โอมก็รั่ว คนเขียนก็รั่ว คนอ่านก็รั่วไม๊
*************************************
ก็ตกใจกันไปซิครับสะดุ้งเป็นตลกคาเฟ่ทั้งสองคน อันที่จริงออกจะเสียมารยาทสำหรับสุภาพสตรีไปหน่อยที่อยู่ดีๆมีผู้ชายหน้าตาน่ารักที่ไหนไม่รู้โผล่เข้ามาระยะประชิด แต่เมื่อเหตุการณ์มันเฉพาะหน้าขนาดนี้ สมบัติผู้ดีมารยาทที่ได้อบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กให้สุภาพต่อผู้หญิงก็ส่งกลับครูบาอาจารย์ไปหมดแล้วครับ ผมก็กะว่าเอาหน้าตาดีๆของผมลดความน่าเกลียดของนิสัยเลวๆไปซะบ้าง
“โอมนั่นเอง...พี่ตกใจหมดเลย...แล้วนี่ดูซิทำน้องเดือนเค้าตกใจไปด้วยเลย”
อ๋อ......ชื่อเดือนหวานซะ แล้วแม่เดือนนี่หันหน้ามามองผม ถึงคราวผมกระตุกบ้างครับ ก็ผมอดตกตะลึงในความน่ารักไม่ได้ครับก็หน้าใกล้กันซะขนาดนั้น สาวน้อยตาโตผิวคล้ำนิดหน่อย ที่เค้าเรียกกันว่าผิวสีน้ำผึ้งเป็นแบบนี้ใ่ช่ไม๊นะ
น้องเดือนเปิดรอยยิ้มขบขันโชว์ฟันซี่เล็กๆขาวเรียงเป็นระเบียบ เห็นลักยิ้มที่แก้มข้างขวาด้วย น่าร๊ากกกกจังเลยน้องเดือนนนนน
เสียงผมเข้าสู่โหมดพระเอกทันทีครับ พูดนุ่มๆหน่อยโอมผมบอกตัวเองว่าผู้หญิงนะ......น้องเค้าเป็นผู้หญิง
“เอ่อ.....ขอโทษษษ....ครับน้องเดือน ผมไม่ทันคิด
ตั้งใจกะจะแกล้งพี่ต่ายเฉยๆ...ลืมไปเลยว่ามีผู้หญิงอยู่ด้วย”
ผมนั่งแปะลงไปข้างหลังทั้งสองคนเลยครับ น้องเดือนเอามือปิดปากหัวเราะเบาๆ
“คิกๆๆๆ พี่โอมช่างเล่นอย่างนี้นี่เอง ไม่เป็นไรค่ะ เดือนแค่ไม่ทันตั้งตัวเท่านั้นเอง” เสียงน่ารักมากครับเหมือนเสียงนางเอกแบบบัวชมพู ฟอร์ดเลยยยย
“นี่โอม......น้องที่มากับพี่ครับน้องเดือน โอมนี่น้องเดือนเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ที่เราอยู่นี่แหล่ะ”ผมพยักหน้าหงึกหงักส่งยิ้มให้น้องเดือนอีกครั้ง
“สวัสดีเป็นทางการอีกครั้งครับน้องเดือน”
ผมยังคงเก๊กเสียงหล่ออย่างต่อเนื่อง น้องเดือนหน้าแดงเลยครับ
เห็นเส้นเลือดสูบฉีดบนแก้มใสๆ ก็หน้าผมยังใกล้กับน้องเค้าขนาดนั้น
แล้วโดยไม่คาดคิดครับพี่ต่ายเอามือมาดึงไหล่ผมออกห่าง ผมไม่ทันตั้งตัวแทบจะหงายหลังต้องรีบเอามือยันพื้นไว้ ผมหันไปมองหน้าพี่ต่ายว่ามาขัดผมทำไมเนี่ย
แต่พี่ต่ายหน้าดุมากครับอารมณ์ไหนกันแน่เมื่อกี้ยังหน้าระรื่นอยู่เลย
“พี่ว่าเราไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่าไ๊ม๊โอม อย่าไปกวนน้องเดือนเลย”พี่ต่ายมาทำตาดุใส่ผมทำไม แน่ะแล้วก็หันไปยิ้มหวานให้น้องเดือน
“แต่ยังไม่ได้คุยกะน้องเดือนเลยพี่ต่าย”ขอรู้จักอีกนิดไม่ได้เหรอพี่ต่าย น่ารักอ่ะน้องเดือนนนนนค๊าบบบ
“น้องเค้าต้องดูแลบ้าน พี่หิวแล้วด้วย เดี๋ยวค่อยกลับมาคุยใหม่ก็ได้”ผมกำลังจะท้วงว่าผมยังไม่หิวเลย คุยต่ออีกหน่อยก็ได้มั๊ง แต่ก็มีเสียงน้องเดือนแทรกมาว่า
“พี่ต่าย พี่โอมเชิญตามสบายเลยค่ะ แล้วอย่าลืมนั่งเรือชมหิ่งห้อยนะค่ะ บ้านปิดตอนสี่ทุ่ม อย่าลืมกลับมาก่อนเวลานะค่ะ”
ผมเลยพูดไม่ออกเลย ก็น้องเค้าตัดบทให้ไปแบบนี้ ผมก็ได้แต่กินแห้วทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาของหวานเลย ไปก็ได้ว่ะแต่พอหันไปมองหน้าพี่ต่าย......เหี้ยมเชียว :try2:ใครเอาแกมาเล่นบทพิศาลรึเปล่า อารมณ์แปรปรวนแปลกๆ เมื่อกี๊แทบจะจูบปากน้องเดือน ตอนนี้แทบจะตบหน้าผม ปรกติบทตบจูบนี่มันต้องทำกับนางเอกคนเดียวนี่นาไม่ใช่จูบนางเอกแต่ตบตัวประกอบอย่างผม
พี่ต่ายลุกขึ้นยืนแล้วครับแล้วก็มองหน้าผมทำนองว่าต้องให้ใช้กำลังไม๊ถึงจะลุก ผมมองตาก็รู้ใจเลยต้องรีบลุกขึ้นมาเองครับ ได้แต่ส่งยิ้มแหะๆให้พี่ต่าย น้องเดือนก็เลยลุกขึ้นมาด้วย น้องเดือนตัวสูงไล่ๆกับผมเลยครับ หุ่นนางงามชัดๆเลยเหอๆๆๆ
“พี่ไปก่อนนะครับน้องเดือนเดี๋ยวไว้มาคุยใหม่ พี่...”ผมยังพูดไม่จบประโยคครับพี่ต่ายก็ลากผมไปแล้ว ต้องใช้คำว่าลากครับเพราะตัวผมแทบจะถลาตามมือพี่ต่ายเลยทีเดียว
พอเดินมาได้ซักระยะครับ ไกลจากบ้านพอสมควรแล้วพี่ต่ายก็ยังคงเงียบ สงสัยจะหิวเอามากๆ ผมว่าพี่ต่ายก็กินไปไม่น้อยนะตอนกลางวัน ทำไมหิวข้าวไวจัง
“พี่ต่าย...จะรีบไปไหนพี่เพิ่ง6โมงเองหิวมากเหรอ....” โมโหหิวเหรอไม่เคยเป็นมาก่อนนี่นา
“เราจะกินอะไรดีพี่....ทอดมันดีไม๊น่ากินนะ เอ..หรือก๋วยเตี๋ยวผัดไทย...อือไม่เอาดีกว่า...”
เงียบบบบบ...ผมเหมือนคนบ้าพูดอยู่คนเดียว เป่าสากจะดังกว่าไม๊เนี่ย เอาว่ะผมเป็นโรคความดันด้วย มาทำแบบนี้กับผม ผมก็ดันทุรังไปก่อนก็ถ้าหิว ก็บอกกันดีๆก้ได้มาโมโหหิวทำไมพี่ต่าย ผมเลยชวนคุยต่อ
“น้องเดือนเค้าน่ารักดีเนอะพี่ต่าย เค้าอายุเท่าไหร่น่ะพี่ แล้วพี่ต่ายรู้จักเค้ามานานแล้วเหรอ เค้าดูแลบ้านได้ยังไงกันคนเดียว เค้า....” จึ๊กกกกก...
