แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด
“แปลว่าพี่แมนรู้แล้วว่ามึงไม่ใช่เมียเขา”
แฝดผู้พี่เอ่ยสรุป หลังจากสอบถามเหตุการณ์จากคุณสามีของตัวเองแล้วมานั่งสุมหัวปะติดปะต่อเรื่องราวกันอยู่ที่หอเพื่อนหญิง พอได้ยินดังนั้น เอ็มที่สลดเป็นผักโดนลวกแล้วก็ยิ่งห่อเหี่ยวลงไปอีก
“กูสารภาพช้าไป”
เอ็มพูดน้ำตาซึม ก้มหน้านิ่งจนแฝดคนน้องต้องโยกตัวปลอบ สองสามวันมานี้พี่แมนหลบหน้าเอ็มตลอด หนักเข้าเอ็มก็ไปดักหน้าห้องหอ พี่แมนเลยตัดปัญหาด้วยการไม่กลับห้องตัวเองเสียเลย
“เอาน่า...ให้เวลาพี่แมนหน่อย เดี๋ยวเขาคงยอมให้แกง้อเองนั่นแหละ”
มาม่าพยายามหาคำปลอบ ทั้งๆ ที่ตนก็ไม่แน่ใจในคำปลอบนั้นสักเท่าไรนัก แต่อย่างน้อยก็อยากให้อีเพื่อนมันเลิกทำหน้าเหมือนหมาโดนทิ้งแบบนี้สักที เห็นแล้วจิตตก!
“จริงด้วยมึง นี่กูก็ให้ผัวกูช่วยดูอยู่ มึงก็แดกข้าวแล้วก็นอนซะมั่ง โทรมแบบนี้พี่เขาเห็นหน้าก็ยิ่งอยากเขี่ยมึงทิ้งน่ะสิ”
เมเม่พูดพลางเดินไปอุ่นเกี๊ยวน้ำเซเว่นให้เพื่อน แล้วก็กลับมาบังคับให้มันกินให้หมดก่อนจะไล่อดีตเมียพี่แมนไปอาบน้ำ แต่เจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ
“กูจะกลับห้อง”
“มึงอย่าดื้อน่า”
“ก็แค่เผื่อพี่เขากลับมา กูสัญญาว่าจะนอนให้หลับ”
พอรู้ว่าแม้จะดึงดันไป มันก็คงดื้อแพ่งจะกลับไปรังรักให้ได้อยู่ดี สองแฝดจึงยอมปล่อยให้เพื่อนซี้ได้ทำตามใจโดยไม่ลืมกำชับหนักหนาว่าให้กินยาแก้ปวดฟันที่เพิ่งทำมาก่อนนอนด้วย
.
.
.
แกร๊ก
เสียงประตูห้องบนชั้น 7 ดังขึ้น ก่อนที่พี่แมนผู้ซึ่งตัวเหม็นยังกับไปตกถังเหล้าแต่กลับไม่มีท่าทางเหมือนคนเมาซักนิดเดินเข้ามาในห้องโดยไม่เปิดไฟ พอคลำทางได้ก็ล้มตัวลงแหมะบนเตียง ยังไม่ทันจะหลับให้สมอารมณ์หมาย อะไรแข็งๆ บนเตียงก็ทำเอาพี่แมนเด้งพรวดไปเปิดสวิตซ์ไฟโดยสัญชาตญาณ
“มึง?! ทำไมมึงมานอนอยู่นี่? ก็อีงอกมันบอกว่ามึงอยู่กับเมียมันนี่?”
พี่แมนผู้หลบเลี่ยงการเผชิญหน้ามาตลอดคิดจะหลบหนี แต่คนโดนเมินรู้ทันขยับเข้ามาขวางอย่างไม่กลัวตาย ล็อกเอวไว้ได้ก่อนที่พี่แมนจะเผ่นหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
“พี่แมน ฟังผมก่อนนะ”
“กูไม่ฟัง ปล่อยกู!!”
คนแรงเยอะกระทุ้งเข่าเข้าที่ท้องน้อยจำเลย ถึงจะเจ็บจนหน้าเขียวเป็นฝาโออิชิรสต้นตำรับแต่เอ็มก็กัดฟันทนไม่ยอมปล่อยมือที่ล็อกเอวบางๆ ของคุณอดีตสามีออก
“ให้โอกาสผมแก้ตัวบ้างเซ่!”
“ฟังมึงหลอกกูอีกน่ะเหรอ? ห๊ะ?”
“ผมขอโทษจริงๆ นะ ผมผิดเองที่หลอกพี่แมน แต่ตอนนั้นมันเหตุสุดวิสัยอ้ะ ถ้าผมไม่หลอก ผมก็กลายเป็นเมียพี่แมนแทนอ่ะดิ”
เอ็มพยายามอธิบาย แต่เหมือนจะได้ผลตรงกันข้ามเสียมากกว่า
“มึงก็เลยทำให้กูกลายเป็นมะ...เมียมึงแทนเนี่ยนะ? เหี้ยกระดากปาก!”
“ก็มันมีวิธีอื่นหรือไงเล่า?”
“แล้วมึงไม่คิดหรือไงว่าการที่กูเป็นเมียตุ๊ดนี่มันทำให้กูเสียศักดิ์ศรีแค่ไหน?! กูเป็นผู้ชายนะ! ผู้ชายที่อยากมีเมีย ไม่ได้อยากตกเป็นเมียคนอื่น! มึงเข้าใจความรู้สึกกูไหม? อีตุ๊ดเห็นแก่ตัว!!”
คนโดนตวาดชะงักไปเมื่อเห็นน้ำตาอดีตสามีรื้นขึ้นมาอีกรอบ มือไม้ที่ล็อกเอวบางเหมือนจะหักไว้เมื่อครู่ก็เผลอปล่อยออกเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหยุดดิ้นแล้วหันไปร้องไห้แทนซะแล้ว
“ทั้งๆ ที่กูไว้ใจมึง...อึก...แต่มึงก็หลอกกูได้ กูเจ็บใจ...มึงรู้ไหม? กูเจ็บใจมาก...ฮึก...เสียใจมากด้วย อีเลว!!”
กำปั้นพี่แมนทุบอั้กมาที่อกล่ำๆ ของคนตรงหน้า ถ้าเป็นของชะนีอาจจะดูน่ารักพอทน แต่ถ้าเป็นกำปั้นพี่แมนนี่ขึ้นรอยช้ำเป็นวงได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ผมขอโทษนะ...พี่แมนอย่าร้องไห้สิ ผมเห็นน้ำตาพี่แล้วใจไม่ดีเลย”
“มึงคิดว่ากูอยากร้องรึไง? เพราะมึงนั่นแหละ อีตุ๊ดสารเลว ฮือ....”
พอถูกเมียรักพูดเสียงอ่อนโยนใส่ พี่แมนก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ โกรธมันก็โกรธ โกรธตัวเองก็โกรธที่พอได้ยินเสียงแบบนี้ของมันแล้วใจก็อุ่นวาบทุกที
“ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ผมมีอีกเรื่องจะสารภาพ”
“นี่มึงยังหลอกอะไรกูอีก...ห๊ะ?”
ดวงตากลมแดงฉ่ำน้ำจ้องมองอีเอ็มมี่อย่างคาดคั้น
“คือผม...”
“อึก...อะไรเล่า?”
“ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด”
พี่แมนถึงกับลืมสะอื้น จ้องหน้าตุ๊ดตรงหน้าอย่างสับสน มันเป็นตุ๊ดที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่ตุ๊ด แต่มันเป็นตุ๊ดนะ!
“อะไรนะ?”
“ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นตุ๊ด ผมเป็นผู้ชาย”
“นี่มึง...”
พี่แมนหายใจหอบเหมือนในอกจะปะทุเดือดด้วยอารมณ์โกรธขึ้นมาอีกรอบ
“นี่มึงหลอกกูว่ามึงเป็นตุ๊ดมาตลอดเลยเหรอ?!”
กูไปหลอกมึงตอนไหนวะ? จำได้ว่ากูอธิบายเท่าไหร่มึงก็ไม่ฟังเองนะ
เอ็มคิดพลางทำหน้าเหวอ ในขณะที่อีกคนพยายามประมวลผลด้วยภาวะสมองขั้นสุด ตอนสอบโอเน็ตกูยังไม่มึนขนาดนี้เลยนะ!
“มึงไม่ได้เป็นตุ๊ด?”
“อาฮะ”
“งั้นใครเป็น? กูเหรอ?”
พี่แมนเอานิ้มจิ้มจึ้กที่อกตัวเอง ในขณะที่เอ็มขำพรวด พี่แมนเห็นอย่างนั้นก็สะบัดตัวทำท่าจะหนีไปอย่างทนไม่ได้ แต่เอ็มก็มือไวคว้าเอวหมับไว้ได้เสียก่อน
“ไม่มีใครเป็นตุ๊ดทั้งนั้นแหละครับ”
“กูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว กูปวดหัว! ปล่อยกูนะ!”
