|| THE MACHANICAL DOLL ตุ๊กตาไขลาน || ตอนที่ 18 (END) ** 2018.01.14 **
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: || THE MACHANICAL DOLL ตุ๊กตาไขลาน || ตอนที่ 18 (END) ** 2018.01.14 **  (อ่าน 18920 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ใจสลายซ้ำ ๆ เลย

คิดถึงอุ่นแล้ว

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
จะมีปาฏิหาริย์ไหม  :ling3:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
อุ่นนนน ไปเกิดเหรอ หรืออะไรร ฮรือออ
ขอให้อุ่นกลับมาาา
 :hao5: :sad4:

ออฟไลน์ BlueSora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ตอนที่ 18 (END)



2 ปีต่อมา

 

ร้านดอกไม้อุ่นไอรักไม่อาจเรียกได้แบบนั้นอีกแล้ว บรรยากาศภายในร้านที่ปิดตัวลงหลังจากไออุ่นไม่กลับมาคละคลุ้งไปด้วยความโศกเศร้าที่ไม่เคยจางหายไปไหน ความอบอุ่นที่เคยมีอยู่เลือนหายไปตามกาลเวลาที่ผ่านเลย ปาฏิหาริย์ไม่เกิดขึ้นอีกเลยหลังจากวันนั้นจวบจนวันนี้ ไม่ว่าจะพยายามอีกสักเท่าไร ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่เคยแตกต่างไปจากเดิม ไออุ่นยังคงเป็นเพียงตุ๊กตาไขลานที่วางอยู่บนตู้โชว์ธรรมดาตัวหนึ่ง

ทุกวันผ่านไปด้วยความรู้สึกเดิมๆ ที่นับวันจะฝังรากลึกเข้าไปในจิตใจของเบฟ วันเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเยียวยารักษาหัวใจที่บอบช้ำได้เลย หากแต่วันนี้กลับแตกต่างออกไป ความรู้สึกของคำว่าจะได้พบกันอีกครั้งมันเอ่อล้นออกมาทั้งที่ควรจะหายไปนานแล้ว เขากลายเป็นคนนั่งไม่ติดที่ เดินวนไปเวียนมาอยู่รอบเตียงนอนของไออุ่นราวกับหนูติดจั่น

เสียงกริ่งของร้านดังขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใครที่กดมัน เขาอยากจะลงไปเปิดประตูต้อนรับแล้วปรึกษาเกี่ยวกับความรู้สึกบางอย่างที่มันเพิ่งเกิด

พอได้เห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่อีกฝั่งของประตูร้าน เบฟก็รีบเปิดทันที

“พีท!”

“เบฟ พี่มีอะไรจะให้ดู”

พีทสาวเท้าอย่างรวดเร็วเข้ามาในร้าน แบมือข้างขวาที่กำอะไรบางอย่างมาตลอดทางออก มันเป็นแค่ลานชิ้นหนึ่งที่ดูไม่มีความพิเศษอะไรเลยแต่ในความไม่พิเศษกลับแฝงไปด้วยบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาไม่จำเป็นต้องพูดออกมาก็เข้าใจกันได้

“คุ้นๆ บ้างไหม”

“ได้มันมาได้ยังไง”

“มียายคนหนึ่งลืมมันไว้ที่ร้านเมื่อสองวันก่อน พี่คิดว่าเขาน่าจะกลับมาเอาแต่ไม่มีวี่แววเลยหยิบมันมา... มันอาจสร้างปาฏิหาริย์เล็กๆ ให้กับเราอีกครั้งก็ได้นะ”

“ต้องบอกไวน์”

เบฟไม่ใช่คนใจจืดใจดำที่ขนาดมีข่าวดีจะไม่บอกให้รู้เพราะทุกครั้งไม่ว่าการซ่อมตุ๊กตาไขลานตัวนั้นจะสำเร็จหรือไม่ ไวน์ก็จะมาคอยยืนอยู่ข้างๆ เสมอ ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ผู้ชายคนนั้นไม่เคยทิ้งไออุ่นไปไหนจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปิดบังกัน

“อืม เดี๋ยวพี่โทรบอกเอง นายลองเอาไปเช็คดูก่อนว่ามันใช่ไหม”

เบฟรับลานชิ้นนั้นมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ความสิ้นหวังที่ทำได้เพียงแค่ภาวนา เฝ้ารอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมาตลอดสองปีที่ผ่านมาค่อยๆ มลายหายไปอย่างช้าๆ ลานอันคุ้นตาที่อยู่ในมือคือความหวังสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขามีอยู่ในตอนนี้

“มันใช่แน่อยู่แล้วล่ะ”

“ถ้างั้นก็ดีเลย พี่หวังว่ามันจะพาพี่อุ่นกลับมาได้”

เบฟก็หวังว่าสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้จะพาไออุ่นกลับมาได้เช่นกัน เขาทนทรมานกับความสูญเสียมานานมากพอแล้ว

“งั้นจะรอนี่แล้วกัน”

พีทพยักหน้าแล้วจึงเดินเลี่ยงออกไปกดโทรศัพท์หาไวน์ แต่เพียงไม่นานเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงไวน์จะมาถึง เบฟเอาแต่จ้องลานที่อยู่ในมือไม่วางตา ถ้าปาฏิหาริย์มีอยู่จริง ทำไมถึงต้องปล่อยให้พวกเขารอนานขนาดนี้

“พีท มึงว่าถ้ามันไม่ได้ผล...”

“ถ้ามันเป็นลานแบบเดียวกัน พี่คิดว่ามันน่าจะได้ผลนะ”

“ก็ขอให้เป็นแบบนั้น มึงรอไวน์อยู่ข้างล่างนะ เดี๋ยวกูไปดูอุ่นแปป”

พีทหยักหน้าแล้วปล่อยให้เบฟเดินขึ้นไปหาไออุ่นข้างบน ส่วนตัวเขาเองก็ต้องยืนรออยู่ข้างล่างจนกว่าคนที่โทรไปตามจะมาถึงแต่เพียงไม่นานเกินรอ ไวน์ก็มายืนอยู่ที่หน้าประตูร้านแล้ว

“ทำไมมาเร็วจัง” พีทถามเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นเดินเข้ามาในร้าน

“อ๋อ! พอดีผมทำธุระอยู่แถวนี้”

“งั้นไปกันเลยไหม เบฟรออยู่ข้างบนแล้ว”