“เอ๊ยยย พี่ต่ายอยู่ดีๆก็หยุดเดินทำไมพี่ ผมเลยเบรคไม่ทันชนเลย เจ็บนะเนี่ย”
ผมลูบหน้าป้อยๆชนซะเต็มแรงเลย ก็พี่ต่ายซิครับอยู่ดีๆก็หยุดเดินเอาดื้อๆ พี่ต่ายยังไม่หันหน้ามาครับ แต่พูดเสียงเข้มๆว่า
“ตกลงไม่ไปกินใช่ไม๊....”เน้นคำว่าไม๊จัง
“จะกลับไปคุยกะน้องเดือนใช่ไม๊” :m16:เน้นได้อีกไอ้คำว่าไม๊เนี่ย เน้นจนเป็นเค้นแล้วพี่ต่ายยย ตกลงเป็นอะไรละเนี่ย ผมชักเริ่มรู้ตัวครับว่าพี่ต่ายงอนอะไรซักอย่าง อยู่กันมาตั้งนานเพิ่งเคยเห็นนี่แหล่ะครับ
พี่ต่ายงอน 5555+
“เปล่านะพี่ต่าย...ก็แค่...แค่...ผมหาเรื่องชวนคุยเฉยๆไม่มีอะไรเลย” ก็น้องเค้าน่ารักนี่นา แค่นั้นเองงงง อันนี้พูดในใจครับ ไม่กล้าพูดดัง---- คำว่ารักต้องพูดเบาๆ ได้ยินไหมต้องพูดเบาๆ----แหะๆๆๆ แค่น่ารักน่าเอ็นดูเท่านั้นเอง
พี่ต่ายหันขวับมาส่งสายตางูจงอางที่มันหวงไข่มาที่ผม ผมสะดุ้งโหยงพอเห็นหน้าชัดๆ o22ผมชักเริ่มจะฉลาดล่ะ อืมมม...ตกลงหวงน้องเดือนจะแอบเก็บไว้เอง หรือว่าหวงผมจะเก็บไว้เองอีกเหมือนกัน ตกลงเป็นไข่ของงูทั้งสองใบ หรือไง ฮ่าๆๆๆๆ พี่ต่ายเอ๊ยตาเฒ่าหัวงู กร๊ากกกกกกก
ผมเริ่มเดินเข้าหาพี่ต่าย กระแซะเข้าไปใกล้ๆหรือเรียกอีกอย่างว่าเอาตัวไปเสียดสี หรือเรียกอีกอย่างว่ายั่ว(โมโห...รึเปล่าไม่รู้ ฮ่าๆๆๆ) เอาสะโพกผมไปสะกิดสะโพกพี่ต่าย เอาแขนที่พี่ต่ายจับอยู่ไปบิดไปมาเป็นเกลียวตีลังกาหน้าสองชั้น เจ้ยยยยยไม่ใช่แค่เอาตัวเข้าไปพัวพันนัวเนีย คือมันไม่มีใครเดินผ่านมาเลยครับ ทางสะดวกมากๆ
“พี่ต่ายผมหิวแล้วด้วย ไปกันเหอะนะครับ”แอบทำเสียงอ้อนนิดหน่อยพอน่าเอ็นดู เปลี่ยนเรื่องที่มันทำให้รำคาญใจไปดีกว่าครับ ไม่มีสัญญาณครับ สงสัยสายหลุด เฉยยยย.....เงียบบบบ....ไม่ได้ผลแฮะ
ผมขยับตัวเดินมาข้างหน้าพี่ต่ายส่งสายตาวิ๊งๆๆให้พี่ต่าย กระพริบตาปริบๆ
แต่พี่ต่ายเบือนหน้าหันไปทางแม่น้ำดูวิวซะงั้น แล้วมันจะมีอะไรมีแต่แม่น้ำ......กรรม
ผมเลยเขย่งเท้าขึ้นจูบพี่ต่ายเบาๆที่แก้ม........เฉยยยยได้อีก นี่ต้องง้อต่อใช่ไม๊ ขอบอก
ผมเลยจับหน้าพี่ต่ายให้เบือนมาตรงๆเอามือประคองไว้ พยายามส่งสายตาแห่งความเว้าวอนส่งไปให้เต็มที่ แล้วก็เหลือบตามองซ้ายขวาหน้าหลัง ทางปลอดโปร่งครับ ผมตัดสินใจจูบพี่ต่าย กัดริมฝีปากแดงจัดของพี่ต่ายเบาๆ พี่ต่ายยังคงไม่ตอบสนองครับ มันเป็นการหมิ่นเชิงชายผมอย่างแท้จริง ผมจะยอมแพ้ได้ยังไงศิษย์พี่มาดูถูกฝีมือศิษย์น้องอย่างผม
ผมยังคงไม่ปล่อยมือจากแก้มพี่ต่าย เอานิ้วโป้งคลึงเบาๆที่แก้ม แล้วเริ่มจูบเน้นๆที่ริมฝีปากพี่ต่ายอีกครั้ง ผมเอาลิ้นดุนดันเข้าไปในปากพี่ต่ายพยายามรุกเร้าพี่ต่ายอย่างหนัก จนในที่สุดพี่ต่ายยอมเปิดปากออกมาแต่พี่ต่ายคงเริ่มรู้สึกอะไรบ้างแล้วครับเพราะแกเริ่มไม่อยู่นิ่ง เอามือมาโอบเอวผมไว้แล้วดึงตัวผมเข้าไปแนบชิดกว่าเดิม พี่ต่ายกอดผมแน่นจนผมแอบคิดว่าถ้ามดมันจะเดินผ่านตรงกลางระหว่างเรามันจะเดินได้ไม๊
พี่ต่ายเปลี่ยนบทบาทจากเป็นผู้รับที่โดนรุกราน มาเป็นผู้รุกแทนผมแล้วครับ ไอ้ที่คิดว่าจะเป็นคนยั่วเย้าพี่ต่าย กลับเป็นผมเองที่เริ่มจะยืนไม่อยู่ เหมือนตัวมันจะชาๆ สั่นๆหวิวๆครับ มือผมเปลี่ยนไปคล้องคอพี่ต่ายไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ มือผมเริ่มลูบที่ท้ายทอยพี่ต่ายไปแล้ว นิ้วมือซุกซนเข้าไปในผมของพี่ต่าย ผมเริ่มเลื่อนลอยไม่รู้ตัวครับ ผมว่าเราคงจะยืนแลกจูบกันอยู่อย่างนั้นอีกนาน
ถ้า....มันไม่มีเสียงที่ทำให้เราต้องหันหน้าไปพร้อมกันก่อนทางแม่น้ำ
ก็หันตามเสียงนี้น่ะครับ “วู้วๆๆๆๆๆ วิ๊ดวิ้ววววววว.....กรี๊ดดดด.....เฮเฮเฮฮฮ....”
คือ เอ่อ....ทางเดินมันไม่มีคนก็จริงครับ แต่เรือนักท่องเที่ยวที่นั่งกันมาเพียบลำเรือนะซิครับ
ถ้าผมตาไม่ฝาดผมว่าผมเห็นแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปแว่บๆด้วย ซวยแล้วซิกรูพยานรักตลาดน้ำอัมพวายกกันมาทั้งลำเลย พวกผมดันมาโชว์จูบให้เค้าดูซะแล้ว ผมว่าเลือดยางอายมันฉีดขึ้นหน้าผมครับมันร้อนวูบวาบไปหมด อย่าได้มีคนเอาไปลงเวปไซท์เชิญชวนมาเที่ยวอัมพวาโดยมีรูปพวกผมเป็นภาพประกอบแล้วกัน คงไม่ต้องมีชิวิตเหลือกันแล้ว
ผมรีบหันหลังให้ฝั่งแม่น้ำทันที แต่พอหันมาก็มาสบตาจ๊ะเอ๋กับสายตาของเด็กผู้หญิงวัยรุ่นสองคนที่แอบอยู่หลังประตูร้านค้าที่ผมว่าผมมองแล้วไม่เห็นใครจริงๆนะ เหอๆๆๆๆ ผมถึงสะดุ้ง :sad5:ในที่สุดผมเลยเป็นคนลากพี่ต่ายที่ยังยืนยิ้มค้างหันมองไปทางแม่น้ำอยู่
“พี่ต่ายไปเร็วจะยืนขายหน้าที่นี่ทำไม...เร็วๆๆๆพี่”
ได้ยินเสียงหัวเราะหึหึของพี่ต่ายเบาๆ ที่ค่อยๆเดินตามผมมา “ก็ใครนะเดี๋ยวนี้ใจกล้าใหญ่ กล้าจูบพี่กลางตลาดเลย....หึหึหึ....ไม่เบาๆๆๆ”
“ก็พี่ต่ายน่ะแหล่ะตัวดีเลย....”ผมพูดไปหน้าก็ยังร้อนผ่าวอยู่จนผมรู้สึกได้ ไม่กล้าหันไปมองคนตัวโตที่ยังคงหัวเราะเหมือนคนมีความสุขเสียเต็มประดา
เราเดินต่อไปเรื่อยๆแวะร้านอาหารนู่นนี่ชิมกันไปเรื่อยครับ ร้านอาหารที่หลากหลายทำให้เรายอมแพ้ ต้องอดที่จะชิมไปเกือบทุกร้านไม่ได้ครับ มีเสื้อยืดสวยๆหลายร้าน ของตกแต่งบ้านเก๋ๆมากมาย แต่นักท่องเที่ยวก็มากครับจนเรากลัวที่จะหลงกัน พี่ต่ายเลยจับมือผมไว้แน่น เราสองคนไม่สนใจใคร ใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันเต็มที่ครับ
จนเกือบทุ่มนึงพี่ต่ายเลยชวนผมไปติดต่อเรือนั่งชมหิ่งห้อย ซึ่งนับว่าเป็นจุดขายของตลาดน้ำอัมพวาสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างนึง เรือที่ให้นั่งมีทั้งเรือเครื่อง และเรือพายครับแล้วแต่ว่าชอบแบบไหน ถ้ามีความสามารถพายเรือได้ผมว่าก็น่าลองดูนะครับ คงโรแมนติคไม่เบา มีแสงหิ่งห้อยวิบวับๆท่ามกลางเราสอง
“พี่ต่าย ผมว่าเอาแบบพายเองดีกว่าไม๊พี่ ไปเรื่อยๆ เงียบๆ สงบๆ....มีเสียงน้ำ...สายลม....”ผมคงจะเพ้อต่อครับถ้าพี่ต่ายไม่แทรกขึ้นมาซะก่อนว่า
“โอมพายเรือเป็นเหรอ..?????” พี่ต่ายทำหน้าฉงนงงงวย
“ไม่เป็น...ใครจะพายเป็น...ผมคนอีสานนะพี่...ก็ให้พี่ต่ายพายไง????”
เหมือนๆพี่ต่ายจะอึ้งๆ ทำเป็นคิดหนัก แล้วพี่ต่ายก็ส่ายหัวครับ ผมละเซ็ง อะไรว้าแค่นี้ก็ขี้เกียจพายเรือให้แฟนนั่ง แล้วพามาทำไมเนี่ย กลัวเสียเปรียบที่ต้องพายคนเดียวรึไงกัน
“พี่ต่ายอ่ะ....แค่นี้ก็ขี้เกียจพาย”ผมหน้างอได้อีก พี่ต่ายไม่ยักกะกลัวผมโกรธหัวเราะร่วนเลยครับ ขำอะไรหนักหนากัน แล้วก็โบกไม้โบกมือใหญ่ อย่ามาแก้ตัวดีกว่า
“พี่ไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่พี่พายเรือไม่เป็นแล้วก็ยังไม่อยากเป็นตำนานรักตลาดน้ำอัมพวา พายไปคงล่มตั้งแต่ยังไปไม่ถึงไหน ฮ่าๆๆๆ”
อ้าวแล้วก็ไม่บอก.....พี่ต่ายนี่ เออ....แต่ผมก็ไม่ได้ถามพี่ต่ายเหมือนกัน สรุปว่าเราก็เลยต้องนั่งเรือเครื่อง ค่าเรือคนละ60บาท เห็นเจ้าหน้าที่ที่ขายบัตรบอกว่าใช้เวลาประมาณ1 ชั่วโมง เรานั่งรอนักท่องเที่ยวคนอื่นอีกประมาณ 15นาทีคนก็ยังมากันไม่มากครับ มีผมสองคนแล้วก็มีคนอื่นอีกประมาณ 5 คน แต่เราก็ขึ้นไปนั่งรอบนเรือแล้วครับ
ผมกับพี่ต่ายนั่งแถวหลังสุด เพราะจะไปนั่งข้างหน้าก็ขึ้นไม่ทันคนอื่น แล้วคนเรือก็มาครับยังหนุ่มๆอยู่เลย ผมว่าอายุก็คงอ่อนกว่าผมไม่กี่ปีหรอก หน้าตาเข้าท่าดีทีเดียวคล้ำนิดๆแต่โดยรวมๆแล้วดูน่าสนใจ(เอ๊ะยังไง....หึหึหึ)แต่เด็กๆแบบนี้จะขับเรือชำนาญเหรอ???ผมชักกลัวๆ ถึงแม้ว่าเราจะใส่เสื้อชูชีพอยู่ก็ตาม
ผมเลยสะกิดพี่ต่าย “พี่ต่ายเค้ายังเด็กอยู่เลยจะไหวเหรอพี่ ขับเรือมืดๆนะ จะอันตรายไม๊”
พี่ต่ายหันไปแอบดูหน้าคนขับเรือครับ แล้วบอกผมว่า “เดี๋ยวพี่สัมภาษณ์เอง ระหว่างรอ ถ้าดูแล้วท่าทางไม่ดีก็เผ่นกัน” ผมเลยพยักหน้าเชื่อฝีปากพี่ต่ายครับ
แล้วพี่ต่ายก็เริ่มรายการสัมภาษณ์ คนค้นคนครับ
“น้องขับเรือมานานแล้วเหรอ”อือดูเนียนดีเหมือนผู้ใหญ่ถามเด็ก
“ก็ขับมานานแล้วครับ
น้า พ่อผมขับเรือผมก็มานั่งด้วย ผมเริ่มขับตั้งแต่15แล้วล่ะน้า”อ้าวไอ้นี่เริ่มกวน มาเรียกพี่ต่ายว่าน้าได้ยังไงออกจะหน้าเด็กขนาดนี้ ชักมีเคือง
“แล้วน้องมีใบอนุญาตขับเรือรึเปล่านี่”ผมเลยอดไม่ได้ต้องถามมั่ง ถามไปแล้วก็ชักสงสัยว่ามันต้องมีไม๊ ก็ขับรถก็ต้องมีใบขับขี่ ขับเรือก็ต้องมีซินะ
“มีซิพี่ แล้วยิ่งทำเป็นธุรกิจท่องเที่ยวแบบนี้ ไม่มีโดนตำรวจจับแย่เลย”เออ...งั้นก็โล่งอกไปเปลาะนึง แต่อย่ามาเรียกผมว่าน้านะ มีโกรธกันเลย
“แล้วน้องขับเรือทุกวันไม๊ เออน้องชื่ออะไรพี่จะได้เรียกชื่อถูก”
อันนี้พี่ต่ายถามครับ พยายามตะล่อมหาข้อมูลเพื่อความมั่นใจในฝีมือคนขับเรือ พร้อมกับย้ำคำว่าพี่ เมิงอย่ามาเรียกกรูว่าน้า ยังไม่อยากแก่ขนาดนั้น ฮ่าๆๆๆๆ
“ผมชื่อทอมครับพี่ เรียกทอมก็ได้” อ๋อ ชื่อทอมเป็นฝรั่งเลยแฮะน้องมอมเอ๊ยน้องทอม หึหึหึ
****************************************************
มานั่งเรือเตรียมตัวกันได้แล้วนะ