ดีใจจังเลย :m13:ยังมีคนคิดถึงเพื่อนเก่าๆด้วย
ภาคนี้อาจจะไม่ยาวนะค่ะ ก็อย่างที่บอกเล่าสู่กันฟังพอหายคิดถึง
แล้วก็อาจไม่ได้มาลงทุกวัน แต่ก็คงไม่นานมากค่ะ
ไว้ลงเสร็จแล้วว่างๆมาคุยกันค่ะ แต่ต้องรีบลงก่อนคอมจะแกล้งทำพิษ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันเวลาของการทำงานผ่านไปอย่างยากลำบากพอควรสำหรับผมครับ จนย่างเข้าเดือนพฤษภาคม ที่จริงมันก็มีเวลาแบบนี้ทุกปีที่เรานักบัญชีต้องปิดบัญชีกัน ทุกอย่างต้องเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ครับก็เหนื่อยหน่อยครับแต่ก็ต้องทำ เหนื่อยกันบ่นกันทุกปีแต่มันก็ผ่านไปได้ทุกที
แต่ปีนี้ผมรู้สึกว่าผมทุรนทุรายกว่าปีก่อนๆ เพราะผมต้องห่างจากพี่ต่ายนานเลย ครับ ผมจำได้ว่าช่วงปีที่พี่ต่ายหายไปอยู่สิงค์โปร์ ผมรู้สึกว่าผมมีสมาธิกับการทำงานมากกว่านี้ แล้วเหมือนปีก่อนผมจะทำงานเสร็จเร็วก่อนกำหนดด้วยซ้ำไป แต่นี่ผมไม่ได้เจอพี่ต่ายมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มีนา เมษา พฤษภา ไม่น่าเชื่อเลยเกือบ4เดือนแล้ว ผมทนอยู่ได้ยังไงเนี่ย พี่ต่ายก็ใจดำไม่มีโทรหาผมเลย
ปีนี้ผมให้เวลากับความรักมากไปหน่อย จนเหมือนกับงานการจะเสียไปด้วยซ้ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ตองโทษที่ตัวผมเองมากกว่า ทั้งที่เมื่อก่อนพี่ต่ายก็พูดเสมอๆว่าจะมาช่วยผมทำงาน แต่ผมก็อวดเก่งบอกว่าจะทำเองไปซะทุกครั้งไป
แต่ตอนนี้ต้องการผู้ช่วยมากเลยครับ คิดแล้วก็ตัดใจทำหน้ามึนโทรไปหาพี่ต่ายหน่อยดีกว่า ศักดิ์ศรีที่มีมากมายก็กองไว้ซุกไว้ที่ไหนก็ได้ก่อน ตัดสินใจทำเป็นเนียนเหมือนไม่เคยโกรธกันมาก่อน โทรก็โทรว่ะ ยกนาฬิกาขึ้นมาดูเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อตัดสินใจที่จะโทรไป เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายตู๊ดเลยครับ กว่าพี่ต่ายจะมารับสายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรงเชียวสงสัยจะหลับอยู่ด้วยความเพลีย ทำอะไรอยู่ว้า
“สวัสดีครับ” พูดเพราะเชียวพี่ต่ายของผม
“สวัสดีครับ”ผมตอบไปแค่นี้เพราะไม่ได้คุยกันนานจนอยู่ๆมันก็ตื้นตัน ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกันผมงี่เง่ากับพี่ต่ายไปเยอะ เริ่มสำนึกผิดปนละอาย แต่ก็แป๊ปเดียวครับ ความมึนก็กลับคืนสู่ปรกติ
“โอมเหรอ.....”พี่ต่ายเงียบไป ผมแอบดีใจที่อย่างน้อยพี่ต่ายก็จำเสียงผมได้
“ครับ...เหนื่อยไม๊พี่...งานเสร็จรึยังครับ”ผมเก็บคำหวานๆไว้ในใจถ่ายทอดความห่วงใยลงไปในน้ำเสียงเต็มที่ กำลังจะพูดต่อเรื่องงานที่อยากให้มาช่วยพี่ต่ายก็สวนขึ้นมาว่า
“พี่คิดถึงโอมนะ.....จริงๆ” พอพี่ต่ายพูดแบบนี้ ผมก็น้ำตาซึมไม่รู้ตัว แต่พยายามสะกดเสียงควบคุมอารมณ์ให้คุยกับพี่ต่ายได้ตามปรกติ
“ผมก็คิดถึงพี่....พี่ไม่โทรมาหาผมเลย” o7ผมอดที่จะตัดพ้อพี่ต่ายไม่ได้ ทั้งที่รู้มาตลอดว่าพี่ต่ายให้ความสำคัญกับงานมากๆและเสมอๆ งานมาก่อนตลอด
“พี่ขอโทษนะโอม แล้วโอมเหนื่อยมากไม๊ครับ”เสียงที่เป็นห่วงเป็นใยของพี่ต่ายทำเอาผมซึ้งจนน้ำตาจะไหลอีก พี่จะบิลด์อารมณ์ผมไปถึงไหนพี่ ยังครับมีต่ออีก
“แล้วโอมรู้ใช่ไม๊???....ว่าพี่คิดถึง”
ผมเผลออมยิ้มแล้วก็พยักหน้าหลายหน แต่พอนึกได้ก็ขำตัวเองว่าพยักหน้าแล้วเค้าจะเห็นได้ไงล่ะไอ้โอมเอ๊ยต๊องอีกแล้ว
“ครับ”
พูดไปได้แค่นี้เอง แล้วก็ได้แต่เอานิ้วปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอีก ผมอ่อนแอเสมอกับเรื่องของพี่ต่าย จะพูดมากกว่านี้ก็กลัวจะโดนจับได้ว่าร้องไห้เพราะเสียงสั่น เอามาให้ผมเลยตุ๊กตาทองบทนายเอกเจ้าน้ำตา
“โอมใช้สมอลทอร์ครึเปล่า....โทรหาพี่น่ะ”พี่ต่ายรู้ว่าผมชอบใช้มือถือโทรหา ทั้งที่พี่ต่ายไม่ค่อยชอบเพราะคุยไปนานๆผมชอบบ่นว่าร้อนหูมั่ง ปวดหัวมั่ง จนพี่ต่ายเป็นห่วงกลัวว่าผมจะเป็นมะเร็งเหมือนที่คนชอบพูดกันว่าใช้โทรศัพท์มือถือมากๆจะเป็น
“ใช้แล้วครับพี่ต่าย”ผมรีบไปเอาหูฟังมาเสียบแล้วเดินไปนอนคุยกะพี่ต่ายดีกว่า
“โอมยกแขนขึ้นมานะระดับตัว....ทำตามที่พี่บอกนะ”ผมทำตามที่พี่ต่ายบอกด้วยอาการงงๆ นี่พี่ต่ายจะให้ผมทำอะไรกันแน่ มีงงๆๆ
“ยกทำไมพี่...แต่ยกแล้วล่ะ”หุหุ ก็ผมมันคนเชื่อคนง่ายนี่ครับทำไงได้ แฟนสั่งอะไรก็ต้องทำตามซิ หรือว่าจะให้ทำกายบริหารแก้เครียด
“คราวนี้โอมเอามือกอดอกนะ กอดแน่นๆเลย.....ทำรึยังครับ”ผมทำตามที่พี่ต่าย บอกมันก็อุ่นๆดีครับ แต่ก็งงๆว่าพี่ต่ายจะให้ผมเล่นอะไรเนี่ย เสียงพี่ต่ายยังคงพูดต่อไป
“โอมอุ่นไม๊ครับ....พี่กำลังกอดโอมอยู่นะ....รู้ไม๊”
หูยยยย...พี่ต่าย.....จะมามุขนี้ก็ไม่บอกทำเอาเขินไม่ทันเลย ไม่ทันตั้งตัวแต่ผมก็อดยิ้มเขินๆไม่ได้ ผมหลับตาจินตนาการเอาว่าพี่ต่ายกอดผมอยู่ มันอุ่นจริงๆครับอ้อมกอดของพี่ต่าย นี่ผมคงเพี้ยนไปแล้ว แอบคิดว่าใครอย่ามาเห็นผมตอนนี้นะ คงคิดว่าผมบ้าไปแล้ว
“ต่อไปโอมเอามือจับแก้มนะครับ ให้คิดว่าพี่เป็นคนจับหน้าโอม มองโอมอยู่ตรงหน้า เห็นพี่ไม๊ครับ”ผมยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองตามที่พี่ต่ายบอก จินตนาการตามที่พี่ต่ายบอก แล้วก็ตอบพี่ต่ายไปเหมือนคนละเมอ
“เห็นครับ”ผมรู้สึกเหมือนน้ำตาไหลลงมาโดนมือผมเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าผมอยู่อารมณ์ไหนกันแน่ เสียใจ ดีใจ คิดถึง มันปนเปกันไปหมด (หรืออารมณ์ว่าแฟนกรูไปซะล่ะ ก็ไม่รู้ 55555+ หรือว่าความห่างไกลทำให้เพี้ยน
)
“ถ้าโอมกดมือลงเบาๆพี่หอมแก้มโอมอยู่นะครับ”เสียงนุ่มๆของพี่ต่ายยังคงพูดต่อไป เหมือนมีคนมาเปิดเพลงบรรเลงซึ้งๆให้ผมฟังเลยครับ ผมเลยอินไปกับทุกอย่างที่พี่ต่ายให้ผมทำ จนวูบนึงผมคิดว่านี่ผมไม่บ้าพี่ต่ายก็เมาล่ะว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
“โอม...กัดริมฝีปากตัวเองหน่อยครับเบาๆ....เน้นๆนะ” ผมเริ่มทำอย่างที่พี่ต่ายบอกแถมด้วยการเลียริมฝีปากตัวเองไปด้วย
“พี่ขอจูบโอมนะครับ”ผมทั้งซึ้งทั้งขำ ว่าที่เราทำอยู่นี่เรียกว่าเซ็กซ์โฟน คลื่นเหงา หนุ่มไกลบ้าน รึเปล่า แต่มันก็รู้สึกดีจริงๆ ผมว่าพี่ต่ายเริ่มทำเกินไปแล้ว(ก็ตัวผมเองน่ะแหล่ะฮ่าๆๆๆๆ)ตอนนี้มือผมเริ่มลูบเข้าไปในเสื้อของตัวเองลูบไปตามตัว จนมือไปสัมผัสกับหัวนม ผมเอามือลูบไล้ผ่านไปไวๆ มันทักทายกับมือผมด้วยการแข็งขึ้นมาเป็นไต ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆกับอารมณ์ตัวเอง มันหนาวๆร้อนๆอย่างบอกไม่ถูก ขนแขนลุกโดยไม่รู้ตัว
“โอมครับ...ทำไมเงียบไป”เสียงกระซิบที่ริมหูผมยิ่งทำให้ผมรู้สึกโหยหาพี่ต่าย
“มือพี่ต่ายกำลังอยู่บนตัวผมนะครับ ผมคิดถึงพี่ต่ายจัง”พอพูดออกไปแล้วผมเองกลับรู้สึกอาย พี่ต่ายจะคิดว่าผมเป็นคนยังไงกันแน่ หรือว่าขั้นนี้แล้วคำว่าอายก็โยนมันทิ้งไปซะ มือผมก็เลื้อยไปเรื่อยๆครับไม่หยุด
“พี่ก็คิดถึงโอม....”ผมว่าพี่ต่ายเสียงสั่นๆยังไงไม่รู้ หรือว่าเริ่มอารมณ์เดียวกันหว่า เหอๆๆ
“พี่ต่ายทำอะไรอยู่ครับ”ผมแอบทำเสียงออดอ้อน ใส่จริตไปเล็กน้อยหุหุ เอาแล้วซิมารยาชายเริ่มสิงสู่ตัวผม
“ก็กำลังกอดโอม จูบโอมไงครับ กำลังช่วยโอมด้วย”
เจ้ยยยย!!!ไม่พูดธรรมดาครับใส่เอฟเฟคเสียงเอ็คโค...โซปราโน...โอเปร่าด้วยครับมีกระเส่าเล็กน้อย คงไม่ต้องมาถามแล้วครับว่าพี่ทำอะไร จะทำอะไรก็ไม่ปรึกษาเลยจะได้ร่วมด้วยช่วยกัน
ชักสงสัยพี่ช่วยผมหรือช่วยลูกชายพี่กันแน่ พี่ช่วยลูกพี่งั้นลูกผมล่ะใครจะดูแลมัน ผมก็ต้องช่วยมันด้วยซิ เอิกซ์ซซซซซซซซ คืนนี้คงไม่ต้องบรรยายละครับสบายไปทั้งพ่อทั้งลูกทั้งพี่ต่ายทั้งผม กว่าเราจะวางหูแยกย้ายกันไปนอนก็แทบแย่ครับหมดแรงงงงงงไปเลยยยย หุหุหุ ผมเลยลืมเรื่องขอตัวช่วยมาทำงานไปหมดเลยครับ ดันได้ตัวช่วยอย่างอื่นมาแทน เหอๆๆๆๆวัตถุประสงค์ผมผิดเพี้ยนไปจนได้ซิน่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้โทรไปหาพี่ต่ายอีกครับกลัวใจตัวเอง เล่นแบบนี้บ่อยๆไม่ไหวครับมันเขิน ใจนึงก็คิดว่าพี่ต่ายไปเอาวิธีแบบนี้มาจากไหนกันเนี่ย หรือเคยใช้บริการฮอตไลน์สายด่วนชวนหวิว ก็มันนานนะครับที่ไม่ได้เจอกันผมก็ไม่รู้ว่าพี่ต่ายไประบายอารมณ์กับใครที่ไหนหรือเปล่า แต่ผมว่่าคงไม่มีเวลาไปแตกแถวที่ไหนหรอกครับทำงานหัวฟูอยู่ออฟฟิซมากกว่า เหมือนผมเลยตอนนี้ต้องตนเป็นที่พึ่งของตนก่อนครับ
อีก2 อาทิตย์จะถึงเดดไลน์แล้วครับแต่บัญชีลูกค้าที่เอามาให้ผมตรวจยังไม่เสร็จเลยอีก 2งบ ผมอยากจะบร้าตายมันทำจะไม่ทันแล้วครับ ผมต้องตรวจให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้จะทำยังไงดี ช่วงนี้ผมนอนตี1ทุกวัน เช้าก็ต้องตื่นมาเปิดร้าน เหนื่อยจริงๆครับแสงเดือน แสงตะวันไม่มีได้เห็น อยู่แต่ในบ้าน เหนื่อยจนเหมือนแบกอะไรไว้บนบ่าไหล่มันตึงไปหมดเลยครับ ใครว่าทำงานนั่งโต๊ะสบายผมว่าใช้สมองมากๆนี่ก็ทำให้เราหมดแรงได้ง่ายๆเหมือนกันนะครับ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นควายน้อยไถนา เพื่อให้ได้ผลผลิตเป็นข้าวราคาแพง
ผมนั่งทำงานจนปวดคอไปหมด พอเงยหน้าดูนาฬิกาก็ต้องตกใจ นี่มัน5ทุ่มแล้วนี่ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย มิน่ามันรำคาญตัวยังไงไม่รู้ เหนียวๆตัวบอกไม่ถูก ผมเลยลุกไปอาบน้ำกะว่าอาบเสร็จมานั่งทำงานต่ออีกสักพักนึงแล้วค่อยนอน เครื่องกำลังติดแล้วไฟก็ลนก้นจนนอนเร็วๆไม่ได้อีกแล้ว ผมใช้เวลาในการอาบไม่นานเพราะต้องรีบออกมาทำงาน พอออกมาก็ต้องตกใจ ก็พี่ต่ายมานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของผมน่ะซิ
“พี่ต่ายมาได้ยังไงพี่ ผมตกใจนะเนี่ยมาเงียบๆ” :sad5:พี่ต่ายหันหน้ามามองผม แสงไฟจากโคมที่โต๊ะส่งใบหน้าพี่ต่ายอย่างชัดเจน รอยยิ้มที่คุ้นตาที่ผมไม่ได้เห็นมากว่า4 เดือน คิดถึงจังครับ ผมเดินแบบงงๆเข้าไปหาพี่ต่าย ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยยังคงนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอยู่ พี่ต่ายไม่ได้ลุกขึ้นครับยังคงนั่งอยู่กับที่ นั่งมองผมยิ้มๆ
พี่ต่ายก็ยังคงหล่อดูดีเหมือนเดิมในสายตาผมไม่เคยเปลี่ยน “มาให้พี่กอดหน่อยครับโอม”
พี่ต่ายยื่นมือมาหาผม ผมก็เดินเข้าสู่อ้อมแขนนั้นด้วยความเต็มใจ พี่ต่ายโอบเอวผมไว้แน่น หน้าพี่ต่ายคลอเคลียอยู่ที่หน้าอกผม แล้วพี่ต่ายก็ยืนไล่จูบผมขึ้นไปเรื่อยๆจากยอดอก ไหปลาร้า ซอกคอ ติ่งหู จนยืนขึ้นมาผมก็มัวแต่เคลิ้มไม่ทันได้ตั้งตัว
“อืมมม....โอ๊ะ....พี่ต่าย” ผมยังไม่ทันพูดอะไรเมื่อพี่ต่ายบดริมฝีปากหนักหน่วงมาใส่ผม จูบรุนแรงของพี่ต่ายทำเอาผมเคลิ้มมือผมโอบรอบคอพี่ต่ายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เท้าพี่ต่ายพาผมเดินไปที่เตียงอย่างทุลักทุเล มือผมช่วยพี่ต่ายถอดเสื้อออกไอ้เรื่องแบบนี้ไม่ต้องมีใครมาสอนครับ ไม่ต้องมีใครมาสั่งด้วย ไม่ต้องมองตากันก็ยังรู้ใจเลย ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป
ผมว่าลมมันเย็นๆยังไงไม่รู้ กว่าจะรู้สาเหตุก็เมื่อหลังแตะเีตียงนอนไปแล้วครับ หางตาเหลือบไปเห็นผ้าเช็ดตัววางกองอยู่บนพื้น ออกจะคุ้นๆว่าของใครหว่า ทำไมวางของไม่เป็นที่เป็นทางเลย แต่พอมือพี่ต่ายคว้าหมับเข้าที่น้องชายผม ผมก็รู้ทันทีว่าผ้าของผมเอง ฮ่าๆๆๆๆ มันหลุดไปตอนไหนหว่า ช่างรู้งานดีจริงๆเลย
พี่ต่ายพูดเสียงกระซิบข้างหูผมเบาๆ “นานเท่าไหร่แล้วโอมที่ไม่ได้ทำแบบนี้.....พี่คิดถึงมันจนทนแทบไม่ไหว” มัน...ไหนอ่ะพี่ ผมถามพี่ต่ายในใจ แต่ก็รู้คำตอบแทบจะทันทีเมื่อพี่ต่ายเริ่มขยับมือเบาๆที่น้องชายผม อ๋อ...มัน....นั่นเองทักทายพี่ต่ายใหญ่เลยนะ ไม่ได้เกรงใจผมเลย เอิกซ์ซซซซซซ ผมแทบจะขาดใจ
ก็เลยไปทักทาย...มัน.....ของพี่ต่ายมั่งท่าทางมันจะกินเก่งครับรู้สึกเหมือนจะอ้วนกว่าเก่า หรือว่ามันดีใจที่ผมไปทักมันมันเลยเบ่งใหญ่ ก๊ากกกกก อึ๋ยยย.... ผมว่าท่าทางมันไม่ค่อยอยากจะอยู่ในมือผมเท่าไหร่ เพราะพี่ต่ายเริ่มส่ายเอวไปมาเหมือนจะดิ้นรนไปที่อื่น ผมว่าคืนนี้ผมคงไม่ได้ทำงานโต้รุ่งแล้วครับ อาจจะได้ทำอย่างอื่นแทน ก็ตามประสาคนไม่เจอกันมานานน่ะครับ คงต้องรื้อฟื้นบทเรียนกันหน่อย ท่าทางพี่จะสอนพี่ น้องจะสอนน้องซะล่ะมาก พี่ต่ายเริ่มรุกรานผมไปทั่วตัวแล้วละครับยกนู่นลูบนี่นั่นไปหมด ผมก็ได้แต่เปล่งเสียงตอบรับว่าอือ..ออๆ..เออๆ...yes no ok.ไปเรื่อย
“พี่ต่ายครับ.........ไปกันเหอะนะเลิกตรวจร่างกายผมซะที....อืมมมม.....”
“ครับโอม......” เป็นอีกครั้งนึงครับที่ผมเรียกร้องก่อนก็มันไม่ไหวแล้วจริงๆนี่ครับ จะว่าผมหื่นก็ยอม ก็มือพี่ต่ายมันทำให้ผมขนลุกเกรียวไปหมดแล้วครับ ตอนนี้บัญชงบัญชีไม่สนแล้วครับบบบ.....เง้อ
**************************************
แบบว่า...เอ่อ....วิ่งหนีไปด้วยความอายยย