“พี่แมนก็เลิกโกรธผมก่อนสิครับ”
“นี่มึงต่อรองเหรอ? อย่าให้กูต้องใช้กำลังนะ”
แกนสุดโหดทั้งดิ้นทั้งเหวี่ยงแขน แต่อีกฝ่ายก็หลบเลี่ยงอย่างสุดชีวิต
“อย่าโกรธกันเลยครับ ผมไม่ชอบเลยเวลาพี่แมนเมินผม ดีกันเถอะนะ?”
“กูไม่มีวันยกโทษให้มึงหรอก!”
เอ็มจับตัวคนดื้อให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะตีหน้านิ่งเอ่ยท้าอย่างเป็นต่อ
“งั้นพี่แมนกล้าพูดไหมล่ะครับว่าพี่เกลียดผมน่ะ?”
ไม่มีทาง...แฟนกูเค้ารักกูจะตาย!
“เออ! กูเกลียดมึง!!”
แกนคณะเธอจัดให้ชัดถ้อยชัดคำ เล่นเอาเอ็มเหวอแดก พี่แมนเลยใช้จังหวะนี้เตะเจาะยางไปเต็มแรงแล้ววิ่งหนีออกจากห้อง ฝ่ายเอ็มที่กุมแข้งหน้าเบี้ยวก็รีบคลานกระดึ๊บๆ เป็นหนอนชาเขียวเพื่อโผล่หน้ามามองแผ่นหลังเล็กๆ วิ่งดุ๊กๆ ไปจนเกือบสุดทางเดิน
“ถึงผมจะหลอกพี่หลายเรื่อง แต่ที่ผมรักพี่น่ะเป็นเรื่องจริงนะ!!”
เอ็มตะโกนลั่นสุดเสียง หยุดขาพี่แมนได้อย่างชะงัด แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นก็ที่ท่านแกนฯ เธอจะก้าวอาดๆ เดินลงจากชั้น 7 ไปโดยไม่สนใจรอลิฟต์
.
.
.
“กูชักจะเบื่อหน้ามึงแล้วนะไอ้พี่จิ๋ม”
“กูชื่อฉิม ไอ้เหี้ยงอก!”
รุ่นพี่ปี 5 ตวาดใส่รุ่นน้องตัวแสบที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่สายตายังไม่ละไปจากรุ่นน้องปี 3 ที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนห่างไปไม่ไกลในโรงละครของมหาวิทยาลัยที่แก๊งค์สถาปัตย์ที่ยึดพื้นที่ตรงนี้ฝึกซ้อมละคร
ไอ้น้องโฟนที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนตัวเองนั่งทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อมาตั้งแต่ถูกลากมาซ้อมละครพร้อมกับไอ้ตัวการเมื่อครู่ อยากจะลุกหนีก็ทำไม่ได้เพราะไอ้บ้านั่นมันขู่ไว้ว่าอยู่นอกสายตามันเมื่อไหร่มันจะลากไปมิดีมิร้ายทันที และก็นั่นแหละ...ไม่ใช่ว่าไม่เคยลองหนีหรอกนะ แต่มันไม่สำเร็จสักครั้งไงเลยต้องมานั่งให้มันมองเหมือนหมาเลียกระดูกอยู่แบบนี้
“นี่พี่เคลียร์กับมันรู้เรื่องยัง?”
พี่เงิบถามขึ้น เสือกระยะประชิดจนจำเลยร่วมหูกระดิกมองตาขวาง แต่พี่เงิบก็ถือว่ากูเป็นรุ่นพี่ กูมีสิทธิ์เสือก!
“ก็พอจะรู้เรื่องอ่ะนะ ตอนนี้ก็จีบๆ อยู่”
“จีบยังไงวะ?”
“ใช้หัวไง”
แกนปี 3 สะบัดมองหน้าไอ้รุ่นพี่อย่างนึกค้าน ไอ้ที่มึงทำคือลากกูไปคอนโดมึงแล้วก็ขยี้กูโดยไม่พูดไม่จานี่มันใช้หัวตรงไหนของมึงวะ?
“หัวอะไรของพี่วะ?”
“ก็หัว***ไง”
“ไอ้เหี้ย!!”
จำเลยร่วมสุดทน ด่าไอ้รุ่นพี่ปากหมาหน้าแดงเถือก ฝ่ายพี่ฉิมก็ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจที่ยั่วเมียจนปรี๊ดแตกหลังจากชักสีหน้าเหม็นเบื่อใส่มันมาหลายชั่วโมง
“พวกมึงไปจีบกันไกลๆ ได้ไหม? กูรำคาญ”
ประโยคคำสั่งที่มาในรูปประโยคขอร้องแบบห้ามปฏิเสธหยุดอาการกระฟัดกระเฟียดของไอ้น้องโฟนได้ผลชะงัด พี่แมนที่ยืนมองการแสดงบนเวทีอยู่ใกล้ๆ ส่ายหัวอย่างนึกหมั่นไส้ รู้งี้ไม่จับไอ้โฟนเสิร์ฟไอ้พี่ฉิมซะก็ดี มาจีบกันให้กูแสลงใจอยู่ได้!
“อิจฉาล่ะซี้~ อิจฉาก็รีบคืนดีก็เมียซะทีสิคะ พี่แมนขา~ เอ็มมี่คิดถึงพี่แมนนะค้า~”
พี่งอกเอ่ยล้ออย่างสนุกปาก แต่พอเพื่อนรักเท้ากระตุกเตะเก้าอี้ใกล้ๆ ล้มกลิ้งไป 3 ตลบก็ทำให้ทุกคนเข้าสู่สภาวะใบ้แดกได้อย่างเฉียบขาด
คิดถึงเหี้ยอะไร? วันนี้มันยังไม่โทรมาง้อกูเลยเนี่ย!
Rrrrrrrr
พูดไม่ทันขาดคำไอโฟนพี่แมนก็สั่นกึกๆ อยู่ในกระเป๋า แกนคณะล้วงขึ้นมาอย่างมีมาดแต่ชื่อที่โชว์กลับไม่ใช่คนที่อยากได้ยินเสียง แต่เป็นเบอร์แปลกที่ไม่รู้จัก พี่แมนชั่งใจอยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะกดรับ
“ฮัลโหล”
‘ยังรักกับเมียดีอยู่ไหม? เพื่อนแมน’
“มึงเป็นใคร?”
‘อะไรกัน? แมนจำเราไม่ได้เหรอ? เสียใจจังนะ’
เสียงจากปลายสายยียวนจนพี่แมนรู้ได้ว่ามันไม่ได้มาดีแน่ แกนคณะปี 4 ส่งสายตาให้สองสมุนอย่างเป็นอันรู้กันว่าอาจมีเรื่องให้ต้องลงมือกันอีกแล้ว
“มึงเป็นใคร? กูไม่มีเวลามาล้อเล่นกับมึงหรอกนะ”
‘ไม่มีเวลาให้เรา แล้วพอจะมีเวลาให้น้องเอ็มมี่ เมียแมนบ้างรึเปล่าล่ะ?’
‘โอ๊ย!!’
เสียงที่สองที่ลอดเข้ามาในสายทำเอาพี่แมนใจกระตุก เพราะช่วงนี้มันโทรมาง้อเขาเกือบทุกวันก็เลยจำเสียงมันผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้ขึ้นใจ
“มึงทำอะไรเมียกู?!”
‘จุ๊ๆๆ แมนนี่พูดไม่เพราะเลย ถ้าทำให้เราไม่พอใจล่ะก็...’
‘อ๊ากก’
“มึงอย่าทำอะไรเมียกูนะ!!”
เสียงหัวเราะลอดผ่านปลายสายมาอย่างพออกพอใจเมื่อได้ยินแกนสถาปัตย์ตวาดด้วยเสียงร้อนรน พี่งอกกับพี่เงิบสั่งให้หยุดการซ้อมแล้วเรียกรวมปี 4 อย่างเตรียมพร้อม ในขณะที่ไอ้โฟนที่อยู่ใกล้ๆ ก็สั่งให้ปี 3 เตรียมหาอาวุธเช่นกัน
‘แค่นิดหน่อยน่า...เจ็บน้อยกว่าตอนมึงกระทืบกูจนนอนโรงบาลเป็นเดือนตั้งเยอะ’
“ไอ้เหี้ยภูมิ!”
‘หึ...จำกันได้ซักทีนะ’
“มึงต้องการอะไร?”
‘เดี๋ยวกูจะส่งแผนที่ไปให้ มาหากูซะ’
“ได้...แค่นั้นใช่ไหม?”
‘แค่นั้นแหละ...แต่มึงต้องมาคนเดียวนะ ถ้ากูรู้ว่ามึงเล่นตุกติกล่ะก็...รอรับชิ้นส่วนเมียมึงได้เลย!’
“ตกลง...โรคจิตอย่างมึงน่ะ แค่กูคนเดียวก็พอแล้ว”
โปรดติดตามแอ๊บต่อไป
Talk~
คนปากแข็งใจอ่อนกำลังจะไปช่วยเมียแล้ว!!
อย่าเพิ่งตายก่อนนะอีเอ็มมี่