ไวน์พยักหน้าตอบรับ เขาพร้อมที่จะไปเจอไออุ่นอีกครั้งแล้วหลังจากที่ห่างหายมานานพอสมควร เช่นเดียวกับพีทที่มีความรู้สึกอยากไปคอยลุ้นให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับไออุ่นอีกครั้ง พวกเขาเดินขึ้นไปข้างบนพร้อมกัน พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าเบฟกำลังแกะลานอันเก่าออกและกำลังจะใส่ชิ้นใหม่เข้าไป ท่าทางของเด็กคนนั้นดูมุ่งมั่นในการซ่อมแซมตุ๊กตาไขลานตัวนั้นมากกว่าทุกครั้งราวกับเชื่อว่าปาฏิหาริย์จะต้องเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ไม่รู้ทำไม... แต่เบฟกลับมั่นใจอย่างนั้น ตอนที่เห็นลานที่แทบจะเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วทั้งสองชิ้น ความหวังที่ห่างหายไปนานได้กลับมาอยู่กับเขาอีกครั้ง

บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ทั้งพีทและไวน์ต่างส่งกำลังใจช่วยให้การเปลี่ยนลานอันใหม่นี้ประสบความสำเร็จ

“พีท กุญแจล่ะ”

พีทชะงักไปเมื่อถูกเบฟทวงถามถึงกุญแจที่มันควรจะมาคู่กับลานชิ้นนั้น แล้วรู้สึกเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ลานที่หญิงชราทิ้งไว้ให้มันเป็นแค่ลานและไม่มีกุญแจ

“ไม่มี แต่พี่คิดว่ากุญแจของพี่อุ่นน่าจะใช้แทนกันได้ ลองดูก่อน”

“อืม”

กุญแจของไออุ่นถูกเก็บไว้ที่เดียวกับลานชิ้นแรก เบฟหยิบมันมาจากลิ้นชักข้างหัวเตียง ยื่นไปให้กับไวน์เป็นคนไขลานอย่างเช่นที่เคยทำทุกครั้ง เขายังคงกลัวแม้จะมีความหวัง

กุญแจรูปทรงเฉพาะถูกเสียบเข้าไปในตัวของไออุ่น มันลงล็อคพอดิบพอดีอย่างน่าประหลาดทั้งที่เป็นลานคนละชิ้น แม้ภายนอกจะเหมือนกันราวกับออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันแต่ก็ควรจะใช้กุญแจที่ต่างกัน ในเสี้ยวจังหวะหนึ่งที่ไวน์หมุนทวนเข็มนาฬิกา ความรู้สึกบางอย่างก็แล่นผ่านเข้ามาในหัวใจจนมันเต้นระรัว

ลานในร่างกายของไออุ่นเริ่มขยับช้าๆ มันนำพาความสุขมาให้กับพวกเขาอีกครั้ง ทว่าแม้ลานจะเดินแต่ร่างกายนั้นกลับยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง ไร้วี่แววของการมีชีวิตหรือบางทีแม้กระทั่งลานที่เหมือนกัน กุญแจดอกเดียวกันก็ยังพาไออุ่นกลับมาอยู่กับพวกเขาอีกครั้งไม่ได้

“อุ่น...”

เบฟดึงร่างของไออุ่นเข้ามาในอ้อมกอด กระซิบเรียกด้วยเสียงอันแผ่วเบา

“อุ่น... ได้ยินไหม อุ่น”

อีกครั้งที่ไม่มีเสียงตอบรับหรือการเคลื่อนไหวใดๆ ให้คนที่อยู่ในห้องได้รับรู้ถึงการมีชีวิตอยู่ของไออุ่น

“พี่พีทก็อยู่นี่นะ ไวน์ก็อยู่ ตื่นขึ้นมาหน่อยสิ”

“พี่ไม่อยากจะพูดให้เสียกำลังใจไปมากกว่านี้นะ แต่... นานขนาดนี้ พี่อุ่นคงไม่กลับมาแล้ว”

ไม่มีใครในที่นี้เตรียมใจรับกับการไม่กลับมาของไออุ่นอีกครั้ง ทุกคนหวังเฝ้าภาวนาให้ปาฏิหาริย์มีจริงแต่สุดท้ายแล้วมันก็กลายเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ ที่ไม่ว่าจะพยายามอีกสักกี่สิบร้อยพันครั้ง ไออุ่นก็ยังคงเป็นตุ๊กตาไขลานธรรมดาไม่ใช่ตุ๊กตาไขลานที่พวกเขารู้จักอีกต่อไป

“อุ่นต้องกลับมา! ใช่ไหม ไวน์”

รอยยิ้มเนือยๆ ปรากฏบนใบหน้าคมคาย เหมือนจะตอบรับแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นรอยยิ้มที่เขาไม่อาจปฏิเสธความจริงที่อยู่ตรงหน้าไปได้

“คุยอะไรกัน เสียงดังเชียว”

“พีท! ใครเสียงดัง!”

พอได้มองไปตามนิ้วที่ชี้ตรงมาของพีทก็กลายเป็นว่ามันพุ่งตรงมาที่เบฟคนเดียว แต่ทว่าสายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มระคนตกใจ เฉกเช่นเดียวกับไวน์ที่มองมาอย่างไม่วางตา ทุกสายตาต่างจ้องมองไปยังร่างข้างๆ เบฟด้วยกันทั้งนั้น

“กูเหรอ?”

“พูดไม่เพราะเลยนะ”

“นี่! มึงไม่ชินอีกเหรอวะ”

“เบฟ...”   

น้ำเสียงกดต่ำลากยาวที่ดังอยู่ข้างกายเพิ่งจะทำให้เขารู้สึกตัว จังหวะเสียงเวลาดุเขามันช่างคุ้นหู เสียงเหมือนไออุ่นแต่ทว่าร่างในอ้อมแขนไม่ขยับเขยื้อนแล้วจะเป็นไออุ่น คนที่เขาอยากเจอมากที่สุดไปได้อย่างไร

“ไม่ตลกนะ พีท เลียนเสียงอุ่นเหรอ”

“พี่อุ่น ช่วยทีเถอะครับ”

ได้ยินคำขอร้องของพีท ร่างที่อยู่ในอ้อมกอดจึงค่อยๆ ขยับตัวอย่างช้าๆ ให้พอรู้สึกตัวบ้างแต่คนที่กำลังกอดร่างของตุ๊กตาไขลานยังคงนั่งนิ่งเหมือนไม่รับรู้การเคลื่อนไหวใดๆ ภายในอ้อมกอดนั้น ใจของเขายังคงทุกข์โศกกับการจากไปของไออุ่นไม่หาย ปาฏิหาริย์เพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่พังลงมาต่อหน้าต่อตา ลานที่ขับเคลื่อนร่างกายยังคงเดินหน้าไปเรื่อยแต่ไออุ่นไม่กลับมา นั่นคือความคิดที่กำลังหมุนวนอยู่ในหัวของเบฟตอนนี้จนลืมอะไรบางอย่างไป

“ยินดีต้อนรับกลับนะ อุ่น” ไวน์ส่งยิ้มบางๆ ไปให้

“ไวน์ก็อีกคนเหรอวะ!”

“ไม่อยากให้อุ่นกลับมาขนาดนี้เลยเหรอ รู้ไหมว่าอุ่นน้อยใจนะ”

ท้ายที่สุดแล้วเบฟก็หันไปมองใบหน้าของตุ๊กตาไขลานที่อยู่ในอ้อมกอด ความเศร้าโศกพลันมลายหายไปจากใจแทนที่ด้วยความดีอกดีใจที่ล้นปรี่ออกมาทางสีหน้าและแววตาเมื่อยามสบกับดวงตาสีหยกที่กำลังกระพริบมอง

“อุ่น!!”

อ้อมแขนที่โอบกอดร่างของไออุ่นกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิมจนคนในอ้อมกอดเกิดความรู้สึกประหลาดราวกับว่ามันเป็นครั้งแรกที่ถูกกอดแบบนี้ แน่นขนาดนี้ อบอุ่นได้มากเพียงนี้จนทุกสิ่งที่สัมผัสซึมลึกลงไปในความรู้สึก

“ก็อุ่นไง”

“พี่อุ่น! ในที่สุดก็กลับมา พวกเรารอพี่นานมากเลยนะครับ”

พีทและไวน์ต่างเดินเข้าไปยืนใกล้ๆ ร่างของตุ๊กตาไขลานที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาไขลานที่ทำแค่นั่งเฉยๆ ตอบสนองอะไรไม่ได้อีกเหมือนที่ผ่านมาได้กลับมาหาพวกเขาทั้งสามคนอีกครั้งแล้วแต่ทว่ามีบางสิ่งบางอย่างในตัวไออุ่นแปลกไปจากเดิม อาจไม่มีใครได้ทันสังเกตมันแม้แต่เบฟที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“ผ่านมานานเท่าไรแล้วล่ะ”

“สองปีครับ”

ไออุ่นอมยิ้มเล็กน้อย มิน่าล่ะทุกคนถึงได้ดูโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นรวมถึงเบฟที่ดูเหมือนจะสูงใหญ่กว่าเขาแล้วด้วย

“อุ่น...” จู่ๆ เบฟก็โผล่งออกมาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง

“ครับ”

“อุ่นอุ่น”

“ครับ”

“ทำไมอุ่นอุ่น”

“ครับ?”

เรียวคิ้วงามเริ่มขมวดเข้าหากัน คำพูดของเบฟชวนให้ไออุ่นสับสน

“ตัวอุ่นอุ่น”

“หืม?”

“พีท ไวน์ ลองจับ” 

พอสิ้นเสียงเบฟก็กลายเป็นว่าทุกคนต่างมารุมล้อมตุ๊กตาไขลาน แตะแขนข้างซ้ายบ้าง สัมผัสแขนขวาบ้าง ลามไปถึงลูบไล้ซอกคอและใบหน้าเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิร่างกายที่ดูจะแตกต่างไปจากเดิม ไออุ่นตัวอุ่นสมชื่อ ไม่ได้มีร่างกายเย็นเฉียบราวกับร่างไร้วิญญาณเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

“ขอโทษนะครับ พี่อุ่น”

ยังไม่ทันจบประโยคดี พีทก็ตีเข้าไปบนต้นแขนของไออุ่นด้วยความแรงพอให้รู้สึก

“เจ็บ ตีพี่ทำไม”

ไออุ่นยกมือลูบแขนตัวเองบริเวณที่ถูกตีป้อยๆ เขาไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนักว่าพีทมีเหตุผลอะไรในการตีลงไปบนแขนเขาโดยไม่คำนึงถึงว่ามันจะเจ็บ... เจ็บ!? เรียวคิ้วงามขมวดเข้าหากันอีกครั้ง ลองนึกทบทวนถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเองแล้ว ใครๆ ก็บอกว่าตัวเขาอุ่นแถมยังรู้สึกเจ็บเวลาถูกตี ความรู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้อบางอย่างเต้นเป็นจังหวะอยู่ที่อกข้างซ้าย โดยรวมแล้วนี่เขากำลังกลายเป็นอะไร

“คุณร้องไห้ได้ไหม”

“หา! ร้องไห้... ไม่ได้หรอก ตุ๊กตาไขลานไม่มีน้ำตานะครับ ไวน์”

“งั้นก็... ขอโทษอีกครั้งนะ อุ่น”

เบฟเอามือบีบจมูกร่างที่อยู่ในอ้อมกอดแน่น ถ้าไออุ่นเป็นตุ๊กตาไขลานจริงดั่งว่าก็จะไม่รู้จักวิธีการหายใจหรือการถูกปิดจมูกเอาไว้แบบนี้ย่อมไม่มีผลอะไรแน่อยู่แล้ว หากแต่ไม่ใช่... ไออุ่นจะต้องแสดงปฏิกิริยาอะไรบางอย่างออกมา

ไออุ่นอยากจะร่ำร้องออกมาว่าพวกเขาทั้งสามคนกำลังเล่นอะไรกันอยู่แต่ลักษณะเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจตายไปเสียเดี๋ยวนี้ทำเอาหัวสมองตื้อตึง หมดคำพูด ริมฝีปากบางเผยอออก หอบเอามวลอากาศรอบตัวให้เข้ามาภายในร่างกายก่อนที่อะไรๆ จะทำให้เขาหายไปอีกครั้ง ฝ่ามือเล็กตีเข้าที่แขนของเด็กคนนั้นให้ยอมปล่อยปลายจมูกเขาให้เป็นอิสระ

มือที่บีบจมูกเรียวสวยได้รูปถูกคลายออกพร้อมกับความแคลงใจทั้งหมดทั้งมวลก็หายไปด้วยเช่นกัน

“อุ่น ที่พี่พีทตีเมื่อกี้เจ็บไหม”

ไออุ่นพยักหน้าตอบคำถามของเบฟ

“แล้ว... เมื่อกี้หายใจออกไหมครับ”

“หายใจไม่ออกหรอก คราวหลังอย่าเล่นอะไรแบบนี้อีกนะ อุ่นเกือบตาย”

“สรุปพี่อุ่นเจ็บแล้วก็... หายใจไม่ออกใช่ไหมครับ”

พีทลองถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ แต่พอได้เห็นไออุ่นพยักหน้ารับ สิ่งเดียวที่เขานึกขึ้นมาได้ในตอนนี้นั่นคือ ‘สภาพความเป็นมนุษย์’

“อุ่นไม่ใช่ตุ๊กตาไขลานแล้วนะ”

ไออุ่นนิ่งไปพักใหญ่กับคำตอบของเบฟที่ย้ำชัดถึงความจริงที่ว่าไออุ่นกลายเป็นมนุษย์ มีเลือดเนื้อ มีความรู้สึก เจ็บได้ร้องไห้เป็นอย่างที่เคยอิจฉามานาน

“ไม่ใช่ตุ๊กตาไขลานแล้ว... เป็นอะไร”

ไม่จำเป็นต้องพูด คำตอบก็อยู่ตรงหน้าแล้ว ตุ๊กตาไขลานที่มีลมหายใจไม่อาจเรียกได้ว่าตุ๊กตา เช่นเดียวกับตุ๊กตาไขลานที่มีความรู้สึกเจ็บปวดก็ไม่อาจเรียกได้ว่าตุ๊กตาเช่นกัน หรือแม้แต่ตอนนี้ตัวเขายังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากอ้อมกอดของเบฟ

“อุ่น ขอดูข้างหลังหน่อย”

เบฟดันร่างของไออุ่นให้ก้มต่ำลง ถลกปลายเสื้อด้านหลังขึ้นเล็กน้อย สิ่งที่ควรจะอยู่กลางหลังยามเสียบกุญแจเพื่อไขลานนั้นอันตรธานหายไปจากร่างเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าไออุ่นเป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึกเหมือนอย่างที่มนุษย์ทุกคนควรมี

รอยยิ้มแห่งความเปรมปรีดิ์ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้ากลมมน สิ่งที่เขาหวาดกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นกับไออุ่นนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว ร่างกายที่ไม่จำเป็นต้องไขลานเพื่อความอยู่รอด ไม่จำเป็นต้องคอยระแวดระวังว่ามันจะพังลงไปต่อหน้าต่อตานำพาความสุขกลับมาหาเขาอีกครั้ง

“อุ่นเป็นคนจริงๆ”

ปาฏิหาริย์ไม่เพียงแต่นำวิญญาณของไออุ่นกลับมา ปาฏิหาริย์ยังทำให้เขากลายเป็นสิ่งที่เฝ้าฝันมาตลอดชั่วชีวิต

“พี่อุ่น!!” พีทร้องเรียกด้วยความดีใจ

“เอ่อ...”

ดวงตาสีหยกสบประสานกับดวงตาสีอำพันของร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางละล้าละลังเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบไปของไออุ่นทำให้พีทพอรู้ว่าอีกฝ่ายคงมีเรื่องอะไรแต่สำคัญที่เบฟยังนั่งอยู่ตรงนี้

“เบฟ... พี่ว่าเราไปหาอะไรให้พี่อุ่นกินกันดีกว่า”

“ไม่เอา” เบฟตอบปฏิเสธพร้อมกับกอดร่างที่อยู่ในวงแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม เขามีเรื่องที่จะต้องพูดกับไออุ่นอยู่อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องนั้นแต่เขายังไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาตอนนี้ต่อหน้าทุกคน “ถ้าไปแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนอุ่น”

“เดี๋ยวให้ไวน์อยู่เป็นเพื่อนก็ได้”

ดวงตาสีหยกช้อนมองร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าราวกับจะขอความช่วยเหลือ เมื่อเห็นว่าไวน์พยักหน้าตอบรับก็ดูจะโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ท่าทางของเบฟดูจะไม่ยอมที่จะปล่อยให้ไออุ่นต้องอยู่เพียงลำพังกับไวน์ เขาอยากจะพูดสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ สิ่งที่ผูกมัดเราสองคนเอาไว้ตลอดมา

“เบฟ ไปกับพี่เถอะ ไม่เป็นไรหรอก”

เบฟชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง อีกทั้งเขายังเห็นสายตาของไออุ่นที่มองมาเพื่อบอกว่าต้องการอยู่ลำพังกับไวน์สองคนจริงๆ เขาจึงพยักหน้าอย่างจนใจ ยอมตามพีทออกไปข้างนอกแต่ก็ยังไม่วายที่จะเป็นห่วง เรื่องที่เขาต้องการจะพูดนั้นมันสำคัญเช่นเดียวกับการที่ปาฏิหาริย์ได้พาให้ไออุ่นกลับมาพบกับพวกเขาอีกครั้ง

“เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับนะ”

เบฟยอมปล่อยร่างในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ ในขณะที่ลุกจากเตียงก็ยังมองร่างของตุ๊กตาไขลานที่กลายเป็นมนุษย์เต็มตัวด้วยความเป็นห่วง เขาที่เพิ่งได้เห็นหน้า ได้พูดคุยกับตุ๊กตาที่รักอีกครั้งจึงยังไม่อยากจากไปไหนแต่ความหิวของไออุ่นนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน




<<ต่อข้างล่าง>>

ออฟไลน์ BlueSora

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
<< ต่อจากข้างบน >>



เมื่อในห้องมีกันเพียงลำพังแค่สองคนจึงก่อเกิดเป็นความเงียบที่ชวนให้รู้สึกอึดอัด ท้ายที่สุดจึงเป็นไวน์ที่ทำลายความรู้สึกที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างให้เวลานี้ลง

“อุ่น ผมขอโทษนะ”

ไออุ่นยังนั่งอยู่บนเตียงนอน มองดูใบหน้าคมคายนั้นด้วยความสับสนระคนไม่เข้าใจถึงสาเหตุของคำขอโทษนั้นแต่เพียงไม่นาน เมื่อความทรงจำครั้งล่าสุดผ่านเข้ามาในหัว เขาร้องอ๋อเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มเพียงเล็กน้อยให้อีกฝ่ายได้สบายใจว่าตัวเขาไม่ได้ติดใจเอาความอะไรเลย

“ขอโทษทำไม ผมไม่ได้โกรธอะไรเลยครับ”

“ผมขอโทษที่เคยทำอะไรไม่ดีกับคุณ”

“ผมไม่คิดมากหรอกครับ ไวน์ จริงๆ แล้วน่าจะเป็นผมเองมากกว่าที่ต้องขอโทษคุณ”

“เรื่องอะไรครับ”

ก่อนที่ไออุ่นจะหายไปจากวงจรชีวิตของไวน์นานถึงสองปี คำพูดสุดท้ายที่ได้ยินมันเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากสีกุหลาบนั้นก็คือคำขอโทษที่ยังค้างคาอยู่ในใจเขามาตลอดว่าเพราะเหตุใดไออุ่นถึงต้องขอโทษเขาทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

ไออุ่นลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าผู้ชายร่างสูง แหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย สบกับดวงตาสีอำพันของอีกฝ่ายที่จ้องมองมายังเขา “ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกความจริงตั้งแต่แรกแต่พอได้เห็นคุณอยู่ตรงนี้... เป็นผมซะอีกที่ควรรู้สึกผิด ไม่ใช่คุณ”

ยังไม่ทันที่ไวน์จะได้ตอบอะไร ไออุ่นก็ชิงพูดต่อ “ตอนนั้นผมแค่กลัวว่าถ้าคุณรู้ว่าผมเป็นอะไร คุณอาจจะไม่เชื่อ แล้วอีกอย่างตุ๊กตาไขลานมันมีชีวิต มีจิตใจไม่ได้ โต้ตอบหรือตอบสนองใครไม่ได้ คุณอาจมองว่ามันเป็นเรื่องตลกขำขัน แต่ตอนนี้ผมได้เห็นมันกับตาแล้วว่าถึงผมจะเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาไขลานที่มีชีวิต คุณก็ยังยืนอยู่ข้างผม นั่นมันทำให้ผมรู้สึกอยากขอโทษคุณมาก เพราะถ้าเพียงแค่ผมบอกความจริงกับคุณไปตั้งแต่แรก ทุกอย่างอาจไม่ลงเอยแบบนี้”

“อุ่น...”

“ไวน์ เด็กคนนั้นได้ทำอะไรคุณ โมโหใส่คุณ ตอนที่ผมไม่อยู่หรือเปล่าครับ”

“ก็... โดนต่อยนิดหน่อย แค่สิบยี่สิบหมัดเอง”

มือแกร่งแตะสัมผัสลงบนริมฝีปาก ทบทวนความเจ็บปวดในคราวนั้น กว่าปากจะหายบวมและแผลจะหายสนิทก็ใช้เวลาไปราวๆ อาทิตย์ พลันนั้นมือของเขาก็รู้สึกถึงความนุ่มและอบอุ่น พอเหลือบสายตาไปมองก็พบว่ามือของไออุ่นกำลังกอบกุมมือของเขาอยู่

“เจ็บมากไหมครับ”

“เอ่อ... นิดหน่อย”

“ขอโทษแทนเขาด้วยนะครับ”

“อุ่น...”

ไออุ่นปล่อยมือออกแล้วเดินไปหยุดที่ริมหน้าต่าง มองออกไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย “ผมดีใจนะครับที่ได้กลับมาแต่ผมกลับรู้สึกว่าจริงๆ แล้วผมไม่ควรกลับมา” เขานิ่งเงียบอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะพูดต่อ “สองปีกับการรอคอยมันนานมากนะครับ พอผมกลับมา... อะไรหลายๆ อย่างก็ต้องเปลี่ยนไปหมดแล้ว”

ไวน์ก้าวมายืนข้างๆ เขาไม่ได้พูดอะไร เอาแต่จ้องมองออกไปข้างนอกหน้าต่างเช่นเดียวกัน

“จนถึงตอนนี้คุณอาจจะแต่งงาน มีลูกกับผู้หญิงสักคนไปแล้วก็ได้”

“จะให้ผมไปแต่งกับใครล่ะ สองปีที่ผ่านมา ผมทรมานกับความรู้สึกผิดมาตลอด แล้วที่ผ่านมาผมก็เอาแต่คิดถึงคุณแล้วจะให้ผมเอาเวลาไหนไปรักกับผู้หญิงคนอื่น”

“สองปีทำคุณเปลี่ยนไปด้วยนะ แต่เป็นแบบนี้ล่ะดีแล้ว”

ไวน์ดูเปลี่ยนไปมากในสายตาของไออุ่น ไม่เพียงแค่ฝ่ายนั้นจะดูภูมิฐานขึ้น การแสดงออกก็ยังเปลี่ยนไปด้วย ดูกล้าที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมา อ่อนโยนขึ้น คำพูดคำจาน่าฟังมากขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกัน

“ผมอาจจะเปลี่ยนไปบ้างแต่ความรู้สึกที่มีต่อคุณมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนะ อุ่น”

ไออุ่นยกยิ้มอ่อนโยนแต่ทว่าสายตายังคงจ้องมองออกไปยังท้องฟ้าสีขาวโพลน

“ถ้ามีให้คุณเลือกระหว่างความรักกับความผูกพัน คุณจะเลือกอะไร”

ไวน์นิ่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ สองสิ่งที่ถูกถามมันเป็นคำตอบที่เลือกยาก

“ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามคำถามนี้ขึ้นมาล่ะ”

“ตอบผมมาก่อนเถอะครับ แล้วผมจะบอกว่าทำไม”

ความรักกับความผูกพันควรเป็นสิ่งที่มาคู่กัน เมื่อรักย่อมต้องผูกพัน เมื่อผูกพันย่อมต้องรัก แต่หากจำเป็นต้องเลือกแล้วล่ะก็สำหรับไวน์คงหนีไม่พ้นคำว่าความรัก สีหน้าของเขาดูเหมือนคนกำลังขบคิดอย่างหนัก จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจตอบออกมา “มันเลือกยากนะ แต่ถ้าต้องเลือกจริงๆ ผมขอเลือกความรัก”

“ถ้าคุณถามคำถามนี้กับผม ผมจะตอบว่าความผูกพัน ไม่ใช่ความรักมันไม่ดีแต่ถ้าเลือกความผูกพัน ผมมองเห็นอนาคตมากกว่า สำหรับความรักน่ะวันนี้อาจจะพูดว่ารักแต่วันข้างหน้าเราอาจจะพูดมันออกมาได้ไม่เต็มปาก เมื่อความรักเดินมาถึงทางตัน ทุกอย่างก็จบแต่ถ้าเป็นความผูกพัน สำหรับผมแล้วมันดูมั่นคงยาวนานกว่า คุณว่าจริงไหม”

“มันก็จริงแต่ผมไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคุณต้องการพูดอะไร”

“ผมอยากเป็นคนที่เห็นแก่ตัวนะ เลือกทั้งความรักและความผูกพันไปพร้อมๆ กันแต่ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะมันเห็นแก่ตัวเกินไป”

คำอธิบายของไออุ่นไม่ได้ช่วยคลายความสงสัยให้กับไวน์ได้เลยแม้แต่น้อยกลับเพิ่มเครื่องหมายคำถามเข้ามาอีกเป็นกระบุงโกย

“คุณจำวันนั้นได้ไหมครับ วันที่คุณบอกว่ารักผม”

ไวน์พยักหน้ารับ ถึงแม้จะผ่านมานานมากแล้วแต่เขายังคงจำได้ดี วันนั้นเป็นวันที่เขาทั้งสารภาพรัก ทั้งทำเรื่องไม่ดีกับไออุ่นเอาไว้ เขาไม่มีทางลืมมันลงได้ง่ายๆ

“ผมยังไม่ได้ตอบคุณเลยว่าผมรู้สึกหรือคิดยังไงกับคุณ”

“คุณตอบผมแล้ว คุณเลือกความผูกพันและมันเดาได้ไม่ยากเลยว่าคุณเลือกเบฟ”

ไออุ่นดูจะชะงักไปเล็กน้อย เขาหันกลับไปมองร่างที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างช้าๆ สีหน้าและแววตาที่สะท้อนกลับมาบ่งบอกให้เขารู้ได้ว่าอีกฝ่ายเจ็บปวดกับคำตอบนั้นมากแค่ไหน

“ถ้าคุณบอกว่าความผูกพันที่ผมพูดถึงคือเบฟ แล้วความรักล่ะจะหมายถึงใคร”

ไออุ่นยังคงยืนจ้องตาอยู่อย่างนั้นแต่ยิ่งถูกจ้อง หัวสมองของไวน์ก็ขาวโพลนไปหมด ที่เด่นชัดที่สุดเห็นทีจะเป็นรูปหน้าอันงดงามราวกับภาพวาด ดวงตาสีหยกเปล่งประกายราวกับอัญมณีมีชีวิต ริมฝีปากสีกลีบกุหลาบที่ชวนให้น่าหลงใหลลิ้มลอง

“ไวน์”

“อ๊ะ! ครับ” ไวน์สะดุ้งเล็กน้อย

“ตอบผมสิครับ ไวน์”

“เอ่อ...”

“คุณคิดว่าที่ผมพูดนั่นหมายถึงใคร”

ถูกไออุ่นถามย้ำพลางเดินเข้ามาใกล้จนจะประชิดตัวแล้วเขาจะนึกคำตอบเป็นอื่นไปได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่... “อุ่น”

นิ้วเรียวเล็กจิ้มไปบนหน้าอกของไวน์อยู่สองสามครั้งก่อนที่เจ้าของนิ้วจะยกยิ้มบางๆ คล้ายกับกำลังขบขันกับท่าทีของคนตรงหน้า “คุณต่างหากล่ะ”

ไวน์พยักหน้าเหมือนว่าจะเข้าใจแต่สักพักกลับนิ่งไปราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ความรักที่ไออุ่นพูดถึงทำไมถึงกลายเป็นเขาไปได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ได้คำตอบอะไรจนไออุ่นหลุดหัวเราะเบาๆ กับหน้าตาที่ดูจะเหวอไปเล็กน้อยของเขา

“ทำไมเป็นผม”

ไออุ่นไม่ได้ตอบว่าเพราะอะไร ทำไมความรักถึงหมายถึงไวน์และเบฟถึงได้กลายเป็นความผูกพัน เขาเดินมาอยู่ที่เตียงนอนกลางห้อง หันหลังให้กับผู้ชายคนนั้น “มันไม่มีคำตอบว่าทำไม ความรักไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล รักก็คือรัก ผูกพันก็คือผูกพัน”

“แล้วทั้งที่คุณรักผม ทำไมคำตอบถึงได้กลายเป็น...”

“คนเราน่ะไม่มีใครทำอะไรได้ตามใจปรารถนาไปซะทุกเรื่องหรอกนะ ผมแค่เลือกมันเพราะดีกับเราทุกคน หากผมเลือกคุณ คนที่จะเสียใจมากที่สุดก็คือเด็กคนนั้นและผมเองก็ทนเห็นเขาเสียใจไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าถ้าผมเลือกเบฟแล้วผมจะทนเห็นคุณเสียใจได้หรอกนะ อย่างที่ผมบอก... ความผูกพันมันจีรังยั่งยืนกว่าความรักแต่ผมก็ไม่ได้คิดจะดูถูกความรักของคุณ เพียงแต่ถ้าสุดท้ายแล้วมันจำเป็นต้องเลือก ผมก็จะเลือกเขา”

ไออุ่นหันกลับมาเผชิญหน้ากับไวน์อีกครั้ง

“ผมไม่รู้หรอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเด็กคนนั้นทำอะไรบ้างแต่วันนี้ผมรู้อยู่อย่างหนึ่งคือเขาไม่ยอมปล่อยมือจากผม ผมถึงได้กลับมาอยู่ตรงนี้อีกครั้งทั้งที่ควรจากไปตั้งนานแล้วและเพราะแบบนั้น ผมถึงได้บอกว่าการเลือกเขาคือการมองเห็นอนาคตมากกว่า ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เด็กคนนั้นจะไม่มีวันทิ้งผมเช่นเดียวกับที่ผมจะไม่มีวันทิ้งเขาอีก”

ยิ่งพูดก็ดูเหมือนจะตอกย้ำความเจ็บปวดให้ลึกลงไปในใจของทั้งสองฝ่าย

“แล้วคุณไม่อยากสร้างอนาคตไปพร้อมกับผมเหรอครับ”

“ผมทำร้ายเด็กคนนั้นไม่ได้ ทั้งชีวิตของเขามีผมแค่คนเดียว ถ้าผมปล่อยมือจากเขาแล้วเขาจะเหลือใคร หวังว่าคุณคงเข้าใจนะครับ”

“คุณ...” ไวน์พูดอะไรไม่ออก ความจริงแล้วสิ่งที่ไออุ่นทำนั่นคือการทำร้ายตัวเอง ทำร้ายทั้งเบฟและตัวเขาเอง มีแต่เจ็บกับเจ็บด้วยกันทุกฝ่าย ต่างกันแค่จะมากหรือน้อย

“จริงๆ แล้วเด็กคนนั้นนอกจากผมยังเหลือพ่อแม่และย่าให้รัก แต่เขากลับผูกมัดตัวเองไว้กับผม ในเมื่อเขาไม่ปล่อย ผมจะไม่พยายามแกะมือเขาออก ถ้าวันหนึ่งซึ่งเมื่อไรไม่รู้ เขาพร้อมที่จะปล่อยผมไป ผมก็จะปล่อยเขาเช่นกัน แต่ตอนนี้ผมทำแบบนั้นไม่ได้”

“ทำไม...”

“ถ้าผมพยายามแกะสิ่งที่พันธนาการเราสองคนเอาไว้ด้วยกันออก สิ่งที่ผ่านมาทั้งหมดจะพังทลายลงในพริบตา แต่ถ้าเขาเข้าใจมันได้ด้วยตัวเองเมื่อไร ยอมรับได้เมื่อไร เขาจะรู้เองว่าตัวเขาควรทำอย่างไร แค่ตอนนี้เด็กคนนั้นไม่โตขึ้นเลยจากเมื่อก่อน”   

“ผมสู้ไม่ได้เลยสินะ”

ไออุ่นไม่ได้ตอบอะไร เขาทำเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ

“ไวน์ ขอโทษนะ”

ถึงไวน์จะยิ้มไม่ออกแต่พอได้ยินคำขอโทษ เขาก็จำต้องยิ้มตอบกลับไป สุดท้ายแล้วไม่ว่าเบฟจะพูดว่ายกไออุ่นให้เขาเดินหน้าจีบได้อย่างเต็มที่แล้วแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองพ่ายแพ้ ต่อให้เขาเป็นคนที่ไออุ่นรักแต่ท้ายที่สุดแล้วคนที่ถูกเลือกก็ไม่ใช่เขา

“ดูคุณแคร์เขามากเลยนะ”

“ผมแค่เลือกไม่ได้ต่างหาก”

“เลือกไม่ได้หรือไม่พยายามเลือกครับ”

ไออุ่นยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาพูดไม่ออกเพราะไวน์พูดถูก เขามีชนักคำสัญญาที่มีต่อเบฟติดหลัง ต่อให้ไม่ว่าเขาจะเลือกไวน์หรือไม่ คำตอบนั้นก็ยังจะคงเป็นเบฟไม่เปลี่ยน

“อุ่น คุณ... เอาเถอะครับ ผมไม่ได้อยากจะยอมแพ้แต่ถ้าพูดกันขนาดนี้แล้ว ผมก็คงต้องถอยออกมา ถ้างั้นก็... ผมกลับก่อนก็แล้วกันนะ”

ยังไม่ทันที่ไวน์จะได้ก้าวออกไปไหน เสียงอันคุ้นหูก็ดังเข้ามาจนเท้าที่เตรียมจะก้าวเป็นอันชะงักไป ไออุ่นยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อบานประตูถูกเปิดออก เบฟรีบคว้าข้อมือไวน์แล้วลากให้เดินตรงเข้าไปหาไออุ่นพร้อมกับจับมือของไออุ่นขึ้นมา เมื่อครู่ที่พีทชวนให้ออกไปซื้อของกินมานั้นก็ไม่ได้ไปไหนไกลเกินกว่าหน้าประตูห้อง เขาได้ยินทุกอย่าง ทุกคำพูดของทั้งคู่ด้วยการเปิดประตูเอาไว้เล็กน้อยให้เสียงในห้องเล็ดลอดออกมาแล้วตั้งใจเงี่ยหูฟัง

“นี่แหละ! ที่ยังไม่อยากไปไหนก็เพราะแบบนี้ล่ะ!”

ไออุ่นได้แต่มองหน้าอย่างงุนงง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เบฟพูด แบบนี้ที่ว่านั้นคือแบบไหนกันแน่

“อุ่น ฟังนะ เอาจริงก็ไม่อยากพูดอะไรตรงนี้เลย แต่... ผมกับพีท เราเป็นแฟนกันแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าอุ่นจะรู้สึกรักไวน์ก็พูดมันออกมาให้เต็มปากไปเลยว่ารัก แล้วคำสัญญาที่เราเคยให้ไว้ก็ถือซะว่ามันโมฆะเพราะผมผิดสัญญาก่อน อุ่นไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น แค่ความรู้สึกของตัวเอง รู้สึกยังไงก็พูดมันออกไปแบบนั้นเลย”

เบฟพูดเสียรัวเร็วราวกับว่ากลัวใครจะแย่งพูดหรือถ้าเพียงแค่หยุดไปช่วงจังหวะหนึ่งแล้วจะทำให้คำพูดที่เหลือจางหายไปกับอากาศเสียก่อนที่จะพูดมันออกมาจนหมด ไออุ่นฟังมันไม่ทันและต่อให้ทัน สมองเขาก็ประมวลผลมันไม่ทัน เขายืนอ้ำอึ้งเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็เงียบไป

“อุ่น รักไวน์ใช่ไหม”

“แต่เบฟ...”

“รักก็พูดว่ารัก มันไม่ยากหรอก”

ไออุ่นพยักหน้าแทนการตอบคำถามนั้นของเบฟ

“ถ้าอย่างนั้นมันไม่เห็นมีอะไรให้ต้องไปปฏิเสธความรักของไวน์ที่มีให้อุ่นเลย” เบฟพูดจบก็หันไปเกาหัวตัวเองหยิกๆ ไม่เข้าใจการกระทำของตัวเองที่เหมือนจะถือหางไวน์ขึ้นมาหน่อยๆ สนับสนุนความรักที่ไวน์มีต่อไออุ่นทั้งที่ตัวเองต้องการให้ไวน์เดินหน้าจีบไออุ่นเองแท้ๆ “โอ๊ย! นี่กูทำอะไรเนี่ย เป็นพ่อสื่อแม่สื่อให้คนที่เขารักกันอยู่แล้วงั้นเหรอ!”

“เอ่อ...”

“โอเคๆ ผมจะให้เวลาส่วนตัวก็แล้วกัน เคลียร์กันให้ชัดๆ ไปเลยนะ ทางเปิดโล่ง กว้าง สบาย ลงไปวิ่งเล่นบนถนน รถก็ไม่ชนตายขนาดนี้แล้วหวังว่ามันคงจะ... นะ”

เบฟเหล่มองไวน์เป็นเชิงบอกให้รู้ว่าตัวเขาเคลียร์ทางเปิดโล่งให้ขนาดนี้แล้ว กรุณาทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงเสีย ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ไวน์กับไออุ่นได้อยู่กันตามลำพังจริงๆ เพราะพอออกจากห้องมาได้ก็วิ่งลงไปรอข้างล่างทันที

“ไวน์...”

“ว่ายังไงครับ”

“คือ... แล้วอุ่นต้องพูดยังไง”

ไวน์ยกยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับเอื้อมมือไปแตะลงบนหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างเบามือ “พูดอย่างที่ใจรู้สึก”

“พูดไปแล้ว”

“พูดอีกทีสิครับ ผมอยากได้ยิน”

ไออุ่นเบือนหน้าหนี ให้เขาพูดอีกครั้งตอนนี้คงไม่ได้ มันเขินจนเกินกว่าที่จะพูดคำเดิมซ้ำๆ เขาหันหลังให้กับไวน์แล้วเดินออกไปอีกเล็กน้อย ก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่เริ่มจะเย็นเฉียบเพราะความตื่นเต้น ได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัวราวกับกลองที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้สัมผัสกับมัน เขากำลังประหม่า

“ก็... ผม...”

ไออุ่นพูดยังไม่ทันจบ เขาก็รู้สึกเหมือนกับมีใครเดินเข้ามาด้านหลัง ประชิดตัวจนรับรู้ได้ถึงไอร้อนผ่าวที่แผ่ออกมา เสียงกระซิบดังข้างหูเบาๆ จนขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิตของการเป็นได้เพียงแค่ตุ๊กตาไขลานที่ไร้ความรู้สึก “ก็อะไรครับ อุ่น” 

“รัก... รัก... ไวน์ครับ”

“ผมก็รักคุณนะ อุ่น”

ไออุ่นยิ้มแต่เขาไม่กล้าหันมามองสบตา เขากลัวว่าเขาจะหลงผู้ชายคนนี้มากไปกว่านี้

“กว่าจะได้ยินคำว่ารักจากปากอุ่น ผมรอตั้งนาน”

รอยยิ้มเขินอายปรากฏจางๆ บนใบหน้างาม ไออุ่นเองก็รออยู่นานกว่าจะพูดว่ารักออกไปได้เช่นกัน คำว่ารักของเขาไม่ใช่การฝืนใจเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว เขาสามารถพูดมันออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำโดยไม่ต้องรู้สึกผิดกับใครอีก

 “งั้นเราลงไปข้างล่างกันดีไหม หรือว่าอยากให้ผมจูบต้อนรับกลับมาก่อนแล้วค่อยลงไปกันดี”

ถูกไวน์แกล้งพูดแหย่อยู่ข้างหูอย่างนี้ ไออุ่นมีแต่ต้องก้มหน้างุดซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าวราวกับน้ำเดือดเอาไว้

“ผมไม่หยอกแล้วก็ได้ครับ เราลงไปข้างล่างกันดีกว่า ป่านนี้พีทคงซื้อข้าวมาให้เรียบร้อยแล้วล่ะมั้ง” ไออุ่นพยักหน้าพร้อมกับตีลงไปที่ต้นแขนของอีกฝ่ายเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ไวน์หัวเราะออกมาเล็กน้อย วันนี้ดูจะเป็นวันที่เขามีความสุขที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการที่ไออุ่นกลับมาหาพวกเขาอีกครั้งหรือแม้แต่ความทุกข์ที่อยู่ในใจได้ถูกคลายออก ความรักของพวกเขาสมหวัง ทุกอย่างดูลงตัวจนบอกได้เพียงว่าถ้าถูกถามว่าวันไหนในชีวิตเป็นวันที่ประทับใจที่สุด คำตอบก็คงจะเป็นวันนี้


** END **


จบลงไปแล้วนะคะ สำหรับเรื่อง "ตุ๊กตาไขลาน"
ไม่รู้จะพูดอะไรดี แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอกคือขอบคุณทุกคนมากนะคะที่แวะเข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
นิยายเรื่องนี้อาจไม่ใช่นิยายที่ดีอะไรเท่าไร ทั้งเรื่องภาษาที่ใช้ ทั้งพลอตและการดำเนินเรื่อง
แต่ก็เป็นนิยายที่เราใส่ความตั้งใจลงไปในการเขียนทุกครั้งค่ะ
สำหรับเรื่องนี้ ตัวละครที่เรารักมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นไออุ่น (ก็เป็นตัวหลักของเรื่องเลยนี่เนอะ)
แต่บางทีเราเองก็ไม่ค่อยชอบความคิดของไออุ่นเท่าไรเหมือนกัน เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเกิน แคร์คนอื่นมากเกินจนลืมแคร์ตัวเอง

สุดท้ายนี้ก็... ขอขอบคุณทุกคนมากที่ตามอ่านนิยายเรื่องนี้จนจบเรื่อง
แล้วพบกันใหม่ในเรื่องหน้านะคะ
 




ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ละมุนมากค่ะ ขอบคุณค่า  :mew1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อุ่นน่าร้ากกกกกก
พอเป็นคนแล้วอยากจะฟัดขึ้นมาเลย กอดได้แบบไม่ต้องกลัวลานเบี้ยว ฮ่า ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดีจังเลยเป็นคนแล้ว เจ็บได้ตายได้ ไม่ต้องอยู่โดดเดี่ยวในวันที่ไม่เหลือคนรอบข้าง
ถ้าพี่อุ่นยังเป็นตุ๊กตานี่เราก็แอบกลัวว่าคุณไวน์ผู้มือหนักจะทำอะไหล่ของอุ่นพัง ฮา
ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


ลุ้นมากกว่าจะมาถึงจุดนี้

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยากเจอคะ อยากเจอคุณยายคนที่ลืมลานไว้ที่ร้านพีท สงสัยจะเป็นนางฟ้าแน่ ๆ เลย ลงมาช่วยให้อุ่นกลายเป็นคน  :กอด1:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ดีใจจังที่อุ่นเป็นมนุษย์แล้ว  :กอด1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ดีใจที่อุ่นกับมีและมีปฏิหารย์อีกแล้ว
ฮืออ อุ่นเป็นคนแล้วนะ ดีจริงๆเลย
ยินดีด้วย ขอให้มีความสุขทุกคนเลยย
ขอบคุณที่แต่งนะคะ เป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :katai1: ไม่นะ ฮือ น้ำตาคลอนี่แค่ไม่กี่ตอนเอง

บ้าไปแล้ว อ่านไปลุ้นไปว่าอุ่นจะเป็นอะไรไหม

ไม่อยากนึกถึงตอนจบเลย :m15:

แค่ตอนเป็นอุลเรายังจะร้องตาม อ่านไปบีบหัวใจไป

ฮือ จะเป็นยังไงต่อไปนะ ไวน์นี่ชอบอุ่นใช่มะ

แล้วเบฟที่เรียกอุ่นตอนก่อนจะไขลานให้นี่คือยังไง :z3:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :m15: :hao5: อุ่นนนนนนนนนนนนนนนน ฮืออออออ  :ling1:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :z3:  :m15: :o12: ร้องไห้เป็นเขื่อนแตกเลยจ้า ฮือออ

ร้องตั้งแต่ไวน์อ่านถึงคำที่บอกว่าอุ่นเป็นตุ๊กตาไขลาน

จางหายไปตอนไวน์หมุนแล้วอุ่นตื่น แต่ตอนอุ่นตายอีกรอบ

มันกลับพังลงมาราวกับห่าฝน ฮือออ หยิบทิชชู่ไม่ทันทีเดียว

สงสารพีทคนเดียวเลยตอนนี้ แม้อุ่นจะรู้ว่าคิดอะไร

แต่ไม่มีโอกาสได้สารภาพเหมือนกับคนอื่นเขา

ไหนจะเฮเลนล่ะ รู้เรื่องอุ่นแล้วจะเป็นยังไงนะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :a5: ตกใจหม๊ดด นึกว่าจะจูบไวน์จริงๆ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
แง้งงง ดีมาก ขอบคุณมากค่ะ ฮือ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
 จบสวยค่ะ ชอบภาษา

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เสียน้ำตาให้เรื่องนี้ไปเป็นปีบ

แต่จบแบบนี้ก็ดีแล้ว ดีแล้วจริงๆ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ที่ต้องขอบคุณมากกว่าปาฏิหาริย์ก็ความพยายามของทุกคนนี่แหละ น่ารักมาก ขอบคุณคนเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆให้อ่านนะ

ออฟไลน์ FeRnChOi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แต่งดีมากๆเลยค่ะ ภาษาเราอ่านแล้วรู้สึกว่าอ่านง่าย
อ่านตอนแรกคิดว่าน่าจะดราม่าแต่ๆ พอมากลาางๆเรื่องนี่คือหน่วงมาก
ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่าน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด