เห็นของคนอื่นจบแล้วก็ยังมีมาลงประปราย เลยจัดมาลงบ้างสั้นๆให้หายคิดถึงกันค่ะ
“พี่ต่าย”ผมตะโกนเรียกพี่ต่ายที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆในขณะที่ผมนั่งอ่านนิยายทางเน็ท
“อะไรครับโอม”พี่ต่ายถามแต่ไม่เงยหน้ามามองผมเลย สงสัยกำลังติดพันหนังสืออยู่
“เค้าจะประกวดเซ็งเป็ดอวอร์ดอีกปีแล้วนะพี่” ผมเลื่อนดูรายชื่อของนิยายที่เข้ารอบ มีอยู่หลายเรื่องที่ผมอ่านแต่บางเรื่องก็ยังหาโอกาสอ่านไม่ได้สักที สงสัยต้องอ่านซะหน่อยแล้ว
“รางวัลอะไรนะโอม”พี่ต่ายขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าสงสัยเรื่องรางวัล หรือรำคาญที่ผมเรียกอยู่ได้ทั้งที่ก็เห็นว่าคนกำลังอ่านหนังสืออยู่
“ก็รางวัลที่ปีก่อนพี่ต่ายเข้ารอบพระเอกไง ฮ่าๆๆ”ผมเดินไปนั่งข้างๆพี่ต่ายแกล้งเอาข้อศอกถองไปที่แขนพี่ต่ายเบาๆ
พี่ต่ายยิ้มแล้ววางหนังสือลงเอาแขนมาโอบไหล่ผมแทน “แล้วปีนี้พี่เข้ารอบด้วยรึเปล่า?”
“อื้อ...จะเข้าได้ไงของเรามันปีเก่าแล้ว ตอนนี้เค้ามีแต่พระเอกหนุ่มๆหล่อๆ น่ารักๆ อ่อมีกวนๆก็มี ที่เข้ารอบกันมา” ปีนี้หลากสไตล์จริงๆครับพระเอกที่เข้ารอบ แต่ผมก็อ่านไม่ครบทุกเรื่องอยู่ดี
“แล้ว..โอมเลือกใครล่ะ”พี่ต่ายหอมแก้มผมหลังจากถาม
“ก็ยังไม่เลือกเลย ..คิดดูก่อน” ยังไม่อยากรีบตัดสินใจครับ แต่ถึงปีนี้จะเลือกใคร พี่ต่ายก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจผมเสมออยู่แล้ว
“แล้วไม่อ่านนิยายต่อแล้วเหรอ...”พี่ต่ายเห็นผมมานั่งกระแซะพี่ต่ายไม่ไปหมกมุ่นกับคอมเหมือนเคย
“พอแล้ว..มานั่งกับพี่ดีกว่า”อารมณ์อยากอ้อนนะครับ
“พี่ต่ายอ่านหนังสือต่อก็ได้นะ เดี๋ยวโอมดูทีวี”
พี่ต่ายส่ายหน้า “ไม่อ่านแล้ว มานั่งคุยกัน” อ้อมแขนของพี่ต่ายบีบผมแน่นผมเอียงหัวลงไปซบที่ไหล่พี่ต่าย ได้ยินเสียงทีวีค่อยลง อากาศจากภายนอกกำลังเย็นสบายดูเหมือนฝนจะตกพรำๆจนผมเริ่มหนาว
“โอมหนาวเหรอ”พี่ต่ายเห็นผมกอดอกเลยลูบๆแขนผม กลับยิ่งทำให้ผมขนลุกไปกันใหญ่
“ทีแรกหนาวไม่มาก แต่ตอนนี้ขนลุกเพราะพี่มาลูบแขนผมนี่แหละ ฮ่าๆ” พี่ต่ายก้มหน้าลงมาหอมแก้มผมอีกครั้ง
“หนาวได้ยังไงพี่กอดอยู่ทั้งคน หืม”เสียงพี่ต่ายอ่อนโยนจนผมอบอุ่นในหัวใจ เราใช้ชีวิตแบบนี้มาด้วยกันปีกว่าแล้วหลังจากพี่ต่ายกลับมาจากสิงค์โปร์ ชีวิตผมมันดีจนผมกลัวๆว่าวันนึงความสุขมันจะไม่ยั่งยืน
“พี่ต่าย...พี่จะรักผมไปอีกนานแค่ไหนครับ”ผมว่าผมรู้ใจตัวเองว่าคงไม่หมดรักพี่ต่ายไปง่ายๆ แต่พี่ต่ายเจอคนมากมายไม่รู้ว่าจะมีคนไหนมาทำให้เปลี่ยนใจรึเปล่า
“รักไปอีกนานแค่ไหนเหรอ...พี่จะรู้ได้ยังไงล่ะ” พี่ต่ายทำเสียงลังเล
ผมขยับตัวลุกขึ้นทันทีทำหน้างอ “แสดงว่าพี่ต่ายไม่แน่ใจตัวเองเลยซิ” เค้าก็คงไม่อยากรับปากเราเพราะกลัวจะเสียคำพูด
“ใช่....พี่ไม่แน่ใจ” ฮือๆ พี่ต่ายทำไมพูดตรงแบบนี้ไม่รู้เลยว่ามันทำร้ายจิตใจคนฟังอย่างผม ผมหมดอารมณ์อ้อนลุกขึ้นหนีเข้าห้องดีกว่า น้อยใจจริงๆ
พี่ต่ายตะโกนถามผมแต่ก็ไม่เดินตามมา “โอมจะไปไหนครับ?”
“ไปนอนแล้ว...เซ็งเป็ด” พี่ต่ายก็คงไม่รู้ว่าผมงอนอีกตามเคย ขนาดคบกันมานานขนาดนี้ ผมก็คงต้องทนกล้ำกลืนความเสียใจแล้วก็รอวันเวลาที่บาดแผลจะได้รักษาตัวมันเองให้หายดี คงจะหวังให้พี่ต่ายมารับรู้ได้ยาก
ผมนอนหลับไปแล้วนานแค่ไหนไม่รู้ แต่ตอนที่พี่ต่ายเข้าห้องมาผมก็ไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่โดนกอดจากพี่ต่าย ผมเบี่ยงตัวหนีอ้อมแขนพี่ต่าย ถึงแม้จะนอนไปแล้วแต่อารมณ์งอนยังอยู่ครับยังไม่ลืม
เสียงพี่ต่ายแหย่ผมฟังดูมีความสุขจริงๆ “เอ๋..โอมโกรธอะไรพี่นะ?”
พี่ต่ายยังไม่ยอมปล่อยผมเอามือเกาะไหล่ไว้ ฝ่ามือพี่ต่ายลูบไปมาทำเอาผมขนลุกได้อีกครั้ง “อ๋อ..หึหึ..โอมนี่กี่ปีก็ไม่เปลี่ยนนะแสนงอน”
“อย่ามาว่าผมนะ”ก็รู้ว่างอนเก่งจริงๆ แต่พี่ต่ายอย่ามาว่าผมด้วยเพราะผมงอนมันก็ไม่มีผลกับพี่ต่ายอยู่แล้วนี่
“ไม่ได้ว่า...ก็แสนงอนก็ไม่เป็นไร” พูดมาแบบนี้ก็แน่ล่ะซิ ก็พี่ต่ายไม่แคร์อยู่แล้วนี่ เหอะๆ
“ให้ร้ายกว่านี้ ยังไงพี่ก็รัก” พี่ต่ายกดจมูกลงมาที่ซอกคอผม แล้วซุกไซ้ไปมาที่หลังหูผม ทำเอาผมแทบอยู่เฉยๆไม่ไหว หัวใจมันเต้นโครมครามอย่างกับมีคนมาเล่นคอนเสิร์ทในใจ แต่ก็ยังไม่วายทำเป็นดิ้นพอเป็นพิธี
“อื้อ..ไม่เอานะ”
“เอาเหอะน่า..”
“ไม่เอาน่า..” ชักคุ้นๆเหมือนเพลงที่ป๋ากับแม่ชอบฟังเลย
“อีกนิดน่า..” เอ่อเริ่มต่อต้านไม่ไหวแล้วครับ มือไม้นัวเนียไปทั่วแบบนี้ แต่ยังโกรธอยู่นี่นาลืมไป
“อื้อ...พี่ต่าย...อย่ามาทำเป็นรักผมเลย เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่แน่ใจว่าจะรักไปนานแค่ไหน” พี่ต่ายยังคงไม่ยอมพูดปฏิบัตรการต่ออย่างไม่สนใจคำพูดใดๆ ผมขยับตัวหนีพี่ต่างก็รั้งเอวผมกลับมาให้ชิดตัวพี่ต่าย
“ที่พี่บอกว่า....พี่ไม่แน่ใจ..”
พี่ต่ายค่อยๆพลิกตัวผมให้หันหน้ามาหาพี่ต่าย จนหน้าของเราตรงกัน แววตาของพี่ต่ายที่มองมาส่งแววหวานกรุ้มกริ่มเหมือนเคย ทำเอาผมใจสั่นขนาดมองตากันมานานแล้วก็ยังเขินเสียทุกครั้งไป
“ก็เพราะว่า..”พี่ต่ายสัมผัสปากผมเบาๆแตะแล้วปล่อย นิ้วพี่ต่ายลูบริมฝีปากผมเบาๆ สายตาผมเองก็จับอยู่ที่ปากพี่ต่าย
“เพราะว่าถ้าคนเราไม่รู้วันตาย...พี่ก็ไม่รู้ว่าวันไหนพี่จะหมดรักโอม เพราะพี่คงรักโอมไปจนถึงวันนั้น” ผมไม่รู้ว่าเมื่อพี่ต่ายพูดจบทำไมน้ำตาผมมันไหล คนอื่นอาจจะคิดว่าคำพูดของพี่ต่ายมันน้ำเน่า แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังชอบฟังคำพูดน้ำเน่าจากปากคนรักเราเสมอไม่ใช่เหรอ ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้นด้วย
พี่ต่ายส่งยิ้มเอ็นดูมาให้ผม “พี่อาจจะไม่ได้พูดทุกวันว่าพี่รักโอม แต่พี่ขอใช้การกระทำของพี่เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันนะครับ” พี่ต่ายจูบผมที่เปลือกตาเบาๆ ผมขยับซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดพี่ต่าย แล้วบอกตัวเองว่าผมจะไม่ถามหาความรักของพี่ต่ายต่อไป เพราะผมมั่นใจว่าผมจะได้รับจากพี่ต่ายอยู่แล้ว
“แต่ตอนนี้เรามาต่อกันดีกว่านะ อย่าให้มันค้างคาเลย” ฮือๆ พี่ต่ายยังไม่ลืมจริงๆด้วย ผมกับพี่ต่ายเลยต้องร้องเพลงนี้กันต่อไป
“ไม่เอาน่า..”
“อีกนิดน่า..”
“บอกว่าไม่เอาน่า..”
“ก็มันรอไม่ไหวแล้วน่า...”
กำลังจะทำหนังสือค่ะ ใครสนใจให้PMมาแล้วจะแจ้งอีเมลล์ให้อีกครั้ง รีบๆจองนะจะปิดการจองแล้วค่ะ 
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
