างล่างบอกว่าจะไปซื้อของมากินกัน” พระพายบอก

“ที่จริงโทรไปสั่งก็ได้นี่หว่า?” เก้าถามอย่างสงสัย

“คุณไคคงอยากให้มึงคุยกับกูนั่นแหละ” พระพายว่าพลางยิ้ม

“เออ ใช่สิ พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา สรุปพวกมึงเป็นแฟนกันแล้ว?” เก้าถามถึงเรื่องนี้ทันที พระพายยิ้มออกมาอย่างอายๆ จนเก้าถึงกับส่ายหน้า

“ทำตัวเป็นสายน้อยอีกแล้ว สรุปใช่ไหมวะ?”

“อืม เขาขอกูเป็นแฟน แล้วก็ตกลงไปแล้ว” พระพายตอบ

“โอ๊ย สำเร็จแล้วโว้ย มึงได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วสิเนี่ยะ” เก้าว่าพลางหัวเราะออกมา

“เมื่อกี้มึงตกใจใช่ไหม ตอนที่เขาพูดแบบนั้นออกมาน่ะ”

“เออสิ ไม่คิดว่ามันจะพูดเต็มปากเต็มคำขนาดนั้น กูเลยตกใจ” เก้าว่า

“ก็ตามนั้นแหละ”

“ดีแล้ว ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว” เก้าว่า

“ถ้าไม่ได้มึงทำให้กูฮึดจะบอก ก็คงไม่เป็นอย่างนี้หรอก”

“ก็เพื่อนนางเอกดีเด่นสินะ” เก้าหัวเราะออกมา

“มึงแม่ง....เออ เรื่องกูจบแล้ว คราวนี้เรื่องมึง ไหนว่าจะเล่าให้กูฟังไง” พระพายยังไม่ลืมสัญญานั้น เก้าอึกอักขึ้นมาทันที

“มึงอย่านะ บอกกับกูว่าจะบอก อย่ามาเฉไฉนะ” พระพายสำทับขึ้นมาอีกรอบ

“เออๆ บอกก็ได้... อย่าตกใจล่ะ....คนที่มาจีบกูอยู่...คือเพื่อนของแฟนมึงนั่นแหละ” เก้าพูดจบพระพายนั่งประมวลผลทันที

“เพื่อนแฟนกู....เพื่อนคุณพิธาน..มีหลายคนนะมึง คนไหนวะ?” พระพายนั่งขบคิด

“เดี๋ยวนะ...คุณไคเหรอ?” พระพายร้องขึ้นมา เก้าเม้นปากพลางพยักหน้าเป็นคำตอบ

“คุณไค..จีบมึงเหรอ?” พระพายถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“ก็เออ มึงจะตกใจอะไรหนักหนา” เก้าว่า

“เมื่อไหร่กัน ยังไง ทำไม แล้วมึง..ใจอ่อนรึยัง?” พระพายรัวคำถามเป็นชุด

“โอ๊ย กูไม่รู้หรอก” เก้าตัดบทดื้อๆ

“เดี๋ยวสิมึง แล้วตอนนี้สรุปยังไงกันแน่?”

“มันก็ยังจีบกูอยู่ ก็เท่านั้นแหละ” เก้าบอก

“ทำไมกูโง่ขนาดนี้วะ ดูไม่ออกเลยว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้” พระพายขยี้ผมอย่างสับสน

“ไม่ใช่หรอก แค่มึงมองแต่แฟนหนุ่มสุดหล่อของมึงไง เลยไม่ได้สนใจอะไรเลย” เก้าว่า

“แล้วมึงทำไง หวั่นไหวรึยัง?” พระพายถาม

“มะ..ไม่” เก้าตอบอย่างไม่เต็มปากเต็มคำนัก แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ พิธานและไคก็กลับเข้ามากันเสียก่อน

“ไปซื้อของกินจากเซเว่นมา มันเร็วกว่า กินได้ใช่ไหม?” ไคเป็นคนถาม มือนั้นหิ้วถุงมาพะรุงพะรัง

“เออ..กูกินหมดแหละ”


        การสนทนาระหว่างพระพายและเก้าจึงยุติลง ทั้งสี่คนไปนั่งกันที่โต๊ะทานอาหาร พร้อมนั่งทานข้าวกล่องและอาหารต่างๆที่พิธานและไคซื้อมา พระพายนั่งทานไปพลางมองไคและเก้าสลับไปมาจนพิธานต้องหันไปถาม

“เป็นอะไร?”

“ปะ..เปล่า” พระพายตอบก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างรวดเร็ว


        ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสี่คนก็ทานอาหารกันเสร็จ จากนั้นไคจึงเตรียมตัวที่จะไปส่งพระพายและเก้าไปยังห้องพักเพราะตอนนี้เวลาเริ่มเย็นมากแล้ว...


   
Lyrics: Hate that I love you by Rihanna ft.Ne-Yo.





ออฟไลน์ Kx0806

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เก้าโดนเขาจับไต๋ได้หมดทุกอย่างเลย ท่าทางจะแพ้แบบจริงจังแล้วล่ะ
เตรียมใจเอาไว้เลยดีกว่านะ ฮิฮิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ชอบไค ก็รับรักไปเลย  :o8:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เก้าไม่น่าจะรอด 555555

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ไครุกหนักๆ เอาให้ปากอ่อนไปเลย :o8:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
 :pig4: ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ระวังนะเก้าไคมันเจ้าเล่ห์

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ยังไงเก้าก็ไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ Myminminjung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :m25: เก้าจะใจอ่อนมะไรน่า ลุ้นๆๆ

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เป็นแฟนกันแล้ว
พระพายน่ารัก ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง
ลุ้นๆ คู่เก้ากับไค
ส่งกำลังใจให้คนเขียนด้วยจ้าาา
 :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด