Will you be my family?{(น้องครับพี่ขอนับญาติได้มั้ย?)}
บทที่ 12 ความจริงเริ่มปรากฏ
“ไม่”
“...” มึงไม่ต้องมาทำหน้าสงสัย
“ธุระกงการก็ไม่ใช่ทำไมกูต้องทำด้วย”
“ก็แค่คอยสังเกตเวลาน้องสาวผมมาเอง”
“แล้วทำไมต้องเป็นกู”
“พี่สะดวกที่สุดแล้ว”
“ตรงไหนวะ”
“พี่เป็นคนที่ผมรู้จัก”
“มึงรู้จักกับกูคนเดียวเหรอทั้งชีวิตนี้”
“พี่อยู่คณะเศรษฐศาสตร์”
“...”
“คณะที่น้องผมชอบมาบ่อยที่สุด”
เถียงกับมันมาได้ครึ่งทางจนทำให้ผมได้รู้กับความจริงบางอย่าง
ไม่อยากอวดว่าสมองดี แต่กับเรื่องแทนสุรบถผมจำได้หมดทุกรายละเอียดตั้งแต่มันก้าวเข้ามาในชีวิตด้วยยางลบก้อนกระจิ๊ดริดที่หยิบยื่นให้
ไหนจะวันหลังสอบมิดเทอมที่ทำให้กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งด้วยค่าเหล้าพันห้ากับบทเรียนราคาแสนแพงว่าอย่าชวนใครไปเอา(ตังค์)บนห้องง่ายๆ
รวมถึงการถูกเจ้าหนี้ตามมาทวงถึงที่โรงอาหารและการถูกลืมว่าเคยเป็นใครในความทรงจำ
การได้รับประทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อแรกแต่ผมเสือกแดกข้าวไม่ลงเพราะโดนคนทำร้ายจิตใจ
กับฉากจูบใสใสที่แสดงให้พี่โชเห็นแต่เล่นทำผมไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
ไหนจะหนังสืออิ๊งที่มันตื้อผมแทบเป็นแทบตายจนสุดท้ายก็ใจอ่อนยอมยกให้
กับการช่วยเหลือคนเมาในร้านเหล้าพี่ดวกแล้วเสือกตื่นขึ้นมาทำหน้าเหมือนปลวกเสียพรหมจรรย์เล่นเอากูหวาดหวั่นไปถึงขาอ่อน
ไหนจะเรื่องการช่วยเหลือครั้งล่าสุดของมันที่มีผลกระทบต่อจิตใจผมมากที่สุด
แล้วกับเรื่องแค่นี้ทำไมไทม์ชลธีจะไม่เข้าใจล่ะ แต่แทนสุรบถมึงรู้มั้ยว่ากำลังทำให้ใครคนหนึ่งที่คิดเข้าข้างตัวเองอยู่ผิดหวัง เพราะคิดว่าการกระทำทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นการเข้าหาอย่างบริสุทธิ์ใจ เจ็บสัดรัสเซียเลยว่ะ
“ที่แท้ ที่มึงมาเข้าหากู ถามกูบ่อยๆว่าอยู่คณะไหนก็เพราะอย่างนี้เนี่ยนะ” ผมชี้หน้าแบบเสียมารยาทใส่มัน กะจะฟาดฟันกันให้ตายไปข้าง แต่ไม่ทันไรก็มีสัญญาณเหมือนบอกเวลาหมดยกแรกดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“ขอโทษนะคะ” เอาอีกแล้วแม่ง “คือ...ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ” คิดว่าจะไม่มีอีกแล้วนะ ผมหัวเสียจนเกือบจะหันไปเหวี่ยงใส่แต่ทันทีที่ผมเห็นหน้าเธอ โอ้แม่เจ้าโว้ยยย
หลังจากสงกรานต์ผ่านไปคราวนี้ก็ลอยกระทงเหรอ ชีวิตมันช่างเฟ็ดเฟ่อะไรอย่างนี้วะ หัวกระดงหัวกระไดไม่เคยแห้ง กูยกมามี่โป๊ะโกะให้มึงหนึ่งโหลไปเช็ดเลยเอา ผมมองเหยื่อรายล่าสุดที่กำลังจะโดนไอ้แทนสุดหล่อมันหักหน้าเป็นรายถัดไปอย่างนึกสงสาร สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักในชุดไปรเวทเธอจับโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างท่าทางเกรงใจสุดชีวิต ละล้าละลังที่จะยกกล้องขึ้นมาเชะภาพคนหล่อในประวัติศาสตร์แต่ก็ยังใจกล้าที่จะเดินเข้ามาขอ
น้องเข้ามาผิดจังหวะแล้วล่ะ ไอ้นี่มันไม่ยอมเซลฟี่กับใครง่ายๆ ดูอย่างคนสวยจะตายรายก่อนหน้านี้มันยังปฏิเสธอย่างไม่ใยดีเอาซะเลย แล้วกับแค่หน้าตาเหมือนเน็ตไอดอลครีมผิวขาวซิตร้าอย่างน้องมีหรือที่มันจะยอมให้ ผมเสมองไปเห็นริมฝีปากบางเฉียบที่เม้มเข้าหากันอย่างลำบากใจก่อนจะขยับปล่อยคำพูดทีน่าจะฆ่าแฟนคลับนางฟ้าของมันให้ตายคาที่ได้ออกมา
“เออ...ขอโทษครับคือผมไม่...”
“ปะ...เปล่าค่ะ” เธอขัดขึ้นมาได้ทันก่อนที่มันจะปฏิเสธ เล่นเอาผมกับไอ้แทนหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย
“คือ...หมายถึงขอถ่ายพี่ไทม์กับแทนจะได้มั้ยคะ”
เพล้ง!!
รู้สึกเหมือนมีอะไรแตกดังเพล้ง!!
อุ๊บ....ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า กูขำไปถึงชาติหน้าได้มั้ย อย่านึกว่ามึงหล่อคนเดียวแล้วคิดจะทำร้ายจิตใจสาวน้อยสาวใหญ่ใครต่อใครได้นะเว้ย กูไทม์ชลธีมีดีกรีเป็นถึงคนเกือบเดือนนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน หล่อสูสีคู่คี่กับมึงขนาดนี้มีเหรอคนไม่ขอถ่ายรูปได้ ฝันกลางวันว่ะ
“ขำอะไร..พี่ไทม์” ปิดบังความรู้สึกอยากหัวเราะเยาะเสียเต็มประดาได้ไม่มิด ผมเลยนั่งกลั้นขำเหมือนปวดบิดอยู่นาน
“เปล๊า ไม่ได้ขำ” โกหกเสร็จก็หันไปมองทางเด็กที่คาดว่าเป็นปีหนึ่งแล้วยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์เธอมา “มา เดี๋ยวพี่ขอเซลฟี่กับมันหน่อย เก็บไว้เป็นที่ระทึก” ผมรีบย้ายก้นมานั่งข้างไอ้แทนอย่างไวว่องเบียดจนมันกระถดตัวหนีเบี่ยงตัวออกห่างหันหัวมามองทางผมอย่างหวาดๆ
“ที่ระทึก?เนื่องในโอกาสอะไร?”
“ก็เนื่องในโอกาสที่เขาไม่ได้ขอถ่ายมึงคนเดียวไง” ผมยิ้มกวนๆแล้วอ้อมมือไปข้างหลังคว้าไหล่มันที่ขืนตัวไว้ดึงให้กลับมาชิดตัวผม เสร็จแล้วก็บรรจงยกกล้องขึ้นมาหามุมดีดีมุมหล่อของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เอ้า ยิ้มสิครับ กลัวถ่ายออกมาแล้วผมราศีจับกว่าอย่างงั้นเหรอ” ฮ่าฮ่าฮ่าสะใจฉิบหาย ดูหน้ามันดิโคตรเหม็นเบื่อ ขนาดผมฉีกยิ้มจนแทบจะถึงรูหูแล้วมันยังไม่ยิ้มตอบกลับมาซักนิด เลยกระดกคิ้วยั่วโทสะไปอีกหนึ่งยกทำมันตาขวางใส่ผมสุดขั้ว “เอาน่าหยวนๆให้น้องเขาหน่อยเหอะมึง เอานะ หนึ่ง สอง...”
ไม่ทันจะซั่มกันให้มันส์ถึงใจ มือใหญ่ๆก็เล่นไพล่มาจับท้ายทอยฉุดด้านข้างเข้าหาจนผมเสียสมดุลเซไปสัมผัสกับของนุ่มหยุ่นข้างแก้ม...
เชะ!!
เชี่ยกูมือลั่น!!
ที่สำคัญคือภาพนั้นดันเป็นช็อตที่ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน...เออ ตูนั่งอยู่...ล้มทั้งนั่งก็ได้วะ เหยดเข้มึงทำไรกู๊!! ถามไปเหมือนคนโง่รู้อยู่ทนโท่ว่ามันหอมแก้มผม หนึ่งฟอดเต็มๆแถมน้ำลายหมายังเปื้อนข้างแก้ม
“ทำห่าอะไรของมึงวะ!!” ผมรีบหันหัวไปกะด่ามันให้เป็นหมันกันไปข้างแต่แล้ว...
กูยอมเป็นหมันแทนก็ด้ายยยยยย มันยังไม่หันหน้ากลับไปครับ สาดดดดดดดดดด
เชะเชะเชะเชะ!!
เฮ้ยเสียงไรวะ กูไม่ได้กด!! พวกมึงมาถ่ายฟุตบอลพรีเมียร์ลีกข้างสนามหรือไงถึงต้องใช้สปีดซัตเตอร์ขนาดนั้น รัวยิ่งกว่าตอนที่ไอ้แทนโดนถ่ายเดี่ยวอีกครับคุณผู้โช้มมมม ดาราก็ไม่ใช่ถ่ายเอาไปทำซากอ้อยอะไรไม่ทราบ
สติสตังตกอยู่ในภวังค์เพราะกูทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่มาคว้าเอาของที่อยู่ในมือผมไป
น้องซิตร้าครับเธอเอามือถือกลับไปร่วมสมทบกับกองกำลังชุดใหญ่แชะใส่แบบก๊อกรั่ว กดแบบไม่กลัวไอโฟนจะเมมเต็มกันเลยทีเดียว กะเอาไปทำแกลลอรี่งานแสดงภาพถ่ายไทม์แทนคนแมนๆเตะบอลกันหรือเปล่าวะ เฮ้ยกูยังไม่อนุญาต เมิงหยุดดดดด
“น้องพอแล้ว ถ่ายเอาไปทำไรเยอะแยะ”
“เอาไปลงเพจค่ะ” เพจเหี้ยอะไร มึงดูหน้ากูก่อนว่าอนุญาตรึเปล่า แม่งวิ่งหนีไปเลยครับ อึ้งดิครับ อย่าคิดว่าผมจะกระโดดพรวดพราดวิ่งไปลากน้องซิตร้ามาตบหนึ่งฉาดแล้วเอามือถือกลับมา ผมไม่ทำครับ ไม่ใช่ว่าแมนหรืออะไร กูแค่อึ้งเลยยังลุกไม่ขึ้นทำอะไรไม่ถูก
“หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ” เสียงข้างๆมันปรามาสผม
“มึงนั่นแหละเล่นเหี้ยอะไรวะ” หอมแก้มกูเพื่อ!! กลืนท้ายประโยคลงคอไม่อยากตะโกนใส่เพราะอายชาวบ้านอีกหลายสิบชีวิตที่ยังนั่งกินข้าวอยู่ตรงนั้น
“ก็เขาอยากได้รูปคู่ผมกับพี่ เลยเซอร์วิสมุมดีๆให้”
“ใจดีกับแฟนคลับจังนะมึง”
“แล้วทำไมพี่ต้องโวยวายด้วย กลัวเสียคะแนนนิยมเหรอ”
“กูไม่แคร์เว้ย” มึงนั่นแหละที่จะโดนดีเพราะแฟนคลับมึงมีเยอะกว่ากูไม่ต้องเดาก็รู้ แต่เสียใจว่ะฐานด้อมผมจะยังเหลือมั้ย ตอบให้กูสบายใจที
“สรุปพี่จะช่วยผมมั้ย” เก่งฉกาจยิ่งกว่าใครก็คือไอ้แทนที่ยังวกกลับมาเรื่องเก่าได้ ทั้งที่จะเอาให้มันลืมๆไปไม่ต้องสนใจแล้วเชียว อารมณ์ที่อยากจะหาเรื่องมันต่อเล่นหดกลับเข้ากระดองเลยครับ
“ไส้กรอกมึงเหี่ยวหมดแล้ว รีบๆกินดิ เดี๋ยวก็ไม่อร่อยกันพอดี” หน้าด้านไปเรื่องอื่นได้แบบไม่อายสายตาใคร กูไม่ฟัง ไม่แคร์ ไม่สน มึงอย่ามาบังคับกู
“อย่าลืมบุญคุณที่ผมทำกับพี่ไว้นะ”
“มีเรื่องอะไรบ้างมึงว่ามาดิ เรื่องยางลบเหรอ โอเคเดี๋ยวกูวิ่งไปซื้อมาใช้คืนให้ บอกมาว่ายี่ห้ออะไรรุ่นไหนราคาเท่าไร หรือเรื่องตังค์พันห้าเดี๋ยวกูขอเวลาไปถอนจากตู้แป๊บแล้วจะเอามาคืนกูสัญญา”
“ผมช่วยไปส่งพี่เดย์ตั้งหลายครั้ง”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวกูให้เพื่อนมาชดใช้คืนมึงเอง”
“ผมไม่เอาเพื่อนพี่ ผมจะเอาพี่”
“...” บางตำรากล่าวกันว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลกแต่ตอนนี้ตื้อของมึงช่างโคตรกวนประสาทกูสิ้นดี
“พี่ต้องสืบเรื่องฟ้าให้ผม” เข้าใจว่าอยากรู้เรื่องน้องฟ้า แต่กูไม่ต้องเสียเวลาไปสืบให้มึงด้วยซ้ำก็ในเมื่อกระดาษคำตอบมันอยู่ในมือมาตั้งนานแล้ว ถุยยย กูอยากได้เป็นข้อสอบในชีวิตจริงมากกว่าที่จะต้องมาเป็นข้อสอบเรื่องพลเทพอย่างนี้น่ะ
“ถ้ามึงรู้ว่าใครเป็นแฟนน้องฟ้าแล้วมึงจะทำยังไง”
“ผมจะให้มันเลิกยุ่งกับฟ้า”
“หา?”
“เพราะมันเป็นคนที่ทำให้ฟ้าร้องไห้” ใครสอนทฤษฎีนี้ให้มึง ทำให้ร้องไห้แล้วต้องเลิกกันอย่างนี้สำนักงานเขตไม่ต้องหัวปั่นทำใบสำคัญเรื่องการหย่าวันละหมื่นแสนล้านฉบับเลยเหรอวะ ขึ้นชื่อว่าคนรู้ใจมันไม่ใช่เอาแต่มานั่งหัวเราะยิ้มให้กันมีอารมณ์สุขไปวันๆเพียงอย่างเดียว มันต้องมีสุขมีทุกข์ฝ่าฟันกันไปอย่างนี้ถึงจะเรียกได้ว่าคู่ชีวิตที่แท้จริงเว้ย
“เรื่องของคนสองคนมึงจะเข้าไปยุ่งทำไมวะ”
“น้องผมยังไม่สมควรมีแฟน”
“มึงเอาอะไรมาตัดสิน”
“ความคิดฟ้ายังเด็กเกินไปที่จะมีความรัก”
“มึงรู้ได้ไง”
“ที่ฟ้าร้องไห้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผมเดาได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องเพื่อน ผลการเรียนแกดีมาตลอด ไม่มีปัญหาเรื่องครอบครัว หรือเรื่องโดนเพื่อนแกล้ง”
“โหยนี่มึงตามสืบเรื่องน้องมึงได้ขนาดนี้ทำไมไม่ทำเองล่ะวะ”
“ก็มีเรื่องเดียวที่ผมยังสืบไม่ได้ เหมือนฟ้าพยายามปิดผมอยู่ ขนาดเพื่อนสนิทยังไม่รู้เรื่องนี้เลย”
“...”
“พี่ไม่ต้องคิดอะไรมากแค่ทำตามที่ผมบอก ถ้าพี่สืบให้ ผมจะยอมเป็นไม้กันหมา กันพี่โชออกไปจากชีวิตพี่” เงื่อนไขมันดีเหมือนยิงหนังสติ๊กทีได้นกสามตัว ตัวหนึ่งคือไล่สิ่งน่ารำคาญออกจากชีวิต ตัวที่สองคือได้ใกล้ชิดไอ้แทน ตัวที่สามคือกูกำลังจะเป็นตัวจุดชนวนให้เพื่อนเลิกกับแฟน มันดีตรงไหนวะ!! ผมลุกขึ้นพรวดมองมันด้วยสายตาจริงจังอย่างไม่เคยทำมาก่อน
“ไอ้แทนกูไม่อยากจะทำแบบนี้หรอกนะ” มึงเป็นคนบีบบังคับให้กูต้องทำ ผมกำมือถือกับสายเป้ไว้มั่นกัดฟันพูด ส่วนไอ้แทนมันก็ขมวดคิ้วมุ่นใส่ผมงุนงงกับประโยคที่กล่าวขึ้นมาอย่างเลื่อนลอย
“จงจำไว้ว่ามึงเป็นคนบังคัญกูเอง!!” ตะโกนใส่แสกหน้าแล้วก็เผ่นเกียร์หมาดิครับ!! ผมโกยอ้าวแบบไม่คิดชีวิตออกจากร้านมายังริมถนนกระโดดขึ้นบนทางเดินผันตัวเองเป็นนักกีฬาลมกรดวิ่งฉิวไปตามฟุตบาท เออ ยอมรับก็ได้ว่ากูหนี!! กูไม่อยากทำตัวแบบนี้แต่มึงอ่ะตัวดีที่บังคับกู พอพอ ผมจะหนีหน้าจากไอ้แทนให้มันตามตัวไม่เจอเพราะกูไม่ได้ทิ้งรองเท้าซินเดอเรลล่าไว้ ไม่ได้ปล่อยฟีโรโมนให้หมามันตามกลิ่นได้ ไม่ได้ไอฟิลเดอะซันชายวิ่งในหลั่นล้าในทุ่งดอกลาเวนเดอร์จนมันตามมาทัน ผมโคตรมั่นใจในฝีเท้าตัวเอง วันนี้คือฝันร้าย พรุ่งนี้พอตื่นขึ้นมาก็จะเจอกับสภาพที่ว่าน้องฟ้าไม่ได้ทะเลาะกับไอ้แม็ค ไอ้แทนยังไม่รู้ว่าน้องสาวมีแฟน และผมที่ไม่รับรู้ว่าไอ้แทนคือเจ้าของยางลบก้อนนั้น กู๊ดไนท์เอเวอรี่บอดี้ สวีทดรีม
นอนอืดคาห้องมาเกือบครึ่งค่อนวัน ความรู้สึกโคตรเหมือนสายลับที่กำลังโดนตามล่ากรอกยาเพื่อล้างสมอง จนต้องระหกระเหเร่ร่อนมาแอบซ่อนในห้องประจำหอประตูเอกตึกแปด มีอะไรที่ทำได้นอกเหนือจากหายใจให้หมดไปวันๆอีกมั้ยครับเนี่ย เบื่อโคตร มือถือก็เปิดไม่ได้เพราะไอ้แทนมันรู้เบอร์ จะออกไปข้างนอกก็กลัวจะไปเจอใครดักตีหัวข้างทาง จากนี้ไปผมต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนไปวันๆเหรอเนี่ย ตราบใดที่ไอ้แทนมันยังเรียนอยู่มหาลัยนี้ และตราบใดที่น้องฟ้ายังเป็นแฟนไอ้แม็ค
เห็นทีนั่งนิ่งๆอยู่ตรงนี้ต่อไปคงไม่ได้ ผมรีบลุกพรวดไปตรงหน้ากระดานไวท์บอร์ดเล็กๆที่ติดเมมโมกันลืมไว้เต็มเอี้ยด กวาดแม็กเนทออกไปให้พ้นทางแล้วเริ่มสร้างยุทธศาสตร์ในการรบ
ทางเลี่ยงที่หนึ่ง....เลิกคบกับไอ้แม็ค ในเมื่อมันเป็นแฟนน้องฟ้า ตัดมันที่ต้นเหตุรับรองได้ผล แต่แม่งเพื่อนผมทั้งคนให้กูเลิกคบด้วยเหตุผลอะไรวะ ไม่ๆข้อนี้ตกไป
ทางเลี่ยงที่สอง...ย้ายมหาลัยเรียนแม่งเลย แต่ให้ซิ่วกับเรื่องขี้ปะติ๋วที่ไม่เกี่ยวกับกูเลยเนี่ยนะ อนาคตทั้งชีวิต แถมคณะนี้กว่าจะแอดมิชชั่นมาได้กูไม่ซิ่วไปตายให้โง่หรอก
ทางเลี่ยงที่สาม...ซุนวูปราชญ์แห่งพิชัยยุทธ์ได้กล่าวไว้ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ตามสืบเรื่องไอ้แทนให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยว่าเรียนที่ไหนเวลาอะไรแล้วเลี่ยงซะก็สิ้นเรื่อง เออข้อนี้เจ๋งแฮะ แต่ผมจะไปหาตารางเรียนมันจากไหนวะ
ว่าแล้วผมก็ตัดใจเปิดมือถือ แค่นั้นแหละเสียงแจ้งเตือนแม่งเด้งเข้ามาราวกับห่าพายุ ทั้งไลน์ อินสตาแกรม เฟสบุ๊ค แมสเสจ มิสคอลรวมแล้วกว่าร้อยรายการ นี่มันบ้าบออะไรวะ ปกติผมไม่ค่อยเล่นโซเซียลแต่ไหงทำไมปิดมือถือแค่วันเดียวเสือกมีอะไรต่อมิอะไรเข้ามาเยอะแยะขนาดนี้ ในนั้นสิ่งที่ผมเดาได้คือมิสคอลจากไอ้แทนที่กำลังตามล่าผม กับไอ้เดย์ที่คงงงว่าผมโดดเรียนไปไหนตั้งสองวันเต็ม แต่ไอ้อินสตาแกรมเนี่ยดิมันอะไร ว่าแล้วก็จิ้มเข้าไปดูให้หายสงสัย โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะทันทีที่ภาพของใครบางคนปรากฏสู่สายตาก็เล่นเอาผมสมองชาไปครึ่งซีก
เชี่ย!! โดนเล่นเข้าให้แล้วไง มุมกล้องโคตรทำเข้าใจผิดสัดๆ มันเป็นภาพเมื่อวานตอนที่ผมหันหน้าเข้าหาไอ้แทนแต่เป็นการถ่ายจากมุมที่ดูยังไงปากผมกับมันก็กำลังประกบกันอยู่!!
ใต้ข้อความเป็นคำสั้นๆง่ายๆที่เล่นเอากูตายไปถึงชาติหน้า
‘ฟินนนนนนนนนนนนนนนนนน’ ฟินหอยหลอดดิ!! อย่าถามหาคอมเมนต์นะครับไม่ขออ่าน แต่ต่อให้อยากมองผ่านขนาดไหนสายตาก็ต้องไปสะดุดกับคอมเมนต์ที่ยอดไลค์เยอะกว่าชาวบ้านที่มันไม่โดนซ่อนอยู่ใน วิวออลร้อยกว่าคอมเมนต์
Sky of Tan เอาภาพมาลงแบบนี้ อีกคนโกรธจนหนีหน้าผมไปแล้ว ใครก็ได้ตามตัวให้ทีครับ
เหยดเข้ กูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าชาวบ้านเขาเอารูปนี้มาลง อย่ามาเหมาว่ากูหนีเพราะโกรธ แต่กูหนีก็เพราะไม่อยากไปยุ่งเรื่องน้องสาวมึงให้มันวุ่นวายหัวใจต่างหาก อยากพิมพ์โต้กลับไปโคตรๆแต่กลัวไอ้แทนมันไหวตัวทันรู้ว่าผมยังมีชีวิตอยู่ งานนี้ผมเลยลงทุนสร้างแอคเคาท์อินสตาแกรมขึ้นมาใหม่แล้วกดหัวใจให้ภาพนั้นก่อนรัวนิ้วพิมพ์คอมเมนต์ตามลงไปทันทีโดยไม่ลืมที่จะแท็คไอ้เชี่ยแทน
Sea of sky @Sky of Tan ขอตารางเรียนหน่อยค่ะ จะได้พาคนไปส่งถูก
ตอแหลสุดในพ.ศ.นี้ก็กูเนี่ยแหละครับ ปลอมตัวเป็นแฟนคลับหลอกขอตารางเรียน ถ้ามันเชื่อก็ดีไปแต่ถ้าไม่ก็ค่อยหาวิธีใหม่เอา ผมนั่งจ้องหน้าจออยู่นานสองนานหวังว่าจะมีไอ้ตัวดีมาตอบแต่จนแล้วจนรอดกลับมีแค่ความเคลื่อนไหวของคนกดไลค์กับคอมเมนต์ที่เพิ่มเติมเลยตัดใจโยนมือถือลงเตียงแล้วนอนคว่ำหน้าเกลือกกลิ้งอย่างเก่า
ไหนจะกระแสโซเซียล ไหนจะสิ่งที่ไอ้แทนมันทำเพื่อกระพื่อข่าวให้แฟนคลับมันคลั่งตายอีก อย่างนี้ต่อให้ไปไหนก็ไม่รอดต้องโดนจับตามองอย่างแน่นอน
“ดรอปเรียนแม่งเลยดีมั้ยวะ” หาข้ออ้างเพราะความขี้เกียจเป็นหลัก แต่ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกรอบให้ผมต้องกระเด้งตัวหยิบมือถือขึ้นมาดูแทบจะในทันที
Sky of Tan @Sea and Sky #ตารางเรียนแทนสุรบถวิศวะอุตฯ
เหยดครกมันให้จริงๆ!! เปิดเผยราวกับคนของประชาชน อย่างนี้ไม่มีคนไปดักรอมันนรกแตกเหรอครับ ชักเป็นห่วง พอจิ้มเข้าไปก็เจอกับภาพอาร์ตๆที่ใช้ปากกาสีขาววาดลงบนกระดาษสีดำเป็นตัวการ์ตูนหัวโตๆที่หน้าตาเหมือนมันโคตรๆพร้อมกับประโยคในกล่องคำพูดรูปก้อนเมฆเป็นข้อความตัวใหญ่ๆว่า
‘ผมไม่มีหนังสือเรียนอิ๊งมาหนึ่งคาบแล้วนะ โปรดขอฉันขอฉันเถอะนะ พี่ไทม์’
เฟี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย เป็นห่วงเก้อ ไม่ใช่ตารางเรียนแต่เป็นคำทวงหนังสือเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานสามที่ผมยังไม่ได้ให้มัน!! สัดดดดด
Sea and Sky @Sky of Tan มึงก็ไปซื้อมาเรียนเองดิวะ อย่ามาพึ่งพากู
Sky of Tan @Sea and Sky พี่สัญญาแล้วว่าจะให้ผม
Sea and Sky @Sky of Tan กูเปลี่ยนใจไม่ให้แล้วโว้ยยย
Sky of Tan @Sea and Sky เป็นรุ่นพี่พูดโกหก เป็นตัวอย่างไม่ดีให้แก่รุ่นน้องนะครับ
Sea and Sky @Sky of Tan อย่างมึงกูไม่นับว่าเป็นรุ่นน้อง
Bell Meaw Meaw อร๊ายยยยที่แท้ก็พี่ไทม์ปลอมตัวมาาาา
Y w Y เถียงกันงุ้งงิ้งกระดิ่งแมว น่ารักอะไรขนาดนี้ หนูฟินนนนนนนนนนนนนนน
ฉิบหาย กูลืมตัววววว
เหี้ย ห่า เหว แล้วกูจะสร้างแอคเคาท์ใหม่มาทำเพื่อ!! ออกจากอินสตาแกรมที่กำลังจะกลายเป็นอินสตากรรมด่วน!! ผมถอยออกจากแอพนี้ไปจิ้มแอพอื่นที่มีแจ้งเตือนเพียงเพื่ออยากหลุดพ้นจากความเป็นจริง อยากทิ้งเรื่องตรงหน้าไว้ก่อน แอพเครื่องหมายคำพูดฟ้าผ่าติดแจ้งเตือนขึ้นมาหนึ่งรายการให้ผมต้องจรดนิ้วจิ้มเข้าไปดู ข้อความในนั้นทำเอาฉงนไปหลายตลบ
‘ไทม์กูฝากฟ้าด้วย’
ข้อความจากไอ้แม็ค....
มันฝากเมียไว้กับกูอย่างกับฝากบ้านไว้กับตำรวจ หยุดยาวสงกรานต์ไปเที่ยวไหนหรือครับไอ้คุณชายแม็ค ถึงได้ส่งข้อความชวนสะท้านตับให้ใจหวั่นๆได้ขนาดนี้ ความคิดผมเร็วรี่รีบพิมพ์ตอบกลับมันไปทันที
‘ไม่รับฝากเว้ย เมียใครก็ดูแลเองดิวะ’
กดปิดมือถือแล้วหงายตัวมองเพดานต่อ อยากให้โลกนี้กลับไปช่วงที่ไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์คให้คนติดต่อกันได้แค่โทรศัพท์สาธารณะ กับเบอร์บ้าน ผมจะได้ไม่ต้องมาคิดฟุ้งซ่านยามที่มีสิ่งต่างๆรอบกายมากระทบได้ง่ายขนาดนี้
Rrrrrrrrr
เสียงเรียกเข้าเล่นเอาสะดุ้งตื่นจากฝันหวาน ที่ผมกำลังเห็นภาพตัวเองเรียนจบรับปริญญาแล้วลงเอยกับแฟนที่คบกันมากว่าสี่ปี พอตื่นมาพบความจริงว่าตัวเองลืมปิดมือถือก็ทำให้ผมถึงกับปวดขมับกลัวว่าไอ้คนที่โทรเข้ามาจะเป็นเจ้าตัวปัญหาในใจผม แต่ผิดคาดหน้าจอกลับดันโชว์ชื่อไอ้เดย์อยู่
“ไงมึง”
[ไอ้สัดไทม์ ในที่สุดก็รับซะทีนะเว้ย มึงแม่งหายหัวไปไหนมาวะ กูตามหาให้วุ่น]
“ก็นอนโดดเรียนอยู่ห้องกูตามปกติแหละวะ วันนี้มึงมีปัญหาอะไรถึงต้องตามหาตัวกูให้วุ่น ปกติกูโดดเรียนวันสองวันมึงยังไม่เห็นเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้เลย”
[ก็มึงแม่งเล่นไม่ติดต่อมาเลย] เออจริงของมัน อย่างน้อยต่อให้ผมโดดเรียนแบบเหมือนหายไปตายที่ไหนยังไงก็จะต้องมีไลน์หรือส่งข้อความไว้ให้มันรู้
“โทษที กูลืม”
[พอพอกับไอ้เชี่ยแม็คเลย]
“ฮะ? มึงว่าไงนะ อย่าบอกนะว่าไอ้แม็คมันก็โดดเรียนเหมือนกู”
[เออดิวะ กูแม่งนั่งเรียนคนเดียวในห้องติดกันมาสองวันแล้ว พวกมึงแม่งโดดก็ไม่ชวน] รักเรียนสัดเลยเพื่อนกู
“มันไม่ได้ส่งข้อความไปบอกมึงเหรอ”
[เปล่า ก็เหมือนมึงแหละ ตอนแรกนึกว่าพวกมึงรวมหัวกันไปเที่ยวต่างจังหวัด ตั้งทริปคนอกหักกันเงียบๆสองคนแบบไม่ชวนกูด้วยซ้ำ โคตรน้อยใจ]
“มึงว่าใครอกหักวะ”
[อ้าวก็มึงกับไอ้แม็คไง]
“ถ้าไอ้แม็คกูพอเข้าใจ เพราะมันพึ่งทะเลาะกับน้องฟ้ามา แต่ถ้าเป็นกู กูไม่เก็ทเว้ย”
[มึงก็อกหักจากไอ้แทนไงเล่า ภาพมันคาตาขนาดนั้นแล้วทำไมมึงยังไม่เชื่ออีก]
“ภาพอะไรของมึง”
[อ้าวสรุปแล้วมึงไม่ได้หยุดไปเพราะอกหักช้ำรักจนมาเรียนไม่ได้เหรอวะ]
“กูเปล่า กูแค่ไม่สบายแล้วลาเฉยๆ”
[เชี่ยแล้ว อย่างนี้มึงก็ยังไม่รู้ดิวะ สัดกูพูดไปทำไมวะเนี่ย]
“เรื่องอะไรมึงเล่ามาเลยนะ”
[เปล่าๆ]
“เล่ามาดิวะ ไอ้เดย์”
[มึงไม่ต้องรู้หรอก]
“มึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าวะ”
[...]
“ถ้าใช่มึงเล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้เลย”
[เออก็ได้ แต่มึงต้องทำใจนะ]
“เรื่องอะไรร้ายแรงขนาดต้องให้กูทำใจเลยเหรอวะ”
[ก็ใช่ดิ ก็เรื่องไอ้แทนคนที่มึงแอบปลื้มไง] กูไม่ได้ปลื้มมันเว้ย ขอแก้ข่าว
“แล้วเกี่ยวอะไรกับไอ้แทนวะ”
[ก็มันน่ะดิที่เล่นชู้กับน้องฟ้า] อ้าวข่าวเก่า มึงยังเอามาเล่าอีกเหรอ
“เรื่องนี้มันเข้าใจผิดกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
[ตอนแรกกูก็คิดว่าเข้าใจผิด ที่ไหนได้วันก่อนที่มึงนั่งปลอบน้องฟ้าแล้วให้กูไปตามหาไอ้แม็ค แม่งเสือกเจอดีเข้าให้]
“เจออะไรของมึง” วันนั้นกูก็เกือบเจอดี เจอไอ้พี่โชมันจะจับทำเมียเล่นเอาเกือบตายถ้าไม่มีไอ้แทนมาช่วยป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ไม่บอกไอ้เดย์ไว้เป็นดีเดี๋ยวจะเป็นห่วงซะเปล่าๆแล้วจะมาต่อความยาวสาวความยืดกับผมว่าทำไมพี่โชมันถึงกล้ารีเทิร์นมาแหยมอิทธพลของเสี่ยอู๊ดได้อีก
[เจอไอ้แทนมันมาส่งน้องฟ้าที่คอนโดน้องเขาแล้วเข้าไปในห้องไม่ออกมาตลอดทั้งคืน] จากคำบอกเล่าของไอ้เดย์ผมไล่ไปถึงเหตุการณ์ตอนคืนนั้น ถ้าให้เดาไอ้แทนคงมาหย่อนผมที่ห้องมันก่อนหันไปส่งน้องฟ้าที่เมามายจนเกือบไม่ได้สติ แต่ไอ้แทนมันก็พี่ชายไม่เห็นจะน่าตกใจตรงไหน เออผมลืมไปว่าไอ้เดย์กับไอ้แม็คมันยังไม่รู้
“มึงอย่าบอกนะว่าตอนนั้นไอ้แม็คก็อยู่ด้วย”
[ก็ใช่อ่ะดิ ตอนนั้นที่กูวิ่งไปตามหามัน พอเจอมันก็เอาแต่บ่นสำนึกผิดว่าไม่น่าตวาดใส่น้องฟ้าอย่างนั้น หัวเสียใส่ตัวเองจนกูต้องปลอบมันว่ายังไม่สายถ้ารีบไปขอโทษ พอเป็นอย่างนั้นมันก็รีบบึ่งไปหาน้องฟ้าถึงคอนโดลากกูไปช่วยเป็นกำลังใจให้ แต่ที่ไหนได้ตอนกำลังจะลงจากรถขึ้นตึกเสือกเห็นไอ้แทนประคองน้องฟ้าเดินกันมา กูกับไอ้แม็คหลบแทบไม่ทัน พอมันขึ้นตึกไปแค่นั้นแหละไอ้แม็คถึงขั้นพูดไม่ออก กูก็ได้แต่มองโลกในแง่ดีว่าอาจจะเป็นแค่คนรู้จักมาส่งเพราะมันมืดแล้ว แต่รอแล้วรอเล่าแม่งก็ไม่เสือกลงมา ทิ้งรถตากน้ำค้างไว้ถึงเช้า ทำเอากูตาโหลนอนรอในรถจนสว่าง เชี่ยสัดเลย] นี่มึงโมโหเพราะนอนไม่พอใช่มั้ยไอ้เดย์
“แล้วไอ้แม็คมันว่าไงบ้าง”
[มันนิ่ง เหมือนคนไม่มีความรู้สึก กูโคตรห่วงมัน เลยนั่งอยู่เป็นเพื่อนพักใหญ่จนแยกย้ายกลับหออาบน้ำไปเรียน แล้วสุดท้ายมันก็ไม่มา] สมควรแล้วถ้าแม็คมันไม่รู้ว่าแทนเป็นพี่น้องฟ้าก็ต้องช็อคเป็นธรรมดาแหละวะ
“เดี๋ยวกูโทรหามัน”
[นี่มึงไม่ช็อคเลยเหรอวะ อกหักไรเงี่ย อีกฝ่ายที่กำลังคั่วกับน้องฟ้าคือไอ้แทนที่มึงปลื้มเลยนะ]
“สัดกูไม่ได้ปลื้มมันเลิกพูดได้แล้ว แล้วกูจะช็อคไปเพื่ออะไร”
[อ้าวที่เพ้อมาปีกว่า แถมเก็บซากยางลบไว้นี่หมายความว่ามึงไม่ได้คิดอะไรเหรอวะ]
“คิดดิ” คิดอยากตอบแทนบุญคุณเท่านั้นเอง
[คิดแล้วทำไมตอบอะไรโคตรย้อนแยง นี่มึงปกติดีรึเปล่าเนี่ย]
“ปกติสมบูรณ์ดีทุกอย่างเว้ย”
[ถ้าปกติมึงก็ต้องชอบไอ้แทนดิวะ]
“เออกูชอ...” สะกิดใจแป๊บ เหยยยยยยยยยยยยยยยยยนี่กูกำลังจะพูดอะไรออกไปวะ เรื่องนี้ต้องปฏิเสธกูไปตอบเยสมันทำไม “สัด!!ชอบที่ไหนล่ะมึง กูแค่จะบอกว่าที่กูไม่ช็อคเพราะกูรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
[อะไรเป็นอะไร เชี่ยอะไรของมึงวะ มึงก็รู้ว่าสมองกูมีน้อยช่วยพูดง่ายๆให้เข้าใจทีได้มั้ยไอ้ไทม์] เออ...เดี๋ยวกูจัดให้เนื้อๆเน้นๆไม่เอาน้ำ
“กูรู้ว่าไอ้แทนมันเป็นพี่ชายน้องฟ้าไง”
[...]
“...”
[ไอ้แทน? พี่ชายน้องฟ้า?]
“เออดิ คลานตามกันมา เพื่อนไอ้แทนเป็นพยานได้”
[เหยดดดดดดดดด ไอ้แม็คแม่งซึมเก้อแล้ว]
“เออดิ กูถึงต้องรีบโทรไปหามัน เอายาแนวไปให้ไง”
[ยาแนว? เอาไปให้มันทำไม]
“แก้ซึม”
[สัด]
มาถึงจุดนี้ผมยังมีอารมณ์ขัน แต่ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าชีวิตมันไม่ง่ายเลย
TBC
+++++++++++++++++++++++++++
ช่วงนี้เหมือนใช้ภาษาฟุ่มเฟือย
ให้คนอ่านช่วยติชมหน่อยนะคะ
อ่านตรงไหนสะดุดใจ ไม่ว่าเรื่องเล็กกระจ้อยร่อยยังไง คอมเมนต์กันมาได้นะ
คนเขียนไม่กัดแน่นอน
หรืออ่านแล้วฟิน(แบบคนเขียน) อ่านแล้วชอบใครเกลียดใครในเรื่องก็ว่ากันมาได้
แค่คอมเมนต์มาน้ำตาก็ไหลแล้ว 555
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึง ตอน12 ค่ะ
รักนะ จุ๊บๆ
คุณmild-dy ให้มาหนึ่งคืนไปสิบ
คุณFeaRes ของดีขาวเนียนน่าหอมม๊วฟๆ แทนถือคติแกล้งไทม์วันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ พระเอกเราเป็นคนเปิดเผย?แต่ปิดบังกับบ้างเรื่อง 555 คนที่ความลับช่างดูมีสเน่ห์ (เหรออออออ) ขอบคุณที่อยู่กันมาตั้งแต่ตอนแรกนะคะ เป็นกำลังใจสำคัญที่ดีเยี่ยม ขอบคุณจริงๆค่ะ