oooมาวินกับณนนท์ooo
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: oooมาวินกับณนนท์ooo  (อ่าน 3097 ครั้ง)

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
oooมาวินกับณนนท์ooo
« เมื่อ20-06-2017 01:14:55 »

  ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม










#บทนำ-มาวินกับณนนท์#




“นักศึกษาปี1 คณะวิทยาศาสตร์ ลุกนั่ง 20ครั้ง”
“ลุกนั่ง 20ครั้ง”
“ไม่ดัง เอาใหม่ นักศึกษาปี1 คณะวิทยาศาสตร์ ลุกนั่ง 40ครั้ง”
“ลุกนั่ง 40ครั้ง”
“ปฏิบัติ!”



   การรับน้องที่ค่อนน่าเบื่อถูกวนมาแบบนี้มาประมาณ 3 สัปดาห์แล้วครับ แค่ 3 สัปดาห์ก็ทำขาผมแข็งจนสามารถเอาไปฟาดคอจิงโจ้ตายได้แน่ๆ แต่ต้องขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้รับน้องวันสุดท้ายแล้ว แต่พี่ท่านก็เล่นรับน้องลากยาวตั้งแต่เย็นมาถึงตี 2 ให้ตายเถอะ



“11”
“น้องคนนั้น เกาะคอเพื่อนด้วยครับ! น้องอู้หรอไง” ต้นเสียงปี2ชี้นิ้วมาที่หน้าผมอย่างหลบไม่ได้ ก็ช่วยไม่ได้อะ ไอ้ข้างๆมันดันตัวสูงชะลูดขนาดนี้        
“12”
“นี่ เตี้ย เกาะไม่ถึงหรอไง” ไอ้โย่งข้างๆมันหันมายิ้มกวน พลางยักคิ้วเข้มหนาของมัน น่าโมโหชะมัด มาว่าใครเตี้ยวะ!
“13”
“เตี้ยห่าไร สูง 176 บ้านมันสูง 2เมตรครึ่งกันทั้งบ้านไง? อีกอย่างกูไม่ได้ชื่อเตี้ยเว้ย” ผมอดตวัดสายตาไปคาดโทษไอ้คนข้างๆที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึง 10นาทีไม่ได้
“หึ” ยัง ยัง มันยังยิ้มกวนประสาทอีก  “ถ้าไม่ให้เรียกเตี้ยให้เรียกที่รักหรอไงวะ..”
“14”
“ห๊ะ อะไรนะ” มึงจะช่วยนับกันเบาๆได้มั้ยวะ คนจะคุยกัน (เอ๊ะ?)
“เปล่า...ไม่มีไร” เสียงเรียบของมันไม่ได้เข้ากับการกรอกตาและทำหน้าแบบกวนตีนมันเลยซักนิดนึง
“15”
พอ! ไม่ได้เรื่อง! สปิริตน่ะมีมั้ย
“...”
“พวกคุณรู้มั้ย รุ่นพวกคุณทำได้แย่มากๆเลยนะ”





‘ตั้งใจทำหน่อยสิครับน้อง’

‘สามัคคีกันหน่อยสิคะ’

‘มีสปิริตหน่อยค่ะ’

‘ทำได้แค่นี้เองหรอ’





ทั้งหมดนั่งลง!


..ฟรึบ..


“หลับตาทุกคน ห้ามลืมตา”

ห้ามลืมตาไง!
.
.
.
.
.
ยังไม่ให้ลืมตานะครับ! พี่ขอแค่ให้น้องทุกคนสามัคคีกันแค่นี้ได้มั้ยครับ!” ผมสะดุ้งตื่นทันที ชิบหาย ผมเผลอนอนไปตอนไหน แล้วนานแค่ไหนวะเนี่ย

 “ได้ครับ/ค่ะ

“น้องจะรักกัน จะดูแลกันตลอดไป ได้มั้ยครับ!”

ได้ครับ/ค่ะ

“ทำดีมากครับ ... ลืมตาได้ครับ” ภาพที่ผมเห็นคือแก้วที่มีแสงเทียนเล็กๆที่จุดอยู่ข้างหน้านักศึกษาแต่ละคน ภายในแก้วนอกจากจะมีเทียนที่ถูกจุดแล้ว ยังมีสิ่งที่เรียกว่าสร้อยอะตอม แล้วก็เชือกสีขาวที่น่าจะเป็นสายสิญจน์วางไว้อยู่ข้างในด้วย นั่นเป็นสัญลักษณ์ว่าการรับน้องแสนทรหดจบลงแล้วสินะ เย้!


หลังจากทำพิธีมอบสร้อยอะตอมและบายศรีน้องใหม่โดยพี่ว๊ากที่ภายหลังก็กลายมาเป็นพี่สันทนาการ (ไหงเป็นงั้นวะ) ผมก็รีบลาปลีกตัวออกมาจากห้องประชุมเชียร์ทันที ทำไมน่ะหรอครับ หึ ก็กลับบ้านน่ะสิครับ ผมลืมบอกป๊ากับม๊าว่าจะกลับดึก ห้องเชียร์ดันให้ปิดมือถืออีก เรียกได้ว่าเปิดเครื่องมาป๊ากับม๊ากระหน่ำมาร้อยกว่าสายแล้วครับโผ๊มมมมม

“เตี้ย กลับไงอะ” เสียงที่คุ้นนั้นไล่ตามผมมาจากข้างหลังในขณะที่ผมกำลังเดินออกมาหน้าคณะ

“...”

“เตี้ย กลับไง นี่กูถามมึงอยู่นะ” ผมมองค้อนไปหาต้นเสียง
“ขอโทษนะครับ กูไม่ได้ชื่อเตี้ยเว้ย”
“ก็มึงเตี้ยกว่ากูอะ”
“ก็มึงมันเปรตอะ”
“ละมึงชื่ออะไรอะ กูจะได้เรียกมึงถูก”
“...”
“นนท์? ภาคเคมี?”
“มึงรู้ได้ไง” ไอ้สูงนั่นม้วนกระดาษในมือมาเคาะหัวผม แล้วชี้มาที่ป้ายชื่อที่ผมห้อยคอไว้ ... เออว่ะ กูห้อยป้ายไว้นี่หว่า
“กูชื่อวิน อยู่คอมไซน์ เอ่อ วิทย์คอมอะ” การที่ยืดอกดูภูมิใจในการแนะนำตัวของมันทำให้ผมหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย ... เอ๊ะ หรือมากวะ ไม่สิ มากๆๆๆๆเลยอะ
ผมเสมองไปตรงถนนหวังจะมีขนส่งมวลชนจะผ่านออกมาช่วยชีวิตผมออกจากไอ้บ้านี่ที


“กูถามว่ากลับไง”
“ว่าจะนั่งมอไซ ไม่ก็สองแถวไปขึ้นรถไฟฟ้าอะ” ผมลอยหน้าลอยตาตอบ แต่กลับโดนฝ่ายตรงข้ามเคาะหัวด้วยม้วนกระดาษอีกแล้วครับ มึงสนิทกับกูขนาดนี้ตอนไหนวะเนี่ยยย
“มึงครับ นี่ตี3แล้วนะครับคุณมึง รถไฟฟ้าที่ไหนจะมาวิ่งให้มึงตอนนี้ครับ” เสียงประชดที่ไม่ได้รุนแรงแต่ทำให้ผู้ฟังอย่างผมรู้สึกมีเขางอกขึ้นมาทันทีเลยล่ะครับ สาสสสส
“งั้นกูรอแท็กซี่” คราวนี้เป็นหน้าผากของผมที่รับแรงเคาะของกระดาษเวรนั่น
“มึงไม่รู้หรือแกล้งโง่ครับคุณนนท์ แท็กซี่ไม่ผ่านหน้าคณะครับมึง” เออว่ะ สัส โอ้ยยยยยยย ผมรีบเดินออกจากคณะ ไปตรงไหนที่มีแท็กซี่
“กูไปส่งที่ประตูม.ป่าว”


“...” มันเป็นเจ้ากรรมนายเวรกูรึเปล่าวะ ตามจองเวรกูจังเลย ไม่ทันขาดคำผมก็โดนดึงลากกลับไปที่เดิม “เห้ย เหี้ยไรมึงเนี่ย มึงรู้จักกับกูเมื่อไม่กี่ชั่วโมงเองนะ มึงทำตัวสนิทกับกูเบอร์ไปเปล่าเนี่ย” มึงมันบ้าไอ้วิน มึงมันบ้าไปแล้ว ผมแทบจะยกกำปั้นไปประทับรอยที่ปากมันให้รู้แล้วรู้รอด แต่เหมือนฟ้าแกล้ง มันหลบผมได้ทุกรอบ มิหนำซ้ำมันยังจับมือผมทิ้งลงไปข้างล่างอีก

“หึ เดี๋ยวก็สนิทกับกูเองอะ ขึ้นรถมอ’ไซค์กูไป เดี๋ยวไปส่งหน้าประตูม.” ผมยังคงหูทวนลมมองถนนไปเรื่อย ” ถ้าไม่ไป มึงก็ยืนรอแท็กซี่กับผีในตำนานหน้าคณะไปคนเดียวแล้วกัน” มันเดินลิ่วไปที่รถมอเตอร์ไซค์สีดำคันใหญ่ มีหรอคนอย่างนนท์จะยอม ... ครับ ผมยอม ถึงจะเรียนคณะวิทยาฯแต่..เรื่องผีมันใช่เรื่องเอามาขู่กันที่ไหนล่ะวะ ผมมองดูบรรยากาศตอนตี 3 ในมหา’ลัยพลางคิดว่าถ้ามาเดินคนเดียวมันดูวังเวงชอบกล ทั้งต้นไม้ ทั้งศาล ทั้งสระน้ำที่มืดสนิท แต่พอมากับไอ้(ห่า)วิน คนที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมงนี่กลับรู้สึกปลอดภัยแหะ  ดีเหมือนกัน ถ้าเจอผีจอย่างน้อยผมจะได้ให้ผีตามไปหลอกมันคนเดียว ผมจะได้หนีทัน ฮ่าๆๆ ไม่กี่นาทีมอเตอร์ไซค์ก็ขับมาส่งผมที่หน้าประตูม.อย่างปลอดภัย ผมลงจากรถอย่างทุลักทุเล ก็พ่อคุณเล่นคันใหญ่ขนาดนี้ จะใหญ่ไปเผื่อแผ่ใครวะเนี่ย ผมเดินมาตรงจุดรอแท็กซี่พลางจิ้มมือถือกดตอบไลน์ครอบครัวไปพลางๆ

HelloNonT :.’ป๊ากับม๊านอนก่อนก็ได้ครับ นนท์กำลังรอแท๊กซี่’

MaMa : ‘*sticker* รูปหมีโดนเตะ’

PaPa : ‘รีบกลับมาเลย ไอ้แสบ *sticker*รูปเด็กโดนตี’

MaMa : ‘*sticker* เด็กนั่งหัวเราะ’

ผมเงยหน้าขึ้นมาเจอกับร่างของเจ้าของมอเตอร์ไซค์ยังยืนมองถนนเหมือนกำลังรออะไรซักอย่าง

“มึงรออะไรอะ ไม่กลับบ้านหรอ”


“กูอยู่หอ”
“อ้าว...แล้วมึงรออะไรอะ”

“รอแท็กซี่เป็นเพื่อนมึงไง”

“...” มารอทำไมวะ

“ก็ตอนนี้มันดึกแล้ว ใครจะกล้าทิ้งมึงไว้ มึงยิ่ง...”
“ยิ่งอะไร...”
“...โง่” อ้าว ไม่น่าชี้โพรงให้กระรอกเลยกู

“...”

“...”

“จริงๆมึงไม่ต้องมารอหรอก กูไม่อยากติดหนี้บุญคุณเยอะ เดี๋ยวตามตอบแทนไม่ไหว” ผมพูดพลางปัดมือไล่ให้มันกลับไป
“ไม่ต้องตอบแทนอะไรกูหรอก”
“ไม่เอาอะ กูไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร”

“...” มันมองหน้าผม  แถมยังมาขมวดคิ้วสงสัยอีก มึงจะสงสัยอะไรเยอะแยะครับ โว้ยยย

“สงสัยอะไรอีกอะ”
“เปล่า ก็แค่...”
“ก็พ่อแม่กูสอนว่าใครทำอะไรที่ดีให้ ก็ควรตอบแทนเค้าเมื่อมีโอกาส”
“อ่าห้ะ แล้วไง...”
“ถ้าจะตอบแทนมันก็ต้องเจอหน้ากันใช่มั้ยล่ะ .... กูไม่อยากเจอหน้ามึงบ่อยไง ไอ้โย่ง” ผมแลบลิ้นใส่มัน เห็นมันแอบหลุดขำออกมา จะว่าไป มันก็หล่อเหมือนกันแหะ แต่ผมต้องรีบสะบัดความคิดในออกไปให้เร็วที่สุด จะมาชมคนกวนตีนอย่างมันไม่ได้ อยู่ดีๆก็เกิดเดทแอร์ขึ้นมา แต่แปลกที่ไม่ได้มีความอีดอัดเลยแม้แต่น้อย ไม่นานรถแท็กซี่ที่ผมรอคอยมานานแสนนานรวม 6 นาทีกว่าก็มา ผมรีบเดินขึ้นรถไปในทันที

“...”
“เออนี่ ถ้ามีโอกาสกูจะเลี้ยงข้าวขอบคุณมึงแล้วกันนะ ไอ้โย่ง”
กูชื่อวินเว้ยไอ้เตี้ย!
กูก็ชื่อนนท์โว้ยยยย” ผมรีบปิดประตูแล้วเร่งให้รถออกในทันที

เลยไม่เห็นว่าเจ้าของมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาส่งกำลังโบกมือพร้อมกับรอยยิ้มอยู่ข้างหลัง











เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกในชีวิต ติชมได้เลยน้าาา^^





Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2017 18:50:40 โดย mymemo »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #1 เมื่อ20-06-2017 04:50:10 »

 o13 แอบน่ารักนะเนี้ยเรื่องนี้....ตามค่ะ...  :hao3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #2 เมื่อ20-06-2017 06:38:40 »

วิ่งตามด้วย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

วิน นนท์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #3 เมื่อ20-06-2017 18:48:35 »

#ตอนที่ 1 – มาวินกับณนนท์#





   ผม นนท์ครับ ณนนท์ ธาราสุวรรณ เป็นนักศึกษาปี1 สาขาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ครับ สาเหตุที่ผมมาเรียนคงเป็นเพราะผมชอบดูแฮร์รี่ พอตเตอร์ เห็นฉากปรุงยาในหนังแล้วมันเหมือนกับตอนเราทำแล็บ ผมก็เลยมาเรียนคณะนี้ ป๊าผมเป็นนักธุรกิจนำเข้าสินค้าไอทีที่มีชื่อเสียงในประเทศ ส่วนม๊าทำหน้าที่แค่ดูแลป๊ากับผม และเจ้าฝอยทอง สุนัขสุดรักของผมเท่านั้น กว่าจะอธิบายหาเหตุผลที่จะทำให้ผมมาเรียนคณะนี้ได้เล่นเอาผมเหงื่อตกอยู่เหมือนกัน เพราะป๊าผมอยากให้ผมเรียนบริหารมากกว่า ส่วนม๊าอยากให้ผมเรียนบัญชีเหมือนที่ท่านจบมา แต่ถึงยังไงท่านก็ยอมผมอยู่ดี เพราะท่านรักผมจนถึงขั้นยอมได้หมดหากเป็นความสุขของผม
เสียงเซ็งแซ่ของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ที่เปิดเทอมวันแรกหลังจากที่ปี1ได้พรีเดบิวต์รับน้องไปแล้วเป็นที่ เรียบร้อย การรับน้องที่ผ่านมาทำให้ผมได้พอมีเพื่อนสนิทในสาขาอยู่บ้างครับ เพราะมีอยู่หลายกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันเป็นสาขา

“ไอ้เชี่ยนนท์ วิ่งเร็ว จะสายแล้ว” ไอ้ปิงปอง เพื่อนในกลุ่มของผมที่สิ่งนำไปก่อนแล้วตะโกนเรียกผม ใช่สิ! ขามึงยาวนี่
“กูก็วิ่งอยู่เนี่ย” ครับ วันแรกของผม คลาส9โมงครึ่ง แคลคูลัส แต่ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 2 นาที ก็พี่รหัสพวกผมดันมาเล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนนี้โหดมาก มาตรงเวลาเป๊ะๆ ใครสายจะโดนหักคะแนน ผมไม่อยากโดนหักคะแนนตั้งแต่วันแรกนะครับ ยังไม่มีสักคะแนนเลยนะ โถ่
“พวกมึง เดี๋ยวก่อน  อย่าวิ่งเร็ว กระโปรงกูจะเปิด อร๊ายยยย” เสียงยัยชะเอม ผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มที่กำลังวิ่งไปจับชายกระโปรงนักศึกษาไป เพราะกระโปรงของมันพร้อมที่จะเปิดขึ้นมาทุกเมื่อเมื่อมีลมมาปะทะ ในที่สุดนักพวกผมก็วิ่งไปถึงหน้าห้อง แต่ว่าอาจารย์เข้าสอนแล้ว ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือในทันที



9.01 am



โอ้โห ตรงเวลาจริงๆ สมคำร่ำลือ พวกผมอาศัยจังหวะที่อาจารย์หันหลังไปจัดการกับเครื่องฉายค่อยๆเปปิดประตูและย่องเข้าไปในห้องเพื่อที่จะหาที่นั่งทันที

“นักศึกษา 3 คนนั้น”

“...” ชิบหายแล้วกู

“นักศึกษามาสายนะครับ อาจารย์ขอทราบเหตุผลด้วยครับ” อาจารย์สูงวัยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ทำให้คนฟังเสียวสันหลังวาบไม่น้อย

“เอ่อ คือ พวกหนู...” เอมพยายามจะแก้ตัว แต่หลังจากที่พวกผมรู้จักกับเอม ทำให้ค้นพบว่า เอมโกหกได้แย่มาก ผมกับไอ้ปองจึงสะกิดให้เอมเงียบไปดีกว่า

“...”

“เพื่อนผมหลงทางครับอาจารย์” เอ๊ะ เสียงนั้นมันคุ้นๆ แต่เสียงนั้นก็ช่วยให้อาจารย์สูงวัยนั่นเบี่ยงเบนความสนใจไปได้ พอจะต่อชะตาให้พวกผมได้บ้าง “คือเพื่อนผมหาห้องไม่เจอครับ เพราะว่าวันนี้คงเป็นวันแรกด้วย   เค้าเห็นว่าเรียนรวมกันหลายสาขาเค้าเลยไปอาคารเรียนรวม แล้วก็....เพื่อนผมคนนั้น...” ต้นตอของเสียงชี้มาทางผม “เค้าค่อนข้างที่จะ ... โง่นิดๆอะครับ” ชาติที่แล้วผมคงทำบาปไว้เยอะ เจ้ากรรมนายเวรถึงเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นไอ้โย่งนี่ ผมมองหน้าของต้นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เจ้าตัวกลับดูสะใจไม่น้อยที่ทำให้เพื่อนทั้งเซคหลุดขำกันเป็นพัลวัน ไม่เว้นแม้แต่...อาจารย์ อาจารย์ที่ปั้นหน้าโหดตอนแรกดันมาขำกับไอ้ห่านี่ มึงนะมึง ไอ้ห่าวิน มึงงงงง

“เอาล่ะ ครั้งนี้ผมจะยกผลประโยชน์ให้คุณ ไปนั่งที่ได้ ถ้าคราวหน้ามาสาย ผมจะหักคะแนนคุณจากคะแนนมิดเทอม 15คะแนนนะครับ” อาจารย์พูดพลางยิ้มมุมปาก ในขณะที่ผมเดินก้มหน้างุดมองพื้นด้วยความอายจนแทบจะไปเสวนากับเศษดินเศษฝุ่นบนพื้นอยู่แล้ว จนกระทั่งเอมพาพวกผมมาหยุดอยู่ตรที่ว่างที่มี 3 ที่พอดี

“นนท์ มึงเข้าก่อนดิ เพื่อนมึงอะ” ผมที่ก้มหน้าอยู่เลยต้องเงยหน้าขึ้นมาดูว่าใครมันเป็นเพื่อนผมวะ มันจะมีเพื่อนได้ไง ก็ในเมื่อผมไม่มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่ามาเรียนที่คณะนี้ซักคน ถ้าจะมีก็ต้องวิศวะนู่น แต่เหมือนเจ้ากรรมนายเวรคงจะเตือนสติให้ผมไปเข้าวัดทำบุญถวายสังฆทานชุดใหญ่ เพราะเพื่อนที่เอมมันพูดถึงคือไอ้โย่งวิน

“ไม่ใช่เพื่อนกูเว้ย” ผมหันไปบ่นกับเอมที่กำลังนั่งเรียงปากกาสีอยู่ข้างๆ

“ว่าไงเตี้ย จะนั่งเปล่า อาจารย์มองมึงกับเพื่อนอยู่นะ” พูดเสร็จมันก็ชะโงกหน้าไปยิ้มให้ปิงปองกับชะเอม ชะเอมที่กำลังยิ้มหน้าบานเพราะเจอผู้ชายหล่อยิ้มให้ เพื่อนของมันก็หันมายิ้มให้ผมด้วยสายตาแซว หยอกล้อ ผมก็ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆตอบไป ไม่ทันไร ผมก็ถูกดึงไปนั่งข้างไอ้โย่งโดยไอ้โย่งนั่นเอง

“ทำไมมึงถึ...”
“มึงคงจะโง่จริงๆสินะ แคลฯ 1มันบังคับเรียนเหมือนกันหมดทุกสาขา เค้าเลยจัดไปเซคเรียงตามรหัส แล้วเซคนี้มันก็ตัดที่คอมไซน์ครึ่งนึงแล้วก็เคมีครึ่งนึง” ผมกลอกตายักไหล่ทำเป็นไม่สน หยิบหนังสือเรียนกางออกมาตามที่อาจารย์สั่ง

คลาสนึงมี  3 ชั่วโมงครับ 10 นาทีแรกอาจารย์ใช้ไปกับการอธิบายที่มาของคะแนน และการตัดเอฟ หลังจาก 10 นาทีนั้นก็เหมือนนรกเลยครับ ไร้ซึ่งการเวทนาใดๆ อาจารย์รัวมายิ่งกว่าแร็พอิสนาว ไทเทเนี่ยมจะต้องร้องไห้ให้อาจารย์คนนี้ ซึ่งคนอย่างนนท์คนนี้แน่นอนว่า . . . . . หลับตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้ว แคลคูลัสกับผมมันเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่ม.6แล้วนี่ครับ ก็แฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่ได้ดิฟ ไม่ได้อินทิเกรตตอนขี่ไม้กวาดอะ ผมเลยไม่มีแรงบันดาลใจในการเรียน เป็นการเรียนวันแรกที่มีความสุขจนน่าเบื่อจริงๆ...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดขึ้นล่ะงานนี้ เจอกันซัมเมอร์จ้า

อยากตะโกนให้ดังไปทั่วห้องเรียนว่ากูเบื่อ กูง่วงงงงงงงงงงง......

“นนท์”

“นนท์”

“ไอ้เชี่ยนนท์” ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา จังหวะเดียวกับที่ชะเอมเอาแฟ้มลายหมีรีลัคคุมะมาฟาดหลังผม “เชี่ยเอม เหี้ยไรมึงเนี่ย” ผมโวยวายทันที
“แหกตาดูทั้งห้องซิ เค้าไปกินข้าวกลางวันหมดแล้ว” ทั้งห้องโล่งเหมือนไม่เคยมีการเรียนการสอนมาก่อนจริงๆด้วยแหะ “เร็วๆ กูหิว”

ผมเอาร่างเบื่อๆมากินข้าวกับเพื่อนที่โรงอาหารคณะที่มีโต๊ะกินข้าวที่เยอะสุดๆในมหาลัย แต่มักไม่ค่อยพอ ผมสังเกตว่าหลายสายตากำลังจ้องมองมาที่ผม ไอ้ถ้าเป็นสายตาของหญิงสาวผมเองก็คงภูมิใจอยู่ไม่น้อย แต่สายตาที่มองผมดันมีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เอ๊ะ หรือกูไปทำใครไม่พอใจอะไรเปล่าวะ

ผมกับเพื่อนรีบกินข้าว เก็บของ ไอ้เอมนั่งอยู่ตรงข้ามกับผม นั่งคู่กับไอ้ปอง  ในขณะที่ผมนั่งเล่นมือถือ เช็คฟีดเฟซบุ๊คเพลินๆ
 
“เออ นนท์ ผู้ชายคนนั้นมึงรู้จักหรอ”
“หึ ... ก็ไม่เชิงอะ”
“หรือว่า...”
“ว่าเหี้ยไร” ไอ้ปองที่กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนวันพีซหันหน้าเข้ามาร่วมวงสนทนาอย่างสนอกสนใจ แหม่ ตอนเรียนกูไม่เห็นมึงตั้งใจขนาดนี้
“เค้ามาจีบมึงหรอ” เอมพูดไปยิ้มไป
“บ้านมึงงงงงง” ผมเถียงทันที  “ไม่ใช่โว้ย แค่วันรับอะตอมมันอยู่ข้างกู มันรู้จักกู แต่กูไม่อยากรู้จักมัน” จะบ้าตาย มึงนี่มันช่างคิดจริงๆ ผมทำหน้าหงิกใส่มัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เอมมันสำนึกผิดแต่อย่างใด

“ก็แค่ถามนี่คะคุณณนนท์ ร้อนตัวได้ แหมมม ฮ่าๆๆๆๆ” ผมได้แต่สายหน้า หันซ้ายหันขวามองไปทั่วๆโรงอาหาร สายตาหลายคู่ก็ยังมองผมอย่างไมม่ละสายตา บางคนก็ไปถึงขั้นกว่า ถึงขนาดยิ้ม แล้วยกมือโบกทักทายผมด้วย 

“มึง”
“หืม” มันสองคนมองหน้าผมอย่างมีคำถาม
“หน้ากูมีอะไรติด หรือมันผิดปกติเปล่าวะ” ทั้งสองมองหน้าผมอย่างพิจารณาแล้ะวส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
“เค้ามองกูเกือบจะทั้งโรงอาหารแล้วนะมึง มึงแน่ใจนะ” สองคนนั้นมองไปทั่วโรงอาหาร
“เออ จริงด้วยว่ะ” ไอ้ปองบ่นพึมพำ
“แล้วก็เสือกมีแต่ผู้ชายมอง มองมาที่มึง” เอมทำเสียงเล็กเสียงน้อย เชิงตัดพ้อ “อ้าว อย่างนี้กูก็นกสิวะปอง เค้าเล่นมองแต่ไอ้นนท์แบบนี้” ไอ้ปองมองหน้าเอมอย่างหน่ายๆก่อนจะส่ายหัวแล้วกลับไปสนใจการ์ตูนวันพีซต่อ
“เออมึง ตอนบ่ายเราว่างกันนี่หว่า ไปหอสมุดกลางกัน”
“เออ ไปดิ ไปส่องวิศวะด้วย” เอมพูดไปพร้อมกับทำหน้าเคลิ้ม มันเคยบอกว่าถึงมันจะพูดงี้บ่อยๆแต่พอเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่ทำอะไรหรอกครับ พ่อแม่มันโหดจะตาย


“เธอมีคนใหม่แล้วหรอ” เสียงตะโกนโวยวายของผู้หญิงผมประบ่าสีน้ำตาลทองที่กำลังทุบตีหลังของผู้ชายที่ผมค่อนข้างคุ้นหน้าเป็นอย่างดี ทำคนทั้งโรงอาหารหันไปสนใจต้นตอของเสียงกันหมด

“...”

“อ๊ะ นั่นคนที่นั่งข้างๆมึงตอนเรียนแคลนี่” เอมกระซิบกระทราบพลางตีแขนผมเบาๆให้หันไปดูคนที่กำลังทะเลาะกันในโรงอาหารจนทำให้คนทั้งหมดหันไปสนใจได้  ผมหันไปมองทั้งคู่ สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แก้มทั้งสองข้างถูกอาบไปด้วยน้ำตา ส่วนผู้ชายที่ถูกตะโกนใส่กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย

“ไปเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของเธออีกต่อไปแล้ว มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม”
“เราขอโอกาสอีกครั้งไม่ได้หรอ แค่อีกครั้ง”

ไอ้โย่งปกติที่มีสายตากวนประสาท ทว่าตอนนี้กลับมีแค่สายตาที่ยากที่จะเดาอารมณ์แต่กลับทำให้คนที่มองเห็นรู้สึกเจ็บปวด

“คนไหนอะ วินบอกเรามาได้มั้ย ใครทำให้วินเปลี่ยนไปขนาดนี้อะ”
“...”

ผมยังคงมองสถานการณ์นี้อย่างเรียลไทม์ ไม่ต่างกันกับเอม ผิดกับไอ้ปองที่นั่งอ่านวันพีซอย่างใจจดใจจ่อ ต่ด้วยการใฝ่รู้เรื่องชาวบ้านนี่เองทำให้ผมดันไปสบตากับไอ้เจ้าของเรื่องพอดี

“คนนั้น” มันชี้นิ้วมาที่ผม ... อ้าว เดี๋ยว มึง เดี๋ยวๆ เห้ยๆ ไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆ ชี้ไม่พอ มันกำลังเดินมาหาผมด้วยครับ ป๊าม๊า เอาผมออกจากตรงนี้ที ฮืออออ มันนั่งลงข้างๆผม มิหนำซ้ำยังเอื้อมแขนมาโอบไหล่ผม แทบจะกอดผมอยู่แล้ว

“ไอ้เหี้ยวิน”  ผมจะลุกขึ้นไปต่อยมันแต่มันดันกดแรงที่ไหล่ผมจนผมเซไปหามัน กลายเป็นท่าผมซบอกมันซะงั้น


           กูจะบ้าตายยยยยยยยยยยยยยย....!!!!!!!!!


ผู้หญิงคนนั้นเดินปรี่เข้ามาทันที เธอมองสภาพผมกับไอ้วินอย่างไม่เชื่อสายตา อย่าว่าแต่เธอเลยครับ ทั้งผม ทั้งเพื่อนผมอีก 2 คนยังไม่อยากจะเชื่อเลยครับ มึงเล่นบ้าอะไรเนี่ย แม่คุณเลื่อนสายตามาที่แก้วโค้กของผมที่อยู่บนโต๊ะ ทำให้ผมนึกถึงฉากในละครที่นางร้ายเอาน้ำสาดนางเอกได้เลย เอ๊ะ ว่าแต่ใครจะเป็นนางเอก ต้องไม่ใช่ผมแน่ๆ! เป็นไปดังคาด เธอหยิบแก้วโค้กของผมขึ้นมากำแน่น

“เห้ย ใจเย็นคุณ ค่อยๆพูดกันเนอะ มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ผมพยายามพูดให้เธอใจเย็นลง แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล เธอง้างมือเตรียมสาดแล้วครับ “เชี่ยยย อย่า มันเหนี....” ประโยคยังไม่ทันจบ โค้กที่ผมกินได้แค่นิดนึงก็มาอยู่บนตัวผมแล้วเรียบร้อย สัสสสสส ถ้าไม่เห็นเป็นผู้หญิงนี่ผมกระโดดถีบเท้าคู่แล้วนะ จริงๆ

“เป็นไรมากเปล่า”
“เป็นสิวะ เปียกทั้งตัว โค้กนะเว้ย มันเหนียว” ผมสะบัดตัวมันทิ้งแล้วเดินหนีออกจนได้ ผมรีบเดินอ้อมหลังยัยผู้หญิงสติหลุดนี่ไปหาไอ้ปองกับเอม พลางปัดเศษน้ำแข็งที่ติดอยู่ตามซอกคอ ไรผม

“เตย เลิกบ้าซักที!” เสียงตะหวาดของไอ้วินทำให้ผู้หญิงคนนั้นสะดุ้งและวางแก้วที่ว่างเปล่าในที่สุด หึ ก็ใช่สิ โค้กกูมันอยู่บนตัวกูหมดแล้วเนี่ย ห่า เพื่อนไอ้วินที่หันมายิ้มให้ผมตอนเรียนแคลฯวิ่งตามหลังหน้าตื่นมา มันถอดเสื้อแจ็คเก็ตให้ผมคลุมตัว ผมโค้งให้เค้านิดๆเป็นการขอบคุณ

“โอ๊ต มึงเอาผู้หญิงคนนี้ออกไป ก่อนกูจะหมดความอดทน” ภาพที่ทุกคนเห็นคือผู้ชายสองคนพาผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วยสภาพทุลักทุเล เธอออกไปพร้อมกับเสียงฟูมฟายจนกระทั่งเสียงนั้นเบาลงเรื่อยๆและหายไป จนเหตุการณืในโรงอาหารกลับมาเป็นปกติ

“แม่งเอ้ย เปิดเทอมวันแรกกูต้องมาเจอเหี้ยไรแบบนี้ด้วยวะเนี่ย” ผมบ่นพึมพำกับเพื่อน

“ขอโทษนะ”
“เออ ถือว่าหายกันที่มึงไปส่งกูแล้วกัน หวังว่าคงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ที่กูจะเจอมึงเนี่ย” ผมรีบเดินออกจากโรงอาหาร ผมยกเลิกนัดที่จะไปหอสมุดกลางเพื่อที่จะรีบกลับบ้าน แต่ดันมีมือมาดึงมือผมไว้

“ที่กูพูดเมื่อกี้อะ...” ผมทำหน้างง “ที่กูบอกคนที่ทำให้กูเปลี่ยนไปคือมึงอะ” มันก้มหน้ามองพื้น ดูลำบากใจที่จะพูด
“อีกนานมั้ย กูอยากกลับบ้านแล้ว”


กูพูดจริงนะ...

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #4 เมื่อ20-06-2017 19:54:45 »

 :hao3:มนนท์โกรฑมันเลย โยนเรื่องให้คนอื่น ตัวต้นเหตุกับไม่แก้ไขอะไร คะแนนติดลบ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #5 เมื่อ20-06-2017 20:22:15 »

ง้อด้วยอ้อยด่วนค่ะ.....  :hao7: รออออออ.... :hao3:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #6 เมื่อ20-06-2017 23:18:57 »

พวกเจ้าชู้ประตูหน้า
คบไม่ได้นะนนท์

อย่าหลวมใจให้มันเด็ดขาด
ชิส์..ไอ่วิน

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #7 เมื่อ21-06-2017 17:32:20 »

#ตอนที่2 – มาวินกับณนนท์#



“กูพูดจริงนะ...” คำพูดของมันทำเอาผมรู้สึกแปลกๆในใจ ตอนที่มันพูด มันจ้องตาผมไม่กระพริบ ถึงจะไม่ชอบขี้หน้ามันเท่าไหร่ แต่ผมก็รู้สึกแปลกๆค่อนข้างไปในทางที่ดี อยู่ดี


ตึก ตึก .... ตึก ตึก


   ผมรีบผละออกจากมันทันที แล้วเดินออกมาจากมันทั้งๆ ที่มันยังยืนนิ่งอยู่ ตั้งแต่ผมซ้อนพี่วินหน้าคณะ ผมขึ้นบีทีเอส จนกระทั่งผมเดินเข้าบ้าน มาอาบน้ำเปลี่ยนชุด นอนเกลือกกลิ้ง กินข้าว เล่นเกมส์ ดูหนัง นอนฟังเพลงบนเตียงนอน หน้าที่จริงจังของมัน กับเสียงทุ้มๆหล่อๆของหมอนั่นก็ยังหลอกหลอนผมอยู่แม้ผมจะพยายามทำเป็นไม่ใส่ใจมันเท่าไหร่ แต่หัวใจตัวดีมันเต้นแรงเหมือนกับว่ามันยินดีและมีความสุขที่ได้ยินคำนั้น อืม มันอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรในชาติที่แล้วของผมก็ได้ล่ะมั้ง ถึงได้เอาแต่ละซวยๆมาให้ ถึงยังไงก็ไม่มีวันซะหรอกที่ผมจะใจอ่อนให้กับคนอย่างมัน คนอย่างณนนท์ ต้องคู่ควรกับผู้หญิงสวยๆเท่านั้น และจะไม่มีวันถูกตราหน้าว่าไปแย่งของคนอื่นเด็ดขาด



. . . . . ตื๊ดดดด . . . . .
หน้าจอมือถือของผมสว่างขึ้น พร้อมกับปรากฏการแจ้งเตือนที่เป็นข้อความจากกรุ๊ปไลน์ของพวกผม ...  ‘ผี3บาท’



Miss ChaEmm [ผี3บาท] : นนท์
HelloNonT [ผี3บาท] : ว่า?
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : ไอ้ผู้ชายที่ทะเลาะกับแฟนในอาหารวันเนี้ย
HelloNonT [ผี3บาท] : ทำไมวะ
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : เค้ามาขอไลน์มึงกับพวกกู
HelloNonT [ผี3บาท] : เห้ย อย่าให้นะมึง
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : ....
pingpoNG [ผี3บาท] : ไม่
pingpoNG [ผี3บาท] : ทัน
pingpoNG [ผี3บาท] : แล้ว
pingpoNG [ผี3บาท] : จ้า
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : แหะๆ กูเห็นเพื่อนเค้าหล่อดี
HelloNonT [ผี3บาท] : สาสสสสสสสสสสสส
pingpoNG [ผี3บาท] : ทำใจว่ะ 555555555
HelloNonT [ผี3บาท] : *sticker เด็กร้องไห้โยนของเล่น*


ผีสมชื่อกรุ๊ปไลน์จริงๆเลย ไอ้เอม ไอ้บ้า ไอ้เพื่อนชั่ว กูขอให้กระโปรงมึงเปิดตอนลงบันไดเลย เพี้ยงงงงงงงงงง..... ผมกดล็อคหน้าจอททิ้งมือถือลง และพลิกตัวกลับไปเล่นแลปท็อปอีกครั้ง


. . . . . ตื๊ดดดด . . . . .
หน้าจอมือถือของผมสว่างขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าการแจ้งเตือนครั้งนี้กลับปรากฏชื่อที่ผมไม่เคยเห็นในชีวิตประจำวัน

NiWaM : เรื่องวันนี้กูขอโทษนะ
HelloNonT : *Read*
NiWaM : กูอธิบายได้นะเว้ย เรื่องเตยอะ
HelloNonT : *Read*
NiWaM : send you a voice messege


 ‘คือกูคบกับเตยก็จริง แต่กูเลิกกับเตยตั้งแต่ม.6แล้ว กูจับได้ว่าเค้านอกใจ แต่เตยตื๊อ จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ กูก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงแล้วอะ’


HelloNonT : บอกกูทำไมอะ
NiWaM : ก็แค่อยากบอก
HelloNonT : อ่า
HelloNonT : อืม
HelloNonT : จ้า





[พาร์ทของชะเอม]




             สวัสดีค่ะทุกคน มาถึงตรงนี้หลายๆคนคงจะงงว่าทำไมฉันถึงเป็นหญิงแกร่งมาอยู่ในกลุ่มผู้ชาย 2 คนนี้ได้ ง่ายๆคือฉันเป็นสายลุยสายฮา ไม่ชอบการจุกจิกคิดเล็กคิดน้อยแบบผู้หญิงเท่าไหร่ ก็เลยเข้ากับพวกเพื่อนผู้หญิงไม่ค่อยได้ หลายๆคนคงทราบดีนะคะว่าผู้หญิงมาอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวก็คงเกิดปัญหา ซึ่งฉันเจอมาตอนม.ปลาย ฉันจึงตัดสินใจคบกลุ่มเพื่อนผู้ชายดีกว่า ไม่วายยังโดนเมาท์ว่าแรง ขลุกอยู่แต่กับผู้ชาย ก็แหม เพื่อนทั้ง 2 คนก็เล่นเด่นสุดๆในสาขานี่คะ คนนึงก็หล่อเข้ม อีกคนก็น่ารักน่าหยิกแก้มขนาดนี้ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะ เรื่องที่ควรสนใจคือฉันรู้จักผู้หญิงคนนั้นดีค่ะ ผู้หญิงที่ชื่อใบเตย เพราะฉันจบโรงเรียนเดียวกับเธอมา ข่าวฉาวของเธอดังกระฉ่อนทั้งโรงเรียน คงไม่มีใครรู้จักเธอหรอกค่ะ ข่าวที่ว่าก็คงไม่พ้นเรื่องคบคนนั้น ซ่อนคนนี้ กั๊กคนนู้น โว้ยยย น่าปวดหัว


“ทำไมมึงกล้าให้ไลน์ ไอ้นนท์ไปวะ เดี๋ยวชะตามึงก็ขาดเอาหรอก” ไอ้ปองพูดแบบกลั้วขำ
“กูไม่ได้ให้ไลน์อย่างเดียวนะมึง กูให้ทั้งเฟซ ไอจี เบอร์โทร เลยอะ” อยู่ๆก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมา
“เงาหัวมึงยังอยู่ครบมั้ยหว่า” ปองแกล้งทำเป็นมองเงาตามพื้น


กูยังชะตาไม่ขาดโว้ยยยย...


“ก็กูรู้จักผู้หญิงคนนั้นน่ะสิมึง กูเลยคิดว่า ผู้ชายคนนั้นคงพูดจริง เรื่องที่มันเลิกกันเพราะโดนจับได้เรื่องผู้ชาย แล้วัยเตยก็ไปตื๊อเค้าให้กลับมา” อดทำหน้าเอือมเวลาพูดถึงยัยนี่ไม่ได้จริงๆค่ะ “อีกอย่างวินเค้าก็ดูไม่ได้เลวร้ายนะมึง เค้ายังจดเลคเชอร์ให้ไอ้นนท์ตอนมันหลับเลย” ฉันพูดพลางนึกถึงเหตุการณ์ตอนเรียนแคลฯเมื่อเช้า ผู้ชายที่นั่งข้างๆนนท์แอบหยิบชีทสมุดเลคเชอร์ของนนท์ไปจดเนื้อหาของคาบที่เพื่อนแสนจิ้มลิ้มของฉันแอบหลับ ถ้าสาววายเห็นคงกรี๊ดจนอาคารเรียนถล่ม “แถมยังนั่งมองไอ้นนท์ทั้งคาบ กูว่าถ้าเป็นกูเจอสายตาแบบนั้นมองนะ กูคงละลายติดไปกับโต๊ะเลคเชอร์แล้วมึ๊งงงง”
“ให้มันน้อยๆหน่อยมึงอะ เดี๋ยวนอของมึงงอกมาทิ่มหน้ากู จะทำไง” อ้าว โดนด่าเฉยเลยกู
“ขอกูมโนหน่อยก็ไม่ได้” ฉันได้แต่บ่นพึมพำ เพราะไอ้เพื่อนหน้าหล่อมันส่ายหัวแล้วกลับไปสนใจหนังสือเท็กซ์วิชาเคมีทั่วไปข้างหน้ามันแล้ว ฟิตจริงๆเลยพ่อคู๊ณณณณณณ “มึง แต่ไอ้นนท์ใจเย็นมากเลยนะเว้ย โดนโค้กสาดขนาดนั้นไม่โต้กลับเลยซักนิด ถ้าเป็นกูนะ โรงอาหารแตกแล้วววว” ว่าแล้วก็นึกโมโหแทนมันจริงๆ
“ก็เค้าเป็นผู้ชาย จะไปทำร้ายผู้หญิงได้ไงล่ะ มึงก็นะ” ปองเอาหนังสือมาตีไหล่ฉัน ไหนบอกผู้ชายไม่ทำร้ายผู้หญิงไงวะ “ไอ้นนท์ไม่ตอบไลน์กลับมา สงสัยตอนนี้กระฟัดกระเฟียดเป็นบ้าตายอยู่ที่บ้านมันแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ” ไอ้ปองเผลอหัวเราะร่วนดังขึ้นมา จนคนทั้งโซนอ่านหนังสือในหอสมุดกลางหันมามองกันหมด ให้ตายเถอะ ในผี3บาทมันมีใครสติดีมั้ยเนี่ยยยย เอ๊ะ ฉันไง ใช่ ฉันมีสติสุด


“เดี๋ยวนะ” ปองทำหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง “มึงบอกว่ารู้จักคนที่ชื่อเตยใช่ปะ”
“ใช่”
“แล้วทำไมมึงไม่รู้จักคนที่ชื่อวินอะไรนั่นอะ”
“ใครว่ากูไม่รู้จัก”
“อ้าว...” ไอ้ปองอ้าปากค้างพะงาบๆ เห็นละอยากจะถ่ายรูปไปประจานหน้าคณะจริงๆ
“กูรู้จักเค้า แต่เค้าไม่รู้จักกู เพราะเค้าไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกับกู”

“...” เกิดมาเพิ่งเคยเห็นคนหล่อแต่โง่นี่แหละค่ะ เอ๊ะ หรือกูพูดไม่เคลียร์เองวะ

“ก็เตยกับกูอยู่โรงเรียนเดียวกันใช่ม๊ะ” ปองพยักหน้าหงึกๆ “แต่ผู้ชายที่ชื่อวินอยู่โรงเรียนชายล้วน ใกล้ๆโรงเรียนกู เค้าเคยลงเพจคิวท์บอยของโรงเรียนด้วยนะมึง”
“อ่าห้ะ” ปองไม่ได้ได้ทำหน้าตื่นเต้นไปกับกูเล๊ยยยย
“เออ แค่นี้แหละ กูรู้จักเค้าแค่นี้”
“โด่ว นึว่าจะรู้ละเอียด”
“ขี้เสือกไม่เบานะมึงเนี่ย”
“เอ้า เชี่ยนี่ ด่ากูทำไม มึงก็ไม่แพ้กูหรอก!!”




[พาร์ทของนนท์]





มือถือจะแจ้งเตือนเชี่ยอะไรนักหนาวะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยย

Facebook : Mawin Mahasuwansakul sent you a friend request
 
Instagram : win_mw  liked your 177 posts

มึงจะโผล่มาทุกอันเลยหรอไงวะ ไอ้เอม ไอ้เพื่อนชั่ว ไอ้ขายเพื่อนนนนนนน!!!!!! แต่ก็แปลกที่ถึงแม้จะรำคาญ แต่ก็ดันกดรับ accept friend request มันซะงั้น ไม่พอ ยังกด follow มันปอีก เอาสิ ให้ตายเถอะกิ๊ฟฟฟฟ


เอ๊ะ หรือกูป่วย เป็นไข้ป่าววะ ห๊ะ กูเป็นอะไรเนี่ยยยยย T^T

 ผมลุกขึ้นไปจัดกระเป๋า สำหรับไปเรียนในวันพรุ่งน้ อ้อ สำหรับเสื้อคลุมที่มีคนอนุเคราะห์ให้ตอนเกิดเหตุบัดซบนั่น  ผมซักให้เรียบร้อยแล้วครับ ผมเอาชีทต่าง ๆในกระเป๋าออก รวมทั้งสมุดเลคเชอร์...ที่ผมไม่ได้จบอะไรเลย มีเพียงคราบน้ำลายบนปกที่เป็นสิ่งยืนยันว่าผมเข้าเรียน ให้ตายเถอะจอร์จ

...ตุบ...

ผมเผลอทำสมดเลคเชอร์ตอนเอี้ยวตัวไปหยิบหนังสือเจนฯเคมฯ* ทำให้สมุดกางออกเปรียบเสมือนคางคกที่โดนรถเหยียบ (เปรียบเทียบอะไรของแกวะนี่ย -_-) อ้าว.... ใครมาอะไรในสมุดกูวะเนี่ย ลายมือไก่เขี่ยชิบหาย ไอ้ปองป่าวหว่า


HelloNonT [ผี3บาท] : ปิงปองจ๋า
pingpoNG [ผี3บาท] : จ๋า
HelloNonT [ผี3บาท] : มึงเอาสมุดกูไปจดเลคเชอร์หรอ จดซะละเอียดเลยอะ ไอ้ห่า
HelloNonT [ผี3บาท] : พัฒนาลายมือบ้างนะลูกพ่อ
HelloNonT [ผี3บาท] : *sent a photo เป็นรูปถ่ายเลคเชอร์ที่โคตรพ่อโคตรแม่ละเอียด*
pingpoNG [ผี3บาท] : จดเหี้ยอะไร กูจดทันแค่สูตรดิฟสูตรแรก สติกูก็หลุดแล้ว จะเอาอะไรไปจดให้มึง
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : ว้าวววววว
HelloNonT [ผี3บาท] : มึงหรอ เอม
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : ไม่ใช่จ้า อิอิ
HelloNonT [ผี3บาท] : ใครวะ
Miss ChaEmm [ผี3บาท] : มีใครนั่งข้างมึงบ้างล่ะ คิดสิลูกแม่ คิด
HelloNonT [ผี3บาท] : ใครลูกมึง
pingpoNG [ผี3บาท] : กูก็ไม่ใช่ลูกมึงนะ นนท์


แล้วใครจดวะ คนที่นั่งข้างๆกู? หรือว่า...




NiWaM : เห็นเลคเชอร์ที่กูจดไว้ให้ยัง


ป๊าม๊า .... พานนท์ไปทำบุญที โว้ยยยยยยยยยย


HelloNonT : ลายมือเหี้ยมาก
NiWaM : หรือมึงจะดูรอยน้ำลายตัวเองตอนสอบครับ
HelloNonT : *Read*
NiWaM : ทนๆอ่านไปเถอะ อาจารย์บอกจะเน้นอันนี้ตอนมิดเทอม
HelloNonT : อืม
HelloNonT : ขอบใจ
NiWaM : ไม่เป็นไร
NiWaM : กูเต็มใจ
NiWaM : กูอยากทำให้มึง
   

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #8 เมื่อ21-06-2017 19:06:12 »

โถ่ นายเอกใจง่ายอีกและ เราอุสส่ามโน ว่านนท์คงโกรธอะไรบ้าง นี่อะไร อะ ทำไมนายเอกต้องเปนแบบนี้อะ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #9 เมื่อ21-06-2017 20:14:28 »

 :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
« ตอบ #9 เมื่อ: 21-06-2017 20:14:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนพิเศษ
«ตอบ #10 เมื่อ21-06-2017 23:45:06 »

#ตอนพิเศษ– มาวินกับณนนท์#



“มึงดูคนนั้นเดะเชียร์ น่าฮักขนาด งามปะล่ำปะเหลือ” ไอ้โอ๊ตสะกิดเพื่อนคนสนิทให้ดูสาวๆที่มาสัมภาษณ์ ทั้งหมดถูกจัดให้มานั่งรอในห้องเดียวกันหมดทุกสาขา ทำให้คนดูพลุกพล่าน

น่ารำคาญชิบ....

แต่ดูท่าเพื่อนผมจะไม่คิดแบบนั้น มันกลับรู้สึกดีและตื่นเต้นในการเข้ามาส่องสาวในกรุงเทพเป็นครั้งแรก ใช่ครับพวกเราเป็นเด็กนักเรียนมาจากภาคเหนือ จึงไม่แปลกที่ไอ้โอ๊ตติดภาษาที่บ้านมา พวกผมแอดมิชชั่นติดมหา’ลัยในกรุงเทพ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันสอบสัมภาษณ์ ซึ่งผมกับเพื่อนอีก 2 ตัวก็ดันติดคณะเดียวกัน แถมยังมาสาขาเดียวกันอีก
“ไอ้เหี้ยโอ๊ต ทำอย่างกับบ่ะเคยหันสาว ตอนอยู่โรงเรียนมึงก็ไปปีนรั้วดูสาวโรงเรียนใกล้ๆบ่อยๆ” ไอ้เชียร์พูดพลางตบหัวไอ้โอ๊ตเป็นเชิงหยอกล้อ ผมได้แต่นั่งขำส่ายหน้าเบาๆ 2คนนั้นมันสัมภาษณ์เสร็จแล้วครับ เหลือแค่ผม ผมจึงนิ่งเป็นพิเศษ เพราะผมต้องรวบรวมสมาธิ
“ไอ้วิน มึงดูคนนี้ดิ คนนี้ไม่ใช่สาวแต่เป็นข้อยกเว้นว่ะ...” ไอ้โอ๊ตชี้ให้ผมมองผู้ชายคนนึงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง แต่มีรูปบอบบาง ผิวขาวคนผู้ชายคนนั้นดูแทบจะกลืนไปกับเสื้อนักเรียนของเค้า ใบหน้าที่ดูดีค่อนไปทางน่ารักทำให้ผมละสายตาไปจากเค้าไม่ได้จริงๆ

“ไอ้วิน จ้องซะนิ่งเลยนะมึง ถ้าเป็นปลากลัดเค้าท้องไปแล้วเนี่ย” ไอ้โอ๊ตกับไอ้เชียร์แท๊กมือกัน ดูสะใจที่แซวผมได้ เพราะปกติผมไม่ได้เปิดโอกาสให้มันแซวผมบ่อยๆ

“มึงก็ดูดิ ตลกชิบหาย” ผมชี้นิ้วไปให้เพื่อนผมทั้ง2คนดูภาพที่ผมกำลังมองอยู่ ภาพของเด็กผู้ชายชุดนักเรียนกางเกงดำที่กำลังหยิบสร้อยพระในคอออกมาพนมมืออยู่เหนือหัวเชิงขอพรจากพระที่เค้าสวมใส่อยู่ สักพักก็เปลี่ยนท่าทางมาเป็นเอานิ้วมาแตะหน้าผาก หน้าอก ซ้าย ขวา แล้วพนมมืออีกครั้ง สรุปมันนับถือศาสนาไหนกันแน่วะเนี่ย


“น้องณนนท์ ธาราสุวรรณ ภาคเคมี ครับ”
เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยง แล้วค่อยๆยกมือแสดงตัวตนอย่างช้าๆ คนอะไร ทำไมมันทำตัวตลกขนาดนี้วะเนี่ย
ณนนท์ ... ภาคเคมี งั้นหรอ หึ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ

“ค ค ค... ครับพี่”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ อาจารย์ไม่โหดหรอก” พี่ผู้ชายท่าทางใจดีเดินเข้ามาโอบไหล่เจ้าตัวแล้วพาเดินออกไปนอกห้อง



“มาวิน มหสุวรรณสกุล ครับ”  ผมเงยหน้ามองคนขานชื่อของผม ทำไมไม่เห็นมีพี่หน้าตาใจดีแบบเมื่ออกี้บ้างเลยวะ คนนี้ออกแนวนักมวยปล้ำเสียมากกว่า
“ครับ” ผมเดินตามพี่เค้าไปยังห้องสัมภาษณ์ในทันที







ผมยกมือไหว้อาจารย์ผู้หญิงที่ทำหน้าที่เป็นผู้สัมภาษณ์ อาจารย์ดูท่าทางใจดี หวังว่าคงไม่ถามคำถามโหดนะครับ ผมไหว้ล่ะ

“แนะนำตัวได้เลยค่ะ” อาจารย์พูดพร้อมกับรอยยิ้มพร้อมกับหยิบพอร์ทของผมไปดู ทำให้ผมคลายความกังวลมาได้กึ่งหนึ่ง

“ผมนายมาวิน มหสุวรรณสกุล ครับ จบม.6 จากโรงเรียนXXXครับ”

“เดี๋ยวขออาจารย์ดูเอกสารก่อนนะคะ” อาจารย์พูดพลางยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเอกสารข้อมูลแอดมิชชั่นของผมขึ้นมาดู

“อืม...เกรดสวยนะ เราเลือกที่นี่ สาขานี้ไว้อันดับ1เลยสินะ ทำไมถึงอยากเรียนสาขาวิทยาการคอมฯล่ะคะ”
“เอ่อ....คือผมค่อนข้างชอบเล่นเกม แล้วก็สนใจการเขียนโปรแกรมพวกนี้ครับ”
“อ๋อออ เด็กส่วนใหญ่ก็ตอบแบบนี้กันเยอะนะ แล้วรู้มั้ยว่ามันยากนะ จะเรียนไหวหรอ”
“ไหวแน่นอนครับ” ผมยิ้มให้อาจารย์หวังว่าอาจารย์จะเห็นว่าผมจะไหวนะครับ
“ทำไมถึงอยากมาเรียนที่นี่ล่ะ”
“คือ..”

“...” อาจารย์ทำหน้าสงสัย

“คือตอนแรกผมอาจจะตอบว่าผมชอบที่นี่ อยากเรียนที่นี่ตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่...”

“อย่าค้างนานสิคะ อาจารย์ลุ้นนะเนี่ย”อาจารย์หัวเราะออกมาเบาๆ

“แต่ตอนนี้ผมคงตอบว่าผมอยากเรียนที่นี่เพราะคนคนนึงล่ะมั้งครับ แหะๆ” ผมก้มหน้ามองตักตัวเอง สวดมนต์ภาวนาอย่าให้อาจารย์มองว่าผมบ้าแล้วตัดสิทธิ์ผมเล๊ยยยยย

“ฮ่าๆๆ เป็นแบบนี้นี่เอง ขอให้สมหวังนะคะ แล้วเจอกันเปิดเทอมค่ะนักศึกษา”
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ขอบคุณอาจารย์ด้วยท่าทางดีใจจนอาจารย์หลุดขำออกมา

ผมออกมาหน้าห้องสัมภาษณ์ด้วยท่าทีสบายใจ อ้อ ห้องสัมภาษณ์แบ่งกันเป็นห้องละภาค ห้องข้างๆผมเป็นของภาคเคมี ซึ่งคงเป็นความโชคดีที่ณนนท์ ภาคเคมีคนนั้นออกมาพร้อมกับผมพอดี ทำให้ผมได้มองเค้าได้ใกล้ขึ้นกว่าเมื่อครู่ ท่าทางเค้าดูสบายใจกว่าก่อนหน้ามาก สายตาของเค้าสื่ออารมณ์ได้ชัดเจนว่าขณะนี้กำลังโล่งใจ ผมมองเค้าไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆตอนนี้ผมดันไปสบตากับเจ้าตัวเค้าจังๆเข้าแล้วสิครับ แต่แทนที่เจ้าตัวแสดงอาการไม่พอใจที่คนแปลกหน้ากำลังจ้องเค้ากลับยิ้มออกมาแล้วเดินมาหาผม

เค้าเดินมาหาผม


เค้าเดินมาหาผม

และหยุด
อยู่ตรงหน้า.....

“เห้ย นาย ไม่สบายป่าวเนี่ย” ถึงจะดูสูงโปร่งแต่ก็ยังตัวเตี้ยกว่าผมอยู่ดี เค้าพยายามโบกมือไปมาให้ผมได้สติ
“อ อ เอ่อ ไม่เป็นไรอะ”
“เห็นนายดูอึ้งๆ นึกว่าโดนสัมภาษณ์จนช็อคหมดสติไปแล้วซะอีก” เค้าพูดพลางยิ้มไปด้วย คนอะไรทำไมมันยิ้มแล้วโลกสดใสจังเลยวะ
“...”
“อ๊า ไม่ทันละ เราไปก่อนนะ” เจ้าเตี้ยเอามือมาตบบ่าเพื่อบอกลาก่อนจะวิ่งหอบพอร์ทพร้อมกับกระเป๋าไปด้วย


ผู้ชายอะไรวะ น่ารักชิบหาย









{{ตอนพิเศษอินกระแสสอบสัมภาษณ์แอดมิชชั่นเน้อออ ใครสอบสัมฯก็ขอให้โชคดีน้าาาา^^}}

ออฟไลน์ itsmerata

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #11 เมื่อ22-06-2017 22:24:10 »

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #12 เมื่อ22-06-2017 23:16:43 »

จะเชื่อถือได้ซักแค่ไหน
วินดูแล้วน่าจะเจ้าชู้ไม่น้อย

นนท์เล่นตัวเยอะๆ อย่าง่ายไปกับวิน
เพิ่มราคาให้ตัวเองบ้างนะ

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #13 เมื่อ23-06-2017 08:17:40 »

ขอให้ นนท์ เล่นตัว ไว้ฟอร์อมหน่อยนะ อย่าแบบง่ายดายอะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #14 เมื่อ23-06-2017 11:37:53 »

ตามติด   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที่3
«ตอบ #15 เมื่อ26-06-2017 00:41:24 »

#ตอนที่3– มาวินกับณนนท์#




“น้องๆเคมีปี1 ที่มาถึงแล้วให้นั่งกันตามรหัสนักศึกษาเลยนะครับ” เสียงของพี่ภูมิที่เคยเป็นพี่ว้ากที่เคยสั่งผมลุกนั่ง กลิ้ง คลาน วิ่งไปรอบคณะ กำลังประกาศเรียกรวมปี1 อีกครั้ง ครั้งนี้คงไม่ได้รับน้องให้เหนื่อยแล้วล่ะครับ ผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ วันนี้ปี1ภาคเคมีถูกเรียกมารวมที่หอประชุมคณะเพื่อที่จะเปิดตัวสายรหัส โชคดีที่มีแอร์ ไม่งั้นต้องเป็นลมเป็นแล้งกันแน่ๆ เพราะคนเยอะมากๆ มีตั้งแต่ปี1ยันพี่บัณฑิต คงเป็นเพราะผ่านการรับน้องการมาทุกคน เลยทำให้พวกผมตั้งแถวและนั่งลงได้อย่างรวดเร็ว



“เอาล่ะครับ เพื่อไม่เป็นเสียเวลา พี่จะเริ่มเลยแล้วกันนะครับ” เป็นที่น่าแปลกครับว่าถึงแม้พี่ภูมิจะเป็นพี่ว้ากที่ทำพวกผมและเพื่อนผู้ชายหลายๆคนไม่กล้าหือกับพี่ภูมิ แต่สาวๆดันหวีดพี่ภูมิทั้งสาขา หรือไม่ก็ทั้งคณะไปเลยดีกว่า บางคนก็บอกหล่อ บางคนก็บอกเท่ห์ ชมข้ามหัวกูไปเลย ไม่ต้องเกรงใจกูแล้ว “ขอเชิญพี่โอเล่มารับช่วงต่อครับ”



“สวัสดีค่ะน้องๆ พี่เป็นพี่เป็นพิธีกรรับเชิญจากฟิสิกส์นะคะ แต่ไม่ได้รับตังนะคะเนี่ย พี่ชื่อพี่โอค่ะ แต่ต้องเรียกพี่ว่าโอเล่นะคะน้องๆ” เสียงของเจ้โอเล่ สาวสองสุดสวย(?)ประจำคณะ เฮดสันทนาการปี2ขึ้นมารับช่วงแทนพี่ภูมิที่เดินลงไปหลังเวที “เนื่องจากวันนี้น้องๆต้องเปิดสายรหัสของเคมีนะคะ จะให้พี่ๆภาคเคมีมาเป็นพิธีกรก็เดี๋ยวจะไม่ได้ลุ้น พี่ก็เลยมาข่วยเป็นพิธีกรให้นะคะ”


“เอาล่ะค่ะน้องๆลูกสาวลูกเจี๊ยบลูกชายทั้งหลายแหล่แม่ปลาช่อน พี่จะบอกวิธีการก่อนนะคะ พี่จะประกาศเรียกทีละ 10  รหัสนะคะ พอพี่เรียกแล้วให้หนูๆมายืนเรียงเป็นแถวหน้ากระดานที่ด้านหน้า แล้วหลับตา รอเซอร์ไพรส์จากพี่รหัสนะคะลูกขา ส่วนด้านในนะคะ ถ้าเห็นอะไรก็อย่าเพิ่งส่งเสียงนะคะ จนกว่าพี่จะบอกให้คนด้านหน้าลืมตาเนอะ โอเคมั้ยค้า ”

“โอเคค้าบบบ/โอเคค่า”

“เอาละค่ะ พี่ๆด้านหลังพร้อมกันแล้วเนอะ”
“รหัส 00-09เชิญด้านหน้าเลยจ้า” เจ้โอเล่เริ่มเรียกรหัสทีละ 10 อย่างที่พี่เค้าอธิบายไว้จริงๆ ส่วนการเซอร์ไพรส์ของพี่รหัสก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่การพี่รหัสมายืนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับหอบ หนังสือ ชีทต่างๆ  และขนมไม่อั้น สิ่งสุดท้ายนี่แหละคือสิ่งที่ผมหมายตาที่สุด
.
.
.
.
.
.
.
.

“รหัส 40-49จ้า มาเลยลูกจ๋า ขอสปอยว่ามีผู้โชคดี1คนจะได้ของดีไปจ้า”

“กรี๊ดดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดของสาวๆดังกระหึ่มขึ้น มึงจะดีใจอะไรกันขนาดนั้น กูก็ของดีนะเว้ยยยยยย

ผมออกไปยืนข้างหน้าเรียงตามรหัสซึ่งรหัสของผมคือรหัส 47 ผมมองซ้ายมองขวาทำให้ผมเพิ่งสังเกตว่ารหัสรอบข้างผมเป็นผู้หญิงทั้งหมดเลยแหะ ขอให้พวกเธอโชคดีแล้วกัน ส่วนณนนท์ขอให้พี่รหัสเป็นผู้หญงสวยๆทีเถ๊อะ

“หลับตาลงด้วยนะจ๊ะ” ผมหลับตาลงตามคำสั่งของผู้เป็นพิธีกร ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงกรี๊ดจากผู้ชมในห้องส่ง ไม่สิ ผมได้ยินเสียงหญิงแท้หญิงเทียมทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่กำลังกลั้นเสียงกรี๊ดตัวเองอยู่ด้านหน้าของเวที ทำให้ผมเดาได้ทันทีว่าคงมีพี่ภูมิอยู่รอบนี้แน่ๆ เสียงถุงใส่ของค่อยวางลงเรื่อยๆจนหมดในที่สุด เสียงทั้งหอประชุมเงียบสนิท มีเพียงแค่เสียงแอร์ทั่งหึ่ง หึ่งอยู่เท่านั้น ผมรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังของผมแล้วตอนนี้ ลมหายใจอุ่นที่รดต้นคอของผมทำให้ผมเดาความสูงได้ไม่ยาก คงจะเป็นพี่ผู้ชายสินะ โถ่ววววว กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่โชยมาทำให้ผมผ่อนคลายดีเหลือเกิน ถ้าลืมตาเมื่อไหร่ผมจะต้องถามให้ได้ว่าใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไร

“พร้อมรึยังคะหนู”

“พร้อมแล้วครับ/ค่ะ”

“แต่พี่ยังไม่พร้อมค่ะ พี่อิจฉา น้องทำบุญมาด้วยอะไรคะเนี่ย” เสียงโห่ร้องเชิงเป็นการเห็นด้วยกับเจ้โอเล่ดังงขึ้นมาทั้งหอประชุม

“ขอให้โชคดีนะคะชะนีน้อย ... ลืมตาได้ค่ะ”

“ค่อยๆลืมตาแล้วหันมานะครับ” เสียงกระซิบที่เจ้าของเสียงยื่นเข้ามาพูดข้างๆหูผม ทำให้ผมได้กลิ่นน้ำหอมชัดมากขึ้น รวมถึงลมหายใจที่พ่นออกมารดต้นคอผม ทำให้ผมจักจี้จนต้องเผลอหดคอแล้วหันไปด้วยความรวดเร็ว นั่นทำให้...


จมูกผม


ไปชนกับ


จมูกของพี่ภูมิ


ชิบหาย...


‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด’

‘มึ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง กูอิจฉาน้องงงงงงงงงงงงงงงงงงง’

‘กูเกลียดมึง นนท์ กูเกลียดดดดดดดดดดดดด’

‘เดือนมหาลัยของกู กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด’

พี่ภูมิเป็นพี่รหัสของผมหรอ นี่พี่ว้ากเลยนะเว้ย ชิบหาย กะจะกวนตีนขอกินข้าวฟรีทั้งเทอม กูจะได้กินตีนแทนมั้ยวะเนี่ย แล้วเรื่องน้ำหอม ... เอ้ย ช่างแม่ง ไม่ถงไม่ถามแล้ว

“เห้ยเป็นไร ทำไมหน้าเหวอขนาดนั้นอะ” พี่ภูมิย่อตัวลงมามองหน้าผมใกล้ๆ นั่นแสดงว่าผมเตี้ยกว่าพี่ภูมิอีกแล้ว กูเตี้ยกว่าอีกแล้ว เห้อออ “ไม่ดีใจหรอ พี่เสียใจนะเนี่ย” พี่ภูมิทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ป ป ปเล่าครับพี่ ค ค คือ...ผม เอ่อ คือว่า ผม..” ผมรีบก้มหน้ามองพื้น ทำให้ผมมองเห็นถุงที่บรรจุขนมเต็มหมด หูวววว
“นี่เรากลัวพี่ขนาดนั้นหรอ ฮ่าๆๆ” พี่ภูมิเอามือมาขยี้หัวผม เห้ย พี่อย่า ผมไม่ได้สระผมมา...
“ก็ตอนรับน้องพี่เล่นให้ผมวิ่งรอบคณะ แถมยังทำโทษด้วยวิธี... เอ่อ..ง”
“วิธีอะไร พูดมาดิ รอฟังอยู่”


“อะๆๆๆ อย่าเพิ่งเสวนากันค่ะ ปี1ปี2คะ รหัสอื่นรออยู่นะคะ เชิญลงไปนั่งรอด้านล่างก่อนนะคะ” เจ้โอเล่ผายมือเชิงให้พวกเรารีบลงจากเวที


“เมื่อกี้จะพูดว่าวิธีไรอะ รอฟังอยู่เนี่ย”
“ห๊ะ...อ๋อออ วิธีที่..”
“...”
“พูดได้จริงอะ”
“เออ พี่หมดหน้าที่พี่ว้ากแล้ว” พี่ภูมิพูดพร้อมกบหัวเราะเบาๆ
“โหดและเหนื่อยเหี้ยๆ”
“...”
“...”
“...” ผมก้มหน้างุด ชิบหายแล้ว กูตายแน่ๆ กูจะเจอฝ่าตีนอรหันต์มั้ย เหี้ยเอ้ยยยย
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” พี่ภูมิหัวเราะร่วนพน้อมกับพาผมไปนั่งที่มุมหนึ่งในหอประชุมเพื่อดูการเปิดตัวสายรหัสที่เหลือ ระหว่างที่ดูการเปิดตัวสายรหัส พี่ภูมิก็แนะนำพี่ปี2แต่ะคนที่ผมไม่เคยเห็นหน้าไปด้วย พี่ภูมิบอกว่ารู้จักรุ่นพี่เยอะๆไว้น่ะดี เผื่อมีปัญหาอะไรจะได้หี่ๆคอยช่วยเหลือได้




“เชิญพี่ปี2พาน้องไปหาสายรหัส พบปะลุงป้าน้าอารหัสได้เลยจ้า ขอให้กลับโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า บ๊ายบายจ้า” เจ้โอเล่โบกมือลาทุกคนนั่นแปลว่าพิธีเสร็จลงเรียบร้อย พี่ภูมิหยิบถุงขนมและชีท(ที่ผมสนใจน้อยกว่าขนมที่เยอะมากๆ)ทั้งหมดขึ้นมาและยืดตัวเต็มความสูงพลางยืดแขนมาโอบไหล่ผมเพื่อที่จะให้ผมเดินไปพร้อมกับพี่เค้าที่ไหนซักที่ เออ สูงกว่ากูจริงๆด้วยแหะ T^T
“เดี๋ยวพาไปหาพี่ปี 3 ปี4 นะ” พี่ภูมก้มคอลงมาพูดข้างหูผม จะว่าไป พี่ภูมิก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนี่หว่า ผมถูกพาเดินออกมาจากหอประชุมท่ามกลางสายตาของผู้หญิงค่อนสาขา จนกระทั่งผมมาหยุดอยู่ที่หน้ารถยนต์สีขาว
“อ้าว แล้วพี่ๆเค้าไม่ได้อยู่ข้างในหรอครับ”
“ไม่หรอก สายเราไม่เคยรับน้องรหัสในหอประชุมอยู่แล้ว” พี่ภูมิพูดดูท่าทางสบายๆ ต่างจากตอนที่พี่เค้าเก๊กหน้าขรึมตอนเป็นพี่ว้าก
“อ้าว พี่แล้วกระเป๋านนท์อะ”
“เออน่า ขึ้นรถไปเถอะ พี่จัดการให้หมดแล้ว” ผมเปิดประตูรถตามเจ้าของรถ ทำให้ผมเห็นว่ากระเป๋า และสัมภาระของผมทั้งหมดอยู่บนรถของพี่ภูมิแล้ว พี่ภูมิขับรถพาผมมาหยุดที่ร้านบาร์แห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพใกล้กับมหาวิทยาลัย ทำให้ผมผู้ไม่เคยมาสถานที่แบบนี้อดจะตื่นเต้นไม่ได้
“เอ่อ พี่ ผมยังไม่ได้บอกป๊ากับม๊าเลยอะ”
“พี่บอกให้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง” พี่ภูมิพูดพลางหยิบมือถือขึ้นมาโชว์ให้ผมดูว่าโทรไปหาป๊าผมแล้วเรียบร้อย
“แล้วพี่ไปเอาเบอร์มาจากไหนอะ” พี่ภูมิไม่ตอบแต่ยักไหล่ให้ผม พร้อมกับยื่นข้อมูลของผมในมือถือของพี่เค้าให้ผมดู เป็นรูปถ่ายข้อมูลที่เหมือนจะแอบถ่ายจกข้อมูลทะเบียนของนักศึกษาปี1 สายรหัสนี้นี่มันสุดยอดจริงๆ แต่ก็อดที่จะไลน์ไปบอกป๊ากับม๊าไม่ได้อยู่



HelloNonT :.’วันนี้นนท์มารับน้องสายรหัสนะครับ กลับดึกหน่อย’   
PaPa : ‘รู้แล้วครับ ดูแลตัวเองนะ’



พี่ภูมิจูงมือผม เน้นว่าจูงมือครับ จูงเหมือนผู้ใหญ่จูงมือเด็กเดินเที่ยวห้างแล้วกลัวหลงยังไงอย่างนั้น ผมถูกจูงเดินเข้าไปในร้านโดยคนที่จูงราวกับรู้จักทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดี ขนาดคนตรวจบัตรหน้าร้านยังยกมือไหว้พี่ภูมิเลย ยอมใจเค้าจริงๆ คงจะมาบ่อยสินะ ไม่นานผมก็มาหยุดที่โต๊ะ โต๊ะหนึ่งมีประชากรรวมทั้งสิ้น 5 คน รวมผมด้วย ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด


“ว่าไงครับน้องใหม่รหัส 47”
“ยินดีต้อนรับสู่สายรหัสชายล้วนครับโผมมมมม” พี่ผู้ชายที่คาดว่าน่าจะเป็นพี่บัณฑิตเพราะผมไม่เคยเห็นหน้าในมหา’ลัยยื่นแก้วที่มีน้ำสีอำพันมาให้ผม
“เห้ยพี่ น้องยังเด็ก” พี่ภูมิพูดเชิงหยอกบ้อกับพี่คนนั้นพลางดันแก้วกลับไป แต่ดูเหมือนพี่เค้าจะไม่ยอม
“โห ไรวะ ตอนปีมึงนี่กูเห็นมึงแดกเอาแดกเอา แดกยิ่งเครื่องสูบน้ำอีกมั้ง” พี่อีกคนนึงพูด แต่พี่ภูมิยักไหล่เชิงไม่สนใจ
“นี่พี่เจ อยู่ปี3” พี่ภูมิชี้ไปที่พี่คนที่เพิ่งพูดเมื่อกี้
“ส่วนนี่พี่บอมบ์ เพิ่งจบ” พี่ภูมิชี้ไปที่พี่ที่ยื่นแก้วมาให้ผม
“ส่วนนี่เป็นพี่เอิร์ท อยู่ปี 4” พี่ภูมิชี้ไปที่พี่อีกคนที่ใส่แว่น ผมยกมือไหว้พี่ๆทุกคน พี่ทุกคนก็ก้มหัวเล็กน้อยเชิงเป็นการรับไหว้
“เห้ย มึงไม่ต้องไหหว้กูก็ได้ แต่แดกนี่แทนเป็นการเคารพกูแทนละกัน” พี่เจยื่นแก้วโค้กมาให้ผม ผมยิ้มรับก่อนจะรับแก้วนั้นมาอย่างเต็มใจ ก็ดีกว่ากินเหล้าแล้วกันน่า ผมกระดกเข้าปากอย่างไม่ลังเล หางตาของผมเห็นพี่เจกับพี่เอิร์ทตีมือกันเหมือนกับทำอะไรซักอย่างสำเร็จ แต่ก็ใช่แหละครับ สำเร็จจริงๆ ก็แก้วที่ผมเข้าใจว่าเป็นโค้กดันเป็นเหล้าผสมโคกที่โคตรพ่อโคตรแม่เข้ม แต่ผมก็ดันกลืนไปหมดแก้วแล้วนี่น่ะสิครับ
“เห้ย พี่น้องมันไม่เคย” พี่ภูมิทำหน้าตกใจ แต่ดูเหมือนไม่มีผล เพราะเมื่อหมดแก้วแรก แก้วต่อไปก็มาเรื่อยๆ ถึงแม้พี่ภูมิจะพยายามแย่งแก้วออกจากมือผม แต่มีหรอคนอย่างผมจะยอม
“พี่ ผมยอมพี่แค่ตอนพี่รับน้องแค่นั้นแหละ” ผมเอามือไปแตะไหล่กับพี่ภูมิอย่างสนิทสนม ก่อนจะหันไปชนแก้วกับพี่เจ พี่บอมบ์ พี่เอิร์ท พร้อมพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน หัวเราะร่วนอย่างไม่เคอะเขิน การกระทำนี้เรียกว่าเมารึเปล่าครับ ถ้าใช่ผมก็คงเมาแล้วครับ
“พี่ครับ ผมไปห้องน้ำนะครับ” ผมลุกขึ้นในทันที



โครมมม!



ผมกลับลงมานั่งที่โซฟาที่เดิม อ้าว ทำไมถึงห้องน้ำซักทีวะ

“ปายห้องน้ามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม”
“เออ เดี๋ยวพี่พาไป พวกพี่แม่ง”
“ฮ่าๆๆๆๆ เห้ย นิดหน่อยน่า ใครจะไปคอทองแดงเหมือนมึงวะ ไอ้เดือนหมาลัย” ผมรู้สึกตัวว่าผมโดนหิ้วไปที่ห้องน้ำโดยใคร ใครก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้โลกหมุนติ้วๆ
“นนท์ ไหวปะเนี่ย ไม่ไหวกลับก่อนได้นะเว้ย”
“ไหวเพ่” ผมยืนฉี่ตรงโถ โดยเจ้าของยืนเฝ้าผมเหมือนเจ้าของมาเฝ้าหมาฉี่ตามสนามหญ้าไม่มีผิด ผมไม่ใช่หมานะ! สังขารผมถูกลากกลับมาที่โต๊ะหลังจากที่ผมทำภารกิจในห้องน้ำเสร็จ



[พาร์ทของภูมิ]




ผมพยายามห้ามน้องไม่ให้ดื่มต่อ แต่พี่รหัสตัวดีดันเอาแต่รินให้น้องไม่ยั้ง ไอ้รินเบาๆไม่พอ ดันรินออกมาซะเข้มเชียว
“พี่เจ พอแล้ว มันจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ย” ผมตีมือพี่เจ
“ไอ้เหี้ยนี่ หวงน้องจังเลยเว้ย ทำอย่างกะเป็นผัวมัน” พี่เอิร์ทตะโกนมา ทำให้พี่ทั้ง3หันไปหัวเราะกันร่วน

ตึก.... ตึก... ตึก..

ให้ตายสิ หัวใจผมดันเต้นไม่เป็นจังหวะ

“เอาน่า พรุ่งนี้วันเสาร์นี่ น้องไม่มีเรียนอยู่แล้ว” ผมส่ายหน้าให้กับความดื้อด้านของไอ้พี่เจจริงๆ แต่ที่ดื้อกว่าพี่เจคือไอ้น้องนนท์นี่แหะครับ เมาจนหน้าแดงหมดสภาพแล้วยังรับแก้วเค้าไม่หยุดหย่อน
“เห้ยนนท์ เมางี้แล้วพี่จะไปส่งถูกมั้ยวะ”
“เพ่ /จ-จพ$$%^!2!#%&!” พูดอะไรนะ
“นนท์พูดว่าอะไรนะ” ผมยื่นหน้าไปใกล้ๆน้อง เพราะมันพูดไม่รู้เรื่องแล้ว ให้ตายเถอะ ถึงผมจะแอบไปขอข้อมูลทะเบียนมาแต่ผมดันถ่ายมาแค่เบอร์โทรพ่อแม่มัน ไม่ได้ถ่ายที่อยู่มันมา ไอ้ภูมิ ไอ้โง่เอ้ยยย
“...” ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียก เงียบสงัด
“เห้ย นนท์” ผมตบหน้าน้องเบาๆ เขย่าตัวเพื่อหวังให้น้องตื่น
“...” อยากจะถ่ายภาพเก็บไว้แปะฝาบ้านจริงๆครับ น้องเอาหัวมาซบไหล่ผมแล้วหลับ
“มึงก็ให้น้องมันไปนอนห้องมึงก่อน พรุ่งนี้มันตื่นมาค่อยว่ากันอีกที” ก็คงต้องเป็นอย่างที่พี่บอมบ์ว่าแหละครับ เพราะสภาพแบบนี้ ถ้าผมให้น้องบอกทาง คงได้ไปโผล่ที่ยะลาหรือไม่ก็เชียงใหม่แน่ๆ แต่ว่ามันจะดีหรอครับ ถ้าปล่อยให้ผมอยู่กับน้อง2คน ....

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #16 เมื่อ26-06-2017 12:49:05 »

ชอบบบบบ สนุกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

วิน ดูชอบนนท์แล้ว
ใบเตย แรดมาก มีแฟนแล้วแต่คบคนอื่นอีก
เลิกกับวินแล้วด้วย ยังตามหวงก้าง น่าเกลียดมาก
แล้วทำร้ายนนท์ทันที น่าสาดโค้กใส่กลับนะ
แรงมาแรงไป นางสาดมา สาดกลับไม่โกง :z6: :z6: :z6:
ทำไมนางมีสิทธิ์ทำร้ายคนอื่นได้คนเดียว เลวววววว  :fire:

พี่ภูมิ เด่นมาก สาวกรี๊ดตรึม  :mew1: :mew1: :mew1:
มีคิดไรกับนนท์นิดๆสินะ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #17 เมื่อ26-06-2017 20:30:56 »

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #18 เมื่อ26-06-2017 22:15:05 »

จะคาดหวังให้นนท์คบกับพี่ภูมิได้มั้ย

เดือนมหาลัยเลยนะ
ถ้าได้ซักครั้ง ก็เหมือน get A
อิอิ

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที่4
«ตอบ #19 เมื่อ26-06-2017 23:29:32 »

#ตอนที่4– มาวินกับณนนท์#

วันหนึ่ง .... ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกใหม่
.
.
.
.
.
.
.
ปวดหัวชิบหายยยยยยย

ผมลืมตามองไปรอบๆห้องโดยที่ผมยังนอนเป็นมัมมี่อยู่บนเตียง ห้องที่โคตรจะไม่คุ้น ที่นี่ที่ไหน คำถามโคตรจะนางเอกละครหลังข่าว ไม่สิ หล่อๆอย่างนี้ต้องเป็นพระเอก ละสรุปที่นี่ที่ไหนหว่า ผมกวาดสายตามองไปรอบๆห้องรวมถึงมองลงมาที่ตัวผมเอง

...

เสื้อผ้าผมเปลี่ยนไป ตอนนี้มีแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น

...

ใครเปลี่ยนให้กูวะ

“ตื่นละหรอครับ น้องรหัส”
“ค ครับ” ผมนั่งกุมขมับโง่ๆอยู่บนเตียง เพราะความปวดหัวที่มีอยู่ตอนนี้ ไม่ยอมทุเลาลงเลย
“เมื่อคืนรู้ตัวมั่งปะเนี่ย ว่าทำอะไรมั่ง” พี่ภูมิพูดพลางหย่อนตัวลงบนโซฟาที่อยู่หน้าทีวีด้วยท่าทางดูชิลล์ๆเหมือนเมื่อคืนพี่เค้าแค่กินนมกับขนมปังปิ้งมา ให้ตายเถอะ แต่พอพี่เค้าถามผมว่ารู้ตัวมั้ย ผมก็ว่าผมรู้ตัวนะ ผมจำได้ลางๆว่าพี่เค้าหิ้วผมมาจากร้าน ขึ้นมาที่ห้อง แล้วผมก็ .....


อ้วก


“หึหึ นึกได้แล้วหรอ” พี่ภูมิหัวเราในลำคอขณะหันมามองหน้าผมที่นั่งทำหน้าเหวออยู่บนเตียง “แม่งอ้วกเต็มตัวมึงเลยเนี่ย กูเลยต้องจับมึงอาบน้ำ แถมยังอ้วกใส่กูอีก” เหวอหนักกว่าเดิม เกิดมา 19ปี ไม่เคยแก้ผ้าอาบน้ำให้ใครเห็น “จจริงอะ หูยยย นนท์ขอโทษ” ผมยกมือไหว้ขอโทษปะหลกๆ พี่ภูมิได้แต่หัวเราะพลางปัดมือเพื่อบอกผมว่าไม่เป็นไร เอ่อ ตอนนี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว ยังไม่ได้อยู่บ้าน ป๊าม๊าจะไม่เด็ดหัวผมหลุดออกจากคอแล้วหรอวะเนี่ย ผมรีบหยิบมือถือเปิดแอพฯไลน์ขึ้นมา ทำให้ผมเห็นแจ้งเตือน ร้อยกว่าแจ้งเตือน แต่ที่ตลกก็คือมีข้อความจากแค่ของป๊าแค่ข้อความเดียว

PaPa : ‘นอนหอพี่เค้าน่ะดีแล้ว กลับตอนนี้อันตราย’

ว่าแต่ป๊ารู้ได้ไง สงสัยพี่ภูมิคงโทรไปบอก แต่ช่างมันก่อน ผมรีบดูส่วนแจ้งเตือนที่เหลือทันที มันเป็นของไอ้แก้งผี3บาทที่กำลังลอกการบ้านเจนฯฟิฯกัน ไลน์ มีกลุ่มเพื่อนสมัยม.ปลายที่นัดกันไปเที่ยวร้านเหล้า แต่2กลุ่มนั้นรวมๆกันก็มีแจ้งเตือนไม่ถึงสามสิบแจ้งเตือน ส่วนไอ้ที่เหลือก็เป็นไอ้เจ้ากรรมนายเวรเฮงซวยนั่น ผมลองเปิดเลื่อนๆอ่านร้อยกว่าแจ้งเตือนของมัน มันบอกว่าเห็นผมอยู่ที่ร้านบาร์เมื่อคืน กลับยังไง ตอนนี้อยู่ไหน ทำไมไม่ตอบ แล้วมันจะยุงอะไรกับกูวะ ผมเลื่อนอ่านผ่านๆแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

‘ที่กูบอกคนที่ทำให้กูเปลี่ยนไปคือมึงอะ’
‘กูพูดจริงนะ...’


เสียงที่มันเคยพูดกับผมในเหตุการณ์ที่ผมอาบน้ำโค้กวันนั้นดันลอยขึ้นมาในหัวผมซะนี่ ผมรีบสะบัดความคิดนั้นออกจากหัวทันที

“เป็นไร หน้าแดงเชียว เขินหรอที่พี่อาบน้ำให้” เสียงหัวเราะเชิงล้อของพี่ภูมิที่มาพร้อมกับแก้วน้ำส้ม
“อะ แก้เมาค้าง เผื่อวิตามินซีมันจะช่วยให้หายมึนๆได้บ้าง” การที่ผมหน้าแดงมันคงจะเมาค้างล่ะมั้งครับ ต้องใช่แน่ๆ ผมรับแก้วน้ำส้มมาดื่มในทันที หวังว่าคราวนี้คงไม่มีเหล้าผสมแบบโค้กเมื่อคืนแล้วนะครับ ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาของเมื่อสานที่พี่ภูมิส่งซักรีดใหม่ให้แล้วหลังจากที่ชุดของผมได้ไปผจญภัยกับอ้วกของผม พี่ภูมิอาสาจะขับรถมาส่งผมที่บ้านโดยให้ผมเป็นคนบอกทาง

“เออเรื่องที่นนท์ เอ่อ... ที่โรงอาหารวันนั้น” พี่ภูมิเริ่มบทสนทนา แต่ดูเหมือนพี่จะเกรงใจผมที่จะพูดเรื่องนี้ ไม่ต้องเกรงใจพี่ กำลังอยากระบายอยู่พอดี
“อ๋อ เรื่องที่ผมนั่งเล่นกับเพื่อนอยู่ดีๆก็มีคนมาเล่นสงกรานต์โค้กอะหรอครับ” ผมพูดพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อนความโกรธ เพราะไม่อยากให้พี่ภูมิเกรงใจที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ก็อย่างว่า เป็นใครใครจะไม่โกรธล่ะครับ อยู่ดีๆก็มีคนเอาโค้กมาสาด งงไปดิ แม่ง
“มันจริงหรอ”
“จริงอะไรอะพี่”
“ก็ที่เค้าลือกันว่านนท์คบกับน้องคนนั้น”
“ข่าวลือ?” พี่ภูมิพยักหน้า “ฮ่าๆๆ ก็แค่เพื่อนที่ผมรู้จักคนนึงอะพี่ สงสัยคงหาวิถีปัดรังควานจากผู้หญิงเลยเอาผมเป็นเกราะมั้ง เหี้ยชิบหาย” เออ พูดแล้วก็เพิ่งมาโกรธมัน ไอ้ชิบหาย มึงมันคนไม่มีความรับผิดชอบ ไอ้เหี้ยโย่ง “มันมาขอโทษผม แล้วก็...” เหี้ย จะเล่าเรื่องนี้ไม่ได้ อายเค้าตายห่าดิ
“แล้วก็อะไรอะ”
“อ๋อ ไม่มีไรครับ มันก็มาขอโทษผม ก็..แค่นั้น”
“แล้วไม่โกรธมันหรอ”
“จะว่าโกรธก็โกรธ ที่มันไม่ดูคนของมันดีๆ แต่จะว่าไม่โกรธมันก็ไม่โกรธ เพราะมันก็ไม่ได้ตั้งใจให้คนที่ชื่อเตยอะไรนั่นเอาโค้กมาสาด ผมก็เลยมองว่าเป็นอุบัติเหตุ” ผมเสมองออกไปนอกหน้าต่าง พลางสงสัยตัวเองว่าทำไมไม่โกรธมันให้มากกว่านี้นะ
“ใจดีเกินไปมั้ง  ... งั้นแสดงว่าตอนนี้โสดหรอ”
“ครับพี่ โสดสนิท แบบไม่มีคนคุย ไม่มีอะไรทั้งนั้น” พี่ภูมิยิ้มออกมา ดูท่าทางจะพอใจกับคำตอบ พี่จะไม่สนับสนุนให้น้องมีแฟนหรอไงวะ รถของพี่ภูมิมาหยุดที่หน้าบ้านของผมพอดี
“เข้าไปในบ้านนนท์ก่อนมั้ยครับพี่”
“โทษที วันนี้พี่มีเรียนคลาสเย็นอะ” พี่ภูมิมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง แล้วทำหน้าเหมือนผิดหวังเต็มประดา
“ขอบคุณมากครับพี่” ผมออกมาจากรถพร้อมกับถุงขนมพร้อมกับของนู่นนั่นนี่ที่พี่ๆในสายรหัสเอามาให้ผม รวมถึงพี่ๆที่ไม่ได้มาก็ฝากมาให้ผมกันเยอะแยะ เรียกได้ว่า2มือยังถือไม่พอ ตัวห้อยคอห้อยไหล่ไปด้วย ตอนแรกพี่ภูมิก็อาสาจะลงมาช่วยก่อน แต่ผมค่อนข้างเกรงใจเพราะเมื่อคืนก็เป็นภาระอย่างหนักหน่วงมากพอแล้ว


“กลับบ้านมาแล้วหรอ” เอ๊ะ เสียงใครวะคุ้นๆ “ปล่อยให้รอตั้งนานทั้งคืน” อ่อ เจ้ากรรมนายเวรเจ้าเก่าเจ้าเดิมของผมเองครับ ผมมองหน้ามันอย่างสงสัย สงสัยว่ามันรู้ได้ไงวาบ้านผมอยู่นี่
“มึงรู้ได้ไงว่านี่บ้านกู”
“ก็...”
“ก็เหี้ยไร เร็วๆ”
“กูถามชะเอมมา”
“หึ โกหกไม่เนียน เอมไม่รู้จักบ้านกูเว้ย มันเป็นคนต่างจังหวัดมันจะรู้ทางในกรุงเทพได้ไง” โกหกหน้าตายชิบหาย ผู้ชายอะไรวะ
“เออกูยอมรับก็ได้ ว่าคนแอบตามมึงมาครั้งนึง” ผมทำหน้าหน่ายๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านอย่างไม่ได้สนแขกผู้ที่ผมไม่ได้เชิญ
“โรคจิตชิบหาย” ผมบ่นพึมพำ
“มานี่ กูช่วยถือ” มันคว้าถุงทั้งหมดของผมไปถือด้วยท่าทางยังกับถือถุงนุ่น เรื่องอะไรจะยอมล่ะครับ ถ้าให้มันถือนันก็หมายความว่าผมต้องให้มันเข้าบ้านน่ะสิ
“เอามานี่นะเว้ย” ผมเอื้อมแขนไปสุดแขน แต่ ไม่ ถึง .... ไอ้เปรต ใครให้มึงเกิดมาสูง ประตูของผมถูกเปิดออกมาโดยลุงพรซึ่งเป็นพ่อบ้านน่ะครับ เป็นคนดูแลบ้าน และก็เป็นคนดูแลผมเวลาป๊ากับม๊าไปดีลงานที่เมืองนอก ลุงคงจะเห็นกล้องวงจรปิดว่าผมมายืนอยู่หน้ารั้วบ้านของตัวเองแล้ว
“คุณหนูครับกลับมาแล้วหรอครับ” ลุงทำหน้ายิ้มแย้ม “มาครับคุณเดี๋ยวผมช่วยถือ” ลุงพรหยิบถุงจากไอ้วิน ซึ่งมันก็ยอมแต่โดยดี” “แหม่พ่อหนุ่มนี่เป็นเพื่อนคุณหนูเองหรอครับ เห็นมาจอดรถตั้งแต่เมื่อคืน ผมไปถามก็บอกมารอเพื่อน ไม่คิดว่าจะป็นคุณหนู ไม่งั้นลุงคงให้ไปรอในบ้านแล้ว” ลุงไม่ได้พูดมากี่วันแล้วครับ ทำไมรัวมาขนาดนี้
“เอ่อลุง...” ผมยังไม่ทันปฏิเสธ
“คุณหนูชวนเพื่อนเข้าบ้านสิครับ”
“เอ่อ...” ลุง อย่ากดดันผมสิ ลุงงงง “มึงหมดธุระแล้วใช่ม๊ะ ถ้าหมดธุระแล้วก็กลับหอไปดิ บายมึง” ผมรีบเดินนำลุงพรเข้าไปในบ้าน
“ยังอะ กูยังไม่หมดธุระ” มันเดินตามผมเข้ามาทันที ไอ้เวร “รบกวนหน่อยนะครับลุง” อื้อหือ ไอ้ปลาไหล
“ธุระเหี้ยอะไรมึง”
“นี่มึงจะใจดำให้คนที่รอมึงตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้กลับบ้านไปโดยไม่ได้กินน้ำกินท่ากินข้าวพักผ่อนหน่อยหรอ” ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากหน้าด้าน
“ใครใช้ให้มึงมาล่ะ” ผมรีบเดินขึ้นบ้าน
“ก็กูเป็นห่วงมึงนี่ มึงเมาหมดสภาพขนาดนั้น แถมไอ้พี่ภูมิอะไรนั่นก็ดูไม่ได้น่าไว้ใจเท่าไหร่” อ้าว อย่ามาด่าพี่รหัสกูนะเว้ย
“เค้าเป็นพี่รหัสกู คนที่ไม่น่าไว้ใจน่ะ คือมึงต่างหาก” ผมมาหยุดอยู่ที่กลางบ้าน ทำให้ผมสังเกตว่าป๊ากับม๊าไม่อยู่บ้าน ... อีกแล้ว

“เอ่อ คุณหนูครับ คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงไม่อยู่นะครับ” ลุงพรวิ่งตามหลังผมกับไอ้วินมา “ท่านขึ้นเครื่องไปเมื่อเช้าน่ะครับ” ลุงพรปาดเหงื่อ
“ป๊ากับม๊าไปไหนหรอครับ”
“ไปญี่ปุ่นน่ะครับ คุณผู้ชายฝากบอกว่ารอบนี้ไปนานหน่อย 4-5เดือนหรืออาจจะนานกว่านั้นน่ะครับ เพราะกำลังจะทำตลาดที่นู่นด้วย” ต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้วสินะ ผมชินแล้วล่ะครับ ถึงเราจะเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างอบอุ่น แต่เมื่อป๊าไปทำงานที่เมืองนอก ม๊าก็มักจะตามไปดูแลป๊าด้วย ใจจริงผมก็อยากจะตามไป แต่ม๊าบอกให้ผมตั้งใจเรียนและอยู่กับลุงพร นั่นทำให้ผมขัดคำสั่งไม่ได้


แต่คราวนี้

'ไม่บอกกันเลย'


“ไม่เป็นไรนะครับคุณหนู มีลุงอยู่เป็นเพื่อนไงครับ” ผมพยักหน้ารับและเดินขึ้นห้องไป โดยไม่ได้สังเกตว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็เดินตามเข้าห้องมาด้วย แต่ผมไม่ได้มีอารมณ์จะด่ามันเท่าไหร่ ผมอยากตามป๊ากับม๊าไปด้วยมากกว่า

“เตี้ย...”ไอ้วินที่กำลังนั่งมองหน้าผมด้วยการเอาหน้าเกยเก้าอี้หน้าโต๊ะคอมในห้องนอนของผม ขณะที่ผมนอนเอานิ้วสไลด์มือถือไปมาด้วยความเบื่อ
“อะไร” 
“เหงาน่าดูเลยดิ”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับมึง”
“เกี่ยวดิ กูไม่อยากให้มึงเหงาจนทำหน้าแบบนี้อะ”
“...”
“กูสัญญาว่าจะทำให้มึงหายเหงาเอง”
“มึงจะทำไง กวนตีนกูไปเรื่อยๆเหมือนเด็กงี้หรอ หรือมึงจะส่งไลน์มาร้อยกว่าข้อความให้กูเซ็งกว่าเดิม”
“ไม่อะ”
“...”

“...”

“กูมีวิธี อยู่ที่ว่ามึงเชื่อใจกูมั้ยว่ากูจะทำให้มึงหายเหงาได้”

“...” ผมลุกขึ้นนั่งมองหน้ามัน ในใจผมก็คิดว่าหน้าอย่างมันจะทำอะไรได้ นอกจากกวนตีนชาวโลกและหักอกผู้หญิงเล่นๆ “หึ กูไม่เชื่ออะ”
“มึงไม่เชื่อก็ได้ แต่กูจะทำให้มึงเชื่อเอง” การยักคิ้วและทำหน้ามั่นใจของมันทำให้ผมหยุดมือที่จะคว้าหมอนปาใส่หน้าไม่ได้ คนห่าอะไร หายใจออกยังรู้ว่าเป็นคนกวนตีน แต่นอกจากหน้าตามันจะดี (เออ ยอมรับก็ได้) มันยังเก่งที่สามารถรับหมอนที่ผมปาไปใส่หน้ามันได้
“กระจอกว่ะเตี้ย มีแรงแค่นี้เองหรอ” มันลุกขึ้นยืมเต็มความสูง ก่อนจะโน้มตัวคร่อมผมเอาไว้บนที่น้อง มึงจะยื่นหน้ามาใกล้กูขนาดนี้ทำไมเนี่ยยยย “เดี๋ยวมึงก็เชื่อใจกูเอง”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที่4
« ตอบ #19 เมื่อ: 26-06-2017 23:29:32 »





ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที่5
«ตอบ #20 เมื่อ27-06-2017 02:49:34 »

#ตอนที่5 – มาวินกับณนนท์#



NiWaM : อยู่ไหนอะเตี้ย
HelloNonT : หอสมุดชั้น6



ตั้งแต่วันนั้น ผมก็คุยไลน์กับไอ้เจ้ากรรมนายเวรนั่นเป็นประจำ เรียกง่ายๆก็คือคุยเล่นแก้เซ็งเวลาอยู่บ้าน เล่นกับหมาแล้วหมาไม่เล่นด้วยน่ะครับ

“ไอ้ปอง ตื่น อีห่า มันใช่เวลามานอนมั้ยเนี่ย” เสียงแหลมๆของผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มกำลังโวยวาย
“ก็แค่ควิซอะมึง มึงจะกลัวอะไรเนี่ย” ไอ้ปอนบ่นงุบงิบ
“ควิซก็คะแนน!” พวกผมกำลังจะเจอมหาพายุควิซวิชาเจนเคม(General Chemistry หรือเคมีทั่วไปนั่นล่ะครับ แต่นักศึกษาเราเรียกกันย่อๆ) โชคดีที่ผมได้ชีทสรุปแนวควิซของพี่ภูมิมา เพราะเห็นพี่ภูมิบอกว่าอาจารย์จะออกแนวเดิมทุกๆครั้ง
“เบาๆ ไอ้ห่าเอม นี่ห้องสมุด” พวกเราสนิทกันจนไม่มีใครสนว่าไอ้เอมเป็นผู้หญิงแล้วครับ
“ก็มึงมานอนทำห่าอะไรล่ะ” เอมเบาเสียงลง


“ว่าไงครับน้องๆ” ทุกคนบนโต๊ะหันไปไหว้เจ้าของเสียง รวมทั้งผมด้วย
“อ่านควิซกันหรอ”
“ครับ” ผมตอบ
“ลองดูของที่พี่ให้ยัง ออกแนวนั้นแหละ พี่ก็ได้มาจากพี่เจ พี่บอมบ์อีกที”
“อ๋อ นนท์อ่านแล้วพี่ จำได้หมดแล้วด้วย” ผมยิ้มอย่างภูมิใจ ทำให้คนเป็นพี่เอามือมาขยี้หัวผมเหมือนเป็นหมา
“พี่ภูมิ ขนาดไอ้นนท์มันอธิบายหนูแล้ว หนูยังงงอยู่เลยอะ” ไอ้เอมมาเสียงสอง ต่างจากที่มันคุยกับพวกผมลิบลับ ทำให้ผมกับปองอดมองหน้ากันแล้วหลุดขำออกมาไม่ได้ ก็แน่น่ะสิครับ ระดับท็อปของเมเจอร์ขนาดนี้ ทั้งหล่อทั้งเก่ง ผมนี่เทียบไม่ติดเลยอะ
“ก็ตั้งใจอ่านสิครับน้อง” พี่ภูมิแกล้งทำเสียงดุเหมือนตอนเป็นพี่ว้าก จนไอ้เอมทำหน้าบูด ทำให้ทั้งให้พวกผมและพี่ภูมิหลุดหัวเราะกันออกมา “อะ นี่พี่มาซื้อมาฝาก” พี่ภูมิยื่นถุงเบเกอรี่ที่มีหลายอย่างมาให้ผม “กินไม่หมดก็แบ่งเพื่อนกินนะ พี่ไปละ มีประชุมเรื่องการประกวดดาวเดือน” พี่ภูมิโบกมือลาพวกผมก่อนจะผละออกจากโต๊ะของผม ขณะที่ไอ้เจ้ากรรมนายเวรก็กำลังเดินเข้ามาเหมือนกัน



“เตี้ยยยย...” การลากเสียงยาวๆนี่มันน่าเตะจริงๆ ผมเหลือกตาไปมองหน้ามัน แต่ทำเป็นไม่สนใจ เพราะผมไม่ได้ชื่อเตี้ยนี่หว่า มันโบกมือทักทายเพื่อนผมทั้งสองคน ทำอย่างกับสนิทกันมาแต่ชาติที่แล้ว
“ไปกินข้าวกัน” มันเดินอ้อมหลังผม แล้วเอานิ้วมาจิ้มที่คอผม ให้ตายตายเถอะ มันจักจี้เว้ย นั่นทำให้ผมหดคอไปตามแรงจิ้มของมัน ทำให้ผมเห็นพี่ภูมิที่ยืนหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม ยังไม่ได้ไปไหน
“โอ้ยไอ้เหี้ยวิน ไม่ไป ไอ้เอม ไอ้ปอง มึงไปกับมันดิ  มึงหิวข้าวนี่” ผมบอกปัดให้สองคนนั้นรับกรรมไป
“มึงไปเองดิ เค้าไม่ได้ชวนกูนี่ เค้าชวนมึง” ไอ้เอมยักคิ้วให้ไอ้วินอย่างสนิทสนม พวกมึงไปสนิทกันตอนไหน
“กู... กูไม่หิวละ” ไอ้ปองเอื้อมมือคว้าถุงขนมที่พี่ภูมิซื้อให้ผม
“เห้ย นั่นของกู” ผมพยายามจะแย่งคืน
“เตี้ย นี่ห้องสมุด ชู่ววว” มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้กับผม

“...”

“ไปเร็ว หิว” ผมโดนลากออกจากโต๊ะโดยไม่มีเสียงคัดค้านจากเพื่อนทั้งสอง มิหนำซ้ำยังโบกไม้โบกมือให้ผมอย่าพอใจซะอีก มือของไอ้วินลากมือผมไปเหมือนเด็กไม่มีผิด  มือมันของมันใหญ่กว่ามือผมอีกแหะ ผมมองไปรอบๆซึ่งตอนนี้ผมไม่เห็นพี่ภูมิแล้ว







“เอากระเพราปลาหมึก ไข่ดาวไม่สุกครับ”
“...” ผมยังคงนั่งมองเมนูเพราะไม่รู้จะสั่งอะไร เคยเป็นมั้ยครับ หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไร “ข้าวผัดปลาหมึก ไข่ดาวสุกๆครับ”
“กินอย่างกับเด็ก”
“ครับ ไอ้ผู้ใหญ่ ไอ้แก่” ผมหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์หน้าจอไลน์ครอบครัวที่มีแต่ข้อความที่บอกให้ผมตั้งใจเรียน นับว่าโชคดีที่สมัยนี้ยังมีการสื่อสารที่พัฒนา ยังสามารถวิดีโอคอลได้บ้าง ถ้าย้อนไปตอนผมเด็กๆ ผมคงนั่งเล่นกับหมาที่บ้าน แล้วก็ไปเล่นกับลุงพรแทน ไอ้วินหยิบมือถือจากมือของผมไปและกดหน้าจอล็อค แถมยังถือวิสาสะเอาไปเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อของมันเอง
“ไอ้วิน เอามา” ผมเริ่มขึ้นเสียง คนห่าอะไรไม่มีมารยาท
“ไม่ให้ ไม่ต้องไปคิดถึงบ่อยหรอกพ่อแม่อะ ท่านไปทำงาน ไม่ได้หนีไปตลอดซักหน่อย” ป้าเอาจานข้าวมาเสิร์ฟพอดี
“เอ้าไอ้นี่มึงไม่เคยมีพ่อแม่หรอไง คนก็ต้องคิดถึงพ่อแม่เป็นธรรมดานี่หว่า”

“...” ไอ้วินหน้าทำใบหน้าเรียบเฉย แต่กลับแววตากลับดูเศร้า ผิดกับท่าทางก่อนหน้า “จะว่างั้นก็ใช่อะ” ไอ้วินยักไหล่ก่อนจะหยิบมือถือคืนผม มันก้มหน้ามองจานข้าว แล้วเอาส้อมจิ้มไข่ดาวจนไข่แดงแตกออกมา
“คือไงอะ...กูไม่เข้าใจ” จะด่าผมโง่ก็ได้ครับ แต่ผมไม่เข้าใจ คนอะไรถึงไม่มีพ่อแม่
“แม่กูตายตอนคลอดกู” เชี่ยยยย กูไม่น่าถามเล๊ย วิน กูขอโทษษษ “ส่วนพ่อกู พ่อกูเป็นวิศวะ ตอนกูคลอด พ่ออยู่ที่ไซต์งาน พ่อรีบขับรถมาที่โรงพยาบาล แต่รถดันเสียหลักตกเขาไปซะก่อน ก็เลย...”
“พอแล้ว กูขอโทษละกันที่ถาม กูเสียใจด้วยนะ” เสียงผมแผ่วลงจากเมื่อครู่ ฟังดูแล้วชีวิตมันน่าหดหู่กว่าผมตั้งเยอะ แต่เจ้าตัวกับยิ้มแล้วตักข้าวกินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “มองทำไม กินข้าวดิ”
“แล้วเพื่อนมึงสองคนที่ตัวติดกับมึงตลอด ไปไหนแล้วอะ”
“ไอ้โอ๊ตกับไอ้เชียร์อะหรอ” ไอ้วินยักไหล่พร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ “ธรรมดาของพวกมันอะ มีแฟนแล้วก็ทิ้งเพื่อน”
“อ๋อ มึงโดนทิ้งมาสินะ” ผมอดหัวเราะไม่ได้ตอนที่มันบอกว่าเพื่อนหนีไปมีแฟน หน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้ ฮ่าๆๆ
“คงงั้นอะ งั้นมึงก็อย่าทิ้งกูอีกคนละกัน” มันยักคิ้วให้ผม ผมได้แต่ส่ายหน้าในความกวนตีนของมันจริงๆ


“วิน..” เสียงเรียบนิ่ง แต่คุ้นเคย ใช่แล้วครับ เตยคนเดิม เพิ่มเติมคือวันนี้ไม่มีโค้ก อย่ามาสาดอะไรอีกนะเว้ย กูไม่อยากเปียกกลับบ้าน เจ้าของเสียงมองผมด้วยสายตาชนิดที่ว่าถ้าถือมีดอยู่ในมือคงเอามาฟันคอผมแล้วเรียบร้อย อย่าคิดแบบนั้นเลยนะคนสวย กูไม่ได้เป็นอะไรกันม๊านนนนนนนนน
“มีอะไร” เสียงไอ้วินก็เย็นยะเยือกไม่แพ้กัน เย็นชนิดใครที่เป็นคนฟังคงจะเหมือนโดนมีดปักหัวแน่ๆ มันลุกขึ้นมาแล้วเดินอ้อมโต๊ะมาที่ผมพลางจับผมให้ไปอยู่หลังมันแทน
“นี่ปกป้องมันถึงขนาดนี้เลยหรอ มันดีกว่าเตยตรงไหนหรอ ผู้หญิงมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมาเอาผู้ชายแบบนี้ด้วยอะ” การแผดเสียงของเธอทำให้คนทั้งร้านหันมามอง รวมทั้งป้าที่กำลังผัดอาหารในกระทะยังสตั๊นท์ ตอนเด็กๆแม่ชงโทรโข่งให้กินแทนนมหรอวะ
“อืมใช่ เค้าก็ดีกว่าเตยทุกอย่างนะ” เชร้ดดดด เอาเรื่องเว้ย
“วิน เตยไม่คิดเลยนะว่าวินจะเปลี่ยนขนาดเนี้ยะ”
“แล้ววินเปลี่ยนเท่าจำนวนผู้ชายของเตยมั้ยอะ” โอ้โห แทงใจดำสัส เอาอีก แก้แค้นแทนกูด้วย “คำถามนี้วินควรจะเป็นคนถามมากว่าอีกนะ ทำไมเตยเปลี่ยนไป เมื่อก่อนก็เป็นเหมือนคนปกติหลังๆลายดันเริ่มออก” ผมแอบมองจากด้านหลังของวิน เธอกำลังจะกรี๊ดครับ อย่านะมึงแม่โทรโข่ง “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่ากรี๊ดออกมาเด็ดขาด แล้วไอ้นิสัยโยนข้าวของ ทำร้ายคนอื่นเวลาไม่พอใจ เลิกซะ อย่ามายุ่งกับคนของวิน จำไว้ ถ้ามีครั้งต่อไป วินไม่ปล่อยไว้แน่!” ไอ้วินหยิบเงินออกจากกระเป๋าวางกระแทกลงไปที่โต๊ะ ก่อนจะจับมือผมเดินออกจากร้าน

“มึงด่าผู้หญิงแรงไปเปล่าวะ” ถึงแม้ผมจะสะใจเล็กๆแต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยทั้งหมด
“ยังเบาไปสำหรับเตยด้วยซ้ำ คนที่ชอบทำร้ายคนอื่น โวยวายเหมือนคนไม่มีสติ ไม่รู้จักมารยาท แถมยังไม่ค่อยซื่อสัตย์ พลิกลิ้นไปมา” โอ้โหมึงอัดอั้นมาจากไหน “เวลาเตยมาทำแบบนั้นใส่กู กูก็ไม่เคยโกรธนะ แต่ไปทำกับคนอื่นกูยอมไม่ได้ ยิ่งเป็...” มันทิ้งช่วงไป เหมือนกับว่ามันกังวลที่จะพูดอะไร “ยิ่งเป็นมึง โดยเฉพาะมึง”


ตึกตึก ... ตึกตึก ...
พูดเสร็จมันก็เอาหมวกกันน็อคมาใส่หัวผม นั่นทำให้มันมองไม่เห็นว่าผมกำลังหน้าแดง แดงจนถึงหู ....





[พาร์ทของวิน]



ผมขับรถไปส่งนนท์ที่บ้าน โดยมีลุงพรที่ผมทำความสนิทไว้แล้วเรียบร้อยออกมารอรับหน้าบ้าน ตอนที่นนท์ถอดหมวก ผมสังเกตว่าหน้านนท์แดงผิดปกติ แถมเจ้าตัวยังดูรีบแปลกๆ พอลงรถเสร็จก็วิ่งเข้าบ้านไปเลย


ตื๊ดดด

‘เจอกันหน่อย ที่สนามบาสคณะ ตอนนี้ จากภูมิ’


ภูมิที่เป็นเดือนมหาลัยสินะ ว่าแต่มันเอาเบอร์ผมมาจากไหนวะเออแต่ช่างมันเถอะ ผมรีบขับรถมอเตอร์ไซค์กลับไปที่มหา’ลัยทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรบอกให้ไอ้โอ๊ตไอ้เชียร์สแตนบายไว้ เผื่อเกิดอะไรขึ้น มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกครับ ที่จู่ๆผู้ชายจะนัดกันแบบนี้



ทันทีที่ผมไปถึงสนามบาสคณะที่มีลักษณะเป็นกรงล้อมรอบ ผมก็เห็นเดือนมหา’ลัยกำลังยืนกอดอกเอาเท้าเหยียบลูกบาลูกหนึ่ง คล้ายกับกำลังรอใครบางคนอยู่ในเวลามืดแบบนี้ จะรอใครล่ะครับ ก็ผมนี่แหละที่มันเรียกมา แต่มันจะเรียกมาเล่นบาสเนี่ยนะ

“หึ มาแล้วหรอ ไอ้เด็กกะโปก” ผมเดินเข้าไปในกรงอย่างไม่สนคำทักทายที่แฝงไปด้วยน้ำเสียงดูเหยียดของผู้ที่อยู่ข้างหน้าเท่าไหร่
“มาถึงขนาดนี้ พี่ยังคิดว่าผมยังไม่ถึงอีกหรอครับ” ผู้ที่มีศักดิ์เป็นรุ่นพี่และยังเคยเป็นพี่ว้ากโยนลูกบาสออกนอกกรงสนามบาส ผมได้แต่มองตามลูกบาสลูกนั้นไป


พลั่กกก...


ผมมัวแต่มองลูกบาสจนทำให้ผมไม่ทันได้ตั้งตัวต่อการจู่โจมของผู้ที่อยู่ข้างหน้าที่ทำให้ผมล้มลองไปกองกับพื้น

“พี่ทำเหี้ยอะไรของพี่เนี่ย”
“อย่ามายุ่งกับน้องกู”
“ห๊ะ” ผมไม่เข้าจี่พี่มันพูดจริงๆ ใครน้องมันวะ
“นนท์ อย่ายุ่งกับนนท์” หึ ที่แท้ก็หวงก้างนี่เอง ผมรีบลุกขึ้นมาทันที
“พี่กลัวแพ้ผมหรอ” ผมยิ้มให้อย่างกวนประสาท และก็ได้ผลเมื่อผมเห็นคนตรงหน้าทำท่าโมโหกระฟัดกระเฟียด และ


ต่อยเข้าที่ปากผมอีกครั้ง


แต่ครั้งนี้ผมคงยอมให้พี่อีกไม่ได้แล้วล่ะครับ ผมชกไปที่ปากเค้าไปสี่ห้าหมัด จนกลายเป็นกลายเป็นการฟัดเหมือนหมาฟัดกันไปโดยปริยาย มันผ่านไปนานเป็นเวลาเท่าไหร่ผมไม่รู้ แต่ที่รู้คือผมกับไอ้พี่เดือนนั่นต่างคนต่างล้มไปนอนอยู่กับพื้นทั้งคู่


“พี่เป็นเหี้ยอะไรของพี่”
“กูไม่มีวันยอมให้นนท์ได้เป็นของมึง”
“ทำไม”
“เพราะกูจะจีบ น้องต้องเป็นของกู”
“หึ..” ผมได้แต่หัวเราะในลำคอ รู้สึกขำในความคิดของไอ้บ้านี่เหลือเกิน “ถ้าเป็นผม ผมคงไม่ชอบที่ให้ใครมาเป็นเจ้าของ และหวงเค้าเป็นเหมือนแค่สิ่งของหรอกนะครับ เพราะถ้าเป็นสิ่งของ พอเบื่อแล้ว พี่ก็ทิ้งใช่มั้ยครับ” ผมไม่ได้รับคำตอบจากคู่กรณี แต่ผมก็ไม่ได้อยากอยู่รอคำตอบของมันซักเท่าไหร่ ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ผมไม่อยากบังคับนนท์ หรือบังคับใครทั้งนั้น ผมอยากให้เค้าเป็นคนเลือกเอง ผมลาล่ะครับ” ผมเดินออกจากสนามบาสทิ้งให้ไอ้บ้านั่นนอนอยู่กับตัวเองไป ผมเดินออกมาจนมีแสงสว่างพอให้เพื่อนที่กำลังนั่งรอผมยู่ข้างนอกเห็นสภาพที่เลอะเทอะ เต็มไปด้วยเลือดบนใบหน้า สร้างความตกใจให้เพื่อนทั้ง2ของผมไม่น้อย
“เชี่ยวิน ไอ้พี่เหี้ยนั่นมันทำไรคิง บอกฮามา ฮาจะไปจัดการ” ไอ้เชียร์ คือคนที่หัวร้อนง่ายที่สุดในกลุ่มกำลังจะวิ่งกลบไปที่สนามบาส แต่ดีที่ผมกับไอ้โอ๊ตดึงไว้ทัน
“ไม่เป็นไร เรื่องนนท์ ปล่อยให้แม่งบ้าไปนั่นแหละ”
“ทำไมวะ ฮาได้ข่าวว่ามันเป็นพี่รหัสนนท์นี่หว่า” ไอ้โอ๊ตทำหน้าสงสัย
“กูว่ากูมีคู่แข่งมาเพิ่มว่ะ”

“เอาว่ะ กู2คนจะช่วยมึงเอง” ไอ้โอ๊ตกับไอ้เชียร์จับมือกันเชิงเป็นการรวมตัวเฉพาะกิจ แต่แหม่ มึงก็รวมตัวกันอยู่แล้ว ไอ้พวกบ้า

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #21 เมื่อ27-06-2017 02:58:18 »

 :hao3: นนท์สู้ๆ  :hao3:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #22 เมื่อ27-06-2017 05:22:44 »

เบื่อนายเอกปบบนี้ ที่ขัดอะไรใครไม่ได้ ทั้งชีวิตคือใครจะลากไปไหน ต้องไปหมดเลยเหรอ แล้วคือ เอาจริงๆๆนะ นี่นน ชอบวินเหรอ เหนยอมมซะทุกอย่างเลย บางทีมันก้อต้องไม่ยอมบ้างนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #23 เมื่อ27-06-2017 05:25:18 »

ใบเตย ยังไม่เลิกวุ่นวายตอแยวิน
ทำในสิ่งที่ผิด ทำร้ายคนอื่นง่ายๆ เอาแต่ใจตัวเอง
เหมือนฉันคบใครทีเดียวหลายคนได้
มีอะไรกับใครกี่คนก็ตาม แต่ถ้าฉันไม่ปล่อยมือจากวิน
วินก็ต้องเป็นของฉันตลอดไป สำคัญตัวผิดโคตรๆ

ดูพี่ภูมิ แปลกๆ นะ  :hao3:
ถึงจะชอบน้องรหัสนนท์
แต่วิธีการที่ใช้กับวิน ไม่ถูกต้อง แล้วเป็นรุ่นพี่ด้วย
ปาบอลใส่ และใช้กำลังชกต่อย ตอนวินเผลอ
พูดคุยกันก่อนดีๆก็ได้

ภาพลักษณ์พี่ว้าก เดือนคณะ หายไปหมดเลย
ไม่สมกับวุฒิภาวะเลย
หรือนี่คือนิสัยที่แท้จริงของภูมิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #24 เมื่อ27-06-2017 22:04:31 »

ชอบเรื่องนี้
รอตอนต่อๆไปนะครับ

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที่ 6
«ตอบ #25 เมื่อ29-06-2017 20:11:55 »

#ตอนที่ 6 – มาวินกับณนนท์#





“มึงไปฟัดกับหมามาหรอ” คำพูดของผู้เห็นสภาพของแผลที่เพิ่งมา1วันเอ่ยอย่างตกใจ “มึงเพิ่งแยก....” จู่ๆผู้พูดก็หยุดชะงักลง
“หยุดพูดทำไม” ผมถามอย่างสงสัย
“ก็กูเพิ่งเห็นพี่ภูมิสภาพไม่ค่อยต่างกับมึงเท่าไหร่ หรือว่า.....” ราวกับว่าคนตรงข้ามผมกำลังจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้


“อะ นักศึกษา เปิดชีทหน้า 153” อาจารย์ที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยเสียงเฉียบ ทำให้คนที่นั่งเรียนอยู่ด้านข้างของผมหันไปสนใจการเปิดชีทแทนการสนใจเรื่องราวก่อนหน้า
“ทำแผลยัง” เสียงบ่นพึกพำเบาๆ แต่ทว่าผมกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน นี่เค้าเป็นห่วงผมหรอ
“ยังอะ”
“ทำให้แผลให้มันหน่อยสินนท์” ไอ้โอ๊ตยื่นหน้าเข้ามาในวงสนทนา เสียงของไอ้โอ๊ตทำให้เพื่อนของนนท์ทั้งสองที่นั่งแอบฟังอยู่ถึงกับหันมาตั้งใจฟังอย่างเปิดเผยและตั้งใจ
“ห๊ะ แล้วทำไมเราต้องทำให้อะ” คนตัวเล็กทำหน้างง
“ก็ ... ก็ ... ” ไอ้โอ๊ตผู้ที่เข้ามาช่วย แต่ดันไม่ได้คิดเหตุผลรองรับหำลังตะกุกตะกักจนเด็กอนุบาลยังมองออก แล้วนี่เจ้าตัวเค้าอยู่ตั้งปี1 เค้าจะดูไม่ออกเลยหรอ ไอ้ง่าวเอ้ย
“ก็พวกกูมือหนักไง ไอ้เหี้ยเนี่ยมันกลัวเจ็บด้วย” ไอ้เชียร์ยื่นหน้ามาช่วยไอ้โอ๊ตแถอีกคน ว่าแต่ผมกลัวเจ็บตอนไหนวะ เกิดมา19ปีเพิ่งรู้นะเนี่ย ไอ้เชียร์ไม่พูดเปล่า แต่ยื่นถุงอุปกรณ์ทำแผลมาให้นนท์ด้วย โอ้โห เพื่อนดีเด่น กูจะหาถ้วยรางวัลมาให้มึงครับ
“ไอ้นนท์เนี่ยนะมือเบา” เสียงของคนที่ชื่อปองบ่นออกมา
“ก็เบากว่ากูไง” ไอ้โอ๊ตพยายามบอกให้คนที่พูดเมื่อครู่ได้ยิน
“เออ กูด้วยๆ” ไอเชียร์พยักหน้าเชิงเห็นด้วย
“ทำไมไม่ให้ไอ้เอมทำให้อะ เห็นสนิทกันด้วยไม่ใช่หรอ”นนท์พยักเพยิดไปทางเอม ที่นนท์บอกว่าผมสนิทกับเอมก็เอมเป็นเพื่อนจังหวัดเดียวกันน่ะครับ ทำให้เราเข้าไปคุย ทำความรู้จักกันง่ายหน่อย ช่องทางการติดต่อนนท์ผมก็ขอจากเธอเนี่ยแหละ
“ไม่อะ กูกลัวเลือด” เอมส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว”
“อะ อืม รอเรียนเสร็จก่อนแล้วกัน” คนที่ตัวเล็กกว่าผมถอนหายใจเล็กน้อย แต่ก็ยังหันมามองหน้ามามองแผลอย่างสนอกสนใจ ไม่รู้ว่าเป็นห่วงหรืออะไรกันแน่ สิ้นความคิดไม่ทันไร นิ้วขาวๆก็มาจิ้มที่แผลของผมบริเวณคิ้วซ้าย ความเจ็บที่พุ่งพล่านจนผมต้องเผลอร้องออกมา
“โอ้ยยยยย” ครับ คนทั้งเซคหันมามองที่ผมกันทั้งหมด รวมถึงอาจารย์ด้วย


“เป็นอะไรครับนักศึกษา” อาจารย์พูดถามด้วยน้ำเสียงตำหนิจนผมแทบสะดุ้ง แต่คนต้นเหตุกับนั่งหัวเราะอยู่กับเพื่อนของเค้า“แล้วหน้าไปโดนอะไรมา” อาจารย์วางชีทที่กำลังอธิบายการแก้โจทย์อนุพันธ์แล้วขยับแว่นให้เข้าที่ เพื่อมองหน้าผมอย่างชัดเจน
“เอ่อคือ....” จะตอบว่าอะไรดีวะ
“เพื่อนผมเค้าโง่ครับ..” เสียงพูดกลั้วหัวเราะ “เค้าเดินตกบันไดที่หอครับ” คงเอาคืนสินะ ตอนที่ผมเคยแกล้งแซวเค้าวันเปิดคลาสวันแรก แต่วันนั้นเพื่อช่วยไม่ให้โดนคะแนนนะโว้ยย
“อืม สงสัยจะโง่จริงๆ” เสียงหัวเราะดังขึ้นทั้งเซค รวมทั้งเสียงหัวเราะคนข้างๆของผมด้วย “ขอให้หายไวๆละกัน ... อาจารย์หมายถึงหายโง่น่ะ” อาจารย์ที่ดูเหมือนจะดุแต่กับพูดจาเชิงหยอกล้อ นั่นทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเบาลงเมื่ออาจารย์กลับเข้าเนื้อหาต่อ
 



“โอะ โอ้ยยย”
“ก็อยู่นิ่งๆดิ ขยับไปขยัมามันก็โดนแผลหนักไปอะดิ” เสียงคนตรงหน้าดุผม แต่มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย ในสายตาผม ผมมองว่าน่ารักต่างหาก แถมจริงๆมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรเลยครับ ก็คนที่ทำแผลให้ผมมือเบามาก มากเหมือนมีแค่สำลีมาลูบหน้าผมเบาๆ ผมแค่แกล้งร้องไปงั้น
“เจ็บๆ” ผมยังคงแกล้งเจ็บและเอาหน้าหลบการทำแผลไปเรื่อยๆ เพื่อยืดเวลาในการทำแผลให้นานขึ้น แต่เหมือนคนทำแผลคงจะรำคาญ
“มึงจะนั่งดีๆมั้ย” คนตัวเล็กเอามือจับตรงคางแน่น จนทำให้ผมไม่สามารถขยับหน้าไปทางไหนได้ ผมจึงทำได้แค่มองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ข้างหน้าที่มีหน้าของนนท์กำลังบรรจงทำแผลให้ผม ผมไม่เคยมองหน้าเค้าใกล้และชัดขนาดนี้  คนอะไรน่ารักชิบหาย


ตึกตึก .... ตึกตึก ...


จู่ๆผมก็รู้สึกมีอาการร้อนที่ใบหน้าขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าการที่หัวใจของผมมักจะเต้นผิดจังหวะเมื่ออยู่ใกล้กับที่ชื่อนนท์นี่เรียกว่าอะไรอย่างเป็นทางการ แต่อาการนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับคนที่ผมเคยคบมาทั้งสิ้น

“กูทำแรงไปหรอ” คนตัวเล็กผ่อนแรงที่จับคางของผมลง “หน้าแดงเชียว”
“หึ ไม่นะ”
“เสร็จละ” นนท์บรรจงแปะพลาสเตอร์ที่แผลบริเวณมุมปากอย่างเบามือ “เพื่อนมึงหายไปไหนหมดแล้วอะ” นนท์มองไปรอบๆโต๊ะ ที่ก่อนหน้านี้มีคนนั่งอยู่เต็มโต๊ะ “เพื่อนกูก็หายไปด้วยว่ะ” เจ้าตัวมองสถานการณ์พร้อมกับเกาหัวอย่างงงๆ
“ไปหาไรกินมั้ง”
“กูถามอะไรมึงได้มั้ย” ผมยักคิ้วให้เป็นคำตอบ
“มึงไปทำอะไรมา ถึงเยินขนาดนี้”
“กูให้มึงทาย” ผมยักคิ้วกวนประสาทคนตัวเล็กอีกครั้ง แต่คราวนี้เจ้าตัวกลับไม่โวยวาย ดันทำหน้าจริงจังขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ผมเคยเห็นหน้านี้ของเค้า
“กู...”
“นนท์” เสียงถูกแทรกขึ้นก่อนผมจะพูด ไอ้พี่ภูมิเดือนปีก่อนเจ้าเดิมนั่นแหละครับ
“อ้าวพี่ภูมิ หวัดดีครับ” นนท์ยกมือไหว้คนเป็นพี่ แต่ผมขอไม่ยกมือไหว้ดีกว่าครับ “หน้าพี่...” เจ้าตัวมองหน้าผมกับหน้าพี่รหัสของตัวเองสลับกันไปมา
“หน้าพี่ภูมิ...” นนท์ชี้ไปที่หน้าของคนเป็นพี่ “นี่คงไม่ได้...” ผมมองนนท์ตาปริบๆ ในใจคิดเพียงว่าจะสารภาพกับนนท์ยังไงดี ไม่ให้โดนด่า
“อ๋อ เปล่า ใช่อย่างที่นนท์คิดหรอกน่า พอดีพี่ไปร้านเหล้าแล้วมีปัญหากับคนที่ร้านนิดหน่อย” โกหกได้หน้าตายสุดๆ
“หนักขนาดนี้เลยหรอ” นนท์ลุกขึ้นเต็มความสูงที่มีอยู่น้อยนิด พลางเงยหน้ามองดูแผลของคนตรงข้ามอย่างสงสัย
“ทำแผลให้พี่ด้วยสิ” ไอ้พี่ภูมิเบี่ยงสายตามามองผมและหันกลับไปบอกนนท์ อย่านะเว้ย
“อ้อ พอดีกูต้องไปเรียนคาบบ่ายต่อละ มึงจะกลับบ้านใช่มั้ย เดี๋ยวกูไปส่ง” ผมเก็บของพร้อมกับสัมภาระของนนท์รีบจูงนนท์ออกจากตรงนั้นทันที นนท์ยกมือไหว้พี่รหัสของตัวเอง ก่อนจะหันมาแกะมือผมออก นนท์พยายามขัดขืน แต่สู้แรงผมไม่ไหว  กูขอโทษนะ แต่จะให้มาใช้ของผมทำแผลให้คนที่ทำให้ผมมีแผล มันจะหน้าด้านเกินไปหน่อยล่ะมั้ง



“มึงทำเหี้ยอะไรของมึง” นนท์สะบัดมือผมออก ตอนนี้ผมพานนท์ออกมาหน้าคณะเป็นที่เรียบร้อย
“ก็...” ผมเกาหัว เพราะหาคำตอบไม่ได้ ว่าทำไมอยู่ๆถึงรู้สึกหวงทุกออย่าง จนลากเจ้าตัวเค้ามาแบบนั้น
“กูไม่ได้โง่นะเว้ย ที่จะไม่รู้ว่ามึงกับพี่เป็นอะไรกัน กูดูแค่สายตาตอนมึงมองพี่ภูมิกูก็รู้แล้วว่ามึงมีปัญหากัน แต่กูไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร” เป็นอีกครั้งที่ผมยังไม่เคยเห็นเค้าโวยวายขนาดนี้ แม้แต่เวลาผมกวนตีน เค้าก็ยังไม่เคยโมโหขนาดนี้ “แล้วมึงลากกูมาแบบนี้มึงรู้จักคำว่ามารยาทมั้ย นั่นก็พี่รหัสกู ความเคารพอยู่ตรงไหนวะ ... ไอ้เหี้ยเอ้ย” คำสบถคำสุดท้ายกลับเป็นแค่เสียงเบาๆ แต่ทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิมที่จู่ๆก็ดึงเค้าออกมาโดยไม่มีเหตุผล


“ก็เค้าจะจีบมึง กูไม่ชอบ” คำพูดที่หลุดออกไปทำให้คนฟังที่กำลังเตะลมเตะอากาศอยู่หยุดชะงัก “เค้าบอกเค้าจะจีบมึง มึงต้องเป็นของเค้า ไม่มีวันได้เป็นของกู” ผมเห็นนนท์กำมือแน่นและหันกลับมาประจัญหน้าผมทันที


“กูไม่ใช่สิ่งของหยุดลากกูไปตรงนั้นตรงนี้เหมือนเป็นแค่ของเล่นที่ใครจะอยากได้ก็แย่งกันเหมือนหมูเหมือนหมา แล้วฟังกูไว้นะ ไม่มีใครได้เป็นเจ้าของกูทั้งนั้น!” เสียงเรียบนิ่งที่ไร้ซึ่งความรู้สึก แต่สามารถทำให้คนฟังชาไปทั้งตัว ทำให้ผมยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก “มึงฟังภาษาคนเข้าใจดีแล้วใช่มั้ย” นนท์คว้ากระเป๋าของตัวเองกลับคืนไปพอดีกับมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาจากไหนมาพอดี นนท์รีบขึ้นและออกไปในทันที
 


ไม่มีใครได้เป็นเจ้าของกูทั้งนั้น ...



โหวง ..
   


Rrrrrrr



เสียงมือถือเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง


“เชี่ยวินอยู่ไหน”
“หน้าคณะ”
“ไปทำเหี้ยไร อาจารย์เข้าแล้วเนี่ย”
“เออๆ กำลังไป” ผมลืมไปชั่วขณะว่ามีเรียนตอนบ่าย  “โอ๊ต คืนนี้ว่างปะ ไปร้านกัน”

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที7
«ตอบ #26 เมื่อ30-06-2017 00:50:46 »

#ตอนที่ 7 – มาวินกับณนนท์#




[พาร์ทของวิน]



“ไอ้วิน พอแล้ว ใกล้สอบแล้วนะมึง” เสียงของโอ๊ตยังไม่หยุดบ่นผม ตั้งแต่มาถึงร้าน
“มึงจะเครียดอะไรนักหนาวะ แค่โดนปฏิเสธแค่นี้ นี่ก็ผ่านมา2อาทิตย์แล้วนะเว้ย แดกเหี้ยไรทุกวัน กูจะไม่มีเงินตอนสิ้นเดือนอยู่แล้วเนี่ย” ใช่ แค่โดนปฏิเสธแค่นี้ ทั้งที่ผมผ่านมาตั้งหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนก่อน
“มึงท้อตั้งแต่เริ่มได้ไม่เท่าไหร่เองหรอวะ” ไอ้เชียร์ส่ายหน้าให้ผมเบาๆ “มึงลืมไปแล้วหรอวะ เค้าเป็นผู้ชาย เค้าไม่เหมือนผู้หญิงหลายคนที่มึงเคยเจอ เค้าไม่ได้เปิดให้ใครเข้าไปง่ายๆ มึงจะใช้ความหวงเพื่อจองตัวเค้า ให้เค้าหวั่นไหวไปกับมึง มันไม่มีทางเป็นได้หรอกว่ะ”
“จะให้กูทำไงอะ” ไอ้เชียร์ตบหัวผมอย่างไม่เต็มแรง
“ก็กูบอกกูจะช่วยไงไอ้ควาย สงสัยมึงจะโง่อย่างที่นนท์ด่าในคลาสแคลฯจริงๆว่ะ” อืม ก็จริง “ชนเว้ย แดกเพื่อความโง่ของเพื่อน” อ้าว ไหนมึงห้ามกูวะ
“อย่างแรกนะเว้ย มึงอย่าเพิ่งบุ่มบ่าม ไปทีละขั้น” ไอ้เชียร์เริ่มพูดอย่างคนมีประสบการณ์ “มึงอะไม่ให้เวลาเค้าทำความรู้จักในตัวตนของมึง ภาพแรกที่เค้าเห็นมึงก็คือเรื่องเตย ต่อให้เป็นใคร ใครก็ไม่ไว้ใจล่ะวะ เข้าไปเป็นเพื่อน เอาความเป็นตัวเองเข้าไปก่อนสิวะ” ผมพยักหน้ารับ
“แล้วถ้าไม่ได้ผลอะ”
“ก็ได้เพื่อนเพิ่ม มีคนหารค่าเหล้าเพิ่มไง” ไอ้สองตัวนั้นหัวเราะประสานเสียงกัน
“มึงต้องเข้าใจว่าผู้ชายคนนึงต้องการอะไร เพราะเค้าไม่ใช่ผู้หญิง เหตุผลที่ผู้ชายจะหันมาสนใจผู้ชายกันเองก็นั่นก็คือ ต้องการคนที่เข้าใจเรา อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ถ้ามึงใช้วิธีของมึง นอกจากจะไม่ได้แฟนแล้ว คนหารค่าเหล้าก็ไม่ได้ว่ะ” ไอ้โอ๊ตเสริม อืม ก็จริงของมัน สิ่งที่ผมต้องการที่สุดคือคนที่เข้าใจเรา เป็นเรื่องที่ผมลืมไปเสียสนิท


“อ้าว เอม ปอง ทางนี้ๆ” ไอ้โอ๊ตตะโกนเรียกผู้มาเยือน
“หวัดดี” ชะเอมกับปองทักทายทุกคนบนโต๊ะ รวมทั้งผม ผมได้แต่พยักหน้าเชิงเป็นการทักทายตอบ

“ไอ้นนท์มันเล่าให้กูฟังหมดแล้วแหละ” ปองเริ่มบทสนทนาก่อนจะยกแก้วที่ไอ้โอ๊ตเพิ่งชงให้ “อยากให้กูช่วยอะไรก็บอก” คำพูดนั่นทำให้ผมขมวดคิ้ว ผมอยากรู้ว่าทำไมเพื่อนรักของนนท์สองคนนี้ถึงดูอยากจะร่วมมือจับคู่ให้ผมกับนนท์จัง 
“กูว่าไอ้นนท์มันก็คงอาจจะชอบมึง แต่มันไม่รู้ตัว....” คำพูดนั้นทำให้หัวใจผมพองโตอีกครั้ง “...มั้ง” แล้วก็ดับวูบเมื่อคู่สนทนาพูดคำสุดท้ายของประโยคออกมา
“ไอ้ปอง มึงนี่ก็ไปกวนตีนเค้า” ผู้หญิงคนเดียวบนโต๊ะเอื้อมมือไปตีแขนของไอ้ปอง “คืองี้ ที่ไอ้ปองพูดมันก็จริงอะแหละ เราถึงพยายามเชียร์วินไง ไอ้นนท์มันเรียนก็ไม่แย่นะ แต่เรื่องความรู้สึกมันนี่แย่มาก”

“เราไม่เข้าใจอะ ที่เอมพูดคือ?”

“คืองี้ มันอะ เล่าให้พวกเราฟังตลอดแหละว่าวินกับมันไปไหนกันบ้าง ทำอะไรบ้าง” ผมพยักหน้ารับ บอกหมดเลยหรอ ผมได้แต่ตั้งคำถามในใจ แต่ก็ไม่ไปถามเพื่อขัดการเล่าเรื่องของชะเอม “เท่าที่ฟังคือเวลาวินลากมันไปไหนมันไม่เคยปฏิเสธเลยใช่ม๊ะ แต่มันปฏิเสธพี่ภูมิเกือบทุกครั้งที่ทำได้ แล้วที่วินไปต่อยกับพี่ภูมิ มันถามแต่อาการวิน ว่าหายดีรึยัง เป็นยังไงบ้าง แต่มันไมได้ถามถึงพี่ภูมิ” ผมพยักหน้าพร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ “จะว่ามันเป็นเพราะเริ่มสนิทกัน ก็คงไม่ใช่ เพราะตอนไอ้ปองฝึกขี่มอเตอร์ไซค์แล้วล้มมันแค่บอกว่าอย่าเพิ่งตายนะ แค่นั้น” เอมยกแก้วเหล้าผสมโค้กที่ตัวเองชงกับมือกระดกเข้าปากอย่างชำนาญ
“พูดไรให้ยืดยาวป้า สรุปสั้นๆคือหน้าที่มึงก็แค่ทำให้ไอ้นนท์รู้จักความรู้สึกของตัวเอง ทำให้มันยอมรับให้ได้ง่ายๆ” แค่นี้เองน่ะหรอ หึ แค่นี้กับผีน่ะสิ ความเมาของผมหายเป็นปลิดทิ้ง “กูแนะนำมึงได้เท่านี้แหละ”
“กูว่าของแบบนี้มันต้องร่วมด้วยช่วยกันว่ะ” ไอ้โอ๊ตยิ้มอย่างมีแผน ก่อนจะกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก




[พาร์ทของนนท์]




ยินดีต้อนรับสู่เทศกาลการสอบมิดเทอม


หรือที่เรียกว่า


เทศกาลนรก


การเรียนของผมก็ผ่านมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงเทศกาลสอบของเด็กมหาลัยที่เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลซ้อมลงนรกย่อมๆเลยก็ว่าได้ กะว่าถ้าทำบาปในชีวิตตายไปต้องใช้ชีวิตในนรกก็ยังดีกว่าต้องอดหลับอดนอนอ่านหนังสือสอบมิดเทอม ซึ่งถือเป็นคะแนน 50% การสอบมิดเทอมเป็นเหมือนการชี้ชะตาอยู่กึ่งหนึ่งว่าควรจะดรอปเพื่อหนีเอฟหรือสู้ต่อ


“ไอ้เหี้ย กูเทแล้วนะ แคลฯเนี่ย” มันอดบ่นไม่ได้นี่ครับ วิชาบ้าอะไร ยากชิบเป๋ง อุตส่าหนีมาเรียนเคมี แล้วยังต้องมาดิฟมาอินทิเกรตให้วุ่นวาย
“อย่าเทดิ อ่านก่อนนนนน” เสียงลากยาวของเอมที่เงยหน้ามาจากการงีบหลับพร้อมกับผ้าห่มลายหมีรีลัคคุมะบนโต๊ะในหอสมุด ช่วงสอบมหาวิทยาลัยของเราจะเปิด 24 ชั่วโมงน่ะครับ ทำให้พวกผมมาฝังตัวกันที่นี่ ผมเพิ่งตกลงกับปองเมื่อวานว่าถ้าผมจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดไปสอบก็อาศัยหอไอ้ปองแทนการกลับบ้าน เพราผมกลัวว่าถ้ากลับบ้านผมจะหาอย่างอื่นทำแทนการอ่านหนังสือ
“กี่ทุ่มแล้วอะมึง”
“4ทุ่มครึ่ง” ผมมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
"ปวดหัวชิบหายเลยว่ะ เมื่อคืนไม่น่าไปแดกเหล้ากับพวก...." ปองเอามือปิดปาก แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แค่เพื่อนไปกินเหล้าไม่เห็นน่าตื่นเต้นตรงไหน
"สมน้ำหน้า ใครเค้าไปแดกเหล้ากันตอนจะสอบ" ผมพูดแหย่มัน
“มึงเราหาคนมาติวแคลฯกันมั้ยมึง” ประโยคของไอ้เอมเหมือนเสียงผู้แนะนำแนวทางการขึ้นสวรรค์
“ใครวะ” ใครจะไม่อยากได้ล่ะครับ
“ก็...นั่นไง ตายยากชิบหาย” ไอ้ปองพูดกลั้วหัวเราะ แต่ผมที่หันไปมองผู้มาเยือนกลับไม่ขำด้วย ก็ไอ้เจ้ากรรมนายเวรนั่นมาพร้อมกับเพื่อนของมัน

“มีอะไรให้กูช่วยป่าว”
“กูไปซื้ออะไรกินที่ร้านกาแฟข้างล่างนะ” ผมพูดแทรกแล้วเดินออกจากโต๊ะทันที ผมเดินลงบันไดมาหยุดที่หน้าร้านกาแฟเล็กที่เปิด 24ชั่วโมง เพื่อให้นักศึกษาที่โต้รุ่งอย่างพวกผมได้มีอะไรดื่มชูกำลัง ไม่ให้น็อคตายคาชีทไปซะก่อน


“เอาโกโก้เย็นไม่หวาน แก้วใหญ่ครับ” ไม่ใช่ว่าลดน้ำหนักอะไรหรอกครับ แต่แค่ชอบกินโกโก้ที่มันขมๆมากกว่า ไม่นานโกโก้เย็นก็ถูกส่งมาโดยพนักงานชายที่หน้าตายิ้มแย้ม ผมับแก้วนั้นแล้วใช้หลอดคนแก้วให้น้ำแข็งมันกระจายไปทั่วแก้ว จนมาสังเกตด้านข้างแก้วที่มักจะเขียนชื่อลูกค้าเอาไว้ คนที่เขียนก็คงจะเป็นคนที่ส่งแก้วให้ผมมา



To . น้องคนน่ารัก



ผมรีบเดินออกจากร้านและกลับไปที่โต๊ะ ผมเห็นโต๊ะของผมกำลังสุมหัวเหมือนกำลังวางแผนอะไรกันซักอย่าง จึงเดินเข้าไปแอบฟังใกล้ๆ เผื่อถ้าผมโดนแกล้งอะไร ผมจะได้รู้ทันแผนของพวกมัน

“ข้อนี้ก็ก็ต้องใช้วิธี by part* อะ ก็คือมันจะแบ่งตัวแปรแยกมาหาค่าทีละส่วน แล้วก็ใช้สูตรพื้นฐานได้เลย” อ้อ ติวแคลฯกันอยู่นี่เอง อ้าว เดี๋ยว ติวแคลฯกัน ชิบหายแล้ว ผมค่อยหย่อนตัวลงไปนั่งที่ของตัวเองอย่างเบาที่สุด เหมือนกับกลัวใครจะมาเห็นว่าผมอยู่ตรงนี้ แต่สายตาหนึ่งกำลังช้อนมองมาที่ผม


ไอ้วิน...


ผมรีบก้มหน้าฟังสิ่งที่มันกำลังอธิบายและฝึกทำโจทย์เงียบ แปลกแหะ ทำไมอาจารย์ไม่พูดง่ายๆอย่างที่มันกำลังอธิบายก็ไม่รู้ หลังจากที่ฟังมันอธิบายแล้ว ข้อที่ผมทำไม่ได้มาตั้งนานกลับทำได้อย่างง่ายดาย ขอให้วันสอบเป็นอย่างนี้ด้วยเถอะ


“พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” อ้าว กำลังตั้งใจฟัง มึงจะมาหยุดตรงเรื่องที่มันยากสุดๆแล้วคะแนนเยอะทำไมวะเนี่ย
“อ้าว ทำไมอะ” เสียงไอ้เอมบ่นงึมงำ
“ไม่มีกำลังใจอะ มีคนไม่ตอบไลน์เรา” เอ๊ะ เหมือนโดนพูดถึง ผมไม่ตอบไลน์มันมาหลายอาทิตย์แล้วล่ะครับ แค่กดเข้าไปอ่านแต่ไม่อยากตอบ
“ไอ้นนท์” สี่เสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ผมสะดุ้งจนเกือบจะทำแก้วโกโก้หก
“ทำไม” ผมตอบหน้าตาย


“...” ทั้งโต๊ะยังคงมองหน้าผมอย่างไม่ลดละ


“เออๆๆ ก็ได้ๆ” ผมพูดตัดความรำคาญ จะติวให้มันจบๆไป นี่ผมยังเหลือวิชาเจนฯเคมฯ อีกตัวนะที่ยังอ่านไม่ถึงไหน


“...” ยังไม่มีการตอบสนองของคนที่มีหน้าที่เป็นติวเตอร์ให้ในกลุ่ม


“เรื่องมากชิบหาย” ผมบ่นพึมพำก่อนจะหยิบมือถือมาตอบไลน์มันด้วยสติกเกอร์โง่ๆสักตัวนึง แต่เหมือนมือเจ้ากรรมจะไวไปหน่อย ไม่รู้ว่าสติกเกอร์หรือคนส่งที่โง่กันแน่


HelloNonT : *send sticker (รูปหมีกอดกัน พร้อมกับข้อความ Always miss you)*


คนได้รับข้อความหยิบมือถือขึ้นมาดูหลังจากมีเสียงเตือนก่อนจะยิ้มออกมาจนน่าหมั่นไส้ ถาไม่ติดว่าป้าคุมหอสมุดโหด ผมคงจะแกล้งโยนแก้วโกโก้ไปใส่หน้ามันแล้ว การติวยังคงดำเนินต่อไป


“ใครมีอะไรสงสัยก็ถามเราได้ตลอดนะ” ไอ้วินวางปากกาลงพร้อมท่าบิดขี้เกียจ ตัวผมเองก็ฟลุบลงโต๊ะอย่างคนหหมดแรงพร้อมกับหยิบผ้าห่มสีดำผืนโปรดขึ้นมาคลุม กะว่าจะงีบซัก 20 นาทีแล้วค่อยมาอ่านอีกรอบ
“ไปซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋กันมึง” เสียงไอ้เอมชวนคนบนโต๊ะ น้ำเต้าหู้บ้าอะไรวะขายตอนนี้
“ไปเดะ เช้าแล้ว เริ่มหิวแล้วว่ะ” เช้าอะไร จะบ้าหรอ เมื่อกี้เพิ่งจะ 4 ทุ่มครึ่ง ผมลืมตาดูนาฬิกาข้อมือภายใต้ผ้าห่ม



06.10 am



ให้ตายเถอะ นี่ผมติวแคลฯวิชาบ้านี่ไปหลายชั่วโมงขนาดนี้เลยหรอวะเนี่ย ไอ้ผมเป็นค่คนฟังยังเหนื่อยขนาดนี้ ไอ้คนสอนจะขนาดไหนเนี่ย ผมค่อยๆเปิดผ้าห่มมองไปฝั่งตรงข้ามของผม ไม่มีเงาของใคร สงสัยไปซื้อของกินกันหมด ผมตัดสินใจงีบหลับอีกครั้ง

“อีก 15 นาทีปลุกด้วยนะเตี้ย” เอ๊ะ เสียงคุ้นๆ อ้าว แล้วเมื่อกี้มันไปนั่งตรงไหนวะ ผมเปิดผ้าห่มออกมาสุดผืน ทำให้เห็นผมว่าต้นเสียงนั้นนั่งหลับในลักษณะเอาหัวพิงเก้าอี้ จะว่าไปก็น่าสงสารคอมันจริงๆ กลัวพนักผิงเก้าจะหัก ผมเลยเอาผ้าห่มอีกผืนที่มีไว้สำรองมาม้วนๆทำเป็นหมอน กะจะทดแทนบุญคุณติวเตอร์ซะหน่อย แต่ติวเตอร์ดันเอนเอาหัวมาพิงไหล่ของผมแทนหมอนไปแล้ว


“ไอ้เชี่ยวิน ตื่น” ผมพยายามเรียกให้มันตื่น

“...” ไม่มีสัญญาณตอบรับ

“...” ในเมื่อปลุกไม่ตื่น เพราะนอนแล้วเหมือนตายขนาดนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ ผมคลายผ้าห่มที่ตอนแรกจะยื่นไปแทนหมอนให้มันกลับมาทำหน้าที่เป็นผ้าห่มให้ติวเตอร์วิชาแคลฯแทน แต่ด้วยความง่วง ผมเลยงีบหลับเอาแรงซักหน่อยก่อนจะไปสู้กับวิชาต่อไป





“เชร้ดดด เอาเรื่องว่ะ”
“เบาๆ ไอ้ห่าโอ๊ต เดี๋ยวแม่งตื่น”
“ไอ้ปอง ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน่อยดิวะ เสือสองตัวยอมสงบศึกกันแล้ว”

เสียงของกลุ่มที่ออกไปซื้อของกินคงกลับมาแล้ว ผมลืมตาด้วยความงัวเงีย แต่ทว่า ทำไมมันภาพมันดูเอียงๆ แถมยังปวดคอๆอีกด้วย ผมลืมตามองเต็มตาก่อนจะพบว่าหัวของผมกำลังพิงกับหัวของไอ้วินที่กำลังซบไหล่ของผมอยู่ ผมลุกกลับมานั่งท่าเดิมทันที ทำให้ไอ้วินต้องตื่นด้วย

“หกโมงครึ่งแล้ว 15นาทีแล้ว” ผมพึมพำขณะกำลังเก็บชีทแคลฯ และกำลังหยิบหนังสือเคมีขึ้นมาแทนที่
“อ่านเหี้ยอะไรล่ะครับ วันนี้สอบแคลฯ9โมง ไปเตรียมตัวได้แล้วครับมึง” ไอ้ปองพูดเสียงลากยาวแกมประชดที่ผมหยิบหนังสือเคมีขึ้น เออจริงด้วย วันนี้ผมมีสอบแคลฯนี่หว่า เอ๊ะ ถ้าผมสอบไอ้คนข้างๆก็ต้องมีสอบด้วยสิ
“มึงไม่ไปสอบหรอไง มึงสอบห้องไหนอะ” เป็นประโยคแรกในรอบ2อาทิตย์ที่ผมตั้งใจคุยกับมัน
“201 อะ มึงอะ”
“203”
“...”
“สู้ๆนะ โชคดี” ผมรีบพูดและรีบลุกออกจากโต๊ะ เพื่อกลับไปหอไอ้ปองไปนอนหลับเอาแรงเอาสติและอาบน้ำเปลี่ยนชุดทันที ทำให้ผมพลาดที่จะฟังคำอวยพรจากคนข้างๆ


“โชคดีเหมือนกันนะเตี้ย”



________________________________________________________________________________________


*by part เป็นวิธีการแก้โจทย์ซึ่งเป็นการใช้เทคนิคการอินทิเกรตเป็นหลัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2017 00:54:53 โดย mymemo »

ออฟไลน์ mymemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo ตอนที่8
«ตอบ #27 เมื่อ30-06-2017 22:27:18 »

#ตอนที่ 8 – มาวินกับณนนท์#





“ไอ้ปอง ไอ้นนท์ ไปฉลองสอบเสร็จกันมึง” ชะเอมที่เพิ่งออกจากห้องสอบวิชาสุดท้ายเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มพูดโพล่งออกมาแทนการถามถึงข้อสอบว่าทำได้ไหม
“ฉลองเหี้ยไรล่ะ สอบเสร็จเค้าเรียกรวมปี1ทั้งคณะ”
“ก็หลังเรียกรวมไงไอ้ง่าว” เอมเอากระเป๋าใส่ปากกาเคาะหัวเพื่อนผู้ชายเป็นเชิงหยอกล้อ “เออแล้วเค้านัดรวมทำไมวะ มึงรู้มั้ย” คนถามได้การส่ายหัวเป็นคำตอบ








“เอาล่ะค่ะน้องๆ เราก็ได้คนที่เพื่อนๆในคณะส่งออกมาแล้วนะคะ คนที่รับเลือกในวันนี้จะได้ไปประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยในปีนี้นะคะลูก” เสียงของพี่โอเลที่ขึ้นมาเป็นพิธีกรอีกครั้ง และแน่นอนว่าผมคงไม่ได้ขึ้นไปบนนั้นหรอกครับ เพราะเค้าให้เลือกคนที่หน้าตาดีที่สุดในแต่ละสาขาชายหญิงขึ้นไปยืนบนนั้น ด้านบนก็มีคนที่หน้าตาที่ผมคุ้นเคย ไอ้ปิงปองเพื่อนของผม กับไอ้มาวินที่ยืนตัวติดกันอยู่บนเวทีทำหน้าบอกบุญไม่รับ โดยเฉพาะไอ้ปองที่ทำหน้าชนิดที่ว่าคนมาบอกบุญแล้วนอกจากไม่รับแล้วยังคงด่าคนที่มาบอกบุญด้วย เพราะมันไม่ได้อยากออกไป ถึงไอ้ปองมันจะหล่อ แต่มันไม่ชอบทำกิจกรรมน่ะ ต่างจากผู้หญิงคนหนึ่งที่มาจากภาคชีววิทยาที่มีสีหน้าดูตื่นเต้นที่ได้ออกมายืน เธอคนนั้นคือ .... เตย เจ้าเก่าเจ้าเดิม

“เดี๋ยวพี่ๆ จะให้น้องเลือกนะคะโดยพี่จะประกาศชื่อนะคะ ถ้าน้องๆอยากให้ใครเป็นตัวแทนคณะให้ยกมือโหวตคนนั้นนะคะ แต่มีข้อแม้ว่า 1คนจึงมีเพียง2สิทธ์ คือ1สิทธิ์สำหรับเลือกดาว และ1สิทธิ์สำหรับเลือกเดือนนะคะ โดยจะสามรถเลือกได้ ย้ำนะคะลูก อย่ายกเล่นๆนะคะ”

“มาฝั่งผู้ชายกันก่อนดีกว่า ...  แหม่ มีค่าเทอมกันรึยังคะเนี่ย ถ้าเงินหมดไปเคาะบอกพี่ได้ห้องได้นะลูก” คำพูดของเจ้โอเล่เรียกเสียงหัวเราคนในหอประชุมได้เป็นอย่างดี “เดี๋ยวให้น้องๆแนะนำตัว ชื่อจริง ชื่อเล่นแล้วก็สาขาของตัวเองเลยนะคะ พอแนะนำเสร็จก็ส่งไมค์ไปเรื่อยๆเลยนะลูก”

“สวัสดีครับ ผมภาสกร ชื่อเล่นซัน สาขาฟิสิกส์ครับ” เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดเริ่มดังขึ้นมาเรื่อยๆ
“สวัสดีครับ ผมตฤณภัทร ตินครับ อยู่สาขาชีวะครับ”
“สวัสดีครับ ชื่อนภนต์ครับ ชื่อเล่นบิ๊กครับ สาขาคณิตฯครับ”
 “สวัสดี...” ยังไม่ทันที่เจ้าของเสียงจะพูดจบ กลับมีเสียงกรี๊ดของผู้หญิงแท้ผู้หญิงเทียมในคณะที่กำลังนั่งอยู่ในหอประชุมเดียวกันกรี๊ดดังขึ้นมาแล้ว “ สวัสดีครับ ศุภวิชญ์ ชื่อเล่นปิงปอง สาขาเคมีครับ” เสียงเรียบๆนิ่งๆ แต่ทำให้ไอ้ปองดูเท่ห์ขึ้นไปอีกในสายตาของสาวๆที่กรี๊ดมัน รวมทั้งชะเอมกับผมที่กำลังปรบมือตะโกนเสียงโห่ร้องเชียร์เพื่อนตัวเอง ไอ้ปองหันมายักคิ้วโบกมือให้พวกผม ทำให้คนที่เหลือคิดว่ามันทักทายพวกเค้า จึงได้รับเสียงกรี๊ดดังยิ่งขึ้นไปอีก
“สวัสดีครับ” เสียงกรี๊ดขึ้นมาขัดจังหวะเหมือนกับไอ้ปองเพื่อนผมอีกครั้งแต่เสียงครั้งนี้นั้นดังกว่ารอบก่อนหน้านี้มาก ทำให้ผมอดอิจฉาจนเผลอเบ้ปากออกมาเสียไม่ได้ “มาวินครับ ชื่อเล่นวิน สาขาวิทยาฯคอมฯครับ” เสียงกรี๊ดยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง ดังขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง
“อะๆๆๆ รู้แล้วค่ะว่าของขาด แต่เธอจะลืมฝั่งสาวๆไม่ได้นะยะ เค้ายิ้มรอจนเหงือกแห้งแล้ว” ผู้เป็นพิธีกรพูดแทรกเสียงกรี๊ดขึ้นมา เสียงกรี๊ดเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแทน “อะ มาลูกสาว แนะนำตัวทีละคนเลยค่ะ” เสียงปรบมือและเสียงโห่แซ่วจากผู้ชายในหอประชุมเริ่มดังขึ้น

“สวัสดีค่ะ ดิฉันธัญพร ชื่อเล่นลูกหว้า สาขาวิทยาฯคอมฯค่ะ”
“สวัสดีค่ะ เหมือนแพร ชื่อเล่นแพรค่ะ แมทค่ะ” เธอยิ้มและโบกมือทักทายทุกคน เรียกเสียงจากหนุ่มๆได้ไม่น้อย
“สวัสดีค่ะ ชื่อไอริน เบลค่ะ ฟิสิกส์ค่ะ” เธอคนนี้ดูน่าสนใจดีครับ เพราะใบหน้าและเสียงที่หวานของเธอ ทำให้ได้เสียงเชียร์เป็นจำนวนมากเช่นกัน
“สวัสดีค่ะ ชื่อมัชฌิมา ใบเตย สาขาชีววิทยาค่ะ” เสียงเชียร์จากหนุ่มๆดังขึ้นกระหึ่มอีกครั้ง ชื่อดูคุ้นๆมั้ยครับ
“สวัสดีค่ะ พิมพ์ดาว ชื่อเล่นสตาร์ค่ะ เคมีค่ะ” เธอพูดพลางโบกมือทักทายเพื่อนในภาคที่ส่วนใหญ่นั่งกันอยู่ด้านหน้าเวที

“แนะนำตัวเสร็จแล้ว ต้องบอกก่อนว่า นอกจากน้องๆจะมีสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประกวดดาวเดือนมหา’ลัยแล้ว น้องๆทั้งหมดบนเวทียังมีสิทธิ์ฟาสแทร็คในการได้เป็นคฑากรของคณะในงานกีฬาของมหา’ลัยที่จะจัดขึ้นเร็วๆนี้ด้วยนะคะ” เสียงปรบมือเฮดังขึ้นทันที “อ๊ะ เดือนรุ่นพี่มาพอดี มีอะไรอยากจะคุยกับน้องมั้ยคะ” คำพูดนั้นทำให้ทั้งหอประชุมองไปในทิศทางเดียวกัน คือที่ประตูทางเข้าที่คนที่ถูกพูดถึงเพิ่งจะเข้ามาเมื่อสักครู่ แต่เจ้าตัวกับส่ายหัวปฏิเสธ

“เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเนอะ เรามาใช้สิทธิ์ในการเลือกดาวเดือนของคณะกันเลยดีกว่า โดยพี่จะประกาศชื่อของตัวแทนของแต่ละสาขานะคะ ใครจะเลือกคนไหนให้ยกมือขึ้นนะคะ อย่าลืมนะ ยกได้แค่เดือน1คนกับดาว1คน”



 





“โล่งชิบหายเลยมึง ที่ไม่ได้เป็นเดือนคณะบ้าบออะไรนั่น” ไอ้ปองพูดจาอย่างคนสบายใจพลางคีบหมูสามชั้นที่อยู่บนกระทะมาจิ้มน้ำจิ้มแล้วเอาเข้าปากอย่างมีความสุข “ตอนกูได้ยินเสียงกรี๊ดตอนแนะนำตัวนะ หัวใจกูตกไปอยู่ที่ส้นเท้าเลย”
“แต่มึงก็ต้องไปเป็นคฑากรนะ” รอยยิ้มของไอ้ปองหุบลงในทันทีที่ผมพูดจบ
“ไอ้นนท์ ไอ้ห่า ตอนแรกเค้าจะให้มึงออกไปแล้ว เสือกโยนมาให้กู ไม่ต้องเลย”
“ถ้ากูออกไป สาขาเราจะได้ถึงรองเดือนคณะหรอวะ” ผมเอาตะเกียบชี้หน้าตัวเอง
“อาจจะได้คะแนนพิเศษจากเดือนรุ่นพี่ไง” ไอ้ปองพูดพลางทำหน้าทะเล้น แหม อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้ได้ม๊ายยยยย
“แต่กูว่าวินน่าสงสารกว่านะ กูเห็นวินเดินเข้ามาหลังสุดในสาขา อยู่ดีๆก็โดนดันออกหน้าเวที ฮ่าๆ” ไอ้เอมแทรกขึ้นมา
“แล้วแม่งก็ซวย ได้ตำแหน่งไปด้วย” ไอ้ปองพูดด้วยน้ำเสียงสงสารปนสะใจ แต่ดูท่าความสะใจมีมากกว่า “พูดถึงก็มากันทั้งก๊วนเลย สงสัยยมบาลยังไม่อยากได้” ตะเกียบชี้ไปทางด้านของกลุ่มที่มาใหม่ กลุ่มที่ไอ้เอมกับไอ้ปองชวนมาโดยไม่ได้ถามความสมัครใจผมเลยแม้แต่น้อย

“ว่าไงคะ เดือนคณะ” ไอ้เอมเอ่ยทักคนที่มาใหม่ แต่ผู้ฟังกลับไม่ได้ทำหน้ายินดีกับคำเรียกนั้นเท่าไหร่ ผมไม่รู้ว่ากลุ่มผมกับกลุ่มมันมาสนิทกันตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็เวลาไปไหนก็ต้องชวนกันไปตลอดแล้ว อาจจะเป็นเพราะช่วงสอบที่เราผลัดกันติววิชานู้วิชานี้ ผมติวอังกฤษ ไอ้วินติวแคล ส่วนเชียร์กับโอ๊ตติวฟิสิกส์ให้พวกผม เลยทำให้ผมสนิทกันเร็วล่ะมั้ง คงจะว่าแปลกใช่มั้ยครับที่คอมกับเคมีดันมาอยู่กลุ่มเดียวกัน เออ ผมก็ว่าแปลก
“เดือนเหี้ยไรล่ะครับ กูยังงงอยู่เนี่ย กูขึ้นไปทำอะไรบนเวทีนั่น” ไอ้วินทำท่าหัวเสีย ซึ่งดูแล้วน่าขำเป็นที่สุด “รู้งี้กูโดด ไม่ไปเข้าซะยังดีกว่า”       
“โอ๋ ไม่เอาร้องสิครับเดือน ฮ่าๆๆ” โอ๊ตกำลังทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อของคนที่เพิ่งได้ตำแหน่งมาหมาดๆ
“ดีใจขนาด เพื่อนฮาหล่อปะล่ำปะเหลือ หล่อจนตุ๊เจ้าไห้แล้วเน้อ” สำเนียงท้องถิ่นที่ผมแปลไม่คอยออกมาจากเชียร์ที่กำลังล้อคนเดิมอย่างสนุกสนาน ตรงข้ามกับคนถูกล้อที่แสดงสีหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่แล้ว


“ไม่ชวนเลยนะวิน” เสียงของดาวคณะวิทยาศาสตร์คนล่าสุดเอ่ยขึ้น ทำให้บทสนทนาบนโต๊ะเงียบลงในทันที ตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของผม ผมเลือกที่จะดึงขวดน้ำ เก็บแก้วมาไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุด ผมมองหน้าของเธอที่กำลังฉีกยิ้มอยู่ แต่ว่าต่อให้มองจากดาวพลูโตก็ยังรู้ว่ามันไม่ได้มีความจริงใจเลยแม้แต่น้อย “ขอนั่งด้วยได้มั้ยอะ เรามาคนเดียว แล้วโต๊ะก็เต็มแล้วด้วยอะ” เตยพูดพร้อมกับทำท่ากวาดสายตาไปรอบร้าน ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอว่า แต่ที่ผมสงสัยคือ คนอย่างเตยจะไม่มีเพื่อนคบจนต้องมาร้านหมูกระทะบุฟเฟต์คนเดียวเลยหรอไง


“ถามเจ้าของโต๊ะก่อนนะ” ไอ้วินหันหน้ามาทางพวกผมสามคน

“ไ...”
“คงไม่ได้อะ ... ไม่มีที่ว่างแล้วอะ ขอโทษนะ” ดูเหมือนปากผมจะไวกว่าความคิดไปซักหน่อย ถึงได้พูดแทรกไอ้เอมที่อ้าปากตอบได้ยังไม่เต็มที่ดีในทันที
“นั่งเบียดๆกันก็ได้ เราไม่ถือ” ยังคงตื๊ออยู่ได้ น่ารำคาญจังเลยเว้ย ความสวยไม่ได้ช่วยหักลบเรื่องความน่ารำคาญนะเว้น
“แต่เราถือ” ผมเกาหัวตัวเอง เพราะตอนนี้ทั้งโต๊ะดูทำหน้าทึ่งๆในการตอบของผม ซึ่งผมเองก็ยังทึ่ง เพราะปกติผมไม่ใช่คนที่จะต่อปากต่อคำใครขนาดนี้ “เราหมายถึงมันอึดอัดน่ะ เวลากินเยอะๆแล้วมาเบียดกันมันไม่ค่อยสบายน่ะ” ผมพยายามแก้ตัว ผมคิดว่าใครก็คงดูออกว่าผมกำลังแถ แต่สีหน้าของคนฟังที่จากฉีกยิ้มกลับกลายเป็นสีหน้าที่พร้อมจะเชือดคู่สนทนาได้อยู่แล้ว

“หรอ”
“อื้ม” แน่ะ แค่นี้ก็ยังจะตอบ ไอ้นนท์นะไอ้นนท์

“...”

“เจ้าของโต๊ะเค้าไม่อนุญาตอะ เสียใจด้วยนะ” ไอ้วินพูดด้วน้ำเสียงที่ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ดูจากสีหน้าเหมือนมันกำลังจะกลั้นขำให้กับสถานการณ์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า แถมยังคีบหมูเข้าไปกินหน้าตาเฉย ดูท่าจะสร้างความไม่พอใจให้คนฟังอยู่มาก จนทำให้เธอชักสีหน้าและสะบัดหน้านั้นเดินจากไป ผมมองตามเธอไปด้วยความสงสัยว่าเธอจะไปไหน แต่ตามคาดครับ เธอกลับไปที่โต๊ะที่มีกลุ่มผู้หญิงและกลุ่มสาวสองภาคชีวะที่นั่งมองมาที่โต๊ะพวกผมอยู่ด้านนอกในมุมอับของร้าน ทำให้เราไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรก แผนเยอะจริงๆเลยนะคุณ

“ไหนบอกไม่มีเพื่อนไงวะ” ผมบ่นงึมงำกับไอ้เอมที่มองเห็นโต๊ะนั้นเหมือนกับผม
“แม่งมาเป็นขบวนการ ผู้หญิงห่าไร น่ากลัวชิบหาย” ไอ้อเอมกระซิบกระซาบ

“หึงกูหรอครับเตี้ย” เสียงไอ้วินแทรกขึ้นมา
“ฮิ้ววววววววววววววววววว.. ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงโห่แซวของทั้งโต๊ะ ทำให้ทั้งร้านหันมามอง
“พ่อง”
“พ่องภาษาเหนือแปลว่าบ้างนะ” ยัง ยังไม่เลิก เดี๋ยวก็คว่ำเตาแม่ง สีหน้ากับการยิ้มของมันนี่มันน่า.... น่าอะไรหว่า
“ไม่ใช่โว้ยยยยย”

ผมลุกขึ้นออกจากโต๊ะไปที่ซุ้มตักอาหารเนื่องจากส่วนที่ผมตักเมื่อรอบที่แล้วมันหมดไปแล้ว ผมรีบตักอาหารไปส่ง พร้อมกับหยิบนู่หยิบนี่ จนลืมว่าจะเอากลับโต๊ะยังไง โถ ชีวิต

“ให้พี่ช่วยป่าว”
“ให้กูช่วยมั้ย”

เสียงสวรรค์ที่มีการเสนอความช่วยเหลือ มาพร้อมกับทางลงสู่นรก เพราะเจ้าของเสียงสองเสียงนั้นคือพี่ภูมิกับไอ้วิน วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย มันมาตอนไหนวะเนี่ย

“พี่ภูมิ หวัดดีครับ” ผมรีบยกมือไหว้ททันที เพราทำตัวไม่ถูก  เพราะเรื่องที่เพื่อนผมคอนเฟิร์มว่าเรื่องที่ไอ้วินพูดวันนั้นเป็นเรื่องจริง ยิ่งทำให้ผมทำตัวต่อหน้าพี่ภูมิไม่ถูก
“ให้พี่ช่วยป่าว” พี่ภูมิยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเหมือนไม่มีอีกเสียงที่กำลังยืนอยู่เหมือนกัน

“นนท์นั่งโต๊ะเดียวกับผม ให้ผมช่วยสะดวกกว่าครับพี่”
“แต่นนท์ยังไม่ได้เลือกเลยนะ” ไม่เลือกใครทั้งนั้นแหละโว้ยยยย

“ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวหนูช่วยเอง” เสียงสวรรค์ของจริงมาช่วยผมแล้ว ไอ้เอมกับโอ๊ตเดินมาด้วยกัน โอ๊ตเดินไปคล้งคอเพื่อนของตัวเองกลับโต๊ะในทันที ส่วนไอ้เอมมาช่วยผมถือจาน ผมสัญญาว่าต่อจากนี้จะไม่ตกเยอะแล้วคร้าบบบ

“ช่วงนี้หายหน้าหายตาเลยนะ พี่เจบ่นคิดถึงน้องปี1อะ” เสียงของพีภูมิที่ยังยืนอยู่ข้างหลังที่เดิม
“อ๋อ ช่วงสอบพอดีน่ะพี่ วันนี้ก็เลยมาฉลองสอบเสร็จอะพี่” ผมพูดพร้อมกับหัวเราะเพื่อหวังว่าจะไม่ให้ตัวเองอึดอัด แต่ที่ไหนได้ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“พี่หมายถึงช่วงก่อนสอบ” เสียงที่เรียบนิ่งของพี่ภูมิถูกเอ่ยออกมาเบาๆ
“เอ่อ ผมไม่ค่อยว่างน่ะพี่” ใครจะกล้าพูดตรงๆล่ะครับ “ผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวเพื่อนจะรอนาน” ผมไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ลาเหมือนตอนที่พี่เค้าสอนระเบียบเชียร์ก่อนจะรีบเดินกลับไปที่โต๊ะ ไม่รู้สิครับ พอรู้ว่าพี่ภูมิเค้าจะจีบผม ผมกลับรู้สึกอึดอัด ไม่ได้รังเกียจนะครับ แต่ผมแค่รู้ว่ามันอึดอัดเนื่องจากมันเป็นในสิ่งที่ไม่ควรจะเป็น ต่างจากไอ้เดือนคณะที่นั่งหน้าหงิกอยู่ที่โต๊ะ ที่มันพูดประโยคน้ำเน่าออกมาบ่อยๆแต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย คงจะเป็นเพราะ ... ไม่รู้สิ ผมมองมันเป็นเพื่อนมั้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-07-2017 20:06:36 โดย mymemo »

ออฟไลน์ itsmerata

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: oooมาวินกับณนนท์ooo
«ตอบ #28 เมื่อ01-07-2017 21:49:39 »

 :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด